(ต่อค่ะ)
“คุณฟรานพูดถูก...งั้นก็ตามนี้เลย...ถ้าไม่มีใครมีความเห็นอะไรแล้วผมขอสรุปการประชุมวันนี้เลยละกัน”คุณจอร์นหันไปมองรอบห้องก่อนจะเริ่มประกาศปิดการประชุดโดยเมินเสียงเรียกผมอีกครั้ง
“พวกเราจะเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์พันธุ์ผสมเพิ่มในการดูแลของด๊อกเตอร์ฟรานซิล เบนซ์ ฟงเซ่...พอพวกเขามีความพร้อมมากพอพวกเราจะส่งพวกเขาพร้อมกับคู่หูที่ทางไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ได้ทำการฝึกสอนมาอย่างดีไปปฏิบัติภารกิจตามที่องค์กรต่างๆร้องขอความช่วยเหลือ...เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีแต่ไม่ต้องห่วงผมจะเป็นคนจัดการคุยกับองค์กรอื่นๆเอง...นี่คือข้อสรุปในการประชุมวันนี้...แยกย้ายได้”
“เดี๋ยว...”ผมเรียกเสียงอ่อยเมื่อท่านประธานทั้งสามคนทยอยเดินออกจากห้องพร้อมกับหัวหน้าหน่วยอื่นๆที่ตามออกไป
“พยายามเข้าเซโคร...มีอะไรเรียกพี่ได้นะ”พี่โนว่าตบไหล่ผมเบาๆก่อนจะเดินออกไป
“พรุ่งนี้มีเวลาว่างมาหาพ่อด้วยนะเราจะได้คุยกันว่าจะเอาสายพันธุ์ไหนผสมกันดี”พ่อเดินมายิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปอีกคน ตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่ผมกับยูทาร์สองคนเท่านั้น
“เซโคร...”
“ให้ตายเถอะ...พวกเขาโยนงานให้เราชัดๆเลย!!”ผมตะโกนขึ้นอย่างโมโห
“ผมว่าไม่ใช่หรอกนะ”เสียงของยูทาร์ทำให้ผมหันไปมองอย่างงงๆ
“ยังไงล่ะ?”
“พวกเขาไว้ใจเซโครนะ...ลองคิดสิว่าถ้าให้คนอื่นดูแลพวกเขาอาจไม่ใส่ใจเหมือนที่เซโครทำ...เซโครรักไดโนเสาร์ทุกตัวที่อยู่ที่นี่และไดโนเสาร์ทุกตัวก็รักเซโครมากเหมือนกันเพราะงั้นพวกเขาถึงยกงานนี้ให้เซโครไงล่ะ”ยูทาร์บอกผมพร้อมกับคลียิ้มออกมาบางๆ
“...ยูทาร์...คิดอย่างนั้นเหรอ?”พอยูทาร์พูดผมก็รู้สึกเหมือนมันจะเป็นเรื่องจริง
“อืม...พวกไดโนนีคัสก็ติดเซโครจะตายถ้าไม่ใช่อาหารจากเซโครพวกเขาก็จะไม่กิน”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมนึกถึงฝูงไดโนนีคัสทั้ง5ตัวและฝูงไดโนเสาร์อีก3สายพันธุ์ที่ผมพามาจากเกาะทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์...กว่าจะทำเรื่องให้ฝูงไดโนนีคัสอยู่ในป่าร่วมกับไดโนเสาร์กินพืชได้ก็ใช้เวลาพอสมควร
ก็จริงอย่างที่ยูทาร์ว่าถึงฝูงไดโนนีคัสจะไม่ไล่ล่ามนุษย์แต่ก็จะไม่ยอมกินอาหารถ้าคนให้ไม่ใช่ผม
“...เราคงต้องทำงานหนักเลยล่ะ”ผมหันไปบอกยูทาร์พร้อมส่งยิ้มไปให้
ในเมื่อได้รับความเชื่อใจผมก็จะทำให้ดีที่สุด
“พร้อมอยู่แล้วถ้าได้อยู่กับเซโคร”
“ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้วนี่”
“ไม่พอนี่...พอจบภารกิจก็ต้องไปให้อาหารไดโนเสาร์...บางวันต้องไปช่วยพ่อทดลองแล็บจนผมต้องนอนคนเดียวตั้งนาน”ยูทาร์บอกเสียงอ่อยเมื่อนึกถึงวันก่อนที่ผมไม่มีเวลาให้
“งอนเหรอ?”
“เหงาด้วย...ผมอิจฉาฝูงไดโนนีคัสกับพวกเวโลซีแรพเตอร์ที่เซโครให้ความรักอยู่ทุกวัน”
“อิจฉา?”
“ผมกลัวว่าสักวันนึงเซโครจะไปเจอคนที่รักมากกว่าผม”คำพูดนั่นทำให้ผมโผลเข้าไปกอดอีกฝ่ายทันที
ยูทาร์ชอบคิดมากและคิดมากในเรื่องแปลกๆทั้งนั้น...ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไงที่ผมจะไปเจอคนที่รักกว่าและจะทิ้งตัวเองไป คำว่ารักที่พร่ำบอกดูจะไม่ทำให้ยูทาร์มั่นใจมากขึ้นเลยและถึงอีกฝ่ายจะได้ครอบครองผมไปแล้วก็ดูเหมือนจะยังไม่มากพอจะทำให้อีกฝ่ายมั่นใจ
“ห้ามคิดแบบนี้อีกนะ”ผมบอกพร้อมกับกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น
“แต่...”
“ผมรักยูทาร์....ผมรักยูทาร์...เซโครรักยูทาร์ได้ยินไหม!”ผมบอกคนตรงหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ผมก็รักเซโคร”
“อืม...พวกเรารักกัน”ผมบอกออกไปแล้วเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาสีเหลืองอำพันตรงหน้า
“ใช่...พวกเรารักกัน”
“ในเมื่อรักกันก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร...หัวใจผมมีแค่ยูทาร์คนเดียว”
“พูดแล้วนะ...”
“อืม”
“สัญญาได้ไหม?”ยูทาร์ถามพร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าผมเบาๆ ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมาราวกับคำขอร้องและอ้อนวอนให้ผมพูด
“สัญญา...เอางี้ไหม?”
“อะไร?”ยูทาร์ดูจะสนใจกับสิ่งที่ผมกำลังจะพูด
“ถ้ายูทาร์กังวลกลัวว่าผมจะมีคนอื่นก็บอกคนที่เข้าใกล้ผมเลยว่าเป็นแฟนผมน่ะ”ผมบอกออกไปพร้อมรอยยิ้ม
“ผมทำได้?”
“ได้สิ”
“ห้ามกลับคำด้วย”ยูทาร์พูดต่ออย่างรวดเร็ว
“ครับๆ...แต่ห้ามมากไปเอาเฉพาะเวลาที่ทนไม่ไหวจริงๆก็พอนะ”ผมรีบบอกต่อ
“ได้”
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปอีกหลายเดือนการเพาะเนื้อเยื่อประสบความสำเร็จไปด้วยดี...มีไดโนเสาร์สายพันธุ์ผสมหลายตัวที่กำลังจะเกิดมาในไม่ช้าและตอนนี้ก็ได้เวลาที่ผมจะไปทำการสัมภาษณ์เหล่าคนที่มาสมัครจะเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษของผม
การสัมภาษณ์จัดขึ้นตั้งแต่เช้าในตึกของบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษคนที่มาสมัครมีทั้งคนปกติธรรมดาที่ตกงานไปจนถึงเหล่าทหารจากหลายๆที่ซึ่งสร้างความลำบากให้พอสมควรเพราะผมต้องการคนที่รักและสามารถดูแลไดโนเสาร์ได้จริงๆเท่านั้นไม่ใช่คนที่ต้องการเด่นหรือดัง
ผลสรุปของวันนี้ผมก็ได้คนที่เข้าตามาประมาณ5คนจากผู้เข้าสัมภาษณ์หลายร้อยคน...คนที่ผ่านการทดสอบมีทั้งเด็กผู้ชายที่ดูจะอ่อนแอแต่มีจิตใจดีจนผมสัมผัสได้แล้วยังมีหญิงสาวผ่านการสัมภาษณ์ของผมด้วย
กว่าจะจบการสัมภาษณ์ก็ใช้เวลาไปหลายอาทิตย์เนื่องจากต้องเดินทางไปหลายประเทศเพราะข่าวที่หน่วยของผมจะได้ทำงานร่วมกับไดโนเสาร์ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกจนมีหลายประเทศขอร้องให้ผมไปเปิดรับสมัครที่นั่นด้วย
ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือเปล่าที่การเดินทางครั้งนี้ทำให้ผมสามารถไปเดทกับยูทาร์ได้อย่างจริงจังโดยไม่มีภารกิจเรียกตัวให้กลับไป...วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสัมภาษณ์และพวกเรามาอยู่ที่ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายที่ผมจะไป
มีหลายคนที่น่าสนใจแต่คนที่ถูกเลือกก็มีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
เซโครไม่ได้เอาตัวเองเป็นที่ตั้งในการสอบแต่ถามความเห็นจากยูทาร์ด้วย...มนุษย์ทุกคนมักจะบอกแต่สิ่งที่ตัวเองดีเด่นและสามารถทำได้ดีเพื่อเก็บสิ่งที่ไม่ดีเอาไว้ภายในแต่ยูทาร์รับรู้ได้ว่าใครที่ควรเชื่อใจและใครที่ไม่ควรเชื่อทำให้ทุกอย่างเสร็จเร็วกว่าปกติ
“ผมเหนื่อยมาก”ยูทาร์ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วส่งเสียงอู้อี้ออกมาจากหมอนใบโตในโรงแรมหรูของประเทศไทย
“เหมือนกันเลย”พูดจบเซโครก็ทิ้งตัวลงบนเตียงข้างๆยูทาร์ การเดินทางสัมภาษณ์เพื่อหาคนที่เหมาะสมต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามอย่างมาก...อีกอย่างยูทาร์ก็แค่นั่งนิ่งๆเอาแต่ดมกลิ่นกับมองหน้าตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นแต่ผมนี่สิต้องทั้งเอ่ยทักทาย ชวนคุยไม่ให้คนที่เข้ามาเกร็งเกินไปแถมยังต้องยิ้มอยู่ตลอดเวลาจนกรามจะค้างอยู่แล้ว
“วันนี้วันสุดท้ายใช่ไหม?”อีกฝ่ายพลิกตัวตะแคงแล้วถามขึ้น
“ใช่...พรุ่งนี้เราจะกลับแล้ว”
“งั้นเดทเราก็จบแล้วสิ”ยูทาร์พึมพำเสียงเศร้าพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้ผม
“นั่นสิ...ไว้หาเวลาว่างมาใหม่ละกัน”ผมตอบกลับไปก่อนที่ริมฝีปากเราจะประกบกันอย่างอ้อยอิ่ง...สัมผัสที่ได้รับทำให้ร่างกายพวกเราเริ่มร้อนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“อื้ออ~...”ยูทาร์พลิกตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้โดยที่ปากเรายังประกบกันอยู่อย่างแนบแน่น
ฝ่ามือร้อนๆของคนด้านบนเริ่มเลิกเสื้อผมขึ้นแล้วไล่ไปมาที่หน้าท้องขาว...การกระทำนั่นทำให้สติที่มีอยู่เริ่มเตลิดไปไกลแต่ก่อนที่จะขาดสติผมก็ยกมือยันเข้าที่ไหล่ของยูทาร์...
“อึก!...เดี๋ยว”
“...ทำไม?...ทำไม่ได้เหรอ?”เสียงเศร้าๆของคนด้านบนทำให้ผมกรอกตามองเพดานด้านบนอย่างพูดไม่ออก
“เมื่อวานก็พึ่งทำ”ผมตอบเสียงอ่อย
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เรามีอะไรกันยูทาร์ก็มักจะขอทำตลอดทั้งที่เลยฤดูติดสัดมาแล้ว...ไม่รู้ว่าอารมณ์ที่ยูทาร์มีมันคืออารมณ์ของมนุษย์หรือไดโนเสาร์กันแน่แต่ก็พอจะเดาได้ไม่ยาก...
ผมเคยบอกยูทาร์ว่าครั้งหน้าเราต้องสลับตำแหน่งแต่สุดท้ายผมก็โดนผู้ชายซื่อๆที่ใช้แค่สัญชาตญาณในการขยับตัวจัดการจนเสร็จไปหลายครั้ง...ทั้งที่อีกฝ่ายไม่เคยดูแม้แต่ดูเอวีหรืออ่านหนังสือเพื่อศึกษาเรื่องอย่างว่ามาก่อนแต่กลับทำได้อย่างเชี่ยวชาญจนผมต้องยอมให้
ไม่รู้ว่าไปเรียนมาจากไหน?
และตั้งแต่ที่เราออกตระเวนสัมภาษณ์ตามประเทศต่างเรียกได้ว่าเหมือนเป็นการมาฮันนีมูนเพราะผมโดนไดโนเสาร์หื่นนี่แทบทุกวันจนแทบนั่งไม่ไหวถ้าวันนี้โดนอีกคงไม่ต้องกลับไปทำงานกันแล้ว
“อยากทำนี่...”
“ถึงจะทำเสียงแบบนั้นก็ไม่ได้...พรุ่งนี้ต้องกลับแล้วถ้ามีภารกิจต่อใครจะรับผิดชอบ”ผมอธิบายด้วยเหตุผล
“ผมจัดการเอง”
“ยูทาร์!!”ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงดัง
“...ก็ได้...ไม่ทำก็ได้”ยูทาร์บอกเสียงเศร้าแล้วกลับไปนอนตะแคงมองหน้าผมตามเดิม
“เฮ่อ...ทำทุกวันไม่เบื่อรึไง?”ผมถามคำถามที่คาใจที่สุดออกไป
“ไม่เบื่อ”เสียงทุ้มสวนกลับมาในทันที
“มีอารมณ์มากขนาดนั้นเลยเหรอ?”ผมถามเพื่อหาข้อมูลไม่แน่ว่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์ตัวอื่นๆก็อาจเป็นเหมือนกันก็ได้
“ก็ไม่...แต่ถ้าจูบกับเซโครก็เริ่มมีแล้วล่ะ”
“ไดโนเสาร์ลามก!”ผมพูดขึ้นแล้วยกสองมือขึ้นปิดหน้าตัวเองพร้อมกับพลิกตัวไปอีกทาง
ตอนนี้เรียกได้ว่าทั้งเขินทั้งอาย...ยูทาร์ไม่ได้มีอารมณ์ตามธรรมชาติแต่มีอารมณ์เพราะจูบผม
ว่าง่ายๆก็มีอารมณ์กับผมนั่นแหละ
“เซโครหันหน้าหนีผมทำไมล่ะ?”เสียงทุ้มขยับเข้ามาใกล้แล้วกอดผมจากทางด้านหลัง
“ก็พูดเรื่องแบบนั้นได้หน้าตาเฉยได้ยังไงล่ะ?”ผมสวนกลับไป
“ผมแค่พูดความจริง”
“แล้ว...กับคนอื่นไม่มีอารมณ์เลยเหรอ...อย่างพวกผู้หญิง?”ผมลองถามดู...ไม่แน่ยูทาร์อาจจะสนใจผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างผมก็ได้และถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องหาทางอะไรสักอย่างกันไว้
“ผู้หญิง?...ไม่เลย...กลิ่นน้ำหอมก็ฉุดขนาดอยู่ไกลๆผมยังแสบจมูกเลย”ยูทาร์บอกด้วยน้ำเสียงรำคาญ
“แล้วผมล่ะ?”
“เซโครเหรอ?...ผมชอบกลิ่นเซโครอยู่แล้วเพราะงั้นอย่าใส่น้ำหอมนะ”ยูทาร์ตอบพรางซุกจมูกลงที่ต้นคอผมแล้วสูดดมกลิ่นเบาๆ
“ได้...ผมจะไม่ใส่ถ้ายูทาร์ยังอยู่ข้างๆผมแบบนี้”คำพูดนี้เป็นการย้ำว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญกับผมมากแค่ไหน...อะไรที่ทำให้ยูทาร์รู้สึกดีผมก็พร้อมที่จะทำเหมือนที่ยูทาร์ทำหลายอย่างเพื่อผม
“งั้นเซโครคงไม่ได้ใส่ไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ”
“ทำไมคิดงั้น?”ผมถามกลับแล้วหันไปสบดวงตาสีเหลืองอำพันของคนด้านหลัง
“เพราะผมจะอยู่กับเซโครไปตลอดชีวิต”คำตอบนั่นทำให้ผมยิ้มออกแล้วพลิกตัวกลับไปหายูทาร์
“เชื่อได้เหรอ?”
“ไม่จำเป็นต้องเชื่อ...”ผมขมวดคิ้วทำทันที่ได้ยินแบบนั้น
“หื้อ?”
“เพราะผมจะให้เซโครเห็นเอง...ไม่ว่าจะเป็นวันนี้...วันพรุ่งนี้หรือวันถัดไป...ผมจะทำให้เซโครเห็นว่าผมจะอยู่ข้างๆตลอดไป”ยูทาร์พูดต่อพร้อมกับคลียิ้มออกมาให้ผม
“...จะรอดูละกัน”ผมตอบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นจูบเบาๆที่ปลายจมูกของยูทาร์
ความรักระหว่างเรามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้...
มนุษย์และไดโนเสาร์ สายพันธุ์ที่ไม่มีวันจะอยู่ในยุคเดียวกันแต่เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทำให้ยูทาร์ได้เกิดขึ้นจนมาพบกับผม...ถ้าในตอนนั้นผมเลือกที่จะยอมแพ้ก็คงไม่มีพวกเราในตอนนี้
ชีวิตในแต่ละวันที่มียูทาร์เหมือนได้รับความสุขที่ไม่อาจหาอะไรมาทัดเทียมได้...
มันทั้งสนุกและมีความสุขจนเผลอคิดว่าถ้าสามารถเดินต่อไปพร้อมกับยูทาร์ได้ก็คงจะเยี่ยมไปเลย
คำสัญญาที่ไม่จำเป็นต้องให้คำมั่นเพราะยูทาร์จะแสดงให้ผมเห็นในแต่ละวันเองว่าเขาจะอยู่เคียงข้างผมเสมอไม่ว่าจะไปที่ใดหรือทำภารกิจไหนๆ
อาจมีคำพูดมากมายที่อยากจะพูดแต่มีเพียงแค่คำเดียวสั้นๆที่อยากบอกให้ยูทาร์ได้รู้
ไม่ว่าตอนนี้...
หรือตลอดไปก็ตาม...
“ผมรักยูทาร์”
“ผมก็รักเซโคร”
.......................................จบบริบูรณ์..............................................
สวัสดีค่า
ในที่สุดเรื่องนี้ก็ดำเนินมาจนถึงตอนจบแล้ว
ช่างยาวนานจริงสำหรับเรื่องนี้...เป็นเรื่องที่ได้รับการคอมเม้นท์มากที่สุด(ดีใจมากค่ะ)
คาดว่าเรื่องใหม่ที่แต่งหลังจากเรื่องนี้คงจะมีสำนวนที่ดีขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆที่แต่ง
ตอนนี้ก็มีที่พึ่งเปิดเรื่องใหม่แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่แต่งจบไปนานมากแล้วซึ่งกำลังปรับสำนวนอยู่ค่ะ
สำหรับเรื่องนี้ยังมีตอนส่งท้ายอีกเล็กน้อยนะคะ...จะเอามาลงในวันพรุ่งนี้ไม่ก็วันอังคาร
ช่วงนี้เราค่อนข้างยุ่งกับการบ้านเลยยังไม่ได้แก้คำผิดที่หลายๆคนคอมเม้นท์มาต้องขอโทษด้วยค่ะ(น้อมรับความผิด)...ถ้ายังไงขอให้ผ่านช่วงสอบไปก่อนแล้วจะแก้อย่างจริงจังตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ
เรื่องการใช้ ค่ะ คะ เราไปหาความรู้อ่านมาแล้วนะคะ...บอกตรงๆเลยค่ะว่าตอนแรกไม่ได้คิดมากกับคำที่ใช้แต่พอได้ไปหาอ่านก็รู้เลยว่าใช้ยังไง จะพยายามไม่ให้ใช้ผิดนะคะ
ต้องขอบคุณมากๆที่แนะนำ(ครั้งนี้ไม่น่าจะใช้ผิดเนอะ)
มีหลายคนที่คาใจว่าจะมีการสลับไหมคงจะได้เห็นคำตอบแล้วนะคะว่า...สลับไม่ได้ค่ะ555+
เมื่อมีครั้งแรกก็คงต้องยอมตลอดไปล่ะนะเซโครรร
มีหลายคนที่อาจไม่รู้ เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์กับทางสพน.Onederwhyนะคะ
ตอนนี้กำลังเปิดจองอยู่
สำหรับรายละเอียดจะมาบอกในตอนส่งท้ายนะคะ
มีคนที่จองถามมาว่าเนื้อหาแค่นี้มีตั้ง2เล่มเลยเหรอ?
เราขอตอบเลยนะคะ...ตอนแรกเราก็คิดว่าจะเป็นเล่มเดียวเหมือนกันค่ะทางสนพ.เลยให้นักวาดวาดปกเดียวแต่พอส่งต้นฉบับไปให้กลายเป็นว่าจำนวนหน้าเกินจำนวนที่กำหนดของ1เล่มไปค่อนข้างมากจึงจำเป็นต้องแยกเป็น2เล่มค่ะ
ในส่วนที่จะมีภาคต่อไหม?
ขอคิดอีกนิดแล้วจะบอกค่ะ
ส่วนเลือกลูกของทั้งคู่นั้น...จะมาในตอนพิเศษที่จะมาลงประมาณเดือนหน้าค่ะ
รู้สึกมีความสุขจริงๆที่ได้แต่งเรื่องนี้ขึ้น...ยูทาร์เป็นพระเอกในอุดมคติเราเลยค่ะ(ชอบแนวหล่อๆและขี้อ้อน)
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณนักอ่านทุกๆคนที่ทำให้เรามีกำลังใจในการแต่งนิยายเรื่องนี้จนจบเรื่องนะคะ...บอกตรงๆเลยว่าเราไม่ใช่พวกที่แต่งนิยายแล้วจบ...เรื่องอื่นๆที่แต่งมานั้นไม่จบสักเรื่อง พึ่งมีช่วงปีนี้ที่แต่งอย่างจริงจังแล้วจบหลายเรื่องอาจเป็นเพราะด้วยอายุที่เริ่มมีความรับผิดชอบและกำลังใจจากนักอ่านทุกคนทำให้มีวันนี้ค่ะ
ขอบคุณจริงๆค่ะ^^
ไว้เจอกันใหม่ในตอนส่งท้ายสั้นๆนะคะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪