=จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61  (อ่าน 189129 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด  โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

เวปไซต์แห่งนี้เป็น เวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


********************************


ขอแจ้งข่าวเรื่องการรวมเล่มเรื่องนี้ค่ะ

ผู้แต่งมีเพื่อนพี่น้องคนสนิทที่เป็นชายรักชายอยู่หลายคน แต่กลอน (นามสมมุติ) เป็นหนึ่งในนั้นที่ผู้แต่งขออนุญาตดึงเอาเรื่องราวชีวิตส่วนหนึ่งของเขามาเขียนเพราะเห็นว่ามันมีแง่คิดในการใช้ชีวิตที่ดี และอยากลบคำสบประมาทที่ว่า รักแท้ไม่มีในกลุ่มชายรักชายหรอก แต่เพราะนี่คือนิยายและเจ้าของเรื่องอยากแบ่งปันแค่เรื่องราวบางส่วนแต่ยังขอมีพื้นที่ส่วนตัวในชีวิตจริง เพราะฉะนั้นส่วนหนึ่งในเรื่องจึงมีการแต่งเติมปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านและความสบายใจของเจ้าของเรื่อง และขอเปลี่ยนชื่อนิยายเรื่องนี้ว่า จนกว่ารักจะทักทาย (The moment of love)

ถ้าคุณเคยผิดหวังในความรักและคิดว่าไม่ได้เกิดมาเพื่อถูกรัก อยากให้คุณอ่านเรื่องราวของกลอน บางทีคุณอาจได้รับคำตอบเรื่องของความรักให้กับตัวเองค่ะ


สำนักพิมพ์  : Bookish House ปก : Leila

รายละเอียดการสั่งนิยายแบบรวมเล่ม

เรื่อง..จนกว่ารักจะทักทาย (บันทึกรัก..ร้อน)

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]

สารบัญ จนกว่ารักจะทักทาย

จูบแรกของกลอน (ตอนที่1) , (2 จบตอน)
รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอนที่1) , ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3 , ตอนที่ 4 จบตอน
หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย, ตอนที่ 1, ตอนที่ 2, ตอนที่ 3, ตอนที่ 4, ตอนที่ 5, ตอนที่ 6, ตอนที่ 7 จบตอน
ล้างให้ออก, ตอนที่ 1, ตอนที่ 2, ตอนที่ 3 จบตอน
หนึ่งใจสองทาง, ตอนที่ 1, ตอนที่ 2, ตอนที่ 3 จบตอน
กลับคำเสีย, ตอนที่ 1
บันทึกบทสุดท้าย, จบบริบูรณ์
บันทึกรักฉบับพิเศษ, หวง


นิยายเรื่องอื่นๆของผู้แต่ง



ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ

รักวุ่นดีปีโป้ช่วยลุ้น ภาค 1 และ 2

จนกว่ารักจะทักทาย (18+)

เคลียร์คิวหัวใจเอาไว้ให้ความรัก


ซีรีส์ชาวเกาะ
ปรุงรักให้ลงล็อก
ปลดล็อกให้ความรัก
เพลงรักที่หายไป


มนตราแห่งมายัน
ภาค วสันตวิษุวัต
ภาค ครีษมายัน


เรื่องสั้น
ผู้โชคดี



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]


---------------------
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2019 12:55:16 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บันทึกรัก..ร้อน

          กว่าผมจะได้จรดปากกาลงในหน้ากระดาษสีขาวที่ว่างเปล่าก็ล่วงเลยมาเป็นเวลาหลายปี ด้วยอะไรหลายอย่างที่ทำให้ผมไม่ได้เริ่มต้นที่จะเขียนมัน ได้แต่ปล่อยให้หน้ากระดาษมันว่างเปล่าอยู่อย่างนั้น

ผมซื้อสมุดบันทึกเล่มนี้มาตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาชั้นปีที่ห้า ผมตั้งใจจะเขียนบันทึกเรื่องราวของตัวเองเพื่อเก็บเอาไว้อ่าน ที่ผมอยากเขียน เพราะในชีวิตจริงผมไม่สามารถจะเล่าเรื่องราวส่วนนี้ของผมให้ใครฟังได้ ผมเลยอยากเขียนมันในวันที่สมองของผมยังจดจำมันได้ดี สักวัน...ผมอาจจะยื่นสมุดบันทึกนี้ให้ใครสักคนได้อ่าน ใครคนนั้นคงเป็นคนที่ผมอยากให้เขารู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของผมนั้นเป็นอย่างไร ผมได้ผ่านอะไรมาบ้าง ผมจะเขียนมันถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าใครคนนั้นอ่านแล้วจะรับได้หรือไม่ได้ แต่ผมอยากให้เขารู้ว่าผมคงรักเขามากจริงๆ ถึงยินดีจะให้เขามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่แท้จริงของผม ไม่มีภาพลักษณ์ใดๆ ไม่มีการปั้นแต่ง ทุกตัวอักษรที่ผมเขียน นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นจริงๆ

   ชื่อของผมที่พ่อกับแม่ตั้งให้ตั้งแต่เกิดก็คือ เด็กชายกรกฏ เนื่องจากผมเกิดเดือนกรกฎาคมและเกิดวันจันทร์ แม่บอกว่าคนที่เกิดวันจันทร์ อักษรต้องห้ามก็คือรูปสระทั้งปวง แม่เลยตั้งชื่อของผมตามเดือนเกิด ส่วนชื่อเล่นของผมก็คือ กลอน

   พ่อของผมท่านเป็นผู้พิพากษา ส่วนแม่ของผมท่านเป็นครู ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดตั้งแต่เกิด เป็นลูกคนเดียว พ่อของผมค่อนข้างเจ้าระเบียบแต่ก็ใจดี พ่อจะสอนผมในเรื่องของความรับผิดชอบ เรื่องของมารยาทหรือการปฏิบัติตัวเวลาอยู่กับสังคมส่วนรวม ผมเลยเป็นเด็กเรียบร้อยและอยู่ในกรอบมาโดยตลอด ส่วนแม่จะเข้มงวดกับผมในเรื่องของการเรียน ผมจะถูกปลูกฝังเรื่องการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ แม่จะถ่ายทอดกระบวนการทางความคิดให้ผม ผมเลยค่อนข้างที่จะเป็นเด็กที่ฟังมากกว่าพูด ผมอ่านหนังสือเยอะมาก แต่มันก็ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง แต่พอโตมาผมถึงได้รู้ว่า ประสบการณ์จริงกับคำบอกเล่าจากผู้อื่นผ่านหนังสือมันแตกต่างกันเหลือเกิน ความรู้จากหนังสือเป็นแค่แนวทาง แต่เส้นทางชีวิตของเรา เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่แล้วชีวิตของเด็กชายหนอนหนังสืออย่างผมที่อยู่ในกรอบที่พ่อกับแม่วางเอาไว้ตลอดมากลับถูกบางอย่างที่ทำให้ผมได้รู้ว่า ตัวตนของผมยังมีอีกด้านหนึ่งที่แตกต่างจากชีวิตที่เคยเป็น บางอย่างที่ว่านั้นก็คือ ‘ความรัก’


บันทึกบทที่หนึ่ง..รักแรกของกลอน (1)


   ช่วงเวลา : มัธยมศึกษาชั้นปีที่ห้า โรงเรียนชายล้วน
   
   “กลอน มึงรู้เรื่องเข้าค่ายของชมรมรึยังวะ”

   ‘หนึ่ง’ เพื่อนสนิทของผมเดินมานั่งที่เก้าอี้ม้าหินด้านหลังของโรงยิม ซึ่งเป็นที่นั่งอ่านหนังสือประจำของผม เด่นเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทของแม่ เราเลยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เราเรียนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่อนุบาล แม้ว่าผมจะสนิทกับเด่นมาก แต่ผมไม่เคยบอกให้เด่นได้รู้เลยว่าผมเป็นเกย์ เด่นเองก็คงคิดแค่ว่าผมเป็นเด็กเรียน หนอนหนังสือ เด็กเรียบร้อย เพราะเด่นรู้ดีว่าแม่ของผมค่อนข้างเจ้าระเบียบและเข้มงวด ผมไม่เคยพูดคำหยาบแม้ว่าเพื่อนจะพูดคำหยาบกับผมและผมไม่เคยว่าร้ายใคร เด่นบอกว่าเพื่อนในห้องล้วนแต่เกรงใจผมและไม่ค่อยกล้าเข้ามาคุยด้วย

   “ที่ต้องไปเขื่อนรัชชประภาเหรอ บอยเพิ่งเอามาให้เราเมื่อกี้นี้เอง” ผมบอกก่อนจะเลื่อนแผ่นกระดาษที่ต้องเอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้เด่นดู

   “อ้าว ได้มาแล้วเหรอ งั้นรู้รึยังว่าเราต้องไปกับชมรมดนตรีด้วย”

   “ไม่รู้ ทำไมต้องไปด้วยกันล่ะ” ผมถาม เพราะปกติชมรมบรรณารักษ์ที่ผมอยู่จะไม่ค่อยเข้าร่วมกับชมรมไหน

   “ก็งานหนังสือปีนี้ชมรมดนตรีจะมาช่วยสร้างสีสันให้ด้วย ครูเป็ดเลยชวนชมรมดนตรีไปเข้าค่ายด้วยกัน จะได้ประชุมวางแผนงานหนังสือของพวกเราด้วยเลย กูอยากไปแล้ว อยากเที่ยว อยู่แต่งบ้านเบื่อจะแย่”

   “ก็เห็นออกร่อนทุกวันยังจะเบื่ออีกเหรอ” ผมย้อนถาม

   “ใครจะอยู่แต่ในกรงทองเหมือนมึงละ อ่านแต่หนังสือ แล้ววันนี้มึงต้องอยู่ช่วยครูเป็ดอีกรึเปล่า” เด่นถามผม ปกติผมต้องคอยอยู่ช่วยครูเป็ดเก็บหนังสือที่บรรดานักเรียนหยิบมาอ่านแล้วไม่เก็บเข้าที่ แล้วก็ช่วยเช็คหนังสือที่เด็กยืมไปแล้วยังไม่เอามาคืน กว่าจะเสร็จก็เกือบหนึ่งทุ่ม แต่ผมก็ไม่ได้ทำทุกวัน จะทำเฉพาะวันศุกร์ พ่อจะเป็นคนแวะมารับผมกลับบ้าน

   “อืม ทำไม จะไปช่วยเหรอ” ผมย้อนถาม

   “หึ ไม่เอาหรอก ถามไปงั้นแหละ มึงไม่เบื่อบ้างเหรอวะ บ้าน โรงเรียน ห้องสมุด แล้วก็บ้าน วนอยู่แบบนี้”

   “ไม่เบื่อ”

   “เอาไว้วันที่มึงมีแฟน กูอยากจะดูสิว่ามึงจะเปลี่ยนไปรึเปล่า แต่คงยาก วันๆ ไม่ออกไปไหน คงจะได้หนังสือเป็นแฟน ฮ่าๆๆๆ”

   “ต่อให้มีแฟนเราก็ไม่เปลี่ยนหรอก”

   “แล้วกูจะรอดู ไปละ กูนัดสาวอาชีวะไปกินติม ได้เวลากลับบ้านแล้ว นี่ขี้เกียจเข้าแถวออกจากโรงเรียนเลยแวะมาหามึงก่อน นึกว่าไม่ต้องช่วยครูเป็ดจะได้ไปกินด้วยกัน”

   “ไปเหอะ แล้วเจอกันวันจันทร์”

   “เออ ไปนะ” เด่นบอกกับผมแล้วก็เดินลิ่วๆ ออกไป

   ผมถอนหายใจ เก็บการบ้านใส่กระเป๋าแล้วก็เดินไปที่ห้องสมุด ถามว่าผมเบื่อไหม มันก็มีที่เบื่อบ้าง แต่ผมก็ยังไม่เห็นว่าอะไรที่จะมีความสุขมากไปกว่าการได้อ่านหนังสือนี่นา

   “มาพอดีเลยกรกฎ ครูรบกวนหน่อยนะ วันนี้ครูต้องพาลูกสาวไปหาหมอ เธอช่วยครูจัดหนังสือสามกองนี้เข้าที่ที แล้วก็เก็บกุญแจห้องสมุดเอาไว้ที่เธอเลย วันจันทร์ค่อยเอามาคืนครู ครูมีอีกชุดหนึ่ง รบกวนหน่อยนะ”

   “ได้ครับ แค่สามกองนี้เหรอครับ”

   “ใช่จ้า รบกวนหน่อยนะ”

   ครูเป็ดกลับไปแล้ว ผมก็จัดการทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ด้านนอกยังพอมีนักเรียนเดินไปมา แต่สักพักก็หายไปจนหมด ผมเก็บหนังสือเข้าที่เรียบร้อยแล้ว แต่นัดให้พ่อมารับตอนหนึ่งทุ่ม เมื่อเห็นว่ายังเหลือเวลาเลยนั่งอ่านหนังสือรออยู่ในห้องสมุด กำลังอ่านเพลินๆ ผมก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา พอเงยหน้าขึ้นมาดูก็พบว่าคนที่เดินเข้ามาคือ ‘เต็งหนึ่ง’ คนดังของชมรมดนตรี รูปหล่อ เล่นกีตาร์เก่ง เป็นขวัญใจนักเรียนทุกชั้นปี ที่สำคัญ เป็นคนที่ผมแอบชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ แต่ผมก็ได้แค่แอบมอง ไม่เคยแสดงให้เจ้าตัวและทุกคนได้รู้ ผมจำวันนั้นได้ดี วันงานโรงเรียนตอนมอสาม ผมถูกเพื่อนชนจนล้ม เต็งหนึ่งเป็นคนที่คว้าข้อมือของผมแล้วพาออกมาจากกลุ่มคนที่กำลังเต้นกันอย่างเมามันอยู่ในโรงยิมเพราะกลัวว่าผมจะโดนเหยียบ เต็งหนึ่งพาผมไปทำแผลที่ห้องพยาบาล มันทำให้ผมประทับใจเขามาโดยตลอด

   “ครูเป็ดไปไหนละ” เต็งหนึ่งถามผม

   “กลับไปแล้ว”

   “อ้าว ครูบิ๊กให้เอาเอกสารนี่มาให้”

   “เอาวางไว้บนโต๊ะครูตรงนั้นก็ได้ ลูกสาวครูเป็ดไม่สบาย คงไม่กลับเข้ามาแล้วล่ะ” ผมบอก เต็งหนึ่งพยักหน้าแล้วก็เดินเอาเอกสารไปวางไว้ตรงที่ผมชี้บอก จากนั้นเต็งหนึ่งก็เดินมานั่งตรงข้ามกับผม

   “เห็นอยู่แต่กับหนังสือ มันสนุกมากเหรอ” เต็งหนึ่งถามผม

   ผมรู้สึกไม่เป็นตัวเองยังไงก็ไม่รู้ ไม่เคยคิดว่าเขาจะมานั่งคุยกับผมต่อ เราอยู่กันคนละห้อง เดินสวนกันเขายังไม่เคยมองมาที่ผมเลย มีแต่ผมที่แอบเหลือบมองเขามาโดยตลอด แต่มีข่าวลือมาว่าเขาเป็นแฟนกับแจน ดาวประจำโรงเรียนหญิงล้วน ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง

   “ก็เพลินดี” ผมตอบสั้นๆ

   “ทำไมเวลาคุยไม่มองหน้าคนที่คุยด้วยละ” เต็งหนึ่งถาม

   ผมเลยต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา เห็นแววตาหยอกล้อมองมา ผมก็หลบตาอีก

   “เราอยากอ่านหนังสือเกี่ยวกับดวงดาว พอจะหาให้ได้ไหม ประวัติดาวต่างๆ” เต็งหนึ่งถามผม

   ผมพยักหน้าแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปที่ชั้นหนังสือ ผมเดินเข้าไปแล้วมองหาหนังสือเล่มหนึ่ง จำได้ว่ามันอยู่แถวๆ นี้ มัวแต่มองหาเลยไม่ทันสังเกตว่าเต็งหนึ่งเดินตามมาด้วย จนกระทั่งเต็งหนึ่งเดินมายืนจนชิดตัวของผม ผมถึงได้รู้ พอหันหน้ามา ผมก็ถูกประชิดจนต้องถอยหลัง

   “จะทำอะไร” ผมถามเสียงสั่น ใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ สายตาที่มองมาดูอ่อนโยนจนผมเดาไม่ถูกว่ามันจะสื่ออะไร

   “เราชอบกลอนมานานแล้ว ตั้งแต่วันที่กลอนล้ม เราคอยมองกลอนมาตลอด แต่กลอนไม่เคยมองเราเลย”

   “ไม่จริงหรอก นายจะล้อเล่นอะไร ออกไปเถอะ” ผมกลัว เป็นไปไม่ได้เลย เต็งหนึ่งไม่เคยมีทีท่ามาให้ผมสักนิด

   “เราล้อเล่นเหรอ เรารู้ว่ากลอนชอบกินราดหน้า ชอบกินน้ำเก๊กฮวย แม่จะมารับกลับบ้านตอนห้าโมงเย็น วันศุกร์ต้องมาช่วยครูเป็ด พ่อจะมารับกลับตอนทุ่มหนึ่ง ชอบไปนั่งเล่นที่ม้าหินหลังโรงยิม แล้วก็ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับดวงดาว”    ที่เต็งหนึ่งร่ายมามันถูกต้องทั้งหมด ผมอึ้งไปที่เขาเก็บรายละเอียดของผมได้ขนาดนี้ แปลว่าที่เขาพูดมาไม่เกินจริงเลย นี่เขาชอบผมจริงเหรอ

   “แต่ว่า..” ผมจะพูดเรื่องของแจน แต่เต็งหนึ่งเดินเข้ามาชิดตัวผมเสียก่อน ตอนนี้หลังของผมถอยไปจนติดกับชั้นหนังสือแล้ว ไม่สามารถถอยหลังได้อีก เต็งหนึ่งจับมือของผมที่ดันอกของเขาออก

   “เราได้แต่เก็บมันเอาไว้ เพราะเรากลัวว่ากลอนไม่ได้คิดตรงกันกับเรา กลอนคิดยังไงกับเรา”

   “คือ..เรา” ผมไม่กล้าที่จะพูดออกไป ผมยังรู้สึกกลัว ผมชอบเต็งหนึ่ง แต่ผมกลัวว่าสิ่งที่กำลังรู้สึกมันคือความผิด ผมรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ชอบมองผู้หญิงแบบที่ผู้ชายควรจะเป็น แต่ผมก็ไม่คิดว่าผมจะต้องมาคบกับผู้ชาย นั่นคงเพราะผมไม่อยากให้ตัวเองออกนอกกรอบที่วางเอาไว้ คิดว่าแอบชอบก็คงพอแล้ว แต่พอโดนคนที่ชอบมาสารภาพความในใจ ผมก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ มันทั้งตื่นเต้นและกลัว ผมกำลังสับสนและลังเล

   “ถ้าไม่ชอบเราก็บอกมาตรงๆ ก็ได้นะ เราพร้อมรับความจริงแล้ว เราคิดว่าเราไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป”

   “เต็งหนึ่งชอบเราจริงๆ เหรอ เรา..เราเป็นผู้ชายเหมือนกันนะ เราเห็นว่าเต็งหนึ่งเดินกับผู้หญิง ไม่คิดว่าจะเป็น เอ่อ...เป็นเกย์” ผมถามเต็งหนึ่งไปตรงๆ

   “เราไม่รู้หรอกว่าเราเป็นอะไร เราก็ไม่เคยมองผู้ชายคนไหน แต่เราอยากมองแต่กลอน เรา บอกตรงๆ นะ เราอยากกอดกลอนมากๆ ตั้งแต่ในห้องพยาบาลแล้ว ไม่รู้ว่ามันเกิดความรู้สึกนี้ได้ยังไง” เต็งหนึ่งบอกกับผม

   ผมยอมรับว่าผมกำลังหวั่นไหวไปกับคำสารภาพของเขา เขาไม่ได้รู้สึกกับผู้ชายคนอื่นทั่วไป แต่เขารู้สึกอย่างนั้นเมื่อเป็นผม อาจจะเป็นเพราะผมตัวเล็ก ขาว ขนหน้าแข้งยังไม่มีเลย แต่ผมก็ไม่ได้ตุ้งติ้งหรือทำตัวเหมือนผู้หญิง ผมเล่นกีฬาเก่งอีกต่างหาก ส่วนใหญ่เพื่อนจะมองว่าผมเป็นเด็กเนิร์ด เด่นเคยบอกว่าผมเหมือนคุณหนู คุณชายจอมเนี๊ยบประมาณนั้นเสียมากกว่า

   “กลอน เราจูบกลอนได้ไหม” เต็งหนึ่งถามผมเมื่อเห็นผมเงียบไป

   ผมใจเต้นหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำขอจากเต็งหนึ่ง ‘จูบเหรอ’ แค่บอกว่าชอบผม ผมก็สับสนแล้ว เต็งหนึ่งกำลังรุกผมมากเกินรึเปล่า แต่สายตาของเต็งหนึ่งกำลังทำให้ผมหวั่นไหว ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร ริมฝีปากของเต็งหนึ่งก็ทาบทับมาที่ริมฝีปากของผมแล้ว นี่คือจูบแรกของผม ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ร่างกายของผมไม่ได้ต่อต้านเขาเลยแม้แต่น้อยทั้งที่รู้ว่ามันไม่ถูกมันไม่ควร ในใจกลับเต้นเหมือนกลองรัว ผิวหน้าของผมร้อนวูบวาบ ผมหลับตาปี๋เมื่อลิ้นของเต็งหนึ่งรุกล้ำเข้ามาในปากของผม สัมผัสแรกคือรู้สึกจั๊กจี้ สัมผัสต่อมาคือเริ่มหายใจติดขัด วูบวาบไปทั่งตัว ขนลุกและรู้สึกหวิวๆ เต็งหนึ่งยังคงตวัดรัดเกี่ยวลิ้นของผมอย่างเร่งเร้า เสียงจูบของเราดังท่ามกลางความเงียบและความมืด ผมกลัว กลัวว่าใครจะมาได้ยิน แต่ร่างกายของผมกลับยืนนิ่งตอบรับจูบของเขาอยู่อย่างนั้น สติที่แม่เคยสอนว่าให้มีเวลาคับขันกลับใช้ไม่ได้เลยในตอนนี้ ผมกำลังจะอ่อนแรง ยืนแทบไม่ไหวแล้ว ลมหายใจถูกดูดกลืนไปหมด

   “รู้สึกดีบ้างไหม” เต็งหนึ่งยอมถอนจูบออกแล้วถามผม

   ผมหลบสายตาหวามไหวที่มองมา แต่เต็งหนึ่งก็ยังเอียงหน้ามาถาม ในที่สุดผมก็พยักหน้าออกมา แม้จะรู้สึกอายและเขินมากๆ แต่ผมอยากซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง

   “ห้ามไปทำแบบนี้กับใครนะ ห้ามเปิดกลอนให้ใครเข้ามาในใจอีกนะ” เต็งหนึ่งพูดกับผมก่อนจะหอมแก้มผม คลอเคลียจมูกกับแก้มของผมจนผมต้องหลุดยิ้มออกมากับความอ่อนโยนที่ได้รับ

   “พ่อใกล้จะมารับแล้ว” ผมบอก เต็งหนึ่งถอนหายใจ

   “ยังไม่อยากให้กลับเลย อยากกอด อยากจูบทั้งคืนเลย” เต็งหนึ่งพูดกับผมแล้วก็สวมกอดผม ผมยิ่งเขินหนัก ส่วนกลางลำตัวของเราทั้งคู่มันกำลังตื่นตัวตามธรรมชาติของวัยที่ฮอร์โมนกำลังพุ่งพล่าน มันสัมผัสเสียดสีและดันกันอยู่จนผมต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่กล้าสบตาเต็งหนึ่ง ผมเขินมากจริงๆ ที่เป็นแบบนี้

   “เราช่วยไหม” เต็งหนึ่งถามผมเมื่อมองไปที่กางเกงของผม ผมรีบส่ายหน้า หน้าผมคงแดงมากในตอนนี้ ที่คิดแบบนั้นเพราะผมสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ปรากฏบนผิวหน้าตัวเอง

   “เดี๋ยวพ่อมาแล้ว”

   “ขอจูบอีกทีนะ นะครับ” เต็งหนึ่งอ้อนผม

   ผมไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ บอกตรงๆ ว่าผมเขินมากจริงๆ ผมไม่กล้าบอกว่าผมต้องการ ไม่กล้าบอกว่าผมรู้สึกดี ผมอาย ผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นคนใจง่าย เขาแค่บอกชอบผมเมื่อครู่ผมก็ยอมให้เขาเข้ามาใกล้ชิดขนาดนี้ ผมกลัวจะถูกมองว่าเป็นคนที่คิดแต่เรื่องอย่างว่า อาจจะดูเป็นคนหน้าด้านถ้าพูดว่าต้องการออกไป ทั้งที่ร่างกายดันไปตอบสนองเขาอย่างนั้นเสียแล้ว ผมว่ามันคงเป็นการบอกให้เต็งหนึ่งรู้ว่าผมใจง่ายจริงๆ นั่นแหละ

   “ไม่ได้เหรอ” เต็งหนึ่งถามเสียงอ้อนๆ ผมได้แต่หลบตา สุดท้ายเต็งหนึ่งก็เป็นฝ่ายรุกเข้ามาเองอีกครั้ง คราวนี้บดเบียดร้อนแรงจนผมต้องเผลอส่งเสียงครางเบาๆ ออกมา ยิ่งหลุดเสียงคราง เต็งหนึ่งก็ยิ่งใช้ลิ้นรุกไล่ผมจนเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ผมตกใจแล้วผลักเต็งหนึ่งออกเบาๆ ผมรีบเช็ดริมฝีปากเพราะมันชื้นแฉะไปหมด ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วกดรับ

   “ครับพ่อ เสร็จแล้วครับ เดี๋ยวกลอนออกไป ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ ครับพ่อ” ผมกดวางสายก่อนจะมองหน้าเต็งหนึ่งที่ยืนยิ้มให้ผมอยู่

   “จะเข้าห้องน้ำเหรอ” เต็งหนึ่งถามผม

   “เรา..แค่อยากล้างหน้า” ผมพูดติดๆ ขัดๆ เต็งหนึ่งหยิบโทรศัพท์จากมือผมไปกดเบอร์ของเขา ก่อนจะส่งคืน

   “คืนนี้เราโทรไปหานะ อย่าลืมรอรับด้วยนะ อยากบอกฝันดีก่อนนอน”

   “อืม” ผมรับคำพร้อมกับพยักหน้า

   “หอมแก้มหน่อยนะ” เต็งหนึ่งพูดจบก็หอมแก้มผมดังฟอดจนผมต้องยิ้มเขินๆ

   “กลับถึงบ้านแล้วไลน์มาหน่อยนะครับ” เต็งหนึ่งบอกกับผม ผมพยักหน้าแล้วก็เดินออกมาจากชั้นหนังสือ โดยมีเต็งหนึ่งเดินตามออกมา

   ผมล็อกห้องสมุดเรียบร้อยแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาพร้อมกับสำรวจตัวเองว่าเรียบร้อยไหม ส่วนที่มันตื่นตัวก็ดูจะเบาบางลง คงเพราะตกใจตอนที่พ่อโทรเข้ามาด้วย พอเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเต็งหนึ่งยืนรออยู่ ผมยิ้มให้เขา เขายิ้มให้ผม เราสองคนเดินแยกกันไป ผมเดินออกไปที่หน้าโรงเรียน ส่วนเต็งหนึ่งเดินไปที่โรงรถ เต็งหนึ่งขับรถมอเตอร์ไซด์มาเรียนครับ
 
   ผมเดินมาถึงรถของพ่อ ขึ้นไปนั่งในรถก่อนจะยกมือไหว้พ่อ พอรถเคลื่อนตัวออก ผมก็เห็นว่าเต็งหนึ่งขี่รถตามมา แล้วมาจอดขนาบข้างตอนที่รถติดไฟแดง พ่อมัวแต่คุยโทรศัพท์เลยไม่ได้สังเกตว่าผมหันไปยิ้มกับเต็งหนึ่งตลอด เต็งหนึ่งขมุบขมิบปากบอกว่า ‘คิดถึง’ ผมก็ได้แต่นั่งยิ้มเขินๆ จนกระทั่งไฟเขียว พ่อถึงได้วางสายแล้วก็เคลื่อนรถออกไป

   
   

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2017 19:36:02 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เมื่อกลับมาถึงบ้านผมลงไปเปิดประตูรั้วให้พ่อ พอพ่อขับรถเข้าไปด้านในผมหันไปมองที่นอกรั้วก็เห็นว่าเต็งหนึ่งขี่มาส่งผมถึงหน้าบ้าน ผมรีบโบกมือให้เขา เต็งหนึ่งโบกกลับมาก่อนจะยอมขี่รถกลับไป ส่วนผมก็เดินยิ้มเข้าบ้านอย่างคนอารมณ์ดี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกได้ว่าชีวิตของผมเปลี่ยนไป ปกติผมจะมีแผนที่วางเอาไว้เป็นระบบ กลับถึงบ้านต้องอาบน้ำ จากนั้นไม่เกินครึ่งชั่วโมงต้องรีบลงมาทานข้าวพร้อมพ่อกับแม่ พอช่วยแม่เก็บล้างเสร็จก็ไปอ่านหนังสือต่อ แม้จะว่าเป็นคืนวันศุกร์ ผมก็ไม่มานั่งดูทีวีเรื่อยเปื่อย พอสี่ทุ่มผมก็หลับแล้ว แต่มาวันนี้ผมกลับอ้อยอิ่งไม่ได้รีบอาบน้ำเหมือนเคย กลับหยิบโทรศัพท์มาเปิดไลน์แล้วกดรับเต็งหนึ่งเป็นเพื่อน จากนั้นก็ส่งข้อความไป

   ‘มาส่งถึงบ้านแล้วจะให้ไลน์ไปบอกทำไม’

   ผมกดข้อความส่งไป เต็งหนึ่งยังคงไม่ได้เปิดอ่าน ผมเดาว่าเขาคงยังขี่รถกลับไปไม่ถึงบ้าน ผมตัดสินใจวางโทรศัพท์แล้วเข้าไปอาบน้ำ ระหว่างที่อาบน้ำ ในใจผมยังคงนึกถึงจุมพิตของเต็งหนึ่งที่สัมผัสบนริมฝีปาก เต็งหนึ่งได้ฝากรอยเอาไว้ มันอ่อนโยนและรุ่มร้อนจนผมแทบหายใจไม่ออก ผมดำดิ่งกับการจินตนาการภาพที่เกิดขึ้นในห้องสมุด จนกระทั่งได้ยินเสียงแม่เรียกผมให้ลงไปทานข้าวผมถึงได้หลุดออกจากภวังค์ รู้สึกตกใจเมื่อเห็นว่าส่วนกลางลำตัวของตัวเองถูกปลุกเพียงแค่คิดถึงรสจูบของคนที่แอบชอบ ทำไมผมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ พอตั้งสติได้ผมก็รีบเปิดน้ำรดหัวตัวเอง ผมจะให้อารมณ์หรือความใคร่มาครอบงำตัวเองไม่ได้ เพราะหากผมผิดหวัง ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะอ่อนแอถึงเพียงไหน ซึ่งผมไม่อยากเป็นแบบนั้นเลย ไม่อยากให้ความรักหรือความใคร่มาทำให้ชีวิตของผมต้องเบนออกจากเส้นทางที่เคยเดิน

   “เป็นอะไร ดูเหม่อลอยตลอดเลย” แม่ถามผมระหว่างที่เราทานข้าวกันอยู่

   “อ๋อ..เปล่าครับ กลอนแค่ง่วง วันนี้เดินตากแดดนานไปหน่อย รู้สึกเพลียครับ” ผมรีบตอบแม่โดยไม่สบตาท่าน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมโกหกแม่

   “ไม่สบายรึเปล่า เล่นบาสมาอีกละสิ เอาเรื่องเรียนไว้ก่อนดีกว่า กีฬาแค่เล่นให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ต้องไปจริงจัง” แม่บอกผม

   “ครับแม่” ผมตอบรับ

   “กินเสร็จก็ไปพักเถอะ แม่ล้างเองได้”

   “ไม่เป็นไรครับ กลอนทำเอง”

   “ไปเถอะลูก เพลียก็ไปพัก” พ่อบอกผม ผมเลยไม่กล้าขัด ได้แต่ยกมือไหว้พ่อกับแม่ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป พอขึ้นไปถึงห้องถึงได้เห็นว่ามีสายจากเต็งหนึ่งโทรเข้ามาถึงห้าสาย ผมรีบกดโทรกลับไป

   “ถึงบ้านแล้วเหรอ ขอโทษทีนะ เราลงไปทานข้าวมา” ผมบอกเมื่ออีกฝ่ายรับสาย

   “ถึงได้สักพัก กินข้าวเหมือนกันเลยไม่ทันได้อ่านไลน์ พออ่านแล้วเลยรีบโทรกลับ” เต็งหนึ่งบอกกับผม

   “แล้วอาบน้ำรึยัง” ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ

   “ยังเลย มาอาบให้หน่อยสิ” เต็งหนึ่งทำเสียงอ้อนๆ ผมยังไม่ชินกับการถูกอ้อนเลยได้แต่นั่งเขินอยู่คนเดียวในห้อง

   “เรื่องอะไร อาบเองสิ” ผมตอบกลับไป

   “ฮ่าๆ เขินเหรอ เวลากลอนเขิน น่ารักมากเลยนะ รู้รึเปล่าว่าตัวเองเสน่ห์แรงขนาดไหน” เต็งหนึ่งบอกกับผม

   “อย่ามาโม้เลย” ผมตอบกลับไป

   “จริงนะ เพื่อนเราคนหนึ่งชอบกลอนมากเลยนะ มันแอบถ่ายรูปกลอนเต็มไปหมด มันบอกว่ากลอนดังมากในหมู่นักเรียนหญิง หล่อ เรียนดี ป๊อป” เต็งหนึ่งบอกในสิ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อเลย

   “เราไม่ป๊อปเท่าเต็งหนึ่งหรอก”

   “เราไม่ได้อยากป๊อป เราแค่อยากให้คนๆ เดียวเท่านั้นมองเห็นเรา เป็นคนที่เรากำลังคุยอยู่ด้วยตอนนี้” เต็งหนึ่งบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมได้แต่ยิ้มเขิน หยิบปากกามาเขียนชื่อเต็งหนึ่งเต็มกระดาษที่เอาไว้ทดเลขไปหมด

   “มองเห็นตั้งนานแล้ว” ผมตอบ

   “จริงเหรอ” เสียงเต็งหนึ่งดูดีใจ

   “อืม แต่เราไม่คิดว่า..”

   “เราชอบกลอนนะ บางที อาจะเป็นความรักก็ได้ รักแรกของเรา” เต็งหนึ่งชิงพูดมาก่อน

   ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมกำลังพองโต ผมกำลังมีความสุขจนต้องยิ้มออกมาเพื่อเป็นการระบาย ไม่เช่นนั้นความสุขมันคงล้นอก ผมอยากบอกเขาว่าเขาคือรักแรกของผมเหมือนกัน เป็นจูบแรกของผมด้วย ผมไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่ผมแอบมองแอบชื่นชมมาหลายปีจะมาบอกว่าเขารู้สึกตรงกันกับผม มันเหมือนฝันที่เป็นจริง ความรักระหว่างเด็กผู้ชายด้วยกันมันยากที่จะสมหวัง แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดกับผม ผมคิดว่าผมกำลังควบคุมตัวเองไม่อยู่

   “ไม่เห็นกลอนบอกเลยว่ารู้สึกยังไงกับเรา เอาแบบนี้ อย่าเพิ่งบอก ขอเราไปอาบน้ำก่อน ให้เวลาคิดครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเราจะโทรมาใหม่ ห้ามหลับนะ”

   “ครับ” ผมตอบไป เต็งหนึ่งวางสาย สักพักแม่มาเคาะประตู ผมเลยเดินไปเปิดให้

   “แม่เอานมอุ่นๆ มาให้ ปวดหัวรึเปล่า”

   “ไม่ปวดครับ ขอบคุณครับแม่”

   “ทีแรกแม่จะชวนไปบ้านคุณยายด้วยกัน สงสัยต้องโทรไปเลื่อน กลัวลูกจะไม่สบายขึ้นมา”

   “ไม่เป็นไร แม่ไปกับพ่อเถอะ กลอนอยู่ได้ ขอนอนให้เต็มอิ่ม อาทิตย์ที่ผ่านมากลอนอ่านหนังสือดึกไปหน่อย กลอนไม่อยากให้ยายรอเก้อ ฝากแม่บอกยายว่าปิดเทอมกลอนจะไปอยู่กับยายที่บ้านสวนนะครับ” ผมบอกแม่ แม่เดินเอามือมาอังที่หน้าผากของผมก่อนจะพยักหน้า

   “ตัวรุมๆ ถ้าปวดหัวก็ทานยานี่นะ พรุ่งนี้แม่จะทำข้าวต้มทิ้งเอาไว้ให้ พรุ่งนี้แม่ไม่ปลุกลูกนะ”

   “ขอบคุณครับแม่ ฝันดีนะครับ” ผมบอก แม่หอมแก้มผมก่อนจะเดินออกไป ผมเดินไปล็อกประตู ปิดไฟ แล้วมานอนเล่นที่เตียง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเต็งหนึ่งก็โทรมา ผมรีบกดรับเพราะกลัวแม่จะได้ยินเสียงโทรศัพท์ ปกติไม่เคยมีใครโทรหาผม เด่นก็ไม่เคยโทรมาถ้ามันไม่มีอะไรด่วน เด่นรู้ว่าผมนอนไว

   “อาบเสร็จแล้วเหรอ”

   “อืม รีบอาบ กลัวเด็กดีจะหลับก่อน” อีกฝ่ายตอบกลับมา

   “ยังไม่สี่ทุ่มเรายังไม่หลับหรอก”

   “โอ้โห มีสวิตช์เปิดปิดได้ด้วยเหรอ นี่ใกล้สี่ทุ่มแล้ว ไม่ใช่หลับคาโทรศัพท์นะ”

   “ฮ่าๆ ก็ไม่แน่”

   “งั้นมาทำอะไรไม่ให้หลับกันดีกว่า”

   “ทำอะไรเหรอ” ผมถามกลับไปเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าเต็งหนึ่งจะให้ทำอะไร

   “ทำตามที่เราบอกนะ ปิดไฟห้องรึยัง” เสียงของเต็งหนึ่งดูกระซิบกระซาบจนผมเริ่มใจเต้นรัว

   “ปิดแล้ว” ผมเดาว่าเขาอาจจะเล่าเร่องผีให้ผมฟัง ผมไม่กลัวหรอกแต่ก็เล่นไปตามน้ำ

   “เอาหูฟังมาใส่ จะได้ไม่ต้องถือโทรศัพท์”

   “โอเค ทำแล้ว”

   “ใส่ชุดนอนยังไงเหรอ” เต็งหนึ่งถาม ผมขมวดคิ้ว เล่าเรื่องผีต้องถามถึงชุดนอนด้วยเหรอ

   “ก็..เสื้อยืด กางเกงขายาว”

   “อืม ดีครับ หลับตานะ แล้วนึกถึงหน้าของเรา” เต็งหนึ่งบอก ผมเริ่มคิดว่าเต็งหนึ่งคงไม่ได้จะเล่าเรื่องผีแล้วล่ะ

   “จะทำอะไรเหรอ” ผมถามเพื่อความมั่นใจว่าที่ผมกำลังคิดนั้นไม่ผิด

   “คนดี ทำตามเรานะ อย่าถาม แค่ทำตามก็พอ นะครับ” เต็งหนึ่งพูดจาอ้อน น้ำเสียงอ่อนโยน ผมฟังแล้วก็คล้อยตามง่ายๆ

   “ครับ หลับตาแล้ว”

   “จำรสจูบของเราได้ไหม” เต็งหนึ่งถาม ผมเริ่มรู้แล้วว่าที่ผมคิดไว้นั้นไม่ผิดจริงๆ รู้ว่าเต็งหนึ่งชวนผมทำอะไร รู้ทั้งรู้ แต่ก็ไม่ขัด กลับยินยอมและคล้อยตามเขา

   “จำได้ครับ”

   “ตอนนี้เรากำลังประทับจูบกลอนนะ ลิ้นของเรากำลังเลียริมฝีปากของกลอน กลอนกำลังแลบลิ้นออกมาตอบรับเรา” หูผมฟังเต็งหนึ่งบรรยาย สมองก็มโนภาพตามไปโดยอัตโนมัติ ใจผมเต้นแรงอีกแล้ว ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเต็งหนึ่งกำลังจูบผมจริงๆ

   “ลิ้นเราสองคนกำลังดูดดุนกัน อืมมม มันดีมากเลย กลอนรู้สึกดีไหมครับ”

   “อืม” ผมตอบ  เผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตัวเอง

   “ดึงเสื้อขึ้นมา ลูบไล้ปลายนิ้วไปที่ยอดอกนะคนดี เราอยากเลียที่ยอดอกของกลอนเหลือเกิน ให้ปลายนิ้วของกลอนแทนลิ้นอุ่นๆ ของเรานะ เรากำลังชิมที่ยอดอกขวา ช้าๆ เบาๆ”

   ผมหลุดครางออกมาเมื่อปลายนิ้วของตัวเองสัมผัสที่ยอดอกของตัวเอง มันชูชันขึ้นมาสู้ ผมบีบปั่นเบาๆ  อารมณ์ของผมเริ่มเตลิดออก เต็งหนึ่งทำเสียงจ๊วบจ๊าบออกมาราวกับว่ากำลังดูดยอดอกของผมจริงๆ ผมถึงกับต้องแอ่นหน้าอกของตัวเอง หลับตาและระบายลมหายใจที่กำลังเต็มไปด้วยความทรมาน

   “หนึ่งกำลังดูดหน้าอกของกลอนนะครับ มันหวานมากเลย หวานจนไม่อยากเลิกรา ซี๊ดด” เต็งหนึ่งยังคงบรรยายบทอย่างว่าประหนึ่งว่ามันเกิดขึ้นจริง ผมฟังแล้วก็มโนภาพตาม ร่างกายของผมกำลังตื่นตัวที่ ผมรู้สึกได้ถึงความคับตึงที่เกิดขึ้นกับส่วนนั้น

   “หนึ่ง..กลอนว่า..กลอน...” ผมระบายลมหายใจออกมาเมื่อมือของตัวเองกำลังลงไปสัมผัสส่วนที่นูนพองด้วยความลืมตัว เสียงของเต็งหนึ่งที่อ่อนโยนแผ่วสะท้านยิ่งทำให้ผมเคลิบเคลิ้มราวกับกำลังฝันว่าเต็งหนึ่งมาอยู่ตรงนี้กับผม

   “หนึ่งกำลังไล่ลิ้นลงไปที่หน้าท้องของกลอนนะ ร่างกายของกลอนมันหอมหวานไปหมด หนึ่งกำลังเกี่ยวกางเกงของกลอนออก ผิวของกลอนขาวจังครับ ตรงนั้นของกลอนก็ขาวจนหนึ่งอดใจไม่ไหว ขอหนึ่งชิมหน่อยนะ หวานจัง” หนึ่งพูดแล้วทำเสียงคราง ผมก็ครางตาม มือของผมกำลังกอบกำของตัวเอง ผมทำทุกอย่างไปตามความต้องการของอารมณ์ เหมือนตัวเองลอยละล่องอยู่ในความฝันที่แสนหวานและทรมาน

   “หนึ่งกำลังดูดเลียให้กลอนนะ ชอบไหม ดูดแรงๆ แบบนี้ ชอบไหม อืม...อร่อย กลอนอร่อยไปทั้งตัวเลย”

   “กลอนจะไม่ไหวแล้ว” ผมบอก เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของผมกำลังจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ หน้าผมร้อนผ่าว หน้าท้องเสียววาบแบบประหลาด ปวดหน่วงที่ส่วนกลางเหมือนต้องการระบายอะไรออกมา

   “คนดี อดทนหน่อยนะ หนึ่งกำลังดูดแรงๆ ให้ อ้าส์..” เต็งหนึ่งส่งเสียงคราง ตอนนี้ผมว่าผมได้ยินเสียงชื้นแฉะดังมาแทนเสียงครางจากอีกฝ่าย เป็นเสียงจากการกระทำเดียวกันกับสิ่งที่ผมกำลังทำ

   ภาพเต็งหนึ่งที่กำลังทำแบบเดียวกับผมลอยขึ้นมาในหัว เสียงครางของเต็งหนึ่งดังสลับกับเสียงเนื้อที่ถูกรูดรั้งดังมาในสาย ผมถึงกลับเผลอครางเสียงดังกว่าเดิม มือผมก็เร่งราวกับว่ามือนั่นเป็นของเต็งหนึ่ง เสียงของเราสองคนดังครางแข่งกัน สุดท้ายผมก็ปลดปล่อยน้ำรักออกมาเต็มหน้าท้องของตัวเอง ผมได้ยินเสียงเต็งหนึ่งหอบเบาๆ มาในสาย ผมเองก็เช่นกัน ร่างกายที่เกร็งไปทั่วก็เริ่มผ่อนคลาย ผมรีบลุกขึ้นหยิบทิชชูที่หัวเตียงมาเช็ดที่มือและหน้าท้อง พออารมณ์ที่ทะยานขึ้นสู้จุดสูงสุดแล้วสติของผมถึงได้กลับมา ผมรู้สึกละอายใจกับสิ่งที่เพิ่งทำลงไป ถึงมันจะรู้สึกดีมากๆ แต่ในขณะเดียวกันผมก็ว่ามันเป็นการกระทำที่น่าละอาย ถ้าพ่อกับแม่รู้ท่านคงจะผิดหวังในตัวของผม แต่ที่ผมเฝ้าถามตัวเอง ว่าทำไมผมถึงยินยอมต่อการรุกเร้าของเต็งหนึ่งได้ง่ายถึงเพียงนี้ เป็นเพราะผมรักเขาหรือเป็นเพราะผมกำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากลองและไวต่อการตอบสนองเรื่องเพศกันแน่

   “กลอน หนึ่งอยากกอดกลอนมากๆ เลย หนึ่งมีแต่ภาพกลอนเต็มไปหมด คิดถึง เคยคิดถึงใครมากๆ ไหม” เสียงของเต็งหนึ่งถามผม ผมเลยหลุดออกจากความคิดแล้วส่งเสียงตอบกลับไป

   “หนึ่ง..กลอนว่า..เรา เรา” ผมอึกอัก ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไง รู้สึกผิดอย่างมากแต่เป็นความผิดที่มีความสุขเหลือเกิน

   “กลอนครับ กลอนไม่รู้สึกดีเลยเหรอ”

   “ดีสิ..กลอนรู้สึกดี แต่..”

   “ไมมีแต่ เรารักกัน ใจตรงกัน เรากำลังทำในสิ่งที่คนรักกันทำ ไม่มีอะไรผิดนะครับ ความต้องการเป็นธรรมชาติของมนุษย์นะ เรายังเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครู แต่เราก็จะเป็นคนดีของกันและกันด้วย” สิ่งที่เต็งหนึ่งพูดทำให้ผมคล้อยตาม ถึงผมจะทำแบบนี้แต่ถ้าการเรียนผมไม่เสีย ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ผมไม่ได้ติดยา ผมแค่มีความรัก ผมทำแบบที่ทำไปเมื่อครู่ได้ใช่ไหม ผมคิดวนไปมา คำตอบก็คือ ผมอยากทำตามหัวใจของตัวเอง ผมจะเปิดใจ ผมแค่อยากมีความรัก อยากมีคนให้รัก ผมก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งที่มีความต้องการ คงไม่ผิดใช่ไหมครับที่จะคิดแบบนี้

   “ครับ กลอนก็รักหนึ่ง อยากให้หนึ่งกอด” ผมตัดสินใจตอบกลับไป

   “ชื่นใจจังเลย อย่างนั้นนอนพักผ่อนนะ พรุ่งนี้หนึ่งขอไปหาที่บ้านจะได้ไหม ถ้าไม่สะดวกก็ออกมาเจอกันได้ไหม หนึ่งอยากเห็นหน้ากลอนจะแย่อยู่แล้ว” เต็งหนึ่งอ้อนผม ผมนิ่งคิดก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำ

    “พรุ่งนี้พ่อกับแม่กลอนจะไปบ้านยาย หนึ่งมาหากลอนสักตอนเก้าโมงเช้าก็ได้”

   “ดีจังเลย อยากให้เช้าไวๆ อยากหอมแก้มกลอนแล้ว รักกลอนนะครับ ฝันดีนะครับที่รัก”

   “ฝันดีครับ” ผมตอบกลับ

   พอเต็งหนึ่งวางสายแล้วผมก็ยิ้มกับโทรศัพท์ ใจของผมยังเต้นแรงอยู่เลย ผมไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าทำเรื่องน่าอายแบบนี้ได้ แต่ผมมีความสุขจริงๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นครั้งแรก ใจเต้นแรกเป็นครั้งแรก รู้สึกสุขล้นเป็นครั้งแรก ถูกจูบเป็นครั้งแรก ทำเรื่องที่ไม่เคยทำเป็นครั้งแรก แต่ผมสัญญากับตัวเอง ว่าผมจะไม่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปกว่านี้อีกแล้ว แต่นั่นคือสิ่งที่ผมคิดในวันวาน ผมไม่รู้เลยว่ารักครั้งแรกของผมครั้งนี้ จะทำให้ความคิดและการกระทำหลายอย่างของผมต้องเปลี่ยนไปจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว   



*********โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ***********

บันทึกท้ายบทจากผู้แต่ง..

นิยายเรื่องนี้เป็นการแต่งแต้มเรื่องราวขึ้นเอง ซึ่งส่วนหนึ่งผู้แต่งคลุกเคล้ามาจากการบอกเล่าชีวิตจริง

ของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งเต็มใจเล่า แต่เป็นการเพิ่มเติมเนื้อหาเพิ่มขึ้นเพื่ออรรถรสของนิยาย

นิยายเรื่องนี้ไม่มีนายเอกโลกสวย ไม่มีพระเอกจากความฝัน ไม่มีตัวร้ายถาวร

มีแต่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ได้เจอกับความรักหลายรูปแบบ ทั้งเจ็บเจียนตายและทำคนอื่นเจ็บเช่นกัน

ประสบการณ์ที่ไม่สามารถบอกเล่าให้คนในครอบครัวฟังได้ เลยถ่ายทอดผ่านบันทึกเล่มนี้ 

ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกท่านที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของ'กลอน'
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2017 19:36:59 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L1:  รอติดตามจ้า
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
แปะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอ่าน ขอปั่นงานให้เสร็จทันห้าโมง แล้วจะแว้บมาอ่านทันทีฮ้าฟฟ (ชอบชื่อเรื่อง ฮ่าาา)

ออฟไลน์ tutatoomtam

  • รัก.................!
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เรื่องไหม่เย้!!! จะติดตามน้าาาาาาา


****ทำไมเรารู้สึกแปลกๆกับเต็งหนึ่ง ? หรือว่าจะคิดไปเอง :katai5:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
แลดูจะดราม่ามากมาย -0-;;
ติดตามค่า

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
ตามมาจากรักวุ่นดี

บวกเป็ดให้ครับ

เหมือนหนึ่งจะมาไม่ดีแน่เลย กลอนเลยต้องเขียนบันทึก
พอจะเดาเรื่องออกได้นิดนึง 55555

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
เหมือนคนเขียนต้มน้ำร้อนไว้ ไม่เอามาม่ารสต้มยำกุ้งนะ เดี๋ยวแสบท้อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ziqh.leo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โห หนึ่งโหดมาดอ่ะ
ขนาดวันแรกยังรุกขนาดนี้
วันต่อไปนี่จะ.....ยังไง ยังไง....

รอติดตามนะคะ

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
จูบแรกของกลอน (2)

ผมได้ยินเสียงรถยนต์ของพ่อเคลื่อนออกไปจากบ้านตอนหกโมงเช้า ผมนอนขี้เกียจอยู่บนเตียงถึงครึ่งชั่วโมงก็ตัดสินใจลุกไปอาบน้ำแล้วก็ลงไปข้างล้าง แม่ทำต้มข่าไก่กับผัดฉ่าปลาทับทิมเอาไว้ให้ผม ผมยังไม่รู้สึกหิวเท่าไหร่เลยรินแค่นมมานั่งกินที่หน้าโทรทัศน์ นานแล้วที่ผมไม่ได้อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ ปกติวันหยุด เราสามคนพ่อแม่ลูกก็จะชวนกันปลูกต้นไม้บ้างหรือหากิจกรรมทำด้วยกัน แต่คราวนี้แม่คงไม่อยากเลื่อนนัดกับยาย เพราะยายบ่นว่าพวกผมไม่ได้ไปหาท่านนานแล้ว ผมก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่โกหกแม่ว่าผมอยากจะพัก เพราะผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ ผมคิดถึงคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในชีวิต ก่อนจะหลับก็นึกถึง ตื่นมาก็นึกถึงอีก วันนี้กว่าจะเลือกชุดใส่ได้ใช้เวลานานกว่าทุกวัน ก็ผมอยากดูดีต่อหน้าเขา


เต็งหนึ่งขี่รถมอเตอร์ไซด์มาจอดที่หน้าผมก่อนเวลานัด ผมได้ยินเสียงกริ่งก็วิ่งออกมาเปิดประตูรั้วให้ เต็งหนึ่งจูงมอเตอร์ไซด์เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ผมล็อกรั้วเสร็จก็เดินตามเขาแล้วเชิญเขาให้เข้าไปข้างใน ผมให้เต็งหนึ่งนั่งรอที่โซฟา ส่วนผมก็เดินไปรินน้ำให้เขา รู้สึกเขินๆทำตัวไม่ถูก เรื่องที่ผมกับเต็งทำลงไปเมื่อคืนมันทำให้ผมไม่กล้าสบตาเขาเลย เต็งหนึ่งชวนผมคุยจนผมหายเกร็ง เขาเล่าเรื่องที่เขาไปเล่นดนตรีเปิดหมวกที่กรุงเทพตอนปิดเทอมใหญ่ ผมตั้งใจฟังเขาเล่าด้วยความสนใจ อีกมุมหนึ่งของเขาที่ผมไม่เคยรู้ ผมฟังแล้วก็คิดว่าชีวิตเต็งหนึ่งต่างจากผมโดยสิ้นเชิง พ่อของเต็งหนึ่งเป็นสถาปนิก ส่วนแม่มีร้านเบเกอรี่ พี่สาวของเต็งหนึ่งเรียนอยู่ที่กรุงเทพ แล้วก็กำลังจะได้แสดงละคร พ่อแม่ของเต็งหนึ่งเลี้ยงดูแบบให้อิสระเต็มที่ ไม่ว่าลูกจะทำอะไรก็พร้อมสนับสนุน ผมก็ไม่แปลกใจ เพราะเต็งหนึ่งดูเป็นคนรักอิสระ เรื่องที่เขาเล่าให้ผมฟังแปลว่าเขาได้ไปเที่ยวมาหลายที่ ต่างจากผม ที่ไม่เคยได้ไปไหนเลยนอกจากบ้านของยาย


“คิดอะไรอยู่” เต็งหนึ่งถามผมก่อนจะลุกจากโซฟาอีกตัวมานั่งโซฟาเดียวกันกับผม

“ก็อิจฉาหนึ่ง ได้ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ”

“ทำไมละ พ่อแม่ของกลอนไม่ให้ไปไหนเลยเหรอ”

“ก็ไม่เชิงว่าไม่ให้ไป แต่เราไม่เคยขอไปไหน”

“แล้วทำไมไม่ลองขอดูละ”

“ก็..เพราะเราก็ไม่ได้อยากไปด้วยละมั๊ง”

“จากนี้ไปหนึ่งจะพากลอนออกไปพบเจอโลกอีกใบ กลอนจะได้เรียนรู้ว่าโลกใบนี้มันกว้างมากจริงๆ”

“โลกของหนึ่งเหรอ” ผมถาม เต็งหนึ่งขยับเข้ามาใกล้ผมกว่าเดิม

“ตาของกลอนสวยมากเลยนะ ขนตายาวงอนกว่าผู้หญิงบางคนอีก” เต็งหนึ่งพูดจบก็จูบที่เปลือกตาของผม ผมหลับตารับริมฝีปากของหนึ่ง หัวใจผมเริ่มเต้นแรง ทั้งตื่นเต้นทั้งเกร็งไปหมด ผมรู้ว่าการที่ยอมให้เต็งหนึ่งมาหาที่บ้านตอนที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ มันแปลว่าผมก็อยากอยู่ใกล้ชิดกับเขา เคยไหมครับ ใจหนึ่งก็ต้องการ อีกใจก็รู้สึกตลอดเวลาว่าตัวเองทำผิด

“ใช่ โลกของหนึ่ง” เต็งหนึ่งล้วงมือเข้ามานเสื้อของผม ลูบไล้แผ่นอกของผมเบาๆ ปลายนิ้วของเต็งหนึ่งเหมือนมีไฟฟ้าสถิต แตะโดนตรงไหนผมก็รู้สึกวูบวาบราวกับว่ามีไฟฟ้าแล่นผ่านมาถึงผิวกายของผม

“หนึ่ง..กลอนว่า..มันเร็วไปไหม” ผมถามเสียงสั่นและต้องกลั้นหายใจเพราะรู้สึกสะท้านหวิว ก็เต็งหนึ่งกำลังบีบปั่นยอดอกผมอยู่ ขนลุกไปทั้งตัว

“หนึ่งกำลังพากลอนไปที่โลกของหนึ่งไงครับ กลอนหลับตานะ อย่าเกร็ง ไปกับหนึ่งนะ” เต็งหนึ่งทำเสียงอ้อนผม ผมไม่ได้ตอบอะไรไป ได้แต่หันหน้าหลบสายตาเว้าวอน สุดท้ายก็ต้องกัดริมฝีปากแน่นเพราะเต็งหนึ่งดันตัวผมลงนอนกับโซฟาแล้วเลิกเสื้อของผมขึ้น ทันทีที่ปลายลิ้นของเต็งหนึ่งตวัดโดนยอดอก ร่างกายของผมก็ตอบรับความรู้สึกนั้นด้วยกระครางเบาๆ


บอกตรงๆว่าผมก็แอบแปลกใจว่าทำไมเต็งหนึ่งดูชำนาญทั้งที่ก็อายุเท่าๆกันกับผม ถึงเราจะไม่ใช่เด็กๆ แต่ผมว่าสิ่งที่เต็งหนึ่งทำกับผมเมื่อคืนหรือกระทั่งตอนนี้มันเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผมมากๆ แต่ตรงกันข้ามกันกับอีกฝายที่ดูจะรู้ไปหมดว่าควรจะทำอะไรตรงไหนที่จะทำให้ผมอ่อนระทวยได้ง่ายๆแบบนี้ เต็งหนึ่งดูดหน้าอกของผมจนผมต้องส่งเสียงออกมา ไม่ได้เจ็บปวด แต่มันทรมาน ยิ่งตอนนี้ปลายลิ้นกำลังไล่ลงไปที่หน้าท้องของผม ผมต้องบิดตัวไปมาเพราะมันเสียววูบวาบไปหมด กระดุมกางเกงของผมถูกปลด ผมพยายามจะดึงเอาไว้ก่อน แต่มือของเต็งหนึ่งก็ปัดมือผมออกเบาๆ ด้วยความชำนาญของอีกฝ่าย ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรเลยนอกจากเสื้อตัวเดียว ผมไม่กล้ามองหน้าเต็งหนึ่ง ต้องหลับตา มือก็กำหมอนอิงแน่น น่าอายมากๆ เพราะรู้ว่าส่วนนั้นของผมกำลังท้าทายเต็งหนึ่งอยู่


“สวยมากเลยกลอน ขาวน่ากินจัง”

“ไม่เอา อย่าพูด กลอนอาย” ผมรีบบอก ได้ยินเสียงหัวเราะของเต็งหนึ่ง เพียงไม่นานผมต้องสะท้านวาบเมื่อส่วนกลางของผมถูกครอบครองด้วยปากของเต็งหนึ่ง ผมกระถดหนีความทรมาน แต่เต็งหนึ่งรั้งสะโพกของผมเอาไว้

“หนึ่ง ฮื้อ..ออ อืมม” ผมทรมานจนต้องส่งเสียงออกมาเบาๆ เต็งหนึ่งทำกับส่วนนั้นของผมเหมือนมันเป็นไอศกรีมแท่งที่เขาโปรดปราณ ไม่เพียงจะลิ้มรสด้วยลิ้นที่ลากผ่านไปมาบางจังหวะก็ดูดดุนแรงๆราวกับว่าของผมจะละลายหายไป ผมต้องแอ่นอกบิดกายเพราะรู้สึกว่าในร่างกายของผมมีพายุลูกน้อยๆที่กำลังก่อนตัวเป็นพายุลูกใหญ่ในเวลาอันใกล้นี้ เสียงชื้นแฉะดังเข้ามาในหู หน้าท้องของผมหดเกร็งแล้วเสียววูบวาบ เต็งหนึ่งครอบปากลงส่วนนั้นของผมจนสุดไปถึงโคน ผมร้องครางดังพร้อมกับหอบหายใจถี่ พยายามจะผลักหัวเต็งหนึ่งออกเพราะว่าว่าอารมณ์ของผมมันกำลังจะทะลักทลายแล้ว

“หนึ่ง ออกเถอะ กลอนไม่ไหวแล้วครับ ฮื้อออ. หนึ่ง อื้อออ ฮื้มม เฮ้อ..หนึ่ง อ๊า...” ผมเหยียดตัวเกร็งแล้วปลดปล่อยออกมาในที่สุด รีบชะโงกดูเต็งหนึ่ง เห็นเขากำลังบ้วนน้ำรักของผมออกใส่ทิชชูก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ผมรีบลุกขึ้นมานั่ง ช่วยดึงทิชชูเช็ดส่วนที่ยังเปรอะเปื้อนให้เต็งหนึ่งด้วย

“ขอโทษนะ” ผมบอกเสียงอ่อย

“ขอโทษทำไม หนึ่งเต็มใจ หนึ่งอยากให้กลอนมีความสุข กลอนไม่เคยกับใครใช่ไหม” หนึ่งถามผม

“จะไปเคยกับใครเล่า” ผมแอบค้อนเต็งหนึ่ง เขาหัวเราะและดึงผมไปหอมแก้ม

“ทำให้หนึ่งบ้างได้ไหม” เต็งหนึ่งถาม ผมอึ้งไป ผมลืมไปเลยว่าเต็งหนึ่งเป็นฝ่ายทำให้ผมอยู่ฝ่ายเดียว

“แต่กลอน..ไม่เคยทำ”

“ไม่เป็นไร หนึ่งสอนให้ นะครับคนดีของหนึ่ง” เสียงเต็งหนึ่งอ้อนอีกแล้ว ผมเลยพยักหน้าให้ เต็งหนึ่งโน้มใบหน้ามาจูบผม ลิ้นเราสองคนตวัดต้อนกันไปมา ผมเริ่มจะคุ้นเคยกับการจูบของเต็งหนึ่ง เริ่มรู้ว่าควรหลบหรือรุกไล่ยังไง จากนั้นเต็งหนึ่งก็จับข้อมือของผมเอามาวางตรงส่วนกลางของเขา เขาออกแรงกดที่มือของผมให้คลึงตรงส่วนกลางของเขาที่กำลังโตจนตุงคับกางเกง

“ลองสัมผัสของหนึ่งสิครับ” หนึ่งถอนจูบมาบอกผม ผมค่อยๆถอดกางเกงของหนึ่งออก ระหว่างนั้นเต็งหนึ่งก็ซุกไซร้ที่คอของผม ผมปลดกางเกงตัวนอกออกแล้วเหลือแต่กางเกงใน เต็งหนึ่งเกี่ยวกางเกงในของตัวเองออกจนส่วนนั้นของเต็งหนึ่งดีดผึ่งออกมา ผมไม่กล้ามองเต็มๆ ได้แต่เหลือบๆมอง ก็ดูสะอาดสะอ้านดี

“ลองจับมันรูดๆดูสิ” เต็งหนึ่งบอกผม ผมทำตาม ไม่กล้ารูดแรง ผมกลัวทำเขาเจ็บ จนกระทั่งเต็งหนึ่งกุมมือผมแล้วเร่งจังหวะให้เอง

“ลองชิมดูนะครับ ค่อยๆเลีย เหมือนกลอนกำลังเลียไอติมนะครับ” เต็งหนึ่งบอก ผมไม่ได้มองหน้าเขา แต่ก็ก้มหน้าลงไป ค่อยๆแลบลิ้นแล้วแตะไปเบาๆ


จากนั้นผมก็นึกถึงสิ่งที่หนึ่งทำให้ผม ผมก็ค่อยๆทำตาม ได้ยินเสียงเต็งหนึ่งร้องซี๊ดแผ่วๆ มือของหนึ่งจับที่ศีรษะของผม ผมค่อยๆครอบลงให้ลึก แต่ทิ่มที่โคนลิ้นจนผมต้องรีบถอนออกเพราะจะขย้อน มันยังไม่คุ้น เต็งหนึ่งยิ้มให้ผม เหมือนกับจะให้กำลังใจ ผมเลยก้มลงไปทำต่อ สักพักก็เริ่มจะคุ้นเลยทำได้คล่องขึ้น เต็งหนึ่งเริ่มส่งเสียงคราง มือที่จับศีรษะผมแล้วออกแรงกดเป็นจังหวะ บางทีผมก็เกือบสำลักแต่ก็อดทน คราวนี้เต็งหนึ่งเริ่มสวนสะโพกกระแทกเข้ามา ผมหายใจไม่ทันเลยต้องใช้มือช่วย ผมออกแรงเร่งจังหวะรูดรั้งส่วนนั้นของเต็งหนึ่ง แอบมองหน้าเต็งหนึ่งก็เห็นว่ากำลังกัดริมฝีปาก ระบายลมหายใจ ไม่นานเต็งหนึ่งก็ดันผมออกแล้วใช้มือตัวเองรูดจนน้ำรักพุ่งออกมาเต็มหน้าผมเลย เต็งหนึ่งรีบหยิบทิชชูมาเช็ดให้ผม เช็ดแล้วก็ทั้งหอม ทั้งจูบปากผมจนเขาพอใจ


“กลอนมีความสุขไหม”

“อืม” ผมพยักหน้า

“นี่แค่เริ่มแรกเองนะ หนึ่งจะพากลอนไปที่โลกของหนึ่งบ่อยๆ รับรองว่ากลอนจะมีความสุขมากกว่านี้” เต็งหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจะพึงพอใจ ผมมีความสุขนะกับสิ่งที่เขาทำให้ แต่ผมนึกว่าโลกของเต็งหนึ่งคือการพาผมไปรู้จักสิ่งรอบๆตัวเขา ครอบครัว เพื่อนสนิท ไม่ใช่แค่เรื่องแบบนี้ ถึงผมจะคิด แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป

“กินข้าวกันนะ” ผมชวน เต็งหนึ่งยิ้มให้

...
..
.

เราสองคนแต่งตัวจนเรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งทานข้าวกัน เต็งหนึ่งก็ชวนผมคุย แต่คุยแต่เรื่องอย่างว่าจนผมรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ผมก็เปลี่ยนเรื่องเป็นถามเรื่องส่วนของเต็งหนึ่งบ้าง ผมก็ได้รู้เรื่องของเขามากขึ้น เขาชอบไปเล่นบอลกับเพื่อนที่สนามของวิทยาลัยพละในช่วงหลังเลิกเรียน เสาร์อาทิตย์ก็ไปห้องเช่าอัดดนตรีในตลาดเพื่อเล่นดนตรีกับเพื่อนๆในวง มีเพื่อนจากต่างโรงเรียนด้วย ผมถามเต็งหนึ่งว่าทำไมถึงได้มาชอบผม ทำไมถึงกล้าเขามาหาผม ผมดูออกว่าชอบผู้ชายเหรอ เต็งหนึ่งหัวเราะแล้วก็บอกว่าไม่มีใครดูผมออกหรอก เพราะผมนิ่งจนเหมือนรูปปั้น แต่เขาอยากเสี่ยงเพราะเก็บความรู้สึกไม่ไหวแล้ว เขากลัวผมจะมีใครไปก่อน


เรากินข้าวเสร็จ เต็งหนึ่งก็ขอผมขึ้นไปดูห้องนอน ผมพาเต็งหนึ่งขึ้นไป เขาก็ชมว่าห้องของผมสะอาดมาก ห้องเขารกมาก เต็งหนึ่งแซวว่าห้องผมหนังสือเยอะจนเอาไปสร้างกำแพงเมืองจีนได้เลย เต็งหนึ่งชวนผมคุยไปเรื่อย คุยไปคุยมากลายเป็นว่าเขามานอนกอดผมอยู่บนเตียง เราสองคนนอนก่ายกันไปมา จูบที่เร้าร้อนทำให้ผมโอนอ่อนผ่อนตามเขาไปทุกอย่าง โลมเล้าไปมาร่างกายของเราสองคนก็เปลือยเปล่า นอนเบียดเสียสีกันตามแรงอารมณ์ ช่วยกันด้วยปากและมือจนเสร็จไปรอบแล้วรอบเล่า แต่แค่นี้ผมก็เหนื่อยจนไม่มีแรง ตัวของผมแดงไปหมด มีแต่รอยจูบ รอยดูดของเต็งหนึ่ง จนเกือบสี่โมงเย็นผมถึงได้บอกว่าแม่ของผมคงใกล้จะกลับแล้ว เต็งหนึ่งถึงได้ยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระแล้วแต่งตัวกลับบ้านไป ผมได้แต่ยืนมองตัวเองในกระจก เต็งหนึ่งคือรักแรกของผม ผมไม่รู้ว่าเขาแอบมองผมมานานจริงหรือเปล่า เพราะผมเคยแต่เป็นฝ่ายแอบมองเขา ไม่เคยเห็นสายตาของเต็งหนึ่งมองกลับมาสักครั้ง แต่วันนี้เขาเป็นฝ่ายเข้ามาหาผม เพียงแค่วันเดียวเราสองคนก็ปล่อยใจให้อารมณ์นำทาง แล้วตอนนี้ผมคือแฟนของเขาใช่ไหม ผมทำอะไรได้มากกว่าเพื่อนรึเปล่า ผมไม่กล้าถามเขา แค่เขาบอกว่าคิดถึงผม อยากนอนกอดผม อยากอยู่ใกล้ๆผม ไม่อยากไปไหน ผมก็ดีใจจนหุบยิ้มแทบไม่ได้แล้ว

ผมว่า..ผมคงตกหลุมรักเต็งหนึ่งมากกว่าเดิมเสียแล้ว


ความสัมพันธ์ของผมกับเต็งหนึ่งดำเนินไป จะว่าเรื่อยๆก็เรื่อยๆ จะว่าไวก็ไว เราสองคนไม่ได้เปิดตัวว่าคบกัน ในโรงเรียน ผมก็ดำเนินชีวิตให้เหมือนทุกวัน ผมกับเต็งหนึ่งไม่เคยไปนั่งกินข้าวด้วยกัน ไม่เคยไปเดทกัน ที่โรงเรียนเราได้แต่ส่งไลน์หากัน เต็งหนึ่งป้อนคำหวานมาให้ผมได้เก้อเขินเสมอ พอตกเย็นผมก็ไปห้องสมุดและรอพ่อมารับเหมือนเดิม แต่วันไหนถ้าครูเป็ดไม่อยู่ เต็งหนึ่งถึงจะมาหาผม แล้วก็ไม่พ้นว่าเราสองคนแอบกอดจูบกันในซอกชั้นหนังมือ เต็งหนึ่งบอกว่าตื่นเต้นดี แต่ผมกลัว กลัวว่าสักวันจะมีคนมาเห็น ผมเลยให้เขาทำได้แค่จูบเท่านั้น ตกกลางคืน เต็งหนึ่งก็จะโทรมาหา แล้วก็ให้ผมช่วยเซ็กส์โฟนกับเขา เสาร์อาทิตย์ จากที่ผมเคยอยู่แต่บ้าน ก็จำต้องโกหกแม่ว่าไปหาซื้อหนังสืออ่าน แต่จริงๆแล้วเต็งหนึ่งจะมาเอารถยนต์ของพ่อมารับผม แล้วก็พาผมไปจอดที่โกดังข้าวร้าง เราสองคนใช้เบาะหลังเป็นรังรัก เขาทำให้ผม ส่วนผมก็ต้องทำให้เขาเหมือนกัน หลายต่อหลายครั้งที่เต็งหนึ่งอยากจะสอดใส่มาในร่างกายของผม แต่ผมไม่ยอม เหมือนวันนี้ก็เช่นกัน เราสองคนมาอยู่ที่โรงสีร้าง เต็งหนึ่งกำลังพยายามใช้ปลายลิ้นโลมเร้าที่ช่องทางด้านหลังของผมอยู่


“หนึ่ง กลอนไม่เอานะ” ผมรีบบอก

“ทำไมละครับ เราก็คบกันมาเดือนนึงแล้วนะ กลอนไม่อยากมีความสุขเหรอ”

“ความสุขของกลอน แค่มีหนึ่ง กลอนก็มีความสุขนะ” ผมบอก เต็งหนึ่งขยับตัวขึ้นมาจูบผม นิ้วของเต็งหนึ่งก็กำลังพยายามจะดันเข้าไปที่ช่องทางของผม ผมรีบดึงมือของเต็งหนึ่งออก

“ทำไมละกลอน รังเกียจหนึ่งเหรอ”

“มันไม่ใช่แบบนั้น แต่กลอนยังไม่อยากไปถึงขั้นนั้น”

“ทำไมละ หนึ่งต้องการ หนึ่งขอนะ กลอนเป็นผู้ชาย ไม่ท้องหรอก จะกลัวอะไร” เต็งหนึ่งดูเหมือนจะไม่พอใจ

“กลอนใช้ปากให้นะ นะครับ” ผมร้องขอ

“หนึ่งอยากให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน หนึ่งอดทนไม่ได้แล้ว” เต็งหนึ่งบอกพร้อมกับจับผมให้นอนคว่ำ ผมดิ้นแล้วพลิกตัวกลับ รีบคว้ากางเกงกับเสื้อมาใส่ เต็งหนึ่งเห็นแบบนั้นก็ชักสีหน้าใส่ผมทันที

“กลอนขอกลับบ้านก่อนนะ” ผมบอก

“ทำไมละกลอน กลอนไม่ได้รักเราเลยใช่ไหม ถ้าคนรักกันเขาต้องยอมกันได้”

“ถ้าคนรักกันเขาต้องอดทนได้เหมือนกัน” ผมเถียง

“นี่กลอนหาว่าเราไม่ได้รักกลอนเหรอ”

“แล้วหนึ่งรักกลอนรึเปล่าละ กลอนยังไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากหนึ่งเลย มีแต่ชวนนอนแล้วก็ทำเรื่องแบบนี้”

“อ๋อ จะบอกว่าฝืนใจเหรอ แล้วที่ครางกระเส่านี่ไม่ชอบใช่ไหม”

“หนึ่ง ทำไมพูดแบบนี้”
“กูจะพูด มึงไม่พอใจก็กลับไปเอง” หนึ่งตวาดผม ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเลย ความน้อยใจ ความเสียใจทำให้ผมตัดสินใจหยิบกระเป๋าแล้วเดินลงจากรถ

ผมเดินออกมานอกโกดังข้าว แถวนี้ไม่มีรถผ่าน ผมจะกลับยังไง เสียงรถของหนึ่งดังตามมา แต่แล้วมันก็ผ่านเลยไป เขาทิ้งผม ทิ้งให้ผมกลับบ้านเอง น้ำตาของผมไหลออกมาทันที เขาทำแบบนี้ได้แปลว่าเขาไม่มีเยื่อใยเลย รู้ว่าโกรธ แต่ทำกันแบบนี้ได้ ผมว่าคงไม่ใช่คนที่มีความรักให้กัน ผมตัดสินใจไปนั่งร้องไห้ในตู้โทรศัพท์สาธารณะจนพอใจ จากนั้นผมก็โทรศัพท์ไปหาเด่น รอไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเด่นก็เอารถกระบะของแม่เด่นมารับผม เด่นไม่ได้ถามอะไรผม ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนกระทั่งถึงบ้านของเด่น ผมถึงได้รู้ว่าเด่นยังไม่ได้ไปส่งผมที่บ้าน

“มึงไปล้างหน้าก่อนเลย ตาแดงขนาดนี้ กลับไปแม่มึงถามแน่” เด่นบอกผม

“ขอบคุณนะ” ผมบอกมัน มันพยักหน้าให้ พ่อแม่ของเด่นไม่ค่อยอยู่บ้าน บ้านเด่นค่อนข้างมีฐานะมากๆ แต่มันไม่ค่อยอวดว่าตัวเองรวย ติดดิน แต่เจ้าชู้มาก ผมเจอมันแต่ละที แฟนมันไม่เคยซ้ำหน้าเลย ผมกับเด่นรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจนเราแทบไม่ต้องพูดกันก็รู้ว่าคิดอะไร ผมอยู่ชมรมบรรณารักษ์เพราะชอบหนังสือ แต่มันนี่สิ ตามมาสมัครด้วยเพราะเหตุผลที่ว่า มันจะได้ไม่ต้องทำอะไร ให้ผมทำแทนมัน มันจะได้มีเวลาไปจีบหญิง

“เออ แล้วเดียวกูไปส่ง กูนัดน้องยิ้มเอาไว้ด้วย” เด่นบอก มันไม่ถามผมจริงๆว่าผมเป็นอะไร คงรู้ว่าผมไม่อยากพูด ผมยังไม่อยากกลับบ้านในตอนนี้ โกหกแม่ว่าจะกลับตอนสองทุ่ม เพราะจะไปนั่งอ่านหนังสือที่ร้านหนังสือ

“ไปส่งเราที่ร้านหนังสือแล้วกัน ยังไม่อยากกลับบ้าน”

“อีกแล้ว ร้านหนังสืออีก ไม่ต้อง ไปดูหนังกับกู”

“แต่เด่นไปกับแฟน จะเอาเราไปทำไม”

“เอามึงไปเปิดหูเปิดตาบ้าง มึงไม่ต้องโกหกแม่ละ โทรไปบอกแม่มึงว่าอยู่กับกู” เด่นสั่งผม ผมเลยต้องทำตามที่มันบอก โทรไป แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร มีบ่นๆนิดหน่อยว่าผมออกจากบ้านบ่อยไปแล้ว


ผมมาถึงที่หน้าโรงภาพยนตร์ เด่นมันไปซื้อตั๋วหนังให้ ผมเลยไปเข้าห้องน้ำ รู้สึกปวดท้อง ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำที่เป็นห้อง ไม่ชอบยืนฉี่ที่โถด้านนอก เข้าไปได้ไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงคนหัวเราะและคุยกัน ผมว่าผมจำได้ว่าเป็นเสียงของเต็งหนึ่ง


“มึงหายไปไหนมาวะไอ้หนึ่ง พักนี้มึงแว๊บบ่อย มีกิ๊กละสิมึง กูจะฟ้องน้องนิว”

“ฟ้องดิ น้องนิวไม่กล้าโกรธกูหรอก เจอลิ้นกูก็ยอมหมด”

“มึงแม่งเชี้ย กิ๊กมึงใครวะ กูเห็นมึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ทุกที เด็ดไหมวะ”

“เด็ดไรวะ โคตรอ่อน ที่เอาเพราะน่าเอา อยากลอง จะว่าไปก็เด็ดนะ แต่เล่นตัว แม่ง กูว่าจะทิ้งแล้ว เบื่อ”

“เขาไม่ให้มึงเอาละสิ”

“ไม่ต้องถามมา หงุดหงิด ไปเหอะ เดี๋ยวมึงไปนั่งห่างกูหน่อยนะ กูอยากลองในโรงหนังกับนิวหน่อย”

“มึงแม่งสุดยอดไอ้หนึ่ง ระวังโดนแอบถ่ายนะมึง”

“ไม่กลัวโว้ย”


เสียงของเต็งหนึ่งเงียบไปแล้ว ผมยืนตัวสั่นใจสั่นอยู่ ผมรู้สึกว่าใจของผมกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมไม่โทษเต็งหนึ่งเลยบอกตรงๆ ผมโทษตัวเองเพราะผมมันง่ายเอง เขาแค่มาบอกชอบก็ยอมให้เขาเข้าหาถึงเนื้อถึงตัวง่ายๆ ถึงผมจะเป็นผู้ชาย แต่ผมก็มีศักดิ์ศรี ผมทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองไปแล้ว ผมได้ยินเสียงของเด่นมาเรียกผม ผมไม่ได้ร้องไห้ แต่รู้ตัวว่าคงไม่มีอารมณ์จะดูหนังพอออกมาก็เลยบอกเด่นว่าผมปวดท้องอยากกลับบ้าน เด่นเลยบอกว่าจะไปส่ง ผมเกรงใจมัน มันนัดแฟนมาดูหนังเลยบอกว่าเดี๋ยวจะให้พ่อมารับ มันถึงยอม ผมนั่งรถเมล์กลับถึงบ้านด้วยจิตใจหม่นหมองสุดๆ ต้องขอบคุณโลกของหนึ่งที่อยากให้ผมได้รู้จัก ผมได้รู้จักแล้ว โลกที่ไม่มีความจริงใจ โลกที่ใจร้ายกว่าที่ผมจะคิดถึง ผมอ่อนเกินไปจริงๆ อ่านหนังสือมาตั้งมากมาย แต่ก็ไม่รู้เท่าทันคน ผมควรออกจากโลกที่เคยเป็น ออกจากการเป็นดักแด้เสียที


วันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านไป อีกอาทิตย์เดียวผมก็ต้องไปข้าค่ายที่เขื่อนรัชชประภา ซึ่งมีชมรมของเต็งหนึ่งไปด้วย ผมพยายามไม่คิดถึงแต่ก็ยังอดไม่ได้ แอบร้องไห้จนสงสารตัวเอง เห็นสภาพตัวเองแล้วก็พาลสงสารไปถึงพ่อกับแม่ ท่านเลี้ยงผมมา คงไม่ต้องการให้ผมไปร้องไห้ให้ใคร ผมตัดสินใจนับหนึ่งใหม่ ก็แค่คนๆหนึ่งที่เดินเข้ามาเป็นบทเรียน บทเรียนที่ผมจะจำมันเอาเพื่อสอนตัวเอง


“กลอน วันนี้จะมีครูฝึกสอนมาสอนสองคน หญิงคนชายคน เห็นไอ้จุ้ยมันบอกว่า ครูผู้หญิงแจ่มมากมึง” เด่นทำหน้าตื่นเต้น ผมก็ได้แต่ขำมัน รู้สึกว่าผู้หญิงทุกคนก็แจ่มสำหรับมันหมด

“จะเล่นของสูงเหรอ” ผมถามมัน

“เล่นได้ก็ดี เฮ้ย..ไม่ใช่ละ หาเรื่องให้กูแล้วไง”

“กลอน” เสียงของใครบางคนเรียกผม ผมกับเด่นหันไปดูก็เห็นเต็งหนึ่งมายืนอยู่

“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ” เต็งหนึ่งพูดต่อ เด่นหันมามองหน้าผม ผมทำหน้าเฉยๆไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

“งั้นเดี๋ยวกูมา” เด่นบอกผม ผมพยักหน้าให้มัน พอเด่นเดินออกไปแล้วเต็งหนึ่งก็เข้ามานั่งตรงกันข้ามกับผม

“กลอน หนึ่งขอโทษนะ หนึ่งกลับไปคิดๆดูแล้ว หนึ่งผิดเองที่ไม่รู้จักอดกลั้น กลอนคงตกใจใช่ไหม หนึ่งแค่รักกลอนมาก มันมากจนอยากให้ครอบครองทั้งกายทั้งใจ” เต็งหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆเหมือนเคย แต่ผมกลับรู้สึกรังเกียจคำพูดและท่าที่เสแสร้งนั้นจับใจ

“แค่นี้ใช่ไหมที่อยากพูด” ผมถาม พร้อมกับลุกเก็บการบ้านใส่กระเป๋า

“ยังโกรธหนึ่งเหรอ ขอโทษนะครับคนดี”

“อย่าพูดอีกเลยหนึ่ง พอเถอะ อย่ามายุ่งกับเราอีก เราขอร้อง” ผมพูดจบก็เดินหนีไปเลย เต็งหนึ่งไม่ได้ตามผมมาหรอก ในโรงเรียนเขาคงไม่กล้า กลัวคนจะรู้ว่าดาวโรงเรียนเป็นเกย์ ตกเย็นผมก็ไปที่ห้องสมุดเหมือนทุกที คราวนี้ครูเป็ดไม่อยู่ ให้ผมช่วยเก็บหนังสือและล็อกห้องให้ ผมเก็บหนังสือเสร็จก็เห็นเต็งหนึ่งมานั่งรออยู่

“กลอน ดีกันนะ หนึ่งผิดไปแล้ว นะครับ หนึ่งจะไม่ทำแบบนั้นอีก” เต็งหนึ่งดึงผมให้เดินเข้าไปในซอกชั้นหนังสือ ผมสะบัดมือ แต่สะบัดไม่ออกเพราะเต็งหนึ่งจับเอาไว้แน่น

“หนึ่ง เราได้ยินหมดแล้วที่หนึ่งพูดที่โรงหนัง หนึ่งมีแฟนแล้ว หนึ่งแค่อยากลอง เราเล่นตัว หนึ่งเบื่อยากเลิกกับเรา เลิกเสแสร้งได้แล้ว พอเถอะ ต่างคนต่างอยู่ เราไม่ใช่แค่ที่ระบายตัณหาให้หนึ่งนะ” ผมพรั่งพรูออกมาทั้งน้ำตา ที่คิดว่าจะไม่ร้องก็อดกลั้นไม่ได้ มันเจ็บ เสียใจ ผมแค่คิดว่า ถึงเราสองคนจะต้องแอบคบกัน ผมก็พร้อมจะยอมรับให้ได้ เพราะสังคมของเราสองคนจำต้องทำแบบนั้น แต่ไม่ใช่เก็บผมเอาไว้เพราะเขามีแฟนออกนอกหน้าแล้ว เขาแค่อยากลองเรื่องเซ็กส์กับผู้ชาย ผมเป็นแค่ตัวทดลอง

“กลอน..”

“อย่าให้ต้องเกลียดกันมากไปกว่านี้เลย” ผมบอกแล้วสะบัดมืออกจากการจับกุม หนึ่งยืนมองผม ก่อนจะกระชากเสื้อนักเรียนผมออกจากกางเกง ผมตกใจมาก หนึ่งจู่โจมจูบผม มือของหนึ่งก็ขยำที่เป้าของผม ผมไม่ได้รู้สึกดีเลย ผมดิ้นแต่ไม่กล้าร้องให้คนช่วย มันน่าอาย ผมกลัวและอาย

“หนึ่ง ปล่อย หนึ่ง ไม่เอานะ อย่าทำแบบนี้” ผมร้องไห้ บอกหนึ่ง อยากให้เขามีสติ แต่ไม่ได้ผล หนึ่งกัดปากผมจนผมเจ็บ รู้สึกได้รสชาติของเลือด หนึ่งจับผมกดลงไปนอนที่พื้นห้อง พลิกให้ผมนอนคว่ำ ปลดกางเกงผมออก ผมดิ้นไปดิ้นมา แต่สู้แรงหนึ่งไม่ได้จริงๆเขาใช้ตัวกดทับผม ผมจะร้องหนึ่งก็อุดปากผม หนึ่งใช้เข่าแยกขาผมออก ผมดิ้นสุดตัวจนหนึ่งล้มไปชนชั้นหนังสืออย่างแรง เต็งหนึ่งเงื้อมือจะต่อยผม แต่มีคนมาดึงเต็งหนึ่งจนเต็งหนึ่งหงายหลังไป ผู้ชายคนหนึ่งกระชากคอเสื้อเต็งหนึ่งขึ้นมาแล้วทำท่าจะต่อย

“จะให้แจ้งความไหม” เขาถามผม ผมรีบส่ายหน้าก่อนจะดึงกางเกงขึ้นมาใส่

“อย่ามายุ่งกับเราอีก” ผมบอกเต็งหนึ่งแบบไม่มองหน้าเขา ผู้ชายคนนั้นปล่อยคอเสื้อเต็งหนึ่งแล้วทำหน้าดุใส่ เต็งหนึ่งรีบวิ่งออกไปจากห้องสมุด ผมรีบลุกขึ้นมา ยกมือไหว้ขอบคุณ ทั้งที่รู้สึกอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ผู้ชายคนนั้นก้มลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือของผมมาส่งให้ผม

“เป็นอะไรรึเปล่า” เขาถาม ผมส่ายหน้า

“อย่าบอกใครได้ไหมครับ” ผมบอก

“ไม่ใช่เรื่องน่าบอก”

“ขอบคุณมากครับ” ผมบอกเขา เขาพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกไป น่าจะเป็นผู้ปกครองของใครสักคน แต่ยังดูอายุไม่เยอะเท่าไหร่เลย ผมไม่รู้ว่าเขาจะไม่บอกใครจริงหรือเปล่า ถ้าบอกไปผมคงทนอยู่ที่นี่ไม่ได้ ผมนึกสงสารพ่อกับแม่ รู้สึกผิด ผมทำให้ท่านผิดหวัง

“เฮ้ย ไอ้กลอน พ่อมึงเขาโทรหามึงไม่ได้ เขาบอกโทรมามึงปิดเครื่อง ดีนะกูยังไม่กลับเลยแวะมาดู แล้วทำไมเสื้อผ้ามึงเป็นอย่างนั้นวะ” เด่นที่เดินเข้ามาตอนที่ผมจะล็อกห้องสมุดพอดี ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาดูพบว่ามันดับสนิทสงสัยตอนหล่นแน่ๆ

“ดับอะ แบตหมดแน่เลย” ผมบอก

“แล้วทำไมเสื้อมึงยุ่งอย่างนั้นวะ”

“แอบหลับน่ะ” ผมปดไป เด่นพยักหน้า ก่อนจะทำท่าทางตื่นเต้นอีกรอบ แล้วหยิบโทรศัพท์ของมันมาให้ผมดู

“เออ แสดงว่ายังไม่เห็นคลิปนี้ ดูๆเลยมึง” เด่นกดเปิดคลิปให้ผมดู ผมเห็นแล้วตกใจมาก เพราะเป็นคลิปของหนึ่งในโรงภาพยนตร์ กำลังถูกผู้หญิงคนหนึ่งก้มลงไปก้มๆเงยๆที่เป้า ดูก็รู้ว่ากำลังทำอะไร ในคลิปเห็นหน้าหนึ่งชัดเจน

“คลิปหลุดเหรอ” ผมถาม

“เออดิ แล้วมันมาหามึงทำไมเมื่อบ่ายอะ”

“อ๋อ มาถามเรื่องหนังสือ” ผมรีบหลบตาเด่น แต่ดูเด่นไม่ติดใจสงสัยอะไร

“ตอนนี้คลิปแพร่ไปทั่วเลยมึง พรุ่งนี้ได้ดังแน่” เด่นบอก ผมนึกเห็นใจหนึ่งนะ แต่สงสารผู้หญิงมากกว่า ดีที่ไม่ค่อยเห็นหน้า ถ้าในคลิปนั่นเป็นผม ผมคงตายแน่ๆ นี่ก็เป็นอีกบทเรียนของผม วัยที่ใช้อารมณ์นำพา อารมณ์มาเหนือความถูกผิดทั้งหมด

“สงสารเขานะ” ผมบอก

“เฮ้อ พ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนวะแบบนี้ ไปกันเถอะ พ่อมึงให้กูไปส่งมึง เขาติดงานสำคัญ” เด่นบอก ผมพยักหน้าแล้วเดินตามเด่นไป นึกแปลกใจเหมือนกัน ปกติถ้าพ่อมารับไม่ได้แม่ก็จะมา แต่ท่านทั้งคู่คงไม่ว่างจริงๆ


สรุปว่า ข่าวของเต็งหนึ่งแพร่สะพัดไปไวมากในโลกโซเชียล เต็งหนึ่งไม่ได้มาที่โรงเรียนอีก ผมได้ข่าวว่าพ่อแม่ของเต็งหนึ่งมาลาออกให้ แล้วก็ให้เต็งหนึ่งไปเรียนที่เมืองนอก ผมก็ไม่ได้เจอกับเต็งหนึ่งอีกเลย เรื่องของผมกับเต็งหนึ่งจบลงแบบไม่น่าประทับใจเลยสักนิด แต่ผมก็จำเขาได้แม่นยำ เขาเป็นคนแรกที่ก้าวเข้ามาในโลกเรียบๆของผม พาผมไปสู่โลกที่ผมไม่คุ้นเคยเลยสักนิด ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ความรักอย่างที่ผมเคยนึกฝัน แต่ผมก็ยอมรับว่าเวลาสั้นๆ ในมุมที่เจ็บปวดนั้น ผมก็มีความสุขจริงๆ ทั้งทางกายและทางใจ เต็งหนึ่งจะเป็นบันทึกหน้าแรกที่ผมจะเขียนถึงและจะขอบคุณที่ทำให้ผมกล้าที่จะก้าวออกมาจากโลกใบเดิม


*************โปรดติดตามตอนต่อไป*************

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ คือเรื่องนี้อาจจะมีบทเรทๆเยอะหน่อย แต่มันมีที่มาที่ไหม เป็นเรื่องของคนๆหนึ่งที่อยากออกจาก
โลกใบเดิม แต่เดินออกมาก็เจอกับบทเรียนมากมาย มีทั้งดีไม่ดี ทุกอย่างมันทำให้เขากลายเป็นใครอีกคนที่ต่างจากเดิม
มันทำให้เขาคิดว่า รักกับเซ็กส์มันต้องมาด้วยกันเสทอเลยรึเปล่า สาระมาก!! 5555 แต่มีพระเอกนะเออไม่ใช่ไม่มี 555


 :hao3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2015 16:30:40 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โอ้โห. รักครั้งแรกก็เจ็บถึงขนาดนี้แล้ว. แต่ยังมีจุดดีอยู่นะ. กลอนโชคดีที่มีเพื่อนดีแถมใจแข็งอีก
ไปไกลๆไปเหอะหนึ่ง. เลวจริง
เป็นกำลังใจให้กลอนและคนเขียนจ้า

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อิเห้หนึ่ง! อิเลววว! อย่ากลับมาอีกนะ!
ดีใจที่เรื่องนี้มีพระเอก แหะๆ
คนที่มาช่วยคือครูผู้ชายคนใหม่ป่ะ?

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
คิดอยู่แล้วเชียว

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0

ออฟไลน์ ziqh.leo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ก้ว่า.. มาวันแรกก็รุกซะ!
ดีแล้วแหละ กลอน ที่ยังไม่ให้หนึ่งไป..
แต่กลอนเข้มแข็งมากนะ
รอตามตอนต่อไปนะคะ ขอให้เจอรักดีๆ เร็วๆน้า..  :katai2-1:

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เข้ามาอ่านตามชื่อเรื่องเลยคับ พออ่านไปอ่านมาผู้เขียนบอกเขียนจากประสบการณ์จากคนจริงๆ มันยิ่งน่าอ่านคับ ชอบมาก ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ รอ รอ รอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
กำลังนึกอยู่เลยว่ามันเร็วเกินไป  วันแรกก็ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว  อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากว่ากลอนยังหลวมตัวต่อไป คลิปที่หลุดอาจจะเป็นของกลอนก็ได้

หวานอมขมกลืนทีเดียวกับรักแรก

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บันทึกหน้าที่สอง รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอน 1)


เรื่องของเต็งหนึ่งค่อยๆหายไปจากความคิดของผม ก็คงเป็นธรรมชาติของเวลาที่มักจะนำพาใครบางคนออกไปชีวิตเราเพราะความห่างไกล และคงเพราะอะไรอีกหลายๆอย่าง ทั้งการเรียน ทั้งกิจกรรมทำให้ผมมีเวลาน้อยลงที่จะมานั่งคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันทำให้ผมเลิกเจ็บปวดไปเองแบบไม่ได้ฝืน ผมก็ยังคงเป็นเด็กเรียนในสายตาของเพื่อน ครูและคนครอบครัว ยังเป็นคนที่พูดน้อยและไม่ค่อยได้ออกไปไหนเหมือนเดิม แต่มีเรื่องหนึ่งที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าคงไม่มีวันให้ใครได้รู้ด้านนี้ของผม ผมสมัครเข้าไปเป็นสมาชิกในเว็บชายรักชายที่ผมเคยได้ยินเพื่อนที่เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์คุยกันที่โรงเรียน ผมตัดสินใจอยู่นานมาก บอกตรงๆว่ากลัวโดนจับได้ กลัวไปสารพัด แต่สุดท้ายผมก็แพ้ตัวตนและความต้องการของตัวเอง ผมอยากรู้ว่าโลกอีกใบที่มีคนเป็นเหมือนกันกับผมมันเป็นยังไง


..ทำอะไรกันอยู่..


ข้อความจากไลน์เด้งขึ้นมา ผมกดเปิดอ่าน ไลน์กรุ๊ปนี้ผมได้มาจากเว็บบอร์ดชายรักชายที่ผมเข้าไปสมัครเป็นสมาชิก ผมเข้าไปเล่นได้สักพักใหญ่แล้วถึงได้รู้ว่าเขามีไลน์กรุ๊ปเอาไว้คุยกัน ซึ่งบางคนก็ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง หลายคนก็ไม่เปิดเผยตัวเอง ผมก็เป็นหนึ่งในหลายคนนั้น ผมใช้นามแฝงว่า หนอนหนังสือ ไลน์ไอดีของผมอันนี้มาจากการเปิดเบอร์ใหม่ของผม ไม่ใช่ไลน์ที่ผมใช้ในชีวิตประจำวัน และคนที่พิมพ์เมสเสจเข้ามาก็คือ บุ้ง บุ้งเป็นคนที่เข้ามาคุยในกรุ๊ปนี้บ่อยที่สุด บุ้งอายุเท่ากับผม เปิดเผยหน้าตา บุ้งบอกว่าก็ไม่ได้ปิดอะไร แต่ก็ไม่ได้เปิด บุ้งมีเพื่อนที่เป็นเกย์ กระเทยเยอะแยะ ถ้าอยู่กับเพื่อนบุ้งจะแสดงความสาวออกมาเต็มที่ แต่ถ้าบุ้งอยู่กับแม่ บุ้งจะวางตัวเฉยๆ ผมเคยถามว่าแม่รู้ไหม บุ้งก็บอกว่าคงจะรู้ แต่เมื่อแม่ไม่พูดไม่ถาม บุ้งก็ไม่บอกและไม่แสดงท่าทางกระตุ้งกระติ้งให้แม่อึดอัดใจ เหมือนกับว่า พบกันครึ่งทาง บุ้งถือว่าเป็นเพื่อนเกย์จากโลกโซเชียลที่ผมสนิทที่สุด ผมได้รู้อะไรหลายๆอย่างจากบุ้ง บุ้งเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาแรง แต่ก็แรงกับคนที่แรงมาก่อน


..กำลังช่วยตัวเองว่ะ ฮ่าๆๆ..


คนที่ตอบไลน์บุ้งคนแรกคือพี่นาย พี่นายบอกว่าเขาเป็นลูกคนจีน ครอบครัวไม่รู้ว่าเป็นเกย์ พี่นายมีแฟนที่รักกันมา 5 ปีแล้ว ถึงพี่นายจะบอกว่ารักแฟนมาก แต่ผมก็เห็นว่าพี่นายก็หยอดหลายๆคนในกรุ๊ปนี้ เหมือนหมาหยอกไก่ ทีเล่นทีจริง แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าถ้ามีคนตอบรับพี่นายจริงๆ พี่นายจะเล่นด้วยรึเปล่า ผมเพิ่งเข้ามาใหม่ ก็ได้แต่แอบสังเกตนิสัยของแต่ละคนผ่านตัวหนังสือเท่านั้น


..ว้าย ให้ช่วยไหมคะพี่นาย.. บุ้งตอบกลับมา
..เปิดกล้องเลยนาย..


คนที่ตอบต่อจากบุ้งก็คือพี่ระเบิด เป็นนามแฝง พี่ระเบิดก็ไม่ได้เปิดเผยหน้าตา ผมรู้มาจากบุ้งว่า พี่ระเบิดเล่นมานานแล้ว บุ้งบอกว่าพี่เขารวยมากๆ ผมถามว่ารู้ได้ยังไงในเมื่อเขาไม่เปิดเผยตัว บุ้งเลยบอกว่า บุ้งเคยเจอพี่ระเบิดครั้งหนึ่ง ทั้งหล่อทั้งรวยจนน้ำเดิน มดลูกตีบตัน คำของบุ้งทำให้ผมขำ แต่ยุ้งก็บอกกับผมว่า ห้ามขอดูรูปพี่ระเบิด เพราะบุ้งไม่มีวันผิดสัญญา ผมก็ไม่ได้คิดจะขออยู่แล้ว เพราะผมเองเข้าใจว่าบางทีเขามีความจำเป็น เรื่องแบบนี้ต้องเซฟตัวเองเอ่ไว้ก็ไม่เสียหลาย แต่พี่ระเบิดต้องไว้ใจบุ้งมาก ถึงได้ยอมให้รู้จักตัวตนที่แท้จริง ดีไม่ดีอาจจะเคยกิ๊กกันก็ได้


..อยากเห็นมาที่ห้องสิครับระเบิด.. พี่นายตอบ บุ้งบอกว่าพี่นายเป็นรุก พี่ระเบิดก็เป็นรุก คงตลกดีเหมือนกันถ้าสองคนนี้กิ๊กกัน ผมอ่านแล้วก็แอบยิ้ม บอกตรงๆว่าผมรู้สึกสบายใจเมื่อเข้ามาอยู่ตรงนี้
..อยากร่วมด้วยช่วยกันจัง..

คนที่เข้ามาพิมพ์ประโยคล่าสุดคือพี่แนนซี่ บุ้งบอกว่าชื่อเดิมของพี่แนนซี่คือแหนม แต่อัพเกรดมาเป็นแนนซี่เพราะได้แฟนฝรั่ง พี่แนนซี่เรียนอยู่ปีสี่แล้ว มีโครงการจะผ่าตัดแปลงเพศเมื่อเรียนจบ โดยมีแฟนฝรั่งเป็นคนออกทุนให้ พี่แนนซี่เป็นคนตลก มีอะไรแปลกมาเล่าให้พวกเราได้ขำกันตลอด เป็นคนที่ทะลึ่งทะเล้นมากๆ คุยเรื่องปกติให้ติดเรทได้ตลอด แต่ผมชอบนะ เวลาพี่เขาเข้ามาคุยผมได้หัวเราะคนเดียวอยู่หน้าจอโทรศัพท์ตลอด ผมเป็นน้องใหม่ ยังไม่ค่อยกล้าคุย แต่พี่แนนซี่ก็จะคอยมาแซวมาชวนผมคุยด้วยตลอด เป็นคู่หูกับบุ้งเลย ถ้าลองสองคนนี้ได้คุยกันต้องติดเรท


..แหมพี่แหนม เจอบิ๊กไบท์ของแฟนพี่ ให้พี่นายกับพี่ระเบิดรวมตัวกันยังยังเหลือพื้นที่ไหม.. บุ้งพิมพ์กลับมา
..กรี๊ด อิบุ้ง หนึ่งอย่าเรียกกุว่าแหนม ตบปากเดี๋ยวนี้ สอง กุพร้อมรับทั้งกองทัพเพื่อความรวดเร็ว กุใจบุญนะยะ..
..ฮ่าๆๆ ผมไม่เชื่อ ขอลองก่อนนะน้องแนนซี่..
พี่นายตอบกลับมา พี่นายกับพี่ระเบิดทำงานแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมบอกอายุ แต่บุ้งบอกผมว่าวัยกำลังน่ากิน
..นี่ไอ้หนอนแอบอ่านอยู่ละสิ เด็กน้องของพี่ ใจแตกรึยังจ๊ะ.. พี่แนนซี่ทักผม มันคงขึ้นจำนวนคนอ่าน
..ฮ่าๆ ร้าวนิดๆแล้วครับ.. ผมตอบกลับไป
..ถ้าร้าวเดี๋ยวพี่ปะให้นะครับน้องหนอน อยากเห็นหนอนน้องจัง เอ้ย น้องหนอนจัง.. พี่นายพิมพ์กลับมา
..ตลอดอะพี่นาย เมื่อกี้ยังอยากลองน้องแนนซี่อยู่เลย..  พี่แนนซี่พิมพ์มา
..รอหนอนลอกคราบเป็นผีเสื้อก่อนเถอะ จะมีแต่คนหลงรัก.. คราวนี้บุ้งพิมพ์มาบ้าง
..มึงเห็นหน้าน้องหนอนแล้วเหรอบุ้ง..


คนที่พิมพ์ประโยคล่าสุดคือพี่ปอง พี่ปองเรียนหมอ อยู่ปีสี่ มหาวิทยาลัยชื่อดังอยู่เหมือนกัน พี่ปองเคยแอบทักแยกมา ทีแรกก็ชวนคุย หลังๆมาก็จีบผมเลย จีบทั้งที่ไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่ผมไม่ได้ตอบรับ ผมคุยกับพี่เขาเหมือนคุยกับเพื่อน ผมว่าพี่เขาก็คงรู้ ผมไม่ได้อยากมาหาแฟนในนี้ แค่อยากมีโลกอีกใบที่ผมสามารถเป็นได้อย่างที่ผมเป็น ขนาดเต็งหนึ่งที่เห็นหน้ากัน ผมยังเจอแบบนั้น แล้วผมจะรักคนที่ไม่รู้จักกันได้ยังไง แต่ผมก็ไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งบุ้งว่าพี่ปองมาจีบผม


..เห็นแล้ว โคตรน่ารัก.. บุ้งตอบ ผมตกใจเหมือนกันที่บุ้งตอบแบบนั้น หรือบุ้งจะรู้ว่าผมคือใคร
..ไรวะ เอามาดูบ้างดิ๊ พี่น้อยใจนะน้องหนอน ไหนว่าขอให้รู้จักกันมากกว่านี้ค่อยให้ดูรูปไง.. พี่ปองพิมพ์มา
..มึงก็ไปเชื่อไอ้บุ้งมัน เรามีข้อตกลงกันแล้วไง ว่าจะไม่ยุ้งเรื่องส่วนตัวกันถ้าเจ้าตัวไม่ยินยอม.. พี่ระเบิดพิมพ์มาบ้าง พี่ระเบิดดูเป็นผู้ใหญ่เสมอ ผมก็แอบประทับใจนิสัยพี่เขานะ ทุกคนก็ดูจะเกรงใจพี่ระเบิดด้วย
..ฮ่าๆๆ จริง เชื่อบุ้งไข่เหี่ยวนะพี่ปอง..  พี่แนนซี่พิมพ์แซวมา
..ก๊ากกก ไหน ดูหน่อย เหี่ยวรึยัง.. บุ้งพิมพ์
..เชี้ยแหนม เดี๋ยวเอาไข่เหี่ยวๆยัดปากเลย.. พี่ปองพิมพ์มา แล้วทุกคนในกรุ๊ปก็พิมพ์เลขห้ายาวเป็นพรืด
..ว้ายยยย แบ่งคนละใบนะพี่แนนซี่.. บุ้งพิมพ์ตอบ ผมก็นั่งขำอยู่เหมือนกัน
..ดูอันนี้ยัง แม่ง กูดูแล้วตั้งเลย ใหม่ล่าสุด น้องหนอนยังเด็ก ห้ามดูนะครับ ส่วนอิบุ้งดูได้ เพราะหน้ามันล้ำอายุจริงแล้ว..


มาอีกคนแล้วครับ คนที่พิมพ์มาล่าสุดก็คือพี่กร ชื่อเหมือนผม แต่เขียนไม่เหมือนกัน พี่กรก็ทำงานแล้ว มีแฟนแล้ว แต่แฟนพี่กรเป็นผู้หญิง พี่กรเป็นไบเลยไม่เปิดเผยหน้าตา พี่กรกลัวว่าแฟนจะจับได้ ผมก็ไม่เข้าใจนะ พี่กรบอกว่ารักแฟนมากๆ แต่ก็อยากมีเซ็กส์กับผู้ชาย ผู้ชายทำให้พี่กรถึงกว่า แต่พี่กรไม่อยากคบกับผู้ชาย นี่ก็เป็นอีกความรู้หนึ่งที่ผมได้รู้จากที่นี่ ผมไม่รู้ว่ามีคนแบบพี่กรด้วย หลังจากที่ผมรู้ตัวว่าผมชอบผู้ชาย ผมก็ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับผู้หญิงเลย ยิ่งตอนที่ผมถูกเต็งหนึ่งปลดเปลื้องอารมณ์ให้ ผมยิ่งไม่รู้สึกว่าตัวเองมีความต้องการเลยเวลาดูหนังโป๊ผู้ชายกับผู้หญิงมีอะไรกัน นี่แหละครับที่บอกว่าผมได้ก้าวออกมาจากโลกใบเดิม จากเด็กดีที่เอาแต่เรียน ตอนนี้ผมดูหนังโป๊ชายรักชายที่ได้จากพี่ปองบ่อยๆ ผมช่วยตัวเอง ผมนึกถึงแต่ร่างกายของผู้ชาย ผมปลดเปลื้องอารมณ์ตัวเองบ่อยๆเวลาเครียดจากชีวิตประจำวัน ผมเหมือนคนสองคนที่อยู่ในร่างเดียว


..อ้าว เงียบกันหมด ส่งของทีไรหายไปดูกันหมด ไม่มีขอบคุณกันเลย.. พี่กรพิมพ์มาอีกรอบหลังจากส่งลิงค์หนังโป๊ให้แล้ว
..อยู่ ทำงานไปด้วย ยังไม่เลิกงานโว้ย.. พี่นายพิมพ์มา
..เออ ใครจะว่างแบบพี่กรวะ ดูคลิปโป๊แม่งทั้งวี่ทั้งวัน สักวันแฟนจับได้ขึ้นมาจะหาว่าแนนซี่ไม่เตือน..
..มึงอย่าพูด กูยิ่งเสียวๆอยู่ ทำไงได้วะ กับเขากูไม่ค่อยสุดว่ะ เฮ้อ..
พี่กรตอบ พวกเขาคงสนิทกันพอสมควร ดูได้จากใช้ภาษาพ่อขุน ด่าแซวกันแรงๆได้
..พี่กรมาหาบุ้งมามะ บุ้งจะยอมเป็นยาระบายให้.. บุ้งพิมพ์กลับมา
..กูว่ากูยิ่งหมดอารมณ์..
..ฮ่าๆๆ ปากร้ายนะไอ้กร..
พี่ระเบิดพิมพ์บ้าง
..ทำไม ว่าเด็กพี่ไม่ได้เลยนะ เคยกับมันก็ยอมรับมาเถอะ.. พี่นายแซวพี่ระเบิด
..ก็เด็ดอยู่.. พี่ระเบิดพิมพ์ตอบ ผมเบิกตาโต สรุปสองคนนี้ได้กันแล้วจริงๆเหรอ
..นั่นๆ ยอมรับแล้วโว้ย.. พี่ปองพิมพ์มา
..บ้าๆ พี่เบิดก็นะ บุ้งเขิน..
..พอๆ กูล้อเล่น เดี๋ยวเข้าใจผิดกันหมด.. พี่ระเบิดพิมพ์กลับ
..กลัวไอ้หนอนเข้าใจผิดละสิ.. บุ้งพิมพ์โต้กลับ ผมโดนบุ้งแซวอีกแล้ว บุ้งชอบแซวผมกับพี่ระเบิด
..หนอนของผมนะพี่เบิด ห้ามจีบ.. พี่ปองรีบพิมพ์มาแล้วส่งสติ๊กเก้อรูปปืนอันใหญ่มาด้วย
..เงียบไปเลยรายนั้น หายไปดูคลิปก่อนคนอื่นแล้วมั๊งเด็กน้อย ยิ่งห้ามยิ่งยุ.. พี่ระเบิดพิมพ์แซวผม
..เปล่านะ ผมพิมพ์ไม่ทัน แต่ก็อ่านอยู่.. ผมรีบปฏิเสธ ถึงจะรู้ว่า ที่นี่ผมเปิดตัวตนได้ แต่ผมก็ไม่อยากถูกมองว่าบ้าเซ็กส์ ถึงผมดูมันบ่อยๆ แต่เพราะมันเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผม ไม่ถึงว่าถ้าไม่ได้ดูแล้วจะคลั่งสักหน่อย


“กลอน แม่เข้าไปได้ไหมลูก” เสียงของแม่เรียกอยู่ที่หน้าห้อง ผมรีบเอาโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ใช้เล่นไลน์กรุ๊ปนี้เก็บใส่ลิ้นชัก

“ได้ครับแม่” ผมตะโกนกลับ แม่เดินเข้ามานั่งบนเตียง หนังสือเรียนที่ผมอ่านค้างเอาไว้กองอยู่บนหมอน แม่หยิบมาดูแล้วยิ้มให้ผม

“กลอนยังอ่านไม่จบเลยยังไม่ได้เก็บ” ผมบอก แม่ชอบความเป็นระเบียบ ซึ่งผมก็ติดความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาจากแม่เยอะพอสมควร

“แม่จะเข้ามาบอกว่า ลูกชายของลุงการุณเขาย้ายมาเป็นครูฝึกสอนที่โรงเรียนของกลอน เคยเจอพี่เขารึยัง พี่เขาเก่งภาษาอังกฤษมากๆ วันนี้แม่ไปเจอพี่เขามา ลุงการุณเลยบอกว่าจะให้พี่เขามาช่วยสอนภาษาอังกฤษให้กลอน แม่ก็ตอบตกลงไปแล้ว เขาจะมาสอนให้ที่บ้าน พี่จะมาค้างด้วยทุกวันศุกร์ วันเสาร์สอนให้เต็มวัน”

“เหรอครับ กลอนยังไม่เคยเจอพี่เขาเลย เจอแต่ครูฝึกสอนผู้หญิงที่มาสอนห้องกลอน”

“เหรอ ถ้ายังไงลองไปตามหาพี่เขา ไปขอบคุณด้วยตัวเอง พี่เขาจะเริ่มมาสอนพรุ่งนี้เลยนะ แม่เห็นกลอนอ่อนอังกฤษกว่าวิชาอื่นๆเลยตอบตกลงโดยไม่ได้กลอนก่อน” แม่ลูบศีรษะผม ผมอ่อนอังกฤษกว่าวิชาอื่นก็จริง แต่ผมก็ได้เกรดสี่มาตลอด แต่ในสายตาของแม่ ท่านคงคิดว่าผมทำได้ดีกว่านี้

“ครับแม่”

“แม่ไม่กวนแล้ว อ่านหนังสือต่อเถอะ อย่านอนดึกนะลูก”

“ครับแม่”


แม่ออกไปแล้ว ผมก็เดินไปล็อกประตูห้อง จากนั้นก็ไปอาบน้ำ จัดตารางสอน กว่าจะได้กลับมาที่เตียงก็สี่ทุ่มกว่า ผมเปิดลิ้นชักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ไลน์กรุ๊ปโชว์ข้อความที่ยังไม่ได้อ่านร้อยกว่าข้อความ มีข้อความทักแยกมาจากพี่ระเบิดกับพี่ปอง ผมไม่ได้เปิดอ่านของพี่ปอง ถ้าอ่านแล้วก็ต้องตอบ พอตอบแล้วจะยาว ผมขี้เกรงใจ ไม่กล้าเลิกคุยก่อน เลยเลือกเปิดแต่ของพี่ระเบิด พี่เขาไม่เคยทักผมมาก่อนเลย
 

..โกรธเหรอ เงียบหายไปเลย พี่แซวเล่นนะครับ..
..เปล่าครับ พอดีแม่มา เลยเลิกเล่นไปก่อน..
..แม่ไม่รู้ใช่ไหม..
..ครับ..
..พี่เข้าใจดี..
..ที่บ้านพี่ก็ไม่รู้เหรอครับ..
..อืม ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครรู้ มีเพื่อนสนิทจริงๆที่รู้ ก็ไม่เกินสามคน..
..แล้วพี่อึดอัดไหมครับ..
..ไม่เลย พี่เองก็ไม่อยากให้ใครรู้นะ พี่มีความสุขแบบที่พี่เป็น ถึงพ่อแม่อาจจะรับได้ แต่ท่านก็คงผิดหวังอยู่ดีถ้ารู้ ถ้าท่านไม่ได้บังคับให้พี่แต่งงานหรือไม่ได้มาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพี่ พี่ก็ไม่อยากทำให้ท่านเสียใจ เรามีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องให้ใครรู้นี่เนอะ..
ผมอ่านความคิดของพี่ระเบิดก็ยิ่งประทับใจ พี่เขาคิดเหมือนผมเลย
..ผมดีใจจังที่มีคนคิดเหมือนผม ทุกวันนี้ผมก็คิดว่าผมทำหน้าที่ของผมไม่ให้บกพร่องก็พอ..
..อืม ดีมากเด็กน้อย มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรืออยากระบายก็คุยกับพี่ได้นะ ในฐานะคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง..
..ทำไมไม่อาบน้ำอุ่นละครับ อาบน้ำร้อน เดี๋ยวก็พาผมไปร้อนด้วย..
..นั่น แสบเหมือนกันนะเรา..
..ฮ่าๆ ผมไม่ใช่หนอนหนังสืออย่างที่ทุกคนคิดหรอกนะจะบอกให้ ใสซื่อนั่นภาพมายา ฮ่าๆ..
ผมได้ทีคุยบ้าง ในเมื่อไม่รู้จักตัวตนผม ผมก็กล้าที่จะพิมพ์อะไรอย่างที่ใจคิดบ้าง
..พี่เชื่อ..
..เชื่อว่าอะไร..
..เชื่อว่าดูทุกคลิปที่ไอ้กรส่งให้ มันจะขึ้นบอกนะว่าใครเข้ามาดูบ้าง..
พี่ระเบิดบอก ผมอึ้งไปเลย อึ้งแบบไปต่อไม่ถูก
..ฮ่าๆๆ พี่ล้อเล่น โป๊ะแตกเลยใช่ไหม นี่แหละเด็กน้อย หลอกง่ายจริง.. พี่ระเบิดตอบมา ผมรีบถอนหายใจ หนอย มาแกล้งผมเหรอ
..ยอมรับก็ได้ว่าดู ก็อยากรู้ว่าเป็นยังไง..
..แล้วเป็นยังไงละ..
..ก็ มีอารมณ์..
ผมพิมพ์กลับไป บอกแล้วว่าผมกล้าที่จะพิมพ์นะ วงเล็บว่า ถ้าไม่ใช่ห้องรวม ฮ่าๆ
..แล้วทำยังไงต่อละ..
..เวลาพี่มีอารมณ์ พี่ทำยังไงละครับ..
..พี่โตแล้ว มีหลายวิธีที่จะทำ เรายังเด็ก คงได้แต่ จุ๊ดๆสินะ ฮ่าๆๆ..
พี่ระเบิดพิมพ์มา
..บอกวิธีผมบ้างสิ..
..เฮ้ยไม่เอา ยังเด็ก ช่วยตัวเองไปก่อนดีแล้ว..
..ไหนว่าปรึกษาได้ทุกเรื่องไง..
..ก็ปรึกษาได้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะช่วยทุกเรื่องนี่หว่า..
..ขี้โกง..
..เอ้า ไอ้เด็กแสบ..
..ไปคลิปที่พี่กรส่งมาดีกว่า..
ผมพิมพ์ไป
..เดี๋ยวๆ นี่ดึกแล้ว ดูแล้วเดี๋ยวคึกนะ..
..ไม่เห็นเป็นไรเลย..
ผมบอก
..ห้ามดูนะ เดี๋ยวจะสั่งไอ้กรไม่ให้ส่งห้องรวมแล้ว.. พี่ระเบิดพิมพ์ขู่มา
..พี่จะขัดขวางการศึกษาของเด็กรึไง..
..ฮ่าๆๆ พูดจาฉลาดนักนะ ไม่ดูนะครับ ดึกแล้ว ดูมากไม่ดีเดี๋ยวอยากลองของจริง..
..ผมไม่ใช่เด็กน้อยนะ ผมเคยมาแล้ว..
เพราะรู้สึกว่าพี่เขามองผมเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ผมเลยพิมพ์แบบนี้กลับไป พิมพ์ไปแล้วก็รู้สึกว่าไม่น่าพิมพ์ไปเลย
..ถึงหนอนจะเคยมาแล้ว แต่พี่เชื่อว่ามันเกิดจากความรัก ครั้งต่อไป พี่ก้อยากให้มันเป็นความรัก ไม่ใช่ความใคร่ เข้าใจไหมครับ.. พออ่านที่พี่ระเบิดพิมพ์มา จู่ๆก็เหมือนมีก้อนอะไรสักก้อนมาจุกอยู่ที่คอ รู้สึกว่าพี่เขาเข้าใจผมทั้งที่เพิ่งเคยรู้จักกัน ผมตำหนิตัวเองมาตลอดเรื่องของเต็งหนึ่ง ผมด่าตัวเองทุกครั้งที่ส่องกระจกว่าผมมันคนใจง่าย แค่โดนเขาเล้าโลมก็อ่อนปวกเปียกไปหมด แต่พี่ระเบิดทำให้ผมดูมีค่ามากขึ้นแค่คำว่า ผมยอมเพราะความรัก
..ผมไม่ใช่เด็กใสซื่อบริสุทธิ์เท่าที่พี่คิดหรอก..
..พี่คิดอะไร หนอนไม่รู้หรอก อย่ามาเดาเลย นอนนะครับ เดี๋ยวพี่จะไลน์มาเช็คว่านอนรึยัง..
..ผมก็แกล้งไม่ตอบ พี่จะรู้ได้ไงว่าผมนอนจริงรึเปล่า..
..พี่เชื่อใจหนอนไง..
เอาอีกแล้ว พี่เขาทำผมอึ้งอีกแล้ว
..เชื่อคนง่ายไป ระวังถูกหลอก..
..สรุปว่าจะดูคลิปให้ได้ใช่ไหม อะ งั้นดูเลย เด็กดื้อเอ้ย..
..ฮ่าๆ ยอมรับว่าดื้อมาก..
..เปิดฟรีคอลได้ไหม..
พี่ระเบิดถาม พี่ปองก็เคยคอลมา แต่ผมไม่ได้รับ แต่พอพี่ระเบิดถาม ผมดันลังเล สุดท้ายก็ใจอ่อน คงเพราะรู้สึกไว้ใจมากกว่าพี่ปอง แค่คอล ได้ยินแค่เสียง คงไม่มีปัญหาอะไร
..ครับ.. พอผมตอบรับ พี่ระเบิดก็คอลมา ผมเลยกดรับ


“อยากฟังเสียงเด็กดื้อหน่อย ว่าจะดื้อออกทางเสียงรึเปล่า” เสียงของพี่ระเบิดนุ่มมาก เสียงหล่อเลยละ

“ดื้อไหมครับ” ผมตอบกลับไป

“ว้า ทำไมเสียงน่ารัก”

“อ้าว เสียงน่ารักก็ผิดหวังด้วยเหรอ” ผมถามกลับ

“นึกว่าเสียงจะแสบสุดๆ”

“หึ..ใช้เสียงเป็นกับดักไง” ผมตอบ พี่เขาหัวเราะ

“อะ ดูไปคลิป จะอยู่ฟัง”

“เฮ้ย ไม่เอาอะ” ผมรีบตอบ

“ทำไมละ” พี่เขาถาม

“คนเรามันก็ต้องอายปะ” ผมถามกลับ พี่เขาหัวเราะอีก

“ดี อายจะได้ดูแล้วหลับไปเลย ยิ่งถ้าอายมากๆ อารมณ์ไม่เกิด จะได้เลิกดู” พี่เขาตอบกลับมา

“โรคจิตเปล่าอะ ขัดขวางความสุขคนอื่น” ผมถาม พี่เขาหัวเราะดังกว่าเดิม

“เออ ยอมรับว่าโรคจิต ไปนอนไป๊ เด็กน้อย” พี่เขาไล่


ความอยากเอาชนะของผมวิ่งขึ้นมาเลย ผมกดเปิดเพลงจากเครื่องเล่นเบาๆ แม่รู้ว่าผมชอบเปิดเพลงบรรเลงของแฟรงค์ซิเนต้าก่อนนอน จริงๆแล้วผมเปิดกลบเสียงที่ไม่อยากให้แม่ได้ยินต่างหาก จากนั้นก็กดเปิดคลิปที่พี่กรส่งมาจากโน๊ตบุ๊ค วางโทรศัพท์เครื่องที่คอลไลน์ไว้ใกล้ลำโพงคอม เปิดเสียงพอให้ได้ยินเข้าไปถึงอีกฝ่าย ซึ่งผมเปิดลำโพงโทรศัพท์เอาไว้ด้วย


“เฮ้ย ดูจริงดิ ไอ้แสบเอ้ย” เสียงพี่ระเบิดดังออกมาจากลำโพง


ผมไม่ได้ตอบแต่หัวเราะคิกคักแทน สักพักได้ยินอีกฝ่ายเปิดคลิปเหมือนกัน เพราะได้ยินเสียงมาจากฝั่งพี่ระเบิด อยากจะแซวพี่เขาเหมือนกันว่าไม่แน่จริงนี่นา ก็อยากดูเหมือนกันแหละ แต่พอเผลอไปตั้งใจดูคลิปหนังที่พี่กรส่งมา สติเลยไปจดจ่ออยู่หน้าจอคอมแทน เป็นคลิปคู่รักคู่หนึ่ง ตั้งกล้องถ่ายกันเอง ทุกอย่างมันดูจริง ผมไม่รู้ว่ามันคลิปคู่รักจริงหรือเป็นแค่การแสดง ถ้าแสดง..ก็สมจริงมากๆ ร่างกายของผมเริ่มเกิดอารมณ์บางอย่าง ความต้องการมันพุ่งพล่าน มิน่าพี่กรถึงบอกว่าเด็ด ส่วนกลางของผมมันเริ่มปวดหนึบ บ่งบอกถึงอารมณ์ของวัยรุ่นที่ต้องการจะปลดปล่อยเต็มที่ ผมลืมไปเลยว่ามีพี่ระเบิดอยู่ในสายคอลไลน์ เพราะอีกฝ่ายก็เงียบไป ผมจดจ่ออยู่กับคลิปคู่รักร้อนแรงและผมก็กำลัง..ช่วยตัวเอง


มือของผมกำลังรูดรั้งส่วนกลางลำตัวเป็นจังหวะ ดวงตาของผมเลิกจดจ่อที่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค แหงนหน้าขึ้นพร้อมกับหลับตาแล้วกัดริมฝีปาก สักพักเดียวผมก็ได้ยินเสียงชื้นแฉะ เสียงเดียวกับเสียงที่เกิดจากการปลดปล่อยอารมณ์ของผมดังมาจากในโทรศัพท์ ผมถึงได้นึกขึ้นได้ว่าพี่ระเบิดยังอยู่ในสาย แต่ความอายที่มีมันแพ้พายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำผมอยู่ และผมทำในสิ่งที่ไร้ยางอายกว่าการช่วยตัวเองให้กับคนแปลกหน้าได้ยิน ผมทิ้งตัวลงนอน หยิบโทรศัพท์มาแนบกับหู อีกมือก็ยังปลุกปั่นตัวเอง ผมเรียกชื่อพี่ระเบิดพร้อมกับส่งเสียงคราง ผมร้องขอให้เขาเรียกชื่อผม แต่ผมได้ยินเสียงระบายลมหายใจแรงๆดังกลับมาแทน ได้ยินเสียงเนื้อที่รูดรั้งดังแจะๆเป็นจังหวะเร็วและถี่มาจากพี่ระเบิด มันยิ่งทำพายุที่ก่อตัวมันรุนแรงยิ่งขึ้น ผมครางสะท้าน วูบวาบไปทั้งตัว หลับตามโนภาพว่ากำลังโดนใครสักคนช่วยผมอยู่ เมื่อพายุอารมณ์ป่วนปั่นผมจนถึงจุดหมายปลายทาง ผมปลดปล่อยออกมามากกว่าตอนที่ช่วยตัวเองคนเดียว เสียงหายใจหอบสะท้านของผมแผ่วเบากว่าเดิม


“เห็นไหมครับ ว่าผมก็เป็นแค่เด็กใจแตกไร้ยางอาย ไม่ใช่เด็กใสซื่อหรือความรักอย่างที่พี่บอกหรอก” ผมพูดใส่โทรศัพท์ ผมยอมรับว่าตัวเองมีความสุข ในความสุขนั้นมันปนไปด้วยความละอายใจในการกระทำที่ไม่คิดหักห้าม ผมเคยภูมิใจในตัวเองมากๆว่าตัวผมดีพร้อมในหลายๆอย่าง แต่ตอนนี้ความภูมิใจนั้นมันแทบไม่เหลือแล้ว แต่ผมจะยอมรับและไม่คิดปฏิเสธสิ่งที่ผมต้องการทำอีกแล้วเพราะมันก็คือตัวตนที่ผมเป็น แต่เป็นด้านที่ผมสัญญาว่าจะไม่แสดงมันออกมาให้พ่อกับแม่ได้รู้


“อย่าคิดมาก มันคือธรรมชาติของคน” เสียงพี่ระเบิดตอบกลับมา

“ธรรมชาติเหรอครับ ผมว่ามันผิดธรรมชาติมากๆเลยละ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ดูไม่จริงใจเอาเสียเลย

“อย่าที่หนอนบอกไง ทำหน้าที่ของตัวเองอย่าให้บกพร่อง ถ้าตราบใดไม่ได้ผิดผัวเมียใคร อยู่ในขอบเขตที่เราทำได้ มันไม่ได้ผิดอะไรนะครับเด็กน้อย บอกแล้วว่าพี่เข้าใจ สิ่งที่หนอนกำลังทำพี่ก็เคยทำมาทั้งนั้น ตอนนี้พี่ดูแลพ่อแม่ได้ดี พี่เลี้ยงดูตัวเองได้ดี พี่ทำประโยชน์ให้สังคมหลายอย่าง แล้วพี่ก็ช่วยตัวเองให้เด็กน้อยได้ยินเหมือนกัน เราไม่ได้ไปมั่วกับคนมากหน้าหลายตา มันไม่มีอะไรที่ผิดเลย เราไม่ได้ทำร้ายใคร อย่าลดคุณค่าตัวเองสิครับ จากนี้ไปก็ตั้งใจเรียนให้ดีดูแลตัวเองดีๆ เข้าใจไหม” พี่ระเบิดพูดกับผมด้วยเสียงที่นุ่มนวลอบอุ่น ผมยิ้มออกมาได้ในที่สุด


..ถ้าเต็งหนึ่งเป็นคนที่พาผมก้าวมาสู่โลกอีกใบ ผมคิดว่า..พี่ระเบิดก็คงเป็นเหมือนเข็มทิศ ที่คอยช่วยบอกว่าผมจะไปทางไหนถึงจะถูกทิศถูกทาง ผมจะลองเชื่อผู้ใหญ่ที่อาบน้ำมาก่อนในชีวิตด้านนี้ของผม ผมจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีพร้อมๆกับทำตัวเองให้มีความสุขในขอบเขตที่ผมทำได้..


“ขอบคุณนะครับพี่ระเบิด”

“ฝันดีเด็กน้อย ขอบใจนะที่ทำให้พี่แทบขาดใจ หึหึ”

“เหมือนกันครับ ฝันดีครับ” ผมตอบกลับไปก่อนจะวางโทรศัพท์ลง ปิดคลิปในโน๊ตบุ๊ค ลุกทำความสะอาดร่างกาย แล้วกลับมานอนอ่านหนังสือเรียนจนหลับไปในที่สุด


****โปรดติดตามตอนต่อไป****

มาต่อแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2015 18:25:57 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
เย้ รอติดตามตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
สนุกกกกง่ะะ  o13 เอาอีก ๆๆๆๆๆๆ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   อูย เกือบจะพลาดแล้ว
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
รอดูต่อไปว่าน้องจะเจอใครอีกในชีวิตจริง

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
รักคนเขียนค่ะ  บอกเลย

กลุ่มนี้อ่านแล้วยังน่ารักนะคะ    บางกลุ่มนี่แบบ..... o22

กลอนกำลังกลายมาเป็นผู้ใหญ่ทีละนิดๆ   เรียนรู้ชีวิตแบบที่ตัวตนเป็นในโลกของความเป็นจริงทีละหน่อย

จริงๆแล้วความรักกับเซ็กส์มันไม่จำเป็นต้องมาด้วยกัน มาแบบแยกๆก็ได้  แต่บรรทัดฐานของสังคมสอนให้เราตีกรอบการใช้ชีวิตตามแบบที่ควรเป็น น่าจะเป็น    ผู้หญิงส่วนใหญ่จะฝังจิตฝังใจมากๆกับการตีคู่เรื่องความรักกับเซ็กส์  ในขณะที่ผู้หญิงบางส่วนได้ก้าวเดินออกจากกรอบของค่านิยมไปแล้ว     บรรทัดฐานกับค่านิยมไม่ใช่เรื่องดีหรือแย่ไปทั้งหมดเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตในสังคมกับกลุ่มคนหมู่มาก    บางอย่างก็ควรจะเปลี่ยนหรือได้เปลี่ยนไปแล้วตามเวลา,ความสมควร, ความน่าจะเป็น  ที่สำคัญที่สุดก้คือการแยกแยะที่เป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นมากๆในการใช้ชีวิต

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อยากอ่านต่อ กลอนค่อยๆเรียนรู้ไปสินะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด