(۶•̀ᴗ•́)۶ [23/09/15] อาณาจักรทุ่งหญ้า กับ เจ้าชายโคนม .... จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (۶•̀ᴗ•́)۶ [23/09/15] อาณาจักรทุ่งหญ้า กับ เจ้าชายโคนม .... จบแล้ว  (อ่าน 31916 ครั้ง)

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************











อาณาจักรทุ่งหญ้า กับ เจ้าชายโคนม



ภาพที่สะท้อนในดวงตานั้นคือสถานที่อันแสนคุ้นเคย...สถานที่ที่เขาเกิดและเติบโต



กลิ่นดิน กลิ่นหญ้าและกลิ่นของปศุสัตว์ชวนคิดถึงช่วงเวลาวัยเยาว์ลอยเข้าจมูก



นายน้อยแห่งฟาร์มกานต์ผู้จากบ้านไปไกลตั้งแต่อ้อนแต่ออก กลับมาที่แห่งนี้อีกครั้งด้วยความคิดถึง



ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่ก็คือบ้านเปล่าๆไร้เงาพ่อและพี่ชาย!!



ที่พักเปล่าๆไร้เงาคนงาน!!



คอกเปล่าๆไร้เงาโคนม!!



และผู้ชายปริศนาที่เดินเลือดโชกหัวเข้ามาในช่วงเวลาวิกฤต!!



คดีวัวหายล้อมคอกต้องรีบแก้ไข ไหนจะนมกว่า 4000กิโลกรัมที่ต้องส่งสหกรณ์วันต่อวันอีก



ปิดเทอมใหญ่ครั้งสุดท้ายในฐานะนักศึกษาระดับปริญญาตรีเริ่มต้นด้วยความวุ่นวาย แล้วจะจบลงด้วยอะไร ได้แต่เก็บคำถามนี้ไว้



ในใจและก้มหน้าหยิบสมุดบัญชีออกมากางทั้งน้ำตา...





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2015 17:19:59 โดย nikkou »

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เจิมเรื่องใหม่  อิๆๆ  นายเอกคงไม่ใช่แม่วัวนะ  :z1: :z1:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4



ʕ ˵ ̿ ౪ ̿ ˵ ʔʕ ˵ ̿ ౪ ̿ ˵ ʔʕ ˵ ̿ ౪ ̿ ˵ ʔʕ ˵ ̿ ౪ ̿ ˵ ʔʕ ˵ ̿ ౪ ̿ ˵ ʔʕ ˵ ̿ ౪ ̿ ˵ ʔʕ ˵ ̿ ౪ ̿ ˵ ʔ



บทนำ



“โอยยยย ถึงสักที”เจ้าของเสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน หันไปมองรถกะป๊อประจำทางสีขาวเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็วระดับนักบิดฟอร์มูลาวันอายพร้อมจดจำเลขทะเบียนอย่างเคียดแค้น กลับบ้านคราวหน้าจะไม่ขอขึ้นรถคันนี้อีกเป็นครั้งที่สอง นั่งไปเมารถไปกลัวบาดทะยักกินไปจะบ้าตาย



ก็นะ...ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากนั่งอีกหรอก แต่ฟาร์มของพ่อดันตั้งอยู่หลังเขาห่างไกลจากตัวเมืองเป็นหมื่นลี้ซะขนาดนี้รถดีดีที่ไหนเขาจะแล่นผ่าน



เห็นทีคงได้ฤกษ์หัดขับรถซะแล้ว



เด็กหนุ่มกระชับกระเป๋าบนบ่าก่อนเดินตรงไปตามทางลูกรังซึ่งมีป้ายทางเข้าเปื้อนฝุ่นตั้งเอียงกะเท่เร่เขียนไว้ว่า



‘ยินดีต้อนรับสู่ฟาร์มโคนมกานต์’



แต่ละก้าวผ่านไปอย่างยาวนาน แสงแดดของเมืองไทยวันนี้ยังคงไม่ปราณีนักเดินทางผู้จากบ้านมานานเช่นเคย ทำให้สายลมอ่อนๆยามสายพัดผ่านร่างโปร่งกลายเป็นสหายล้ำค่าของเจ้าตัวซึ่งกำลังทอดสายตามองทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้า




ภาพที่สะท้อนในดวงตานั้นคือสถานที่อันแสนคุ้นเคย...สถานที่ที่เขาเกิดและเติบโต



กลิ่นดิน กลิ่นหญ้าและกลิ่นของปศุสัตว์ชวนคิดถึงช่วงเวลาวัยเยาว์ลอยเข้าจมูก ขนาดอยู่แค่ปากทางยังฉุนชัดเจนขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงตัวบ้านที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคอกวัว



สมควรแล้วที่แม่จะหอบผมหนีไปอยู่กรุงเทพ พ่อหนอพ่อ รู้ไหมว่าแม่บ่นให้ฟังทุกเช้าเย็นเลยว่าก่อนแต่งก็บอกว่าจะเลิกกิจการไปหางานทำในเมืองหลวง แต่แต่งจนแกขึ้นประถมแล้วก็ยังคลุกขี้วัวอยู่นั่นแหละ ผู้ชายพูดจากลับกลอก อย่างงี้สมควรเลิก!



จากนั้นแม่ก็พาผมซึ่งอยู่แค่ชั้นประถมมาตั้งรกรากที่กรุงเทพแดนศิวิไล ทิ้งให้พ่อดูแลพี่ชายและพี่สาวอยู่ที่บ้านนอกคอกวัวและไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย มีแค่เขาเท่านั้นที่กลับมาที่นี่บางปิดเทอมเพื่อเที่ยวเล่นและปิดเทอมนี้ก็เช่นกัน...



ใบหน้าหล่อปนหวานฉายแววไม่พอใจยามย่ำเท้าไปตามทางอันยาวไกล เม็ดเหงื่อเริ่มผุดพลายเต็มแผ่นหลัง ใจนึกด่าพี่ชายที่เคารพรักผู้ควรขี่รถออกมารับแต่กลับเที่ยวส่องสาวฟาร์มข้างๆจนรถแหกโค้งนอนโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ก่อน มันน่าไหมหละ น้องชายที่น่ารักจะกลับบ้านทั้งคนทำไมไม่รักษาสุขภาพ!? ดีนะแค่ขาหัก แต่ไม่ไปเยี่ยมหรอก งอน! เชอะ!



“ทางนี่มันจะยาวไปไหนนิ ทำไมไม่สร้างบ้านติดทางเข้าก็ไม่รู้”น้องเล็กผู้ไม่ชินถิ่นบ่นกระปอดกระแปดให้เศษดินและก้อนหินฟัง
“ฮึบๆ นี่บ้านไงจำไม่ได้เหรอ อดทนไว้นะริน คนหล่อซะอย่างแค่นี้สบายมาก เห้ๆ”ปลุกใจตัวเองจนฮึกเหิม(?)เองเรียบร้อยก็ออกเดินทางมุ่งตรงไปยังทิศทางซึ่งจดจำได้อย่างแม่นยำ



...ทางกลับบ้าน...



ดีนะที่จำทางได้ ถ้าเพิ่มหลงทางเข้าไปอีกอย่างคงได้ขาดน้ำตายข้างทาง



ไม่นานนักแต่นานมากบ้านปูนสองชั้นสีขาวลายวัวขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กก็ปรากฏสู่สายตา สร้างรอยยิ้มแก่นักเดินทาง(กลับบ้าน)ผู้เมื่อยล้า



“ลุงชัย!! ลุงชัย ผมกลับมาแล้ว!!”



ลุงชัยหรือชายแก่ร่างผอมกะหร่องวางไม้กวาดทางมะพร้าวพร้อมหันมองหาต้นเสียงโหวกเหวกเตรียมต่อว่าเพราะคิดว่าเป็นเด็กแถวนี้มาก่อกวน ก่อนจะเจอร่างโปร่งวิ่งโผเข้ากอดอย่างดีใจ ทั้งดีใจที่ได้เจอลุงและดีใจที่ถึงสักที คิ้วที่ขมวดมุ่นของชายชราคลายออก ใบหน้าขุ่นมัวแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม



“คุณน้องกลับมาแล้วทำไมไม่เรียกลุงออกไปรับหละครับ ดูซิเดินซะเหงื่อท่วมตัวเลยเนี่ย”นายชัยคนงานเก่าแก่ของฟาร์มโคนมแห่งนี้กอดตอบลูกชายคนเล็กของเจ้าของฟาร์มอย่างคิดถึงเหมือนได้เจอลูกเจอหลานตัวเอง



“ก็น้องไม่อยากกวนลุงนี่”คนอาวุโสน้อยกว่ากล่าวอย่างออดอ้อน



“แหม่ๆ เดี๋ยวเดียวก็ขึ้นปีสี่แล้วไม่ใช่เหรอครับ ยังแทนตัวว่าน้องอยู่อีก หืม?”ลุงชัยดุแกมหยอกพลางเขกหัวเจ้าตัวดีที่ยิ้มหน้าแป้นแล้นใส่อย่างเอ็นดู



“ทีลุงยังเรียกผมว่าน้องเลยนี่”



ชื่อเล่นที่แท้ของผมคือ ‘ริน’ ไม่รู้ว่าเอามาจากค่ำว่ารินน้ำหรือแค่หาชื่ออะไรก็ได้ให้มันคล้องกับพี่ชายซึ่งมีชื่อว่า’รัน’



“เอ๊า! ก็มันชินปากหนิ เอาเถอะๆเข้าบ้านก่อนเถอะครับ พร!!คุณน้องกลับมาแล้ว เอาน้ำมาเสิร์ฟเร็ว!!”ลุงแกว่างั้นก่อนจัดแจงคว้ากระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่นักเพราะมีข้าวของจำเป็นอยู่ในบ้านอยู่แล้วไปยื่นให้คนงานที่รินไม่คุ้นหน้ารับไปเก็บที่ห้อง



“แล้วพ่อหละครับ?”เด็กหนุ่มถามลุงเมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วกลับไม่พบเงาของบุพการี



“แกไปรับขวัญหลานที่เชียงใหม่นู้น กว่าจะกลับก็คงอีกนานแหละครับ แกเห่อหลานเห็นบอกว่ารอส่งเข้าอนุบาลเดือนหน้าถึงจะกลับ”รินพยักหน้ารับรู้



หลานของพ่อก็คือหลานของผมครับ เพราะแม่ของเด็กก็คือพี่สาวคนโตซึ่งแต่งงานย้ายบ้านไปอยู่เชียงใหม่กับสามี



“น้ำค่ะ คุณน้อง”ป้าพรหรือเมียลุงชัยสาวใหญ่วัยห้าสิบปลายร่างท้วมนำน้ำมาเสิร์ฟก่อนจะโดนเด็กน้อยโผเข้ากอดเหมือนที่ลุงชัยโดนตอนแรก“ขี้อ้อนเหมือนเดิมเลยนะคะ ทำไมคุณรันไม่เป็นแบบนี้บ้างก็ไม่รู้วันๆเอาแต่พูดจากวนป้า”



“ก็เพราะพี่รันไม่น่ารัก”รินว่าพร้อมทำหน้าหมั่นไส้คนเป็นพี่...ความแค้นที่ทอดทิ้งให้ตนเดินฝ่ามรสุมคลื่นโฟตอนเข้าบ้านช่างยิ่งใหญ่นัก

.

.

เอ๊ะ เดี๋ยวนะเดี๋ยว !?



พ่อก็ไม่อยู่อีกสักพักถึงจะกลับ พี่ก็ขาเจ็บอยู่โรงพยาบาลแม้จะค้างแค่ไม่กี่คืนแต่กลับมาก็ต้องนั่งรถเข็น...



...แล้ว ใครเป็นคนรับผิดชอบฟาร์ม? ...



“ลุงชัยครับ ใครเป็นคนคุมบัญชีอยู่เหรอครับ?”นายน้อยหันไปถามคนงานเก่าแก่ด้วยสีหน้าลุ้นระทึก ใจนึกภาวนาไม่ให้คำตอบที่กลัวที่สุดหลุดออกจากปากลุงชัยผู้ทำบัญชีไม่เป็น



“ก็คุณน้องไงครับ นี่เลย นี่เลยบัญชีที่ค้างไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนฝากจัดการด้วยนะ ตอนเห็นหน้าคุณน้องนะลุงดีใจสุดๆเลยหละครับ”กองกระดาษแผ่นเล็กแผ่นน้อยคาดว่าจะเป็นใบเสร็จจากร้านรวงต่างๆถูกยัดเข้ามาในมือของรินทันทีราวกับลุงชัยรอจังหวะนี้มานาน



ฉากการพบกันอีกครั้งในรอบปีระหว่างนายน้อยคนสุดท้องกับนายชัยคนงานเก่าแก่เป็นเพียงความสวยหรูภายนอก เบื้องหลังคือความดำมืดอันเนื่องมาจากภาระหน้าที่ซึ่งไม่มีใครทำ



ปิดเทอมใหญ่ครั้งสุดท้ายในฐานะนักศึกษาระดับปริญญาตรีเริ่มต้นด้วยความวุ่นวาย แล้วจะจบลงด้วยอะไร ได้แต่เก็บคำถามนี้ไว้ในใจและก้มหน้าหยิบสมุดบัญชีออกมากาง...เห็นทีคืนนี้คงต้องโต้รุ่ง




_______________________________________________________________


ลงบทนำแล้วค่ะ พอดีเมื่อวานคอมสิ้นใจไปก่อนก็เลยได้แค่นั้น

คอมเครื่องนี้เสียบ่อยมากจนร้านซ่อมจำหน้าได้แล้วก็คิดราคาลูกค้าประจำให้เลย 55555

คือบางทีคำว่าลูกค้าประจำควรเก็บไว้ใช้กับร้านส้มตำหน้าปากซอยมากกว่าไหม
  :z3: :z3:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2015 18:36:25 โดย nikkou »

ออฟไลน์ AllTheWay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ DemonzZ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ TrafalgarLAW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4



บทที่ 1 เจ้าชายอัคคี



เช้าวันหนึ่งกลางเดือนพฤษภาคมร่างโปร่งกำลังนอนหลับอย่างเป็นสุขอยู่บนเตียง แสงแดดอ่อนๆเล็ดลอดผ่านม่านสีน้ำตาลเข้มเข้ามาแต่มันก็ไม่มีผลต่อคนที่กำลังหลับอุตุอยู่แม้แต่น้อย ดูเหมือนเสียงร้องของนกกระจิบที่มาเกาะต้นไม้ใหญ่ริมหน้าต่างจะเป็นตัวกล่อมให้หลับลึกชั้นดี



ดูเหมือนบรรยากาศอันสดชื่นของชนบทกับมรสุมกองบัญชีที่ต้องรับผิดชอบแบบไม่ทันตั้งแต่ตัวนั้นจะเป็นตัวเสริมสร้างสมรรถภาพทางการนอนอันดีงามให้แก่นายน้อยแห่งฟาร์มโคนมกานต์แห่งนี้



แต่แล้ว...



“คุณน้องครับ ตื่นครับตื่น!! ลูกวัวจะคลอดแล้วครับ!!”



เช้าอันเงียบสงบก็พังทลาย...



“คุณน้อง!! จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนนี่มันหกโมงแล้วนะครับ ตื่น!!”



ด้วยสองมือของลุงชัยผู้ทุบกระหน่ำใส่ประตูหน้าห้องนอนราวกับเกิดเหตุไฟไหม้...



ถ้านี่เป็นคอนโดผมหละก็ห้องข้างๆได้ลุกขึ้นมาด่าไปแล้วนะลุง จะบ้าเรอะ!? ละเมออยู่รึไงฮะลุง เมื่อคืนผมนอนตีสองกว่าเลยนะจะให้รีบตื่นไปใส่บาตรรึไง ไม่มีพระวัดไหนออกมาบิณฑบาตถึงฟาร์มเราหรอกนะ!!



“อือ...จะนอน”รินครางงัวเงียในลำคอออกไปก่อนจะพลิกร่างหันหน้าหนีเข้ากำแพงท่ามกลางเสียงเคาะประตูรัวๆ คำขานรับที่เบายิ่งกว่าเสียงนกกระจิบข้างหน้าต่างจับแมลงกินนั้นกลับไม่อาจเล็ดลอดผ่านหูทิพย์ของนายชัยไปได้



“วัวจะคลอดแล้วตื่นเถอะครับ!!”



“จะน๊อน ให้มันอั้นไว้ก่อนเดี๋ยวเที่ยงผมลงไปดู”รินตะโกนผ่านผ้าห่มกลับไปอย่างเหลืออด คนงานที่บ้านมีเกือบสิบคนแค่แม่วัวท้องแก่ตัวเดียวจัดการกันเองไม่ได้รึไงทำไมต้องมาตาม ผมเรียนบริหารนะไม่ได้เรียนสัตวแพทย์ถึงต้องสนใจกรรมวิธีทำคลอดวัว



แต่ดูเหมือนลุงแกจะไม่สนเสียงกรีดร้องในจิตใจ ประตูไม้หน้าห้องถูกเปิดออกอย่างแรง ร่างผอมเกร็งเดินอาดๆเข้าหากองผ้านวมบนเตียงอย่างหมายมาด



“ตื่นเถอะครับ มีหนึ่งชีวิตกำลังจะลืมตาดูเลยนะครับ คุณน้องไม่เคยเห็นไม่ใช่เหรอ ไปเถอะครับ สักครั้งนึง”



“อืออ ง่วง”คำพูดชวนซาบซึ้งของลุงแกไม่เข้าหัวรินแม้แต่น้อย ผ้านวมผืนหนาถูกดึงขึ้นมาคลุมหัวอย่างต่อต้าน...เอาสิ ให้ตายก็ไม่ตื่นหรอก เชอะ



“อย่างอแงสิครับ ตื่นเถอะ ไม่งั้นลุงปิดแอร์นะ”นายชัยเห็นท่าไม่ดีจึงงัดเอาไม้ตายก้นหีบออกมาข่มขู่คุณน้องผู้พลัดถิ่นไปอยู่เมืองกรุงแต่อ้อนแต่ออก



ทั้งที่เปิดหน้าต่างเอาก็มีลมเย็นสบายพัดมาตลอดทั้งคืนแล้วแท้ๆนายน้อยก็ยังไม่ยอมฟังเอะอะก็จะเปิดเครื่องปรับอากาศอยู่นั่นแหละ ปิดเทอมที่คุณพ่อและคุณพี่ชายไม่อยู่ฟาร์มแบบนี้จะดัดนิสัยให้เข็ดเลย ตามใจกันดีนัก นายชัยคนนี้จะสั่งสอนให้ถึงแก่นแท้ของฟาร์มกานต์แห่งนี้เลยคอยดู!



ราวกับมีเปลวไฟลุกพรึบพรับในดวงตาของชายแก่ ก้อนผ้านวมซึ่งพยามหดตัวเบียดชิดผนังหนีสุดชีวิตถูกกระชากอย่างแรงจนเจ้าตัวแทบตกเตียง



“เฮ้ย! ลุง ไม่นะ ผมไม่ตื่น ม่ายยยย!!”



.



.



‘มออออ’



“เหม็นอ่ะ”



“ใส่รองเท้าบูทของคุณเรย์ไปก่อนนะครับ คู่สีชมพูนั่นเลย คุณหนูแกเคยใส่สมัยยังไม่แต่งงาน เห้ย!พร คุณน้องอยากดูทำคลอดวัว เอ็งมาอยู่เป็นเพื่อนคุณน้องหน่อยเร็ว ข้าต้องไปให้อาหารไก่”ลุงชัยจัดแจงหยิบรองเท้าเก่าของพี่สาวคนโตมายัดใส่มือบางก่อนจะตะโกนเรียกป้าพรเมียแกให้มารับช่วงต่อ



อย่าไปยอมลุงแกนะป้าพรเดี๋ยวเหิมเกริม เราต้องรวมตัวกันต่อต้านบ้างอะไรบ้าง ไอ้ไก่ที่พูดถึงนั่นก็ไก่ของลุงที่แกเอามาเลี้ยงไว้ในที่ดินของฟาร์มฟรีๆ ลุงนะลุง



รินสวมรองเท้าตามคำสั่งของลุงหน้างอและเดินเข้าไปดูแม่วัวซึ่งนอนราบอยู่บนพื้นอย่างช่วยไม่ได้ ทุกครั้งที่กลับมาที่บ้านพ่อกับพวกพี่ๆจะพาไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ในเมืองไม่ก็ขับรถชมวิวรอบๆนี้ไม่เคยต้องย่างกรายเข้ามาในคอกวัวแบบนี้เลยสักครั้ง ถือเอาโอกาสนี้เป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างที่ลุงชัยแกบอกก็แล้วกัน



“แย่หละสิ เฮ้อ! ทำไงดีหละเนี่ย คุณรันก็ไม่อยู่ซะด้วย”คนงานคนหนึ่งยกมือขึ้นขยี้หัวอย่างคิดหนัก ท่าทางจะมีปันหาเกิดขึ้นนะ เห “มีอะไรเหรอครับ”รินชะโงกคอเข้าไปถามกลุ่มชายสี่ห้าคนซึ่งกำลังยืนล้อมอะไรสักอย่างหน้าดำคร่ำเครียด



“คลอดกลับหัวหนะ”ลุงคนงานอีกคนหันมาตอบแทนก่อนจะไล่ให้อีกคนวิ่งไปเอาเชือกมา”ไปหยิบเชือกในตู้ตรงนั้นมาเร็ว!!”



“นี่ครับ”คนงานคนนั้นยื่นเชือกให้รินก่อนจะเดินกลับไปทางแม่วัวตอนนี้ช่องคลอดของมันมีขาของลูกวัวโผล่ออกมาแล้วสองข้าง คงเหมือนคนหละมั้ง เวลาปกติคลอดต้องเอาหัวออกจะได้คลอดง่ายแต่ถ้าเอาขาออกก็ต้องผ่าตัดทำคลอดแทน เอ...แล้วกับวัวนี่
เขามีผ่าตัดเหมือนคนรึป่าวนะ



เด็กหนุ่มผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มองเชือกในมืออย่างไม่เข้าใจความหมาย เอาให้เราทำไม?



“ต้องไปตามหมอมั้ยครับ?”รินเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคิดจะอธิบายอะไรสักคน ป้าพรที่ถูกลุงชัยเรียกตัวมาอย่างไม่เต็มใจก็ยืนหน้าเป็นตูดอยู่มุมประตู



เอิ่ม...ป้าครับ ถ้าไม่อยากมาขนาดนั้นผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ ยินดีเดินตามออกไปด้วยกันเลย


“เราจะดึงลูกวัวที่ติดอยู่ออกมาพร้อมกับตอนที่แม่วัวเบ่งลูก”คนงานคนเดียวกับที่ยื่นเชือกให้รินกล่าวพร้อมเอาเชือกไปคล้องกันเสาแล้วคนงานอีกสองสามคนก็เข้ามาจับเชือกที่ผมถือเอาไว้



“ลูกวัวมันตัวใหญ่ถ้าร่องอกหรือขาหน้าติดหละก็จบเห่แน่!”ลุงคนงานว่าขณะสองมือแตะไว้ที่ตัวหมายให้กำลังใจ
เดี๋ยวนะลุง อย่าบอกนะว่าผมต้องดึงกะเขาด้วย แล้วทำไมลุงไม่ดึงเอง เปลี่ยนหน้าที่กันได้ไหม รินหันซ้ายหันขวาเลิกลั่กแต่ก็
ไม่ทันการ



“เอ้าดึง!!”สิ้นเสียงให้สัญญาณคนงานคนอื่นก็ออกแรงพร้อมกัน นายน้อยแห่งฟาร์มกานต์เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้ความร่วมมือ รินส่งแรงทั้งหมดที่มีออกไปที่ปลายแขน



“ฮึบ!!”



“อีกรอบนึง!! ดึง!!”



“ฮึบ!!”



โอย ยังไม่ออกอีก เจ็บมือแล้วนะ เพราะแบบนี้ไงตอนเด็กถึงไม่ชอบเล่นชักเขย่อ อ๊ากกก จงออกมา ลูกวัวจงออกมา



‘มอออออ’ เสียงแม่วัวร้องกระตุ้นให้พวกเราออกแรงเฮือกสุดท้ายเพื่อพาลูกของมันออกมา



“ฮึบบบบบ!!”



ในที่สุดร่างของลูกวัวก็หลุดออกมาได้สำเร็จ ไม่รอช้าคุณลุงคนงานรีบพุ่งปราดเข้าไปหามันก่อนเอื้อมมือไปจับชีพจรที่บริเวณคอ คนงานคนอื่นๆก็ทิ้งเชือกในมือวิ่งเข้าไปล้อมรอบตัวมันเช่นกัน “แย่แล้ว ไม่หายใจ”ลุงแกพูดอย่างตกใจก่อนอีกคนจะเข้าไปช่วยแกยกขาของลูกวัวขึ้นและช่วยกันปั๊มหายใจ



“เอ้า ไอ้หนู พยามเข้า!! อะฮึบ อะฮึบ ๆ ๆ”ลุงแกกล่าวให้กำลังใจชีวิตใหม่แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่หายใจ 



จากนั้นลุงคนนั้นทำสิ่งที่รินตื่นตะลึงที่สุด...ชายสีผิวดำคล้ำรูปร่างท้วมก้มหน้าเอาปากประกบกับปากของลูกวัวเกิดใหม่ร่างกายเต็มไปด้วยน้ำคล่ำเหนียวหนืดผสมเลือดสีแดงของแม่...ผายปอด!! เหตุการณ์ตรงหน้ารินคือการผายปอด! เมาท์ทูเมาท์วิทเบบี้คาว



 ลุงแกผายปอดวัวอยู่ครั้งถึงสองครั้งก่อนความเงียบจะเข้าปกคลุมคอกวัวแห่งนี้ ทุกคนที่เคลื่อนไหววุ่นวายเมื่อครู่กลับสู่ความเงียบสงบและจดจ้องไปยังร่างของชีวิตใหม่



‘มออ’ในที่สุดมันก็หายใจและส่งเสียงร้องออกมา



“เฮ!!!”ทุกคนชูมือขึ้นฟ้าอย่างดีใจไม่เว้นแม้แต่ป้าพรที่ทำหน้าเหมือนไม่อยากมาในตอนแรกหรือแม้กระทั่งลุงชัยที่ออกไปให้อาหารไก่ก็กลับมาโบกไม้โบกมืออย่างยินดีกับเขาด้วย



หะ เดี๋ยวนะ ลุงชัยมาจากไหน



“เป็นไงครับคุณน้อง ภาพของการกำเนิดใหม่ น่าประทับใจมั้ยครับ”ก่อนจะได้ถามอะไรออกไปลุงชัยก็มาตบหลังนายน้อยของเขาดังป้าบ ไหล่บางสั่นไหวตามแรงมือของอีกฝ่าย ใบหน้าขาวซีดอย่างคนไม่ค่อยออกแดดดูเหมือนจะซีดเซียวขึ้น



“อี๋อ่ะ”คำสั้นๆคำเดียวสยบทุกความเคลื่อนไวในอาณาบริเวณ



“เอ่อ คุณน้องคะ”ป้าพรพูดเบาๆอย่างคนทำอะไรไม่ถูก



“ไม่ไหวๆๆๆๆๆๆ น่ากลัว อี๋ไม่เอานะ อี๋ๆๆๆๆๆๆ”คุณน้องแห่งฟาร์มโคนมปิดปากแล้วก็สะบัดหัวไปมาราวกับต้องการสะบัดภาพอันไม่น่าประทับใจนั้นออกจากสมอง ถ้าให้ช่วยให้อาหารหรือจูงออกจากคอกไปเล็มหญ้าในทุ่งก็พอทำได้อยู่แต่เรื่องแบบนี้ไม่ไหวนะ



“ม่ายยยยย”



น้องจะไม่ทน!!



ไม่นานหลังจากเด็กเมืองหลวงสงบสติอารมณ์ลงแล้วคนงานคนหนึ่งนำร่างของลูกวัวใส่รถเข็นก่อนจะพามันออกไปท่ามกลางความงุนงงของริน เด็กน้อยมองตามหลังไปอย่างสงสัยก่อนหันไปถามลุงชัยผู้เป็นที่พึ่งเพียงคนเดียว”เขาจะพามันไปไหนเหรอครับ”



“คอกลูกวัวไงครับ”ลุงตอบก่อนจะจูงมือรินออกจากคอกวัว



“มันไม่ได้อยู่ด้วยกันกับแม่หรอกเหรอ”



“ต้องจับแยกครับคุณน้อง จะได้ดูแลสะดวก”ลุงชัยเอ่ยเสียงเรียบราวกันมันเป็นเรื่องปกติซะอย่างนั้น...



“การไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เป็นเรื่องปกติงั้นเหรอ?”ใบหน้าของรินหมองลงเหมือนเอาเรื่องตรงหน้าไปซ้อนทับกับเรื่องราวบางเรื่อง



“งั้นคุณน้องตามไปให้นมมันไหมครับ”รินพยักหน้าตามคำของลุงชัยก่อนจะรับขวดนมคั้นสดๆจากเต้าของแม่วัวตัวเมื่อครู่แล้ววิ่งตามลูกวัวน้อยไป เขาวิ่งไปตามทางที่ลุงบอกก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้จึงเลี้ยวแวะเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะกลับออกมาด้วยรอยยิ้ม



ของที่อยู่ในมือก็คือริบบิ้นผูกผมอันเล็กๆซึ่งใช้แทนพวงกุญแจห้อยกระเป๋า



เด็กหนุ่มเปิดประตูโรงเรือนขนาดเล็กกว่าเมื่อครู่เข้ามาก่อนเดินหาคอกของเจ้าวัวน้อย



รินป้อนนมให้ลูกวัวน้อยจนเสร็จก่อนจะนำริบบิ้นเส้นดังกล่าวมาผูกตรงหางของมัน โบว์สีชมพูแกว่งไปมาตามจังหวะสะบัดหางของลูกวัวน้อย



“ดีหละ ตั้งแต่นี้แกชื่อลูกแมวน้อยแล้วกันนะ”



‘มอออ’ลูกวัวน้อยนามลูกแมวน้อยขานรับชื่อที่เจ้าของตั้งให้ หากมันเข้าใจความหมายของชื่อเจ้าแมวน้อยนั้นสักนิดมันจะรู้ได้ทันทีเลยว่าเจ้านายหน้าใสผู้อ่อนโยนต่อมันนั้นจงใจแกล้งมันซึ่งเป็นลูกวัวน้อยไม่ใช่ลูกแมวน้อยแต่กลับใช้ชื่อว่าลูกแมวน้อย นี่มันหยามลูกวัวน้อยกันชัดๆ



“คุณน้องครับ อย่าอู้ครับ! ยังมีงานรออยู่เยอะ”เสียงสวรรค์(?)ดังกังวานมาจากปากทางนรก ลุงชัยจอมใช้งานเรียกนายน้อยผู้กุมบัญชีของบ้านให้กลับไปสะสางงานที่ยังคั่งค้างจากเมื่อคืน และแล้วหนึ่งวันอันยาวนานของรินก็เริ่มต้นขึ้น เขาต้องนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่ในเก้าอี้ประจำตำแหน่งอย่างโกรธแค้น



ทั้งพี่ชายผู้บาดเจ็บ...พ่อผู้เห่อหลาน...ลุงชัยจอมใช้ อย่าให้เปิดเทอมนะ จะกลับบ้านไปฟ้องแม่เลยคอยดู!




.




.



“คุณน้องคะ ไปนอนเถอะค่ะ ดึกแล้วไว้พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ”ก็มีป้าพรนี่แหละ รินโงหัวขึ้นมาจากกองงานมองพระแม่ผู้มาโปรดเด็กตาดำๆอย่างดีใจ ดวงตาใสแจ๋วเป็นประกายจ้องมองหญิงแก่อย่างดีใจ



“ป้าพร ฮืออออ ลุงชัยใจร้าย”เด็กหนุ่มรีบเอาหัวไปซุกไซ้กับท้องของป้าพรอย่าออดอ้อน



“ทนหน่อยนะคะ ลุงแกไม่ได้หวังร้ายหรอก ตามสุภาษิตรักวัวให้ผูกรักลูกให้ตีไงคะ”รินเบะปากทันทีที่ได้ยินคำแก้ตัวของป้าพร รักลูกให้ตีอะไรกันเล่า อย่างงี้เขาเรียกว่าหลอกใช้งาน เชอะ



เอาเถอะครับยอมๆแกหน่อยแล้วกัน ดึกแล้วขี้เกียจเถียง กี่โมงแล้วเนี่ย...โอ้โห ตีหนึ่ง ตอนแรกกะว่าจะนอนประมาณห้าทุ่มไหงลากยาวมาถึงตอนนี้ไม่รู้ตัวเลยเนี่ย นักบัญชีหนุ่มไฟแรง(ประชด)มองนาฬิกาตั้งโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ นอนดึกมากๆตาได้ดำเป็นหมีแพนด้าแหงๆ



“งั้นผมไปนอนก่อนนะครับ ป้าพรก็รีบไปนอนด้วยหละ ว่าแต่ลุงชัยหละครับ”



“หลับปุ๋ยไปตั้งแต่สามทุ่มแล้วลูก”



นั่นไง มันน่าแค้นไหมหละ เอาเชอะไปอีกสิบรอบเลย



รินกล่าวราตรีสวัสดิ์กับป้าพรก่อนจะเดินออกจากห้องมา บ้านของเขาเป็นบ้านปูนแต่ส่วนของห้องทำงานกลับเป็นบ้านไม้ที่ต่อเสริมเข้าไปทีหลัง เหมือนว่าพี่รันผู้รักธรรมชาติจะเป็นคนจัดแจงทำให้มันติดแอร์ไม่ได้ เนื่องจากซี่ไม้มีรอยห่างระหว่างกันอากาศเย็นจะรั่วไหลออกไปทำให้เขาผู้รักเครื่องปรับอากาศต้องนั่งเปิดหน้าต่างจุดยากันยุงทำงาน



แสงไฟในห้องนอนของนายน้อยแห่งฟาร์มกานต์ดับลงพร้อมกับเจ้าของห้องผู้เข้าสู่ห้วงนิทรา



ความฝันของคืนนี้คือเรื่องราวของแม่วัว ลูกวัว และพ่อวัวอยู่ด้วยกันพร้อมหน้ากลางทุ่งสีเขียว ตัวเขาผู้เป็นคนเลี้ยงมองตามภาพนั้นอย่างมีความสุข ลูกวัวน้อยนามลูกแมวน้อยสะบัดหางที่ผูกโบว์เอาไว้ไปมาก่อนวิ่งมาหาเขาราวกับจะชวนเล่นด้วย



‘มอออ’



“หืม ฝันเหรอ?”รินกระพริบตาปริบๆอย่างงุนงน ภาพฝันเมื่อครู่ยังคงชัดเจนในความทรงจำ เด็กหนุ่มเหลือบมองเวลาอย่างสงสัย



หมายเลข 03.24ฉายบนหน้าปัดดิจิตอล มันยังเร็วไปมากที่จะตื่นแต่จะให้นอนต่อเลยทันทีคงไม่ได้เพราะเสียงวัวร้องในฝันนั้นช่างสมจริงจนน่าประหลาด



‘มออออ’



ทันใดนั้นเองเสียงวัวร้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง รินรีบยันตัวนั่งอย่างตกใจ



ทำไมถึงมีเสียงวัวแถวนี้หละ!? ก็บ้านเราตั้งอยู่ห่างจากคอกไกลพอจะไม่ได้ยินเสียงวัวนี่แถมเสียงเมื่อกี้ยังได้ยินชัดยังกับอยู่ใกล้แค่นี้ “หรือว่า” รินรีบเปิดหน้าต่างชะโงกหน้าออกไปดูด้านล่างและเขาก็พบกับวัวนมหนึ่งตัวนอนอยู่ใต้ต้นไม้...



หลุดออกจากคอกเหรอ?



ผู้รับผิดชอบฟาร์มคนปัจจุบันยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ริมหน้าต่าง ไม่รู้ควรไปตามลุงชัยตอนนี้เลยหรือว่ารอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าค่อยจัดการดี



“คุณน้องๆ!! แย่แล้วครับแย่แล้ว!!”ยังไม่ทันตัดสินใจได้เสียงของลุงชัยก็ดังขึ้นก่อน คราวนี้แตกต่างไปจากเดิมเพราะน้ำเสียงนั้นสัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนก ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกอย่างแรงก่อนร่างของลุงชัยที่เต็มไปด้วยเหงื่อจะวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าจริงจัง



“ที่คอกหนึ่งมีไฟไหม้ แม่วัวหลุดออกจากคอกหมดเลย แย่แล้วทำไงดีครับคุณน้อง!!”ลุงชัยกระวีกระวาดลากร่างโปร่งออกมาจากตัวบ้าน รีบเสียจนรองเท้าเกือบไม่ได้ใส่



“มีใครไปดับไฟรึยังครับ!?”



“ลุงให้พรดับแล้วก็รีบมาตามคุณน้องเนี่ย ไม่รู้คนงานคนอื่นหายไปไหนหมด”ลุงชัยตะโกนแข่งกับเสียงลม



คำพูดเมื่อครู่ทำเอาเส้นเลือดที่ขมับของรินเต้นตุบๆเหมือนจะแตกออก หน้าที่มันสลับกันแล้วลุง ลุงควรเป็นคนหาบน้ำวิ่งดับไฟหน้าดำไม่ใช่เร้อออ



“ชัย แย่แล้วชัย วัวหายหมดเลย วัวหาย”วิ่งไปสักพักก็เห็นป้าพรยืนกระโดดโบกไม้โบกมืออยู่หน้าคอกวัวที่หนึ่ง ฟาร์มของเขานั้นมีคอกวัวอยู่สี่คอกแบ่งตามอายุของโคนมและคอกวัวที่เกิดเรื่องก็คือคอกวัวที่หนึ่งซึ่งเป็นคอกวัยสาวซึ่งให้ผลผลิตดีที่สุด



“ป้าพร...”



“คุณน้องคะ ป้าขอโทษค่ะ พอไฟดับข้างในก็ไม่มีวัวแล้ว”แถวนี้มืดมากอาศัยแค่แสงไฟจากกระบอกไฟฉายในมือลุงกับแสงจันทร์คอยนำทางแต่ฟังจากน้ำเสียงสั่นเครือนี้แล้วก็พอจะเดาได้ว่าป้าพรกำลังร้องให้



“ไม่เป็นไรนะครับป้าพร ยังเหลืออีกตั้งสามคอกแหนะ รายได้ตกไม่เยอะหรอก”รินปลอบป้าแกก่อนแกจะโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง



“ไม่ค่ะไม่ได้หายไปแค่คอกเดียว แต่หายไปหมดเลย”



“อะ...อะไรนะ!!”เสียงประสานของรินและลุงชัยดังลั่นทั่วบริเวณ ป้าพรได้แต่ยืนก้มหน้าเงียบๆ



“รู้สาเหตุของไฟไหม้ไหมครับ”รินเดินเข้าไปสำรวจเศษไม้ที่ไหม้เกรียม ส่วนหลังของคอกหนึ่งเสียหายตั้งแต่พื้นยันหลังคา วัวในนี้คงจะตื่นและวิ่งหนีออกไปตรงช่องผนัง คอกวัวทำจากไม้แถมยังมีมูลสัตว์กองฟางและหญ้าแห้งเป็นเชื้อไฟ เพลิงจะลุกลามใหญ่โตก็ไม่ใช่เรื่องแปลก



จุดที่แปลกคือ...ไฟมันไหม้เพราะอะไร...ทำไมคนงานถึงหายไปหมด...และวัวคอกอื่นซึ่งไม่เกิดไฟไหม้ทำไมถึงหายไปด้วย?



“อ๊ะ ลูกแมวน้อย!? ป้าพรครับ แล้วลูกแมวน้อยหละครับ”



“ลูกแมวเหรอคะ ฟาร์มเราไม่มีนะคะ”



ปัญหาการตั้งชื่อบังเกิด ยามฉุกเฉินการสื่อสารกันให้เข้าใจนั้นจำเป็น รินยกมือตบหน้าผากตัวเองหนึ่งทีก่อนเปลี่ยน
คำถาม”อา...ลูกวัวเพิ่งคลอดวันนี้หละครับ”



“หายไปเหมือนกันค่ะ”



คำตอบของหญิงแก่นำพาความเงียบเข้ามาปกคลุมบุคคลทั้งสาม สายลมเย็นเฉียบกลางดึกพัดผ่านร่างโปร่งซึ่งสวมเพียงเสื้อนอนบางๆ รินยกสองมือขึ้นกอดอกอย่างคลายหนาว ตัวเขานั้นก็เป็นเพียงลูกชายคนเล็กซึ่งนานๆทีจะแวะเวียนมาทีทำให้ไม่รู้เบื้องลึกของฟาร์มแห่งนี้ แต่ที่รู้ตอนนี้ก็คือ...



ต้องมีคนจ้องจะเล่นงานฟาร์มกานต์อยู่แน่นอน



และเขาก็ลงมือสำเร็จแล้วด้วย...



ลูกวัวอายุไม่ถึงวันแบบนั้นต่อให้ตกใจยังไงก็ไม่มีแรงพาตัวเองหลุดออกจากคอกมาได้แน่ ต้องมีคนพาออกไป...



‘แกรบ’



“นั่นใคร!!”เสียงตะโกนของลุงชัยเรียกรินออกจากภวังค์ ท่ามกลางความเงียบสงัดสิ่งที่ดังแทรกเสียงลมและเสียงแมลงเข้ามาก็คือเสียงฝีเท้า...จากประสบการณ์เลี้ยงวัวมานานกว่าสองเท่าของอายุของรินทำให้ชายแก่รู้ได้ทันทีว่าเสียงนั้นไม่ใช่เสียงฝีเท้าของสัตว์สี่ขา



ป้าพรเคลื่อนตัวเข้ามาหาคุณน้องของเธออย่างรู้งานก่อนจะดันให้เด็กหนุ่มถอยมาหลบหลังตน เงาร่างของคนปรากฏสู่สายตาของบุคคลทั้งสาม นายน้อยแห่งฟาร์มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ความเย็นยามราตรีกระตุ้นให้เส้นขนในร่างกายลุกชันพร้อมๆกับจังหวะที่เงาร่างนั้นเคลื่อนกายเข้ามาใกล้...



“ตอบมา นั่นใคร!? มาดีหรือมาร้าย!?”เมื่อชายปริศนาไม่ส่งเสียงใดๆกลับมาเลย ลุงชัยจึงพยามเอาไฟฉายส่องไปทางนั้นและตะโกนถามอีกรอบ



ตอนนั้นเองเงาร่างตะคุ่มๆนั้นก็เข้ามาในรัศมีไฟฉาย  รินพยามเพ่งสายตาเพื่อมองลักษณะของชายคนนั้น หากในมือถือมีดถือปืนมาหละก็งานนี้ตัวใครตัวมันหละ



แต่ทว่าเมื่อตาคู่ใสสบนัยน์ตาสีเข้มฉายแววจริงจัง จมูกโด่งสันกับคิ้วเรียวเข้มที่ขมวดลงมากลางหน้าผากทำให้ใบหน้าหล่อๆนั่นดูดุดันน่ากลัวหากแต่บนใบหน้าที่มองผ่านความมืดก็รู้ว่าหล่อนั้นกลับเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเลือด คนคนนั้นเดินเข้ามาหากลุ่มของพวกเราด้วยสีหน้าเรียบเฉย



ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเพราะรอยเลือดที่เปรอะเต็มเสื้อเชิ้ตสีดำนั่นน่าตกใจมากกว่าความสงสัยว่าชายคนนี้มีที่มาที่ไปเช่นไร


“ตายแล้วพ่อหนุ่ม ไปโดนอะไรมาเนี่ย มานี่สิมาทำแผล โอ๊ยตายๆแผลใหญ่ขนาดนี้ป้าคงทำให้ไม่ได้ ชัยแกพาพ่อหนุ่มนี่ไปหาหมอสิ”ป้าพรรีบเข้าไปดูอาการของคนคนนั้นอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นว่ามันสาหัสจึงหันมาสั่งลุงชัยอย่างมีน้ำใจ



รินเดินเข้าไปดูแผลที่ศีรษะของชายปริศนาเพื่อสำรวจว่ามันเป็นรอยแผลจากวัวหรือไม่เพราะมีโอกาสที่คนคนนี้จะโดนวัวที่วิ่งเตลิดชนเอาแต่รอยของมันเหมือนโดนท่อนไม้หรืออะไรประมาณนั้นตีด้วยฝีมือมนุษย์มากกว่ารอยเท้าวัว



“คุณไปได้แผลนี้มาได้ยังไง รู้รึป่าวว่าใครเป็นคนทำ”ไม่แน่ว่าคนร้ายอาจเป็นคนเดียวกันกับเหตุการณ์วัวหาย รินจึงซักไซ้อย่างไม่วางใจ



“คือผม...”



“?”



“เอ่อ...”ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าเต็มปอด รอยแผลที่ศีรษะทำให้สมองอื้ออึง กว่าจะควานหาคำตอบได้ก็เล่นเอาคนฟังลุ้นตัวโก่ง



“ผม...มาจากกรุงเทพ มาทำงานกับลูกน้องจากนั้นเราก็มีปากมีเสียงกัน”เสียงทุ้มกล่าวเพียงสั้นๆ เขายกมือขึ้นกดบาดแผลเพื่อ
ห้ามเลือด การกระทำทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของริน เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีดำขลับของอีกฝ่ายอย่างจับผิด



สิ่งที่คนคนนี้พูดมาไม่ใช่เรื่องโกหกแต่มันก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดเช่นกัน



“เอาไว้ทีหลังเถอะค่ะคุณน้อง ดูๆแล้วเขาไม่ใช่คนแถวนี้จริงอย่างที่บอกยังไงเราก็พาเขาไปหาหมอก่อนเถอะ เดี๋ยวเลือดไหล
หมดตัวพอดี”หญิงวัยทองพูดตัดประเด็น เธอใช้ลุงชัยให้ไปเอากุญแจรถมา ลุงแกรีบวิ่งกลับบ้านตามคำสั่งเมียที่เคารพ นายน้อยแห่งฟาร์มกานต์เลยพาคนเจ็บไปนั่งพักบนพื้นดินที่สภาพดีที่สุดบริเวณนั้น




จากนั้นไม่นานลุงชัยก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา...พร้อมกุญแจรถ




มือหยาบกร้านส่งกุญแจดังกล่าวให้เมียตัวเองหน้าซื่อ ป้าพรแทบจะเอาสันมือฟาดกะโหลกลุงชัย”ทำไมแกไม่ขี่รถมาด้วยหละ ห๊า สมองมีรอยหยักไหม แก่แล้วเลอะเลือนเรอะ!?”



“อ้าว ก็เอ็งบอกให้ไปเอากุญแจข้าก็เอามาให้แล้วนี่ไง”



ป้าบ! และป้าแกก็ตบเข้าจริงๆ กลางหัวเหนาะๆเลย




“ไอ้แก่นี่! งี่เง่ามาตั้งแต่เช้าแล้วนะ เห็นว่ามีคนเลือดท่วมตัวนั่งรออยู่ทนโท่ทำไมไม่เอารถมารับเขา แค่นี้คิดเองไม่ได้รึไง ห๊ะ!”



“ก็แล้วไม่รู้จักบอกให้ชัดๆ!! คนมันตกใจจะเอาเวลาที่ไหนมานั่งคิด!!”



“เอ่อ ผมว่าผมพาเค้าไปหาหมอเองดีกว่า ลุงกับป้าจัดการเรื่องทางนี้ไปเถอะครับ ใช้มอไซค์พี่รันใช่ไหม” เห็นท่าไม่ดีรินเลยรีบห้ามทัพ เขาคว้ามือคนเจ็บให้ลุกขึ้นยืนแล้วก็พาเดินไปยังโรงรถ



“คุณน้องคะ ระวังตัวด้วยนะคะ”พรตะโกนไล่หลังมาอย่างเป็นห่วง ดวงตาสีดำหมองตามกาลเวลาจ้องมองแผ่นหลังของเด็กน้อยที่เธอเฝ้าเลี้ยงดูเหมือนลูกเหมือนหลานพาผู้ชายแปลกหน้าไปด้วยในยามวิกาล หากเลือกได้เธอไม่อยากปล่อยให้คุณน้องของเธอไปคนเดียวในเวลาเช่นนี้ แต่จะปล่อยให้สามีไม่ได้ความจัดการเรื่องทางนี้คนเดียวก็คงไม่รอด



“ป้าก็เหมือนกันนะ”รินหันมาทางคนทั้งสอง



ความจริงพวกเขาควรจะแจ้งความแต่เมื่อครู่ป้าพรโทรไปหาพ่อเมื่อกี้พ่อบอกให้ดูท่าทีไปก่อน



รินพาร่างสูงขึ้นซ้อนมอไซค์ของพี่รันซึ่งแหกโค้งไปเมื่อไม่นานแต่รถมันไม่ได้เสียหายอะไรมากมายซ่อมไม่กี่วันก็เสร็จผิดกับคนที่ต้องพักเป็นเดือนๆ



ท่ามกลางความมืดยามราตรี รถจักรยานยนตร์สีชมพูเคลื่อนตัวผ่านทางเข้าฟาร์มด้วยความรวดเร็ว ในใจของคนขับอยากให้ไปถึงที่หมายเร็วๆด้วยความเป็นห่วงและความกลัว...



สองข้างทางประดับด้วยพุ่มไม้ซึ่งยามกลางวันใช้บังแดดได้อย่างดีแต่ยามกลางคืนกลับกลายเป็นกลุ่มก้อนดำมืดน่ากลัว เงาดำๆของมันพลิ้วไหวไปตามแรงลมส่งเสียดสอดเสียดกันราวกับกำลังกรีดร้อง บรรยากาศช่างเหมาะเจาะกับการปรากฏตัวของ
พลังงานบางอย่าง



   “พี่ไหวไหมเนี่ย เจ็บรึป่าว ว่าแต่พี่ชื่ออะไร ผมชื่อรินนะ”การชวนคุยเป็นทางออกที่ดีที่สุดในยามนี้



   “คฑา”เสียงทุ้มตอบกลับมาสั้นๆ ความเจ็บปวดของบาดแผลทำให้เขาไม่สะดวกจะพูดเท่าไหร่นัก ชายหนุ่มออกแรงกดผ้าเช็ดหน้าห้ามเลือดมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งยกขึ้นกุมท้องด้วยสีหน้าทรมาน



“เจ็บท้องเหรอฮะ”มองผ่านกระจกข้างก็เห็นท่าทางเจ็บปวดของอีกฝ่ายเด็กหนุ่มจึงถามขึ้นอย่างเป็นห่วง มีเพียงการพยักหน้าตอบรับเท่านั้นรินจึงกล่าวสมทบ”พี่พิงผมมาก็ได้นะ”




“ไม่เป็นไร ขอแค่ไปให้ถึงโรงพยาบาลก็พอ”



“เห?”



“แยกเมื่อกี้ต้องเลี้ยวซ้ายไม่ใช่เลี้ยวขวา”



“...”รินเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะหักรถจอดข้างทาง แถวนี้มันมืดมากแม้จะเป็นถนนใหญ่ก็ไม่มีวี่แววของรถสักคัน แผนที่เน่าๆซึ่งลุงชัยเขียนให้ถูกกางออกอย่างรีบร้อน มือบางไล่ไปตามทางตั้งแต่ปากซอย...และเขาก็ค้นพบความจริงที่ว่า



เลี้ยวผิด...



“แฮ่ๆ ผมไม่ได้อยู่แถวนี้หลงบ้างอะไรบ้างอย่าว่ากันเลยนะฮะ”




...


ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
แย้กๆๆ สนุกกก >O<
ขำตอนผายปอดกะตั้งชื่ออ่ะ 55555555
ริน สติหนูไปไหนคะลูก? ตั้งชื่อวัวเป็นแมว เอิ่มมม
คฑาปริศนาเยอะจัง โผล่มาแถวฟาร์มได้ไงวะเนี่ย
รอตอนหน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2015 19:20:31 โดย boboman »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ win12345

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ lalitalx

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-3
น้องรินน่าสงสารมาก เหตุการณ์เกิดจนมั่วไปหมด 5555555555

ออฟไลน์ AllTheWay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
ริน จะฮาไปไหนลูก :laugh:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เดี๋ยวก่อนค่าา!!! คฑารู้ได้ยังไงกันคะว่าน้องรินเลี้ยวรถผิดทาง? :m28: ชักน่าสงสัยเสียแล้วสิ~

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
วัวหายไปหนายยยย
ขุ่นน้องท่าจะเจอเรื่องยุ่งแล้ววว
แล้วคุณคฑาคือใครน้อ
รอค่า

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
นายเป็นใครเหรอ นายคฑา  หุๆๆๆ :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ใครทำไรฟาร์มวัว กะ คฑา

ออฟไลน์ MiddaySuN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
    • พระอาทิตย์กลางฤดูร้อน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4



บทที่2 อัศวินขี่ม้าขาว



“ดีนะครับที่แผลไม่ลึก”รินกล่าวขณะนั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาวสำหรับรอชำระเงินค่ารักษาพยาบาลกับคนเจ็บไร้ญาติซึ่งเข้าพบหมอและทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว นัยน์ตาสีดำฉายแววสดใสเสมอเหลือบมองคนข้างๆซึ่งเนื้อตัวมอมแมม บนหัวมีผ้าพันแผลพันไว้รอบ...



คนมันหล่อต่อให้โทรมยังไงก็หล่ออยู่วันยังค่ำ นับเรตติ้งได้จากน้ำเสียงของคุณพยาบาลซึ่งเข้าเวรคนเดียว ปกติควรจะพูดจาห้วนๆมะนาวไม่มีน้ำใส่ตามประสาพนักงานโรงพยาบาลรัฐแต่นี่เสียงอ่อนเสียงหวานมาเชียว



ภายในโซนรับยามีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นเนื่องจากมันดึกมากแล้วและแถวนี้ก็เป็นเขตฟาร์มจึงไม่ค่อยมีคนอาศัยอยู่ พี่รันเองก็รักษาตัวในโรงพยาบาลประจำจังหวัดไม่ใช่โรงพยาบาลซอมซ่อพัดลมเพดานขึ้นสนิมเจียนจะตกใส่หัวคนไข้แบบนี้



“อืม ขอบคุณที่พามาส่ง”เสียงทุ้มตอบกลับสั้นๆ



“แล้วพี่มีเงินจ่ายป่ะเนี่ย”ดูจากภายนอกแล้วชายคนนี้แต่งตัวดีไม่น้อยแต่ไม่รู้ว่าเขาจะพกเงินติดตัวมารึป่าวรินจึงถามอย่างเป็นห่วง
อีกเรื่องซึ่งค้างคาใจเด็กหนุ่มอยู่ก็คือ



ผู้ชายคนนี้มาทำอะไรกลางทุ่งกับลูกน้องตอนมืดๆ



...สองต่อสอง....



“พอมีอยู่”ร่างสูงพูดขณะหลับตาเอนกายพิงพนัก การกระทำนั้นทำให้รินคิดว่าเขาต้องการการพักผ่อนจึงไม่ซักไซ้อะไรต่อ เด็กหนุ่มหันมานั่งแกว่งเท้าเล่นค่าเวลา



“ฟาร์มนั้นเป็นของบ้านเราเหรอ”



แต่ในตอนที่เขาไม่มีอะไรทำนั้นเอง คนข้างๆก็ปรือตามองอย่างพิจารณา รอยยิ้มปรากฏบนมุมปากของริน มุมปากคลี่รอยยิ้มที่ใครได้เห็นเป็นต้องเผลอมอง เจ้าตัวแสบรู้สึกดีใจกับความไม่หมางเมินที่ชายหนุ่มมอบให้



...การใส่ใจเล็กๆน้อยเป็นเรื่องพึงมีระหว่างกัน...



 “ครับ”



“แล้วทำไมถึงทำตัวเหมือนไม่ใช่คนแถบนี้เลยหละ”คนถูกถามค้างไปวูบหนึ่งก่อนก้มมองตัวเองตามสายตาของคนตรงหน้า รินรู้ดีว่าตัวเองหน้าตาท่าทางไม่ค่อยกลมกลืนกับคนแถวนี้เท่าไหร่แต่ก็ไม่คิดว่าคนที่รู้จักกันได้ไม่ถึงชั่วโมงจะถามคำถามแบบนี้



ผู้ชายคนนี้ฉลาดแล้วก็ช่างสังเกต



“ผมอยู่กับแม่ในกรุงเทพ นานๆทีจะกลับมาเยี่ยมพ่อทีฮะ”อีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับ



“แล้วเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ ไฟไหม้? แจ้งความรึยัง?”คำถามนั้นทำให้รินชะงักเล็กน้อย เขาลังเลว่าควรบอกให้คนนอกอย่างคฑารู้ดีไหม ใบหน้าหวานแสดงความอึกอัก



“นั่นแหละปัญหา ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เห้อ...”



“นอนอยู่ดีๆตื่นมาวัวหายหมดฟาร์ม พ่อก็สั่งไม่ให้แจ้งความเพราะเดี๋ยวเดียวก็ตามกลับมาได้ รอบๆฟาร์มมีรั้วลวดหนามล้อมเอาไว้ แต่กว่าจะตามกลับมาครบหละ? โอ๊ย คนงานก็หายหัวกันไปหมด พี่รันกับพ่อก็ไม่อยู่บ้าน ตายๆๆๆ รินเอ๋ย เอ็งนายแน่”ตอนแรกก็เหมือนตอบคำถามอยู่หรอกแต่หลังๆคิดว่าบ่นกับตัวเองมากกว่า



มือเรียวยกขึ้นกุมขมับด้วยความเครียด หัวใจในอกเต้นเร็วขึ้นเมื่อนึกถึงปัญหาที่ต้องแบกรับ...



คิดแล้วก็น่าเจ็บใจ ร้อยวันพันปีพ่อผู้ติดบ้านไม่เคยไปไหนจะโผล่ออกจากฟาร์มที ไหนจะพี่รันผู้อึดถึกไม่เคยล้มป่วยอีก



ทำไมหนอทำไมสถานการณ์คับขันถึงเลือกเกิดเวลานี้



“ทำไงดี โอยยยย”ใบหน้าหล่อปนหวานของนักศึกษาชั้นปีสามยับยู่เข้าหากัน คิ้วเรียวแทบจะผูกกันเป็นริบบิ้นห่อของขวัญ ตัวเขาตอนนี้เหมือนถูกปล่อยทิ้งไว้กลางเกาะร้างที่มีไฟลุกท่วม...ข้างหน้าคือทะเลข้างหลังคือเปลวไฟ ไม่มีใครให้พึ่งพา...



พี่รันฮะ น้องขอโทษที่แช่งพี่ น้องเลิกงอนพี่แล้ว พี่รีบออกจากโรงพยาบาลเร็วๆนะ



ต่อมาคุณพยาบาลผู้ควบตำแหน่งเภสัชกรจ่ายยาและนักบัญชีคิดเงินก็ประกาศเรียกให้ชายหนุ่มลุกไปรับยา รินมองตามแผ่นหลังนั้นไปด้วยสายตาหมาหงอย เป็นความบังเอิญที่คฑาก็หันกลับมามองเจ้าหนูอย่างเป็นห่วงเช่นกัน



ดวงตาทั้งสองสบประสานกันอยู่ชั่วอึดใจ แม้มันจะแสนสั้นแต่นัยน์ตาสุขุมของคนอายุมากกว่านั้นกลับคลี่คลายปมในใจของรินได้ หัวใจที่บีบอัดเมื่อครู่กลับมาเต้นตามจังหวะเดิมอย่างน่าประหลาด...



รินยกมือขึ้นทาบอกอย่างรับชะตากรรม ก่อนจะยกอีกมือขึ้นมากอบกุมมือของตัวเองไว้...



ทุกๆบ่ายจะมีคนของบริษัทนมพาสเจอไรส์มารับซื้อนม...ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนถึงเวลานั้น



ชายหนุ่มยืนมองทุกจังหวะสีหน้าของนายน้อยแห่งฟาร์มกานต์ ไหล่เล็กๆที่เดี๋ยวก็ผึ่งผายเดี๋ยวก็ห่อเหี่ยวนั้นทำให้เขารู้ว่าเด็กคนนี้พยามๆให้กำลังใจตัวเองขนาดไหน ท่าทางเหมือนปลาทองถูกช้อนขึ้นจากอ่างพยามดีดตัวดิ้นรนลงน้ำของคนตรงหน้าจุดความรู้สึกบางอย่างขึ้น



คฑาถือถุงยาและเดินกลับมาหาเด็กทำอะไรไม่ถูกก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่คิดดีแล้วออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น



“เจ้าหนู ...”เสียงทุ้มเรียกสติ รินเงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้าด้วยแววตาสงสัย



“...แทนคำขอบคุณ จนกว่าปัญหาของฟาร์มและปัญหาของฉันจะจบลง ฉันจะอยู่ช่วยอีกแรง”



ราวกับมีหยดน้ำกระทบผืนทรายกลางซาฮาร่า เสียงทุ้มก้องกังวานซ้ำไปซ้ำมาในหูของริน เนตรกลมฉายประกายระยิบระยับเงยขึ้นมองชายหนุ่มราวกับเห็นพระโพธิสัตว์มาโปรด



ทว่าภาพฝันอันสวยงามก็ดับวูบด้วยพาดหัวข่าวปล้น ฆ่า ชิงทรัพย์และแก๊งค์ต้มตุ๋น



แล้วเราจะทำยังไงถ้าหากพี่ชายคนนี้เป็นพวกมิจฉาชีพ!?



รินผู้มีไหวพริบ(?)มีสัญชาติญาณระวังภัยในระดับหนึ่ง เขาขอตัวร่างสูงก่อนเดินแยกออกมาเพื่อติดต่อหาพ่อ รอสักพักปลายสายก็รับ เสียงของบิดาซึ่งไม่ได้ยินเกือบปีดังขึ้น



“ริน เป็นบ้างลูก มีอะไรให้พ่อช่วยไหม”เนื่องจากป้าพรโทรไปรายงานแล้วเจ้าของฟาร์มกานต์จึงถามไถ่ลูกชายซึ่งโทรมาในยามวิกาลแบบนี้



“คือ...มีพี่ชายคนนึง เขาบาดเจ็บผมเลยพาเขามาหาหมอแล้วเขาก็บอกว่าอยากตอบแทนด้วยการอยู่ช่วยเรา ผมควรให้รับเขาไว้ดีไหมแล้วจะปลอดภัยป่าว?”



“อืม...เขาถูกทำร้ายใช่ไหม งั้นพาเขาไปแจ้งความเพื่อยืนยันตัวตนกับตำรวจหรือไม่ก็ยึดบัตรประชาชนเขาเอาไว้สิ”



จากนั้นพ่อลูกก็คุยกันอีกสองสามประโยคก่อนแยกย้ายกันไป รินเดินมาพูดกับคฑาตามที่พ่อสอนไว้




”ผมให้พี่ช่วยก็ได้แต่เพื่อความแน่ใจพี่ต้องยืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วยการไปแจ้งความหรือไม่ก็เอาบัตรประชาชนมาไว้ที่ผม”เด็กหนุ่มเก๊กเสียงเข้มตีหน้าจริงจังสุดชีวิต



...อยากหัวเราะหน้าตัวเองตอนนี้มากแต่ก็ต้องกลั้นไว้...อึ๊บเดียวนะรินนะ...



มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนยื่นสิ่งที่รินต้องการให้อย่างว่างายก่อนกำชับว่า



”อย่าทำหายล่ะ อ่อ แล้วก็ พี่คงไปแจ้งความไม่ได้เพราะพี่ไม่อยากเอาเรื่องคู่กรณี”



 “เย้!!”รินรับบัตรมาก่อนแย้มยิ้มยินดี



.



.



อุณหภูมิต่ำกว่าปกติจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศไม่ได้ทำให้อุณหภูมิภายในจิตใจของนายน้อยแห่งฟาร์มกานต์อย่างรินลดลงแม้แต่น้อย ภายในห้องทานอาหารที่ไม่ทราบว่าจะติดแอร์ไปทำไมนั้นปรากฏร่างของบุคคลสองคนนั่งอยู่ 



“ก่อนอื่นเลย เราต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ก่อน...”คฑายกมือขึ้นเท้าคางอย่างครุ่นคิด นัยน์ตาฉายแววมุ่งมั่น ชายหนุ่มจดจ้องกระดาษในมีด้วยท่าทีตึงเครียด



นานน้อยตัวจริงของฟาร์มนั่งมองลูกจ้างชั่วคราวตาปริบๆบนเก้าอีกด้านตรงข้าม โต๊ะทานอาหารถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่ประชุมวางแผนรับมือวิกฤต หลังจากกลับถึงบ้านรินก็ชี้แจงเรื่องราวและเล่ารายละเอียดคร่าวๆเรื่องการซื้อขายนมให้ลูกจ้างชั่วคราวฟัง



แสงแดดอ่อนๆสัญญาณบ่งบอกเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ซึ่งเปิดม่านไว้ ความสดชื่นของธรรมชาติอันสุดลูกหูลูกตาเป็นจุดเด่นของฟาร์มแห่งนี้ ทั้งพ่อและพี่ชื่นชอบมันมาก เนื้อที่ของฟาร์มแห่งนี้จึงกินไปถึงตีนเขาด้านหลัง



ครั้งหนึ่งตอนปิดเทอมเด็กหนุ่มได้ไปเที่ยวเล่นในป่าด้านหลังกับพี่ชาย ความสนุกในวัยเยาว์นั้นเขาไม่เคยลืมเลือน...



ไม่มีวันลืมเด็ดขาด!!ว่าไอ้ป่านั่นมันกว้างขนาดไหน เดินวนขาลากอยู่นานสองนานหาทางออกไม่ได้ดีที่ลุงชัยไปช่วยไว้...



เนื้อที่สุดลูกหูลูกตาของฟาร์มกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ไปแล้ว ที่ดินหลายสิบไร่กับวัวอีกร้อยตัว ชาติไหนจะต้อนเสร็จ  ล่าสุดเขาออกคำสั่งให้ลุงกับป้าไปนอนพักเพราะกลัวจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน



มือเรียวยกขึ้นทัดผมที่ใบหู ใบหน้าของรินตอนนี้ดูอิดโรยจากการขาดนอน ใจดวงน้อยร้องหาเตียงนุ่มอย่างโอดครวญ




“พรุ่งนี้...ไม่สิ วันนี้ต้องเอานมไปส่งให้คนรับซื้อตอนบ่ายสาม...จำนวน 2,000กิโลกรัมและการจะหานมได้ตามยอดนี้จำเป็นต้องมีแม่วัวไม่น้อยกว่าร้อยตัว...”คฑารำพึงกับตัวเองเบาๆ เหลือบตามองร่างโปร่งซึ่งนั่งเงียบมาสักพักแล้ว ใบหน้าหวานประดับด้วยตาหมีแพนด้าแลดูน่าสงสาร   



แม่วัวในฟาร์มกานต์แห่งนี้มีทั้งสิ้น 350ตัวแบ่งออกเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น และวัยสาวซึ่งมีแค่วัยสาวเท่านั้นที่ให้นมได้ จากรายงานของลุงชัยเห็นว่าต้อนวัยสาวกลับมาได้ประมาณหกสิบตัวซึ่งหนีไปไม่ไกล...



“ปัญหาของเราตอนนี้ก็คือน้ำนมจำนวน 1,000กิโลกรัมที่จะไม่มีส่งในวันพรุ่งนี้”ชายหนุ่มพลิกหารายชื่อฟาร์มรอบๆและฟาร์มซึ่งอยู่ในเครือข่ายสหกรณ์เดียวกันกับฟาร์มกานต์ก่อนเสนอหนทางที่ดีที่สุดในยามนี้แก่ผู้รักษาการตำแหน่งเจ้าของฟาร์ม



“เราคงต้องไปก้มหัวขอซื้อน้ำนมจากฟาร์มละแวกนี้ทุกวัน อย่างน้อยก็จนกว่าจะพาวัวกลับมาครบ อย่างมากก็จนกว่าจะรักษาสุขภาพวัวที่เตลิดออกไปให้สมบูรณ์แข็งแรงพอสำหรับการรีดนม”



ฉับพลันร่างโปร่งซึ่งฟุบลงกับโต๊ะเพื่องีบหลับก็สะดุ้งตัวลุกขึ้นอย่างตกใจเนื่องจากมือแกร่งที่เอื้อมไปบีบไหล่บางเบาๆ



“เปล่านะ! ผมไม่ได้หลับนะ!”คนแอบงีบสะบัดใบหน้าสองสามทีก่อนจะยกมือขึ้นมาเป็นปางห้ามญาติสีหน้าแววตาพิรุธมากชนิดที่คนไม่เห็นเหตุการณ์ยังมองออกว่าไอ้เด็กนี่กำลังโกหก



ท่าทางเหมือนเด็กประถมถูกครูจับได้ว่าหลับในคาบเรียนเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนอายุมากกว่าได้อย่างดี 



 “เมื่อกี้พี่ชายว่าอะไรนะ”



“ไหนบอกไม่ได้หลับไง”โดนดักคอเข้าอย่างจัง รินจึงยิ้มเผล่แลบลิ้นตาหยีกลับไปอย่างที่ชอบทำเมื่อเถียงไม่ออกพลางย้ายตำแหน่งไปนั่งเก้าอี้ด้านข้างร่างสูงเกาะโต๊ะรอฟังคำตอบตาใส และดูเหมือนจะได้ผล



ร่างสูงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนลงเขาบอกกับเด็กหนุ่มซ้ำอีกครั้ง 



“อืม...ถ้าฟาร์มพี่ฟ้าหละก็เขาน่าจะช่วยเรานะ เรื่องแบบนี้ถ้าให้พ่อหรือพี่รันช่วยพูดให้น่าจะได้ผลดีกว่า ขอบคุณนะฮะ”รินกล่าวก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาพี่ชายแท้ๆ คุยกันได้สักพักพี่ก็บอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ ไม่ต้องห่วง



ฟังจากน้ำเสียงแล้วพี่รันสดชื่นมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าตอนโทรไปเมื่อวานเยอะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันล่ะแกไม่ได้ดีใจที่น้องโทรไปหรือหาทางรอดให้ฟาร์มได้ แต่ไอ้คุณพี่รันแกดีใจจนเนื้อเต้นเพราะจะได้คุยกับพี่ฟ้า ลูกสาวเจ้าของฟาร์มข้างๆซึ่งพี่แกตามจีบจนขี่รถแหกโค้งมานั่นเอง



เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วคุณครูจึงปล่อยตัวเด็กประถมให้เข้านอน ก่อนจะขึ้นบันไดไปเจ้าของบ้านที่ดีก็จัดแจงชี้ประตูห้องพี่ชายตัวเองเป็นการสื่อความว่าให้คฑาเข้าไปนอนในนั้น 



ค่ำคืนที่สองหลังกลับบ้านคราวนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวประหลาดซึ่งไม่เคยพบเจอมาก่อน



อา...จะเรียกว่าค่ำคืนคงไม่ได้...



เช้าวันที่สองกลางปิดเทอมใหญ่เดือนพฤษภาคม หวังว่าลืมตาขึ้นอีกครั้งจะพบเจอแต่เรื่องดีดี ขอให้พี่ชายหายเร็วๆ ขอให้พ่อเดินทางปลอดภัย และขอให้ตัวเองปกป้องที่แห่งนี้ไว้จนกว่าพวกเขาจะกลับมา...



หกโมงเช้าของวันนี้กับหกโมงเช้าของเมื่อวานช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิมก็เห็นจะเป็นเสียงนกร้องที่คลอเคลียอยู่นอกหน้าต่างเจื้อยแจ้วราวกับดังอยู่ข้างใบหู...ความไพเราะของธรรมชาติช่วยกล่อมเด็กหนุ่มให้เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเป็นสุข...



.............................................................................

เรื่องนี้แต่ง(เหมือนจะ)จบแล้ว ฉะนั้นคนแต่งจะลงสัปดาห์ละ 2ครั้ง

คือวันพุธและวันเสาร์นะคะ


 o13 o13

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มมม
ขำรินอ่ะ 55555 :laugh:
คฑานี่ลึกลับจัง ตกลงเป็นใครมาจากไหนกันแน่ล่ะเนี่ย -_-? ดูจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีทีเดียว น่าสงสัย -_-+
รอตอนต่อไปจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2015 17:33:22 โดย boboman »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รินเหมือนเด็กน้อยเลย

ออฟไลน์ MiddaySuN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
    • พระอาทิตย์กลางฤดูร้อน

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รินควรหาใครมาดูแล น่ารักจริงๆ  :o8: :o8:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
มันแปลกๆยังไงไม่รู้ อ่านแล้วมันให้ความรู้สึกแปลกๆอ่ะ ทำไหมมันมีปัญหาเยอะจัง แถมมีปัญหาหนักๆเข้ามาตลอด แถมไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีเหตุผลสนับสนุนอีก รู้สึกว่าจะมีปัญหาเข้ามาทุกวันเหมือนจงใจมาก ซึ่งรินก็ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับฟาร์มนี้สักนิด พอเรียนจบจะได้กลับมาที่นี้อีกรึเปล่ายังไม่รู้เลย อ่านไปเหมือนมันวนไปวนมาอยู่ที่เดิม เหมือนสะสมปัญหาแบบไม่มีทางแก้ไขได้อ่ะ เหมือนต้องพึ่งแต่คนอื่นเสมอ แบบนี้ดูเหมือนสนุกก็คงไม่ใช่มันน่าอึดอัดมากกว่าเป็นไหน ถึงจะมีคนมาช่วยแต่ยังไม่รู้อะไรกับคนๆนี้เลย แถมดูเหมือนจะรู้รายละเอียดของฟาร์มแถบนี้ดีทุกอย่างด้วย

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องรินน่ารักที่สุด~ :man1: เป็นเพราะถูกลุงชัยเคี่ยวเข็ญให้ทำบัญชีจนดึกดื่นใช่ไหมคะเนี่ย ตอนแอบงีบถึงได้ลนลานขนาดนั้น.. :laugh:

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4



บทที่2 อัศวินขี่ม้าขาว part2



“ฮ้าว...”ร่างโปร่งในชุดเสื้อยืดสีเหลืองลายเป็ดกับกางเกงบอลขาสั้นหาวปากกว้างกลางโต๊ะอาหาร



ข้าวเช้าควบข้าวกลางวันกำลังจัดเตรียมโดยฝีมือของหญิงกลางคนซึ่งตื่นมาอย่างแข็งขันผิดกับสามีที่นอนหลับไม่เลิกรากับนายจ้างผู้นั่งสัปหงกอย่างไม่สำรวมแม้จะมีคนนอกอยู่ด้วย



คฑาลุกขึ้นช่วยป้าพรจัดอาหาร ชายหนุ่มคดข้าวในหม้อก่อนตักใส่จานในปริมาณที่ตนกิน



อาหารมื้อนี้สำหรับเขาและเจ้าหนูเท่านั้น เนตรคมส่งสายตาถามแม่บ้านของฟาร์มกานต์อย่างต้องการรู้ว่าข้าวเพียงเท่านี้เพียงพอต่อนายน้อยของหล่อนหรือไม่...



“จานนี้ให้คุณน้องเหรอคะ เยอะไปค่ะเยอะไป เอาออกไปสองช้อนเลยค่ะ รายนี้เขากินน้อยยังกับแมวดมตัวถึงได้นิดเดียว ผิดกับคุณรัน กินอย่างกับมีหลุมดำในกระเพาะตัวถึงได้สูงเอาสูงเอา”



“ผมว่าเขาสูงเพราะกินนมสดๆทุกวันมากกว่านะครับ”ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วกินคาร์โบไฮเดรตเข้าไปมีแต่จะกางออกมากกว่ายาวขึ้น



ป้าพรหัวเราะคิดคักเมื่อถูกขัด เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับลูกจ้างคนใหม่ เธอหันไปเคี่ยวต้มจืดในหม้อสักพักก็ตักใส่จาน กลิ่นหอมฉุยของอาหารเช้าควบกลางวันลอยมาเตะจมูก เจ้าตัวแสบที่หลับใหลก็ลืมตาใสแจ๋วหูตั้งหางกระดิกดีที่ไม่มีน้ำลายสอด้วย...



“ตกลงเรื่องเมื่อคืนคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ”ดูเหมือนประชากรในฟาร์มแห่งนี้จะมีเพียงผู้เดียวที่เอาการเอางาน คฑาเอ่ยถามผู้อาวุโสไปพลางตักข้าวกินไปพลาง มันอาจดูเสียมารยาทที่กินไปคุยไปแต่เรื่องปากท้องย่อมสำคัญกว่า



“เมื่อเช้าคุณท่านโทรไปหากลุ่มสหกรณ์แล้ว เขาบอกว่าจะแบ่งขายให้ค่ะ เดี๋ยวอีกสักพักจะไล่ให้ชัยไปรับมา”



“แล้วเรื่องวัวที่เหลือหละฮะ”รินถามขึ้น



“นั่นสิ...วันนี้ป้าต้องอยู่รีดนม ทำคนเดียวกว่าจะเสร็จก็คงเวลานัดลูกค้านู่น ส่วนชัยก็ต้องเทียวไปเทียวมาหลายที่...จะผลัดไว้หาพรุ่งนี้ป้าก็ห่วงว่าวัวจะล้ม”หญิงมีอายุพูดหน้าเครียด แววตาสีดำหม่นฉายแววลำบากใจ



“งั้นให้ผมไปต้อนให้ไหมครับ!!”รินวางช้อนแล้วก็ลุกขึ้นเสนอความคิดเห็นด้วยสีหน้านึกสนุก



“จะไหวเหรอคะ”



“ไหวสิไหว พี่ชายก็จะไปกับผมด้วยใช่ปะ”เสียงใสเอ่ยอย่างกระตือรือร้น มือบางเอื้อมจับแขนเสื้อของชายหนุ่มแถมด้วยการเขย่าเบาๆ



“อืม...”คนถูกถามตอบตกลงอย่างปฏิเสธเสียไม่ได้



“แล้วงานบัญชีหละคะ”รอยยิ้มบนใบหน้าหวานถูกทำลายด้วยน้ำมือของพรผู้ไม่ได้เจตนาร้าย เธอแค่ถามเพราะเห็นว่ามันเหลืออีกเยอะเท่านั้น



“เอ้อ...เอาไว้ทำตอนเย็น...”



“จะทันเหรอคะ?”



“ทันครับ”คนที่ตอบไม่ใช่ริน เสียงทุ้มเรียกรวมสายตาของคนในห้อง”เดี๋ยวผมช่วย”



“ก็มีพี่คฑานี่แหละ”ดีใจเหมือนถูกหวน รินกระโดดผล็อยมาตบไหลแกร่งป้าบๆ



ป้าพรมองร่างสูงซึ่งรวบรวมจานไปล้างอย่างประหลาดใจ เมื่อเช้าตอนเธอเข้ามายังเรือนใหญ่ก็พบเขานั่งเล่นอยู่ในห้องทีวี ตอนแรกก็คิดว่าแค่มาอาศัยแค่คืนเดียวแต่ซักไปซักมากลับกลายเป็นคนอาสาช่วยฟาร์มแถมยังทำตัวอ่อนโยนกับคุณน้องผิดกับบรรยากาศตึงๆรอบตัว



...แปลก...



.



.



ณ คอกม้า ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวบ้าน



รินเดินนำแขกผู้มาเยือนด้วยความเร็วกึ่งวิ่งกึ่งเดิน แม้จะเห็นแค่ด้านหลังก็สัมผัสได้ถึงความระริกระรี้ เส้นผมสีดำสนิทยาวคลอเคลียต้นคอขาวนวล สิ่งที่สะท้อนในนัยน์ตาของชายหนุ่มก่อความรู้สึกประหลาดขึ้นในใจ



...ประหลาดใจ...



คือว่า...เจ้าหนูเดินมาคอกม้าเพื่ออะไร?



ม้าสีขาวตัวใหญ่ถูกลากออกจากคอกด้วยแรงอันน้อยนิดของผู้รักษาการแห่งฟาร์มกานต์ รินจูงม้าแก่ออกมาด้วยสีหน้าตื่นเต้นผิดกับคนนอกอย่างคฑาซึ่งได้แต่มองอย่างงๆ



อาชาสีขาวสะอาดเคลื่อนกายมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม ป้าพรนำอานนั่งและบังเหียนสีน้ำตาลเข้มมาสวมให้มันอย่างรู้งาน พร้อมยื่นถังใส่กองหญ้าสดให้แก่คุณน้องของเธอ



รินรับมาพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันมาเอ่ยกับคนที่ยังยืนงงอยู่ว่า”พี่ชายๆ ขึ้นมาเร็ว”จากนั้นเจ้าตัวแสบก็ปีนขึ้นขี่พาหนะสี่ขาอย่างกระฉับกระเฉง



“...”



“นี่ครับ”รินยื่นแขนออกมาเพื่อให้คนไม่เคยขี่ปีนขึ้นนั่งสะดวกขึ้น คฑาหันมองป้าพรอย่างชั่งใจอยู่ชั่วครู หล่อนส่งรอยยิ้มแห้งๆกลับมาราวกับจะสื่อว่า ไปที่ชอบที่ชอบนะคะ ชายหนุ่มจึงจำยอมคว้าข้อมือบางแล้วพาตัวเองขึ้นหลังม้าด้วยสีหน้าปุเลี่ยน



“มันไม่หนักเหรอ”คนไม่คุ้นถามอย่างกังวล เกรงว่าขามันจะหักกลางทางเอา



“ไม่เป็นไร ม้าตัวนี้เป็นสายพันธุ์ลากเลื่อน เมื่อก่อนถูกใช้งานหนักกว่านี้อีก ป้าพร ผมไปนะฮะ!”หันไปชี้แจงเรียบร้อยก็ล่ำลากับคนงานเก่าแก่ 



“ระวังตัวด้วยนะคะคุณน้อง”



โบกมือบ้ายบายสองสามทีอาชาสีขาวก็ย่างกรายเข้าสู่ทุ่งหญ้าเขียวขจี ก่อนข้อมือของคฑาจะถูกดึงให้อยู่ในตำแหน่งเอวของคนข้างหน้าด้วยเหตุผลว่ากลัวเขาจะตกหายกลางทาง



ใช้เวลาชั่วอึดใจพวกเขาก็ออกห่างจากตัวบ้านจนมองเห็นเป็นหลังเล็กๆ



”วันนี้เราจะไปดูตามแนวป่ากันก่อน...เอ ไม่ใช่นะสีหมอก ไม่ใช่ทางนั้น”รินดึงบังเหียนเมื่อเห็นว่าเจ้าม้าไปผิดทาง



“ขี่ม้าเป็นด้วยเหรอเรา”ลูกจ้างชั่วคราวมองนายน้อยของฟาร์มอย่างทึ่งในความสามารถ



...เด็กคนนี้ล้นเหลือด้วยทักษะไม่จำเป็นทั้งนั้น...



“พี่เรย์ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดตอนม.สี่...”



เพราะลมมันแรงหากหันคนละด้านจะไม่ได้ยินสิ่งที่พูดร่างโปร่งจึงหันหน้ามาตอบคำถามชายหนุ่มอย่างลืมตัว ระยะห่างสำหรับการใช้แขนจับเอวคนบังคับม้าในอานแคบๆนั้นแสนสั้น แก้มขาวนวลของคนไม่ระวังตัวจึงสัมผัสเข้ากับจมูกของคนที่ก้มหน้าลงมาเพื่อรอรับฟัง



สัมผัสแผ่วเบาในชั่วพริบตานั้นเรียกความเห่อร้อนบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม สภาพเหมือนโอบกันไว้แบบหลวมๆยิ่งทำให้หัวใจเต้นรัวแรง



“อะ...ท โทษที”เสียงแผ่วเบาดังเล็ดลอดจากกลีบปากบาง รินรีบหันหน้ากลับอย่างรวดเร็วเพื่อซ่อนอาการแปลกๆซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเพศเดียวกัน



“อ๊ะ...เห้ย สีหมอก”จังหวะนั้นนั้นเองเจ้าม้าสีขาวซึ่งไม่มีคนบังคับอยู่ก็เกิดพยศขึ้นมา



เจ้าสีหมอกร้องเสียงดังพร้อมยกขาหน้าขึ้นอย่างก้าวร้าว มันถูกขังอยู่ในคอกมานาน การได้ออกสู่โลกกว้างครั้งนี้ทำให้มันตื่นตัว ร่างของคนสองคนซึ่งไม่ทันตั้งตัวเสียหลักตกลงจากม้าขาว



“แอ่ก!!”



“โอ๊ยยย เจ็บๆๆๆ”หลังจากร่วงลงมาคนละทิศคนละทางแล้วรินก็ยกมือขึ้นลูบก้นตัวเองป้อยๆ เขารีบวิ่งอ้อมมาอีกฝั่งของม้าเพื่อดูอาการของคนบาดเจ็บแถมยังตกจากที่สูงซ้ำเข้าไปอีก



”เป็นอะไรมั้ยพี่!! ผมขอโทษ”



“ไม่เป็นไร”คฑาหยัดกายขึ้นยืนด้วยสภาพปกติ เพราะตอนตกเขามีสติดีกว่าเด็กหนุ่ม



“พี่ว่าสองคนคงหนักเกินไป เราแยกย้ายกันดีไหม”คฑาเสนอความเห็น รินเหลือบมองม้ามีอายุอย่างชั่งใจก่อนตัดสินใจเห็นด้วย



“ก็ได้ครับ งั้นพี่กลับไปเอามอไซค์พี่รันที่บ้านนะ กุญแจผมวางไว้บนโต๊ะกินข้าว”เด็กหนุ่มว่า”แล้วก็เอาหญ้าใส่ถังมาแบบนี้มาด้วยนะ ขอจากป้าพรก็ได้”รินชูถังตัวอย่างขึ้นมา



ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ”งั้นบ่ายสามเราเจอกันที่บ้านเลยนะ”



“ครับ”



...


ก่อนอื่นต้องบอกนักอ่านก่อนเลยว่านิยายเรื่องนิหาแก่นสารอะไรไม่ได้เลย(แหะๆ :o8:)

ยังไงก็ตาม ฟาร์มนี้ก็คือฟาร์มของพ่อ น้องรินของเราก็ต้องช่วยอยู่แล้ว

ส่วนใครเป็นคนปล่อยวัวออกไปและคฑาเป็นใครมาจากไหนนั้นจะค่อยๆเฉลยปมมาในเนื้อเรื่องตามลำดับค่ะ TvT

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และทุกคำแนะนำนะค
ะ  :pig4:

ปล.เพิ่งเห็นว่าพาร์ทนี้มันสั้นมาก ฮ่าๆๆๆ :katai5:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
แอบสวีทนะคู่นี้ คึๆ >_<
รอตอนต่อไปจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2015 18:31:16 โดย boboman »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เด็กน้อยแก้มแดงงง~ :-[ น้องรินแอบลวนลามพี่คฑานี่นา.. >\\< แต่ตอนนี้เราชักเริ่มเป็นห่วงน้องแล้วสิคะ ว่าถ้าแยกกันตามหาวัวจริงๆ น้องรินจะไม่หลงเข้าไปในป่าหรอกใช่ไหมคะเนี่ย? :try2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด