=จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61  (อ่าน 189296 ครั้ง)

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
อยากให้กลอนได้เจอคนที่รักกลอนจริงๆเสียที
แต่กลอนเป็นคนดี... เราเชื่อว่ากลอนต้องมีความสุขในท้ายที่สุดแน่ๆค่ะ

ติดตามและเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^

ออฟไลน์ fangdxxi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รออ่านอยู่น้าา ติดตามๆๆๆ :katai2-1:  :katai2-1:  o13

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 2)

ผมกลับมาถึงไอ้เด่นก็เข้ามาชวนคุยเรื่องมหาวิทยาลัย ผมก็เล่าให้มันฟังทุกเรื่อง มันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าผมจะกล้าพูดอะไรแบบนั้นกับรุ่นพี่ แต่มันก็บอกให้ผมดูแลตัวเองดีๆ มันว่าที่กรุงเทพไม่เหมือนต่างจังหวัด ผมก็ขำมันนะ ผมก็อายุเท่ามัน แต่มันห่วงผมเหมือนผมเป็นเด็ก มันคงเห็นเป็นคนหัวอ่อน ถูกหลอกง่ายละมั๊ง ผมคุยกับมันอีกสักพักก็ขอตัวไปอาบน้ำ วันนี้โดนทั้งสี ทั้งแป้ง ทั้งฝุ่นจนเหนียวตัวไปหมด อาบน้ำเสร็จไอ้เด่นก็เข้ามาบอกว่าเพื่อนใหม่ชวนไปกินเหล้า มันเลยมาชวนให้ผมไปด้วย แต่ผมไม่ไป เพลียและง่วงจนตาจะปิดแล้ว ผมบอกให้มันไปไม่ต้องมาห่วงอะไรผม แต่ผมไม่ให้มันขับรถไป มันเลยบอกว่าเดี๋ยวเพื่อนมันมารับ อยากจะบ่นมันเหมือนกันเรื่องกินเหล้า แต่คิดว่าดูมันไปก่อน ถ้ามันยังไม่เพลาๆเรื่องนี้ผมคงต้องเตือนมันบ้าง


ผมหลับรวดเดียวถึงเช้า ไม่รู้ด้วยว่าไอ้เด่นมันกลับมาตอนกี่โมง แต่ตื่นมาก็เห็นมันแปะกระดาษที่หน้าประตูห้องผมว่ามันซื้อโจ๊กมาให้ อย่าบอกนะว่ามันเพิ่งกลับมาตอนเช้าถึงได้มีโจ๊กมาให้ผมด้วย ผมไมได้ปลุกมัน เพราะมันเขียนบอกเอาไว้ด้วยว่าวันนี้มันมีเรียนบ่าย ผมกินโจ๊กที่มันซื้อมาให้ เก็บล้างจานเรียบร้อย เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นมาพอดี ผมเดาว่าอาจจะเป็นพี่ฉลาม ซึ่งผมเดาถูก ผมไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่ไปด้วย ก็ถ้าพี่เขาต้องไปมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ผมติดรถไปด้วยก็คงไม่เป็นอะไร ผมรีบหยิบกระเป๋าแล้วลงไปข้างล่าง พี่ฉลามโทรเข้ามาอีก บอกให้ผมเดินเข้ามาหาเขาที่บ้าน ผมเริ่มลังเลใจ ยืนตัดสินใจจนประตูรั้วของบ้านพี่ฉลามเปิดออก มีรถหนึ่งคันแล่นออกมาจากด้านใน เป็นรถสปอร์ตยี่ห้อหรูสีแดงสด รถคันนั้นจอดนิ่งแล้วเปิดกระจกลง


“มาหาใครรึเปล่า” ผู้ชายวัยทำงานแล้วทักผม หน้าตาหล่อมากๆ มีส่วนคล้ายพี่ฉลาม แต่หล่อกว่ามาก ดูดีไม่ทำตัวเซอร์ๆเหมือนพี่ฉลาม อาจจะเป็นพี่ชายก็ได้

“ผมมารอพี่ฉลามครับ” ผมบอก อีกฝ่ายพยักหน้ารับรู้

“โอเค งั้นเดินเข้าไปเลยนะ ซ้ายมือ” พี่เขาบอกผมก่อนจะปิดกระจกรถแล้วขับออกไป


ผมเดินเข้าไปข้างในรั้วบ้านของพี่ฉลามแบบเกร็งๆ มีคุณลุงคนหนึ่งเป็นคนพาผมเดินเข้าไป ผมผ่านสนามบาสก่อน บริเวณบ้านนี้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง มีสนามหญ้าคั่นกลางระหว่างสองบ้าน ผมถูกพาเดินมาทางด้านซ้ายมือ บ้านหลังใหญ่แต่งสไตล์โมเดิร์น ผมยืนมองอย่างชื่นชม ถ้ามีบ้านผมก็อยากแต่งสไตล์นี้แหละครับ คุณลุงที่เดินนำผมมาบอกให้ผมเข้าไปข้างในเลย แต่ผมบอกลุงว่าขอนั่งรอที่ชิงช้านี่ดีกว่า ลุงก็เลยตามใจผมแล้วเดินจากไป ผมนั่งรอไม่นานพี่ฉลามก็เดินลงมา เสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดกว่าตัวเมื่อวาน แต่ไม่ได้นุ่งทับเหมือนเดิม ผมเพิ่งสระยังไม่แห้งดี หนวดที่ขึ้นรำไรยิ่งทำให้พี่เขาดูดิบๆดุๆยังไงไม่รู้


“ทำไมไม่เข้าไปรอข้างใน ร้อนจะตาย” พี่ฉลามถามผม

“ไม่เห็นร้อนเลย ลมดีจะตาย พี่มีเรียนเช้าเหรอครับ” ผมถาม

“อืม กินไรมายัง”

“กินแล้วครับ”

“ไรวะ พี่ยังไม่ได้กินเลย” พี่ฉลามเหล่ตามามองผม ก่อนจะเดินนำผมไปที่โรงจอดรถ ผมเดินมาถึงโรงรถก็ต้องส่งเสียงร้องโอ้โหออกมา รถสวยๆทั้งนั้นเลย มีตั้งสี่คัน จะรวยไปถึงชาติไหนครับพี่

“น้ำลายไหลแล้ว” พี่ฉลามแซวผม ผมรีบหุบปากแล้วเดินขึ้นไปนั่งในรถคันเดิมที่มาส่งผมเมื่อวานนี้

“มาเช่าอยู่เหรอ” พี่ฉลามถามผม

“ห้องของเพื่อนสนิทครับ แต่มันมีสองห้องเลยมาอยู่ด้วย”

“สนิทกับไอ้บุ้งมาก่อนเหรอ”

“ครับ”

“ทำไมมาเรียนนิเทศ อยากทำงานอะไร”

“กลอนอยากทำงานบริษัทโฆษณา แล้วพี่ละ”

“ช่างภาพ ถ่ายภาพนู๊ด”

“ห๊ะ”

“ฮ่าๆๆ” พี่ฉลามหัวเราะ ผมอยากจะบอกว่าผมเชื่อนะนั่น ภาพลักษณ์พี่ให้มาก

“พี่หัวเราะเป็นด้วยเหรอ เห็นชอบทำหน้านิ่งๆ หรือเป็นพี่ว๊ากต้องทำหน้าดุ” ผมถาม พี่ฉลามหันมาส่งยิ้มมุมปาก

“เคยคิดว่าทำแบบนั้นมันได้ผล แต่เพิ่งรู้เมื่อวานว่ามันใช้ไม่ได้กับทุกคน” พี่ฉลามตอบผม ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ

“ผมก็กลัวพี่นะ”

“เหรออออ” พี่ฉลามลากเสียงยาวเหมือนไม่เชื่อ

“จริงๆ”

“นี่ขนาดกลัวนะ ถ้าไม่กลัวคงปีนขึ้นมาขี่คอเลยมั๊ง” ผมหัวเราะพรวดออกมาเลยเมื่อพี่ฉลามพูดจบ หัวเราะจนตัวงอ ยิ่งพี่ฉลามสั่งให้ผมหยุดขำ ผมยิ่งขำ ขำจนน้ำตาไหล ขำแบบไม่มีเหตุผล รู้แต่มันหยุดขำไม่ได้

“แต่ไม่ได้เป็นเหมือนบุ้งใช่ไหม” แค่ได้ยินคำถามแค่นั้นแหละขำ ต่อมขำฟีบเลย ผมไม่ได้มองไปที่คนถาม แต่ขยับร่างกายให้ดีเพราะว่าจะถึงมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว

“บุ้งเป็นยังไงเหรอครับ” ผมย้อนถาม

“คำถามง่ายๆ เด็กที่สอบเข้าคะแนนสูงสุดของรุ่นคงเข้าใจได้มั๊ง” พี่ฉลามย้อนกลับ

“กลอนไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิด” ผมตอบ ผมรู้ว่าการโกหกมันไม่ดี แต่ผมไม่อยากบอกเรื่องที่ผมไม่ต้องการให้ใครรู้กับคนที่เพิ่งรู้จักเมื่อวานนี่เอง

“พี่ก็ว่างั้นแหละ เห็นไอ้เมตรมันมาโอดครวญอยากจะจีบ แต่พี่ก็ว่าเราไม่ใช่” พี่ฉลามพูดขึ้นมา

“เมื่อวานแฟนพี่เหรอ สวยดี” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

“เปล่า ยังไม่ใช่แฟน”

“สวยดีออก ทำมี่ไม่จีบละ”

“ไม่รู้ดิ ไม่อยากรีบ บางคนสวยจริง คบไปแล้วความสวยไม่ช่วยอะไรเลย คนเราอย่ามองแค่หน้าตานะรู้เปล่าเจ้าหนูจำไม ใช่ไม่ใช่ความรู้สึกมันจะบอก ไม่เกี่ยวกับหน้าตา” พี่ฉลามสอนผม ผมอยากบอกว่าผมเข้าใจ เมื่อเราเจอใครสักคน มันก็ไม่เกี่ยวกับเพศเหมือนกัน ผมก็ไม่ได้คิดว่าผมจะเกิดมาแล้วมามีรสนิยมแบบนี้ ครอบครัวผมก็อบอุ่นดี แม้ว่าตอนนี้พ่อจะออกนอกลู่นอกทางไป แต่ที่ผ่านท่านก็ดูแลผมดี มันคงไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหรืออะไรทั้งนั้น ผมก็หาคำตอบให้กับเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน


และด้วยความที่เราอยู่ใกล้กัน ผมกับพี่ฉลามเลยเริ่มสนิทกัน ผมติดรถพี่เขาไปมอและกลับบ้านด้วยบ่อยๆแต่ก็ไม่ทุกวัน บุ้งบอกว่า ได้ยินพี่เมตรเคยพูดว่าปกติพี่ฉลามจะหยิ่งๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับรุ่นอื่นนอกจากเพื่อน แต่ก็ไม่ถึงกับติสท์แตกสันโดษ แต่เป็นคนไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายด้วย ผมก็คิดว่าพี่ฉลามคงเป็นแบบนั้น เท่าที่ผมได้พูดคุยกับพี่เขา พี่เขาค่อนข้างเป็นคนมีความคิดจะว่าแปลกมันก็ไม่ได้แปลก อย่างเช่นเรื่องการแต่งตัวหรือการใช้ชีวิต พี่เขาจะมีมุมมองที่โดดออกมาเลย เป็นตัวเอง คิดแบบนี้ มั่นใจแบบนี้ จะทำแบบนี้ แต่ข้อดีคือ ถ้าผมเห็นต่างหรือแย่งพี่เขา เขาจะนิ่งรับฟัง พออีกวันถ้ายังไม่เห็นด้วยก็จะหาข้อมาแย้งผม แต่ถ้าเห็นด้วยก็จะมาบอกว่าผมคิดถูก แล้วก็ยอมรับตามนั้น  บุ้งถามว่าพี่ฉลามมาจีบผมรึเปล่า ผมบอกเลยว่าไม่ พี่ฉลามไม่ได้มีทีท่าจะมาจีบผมเลย พี่เขาเชื่อที่ผมบอกว่าผมไม่ได้เป็นเกย์ ยังชวนไปเที่ยวกลางคืนด้วยซ้ำ แต่ผมปฏิเสธตลอด โดยอ้างว่าผมไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แล้วความลับที่ผมไม่ยอมเปิดเผยกับพี่ฉลามก็มาแตกในวันที่เราไปงานรับน้องที่หัวหินกัน ดวงของผมคงจะซวยสุดๆ เพราะบังเอิญที่พี่รันพาภรรยามาเที่ยวที่หัวหินเหมือนกัน และพักที่รีสอร์ทเดียวกันกับผมด้วย เรื่องมันก็มีอยู่ว่า


“เอาน้องๆ เราจะพักที่รีสอร์ทนี้นะ พี่อาย อดีตดาวคณะที่แสนสวยของเราเป็นสปอนเซอร์หลัก ให้ที่พักสำหรับพวกน้องๆปีหนึ่งทุกคน” พี่อ้วนตะโกนบอก พวกผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่ดาว รุ่นพี่ที่เรียนจบไปได้สองปีแล้ว พี่เขาเป็นเจ้าของที่นี่ ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งใจดีเลยครับ

“ส่วนพวกพี่จะพักที่โรงแรมข้างๆกันเลย ซึ่งก็ได้พี่ขนุนเป็นสปอนเซอร์ให้อีกเหมือนกัน เอา ไว้ซะ” พี่อ้วนพูดจบ พวกทุกคนก็ขอบคุณพี่ขนุน หน้าตาออกแนวแขกขาว คนนี้เป็นรุ่นพี่พี่อายอีกที ที่พวกผมได้นอนรีสอร์ทเพราะต้องทำกิจกรรมหลายอย่าง ที่รีสอร์ทของพี่ดาวติดชายหาด ก็คงสะดวกดี ส่วนพวกรุ่นพี่ปีสองถึงสี่และรุ่นพี่ที่จบไปแล้วก็เลยไปนอนที่โรงแรมที่อยู่ติดกัน เห็นบุ้งบอกว่า พี่อายเป็นแฟนกับพี่ขนุนด้วย บุ้งมันข่าวไวจริงๆเลยครับ

“เอาของไปเก็บกันก่อน เดี๋ยวพี่จะพาไปเข้าฐานกิจกรรม ให้เวลายี่สิบนาทีนะ” พี่แหบตะโกนบอก บุ้งมันรีบจับมือผมวิ่งไปจองที่นอน ผมได้นอนห้องเดียวกับ บุ้ง เสือ เก้งและเล็ก เป็นห้องกว้าง มีเตียงใหญ่สองเตียง แล้วก็โซฟาขนาดใหญ่สำหรับหนึ่งคนนอนได้สบาย ทั้งห้าคนที่นอนห้องเดียวกับผมก็สนิทกันครับ เราห้าคนดูจะเข้ากันได้ คุยกันรู้เรื่อง เสือเป็นคนใต้ ที่บ้านมีโรงงานไม้ หน้าตาคมเข้มแบบชาวใต้ ชอบแต่งตัวแบบคาวบอย รองเท้าบู๊ทหนังปลายงอนขึ้น คาดเข็มขัดอันใหญ่ๆ เก้งเป็นคนนนทบุรี  ที่บ้านทำสวนผลไม้ หลักๆเลยคือทุเรียน ส่วนเล็กพ่อแม่เป็นครูเหมือนแม่ของผมเลย เป็นเด็กเรียนเก่ง คะแนนเป็นที่สองรองจากผมเลย

“ตื่นเต้น จะได้เจอรุ่นพี่” เล็กบอก พวกผมพยักหน้าเพราะคิดเหมือนกัน

“รีบไปเถอะ ขี้เกียจโดนวิดพื้น” เสือรีบเร่งพวกผม พวกผมยังไม่ได้เก็บของ แค่เอากระเป๋าไปวาง เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะต้องเข้าฐานแล้วรีบตามเสือออกไป


พวกรุ่นพี่ให้พวกผมไปนั่งแช่น้ำทะเลแล้วร้องเพลงประจำคณะ จากนั้นก็ให้พวกผมแบ่งกลุ่มตามห้องนอน เพราะคืนวันสุดท้ายพวกผมต้องออกมาแสดงอะไรก็ได้ให้รุ่นพี่ดู จากนั้นพวกผมก็เริ่มไปเข้าฐานต่างๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเกม ให้พวกผมแสดงความสามัคคีกัน ซึ่งบางเกมมันตลกและทะลึ่งมาก ผมทั้งขำทั้งสงสารตัวเองและเพื่อน แต่มันสนุกดี ผมว่าผมไม่ได้หัวเราะขนาดนี้มานานแล้ว จนมาถึงฐานสุดท้ายของวัน คือให้รุ่นพี่ป้อนข้าวรุ่นน้อง ซึ่งใช้วิธีสุ่มจับ ผมได้พี่ฉลามเป็นพี่บัดดี้ อย่าคิดว่าผมจะโชคดีเพราะสนิทกับพี่ฉลามแล้ว เพราะว่าข้าวที่พี่ฉลามนำมาป้อนผมมันคือผัดกระเพราะที่เผ็ดที่สุดในโลกเลยครับ


“ไม่กินไม่ได้เหรอครับพี่” ผมถาม พี่ฉลามส่ายหน้า

“ช่วยไม่ได้ อยากจับได้พี่เอง โหดสุดแล้วขอบอก” พี่ฉลามบอกผม ผมหน้าเหี่ยวเลย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วอ้าปาก เจอคำแรกเข้าไปผมก็น้ำตาไหลแล้ว มันเผ็ดโคตรๆเลยครับ อ๊ากกกก ไฟจะลุกออกปาก

“โถๆๆๆ สงสารเจ้าหนูจำไมของพี่อ้วนจริงๆ โดนใครไม่โดน มาโดนไอ้หลาม ก๊ากกกกกกกก” พี่อ้วนเดินมาซ้ำเติมผม ผมเป็นพวกแพ้ไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน พอโดนเยาะเย้ยก็เลยยืดอก กินต่อไม่บ่นเลย พี่อ้วนทำหน้าขยาดกับข้าวที่ผมกินก่อนจะเดินไปแกล้งน้องคนอื่นต่อ พอพี่อ้วนไปแล้วพี่ฉลามเทข้าวผัดโคตรพริกทิ้งใส่ถุง ก่อนจะหยิบอีกกล่องที่ซ่อนเอาไว้ออกมา

“ปากแดงเลย” พี่ฉลามเอานิ้วมาจิ้มที่ปากของผม ผมทำหน้าไม่ถูก รู้สึกเขินแต่ต้องรักษาอาการเอาไว้

“รีบกินก่อนที่ไอ้อ้วนมันจะมา” พี่ฉลามป้อนหมูทอดกระเทียมให้ผม ผมก็รีบกิน แป๊ปเดียวก็หมดกล่อง

“เก่งมาก ปรบมือให้น้องกลอนหน่อย คืนนี้ใครนอนห้องเดียวกลับน้องกลอนระวังหน่อยนะครับ อาจจะเรอออกมาเป็นไฟได้” พี่แหบตะโกนใส่โทรโข่ง รุ่นพี่กับเพื่อนๆปรบมือให้ผม ผมรีบโค้งรับก่อนจะหันไปยิ้มให้พี่ฉลาม ที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ข้างๆพี่แหบ

“เอาละ วันนี้ไปพักได้ เหนื่อยกันมาทั้งวัน ขอบคุณนะครับที่ร่วมมือทำกิจกรรมกันด้วยความเต็มใจ พี่ๆเห็นความสามัคคีในตัวน้องๆนะ แต่พรุ่งนี้เรายังต้องทำกิจกรรมกันต่อ รีบไปนอนนะครับเด็กน้อย” พี่แหบปล่อยพวกผมกลับที่พัก


(มีต่อข้างล่างค่ะ)

V
V



ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนนะคะ)


ผมเข้าไปอาบน้ำเป็นคนแรกเลย ผมไม่ชอบให้ตัวเหนียว ติดความสะอาดและเจ้าระเบียบมาจากแม่เลยครับ เพราะผมอาบน้ำเสร็จก็รีบมาเก็บของเข้าตู้และบังคับให้เพื่อนอีกสี่คนเก็บให้หมดด้วย ไม่รู้ว่าเพราะกระเพราสามสี่คำที่กินเข้าไปออกฤทธิ์รึเปล่า ผมรู้สึกปวดท้องมาก ไม่ได้ถ่ายนะ แต่ปวดแบบบิดๆในล้ำไส้ ผมเลยออกมาขอยาทาน ก็เจอพี่แหบกับพี่ฉลามอยู่ที่ลอบบี้ของรีสอร์ทพอดี


“เวรละ พาไปหาหมอดีกว่า” พี่แหบบอก เพราะว่าผมหน้าซีดๆด้วย

“เดี๋ยวกูพาไปเอง” พี่ฉลามบอกแล้วพาผมเดินออกมา ตอนนั้นเองที่ผมแทบลืมอาการปวดท้องไปเลย เพราะคนที่เดินสวนข้ามาก็คือพี่รันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่ชุดคลุมท้องด้วย พี่รันเห็นผมก็ทำหน้าตกใจก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

“กลอน” พี่รันเรียกผม ผมอุตส่าห์หลบตาไม่มองแล้ว มาเรียกผมทำไมไม่รู้ เราจบกันไม่ดี ผมคิดว่าเราไม่น่าจะมาคุยกันได้อีก

“ลูกพี่ลูกน้องของผมเองครับ” ผมบอกพี่ฉลาม เพราะพี่ฉลามเลิกคิ้วเหมือนจะถามผม

“ขอตัวก่อนนะครับ” ผมหันไปบอกพี่รัน

“เป็นอะไร ทำไมหน้าซีด แล้วมาทำอะไรที่นี่” พี่รันถามผม ก่อนจะมองไปที่พี่ฉลามแบบไม่พอใจเท่าไหร่

“มางานของมหาวิทยาลัยครับ ผมขอตัวพารุ่นน้องของผมไปก่อนนะครับ” พี่ฉลามจับข้อมือผมแล้วพาเดินออกไป ผมไม่ได้หันกลับไปมอง ไม่อยากเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่คิดว่าพี่รันคงไม่ได้ตามมาหรอก เพราะผมได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นเรียกพี่รันพอดี พี่ฉลามก็ไม่ได้ถามอะไรผม พาผมมาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หมอบอกว่าผมเป็นโรคกระเพาะอยู่แล้ว กินเผ็ดเข้าไปเลยมีผลทำให้ปวดท้อง ให้ยามาทานแล้วให้กินอาหารอ่อนไปก่อน

“พี่ขอโทษนะ” พี่ฉลามขอโทษผมระหว่างทางที่กลับบ้าน

“ไม่เป็นไรครับ อย่าคิดมาก เรามารับน้องกัน” ผมรีบยิ้มให้พี่ฉลาม

“ฟันสวยนะ”

“หือ..” ผมทำหน้างง คุยกันเรื่องรับน้องจู่ๆก็มาชมผมว่าฟันสวย ผมเลยทำหน้าไม่ถูก

“พี่ชอบคนฟันสวย เวลายิ้มแล้วดูดี” พี่ฉลามขยายความ

“อ๋อ แม่บังคับกลอนตั้งแต่เด็กแล้ว ต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหารแล้วก็ก่อนนอน”

“ดีแล้ว บางคนหน้าตาดี พอยิ้มแล้วไม่ผ่าน บางคนดูธรรมดา แต่ยิ้มแล้วมีเสน่ห์”

“โหย จะบอกว่ากลอนหน้าตาธรรมดาอะดิ” ผมย้อนถาม

“แล้วคิดว่าตัวเองหล่อรึไง ไอ้หนูจำไม” พี่ฉลามย้อนถามผมแล้วหัวเราะ ผมเบ้ปากใส่พี่เขา แล้วผมก็นั่งเถียงกับพี่ฉลามเรื่องฟันจนมาถึงรีสอร์ท ซึ่งก็ปาไปห้าทุ่มกว่า อาการปวดท้องทุเลาลงแล้ว แต่พอผมกลับถึงห้องปรากฏว่าผมลืมเอากุญแจออกมา เคาะประตูห้องเท่าไหร่ไอ้พวกนั้นก็เงียบสนิท สงสัยเพลียหลับสนิทกันหมด ไม่งั้นก็คงโดนวางยาสลบไปแล้ว เพราะผมเคาะหลายทีมากแต่ก็ไร้การตอบกลับ

“ไปนอนที่ห้องพี่ก่อน ขี้เกียจไปขอกุยแจสำรองกับพี่อาย เกรงใจเขา” พี่ฉลามบอก

“ที่โรงแรเหรอครับ” ผมถาม สีหน้ากังวล เพราะไม่ได้เอาข้าวของอะไรออกมาเลย

“เปล่า พี่นอนที่นี่ เป็นยามคอยดูแลน้องๆ ห้องพี่อยู่ชั้นสอง” พี่ฉลามบอแล้วเดินนำผม ผมไม่มีทางเลือกก็ต้องเดินตามพี่ฉลามไป จนจะเข้าไปในห้องอยู่แล้ว ห้องรงกันข้ามก็เปิดประตูออกมาพอดี ซึ่งความซวยของผมมันคงไม่หมดโปร เป็นพี่รันที่เปิดออกมา แต่เพราะภรรยาพี่เขาเดินออกมาด้วย เขาเลยไม่ได้ทักผม แต่เห็นว่าพี่ฉลามเรียกผมเข้าห้องพอดี ผมปิดประตูห้องพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง ไม่ใช่ว่ารู้สึกอะไรกับพี่รันนะ แต่ผมไม่อยากให้พี่ฉลามรู้ว่าผมเป็นเกย์

“ไม่ถูกกันกับญาติเหรอ” พี่ฉลามโยนชุดนอนให้ผม

“เปล่าครับ แค่ไม่ได้สนิทมากมาย” ผมรีบบอก พี่ฉลามพยักหน้า

“ผมใส่ชุดนี้นอนก็ได้”

“ใส่ไปเหอะ เอามาเยอะ” พี่ฉลามบอก ผมเลยเข้าไปเปลี่ยนชุด ก็หลวมแบบที่คิด

“หัดกินเยอะๆบ้าง ตัวกะเปี๊ยกเดียว”

“ก็มันอิ่ม อิ่มแล้วก็ไม่อยากฝืนกิน”

“กินยาเลย” พี่ฉลามส่งยาก่อนนอนให้ ผมบอกตรงว่ารู้สึกดี ยอมรับว่าผมแอบชอบพี่ฉลามนะ แต่ผมรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ พี่ฉลามเป็นผู้ชายแท้ๆที่รักผู้หญิง พี่เขาสนิทใจและเอ็นดูผมเหมือนน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น ผมรู้ดี

“เดี๋ยวกลอนนอนที่โซฟาก็ได้” ผมชี้ไปที่โซฟาเพราะรู้ว่าพี่ฉลามนอนกับพี่แหบ

“ไม่เป็นไร มานอนด้วยกัน ไอ้แหบมันไปกินเหล้า มานอนแล้วเหม็นปากมัน” พี่ฉลามบ่น ผมหัวเราะขำ ถ้าพี่แหบมาได้ยินคงดิ้นตาย


ผมเดินขึ้นไปนอนบนเตียง ส่วนพี่ฉลามเข้าไปอาบน้ำ อาบนานมากจนผมหลับไปก่อน เพราะผมไม่รู้ว่าพี่เขาออกมาตอนไหน รู้แต่ว่าที่นอนมันนุ่มมาก หลับสบายดีเหลือเกิน โชคดีที่แอร์ไม่เย็นเท่าไหร่ ผมขี้หนาวด้วย หลับยาวรวดเดียวจนถึงเช้า ผมลุกขึ้นตั้งแต่ตีห้าครึ่งตามความเคยชิน เห็นพี่แหบนอนใส่แต่บ็อกเซอร์อยู่ที่โซฟา ส่วนพี่ฉลามก็นอนข้างๆผม เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ๆเหี่ยวๆ กางเกงเก่าๆไม่สมกับเป็นฐานะทางบ้านเลย ผมได้แต่แอบขำ แล้วผมก็แอบย่องออกจากห้อง ลองไปเคาะห้องเรียกบุ้ง แต่ก็ยังไม่มีใครตื่น ผมเลยออกไปเดินเล่นที่ชายหาด ก็ไปเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุดในโลกพอดี แทบจะเดินกลับในทันที แต่ก็โดนเรียกเอาไว้ก่อน


“กลอน อย่าเพิ่งไป คุยกันก่อน”

“ผมไม่อยากคุย”

“พี่ขอโทษนะ ขอโทษในทุกกรณี พี่มันเลวเอง พี่โกรธและพูดไม่ดีกับกลอนเพราะเหมือนถูกหักหลัง ทั้งที่จริงๆแล้วพี่เองที่เป็นฝ่ายหลอกลวงกลอน รู้ไหม ไม่มีสักวันเลยนะที่พี่ไม่คิดถึงกลอน”

“พี่รันครับ มันไม่มีประโยชน์ที่จะมาพูดอะไรอีกแล้ว ภรรยาของพี่กำลังจะให้กำเนิดเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว”

“พี่รักกลอนนะ รักมาก พี่ขอโทษ พี่มันควาย มีของดีไม่รู้จักรักษา” จู่ๆพี่รันก็ร้องไห้ออกมาจนผมตกใจ

“พี่รัน..”

“ขอให้พี่ได้พูดคุยกับกลอนบ้างไม่ได้เหรอ ถึงกลอนจะไม่ได้รักพี่แล้ว ก็ขอให้พี่ได้คุยกับกลอนบ้าง”

“อย่าเลยครับ”

“ทำไม เพราะผู้ชายคนนั้นเหรอ” พี่รันถาม ผมนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะตัดสินใจพยักหน้า

“กลอนขอร้อง อย่าทำร้ายความรู้สึกกลอนอีกเลยนะครับ กลอนกำลังมีชีวิตที่ดี ถ้าพี่ยังรักกลอน ปล่อยให้กลอนไปมีอนาคตที่ดีกับคนที่กลอนเลือกนะครับ” ผมบอก พี่รันยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แล้วเอื้อมมือมากุมมือผม ผมรีบหันไปมองรอบๆแล้วบิดมือออก

“จำเอาไว้นะ พี่จะรอกลอนเสมอ ไม่ว่ายังไง ถ้ากลอนอยากกลับมา พี่..”

“กลอนต้องไปแล้ว ถ้าเมื่อไหร่กลอนพร้อมจะให้เราคุยกันได้ กลอนจะติดต่อไปนะครับ แต่มันคงไม่ใช่ตอนนี้” ผมพูดจบแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปที่รีสอร์ท ไปเจอกับพี่เมตรที่ล็อบบี้พอดี พี่เมตรมองผมแล้วยิ้มๆ

“ไปไหนมาครับน้องกลอน”

“ไปเดินเล่นมาครับ”

“ตื่นเช้าดีจัง คนตื่นก่อนก็ได้เห็นอะไรดีๆก่อนเนอะ” พี่เมตรพูดกับผม ผมอึ้งไป รู้สึกแปลกๆกับคำพูดของพี่เมตร

“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผมรีบบอกแล้วเดินกลับไปที่ห้อง คราวนี้เสือตื่นแล้ว ลุกมาเปิดประตูให้ผม สรุปว่าเมื่อคืนพวกมันไม่ได้หลับสนิทจนไม่ได้ยินหรอกครับ มันหนีไปกินเหล้ากับพวกพี่แหบมา พอกลับมาไม่เจอผมเลยไปถามพี่ฉลาม พอรู้ว่าผมหลับแล้วเลยไม่ปลุก ปล่อยให้ผมนอน ไอ้บุ้งมากระซิบผมว่า ตอนที่เข้าไปถามหาผม พี่ฉลามไม่ได้ใส่เสื้อด้วยแถมผมก็ยุ่งไปหมด ดีนะที่ผมหลับ ไม่งั้นมันคงคิดไปไกลแน่ๆ ผมเลยได้แต่ว่ามันว่าไปไหนไม่บอก แล้วก็รีบไปอาบน้ำ แต่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงคนที่ผมแอบปลื้มอยู่ในใจ


ถึงเวลาอาหารเช้า พวกผมต้องเข้าไปทานที่โรงแรม เก้งดูจะตื่นเต้นที่สุด เพราะมันชอบกินอาหารเช้าในโรงแรม มันบอกว่าดูในหนังมาเยอะ อยากมีโมเมนท์แบบนี้บ้าง ปกติไปเที่ยวไหน แม่ทำกับข้าวไปเองตลอด ผมก็ได้แต่ขำสิ่งที่เก้งเล่าก่อนจะเดินไปตักอาหารเช้ามาทาน ผมเห็นพี่ฉลามนั่งอยู่กับพี่แหบ พี่เขาเงยหน้ามาพอดี ผมเลยยิ้มให้ แต่พี่เขาไม่ยิ้มตอบ แถมยังทำหน้าหน้าเฉยๆ ผมเลยหน้าแตก รีบตักอาหารแล้วไปนั่งกินกับเพื่อน คิดว่าพี่ฉลามอาจจะอารมณ์ไม่ดีอยู่


กินกันเสร็จก็ไปเข้าฐานกิจกรรมต่อ คราวนี้เป็นเกมหาของตามด่านต่างๆ ต้องทายปริศนาให้ออกหรือเล่นเกมให้ผ่านแล้วถึงจะได้คำใบ้ พวกผมก็เล่นกันไปขำกันไป โดยเฉพาะเกมใบ้คำแบบรายการมาตามนัด ไอ้เก้งมันทำท่าลา แต่เสือดันทายว่าหมา พวกผมขำกันจนต้องลงไปนั่ง ก็ยังไม่เคยเห็นว่าลามันยกขาฉี่แบบหมาฉี่ใส่กำแพงแบบนั้น พวกผมเล่นกันจนมาถึงด่านพี่ฉลาม ด่านที่โหดที่สุด พวกผมต้องปิดตาแล้วคลำหาของตามคำบอกของรุ่นพี่ให้เจอ ผมเป็นคนสุดท้ายที่ได้เล่น โดนพวกรุ่นพี่แกล้งจนหัวหมุนไปหมด  ผมต้องเดาให้ถูกว่าพี่คนไหนพูดจริง คนไหนหลอก แต่ผมเดาผิด ไปฟังเสียงคนๆหนึ่ง พอได้ยินเสียงว่าจับ ผมก็จับหมับทันที แล้วผมก็ต้องหงายหลังล้มลงไปนอนกับพื้นทรายอย่างแรง ได้ยินเสียงหัวเราะกับเสียงเป่าปาก บุ้งรีบเข้ามาเปิดตาให้ผมพร้อมกับปัดเศษทรายให้


“เจ็บตรงไหนรึเปล่า” บุ้งถาม ผมพลิกแขนมาดู มีรอยเลือดออกซิบๆจากรอยถลอก คงจะไปขรูดกับเศษก้อนกรวด ผมมองไปรอบๆ เห็นรุ่นพี่กับเพื่อนคนอื่นๆกำลังหัวเราะ ผมเลยมองหน้าบุ้งแบบงงๆ

“แกดันไปจับที่เป้าที่ฉลาม พี่เมตรแม่งกวนตีน ตะโกนบอกให้แกไปจับ” ผมตกใจมากเมื่อได้ยิน มองไปที่พี่ฉลาม ทีแรกพี่เขาก็มองมา แต่พอผมมองไปพี่เขาก็เมินหน้าหนีไปทางอื่น

“เนื่องจากน้องกลอนจับผิดเป้าหมาย ไปจับหูฉลามเสียได้ เกมนี้กลุ่มทองหยอดไม่ผ่านนะครับบบบบ เพราะฉะนั้นกลุ่มที่ชนะก็คือ กลุ่มฝอยทอง ฮริ้ววว ปรบมือให้ผู้ชนะหน่อย” พี่อ้วนประกาศ เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องดีใจดันขึ้นพร้อมเสียงกลองทอม


ผมลุกขึ้นยืน ปัดเศษทรายออก ก่อนจะขอตัวกลับไปที่ห้องพัก รู้สึกถึงความผิดปกติของพี่ฉลาม ผมรู้ว่าผมอาจจะไปจับของต้องห้ามแล้วทำให้พี่เขาตกใจ แต่พี่เขาน่าจะรู้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจ ทำไมต้องผลักผมแรงขนาดนั้น โดยเฉพาะสีหน้าเฉยชาแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเลย ผมกลับมาถึงห้องก็อาบน้ำแล้วเอาน้ำเกลือมาล้างแผล โชคดีที่ติดเอามาด้วย จริงๆพวกรุ่นพี่เขาก็มีให้ แต่ผมอยากมาอาบน้ำล้างเศษทรายออกก่อน พอดีพี่เขาปล่อยฟรีครึ่งชั่วโมงด้วยให้ทานข้าว ผมเลยกลับมาได้ ผมทำความสะอาดแผลถลอกเรียบร้อยก็เหม่อมองออกไปที่ระเบียง ก่อนจะถามตัวเองว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า จนกระทั่งบุ้งมันมาตามให้ไปกินข้าว ผมเลยบอกว่าไม่หิว มันเลยตามใจผม แต่สักพักผมก็ตามมันออกไปเข้าฐานต่อ คราวนี้ไม่ได้เป็นเกมบุกผ่าฝ่าดงอะไร แต่เป็นการให้รุ่นน้องพูดคำว่า ขอโทษ กับรุ่นพี่ ถ้าเราไม่สามารถพูดให้รุ่นพี่พูดคำว่า ยกโทษให้ ก็ไม่สามารถกลับไปนั่งได้ ยกเว้นแต่จะทำอะไรก็ได้ให้รุ่นพี่หลุดขำ ถือว่า รุกฆาต เราถึงจะได้กลับไปนั่ง


ส่วนคู่ก็คือคู่เดิมแบบที่โดนป้อนข้าว รุ่นพี่ไปยืนเป็นวงกลม ส่วนพวกผมต้องไปยืนตรงหน้า แล้วเริ่มพูด ผมก็พูดคำว่าขอโทษไป เสียงดังก็แล้ว เบาก็แล้ว แต่พี่ฉลามยังคงเงียบ จนเพื่อนๆของผมมันได้ทยอยเข้าไปนั่งแล้ว ผมก็ยังคงยืนพูดอยู่ จนกระทั่งเหลือคู่ผมเป็นคู่สุดท้าย ตอนนี้ทุกสายตาเลยมองมาที่ผม ผมยอมรับว่าเกร็งและเครียด พี่ฉลามทำหน้าเฉยเหมือนไม่รับรู้อะไร ผมยืนจนเมื่อย สงสารเพื่อนที่นั่งรอด้วย เลยตัดสินใจทำหน้าที่คิดว่าตลกและน่าเกลียดสุดๆ แต่ก็ยังไม่ได้ผล เกิดมาผมไม่เคยต้องมาทำอะไรที่มันน่าอายแบบนี้ต่อหน้าผู้คนเลย ทำท่าลิง ท่าคนบ้า จนคนอื่นขำผมกันท้องคัดท้องแข็ง ผมเหมือนตัวตลกไปแล้ว แต่พี่ฉลามก็ยังยืนเฉย ผมทำจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ผมเลยยืนมองหน้าพี่เขานิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา พี่แหบคงเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเข้ามากระซิบพี่ฉลามว่าให้พอ


“ไม่ได้เรื่อง” พี่ฉลามพูดจบก็เดินออกไป ทุกคนเงียบกริบ


ก่อนที่บรรยากาศจะตึงเครียดไปกว่านี้ พี่อ้วนรีบเข้ามาบอกให้ปีหนึ่งพักไปอาบน้ำ วันนี้พวกผมจะได้ไปกินอาหารทะเลในโรงแรม เสียงเฮดังกลบบรรยากาศมาคุเมื่อครู่ไปเสียสนิท บุ้งเข้ามาตบไหล่ของผมแล้วโอบไหล่ผมเดินกลับห้องพัก ผมรู้สึกคาใจ เลยตัดสินใจเดินไปที่ห้องของพี่ฉลาม เคาะประตูจนพี่ฉลามมาเปิด พอเห็นหน้าผมพี่เขาก็ถอนหายใจ


“ผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจเหรอครับ” ผมถามออกไปเมื่อเห็นว่าพี่ฉลามอยู่ในห้องคนเดียวพอดี

“ไม่ชอบคนโกหก” ผมอึ้งไป

“ผมโกหกเรื่องอะไร” ผมถาม พี่ฉลามมองหน้าผม

“นอนกับผู้ชายนี่ไม่ใช่เกย์ใช่มะ” พี่ฉลามถามผม ผมอึ้งไปเลย พูดไม่ออก

“หน้าตาก็ดี เรียนก็ดี คิดไม่เป็นเหรอวะว่าต้องระงับให้เป็นหรือมึงอยากจนทนไม่ไหว กูผิดหวังในตัวมึงจริงๆ” ผมเจ็บแปลบเหมือนถูกใครมาแทงๆที่หัวใจ พี่ฉลามไม่เคยขึ้นกูมึงกับผมเลย โดยเฉพาะเรื่องที่พี่ฉลามว่าผม มันแรงจนผมแทบยืนไม่อยู่


ผมไม่ได้แก้ตัวอะไรเลย มันคงไม่มีประโยชน์ ไม่รู้ว่าพี่เขารู้มาจากไหน แต่ถ้าเขาตัดสินผมแล้ว ผมก็คงไม่ต้องไปอธิบายอะไร ผมเดินหันหลังกลับห้อง พอเข้าไปในห้องเจอพวกเพื่อนๆกำลังแต่งตัวกัน ผมบอกพวกมันว่าปวดท้องขอตัวไม่ไป แต่เดี๋ยวจะกินขนมมาม่าที่ผมพกมาด้วยแทน บุ้งเลยบอกว่าถ้าปวดจนทนไม่ไหวให้ผมรีบโทรหา สักพักพวกมันก็ออกไปจนหมด ผมถึงได้ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา พร้อมกับคำถามเดิมที่ผมยังถามตัวเอง


...ผมทำอะไรผิดไป ผมผิดที่ไม่ได้บอกสิ่งที่มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือผมผิดที่เกิดมาน่ารังเกียจในสายตาของปกติทั่วไป..


*****โปรดติดตามบทรักบทที่สามตอนที่สามตอนหน้านะคะ******   


เย้ ดีใจที่มีคนอ่านเพิ่มขึ้น ฮ่าๆ ขอบคุณที่เปิดใจเขามากดอ่านนะคะ และยิ่งดีใจที่ยังมาเมนท์ให้กำลังใจกัน
สำหรับคนแต่งนิยาย แค่หนึ่งคำทักทาย มันก็มีความหมายนะคะ เชื่อว่าผู้แต่งทุกคนรู้สึกแบบนี้ เนอะๆ
มากอดกันหน่อยยย อิอิ จะพยายามมาลงให้ไม่ช้าเกินไป เรื่องนี้เขียนง่ายเพราะมีเนื้อหาเดิมมาให้แล้ว
แค่ใส่สีสันความบันเทิงเข้าไปด้วย สรุปว่ามันก็คือนิยายที่มีแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ผู้ชายคนหนึ่งค่ะ
มันจะยากก็ตรงที่โดนใบสั่งให้แก้ว่า "อารมณ์จริงกูไม่ได้แบบนี้ เอาใหม่ๆ แต่งใหม่" 55555
ค่ะ นายว่าไง ลูกน้องว่างั้น ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ เลิฟทุกคนจัง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2015 19:16:29 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :hao5:สงสารกลอนนน ใครจะเป็นพระเอกน้าๆๆๆ  มารอตอนต่อไป มาต่อเร็วๆนะค่ะ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
สงสารกลอนอ่ะ รู้สึกความรักแต่ละครั้งนี่อุปสรรคเยอะจริงๆ
แล้วพี่ฉลามทำไมพูดแบบนั้น
ไปรู้อะไรผิดๆมารึเปล่า

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เป็นบ้าอะไรของแกว่ะพี่ฉลาม~~~~ 

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :m15:    สงสารอ่า. ยุคนั้นแบบว่าโหดมากอะ. รังเกียจจนคนแอ๊บกันทั้งบ้านทั้งเมือง
คือจะให้ป่าวประกาศเลยไหมล่ะถึงจะเรียกได้ว่าไม่โกหก
เพลียใจ.    :mew5:   
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ เขียนตามใบสั่งต่อไปค่ะ สู้ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2015 20:37:39 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ fangdxxi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารกลอนนะ เป็นกำลังใจให้  :hao5:  :กอด1:  :กอด1:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
โถ  ลูกเอ๋ย  ที่ทำๆนี่ก็เพราะต้องคอยดูหน้าคนอื่นสินะ
มีปัญญารับผิดชอบกันไหมนี่?  ทำร้ายจิตใจคนๆหนึ่งด้วยความปากพล่อย
เมตรกับฉลามนี่เกิดมาชาติหน้าก็ขอให้ได้เป็นในสิ่งที่ไม่ต้องการเถอะ
จะได้รับรู้บ้างว่ามันทรมาณยังไง

กลอน ป้าไม่รู้จะว่ายังไงนะลูก   Shin up and take heart. What that doesn't kill you makes you stronger kha.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
พี่ฉลามโดนใครใส่ไฟมาป่ะเนี่ย
แม้กลอนจะนอนกับผู้ชายจริงๆ แต่เรื่องแบบนี้น่ะใครเขาพูดได้เต็มปากบ้าง
จะให้พูดว่า ใช่ครับผมเป็นเกย์เคยนอนกับผู้ชายมาแล้วด้วย งั้นหรอ
น่าอวดตายล่ะ
ขนาดชายหญิงปกติยังไม่อยากบอกเลยว่าเคยผ่านมาแล้วน่ะ
แต่คิดว่าพี่เขาคงโกรธที่กลอนไปโกหกว่าไม่ได้เป็นเกย์มากกว่าล่ะมั้ง

อย่าให้รู้เชียวว่าใครพูด หรือว่าพี่เมตร?

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
สงสารน้องกลอน น้องผิดอะไรรึก็ไม่ แต่ถ้าพี่ฉลามคิดได้แค่นี้ รีบถอยห่างแต่แรก

เสียความรู้สึกเท่าที่เสียไปถือว่าโชคดีแล้ว ถ้ายิ่งสนิทกันจะยิ่งเฟล คนอะไร มไ่ฟังอะไรเลย

ปากมีทำไมไม่ถามน้องวะ ว่าอะไรเป็นอะไร ให้น้องอธิบายบ้าง ไม่ใช่พูดกับน้องแบบนี้

แต่เรารู้สึกว่าเดี๋ยวพี่ฉลามก็กลับมาง้อน้อง ยังไงก็ไม่รู้ 

ปล. น้องใกล้จะเจอพระเอกตัวจริงเสียงจริง รักน้องจริงๆรึยังคะ?

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่เค้าอาจจะโกรธเรื่องที่โกหกอย่างเดียว

ความจริงเค้าก็เอ็นดูเหมือนเป็นน้องเป็นนุ่ง 

หวังว่าจะปรับความเข้าใจกันได้นะคะ    :กอด1:

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
เมตรต้องเป็นคนมาเล่าให้ฉลามฟังแน่ๆ

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
 
บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 3)


ผมกินแค่ขนมปังแล้วก็นอนหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนประมาณสี่ทุ่มกว่า พวกเพื่อนๆยังไม่กลับมา พรุ่งนี้ฟรีครึ่งวันเช้า บ่ายๆบรรดารุ่นพี่ที่จบไปแล้วจะมาทำความรู้จักกับพวกเรา มากันหลายคนเลย พอกลางคืนจะเป็นงานบายศรี ต่อด้วยปาร์ตี้ยาวไปถึงเช้า แล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพในช่วงบ่าย


“ตื่นแล้วเหรอ” บุ้งกลับมาที่ห้อง เห็นผมตื่นแล้วเลยเดินเข้ามาหา

“ทำไมกลับมาคนเดียว” ผมถาม

“ยังกินกันอยู่ ฉันกลับมาดูแกว่าเป็นไงบ้าง”

“ดีขึ้นแล้ว”

“แกมีปัญหาอะไรกับพี่ฉลามเปล่าวะกลอน” บุ้งถามผมสีหน้าจริงจัง ผมถอนหายใจ

“เขาโกรธที่เราโกหกว่าไม่ได้เป็นเกย์ ก็ไม่รู้เขาไปรู้ได้ไง”

“แค่นี้เหรอ”

“อืม”

“ฉันว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นว่ะ” บุ้งทำหน้ายุ่ง

“ทำไมอะ”

“ก็เมื่อกี้นั่งๆกินกันอยู่ พี่ฉลามต่อยพี่เมตรปากแตกเลย แล้วก็เกือบจะต่อยพี่แหบ ดีที่รุ่นพี่คนอื่นห้ามเอาไว้ทัน แต่ไม่รู้เรื่องอะไรกัน แต่ก็เคลียร์กันแล้ว”

“เหรอ” ผมก็ตกใจเหมือนกัน แต่มันอาจจะไม่เกี่ยวกับผมหรอก

“ฉันตกใจมากตอนที่พี่ฉลามผลักแกล้ม แต่ตอนนั้นสีหน้าพี่เขาก็ไม่ดีเลยนะเว้ย หน้าเสียเลย เหมือนตกใจ”

“เราก็ไม่รู้อะบุ้ง เราไม่ได้ตั้งใจจะจับเป้าพี่เขา ไม่ได้โรคจิตขนาดนั้น เราผิดเหรอวะที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นอะไร เราแค่ไม่อยากให้แม่เสียใจ” ผมน้ำตาซึมเมื่อพูดถึงแม่ คนอื่นคงไม่รู้ว่าครอบครัวผมเราผ่านอะไรมา เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผม ผมไม่อยากให้แม่สะเทือนใจกับเรื่องของผมอีก ผมคือความหวังของแม่ ผมรู้ดี

“ใจเย็นๆ เราว่าอาจจะมีอะไรเข้าใจกันผิด เออ แก เมื่อกี้มีผู้ชายมาถามหาแกที่หน้าห้องด้วย แต่ฉันดูแล้วว่าไม่น่าไว้ใจ เลยบอกว่าแกอยู่ที่งานเลี้ยง” บุ้งบอกผม ผมคิดว่าคงเป็นพี่รัน ผมเลยเล่าเรื่องพี่รันให้มันฟัง บุ้งมันทุบหมอน สีหน้าหงุดหงิด

“แม่ง ถ้ารู้ก่อนว่ามันเป็นใครจะเตะเป้ามันให้สูญพันธ์เลย แกอย่าอยู่คนเดียวเลย ถึงจะไม่มีอะไรก็เหอะ ไปที่งานกัน อาหารทะเลเพียบเลย รุ่นพี่ที่จบไปแล้วทยอยมากันมาค้างตั้งแต่วันนี้ อย่าพลาดโอกาสดีๆเลย”

“อืม ไปก็ได้ ขอเปลี่ยนชุดแบบหนึ่ง” ผมบอกก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า


ผมใส่แค่เสื้อยืดสีขาวตัวบางๆกับกางเกงยีน เราสองคนเดินไปถึงโรงแรม พอผมเดินเข้ามาในห้องอาหารเสื้อก็ตะโกนเรียกผม ผมเห็นว่าพี่ฉลามเงยหน้าขึ้นมามองผม แต่ผมรีบมองที่เพื่อน ในเมื่อเขารับไม่ได้ที่ผมเป็นแบบนี้ ผมก็ควรรักษาระยะห่างเอาไว้ ไม่อยากให้ใครลำบากใจ


ผมเข้าไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนปีหนึ่งด้วยกัน มีรุ่นพี่เข้ามาทักทายและนั่งคุยด้วย ทีแรกผมก็เกร็งๆ แต่สักพักก็หาย รุ่นพี่ทุกคนใจดี เป็นกันเอง ทำให้พวกเราสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว แถมผมยังได้โอกาสเข้าไปฝึกงานในบริษัทโฆษณาของรุ่นพี่คนหนึ่งด้วย ไปฝึกแบบไม่ได้รับค่าจ้าง เพราะเราเข้าไปแค่ช่วงเวลาที่ว่าง เหมือนการได้ซ้อมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ผมชอบนะ อยากไปทำเร็วๆ เวลาได้นั่งคุยกับเรื่องที่เราสนใจ เวลาก็เหมือนจะผ่านไปเร็ว ตอนนี้ก็ตีสามกว่า พี่อ้วนมาบอกว่าให้รุ่นน้องปีหนึ่งไปพักผ่อนได้แล้ว พวกผมเลยไหว้ลารุ่นพี่ก่อนจะพากันเดินกลับไปที่รีสอร์ท เก้งชวนให้พวกผมไปนั่งเล่นที่ริมทะเล เพราะถึงยังไงพรุ่งนี้ก็ตื่นสายได้ พวกเราเลยตกลงแล้วไปนั่งเล่นที่ริมทะเลกัน


“มึง กูดีใจนะที่ได้มาเจอกับพวกมึง” เล็กพูดขึ้นมาก่อนจะหงายหลังลงไปนอนกับพื้นทรายเลย

“ทะเลพาซึ้งซะงั้น” เสือบอกก่อนจะขำ แล้วมันก็ทิ้งตัวลงไปนอนบ้าง

“แต่เราก็รู้สึกเหมือนเล็กนะ ดีใจที่มาทำความรู้จักกับพวกแกก่อน รู้สึกว่าสบายใจเวลาคุย เราจะเป็นเพื่อนตายกันนะ” เก้งพูดจบก็ทิ้งตัวลงไปนอนตามสองคนแรก

“กูเป็นเกย์นะ พวกมึงรับได้ใช่ไหม” บุ้งพูดขึ้นมา ผมหันไปมองหน้าบุ้ง ยิ้มให้มัน

“ก็รู้ตั้งแต่เห็นติ่งหูมึงแล้วบุ้ง” เสือบอก เก้งกับเล็กก็ส่งเสียงเห็นด้วย

“ดี งั้นก็เป็นเพื่อนตายกันได้” บุ้งบอกจบแล้วก็ทิ้งตัวลงไปนอนอีกคน ส่วนผมนั่งกอดเข่าตัวเองเหม่อมองไปที่ทะเลเบื้องหน้า ผมไม่กล้าพูดแบบบุ้งหรอก ถึงจะสนิทใจและรักพวกมันเหมือนกัน แต่ผมก็เลือกที่จะเก็บมันเอาไว้

“มึงไม่มีอะไรจะพูดเหรอกลอน” เล็กถาม

“มี” ผมบอก บุ้งหันมามองผม

“อะไรวะ ลุ้นนะมึง” เสือถาม

“จะบอกว่า ขอไม่นอนลงไปแบบพวกแกนะ ไม่อยากเปื้อน” ผมบอกจบพวกมันก็โห่ใส่ แล้วมันสี่คนก็มองหน้ากัน ผมเห็นท่าไม่ดีแต่ก็ไม่ทันแล้ว พวกมันลุกขึ้นโถมตัวใส่ผมจนผมล้มลงไปนอนกับพื้น เราแกล้งกันจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยเม็ดทราย หัวเราะกันลั่นทะเล


..นี่ก็เป็นอีกความทรงจำหนึ่งที่ผมจำได้แม่น มิตรภาพของเพื่อนได้ก่อตัวขึ้น โดยมีท้องทะเล เม็ดทราย ดวงดาว สายลมและพระจันทร์เป็นพยานให้กับเรา มิตรภาพที่ยังคงแนบแน่นมาจนถึงทุกวันนี้..


...


แม้ว่าเมื่อคืนผมจะนอนดึกมาก แต่ด้วยความเคยชินของร่างกาย ผมก็ตื่นตอนตีห้าครึ่งตามเคย ผมเลยออกไปเดินเล่นอีก ภาวนาว่าคงไม่ต้องมาเจอพี่รันอีกนะ เพราะผมอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นโดยไม่มีอะไรมาทำให้เสียอารมณ์ คำภาวนาเป็นผล เพราะผมไม่เจอพี่รัน ผมเดินเล่นมาเรื่อยๆจนฟ้าเริ่มสว่าง ตอนที่เดินกลับก็เห็นคุณป้าคนหนึ่งหอบอะไรมาตั้งขายอยู่ไกลๆ กำลังจะเดินไปดูแต่ช้ากว่าใครบางคน ผมเห็นไกลๆก็จำได้ว่าเป็นพี่ฉลาม พี่เขาใส่เสื้อกล้ามสีเขียวขี้ม้ากับกางเกงเล นั่งยองๆอยู่ตรงหน้าคุณป้าคนนั้น ผมเลยเดินเลี่ยงมาอีกทาง ไปนั่งเล่นเตียงผ้าใบของรีสอร์ท ตอนที่เดินเล่นก็สวยกับรุ่นพี่ที่จบไปแล้วบางคนออกมาวิ่ง ผมก็ยกมือไหว้ทักทาย พี่เขาก็พยักหน้าให้ บางก็ทักว่าผมตื่นเช้าดีจัง


“หนู ช่วยป้าซื้อของหน่อยสิจ๊ะ” ผมหันมามองคุณป้าที่หาบกระจาดของมานั่งยองๆข้างๆผม ผมมองไปที่กระจาด พบว่ามันเป็นโมบายที่ทำจากหอย ใส่ถุงเอาไว้ แต่ก็มีห้อยโชว์ให้ดูที่ด้ามไม้หาบ

“อันเท่าไหร่ครับป้า” ผมถาม นึกสงสารแก ผมจะเป็นคนที่เซนซิทีฟเรื่องคนชรา เห็นแล้วจะใจอ่อนตลอด

“อันละห้าสิบบาทเอง หลานป้ามันพิการ มันร้อยเองเลยนะ มีหลายแบบ ลองเลือกดูนะ”

“เอาอันนี้ก็ได้ครับ” ผมชี้ไป ป้ารีบหยิบถุงโมบายอันเล็กๆให้แล้วรีบของคุณผม ผมอยากซื้อมากกว่านี้นะ แต่หยิบเงินติดมาแค่หกสิบบาทเอง


ผมรู้สึกแสบๆท้อง เมื่อคืนไปนั่งที่งานเลี้ยงแต่ก็ไม่ค่อยได้กินอะไรเท่าไหร่ ผมเลยเดินกลับเข้าไปข้างในรีสอร์ท แต่จะแวะไปกินโอวันตินกับอาหารเช้าที่ห้องอาหารก่อน คิดว่ารอพวกเพื่อนๆผมตื่น ผมอาจจะปวดท้องเสียก่อน แต่พอเดินเข้าไปก็เห็นว่าพี่ฉลามนั่งอยู่กับพี่แพร พี่แพรหน้าตาน่ารัก เหมือนเน็ตไอดอลเกาหลีที่เราเห็นๆกันในตอนนี้ ปากนิด จมูกหน่อยแต่ขาวมาก เรียนรุ่นเดียวกับพี่ฉลาม ในมือพี่แพรถือโมบาย กำลังคุยหัวเราะกับพี่ฉลาม เขาสองคนก็เหมาะสมกันดี ดีเหมือนกันที่พี่ฉลามโกรธผมแบบนี้ เพราะถ้าเรายังคุยกัน แล้วผมต้องฟังเรื่องของพี่แพรระหว่างทางกลับบ้านกับพี่ฉลาม ผมอาจจะเจ็บก็ได้ การแอบรักคนอื่นมันจะเจ็บก็ตอนที่เจ็บแต่แสดงออกไม่ได้นี่แหละครับ ผมตักอาหารมานั่งทานอยู่อีกมุมหนึ่งคนเดียว สักพักหนึ่งก็เห็นว่าพี่ฉลามเดินออกไปจากก้องอาหารพร้อมกับพี่แพร ผมได้แต่ถอนหายใจ สักพักหนึ่งพี่แหบก็เดินมานั่งด้วย ในมือถือกาแฟมาแก้วเดียว


“ตื่นแต่เช้าเชียวนะ”

“พี่ก็เหมือนกัน” ผมพูดตอบไป

“พี่ยังไม่ได้นอนเลย เดี๋ยวจะไปงีบสักแป๊ป เห็นเรานั่งกินข้าวเลยมาทักหน่อย”

“อ๋อ ครับ”

“เมื่อวานนี้เจ็บรึเปล่า” พี่แหบถามผม

“จำไม่ได้แล้วครับ มันผ่านมาแล้ว” ผมตอบ

“อย่าไปโกรธไอ้หลามมันนะ พวกพี่ผิดเองแหละ”

“ไม่ได้โกรธครับ พี่เขาคงตกใจ” ผมบอก

“จริงๆมันมีสาเหตุอื่นน่ะ แบบ พี่ขอโทษจริงๆนะกลอน” พี่แหบยกมือไหว้ผมจนผมตกใจยกมือไหว้กลับ แต่ก็งงว่าพี่เขาพูดถึงอะไร

“คืนนั้นที่กลอนมานอนหลับที่ห้อง พี่กับไอ้เมตรกลับมาตอนเกือบเช้า เมาได้ที่เลย คะนองไปหน่อยเลยแกล้งแรงไปหน่อย”

“แกล้งอะไรเหรอครับ” ผมถาม

“ไอ้เมตรมันเห็นไอ้หลามมันนอนหงายเป้าตุงอยู่ เลยเอามือน้องกลอนไปวางที่เป้ามันแล้วถ่ายรูปเอาไว้ พอเช้าก็แกล้งมัน บอกมันว่าโดนน้องกลอนจับเอาไว้ทั้งคืน ไม่คิดว่ามันจะโกรธขนาดนั้น ปกติพี่ก็เล่นกันแบบนี้บ่อยๆ เมื่อคืนพอไปสารภาพมัน เกือบโดนมันต่อย ไอ้เมตรโดนไปแล้ว กลอนอย่าโกรธพวกพี่นะ” ผมอึ้งไปกับคำสารภาพของพี่แหบ ถ้าจะโกรธก็ต้องโกรธตัวเองด้วย ทำไมผมถึงหลับสนิทจนไม่รู้เรื่องขนาดนั้น อาจจะเป็นยาที่คุณหมอให้มารึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ผมไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ

“พี่ยอมให้ต่อยก็ได้ อย่าโกรธพวกพี่นะ พี่ก็รู้หละว่ากลอนไม่ได้เป็นเกย์ แต่เห็นกลอนเรียบร้อย เลยอำไอ้หลามมัน ไม่คิดว่ามันจะเชื่อขนาดนั้น มันนึกว่าน้องกลอนจะลักหลับมัน” ผมถอนหายใจ ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกแย่ จะยังไงก็คือ พี่ฉลามเกลียดเกย์ จะโดนแกล้งหรือไม่แกล้งมันก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมต้องรักษาระยะห่างของตัวเองกับพี่ฉลามอยู่ดี

“ช่างมันเถอะครับ กลอนเข้าใจ เล่นกันขำๆ แต่ก็อย่าเล่นแบบนี้อีกนะครับ” ผมบอก พี่แหบยิ้มแล้วรีบขอบคุณผมใหญ่ แล้วพี่แหบก็ขอตัวไปนอน ส่วนผมยังนั่งอึ้งอยู่คนเดียว

...
..


ผมยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้บุ้งฟัง เพราะพอกลับเข้าไปพวกมันก็ตื่นกันหมดแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่โรงแรม เตรียมเข้าไปทำกิจกรรมพบรุ่นพี่ต่อจนถึงเย็น ได้ความรู้มากมาย ฟังเพลินเลย บางคนทำงานในวงการบันเทิง ก็วีดีโอเอาเบื้องหลังมาเปิดให้ดู บางคนผมก็เพิ่งรู้ว่าเขาเรียนที่สถาบันนี้ด้วย ส่วนใหญ่ทำงานเบื้องหลังทั้งนั้น ผมพยายามจดข้อมูลสำคัญๆเอาไว้ บางอย่างเป็นบทเรียนที่ดี แล้วหมดเวลาไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงงานบายศรี เราทุกคนใส่เสื้อคณะมา ออกแบบสวยดี ผมชอบมาก มารู้จากบุ้งว่าพี่แพรเป็นคนออกแบบ บุ้งเมาท์ให้ฟังว่าพี่แพรน่าจะกำลังคบกับพี่ฉลาม เห็นรุ่นพี่เขาแซวกัน ผมก็ได้แต่รับรู้แล้วทำเฉยๆ


พวกเรานั่งฟังรุ่นพี่ออกมาพูดความในใจทีละคน พี่อ้วนพูดซึ้งจนผมน้ำตาซึม ผมเพิ่งเข้าใจว่าสายใยระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องมันดีแบบนี้ ยิ่งตอนที่พี่เขาเปิดวีดีโอพวกผมที่โดนรับน้องตั้งแต่วันแรกจนถึงเมื่อวานให้ดู ปีหนึ่งร้องไห้กันแทบทุกคนรวมถึงผมด้วย แต่ภาพในวีดีโอมีผมเยอะมาก ตั้งแต่วันแรกที่ผมเถียงพวกพี่เขา ผมเพิ่งเห็นว่าหน้าผมเอาเรื่องน่าดู มีรูปตอนที่พี่อ้วนไหว้ผมด้วย ผมขำทั้งน้ำตาเลย ดูวีดีโอเสร็จก็ถึงตอนที่รุ่นพี่ร้องเพลงให้พวกเรา น้ำตาก็ไหลเป็นก๊อก มันซาบซึ้งมากครับ จากนั้นก็เป็นการผูกข้อมืออวยพร รุ่นพี่นั่งที่เก้าอี้ ส่วนพวกผมนั่งที่พื้นแล้วขยับไปเลื่อนไปเรื่อยๆ


ตอนนี้ข้อมือของผมเต็มไปด้วยด้ายสีขาว ผมเลื่อนมาถึงพี่ฉลาม ผมก้มหน้า คิดว่าถ้าพี่เขาไม่ยอมผูกให้ผม ผมจะทำยังไงดี แต่ความกังวลของผมก็หมดไป เพราะพี่เขายอมผูกข้อมือให้ผม แต่ไม่พูดอวยพรอะไรเลย ผูกเสร็จผมก็ยกมือไหว้ ไม่ได้พูดอะไรกลับไปเช่นกัน ก็สงสัยเหมือนกัน ในเมื่อพี่เขารู้ความจริงแล้วว่าผมถูกแกล้ง ทำไมถึงยังทำเฉยใส่ผม


เราวนผูกกันจนครบแล้ว ประธานรุ่นก็คือพี่นพ ก็เปิดงานปาร์ตี้ ผมพวกต้องเตรียมตัวขึ้นไปแสดงตามโจทย์ที่ได้รับในวันแรก กลุ่มผมได้เล่นเป็นกลุ่มสุดท้าย ซึ่งผมชักอยากจะเปลี่ยนการแสดงที่ตกลงกันเอาไว้กับเพื่อนเสียแล้ว แต่คงไม่ได้ เพราะซ้อมกันมาแล้ว เลยได้แต่นั่งดูเพื่อนคนอื่นแล้วก็ทำใจไปด้วย ส่วนใหญ่ก็ร้องเพลง แสดงละครสั้นๆ มายากลบ้าง ในที่สุดก็ถึงกลุ่มผม ผมสูดอากาศเข้าปอด แล้วเดินขึ้นไปบนเวที


เสียงหัวเราะเฮลั่นห้องจัดเลี้ยง ผมมองลงไปข้างล่าง ทุกคนหัวเราะกันจนตัวงอหลังระหว่างที่ดูกลุ่มผมแสดง พวกผมแสดงอะไรนะเหรอครับ ก็ล้อเลียนรุ่นพี่นี่แหละครับ ซึ่งผมยอมรับเลยว่าไอ้สี่คนเพื่อนผมมันเนียนมาก แสดงเหมือนมากๆ สลับสับเปลี่ยนกันเป็นคนโน้นคนนี้ ยิงมุกสดๆกันตลอดไม่เหมือนที่ซ้อม ผมแอบยังหลุดขำ ส่วนผมนี่สิ ได้รับมอบหมายให้แสดงเป็นพี่ฉลาม นี่และที่ผมอยากจะเปลี่ยนในตอนแรก แต่ก็ต้องกัดฟันแสดง ซึ่งผมก็พยายามนึกท่าทางของพี่เขา ซึ่งไม่รู้หรอกว่าแสดงเป็นยังไง แต่คนก็ขำกันลั่น ผมไม่กล้ามองไปที่พี่เขาหรอก ยิ่งตอนที่ไอ้บุ้งมันต้องมาแสดงเป็นผมตอนที่ถูกพี่ฉลามดุ มันเลียนแบบผมทำหน้าเชิดๆเสียเหมือนจนผมหลุดขำ พวกผมแสดงเสร็จก็ได้ยินเสียงปรบมือดัง พอลงมาข้างล่างก็รู้สึกโล่งใจที่มันผ่านไปได้ด้วยดี แล้วงานกินก็เริ่มขึ้น งานเต้นก็มาด้วย พวกผมสนุกกันสุดเหวี่ยง ผมเองก็แอบกินไวน์แบบขวดเล็กๆไปหนึ่งขวด แต่แค่นี้ก็ร้อนวูบวาบ เหมือนเลือดสูบฉีดไปทั้งตัวแล้วครับ


ผมออกไปเต้นจนเหงื่อออกเต็มตัว อันที่จริงก็เต้นไม่เป็นหรอกครับ อาศัยโดดๆเอาสนุก หัวเราะเหมือนคนบ้า ไอ้บุ้งมันบอกว่าผมเมาน้ำจิ้มซีฟู๊ดมากกว่าไวน์ เพราะกินไปขวดแต่เมาเป็นลัง ผมขำที่มันเปรียบเทียบ พอรู้สึกร้อนเลยบอกมันว่าจะกลับ ไม่ชอบให้ตัวเหนียว ผมเดินกลับไปที่รีสอร์ทคนเดียว มาถึงหน้าห้องก็เจอพี่รันยืนอยู่ ผมตกใจเหมือนกัน


“พรุ่งนี้พี่จะกลับแล้ว อยากขอคุยกับกลอนได้ไหม”

“ผมว่าผมพูดสิ่งที่ผมต้องการไปหมดแล้วนะครับ” ผมบอก

“ครั้งสุดท้าย นะ แล้วพี่จะไม่มากวนกลอนอีก” พี่รันทำหน้าอ้อนวอน

“อย่าดีกว่าครับ” ผมบอกตรงๆว่าไม่อยากไปคุยอะไรกับพี่เขาอีก พี่รันเดินตรงมาผาผมแล้วกอดผม ผมรีบดันตัวพี่เขาออก

“กลอน ไอ้นั่นมันไม่ใช่เกย์ มันบอกพี่แล้ว มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลอนเป็นเกย์ มันรังเกียจกลอนนะ พี่ดูก็รู้ กลอนอยากหลอกพี่เลยว่าคบกันมัน” พี่รันพูดจบ ผมก็รู้สึกเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่หล่นใส่หัว สติโดนน็อคจนไปต่อไม่ถูก เพราะสาเหตุนี้นะเอง ที่ทำให้พี่ฉลามโกรธผม เพราะผมอ้างว่าเขาเป็นคนรักของผม

“กลอน เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ” พี่รันเข้ามากอดผมอีก คราวนี้ผมผลักพี่รันออกอย่างแรงจนตัวพี่รันเซไปชนกับกำแพงห้อง

“พี่จะทำร้ายกลอนไปอีกเท่าไหร่ พี่อยากให้กลอนฆ่าตัวตายแบบแม่ใช่ไหม อยากให้กลอนดูไร้ค่า อยากให้กลอนหมดศรัทธากับตัวเอง พี่ต้องการแบบนั้นใช่ไหม” ผมร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย รู้สึกเสียใจที่พี่รันเอาเรื่องของไปพูดกับพี่ฉลาม ถ้าพี่รันไม่หยุด สักวันอาจจะเอาเรื่องนี้ไปพูดกับแม่ของผม ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เขาถึงจะยอมไปจากชีวิตของผม ผมรู้สึกเสียใจเพราะครั้งหนึ่งผมเคยรักคนๆนี้ ทุ่มเทให้เขา แต่เขาเลือกที่จะไปจากผมเอง

“กลอน พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้อยากทำร้ายกลอน” พี่รันหน้าเสียเมื่อเห็นผมร้องไห้

“ไปจากชีวิตกลอนเถอะนะ กลอนขอร้อง พี่กำลังมีลูกนะ พี่ไม่สงสารเขาเหรอ อย่าทิ้งเขาเหมือนที่พ่อทิ้งกลอนเลย อย่าทำแบบนั้นกับเด็กที่ไม่รู้เรื่อง” ผมยกมือไหว้พี่รัน พี่เขาอึ้งไป สุดท้ายพี่รันก็ร้องไห้ออกมาด้วย

“โอเค พี่จะไม่มายุ่งกับกลอนอีก พี่ขอโทษนะสำหรับทุกอย่าง” พี่รันบอกผม ผมไม่ได้ตอบ จนกระทั่งพี่เขาเดินไป ผมถึงได้ไขกุญแจแล้วเดินเข้าห้องไปร้องไห้ต่อ

.....

..


แล้วพี่รันก็ไปจากชีวิตของผมจริงๆอย่างที่ผมต้องการ ส่วนผมเองก็กลับมาตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่อย่างที่เคยทำมาตลอด ผมไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยกับพี่ฉลามอย่างที่เคย ตั้งแต่กลับมาจากรับน้องผมก็ไม่ได้เจอพี่เขาเลย เป็นผมเองที่เป็นฝ่ายหลบหน้าพี่เขา ไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหารของคณะ เลิกเรียนก็ไปฝีกงานกับพี่เหิร รุ่นพี่ที่ผมขอไปฝึกงานด้วย ผมไปช่วยเขาหลังเรียน วันไหนไม่มีเรียนหรือมีงานที่ผมต้องรีบทำส่งอาจารย์ ผมก็จะไป จนวันหนึ่งฝนตกหนักมาก ผมต้องหลบฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ปากซอย ไม่อยากเดินฝ่าเข้าไป กลัวจะเป็นหวัด ผมยิ่งเป็นภูมิแพ้อยู่ด้วย จนเห็นรถของพี่ฉลามขับผ่าน ผมก็ได้แต่มอง แล้วรถเบนท์ที่ขับเลยผมไปแล้วก็ถอยหลังกลับมา ผมยืนมอง ไม่ได้เดินเข้าไป พี่เขาไม่ได้เปิดกระจกเพราะฝนมันตกอยู่ ไม่อยากหน้าแตก จนได้ยินเสียงบีบแตรดังลั่นหลายที ผมถึงรีบวิ่งฝ่าฝนออกไปเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่ง พี่ฉลามออกรถไปเลยโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับผม พี่เขาไม่ได้จอดส่งผมที่คอนโด แต่ขับรถเข้าไปในบ้าน ผมก็เข้าใจ ฝนมันอาจจะสาดเข้าไปในรถได้ เดี๋ยวไปลงในโรงจอดรถบ้านพี่เขาแล้วค่อยเดินออกมาก็ได้


“ช่วยถือโครงงานให้หน่อย” พี่ฉลามบอกผมเมื่อพี่เขาขับมาจอดในโรงรถแล้ว ดีที่วันนี้พี่เขาไม่ลืมเอารีโมทรั้วมา ไม่เช่นนั้นคงเป็นผมที่ต้องตากฝนไปกดกริ่งให้ ผมรีบสะพายกระเป๋าของตัวเองแล้วเข้าไปช่วยพี่ฉลามถือลังกระดาษ พี่ฉลามเดินนำผมเข้าไปในบ้าน ผมเกร็งนิดหน่อย เพราะเราไม่ได้พูดกันมาเกือบสองอาทิตย์ อีกอย่างคือผมเพิ่งได้เข้ามาในบ้านพี่เขาเป็นครั้งแรก ข้างในตกแต่งสวยมากๆ

“เอาไว้ไหนครับ”

“ตามมาข้างบนนี่” พี่ฉลามบอก ผมเลยเดินตามพี่เขาขึ้นไป พอถึงห้องพี่เขาผมก็วางลังกระดาษลง

“ขอบคุณนะครับที่ให้ติดรถมาด้วย ผมกลับก่อนนะครับ” ผมบอก

“รอให้ฝนหยุดตกก่อน” พี่ฉลามบอก ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่พอเห็นสายตาดุๆเลยเลือกที่จะเงียบ

“ไปอาบน้ำก่อน นี่ชุด แล้วค่อยเอามาคืน” พี่ฉลามบอกพร้อมกับส่งเสื้อผ้าให้ผม ผมเปียกนิดหน่อย แต่ก็เปียกเพราะป้ายรถเมล์มันหน้าปากซอยมันเล็ก แล้วฝนตกหนัก เลยหลบไม่พ้นเท่าไหร่

“ไม่เป็นไรครับ ผมว่าผมกลับเลยดีกว่า”

“พูดไม่รู้เรื่องรึไง”

“ก็ผม..”

“กลอน ไปอาบน้ำ” พี่ฉลามทำเสียงดุกว่าเดิม ผมเลยรับชุดในมือของพี่ฉลาม วางกระเป๋าตัวเองลงแล้วเข้าไปอาบน้ำ ห้องน้ำที่โคตรจะใหญ่ มีอ่างอาบน้ำด้วย แต่ผมรีบไปอาบที่ตู้กระจกที่เป็นส่วนที่เอาไว้อาบน้ำ แชมพูของพี่ฉลามมีแต่ภาษาอังกฤษ หอมมากด้วย ได้ใช้ของแพงกับเขาแล้วนะไอ้กลอน ผมบอกกับตัวเองอย่างขำๆ

“ไดร์เป่าผมอยู่ที่หน้าตู้กระจก” ผมเดินออกมาพี่ฉลามก็ชี้บอก ผมเลยเดินไปนั่งที่หน้าตู้กระจกแล้วเป่าผมจนแห้ง ส่วนพี่ฉลามนั่งต่อโครงงานอะไรอยู่ที่โซฟา ฝนยังไม่หยุดตกเลย ฟ้าร้องดังมากด้วย ผมรีบโทรบอกไอ้เด่นว่าติดฝนอยู่ ซึ่งมันก็ยังติดฝนเหมือนกัน

“พี่หายโกรธกลอนแล้วเหรอ” วางสายจากเด่นแล้วผมก็ทำใจกล้าเดินเข้าไปถามเจ้าของบ้าน

“ถามตัวเองเหอะ” พี่ฉลามย้อนถามผม ผมทำหน้างง

“นั่งเฉยๆทำไม ทากาวให้หน่อย” พี่ฉลามบอกแล้วเลื่อนกระดาษสีเงินแผ่นเล็กๆให้ผมช่วยทากาว

“ถามตัวเองคืออะไรเหรอครับ”

“ใครหลบหน้าพี่” พี่ฉลามย้อนถาม ผมก็เลยอึ้งไป

“ก็เผื่อพี่ไม่อยากเห็นหน้ากลอน”

“ก็ไม่อยากเห็น” พี่ฉลามพูดจบผมก็เจ็บแปลบเลย เลยนั่งทากาวเงียบๆ

“แต่พอไม่เห็นก็แปลกๆ” พี่ฉลามพูดต่อ ผมแอบเหลือบมองพี่เขา ใจเต้นขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล

“ขอโทษที่ผลักนะ พี่ตกใจ” พี่ฉลามพูดต่อ ผมพยักหน้าให้แต่ก็ยังก้มหน้าทากาวต่อ

“แล้วก็..ขอโทษแทนเพื่อนที่ไปแกล้ง” ผมพยักหน้าอีก

“แล้ว..ทำไมไปบอกไอ้นั่นว่าพี่เป็นแฟน” ผมกำลังจะพยักหน้านึกว่าพี่เขาจะขอโทษอะไรอีก พอได้ยินคำถามก็จ๋อยเลย

“กลอนขอโทษ กลอนแค่ไม่อยากให้เขามายุ่ง”

“แล้วทำไมไม่บอกความจริงว่าเป็น..” พี่ฉลามไม่ยอมพูดออกมา

“เป็นพี่พี่จะพูดเหรอ” ผมย้อนถาม พี่เขานิ่งก่อนจะส่ายหน้า

“แต่เราสนิทกัน” พี่เขาบอก

“ยิ่งสนิทกลอนยิ่งไม่อยากบอก พี่ไม่ชอบเกย์ ถ้ากลอนบอก พี่อาจจะระแวงจนเราไม่สนิทกัน”

“ใครบอกว่าไม่ชอบเกย์ เคยพูดเหรอ” พี่ฉลามถามเสียงห้วนๆ ผมเงยหน้ามองพี่เขา พี่เขารีบหลบตาผม

“ก็แบบ ไม่ได้รังเกียจ คบได้ เป็นพี่น้องกัน มีอะไรต้องพูดความจริง ที่โกรธ เพราะนึกว่าเราไปยุ่งกับผู้ชายที่เมียกำลังท้อง” พี่ฉลามรีบพูดต่อ คงกลัวผมจะเข้าใจผิดว่าพี่เขามีใจ ผมยิ้มให้พี่เขา ก็ยังดี ได้กลับมาเป็นน้องของพี่ฉลามก็ยังดี

“ครับ ต่อไปกลอนจะไม่โกหกอีก” ผมบอก เป็นครั้งแรกในรอบสองอาทิตย์ที่ผมได้เห็นรอยยิ้มของพี่ฉลาม

“แล้วทำไมถึงได้เป็น รู้เมื่อไหร่ว่าเป็น มีแฟนมากี่คนแล้ว แล้วแบบ..เคย แบบ” พี่ฉลามถามผมรัวเลย ผมนิ่งอึ้งไป สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วเล่าให้พี่ฉลามฟัง ผมเล่าทุกเรื่องอย่างไม่ปิดบัง เพราะอะไรไม่รู้ ผมรู้สึกว่าผมไว้ใจผู้ชายคนนี้ พี่เขานั่งฟังผมเงียบๆ มือก็ทำงานไปด้วย ผมเล่าจบพี่เขาก็ถอนหายใจ

“พี่ขอโทษนะ” เขาพูดขึ้นมา

“สำหรับอะไรครับ”

“ทุกเรื่อง” พี่ฉลามบอกผม ผมเดาความคิดพี่เขาไม่ออก ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร อาจจะกำลังสงสารผมอยู่

“กลอนก็ขอโทษเหมือนกัน ทุกเรื่อง” ผมบอก พี่เขายิ้มแล้วยีหัวผมเล่น ผมบอกตรงๆว่ารู้สึกดีมากๆ พี่ฉลามเป็นแบบนี้ ถ้าได้คิด ได้เข้าใจแล้วพี่เขาก็จะยอมรับในสิ่งที่เขาผิด

“ไปกินข้าวกัน ท่าทางจะไม่หยุดตกง่ายๆ” พี่ฉลามชวนผมลงไปกินข้าว ลงไปก็เจอพ่อกับแม่ของพี่ฉลามที่เพิ่งกลับมา ผมยกมือไหว้ ท่านดูใจดี ชวนผมคุย แล้วสักพักพี่คนนั้น คนหล่อๆที่ผมเคยเจอตอนที่มารอพี่ฉลามไปมหาลัยครั้งแรกก็เดินเข้ามา ผมก็ได้รับการแนะนำ เลยรู้ว่าพี่เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่ฉลาม แต่อายุมากกว่า เขาชื่อพี่นุ๊ก วันนี้พี่นุ๊กมาทานข้าวที่บ้านพี่ฉลามด้วย


ผมฟังครอบครัวพี่ฉลามคุยกันแล้วก็พอเข้าใจว่าพี่ฉลามเหมือนใคร พ่อพี่ฉลามมีบริษัทเรือเดินสินค้า ส่วนแม่ทำงานธนาคาร ตำแหน่งใหญ่ แต่ทั้งคู่คุยแบบฮาร์ดคอร์กันมาก ยิ่งเรื่องการเมือง เถียงกันออกรส แต่สุดท้ายก็รับฟังความคิดกัน ส่วนพี่นุ๊กได้แต่ยิ้มๆเหมือนกับผม ไม่กล้าไปคุยด้วย พี่นุ๊กทำเกี่ยวกับพวกอสังหาริมทรัพย์ คอนโดที่ผมอยู่ก็เป็นของพี่นุ๊ก บ้านนี้เขารวยกันจริงๆ


ทานข้าวเสร็จ พ่อพี่ฉลามก็ชวนผมเล่นหมากรุก ผมไม่อยากอวดว่าผมเก่งมากๆ ผมเล่นกับพ่อบ่อยๆ เล่นจนเอาชนะพ่อได้ ทีแรกพ่อพี่ฉลามก็ถามว่าผมเล่นเป็นไหม ผมตอบว่าเป็นก็เลยโดนชวนเล่น ส่วนพี่ฉลามก็เดินมานั่งดูทีวีที่โซฟาข้างๆ พี่นุ๊กก็อ่านหนังสือพิมพ์ข้างพี่ฉลามอีกที แล้วทั้งคู่ก็เลิกสนใจทีวีและหนังสือพิมพ์มาลุ้นเกมหมากรุกระหว่าผมกับพ่อพี่ฉลาม ผลสรุปคือผมชนะ พ่อพี่ฉลามชอบใจใหญ่ ยิ่งรู้ว่าผมอาศัยอยู่คอนโดตรงกันข้าม ยิ่งสั่งให้ผมมาเล่นด้วยบ่อยๆ


“ขอบคุณมากสำหรับอาหารเย็นแสนอร่อย ครอบครัวพี่น่ารักดีนะครับ ผมกลับก่อนนะ” ผมบอกพี่ฉลาม ตอนนี้ฝนหยุดแล้ว พี่ฉลามเดินออกมาส่งผมที่หน้ารั้ว

“มากินทุกเย็นสิ จะได้ประหยัด” พี่ฉลามบอก

“ผมไปฝึกงานที่บริษัทพี่เหิรกว่าจะกลับคงสองทุ่ม” ผมบอก พี่ฉลามพยักหน้ารับรู้

“พรุ่งนี้ไปด้วยกัน” พี่ฉลามพูดต่อ

“ครับ ขอบคุณนะครับ” ผมบอกแล้วยิ้มให้พี่ฉลาม พอผมจะกลับพี่เขาก็เรียกผมเอาไว้

“รอแป๊ปนึง อย่าเพิ่งไป” พี่ฉลามพูดจบก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้าน ผมรอสักพักพี่เขาก็วิ่งกลับมาแล้วส่งถุงให้ผม ผมรับมาแบบงงๆ

“กลับไปได้แล้ว เร็ว ค่อยไปดูที่ห้อง” พี่ฉลามบอก ผมเลยยิ้มให้พี่เขาอีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปที่คอนโด


ผมกลับถึงห้องก็รีบแกะถุงออกดู แล้วผมก็ต้องอึ้งไป เพราะมันคือโมบายหอยแบบเดียวกับที่ผมซื้อมา ตรงกลางโมบายหอยมีเรซิ่นใสๆรูปปลาฉลามสีฟ้าห้อยอยู่ด้วย ความรู้สึกดีๆมันถาโถมเข้ามาสู่หัวใจผมมากมาย ผมนึกว่าพี่เขาซื้อให้พี่แพร ไม่รู้ว่ามันมีความหมายอะไรไหมสำหรับของขวัญชิ้นนี้ แต่แค่พี่เขาซื้อให้ผม ผมก็ดีใจจนไม่ไม่รู้จะบรรยายยังไง


ผมรีบเดินออกไปที่ระเบียงห้อง ซึ่งมันมองเห็นบ้านพี่ฉลามชัดเจน ผมเอาโมบายผูกไว้ที่ขื่อระเบียง แล้ววิ่งเข้าไปหยิบมือถือมาถ่ายรูปโมบาย แล้วก็กดส่งไปให้พี่ฉลามดู พักเดียวพี่ฉลามก็ส่งรูปกลับมา เป็นรูปของผมยืนห้อยโมบายอยู่ที่ระเบียงแบบไกลๆ ผมรีบมองไปที่บ้านของพี่ฉลาม เห็นพี่เขายืนอยู่ที่หน้าต่างห้อง ซึ่งตรงกับระเบียงห้องของผมพอดี เราเห็นกันแบบในระยะไกลเพราะห้องของผมอยู่ตั้งชั้นหก ผมโบกมือให้พี่เขา พี่เขาก็โบกกลับ แล้วเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดัง ผมรีบกดรับ


“กลับเข้าไปได้แล้ว”

“ครับ ขอบคุณมากนะครับ กลอนชอบมาก”

“อืม เจอกันพรุ่งนี้นะ”

“ครับ ฝันดีครับพี่ฉลาม”

“ฝันดีเจ้าหนูจำไม”


ผมวางสายแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง รู้สึกมีความสุขจัง ความสุขครั้งนี้มันแตกต่างจากตอนเต็งหนึ่งแล้วก็พี่รัน ผมอธิบายออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้ว่ามันแตกต่างยังไง รู้แต่ว่ามันไม่เหมือน



..รักครั้งนี้ของผมอาจจะเป็นรักแค่ข้างเดียว แต่มันก็ทำให้ผมรู้ว่าผมยังศรัทธาในความรัก หัวใจของผมไม่ได้ถูกปิดตาย ผมยังสามารถคิดถึงใครคนหนึ่งได้อย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ผมยังคงกลัวที่จะเจอกับความผิดหวัง ผมยังจำได้ว่ามันเจ็บยังไง แต่ความกลัวนั้นมันน้อยกว่าการรู้สึกอยากจะรักใครสักคน แม้ว่ามันจะเป็นแค่ข้างเดียวก็ตาม...


*******โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ*******


โดนใบสั่งให้มาต่อเร็วๆ เพราะอยากอ่านนิยายที่คล้ายเรื่องของตัวคนสั่งเอง ฮ่าๆๆ จัดไปค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2015 14:06:29 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:   อีพี่ฉลามมมม.  แบบนี้จะไม่หวั่นไหวได้ยังไง เห้อ
หัวใจคนเรามันไม่ได้ปิดตายกันง่ายๆหรอกแค่กลัวความผิดหวังและรู้จักระวังตัวมากขึ้นเท่านั้นเอง
เชื่อว่ากลอนจะดูแลตัวเองได้ดีขึ้นนะจากนี้ไม่มีความลับกับพี่ฉลามแล้วก็ดีไปแต่ว่าไอ้สถานะพี่น้องเนี่ย.....หน่วงนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2015 14:18:35 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เลวอย่างต่อเนื่องเลยว่ะอิพี่รัน

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ดีใจที่ปรับความเข้าใจกันได้
ถ้าไม่เกิดเรื่องเลวร้ายซะก่อน
อย่างน้อยกลอนก็ยังมีพี่ชายเพิ่มมาอีกคน

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เรื่องน้องกลอนนี่ ยิ่งอ่านมันยิ่งเป็นความจริงมากๆ คนคนนึงไม่มีทาง พบกันรักกัน สมหวังตลอดกาลจริงๆ แบบนี้เลย

แต่ยิ่งคนเราเจอมาเยอะ พอเจออีกมันจะยิ่งเจ็บช้ำนะ อ่านตอนนี้บอกตรงๆยังไม่ไว้ใจพี่ฉลามเลยอ่ะ เป็นห่วงน้องกลอน   :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
แหมะ พี่ชายยยยยย
แต่พี่เล่นแบบนี้ น้องก็ใจสั่นได้เหมือนกันนะเจ้าคะ
ขยันอ่อยเกิ๊น!!!
และ แฮะๆ พี่เมตร~~~ เก๊าก๋อโต๊ด
เคยเข้าใจผิดคิว่าเป็นคนเอาเรื่องน้องเป็นเกย์ไปปูดอ่ะ
แต่ไอ้เรื่องอำเนี่ย ขอสักที

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ใจเต้น
พี่ฉลามน่ารักมากมาย
แบบนี้น้องกลอนจะไม่รักได้ไง
(หวังแค่ว่าพี่ฉลามจะไม่ทำให้น้องกลอนช้ำรักอีกรอบหรอกนะ)

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ top_fy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากอ่านต่อแร้ววววววว. ค๊าบบบบบบ :katai3:

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ขอเดาว่าพระเอกคือคนที่ได้จิ้นนไป  :z2:

ออฟไลน์ maruko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ตามอ่านรวดเดียว น้ำตาซึมไปกับความเจ็บปวดของกลอนที่ต้องเจอ อินหนักมากค่ะ T___T
กลอนเป็นเด็กดีมากจริงๆ เจอปัญหาแต่ละครั้ง มีสติและตัดสินใจได้ดีเลย เอามาผลักดันชีวิตไปทางที่ดี
ตอนนี้ลุ้นพระเอกหนักมากกก อยากให้กลอนได้เจอรักที่ดีคนที่ใช่เร็วๆ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
ไม่รู้ว่าต่อไปกลอนจะได้ลงเอยกับใคร แต่ตอนนี้เชียร์พี่ฉลามค่ะ
ขอให้พี่ฉลามเป็นคนดีที่ทำให้กลอนแฮปปี้ทีเท๊อะ!

รออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 4)


ความสัมพันธ์ของผมกับพี่ฉลามก็กลับมาเป็นเหมือนรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกันเหมือนเดิม แต่จะว่าไป ผมว่าเราสองคนสนิทมากกว่าเดิมจะดีกว่า ผมเข้าออกบ้านของพี่ฉลามเหมือนกับเป็นญาติคนหนึ่ง พ่อกับแม่ของพี่ฉลามก็ใจดีกับผมมาก ไปไหนก็ซื้อของมาฝากเสมอ คอยให้พี่ฉลามมาตามผมไปทานข้าวด้วย รวมถึงพี่นุ๊กก็ด้วย บางวันที่ผมมีเรียนเช้า แต่พี่ฉลามมีเรียนบ่าย ผมต้องเดินทางไปเรียนเอง ถ้าวันไหนผมออกไปเจอพี่นุ๊ก พี่นุ๊กก็จะอาสาไปส่งผมเพราะเป็นทางผ่าน ผมรู้สึกสนิทใจกับพี่นุ๊กได้เหมือนพี่ฉลาม พี่เขาดูเป็นผู้ใหญ่ ยิ้มง่าย ใจดี พี่นุ๊กอยู่กับแม่แค่สองคน พ่อพี่นุ๊กเพิ่งเสียไปเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง ส่วนแม่พี่นุ๊กก็ชอบไปปฏิบัติธรรมที่วัด พี่นุ๊กบอกว่าแม่อยู่วัดมากกว่าอยู่บ้าน มิน่า ผมเลยเห็นพี่นุ๊กมาฝากท้องบ้านพี่ฉลามบ่อยๆ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับผมให้พี่นุ๊กฟังแม้จะรู้สึกสนิทในระดับหนึ่งก็ตาม


อ่อ อีกเรื่องหนึ่งที่ลืมเล่าไป โมบายที่ผมซื้อมาเหมือนกับของที่พี่ฉลามซื้อมา เช้าวันถัดมาหลังจากที่ได้โมบายหอยจากพี่ฉลามในคืนนั้น ผมก็เอาโมบายของผมไปให้พี่บ้าง พี่เขางอนผมไปทั้งวันเลย ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่าพี่เขางอน แต่เห็นทำเฉยใส่ผมอีก ก็แปลกใจว่าพี่เขาเป็นอะไร มารู้ในตอนเย็นเพราะผมทำใจกล้าเข้าไปหาพี่ฉลามที่บ้าน เนียนเอาของฝากจากที่บ้านที่ไอ้เด่นมันหอบมาเอาไปให้แม่พี่ฉลาม แล้วผมก็พี่ฉลามว่าผมทำอะไรผิดไปอีก พี่เขาเลยบอกว่าของที่เขาให้แล้ว ถ้าไม่อยากได้ก็ให้ทิ้งไป ผมเลยเข้าใจว่าพี่ฉลามคิดว่าผมเอาโมบายมาคืนเขา พอเขารู้ว่าอันนี้ไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของที่ผมซื้อมาเหมือนกัน พี่เขาถึงอึ้งไป แล้วก็เนียนใช้ผมให้เอาโมบายไปห้อยให้ด้วยที่หน้าต่างห้อง จากนั้นมาก็โดนผมก็เลยรู้ว่า นอกจากพี่ฉลามจะติสท์แล้วยังขี้งอนอีกด้วย


ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอกว่าพี่เขารู้สึกดีกับผมบ้าง เพราะพี่ฉลามเป็นลูกคนเดียว การที่มีผมมาคุยมาสนิทด้วยอาจจะทำให้พี่เขารู้สึกเหมือนมีน้องชาย เพราะถึงพี่เขาจะห่วงใยหรือดีกับผม แต่พี่เขาก็ควงคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยไม่ได้ขาด บางทีพ่อของพี่ฉลามโทรตามผมให้มาเล่นหมากรุกด้วยในวันหยุด พี่ฉลามก็จะออกไปนอกบ้านแม้ว่าผมจะอยู่ที่บ้านของพี่เขา พี่เขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนเขา แต่ก็จะกลับมากินข้าวเย็นด้วย แม่พี่ฉลามบอกว่า ปกติไม่กลับมาหรอกถ้าผมไม่มา ซึ่งมันทำให้ผมแอบดีใจนิดๆ ผมมีความสุขนะ แม้ว่าผมจะเป็นได้แค่นี้ แต่ความคิดถึงของผมมีที่ไป เวลาฟังเพลงรักแล้วมีคนให้คิดถึง มันก็มีความสุขดี มันมีหลายโมเมนท์เลยที่ผมแอบมาดีใจในความใจดีเล็กๆน้อยๆของพี่ฉลามที่แสดงกับผม แต่ถึงมันจะเล็กน้อย มันก็เป็นโมเมนท์ที่ทำให้คนแอบรักพี่เขาข้างเดียวยิ้มได้ก็โอเคนะ


แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไปเมื่อผมขึ้นปีสอง ส่วนพี่ฉลามก็ขึ้นปีสี่ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเราไปรับน้องกันที่ต่างจังหวัด


“อย่าดื่มกันเยอะนะ พรุ่งนี้ต้องพาน้องเข้าฐานแต่เช้า” พี่แพรเดินเข้ามาบอกพี่ฉลามที่กำลังนั่งดื่มกันอยู่กับกลุ่มพี่ว๊าก ตอนนี้พวกผมเป็นพี่ปีสอง พาน้องปีหนึ่งมารับน้อง แต่คราวนี้เรามากันที่เกาะช้าง

ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาผมเห็นพี่ฉลามกับพี่แพรทำตัวห่างกัน พี่ฉลามบอกว่าพี่แพรงอนที่พี่ฉลามติดเพื่อนแล้วต่างคนก็ต่างเหินห่างกันไป แต่สองสามวันที่ผ่านมาผมเดาว่าคงเริ่มกลับมาคบกันอีก เพราะผมเห็นพี่แพรมาวนเวียนทุกที่ที่พี่ฉลามอยู่ ส่วนพี่ฉลามผมเห็นพี่เขาเฉยๆ ผมก็ไม่กล้าถามหรอกว่าพี่เขากลับมาคบกันรึเปล่า กลัวคำตอบครับ แหะๆ

“ห่วงแฟนจริงแม่คุณ เดี๋ยวผมไปส่งให้ถึงห้องเลยครับ” พี่อ้วนบอก พี่แพรค้อน แต่ก็ดูออกว่าเขินที่โดนแซวมากกว่าโกรธ

“มึงอย่าดูดบุหรี่” พี่ฉลามไม่ได้สนใจคำแซวแต่ดึงบุหรี่จากปากพี่แหบมาขยี้กับพื้น พี่แหบอ้าปากค้างเพราะโดนแย่งบุหรี่เพิ่งจะถูกจุดขึ้นเมื่อกี้เลย

“เฮ้ย มึงทิ้งของกูทำไม” พี่แหบถาม

“เหม็นควัน มึงไปดูดตรงโน้น” พี่ฉลามชี้บอก

“ไรวะ กูก็ดูดทุกทีไม่เห็นมึงจะเหม็น”

“ก็ทุกทีไม่มีรุ่นน้องใช่ไหมมึง สร้างภาพว่ะ” พี่ต้า เพื่อนสนิทอีกคนของพี่ฉลามแกล้งต่อว่าพี่ฉลาม พี่ฉลามไม่ได้ตอบแต่ยิ้มนิดๆที่มุมปาก ผมกับบุ้งหันมามองหน้ากัน รุ่นน้องที่ว่าในวงเหล้าตอนนี้ก็มี บุ้ง ผม เสือ แล้วก็เก้งแค่นั้น

“ผมไม่แพ้ ดูดไปเหอะพี่” เสือบอกพี่แหบ

“บุ้งก็ไม่” บุ้งบอกบ้าง ตอนนี้ทุกสายตาเลยมองมาที่ผม จริงๆผมก็ไม่ได้แพ้ขนาดนั้น แต่เคยบอกพี่ฉลามไปว่าแพ้บุหรี่ เพราะผมไม่อยากให้พี่เขาสูบ ซึ่งหลังจากที่ผมบอกไปวันนั้น พี่เขาก็ไม่เคยสูบต่อหน้าผมเลย

“แพรแพ้เอง” พี่แพรบอกแล้วยิ้มหวาน ออกอาการเขินอายสุดๆ ส่วนผมสิ จากที่รู้สึกว่าหัวใจมันพองโตอยู่แท้ๆ ฟีบลงทันที ก็คนที่พี่เขาห่วงไม่ใช่ผมสักหน่อย พักนี้ผมเสียนิสัย ชอบเข้าข้างตัวเองบ่อยๆ

“เออๆ กูไปดูดตรงโน้นก็ได้” พี่แหบทำหน้าเซ็งๆก่อนจะเดินถือซองบุหรี่ออกไป พี่แพรที่ทำท่าจะเดินไปนอนในตอนแรก ตอนนี้เปลี่ยนใจมานั่งข้างพี่ฉลามแทนแล้ว แถมคอยเอาใจชงเหล้าให้ด้วย ผมว่าผมเริ่มรู้สึกอึดอัดยังไงชอบกล ปกติก็ฟังพี่ฉลามเล่าเรื่องผู้หญิงให้ฟังบ่อยๆ แต่มันต่างจากการเห็นด้วยตาตัวเอง มันทำให้ผมแอบใจหายขึ้นมาเหมือนกันหากเขากลับไปคบกันจริงๆ

“กลอนขอไปเช็คน้ำดื่มก่อนนะครับ ลืมเลยว่ายังไม่ได้เช็ค เผื่อไม่พอเอาไปพรุ่งนี้” ผมบอก ผมไม่ได้เป็นพี่ว๊ากกับเขาหรอก อยู่ฝ่ายดูแลเสบียงครับ รับน้องคราวนี้ไม่ได้หรูหราเหมือนตอนรุ่นผม ออกแนวบุกป่าฝ่าดงมากๆ

“แล้วจะกลับมาอีกเปล่า” บุ้งถาม ผมเหลือบมองไปที่พี่ฉลาม เห็นพี่เขามองมาเหมือนกัน

“ไม่อะ จะไปนอนเลย ผมไปนอนเลยนะครับพี่ๆ” ผมบอก พี่ทุกคนพยักหน้าให้


แล้วผมก็เข้าไปเช็คน้ำดื่มอย่างที่บอกทุกคนจริงๆ พรุ่งนี้เราต้องไปเข้าฐานที่น้ำตก ไกลออกมาจากที่พัก ต้องเอาน้ำดื่มติดไปด้วย ผมลืมเช็คจริงๆ โชคดีที่มันยังมีเยอะอยู่ ระหว่างที่กำลังจัดให้มันเข้าที่ ก็มีรุ่นน้องปีหนึ่งสองคนรีบเข้ามาช่วยผม เป็นผู้ชายกับผู้หญิง น้องผู้หญิงชื่อแตงโม ตัดผมหน้าม้าเต่อ เป็นคนตลกดี เป็นขวัญใจรุ่นพี่เลย โดนแกล้งแต่ก็ยิ้มได้ตลอด ส่วนน้องผู้ชายอีกคนชื่อมอส หน้าตาดี อยู่แค่ปีหนึ่งแต่ก็เล่นดนตรีในผับหาเงินไปด้วย เคยเห็นฝีมือในการเล่นกีต้าร์แล้ว เก่งมากๆ ได้เป็นตัวแทนประกวดเดือนของคณะผมด้วย แถมมอสยังเป็นน้องรหัสของบุ้ง บุ้งมันดีใจที่ได้น้องหน้าตาดี ดีใจเหมือนได้มาเป็นแฟนครับ 555


“พี่กลอนขยันจัง” สำเนียงเหน่อของน้องแตงโมทำเอาผมต้องยิ้มออกมา อยู่กับน้องเขาแล้วต้องอารมณ์ดีตามไปด้วย

“ขยันอะไรละ โดนใช้ให้เช็คตั้งแต่บ่าย พี่เพิ่งมานึกได้ตอนนี้” ผมบอก

“ตัวพี่นิดเดียว ออกไปเหอะ ผมยกให้ เดี๋ยวโดนลังทับแบน” น้องมอสบอกผม พูดกับผมเหมือนผมเป็นเด็กเลย ใครรุ่นพี่รุ่นน้องกันแน่

“เฮ้ยๆ ไอ้มอส รุ่นพี่นะเว้ย แม้หน้าพี่เขาจะอ่อนกว่าเอ็งก็เหอะ” แตงโมรีบบอกเพื่อน

“เนอะ พี่แข็งแรงนะเห็นแบบนี้” ผมบอก ก่อนจะยกลังน้ำขึ้นมา แต่ก็โดนน้องมอสแย่งไปถืออีก แถมมือน้องมอสยังมาจับโดนมือผมด้วย แค่โดนคงไม่ได้คิดอะไร แต่โดนแล้วไม่ขยับออก ผมเลยตะหงิดๆนิดนึง

“ทำไมยังไม่ไปนอนกันอีก” เสียงพี่ฉลามดังขึ้นมา น้องแตงโมทำท่าสะดุ้งจนผมขำ พี่ฉลามก็ยังคงเป็นพี่ขาโหดสำหรับน้องๆทุกรุ่น

“มาช่วยพี่เขายกลังน้ำค่ะ” แตงโมตอบ ส่วนมอสไม่ยอมตอบ แต่ทำหน้าเฉยๆ ผมว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยดี ดูน้องมอสห่ามๆด้วย

“พี่ทำเองได้ ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาวิ่งตีห้าด้วย ไปๆๆ” ผมรีบไล่ น้องสองคนเลยชวนกันเดินออกไป

“มานี่ ยกให้” พี่ฉลามยกลังน้ำที่เหลือวางเข้าที่ให้ผม

“เลิกกินเหล้ากันแล้วเหรอพี่” ผมถาม

“มาฉี่”

“ห้องน้ำอยู่ทางนี้ที่ไหนกัน ห่วงกลอนก็บอกมาเหอะ กิ้วๆ” ผมแค่จะแกล้งพี่ฉลามให้อารมณ์ดี แต่พี่ฉลามกลับทำหน้าเหมือนเก้อเขิน ผมเลยอึ้งไปแล้วก็เงียบเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี

“หิว เห็นหน้ารีสอร์ทมีร้านบะหมี่ ไปกินกัน” จู่ๆพี่ฉลามก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

“ไปไงอะครับ” ผมถาม เพราะจากหน้ารีสอร์ทเข้ามามันก็ประมาณเกือบหนึ่งกิโล


แล้วยานพาหนะที่พาผมมาถึงร้านบะหมี่ก็คือมอเตอร์เก่าๆของรีสอร์ท เสียงท่อไอเสียดังจนผมกลัวว่าเจ้าป่าเจ้าเขาจะโกรธเอาได้ที่ไปรบกวน แต่มันก็ได้บรรยากาศดี ได้เกาะเอวคนที่เราแอบชอบ ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ลอยมากับลม ผมยาวๆของพี่ฉลามปลิวมาโดนแก้มผม ผมเลยต้องก้มหน้า หน้าผากของผมไปชนกับแผ่นหลังของพี่เขา เหมือนผมซบพี่เขาเลย อยากให้ร้านบะหมี่อยู่ห่างออกไปสักห้ากิโลจัง


“เอาอีกไหม” พี่ฉลามถามผม ผมส่ายหน้า กินแค่นี้ก็ท้องจะแตกแล้ว พี่ฉลามกินไปตั้งสองชาม

“ซื้อไปฝากเพื่อนๆดีไหม” ผมถาม

“ไม่ต้อง ยังไม่กลับ ขี้เกียจหิ้ว”

“อ้าว ยังไม่กลับ แล้วเราจะไปไหนกันเหรอ” ผมถาม มองไปรอบๆ ก็เห็นมีแต่ร้านบะหมี่กับร้านขายของชำ

“ไปนั่งริมทะเลกัน ไม่ไกลหรอก พี่แอบไปเซอร์เวย์มาเมื่อกลางวัน” พี่ฉลามชวน ผมมีเหรอที่จะปฏิเสธ ได้ใช้เวลากับคนที่เราแอบรักมันดีนะตาย


แล้วเราสองคนก็เคลื่อนย้ายร่างกายโดยฝากชีวิตกับเจ้าสองล้อท่อดังไปจนถึงริมทะเลด้วยความปลอดภัย ที่นี่ไม่ไกลจากรีสอร์ทเท่าไหร่ น่าจะเป็นชายหาดส่วนตัวรึเปล่า เพราะผมเห็นมีบ้านคนด้วย แต่ก็ไม่เห็นมีป้ายติดว่าเขตหวงห้าม โขดหินที่มีขนาดใหญ่มากๆถูกเราใช้แทนเก้าอี้ผ้าใบ พี่ฉลามนอนหงายหนุนแขนตัวเอง ส่วนผมนั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆ ถ้าใครได้มากับแฟนท่ามกลางบรรยากาศอย่างนี้คงจะฟินไม่น้อยเลย แต่ถึงพี่ฉลามจะไม่ใช่แฟนของผม แต่ผมก็มีความสุขเหมือนมากับแฟน ขี้ตู่เอาเพื่อบรรยากาศครับ


“โชคดีท้องฟ้าเปิด เห็นดาวชัดเลย” ผมบอก

“รู้ไหม ไหนดาวลูกไก่” พี่ฉลามถาม

“ไม่รู้ ไหนอะครับ” ผมถาม

“เอ้า พี่ถามเรา ดันมาถามพี่กลับอีก” พี่ฉลามหัวเราะ โธ่ ผมนึกว่าพี่เขารู้เลยมาถามลองภูมิผม

“รู้จักอยู่ดาวเดียว” ผมบอก

“ดาวอะไร”

“ดาวคณะ นี้ไง” ผมชี้ไปที่ฉลามแล้วหัวเราะ พี่เขายิ้มแล้วก็หันกลับไปมองดาวอีกรอบ เงียบอีกแล้ว เหมือนพี่ฉลามมีเรื่องไม่สบายใจ

“มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า เล่าให้กลอนฟังได้นะ” ผมบอก

“ช่วยได้เหรอ”

“ก็ลองปรึกษาก่อนสิ”

“ช่างมันเหอะ” พี่ฉลามบอก ผมเลยไม่เซ้าซี้ คิดว่าคงมีเรื่องไม่สบายใจจริงๆ

“หนาวอะ” ผมบอก ลมทะเลมันแรง ไม่ได้เอาเสื้อคลุมมาด้วย

“มานอนใกล้ๆพี่นี่มา พี่กินเหล้ามา ตัวอุ่น” พี่ฉลามบอก ผมอึ้งไป กลัวโดนแกล้ง ผมเลยไม่ยอมไปแต่นั่งอยู่ที่เดิม แล้วพี่เขาก็ดึงตัวผมให้ขยับไปใกล้ๆ แล้วดันผมให้ลงมานอนข้างๆ ผมได้กลิ่นเหล้าอ่อนๆ แต่กลิ่นน้ำหอมของพี่ฉลามมันชัดกว่า ผิวที่แขนพี่เขาร้อนจริงๆด้วย ไม่ได้ร้อนแบบเป็นไข้นะครับ แค่อุ่นๆเกือบร้อน

“ถ้าเผลอหลับจะทำยังไง” ผมถาม

“ดันตกทะเล” พี่ฉลามตอบ ผมหันไปเบ้ปากใส่พี่เขา


ผมกับพี่ฉลามนอนดูดาวกันเงียบๆ รอบๆตัวมีแต่เสียงคลื่นกระทบกับโขดหิน แต่ที่ดังอยู่ภายในคือเสียงหัวใจของผมเอง ผมจำความรู้สึกนี้ได้ดี ใจของผมเต้นตึกตักๆ ทั้งเกร็งและผ่อนคลายสลับกันไปมา มีความสุขและความกังวล สมองคิดไปต่างๆนาๆ สงสัยจะคิดมากไปจนเริ่มเบลอ ง่วงและรู้ตัวเลยว่ากำลังจะหลับ ผมนอนหลับตาเพราะรู้สึกง่วงมาก ยิ่งมีลมเย็นๆพัดผ่าน เสียงคลื่นขับกล่อม รู้สึกสบาย ไม่รู้ว่าสติมันหายไปตอนไหน แต่มารู้สึกอีกก็ตอนที่ผมรู้ว่าตัวผมกำลังถูก..


จูบ...


ผมไม่ได้ลืมตาขึ้นมาในทันที แต่ผมรับรู้ได้ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดเจน มันมาพร้อมกับไออุ่นที่ถูกทาบที่ริมฝีปาก สัมผัสเบาๆกระตุ้นให้หัวใจผมเต้นหนักกว่าเดิมเป็นเท่าทวีคูณ ผมไม่กล้าลืมตา ไม่ได้ฝันไปแน่ๆ แต่อยากให้เป็นฝัน ผมกลัวว่าถ้าผมลืมตาขึ้นมาแล้วโลกจะไม่ได้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ผมกลัวว่าการกระทำนี้อาจจะเป็นแค่การอยากลองเหมือนกับที่พี่รันรู้สึกกับผม


“พี่จูบได้ไหม” เสียงพี่ฉลามถาม พี่เขารู้ว่าผมยังไม่ทันได้หลับสนิท แปลว่าพี่เขาตั้งใจจูบ ผมกลั้นหายใจจนเฮือกสุดท้าย แล้วก็พรูลมหายใจออกมาก่อนจะลืมตา ใบหน้าของพี่ฉลามอยู่ใกล้กับผมนิดเดียว ผมเห็นดวงตาของอีกฝ่ายชัดเจน มันเหมือนดาวดวงหนึ่งที่ลอยอยู่ตรงหน้า ผมควรคว้ามันมาดีไหม

“พี่อยากจูบกลอนเพราะอะไร เมารึเปล่าครับ” ผมถาม พี่ฉลามยิ้มก่อนจะพลิกตัวลงไปนอนราบเหมือนเดิม แล้วพี่ฉลามก็จับข้อมือผมขึ้นมาให้ชูขึ้นไปบนฟ้า

“ชูนิ้วขึ้นมาสิ” พี่ฉลามบอก ผมชูนิ้วขึ้นสองนิ้ว”

“สองนิ้ว เมาไหมแบบนี้” พี่เขาตอบก่อนจะหันมาถาม ผมยังใจเต้นไม่หายเลย ยิ่งโดนจับข้อมือแบบนี้ ผมบอกตรงๆ ขนลุก มันไม่ได้มีอารมณ์แบบนั้นนะ แต่มันตื่นเต้น

“อยากลองจูบเหรอครับ” ผมถามอีก ใจยังเต้นรัวเป็นกลอง

“อืม” พี่เขาตอบตรงๆ ผมใจเสียไปนิดหนึ่ง แต่ก็ดีใจที่พี่เขาไม่โกหก พี่ฉลามเอามือผมลงมาแต่ไม่ได้ปล่อย ยังคงจับข้อมือผมเอาไว้

“ทำไมครับ” ผมถาม

“เจ้าหนูจำไม”

“กลอนอยากรู้ จู่ๆมีคนมาขอจูบ เป็นพี่ไม่อยากรู้เหรอ” ผมถาม พี่เขายิ้มนิดๆ

“พี่สับสน พี่ไม่รู้ว่ากำลังรู้สึกยังไงกับกลอน” พี่ฉลามพูดจบก็ถอนหายใจ

“ถ้าจูบแล้วจะหายสับสนเหรอครับ” ผมถามอีก

“ไม่มั๊ง ไม่รู้ ไม่เคยสับสน นี่เป็นครั้งแรก” พี่ฉลามตอบผม ผมหัวเราะจนพี่เขาหันมามอง ผมรู้สึกดีนะ เข้าใจพี่เขา เขาใกล้ชิดผม อาจจะหวั่นไหว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงหวั่นไหว ผมว่าตัวผมไม่มีอะไรให้น่าหวั่นไหวเลยนะ แต่ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยผมยังมีค่าที่ทำให้ผู้ชายดิบๆคนนี้หวั่นไหวได้

“จูบก็ได้ แต่พี่ต้องสัญญาก่อน” ผมบอก

“อะไร จะขอค่าสินสอดเหรอ” พี่ฉลามถาม ผมหัวเราะอีก พี่เขามองผมแล้วถอนหายใจ

“เกลียดรอยยิ้มนี่จริงๆเลย” พี่เขาพูดขึ้นมา ผมหน้าเหวอไปเลย

“ทำไมอะครับ”

“ก็ยิ้มนี่แหละ ที่ทำให้สับสน” พี่ฉลามถามผม ผมพลิกตัวมานอนตะแคง มองด้านข้างของพี่เขา ในความมืดเลือนรางก็ยังดูดีขนาดนี้เลย ผมสิต้องหวั่นไหว

“ถ้าพี่จูบกลอน แล้วสรุปว่ามันไม่ใช่อย่างที่พี่อยากให้เป็น พี่ก็แค่อยากลอง ถ้าเป็นแค่นั้น พี่อย่าทำตัวห่างไป ขอให้พี่ลืมมันไป แล้วเราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้รึเปล่า” ผมถาม

“แล้วถ้ามันใช่ละ ถ้าพี่รู้สึกดีละ”

“แปลว่าพี่เป็นเกย์ไง” ผมบอกแล้วหัวเราะ

“น่าผลักตกทะเลจริงๆ” พี่ฉลามแกล้งขู่

“ผมล้อเล่น พี่จำเรื่องพี่รันที่กลอนเล่าให้พี่ฟังได้ใช่ไหม กลอนไม่อยากเสียความสัมพันธ์ที่ดีๆไป โดยเฉพาะกับพี่ กลอนไม่อยากเสียพี่ไป กลอนไม่รู้หรอกว่าพี่สับสนอะไร แต่ถ้าพี่อยากจูบ กลอนจะให้พี่จูบ แต่พี่ต้องทำแบบที่กลอนขอร้องให้ได้นะ” ผมไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกหรือผิด แต่ผมก็อยากให้พี่เขาลอง ถ้าพี่เขาจูบแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แค่หวั่นไหวไป อย่างน้อยมันก็ไม่มากไปกว่านี้ เรายังกลับมาเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้

“แต่พี่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับบุ้งหรือคนอื่นๆที่เขาเป็นแบบนั้น ไม่ได้มอง ไม่ได้คิดจะมองด้วย” พี่ฉลามพูดแล้วถอนหายใจ

“สงสัยเพราะกลอนน่ารัก ยอมรับก็ได้” ผมพูดชมตัวเองแล้วหัวเราะอีก


คราวนี้พี่ฉลามดันผมนอนลง แล้วก็ประกบริมฝีปากผมเลย ลิ้นร้อนๆถูกแทรกเข้ามาฉกชิมทั่วพื้นที่ปากของผม ไม่รู้ว่ารสชาติของเหล้าที่ออกจะหวานๆขมๆหรือเพราะความร้อนแรงของเจ้าของลิ้นอุ่นๆที่บรรเลงจุมพิตมาแบบไม่มีกั๊กกันแน่ที่ทำให้ผมรู้สึกมึนตึบ ผมตอบรับจูบโดยอัตโนมัติ ความร้อนในร่างกายของผมมันเพิ่มขึ้นมาจนรู้สึกว่าลมทะเลไม่ได้ทำให้ผมหนาวอีกแล้ว ลิ้นของเราสองคนตวัดบดเบียดรุกไล่กัน จูบครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงแต่มันร้อนแรงมากๆ ผมไม่รู้ว่าหัวใจผมยังเต้นดังอยู่รึเปล่า เพราะตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียงจูบของเราสองคน จนพี่ฉลามถอนจูบออกแล้วมองหน้าผม คราวนี้ผมกลับมาได้ยินเสียงหัวใจตัวเองแล้ว มันรัวเลยครับ ผมเองก็มองหน้าพี่เขา รอฟังคำพิพากษา


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V



ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
^
^

(ต่อจากด้านบนค่ะ)


“จูบเก่ง” แป่ววววววว อุตส่าห์รอฟังว่าใช่หรือไม่ใช่ ดันมาชมจนผมทำหน้าไม่ถูกเลย แล้วพี่ฉลามก็จูบผมอีกรอบ ถ้าเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ก็คงเป็นการทดลองซ้ำเพื่อความแน่ใจละมั๊ง ฮ่าๆ อื้มม ผมถูกจูบซ้ำ คราวนี้นานกว่าเดิมจนชักจะหยุดไม่ได้ ผมเลยบีบแขนพี่ฉลามเพื่อให้เขาพอก่อน พี่เขาถึงได้เลิกจูบ พี่เขามองหน้าผม ก่อนจะถอนหายใจแล้วพลิกตัวกลับไปนอนหงายมองท้องฟ้าเหมือนเดิม

“ทำไงละที่นี่” พี่เขาพูดขึ้นมา

“ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นนั่ง พี่เขาคงไม่อยากเป็นในสิ่งที่เขาไม่อยากเป็นมาตั้งแต่ต้น ได้พิสูจน์แล้ว ผมเองก็แค่กลับไปเป็นน้องที่อยู่ข้างๆเหมือนเดิม

“จะลุกไปไหน” พี่ฉลามถาม

“กลับกันเถอะพี่ พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้า อย่าไปคิดอะไรมากเลย ลืมๆมันไปเนอะ” ผมบอกแล้วยิ้มให้พี่ฉลาม ทั้งที่หัวใจผมมันไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี แต่พี่เขาลุกขึ้นมานั่ง แล้วขมวดคิ้ว

“กลอนลืมได้เหรอ” พี่เขาถาม ผมมองหน้าพี่เขา อยากจะบอกว่าผมไม่มีวันลืมหรอก แล้วมันก็จริง ผมไม่เคยลืมเลย ผมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ มันเป็นโมเมนท์ที่ประหลาดที่สุดและมีความสุขที่สุดในชีวิตของผมแล้ว ทดลองจูบกับคนที่เราหลงรัก มันไม่ได้เกิดกับทุกคนหรอก ใช่ไหมครับ

“กลอนไม่อยากให้พี่ลำบากใจ”

“พี่จะลำบากใจถ้ากลอนจะทำแบบนี้กับคนอื่น ไม่ทำแบบนี้นะกับคนอื่น โอเคไหม..พี่ยอมรับว่าพี่รู้สึกดี ดีมากกับจูบเมื่อกี้ แล้วพี่ไม่จูบกับคนที่พี่ไม่ชอบหรอกนะ” พี่ฉลามบอกผม

“แล้วพี่ว่ากลอนใจง่ายเหรอ ถ้าไม่ใช่พี่ กลอนไม่ให้จูบหรอกนะ” ผมรีบเถียงแบบฉุนๆ แต่พี่ฉลามหัวเราะ

“ชอบพี่เหรอ” ผมอึ้งไปอีกรอบ หลายอึ้งแล้ววันนี้

“อยู่ใกล้ๆพี่รู้สึกอะไรบ้างเปล่า” พี่ฉลามถาม ผมไม่ยอมตอบ กลัวโดนแกล้งอีก

“รู้สึกเหมือนที่พี่รู้สึกไหม” พี่ฉลามถามอีก

“พี่รู้สึกยังไง กลอนจะไปรู้เหรอ”

“อืม..ก็แบบ ตั้งแต่รู้ว่ากลอนชอบผู้ชาย ทีแรกพี่ก็คิดว่าถ้าเราสนิทกัน กลอนจะคิดอะไรกับพี่รึเปล่า เราจะสนิทใจกันได้รึเปล่า พี่ต้องระวังตัวไหม แก้ผ้าต่อหน้ากลอนได้รึเปล่า เออ..แล้วรู้ไหม แฟนเก่ากลอนเอารูปกลอนนอนโป๊ให้พี่ดูด้วย ดีว่าหันหลังนะ แต่พี่ก็จำได้แหละว่าเป็นกลอน” ปกติพี่ฉลามไม่ใช่คนที่จะมาพูดอะไรยาวๆ พอคราวนี้พูดยาวๆ ผมทั้งเขินทั้งขำ

“ก้นขาวมาก” พี่ฉลามพูดต่อ

“ห๊ะ” ผมตกใจมากถึงมากที่สุด หน้าชาไปหมดเหมือนถูกตบแรงๆ เพิ่งรู้ว่าพี่รันเลวขนาดนี้ ผมไม่เคยรู้ว่าถูกถ่ายเลยนะ คิดว่าพี่เขาต้องแอบถ่ายเอาไว้ตอนผมหลับแน่ๆ แล้วดูคำชมของพี่ฉลาม ก้นขาว โอ้ย ผมไม่รู้จะมองหน้าพี่เขายังไง

“พี่รันเหรอครับ” ผมถามทั้งที่รู้

“อืม เขามาขอให้พี่เลิกกับกลอน เขาบอกกลอนรักเขา พี่ไม่เชื่อ บอกว่ากลอนไม่ได้เป็นเกย์ เขาเลยเอารูปกลอนมาให้ดู พี่ยอมรับว่าโกรธมาก คือยังไงละ แบบรู้ว่ากลอนเป็นเกย์ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมต้องถ่ายภาพแบบนี้ มันจะทำลายอนาคตไหมถ้าภาพหลุดออกไป แล้วพี่ก็มาคิดได้ว่ากลอนไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่รู้จะง้อยังไง ทำตัวแย่ๆใส่ไปแล้ว” พี่ฉลามทำหน้าสำนึกผิด ผมเข้าใจพี่เขาในทันทีว่ารู้สึกยังไงในตอนนั้น

“ทำไมพี่ไม่เคยเล่าเลย”

“ไม่อยากให้กลอนรู้สึกแย่ไปกว่านี้ แต่พี่ขู่มันไปแล้ว พี่บอกว่าพ่อพี่เป็นมาเฟีย ถ้ามันเอารูปนี่ออกมาอีก พี่จะฆ่าลูกมันตั้งแต่ยังไม่เกิด”

“ห๊ะ” ผมตกใจรอบสอง

“ก็กลัวมันเอาไปโชว์คนอื่นไง จะให้ทำยังไงละ” พี่ฉลามพูดแบบฉุนๆ

“แล้วพอเราสองคนได้คุยกันอีก สนิทกันเหมือนเดิม พี่ก็เริ่มรู้สึกดีๆ พี่ก็ไม่รู้ว่ามันเริ่มตอนไหน พี่ก็ว่าพี่ชอบผู้หญิงนะ แต่ระยะหลัง มันนึกถึงแต่กลอนอะ แล้วไม่ได้คิดถึงคนอื่น ไม่ได้อยากคุยกับใคร อยากคุยกับกลอน คุยอะไรก็ได้ ถึงไม่ได้จีบกัน แต่แค่คุย พี่ก็มีความสุข พี่ลองแล้วนะ ไปกับเพื่อนตอนที่กลอนมาที่บ้าน แต่แม่งไม่สนุก อยากกลับบ้าน” พี่ฉลามเกาท้ายทอยตัวเอง แล้วเงยหน้ามองฟ้าอีก

“แล้วที่น่าประหลาดใจที่สุด” พี่ฉลามกลับมามองผมอีกรอบ แล้วพูดค้างเอาไว้

“อะไรเหรอครับ”

“พี่แม่งโหลดหนังโป๊ผู้ชายมาลองดู” พี่ฉลามพูดจบผมก็อึ้งรอบที่ร้อย ก่อนจะหัวเราะออกมา พี่ฉลามรีบคว้าคอผมมาล็อกเอาไว้แล้วยีผมของผมจนยุ่งไปหมด

“ดูแล้วเป็นยังไง” ผมถามเมื่อหยุดขำได้แล้ว

“อ้วกจะแตกอะดิ” พี่ฉลามตอบแล้วผมก็หน้าจ๋อยเลย พี่เขาคงไม่ได้เป็นเกย์จริงๆ แค่หวั่นไหวไปเพราะใกล้ชิดผมแค่นั้น อาจจะเหมือนพี่รัน อยากให้ผมทำให้ แต่ไม่ยอมแตะต้องอะไรของผม เพียงเพราะผมมีอะไรที่เหมือนกับเขา

“ดูทำหน้าเข้า ฟังให้จบก่อน” พี่ฉลามบอก

“แบบ คนอื่นในคลิปมันไม่ใช่กลอนไง ดูแล้วมันไม่เกิดอารมณ์ อย่างถ้าให้พี่ไปทำแบบนั้นกับคนอื่น พี่คงทำไม่ได้อะ มันต่างจากกลอน อย่างตอนที่กลอนมาที่บ้าน เวลาใส่เสื้อคอกว้างๆ พี่แม่งก็เลวแอบเหลือบดู นมสีชมพูด้วย”

“พี่ฉลาม!!” ผมเรียกพี่เขาเสียงดังแล้วขำ เห็นทั้งนมทั้งก้นผม ผมควรจะหนีกลับรีสอร์ทเลยดีไหม

“แล้วมันมีอารมณ์ว่ะ พี่ก็ไม่รู้ต้องทำไง มันสับสน ถามตัวเอง นี่กูมาถึงจุดที่มองนมผู้ชายแล้วมีอารมณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ จะว่าแค่อยากเรื่องแบบนั้น มันก็ไม่น่าใช่ เรามันก็ผู้ชายเหมือนกัน แต่พี่ก็มาคิด สำหรับพี่นะ พี่จะอยากทำอะไรกับคนที่พี่ชอบจริงๆ ไม่อย่างนั้นพี่ก็ทำไม่ลง” พี่ฉลามเล่าจบผมก็รู้สึกดีมากๆที่ได้รู้ความรู้สึกของพี่เขา แต่ก็สับสนตามไปด้วย ผมไม่ใช่กูรู ไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไงกับคนตรงหน้า เขายังสับสนว่าตัวเองเป็นเกย์หรือไม่เป็น ผมจะไปทำอะไรได้

“พี่อยากให้กลอนอยู่ห่างๆพี่ก่อนไหมครับ” ผมลองเสนอดู แม้ว่าเป็นข้อเสนอที่ผมไม่อยากให้พี่เขาตอบรับ

“ใจร้ายว่ะ” พี่ฉลามโวยผม แต่เป็นคำโวยที่ทำให้ผมรู้สึกดี อย่างน้อยพี่เขาก็ไม่ได้คิดผลักไสผม

“แล้วกลอนต้องทำยังไง”

“พี่อยากคบกับกลอน แต่พี่กลัวว่าวันหนึ่งถ้าเราทะเลาะกัน เราจะเสียกันไป ยิ่งสิ่งที่กลอนเจอมา มันมีแต่คนแย่ๆ พี่ก็ไม่อยากให้กลอนรู้สึกว่าพี่เหมือนพวกนั้น” พี่ฉลามบอกกับผม ผมก็ถอนหายใจ

“กลอนขอพูดบ้างนะครับ กลอนยอมรับว่าแอบชอบพี่มานานแล้ว มันเป็นความประทับใจ แต่กลอนรู้ว่าพี่ไม่ได้ชอบกลอน กลอนรู้ว่าต้องวางตัวเองไว้ตรงไหน กลอนมีความสุขนะเวลาอยู่กับพี่ แม้จะในฐานะน้อง ถึงกลอนจะรู้สึกจี๊ดๆนะเวลาพี่ไปเที่ยวกับแฟนหรือมีเรื่องแฟนมาเล่าให้กลอนให้ แต่กลอนก็ทำใจได้ ขอแค่เราได้พูดคุยกัน”

“แอบชอบพี่มานานแล้วจริงดิ พี่นึกว่ากลอนคบกับรูมเมทกลอน เพราะบุ้งบอกกลอนมีแฟนแล้ว”

“ไอ้เด่นเหรอ นั่นเพื่อนสนิทกลอนนะพี่ เป็นแฟนกันก็คงฆ่ากันตาย รู้ไส้รู้พุง กลอนไม่มีแฟนหรอก บุ้งมันไม่ชอบพี่เมตร มันไม่อยากให้พี่เมตรมาจีบกลอน” ผมหัวเราะออกมา

“งั้น..เราลองคบกันไหม” จู่ๆพี่ฉลามก็ขอคบผมเลยพอรู้ว่าเด่นไม่ใช่แฟนผม

“ถ้าเราไปกันไม่รอดละครับ” ผมถาม

“เราไม่รู้อนาคตหรอก พี่ก็ตอบไม่ได้ ไม่รู้สิ พี่ให้กลอนตัดสินใจก็แล้วกัน” พี่ฉลามบอก

“แล้วพี่แพรละครับ”

“พี่ไม่ได้คบกับแพร แต่ถ้าอยากให้พี่บอกทุกคนว่าเราคบกันพี่ก็บอกได้ เอาจริงๆ ไอ้อ้วนกับไอ้แหบมันก็รู้แหละว่าพี่ชอบกลอน”

“ห๊ะ”

“จะห๊ะอะไรนักละ” พี่ฉลามถามขำๆ

“พี่เขารู้ว่ากลอนเป็นเกย์เหรอครับ” ผมว่าผมไม่เคยแสดงอาการอะไรเลยนะ บุ้งมันยังบอกเลยว่าผมเหมือนผู้ชายเรียบร้อยแบบลูกผู้ดีแนวเด็กเรียนอะไรแบบนั้นมากกว่า

“มันไม่รู้หรอกว่ากลอนเป็น มันยังบอกเลยว่ากลอนไม่ได้เป็น แต่มันว่าพี่บ้า ที่จู่ๆก็คิดจะชอบผู้ชาย มันบอกไม่อยากจะเชื่อ พี่ยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย แต่มันก็รู้สึกไปแล้ว” คราวนี้พี่ฉลามยีหัวตัวเอง

“ขอให้กลอนกลับไปคิดก่อนแล้วกันนะครับ” ผมบอกเมื่อพี่ฉลามนั่งมองหน้าผม พี่เขาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเสยผมตัวเองให้หายยุ่ง

“กลับกันเถอะ” พี่ฉลามยิ้มแล้วกระโดดลงไปยืนก่อนจะยื่นมือให้ผมจับ ผมจับมือพี่เขาแล้วค่อยๆไต่ก้อนหินลงมา 


ขากลับผมนั่งกอดเอวพี่ฉลามเอาไว้เพราะพี่ฉลามแกล้งขับเซไปเซมา แต่พอใกล้ถึงรีสอร์ทถึงได้เปลี่ยนเป็นเกาะเอาไว้เฉยๆ ผมอยากจะตอบรับเป็นแฟนกับพี่ฉลามนะ ใครจะไม่อยากคบกับคนที่แอบชอบมาตั้งนาน แต่ผมก็กลัวจริง ผมอยากลองคิดอีกสักหน่อย ถ้าผมจะมีความรักอีกสักครั้ง ก็อยากให้มันยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมอยากให้แน่ใจว่าพี่ฉลาม คนที่เป็นผู้ชายที่รักผู้หญิงมาโดยตลอด จะเปลี่ยนใจมารักผู้ชายธรรมดาอย่างผมได้จริงๆ ผมไม่อยากให้มันจบไม่ดีแบบเต็งหนึ่งหรือพี่รัน ยิ่งรู้ว่าพี่รันคนที่ผมเคยให้ใจมาแอบถ่ายรูปผมแบบนั้น ผมยิ่งคิดว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ สำคัญสุดๆเลย ผมไม่อยากเสียพี่ฉลามไป ไม่อยากให้เขาต้องหายไปจากชีวิตของผมเหมือนกับอดีตที่ผมได้เจอมา


พี่ระเบิดเคยบอกผมว่า ความรักแบบพวกเรามันยากที่จะมีชีวิตคู่ที่จะอยู่ด้วยกันนานๆ ด้วยความกดดันหลายๆอย่างของคนที่มีจุดยืนแบบที่ไม่ใช่เรื่องปกติของสังคม ถ้าไม่ได้รักกันมากพอ ส่วนใหญ่ก็ต้องเลิกรากันไปสาเหตุหลักๆมาจากความอดทนไม่เพียงพอ ทั้งทนต่อกระแสสังคมและทนต่อความความใคร่ที่มันเกิดขึ้นได้ง่ายๆกับกลุ่มชายรักชาย ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ เพราะผมมาเจอมาแล้วกับรักที่ผ่านมา ผมเลยได้แต่หวังว่า ถ้าผมจะตัดสินใจคบกับพี่ฉลาม อย่างน้อยก็ขอให้ผมเจ็บน้อยที่สุด แล้วก็..ถึงถ้าไปกันไม่รอด เราก็จะจบกันด้วยดี แบบนั้นมันคงจะดีกว่า

......
....
..

กลับมาจากรับน้องได้เกือบสองอาทิตย์ ผมก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับพี่ฉลาม เราทั้งคู่มัวแต่ยุ่งเรื่องงานกีฬามหาลัย ผมไม่ได้ไปช่วยงานที่บริษัทของพี่เหิรเลยเพราะต้องช่วยอาจารย์เตรียมงาน เพราะสถาบันเราเป็นเจ้าภาพ แต่พี่เหิรก็เข้าใจและบอกว่าว่างค่อนเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนพี่ฉลามมีหน้าที่เป็นช่างภาพของงาน ต้องถ่ายรูปทำข่าวให้หนังสือพิมพ์ของมหาลัยด้วย ผมกลับมาถึงคอนโดก็หลับเป็นตาย กับไอ้เด่นเองยังไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเลย แต่ผมก็มีโมเมนท์ที่รู้สึกดีๆตอนที่เรานั่งรถมาเรียนด้วยกัน พี่ฉลามแหย่ผมมากขึ้น ผมรู้สึกว่าพี่เขาอ่อนโยนกับผมมากขึ้น แคร์ผม เอาใจใส่ ทุกครั้งที่ผมมองไป ก็เห็นพี่เขามองกลับมาทุกที แต่พี่เขาก็ไม่ได้เร่งเอาคำตอบจากผมนะ


กับพี่แพร ผมก็ยังเห็นว่าพี่แพรจะอยู่กับพี่ฉลามตลอด แต่ผมก็ดูออกว่าพี่ฉลามไม่ได้อะไรด้วย ส่วนใหญ่เพื่อนๆจะแซวเพราะไม่รู้ คิดว่าสองคนนั้นยังคบกัน มีแต่พี่แหบที่คอยแอบมาเล่าให้ผมฟัง ว่าพี่แพรตื้อพี่ฉลามน่าดูทั้งที่พี่ฉลามบอกแล้วว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า ถ้าถามผมว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง ผมบอกได้เลยว่าผมรับพี่ฉลามเข้ามาในใจเต็มๆแล้วละครับ ยิ่งสนิทก็ยิ่งรู้สึกดี บางทีผมแทบอดใจไม่ได้ อยากเข้าไปกอดพี่เขาเวลาเราอยู่กันสองคนที่ห้องพี่ฉลาม แต่ผมก็ต้องทน ไม่อยากรีบร้อน อยากให้เวลากับตัวเอง


จนกระทั่งวันนั้นหลังจากงานกีฬาจบไปแล้ว ผมเอาของฝากที่แม่ฝากมาไปให้แม่ของพี่ฉลาม ผมเล่าเรื่องครอบครัวของพี่ฉลามให้แม่ฟัง ว่าทุกคนเมตตาเอ็นดูผม แม่เลยฝากของฝากมาให้ทุกครั้งที่ผมกลับบ้านหรือไอ้เด่นกลับ แต่วันนี้พี่ฉลามไม่อยู่ ออกไปข้างนอกกับเพื่อน แม่พี่ฉลามให้ผมไปนั่งเล่นรอที่ห้องของพี่ฉลามก่อน เพราะท่านจะให้ผมอยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน ผมเลยขึ้นไปรอ  แต่ก่อนจะเดินไปถึงนอนของพี่ฉลาม ผมจะต้องเดินผ่านห้องมืด ห้องที่พี่ฉลามทำเอาไว้ล้างรูป เห็นมันแง้มอยู่เลยเข้าไปดู เคยเข้ามาบ่อยๆ ดูพี่เขาล้างรูป กดเปิดไฟในห้อง ไฟมันเป็นสีแดง กำแพงห้องมีราวลวดขึงเอาไว้ มีฟิล์มที่ล้างแล้วห้อยอยู่เต็มไปหมด ผมเลยไปยืนส่องดู ปกติที่เคยเข้ามามันไม่ได้มีฟิล์มเยอะแบบนี้ สงสัยจะเป็นงานที่พี่เขาต้องทำส่งอาจารย์ แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด


...รูปของผมแทบทั้งนั้นเลย...


ผมเหลือบไปดูที่โต๊ะทำงาน เห็นอัลบั้มรูปวางอยู่เลยเดินเปิดดู ในอัลบั้มพวกนั้นก็มีแต่รูปของผม ตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่ปีหนึ่ง ผมรู้สึกได้ว่าระดับความสุขของผมมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้เคยคาดหวังเลยว่าพี่เขาจะรู้สึกนึกถึงผมมากขนาดนี้ ผมดีใจ ดีใจมาก มาคิดดู ช่วงเวลาที่พี่เขารอคำตอบจากผม หลายครั้งที่พี่เขาจะจูบผมก็ได้หรือทำมากกว่านั้น แต่พี่เขาไม่ทำ อย่างมากก็มองผมแล้วสั่งผมห้ามยิ้ม พี่เขาบอกว่า ผมยิ้มแล้วยั่ว ฮ่าๆ เอาจริงๆเราสองคนก็เป็นผู้ชาย เรื่องแบบนี้มันคงธรรมดา แต่พี่เขาก็ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวผมมีค่า มันคือการให้เกียรติ ผมเห็นรูปของตัวเองผ่านฝีมือของพี่ฉลามแล้วก็มีความสุข พี่เขาเก่งถ่ายจนผมดูดีหรือเพราะผมเห็นว่าคนที่ถ่ายเป็นคนที่ผมรัก สีหน้าผมเลยดูดีแบบนี้ก็ไม่รู้สิ ว่าแล้วผมก็แอบขโมยรูปพี่ฉลามมาหนึ่งใบ แล้วเดินไปรอพี่ฉลามที่ห้อง


“กลับมาแล้วเหรอครับ” ผมถามพี่ฉลาม ผมมานั่งรอที่ห้องของพี่เขาอีกเกือบครึ่งชั่วโมง พี่เขากลับมาท่าทางจะเหนื่อยๆ

“อืม ไปถ่ายรูปส่งอาจารย์ ร้อนมาก” พี่ฉลามถอดกางเกง ถอดเสื้อ สวมผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ผมชินแล้วครับ พี่เขาทำแบบนี้ประจำ สักพักก็ออกมา กลิ่นสบู่หอมมาเลย

“มีอะไรรึเปล่า” พี่ฉลามถาม เพราะปกติผมไม่เคยมาโดยไม่บอกก่อน

“คิดถึงเลยมา” ผมตอบ พี่ฉลามเลิกคิ้วก่อนจะยิ้ม

“อ่อยว่ะ” พี่ฉลามว่าผม

“อือ อ่อยก็อ่อย” ผมตอบ พี่ฉลามหรี่ตามองผมแบบเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะพูดแบบนี้ ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆผม ตัวพี่เขายังมีหยดน้ำเกาะติดอยู่เลย ผมเลยหยิบผ้าบนไหล่ของพี่เขามาช่วยเช็ดให้ พี่เขาก็มองหน้าผมแบบจ้องเลย คงสงสัยท่าทีของผม ก็ผมอยากเอาใจบ้าง รู้สึกมีความสุข

“เดี๋ยวทนไม่ไหวทำไง”

“ทนให้ได้สิ ทำมาได้ตั้งนานแล้วนะ” ผมบอก พี่เขาเลยเอียงคอมาหอมแก้มผมเลย ผมเขินอะ แต่ก็เนียนตีหน้าเฉยๆแล้วส่งผ้าเช็ดตัวให้พี่เขา นี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่จูบกันวันรับน้องที่พี่เขาถึงเนื้อถึงตัวผม

“ทนไม่ได้จริงๆนะ” พี่เขาบอกก่อนจะก้มมองที่เป้าของตัวเอง ผมเลยต้องมองตามไปที่ผ้าขนหนูสีน้ำตาลอ่อนที่พี่เขานุ่งอยู่ ตกใจมากเพราะมองไปแล้วเห็นว่าตรงกลางมันโป่งออกมา

“ทะลึ่งอะ” ผมบอก

“มันธรรมชาติเปล่าวะ มาอ่อยแล้วมาว่าพี่อีก” พี่ฉลามบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมก็สงสารพี่เขานะ แต่ผมก็ไม่กล้าแสดงออกไปว่าผมก็รู้สึกต้องการพี่เขาเหมือนกัน อารมณ์ของผู้ชายวัยฮอโมนอย่างพวกเรา พอได้ใกล้ชิดกันตามลำพัง มันเป็นธรรมดาที่จะรู้สึก สักพักพี่เขาก็ออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวออกมาเรียบร้อยดี

“คืนนี้งานวันเกิดไอ้อ้วนมัน มันให้พากลอนไปด้วย” พี่ฉลามบอก

“ไม่ได้ซื้อของขวัญให้พี่อ้วนเลย กลอนไม่รู้อะ”

“ไม่เป็นไร ให้ร่วมกับพี่นี่แหละ ว่าแล้วก็ห่อให้หน่อย เดี๋ยวพี่ขอหลับงีบหนึ่งนะ เพลีย อย่าลักหลับนะ” พี่ฉลามบอก ผมหัวเราะ แล้วก็หยิบของขวัญที่พี่ฉลามหยิบมาให้นั่งห่อ ส่วนพี่เขาก็ไปนอนที่เตียงแล้วก็หลับสนิทเลย คงจะเพลียจริงๆ


*****โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ******

มาแล้วๆ มาลงเรื่องนี้ให้ก่อน ส่วนอีกเรื่องแปะไว้ก่อนนะคะ 55555
ขอบคุณที่มาทักทายกัน ดีใจค่ะ อ่านทุกเมนท์นะคะ ชอบมากเวลามีความคิดเห็นในเรื่องนี้กัน
ชีวิตจริงถ้าได้เจอคนที่ใช่ในรักครั้งแรกมันยิ่งกว่าถูกหวยนะคะ ซึ่งมันก็ยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เจอ
คนเรามีเหตุและผลของการมาเจอกันและจากกัน แต่เป็นเหตุผลที่อีกฝ่ายรับได้หรือเปล่าก็เท่านั้น
ยังไงก็ขอบคุณที่ร่วมเดินทางไปกับชีวิตรักของกลอนผ่านตัวอักษรของผู้แต่งนะคะ


 :กอด1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :-[.    โอ๊ยยยย. อิพี่ฉลามสารภาพได้แบบ. ฮรือขอแบบนี้คนนึงค่า
แดดิ้น.  :ling1:  ทนไม่ไหวก็บอกน้องกลอนนะพี่นะ. 
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ
เอาใจช่วยกลอนต่อไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด