=จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61  (อ่าน 189107 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทรักบทที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอนที่ 2)


คาบเรียนในช่วงเช้าผ่านไปแล้ว ผมนั่งกินข้าวกับเด่น พุดและบาสเสร็จ ก็บอกว่าจะไปตามหาครูฝึกสอนที่เป็นลูกชายของลุงการุณ วันนี้เป็นวันศุกร์แรกที่พี่เขาจะไปค้างที่บ้านของผม แม่ให้ไปบอกพี่เขาว่าให้รอกลับพร้อมผมเลยในตอนเย็น น่าแปลกอยู่เหมือนกัน เพื่อนผมทั้งสามคนได้เจอพี่เขากันหมดแล้ว ยกเว้นผมคนเดียว ซึ่งพวกมันบอกว่าไม่แปลกใจหรอก เพราะผมสนใจแต่หนังสือ มันบอกว่า แต่ยังจำมันพวกมันได้ก็ถือว่าดีแล้ว ผมก็ได้แต่ขำคำแซวของพวกมัน ผมเดินมาถึงห้องพักครูภาคภาษาอังกฤษ พยายามชะเง้อเข้าไปข้างในก่อน แต่เพราะตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน เลยไม่มีใครอยู่ในห้องพักครูเลย พี่เขาก็คงไปพักทานข้าวเหมือนกัน ผมตัดสินใจจะเดินกลับไปนั่งเล่นที่ห้องสมุดก่อน แต่ผ่านสนามบาสได้ยินเสียงเฮๆดัง มีกลุ่มนักเรียนไปนั่งเชียร์อยู่ที่แสตนเชียร์ กลุ่มนักเรียนผู้หญิงที่มีอยู่น้อยนิดในโรงเรียนชายล้วนก็มารวมอยู่ที่นี่เกือบหมด ผมตัดสินใจหยุดยืนดู ก็มีพวกชมรมบาสกำลังแข่งบาสเก็ตบอลกันท่ามกลางแดดจัดแบบเอาจริงเอาจัง ผมก็ชอบเล่นนะ แต่กลางแดดจ้าแบบนี้ก็ไม่ไหว คนอื่นๆผมก็คุ้นตา แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ดูก็รู้ว่าคงไม่ใช่นักเรียนแน่ๆหน้าตาคุ้นๆเสียด้วย รูปร่างสมส่วน ผิวสีแทนที่เต็มไปด้วยเหงื่อผุดอยู่เต็มใบหน้า ลำคอและร่างกาย เสื้อยืดสีขาวบางๆเปียกชื้นเหงื่อจนแนบไปกับลำตัว เพราะความบางของเสื้อ พอถูกเหงื่อชโลมเข้าเลยไม่อาจปิดบังร่างกายที่ดูแข็งแกร่งได้ ผมได้ยืนมองลีลาการเล่นที่คล่องแคล้วจนทำแต้มลูกแล้วลูกเล่า คงเพราะคนๆนี้เอง ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากนักเรียนหญิงและกลุ่มพลังชายใจหญิงเกรียวกราว ผมไม่ได้ตั้งเองนะ ที่โรงเรียนผมมีกลุ่มนี้จริงๆ เวลามีกิจกรรมอะไร ก็ได้นักเรียนกลุ่มนี้แหละที่สร้างสีสันเสมอ มีนักเรียนจากที่ระดับชั้นเลย ซึ่งหัวหน้ากลุ่มก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของผมเอง ชื่อ เปี๊ยก เปิดเผยว่าเป็นผู้ชายที่รักจะเป็นหญิงทั้งใจและกายตั้งแต่มอต้น ซึ่งผมก็แอบได้รู้เรื่องเว็บชายรักชายจากเปี๊ยกนี่แหละครับ


พลั๊ก..กก...


ผมรู้สึกรับรู้ได้ถึงแรงอัดจากวัตถุบางอย่างเต็มๆใบหน้าของตัวเอง แรงนั้นทำให้ผมถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้น ได้ยินเสียงกรี๊ดก่อนที่จะมีคนวิ่งมาจับแขนผม ตอนนี้ผมมึนหัวและรู้สึกถึงรสชาติความเค็มปร่าๆ


“กรี๊ดดดด ครูขา เลือดค่ะ กรกฏเลือดกำดาวไหลค่ะครู”

“ลุกไหวไหม” เสียงเข้มๆถามผม ผมมองใบหน้าที่รู้สึกคุ้นๆอยู่นานเลยยังไม่ได้ตอบ เขาคงนึกว่าผมลุกไม่ไหว ตัดสินใจช้อนตัวผมอุ้มลอยขึ้นมาจากพื้นจนผมตกใจ

“ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ถูกวางลง เขายังคงอุ้มผมไปจนถึงห้องพยาบาลท่ามกลางสายตาของเพื่อนนักเรียนที่ผ่านมาเห็นพอดี

“ปวดหัวไหมกรกฏ” ครูบังอรถามผม ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

“นอนพักไปก่อนแล้วกัน ไม่รู้ว่าถูกลูกบาสอัดแรงแค่ไหน ดีนะที่จมูกไม่หัก แต่ครูว่าเธอเปลี่ยนเสื้อดีกว่า เลือดเต็มไปหมด” ครูบังอรพูดจบก็เดินหายไปในห้องพักที่อยู่ในห้องพยาบาลอีกที เดินลับมาอีกทีพร้อมเสื้อพละตัวหนึ่ง

“ใส่นี่ไปก่อน แล้วค่อยซักมาคืนครูวันจันทร์”

“ขอบคุณครับครู” ผมยกมือไหว้และรับเสื้อมา ครูบังอรรูดผ้าม่านให้ผม ผมเลยปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออก แล้วก็หยิบเสื้อพละมาใส่ จังหวะที่สวมเสื้อพละพ้นระดับสายตาก็ได้เห็นว่าคนที่พาผมมาส่งกำลังยืนกอดอกมองผมอยู่ที่ปลายเตียง ผมรีบดึงเสื้อลงให้เรียบร้อย

“ขอโทษนะ ที่ทำให้เจ็บ” เขาพูดกับผม

“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นอุบัติเหตุ ว่าแต่คุณ..เอ่อ ขอบคุณครับที่พาผมมาส่งห้องพยาบาล” ผมจะถามว่าเขาเป็นใครจะดูไม่ดีไหม ผมเลยยกมือไหว้ของคุณเขาแทน

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องไหว้หรอกกลอน”

“พี่รู้จักผมด้วยเหรอครับ อ๊ะ หรือว่าพี่คือลูกชายลุงการุณ” ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาน่าจะเป็นครูฝึกสอน ไม่อย่างนั้นคงเข้ามาเล่นบาสกับนักเรียนในโรงเรียนในเวลานี้ไม่ได้หรอก

“อืม พี่ชื่อรัน เรียกว่าพี่รันก็ได้”

“ไม่ได้หรอกครับ อยู่ในโรงเรียนต้องเรียกครูรัน เย็นนี้แม่ให้ครูรันกลับพร้อมผมเลย ผมไปหาครูที่ห้องพักมา แต่ไม่เจอครับ” ผมบอกพี่เขา พี่เขายิ้มๆแล้วเดินมายืนใกล้ๆเตียงพยาบาล ตัวพี่เขายังมีเหงื่อเต็มเลย เสื้อก็บางจนเห็นยอดอกสีเข้มและกล้ามมัดท้องของพี่เขา ผมดันพลาดไปจ้องมองเพราะมันอยู่ตรงระดับสายตาของผมพอดี พอเห็นว่าพี่เขามองหน้าผม ผมรีบหันหน้ามามองมือของตัวเอง รู้สึกขายหน้าที่ไปเผลอจ้อง

“เป็นเกย์เหรอเรา” พี่รันถามผม ผมชะงักอึ้ง รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ทำไมพี่เขาถึงรู้ ผมหันกลับมาจ้องหน้าพี่เขา แล้วภาพๆหนึ่งก็โผล่มาในหัว พี่รันเป็นคนที่ช่วยผมวันที่เต็งหนึ่งพยายามจะล่วงเกินผม จากวันนั้นผมไม่ได้เจอพี่เขาอีก ไม่คาดคิดเลยว่าคนที่ช่วยผมจะเป็นคนใกล้ตัว ผมเลยเครียด พี่เขาจะบอกพ่อกับแม่ของผมไหม จะบอกลุงการุณไหม

“พี่ไม่บอกใครหรอก ถ้าบอกคงบอกนานแล้ว” เหมือนพี่เขาจะรู้ว่าผมคิดอะไร

“คือ..ผม”

“ไม่ต้องอธิบายหรอก พี่ไม่ใช่คนที่จะพูดเรื่องไม่ควรพูด แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง”

“อะไรเหรอครับ”

“ต่อไปนี้ต้องมาเล่นบาสด้วยกันทุกวัน”

“แค่นี้เองเหรอครับ ได้ครับ ผมก็เล่นบ่อยๆ”

“ตอนกลางวันนะ”

“อะ..อะไรนะครับ”

“เกิดมาเป็นผู้ชาย มันต้องหัดทำตัวให้แข็งแรง เอาตามนี้แหละ เจอกันตอนเย็นนะ” พี่รันพูดกับผมเสร็จก็เดินออกไปเลย ผมได้แต่งงว่าพี่เขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ผมก็คงต้องทำแบบที่พี่เขาต้องการ ผมไม่อยากให้คนในครอบครัวรู้จริงๆ ถึงจะรู้ว่าความลับไม่มีในโลก แต่ปิดให้นานที่สุดได้เท่าไหร่ยิ่งดี


...


..ไงแก วันนี้โดนพี่ขาโหดสั่งให้เล่นบาสอีกรึเปล่าวะ..


เสียงไลน์ดังขึ้นมาหลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำพอดี คนที่ทักมาคือบุ้ง ผมเล่าให้บุ้งฟังเรื่องของพี่รัน โดนใช้ชื่อของพี่รันว่าพี่ขาโหด  นี่ก็เข้าสู่ศุกร์ที่สองแล้วที่พี่เขามาค้างบ้านของผม วันศุกร์แรกที่พี่เขามา ผมเกร็งแทบตาย กลัวพี่เขาจะพูดเรื่องของผม แต่พี่เขาไม่ได้แสดงอะไรออกมาเลย พูดคุยกับพ่อแม่ของผมแบบสนิทสนม แถมยังชมว่าผมเป็นเด็กดี มีแต่ครูชมให้ฟัง เล่นเอาแม่ผมยิ้มไม่หุบ บุ้งแซวว่า ผมแอบลักหลับพี่เขารึเปล่า ผมตอบบุ้งไปว่า พี่เขามีแฟน เห็นคุยกับแฟนตั้งนาน ขืนผมไปลักหลับคงโดนเตะก้านคอหักแน่ๆ


..โดนสิ ตัวเราดำไปหมดแล้วบุ้ง วันแรกนี่แทบร้องไห้ แสบผิว.. ผมตอบ
..แล้ววันนี้มาค้างเปล่า วันศุกร์ไม่ใช่เหรอ..
..มาดิ แต่คุยกับแม่เราอยู่ข้างล่าง..
..เขาเกลียดเกย์เปล่าวะหนอน ถึงอยากให้แกเล่นบาส แมนๆไรงี้..
..เกี่ยวเหรอ..
ผมถาม แต่ก็แอบคิดตาม ศุกร์ที่แล้วที่พี่เขามาค้าง ดูเขาเกร็งๆ มองสำรวจห้องผม แต่ผมก็เป็นผม ไม่ได้เกร็งอะไร พูดคุยกับพี่เขาแบบปกติ สักพักพี่เขาถึงดูผ่อนคลาย แต่มาคิดๆดู พี่เขาก็ชอบพูดว่าเสียดาย ถ้าผมไม่ได้เป็นแบบนี้ พี่เขาจะติดต่อหาแฟนให้ เหมือนพูดเล่นๆ หรือเขาจะไม่ชอบเกย์จริงๆ
..ไม่รู้ดิ เดาเอา แล้วแกได้คุยกับพี่ระเบิดบ้างรึเปล่า ดูพี่เขาเครียดๆ.. บุ้งถามผม
..ไม่ได้คุยมาสองสามวันแล้ว พี่เขาเครียดเรื่องอะไรเหรอ..
..พูดงี้แปลว่าคุยเกือบทุกวันเลยดิ แหมๆ เงียบๆฟาดเรียดนะแก ถ้าแกได้พี่เบิดนะ เหมือนถูกหวย..
..บ้า เราเป็นพี่น้องกัน..
..พี่น้องท้องชนตูดมีเยอะแยะไป..
..555 บ้า..
..แต่นี่แก รำคาญพี่ปองชิบหาย จะให้ฉันเอารูปแกมาให้ได้ สงสัยไม่เห็นแกคงช่วยตัวเองไม่สำเร็จ..
..ปล่อยไปเดี๋ยวก็เลิก คนไม่เคยเห็นหน้าจะมาชอบอะไรมากมาย ตลก..
ผมตอบไป
..เออ นี่ก็ทักมา แต่ไม่ได้อ่าน ขี้เกียจ..
..ได้ยินเสียงพี่ขาโหดขึ้นมาแล้ว แค่นี้ก่อนนะบุ้ง..
..เค..


“แชทคุยกับเพื่อนเหรอ” พี่รันเปิดประตูเข้ามาทันเห็นผมพิมพ์แชทพอดี

“ครับ”

“ก็คุยต่อสิ”

“ไม่เป็นไรครับ จะเรียนกันเลยไหมครับ”

“เรียนเลยก็ได้”


ผมนั่งฟังที่พี่รันสอนเพลินๆ ผมเป็นคนที่เวลาครูสอนจะตั้งใจฟังจะยังไม่จด นอกจากเรื่องที่ผมกลัวจะจำไม่ได้ถึงจะจด ไม่ได้ชมตัวเองนะ แต่สมองผมมันก็พอจะจำที่พี่เขาพูดได้ พอพี่เขาพูดจบผมถึงจะมาช็อตโน้ตสิ่งสำคัญๆที่ผมจำในแบบของผมเอาไว้ แต่ผมไม่รู้ว่าการนั่งจ้องมองพี่เขาจะทำให้เขาอึดอัดรึเปล่า


“พี่รันอึดอัดรึเปล่าที่ต้องมาสอนผม” ผมถามออกไปตรงๆ

“เปล่านี่ ทำไมถึงถาม”

“ไม่รู้สิ พี่อาจจะไม่ชอบที่ผมเป็น..” ผมไม่ได้พูดต่อ

“เลิกเป็นได้ไหมละ” พี่เขาถามผม ผมมองพี่เขา กัดริมฝีปาก อาจจะเป็นแบบที่บุ้งบอก พี่รันอาจจะอึดอัดที่ต้องใกล้ชิดกับผม

“พี่เลิกสอนผมจะง่ายกว่าครับ” ผมไม่ได้พูดแบบก้าวร้าวนะ พูดดีๆแต่พูดตรงๆ

“พี่ไม่ได้รังเกียจกลอนหรอก อย่าคิดมาก”

“พี่รันพูดตรงๆกับกลอนได้นะ กลอนก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเป็นแบบที่เป็น แต่ในเมื่อมันคือตัวตนของกลอน กลอนคิดว่ากลอนไม่ได้ทำร้ายใคร”

“แน่ใจว่าไม่ได้ทำร้ายใคร กลอนไม่คิดว่าคุณน้าทั้งสองจะเสียใจเหรอ แล้วเพราะเป็นแบบนี้ กลอนเกือบถูกเพื่อนคนนั้น..”

“พอเถอะครับ” ผมบอก น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ผมรู้ว่าผมคงทำให้พ่อแม่ผิดหวังหรือเสียใจ แต่จะให้ผมทำยังไง

“พี่ขอโทษนะ พี่แค่เห็นกลอนเป็นเด็กดี เป็นความหวังของคุณน้า”

“ขอบคุณครับที่เป็นห่วง กลอนจะทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด หลอนจะเรียนให้ดี มีงานการที่ดีเลี้ยงดูพวกท่านให้ได้ แต่การที่กลอนเป็นแบบนี้มันไม่ใช่โรค มันรักษาไม่ได้ ถ้าพี่รันอึดอัดจริงๆ กลอนจะบอกแม่เองว่ากลอนเรียนไม่ไหว ขอบคุณที่พี่อดทนปิดบังให้กลอนนะครับ” ผมบอกพี่รันพร้อมกับเช็ดน้ำตาไปด้วย ต่อมน้ำตาของผมทำงานได้ง่ายๆเมื่อพูดถึงพ่อกับแม่

“พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้รังเกียจกลอนจริงๆ” พี่เขาพูดจบจู่ๆเขาก็ดึงผมไปกอด ลูบศีรษะของผมด้วยความอ่อนโยน ผมแปลกใจ แต่ก็คิดว่าพี่เขาคงรู้สึกผิดที่พูดกระทบใจของผม


วันเวลาดำเนินผ่านไปจนครบหนึ่งเดือนที่พี่รันมาสอนผม เราสนิทกันมากขึ้น พี่รันไม่ได้พูดหรือแสดงท่าทีอะไรกดดันผมอีก ผมไปเล่นบาสกับพี่รันทุกกลางวัน ไอ้เด่นบอกว่าผมเรียกเรทติ้งสาวๆในโรงเรียนไปจนหมด สนามบาสของโรงเรียนกลายเป็นศูนย์กลางของนักเรียนที่จะมารวมตัวกันดูพวกผมแข่งบาสกัน ผมมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้นจากการมาเล่นบาส จากคนที่กลัวแดด ความขี้สำอางของผมก็เบาบางลง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็โป๊ะครีมกันแดดเยอะพอสมควร โดนแดดจัดๆผมก็กลัวเป็นมะเร็งนี่ครับ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่แปลกไป คือพอมีเพื่อนที่เล่นบาสด้วยกันมากอดคอผมหรือเข้ามารุมผมตอนผมทำแต้มได้ พี่รันดูจะหงุดหงิดแล้วก็ไล่ๆให้แยกไปเล่นต่อ ตอนที่ผมไปอาบน้ำล้างเหงื่อ พี่รันก็จะสั่งให้ผมไปอาบที่ห้องพักครู ผมเล่าให้บุ้งมันฟัง มันก็บอกว่า พี่รันอาจจะยอมรับผมได้แล้ว อาจจะเห็นผมเป็นน้องสาวไปแล้วเลยหวง ผมก็ขำข้อวินิจฉัยของบุ้ง แต่มันก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะพี่รันบอกผมว่า ถ้าผมมีแฟนจะต้องให้พี่รันสกรีนให้ก่อน


“วันนี้วันเกิดพี่ ไปดูหนังกันไหม พี่ขอคุณน้าให้แล้ว พี่เอารถพ่อมา” พี่รันบอกกับผมในตอนเย็น

“อ้าว โห กลอนแย่จริงๆ ไม่รู้เลยอะครับ ไม่ได้เตรียมของขวัญให้พี่เลย”

“ไม่เป็นไร มันไม่สำคัญหรอก ปกติวันเกิดพี่ก็อยู่คนเดียวประจำอยู่แล้ว” พี่รันบอกผม ผมพอจะรู้มาจากแม่ว่าลุงการุณเจ้าชู้ มีเมียน้อยเยอะ บางทีก็พาเข้าบ้านตั้งแต่พี่รันยังเด็กๆ

“แต่ปีนี้มีกลอนอยู่ด้วยแล้วไง ดีเหมือนกัน กลอนเองก็ไม่เคยได้ออกมาจากบ้านหลังตะวันตกดินบ่อยๆ”

“เป็นหมาป่ารึไง กลัวพระจันทร์เหรอ” พี่รันถามผม

“แง่งงงง” ผมทำท่าขู่จนพี่รันหัวเราะ พี่รันพาผมไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหาร ดีเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่พี่รันแม่คงไม่ให้ผมมา

“กินเยอะๆหน่อย ผอมจะแย่แล้วเราอะ”

“กลอนก็กินเยอะนะ”

“เยอะที่ไหน พี่เห็นกินนิดเดียวทุกที กับข้าวฝีมือคุณน้าอร่อยจะตาย พี่ยังอยากไปกินทุกวันเลย”

“พี่ก็มาอยู่กับพวกเราที่บ้านสิครับ ไม่ต้องไปอยู่บ้านพักครู” ผมบอก พี่รันอึ้งไปนิดๆก่อนจะยิ้มให้ผม

“พี่อิจฉากลอนนะ มีครอบครัวที่อบอุ่น”

“พี่รันก็คือคนในครอบครัวผมนะ”

“คิดดูก่อน มีน้องหน้าตาดี เรียนก็เก่ง แพ้หมดทุกทางแบบนี้ คงเป็นพี่ที่ไม่น่าภูมิใจ” พี่รันพูดขำๆ ผมยิ้มให้พี่เขา บอกตรงๆว่าผมรู้สึกดีกับพี่รันมากๆ พี่เขาดูอบอุ่น แต่ผมรู้ว่าสำหรับเรามันเป็นไปไม่ได้ ผมรักพี่เขาไม่ได้และพี่เขาก็ไม่ได้รักผม

“กลอนภูมิใจในตัวพี่นะ เผื่อพี่อยากรู้” ผมบอก พี่รันยิ้มแล้วโยกหัวผม ทานข้าวกันเสร็จก็ได้เวลาที่หนังจะเริ่มฉาย ผมรู้สึกสนุกนะ แต่พี่รันดูจะเงียบๆ จนกระทั่งหนังจบ

“พี่มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ” ผมถาม

“ไม่มีอะไรหรอก นี่ก็สามทุ่มแล้ว ไปกินขนมที่ท่าน้ำต่อดีกว่าแล้วค่อยกลับบ้านกัน”


พี่รันพาผมมาที่ตลาดท่าน้ำ ผมซื้อน้ำแข็งไสใส่ถ้วยโฟมมากิน แต่พี่รันแวะซื้อเบียร์มาดื่ม แต่เราขับรถมาจอดที่ใต้ต้นมะขามริมน้ำ พี่รันบอกว่าเป็นที่โปรดของพี่รัน ผมว่าพี่เขาต้องมีเรื่องไม่สบายใจมาแน่เลยหรือเขาจะทะเลาะกับแฟน พักนี้ไม่เห็นโทรคุยกับแฟนเลย แต่ผมก็ไม่กล้าถามหรอก ผมกินน้ำแข็งไสจนหมดถ้วย พี่รันก็เริ่มดื่มเบียร์กระป๋องที่สอง ตอนที่ไปซื้อน้ำแข็งไส ผมแอบไปซื้อขนมปียกปูนที่ร้านขนมไทยมา แล้วก็ขอซื้อเทียนไขกับไฟแช็คจากร้านอาหารตามสั่งมาด้วย ผมหันมาปักเทียนลงบนขนม จุดเทียนแล้วถึงหันไปหาพี่รัน พร้อมกับร้องเพลงอวยพรให้ด้วย พี่รันทำหน้าประหลาดใจก่อนจะยิ้มให้ผม


“อธิษฐานเลยครับ” ผมบอก พี่รันหลับตาลงพักหนึ่งก่อนจะลืมตาแล้วเป่าเทียน

“เปียกปูน..เหมือนถวายราหูเลยนะ เทียนก็มี ขาดแต่ธูปนะ” พี่รันแซวผม ผมขำพรวดออกมาเลย ไม่ได้นึกถึงขนาดนั้น แต่พอพี่รันพูดออกมาก็เห็นจริงตามนั้น

“กินน้ำแข็งไสจนปากแดงเลย” พี่รันมองที่ปากของผม ผมเบะปากออก พยายามมองปากของตัวเอง แล้วสิ่งที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้น ผมถูกพี่รันจูบ รสเบียร์ขมๆผสมปนเปกับรสชาติของน้ำแดงเฮลบลูบอย จูบของพี่รันร้อนแรงมาก มากจนผมหายใจแทบไม่ทัน ผมรีบดันอกของพี่รันออก

“พี่รัน..”

“พี่..พี่ขอโทษ..” พี่รันบอก


พี่รันลูบใบหน้าของตัวเองก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างเร็ว ผมใจเต้นตึกตักๆ ไม่กล้าหันไปมองพี่เขา จนพี่รันขับรถมาถึงบ้าน ผมเดินตัวลอยๆขึ้นบ้านไป แต่พี่รันยังในอยู่ในรถ แม่เปิดประตูห้องนอนมาถามว่ากลับมาแล้วเหรอ ผมรีบตอบรับ แม่ถึงปิดประตูกลับไป นี่มันก็ห้าทุ่มแล้ว ปกติแม่กับพ่อก็เข้านอนแล้วเวลานี้ ผมคิดว่าพี่รันอาจจะกลับไปนอนที่บ้านพักครู พี่เขาอาจจะเข้าหน้าผมไม่ติด ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่สิ่งที่ทำให้ผมคิดหนักกว่าคือผมดันเผลอจูบตอบพี่เขาไป คงเพราะในใจผมแอบเก็บพี่รันเอาไว้ในใจมาโดยตลอด เลยปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกดี ผมขึ้นมาถึงห้องก็รีบเข้าไปอาบน้ำ กะว่าออกมาจะโทรหาพี่รัน ไม่อยากให้พี่เขาคิดมาก ถึงพี่เขาไม่ได้รักผมและผมจะรักพี่เขาไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ความเป็นพี่น้องของเราต้องเสียไป ผมอาบน้ำออกมาก็ต้องตกใจเพราะพี่รันมานั่งอยู่บนเตียงของผมแล้ว ผมนึกว่าพี่เขากลับไปแล้ว


“กลอน..พี่..” พี่รันมีสีหน้าไม่ดีเลย หลบตาผมด้วย

“ไม่เป็นไรครับ พี่ไปอาบน้ำนะ พรุ่งนี้เราไปใส่บาตรกัน เลยวันเกิดมาแล้วแต่พระท่านรอได้” ผมบอกพี่รัน พยายามพูดให้เป็นปกติ เล่นมุขให้พี่เขาสบายใจ พี่รันเงยหน้าขึ้นมามองผม เราสองคนสบตากันอยู่นานโดยไม่ได้พูดอะไรกันต่อ แล้วพี่รันก็ดึงมือผมให้ลงไปนอนบนที่นอน ผมยังอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่เลย

“พี่พยายามหักห้ามแล้ว พี่ทำไม่ได้ ไม่รู้ว่ากลอนเข้ามาในใจพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กลอนเข้ามาแล้ว..” พี่รันกอดผมแน่น น้ำเสียงของพี่รันสั่นเครือ ผมบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือจะยังไงดี บอกตรงๆว่าผมกลัว พี่รันไม่ได้เป็นเกย์ แต่อาจจะเหงาแล้วสับสน  ผมไม่คิดว่าพี่รันจะรักผม

“พี่ พี่ทะเลาะกับแฟนเหรอครับ” ผมถาม

“เปล่า พี่ขอเลิกกับเขาเอง”

“พี่รัน...คือ กลอน..”

“พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษ ทั้งที่พี่อยากให้กลอนเลิกเป็น แต่พี่กลับเลิกสนใจกลอนไม่ได้เลยสักนาทีเดียว พี่เข้าใจแล้ว ว่าเรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ ทุกครั้งที่พี่มาค้างที่นี่ พี่อยากเอื้อมมือไปกอดกลอน แต่พอพี่คิดว่า ตัวพี่เองจะเป็นฝ่ายที่ทำให้คุณน้าผิดหวัง พี่ก็ต้องอดทน แต่..สุดท้ายแล้ว..พี่..” พี่รันถอนหายใจ ผมเชื่อนะว่าสิ่งที่พี่รับพูดออกมามันไม่ใช่เรื่องโกหก ผมบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่มันเป็นความรู้สึก พี่รันใส่ใจผมมากขึ้นๆ อ่อนโยนกับผม ดูแลผมอย่างดีมาตลอด ถ้าพี่รันเป็นคนอื่น ผมคงคิดว่าพี่รันต้องมีใจให้ผม แต่เพราะเป็นพี่รัน ผมเลยคิดว่าพี่รันเอ็นดูผมเหมือนน้อง ผมเห็นความต่างของพี่รันกับเต็งหนึ่ง ระหว่างการเป็นผู้ให้และการเป็นผู้รับ

“พี่อยากกอดกลอนไหม” ผมถาม พี่รันทำหน้าตกใจ ผมไม่รู้ว่ามันถูกหรือผิด แต่สำหรับผม นี่คือขอบเขตแห่งความสุขของผม แม้ว่าอนาคตมันอาจจะทำให้ผมต้องเสียใจ แต่ผมก็ไม่อยากปฏิเสธมัน แม้อีกซีกหนึ่งของความคิดจะบอกว่า ผมไม่ควรทำ แต่มันเป็นซีกที่น้อยจนผมไม่ได้รับฟังมัน

“ถ้าพี่ต้องการกลอนจะให้ อะไรก็ได้ที่พี่มีความสุข แล้วถ้าพรุ่งนี้พี่จะอยากให้กลอนเป็นแค่น้อง กลอนก็จะเป็นให้” ผมพูดออกไปอีก พี่รันยังคงทำหน้าตกใจ ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งกุมหัว ผมลุกตามขึ้นมา เห็นพี่รันยังคงนั่งอยู่ท่าเดิม ผมเลยลุกไปจะใส่เสื้อผ้า แต่เพียงแค่ลุกขึ้น พี่รันก็คว้าข้อมือของผม

“พรุ่งนี้ไปหาพ่อของพี่กันนะ พี่อยากให้ผู้ใหญ่รับรู้เรื่องของเราด้วย” พี่รันบอก ผมอึ้งไป

“ไม่เป็นไรครับ คือ..กลอน..เป็นผู้ชาย พี่ไม่ต้องกังวลอะไรนะ จริงๆนะครับ” ผมไม่ได้อยากให้ใครรับรู้ แต่ผมเข้าใจว่านี่คือการให้เกียรติผม แม้ว่าผมจะเป็นแค่เด็กผู้ชาย แต่ผมก็รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่พี่รันคิดจะทำเพื่อผม

“นะ ไปเถอะ พ่อของพี่ท่านจะเข้าใจ ท่านไม่บอกพ่อแม่ของกลอนหรอก นะครับ” พี่รันบอก ผมลังเลอยู่สักพัก พอเห็นสายตาที่วิงวอนของพี่รันผมก็เลยพยักหน้า เพียงแค่นั้นพี่กลอนก็ดึงผมไปนั่งตัก

“พี่ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ พี่อยากกอดกลอนแบบนี้มานานแล้ว” พี่รันบอกผม


ผมถึงพี่รันดึงให้ลงไปนอนบนที่นอนนุ่มๆอีกครั้ง พี่รันถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ผมใจเต้นแรง ยิ่งเห็นรูปร่างของพี่รันผมยิ่งใจเต้น พี่รันดูดีกว่าเต็งหนึ่งหลายเท่า แม้จะหน้าตาธรรมดา แต่พี่เขาดูแข็งแรงแบบนักกีฬา ผมลูบไปบนกล้ามท้องของพี่รันเบาๆ พี่รันเกร็งหน้าท้องเมื่อปลายนิ้วผมลูบผ่าน พี่เขาดึงเชือกผูกเอวของผมออกแล้วตวัดเสื้อคลุมผมออกอย่างแรงจนมันฉีกขาด มือแกร่งลูบที่ผิวกายของผมจนผมสั่นสะท้านไปหมด พี่รันถอดกางเกงตัวเองออกจนร่างของเราสองคนเปลือยเปล่า ขนาดว่าผมตากแดดบ่อยๆ แต่เมื่อเทียบกับผิวสีแทนของพี่รัน ร่างกายของผมก็ขาวขึ้นถนัดตา มือเกร็งลูบเบาที่แก้มของผมก่อนจะโน้มตัวลงมาประทับจูบที่ร้อนแรงให้ผม เป็นจูบที่เร้าร้อนสมกับเป็นพี่รัน ผมร้อนวูบวาบไปหมด ร่างกายตอบสนองพี่รันแทบจะทันที ปวดตึงส่วนกลางทั้งที่พี่เขาแค่จูบผม


“พี่รัน อื้มมมม...” ผมร้องครวญครางเมื่อพี่รันตวัดปลายลิ้นลงบนยอดอกของผม ริมฝีปากขบเม้มจนผมต้องดิ้นเร่าๆ มันเสียวสะท้านไปหมด พี่รันร้อนแรงจนผมแทบละลาย มือหนาตะโปมลูบไล้ไปทั่วร่างของผม พี่รันจูบไปถึงหน้าท้อง ผมแอบเห็นว่าพี่เขาลังเลเมื่อเห็นส่วนกลางของผม ผมเลยพลิกตัวพี่รันให้นอนหงายแทน ส่วนผมก็ลงไปนั่งขุกเข่ากับพื้นห้อง อยู่ตรงหว่างขาพี่เขา

“กลอน ใช้มือก็ได้” พี่รันบอก ผมไม่ได้ตอบ แต่ใช้มือรูดรั้งแกนกายของพี่รัน แกนกายที่มันพองเต็มที่จะเส้นเอ็นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ซี๊ดด เสียวมากเลยกลอน” พี่รันร้องซี๊ดทันทีแล้วหายใจแรงๆ ผมครอบรอมฝีปากลงไป พี่รันชะงักนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร พี่เขาหายใจแรงกว่าเดิม ส่งเสียงครางในลำคอ ยิ่งผมเร่งจังหวะ พี่เขาก็สวนสะโพกกลับมาจนผมแทบสำลัก แต่ผมก็ยังคงทำต่อไป ทำตามแบบที่เห็นในคลิปที่พี่กรส่งมาให้ดูบ่อยๆ  ผมรูดรั้งด้วยปากจนพี่รันร้องซี๊ดดังและปลดปล่อยมันออกมาคาปากของผม ผมดึงทิชชูมาบ้วนทิ้ง พี่รันพรูลมหายใจ แล้วก็ดึงผมกลับไปนอนใหม่ พี่รันดูดหน้าอกผมใหม่อีกรอบ บีบเค้นจนผมเจ็บ จากนั้นพี่เขาก็ใช้มือช่วยรูดรั้งให้ผมจนผมถึงที่หมายเหมือนกัน จากนั้นพี่เขาถึงได้มานอนกอดผมเอาไว้

“กลอนเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตพี่เลย”

“ดีใจนะครับที่ได้ยินแบบนั้น”

“เคยทำแบบนี้ให้ใครรึเปล่า” พี่รันถามผม ผมอึ้งไป

“ไม่เป็นไร มันเรื่องของอดีต แต่ต่อไปนี้ทำไม่ได้แล้วนะ ห้ามแชทกับใครด้วย”

“โอ้โห หวงผมแล้วเหรอ”

“หวงมานานแล้ว”

“พี่รันน่ารักจัง” ผมบอก

พี่รันหอมผมแล้วก็จูบผมอีก คืนนั้นเราช่วยกันเกือบทั้งคืน มาได้นอนก็เกือบเช้า แต่พี่รันไม่ได้ใช้ปากให้ผม ใช้มือช่วยผมตลอด ผมคิดว่าพี่เขาคงยังไม่คุ้น แล้วก็ดีที่พี่เขาบอกว่าจะไม่สอดใส่ผมจนกว่าผมจะเรียนจบ พี่รันก็ยังคงเป็นพี่ที่น่ารักที่นึกถึงอนาคตของผม ผมดีใจที่ได้รักคนที่รักผมเหมือนกัน หวังว่าความรักครั้งนี้คงจะยาวนาน แม้จะคิดแบบนั้น แต่ผมรู้สึกว่า ความกลัวมันยังคงซ่อนอยู่ในใจลึกๆไม่เคยจางหายไปเลย 


*******โปรดติดตามตอนต่อไป*********

เรื่องนี้จะเป็นบทๆ แต่ละบทอาจจะมีถึงสองสามตอนนะคะ
อาจจะมองว่าน้องกลอนใจง่าย แต่มันก็เป็นแบบชะนี้แล 5555
บอกแล้วว่าคงไม่ใช่นิยายโลกสวยนะคะ แต่ผู้แต่งสวยละกัน ฮ่าๆๆๆ
ล้อเล่นค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เรื่อยๆแต่มาเรียงๆ ไม่หนีไม่หายไม่ให้ค้างคาจ้า



ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :impress2:   พี่รันน่ารักเวอร์
กลอนไม่ได้ใจง่ายหรอก. เราเข้าใจนะ
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
น้องกลอนนี่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าพี่รันอีกนะในหลายๆแง่   บอกตรงๆว่าไม่ได้รู้สึกเลยว่ากลอนง่ายเกินไป   คือเหมือนกับเวลาและสถาณการณ์มันเป๊ะ ใช่พอดี   

ในขณะที่ ณ ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่เด็กๆในวัยกลอนเริ่มริลองเรื่องทางเพศกัน   กลอนจะอยากลองบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก    แต่ความรู้สึกระหว่างกลอนกับรันไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นการลองเลยนะ  ไม่ว่ารันจะเป็นคนที่ใช่หรือไม่ เราก็คิดว่ากลอนไม่ได้เป็นคนง่ายเกินไป    แต่ความรู้สึกบอกว่าท่าจะยาก เพราะว่ารันเองก็คงไม่อยากที่จะคบเพศเดียวกันแบบเปิดเผย    ไม่รู้สิอ่านตอนนี้แล้วคิดว่ากลอนเป็นเด็กที่ levelheaded มากพอตัว

ถ้าพี่รันกลายเป็นพี่เบิดแล้วก็โกโกครั๊นช์แน่ๆค่ะ งานนี้  มโนไปโน่นเลย

ชอบน้องบุ้งค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2015 08:59:29 โดย Freja »

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องกลอนมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ดีนะ

ขอบคุณทึ่เหมือนมาแชร์ประสบการณ์จริงให้ได้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
รู้เลยว่าเรื่องนี้จะต้องดาร์กขึ้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
สู้นะกลอน พี่รันอย่ามาหลอกน้องนะ

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทรักบทที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอนที่ 3)


ผมกับพี่รันแอบคบกันเงียบๆมาได้สามเดือนกว่าๆ สรุปว่าผมไม่ยอมให้พี่รันบอกลุงการุณเรื่องของผม ผมรู้ว่าวันหนึ่งพ่อแม่ของผมก็อาจจะรู้ เพราะความลับมันไม่มีในโลก แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้ท่านรู้ช้าที่สุด ผมรู้ว่าท่านทั้งสองรับไม่ได้หรอกครับ ผมเป็นลูกชายคนเดียว พ่อแม่มีหน้าตาในสังคมและตอนนี้วัยของผมก็ยังไม่ควรมีเรื่องแบบนี้ให้ท่านต้องทุกข์ใจ


พี่รันเป็นคนขี้หึง ไม่ยอมให้ผมแชทหรือเข้าไปในบอร์ดชายรักชาย แม้กระทั่งไอ้เด่น พี่รันยังไม่อยากให้ผมไปใกล้ชิดมัน แม้ผมจะบอกว่ามันคือเพื่อนสนิท แต่พี่รันก็ยังหงุดหงิดทุกครั้งที่ไอ้เด่นมาโอบไหล่หรือแกล้งแหย่ผม แต่พี่รันไม่กล้าแสดงออหรอกครับ ได้แต่กลับมาต่อว่าผมที่บ้าน ในโรงเรียนทุกคนแค่คิดว่าพี่รันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม ส่วนผมก็ยอมทุกอย่าง ไม่ค่อยได้เข้าไปคุยกับบุ้งและคนอื่นๆ ผมบอกบุ้งว่าผมต้องตั้งใจเรื่องเรียนมากๆ เพราะเหลืออีกไม่ถึงกี่เดือนผมก็จะต้องเตรียมตัวสอบไฟนอลแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้เลิกเล่นเสียทีเดียว ยังคงแอบเข้าไปแชทบ้างวันที่พี่รันไม่อยู่ ตอนนี้พี่รันย้ายจากบ้านพักครูมาอยู่ที่บ้านผมแล้ว พี่รันช่วยสอนพิเศษผมทุกวัน แล้วกลับบ้านวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์แทน


ผมไม่รู้ว่าผมรักพี่รันรึเปล่า แต่ผมมีความสุขเวลาได้อยู่กับพี่รัน เราสองคนดูแลกันหลายเรื่อง นอนด้วยกัน ช่วยให้ความสุขซึ่งกันและกัน แต่พี่รันไม่เคยอ้อนขอสอดใส่ผมเลย พี่รันบอกว่ากลัวผมเจ็บ พี่รันไม่อยากให้ผมเจ็บ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีที่พี่เขาใส่ใจผมแทบจะทุกเรื่อง แต่ที่ผมไม่รู้ว่ารักรึเปล่า เพราะผมไม่ได้รู้สึกหึงหรือมีอาการของคนที่เพิ่งรักกันใหม่ๆควรจะมี ผมเคยปรึกษาพี่ระเบิด พี่ระเบิดบอกว่า ผมอาจจะกำลังเซฟตัวเองจากความเจ็บปวด มันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ผมอาจจะกลัวต้องเจ็บอีก เลยพยายามสะกดจิตตัวเองว่าอย่าทุ่มเทใจให้ใครเต็มร้อยอีก


“อาทิตย์หน้ารันติดธุระสำคัญที่ลุงการุณให้ไปทำ คงไม่ได้มาค้างอาทิตย์หนึ่งนะ เมื่อกี้รันโทรมาบอก” แม่บอกกับผม เมื่อผมกลับมาจากไปวิ่งออกกำลังกายกับพ่อที่สวนสาธารณะ ผมพยักหน้ารับรู้ แต่ก็แปลกใจที่พี่รันไม่โทรมาบอกผมเอง คิดอีกที การที่พี่รันบอกผู้ใหญ่ก็คงดีกว่ามาบอกผม แบบนี้แปลว่าพี่รันจะลางานอาทิตย์หนึ่งเลยอย่างนั้นเหรอ

“หอมจัง แม่ทำอะไรกิน กลอนหิวจังเลย” ผมเดินเข้าไปดูกับข้าวที่แม่จัดเอาไว้พร้อมทาน

“คุณ ท่านผู้ว่าจะปรึกษาเรื่องสำคัญ กินข้าวกันไปเลยนะ ไม่ต้องรอ สงสัยจะได้ทานที่บ้านท่านเลย” พ่อเดินมาบอกก่อนจะเดินขึ้นไปอาบน้ำ แม่ถอนหายใจ

“กินกันสองคนอีกแล้ว ไปอาบน้ำไป” แม่บอก ผมพยักหน้าแล้วรีบไปอาบน้ำ


เสร็จจากอาบน้ำผมก็ลงมาทานข้าวกับแม่ เสร็จแล้วถึงได้ขึ้นมาบนห้อง ถือโอกาสหยิบโทรศัพท์ที่ซ่อนเอาไว้มาเปิดเครื่อง ผมเปิดดูไลน์กรุ๊ป แต่ปรากฏว่ามันเงียบ ไม่มีใครคุยกันเลย อย่างว่าละครับ ต่างคนต่างก็มีสังคมขอตัวเอง ผมเองยังหายไปเลย คนอื่นก็คงจะเหมือนกัน ผมเลยวางโทรศัพท์ลงแล้วก็หยิบโน๊ตบุ๊คมาเปิดแทน เปิดหน้าเฟสบุ๊คทิ้งเอาไว้ แล้วก็ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการบ้านที่ได้มาด้วย ได้เสียงอินบอกซ์กลุ่มที่โรงเรียนดังขึ้นจากเฟสบุ๊ค แต่ผมยังไม่ได้เข้าไปอ่าน มัวแต่จดข้อมูลที่เพิ่งเสิร์ชเจอก่อน แต่พอเห็นเสียงมันถี่เลยคลิกหน้าต่างเฟสบุ๊คเปิดออกแล้วไล่อ่าน ปรากฏว่าพวกเพื่อนๆกำลังคุยเรื่องพี่รัน พี่รันเป็นขวัญใจนักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ครูฝึกสอนเข้ามา ถ้าหน้าตาดีก็มักเป็นขวัญใจนักเรียนกันแทบทุกคน ยิ่งพี่รันหน้าตาไม่ได้ด้อยเลย แน่นอนว่าต้องมีนักเรียนชื่นชอบแน่ๆ ผมไล่อ่านข้อความของบรรดาเพื่อนๆมาถึงช่วงหนึ่งที่ทำให้ผมต้องตั้งใจอ่านสุดๆ


..แกๆ ฉันเพิ่งรู้ว่าครูรันมีเฟสบุ๊คละแก..
..กรี๊ดด แกไปเจอได้ยังไงวะ เคยขอครู ครูบอกไม่เล่น..
(ใช่ครับ ผมเคยถาม พี่รันบอกว่าพี่รันไม่ได้เล่น นั่นยิ่งทำให้ผมสนใจว่าเฟสที่เพื่อนผมไปเจอมันของพี่รันจริงรึเปล่า)
..ก็พอดี๊พอดี ครูเป็นเพื่อนกับเพื่อนของพี่สาวกู กูกดดูไปเรื่อยจนเจอ แต่ครูเขาตั้งค่าส่วนตัว เข้าไปส่องไม่ได้ เซ็งเลยแก..
..ไหนๆ เอามาดูหน่อย..



ผมกดลิ้งค์ที่เพื่อนส่งมา รูปโปรไฟล์เป็นรูปพี่รันจริงๆด้วย แต่เข้าไปดูไม่ได้เพราะพี่รันตั้งค่าไพรเวท แต่ที่แปลกใจคือ มันโชว์ว่ามีเพื่อนร่วมกันหนึ่งคน ซึ่งเป็นรูปผู้หญิงคนหนึ่ง แสดงว่าผู้หญิงคนนี้มาแอดเฟสของผม ผมก็จำไม่ได้ว่าไปกดรับตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเลยกดเข้าไปดู ส่วนใหญ่ก็เป็นรูปเซลฟี่ หน้าตาสวย ผิวขาว ตัวเล็กๆ ผมไล่ดูไปเรื่อยๆจนไปเจอภาพถ่ายคู่กันของผู้หญิงคนนี้กับพี่รัน ในรูปยืนถ่ายคู่กันที่ทะเล ผมอ่านคอมเมนท์ ส่วนใหญ่ก็ชมเจ้าของเฟสว่าสวย ไม่มีแซวอะไร ผมเลยคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนของพี่รัน ที่แปลกใจก็คือมาแอดผมได้ยังไงหรือจะรู้จักผม ผมเลิกสนใจแล้วกลับไปหาข้อมูลทำการบ้านต่อ สักพักเสียงไลน์กรุ๊ปดัง ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู


..มาออนแล้วเหรอ.. พี่ระเบิดทักไลน์แยกมา
..รู้ได้ยังไงครับ.. ผมถาม
..เห็นในห้องร่วมว่ามันขึ้นครบแล้ว เป็นยังไงบ้าง..
..สบายดีครับ..
..แสดงว่าแฟนไม่อยู่ใช่ไหม ถึงได้มาเปิดออนไลน์นี้ได้..
..ครับ ทำไมในกรุ๊ปรวมเงียบจัง..
..แบบนี้แหละ เดี๋ยวมีอะไรคุยก็เข้ามากัน พอยุ่งๆก็เงียบหน่อย..
..แล้ววันนี้พี่ไม่ยุ่งบ้างเหรอ คนที่พี่จีบตกลงจีบติดไหม..
..ไม่ติดเพราะเลิกจีบก่อน..
..ทำไมละครับ..
..โสดจนเคย พอคิดว่าต้องมีพันธะก็ไม่อยากมีแล้วแฟน..
..แล้วไม่เหงาเหรอ..
..ไม่อะ มีอะไรทำให้หายเหงาเยอะแยะ..
..ผมจะคอยดูว่าพี่จะไม่มีแฟนจริงรึเปล่า..
..พูดแบบนี้ไม่เชื่อละสิ..
..อื้อ ไม่เชื่อหรอก..
..เชื่อเหอะ..
.. ขอดูก่อนว่าควรเชื่อดีไหม..
..หนอน พี่คอลไปได้ไหม พี่ขี้เกียจพิมพ์..



ผมชั่งใจอยู่สักพัก สุดท้ายก็ยอมให้พี่ระเบิดคอลมา เราสองคนคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ผมเล่าเรื่องพี่รันให้พี่ระเบิดฟังบ้าง พี่ระเบิดก็เล่าเรื่องคนที่ไปตามจีบมาให้ฟัง ผมคุยกับพี่ระเบิดเกือบชั่วโมงครึ่งแบบเพลินไปเลย แล้วโทรศัพท์อันที่ใช้ทุกวันก็ลืมเปิดเสียง เลยไม่รู้ว่าพี่รันโทรมาตั้งหลายสาย พอเห็นเลยต้องรีบวางสายจากพี่ระเบิดแล้วโทรกลับพี่รัน แต่พี่รันไม่ยอมรับสาย ผมโทรไปตั้งหลายรอบ ไม่รู้ว่าโกรธรึเปล่า ผมเลยว่าจะรออีกสักพักค่อยโทรไปใหม่ ระหว่างนั้นก็กลับมาเปิดเฟสดูใหม่ เหมือนมีอะไรดลใจให้ผมกดไปที่เฟสผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง คราวนี้รูปที่เธอเพิ่งลงคือรูปคู่ของเธอกับพี่รัน พี่รันโอบไหล่เธอ ท่าทางสนิทสนม ผมถึงกับอึ้งไปต่อไม่ถูก ผมกดดูสถานที่ ถ่ายที่หัวหิน ใจของผมมันรู้สึกวาบๆโหวงๆ ผมเลื่อนไปที่รูปคู่ของพี่รันกับผู้หญิงคนนี้ที่ผมเห็นครั้งแรก ผมดูวันที่ รูปนี้ถ่ายเมื่อเดือนที่แล้ว วันเสาร์ด้วย


..ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวสมกันจริงๆ..


มีคนมาคอมเมนท์ใต้รูป บอกตรงๆว่าผมช็อคมาก หมายความว่ายังไง ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว พี่รันกำลังจะแต่งงานเหรอ ทำไมผมไม่เคยรู้สึกเอะใจเลย ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ พี่รันอยู่กับผมแทบจะทุกวัน ไม่เคยเห็นโทรหาใคร ไม่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป พี่รันโกหกเนียนเกินไปหรือว่าผมที่ไว้ใจจนไม่ได้ระแวงอะไรเลย ผมไม่ได้ร้องไห้ แต่ผมบอกได้เลยว่าผมรู้สึกช็อค เบลอ ทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเจ็บในอกมากกว่าตอนที่เลิกกับเต็งหนึ่งเสียอีก อารมณ์ตอนนั้นผมไม่ได้อยากร้องไห้ แต่ผมใจหายเหมือนเราได้ยินข่าวร้ายแบบไม่ทันได้ตั้งตัวประมาณนั้น มันเบลอๆงงๆ ไม่รู้จะเริ่มที่อะไรก่อน จะโทรไปถามพี่รันตรงๆหรือเลียบๆเคียงถามแม่ แต่สุดท้ายแล้วผมเลือกที่จะอยู่เงียบๆคนเดียว อยากนอนอยู่เฉยๆไมอยากจะทำอะไรเลย พอนอนคิดเรื่องของพี่รันไปเรื่อยๆ จากที่เบลอๆชาๆ ตอนนี้ผมเริ่มร้องไห้เสียใจ เพราะผมคิดถึงช่วงเวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน พี่รันไม่มีพิรุธอะไรเลย ถึงการคบกันของเราจะราบเรียบ แต่ผมก็มีความสุข ถึงไม่ได้เปิดเผยหรือแสดงออกไม่ได้ว่านี่คือแฟนเราอย่างคนทั่วไป แต่เวลาที่ผมเครียดจากการเรียน แค่พี่รันกอดและหอมผม ผมก็หายเหนื่อยและรู้สึกอบอุ่น พี่รันก็บอกว่าพี่รันมีความสุขมาก พี่รันอยากจะกลืนกินผม ไม่อยากให้ใครใกล้ชิดผม ไม่อยากให้ผมไปอยู่ไกลตา พี่รันบอกว่าหวงผมมากๆ คำพูดหวานๆคำแล้วคำเล่าวนอยู่ในหัว ผมขอภาวนาว่าให้เรื่องที่รับรู้เป็นเรื่องเข้าใจผิด อยากหลอกผมเลยนะพี่รัน อยากทำแบบนี้กับผมเลยนะครับ


โชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เมื่อคืนผมร้องไห้จนปวดตาปวดหัวไปหมด ไม่ได้ลงไปทานข้าวเช้าจนแม่ต้องขึ้นมาดู ผมบอกแม่ว่าปวดหัว แม่คิดว่าผมอ่านหนังสือหนักเกินไปเลยไม่ได้ถามอะไร แต่ยกข้าวต้มมาให้พร้อมกับยาแก้ปวด บอกกับผมว่าอยากไปเที่ยวไหนไหม ท่านจะพาไป ผมแทบอยากจะร้องไห้และรู้สึกผิด คนที่รักและดูแลเราก็คือพ่อกับแม่ ผมจะไม่ทำให้ท่านต้องหนักใจและเป็นห่วงผม เลยลุกมาอาบน้ำ ทานข้าวแล้วทำตัวปกติ แม้ว่าในใจของผมในตอนนี้มันมีบาดแผลอยู่ พี่รันไม่ได้โทรหาผมเลย ซึ่งมันผิดปกติ


“แม่ครับ เพื่อนกลอนบอกว่าพี่รันจะแต่งงาน จริงรึเปล่าครับ” ผมตัดสินใจถามแม่ในตอนบ่าย ตอนที่เรากำลังช่วยกันลงต้นไม้อยู่ที่หลังบ้าน

“อ้าว หมดกัน รันให้แม่ช่วยปิดกลอนเอาไว้ก่อน พี่เขาอยากพาแฟนมาให้เรารู้จักก่อนแล้วค่อยบอก แล้วนี่เพื่อนกลอนไปรู้ได้ยังไง” ขนาดว่าผมเตรียมใจเอาไว้บ้างแล้ว แต่พอรู้ชัดแน่ๆว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การเข้าใจผิด ผมก็แทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้

“แม่ เศษดินเข้าตากลอน” ผมบอกแม่ก่อนที่แม่จะถามว่าผมร้องไห้ทำไม ผมไม่ได้สะอึกสะอื้น แต่ผมเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ

“ไหน มาให้แม่ดูสิ รีบไปล้างหน้าก่อนเร็ว ไม่ต้องทำแล้ว เดี๋ยวแม่ทำเอง” แม่ลูบหน้าลูบตาให้ผมแล้วไล่ให้ผมไปล้างหน้า ผมถือโอกาสกลับเข้าไปในบ้าน ขึ้นห้องแล้วไปแอบร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ

“กลอน เป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอกันดีกว่า เดี๋ยวจะติดเชื้อ” เสียงแม่เรียกผมอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ ผมรีบเช็ดน้ำตา

“แสบๆนิดหน่อย แต่ไม่ได้เจ็บอะไรแล้วครับแม่ ไม่ต้องไปหาหมอหรอก กลอนขออาบน้ำก่อนนะครับ”

“ถ้าเคืองตาไม่หายต้องแม่นะลูก”

“ครับแม่”


ได้ยินเสียงแม่ปิดประตูห้องแล้วผมก็มองตัวเองในกระจก สภาพผมดูไม่ได้เลย สองครั้งแล้วที่ผมถูกหลอก เต็งหนึ่งต้องการแค่เรื่องเซ็กส์จากผม พี่รันก็คงเหมือนกัน พอคิดแบบนี้ผมก็เหมือนจะกระจ่างกับการกระทำที่ผ่านมา แม้ว่าพี่รันจะชอบมีเซ็กส์กับผม แต่ไม่เคยใช้ปากให้ผมเลย ส่วนมากจะชอบผมทำให้ พอเสร็จพี่รันก็แค่ใช้มือช่วยผม ตอนนั้นผมไม่ได้นึกอะไรเลยผมแค่อยากทำให้พี่รันมีความสุขก็แค่นั้น ผมเคยบอกพี่รันว่าผมดูคลิปชายรักชาย พี่รันก็ดุผมและห้ามไม่ให้ดู บอกว่ามันน่ารังเกียจ ผมก็นึกไปว่า พี่รันห่วงผมเพราะเห็นว่าผมยังเด็ก คำของพี่ระเบิดลอยมาในหัว ตอนที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ระเบิดฟัง พี่ระเบิดบอกว่า ถ้าในคลิปมันน่ารังเกียจ แล้วที่ทำๆกันอยู่มันแตกต่างกันยังไง ผมได้คำตอบแล้วครับพี่ระเบิด มันแตกต่างตรงที่พี่รันอาจจะไม่ได้อยากมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่แค่อยากลองก็เท่านั้นเอง


สามวันผ่านไป พี่รันก็ยังคงเงียบและไม่ได้โทรมา ผมมาเรียนหนังสือตามปกติ แต่คงไม่ปกติเท่าไหร่จนไอ้เด่นมันรู้สึกได้ มันถามว่าผมเป็นอะไร เหม่อลอยบ่อยๆ ผมต้องโกหกมันว่าผมเครียดเรื่องเรียน มันก็บ่นผมว่าผมจะประสาทก่อนเรียนจบ มันเลยบอกว่าคืนนี้แม่มันจะจัดงานวันเกิดให้พ่อมัน มันจะบอกแม่มันให้ขอแม่ผมให้ผมไปค้างที่บ้านมัน ผมบอกมันว่าไม่สำเร็จหรอก แม่ไม่ชอบให้ผมไปค้างที่ไหน แต่สุดท้ายแล้วผมก็ต้องแปลกใจที่แม่ผมอนุญาต ไอ้เด่นเลยบอกว่าจะพาผมไปเอาชุดนักเรียน พรุ่งนี้จะได้มาโรงเรียนพร้อมมันเลย


พอเลิกเรียนผมก็อาศัยรถของเด่นกลับบ้าน เพราะพ่อของผมติดงานสำคัญมารับไม่ได้พอดี ส่วนเด่นมันเอารถยนต์มาโรงเรียน ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมครับ ว่าบ้านเด่นมีฐานะดีมาก แล้วการที่มันเอารถยนต์มาโรงเรียนก็เลยเป็นจุดเด่นมากๆ มันถึงมีสาวๆไม่ขาดเลย แต่ผมก็ไม่เห็นมันจะคบใครได้นานสักที


“แม่ไม่อยู่ ไม่รู้ไปไหน สงสัยมีงานที่โรงเรียนมั๊ง” ผมบอกกับเด่นกลังจากกลับมาที่บ้านแล้วไม่เจอแม่ ปกติแม่จะกลับมาแล้วหรือเพราะแม่รู้ว่าผมจะไปงานเลี้ยงวันเกิดพ่อของเด่น เลยไม่ห่วงเรื่องทำกับข้าวให้ผม

“มึง...” เด่นเรียกผม ผมที่กำลังจัดตารางสอนของวันพรุ่งนี้หันกลับไปตามเสียงเรียก แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นของในมือของเด่น

“เราขอคืนได้ไหม” ผมบอก หน้าผมเสียมากผมรู้ตัวเลย ผมนึกตำหนิตัวเองอย่างแรงที่ดันเผลอเอารูปของผมกับพี่รันไปไว้ใต้หมอน รูปพี่รันกำลังหอมแก้มผม

“.................” เด่นยื่นรูปคืนให้ผม สีหน้ามันเฉยมากจนผมใจเสีย

“เราไม่ไปแล้วก็ได้นะ” ผมบอกมัน

“นี่ใช่ไหมที่ทำให้มึงเหม่อลอยบ่อยๆ ทำไมมึงไม่บอกกูว่ามึงคบกับครูรัน” เด่นถามผมเสียงเครียด

“มันไม่ใช่เรื่องน่าบอกรึเปล่า ถ้าเด่นรังเกียจเรา ไม่อยากคบเราต่อเราจะยอมทุกอย่าง แต่อย่าบอกใครได้ไหม เราขอร้อง” ผมบอกเด่น น้ำตาพาลจะไหลอีกรอบ นี่สินะ ที่เขาบอกกันว่าความลับไม่มีในโลก

“กูจะรังเกียจมึงทำห่าอะไร ที่กูโกรธเนี่ยเพราะถ้ากูรู้ว่าครูรัยมาจีบมึง กูจะได้บอกมึงว่าเขามีแฟนแล้ว กูเจอเขาบ่อย ไปดูหนังกับแฟนผู้หญิง ส่วนไอ้เรื่องที่มึงเป็น เอ่อ เป็นแบบที่มึงเป็น กูรู้นานแล้ว” ผมอึ้งไปเลย อึ้งทั้งเรื่องที่เด่นรู้ว่าผมเป็นเกย์และอึ้งเรื่องที่เด่นบอกว่าพี่รันคบกับผู้หญิงระหว่างที่คบผมไปด้วย

“กูขอโทษที่ไม่ได้บอกมึง” ผมพูดจบก็ร้องไห้เลย มันรู้สึกเจ็บปวดกับการที่ถูกหักหลัง

“ไม่ต้องร้องมึง คนเหี้ยๆอย่างไอ้รันมันไม่ควรจะได้มึงไปหรอก แม่งเจ็บใจ กูก็นึกว่ามันเป็นญาติมึงจริงๆ แถมมันยังรู้ว่ากูรู้ว่ามันมีแฟน กูปากหนักเองที่ไม่ได้พูดขึ้นมา ไม่งั้นมึงคงจะไม่เจ็บเท่านี้เลย”

“เราเจ็บวะเด่น” ผมบอกมัน จู่ๆมันก็ดึงผมไปกอด ตบหลังผม อยากจะขำมันเหมือนกัน เพราะมันตบหลังผมดังปุ๊ๆเสร็จแล้วมันก็ชะงักนิดหนึ่งแล้วรีบเปลี่ยนเป็นลูบหลังผมเบาๆแทน ถ้าผมไม่ติดว่าผมกำลังเสียใจมากๆ ผมคงจะหัวเราะแล้วบอกมันว่า ผมยังเป็นผู้ชายเหมือนเดิม ไม่ต้องทำเหมือนผมเป็นผู้หญิงก็ได้


(มีต่อข้างล้างนะคะ)

V
V



ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากข้างบนจ้า)


เด่นมันปล่อยให้ผมร้องไห้จนพอใจแล้วถึงพาผมกลับมาที่บ้านของมัน ตอนนี้ที่บ้านของเด่นมีแขกมาเต็มบ้าน เป็นงานเลี้ยงแบบโต๊ะจีน จัดบริเวณสนามหญ้าข้างๆบ้าน บ้านของเด่นกว้างมาก จัดงานได้สบายๆ เด่นมันพาผมไปนั่งที่โต๊ะลูกพี่ลูกน้องของมัน มันบอกว่าให้นั่งรออยู่นี่ มันจะเอาของผมไปเก็บบนห้องก่อน ข้างๆของผมเป็นแฟนของเด่น หน้าตาสวยมาก ที่สำคัญรูปร่างเป็นสาวเกินวัยจริงๆ เธอมีเพื่อนมาอีกคน หน้าหมวยๆ ส่วนที่นั่งตรงข้ามผมคงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเด่น ผมเหมือนเคยเห็นรูปในห้องนอนของเด่น หน้าตาหล่อดี ส่วนอีกสองสามคนผมไม่รู้จัก


“น้องกลอนมาแล้วเหรอลูก”

“สวัสดีครับม๊า” ผมยกมือไหว้แม่ของเด่น แม่ของเด่นลูบหัวผม เราสองครอบครัวรู้จักกันมานานแล้ว แม่เด่นรักผมเหมือนลูกคนหนึ่ง ท่านชอบบ่นเด่นให้ผมฟัง แถมยังให้ผมช่วยอบรมเด่นด้วย จนเด่นมันโวยวายบ่อยๆว่าม๊าทำให้มันขายหน้าต่อหน้าผม

“อย่าทำหน้าเศร้าสิลูก ยิ้มหน่อย เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป เอาละๆ ทำตัวตามสบายกันเลยนะเด็กๆ เดี๋ยวม๊าไปรับแขกก่อน” ม๊าบอกผมและทุกคนในโต๊ะก่อนจะเดินออกไปรับแขก ผมอึ้งไป สีหน้าของผมมันแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ สักพักเด่นก็เดินลงมา อาบน้ำเปลี่ยนชุดจนหล่อเฟี้ยวเลยครับ

“ตกถังน้ำหอมมารึไง” ผมถามมัน มันหัวเราะแล้วสั่งให้แฟนมันขยับไป มันนั่งลงข้างๆผมแทนแฟนมัน

“รู้จักกันเอาไว้นะ นี่หญิงแฟนกู นี่ฝนเพื่อนหญิง นั่นพัดโบก ลูกพี่ลูกน้องก่อน แล้วก็จิมกับเพชร ลูกเพื่อนแม่กู แต่ก็สนิทกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว แล้วนี่กลอน เพื่อนรักกู รู้จักกันเอาไว้นะ” เด่นแนะนำเสร็จผมก็เลยยิ้มให้ทุกคน ทุกคนก็ยิ้มตอบ แต่มีคนหนึ่งที่ผมเห็นว่านั่งจ้องผมตั้งแต่ผมมานั่งแล้วก็คือพัดโบก จ้องจนผมต้องทำเป็นว่าไม่เห็น

“พัด ตอนนี้มึงยังต้องไปเก็บตัวที่กรุงเทพรึเปล่าวะ” เด่นถามลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง

“ช่วงนี้ใกล้สอบ ยังไม่ต้องไป สอบเสร็จปุ๊ปก็ไปเลย” พัดตอบ

“มันจะได้ไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่นเลยนะ อิจฉา เด็กญี่ปุ่นขาวจั๊วะ” จิมทำท่าเช็ดน้ำลาย

“เฮ้ย อย่าพูดเรื่องนี้ เดี๋ยวแฟนกูจะพิโรธ เอาไว้คุยกันทีหลัง” เด่นพูดจบก็โดนหญิงฟาดที่แขนดังเพี๊ยะ ผมก็พลอยขำไปด้วย พ่อแม่เด่นก็ดีนะ ไม่เคยว่าลูกเรื่องมีแฟน แถมเด่นบอกว่าพ่อยังสอนให้ใช้ถุงยางด้วย ท่านทั้งคู่ค่อนข้างจะสมัยใหม่ แต่ก็ไม่ได้ตามใจเด่นจนเสียคนนะครับ เวลาดุก็น่ากลัวเหมือนกัน ผมเคยเห็นเด่นถูกดุ แม่ผมน่ากลัวไม่ได้ครึ่งแม่ของเด่นเลย

“กินเหล้าไม่เป็นเหรอ” เพชรถามผม

“เฮ้ยๆ เพื่อนกูคนนี้เด็กดี อย่าเอาของมึนเมาให้มัน” เด่นรีบยกมือห้าม

“กินอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ไม่เป็นไรหรอก ใจถึงรึเปล่า” จิมถามแบบขำๆ

“พวกมึงนี่กวนตีน บอกไม่ได้ๆ” เด่นด่าเพื่อนตัวเอง

“เอามาสิ” ผมบอก ผมไม่ได้ทำเพราะอยากประชดอะไรหรอกครับ แต่วันนี้ผมอยากจะลองมันสักหน่อย ไอ้เด่นทำหน้าเหวอ

“เอาไวน์ก็พอ” พัดโบกส่งขวดไวน์ที่มีขายในเซเว่นมาให้

“มึงไม่ต้องกินเยอะเลยนะ พรุ่งนี้ไปโรงเรียนด้วย กูขี้เกียจหามมึงกลับบ้านก่อนเวลาอันควร แม่มึงเอากูตายแน่” เด่นกำชับผมเหมือนเด็ก ผมเลยกระดกไวน์ลงคอไปเกือบครึ่งขวด

“ดูมันๆ บทจะดื้อแม่งดื้อเงียบ” เด่นส่ายหน้า แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก คีบกับข้าวให้ผมกิน มันบอกว่าท้องว่างจะยิ่งเมาง่าย


แล้วผมก็เมาแบบที่เด่นมันกลัวจริงๆ ผมกินไปแค่สองขวดเอง มันหวานอร่อยดีเหมือนน้ำผลไม้ ไม่คิดว่ามันจะทำให้ผมร้อนไปหมดทั้งตัว หน้าก็ชา แต่ไม่ได้เมาแบบขาดสติ ไม่ได้พูดมากด้วย นั่งยิ้มอยากเดียวเลย ผมรู้ตัว แต่มันอยากยิ้มทั้งที่ในใจผมอยากร้องไห้นะ มิน่าละ คนถึงอยากเมา ผมบอกเด่นว่าอยากไปนอนแล้ว เด่นจะไปส่งผม แต่ผมบอกว่าผมไปได้ เห็นแฟนเด่นมันงอนๆอยู่ที่เด่นไม่ค่อยเอาใจ มานั่งเอาใจแต่ผม มันคงรู้ว่าผมกำลังเฮิร์ท ผมเดินยิ้มไปตลอดทาง ไม่ได้เดินเซ หรืออาจจะเซแล้วไม่รู้ก็ได้ครับ ฮ่าๆ แต่ก็เดินมาถึงห้องไอ้เด่นจนได้ รู้สึกดีที่ห้องมันเปิดแอร์เอาไว้แล้ว จากที่ร้อนวูบๆวาบๆในร่างกายค่อยรู้สึกสบายตัวหน่อย สักพักเด่นมันตามขึ้นมา


“เป็นไงมึง ไหวเปล่าวะ กูหาแทบตาย นี่มันห้องกูที่ไหนละ แต่ก็ไม่มีใครนอนหรอก มึงนอนนี่ก็ได้”

“ไหว อยากนอนคนเดียวด้วย จะนอนให้เต็มเตียงเลย สบายจัง ฮ่าๆๆ จะนอนแล้วไม่ต้องมาห่วงหรอก”

“ไม่ห่วงได้ไงมึงเพื่อนกู อย่าไปคิดอะไรมาก นอนคือนอนนะมึง ถ้ากูเห็นร้องไห้กูจะจับกรอกไวน์ให้อ้วกเลย”

“ขู่จัง ไปเลยไป๊ ชิ้ว ฮ่าๆๆ” ผมไล่มันแล้วหัวเราะ ตลกตัวเอง แต่มันห้ามตัวเองไม่ได้ อยากหัวเราะ แล้วก็ง่วงมากๆ

“มึงเมาน่ารักดีวะ ฮ่าๆ ไอ้เพี้ยนเอ้ย” เด่นมันขำผมแล้วสักพักมันก็เดินลงไป ผมนอนพลิกไปมา รู้สึกไม่สบายตัว ไม่เคยไม่อาบน้ำนอน เลยเดินเข้าไปอาบน้ำ หลับตาอาบแล้วตอนนี้ พอเดินออกมา หาเสื้อผ้าไม่เจอ แต่รู้สึกง่วงมากจนแทบไม่อยากลืมตา ขนาดอาบน้ำยังไม่ช่วยอะไรเลย ผมเลยใส่แค่บ็อกเซอร์นอนคลุมผ้าห่มนวมแค่นั้น ไม่รู้หรอกว่าตัวเองหลับไปตอนไหน


ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมกำลังถูกสัมผัส สัมผัสที่แผ่วเบาไล้ไปตามร่างกายเปลือยเปล่าของผม ผมไม่รู้ว่านี่คือฝันหรือไม่ใช่ ผมลืมตาไม่ขึ้น แต่ก็รู้สึกเสมือนจริงจนเผลอส่งเสียงครางเบาๆออกมา อีกแล้ว สัมผัสที่ชื้นแฉะที่ยอดอก มันเย็นวาบก่อนจะรู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นบางอย่างกำลังลากผ่านหัวนมของผมจนผมต้องแอ่นหน้าอกขึ้น


“พี่รัน...กลอนเสียว...” ผมร้องออกมาเหมือนยอดอกถูกดูดกลืนและขบกัดสลับกันไป

“อื้อ..ออ ซี๊ด..” ผมหลุดเสียงร้องออกมาอีกเมื่อความชื้นแฉะนั่นกำลังละเลงอยู่บนร่างกายผมไปทั่ว หน้าอก หน้าท้อง โคนขาอ่อนไปจนถึงปลายนิ้วเท้า ความอุ่นสากลากไล่ไปทั่วจนผมบิดตัวหนีความสะท้าน

“พี่รัน...” ผมร้องเรียก ได้ยินเสียงอีกฝ่ายทำจุ๊ๆ ผมเลยนอนบิดตัวร้องครางต่อเมื่อโดนโลมเล้าหนักขึ้น

“อื้ออออ เสียวว ซี๊ดดด” ผมร้องดังขึ้นเมื่อส่วนอ่อนไหวของผมถูกครอบครอง ความอุ่นที่กำลังดูดดื่มส่วนกลางของผมทำให้ผมตื่นตัวอย่างง่ายดาย โพรงปากอุ่นๆครอบชงลึกจนผมต้องกระตุกสะโพกรับ ความเสียวซ่านสะท้านแล่นตามร่างกายของผม บวกกับความร้อนจากแอลกอฮอล์ในร่างกายมันยิ่งทำผมร้อนผ่าวไปหมด ผมกระตุกสะโพกตามจังหวะรูดรั้ง พี่รันไม่เคยทำแบบนี้ให้ผมเลย นี่ไม่ใช่พี่รัน ไม่ใช่ความฝัน ผมลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด ถึงจะตกใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่ตอนนี้ร่างกายผมควบคุมไม่ได้แล้ว ผมกำลังจะถึงจุดหมายปลายทาง ผมหลับตาต่อและกระตุกสะโพกถี่ขึ้นจนกระทั่งในที่สุดผมก็ปลดปล่อยออกมา

“ใคร” ผมถามด้วยเสียงที่แผ่วเบา การถึงจุดหมายครั้งนี้มันส่งอารมณ์ผมได้มากกว่าทุกครั้งเลย ใจหนึ่งก็กลัว เพราะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาทำแบบนี้กับผมคือใคร แต่ก็ไม่กล้าโวยวาย กลัวจะเป็นเองใหญ่

“ชู่วๆๆ” คนที่เพิ่งช่วยให้ผมถึงจุดหมายมาทำเสียงกระซิบข้างๆหูผม ก่อนจะเลียใบหูแล้วดูดเม้มที่ติ่งหู ผมเอียงหน้าหลบ แต่ก็หลบไม่พ้น

“ใคร พอแล้ว ไม่เอาแล้ว” ผมพยายามจะดันหน้าอก แต่อีกฝ่ายก็ยังคงนอนทาบทับผมเอาไว้

“ชู่วๆ ปล่อยวางทุกอย่างนะ” เสียงแหบพร่ากระซิบแผ่วๆที่ข้างหูของผม ก่อนจะซุกไซร้ที่ซอกคอของผม ผมนอนนิ่ง หลายสิ่งอย่างที่ตีกันอยู่ในหัว ถ้าผมโวยวายจะเกิดอะไร แล้วถ้าผมยอมละจะเป็นอะไรไหม ระหว่างที่กำลังคิด บุคคลลึกลับก็เริ่มไล่เลียร่างกายผมอีกรอบ คราวนี้อร้อนแรงกว่าเดิมจนผมต้องหลุดเสียงครางออกมาอีกรอบ

“อื้อ..ออ ไม่เอา เป็นใคร บอกก่อน..ซี๊ดด..โอย พอ นะ..”

“ชู่วๆ เชื่อผมนะ” เสียงแหบพร่าบอกอีกรอบก่อนจะขบเม้มตามร่างกายของผม ยอดอกของผมถูกดูดเม้มแรงๆจนผมครางดังกว่าเดิม บุคคลลึกลับขึ้นมาทาบทับตัวผมแล้วเสียดสีส่วนกลางบนร่างกายของผม ผมบอกอย่างไม่อายเลย


..ผมกลัว..แต่ผมตื่นเต้น.. ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมตอบสนองรุนแรงมาก ผมกำลังเป็นอะไร ทำไมผมถึงยอมใครก็ไม่รู้ให้มาทำอะไรบนร่างกายของผมได้ แถมผมยังคล้อยตามและรู้สึกรุนแรงได้ขนาดนี้ สองร่างกายในความมืดพลิกตัวกอดรัดกันอย่างร้อนแรงจนที่นอนยับยู่ยี่ไปหมด เราจูบกันอย่างคนหื่นกระหาย ลิ้นของอีกฝ่ายกวาดต้อนจนผมแทบหายใจไม่ออก บุคคลในความมือจับตัวผมพลิกคว่ำแล้วไล่เลียต้นคอ แล้วลากลงตามแผ่นหลัง จนถึงบั้นท้าย ผมครวญครางเพราะสะท้านกับการปลุกเร้าที่ร้อนแรงแบบนี้ คนๆนี้ชำนาญ รู้ว่าจุดไหนที่รุกแล้วอีกฝ่ายจะละลายได้ง่ายๆ


“ไม่เอา ผมไม่เคย” ผมร้องขึ้นมาเมื่อปลายลิ้นของอีกฝ่ายไล่วนที่ช่องทางคับแคบ แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจ คงตวัดปลายลิ้นรัวจนผมต้องกลั้นหายใจเกร็งไปหมดทุกส่วน เขาเก่งเกินไปหรือผมมันอ่อนหัด ทำไมผมถึงไม่ขัดขืน ทำไมผมถึงยอมแพ้ต่ออารมณ์แบบนี้

“อ๊ะ..” ผมสะดุ้งเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังใช้ปลายนิ้ววนๆที่ส่วนท้ายของผม จากวนๆเริ่มจะลึกล้ำเข้าไป เจลหล่อลื่นที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีก็ถูกชะโลมจนเต็มช่องแคบนั่น อันที่จริงผมคิดนะว่าอยากให้พี่รันเป็นคนแรกที่ผมจะยอมเจ็บเพื่อเขา ถ้าพี่รันต้องการผมจะยอมทุกอย่าง แต่คิดแล้ว นอกจากเขาไม่ต้องการแล้ว เขาอาจจะรังเกียจที่จะแตะต้องมันด้วยซ้ำ คิดแล้วผมก็หัวเราะออกมาพร้อมกับน้ำตาที่นึกจะไหลก็ไหลออกมาง่ายๆ เสียงสะอื้นของผมทำให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำ เขาเลื่อนขึ้นมานอนซ้อนหลังผมแล้วกอดผมเอาไว้ เขาคงนึกว่าผมกลัวจนร้องไห้ ผมก็ไม่ได้บอกสาเหตุ แต่ก็รู้สึกดีที่อย่างน้อยผมไม่ได้นอนร้องไห้คนเดียว

“ทำต่อสิ” ผมร้องไห้อยู่พักใหญ่แล้วถึงเอ่ยขึ้นมา อีกฝ่ายกระชับกอดผมแต่ยังนอนเฉยๆ ผมเลยตัดสินใจพลิกตัว พยายามจะเพ่งมองแต่ไม่เห็นจริงๆ ห้องนี้ไม่มีแสงอะไรที่จะเล็ดลอดเข้ามาได้เลย

“แต่ถ้าเจ็บ ผมให้หยุด คุณต้องหยุดนะ” ผมพูดต่อ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ลุกมาทำอะไร มือของเขาลูบที่ใบหน้าของผม ลูบไปทั่วๆ แบบคลำๆในความมืด จนถึงริมฝีปาก ปลายนิ้วเขาไล้เบาๆก่อนจะจูบผม เราแลกลิ้นกันอย่างร้อนแรงอีกรอบ


เขาเล้าโลมผมจนผมตื่นตัวครั้ง เขาจับขาของผมขึ้นพาดที่บ่า เอาหมอนมารองสะโพกของผมเอาไว้ด้วย ใจของผมเต้นแรง ถึงสมองจะคิดตลอดเวลาว่าผมคิดถูกหรือผิด แต่ใจผมก็ไม่คิดจะปฏิเสธ ผมสะดุ้งเบาๆเมื่อเจลมาสัมผัสที่ช่องทางคับแคบอีกครั้ง ได้ยินเสียงเขาใส่ถุงยาง ผมกลั้นหายใจ กัดริมฝีปากแน่น จนเขาโน้มตัวผ่านหว่างขาของผมมาจูบผมอีกครั้ง จูบที่อ่อนโยนจนผมคล้อยตาม ทางด้านล่างของผมก็ถูกอีกมือของเขาคลึงเบาๆ จนกระทั่งนิ้วผ่านเข้าไปได้ ผมรู้สึกแน่นที่ส่วนล่าง แต่ก็ไม่เจ็บ คนๆนี้ค่อยๆทำจนผมรู้สึกได้ว่าเขาไม่อยากให้ผมเจ็บ คนแปลกหน้า คนที่ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร คนที่ผมยอมให้เขาทำในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะยอมง่ายๆ นั่นอาจจะเป็นเพราะเขาคือคนแปลกหน้า คนที่ผมคงจะไม่รู้สึกเสียใจแม้จะเสียอะไรไปให้เขาก็ตาม ไม่มีความรัก ไม่มีการคาดหวัง ไม่ต้องมีอนาคตร่วมกัน มีแต่ความต้องการของร่างกาย มีความสุขจากการได้รับแบบไม่ต้องรักเขาเลยก็ได้


“อ๊ะ...”

“เจ็บเหรอ”

“เปล่า..มันแน่น” ผมบอก ได้ยินเสียงเขาหัวเราะ สักพักผมก็ต้องกัดริมฝีปากอีกครั้งเมื่อส่วนนั้นที่ใหญ่กว่านิ้วกำลังค่อยๆเข้ามาในร่างกายของผม เจลหล่อลื่นช่วยได้มาก ผมไม่เจ็บอย่างที่คิด แค่รู้สึกตึงๆและคับแน่น ผมถอนหายใจเมื่อส่วนนั้นเข้ามาจนสุด อีกฝ่ายแช่เอาไว้อย่างนั้น ได้ยินเสียงครางในลำคอของเขาเบาๆ

“เจ็บไหม” อีกฝ่ายถามผมอีกเมื่อกำลังขยับออก

“นิดหน่อย แต่ทนได้” ผมบอก เริ่มเจ็บตึงๆนิดหน่อย ได้ยินเสียงค่อยเปิดฝาขวดเจลอีกรอบ

“ไม่ไหวแล้วนะ” เขาบอก

“อืม” ผมตอบรับ จากนั้นเขาก็ขยับสะโพกเข้าออกเร็วขึ้น ผมกัดฟัน มันเริ่มเจ็บบ้างแล้วตอนที่เสียดสีกัน แต่ผมไม่ส่งเสียงร้องออกมา จนผ่านไปไม่นานความเจ็บที่ผมได้รับมันเริ่มเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเสียงวาบๆรอบๆส่วนท้ายและที่ส่วนกลางของผม เสียงเนื้อที่กระทบกันยิ่งสร้างอารมณ์ของผมตื่นตัวอีกรอบหลังจากที่มันหายตื่นเพราะความกลัว เสียงเขาครางลอดออกมา ผมโอบรอบคอเขาแน่นเลย

“โอ้ย อื้อ..อื้อ.. อื้อ....ซี๊ดด” เขาร้องออกมาเบาๆ ผมเองก็ครางไม่หยุด สัมผัสการถูกรุกล้ำครั้งแรกมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้


เขาเร่งจังหวะแรงขึ้นมากๆจนตัวผมสั่นไหวไปตามแรงกระแทกของเขา เหงื่อผมออกเต็มตัว เขากระตุกสะโพกเขาหาผมเน้นๆสองสามครั้งก่อนจะชักออกมา แล้วลุกออกจากเตียงไป ผมว่าผมได้ยินเสียงเขาเดินกระแทกอะไรบางอย่างจนผมหัวเราะออกมา เขาคงไม่กล้าปล่อยในร่างกายผมและคงไม่กล้าเอาออกที่เตียง สักพักเขากลับมาที่เตียงแล้วนอนกอดผมอีกรอบ เขาจูบที่แผ่นหลังของผม ที่ต้นคอ ผมก็นอนนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา


..ก็แค่นี้เอง ความสุขที่เกิดในระยะเวลาสั้นๆ มันไม่ยาวนาน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมต้องร้องไห้หรือเสียใจ ผมอาจจะไม่ได้ถูกกำหนดมาให้มีความสุขยาวนานก็ได้ ไม่รู้สิ แล้วมันก็คงจะผ่านไปจริงๆสำหรับความรักที่ไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่าสำหรับผมคนนี้..   


*****โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ*******

มาต่อแล้วค่ะ เชื่อเรื่องโลกกลมพรหมลิขิตไหมคะ อ่านตอนนี้แล้วรอต่อไป จะได้รู้ว่าคำนี้มีความหมายยังไงกับกลอน
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ มากอดกันหน่อยยยยยให้หายคิดถึงคุณผู้อ่าน




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2015 00:17:38 โดย Loverouter »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao7:   ว้ากกก  :sad4:   ใครอ่าเสียงไม่คุ้นอีก
เลวมากเลยพี่รัน เป็นไปได้ถึงขนาดนี้เนาะคนเรา เลวฝังลึกอะ เห็นความรักของเด็กน้อยเป็นแค่ของเล่นชั่วคราว

แต่ไอ้คนที่มาลักหลับนี่น่ากลัวยิ่งกว่า เสียตัวให้ใครยังไม่รู้เลย
เราชักสงสัยว่าพี่ระเบิดอยู่ใกล้กว่าที่คิดรึเปล่า

 :pig4:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
*ถอนใจ*
เจอมาแบบนี้กันสินะ ถึงได้ถอดใจกันเป็นแถวๆ   ไม่ต้องรักก็มีพสพกันได้  เพราะว่าคนที่ใช่มันหายากกว่าคนที่ไม่จำเป็นต้องใช่

เกลียดคนแบบรันที่สุด   ที่จริงถ้าหากว่าอยากลองเฉยๆก็ไม่น่าหายาก  หรือที่จริงถ้าหากว่าอธิบายให้น้องฟังตรงๆจะดีกว่า  ยังไงก็เป็นญาติกัน  น้องเขาก็จะได้ไม่ต้องเจ็บหรือมีปม  ยิ่งใกล้สอบด้วย   เป็นคนที่เลวแบบไม่รับผิดชอบอะไรเลยเป็นครูแท้ๆ

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
ว่าแล้วว่ารันต้องเป็นแบบนี้

ว่าแต่คนนี้ใครกันนะ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
สงสารน้องกรกฎ คนนี้ ให้เดา ลูกพี่ลูกน้องเด่น ไม่ก็เด่น แต่อยากให้เด่นเป็นเพื่อนแท้ตราบนานเท่านาน

ตอนแรกที่อ่านลุ้นพี่ระเบิดเป็นพระเอก แต่ ฮึ้ยยยยยย เดาๆแบบนี้ก็ลุ้นดีค่ะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ขอให้เจอคนดีๆสักทีน้า อยากอ่านต่อออ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2015 11:06:50 โดย นอนกินแรง »

ออฟไลน์ top_fy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอให้เจอรักดีๆนะ พี่กลอน มาต่อเร็วน่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทรักบทที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอนที่ 4 จบบทที่ 2)


ตอนที่มีอะไรกันกับคนแปลกหน้าในคืนนั้น ผมรู้สึกแปลกที่ไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด แต่สงสัยเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอ หรือไม่ก็ผมดำดิ่งอยู่กับบทรักที่อีกฝ่ายมอบให้จนลืมความเจ็บไป แต่พอตื่นมานี่สิครับ ผมปวดทั้งศีรษะและปวดช่วงล่างของตัวเองมาก มากจนผมไม่กล้าถ่ายหนักเพราะมันเจ็บร้าวๆหน่วงๆ ไอ้เด่นมันเห็นผมยังไม่ตื่นนอนเลยเข้ามาปลุก ผมไม่ได้เล่าอะไรให้มันฟัง คนที่นอนข้างๆผมเมื่อคืนก็หายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ผมต้องเก็บอาการแล้วรีบลุกไปอาบน้ำ เมื่อลงไปกินข้าวก็เจอพ่อกับแม่ของเด่นทั้งคู่ ท่านทักทายผมแล้วบ่นเด่นว่าจะทำให้เด็กดีอย่างผมเสียคน เด่นมันรีบบอกว่าให้ผมดื่มในสายตาดีกว่าผมไปถูกคนอื่นมอมเหล้า จะเสียอย่างอื่นด้วย ผมได้ยินก็สะอึกแต่ก็เก็บอาการได้ ได้แต่แสร้งยิ้มตอนแม่เด่นบอกว่า กลัวเด่นนั่นแหละที่จะไปทำคนอื่นท้อง ถ้าพ่อกับแม่ผมรับเรื่องแบบนี้ได้ผมก็อยากเล่าเรื่องของผมให้ท่านทั้งสองคนฟังเหมือนกัน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้


ผมกับเด่นไปถึงเวลาทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ไอ้เด่นมันจับมือผมวิ่งไปเข้าแถว ผมต้องกัดฟังทนเจ็บวิ่งไปกับมัน กลัวมันถามว่าผมเป็นอะไร แต่ที่ทำให้ลืมความเจ็บที่ร่างกายไปก็คือ บริเวณเสาธงตรงที่บรรดาคุณครูยืนอยู่ มีพี่รันอยู่ด้วย ความเจ็บมันเลยเคลื่อนย้ายมาที่หัวใจของผมแทน ผมเห็นไอ้เด่นมันกำมือแน่น ผมรีบแตะที่แขนมัน ก่อนจะบอกว่าขอให้เป็นเรื่องของผมกับพี่รันก็แล้วกัน


ผมเข้าไปเรียนคาบเช้าเสร็จ ก่อนจะไปกินข้าวกลางวันผมเดินเลยไปที่ห้องพยาบาล อยากได้ยาแก้ปวดกับแก้อักเสบมาทาน ผมกลัวว่าส่วนนั้นมันจะอักเสบ เมื่อไปถึงห้องพยาบาลผมเจอพี่รันคุยอยู่กับครูฝึกสอนอีกท่าน พอพี่รันรู้ว่าผมมาขอยาทาน หน้าพี่รันก็เจื่อนๆ พอครูฝึกสอนอีกท่านขอตัวไปกินข้าว พี่รันรีบดึงแขนผมแล้วพาเข้าไปในห้องพักครูด้านใน ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย


“ไม่สบายเป็นอะไร เหมือนจะมีไข้เลย” พี่รันรีบเอามือมาอังที่หน้าผากของผม ผมรีบปัดมือพี่รันทิ้ง พี่รันอึ้งไป

“ผมว่าผมเรียนเก่งนะ แต่เพิ่งจะรู้ว่าการเรียนไม่ได้ช่วยให้ผมฉลาดทุกเรื่อง” ผมพูดกับพี่รัน พี่รันทำหน้างงๆ สักพักเหมือนจะรู้ตัว ผมดูจากท่าทางร้อนรนที่พี่รันเก็บเอาไว้ไม่อยู่

“กลอน พี่..”

“กลอนไม่อยากฟังอะไรยืดยาว พี่ตอบคำถามกลอนมาแค่คำเดียว กลอนขอแค่นั้น พี่จะแต่งงานใช่ไหม” ผมถามแบบตรงไปตรงมา

“กลอน..” พี่รันหน้าเจื่อนกว่าเดิม ยืนนิ่ง ก่อนจะพยักหน้า

“พี่รู้ไหม จริงๆพี่แค่บอกกลอนก็ได้นะว่าพี่อยากลอง พี่แค่อยากลองมีอะไรกับผู้ชาย กลอนจะได้ไม่ต้องให้ใจไปด้วย ให้แค่กายก็พอ”

“ไม่ใช่นะกลอน พี่ไม่ได้อยากได้กับผู้ชาย พี่ไม่ใช่เกย์ แต่พี่แค่รักกลอน”

“พี่รัน ถ้าพี่รักใครสักคนจริงๆ พี่จะไม่ทำให้เขาเสียใจหรอก อย่าพูดมันออกมา กลอนไม่อยากหมดศรัทธากับคำนั้น” ผมเสียใจมาก อยากจะร้องไห้นะ แต่น้ำตาของผมไม่ไหลสักหยด

“แต่พี่รักกลอนจริงๆนะ เราก็อยู่กันแบบนี้ ถึงพี่แต่งงานไป พี่จะไม่ทิ้งกลอน กลอนเองก็ไม่อยากให้คุณน้ารับรู้อยู่แล้ว เราสองคนอยู่กันแบบคนรักแบบเปิดเผยท่านไม่ได้อยู่แล้ว นะครับกลอน”

“ทำไมพี่เป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ กลอนว่ากลอนโชคดีแล้วที่ได้เลิกกับคนอย่างพี่ กลอนสงสารผู้หญิงคนนั้นจริงๆ” ผมปัดมือของพี่รันที่พยายามจะกอดผม

“พี่ไม่เลิกนะ” พี่รันบอก

“ถ้าพี่ไม่เลิก ก็ไปบอกผู้หญิงคนนั้นว่าพี่กับกลอนเรามีอะไรกัน กล้าไหม” ผมท้า พี่รันยืนนิ่งไป

“อย่ามายุ่งกับกลอนอีก อย่างน้อยถ้ากลอนทำใจได้แล้วเรายังจะเป็นพี่น้องกันได้ในอนาคต ปล่อยแขนกลอน” ผมบอกเสียงแข็ง ทีแรกพี่รันจะไม่ยอมปล่อย จับแขนผมจนผมเจ็บ แต่พอได้ยินเสียงนักเรียนที่ดังแว่วมา พี่รันรีบปล่อยมือผม ผมได้แต่หัวเราะ แต่เป็นการหัวเราะให้กับความโง่ของตัวเอง ผมเดินออกมาจากห้องพักครูด้านใน เห็นไอ้เด่นมันยืนอยู่ในห้องพยาบาล มันรีบเดินเข้ามากอดคอผมแล้วพาผมออกไป อย่างน้อยผมก็มีเพื่อนดีๆที่ยังยืนเคียงข้างผม ชีวิตผมจะเสียคนแย่ๆไปอีกสักคนก็คงไม่เป็นไรหรอก


ตอนเย็นไอ้เด่นบอกว่าให้ผมกลับไปพร้อมกับมัน เพราะว่าพ่อผมไม่ได้มารับ ผมได้แต่รับรู้ ไม่ได้ถามมันว่าทำไมพ่อผมถึงไม่ได้มารับ เพราะหัวผมยังคิดถึงแต่ภาพวันเก่าๆของตัวเองกับพี่รัน ไม่ได้เอะใจเลยว่าความทุกข์ในใจของผมมันจะไม่ได้มีแต่เรื่องความรักเท่านั้น


ผมกลับมาถึงบ้านก็พบว่าภายในบ้านเงียบสนิท ไอ้เด่นมันลงมาส่งผมด้วย ผมก็แปลกใจ แต่นึกว่ามันคงห่วงผมเรื่องพี่รันเลยไม่ได้ถามอะไร จนระทั่งผมตะโกนเรียกแม่ ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเริ่มผิดสังเกต เพราะรถของแม่ก็ยังจอดที่หน้าบ้าน จนผมเดินเข้ามาถึงในครัว เห็นแม่นอนนิ่งอยู่กับพื้น ผมตกใจรีบวิ่งเข้าไปหาแล้วเรียกแม่ให้ตื่น ผมเห็นยาเม็ดหล่นเกลื่อนพื้น ผมบอกให้เด่นโทรเรียกรถพยาบาล ส่วนตัวผมพยายามเรียกแม่ ใบหน้าของแม่อาบไปด้วยน้ำตา แม่ดูสะลึมสะลือ คงเพิ่งจะทานเข้าไป ผมไม่กล้าล้วงคอท่าน กลัวทำไม่ถูกวิธี ผมได้แต่เรียกแม่ น้ำตาเริ่มไหลเพราะกลัว ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมแม่ต้องกินยาฆ่าตัวตาย มันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของผม


“แม่มึงปลอดภัยแล้ว ท่านคงไม่ได้อยากกินยาเกินขนาดหรอก” ไอ้เด่นมันปลอบผม ตอนนี้แม่ยังอยู่ในห้องไอซียู แต่หมอบอกว่าล้างท้องให้แล้ว ปลอดภัยแล้ว แต่ให้นอนดูอาการอยู่ก่อน

“แกรู้ใช่ไหม แกรู้อะไร ทำไมไม่บอกเรา” ผมถามเด่น ผมมาย้อนนึกถึงคำพูดของแม่เด่นเมื่อวานที่ท่านทักผม คิดว่าไอ้เด่นก็คงพอจะรู้

“กูขอโทษ แต่แม่บอกว่า แม่มึงจะบอกมึงเอง ไม่ให้กูพูด ท่านกลัวมึงจะเสียใจจนเสียการเรียน”

“พ่อเรามีเมียน้อยเหรอ” ผมหันไปมองหน้าไอ้เด่น มันพยักหน้า

“อืม แม่กูไปเจอพ่อมึงกับผู้หญิงคนนั้นหลายครั้งแล้ว แต่ไม่กล้าบอกแม่มึง จนวันก่อนแม่มึงไปจับได้เอง” ไอ้เด่นรีบตบบ่าของผม ผมมองเข้าไปในห้องไอซียู นึกสงสารแม่จับใจ ขนาดผมแค่คบกับพี่รันไม่นาน ผมยังเจ็บ แล้วแม่อยู่กับพ่อมามากกว่าอายุของผมอีก ท่านทำหน้าที่ของท่านอย่างดี เมื่อเจอพ่อหักหลังก็คงจะเจ็บมาก ผมไม่ได้พูดอะไรกับเด่นอีก นั่งเหม่ออยู่ที่หน้าห้องไอซียู จนพี่รันเข้ามาสะกิด ผมถึงได้รู้ว่ามีคนพูดกับผม

“กลอน..” พี่รันลงมานั่งข้างๆผม เอื้อมมือมาบีบมือของผม ดีที่ไอ้เด่นมันขอตัวกลับบ้านไปหาข้าวกับเสื้อผ้ามาให้ผม ไม่งั้นมันคงได้ชกพี่รันแน่ๆ เด่นมันเลือดร้อนด้วย

“ปล่อยมือกลอน” ผมบอก

“มันไม่ใช่เวลาจะมาโกรธพี่นะกลอน พี่อยากให้กำลังใจ มาอยู่เป็นเพื่อนกลอน” ผมถอนหายใจ อยากกรีดร้องแล้วบอกว่ามันไม่ใช่เวลาที่ผมต้องการพี่รันเหมือนกัน ผมทุกข์ใจเรื่องแม่พอแล้ว ผมไม่อยากเห็นหน้าคนที่หลอกลวงผม

“ถ้าพี่อยากช่วยกลอนจริงๆ ไปจากชีวิตกลอนสักพักนะครับ กลอนขอร้อง”

“กลอน”

“พี่ กลอนได้เสียกับคนอื่นแล้วด้วย ได้มากกว่าที่พี่เคยได้ กลอนก็ชอบด้วย บอกตรงๆนะว่าพี่ดีแต่ให้กลอนทำให้ กลอนไม่มีความสุข เราไม่เหมาะกันหรอก เชื่อกลอนนะ กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นเถอะ”

“กลอน พี่รู้ว่ากลอนกำลังประชด พี่ไม่เชื่อหรอก” พี่รันพูดจบผมก็ลุกขึ้นแล้วจับข้อมือพี่รันให้ตามผมมา ผมพาพี่รันมาที่ห้องพักที่เตรียมเอาไว้ตอนที่แม่จะออกมาพักดูอาการจากห้องไอซียู ผมพาพี่รันเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของตัวเอง พี่รันเบิ่งตาโตเมื่อเห็นร่องรอยแดงๆบนตัวผม

“กลอน ทำไม..”

“เชื่อรึยัง” ผมถาม พี่รันทำสีหน้าผิดหวังในตัวผมอย่างที่สุด ก่อนจะชกไปที่ประตูห้องน้ำดังโครม ผมตกใจมาก ที่ข้อนิ้วของพี่รันขึ้นสีแดงเข้ม

“ตอนที่เราคบกัน กลอนไปทำแบบนี้กับคนอื่นรึเปล่า” พี่รันถาม ผมบอกตรงๆว่าอึ้งไป ถึงแม้ว่าผมกำลังประชด แต่ก็ไม่คิดว่าพี่รันจะคิดว่าผมมั่วสุดๆขนาดนั้น ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมา มันไม่ได้ทำให้พี่รันรู้จักตัวตนของผมเลย ก็คงไม่แปลก เพราะผมก็ไม่รู้จักตัวตนของพี่รันเหมือนกัน ไม่รู้เลยสักนิด

“ถามทำไมเหรอครับ”

“พี่อุตส่าห์ไม่รังเกียจร่างกายของกลอน ทั้งที่พี่ไม่คิดจะทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหน แต่กลอน..ทำไมกลอนแย่แบบนี้” พี่รันตวาดผม

“แล้วที่พี่รันไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น แล้วมาให้ผมทำอะไรให้ ผมต้องรังเกียจพี่ด้วยไหมครับ”

“มัน...มันไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนยังไงครับ”

“เขาสะอาด”

“หึ...ฮ่าๆๆ” ผมหลุดหัวเราะมาทันที คำว่าสะอาดของพี่รันคืออะไร ผมว่าเต็งหนึ่งมันแย่มากแล้ว มาเจอแบบพี่รัน ผมว่าเต็งหนึ่งมันยังไมทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองน่าขยะแขยงได้เท่าที่พี่รันกำลังทำเลย

“มึงอยู่ในนั้นรึเปล่ากลอน” เสียงของเด่นตะโกนถามอยู่หน้าห้องน้ำ พี่รันมองหน้าผมแบบรังเกียจก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำแล้วเดินออกไป ไอ้เด่นตกใจที่เห็นรอยบนตัวของผม มันนึกว่าพี่รันทำ มันกัดฟันแล้วจะเดินกลับออกไป ผมรีบดึงมือมันเอาไว้ก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะเก็บความทุกข์ที่ถามโถมเข้ามาไม่ไหวแล้ว

“ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวมันจะผ่านไป” ไอ้เด่นมันดึงผมไปกอดปลอบ ผมก็ได้แต่ร้องไห้ ร้องให้พอใจกับความทุกข์ที่ได้รับในวันนี้ อีกบทเรียนที่ผมจะต้องผ่านมันไปให้ได้อย่างที่เด่นบอก


เรื่องราวของผมกับพี่รันก็จบแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันก็เป็นอีกหนึ่งภูมิคุ้มกันให้ผม ซึ่งผมไม่ได้มีเวลาจมกับความทุกข์เรื่องของพี่รันเพราะแม่ แม่ออกจากโรงพยาบาลแล้วทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่แค่กอดแล้วขอโทษผม ท่านถามผมว่า ผมอยู่กับท่านแค่สองคนได้ไหม ผมรีบบอกว่าได้ เพียงแค่นั้นเราสองแม่ลูกก็กอดกันร้องไห้อีกครั้ง แล้วก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นแม่ร้องไห้ แม่ยังคงไปสอนหนังสือตามปกติ กลับมาทำหน้าที่แม่ให้ผมแบบไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด พ่อไม่ได้กลับมาบ้าน หรือจะกลับมาตอนเราสองแม่ลูกไม่อยู่ก็ไม่รู้นะครับ พ่อโทรมาหาผม ท่านขอโทษผม ผมไม่ได้โกรธท่าน แม้ลึกๆอยากจะบอกว่าท่านผิด แต่ท่านเป็นถึงผู้ผู้พิพากษา อะไรถูกผิดก็คงไม่ต้องไปบอก ผมคิดแค่ว่า ถ้าพ่อไม่รักแม่แล้ว ผมจะชดเชยความรักของผมให้แม่เอง ซึ่งนี่แหละครับ ยิ่งทำให้ผมมานะในเรื่องเรียนมากยิ่งขึ้นและโดยเฉพาะเรื่องตัวตนของผม มันจะยิ่งต้องเป็นความลับมากขึ้นกว่าเดิม ผมไม่อยากให้แม่ต้องเสียใจจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะที่ควร

ผมกลับมาเป็นหนอนหนังสือ โฟกัสแต่เรื่องเรียน ไม่ได้ติดต่อกับกลุ่มเพื่อนเกย์ในกรุ๊ปไลน์เลย แม่ของผมยิ้มได้มากขึ้น แม้ท่านจะเหม่อบ่อยๆ แต่ผลการเรียนและการเป็นลูกที่ดีของผมทำให้ท่านมีความสุข ผมเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งเกี่ยวกับงานวิชาการต่างๆ เอารางวัลมาให้แม่ได้หลายรายการ และของขวัญที่ดีที่สุดที่ผมได้ทำให้แม่กับตัวของผมเอง คือผมสอบเข้าคณะที่อยากเข้าในสถาบันที่หวังอาไว้ได้ แม่ดีใจจนร้องไห้ โชคดีที่แม่ตามใจผมให้เลือกสายที่อยากเรียน แต่สิ่งที่ผมห่วงก็คือ ผมต้องย้ายเข้าไปอยู่ในกรุงเทพ ผมไม่อยากให้แม่อยู่คนเดียว แต่แม่ของเด่นบอกว่าไม่ต้องห่วง ท่านจะช่วยดูแลแม่ของผมให้ แม่เองก็บ่นว่าผมหาว่าท่านแก่จนดูแลตัวเองไม่ได้ ผมเห็นแม่เข้มแข็งแล้วก็นึกชื่นชมหัวใจของคนที่เป็นแม่ ท่านทุกข์แค่ไหนแต่ท่านไม่ยอมให้เวลากับความทุกข์นานเท่าที่ให้เวลากับลูก ผมไม่ได้ถามว่าวันนั้นท่านคิดกินยาตายจริงหรือเปล่า ไม่อยากไปจี้ปมนั้น แต่ผมก็เชื่อว่าท่านคงไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งผมเอาไว้คนเดียว แล้วมันก็ผ่านมาแล้ว ผมจะรีบเรียนให้จบไวๆ จะได้หางานดีๆ หาซื้อบ้านสักหลัง จะได้ให้แม่มาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพ


..แต่มันก็ยังอีกไกล เอาเป็นว่า ผมตั้งใจว่าจะทำทุกวันให้ดีที่สุดสำหรับตัวผมเองและเพื่อแม่ของผมแค่นั้นก็พอ...


..... จบบทรักบทที่ 2 อวสานพี่รัน ไปชิ้วๆ มีต่อบทรักบทที่ 3ข้างล่างนะคะ....

V
V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2015 11:30:37 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบนค่ะ


บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 1)


ผมยืนมองตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกในห้องน้ำของมหาวิทยาลัย หน้าของผมเต็มไปด้วยสีที่ถูกบรรดารุ่นพี่ช่วยกันละเลงอย่างสนุกสนาน ผมของผมก็เป็นสีขาวเนื่องจากถูกแป้งเด็กโรยจนเหมือนผมหงอก ซึ่งผมพยายามปัดจนฝุ่นแป้งฟุ้งกระจาย


“ไอ้กลอน แป้งเข้าตาเรา” เสียงของคนที่ยืนข้างๆผมโวยวาย ผมรีบหันไปปัดฝุ่นแป้งจากหัวของผมใส่มันหนักกว่าเดิม

“ไอ้กลอน อย่าเล่น เดี๋ยวเราฟ้องพี่รหัสเรานะโว้ย” มันโวยหนักกว่าเก่า

“เกี่ยวอะไรกับพี่รหัสแกวะบุ้ง” ผมถามด้วยความสงสััย


ใช่ครับ คนที่ยืนข้างๆผมในตอนนี้ก็คือบุ้ง โลกมันกลมจริงๆ หลังจากที่ผมสอบเข้าที่นี่ได้ ผมก็กลับเข้าไปในกรุ๊ปไลน์อีกครั้ง ผมนึกว่ากรุ๊ปนี้จะล่มสลายไปเสียแล้ว แต่ที่ไหนได้ มีคนมาเพิ่มมากขึ้นอีกหลายคน เกือบสิบคนได้ ผมถามบุ้งว่ามาจากไหนกัน บุ้งว่า เจ๊แนนซี่เป็นลากเข้ามา ตอนนี้เจ๊เรียนจบแล้ว เปิดบริษัทโมเดลลิ่งด้วยทุนของแฟนฝรั่งเหมือนเดิม ผมเพิ่งรู้ว่าแฟนเจ๊แนนซี่เป็นนายแบบมาก่อน ตอนนี้เลยย้ายมาอยู่เมืองไทยแล้วลงทุนเปิดบริษัทที่นี่ แถมเจ๊แนนซี่เพิ่งจะผ่าตัดแปลงเพศมาแบบสดๆร้อนๆ บุ้งบอกว่าเจ๊แกจะแต่งงานเมื่อซิลิโคนเข้าที่แล้ว ส่วนเพื่อนใหม่ที่ลากเข้ามาในกรุ๊ปไลน์เป็นเด็กในสังกัดเจ๊แนนซี่นั่นแหละครับ ที่เจ๊แกคัดเข้ามาแล้วว่านิสัยโอเค ที่สำคัญเป็นเกย์รุกที่กำลังขาดตลาด (เจ๊แกว่าอย่างนั้นนะครับ) แต่ผมยังไม่ค่อยรู้จักหรอก เข้าไปเล่นแต่ก็ไม่บ่อย แล้วที่ว่าโลกกลมก็เพราะผมมารู้ว่าบุ้งสอบติดคณะเดียวและมหาวิทยาลัยเดียวกันกับผม ทำให้ผมดีใจมากที่จะมีเพื่อน ผมนัดเจอกับบุ้งก่อนเปิดเรียน โดยไม่ให้บุ้งบอกใครในกรุ๊ปว่าผมเรียนที่เดียวกับบุ้ง ตอนเจอผมครั้งแรกแบบตัวเป็นๆ บุ้งมันร้องกรี๊ดจนผมตกใจ มันชมว่าผมน่ารักกว่าในรูปอีก มันบอกว่ามันไม่อยากเรียนที่เดียวกับผมแล้ว เพราะผมคงจะเรทติ้งดีกว่ามัน และน่าจะได้กินผู้ชายมากกว่ามัน ผมไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีกับคำพูดตรงๆของบุ้ง 555


“ก็พี่รหัสเราถามถึงแต่แก แต่เราว่าพี่เขาดูสาวว่ะ” บุ้งบอกผม

“เหรอ ดูไม่เห็นออก”

“จะไปดูใครออก หัวใจปิดตายแบบนั้น” บุ้งพูดแล้วแกล้งค้อนผม ผมดึงคอบุ้งมากอดแล้วสะบัดแป้งใส่ให้มันร้องโวยวายอีก

“โห น้องสองคนนี่เป็นแฟนกันรึเปล่า สนิทกันเร็วจัง” ผมหยุดแกล้งบุ้งเมื่อได้ยินเสียงใครสักคนร้องทัก พอหันไปดูก็เห็นว่าเป็นพี่รหัสของบุ้ง เขาชื่อพี่เมตร ส่วนอีกคนที่เดินเข้ามาด้วยชื่อพี่ฉลาม ดูท่าทางน่าจะดุเหมือนฉลาม เป็นพี่ว๊ากด้วย

“พี่เมตรอยากสนิทด้วยใช่ไหมละ” บุ้งถาม

“ได้ก็ดี” พี่เมตรยิ้มกรุ่มกริ้มมาทางผม

“แต่ไม่ได้ มันมีแฟนแล้ว” บุ้งบอก พี่เมตรทำหน้าละห้อย ส่วนพี่ฉลามเดินเลยพวกผมเข้าไปด้านใน

“ไปฉี่อีกรอบดีกว่า” บุ้งกระซิบผมก่อนจะเดินตามพี่ฉลามแล้วไปยืนข้างๆพี่เขา พอผมรู้ว่าบุ้งมันจะไปแอบส่องอะไร ผมหน้าแดงขึ้นมา แสบจริงๆเพื่อนผมคนนี้ ผมรีบล้างมือก้มหน้าลงไปล้างหน้าที่ก๊อก

“ล้างทำไม เดี๋ยวก็โดนอีก” เสียงเข้มๆทักผม ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นพี่ฉลามยืนล้างมืออยู่ข้างๆผม

“ไม่อยากเป็นสิว ล้างเอาไว้ก่อนครับ” ผมตอบไปตามความจริง

“เป็นตุ๊ดเหรอ” ผมชะงักกึกเมื่อได้ยินคำถาม หันไปมองคนที่สูงกว่าผม ใส่เสื้อนักศึกษาตัวใหญ่ๆ กางเกงยีนสีดำเก่าๆ ขาดที่เข่า ผมยักศกยาวถึงคอ มีหนวดขึ้นรำไร ผมอยากจะชมว่าพี่เขาเท่ห์มากๆถ้าปากไม่เสียมาให้ผมสะดุดหูเสียก่อน

“ทำไมไปทักน้องอย่างนั้นวะไอ้หลาม” พี่เมตรรีบเข้ามาเมื่อเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยดี ส่วนไอ้บุ้งยืนขำอยู่ข้างหลังผม มันจะขำอะไรของมัน

“ก็เจ้าสำอาง เลยสงสัย”

“ถ้าพี่จะเรียกคนรักสะอาดว่าตุ๊ด ก็เอาที่พี่สบายใจครับ ยอมเป็นตุ๊ดดีกว่าโสโครก” ผมบอกจบก็ก้มลงไปล้างหน้าต่อ ได้ยินเสียงไอ้บุ้งกับพี่เมตรหัวเราะดังลั่น พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีพี่ฉลามก็หายไปแล้ว ผมไม่ได้อยากสร้างศัตรูนะ ถึงผมจะเป็นแบบนั้น ก็ไม่ต้องมาพูดเหยียดหยามก็ได้

“เด็ดมาก ไม่เคยมีใครกล้ากับไอ้หลามเลยนะ เสียดายจัง ไม่น่ามีแฟนเลย ไปกันเถอะ ไปช้าโดนไอ้หลามมันสั่งวิดพื้นไม่รู้ด้วยนะ” พี่เมตรขู่ บุ้งมันรีบคว้ามือผมแล้ววิ่งไปที่ลานหน้าตึกคณะทันที

“มากันครบรึยัง” เสียงตะโกนของพี่ว๊ากคนหนึ่งดังมากจนผมแอบคิดว่ากล่องเสียงพี่เขาจะแตกออกมาไหม ทำไมต้องตะโกนขนาดนั้นด้วย

“เฮ้ย ไอ้น้องคนนั้น ใครใช้ให้ไปล้างหน้า พี่บอกว่าห้ามล้างจนกว่าจะปล่อยไง” พี่ว๊ากอีกคนที่รูปร่างใหญ่เหมือนยักษ์ชี้มาที่ผม ผมขอเรียกพี่เขาว่าพี่อ้วนนะครับ คราวนี้ทุกสายตาหันมามองผมหมด

“ลุกขึ้นมาดิ” พี่คนแรกที่ตะโกนสั่งผม ผมขอเรียกคนนี้ว่าพี่แหบ เพราะพี่เขาตะโกนจนเสียงแหบ

“ไปล้างหน้าทำไม” พี่อ้วนถามผม

“ผมไม่รู้ว่าห้ามล้างครับ” ผมตอบ ซึ่งผมไม่รู้จริงๆ ไม่รู้ว่าพี่เขาพูดตอนไหนว่าห้ามล้าง

“ทำไมไม่ตอบแบบเมื่อกี้ละ” พี่ฉลามถามผม ผมถอนหายใจก่อนจะตอบใหม่

“ไม่อยากโสโครก ไม่อยากเป็นสิวครับ” ผมตะโกนตอบ คราวนี้เงียบกันทั้งคณะ ก่อนจะได้ยินเสียงเป่าปากหัวเราะชอบใจจากรุ่นพี่หลายคน ส่วนพวกปีหนึ่งนั่งก้มหน้ากันหมด

“มึงเดินออกมานี่เลย ท่าทางจะแสบ” พี่แหบเรียกผม ผมเดินออกไป ถามว่ากลัวไหมก็กลัว แต่ก็คิดว่า ไม่ว่าจะรุ่นไหนเราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน

“เอานี่ คล้องคอตลอดนะ ห้ามถอด มึงต้องคล้องทุกวันหลังเลิกเรียน ถ้ามึงถอดหรือทำป้ายหาย เพื่อนมึงทั้งรุ่นงานเข้าแน่” ผมก้มลงมองป้ายที่พี่แหบคล้องให้ผม ผมยืนอึ้งไป ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นมา ในป้ายเขียนว่า ผมเป็นตุ๊ด

“ผมคืนครับ” ผมถอดป้ายออกทันที พวกพี่ว๊ากเริ่มหยุดหัวเราะแล้วหน้าบึ้ง มีเสียงซุบซิบดังมาจากพวกปีหนึ่ง

“มึงหูตึงรึไงวะ กูบอกห้ามถอด” พี่อ้วนเดินมาตะโกนใส่หูผม

“ไม่ได้หูตึงครับ แต่ผมมีสิทธิที่จะไม่ใส่” ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเอาความกล้านี่มาจากไหน ที่ผ่านมาผมเป็นคนเงียบๆ เป็นเด็กเรียน ใครว่าไงก็ว่างั้น แต่ทำไมผมถึงกลายเป็นรุ่นน้องที่กล้าปีนเกลียวไม่เชื่อฟังรุ่งพี่ไปแล้วก็ไม่รู้เหมือนกัน

“เด็กปีหนึ่งทุกคน ลุกขึ้น วิดพื้นร้อยที” เสียงพี่แหบตะโกน ผมหันไปมองเพื่อนๆ เห็นทุกคนส่ายหน้า ทำหน้าเซ็งๆแล้วรู้สึกผิด

“ผมวิดคนเดียว เพื่อนไม่ได้ผิดอะไร” ผมบอก

“ไม่ได้ พวกมึงเป็นเพื่อนกัน เพื่อนผิดก็ต้องรับผิดหมด” พี่แหบตะโกนบอก

“ผมผิดอะไรครับ” ผมถาม หันไปมองไอ้บุ้ง มันรีบส่ายหน้าให้ผม มองพี่เมตร พี่เขาก็ยิ้มแห้งๆให้มา แต่ผมอยากรู้จริงๆ

“บ๊ะ มึงนี่กวนประสาทจริง” พี่อ้วนเกาหัว

“ผมไม่ได้กวนนะครับ ผมแค่อยากรู้ การที่ผมไม่อยากให้พี่เอาความรู้สึกของผมมาล้อเล่นมันผิดเหรอครับ การที่ผมไม่อยากเป็นตัวตลกในสถาบันที่ผมพยายามแทบตายกว่าจะได้เข้ามามันผิดเหรอครับ การที่ผมเห็นว่าสิ่งที่พี่กำลังทำมันไม่ได้ทำให้เรารักกันมากขึ้น มีแต่จะทำให้เกลียดกันฝังใจ ผมยังไม่เห็นว่าอะไรคือประโยชน์ของการรับน้องที่พี่กำลังปฏิบัติกับพวกผม ผมเลยสงสัย ว่าผมผิดอะไรถ้าพี่ให้เหตุผลที่ดีได้ ผมจะยอมทำทุกอย่างที่พี่อยากให้ทำ” ผมพูดยาวเลย พูดจบ ผมได้ยินเสียงปรบมือ หันไปดูเห็นไอบุ้งมันปรบมือ จากนั้น เด็กปีหนึ่งแทบทุกคนก็ปรบมือ พี่อ้วนเกาหัวหนักกว่าเดิม ส่วนพี่แหบหน้าเหวอ รุ่นพี่คนอื่นๆก็อึ้งๆกันไปหมด

“มันเป็นการฝึกความอดทน คุณอาจจะคิดว่ามันไร้สาระแต่วันหนึ่งคุณจะรู้ว่าคุณต้องเจออะไรแบบนี้ในชีวิตจริง พวกเราทำกันมาทุกปี ที่คุณเคยโดนผมก็โดนมาเหมือนกัน แล้วทุกวันนี้ผมกับรุ่นพี่ผมที่จบไปแล้วก็ไม่ได้เกลียดกัน เรายังช่วยเหลือติดต่อกัน สนิทสนมกันมากกว่าเดิม ถ้าคุณคิดว่าพวกรุ่นพี่ทำเกินไป พวกพี่ให้คุณเลือกที่จะเดินออกไปได้เลย ถ้าจะจบประเพณีที่ชาวคณะทำกันมาในปีนี้ ผมก็ถือว่า พวกผมมันแย่เองที่ทำให้น้องเข้าใจไม่ได้” พี่ฉลามพูดจบก็ผายมือออก ผมหันกลับไปมองเพื่อนๆ คราวนี้ทุกคนเงียบแล้วก็ไม่มีใครลุก

“ผมขอพูดอีกได้ไหมครับ” ผมถาม พี่อ้วนเกาหัวต่อแล้วก็หัวเราะออกมา

“มึงแม่งโคตรเป็นเจ้าหนูจำไมช่างสงสัยช่างเจรจาจริงจริ๊งงงง เวรกรรมอะไรของกูที่มาเจอรุ่นน้องแบบมึงว่ะ รู้ถึงหูโคตรรหัส กูโดนหัวเราะเยาะแน่ เอ้า..อยากพูดก็พูด”

“ผมเข้าใจความต้องการของพี่แล้ว เอาเป็นว่า ถ้านี่คือการแสดงสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ผมอยากให้มันชัดเจนกว่านี้ครับ” ผมบอก

“ยังไง” พี่แหบถาม

“ผมจะคล้องป้ายนี้ แต่ให้พี่เขาแขวนด้วยได้ไหมครับ” ผมชี้ไปที่พี่ฉลาม รุ่นพี่อ้าปากค้าง พูดไม่ออก ยืนอึ้งกันไปหมด พี่ฉลามจ้องหน้าผมนิ่ง ก่อนจะก้มหน้าหัวเราะ

“เออ เดี๋ยวผมคล้องด้วย คุณอย่าถอดก่อนผมแล้วกัน” พี่ฉลามพูดจบ ผมเห็นพี่แหบรีบถอนหายใจยกมือลูบอกตัวเอง รุ่นพี่คนอื่นๆปรบมือเป่าปากส่งเสียงเฮๆ ไอ้บุ้งรีบลุกมากอดผม ราวกับว่าผมพ้นโทษประหารแล้ว


แล้ววันนั้นผมก็โดนรุ่นพี่หลายคนสั่งให้ออกมาทำกิจกรรมแทบจะทุกด่าน บุ้งบอกว่าผมคงมีชื่อเป็นแบล็กลิสท์ของรุ่นไปแล้ว แต่ผมก็โอเคนะครับ แต่ละด่านไม่ได้ทำอะไรที่เกินไป ไม่ได้ใช้ความรุนแรง รุ่นพี่บางคนอาจจะใช้คำหยาบคายไปบ้าง แต่พี่เขาก็ฮาๆดี โดยเฉพาะพี่อ้วนที่ไหว้ผมทุกที่ที่เจอ จนผมต้องรีบยกมือไหว้กลับ พี่เขาบอก กลัวอิทธิฤทธิ์ของผมจริงๆ ซึ่งทำให้คนอื่นๆขำท่าทางพี่เขากันใหญ่


ผมผ่านการรับน้องมาได้ด้วยดี ผมกับพี่ฉลามถูกคนอื่นๆล้อว่าคู่ตุ๊ดหยุดโลกเพราะว่าป้ายที่เราสองคนคล้องไปมาทั้งวันแม้กระทั่งในเวลาเรียน อาจารย์บางท่านก็ขำก่อนจะสั่งให้ถอดเพราะทนสงสารไม่ไหว จนมาถึงวันสุดท้าย รุ่นพี่ที่จบไปแล้วหลายคนก็มาพูดคุย หลายๆคนประสบความสำเร็จมากๆ พี่เขาก็มาให้ความรู้ มาบอกแนวทาง ซึ่งผมเห็นแล้วว่า ทุกคนดูรักและเมตตาพวกเรารุ่นน้องด้วยความจริงใจ เห็นความเป็นกันเอง มีหยอกล้อกันแรงๆได้ นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาเหมือนกันที่ไปรู้สึกแอนตี้ในทีแรก คงเพราะผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ พอโดนต้องคล้องป้ายแบบนั้นมันทำให้ผมร้อนตัวขึ้นมา นี่ก็คงเป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ทำให้ผมเข้าใจว่าเราควรวางตัวยังไงในสังคม


..อย่ากลัวที่จะเป็นตัวเอง อย่ากลัวความคิดคนอื่น แต่จงกลัวความคิดตัวเองตอนที่อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล..


“ดีเนอะ อยากจบแล้ว อยากทำงานไวๆ” ผมบอกกับบุ้งหลังจากที่รุ่นพี่ปล่อยทุกคนกลับ

“อืม แก เห็นพี่เต่าไหม หล่อเนอะ เท่ห์ อยากได้ โอ้ย คิดแล้วอยากไปหัวหินเร็วๆ” บุ้งทำหน้าเพ้อฝัน พี่เต่าคือรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว เป็นเจ้าของบริษัทโฆษณาชื่อดังพอสมควร พี่เขาจะรับรุ่นน้องที่จบแล้วไปทำงานด้วยเสมอ บางคนยังไม่จบก็เข้าไปฝึกงานเรียนรู้ได้

“ไปหัวหิน ไปทำไม” ผมถามบุ้ง

“อ้าว พ่อหนอนหนังสือ จะรู้อะไรบ้างไหม ก็งานรับน้องยังไม่จบ ยังไม่ได้ผูกข้อมือเลย เราต้องไปรับน้องอีกทีที่หัวหิน พวกรุ่นพี่ที่จบไปแล้วจะมากันเยอะมาก เหมือนงานรวมรุ่นประจำปีเลยละ เป็นงานสังสรรค์ ฮาๆซึ้งๆ พวกที่มาในวันนี้แค่ส่วนเดียวเอง พี่เขาจะมาทำความรู้จัก รุ่นน้องบางคนก็ใช้เวลาว่างขอไปฝึกงานกับพวกรุ่นพี่ที่มีบริษัทของตัวเองได้เลยด้วย”

“จริงเหรอ ดีจัง เราอยากฝึกงาน” ผมบอกอย่างดีใจ

“เฮ้ย ไอ้หนูจำไม” เสียงตะโกนเรียกทำให้ผมกับบุ้งหันกลับไปมอง รถเก๋งคันหนึ่งมาจอดขนาบฟุตบาทที่พวกผมยืนอยู่

“มีอะไรครับพี่แหบ” ผมถามพี่แหบที่เปิดกระจกรถที่นั่งหลังมาทักผม รถเบนซ์เสียด้วย

“ไปกินข้าวเย็นกัน” พี่แหบบอก ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่บุ้งรีบเดินมายืนข้างหน้า

“พี่เลี้ยงใช่ไหมครับ” บุ้งถามเสียงสดใส

“กูไม่แดกเงินน้องหรอก ให้ไว” พี่แหบสั่ง บุ้งรีบดึงมือของผมให้เข้าไปนั่งในรถทั้งที่ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย เข้าไปก็เห็นว่าคนที่ขับรถมาคือพี่ฉลาม มีพี่ผู้หญิงนั่งคู่มาด้วยข้างหน้า สวยมากๆ

“ไปกินที่ไหนเหรอครับ ผมว่า ผมกลับหอดีกว่า” ผมพูดขึ้นมา อยากกลับเพราะวันนี้รู้สึกเพลียจริงๆ โดนรุมมาทั้งวัน

“กินก่อน เดี๋ยวไปส่ง อยู่แถวไหน อยู่ด้วยกันรึเปล่า” พี่แหบถาม

“ผมอยู่แถวxxx แต่กลอนมันอยู่ตรงxxx” บุ้งบอกรายละเอียดไป

“อ้าว กลอนอยู่ใกล้บ้านไอ้หลามเลย ดีๆ น้องๆจะได้มีรถฟรีกลับบ่อยๆ เพื่อนพี่มันใจดี ใจป๋า ป๋าหมากมากๆด้วย” พี่แหบพูดจบก็ตบไหล่เพื่อน ส่วนผมเผลอหลุดหัวเราะ จนสายตาคนขับเหล่มามองผ่านกระจกส่องหลัง

“เดี๋ยวได้เดินไปกิน” พี่หลามขู่เพื่อน ผู้หญิงที่นั่งคู่มาด้วยก็หัวเราะน้อยๆก่อนจะเอื้อมือไปเกลี่ยๆที่แก้มของพี่หลาม ไอ้บุ้งรีบหันมาทางผมแล้วเบ้ปาก ผมได้แต่ขำมัน มันมักจะทนรังสีแห่งความรักของมวลมนุษย์ชาติๆไม่ได้


แล้วผมกับบุ้งก็ได้กินข้าวเย็นจนท้องจะแตกแบบที่เงินยังอยู่ครบ พี่ๆเขาพาไปกินร้านอาหารที่อยู่ติดริมแม่น้ำ อร่อยดี แต่ผมก็กินได้ไม่เยอะ แต่แค่นั้นก็อิ่มมากๆ จนได้เวลากลับบ้าน พี่ฉลามวนไปส่งทุกคนจนเหลือผมกับพี่ฉลามสองคนเพราะอยู่ใกล้กัน ก่อนจะถึงคอนโด เด่นโทรมาหาว่าผมอยู่แถวไหนแล้ว ผมอยู่คอนโดเดียวกับเด่น แม่ของเด่นซื้อทิ้งเอาไว้นานแล้ว คอนโดเป็นห้องชุด มีสองห้องนอน ผมเลยมาอยู่ด้วย แต่เด่นเรียนคนละที่กับผม ผมเลยไปกลับเอง ไม่ได้ให้มันไปส่ง คนละทางกัน แต่คอนโดนี่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่ผมเรียน ผมเลยไม่ได้คิดไปอยู่ที่อื่น ประหยัดดีด้วย แต่ผมจะเป็นคนออกค่าน้ำค่าไฟเอง


“ไปเปิดรั้วให้หน่อย” พี่ฉลามบอกผม ผมทำหน้างง รั้วอะไร คอนโดที่ผมอยู่ไม่ได้ติดถนนใหญ่ พี่ฉลามขับมาในซอย แล้วมาจอดหน้าคอนโดของผมแล้ว คอนโดนี้เข้าได้สองทาง แต่ทางด้านหน้าจะมีเพียงประตูรั้วอัลลอย์สำหรับคนเข้าเท่านั้น ถ้าจะจอดรถต้องไปเข้าอีกซอยหนึ่ง ผมเลยงงว่ารั้วที่ฉลามให้ผมไปเปิดมันคือรั้วไหน ผมมาเข้าใจเมื่อพี่หลามชี้ไปที่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงกันข้ามกับด้านหน้าของคอนโดเลย บ้านนี้รั้วสูงมาก ผมเคยออกไปยืนดูที่ระเบียงห้อง มองไปที่บ้านหลังนี้ มันใหญ่มาก พื้นที่ก็กว้าง มีทั้งสนามบาสและสระว่ายน้ำ ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านของพี่ฉลาม 

“บ้านของพี่เหรอ” ผมถาม

“อืม เปิดให้หน่อย พี่ลืมเอารีโมทรั้วมา”

“อ้าว แล้วกลอนจะเปิดยังไง” ผมถาม

“กดกริ่ง เดี๋ยวมีคนมาเปิด” พี่ฉลามพูดจบผมก็เลยลงไปยืนกดกริ่งให้ สักพักประตูก็เปิดออก

“งั้นผมกลับเข้าคอนโดเลยนะ ขอบคุณสำหรับข้าวเย็นแล้วก็รถฟรีด้วยครับ” ผมยกมือไหว้พี่เขา พี่เขาพยักหน้าก่อนจะแบมือ ผมก็งงรอบสอง

“เอาโทรศัพท์มา” พี่ฉลามบอกผม

“ทำไมครับ”

“จิ๊ ขี้สงสัยจริง เอามาเร็ว” มาว่าผมอีก ก็ผมสงสัย

“ทำไมอ่า” ผมถามซ้ำ พี่เขาถอนหายใจก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“จะให้เบอร์ เช้าโทรมา ไปมอพร้อมกัน” พี่เขาอธิบาย ผมยืนลังเลสักพัก พอเห็นพี่เขาจิ๊ปากผมเลยเปิดกระเป๋าหยิบกระดาษมาจดเบอร์แล้วส่งให้ พี่เขาหยิบกระดาษไปดูก่อนจะทำมือไล่ผม ผมยิ้มให้พี่เขาก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูเหล็กดัดของคอนโด หยิบคีย์การ์ดมาแตะ พอประตูเปิดผมก็เดินเข้าไป หันมาดูอีกทีประตูรั้วบ้านพี่ฉลามก็ปิดไปแล้วเหมือนกัน


*****ติดตามบทรักต่อไปในตอนหน้านะคะ********


เซ็งมากกับเน็ตที่บ้าน มันเด้งหลุดตลอด จัดหน้ากำลังจะเสร็จ เน็ตค้าง ต้องเริ่มใหม่อยู่แบบนี้มาสามวัน
วันนี้เลยมาจัดหน้าในเวิร์ด แล้วเอามาลง แต่กว่าจะได้ หมุนติ้วๆเลยค่ะ ขอให้สนุกกับน้องกลอนกับความรักบทใหม่นะคะ
ส่วนไอ้พี่รัน ถีบส่งค่ะ 5555 ผู้แต่งอยากบอกว่า สมัยนั้นมันไม่ใช่ไลน์ แต่มันคือสไกป์ แต่แต่งเป็นไลน์ ง่ายดีเนอะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2015 13:44:37 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เราว่ากลอนมีความคิดดีนะ ยังคิดได้แม้ว่าจะเจอกับความผิดหวังเสียใจซ้ำๆ
ก็หวังว่ากลอนจะรักตัวเอง แล้วก็เจอคนที่รักจริงในที่สุดนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ขอให้ไอ้รันมันติดโรคจากคนที่*สะอาด*ของมัน

โคตรเกลียดพ่อของกลอนเลย   เป็นพ่อแต่สร้างปัญหาให้ลูกมารับผิดชอบ
ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขนาดไหนก็ยังไม่สามารถแก้สันดานเสียได้

กลอนเข้มแข็งมากๆค่ะ  ในทุกๆเรื่อง  จัดการเรื่องของรันของแม่ได้ดี มีสติ  เป็นตัวเอกที่เราชอบมากๆเลยคนหนึ่ง  คงต้องขอบคุณเด่นกับแม่ด้วย   แม่ของกลอนก็พยายามอย่างมากๆ   ตอนที่กินยาตายนั้นอาจจะอยากให้สามีกลับมา แต่พอทางนั้นไม่กลับมาก็ตัดใจได้   เจ็บแต่จบค่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
รักกลอน.  :man1:   โอ๋ๆนะ
น้องเป็นคนดี แต่ตอนนี้อาจจะเป็นพี่เราก็ได้เหมือนเรื่องจะผ่านมานานแล้ว
เราเชื่อว่าคนดีจะดึงดูดคนดีเข้ามา ใครจะเจอแต่คนเลวคนเห็นแก่ตัวกันล่ะ
พี่รันเลวมาก ป่วยมาก อยากให้นางสำนึกสักวันว่าได้ทำลายชีวิตของเด็กคนนึงไป
นางแค่หนีความจริงว่าตัวเองเป็นเกย์แต่งงานกับผู้หญิงเพื่อยืนยันสถานะแต่จะเอากลอนเป็นเมียเก็บ ดูถูกกลอนเพื่อจะบอกตัวเองว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกมันถูกต้อง สุดท้ายคนแบบไอ้พี่รันก็ต้องหันไปหาผู้ชายเข้าสักวันและใจตุ๊ดไปตลอดชีวิต

เรื่องชีวิตในมหาลัยยังอีกยาวไกล เชื่อว่าน้องผ่านความสาหัสมามากแล้วน้งจะเข้มแข็งขึ้นแน่นอน
เอาจริงๆยังสงสัยอยู่ว่าใครพรากซิงของกลอนไปนะ แต่แอบหวั่นใจว่าไม่รู้จะดีกว่ารึเปล่า ขอบคุณค่ะ มาต่ออีกนะคะ

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
กลอนแกร่งมากอ่ะ
จัดการปัญหาด้วยสติจริงๆ ไม่ต้องหาเหตุผลนั่นนี่แค่เข้าใจมัน และทำในสิ่งที่เราทำได้
กลอนเหมือนคุณแม่เลย คุณแม่เองก็เข้มแข็งมาก

เสน่ห์กลอนยังไม่หมดเนอะ ความรักครั้งใหม่กำลังเริ่มขึ้นสินะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ขอชื่นชมความเข้มแข็งของคุณแม่-น้องกลอนค่ะ   :katai2-1:


ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ขอชื่นชมความเข้มแข็งของคุณแม่-น้องกลอนค่ะ   :katai2-1:


ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
อย่าบอกนะว่าคนต่อไปคือพี่ฉลาม

บวกเป็ดให้ครับ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เรื่องสนุกมากครับ
ไม่ได้ติดตามเรื่องไหนอย่างจริงจังมาพักหนึ่งแล้ว แต่เรื่องนี้ทำเอาให้ต้องอ่านรวดเดียวเลย ยอมรับว่าติดงอมแงม
เป็นกำลังใจให้ครับ
มาต่อบ่อยๆนะครับ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
พี่หลามจะจีบน้องหรอ? จริงใจกับน้องหรือแค่เล่นๆกัน ฮ้อสงสารน้อง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด