-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
**********************************************
สวัสดีคะ
กลับมาพบกันอีกครั้งอย่างรวดเร็วเพราะคนแต่งทนไม่ไหวที่จะเรื่องปัจจุบันให้จบก่อนค่อยเริ่มแต่งเรื่องนี้
การได้ดู Jurassic World เป็นอะไรที่ทำให้หัวสมองเราตื่นตัวแบบว่าอยากแต่งๆๆๆจนในที่สุดก็ได้แต่งเรื่องนี้สมใจอยากคะ
ไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจแนวนี้มากแค่ไหน เราจะพยายามแต่งให้ดีที่สุดนะคะ
จะลงสลับกับอีกเรื่องที่กำลังแต่งอยู่คะ
ใครสนใจก็ฝากติดตามผลงานใหม่เรื่องนี้ด้วยนะคะ
อย่างที่เห็นในชื่อเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องความรักระหว่างคนกับไดโนเสาร์ซึ่งเป็นจินตนาการของคนแต่งไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่จริงหรือบุคคลใดๆก็ตาม อาจมีบ้างที่คล้ายคลึงกับในหนังเพราะเป็นต้นแบบในการจินตนาของเรา
ผลงานที่ผ่านมา
✉ CorrespondencE สื่อรักทางจดหมาย!✉(จบแล้ว) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45471.0)
◣♥◥ Precinct ►◄ อาณาเขตรักของหัวใจ ◣♥◥(จบแล้ว) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47133.0)
❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก(กำลังแต่งอยู่) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50864.msg3262162#msg3262162)
ขอฝากแฟนเพจนะคะ...มีเรื่องซักถามหรือทวงนิยายตามได้ที่นี่เลยคะ
nicedog (https://www.facebook.com/novelistnicedog)
พึ่งทำเสร็จสดร้อนๆร้อนเลยคะฝากกดไลค์กันหน่อยนะคะ
✣✤✥✦✧✩✫✬✭✮✯✰✱✲✳❃❂❁❀✿✾✽✼✻✺✹✸✷
สารบัญ
ขอขอบคุณคุณnuperที่ช่วยทำสารบัญใหม่ให้นะคะ^^
::❧ปฐมบท (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.0)::
::กลายรักครั้งที่❧ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3098635#msg3098635)::
::กลายรักครั้งที่❧ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3103121#msg3103121)::
::กลายรักครั้งที่❧ 3-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3106386#msg3106386)::
::กลายรักครั้งที่❧ 3-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3106388#msg3106388)::
::กลายรักครั้งที่❧ 4-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3108880#msg3108880)::
::กลายรักครั้งที่❧ 4-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3111512#msg3111512)::
::กลายรักครั้งที่❧ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3116972#msg3116972)::
::กลายรักครั้งที่❧ 6-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3119322#msg3119322)::
::กลายรักครั้งที่❧ 6-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3122839#msg3122839)::
::กลายรักครั้งที่❧ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3128304#msg3128304)::
::กลายรักครั้งที่❧ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3135061#msg3135061)::
::กลายรักครั้งที่❧ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3143028#msg3143028)::
::กลายรักครั้งที่❧ 10-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3161835#msg3161835)::
::กลายรักครั้งที่❧ 10-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3165402#msg3165402)::
::กลายรักครั้งที่❧ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3172248#msg3172248)::
::กลายรักครั้งที่❧ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3181454#msg3181454)::
::กลายรักครั้งที่❧ 13-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3185790#msg3185790)::
::กลายรักครั้งที่❧ 13-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3188962#msg3188962)::
::กลายรักครั้งที่❧ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3196110#msg3196110)::
::กลายรักครั้งที่❧ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3202652#msg3202652)::
::กลายรักครั้งที่❧ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3208470#msg3208470)::
::กลายรักครั้งที่❧ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3213437#msg3213437)::
::กลายรักครั้งที่❧ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3218503#msg3218503)::
::กลายรักครั้งที่❧ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3224802#msg3224802)::
::กลายรักครั้งที่❧ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3230760#msg3230760)::
::กลายรักครั้ง❧ สุดท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3236527#msg3236527)::
::กลายรัก❧ส่งท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3238688#msg3238688)::
::กลายรักพิเศษ❧หวง หึง งอน ง้อ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3156549#msg3156549)::
::กลายรักพิเศษ❧สอนว่ายน้ำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3192797#msg3192797)::
::กลายรักพิเศษ❧ครอบครัวของเรา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3271396#msg3271396)::
::กลายรักพิเศษ❧ครอบครัวสุขสันต์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3307432#msg3307432)::
❧ปฐมบท
ในปัจจุบันเทคโนโลยีนั้นก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆจนหลายคนตามไม่ทัน
เมื่อก่อนเราเคยหัวเราะคนที่บอกว่ามนุษย์บินบนท้องฟ้าได้สุดท้ายเราก็บินได้จริงๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน เครื่องร่อนหรืออย่างอื่นอีกมากมาย
เราเคยหัวเราะคนที่บอกว่ามนุษย์สามารถขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้แต่สุดท้ายเราก็นั่งยานอวกาศเพื่อไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์และส่งยานอีกมากมายออกไปโครจรในระบบสุริยะ
การ์ตูนเรื่องโดเรม่อนที่ใครๆต่างก็รู้จัก ของวิเศษที่ออกมาจากกระเป๋าหน้าท้องที่มีแต่คนบอกว่าเป็นเรื่องในจินตนาการและเพ้อฝัน...แต่ตอนนี้เราสามารถทำของหลายอย่างที่เหมือนกับที่โดเรม่อนหยิบออกมาจากกระเป๋าหน้าท้องนั่นไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาที่ให้เป็นโทรศัพท์มือถือได้ เครื่องขยายเสียงหรือเครื่องเปลี่ยนเสียง
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทำให้สามารถนำชีวิตที่หายไปจากในยุคต่างๆให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งได้ทั้งช้างแมมมอธ เซเบอร์ทูธไทเกอร์หรือเสือเขี้ยวดาบ โดโด้ โมอา เหล่าสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปตามยุคต่างๆได้ถูกนำกลับมาในยุคปัจจุบันอีกครั้งด้วยพลังจากวิทยาศาสตร์...
และเมื่อสัตว์เหล่านั้นยังทำให้กลับมามีชีวิตได้แล้วประสาอะไรกับสัตว์ที่อยู่ในอดีตที่ยาวนานกว่านั้นล่ะ...
ในอดีตมันคงเป็นเพียงแค่ความฝันเฟื่องที่มีแต่คนหัวเราะแต่ในยุคที่ผมอยู่มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ในสวนสัตว์เกือบทุกแห่งในโลกจะมี...
'ไดโนเสาร์อยู่ในกรง'
...................................................................................
มาแค่เกริ่นนำเรื่องคะ
ขอดูว่ามีคนสนใจมากน้อยแค่ไหนถ้าสนใจมากจะมาอาทิตย์ละตอนหรือถ้าจะยังไงจะมาอาทิตย์เว้นอาทิตย์สลับกับอีกเรื่องที่แต่งอยู่คะ
อาจจะดูสั้นไปและไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมากมายในตอนนี้...ตอนแรกจะเข้าสู่เนื้อหาอย่างเต็มตัวคะ
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมและคอมเม้นท์นะคะ
ไว้เจอกันใหม่ในตอนที่1จะได้รู้กันว่าไดโนเสาร์กับมนุษย์จะคู่กันได้ยังไง
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
กอดดดดด กรี๊ดๆๆๆ ชอบอีตาโอเวนอ่ะค่ะ ขอแบบฮิมคนนึง ><
-
หนะ..หนูจะเอาไดโนเสาร์!ๆๆ หนูอยากได้ดดด!! ขอหนูสักตัวสิ ฮ่าๆๆๆ :hao7:
เนื้อเรื่องจะเป็นยังไงน่า รอลุ้นๆค่า :katai2-1:
-
น้องได(?)จะมาเป็นพระ หรือจะมาเป็นนายกันแน่น้อ? ^^
ติดตามนะค้าา.. :L2:
-
รอค่าา
เพิ่งไปดูมาเมื่อวาน กะลังอิน :mew1:
-
ปูเสื่อรอเช่นเคยจ้าาาาาาาา
-
อุ๊ตะ ขอแบบโอเว่นแต่กลิ่นแบบอาบน้ำแล้วนะ
เอาแบบจินตนาการสูงส่งขี่แรพเตอร์ได้ก็ดี เห็นวิ่งดุ๊กดิ๊กๆแล้วอยากกอด
-
:ling1: :ling1: :ling1:
-
กลายรักครั้งที่❧1
ช่วงเช้าวันแรกของการเรียนจบเป็นวันที่ว่างที่สุดในรอบ8ปีตั้งแต่เรียนมหาลัยยันจบปริณญาเอกในคณะวิทยาศาสตร์ซึ่งผมเป็นคนเดียวในรุ่นที่จบมาด้วยคะแนนเกียรตินิยม อาจเพราะได้ดีเอ็นเอมาจากพ่อและแม่ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักชีวะวิทยาชั้นนำของโลก...
ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวยิ่งทำให้ถูกคาดหวังจากคนรอบข้างแต่พ่อแม่ผมไม่ได้กดดันว่าต้องเรียนที่ไหนจบอะไร ทุกอย่างสามารถเลือกตามที่ตัวเองต้องการได้โดยไม่โดนว่าหรือโดนบ่น...ที่ผมเลือกเรียนทางสายวิทย์เพราะรู้สึกสนใจในเรื่องการปลูกถ่ายดีเอ็นเอและการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของไดโนเสาร์ สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปหลายร้อยล้านปีมาแล้ว
วันนี้ผม ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ ลูกครึ่งอังกฤษ-ฝรั่งเศสจะได้ไปหาพ่อที่แล็บลับบนเกาะลับทางตอนใต้ของโลกที่มีการเพาะเลี้ยงไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในปัจจุบันแม้แต่สวนสัตว์เล็กๆในรัฐต่างๆก็ต้องมีไดโนเสาร์อยู่สักตัวหรือสองตัว สวนสัตว์บางแห่งมีไดโนเสาร์อยู่ประมาณ14ชนิดเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของไดโนเสาร์แต่ที่เกาะที่ผมกำลังไปเป็นเกาะที่มีสายพันธุ์ของไดโนเสาร์ที่ถูกทำให้กลับมามีชีวิตใหม่มากที่สุดในโลก...
เป็นแล็บเดียวที่ได้รับการอนุมัติให้เป็นพื้นที่พิเศษที่มีทุกอย่างที่ต้องการไม่ว่าจะขออะไรก็สามารถหาของที่ต้องการมาได้ไม่ยาก บุคลากรที่ทำงานอยู่ภายในองค์กรถือเป็นระดับหัวกะทิในวงการณ์ทั้งนั้นและส่วนมากผมก็รู้จักพวกเขาดีเพราะเคยไปช่วยพ่อทำแล็บที่นั่นบ่อยๆแต่ผมไม่ได้ไปมา4ปีแล้วไม่รู้ว่าจะมีไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ออกมาบ้างไหม
ความต้องการของมนุษย์นั้นไม่มีจุดสิ้นสุดเมื่อไดโนเสาร์ตัวแรกถูกทำให้มีชีวิตทั้งโลกต่างก็ตื่นตะลึงและยกย่องพ่อผมให้เป็นบิดาแห่งการคืนชีพ...แต่พอเวลาผ่านไปผู้คนก็เริ่มหมดความสนใจเพราะไดโนเสาร์เป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป
ในแต่ละปีภายในแล็บจะมีสายพันธุ์ที่ถูกเพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างน้อย1สายพันธุ์ต่อปีเพื่อให้ผู้คนยังตื่นตัวกับไดโนเสาร์อย่างต่อเนื่องแต่ถึงจะมีผลดีแต่ผลเสียของมันก็มีเพราะความประมาทและเลินเล่อของมนุษย์ทำให้เกิดไดโนเสาร์หลุดออกมาจากกงไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
ทางแล็บหรือองค์กรของพ่อภายใต้ชื่อ Dinosaur World Organization หรือตัวย่อคือ DWO ถ้าจะออกเสียงง่ายๆก็ ดอร์วู ได้มีการตั้งข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนไดโนเสาร์หรือสั่งซื้อให้ทำตามข้อตกลงในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยให้มีความเข้มงวดสูงและต้องตรวจอยู่สม่ำเสมอรวมทั้งต้องมีผู้เชี่ยวชาญ1คนต่อไดโนเสาร์1สายพันธุ์และยังมีหน่วยที่ถูกฝึกเป็นพิเศษเพื่อออกจับไดโนเสาร์ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินจะได้จัดการได้ทันที
แต่ท้ายที่สุดของข้อตกลงคือไดโนเสาร์ต้องถูกดูแลเป็นอย่างดีถึงเหล่าไดโนเสาร์จะมีสัณชาตญาณดิบอยู่ในตัวทำให้รู้จักแต่การล่าและการกินแต่พวกพ่อก็รักไดโนเสาร์ทุกตัวที่เกิดมาเหมือนลูกแท้ๆ...มีหลายคนบอกว่าสิ่งที่ดอร์วูทำเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นแต่พวกพ่อก็ไม่สนการคัดค้านเหล่านั้นแล้วตั้งหน้าตั้งตาทดลองต่อไป
ผมเองก็ไม่ใช่จะเห็นด้วยทั้งหมดแต่ผมไม่คิดว่าการคืนชีพให้เหล่าไดโนเสาร์กลับมาจะเป็นสิ่งที่ไม่สมควรถึงจะมีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและปรับปรุงดีเอ็นเอแต่เราก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าสีที่เราเห็นในปัจจุบันจะเป็นสีเดียวกับในอดีตหรือไม่...วิทยาศาสตร์จึงไม่มีจุดสิ้นสุดไงล่ะ
ไทรแอสซิกนั่งเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวข้ามทะเลและมหาสมุทรกว่า3ชั่วโมงกว่าจะถึงยังเกาะที่เป็นเป้าหมายที่มีพื้นที่ถึง100,000ไร่โดยที่มีทะเลล้อมรอบเกาะเพื่อในกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถควบคุมได้ไดโนเสาร์ต่างๆที่อยู่นี่จะได้ไม่ไปก่อความวุ่นวายบนพื้นทวีปที่มนุษย์อาศัยอยู่
พื้นที่สีเขียวขจีที่หาอยากในยุคปัจจุบันกลับหาได้ง่ายๆที่เกาะแห่งนี้...ถึงจะเรียกว่าเกาะแต่ด้วยพื้นที่ที่กว้างมากบางคนก็บอกว่ามันเป็นประเทศหนึ่งในโลกเลยล่ะแต่ยังไงก็เป็นเกาะลับนี่นะ
เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวถูกลงจอดที่ลานบนยอดตึกแห่งหนึ่ง...บนเกาะนี้มีบริเวณที่เป็นฐานไว้สำหรับทดลองและเพาะไข่อยู่ทั้งหมด3ฐานบนเกาะซึ่งจะมีการวางระบบรักษาความปลอดภัยไว้ตลอด24ชั่วโมงตัวโครงสร้างของตึกถูกทำขึ้นอย่างพิเศษเพื่อใช้ต้านทานกับไดโนเสาร์ได้และยังมีรั้วล้อมรอบอยู่ถึง3ชั้นเพราะพวกพ่อปล่อยไดโนเสาร์ให้เติบโตตามธรรมชาติในบางสายพันธุ์เช่น แบรคิโอซอรัส หรือ กิ้งก่าท่อนแขน เป็นซอโรพอดขนาดใหญ่ ลำตัวยาว 30 เมตร สูง 13-14 เมตร หนัก 78 ตัน อาศัยอยู่ในยุคจูแรสซิก 200-130 ล้านปีก่อนเป็นไดโนเสาร์กินพืชสายพันธุ์คอยาวที่มีนิสัยค่อนข้างเป็นมิตรและอยู่รวมกันเป็นฝูง
ส่วนไดโนเสาร์กินเนื้อจะแยกไว้เป็นโซนๆขนาดย่อมเพื่อให้มีพื้นที่วิ่งเล่นจะได้ไม่เครียดมากเกินไปอย่างไทแรนโนเซารัส เร็กซ์ หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อที-เร็กซ์ ไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ที่มีหนังหลายเรื่องให้มันเป็นตัวร้ายหรือพระเอกแต่จากที่ทำการทดลองอย่างต่อเนื่องทำให้ค้นพบความจริงว่าไทแรนโนเซารัส เร็กซ์เป็นไดโนเสาร์กินซากก็จริงอยู่ที่มีขากรรไกรที่กว้างและมีฟันที่คมมากจนสามารถล่าไดโนเสาร์ได้อย่างง่ายดายแต่ด้วยแขนที่มีขนาดเล็กกว่าสายพันธุ์นักล่าอื่นและกระดูกขาที่เล็กทำให้มีแรงวิ่งได้ไม่เร็วเท่าที่ในหนังทำขึ้นทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญคิดว่าที-เร็กซ์เป็นสัตว์กินซาก
เมื่อลงจากเฮลิคอปเตอร์ผมก็ลงลิฟท์ไปที่ชั้น2 ตึกที่ผมอยู่เป็นฐานที่1ของทั้ง3ฐานที่แยกกันอยู่ในบริเวณเกาะซึ่งมีทั้งหมด5ชั้นและชั้นใต้ดินอีก2รวมเป็น7ชั้นโดยจะมีตึกด้านข้างไว้เป็นที่พักของแต่ละคนแม้ว่าส่วนมากทุกคนจะกินนอนกันที่แล็บเลยก็ตาม
“พ่อครับ”ผมเดินเข้าไปภายในห้องทดลองที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางวิทยศาสตร์สารพัดก่อนจะส่งเสียงเรียกชายหนุ่มวัยกลางคนสวมชุดขาวที่ออกเหลืองกำลังส่องกล้องดูอะไรสักอย่างอยู่
“เซโคร!”พอชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นผมยืนส่งยิ้มไปให้เขาก็รีบวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับโผลเข้ากอดเต็มแรง
“...หนักครับพ่อ”ผมบอกแล้วพยายามผลักพ่อที่กอดผมแน่นออกไปกลิ่นเปรี้ยวๆที่ลอยมาทำให้รู้ได้ในทันทีว่าครั้งสุดท้ายที่ชายคนนี้ได้เข้าห้องน้ำคงเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน
“โทษทีพ่อดีใจที่ลูกมามากไปหน่อย...ลูกโตขึ้นเยอะเลยนะเซโคร”พ่อบอกพร้อมกับมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
เซโคร คือชื่อเล่นของผมเองชื่อภาษาฝรั่งเศสที่แม่เป็นคนตั้งให้ซึ่งผมชอบมันมาก...เป็นชื่อที่เท่สุดๆเลยว่าไหมไม่ว่าจะเสียงรวมเซโครหรือเรียกแยกเป็น เซกับโครก็ยังเพราะ
“พ่อทำอะไรอยู่เหรอ?”ผมหันไปถามอย่างสนใจ
“กำลังส่องกล้องดูดีเอ็นเอขอไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ว่าสามารถนำไปเพาะได้รึยังน่ะ”
“ผมขอดูได้ไหมครับ?”
“ได้สิ”เมื่อได้รับคำอนุญาตผมก็เดินเข้าไปส่องกล้องตัวที่พ่อส่องค้างไว้ ภาพของโครโมโซมถูกฉายขึ้นมาพร้อมกับชื่อของดีเอ็นเอที่ใช้ในการดัดแปลงพันธุกรรมอันนี้...ด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทคทำให้ไม่ต้องไปนั่งเปิดหนังสือว่ายีนส์นี้เป็นของสัตว์ชนิดใด
“นี่เป็นสายพันธุ์ใหม่ใช่ไหม?”ผมละสายตาออกมาแล้วหันไปถามพ่อ
“ใช่เลย...ไดโนเสาร์ตัวนี้คือดิปโพลโดคัส”
“ดิปโพลโดคัส?...ไดโนเสาร์กินพืชพันธุ์คอยาวที่มีความยาวขนาดตัวโตเต็มที่ยาว 25-27 เมตรแต่หนักแค่ 10-12 ตัน ถือว่าเป็นซอโรพอดที่เบาที่สุดอาศัยอยู่กลางถึงปลายยุคจูแรสซิก150 - 147 ล้านปีก่อน...ตัวนั้นเหรอครับ?”ผมพูดออกไปด้วยความดีใจ ไดโนเสาร์ที่ได้ชื่อว่า กิ้งก่าสันคู่ ที่มีลักษณะที่โดดเด่นคือเงี่ยงกระดูกเป็นคู่ที่ยื่นโผล่ออกมาจากกระดูกสันหลังตั้งแต่หลังคอเรียงรายไปถึงหาง
เป็นหนึ่งในไดโนเสาร์สายพันธุ์คอยาวที่ผมอยากเห็นมากที่สุดแต่ยังไม่มีการเพาะพันธุ์มันขึ้นมาก่อนแต่ตอนนี้พ่อกำลังจะเพาะพันธุ์มันแล้ว
“ถูกต้องเลย...ที่ลูกมานี่แปลว่าตกลงที่จะมาทำงานกับพ่อแล้วสินะ”พ่อพูดรอยๆด้วยรอยยิ้ม จะว่าไปผมยังไม่ได้แนะนำพ่อเลยนี่นา ฟรานชิส เบนซ์ ฟงเซ่ หรือฟรานที่ใครๆต่างรู้จักกันในชื่อบิดาแห่งการคืนชีพ ด้วยรูปร่างที่สูงสมส่วน ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมทั้งดวงตาสีเขียวและเส้นผมสีบอร์นซอยสั้นทำให้พ่อเป็นหนุ่มอันดับต้นๆที่สาวๆอยากออกเดทด้วยมากที่สุดและเป็นผู้ชายที่สาวๆลงความเห็นว่าเสียดายที่สุดที่แต่งงาน...
ส่วนแม่ผมเป็นนักชีวะวิทยาชั้นแนวหน้าของประเทศฝรั่งเศสที่ตอนนี้กำลังไปสำรวจที่เกาะทางตอนใต้ของโลกที่มีกีค้นพบว่ามีพืชที่สูญพันธุ์ไปแล้วอยู่กว่า30ชนิด แม่เป็นผู้หญิงรูปร่างเพียวเหมือนนางแบบใบหน้างดงามราวกับนางเอกในละครสักเรื่องทั้งที่ถ้าเอาดีด้านวงการบันเทิงคงจะรุ่งไปแล้วแต่แม่ก็ชอบที่จะไปสำรวจในป่ามากกว่าอยู่ท่ามกลางแสงแฟลช...
และตัวผมที่เป็นลูกชายของทั้งคู่ถึงจะได้เชื้อพ่อมามากถึงได้เกิดมาเป็นผู้ชายแต่เพราะได้หน้าตาที่ค่อนข้างเหมือนแม่ทำให้มีหลายคนบอกว่าหน้าผมสวยแต่ก็ไม่ได้มากอะไรเหมือนกับผู้ชายหน้าหวานตัวเล็กๆ อาจเพราะมีเชื้อพ่ออยู่บ้างทำให้หน้าผมสามารถมองได้ทั้งหล่อและสวยทำให้ผมมักถูกจีบจากผู้หญิงและผู้ชายอยู่เสมอ...
ถึงยังไงตอนนี้ผมก็ยังโสดอยู่ละนะ
“อืม...ผมสนใจงานนี้มากเลยจะได้มาขอความรู้จากพ่อด้วยไง”
“จัดไปเลยลูกชาย...อ้อ...พ่อมีความลับอะไรจะบอกด้วยล่ะลูกอยากรู้ไหม?”พ่อถามผมด้วยเสียงเจ้าเล่ห์แปลว่าเรื่องที่เป็นความลับนั่นต้องเกี่ยวกับไดโนเสาร์แน่นอน
“อยากรู้ครับ”ผมตอบเสียงดังแล้วพยักหน้าไปมาด้วยความอยากรู้
“งั้นตามพ่อมาทางนี้เลย”
เซโครเดินตามพ่อไปที่ลิฟท์แล้วกดไปที่ชั้นB2หรือใต้ดิน2...พอมาถึงชั้นใต้ดิน2ผมก็เดินตามพ่อออกมาสองข้างทางเป็นทางเดินสีขาวที่ทอดยาวไปโดยที่สองข้างทางเป็นห้องแล็บย่อยที่ภายในมีกลุ่มคนกำลังทำการทดลงหลายๆอย่างทั้งฟักไข่หรือเพาะเนื้อเยื่อในหลอดแก้ว
“ลูกรู้ไหมว่าเราสามารตัดต่อยีนส์ของหลายสายพันธุ์เข้าไปอยู่ในสัตว์ตัวเดียวกันได้”ระหว่างที่เดินตามทางพ่อก็พูดขึ้น
“ครับ...GMO…ในปัจจุบันนิยมตัดต่อยีนส์ในพืชและสัตว์เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นและคุณภาพดี”
“แล้วถ้าเราเอามาใช้กับไดโนเสาร์ล่ะ”
“ตอนนี้ก็ใช้อยู่เป็นเรื่องปกตินี่”ผมเริ่มงงกับสิ่งที่พ่อบอกแล้วการตัดต่อยีนส์ในไดโนเสาร์เป็นสิ่งที่ทำอยู่เป็นปกติเพราะจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่รู้ถึงวิธีผสมพันธ์ของไดโนเสาร์เราเลยต้องการโคโมโซมที่ตัดต่อยีนส์แล้วไปเพาะในไข่หรือหลอดแก้วและเลี้ยงจนกว่าไดโนเสาร์ตัวนั้นจะโตพอที่จะออกมาบนโลกนี้
“ก็ใช่...แต่พ่อหมายถึงว่าถ้าเราผสมยีนส์ของไดโนเสาร์สัก2ตัวลงไปในโคโมโซมและเลี้ยงมันจนเจริญเติบโต”
“...จะได้ไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่?”ผมพึมพำออกมาด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รู้จริงอยู่ที่การตัดต่อยีนส์ในพืชหรือสัตว์เป็นเรื่องปกติจนแทบไม่น่าสนใจแต่การที่ผสมไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ออกมาได้เนี่ย...
มันช่างสุดยอด!
“นั่นแหละที่บอกจะบอก...แล้วถ้าไม่ได้ใส่ไปแค่ยีนส์ของไดโนเสาร์ล่ะ?”พ่อยังคงตั้งคำถามตอนในขณะที่พวกเราเดินมาถึงประตูสีขาวที่ดูท่าจะมีความหนาและทนทานสูงมาก พ่อเอามือทาบสแกนลงไปที่เครื่องด้านข้างก่อนประตูสีขาวจะเปิดอ้าออกทำให้เห็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่ด้านในมีกระจกใสขนาดใหญ่และหนากั้นไว้อยู่...ภายในห้องกระจกเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์เหมือนเป็นที่อยู่ของอะไรสักอย่าง...
ที่อยู่งั้นเหรอ?
“พ่ออย่าบอกนะว่า...”ผมหันไปหาพ่ออย่างไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่กำลังคิดอยู่จะเป็นความจริง
“ในนั้นมีไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมอยู่”
สิ้นสียงพ่อผมก็วิ่งเข้าไปเกาะกระจกตรงหน้าแล้วหันซ้ายขวาเพื่อมองหาไดโนเสารที่ว่านั่นแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
“พ่อแน่ใจว่าอยู่ในนี้?”ผมถามพ่อในขณะที่สายตายังคงไม่ละออกจากตู้กระจกตรงหน้า
“แน่สิ...คงจะหาอยากหน่อยเพราะเขาอายุแค่2ปีเท่านั้น”คำพูดของพ่อทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความงงงวยปนสงสัย
เขา?
จะบอกว่าเป็นไดโนเสาร์ตัวผู้สินะ
“2ปี?...แล้วสายพันธุ์ของไดโนเสาร์ที่ผสมลงไปล่ะมีอะไรบ้าง?”ผมถามต่อเพราะอายุ2ปีก็ถือว่าโตในระดับนึงต้องรู้ว่าเป็นไดโนเสาร์พันธุ์อะไรจะได้คำนวณว่าส่วนสูงเท่าไหร่
“ก็มี...อ๊ะ...มานั่นแล้วไง”ก่อนที่พ่อจะบอกก็ชี้ไปยังฝั่งซ้ายของกระจกที่ต้นไม้สูงเริ่มสั่นไหวเพราะมีบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อยู่ ผมรีบหันไปมองทางนั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อไดโนเสาร์ตัวนั้นออกมาจากต้นไม้ที่เป็นเกาะกำบังจนสามารถมองเห็นรูปร่างได้อย่างชัดเจน
กระโหลกขนาดใหญ่ที่มีฟันอันแสนคมกริบกว่า80ซี่ทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อส่วนปลายหัวมีมีกระดูกงอกออกมาสองแฉกเรียบไปกับส่วนหัวคลายหงอนหรือเขา ลำตัวขนาดใหญ่สีเทาเข้มที่ยืนด้วยสองขาหลังและสองขาหน้าเป็นมือที่มีกลงเล็บใหญ่อยู่ข้างละ5นิ้ว ตรงกลางแผ่นหลังมีกระดูกงอกขึ้นมาจนเหมือนหนามแหลมคมยาวตั้งแต่ช่วงกลางหลังไปจนถึงปลายหางรวมทั้งแผ่นหลังนั่นยังมีลวดลายสีส้มลากผ่านเหมือนเสือลายพาดกอนตั้งแต่ช่วงคอยาวไปจนถึงปลายหางเช่นกัน
ผมยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าจนไม่รู้ตัวว่าไดโนเสาร์ตัวนั้นค่อยๆเดินมาและหยุดอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีเหลืองอำพันสวยราวกับอัญมณีมีชีวิตกำลังสะท้อนภาพใบหน้าผมอยู่ ด้วยขนาดที่ใหญ่โตทำให้ดวงแค่ดวงตาสีอำพันนั่นก็มีขนาดใหญ่กว่าหัวผมแล้วตอนนี้คงจะสูงราวๆ7เมตรและคงสูงกว่านี้อีกแน่
ไดโนเสาร์ตรงหน้าเป็นไดโนเสาร์ที่งดงามที่สุดที่ผมเคยเห็น แต่เพียงผมวางมือทาบลงกับกระจกหรือตรงดวงตาสีอำพันนั่นเสียงขู่คำรามก็ดังกึกก้องจนผมได้สติแล้วหงายหลังก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นด้วยความกลัวปนตกใจ
“เป็นไงล่ะ?...เป็นไดโนเสาร์ที่งดงามมากเลยใช่ไหม?”พ่อที่ยืนอยู่ไม่ไกลเข้ามาช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นยืนส่วนไดโนเสาร์ตัวนั้นก็เดินไปอีกทางแล้ว
“ครับ...สุดยอดเลย”จนถึงตอนนี้ผมก็ยังเอาสติกลับมาทั้งหมดไม่ได้เหมือนกับถูกดวงตาสีอำพันนั่นดูดกลืนไป
“ลองทายไหมว่ามีสายพันธุ์อะไรอยู่บ้าง?”พ่อลองถามเล่นๆแต่นั่นก็ทำให้สติผมกลับมาพร้อมกับเริ่มนึกชื่อของไดโนเสาร์ที่คาดว่าน่าจะใช่
“สไปโนซอรัสแน่ๆฟันซี่เล็กๆแต่แหลมคมไดโนเสาร์กินเนื้อที่ได้ชื่อว่าตัวใหญ่ที่สุด...”
“ถูกต้องแล้วต่อมาล่ะ?”พ่อดูจะตื่นเต้นมากที่ผมทายถูก
“...ไม่แน่ใจว่าที-เรกซ์หรือแรพเตอร์...แต่ผมว่าน่าจะเป็นยูทาร์แรพเตอร์เพราะมีส่วนที่คล้ายคลึงกันอยู่มาก”ผมลังเลก่อนจะตอบออกไป
“ถูกอีกแล้ว...แล้วอย่างอื่นล่ะ?”
“นี่พ่อไม่ได้ผสมแค่2สายพันธุ์เหรอ?”ผมถามกลับอย่างตกใจ...การทดลองแรกใครเขาให้ผสมสายพันธุ์เยอะๆเล่าถ้าเกิดอะไรขึ้นมามันคุมลำบากนะ
“แหะๆ...แค่5อย่างเอง”คำตอบของพ่อทำให้ผมอยากเอาหัวโขกกำแพงจริงๆ...
ไม่ใช่แค่3แต่ถึง5!!
“พ่อไม่ควรผสมมั่วแบบนั้นนะ!”
“ก็รู้แต่มันหยุดไม่ได้นี่”
“ไม่ต้องมาอ้างเลย...ดีแค่ไหนแล้วที่เขาเกิดมาได้น่ะถ้าอายุสั้นหรือเป็นโรคอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”ผมบ่นพ่อยาวอย่างเหลืออด
“พ่อขอโทษ”
“ไปขอโทษเขา....พ่อตั้งชื่อสายพันธุ์ไว้รึยัง?”พอนึกได้ก็เลยถามออกไป สายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยมีคนที่ค้นพบหรือเพาะเลี้ยงเท่านั้นที่สามารถตั้งชื่อได้
“ตั้งแล้ว”
“อะไรล่ะ?”ผมถามอย่างสนใจ
“โทรโอ ทาห์แรพ โซนอร์ ซอรัส”
“...”ชื่อสายพันธุ์ที่ได้ยินทำให้ผมกรอกสายตาขึ้นบนเพดานอย่างปลงๆก็รู้ว่าพ่อตั้งชื่อได้ห่วยมากแต่ไม่คิดว่าจะสิ้นคิดถึงขนาดเอาชื่อของแต่ละสายพันธุ์มาตั้งแบบนี้...ไม่จำเป็นต้องทายต่อก็รู้ได้เลยว่ามีพันธุ์อะไรบ้าง
มีโทรโอดอน ไดโนเสาร์ที่ว่กันว่ามีสมองใหญ่และฉลาดที่สุด ต่อด้วยยูทาห์แรพเตอร์ไดโนเสาร์ที่มีประสาทรับกลิ่นเยี่ยมและชอบล่ารวมกันเป็นฝูง ตามมาด้วยโซนอร์นิโตซอรัส ไดโนเสาร์สองขาที่มีเคียวพิษเหมือนงูและมีปีกแต่บินไม่ได้ สุดท้ายก็สไปโนซอรัส มีกระโหลกศีรษะคล้ายจระเข้ และมีความยาวจากหัวจรดหางกว่า 15 เมตรและหนักราว 9 ตัน แขนของมันมีขนาดใหญ่กว่าพวกนักล่าร่างยักษ์อื่น ๆ ทั้งยังมีกรงเล็บแหลมคมสำหรับใช้จับเหยื่อเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ได้ชื่อว่าตัวใหญ่ที่สุด
“เดี๋ยวนะ...”ผมเอะใจแล้วลองทวนดูอีกรอบ
หนึ่ง โทรโอดอน
สอง ยูทาห์แรพเตอร์
สาม โซนอร์นิโตซอรัส
สี่ สไปโนซอรัส
“หื้อ?...”จำได้ว่าพ่อบอกว่ามี5นี่นา
“อะไรเหรอเซโคร?”
“พ่อบอกว่าผสมไป5สายพันธุ์ใช่ไหม?”ผมถามพ่อกลับ
“ใช่แล้ว”
“แต่ชื่อที่พ่อตั้งบอกไว้แค่4เองแล้วอีกสายพันธุ์นึงล่ะ?”
เซโครมีถามต่อด้วยความสงสัย...จากการที่ดูลักษณะของผิวหนังและโครงสร้างคร่าวๆคงมีส่วนผสมของสายพันธุ์ที่กินเนื้อและดุร้ายแปลว่าอีกสายพันธุ์นึงก็คงเหมือนกันแต่เท่าที่คาดเดาไม่น่าใช่ที-เร็กหรือจะเป็นไดโลโฟเซารัส ไดโดเสาร์ที่จะมีหงอนเฉพาะตัวผู้และเป็นไดโนเสาร์ที่ก้าวร้าวและมีความเร็วมาก
“ที่ลูกรู้มียูทาห์แรพเตอร์กับสไปโนซอรัส...แล้วอีก2สายพันธุ์ที่ลูกรู้คืออะไรล่ะ?”พ่ออมยิ้มแล้วไม่ยอมบอกผม
“โซนอร์นิโตซอรัสกับโทรโอดอน”ผมตอบพ่อกลับไปโดยที่ในหัวยังคงพยายามคิดว่าสายพันธุ์อย่างสุดท้ายนั่นคืออะไร
“สมแล้วที่เป็นลูกชายพ่อบอกได้ถูกหมดเลย”ชายตรงหน้าถึงกับยิ้มหน้าบานเมื่อลูกชายตัวเองตอบได้หมด
ถ้าอยากให้ทายยากขึ้นก็อย่าเอาชื่อมาต่อกันหมดสิ
“เหลืออย่างสุดท้ายนะพ่อ”
“อ้อ...จริงด้วย...แต่ถึงลูกเดาไม่ถูกก็ไม่แปลกหรอกเพราะไม่ได้มีลักษณะของสายพันธุ์ที่ว่าปรากฏออกมาเลย...”
“หมายความว่าไง?”ผมรีบพูดแทรกด้วยความสงสัย...หมายความว่าเป็นแค่ยีนส์แฝง?
“ฟังให้จบก่อนสิลูก”พ่อเอามือเท้าเอวแล้วมองผมอย่างงอนๆ
“ครับๆ...เชิญต่อเลย”
“สายพันธุ์ที่ว่ายังไม่ลักษณะปรากฏขึ้นมา...ในตอนนี้น่ะนะ”
“...หื้อ?”สิ่งที่พ่อพูดยิ่งทำให้ผมงงงวยมากกว่าเดิม
ที่ว่ายังไม่ปรากฏในตอนนี้หมายความว่าลักษณะนั้นจะปรากฏออกมาแค่บ้างช่วง? ซึ่งก็คือเป็นเหมือนลักษณะพิเศษเหมือนไดโนเสาร์บางสายพันธุ์ที่สามารถหุบหนามตัวเองเอาไว้รอจนถึงคราวคับขันแล้วค่อยเอาออกมาแบบนั้นใช่ไหม?
“ถ้าลูกรู้ลูกต้องตกใจแน่ๆเลย”
“พ่อก็บอกมาสิ”ผมแทบรอที่จะรู้ไม่ไหวแล้ว
“สายพันธุ์นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายมากในยุคปัจจุบัน”ประโยคที่บอกออกมาเหมือนเป็นคำใบ้ให้ผมคิดตาม...
สายพันธุ์ที่หาได้ง่าย?
“สุนัข”ผมพูดขึ้นแทบจะทันเพราะถ้าพูดถึงหาง่ายในปัจจุบันคงไม่พ้นสัตว์สี่เท้าที่ผู้คนทั่วโลกนิยมเลี้ยงซึ่งก็คือสุนัข ไม่ก็แมว
“จุ๊ๆๆ...ไม่ใช่...เป็นสัตว์เดินด้วยสองเท้า”
“นก?”คำใบ้ต่อไปทำให้ผมตอบแทบจะทันที...ถ้าพูดถึงใช้สองเท้าในการเดินก็มีเพียงนก เป็ด ไก่หรือก็คือตระกูลสัตว์ปีกนั่นเอง
“ไม่ใช่ๆ”พ่อส่ายหน้ากับคำตอบที่ได้ไป
ถ้าไม่ใช่นกหรือว่าจะเป็น...
“ลิง?”ผมยังคงพูดต่อโดยคิดถึงหลักความน่าจะเป็น...ยืนด้วยสองเท้าถ้าไม่ใช่นกก็คงเป็นตะกูลลิง
“ไม่ใช่ๆๆๆๆ”พ่อส่ายหัวไปมอย่างเร็วเหมือนจะบอกว่าสิ่งที่ตอบออกมานั้นไม่ใช่เลยสักนิด
“แล้วอะไรละพ่อ?”
ยืนด้วยสองเท้า....แต่ไม่ใช่พวกสัตว์ปีกหรือลิง
ตอนนี้ในหัวสมองมืดแปดด้านจริงๆ
“นี่ลูกคิดไม่ออกจริงๆเหรอ?...ทั้งที่ลูกเจอทุกวันเนี่ยนะ?”
“พ่อก็อย่ามัวอมพะนำไว้น่าบอกมาเร็วๆเลย”ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวอันนั้นก็ไม่ใช่อันนี้ก็ไม่ถูก
“ก็ได้...สายพันธุ์นั้นก็คือ...”
กรร!!
เสียงคำรามดังกึกก้องขัดคำพูดของพ่อที่กำลังจะตอบคำถามแต่ตอนนี้เรื่องคำถามนั่นเอาไว้ที่หลังเถอะ เสียงคำรามดังมาจากในตู้กระจกแปลว่าเป็นเสียงของ...อ่อ...โทรโอ ทาร์แรพ โซนอร์ ซอรัส
เซโครรีบวิ่งไปที่กระจกแล้วมองเข้าไปด้านในอย่างร้อนรน...เสียงร้องที่ดูเหมือนกำลังเจ็บปวดนั่นหรือว่ากำลังป่วยอยู่กัน?
ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมกวาดมองไปทั่วก่อนจะหยุดอยู่ที่ด้านซ้ายของตู้กระจกบริเวณพื้นหญ้าที่ตอนนี้มีไดโนเสาร์นอนล้มอยู่ก่อนที่ทั้งร่างของไดโนเสาร์นั้นจะค่อยๆหดลง ส่วนหางที่ยาวและมีหนามตรงส่วนปลายค่อยๆหดลงจนแทบหายไปเช่นเดียวกับช่วงขาที่ขนาดค่อยลดลงผิวหนังสีเทาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแทน ตรงส่วนหัวเองก็เริ่มหดลงและมีขนงอกออกที่ส่วนปลายยาวขึ้นคล้ายเส้นผม เล็บมือยาวแหลมคมก็ค่อยเปลี่ยนเป็นนิ้วมือสีแทนทั้งสองข้าง
ภาพตรงหน้าทำให้ผมเบิกตากว้างด้วยความอึ้ง...อีกสายพันธุ์นึงที่พ่อบอกไว้ว่ายังไม่ปรากฏตอนนี้ปรากฏออกมาแล้วและยังเป็นสายพันธุ์ที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ
จริงอย่างที่พ่อบอกว่าเป็นสัตว์เดินสองเท้า...
และก็จริงที่ผมเจอกับสายพันธุ์นี้ทุกวัน...
แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีคนบ้าตัดต่อพันธุกรรมของสายพันธุ์นี้รวมกับไดโนเสาร์...
สายพันธุ์ที่มีประชากรเรียกได้ว่าเกือบมากที่สุดในโลก...
'มนุษย์'
“นี่พ่อ...ตัดต่อยีนส์ของมนุษย์ลงไปในไดโนเสาร์?!!”
...
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i59.tinypic.com/kb1wnn.jpg)
ไดพลอโดคัส (ชื่อวิทยาศาสตร์: Diplodocus ) หรือ กิ้งก่าสันคู่ วงศ์ ดิพโพลโดซิเด อันดับแยกย่อย ซอโรโพดา อันดับย่อย ซอโรโพโดมอพา อันดับ ซอริสเชีย เป็นไดโนเสาร์ ตระกูลซอโรพอดเช่นเดียวกับ อะแพทโตซอรัสและ มีชื่อเสียงพอๆกัน ในด้านความยาวขนาดตัว ขนาดใหญ่โตเต็มที่ยาว 25-27 เมตร David Gillete คำนวณขนาดมันว่า ใหญ่ได้มากที่สุด 33 เมตร แต่หนักแค่ 10-12 ตัน ถือว่าเป็นซอโรพอดที่เบาที่สุด อาศัยอยู่กลางถึงปลายยุคจูแรสซิก 150 - 147 ล้านปีก่อน
ไดพลอโดคัส เป็นสายพันธุ์ที่แยกประเภทได้ง่าย เนื่องจาก ลักษณะตามแบบไดโนเสาร์ ศีรษะขนาดเล็ก เตี้ย และเอียงลาด ตาลึก รูจมูกอยู่เหนือตา จมูกกว้าง คอและหางยาว ปลายแส้ที่หางยาวมากกว่า อะแพทโตซอรัส ขา 4 ข้างที่ใหญ่โตเหมือนเสา ลักษณะที่โดดเด่นคือ เงี่ยงกระดูกเป็นคู่ที่ยื่นโผล่ออกมาจากกระดูกสันหลังตั้งแต่หลังคอเรียงรายไปถึงหาง
หลายปีก่อน ไดพลอโดคัส เคยเป็น ไดโนเสาร์ที่ตัวยาวที่สุด ขนาดตัวมหึมาของมัน เป็นอุปสรรคระดับหนึ่งต่อนักล่า อย่าง อัลโลซอรัส พบที่อเมริกาเหนือ อยู่ในยุคจูราสสิคตอนปลาย
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ดิปโพลโดคัส
...........................................................................................
สวัสดีคะ
ในที่สุดตอนก็เอาตอนแรกมาลงให้อ่านกันแล้วนะคะ
ไม่รู้ว่าเนื้อเนื้อจะเป็นไปตามที่ใครหลายๆคนอยากให้เป็นไหม?
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่ยากมากเพราะต้องไปหาความรู้เสริมเยอะและด้วยความที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรพวกนี้เลยทำได้แค่จินตนาการว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้แบบนั้นจนได้ออกมาตามที่ทุกท่านนี่แหละคะ
ตอนนี้เป็นแค่ภาพรวมคร่าวๆที่คงจะทำให้เพื่อนเห็นภาพได้กว้างขึ้นว่าเนื้อเรื่องเราจะดำเนินไปในทิศทางไหนนะคะ
ขอบคุณทุกๆคนเม้นท์ทั้งคนที่คุ้นชื่อและคนใหม่ๆที่เข้ามาให้กำลังใจนะ
จะพยายามแต่งเรื่องนี้ให้ได้ความรู้สึกแบบตื่นเต้นเหมือนตอนดูหนังนะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
แปะ!
ขอจองที่ก่อนนะคะ หม่ำๆอยุ่
-
นี่คุณพ่อฟรานพาลูกเขยมาให้เซโครเองเลยเหรอคะเนี่ย >.< น่าร๊ากกก :-[ ตื่นเต้นจังเลยล่ะค่า..
-
น่าสนใจๆ
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :katai2-1:
-
น่าสนุกดีค่าา อยากอ่านต่อแล้ว
ตอนต่อไปมาเร้วๆน้าา
-
อ๊ายยยย แนววแฟนตาซีอยากอ่านๆ มาต่อไวๆนะค้าาาา
-
ฮุ ฮุ มาตามลุ้น
คนเขียนมาต่อเร็วๆ น้าาาา
เขาค้างงงงง อย่างแรงเลยยยย
-
ชอบๆน่าติดตามมมากค่าา
-
พล็อตแปลกดีอ่ะ ชอบๆๆ
พ่อตาสร้างลูกเขยขึ้นมาเองกับมือเลยนะ 55555
มาต่อไวๆ น้า
-
:a5: :a5: :a5: :a5:อิคุณฟรานนนนนนนน คุณเอ็งทำอะไรลงไป!! ตัดต่อเข้ากับยีนมนุษย์? โฮกกก มันจะมิผิดผี เอ้ย ผิดหลักมนุษยธรรมเหยอ!!?
เซโคร...ชื่อเฮียเท่มาก ชอบจริงๆทั้งชื่อเล่น ชื่อจริง ทำเอาหนูนี้แบบ...นะ ฮ่าๆ ว่าแต่ครอบครัวเฮียเป็นญาติกับดร.แกรนทด้วยป่ะ หนูขอลายเซ็นหน่อย// :beat: คนละเรื่องล่ะมึง..
เนื้อเรื่องน่าสนใจดีจริงๆ หนูจะตามเก็บอึ๊ไดโนเสาร์(?)เป็นเพื่อนคนเขียนต่อไปนะ ฮึบ! :กอด1: ฮ่าๆ
-
โหหหหห คุณฟรานคะ
ถ้าจะผสมยีนส์มั่วซั่วได้ขนาดนี้ มันไม่ไหวหม๊ายยยย =_=
ออกมาเป็นตัวประฟลาดขั้นสุด น่าสงสารพระเอกของเราจิงๆ TOT
-
สนุกอ่ะ
อยากดูหนังเกี่ยวับไดโนเสาร์เรื่องนันอ่ะ แต่ไม่ได้ไปดู
มาเจอเรื่องนี้ ชีพจรเต้นผ่างเลยยยย
ชอบมากๆๆๆ รอตอนต่อไปค่ะ
-
ตอนแรกนึกว่าจะออกแนววิ่งหนีไดโนเสาร์ แล้วพระนายรักกัน
แต่กลายเป็นไดโนเสาเป็นพระเอก (ใช่มั้ย)
น่าสนใจมาก
จะติดตามตอนต่อไปค่ะ
:katai2-1:
-
เรื่องนี้ของคุณnicedog ก็น่าสนใจ มาติดตามค่าาา :m13:
-
นี่คุณพ่อผลิตลูกเขยออกใช้เองเลยเหรอคะ!!!!!
อะไรจะเริ่ดปานนั้นนนนนนนนน
รอตอนต่อไป มาต่อไวๆน้าาาา
-
ชอบบบๆ แปลกแบบนี้มาก
ไดโนเสาร์ตัวใหญ่....ไอนั่นก็ต้องใหญ่.....คึคึ
:mew3: :mew3: :mew3:
-
อูววว พระเอกเราเป็นสึตว์กินเนื้อเหรอเนี้ยยยยย ติดตามค่ะๆๆๆๆๆ o13
-
หุหุหุ ม่ต่อเร็วๆนะ
-
ดคุณพ่อคงสนุกน่าดู 555
-
รออออออออออออออออออ
เมื่อไรจะมาาาาาาาาาาาาาาาาาา
:mew2: :mew2: :mew2:
-
รอเลยครับ
:hao7:
-
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกก แฟนตาซีได้ใจเลยบอกตรง
ความรู้เรื่องไดโนเสาร์มาเต็ม อ่านตอนแรกก็ชอบแล้ว สนุกๆ
แอบรู้สึกว่าเซโครกำลังจะงานเข้าในไม่ช้า 5555 มาต่ออีกเร็วๆนะคะ รออ่านอยู่นะ ><
-
เรารออยู่น้าคนแต่งงงงง
-
แนวเรื่องแบบนี้ น่าสนใจนะ ไม่นึกเลยว่าจะเอามาเล่น เหอๆๆ ท่าจะดราม่าแห๊ะ เขียนออกมาให้ไม่ดราม่ามากนักได้ไหมอ่าาา
-
:katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
-
ปูเสื่อรอ
-
กลายรักครั้งที่❧2
ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดมาถ้ามีคนถามว่าประสบการณ์ไหนที่คุณรู้สึกตกใจหรือประหลายใจกับมันมากที่สุด ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ กล้าบอกเลยว่าเป็นตอนนี้ ตอนที่ผมเห็นไดโนเสาร์ที่มีความสูงกว่า7เมตรกลายเป็นมนุษย์ไปต่อหน้าต่อตา
ภาพเหตุการณ์ยังคงติดตาผมอยู่เลยทั้งที่ตอนนี้ไดโนเสาร์ตรงหน้าถูกแทนที่ด้วยผู้ชายผิวสีแทนที่มีร่างกายสมส่วนออกบึกบึนไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับมนุษย์ปกติ เส้นผมสีเทาที่มีบางเส้นเป็นสีส้มแซมสลับไปมา สีเดียวกับลายพาดที่หลังเมื่อตอนเป็นไดโนเสาร์...
ผู้ชายตรงหน้านอนล้มลงไปกับพื้นทำให้ไม่สามารถเห็นหน้าตาได้
“พ่อทำอะไรลงไปน่ะ?!!!”ผมหันไปตะโกนใส่พ่อเสียงดังจนใกล้เคียงกับคำว่าตวาด
“ก็แค่ผสมพันธุ์”
“ไม่ต้องมาตอบเสียงอ่อยเลย...ถ้าเป็นการผสมสายพันธุ์ของไดโนเสาร์ผมจะไม่ว่าเลยแต่นี่มันเป็นการผสมคนกับไดโนเสาร์...พ่อต้องการอะไรถึงได้ทำแบบนี้น่ะ?...ไดโนเสาร์กินเนื้อเป็นสัตว์ที่ดุร้ายจนไม่มีใครควบคุมมันได้และการที่พ่อผสมโทรโอดอนเข้าไปทำให้มันฉลาด...สุดท้ายพ่อใส่ยีนส์ของมนุษย์ลงไปเพื่อให้มันคิดเป็น!!! พ่อกำลังสร้างอะไรอยู่กันแน่?!!”ผมตะโกนออกไปอย่างเหลืออด
ไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อทำเลยจริงๆ
“นั่นแหละคือสิ่งที่พ่อต้องการ”พ่อตอบกลับมาก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง
“ห๊ะ?”
“พ่ออยากให้ไดโนเสาร์คิดเป็นและคิดมากกว่าที่ไดโนเสาร์ปกติคิด”พ่อยังคงอธิบายต่อ
“หมายความว่า...”
“ก่อนอื่นพ่อขอถามว่าลูกรู้ข่าวที่ไดโนเสาร์หลุดออกจากกรงบ่อยแค่ไหน?”พ่อหันมาถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“...ประมาณเดือนละ2-3ครั้ง”
“แล้วจำนวนมนุษย์ที่ต้องตายเพราะเข้าไปจับไดโนเสาร์ล่ะ?”
“...หลายสิบคน...บางทีก็เป็นร้อย”ผมตอบไปตามที่ได้ยินข่าวมา
“พ่อรู้และคิดมาตลอดว่าไม่สมควรสร้างไดโนเสาร์ขึ้นมา...ไม่ควรทำให้มันมีชีวิตเพราะพวกมันจะล่าทุกอย่างที่มีชีวิตบนโลก ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็ได้ทำให้พ่อทิ้งจิตสำนึกทุกอย่างไปจนไดโนเสาร์จำนวนมากถือกำเนิดขึ้น...”
“...”ผมยืนฟังสิ่งที่พ่อกำลังบอกอย่างเงียบๆแล้วเริ่มคิดตาม
“พอมารู้ตัวอีกทีไดโนเสาร์ก็ฆ่าชีวิตไปมากมายทั้งคนที่ให้อาหารคนที่ดูแล...ทั้งที่พวกเรารักแต่ไดโนเสาร์กลับไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้ ในทุกๆเดือนมีแต่ข่าวไดโนเสาร์หลุดและมีคนมากมายต้องตายลงและพ่อเป็นคนทำให้พวกเขาต้องตายเพราะสร้างไดโนเสาร์ขึ้นมา...”
“พ่อ...”
“พ่อรู้ว่าผิดแต่จะให้พ่อฆ่าไดโนเสาร์พวกนี้พ่อก็ทำไม่ได้...จนในที่สุดพ่อก็นึกขึ้นมาได้ว่าไดโนเสาร์แต่ละสายพันธุ์ต่างก็มีจ่าฝูงและหัวหน้า อาจมีบางสายพันธุ์ที่อยู่เดี่ยวๆแต่ก็มีศรัตรูที่ไม่กล้าเข้าใกล้...”
“หรือว่า...”ผมเริ่มรู้แล้วว่าสิ่งที่พ่อต้องการคืออะไร
“ใช่...พ่อคิดว่าถ้าไดโนเสาร์หลุดออกมาสิ่งเดียวที่จะหยุดได้ก็คือไดโนเสาร์ด้วยกันเองแต่เพราะความดุร้ายที่พอๆกันทำให้พ่อคิดว่าควรใส่ยีนส์ของโทรโอดอนที่มีสมองมากที่สุดกับมนุษย์ลงไปเพื่อให้คิดเป็น...เพื่อจะได้มีไดโนเสาร์ที่สารมารถสื่อสารทั้งมนุษย์และไดโนเสาร์ได้ รวมทั้งยังเป็นราชาของเหล่าไดโนเสาร์ในยุคนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงการรตายอย่างเปล่าประโยชน์ของมนุษย์คงลดลง”พ่ออธิบายทุกอย่างพร้อมกับมองเข้าไปในกระจก ร่างของลูกผสมระหว่างไดโนเสาร์กับมนุษย์ค่อยลุกขึ้นยืนด้วยสองขา...
ด้วยร่างกายที่ไม่คุ้นชินกับน้ำหนักทำให้ร่างนั้นต้องทรุดตัวลงกับพื้นอีกครั้งเส้นผมสีเทายาวรกรุงรังปิดใบหน้าไว้จนแทบมองไม่เห็น
ตอนนี้ผมเข้าใจความหมายที่พ่อสร้างเขาขึ้นมาแล้วล่ะ...จริงอยู่ว่าการทำแบบนั้นจะช่วยลดการสูญเสียได้อย่างมากมายเพราะสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่ผสมลงไปเป็นสายพันธุ์ที่เรียกว่าเป็นสุดยอดของเหล่านักล่า ไดโนเสาร์ที่หลุดออกจากกรงคงรีบวิ่งกลับเข้ากรงทันทีเมื่อเห็นแน่
แต่นั่นหมายถึงเราสามารถสื่อสารกับเขารู้เรื่องละก็นะ
“ผมเข้าใจล่ะ...แล้วพ่อสื่อสารกับเขาได้ไหมล่ะ?”ผมถามสิ่งที่อยากรู้ที่สุดออกไป
“...”พ่อหันมามองผมด้วยสายตาเศร้าๆก่อนจะส่ายหัวไปมา
นั่นไง...
ไม่ได้จริงๆด้วย...ถึงจะมียีนส์ของมนุษย์แต่ก็มียีนส์ของไดโดเสาร์กินเนื้ออยู่ถึง4ชนิดภายในร่างไม่มีทางที่จะสื่อสารกันได้ง่ายๆแน่...
“ทำไมพ่อไม่เอายีนส์ของไดโนเสาร์กินพืชที่เป็นมิตรลงไปแทนไดโนเสาร์กินเนื้อเล่าอย่างน้อยๆก็จะได้ไม่อันตราย”ผมพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นมาได้ นี่ถือเป็นการทดลองแรกเพราะงั้นก็น่าจะลองอะไรที่มีความเสี่ยงน้อยๆก่อนไม่ใช่มาทีแรกก็เสี่ยงตายขนาดนี้
“...จริงด้วย”พ่อเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดผม...
แปลว่าพ่อไม่ได้นึกถึงเลยสินะ!
ในหัวพ่อคงคิดว่าไดโนเสาร์ที่ต้องเป็นราชาของไดโนเสาร์ในยุคนี้ต้องเป็นพวกกินเนื้อเท่านั้นทั้งที่พวกกินพืชก็มีมากมายที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีเกาะป้องกันที่มากกว่าสายพันธุ์กินเนื้ออีก ดีไม่ดีถ้าสื่อสารกันเข้าใจก็สามารถให้มนุษย์เข้าไปช่วยเสริมได้
“พ่อ!!”
“ขอโทษ...พ่อลืมนึกเรื่องนี้ไปสนิทเลย”
“แล้วพ่อจะทำยังไงต่อล่ะ?...เขาอยู่ในนี้มาสองปีแล้วใช่ไหม?”ผมรัวคำถามใส่พ่อ
“พ่อไม่รู้กะว่าจะมาขอความเห็นลูก...ส่วนอีกคำถามใช่เขาอยู่ในนี้มาสองปีแล้ว”พ่อตอบคำถามผมเสียงอ่อย
“เขาได้ออกไปข้างนอกบ้างไหม?”ผมยังคงถามต่อ
“ได้ออกไปช่วง2เดือนแรกแต่หลังจากนั้นก็พาออกไปไม่ไหว...คนที่พาออกไปตอนนี้นิ้วขาดเพราะโดนเขาจัดการไปแล้ว”คำพูดของพ่อทำให้ผมอยากเป็นลมจริงๆ
“พ่อเลี้ยงเขาโดยให้อยู่แต่ในที่แคบๆแบบนี้ไม่ได้นะ!...แล้วทำไมถึงเลี้ยงตัวเดียวล่ะก็รู้นี่ว่าไดโนเสาร์ถ้าถูกเลี้ยงเดี่ยวจะเข้าสังคมไม่เป็นนี่เป็นพื้นฐานของพื้นฐานเลยนะ!!”ผมบ่นออกไปอย่างเหลืออด
“ก็พ่อคิดว่าถ้าเลี้ยงดูเหมือนเป็นมนุษย์และให้อยู่กับมนุษย์มากๆจะดีกว่า...ใครจะคิดว่ามันไม่ได้ผลล่ะ”เป็นอีกครั้งที่พ่อพูดเสียงเศร้า
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากเลี้ยงเขาเหมือนไดโนเสาร์ตัวนึงแล้วก็ปิดข่าวเรื่องการทดลองนี้ซะไม่งั้นเกิดเรื่องแน่”ตอนนี้ผมคิดหนทางอื่นไม่ออกเลยจริง
“ลูกไม่ลองไปคุยกับเขาดูหน่อยเหรอ?”
“พ่อจะให้ผมไปเป็นอาหารเขารึไงครับ!”ผมสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่ใช่นะ...แค่คิดว่าลูกอาจสื่อสารกับเขาได้ขนาดไทเซอราท๊อปยังเชื่องกับลูกเลย”
“นั่นมันไดโนเสาร์กินพืช...ถ้าเข้าหาดีๆใครก็ทำได้”ผมบอกออกไปก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงๆ...เมื่อ4ปีก่อนที่มาที่เกาะนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปช่วยรักษาฝูงไทเซอราท๊อปที่ป่วยเพราะโรคระบาดทำให้หลายคนที่นี่คิดว่าผมเป็นสัตวแพทย์
ถึงจะเรียนด้านการเพาะเนื้อเยื่อเป็นวิชาเอกแต่วิชาโทผมก็การแพทย์ไดโนเสาร์นะครับ
“งั้นนี่ก็ต้องทำได้เหมือนกันแหละ”
“เหมือนที่ไหนกัน”
“แล้วลูกคิดว่าพ่อในยีนส์ของมนุษย์คนไหนลงไปกันล่ะ?”คำถามของพ่อทำให้ตัวผมชะงักพร้อมกับประมวลความคิดในสมอง...
ก็ใช่ที่ยีนส์ของมนุษย์นั้นมากมายจนนับไม่ถ่วยและของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปตามพันธุกรรม...แต่ถ้าจะเป็นยีนส์ที่ใส่ลงไปผสมกับไดโนเสาร์ก็ต้องเป็นคนที่มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจพูดง่ายๆก็ต้องเป็นยีนส์ที่มีความพิเศษ
เดี๋ยวนะ...ถ้าพ่อถามว่ามนุษย์คนไหนแปลว่าต้องเป็นคนใกล้ตัวที่สามารถหาดีเอ็นเอมาได้ง่ายๆโดยไม่ถูกจับถ้าขืนวิ่งไปเจาะเลือดใครมาแล้วเอามาใส่ลงในไดโนเสาร์ถ้าเจ้าของรู้เรื่องต้องกลายเป็นเรื่องระดับประเทศแน่
คนใกล้ตัวพ่อ...
อย่าบอกนะว่า...
“...พ่อ...คงไม่ใช่ว่าเป็นยีนส์ของ...”ผมเว้นคำพูดไว้ก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเองโดยในใจก็ภวนาขอให้ผู้ชายตรงหน้าส่ายหัวด้วยเถอะ
“...ตามที่ลูกคิดเลย”พ่อบอกพร้อมกับพยักหน้าขึ้นลง
พระเจ้า...อยากจะบ้าตายจริงๆ
มีพ่อแม่ที่ไหนเอายีนส์ลูกตัวเองไปผสมใส่ในไดโนเสาร์บ้างเล่า!!!
“พ่อจะบ้าเหรอ!...ผมฟ้องพ่อได้เลยนะ!!”
“พ่อรู้ว่าลูกไม่ทำหรอก”พ่อบอกเสียงอ้อน
“ทำไมไม่เอายีนส์ของตัวเองหรือของแม่เล่าทำไมต้องเป็นผม?”
“ก็เพราะยีนส์ลูกมีความสมบูรณ์และพร้อมที่สุดไงล่ะ”
“คำตอบสิ้นคิด!”ผมสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว
“โหยลูกรักช่วยพ่อหน่อยเถอะ”พ่อพูดพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดผมไว้
“ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะสื่อสารกับเขาได้นี่”
แค่ใช้ยีนส์ผมไม่ได้หมายความว่าเขาต้องฟังผมหรือจะสื่อสารกันได้ ถ้าจะเอาตรงๆยีนส์ผมก็มาจากพ่อแม่นั่นแหละถ้าพ่อยังทำไม่ได้แล้วผมจะทำได้ยังไง!
“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่ลูก...นะเซโคร”
ผมยังคงส่ายหัวเพื่อยืนยันคำตอบ
“น่านะเซโคร”
ผมยังคงยืนกรานคำตอบ
“นะนะนะนะครับ...นะลูกรัก”
“...ครั้งเดียวนะ”สุดท้ายผมก็ยอมจนได้
“เยี่ยม...งั้นเข้าไปเลยได้เวลาให้อาหารพอดี...เอ้ย...ได้เอาอาหารไปให้...เอ๊ะ...ทำไมคำพูดมันเหมือนจะส่งลูกไปเป็นอาหารเลยล่ะ”
“ได้เวลาไปหยิบอาหารให้เขาแล้วใช่ไหม?”ผมส่ายหัวกับความบ๊องของพ่อตัวเอง
“ใช่ๆ...ตามพ่อมาเลย”ผมตามพ่อเข้าไปที่ห้องด้านข้างภายในห้องสีขาวเต็มไปด้วยตู้เย็นขนาดใหญ่และโถวขวดแก้วที่ใส่อาหารเม็ดเรียงเอาไว้เป็นแถว
ผมมองพ่อที่เดินไปเปิดตู้เย็นยักษ์แล้วลากเนื้อวัวสีแดงฉานที่ถูกเลาะหนังและกระดูกออกมาวางไว้บนโต๊ะยาวกลางห้องก่อนจะไปหยิบมีดมาแล่มันออกเป็นชิ้นขนาดrvประมาณก่อนจะโยนใส่ถังที่เตรียมไว้ด้านข้าง
“ทำไมพ่อไม่ให้คนอื่นแล่ไว้ให้ล่ะ?”ผมถามออกไปด้วยความสงสัย ระดับหัวหน้าองค์กรทำไมต้องมานั่งแล่เนื้อเองด้วย
“คนที่ทำหน้าที่แล่เนื้อและให้อาหารพึ่งลาออกไปเมื่อวาน”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะมือเกือบขาดตอนที่โยนอาหารไปให้”คำตอบที่ได้รับทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายดังเอื้อก
นี่ผมจะมีชีวิตรอดไปถึงวันพรุ่งนี้ไหมนะ
เซโครเดินหิวทั้งใส่เนื้อและอาหารเม็ดเต็มสองมือเข้าไปในห้องอีกด้านหนึ่งที่มีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่พอให้คนอยู่สัก5คน ตรงหน้าเป็นกรงซี่หนาที่ถูกทำเป็นตารางถี่ๆเพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านใน
(...เซโครได้ยินพ่อไหม?)เสียงของพ่อดังขึ้นมาจากบูทูธที่ติดอยู่ที่หูซ้ายของผม
“ครับ...ได้ยินชัดเลย”
(ลูกต้องระวังให้มากถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็รีบหนีออกมาซะ)
“ได้ครับ”
(พ่อจะเปิดช่องกรงด้านซ้ายให้...เห็นไหม?)
“เห็นครับ”ผมตอบพ่อในขณะที่ขยับไปยังช่องกรงด้ายซ้ายที่ถูกเปิดออกเป็นช่องขนาดกลางที่เพียงพอจะส่งอาหารเข้าไปข้างในได้
(ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้รายงานได้เลยนะ)
“ครับพ่อ”
พอตอบกลับเสร็จผมก็หยิบเนื้อขึ้นมาชิ้นนึงแล้วใส่เข้าไปในช่องจนเนื้อตกลงไปที่พิ้นหญ้าด้างล่าง...ช่องส่งอาหารอยู่ระดับสายตาพอดีเมื่อผมนั่งลงทำให้ผมมีเวลามองสิ่งที่อยู่ภายในได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถึงซี่กรงจะถูกทำเป็นตารางถี่ๆแต่ก็ยังสามารถมองเห็นด้านในได้แค่ไม่ชัดเท่านั้นเอง
“...”ผมเริ่มเกร็งตัวเมื่อสัมผัสได้ว่ามีเสียงอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวตรงมาทางนี้ พอจ้องมองดีๆก็พบกับร่างมนุษย์ที่ค่อยๆคลานหมอบเข้ามายังเนื้อที่ผมหย่อนลงไป ทั้งที่สายพันธุ์ที่ผสมลงไปเป็นสัตว์ที่ใช้สองขาเดินแต่กลับคลานมาแปลว่ายังไม่ชินกับร่างกายที่เบาไม่ถึง100กิโลสินะ
กรร
ตึง
เสียงครางในลำคอดังขึ้นพร้อมกับสิ่งมีชีวิตอีกฝากหนึ่งของกรงกระแทกเข้าใส่เต็มแรงจนเกิดเสียงดังลั่น เส้นผมยาวสีเทาที่ปิดใบหน้ากับเปิดออกจนสามารถมองเห็นผิวสีแทนกับดวงตาสีอำพันได้อย่างชัดเจน ใบหน้าที่ดูไม่ออกว่าหล่อหรือขี้เหล่จากการที่มีดินติดอยู่เต็มไปหมด ริมฝีปากซีดของมนุษย์กำลังคาบเนื้อวัวสีแดงก่อนจะกลืนลงท้องไปทั้งสดๆแบบนั้น
พอเนื้อชิ้นแรกหมดผมก็ค่อยๆหย่อนเนื้อชิ้นที่สองลงไปแต่ยังไม่ทันได้ปล่อยก็ถูกปากนั่นงับเนื้อทั้งชิ้นแล้วดึงจนหลุดมือไป...เมื่อกี๊เกือบจะงับมือผมไปด้วยแล้ว
ตึก ตัก ตึก ตัก
หัวใจผมมันเต้นรัวด้วยความกลัวและตกใจโยที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของตัวเองยังคงมองไปยังสิ่งมีชีวิตอีกฝากนึงของกระจกที่กลืนเนื้อลงไปอีกชิ้น...กว่าจะให้เนื้อหมดมือผมก็หวิดโดนงับไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแถมยังเสียงขู่คำรามและกระแทกกรงนั่นอีก
ดวงตาสีอำพันที่จ้องมาราวกับกำลังโกรธ โมโห หงุดหงิดและเคียดแค้นทำให้ผมจ้องดวงตาคู่นั้นกลับไปอย่างต้องการคำตอบว่าอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นแบบนั้น...มันคงไม่ใช่แค่สัญชาตญาณดิบที่ต้องการจะล่าเหยื่อเพียงเท่านั้นแต่ต้องมีอย่างอื่นด้วยสิ...
อะไรสักอย่างที่ผมก็บอกไม่ถูก
“นายโกรธอะไรน่ะ?”ผมลองถามอีกฝ่ายกลับไปแต่ก็ไม่ได้หวังว่าจะได้คำตอบหรอกนะ
กรร!
ตึง!
เป็นอีกครั้งที่เสียงครางต่ำดังขึ้นพร้อมกับแรงกระแทกที่กรงเหล็กหนา...อยากจะทำความเข้าใจแต่อีกฝ่ายคงไม่ให้ความร่วมมือ...ไม่สิ ผมยังไม่ทำแม้จะพยายามเข้าใจเลยนี่นา
ถ้าอยากได้ใจก็ต้องให้ใจ
คำพูดนี้ผุดขึ้นมาในหัวทำให้ผมทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าบ้าบิ่นถึงขนาดยื่นมือเข้าไปในกรงไดโนเสาร์พันธ์ผสมนั่น...
“โอ๊ย!!...”ผมร้องขึ้นแล้วดึงมือตัวเองกลับมาเมื่อสัมผัสได้ว่ามือตัวเองถูกกัดและกระชากอย่างแรงจนทั้งเจ็บทั้งชาไปทั้งมือ พอก้มลงมองก็เห็นมือที่โชกไปด้วยเลือดสีแดงฉานและบาดแผลบนมือ
ผมหันไปมองอีกฝากของกรงที่ไดโนเสาร์ลูกผสมยังคงจ้องมาพร้อมกับเลียเลือดผมที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังชิมรสชาติคาวๆของเลือดผมงั้นแหละ
(เซโครเกิดอะไรขึ้น?...ลูกร้องนี่)เสียงของพ่อดังขึ้นอย่างร้อนรน
“...ผมถูกกัดนิดหน่อยครับ”ผมบอกความจริงไป
(ว่าไงนะ?...แล้วเป็นไงบ้าง...ไม่สิ...เดี๋ยวพ่อปิดกรงแล้วจะไปหานะ)พ่อบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรนก่อนที่ช่องให้อาหารจะถูกปิดลง
ดวงตาสีอำพันจ้องมาที่ผมเหมือนกำลังจะสื่ออะไรสักอย่างก่อนที่ร่างนั้นจะทรุดลงไปกองที่พื้นหญ้าแล้วบิดเร้าตัวอย่างรุนแรง แขนและขาค่อยขยายออกแล้วเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้มเล็บอันแหลมคมค่อยๆจิกบนพื้นหญ้าเพื่อพยุงตัวเช่นเดียวกับส่วนหัวที่ขยายออกจาเส้นผมสีเทายาวนั่นหายไปแทนที่ด้วยเขาสองอันบนหัว ปลายของหนามค่อยๆแทงขึ้นมาตามแนวสันหลังไปจนถึงปลายหางที่ค่อยๆยาวขึ้น
ร่างมนุษย์ได้กลับกลายเป็นไดโนเสาร์เหมือนเดิมแล้ว
กรร!!!
ตึง!!
เสียงขู่คำรามดังลั่นห้องก่อนที่ส่วนหัวที่มีเขาสองอันจะกระแทกเข้ามาที่กรงเหล็กที่ผมนั่งอยู่...เขี้ยวอันแหลมคมทั้งบนล่างทำให้ผมต้องถอยหลังจนชิดกำแพง...ทั้งที่ในใจกลัวแทบตายแต่สิ่งที่ผมบอกออกไปเหมือนเป็นคำกวนไดโนเสาร์ตรงหน้า...
“...ครั้งหน้าฉันจะกัดนายคืน!!”
หลังจากที่พ่อเข้ามาช่วยแล้วลากไปห้องพยายาบาลที่อยู่ชั้น1ผมก็ต้องนอนนิ่งๆให้ทั้งนายแพทย์ใหญ่ที่ประจำการอยู่ทั้ง3คนตรวจอย่างละเอียด หนำซ้ำยังต้องถูกพ่อแท้ๆของตัวเองสแกนไปทั้งตัวเพื่อดูว่ามีตรงไหนได้รับบาดเจ็บอีกกว่าจะเสร็จทุกอย่างก็ปาไปช่วงดึกแล้วพ่อเลยมาส่งผมที่ห้องพักส่วนตัวแล้วขอไปทำงานต่อ
เซโครทิ้งตัวลงบนเตียงกลางห้องแล้วยกมือข้างซ้ายที่ถูกพันผ้าไว้ขึ้นมาดู...ถือว่ายังโชคดีที่อยู่ในร่างมนุษย์เพราะถ้าอยู่ในร่างไดโนเสาร์มือข้างนี้คงถูกกลืนลงไปอยู่ในท้องแล้วย่อยสลายกลายเป็นอุนจิแล้วล่ะ
ถึงจะกลัวแต่ในใจลึกๆของผมบอกว่าน่าจะสื่อสารกับไดโนเสาร์ลูกผสมนั่นได้เพียงแค่คงต้องพยายามอย่างหนักจนถึงหนักมากที่สุด สัตว์ทุกชนิดย่อยมีสังคมและการสื่อสารที่แตกต่างกันถ้าผมพอจะจับจุดและสื่อสารได้มันจะช่วยให้ผมเข้าใจมากขึ้นว่าไดโนเสาร์ตัวนั้นกำลังคิดอะไรอยู่
การกลายร่างที่ยังไม่สเถียรเหมือนกับว่ายังควบคุมตัวเองไม่ได้ทำให้ผมคิดว่าต้องหาทางช่วยก่อนที่จะเกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะไม่เข้าใจในตัวเองซึ่งมันคงแย่มากถ้าอาการเป็นแบบนั้นแล้ว
เซโครนอนคิดทั้งคืนว่าควรจะทำยังไงเพื่อจะสื่อสารกันได้แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีความคิดอะไรดีๆเลยสักอย่างเดียว...ผมเลยต้องจำใจออกจากห้องทั้งที่ไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลยนั่นแหละ
แต่ถึงจะคิดอะไรไม่ออกแต่ผมก็ไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน
มันคงเป็นเรื่องตลกถ้ามีใครบอกว่ามนุษย์สามารถสื่อสารกับไดโนเสาร์ได้และผมคงเป็นคนแรกที่จะหัวเราะก๊ากขึ้นมาอย่างไม่อายใครแต่ตอนนี้มันมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง...
ความเป็นไปได้ที่มนุษย์สามารถสื่อสารกับไดโนเสาร์ได้และถ้าผมทำสำเร็จ...ไดโนเสาร์ตัวนั้นคงจะได้ออกมาเดินข้างนอกเหมือนกับมนุษย์คนนึง
“พ่อครับผมอยากเข้าไปในกรงให้อาหารเมื่อวานอีก”ผมเดินเข้าไปหาพ่อในห้องแล็บทดลองชั้น2
“เซโคร?...เข้าไป?...ลูกจะเข้าไปอีกเหรอทั้งที่มือลูก...”พ่อละมือออกจากเครื่องมือตรงหน้าแล้วมองลงไปยังมือข้างซ้ายที่พันผ้าพันแผลไว้
“ผมไม่เป็นไร...ผมอยากลองดูอีกครั้ง...ผมรู้สึกว่าสามารถสื่อสารกับเขาได้”ผมบอกพ่อออกไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่น
ดวงตาสีอำพันที่จ้องมาเหมือนจะสื่อความหมายอะไรสักอย่างก่อนที่จะกลายเป็นไดโนเสาร์...ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง
“นี่ลูกเอาจริงเหรอ?...พ่อคิดว่าควรถอดใจกับงานวิจัยนี่เพราะมีคนเจ็บตัวมากเกินไปแต่ลูกบอกว่าอยากลองอีกครั้งเหรอ?”สีหน้าของพ่อเต็มไปด้วยความกังวลแต่ประกายในแววตานั้นเหมือนกำลังคาดหวังในสิ่งที่ผมพูดออกไป
“ครับ...ผมอยากลองอีกครั้ง”
“งั้นตามมา...พ่อจะเอาลายนิ้วมือลูกไปลงทะเบียนและอนุญาติให้เข้าห้องใต้ดินชั้น2ได้ตามใจรวมถึงอุปกรณ์ทุกอย่างที่อยู่ที่นั่นด้วย”พ่อบอกแล้วลากผมออกไปจากห้องทดลอง
“ขอบคุณครับพ่อ”
“แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นลูกต้องกดสัณญาณฉุกเฉินทันทีสัญญานะ”พ่อกันมาบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“สัญญาครับ”
กว่าจะลงทะเบียนลายนิ้วมือกับจัดการเรื่องต่างๆเสร็จก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงและแล้วผมก็เข้ามาหยุดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ไว้สำหรับให้อาหารอีกครั้งนึง…
ครั้งนี้ผมเตรียมพร้อมเพราะใช้ที่คีบเนื้อแทนมือตัวเองเพื่อความปลอดภัย...แม้จะไม่ใช่เวลาอาหารแต่ในเมื่อผมอยากเจอตัวก็คงต้องล่อด้วยอาหารเท่านั้น ห้องกระจกมือพื้นที่ประมาณ30x30เมตรซึ่งถือว่ากว้างสำหรับมนุษย์แต่ก็ถือว่าแคบสำหรับไดโนเสาร์
ผมคีบเนื้อแล้วโยนลงไปบนพื้นหญ้าให้ไกลพอสมควรแล้วรอว่าเมื่อไหร่อีกฝ่ายจะโผล่ออกมา...เมื่อรอได้สักพักต้นไม้ใหญ่ด้านหลังก็เริ่มขยับพร้อมกับเสียงเดินของสิ่งมีชีวิตเพียงตัวเดียวที่อาศัยอยู่ ส่วนแรกที่ปรากฏออกมาให้เห็นคือหัวกระโหลกอันใหญ่โตตามมาด้วยร่างกายสีเทาเข้มที่มีลายพาดสีส้มที่เดินออกมา
ดวงตาสีอำพันจ้องมองมาอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้และจัดการเนื้อที่ตกอยู่บนพื้นหญ้าผทเลยอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังกินหย่อนเนื้อลงไปเพิ่มโดยให้ระยะหางระหว่างเราแคบลงทีละนิดๆจนในที่สุดส่วนหัวขนาดใหญ่ก็เข้ามาใกล้จนห่างกันไม่ถึงเมตร
“นี่...เมื่อวานนายกัดมือผมเป็นแผลรู้ไหม?”ผมเปิดการสนทนาพร้อมกับชูมือซ้ายที่พันแผลไว้ขึ้นไปให้ดู
อีกฝ่ายที่มองมาก็ทำเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางรูจมูกขนาดใหญ่แล้วจัดการเนื้อชิ้นต่อไปที่อยู่บนพื้น
“ไม่คิดจะขอโทษหรือสำนึกหน่อยเหรอ?”ผมยังคงหาเรื่องพูดไปเรื่อยเพื่อดูว่าปฏิกิริยาจะเป็นยังไงแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็ยังคงเป็นความเงียบและนิ่งเฉยเหมือนเดิม
“ผมชื่อเซโครนะ...ยินดีที่ได้รู้จักคุณโทรโอ ทาร์แรพ โซนอร์ ซอรัส”ผมพูดแนะนำตัวออกไปก่อนจะคลียิ้มให้ไดโนเสาร์ตรงหน้าบางๆ
“รู้ไหมว่าพอผมพูดชื่อสายพันธุ์นายที่ไรรู้สึกปวดหัวทุกทีเลย...ทั้งยาวทั้งไม่เพราะ...”
“จริงสิ...งั้นผมตั้งชื่อให้นายดีกว่า”ผมยังคงพูดกับตัวเองต่อไปโดยที่ไดโนเสาร์ลูกผสมพอกินเสร็จก็ทำท่าจะเดินกลับเข้าไปภายในป่าขนาดเล็ก
“เดี๋ยวๆ....จะไม่อยู่รอผมตั้งชื่อก่อนเหรอ?”ผมรีบบอกห้ามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ฟัง
“งั้นผมตั้งชื่อเห่ยๆให้เลยละกน...เป็นไดโนเสาร์ก็ชื่อเสาร์เป็นไง?...ฮะฮะฮะ”
กรร!!!
ตึง!!
ทันทีที่ผมพูดจบร่างกายอันใหญ่โตก็กระแทกเข้าที่กรงหนาพร้อมกับเสียงคำรามดังกึกก้อง...เสียงที่บ่งบอกถึงความโกรธและหงุดหงิดจนผมต้องผายยิ้มออกมาเมื่อได้รับการตอบสนอง
แปลว่าสามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อตัวเองก็เลยโกรธ...หรืออาจแค่รำคาญที่ผมพล่ามมากก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าขอคิดในแง่ดีไว้ละกัน
“ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้นเลย...ไม่เอาชื่อเสาร์ก็ได้...อืม...นายอยากชื่ออะไรล่ะ?”ผมลองถามไดโนเสาร์ที่กำลังสะบัดหัวตัวเองเพราะมึนที่จากแรงกระแทกเมื่อครู่
“ยากเหมือนกันแฮะการตั้งชื่อน่ะ...อืมๆ...ไดโน...ซอรัส...สไป...”ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่รู้ว่าจะเอาชื่อไหนดีนะ
ยังไงก็เป็นไดโนเสาร์แถมพ่อยังตั้งชื่อสายพันธุ์ไปแล้วก็ควรเป็นชื่อที่เอามาจากสายพันธุ์สินะ...โทรโอดอน แรพเตอร์ สไปโน โซนอร์
“...ยูทาร์...ยูทาร์ดีไหม?...มาจากยูทาห์แรพเตอร์ไง?”ผมถามอย่างกระตือรือร้นที่คิดออกว่าจะเรียกชื่ออีกฝ่ายว่ายังไง
“ต่อจากนี้ผมจะเรียกนายว่ายูทาร์นะ!!”ผมประกาศก้องพร้อมรอยยิ้ม
...................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i57.tinypic.com/qzonl0.jpg)
โทรโอดอน (Troodon หรือ Troödon) เป็น ไดโนเสาร์ กินเนื้อที่จัดว่าเป็นไดโนเสาร์ทีมีความฉลาดมากที่สุด ไดโนเสาร์โทรโอดอนเป็นไดโนเสาร์ที่มีชีวิตอยู่ใน ช่วงครีเตเชียสตอนปลาย พบได้ ในประเทศอเมริกาและคานาดา ไดโนเสาร์โทรโอดอนจัดว่าเป็นไดโนเสาร์ที่มีขนาดเล็กกว่า ไดโนเสาร์พันธุ์อื่น ๆ เพราะโครงสร้างที่บอบบาง ลำตัวมีความยาวประมาณ 1.8 เมตร ข้างกะโหลกศีรษะของมัน ค่อนข้างแตกต่างจากไดโนเสาร์พันธุ์อื่น ๆ เพราะบริเวณด้านหลังและด้านข้างของจมูก จะมีโครงกระดูกแหลมโผล่ออกมา ฟันมีลักษณะแหลมและเป็นซี่เล็ก ๆ ตาโต ทำให้สามารถ มองเห็นวัตถุต่าง ๆ ได้ดี มีนิ้วมือสำหรับตะครุบ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://www.trueplookpanya.com/true/blog_diary_detail.php?diary_id=12890
................................................................................
สวัสดีคะ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ที่มากมายทั้งที่พึ่งลงเพียงตอนแรก
ดีใจมากที่มีคนสนใจแนวแปลกๆแบบนี้กันมากขนาดนี้
ปลื้มมากคะ :hao5:
ตอนนี้พอจะมีความคืบหน้านิดหน่อยเนอะ...ค่อยๆเป็นค่อยๆไปละกันคะ
สำหรับการอัพจะมาอัพอาทิตย์ละครั้งนะคะหรือถ้าอาทิตย์ไหนว่างอาจมาอาทิตย์ละ2ครั้งแล้วแต่ภาระกิจที่มีคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และกำลังใจนะคะ
จะพยายามพัฒนาฝีมือในการแต่งให้มีมากขึ้นอีกคะ
ปล.มีใครอยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมคะ?(ยกเว้นncนะเพราะคงมีแน่นอนแต่ไม่ใช่เร็วๆนี้คะ)
ปล.2เรื่องนี้ปราศจากดราม่านะคะใครที่เป็นกังวลว่าจะมีฉากพระเอกตาย นายเอกถูกกิน รับรองว่าไม่มีหรอกคะ
คนแต่งชอบแนวหวานๆที่ออกแนวรักโรแมนติกค่า...อาจมีดราม่าบ้างแต่ไม่มากจนเกินไปคะ
ไว้เจอกันในตอนนหน้านะคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
โฮๆๆๆๆ ขอหวานๆเลยไม่ได้เหรอคะ ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้ขอเรื่องถัดไปก็ได้ ><
-
ชอบบบบ
น่ารักอ่ะะ ยูทาร์ๆๆๆๆ :katai2-1:
-
อยากให้ยูทาร์กินเซโครทั้งตัว....
:z1: :z1: :z1: :z1:
-
ไดโนเสาร์ตัวนี้น่ารักมากกกก
-
เอาใจช่วยเซโครนะค้าา ^^ ยูทาร์ตัวร้ายต้องสยบให้กับเซโครแน่นอน~
รอตอนต่อไปนะค้าา.. :impress:
-
ไดโนเสาร์น่ารัก5555555 :hao7:
-
คุณพ่อเล่นคัดเลือกว่าที่ลูกเขยลูกกับมือเลย
ยูทาร์ ถ้าสื่อสารได้แล้วจะเป็นคนยังไงนะ
-
ออกมา2ตอนเซโครของเราก็เจ็บตัวซะแล้ว แต่ไม่เป็นไร เพื่ออนาคตอันสดใสของทั้ง2คน
แอบคิดว่าคุณพ่อของเซโครน่ารักอ่ะ ยิ่งตอนอ้อนให้ลูกชายช่วยยิ่งน่ารัก อั้ยย๊ะ >< เป็น2พ่อลูกที่เข้ากันได้จริงๆ
อยากรู้แล้วสิว่าเซโครกัยพี่ไดโนเสาร์จะสานสัมพันธ์ยังไง ช่วงแรกๆคงยากน่าดูเลย เอาใจช่วยน้าาาาา
มีนสพ.ติดต่อมาแล้ว ว๊าวๆๆๆๆๆ เรื่องนี้ก็มีแววจะได้ตีพิมพ์สิเนี่ย รอนะคะ เรื่องแนวนี้เราช๊อบชอบ อิอิอิ
มาต่ออีกเร็วๆน้าาาา อยากอ่านต่อแล้ว
-
คุณพ่อออ ผสมตัวอะไรออกมาคะเนี่ยยย มั่วซั่วมากมาย 555555
เซโครรีบสื่อสารกับยูทาร์ให้ได้ไวๆ น้า
เป็นกำลังใจให้จ้า >_<
-
รอให้คุยกันรู้เรื่องแทบไม่ไหวแล้ววววว
พยายามเข้านะเซโคร!!!!!
-
นี่แทบรอเค้าคุยกันรู้เรื่องไม่ไหวแล้ว คงจะมุ้งมิ้งน่าดู
-
ขอให้อาทิตย์นี้ว่างนะจะได้มาอัพ2ครั้ง
ดูท่าพ่อไดโนเสาร์หนุ่มจะข้หงุดหงิดนะ สงสัยสื่อสารกับคนส่วนใหญ่ไม่รู้รเรื่อง
ต้องมีแต่้องเซโครวนี่แหละที่จะพอรู้เรื่องบ้าง สุดท้ายก็ได้ชื่อสั้นๆซะทีนะยูทาร์นะ
ดูจากลักษณะแล้วยูน่าจะโกรธที่มาขังเขาไว้แน่ๆ
ให้รีเควสฉากพิเศษใช่มะ เรารออ่านตอนน้องยูทาร์ฮีทอะ สัตว์มันจะมีช่วงฮีทใช่มะ จินตนาการไดโนเสาร์ตอนฮีทไม่ออก555
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ พลอตแบบนี้ชอบสนุกลุ้นดี
-
สนุกคะรอ
-
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
ได้ชื่อพระเอกแร้วววววว ยูทาร์~~~!!
ตอนต่อไปเซโครก้อสู้ๆนะ สานสัมพันธ์(?) กันเร็วๆนะจ๊ะ ^0^
-
จะคุยกันรู้เรื่องหรือเปล่า :katai5:
-
ทำไมรู้สึกว่าไดโนเสาร์น่ารักจัง 55555555
รอตอนต่อไปนะคะ
-
โอ้ยยยชอบๆๆๆ
อยากให้ว่างมาลง2ครั้งทุกอาทิตย์เลย
-
มาแล้วววว เรามารอทุกวันเลยยย ชอบมากๆๆ พ่อยูทาร์เราไปกัดเข้านาย?? แบบนั้นไม่ได้นะรู้มั้ยยย ยิ่งอ่านยิ่งน่าติดตามค่า :z3:
ปล.ยินดีด้วยกับทางสำนึกพิมพ์ค่า
-
มาจิ้มมม
เรารอของนายทั้งสองเรื่องเลยนะ
ยูธาร์ เซโคร
ชื่อเเปลกดี 555
-
แอร๊ยยย น้องเสาร์ เอ้ย! ยูทาร์นายมีชื่อใหม่แล้วน้า~ดีใจไหม?(ผมนี้ดีใจมาก ฮ่าๆๆ)
เลือดน้องเซโครหวานอ่ะดิ แต่กินบ่อยๆไม่ได้นะ ต้องรอให้ถึงเวลา(?)ก่อนค่อยกินนะ..กินทั้งตัวเบย กร้ากกก :hao7:
บวกๆให้กำลังใจจ้า :mew1: #give me moreeee!
-
พล็อตแปลกดีค่ะ ติดตาม
-
กลายรักครั้งที่❧3
เวลาได้ผ่านเลยไปเป็นวันเป็นอาทิตย์จนถึงเดือน...ในทุกๆวันเซโครจะมานั่งให้อาหารยูทาร์วันละ2ครั้งและจะนั่งเล่าสิ่งต่างๆให้ฟังเป็นประจำเพื่อดูว่าจะมีปฏิกริยาอะไรกับมาบ้างไหมแต่นอกจากจะไม่มีท่าทีอะไรแล้วพอกินเสร็จก็รีบเดินหนีกลับเข้าไปด้านในทันทีราวกับรำคาญผม...
แต่ผมก็ไม่หยุดที่จะพล่ามให้ยูทาร์ฟังเพราะผมคิดว่าการพูดคุยและบอกหลายๆสิ่งจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้เรื่องราวของโลกใบนี้มากขึ้นและยังสร้างความเชื่อใจ อย่างน้อยๆยูทาร์ก็ต้องจำกลิ่นและเสียงของผมได้บ้างแหละ
วันนี้ถือเป็นวันครบรอบสองเดือนตั้งแต่ที่ผมตั้งชื่อและเรียกชื่อยูทาร์มา...ผมเลยฉลองเลยการให้อาหารที่หลากหลายมากขึ้นโดยปกติผมจะให้แค่เนื้อวัวกับปลาแต่ครั้งนี้ผมให้เนื้อหมู เนื้อไก่และเนื้อแกะเพิ่มเข้าไป
“ยูทาร์...ได้เวลามื้อเที่ยงแล้วนะ”ผมตะโกนขึ้นพร้อมๆกับก้าวขาเข้าไปในห้องสำหรับให้อาหาร...ตั้งแต่วันที่ผมขอพ่อว่าจะลองสื่อสารกับไดโนเสาร์ลูกผสมตัวนี้ผมก็ได้ครอบครองห้องนี้เหมือนเป็นห้องของตัวเอง
ดูเหมือนนักวิทยศาสตร์คนอื่นๆจะไม่สนใจยูทาร์นักเพราะนิสัยที่ดุร้ายและก้าวร้าวกว่าไดโนเสาร์พันธุ์อื่นๆ...ผมก็ว่ายูทาร์ดุมากแต่ถึงจะอย่างนั้นเขาก็ต่างจากไดโนเสาร์ตัวอื่นเพราะสามารถรับรู้ได้ สักวันนึงผมต้องสื่อสารกับยูทาร์ได้แน่
ไม่สิ! ผมจะทำให้ยูทาร์พูดให้ได้!!
“นี่เราตังความหวังมากไปรึเปล่านะ...”ผมพึมพำระหว่างหย่อนเนื้อลงไปทางช่องให้อาหาร เสียงของใบไม้ที่เสียดสีกันทำให้ผมรู้ว่ายูทาร์กำลังจะมาแล้ว
ร่างของไดโนเสาร์ขนาดใหญ่กว่า8เมตรเดินตรงเข้ามาแล้วใช้ปากที่มีขากรรไกรอันใหญ่จัดการเนื้ออย่างรวดเร็วเหมือนอย่างทุกวัน...
ตอนนี้อยู่ในร่างไดโนเสาร์งั้นเหรอ
จากการที่เฝ้าสังเกตมาเป็นเวลานานกว่า2เดือนผมได้รู้มาว่าใน1วันยูทาร์จะเปลี่ยนร่างได้ไม่แน่นอนบางวันเป็นร่างมนุษย์2ครั้งและคงร่างอยู่ราว2ชั่วโมงแต่เวลาในการกลายร่างจะไม่แน่นอนบางวันในช่วงเวลาให้อาหารก็จะอยู่ในร่างมนุษย์บางทีก็จะอยู่ในร่างไดโนเสาร์
“ยูทาร์...รู้ไหมว่าข้างนอกมีท้องฟ้าที่มีทั้งเมฆและลมพัดทำให้รู้สึกสบายมากเลยนะ...ถ้ายูทาร์ได้ออกไปต้องชอบแน่ๆ...”ผมเริ่มพูดคุยระหว่างให้อาหารเหมือนปกติในทุกๆวัน
“ถึงในนี้จะเป็นห้องแอร์แต่อยู่มากๆก็ไม่ดีต่อสุขภาพนะ...ผมหวังว่าสักวันจะจะพายูทาร์ออกไปข้างนอกนั่น”
“ผมกำลังให้พ่อสร้างที่อยู่ให้ยูทาร์นะ...ความจริงก็เตรียมสร้างตั้งแต่วันแรกที่ยูทาร์เกิดแล้วแต่ตอนนี้ต้องทำการปร้บปรุงเพื่อให้อยู่ง่ายมากขึ้น...อีกไม่กี่อาทิตย์ก็คงเสร็จเรียบร้อยแล้ว”ผมยังคงเล่าเรื่องราวของโลกภายนอกให้ยูทาร์ฟังต่อไปเรื่อยๆจนอาหารที่มีในถังหมดแล้ว
เมื่ออาหารหมดผมเลยขยับแล้วถอยหลังไปนิดหน่อยจนพิงหลังเข้ากับกำแพงแล้วมองไปยังยูทาร์ที่หยิบเนื้อชิ้นสุดท้ายขึ้นมากิน...หลังจากที่กินยูทาร์ก็คงกลับไปด้านในเหมือนในทุกๆวันผมเลยหยุดพูดคุยแล้วเปลี่ยนมานั่งมองอีกฝ่ายเงียบๆแทน ความจริงผมก็รู้สึกเหนื่อยแล้วล่ะเมื่อคืนต้องอยู่ช่วยพ่อทำการวิเคาร์เนื้อเยื่อของทาไนสโตรพีอัสเลยได้นอนน้อยกว่าปกติ...
ทาไนสโตรพีอัสเป็นไดโนเสาร์มีขนาดยาวประมาณ 6 เมตร จุดเด่นคือมันมีคอยาวเฟื้อยเหมือนงูที่วัดได้ประมาณ 3-6 เมตรและมีน้ำหนักประมาณ1ตันกว่า มีขาที่ค่อนข้างสั้นทำให้มันตะเกียกตะกายเดินบนพื้นดินได้ไม่ดีนัก ดังนั้นมันจึงมีชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ในน้ำซึ่งมันสามารถที่จะวิ่งหรือเดินไปใต้น้ำได้อย่างรวดเร็วคอที่ยาวของมันนั้นสันนิษฐานว่าคงเอาไว้สำหรับการหายใจคือมันจะชูคอขึ้นมาหายใจ หรือมองอะไรๆได้ในขณะที่ตัวยังอยู่ใต้น้ำแม้มันจะมีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์แต่มันก็ไม่ใช่ไดโนเสาร์ นักวิทยาศาสตร์เพียงแค่จัดมันให้อยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานโบราณเท่านั้น...แต่พ่อของผมก็อยากคืนชีพมันขึ้นมาเพื่อให้คนรุ่นใหม่รู้จักกับทาไนสโครพีอัสมากขึ้น
เซโครนั่งเหม่อมองไปยังไดโนเสาร์ตัวใหญ่ที่หันดวงตาสีอำพันมาให้เห็นทั้งสองข้างก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับสติของผมที่ค่อยๆหายไปอย่างเชื่องช้า
เสียงลมหายใจดังขึ้นในระยะใกล้ทำให้ดวงตาสีเขียวอมฟ้มของเซโครลืมขึ้นมาอย่างงงงวยก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้าชัดๆ...
ผมกระพริบตาปริบๆหลายต่อหลายเพื่อมองภาพตรงหน้าว่าเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน...ถึงมันจะเหมือนอยู่ในความฝันมากก็ตามที
ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ยูทาร์มานอนหลับสนิทอยู่ตรงหน้าผมข้างหน้ากรงเหล็ก...ร่างของไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่นอนลงกับพื้นหญ้า ดวงตาสีอำพันที่ปิดลงพร้อมกับเสียงหายใจที่ดังขึ้นทำให้ผมยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่...
ในที่สุดความพยายามตลอด2เดือนก็สัมฤทธิ์ผลแล้ว!!
ถ้าร้องไห้ออกมาได้ผมก็คงทำไปแล้วแต่ตอนนี้ผมต้องตั้งสติแล้วไม่ให้ความพยายามทั้งหมดนี่ต้องสูญเปล่า...ในเมื่อยูทาร์มาหลับต่อหน้าผม ผมก็ควรจะแสดงความจริงใจโดยการขยับเข้าไปใกล้กรงตรงหน้าอีกนิดจนระยะห่างของพวกเราแคบลงมีเพียงแค่ซี่กรงเหล็กที่กันพวกเราไว้เท่านั้น
“ฝันดีนะยูทาร์”ผมกระซิบบอกพร้อมกับหลับตาลงอีกครั้งแล้วปล่อยสติให้หายไปอย่างช้าๆโดยภวนาในใจไม่ให้ตื่นขึ้นมาแล้วมีเลือดอาบร่าง
ฝืด
เสียงหอบหายใจแรงๆทำให้สติผมค่อยๆกลับเข้าร่างก่อนจะลืมตาสีเขียวอมฟ้าขึ้นอย่างมึนงง...สิ่งแรกที่เห็นคือดวงตาสีเหลืออำพันอันแสนคุ้นเคย...
หื้อ?
สติผมกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร...ผมจ้องไปที่ดวงตาสีอำพันนั่นอย่างตื่นตกใจเช่นเดียวกับเจ้าของดวงตาขนาดใหญ่ที่จ้องมาทางผม เสียงสูดหายใจเข้าออกที่ดังขึ้นข้างๆเหมือนกำลังถูกดมกลิ่นอย่างใกล้ชิด
ไม่มีเสียงขู่คำราม!
ไม่มีการเดินหนี!!
สองมือของเซโครค่อยๆยกขึ้นแล้วดึงแก้มตัวเองราวกับจะเช็กให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือจินตนาการที่เกิดขึ้นภายในหัวตัวเองและเมื่อความเจ็บแปร๊บแล่นเข้าร่างรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว...
ไม่ใช่ความฝัน!
นี่เป็นความจริง!!
“ยูทาร์...”ผมเรียกชื่อของไดโนเสาร์ตรงหน้าเบาๆด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข
ดวงตาเรียวคมสีอำพันยังคงจ้องมาที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมราวกับจะสื่อความนัยบางอย่างที่ไม่อาจบอกได้แน่ชัดแต่สิ่งที่รู้คือเขาเริ่มเชื่อใจผมและรู้ว่าผมไม่ได้คิดร้าย
ผมค่อยๆยกมือขึ้นแล้วทาบลงไปตามซี่กรงเหล็กช้าๆบริเวณจมูกที่กำลังหายใจเข้าออกอยู่ พอผมวางมือทาบลงไปลมหายใจร้อนๆก็เป่ารดมือผมพร้อมกับเสียงหายใจที่ดังขึ้นกว่าเดิม
“นายกำลังทำให้ผมดีใจรู้ไหม?”ผมบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม
“นี่เป็นครั้งแรกที่นายไม่ขู่ไม่คำรามและไม่เดินหนี...ขอบคุณที่เข้าใจ...ผมไม่ได้คิดร้ายผมอยากเป็นเพื่อนกับยูทาร์นะ”ผมพูดต่อแล้วขยับมือข้างที่วางทาบกับซี่กรงไปมาราวกับได้ลูบผิวของอีกฝ่ายจริงๆ
“ยูทาร์...”
แกร็ก!
“เซโครคุณฟรานเรียกน่ะ”เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงเรียกทำให้ยูทาร์ที่สงบนิงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วก่อนจะ...
กรรรรร!!!
ตึง!
เสียงคำรามดังกึกก้องพร้อมกับส่วนหัวที่กระแทกกรงเข้ามาอย่างบ้าคลั่งโดยที่สายตาจ้องไปยังผู้มาใหม่อย่างไม่เป็นมิตร ปากขนาดใหญ่ที่อ้าออกกว้างจนเห็นเขียวอันแหลมคมกับลิ้นขนาดใหญ่ที่ขบกัดซี่กรงแล้วใช้ขาหน้าข่วนกรงเหล็กจนเกิดเสียงดังลั่น
“พี่ครูช?”ผมเรียกชื่อแขกผู้มาใหม่ด้วยความตกใจแต่ดูเหมือนพี่เขาจะตกใจมากกว่าเมื่อเห็นยูทาร์ขู่คำรามใส่และข่วนกรงเหล็กอย่างแรงจนพี่เขาหงายหลังออกไปด้านอกทั้งที่ประตูยังเปิดอยู่
“ใจเย็นๆยูทาร์...ใจเย็นก่อนนะ”ผมพยายามบอกกับไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่ตอนนี้กำลังคลุ้มคลั่งขึ้นมาจนแทบไม่ยอมฟังอะไรถึงปกติจะไม่ฟังอยู่แล้วก็เถอะ
กรร!!
ตึง!
เมื่อเห็นท่าไม่ดีผมเลยรีบออกไปจากห้องให้อาหารแล้วปิดประตูที่เปิดอยู่เผื่อจะทำให้ยูทาร์สงบลงได้บ้าง...อาจเป็นไปได้ว่ายูทาร์ไม่ไว้ใจคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเข้ามาหาผมในขณะที่อยู่ในห้องให้อาหารแบบนี้...ผมได้รู้ข้อมูลอะไรหลายอย่างเพิ่มขึ้นเยอะพอดู
ถ้ายูทาร์ไม่ไว้ใจหรือไม่ชอบหน้าผมคงโดนเหมือนที่พี่ครูชโดนแล้วล่ะแปลว่าอย่างน้อยๆผมก็ได้รับความเชื่อใจที่ค่อนข้างสูงเลยสินะ...หรืออาจไม่ใช่แบบนั้นแต่เป็นเพราะพี่ครูชเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ยูทาร์ตกใจก็ได้
“พี่ครูชมีอะไรเหรอครับ?”ผมถามคนที่ยังนั่งอยู่บนพื้นห้องราวกับสติยังไม่กลับเข้าร่าง
“อ่อ...คือ...”
“ใจเย็นๆครับยูทาร์ไม่ทำอะไรคุณหรอก”ผมพูดปลอบพี่เขา คงจะตื่นกลัวเอามากแน่ก็เล่นโดนทั้งขู่ทั้งคำรามและยังมีการข่วนกรงอีก
“ไม่ทำอะไรเล่า!...ถ้าไม่มีกรงป่านนี้คงกลายเป็นอาหารไปแล้ว!!”พี่ครูชหันมาตวาดใส่ผมด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว
“ก็ใช่”ถ้าไม่มีกรงคงไม่ใช่พี่ครูชแต่ผมก็คงกลายเป็นอาหารไปแล้วเหมือนกัน
“สัตว์ประหลาดชัดๆเลย...เซโครไม่กลัวบ้างเหรอ?”พี่ครูชหันมาถามผมทั้งที่ตัวยังสั่นอยู่
“ตอนแรกก็กลัวแต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วครับ...ผมว่าน่าจะเป็นเพื่อนกับเขาได้”ผมตอบยิ้มๆโดยที่หันไปมองยังประตูให้อาหารอีกครั้ง
“เราบ้าไปแล้ว...มนุษย์เป็นเพื่อนกับไดโนเสาร์ไม่ได้หรอก”
“ผมอยากลองดู”
“ทั้งที่รู้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้น่ะเหรอ?”พี่ครูชถามกลับมา
“ครับ”
“แต่พี่ว่า...เฮ้ย!!...”ยังไม่ทันพูดจบพี่ครูชก็ถอยกรูดไปด้านหลังพร้อมกับชี้นิ้วไปยังด้านหลังผม
พอหันไปตามนิ้วมือที่ชี้ไปก็พบกับส่วนของกระจกใสที่ปรากฏภาพของไดโนเสาร์พันธุ์ผสมหรือยูทาร์กำลังมองมาพร้อมกับแยกเขี้ยวอันแหลมคม...เสียงคำรามยังคงรอดผ่านมาให้ได้ยินอย่างต่อเนื่องพร้อมกับส่วนหัวที่พยายามกระแทกกระจกออกมา
“ยูทาร์”ผมขมวดคิ้วพร้อมกับมองการกระทำของสิ่งมีชีวิตหลังกระจก
พอผมปิดประตูเพื่อไม่ให้มองเห็นแต่ยูทาร์กลับเดินมาตรงกระจกเพื่อจะมองเข้ามาภายใน...
ฉลาดมาก!
นั่นเป็นเพียงแค่คำเดียวที่ผมอยากมอบให้ยูทาร์
“พี่ออกไปรอข้างนอกก่อนเดี๋ยวผมตามออกไป”ผมบอกก่อนจะเตรียมเข้าไปในห้องสำหรับให้อาหารโดยมีดวงตาสีอำพันคู่ใหญ่จับจ้องมาที่ผมอยู่
“จะเข้าไปอีกเหรอเซโคร?”พี่ครูชเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ครับ...ผมยังไม่ได้บอกลาเขาเลยนี่”ผมบอกพร้อมกับคลียิ้มแล้วหันไปมองยูทาร์ผ่านกระจกก่อนจะชี้นิ้วเป็นสัณญาณว่าผมจะเข้าไปในนี้ถ้าฉลาดจริงก็คงเดินตามมาแน่
เมื่อเข้าไปด้านในผมก็ต้องหลุดยิ้มออกมาเมื่อส่วนหัวอันใหญ่โตกับดวงตาสีอำพันนั้นยื่นออกมาจากทางด้านข้างซึ่งเป็นห้องกระจกที่ผมอยู่เมื่อครู่...
“นายฉลาดจริงๆด้วย”ผมบอกแล้วก้าวเท้าเข้าไปใกล้กรงมากขึ้นเหมือนกับที่ยูทาร์ก็เดินเข้ามาหาผมเหมือนกัน...เสียงคำรามที่ดังจนถึงเมื่อครู่เงียบหายไปอาจเป็นเพราะพี่ครูชออกไปจากห้องแล้วก็ได้
“ยูทาร์ไม่ชอบพี่ครูชเหรอ?...หรือแค่ตกใจที่พี่เขาเข้ามากัน?”ผมลองเอ่ยถามไปตามความเคยชินสิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงพ่นลมหายใจแรงๆที่ออกมาทางจมูกขนาดใหญ่เท่านั้น
“ผมขอตีความเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่านายไม่เชื่อใจพี่ครูชแต่เชื่อใจผมน่ะ”ผมพูดขึ้นรอยๆพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา
ยูทาร์ที่ยืนเต็มความสูงเกือบ8เมตรค่อยๆก้มหน้าลงมาจนดวงตาสีอำพันนั่นสบกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผม เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่ายูทาร์กำลังสื่อสารอะไรบางอย่างแต่ผมก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าคืออะไร เสียงครางในลำคอดังขึ้นสองสามครั้งก่อนจะเงียบลงแล้วยูทาร์ก็อ้าปากขนาดใหญ่ออกมาจนเห็นฟันแทบครบทุกซี่...
ทั้งที่ควรจะกลัวแต่ผมกับหลุดขำออกมาเพราะถึงจะอ้าปากโชวฟันแต่ยูทาร์ก็ไม่ได้ขู่หรือคำรามมีเพียงแค่เสียงครางที่ดังขึ้นในลำคอเท่านั้น
“อะไร?...นายอยากบอกอะไรเหรอ?...ผมต้องไปแล้วล่ะเห็นว่าพ่อเรียกผมอยู่...ไว้เสร็จงานแล้วจะมาหาใหม่นะยูทาร์”ผมพูดขึ้นพร้อมกับก้มลงไปเก็บถังใส่อาหารที่ยังไม่ได้เก็บแล้วเดินออกจากห้องไป
เซโครเดินออกมาด้านหน้าห้องแล็บทดลองก่อนจะหันซ้ายขวามองหาพี่ครูชแต่ก็ไม่พบในขณะที่กำลังจะเดินออกไปก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งแปะไว้ที่หน้าห้องทดลองผมเลยหยิบมันขึ้นมาแล้วอ่านเนื้อหาภายใน...
(มีต่อด้านล่างคะ)
-
‘คุณฟรานให้ไปหาที่เขตA2...ขอโทษที่ไม่ได้อยู่บอกพอดีถูกเรียกตัว
พี่ครูช’
พออ่านข้อความจบผมก็เดินไปที่ลิฟท์แล้วขึ้นไปชั้น1...เขตA2ที่ว่านี่คือเขตภายในกำแพงชั้นนอกสุดหรือส่วนของกำแพงชั้นแรกโดยแต่ละฐานที่ตั้งจะแบ่งเป็น3เขตคือ1-Aไว้สำหรับเพาะเลี้ยงไดโนเสาร์ตามอายุเช่นA1เป็นที่สำหรับอนุบาลไดโนเสาร์ตั้งแต่เกิดจนถึง12เดือนโดยจะแยกไว้เป็นโซนระหว่าพวกกินเนื้อกับพวกกินพืช
ส่วนA2ที่ผมกำลังไปคือพื้นที่สำหรับไดโนเสาร์ที่อายุ1ปีถึง3ปี...ที่พ่อเรียกไปก็พอรู้อยู่แล้วละว่าเรื่องอะไร เซโครเดินออกจากฐานที่ใช้สำหรับทดลองไปขึ้นรถที่จัดเตรียมที่ด้านข้างก่อนจะขับตรงไปที่เขตA2...บนเกาะนี้เส้นทางส่วนมากจะเต็มไปด้วยต้นไม้และพื้นหญ้าทำให้ขับรถไม่ค่อยสะดวกนักแต่พึ่งมีการถางหญ้าออกทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น
ผมใช้เวลาเดินทางประมาณ15นาทีก็มาถึงฐานหลักในเขตA2 ฐานที่ถูกทำจากเหล็กเนื้อดีถูกสร้างขึ้นเป็นตึกกลมเพื่อป้องกันการชนของไดโนเสาร์และคอยสอดส่องไดโนเสาร์ได้รอบทิศทาง
เมื่อจอดรถเสร็จผมก็สแกนมือแล้วเข้ามาภายในตัวตึกที่เป็นห้องกว้างสามารถมองขึ้นไปเห็นตั้งแต่ชั้น2จนถึงดาดฟ้าทำให้ตึกนี่ค่อนข้างโปร่งแต่แข็งแรงมาก
“เซโคร”เสียงอันคุ้นเคยทำให้ผมหันไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะพบผู้ชายวัยกลางคนวิ่งเข้ามาโผลกอดผมไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก
“ผมอึดอัดนะพ่อ”
“ขอโทษๆ”พ่อเอ่ยพร้อมกับปล่อยผมออกจากอ้อมกอด
“แล้วเรียกมามีเรื่องอะไรเหรอ?”ผมถามทั้งๆที่พอเดาออก
“ก็เรื่องที่อยู่ของโทรโอ ทาร์แรพ โซนอร์ ซอรัสไง...ตอนนี้ใกล้เสร็จแล้วพ่อเลยอยากให้เราไปดูว่าโอเคไหมหรือต้องการจะปรับอะไรเพิ่มพ่อจะได้จัดการให้”และก็เป็นอย่างที่คิดเรื่องกรงของยูทาร์จริงๆด้วย
“แล้วกรงอยู่ทางไหนครับ?”
“ตามพ่อมาเลย”พ่อพูดก่อนจะเดินนำออกไปด้านนอกกรงขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในระยะที่ห่างกันพอสมควรไดโนเสาร์อายุปีกว่าถูกเอาไว้ในนั้นแต่ถึงจะเรียกว่ากรงแต่ก็ดูจากด้านนอกไปก็ไม่เห็นด้านในเพราะถูกทำให้เป็นพื้นที่ปิดสำหรับพวกกินเนื้อแต่จะมีประตูปิดเปิดขนาดใหญ่ไว้สำหรับตอนขนย้ายไปไว้ที่อื่น
กรงของยูทาร์ที่พ่อนำมาตอนนี้สร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้วความสูงที่กะคร่าวๆก็น่าจะ15เมตร...พ่อเดินนำเข้าไปฝั่งประตูบานใหญ่ที่กว้างประมาณ10เมตรก่อนจะเห็นภายในกรงที่เต็มไปด้วยพืชนานาพันธุ์ทั้งต้นเล็กต้นใหญ่
“ความกว้างของกรงนี้เท่าไหร่ครับ?”ผมถามขึ้นระหว่างที่นั่งลงเช็กสภาพดินที่ด้านล่าง...
ความชุ่มชื่นโอเคหน้าดินไม่อ่อนจนเกินไป
“กรงนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง100เมตร...ส่วนความสูงก็15เมตร”
“พ่อควรเพิ่มความสูงไปอีกนะอย่าลืมว่ายูทาร์มีสายพันธุ์ของสไปโนซอรัสที่ได้ชื่อว่าตัวใหญ่ที่สุดถึงจะมียีนส์ของไดโนเสาร์อื่นผสมอยู่แต่ถ้ากระโดดอาจถึงขอบกำแพงก็ได้...ผมว่าน่าจะเพิ่มไปอีกสัก5เมตรเป็นอย่างต่ำ”ผมบอกพ่อที่ยืนสำรวจอยู่ข้างๆ
“จริงอยู่ที่สไปโนซอรัสตัวใหญ่แต่นี่เนพันธุ์ผสมนะ..สายพันธุ์อื่นที่ผสมไปก็ขนาดกลางทั้งนั้น”
“ถึงจะอย่างนั้นพ่อก็ควรจะเผื่อเอาไว้ถ้าเขากระโดดหนีไปเกาะนี้จะได้กลายเป็นเกาะไดโนเสาร์จริงๆน่ะสิ”ผมพูดต่อแล้วเริ่มเดินเข้าไปสำรวจภายในให้ลึกขึ้น
“ก็ได้ พ่อจะไปบอกช่างให้เพิ่มความสูงขึ้นอีก...แล้วมีอย่างอื่นที่ต้องปรับปรุงไหม?”พ่อหันมาถามแล้วหยิบสมุดขึ้นมาจดสิ่งที่ผมบอกไป
“มีครับ...น่าจะหลายอย่างด้วย...ผมไม่เห็นมีสระน้ำหรือบ่อน้ำในนี้เลย”ผมพูดขึ้นพร้อมกับเดินหาบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ควรจะมีแต่กลับไม่มี
“มีนะแต่ขนาดความลึกกว้างแค่3เมตร”
“3เมตร?...แค่เอาหัวจุ่มไปก็ติดแล้ว...สไปโนซอรัสเป็นสัตว์ที่ใช้เวลาเกือบวันไปกับการหาอาหารในน้ำเลยนะ....ในชั้นใต้ดินทำสระน้ำไม่ได้นั้นผมเข้าใจแต่ที่นี่ยังไงก็ต้องมีสระน้ำแล้วความกว้างยาวลึกต้องมากกว่า20เมตร”ผมยื่นคำขาดแล้วหันไปมองหน้าพ่ออย่างเคืองๆ
“...แต่เขาสร้างจะเสร็จแล้วนะ”พ่อพูดเสียงอ่อย
“แล้วทำไมพ่อไม่บอกช่างตั้งแต่แรกเล่า?”
“ก็พ่อเห็นว่าไม่ต้องอยู่ในน้ำก็อยู่ได้เลยคิดว่าไม่ต้อง...”
“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยเลยพ่อ...เอางี้ละกันตรงประตูใหญ่นี่สร้างกรงอีกอันไว้สำหรับขุดสระสร้างให้ให้ประตูเปิดปิดอันนี้คู่กันไปเลย”ผมเสนอความเห็น
“ได้ๆถ้าแบบนั้นโอเค”พ่อตอบพลางจดข้อมูลลงสมุด
“อ้อ...ผมอยากได้ห้องเหมือนกับที่ให้อาหารยูทาร์ที่ห้องใต้ดินด้วย”ผมบอกออกไปเมื่อนึกออก
“ห้องให้อาหาร?...ลูกก็ให้จากด้านบนแทนไม่ได้เหรอทางช่างเขาจะสร้างสะพานไว้ด้านบนสำหรับเดินดูรอบๆกับให้อาหารด้วย”พ่ออธิบาย
“ไม่เอาครับ...แบบนั้นก็เห็นได้แต่ด้านบน...ผมอยากอยู่ในระนาบเดียวกันหรือที่ต่ำกว่านั้นถ้าจะให้ดีทำเป็นเหมือนกรงเหล็กขนาดเล็กที่คล้ายๆลิฟท์สำหรับเลื่อนขึ้นลงตามที่ต้องการแบบนั้นก็ดีนะ...พ่อให้พวกเขาทำให้ได้ไหม?”
“มันอันตรายนะถ้าเกิดกรงที่เป็นลิฟทนั่นเกิดถูกทำให้ตกไปลูกก็กลายเป็นอาหารน่ะสิ”
“ไม่ต้องห่วงครับ...ผมจะพยายามเป็นเพื่อนกับยูทาร์ให้ได้ก่อนแล้วค่อยใช้ลิฟท์ตามนี้นะครับ”
“ลูกจะเป็นเพื่อน?”พ่อพึมพำอย่างไม่แน่ใจในประโยคที่ผมเอ่ยออกไป
“ใช่ครับ...ตอนนี้เขาเริ่มไว้ใจผมแล้วเพราะงั้นผมมั่นใจว่าเขาจะเข้าใจได้ในไม่ช้าแน่นอน”ผมพยักหน้าพร้อมกับบอกพ่อด้วยความภูมิใจ
“จริงเหรอ?...สุดยอดเลยเซโคร...ขนาดคนที่ให้อาหารทุกวันยังไม่มีใครทำได้...ลูกมีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ”พ่อพูดชมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทำให้ผมยิ้มตอบกลับไปด้วย
“ผมจะพยายาม...อ้อ...พวกต้นไม้ใหญ่ๆน่ะเอาไปไว้หลังๆหน่อยดีกว่าถ้าไว้ตรงกลางแบบนี้อาจถูกวิ่งชนได้หรือถ้าอยากจะไว้ก็ใช้ปลูกรมกันสัก5ต้นตรงมุมนี้กับมุมนั้น...”ผมเริ่มอธิบายสิ่งที่คิดพร้อมกับพ่อที่เสนอความเห็นแทรกเข้ามาบ้างกว่าที่ทุกอย่างจะเสร็จก็ได้เวลามื้อเย็นข้อยูทาร์พอดี
เซโครเดินเข้ามาในห้องทดลองชั้นใต้ดินอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่คิดว่าการลงพื้นที่จริงจะเหนื่อยขนาดนี้ขนาดแค่เดินวนไปมาในกรงที่มีพื้นที่100เมตรงเองนะเนี่ยถ้าอีกกรงถูกสร้างเสร็จคงเหนื่อยกว่านี้แน่แต่ผมคิดว่ายูทาร์ต้องชอบแน่ๆก็เขาไม่เคยทั้งว่ายน้ำและดำน้ำนี่...
อยากรู้จังว่าจะเป็นยังไง
“ยูทาร์...”ผมเรียกชื่อไดโนเสาร์พันธุ์ผสมตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น วันนี้ช่างเป็นวันที่มีวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดดอะไรจะขนาดนี้
ตอนเช้าได้นอนข้างๆโดยไม่มีเสียงขู่แถมยังทำท่าเหมือนจะสื่ออะไรบางอย่างออกมา...ตกเย็นก็มายืนมองอยู่ที่ตู้กระจกทั้งที่วันอื่นไม่เคยทำแบบนี้แท้ๆ
“ยูทาร์”ผมเดินเข้าไปใกล้ตู้กระจกพร้อมรอยยิ้มโดยที่สองมือถือถังใส่อาหารไว้อยู่ ส่วนหัวขนาดใหญ่ย่อลงมาเล็กน้อยจนจมูกมาอยู่ที่หน้าผมเสียงหายใจที่ดังขึ้นพร้อมกับกระจกที่เกิดฝ้าแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังดมกลิ่นผมอยู่...หรืออาจแค่หายใจก็ได้
แต่ถ้าแค่หายใจคงไม่ต้องก้มลงมาหรอกใช่ไหม?
“ผมจะเข้าไปให้อาหารนะที่ห้องนั้น”ผมพูดเสียงดังแล้ววางถังลงก่อนจะชี้ไปที่ห้องด้านข้าง ยูทาร์ที่มองตามนิ้วก็ค่อยๆเคลื่อนกายไปด้านนั้นอย่างช้าๆ
“เยส!!!”นั่นทำให้ผมชูกำปั้นของตัวเองขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ
ยูทาร์เข้าใจผมแล้ว!!
เซโครไม่รอช้าที่จะเข้าไปในห้องด้านข้างแล้วหันไปยิ้มให้กับไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่มีความสูงกว่า8เมตรด้วยความดีใจ...ผมค่อยๆใช้ที่คีบหย่อนนื้อไปให้ยูทาร์ที่อ้าปากรอรับอยู่ชิ้นแล้วชิ้นเล่า
“วันนี้ผมไปดูบ้านใหม่ของยูทาร์มาด้วยนะ....รู้ไหมว่าในนั้นมีต้นไม้เต็มไปหมดเลยแถมยังกว้างมากๆยูทาร์สามารถวิ่งเล่นได้เลยนะ...”ผมเริ่มเล่าสิ่งไปเจอมาวันนี้ให้ฟังระหว่างที่ให้อาหาร
“แถมยังมีต้อง2ห้องแนะ...อีกห้องผมเป็นคนคิดให้เลยยูทาร์จะได้มีที่ว่ายน้ำใหญ่ๆไง...รู้จักไหมว่ายน้ำน่ะ...เขาทำกันแบบนี้ไง”ผมบอกพร้อมกับยกแขนขึ้นแล้วทำท่าว่ายน้ำให้ดู
“ถ้าวันนึงผมสามารถเข้าไปว่ายน้ำเล่นด้วยได้ก็คงดีเนอะ...ยูทาร์อยู่ตัวเดียวก็คงจะเหงาใช่ไหมแต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วเพราะผมจะอยู่กับยูทาร์เอง...พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”
“น่าแปลกเนอะที่ผมรู้สึกผูกพันธ์กับยูทาร์มากทั้งที่เราเจอกันแค่2เดือนเอง...มันเหมือนกับได้เจอเพื่อนสนิทที่จากกันนานงั้นแหละ...”
เซโครยังคงพูดคุยต่อไปเรื่อยๆด้วยรอยยิ้ม...ไม่รู้ว่าความมั่นใจนั่นมาจากไหนแต่มันค่อยๆมีมากขึ้นจนผมเชื่อว่าสักวันต้องเป็นเพื่อนกับอีกฝ่ายได้แน่...ร่างของมนุษย์ที่ปรากฏออกมาเป็นบางครั้งถ้าสอนให้ยูทาร์ควบคุมการกลายร่างได้ยูทาร์ก็จะกลายเป็นมนุษย์ปกติ
“ถ้ายูทาร์กลายร่างเป็นมนุษย์แล้วพูดได้นะผมจะพายูทาร์ไปเที่ยวที่บ้านเกิดผมและมหาวิทยาลัยที่ผมจบมา...จะพาไปทุกๆที่ที่ยูทาร์อยากไปเลยนะ...ผมจะตั้งมันไว้เป็นความฝันและต้องทำให้ได้...”
“เรามาพยายามด้วยกันนะ...ผมจะพยายามเข้าใจยูทาร์เพราะงั้นยูทาร์ก็ต้องพยายามเข้าใจผมด้วยนะ”ผมเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาสีอำพันนั่นก่อนจะยิ้มกว้างออกมา ยูทาร์ฟังสิ่งที่ผมบอกเงียบๆพร้อมกับกินอาหารที่ผมคีบส่งไปให้
ความจริงผมก็อยากจะป้อนด้วยมืออยู่หรอกแต่ก็อันตรายไปถึงยูทาร์จะไม่มีเจตนาที่จะกัดแต่เขาคงจะกะแรงไม่ถูกว่าแค่ไหนถึงจะไม่ทำให้มือผมขาดไปพร้อมกับชิ้นเนื้อ
พออาหารหมดผมก็นั่งเอาหลังพิงกับซี่กรงเหล็กที่มีเสียงลมหายใจดังขึ้นจากทางด้านหลัง...ยูทาร์ไม่ได้เดินกลับไปเหมือนเมื่อวานแต่กลับอยู่ข้างๆผมเหมือนเมื่อเช้า
“...ยูทาร์อยากอยู่ข้างๆผมเหรอ?”ผมเอียงคอไปถามผ่านซี่กรงเหล็ก
ยูทาร์ไม่ได้ตอบกลับมาแต่ก็ไม่ได้ลุกหนีสิ่งที่ทำมีเพียงดมกลิ่นผมผ่านทางซี่กรงเท่านั้น...บางทีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องดมหลายครั้งหรือว่ากลิ่นตัวผมจะเปลี่ยน?
“ผมก็อยากอยู่ข้างๆยูทาร์นะ”ผมบอกออกไปตามความจริง...ตั้งแต่มาทำงานที่นี่อย่างจริงจังคนที่ผมคุยด้วยมากที่สุดก็คือยูทาร์นี่แหละ
ถึงผมจะมีคนที่รู้จักอยู่บ้างแต่พวกเขาก็เอาแต่ทำงานกันตั้งแต่เช้าถึงเย็นไม่ค่อยมีเวลามาพูดคุยกับผมนักหรอกเรียกได้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกสนิทกับยยูทาร์มากกว่าคนอื่นที่อยู่ที่นี่ซะอีก
“จริงด้วยยูทาร์มาถ่ายรูปกันดีกว่า”ผมพูดขึ้นอย่างนึกสนุกแล้วควักเอามือถืออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
กล้องหน้าถูกเปิดขึ้นพร้อมกับมือผมที่ยกมือถือขึ้นแล้วเอียงองค์ศาให้เห็นทั้งและยูทาร์ที่อยู่ที่ฝั่งนึง ทันทีที่ผมกดถ่ายแสงแฟร็ชที่ลืมปิดก็ทำให้เสียงขู่คำรามที่หายไปกลับมาอีกครั้งนึง
กรร!!
ตึง!
ยูทาร์ขู่คำรามเสียงดังพร้อมกับอ้าปากแยกเขี้ยวออกมาแล้วพ่งเข้าชนซี่กรงเหล็กอย่างแรงงจนเกิดเสียงดังตึงติดกันหลายต่อหลายครั้ง
“ยูทาร์...ใจเย็นๆ...ผมขอโทษไม่ต้องตกใจนะ...ผมขอโทษ”ผมรีบพร่ำบอกขอโทษและหวังว่าจะได้รับการอภัย...
ผมมันบ้าที่ลืมปิดแฟร็ช!
การถ่ายรูปครั้งนี้อาจทำลายความเชื่อใจที่สะสมมาตลอด2เดือนให้หายไปในพริบตา...ทำไมผมึงไม่คิดอะไรให้รอบคอบกว่านี้นะ!!
“ผมขอโทษยูทาร์...ใจเย็นๆ...สงบลงซะนะเด็กดี”ผมพยายามส่งเสียงบอกยูทาร์ที่วิ่งเข้าชนกรงเหล็กนับครั้งไม่ถ้วนจนส่วนหัวเริ่มมีเลือดไหลออกมา
“ยูทาร์หยุดนะ...เลือดนายไหลใหญ่แล้วเห็นไหม?”ผมตะโกนลั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว...เพียงแค่เห็นเลือดที่ไหลลงมาจากส่วนหัวนั่นความเจ็บปวดของยูทาร์ก็เหมือนจะสื่อมาถึงผมด้วย...
คนที่ทำให้ยูทาร์เลือดออกก็คือผมเอง
“หยุดเถอะ...นายเจ็บมากแล้วนะ”ผมบอกเสียงอ่อนแล้วขยับไปยืนด้านหน้าของยูทาร์ น้ำตาที่ไหลลงมาผมปล่อยให้มันไหลต่อไปโดยไม่เช็ดมันสักนิดตอนนี้ผมต้องหยุดยูทาร์ก่อน
กรร!!!
ยูทาร์ที่คลุ้มคลั่งเริ่มสงบลงอย่างช้าๆดวงตาสีอำพันก้มลงมาจนอยู่ในระดับสายตาผม...ภาพสะท้อนของผมที่ยืนน้ำตาไหลอยู่ตรงหน้ายูทาร์ปรากฏอยู่บนดวงตาคู่ใหญ่เหมือนกำลังสงสัยว่าน้ำที่ไหลออกมานั่นคืออะไร
“ยูทาร์...ดีมาก...เด็กดี”ผมพูดขึ้นพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้กรงมากขึ้นแล้วทาบมือลงบนกรงเหล็กอย่างเชื่องช้า...เสียงหอบหายใจที่ดังถี่แสดงให้เห็นว่ายูทาร์ใช้แรงไปเยอะพอดู
“ผมขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ”ผมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดและหวังว่ายูทาร์จะให้อภัย
เสียงพ่นลมหายใจดังขึ้นแรงๆจนน้ำมูกของยูทาร์เปรอะตัวผมเต็มไปหมดถึงจะถูกกันด้วยกรงแต่ก็ยังเลอะมากอยู่ดี
“นี่เอาคืนผมเหรอ?”ผมหันควับไปถามเสียงแข็งแล้วอมยิ้มเมื่อได้รับการยกโทษแล้ว
ฝืด!!
เสียงพ่นลมหายในดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับของเหลวจำนวณมากที่ปะทะเข้าร่างผมอย่างต่อเนื่องจนผมต้องนั่งลงกับพื้นแล้วขดตัวเป็นก้อนกลมๆเพื่อหลีกหนีน้ำมูกพวกนั้น
พอยูทาร์เหมือนจะพอใจก็หยุดการกระทำแล้วเดินหันหลังไปที่อื่นท่ามกลางเสียงตะโกนตามหลังที่ผมส่งออกไปด้วยความขุ่นเคืองปนดีใจ...
“ฝากไว้ก่อนเถอะ!!”
...........................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i57.tinypic.com/33nuqkw.jpg)
ทาไนสโตรพีอัส(Tanystropheus) มีขนาดยาวประมาณ 6 เมตร จุดเด่นคือมันมีคอยาวเฟื้อยเหมือนงูที่วัดได้ถึง 3 เมตร(10 ฟุต) สามารถยืดออกได้ไกลอีกด้วย แต่มีขาที่ค่อนข้างสั้น ทำให้มันตะเกียกตะกายเดินบนพื้นดินได้ไม่ดีนัก ดังนั้นมันจึงมีชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ในน้ำ ซึ่งมันสามารถที่จะวิ่ง หรือเดินไปใต้น้ำได้อย่างรวดเร็ว คอที่ยาวของมันนั้น สันนิษฐานว่าคงเอาไว้สำหรับการหายใจ คือมันจะชูคอขึ้นมาหายใจ หรือมองอะไรๆได้ในขณะที่ตัวยังอยู่ใต้น้ำ และจับปลากินด้วยคอที่แสนจะอภิมหายาวของมัน และหากหาปลาไม่ได้มันก็จะหาสัตว์น้ำชนิดอื่นกินแทน แม้มันจะมีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์แต่มันก็ไม่ใช่ไดโนเ สาร์ นักวิทยาศาสตร์เพียงแค่จัดมันให้อยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานโบราณ ฟอสซิลของมันถูกพบที่ยุโรปและตะวันออกกลาง
แหล่งที่มา: http://www.online-station.net/entertainment/story/106
...............................................................................
สวัสดีคะ
มาอัพตอนต่อไปแล้วนะคะ
ตอนนี้เห็นคือความคืบหน้าของทั้งคู่เลยเนอะ
จะพยายามแต่งให้มีไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ๆเข้ามาในแต่ละตอนนะคะ...หวังว่าจะถูกใจทุกคนกัน
สำหรับตอนหน้าเราอยากแต่งในมุมของยูทาร์บ้างแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าถึงอารมณ์ของไดโนเสาร์มากแค่ไหน(ก็เราเป็นมนุษย์นี่เนอะ555)
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจและคอมเม้นท์นะคะ
เรื่องนี้มีคนคอมเม้นท์เยอะรู้สึกมีกำลังใจในการแต่งและจะมาต่อให้เร็วๆนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้านะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
ยูธาร์ น่ารักจัง
-
ยูทาร์น่าเอ็นดูมากเลยค่าา :m3: มีการแก้แค้นคืนด้วยการพ่นน้ำมูกใส่เซโครเสียตัวเปียกชุ่มเลยเชียวนะคะ -*- ฮ่าๆ แต่นอกจากแก้แค้นแล้ว ดูท่าว่าจะมีอาการ 'หวง' ด้วยหรือเปล่าน้อ? ไม่อย่างนั้นคงไม่ขู่พี่ครูซให้กลัวจนลนลานขนาดนั้นหรอกเนอะ ^^
อีกอย่าง..เราชอบตอนที่ยูทาร์มายืนคอยตรงห้องกระจกมากเลยค่ะ เพราะดูน่ารัก แบบสุนัขคอยเจ้าของอย่างไรก็รู้สิ~ (ทำเอาเราลืมไปชั่วคราวเลยล่ะว่ายูทาร์เป็นน้องไดฯ :laugh: )
แล้วก็ดีใจกับเซโครด้วยจริงๆ นะคะ ที่ยูทาร์เริ่มไปใจให้บ้างแล้ว..
รอตอนต่อไปนะค้าา.. >.<
-
น่ารักมากเลยค่าา
นี่ไปเรียนรู้การเอาคืนวิธีนี้มาจากไหนเนี่ย555
นึกภาพเซโครตัวเต้มไปด้วยน้ำมูกแล้ว...อุ้ปสสส :katai2-1:
รอตอนต่อไปค่าา
-
รอออออออออออออออออออ
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
:mew1: :mew1: :mew1:
-
สนุกมากก อยากให้ยูทาร์พูดได้เร็วๆจังงง o13
-
ตอนนี้น่ารักกกกกก ค้าเริ่มทำความเข้าใจกันแล้วววววว :hao3:
-
ว๊าวๆๆๆ จะรออ่านตอนพาร์ทยูทาร์บ้างนะคะ :mew1:
ว่าแต่ว่าเถอะ ขอพูดอะไรสักหน่อยนะคะ ไม่เห็นด้วยไม่ว่ากัน ไอแค่อยากแสดงความคิดเห็นน่ะค่ะ เพราะอ่านแล้วมันขัดๆจินตนาการไปสักหน่อย .... ไอว่าที่อยู่ใหม่ ที่ว่าคงเป็นที่ที่ต้องอยู่ไปตลอดชีวิตแหงๆ เพราะงั้น ตัวที่สเปเชียลขนาดนี้ฉลาดขนาดนี้
ที่อยู่เส้นผ่าศูนย์กลาง100เมตรนี่ไม่ได้กว้างเลยนะ เห็นเซโครบรรยายให้ยูทาร์ฟังมันดูเวอร์มากไปหน่อยอ่ะ คือถ้ายูทาร์ได้ไปจริงๆมันน่าจะผิดหวังพอสมควรเลยนะ ถึงจะดีกว่าที่อยู่ตอนนี้แต่ก็ไม่ขนาดที่เซโครบรรยายไว้นะ ลองคิดจากสนามกีฬาก็ได้นะคะ 100เมตรนี่วิ่งกระโดดไม่กี่ก้าวก็คงติดกำแพงแล้วอ่ะ ขอกว้างกว่านี้เหอะ
แล้วความสูงของกำแพง20เมตรนี่ไม่พอนะ ที่ไอเคยอ่านเจอ ไดโนเสาร์กินเนื้อที่สูงที่สุดนี่ 18 เมตรเลยนะคะ (ไอไม่ได้ดูพันธุ์นะคะว่าตรงกับยูทาร์รึเปล่า) เพราะงั้นจริงๆแล้วควรคิดจากสายพันธุ์ของยูทาร์ว่าสูงที่สุดที่เคยพบมานี่เท่าไหร่แล้วให้สูงกว่านั้นอีกเท่าหรือสองเท่าตัว คนเราสามารถสปิงขาได้เท่าตัวหรือมากกว่าเลยนะคะ ไม่ต้องไปดูจากนักกีฬาต่างๆก็ได้ เอาแค่เราๆนี่แหละ เล่นโดดยางตอนเด็กๆน่ะค่ะ คงนึกออกนะคะ
แล้วสระน้ำอีกอย่าง ถ้าเอาให้ว่ายสบาย สระมาตราฐานนี่50เมตรนะคะ คนเราสูงโดยประมาณ2เมตร ก็คือมากกว่าขนาดตัว12.5เท่า ลองคิดดูละกันว่าควรสร้างสระกว้างขนาดไหนให้ไดโนเสาร์อย่างยูทาร์
แต่ที่บอกว่าสร้างสระน้ำกับพื้นดินแยกกันคนละประตูนี่ไอเห็นด้วยมากเลยนะคะ คงต้องมีช่วงเวลาที่ต้องกันไดโนเสาร์เพื่อเข้าไปทำอะไรหลายๆอย่างในพื้นที่ของเขาล่ะนะ เพราะไงก็เป็นสัตว์ทดลองที่ต้องเก็บผลลัพธ์และดูแลอย่างดีด้วย
-
น่ารัก รอต่อคะ
-
เริ่มคืบหน้าแล้วแฮะคู่นี้ ><
อยากอ่านพาร์ทยูทาร์แล้ววว
มาต่อไวๆ น้า
-
แหมะ กำลังหวานๆกันอยู่ดีๆ ไหงมาสั่งน้ำมูกใส่กันได้ล่ะเนี้ย! ไม่เป็นไรๆถือว่าทำเครื่องหมายจองไว้(ใช่เหรอ?)
ความโลภของคนนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ได้มาแล้วก็ยิ่งอยากได้เพิ่มอีก...คนอ่านก็เช่นกัน ฮ่าๆๆๆๆ :hao7: (รู้ชิมิเคอะคืออะไร :katai2-1: ขออีกๆๆ กร้ากก)
บวกๆให้เพราะคนเขียนน่ารักมาลงตอนใหม่ทันก่อนที่เราจะลงแดง ฮ่าๆ :mew1:
-
คงขี้หวงมาก :laugh:
-
สนุกมากค่าาา อ่านไปตื่นเต้นไป ลุ้นว่าน้องไดโนเสาร์ของเราจะมีพัฒนาการไปในทางไหน พล๊อตน่าติดตามดี ตอนแรกแอบคิดว่าคุณพ่อแน่ใจเหรอว่ายูทาร์จะเป็นแบบที่คุณพ่อคิดได้ คือดุ โหด แข็งแรง ฉลาดแบบนี้ อาจจะพังกรงออกมาแล้วตั้งตนครองโลกก็ได้นะ แบบรวบรวมไดโนเสาร์ทั้งหมดเป็นพวกแล้วกำจัดมนุษย์ซะไรเงี้ย 55555 แต่พอมีเซโครเข้ามา ดูมีมุมอ่อนโยนน่ารักกะเค้าเหมือนกันนะ :man1: จริงๆแล้วยูทาร์น่าสงสารมากอะ เกิดมาก็ไม่มีใครเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคืออะไร งี้รึเปล่าที่ทำให้ดูโมโหตลอดเวลาในช่วงแรกๆ? เซโครดูแลยูทาร์เยอะๆนะ ไดโนเสาร์ก็น่าจะเหงาเป็น ที่โชว์ซี่ฟันนั่นเลียนแบบรอยยิ้มรึเปล่า 555 รอเวลาที่เค้าจะคุยกันรู้เรื่องละฟินเบาๆ
-
คุณยูน่ารักมากกกกกกก ตลกดีอะ
อยากรู้จังว่าคิดอะไรอยู่
รอตอนต่อไปปปปป มาไวๆน้าาา
-
ยูทาร์น่ารักมากกกก :-[
-
กริ๊ดด มาแล้วๆๆ ยิ่งอ่านยิ่งชอบอ่ะ ชอบคาแร็คเตอร์มากค่ะ ยูทาร์น่ารักกกกก ทำไมเรามองว่ายูทาร์ดูมุ้งมิ้งงุงิล่ะ เซโครสู้ๆ เข้าใจกันให้ได้เยอะๆเร็วๆน้า รอวันที่ยูทาร์จะยายบ้าน หุหุ มารอตอนหน้าค่าาา
-
ตอนนี้คืบหน้าขึ้นมากกกกก เฮ้!!
เซโครสู้ๆน๊า ยูทาร์ของเราเปนไดโนเสาร์อ่อนไหว~~~~!!! 55555555
-
มาแล้ววววววววว
ตอนนี้ยูทาร์น่ารักมากกกมีการพ่นขี้มูกใส่ด้วย555555
ขอเข้าข้างน้องเซโครหน่อยละกันว่าที่ยูทาร์อาละวาดตอนที่ตาพี่ครูซเข้ามานี่คือหวง
พอเจอกลิ่นตัวผู้อื่นแบบพี่ครูซเลยขู่ซะเพราะหวงน้องโคร (ดีนะไม่ฉี่ใส่น้องโครจองไว้ก่อน555)
อยากลองอ่านมุมมองยูทาร์ดูมั่งอะ น่ารักขึ้นทุกตอน
จะรออ่านต่อนะคะ สนุกบวกเป็ดให้เรียบร้อย
-
ยูทาร์น่าร้ากกกกกกกกกกกมาต่อเร็วๆน้า :-[ :o8: :impress2:
-
ถ้ามีมุมมองของยูทาร์ของแสดงว่าใกล้เหมือนคนขึ้นแล้วสิเนอะ
อ่านแล้วสะดุดจุดนึงค่ะ 'ตรงใช้โครโมโซมหรือDNAนี่แหละของเซโคร' นี่ดูไม่ได้ต่างจาก พี่น้อง หรือพ่อลูกกันเลยนะ
เลยรู้สึกแปลกๆเพราะ นี่เป็นพระนายของเรื่องทั้งคู่ใช่ไหม
ช่วยอธิบายตรงนี้หน่อยค่า เพราะเราอาจจะเข้าใจผิด แหะๆ
-
พ่อไดโนเสาร์ช่างน่ารักและน่าสงสารไปพร้อมๆกัน เซโครก็น่ารักจริง
2เดือนผ่านมาจะเป็นเพื่อนกันได้อยู่แล้ว สู้ๆนะ ต้องเป็นเพื่อนกันได้แน่นอน
อยากอ่านต่อแล้วววว มาต่ออีกเร็วๆนะคะ รออยู่น้า
-
กลายรักครั้งที่❧4 (ครึ่งแรก)
ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาสิ่งเดียวที่รับรู้ได้คือการล่าและฆ่าสิ่งใดก็ตามที่มีชีวิตและเคลื่อนไหว ห้องแคบที่อยู่เพียงลำพังยิ่งสร้างความสับสนให้มากขึ้น...สิ่งเดียวที่มองเห็นข้างนอกได้คือแผ่นใสๆที่อยู่ตรงหน้า
สิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่ด้านอกนั่นมองเข้ามาเหมือนเห็นสิ่งที่แปลกประหลาดและน่าขยะแขยง ในวันแรกๆที่มีชีวิตจำได้ว่าถูกสัมผัสและพาออกไปยังที่กว้างที่มีสายลมเข้ามาปะทะร่างทำให้รู้สึกอยากวิ่งแต่พอออกวิ่งกลับถูกอะไรสักมาคลุมร่างกายไม่ให้ขยับแล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ออกไปที่กว้างนั่นอีกเลย
วันแล้ววันเล่าที่ต้องอยู่ภายในพื้นที่แคบๆที่ไม่มีอะไรนอกจากต้นไม้สูง อาจเพราะขนาดตัวที่ไม่เหมือนเดิมทำให้ห้องยิ่งแคบลงเรื่อยๆ ทั้งที่ส่งเสียงเรียกร้องออกไปแต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงความเงียบและว่างเปล่า
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์บอกว่าสามารถสื่อสารกันได้รู้เรื่อง...ทั้งที่บอกแบบนั้นแต่กลับไม่เคยเข้าใจ
เพียงแค่คำรามเหล่ามนุษย์ที่ให้อาหารก็ต่างพากันหวาดกลัว ยิ่งหวาดกลัวสัญชาตญาณในตัวก็ยิ่งถูกปลุกให้ไล่ล่าพวกมัน...
ยิ่งวิ่งหนียิ่งอยากไล่
ยิ่งกรีดร้องยิ่งอยากได้ยิน
เหมือนสัญชาตญาณที่ถูกปลุกขึ้นแล้วก็ไม่สามรถหยุดมันได้
กลิ่นและรสสัมผัสของเลือดที่คาวๆยิ่งทำให้ไม่อาจหยุดตัวเองได้ทั้งที่ในหัวสั่งห้ามแต่ร่างกายบอกให้ทำ บอกให้ฝังเขี้ยวลงบนร่างของสิ่งมีชีวิตที่แสนอ่อนแอนั่น
แต่บางครั้งร่างกายกลับแปลกไปไม่เหมือนเดิม...ห้องที่แคบกลับดูกว้างขึ้นอย่างน่าประหลาดทั้งที่อยากเดินไปดูรอบๆแต่สิ่งที่ทำได้มีแค่นอนแผ่อยู่กับที่ เพียงแค่ลองยกตัวเองขึ้นร่างกายก็ฮวบลงอย่างไม่ทันตั้งตัว เขี้ยวเล็บปลายแหลมกลับหายไปกลายเป็นเพียงเนื้อหนังกุดๆสีแปลกตาและสัมผัสของเส้นบางอย่างที่อยู่บนหัวจนสู้สึกรำคาญ
ความเจ็บปวดและทรมานเกิดขึ้นในทุกวันเมื่อร่างกายขยายและหดเล็กลง...เมื่อก่อนมีมนุษย์อยู่นอกแผ่นใสๆนั่นมากมายแต่ตอนนี้กลับไม่เหลือเลยสักคน มีเพียงอาหารและมนุษย์หน้าใหม่กลิ่นใหม่เข้ามาในทุกๆวัน
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหนยิ่งฝืนอยากออกไปโดยการวิ่งชนแผ่นใสหรือกรงที่อยู่รอบๆก็จะโดนอะไรบางอย่างที่เจ็บแปร๊บแล่นเข้ามาจนแทบไม่อยากขยับเขยื่อน
ยิ่งเคลื่อนไหวยิ่งเจ็บปวนจนไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด
มนุษย์โหดร้าย...ทุกครั้งที่เข้ามาจะได้รับแต่ความเจ็บปวด
อยากฆ่า
อยากล่า
อยากทำทุกอย่างเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นนี่ให้ทุกคนได้รู้
ชีวิตที่ดำเดินไปอย่างที่ไม่รู้ว่าสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ความเงียบและความเหงาที่ต้องอยู่เพียงลำพังไม่มีแม้เสียงของสิ่งมีชีวิตอื่น
จำได้ว่าก่อนมนุษย์เข้ามาจะมีเสียงดังขึ้นนั่นเป็นสิ่งที่จำได้ขึ้นใจเลยมักจะไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ไม่ให้ใครได้เห็น...อาหารส่วนมากก็จะถูกเทกองไว้อย่างไม่ใยดีพอเสียงนั่นดังขึ้นอีกครั้งก็เป็นสัญญาณว่ามนุษย์ไปแล้ว
ยิ่งต่อต้านยิ่งเจ็บปวดเลยเรียนรู้ที่จำทำยังไงไม่ให้เจ็บอีก
มีสองทางคือหลบเลี่ยงกับขู่คำรามและพุ่งชน
นั่นทำให้พวกมนุษย์ไม่กล้าเข้ามา...
และทำให้พื้นที่นี่เงียบสงบทว่าแสนเหงา
มนุษย์ไม่พยายามแต่หวังจะเข้าใจ...
ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเห็นแก่ตัวนัก
ความคิดแบบนั้นวนเวียนอยู่ในหัวมาตลอดจนถึงวันหนึ่ง...วันที่มนุษย์หน้าแปลกกลิ่นแปลกที่ไม่เคยเห็นเข้ามา ทั้งที่คิดว่าเป็นเพียงคนให้อาหารใหม่เลยออกไปดูแต่ดวงตากลมโตสีสวยราวกับทุ่งหญ้าเขียวขจีนั่นทำให้บางอย่างเริ่มไม่ปกติเลยขู่คำรามเสียงดังเป็นการไล่ไม่ให้เข้ามาใกล้มากกว่านี้
แต่นอกจากมนุษย์นั่นจะไม่ฟังยังเข้ามาให้อาหารเหมือนไม่กลัวเสียงคำรามที่ส่งไปเลยสักนิด...ร่างกายที่หดลงทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวกนักเลยต้องคลานเข้าไปตรงที่ให้อาหาร
กลิ่นที่ไม่คุ้นเคยแต่กลับดึงดูดอย่างน่าประหลาด...มือของมนุษย์ที่ยื่นเข้ามาทำให้เผลอกัดเข้าไปเต็มแรงเพราะนึกว่าเป็นอาหาร ของเหลวสีแดงสดและกลิ่นเลือดที่อบอวนอยู่ในปากช่างหอมหวานกว่าเลือดของมนุษย์คนไหนที่เคยสัมผัส
สีหน้าที่เจ็บปวดทำให้คิดว่าคงไม่ได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สองแน่แต่คำพูดที่เหมือนคำยียวนที่ส่งมาแม้จะไม่เข้าใจความหมายแต่กลับรู้สึกแปลกเหมือนนี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน
‘ยูทาร์’
มนุษย์คนนั้นเรียกแบบนั้นและยังเรียกติดต่อกันมานานจนไม่รู้ว่านานแค่ไหนแถมยังแทนตัวเองว่า ‘ผม’...งั้นก็ควรแทนตัวเองแบบนั้นด้วยสินะ...
ผมไม่รู้ว่าคำว่า ‘ชื่อ’ ที่ว่าคืออะไรแต่เห็นเรียกบ่อยๆคงเป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตนั้นๆแล้วคนที่ตั้งชื่อยูทาร์ให้ผมก็มีชื่อว่า ‘เซโคร’
“...กรร..โกร”เมื่อพยายามจะออกเสียงแต่เสียงที่ได้มากลับไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจ
ในทุกๆวันมนุษย์ที่ชื่อเซโครจะเข้ามาให้อาหารและเล่าเรื่องหลายๆอย่างให้ฟังถึงจะน่ารำคาญจนต้องเดินหนีแต่ช่วงหลังๆกลับรู้สึกอยากฟังเสียงนั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกจนถึงวันหนึ่งที่เซโครหลับอยู่ข้างหน้าผม...
ใบหน้าตอนหลับทำให้ผมเผลอมองอยู่นานจนผล่อยหลับตามไปด้วยพอตื่นมาอีกทีใบหน้าขาวๆก็มาซบอยู่ข้างๆซะแล้ว...ดวงตาสีสวยที่สบมาพร้อมยิ้มทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่เกิดมา
มือที่วางทาบลงมาทำให้เผลอสูดดมกลิ่นและจดจำเอาไว้ ความจริงผมก็จำกลิ่นของเซโครได้ตั้งแต่วันแรกที่กัดมือแล้วล่ะ...
‘เพื่อน’
เป็นคำที่เซโครพูดขึ้นด้วยยิ้มและผมไม่เข้าใจความหมายมัน...เหมือนกับการอยู่รวมกันเป็นฝูงใช่ไหม?
น่าแปลกที่ไม่เคยมีฝูงแต่กลับรู้สึกราวกับรู้จักคำคำนี้ดี...ไม่ใช่แค่คำนั้นคำเดียวแต่มีอีกมากมายทั้งที่ไม่รู้จักแต่กลับเข้าใจ
ทั้งที่พยายามจะเข้าใจแต่เสียงนึงก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของมนุษย์อีกคนที่เดินเข้ามา…นั่นเหมือนสวิทช์บางอย่างที่ปิดอยู่ถูกเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนควบคุมตัวเองไม่ได้พอรู้อีกทีร่างกายก็พุ่งเข้าหามนุษย์คนนั้นพร้อมกับปากที่อ้าออกราวกับจะฆ่าคนที่เข้ามาให้ตาย
ไม่อยากให้ชื่อ ‘เซโคร’ ดังออกมาจากปากใคร
ไม่อยากให้มนุษย์ที่ชื่อเซโครออกไปแล้วทิ้งกันไว้แบบนี้
พอมองไม่เห็นเลยตัดสินใจเดินไปทางผนังใสๆที่เห็นมนุษย์สองคนยืนคุยกันอยู่ก่อนที่เซโครจะเดินเข้ามาใกล้แล้วชี้นิ้วไปทางห้องให้อาหาร...
หมายถึงให้ไปทางนั้นใช่ไหม?
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยอมทำตามโดยการก้าวเข้าไปที่เดิมแล้วเดินเข้าไปหาเซโครที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า...คำที่เหมือนเอ่ยชมทำให้รู้สึกดีใจอย่างประหลาด
‘เชื่อใจ’
คำคำนั้นคืออะไร?
ไม่เข้าใจแต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
ผมเลยพยายามจะเรียกเซโครแต่ดูเหมือนจะทำได้เพียงแค่อ้าปากกว้างๆเท่านั้นแต่อีกฝ่ายกลับหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะบอกลาแล้วออกไปจากห้อง
และอีกครั้งที่เซโครเข้ามาให้อาหารผมแต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือของอะไรสักอย่างที่เป็นเครื่องสี่เหลี่ยมทันทีที่เซโครยกมันขึ้นแสงสีขาวก็สว่างออกมาจนผมคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้าเลยขู่คำรามและวิ่งชนหมายจะให้สิ่งที่ขวางกั้นอยู่นั้นหายไป
‘จะไม่ยอมให้อะไรมาทำร้ายเซโคร!’
ความนึกคิดดแปลกๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นกลับเด่นชัดขึ้นมาอย่างหน้าประหลาด
ร่างกายขยับไปก่อนที่จะรู้ตัว โดนสติและสัญชาตญาณดิบกลืนกินจนแทบไม่รับรู้อะไรนอกจากจะทำลายสิ่งที่ขวางอยู่เท่านั้นกว่าที่จะรู้ตัวดวงตาสีอำพันของตัวเองก็สะท้อนภาพของเซโครที่มีน้ำใสๆอาบอยู่เต็มใบหน้ายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว
‘เจ็บ’
คำคำนี้ผุดขึ้นมาทั้งที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันคล้ายๆกับตอนที่ร่างกายหดลงแต่ความเจ็บปวดและทรมานมันมากกว่านั้นเพียงแค่เห็นน้ำใสๆนั่น...ผมก็หยุดการเคลื่อนไหวในทันที
แววตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงและอ่อนโยนทำให้ผมอยากจะเห็นมันอีก
ช่วงเวลาที่ไม่มีเซโครอยู่มันเงียบมาก...เหมือนกับแสงสว่างมันได้ดับลงอยากให้ถึงเวลาอาหารเร็วๆเพื่อจะได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้น
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่โหยหา
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อยากเจอ
และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะได้สัมผัส
อยากสัมผัสเซโคร...ครั้งสุดท้ายที่สัมผัสมันมาพร้อมกับรสและกลิ่นคาวเลือดอันหอมหวานแต่ครั้งนี้จะไม่ทำให้เซโครต้องเจ็บ...
อยากสัมผัสจัง
มันจะอุ่นขนาดไหนกันนะ
......................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i57.tinypic.com/5o9lzl.jpg)
ไทแรนโนซอรัส หรือ ทิแรนโนซอรัส (ชื่อวิทยาศาสตร์: Tyrannosaurus แปลว่า กิ้งก่าทรราชย์ มาจากภาษากรีก) เป็นสกุลหนึ่งของไดโนเสาร์ประเภทเทอโรพอด ชนิดเดียวที่เป็นที่รู้จักในสกุลนี้คือ ไทแรนโนซอรัส เรกซ์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Tyrannosaurus rex; rex แปลว่า ราชา มาจากภาษาละติน) หรือเรียกอย่างย่อว่า ที. เรกซ์ (T. rex) เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ มีถิ่นอาศัยตลอดทั่วตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกา ซึ่งกว้างกว่าไดโนเสาร์วงศ์เดียวกัน ไทแรนโนซอรัสอาศัยอยู่ในยุคครีเทเซียสตอนปลายหรือประมาณ 68 ถึง 65 ล้านปีมาแล้ว เป็นหนึ่งในไดโนเสาร์พวกสุดท้ายที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนก ซึ่งมีชีวิตอยู่ก่อนการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ครั้งที่สามในยุคครีเทเชียส
ไทแรนโนซอรัสเป็นสัตว์กินเนื้อ เดินสองขา มีกะโหลกศีรษะที่ใหญ่ และเพื่อสร้างความสมดุลมันจึงมีหางที่มีน้ำหนักมาก มีขาหลังที่ใหญ่และทรงพลัง แต่กลับมีขาหน้าขนาดเล็ก มีสองกรงเล็บ ถึงแม้ว่าจะมีไดโนเสาร์กินเนื้อชนิดอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าไทแรนโนซอรัส เรกซ์ แตมันก็มีขนาดใหญ่ที่สุดในไดโนเสาร์วงศ์เดียวกันและเป็นหนึ่งในผู้ล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนพื้นพิภพ วัดความยาวได้ 13 ม.สูง 4 ม. จากพื้นถึงสะโพก และอาจหนักถึง 6.8 ตัน ในยุคสมัยของไทแรนโนซอรัส เรกซ์ที่ยังมีนักล่าขนาดใหญ่ชนิดอื่นๆนั้น ไทแรนโนซอรัส เรกซ์อาจเป็นนักล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร เหยื่อของมันเช่น แฮโดรซอร์ และ เซอราทอปเซีย เป็นต้น ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าโดยพื้นฐานแล้วไทแรนโนซอรัส เรกซ์เป็นสัตว์กินซาก การถกเถียงในกรณีของไทแรนโนซอรัสว่าเป็นนักล่าหรือสัตว์กินซากนั้นมีมานานมากแล้วในหมู่การโต้แย้งทางบรรพชีวินวิทยา
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ไทแรนโนซอรัส
.......................................................................
สวัสดีคะ
ครั้งนี้มาอัพเร็ว(แต่แค่ครึ่งเดียว)เพราะหลังจากนี้จะมีธุระคะคงมาอัพไม่ได้กว่าจะเสร็จน่าจะปลายๆสัปดาห์
ตอนนี้ลองเล่าในมุมของยูทาร์บ้าง...พยายามบรรยายออกมาโดยใช้อารมณ์แบบไม่เข้าใจตามที่เราคิดจนได้ออกมาตามนี้แหละคะ
ไว้มารอดูว่าครึ่งหลังจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกันนะคะ
วันนี้ขอตอบ2เม้นท์ที่น่าสนใจก่อนนะคะ
ถึงคุณ เกริด้า(๐-*-๐)v : ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ให้มานะคะจะเอาไปปรับปรุงแล้วจะลงใหม่อีกรอบนึงคะถ้ามีตรงไหนคิดว่าไม่เหมาะสมสามารถติได้เลยนะคะ...ขอบคุณจริงๆคะ
ถึงคุณ ohuii : คำตอบของคำถามเราเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่าตกลงยังไงแน่...คือตอนแรกเราเพียงแค่คิดว่ายีนส์ของเซโครที่อยุ่ในตัวยูทาร์เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ยูทาร์สามารถกลายเป็นมนุษย์แต่ตอบโจทย์ที่ว่าทำไมยูทาร์ถึงเชื่องกับเซโครมากกว่าคนอื่น...พอได้เจอคำถามนี้มาเราเลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมคะ เห็นว่าในยีนส์นั้นบางอย่างก็ไม่ได้อยู่ในDNAจึงไม่จำเป็นต้องเป็นพี่น้องหรือสายเลือดเดียวกันคะ ที่เขียนมาอาจดูงงๆเราก็เริ่มงงแล้วคะ...เอาเป็นว่าไม่ได้เป็นพี่น้องหรือพ่อลูกแต่อาจมีเหมือนกันอย่างพวกกรุ๊ปเลือดหรือเพศคะ :hao5:
ขอขอบคุณทุกๆกำลังและทุกๆคอมเม้นท์รวมทั้งคำติชมต่างๆด้วยนะคะ
แต่งเรื่องนี้แล้วรู้สึกมีความสุขมากคะและอยากเห็นฉากบูีๆด้วยแต่ต้องรอไปก่อนเนอะ555+
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
ยูทาร์หวงเซโครจริงๆ ด้วยน้าา≧﹏≦แอร๊ย~ น่ารักสุดๆ ไปเลยค่าา งื้อออ ช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก เอาใจช่วยยูทาร์ให้ควบคุมการเปลี่ยนร่างได้ไวๆ ก็แล้วกันนะคะ จะได้สัมผัสเซโครได้ดังใจหวังเสียที ^^
-
ที่แท้น้องยูแค่กลัว...อ่าห์น่ารักจุง...
-
ขี้หวงเหมือนกันนะเนี่ย5555 คนอื่นจะเรียกชื่อก้ไม่ได้
หุวววปลายสัปดาเลยหรอค่ะ :mew2: ติดเรื่องนี้อะชอบๆ
นานๆทีจะมีคนแต่งเรื่องแนวนี้ให้อ่าน
-
ขี้หวงน่าดู
-
ยูทาร์น่ารักอ่ะ แถมขี้หวง แม้แต่ชื่อก็เรียกไม่ได้แฮะ 555
อยากรู้ตอนต่อไปเร็วๆ อยากอ่านเรื่องนี้บ่อยๆ >< รอฮับบบ
-
หวงขนาดหนักเลยนะยูทาร์ :hao3:
-
ต่อๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
-
ยูทาร์ น่ารักกว่าที่คิดนะคะเนี่ย
ความจริงเราว่าน่าจะเหมือนเด็กนะ แต่นี่โตกว่าที่คิด ดีงามมมม :hao7:
รอตอนต่อไปน้าาาา
-
ค้างๆๆๆๆๆๆ /ค้างมันทุกตอน อยากอ่านต่อ ฮืออออ :ling1:
-
อ่อยยยย น่ารักเว่อมากๆๆ เลยยูทาร์
รู้สึกตัวลอยๆๆๆ มันใช่สิ่งที่เราตามหาเลยยย
อ่านตอนนี้แล้วแบบมันเขินแหะ รอวันที่ทั้งสองคน?จะได้อยู่ด้วยกัน(ยังไง) นะคะ
-
ยูทาร์น่ารักอ่าาาาาา
แต่ในความน่ารัก ก้อยังมีความน่าสงสารอยู่ :hao3:
เซโครรีบๆมาเอายูทาร์ไปอยู่ด้วยเร็ว~~~~~!!
ปล. แอบตอบคำถามของคุณ ohuii ที่คนแต่งตอบไปนะคร้า
จิงๆถ้าหากใช้ DNA ของเซโครในการตัดต่อพันธุกรรมเนี่ย มันก้อเหมือนกับการโคลนนี่แหล่ะค่ะ คือจะเหมือนกันทุกอย่าง (ยิ่งกว่าพี่น้องกันอีก) แต่จากเรื่องที่แต่ง มีการตัดแต่งพันธุกรรมของหลากหลายสายพันธุ์มากๆ เพราะฉะนั้น จะมียีนของเซโคร อยู่เพียงบางส่วนในตัวของยูทาร์เท่านั้นค่ะ ทำให้มีลักษณะของมนุษย์ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับชาติพันธุ์อะไรอย่างนั้น (น่าจะอ่ะนะคะ เพราะนี่เปนนิยาย ดังนั้นเราจะไม่พูดถึงความเป็นไปได้ในการตัดแต่งพันธุ์แบบนี้ 55555)
แระในส่วนของยีน ที่ไม่ได้อยู่ใน DNA นี่จะอยู่ในส่วนของ "ไซโทพลาสซึม" ที่จะได้มาจากแม่เท่านั้นค่ะ!! (ถ้าพูดในแง่การตัดแต่ง ก้อจะได้มาเซลล์ตั้งต้น ที่ทำการปลูกถ่ายเข้าไปค่ะ)
ปลล. ไม่รุจะอ่านรู้เรื่องกันไหม แหะๆ ><
-
กรีดร้องงงงงง
ยูทาร์หนูน่ารักมากกกก อย่างนั้นเขาเรียกว่าหวงคะหนู
หวงเซโครจริงๆด้วย โอ้ยกลายเป็นไดโนเสาร์มุ้งมิ้งขึ้นมาในบัดดล
หวังว่าความคิดยูทาร์จะสื่อถึงเซโครนะ ถ้าเรียกชื่อได้น้องโครคงดีใจแน่ๆ
จะรอติดตามนะคะ
-
รออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
:mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
-
ฟินมากกก ปริ่มคะ
-
สงสารยูทาร์จังเลย TT
ตอนแรกก็สงสัยเรื่อง DNA เหมือนกันค่า แต่ตอนนี้กระจ่างแล้ว (มั้ง?)
ปกติไม่ค่อยชอบอ่านท้อล์กของคนแต่งเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ต้องอ่านทุกตอน ไดโนเสาร์เป็นอะไรที่เราไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่เลย
เรื่องสายพันธุ์ หรือลักษณะนิสัยก็อาศัยอ่านเพิ่มเติมจากข้อมูลที่คนแต่งให้มานี่ล่ะจ้า
-
อร๊างงงงงง T//////T มันน่าฮักเกินไปแล้วนะยูทาร์ นี่หวงเซโครถึงขนาดนี้ โอ๊ย อ่านละเขินเป็นสาวน้อยเลยฉัน
ที่บอกว่าเคยมีคนเยอะๆแต่วันนึงก็ไม่มีใครมาอีก เรานี่ใจหายเลย คือมันหมายความว่ายูทาร์หมดความน่าสนใจ การมีตัวตนของยูทาร์ผิดจุดประสงค์ที่เกิดมา โอ๊ย ดีนะไม่ถูกวางยาเบื่อกำจัดทิ้งไปซะก่อน โชคดีที่พ่อเซโครไม่ได้มองว่านี่เป็นแค่ผลการทดลองที่ผิดพลาด คงเพราะชอบไดโนเสาร์จริงๆ โชคดีแล้วยูทาร์เอ๊ย ไม่งั้นจะได้อยู่รอดมาเจอเซโครวันนี้รึเปล่าก็ไม่รู้
-
รอมานานแล้วววววววว เรื่องแนวนี้!!!!!!
โบกป้ายอวยเรื่องนี้สุดชีพ :3
ยูทาร์กับเซโคร.... เคมีเข้ากั๊นเข้ากันเนอะ
เห็นโหดสัสขนาดนี้แต่ห่วงเซโครแล้วใช่ม้าาาาาา >\\\\<
ฟินนนน ปูเสื่อรอตอนต่อไปนะฮับ
-
ยูทาร์ เมื่อไหร่จะพูดได้สักทีกลายร่างแล้วหล่อๆน้าาา :hao7: :pighaun:
-
:ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
4.2 ด่วนเลยค้าาาาาา
-
ยูทาร์หวงด้วยอะ น่าร้ากกก :hao7:
-
:mew1: ชอบจังเลยอะ :mew1:
น่ารักมากๆเลย มาต่อไวๆนะคะ จะมารอทุกวันเลยน้าาาาา :hao7:
-
ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆ สนุกมากเลยค่ะ รอมาต่อนะคะ :-[
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน อยากจะบอกว่าชอบมากๆๆๆๆๆๆ
มาต่อเร็วๆ นะคะ
-
พยายามเข้านะ :katai5:
-
ยูทาร์ ยูทาร์ ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้!!! โอยย หลงรักมากกกกก เซโครเปิดกรงเข้าไปอยู่ด้วยกันซะเลยยยยยยยยย รอค่ะๆๆๆๆ นี่คือเข้ามาส่องทุกวันวันเลย ตื่นเต้นเวลากดตอนใหม่อ่าน อ้ายยยยย :z3:
-
ถึงจะตัวโตแต่ก้มีหัวใจจจจ
-
น่ารักอ้ะ อร๊ายยย นี่นั่งบิดไปบิดมาจนไม่รู้จะบิดยังไงละ 5555
เขาดูหวงดูห่วงกันดีอ้ะ ถ้าวันไหนคุยกันรู้เรื่องกว่านี้คงฟิ้นฟินขึ้นหลายเท่านัก
-
ต๊ายยยยยยนึกว่าเป็นหมาแทนไดโนเสาร์ไปแล้วนะเนี้ย ฮ่าๆๆๆๆ เชื่องเชียว!... :z6: (หรูขอโต๊ดด)
รอเวลาที่จะได้เห็นเขาอยู่ด้วยกัน..อยากเห็นฉากจับมือจังค่ะคงจะ...ฟินเฟ้อ แอร๊ยยยยย//มากกว่าจับมือก็ได้นะ หนูไม่ว่ากั้กๆๆๆๆ :hao6: #บวกๆค่ะแต่งมาได้น่ารักมากเลยตอนนี้ :กอด1:
-
อร๋ายยยยย น่ารักจริงๆ ยูทาร์
-
อ่านในมุมยูทาร์แล้วยิ่งน่ารักกอ่าาา
อยากให้ยูทาร์พูดได้เร็วๆ
-
ยูทาร์น่ารักอ่ะ ขี้หวงซะด้วยยยย :impress2:
-
หลงรักเรื่องนี้
o13 o13
-
น่ารักกกก
-
กลายรักครั้งที่❧4(ครึ่งหลัง)
การให้อาหารได้ผ่านพ้นไปพร้อมกับเรื่องราวมากมายที่ไม่เข้าใจและหวังว่าสักวันนึงจะเข้าใจคำพูดเหล่านั้นได้...เวลาผ่านไปจนถึงมื้ออาหารต่อมาเซโครเข้ามาหาเหมือนปกติ...
“ยูทาร์...วันนี้มีปลาแซลมอนด้วยนะไม่รู้ว่านายจะกินเป็นรึเปล่าแต่ผมชอบมากเลยโดยเฉพาะปลาสดๆแบบนี้แต่ผมก็ไม่แย่งยูทาร์หรอกนะไม่ต้องห่วง”เสียงหวานๆที่ดังขึ้นพร้อมกับช่องให้อาหารที่เปิดออกแล้วมีสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วก็โผล่เข้ามาทั้งตัว...
ถ้าจำไม่ผิดคงเรียกว่า ‘ปลา’
ผมจัดการอ้าปากแล้วกลืนมันลงคออย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเคี้ยวเลยสักนิด
“อร่อยไหม?...อร่อยละสิรู้ไหมว่าแซลมอนน่ะหวานมากๆถ้าทำดีๆจะละลายในปากเลยนะแล้วกินทั้งตัวแบบนั้นก้างจะติดคอไหมนั่น...ฮะฮะฮะ”คำพูดยังคงดังขึ้นพร้อมกับอาหารที่ส่งมาเรื่อยๆโดยใช่เครื่องมือที่เรียกว่า ‘ที่คีบ’ ละมั้ง...หยิบอาหารส่งมาให้
อยากให้เซโครใช้มือหยิบให้เหมือนในตอนแรกแต่ก็คงเป็นไปไม่ได้...อยากจะบอกว่าจะไม่ทำให้เลือดออกแล้ว
อึก!
ความรู้สึกเจ็บแปร๊บแล่นทั่วทั้งร่างจนร่างกายอันใหญ่โตล้มลงกับพื้น ความเจ็บปวดที่เหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆก่อนจะรู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองหดลงอย่างช้าๆ ร่างกายอ่อนยวบยาบและสายตามันพล่ามัวจนต้องใช้สองมือบัดป่ายไปทั่วก่อนจะเจอกับเหล็กแข็งๆที่ขวางผมกับเซโครไว้
“ยูทาร์...เป็นยังไงบ้าง?...เจ็บมากไหมยูทาร์?”น้ำเสียงที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความเป็นห่วงทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปจนสบเข้ากับดวงตาสีสวยตรงหน้า
“...อ่า...”ผมพยายามอ้าปากที่จะเอ่ยอะไรบางอย่างออกไปแต่ก็เรียบเรียงไม่ถูกจนออกมาได้เพียงเสียงครางในลำคอเท่านั้น
“ยูทาร์...นายพูด?...นายกำลังพูดใช่ไหม?...”เสียงของอีกฝ่ายดูจะตื่นตกใจมาก
“อะไร?...นายอยากพูดอะไร?”
“...ซะ....”
พรึ่บ!
เมื่อพยายามอีกครั้งก็เหมือนจะพอควบคุมเสียงตัวเองได้แต่ยังไม่ได้พูดจนจบแสงสว่างที่มีก็หายวับไม่ต่อหน้า...
“...ไม่นะ!!”เสียงของเซโครตะโกนดังลั่นแล้วทรุดตัวลงที่พื้นอย่างรวดเร็วมือของข้างกอดตัวเองเอาไว้แน่น
ผมได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น?
“ไม่นะ...ไฟดับเหรอ?...ไม่เอา...ใครก็ได้...ช่วยผมด้วย”เสียงโหยหวยที่ไม่เคยได้ยินทำให้ผมคลานเข้าไปใกล้แล้วใช้มือเกาะที่ช่องว่างระหว่างเหล็กกั้นจนสามารพยุงตัวนั่งได้สำเร็จ
“...อ่า...”ผมควรจะทำยังไงดี
“ไม่เอา...ไม่เอา...ช่วยด้วย...ช่วยผมที!”
“...ซะ...”จะทำยังไงถึงจะหยุดเสียงที่ดูเจ็บปวดและทรมานแบบนั้นได้
“ฮึก...ไม่เอานะ”
ไม่อยากได้ยิน...
ไม่อยากได้ยินแล้ว...
“ซะ...เซ...เซ...โคร...”ผมพยายามร้องเรียกหลายสิบครั้งกว่าเสียงของตัวเองจะดังออกมาอย่างไม่ปะติดปะต่อ
“...ยูทาร์?...เมื่อกี๊ว่าไงนะ?”เสียงที่เจ็บปวดเริ่มเปลี่ยนไปเป็นเสียงที่ตื่นตกใจแทนจนผมต้องพยายามส่งเสียงนั้นออกไปอีกครั้งนึงอย่างยากลำบาก
“...ซะ...เซ...โคร...”
“ฮึก...ยูทาร์นายเรียกชื่อผม?...ยูทาร์”เสียงหวานขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับยกมือทาบบนมือที่ผมเกาะกำแพงตรงหน้าไว้...ถึงจะไม่ได้สัมผัสกันแต่ความอุ่นมันก็แผ่ซ่านเข้ามา
“เซ...โคร...”
“ใช่...ชื่อผมคือเซโคร...อ่า...ทั้งดีใจทั้งกลัวเลย...ยูทาร์รู้ไหมว่าผมเกลียดความมืดมากตอนเด็กๆผมถูกขังไว้ในห้องที่ทั้งมืดทั้งแคบตลอดทั้งวันกว่าจะมีคนมาช่วย...ผมก็เลยกลายเป็นคนที่กลัวความมืดไป...กลัวมากๆจนแทบไม่อยากรับรู้ถึงมันเลย...”
“แต่ถึงจะกลัว...ผมก็ดีใจมากที่ยูทาร์เรียกชื่อผมได้...ดีใจจริงๆนะ...ไม่สิ...กลัวจริงๆเหมือนกัน...ปกติถ้าอยู่ในความมืดต้องจับมือกับใครสักคนไว้จะทำให้หายกลัวได้เยอะเลยแต่ตอนนี้...จริงสิ!...ยูทาร์...”
“...ขอมือได้ไหม?...ขอผมยืมมือหน่อยนะ...จะกัดก็ได้แต่ช่วยจับมือผมหน่อย”เซโครพูดยาวจนผมแทบฟังไม่รู้เรื่องแต่จากพลังงานที่แผ่ออกมาทำให้รู้สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ
ถึงจะไม่แน่ใจแต่มือเรียวของคนตรงหน้าก็ถูกยื่นเข้ามาทางช่องให้อาหาร แม้ในความมืดก็ยังมองเห็นเซโครได้อย่างชัดเจน...ตัวของเขาสั่นอย่างน่าสงสารเหมือนสัตว์ที่หมดทางรอด
มือที่ยื่นมาสั่นเล็กน้อยแล้วปัดไปมาเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง ผมเลยค่อยๆเอื้อมมือขึ้นไปแล้วสัมผัสกับมือของเซโครช้าๆแต่พอมือนั้นสัมผัสโดนกันอีกฝ่ายก็คว้ามือผมไปกำไว้แน่นราวกับผมจะชักมือนั้นกลับ
ความเย็นที่แผ่มาทำให้รู้ว่าเซโครกลัวแค่ไหน
มือเย็นๆไม่เหมาะกับคนตรงหน้า...พอคิดได้แบบนั้นมือของผมก็ค่อยๆออกแรงกำมืออีกฝ่ายแน่นขึ้นตามไปด้วย
ไม่นานมือที่เย็นก็กลับมาอบอุ่นตามเดิม
นั่นทำให้ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างประหลาด
“ยูทาร์...ขอบคุณนะ...ดีจริงๆที่มีนายอยู่ด้วย...ดีจริงๆ”คำขอบคุณที่ได้รับทำให้ผมค่อยๆเกลี่ยมือนั่นไปมาอย่างช้าๆความนิ่มที่สัมผัสได้ไม่เหมือนกับสิ่งไหนที่เคยได้สัมผัสมาก่อน
รู้สึกดีจัง
“...เซ...โคร...”
“ลองพูดเร็วๆให้คำติดกันสิ...เซโคร...แบบนี้ไง”
“เซโคร”ผมลองพูดตามดู
“เยี่ยม...แบบนั้นเลยเด็กดี...อยากเห็นนายตอนพูดจัง...ทำไมไฟต้องดับด้วยนะ”
“เซโคร”
“อ่า...สุดยอดเลย...ยูทาร์...นายเก่งมากเก่งที่สุดเลย...งั้นลองพูดชื่อตัวเองบ้างไหม?”
“เซ...โคร”
“ไม่ใช่ๆ...ยูทาร์...ลองพูดยูทาร์ซิ”เซโครบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นโดยที่ยังประสานมือกับผมไว้แน่น
“...ยา...ยา...”
“ไม่ใช่ยา...ยู...ยูทาร์”
“ยะ...ยู...ยู...”
“ใช่ๆ...ยูทาร์”
“ทา...ยูทาร์”
“เยี่ยมเลย...สุดยอด...ยูทาร์คือชื่อของนายนะเป็นชื่อที่ผมตั้งให้...ชอบไหมล่ะ?”
พรึ่บ!
แสงสว่างที่หายไปสว่างวาบขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนผมเห็นรอยยิ้มของเซโครอย่างชัดเจน มือที่ประสานกันค่อยๆถูกปล่อยออกอย่างช้าๆ
“ขยับหน้ามานี่สิยูทาร์”เสียงเรียกพร้อมกับมือที่กวักไปมาทำให้ผมค่อยๆขยับตัวไปหาอย่างงงๆว่าจะทำอะไรกันแน่ หน้าของผมไปอยู่ตรงช่องใส่อาหารพอดิบพอดีก่อนที่มือของเซโครจะเข้ามาสัมผัสใบหน้าอย่างรวดเร็วจนต้องเบิกตากว้าง
“เด็กดียูทาร์...ผมมีความสุขจริงๆที่ได้อยู่กับนาย...เรียกชื่อผมอีกครั้งได้ไหม?”
“...เซโคร”
“อืม...ใช่แล้ว...ชื่อผมคือเซโครถ้ามีอะไรตะโกนเรียกชื่อนี้ดังๆเลยนะ”
“เซโคร”
“ฮิฮิ...ไม่ต้องเรียกบ่อยเขินนะเนี่ย...อยากจับนายอาบน้ำตัดผมจริงๆเลย...ไม่รู้ว่าพออยู่ในร่างไดโนเสาร์แล้วจะพูดชื่อผมได้อยู่ไหม?...ขากรรไกรกว้างๆนั้นคงทำได้แค่คำรามสินะ”
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะยูทาร์”
คำบอกลาดังขึ้นพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆที่ถูกถอนออกไปอย่างเชื่องช้าพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องไป...คำคืนที่มืดสนิทเหมือนในทุกๆวันแต่วันนี้กลับไม่เหมือนเดิม ร่างกายเล็กๆนี้อยู่นานกว่าปกติที่เคยเป็นจนทำให้ผิวสัมผัสได้ถึงความเย็น...
ความหนาวเย็นทำให้นึกถึงเซโคร...
สัมผัสอุ่นๆนั่นอยากได้อีก...
“...เซ...โคร...”
“เซโคร”ผมพร่ำเรียกชื่อนั้นจนกระทั่งผล่อยหลับไปท่ามกลางความมืดและความหนาวเย็น
หลายวันผ่านไปกับสิ่งใหม่ๆที่ได้เรียนรู้มากขึ้น...
เซโครบอกว่าผมเป็นลูกครึ่งมนุษย์กับไดโนเสาร์...
รู้สึกดีใจที่ได้เป็นมนุษย์เหมือนเซโคร...ตอนที่อยู่ในร่างมนุษย์เซโครจะสัมผัสใบหน้าผมแล้วลูบไปมาพร้อมรอยยิ้ม...เป็นครั้งแรกที่อยากอยู่ในร่างที่อ่อนแอนั่นนานขึ้นอีกนิดเพราะเซโครไม่ยอมสัมผัสผมตอนอยู่ในร่างไดโนเสาร์สักที
เซโครบอกว่าตอนอยู่ในร่างมนุษย์ต้องใส่เสื้อผ้า...
เสื้อผ้าแผ่นอะไรสักอย่างที่มันนุ่มๆ ผมใส่ไม่เป็นเซโครเลยสอนโดยการใส่ให้ดูเป็นตัวอย่างและมีผ้าผืนใหญ่ๆที่เซโครบอกว่าเป็นผ้าห่มเอาไว้ใช้ตอนหนาว
ตอนนี้ภายในพื้นที่สี่เหลี่ยมที่อยู่มาตั้งแต่เกิดมีของเพิ่มเข้ามามากมายวางกองอยู่ตรงหน้าสิ่งที่เรียกว่ากรงเหล็ก...ของทุกอย่างเซโครหามาให้พร้อมกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มทุกครั้งที่ผมเรียกชื่อ
เซโครสอนให้ผมพูด...
แม้เวลาอยู่ในร่างอันแข็งแกร่งอย่างไดโนเสาร์จะพูดไม่ได้แต่พอมาอยู่ในร่างมนุษย์ก็เริ่มพูดได้หลายคำจนเซโครชมและปรบมือให้
อยากเห็นรอยยิ้มนั้นอีกเลยพยายามฝึกพูด
เสียงประตูเลื่อนถูกเปิดออกทำให้ผมทีกำลังยืนมองใบไม้ละสายตาออกมาแล้วเดินไปยังสิ่งที่เซโครบอกว่าคือกระจก...ร่างอันใหญ่โตทำให้ต้องก้มเล็กน้อยถึงจะมองเห็นด้านในได้...
วันนี้เซโครใส่เสิ้อผ้าไม่เหมือนเดิม...ปกติจะมีสีขาวแต่วันนี้กลับเป็นสีน้ำตาลดูแปลกตา
พอเซโครหันมาเห็นผมก็วิ่งเข้ามาหาพร้อมกับยิ้มให้แล้วชี้ไปยังห้องข้างๆ...ผมเลยเดินไปยังที่ให้อาหารเหมือนอย่างทุกวันกว่าเซโครจะเดินเข้ามาก็ใช้เวลาสักพักนึง
“อรุณสวัสดิ์ยูทาร์”เสียงหวานเอ่ยทักทายพร้อมกับเริ่มหย่อนอาหารลงมาให้
“วันนี้ยูทาร์จะได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ด้วยนะดีใจไหม?...ผมล่ะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลย...พ่อพึ่งมาบอกเมื่อคืนผมเลยยังไม่ได้บอกยูทาร์เมื่อกี๊ผมไปสำรวจมาแล้วสวยมากๆๆๆๆๆ...แบบว่าทั้งใหญ่โตทั้งน่าอยู่เรียกว่าดีกว่าที่นี่เยอะเลย”
บ้านเหรอ?
ผมจะย้ายไปอยู่บ้านใหม่?
“ถ้าเป็นที่นั่นเราไม่ต้องมานั่งจ้องกันผ่านซี่กรงเหล็กถี่ๆแบบนี้หรอกรู้ไหม?...ผมบอกให้พ่อสร้างลิฟท์ด้านในกรงของยูทาร์แล้วเป็นเป็นแบบเปิดปิดได้จะได้เห็นยูทาร์ชัดๆไง”เซโครบอกด้วยรอยยิ้มโดยที่ยังคอยส่งอาหารมาให้อย่างต่อเนื่อง
จะได้เห็นผมชัดๆแปลว่าก็ต้องได้เห็นเซโครชัดๆเหมือนกันใช่ไหม?
“จำที่บอกว่ามีสระว่ายน้ำด้วยได้ไหม?...รู้ไหมว่าเป็นสระที่กว้างมากๆแถมในนั้นยังสร้างให้เหมือนเป็นทะเลสาบขนาดย่อมเลยมีปลาว่ายอยู่ด้วยนะ...ผมเป็นคนไปซื้อปลาพวกนั้นเองล่ะเผื่อวันไหนร้อนหรืออยากออกกำลังก็ว่ายน้ำจับปลากินเลยนะ...”
“ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้นเนอะ...ผมไม่เคยเห็นยูทาร์ว่ายน้ำเลยจะว่ายท่าอะไรนะ...คงไม่ได้ว่ายเหมือนคนแน่นๆถ้ายูทาร์อยู่ในร่างมนุษย์เมื่อไหร่ผมจะสอนว่ายท่าฟรีสไตล์นะ...ท่านี้ผมเก่งสุดๆเคยไปแข่งว่ายน้ำระดับมัธยมปลายด้วยนะถึงจะนานมาแล้วก็เถอะ”
อาหารถูกส่งมาเรื่อยๆจนถึงชิ้นสุดท้ายที่มีกลิ่นแปลกๆไม่เหมือนเดิมทำให้ผมดมสิ่งที่อยู่ภายในเนื้อชิ้นนั้นอย่างสนใจ
“ได้กลิ่นแปลกๆใช่ไหม?...ผมจะบอกยูทาร์นะเพราะไม่อยากโกหก...ตอนแรกคุณพ่อบอกว่าจะให้คนมายิงยาสลบใส่ยูทาร์แต่ผมไม่ยอม...ใครจะยอมให้มาทำร้ายเพื่อนรักได้ล่ะใช่ไหม?...”
“...เพราะงั้นผมเลยบอกว่าจะวางยาสลบยูทาร์เองถึงพ่อจะไม่เห็นด้วยเพราะไดโนเสาร์มีประสาทดมกลิ่นที่สูงมากแถมกลิ่นแปลกๆแบบนี้คงไม่ยอมกินแน่...แต่ผมเชื่อว่ายูทาร์จะเชื่อใจผมแล้วกินนะ...เชื่อใจผมว่าผมจะไม่ทำร้ายยูทาร์...นะ”คำขอร้องแกมอ้อนวอนทำให้ผมมองชิ้นเนื้อนั่นสลับกับใบหน้าขาวที่อยู่ไม่ไกล
‘เชื่อใจ’
คำคำนี้ยังไม่รู้ความหมายที่แน่นอนทั้งที่ยังไม่รู้แต่กลับรู้สึกอยากเชื่ออย่างน่าประหลาด...
เชื่อเพราะคนที่พูดเป็นเซโคร
ถ้าเป็นสิ่งที่เซโครบอกผมก็พร้อมจะทำอย่างไม่ลังเล...
นี่คือความหมายของคำว่าเชื่อใจใช่ไหม?
.................................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i60.tinypic.com/14vgwbd.jpg)
เอ็ดมอนโตซอรัส เป็นสัตว์กินพืชที่มีลักษณะหางใหญ่ยาวและศรีษระมีลักษณะคล้ายรูปเป็ด กะโหลกศรีษระมีหงอนกลวงแต่ไม่แข็งเหมือนแฮดโดรซอร์ริเดอื่น ๆ พวกมันชอบอาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งและย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆเพื่อหาแหล่งอาหารใหม่สามารถยืนได้ทั้ง2ขาและ4 ขาเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดยาว 9 เมตร (30 ฟุต) แต่บางตัวอาจสามารถโตได้ถึง 12-13 เมตร (39-43 ฟุต) มีน้ำหนัก 4-4.4 ตัน
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://pantip.com/topic/33795958 / https://th.wikipedia.org/wiki/เอ็ดมอนโตซอรัส
.................................................................................
สวัสดีคะ
มาอัพต่อแล้วนะคะ
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าตกใจมากเมื่อเปิดอ่านคอมเม้นท์...ตอนแรกตกกลับเลื่อนไปดูหัวข้อเรื่องว่าใช่เรื่องที่เราแต่งไหม(555+)
มีความสุขที่ได้อ่านทุกๆคอมเม้นท์นะ
รู้สึกว่าพอแต่งบนของยุทาร์แล้วเรทติ้วดีกว่าของเซโครอีก...แปลว่ามีคนสนใจยูทาณ์มากกว่าเซโครสินะ(เราก็ชอบยูทาร์มากกว่าเหมือนกัน)
ตอนนี้คงทำให้หลายคนฟินกันพอดูเพราะทั้งคู่ได้สัมผัสกันแล้ว...คนเขียนก็ฟินเหมือนกันตอนแต่งรู้สึกชอบฉากนี้เป็นพิเศษเลย
มารอดูกันต่อไปว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก...ช่วงนี้ไม่มีไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่โผล่มาเลยอดใจรอกันหน่อยต่อไปจะมีไดโนเสาร์ตัวใหม่มาเกือบทุกตอนแน่นอน
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และกำลังใจนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้าคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
ยูทาร์น่ารักจนฉุดไม่อยู่แล้วค่าา :m3: ถึงตอนเป็นไดโนเสาร์จะน่ากลัวไปนิดนึง >.< แต่ว่าตอนที่เป็นมนุษย์กลับดูไร้เดียงสามากๆ เลยเน้อ~ แถมยังน่าเอ็นดูสุดๆ ก็ตรงที่พยายามฝึกพูดเพื่อให้เซโครดีใจนี่ล่ะค่ะ ฮ้าา~ :heaven ทำไมถึงได้น่ารักน่ากอดขนาดนี้น้าา :impress2:
-
ยูทาร์น่าร้ากกกกกกกกกกกกก อยากได้ซักตัว//โดนเซโครกัดหัว
-
ยูทาร์น่ารักจังงง ยิ่งตอนพยายามพูดยิ่งน่ารัก
รอตอนต่อไปน้า
-
ยูทาร์น่ารักมากกกกกกกกกกก
เชื่องแล้วเนอะสนิทกันแล้วเนอะจับตัวกันได้ละ
ตอนหน้าย้ายบ้านแล้วใช่ไหม ดีจังน่าจะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้
-
ยูทาร์จะได้ไปบ้านใหม่แล้ว น่ารักจริงๆอยากขโมยกลับบ้าน ฮ่าๆ รอมาต่อค่า o18
-
อยากกรีดร้องที่ตอนใหม่มาแล้ววววว
จริงๆ เราชอบที่เซโครบรรยายมากกว่านะ เพราะมันดูลึกลับ ไม่รู้ว่ายูทาร์คิดอะไรอยู่ ทำให้น่าติดตาม แต่ถ้าเปนยูทาร์เล่าเรื่องมันเหมือนเปิดเผยหมด
แต่แล้วแต่คนเขียนจ้า ยังไงก็ได้ ชอบหมดเลย
-
อยากเห็นเซโครอยู่กับยูทาร์ในร่างไดโน จังเลย
เอาแบบ ปีนป่าย ขี่หลัง โดดกอด ได้มั้ยค้า
-
อ๊ากกกก ชอบเรื่องนี้ รีบมาต่อนะคะ ชอบมากๆๆ
ยูทาร์น่ารักมากกกกก เซโครมีความพยายามมาก เป็นควาทพยายามที่ไม่สูญเปล่าเลย
รอตอนต่อไปนะคะ
-
น่ารัก ละลายยยย
-
คิดถึงตอนเซโครลูบหน้ายูทาร์แล้ว มันฟินนนนอะะะะะะะ
ยูทาร์น่ารักกกกก จะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้ววว
คราวนี้ทั้งสองคน(?)จะต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นแน่ๆ
รอตอนต่อไปเนาะ
-
:z3: :z3: :z3:
มันแค่นี้แต่ทำไมเราฟินจุง :hao7:
-
อร๋ายยย ยูทาร์น่ารัก
-
เรื่องนี้ผ่านตาไปมาหลายรอบแต่ไม่เคยเข้ามาอ่านแต่พอได้เข้ามาอ่านแล้วบอกเลยว่าหลงทั้งยูทาร์และเซโคร :-[
ฝากตัวเป็นแฟนคลับเรื่องนี้เลยค่าาา :กอด1:
-
ฟินแรงๆเลย น่ารักมากก รอตอนต่อไปค้าา
ชอบยูาร์มากกก ไดโนเสาร์อะไรว่ะ น่ารักว่ะ ถถถถถ
-
พูดูได้แล้ว :impress2:
-
แอร๊ยยยยย อ่านแล้วชื่นใจมั๊ก ฮ่าๆๆๆ
เข้าเล้ามาก็เจอเลย โอ้หลั่นล่า~ :impress2:
-
ยูทาร์จะได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่แล้วววววว :mc4:
ดีจัง ยูทาร์กับเซโครจะได้ใกล้ชิดกันกว่าเดิม :กอด1:
-
มาแล้ววววววว กรีดร้อง คนแต่งทำเราติดอ่ะะะะะะะะ ยูทาร์น่ารักมากๆๆๆๆๆๆ อย่ามีดราม่าเลยนะๆๆๆๆ จับยูทาร์อาบน้ำตัดผมต้องหล่อเฟี้ยวแน่ๆ เขินนน เซโครก็น่ารัก ฮือออออ :katai1:
-
เย้!!! เซโครพูดได้เเร้นนนนนน
ตอนหน้าก้อจะย้ายบ้านแระ อยากให้ถึงตอนหน้ามั่กๆ
แต่ทำไมตะงิดๆว่าตอนหน้าเซโครจิอาละวาด 555
-
เรียกชื่อได้แล้ว อร๊างงงงง >___< รู้สึกว่ายูทาร์ฉลาดนะ เดี๋ยวต้องพูดได้แล้วแน่ๆเลย คือฟังเซโครพูดทุกๆวันก็เริ่มเข้าใจเกือบหมดแล้วอะ ละจะย้ายไปบ้านใหม่แล้ว ตื่นเต้น รอชมบ้านใหม่พร้อมกัน ว่าแต่สลบร่างไหนก็อยู่ร่างนั้นใช่ไหม ไม่ใช่กำลังขนย้ายอยู่กลายร่างกลับไดโนเสาร์นี่ไปไม่ถึงบ้านใหม่กันพอดี 555
-
มาต่อเลยได้มั้ย ~ งื้ออ ชอบบบ :katai2-1:
-
โอ้ยน่ารักมากกก
มาบ่อยๆนะ
-
ชอบบบบบบบ
-
ว้าวๆ ตอนหน้าจะย้ายบ้านแล้ววว
เมื่อไหร่ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องมีอะไรมากั้นนะ
-
ละมุน :mew1:
-
น่ารักมากกก
อยากอ่านตอนย้ายไปบ้านใหม่แย้วว
-
คำแรกที่พูดได้ก็ เซโครเลยยย น่ารักกก
อยากเห็นบ้านใหม่แล้ววววว :katai2-1:
-
ยูทาร์ น่ารักน่าหยิกจริงๆ
-
น่ารักมากเรื่องนี้ โอ้ยยยยย อ่านไปยิ้มไป น่ารักอะะ
-
ยูทาร์กระแสดีมว๊าก~ ท่าทางว่าพ่อพระเอกของเราจะได้รับความรักแบบล้นหลามเลยนะเนี่ย
ขอสมัครเป็นFCยูทาร์อีกคนค่ะ อยากได้ไดโนเสาร์แบบยูทาร์มั่งง่ะ ต้องไปหาที่ไหนเนี่ย ><
เซโครของเราก็ดูดีใจซะเหลือเกินที่ยูทาร์พูดได้แล้ว จะน่ารักไปไหนเนี่ย >0< อยากอ่านต่อ
อยากรู้ว่าบ้านใหม่ยูทาร์จะเป็นไงแล้ว มาอัพอีกเร็วๆนะคะ รออ่านอยูนะ
-
เรื่องนี้น่ารักกกก >///< ดูอบอุ่นดีจัง o18
-
ทำไมเราเหมือนมารอเรื่องนี้ทุกวัน
ย๊ากกกกกกก อยากเจอยูทาร์แล้ววววววน้าาาาาาา :impress2:
-
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
-
น่ารักมากอ่ะ หลงรัก ยูทาร์ เข้าซะแล้วสิ
-
งื่อออออ รอมาต่อนะคะิทำไมรู้สึกติดง่ะ แงแง มาส่องทุกชั่วโมง งื่อ
-
ชอบจังเลย ทั้้งแปลกและสนุกแถมละมุนด้วย
ชอบยูทาร์จังเลย น่ารักจังเลย เซโครก็ละมุนเกิน
ชอบบบบบ :-[ :-[ :impress2: :katai2-1:
-
รอออออ
-
คิดถึงยูทาร์กับเซโคร
-
หลงรักสิ่งมีชีวิตน้อยๆ(?)ทั้งสอง :m1: :m1: :m1:
-
น่ารักมากเลย
อยากเห็นพัฒนาการของทั้งคู่ว่าจะลงเอยกันได้ยังไง
ลุ้นๆ ติดตามต่อคร่าาาาา
-
:hao5: รออยู่นะคะ อยากบอกว่าพระเอกน่ารักมาก :z3:
-
ชอบเรื่องนี้มาก คนเขียนอย่าทิ้งนานนะ มารอทุกวันเลย :mew2:
-
รออยุน้า มาต่อเร้ววว :hao5:
-
พึ่งได้เข้ามาอ่าน จะบอกว่ายูทาร์น่ารักมากเลย ชอบบ :-[ :-[
-
เค้ามารอยูทาร์ที่ท่าน้ำทุกวันเลย
-
กลายรักครั้งที่❧5
หมายเหตุ*ตอน4.2ช่วงท้ายยูทาร์อยู่ในร่างไดโนเสาร์นะคะ
ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ หรือเซโครมองดูเนื้อที่ใส่ยาสลบถูกกลืนเข้าไปในคออย่างลุ้นระทึก...ไม่คิดว่ายูทาร์จะยอมกินง่ายๆแบบนี้ นั่นเป็นสัณญาณที่ดีในการเชื่อใจกัน...เนื้อชิ้นโตถูกกลืนลงไปเรียบร้อยตอนนี้ผมก็ทำได้แค่รอให้ยาออกฤทธิ์
ใครจะไปยอมให้เอาคนมายิงยาสลบใส่ยูทาร์กัน...ไม่มีทาง
ยูทาร์ไม่เชื่อใจใครนอกจากผมเรื่องนั้นผมรู้ดีเพราะงั้นถ้ามีคนมายิงยาสลบใส่ความเชื่อใจที่มีอาจหายไปและไม่อาจสร้างกลับขึ้นมาใหม่ได้อีกเลย
“ยูทาร์...ง่วงแล้วเหรอ?”ผมถามไดโนเสาร์ร่างยักษ์ที่บัดนี้กำลังกระพริบตาขึ้ลงช้าๆด้วยความงัวเงีย
ฝืด
เสียงลมหายใจที่ขยับเข้ามาใกล้จนติดกับกรงทำให้ผมไม่รอช้าที่จะวางมือทาบลงไปจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่แผ่ออกมาก
“หลับซะเด็กดี...ไม่เป็นไร...พอตื่นมานายจะมีบ้านหลังใหม่และผมจะคอยดูแลนายเอง”ผมกระซิบเสียงเบาพร้อมกับดวงตาสำอำพันที่จ้องมาที่ใบหน้าผมก่อนจะปิดลงอย่างเชื่องช้าราวกับจะย้ำให้แน่ใจว่าผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน
“ผมจะอยู่ข้างนาย...ตื่นมาคนแรกที่ยูทาร์จะเห็นก็คือผม...สัญญาเลย”พอผมพูดจบร่างกายของไดโนเสาร์พนธุ์ผสมก็ล้มลงกับพื้นหญ้าพร้อมๆกับลมหายใจที่ดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
เซโครรอสักพักก่อนจะออกไปเรียกพ่อที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามาจัดการต่อ...ห้องทดลองนี้ถึงจะเป็นห้องขนาดใหญ่แต่ประตูทางเข้าออกก็เป็นขนาดปกติผมเลยค่อนข้างสงสัยว่าจะเอายูทาร์ออกไปได้ยังไงถ้าเขาไม่ได้อยู่ในร่างของมนุษย์
ความจริงผมก็สงสัยตั้งแต่ทำไมไม่ให้ยูทาร์ไปอยู่กรงข้างนอกตั้งแต่ตอนที่ตัวเล็กกว่านี้แล้วแต่คำตอบที่ได้มาก็พอจะทำให้ผมปล่อยผ่านไปได้เลยไม่ติดใจสงสัยอะไรมากนัก
“ลูกรู้ไหมว่าจะย้ายยูทาร์ไปไดยังไง?”พ่อเดินเข้ามาในห้องแล้วหันมาถาม
“ไม่รู้ครับ”ผมตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด
“กรงที่ยูทาร์อยู่เป็นลิฟท์ขนาดใหญ่สามารถเอาขึ้นไปที่ชั้นไหนก็ได้...เราจะเลื่อนลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น1แล้วเปิดประตูจากอีกฝั่งเพื่อให้คนช่วยกันยายร่างของยูทาร์ไปไว้ที่อยู่ใหม่”
“งั้นผมขอไปรอชั้น1นนะจะได้ดูว่าพวกเขาไม่ได้ทำรุนแรงกับยูทาร์”ผมขอพ่อเมื่อได้รับคำอธิบายแล้ว
“เอาสิ...ดูลูกจะสนิทกับยูทาร์มากเลยนะ”
“เขาเป็นเหมือนเพื่อนสนิทผม”
“ไม่กลัวถูกกัดเหรอ?”
“พ่อควรจะเปลี่ยนคำถามว่าไม่กลัวถูกกินเหรอมากกว่านะ”ผมย้อนกลับด้วยรอยยิ้ม
พูดว่าถูกกัดเหมือนยูทาร์เป็นสุนัขหรือแมวงั้นแหละ
“ใช่ๆ..นั่นแหละ...ไม่กลัวถูกกินเหรอลูก?”พ่อเปลี่ยนคำถามใหม่อีกรอบนึง
“ก็มีบ้างถ้ายูทาร์อยู่ในร่างไดโนเสาร์น่ะนะ...ถ้าร่างมนุษย์ผมไม่กลัวหรอกอยากจะเข้าไปกอดด้วยซ้ำ”ผมพูดออกไปตามความจริง....น่าเสียดายที่ห้องทดลองนี้จะปล่อยให้ยูทาร์ออกมาเพ่นพ่านก็ไม่ได้จะให้ผมเข้าไปก็ไม่ได้อีก...หลายๆอย่างมันยังไม่เอื้ออำนายสักเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นบ้านหลังใหม่นี่ผมคิดว่าน่าจะเข้าไปหายูทาร์ในร่างมนุษย์ได้เพราะสั่งทำประตูเสริมพิเศษไว้อีกหลายที่เผื่อผมโดนไล่จะได้วิ่งหนีได้ทัน
ถึงตามหลักแล้วจะหนีไม่ทันก็เถอะ...ฮะฮะฮะ
“สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ...เยี่ยมจริงๆ”
“พ่อเมื่อไหร่ผมจะได้เป็นคนดูแลยูทาร์เต็มตัวสักทีล่ะ?”ผมถามออกไปอย่างสงสัย...นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วไหนบอกว่าจะทำเรื่องขอให้ผมเป็นคนดูแลยูทาร์ไง
ตอนนี้คนที่ดูแลยูทาร์คือพ่อแต่พ่อก็ไม่ค่อยมีเวลามาดูสักเท่าไหร่ผมเลยบอกพ่อว่าให้เอาสิทธิ์การดูแลยูทาร์มาให้ผมซะ
“พ่อกำลังยื่นเรื่องอยู่...ถึงพ่อจะเป็นหัวหน้าแต่ก็ยังมีพวกระดับสูงๆที่ต้องผ่านการพิจารณาก่อน...ลูกพึ่งจบมาหมาดๆการที่ได้รับคำอนุมัติคงเป็นไปได้ยากแล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่อยากเป็นคนดูแลยูทาร์”
“ว่าไงนะ?...ใครครับ?”
“ก็หลงไป่จิงที่เป็นหนึ่งในทีมที่ดูแลเรื่องพฤติกรรมของไดโนเสาร์กินพืชอยู่ไง”พอพ่ออธิบายก็นึกขึ้นมาได้
หลงไป่จิง ผู้ชายที่ได้เป็นแนวหน้าของประเทศจีนด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมสัตว์ เขาได้ถูกเชิญมาร่วมองค์กรนี้เมื่อ7ปีก่อนผมเคยเจอเขาครั้งนึงแต่บอกได้เลยว่าไม่ชอบหน้าอย่างรุนแรง นิสัยหยิ่งๆและขี้อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ทำให้หงุดหงิดก็จริงที่เขาเก่งมากในการศึกษาพฤติกรรมสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่เลยถูกเชิญมาให้ทำการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของไดโนเสาร์
เห็นว่าตอนนี้กำลังศึกษาแบรคิโอซอรัสที่เป็นไดโนเสาร์กินพืชสายพันธุ์คอยาวอยู่ที่ฐาน3
ไม่เข้าเลยว่าทำไมต้องมาแย่งสิทธิ์ดูแลยูทาร์กับผมด้วย...จะศึกษาพฤติกรรมก็มาขอสิคิดว่าตัวเองสามารถดูแลยูทาร์ได้รึไงกัน
ผมอาจจะหลงตัวเองแต่ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่สามารถดูแลยูทาร์ให้มีความสุขได้เพราะงั้นผมจะไม่มีวันยอมยกยูทาร์ให้ใคร
“พ่อ...ถ้าผมอยากได้สิทธิ์การดูแลยูทาร์ผมต้องทำยังไง?”
“สร้างผลงานสิ...ทำให้ทุกคนรู้ว่ายูทาร์ไว้ใจลูกและเชื่องแค่กับลูกแค่นั้นคงไม่อยากเกินความสามารถลูกหรอกใช่ไหม?”พ่อพูดพร้อมกับหันมายิ้มให้ผม
“ครับ”
พอคุยกับพ่อเสร็จผมก็ขึ้นไปที่ชั้น1เพื่อรอดูการขนย้ายยูทาร์ ดูจากกำลังคนที่เตรียมมากว่า100คนแถมยังอยู่ในชุดพร้อมรบทำให้ผมรู้ในทันทีพวกเขาเตรียมตัวเผื่อเหตุฉุกเฉิน ไดโนเสาร์ตอนสะลึมสะลือเป็นไดโนเสาร์ที่จัดการยากที่สุดเพราะสติของยังมีไม่ครบถ้วนซึ่งอาจนำพาความเสียหายที่ร้ายแรงมากกว่าตอนที่สติครบถ้วนได้
รอสักพักลิฟท์ขนาดใหญ่ก็ค่อยๆโผล่ขึ้นมาพร้อมกับเหล่ากำลังคนที่ตีวงออกเป็นวงกลมโดยให้ตรงกลางมีพื้นที่ให้รถขนาดใหญ่ถอยเข้ามาจอดได้ รถที่ใช้ขนไดโนเสาร์มีขนาดใหญ่มากเลยต้องใช้คนขับรถสองคนที่เข้าขากันอย่างดีไม่งั้นรถจะพลิกคว่ำได้ง่ายๆ
พวกเขาใช้เส้นลวดขนาดใหญ่ที่มีความยาวพอสมควรไปมัดที่ส่วนปาก คล้องที่ส่วนหัวท้องและสะโพกของยูทาร์แล้วค่อยๆลากออกมาก่อนจะยกร่างของยูทาร์ขึ้นไปบนรถขนาดใหญ่ การขนย้ายดูจะสำเร็จไปด้วยดีในขั้นตอนแรก
“ขอผมขึ้นไปอยู่ข้างบนด้วยได้ไหมครับ?”ผมวิ่งเข้าไปตะโกนถามผู้ชายในเครื่องแบบคนนึงที่กำลังปีนขึ้นไปอยู่บนท้ายรถกับยูทาร์ เท่าที่เห็นก็ไม่ได้มีคนเดียวแต่หลายสิบคนแน่นอนว่าแต่ละคนพกอาวุธพร้อมมือทั้งนั้น...
แค่ยูทาร์ขยับตัวพวกเขาอาจระดมยิ่งยูทาร์ก็ได้ใครจะไปรู้เพราะงั้นผมต้องป้องกันไว้ก่อน
“เธอเหรอ?...อ้อ...ลูกชายของคุณฟรานที่ว่าพึ่งจบใช่ไหม?”ชายที่ผมถามถามกลับมา
“ใช่ครับ”
“ได้ๆขึ้นมาสิ”เขายอมให้ผมขึ้นไปแล้วครับ
พอผมปีนขึ้นไปเสร็จก็หาที่นั่งแถวๆส่วนหัวองยูทาร์ก่อนที่จะได้ยินตะโกนให้ออกรถ...ตลอดการเดนทางผมเอาแต่จ้องไปที่ผิวสีเทาเข้มของยูทาร์ ดวงตาสีอำพันที่ปิดสนิทและเสียงหายใจที่สม่ำเสมออยู่ทำให้รู้ว่ายาสลบยังไม่หมดฤทธิ์
มือข้างนึงของผมค่อยๆวางลงบริเวณเส้นลวดขนาดใหญ่ที่มัดปากยูทาร์ไว้ก่อนจะเลื่อนไปจนถึงผิวหนังที่มีสัมผัสหยาบๆและลื่นๆ...นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสผิวของยูทาร์แบบนี้
“ไม่เป็นไร...ทนอีกหน่อย”ผมกระซิบเบาๆโดยที่มือยังคงลูบที่บริเวณเหนือรูจมูกของยูทาร์ช้าๆ
เวลาที่ใช้เดินทางมากกว่ารถปกติอยู่สักหน่อยเพราะต้องขนของที่มีน้ำหนักหลายตัน...ส่วนสูงของยูทาร์คงที่อยู่ราว8เมตรกว่าและมีความยาวถึง12เมตรเรียกว่าเป็นไดโนเสาร์ที่ใกล้เคียงกับสไปโนซอรัสเลยล่ะ
ยูทาร์ถูกนำมาวางไว้ที่บ้านหลังใหม่บริเวณทุ่งกว้างใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่...แค่เห็นว่ายูทาร์ถูกขนย้ายมาอย่างปลอดภัยก็โอเคแล้วต่อไปก็เหลือแค่รอให้ตื่นเท่านั้น
“ทุกคนออกมาครบรึยังจะปิดประตูใหญ่แล้วนะ”เสียงของผู้คุมคนนึงดังขึ้นพร้อมกับตรวจสอบความเรียบร้อยของลูกน้องว่าจะไม่มีใครติดอยู่ข้างใน
ไม่ช้าประตูขนาดใหญ่ก็ถูกปิดด้วยระบบไฟฟ้าและลงกลอนยักษ์จากข้างนอกซ้ำอีกครั้งเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
“นี่คือที่อยู่ใหม่ของโทรโอ ทาร์แรพ โซนอร์ ซอรัส งั้นเหรอ?”เสียงของชายวัยกลางคนอายุประมาณ40ดังขึ้นพร้อมกับคนที่ผมไม่ชอบหน้าปรากฏตัวขึ้น เสียงที่ถึงไม่ได้ยินมาหลายปีก็ยังคงจำได้แม่น
“...คุณหลงไป่จิง”ผมหันหน้าไปหาคนที่พึ่งลงจากรถมาอย่างเซ็งๆ...
ทำไมคนคนนี้ถึงได้มาที่นี่กันเนี่ย?!
“เรียกฉันว่าพี่จิงก็ได้น้องเซโคร”เชื่อไหมว่าคำพูดนั่นทำให้ขนทั้งตัวผมลุกตั้งชันด้วยความรู้สึกสยองแปลกๆ คนอายุ40ใช้คนอายุไม่ถึง30เรียกว่าพี่เนี่ยนะ?
“ขอเรียกคุณหลงไป่จิงดีกว่าครับ”มากกว่านี้คงไม่ไหว
“ตามใจน้องเลย...เห็นว่าโทรโอ ทาร์แรพ โซนอร์ ซอรัสย้ายมาเลยมาดูสักหน่อยเพราะอีกไม่นานผมคงได้เป็นคนดูแล”
“ผมต่างหากที่จะได้!”ผมสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว
“หื้อ?...เธอน่ะเหรอ?...คงมีอะไรเข้าใจผิดแน่เหล่าผู้บริหารคงไม่คิดจะให้ผลงานทดลองขั้นสุดยอดมาอยู่ในความดูแลของเด็กที่พึ่งจบหรอก...ถ้าเธออยากมาหาก็ได้ทุกเมื่อแลกกับดินเนอร์ด้วยกันสักมื้อเป็นไง?”คำยียวนของคนตรงหน้าทำให้ผมต้องข่มอารมณ์และกำมือตัวเองแน่น
“ยูทาร์ไม่ใช่ผลงานทดลอง”ผมกัดฟันพูดออกไป
“ยูทาร์?...อ้อ...เธอตั้งชื่อให้ไดโนเสาร์ด้วยเหรอ?...ไม่ใช่ผลงานทดลองเธอคงพูดผิดแล้วไดโนเสาร์ทุกตัวล้วนเป็นผลงานทดลองทั้งนั้น”
“พวกเขามีชีวิต...ถึงจะเกิดมาจากการทดลองแต่เมื่อลืมตาขึ้นมาพวกเขาก็เหมือนพวกเราเป็นสิ่งมีชีวิตเลือดเนื้อและจิตใจ...คุณไม่มีสิทธิ์ไปว่าพวกเขาแบบนั้น!!”ผมตะหวาดออกไปอย่างเหลืออด
“สีหน้าใช้ได้...ใบหน้าตอนโกรธก็น่ารักไม่เบา”
“คุณ!!”
“ยังไงซะคนที่จะมาดูแลที่นี่คือฉัน...ถ้าเธอยังอยากเจอยูทาร์อะไรนั่นอยู่ก็ควรพูดดีๆกับฉันไว้ดีกว่านะเผื่อว่าฉันจะใจอ่อนให้เธอเป็นอาหาร...เอ้ย...เป็นคนให้อาหารน่ะ...”อีกฝ่ายพูดจบก็หัวเราะแล้วเดินกลับเข้าไปในรถตามเดิม
“ไอ้บ้าเอ้ย!!”ผมตะโกนไล่หลังรถยนต์สีดำคันหรูที่ขับออกไปอย่างอารมณ์เสีย
ผมเกลียดคนแบบนี้ที่สุดเลย...
ใครจะยอมให้คนแบบนี้มาดูแลอยูทาร์กันล่ะ
ไม่มีทาง!
ติ๊ดๆ
เสียงสัณญาณที่หูฟังไร้สายที่ผมเสียบไว้ดังขึ้น
(คุณเซโครคะ)
“ครับคุณฟี”ผมตอบรับเสียงจากปลายสาย
หญิงสาวที่ติดต่อมาเป็นหนึ่งในทีมที่ประจำการอยู่ที่กรงของยูทาร์เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและความปลอดภัย คนที่ประจำการถ้านับแค่คนที่คอยดูแลระบบก็5คนส่วนฝ่ายที่คอยคุมเผื่อกรณียูทาร์หลุดมี100คนเรียกว่าเยอะกว่าไดโนเสาร์กินเนื้อสายพันธุ์อื่น
(อ่อ...โทรโอ ทาร์แรพ โซนอร์ ซอรัสตอนนี้เริ่มได้สติแล้วคะ)
“จริงเหรอครับ?...ผมจะไปเดี๋ยวนี้เปิดลิฟท์ด้วยครับ”ผมสั่งการณ์ด้วยน้ำเสียงดีใจแล้ววิ่งกลับเข้าไปภายใน...ถึงตอนนี้ผมจะเป็นแค่มือใหม่แต่คนที่ประจำอยู่ที่นี่ก็เห็นว่าผมเป็นหัวหน้าทั้งนั้น
ไม่ใช่เพราะเส้นจากพ่อแต่เป็นเพราะตัวผมเองที่สร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา
เซโครวิ่งขึ้นไปที่บันไดข้างกรงขนาดใหญ่ของยูทาร์แล้วเข้าไปในลิฟท์ขนาดใหญ่ที่เตียมไว้สำหรับเข้าไปดูยูทาร์ในระยะประชิด ลิฟท์ตัวนี้ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าและลวดที่ขึงอยู่ตามที่ต่างๆทำให้สามารถเข้าไปใกล้ยูทาร์ได้ในระยะนึงแต่ก็ไม่สามารถไปได้ทุกที่ ถ้าอยากจะดูรอบๆต้องไปขึ้นสะพานที่อยู่ด้านบนของกรงที่ทำไว้สำหรับใช้สังเกตพฤติกรรมของยูทาร์
(จะใช้ลิฟท์จริงๆเหรอคะ?...คือมันค่อนข้างเสี่ยงยังไงขึ้นไปดูจากด้านบนไม่ดีกว่าเหรอคะ?)คุณฟีถามผมด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรครับ...เปลี่ยนระบบให้ผมควบคุมจากที่นี่แล้วก็ตัดสัณญาณหูฟังไปได้เลยครับ”ผมสั่งการณ์อย่างรวดเร็ว
(แต่ว่า...)
“ไม่เป็นไรครับ...ยูทาร์ไม่ทำอะไรผมหรอก”
(คะ...จะทำตามที่สั่ง)
หลังจากนั้นสัณญาณหฟังก็ถูกตัดไปพร้อมกับระบบลิฟท์ที่เริ่มทำงาน ผมค่อยๆเคลื่อนที่ลิฟท์ไปเรื่อยๆจนถึงที่ที่ยูทาร์อยู่ ร่างกายอันใหญ่โตค่อยๆขยับทีละน้อยก่อนะจะยกส่วนหัวขึ้นมาแล้วคำรามลั่น
กรรรร!!
กรรรร!!
เสียงคำรามดังอย่างต่อเนื่องเหมือนยังมึนงงจากฤทธิ์ของยาสลบอยู่...ถ้าเข้าไปใกล้มากคงโดยโจมตีแน่ผมเลยขยับลิฟท์ไปที่ด้านบนของยูทาร์ก่อนจะส่งเสียงเรียก...
“ยูทาร์”
กรรรร!!
ตึง!!
ยูทาร์ไม่สนใจเสียงเรียกผมแถมยังวิ่งเข้าชนกับผนังเหล็กอย่างไม่กลัวเจ็บราวกับจะออกไปจากที่แห่งนี้งั้นแหละ...ผมมองการกระทำนั้นอย่างวิเคราะห์ว่าควรทำยังไงต่อไปดี
ถึงผมเรียกอีกฝ่ายคงไม่ได้ยินเพราะโดนเสียงคำรามดังกลบหมด
“โอ๊ะ...ก็ให้เสียงผมดังกว่าก็ใช้ได้นี่นา”ผมพึมพำพร้อมยกยิ้มขึ้นก่อนจะขยับไปด้านข้างเพื่อคีย์ระบบบางอย่างลงไปก่อนจะเปิดใช้งาน
ผมเชื่อมหูฟังที่มีไมค์ขนาดเล็กเข้ากับลำโพงที่ติดอยู่ด้านหน้าทั้งสองข้างของลิฟท์ก่อนจะเทสเสียงแล้วตะโกนเสียงดัง...
“ยูทาร์!!!”
กึก
เสียงของผมทำให้ยูทาร์ที่ใช้ร่างกายกระแทกกำแพงอยู่ชะงักแล้วหันซ้ายขวา...จมูกขนาดใหญ่หายใจเข้าออกแรงๆเหมือนกำลังดมกลิ่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นด้านบนที่ผมอยู่ในลิฟท์
รู้สึกว่าจะสงบลงมาหน่อยแล้วสินะ
“ยูทาร์...หายงัวเงียรึยัง?”ผมพูดต่อแล้วค่อยหย่อนลิฟท์ลงไปด้านล่างทีละนิด
กรรรร!!
สียงคำรามในลำคอดังขึ้นเหมือนไม่แน่ใจอาจเพราะไม่ชินกับเสียงผมที่ถูกขยายก็ได้...พอคิดได้แบบนั้นผมก็เลิกใช้ลำโพงแล้วเปลี่ยนมาใช้เสียงตัวเองตะโกนลงไปแทน
“ยูทาร์...ผมเองนะเซโครไง”
ฝืด
ยูทาร์ขยับร่างกายไปมาแล้วพยายามกระโดดขึ้นมาจนจมูกกระแทกเข้ากับลิฟท์ที่ผมอยู่จนลิฟท์เซไปอีกข้างจากแรงสะเทือน
“หว๋า...หยุดก่อนยูทาร์”ผมตะโกนเสียงดังระหว่างที่กลิ้งไปมาในลิฟท์
ฝืด
ยูทาร์ยังไม่ยอมหยุดแถมยังกระโดดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนผมกลิ้งไปมาหลายต่อหลายรอบ
“ยูทาร์หยุดก่อนผมปวดหัวแล้วนะ!!”ผมตะโกนเสียงดังแต่ยูทาร์ก็ยังไม่หยุดผมเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากกลิ้งไปกลิ้งมาสักพักจนยูทาร์หยุดกระโดดแล้วจ้องมายังลิฟท์ที่ผมอยู่อย่างสงสัย
ยูทาร์อาจจะกำลังอยากรู้ว่าใช่ผมแน่นรึเปล่าที่อยู่ข้างใน
“ผมจะค่อยๆลงไปเพราะงั้นอย่ากระโดดนะ”ผมพยุงตัวขึ้นแล้วตะโกนบอกลงไปก่อนจะค่อยๆบังคับให้ลิฟท์ขยับลงไปจนผมอยู่ระดับเดียวกับสายตาของยูทาร์
ลิฟท์ที่ผมอยู่ไม่เหมือนกับในกรงเก่าที่ทำเป็นตารางเหล็กถี่ๆรอบด้าน จริงอยู่ที่ทั้งสามด้านเป็นตารางเหล็กถี่ๆแต่ด้านสุดท้ายที่ผมยืนสบตากับยูทาร์อยู่เป็นกระจกใสที่สามารถเปิดปิดได้ตามที่ต้องการ
“ไง...รู้สึกยังไงบ้างยูทาร์”ผมเอ่ยถามออกไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสีอำพันที่จ้องมาทำเพียงแค่ขยับจมูกเข้ามาใกล้จนแตะเข้ากับกระจกใสด้านหน้าจนเกิดเป็นฝ้า
“ถ้าผมเปิดกระจกจะคิดว่าผมเป็นอาหารไหม?”ผมถามติดตลกก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดกระจกช้าๆ...ไหนๆก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้วนี่
พอเลื่อนจะจกขึ้นจนสุดพวกเราก็ได้สบตากันเป็นครั้งแรกโดยที่ไม่มีอะไรขวางกั้น...ยูทาร์ดูจะงงๆกับความเปลี่ยนแปลงก่อนจะค่อยๆเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้พอไม่มีอะไรขวางอยู่หัวของอยูทาร์ก็เอียงเล็กน้อยเหมือนกำลังสงสัย
“ไม่โดนชนใช่ไหมล่ะ?...อยากดมกลิ่นผมใกล้ๆไหม?...มาสิยูทาร์”ผมเรียกพร้อมกับอ้าแขนทั้งสองข้างออก ส่วนหัวขนาดใหญ่ค่อยๆเข้ามาภายในลิฟท์อย่างเชื่องช้าพร้อมกับจมูกที่ขยับไปมาเพื่อสูดดมกลิ่นของผมจนในที่สุดปลายจมูกขนาดใหญ่ก็ชิดเข้ากับหน้าผม...ปากของยูทาร์อยู่ตรงท้องผมถ้าเกิดอ้าออกผมคงตกลงไปอยู่ในกระเพราะขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วแน่
มือทั้งสองข้างของผมสัมผัสกับผิวหนังสากๆลื่นๆของยูทาร์ จะว่าอุ่นก็อุ่นจะว่าเย็นก็เย็น...เป็นผิวสัมผัสที่ครึ่งๆกลางๆดี พอเวลาผ่านไปสักพักผมก็ค่อยขยับมือที่สัมผัสอยู่บริเวณปากขนาดใหญ่ของยูทาร์เบาๆ
ดวงตาสีอำพันเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
“เด็กดีจริงๆด้วย...คงแคบใช่ไหมที่ต้องเอาหัวเข้ามาในนี้น่ะ?”ผมยิ้มพร้อมกับลูบๆเบาๆที่ผิวหนังสีเทาเข้มของไดโนเสาร์ตรงหน้า
“เอาล่ะ...เอาหน้าออกไปได้แล้ว”ผมบอกพร้อมกับดันจมูกของยูทาร์เบาๆเป็นการบอกและยูทาร์ก็ทำตามอย่างดีโดยไม่อิดออด
“ผมจะพาไปดูบ้านใหม่รอบๆนะ...ตามมาเลย”ผมบอกยูทาร์แล้วค่อยๆเคลื่อนลิฟท์ไปยังรอบๆกรงขนาดใหญ่โดยมียูทาร์ก้าวตามมาติดๆ ดวงตาสีอำพันจ้องมาที่ผมราวกับจะไม่ปล่อยให้คาดสายตาไปไหนนั่นทำให้ผมยิ้มออก
ยูทาร์คงเห็นผมเหมือนเป็นลูกน้องในฝูงละมั้ง
“อย่ามองแต่ผมสิ...มองไปทางนั้นสิเป็นทุ่งหญ้าให้ยูทาร์ได้วิ่งไงถึงจะสั้นไปหน่อยก็เถอะ”ผมบอกพร้อมกับชี้ไปยังทุ่งหญ้าสีเขียวด้านหลังยูทาร์
ยูทาร์ละสายตาออกจากผมแล้วหันไปตามทิศที่ผมชี้นิ้วไปก่อนจะหันกลับมาจ้องผมเหมือนเดิม
“อะไร?...ไม่น่าสนใจเลยเหรอ?...ผมอุตส่าห์เลือกหญ้าเองเลยนะไม่ดีใจเลยเหรอ?...สักนิดก็ไม่มีอ่ะ”ผมพยายามขอความเห็นแต่สิ่งที่ได้ก็มีเพียงแค่ดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาพร้อมกับยื่นใบหน้าเข้ามาภายในจนจมูกขนาดใหญ่มาแตะที่ใบหน้าผมอีกครั้ง
เซโครใช้เวลาพายูทาร์ทัวร์รอบกรงไปหลายชั่วโมงทั้งที่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็วนได้ทั่วแบบสบายๆแล้ว...จะให้ทำไงละก็ยูทาร์เล่นเอาหน้าเข้ามาในลิฟท์ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ตลอด
ช่วงบ่าย4ผมเปลี่ยนจากใช้ลิฟท์มาเป็นสะพานเหล็กด้านบนที่สร้างเป็นกากบาทเพื่อได้เดินได้ทั่วทั้งกรงแทน...ผมขึ้นมาด้านบนพร้อมกับถังใส่อาหารขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยที่ด้านข้างมีผู้ช่วยผมคือยูกิเด็กชายชาติญี่ปุ่นที่พึ่งเข้ามาทำได้แค่3เดือนและมีอายุน้อยกว่าผมอยู่2ปีได้
ผมอยากลองดูว่ายูทาร์จะมีปฏิกิริยาอะไรกับยูกิบ้าง...ผมอยากให้ยูทาร์เข้าสังคมเป็นและไม่ดุร้ายกับมนุษย์ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
“ผมกลัวครับพี่”ยูกิบอกผมเสียงสั่น
“ไม่ต้องกลัวหรอกอย่างมากก็แค่ตายเอง”ผมพูดติดตลก
“พี่เซ...ผมกลัวจริงๆนะพี่ไม่กลัวเลยเหรอ...สูงตั้ง8เมตรแถมยาวตั้ง12เมตรน้ำหนักก็หลายตันน่ากลัวจะตาย”ยูกิพูเสียงสั่น
“ยูทาร์เป็นเพื่อนผม...ถ้าคุณไม่ทำอะไรเขา เขาก็ไม่ทำอะไรคุณหรอก...”มั้ง
ผมแอบต่อคำสุดท้ายในใจเพราะอะไรมันก็ไม่แน่นอน
“ผมเชื่อพี่นะ...เกิดอะไรขึ้นพี่ห้ามหนีก่อนผมด้วย”
“ครับๆ...มาเริ่มกันเลยดีกว่า”
วันนี้ผมจะลองฝึกยูทาร์ให้วิ่งไปกินเนื้อที่โยนไปเพราะงั้นเลยต้องเลือกสถานที่โล่งหรือทุ่งหญ้านั่นเอง...การฝึกแบบนั้นเห็นว่าได้ผลกับยูทาร์แรพเตอร์ที่ทำวิจัยอยู่ที่ฐาน2โดยการควบคุมของพี่โนว่า
(ตอนนี้ยูทาร์กำลังวิ่งไปหาคุณเซโครอยู่คะ...ไม่เกิน1นาทีคงจะไปถึง)ฟีรายงานผ่านหูฟังไร้สาย
“ขอบคุณมากครับ”
“เตรียมพร้อมนะยูกิ”ผมหันไปบอกเด็กชายที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ
“คะ...ครับ”
เสียงฝีเท้าและต้นไม้ที่โยกไปมาเป็นสัณญาณว่ามีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังเข้ามาใกล้...ไม่นานไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ก็โผล่ออกมาจากดงต้นไม้ใหญ่แล้ววิ่งมาทางที่ผมอยู่...จมูกขนาดใหญ่กำลังฟุดฟิดเหมือนหากลิ่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจนดวงตาสีอำพันสบเข้ากับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมที่กำลังส่งยิ้มไปให้
กรร!!
เสียงคำรามดังขึ้นทันทีเมื่ดวงตาสีอำพันขยับไปมองยูกิที่ยืนขาสั่นอยู่ด้านข้าง...ยูทาร์พยายามกระโดดขึ้นมาแต่ด้วยการที่คำนวณแรงกระโดดไว้ทำให้ยูทาร์กระโดดไม่ถึงสะพานที่พวกผมอยู่
“พี่เซ...ผมกลับได้ไหม?”ยูกิเกาะราวสะพานแน่นแล้วทรุดตัวลงอย่างน่าสงสาร
“อีกแป๊บนะยูกิ...ยูทาร์อย่ากระโดดนี่เพื่อนผมเองชื่อยูกิ”ผมบอกยูกิแล้วหันไปตะโกนใส่ยูทาร์
ยูทาร์ที่ได้ยินเสียงผมก็หยุดชะงักแต่ยังคงคำรามในลำคออยู่
แปลว่าไม่ไว้ใจยูกิสินะ
ถึงจะดีใจมากที่ยูทาร์ไว้ใจผมแต่ก็ต้องหาทางให้ยูทาร์เข้ากับมนุษย์คนอื่นให้ได้ด้วย
“ยูทาร์...วันนี้มาเล่นกันดีกว่า”ผมเรียกพร้อมกับเบนความสนใจของยูทาร์มา...ถ้าให้ยูทาร์รู้ว่ายูกิไม่เป็นอันตรายก็คงจะหยุดขู่แต่ก็คงใช้เวลานานพอดู
“นี่ไงเนื้อที่ยูทาร์ชอบ”ผมพูดพร้อมกับชูเนื้อขึ้นแล้วแกว่งไปมาเพื่อเรียกร้องความใจ สองขาของผมค่อยๆขยับออกห่างจากยูกิที่ทรุดตัวลงที่ราวบันได
ต้องให้ยูทาร์ออกห่างอีกหน่อย
ยที่ดวงตาสีเหลืองอำพันยังคงจ้องตรงมาหาผมราวกับจะไม่ให้ห่างสายตาไปไหน...พอขยับห่างมาสักพักผมก็หยุดแล้วหันไปมองยูกิที่ค่อยๆพยุงตัวขึ้นแล้วส่งยิ้มแหยะๆมาให้
“ยูทาร์...ไปคาบเนื้อมาทำได้ใช่ไหม?”ผมตะโกนลงไปพร้อมกับเขวี้ยงเนื้อออกไปสุดแรงแต่ดูเหมือนยูทาร์จะไม่สนใจเนื้อที่ลงไปกลิ้งบนพื้นหญ้าเลยสักนิดเรียกว่าแทบไม่ละสายตาออกไปจากผมเลย
“ยูทาร์ทำไมไม่วิ่งตามเนื้อไปล่ะ?”ผมตะโกนถามออกไป ไดโนเสาร์ขนาดยักษ์ทำเพียงเอียงหัวเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคมออก
“ผมไม่ได้จะโยนใส่ปากยูทาร์สักหน่อย...นายเป็นไดโนเสาร์นะไม่ใช่ฮิปโปต้องวิ่งล่าเนื้อสิ”ผมบอกต่อแล้วยกเนื้อขึ้นมาอีกชิ้น
“วิ่งไปแล้วกระโดดงับเลยเข้าใจไหมยูทาร์...กระโดดกินเลย”ผมตะโกนบอกแล้วชูชิ้นเนื้อในมือแกว่งไปมาก่อนจะออกแรงขว้างไปสุดแรง ยูทาร์ที่เห็นก็ทำตาวาวก็จะวิ่งตามไปด้วยความเร็วสูงไม่ถึง10วินาทีเนื้อที่ถูกโยนไปก็เข้าไปอยู่ในปากของยูทาร์แล้ว
“สุดยอด...แบบนั้นเลยยูทาร์...เอาอีกรอบนะ”ผมตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจก่อนจะหยิบเนื้อชิ้นต่อไปมาแล้วขว้างออกไปอีกครั้ง ทั้งผมและยูทาร์ต่างก็รู้สึกสนุกไปกับเกมส์ที่กำลังเล่นอยู่นี้เผลอไปแค่แป๊บเดียวอาหารของยูทาร์ที่อยู่ในถังก็หมดเกรี้ยง
ส่วนยูกิก็วิ่งหนีออกไปตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ผมโยนเนื้อให้ยูทาร์แล้วล่ะก่อนออกไปยักยกมือไหว้และก้มหัวให้นับไม่ถ้วนก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนผมไม่กล้าโกรธ...
คงจะกลัวมากจริงๆนั่นแหละ
“หมดแล้วนะยูทาร์...สนุกไหม?...ผมสนุกมากเลยนะไว้เรามาเล่นกันใหม่เนอะ”ผมตะโกนบอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะโบกมือบ๊ายบายยูทาร์ที่เดินมาผมาต้อยๆจนถึงประตูทางออก สายตาที่ดูหง๋อยลงทำให้ผมต้องหันกลับไปยิ้มให้อีกรอบ
“ไว้ผมจะรีบมาหานะ”
......................................................................................
ครั้งนี้ขอไม่มีมุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์นะคะ :hao5:
สวัสดีคะ
มาอัพต่อแล้วคะ...ตอนแรกกะจะอัพประมาณปลายอาทิตย์แต่พอเข้ามาอ่านคอมเม้นท์แล้วมันอดไม่ได้จริงๆคะ
เราจะมาอัพอาทิตย์ละ1ตอนแต่อาจแยกเป็นสองครั้งหรือลงหมดครั้งเดียวแล้วแต่ความสะดวกนะคะ
ตอนนี้ความสัมพันธ์อาจจะยังไม่ค่อยคืบหน้ามากนักตั้งแต่ตอนหน้าจะเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กันอย่างจริงจังแล้วคะ
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และกำลังใจที่มีให้นะคะ
1คอมเม้นท์เท่ากับ1กำลังใจของคนแต่งจริงๆคะ
เราจะแต่งพาทของยูทาร์แทรกเข้ามานานๆครั้งนะคะเพื่อสร้างความตื่นเต้นและฟิน(??)
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าในอาทิตย์หน้านะคะ(ถ้าทนไม่ไหวอาจมาลงทีละครึ่งคะ) :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
:katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
มาแย้วววววววววววววววว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
งือออออ ยูทาร์น่ารักมากกกก งอแงงง เหมือนเลี้ยงหมาเลอออออ
-
สงสารยูทาร์จังเลยค่ะ คงจะเหงามากเลยสินะคะ ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากจนเกินไป เราอยากจะขอให้เซโครช่วยบอกคุณพ่อให้สร้างห้องสังเกตการณ์ 24 ชม. ไว้ในกรงของยูทาร์อีกชั้นหนึ่งได้ไหมคะ? เซโครจะได้อยู่เล่นกับยูทาร์ได้นานๆ กว่านี้อีกหน่อย หรือถ้าบางวันเล่นกันจนดึกเกินไป เซโครจะได้นอนค้างในนี้ได้เลยไงค้าา :-[ ทีนี้ก็วินวินกันทั้งสองฝ่ายเลยนะคะ ^^ แถมยังสนิทกันมากขึ้น จะได้เป็นการกำจัดหลงไป่จิงไปให้พ้นๆ ทางในคราวเดียวเลย~
-
ดีใจมาก มาต่อแล้ว :hao5: รอติดตามตอนหน้านะคะ ติดเรื่องนี้ เข้ามาอ่านซ้ำๆ หลายรอบเลย ขอบคุณค่ะ :-[
-
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก น่ารักทั้งคู่เลย ทั้งเซโคร ทั้งยูทาร์ :กอด1:
-
มาแล้วววว ดีใจที่สุดดด ยูทาร์น่ารักมากเลยยย
ขอให้เซโครได้สิทธิ์ดูแลยูทาร์เถอะะะ
-
:-[
-
มาแล้วววว เข้ามาส่องทุกวันเลย
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อเลยค่ะ
-
โอย เค้าทั้งคู่โดนตัวกันแล้ววว คราวนี้เซโครให้อาหารด้วยมือ แถมยังจับตัวกันได้อีก
โอยฟินไปยาวๆๆๆๆ ค่า
-
น่ารักมากๆๆๆๆๆๆ
รอดูว่าเซโครจะสร้างผลงานยังไงนะคะ
อ่านซ้ำหลายรอบมากๆ อยากจะให้มาต่อทุกวันเลอ
-
ยูทาร์น่ารักดีนะ
-
ตอนแรกเข้ามาเช็คยังไม่มา พอเข้ามอีกรอบอัพพอดีเลย :กอด1:
ยูทาร์น่ารักมากๆเลย นี่ไดโนเสาร์หรือหมาน้อยเนี้ยเชื่อฟังแต่เซโครคนเียวด้วย งื่ออ น่ารัก
-
น่ารักมากเลยทั้งยูทาร์และเซโคร :-[
ส่วนไอ้เจ๊กนั่นน่าจับโยนให้ยูทาร์กินจริงๆ :m31:
-
ในที่สุดก็มา ฉันรอพี่ที่หน้านิยายทุกวัน :hao5:
-
ถ้ายูทาร์รู้ว่าไอ้หลงนั่นมันจีบเซโครคงกินมันเลยมั้งน่ะ 555
คู่นี้น่ารักมาก เรารอตอนหน้าอยู่นะ
ปล. เราเข้าใจยูกินะ เป็นเรา เราก็กลัว 555
-
เหมือนดูลูกกำลังเจริญเติบโตเลยคับ 55555
-
โอ๊ยยยยยย ยูทาร์น่าร๊ากกกกกก
คิดถึงคนเขียนทุกวันเลยยยยย
รอตอนต่อไปนะคะ
-
เราเข้ามาส่องทุกวันเลยยยย
ยูทาร์น่ารักมากกก
รอตอนต่อไปค่ะ
-
ทำไมรู้สึกชอบยูทาร์ในร่างไดโนจังเลย น่าร๊ากกก
มีเอียงหัวทำหน้าสงสัยด้วย อ๊าก นายเป็นสายแบ๊วชิมิคะ
-
น่ารักชะมัด
-
ยูทาร์น่ารักกก อยากเอาไปเลี้ยงที่บ้านบ้าง :impress2:
-
ยูทาร์น่ารักมากอะ
-
หลงไป่จิงนั่น สักวันคงโดนกัดแน่
-
ยูทาร์ดูน่ารักบ๊องแบ๊วมากกกกก >\\\\\<
(แต่เฉพาะตอนอยู่กะเซโครนะ 5555)
แต่อีตาหลงไป่จิงนี่ น่าหมั่นไส้มั่กๆ -_-^^
-
เมื่อไร..จะได้....กัน
5555555
:mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
-
น่ารักกกก :impress2:
-
มันน่ารักมากค่ะ แต่ฉากเชื่อหมอใจของยูทาร์นั่นท่ำหัวใจเราเจ็บแปลบเลย โฮร สัตว์นี่ซื่อตรงจัง..
-
อร๊ายๆๆๆ ยูทาร์~~~ นี่ถ้าไม่มีความโหดร้าย ฟันเขี้ยว และเสียงขู่ ก็กลายเป็นหมาน้อย (เฉพาะกับเซโคร!?)
-
ไดโนเสาร์หรือหมาน้อยจ๊ะลูก
-
ยูทาร์ เหมียวน้อยดีๆนี่เอง
-
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกก
อ่านแล้วรุ้สึกอบอุ่นหัวใจมากเลยค่ะ
-
รอคะ
-
แอร๊ยยยยยยย มาต่อแล้วววว ฮึกน้ำตาจิไหลนองเป็นคลองให้ยูทาร์เล่น(...เอิ่ม :z6: )กร้ากกๆๆๆๆ
ตอนนี้ก็น่ารักอีกแล้วอ่ะ งืออ :katai1: ยูทาร์!พาเซโครมาอยู่บ้านเจ้มา!!!เดี๋ยวเจ้เลี้ยงไม่อั้น...อิคุณจิง...คุณมรึงต้องการอะไร คำพูดคำจานายแปลกๆนะ อะไรนะ?อยากเป็นอาหารให้ยูทาร์!?? คนเขียนคะ จัดให้คุณเขาหน่อยเร็ว :katai3: :hao7:
-
กรี๊ดดดดดด มาอัพแล้วววว
มาอัพบ่อยๆนะคะ^^
-
ชอบอ่ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ o13
-
หุหุ น่ารักอะ
-
น่ารักทั้งยูทาร์ทั้งเซโครเลย แอร๊ยย
ยูทาร์นี่หลงเซโครแล้วใช่ไหม 55555555
-
ยูทาร์น่ารักมากกกกอยากให้คุยกันรู้เรื่องจัง
ส่วนไอด๊อคนั่นจะมาแย่งสิทธิ์เลี่ยงยูทาร์จากน้องเซโครหรอ
แช่งให้ยูทาร์เขมือบซะเลยนี่ไม่ก็อึใส่ซะเลย ให้มันจมอึไดโนเสาร์ไป
จะรออ่านต่อนะคะ ชูป้ายไฟเชียร์ยูทาร์กับน้องเซโคร สะบัดปอมๆเชียร์คนแต่ง
-
บรรยากาศน่ารักมากเลยอ่าาา :-[
เรื่องนี้ทำเราเอ็นดูไดโนเสาร์เลย ยูทาร์น่ารักกกกกก
รออ่านจ้าาา
-
ชอบตอนกระโดดจัง นึกภาพออกเลย
ขอบคุณที่มาต่อน้า จะรอตอนต่อไปทุกวันเลย
-
อ้ายย ยูทาร์กลายเป็นลูกเจี๊ยบตัวโข่งซะแล้ววว เกลียดอีหลงไป่จิงจริงๆเลย น่าโดนกินไปซะ (อุ้ย :katai5: ) รออย่างใจจดใจจ่อค่ะะะะ :z3:
-
สงสารยูทาร์เวลาเซโครกลับออกไปอะ เห็นภาพเป็นโกลเด้นหูตกหางตกเลย โธ่ๆๆๆ
ความคิดดีนะคะเซโครที่อยากให้ยูทาร์เข้าสังคมเป็นอะ เยี่ยมๆ แต่เข้ากะบางคนก็พอนะ ตาลุงชีกอนั้นกลืนลงท้องไปเลยก็ได้ 555
-
อือออออ ยูทาร์น่ารักแบบสัตว์โลกจริงๆ ดุจริ๊ง ทั้งชน ทั้งคำราม เซโครสู้ๆนะจ๊ะ
-
เรื่องน่าติดตามดีค่ะ ชอบยูทาร์
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ชอบมากเลยค่ะ ><
-
แง้วๆๆขอร่างมนุษย์เยอะกว่านี้หน่อยได้ม้าา แต่แค่ร่างไดโนก็หวานกันปานจะกลืนล่ะ :-[ :o8: :o8:
-
ยูทาร์ทำอย่างนี้แล้วเหมือนน้องหมามากกว่าไดโนเสาร์นะ 555
ว่าแต่ใครจะได้สิทธิในการดูแลยูทาร์ล่ะเนี่ย
-
ยูทาร์น่ารักมากๆเลยยยย ไม่อยากให้ลุงไป่ได้เป็นคนดูแลเลย
รีบๆสร้างผลงานนะเซโคร >< มาอัพอีกเร็วๆนะคะ
-
กลายรักครั้งที่❧6(ครึ่งแรก)
ช่วงเช้าและช่วงบ่ายของวันนี้เป็นวันที่เซโครยุ่งที่สุดตั้งแต่มาทำงานบนเกาะแห่งนี้ช่วงเช้าต้องเข้าประชุมใหญ่ที่จัดขึ้นประจำเดือนโดยพูดคุยกันในหัวข้อไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ที่อาศัยอยู่ในน้ำซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พวกเรายังไม่เคยฉุบชีวิตขึ้นมาก่อนเพราะจำเป็นต้องมีพื้นที่ที่กว้างมากและถ้าเกิดเหตุขัดข้องจนพวกมันหลุดไปในทะเล...
ระบบนิเวศทางน้ำต้องเสียหายอย่างหนักและอาจส่งให้มนุษย์เป็นอันตรายไปด้วย ข้อสรุปของการประชุมวันนี้คือเลื่อนการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ที่อาศัยอยู่ในน้ำไปก่อน
ซึ่งในความคิดผมก็เห็นด้วยเป็นอย่างมากขนาดบนบกเรายังควบคุมได้ไม่ดีพอแล้วยังจะหาภาระมาเพิ่มโดยการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์น้ำได้ยังไงกัน...ถึงจะไม่มีไดโนเสาร์ที่อยู่ในน้ำแต่ถ้าเป็นพวกครึ่งบกครึ่งน้ำก็มีอยู่นะ
พอจบจากการประชุมในช่วงเช้าผมก็ต้องไปช่วยหน่วยแพทย์เข้าไปรักษาฝูงไทเซอราท๊อปที่เป็นไดโนเสาร์กินพืชขนาดกลางมีนิสัยไม่ดุร้ายและเป็นมิตรถ้ามนุษย์เข้าหาอย่างถูกวิธี...
เห็นว่าช่วงนี้มีโรคที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในไดโนเสาร์กินพืชเลยต้องมาทำการตรวจและฉีดยาป้องกันแต่ถึงจะบอกว่าฉีดป้องกันแต่ทางเราก็ยังไม่รู้ว่าโรคนั้นคืออะไรกันแน่...ข้อมูลที่ได้มามีแค่ติดต่อกันผ่านการสัมผัสทางผิวหนังและมาจากใบพืชที่ไดโนเสาร์กินเข้าไป
กว่าจะจัดการฝูงไทเซอราท๊อปเสร็จก็ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงทำให้ผมไม่ได้ไปให้อาหารเช้ากับยูทาร์...ปกติผมจะให้อาหารยูทาร์2รอบคือ10โมงกับบ่าย4โมง...
ตอนนี้ก็ปาไปบ่าย2แล้วยูทาร์คงจะหิวน่าดู
“...ยูทาร์ขอโทษนะ”ผมพึมพำเบาๆแล้วรีบกลับห้องไปอาบน้ำเพื่อล้างเชื้อโรคที่อาจติดมาก่อนจะเดินทางไปที่กรงของยูทาร์ หวังว่าจะไม่หิวจนกินต้นไม้ไปหมดแล้วหรอกนะ
จริงสิ...ลืมพายูทาร์ไปสระน้ำที่อยู่อีกด้านนึงเลย
“ทำไมถึงลืมได้นะ”ผมพึมพำอย่างหัวเสียพร้อมกับรีบวิ่งไปที่รถก่อนจะขับตรงไปยังกรงของยูทาร์ระหว่างทางผมก็เสียบหูฟังไร้สายที่วางทิ้งไว้ในรถและทันทีที่ผมเปิดสัณญาณ...
ปิ๊บๆ
(คุณเซโคร)เสียงหวานของคุณฟีดังขึ้นอย่างร้อนรนทำใหผมขมวดคิ้วทันที
“เกิดอะไรขึ้นครับ?”ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆและต้องเกี่ยวกับยูทาร์ด้วย
ผมรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
ขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเลย
(คุณ...คุณหลงไป่จิงมาที่นี่คะ)
“ว่าไงนะ?...มาทำไม?แล้วตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง?”ผมรีบถามอย่างร้อนรนแล้วเหยียบคันเร่งเพิ่มอีกนิดเพื่อหวังจะไปให้ถึงเร็วกว่านี้สักนิดนึง
ทำไมคนคนนั้นถึงได้มาละเนี่ย
ยังไม่มีใครบอกว่าเขาได้รับสิทธิ์ดูแลยูทาร์แล้วสักหน่อย
(เขา...เขาเข้าไปให้อาหารยูทาร์คะแล้วยูทาร์ก็ดูจะโกรธมากแถมยังพยายามกระโดดขึ้นไปหาคุณไป่จิงด้วย)
“บ้าเอ้ย!”ผมสถบออกมาอย่างร้อนรน...ผู้เชียวชาญพฤติกรรมสัตว์บ้าอะไรเข้าหาสัตว์ไม่เป็นแบบนี้เนี่ย
(ว้าย!...ตายแล้ว!!)
“เกิดอะไรขึ้น?!”ผมตะโกนถามปลายสายพร้อมกับจอดรถที่หน้ากรงของยูทาร์อย่างร้อนรน
(คุณไป่จิงโดนยูทาร์เหวี่ยงลงไปแล้วคะ!)
“ว่าไงนะ?!...ทำไมล่ะแค่โยนอาหารไม่น่าถูกเหวี่ยงได้นี่!”
(เขาใช้เบ็ตตกปลาเกี่ยวเนื้อไว้คะ...ว้าย!! ตายแล้วทำไงดี!)
“บ้าเอ้ย!!...คุณฟีเปิดประตูเล็กด้านในเดี๋ยวนี้”ผมสั่งการณ์แล้ววิ่งเข้าไปที่ด้านข้างของกรงที่มีประตูเล็กสำหรับเปิดเข้าออก
(คุณเซโครจะเข้าไปเหรอคะ?...มันอันตรายนะคะถ้าเกิด...)
“เปิดเดี๋ยวนี้!!!”ผมตะโกนใสพร้อมกับทุบกรงเหล็กด้านหน้าอย่างร้อนรน...เสียงคำรามและเสียงกรีดร้องดังขึ้นจนผมแทบไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรกับผู้ชายคนนั้นเลย
ตึง!
ทันทีที่ประตูเปิดผมก็วิ่งเข้าไปภายในอย่างไม่คิดชีวิต...ถ้ายูทาร์ไปฆ่าใครเข้าเบื้องบนต้องมองว่ายูทาร์เป็นอันตรายเกินกว่าจะให้อยู่ต่อเพราะยูทาร์ไม่ใช่ไดโนเสาร์เต็มตัวการจะกำจัดเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆยิ่งกว่าดีดนิ้วซะอีก
“ยูทาร์อยู่ไหน?”
(อยู่ทางทิศ11นาฬิกาของคุณเซโครไปอีก20เมตรคะหลังพุ่มไม้อยู่ด้านข้างกรง)
เมื่อรู้ตำแหน่งผมรีบวิ่งเข้าไปก่อนจะเจอภาพที่คุณไป่จิงกำลังนั่งหลังชิดกับกำแพงด้วยร่างกายที่สั่นเทาจากความหวาดกลัวไดโนเสาร์ร่างใหญ่ตรงหน้า
กรรรร!!!
เสียงคำรามดังกึกก้องก่อนจะอ้าปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวอันแหลมคมออกมาพร้อมขยับเข้าไปใกล้คุณไป่จิงมากขึ้น...การที่มนุษย์ตกลงมาในนี้ก็ไม่ต่างกับเป็นอาหารยิ่งวิ่งหนีก็ยิ่งปลุกเร้าสัญชาตญาณของไดโนเสาร์มากขึ้นไปอีก
แม้แต่ผมที่เข้ามาแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะรอดกลับไปไหมเพราะมันไม่เหมือนกับตอนอยู่ในลิฟท์หรือด้านบนที่ปลอดภัยแต่ผมปล่อยให้ยูทาร์ฆ่าใครไม่ได้...
ถ้าจะฆ่าใครคนแรกต้องเป็นผม!
“ยูทาร์!!!”ผมตะโกนเรียกเสียงดังลั่น ทั้งร่างกายของผมสั่นไปหมดทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น ไม่รู้สักนิดว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง
กึก!
ปากขนาดใหญ่ที่กำลังจะขย้ำคุณไป่จิงชะงักกก่อนจะละออกมาแล้วหันมาทางต้นเสียงพร้อมกับจมูกที่ส่งเสียงดังเหมือนกำลังดมกลิ่นอยู่
“ยูทาร์...ห้ามฆ่านะ...มานี่...มาหาผมนะ”ผมบอกเสียงสั่นโดยในใจได้แต่ภวนาให้ยูทาร์ไม่หิวจนหน้ามืดตามัวถึงขนาดเห็นผมเป็นอาหาร
กรร!
เสียงคำรามเริ่มเปลี่ยนไปก่อนจะค่อยๆก้าวออกจากคุณไป่จิงที่หน้าซีดเซียวแล้วตรงเข้ามาหาผมอย่างเชื่องช้า
“ฟียังติดต่อคุณไป่จิงได้ไหม?”ผมกระซิบถาม
(ได้คะ)
“บอกให้เขาค่อยๆออกไปทางประตูเล็ก...พอเขาออกไปแล้วปิดประตูซะ”
(แต่คุณ...)
“ผมไม่เป็นไร...แล้วตัดสัณญาณด้วย”
(...ทราบแล้วคะ)
ระหว่างที่ยูทาร์เดินเข้ามาผมก็ค่อยๆขยับถอยหลังให้ออกห่างจากตรงนี้เพื่อคุณไป่จิงจะได้หนีได้ง่ายขึ้นแต่ผมไม่บ้าพอจะวิ่งหนีหรอกนะ...ถ้าวิ่งก็คือตาย
“ยูทาร์...มานี่...ตามผมนะ...ใจเย็นๆนะ”ผมพยายามส่งเสียงออกไปแม้เสียงนั่นจะสั่นจนน่าสงสารก็ตามที
สองขาของยูทาร์ค่อยๆก้าวตามมาพร้อมกับดวงตาสีอำพันที่จับจ้องมาที่ผม จมูกขนาดใหญ่ที่สูดดมกลิ่นจากระยะไกลๆราวกับจะย้ำให้แน่ใจว่าคนที่ยืนอยู่เป็นเซโครตัวจริง
พอถอยมาได้สักระยะผมก็หยุดนิ่งอยู่กับที่เพื่อให้ยูทาร์ที่ตามมาขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น...หัวใจของผมเต้นถี่รัวด้วยความกลัวและกังวล...
ทั้งที่อีกใจก็อยากเชื่อแต่ก็หวาดกลัวเหลือเกิน
ฝืด
ลมหายใจร้อนๆค่อยๆเข้ามาเป่ารดหัวผมช้าๆก่อนจะขยับขึ้นลงเพื่อพิสูจกลิ่น...ผมปล่อยให้ยูทาร์ทำตามใจเพราะตอนนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
กรรร
เสียงครางสูงในลำคอพร้อมกับดวงตาสีอำพันที่เข้ามาใกล้ทำให้ผมรู้สึกราวกับถูกเรียกชื่องั้นแหละ
“ยูทาร์”
งื๊ดดด
เสียงสูงครางขึ้นในลำคออย่างต่อเนื่องก่อนที่ลมหายใจร้อนจะเป่ารดทั้งร่างผม
หัวใจที่เต้นถี่ค่อยๆคลายตัวลงเมื่อเห็นว่ายูทาร์ไม่ได้จะทำอันตรายอะไร
“เด็กดี...ขอบคุณที่ไม่เห็นผมเป็นอาหารนะ”ผมพึมพำเบาๆพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปสบตาสีอำพันที่ค่อยๆผละออกไปแล้วหันควับไปยังทิศที่เป็นประตูเล็ก
ยูทาร์คงได้ยินเสียงประตูปิดแน่ๆเลย...แปลว่าคุณไป่จิงคงจะปลอดภัยแล้วสินะ
“ยูทาร์”พอผมเรียกไดโนเสาร์ตัวยักษ์ก็หันมาหาในทันทีก่อนจะก้มหัวลงมาเพื่อจะได้เห็นหน้าผมได้ชัดขึ้น
“ขอโทษที่มาช้านะ”ผมเอ่ยขอโทษพร้อมกับเอื้อมมือไปสัมผัสบริเวณโพรงจมูกขนาดใหญ่นั่นอย่างเบามือ...ถ้าผมมาเร็วกว่านี้เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
“จริงสิ...คงหิวมากเลยใช่ไหมงั้นผมไปเอาอาหารมาให้นะ”ผมบอกพร้อมกับค่อยๆเดินไปที่ประตูเพื่อออกไปด้านนอกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อร่างของยูทาร์เดินมาขวางทางผม
“ยูทาร์?”ผมมองขึ้นไปอย่างไม่เข้าใจ
“ผมจะออกไปเอาอาหารมาให้ยูทาร์ไงหลีกทางให้ผมเถอะ”
ยูทาร์ไม่ยอมขยับเขยื้อนทำเพียงแค่อยู่นิ่งแล้วมองมาด้วยสายตาที่สื่อความหมายบางอย่าง...
งื๊ดดด
เสียงครางสูงดังขึ้นอีกรอบสร้างความไม่เข้าใจให้ผมอย่างมาก
“...ไม่อยากให้ผมออกไปเหรอ?”ผมลองถามออกไปดู...ยูทาร์มีสมองเหมือนมนุษย์ เขาจึงคิดเป็นและวิเคราะห์หลายๆสิ่งได้ในเวลาอันสั้น
เพราะงั้นผมจึงต้องคิดตามท่าทางและการกระทำนั่นแล้วสิ่งที่คิดได้ก็มีเพียงแค่นี้
ยูทาร์เข้าใจสิ่งที่ผมพูดเรื่องนี้เป็นความจริงที่ผมรู้ดีที่สุด
“พยักหน้าคือใช่...ส่ายหน้าคือไม่ใช่”ผมสอนยูทาร์แล้วทำท่าให้ดู....ผมทำแบบนี้อีกสองสามครั้งเพื่อให้ยูทาร์ได้เรียนรู้และจดจำ
“ผมขอถามอีกครั้ง...ไม่อยากให้ผมออกไปใช่ไหม?...ถ้าอยากให้ผมอยู่ต่อก็พยักหน้าแต่ถ้าไม่...”ผมยังพูดอธิบายไม่ทันจบศีรษะขนาดใหญ่ของไดโนเสาร์ตรงหน้าก็ผงกขึ้นลงช้าๆแต่หลายครั้ง
ดวงตาสีเหลืองอำพันที่สวยงามที่จ้องมาอย่างสื่อความหมายทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆเมื่อยูทาร์ไม่อยากให้ผมห่างไปไหน...การอยู่คนเดียวคงจะเหงามาก
ผมเองเข้าใจในจุดนั้นดีกว่าใคร
ตั้งแต่จำความได้ทั้งพ่อและแม่ต่างก็ไม่อยู่บ้านปล่อยให้เด็กอายุ7ขวบอยู่บ้านเพียงลำพัง ความเหงาที่อยู่อย่างเดียวดายและความเศร้าที่ต้องอยู่เพียงลำพังผมรู้ดี
ยูทาร์คงจะเหงามากและผมคงเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ยูทาร์มี
ไหนๆก็เข้ามาขนาดนี้แล้ว...อยู่ต่ออีกหน่อยจะเป็นไรไป
...
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i60.tinypic.com/2yuaa6d.jpg)
ไซส์โมซอรัส (อังกฤษ: Seismosaurus) เป็นไดโนเสาร์ซอโรพอดที่ใหญ่ที่สุดและยังเป็นไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดด้วย ยาวประมาณ 52-60 เมตร และอาจหนักถึง 122 ตัน ใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินถึง 2 เท่า ( ไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดคือสไปโนซอรัส ) ชื่อมีความหมายว่ากิ้งก่าแห่งแผ่นดินไหว เพราะเวลาเดินจะทำให้พื้นสั่นเหมือนแผ่นดินไหว กินพืชเป็นอาหาร รักสงบ อาศัยอยู่ในยุคครีเทเชียสตอนปลาย ค้นพบโดยกิลต์เลตต์ เมื่อปีค.ศ.1991 รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ไซส์โมซอรัส
....................................................................
สวัสดีคะ
ครั้งนี้มาอัพเร็วเพราะลองสร้างเพจของตัวเองขึ้นมาเลยอยากลองใช้ดูว่าเป็นยังไง
บอกตรงๆคือเราไม่ค่อยได้เล่นพวกนี้มากนนักอย่างพวกเฟสบุ๊คก็เล่นแค่ลงรูปกับกดไลค์แค่นั้นเอง
ยังไงก็ขอฝากเพจ nicedog (https://www.facebook.com/novelistnicedog) หน่อยนะคะ
มีอะไรเข้าไปคุยกันได้คะ
กลับเข้ามาเรื่องนี้กันดีกว่า...มีหลายคนบอกว่าอยากให้คุณหลงไปจิงโดนกินซะเราเลยเขียนแค่แบบเกือบๆโดนละกันเนอะ
ฉากบู๊เล็กๆพอกรุบกริบ
หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นคอยติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
ไว้เจอกันอาทิตย์หน้าคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
ยูทาร์ทำไมน่ารักจังงงงงงง
-
ไดโนเสาหรือแมวเนี่ยอ้อนซะ
-
เป็นแบบนี้นานๆนะ :o8:
-
อยู่ดีไม่ว่าดีจริงๆ เลยนะคะไป่จิง เกือบถูก
ยูทาร์เขมือบเข้าแล้วไหมล่ะ แต่น่ากังวลว่าไป่จิงคงจะไม่ลนลานออกไปบอกความจริงผิดๆ กับองค์กรหรอกนะคะว่ายูทาร์เป็นตัวอันตรายที่คิดจะกินตัวเอง ให้รีบๆ กำจัดทิ้งไปเสีย
แบบนี้น่ะค่ะ ทั้งที่จริงๆ แล้วตัวเองเข้าหายูทาร์ไม่เป็นเอง หวังว่าไป่จิงคงจะไม่ทำแบบที่เราคิดหรอกน้าา o18
-
ยูทาร์น่ารักเป็นบ้าเลย
ถ้าเขวี้ยงบูมเมอแรงไปจะวิ่งไปคาบไหมหว่า?? :hao3:
-
ฉลาดจังเลยลูกกก โอ๊ยย คือแบบ นางถือว่าแสนรู้เลยนะ ใช้คำนี้กับยูทาร์ได้ใช่มั้ย 555
-
น่ารักมากกกกก
-
หึหึ คุณหลง ยังอยากจะดูแลยูทาร์อยู่ไหม
-
ยูทาร์ น่ารักๆ พัฒนาจากความน่ากลัวเป็นน่ารักสำหรับเซโคร(และคนอ่าน555)
เสียอารมณ์กับพวกชอบหาเรื่อง หวังว่ารอดกลับออกไปได้แล้ว
คงไม่นำเรื่องเดือดร้อนมาให้เซโครกับยูทาร์หรอกนะ
+1+เป็ดค่ะ
-
โอ๊ยยยยยยยย ยูทาร์ ทำไมน่ารักงี้ล่ะ :-[
อยากเลี้ยงบ้างงงง อิจฉาเซโครรรรร :hao5:
-
ทั้งน่ากลัวทั้งน่ารัก อิอิ
รอนะคะ
-
ยูทาร์น่ารักมากๆเลยยยย ชอบบบบบบบ
มาต่ออีกเร็วน้า~
-
รอออออออออ
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
-
ดีมากยูทาร์ขู่ให้มันกลัวซะจะได้ถอดใจ :fire:
พาร์ทนี้น่ารักทั้งคู่ :impress2: ยูทาร์มีการงื้อๆๆอ้อนด้วย น่ารักกกก
เซโครจ๊ะเล่นกับน้องนานๆหน่อยนะน้องจะได้ไม่เหงา
สะบัดปอมๆเชียร์คนแต่ง อึ๊บๆๆๆ อาทิตย์หน้าเจอกัน จะรอนะคะ
-
ยูทาร์จิงๆแล้วมียีนส์นุ้งหมาด้วยป่ะเนี่ย555
รอค่ะ
:กอด1:
-
ยูท่ร์เป็นไดโนเสาร์หรือน้องหมาทำไมน่ารักอย่างี้ :man1:
-
*กอดยูทาร์* น่ารักเกินไปแล้ววว มีงื้ดๆ ด้วย -//-
มาต่อไวๆ น้า เค้ารอเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ
-
อิอิ น่ารักอะ ยูทาร์คงโกรธแน่เลยว่าคนให้อาหารไม่ใช่เซโคร
-
มีคงมีคราง อ๊าง จิบ้าตายยยยย
น่ารักมากยูทาร์เอ้ยยยยยยยยย
ครางได้ใจจริง ยิ้มแก้มปรเลย
มาต่อไวๆ นะค่ะ
-
ยูทาร์ อย่าไปกินอีหลงไป่จิงเลยเดี๋ยวท้องผูกนะ 555 น่ารักมากเลยตอนนี้ ไม่ไหวแล้วววว อ้ายๆๆๆ ฟินและตายอย่างสงบค่ะ :z3:
-
อ่านไปยิ้มไป :hao7:
-
ยูทาร์มุ้งมิ้งมากกกกกกกก อ้อนได้อีก 5555555
-
ยูทาร์น่ารักกกก เกลียดอิไป่แล้ว
-
ยูทาร์น่ารักกกกก เง้ออ คงจะเหงาน่าดูเลยล่ะ
-
น่ารักจริงๆยูทาร์
-
ยูทาร์ ทำไมน่ารักขนาดนี้
รู้มั้ยว่าเราคลั่งนายมากกกกกกกก
อร๊ายยยย (กลิ้งสิบตลบ)
มาต่อไวๆนะคะ
-
ไดโนเสาร์คราง กลายเป็นหมาน้อยเลยยูทาร์ของชั้น น่าร้ากอ่า
-
น่าจะกัดหมอนั่นให้ตาย
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน สนุกมาก o13
คือแบบแค่ไม่กี่ตอนก็ฟินจนฉุดไม่อยู่ :laugh:
ในมุมมองของเซโคร คิดว่ายูทาร์มองตัวเองแค่เพื่อน ลูกน้องในฝูง
คือ...ไม่ใช่นะคะหนู เค้าคิดไปไกลกว่านั้นค้าาา เค้าหวงหนูนะลูก 55555
คนเขียนแต่งได้ฟินกระจายมาก คืออันนี้เค้าเพิ่งเจอกัน ยังอีกนานกว่าจะได้กัน
แต่อดคิดไม่ได้ว่าขนาดเริ่มๆยังฟินขนาดนี้
แล้วได้กันจะฟินขนาดไหน โฮะๆๆ :hao6: :impress3: :laugh:
-
อยากอ่านนน :z3: :z3:
-
ยูทาร์น่ารัก :mew1:
-
เจ้าหมาน้อย พยักหน้า ส่ายหน้า เดี๋ยวคงมีขอมือ :katai2-1:
-
:o8: :-[ :impress2:
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
อาทิตย์หน้า !!!! ม่ายยยย :katai4: อาทิตย์นี้ไม่ได้หรอ แงๆๆๆๆ :z3: :ling1:
-
อย่าจากชั้นไปเลยที่รักกกกกกก :impress3:
-
ยูท่าน่ารักมากกกก :katai5:
ดิ้นๆๆ :ling1:
-
ตอนใหม่มาแล้ว ดีใจมากกกกก :กอด1:
ถึงนักเขียนจะบอกว่าอาทิตย์ละตอน แต่เราก็เข้ามาดูทุกวันอยู่ดี :-[
ขอบคุณที่มาต่ออย่างรวดเร็วนะคะ ตอนนี้น่ารักมุ้งมิ้งมากกกก :mew1:
-
เอร้ยยย ยูทาร์น่ารัก มีงื้ดด้วย
มาติดตามค่ะ
-
แอร๊ยยยยยย ไม่ไหวล่ะ!น่ารักเกินไปล่ะ!!!ทั้งยู่ยู้(?) ทั้งเซ่เซ้(?)ทั้งคุณคนเขียน งือออ อ่ะ! คนสุดท้ายไม่เกี่ยวนี้ ฮ่าๆๆ(แซวเล่นค่า :กอด1: หึหึ)
มิสเตอร์หลง...เดี๋ยวสักวันฉันจะจ้างคุณคนเขียนให้แกหลงเข้าไปในท้องน้องยูจริงๆ เดี๊ยะๆ
-
รอชั้นรอเธอว์อยู่
เตรียมป๊อปคอน ไส้กรอก โค้กพร้อมแล้วนะ เมื่อไหร่ตอนใหม่จะมา
เฝ้ารอต่อไปอย่างมีความหวัง
-
รออย่างใจจดใจจ่อ
:katai4:
-
กลายรักครั้งที่❧6(ครึ่งหลัง)
ดวงตาสีเหลืองอำพันที่สวยงามที่จ้องมาอย่างสื่อความหมายทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆเมื่อยูทาร์ไม่อยากให้ผมห่างไปไหน...การอยู่คนเดียวคงจะเหงามาก
ผมเองเข้าใจในจุดนั้นดีกว่าใคร
ตั้งแต่จำความได้ทั้งพ่อและแม่ต่างก็ไม่อยู่บ้านปล่อยให้เด็กอายุ7ขวบอยู่บ้านเพียงลำพัง ความเหงาที่อยู่อย่างเดียวดายและความเศร้าที่ต้องอยู่เพียงลำพังผมรู้ดี
ยูทาร์คงจะเหงามากและผมคงเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ยูทาร์มี
ไหนๆก็เข้ามาขนาดนี้แล้ว...อยู่ต่ออีกหน่อยจะเป็นไรไป
“ยูทาร์”เมื่อคิดได้ผมก็เรียกชื่อไดโนเสาร์ตรงหน้า
“ผมจะบอกให้คนที่เฝ้าอยู่ให้เปิดประตูใหญ่จะได้พายูทาร์ไปว่ายน้ำเนอะ”ผมพูดต่อแล้วกดเปิดสัณญาณที่หูฟังไร้สาย
“คุณฟี”
(...คุณเซโคร...สุดยอดเลยที่คุณสามารถสั่งยูทาร์ได้)เสียงเอ่ยชมดังมาจากปลายสายอย่างตื่นเต้น
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ...อ๊ะ...”ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อยูทาร์เอาจมูกอันใหญ่ต่อมาดมแถมหูฟังไร้สายของผมอย่างสนใจ
คงจะได้ยินเสียงสินะ
“ยูทาร์ผมขอคุยแป๊บนึงนะ...นี่เรียกว่าหูฟังไร้สายไวติดต่อกับคนที่อยู่ไกลกันน่ะ”ผมบอกยูทาร์พร้อมกับชี้ไปที่หูฟังไร้สายของตนเอง...ทุกอย่างสำหรับยูทาร์คงจะแปลกใหม่ไปหมด
(...คุณเซโคร...)
“อ่า...คุณฟีช่วยเปิดประตูใหญ่ที่เชื่อมตรงสระน้ำออกด้วยครับ”ผมหันไปบอกปลายสายอีกครั้ง
(ทราบแล้วคะ)
พอคุยเสร็จผมก็ตัดสัณญาณที่หูฟังไร้สายแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองยูทาร์ที่จ้องมาอย่างมึนงง...วันนี้ผมคงต้องออกแรงหน่อยล่ะ
ไม่ได้ว่ายน้ำมาตั้งนาน
แถมวันนี้ยังต้องสอนไดโนเสาร์ว่ายน้ำด้วย...ไม่แน่นะยูทาร์อาจจะว่ายเป็นแล้วก็ได้
“ยูทาร์ว่ายน้ำเป็นไหม?”ผมลองถามออกไปแต่สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความนิ่งเงียบเท่านั้น
“เราไปกันเถอะ...วันนี้ผมจะอยู่กับยูทาร์ทั้งวันเลย”ผมบอกด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความดีใจ
ไม่คิดว่าวันที่จะได้เดินเคียงข้างยูทาร์จะมาถึงเร็วขนาดนี้แถมอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็จะได้ว่ายน้ำร่วมกับบยูทาร์...
วันนี้เป็นวันที่สมควรถูกจารึกในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์จะได้ว่ายน้ำร่วมกับไดโนเสาร์
เซโครค่อยๆเดินไปตามทางโดยมียูทาร์เดินต้อยๆตามหลังมาคล้ายๆกับลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ดเพียงแต่ลูกเป็ดที่ควรจะตัวเล็กกลับตัวใหญ่กว่าผมตั้งหลายเท่า
เมื่อมาถึงบริเวณประตูบานใหญ่ที่ปิดกั้นอยู่ผมก็เงยหน้าขึ้นไปมองบริเวณกล้องวงจรปิดที่คุณฟีคงจดูอยู่...ผมหวังว่าเธอจะเปิดประตูให้ผมเร็วๆนะ
กรรร!!
ตึง!
เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับร่างกายอันใหญ่โตที่วิ่งชนประตูเหล็กหนักหลายสิบตันก่อนจะถอยออกมาแล้ววิ่งเข้าไปชนใหม่ซ้ำอีกหลายๆรอบ
“ยูทาร์?...พอก่อนอยู่ทาร์ทำอะไรน่ะ?”ผมรีบตะโกนห้ามด้วยความร้อนรน
ทำไมยูทาร์ถึงทำแบบนี้กันนะ
แกร็ก
เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ประตูเหล็กจะค่อยๆถูกเลื่อนขึ้น...ยูทาร์ที่เห็นแบบนั้นก็ขู่คำรามเสียงดังขึ้น ปากขนาดใหญ่แยกออกกว้างจนเห็นเขี้ยวครบทุกซี่ก่อนจะวิ่งมาอยู่ด้านหน้าผมราวกับจะปกป้อง...
การกระทำแบบนั้นทำให้ผมเบิกตากว้างและยืนอึ้งอยู่กับที่ก่อนจะคลียิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่เห็นยูทาร์มาปกป้องตนเองแบบนี้
“ไม่เป็นไรยูทาร์...แค่เลื่อนประตูขึ้นไม่มีอันตรายหรอก”ผมอธิบายพร้อมกับเดินไปอยู่ข้างๆยูทาร์ ดวงตาสีอำพันที่จ้องมาราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่ผมบอก
“หันไปดูสิยูทาร์...นั่นเป็นเหมือนห้องอาหารและห้องอาบน้ำของยูทาร์ไง”ผมบอกต่อพร้อมกับชี้ไปยังอีกฝากของประตู ยูทาร์หันไปตามนิ้วที่ผมชี้จนพบกับภาพของสระน้ำ ไม่สิ เรียกว่าบึงขนาดย่อมดีกว่า...บึงขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้ต้นเล็กๆปลูกอยู่ล้อมรอบ ภายในบึงเต็มไปด้วยหมู่ปลานานาพันธุ์ที่ว่ายไปมาอย่างสนุกสนาน น้ำบนผิวใสเหมือนกับน้ำใสสระแต่พอมองลึกลงไปกลับเป็นสีขุ่นที่มีทั้งดินและโคลนปะปนกันไป
เซโครมองยูทาร์ที่ค่อยๆก้าวเข้าไปภายในราวกับถูกต้องมนต์สะกดด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินตามเข้าไปเงียบๆ...บรรยากาศดั้งเดิมที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับอดีตมากที่สุดทำให้ยูทาร์รู้สึกผ่อนคลายจนผมรู้สึกได้
“เล่นน้ำกันเถอะ”ผมเงยหน้าขึ้นจนดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมสบเข้ากับดวงตาสีอำพันขนาดใหญ่ของอีกฝ่ายแล้วบอกออกไป
ยูทาร์ทำหน้างงใส่ผมจนหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
“เดี๋ยวผมจะลงไปในนั้น...สิ่งนั้นคือน้ำและนี่คือบึงหรือเรียกว่าทะเลสาบขนาดย่อมก็ได้นะ...ถ้าอยู่ในร่างมนุษย์ต้องถอดเสื้อผ้าก่อนจะได้ไม่เปียกแต่ผมอายพวกกล้องเพราะงั้นขอถอดแค่เสื้อนอกนะ”ผมบอกกับยูทาร์ก่อนจะถอดเสื้อคลุมสีขาวที่สวมอยู่ออกจนเห็นเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่สวมอยู่ด้านใน
เซโครถอดรองเท้าไว้ใกล้ๆเสื้อคลุมสีขาวก่อนจะเดินลงไปในน้ำที่เย็นนิดๆแล้วหันกลับไปมองยูทาร์ที่ยังคงยืนอยู่ริมบึง...ยูทาร์เป็นไดโนเสาร์ที่ฉลาดคงจะไม่เสี่ยงลงมาในสิ่งที่ยังไม่รู้จักสินะ
“มานี่สิยูทาร์...มาเล่นน้ำกัน”ผมกวักมือเรียกแล้วเดินถอยหลังต่อไปจนน้ำขึ้นมาถึงระดับเอว...ยูทาร์ที่เห็นผมลงลึกไปเรื่อยๆก็ชะเง้อคอราวกับจะอยากลงน้ำแต่ก็ไม่กล้า
“ยูทาร์...มาสิ”ผมเรียกอีกครั้งแล้วมองยูทาร์ที่พยายามก้าวขาหลังขนาดใหญ่ลงมาในน้ำอย่างช้าๆพร้อมกับส่วนหัวที่ก้มลงที่แล้วดมกลิ่นน้ำที่อยู่ด้านล่าง พอเห็นว่าไม่เป็นอันตรายยูทาร์ก็เริ่มก้าวเท้าเร็วขึ้นจนเข้ามาอยู่ด้านข้างผมที่ตอนนี้กำลังลอยคออยู่ในน้ำ
“เก่งมายูทาร์”ผมชมพร้อมกับลูบที่บริเวณด้านข้างท้องสีเทาเข้มก่อนจะว่ายนำออกไปจนถึงบริเวณยูทาร์ยืนไม่ถึงเลยต้องค่อยๆโน้มร่างกายมาด้านหน้าแล้วเริ่มว่ายน้ำ
“สุดยอดเลย...ไม่ต้องสอนก็ทำได้แล้ว”ผมบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้
เซโครว่ายน้ำออกไปไกลขึ้นโดยที่ด้านข้างมีบริเวณหลังของยูทาร์ที่เป็นสีเทาเข้มลายส้มโผล่พ้นน้ำอยู่
นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ผ่อนคลายโดยการว่ายน้ำแบบนี้
ครั้งสุดท้ายที่จำได้คงจะเป็นตอนมัธยมปลายสินะ
หลังจากที่เข้ามหาวิทยาลัยผมก็เอาแตเรียนและอ่านหนังสือจนแทบไม่มีเวลาไปสังสรรค์ที่ไหนแต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยไปงานอะไรเลยหรอกนะ...แค่ตั้งวงดื่มผมก็เคยไปถึงจะแค่4-5ครั้งจนจบปริณญาเอกก็เถอะ
“ปลาที่ว่ายอยู่เป็นอาหารของยูทาร์นะ...จับกินได้ตามใจเลย”ผมหันไปบอก ส่วนหัวขนาดใหญ่ค่อยๆหันมาทางผมจนดวงตาสีอำพันนั่นจ้องมาอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่ผมบอกออกไปนัก
“ปลาเป็นอาหาร...เหมือนกับที่ผมให้เนื้อยูทาร์ทุกวันไง...วันนี้ยังไม่ได้กินมื้อเช้าคงจะหิวมากสินะ...ครั้งหน้าผมจะไม่เลทอีกสัญญาเลยเพราะงั้นกินก่อนจะเป็นลมเนอะ”ผมบอกติดตลก...ในความเป็นจริงถ้าเห็นไดโนเสาร์เป็นลมคงจะน่าขำน่าดู
ยูทาร์นิ่งไปสักพักเหมือนกำลังประมวลคำพูดผมอยู่ก่อนที่ส่วนหัวของยูทาร์จะชูขึ้นแล้วดำลงไปใต้น้ำอย่างงรวดเร็ว ด้วยน้ำหนักที่มากที่ให้มีน้ำกระจายออกมาเป็นวงกว้างและดูดผมเข้าไปจนแทบพยุงตัวไม่ได้
“...แค่ก...ยูทาร์...”ผมสำลักน้ำออกมาแล้วพยายามเงยหน้าขึ้นเพื่อสูดอากาศ พอน้ำเริ่มกลับมาสงบนิ่งอีกครั้งผมก็หันซ้ายขวาเพื่อดูว่ายูทาร์อยู่ที่ไหนแต่ก็ไม่มีวี่แวว...
และทันทีที่ก้มลงไปด้านล่างผมก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ว่ายอยู่ใต้ตัวเอง ยูทาร์ว่ายไปมาเพื่อไล่ต้อนปลาก่อนจะอ้าปากขนาดใหญ่แล้วจัดการปลาทีเดียว4-5ตัว
สมแล้วที่มียีนส์ของไดโนเสาร์ที่ชอบว่ายน้ำและจับปลากิน...ความสามารถในการว่ายน้ำ การลอยตัวและการจับปลาทำได้มากกว่าสไปโนซอรัสที่เคยเห็นในคลิปอีกอาจเป็นเพราะมียีนว์ของโทรโอดอนกับมนุษย์เลยทำให้เรียนรู้ได้เร็วมากกว่าปกติ
ทุกครั้งที่ร่างกายขนาดใหญ่ขยับผมก็เหมือนลอยอยู่บนคลื่อนที่ขยับไปมาอยู่ตลอดเวลา...อยากจะมองยูทาร์ในมุมสูงแต่ตอนนี้คงทำไม่ได้ถ้าเสร็จจากตรงนี้ผมจะไปขอคลิปจากคุณฟี
สิ่งที่ผมสามารถมองเห็นได้มีเพียงผิวหนังสีเขียวลายส้มที่ขยับไปมาอย่างรวดเร็วใต้ผิวน้ำเท่านั้น...พอคิดว่าอยู่ตรงนี้ต่อไปก็ทำได้แค่ลอยคอผมเลยค่อยขยับร่างกายและเตรียมว่ายกลับไปที่ฝั่ง แค่ทำให้ยูทาร์ลงมากินปลาได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
“หว๋า...เฮ้ย...”ผมร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อยู่ร่างของผมก็ถูกยกขึ้นเหนือผิวน้ำด้วยฝีมือของไดโนเสาร์ร่างยักษ์ที่ว่ายตามมา
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงส่วนคอใกล้หลัง ด้วยความที่จำได้ว่าที่หลังของยูทาร์มีหนามขนาดใหญ่อยู่ด้วยทำให้ผมรีบหันควับไปมองด้านหลังอย่างรวดเร็วก่อนจะพบว่าหนามขนาดใหญ่นั่นอยู่ห่างจากก้นผมไปไม่ถึงสองเซ็นต์
ขอบคุณพระเจ้าที่ยูทาร์ฉลาด
หรืออาจเป็นแค่ความบังเอิญก็ไม่รู้...เอาเป็นว่าขอบคุณทุกๆสิ่งที่ทำให้ก้นผมไม่ต้องโดนเสียบละกัน
พอหายจากอาการตกใจผมก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังขี่ไดโนเสาร์อยู่...ผมก้มมองไปที่ด้านล่างที่ยูทาร์กำลังว่ายน้ำไปมาโดยมีผมนั่งอยู่บนหลัง
“ยูทาร์...สุดยอดเลย...ผมพึ่งเคยได้ขี่ไดโนเสาร์ครั้งแรก...อ๊ะ...ตอน10ขวบผมเคยพี่ไทเซอราท๊อปนี่นา...เฮ้ย...”ในขณะที่ผมพูดยูทาร์ก็เป็นอะไรไม่รู้ดำลงไปในน้ำลึกก่อนจะกระโจนขึ้นเหนือผิวน้ำอย่างรวดเร็วจนผมต้องเกาะคอของยูทาร์ไว้แน่น
ถึงด้านล่างจะเป็นน้ำแต่ถ้าตกลงไปคงได้มีเจ็บตัวแน่ๆ
“แค่ก...เป็นอะไรยูทาร์...โกรธที่ผมไปขี่หลังตัวอื่นเหรอ?”ผมถามถามก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสุขทั้งที่ไม่รู้ว่าความจริงเป็นอะไรกันแน่แต่ตอนนี้ก็ขอเข้าข้างตัวเองหน่อยละกัน
“...งื๊ดดดด”อยู่ๆยาร์ก็กรีดร้องเสียงสูงก่อนที่ร่างกายจะสะบัดไปมาอย่างแรงจนผมกระเด็นตกน้ำไป
“แค่ก...ยูทาร์”ผมรีบว่ายขึ้นมาก่อนจะหันไปมองร่างของยูทาร์ที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ร่างกายที่เริ่มหดเล็กลง ส่วนหัวที่เริ่มมีเส้นผมยาวสีเทาเข้มและบางเส้นมีสีส้มตรงส่วนปลาย ปลายหางขขนาดใหญ่ที่ค่อยๆหดหายไปจนเหลือเพียงแค่ร่างของมนุษย์ผมสีแทนสีเริ่มใช้มือตะเกียกตะกายไปมาราวกับว่ายน้ำไม่เป็น...
“ว่ายน้ำไม่เป็นเหรอ?”ผมตะโกนขึ้นก่อนจะรีบเข้าไปหายูทาร์ที่จมลงไปใต้น้ำแล้ว
เซโครรีบกลั้นหายใจแล้วดำลงไปใต้น้ำก่อนจะจับยึดร่างของยูทาร์ไว้แล้วดึงขึ้นมาจนส่วนหัวของเราทั้งคู่เลยโผล่พ้นผิวน้ำ
“ยูทาร์...ยูทาร์”ผมหันไปหาคนที่ตัวเองกอดเอาไว้แล้วเรียกชื่อเสียงดัง
“...เซ...โคร...”เสียงทุ้มของอีกฝ่ายที่ดังขึ้นเบาๆทำให้ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วรีบพายูทาร์ขึ้นไปบนฝั่งในทันที...
ตอนนี้ผมต้องรีบพายูทาร์ไปหาหมอ...ไม่สิ...ผมนี่แหละหมอ!
เพราะงั้นต้องรีบพายูทาร์ไปตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้น...ช่วงนี้ยูทาร์ไม่ได้กลายร่างเป็นมนุษย์มาได้หลายวันแล้วอาจถึงเวลาที่เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงของร่างกายแล้วก็ได้
ถือเป็นการดีที่ยูทาร์อยู่ในร่างมนุษย์ทำให้สามารถพาไปไหนมาไหนได้สะดวก...ถึงจะลำบากเพราะร่างกายของผมเล็กกว่ายูทาร์พอสมควร
เซโครรีบพาร่างของยูทาร์ที่หมดสติลากไปที่ประตูเล็กที่อยู่ด้านข้างของสระน้ำแล้วเปิดประตูจากภายในก่อนจะลากยูทาร์ต่อไปยังประตูเหล็กที่สร้างขึ้นเป็นซี่ขนาดใหญ่ไว้กันอีกชั้นหนึ่งแต่ทันทีที่ผมจะเปิดประตูนั้นร่างของชายในชุดสูทกว่า5คนก็มายืนขวางไว้ทำให้ผมเปิดประตูออกไปไม่ได้
“พวกคุณทำอะไรน่ะ...หลีกทางไปเดี๋ยวนี้”ผมบอกพวกเขาที่ยืนขวางทางอยู่
“พวกเขาฟังแค่คำสั่งผมเท่านั้น”เสียงที่ผมคุ้นเคยแต่ไม่อยากได้ยินดังขึ้นก่อนที่เหล่าชายในชุดสูทจะแหวกแถวออกจนเห็นคุณหลงไป่จิงที่อยู่ในสภาพไม่ค่อยดูดีเท่าไหร่เดินกะเผลกมาพร้อมผู้ช่วยอีกคนนึงที่ช่วยผยุง
ส่วนหัวมีผ้าพันแผลพันไปทั้งหัว...แขนซ้ายเข้าเฝือกไว้และใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนที่ยังมีเลือดซึมออกมาอยู่...
สภาพใช้ได้น่าจะนอนห้องICUสักอาทิตย์นึงนะ
“คุณต้องการอะไร?”ผมถามเสียงแข็ง...คนคนนี้คงไม่ได้มาดีแน่
“ผมแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ!...เธอคิดจะเอาปิศาจนั่นออกมาจากกรงงั้นเหรอ?...อยากให้มีคนตายเพิ่มรึไงกัน...มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ควรจะฆ่าทิ้งไปซะ!!”ชายตรงหน้าตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“ยูทาร์ไม่ใช่ปิศาจหรือสัตว์ประหลาดอะไรทั้งนั้น...คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าเขาแบบนี้! เรื่องที่เกิดมันก็เพราะตัวคุณเองที่ดันใช้เบ็ดตกปลาหย่อนเนื้อลงไปทั้งที่รู้ว่ายูทาร์ฉลาดแค่ไหนและก็เป็นความผิดของคุณที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาติเพราะงั้นคุณไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องและบอกว่าทั้งหมดนั่นเป็นความผิดของยูทาร์...ตอนนี้เขาเป็นมนุษย์เป็นมนุษย์เหมือนพวกเราและผมกำลังจะพาเขาไปรักษา!!”ผมตะโกนกลับไปบ้าง...แค่เห็นหน้าความโกรธที่เก็บกดไว้ก็ปะทุออกมาจนอยากจะเข้าไปชกหน้าอีกฝ่ายสักครั้งแต่ตอนนี้ยูทาร์สำคัญที่สุด
“ฉันไม่ให้ไป...ไอ้สัตว์ประหลาดนั่นมันควรตายไปซะ”
“คุณต่างหากที่ควรตายไปแล้ว!...ถ้ายูทาร์คิดจะฆ่าคุณจริงๆไม่ต้องรอถึงผมมาหรอก!...คุณควรขอบคุณยูทาร์ที่ไม่ฆ่าคุณแต่กลับขอบคุณโดยการจะฆ่าเขาเนี่ยนะ!...คุณมันไม่ใช่มนุษย์!!”ผมตวาดลั่นโดยที่ตอนนี้ตาผมคลอไปด้วยน้ำตา
ทำไมคนคนนี้ถึงโหดร้ายได้ขนาดนี้นะ
“จะพูดยังไงฉันก็ไม่ปล่อยให้มันออกมาแน่”อีกฝ่ายบอกเสียงเข้มทำให้ผมได้แต่เม้มริมฝีปากเพื่อระงับความโกรธและหงุดหงิดที่เริ่มมีมากขึ้น
“คุณไม่ใช่คนที่มีสิทธิ์สั่งการเรื่องนี้นะคุณหลงไป่จิง”เสียงที่แสนคุ้นเคยอีกเสียงดังขึ้นมาขัดการสนทนาของผมกับคุณไป่จิง
“พ่อ”ผมเรียกชื่อของชายที่เดินเข้ามาใกล้กรง
“ไม่เป็นไรนะเซโคร”พ่อหันมาถามด้วยความเป็นห่วง
“ครับ...แต่ยูทาร์อาจจะแย่ผมจะเอาเขาไปตรวจแต่...”พอพูดถึงตรงนี้ก็หันไปมองยังเหล่าคนในชุดสูทที่ยืนขวางอยู่
“คุณหลงไป่จิง...คุณให้ลูกน้องคุณถอยไปเถอะ”พ่อหันไปบอกเสียงเรียบ
“แต่ลูกคุณกำลังเอาสัตว์ประหลาดนั่นออกมานะคุณฟราน”อีกฝ่ายบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ยูทาร์ไม่ใช่สัตว์ประหลาด...คุณเองก็รู้ตัวดีว่าทำไมถึงได้โดนเล่นงานแบบนี้...ความจริงคุณควรจะสงสัยได้แล้วนะว่าทำไมงานของคุณถึงได้ไปสำรวจแค่ไดโนเสาร์กินพืช”พ่อพูดต่อแล้วเดินเข้าไปหาคุณไป่จิงใกล้ขึ้น
“คุณ...หมายความว่ายังไง?”
“ไม่มีใครส่งคนที่รู้ว่ายังไงก็ตายไปให้ไดโนเสาร์กินเนื้อหรอก...คุณอาจเป็นคนที่เก่งมากแต่ความเหย่อหยิ่งและคิดแต่ว่าตัวเองรู้จักพวกมันเป็นอย่างดีเพราะงั้นคงไม่มีอะไรต้องกลัว...ความคิดนั่นจะทำให้คุณตายเมื่ออยู่ต่อหน้าไดโนเสาร์”
“...คุณฟราน”
“ตอนนี้ผมเป็นคนดูแลโทรโอ ทาห์แรพ โซนอร์ ซอรัสหรือยูทาร์อยู่เพราะงั้นผมอนุญาติให้เอาเขาออกไปตรวจร่างกายและรักษาได้...”ทันทีที่พ่อพูดผมก็ยิ้มกว้างออกมาแล้วเตรียมเปิดประตูออกไป
“เพียงแต่...”ทันทีที่ประโยคต่อมาดังขึ้นผมก็ต้องหันไปมองหน้าพ่อที่เดินเข้ามาหาผมใกล้ๆ
“ครับ?”
“ลูกต้องไม่ให้เขาทำร้ายใคร...จะต้องไม่มีการสูญเสียถ้าจะเอาเขาออกมา...สัญญาได้ไหม?”พ่อเอ่ยถามแล้วมองหน้าผมอย่างต้องการคำตอบ
“แน่นอนครับ...ผมสัญญา”
............................................................................
เว็บอัพรูปเข้าไม่ได้ไม่รู้ว่าเป็นอะไรขอทบยอดไว้คราวหน้านะคะ :hao5:
สวัสดีคะ
ความจริงกะจะมาอัพในวันพรุ่งนี้แต่ด้วยแรงเชียร์จากการคอมเม้นท์ที่ท่วมท้นทำให้ต้องมาอัพในวันนี้แทน
รู้สึกดีใจมากที่มีคนคอยติดตามเรื่องนี้...เรื่องราวความรักที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ของเซโครและยูทาร์
กำลังใจของทุกคอมเม้นท์ทำให้เราสามารถเดินหน้าต่อได้คะ
สำหรับตอนนี้คงมีหลายคนเริ่มเกลียดชายที่ชื่อ หลงไป่จิง กันมากขึ้นอีกนิดแต่บอกได้เลยว่าเขาคงไม่หยุดแค่นี้คะ(ไหนๆเป็นตัวร้ายแล้วก็ขอใช้ให้คุ้มหน่อยเนอะ555+)
ตั้งแต่ตอนหน้าจะเข้าสู้เนื้อหาหลักที่เป็นการพัฒนาความสัมพันธุ์ของทั้งคู่อย่างจริงจังแล้วนะคะ
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และกำลังใจที่มีให้นะคะ
ใครยังไม่รู้ว่าเรามีเพจแล้วสามารถเข้าไปพูดคุยหรือทักทายได้นะคะ>>nicedog (https://www.facebook.com/novelistnicedog)
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
:ling2: :ling2: :ling2:
งดจ่ายค่าตัวไป่จิงแทนได้ไหมคะ บทออกน้อยๆหน่อยเซ่
ยูทาร์เป็นอะไร ตรวจร่างกายด่วน :ling1:
รอตอนต่อไปนะค้าาา อย่านานน้าาาาาา :katai1:
-
อร๊ายยยยยยย ในที่สุดคนแต่งก็แพ้แรงยั่วยุมาต่อจนได้ ฮี่ๆๆๆๆ :impress2: :laugh:
ตอนแรกว่ายน้ำหยั่งกะปลา ตอนเป็นคนสรีระเปลี่ยนเลยว่ายไม่ได้สินะคะ ที่สลบไปอาจจะเผลอกลืนน้ำรึเปล่า ตรวจด่วนเลยๆ เซโครปกป้องยูทาร์สุดๆ ยูทาร์ก็ปกป้องเซโคร(จากประตูเหล็ก)
น่ารักมากกกกกก
สมน้ำหน้าอิตาหลงตัวเอง โดนห้ามเข้าใกล้ยูทาร์ไปเลย ชิ้วๆ
รอตอนต่อไปเนาะ คนแต่งสู้ๆ!!
-
อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อ อยากอ่านอีก อ อ อ อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก ออ อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อ อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อ อ อยากอ่านอีก อยากอ่านอีกอยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก //ไซโค
-
ยูทาร์เป็นอะไรร
ยูทาร์น่าจะฆ่าหลงไป่จิง ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเนอะ :m16:
รอตอนต่อไป รีบมาน้า
-
ยูทาร์หวงที่เซโครไปขี่หลังไดโนเสาร์ตัวอื่นก่อนตัวเองเหรอค้าาาา :-[ .. น่ารักจริงๆ เลย
ไป่จิงจะไม่หยุดใช่ไหมคะ? เก่งแต่ตอนที่ยูทาร์เป็นมนุษย์นี่แหละนะ คอยให้ยูทาร์กลับคืนร่างก่อนเถ้อออ~ แล้วนายจะหนาว~ :laugh3:
-
ทำไมมันน่ารักเยี่ยงนี้ :hao7: คนเขียนแต่งเก่งอ่า
มันเข้มข้นขึ้นทุกตอนเบย ชอบๆๆๆ เยี่ยมจ้า o13
-
คุณพ่อมาได้ถูกเวลามาก ให้มันรู้ว่าแถวนี้ใครคุม :laugh: ตอกหน้าไอ้อ้วนนั่นไปเลยค่ะ นังไป่จิงกลับไปดูแลพวกกินพืชเถอะย่ะ ธุระไม่ใช่ :beat:
ตอนนี้ก็มุ้งมิ้งเช่นเคย :-[ ยูทาร์ไม่ได้แปลงร่างมานานจะทำให้อยู่ร่างคนนานขึ้นมั้ย?
พอเป็นคนแล้วให้ฟิลแบบลูกหมาซะงั้นอ่ะ น่ารัก :man1:
-
:impress2:
-
คนเขียนขาาา เราโลภ แค่นี้เราไม่พอ งี๊ดดด /เลียนแบบยูทาร์
อยากอ่านอีกกกก ยูทาร์น่ารักจังเลย ลืมไปเลยว่าเป็นไดโนเสา เหมือนน้องหมาเลย ฮ่าๆๆ เซโครสู้ๆ ขัดใจคุณหลงมากค่ะ เดี๋ยวให้ยูทาร์งับหัวเล่นซะเลยนี่...
-
เป็นคนแล้ว วว
-
กรี๊ดด กลายร่างเป็นมนุษย์แล้ววว
ลุ้นนนนน
-
:กอด1: :mew1:
-
อ้ายยย ยูทาร์เซโครน่าร้ากกกกก อีหลงไป่จิงยังจะมีออกมาอีกเร๊อะ เบื้องบนรีบๆส่งตัวมันไปดูทีเร๊กซ์ทีสิ จะได้โดนกินๆจบๆไป (ฮาา) รอต่ออย่างใจจดใจจ่อค่ะะะะ :z3: ตอนนี้คุณพ่อฟรานสุดยอดดดด รอรับขวัญว่าที่ลูกเขยละซรี๊ หุหุหุ
-
ชอบยูทาร์อ่ะ :impress2:อยากได้ชักตัว~~
-
:-[
-
อิตาหลง แกยังอยู่อีกเรอะะะ คราวหน้ามาให้ยูทาร์งับหัวเล่นอีกสักทีมั้ย :z6:
ขำตอนยูทาร์เกยตัวเซโครขึ้นมา คือไม่คิดว่าตั้งใจหรอก บังเอิญน่ะ เกือบได้เป็นลูกชิ้นเสียบไม้แล้วมั้ย 55555
ยูทาร์อาการดีเมื่อไหร่สอนว่ายน้ำด้วยนะะ เกิดว่าย ๆ อยู่กลายร่างเป็นคนกลางสระตอนเซโครไม่อยู่ขึ้นมาล่ะซวยเลย
-
ยูทาร์น้อยๆของพี่
-
ไอ้เจ๊กหลงนั่นน่าจะโดนจับกินให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยน่ะนั่น :angry2:
ยูทาร์กลายร่างเป็นมนุษย์แล้ว แงงๆแต่อย่าเป็นไรหนักนะ เป็นห่วงยูทาร์ :mew2:
-
ตอนว่ายน้ำกับหมาตัวใหญ่ยักษ์ น่ารักเชียวนะยูทาร์ ร้องงืดนี่คืออะไร ทำอะไรให้สมกับเป็นที่ราชาตัวใหม่หน่อยเซ่
ไป่จิง หวังว่าคงไม่ได้มาร้ายแบบโง่ๆเท่านั้นนะ
-
เอาไป่จิงไปเก็บเถอะ ขอร้องงงง
-
คู่นี้น่ารักมากกก ยูทาร์แอบหึง
:-[ :-[
-
ยูทาร์น่ารักอีกแล้ววว วรั้ยยย >///<
ที่สลบคงคล้ายๆ จมน้ำป่ะ? เซโครต้องช่วยยูทาร์ให้ได้น้า เผลอๆ จะฟื้นขึ้นมาตอนอยู่ในอาคารเปล่าเนี่ย แค่อย่าเพิ่งกลายร่างเป็นไดโนเสาร์ตอนนั้นก็พอ ไม่งั้นมีตึกถล่ม -_-"
รอตอนหน้าจ้า
-
และแล้วก็เป็นมนุษย์ จิ้นกันต่อไป
-
น่ารักอะเนอะ
-
มาเเล้ววว ><
ยูธาร์ต้องฝึกว่ายน้ำในร่างคนบ่อยๆนะ
-
ยูทาร์น่าร้ากกกก
-
หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องยุ่งตอนพายูทาร์ออกมาหรอกนะ
-
ยูทาร์ลูกเอ้ยยย อินมาก
นี่เาดูไปคิดถึงบลูไปปด้วยเลยอินหนังมาอินนิยายต่อ :katai1:
-
กี้สสสมาแล้ว
คุณพ่อโผล่มาดูเข๊มเข้ม ต่างจากตอนอยุกะลูกชายตามลำพังเลอ
พรุ่งนี้มาอีกตอนก้ดีนะคะ
จะได้ต่อเนื่อง555
-
หนามเกือบทิ่มตรูด
นี่มันบังเอิญหรือว่ายูทาร์กะถูกกันฟะ = =
อุเย้ ได้ออกจากกรงแล้ว (แค่ชั่วคราวป่าวอ่ะ)
ไม่ได้กลายร่างตั้งนาน ยังงี้จะเป็นมนุษย์ไปอีกหลายวันป่ะคะ
แล้วต่อไป ยูทาร์จะสามารถควบคุมการกลายร่างของตัวเองได้มั้ย อยากรู้อ่า
-
ยิ่งอ่านยิ่งชอบบบ
รออออออออออ
o13 o13 o13 o13 o13
-
มีการประกาศสงครามของอิตาหลงไป่จิงมาแร้ว
แต่ก้อโดนคุณพ่อฟรานของเราตอกหน้ากลับไป แอบสะใจจุง 555555555
ไม่ตอนหน้าจะเปนยังไง ><
-
นั่นจิ จะควบคุมร่างของตัวเองได้ไหม
-
:katai4: :katai4: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
ต้องระวังหลงไป่จิงไว้
-
ชอบเรื่องนี้อ่ะคือเราไม่เคยอ่านแนวนี้เลย :hao6: :hao6:ชอบมาก :impress2: :impress2:ฟินสุดเลยอ่ะ
ติดตามจร้า o13 o13 ขอบคุณจร้าที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่าน :hao7: :hao7:อิอิ
-
เย่ๆๆๆๆ
ยูทาร์ได้ออกมาแล้ว
รอว่าเมื่อไหร่จะฟื้น
-
อีตาไป่จิงนี่มันไม่จำนะ อยากโดนเหยียบ? บอกแล้วให้ไดโนเสาร์อึใส่เลยคนแบบนี้
พาร์ทนี้น่ารักหนุงหนิงเชียวมีการมาว่ายน้ำเล่นกันด้วย
พาร์ทหน้าเช็ดหน้าเช็ดตาให้ยูทาร์ด้วยนะน้องโครจะได้เห็นหน้ากันจริงๆซะที^^ เจ้ว่าหล่ออออ
จะรอติดตามนะคะ สะบัดปอมๆเชียร์คนแต่ง
-
นึกภาพยูทาร์ว่ายน้ำแล้วฟินจุงเบย
-
ยูท่าาาาา น่ารักมากก ชอบตอนเป็นไดโนเสาร์จังเลย มันน่าอ้อนน :hao7:
รอค่ะรอ มันน้อยไปมั้ยคะ เหมือนอ่านแป๊ปเดียวก็ เอ๊ะ :ling2: มันจบแล้ววววอ่าาา :katai1:
-
มาต่อเร้วน้าาา :hao7: :hao7:
-
ยูทาร์น่ารักอ่ะ
เป็นไดโนเสาร์ขี้หวง 555555
-
แอร๊ยยย ว่ายน้ำด้วยกันจ๋อมแจ๋มๆน่าร้ากกกก :impress2:
มิสเตอร์หลง...นายเป็นอะไรเนี้ย! มีเหตุผลหน่อยยย
-
ยูทาร์เป็นไรมากไหมอ่าาา งืมมม
-
น่าจะให้บักหลงไป่จิงโดนหนักๆ ให้ยูทาร์จัดหนักๆเข้าICUซักเดือนสองเดือน เอาให้ความโง่หาย = =
-
เรื่องนี้สนุกจังงง เพิ่งได้มาอ่านค่า
ยูทาน่ารักมากเลยอ่า เชื่องดี 555555
ตอนอ้อนร่างไดโนเสานี่นึกภาพออกเลยค่า
-
มารอติดตามความรักของเซโครยูทาร์ :)
-
รอๆจร้า ติดตามแบบใกล้ชิด อิอิ :katai2-1:
-
แอบมาส่องดู มายังน่าาาา :z2:
รออยู่น่าาา
-
มาแอบดูยูทาร์ ฟื้นรึยังน้ออออ
-
อ่านไปอ่่านมาเริ่มงง
ตกลงยูทาร์เป็นไดโนเสาร์หรือสุนัข ฮาาาา
ยูทาร์น่ารัก จะเอายูทาร์ :ling1: :ling1:
ต่อด่วนๆเลยค่าาาา
-
:angry2: :-[ :กอด1:
-
ได้ออกไปนอกกรงเร็วกว่าที่คิดนะ ถึงจะรู้สึกแปลกๆสักหน่อยเถอะ เพราะยูทาร์ยังไม่คุ้นกับใครเลย การที่ไปเจอสิ่งของที่ไม่คุ้นเคย (ขนาดประตูยังคำราม) คนอื่นๆ (มองไกลๆยังขู่) จะทำให้ยูทาร์ตื่นตกใจไปนะ แต่ก็ดีใจมาก เป็นก้าวแรกของการออกไปสู่โลกภายนอกนะ
ปล. อย่าหาว่าไอติมากไปเลยนะคะ ไอชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกจริงๆ เวลามันรู้สึกสะกิดใจก็เลยอยากแชร์น่ะค่ะ ^^
-
ยูทาร์อย่าเป็นอะไรน้าาาาา :sad4: :sad4:
-
คึดถึงแล้วอ่ะ(ไวไปไหม)
คิดถึง
อยากเม้นแบบเอาแต่ใจแต่ไม่กล้าค่ะ
แบบว่า มันคึดฮอดดดดดด
-
:-[ :-[ ชอบยูทาร์ น่ารักจริงๆ
-
รอคอย จงมาต่อๆๆๆ :call:
-
พึ่งเคยได้อ่านเรื่องแบบนี้
สนุกมากเลยคะ
หลงรักยูทาร์จนโง้หัวไม่ขึ้นแล้ว
เป็นไดโนเสาร์ที่น่ารักมากๆ
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
กลายรักครั้งที่❧7
มีคนเคยบอกว่าช่วงเวลาที่เรารออะไรสักอย่างเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราอยากให้เวลานั้นเดินเร็วขึ้น...ซึ่งตัวของเซโครเองไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกแบบนั้นจนกระทั่งในตอนนี้...
ตอนที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยมาสองวันเต็ม...ตั้งแต่วันที่พ่ออนุญาติให้พายูทาร์ออกมาตรวจและรักษาได้ผมก็จัดการทุกอย่างทั้งทำทีซีสแกน ตรวจเลือด ความดันและบาดแผลภายนอกซึ่งไม่พบอะไรผิดปกติ
ทั้งที่ไม่มีอะไรที่ผิดปกติแต่ยูทาร์ก็นอนหลับมาตลอดสองวันโดยที่ไม่กลับร่างเป็นไดโนเสาร์ตามเดิม...ตอนแรกผมคิดว่ามีโอกาสที่ยูทาร์จะกลายเป็นไดโนเสาร์เลยขอยืมห้องตรวจพิเศษที่อยู่ถัดออกไปตรงบริเวณแนวกั้นที่3ในเขตA2ใกล้กรงของยูทาร์
บ้านเดี่ยวชั้นเดียวที่ถูกดัดแปลงให้ภายในเป็นห้องพยายาบาลยามฉุกเฉินแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครใช้ผมเลยขอพ่อและยึดมาเป็นของตัวเองซะ...ภายในบ้านมีห้องนอนสำหรับผู้ป่วยขนาดกลางกับห้องตรวจขนาดเล็กแต่เครื่องมือครบครันและห้องถัดไปเป็นห้องพักหรือห้องนอน...ห้องน้ำก็มีแค่ห้องเดียวเท่านั้น
ผมรู้สึกดีกับที่นี่นะเหมือนได้มีบ้านหลังใหม่เลยถึงจะเป็นบ้านเล็กๆแต่ก็โอเคกับการอยู่กับยูทาร์แม้ว่ายูทาร์จะยังไม่ตื่นก็ตามที
“ยูทาร์...ไม่รีบตื่นเดี๋ยวหิวนะ”ผมเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยที่มีเตียงคนไข้ตั้งอยู่แค่เตียงเดียวกลางห้อง...ยูทาร์นอนอยู่โดยที่ตรงข้อมือถูกเจาะต่อสายให้น้ำเกลือและวิตตามินเสริมอยู่ตลอดเวลาเพื่อทดแทนข้าวหรือน้ำที่ไม่ได้กินเข้าไป
เซโครเดินไปเปิดหน้าต่างให้ลมพัดเข้ามาได้ทำให้ภายในห้องรู้สึกเย็นสบายขึ้นโดยไม่ต้องเปิดแอร์หรือพัดลมพอเสร็จก็เดินกลับมานั่งเก้าอี้ข้างเตียงที่ตั้งเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันที่แล้ว
โชคยังดีที่ไม่มีงานอะไรเร่งด่วนเรียกให้ผมไปจัดการเลยทำให้ผมมีเวลาเฝ้ายูทาร์ได้ทั้งวันทั้งคืน...ไม่แน่ว่าอาจเป็นคำสั่งของพ่อก็ได้ที่ไม่ให้ใครกล้ามาเรียกผมให้ไปทำงาน
“ยูทาร์”ผมเรียกชายหนุ่มบนเตียงเสียงเบาพร้อมกับลูบเส้นผมสีเทาแซมส้มแปลกตาอย่างอ่อนโยน...
หวังว่ายูทาร์จะตื่นในเร็ววันนะ
ระหว่างที่นั่งเฝ้ายูทาร์ผมก็หยิบหนังสือที่ยังอ่านค้างอยู่ขึ้นมาอ่าน...เก้าอี้ที่ผมเตรียมไว้เป็นเก้าอี้นุ่มๆขนาดกลางที่นั่งสบายจนแทบไม่อยากลุกเลยล่ะ
‘การเลี้ยงไดโนเสาร์’ คือชื่อหนังสือที่เซโครกำลังอ่าน เนื้อหาภายในก็เป็นไปตามชื่อหนังสือโดยจะแบ่งเป็นสายพันธุ์กินพืชและกินเนื้อก่อนจะแยกย่อยออกเป็นหลายสายพันธุ์ทำให้เป็นหนังสือที่หนามากเพราะเนื้อหาเยอะ...ข้อมูลพวกนี้ถูกรวบรวมมาจากทั้งที่เกาะนี้และอีกหลายแห่งที่ทำการเพาะเลี้ยงไดโนเสาร์ขึ้นมา
“...เซ...”เสียงครางงึมงำดังขึ้นทำให้ผมละสายตาจากหนังสือแล้วหันไปมองที่เตียง ดวงตาสีเหลืองอำพันที่หันมาสบทำให้ผมทำหนังสือที่อ่านอยู่ตกลงบนพื้นแต่ก็ไม่คิดจะเก็บมันเลยสักนิด สองขาเรียวลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเข้าไปประชิดข้างเตียงด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว
“ยูทาร์...ยูทาร์...นายฟื้นแล้ว...อ่า...เป็นไงบ้าง?”ผมถามยูทาร์ที่ยังปรือตามองมาที่ผมอย่างนิ่งๆ
“...เซ...โคร...”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับริมฝีปากซีดที่ขยับขึ้นลงช้าๆ
“ใช่...ผมเองเซโคร...หิวน้ำไหม?”ผมถามต่ออีกก่อนจะหันไปที่โต๊ะเล็กข้างเตียงแล้วเทน้ำจากเหยือกใส่แก้ว
“...น้ำ...”
ผมค่อยๆช่วยพยุงยูทาร์ที่เริ่มขยับตัวก่อนจะจัดให้นั่งโดยที่พิงหลังไว้ที่หัวเตียงแล้วยื่นแก้วน้ำไปจ่อที่ริมฝีปากซีด ยูทาร์เผยอปากออกเล็กน้อยก่อนที่จะดื่มน้ำที่ผมป้อนจนหมดแก้ว
“โอเคขึ้นไหม?...เจ็บตรงไหนไหม?”ผมยังคงยิงคำถามออกไปอย่างต่อเนื่องด้วยความเป็นห่วง
“...”ยูทาร์ไม่ตอบอะไรเพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆเท่านั้น
“งั้นนอนต่อไหม?”
“...”ยูทาร์ส่ายหน้ากลับมาอีกครั้ง
“เข้าห้องน้ำล่ะ?”
“...”พอมาถึงคำถามนี้ยูทาร์ก็มองผมตาปริบๆ
คงจะไม่เข้าใจความหมายสินะ
“งั้นผมจะสอนยูทาร์เข้าห้องน้ำละกัน...”พอพูดมาถึงตรงนี้ก็นึกได้ว่ายูทาร์ยังเดินไม่ได้นี่นา
แปลว่าต้องไปเอารถเข็นมาก่อนสินะ
“ยูทาร์รอผมก่อนนะเดี๋ยวมา”ผมหันไปบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ตุบ!
เสียงเหมือนมีอะไรหล่นทำให้ผมเหลียวหลังหันไปมองก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อร่างของคนที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงกลางห้องร่วงลงมากองกับพื้นจนเข็มที่เจาะไว้ที่บริเวณข้อมือหลุดออกและห้อยลงมาจากเตียง
“ยูทาร์!”ผมรีบวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างร้อนรนก่อนจะยกมือข้างที่เจาะเข็มไว้ขึ้นมาดู...บริเวณที่เข็มถูกดึงออกอย่างแรงมีเลือดไหลออกมาพอสมควรทำให้ผมรีบดึงลิ้นชักที่อยู่ด้านข้างออกแล้วเริ่มปฐมพยาบาลข้างต้น
“ห้ามทำแบบนี้นะ...ถ้าเกิดเข็มฝังเข้าไปมันจะเอาออกลำบากรู้ไหมแถมยังเจ็บสุดๆด้วย”ผมบ่นยูทาร์ที่มองมาที่ผมนิ่งๆตลอดการปฐมพยาบาล
“...เซโคร”
“อะไร?”ผมถามขึ้นแล้วหันไปเก็บอุปกรณ์ใส่ลิ้นชักตามเดิม
“...ไป...ไปไหน”เสียงทุ้มพยายามเอ่ยออกมาอย่างติดขัดจนผมรู้สึกเอ็นดู...
ที่ล้มจากเตียงเพราะจะเดินตามผมไปสินะ
“ไปเอารถเข็นมาให้ยูทาร์นั่งไง...นายยังเดินไม่คล่องนั่งรถเข็นจะได้สะดวก...ไปแป๊บเดียวห้ามเดินตามนะ”ผมบอกพร้อมกับย้ำยูทาร์หลังจากที่พยุงยูทาร์ขึ้นไปนั่งบนเตียงตามเดิมแล้ว
“...ห้าม...ไม่ให้ทำ...”
“ใช่...ไม่ให้เดินตาม”ผมพยักหน้าแล้วพูดย้ำ
หลังจากนั้นผมก็ไปเอารถเข็นที่ถูกเก็บไว้ที่ห้องอุปกรณ์แล้วสอนให้ยูทาร์นั่งรถและพาไปห้องน้ำเพื่อสอน...กว่าจะสอนเข้าใจผมก็หน้าแดงไปไม่รู้กี่รอบ...ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นของใครแต่...
ไม่เคยเห็นที่ใหญ่ขนาดนี้
ตอนที่ใส่เสื้อผ้าผมเห็นก็จริงแต่เห็นแบบผ่านๆเรียกว่าเลี่ยงไม่อยากมองดีกว่าแต่การสอนเข้าห้องน้ำไม่มองก็คงไม่ได้ใช่ไหม?
หลังจากผ่านการสอนเข้าห้องน้ำที่ยาวนานยูทาร์ก็เข้าใจว่าควรทำยังไงแต่ถึงจะเข้าเป็นแต่ผมก็ต้องช่วยอยู่ตลอดเพราะยูทาร์ยังเดินไม่ได้...
อย่างแรกที่ควรจะสอนคือการเดินสินะ
เซโครพายูทาร์ออกมานอกบ้านที่มีพื้นดินที่ถูกถางไว้สำหรับเป็นถนน ด้านข้างของตัวบ้านเป็นสนามหญ้ากว้างที่มีดอกไม้ปลูกอยู่พร้อมกับต้นไม้ใหญ่อีกสองสามต้นที่ช่วยบังแดดได้ สายลมที่พัดมาเอื่อยๆทำให้ผมหลับตาลงพร้อมกับสูดกลิ่นของธรรมชาติที่ไม่สามารถพบได้ในเมืองหลวงจนเต็มปอด
“รู้สึกดีกว่าอยู่ในห้องใช่ไหม?”ผมก้มหน้าลงไปถามยูทาร์ที่ถอดสายตาออกไปยังสวนดอกไม้
“...เซโคร”
“ผมจะสอนให้ยูทาร์เดิน...อยากเดินได้เหมือนผมไหม?”ผมถามพร้อมกับเดินออกไปด้านหน้ายูทาร์เพื่อเป็นตัวอย่างให้
“เดิน...เหมือนเซโคร”ยูทาร์พึมพำออกมาเบาๆแล้วมองตามผมที่ค่อยๆเดินห่างออกไป
จะสอนเดินก็ต้องมีอุปกรณ์นี่นา...ไม้ค้ำใช่ไหม?
“ผมจะไปหยิบอุปกรณ์ก่อนนะ...ห้ามไปไหนเข้าใจนะ”ผมบอกออกไปก่อนจะรีบเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน
“...เซโคร!”เสียงตะโกนเรียกดังลั่นทำให้เจ้าของชื่อหันกลับไปมองอย่างสงสัยก่อนจะเบิกตากว้างออกมาเมื่อเห็นยูทาร์ที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืนด้วยขาสั่นๆเหมือนยังพยุงตัวไม่ได้แต่สองขานั้นก็พยายามก้าวออกมาทีละก้าวอย่างยากลำบาก...
ผมมองภาพตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูกทั้งที่อยากเข้าไปช่วยพยุงแต่ก็ต้องกำมือตัวเองแน่นแล้วหันกลับไปทั้งตัวเพื่อรอยูทาร์ที่พยายามก้าวเข้ามาหาอย่างช้าๆ ขาสองข้างที่ก้าวมาสั่นจนผมอยากจะวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายซะเดี๋ยวนี้อีกทั้งสองมือที่ยื่นออกมาข้างหน้าปัดป่ายไปมาเหมือนอยากจะเข้ามาใกล้ผมให้มากกว่านี้
“...เซโคร”เสียงทุ้มที่พร่ำเรียกชื่อผมตลอดระยะทางที่ก้าวเดิน
“...ยูทาร์...มาสิ...อีกนิด”ผมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆเหมือนคนกำลังจะร้องไห้
ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกเศร้าแต่สัมผัสได้ว่าที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของตัวเองกำลังคลอไปด้วยน้ำตาเพียงเพราะเห็นภาพของคนตรงหน้าที่พยายามก้าวเดินมาหาตนเท่านั้น
“เซโคร...”
“พยายามเข้า...จะถึงแล้ว”คำพูดให้กำลังใจเหมือนจะสื่อไปถึงอีกฝ่ายทำให้ขาที่สั่นอยู่เริ่มนิ่งลงแล้วก้าวมาเร็วขึ้นจนเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะมาถึงที่ผมอยู่...
สองมือของยูทาร์จับเข้าที่ไหล่ผมก่อนจะก้าวขาก้าวสุดท้ายมายืนตรงหน้า
เสียงหอบเบาๆที่ได้ยิน...
ดวงตาสีอำพันที่จ้องมา...
มือใหญ่ที่จับไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้แน่น...
ทำให้ผมโผลเข้ากอดยูทาร์แน่นแล้วชมเชยพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยความยินดีอย่างที่สุด...
“พยายามได้ดีมาก”
“ยูทาร์...เก่งมาก...เก่งมากจริงๆ”ผมพร่ำบอกอีกฝ่ายแล้วกอดแน่นขึ้น ยูทาร์เหมือนจะสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเกร็งตัวราวกับว่าทำอะไรไม่ถูกไม่ช้าผมก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนที่ซุกลงมาที่หัวไหล่
“เซโคร...อย่าไป”คำพูดธรรมดาที่ไม่ได้เล่นน้ำเสียงให้ดูเร้าอารมณ์แต่มันกลับจับใจผมได้จนต้องเอื้อมมือข้างนึงขึ้นไปลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆพร้อมกับพึมพำคำตอบ...
“ได้สิ”
“...อุ่น”
“อืม...กอดกันแบบนี้อุ่นเนอะ”ผมพูดขึ้นพร้อมซุกตัวลงที่ไหล่ของอีกฝ่ายเช่นกัน ความอุ่นที่ผมบอกไม่ใช่แค่ภายนอกแต่มันอุ่นเข้าไปถึงภายในเลยล่ะ
“กอด...”
“ที่เราทำอยู่เรียกว่ากอด”ผมสอนยูทาร์
“กอดเซโคร”เสียงทุ้มพึมพำแล้วซุกตัวเข้าหาผมมากขึ้น
“ฮะฮะฮะ...ใช่ๆผมกอดยูทาร์ด้วยไง”
พอเสร็จจากการกอดผมก็พายูทาร์กลับเข้าไปในบ้าน...ถึงยูทาร์จะพอเดินได้แต่ผมก็ยังไม่ให้ยูทาร์เดินไปมาหรอกอย่างน้อยก็ต้องฝึกอีกสักสองสามวันให้เดินคล่องกว่านี้ก่อนเพราะงั้นผมเลยให้ยูทาร์นั่งรถเข็นอยู่
“หิวไหม?”ผมถามในขณะที่ช่วยปรับเบาะที่เตียงของยูทาร์ให้พอดี...ยูทาร์ตอนนี้กลับมานอนบนเตียงอีกครั้งแล้ว พึ่งจะฟื้นขึ้รมาผมไม่อยากให้ฝืนหรือหักโหมร่างกายมากเกินไป
“...”ยูทาร์พยักหน้าให้เบาๆ
“อยู่ในร่างมนุษย์ผมคงให้ของดิบไม่ได้หรอกนะ...ลองข้าวต้มดีกว่าหวังว่ายูทาร์จะชอบนะ”ผมพูดพรางเตรียมตัวเดินไปที่ห้องครัวที่อยู่ถัดไปไม่ไกล
กึก
แรงดึงจากเสื้อทำให้ผมหันไปมองยูทาร์ที่กำชายเสื้อผมไว้แน่น
“ยูทาร์?”
“ไปไหน?”เสียงทุ้มถามพร้อมกับออกแรงดึงเสื้อมากขึ้น
“ไปทำอาหารให้ไง”
“...ไปด้วย...ได้ไหม”คนบนเตียงเอ่ยถามเสียงติดขัด
“ไม่ได้...รออยู่นี่แหละไปไม่นานหรอก”ผมบอกพร้อมกับแกะมือที่กำชายเสื้ออยู่ออกแล้วเอื้อมมือไปลูบเส้นผมสีเทาของยูทาร์เบาๆเป็นการปลอบโยนก่อนจะส่งยิ้มไปให้แล้วเดินออกจากห้องไป
ใช้เวลาประมาณ20นาทีกว่าข้าวต้มหมูจะเสร็จ...ตลอดการทำผมต้องนึกอยู่ตลอดว่าอันนี้ใส่ไปได้ไหมหรืออันไหนที่ไม่ควรใส่ ผมไม่รู้ว่าไดโนเสาร์กินกระเทียมหรือพริกไทได้ไหมแต่ผมก็เลือกที่จะไม่ใส่เพื่อความชัวร์
จะว่าไปผมก็เคยให้เนื้อดิบกับยูทาร์ในร่างมนุษย์นี่นา...อ่า...ผมพลาดแล้วโชคดีที่ไม่ท้องเสียนะ
ข้าวต้มหมูร้อนๆส่งกลิ่นหอมฉุยตลอดทางที่ผมถือถาดมาแล้ววางไปบนโต๊ะข้างๆเตียงยูทาร์ ดีที่ด้านข้างมีโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆวางพับไว้ผมเลยเอามากางแล้วตั้งไว้บนเตียงท่ามกลางความงงงวยของยูทาร์
ยูทาร์ดูจะสงสัยข้าวต้มหมูที่ผมถือมามากเป็นพิเศษเพราะเอาแต่หันไปทางนั้นแล้วแล้วทำจมูกฟุดฟิดเหมือนกำลังดมกลิ่นอยู่...
ผมไม่แน่ใจว่าจมูกของยูทาร์จะดีเหมือนตอนเป็นไดโนเสาร์ไหม?
ถึงจะสงสัยมากแต่ก็ไม่อยากรีบร้อนจนเกินไป
“นี่เรียกว่าข้ามต้มหมู”ผมบอกพร้อมกับยกชามข้าวต้มหมูที่มีควันลอยคลุ้งขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นด้านหน้ายูทาร์
“...ข้าว...”
“ข้าวต้มหมู...ลองกินดูสิ”ผมย้ำอีกรอบพร้อมกับจับมือของยูทาร์ขึ้นมาแล้วจับช้อนยัดลงไป
“...กิน...”ยูทาร์พึมพำพร้อมกับยกช้อนที่ผมให้ขึ้นมาดูก่อนจะเอาช้อนนั่นเข้าปากไป...
“เฮ้ย...ไม่ใช่แบบนั้น...ห้ามเคี้ยวนะ...ห้ามกลืนด้วย”เสียงนุ่มบอกอย่างร้อนรนแล้วพุ่งตัวเข้าไปใกล้พร้อมกับดึงช้อนที่เกือบถูกกลืนออกมาก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ช้อนยังไม่ได้ถูกกลืนลงไป...
ถ้ากลืนลงไปผมคงต้องผ่าตัดเอาช้อนออกแน่
“...”ยูทาร์เงียบพร้อมกับมองมาที่ผมนิ่งๆ
“เฮ่อ...เกือบไปแล้ว เอางี้ผมป้อนยูทาร์ก่อนก็ได้”ผมถอนหายใจแล้วพูดขึ้นพร้อมกับค่อยๆตักข้าวต้มในชามขึ้นมาแล้วเป่าเพื่อให้หายร้อนก่อนจะยื่นช้อนไปจ่อที่ปากของยูทาร์
“อ้าปากแบบนี้ไง”ผมบอกพร้อมกับทำตัวอย่างให้ดูเมื่อยูทาร์ไม่ยอมอ้าปากออก
ปากของยูทาร์ค่อยๆอ้าออกพร้อมกับผมที่เอาช้อนเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว...ยูทาร์ค่อยๆเคี้ยวหลังจากที่ผมเอาช้อนออกมา ผมมองยูทาร์อย่างลุ้นๆจนถึงตอนที่ข้าวต้มถูกกลืนลงไป
“เป็นไง...อร่อยไหม?”ผมถามด้วยความตื่นเต้น
“...อะ...อร่อย...”
“จริงเหรอ?...กินได้เนอะงั้นอีกคำ”ผมบอกอย่างดีใจแล้วเริ่มป้อนข้าวต้มยูทาร์ต่อเรื่อยๆจนหมดชามแล้วค่อยจัดการของตัวเองบ้าง
“เซโคร”เสียงเรียกทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมาจากชามข้าวต้มที่ตัวเองถืออยู่ เพราะใช้เวลาป้อนยูทาร์นานข้าวต้มร้อนๆจึงเย็นหมดแล้วแต่ก็ดีเพราะผมมันลิ้นแมวกินของร้อนไม่ค่อยได้
“อะไรเหรอ?...หรือยังไม่อิ่ม?”
“...ป้อน...”ยูทาร์พึมพำก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วคว้าช้อนที่ผมถือไปตักข้าวต้มหมูที่อยู่ในชามขึ้นมาเป่าอย่างที่ผมเคยทำให้ยูทาร์ พอรู้ตัวอีกทีช้อนที่เต็มไปด้วยข้าวต้มก็มาจ่ออยู่ที่ปากผมแล้ว
“อ้าไง...อ้าแบบนี้”ยูทาร์ที่เห็นผมไม่ตอบสนองก็ทำตัวอย่างให้ดูจนผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะทำตาม...ข้าวต้มเย็นๆถูกผมกลืนลงคอไปคำแล้วคำเล่าจนหมดถ้วยด้วยฝีมือของคนบนเตียง
ดูจากใบหน้า ร่างกายและอย่างอื่นทำให้ผมคิดว่ายูทาร์น่าจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นแต่ด้วยส่วนสูงที่มากกว่าผมสัก10เซ็นต์และร่างกายที่ล่ำกว่าทำให้เหมือนพวกเด็กที่เรียกวิศวะไม่ก็เกษตร
ท่าทางเหมือนเด็กๆทำให้ผมต้องอมยิ้มทุกครั้งที่อยู่ด้วย...น้ำเสียงทุ้มๆที่บอกว่า ‘อ้า’ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทำให้ผมรู้เลยว่าถ้ายูทาร์เข้ากับมนุษย์ได้เมื่อไหร่ ต่อให้เป็นพระเอกดังระดับฮอลลี่วูดก็สู้ไม่ได้หรอก
เส้นผมยาวสีเทาเข้มแซมส้มทำให้ดูมีเอกลักษณ์และน่าค้นหาดูเข้ากับใบหน้าคมได้รูปอย่างบอกไม่ถูก...ถึงผู้ชายที่ไว้ผมยาวส่วนมากจะเป็นพวกจิตรกรแต่เท่าที่มองยูทาร์เหมาะกับผมยาวมากกว่าผมสั้น
เวลาล่วงเลยมาจนถึงช่วงดึก...ตลอดบ่ายผมนั่งอยู่ข้างเตียงกับยูทาร์โดยสอนสิ่งต่างๆรอบตัวให้อีกฝ่ายได้รับรู้และจดจำมัน ด้วยความฉลาดทำให้ยูทาร์จำสิ่งที่ผมสอนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำจนผมอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“เอาล่ะ...วันนี้พอก่อนนอนได้แล้ว...ผมก็จะไปนอนเหมือนกัน”ผมลุกขึ้นแล้วบิดไปมาเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ตึงๆ
“เซโคร”เสียงทุ้มที่เรียกพร้อมกับสายตาที่ทอประกายเศร้าๆทำให้ผมต้องเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่ายูทาร์เริ่มใช้สายตาเศร้าๆได้แล้ว
“...มีอะไรยูทาร์?”
“จะไปไหน?”
“ไปนอนที่ห้อง...ยูทาร์ก็นอนเถอะไว้ตอนเช้าเราก็ได้เจอกันแล้ว”ผมบอกพร้อมส่งยิ้มไปให้
“ไปด้วยได้ไหม?”ยูทาร์ถามต่ออีก
“ไม่ได้...คนป่วยต้องนอนสบายๆสิจะไปนอนเบียดกันได้ยังไง”คำถามของยูทาร์แปลได้ว่าไม่อยากอยู่คนเดียวสินะ...แต่ผมก็ให้เขาไปนอนกับผมไม่ได้หรอกเตียง3ฟุตแค่ผมนอนก็แคบจะแย่อยู่แล้ว
“...ไม่ได้เหรอ?”สายตาอ้อนที่ส่งมาทำให้ผมต้องหลบสายตานั่นอย่างรวดเร็ว...
ให้ตายเถอะทำไมหัวใจผมต้องเต้นเร็วด้วยเนี่ย
ผู้ชายหน้าตาหล่อเหล่าราวกับนายแบบสักคนที่หลุดออกมาจากนิตยสารกำลังพูดเสียงอ่อยพร้อมส่งสายตาออดอ้อนมาให้...ใครไม่ใจเต้นผมให้ตบหัวผมเลยเลยเอ้า
ไปทำสายตาแบบนั้นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“...ไม่ได้”ผมตอบกลับด้วยเสียงสั่นๆทั้งที่ยังหลบสายตาของอีกฝ่ายอยู่
“เซโคร...”
“...เอางี้นะยูทาร์”ผมกันไปพูดขัดก่อนที่เสียงอ้อนๆนั่นจะทำให้ผมใจอ่อน
“ถ้ายูทาร์หายดีเราค่อยย้ายไปอยู่ห้องผมแล้วตอนนั้นเราค่อยนอนด้วยกัน...ห้องผมเตียงกว้างเกือบ10ฟุตนอนกลิ้งได้สบายมากกว่าเตียงที่นี่เยอะเลยเพราะงั้น...รอก่อนนะ”ผมบอกต่อ
“...”ยูทาร์ไม่ตอบทำเพียงแค่พยักหน้าอย่างจำยอม
หลังจากวันนั้นผมก็คอยดูแลและสอนยูทาร์ให้รู้ในหลายๆสิ่งที่ควรรู้และเข้าใจทั้งการเดินและการวิ่ง...จนตอนนี้ยูทาร์สามารถเดินวิ่งได้เหมือนคนปกติ...ไม่สิ...วิ่งเร็วกว่าคนปกติอีก
อาจเพราะมียีนส์ไดโนเสาร์ทำให้ร่างกายแข็งแรงมากกว่ามนุษย์ปกติก็เป็นได้
แล้วผมยังสอนเรื่องการกิน การนอนและการเข้าสังคม...ผมบอกยูทาร์อยู่เสมอว่าห้ามฆ่ามนุษย์ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม ถึงผมจะสอนการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ไปเกือบทุกอย่างแต่ผมก็ยังไม่เคยพายูทาร์ไปพบคนอื่นอาจเป็นเพราะยังกลัวๆอยู่ก็ได้
ผ่านไปกว่า2อาทิตย์ที่ผมค่อนข้างแปลกใจมากที่ยูทาร์ยังคงอยู่ในร่างมนุษย์...ไม่เคยมีสักครั้งที่ยูทาร์จะกลายร่างเป็นไดโนเสาร์ นั่นทำให้ผมคิดว่ายูทาร์น่าจะสามารถควบคุมการกลายร่างได้ถึงจะยังไม่แน่ใจแต่ก็นึกอย่างอื่นไม่ได้แล้ว
วันนี้ผมนัดให้พ่อมาที่นี่เพื่อพูดคุยในหลายเรื่องเพราะยูทาร์ตามติดตลอดเรียกว่าตามไปทุกที่มีเพียงแค่เข้าห้องน้ำกับนอนเท่านั้นที่แยกกันทำให้ไม่สะดวกถ้าผมจะต้องออกไปพบพ่อข้างนอกโดยทิ้งยูทาร์ไว้ตามลำพัง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้ยูทาร์ลุกขึ้นจากที่นั่งอยู่ข้างผมบนโซฟาตัวยาวที่อยู่ตรงห้องรับแขกแล้วหันควับไปทางต้นเสียง ดวงตาสีเหลืองอำพันหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจแล้วเดินไปทางต้นเสียงอย่างระแวดระวัง
“ไม่ต้องระวังขนาดนั้นยูทาร์”ผมบอกพร้อมกับลุกแล้วเดินไปตบไหล่ยูทาร์เบาๆเป็นการเตือน
“ทำไมล่ะ?”ยูทาร์ถามกลับทันที...ตอนนี้ยูทาร์พูดคล่องปรื๋อแล้ว
“คนที่มาคงเป็นพ่อน่ะ...แล้วจำที่ผมห้ามได้ไหม?”
“...ห้ามฆ่ามนุษย์”ยูทาร์ตอบเสียงเบา
“ใช่...ถึงจะไม่ชอบก็ห้ามฆ่าเด็ดขาดไม่งั้นผมกับยูทาร์ต้องถูกจับแยกกันนะ”ผมขู่...คำขู่นั่นเป็นความจริงถ้าเกิดยูทาร์ไปฆ่าใครเข้าเบื้องบนต้องไม่ปล่อยยูทาร์ไว้แน่
“เข้าใจแล้ว...ผมไม่อยากแยกจากเซโคร”ยูทาร์ตอบกลับมาทันที
“ดีมาก”ผมหันไปยิ้มให้ก่อนจะเปิดประตูให้พ่อที่ยืนเกร็งอยู่หน้าบ้านเข้ามา
“ไม่ได้เจอกันนานนะพ่อ”ผมทักทายออกไปก่อน
“นั่นสิ...เอ่อ...”ดูพ่อจะไม่สนใจผมสักเท่าไหร่เพราะสายตาพ่อมองไปยังยูทาร์ที่ยืนอยู่ข้างหลังผมอย่างเกร็งๆ
“ยูทาร์...นี่ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่หรือคุณฟราน...เป็นพ่อของผมเอง”ผมแนะนำพ่อให้ยูทาร์รู้
“สวัสดียูทาร์...ฉันดีใจมากเลยที่วันนี้เราได้เจอกัน...ความจริงเราก็ได้เจอกันหลายครั้งแล้วจำฉันได้ไหม?...อ่า...คงจะจำไม่ได้สินะ...ไม่เป็นไรๆเราค่อยๆมาเริ่มต้นรู้จักกันใหม่ก็ได้”พ่อพูดยาวจนยูทาร์จ้องกลับไปอย่างงงๆจนผมต้องใช้ข้อศอกกระทุ้งเข้าที่ท้องของยูทาร์ด้านหลังเบาๆเป็นการบอกให้อีกฝ่ายทักทายพ่อตนได้แล้ว
“...สวัสดีครับ...ผมชื่อยูทาร์”เสียงทุ้มที่ดังออกจากปากของยูทาร์ทำให้ของที่พ่อหอบมาด้วยตกลงพื้นระเนระนาดพร้อมกับเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ
“...ยะ...ยูทาร์พูด...อ่อ...ทักทายฉันเหรอ?...สวีสดีๆๆๆๆ”พ่อผมพูดติดขัดก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ
“เว่อไปแล้วพ่อ...เข้ามาเถอะ”ผมบอกพ่อพร้อมกับก้มลงเก็บเหล่าของที่เกลื่อนกลาดบนพื้นแล้วเดินนำเข้ามาข้างใน...ตรงทางเข้ามีโซฟาสำหรับรับแขกวางอยู่ผมเลยเดินเข้าไปนั่งก่อนที่ยูทาร์จะนั่งตามมาโดยขยับเข้ามาชิดผมมาก พ่อที่เดินตามเข้ามาก็นั่งลงที่โซฟาเดี่ยวด้านข้างผม
“พ่อเอาน้ำอะไรไหม?”ผมถามทำลายความเงียบ
“ไม่ต้องหรอก...เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”พ่อบอกพร้อมกับมองไปยังยูทาร์ที่อยู่ข้างผม
“ได้ครับ”
“ลูกบอกว่าเขาไม่กลับเป็นไดโนเสาร์มาสองอาทิตย์แล้วใช่ไหม?”
“ครับ...ถ้าจะเอาเป๊ะๆก็สองอาทิตย์สามวันกับอีก10ชั่วโมง”ผมตอบพ่อกลับไป
“เมื่อก่อนจะมีการกลายร่างวันละสองครั้ง”พ่อพูดขึ้นแล้วหยิบแฟ้มเอกสารที่ผมวางไว้ให้บนโต๊ะ
“ใช่...ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...โดยส่วนตัวผมคิดว่ายูทาร์กำลังควบคุมตัวเองให้อยู่ในร่างมนุษย์”ผมบอกข้อสันนิฐานของตนออกไปแล้วหันไปมองหน้าพ่อ
“มีความเป็นไปได้อย่างที่ลูกพูด...พ่อใส่ยีนส์ของมนุษย์ลงไปเพื่อจะให้เขาสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้เรื่องระยะเวลาเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถบอกได้แน่ชัด...พ่อว่าท้ายที่สุดแล้วมันอยู่ที่ตัวของยูทาร์เองว่าอยากอยู่ในร่างไหนซึ่งตอนนี้เขาอาจจะอยากอยู่ในร่างนี้เพราะต้องการจะอยู่กับลูก”พ่ออธิบายขยายความเพิ่มเติม
“หมายความว่ายูทาร์สามารถแปลงเป็นไดโนเสาร์ได้เมื่อต้องการใช่ไหม?”ผมยิงคำถามต่อ
“คิดว่าใช่...ยูทาร์จะไม่ทำร้ายมนุษย์ใช่ไหม?”ประโยคสุดท้ายพ่อหันไปถามยูทาร์
“ใช่...ผมไม่อยากแยกกับเซโคร”ยูทาร์ตอบพ่อออกไปตามตรง
“อ้อ...ลูกสอนเขาได้ดี”พ่อหันมาชมผมพร้อมรอยยิ้ม
“เขาฉลาดมากต่างหาก”
“นั่นสิ...งั้นพรุ่งนี้ลองให้เขาลงไปสำรวจพื้นที่พร้อมกับลูกละกัน...พักมานานแล้วทำงานหน่อยเนอะ”พ่อพูดติดตลกแต่ผมไม่ตลกด้วยสักนิด...จะให้ไปลงพื้นที่สำรวจอะไรตอนนี้กัน?
“พ่อ...ผมยังไม่แน่ใจว่า...”
“ลูกต้องเชื่อในตัวเขา...ถ้าลูกยังกล้าๆกลัวๆอยู่แบบนี้ยูทาร์ก็ไม่ได้ไปไหนสักที...ลูกควรกลับไปนอนห้องกว้างๆของตัวเองได้แล้ว”สิ่งที่พ่อบอกทำให้ผมคิดตามและเห็นด้วยกับคำพูดนั้น
ถ้ามัวแต่กลัวยูทาร์ก็คงไม่ได้ก้าวออกไปไหนสักที
“ได้ครับ...ระหว่างที่ยูทาร์ยังอยู่ในร่างมนุษย์ให้เขาพักที่ห้องผมได้ไหม?”ผมขอพ่อ
“ก็ได้...แต่ทำไมไม่แยกห้องไปเลยล่ะ?”
“ผมจะอยู่กับเซโคร”ยูทาร์ตอบแทนผมอย่างรวดเร็วจนพ่อมองมาที่พวกเราอย่างครุ่นคิด
“ก็ได้...ตามใจเลย”
“ขอบคุณครับ”ผมกับยูทาร์พูดขึ้นพร้อมกัน
ผมกับพ่อคุยกันอีกสักพักใหญ่ก่อนที่พ่อจะขอตัวกลับเพราะมีงานค้างอยู่ที่แล็บแต่ก่อนกลับพ่อก็ดันทิ้งประโยคเด็ดไว้ให้ผมซะงั้น...
“พ่อน่าจะสร้างยูทาร์เป็นตัวเมียเนอะ...ถ้าทำแบบนั้นพ่อคงได้ลูกสะใภ้ไม่ใช่ลูกเขย”
........................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i61.tinypic.com/242idf4.jpg)
แลมบีโอซอรัส แลมเบ (Lambeosaurus lambei) เป็นไดโนเสาร์มีหงอนรูบหมวกอยู่บนหัว กินพืชเป็นอาหาร รักสงบ
ภายในหงอนกลวง เพื่อใช้ส่งเสียงร้องเรียกเพื่อนๆ ของมัน คล้ายๆ กับพาราซอโรโลฟัสชื่อมีความหมายว่ากิ้งก่าแห่งแลมบี ยาวประมาณ 10 เมตรค้นพบฟอสซิลที่ทวีปอเมริกาเหนืออาศัยอยู่ในยุคครีเทเชียสตอนปลายเมื่อประมาณ 75-80 ล้านปีก่อน
.........................................................................................
สวัสดีคะมาอัพตอนต่อไปแล้วนะคะครั้งนี้มาแบบเต็มๆตอนเพื่อจะได้ไม่ค้างคาค่า
หวังว่าตอนนี้คงจะทำทุกท่านที่เอามาอ่านฟินได้นะคะ...กว่าจะแต่งได้แบบนี้แก้อยู่หลายรอบเลยคะ
ตอนหน้าจะให้ยูทาร์เป็นคนบรรยายหลังจากผ่านมาหลายตอนคะ
เรื่องพัฒนาการเราไม่ค่อยได้พูดถึงเท่าไหร่เพราะเดี๋ยวมันจะยืดเยื้อเอาแค่พอกรุบกริบแบบนี้พอละกันเนอะ
ช่วงนี้อาจมาอาทิตย์ละตอนได้ตามปกติแต่ถ้าต้นเดือนสิงหาอาจทิ้งยาวกว่านี้เพราะเปิดเทมอนะคะ
ทุกคอมเม้นท์ที่ติชมจะพยายามเอาไปแก้ไขไขแต่อาจแก้ไขได้ในบางจุดนะคะ
มีแต่คนรอยูทาร์กับเซโครรู้สึกมีความสุขมากคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจนะคะ
มีเรื่องอะไรสามารถตามเข้าไปคุยกันได้ที่>>nicedog (https://www.facebook.com/novelistnicedog)
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
โอ้ยยยยยยูทาร์น่ารักมากๆๆๆๆๆๆเอ็นดูT______________T
-
พ่อพลาดไงคะ 555
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
ฟินนน
ตอนหน้าจะได้นอนเตียงเดียวกันแล้ววว (นี่ล่ะประเด็น!!)
:heaven
-
ยูทาร์ฟื้นแล้ววววววววววว
แถมคราวนี้อยู่ในร่างมนุษย์นานๆด้วย
คุณพ่อมีลางสังหรณ์ที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ
รู้ด้วยว่าตัวเองจะได้ลูกเขยยยยยย :laugh:
รอตอนต่อไปน้าาาาา
-
อ๊า ยูทาร์น่ารัก ตัวติดกะเซโครตลอดเลยยย
-
กรี๊ดกร๊าด ตอนนี้ฟินมากมาย คริๆ :o8:
ยูทาร์นี่เข้าขั้นอัจฉริยะเลยนะ o13
-
คุณพ่อสร้างลูกเขยเองกับมือเลยนะคะ
ยูทาร์น่ารักมากกกกกกก :ling2: :o8:
-
ช้าไปแล้วแหละพ่อ
555555555555
:jul3: :jul3: :jul3: :jul3:
-
พ่อคิดดีแล้วคะ ที่สร้างตังผู้ อิอิ :hao6:
มาแล้วๆ ชอบมากอ่ะ เรื่องนี้ ติดตามอยู่น้าาา
-
พ่อเก่งมากค่ะ
สร้างสามีให้ลูกตัวเอง กรั่กๆๆๆๆๆๆ
น่ารักเว่อมากตอนนี้อ่ะ
-
มาต่อแล้ว เย้!
โอ้ยย ชอบประโยคสุดท้ายจัง ฮ่าๆๆๆ
-
ได้ลูกเขยแล้วแน่ๆ :laugh:
-
คุณพ่อฟร่นขาให้ยูทาร์เป็นผู้ชายแหละดีแล้วค่า จะได้ปกป้องเซโครไงงงงงง อ้ายๆๆ ตอนนี้ก็ยังน่ารักกกก พลังดาเมจชักเยอะเพิ่มขึ้นทุกตอนๆๆ :katai1:
-
5555555555555555555555555555555555555
เป็นคำพูดที่ปิดประตูตีกันเลยทีเดียว
:ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
-
ฮิ้วววววววววว คุณพ่อชี้โพร่งแบบนี้
คงจะได้ลูกเขยจิงๆเร็วๆนี้แร้วแหล่ะ 555555
-
:-[ ยูทาร์นน่ารักมากเลยค่ะ
ตลกที่คุณพ่อบอกว่าน่าจะสร้างยูทาร์เป็นตัวเมียจะได้ลูกสะใภ้ดีกว่า555+
พ่อคงรู้ละว่าสงสัยจะได้ลูกเขย><
-
ขุ่นพ่อออ เซนส์ดีจริงเชียว 55555
ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ คุณพ่อทำถูกแล้วที่สร้างลูกเขยขึ้นมา ><
ยูทาร์น่ารักมากเลย ละมุนมากก >///< *จับมาฟัด*
-
ชอบประโยคสุดท้ายของคุณพ่อจริงๆ :katai2-1:
-
ยูทาร์น่ารักที่สุดในสามโลยเลย
ตอนหน้าจะท่องโลกจูราสิคแล้วสินะ แค่คิดก็ฟินนนนน
-
อยากได้แบบยูทาร์ซักตัว เอ๊ะ!หรือต้องเรียกซักคน 5555555
-
ยูทาร์น่ารักมากกกก เอาใจไปเลย
-
ไหนๆ เซโครก็จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ^^ คุณพ่อเตรียมเรียกสินสอดทองหมั้นไว้ล่วงหน้าเลยก็ได้นะคะเนี่ย :-[
-
พรูดดดด ประโยคสุดท้ายของคุณพ่อ ชนะเลิศไปเลยค่ะ
ปล.ยูทาร์คือลูกเป็ด เดินตามแม่เป็ดเซโครต้อยๆ อ๊าก น่ารักจุงเรย
-
:impress2: ยูทาร์กับเซโครน่าร๊ากกกกก มีป้อนข้าวกันด้วยยยย
แถมคุณพ่อยังสนับสนุนลูกเขยซะด้วย 555555555
-
ชอบๆ ชอบประโยคสุดท้ายของคุณพ่อ ฮ่าๆ :mew1: :mew1:
-
ได้ลูกเขยนั่นแหละดีแล้วค่ะคุณพ่อ
ยูทาร์น่ารักจัง :mew1:
-
5555 คุณพ่อได้ใจเลยอะ
-
แหม ลางสังหรณ์แม่นนะคุณพ่อ
-
น่ารักมากกก ยูทาร์ติดเซโครสุดๆเลย มีผลัดกันป้อน ฟินนน
อยากอ่านตอนหน้าแล้ว อยากรู้ยูทาร์รู้สึกยังไงบ้าง
-
ยูทาร์น่ารัก 5555555
ตลกประโยคสุดท้ายของคุณพ่อ
-
กรี๊ดๆๆๆ ยูทาร์พูดได้แล้วเดินได้แล้ว เก่งมากค่ะลูกกกก ส่วนคุณพ่อเนี่ยเข้าใจอะไรไวดีนะ 555
เซโครเหมือนคุณแม่เลย คำแรกที่ยูทาร์พูดได้ก็เซโคร คนสอนเดินสอนอะไรต่างๆก็เซโคร สัมผัสได้ว่าเซโครจะถูกหวงมากกก อา ยูทาร์ฉลาดมากอะ โปรเจคคุณพ่ออาจจะประสบความสำเร็จก็ได้ ไดโนเสาร์เป็นสัตว์สังคม พอมีเซโครเข้ามา ยูทาร์ก็เป็นผู้เป็นคนขึ้นทุกที ดีใจจัง
-
ยูทาร์ติดเซโครงอมแงมเลย
-
อ๊ายยยคุณป๋าฟรานขา อย่าเป็นตัวเมียเลยเคอะ ตัวผู้นี้แหละดีแล้วๆ :hao6: เซโครจะได้มีคนดูแลไงเคอะกึกึ หึหึหึ
-
ยูทาร์น่ารัก เซโครผู้แสนดี
-
:-[
-
พลาดแล้วแหละพ่อ..
ได้ลูกเขยแท้แน่นอน 55 :impress2:
-
คุณพ่อนี่ยังไง :m20:
-
อ่านรวดเดียวจนถึงตอนนี้!
ดีแล้วค่ะที่คุณพ่อสร้างให้เป็นตัวผู้!! ถ้ายูทาเป็นตัวเมีย..สาววายคงไม่ฟินนะคะ
:katai4:
-
น่ารักเกินไปแล้วยูทาร์
น่าเอากลับมาเลี้ยงที่บ้านจังเลย
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
คุณพ่อมองออกกกก!! :katai2-1: :katai2-1:
ชอบเรื่องนี้ม๊ากมาก ประทับใจหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นคือ ความเอาใจใส่ของผู้แต่งที่หาความรู้มาประดับหัวน้อยๆ ของคนอ่านผู้นี้ (ฮา) ถึงแม้จะจำไม่ได้ก็ตาม
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^
-
อยุ่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาแบบนี้
ตอนหน้าตามไปนอนกับเซโครอีก
ยังงี้เรัยกแฟนได้เปล่าอ่ะ 555
-
คุณพ่อน่ารักมากมองออกทุกอย่าง แถมชี้โพรงให้กระรอกอีกต่างหาก
ลูกเขยหล่อและ(ตัว)ใหญ่มาก 555
-
55555555555555555555555555 ขอขำกับประโยคสุดท้ายก่อนเลย
เหมือนพ่อจะรู้แล้วเนอะ ว่าอะไรเป็นอะไร ลูกพ่อไม่รอดยูทาร์หรอกนะ กร๊ากกกกกกก
แงงงง อยากให้เซโครพัฒนาไปไกลกว่านี้อีก อยากเห็นแล้วๆๆ ว่าเจอคนอื่น
ทำอะไรหลายอย่างได้ด้วยตัวเองแล้วใช่มั้ย พอเป็นมนุษย์นานๆ อยากเห็นตอนแปลงเป็นไดโนเสาร์อีกจัง
55555555555 แงงงงงงง ชอบค่ะ
ตตอนนี้น่ารักมาก ไม่มีอะไรจะพูดเป็นอย่างอื่น
อยากอ่านต่อเร็วๆๆๆๆ ฮือออ T_T :katai4: :katai5:
-
คุณพ่อสร้างยูทาร์เป็นตัวผู้ก็ดีแล้วฮะ เดี๋ยวไม่ฟิน 5555555
-
ฟินจนแทะหมอนแล้วค่า อยากแย่งยูทาร์จากเซโครมาเลย
-
อุต้ะคุณพ่อ55555555555555
-
ตู้วหูววววววว
สนุกมากเลย
ชอบๆ ยูทาร์น่ารัก
มาต่อบ่อยๆ นะคะ ติดตามๆ +1
-
ตอนแรกไม่กล้ามาอ่าน....แต่พอกดเข้ามา
ติดเลยจ้า....อยากได้ยูทาร์ๆๆๆๆๆๆ ไดโนคนอะไร๊ น่าจับกิน เอ้ย น่าเอ็นดูสุดๆ///อ่อก โดนเซโครบีบคอ
แอบขำคุณพ่อ สงสัยคงเดาได้ว่าตัวเองคงจะได้ลูกเขย 5555
-
ประโยคเด็ดนี่เด็ดจริงเด็ดจังค่ะ 55555
-
อ่านไปเขินไปปปป :o8:
-
ตลกคุณพ่ออะ ประโยคเด็ดเลยนะนั่นน่ะ ตัวผู้นี่แหละดีแล้วค่ะ
-
คุณพ่อไฟเขียวเร็วมากค่ะ 5555555555
-
คิดถึงว่าที่ลูกเขยคุณฟรานแล้วคะ
:mew2:
-
ชอบมากมายยย รอตอนต่อไปนะค้าาา
ขอไปอ่าน precinct ก่อน 5555 :mew1:
-
ประโยคสุดท้ายของพ่อนี่พุ่งกลางแสกหน้าเลยอะ 555+
น่ารักอ่าาาา เซโคร กะ ยูทาร์ :-[
รอติดตามต่อไปว่าจะเป็นไงเน้อ ขอชีวิตสดใสไปก่อนอย่าพึ่งมาม่าเลย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า
-
น่ารักกกก ยูทาร์น่ารักกกกก น่ารักกก
-
โอ้ยยูทาร์ทำไมน่ารักกกกก :z3: ละดูที่คุณพ่อพูดแสดงว่าทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วใช่มั้ยคะ5555555
ตอนหน้าก็จะได้นอนกับเซโครแล้วนะะ :impress2:
-
อ่านแล้วเขินอ่ะ ^^
รอตอนต่อไปค่ะ :)
-
กลายรักครั้งที่❧8
หลายสัปดาห์ที่ผ่านไปรู้สึกเหมือนหัวใจได้ถูกเติมเต็มอย่างที่ไม่เคยเป็น หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เรียนรู้จากเซโครทำให้ผมสามารถอยู่ได้เหมือนกับมนุษย์ปกติ...
ผมกินข้าวได้เหมือนกับที่เซโครกิน
ผมเข้าห้องน้ำได้เหมือนที่เซโครสอน
ผมวิ่งเดินได้เหมือนที่เซโครทำให้ดู
ผมทำทุกอย่างได้ตามที่เซโครบอกจนถูกชมว่าฉลาดอยู่บ่อยๆ
ทุกๆวันที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเซโครมันช่างมีความสุข
เมื่อวานมีผู้ชายคนนึงมาหาและเซโครบอกว่าเป็นพ่อของเขา...กลิ่นที่สัมผัสได้คลายคลึงกับเซโครแต่ก็ไม่เหมือน ความรู้สึกต่อมาที่ได้รู้คืออีกฝ่ายไม่เป็นอันตราย
ผมต้องรักษาคำสัญญาว่าจะไม่ฆ่ามนุษย์เพราะไม่อยากแยกกับเซโคร
เรื่องที่พวกเขาคุยกันผมไม่ค่อยเข้าใจเลยได้แต่ฟังเงียบๆเท่าที่ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวผม...
การกลายร่าง
ก็จริงที่เดี๋ยวนี้ไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนทุกๆวันที่ต้องกลายร่างสลับกันไปมา...ร่างกายของมนุษย์ทำให้รู้สึกอ่อนแอแต่ถ้าได้อยู่ข้างๆเซโครจะให้อยู่ในร่างนี้ตลอดไปก็ได้
“ยูทาร์...ตื่นรึยัง?”เสียงนุ่มๆของเซโครดังขึ้นพร้อมกับเปิดประตูเข้ามาจนพบกับผมที่กำลังนั่งพิงผนังห้องอยู่ด้านล่างเตียง
“เซโคร”ผมเรียกอีกฝ่ายแล้วลุกไปหาในทันที
ตอนนี้เป็นช่วงเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้นแล้วสักพักใหญ่...ตอนนอนผมต้องอยู่ในห้องนี้เพียงคนเดียว เซโครบอกว่าให้รอหายดีแล้วจะให้ไปนอนที่ห้องด้วยแต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยได้ไปเลยสักครั้ง
“นั่งที่พื้นอีกแล้วเหรอ?...คงไม่ได้นอนหลับบนพื้นเย็นๆหรอกนะผมเปิดแอร์ให้แล้วยังร้อนอยู่เหรอ?”เซโครถามขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาแล้วใช้มือแตะเข้าที่ลำคอและหน้าผากเหมือนกำลังตรวจอะไรสักอย่าง
“ไม่ได้ร้อนแต่บนพื้นมันสบายกว่า”
“ถ้าอยู่บนพื้นเย็นๆจะไม่สบายนะถึงจะใส่เสื้อแขนยาวก็เถอะ”เซโคบ่นผมเบาๆ ดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่จ้องมาที่ผมอย่างเคืองๆช่างน่ามอง
“...”
“ไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวผมจะพาออกไปข้างนอก”เมื่อเห็นผมไม่ตอบอะไรเซโครก็เปลี่ยนเรื่องแล้วดันหลังผมให้ไปยังห้องน้ำที่อยู่ถัดไปไม่ไกล
ในห้องน้ำมีทั้งผ้าขนหนูและเสื้อผ้าเตรียมเอาไว้ให้หมดทุกอย่าง...ที่ผมต้องทำมีเพียงอาบน้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัวและหยิบสบู่ แชมพู ครีมล้างหน้ามาถูกแล้วล้างออกก่อนจะแปลงฟัน ทุกอย่างนี่ต้องทำอย่างน้อยวันละครั้งซึ่งบางทีผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำบ่อยขนาดนี้
ตอนที่ผมอยู่ในร่างไนโนเสาร์ไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยสักครั้งเดียว
พอแต่งตัวด้วยเสื้อแขนยาวสีเขียวกับกางเกงขายาวสีดำตามที่เซโครจัดไว้ให้แล้วผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำ...จมูกผมค่อยๆสูดกลิ่นเข้าปอดอย่างช้าๆแล้วเดินไปตามทางที่ได้กลิ่นของเซโครอยู่
เดินมาถึงด้านหน้าก็เจอเซโครกำลังนั่งอ่านแฟ้มเอกสารอะไรสักอย่างอยู่บนโซฟาตัวยาว ใบหน้าด้านข้างที่ขมวดคิ้วอยู่ทำให้ผมคิดว่าต้องเป็นเรื่องที่ทำให้เซโครลำบากใจแน่
“เซโคร”
“หื้อ...อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ...อ้าว...ไม่ยอมเช็ดผมอีกแล้ว...มานั่งนี่เลยยูทาร์”เซโครหันมาบอกผมแล้ววางแฟ้มที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ ผมเดินเข้าไปหาตามเสียงเรียกก่อนจะนั่งลงด้านหน้าเซโคร...ไม่นานผ้าขนาหนูผืนขาวก็ถูกวางลงก่อนจะถูเช็ดไปมาอย่างอ่อนโยนจนผมต้องหลับตาลงแล้วรับสัมผัสนั้นนิ่งๆ
เซโครบอกว่าเวลาผมเปียกให้เช็ดจนกว่าจะแห้งแต่พอผมไม่ยอมเช็ดเซโครก็จะเช็ดให้ถึงจะมีคำบ่นที่ผมไม่ยอมทำตามแต่ทุกครั้งเซโครก็จะเช็ดผมให้อย่างอ่อนโยนเสมอ...พอรู้แบบนี้ผมเลยเลือกที่จะโดนบ่นแล้วให้อีกฝ่ายเช็ดให้ดีกว่าต้องมานั่งเช็ดเอง
ผ่านไปสักพักผ้าขนหนูชื้นก็ถูกเอาออกไปและแทนที่ด้วยหวีด้ามหนึ่ง...เซโครบอกว่าเส้นผมของผมนั้นยาวมากต้องดูแลดีๆไม่งั้นจะพันกันแล้วต้องไปตัดทิ้ง พอเซโครหวีผมให้เสร็จเส้นผมสีเทาเข้มแซมส้มก็ถูกรวบไปไว้ด้านหลังพร้อมกับหนังยางที่ถูกรัดไว้จนแน่น
“เสร็จแล้ว...คราวหน้าต้องเช็ดเองนะยูทาร์”เซโครบอกผมแล้วลุกขึ้นยืนบิดไปมาผมเห็นแบบนั้นเลยลุกขึ้นยืนแล้วทำตามบ้าง
“เราจะไปรวมกับคนอื่นที่ทางออกแรก...ยูทาร์จำที่ผมบอกได้ใช่ไหมว่าห้าม...”
“ห้ามฆ่ามนุษย์”ผมตอบกลับไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิด เซโครย้ำเรื่องนี้กับผมบ่อยมากจนจำได้ขึ้นใจแล้ว
“ดีมาก...งั้นไปกันเถอะ...ทำตัวตามสบายไม่ต้องตื่นเต้น”เซโครบอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะก้มลงหยิบแฟ้มเอกสารที่วางไว้แล้วเดินนำออกไป
เซโครเตรียมของหลายอย่างทั้งกระเป๋าเป้า แฟ้มเอกสารและถุงอะไรอีกหลายอันจนผมต้องเข้าไปช่วยถือ...ผมเดินตามเซโครไปที่สิ่งที่เรียกว่า ‘รถ’ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นและได้เข้าไปนั่งภายใน...เบาะนิ่มๆเหมือนสิ่งที่เรียกว่าโซฟาแต่แคบกว่า
ผมมองเซโครที่เข้ามานั่งข้างๆแล้วทำอะไรสักอย่างจนรถร้องเสียงดังแล้วกระตุกเบาๆ
“...เซโคร...รถมัน...”
“ไม่ต้องห่วงนี่เป็นเรื่องปกติ...ทำตัวให้ชินไว้นะยูทาร์แล้วผมจะพาไปเที่ยว”เซโครหันมาบอกผมสบายๆก่อนที่รถจะเริ่มเคลื่อนที่ออกไป...ตลอดทางผมมองออกไปด้านนอกที่มองเห็นทะเลสีฟ้าคราม จำได้ว่าเซโครเคยบอกว่าทะเลสีฟ้านั่นมีรสเค็มเหมือนเกลือที่ผมเคยถูกหลอกให้ชิม
ไม่นานนักรถก็จอดลงที่ด้านหน้าตึกขนาดใหญ่ที่มีมนุษย์ยืนอยู่ด้านหน้าหลายสิบๆคน...ดวงตาสีเหลืองอำพันของผมค่อยๆหรี่ลงช้าแล้วเริ่มระแวดระวังทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวอย่างไม่ไว้ใจ
“ไม่เป็นไร...ถ้าอยู่กับผมไม่มีใครกล้าทำร้ายยูทาร์หรอกเพราะงั้นยูทาร์ก็ห้ามไปทำร้ายใครนะ”เซโครวางมือลงบนแก้มผมแล้วลูบเบาๆพร้อมบอกเสียงเบา
“ได้...ผมก็จะปกป้องซโคร”
“ฮิ...ได้เลยเราปกป้องกันและกันเนอะ”เซโครยิ้มกว้างออกมาแล้วดึงแก้มผมแรงๆก่อนจะก้าวลงจากรถไป
ยูทาร์ยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบาๆอย่างไม่เข้าใจนักแล้วก้าวลงจากรถตามไป...ทันทีที่ผมและเซโครเดินเข้าไปใกล้กลุ่มมนุษย์ที่ส่งเสียงคุยกันดังลั่นก็เงียบสนิทพร้อมกับก้าวถอยหลังอย่างพร้อมเพรียงเมื่อหันมามองที่ผม...
สายตาที่หวาดกลัวนั่นทำให้ผมอยากจะวิ่งเข้าไปไล่ต้อนเหมือนฝูงปลาที่อยู่ในน้ำซะจริงๆแต่ก็ต้องข่มใจให้เย็นไว้
“สวัสดีครับพี่พรีโม่...วันนี้มีไปกันกี่คนครับเนี่ย?”ผมหันไปมองเซโครที่เข้าไปคุยกับผู้ชายรูปร่างบึกบึนและมีกล้ามแขนเป็นมัดๆ ใบหน้าที่มองไม่ออกว่าหน้าตาเป็นยังไงเพราะไว้หนวดเคราปิดเกือบครึ่งหน้ากลิ่นของดินโคลนและไดโนเสาร์ที่ติดมาทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายออกป่าบ่อยแน่
ตั้งแต่ที่มาถึงก็ได้กลิ่นของไดโนเสาร์มากมายที่ไม่เคยรู้สึก...เซโครบอกแล้วว่าเราจะไปหาไดโนเสาร์กันแต่ไม่บอกว่ากลิ่นเป็นยังไงผมเลยได้แต่ดมกลิ่นที่อยู่รอบๆอย่างสำรวจเผื่อจะช่วยอะไรเซโครได้บ้าง
“ไงเซโคร...ไม่ได้เจอกันนานเห็นว่าย้ายสายนี่เรียนเพาะเนื้อเยื่อเปลี่ยนมาดูแลไดโนเสาร์”ชายที่เซโครคุยด้วยตอบกลับมาพร้อมกับเหล่มองมาทางผมอย่างสำรวจ
“ก็นิดหน่อยพี่...พอดีคุยกันถูกคอ”
“แน่เหรอ?...วันนี้รวมเซโครกับ...”เป็นอีกครั้งที่ชายคนเดิมหันมามองผมเต็มๆสายตา
“ยูทาร์...เขาชื่อยูทาร์”เซโครแนะนำผมให้รู้จัก
“อ้อ...ยูทาร์...ถ้ารวมเซโครกับยูทาร์ก็62คน”
“เข้าใจแล้วครับ...เราจะไปหาไทเซอราท๊อปเหมือนเดิมใช่ไหมครับ?”เซโครถามต่อ
“ใช่...ไม่รู้ว่าจะย้ายที่รึยังเราต้องค่อยตามรอยไป”
“ครับ”
“เอาล่ะไปแนะนำตัวกับพ่อหนุ่มรูปงามหน่อยดีกว่า...สวัสดีฉันชื่อพรีโม่ เดอัซโซว่...เรียกพี่พรีโม่เหมือนเซโครก็ได้...พี่เป็นหัวหน้าของฝ่ายควบคุมโรคยินดีที่ได้รู้จักนะยูทาร์”ชายไว้หนวดเคราเดินเข้ามาพร้อมเอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร
“ผมยูทาร์...ยินดีที่ได้รู้จัก”ผมทักทายตอบแล้วยื่นมืออกไปจับกับอีกฝ่าย
“ว้าว...ไม่คิดว่าจะเป็นมิตรขนาดนี้”
“หมายถึงอะไรครับ?”ผมถามออกไป
“ข่าวของเธอเราได้ยินมาเยอะ...พวกเด็กๆเลยค่อนข้างกลัวอย่างที่เห็น”พี่พรีโม่บอกแล้วมองไปยังด้านข้างที่มีมนุษย์ยืนมองมาอย่างตกใจปนหวาดกลัว
“ผมจะไม่ฆ่ามนุษย์”ผมบอกออกไปเต็มปากเต็มคำ...ไม่ใช่เพียงเพราะสัญญาที่ให้ไว้แต่ด้วยร่างกายที่เป็นมนุษย์เหมือนกันจะให้ฆ่าคงทำไม่ได้หรอก
“ได้ยินแบบนั้นก็วางใจ...หันไปทักทายลูกน้องฉันหน่อยได้ไหม?”
“ผมยูทาร์...ยินดีที่ได้รู้จัก...ถ้าพวกคุณไม่อยากถูกฆ่าก็อย่างทำท่าทางหวดกลัวแบบนั้นเพราะมันจะปลุกสัญชาตญาณนักล่าขึ้นมา”ผมบอกข้อมูลให้พวกเขาได้รับรู้
ไม่รู้ว่าไดโนเสาร์ตัวอื่นคิดเหมือนกันไหมแต่ผมว่ายิ่งมนุษย์หวาดกลัวเราก็ยิ่งอยากล่า...อยากทำให้หวาดกลัวมากกว่านี้
“...”สิ่งที่ผมพูดทำให้ทุกสิ่งรอบตัวเงียบสนิทราวกับไม่มีใครอยู่
“ยูทาร์...ทำไมไปพูดน่ากลัวแบบนั้นล่ะ”เซโครเดินเข้ามาหาพร้อมกับบ่นผมเล็กน้อย คิ้วสองข้างที่ขมวดเข้าหากันน่าดูไปอีกแบบ
“ผมแค่บอกความจริง”
“ถึงจะอย่างนั้นบางอย่างที่ทำให้คนเสียความรู้สึกก็ไม่ควรพูดรู้ไหม?”
“...เข้าใจแล้ว”ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบเซโครกลับไป
“สวัสดีครับ...ผมไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่เรียกว่าเซโครก็ได้...ยินดีที่ได้รู้จัก...อย่างที่แนะนำไปนี่ยูทาร์...ไม่ต้องห่วงเขาไม่ทำร้ายใครแน่ถ้าไม่มาทำร้ายเขาก่อนน่ะนะ”
“...”สิ่งที่เซโครบอกออกไปก็ทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบสนิทอีกครั้ง
อยากรู้จังว่าสิ่งที่ผมพูดกับสิ่งที่เซโครพูดมันต่างกันตรงไหน
“พอแล้วๆ...พวกเธอทั้งคู่กำลังทำให้ลูกน้องฉันกลัวหมดแล้ว...เริ่มเข้าป่ากันเลยเถอะ”หัวหน้าของเหล่าลูกน้องพูดทำลายความเงียบแล้วเดินมาแตะไหล่พวกเราสองคนเบาๆก่อนจะเดินนำออกไป
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งรถเข้าไปภายในป่าแต่รถที่นั่งเป็นรถที่ไม่เหมือนตอนที่นั่งกับเซโคร...รถคันใหญ่ที่มีคนนั่งเบียดกันอยู่เต็มด้านหลังผมกับเซโครเองก็ยืนเกาะอยู่ที่ด้านท้ายของรถ ตรงหน้าผมมีทั้งมนุษย์ชายหญิงนั่งเบียดกันโดยเอนตัวเข้าไปด้านในเหมือนกำลังกลัวว่าผมจะงับคอพวกเธองั้นแหละ
“ไม่เป็นไรนะยูทาร์”เสียงของเซโครถามขึ้นเบาๆ
“อืม...ไม่เป็นไร”ผมพยักหน้าแล้วตอบกลับไป
ไม่รู้ว่าใช้เวลาไปเท่าไหร่แต่ก็นานพอดู...รถคันสีเขียวขับเข้ามาภายในป่าลึกจนถึงบริเวณหนึ่งที่เป็นป่ารกทึบจนรถไปต่อไม่ได้พวกเราเลยต้องลงแล้วเดินเข้าไปต่อกันเอง
“ผมถือให้”ผมบอกเซโครแล้วยกเป้ที่หลังของอีกฝ่ายมาแบกไว้เอง
“มันหนักนะ”
“ผมไหว”
“ก็ได้...ถ้าไม่ไหวต้องบอกนะจะได้เปลี่ยนกัน”เซโครพยักหน้าเบาพร้อมรอยยิ้มก่อนที่พวกเราจะเดินตามเข้าไปในป่ารกทึบ
ถึงจะเป็นช่วงกลางวันแต่เพราะต้นไม้ที่ขึ้นติดๆกันทำให้แสงแทบไม่เร็ดรอดเข้ามาการเดินเลยลำบากขึ้น...ผมคอยมองเซโครอยู่ตลอดว่าจะเป็นอะไรไหมเพราะพื้นที่เหยียบลงไปดูลื่นๆด้วยแต่ดูเหมือนเซโครจะชินกับการเดินทางแบบนี้...
ทั้งท่าทางการเดินที่กางแขนออกเล็กน้อยเพื่อรักษาสมดุลทำให้ร่างกายไม่โน้มเอียงจนล้มลงไป
ทั้งการเดินที่ก้าวอย่างระมัดระวังและแต่ละก้าวดูมั่นคงจนผมต้องทำเลียนแบบก่อนจะพบว่าได้ผลดีมาก...เซโครเก่งทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามทุกคำถามที่ผมต้องการคำตอบเขามักจะตอบผมด้วยหลักความจริงและเหตุผล
“ดูเหมือนฝูงไทเซอราท๊อปจะพึ่งผ่านตรงนี้ไปนะ”เสียงของผู้นำหรือพี่พรีโม่ดังขึ้นเซโครเลยดึงผมให้ไปหาเขาที่ด้านหน้า รอยเท้าของไดโนเสาร์ที่รวมกลุ่มกันน่าจะฝูงใหญ่พอสมควรเพราะรอยเท้าทับกันไปมา
“ไทเซอราท๊อป?”
“เป็นไดโนเสาร์ที่เราตามหาอยู่น่ะ...ช่วงนี้มีโรคระบาดเกิดขึ้นคราวก่อนเราได้เข้ามาฉีดวัคซีนและทำการรักษาแล้วครั้งนี้เลยมาดูผลว่าเป็นยังไง”เซโครดูเหมือนจะรู้ว่าผมจะถามอะไรเลยอธิบายให้ฟังคร่าวๆ
กลิ่นแบบนี้คือไทเซอราท๊อป
ผมพยายามจับกลิ่นแล้วจำเอาไว้จนขึ้นใจ
“ถ้าเป็นกลิ่นแบบนี้อยู่ไม่ไกลเดินไปสักพักก็ถึงแล้ว”ผมหันไปบอกกับเซโคร
“จริงเหรอ?....แน่นใจนะว่าเป็นกลิ่นไทเซอราท๊อป?”เซโครถามย้ำเพื่อความแน่ใจผมเลยนั่งลงไปเพื่อจะดมกลิ่นใกล้ขึ้น...กลิ่นที่เหมือนกันลอยอยู่เต็มไปหมดคงจะไม่ผิดตัวแน่
“แน่ใจ”ผมพยักหน้าให้อีกครั้ง
“พี่พรีโม่”
“อืม...ยูทาร์เธอนำพวกเราได้ไหม?”อีกฝ่ายถามผม
“ได้ครับ”แค่ตามกลิ่นไปไม่ใช่เรื่องยากอะไร
“งั้นฝากด้วย...ถ้าระยะห่างเหลือประมาณ50เมตรให้บอกฉันเลยนะ”เขาบอกต่อก่อนจะหันไปบอกกับลูกน้องของตน
“เซโคร”
“มีอะไรไม่เข้าใจสินะ”เขาพูดเหมือนรู้จักผมดีซึ่งก็จริงอย่างที่ว่า
“50เมตรคืออะไร?”ผทถามออกไป
“ความยาว...ไม่สิระยะห่างของสิ่ง2สิ่ง...ประมาณนี้คือผมห่างจากยูทาร์1เมตร...ถ้า50เมตรก็คือผมอยู่ห่างมากกว่านี้อีกอีก50เท่า...อธิบายแบบนี้พอเข้าใจไหม?...ผมพูดเองยังงงเองเลย”เซโครอธิบายก่อนจะเกาหัวพร้อมหัวเราะออกมา
ระยะจากผมกับเซโครคือ1เมตร...แปลว่าถ้าผมเข้าใกล้ไทเซอราท๊อปประมาณนั้นก็คือ50เมตรสินะ
ตอนนี้ผมกำลังทำความเข้าใจและคำนวณระยะทางก่อนจะจดจำมันไว้...ถึงจะยังไม่ค่อยมั่นใจเรื่องการกะระยะแต่ก็ถือว่าใช้ได้ในระดับนึง
ยูทาร์นำกลุ่มเดินเข้าไปในป่าทึบก่อนจะใช้จมูกดมกลิ่นตามไป ถึงจะมีกลิ่นสัตว์อยู่หลายชนิดแต่ด้วยจมูกของผมก็สามารถแยกแยะได้อย่างสบาย...ใช้เวลาสักพักผมก็เห็นหลังของสิ่มีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่จากที่กะระยะน่าจะ50เมตรอย่างที่บอก
“เจอแล้ว”ผมหันไปบอกพรีโม่ที่เดินตามมาพร้อมกับเซโคร
“โอเค...ทุกคนเตรียมอุปกรณ์”เขาหันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ด้านหลัง
“ยูทาร์”เสียงเรียกจากเซโครทำให้ผมหันไปมอง
“ไทเซอราท๊อปเป็นไดโนเสาร์ใจดีเพราะงั้นยูทาร์ต้องเป็นมิตรกับพวกเขานะ...ถ้าเราอยากให้ใครดีกับเราเราก็ต้องดีกับเขาก่อนถึงจะได้ผล...ถึงจะมีบางคนที่ใช้วิธีนี้ไม่ได้ก็เถอะ”เซโครอธิบายให้ฟังโดยที่ผมก็พยักหน้าเข้าใจ
การสื่อสารกับไดโนเสาร์ด้วยกันคงไม่อยากเท่าที่จะสื่อกับมนุษย์ด้วยคำพูด...เสียงครางเบาๆก็เป็นสัญญาณว่าไทเซอราท๊อปกลุ่มนั้นรู้ตัวแล้วว่ามีอะไรกำลังเข้ามาใกล้แต่เพราะไม่มีอันตรายก็เลยไม่วิ่งหนี
“ตามผมมานะยูทาร์”เซโครบอกพร้อมกับจับมือผมแล้วพาเดินเข้าไปใกล้ฝูงไซเซอราท๊อปช้าๆ
ไทเซอราท๊อปตัวแรกที่หันมาเห็นก็ครางเสียงต่ำในคอราวกับจะไม่เชื่อใจเมื่อดวงตาสีเทาหันมาสบกับดวงตาสีเหลืองอำพันของผม...ราวกับสัญชาตญาณของพวกมันรู้สึกว่าผมเป็นไดโนเสาร์เหมือนกันแต่ที่แตกต่างคือผมเป็นผู้ล่า
“ไม่เป็นไร...ใจเย็นๆสาวสวย”เซโครบอกไทเซอราท๊อปตรงหน้าก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปลูบที่แก้มของมันช้าๆราวกับจะบอกว่าพวกเรามาดี
‘จะกินพวกเราเหรอ?’เสียงครางในลำคอดังขึ้นเหมือนจะสื่อประโยคตามนั้น ไซเซอราท๊อปตัวอื่นที่ได้ยินก็เริ่มมารวมตัวกันมากขึ้น
‘ไม่ใช่...ผมแค่มากับเซโครเท่านั้น’ผมส่งเสียงตอบกลับไปถึงจะอยู่ในร่างมนุษย์แต่ดูเหมือนจะสามารถสื่อกับไดโนเสาร์ได้
‘เซโครคือชื่อของมนุษย์คนนี้...ทำไมถึงไม่ฆ่าเขาล่ะ’ไทเซอราท๊อปครางถามอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ
‘เขาเป็นเพื่อนผม’
‘เพื่อน?...เหมือนกับที่เป็นฝูงเดียวกันใช่ไหม?’
‘ใช่’
‘แต่เขาไม่ได้เป็นเหมือนพวกเรา...ไม่เหมือนคุณด้วย...ทั้งที่เป็นเหมือนพวกเราแล้วทำไมถึงมีรูปร่างแบบนั้นแถมยังไม่กินพวกเราอีก’
‘ตอนนี้ผมเป็นมนุษย์เพราะงั้นผมจะไม่ทำร้ายใคร’ผมบอกออกไปตามตรง
‘พวกเราเชื่อใจคุณได้ใช่ไหม?’ผมพยักหน้าตอบด้วยความจริงใจ
ในหัวผมไม่มีความคิดที่อยากจะล่าเลยสักนิด...สิ่งที่อยากทำมีเพียงอยู่ข้างๆเซโครต่อไปเท่านั้น
“ครางอะไรอยู่น่ะยูทาร์...เจ็บคอเหรอ?”เซโครถามขึ้นในระหว่างที่เริ่มเดินไปรอบๆไทเซอราท๊อป
“ผมคุยกับเธออยู่”ผมบอกยูทาร์แล้วชี้ไปที่ไทเซอราท๊อปตัวเมียตรงหน้า
“คุย?...จริงเหรอ?แล้วคุยว่ายังไงบ้างล่ะ?”เซโครถามกลับมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เธอถามว่าผมจะกินพวกเธอไหมและผมตอบว่าไม่”
“จริงเหรอ...สุดยอดเลย...แล้วคุยเรื่องผมบ้างไหม?”
“อืม...เธอถามว่าทำไมเราถึงเป็นเพื่อนกันได้ทั้งที่ผมไม่เหมือนกับเซโคร”ผมบอกออกไป
“ไม่ว่าจะเป็นอะไรขอแค่เข้าใจกันเราก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้...ผมกับยูทาร์เป็นเพื่อนสนิทกันมากๆไม่สิ...อาจเรียกว่าเป็นครอบครัวเลยก็ได้”เซโครบอกไทเซอราท๊อปที่ลูบอยู่พร้อมรอยยิ้ม
‘เขาเป็นมนุษย์ที่ดีนะ’เสียงครางเดิมเอ่ยขึ้น
‘อืม...ผมก็ว่าแบบนั้น...เซโครอ่อนโยนมากและก็ใจดีด้วย’
‘คุณคงหวงเขามาก’
‘...อาจใช่’ผมลังเลกับคำตอบที่ให้ไปเล็กน้อย...
การที่อยากให้อีกฝ่ายอยู่ในสายตาตลอดเรียกว่าหวงได้ไหมนะ
ในระหว่างที่กำลังคิดกลิ่นของบางอย่างก็ลอยเข้ามาแตะจมูก...กลิ่นคาวๆนั่นทำให้สัญชาตญาติผมบอกว่าไม่ปลอดภัย
“เซโคร”ผมเรียกพร้อมกับดึงตัวเซโครมาไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
“ยูทาร์...เกิดอะไรขึ้น?”คนที่ถูกดึงถามอย่างตกใจ
“ไม่รู้แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างกำลังมา...กลิ่นอันตราย”ผมหันไปบอกเซโคร
“งั้นเราต้องหนีใช่ไหม?...ผมจะไปบอกพี่พรีโม่ก่อนนะ”
“อืม”ผมพยักหน้าให้เบาๆแล้วหันไปมองรอบทิศทางอย่างระมัดระวัง...อะไรบางอย่างกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงเหมือนมีอะไรถูกลากไปกับพื้น
‘งูยักษ์ไง’เสียงครางเบาๆอธิบายให้ผมรู้
‘งูยักษ์?’
‘ใช่...มันอันตรายมากถ้าถูกรัดจะทำให้เราตายและกลายเป็นอาหารของมัน’
‘ตายคืออะไร?’
‘คือการแยกจากกันตลอดกาล’คำอธิบายทำให้ผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งและเป็นสิ่งเดียวที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับเซโคร
‘หนีไปซะ’ผมบอกกับเธอ
‘แล้วคุณล่ะ?’
‘ผมจะหนีพร้อมกับเซโคร’
‘ขอให้คุณโชคดี’เสียงครางเบาๆในลำคอครั้งสุดท้ายก่อนฝูงไทเซอราท๊อปจะวิ่งหนีไปจนฝุ่นคละคลุ้งไปหมด
“ยูทาร์...ไปเร็ว”เสียงเรียกของเซโครทำให้ผมวิ่งไปหาก่อนที่จะออกวิ่งตามไป
“เซโคร...งูยักษ์มันตามมา”ผมเอ่ยบอกเมื่อสัมผัสถึงเสียงอะไรสักอย่างที่ตามมาจากด้านหลังถึงจะอยู่ไกลพอสมควรแต่ก็รู้ว่ากำลังตรงมาด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น
“งูยักษ์?...ไหนบอกว่าไม่รู้ว่าคืออะไรไง?”เซโครหันมาถามระหว่างที่กระโดดข้ามท่อนไม้ขนาดใหญ่
“ไทเซอราท๊อปตัวนั้นบอกมา...เห็นว่าจะรัดและกินเป็นอาหารด้วย”
“แปลว่าต้องตัวใหญ่มาก....งูยักษ์ที่ตัวใหญ่...หรือว่าจะเป็นไททันโอโบอา แซร์อาโฮนเอนซิส”สิ่งที่เซโครพูดออกมาทำให้ผมขมวดคิ้วทันทีเพราะฟังไม่ทันว่าพูดอะไรกันแน่
“อีกรอบได้ไหม?”
“ไททันโอโบอา แซร์อาโฮนเอนซิส...หรืองูไททันโอโบอามีขนาดยาว 13 เมตร น้ำหนักกว่า 1 ตัน พบได้ในป่าดิบชื้นทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศโคลอมเบีย...เป็นไดโนเสาร์เหมือนกับนายแต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะน่าจะอยู่ในกรงนี่นา”เซโครอธิบายยาวเหยียดแต่ก็ทำให้ผมเข้าใจได้ดีขึ้น
“ทำยังไงดี?”ผมถามขณะที่วิ่งต่อไปด้วย
“อีกไกลไหมกว่าจะมาถึงที่เราอยู่”
“พอสมควรแต่ไม่มากเท่าไหร่”ผมตอบกลับไปหลังจากที่หันไปกะระยะ
“เราคงหนีไม่พ้น...มีความเป็นไปได้ว่าจะกินพวกเราทุกคนเพราะงั้นเราต้องล่อมันไปทางอื่น”เซโครพึมพำเสียงดังแล้วหยุดวิ่งผมเลยหยุดตามแล้วมองเซโครที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ยูทาร์”
“อืม”ผมขานรับเสียงเรียก
“ไปด้วยกันได้ไหม...ไปล่อมันให้ห่างจากพวกพี่พรีโม่”คำขอของเซโครทำให้เดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นก่อนจะบอกคำตอบออกไปโดยไม่ต้องคิดสักนิด
“แน่นอน”
“ขอบคุณนะ...งั้นเรากลับไปกันเถอะ”เซโครหันมาบอกด้วยรอยยิ้มแล้วเดินกลับไปทางเดิม
“ไม่กลัวเหรอ?”ผมอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“กลัวสิ...แต่ถ้าไม่มีใครเสียสละเราก็จะตายกันหมด”
“ผมจะไม่ให้เซโครตาย”ผมบอกออกไปทันที
“ยูทาร์ก็ห้ามตายนะ...ถ้ายูทาร์กลับร่างไดโนเสาร์คงชนะไททันโอโบอาได้ง่ายๆแต่ในเมื่อยูทาร์ยังอยู่ในร่างมนุษย์เราคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหลอกล่อให้ได้นานที่สุด”เซโครพูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น ถึงร่างกายจะสั่นแต่ก็ยังคงเดินหน้ากลับเข้าไปเหมือนกำลังต่อสู้กับความกลัวของตัวเองอยู่
ถ้าผมกลับไปอยู่ในร่างไดโนเสาร์เหรอ?
ซู่
เสียงบางอย่างที่ดังขึ้นทำให้ผมและเซโครหยุดเดินก่อนที่ผมจะให้เซโครไปหลบอยู่ด้าหลังตัวเอง...จะต้องปกป้องเซโครให้ได้ อย่างน้อยก็เป็นไดโนเสาร์เหมือนกันน่าจะคุยกันรู้เรื่องถ้าจบเรื่องได้อย่างสันติก็คงดีไม่น้อย
“ยูทาร์”เสียงเรียกเบาๆดังขึ้นจากด้านหลัง
“ผมจะปกป้องเซโครเอง”ผมย้ำอย่างหนักแน่นเมื่อต้นไม้เริ่มค่อยๆหักลงแล้วปรากฎร่างของงูยักษ์ขนาดใหญ่ที่มีเกร็ดเป็นมันวาวสีดำสนิท...
ขนาดของมันใหญ่มาก
ใหญ่ถึงขนาดที่ไดโนเสาร์ปกติแค่ตัวสองตัวคงจะไม่อิ่มท้อง
‘ผมไม่ยอมให้ไปไกลกว่านี้หรอก’ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายพูดก่อนและดูเหมือนอีกฝ่ายที่ผมพูดด้วยจะไม่ได้ดูตกใจสักเท่าไหร่แถมดวงตาสีนิลที่จ้องมาดูสงบนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
‘แกไม่ใช่มนุษย์จริงๆด้วย...คิดถูกจริงๆที่มาทางนี้’เสียงตอบกลับมาพร้อมกับส่วนหัวขนาดใหญ่ที่โน้มลงมาเพื่อจะได้มองเห็นพวกเราชัดขึ้น
‘คุณควรอยู่ในกรง’
‘แกเป็นพวกเดียวกับมนุษย์เหรอทั้งที่พวกมันกักขังพวกเราไว้เนี่ยนะ...แกมันบ้า!...ไม่สิ...ดูท่าแกจะถูกปล่อยให้ออกมาร่อนได้อย่างอิสระสินะคงไม่เข้าใจหรอกว่าการถูกขังมันน่าเบื่อขนาดไหน...การป้องกันอ่อนๆแค่ไม่กี่วิก็ไม่รอดแล้ว’
‘อย่าบอกนะว่าฆ่ามนุษย์มาน่ะ’ผมถามย้ำ
‘แล้วไง...มนุษย์น่ะอร่อยกว่าเนื้ออะไรทั้งหมดที่เคยกินมา’คำยั่วยวนนั่นทำให้ผมรู้สึกโกรธจริงๆแล้ว
‘แกไม่ควรกินมนุษย์’ผมเริ่มทนไม่ไหวแล้ว
‘หึ...ไม่มีใครมาสั่งฉันได้...จะว่าไปมนุษย์ที่อยู่ข้างหลังแกก็น่ากินดีนี่’
‘อย่าแตะต้องเขา!!!’ผมคำรามออกไปอย่างเกรี้ยวกราด...ไม่ยอมให้ใครมาแตะเซโครแน่
‘โฮ่...น่ากลัวจริงฉันจะกินมนุษย์นั่นไม่ให้เหลือเลย’
“โอ๊ย!...ยูทาร์”เสียงของเซโครทำให้ผมรีบหันกลับไปด้านหลังก่อนจะพบกับความว่างเปล่าพอมองขึ้นไปก็ยิ่งต้องข่มความโกรธเมื่อเห็นหางของงูตรงหน้ารัดตัวเซโครเอาไว้แน่น
‘ปล่อยเขา’
‘ไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งนี่’
“...กรร”
ผมจ้องงูตรงหน้าด้วยความโกรธที่เริ่มปะทุขึ้น
“..อึก...ยูทาร์...”เสียงของเซโครที่ดูทรมานยิ่งทำให้ความโกรธของผมเพิ่มจนถึงขีดสุด
สติที่มีเหลืออยู่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง...สิ่งที่เข้ามาแทนคือความโกรธเกรี้ยวที่จะล่างูยักษ์ตรงหน้าจนกว่าจะหมอบกันไปข้างนึง...
จะไม่ปล่อยไว้แน่...
ใครก็ตามที่กล้ามาทำร้ายเซโคร!!!
.....................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i57.tinypic.com/2yxrcqb.jpg)
ไททันโอโบอา แซร์อาโฮนเอนซิส (Titanoboa cerrejonensis)มีขนาดยาว 13 เมตร น้ำหนักกว่า 1 ตัน พบได้ในป่าดิบชื้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศโคลอมเบีย โดยชื่อของมันเป็นภาษาละติน แปลได้ว่า "งูยักษ์จากแซร์อาโฮน" (Titanic boa from Cerrejon) ซึ่งมาจากชื่อเมืองแซร์อาโฮน ในประเทศโคลอมเบีย เพราะเป็นที่ที่ค้นพบซากฟอสซิลของมันเป็นครั้งแรก
ไททันโอโบอามีชีวิตอยู่ในยุคพาลีโอซีน (58-60 ล้านปีก่อน) ซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบชื้น มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 30-34 องศาเซลเซียส ปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ขณะที่ซากฟอสซิลของมันถูกค้นพบโดยคณะนักวิทยาศาสตร์สาขาบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:https://th.wikipedia.org/wiki/ไททันโอโบอา_แซร์อาโฮนเอนซิส
........................................................................
สวัสดีค่า
มาอัพต่อแล้วนะคะ...ตอนนี้อาจค้างคาสักเล็กน้อย(?)
หลังจากตอนนี้ไปจะเป็นฉากบู๊พร้อมกับความสัมพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องคะ
มีหลายคนคิดว่าตอนนี้จะได้เห็นยูทาร์นอนกับเซโครต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะคะ
เรื่องนี้มีคอมเม้นท์ถล่มทลายจริงๆต้องขอบคุณมากนะคะทั้งดีใจและก็ปลื้มมากๆคะ
ไว้พรุ่งนี้จะทำสารบัญไว้จะได้อ่านง่ายขึ้นนะ
ใครมีข้อติชมหรือสักถามอะไรสามารถเข้าไปคุยกันได้ที่เพจนะคะ>>nicedog (https://www.facebook.com/novelistnicedog)
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และกำลังที่ทำให้สามารถแต่งนิยายเรื่องนี้ได้ต่อไปนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
ยูทาร์น้อยของขึ้นซะแล้ว พี่งูยักษ์ไม่รอดแน่ 555
-
อ้าวๆ ไปกระตุกต่อมหวงยูทาร์เข้าแล้วระวังเละนะตางูยักโบอา :serius2:
-
ยูทาร์สั่งสอนเจ้างูยักษ์นั่นให้หลาบจำไปเลยนะคะ ว่าอย่าคิดที่จะมาแหยมกับเซโครของยูทาร์แบบนี้อีก! เล่นกับใครไม่เล่นเสียแล้ว รอให้ยูทาร์เปลี่ยนร่างก่อนเถอะค่ะ งูยักษ์ก็งูยักษ์เถอะ ได้กลายเป็นไส้เดือนดินก็วันนี้นี่แหละ :laugh3:
-
ฆ่ามันนนนน #ตีงูๆๆๆๆๆๆๆๆ
#กระทืบๆๆๆๆๆๆ
:m16: :m16: :m16: :m16:
-
ป่าพังแน่ๆ
-
มาต่อแล้ว~~~
ยูทาร์น่ารักจริงๆ
ขอบคุณที่มาอัพต่อนะคะ
-
ค้างอ่าาาา ตายแน่งูยักษ์เอ๋ย กล้ามากที่แตะต้องเซโคร
-
โดนแน่เจ้างู!!
-
โบอาไองูพิษแกจะทำอะไรน้องเซโคร
เตือนแล้วไม่ฟังยูทาร์ฉีกไองูนี่เป็นชิ้นๆเลยนะ
-
:z3: :z3:
ถ้าน้องงูตายไปเสียดายแย่ เอาแค่สลบแล้วจับยัดเข้ากรงตามเดิมได้ไหม @ @
-
งูบ้า ตายแน่ ให้พี่งูกลายเป็นคนด้วยได้ไหม แบบว่าหาคู่ให้ทีหลังอะไรอย่างเงี้ย555555
ยูทาร์กลายร่างเป็นไดโนเร็ว ปกป้องเซโครให้ได้นะ
-
โหดมาก
-
ฆ่ามันยูทาร์....อิงูร้ายต้องตาย
-
งูเฮงซวย!!!! ปกติเจ้ชอบงูนะคะ แต่ตัวนี้ขอบายยยยย
ให้มันให้หัวหลุดเลยยูทาร์ ย๊ากกกกกกกก :m31:
-
:impress2: ยูทาร์ปกป้องเซโครให้ได้น๊า
-
พี่งูเดี่ยวก็เจอน้องยู(?)เขมือบเอาหรอก :laugh: :laugh:
-
กรี๊ดดดดฆ่ามันเลยค่ะยูทาร์บังอาจทำร้ายเซโคร :katai1: :katai1:
-
ค้างคาไม่นิดหน่อย ค้างมาก ย๊ากกกกกกก
รอมาต่อนะคะ :pig4: :L1:
-
ตัดจบตอนตรงนี้ค้างมาก :serius2:
-
ยูทาร์เท่มากมายยย ปลื้มม
-
:katai1: :katai1: เซโครอย่าเป็นอะไรนะ ยูทาร์ฆ่ามัน ฆ่ามันนนนนนนนนนนนนนน
-
หวังว่าบ.จะให้เซโครมาคู่กับยูทาห์เเล้วนะถ้า อยู่ด้วยกันเเล้วสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง คุณหมอเซโครมีล่าม/บอดี้การด์/เเฟนเเล้วคงทำงานสะดวกขึ้นนะ 555 (อันหลังไม่เกี่ยว) ถ้าจีบกันคุณหมอเซโครคงอดได้เบี้ยขยันเเน่เลย(โดนยูทาห์น้อยฟัดจนต้องลาป่วย...เเต่คงไม่ถึงต้องลาคลอดมั้ง555)
-
ไม่ชอบงูเลยยยย ยูทาร์ฆ่ามันนนนน! :z6:
เซโครโดนงูรัด ทำนายว่าจะได้เนื้อคู่ #ผิด :z3:
รอต่อนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ ฮึบๆ :hao7:
-
พี่งูก็คงไม่ชอบถูกขัง ไม่มีอิระ
-
มาแล้วๆ ฮือยูทาร์น่ารัก ต้องปกป้องเซโครให้ได้นะ
-
ยูทาร์กลายร่างเร็ว :katai4:
-
อยากบอกว่าแอบเฟลเพราะนึกว่าสองคนนี้จะได้นอนด้วยกันแล้ว แต่ไม่เป็นไร เรารอด้ายยย55555555
ยูทาร์เก่งมากเลยย คุยกับไทเซอราท็อปในร่างมนุษย์ได้ด้วยเก่งมากกก แต่นึกว่าจะคุยกับพี่งูรู้เรื่อง ดันไม่รู้เรื่องซะงั้น แถมพี่งูแกดูไม่ชอบมนุษย์มากๆด้วย ต้องช่วยเซโครให้ได้นะะ ยูทาร์สู้ๆ
-
ลุ้นๆๆๆๆๆ
-
ยูทาร์น่ารักอ้ะ แบบ โอ๊ยยย เอางูมาผูกเป็นโบว์เลยลูก!
-
ยูทาร์สู้ตายยย!
อิงูหลบไป เชิ้บๆ!
-
ชะตาแกขาดแน่เจ้างูยักษ์
บังอาจมาทำร้ายเซโครของเค้า!
ยูทาร์!จัดการมันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
:m31: :m31: :m31:
-
เอาแร้วไงล่ะ
ไอ้งูบ้า ถ้าเซโครเปนไรไป แกกลายเป็นซากงูแน่ๆ
:m31: :m31: :m31:
-
ย๊ากกกก ยูทาร์ไฟติ้งงงง
กำลังคิดว่าถ้ายูทาร์คงนิสัยพูดจาตรงๆไว้น่าจะตลกดี เพราะคงไม่คิดซับซ้อนอ้อมโลกเหมือนคน เจอเซโครพูดจาปลอบ?ใจคนอื่นเข้าไปฮาเลย คือตัวอย่างการเรียนรู้ก็เป็นอย่างนี้ไง 5555
-
ฆ่างูๆๆๆๆ
ว้ากก ฉันมันโรคจิตตตต
แต่อยากให้งูโดยยูทาร์ฆ่าจังน้าาา
รอตอนต่อไปจ้าา
-
:m11:
-
บอกได้อย่างเดียวคือ ฉันเกลียดงู :ling3:
-
ยูทาร์น่ารักอ่ะ เหมือนเป็นทูตไดโนเสาร์ 55555
พี่งูตายแน่นอน มาแตะต้องเซโครแบบนี้
-
เซโครรรรรรรรรร ~~~~~ (((゜д゜;)) (((゜д゜;))
-
น่ากลัวอะ เซโครอย่าเป็นอะไรนะ
-
ฆ่ามันให้ตายเลยยูทาร์!! บังอาจทำร้ายเซโคร ฮึ่มมม
-
ขอไว้อาลัยแกน้องงูนะคะ :mew4: ..ฮ่าๆๆจะทำอะไรก็ทำไปแต่อย่ายุ่งกับเซโครชิมิยูทาร์
-
จัดการมันเลย อย่าให้เซโครเป็นอะไรไปเลยนะ
-
o13
-
ฆ่ามันเลย ยูทาร์ // โหมดโหด
-
ยูทาร์!!!!! นายหล่อและบึกบึน?มากกก อ๊ายๆๆๆ อิจเซโครรร อยากได้ยูทาร์กลับบ้าน อีงูบ้า ไปรัดในความฝันซะะะ :katai5:
-
สนุกและได้ความรู้ด้วย
-
ฉันมารอพี่ที่เล้าทุกวันเลยนะ 555+
นี่แอบเข้ามาดู ว่าอัพตอนใหม่ยัง รออ่านด้วยใจจดจ่อ :man1:
-
ตอนแรกอ่านเรื่องจดหมายแล้วชอบ ก็เลยตามมาเรื่องนี้
เห็นชื่อเรื่องแปลกดี แถมเราไม่เคยดูหนังไดโนเสาร์เลย คิดว่าคงจะอ่านไม่เข้าใจ แค่พอเข้ามาอ่านเจอยูทาร์เท่านั้นแหละ อุแม่เจ้า!!!!! ไดโนเสาอะไรกันนี่ น่ารักโคตรๆ หืมมมมมมมม แบบว่า ชอบตอนอยู่ร่างไดโนเสาร์แล้วทำท่าอ้อนๆมากค่ะ ละลายเลย :katai1: :katai1: :katai1: :katai1::katai1:
-
ยูทาร์จะกลายร่างเป็นไดโนเสาร์แล้วใช่ป่ะ รอดูฉากต่อสู้
-
ยูทาร์ลูกรักของแม่ แม่มาเกาะขอบรอหนูอยู่นะลูก แม่เตรียมพวงมาลัยแบ้งค์พันมาคล้องหนูแล้ว ตอนนี้แม่ลุ้นค้างคามาก ไม่มีกระจิตกระใจไปหาหนังสืออ่านสอบเลยลูกโฮลววววว :hao5:
-
หกวันแล้ว ยูทาร์ก็ยังไม่มา... :ling1: ปูเสื่อรอ เสื่อสึกหมดแล้ววววว :hao5:
คิดถึงยูทาร์ คนเขียนหายไปนานขอยาวๆ นะคะ ได้โปรด :call: ติดเรื่องนี้มากอ่ะ บอกเลย :monkeysad:
-
^
^
เสื่อไม่น่าสึกได้นะ ช่วงนี้เข้าพรรษาแล้ว บวชแล้วห้ามสึก
-
^
^
^
นั่นมุกหรือเปลือกหอยคะ :laugh: นั่งงงแปปนึง
//
เค้าเข้ามารอน้าาาาาา รีบมาเร็วนะคับ >< วันนึงกดรีไม่ต่ำกว่า 3 รอบ :mew2:
-
สนุกมากกกกกก
อ่านแล้วปิ๊งเลย
เป็นอะไรที่แหวกแนวมาก
แถมได้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์อีก
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วจ้า
-
ิคิดถึงจัง
ิคิดถึงยูทาร์จัง คิดถึงเซโครจัง
เมื่อไรจะมาล่ะค่ะ
(นั่งหลบมุมร้องไห้คนเดียววว)
-
โอ้ยยยย ค้างงงง ไม่น่ารีบอ่านก่อนเลยน่าจะรอให้จบละค่อยอ่าน
แงงง :sad4: :o12:
มาต่อเร็วๆน๊าาาาาาาาา ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกก
:m15: :monkeysad:
-
ขอกรี๊ดดด พึ่งได้เข้ามาอ่าน
สนุกมากๆ เลยค่า ชอบมากๆ
ยูทาเท่ห์มากกกก น่ารักสุดๆๆ
ยูทาช่วยเซโครให้ได้น้า
-
กลายรักครั้งที่❧9
*อ่านจบแล้วเลื่อนลงไปอ่านประกาศสักนิดนะคะ^^
ความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาไม่ได้ทำให้ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ รู้สึกสนใจมันมากเท่ากับภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเลยสักนิดเดียว...ร่างกายของตนที่ถูกเกร็ดลื่นๆสีดำสนิทรัดแน่น เสียงดังซู่ที่ดังออกมาจากปากของไททันโอโบอาและเสียงครางต่ำของยูทาร์ทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่...
แถมเป็นการคุยที่ไม่ค่อยสู้ดีด้วย
ผมไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกันแต่ยูทาร์เหมือนจะโกรธจนแทบไม่เหลือสติ...ร่างมนุษย์ของยูทาร์ค่อยๆเปลี่ยนแปลงจนผมเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี...
อย่าบอกนะว่ายูทาร์จะ...
กรรรร!!
ยังไม่ทันได้คิดอะไรเสียงขู่คำรามก็ดังกึกก้องพร้อมกับร่างกายของยูทาร์ที่กลับมาเป็นไดโนเสาร์อีกครั้งในรอบหลับสัปดาห์ที่ผ่านมา...คมเขี้ยวกว่า80ซี่กางออกกว้างพร้อมกับเสียงขู่ที่แค่ได้ฟังก็รู้ว่าเต็มไปด้วยความโกรธ
“...ยูทาร์”ผมพึมพำเรียกไดโนเสาร์ตรงหน้าเบาๆ
ซู่!!
กรรร!!
ไดโนเสาร์ทั้งสองส่งเสียงคำรามออกมาอย่างไม่มีใครยอมใครก่อนที่ไททันโอโบอาจะบุกเข้าไปกัดที่คอของยูทาร์อย่างรวดเร็วจนยูทาร์ล้มลงไปด้านหลังอย่างแรง ต้นไม้ที่อยู่บริเวณโดยรอบล้มลงอย่างง่ายดายพร้อมกับฝูงนกที่บินหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย
ส่วนหางที่รัดผมไว้เคลื่อนที่ตามไปตามการเคลื่อนที่ทำให้แรงสะเทือนส่งมาถึงผมด้วย
“ยูทาร์!!”ตอนนี้ผมเป็นห่วงยูทาร์มากกว่าตัวเองอีก...ถ้าเทียบขนาดคงจะพอๆกันทั้งคู่แต่ถ้าให้เทียบความแข็งแกร่งผมว่ายูทาร์มีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ไททันโอโบอา แซร์อาโฮนเอนซิส งูที่ไม่มีพิษจำพวก ‘โบอา’ คล้ายงูเหลือมหรืองูหลาม พบได้ในทวีปอเมริกากลางและเกาะมาดากัสการ์ในปัจจุบันซึ่งนักบรรพชีวินวิทยาเชื่อว่าไททันโอโบอามีรูปร่างลักษณะและมีพฤติกรรมคล้ายงูอนาคอนดาโดยหากินในน้ำเป็นหลักแต่ก็สามารถเคลื่อนที่บนบกได้เร็วเช่นกัน อาหารหลัก ได้แก่ จระเข้ ปลาขนาดใหญ่รวมไปถึงพวกไดโนเสาร์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง แต่ขนาดของมันยาวกว่าอนาคอนดามากคือมีความยาวเฉลี่ยประมาณ13เมตร และอาจยาวได้ถึง15เมตรหนักมากสุดคาดว่าคือ2ตัน โดยชื่อของมันเป็นภาษาลาติน แปลได้ว่า “งูยักษ์จากแซร์อาโฮน” ซึ่งมาจากชื่อเมืองแซร์อาโฮนซึ่งเป็นเหมืองแร่ในประเทศโคลอมเบียซึ่งเป็นบริเวณที่ค้นพบซากฟอสซิลของมันเป็นครั้งแรกนั่นเอง
กรรรร!!
ผมมองยูทาร์ที่ส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกับพยายามหนีออกมาจากการกัดของไททันโอโบอา ดวงตาสีเหลืองอำพันหันมาสบกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมเหมือนจะขอกำลังใจก่อนจะใช้ขาถีบไททันโอโบอาจนเขี้ยวที่กัดอยู่หลุดออกไป ด้วยแรงกระแทกทำให้ผมปลิวไปจนหัวกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านข้างอย่างจัง
กรรร!!
ยูทาร์ไม่รอช้ารีบลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งตรงมาหาผมก่อนจะกัดหางของไททันโอโบอาบริเวณที่ผมถูกรัด ด้วยความคมของเขี้ยวและแรงกระชากอันมหาศาลทำให้หางของไททันโอโบอาขาดอย่างง่ายดายจนส่วนที่รัดผมไว้คลายตัวออก
งื้ดดด!
เสียงครางสูงของยูทาร์ทำให้ผมได้สติก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาสีเหลืองอำพันตรงหน้าที่พยายามจะสื่ออะไรออกมาสักอย่าง...ในตอนนี้เหมือนผมสามารถเชื่อมความคิดกับยูทาร์ได้
“ผมจะขึ้นไปอยู่บนหัวละกัน”ผมบอกยูทาร์แล้วรีบปีนขึ้นไปบนจมูกจนถึงบนหัวของยูทาร์...ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็เหมือนจะไม่ดีสักที่เลยแฮะ
ถึงยูทาร์จะตัวใหญ่แต่บริเวญที่ให้มนุษย์อยู่ได้นี่เรียกว่าไม่มี...ขนาดหัวของยูทาร์ยาวประมาณ3เมตรกว่าซึ่งถือว่าใหญ่แต่ถ้าต้องแบกผมไปด้วยความเร็วของยูทาร์ต้องลดลงแน่ แต่จะให้ผมกระโดดลงไปตอนนี้คงถูกเหยียบตายแน่ๆ
ผมพยายามทรงตัวโดยจับส่วนกระดูกที่งอกออกมาสองอันบริณหัวของยูทาร์แน่น...พอยูทาร์เห็นผมเริ่มนิ่งก็สะบัดหัวโยนส่วนหางที่กัดขาดมาทิ้งไปแล้ววิ่งเข้าไปใกล้ไททันโอโบอาที่เริ่มชูคอขึ้นมาอีกครั้ง
กรรรร!!
ยูทาร์อ้าปากกว้างก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปอย่างรวดเร็วจนผมต้องใช้มือทั้งสองข้างเกาะเอาไว้แน่น เสียงเขี้ยวอันแหลมคมกัดเข้าไปที่บริเวณคอของไททันโอโบอาก่อนที่กรามขนาดใหญ่ของงูยักษ์อ้าออกกว้างแล้วกัดเข้าที่คอยูทาร์อย่างแรง
“ปล่อยยูทาร์เดี๋ยวนี้!”ผมหันหลังไปแล้วพยายามใช้เท้าถีบเข้าที่ปากของไททันโอโบอาแรงๆแต่ด้วยแรงของมนุษย์ก็ดูจะไม่ระคายผิวสักเท่าไหร่
กรรร!
ยูทาร์คำรามเสียงต่ำก่อนจะออกแรงเหวี่ยงไททันโอโบอาออกไปจนกระแทกเข้ากับต้นไม้ด้านหลัง เท่านั้นยังไม่พอสองเท้าขนาดใหญ่วิ่งตรงเข้าไปซ้ำงูยักษ์อย่างรวดเร็วจนอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว เท้าข้างนึงกดอยู่ตรงบริเวณหัวส่วนอีกข้างก็กดอยู่ตรงกลางลำตัวทำให้ไททันโอโบอาไม่สามารถขยับร่างกายได้
กรร!!
เสียงขู่คำรามยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ยูทาร์ก็ไม่ได้เข้าไปกัดอีกฝ่ายสิ่งที่ทำมีเพียงยื่นหน้าเข้าไปใกล้เหมือนจะคุยอะไรบางอย่างเท่านั้น
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อการต่อสู้ดูเหมือนจะจบแต่พอยูทาร์ถอยออกมาไททันโอโบอาก็อ้ากรามขนาดใหญ่ออกแล้วกระโจนใส่ยูทาร์ด้วยแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ ในจังหวะที่จะถึงตัวร่างยาวใหญ่ของไททันโอโบอาก็หยุดชะงักราวกับมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นก่อนจะล้มลงไปนอนแน่นิ่งบนพื้น
ผมมองหตุการณ์ตรงหน้าอย่างครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้นจนสุดท้ายก็ได้คำตอบออกมาว่าเป็นเพราะพิษจากเขี้ยวของยูทาร์ออกฤทธิ์แล้วเลยทำให้อีกฝ่ายล้มลงไปแบบนั้น
อย่างที่เคยบอกไปว่ายูทาร์มียีนส์ของไซนอร์นิโตซอรัสไดโนเสาร์ที่มีฟันบนคล้ายกับงูพิษแต่ภายในฟันไม่ได้มีพิษไหลออกมาแต่พิษจะไหลออมาตามร่องด้านข้างฟันทำให้เวลากัดไปพิษจะค่อยๆไหลเข้าสู่บาดแผลจนออกฤทธิ์ในเวลาอันสั้น
“สุดยอดเลยยูทาร์!!”ผมตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ
งื๊ดดดด!
เสียงสูงครางยาวในลำคอพร้อมกับส่วนหัวที่ชูขึ้นราวกับจะตอบรับคำชมของผม...ครั้งนี้ถือว่าเป็นโชคดีมากจริงๆที่ยูทาร์กลับร่างไดโนเสาร์ได้ไม่งั้นพวกเราคงตายกันหมดแน่ การที่ไททันโอโบอาหลุดออกมานี่ไม่ใช่ครั้งแรก...ในช่วงที่พักอยู่ก็ได้ยินข่าวว่ามันหลุดออกมาเหมือนกัน
กรร!
เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ยูทาร์จะหันไปอีกทางหนึ่งเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ผมเลยมองตามไปแต่สิ่งที่เห็นมีแค่ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นติดๆกันจนมองอะไรแทบไม่เห็นแต่ก็พอจะเห็นอะไรแว๊บๆ...เหมือนรถอะไรสักอย่างกำลังแล่นเข้ามา
คงจะเป็นหน่วยที่มาจับไททันโอโบอา
“ไม่เป็นไรยูทาร์...ใจเย็นไว้...จำได้ใช่ไหมว่าห้ามฆ่ามนุษย์น่ะ...วันนี้เราจะได้นอนด้วยกันแล้วยูทาร์ไม่อยากนอนกับผมเหรอ?”ผมบอกกับยูทาร์แล้วลูบเบาๆที่ผิวหนังสีเทาเข้ม
ดูเหมือนยูทาร์จะเข้าใจเลยสงบลงพอสมควร...เพราะอยู่ในมุมสูงเลยเห็นกลุ่มคนติดอาวุธที่วิ่งเข้ามาได้อย่างชัดเจน ผมมองตามกลุ่มที่ค่อยๆเคลื่อนที่มาจนถึงบริเวณที่ต้นไม้ล้มระเนระนาดและนั่นก็ทำให้พวกเขาเห็นยูทาร์ อาวุธนับสิบเล็งมาที่เดียวกันอย่างพร้อมเพรียงจนผมต้องรีบตะโกนออกไป
“อย่าพึ่งโจมตีครับ!...ยูทาร์ไม่ทำร้ายใครหรอกครับ!!”เสียงผมที่ตะโกนออกไปทำให้เหล่าคนถืออาวุธหันซ้ายขาวเพื่อหาว่าเสียงดังมาจากตรงไหนก่อนจะตกใจเมื่อเห็นผมที่เกาะอยู่บนหัวของยูทาร์
“ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่?!”ชื่อผมถูกเรียกออกมาจากปากของคนคนนึงพร้อมกับก้าวออกมาด้านหน้า
“ครับ!”
“งั้นที่อยู่ตรงหน้าก็คือโทรโอ ทาห์แรพ โซนอร์ ซอรัสหรือยูทาร์สินะ!”เขาตะโกนขึ้นมา
“ใช่ครับ...ยูทาร์จะไม่ทำร้ายถ้าพวกคุณไม่ทำร้ายเขาก่อน!”ผมตะโกนบอกไป
“ยูทาร์ก้มลงไปหน่อยผมจะลงไปคุยกับพวกเขา”ผมบอกกับยูทาร์ต่อ ไม่นานผมก็ลงมาจากด้านบนได้อย่างปลอดภัยและดูท่าว่าผมจะทำให้คนนับสิบตะลึงอย่างพร้อมเพียง
“สวัสดีครับ”ผมเดินเข้าไปทักทายอย่างมีมารยาทโดยที่มียูทาร์มองดูอยู่ห่างๆ
“ครับ...ผมได้ยินเรื่องของคุณมาแต่ไม่คิดว่าจะเป็นความจริงขนาดนี้...”ชายตรงหน้าบอกผมพร้อมกับมองไปยังยูทาร์ที่จ้องมาอย่างสงบนิ่ง
“ก็นิดหน่อยครับ...คุณมาจับไททันโอโบอาใช่ไหมครับ?”
“ครับ...เขาหลุดมาเป็นครั้งที่2ในรอบเดือนคงต้องต่อเติมกรงเพิ่มแล้ว”
“แล้วพวกคุณจะพากลับไปยังไงครับ??”ผมถามออกไปด้วยความอยากรู้
“พวกเราจะใช้ตาข่ายแล้วใช้รถที่จอดรออยู่ลากไปน่ะครับแต่คงยากหน่อยเพราะต้นไม้มันรกทึบ”
“งั้นให้ยูทาร์จัดการพาไปตรงด้านข้างที่ไม่ค่อยมีต้นไม้ไหมครับจะได้ขนย้ายสะดวก”ผมลองเสนอความเห็นดู...ไหนๆยูทาร์ก็อยู่ในร่างไดโนเสาร์ทั้งทีต้องแสดงให้คนอื่นเห็นว่ายูทาร์เป็นมิตร
“ได้เหรอครับ?”เข้ามองมาอย่งไม่ไว้ใจคนอื่นที่ยืนด้านหลังก็เริ่มซุบซิบกันแล้ว
“ได้สิ...เนอะยูทาร์”ประโยคหลังผมหันไปตะโกนถามยูทาร์
กรร!
เสียงครางต่ำตอบรับคำพูดผมแต่ก็ทำให้คนที่ยืนดูสะดุ้งกันเป็นแถว
“มือนายใหญ่น่าจะจับไททันโอโบอาได้...ลองทำดูแล้วลากไปไว้ตรงที่ไม่มีป่าหน่อยนะ...ถ้าไปด้านนั้นจะใกล้กว่า”ผมบอกยทาร์พร้อมกับชี้ไปทางทิศที่เป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล
ยูทาร์ค่อยๆเคลื่อนที่แล้วทำตามคำสั่งผมทีละอย่างจนมีคนมากระซิบถามว่าความจริงแล้วยูทาร์เป็นแค่สุนัขที่ตัวใหญ่ใช่รึเปล่า? ผมอยากจะขำออกมาซะจริงๆแต่ก็ต้องกลั้นไว้แล้วหันไปกระซิบตอบว่าเคยโดยกัดเลือดอาบมาแล้ว...เชื่อไหมว่าคนที่ถามมาหน้าซีดไปเลย
ผมเดินตามยูทาร์ไปพร้อมกับคนกว่า40คนจนถึงทุ่งโล่งที่เหมาะกับการขนย้ายไททันโอโบอา
“ผมอยากถามหน่อย...ทำไมไททันโอโบอาถึงได้มีสภาพแบบนี้ล่ะ?”ชายที่เป็นหัวหน้าหน่วยถามผมในขณะที่สั่งลูกน้องให้กางตาข่าย
“อ้อ...โดนพิษที่เขี้ยวของยูทาร์น่ะครับไม่ถึงตายแต่คงเป็นอัมพาตไปหลายชั่วโมง...ถ้าจะให้แน่ใจก็ฉีดยาสลบไปก็ได้นะครับ”ผมตอบคำถามพร้อมกับเสนอความคิด
“เข้าใจแล้ว...ว่าแต่คุณจะทำยังไงกับ...อ่อ...ยูทาร์”
“แหะๆ...ผมก็กำลังคิดอยู่เลย”ผมเกาหัวน้อยๆก่อนจะตอบกลับไป
เซโครวิ่งเหยาะๆเข้าไปหายูทาร์ที่ก้มส่วนหัวอันใหญ่โตลงมาหาช้าๆ
“กลับร่างมนุษย์เถอะยูทาร์”ผมบอกออกไปแล้วลูบผิวสีเทาเข้มตรงหน้าเบาๆ...ยูทาร์เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ยังไม่ยอมกลับร่างเดิมแปลว่าคงควบคุมร่างกายไม่ได้
“ไม่อยากนอนห้องเดียวกันแล้วเหรอ?...ตัวใหญ่แบบนี้คงต้องให้ยูทาร์นอนในกรงตัวเดียวนะ”ผมพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้า....ผมคิดว่ามันน่าจะได้ผลบ้างสิน่า
งื๊ดดดด!
เสียงครางสูงพร้อมกับชูคอขึ้นเป็นสัญญาณว่ายูทาร์คงไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น...ไม่นานร่างกายอันใหญ่โตของไดโนเสาร์ก็ค่อยๆหดเล็กลงจนกลับมาเป็นมนุษย์ได้ในที่สุด...เซโครรีบวิ่งเข้าไปหายูทาร์พร้อมกับถอดเสื้อนอกของตัวเองไปคลุมร่างอีกฝ่ายไว้
ท้องฟ้าเริ่มลับขอบฟ้าแล้วอากาศเลยเย็นลงพอสมควรถ้าปล่อยไว้อาจไม่สบายได้...พอคิดได้แบบนั้นผมเลยบอกให้ยูทาร์รอแล้ววิ่งไปยืมเสื้อผ้ามาจากคนที่กำลังเคลื่อนย้ายไททันโอโบอาอยู่จนในที่สุดยูทาร์ก็ได้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย
ขากลับพวกเรานั่งรถที่ขนย้ายไททันโอโบอาเข้ามา...พอจัดการให้งูยักษ์กลับเข้าไปอยู่ที่เดิมรถก็เคลื่อนที่ต่อมาจนถึงบริเวณหน้าหอพักของผม ตลอดทางยูทาร์เอาแต่หลับตาแล้วพิงไหล่ซบผมเหมือนกำลังหลับแต่พอหันไปมองดวงตาที่ปิดสนิทก็ลืมขึ้นมาทันทีจนผมต้องบอกให้อีกฝ่ายหลับไป
ไม่แปลกที่จะรู้สึกเหนื่อยเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ยูทาร์ได้สู้กับไดโนเสาร์แถมยังเป็นไดโนเสาร์ที่ได้ชื่อว่ากินไดโนเสาร์ด้วยกันอีกแค่รอดกลับมาได้ก็ดีมากแล้วถึงผมจะมั่นใจว่ายูทาร์ชนะแน่นอนก็เถอะ
“ยูทาร์ตื่นก่อน...ถึงแล้วนะ”ผมหันไปกระซิบเบาๆก่อนที่ดวงตาสีเหลืองอำพันจะลืมขึ้นแล้วจ้องมาที่ผมอย่างเชื่องช้า
“...เซโคร...”เสียงดูจะงัวเงียพอดูเลยนี่
“ลงกันได้แล้ว”ผมบอกแล้วดันหัวของยูทาร์ให้ตั้งตรงก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินลงจากรถพร้อมกับพูดขอบคุณทุกคนที่นั่งอยู่...ยูทาร์เดินตามผมลงมาอย่างงัวเงียดวงตาสีเหลืองอำพันปรือขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นแล้วหันควับไปที่หน้าหอพัก
“เป็นอะไร...อ๊ะ...”ทันทีที่ผมหันไปตามทิศที่ยูทาร์มองก็ต้องชะงักเมื่อกลุ่มคนกว่า60คนเดินเข้ามาล้อมพวกเราไว้ กลุ่มคนที่คุ้นตาเพราะพึ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเอง
“เซโคร ยูทาร์...พวกเราได้ยินเรื่องที่พวกเธอช่วยล่อไททันโอโบอาแล้วล่ะ”พี่พรีโม่เหมือนเป็นตัวแทนที่เดินออกมาตรงหน้าผมและยูทาร์
“ครับ...พวกพี่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ผมถามกลับแล้วหันไปมองหน้ายูทาร์ที่คลายความกังวลแล้วทำท่าจะหลับอีกครั้ง...
คงจะง่วงมากแน่ๆ
“พวกเราปลอดภัยเพราะพวกเธอแท้ๆ”
“ไม่หรอกครับ”
“ฉันกับลูกน้องมีอะไรจะให้ด้วย...ชีเน่...เยต้า”บอกจบก็หันไปเรียกเด็กสองคนที่ยืนถืออะไรอยู่ที่ด้านหลัง
เด็กสาวคนแรกถือกระเช้าอันใหญ่ที่มีทั้งผลไม้และเครื่องดื่มต่างๆยื่นมาให้ผมส่วนเด็กชายอีกคนก็ถือกล่องสูงขนาดใหญ่ที่ไม่รู้ว่าข้างในใส่อะไรไว้ให้ยูทาร์ที่มองไปอย่างงงๆก่อนจะหันมามองผมว่าควรทำยังไงดี
“รับไว้ยูทาร์ขอบคุณด้วยนะ...ขอบคุณนะครับ”ผมบอกยูทาร์แล้วบอกขอบคุณเด็กสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
“...ขอบคุณครับ”ยูทาร์รับของมาก่อนจะเอ่ยตามผม
“งั้นก็อย่างสุดท้าย....1...2..3...”พี่พรีโม่ให้สัณญาณก่อนที่คนกว่า60คนที่ล้อมพวกเราอยู่จะตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียง...
“ขอบคุณที่ช่วยพวกเรานะครับ/คะ!!”
เซโครมองเหล่าคนที่ก้มหัวให้พร้อมกับบอกขอบคุณเสียงดังอย่างอึ้งๆไม่คิดว่าจะทำให้ขนาดนี้...พอตั้งสติได้ผมกหันไปมองยูทาร์ที่ดูจะตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่พอสมควร
“อ่อ...ไม่เป็นไร...ผมกับยูทาร์เต็มใจ”ผมบอกออกไปก่อนจะกล่าวลาแล้วพายูทาร์ขึ้นไปบนห้องพักที่ชั้น6หรือชั้นบนสุดห้อง64ที่อยู่ริมฝั่งซ้ายสุดของชั้น
มีต่อค่ะ
-
“ห้องนี้เป็นห้องผมจำให้ดีนะเลข64”ผมหันไปบอกยูทาร์ก่อนจะรูดการ์ดแล้วเปิดประตูเข้าห้องไปโดยมียูทาร์เดินตามเข้ามา...
ห้องขนาดกลางที่มีเพียงห้องน้ำกับห้องนอนเท่านั้น...พอเปิดเข้ามาก็จะเจอห้องกว้างที่มีเตียงขนาดใหญที่กว้างเกือบ10ฟุตวางอยู่กลางห้องโดยที่ด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้าและชั้นหนังสือวางข้างๆกัน ถัดออกมาอีกหน่อยเป็นโซฟาตัวยาวสีน้ำตาลที่มีโต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่ด้านหน้าเวลามีอาหารอะไรผมก็จะวางหรือกินที่โต๊ะนี่แหละ
เซโครวางกระเช้าขนาดใหญ่ไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นก่อนจะถอดเสื้อนอกที่เปื้อนทั้งดินและโคลนไปพาดไว้บนโซฟาสีน้ำตาลด้านข้าง ดวงตาสีเขียวอมฟ้าหันไปมองยูทาร์ที่เดินตามเข้ามาพร้อมมองไปรอบห้องราวกับจะสำรวจสิ่งที่อยู่รอบกาย
“วางกล่องไว้ตรงนี้เลย”ผมบอกพร้อมวิ่งไปปิดประตูก่อนจะเดินกลับเข้ามาภายใน
“อาบน้ำก่อนเถอะยูทาร์...ห้องน้ำอยู่ทางนั้นเดี๋ยวผมเอาเสื้อผ้าไปให้”พอพูดจบก็ดันหลังยูทาร์ให้เข้าไปในห้องน้ำในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงน้ำดังออกมาจากห้องผมเลยเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหาชุดนอนให้ยูทาร์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้คนที่อยู่ด้านในเปิดประตูออกมาโดยไม่มีการพันผ้าขนหนูอะไรเลยสักชิ้น...เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกผมเลยไม่ตกใจเท่าไหร่แต่ผิวสีแทนที่มีหยดน้ำเกาะแพรวพราวทำให้หัวใจผมมันเต้นแรงขึ้น
“นี่เสื้อผ้า”ผมบอกแล้วยื่นชุดไปให้ ยูทาร์รับไปแล้วกลับไปในห้องน้ำอีกครั้งนึง
ไม่นานนักยูทาร์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่ผมยังเปียกอยู่อีกแล้ว...ผมล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ยูทาร์ไม่ทำตามที่ผมบอก
“ไม่เช็ดผมอีกแล้วเหรอ?”
“...อยากให้เซโครเช็ดให้”อีกฝ่ายตอบกลับเสียงอ่อยจนผมต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ...ไม่ว่าถามกี่ครั้งคำตอบที่ได้กลับมาก็เหมือนเดิมตลอด ตอนแรกอาจรู้สึกดีและใจเต้นแรงแต่พอนานไปผมคิดว่ายูทาร์แค่ขี้เกียจเช็ดเองเท่านั้นแหละ
“รอผมอาบเสร็จจะมาเช็ดให้นะ...ถ้าหิวก็...พวกผลไม้ในกระเช้ากินได้เลยนะ”ผมพูดแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะจัดการทำความสะอาดร่างกายให้สะอาด เส้นผมสีบลอนด์ที่เหมือนกับพ่อยาวปะบ่าเพราะไม่มีเวลาไปตัดตอนแรกผมก็ตัดซอยสั้นตามวัยรุ่นทั่วไปแต่พอมาทำงานที่นี่ก็หาร้านตัดผมไม่ได้เลยต้องทนไว้ไปก่อน
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จผมก็เดินเช็ดผมตัวเองออกไปหายูทาร์ที่นั่งยูที่โซฟายาวตัวสีน้ำตาลโดยที่ในมือของคนที่นั่งอยู่ถือลูกแอปเปิ้ลเขียวไว้แล้วหมุนมันเบาๆราวกับไม่แน่ใจว่าของตรงหน้ากินได้ไหม
ผมก็ดันลืมว่ายูทาร์เคยกินแต่พวกเนื้อจะกินผลไม้เป็นได้ยังไงกันแต่ตอนนี้คงไม่มีร้านข้าวเปิดแล้วที่เหลืออยู่ก็มีแค่มาม่าเหลืออยู่3ถ้วยซึ่งผมไม่อยากให้ยูทาร์กินของแบบนั้น
“ถ้าจะกินลองลูกสีแดงก่อนดีกว่านะ”ผมเสนอแล้วนั่งลงข้างๆยูทาร์
“ทำไมล่ะ?”ยูทาร์หันมาถาม เส้นผมสีเทาเข้มแซมส้มที่ยังคงเปียกลู่ลงอยู่ทำให้ผมใช้ผ้าเช็ดหัวตัวเองไปเช็ดผมของยูทาร์ต่อ...ผ้าขนหนูผืนใหญ่เช็ดได้สบายๆโดยไม่ต้องเปลี่ยน
“สีแดงจะหวานกว่า...ถ้าสีเขียวจะเปรี้ยวยูทาร์คงไม่ชอบ”พออธิบายจบยูทาร์ก็เอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลลูกสีแดงขึ้นมาแล้วเอาทั้งสองลูกมาเทียบกัน
“แล้วเซโครชอบสีไหน?”
“ผมกินได้หมดแต่ชอบสีเขียวมากกว่า...เปรี้ยวนิดๆอร่อยดี”ขณะที่ตอบมือทั้งสองข้างก็ยังคงทำหน้าที่เช็ดผมได้อย่างดีแต่เพราะอยู่ห่างเลยไม่ถนัดนักก็เลยขยับเข้าไปใกล้ยูทาร์มากขึ้นอีกนิด
“งั้นผมจะกินสีเขียวเหมือนที่เซโครชอบ”ยูทาร์บอกแล้วกัดแอปเปิ้ลลูกสีเขียวเข้าปากก่อนจะพ่นออกมาอย่างรวดเร็วจนผมหลุดหัวเราะออกมาลั่นห้อง
“ฮะฮะฮะ...ผมบอกแล้วไม่เชื่อ...ฮะฮะ...”ผมพูดพร้อมกับหัวเราะต่ออย่างอารมณ์ดี
“...เปรี้ยวมาก...อร่อยตรงไหนเนี่ยเซโคร”ยูทาร์หันมาถามแล้วพยายามเช็ดปากตัวเองจนแดงไปหมด
“อย่าเช็ดแบบนั้นเดี๋ยวแดงหมด”ผมบอกพร้อมกับจับมือทั้งสองข้างที่กำลังถูปากตัวเองให้หยุดแล้วใช้ผ้าขนหนูที่เช็ดผมเช็ดปากให้อีกฝ่ายเบาๆ
“...เซโคร”
“หื้อ?”
“...ตาของเซโครสวยมาก”ยูทาร์บอกผมเสียงเบา ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมาที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมนิ่งก่อนจะขยับเข้ามาใกล้จนผมเห็นเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในดวงตานั่น
“ตาของยูทาร์ก็สวยเหมือนกัน...สีเหลืองอำพันเหมือนอัญมณีเลย”ผมบอกต่อพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างสัมผัสที่แก้มของยูทาร์ ด้วยน้ำหนักที่ต่างกันและยูทาร์ขยับเข้ามาใกล้ทำให้ร่างกายผมเซไปข้างหลังก่อนที่หัวจะสัมผัสกับขอบโซฟาในที่สุด
ยูทาร์เองก็ตามลงมาคร่อมผมไว้โดยที่ดวงตาของเรายังจ้องกันอยู่ตลอดเวลา...ไม่รู้ว่าความหมายของดวงตาที่สั่นระริกตรงหน้าคืออะไรแต่ผมรู้เพียงแค่ผมก็คงรู้สึกไม่ต่างกับอีกฝ่ายนักหรอก
ความรู้สึกอะไรสักอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น...ตอนนี้มันเหมือนเริ่มมีตะกอนอะไรสักอย่างลอยขึ้นมาอย่างช้าๆและคงอีกนานกว่าผมจะเข้าใจความรู้สึกนี้
“ยูทาร์...”
“เซโคร...ผม...”ยูทาร์ทิ้งตัวลงมาทับผมอย่างอ่อนแรงแล้วกระชิบเบาๆที่ข้างหู
“อะไร?...ปวดท้อง?”
“...ผมหิว”เสียงทุ้มตอบกลับมาแล้วซุกหน้าลงที่คอผม เส้นผมสีเทาเข้มแซมส้มที่สยายจนปิดหน้าปิดตาทำให้ผมต้องใช้มือรวบผมของยูทาร์ไว้แล้วควานหาหนังยางที่จำได้ว่าตกอยู่แถวๆนี้ขึ้นมามัดผมของยูทาร์ให้เรียบร้อย
“ถ้าหิวก็ลุกขึ้นก่อน”
“...ลุกไม่ไหว”ยูทาร์ตอบเสียงอู้อี้
ก่อนที่จะเอ่ยประโยคต่อไปก็นึกขึ้นมาได้ว่ายูทาร์โดนไททันโอโบอากัดเข้าที่คอนี่นา...พอนึกออกผมก็หันไปมองที่คอผิวสีแทนที่มีรอยเลือดซึมอยู่เล็กน้อยแต่ไม่มาก...
ค่อยยังชั่วที่ไม่เป็นอะไรมาก
“อย่าดื้อน่า...เดี๋ยวผมต้องไปหยิบยามาทาให้ยูทาร์อีก...โชคดีนะที่ไททันโอโบอาไม่มีพิษน่ะ”ผมบอกอีกฝ่ายแล้วพยายามดันไหล่ของยูทาร์ให้ลุกออกไปแต่ยูทาร์ก็ยังไม่ยอมขยับสักที
ทำไมเดี๋ยวนี้ดื้อขึ้นได้นะ...หรืออาจไม่ใช่ดื้อแต่กำลังอ้อนผมอยู่?
“แผลแค่เลียก็หายแล้ว...เซโครเลียให้หน่อย”
“ในน้ำลายมีเชื้อแบคทีเรียถ้าเข้าแผลเดี๋ยวก็เป็นหนองหรอก...ลุกได้แล้วยูทาร์”ผมพูดซ้ำอีกรอบนึงแล้วพยายามดันตัวเพื่อจะลุกขึ้น
“ยูทาร์”พอผมเริ่มขึ้นเสียงยูทาร์ก็ค่อยๆลุกขึ้นอย่างเชื่องช้าแล้วทำหน้างอๆใส่ผม
“งอนเหรอ?...คนถูกทับมันหนักนะให้ผมเป็นฝ่ายทับแทนไหมล่ะจะนอนทับทั้งวันเลย”ผมพูดติดตลกแล้วเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า
“...เอาสิ”
“ห๊ะ?...เอาอะไร?”ผมหันไปถามก่อนจะเดินกลับไปที่โซฟาพร้อมกล่องพยาบาล
“ให้เซโครนอนทับแทนก็ได้”
“ผมพูดเล่น!”ผมรีบตะโกนกลับในทันทีไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจริงจังกับคำพูดลอยๆแบบนั้น
“...”ยูทาร์นิ่งเงียบทันทีเมื่อได้ยินที่พูด
“...ยูทาร์...มาทำแผลก่อน”ผมบอกแล้วจัดการทำแผลให้ยูทาร์เพราะแผลไม่ได้ลึกมากผมเลยแค่ใส่ยาให้เท่านั้น
“...อยากอยู่กับเซโคร”ยูทาร์พูดเสียงอ่อย
“แล้วตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันตรงไหน”ตลอดสองอาทิตย์กว่าที่ผ่านมาผมอยู่กับยูทาร์เรียกได้ว่าเกือบ24ชั่วโมงเวลาที่แยกกันมีแค่ตอนเข้าห้องน้ำกับนอนเท่านั้น
“อยากอยู่ตลอด...จะได้อยู่ตลอดใช่ไหม?”ยูทาร์หันมาถามผมเสียงอ่อย
“แน่นอน...ทำไมคิดแบบนั้นกัน”
“งูยักษ์ตัวนั้นบอกว่าไม่มีทางที่มนุษย์จะอยู่ร่วมกับพวกเราได้”คำอธิบายของอีกฝ่ายทำให้ผมเข้าใจในทันทีว่าทำไมยูทาร์ถึงมีท่าทางซึมๆไป
“อย่าไปฟังคำพูดคนอื่น...ถ้ายูทาร์อยากอยู่กับผมต่อให้เกิดอะไรผมก็จะไม่มีวันแยกกับยูทาร์”ผมบอกอย่างหนักแน่น
“สัญญาได้ไหม?”
“แน่นอน”ผมตอบกลับไปอย่างไม่ต้องคิด
“ผมเชื่อเซโคร”อีกฝ่ายมองมาที่ผมแล้วคลียิ้มออกมาบางๆจนผมยิ้มตอบกลับไป
หลังจากนั้นผมก็หาอะไรง่ายๆให้ยูทาร์กิน...ในห้องผมไม่มีตู้เย็นของที่กินได้เลยมีแค่ของที่อยู่ในกระเช้าอันใหญ่ส่วนอีกล่องนึงก็มีตุ๊กตาไดโนเสาร์พันธุ์ไทรันโนซอรัสตัวใหญ่ใส่ไว้ กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง
“ไปนอนกันดีกว่า”ผมพูดแล้วลุกขึ้นจากโซฟาแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง
“ไม่ปิดไฟเหรอ?”ยูทาร์เดินตามมาแล้วถามขึ้น
“ผมกลัวความมืดเคยบอกยูทาร์แล้วนี่...เวลานอนผมจะเปิดไฟไว้แบบนี้แหละ”ผมอธิบายให้ยูทาร์ฟัง
“ปิดไฟเถอะ...”ยูทาร์พูดต่อทันทีจนผมต้องขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น...ก็บอกอยู่ว่ากลัวแล้วทำไมต้องให้ปิดไฟอีกหรือว่ายูทาร์จะแกล้งผม?
“จะได้จับมือเซโคร”ประโยคที่ตามมาทำให้ผมเผลอยิ้มกว้างออกเพราะความเด็กของคนตรงหน้า...เขาจำได้ว่าถ้ามืดผมต้องจับมือใครสักคนไว้ให้หายกลัว
“จำได้ด้วยเหรอ...นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก”
“ผมไม่เคยลืม”
“งั้นก็ตามใจสิ...ปิดไฟแล้วมานอนตรงนี้เลย”ผมบอกอีกฝ่ายแล้วกลิ้งไปด้านข้างก่อนจะตบเตียงด้านข้างตัวเอง
ในไม่ช้าทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดมิด ความกลัวที่ไม่อยากนึกถึงค่อยๆกลับเข้ามาอีกครั้ง สัมผัสได้เลยว่าร่างกายตัวเองเริ่มสั่นถ้านอนคนเดียวผมไม่มีทางปิดไฟแน่นอนแต่เพราะยูทาร์ผมเลยอยากลองดู...ผมมั่นใจว่าสามารถหลับได้ถ้ามียูทาร์อยู่ข้างๆ
“เซโคร”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับเตียงที่ยุบลง ยูทาร์ขึ้นมาบนเตียงแล้วคว้ามือผมมาจับไว้แน่นราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไรผมไม่ได้อยู่คนเดียว
“...ยูทาร์”ผมเรียกแล้วกุมมืออีกฝ่ายแน่นขึ้นพร้อมกับหลับตาลง
“ผมกอดเซโครได้ไหม?”เสียงทุ้มยังขึ้นอีกรั้งแล้วขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
กอดเหรอ?
ครั้งสุดท้ายที่กอดกับยูทาร์ก็ตอนฝึกเดินที่หน้าบ้านพักซึ่งก็นานอยู่พอสมควร...อยากตอบตกลงแต่บางอย่างก็ผุดเข้ามาในหัวว่ามันไม่ควรที่จะกอดกันแบบนั้นแถมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันอีก...
แต่พอลองมองกลับกันว่ายูทาร์เป็นผู้หญิงผมก็ยิ่งไม่สมควรจะกอดมากเข้าไปใหญ่...สมองของเซโครคิดไปคิดมาอย่างหนักจนสุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่า...
“อืม...ได้สิ”พออนุญาติยูทาร์ก็ดึงมือผมที่กุมไว้เข้าหาตัวแรงๆจนร่างผมขยับไปปะทะกับร่างของยูทาร์โดยที่มีมือข้างนึงสอดอยู่ใต้ศีรษะลูบเรือนผมสีบลอนด์ทองของผมอย่างเบามือจนเผลอเคลิ้มไป
มือข้างที่ไม่ได้กุมกันไว้ของผมก็ขยับขึ้นไปกุมเสื้อของอีกฝ่ายไว้...ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดที่ศีรษะแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากอีกฝ่ายทำให้ผมซุกตัวเข้าไปใกล้มากขึ้นแล้วหลับตาลงช้าๆ
น่าแปลก...
ทั้งที่อยู่ในความมืดที่แสนกลัวแต่ผมกลับหลับได้อย่างสนิทโดยที่ไม่สั่นกลัวเหมือนอย่างเคย...ไม่ใช่แค่มีคนกุมมือเพราะผมเคยให้เพื่อนจับมือไว้เวลาไฟดับถึงจะทำให้กลัวน้อยลงแต่ก็ไม่เคยหลับสนิทได้สักครั้ง...
เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมหลับสนิทอาจเป็นเหตุผลง่ายๆเพียงเพราะ...
คนที่กุมมือและกอดผมอยู่คือยูทาร์
..............................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://i60.tinypic.com/9znbjs.jpg)
ไซนอร์นิโตซอรัส(Sinornithosaurus)ไดโนเสาร์รูปร่างคล้ายนกที่มีชีวิตอยู่ประมาณ125ล้านปีก่อนโดยมีฟันบนคล้ายเขี้ยวของงูพิษ เบื้อต้นเชื่อว่าฟันบนดังกล่าวไม่ได้ทำหน้าที่ฉีดพิษเข้าโดยตรงบริเวณบาดแผลเหยื่อแต่พิษจะไหลออกมาตามร่องฟันและซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของเหยื่อที่ถูกกัด สำหรับอาหารส่วนมากจะล่านกหรือสัตว์ตัวเล็กๆกินโดยหลังจากโดนพิษไปแล้วเหยื่อจะเซื่องซึม เคลื่อนไหวช้าลงมีอาการคล้ายๆเป็นอัมพาสชั่วขณะ
แหล่งที่มา:http://writer.dek-d.com/pasitwantha/story/viewlongc.php?id=352943&chapter=84
..................................................................
ประกาศจากผู้แต่งคะ
เนื่องจากอาทิตย์หน้าเราก็จะเปิดเทมอและต้องเตรียมตัวรับน้อง(เราอยู่ปี2)ดังนั้นเลยทำให้ต้องเตรียมตัวหลายๆอย่างจนคิดว่าคงไม่มีเวลามาแต่งหรืออัพนิยายสักพักใหญ่ๆ...อาจประมาณ3-4อาทิตย์แล้วแต่ว่าการรับน้องจะเสร็จเมื่อไหร่
แต่เราคงไม่รอถึงรับน้องเสร็จหรอกคะอาจถึงแค่ปรับตัวจากโหมดปิดเทมอเป็นโหมดเรียนเท่านั้นก็จะสามารถแต่งต่อได้แล้วแต่จะสามารถแต่งได้ช้ากว่าปกติอยู่พอสมควรเพราะมีเรียนเกือบทุกวันคะ
อาจมาอัพทีละครึ่งตอนและใช้เวลาแต่งนานกว่าปกติ...ยังไงก็จะพยายามมาต่อให้บ่อยเท่าที่จะทำได้นะคะ
ตอนนี้เราเลยแต่งให้จบอย่างไม่ค้างคาเพื่อคนอ่านจะได้ไม่ค้างมากเหมือนอย่างตอนอื่นๆ
ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆพัฒนาคงจะทำให้หลายๆคนฟินได้นะคะ
เรื่องนี้แนวอบอุ่น+บู๊เล็กน้อยถึงปานกลาง
มีอะไรสามารถเข้ามาพูดคุยหรือซักถามได้ที่เพจเรานะคะ...มีตอนพิเศษเล็กๆมาลงให้อ่านเรื่อยๆคะ>>nicedog (https://www.facebook.com/novelistnicedog)
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจนะคะ
จะเจอกันอีกทีคงประมาณปลายเดือนสิงหาคม
รอกันหน่อยนะคะ :hao5:
แอบแวะมาแก้คำผิดเล็กน้อยขอบคุณ คุณrayaijiมากนะคะ
ส่วนคำแนะนำของคุณBlueCherriesจะเอาไปทำตามคะ...ตอนแรกที่ไม่เอามาลงเพราะตอนพิเศษนั้นสั้นสุดๆแต่งตอนนึงแค่หน้ากว่าถึงสองหน้าเท่านั้นเองแต่เดี๋ยวจะถยอยเอามาลงนะคะ(ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคะ)
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
บังคับร่างได้เเล้วด้วย เจ๋งๆ
-
คุณ nicedog ไม่เอาตอนพิเศษในเพจมาลงที่นี่บ้างเหรอคะ??
-
ง่า... แต่ไม่เป็นไร เรารอได้ ขออย่าทิ้งเรื่องนี้น้า
เราก็จะเปิดเทอมอาทิตย์หน้าเหมือนกัน อยู่ปีหนึ่งค่ะ อิอิ
เรื่องนี้ละมุนและอบอุ่นมาก ชอบบบ ยูทาร์ยังน่ารักเหมือนเดิม ><//
-
รอจร้า มาแต่งช้าก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าทิ้งเราก็พอจร้า
ติดตามจร้า สู้ๆน่า
-
แก้คำผิดค่าาาาา
ผมสีบอร์นทอง --->>> ผมสีบลอนด์ทอง //ถ้าบอร์นแบบแรกจะมาจาก born แปลว่าเกิด
ตะกอนรอยขุ่น --->>> ตะกอนลอยขุ่น //รอยแบบนี้จะแปลแบบร่องรอย แต่ลอยคือลอยละลิ่วปลิวลมค่ะ
น้องยูของเจ้ยังน่ารักเหมียนเดิมมมมมมมม :hao7:
-
น่ารักมากกกกก
รอได้ค่าา แต่อย่าทิ้งเรื่องนะ พลีสสส
-
เก่งมากยูทาร์นายเปลี่ยนร่างไปมาได้แล้วนะ คึคึ
ได้กอดเซโครแล้วด้วยยย
-
ไททันหมดสภาพงูยักษ์เลยนะคะ :laugh: นี่แหละน้าาเป็นเพราะว่าประมาทคู่ต่อสู้อย่างยูทาร์จนเกินไปไงล่ะ ^^ คราวนี้ก็คงต้องพักฟื้นกันอีกนานเลยนะคะกว่าหางจะงอกใหม่
ส่วนเซโครไม่สนใจจะให้ยูทาร์เป็นฐานรองนอนจริงๆ เหรอคะ ท่าทางคงอุ่นน่าดูเลยเน้ออ.. :-[
-
เรื่องนี้น่ารักสุดๆ เลย
อยากให้ยูทาร์ได้ออกไปเที่ยวเมืองข้างนอกด้วย
อิอิอิ
:mew1:
-
ยูทาร์ก็คงกังวลแหละ ให้ความมั่นใจกับเข้าเยอะๆหน่อยน้าเซโคร
รอตอนต่อไปนะ ตั้งใจเรียนเนาะ สู้ๆ
-
ตอนนี้เซโครแทบจะเป็นทุกอย่างของยูทาร์แล้ว อย่าทิ้งกันนะ
-
มีลางสังหรณ์ว่าจะได้เจอยูทาร์ตั้งต่เมื่อวาน แล้วก็ได้เจอจริงๆ
ขอกรี๊ดห้านาที ดีใจเหลือเกินนนน
-
จะรอนะT^T
พาร์ทนี้ยูทาร์ได้ใจจริงๆ โบอาเดี้ยงหางขาดกันเลยที่เดียว
เป็นไงหละไปยุ่งกับของรักของหวงเขา
แลดูทุกอย่างจะไปด้วยดีนะ คนอื่นๆเริ่มจะยอมรับยูทาร์ขึ้นมาบ้างแล้ว
นอนกอดกันก็ดีนะ หวานซะยิ้มตามเลย555 เพิ่งรู้ว่าไดโนเสาร์ก็ขี้อ้อน
-
ไดโนเสาร์ขี้อ้อน :impress2:
-
อิอิ ยูทาร์ขี้อ้อน
-
อ่านไปยิ้มไป ยูทาร์อ้อนหนักเวอร์ :o8:
-
ฮืออ ยูทาร์ยังน่ารักเหมือนเดิม มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ มีอ้อนเซโครด้วย
ปล.มาช้าก็ไม่เป็นไร รอตอนต่อไปจ้า
-
เราเขิน
เราอิจฉา
บอกเลย
5555555
:mew5: :mew5: :mew5:
-
คุณ nicedog สู้ๆๆๆ สรุปยูทาร์นี่เป็นหมาพี่บิ๊กสินะ 555 :hao6: รักเรื่องนี้ :กอด1:
-
มาแล้ว วว
-
มันมุ้งมิ้งตรงที่ไดโนเสาร์กินเนื้อตัวยักษ์ร้อง งื๊ดดดด นี่แหล่ะ
-
เห็นยูทาร์แล้วอยากเลี้ยงไดโนเสาร์มากเลยตอนนี้ :katai1: :katai1: :katai1:
มุ้งมิ้งขี้อ้อนไปไหนเนี่ย
ปล.อัมพาต นะคะ ไม่ใช่อัมพาส :mew1:
-
ยูทาร์อ้อนได้ใจมาก น่ารักก
-
อบอุ้นมากมาย เขินเลยยยยยย
-
อ่านจบตั้งแต่บ่ายแล้วลืมเม้น
อาจเป็นอาการช็อคจากประกาศท้ายตอน//ร้องไห้แพล๊พ
ตอนนี้เราสงสารพี่งู T^T
แต่พี่งูลอบกัดตอนสุดท้าย เด็กไม่ดี!
ปล.จะรอนะคะ +1 + เป็ดสะสมไว้รอคอย กระซิกๆ
-
ได้นอนเตียงเดียวกันแล้วว
ตอนนี้ยูทาร์ดูโตขึ้นมากกกก
-
ฟินเว่อร์ :hao7:
-
สนุกอ่าา ชอบเรื่องนี้ แนวเรื่องมันแปลกดี คนกับไดโนเสาร์ ><
ยูทาร์น่ารักมากกก ขี้อ้อนสุด :o8:
รอตอนต่อไปค่า
-
:mew1:
-
ยูทาร์เก่งๆ กลับร่างได้ด้วย
ชอบเรื่องนี้อ่ะ น่ารักกก
-
โฮ่ฮฮฮฮฮ หวานกันซะ :katai2-1: รอได้คร้าบ สู้ๆจ้า :mew1:
-
โอ้ยยย ยูทาร์ขี้อ้อน
อยากด้ายยยย
-
ยูทาร์ ขี้อ้อนมากมายอ่ะ
-
คือละลายอ่ะ
โอ๊ย อะไรจะน่ารักขนาดนี้
-
:กอด1:ยูทาร์ น่ารักที่สุดเลย
-
โลกทั้งใบของยูทาร์คือเซโคร คิดภาพวันที่ไม่ได้อยูด้วยกันไม่่ออกเลย และหวังว่าจะไม่มีวันนั้น
-
รอยูทาร์อยู่นะเออ :hao5:
-
หลายวันแล้วอ่า คิดถึงจุงเบย :sad4:
-
กลายรักพิเศษ❧หวง หึง งอน ง้อ
*ตอนพิเศษนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักแต่อย่างใด...เด็กที่มีอายุน้อยหรือมากกว่า18ปีควรอ่านในที่ลับตา
ยูทาร์กำลังโกรธผม
ไม่สิ...อาการนั่นอาจเรียกว่างอนก็ได้ อาจจะดูแปลกๆไปหน่อยเปิดมาก็พูดแบบนี้แต่สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างที่ว่ามาจริงๆ...ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นด้วยประโยคเพียงประโยคเดียว...
‘คิดถึงจังเลยเซโคร!’
ประโยคที่ว่าไม่ได้ออกมาจากปากยูทาร์หรือพ่อของผมแต่มันออกมาจากผู้ชายคนหนึ่งที่อายุเท่ากันและยังเป็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีด้วย
ผู้ชายคนที่ว่าคือเพื่อนของผมที่ชื่อว่ามาคัส ชิลเรียลหรือชื่อเล่นว่ามาส...เพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ปริญญาตรียันปริญญาเอก เพราะเรียนทางด้านเดียวกันการงานเลยคล้ายๆกันตอนนี้มาสทำงานอยู่ที่ศูนย์วิจัยหนึ่งในองค์กรดอร์วูเหมือนผม
เห็นว่ามีเรื่องให้ช่วยเลยมาหาผมโดยตรงแต่เพราะคำพูด การทักทายและการแสดงออกว่าสนิทกับผมนั้นดูมันจะมากเกินไปหน่อยเลยทำให้ยูทาร์ที่มองดูอยู่เริ่มทำหน้าบึ้งตึง
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องทั้งหมด...หลังจากการทักทายนั่นก็ได้รู้ว่ามาสต้องการความช่วยเหลือ ศูนย์หนึ่งที่อยู่ตรงเกาะทางภาคตะวันออกของโลกมีการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์เหมือนอย่างที่นี่และดูเหมือนว่าหนึ่งในไดโนเสาร์ที่นั่นจะเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย
ด้วยเหตุนั้นทำให้ผมต้องเดินทางพ่วงด้วยยูทาร์ไปยังเกาะแห่งนั้นแต่ตลอดการเดินทางมาสก็เข้ามาคุยเล่นกับผมอย่างสนิทสนมทำให้ยูทาร์ที่นั่งข้างๆถึงกับคิ้วกระตุกไม่หยุด
จากที่ดูก็รู้ว่ายูทาร์พยายามที่จะไม่หึงซึ่งถือว่าดี...
ผมไม่อยากให้ยูทาร์เป็นคนขี้หึง...มาสเป็นคนเริงร่าแบบนี้อยู่แล้วไม่ว่ากับใครก็จะทำตัวเป็นมิตรแบบนี้แหละแต่ดูยูทาร์จะไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่
ทุกอย่างถือว่าดี ยูทาร์ยังคงควบตัวเองได้จนมาถึงยังเกาะอีกแห่งที่เป็นสถานที่ทำงานของมาส...เกาะขนาดกลางที่มีเนื้อที่น้อยกว่าเกาะที่ผมและยูทาร์ทำงานอยู่พอสมควร
“เซโครมานี่ๆ”มาสเรียกพร้อมกับมือผมดึงให้วิ่งไปตามทางเดินโดยที่สายตาผมหันไปมองยังยูทาร์ที่นอกจะขมวดคิ้วแน่นแล้วยังสายตาดุๆส่งมาให้อีก
“นี่เป็นไข่ของสเคลิโดซอรัส”เสียงอันร่าเริงของคนที่ลากผมมาดังขึ้นก่อนจะชี้เข้าไปยังกรงขนาดกลางที่มีไดโนเสาร์อยู่ภายใน
ดวงตาสีเขียวอมฟ้ามองเข้าไปภายในที่มีสเคลิโดซอรัสไดโนเสาร์กินพืชที่มีรูปร่างเหมือนรถถังและมีผิวหนังที่หนาและแข็งมากรวมทั้งยังมีเกร็ดแหลมคมประดับประดาอยู่เต็มแผ่นหลังช่วยเป็นเกราะป้องกันศัตรูได้อย่างดี...สเคลิโดซอรัสเป็นไดโนเสาร์ที่มีความเป็นมิตรสูง
ด้านข้างของสเคลิโดซอรัสมีหญ้าแห้งที่วางกองรวมกันคล้ายๆกองฟางและบนนั้นก็มีไข่อยู่ภายในราว10ฟอง...เซโครมองไข่ที่อยู่ภายในด้วยตาที่ลุกวาวด้วยความสนใจ
“สุดยอดเลย”พึ่งเคยเห็นไข่ของสเคลิโดซอรัสเป็นครั้งแรก
“ใช่ไหมๆ...ว่าแล้วเชียวว่าเซโครต้องสนใจ”มาสหันมายิ้มกว้างให้และในตอนนั้นเองที่อีกฝ่ายคว้าตัวผมเข้าไปกอดคอแล้วกระชับตัวผมให้เข้าไปชิดกับมาสมากขึ้น
“เซโคร!”เสียงตะโกนเรียกชื่อที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเจอกับดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาด้วยความโกรธและหงุดหงิด
“ยูทาร์...”
“อะไรกัน...มาตะโกนขัดกันแบบนี้ไม่ดีเลยนะผมกำลังคุยกับเพื่อนรักอยู่นะ”มาสหันไปบอกยูทาร์ที่เดินตามเข้ามา ดูเหมือนมาสจะไม่รู้เลยว่ากำลังทำให้ยูทาร์โกรธ
“เพื่อนรัก?...เพื่อนก็เป็นเพื่อนสิจะเป็นเพื่อนรักได้ยังไง?”ยูทาร์ถามเสียงแข็งก่อนจะจ้องไปยังมาสที่คลียิ้มกว้างส่งไปให้เหมือนกำลังท้าทายโดยที่มือของมาสก็โอบไหล่ผมให้เข้ามาใกล้มากขึ้น
“ไม่เคยได้ยินคำว่าเพื่อนรักเหรอ?...เพื่อนรักไม่เหมือนกับเพื่อนปกติหรอกนะ...เพื่อนปกติคือกินข้าวเที่ยวเล่นด้วยกันเป็นบางครั้งแต่เพื่อนรักน่ะมากกว่านั้นอย่างเช่น...แบบนี้ไง...จุ๊บ!...”
เสียงจุ๊บดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมที่เบิกกว้างด้วยความตกใจที่ถูกเพื่อนสนิทหอมแก้ม...ถ้าเป็นปกติคงไม่รู้สึกแบบนี้เพราะมันเป็นการทักทายแบบปกติที่ประเทศผมต่างก็ทำกัน
“อย่ามาแตะเซโครนะ!”ยูทาร์ตะโกนขึ้นก่อนจะเข้าไปชกหน้าของมาสอย่างแรงจนคนโดนชกถึงกลับล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว
“ยูทาร์!”ผมตะโกนเรียนคนรักด้านข้างเสียงดังพร้อมกับเข้าไปแทรกกลางระหว่างมาสกับยูทาร์ที่กำลังวิ่งเข้ามาหมายจะชกอีกรอบนึง
“หลีกไปเซโคร!...ผมไม่ยอมจริงๆด้วยทำไมเซโครถึงไม่ปฏิเสธล่ะ?...ทำไมถึงยอม?...เซโคร!!”ยูทาร์ตะโกนออกมาอีกครั้งพร้อมกับดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาอย่างโกรธเกรี้ยวและไม่เข้าใจ
“ยูทาร์หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”เซโครบอกพร้อมกับดันร่างของยูทาร์ที่กำลังจะเข้าไปซ้ำมาสอย่างรวดเร็วแต่ด้วยแรงของผมทำให้ต้านแรงของไดโนเสาร์กลายพันธุ์ตรงหน้าได้ไม่นานเท่าไหร่
ผมเลยตัดสินใจทำบางอย่างเพื่อเรียกสติของยูทาร์ให้กลับมา
เพี๊ยะ!
เสียงของฝ่ามือกระทบเข้าที่แก้มของยูทาร์จนเกิดเสียงดังก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยแดงรูปฝ่ามือ
“ตั้งสติหน่อยยูทาร์...นายไม่มีเหตุผลเลยนะ”ผมบอกสิ่งที่คิดอยู่ออกไป
ยูทาร์ที่ควบคุมตัวเองได้มาตลอดกลับสติแตกแล้วทำร้ายมนุษย์เพียงเพราะความหึงหวงผม...สาเหตุบ้าๆที่ไร้เหตุผลสุดๆ
ถ้าไม่รีบหยุดคนที่อยู่แถวนี้ต้องมองยูทาร์ไปในทางไม่ดีแน่ๆ
“...เซโคร...ตบผม”ฝ่ายโดนตบพูดเสียงสั่นพร้อมกับยกมือขึ้นรูปแก้มตัวเองเบาๆ
“ตั้งสติได้รึยังยูทาร์?”ผมถามออกไป
“...เซโครปกป้องมัน!”
“อย่าเรียกมาสว่ามันยูทาร์!”คำหยาบที่หลุดออกมาทำให้ผมขึ้นเสียงทันที...อย่างน้อยมาสก็มีอายุมากกว่าควรจะให้เกียรติและเคารพ ถึงผมจะอายุมากกว่ายูทาร์เหมือนกันแต่ก็ไม่เคร่งเรื่องการเรียกมากนักเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรแต่ตอนนี้เราอยู่ในที่สาธารณะ...
การมีมารยาทก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?
“...”สิ่งที่ผมพูดทำให้อีกฝ่ายถึงกับเม้มปากตัวเองแน่นราวกับกำลังระงับอารมณ์ตัวเอง
“ยูทาร์”ผมเรียกพร้อมกับก้าวเข้าไปใกล้
“เซโครโกหก!...ไหนบอกว่ารักผมคนเดียวไงแล้วทำไมถึงปกป้อง!...ทำไมต้องยอมให้หอมแก้ม!...ทั้งที่ครั้งก่อนที่ผมหึงเซโครก็ไม่เห็นว่าแล้วทำไมครั้งนี้ถึงว่า...ทำไมถึงตบผม...”
“ยูทาร์...”
“เซโครรักเขามากกว่าผมเหรอ?!”
“ไม่ยูทาร์...”เข้าใจผิดแล้ว
“...ผมไม่เชื่อใจเซโครอีกแล้ว!!”คำพูดนั่นทำให้ผมถึงกับเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจจนไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว ทำได้แค่มองยูทาร์วิ่งไกลออกไปเท่านั้น
ไม่เชื่อใจผมแล้วงั้นเหรอ?
“ยูทาร์!!”ผมตะโกนเรียกเมื่อตั้งสติได้แต่อีกฝ่ายก็ไม่หันหลังกลับมาหาผมเหมือนอย่างทุกครั้ง
บ้าเอ้ย!
ทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้ได้กัน?!
“นั่นแฟนนายเหรอเซโคร?”มาสที่ค่อยๆลุกขึ้นถามพร้อมกับจับใบหน้าของตัวเองที่บวมตุ่ย
“อืม”
“ทำไมไม่บอกก่อนเล่า...แบบนี้ก็เหมือนฉันผิดที่ไปยั่วให้เขาหึงน่ะสิ”มาสบ่นผม
“ขอโทษ...ปกติยูทาร์จะคุมตัวเองได้”ไม่คิดว่าเรื่องมันจะบานปลายแบบนี้
“ที่เขาคุมไม่ได้อาจเพราะนายแสดงออกว่าปกป้องฉันก็ได้”มาสเสนอความเห็น
“ก็เป็นไปได้”
“นายก็ไม่น่าไปว่าเขาแบบนั้นเลย...เห็นว่ายังเด็กนี่”
“เฮ่อ...เอาไงดีล่ะ?”ผมหันไปขอความเห็น
ตอนนี้ในหัวคิดอะไรไม่ออกจริงๆ
“ลองไปง้อดูสิ”
“ก็คงต้องงั้น...”แล้วจะไปตามง้อที่ไหนดีล่ะ?
ความจริงเรื่องนี้คนที่ควรโกรธคือผมนะ
คนที่ต้องเป็นฝ่ายโดนง้อก็ควรจะเป็นผมสิแล้วทำไมถึงกลายเป็นผมที่ต้องเป็นฝ่ายง้อไปได้ล่ะ?
หว๋อ! หว๋อ! หว๋อ!
เสียงสัญญาณเตือนสีแดงดังขึ้นท่ามกลางความกลหนของคนที่อยู่โดยรอบ
“เกิดอะไรขึ้น?”มาสตะโกนถาม
“มีไดโนเสาร์กินเนื้อตัวใหญ่อยู่ที่ทุ้งหญ้าใกล้บริเวณฐาน1ของเราครับ”เสียงหนึ่งตอบกลับมา
“ไดโนเสาร์?...พันธุ์อะไร?”มาสตะโกนถามต่อ
“ไม่ทราบครับเท่านี่เห็นเป็นพันธุ์ผสมที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสายพันธุ์ไหนกันแน่”
“พันธุ์ผสม?...ที่เกาะเราไม่มีไดโนเสาร์แบบนั้นนี่?”
คำว่าพันธุ์ผสมที่หลุดออกมาทำให้ผมเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี...ถ้าที่เกาะนี่ไม่มีการเพาะไดโนเสาร์พันธุ์ผสมทางเดียวที่เป็นไปได้คือไดโนเสาร์พันธุ์ผสมตัวนั้นคือยูทาร์!
“เดี๋ยวผมจัดการเอง...อยู่ด้านหน้านี้ใช่ไหม?”ผมหันไปบอกมาสที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“จัดการ?...ยังไง?...ตอนนี้หน่วยควบคุมไดโนเสาร์กำลังตรงมาจัดการแล้วให้พวกเขาจัดการเถอะ”
“บอกพวกเขาว่าห้ามแตะต้องไดโนเสาร์ตัวนั้นเด็ดขาด!”ผมหันไปบอกเสียงดัง
ด้วยสติของยูทาร์ในตอนนี้คงไม่รับรู้อะไรแล้ว...ขืนเข้าใกล้คงได้มีคนตายด้วยฝีมือของยูทาร์แน่ๆ
“ทำไม?”
“เดี๋ยวผมจัดการเอง”เซโครไม่รอนานกว่านี้ เมื่อพูดจบก็วิ่งออกไปยังทางออกทันที...ถือว่าโชคดีที่ระยะไม่ไกลมากผมเลยมาถึงได้ในเวลาไม่นาน ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ภายในใจรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที...ยูทาร์ในร่างไดโนเสาร์กำลังขู่คำรามเสียงดังลั่นราวกับพยายามปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกมา
กรรรร!!
“ยูทาร์!”ผมตะโกนพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาไดโนเสาร์ร่างยักษ์นั่นโดยไม่ฟังเสียงห้ามของมนุษย์ที่ถืออาวุธอยู่รอบๆ
กรรรร!!
เสียงคำรามดังขึ้นอีกเมื่อดวงตาสีเหลืองอำพันนั่นเห็นผมตะโกนเรียกอยู่ด้านหน้า...แววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดนั่นสื่อมาที่ผมได้อย่างชัดเจน
“อย่าหนีสิยูทาร์!!”เสียงนุ่มตะโกนขึ้นอีกรอบเมื่อไดโนเสาร์ตรงหน้ากำลังจะหันหลังหนี
“ฟังผมหน่อยเถอะ...”
กรรรร!!
เสียงคำรามดังกรบสิ่งที่ผมจะบอกไปหมด เขี้ยวอันแสนคมกริบอ้าออกกว้างพร้อมขยับส่วนหัวนั่นเข้าใกล้ก่อนจะขบฟันอย่างรวดเร็วเหมือนจะบอกว่าไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น
“ยูทาร์”
กรรรร!!
“...ไม่รักผมแล้วเหรอ?”คำถามนั่นทำให้ไดโนเสาร์ตรงหน้าชะงักเล็กน้อยแต่เพียงพริบตาเดียวก็ส่งเสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง
กรรร!!
“ผมรักยูทาร์นะ”เซโครบอกไดโนเสาร์ตรงหน้าก่อนจะก้าวขาเข้าไปใกล้ฟันคมกริบนับ80ซี่ที่กางออกกว้างพร้อมเสียงคำรามในลำคอ...เสียงนั่นผมรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร...
อย่าเข้ามา...ไปให้พ้น
ทั้งที่รู้ว่าควรให้เวลาอีกฝ่ายแต่ถ้าช้ากว่านี้อาวุธนับสิบต้องเล็งมาที่ยูทาร์แน่...
ผมจะปกป้องยูทาร์เอง
กรรร!!
“ผมรักยูทาร์จริงๆนะ...เซโครรักยูทาร์ได้ยินไหม?!!”ผมตะโกนต่อพร้อมกับประสานดวงตาเข้ากับอีกฝ่ายที่ยังส่ายกระโหลกอันใหญ่ไปมาราวกับจะไม่รับฟัง
“ให้ผมได้อธิบายทุกอย่างนะ...อย่าพูดว่าไม่เชื่อใจกันแล้วเลย...มันเจ็บจริงๆนะ...ได้โปรดเชื่อใจผมเถอะ...นะยูทาร์”หวังว่าคำพูดของผมจะสื่อถึงอีกฝ่ายได้นะ
คำพูดของผมทำให้ร่างกายขนาดยักษ์ของยูทาร์สงบนิ่งลง...ไม่มีเสียงครางหรือคำราม
สิ่งเดียวที่ไดโนเสาร์ตรงหน้าทำคือจ้องมายังด้วยตาสีเขียวอมฟ้าของผมราวกับจะขอย้ำให้แน่ใจถึงสิ่งที่ผมได้เอ่ยออกไป...เมื่อรู้แบบนั้นเซโครเลยพยักหน้าให้อีกฝ่ายเพื่อตอกย้ำว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง
ดวงตาสีเหลืองอำพันสั่นระริกอยู่สักพักก่อนที่ส่วนหัวขนาดใหญ่จะเชิดสูงขึ้น...
งื๊ดดดดด!!
เสียงครางที่เปลี่ยนไปดังขึ้นพร้อมกับส่วนปากที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวก้มลงมาดันร่างกายผมเบาๆแต่เบาของไดโนเสาร์ก็ทำเอาร่างผมถึงกับถอยหลัง
“ยูทาร์...ขอบคุณ...ขอบคุณ”เซโครโผลเข้ากอดส่วนหัวขนาดใหญ่พร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณที่ยูทาร์ยังยอมที่จะเชื่อใจผมอยู่
งี๊ดดดดด!!
เสียงครางสูงดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ร่างไดโนเสาร์ขนาดใหญ่จะกลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ตามเดิม...เซโครวิ่งเข้าไปรับร่างของยูทาร์ที่กำลังจะล้มลงอย่างพอดิบพอดีก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเรื่องราวไม่ใหญ่โตไปมากกว่านี้
“...เซโคร”เสียงเรียกดังขึ้นจากคนที่ซุกหน้าอยู่ที่คอผม
“พักหน่อยเถอะยูทาร์...พอตื่นแล้วผมจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง”ผมบอกพร้อมกับลูบเส้นผมสีเทาแซมส้มของอีกฝ่ายเบาๆ
“...เซโครยังรักผมใช่ไหม?”เสียงพึมพำดังขึ้นก่อนที่ยูทาร์จะยกแขนขึ้นมากอดผมไว้แน่น
“แน่นอน...รักยูทาร์ที่สุดอยู่แล้ว”
“มากกว่าคนที่ชื่อมาสใช่ไหม?”อีกฝ่ายยังคงถามต่อ
“อืม...รักยูทาร์เป็นอันดับหนึ่งเลย”
“...ผมเชื่อเซโคร”
“อืม”
หลังจากนั้นผมก็จัดการเรื่องทุกอย่างทั้งอธิบายเรื่องราวให้หัวหน้าของที่ฟังเรื่องยูทาร์และยังต้องมานั่งเล่าให้มาสที่เป็นเพื่อนสนิทฟังต่ออีกหลังจากเล่าจบก็ถูกมาสดึงให้ไปช่วยเอาไข่ของสเคลิโดซอรัสออกมาตรวจแม้จะดูเป็นงานง่ายแต่เพราะสเคดิโอซอรัสตัวเมียนี้กำลังหวงไข่อยู่เลยใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะสำเร็จได้
ความจริงเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะยากถึงขนาดต้องไปรับผมมาที่นี่เลย ด้วยความสงสัยเลยถามมาสออกไปตรงๆว่าทำไมกันแน่และคำตอบที่ได้รับมาก็คือคำขอโทษพร้อมบอกว่าอยากเรียกให้มาค้างด้วยกันเฉยๆ ก็อยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลงเลยปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป...กว่าผมจะได้กลับมาหายูทาร์ที่ห้องพักก็ปาไปช่วงเย็นแล้ว
โชคยังดีที่ยูทาร์ยังคงหลับสนิทเซโครเลยเดินไปนั่งลงบนเตียงข้างๆคนที่หลับอยู่ก่อนจะลูบเส้นผมสีแปลกตาของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณที่ยังเชื่อกัน”ผมบอกด้วยรอยยิ้ม
“...เซโคร”เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนที่ดวงตาสีเหลืองอำพันจะปรือขึ้น
“ตื่นแล้วเหรอ?”
“อื้อ...เซโคร”
“มีอะไรรึเปล่า?”ผมถามเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะบอกอะไรสักอย่าง
“...ขอโทษนะ”
“...”คำขอโทษทำให้ผมถึงกับอึ้ง...ไม่คิดว่าจะได้ยิน
“ขอโทษที่ขี้หึง...ขอโทษทีทำร้ายมนุษย์...ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่...ขอโทษทีเสียมารยาท...ขอโทษที่เอาแต่ใจ...ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน...ขอโทษ...”
“พอแล้วยูทาร์...”ผมพูดห้ามพร้อมกับโผลเข้าไปกอดคนที่นอนอยู่บนเตียง
“ไม่ต้องพูดแล้ว...ผมก็ขอโทษเหมือนกัน”
“เซโครไม่ผิด...ผมต่างหาก...”
“ไม่...ผมต้องขอโทษที่ตะโกนใส่...ขอโทษที่ไม่เข้าใจความรู้สึก...ขอโทษที่ทำตัวเป็นใหญ่...ขอโทษที่ตบยูทาร์...ขอโทษจริงๆ”ผมบอกทุกสิ่งที่คิดออกไปจนหมดแล้วเงยหน้าขึ้นลูบแก้มข้างที่ผมตบอีกฝ่ายไป
รอยแดงๆที่ยังเหลืออยู่ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บที่กล้าทำแบบนั้นลงไป
“ไม่เป็นไร...ผมไม่เจ็บ”
“อยากได้อะไรไหม?”ผมถาม
“...เซโคร”
“หื้อ?”
“อยากได้เซโคร”คำพูดนั่นทำให้ใบหน้าผมขึ้นสีระเรื่ออย่างรวดเร็ว
“...ที่นี่ไม่ได้”ผมบอกตามตรง ผนังบางๆแบบนี้คงได้ยินกันทั้งตึกแน่
“...”ใบหน้าที่สลดพร้อมกับหันหน้าหนีทำให้ผมต้องอ่อนใจ
“...อ่อ...ถ้าทำเบาๆละก็...”
“ผมจะทำเบาๆ”อีกฝ่ายรีบเด้งตัวขึ้นมาพร้อมกับบอกทันที
“ทีงี้ละเร็วเชียวนะ”อดไม่ได้ที่จะอุบอิบ
“อืม...ก็อยากสัมผัสเซโครนี่นา”พอพูดจบยูทาร์ก็ประกบปากลงมาทันที...ลิ้นร้อยที่แทรกเข้ามาและสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาทำให้ไฟในตัวเริ่มลุกขึ้น
“อื้ออ...”จูบอันรุนแรงทำให้ผมแทบละลายกลายเป็นไอ...ยูทาร์อาศัยจังหวะที่ผมเคลิ้มจัดการย้ายผมไปอยู่ด้านล่างโดยให้ตัวเองคร่อมอยู่ด้านบน
“อ่า...ยูทาร์”ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงสั่นเมื่อริมฝีปากร้อนนั่นละออกแล้วเริ่มเลียตั้งแต่ปลายครางลงมาต้นคออย่างช่ำชอง
“เซโคร...เซโคร...อย่าให้คนอื่นแตะอีกนะ”ยูทาร์บอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาจูบที่แก้มผมบริเวณที่ถูกมาสจุ๊บซ้ำไปมาหลายต่อหลายรอบ
“อ๊ะ!...มันเป็นการ...อึก!...ทักทาย”ผมบอกเสียงสั่นเมื่อส่วนอ่อนไหวด้านใต้ถูกลูบไล้ไปมา
“ทักทายก็ห้าม...ผมหึงและผมหหวงจะตายอยู่แล้ว”อีกฝ่ายบอกเสียงแข็งก่อนที่จะค่อยๆเตรียมพร้อมด้านหลังให้ถึงจะไม่มีเจลหล่อลื่นแต่น้ำลายก็ช่วยได้ดีอยู่
“อึก...เจ็บ...อ๊ะ!...”เซโครครางพร้อมกับขย้ำผ้าปูที่นอนไว้แน่น
“ผ่อนคลายหน่อยเซโคร...อ่า...”เสียงแหบพล่าจากคนด้านบนดูเหมือนกำลังข่มอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งผมเองก็ไม่ต่างกันนัก ลิ้นร้อนๆที่ลากผ่านตั้งแต่คอลงไปถึงแผ่นอกและขบเม้มจนเกิดเป็นรอยเรียกเสียงครางของผมได้อย่างต่อเนื่อง
“อ๊ะ...อื้ออ...ยูทาร์...อย่าทำรอย...อ๊ะ...”ถึงจะบอกไปแต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีจะทำตามแถมยังสร้างรอยแดงตามผิวของผมมากขึ้นไปอีก
“...เซโคร...ผมไม่ไหวแล้ว...ขอผมนะ”ยูทาร์เงยหน้าขึ้นมาจนดวงตาเราประสานกันก่อนจะเอ่ยขอด้วยน้ำเสียงที่เซ็กซี่จนผมได้แต่พยักหน้าส่งไปให้เท่านั้น
แค่เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์นั่นร่างกายผมก็ยิ่งต้องการมากขึ้นไปอีก
ไม่นานนิ้วที่ขยับไปมาอยู่ก็ถูกถอนออกก่อนที่ส่วนที่ใหญ่กว่าจะค่อยๆเข้ามาอย่างเชื่องช้า ความเจ็บแล่นเข้ามาจนต้องกัดปากตัวเองแน่น...ด้วยความที่ไม่มีสารหล่อลื่นทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าปกติ
“อ๊ะ!...อื้ออ...ยูทาร์...ช้า..อึก...หน่อย”ผมบอกเสียงสั่นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับตัวทั้งที่ร่างกายผมยังไม่คุ้นชิน
“ขอโทษแต่ผมไม่ไหวแล้ว”ยูทาร์บอกเสียงสั่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาประจบจูบผมอีกครั้งนึง
เสียงครางของเซโครดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและดังขึ้นอีกเมื่อยูทาร์เร่งจังหวะเร็วขึ้นจะร่างกายของผมสั่นไปหมด...ความรู้สึกดีแล่นเข้ามาจนผมต้องหลับตาลงแล้วครางออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว
เรียวขาที่ถูกยกขึ้นพาดบ่าของอีกฝ่ายทำให้ส่วนร้อนนั่นเข้ามาได้ลึกมาขึ้นจนทั้งร่างสั่นระริก ยิ่งเห็นใบหน้าของยูทาร์ที่เต็มไปด้วยความพอใจก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก
“อ๊า!...เบาหน่อย...อ๊ะ...เสียงดัง...อึก...ไปแล้ว”ผมบอกเสียงสั่นเมื่อเสียงเนื้อกระทบเนื้อนั่นดังลั่นอย่างน่าอาย
“อ่า...ผมอยากให้ทุกคนได้ยิน”
“บ้าเหรอ?...อ๊ะ!...”
“อยากให้ทุกคนรู้ว่าเซโครเป็นของผม...เป็นของผมแค่คนเดียว”คำพูดนั่นดังขึ้นก่อนที่จะเร่งจังหวะมากกว่าเดิม
“อื้ออ!...ยูทาร์...”ตอนนี้ผมทำได้แต่ครางเรียกชื่ออีกฝ่ายแล้วโอบคอของยูทาร์ไว้แน่นเท่านั้น
“เซโคร...”ช่วงสุดท้ายยูทาร์จับผมนอนคว่ำก่อนจะเข้ามาอีกครั้งแล้วขยับอย่างรุนแรงจนผมต้องซุกใบหน้าลงที่หมอนเพื่อกลั้นเสียงครางที่แทบกลั้นไม่ไหว ยูทาร์ก้มลงจูบไปตามแผ่นหลังผมก่อนจะเร่งจังหวะเมื่อรู้ว่าพวกเราต่างก็ทนได้อีกไม่นาน...เสียงครางของเราทั้งคู่ดังขึ้นและปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน...
“อื้มมม...”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น...ยูทาร์ล้มตัวลงนอนด้านข้างก่อนจะคว้าตัวผมเข้าไปกอดแน่นแล้วจูบเบาๆที่หน้าผาก
“...เซโคร...รักเซโครที่สุดเลย”
“เหมือนกันแหละ...”ผมบอกกลับไป
“นี่ยูทาร์”
“หื้อ?”
“ผมไม่ได้บอกว่าห้ามหึงหวง...แต่ผมอยากบอกว่าผมเป็นของยูทาร์...เป็นของยูทาร์คนเดียวเท่านั้นเพราะงั้นเชื่อใจผมนะ”สิ่งที่อยากบอกคือสิ่งนี้
ต่อให้ถูกใครหอมแก้มหรือกอดมันก็เป็นได้เพียงการทักทายไม่เหมือนกับตอนที่โดนยูทาร์สัมผัส...ผมไม่ได้บอกว่าห้ามหึงหวงแต่ผมอยากย้ำให้เขาแน่ใจว่าผมอยู่ตรงนี้...
อยู่ตรงนี้และจะไม่ไปไหน
อยากให้ยูทาร์เชื่อแบบนั้น
“ผมเชื่อเซโคร”เสียงทุ้มตอบกลับมาก่อนจะกระชับตัวผมให้เข้ามาใกล้มากขึ้น
ค่ำคืนที่เงียบสงัดและหนาวเย็นทำให้เซโครซุกตัวเข้าหายูทาร์มากขึ้น ความอบอุ่นที่สัมผัสได้เรียกรอยยิ้มของคนที่หลับสนิทอยู่ได้ทั้งที่ยังไม่ลืมตา...การมีคนที่รักอยู่ในอ้อมกอดมันรู้สึกดีแบบนี้เองสินะ
...
สวัสดีค่า
กลับมาแล้วหลังหายไปหลายอาทิตย์และคงหายไปอีกสักพักนะคะT-T
บอกตรงๆว่าเทมอนี้ช่างโหดร้ายนักมีทั้งวิชาสถิติ การเงินธุรกิจ การจัดการธุรกิจ การจัดการการผลิตและอื่นๆอีก...ช่างเป็นวิชาที่ทำให้เราหมดเรี่ยวแรงเพียงแค่เห็นชื่อวิชาจริงๆ
แถมช่วงนี้ยังเป็นช่วงรับน้องด้วย...เอาตรงๆเลยนะคะช่วงนี้ถือเป็นช่วงปรับตัวซึ่งยังไม่เข้าที่นักอาจต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย
การแต่งเลยช้ามากกว่าปกติ...ตอนพิเศษนี้พยายามเอาทุกคอมเม้นท์ที่ทุกคนให้ในเพจมาแต่งแต่หลายๆฉากกลับไม่เป็นอย่างที่คิดนักอย่างช่วงแรกอยากให้เซโครงอนแล้วยูทาร์ง้อแต่กลับกลายเป็นยูทาร์ที่งอนแถมยังวิ่งหนีไปเหมือนสาวน้อยอีก?
และฉากอัศจรรย์(ไม่รู้ว่าหมายถึงฉากเลทรึเปล่า?)...ตอนแรกกะจะไม่แต่งเพราะอาจทำให้ครั้งแรกของทั้งคู่ดูไม่น่าสนใจแต่สุดท้ายก็แต่งจนได้?
เอาเป็นว่าตอนนี้เป็นตอนพิเศษที่ทำให้เรางงมากแต่ก็รู้สึกดีที่ได้แต่งอีกครั้งหลังจากที่ต้องเข้าไปนั่งเรียนในห้อง
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจนะคะ
ตอนพิเศษสั้นๆที่ลงในเพจจะเอามาลงในเว็บด้วยแต่ขอรวมเป็นตอนเดียวและจะเอามาลงอีกทีนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่รอกันอยู่นะคะ...หวังว่าตอนนี้คงจะทำให้หลายๆคนหายคิดถึงยูทาร์กับเซโครไปได้สักระยะนะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า :mew1:
คิดว่าไม่นานเกินรอ(เพราะอาจมาทีละครึ่ง)
บ๊ายบายคะ :bye2:
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
จิ้มจึกๆ
ยูทาร์ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม :-[
เรารอฉากนั้นอยู่เสมอแหละ ไม่ว่ามันจะเป็นครั้งแรกรึครั้งที่เท่าไร อิอิ -.,-
-
:jul1:
ฉากอัศจรรย์นี่เสียงดังมากเลยนะคะ คนทั้งตึกคงได้ยินหมดละ ;p
-
:mew1: :pig4: :pig4:
-
สู้ๆนะคะ รออยู่เสมอน๊าาา :mew1:
-
ไม่เป็นไรจร้า เราเข้าใจ สู้ๆน่ะ
-
หมดคำพูด 5555 หึงเเรง
-
เสียเลือดดด อ๊ากกยูทาร์
#เป็นกำลังใจให้คนแต่ง #สู้ๆ
-
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
-
ค่อยหายคิดถึงหน่อย ฟินเว่อร์ 5555 :laugh:
-
โถถถ เซโครก็ผิดนะคะ แทนที่จะพูดกับยูทาร์ดีๆ ใจเย็นๆสิคะ
รอตอนต่อไปปปป
-
:jul1:
-
เป็นตอนที่พิเศษจริงๆไม่นึกว่ายูทาร์จะไวไฟปานนี้ 5555555555
เข้าใจฟิลคนเขียนนะคะ สู้ๆค่าาา
เรารอได้ค่าาา :katai5:
-
อ๊าก ยูทาร์หึงแรง หวงแรง และร้อนแรง เป็นไดโนเสาร์ที่แรงจริง
ปล.เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ สู้ๆ
-
คิดว่าทั้งตึกคงได้ยิน ยูทาร์ให้ฟีล สาวน้อยมากเลย 5555
-
ถึงจะเป็นแค่การทักทายแต่คราวหลังเซโครคงต้องหลีกเลี่ยงการทักทายแบบแก้มแนบแก้มไปเป็นแค่จับมือแทนอย่างเดียว หรือกอดกันแป๊บๆ ย้ำ แป๊บๆ กับคนที่สนิทมากหน่อยเท่านั้นนะคะ เพราะสำหรับยูทาร์..ทุกส่วนในร่างกายของเซโครล้วนแล้วแต่แสนหวงทั้งนั้น ^^
-
อ่อยยย น่ารักกกกกกก
รออ่านตอนต่อไปค่า
-
:mew1: :mew1: :hao7: :hao7: :hao7: :hao6: :hao6: :hao6:
-
ตูวหู้วววว อารมณ์รุนแรงมากค่ะ555555555555
-
อู้วววววว เซโครกินหนอนยักษ์ 555 :haun4:
-
ยูทาร์ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม 5555
-
:jul1: รับรู้กันหมดแล้วแหละว่าเซย์โครนี่ของยูทาร์คนเดียว
คนเขียนสู้ๆนะ :กอด1:
-
อยากเข้าไปส่องจัง หุหุ
-
อ๊ายยยย นอนตายอย่างสงบ :z3:
-
อ้ายยยยเซโครยูทาร์ :-[ คิดถึงจังเลยยย แต่ตอนนี้นี้...หึหึหึ :impress2: รอจ้า~
-
คนแต่งสู้ๆๆๆนะคะ เรารอตอนต่อไปปป
ตอนนี้เสียเลือด อี้อี้
-
ไดโนเสาร์ก็ขี้งอนเป็นนะเนี่ย 555
-
กลายรักครั้งที่❧10(ครึ่งแรก)
เช้าวันใหม่ของการทำงานเซโครลืมตาตื่นขึ้นเพราะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างลูบแก้มตนอยู่และพอลองปรือตาขึ้นมองก็พบกับดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาก่อนจะคลียิ้มบางๆส่งมาให้เมื่อเห็นว่าผมลืมตาขึ้นไปมองอย่างงัวเงีย
“อรุณสวัสดิ์เซโคร”เสียงทุ้มเอ่ยทักทายโดยที่มือของคนตรงหน้ายังคงลูบแก้มผมอยู่
“...อรุณสวัสดิ์ยูทาร์”ผมตอบกลับอย่างงัวเงียแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วถามต่อ...
“ตื่นนานแล้วเหรอ?”
“สักพักแล้ว”
“...ตื่นเช้าจัง”ผมพึมพำหลังจากที่หันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลา7โมงครึ่ง
“วันนี้ไปไหนไหม?”อีกฝ่ายถามพร้อมขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นแล้วทำจมูกฟุดฟิดเหมือนกำลังดมกลิ่นอยู่
“อ๊ะ...อย่าดมนะผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย”ผมรีบดันหน้ายูทาร์ให้ออกไปทันที
“ถ้าอาบแล้วะให้ดมใช่ไหม?”คำถามต่อมาทำให้คนถูกถามถึงกับไปไม่ถูกเลย
“...จำกลิ่นผมได้แล้วจะดมอะไรอีกล่ะ?”ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะถามกลับ
“หอม...เซโครหอม”ประโยคของเซโครทำให้ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนๆก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่ามันไม่ใช่คำชมนี่นา...สำหรับไดโนเสาร์คำว่าหอมก็มีได้แค่ความหมายเดียว...
“นี่จะกินผมใช่ไหม?!!”ผมรีบตะโกนขึ้นแล้วขยับออกห่างไปอีกจนตอนนี้เกือบจะตกเตียงอยู่แล้ว
“...ผมไม่กินเซโครหรอก”
“แล้วนิ่งไปทำไมล่ะคำตอบนี้จำเป็นต้องคิดด้วยรึไง!”ผมบอกต่อ...จังหวะที่ยูทาร์นิ่งไปต้องคิดอะไรอยู่ในหัวแน่
คงไม่ได้กำลังโกหกผมใช่ไหม
“ก็เลือดเซโครอร่อย...”
นั่นไง...ว่าแล้วว่าต้องคิดอะไรอยู่
“ก็เลือดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เหมือน...เซโครอร่อยสุด”ยูทาร์ตอบกลับมาพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ
คำตอบนั่น...ผมควรดีใจใช่ไหม?
“เอาเถอะ...ไปอาบน้ำแล้วลงไปหาอะไรกินกันดีกว่า”ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นแล้วยืนบิดร่างกายไปมา
“ได้”
“ผมอาบก่อนนะ...ยูทาร์นอนเล่นไปก่อนก็ได้”พอพูดจบผมก็เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าพร้อมกับเตรียมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยผมก็เดินนำยูทาร์ลงมาที่ด้านล่างหรือชั้น1...ชั้น1นี้เหมือนเป็นห้องเก็บของไว้สำหรับเวลาเราขาดเหลืออะไรก็สามารถลงมาหยิบได้ตามสบาย มีตั้งแต่พวกของใช้ยันอาหารสดและยังมีห้องครัวอยู่ด้านข้างไว้สำหรับประกอบอาหาร
เซโครเดินมาเปิดตู้เย็นตู้หนึ่งที่มีโลหะแข็งยาวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีคำสลักไว้ด้านหน้าว่า ‘เครื่องดื่ม’ ก่อนจะเจอกับเครื่องดื่มมากมายหลายยี่ห้อที่มีทั้งแบบขวดและแบบกระป๋องให้เลือกตามความต้องการได้เลย
“ยูทาร์จะดื่มอะไรไหม?”ผมหันไปถามโดยที่สายตายังคงไล่ไปตามชั้นเครื่องดื่มว่าจะเอาน้ำอะไรดี...ภายในตู้เย็นมีทั้งน้ำผลไม้ นมสดรสต่างๆ นมเปรี้ยว เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลมหรือแม้แต่พวกกาแฟกระป๋อง
“เซโครดื่มอะไรล่ะ?”ยูทาร์ไม่ตอบแต่ถามกลับแทน ใบหน้าหล่อๆขยับเข้ามาใกล้เพื่อมองสิ่งที่อยู่ภายในได้มากขึ้นก่อนจะดมกลิ่นพวกนั้นเบาๆ
“ผมลังเลอยู่ว่าจะเอากาแฟหรือนมสดดี”ผมตอบกลับไปอย่างครุ่นคิด
“ก็เอาทั้งคู่เลยสิ”ยูทาร์ออกความเห็น
“ก็อยากอยู่แต่ถ้าดื่มหมดคงไม่ต้องกินมื้อเช้าแล้วล่ะ...ยูทาร์ดื่มคนละครึ่งได้ไหม?”ผมหันไปถามแล้วหยิบกล่องนมสดรสจืดกับกระป๋องกาแฟลาเต้มาไว้ในมือพร้อมกับชูให้ยูทาร์ดู
ถ้าให้ยูทาร์เลือกเอาอันใดอันนึงผมก็จะได้ขอจิบนิดหน่อยจะได้ไม่อิ่มจนเกินไป...ความคิดผมช่างดีจริงๆเลยแต่ไม่รูว่ายูทาร์จะยอมไหม...ไม่สิ...ต้องพูดว่ายูทาร์จะกินได้ไหม
“คนละครึ่ง?”
“ให้ยูทาร์เลือกว่าจะเอาอันไหนแล้วผมจะได้ขอกินด้วยไง”ผมอธิบายด้วยรอยยิ้ม
“ได้สิ...อันไหนก็ได้เซโครเลือกมาเลย”ยูทาร์พยักหน้าตกลงทำให้ผมตัดสินใจยื่นกล่องนมสดรสจืดไปให้อีกฝ่ายเพราะยูทาร์คงไม่ชอบรสขมๆของกาแฟแน่ถึงจะเป็นลาเต้ก็เถอะ
“อันนี้คือนมรสจืด...ผมว่ายูทาร์น่าจะชอบนะ”ยูทาร์รับไปแล้วพลิกไปพลิกมาสำรวจรอบกล่องแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างขอความช่วยเหลือ
“กินยังไง?”
“เอาหลอดออกมาแล้วก็เจาะลงไปแบบนี้นะ...เอ้าลองทำดู”ผมหยิบกล่องนมมาแล้วสาธิตทำหลอกๆให้ดูแล้วยื่นกล่องนมและหลอดกลับไปให้ยูทาร์อีกครั้ง
“แบบนี้?”ยูทาร์ทำตามที่ผมแล้วยื่นกล่องนมที่ถูกเจาะเรียบร้อยมาตรงหน้าผม
“ใช่ๆ...แล้วก็ดูดเลย”ผมบอกแล้วจัดการเปิดกระป๋องกาแฟตัวเองบ้าง...เวลาตื่นเช้าๆหรือต้องอยู่ดึกกาแฟถือว่าจำเป็นมากสำหรับผมเลยไม่งั้นคงหลับคางานแน่
“เป็นไงบ้าง?”ผมถามอีกฝ่ายเมื่อเห็นยูทาร์ทำหน้านิ่งๆ
“ก็แปลกๆดี...กินได้อยู่”
“งั้นลองสลับกัน”ผมบอกแล้วยื่นกระป๋องกาแฟไปให้ยูทาร์ พอเราแลกกันเสร็จผมก็จัดการนมจืดไปเกือบครึ่งกล่องโดยที่สายตายังคงมองไปที่ยูทาร์ที่ทำหน้าเหมือนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อยู่ในมือมันกินได้จริงๆ...และพอรสขมของกาแฟแล่นเข้าสู่ลิ้นยูทาร์ก็พ่นกาแฟออกมาจนเกือบโดนหน้าผม
“แหวะ...ขมมาก...ไม่เห็นอร่อยเลยนมอร่อยกว่าตั้งเยอะ”ยูทาร์ทำหน้าแหยงกาแฟซะเต็มประดาแล้วยัดกระป๋องกาแฟลาเต้คืนมาให้ผมพร้อมกับเอากล่องนมของตัวเองกลับไป
“ฮะฮะฮะ...”ผมขำออกมากับท่าทางของยูทาร์...ผู้ชายหล่อเหลาหน้าตาดีพ่นกาแฟออกมาจากปากแถมยังทำหน้าตลกแบบนั้นใครเห็นคงไม่เชื่อแน่ๆ
ปกติยูทาร์มักจะทำหน้านิ่งและเฉยๆอยู่ตลอดเวลาที่ออกไปเจอกับผู้คน...ผมเป็นคนเดียวที่ยูทาร์แสดงออกมาแบบนี้เหมือนได้รับการยอมรับและความเชื่อใจอย่างมากมายจริงๆ
อาจไม่ใช่แค่ยูทาร์แต่ผมเองก็ด้วย...ปกติผมเป็นคนสบายๆไม่จู้จี้อะไรนักใครว่าอะไรก็ทำตามถ้ามีเหตุผลพอแต่พออยู่กับยูทาร์ผมมักจะกลายเป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจหรือเพราะยูทาร์ตามใจผมเกินไปก็ไม่รู้สิ
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปหาอาหารง่ายๆกินกันก่อนโทรศัพท์ที่ผมพกไว้จะดังขึ้นแล้วเจ้าของเบอร์ที่โทรมาก็คือพ่อของผมนั่นเอง...
“ครับพ่อ”
(วันนี้ลูกว่างไหม?)
“ก็...รู้สึกจะว่างนะครับผมกะจะพายูทาร์ไปหาพี่โนว่า...พ่อมีอะไรเหรอครับ?”ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย...นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อติดต่อมาโดยตรงแบบนี้
(พ่ออยากให้ลูกไปดูเทอราโนดอนกับไดมอร์โฟดอนที่ฐาน3หน่อย...เห็นว่าจะมีการขนย้ายไปที่สวนสัตว์ที่ประเทศอินเดียในอีก2วันแต่ตอนนี้ไม่ผู้เชี่ยวชาญคนไหนว่างไปดูเลย...พ่อวานลูกหน่อยนะ)
“แล้วคนที่ประจำฐานล่ะ?”
(ก็มีอยู่แต่เขาก็ต้องการคนไปช่วยตรวจสอบดูความเรียบร้อยหน่อยน่ะ)
“ก็ได้ครับ”
(อีกสักพักใหญ่พ่อจะตามไปหานะ...ไว้เจอกันเซโคร)พอลาเสร็จพ่อก็ตัดสายไปเลย
“มีอะไรเหรอเซโคร?”ยูทาร์ถามขึ้นเมื่อผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้ว
“เราต้องไปที่ฐาน3กัน...ไปดูไดโนเสาร์บินได้กันเถอะยูทาร์ยังไม่เคยเห็นนี่”ผมพูดพรางลุกขึ้น
“บินเหรอ?...เหมือนนกใช่ไหม?”ยูทาร์ตามผมมาติดๆก่อนจะเอ่ยถาม
“ใช่แต่ตัวใหญ่กว่ามาก...อย่างเทอราโนดอนถึงจะมีความสูง2เมตรแต่ความกว้างของปีกยาวได้มากสุดถึง10เมตรเรียกว่ายาวมากเลย”ผมอธิบายให้อีกฝ่ายฟังในขณะที่เข้ามาอยู่ในรถแล้วขับตรงไปที่ฐาน3...ระยะทางค่อนข้างไกลอาจต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง
“ยาวกว่าผมเหรอ?”
“ไม่หรอก...ยูทาร์ยาวกว่าแถมยังแกร่งกว่าเยอะด้วยเทอราโนดอนมีปากที่แหลมแต่ไม่มีฟันเลยสักซี่ความแข็งแกร่งของเทอราโนดอนอยู่ที่ความเร็วในการบินและปากที่แหลมคมพร้อมจะจับและทะลวงทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้า”ผมอธิบายเพิ่มเติมตามที่รู้
“แล้วอีกพันธุ์นึงล่ะ?”
“อ้อ...ไดมอร์โฟดอน...ไดโนเสาร์ที่อยู่ในช่วงต้นของยุคจูราสสิคเป็นไดโนเสาร์ยุคแรกๆเลยก็ว่าได้ ลักษณะทางกายวิภาคของมันจึงมีลักษณะหางที่ค่อนข้างยาวและปีกจะแคบกว่าเทอราโนดอนอยู่มาก...กว้าแค่2เมตรเองยูทาร์กินคำเดียวก็ไม่รอดแล้ว”ผมบอกติดตลกแล้วมองไปยังภาพเบื้องหน้าที่มีเขตป้องกันด่านนอกสุด...
การจะผ่านเข้าไปได้ขอเป็นมนุษย์ก็ได้รับอนุญาตแต่ถ้าจะเข้าไปลึกกว่านั้นต้องยื่นบัตรประจำตัวให้พวกเขาดู...ผมมีบัตรที่ได้ชื่อว่าสามารถเข้าออกห้องทดลองที่ไหนก็ได้ตามต้องการแต่กว่าจะได้มาผมก็ต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมรวมทั้งทำข้อสอบทั้งทฤษฎีและปฏิบัติมากมายตั้งแต่เรียนปริญาโท พอเข้ามาทำงานที่นี่ก็เริ่มสร้างผลงานจนบัตรประจำตัวผมเป็นสีเงินซึ่งถือว่ามีเพียงไม่กี่คนที่มีไว้ในครอบครอง
สีของบัตรสูงสุดจะเป็นสีทอง รองลงมาคือเงิน ดำ ฟ้าและขาวตามลำดับ...แม้ว่าจะเข้าที่ไหนก็ได้แต่นั่นก็แค่ตัวผมเท่านั้นไม่สามารถพายูทาร์เข้าไปได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาติ
เซโครจอดรถไว้ที่ด้านข้างของประตูรั้วแล้วเดินเข้าไปต่อโดยที่มียูทาร์เดินตามติดๆ...บริเวณที่จะไปคือเขตC2หรือกรงของไดโนเสาร์ที่มีอายุ2ปีขึ้นรอจะขนย้ายไปส่งที่สวนสัตว์ต่างๆ กรงนกขนาดใหญ่กว่ากรงของยูทาร์ตั้งตระหงาดอยู่ด้านหน้า....ไดโนเสาร์มีปีกเป็นไดโนเสาร์ที่อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่และเทอราโนดอนก็เข้ากับไดมอร์โฟดอนได้อย่างดีจึงสามารถเลี้ยงไว้ด้วยกันได้แต่การจะเข้าไปต้องเตรียมตัวสักหน่อยไม่งั้นถูกงาบบินขึ้นฟ้าแล้วปล่อยตกลงมาตายแน่
“กลิ่นไดโนเสาร์สองชนิด”ยูทาร์พึมพำเบาๆเมื่อเข้าใกล้กรงนก
“ถูกต้อง...ในนั้นเลี้ยงเทอราโนดอนกับไดมอร์โฟดอนไว้ด้วยกัน”
“ไม่กินกันเองเหรอ?”
“เท่าที่รู้ไม่กินกันเองนะเพราะว่าสืบเชื้อสายมาจากสายพันธุ์เดียวกันเลยคุยกันรู้เรื่องมั้ง...แล้วยูทาร์คุยกับพวกเขาได้ไหม?”ผมอธิบายพร้อมกับถามกลับ ครั้งก่อนก็เห็นคุยกับไทเซอราท๊อปและไททันโอโบอาได้มีความเป็นไปได้สูงที่จะคุยกับเทอราโนดอนกับไดมอร์โฟดอนได้
“ไม่แน่ใจ...แต่จะลองดู”ยูทาร์บอกแล้วเดินเข้าไปใกล้กรงมากขึ้น เสียงครางเบาๆที่ดังออกมาในลำคอทำให้รู้ว่ายูทาร์กำลังทักทายเหล่านกที่อยู่ภายในกรงแต่ยังไม่ทันไรยูทาร์ก็ทำตาขวางแล้วมองไปยังด้านหลังผม
“ไงน้องเซโคร”แค่เสียงผมก็รู้แล้วว่าใครที่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเอง
“...กรร”เซครรีบวิ่งเข้ามาแล้วคว้าตัวผมไปไว้ด้านหลังทันที
“ดุจริงๆนะ...ไหนว่าฝึกจนเชื่องแล้วไงล่ะใช้ไม่ได้ทั้งไดโนเสาร์ทั้งเจ้าของ”คนตรงหน้าพูดเหมือนกำลังดูถูกผมกับยูทาร์นั่นทำให้ยูทาร์ขู่เสียงต่ำในคออีกครั้งนึง
“คุณมีธุระอะไรคุณหลงไป่จิง?”ผมเดินไปด้านข้างยูทาร์แล้วถามอีกฝ่ายไปตามตรงโดยที่มือข้างนึงของผมลูบที่หลังยูทาร์เบาๆให้ใจเย็นลง...
ยูทาร์คงรับรู้ได้ว่าใครที่เป็นมิตรและใครที่เป็นศัตรู
“คงไม่ลืมนะว่าฐาน3นี่เป็นที่ทำงานผมเพราะงั้นผมไม่จำเป็นต้องมีธุระอะไรถึงจะมาที่นี่ได้...ก็แค่มาเดินเฉยๆ”น้ำเสียงยียวนยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเป็นเท่าตัวเหมือนกับที่ยูทาร์กำลังจะวิ่งตรงไปหาอีกฝ่ายแต่ผมจับแขนเอาไว้แล้วส่ายหัวเบาๆ
“งั้นก็เดินเล่นต่อไปเถอะ...เพราะถ้าคุณยังอยู่คุณอาจได้เป็นอาหารให้กับเพื่อนคนนี้ของผมก็ได้”ผมบอกพร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์กลับไปให้
“...ชิ”พออีกฝ่ายเห็นยูทาร์ทำท่าจะวิ่งตรงไปหาก็รีบเดินหนีไปทันที
ไม่เข้าใจว่าจะมาทำไม
“อ่อ...ขอบโทษนะคะ...ใช่คุณไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ไหมคะ?”เสียงของหญิงสาววัยกลางคนดังขึ้นทำให้ผมและยูทาร์หันไปอย่างพร้อมเพรียง ผู้หญิงผมสั้นสีน้ำตาลที่อยู่ในสุดสีน้ำตาลเข้มสำหรับใส่เข้าไปในกรงนกทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าเป็นคนที่ดูแลกรงนี้
“ครับ...เรียกผมว่าเซโครก็ได้ครับ”ผมแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มแล้วสะกิดยูทาร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“...ผมยูทาร์...สวัสดีครับ”ยูทาร์แนะนำตัวกับหญิงสาวตรงหน้าบ้าง
“ฉันชื่อซาลาโต้ เมเดียเรียกซาล่าก็ได้คะ...คุณฟรานติดต่อมาว่าคุณจะเป็นคนบอกว่าเราจะส่งไดโนเสาร์ตัวไหนไปในอีกสองวันใช่ไหมคะ?”ประโยคสุดท้ายทำให้ผมเหวอไปเลย
ใครว่าผมจะทำอะไรนะ?
“อ่อ...คงมีการเข้าใจผิดผมแค่มาดูว่าพวกเขาพร้อมจะเดินทางรึยังเท่านั้นเอง”ผมบอกเสียงอ่อย....การคัดเลือกไดโนเสาร์ไม่ได้อยู่ในสายงานผมสักหน่อยและก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเลือกๆไปแล้วจบด้วยโดยเฉพาะไดโนเสาร์ที่อยู่เป็นฝูงแบบนี้
โดยปกติจะมีผู้เชี่ยวชาญมาทำหน้าที่นี้เพราะไดโนเสาร์แต่ละฝูงจะมีจ่าฝูงเพียงตัวเดียวและเราต้องหาให้เจอเพื่อจะได้นำจ่าฝูงนั้นไปด้วยแล้วปล่อยให้พวกที่เหลือหาจ่าฝูงใหม่ ถ้าเราส่งไดโนเสาร์ไปโดยที่ไม่มีจ่าฝูงพวกมันจะเกิดการแย่งกันขึ้นเป็นจ่าฝูงในระหว่างการขนส่งทำให้เกิดอันตรายและความเสียหาย...
ดังนั้นหน้าที่หนักแบบนั้นจะให้ผมทำได้ยังไง?
ผมไม่รู้หรอกว่าตัวไหนเป็นจ่าฝูง!
“เอ๋...แต่คุณฟรานบอกว่าคุณทำได้นี่นา”อีกฝ่ายบอกเสียงอ่อย
“แล้วคุณซาล่ารู้ไหมครับว่าตัวไหนเป็นจ่าฝูง?”ผมลองถามดู...อย่างน้อยถ้ารู้จ่าฝูงทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น
“...ขอโทษด้วยคะ”หญิงสาวตรงหน้าส่ายหัวพร้อมกับเอ่ยขอโทษ
“เฮ่อ...”เอาไงต่อดีเนี่ย
“ถ้าเป็นตัวที่นำฝูงผมรู้นะ”เสียงของยูทาร์ทำให้ผมกับซาล่าหันควับไปหาด้วยความดีใจ...
ขอบคุณพระเจ้าที่ยังมีคนดูออก!
“จริงเหรอ?...แน่ใจนะ”ผมถามย้ำ
“อืม...ได้ยินว่าผู้นำกำลังจะมีลูกล่ะ”ยูทาร์บอกพร้อมมกับเดินเข้าไปใกล้กรงมากขึ้น
“มีลูก?...แปลว่าผู้นำเป็นตัวเมีย?”
“ใช่”คำตอบของยูทาร์ทำให้ผมคิดหนักการย้ายไดโนเสาร์ขณะที่กำลังท้องแบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงพอสมควร...ไดโนเสาร์สายพันธุ์นกหรือไดโนเสาร์ที่บินได้เป็นหนึ่งในไม่กี่สายพันธุ์ที่พวกเรารู้ว่ามีวิธีสืบพันธุ์ยังไงทำให้เราหยุดเพาะพันธุ์และให้พวกมันแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติเอง
“งั้นเดี๋ยวเราเข้าไปแล้วค่อยว่ากันนะครับ...ไปเปลี่ยนชุดกันก่อนยูทาร์”ผมบอกซาล่าก่อนจะหันไปบอกยูทาร์
พอจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยพวกเราก็ค่อยๆเข้ามาภายในกรงยักษ์โดยมียูทาร์เป็นผู้นำ...ถ้าพูดกันรู้เรื่องคงไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโจมตี...ผมยืนมองยูทาร์ที่ครางต่ำในลำคอพร้อมกับเหล่าเทอราโนดอนกับไดมอร์โฟดอนที่บินลงมาแล้วส่งเสียงดังแข่งกันไปหมด
..........................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
<a href="http://tinypic.com?ref=dq18p0" target="_blank"><img src="http://i62.tinypic.com/dq18p0.jpg" border="0" alt="Image and video hosting by TinyPic"></a>
ทอราโนดอน (Pteranodon)
เทอราโนดอน จัดเป็นสัตว์เลื้อยคลานบินได้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน Jurassic World อันมีที่มาจากความกว้างระหว่างปีกทั้งสองข้าง 20 ฟุต และน้ำหนักตัวอีก 70 ปอนด์ อย่างไรก็ตาม เทอราโนดอน ถูกจัดอยู่ในหมวดไดโนเสาร์กินพืชและมีอารมณ์เกรี้ยวกราดอย่าบอกใคร
ขอขอบคุณรูปและข้อมูลจาก:http://movie.kapook.com/view119424.html
.........................................................................
สวัสดีคะ
มาอัพเร็วกว่าเดิมนิดหน่อยแต่มาแค่ครึ่งเดียวก่อนนะคะ
อยากมาอัพวันนี้เพราะเป็นวันเกิดของตัวเองคะ
ตอนนี้เซโครกับยูทาร์ยังไม่มีเรื่องตื่นเต้นอะไรมากนักแต่วางไว้ว่าตั้งแต่ตอนที่11ไปจะมีฉากบู๊มากขึ้นอีก
อีกเรื่องคือตอนนี้มีคุณหลงไป่จิงตัวร้ายที่ไม่ได้ออกโรงสักพักใหญ่ออกมาด้วยคะ
มีใครคิดถึงชายคนนี้กันบ้างไหมเอ่ย?
จากที่วางจะมีบทใหญ่อีกครั้งนึงก่อนจะถูกปลดระวางให้พักอย่างสงบคะ(อิอิ)
ครึ่งหลักคงจะมาอาทิตย์หน้าแล้วแต่ว่าสะดวกมาอัพวันไหนนะ...ช่วงนี้เริ่มชินกับการเปิดเทมอทำให้เริ่มแต่งได้เร็วขึ้นแต่ก็ยังไม่มีเวลามากพอที่จพอต่งให้จบตอนดังนั้นจะมาทีละครึ่งหรือบางครั้งอาจมาเต็มตอนขึ้นอยู่กับความสั้นยาวของเนื้อหาที่จะแต่งนะคะ
ลงทีละครึ่งอาจจะสั้นไป(ก็ตรึ่งเดียวนี่นะ)...ความยาวของครึ่งตอนอยู่ประมาณ5A4ก็ถือว่าเยอะอยู่พอประมาณนะคะ
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และกำลังที่มีให้ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเว็บหรือในเพจ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
จิ้มมม
รออยู่เลยย
ยูทาร์ก็ยังน่ารักสม่ำเสมอ
เกลียดอิหลง ใครเชิญมันมาเข้าฉากเนี่ย -_-^
ปล. สุขสันต์วันเกิดนะคะ สมปราถนาทุกประการ แฮปปี้ๆ ค่า~
-
ไม่คิดถึงหลงไป่จิงเลยค่าาาา ใครคิดถึงฮิมเนี่ย??
ปูลู กอดคุณ nicedog แน่นๆอีกรอบ
HBD นะค้าาาา ขอให้หวังอะไร ได้ดั่งหวังค่า :กอด1: :L1:
-
เซโครไม่ต้องห่วงไปค่ะยูทาร์ได้กินเซโครแน่ๆ แต่เป็น 'กิน' คนละความหมายกับกลืนลงท้องแล้วรอให้ย่อยนะค้าา~ :hao7:
ปล. สุขสันต์วันเกิดค่ะ ^^ คิดสิ่งใดก็ขอให้สมหวังทุกๆ ประการเลยนะค้าา~ :จุ๊บๆ:
-
5555 นางยังน่ารักเสมอ
-
ก่อนอื่นก็ต้อง สุขสันต์วันเกิดนะคะ :mew1:
สงสัยทำงานครั้งหน้าต้องตั้งให้ยูทาร์เป็นผู้ช่วยเซโครละ
ช่วยงานได้มากจริงๆ
รอตอนต่อไปน้าาาา
-
อีตาหลงไป่จิงมาทำอะไร๊!! ยูทาร์อย่าไปกินมันนะลูก เดี๋ยวท้องผูก :z6:
-
รอครึ่งหลังๆๆ :katai5:
-
ยูทาร์ เขมือบตาหลงทิศนั้นไปเลยจ้า หมั่นไส้จัง
สุขสันต์วันเกิดนะค่ะ คนเขียน โชคดีมีชัยในทุกเรื่องนะค้า
-
ยูทาร์น่าร้ากกกกกกกก
"ก็เลือดเซโครอร่อย" ทำไมเค้าเขิน :hao7:
อิคุณหลงไป่จิง อยากให้มันหลงป่ากับไดโนเสาร์จริงๆเลย หมั่น :katai1:
รอครึ่งหลัง :katai5:
-
สุขสันต์วันเกิดครับ
:a13:
-
ยูทาร์เก่ง ปรบมือ ฮ่าๆ
แต่ชอบเวลายูทาร์ไร้เดียงสา น่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู ~
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
หลงไป่จิงนี่ต้องโดนเข้าสักวันแหละ :katai4:
สุขสันต์วันเกิดนะคะ :กอด1:
-
:pig4: :pig4:
-
ขอบคุณที่มาต่อจ้าาา
สุขสันต์วันเกิดด้วยนะค้า :mew1:
-
แม่นางหลงโผล่มาทีไร....มันคันเท้าทุกที 5555
โดนไปรอบที่แล้วไม่จำนะ ชิ
-
อ่าาา อยากอ่านต่อแล้วววว แล้วไป่จิงมาทำไร มาให้ยูทาร์งับเล่นใช่ป่ะ ฮาาาา
-
มานั่งรออย่างสงบเสงี่ยม :katai2-1:
-
เหอออ เฮียจิงเป็นไงเพ่ สบายดีป่าว(เสียงหล่อ)แหมะ นึกว่าโดนไดโนเสาร์กินไปซะแล้ว :katai3:
ปล.สุขสันข์วันเกิดย้อนหลังนะคะ :mew1:
-
ถ้ากรี๊ดได้ คงร้องเสียงหลงสมชื่อหลงไป่จิง เมื่อเจอยูทาร์ล่ะ
-
ยูทาร์เริ่มมีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆเยยย
จะรอตอนต่อไปนะคะ
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะผู้เขียน ขอให้มีความสุขมากๆค่าาา
-
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะ
ยูทาร์กับเซโครก็ยังน่ารักเหมือนเดิม 555555
-
คิดถึงๆๆๆๆ มาต่อเถอะน้าส์ รอทุกวันเรย
-
กลายรักครั้งที่❧10(ครึ่งหลัง)
พอจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยพวกเราก็ค่อยๆเข้ามาภายในกรงยักษ์โดยมียูทาร์เป็นผู้นำ...ถ้าพูดกันรู้เรื่องคงไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโจมตี...ผมยืนมองยูทาร์ที่ครางต่ำในลำคอพร้อมกับเหล่าเทอราโนดอนกับไดมอร์โฟดอนที่บินลงมาแล้วส่งเสียงดังแข่งกันไปหมด
“คุณยูทาร์คุยกับไดโนเสาร์ได้เหรอคะ?”หญิงสาวด้านหลังสะกิดแล้วถามอย่างสงสัย
“ครับ...คุณน่าจะพอรู้เรื่องการทดลองที่ตัดต่อยีนส์ไดโนเสาร์รวมกับมนุษย์แล้วใช่ไหม?”ผมลองถามดู
“คะ”
“ยูทาร์นี่แหละไดโนเสาร์ที่มียีนส์ของมนุษย์”พอผมบอกออกไปอีกฝ่ายก็เบิกตากว้างแล้วเอามือปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ส่งเสียงกรี๊ดออกมา
“ไม่ต้องห่วงเขาไม่ทำร้ายใคร...ถ้าคุณไม่ทำร้ายเขาก่อนนะ”
“นะ...แน่นอนคะ”
เซโครมองดูยูทาร์ครางเสียงต่ำบ้างสูงบ้างเหมือนกำลังสนทนากับเหล่าฝูงไดโนเสาร์มีปีกที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่...พวกไดโนเสาร์รู้สึกจะสนใจยูทาร์มากจนไม่สนใจผมหรือคุณซาล่าเลยสักนิด
“เซโคร...พวกเธอบอกว่าอยากได้ผมไปเป็นสามีล่ะ”ยูทาร์เดินมาบอกผมแล้วทำท่างงว่าคืออะไร
“สามี?...ไม่ๆๆ...ไม่ได้นะ...ปฏิเสธพวกเธอไปซะ!”ผมรีบบอกยูทาร์กลับไปอย่างรวดเร็ว...
นี่ยูทาร์โดนไดโนเสาร์จีบ?
แถมยังจีบทั้งที่อยู่ในร่างมนุษย์ด้วย?
“ปฏิเสธไปแล้วล่ะ...เพราะเธอบอกว่าถ้าเป็นสามีแปลว่าต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดแต่คนที่ผมอยากอยู่ด้วยตลอดคือเซโคร...งั้นให้ผมเป็นสามีเซโครแทนได้ไหม?”
ห๊ะ?
เดี๋ยวนะ...ทำไมคุยไปคุยมาถึงมาจบด้วยประโยคนี้ได้ล่ะ?
“อ่อ...ไม่ดีมัง”ไม่ดีมากด้วยล่ะ
“ไม่ได้เหรอ?...งั้นผมก็อกหักแล้วสิ”
“ห๊ะ?...ว่าอะไรนะ?”เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินคำว่าอกหักจากปากยูทาร์...ก็ผมไม่เคยสอนแล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะพวกศัพท์ขั้นสูงแบบนั้นน่ะ
“อกหักไง...เธอบอกว่าถ้าถูกปฏิเสธแปลว่าอกหักแล้วก็ต้องไปหาคนอื่นแทน”
“เดี๋ยวก่อนๆ...เรื่องมันชักไปกันใหญ่แล้ว...กลับมาก่อนยูทาร์”ผมบอกอีกฝ่ายแล้วกุมหัวตัวเองเพื่อคิดอย่างหนัก
ไดโนเสาร์รู้เรื่องอกหักกับหาคนใหม่ได้ยังไงกัน...หรือว่าไดโนเสาร์เองก็เป็นเหมือนมนุษย์ที่มีความรักหรืออกหัก?
ไม่ใช่ว่าผสมพันธ์เพราะถึงฤดูงั้นเหรอ?...เดี๋ยวนะ...รู้สึกว่าจะมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่มีการแย่งคู่กันแปลว่านั่นคือการแย่งคนรักสินะ...ผมรู้สึกเหมือาจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจแฮะ
“เซโคร...รักเซโครนะ”
ตึก ตัก ตึก ตัก
หัวใจที่สงบนิ่งเต้นถี่รัวราวกับมีกลองมาตีงั้นแหละ...ไอ้คำสารภาพนั้นมันคืออะไรรร~
ใครสั่งใครสอนให้ทำหน้าหล่อแล้วบอกรักแบบนั้น...อย่างงี้หัวใจมันก็เต้นแรงน่ะสิ
“พะ...พูดบ้าอะไร?!”หยุดสั่นสิ...บอกให้หยุดสั่นไงเสียงผม
“เธอบอกว่าก่อนจะเป็นสามีต้องสารภาพรักก่อน...ผมเลยลองทำตาม”สิ้นคำตอบของยูทาร์ผมก็มองไปยังเหล่าฝูงเทอราโนดอนด้านหลังเขม็งราวกับจะบอกพวกเธอว่าเลิกสอนอะไรแปลกๆให้ยูทาร์สักที!
กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยผมก็แทบลมจับ...ดูเหมือนเหล่ดูเหมือนเหล่าเทอราโนดอนจะชอบยูทาร์จริงเพราะไม่ว่ายูทาร์จะเดินไปไหนก็กระโดดตามอยู่ตลอด มีแค่ไดมอร์โฟดอนที่เกาะดูอยู่ตามกิ่งไม้ไกลๆ
จำนวนของเทอราโนดอนที่ต้องย้ายไปมี12ตัวกับไดมอร์โฟดอนอีก8ตัว...ผมมอบงานเลือกตัวที่จะไปให้ยูทาร์ทั้งหมด ก็เล่นสนิทกันขนาดนั้นก็น่าจะเลือกได้ดีสุดล่ะ
“เฮ่อ...”พอทุกอย่างเสร็จผมก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน...ทำไมรู้สึกเหนื่อยได้ขนาดนี้นะ
“เซโครเป็นอะไร?”ยูทาร์เดินเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง
“แค่เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ...”
“เซโครรรร~”ยังไม่ทันพูดจบเสียงของผู้ชายคนนึงก็ตะโกนแทรกก่อนจะคว้าตัวผมไปกอดไว้แน่น...กลิ่นเปรี้ยวที่สำผัสทำให้รู้ได้ในทันทีว่าคนที่กอดผมอยู่คือ ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่หรือพ่อของผมนั่นเอง
“พ่อ...อึดอัดนะ”ผมบอกพยายามดิ้นให้พ่อปล่อยแต่พ่อก็ไม่ยอมแถมยังส่งยิ้มกว้างจนตาปิดมาให้ก่อนจะ...
จุ๊บ
“พ่อ!”ผมตะโกนเสียงดังทันทีที่ถูกจุ๊บที่หน้าผากเบาๆ
“ฮะฮะฮะ...ลูกหน้าแดงเป็นมะเขือเทศเลย...ยูทาร์ๆ...ก่อนนอนลองทำแบบที่พ่อทำเมื่อกี๊ดูนะแล้วเซโครจะนอนหลับสนิทเลย”พ่อเปลี่ยนเป้าหมายจากผมไปยังเซโครที่ยืนมองอยู่ข้างๆแทน
“เซโครชอบเหรอครับ?”
“แน่นอน...ตอนเด็กๆอ้อนพ่อทุกวันว่าจูบหน้าหน่อยไม่งั้นผมไม่นอน...ตอนนั้นน่ารักสุดๆเลย”
เซโครมองพ่อคุยกับยูทาร์อย่างสนุกสนานด้วยใบหน้าเซ็งๆ มือข้างนึงถูกยกขึ้นมาแล้วถูกบริเวณที่โดนจุ๊บแรงๆพลางบ่นพ่อตัวเองในใจ...ก็จริงที่ตอนเด็กๆชอบให้พ่อจูบหน้าผากก่อนนอนแต่นั่นเป็นเรื่องตอนอายุ6ขวบพอโตมาอีกหน่อยก็ไม่ได้อ้อนพ่อแล้วแต่ถึงอยากจะอ้อนพ่อก็ไม่อยู่ให้อ้อนอยู่ดี
“ผมจะลองทำดูครับคุณฟราน”
“เรียกพ่อเหมือนเซโครก็ได้...เราก็เป็นเหมือนลูกชายคนนึงของพ่อนะ”พ่อตอบกลับแล้วตบหลังยูทาร์เบาๆ
“ครับพ่อ”
เอาเข้าไป...เข้าขากันเข้าไป
ใช่สิ...ตอนนี้ผมมันหมาหัวเน่าแล้วนี่
“ยืนงอนอะไรอยู่ล่ะเซโคร...อ๋อ...กลัวพ่อไม่รักใช่ไหมล่ะ?...พ่อรักลูกชายคนนี้ที่สุดเลย”พ่อหันมาบอกแล้วหมายจะวิ่งเข้ามากอดผมอีกรอบแต่ผมจับทางได้เลยหลบทัน
“เลิกเล่นน่าพ่อ...มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”ผมถามเข้าประเด็น...ไม่มีทางที่คนระดับพ่อจะมาเดินเล่นที่นี่ถ้าไม่มีเรื่องอะไรหรอก
“สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ...คือเมื่อเช้าพ่อได้โทรศัพท์จากแม่น่ะ”
“แม่เหรอ?...เป็นไงบ้างครับ?”ผมถามกลับด้วยความตื่นเต้น...ครั้งล่าสุดที่เจอกันก็เมื่อ5ปีก่อนได้
“แม่โทรมาขอความช่วยเหลือน่ะ”พ่อบอกเสียงเศร้า
“อะไร...เกิดอะไร?...”คำพูดนั่นทำให้ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นภายในจิตใจ...เกิดอะไรขึ้นกับแม่ถึงขนาดต้องติดต่อมาขอความช่วยเหลือกันแถมพ่อยังทำหน้าเศร้าแบบนั้นอีก
“แม่บอกว่าอยากให้ลูกไปหาหน่อยที่เกาะหน่อยน่ะ”พ่อเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มอย่างรวดเร็วแล้วตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม...ราวกับว่าใบหน้าเศร้าๆเมื่อครู่เป็นแค่การแสดงละครงั้นแหละ...
แสดงละคร?
“นี่พ่อหลอกผมเหรอ?!!”ผมตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด
“ฮะฮะฮะ...คลายเคียดไง....คลายเครียด”
เครียดมากขึ้นน่ะสิ...
พ่อบ้า!!
“เซโคร...”ยูทาร์เรียกแล้วเดินมาหา...ใบหน้าของยูทาร์ดูจะเป็นห่วงผมมาก
“ไม่เป็นไรแค่หงุดหงิดพ่อเท่านั้นเอง...ห้ามเล่นแบบนี้อีกนะผมตกใจจริงๆนะรู้ไหม”ผมบอกยูทาร์แล้วหันไปบอกพ่อหุบยิ้มอย่างกระทันหัน
“ขอโทษ...”พ่อพูดเสียงอ่อยจนรู้สึกสงสาร
“ผมไม่โกรธก็ได้...แล้วมีอะไรล่ะ?”
“ก็อย่างที่บอกไปแม่อยากให้ลูกไปหาหน่อย”
“ไปหา?...มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“เห็นว่ามีพืชหลายพันธุ์ที่ไม่ทราบชนิดแน่ชัดเลยอยากให้ลูกไปช่วยดูหน่อย...วิชาโทลูกชีวะเรื่องสายพันธุ์พืชนี่”พอได้ยินที่บอกผมก็เริ่มคิดว่าจะเอายังไงดี...
ก็จริงที่วิชาโทนอกจากการแพทย์แล้วยังมีชีวะสาขาพันธุ์พืช...แต่พืชที่ขนาดนักชีวะระดับโลกยังไม่รู้แล้วผมจะรู้ไหมล่ะครับแถมช่วงนี้ก็ไม่ได้อ่านตำราอะไรเพิ่มเต็มอะไรเลยสักอย่าง...
ความรู้ที่เคยมีก็เริ่มหายไปแทนที่ด้วยเรื่องไดโนเสาร์แล้ว
“ผมไปก็ช่วยแม่ไม่ได้หรอกพ่อ”ผมบอกออกไปหลังจากที่คิดแล้ว
“ได้สิ...แม่ก็อยากเจอลูก...นะนะนะ...ไปเจอแม่หน่อย”พอเจอลูกอ้อนผมก็ต้องถอนหายแล้วพยักหน้าตกลงอย่างปลงๆ
“เดี๋ยวนะพ่อ...ถ้าผมไปแล้วยูทาร์ล่ะ?”ผมหันไปถามทันที...
ลืมเรื่องสำคัญที่สุดไปได้ยังไงกัน?
“ผมจะไปกับเซโคร”ยูทาร์พูดแทรกขึ้นมาแล้วใช้มือข้านึงจับแขนผมไว้แน่น ดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาอย่างแน่วแน่แกมขอร้องทำให้ผมอยากตกลงแต่ก็ไม่ได้จริงๆ
“ไม่ได้หรอกยูทาร์...ผมพานายออกไปไม่ได้ถ้ามีคนรู้จะเป็นเรื่องใหญ่”ผมบอกเสียงเศร้า...ระหว่างที่ผมไม่อยู่คงต้องหาใครสักคนมาดูแลยูทาร์
“ไหนสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไง?”อีกฝ่ายถามเสียงเศร้า
“ก็ใช่...แต่แค่เรื่องออกจากเกาะเท่านั้นที่ไม่ได้จริงๆ...ผมไปแค่ไม่กี่วันเพราะงั้น...”
“ไม่ให้ไป!”ยูทาร์ตะโกนเสียงดังพร้อมกับดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น
“ไม่ให้ไป...อย่าไปเลย...นะครับ”
“ยูทาร์”เล่นพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นแล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ?
“เอางี้ไหมล่ะ...ก็แอบไปเป็นไง?”พ่อที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เสนอความคิดขึ้น
“ไม่มีทาง...ตอนนี้มีคนเห็นผมกับยูทาร์แล้วถ้าจู่ๆหายไปต้องมีคนสงสัยแน่”ผมรีบค้านทันที...ไม่มีทางจะให้ยูทาร์แอบไปกับผมได้แน่นอน มันเสี่ยงเกินไป
“งั้นก็ทำทีเป็นป่วยแล้วบอกทุกคนว่าขอลาพักที่ห้องที่เคยอยู่...แบบนี้ล่ะ?”พ่อดูจะพยายามหาทางช่วยอย่างสุดความสามารถแต่แบบนี้ก็ไม่ได้
“ถ้าบอกไปแบบนั้นแล้วมีคนไปเยี่ยมความก็แตกพอดี”
“...ก็ใช่...งั้นจะทำยังไง...”
“คงต้องใหห้ยูทาร์อยู่นี่แล้วหาคนดู...”
“ผมไม่ต้องการคนอื่นนอกจากเซโคร!”ยูทาร์ตะโกนแทรกอีกครั้งนึงแล้วจ้องมาที่ผมเขม็ง
ดวงตาสีเหลืองอำพันที่สบกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมทำให้รู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมแน่ถ้าผมจะไปหาแม่โดยไม่ให้อีกฝ่ายไปด้วย ถ้าผมแอบไปยูทาร์ต้องหาทางตามผมมาแน่...ดีไม่ดีอาจว่ายน้ำตามไปก็ได้
โอ๊ย!...เอาไงดีเนี่ย?
“ยูทาร์...ขอแค่2วันได้ไหม?...ไม่เจอกันแค่2วันเอง”ผมลองต่อลองดู
“ไม่ได้...แค่2ชั่วโมงก็ไม่ให้”
“ทำไมถึงดื้อล่ะยูทาร์”ผมเริ่มหหงุดหงิดแล้วนะ...ทำไมต้องดื้อแบบนี้ด้วย
“ก็ผมอยากอยู่ข้างๆเซโครตลอดเวลา...ถ้าไม่ได้เห็นอย่างน้อยก็ขอได้กลิ่นให้รู้ว่าเซโครไม่ได้หนีไปไหนแต่ถ้าไกลมากก็คงไม่ได้กลิ่น...อยากกอดเซโครเหมือนเมื่อคืน...อยากกินข้าวด้วยกัน...อยากให้เซโครเช็ดผมให้...อยาก...ให้เซโครพาผมไปด้วย”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็น...ทั้งที่ไม่ได้เศร้าแต่ผมรู้สึกเหมือนมีน้ำใสๆคลออยู่ที่หางตา
“ยูทาร์...”
“นะครับ...ให้ผมไปด้วยนะ”น้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเป็นหมัดน๊อคที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะหันไปหาพ่อที่ยืนอยู่เงียบๆ
“พ่อพอจะออกคำสั่งให้ยูทาร์กลับเข้าไปในห้องทดลองชั้นB2ได้ไหม?”
“หื้อ?...ได้สิ...ที่นั่นลูกคุมอยู่นี่...อ้อ...เข้าใจล่ะเดี๋ยวพ่อจัดการให้...จะเข้าไปวันละ2ครั้งไม่ให้ใครผิดสังเกตเลย”ดูเหมือนพ่อจะเข้าใจแล้วว่าผมต้องการจะทำอะไร
เรื่องง่ายๆ...แค่ให้คนอื่นคิดว่ายูทาร์อยู่ในห้องทดลองที่ชั้นใต้ดินB2ก็จะไม่ใครเข้าไปยุ่งได้เพราะคนที่สามารถสแกนมือเข้าไปได้มีแค่ผมและพ่อ...อ้อ...ถ้าเรื่องกล้องวงจรปิดก็ง่ายๆแค่หาหุ่นสักคนแล้วคลุมผ้าไว้จากนั้นก็แบกไปไว้ที่ห้องใต้ดินก็ไม่มีใครสักเกตแล้ว...จำได้ว่าห้องทดลองชั้นB2พึ่งถูกถอดกล้องวงจรไปเพราะงั้นหมดห่วงว่าจะมีใครรู้ว่าที่อยู่ในนั้นเป็นแค่หุ่น
“เซโคร...”ยูทาร์เรียกชื่อผมเหมือนไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
“อยากไปกับผมไหม?”ผมหันไปถามด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน”ยูทาร์ตอบกลับมาทันที
“งั้นก็ไปด้วยกันเถอะยูทาร์”
..............................................................................
สวัสดีคะ
ก่อนอื่นขอแจ้งก่อนนะคะว่าคอมของเราเสียอยู่ที่มาอัพได้เพราะใช้แท๊บเล็ตแทนคะแต่บอกตรงๆว่าไม่ค่อนถนัดใช่แท๊บแล็ตพิมพ์ ก๊อบข้อมูล หรือทำอะไรแบบนี้เลยค่อนข้างลำบาก
ดังนั้นเราจึงขออัพเฉพาะในเว็บ Thaiboyslove จนกว่าจะได้คอมใหม่นะคะเพื่อความสะดวกของตัวเราเองคะ
ถ้าได้คอมแล้วจะไล่อัพอีกสองเว็บที่เหลือนะคะ
พักเรื่องเครียดๆไปก่อนมาเข้าเรื่องนิยายกันดีกว่า...ครึ่งหลังนี่อาจจะน้อยไปหน่อยแต่ก็ไม่รู้จะแต่งอะไรแล้วคะ
จากที่วางไว้ตอนนี้จะจบแค่ยี้ส่วนตอนหน้าเตรียมพบกับเนื้อหาที่เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ...
ทั้งการเจอกันของแม่ลูกที่ไม่ได้เจอกันมานาน
ทั้งการผจญภัยนอกเกาะครั้งแรกของยูทาร์
รวมทั้งเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกกัน?
วางเรื่องไว้หมดแล้วเหลือแค่เขียนเท่านั้นคะ
ตอนหน้าจะมาแบบยาวๆให้อ่านเต็มๆตอนเลยเพราะงั้นรอกันนานนิดนึงนะคะ...ตอนหน้าถ้ามาอัพทีละครึ่งคงจะทำให้ค้างคาได้คะ(555)
ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจและทุกๆคอมเม้นท์นะคะ
ปล.ขอบคุณทุกท่านที่อวยพรวันเกิดด้วยนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า...ในเดือนกันยายนคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
จิ้มก่อน
ยูทาร์ยังน่ารักเหมือนเดิมมม~
คุณพ่อมีการช่วยคิดวิธีแอบหนีด้วยอ่ะ 55555
-
มาแล้ว... :hao5:
-
:m31:
ห๊ะ ไป่จินจะมาแยกยูทาร์ไปเหรอ ไม่นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :angry2:
-
ไม่ทันไรก็ถูกสาวๆ เต๊าะแล้วนะคะยูทาร์~ :m3:
ว่าแต่เซโครไม่สนใจรับข้อเสนอเรื่อง 'สามี' ของยูทาร์มาไว้พิจารณาจริงๆ เร้ออ ><
-
ตลกตอนที่ยูทาร์ขอเป็นสามีเซโคร เซโครแทบจะเป็นลมเลยอ่ะ 5555
น่าย้ากกกกกกก
-
โถ่ยูทาร์ห่างจากเซโครไม่ได้เลย รีบเป็นสามีเซโครเร็วๆนะ(ห๊ะ!)
-
ไดโนเสาร์แก๊งนั้นตลกนะ :laugh:
-
เค้าจะแยกกันด้วยเหรอ ไม่น้าาาาาา :sad4:
ชอบมากมาย ยูทาร์อ้อนได้น่ารักจริง :-[
-
คุณพ่อเฟี้ยวมากกกกกกกก 555555
คราวนี้ก็ได้ออกไปเดท(?)นอกสถานที่กันล่ะ
รอตอนต่อไปเนาะ
-
ยูทาร์น่ารักอะ เสน่ห์แรงด้วย
-
อารมณ์เหมือนจะหนีตามกันแล้วมีคุณพ่อคอยให้ท้าย วางแผนตบตาคนอื่นไรงี้ 555
-
ยูท่าห์นายจะเป็นไดโนเสาร์ที่ฉลาดเกินไปแล้วนะ
รู้จักการอกหักด้วย?'
-
วั้ยยยยยยยยยยยยยย
ไดโนเสาร์น่ารักมากกก
ยูทาร์น่ารักมากเลย
-
นับวันยูทาร์นี่น่ารักขึ้นเรื่อยๆอ่ะ คิดอะไรก็พูด โง้ยย น่าร้ากกกกก :hao7: ไม่อยากให้ถึงวันที่สองคนนี้ต้องแยกจากกันเลย :hao4:
แล้วเดี๋ยวนะเดี๋ยววว คุณพ่อเสี้ยมยูทาร์แบบนั้นเพื่ออะไรคะ อยากได้ไดโนเสาร์เป็นเขยล่ะสิ :hao3:
เราชอบเรื่องนี้มากๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ :mew1:
-
ทำไมพ่อไดโนเสาน้อยยูทาร์น่ารักขนาดนี้ >< ยิ่งอ่านยิ่งรักเรื่องนี้ ไม่ค่อยได้เม้น แต่อยากบอกว่าติดตามตลอดนะ มาต่อไวๆนะ อ่านไปบิดไป น่าร้ากกกก เหลือเกิน
-
น่ารักกกก ขอเป็นสามี 555
ไดโนเสาร์มันร้ายๆ
-
อะไรคือ "เหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกกัน" น่ะ ไม่น้าาาาาาาาาาาาาา
-
ยูทาร์อ้อนได้น่ารักขนาดนี้ เซโครจะปล่ยทิ้งไว้ได้ยังไง น่ารักกกก
-
โอ้ๆๆๆ น้องหมาขี้อ้อนเริ่มแผลงฤทธิ์อีกแว้วววว อร้ายยยย ตายๆๆๆน่ารักน่าฟัดจริง!! ขอห่อกลับบ้านได้ไหมคะ :hao6:
-
ยูทาร์น่าร๊ากกกกก :-[
-
ไดโนเสาร์เองก็รู้เรื่องความรักพวกนี้ด้วยแหะ
-
กรี๊ดดดดดด ในที่สุดก็เจอเรื่องที่รอคอย
หลังจากดูหนังเรื่องนั้นมา ก็แอบจิ้นลึกๆมาตลอดเลย
ในที่สุดก็สมหวัง สนุกมากๆ ยูทาร์น่ารักมากๆๆๆๆๆ
จะรอติดตามนะ แต่ขออย่างเดียว อย่าดราม่าได้ม๊ายยยย T^T
-
รอ
-
ยูทาร์จะได้ไปฝากตัวกับแม่ยายบ้างแล้ว :-[
-
รวมทั้งเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกกัน?
โนวววววววววววววววววววววววววววว :serius2:
-
น่ารักมากมากเลย ชอบชอบ
-
แอบตะเตือนไตตรงที่บอกว่าต้องแยกกันอ่าาา แงๆๆ ร้องไห้ล่วงหน้าได้ไหมคะ(เป็นคนจิตอ่อนมาก ดราม่านี่กินแทบไม่ได้เลย)
เซโครเท่ห์มาก แอบราชินีเคะเบาๆ โคตรชอบเลยจ้า ส่วนยูทาห์ก็แบ๊วสุดๆ ขี้หึงที่หนึ่งด้วย 5555 ติดตามนักเขียนมาตั้งแต่เรื่องแรกที่ลงแล้วค่ะ เนิ้อเรื่องและคาแรคเตอร์ตรงใจเรามาก แล้วไม่ค่อยมีมาม่าด้วย อ่านแล้วสบายใจทุกเรื่องเลยค่ะ ชอบมากๆนะ เป็นกำลังใจให้จ้า
-
ง่อวววว ยูทาร์เด็กบ้า ทำไมฉลาดแถมยังน่ารักแบบนี้
ขี้อ้อนขนาดนี้แบบนี้เอาใจเราไปเต็มๆเลยดีกว่า เห็นแล้วอยากได้อยากโดน
แถมคุณพ่อก็เปิดไฟเขียวแบบนี้ สงสัยลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองแน่เลย อิอิ
-
:pighaun:
-
ยูทาร์ขี้อ้อนนนนน....น่ารักที่สุดอ่ะ
-
กลายรักครั้งที่❧11
การเดินทางไปหาคุณแม่ใช้เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวพาบินตรงไปยังเกาะที่อยู่ห่างจากเกาะลับที่เซโครอยู่ประมาณชั่วโมงครึ่งถือว่าใช้เวลาเดินทางพอสมควร ทั้งผมและยูทาร์ต่างก็เตรียมกระเป๋าของตัวเองที่พกของใช้ที่จำเป็นสำหรับเข้าป่าทั้งเชือก มีดหรือพวกอาหารกระป๋องถึงแม้กระเป๋าของยูทาร์ผมจะเป็นคนจัดเองก็เถอะ
ถือว่าเป็นโชคดีที่คนขับแฮลิคอปเตอร์เป็นพี่ครูชที่มาทำหน้าที่แทนชั่วคราวเลยพอคุยกันได้...การที่พายูทาร์ออกมาถึงจะเป็นแผนการที่รัดกุมขนาดไหนผมว่ายังไงก็ต้องมีคนรู้ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง...
ขากลับคงต้องเตรียมใจยอมรับโทษสินะ
“...สีฟ้า”ยูทาร์พึมพำออกมาโดยที่สายตามองผ่านกระจกลงไปยังผืนน้ำด้านล่าง
“นั่นคือทะเล”
“ที่เซโครบอกว่าน้ำเค็มมาก”
“ใช่...เค็มมากเพราะงั้นห้ามดื่มเข้าไปนะ”ผมบอกห้ามยูทาร์...การออกมาจากเกาะก็คงเหมือนให้ยูทาร์ได้เห็นโลกใบใหม่ที่แตกต่างจากเดิม
“ใกล้ถึงแล้วนะ”เสียงพี่ครูชดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองที่ด้านนอกหน้าต่าง...เกาะขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้สีเขียวขจีปกคลุมทั่วทั้งเกาะจนแทบมองไม่เห็นส่วนที่เป็นพื้นดินเลย พี่ครูชบินวนทั่วทั้งเกาะทำให้ผมได้เห็นภาพรวมของเกาะที่มีภูเขาหลายลูกตั้งอยู่ติดๆกันและมีแม่น้ำหลักที่ไหลลงมากจากยอดเขาก่อนจะแตกย่อยเป็นแม่น้ำ3สายแยกกันไป
เท่าที่เห็นระบบนิเวศของที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์คงจะเป็นเกาะที่ยังไม่ถูกค้นพบ...ที่ไหนมีมนุษย์ส่วนมากระบบนิเวศที่มีก็จะเสียหายเพราะความมักง่ายของมนุษย์ที่อยากทำอะไรก็ทำจนพืชหลายสายพันธุ์ต้องสูญพันธุ์ไปอย่างน่าเสียดาย
เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆลงจอดบริเวณพื้นทรายเลียบชายหาด...ถือเป็นเรื่องดีที่ไม่มีการทำที่จอดเฮลิคอปเตอร์หรือท่าเรือที่เกาะนี้ไม่งั้นระบบนิเวศคงต้องเสียไปอีก
“ขอบคุณมากครับพี่ครูช”ผมบอกพี่ที่นั่งอยู่ด้านหน้าแล้วลงมาข้างล่าง
“...ขอบคุณครับ”ยูทาร์เองก็ขอบคุณตามที่ผมทำก่อนจะตามลงมา
“อีก3วันพี่จะมารับกลับที่นี่นะ...ห้ามลืมนะ”พี่ครูชตะโกนตามาก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งนึง
หาดทรายสีทองท้องทะเลสีคราม...บรรยากาศแสนสงบที่คงหาไม่ได้อีกแล้วในเขตที่อยู่อาศัย...ผมหันไปมองยูทาร์ที่ยืนหลับตารับลมร้อนจากไอทะเลด้วยรอยยิ้ม
การที่พายูทาร์มาอาจเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วก็ได้
“เซโคร”อยู่ๆยูทาร์ก็ลืมตาขึ้นแล้วหันมาเรียกผม
“หื้อ?”
“มีมนุษย์กำลังมาทางนี้...หลายสิบคนด้วย”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมคิดว่ากลุ่มคนเหล่านั้นคงจะเป็นแม่กับเหล่านักสำรวจแน่ๆ
“ไม่เป็นไร...คงจะเป็นแม่ผมน่ะ”ผมบอกยูทาร์ออกไปแล้วมองไปยังทิศที่ดวงตาสีเหลืองอำพันของยูทาร์จ้องไป...ถึงตรงนี้จะร้อนแต่ด้านในที่เป็นป่าทึบคงจะมีอุณภูมิค่อนข้างต่ำ...ความจริงพืชที่ควรอยู่ติดชายหาดน่าจะเป็นพวกต้นมะพร้าวแต่ผมไม่เห็นเลยสักต้นเดียว ถัดไปด้านในก็เป็นต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นสูงเรียงรายกันจนมองแทบไม่เห็นด้านใน
“แม่ของเซโคร...ก็เป็นแม่ของผมด้วยใช่ไหม?”
“คิก...นั่นสิ...คงใช่”ผมหลุดขำออกมาก่อนจะยกมือขึ้นรวบเส้นผมที่หลุดออกมาจากยางที่รัดไว้ไปทัดที่หูอีกฝ่าย
“เซโคร!!”เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังลั่นพร้อมกับกลุ่มคนประมาณ20กว่าคนที่ถยอยเดินออกมาจากเขตป่าทึบ...หญิงสาวร่างบางหนึ่งเดียวของกลุ่มวิ่งเข้ามาหาก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดแล้วจูบเบาๆที่แก้มทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกซอยสั้นกว่าแต่ก่อนทำให้ดูแปลกตาแต่ยังไงผมก็จำได้ว่าคนตรงหน้านี้คือใคร...
“แม่ครับ”ผมเรียกแล้วกอดตอบหญิงสาวตรงหน้า...แม่ผมเป็นคนตัวเล็กแต่สูงพอสมควรทำให้หลายคนมองว่าอ่อนแอแต่ด้วยความที่ต้องไปสำรวจที่นั่นที่นี่บ่อยๆเลยทำให้แม่เป็นผู้หญิงสายลุยเรียกได้ว่าถ้าให้แข่งเดินมาราธอนหรือวิ่งมาราธอนแม่ผมสามารถชนะผู้ชายร่างใหญ่ได้อย่างสบายๆ
“เซโคร...เป็นไงบ้างลูก?...โตขึ้นเยอะเลย...แม่ขอโทษที่ไม่ได้ไปงานรับปริญานะ”แม่บอกผมด้วยรอยยิ้มเศร้าพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาสีฟ้าสดคู่สวย
“ไม่เป็นไรครับแม่...อย่าร้องไห้สิเดี๋ยวหมดสวยนะ”ผมบอกไปแล้วส่งยิ้มไปให้...การที่ไม่มีใครไปงานพบผู้ปกครองหรืองานรับปริญาผมชินกับมันแล้วล่ะ...ไม่เคยนึกโกรธหรืองอนเลยสักครั้งที่พ่อแม่ไม่มาร่วมงาน
“ลูกพูดเหมือนพ่อเลย...แล้วนี่ใครเอ่ย?”แม่ยิ้มพรางมองไปยังด้านข้างผม
“ผมชื่อยูทาร์ครับ...ยินดีที่ได้รู้จักครับแม่”ยูทาร์แนะนำตัว
“อุ้ย...เรียกแม่ด้วย...ยินดีที่ได้รู้จักจ้าฉันชื่อวาลีชนะเป็นแม่ของเซโคร...ลูกชายแม่คงรบกวนหลายอย่างยังไงก็ขอฝากเซโครด้วยนะ”ดูเหมือนแม่จะถูกใจยูทาร์นะถึงได้ยิ้มขนาดนั้น
“ผมต่างหากที่รบกวนเซโครบ่อยๆ”
“แหมลูกชายอีกคนนี่น่ารักจริง...มาให้แม่กอดหน่อยมา”แม่เข้าไปสวมกอดยูทาร์แล้วหอมแก้มซ้ายขวาจนยูทาร์สะดุ้งอย่างตกใจ ดวงตาสีเหลืองอำพันหันมาขอความช่วยเหลือแกมขอร้อง
“พอแล้วแม่...ยูทาร์เขาไม่ชินการทักทายแบบนี้หรอกนะ”ผมบอกแล้วแยกแม่กับยูทาร์ให้ออกจากกัน
“ขอโทษทีพอดีลืมตัวไปหน่อย...ขอแนะนำเพื่อนแม่นะ...คนนี้เป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนคนสนิทที่ไปสำรวจด้วยกันบ่อยๆ”แม่บอกพร้อมชี้ไปที่ผู้หญิงวัยกลางคนที่มีร่างกายบึกบึนเหมือนทหาร
“ชาลีคะ...ได้ยินเรื่องลูกชายของวาลีชมานานแล้วยินดีที่ได้รู้จัก”เธอทักทายแล้วยื่นมือมาตรงหน้าผม
“เซโครครับ...ยินดีเช่นกัน”ผมตอบพร้อมกับยื่นมือไปจับ...หลังจากนั้นแม่ก็แนะนำอีกหลายคนให้รู้จักก่อนที่จะพากันเข้าไปในป่าอีกครั้งนึง
ดูจากท่าทางของแม่คงจะยังไม่รู้ว่ายูทาร์เป็นอะไรเพราะงั้นก็ขอไม่บอกละกันเนอะ
จากภายนอกดูเหมือนจะเป็นป่าทึบและพอเข้ามาเดินจริงๆแล้วเป็นป่าชื้นที่มีความชื้นอยู่มากทำให้มีพืชตะกูลเฟินและมอสขึ้นอยู่มาก...คณะสำรวจพาลัดไปจนถึงต้นน้ำสายหนึ่งก่อนที่เราจะทำการตั้งแคมป์กันบริเวณนี้
“เซโคร...มานี่หน่อย”ผมเดินไปหาแม่ตามเสียงเรียกโดยที่มียูทาร์ตามหลังมาติดๆ
“ครับ”
“ลูกคิดว่านี่คือต้นอะไรล่ะ?”แม่ถามพร้อมกับนั่งยองๆตรงบริเวณโขดหินริมแม่น้ำแล้วชี้ไปยังต้นไม้เล็กๆที่ขึ้นอยู่ด้านข้าง
เซโครนั่งลงแล้วมองสังเกตลักษณะของต้นไม้ขนาดเล็ก...ลักษณะคล้ายคลึงกับเฟินแต่แตกต่างจากที่เคยเห็นมา นั่นทำให้ผมขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดเพราะไม่รู้ว่าเป็นเฟินสายพันธุ์ไหนกันแน่...
“ผมไม่แน่ใจ...อาจเป็นเฟินเมล็ดในสกุลpteridospermsก็ได้...ผมเคยเห็นผ่านในภาพวาดเท่านั้น...เป็นเฟินที่อยู่ในยุคมิสซิสซิปเปียนเมื่อประมาณ340ล้านปีก่อน...น่าจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับไดโนเสาร์แล้ว”ผมเอ่ยออกมาแล้วพยายามก้มลงสำรวจอีกครั้ง...ด้วยขนาดที่เล็กทำให้ลำบากในการตรวจสอบ
พืชสมัยก่อนในยุคไดโนเสาร์เป็นพวกพืชที่อยู่ในตระกูล เฟิร์น สน ปรงเป็นส่วนมากที่ขยายพันธุ์โดยสปอร์ พืชเหล่านี้หลายชนิดได้วิวัฒนาการจนมีขนาดใหญ่มหึมา ลำต้นสูงตรง ไม่มีกิ่ง ยกเว้นตรงส่วนปลายยอดเท่านั้น
“ลูกคิดเหมือนแม่เลย...แต่ลักษณะของเฟินเมล็ดจากฟอสซิสที่เคยเห็นมีข้อแตกต่างกันอยู่หน่อย...แม่เลยคิดว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่จากเฟินเมล็ดน่ะ...ลูกคิดว่ายังไง?”แม่ถามความเห็นผม
“มีความเป็นไปได้สูงเพราะการขยายพันธุ์โดยสปอร์ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ได้...มีความเป็นไปได้ว่าสปอร์จากเฟินเมล็ดจะเข้าไปอยู่ในเกสรของดอกไม้อื่นแล้วทำการผสมข้ามสายพันธุ์”ผมบอกออกไปตามที่นึกออก...เรื่องทางชีวะผมไม่ค่อยเชี่ยวชาญนักเลยพูดเท่าที่รู้
“อืม...แปลว่านี่เป็นเฟินสายพันธุ์ใหม่อย่างที่คิดสินะ”
“จริงด้วย...ถ้าไม่เคยมีใครพบงั้นแม่ก็เป็นผู้ค้นพบน่ะสิ”ผมพูดขึ้นด้วยความดีใจ
“ใช่จ้า...แม่กำลังคิดชื่ออยู่เลย”แม่หันมาบอกอย่างอารมณ์ดี
“เอาเพราะๆนะแม่”
“แน่นอน...ไม่ใช่พ่อนะที่ตั้งชื่อแปลกๆน่ะ”แม่หันมาย้อนผม
หลังจากนั้นแม่ก็พาผมไปสำรวจอีกหลายที่บริเวณรอบๆโดยที่มียูทาร์ตามไปด้วย...ถึงจะตามมาแต่ยูทาร์ก็อยู่เงียบๆไม่ขัดการสนทนาแต่พอมีอะไรสงสัยก็จะเอ่ยถาม พอกลับไปยูทาร์คงมีความรู้ใหม่เพียบแน่...ก่อนกลับไปแคมป์พวกเราได้ไปดูต้นปรงสายพันธุ์เก่าแก่ที่คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว ตรงปรงเป็นต้นไม้ที่แบ่งย่อยได้หลายชนิดและมีมากในปัจจุบันแต่ต้นปรงในอดีตจะสูงกว่าที่จะมีใบแค่ตรงส่วนยอดของต้นเท่านั้น
ช่วงดึกในขณะที่คนอื่นหลับกันหมดมีเพียงผมที่ยังตาค้างแล้วตัวสั่นอยู่ในความมืดด้วยความที่เป็นเต้นท์รวมทำให้ไม่สามารถเรื่องมากบอกให้เปิดไฟนอนได้...ผมเลยได้แต่พลิกไปพลิกอยู่ในถุงนอนส่วนยูทาร์ก็ถูกแม่ลากให้ไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนปล่อยให้ผมนอนตัวสั่นอยู่คนเดียว
“เซโคร...”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยกระซิบเรียกเบาพร้อมกับมือที่สัมผัสเส้นผมสีบลอนด์ทองอย่างเบามือ
“ยูทาร์”ผมปรือตามองในความมือพร้อมกับพลิกตัวไปหาอีกฝ่าย
“กลับมาแล้ว”ยูทาร์บอกแล้วนอนลงข้างๆผม
“มาช้า...ผมกลัวนะ”ผมบ่นอีกฝ่ายเบาๆ...เรื่องที่ผมกลัวความมืดพ่อรู้แต่แม่ไม่รู้...ผมเป็นคนบอกพ่อเองว่าห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครรู้แม้แต่กับแม่ก็ตาม...ก็แม่เป็นคนที่ขี้กังวลและขี้เป็นห่วงมากถ้ารู้ว่าผมกลัวต้องเลิกทำงานที่ตัวเองรักแล้วมาเฝ้าผมแน่
“ขอโทษ...ผมอยู่ตรงนี้”ยูทาร์พูดพร้อมกับดึงตัวผมเข้าไปกอดทั้งถุงนอน
“ไม่หนาวเหรอ?”ผมถามเมื่อไม่เห็นยูทาร์นอนในถุงนอน
“กอดเซโครก็อุ่นแล้ว”ยูทาร์กระซิบเบาก่อนที่ผมจะสัมผัสถึงอะไรบางอย่างที่ประทับลงบนหน้าผากผมเบาๆแล้วผละออกไป
“ยูทาร์...”
“พ่อบอกว่าถ้าทำแบบนี้ยูทาร์จะฝันดี”
“อืม...ขอบคุณที่มาด้วยกันนะ”ผมบอกอีกฝ่ายแล้วซุกตัวลงที่หน้าอกของยูทาร์ก่อนจะหลับตาลงแล้วปล่อยสติให้หายไปในความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากคนที่กอดอยู่...เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบเบาๆก่อนจะจูบลงที่หน้าผมอีกครั้ง
น่าแปลกที่ผมได้ยินคำที่อีกฝ่ายพูดอย่างชัดเจนทั้งที่ตัวเองน่าจะหลับสนิทไปแล้ว...
“ผมจะอยู่กับเซโครในทุกๆที่”
ยามค่ำคืนที่ท้องฟ้ายามราตรีถูกย้อมเป็นสีดำ บรรยากาศอันเงียบเชียบทำให้เหล่าคนที่นอนอยู่ในเต้นท์หลับสนิทอย่างลืมระวังตัวแต่ไม่ใช่กับยูทาร์...เพียงแค่มีเสียงอะไรบางอย่างที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ดวงตาสีเหลืองอำพันก็เบิกกว้างขึ้นท่ามกลางความมืดมิดก่อนจะก้มมองคนที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองอย่างหวงแหน
“เซโคร...”
เสียงเรียกชื่อทำให้คนที่นอนหลับสนิทอยู่ค่อยๆปรือตาขึ้นช้าๆก่อนจะเจอกับดวงตาคู่สวยที่จ้องมาในระยะปะชิด...นั่นทำให้เซโครเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ
“ยูทาร์?”อยากจะถามเหลือเกินว่ามีอะไรถึงได้ปลุกผมขึ้นมาดึกๆแบบนี้
“มีอะไรบางอย่างกำลังมา”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมเด้งตัวขึ้นนั่งอย่างลืมไปเลยว่าตัวเองกลัวความมืด
“อะไร?”
“ไม่รู้...แต่เสียงมาจากน้ำแถมยังไม่ใช่น้อยๆเลยด้วย”
“น้ำ?...มาจากแม่น้ำเหรอ?...พวกปลารึเปล่า?”ผมถามอีกฝ่ายกลับ...ถ้าเสียงมาจากทางน้ำก็มีไม่กี่อย่างหรอก
“ไม่ใช่...ใหญ่กว่านั้น”
“งู?”ผมลองบอกต่อ...แต่ถ้าเป็นงูก็ไม่น่าจะมาทีหลายตัวนี่
“ไม่เหมือนไททันโอโบอาที่เคยเจอ”ยูทาร์ส่ายหัวพร้อมกับบอกออหมา ท่าทางของยูทาร์เหมือนกำลังระวังทุกอย่างที่เข้ามาใกล้ในรัศมี
“งูธรรมดาไม่ใหญ่ขนาดนั้นหรอก”
“ไม่...ยาวพอๆกัน”
“...”ผมถึงกับอึ้งกับสิ่งที่ยูทาร์บอก...
ยาวพอกับไททันโอโบอา!!
งูยักษ์ที่ยาวถึง15เมตรเนี่ยนะ?!
จะมีสัตว์ในแม่น้ำที่ไหนใหญ่เท่านั้นได้!
ไม่มีทางเป็นไปได้!
เดี๋ยวนะ...เมื่อกี๊ยูทาร์บอกว่า ‘ยาว’
ยาวพอๆกัน...ไม่ได้บอกว่าใหญ่พอๆกัน...
“ยูทาร์แล้วขนาดล่ะ?...ใหญ่กว่าไททันโอโบอาอีกเหรอ?”ผมถามด้วยน้ำเสียงตึงเครียด เรื่องนี้มันชักบ้าไปใหญ่แล้ว
“...อืม...ถ้าตัวที่ใหญ่สุดก็ใหญ่กว่าหลายเท่าเลย”
“บ้าน่า...มันเป็นอะไรกันแน่...ไม่สิตอนนี้ต้องรีบบอกทุกคนให้หนีก่อน”ผมพูดอย่างร้อนรนแล้วขยับเข้าไปปลุกแม่ที่นอนอยู่ฝั่งตรงข้ามแรงๆ
“แม่...แม่ครับ”
“อะไรเซโคร...ถ้าอยากเข้าห้องน้ำให้ยูทาร์พาไปนะ”แม่ปรือตาขึ้นมาแล้วบอกเสียงเบา
“ไม่ใช่แม่...มีอะไรบางอย่างกำลังมา”ผมตะโกนขึ้นเสียงดังจนคนอื่นๆเริ่มตื่น
“อะไรบางอย่าง?...อะไรล่ะ?...ปลาเหรอ?”แม่พูดติดตลกแต่ตอนนี้ผมไม่ขำด้วยหรอกนะ
“ไม่ใช่ปลา...รีบหนีเดี๋ยวนี้เลยเร็วเข้า!”ผมตะโกนบอกอีกครั้งนึง
“ใจเย็นก่อนเซโครแม่ยังไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย”แม่ดึงแขนผมแล้วเขย่าเบาๆเพื่อเตือนสติ
“ผมก็ไม่รู้แต่มันตัวใหญ่กว่าไททันโอโบอาอีกแถมยังมากันหลายตัว...”
“หลายสิบตัว”ยูทาร์พูดแก้ให้
“นั่นแหละๆ...เพราะงั้นรีบหนีเถอะ”ผมรีบบอกออกไปอย่างร้อนรน
“ไททันโอโบอา?...ใหญ่กว่า?...พูดเรื่องอะไรน่ะ?...งูยักษ์นั่นยาวตั้ง15เมตรแถมนั่นเป็นไดโนเสาร์ที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมา...จะบอกว่ามีไดโนเสาร์อยู่ที่นี่งั้นเหรอ?”คำพูดของแม่ทำให้ผมชะงักก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก
ความยาวประมาณ15เมตร
ตัวใหญ่กว่าไททันโอโบอา
อาศัยอยู่ในแม่น้ำ
“บ้าน่า...เป็นไปไม่ได้....มันยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้งั้นเหรอ?”ในหัวผมตอนนี้ชักปั่นป่วนไปหมดแล้ว...ถ้าสิ่งที่คิดเป็นจริงพวกเราจะไม่มีใครรอดกลับไป
“เซโคร...เป็นอะไร?”ยูทาร์จับที่ไหล่ผมแล้วถามขึ้นอย่างเป็นห่วง ตอนนี้หน้าผมคงซีดเหมือนกระดาษแล้วล่ะ
“ลูกคิดอะไรอยู่เซโคร?”แม่ถามผมด้วยอีกคน...เหล่าคณะสำรวจที่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงผมจุดตะเกียงแล้วเข้ามาล้อมตัวผมไว้เหมือนกำลังสนใจสิ่งที่ผมกำลังจะพูด
“...ไดโนซูซุส...”ผมพึมพำชื่อหนึ่งออกไปแล้วภวนาอย่าให้มันเป็นอย่างที่ตัวเองคิดเลย
“อะไร?...นั่นชื่อไดโนเสาร์เหรอ?”แม่ที่ฟังอยู่ถามต่อทันที
“ครับ...จะว่าเป็นไดโนเสาร์ก็ไม่ถูกซะทีเดียวเพราะนักวิทยาศาสตร์จัดให้มันเป็นเพียงสัตว์ดึกดำบรรพ์เมื่อ70ล้านปีก่อนเท่านั้น...ไดโนซูซุสเป็นจระเข้ยักษ์ดึกดำบรรพ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าจระเข้ในปัจจุบันจนเทียบไม่ได้...ความยาวที่สามารถยาวได้ถึง15เมตรและน้ำหนักกว่า10ตัน...เป็นจระเข้ที่สามารถกินไดโนเสาร์ด้วยกันได้อย่างง่ายดาย...จากที่ยูทาร์บอกผมคงคิดได้แค่ว่าพวกมันยังไม่สูญพันธุ์แต่อยู่ที่นี่ บนเกาะแห่งนี้มาตลอดหลายสิบล้านปี”พอผมพูดจบสีหน้าของทุกคนก็ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด...บางคนถึงขนาดน้ำตาไหลเลยก็มี
“ลูกแน่ใจได้ยัง?...เรายังไม่มีหลักฐาน...”
“ใกล้เข้ามาแล้วเซโคร...กำลังจะมาถึงแล้ว”ยูทาร์สะกิดผมพร้อมกับหันหน้าไปด้านหน้า...จมูกที่ขยับไปมาราวกับกำลังดมกลิ่นอยู่
“อะไรกำลังมา?”คุณชาลีที่อยู่ด้านข้างถามขึ้นอย่างร้อนรนไม่แพ้กัน
“ไดโนซูซุสน่ะสิ...รีบออกไปข้างนอกเร็ว!”ผมตะโกนขึ้นพร้อมกับกับกลุ่มคนที่วิ่งกันออกจากเต็นท์
ผมแม่และยูทาร์ก็ออกมาพร้อมกับกันก่อนที่จะวิ่งไปปลุกคนที่อยู่เต็นท์ด้านข้าง...ถึงท้องฟ้าจะเป็นสีดำสนิทแต่ดวงจันทร์กลับส่องสว่างจนสามารถมองเห็นทุกสิ่งรอบกายได้
“ขึ้นไปแล้ววิ่งเลย”ผมตะโกนบอกทุกคนแล้วขึ้นไปอยู่บนทางชันข้างแม่น้ำ...มีคนอีกหลายคนที่ยังมึนงงแล้วยังไม่ได้หนีมา...ผมเลยต้องรอพวกเขาไปให้หมดก่อนค่อยปิดท้าย
“ทางนี้เร็วๆ”แม่ตะโกนบอกลูกน้องแล้วดันหลังให้วิ่งเข้าไปในป่า
“พวกเธอรู้ได้ยังไง?”คุณชาลีตะโกนถามขึ้นมา
“ยูทาร์สามารถได้ยินเสียงของพวกมันได้!”ผมตะโกนตอบกลับไป
“ฉันไม่เห็นได้ยินอะไรเลย”
“ยูทาร์พิเศษกว่าคุณเพราะงั้นขอให้เชื่อเถอะ”
“พิเศษ?...”
“เซโครมาแล้ว”ยูทาร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังกระซิบบอก ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องไปยังปลายน้ำที่เริ่มสั่นไหวเหมือนกับมีอะไรกำลังเคลื่อนที่มา
“กรี๊ดดด...”เสียงกรีดร้องดังลั่นจากเต็นท์ที่อยู่ทางปลายน้ำก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนอะไรสักอย่างหักครึ่ง....ไม่จริงน่าอย่าบอกนะว่า...
พวกมันกำลังล่ามนุษย์น่ะ!
“ช่วยด้วยยย!!”เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมๆกับภาพของฝูงจระเข้ยักษ์หรือไดโนซูซุสที่ทำลายเต็นท์พร้อมกับกินมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่...ผมมองภาพนั้นแล้วกัดริมฝีปากตัวเองแน่น...ถ้าผมรู้สึกตัวเร็วกว่านี้ก็คงจะหนีทันกันหมดแล้ว
ไดโนซูซุสกว่า20ตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว ด้วยฟันที่มีมากถึง100ซี่มากกว่าไดโนเสาร์กินเนื้อที่ยืนสองขากว่า20ซี่และแน่นอนว่ามากกว่ายูทาร์ด้วย
“โอ๊ย...”เสียงสะดุดล้มของชายหนุ่มคนนึงทำให้เหล่าไดโนซูซุสหันควับมามองเป็นตาเดียว...
ผมไม่รู้ว่าอะไรดนใจให้ทำแบบนี้แต่ผมวิ่งเข้าไปช่วยชายคนนั้นท่ามกลางเรียกกรีดร้องของแม่ที่ตามหลังมาแต่ถึงจะได้ยินแต่ผมก็ไม่สามารถหยุดขาตัวเองได้จริงๆ...
ใครจะยอมให้คนตายไปมากกว่านี้เล่า!
“ไหวไหม...รีบลุกเร็วเข้า”ผมเข้าไปพยุงตัวอีกฝ่ายแล้วดังหลังให้รีบวิ่งไปเร็วๆในจังหวะเดียวกับที่ไดโนซูซุสกระโจนเข้าใส่อย่างเต็มแรง...ถือว่าเป็นโชคดีที่ผมไม่โดนกินแต่พอจะวิ่งกลับไปก็ถูกฝูงของไดโนซูซุสล้อมไว้แล้ว
“เซโคร!!!”เสียงแม่จะโกนเรียกอย่างร้อนรนและพยายามวิ่งเข้ามาหาผมแต่ถูกคุณชาลีห้ามไว้...ดีแล้วล่ะห้ามเข้ามาใกล้เด็ดขาดเลย
ผมยังไม่คิดจะตายที่นี่หรอก...
คงไม่ลืมใช่ไหมว่าผมมากับใคร...
ราชาของเหล่าไดโนเสาร์ในยุคนี้เลยนะ!
“เซโคร...กรร!!...”เสียงทุ้มที่ตะโกนเรียกผมก่อนร่างมนุษย์นั้นจะกลายเป็นไดโนเสาร์อย่างรวดเร็ว...สองขาของยูทาร์วิ่งตรงเข้ามาหาผมพร้อมกับกัดเหล่าไดโนซูซุสที่ขวางทางพร้อมกับเหวี่ยงทิ้งไป
“ยูทาร์”ผมรีบวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที...
กรรรร!!!
เสียงขู่คำรามที่ดังกึกก้องทำให้ฝูงไดโนซูซุสชะงักแล้วถอยหลังออกไปอย่างช้าๆราวกับกำลังกลัวยูทาร์อยู่...แต่ถึงจะมีบางตัวที่ถอยหนีแต่ก็ยังมีตัวที่กระโจนเข้าใส่ยูทาร์...แรงกระโจนของไดโนซูซุสว่ากันว่ามีความยาวเท่ากับขนาดตัวของมันเลยทำให้การกระโจนเพียงครั้งเดียวก็เข้ามาถึงตัวยูทาร์ได้อย่างง่ายดาย
กรรร!!
ตึง!
ยูทาร์ที่ดูเหมือนจะอ่านออกเลยก้มหัวลงแล้วโหม่งเข้าไปที่ท้องจนไดโนซูสตัวนั้นกระเด็ดไปไกล...การต่อสู้ดูจะไม่จบสิ้นเพราะจำนวนของอีกฝ่ายมีมากกว่าหลายเท่า...
“ยูทาร์...ใช้หาง...ปัดพวกมันออกไปเลย!!”ผมตะโกนบอกยูทาร์
กรรร!!
ยูทาร์คำรามพร้อมกับสะบัดหางวนไปทั่วเหล่าไดโนซูซุสกระเด็ดออกไปเป็นแถบ...ระหว่างที่ยูทาร์สู้ผมก็มองไปรอบเพื่อหาจ่าฝูงของมันตอนแรกยังเห็นอยู่เลยตอนนี้ไปอยู่ไหนแล้วล่ะ?
ถ้าจัดการจ่าฝูงได้ทุกอย่างก็จบ
“อ๊ะ...เจอแล้ว”ผมพึพำเมื่อสายตาสังเกตเห็นเงาขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่อยู่ตรงเต้นท์
“ยูทาร์”
กรรร!!
ดูเหมือนยูทาร์จะเข้าใจโดยที่ผมไม่ต้องบอก...ปากขนาดใหญ่ของยูทาร์อ้าออกกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ราวกับจะแสดงออกว่าขอท้าจ่าฝูงของไดโนซูซุสสู้...และดูเหมือนฝ่ายที่ถูกท้าจะเป็นพวกไม่ยอมใครเพราะร่างขนาดใหญ่ของมันค่อยๆเดินมาประชันหน้ากับยูทาร์
“ยูทาร์...ห้ามประมาทนะ...ดูยังไงเราก็เสียเปรียบอย่างน้อยก็ต้องกัดให้โดนสักครั้งพิษของยูทาร์จะทำให้มันเคลื่อนไหวไม่ได้”ผมรีบบอกยูทาร์แล้วยกมือขึ้นลูบบริเวณขาที่อยู่ด้านข้างของตนเองเป็นการให้กำลังใจ
กรรร!!
กรรร!!
เสียงขู่คำรามของไดโนเสาร์สองตัวดังก้องป่าจนเหล่านกที่อาศัยอยู่รอบต่างก็บินหนีทั้งที่เป็นตอนกลางคืน...มันคงเป็นฉากที่น่าตื่นเต้นที่สุดถ้าภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือหนังเรื่องหนึ่งที่ไม่ต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงจริงแบบนี้
ทั้งคู่จ้องตากันราวกับจะรอจังหวะในการเริ่มต้นการต่อสู้...เหล่าฝูงไดโนซูซุสถอยห่างจากยูทาร์และจ่าฝูงของมันเหมือนจะคอยดูการต่อสู้ที่สูสีตรงหน้า
ในความคิดผมการต่อสู้นี้ไม่ได้สูสีเลยสักนิดดูยังไงไดโนซูซุสก็ได้เปรียบกว่าเห็นๆทั้งจำนวนฟันที่มีมากกว่า ทั้งแรงกระโจนที่รุนแรงและยังมีน้ำหนักที่มากกว่ายูทาร์อยู่หลายตัน...สิ่งเดียวที่ยูทาร์ได้เปรียบคือเขี้ยวพิษจากไซนอร์นิโตซอรัส...
ถ้าสามารถกัดเข้าไปในเนื้อของอีกฝ่ายได้ละก็นะ...หนังจระเข้ปกติก็หนาจะแย่ไม่ต้องถามเลยว่าหนังของไดโนซูซุสจะหนากว่ามากแค่ไหน
“พยายามเข้ายูทาร์”ผมพึมพำเสียงเบาเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสมาธิของยูทาร์ที่จ้องตากับจ่าฝูงไดโนซูซุสอยู่
(มีต่อ)
-
(ต่อคะ)
กรรร!!
สุดท้ายฝ่ายที่ทนไม่ไหวก็คือจ่าฝูงไดโนซูซุส...ด้วยแรงกระโจนที่มหาศาลและขากรรไกรที่อ้ากว้างทำให้สามารถจู่โจมยูทาร์ได้อย่างรวดเร็วแต่ฝ่ายยูทาร์เหมือนจะดูทางออกเลยหลบการโจมตีได้อย่างเฉียดฉิว ยูทาร์ไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้พักนานรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความเร็วพร้อมกับอ้าปากขนาดใหญ่ออกหมายจะกัดเข้าที่ส่วนคอในจังหวะเดียวกับที่ไดโนซูซุสใช้หางสะบัดโจมตีจนยูทาร์เสียหลักล้มลงกับพื้น...
เมื่อได้โอกาสไดโนซูซุสเลยรีบวิ่งเข้าไปจัดการยูทาร์ที่ล้มลงไป...ขากรรไกรขนาดใหญ่อ้าออกก่อนจะกัดเข้าที่หลังของยูทาร์เต็มแรง
กรรรร!!
เสียงครวนครางอย่างโหยหวนดังขึ้นจนผมอยากจะเข้าไปร่วมต่อสู้ด้วยแต่ก็รู้ตัวว่าถึงเข้าไปก็เป็นได้แค่เหยื่อเท่านั้น...ตอนนี้ผมต้องฝากความหวังไว้ที่ยูทาร์
“ยูทาร์....พยายามเข้า!...นายทำได้!!”ผมตะโกนบอกยูทาร์เสียงดัง
กรร!!
เมื่อได้ยินเสียงผมยูทาร์ก็เริ่มฮึดแล้วพลิกตัวกลับจนไดโนซูซุสพลิกไปอยู่ด้านล่างแทน...ยูทาร์ที่หลุดออกมาจากเขี้ยวของอีกฝ่ายก็รีบอาศัยจังหวะชุลมุนอ้าปากที่มีเขี้ยวกว่า80ซี่กัดเข้าไปที่คอของไดโนซูซุสที่นอนแผ่อยู่ด้านล่างจนครางเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวด
กรรร!!
ยังไม่จบเพียงแค่นั้นยูทาร์ที่กัดคอของอีกฝ่ายอยู่ก็พยายามยกไดโนซูซุสที่มีน้ำหนักมากกว่าตนเองขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่แม่น้ำอย่างแรงจนเกิดเสียงดังลั่นก่อนที่ฝูงไดโนซูซุสจะถอยห่างออกไปมากกกว่าเดิม...
กรรร!!
เสียงคำรามปิดท้ายทำให้ฝูงไดโนซูซุสกระจัดกระจายกันไปหมด ยูทาร์ชูส่วนหัวขึ้นก่อนจะคำรามเสียงดังราวกับจะประกาศชัยชนะครั้งนี้แล้วเดินมาหาผมที่ยืนอยู่ไม่ไกล...ส่วนหัวขนาดใหญ่ค่อยๆก้มลงมาจนดวงตาสีเหลืองอำพันสบเข้ากับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมราวกับจะขอคำชม
“ทำได้ดีมาก...ยูทาร์เก่งที่สุด...สุดยอดเลยยูทาร์”ผมชมพร้อมกับโผลเข้ากอดที่ปากขนาดใหญ่ของไดโนเสาร์ตรงหน้าด้วยความดีใจ
งื๊ดดดด
เสียงครางสูงดังขึ้นก่อนที่ร่างกายของยูทาร์จะกลับมาเป็นมนุษย์ตามเดิม
“ยูทาร์”ผมวิ่งเข้าไปรับร่างของยูทาร์ที่เซล้มไปได้อย่างปลอดภัย...เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบริเวณหลังที่ถูกกัดแต่จากที่มองไม่ได้ลึกมากเท่าไหร่
“เซโคร...ยูทาร์”เสียงของแม่ดังขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดเราทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง...ดวงตาสีฟ้าสดของแม่มีน้ำสีใสไหลลงมาอย่างไม่ขาดสายแล้วสำรวจผมไปทั่วทั้งตัว
“ไม่เป็นไรครับ...เรารีบย้ายที่กันเถอะ”
หลังจากนั้นยูทาร์ก็ได้รับการทำแผลอย่างดีพร้อมกับคำขอบคุณจากคนทั้งคณะ...เรื่องของยูทาร์ผมได้อธิบายให้ทุกคนฟังอย่างไม่ปิดบังในตอนแรกมีหลายคนที่กลัวและไม่กล้าเข้าใกล้แต่ด้วยการเดินทางตลอด3วันที่ต้องเจอเรื่องต่างๆแล้วยูทาร์เข้าไปช่วยเหลือทำให้คนมองยูทาร์เปลี่ยนไป...ถึงจะรู้สึกสนุกที่ได้อยู่ที่นี่แค่สุดท้ายก็ถึงเวลาต้องกลับไป
“อยู่ต่อไม่ได้เหรอเซโคร”แม่ถามผมด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“ผมก็อยากแต่ไม่ได้จริงๆครับ...บอกแล้วไงว่าผมแอบพายูทาร์มาถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นต้องแย่แน่ๆ”ผมตอบแม่กลับไปก่อนจะเข้าไปกอดแม่แน่น
“รักษาตัวด้วยนะ...ยูทาร์แม่ขอฝากเซโครด้วยนะ”ประโยคสุดท้ายแม่หันไปบอกยูทาร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ได้ครับแม่”
“มีอะไรติดต่อมาได้นะทั้งคู่เลย”สุดท้ายแม่ก็สวมกอดเราทั้งคู่ก่อนที่ผมและยูทาร์จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่มารับ
“ขอบคุณที่ช่วยพวกเรานะครับ/คะ”เสียงตะโกนของกลุ่มคนด้านล่างทำให้ผมโบกมือพร้อมรอยยิ้มไปให้ ยูทาร์ที่เห็นผมทำก็เลยทำตามบ้าง
“พี่ครูชที่เกาะเป็นไงบ้างครับ?”ผมหันไปถามพี่ครูชที่เป็นคนขับ
“เกิดเรื่องน่ะ...เราน่าจะเตรียมตัวไว้นะ”คำตอบที่ได้รับทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ...
เป็นอย่างที่คิดสินะ
“เซโคร”
“ยูทาร์...ฟังผมนะ...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ไม่ว่าจะหงุดหงิดหรือโมโหขนาดไหนก็ห้ามฆ่ามนุษย์นะ...ถ้าจะให้ดีอย่าไปต่อต้านหรือทำร้ายพวกเขาเข้าใจไหม?”ผมหันไปจับไหล่ของยูทาร์แล้วบอกแกมขอร้อง
“เกิดอะไรขึ้นเซโคร?...ทำไมทำหน้าแบบนั้น”ยูทาร์ไม่ตอบแต่ถามผมกลับด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
“เรื่องที่พายูทาร์มาคงจะแตกแล้ว”ผมบอกออกไปตามตรง...คำพูดของพี่ครูชก็มากพอที่จะประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้แล้ว
“เซโคร...”
“พวกเราอาจถูกจับแยกเพราะงั้นห้ามต่อต้านนะแล้วผมจะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง...”
“เซโคร...”
“รอผมไปรับนะ”
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะลงจอด กลุ่มคนที่ใส่ชุดสูทสีดำเดินเข้ามาล้อมเฮลิคอปเตอร์ไว้อย่างแน่นหนาด้านหลังที่หน่วยจู่โจมที่ถืออาวุธเล็งมาทางนี้อยู่ พอผมและยูทาร์ลงมาร่างของผมก็กระชากให้ไปคนละทางกับยูทาร์ในทันที
คนกลุ่มใหญ่เข้าไปรุมยูทาร์ที่เริ่มขัดขืนแล้วจะวิ่งมาหาผม ดวงตาสีเหลืองอำพันสั่นระริกอย่างไม่เข้าใจจนผมต้องตะโกนบอกอีกฝ่ายไป...
“อย่าขัดขืนยูทาร์ไม่งั้นพวกเขาจะทำให้นายเจ็บ!...ที่ผมบอกบนเฮลิคอปเตอร์จำได้ใช่ไหม?!”
“...เซโคร”อีกฝ่ายพยักหน้าพร้อมกับเรียกชื่อผมออกมา
“ดีมาก...รอผมนะยูทาร์”นั่นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ตัวผมจะถูกดึงให้ไปอีกทางท่ามกลางเสียงตะโกนเรียกราวกับจะขาดใจของคนที่อยู่อีกด้านนึง...
“เซโคร!!!”
.........................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์(แต่ครั้งนี้เป็นจระเข้ดึกดำบรรด์555+)
(http://i58.tinypic.com/xfc5cw.jpg)
จระเข้ยักษ์ ไดโนซูซุส (Dienosuchus) มันเป็นญาติสนิท ตัวหนึ่งของจระเข้รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเคยยืนโรงร่วมกับไดโนเสาร์เมื่อ 70 กว่าล้านปีก่อนเนื่องจากขนาดที่ยาวเหยียด 10 ถึง 12 เมตร น้ำหนักตั้ง 9 ตัน เรียกว่า ขึ้นแท่นเป็นคู่ปรับได้เลยกับ จระเข้ยักษ์ ซาร์โคซูซุส นักวิชาการเคยคะเนขนาดของจระเข้ ไดโนซูซุสไว้ยาวเหยียดถึง 15 เมตร ทว่านักวิชาการยุคใหม่กลับลดลงมา เหลือ 10-12 เมตร ซึ่งก็ยังถือว่ามหึมาอยู่ดี เพราะจระเข้น้ำเค็มยุคปัจจุบันที่ว่าใหญ่สุดๆ (3-5 เมตร)เมื่อเทียบกับไดโนซูซุสแล้วก็ยังตัวจิ๋วกว่าตั้ง 2-3 เท่า
แรงกัดของจระเข้ปัจจุบันอยู่ร่าวๆ 3700 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แต่ของเจ้า Deinosuchus (ไดโนซูซุส) จะทะลุระดับ 4000 ปอนด์ต่อตารางนิ้วไปเลย ซึ่งรุนแรงกว่า Tyrannosaurus (ไทแรนโนซอรัส)เสียอีก เรียกได้ว่ามันคือนักล่าไดโนเสาร์ก็ว่าได้ มันจะลงมือล่าหลังจากที่คำนวนโอกาสความสำเร็จในการล่าแล้วเท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://xn--12cbr9hd3b6bk6kwdrb.com/deinosuchus/
................................................................................
สวัสดีค่า
ขอบอกข่าวดีหน่อยว่าได้คอมใหม่มาแล้ว(ดีใจสุดๆ)...แต่ข่าวร้ายหลังเสียเงินซื้อใหม่ไปแล้วนั้นก็คือคอมไม่ได้เสียแต่สายไฟต่างหากที่เสีย(แม่ที่เป็นคนจ่ายเงินแทบร้องไห้)
ยังไงก็ได้คอมใหม่มาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยได้ใช้คอมใหม่แต่ง...จนในที่สุดก็ได้ตอนนี้ออกมาคะ
ก่อนอื่นต้องบอกให้นักอ่านทุกท่านใจเย็นๆ ร่มๆกันก่อนนะคะ
หลายคนอาจคิดว่าตอนนี้คนแต่งทำให้ค้างนิดหน่อย(นิดเหรอ?)
นี่คือตอนที่คิดว่าดราม่าที่สุดของเรื่องแล้วคะ(แค่แยกกันเอง?)
เรื่องราวจะเป็นยังไงติดตามต่อได้ในตอนหน้าซึ่งคาดว่าน่าจะนานเพราะต้องสอบย่อยวิชาสถิติเสร็จก่อน
เราพยายามให้ดีทั้งเรื่องเรียนและแต่งนิยาย...เราที่เป็นทั้งนักอ่านและนักแต่งก็รู้หัวอกของคนที่รออ่านและก็รู้ถึงความลำบากในการแต่งเช่นเดียวกันเพราะงั้นจะพยายามแต่งออกมาให้เร็วๆนะคะ
ในตอนนี้ได้เปิดตัวคุณแม่ของเซโครไปแล้วไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะได้มีบทที่คุณแม่จะได้ออกอีกไหม(แต่ที่วางไว้ไม่มีนี่นะ)
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจที่มีให้นะคะ
การได้อ่านคอมเม้นท์ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งเลยคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า :mew1:
บ๊ายบายคะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
คุณแม่น่ารักมากกกกกกกกกก
ยูทาร์อดทนรอหน่อย เดี๋ยวเซโครจะไปรับนะ
รอตอนต่อไปเนาะ คนเขียนสู้ๆ
-
:m15:
โดนจับแยกจนได้ แบบนี้ไป่จิงจะเข้ามาดึงยูทาร์ไปสินะ :z3:
อยาก :z6: ฮิมจัง
-
พึ่งนึกถึงเรื่องนี้เลย เย้ๆๆๆๆ เดี๋ยวไปอ่านก่อนนะค้าาา
-
งื้ออออ โดนจับแยกเสียแล้ว น่าสงสารทั้งคู่เลย :ling3:
-
ยูทาร์เก่งเสียขนาดนี้ แค่อดทนรอให้เซโคร
กลับมารับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมเป็นเรื่องสบายๆ สำหรับยูทาร์อยู่แล้วล่ะเนอะ :กอด1:
-
ฉากต่อสู้มันมาก หวังว่าระหว่างแยกจากกัน ยูทาร์คงจะไม่ถูกทำร้ายนะ
-
แง๊ ยูทาร์ตอนนี้เท่มากๆเลย นี่อุตส่าห์ช่วยคนเอาไว้นะ ยังจะมาตามจับอีกเหรอ แงง
-
ไม่อยากให้แยกกันเลยอะ แล้วเซโครจะทำยังงัยอะ
-
โอ้ยตื่นเต้นกับการต่อสู้ สนุกอ่าา
เซโครกับยูทาร์แยกกันแล้ว :sad4: ฝีมือใคร อิหลงไป่หลงป่านั่นใช่มั้ย (ไม่รู้ จะโทษ ไม่ชอบนาง ชิ) แล้วยูทาร์จะเป็นยังไงบ้างเนี่ยยยย :katai1:
-
โดนจับแยกซะแล้ววววว :mew6:
ยูทาร์รอเซโครมารับน้าา :mew1:
-
คุณแม่น่ารักกกกก ยูทาร์ต้องอดทนน้าาา เพื่อเซโคร
-
ยูทาร์อดทนหน่อยน้า ทางที่ดีที่สุดอย่าแยกกันเลย
-
จะแยกกันนานมั้ยเนี่ย สงสารยูทาร์ :katai5:
-
สงสารยูทาร์อ่ะ พ่อไดโนเสาร์น้อยของฉานนนน
รอเซโครมารับนะ
คนอ่านก็จะรอตอนต่อไปเช่นกานนนน
-
เราก็จะขาดใจ สงสารยูทาร์อ่ะ ขอให้ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆ :mew4:
-
สงสารยูท่าร์อ่า :sad4:
-
:sad4: :sad4:หวานอยู่ดีดี มาต่อสู้แล้วก็เศร้า กระซิกๆๆๆๆ
-
โดนจับแยกแล้ว :m15: :m15:
-
ฮือออ โดนจับแยกแล้ว
อย่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกเลยนะ
สู้ๆนะทั้งสองคน
-
โดนจับแยกกันแล้ววจะแยกกันนานไหมอ่าาาาา
ชอบฉากต่อสู้อ่ะ ยูทาร์เก่งมากๆ
-
ฮือๆๆๆ เขาแยกกันเเล้วอ่ะ :hao5: สู้ๆนะยูทาร์แยกกันแป๊บเดียวเองๆ(จริงเรอะ!?)
ปอลอ.ฉากเแอ็คชันมันตลอดฮ่าๆๆ :katai2-1:
-
ชอบจัง ไดโนเสาร์เนี่ย จิ้นคอยาวกับทีเร็กซ์มาตั้งแต่เด็ก :hao6: พอมาแต่งแบบเป็นคน ฟินเว่อร์ค่ะ ชอบๆ :hao7:
มาต่อไวๆนะคะ ยูทาร์น่ารักมากกก :hao7:
-
ง่าาา สงสารยูทาร์จังเลย ได้เที่ยวแต่สุดท้ายก็ต้องมาแยกกับเซโครจนได้
อยากอ่านต่ออีกกกกก มาต่อไวๆน้า ><
-
เพิ่งเข้ามาอ่านนนนน แล้วก้หลงรักยูทาร์ แบบโงหัวไม่ขึ้นนนน
-
แยกกันแล้ว T^T
ต้องเป็นฝีมือไอ้นั่นแน่ๆ อ่ะ -_-^^
รอนะคะ คนเขียนสู้ๆ
-
เดี๋ยวก็ได้เจอกัน อย่าเพิ่งซึมไปเลยนะ ยูทาร์
หวังว่าอีตาหลงถิ่นจะไม่กลับมามีบทอีกนะ
-
อ่านเรื่องนี้แล้วติดมากวางแทบไม่ลง เป็นเรื่องทีสนุกมากๆแล้วประทับใจมากในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้
ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มานานแล้ว มาต่อไวๆนะรอติดตามอยู่
-
เป็นกำลังใจให้ทั้งเซโคร ยูทาร์ และคุณคนเขียนเลยจ้า
อ่านมารวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย เนื้อเรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะ การบรรยายก็เข้าใจง่าย
ทำให้เห็นภาพ แล้วก็มีเกร็ดความรู้แถมท้ายด้วยเยอะแยะเลย ชอบมากๆ จะรอติดตามนะคะ :กอด1:
-
ง่าขอให้ได้เจอกันเร็วๆ :hao5:
-
รอตอนต่อไปค่ะ
-
อยากอ่านต่อ
-
กลายรักครั้งที่❧12
ตั้งแต่ที่เซโครถูกจับแยกกับยูทาร์ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว...ผมถูกจับให้อยู่ในห้องหนึ่งที่เหมือนกับห้องรับรองสำหรับแขกระดับสูงเพราะทั้งของตกแต่งและเครื่องเรือนต่างก็ดูหรูหราระยิบระยับไปหมด
ตอนนี้สิ่งที่ห่วงไม่ใช่ความปลอดภัยของตัวเองแต่เป็นยูทาร์...
ผมหวังแค่ให้ยูทาร์ปลอดภัยเท่านั้น
ขออย่าให้ยูทาร์ไปทำร้ายใครเลยไม่งั้นเรื่องต้องวุ่นวายแน่ๆ...สิ่งที่ทำได้มีแค่ภวนาและตั้งสติของตัวเองให้มีสมาธิเพื่อจะได้จัดการเรื่องที่จะเกิดต่อจากนี้ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องอะไร
การที่พามายังห้องนี้ก็พอเดาได้เลยว่าใครจะเข้ามา...ถ้าไม่ใช่คุณเลโอ ราวีโอลีก็คงเป็นคุณคันเนโลนี จอร์น...ไม่แน่ว่าอาจเป็นคุณฟาร์ฟาเล่ นาตารีก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นใครมาก็น่ากลัวทั้งนั้นถ้าพูดอะไรผิดไปทั้งผมและยูทาร์คงไม่ได้เจอกันอีกตลอดไป
การฝ่าฝืนคำสั่งและแอบเอาไดโนเสาร์ออกไปถือเป็นของห้ามสูงสุดขององค์กรดอร์วูนี้และถ้าเรื่องมาถึงขั้นนั้นคนที่จะมาตัดสินก็คือหนึ่งในสามคนที่ผมได้บอกชื่อไว้ก่อนหน้านี้...ทั้งสามคนเป็นผู้นำสูงสุดขององค์กรที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กและยังถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะในด้านต่างๆ
ถึงพ่อผมจะถูกเรียกว่าบิดาแห่งการคืนชีพและมีหน้าตาในสังคมระดับแต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับพวกเขาทั้งสามคน...แต่จะให้บอกทั้งสามคนก็ดูจะยาวไปสักหน่อยเอาเป็นว่าถ้าคนที่เข้ามาเป็นใครผมจะบอกละกันว่าพวกเขาเป็นใคร
แกร็ก!
ไม่ต้องรอนานประตูหรูก็ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับคนที่เข้ามาด้านใน...เซโครที่นั่งอยู่รีบลุกขึ้นยืนเตรียมทำความเคารพในทันทีเมื่อร่างของหญิงวัยกลางคนหรือคุณฟาร์ฟาเล่ นาตารีเข้ามาด้านในแต่แต่ในขณะที่จะทักทายก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเธอไม่ได้มาคนเดียว...
ผมไม่ได้หมายถึงเหล่าบอดี้การ์ดหรือคนคุ้มกันหรอกแต่คนที่ตามมาน่ะชายหนุ่มวัยเดียวกันที่มีเอกลักษณ์คือเส้นผมสีดำกับดวงตาสองสีที่คนทั้งโลกต่างรู้จักคันเนโลนี จอร์น...แต่นั่นไม่ทำให้ผมตะลึงไปมากกว่าเมื่อชายวัยเดียวกันคนที่สามเดินเข้ามา...
คนสุดท้ายที่เดินเข้ามาคือคนที่ถูกเรียกว่าราชสีห์แห่งวงการธุรกิจคุณเลโอ ราวีโอลี
ใครก็ได้พาผมไปเก็บที...จะเอาไว้เป็นอาหารให้ยูทาร์ก็ได้ทำไมพระเจ้าถึงใจร้ายกับผมได้ขนาดนี้...แค่มาสองคนผมก็สั่นเป็นเจ้าเข้าแต่นี่มาถึงสาม!
การพิจารณาแบบปกติจะมาเพียงคนเดียวเพราะแต่ละคนล้วนมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการตัดสินได้โดยไม่ต้องประชุมขอความเห็น...อาจมีบางครั้งที่มา2คนแต่นั่นต้องเป็นการพิจารณาเรื่องใหญ่พอสมควรและไม่เคยมีมาก่อนว่ามีการพิจารณาที่พวกเขาจะมาพร้อมกันทั้งสามคน!
“...อ่อ...สวัสดีครับ”ผมอยากตบปากตัวเองจริงๆที่พูดเสียงสั่นได้ขนาดนั้น
“คิก...ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้นะ”เสียงหวานในชุดราตรีสีฟ้าดังขึ้นแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ด้านในก่อนจะตามมาด้วยชายวัยกลางคนอีกสองคนที่หันมามองผมแล้วเดินตามไปนั่งที่ก้าวอี้ยาว
พอเห็นทั้งสามท่านนั่งเรียบร้อยผมก็ค่อยเข้าไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามด้วยความกังวลใจจนเหงื่อไหลออกมาเป็นสายแล้ว...ถ้าพูดคุยแบบตัวต่อตัวผมคงจะไม่กังวลเท่าต้องมาพูดคุยกับคนระดับโลก3คนแบบนี้
“แหม...เกร็งใหญ่เลยนะหนุ่มหล่อ”คุณฟาร์ฟาเล่พูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มอันอ่อนโยนมาให้ผม...รอยยิ้มนั่นสมแล้วที่ได้ชื่อว่านางฟ้าแห่งอัญมณี...เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอัญมณีทุกชนิดที่อยู่บนโลกรวมทั้งพวกอำพันที่มีซากของเหล่าไดโนเสาร์ก็ถูกคุณฟาร์ฟาเล่ นาตารีเป็นคนค้นพบเป็นส่วนมาก
“หึ...ถ้าเจอแบบนี้แล้วนั่งนิ่งคงแปลกน่าดู”เสียงทุ้มต่ำของชายคนถัดไปดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีทองอ่อนที่จ้องมาราวกับจะล่าเหยื่อ ชายที่ถูกเรียกว่าราชสีห์แห่งวงการธุรกิจคุณเลโอ ราวีโอลี...เขาเป็นคนที่มีความสามารถในการวางแผนและบริหารงานต่างๆได้อย่างดีเยี่ยมและประสบความสำเร็จที่ธุรกิจทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเรื่องการทดลองในการคืนชีพของไดโนเสาร์ก็ได้เขานี่แหละที่เป็นคนให้เงินสนับสนุนการทดลองของพ่อ
“ที่สั่นแบบนั้นเพราะนายน่ากลัวน่ะสิเลโอ”ชายคนสุดท้ายดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสองสีที่จ้องมา คุณคันเนโลนี จอร์น...บิดาแห่งการค้นพบ เป็นคนที่ไม่ว่าไปไหนหรือทำอะไรก็จะได้พบสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีใครค้นพบหรือนึกถึงมาก่อนอย่างเกาะที่แม่ไปทำการศึกษาคนที่ค้นพบก็คือเขานี่แหละ
ฟังจากที่ผมเล่าแล้วคิดว่าคนที่จบปริญญาเอกธรรมดาๆแบบผมจะมีหน้าไปต่อกรกับพวกเขาได้งั้นเหรอ?...แค่พูดไปประโยคเดียวคงได้ถูกสวนกลับมาสัก10บรรทัด
“เรามาเข้าเรื่องกันเถอะฉันมีงานแสดงอัญมณีระดับโลกในอีก6ชั่วโมง”หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวของห้องพูดพรางมองนาฬิกาข้อมือเรือนหรูสีน้ำเงินของตัวเอง
“...คะ...ครับ”หยุดสั่นสักทีเถอะเสียงผม
“เธอฝ่าฝืนกฎที่พวกเราตั้งแล้วพาไดโนเสาร์ออกไปโดยพลการ”คุณเลโอพูดขึ้นพร้อมกับยกขาซ้ายขึ้นมาไขว่ขาขวา ดวงตาสีทองอ่อนราวกับราชสีห์จ้องมาเหมือนผมกลายเป็นเหยื่อตัวเล็กๆที่รอถูกขย้ำ
“ใช่ครับ”ผมสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วตอบออกไปตามความจริง...มาถึงขั้นนี้การโกหกมีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง
“ทำไปทำไม?”ดวงตาสองสีของคุณจอร์นถามต่อทันที
“ยูทาร์อยากอยู่กับผม...ผมไม่สามารถปล่อยเขาให้คนอื่นดูแลได้เพราะยูทาร์ไม่เชื่อใจใครนอกจากผมและถึงผมจะไม่พาเขาไปแต่ด้วยความสามารถที่มีเขาก็ต้องตามผมมาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งอยู่ดี...เมื่อเป็นแบบนั้นยูทาร์คงต้องโดนโทษหนัก ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าต้องโดนลงโทษผมยอมเป็นคนที่โดนเองดีกว่า”ผมอธิบายให้เหล่าอัจฉริยะทั้งสามคนฟัง
“เขาเป็นไดโนเสาร์ไม่ใช่มนุษย์...เธอมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะแอบตามเธอไปอย่างที่ว่า”คุณจอร์นถามต่อพร้อมกับเปิดแฟ้มที่ติดมือมาตั้งแต่เข้าห้อง...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นคืออะไร...
คงเป็นข้อมูลของผมกับยูทาร์ที่ละเอียดยิบ ด้วยความสามารถของบริษัทคงจะหาได้ทั้งข้อมูลส่วนตัวรวมทั้งความลับต่างๆได้อย่างง่ายดาย
“คุณคงรู้แล้วว่ายูทาร์เป็นไดโนเสาร์ที่พิเศษ...นอกจากจะมีการผสมสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่ถือเป็นสุยอดเข้าไปถึง4ชนิดแล้วยังมียีนส์ของมนุษย์...นั่นทำให้เขาสามารถกลายเป็นมนุษย์ได้ เรื่องนี้พวกคุณคงรู้อยู่แล้ว...”พอพูดมาถึงตอนนี้ทั้งสามคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง
“งั้นคุณก็คงรู้ว่าหนึ่งในสายพันธุ์ที่ผสมลงไปคือโทรโอดอนไดโนเสาร์ที่ฉลาดที่สุด...เมื่อความฉลาดของโทรโอดอนกับมนุษย์รวมกันจะทำให้เขามีระบบความคิดและการประมวลผลที่มากกว่ามนุษย์ปกติ...”
“เธอกำลังจะบอกว่าไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่ว่าฉลาดกว่ามนุษย์?”คุณเลโอพูดแทรกขึ้นมาสายตาที่สบมาทำให้รู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูด
“ผมคิดว่าใช่...มนุษย์ปกติจะค่อยๆเรียนรู้และเชื่อในทุกสิ่งที่คนใกล้ตัวป้อนลงไปจนกว่าระดับอายุที่สูงขึ้นจนคิดเองได้แต่ยูทาร์ต่างออกไปนอกจากเขาจะเรียนจากสิ่งรอบตัวด้วยตัวเองแล้วยังมีระดับความเข้าใจที่สูงมาก...อ่อ...ผมจะบอกว่าเขาสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่ามนุษย์ปกติ”ผมตอบพร้อมอธิบายออกไป...พอเริ่มชินกับบรรยากาศผมก็รู้สึกผ่อนคลายแล้วพูดได้อย่างที่ต้องการมากขึ้น
“อย่างเช่น?”
“ยกตัวอย่างเช่นการเดิน...มนุษย์ปกติจะใช้เวลานานกว่าจะยืนได้และเดินด้วยสองขาโดยไม่ต้องใช้อะไรพยุงแต่ยูทาร์เพียงแค่มองผมเดินเขาก็สามารถยืนและเดินได้อย่างรวดเร็วถึงจะช้าก็ตาม”ผมตอบคำถามคุณเลโอ
“ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าเขาก็ควรจะเดินได้ตั้งแต่เกิดใหม่ๆไม่ใช่ตอนที่มาเจอเธอแบบนี้...ตลอดเวลากว่า2ปีที่เห็นมนุษย์เดินเข้าออกน่าจะทำให้เขาเดินได้ง่ายแต่กลับเดินได้เมื่อเธออยู่...นั่นมันดูขัดกับคำพูดที่เธอบอกว่าเขาเรียนรู้ได้เร็วกว่าปกติ”คุณจอร์นปิดแฟ้มลงแล้วพูดสิ่งที่ข้องใจออกมา...ผมรู่สึกได้ถึงเหงื่อที่ไหลลงมาทั้งที่อยู่ในห้องแอร์เย็นเฉียบ...
สมแล้วที่ถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ
สิ่งที่คุณจอร์นพูดก็จริงอยู่ถ้ายูทาร์เรียนรู้ได้เร็วคงไม่ต้องใช่เวลาถึง2ปีถึงจะยืนและเดินได้หรอก...แล้วผมจะตอบกลับไปว่ายังไงดีล่ะเนี่ย!
“...อ่อ...มันอาจเป็นแค่สมติฐาน...”ผมพึมพำเบาๆเมื่อเริ่มคิดอะไรบางอย่างออก
“ว่ามา”
“เมื่อก่อนยูทาร์ไม่เชื่อใจมนุษย์นั่นเลยทำให้เขาไม่อยากรับรู้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่มนุษย์ทำแต่เมื่อเขาเริ่มไว้ใจและเปิดใจก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว...”
“จะบอกว่าถ้าเธอที่เป็นคนที่หมอนั่นเชื่อใจก็สามารถสอนหรือแม้แต่สั่งเจ้าตัวได้...ความหมายที่ต้องการบอกคือแบบนี้สินะ?”คุณเลโอไม่ต่องรอให้ผมพูดจบก็สามารถอธิบายได้อย่างรวดเร็ว
“ใช่...ครับ”
“ถ้าเป็นคนอื่นหมอนั่นจะเป็นยังไง?”คุณเลโอถามต่อพร้อมกับจ้องมาที่ผมนิ่ง
“ผมไม่แน่ใจเพราะยูทาร์อยู่กับผมมาตลอดตั้งแต่เข้ามาทำงาน...ผมมั่นใจว่าเขาเชื่อใจผมมากกว่าใครทุกคนที่อยู่ที่นี่ถ้าคุณให้คนอื่นไปดูแล...เขาอาจเปลี่ยนไป”
“เปลี่ยนไป?”
“ครับ...ผมสัญญาว่าจะไปรับเขากลับมาแต่ถ้าผมทำตามที่สัญญาไม่ได้จะทำให้รู้ได้ในทันทีว่ามนุษย์นั้นผิดสัญญาและเขาจะไม่เชื่อใจมนุษย์อีก...การทดลองที่ผ่านมาคงจะจบ”ที่ผมพูดมันเหมือนการขู่แล้วบอกให้คืนยูทาร์มาให้ซะ...ถึงจะรู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้นแต่ผมก็นึกอย่างอื่นไม่ออกแล้ว
จากที่ฟังเขาจะเปลี่ยนคนอื่นมาดูแลยูทาร์และนั่นเป็นสิ่งที่ผมคงยอมไม่ได้...
เสียงทุ้มที่เรียกชื่อผม
ดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาอย่างทอประกายแห่งความเชื่อใจ
รวมทั้งสัมผัสอันอบอุ่นที่ได้รับ
ผมยอมยกให้คนอื่นไม่ได้จริงๆ
นี่ผม...อาจจะกำลังขาดยูทาร์ไม่ได้แล้วก็เป็นได้
“เธอกำลังขู่เรา?”เสียงหวานของผู้หญืงเพียงหนึ่งเดียวดังขึ้นหลังจากที่นิ่งเงียบอยู่นาน
“ผมเปล่า...แค่...คนเดียวที่สามารถดูแลยูทาร์ได้คือผม”
“งั้นถ้ามีคนอื่นสามารถดูแลได้ล่ะ?”คุณจอร์นถามขึ้น
“...หมายความว่ายังไง?”
“เธอบอกให้เขาห้ามฆ่ามนุษย์นั่นแปลว่าถึงพวกเราจะเข้าใกล้เขาก็จะไม่ฆ่าเรา...ซึ่งเป็นเรื่องดี...เราอยากรู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นเขาจะยอมทำตามที่สั่งไหม?”
“ผมไม่เคยสั่งยูทาร์...เขาเป็นเพื่อนผม”ผมรีบพูดแก้
“หึ...”
“เลิกแกล้งเซโครได้แล้วมั้ง”คุณฟาร์ฟาเล่ถอนหายใจออกมาแล่วหันไปบอกชายหนุ่มทั้งสองคน
“ก็ได้...แค่อยากรู้ว่าคนที่เราจะมอบหมายให้ดูแลไดโนเสาร์กลายพันธุ์ตัวแรกจะเป็นคนยังไงเท่านั้นเอง”คุณจอร์นหันไปตอบหญิงสาว
“เอ่อ...คือ...”นี่มันเรื่องอะไรกัน
“พวกเราแค่อยากรู้เธอเป็นคนยังไง...เราไม่สามารถมอบสิทธิ์ดูแลให้กับคนไม่เอาไหนได้”คุณเลโออธิบาย
“...คุณหมายถึง...ผมจะได้เป็นคนดูแลยูทาร์จริงๆแล้วใช่ไหม?”ผมถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“แค่ว่าที่...พวกเราขอดูว่าเขาฟังเธอมากแค่ไหนก่อนแล้วจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”คุณจอร์นอธิบายต่อ
“ขอดู?...หมายถึงจะให้ผมลองสั่งยูทาร์?”ผมถามอย่างไม่แน่ใจ
“ใช่...เห็นว่าเธอสามารถบอกให้เขากลับร่างไดโนเสาร์หรือร่างมนุษย์ได้ตามที่ต้องการ”
ใครบอกเนี่ย?!
ทำได้ที่ไหนกัน...แค่ยูทาร์เปลี่ยนร่างเพื่อช่วยผมสองครั้งไม่ได้แปลว่าจะมีครั้งที่สามสักหน่อย
“อ้อ...เราได้ยินเรื่องนี้มาจากหลงไป่จิง”ชื่อที่หลุดออกมาทำให้ผมรู้สึกโกรธแกมหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
หลงไป่จิง!...เขากำลังกลั่นแกล้งผม!
ถ้าผมบอกว่าทำไม่ได้ก็ยิ่งเข้าทางอีกฝ่ายมากขึ้นเพราะงั้นผมต้องทำสิ่งที่หลงไป่จิงว่ามาให้สำเร็จเพื่อเป็นการตอกหน้าเขาให้ยับไปเลย
คอยดูเถอะหลงไป่จิง!!
“ได้ครับ...ไปกันเลย”ผมบอกพร้อมกับลุกขึ้นอย่างฮึกเหิม
“ก็ดี...ฉันมีประชุมในอีก4ชั่วโมง”คุณเลโอบอกพร้อมลุกขึ้นประธานอีกสองคนที่เหลือก็ลุกขึ้นตามเช่นกัน
เซโครถูกพาไปยังกรงของยูทาร์ท่ามกลางเหล่าอัจฉริยะและผู้คุ้มกับนับสิบคน...ถึงจะพูดว่าสิบแต่จำนวนจริงก็ประมาณ30คนได้
“ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”ผมพูดขึ้นระหว่างที่เราเดินขึ้นไปบนสะพานด้านบนของกรง
“ว่ามา”
“พ่อผม...เอ่อ...ฟราซิส เบนซ์ ฟงเซ่....เขาโดนลงโทษไหมครับ?”เมื่อได้รับอนุญาตผมก็ถามทันที...หวังว่าพ่อจะไม่โดนไล่ออกนะ
“โดน!”คุณเลโอยกยิ้มแล้วตอบกลับอย่างรวดเร็ว...คำตอบที่ได้รับทำเอาผมหน้าซีดไปเลย
“อาบน้ำทุกวันติดต่อกันทั้งปี...นั่นคือบทลงโทษเขาจ้า”คุณฟาร์ฟาเล่กรซิบบอกเสียงเบาทำให้ผมถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก...
อย่างน้อยก็ไม่โดนไล่ออก...ถึงการอาบน้ำทุกวันสำหรับพ่อจะเหมือนถูกทารุณก็ตาม
“เซโคร!!!”เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังลงมาจากด้านล่าง...พอมองลงไปก็สบเข้ากับดวงตาสีเหลืองอำพันที่แสนคุ้นเคยของยูทาร์ที่จ้องมาทางนี้เขม็ง
“ยูทาร์!!”ผมเรียกยูทาร์กลับแล้วมองไปยังรอบๆ...ตอนนี้ยูทาร์โดนจับมัดด้วยเชือกแล้วยังมีคนที่ถืออาวุธยืนล้อมอยู่เต็มไปหมด
“คุณทำอะไรกับยูทาร์!”ผมหันไปถามคนด้านหลังทันที...มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถสั่งพวกข้างล่างได้น่ะ
“พวกเราแค่เผื่อไว้...เขาอาจกลายเป็นไดโนเสาร์ได้นี่นา”คุณจอร์นตอบผมกลับแต่เหตุผลนั่นมันไม่สมควรเลยสักนิด
“ถ้ากลับร่างไดโนเสาร์คิดว่าเชือกเส้นเล็กๆนั่นจะเอาอยู่รึไง?”ผมพูดขึ้นอย่างหัวเสีย ยูทาร์ที่เห็นผมกำลังหันไปคุยกับคุณจอร์นก็พยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากการจับกุมแต่ด้วยร่างกายของมนุษย์ก็ทำอะไรมากไม่ได้เลยถูกจับกดให้อยู่กับที่
“เซโคร!!”
“ดูท่าจะหวงเธอไม่เบาเลยนะ”คุณเลโอเดินมากระซิบที่ข้างหูผมพร้อมรอยยิ้มยียวนก่อนจะเปลี่ยนมาจับผมล๊อคคอไว้อย่างรวดเร็ว
“อั๊ก!....คุณทำ...”
“เงียบก่อน”ยังไม่ทันพูดจบคุณเลโอก็พูดขึ้นมาอีกรอบ
“ทำอะไรเซโคร?!....เซโคร!!....กรรร...”จากเสียงตะโกนเรียกชื่อผมกลายเป็นเสียงคำรามก่อนที่ร่างมนุษย์จะเริ่มเปลี่ยนแปลง...เหล่าคนถืออาวุธที่อยู่ใกล้ต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าแล้ววิ่งออกห่าง
“ห้ามวิ่งนะ!”ผมรีบตะโกนลงไป...ยูทาร์ที่อยู่ในร่างไดโนเสาร์ไม่เหมือนมนุษย์ สัญชาตญาณดิบที่มีมากกว่าในเวลาปกติหลายเท่า...ถ้าขืนขยับตัวยูทาร์คงคิดว่าเป็นอาหารถึงผมจะบอกว่าห้ามทำร้ายมนุษย์แต่เวลาที่โกรธยูทาร์คงไม่ยอมทำตาม
กรรร!!
เสียงขู่คำรามพร้อมกับส่วนหัวที่อ้าปากขนาดใหญ่ออกกว้างจนเห็นซี่ฟันอันแสนคมกริบอย่างชัดเจนจนคนที่อยู่รอบข้างสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว
“ปล่อยผม!”ผมจะโกนแล้วสะบัดให้หลุดจากการล๊อค...น่าแปลกที่คุณเลโอยอมปล่อยอย่างง่ายดายจนผมต้องหันไปมองอย่างงงๆ
“ฉันแค่อยากเห็นว่าเธอจะคุมสถานการณ์ตอนนี้ยังไง?”คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ผมกำมือแน่นเพื่อระงับอารมณ์ไม่ให่ชกคนตรงหน้าสักหมัด
“คุณกำลังเอาชีวิตคนมาเล่น!”
“ถ้าหมอนั่นฟังเธอทุกอย่างก็จบแค่นั้น...แต่ถ้าเธอทำไม่ได้สิ่งที่เธอพูดอาจเชื่อไม่ได้เลย...ความเชื่อใจกันที่บอกในห้องแสดงออกมาให้พวกเราดูหน่อยสิ...แล้วเราจะตัดสินว่าเธอควรค่าแก่การทำงานร่วมกันอยู่ไหม?”คำอธิบายทำให้ผมสงบลงได้แต่ไม่ได้ลดอารมณ์ที่อยากชกหน้าหมอนี่สักหมัดอยู่ดี
“ผมจะแสดงให้พวกคุณเห็น....ยูทาร์!!!”ผมบอกกับทั้งสามคนแล้วก้มลงไปตะโกนเรียกไดโนเสาร์พันธุ์ด้านล่าง
กรรร!!
ยูทาร์ที่ได้ยินเสียงเรียกก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับกระโดดขึ้นแต่อย่างที่เคยบอกไปด้วยความสูงของสะพานที่คำนวณแล้วไม่มีทางที่ยูทาร์จะกระโดดขึ้นมาถึงต่อให้พยายามสักกี่ครั้งก็ตาม
“ยูทาร์....พวกเขาอยากเห็นความเชื่อใจของเรา...ทำให้เขาเห็นได้รึเปล่า?”ผมถามยูทาร์พร้อมรอยยิ้ม...
งื๊ดดดด
เสียงครางสูงพร้อมกับส่วนหัวที่ชูขึ้นทำให้ผมรับรู้ได้ถึงคำตอบของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน...ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมจ้องไปยังดวงตาสีเหลืองอำพันของยูทาร์ที่สบมาและนั่นทำให้ผมกล้าเสี่ยงสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต...
นั่นคือการกระโดดลงไปจากสะพานด้านบนที่สูงกว่า60เมตร
“เฮ้ย!”เสียงร้องด้วยความตกใจของเหล่าคนด้านบนดังขึ้นตามมาติดๆแต่ผมก็ไม่ได้เงยขึ้นไปมอง
ตอนนี้ผมมองไปยังยูทาร์ที่วิ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับก้มส่วนหัวลงเล็กน้อยราวกับจะใช้ส่วนนั้นรับผม...
ตุบ!
เซโครตกลงบนพอดีกับหัวของยูทาร์ที่ลองไว้แต่ด้วยผิวหนังที่ค่อนข้างลื่นทำให้ผมรื่นตกลงไปตรงส่วนคอของยูทาร์แล้วยังไหลลงไปอีกจน...
“โอ๊ย!...”ผมร้องออกมาเบาๆเมื่อหลังผมกระแทรกเข้ากับหนามที่อยู่ตรงหลังของยูทาร์
งื๊ดด
ไดโนเสาร์พันธุ์ผสมครางเบาๆแล้วพยายามหันมาดูว่าผมปลอดภัยไหม...มือผมลูบเบาๆที่คอสีเทาเข้มลายส้มเบาๆเป็นการบอกว่าไม่เป็นไร
“นี่คือความเชื่อใจของผม!”ผมเงยหน้าขึ้นไปพร้อมกับตะโกนบอกคนที่มองลงมาอย่างตะลึง
กรรร!!
เสียงครางต่ำของยูทาร์ทำให้ผมรู้สึกว่ายูทาร์กำลังไม่พอใจบางอย่าง...พอลองนึกก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพูดแก้คำพูดใหม่อีกครั้ง...
“พูดผิดไปหน่อย...นี่คือความเชื่อใจของพวกเรา!!”คำพูดผมดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงครางสูงของยูทาร์
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ผมถามยูทาร์ออกไปด้วยความเป็นห่วง...คำตอบของยูทาร์คือการพาผมที่อยู่บนหลังออกวิ่งเป็นวงกลม
“ฮะฮะฮะ...โอเคๆ...เชื่อแล้วว่าไม่เป็นไร”
“ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่”เสียงเรียกชื่อทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปพร้อมกับยูทาร์
“ครับ?”
“เธอทำให้เขากลับร่างมนุษย์ได้ไหม?”คุณจอร์นถามขึ้น
“แน่นนอนครับ...ยูทาร์ก้มลงหน่อยให้ผมลงไปข้างล่าง”ตอบคนด้านบนเสร็จผมก็หันมาบอกยูทาร์
สองเท้าของผมลงมาถึงพื้นดินอีกครั้งได้อย่างปลอดภัยโดยมีสายตาของกลุ่มคนทั้งด้านบนและด้านล่างมองอยู่ด้วยความตกใจ
“ยูทาร์...”ผมเรียกไดโนเสาร์ตรงหน้าพร้อมกับลูบเบาที่ส่วนจมูกที่ก้มลงมาหา
“ผมมารับกลับแล้วนะ”
งื๊ดดดด
เสียงครางสูงดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาราวกับจะบอกว่ากลับมาแล้วก่อนที่ร่างกายอันใหญ่โตจะค่อยๆหดลงกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
“...เซโคร...”ยูทาร์เรียกชื่อผมพร้อมกับดึงเข้าไปกอดแน่น...ใบหน้าของอีกฝ่ายซุกเข้าที่คอผมจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่เบ่ารดต้นคอ
“ยูทาร์...ขอบคุณที่รักษาสัญญา”ผมกอดตอบยูทาร์แล้วกระซิบกลับเบาๆ
ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ยูทาร์ไม่ได้เผลอไปทำร้ายใครเข้าไม่งั้นเรื่องคงไม่จบอย่างง่ายดายแบบนี้...ในเมื่อผมแสดงออกให้พวกเขาทั้งสามคนเห็นว่ายูทาร์เชื่อในตัวผมมากแค่ไหนก็คงพอที่จะได้รับสิทธิ์การดูแลยูทาร์อย่างเต็มตัวสักที
“เซโคร...ไม่เป็นไรนะ?”ยูทาร์ถามขึ้นแล้วหมุนตัวผมเพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติไหม
“ไม่เป็นไรแค่ไปคุยกันเฉยๆ”ผมตอบกลับไป
“อื้อ...ดีแล้วที่ปลอดภัย”
“นี่ๆจะอยู่ในโลกส่วนตัวกันอีกนานไหม?”เสียงของคุณเลโอดังขึ้นจากด้านบนทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอีกฝ่าย...
“มีอะไรครับ?”
“พรุ่งนี้เข้ามาหาฉันด้วยแล้วเราจะคุยเรื่องของเธอกับหมอนั่น”คุณเลโอตอบกลับมาพร้อมกับหันไปมองหน้ายูทาร์ที่อยู่ด้านข้างผม
“กี่โมงครับ?”
“สักเที่ยงก็ได้...วันนี้พอแค่นี้เลิกได้”พอพูดจบก่อนเดินออกไปอย่างสบายๆราวกับไม่สนเรื่องของผมกับยูทาร์สักเท่าไหร่....เหล่าคนที่กระจายอยู่โดยรอบก็ค่อยๆทยอยกลับออกไป
“เดี๋ยวสิครับ...อย่างน้อยๆก็ขอเสื้อให้ยูทาร์ใส่หน่อยสิ!”เสียงตะโกนตามหลังดูจะไม่ได้รับการตอบกลับผมเลยได้แต่กัดฟันแน่นด้วยความหงุดหงินแล้ววิ่งไปหาเสื้อผ้ามาให้ยูทาร์ใส่ก่อนจะพากันกลับไปที่ห้องพักชั้น6ที่ไม่ได้กลับมาสามวันสามคืน
“...ยูทาร์...ผมรู้สึกง่วงมากขอนอนก่อนนะ...มีอะไรก็ปลุกเลยหรือถ้าจะทำอะไรก็ตามสบายนะ”ผมบอกทันทีที่หัวถึงหมอน...วันนี้รู้สึกจะใช้สมองมากไปหน่อยแล้วถ้าไม่พักสักหน่อยผมอาจน๊อคได้
ไม่คิดเลยว่าการพูดคุยกับสามอัจฉริยะของโลกจะเปลืองพลังงานมากมายขนาดนี้
“เซโคร...”เสียงทุ้มเรียกพร้อมกับเขย่าตัวผมเบาๆจนต้องพลิกตัวนอนตะแคงแล้วปรือตามองคนตรงหน้าว่ามีเรื่องอะไร
“นอนด้วยนะ”
“ได้สิ”พอได้รับอนุญาตยูทาร์ก็ล้มตัวลงนอนแล้วดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น...ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านทำให้รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นถี่เร็วขึ้น
ยูทาร์ทำให้หัวใจผมเต้นแรงได้เพียงแค่คำพูดและการกระทำธรรมดาๆ...การถูกกอดเป็นสิ่งที่รู้จักมาตั้งแต่เกิดในฐานนะของการทักทายทั้งที่กอดคนอื่นไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลยแท้แต่พอคนที่กอดเป็นยูทาร์...หัวใจมันกลับตอบสนองอย่างที่ไม่เคยเกิดกับใครมาก่อน...
ความรู้สึกนั่นมันอาจเป็น...
“รักเซโครนะ”เสียงของยูทาร์ดังขึ้นมาขัดความคิดผมพร้อมกับสัมผัสร้อนที่หน้าผาก
“...ที่พูดมารู้ความหมายรึไง?”อยากจะบอกว่าความง่วงหายไปตั้งแต่ได้ยินความว่ารักจากปากของยูทาร์แล้ว...หัวใจไม่รักดีมันก็ช่างเต้นแรงดีจริงๆ
“ไม่รู้...”นั่นไงว่าแล้ว...ความรู้สึกที่ซับซ้อนอย่างรักมันไม่ใช่ความรู้สึกที่จะพูดออกมาได้ง่ายๆ
“แต่ผมรู้สึกว่ามันใช่”ยูทาร์พูดต่อ
“อะไรที่ใช่ล่ะ?”
“รัก...รักเซโคร...คำว่ารักเหมาะจะพูดกับเซโครที่สุดนั่นเป็นสิ่งที่ผมรู้สึก”คำตอบของยูทาร์ทำให้มือผมเผลอกำเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่นแล้วหลับตาลงช้าๆเพื่อทบทวนความรู้สึกของตัวเอง...
จริงอยู่ที่ผมรู้สึกดีกับยูทาร์มากกว่าคนอื่นที่เคยเจอแต่นั่นอาจเป็นมิตรภาพที่เรียกว่าเพื่อนสนิทก็ได้...ผมไม่อาจฟันธงให้แน่ใจว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร
“...รักคือการที่เราอยากอยู่กับใครคนนั้นตลอดเวลา...”ผมค่อยๆอธิบายให้อีกฝ่ายฟังแล้วซุกตัวเข้าที่อกของยูทาร์ใกล้ขึ้นอีก
“ผมอยากอยู่กับเซโครตลอดเวลา”ยูทาร์ตอบกลับมาทันที
คำตอบของผม...ก็เหมือนกับยูทาร์
“รักคือการที่เราเฝ้าคอยมองหาและเป็นห่วงทุกครั้งที่ไกลกัน...”
“อืม...เป็นอย่างนั้นจริงๆ”และเป็นอีกครั้งที่คำตอบของยูทาร์เหมือนกับผม...
เรื่องในวันนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีว่าผมเป็นห่วงยูทาร์มากแค่ไหนและการกระทำของยูทาร์เองก็บอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นห่วงผมมากเหลือเกิน
“รักคือการที่เรามีความสุขในทุกๆครั้งที่ได้เจอหน้าหรือมองตา...”สำหรับข้อนี้คำตอบของผมมันชัดเจนมากจนไม่ต้องคิดเลยล่ะ...ดวงตาสีเหลืองอำพันที่สะท้อนภาพของผมไม่ว่าจะอยู่ในร่างไดโนเสาร์หรือมนุษย์ผมก็ถูกดวงตาคู่นั้นดูดให้เข้าหาอยู่ทุกที
“ผมชอบเวลาที่ดวงตาของเซโครสะท้อนภาพของผมอยู่ในนั้น”
คำตอบของพวกเราตรงกันทุกข้อ...นั่นอาจหมายความว่าความรู้สึกที่เรามีให้กันนั้นเป็นสิ่งเดียวกันก็ได้...ผมยังไม่อยากฟันธงเพราะแค่มียูทาร์อยู่ข้างๆแบบนี้มันก็ทำให้ผมมีความสุขมากแล้ว
ผมไม่จำเป็นต้องรีบโดยเฉพาะกับอีกฝ่ายที่พึ่งเรียนรู้เรื่องของมนุษย์ได้ไม่เท่าไหร่...
เพราะงั้นก็ค่อยๆสอนไปทีละขั้นละกัน
“รักเซโคร”ยูทาร์บอกอีกครั้งพร้อมกับก้มหน้าลงมาสบตาผมด้วยรอยยิ้ม...คำพูดของคนตรงหน้าทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆแล้วใช้สองแขนโอบอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ก็จะกระซิบเบาๆที่ข้างหู...
“รักยูทาร์เหมือนกัน”
.................................................................
สวัสดีคะ
มาอัพต่อแล้วนะคะ
ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่มหาลัยเราให้หยุดเนื่องจากน้ำท่วมเลยมีเวลาได้แต่งต่อแถมวิชาสถิติที่ต้องสอบก็เลื่อนไปสอบอาทิตย์หน้าแทน
เมื่อมีเวลาเลยนั่งแต่งตอนนี้แบบยาวๆ...ตอนแรกจะลงแค่ครึ่งเดียวแต่ไหนๆก็แต่งจนจบแล้วเลยลงให้ครบเลยละกัน
สำหรับตอนนี้ตวามสัมพันธุ์ของทั้งคู่ค่อยๆเพิ่มขึ้นจนรู้ใจตัวเองกันแล้ว
ต่อไปจะเป็นยังไง...ช่วยติดตามกันด้วยนะคะ
ในตอนหน้าใครที่คิดถึงหลงไป่จิงรับรองไม่ผิดหวังเพราะเขาจะมาพร้อมกับความเป็นตัวร้ายเต็มขั้น เรียกได้ว่าตอนหน้า(ในครึ่งแรก)เขาจะกลายเป็นตัวหลักเลยทีเดียว
แล้วจะได้รู้ถึงความสามารถของเซโครนอกเหนือจากสมองฉลาดๆกับความน่ารักด้วย
ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจและทุกๆคอมเม้นท์นะคะ
พบกันใหม่ในตอนหน้านะคะ
บ๊ายบาย :mew1:
ปล.ตอนนี้ไม่มีมุมให้ความรู้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์นะคะ...ไว้รอตอนหน้ามีแน่คะ^^
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
โอ๊ยยย เขาบอกรักกัน น่ารักมากมายยย เขินนน
อบอุ่นแทนเซโครเลยยย กรี๊ดดด ชอบมาก ขอบคุณน้าา
-
เอร้ยยยยยยย อบอุ่นมากเลย :-[
-
น่ารักอ่ะ ชอบมาก ยูทาร์น่ารักมาก
แอบขำบทลงโทษที่คุณพ่อโดนแหะ
โดนลงโทษให้อาบน้ำ เปนไงล่ะสะอาดเลยสิ5555
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น่ารักกกกก :-[
-
น่ารักที่สุดดดดดดดด ยูทาร์เก่งมาก :-[
ทีนี้ก็น่าจะได้รับอนุญาตให้ดูแลเต็มที่ได้แล้วล่ะมั้ง
รอตอนต่อไปน้าาาา
-
หูยยย ใจหายใจคว่ำ ดีแล้วที่ไม่ดราม่า ชอบมากมายย รักยูทาร์รักเซโคร คึคึ
-
มาต่อแล้วดีใจจังอ่านไปยิ้มไป
-
หวานมากกกกกกก
-
แปะ
เด๋ยวเมนท์ทีหลังน้าค้า พอดีอยุ่ข้างนอก
-
โอ้ยยย ยูทาร์น่ารักที่สุดอ่ะ
-
ตอนนี้ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ อยากเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยจัง 555
ว่าแต่ไม่ต้องเอาอิตาหลงทางนั่นมาก็ได้นะค้า เกลียดมันค้า
-
เอร๊ยยยย อ่านรวดเดียว ฟินฝุดๆ ยูทาร์น่ารักอะ! ขี้อ้อน หวงเซโคร ซื่อๆ น่าร้ากกกก :-[ :-[
ขอบคุณมากค่าา :pig4: :pig4: :pig4:
รอตอนต่อไปนะคะ
-
แกๆๆ เค้าบอกรักกันแล้ววววว งิ้งงงงงง
-
น่ารักกกกกกก ตอนสุดท้ายอ่านแล้วแอบเขิน :-[
-
บอกรักกันเบาๆ
-
คารมณ์ไดโนเสาร์ใช้ได้นะ
:laugh:
-
อู๊ยยยยน่ารักกระแสมุ้งมิ้งมีโลกส่วนตัวสองเราระหว่างเซโครกับยูทาร์นี่3ผู้ยิ่งใหญ่่ยังสัมผัสได้
พาร์ทนี้เซโครได้ใจเจ้ไปเต็มๆ
ยังคงรีเควสให้หลงไปจิงโดนไดโนเสาร์กิน กระทืบไม่ก็อึใส่นะขชอบสร้างเรื่อง ชริ
-
:ling1:
บอกรักกันแล้วอ้าาาาาาาาาาาาาา
ฮือออออออออ อยากได้แบบยูทาร์บ้างจัง มีอีกไหมคะเนี่ย
-
กรี๊ดดด :-[ ประกาศความเป็นเจ้าของกันและกันแล้วใช่ไหมม
ตอนเซโครกระโดดลงไปนี่เท่ม๊าก
-
:mew1: :pig4: :pig4:
-
น่ารักกันมากเลย เซโคร ยูทาร์
-
โอยยยน่ารัก
ส่วนอิตาไป่ หาสามีไดโนเสาร์ อีกตัวให้นาง
เอาแบบ ดุ ๆ นางจะได้เลิกกร่างสักที!!!
-
ละมุน~~ :-[
-
ซึ้งจัง ทั้งคู่เป็นห่วงเป็นใยกันและกันมากเลย ทั้งสองรักกันนานแล้วเถอะแต่ยังไม่รู้ใจตัวเองหึหึ ยูทาร์ก็น่ารัก เซโครก็น่าฟัด แอร้ยยยชอบทุกตัวละครเลยจ้าาา.. แต่เว้นคนนึงคือหลงไป่ ชิ!!! ไม่อยากให้ปรากฎตัวเลย อยากให้คงความหวานอย่างนี้เรื่อยๆ
ขอบคุณค่าา^_^ เรื่องน่ารักมากมาย
-
มาต่อนะๆๆๆๆ
ชอบควาาสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยนี้มาก
อีกอย่างเซโครเลี้ยงยูทาร์เหมือนเลี้ยงน้องหมาเลย 55555+
เรานี่หัวเราะกร๊ากเลยตอนเซโครฝึกเหวี้ยงอาหารแล้วให้ยูทาร์ไปคาบ ฝึกยังกะโยนจานร่อนให้น้องหมางั้นล่ะ 5555+
ชอบครับ เป็นนิยายที่สนุกแล้วก็แฝงความรู้ดี ถ้ารวมเล่ม รับลอง อุดหนุนแน่ครับ!
-
งื้ออออ น่ารักจัง
ดีจังที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรนะ
-
น่ารักอะ น่ารัก
-
ยูทาร์เป็นไดโนที่น่ารักกกมากกกกก รู้จักอ้อนเซโครด้วยอ่ะ แถมมีการบอกรักกันเบาๆ โอ๊ยยยยย อิจฉาเซโครจริงๆ นะเนี่ยะตอนนี้
-
คุณพ่อขี้อ้อน ต่อไปคงไม่มีใครเข้าข้างเซโครแล้วล่ะ หุหุ
-
เราก็รักทั้งคู่น้าาาา
ห๊ะ! ตัวร้ายโผล่ :serius2: :serius2:
-
ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว เย่ๆ
-
น่ารักกันจริงๆๆๆ
-
น่ารัก มุ้งมิ้งเป็นที่สุด :-[
-
น่าร้ากกกกกกกก บอกรักกันแล้ววววว
-
บอกรักกันแล้ววว ><//
เป็นคู่ที่แลดูอบอุ่นมาก น่าร้ากกก
-
สนุกมากเลยคะ เนื้อหาน่าสนใจมากๆ ยูทาร์น่ารักสุดๆ อย่าลืมมาต่อไวไวนะคะ
-
อยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน เขาบอกรักกันแล้วตัววววว น่ารักที่สู๊ด >///<
ชอบตรงบทพิสูทธิ์นี้ล่ะ มันแสดงให้เห็นถึงความเชื่อใจของทั้งคู่จริงๆ
-
o13 o13 o13 o13
-
กลายรักครั้งที่❧13(ครึ่งแรก)
ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นอยู่กลางท้องฟ้าบอกเวลาบ่ายของวัน ภายในตึกเก่าที่ไม่ได้ใช้งานมาหลายปีมีชายหนุ่มที่ถูกจับมัดด้วยเชือกพร้อมเอามือไพ่หลังอยู่บนเก้าอี้เก่าๆตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางห้องโดยที่มีกลุ่มคนนับสิบยืนอยู่ด้านหน้าพร้อมกับชายวัยกลางคนที่แสนคุ้นหน้าเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นด้วยสายตาที่เคียดแค้นอย่างเห็นได้ชัด
เซโครไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาเจอกับสถานการณ์บ้าๆแบบนี้ด้วย...จำได้ว่าตอนเช้าก็นั่งจัดการมื้อเช้ากับยูทาร์หลังจากนั้นก็ขึ้นไปหาคุณเลโอเพื่อคุยในส่วนที่ค้างจากเมื่อวานแล้วแยกกันโดยที่ผมบอกให้ยูทาร์ไปหาพ่อเพื่อตรวจร่างกายประจำเดือนแต่พอผมแยกมาได้สักพักก็ดันถูกตีหัวจากด้านหลังพอลืมตาขึ้นมาก็อยู่ที่นี่ซะแล้ว...
แถมคนที่จับตัวผมมายังเป็นคนหน้าคุ้นที่ไม่รู้จักเข็ดหลาบซะจริงๆ
“คุณมีธุระอะไรกับผมเหรอคุณหลงไป่จิง”ผมถามออกไปอย่างเหนื่อยหน่ายเต็มทน...วันนี้ผมจะพายูทาร์ไปหาพี่โนว่าที่อยู่ฐาน2เพื่อดูการทำงานของพี่เขากับเหล่ายูทาห์แรพเตอร์ที่ถูกฝึกมาตั้งแต่เกิดซะหน่อย
ตอนนี้ตารางผมมันรวนไปหมดแล้ว...อยากจะรีบๆจัดการธุระของคนตรงหน้าให้เสร็จจะได้กลับไปหายูทาร์ก่อนที่จะออกมาตามเพราะผมกลับไปช้าเกินและถ้ายูทาร์มาแล้วเจอผมในสภาพนี้ก็คงได้มีคนเจ็บตัวกลับไปบ้างล่ะ
ผมไม่อยากให้ยูทาร์ทำร้ายใครถึงจะเป็นคนที่แย่มากแค่ไหนก็ตาม
“แกยังทำหน้านิ่งได้อีกเหรอ?...ทั้งที่หมดทางรอดเนี่ยนะ?”คนตรงหน้าถามเสียงเข้ม
“หมดทาง?...คุณคงพูดผิดแล้ว...โดนมัดแค่นี้ไม่ทำให้ผมหมดทางหรอก”ผมตอบกลับไปแล้วคลียิ้มเจ้าเล่ห์ให้อีกฝ่ายช้าๆ
ที่พูดไปไม่ใช่จิตวิทยาหรืออะไรทั้งนั้นแต่เป็นความจริงถึงไม่มียูทาร์ผมก็สามารถออกจากสถานการณ์นี้ได้อย่างสบาย...อ่อ...อาจจะเจ็บตัวนิดหน่อยก็ได้
“คิดว่าไกลขนาดนี้ไอ้สัตว์ประหลาดนั่นจะสามารถมาช่วยแกได้อีกงั้นเหรอ?!!”เสียงตะหวาดลั่นทำให้ผมอยากเอามืออุดหูจริงๆแต่เพราะมือถูกมัดอยู่เลยทำแบบนั้นไม่ได้
“ยูทาร์ไม่ใช่สัตว์ประหลาด...ผมขอถามคุณตรงๆเลยนะว่าต้องการอะไรจากผมกันแน่...ผมจำไม่ได้ว่าเคยไปทำอะไรให้คุณนะ”คำถามที่ยิงไปตามตรงทำให้คุณหลงไป่จิงก้าวเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะตบที่ใบหน้าผมอย่างแรงจนชาไปครึ่งหน้า
“ไม่ทำอะไรงั้นเหรอ?...ทั้งที่ฉันเอ็นดูแกแต่สิ่งที่แกตอบแทนกลับมาคือแย่งงานฉัน!...หน้าที่ดูแลไอ้สัตว์ประหลาดนั่นต้องเป็นของฉันแต่แกที่มาที่หลังกลับแย่งไปต่อหน้าต่อตา!....แล้วยังประจบสอพลอท่านประธานทั้งสามใส่ร้ายฉันว่าทำงานพลาดจนต้องโดนไล่ออก!!”เหมือนสิ่งที่คุณหลงไป่จิงอัดอั้นไว้จะระเบิดออกมาในครั้งเดียว
“ผมไม่ได้ทำ!”ผมสวนกลับไป
“แกทำ!!”
“ทำไมคุณถึงมาโทษผมทั้งที่ทั้งหมดนั่นมันเป็นความผิดของคุณเองแท้ๆ...ที่คุณไม่ได้รับงานก็เพราะคุณไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมและงานที่คุณทำอยู่ก็มีหลายอย่างที่พลาดพอเรื่องรู้ถึงหูพวกท่านประธานก็เป็นเรื่องปกติที่คุณจะโดนไล่ออก...คุณทำงานสะเพร่าเกินไปทั้งที่มีความรู้แต่กลับไม่เคยอาศัยความเข้าใจเอาแต่โทษว่าคนอื่นผิดโดยที่ไม่ดูตัวเอง!!”ผมตอบกลับไปอย่างเหลืออด
การที่เขาโดยไล่ออกมันความผิดผมตรงไหนกัน?
“หุบปาก...ถ้าฉันโดนไล่ออกแกก็ต้องโดนด้วย!!”
“...ผมว่าคุณคงเข้าใจผิด...คุณคงรู้ว่าวันนี้คุณเลโอเรียกผมขึ้นไปพบและเนื้อหาที่พูดคุยกันคือยกสิทธิ์การดูแลทุกอย่างของยูทาร์ให้กับผมอย่างเป็นทางการ”
“แกมัน...เด็กขี้ประจบ!!”เขาด่าผมพร้อมกับจ้องมาอย่างเคียดแค้น
“ผมไม่ได้ประจบ...แต่ผมได้มาด้วยความสามารถของตัวเอง...ผมอยากให้คุณไปเถอะ...ออกไปจากที่นี่ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ลงกว่านี้”ผมเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี การที่หายไปนานขนาดนี้ยูทาร์คงกำลังมาที่นี่และอาจไม่ได้มาคนเดียวด้วยอย่างน้อยถ้าคุณหลงไป่จิงยอมทำตามก็อาจพอกลบเกลื่อนไปได้ว่าแค่มาคุยกัน
“หุบปากซะ!...แกไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน!!”ดูท่าอีกฝ่ายคงจะไม่ฟังสินะ...
งั้นจะเกิดอะไรขึ้นผมคงช่วยไม่ได้แล้วนะ
แกร็ก
ตึงงง!!
เสียงของประตูบานใหญ่ที่ถูกเปิดพร้อมกันทั้งสองข้างอย่างรุนแรงดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มคนในเครื่องแบบที่วิ่งเข้ามาภายในอย่างรวดเร็วและหนึ่งในกลุ่มคนที่วิ่งมาก็มีความเร็วมากกว่าคนอื่นหลายเท่า...
“ผมคงช่วยคุณไม่ได้แล้วล่ะ”ผมบอกอีกฝ่ายที่ทำท่าทางตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ตึงแน่นจากการถูกมัด
“แก...นี่แกหลุดออกมาได้ยังไง?”คุณหลงไป่จิงหันมาถามด้วยความตกตะลึงที่ผมหลุดออกมาได้ง่ายๆ
“พอดีผมพอมีความรู้เรื่องพวกนี้นิดหน่อยเลยแก้ได้ง่ายๆน่ะ”ผมบอกออกไปตามความจริง
“บ้าเอ้ย!...พวกแกเข้ามาจับไอ้เด็กนี่ไว้!!”พอสิ้นคำสั่นของเจ้านายคนกว่า20คนก็วิ่งเข้ามาหาผมอย่างพร้อมเพรียง...ผมหันไปมองดวงตาสีเหลืองอำพันที่เบิกกว้างขึ้นแล้วรีบวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรนก่อนจะคลียิ้มบางๆส่งไปให้ยูทาร์
ทันทีที่คนแรกเข้ามาใกล้หมายจะชกผมก็หลบหมัดนั่นอย่างง่ายดายพร้อมกับต่อยสวนกลับไปจนอีกฝ่ายหงายหลังตึงในจังหวะเดียวกับที่ใช้ท่าจระเข้ฟาดหางกวาดรวดไปได้ถึงสองคนติด ผมเว้นระยะออกมาเล็กน้อยเพื่อตั้งหลักและสังเกตการณ์ว่าจะมาไม้ไหน
เหล่าคนที่วิ่งเข้ามาต่างชะงักเมื่อเห็นผมทำคนตัวบึกหนากว่าตัวเองหลายเท่าล้มไปนอนได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องให้ใครช่วยแต่พอตั้งสติได้พวกเขาก็กรูกันเข้ามาอีกครั้งนึง...ผมลดการ์ดที่ตั้งไว้ลงแล้วยืนอยู่นิ่งๆเพราะผู้ชายพวกนั้นคงมาไม่ถึงผมหรอก
ผั๊วะ!
ยูทาร์ที่มาถึงกระโดดถีบเหล่าลูกน้องของคุณหลงไป่จิงลงไปนอนได้ทีเดียวหลายคนก่อนจะหันไปใช้หมัดชกคนที่เข้ามาใกล้ต่อ ใช้เวลาไม่ถึง5นาทีลูกน้องทั้ง20คนก็นอนหงายเรียบโดยมีหัวหน้ายืนอยู่เพียงลำพัง
เหล่าคนในเครื่องแบบที่เข้ามาล้อมรอบได้แต่ยืนมองมาอย่างอึ้งๆโยที่ไม่ได้เข้ามาช่วยเลยสักนิดแต่ผมกับยูทาร์ก็ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือล่ะนะ
ผมขอเล่าถึงที่มาที่เก่งขนาดนี้หน่อยละกัน...ความจริงมันเป็นแค่งานอดิเรกของผมที่ชอบออกกำลังกายโดยการเล่นพวกศิลปะการต่อสู้เพื่อจะได้มีกล้ามกับเขาบ้างแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่เล่นมาเกือบ10ปีแต่ก็ยังคงมีรูปร่างเท่าเดิม...
พอรู้ว่าไม่มีทางมีกล้ามเหมือนคนอื่นผมก็เลยหยุดการออกกำลังกายถึงอย่างนั้นพวกรุ่นน้องที่เห็นฝีมือผมที่ซ้อมกับพวกรุ่นพี่ก็มาลากผมแล้วขอให้เป็นหัวหน้าชมรม...นั่นทำให้ผมได้ฝึกซ้อมและลับฝีมืออยู่เสมอจนตอนนี้ร่างกายผมมันก็ขยับไปเองได้ตามใจแล้ว
ถึงได้บอกไงว่าผมออกไปได้โดยไม่ต้องให้ยูทาร์ช่วย
“หลงไป่จิง”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับร่างของคุณเลโอที่เดินเข้ามาภายใน ดวงตาสีทองอ่อนคมกริบจ้องมาราวกับราชสีห์กำลังล่ากระต่ายทำให้คนที่ถูกจ้องทรุดลงไปนั่งกับพื้น
“คะ...คุณเลโอ”
“ตอนแรกกะจะไล่คุณออกเฉยๆโดยไม่ขุดคุ้ยเรื่องที่คุณเคยทำแล้วเชียวแต่แบบนี้คงต้องให้มาตรการที่รุนแรงขึ้นสินะ”
“หมายความ...ว่ายังไง?”คุณหลงไป่จิงถามเสียงสั่น
“คุณลักลอบค้าชิ้นส่วนไดโนเสาร์ใช่ไหม?”คุณเลโอถามเสียงนิ่ง
“มะ...ไม่ใช่นะครับ”คนถูกกล่าวหารีบปฏิเสธทันควัน
“หึ...คิดว่าฉันไม่รู้รึไงว่าแกเคยทำอะไรบ้างน่ะ?...แค่คำพูดเดียวฉันสามารถทำให้คนแบบแกหายไปได้ตลอดการโดยไม่มีใครกล้าตามหา...อยากลองไหมล่ะ?”
“...ไม่ครับ...ยกโทษให้ผมเถอะ”คุณหลงไป่จิงรีบยกมือขึ้นพร้อมกับขอร้องให้ยกโทษให้ซึ่งผมว่ามันน่าจะสายไปแล้วนะ
“ฉันให้โอกาสที่จะก้าวออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยแต่คนที่ไม่อยากออกไปอย่างปลอดภัยคือตัวแกเองนะ...หลงไป่จิง”คุณเลโอบอกเสียงเข้ม
“ผม...ผม...ขอโอกาส...”
“หมดโอกาสสำหรับคุณแล้ว...ซิลเอาตัวไป”พอพูดจบคุณเลโอ ชายร่างสูงที่ดูเหมือนจะเป็นบอดีการ์ดคนสนิทก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องอีก3คนแล้วลากตัวคุณหลงไป่จิงออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง...เขาจะไม่มีทางมารบกวนเธออีกเป็นครั้งที่สอง”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะกลับสู่สภาพปกติ เหล่าลูกน้องที่ถูกจัดการก็ถูกพาตัวไปด้วย....ถึงจะไม่รู้ว่าคุณเลโอจะทำอะไรแต่การที่ไม่รู้อาจเป็นการดีกว่าก็ได้...พอจัดการทุกอย่างเสร็จผมก็พายูทาร์นั่งรถเพื่อไปยังฐาน2
“...เซโคร...ได้กลิ่นไดโนเสาร์”ยูทาร์พูดขึ้นโดยที่ดวงตาคู่สวยยังจ้องไปด้านหน้าอยู่แปลว่าไดโนเสาร์อยู่ด้านหน้าสินะ
“ตัวใหญ่ไหม?”ผมหันไปถามแล้วเริ่มชะลอความเร็วเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
“...ไม่นะ...เล็กกว่าเซโครครึ่งหนึ่งได้”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมเริ่มนึกสายพันธุ์ที่มีความสูงน้อยกว่ามนุษย์ซึ่งก็มีมากอยู่แต่ที่เล็กกว่าผมครึ่งนึงแล้วจะมาอยู่แถวนี้ก็คงมีได้แค่พันธุ์เดียว
เมื่อรู้ว่าเป็นพันธุ์อะไรผมก็เหยียบคันเร่งเพิ่มเพราะหมดกังวลว่าต้องปะทะกับไดโนเสาร์ตัวไหนอีก...ไม่นานรถที่ผมขับก็หลุดจากเขตป่าเป็นเขตทุ่งหญ้าพร้อมกับฝูงของไมโครเซราตุสเดินไปมาอยู่ริมทางอย่างน่ารักถึงหน้าตามันจะไม่ค่อยเข้ากับคำว่าน่ารักสักเท่าไหร่ก็ตาม
“ไดโนเสาร์พันธุ์อะไรเหรอเซโคร...ทำไมเล็กจัง”ยูทาร์มองไปยังฝูงไมโครเซราตุสพร้อมกับถามขึ้น
“ไมโครเซราตุส... เป็นไดโนเสาร์กินพืชขนาดเล็ก ความยาวจากหัวจรดหางไม่ถึง1เมตร น้ำหนักประมาณ7กิโลกรัมสามารถเดินสองขาได้ บางครั้งก็เดินสี่ขามักอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม...ขนาดใกล้เคียงกับอลาสกันเลยล่ะ”ผมอธิบายให้ยูทาร์ฟัง
“อลาสกัน?”
“อ้อ...สายพันธุ์สุนัขน่ะ”ผมลืมไปว่ายูทาร์ไม่เคยเห็นสุนัขนี่นา
“สุนัขคืออะไร?”
“สัตว์ชนิดหนึ่งที่คนนิยมเลี้ยงเพราะน่ารักและเป็นมิตรไง...ถึงบางสายพันธุ์จะดุสุดๆเลยก็เถอะ”ผมพูดพรางนึกถึงสุนัขพันธุ์บางแก้วที่เพื่อนนำเข้าจากประเทศไทย...ถึงหน้าตาจะหล่อจนแอบอิจฉาแต่พอเข้าใกล้ก็ทั้งเห่าแถมยังกัดอีก...ผมหวิดโดนกัดไปหลายรอบแล้ว
“คนชอบเลี้ยงเพราะน่ารักเหรอ...งั้นมีใครเลี้ยงไดโนเสาร์ไหม?”
“มีสิ...ผมไง”ตอบกลับไปแบบไม่ต้องคิดเลย...ก็กำลังเลี้ยงยูทาร์อยู่จริงๆนี่
“ไม่นับผมสิเซโคร...ผมเป็นเพื่อนเซโครนะไม่ใช่สัตว์เลี้ยง”ยูทาร์แย้งทันที ดวงตาสีเหลืองอำพันหันมาจ้องเขม็งราวกับจะสื่อว่าไม่พอใจกับคำพูดผมสุดๆ
“เพื่อนกันเขาไม่บอกรักกันหรอกนะ”ผมบอกอีกฝ่ายแล้วหันไปยิ้มให้
“...งั้นเราเป็นอะไรกันล่ะ?”ยูทาร์นิ่งไปสักพักก่อนจะถามขึ้น
“มันพูดยากน่ะ...ค่อยๆเรียนรู้ไปดีกว่าเนอะ...ถึงแล้ว...ที่นี่ล่ะที่ผมจะพามาวันนี้”ผมเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับจอดรถที่ข้างกรงขนาดกลางที่มีคนคุมยืนอยู่ที่สะพานด้านบนของกรง
“กลิ่นไดโนเสาร์...5ตัว”ยูทาร์พึมพำเมื่อพวกเราเดินเข้าไปใกล้กรงตรงหน้ามากขึ้น
“กลิ่นของยูทาห์แรพเตอร์...หนึ่งในสายพันธุ์ที่อยู่ในตัวยูทาร์ไง”
.........................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์(ไม่ได้มีมาซะนานเลย)
(http://f.ptcdn.info/504/032/000/1434470225-Microcerat-o.jpg)
Microceratus ไมโครเซราตุสหรือเจ้าเขาน้อย จากอดีตกาล เคยมีชีวิตอยู่ในช่วงปลายยุคครีเตเชียส แถบๆทวีปเอเชีย พบฟอสซิลครั้งแรกในปี ค.ศ.1983 มันสามารถเดินสองขาได้ บางครั้งก็เดินสี่ขา (ขาหน้าค่อนข้างสั้นสำหรับไดโนเสาร์กินพืชที่ยืนด้วยสองขา) มักอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม เป็นไดโนเสาร์ขนาดเล็ก ความยาวจากหัวจรดหางไม่เกิน 1 เมตร น้ำหนักประมาณ 6-7 กิโลกรัม โผล่มาในฉากไดโนเสาร์ขนาดเล็ก ที่เปิดให้เด็กสามารถขี่เล่นได้เสมือนขี่ม้าครับ ถ้ามันมีชีวิตอยู่จริงๆ ก็ไม่น่าจะห่างจากหมาไซส์ใหญ่มากนัก พออุ้มไหว น่ารักน่าชังทีเดียว
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : http://pantip.com/topic/33795958
..........................................................................................
สวัสดีคะ
มาอัพต่อแล้วนะคะ...จากที่เห็นในหลายๆคอมเม้นท์ดูเหมือนจะฟินที่ทั้งคู่บอกรักกันแล้ว
อยากบอกว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น...อย่างที่รู้ๆกันว่าพระเอกของเรานั้นออกจะซื่อจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเพราะงั้นเลยแต่งแบบค่อยเป็นค่อยไป
ในตอนนี้ที่มาอัพครึ่งเดียวก่อนเพราะอยากให้นักอ่านทุกคนกล่าวอำลาแก่คุณหลงไป่จิงที่ได้เป็นตัวหลักในตอนนี้และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็นเขาออกโรงแล้ว
มีคำพูดอะไรจะฝากถึงก็ตามสบายเลยคะ(555+)
ครึ่งหลังจะเป็นยังไงอีกไม่นานได้รู้แน่คะ
บอกเลยว่าจะมาอัพในวันจันทร์หน้านะคะ
เตรียมรอรับความตื่นเต้นได้เลยคะ...จะมีใครพอเดาเนื้อหาต่อจากนี้ได้ไหมนะ?(อิอิ)
ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจและทุกๆคอมเม้นท์ที่ทำให้เราแต่งเรื่องนี้มาได้ขนาดนี้นะคะ
ตอนนี้ก็ผ่านไปเกินครึ่งเรื่องมานิดหน่อยแล้วคะ
ถ้าถามหาเนื้อหาดราม่าในช่วงท้ายบอกได้เลยว่ามีแค่หน่วงๆนิดนึง(นิดจริงๆ)แล้วก็จะจบแบบแฮปปี้ตามที่คิดไว้
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะ
บ๊ายบาย :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
แก้ไขคำผิด ขอขอบคุณคุณ mimasopuและrayaiji ที่ช่วยบอกคะ
-
เซโครวเก่งมากอีหนู ต่อไปนี้ตาไป่จิงคงหายไปจากโลกละนะ
ยูทาร์พาร์ทนี้ก็มุ้งมิ้งดีเนอะ อ่านแล้วอยากเลี้ยงไดโนเสาร์บ้าง
Ps.สับประหลาด------->สัตว์ประหลาด
จะรออ่านต่อไปนะคะเป็นกำลังใจให้
-
555 สมน้ำหน้า ทำตัวเองแท้ๆเลย อยากหัวเราะให้ลั่น
บังอาจมาจับเซโคร แต่เซโครเท่จังเลยยยยย เก่งครบสูตร
-
อยากเห็นฉากแอ็คชั่น น่าตื่นเต้นๆๆๆอ่ะ
-
บ๊ายบายหลงเป่ยจิง ขอให้ไปสู่ทุกขตินะ ยูทาร์น่าย๊ากกกก//จับน้วย//โดนยูทาร์กดหัวแล้วมองด้วยสายตาเหยียดหยาม
มุมแก้คำผิดชีวิตสดไสยยย 1) สะเพล่า -->> สะเพร่า
2)เครียดแค้น -->> เคียดแค้น
-
บอกเลยว่าสมน้ำหน้าาาาอิตาไป่
-
เซโครเก่งมากกก เล็กพริกขี้หนูสินะ
อร๊ายยยยย น่ารักแท้
-
อ่านเรื่องนี้จบเเบบอยากวาดไดโนเสาร์เลย 5555
-
o18
-
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือไป่จิงก็ยังมีท่านประธานทั้งสาม
-
พระเอกซื่อๆ ต้องให้เซโครสอนทุกอย่าง อิอิ โอยยย จิ้นไปไกลง่าาาา
-
พระเอกเรานี่ซื๊อซื่อจังเลยน้า บางทีก็อยากกระโดกัดคอแล้วฟัดๆให้หายหมั่นเขี้ยวจริงๆอิอิ หนูเซโครก็เก่งมากเลยลูก สมแล้วท่่เป็นลูกรักของอิฉัน (ชอบนายเอกเก่งๆฮิๆๆ)
แฮปปี้ แฮปปี้ เสียงนักเขียนสะท้อนอยู่ในใจ ฮิ้วววว
ขอบคุณค่ะ
-
น่ารักอ่ะยูทาร์ มาจุ้บแก้นที่สิ555
-
o22 o22 ตัวเล็กจี๊ดเดียวแต่ก็เก่ง สุดยอดจริงๆเซโคร
-
รักคนแต่งที่สุดเลยมาต่อตอนที่อยากจะอ่านมานานสมน้ำหน้ามันนัก
-
สงสารหลงไป่จิงนิดนึง ใช้งานจบละ บ๊ายบายยยยย
ทำไมนึกภาพยูทาร์กางมือหน้าแรพเตอร์ "Easy boy!!!" :laugh:
พระเอกซื่อแบบนี้ ต้องมีตัวกระตุ้นนนนน
รอตอนต่อไปน้าาาา
-
สมน้ำหน้าลุงนั่น
-
ยูทาร์น่ารัก :-[
-
ฮืออออ ผมนี่มารอยูทาร์ที่หน้ากรงทุกวันเลยครับ o18 o18
ใจนี่ก็แบบ เฮ๊ยยย เมื่อไหร่จะมาต่อหว๊า
ลงแล้วครับ หลงไปกับความน่ารักของยูทาร์ :ling1: :ling1: :ling1:
มาต่ออีกครึ่งไวๆน๊าาาา รู้สึกเหมือนยังไม่เต็มอิ่มไงก็ไม่รู้อ่า
-
เซโครเก่งอ่ะ 555555
ยูทาร์ก็น่ารัก > <
ชอบค่ะๆ
-
เซโครเมพว่ะเฮ้ย -0-;
ยูทาร์น่ารักอีกแล้ววว
-
สมน้ำหน้า อิตาลุงหลง 5555
-
เซโครน่ารักกกกกกก
พยายามเข้านะให้ยูทาร์รู้ว่าคนเป็นเพื่อนไม่ทำแบบนี้หรอก อิอิ
-
สมไป๋ อยากหลงผิดคิดชั่วดีนัก
-
อยากฝากบอกว่า ลาก่อยยยย ตัวปลากรอบ :hao7: :hao7: :hao7:
เซโครเก่งจังงง ดีเริ่ดมากลูก :katai2-1:
รอตอนต่อไปนะค้าาา
-
บ๊ายบาย หลงไป่จิง :bye2: เซโครและยูทาร์ยังคงความมุ้งมิ้งตลอดกาลลล :z3:
-
กลายรักครั้งที่❧13(ครึ่งหลัง)
“กลิ่นไดโนเสาร์...5ตัว”ยูทาร์พึมพำเมื่อพวกเราเดินเข้าไปใกล้กรงตรงหน้ามากขึ้น
“กลิ่นของยูทาห์แรพเตอร์...หนึ่งในสายพันธุ์ที่อยู่ในตัวยูทาร์ไง”ผมหันไปบอกยูทาร์แล้วเงยหน้าขึ้นไปด้านบนก่อนจะสบเข้ากับดวงตาสีเทาที่คุ้นเคย เขายิ้มให้ผมก่อนจะชี้ลงมาข้างล่าง...
จะบอกให้ผมรอก่อนสินะ
“เรารอนี่แป๊บนึง”
“พวกเธอวิ่งมาทางนี้”ผมหันไปมองยูทาร์ที่มองไปยังซี่กรงเหล็กที่สามารถมองเห็นได้ด้านได้...เหล่ายูทาห์แรพเตอร์วิ่งตรงมาหยุดอยู่หน้ากรงก่อนจะร้องเสียงสูงราวกับจะทักทายยูทาร์
“พวกเธอว่ายังไง?”ผมถามขึ้นเมื่อเห็นยูทาร์ครางเบาๆตอบกลับไป
“เธอทักทายแล้วถามว่าทำยังไงถึงได้ออกมาข้างนอกกรงแบบนี้”
“แล้วยูทาร์ตอบไปว่ายังไงล่ะ?”
“ห้ามฆ่ามนุษย์และเชื่อใจมนุษย์”คำตอบของยูทาร์ทำให้อมยิ้มเลยล่ะ...เขาเอาสิ่งที่ผมสอนไปบอกกับไดโนเสาร์ต่อ
“ดีมากยูทาร์”
“เธอบอกว่าตัวเองก็ไม่ฆ่ามนุษย์และเชื่อใจมนุษย์เหมือนกันแล้วทำไมถึงออกมาไม่ได้”ยูทาร์บอกแล้วกันมามองหน้าผมเหมือนจะขอความช่วยเหลือ
“พวกเธอไม่เคยฆ่าจริงเหรอ?”เท่าที่ได้ยินมาไม่ใช่แบบนั้นนะ
“...พวกเธอบอกว่าไม่นับมนุษย์ที่ตกลงมาหรือคนที่เชื่อใจไม่ได้”ยูทาร์หันกลับไปมองพวกยูทาห์แรพเตอร์แล้วพูดขึ้นโดยที่ยังไม่ละสายตาออกมา
“อันนั้นก็ต้องนับด้วย...งั้นถามให้หน่อยได้ไหมว่าพวกเธอเชื่อใจใคร”ผมพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้กรงพร้อมกับยูทาร์มากขึ้นเพื่อจะได้เห็นไดโนเสาร์ที่อยู่ในกรงชัดๆ
“...โนว่า...”
“เรียกชื่อพี่ทำไมครับ?”ยังไม่ทันที่ยูทาร์จะพูดจบเสียงทุ้มสุภาพก็ดังขึ้นจากด้านข้างพร้อมกับผู้ชายรูปร่างดีผมซอยสั้นที่น้ำตาลอ่อนกับดวงตาสีเทาตามแบบฉบับลูกครึ่งเดินมาทางนี้...ผมหันไปมองยูทาร์ที่ยังยืนนิ่งเหมือนกับรู้อยู่แล้วว่าพี่โนว่าจะมาหาอาจเป็นเพราะพี่เขาไม่ได้คิดร้ายยูทาร์เลยไม่ระวังตัวเป็นพิเศษละมั้ง
“พี่โนว่า”ผมวิ่งเข้าไปหาพร้อมกับกอดทักทาย
“ไงเซโคร...โตขึ้นเยอะนี่”พี่โนว่าทักทายพร้อมจูบแก้มทักทายผมเบาๆและนั่นทำให้ร่างของผมที่กอดกับพี่เขาอยู่โดนกระชากออกอย่างแรงอย่างไม่ทันตั้งตัวพอรู้ตัวอีกทีก็โดนยูทาร์กอดไว้แน่นนจากด้านหลังแล้ว
“ยูทาร์?”ผมเรียกคนด้านหลังอย่างไม่เข้าใจ
“ฮะฮะ...เขาหวงเราน่ะเซโคร....ขอโทษด้วยนะ...อ่อ...ยูทาร์ใช่ไหม?”พี่โนว่าดูจะไม่ติดใจสิ่งที่ยูทาร์ทำเท่าไหร่แถมยังดูเหมือนจะอยากสนิทกับยูทาร์ด้วย
“...ครับ...ผมชื่อยูทาร์...คุณทำอะไรเซโคร?”ยูทาร์แนะนำตัวพร้อมกับจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
“หื้อ?...ทักทายไง...เราไม่เคยสอนวิธีทักทายให้เขาเหรอ?”พี่โนว่าหันมาถามในประโยคสุดท้าย
“ครับ...ผมสอนแค่จับมือทักทายเท่านั้น”ผมตอบกลับไป
“อ้อ...นั่นเลยเป็นสาเหตุที่เขาโกรธคงคิดว่าพี่จะทำอะไรเซโครสินะ”ผมได้แต่ส่งยิ้มแหะกลับไปให้อย่างไม่แน่ใจว่ายูทาร์จะคิดแบบที่ว่าจริงรึเปล่า...
อาจจะไม่ใช่โกรธหรือหวง...แต่ยูทาร์อาจจะกำลัง...
‘หึง’
แค่คิดก็รู้สึกร้อนๆที่หน้าแล้ว
“คุณคือโนว่า?”ยูทาร์ถามออกไปโดยที่ยังกอดผมไว้แน่น
“ใช่...เธอเคยได้ยินเรื่องของพี่มาก่อนเหรอ?”พี่โนว่าถามกลับอย่างสนใจ...ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันเพราะยูทาร์ทำท่าเหมือนรู้จักพี่โนว่าอยู่ก่อนแล้ว
“พึ่งได้ยินมา”
“จากใคร?”
“พวกเธอ...”ยูทาร์บอกพร้อมกับหันไปทางกรงที่มียูทาห์แรพเตอร์ทั้ง5ตัวยืนส่งเสียงร้องอยู่ภายใน
“...พูดจริงเหรอ?”ดูเหมือนพี่โนว่าจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่
“อืม...พวกเธอบอกว่าเชื่อใจนายมากที่สุดเป็นคนเดียวที่ไม่อยากฆ่า”คำพูดของยูทาร์ทำให้พี่โนว่าหันไปมองเหล่าแรพเตอร์ที่จ้องมาทั้ง5ตัวด้วยรอยยิ้ม
“ดีใจที่พวกเธอคิดแบบนี้นะ...อายน์...ซไว...ดราย...เฟียร์...ฟึน”พี่โนว่าบอกกับไดโนเสาร์ที่อยู่อีกฝากนึง
“ยูทาร์ปล่อยผมก่อน”ผมเริ่มดิ้นเมื่อรู้สึกว่าถูกอีกฝ่ายกอดนานไปแล้วถ้าเป็นตอนนอนผมคงไม่ต้องมาดิ้นอะไรแบบนี้เพราะไม่มีใครเห็นแต่ที่นี่มีหลายคนมองอยู่
“ทีโนว่ายังให้กอดเลยนี่”ยูทาร์ไม่ยอมปล่อยแถมยังกอดผมแน่นกว่าเดิมอีก
“นั่นแค่ทักทาย”
“ผมไม่ชอบเลย...อย่าให้ใครกอดอีกได้ไหม?”เสียงของอีกฝ่ายทำให้ผมใจอ่อนแต่การกอดมันก็เป็นการทักทายอย่างหนึ่งจะให้เลิกมันก็...
“...”ผมหันไปมองดวงตาสีเหลืองอำพันของยูทาร์ที่จ้องมาอย่างอ้อนวอน
“นะครับ”ประโยคน๊อคเอาค์มาแล้วครับ
“...พ่อสอนให้ทำแบบนี้ใช่ไหม?”ผมเม้มปากแน่นแล้วถามเสียงเบา...คงไม่มีคนอื่นที่จะสอนแล้วนอกจากพ่อ
“พ่อบอกว่าถ้าอยากให้เซโครทำตามต้องอ้อนเยอะๆ...ผมชอบจังเวลาเซโครหน้าแดงแบบนี้”ยูทาร์ตอบผมพร้อมกับมองมาที่ใบหน้าผมที่ตอนนี้คงแดงแจ๋เพราะคำพูดของคนตรงหน้าแน่ๆ
“...รู้แล้ว...หยุดพูดเถอะ”ไม่งั้นผมคงได้เขินตายกันไปข้าง
“สัญญาก่อนเซโคร”
“สัญญาก็ได้”สุดท้ายผมก็ต้องยอมยูทาร์จนได้สิ
“อะแฮ่ม!...พวกเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้กันแค่2คนนะ”เสียงทุ้มของพี่โนว่าทำให้ผมได้จังหวะผละออกมาจากยูทาร์แล้วหันไปส่งยิ้มให้พี่เขา...
“ขอโทษครับพี่”
“เอาเถอะ...แล้ววันนี้มาทำอะไรกันดีล่ะ?”พี่โนว่าดูจะไม่ติดใจเรื่องเมื่อครู่เท่าไหร่ทำให้ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ผมอยากดูการดมกลิ่นและติดตามที่พี่โนว่าเคยพูดถึงน่ะครับ”
“ได้สิ...อ้อ...พี่ยังไม่ได้แนะนำตัวกับยูทาร์เลย...พี่ชื่อโนว่า มาตินณ์เนสเรียกพี่โนว่าเหมือนเซโครก็ได้หรือจะเรียกโนว่าเฉยๆก็โอเคพี่ไม่ถืออยู่แล้ว”พี่โนว่าแนะนำตัวกับยูทาร์ด้วยรอยยิ้ม
“ครับ...พี่โนว่า...”
“โอเค...งั้นเราไปดูกันเลยเลย”พี่โนว่าพาเราเดินอ้อมไปตรงบันไดแล้วขึ้นไปด้านบนของกรงที่มีสะพานเชื่อมกันเป็นรูปกากบาทโดยที่ด้านล่างมียูทาร์แรพเตอร์กำลังวิ่งไปมาเหมือนกำลังเล่นกันอยู่ด้านล่าง
“เอาล่ะ...จินเริ่มได้”พี่โนว่าพูดกับคนที่อยู่ในสายด้านล่าง
“พี่จะทำอะไรครับ?”
“ตอนแรกต้องเรียกพวกอายน์ให้ไปรวมกันแล้วให้ดมกลิ่นที่ต้องการให้ตามโดยจะใช้จังหวะการดีดนิ้วแทนการออกคำสั่ง”พี่เขาอธิบายแล้วดีดนิ้วให้ดูเป็นตัวอย่าง
“ผมลงไปได้ไหม?”ยูทาร์ที่ยืนอยู่เงียบถามขึ้นแล้วหันมามองหน้าผม
“ลงไป?...ยูทาร์จะวิ่งแข่งกับพวกเธอเหรอ?”
“ใช่”
“จะกลับร่างไดโนเสาร์?”
“...กลับยังไงล่ะ?”สิ่งที่ผมได้กลับมาคือคำถามพร้อมกับใบหน้างงงวยของยูทาร์
“...”จะว่าไปยูทาร์ไม่เคยบอกว่ากลับร่างไดโนเสาร์ได้แต่ทุกครั้งที่ทำได้อาจเป็นเพราะอยู่ในสถานการณ์คับขันหรือไม่ก็เพื่อปกป้องผม...ถึงจะกลายร่างเป็นไดโนเสาร์ได้3ครั้งแต่ไม่แน่ว่าอาจไม่มีครั้งที่4ก็ได้...
คงถึงเวลาที่จะสอนให้ยูทาร์ควบคุมการกลายร่างอย่างจริงจังสักที
“ห้ามลงไปนะ...พี่อยากให้เราดูไว้ว่าการล่าเป็นฝูงมันเป็นยังไง...ยูทาร์ยังไม่เคยเห็นใช่ไหมล่ะ?”พี่โนว่าหันไปถามยูทาร์
“ครับ...แต่ดูน่าสนใจ”ดูท่ายูทาร์จะอยากลองมากจริงๆแฮะ
ตึง!
เสียงบางอย่างจากด้านล่างทำให้ผมก้มลงไปมองก่อนจะเห็นลูกแพะตัวนึงที่วิ่งหน้าตั้งผ่านสะพานที่ผมยืนอยู่ไปพร้อมกับฝูงแรพเตอร์ที่วิ่งตามอย่างไม่ลดละ...ด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกันทำให้เจ้าแพะนั่นวิ่งกลับเข้ากรงได้อย่างหวุดหวิด....
ผมนี่ใจหายเลย...นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว!
“พวกพี่ใช้เหยื่อล่อที่มีชีวิตเพื่อจะได้ให้การทดสอบนั้นสมจริงมากที่สุด”พี่โนว่าอธิบายเพิ่ม
“พวกเธอไม่เคยออกมาข้างนอกใช่ไหม?”ยูทาร์ถามพี่โนว่าทั้งที่สายตายังมองไปฝูงแรพเตอร์ที่ยังยืนอยู่หน้ากรงที่แพะพึ่งวิ่งเข้าไป
“พี่ไว้ใจพวกเธอไม่ได้ถึงจะอยากไว้ใจมากแค่ไหนก็ตาม...การเอาพวกเธอออกมามันเสี่ยงไป...ถึงจะเชื่อใจกันมากแค่ไหนแต่สัณชาตญาณดิบที่อยู่ในตัวก็ทำให้พวกเธอล่าทุกอย่างที่เคลื่อนไหว”คำอธิบายทำให้ยูทาร์ยืนนิ่งไปเหมือนกำลังคิดตามสิ่งที่พี่โนว่าพูด
“วิ๊ว ~...มานี่สาวๆ...มารับรางวัลเร็ว...”เสียงเรียกของพี่โนว่าทำให้เหล่ายูทาร์แรพเตอร์วิ่งมาอย่างพร้อมเพรียงช่างเป็นภาพที่น่าตกใจจริงๆ
“อายน์...นี่ของเธอ...เก่งมาก”พี่โนว่าพูดชมแล้วโยนหนูแช่แข็งลงไปด้านล่าง...ยูทาห์แรพเตอร์ลายสีชมพูแก่กระโดดรับได้อย่างแม่นยำแล้วกลืนรางวัลที่ได้ลงคอไปอย่างรวดเร็ว
เซโครมองพี่โนว่าโยนรางวัลไปให้กับฝูงแรพเตอร์ด้านล่างอย่างอึ้งๆที่พี่เขาสามารถสื่อสารกับไดโนเสาร์ได้มากถึงขนาดนี้...สมแล้วที่ใครๆต่างยอมรับให้พี่เขาเป็นหัวหน้าที่คุมฐาน2นี่ด้วยความยินดี ไม่ใช่แค่มีความสามรถแต่ยังเข้าใจในตัวของไดโนเสาร์แต่ละสายพันธุ์เป็นอย่างดีและคอยหาความรู้อยู่สม่ำเสมอด้วย
ทั้งที่พวกยูทาห์แรพเตอร์เชื่อฟังขนาดนี้แต่ก็ยังไม่ประมาทแถมยังสร้างความเชื่อใจให้มากขึ้นไปอีก...เป็นคนที่สมควรแก่การยกให้เป็นบุคคลตัวอย่างที่สุด
“โนว่า...ที่ศูนย์ติดต่อมาว่ามีไดโนเสาร์หลุด!!!”เสียงตะโกนที่ดังมาจากด้านล่างทำให้พวกเราที่อยู่ด้านบนหันควับไปมองเป็นตาเดียว
“ไดโนเสาร์หลุด?...พันธุ์อะไร?”พี่โนว่าถามต่ออย่างรวดเร็ว
“จิแกนโนโตซอรัส!!”ทันทีที่ชื่อนั่นดังขึ้นมาเหล่าคนที่อยู่รอบๆก็หน้าซีดเผือดกันทันควัน
“บ้าเอ้ย!...ทำไมต้องเป็นเจ้าตัวจัดการยากด้วยเนี่ย!”พี่โนว่าสถบออกมาอย่างหัวเสีย
“เซโคร...ไดโนเสาร์นั่นน่ากลัวเหรอ?”ยูทาร์ถามผมด้วยหน้าตาสงบนิ่งสำหรับคนที่ไม่รู้จักก็คงไม่รู้ถึงความน่ากลัวของจิแกนโนโตซอรัสหรอก...
“น่ากลัวที่สุดเลยล่ะ...จิแกนโนโตซอรัสเป็น1ใน3ไดโนเสาร์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่และดุที่สุดมียาวเกือบ14เมตรและนํ้าหนักกว่า10ตัน...ยาวกว่ายูทาร์อีก...ไม่ใช่แค่ขนาดตัวที่น่ากลัวแต่ยังมีความเร็วที่ถือว่ามากในหมู่ไดโนเสาร์กินเนื้อด้วย...14เมตรต่อวินาทีเป็นค่าที่ถือว่าสูงมาก”ผมอธิบายให้ยูทาร์ฟัง
“ผมจะปกต้องเซโคร”
“ไม่ต้องหรอก...ถึงจะตัวใหญ่แต่ไม่ค่อยมีหัวคิดนักหน่วยควบคุมคงกำลังล่าอยู่...กรงของมันก็อยู่ถัดไปประมาณ250กิโลเมตรแถมเรายังไม่รู้แน่ชัดว่าวิ่งไปทางไหนด้วย”
“เสร็จไปแล้ว”เสียงของพี่โนว่าดังขึ้นอย่างเคร่งเครียดพร้อมกับหันมามองผมด้วยแววตาจริงจัง
“ครับ?...อะไรเสร็จ?”หมายถึงจับกุมได้แล้วใช่ไหม?
“หน่วยที่ส่งไปเสร็จหมดแล้ว”
“ไม่จริงน่า!”ผมพลั้งปากออกไปด้วยความตกใจ...ปกติไม่น่าจะรอดไปได้นี่นา...
แล้วทำไม...
“จากที่แจ้งมา...ไม่ใช่แค่จิแกนโนโตซอสรัสแต่ยังมี...สไปโนซอรัสด้วย”
“บ้าไปแล้ว!”ผมแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินชื่อของอีกสายพันธุ์ที่หลุดออกมา
นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ...ใครมันปล่อยออกมากัน!
“เซโคร...”เสียงของยูทาร์ที่ดังขึ้นพร้อมกับสัมผัสที่ใบหน้าทำให้ผมพอจะตั้งสติได้
“ทางศูนย์อยากให้เราไปจัดการน่ะเซโคร”พี่โนว่าบอกตามที่ได้ยินจากหูฟังไร้สาย
“ไม่มีทาง!!”ผมตะโกนกลับไปในทันที...พวกเขาจะให้ยูทาร์ไปจัดการจิแกนโนโตซอรัสกับสไปโนซอรัสงั้นเหรอ?
ไม่ใช่ส่งไปจับแต่ส่งให้ไปเป็นเหยื่อล่อชัดๆ
สไปโนซอรัสหนึ่งในยีนไดโนเสาร์ที่อยู่ในตัวยูทาร์และเป็นตัวที่อันตรายที่สุด ด้วยขนาดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาไดโนเสาร์กินเนื้อและฟันที่แสนคมกริบสามารถล่าเหยื่อได้ทั้งบนบกและในน้ำทำให้ถูกตั้งให้เป็นไดโนเสาร์ที่น่ากลัวที่สุด!
จิแกนโนโตซอรัสกับสไปโนซอรัส...เป็นการจับคู่ที่เลวร้ายมาก!
ไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่เป็นอันดับ1และ2ของโลกแต่กลับให้ยูทาร์ไปจัดการเนี่ยนะ?!
มันเรื่องบ้าชัดๆผมไม่มีทางปล่อยให้ยูทาร์ไปในศึกที่ไม่มีทางชนะแบบนั้นแน่นอน!
“แต่ถ้าเราไม่ทำอาจไม่มีใครหยุดได้...เซโครก็น่าจะรู้ดีที่สุดสิ่งที่จะหยุดไดโนเสาร์ได้ก็มีแต่ไดโนเสาร์ด้วยกันเท่านั้น”คำพูดของพี่โนว่าทำให้ผมสงบสติอารมณ์แล้วลองคิดอีกครั้งแต่ไม่ว่าจะคิดสักเท่าไหร่หนทางที่จะชนะมันแทบไม่มี
“เซโครให้ผมจัดการเถอะ”ยูทาร์บอกพร้อมกับจับไหล่แล้วหมุนตัวผมให้มาสบกับดวงตาสีเหลืองอำพันนั่น...ดวงตาที่แน่วแน่ว่าจะทำในสิ่งที่พูด
“มันแทบไม่มีทางชนะ”ผมบอกออกไปตามตรง...ภาพของยูทาร์ที่ล้มลงผมไม่อยากเห็นมัน
“พวกเขาเก่งมากเหรอ?”
“ที่สุดเลย...เป็นจับคู่ที่แย่มากอย่างน้อยๆถ้ายูทาร์มีพวกที่พอจะช่วยได้ละก็...”น่าเสียดายที่ไม่มี
“มีสิ”
“ว่าไงนะ?”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมที่หมดหนทางเงยหน้าขึ้นทันที
“มีสิ...พวกของผมน่ะ...พวกเธอไง”พอพูดจบก็มองลงไปข้างล่างที่มีฝูงยูทาห์แรพเตอร์ยืนเรียงหน้ากระดานพร้อมกับอ้าปากออกกว้างราวกับจะบอกว่าจะช่วยยูทาร์สู้
“จริงสิ...พี่โนว่า”ผมหันควับไปทันทีที่คิดอะไรได้และพี่เขาก็ต้องรู้แน่ว่าผมคิดจะทำอะไร
“ไม่นะ...ไม่มีทาง...มันเสี่ยงเกินไป”
“เชื่อใจพวกเธอ...เชื่อใจผม...เชื่อใจพวกเราสิ”ยูทาร์เดินไปตรงหน้าพี่โนว่าพร้อมกับกำหมัดขึ้นแล้วชกเข้าที่อกด้านซ้ายของอีกฝ่ายเบาๆเหมือนเป็นการย้ำว่าให้เชื่อใจพวกเราแล้วทุกอย่างจะดีเอง
ดวงตาสีเทาของพี่โนว่าที่สบกับดวงตาสีเหลืองอำพันของยูทาร์สั่นระริกเหมือนกำลังตัดสินใจบางสิ่งอย่างยากลำบาก...ใช้เวลาสักพักดวงตาสีเทานั่นก็หยุดสั่นพร้อมกับเอ่ยคำพูดบางอย่างออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“...บอกพวกเธอว่าห้ามฆ่ามนุษย์”
“ได้สิ...ผมจะคุมเอง”ยูทาร์ตอบในทันที
“งั้นก็ได้...เซโครขี่มอเตอร์ไซค์ได้ไหม?”
“ได้ครับ”ผมตอบไปทันที
“งั้นก็ไปลุยกันเลย!!”พี่โนว่าตะโกนขึ้นพร้อมกับวิ่งลงไปด้านล่าง
“ยูทาร์...ไม่เป็นไรนะจะกลับร่างไดโนเสาร์ได้เหรอ?”ผมถามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง
“ต้องได้สิ...ผมจะปกป้องเซโครเอง”
พูดจบพวกเราก็วิ่งลงไปสบทบด้านล่าง...พื้นที่ว่างที่ไม่มีใครนอกจากพวกเราสามคนพี่โนว่าปล่อยฝูงยูทาห์แรพเตอร์ออกมา พวกมันวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้ายูทาร์พร้อมกับยื่นจมูกมาดมกลิ่น...ผมเองก็ขึ้นขี่บนมอเตอร์ไซค์ที่พี่โนว่าเตรียมไว้ให้เรียบร้อยพร้อมลุย
“ไปลุยกันเลยยูทาร์!”ผมตะโกนบอกยูทาร์ที่ยืนนำฝูงแรพเตอร์อยู่...ดวงตาคู่สวยหันมาสบผมก่อนจะคลียิ้มออกมาบางๆแล้วหันหน้ากลับไป...
กรรร!!
เสียงคำรามดังกึกก้องพร้อมกับยูทาร์ที่กลับร่างไดโนเสาร์ได้อย่างสมบูรณ์...สองขาของยูทาร์เริ่มออกวิ่งพร้อมกับฝูงยูทาห์แรพเตอร์ที่ตามหลังไปติดๆ ผมและพี่โนว่าก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปอย่างติดๆเช่นกันและด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นทำให้ผมต้องเร่งความเร็วตามไปเพื่อไม่ให้ถูกทิ้ง
หัวใจผมกำลังเต้นแรงด้วยความหวาดกลัวแต่ส่วนลึกในใจนั้นกลับตื่นเต้น...
ตื่นเต้นที่จะได้เห็นการร่วมทีมครั้งแรกของยูทาร์กับฝูงยูทาห์แรพเตอร์!!
..................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://image.dek-d.com/27/0359/1401/115785902)
จิกแกนโนโตซอรัส มีถิ่นอาศัยอยู่ที่ทุ่งปาตาโกเนีย ในประเทศอาร์เจนตินา ช่วงกลางยุคครีเตเซียส 93 - 89 ล้านปี พบซากฟอสซิลในปี 1993 เป็น 1 ใน 3 ไดโนเสาร์กินเนื้อที่โตและดุที่สุด ยาว 13.2 เมตร และน้ำหนักอยู่ระหว่าง 6.5-13.3 ตัน ความยาวกะโหลกศรีษระ 1.95 เมตร ขนาดของมันยาวกว่า ไทรันโนซอรัส แต่เล็กกว่า สไปโนซอรัส แต่ทว่ามันก็ยังมีคู่แข่งทางด้านขนาดอย่าง อัลโลซอรัส ที่ยาว 9เมตร คาร์ชาโรดอนโทซอรัส ที่ยาว 13เมตร สไปโนซอรัส ที่ยาว18เมตร ไทรันโนซอรัส ที่ยาว 12.5เมตร อโครแคนโตซอรัส ที่ยาว 12 เมตร มาพูซอรัส ที่ยาว 12 เมตร ซึ่งไม่ได้มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกันกับจิกแกนโนโตซอรัส นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า จิกแกนโนโตซอรัส สามารถทำความเร็วได้ถึง 14 เมตรต่อวินาที (50km ต่อชั่วโมง) ด้วยขนาดอันใหญ่โตและยาวของมัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จิกแกนโนโตซอรัส
http://www.dek-d.com/board/view/3177061/
...
สวัสดีคะ
จบตอนนี้อาจทำให้ค้างบ้างเล็กน้อยแต่ก็เพื่อความตื่นเต้นคะ
แน่นอนว่าตอนหน้าใครที่รอฉากบู๊อยู่ไม่ผิดหวังแน่นอนแถมยังเป็นฉากบู๊ระหว่างกลุ่มไดโนเสาร์อีก...การต่อสู่แบบกลุ่มทำให้คิดฉากค่อนข้างยากแต่ก็จะพยายามแต่งออกมาให้ดีที่สุดนะคะ
อยากแอบบอกพล๊อตของตอนหน้าที่คิดไว้แต่ก็กลัวทำให้ค้างกว่าเดิม555+...ขอนิดนึงละกันเนอะ
ตอนหน้าพบกับยูทาร์ที่ไม่สามารถกลับร่างเป็นมนุษย์ได้...เซโครจะทำยังไงกับสถานการณ์นั้น
ปล่อยยูทาร์ให้นอนในกรง?
ไว้รออ่านตอนหน้านะคะ(คนแต่งก็อยากรู้เหมือนกัน อิอิ)
ตอนนี้ที่เพจ nicedog (https://www.facebook.com/novelistnicedog) มียอดไลค์เกิน300แล้ว...ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ
เพื่อเป็นการฉลองยอดไลค์จะมีตอนพิเศษแทรกก่อนจะอัพตอนที่14คะ
ที่คิดเอาเป็นเป็นตอนพิเศษสั้นๆที่เซโครสอนยูทาร์ว่ายน้ำ...มารอดูกันว่าคู่นี้จะมุ้งมิงขนาดไหน(เรายังไม่ได้แต่งนะคะแค่คิดไว้เฉยๆ)
วันนี้เกิดคึกอยากแต่งถามตอบช่วงท้ายตอน...ใครมีอะไรอยากถามยูทาร์ เซโครหรือใครก็ได้ในเรื่องไหมคะ?
ถ้ามีสามารถเม้นท์ถามได้ลยคะจะให้เจ้าตัวมาตอบให้
ไหนๆก็เริ่มแล้วขอเชิญยูทาร์มาเปิดงานหน่อยละกัน
ยูทาร์ : ครับ?
ไรท์ : กล่าวเปิดช่วงตอบคำถามหน่อยสิสุดหล่อ
ยูทาร์ : สุดหล่อ?...อ่อ...เซโครอยู่ไหนครับ?
ไรท์ : เดี๋ยยวก็มาน่า...เอ้า กล่าวเปิดงานหน่อย
ยูทาร์ : ...เซโคร(ทำหน้าเศร้า)
ไรท์ : เซโครมานี่เลยคะ...มาปลอบด่วนๆ
เซโคร : ทำหน้าแบบนั้นทำไมยูทาร์
ยูทาร์ : ก็เซโครไม่มาด้วยนี่(เข้าไปอ้อน)
เซโคร : ครับๆ...มาแล้วนี่ไง รีบเปิดงานได้แล้ว
ยูทาร์ : อืม(ส่งยิ้มให้เซโคร)
ไรท์ : ...(ยืนนิ่งอยู่มุมมืดไม่มีแม้คนสนใจ)
ยูทาร์ : มีคำถามอะไรอยากถามถามมาได้นะครับพวกเราจะรอตอบ
เซโคร : ขอบคุณทุกคนที่คอยเชียร์พวกเรานะครับ...ผมกับยูทาร์จะพยายามให้ดีที่สุดเลย
ไรท์ :ได้พูดแล้วเหรอ? อ้อ...ขอบคุณทุกคนมากนะคะ
เซโคร : ผมพูดไปแล้ว
ไรท์ : อ้าว...เหรอ?
จบเถอะคะ555+
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าคะ
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
ยูทาร์มาแล้ว จะได้สู้กันเป็นกลุ่มแล้ว 55555
สู้ๆนะเซโคร ยูทาร์ พี่โนว่า น้องๆแรพเตอร์
-
อ๋อยยยยยย ค้างมากกกกกกกกกกกก :katai4:
มาต่อไวๆนะคร๊าบบบบบบบบ :ling3:
คิดถึงยูทาร์ คิดถึงเซโคร มีกำหนดว่างรูปเล่มเมื่อไหร่ รีบบอกนะ จะไม่พลาด!!!
-
อึ๋ยยย น่ารักกก ชอบอ่ะ บู๊แบบเป็นฝูง ตั้งแต่อ่านนิยายมา หายากมากอ่ะ พระเอกไปกับฝูงตัวเองแบบนี้อ่ะ
-
โอ้ยค้างมากเลยรอตอนหน้าครับ
-
ฮุเร่!!!
-
จะรอดูฉากบู๊นะคะ ยูทาร์อ้อนน่ารักอ่ะ เซโครก็น่ารักเขินใหญ่ แต่เป็นใครจะไม่เขินล่ะเล่นอ้อนซักขนาดนี้
-
มันมากขอบอก นิยายในดวงใจเลยเรื่องนี้
-
กรี๊ดดดดดดดดด ทำไมเดี๊ยนรู้สึกอยากเป็นแรพเตอร์แล้ววิ่งไปซบอกพี่โนว่าอย่างงี้ละคะะะะะะ :hao7:
คราวนี้บู๊ใหญ่เลย ยูทาร์กับสาวๆสู้ๆนะ
รอตอนต่อไปปปปปป
-
คู่นี้มุ้งมิ้งกันน่ารักตลอดเลย :-[
รอลุ้นยูทาร์สู้ตอนต่อไปนะ :mc4:
-
ฉากบู๊แสนตื่นเต้นนนนน
ยูทาร์สู้เขานะ อย่าบาดเจ็บล่ะ ไม่งั้นเซโครต้องร้องไห้แน่ๆ
-
แลดูจะอีรุงตุงนังแน่ๆ สาวๆช่วยยูทาร์เขาด้วยนะ
ประเด็นไอสองตัวนั้นมันหลุดพร้อมกันได้ไง ใครปล่อยกัน
เป็นกำลังใจทุกคนชนะนะ จินตนาการวาดภาพเห็นเซโครวขี่มอไซต์แล้วคงเทห์น่าดู
-
รอชมฉากบู๊ของยูทาร์กับเพื่อนๆ นะคะ ^^
ปล. ถ้ายูทาร์กลับร่างมนุษย์ไม่ได้แบบนี้ มีทางเดียวคือเซโครต้องขนที่นอน หมอน มุ้งมานอนด้วยกันกับยูทาร์แล้วล่ะค่ะ //อ้อน~~ :myeye:
-
รอลุ้น ตื่นเต้นมากกกก
-
อ่านแล้วตื่นเต้นเหมือนดูหนังอยู่เลยอ่ะ o13
-
ถ้ายูทาร์กลับร่างไม่ได้จะทำไงเนี่ย ฮือๆ
-
:z3: :z3: ไม่ค้างเล็กน้อยแล้วค่ะแบบนี้
-
บู๊แล้ว บู๊แล้ววววว :fire:
-
สู้ๆ :z2:
-
ยูทาร์สู้ๆ แรพเตอร์สู้ๆ เอาชนะให้ได้น๊า
ขออย่าให้ใครเป็นอะไร ไม่อยากดราม่าาาา
-
กำลังตื่นเต้นเลย ยูทาร์สู้ๆนะ
-
อ้ากกก กลับร่างคนไม่ได้ จิเป็นไงหล่ะเนี่ย
-
บทภามตอบล่างสุดทำไมยูทาร์ถึงน่าเอ็นดูขนาดนี้คะลูกกกก ติดเซโครเหมือนลูกเป็ดแม่เป็ดเลย หลงมากกกกก นี่เป็นสามีที่ดีได้เลยนะเนี่ย รัก(ว่าที่)ภรรยาและเคารพ(ว่าที่)ภรรยา555555
ขอบคุณค่า สนุกๆ ^_^
-
คู่นี้มันมุ้งมิ้งตลอดเลยเว้ยเฮ้ย 5555
ยูทาร์หึงได้น่ารักน่าฟัดมาก
-
ตอนหน้าจะต้องมันมากๆ แน่
สู้เค้าน้า ยูทาร์กับเหล่าสาวๆ
-
ไดโนเสาร์รึสุนัขคะเนี้ยยย ขี้อ้อนชะมัด น่ารักกกก
-
ยูทาร์อ้อนเยอะๆ เดี๋ยวเซโครก้อใจอ่อนเอง อิอิ
-
ยูทาร์จะได้ลุยอีกแล้ววววววว สู้ๆ
-
รอลุ้น ฉากบู๊
-
กลายรักฉบับพิเศษ❧สอนว่ายน้ำ(ฉลองคนไลค์เพจเกิน300คน)
ช่วงสายของวันหยุดที่นานๆจะมีสักครั้ง...เซโครได้ตัดสินใจพายูทาร์มายังกรงขนาดใหญ่ด้านที่มีสระน้ำเพื่อจะได้สอนอีกฝ่ายว่ายน้ำนั่นเอง
จากครั้งก่อนที่เห็นยูทาร์กลับร่างมนุษย์แล้วจมลงไปในน้ำทำให้รู้ได้ทันทีว่ายูทาร์ว่ายน้ำไม่เป็น
ในปัจจุบันการที่ว่ายน้ำไม่เป็นถือเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ควรจะแก้ไขอย่างด่วนที่สุด
“เรามาทำอะไรที่นี่น่ะเซโคร?”ร่างสูงของยูทาร์ถามขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในกรงของตัวเองที่ไม่ได้เข้ามาสักพักใหญ่แล้ว
“ยูทาร์คิดว่าไงล่ะ?”ผมไม่ตอบแต่ถามกลับแทน
อยากรู้ว่ายูทาร์จะคิดยังไงกับการมาที่นี่
“...จะเอาผมมาขังไว้เหรอ?”
“ไม่ใช่แน่นอน”ผมรีบตอบคำถามนั่นกลับไปทันทีที่ได้ยิน
ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมยูทาร์ถึงคิดว่าผมจะทำแบบนั้นได้...ตอนนี้ยูทาร์อยู่ในร่างมนุษย์ นี่เขาคิดว่าผมจะกล้าขังมนุษย์ไว้ที่นี่โดยเฉพาะคนคนนั้นเป็นยูทาร์งั้นเหรอ?
“งั้นอะไรล่ะ?”
“มีอย่างอื่นที่คิดออกอีกไหม?”ผมลองถามดูอีกรอบ
“...พามากินพวกปลา?”เป็นอีกครั้งที่คนด้านข้างเสนอความคิดเห็น
“ก็ใกล้เคียง...แต่ยังไม่ถูก”
“...บอกผมมาเถอะ...คิดไม่ออกจริงๆ”
“ผมจะสอนยูทาร์ว่ายน้ำ”ในเมื่ออีกฝ่ายเดาไม่ถูกผมก็ยอมที่จะเฉยสิ่งที่ต้องการจะทำออกไป
“ว่าย...น้ำ?”ยูทาร์ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินศัพท์ที่ไม่รู้มาก่อน
“ใช่...ง่ายๆคือผมจะสอยให้ยูทาร์อยู่ในน้ำได้โดยไม่จม”
“ผมอยู่ได้นะ”
“จริงเหรอ?”ผมถามย้ำ
ถ้าอยู่ได้ผมคงไม่ต้องดำลงไม่ช่วยละมั้ง
“...หมายถึงในร่างไดโนเสาร์”พอถูกคาดคั้นด้วยสายตายูทาร์ก็ยอมรับในที่สุด
“นายจำเป็นต้องว่ายน้ำในร่างมนุษย์ให้ได้”ผมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ทำไมต้องร่างมนุษย์ด้วย?”
“ในเมื่อตอนนี้ยูทาร์อยู่ในร่างมนุษย์ก็ควรจะเรียนสิ่งที่มนุษย์ต้องทำ...การว่ายน้ำไม่ได้ถือเป็นจุดอ่อนร้ายแรงอย่างหนึ่ง...ถ้ามีคนอยากแกล้งยูทาร์ขึ้นมาแล้วผลักนายตกน้ำทั้งที่นายว่ายน้ำไม่เป็นจะทำยังไงล่ะ?”ผมลองยกตัวอย่างดู
ถึงในความจริงคงจะไม่มีใครกล้าผลักยูทาร์ที่เป็นถึงไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มีความดุร้ายที่สุดตัวนึงลงน้ำก็ตามที
“...คงจะเรียกเซโคร”ยูทาร์นิ่งไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา
“แล้วถ้าผมไม่อยู่...”
“เซโครจะไปไหน?...ให้ผมไปด้วยนะ”ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยคยูทาร์ก็ตะโกนแทรกขึ้นมาพร้อมขยับตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น
“ผมไม่ได้บอกว่าจะไปไหน...ผมแค่สมมุติเฉยๆ”
“สมมุติคืออะไร?”
“หมายถึงการคิดเอาเอง...เป็นการยกตัวอย่างถึงสิ่งที่อาจจะเกิดหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นจริง”
“หมายความว่าเซโครอาจจะไปไหนจริงๆใช่ไหม?”
“อ่อ...มันก็เป็นไปได้...”พอมานึกดูสิ่งที่ยูทาร์บอกก็เป็นความจริง
ผมยังไม่แน่ใจเลยนี่ว่าจะได้อยู่กับยูทาร์แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่...อาจมีวันหนึ่งที่ผมต้องกลับไปบ้านเกิดโดยให้ยูทาร์รออยู่ที่นี่หรืออาจต้องไปทำงานหรือประชุมต่างๆที่นอกเกาะ
“เซโคร...อย่าไปไหนเลยนะ”น้ำเสียงอ้อนวอนจากคนด้านข้างทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆพร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าอีกฝ่ายช้าๆ
“ผมไม่อยากสัญญาเพราะผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง...แต่ผมอยากให้ยูทาร์รู้ไว้ว่าไม่ว่าผมจะไปที่ไหนที่สุดท้ายที่ผมจะกลับมาคือที่ที่มียูทาร์อยู่...อย่ากังวลไปเลย...นะ”
หมับ
ทันทีที่พูดจบร่างของผมก็ถูกดึงเข้าไปหายูทาร์ที่กางแขนออกเพื่อรวบตัวผมไว้ทั้งตัว...ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาทำให้ผมเลือกที่จะยืนอยู่เฉยๆปล่อยให้อีกฝ่ายกอดอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ
ด้านร่างกายยูทาร์อาจจะแข็งแกร่ง...
แต่ด้านจิตใจเขาอาจจะเป็นเพียงเด็กที่หวาดกลัวต่อหลายๆสิ่งรอบตัว
ทุกอย่างต้องใช้เวลาเพื่อให้ได้ซึมซับ เรียนรู้และจนจำ
ผมตั้งใจแล้วว่าจะอยู่กับยูทาร์จนถึงที่สุด
“ผมเชื่อเซโคร”เสียงทุ้มที่กระซิบเบาๆที่ข้างหูเรียกรอยยิ้มของผมได้ในทันที
“ดีแล้วที่เชื่อผม...ผมจะไม่โกหกยูทาร์...ให้สัญญาเรื่องนี้ได้เลย”
“อืม”
“เรามาฝึกว่ายน้ำกันดีกว่ายูทาร์”เมื่อเห็นว่าได้เวลาสมควรแก่การฝึกผมก็ดันร่างของยูทาร์ให้ออกไปยืนตามปกติ
“ได้...แล้วต้องเริ่มยังไงล่ะ?”
“ก่อนอื่นก็ถอดเสื้อก่อนใส่แต่กางเกงพอ”ผมบอกพร้อมกับถอดเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลที่ใส่มาออกไปเหลือเพียงกางเกงสามส่วนสีดำที่ใส่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วเท่านั้น
ยูทาร์เองก็ถอดเสื้อสีดำที่ผมหาให้ออกไปเหลือแค่กางเกงสามส่วนสีน้ำตาลเท่านั้น...ร่างกายของยูทาร์มองกี่ครั้งก็อดอิจฉาไม่ได้จริงๆ กล้ามที่ท้องและหน้าอกขึ้นรูปสวยทั้งที่ไม่เคยฝึกหรือเทรนเฉพาะด้าน...เป็นร่างกายที่เกิดเองตามธรรมชาติ
“แล้วไงต่อ?”
“อ้อ...ลงน้ำกันเลย”ผมดึงสติที่มองร่างกายของอีกฝ่ายกลับมาก่อนจะค่อยๆเดินลงน้ำไปจนไปถึงส่วนที่เท้ายืนไม่ถึง...ยูทาร์ตอนแรกก็เดินตามผมมาอย่างสบายๆแต่พอขาเริ่มไม่แตะพื้นสองมือของยูทาร์ก็เริ่มปัดป่ายไปมาจนน้ำกระจาย
ไม่รู้ว่าควรจะสงสารหรือหัวเราะกับท่าทางแบบนั้นดี
“ซะ...เซโคร...พื้นมัน...”
“ใจเย็นๆยูทาร์...อย่าไปเกร็งร่างกายปล่อยสบายๆแบบที่ผมทำนี่ไง”ผมพูดพรางลอยตัวในน้ำให้ยูทาร์ดู
“แต่มัน...มัน...”
“จับผมไว้ก่อนละกัน...”ผมพูดพรางจับมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายพร้อมดึงตัวของยูทาร์ให้ลอยตามผมมาอย่างช้าๆ...ด้วยความที่มีน้ำช่วยทำให้ผมสามารถลากตัวของยูทาร์ที่ใหญ่กว่าตัวเองได้อย่างไม่ยากอะไร
“...ลอย...ผมลอยอยู่ล่ะ”ยูทาร์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นที่สามารถลอยตัวได้
“ใช่ๆ...แบบนั้นแหละ...เก่งมาก”ผมเอ่ยชมเมื่อยูทาร์สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
สอนแค่ไม่กี่นาทีก็สามารถทำตามได้แล้ว...เรียกว่าเป็นอัจฉริยะจริงๆ
“ผมทำได้...เซโคร”
“อืม...เดี๋ยวผมจะสอนว่ายน้ำต่อเลยละกัน”ผมบอกต่อพรางปล่อยมือที่จับกับยูทาร์ไว้ พวกเราลอยคอไปมาในสระน้ำขนาดใหญ่ด้วยความสนุก...ยูทาร์เองก็ดูเหมือนจะชอบมากที่ได้ลอยคอในน้ำแบบนี้
“ผมก็ว่ายได้แล้วนี่?”ยูทาร์หันมาถามระหว่างที่ปล่อยร่างกายให้ลอยขึ้นบนผิวน้ำ
“ที่ทำนี่เป็นแค่พื้นฐานของการว่ายน้ำเท่านั้นเอง”ผมบอกไปตามตรง
แค่ลอยตัวได้ไม่เรียกว่าว่ายน้ำเป็นหรอกนะ
“เหรอ...งั้นก็สอนเลย”
“อยากเรียนเหรอ?”
“อืม...ดูน่าสนุก”
“ใช่...ถ้าว่ายเป็นจะสนุกมากเลย...การว่ายน่ะต้องทำแบบนี้”พอพูดจบผมก็ว่ายท่าฟรีสไตล์ให้ยูทาร์ดูโดยว่ายวนไปรอบๆตัวของไดโนเสาร์พันธุ์ผสมตรงกลาง
“สุดยอดเลย...เร็วมากแถมยังไปทางไหนก็ได้อีก”
ใช้เวลาว่ายให้ดูเป็นตัวอย่างสักพักเซโครก็หยุดว่ายแล้วลองให้ยูทาร์ทำตามดู...เชื่อไหมว่าแค่ไม่กี่นาทีเขาก็สามารถว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ได้แล้วถึงจะยังเก้ๆกังๆเรื่องการหายใจก็ตามที เห็นว่าไม่เป็นต้องหายใจทุกครั้งที่เปลี่ยนมือ...อาจเป็นเพราะมีปอดใหญ่เลยทำให้เก็บอากาศไว้ได้มากกว่ามนุษย์ปกติ
การฝึกว่ายน้ำเป็นไปได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก...ตอนแรกคิดว่าต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะสอนให้ว่ายน้ำเป็นแต่ไปไปมามากลับใช้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากฝึกเสร็จผมกับยูทาร์ก็ว่ายน้ำเล่นกันจนท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีแดงสด
คงได้เวลาต้องกลับแล้วสินะ
“ยูทาร์กลับกันเถอะ”ผมตะโกนบอกยูทาร์ที่ยังคงสนุกกับการว่ายท่าฟรีสไตล์ไปรอบๆสระ
“กลับแล้วเหรอ?”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียดายทำให้ผมยิ้มออกมา
“ใช่...ไว้ผมจะพามาว่ายอีกนะ”
“ได้”ยูทาร์ฟังผมดีมากพอพูดจบก็ว่ายกลับไปยังฝั่งที่มีเสื้อวางอยู่
เซโครมองแผ่นหลังของยูทาร์ที่ว่ายไปได้สักพักก่อนจะว่ายตามกลับไปบ้างแต่พอจะขยับตัวร่างกายก็เกิดอาการชาขึ้นโดยเฉพาะที่ขาทั้งสองข้าง
แย่ละ...เหน็บกิน
คงเพราะว่ายน้ำนานไปแน่เลย
“แค่ก...ยูทาร์...อึก”ผมพยายามตะเกียกตะกายให้ร่างกายลอยอยู่ได้แต่ด้วยช่วงล่างที่ชาไปหมดทำให้ไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ดั่งใจ
“เซโคร”เสียงทุ้มของยูทาร์ดังขึ้นพร้อมกับหันกลับมาหาผม
“ยูทาร์...แค่ก...ช่วย...”
ยังพูดไม่ทันจบร่างของผมก็ดำดิ่งลงสู่ใต้น้ำพร้อมๆกับอากาศที่เริ่มหมดลง…สติที่เริ่มเจืองจางทำให้ผมหลับตาลงก่อนจะสัมผัสได้ถึงอะไรสักอย่างที่โอบรัดเอวผมไว้ก่อนจะดึงร่างผมขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรวดเร็ว
ไม่จำเป็นต้องลืมตาดูก็รู้ว่าคนที่มาช่วยผมไว้นั้นเป็นใคร
“แค่ก...แค่ก...ยูทาร์...”ผมสำลักอย่างแรงทันทีที่สามารถหายใจเอาอากาศเข้าปอดได้
“เซโครเป็นยังไงบ้าง?...เป็นอะไรรึเปล่า?”ยูทาร์ถามผมด้วยความร้อนรนพร้อมกับค่อยๆพาร่างผมไปยังฝั่ง
“...แค่ก...ไม่เป็นไร”ผมบอกพร้อมกับค่อยๆหายใจเข้าออกช้าๆ
พอมาถึงยังฝั่งผมก็นั่งหอบอยู่ที่พื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าและความตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้...ผมรู้สึกสนุกมากเกินไปจนลืมไปเลยว้าถ้าว่ายน้ำนานๆอาจเกิดอาการแบบนี้ขึ้นมาได้
โชคดีแค่ไหนแล้วที่มียูทาร์อยู่ด้วย
ถ้าอยู่คนเดียวผมคงไม่รอดแล้ว
“...ขอบคุณนะยูทาร์”ผมหันไปบอกคนที่มองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรแน่นะ?”
“อืม...โชคดีจริงๆที่มียูทาร์อยู่ด้วย”
“ผมตกใจมากเลยรู้ไหมที่เห็นเซโครหายไปแบบนั้นน่ะ”
“ขอโทษ”
“ดีจังเลยที่ไม่เป็นอะไร”สายตาที่ดูโล่งใจนั่นทำให้ผมส่งยิ้มไปให้
“การมียูทาร์อยู่ข้างๆช่วยผมได้มากเลย”
“งั้นให้ผมอยู่ข้างๆเซโครตลอดนะแล้วผมจะช่วยเซโครเอง”คำพูดของยูทาร์สร้างรอยยิ้มให้ผมอีกครั้ง
อยู่ด้วยกันตลอดเหรอ?
ผมไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
แต่ในตอนนี้ผมรู้เพียงว่าอยากให้ยูทาร์มาอยู่ข้างๆผม
อยู่กับผมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม
“...เอาสิ...อยู่ข้างๆผมนะยูทาร์”
“แน่นอน!”
.................................................................................................
สวัสดีคะ
วันนี้มาอัพเร็วกว่าที่คาดต้องขอขอบคุณอาจารย์ผู้สอนที่ปล่อยเด็กกลับบ้านเร็วคะ
มีเรื่องมาบอกเยอะเลย...ค่อยๆเริ่มละกันนะคะ
อย่างแรก...มีคนค่อนข้างสงสัยอยู่พอสมควรว่าทำไมไดโนเสาร์ถึงหลุดพร้อมกันสองตัวได้?
มีเบื้อลึกเบื้องหลัง? ใครเป็นคนทำ?
ขอบอกเลยนะคะว่าไม่มีอะไรแอบแฝงแล้วคะ...เอาตรงๆเลยก็คือแค่อยากให้ยูทาร์ได้บู๊แต่ถ้า1ต่อ1มันก็ธรรมดาไปเลยเปลี่ยนให้สู้แบบเป็นทีมแทนเพราะงั้นทุกท่านโปรดอ่านอย่างสบายใจเลยคะไม่มีมาม่าคะ
ตอนต่อจากนี้จะเน้นถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องคะ ที่วางไว้ก็มีทั้งเป็นแฟนกัน ออกเดทแล้วก็อะไรอีกนิดหน่อยก่อนจะจบอย่างแฮปปี้
เรื่องนี้บอกได้เลยคะว่าดำเนินมาเกินครึ่งแล้วจุดจบของเรื่องก็วางไว้แล้วเหลือแค่ปรับแต่งออกมาเท่านั้น
อีกเรื่องคือเราจะค่อยๆทยอยปรับแก้คำผิดหรือเนื้อหาที่ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลออกแล้วแก้ใหม่ในบางช่วงต้องขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณเกริด้า(๐-*-๐)v และทุกคนมากๆเลยนะคะ ถ้าเขียนเองอ่านเองคงไม่รู้ว่ามีตรงไหนที่ผิดแปลกหรือใช้คำไม่ถูกต้องคะ
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจ คำติชมและคอมเม้นท์มากนะคะแค่มีคนชื่นชอบในผลงานก็ดีใจมากๆแล้วคะ
เรื่องที่จะบอกหมดแล้วคะ...มาต่อกับกิจกรรมเล็กๆที่ให้ผู้ที่สนใจถามคำถามเข้ามา
มีคนเล่นด้วยเยอะดีใจจัง^^
จะค่อยๆทยอยตอบนะคะ
ในเมื่อเรื่องนี้ลงหลายเว็บเพราะงั้นขอเอาของทุกเว็บมารวมเลยนะคะจะได้อ่านกันอย่างทั่วถึง
คำถามแรกจากคุณ kcicksname (Dek-D) : คือถ้าเกิดมีไดโนเสาร์(ตัวผู้)ที่ดัดแปลงพันธุกรรมมียีนมนุษย์เหมือนยูทาร์เลยกลายร่างคนได้แล้วเซโครต้องทำหนาที่ดูแลใกล้ชิดหนิดหนมด้วยแถมไดโนเสาร์ตัวนั้นยังจีบเซโครด้วยแต่เซโครไม่รู้ตัวยูทาร์จะทำยังไงค้าาแล้วถ้าเกิดในทางกลับกันมีไดโนเสาร์(ตัวเมีย)มาจีบยูทาร์เซโครจะทำยังไงค้า(คำถามยาวเหลือเกิน
ไรท์ : มาตอบหน่อยค่ายูทาร์น่ารักกับเซโครสุดหล่อ
เซโคร : ...คำถามอะไรกันครับเนี่ย? ยูทาร์ตอบก่อนเลย
ยูทาร์ : ห๊ะ? ทำไมล่ะ?
เซโคร : ก็เขาถามยูทาร์ก่อนนี่นา
ยูทาร์ : ...ก็ได้
อ่อ...ถ้าเกิดมีไดโนเสาร์(ตัวผู้)ที่ดัดแปลงพันธุกรรมมียีนมนุษย์เหมือนยูทาร์เลยกลายร่างคนได้แล้ว
เซโครต้องทำหนาที่ดูแลใกล้ชิดหนิดหนม หนิดหนม?
เซโคร : หมายถึงต้องคอยดูแล อยู่ข้างๆตลอดน่ะ
ยูทาร์ : ไม่ให้!...ผมไม่ยอมให้เซโครไปดูแลคนอื่นแน่โดยเฉพาะ...อะไรนะ...จีบ?
ไม่รู้หรอกนะว่าคำว่าจีบมีความหมายว่าอะไรแต่ให้ความรู้สึกไม่ค่อยดีเลยเพราะงั้นผมจะไม่ให้
ไดโนเสาร์นั่นเข้าใกล้เซโครแน่
เซโคร : แต่บางครั้งก็จำเป็นที่ต้องดูแลนี่นา
ยูทาร์ : ถ้างั้นก็ต้องให้ผมไปด้วย
เซโคร : เข้าแล้วๆ
ไรท์ : ตาเซโครตอบแล้วนะจ๊ะ
เซโคร : ผมจะทำอะไรได้ล่ะ...ในตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่(แอบทำหน้ามุ่ย)
ยูทาร์ : เป็นอะไรคือเป็นอะไรเหรอ?
เซโคร : ก็เป็นอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่สถานะที่เป็นอยู่ในตอนนี้น่ะ
ยูทาร์ : แล้วสถานะตอนนี้คืออะไรเหรอ?
เซโคร : ...ไว้ค่อยๆเรียนรู้ละกัน
ยูทาร์ : เซโครอ่าาาา
ไรท์ : จบแล้วคะ...พอใจกับคำตอบไหมเอ่ย
อีกคำถามนึงจากคุณ nunnuns (เว็บthaiboyslove) : ทำไมยูทาร์ถึงน่าเอ็นดูขนาดนี้คะลูกกกก
ไรท์ : ตอบหน่อยยูทาร์
ยูทาร์ : ...ผมน่ารักตรงไหนกัน?
ไรท์ : ตรงที่ขี้อ้อนไง
ยูทาร์ : ผมอ้อนแค่เซโครนะคนอื่นผมไม่ทำหรอก
ไรท์ : ก็รู้แล้ว...อย่าพูดให้ซ้ำใจเลย(กระซิกๆ)
ยูทาร์ : ถ้าจะว่าทำไม...
คงเพราะมีเซโครอยู่ผมถึงได้น่ารักขนาดนี้ไงครับ^^(แจกยิ้มหวานเมื่อคิดถึงเซโคร)
ไรท์ : อ่ะจ้า...จบเถอะ(อิจฉานายเอกจริงๆ)
มีคำถามอะไรเขียนมาได้นะคะมาร่วมสนุกกัน...ตอนหน้าจะมาตอบคำถามเกี่ยวกับพ่อสุดน่ารักขอองเซโครคะ><
ตอนหน้าจะมาอัพในอีกไม่กี่วันคะ...ไม่จันทร์ก็อังคาร
เตรียมตัวอ่านกันได้อย่างจุใจเพราะคิดว่าจะแต่งให้จบแล้วลงเต็มๆตอนจะได้ไม่ค้างคา
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าคะ
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
:z13: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
ฟินตัวแตก ถึงไม่มีฉากเซอร์วิสเน้นๆแต่ยูทาร์ขี้อ้อนเกิ๊นนน
-
ร้ากกกกกกกกกก
เซโคร
งื้ออออออออ
-
น่ารักทุกคน อิอิ
-
เรียนรู้เร็วแบบนี้คนสอนเป็นปลื้มนะคะเนี่ย แถมช่วยเซโครได้อีก เด็กดีๆ
รอตอนต่อไปน้าาา
-
ยูทาร์ ตอนนี้น่ารักมากเลย
-
น่ารักกก ทั้งคนเขียนทั้งยูทาร์ จุ๊บบบ
-
มีอ้อนขออยู่ข้างๆ เซโครตลอดไปเสียด้วยนะคะยูทาร์ น่ารักจริงๆ เลยน้า.. :m3:
-
ถ้าทำอาหารได้อีก คงเป็นสุดยอดไดโนเสาร์เลย
55555+
-
Q:ขอให้ยูทาร์มาเป็น my husbandได้มั้ยยย555555 :katai3:
-
รอตอนต่อไป ยูทาร์จะบู้แหลกแล้ววว
-
ฟินมากๆ ไซโคร ยูทาร์
-
อ่านไปยิ้มไป(แม่หันมาถามฉันต้องพาแกไปตรวจสมองไหม5555)
-
มุ้งมิ้งอีกละ แต่ชอบบบ ><//
ตอนแรกไอ้เราก็นึกเหมือนกันนะว่าไอ้หลงนั่นเป็นคนปล่อยสองตัวนั่นมาป่วนซะอีกนะเนี่ย
รอน้า
-
ยูทาร์จ๊ะ ท่วงท่าและเนื้อนวลของหนูเซโครเป็นไงมั่ง เล่าให้ป้าๆฟ้งหน่อย อิอิ //ผลั้วะ ตบป้ามนุษย์หื่น2ที
ใครแหยมกับยูทาร์ไม่ได้เลยนะ ถึงจะขี้อ้อน แต่อ้อนเฉพาะเซโครเท่านั้นนะค้าาาา (ดูจากตอนยูทาร์ตอบนักเขียนแล้ว คิดว่าเราควรจิ้นห่างๆอย่างห่วงๆค่ะ เดี๋ยวโดนพี่ไดโนเสาร์จับกิน555555)
ยูทาร์เซโครชาบูๆ รอตอนต่อไปจ้าาา ขอบคุณจ้า
-
อืมหืม เห็นผ่านตาหลายที วันนี้คึกคลิกเข้ามาอ่าน ฟินจนตัวแตกเลยจ้า แอบเสียดายที่ไม่ได้ติดตามตั้งแต่แรก สนุกมากเลยค่ะ :m1:
-
น่ารักกกกกกกก
-
ยูทาร์น่ารักอ่าาาาาาาาา :impress2:
ยิ่งอ่านก็ยิ่งน่ารัก นึกภาพตามตอนที่ก้าวลงน้ำตามเซโคร ต้องน่าเอ็นดูมากแน่ๆ 55555
-
หวานกำลังดี ออิ
-
น่ารักอีกแล้ววว :hao7:
-
เซโครกับยูทาร์น่ารักกก
-
พี่นี้ ก็ยังมารอยูทาร์ที่หน้ากรงทุกวันเลย
-
น่ารักจริงๆเลยรักกันยาวๆนะ
-
ชอบมากเลยค่ะ สนุก :katai2-1:
ยูทาร์ขี้อ้อนมาก ไซโครก็น่ารัก
-
กลายรักครั้งที่❧14
ดวงอาทิตย์แผดแสงลงมาอย่างร้อนแรงทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นถึงจะรู้สึกร้อนไปบ้างแต่สองขาของยูทาร์ก็ยังคงวิ่งนำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...สิ่งที่รู้มีเพียงแค่ต้องวิ่งตามกลิ่นของไดโนเสาร์ที่เริ่มสัมผัสได้อย่างเจือจางไปเท่านั้น...
กลิ่นของไดโนเสาร์หลากหลายตัวที่อยู่ในบริเวณนี้แต่มี2ตัวที่ผิดปกติ...เหมือนผมจะรับรู้ได้เพราะเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อเหมือนกัน ถึงจะเหมือนแต่ผมก็แตกต่างเพราะผมรักมนุษย์...มนุษย์ที่ชื่อว่าเซโคร
จะไม่ยอมให้ใครก็ตามมาทำร้ายเซโครได้อีก!
‘กลิ่นเริ่มแรงขึ้นแล้วนะน้องชาย’หนึ่งในฝูงด้านหลังพูดขึ้นแล้ววิ่งไล่มาหาผมด้วยความเร็วที่สูสีกัน
‘...อายน์’ผมลองทายชื่อของเธอดู
‘ใช่แล้ว...เธอสุดยอดไปเลยทำให้เราออกมาได้ด้วย’
‘มันเป็นเหตุจำเป็น’ผมตอบกลับไปตามตรง
‘ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณอยู่ดีแหละ’อีกเสียงดึงดังขึ้นจากอีกข้างผมเลยต้องหันไปมองอีกข้างที่มียูทาห์แรพเตอร์อีกตัววิ่งขึ้นมา
‘...เฟียร์?’
‘เธอทายถูก...คงจำเราได้หมดแล้วสินะ’
‘ก็พอได้แต่ไม่แน่ใจเรื่องชื่อ’ชื่อที่มนุษย์คิดเรียกยากมากถ้าจำแต่กลิ่นก็ไม่มีปัญหา
‘เดี๋ยวก็จำได้...แล้วเราจะเอายังไงดีต้องฟังเธอหรือเจ้านายเรา?’ตัวที่สามที่ชื่อดรายวิ่งเข้ามาถาม
‘ฟังทั้งคู่...เพราะผมก็จะฟังแต่ที่เซโครบอก’
‘เซโคร?...เด็กที่มากับเธอใช่ไหม?’
‘ใช่’
‘เขาน่ารักเนอะ’ฟึนที่อยู่ด้านข้างพูดต่อ
‘ที่สุดเลย’ผมตอบไปแบบไม่ต้องคิด...
เซโครเป็นที่สุดสำหรับผมในทุกๆด้าน
‘เลิกคุยเถอะเราใกล้แล้ว’ซไววิ่งมาบอกแล้วพวกเราก็ชะลอความเร็วลงพร้อมกัน...
ยูทาร์หันส่วนหัวไปมองด้านหลังที่มีสิ่งที่เรียกว่ามอเตอร์ไซค์ขับตามมา2คัน...ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของเซโครมองมาที่ผมราวกับจะให้กำลังใจนั่นทำให้ผมหันกลับมาแล้วเริ่มหันซ้ายขวาเพราะได้กลิ่นอยู่แถวๆนี้...พวกเราไม่เคยได้กลิ่นไดโนเสาร์ทั้งสองตัวมาก่อนเลยยากที่จะเดาได้ว่าอยู่ไหนกันแน่
กรรร!!
เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ลอยมาปะทะร่างผมจนเซไปอีกข้าง ส่วนพวกยูทาห์แรพเตอร์ต่างก็กระโดดหลบได้อย่างทันท่วงที
งื๊ดดด~
เสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดที่ดังขึ้นด้านข้างทำให้ผมหันไปมองก่อนจะพบไดโนเสาร์ตัวนึงที่นอนแผ่อยู่พร้อมกับบาดแผลขนาดใหญ่ที่บริเวณแผ่นหลัง...เลือดสีแดงที่ไหลออกมามากมายจากบริเวณปากแผลที่ถูกกัดด้วยเขี้ยวอันแหลมคมหลายแห่ง
“อนาโตไททัน!”เสียงของเซโครดังขึ้นพร้อมกับวิ่งตรงมาหาไดโนเสาร์ที่นอนอยู่ด้วยความเป็นห่วง...เขาถอดเสื้อนอกออกอย่างไม่ลังเลแล้วกดมันเข้าที่บาดแผลขนาดใหญ่พร้อมกับส่งเสียงให้กำลังใจแต่เสียงครางอย่างเจ็บปวดก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่เสียงนั่นจะเงียบลงพร้อมกับเสียงหายใจของไดโนเสาร์ตัวนั้น
ผมเห็นเซโครที่เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลอาบแก้ม...
น้ำนั่นอีกแล้ว...
ผมไม่อยากเห็นน้ำนั่นออกมาจากดวงตาคู่สวยของเซโคร...
ไม่อยากเห็น!
กรรรร!!!
เสียงคำรามต่อมาดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของไดโนเสาร์สองสายพันธุ์ที่ผมไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จักมาก่อนแต่ด้วยความรู้ที่เซโครพึ่งบอกทำให้เดาได้ว่าตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าคือสไปโนซอรัสและตัวที่ขนาดเล็กว่าก็คือจิแกนโนโตซอรัส
กลิ่นเลือดที่คาวคลุ้งทำให้รู้ได้โดยไม่ต้องถามว่าไปทำอะไรมา
‘ทำไมแกถึงมากับพวกมนุษย์!’ร่างขนาดใหญ่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
‘พวกเราจะมาจับเธอไง’อายน์หนึ่งในฝูงยูทาห์แรพเตอร์ตอบแทนพร้อมกับเริ่มกระจายตัวไปรอบๆ
‘แกจะหักหลังเผ่าพันธุ์เดียวกันอย่างงั้นเหรอ?’สายตาคมกริบถามขึ้นอีกรอบและจ้องมาที่ผมเขม็ง...
คงต้องการคำตอบจากผมสินะ
‘แล้วทีคุณที่ฆ่าเผ่าพันธุ์เดียวกันล่ะ?’ผมไม่ตอบแต่ย้อนถามกลับไป
‘มันเป็นวัฏจักร...พวกเราเป็นผู้ที่อยู่สูงสุดบนห่วงโซ่อาหาร!’
‘งั้นการที่ผมจะจัดการคุณมันก็คงเป็นวัฏจักรเหมือนกัน!’ผมย้อนกลับไป
‘แก!!’ดูเหมือนสิ่งที่ผมพูดจะทำให้พวกเขาโกรธหนักกว่าเดิมสินะ
“วิ๊วว~...”เสียงผิวปากที่เหมือนสัญญาณระหว่างเจ้านายกับเหล่ายูทาห์แรพเตอร์ดังขึ้นพร้อมกับฝูงแรพเตอร์ที่กระโจนเข้าใส่ไดโนเสาร์ที่ตัวใหญ่กว่าหลายเท่าตัวอย่างรวดเร็ว
“ยูทาร์ไปช่วยพวกเธอ!!”เสียงตะโกนของเซโครดังขึ้นในจังหวะเดียวกับที่ผมวิ่งเข้าไปตะลุมบอนด้วย...ฝูงแรพเตอร์กระโดดไปมาบนหลังของไดโนเสาร์ตัวใหญ่สองตัวสลับไปมาแล้วใช้ฟังซี่เล็กๆที่แสนคมกริบกัดลงไปอย่างต่อเนื่องแต่เพราะเขี้ยวขนาดเล็กทำให้ไม่สะเทือนสักเท่าไหร่
ยูทาร์อาศัยจังหวะที่ศัตรูทั้งสองตัวไม่ละสายตาไปอ้าปากที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ออกแล้วกัดเข้าที่คอของสไปโนซอรัสเต็มแรงแล้วพยายามกดตัวอีกฝ่ายให้ล้มกับพื้นถึงด้านน้ำหนักผมจะเสียเปรียบแต่ถ้าเรื่องแรงผมไม่แพ้ใครหรอก
กรรร!!
ตุบ!
เสียงร้องโหยหวนของของสไปโนซอรัสดังขึ้นพร้อมกับล้มลงไปนอนที่พื้นอย่างแรงโดยที่ฟันของยูทาร์ยังคงขย้ำที่คออยู่...การที่เลือกจัดการสไปโนซอรัสก่อนเป็นเพราะขนาดคอที่เล็กกว่าจิแกนโนโตซอรัสทำให้ผมสามารถล๊อคการเคลื่อนไหวไว้ได้
กรรร!!
กรรร!!
เสียงครางของไดโนเสาร์อีกตัวดังขึ้นพร้อมกับแรงกัดเข้ามาที่ไหล่ผมเต็มแรงแล้วเหวี่ยงไปอีกทางจนร่างกายผมครูดไปกับพื้นจนกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่...ถึงจะเจ็บแต่ก็ผมก็ยันตัวลุกขึ้นอีกครั้งแล้วมองไปยังการต่อสู้ที่ดำเนินอยู่ตรงหน้า...
ฝูงยูทาห์แรพเตอร์พยายามเล็งกัดที่บริเวณหลังเพราะง่ายต่อการโจมตีและหลบหลีก ตอนนี้สไปโนซอรัสลุกขึ้นมาอีกครั้งแล้วใช้ปากยาวๆที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคมกัดเข้าที่คอของซไวที่อยู่บนหลังของจิแกนโนโตซอรัสแล้วเหวี่ยงลงพื้นอย่างแรง
กรรร!!
เมื่อเห็นเพื่อนถูกทำร้ายอีก4ตัวที่เหลือก็เริ่มตื่นตัวแล้วโจมตีหนักขึ้น...ยูทาร์ก็ไม่ยอมพักนานพอตั้งสติได้ก็วิ่งเข้าไปร่วมวงอีกครั้งโดยใช้หัวกระแทกจิแกนโนโตซอรัสพร้อมกับใช้หางตวัดโจมตีสไปโนซอรัสที่อยู่ด้านข้างพ้อมกัน
“วิ๊ว!...วิ๊ว~...”เสียงผิวปากดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเหล่าฝูงแรพเตอร์ที่กระจายกันต่อสู้กลับมารวมกลุ่มและกระโดดเข้าใส่จิแกนโนโตซอรัสที่ล้มลงไปจากการถูกผมใช้หัวกระแทกไปเต็มแรง
“ยูทาร์ด้านหลัง!!”เสียงตะโกนของเซโครทำให้เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงแต่ก็ไม่ทัน...สไปโนซอรัสที่รับการโจมตีได้หันควับมากัดเข้าที่คอผมเต็มแรงจนต้องคำรามออกไปด้วยความเจ็บปวด...
กรรร!!
‘ฉันจะฆ่าแกจริงๆแน่ถ้ายังเข้าข้างพวกมนุษย์!’เสียงของสไปโนซอรัสดังขึ้นอีกครั้ง
‘ต่อให้ตายผมก็จะอยู่ข้างมนุษย์!...’
...จะอยู่ข้างเซโคร!!
‘งั้นแกก็ตายซะ!!’
กรรร!!
ร่างของไดโนเสาร์กลายพันธุ์ถูกกดลงกับพื้นด้วยแรงอันมหาศาลของไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุด...เขี้ยวแสนคมกริบกัดลงมาที่คอซ้ำๆจนไม่เหลือความเจ็บปวดมีเพียงแค่ความชาเท่านั้น
“ยูทาร์!!”เสียงตะโกนเรียกทำให้ผมพยายามตะเกียกตะกายหันไปมองเจ้าของเสียง
“พยายามเข้า...สู้สิ...เราจะกลับไปด้วยกันนะ”เสียงเชียร์จากเซโครดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่สั่นระริกราวกับกำลังกลั้นบางอย่างเอาไว้...น้ำใสๆที่คลออยู่ที่ดวงตาคู่สวยกับริมฝีปากที่ขบเม้มจนแน่นทำให้ผมมีแรงฮึดที่จะสู้ต่อ
จะกลับไปหาเซโคร!!
กรรร!!
เสียงคำรามจากไดโนเสาร์พันธุ์ผสมดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับพลิกตัวให้ไปประจันหน้ากับสไปโนซอรัสแล้วเด้งตัวขึ้นกัดเข้าไปที่ส่วนของคอใต้กะโหลกศีรษะอย่างแรงจนสถานการณ์พลิก...ตอนนี้เป็นผมที่กดอีกฝ่ายลงกับพื้นส่วนของผิวหนังด้านใต้ดูจะอ่อนแอมากกว่าผิวหนังด้านบนทำให้เขี้ยวสามารถฝังได้ลึกยิ่งขึ้น...
เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมสไปโนซอรัสถึงยังไม่เป็นไรทั้งที่โดนเขี้ยวของผมกัดไปแล้ว...คงเป็นเพราะผิวหนังด้านบนที่มีความหนามากจนเขี้ยวผมไม่สามารถทะลุเข้าไปถึงเนื้อด้านในได้แต่ครั้งนี้คงจบกันสักที
ผิวหนังที่อ่อนปวกเปียกนี่ไม่มีทางกันพิษได้หรอก!
กรรร!!
เสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดและโกรธเกรี้ยวดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับร่างของไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดดิ้นไปมาเพื่อจะหลุดจากคมเขี้ยวที่กัดเข้าไปถึงด้านใน...ตอนนี้ผมกดร่างของอีกฝ่ายไว้ด้วยขากรรไกรกว้างและเขี้ยวแสนคมที่บริเวณคอของอีกฝ่ายทำให้ไม่สามารถขยับตัวหรือหันมากัดผมตอบได้...
ตอนนี้ต้องรอเวลา...
เวลาที่พิษของเขี้ยวจะออกฤทธิ์
ปัง!
ปัง!
เสียงของอะไรบางอย่างดังขึ้นทำให้ผมสะดุ้งแล้วเผลอปล่อยเขี้ยวที่กดสไปโนซอรัสอยู่ออกทำให้อีกฝ่ายใช้หัวกระแทกเข้าที่ผมเต็มแรงจนเซล้มไปอีกฝั่งนึง...สไปโนซอรัสพยายามดันตัวขึ้นแล้วเดินตรงมาหาผมอาจเป็นเพราะพิษเลยทำให้การเคลื่อนไหวช้าลง
“ยูทาร์!!”เสียงเรียกชื่อดังขึ้นพร้อมกับร่างของเซโครที่มายื่นด้านข้างผม...เขาวางมือลงบนเปลือกตาผมแล้วลูบเบาด้วยรอยยิ้ม
งื๊ดดด!
‘หนีไปเซโคร!...หนีไป!’
ยูทาร์พยายามบอกเซโครแล้วแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้นอย่างยากลำบากตอนนี้ผมเจ็บไปทั้งตัวแต่ถ้าไม่ลุกขึ้นสไปโนซอรัสต้องเข้ามาทำร้ายเซโครแน่และผมจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น
“ไม่เป็นไร...ทุกอย่างมันจะจบแล้ว...ขอบคุณที่เหนื่อยนะ”เซโครหันมายิ้มให้ผมพร้อมกับยกวัตถุสีดำที่มีขนาดยาวๆขึ้นมาแล้วเล็งไปที่สไปโนซอรัสที่กำลังเข้ามาใกล้...
ปัง!
ปัง!
ปัง!
เสียงนี้ดังขึ้นหลายครั้งก่อนที่ร่างของสไปโนซอรัสจะล้มลงแล้วนอนนิ่งอยู่ที่พื้น...ใบหน้าของเซโครยามเล็งวัตถุนั้นดูสงบนิ่งเหลือเกินเหมือนกับเคยชินกันมันงั้นแหละ
“ยูทาร์ไม่เป็นไรนะ”เซโครทิ้งสิ่งที่ถือไว้อย่างรวดเร็วแล้ววิ่งเข้ามาดูบาดแผลที่หัวไหล่และคอ
งี๊ดดด~
ผมอยากบอกว่าไม่เป็นไรขอพักหน่อยก็พอแล้ว...ไม่รู้ว่าในร่างนี้เซโครจะเข้าใจผมไหม
“พี่โนว่าทางนั้นเป็นไงครับ?”เซโครตะโกนไปถามอีกฝากนึง
“เรียบร้อยแล้ว....อีกสักพักจะมีหน่วยแพทย์กับหน่วยควบคุมสัตว์ตามมาสมทบ”เสียงของพี่โนว่าดังขึ้นพร้อมกับเสียงเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ขึ้น
ยูทาร์พายามยันตัวขึ้นจนสามารถนั่งได้...เหล่ายูทาห์แรพเตอร์วิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับสอบถามอาการซึ่งผมก็บอกว่าไม่เป็นไร...พอมองไกลออกไปก็พบกับจิแกนโนโตซอรัสที่ล้มลงไม่ต่างกับสไปโนซอรัสแต่สภาพแย่กว่ามาก บาดแผลที่เกิดจากฟันซี่เล็กๆของฝูงแรพเตอร์มีทั่วทั้งตัวจนกลายเป็นแผลแหวะหวะ...เลือดก็ไหลนองออกมาจากแผลอย่างน่าสยอง...
สไปโนซอรัสกับจิแกนโนโตซอรัสก็น่ากลัวอยู่แต่ที่น่ากลัวกว่าคือฝูงยูทาห์แรพเตอร์นี่แหละ...พวกสาวๆเธอจัดเต็มสุดๆแบบนี้ต้องรักษากี่วันถึงจะหายหรือดีไม่ดีอาจไม่รอดจนถึงมือหมอก็ได้
‘หนุ่มหล่อเธอมองเราเหมือนเป็นฆาตกรเลยนะ’เสียงของอายน์ดังขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้
‘ก็คุณทำซะ...’ผมพึมพำพลางมองไปยังจิแกนโนโตซอรัส
‘ช่วยไม่นี่อยากมาว่าพวกเราว่าป้าทำไมล่ะ?’เฟียร์เดินมาสมทบพร้อมกับบอกเสียงเหี้ยม
ป้าเหรอ?...สงสัยคุยกันตอนที่ชุลมุนละมั้งผมเลยไม่ได้ยิน
‘แค่นั้นเหรอครับ?’
‘จะบอกให้นะหนูยูทาร์...การที่มาเรียกผู้หญิงว่าป้าถือเป็นคำต้องห้ามถ้ากล้าพูดสภาพก็เป็นอย่างที่เห็น’ดรายกระโดดขึ้นมาอยู่บนหลังผมแล้วอธิบาย
คำว่า ‘ป้า’ ห้ามหลุดออกมาเด็ดขาด
นั่นเป็นสิ่งที่ผมรีบจดจำไว้อย่างรวดเร็ว
ไม่นานก็มีรถเกือบสิบคันวิ่งเข้ามาจอดพร้อมกับพวกมนุษย์ที่กรูกันออกมาแล้วจัดการกับไดโนเสาร์สองตัวที่นอนหมดสภาพอยู่ด้านข้าง...
“โนว่า!”เสียงตะโกนของผู้หญิงคนนึงดังขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดเจ้าของชื่อไว้แน่นก่อนที่พี่โนว่าจะจับหน้าเธอให้เงยขึ้นแล้วใช้ปากสัมผัสปากอย่างรวดเร็ว
ยูทาร์มองภาพตรงหน้าอย่างบอกไม่ว่าคืออะไรกันแน่
“พี่โนว่านี่มันกลางถนนนะ...เลิกจูบพี่แอนสักที!”เซโครพูดขึ้นพร้อมกับใบหน้าแดงๆ....ผมมองใบหน้าเซโครที่แดงเหมือนเนื้อที่เคยกินอย่างหลงใหล...
ทำไมเซโครถึงหน้าแดงกันนะ...ผมไม่ได้กอดเซโครสักหน่อย
‘จูบกันอีกแล้วเหรอ’เสียงของซไวดังขึ้นแล้วมองไปยังภาพของคู่ชายหญิงที่แยกกันด้านหน้า
‘จูบ?’
‘อะไรเธอไม่รู้จักจูบเหรอ?’ฟึนถามแทรก
‘ครับ’
‘จูบเอาไว้ทำกันคนที่รักมากๆน่ะ...เธอคนนั้นมาทีไรเจ้านายเราก็คว้าเธอมาจูบทุกที’อานย์ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้พร้อมอธิบายทำให้ผมพยักหน้าตอบไป
‘งั้น...ผมก็ทำกับเซโครได้สินะ’
‘หื้อ?...เธอจะจูบมนุษย์?’
‘ไม่ได้เหรอ?’
‘ก็...ไม่รู้สิแค่ไม่เคยเห็น’
“ยูทาร์...ก้มลงมาหน่อยผมจะทำแผลให้”เสียงของเซโครทำให้การสนทนาหยุดลงแค่นั้น...ดรายที่อยู่บนหลังกระโดดลงไปพร้อมกับผมที่ค่อยๆก้มตัวลงไปหาเซโครที่เข้ามาใกล้พร้อมกับอุปกรณ์หลายอย่าง
“แผลลึกอยู่นะเนี่ย...ต้องรีบฆ่าเชื้อแล้ว...”
ยูทาร์มองการกระจำของเซโครที่เริ่มเอาน้ำบางอย่างเทใส่แผลความแสบนิดๆแล่นเข้ามาจนผมสะดุ้งเล็กน้อย...กลิ่นฉุนๆที่ลอยเข้ามาทำให้ผมต้องสะบัดหัวไปมาเพราะไม่ค่อยชอบกลิ่นแบบนี้
“เดี๋ยวพี่ช่วยดีกว่าเซโคร”พี่โนว่าเดินเข้ามาบอกเซโครแล้วหยิบขวดหลายอย่างขึ้นมา
“ขอบคุณครับ...รบกวนหน่อยนะพี่โนว่า”
“ไม่มีปัญหาน้องชาย...ยูทาร์พี่ขอขึ้นไปบนหลังหน่อยนะจะได้ล้างแผลสะดวกอย่าสะบัดนะ”
กรร~
ผมครางต่ำเป็นการตอบรับแล้วก้มหัวลงจนติดกับพื้น
ใช้เวลาสักพักกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย...แต่มีบางอย่างเริ่มไม่ปกติ
ยูทาร์พยายามหลายต่อหลายครั้งที่จะกลับร่างมนุษย์แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จเลยสักครั้งเดียว...จำว่าทุกครั้งที่จะกลับร่างมนุษย์แค่นึกว่าอยากอยู่กับเซโครก็จะกลับได้แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน...ไม่ว่าจะนึกถึงมากแค่ไหนร่างไดโนเสาร์ก็ยังคงอยู่
“ยูทาร์...กลับร่างมนุษย์ได้แล้วมั้ง”เซโครเดินมายืนตรงหน้าแล้วลูบจมูกผมเบาๆ
งื๊ดดด~
อยากกลับนะแต่ผมกลับไม่ได้
คงไม่ได้จะต้องอยู่ในร่างนี้ไปตลอดหรอกใช่ไหม?
ไม่นะ...ร่างใหญ่ๆแบบนี้ก็กอดเซโครไม่ได้นะสิ!
“หื้อ?...อย่าบอกนะว่ากลับไม่ได้?”ผมรีบพยักหน้าตอบเซโครกลับไปในทันที
“...แย่ล่ะ...พวกพี่กลับไปก่อนเลยครับเดี๋ยวผมกลับเองได้!!”เซโครพึมพำแล้วหันไปตะโกนบอกกลุ่มคนที่รออยู่...จากนั้นรถที่อยู่บริเวณนี้ก็หายไปจนหมด ส่วนพวกยูทาห์แรพเตอร์ก็กลับไปพร้อมกับเจ้านายสักพักแล้ว
“ยูทาร์...ยืนไหวไหม?”
งื๊ดด~
เสียงครางดังขึ้นพร้อมกับพยักหน้าตอบกลับไป...
ร่างของไดโนเสาร์กลายพันธุ์ค่อยๆลุกขึ้นถึงจะเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่...เหมือนกับร่างนี้สามารถรักษาบาดแผลได้เร็วกว่า พอยืนได้ก็ชูคอขึ้นแล้วคำรามเสียงดังเป็นการยืนยันว่าไม่เป็นไรเซโครไม่ต้องเป็นห่วง
“โอเค...ดีมาก...เรากลับไปที่ฐาน1ก่อนเถอะ...ผมจะขับรถนำแล้วยูทาร์ค่อยๆตามมานะ”เซโครบอกพร้อมกับเดินไปขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วขับมาตรงหน้าผม...ถึงจะอยากให้เซโครขี่หลังมากกว่าแต่ตอนนี้คงไม่ไหวเลยได้แต่เดินตามหลังเซโครไปจนถึงฐาน1ที่คุ้นเคย
ตอนแรกคนที่ยืนเฝ้าประตูไม่ยอมให้ผมเข้าไปแต่พอเซโครจัดการพูดให้ประตูก็เปิดให้ผมเข้าไปได้อย่างง่ายดาย...เซโครนำไปถึงกรงที่ผมเคยอยู่แล้วสั่งให้คนที่ควบคุมเปิดประตูใหญ่
“ยูทาร์เข้าไปอยู่ในนั้นก่อนนะเดี๋ยวผมไปคุยกับพ่อก่อนแล้วจะเข้าไปหา”เซโครบอกแล้วชี้ให้ผมเดินเข้าไปในกรงขนาดใหญ่ตรงหน้า
งี๊ดดด~
ผมส่ายหัวกลับไปแล้วไม่ยอมเดินเข้าไป...ถ้าเข้าไปแล้วไม่รู้ว่าเซโครจะมาหาเมื่อไหร่
อยากให้เซโครอยู่ในสายตาตลอดเวลาเพราะงั้นไม่ยอมเข้าไปข้างในแน่
“ยูทาร์...อย่าดื้อสิ...เดี๋ยวผมมา...ไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?”
งี๊ดดด!
เชื่อ...แต่ไม่อยากอยู่ไกลกันนี่
ยูทาร์ครางเสียงสูงพร้อมกับก้มลงไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นแล้วใช้ส่วนหัวขนาดใหญ่คลอเคลียเซโครเบาๆแต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ทำให้เหมือนผมกำลังดันอีกฝ่ายอยู่
“คิก!...ไดโนเสาร์อ้อนเป็นลูกหมาเลยนะ...รอผมแป๊บเดียวนะ...สัญญาเลยว่าจะรีบกลับมาพร้อมอาหารมื้อใหญ่”เซโครบอกพร้อมรอยยิ้มแล้วลูบผมอย่างอ่อนโยน...
ถึงจะตื้อก็คงไม่มีผลอะไรสินะ
เมื่อคิดได้แบบนั้นไดโนเสาร์พันธุ์ผสมก็ผละออกจากเซโครแล้วเดินเข้าไปในกรงขนาดใหญ่อย่างไม่อิดออดพร้อมกับเสียงของเซโครที่บอกว่าจะรีบกลับก่อนที่ประตูบานใหญ่จะถูกปิดลง...
ผมไม่ได้กลับเข้ามาในกรงนี้ได้สักพักใหญ่แล้ว...ครั้งสุดท้ายที่เข้ามาก็ตอนที่โดยจับมัดเอาไว้ทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนได้แต่ตอนนี้ไม่ได้ถูกมัดผมเลยสามารถเดินเล่นฆ่าเวลาได้อย่างน้อยก็ช่วยลดความเบื่อลงได้บ้างและบางทีถ้าเหนื่อยอาจจะกลับร่างมนุษย์ก็ได้
การเดินเล่นเป็นไปอย่างเชื่องช้าจนรู้สึกเบื่อหน่าย...อยากให้เวลาเดินเร็วกว่านี้จะได้เจอเซโครสักที บรรยากาศเงียบๆเหมือนตอนที่อยู่อย่างเดียวดายในห้องทดลองกลับมาอีกครั้งหนึ่ง...
ไม่อยากอยู่เพียงลำพัง
เคยคิดว่าถ้าต้องอยู่ในร่างนี้แล้วเดียวดายก็อยากจะอยู่ในร่างมนุษย์ไปตลอดเพื่อจะได้ตามเซโครไปได้ในทุกๆที่ถึงเซโครจะแนะคำคนให้รู้จักมากมายแต่คนเดียวที่อยากจะอยู่ข้างๆก็ไม่พ้นเซโครอยู่ดี...นี่อาจเป็นครั้งแรกที่นึกอยากเกิดมาเป็นมนุษย์
ฝืด!
ยูทาร์ยกตัวขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นของเซโครจากด้านอกนั่น...ไม่รอช้าสองขาของตัวเองวิ่งไปยังที่ที่ได้กลิ่นในทันทีแต่พอไปถึงก็ไม่เห็นเซโครแปลว่าคงอยู่นอกกำแพงนี่...
กรรร!!
เสียงคำรามดังขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้คนที่อยู่อีกฝากนึงรู้ว่าผมอยู่ตรงนี้
“ยูทาร์รอก่อนนะจะเข้าไปแล้ว”เสียงเบาๆที่ส่งผ่านมาทำให้ผมหยุดคำรามแล้วเดินตามกลิ่นของอีกฝ่ายที่เคลื่อนที่ไปเรื่อยจนมาถึงประตูกรงเหล็กขนาดกลางที่ไว้สำหรับให้มนุษย์เข้าออก...
ดวงตาสีเหลืองอำพันของผมจ้องไปยังอีกฟากของกรงที่มีร่างของเซโครที่หอบของหลายอย่างพร้อมกับเดินเข้ามาโดยมีพ่อเดินตามมาด้วย...เสียงกรงเหล็กดังขึ้นพร้อมกับร่างของทั้งคู่ที่เข้ามาภายใน ของหลายอย่างถูกวางกองลงที่พื้นรวมถึงอาหารของผมด้วย
“ยูทาร์นี่พ่อเองนะ...กลับร่างมนุษย์ไม่ได้สินะ”พ่อพูดขึ้นแล้วมองสำรวจผมทั้งตัว
งื๊ดดด~
“พ่อคิดว่าไงล่ะ?”เซโครหันกลับไปถามพ่อ
“อาจเป็นเพราะความไม่เสถียรของระบบในร่างกายเลยทำให้ไม่สามารถควบคุมการกลายร่างได้ดั่งใจ”พ่อหันไปอธิบายให้ฟัง
“อืม...วันนี้คงต้องอยู่แบบนี้ไปก่อน”
“นั่นสิ...พรุ่งนี้เป็นยังไงโทรมาบอกด้วยนะ”
“ครับพ่อ”
“ไปก่อนนะเซโคร...ไว้เจอกันใหม่นะยูทาร์”พ่อบอกลาเซโครแล้วหันมาบอกลาผมก่อนจะเดินออกจากกรงนี้ไป
(มีต่อคะ)
-
(ต่อคะ)
“เอาล่ะยูทาร์...วันนี้ถือว่ามาค้างคืนข้างนอกละกันเนอะ”เซโครยิ้มพร้อมกับหยิบของที่วางกองอยู่ขึ้นมา
“นี่คือเสื่อน้ำมันไว้...เอาไว้ปูเวลาไปปิกนิคหรือค้างคืนที่อื่น”อีกฝ่ายอธิบายก่อนสะบัดกางเสื่อผืนนั้นออกมาแล้วปูออกจากนั้นเซโครก็หยิบทั้งผ้าห่มและหมอนออกมาวางเตรียมไว้
พอจัดการทุกอย่างเสร็จเซโครก็ให้อาหารที่เตรียมไว้กับผมและครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เซโครป้อนผมด้วยมือเปล่าๆ...มื้อเย็นได้ผ่านไปจนถึงช่วงดึกที่เซโครได้หลับไปเรียบร้อยแล้วแต่ผมยังตื่นอยู่...
รู้สึกอยากกอดแต่ก็ทำไม่ได้...สุดท้ายเลยได้แต่นอนลงข้างๆแล้วขยับไปให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วนอนมองเซโครที่หลับตาพริ้มตรงหน้าด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย
กึก!
ในระหว่างที่หลับอยู่ร่างกายก็รู้สึกเจ็บปวดจนสะดุ้งตื่นขึ้นท่ามกลางความมืด...ความเจ็บปวดแบบนี้เคยเจอมาก่อนในอดีตทั้งที่คิดว่าจะหายไปแล้วเชียวแต่ไม่เป็นไรเพราะรู้ดีว่าหลังจากผ่านความเจ็บปวดนี้ไปได้ผมจะกลับร่างมนุษย์ตามเดิม...
“อึก...”ผมข่มความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นแล้วขยับร่างที่หดเล็กลงเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับเซโครแล้วดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดไว้จนแน่น
กลิ่นหอมๆจากผมของเซโครทำให้ผมจูบเบาๆลงไปที่หน้าผากซ้ำหลายต่อหลายครั้ง...น่าแปลกที่ครั้งนี้ผมกลับนอนหลับไปได้อย่างง่ายดายอาจเป็นเพราะผมได้นอนกอดเซโครอยู่ก็ได้
“ยูทาร์....ยูทาร์...”เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้ผมลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะพบกับเซโครที่มองมาแล้วลูบเส้นผมสีเทาแซมส้มของผมเบาๆ
“เซโคร...”
“กลับร่างมนุษย์แล้วนี่....ใส่เสื้อผ้าแล้วกลับห้องกันดีกว่า”คนตรงหน้าบอกพร้อมกับยื่นชุดที่เตรียมไว้มาให้ เซโครพาผมกลับเข้าไปในห้องก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงอีกครั้งนึง
“ยังเช้าอยู่เลยนอนต่ออีกหน่อยก็ได้...มานี่สิยูทาร์”เซโครบอกแล้วกวักมือเรียกให้ผมไปหา
แน่นอนว่าผมรีบตรงเข้าไปหาแล้วรวบตัวอีกฝ่ายมากอดไว้แน่นเหมือนอย่างทุกวัน...เซโครเองก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วซุกตัวอยู่ที่อกผมก่อนจะหลับตาลง การกระทำนั่นทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆ
“เซโคร...”
“หื้อ?...”เจ้าของชื่อขานทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“จูบได้ไหม?”ผมถาต่อเมื่อนึกถึงเรื่องที่ฝูงยูทาห์แรพเตอร์บอกได้
“...ห๊ะ?!...”คนที่หลับตาอยู่เบิกตากว้างอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำถาม
“จูบได้ไหม?”
“...อ่อ...จูบที่ไหนล่ะ?”
“ปาก”ผมตอบแบบไม่ต้องคิดแล้วนั่นทำให้เซโครที่อยู่ในอ้อมกอดผมหน้าแดงขึ้นในทันที
“...ใครสอนเนี่ย!...”
“เห็นที่พี่โนว่าทำ”
“...ว่าแล้วเชียว...”
“ไม่ได้เหรอ?...จูบมีไว้ทำกับคนที่รักที่สุดนี่...ผมรักเซโครสุดเพราะงั้นขอจูบนะ”ผมบอกออกไปก่อนจะพลิกตัวคร่อมเซโครเอาไว้
“เดี๋ยว!...รู้มาจากไหนน่ะ?”
“พวกยูทาห์แรพเตอร์บอกมา...นะเซโคร...”ผมแทบอดใจไม่ไหวยิ่งได้มองริมฝีปากบางสีชมพูดที่ขบเม้มกันอยู่ตรงหน้าก็ยิ่งอยากสัมผัสมากขึ้นไปอีก
“...ก็ได้...แต่ครั้งเดียวนะ”พอได้รับอนุญาตผมก็ก้มลงไปเอาปากแตะที่ปากนิ่มของอีกฝ่ายเบาๆแต่ความรู้สึกของผมมันบอกว่าแค่นี้ไม่พอ...เท่าที่จำได้พี่โนว่าขยับปากด้วยนี่...
“อ๊ะ...อื้อ..”เมื่อขยับคนใต้ร่างก็เผยอปากออกทำให้ผมใช้ลิ้นตัวเองลุกล้ำเข้าไป...ทั้งที่ไม่เคยทำแต่กลับรู้ว่าต้องทำยังไง
ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยมีกลับค่อยๆเอ่อล้นออกมาจากภายในจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้...เพียงแค่ลิ้นของเราสัมผัสกันผมก็ยิ่งกดย้ำสัมผัสให้มากขึ้นอีก...
ไม่แน่นะผมอาจจะเสพติดเซโครแล้วก็ได้
“อื้ออ...”เครียงครางในลำคอของเซโครมันดูหวานหูมากกว่าครั้งไหนๆที่เคยได้ยิน...
อยากได้ยินมากกว่านี้...
“อึก!...พอแล้ว...แฮ่ก...”เซโครผลักผมออกอย่างแรงจนต้องถอนจูบนั่นออกมาด้วยความเสียดาย...
เสียงหอบหายใจแผ่วๆ...
ใบหน้าที่แดงกำและริมฝีปากที่เผยอออก...
รวมทั้งดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่สั่นระริก...
ภาพต้องหน้าทำให้ผมเลียริมฝีปากตัวเองอย่างข่มอารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น...ความรู้สึกมันยิ่งกว่าตอนที่เห็นเหยื่อแล้วอยากล่าอีก...
อยากกินคนตรงหน้า
เพียงแค่ความหมายของคำว่า ‘กิน’ อาจไม่เหมือนกับที่เคยรู้จักมาก่อน
................................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://image.dek-d.com/21/1298727/100456917)
อนาโตไททัน ปากเป็ดพันธุ์ใหญ่ที่สุดในอุทยาน ยาวถึง14 เมตร สามารถโตได้พอๆกับทีเร็กซ์ แต่ไม่มีอาวุธอะไรที่จะใช้ป้องกันตัวเองได้
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://my.dek-d.com/januporn/gallery/show_picture.php?id=100456917
.....................................................................
สวัสดีคะ
มาอัพแบบเต็มๆตอน...อยากบอกว่าตอนนี้ยาวมาก
หวังว่าทุกคนคงจะอ่านกันแบบจุใจกันนะคะ
คิดว่าคงไม่มีอะไรที่ทำให้ทุกท่านค้างกันในตอนนี้
ตอนหน้าจะเป็นยังไง...อยากฟังสปอยที่คิดไว้ไหมคะ?(ไม่ใช่ล่ะๆ)
เอาเป็นว่าตอนหน้าก็เป็นฉากต่อสู้ค่ะแต่เป็นการต่อสู้ที่ยูทาร์ไม่เคยเจอมาก่อนและเสียเปรียบมากด้วย
อย่าลืมมาเอาใจช่วยยูทาร์กันในตอนต่อไปนะคะ^^
มุมตอบคำถามจากนักอ่าน
คำถามจากคุณ LonkLoy จากเว็บDek-Dถามมาว่า “เรื่องที่อยากถามอยากถามคุณพ่อค่ะไม่อาบน้ำนานขนาดนี้มีความทรงจำอะไรกับห้องน้ำรึเปล่า เจอเซโครทีไรบอกเหม็นเปรี้ยวตลอด!”
ไรท์ : ขอเชิญคุณพ่อ อุ๊ย คุณฟรานซิสมาตอบหน่อยค่า
ฟราน : ...คนถามคำถามนี้คิดจะทำให้ความนิยมฉันตกใช่ไหม?
ใครไม่ชอบอาบน้ำกัน?!(แสร้งทำเป็นโมโหทั้งที่เหงื่อตก555+)
ไรท์ : จะเป็นใครละคะถ้าไม่ใช่คุณ
ฟราน : ใครกันที่เป็นคนเผยแพร่ความลับสุดยอดนี้ไป!...จะว่าไปบทลงโทษที่ได้รับมาจากท่านประธาน
ทำไมถึงเป็นการอาบล่ะ?! การอาบน้ำมันเป็นบทลงโทษที่ไหนกัน?!...ทำอย่างกับรู้ว่าฉันไม่ชอบ
อาบน้ำงั้นแหละ!!
ไรท์ : หลุดออกมาแล้วนะคะ
ฟราน : ...เฮ้ย!...ไม่ใช่ๆ
ขอลบประโยคที่พูดไปแล้วได้ไหม?(หันมาทำหน้าอ้อนวอน)
ไรท์ : ...ไม่ได้คะ(ตอบเสียงอ่อยเพราะแพ้สายตานั่น)
ฟราน : เฮ่อ...งั้นคงต้องบอกสินะ ความจริงมันก็ไม่มีอะไรมากหรอก...ฉันแค่อยากจะช่วยบริษัท
ประหยัดค่าใช้จ่ายเท่านั้นเอง
ไรท์ : = =...คำตอบแบบนั้นใครจะเชื่อกันคะ
ฟราน : ...ชิ! ก็ได้ๆ แค่บอกความจริงก็พอแล้วใช่ไหมล่ะ!? ก็แค่ไม่ชอบให้ตัวมันเปียกๆ
ตอนอาบน้ำถามจริงเถอะไม่รู้สึกแหยะๆบ้างเหรอที่มีน้ำอยู่เต็มตัวไปหมดน่ะ?!!
ไม่รู้สึกขนลุกกันเลยรึไง?!!!! (ตะโกนเสียงดัง)
ไรท์ : ไม่นี่คะ(เสียงเรียบๆ)
ฟราน : พูดเป็นเล่นน่า!! จะบอกว่าฉันเป็นคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้นเหรอ?!!
แค่ร่างกายสัมผัสก็รู้สึกแล้วว่ามันไม่ปลอดภัย!!
แล้วยิ่งเวลาที่เราอยู่ในน้ำแรงดันที่อยู่ภายในก็ยิ่งทำให้เราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างที่เคยเป็น!
ร่างกายที่ปกติจะหนักกลับเบาลงเหมือนกำลังถูกบางอย่างควบคุม! และบางที่ว่านั่นก็คือน้ำไงล่ะ!!
เห็นแบบนี้แล้วยังจะให้ฉันไปอาบน้ำอีกเหรอ?!!!!!!! (ตะโกนดังลั่นก่อนจะหอบหายใจแรงๆด้วย
ใบหน้าแดงก่ำ)
ไรท์ : ....เอาเป็นว่าก็ได้รู้เหตุผลแล้วนะคะ ประโยคข้างบนที่ได้อ่านนั้นโปรดใช้วิจารณญาณได้การอ่านคะ
จบ
คำถามต่อไปจากคุณ Dinsor จากเว็บ thaiboyslove ถามมาว่า “Q:ขอให้ยูทาร์มาเป็น my husbandได้มั้ยยย555555”(ไม่แน่ใจว่าเป็นคำถามไหมแค่เห็นใชQมาเลยคิดว่าใช่555)
ไรท์ : เอ้า! ยูทาร์...ตอบเร๊วววว
ยูทาร์ : ... my husband?
ไรท์ : อ้อ...ไม่รู้จักเหรอ? เซโครมาอธิบายให้ยูทาร์ฟังหน่อยซิ(กวักมือเรียก)
เซโคร : ...(ทำหน้ามุ่ยมาเชียว)
ยูทาร์ : เซโครmy husbandคืออะไร?
เซโคร : ...ยูทาร์มีอะไรดีนักนะถึงได้ชอบมาขอกันจัง(พึมพำเสียงเบากับตัวเอง)
ยูทาร์ : ??...ห๊ะ??
เซโคร : ... my husbandก็ประมาณว่าขอไปเป็นสามีน่ะยูทาร์(อธิบายด้วยหน้ายมุ่ยๆ)
ยูทาร์ : อ้อ...เหมือนที่ผมเคยเจอใช่ไหม?
เซโคร : ใช่
ยูทาร์ ถ้าเป็นสามีก็ต้องจากกับเซโครสินะ
เซโคร : อืม(ทำเสียงอ่อน)
ยูทาร์ : ผมไม่อยากแยกกับเซโครเพราะงั้นขอโทษด้วยนะครับที่ต้องปฏิเสธ ขอบคุณนะครับ
ไรท์ : สรุปก็ตามนี้นะคะ...ขอบคุณทุกท่านที่ส่งคำถามเข้ามาตอนหน้าพบกันใหม่คะ
ใครมีคำถามอะไรถามมากันได้นะ...มาร่วมสนุกเล่นๆกันเยอะๆ
อีกเรื่องคะ...มีข่าวสำคัญมาแจ้งด้วยนะคะ เนื่องจากอาทิตย์นี้และอาทิตย์หน้าเรามีสอบกลางภาคของมหาลัยดังนั้นขออัพตอนหน้าหลังสอบเสร็จนะคะ สอบเสร็จศุกร์ที่16คะ...จะมาอัพวันเสาร์ไม่ก็อาทิตย์นะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังและทุกๆคอมเม้นต์นะคะ
ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้าคะ
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
ขอบคุณคุณ rayaiji ที่ช่วยบอกคำผิดนะคะ
-
:z13: :z13: :z13:
-
วั้ย!! ยูทาร์ไร้เดียงสาขนาดนี้ เซโครจะสอนยังไงเนี่ย...ดีนะที่ยูทาร์ไม่เห็นฉากเด็ดมากกว่านี้ ไม่งั้นคงต้องมาขอทดสอบกับเซโครแน่ๆเลย
-
ง่อวววว ตัลล้าคคคคคคค :katai2-1:
แก้คำผิดค่าาาา 1. ตะลุมบอน
2.แสบนิดๆ
3.ค่อยๆเอ่อล้น
-
ฟินรัวๆ น่ารักก ขอจูบด้วย ไดโนเสาร์ขี้อ้อนเอ้ยยย
-
:hao3:
อยากเห็น nc อ่ะค่ะ :m25:
-
บู๊นี่จัดเต็มมาก
แล้วตอนท้ายนั่นมันอะไรรรรร :-[ :-[
ยูทาร์อยากกินเซโครแล้วสินะ :hao6:
-
เวลายูทาร์อยู่ในร่างไดโนเสาร์แล้วพยายามเข้ามาออดอ้อนเซโครนี่น่ารักมากๆ เลยนะคะ ^^
-
เดี๋ยวถ้ายูทาร์มีอารมณ์จะ(กิน)ขึ้นมาเมื่อไหร่
เซโครจะสอนยังไงล่ะน้อออออ :hao7:
รอตอนต่อไปน้าาาา
-
ยูทาร์จ๋า เมื่อรู้ความแล้วจงเผด็จศึกเซโครให้จงได้ นะ หม่อมพี่เป็นกำลังใจให้ o18
-
อ๋อยยยยยยยยยยยย
หลงยูทาร์หนักขึ้นทุกวันนนนนนน
รวมเล่มเร็วๆคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ :hao5: :hao5:
-
:-[ :-[ ชอบแร็พเตอร์ นางน่ารักกกกกกกกก
-
ไดโนเสาร์ไม่ธรรมดานะเนี่ย
:laugh:
-
ยูทาร์หื่นนนน
>///<
-
ยูทาร์นี้ born on this way จริงๆ 555555
จูบแรกกกกก ><
-
นี่แค่เห็นว่าเค้าจูบกันนะ ถ้าเห็นมากกว่านี้ล่ะ ไม่อยากจะคิดเลย
แววหื่นออกมาเชียวนะ ยูทาร์
555
-
อ๋อยยยยย น่ารักแท้ ชอบจังๆๆๆๆ
-
อิอิ น่ารักอะ
-
ยูทาร์น่ารักกกกอ่ะ
-
งืดดดด น่ารักมากก
พาร์ทต้นก็บู๊กันซะเลือดสาดไหงจบหวานปานมดจะมาไต่กันหละเนี่ย555
เริ่มมีพัฒนาการละนะยูทาร์ จะรอดูตอนยูทาร์กินเซโครวววเอิ๊กๆๆๆ
แม่ยกถือป้ายไฟสะบัดปอมๆเชียร์ประหนึ่งเป็นโคมไฟในห้องนอน
-
อยาก "กิน"
ยูทาร์รู้ตัวเมื่อไหร่เซโครเสร็จแน่ ๆ ช้ำแหง ๆ 55555
-
โง้ยยยย มุม Q&A น่ารักมากเลยอะ 555 ยูทาร์ใสซื่อจนน่าแกล้ง หึหึหึ แต่พออีกไม่นานคงได้เรียนรู้อะไรขึ้นอีกเยอะ คงจะแกล้งไม่ได้แล้วล่ะ ก๊ากกกกก
อยากกิน สารภาพเลยว่าแว้บแรกที่อ่าน คือนึกถึงไดโนเสาร์ตัววเบิ้มอ้าปากกว้างอวดฟันรอจะงับเหยื่อ 555 ขัดกับความจริงของฉากนั้นมาก
-
ฟรินนนน
-
จูบกันแล้ว
ยูทาร์เรียนรู้เร็วนะเนี่ย 555
-
ตอนบรรยายถึงตอนยูทาร์กัดสไปโน ผมนี้กัดฟันตัวเองสเหมือนตัวเองเป็นยูทาร์เลยครับ...
-
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกรักนิยายเรื่องนี้มากขึ้นมาเรื่อยๆ
-
ฟินเว่อร์เบยยยย :hao7:
-
กรี๊ดดด ยูทาร์อยากกินเซโครรรรรร อิอิ
-
ฝูงแรพเตอร์สอนอะไรให้ยูทาร์เนี่ย 555555 ดีแล้วๆ คึๆๆ
อ่านตอนสุดท้ายแล้วเขินมาก ยูทาร์เห็นซื่อๆ นี่ร้ายไม่เบานะเนี่ยยย
-
ฮือออออออ โฮฮฮฮฮฮฮ :hao5: :hao5:
ตามทันแล้ว วิ่งตามคนอื่นทันแล้วววว
โดนน้องไซโคใส่จนต้องเงยหัวจากงานมาอ่านเลย
ชอบอ่าาาาา น้องยูทาร์น่ารักมากลูกกกก โอ๊ยยยยยย ป้าล่ะอยากดึงเข้ามากอด มาฟัดจริงๆ
เซโครนี่เหมือนพี่เลี้ยงเด็กเลย ให้อารมณ์แบบ เซโครใส่ผ้ากันเปื้อน แล้วนั่งเล่านิทานให้เด็กน้อยยูทาร์ฟัง 5555
รอตอนต่อไปนะคะะะะะ
Q : น้องยูทาร์สนใจรับลูกฝูงแก่ๆแบบป้ามั๊ยลูก :hao7: 5555
-
ผู้หญิงเป็นเพศที่อย่าคิดแหยม คึคึ ยูทาร์อยู่ในวัยกำลังเรียนรู้สินะะะะ หุหุ
-
รอๆๆๆๆๆๆเมื่อไหร่มาต่อคิดถึงยูทาร์แล้วน้าาาาาาา :ling1:
-
อร๊ายยบย ยูทาร์ เค้าจะเอาแบบนี้ จะเอาแบบนี้ง่าาาา
น่ารักจริงๆเชี๊ยวว :hao7: :hao7:
-
ยูทาร์จะน่ารักไปไหน บอกทีว่านี่คือไดโนเสาร์กินเนื้อ นักล่ายุคดึกดำบรรพ์ผู้เป็นตำนาน แกบ้องแบ๊วมากอะ แกขี้อ้อนมาก แกติดเซโครมาก :katai1:
-
กลายรักครั้งที่❧15
การทำงานร่วมกันของเซโครและยูทาร์ดีมากและยังดีขึ้นไปอีกเรื่อยๆ...ความเชื่อใจกันที่มีมันมากขึ้นจนแทบไม่เหลือความคลาแคลงใจทำให้งานที่ได้รับมาประสบความสำเร็จทั้งหมดโดยไม่มีการสูญเสียมากเท่าที่คาดการณ์ไว้
จากวันที่เซโครได้ขึ้นไปคุยกับคุณเลโอก็มักจะมีคำสั่งส่งผ่านมาที่โทรศัพท์โดยตรง...งานของผมที่ได้รับมอบหมายไม่ใช่แค่การได้สิทธิ์ดูแลยูทาร์เท่านั้นแต่ยังถูกตั้งให้เป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพิเศษโดยมียูทาร์เป็นคู่หู...
ฝ่ายที่ว่านี่คุณเลโอบอกว่าพึ่งตั้งสดๆตอนที่เจอหน้าผม ในฝ่ายเลยมีแค่ผมและยูทาร์เท่านั้น...อย่างที่บอกไปว่าเป็นฝ่ายพิเศษเพราะงั้นงานที่ถูกส่งมาจึงเป็นคำสั่งโดยตรงจากคุณเลโอซึ่งส่วนมากเนื้อหางานก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจับไดโนเสาร์ซะเป็นส่วนมากโดยเฉพาะไดโนเสาร์ที่หลุดออกจากกรง
การที่มียูทาร์อยู่ทำให้ลดการเสียชีวิตของมนุษย์ได้อย่างมากเพราะส่วนมากยูทาร์จะสู้ตามลำพังและบางครั้งไม่จำเป็นต้องสู้ก็สามารถหยุดไดไนเสาร์ได้
ครื่นนน~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นส่งผลให้คนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงลุกขึ้นอย่างงัวเงียแล้วยื่นมือไปคว้าอุปกรณ์สื่อสารที่ส่งเสียงดังลั่นพร้อมกับกดรับสายโดยที่ไม่ได้ดูชื่อ...
“สวัสดี...ครับ”ผมทักทายปลายสายเสียงงัวเงีย
(เสียงแบบนี้ยังไม่ตื่นสินะ)เสียงจากปลายสายทำให้ดวงตาสีเขียวอมฟ้าเบิกกว้างจนความงัวเงียที่มีหายวับไปกับตา
“คุณเลโอ!”
(ไม่ได้ดูชื่อที่โทรเข้าด้วยสินะ...เอาเถอะ...ตอนนี้มีเรื่องด่วนต้องให้พวกเธอไปเดี๋ยวนี้)เพราะน้ำเสียงที่จริงจังทำให้ผมขยับตัวนั่งให้ดีพร้อมกับเหลือบตาไปมองนาฬิกาที่บอกเวลา...
ตี3!
ผมมองตัวเลขที่หน้าปัดอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง...
มีใครโทรมาสั่งงานตอนตี3บ้างล่ะ?
“งานอะไรครับ?”ผมถามเสียงเบาเพราะยูทาร์ที่นอนอยู่ข้างผมเริ่มขยับตัวแล้วคว้าเอวผมเข้าไปกอดก่อนจะซุกหน้าลงแล้วหลับต่อ
(มีไดโนเสาร์หลุด...)อีกแล้วเหรอ?
“ครับ...เขตไหนครับ?”ผมถามต่อทันที....ช่วงนี้ไดโนเสาร์หลุดออกมาบ่อยเพราะมีการซ่อมบำรุงกรงครั้งใหญ่เลยต้องมีการปิดกระแสไฟฟ้าที่ไหลเวียนอยู่โดยรอบกรงชั่วคราว
(ไม่ใช่บนเกาะ)
“ห๊ะ?”
(มหาสมุทรแปซิฟิก...มีไดโนเสาร์หลุดทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นที่มหาสมุทรแปซิฟิกและพวกเธอต้องไปเดี๋ยวนี้!)
“เดี๋ยวครับ?...ผมไม่เคยทำงานนอกเกาะมาก่อน...อ่อ...แล้วรายละเอียด...”
(ไม่เคยก็เคยซะ...ฉันเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้แล้ว...ให้เวลาเตรียมตัวแค่10นาทีแล้วทางคนขับจะไปส่งพวกเธอเองส่วนเรื่องรายละเอียดไปฟังจากคนที่ชื่อไรชูเองละกัน)พอพูดจบก็ตัดสายไปทันมีทำเอาผมถึงกับมองโทรศัพท์ในมือด้วยความงงงวยก่อนจะนึกได้ว่ามีเวลาเตรียมตัวแค่10นาทีนี่นา
ไม่รู้ว่าต้องไปกี่วัน...แต่ที่ญี่ปุ่นก็คงเหมือนที่นี่ที่ยังอยู่ในหน้าร้อนเพราะงั้นไม่ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวไปแค่ใส่เสื้อแขนยาวไปก็น่าจะพอ...เพื่อความมั่นใจพกเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูไปเผื่อไว้ดีกว่า
“ยูทาร์ตื่นเถอะเรามีงานต้องไปทำแล้ว”ผมเอื้อมมือไปเขย่าปลุกยูทาร์ที่ยังคงหลับปุ๋ยอยู่ด้านข้าง...ปกติยูทาร์เป็นพวกที่มีการระวังตัวตัวอยู่ตลอดเวลาแต่พอมานอนในห้องนี้ทีไรยูทาร์ก็มักจะตื่นยากแบบนี้เหมือนกับว่าพอเป็นห้องนี้แล้วทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอุ่นใจเลยหลับสนิท
“...อื้อ...เช้าแล้วเหรอ?”ยูทาร์ปรือตาขึ้นมาพร้อมคำถาม
“ยัง...แต่มีงานแล้วลุกขึ้นๆ...ไม่มีเวลาอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดเร็ว”ผมบอกพร้อมกับลงจากเตียงแล้วหยิบเสื้อผ้าโยนไปให้ยูทาร์ที่ยังดูงัวเงียอยู่
กว่าจะเตรียมตัวเสร็จก็เลยสิบนาทีไปแล้วเลยต้องวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์...ทันทีที่เราสองคนขึ้นไปเครื่องเฮลิคอปเตอร์ก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงการเดินทางมีเวลามากพอสมควรผมเลยนอนหลับต่ออีกตื่นโดยพิงหัวที่ไหล่ของยูทาร์แล้วปล่อยให้สติหายไปอย่างเชื่องช้า
“...เซโครถึงแล้วนะ...เซโคร...”เสียงทุ้มที่ดังขึ้นปลุกผมให้ตื่นจากการหลับยาว ภาพแรกที่เห็นคือดวงตาสีเหลืองอำพันที่แสนคุ้นเคยจ้องมองมา
“...ยูทาร์...ถึงแล้วเหรอ?”
“อื้อ...ลงกันเถอะ”
เซโครค่อยๆยันตัวขึ้นแล้วหยิบกระเป๋าสะพายที่วางไว้ด้านข้างขึ้นมาก่อนจะลงจากเฮลิคอปเตอร์ตามยูทาร์ไป...ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ท่าเรือแห่งหนึ่งทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่นน้ำทะเลสีฟ้าสวยแต่ไม่มีหาดแปลว่าที่นี่คงเป็นสถานที่สำหรับทำประมง
“สวัสดีครับ...คุณไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ใช่ไหมครับ?”เสียงทุ้มของผู้ชายคนนึงดังขึ้นทำให้ผมและยูทาร์หันไปอย่างพร้อมเพรียง...ชายร่างสูงที่ใส่สุดดำน้ำไว้ด้านในแล้วคลุมด้วยเสื้อแขนยาวเดินตรงเข้ามาหาพวกเราก่อนจะจับมือทักทายกัน
“ครับ...เรียกผมเซโครก็ได้...ส่วนนี่...”
“ผมชื่อยูทาร์”คนที่ยืนอยู่ด้านข้างแนะนำตัวบ้าง
“ครับ...ผมชื่อไรชู...คุณเลโอติดต่อมาว่าพวกคุณจะช่วยเราได้...รีบไปกันเถอะครับเรือกำลังจะออกแล้ว”อีกฝ่ายทักทายก่อนจะนำพวกเราไปที่เรือใหญ่ที่ติดอาวุธไว้พร้อมเหมือนกำลังจะไปสงครามที่ไหนสักที่
“ผมขอถามหน่อยว่าไดโนเสาร์ที่หลุดไปพันธุ์อะไรครับ?”ผมถามขึ้นระหว่างเดินตามคุณไรชูเข้าไปด้านในเรือ
“พร็อกนาโทดอน”
“ห๊ะ?...คุณพูดจริงเหรอ?”ผมถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ใช่...ไดโนเสาร์ที่หลุดไปคือพร็อกนาโทดอน...ไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดที่อาศัยอยู่ในทะเล...ความยาวสูงสุดที่วัดได้คือ15เมตรหนักกว่า7ตันแถมยังมีฟันที่แสนคมกริบที่สามารถกัดเปลือกแอมโมไนต์ได้เป็นที่มาขอฉายาที่ว่า ‘ฟันที่แข็งเหมือนเหล็ก’...”คุณไรชูอธิบายลายละเอียดให้ฟังแล้วตรงเข้าไปยังห้องบังคับเรือ
มีคนมากมายอยู่ในห้องนี้ทั้งคอยควบคุมเรือ...คอยดูจอมอนิเตอร์และคอยดูเรด้าที่อยู่บนจอกลางห้อง...แค่เห็นก็พอเดาได้แล้วว่าตำแหน่งสีแดงที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนจอนั่นคือพร็อกนาโทดอนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่
“พวกเรากำลังตามเรด้าไปอีกประมาณชั่วโมงถึงจะตามทัน...ผมอยากรู้ว่าคุณจะช่วยพวกเราได้ยังไงโดยที่ไม่ให้พร็อกทาโนดอนได้รับบาดเจ็บมากนักเพราะผมต้องนำมันไปยังสวนสัตว์ต่ออีก”คุณไรชูหันมาถามผมที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“คุณเลโอบอกมาว่ายังไงล่ะครับ?”ผมลองถามดู
“บอกมาแค่ว่าพวกคุณจะจัดการให้เราเองแค่นั้นแหละครับ”คำตอบที่ได้รับทำให้ผมรู้ว่าคุณเลโอไม่ได้บอกเรื่องยูทาร์ให้รู้...นั่นทำให้ผมไม่มั่นใจว่าสามารถให้ยูทาร์กลับเป็นไดโนเสาร์เพื่อจัดการได้รึเปล่าหรือต้องปิดบังความจริงเอาไว้...
ตั้งแต่ตอนที่ยูทาร์กลับร่างไม่ได้วันต่อมาผมก็ทำการฝึกซ้อมให้ยูทาร์โดยให้กลายร่างเป็นไดโนเสาร์และกลับมาเป็นมนุษย์...ใช้เวลาหลายอาทิตย์กว่าที่จะประสบความเร็จจนตอนนี้ยูทาร์สามารถเปลี่ยนร่างได้ตามใจแล้ว นอกจากนั้นผมยังสอนยูทาร์ว่ายน้ำด้วย
“เซโคร...”
“เดี๋ยวดูสถานการณ์แล้วค่อยว่ากัน”ผมกระซิบตอบยูทาร์ที่ยื่นหน้ามาใกล้เบาๆ
บางทีอาจไม่ต้องถึงขั้นให้ยูทาร์กลายร่างก็ได้
เซโครและยูทาร์ออกไปเตรียมตัวด้านนอกเมื่อเมื่อใกล้ถึงที่หมายแล้ว...ลมทะเลที่พัดมาพร้อมไอแดดกลายเป็นลมร้อนๆถ้าอยู่นานๆหน้าผมอาจไหม้ได้เลย
ผืนน้ำสีฟ้าครามที่สงบนิ่งราวกับทะเลปกติ...มันคงเป็นทะเลปกติที่มีเรือออกมาว่านแหหรือหาปลาแต่ไม่ใช่ในตอนนี้ ตอนที่มีพร็อกนาโทดอนว่ายอยู่ในทะเล...ถ้าพูดถึงนักล่าแห่งท้องทะเลที่น่ากลัวที่สุดก็คงไม่พ้นไดโนเสาร์ตัวนี้หรอก...
ไดโนเสาร์ที่สามารถกัดเปลือกแอมโมไนต์ได้ง่ายๆเหมือนกับกำลังเคี้ยวขนมหวาน...ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าเปลี่ยนจากเปลือกแข็งๆเป็นเนื้อมนุษย์หรือปลาขนาดใหญ่จะเป็นยังไง...
ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่จะแย่ถ้าเรายังปล่อยมันไว้แบบนี้แต่ระบบนิเวศแถวนี้ก็จะถูกทำลายลงเพราะพร็อกนาโนดอนจะล่าทุกอย่างที่มีชีวิตและเคลื่อนไหว
“มันอยู่ตรงนั้น”คุณไรชูชี้ไปตรงกลางทะเลที่อยู่ด้านหัวเรือ...บริเวณนั้นมีน้ำสีแดงลอยขึ้นมาปะปนกับน้ำทะเล
คงต้องถามนะว่าเป็นอะไร...มันคงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ถ้าไม่ใช่เลือด
ไม่ต้องรอนานซากปลาตัวใหญ่ที่ถูกกัดจนเละไปทั้งตัวก็ลอยตามขึ้นมาทำให้ข้อสันนิษฐานที่ผมคิดมันเป็นจริงมากขึ้น...ถ้าไม่รีบหยุดมันอาจเกิดเรื่องใหญ่ก็ได้
“เซโคร...มันอยู่นั่น”เสียงทุ้มจากคนด้านหลังดังขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่ใต้เรือ...เงาขนาดใต้ว่ายผ่านด้านใต้ไปอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่ทันแต่ไม่ผิดแน่...
เงานั่นต้องเป็นพร็อกนาโทดอนแน่นอน
ตึง!
เสียงอะไรบางอย่างกระแทกกับเรือดังขึ้นในจังหวะเดียวกับตัวเรือโคลงเคลงไปมาจนผมต้องคว้าขอบเรือจับไว้แน่นกันไม่ให้ตกลงไปในทะเล
“มันกำลังโจมตีเรือ!...ทุกคนระวังตัวด้วย!”คุณไรชูตะโกนบอกทุกคนที่อยู่รอบๆ
ตึง!!
การกระแทกครั้งที่สองเกิดขึ้นตามมาติดและดูท่าจะรุนแรงกว่าเดิมด้วย...ถึงเรือนี้จะลำใหญ่แต่ถ้าถูกเจาะจากด้านข้างเรือต้องคลิกคว่ำแน่....ต้องรีบจัดการแต่ไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงดีนี่สิ
“หว๋า....ช่วยผมด้วย!!!”เสียงของชายคนตะโกนออกมาเมื่อพลัดตกลงไปจากเรือ...เซโครวิ่งเข้าไปหาแล้วพยายามคว้ามืออีกฝ่ายแต่ในจังหวะที่มือของเรากำลังจะจับกันเงาขนาดใหญ่ด้านใต้ก็กระโจนขึ้นมาพร้อมกับอ้าปากขนาดใหญ่ออกกว้าง...
เพียงพริบตาเดียวชายที่กำลังจะคว้ามือผมก็หายไปในปากของมันอย่างรวดเร็ว
“เซโคร!”ยูทาร์ที่เห็นท่าไม่ดีรีบคว้าตัวผมไปกอดไว้แน่น...ตอนนี้ตัวผมคงสั่นราวกับลูกนก ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงติดตาอยู่จนถึงตอนนี้
“...ยูทาร์...ผม...ผมช่วยเขาไม่ได้...”ผมบอกออกไปด้วยความเสียใจแล้วหลับตาลงเพื่อตั้งสติ...ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะปล่อยโฮออกมาดังนั้นผมต้องตั้งสติให้ดี
“เซโคร...ไม่เป็นไร...คุณพยายามดีที่สุดแล้ว”เจ้าของเสียงทุ้มกอดผมแน่นขึ้นแล้วลูบหัวผมเบาๆเป็นการให้กำลังใจ
“เราต้องทำอะไรสักอย่าง”
“อืม...ให้ผม...”
“ไม่ได้...ยูทาร์ห้ามลงไปนะเห็นแล้วนี่ว่ามันรวดร็วแค่ไหนถึงยูทาร์จะว่ายน้ำได้แต่ความเร็วสู้พร็อกนาโทดอนไม่ได้หรอก”ผมรีบพูดแทรกทันทีเมื่อรู้ว่ายูทาร์คิดจะทำอะไร
“แต่...”
ตึง!
ตึง!!
การกระแทกครั้งต่อมาดังขึ้นติดๆกันเหมือนไดโนเสาร์ในน้ำจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้จะมีอาหารตกลงไป...ด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงทำให้มีคนตกลงไปเพิ่มอีกหลายคน...เสียงโหยหวนที่ดังตามมาทำให้ผมต้องเม้มปากแน่นแล้วคิดอย่างหนักว่าควรจะทำยังไงดี
“คุณใช้ปืนที่ติดอยู่ยิงมันสิ”ผมตะโกนบอกคุณไรชู
“ตอนนี้กำลังใส่ลูกอยู่...ถ้าพร้อมแล้วพวกเขาจะยิงเลย”อีกฝ่ายตะโกนกลับมาโดยที่มือของข้างหาที่ยึดเกาะไว้แน่น
ปัง!
ปัง!
ดูท่าจะพร้อมแล้วสินะ...เหลือแค่ดูว่ามันจะได้ผลรึเปล่า?
อาวุธที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจะสามารถเอาชนะอาวุธที่มีเพียงเขี้ยวอันแหลมคมเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนได้รึเปล่า...ถ้าได้ก็คงดีแต่ถ้าไม่ได้...
คงต้องคิดใหม่แล้วว่าเราควรจะชุบชีวิตพวกมันขึ้นมารึเปล่า
กรรร!!
ตึงง!!
เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมแรงกระแทกที่ทำให้ตัวผมลื่นไถลออกจากยูทาร์แล้วล่วงออกไปจากเรือท่ามกลางความตกใจของคนที่อยู่รอบๆ ดวงตาสีเหลืองอำพันด้านบนเบิกกว้างขึ้นแล้วพยายามเอื้อมมือมาคว้ามือผมไว้แต่ก็ไม่ทัน ร่างกายผมตกลงมาในน้ำทะเลแล้วจมลงมาก่อนจะลอยขึ้นมาช้าๆจนสามารถหายใจออกมาได้
“แฮ่ก...”ยังไม่ทันได้พักหายใจผมก็สังเกตเห็นเงาขนาดใหญ่ด้านที่อยู่ด้านใต้ตัวเอง
“เซโคร!!”เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังลั่นพร้อมกับร่างที่แสนคุ้นเคยที่กระโดดตามลงมา
“ยูทาร์...”
กรรร!!!
ตู้มมม!
ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยคร่างกายของยูทาร์ก็กลายร่างเป็นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ ทันทีที่ถึงผิวน้ำปากขนาดใหญ่อ้าออกกว้างจนเห็นเขี้ยวแทบทุกซี่พร้อมกับกัดเข้าที่ส่วนหัวของไดโนเสาร์ใต้น้ำอย่างรวดเร็วจนน้ำทะเลกระจายตัวออกกว้าง
“แค่ก!...”ผมนี่แทบทรงตัวว่ายไม่ได้เลย
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นใต้น้ำนั่นแต่กระแสน้ำที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลาทำให้รู้ว่าทั้งคู่กำลังสู้กันอยู่แน่และเป็นการต่อสู้ที่ยูทาร์เสียเปรียบที่สุด...ไดโนเสาร์บกต่อสู้กับไดโนเสาร์น้ำในน้ำ
เป็นสถานการณ์ที่แย่มาก!
พรึ่บ!
กรรร!
กรรร!
ร่างของไดโนเสาร์ทั้งสองตัวผุดขึ้นมาจากใต้น้ำพร้อมส่งเสียงคำรามใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร...ยูทาร์เป็นฝ่ายที่เข้าไปโจมตีก่อนโดยพยายามใช้เขี้ยวอันแหลมคมกัดเข้าไปที่ส่วนคอของอีกฝ่ายแต่พร็อกนาโทดอนที่ได้เปรียบในน้ำเหมือนจะรู้ทันเลยใช้หางสะบัดเพื่อโจมตีจนยูทาร์หงายท้องไปอีกฝั่งนึง
“ยูทาร์!!”ผมตะโกนเรียกด้วยความเป็นห่วงโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงนั้นทำให้พร็อกาโทดอนหันมามองก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายว่ายมาหาผมแทนด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น
กรรร!!
ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่จมน้ำไปโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งเสียงคำรามราวกับจะเรียกให้พร็อกนาโทดอนหันไปสนใจตนเองแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล...ปากขนาดใหญ่อ้าออกเมื่อใกล้ถึงเหยื่อซึ่งก็คือผม...
การรอความช่วยเหลือโดยไม่ทำอะไรมันไม่ใช่นิสัยผมด้วยสิ
กรรร!!
เซโครอาศัยจังหวะที่ปากของพร็อกนาโทดอนอ้าออกดำลงไปข้างใต้อย่างรวดเร็วเพื่อหลีกหนีจากฟันอันแหลมคมที่เรียงรายอยู่ในปากใหญ่นั่นแล้วเกาะเข้าที่ส่วนหัวนั่นอย่างรวดเร็วจนพร็อกนาโทดอนส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมดำลงไปใต้น้ำลึกก่อนจะพลิกตัวแล้วว่ายขึ้นด้านบนอย่างรวดเร็ว...
“แค่ก!...”ผมสำลักน้ำแทบจะทันทีที่ร่างของพร็อกนาโทดอนกระโจนขึ้นมาบนผิวน้ำแล้วพลิกตัวไปมาก่อนจะกลับลงสู่ผืนน้ำอีกครั้งนึง
กรรร!!
อาจเป็นเพราะพร็อกนาโนดอนมัวแต่สนใจผมอยู่เลยลืมไปว่ามียูทาร์ที่คอยจังหวะอยู่...พอได้โอกาสยูทาร์ก็พุ่งเข้ามาเต็มแรงจากใต้น้ำ เขี้ยวเคลือบพิษอันแหลมคมตรงเข้าที่ส่วนใต้ของร่างกายที่อ่อนนุ่มอย่างไม่พลาดเป้าเลยสักนิด
กรรร!!
เสียงร้องอันแสนเจ็บปวดดังรอดมาจากพร็อกนาโทดอนที่ตอนนี้ส่วนคออยู่ภายในปากของยูทาร์และอีกไม่นานพิษที่เขี้ยวก็คงจะออกฤทธิ์...การต่อสู้อันยาวนานก็จะจบลงสักที
“...แค่ก...ยูทาร์...เก่งมาก”ผมว่ายไปข้างๆยูทาร์พร้อมกับลูบที่ต้นแขนของไดโนเสาร์พันธุ์ผสมเบาๆแทนการชมเชย
งื๊ดดด~
“คุณไรชูได้ยินผมไหมครับ?”
“...ครับ”ไม่นานเจ้าของชื่อก็ชะโงกหน้าลงมาก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า...ลูกเรือหลายคนที่ตามมาต่างก็ตกใจมากจนบางคนถึงกับหงายหลังไปเลย
“เตรียมตาข่ายจับพร็อกนาโทดอนมาไหมครับ?”ผมตะโกนถามไปอีกครั้ง
“อ่อ...เตรียมมาครับ”
“ผูกมันไว้ที่ท้ายเรือแล้วโยนมาเลยครับเดี๋ยวผมกับยูทาร์จะจัดการให้”
“ยูทาร์?”อีกฝ่ายดูจะสงสัยว่าไหนคือยูทาร์
“นี่ไงครับยูทาร์”ผมชี้ไปที่ไดโนเสาร์ด้านข้างที่ยังไม่ปล่อยพร็อกนาโทดอนออกจากปาก
“...”ความเงียบที่ได้รับคงแปลความหมายได้ว่าตกใจจนทำตัวไม่ถูกแล้วสินะ
(มีต่อ)
-
(ต่อคะ)
เมื่อเอาเจ้าพร็อกนาโทดอนไปไว้ในตาข่ายด้านหลังเรือแล้วผมกับยูทาร์ก็กลับขึ้นไปบนเรือโดยใช้บันไดที่หย่อนลงมาให้...โชคดีที่กระเป๋าที่ผมเอามาไม่ได้ตกไปด้วยทำให้มีเสื้อผ้าเปลี่ยนโดยไม่ต้องทนหนาวจนถึงท่าเรือ
“อ่อ...คุณเซโคร”เสียงของคุณไรชูทำให้ผมที่กำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่กับยูทาร์หันไปมอง
“ครับ?”
“ผมอาจละราบละล้วงไปแต่...คุณยูทาร์นี่...อ่อ...”
“เขาเป็นไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่มียีนของมนุษย์อยู่ด้วยเลยทำให้กลายร่างได้ครับ”ผมตอบกลับไปทันที...ไม่ต้องรอให้พูดจบก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายสงสัยอะไรอยู่
“ครับ...แล้วคุณไม่กลัวเขาเหรอ?”คุณไรชูถามโดยเหล่มองยูทาร์ที่ดื่มชาอยู่ด้านข้าง
“ถ้าผมกลัวก็คงไม่มากับเขาแค่2คนหรอกครับ”คำตอบแทบไม่ต้องคิดเลยล่ะ
“ทั้งที่เขา...เป็นไดโนเสาร์เหรอครับ?”
“ครับ...ไม่ว่าจะเป็นอะไรเราสามารถสร้างความเชื่อใจและไว้ใจได้ถึงจะใช้ได้แค่บางพันธุ์ก็เถอะ...คุณก็ลองทำได้นะแต่ลองพวกกินพืชที่เป็นมิตรก่อนดีกว่า”คำแนะนำที่บอกไปทำให้เจ้าของคำถามคลี่ยิ้มออกมาบางๆ
ผมกับเซโครกลับมาถึงเกาะในช่วงบ่ายของวันและได้รับการอนุมัติให้พักได้โดยไม่ต้องไปเข้าเวรเหมือนวันอื่นๆผมเลยรีบตรงเข้าห้องแล้วเข้าไปอาบน้ำทันที...ถึงจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วแต่น้ำทะเลก็เหนียวตัวมากถ้าไปอาบน้ำคงนอนไม่หลับแน่...
ภารกิจวันนี้ถือว่ายากที่สุดที่เคยทำมา...ยูทาร์อยู่ในสถานะที่เสียเปรียบในทุกๆด้าน ที่เรารอดมาได้อาจเป็นเพราะดวงหรือโชคช่วยแต่จะหวังพึ่งดวงทุกครั้งก็คงไม่ได้...วันนี้ทำให้ผมเห็นว่าตัวเองยังมีข้อบกพร่องอยู่มากและต้องทำการปรับปรุงมันโดยเร็วด้วย
“เซโคร”เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมกับเตียงที่ยุบตัวลง
“...อะไรยูทาร์”ผมพลิกตัวที่นอนอยู่กลางเตียงไปหาอีกฝ่ายที่ทิ้งตัวลงข้างๆ
“อยากจูบ”คำของ่ายๆที่ไม่ง่ายต่อการกระทำเลยสักนิดเดียว...ตั้งแต่ที่ผมยอมให้จูบก็มักจะขอจูบผมอยู่เสมอ...
บางทีคงถึงเวลาจริงจังเรื่องของเราสักทีแล้วละมั้ง
ถ้าผมไม่สอนก็คงไม่มีทางรู้แน่
“ที่จะจูบนี่รู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร?”ผมถามออกไปแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมมองหน้าอีกฝ่ายเพื่อเอาคำตอบ
“ก็ปากแตะปาก...ลิ้นแตะลิ้น?”
“ไม่ใช่แบบนั้นสิ!”ผมตะโกนกลับไปเมื่อได้ยินประโยคลามกพวกนั้น
“ไม่ใช่เหรอ?...ก็ทุกครั้งที่จูบก็...”
“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น...โอเค...ผมอาจพูดเร็วไปหน่อย...เอาใหม่นะ...ยูทาร์คิดว่าจูบต้องไว้ทำกับใครล่ะ?”ผมลองเปลี่ยนคำถามดู
“...กับเซโคร”ยูทาร์นิ่งไปสักพักแล้วตอบ
“ก็ถูกแต่...ยังไม่ใช่...งั้นผมเป็นอะไรกับยูทาร์ล่ะ?”
“...คนรัก?”ยูทาร์ตอบเสียงเบาเหมือนไม่แน่ใจในคำตอบ
“อืม...คนรักเรียกอีกอย่างว่าเป็นแฟนกัน”
“เป็นแฟนกัน...แฟน...”ยูทาร์พูดทวนเพื่อจำศัพท์คำใหม่ที่ไม่เคยได้ยิน
“แล้วรู้ไหมว่าทำยังไงถึงจะเป็นแฟนกันได้?”ผมถามต่ออีก
“...ตอนนี้เราไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอ?”ยูทาร์ถามพร้อมกับเด้งตัวขึ้นมานั่งแล้วมองหน้าผมอย่างงงๆ
“ใช่...ตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน”
“ทั้งที่เราจูบกันแล้วน่ะเหรอ?”
“นั่นเพราะนายนั่นแหละยูทาร์!”ผมชี้หน้าแล้วพูดเสียงดังทันที
“ผม?...ทำไม?”ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยสินะ
“คนที่เป็นฝ่ายมาจูบน่ะก็ต้องเป็นฝ่ายขอเป็นแฟนสิ!”ทำไมถึงบื้อได้ขนาดนี้นะยูทาร์
“ผม...ต้องขอเซโครเป็นแฟน?”
“ใช่แล้ว”ผมพยักหน้าพร้อมตอบคำถามนั่น
“ขอเป็นแฟนครับ?”
“...”ผมถึงกับทำหน้านิ่งทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นดังออกมา...
คือ...มันง่ายไปหน่อยไหม?
คำพูดก็ไม่โรแมนติกสักนิดแถมน้ำเสียงยังทื่อๆเหมือนขออาหารงั้นแหละ...
นี่มันขอคนที่ชอบเป็นแฟนนะไม่ใช่ขออาหารกิน!
“ขอแล้วนะ...จูบนะ”ยูทาร์พูดขึ้นแล้วทำท่าจะคว้าตัวผมเข้าไปจูบแต่คิดเหรอว่าผมจะยอมง่ายๆ
“ไม่...แบบนั้นมันไม่เรียกว่าขอคบหรอกนะ”ผมใช้มือยันหน้าของยูทาร์ไว้แล้วบอกเสียงแข็ง
“ขอคบ?...เหมือนขอเป็นแฟนใช่ไหม?”
“ใช่”
“งั้นเซโครลองทำให้ดูหน่อยสิ”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมกระพริบตาปริบๆ...
นี่ผมต้องทำให้ดูด้วย?
“เฮ่อ...ก็ได้ๆ...ถือว่าทำไม่เป็นหรอกนะ”
“...”ยูทาร์จ้องมาที่ผมราวกับจะจดจำทุกอย่างที่ผมทำโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาที่จ้องมานั่นทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นมากแค่ไหน...
นี่มันเป็นการสารภาพักครั้งแรกเลยนะแถมยังไม่มีเวลาเตรียมตัวอีก
เอาเป็นว่าจะทำให้ดีที่สุดละกัน...
“ยูทาร์...”ผมเรียกพร้อมกับขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายที่นั่งนิ่งอยู่ด้านหน้า
“ครับ”ดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาทำให้หัวใจผมเต้นเร็วขึ้นด้วยความเขินและตื่นเต้น...พอข่มใจได้ผมก็ยกมือขึ้นสัมผัสที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆ...
“ผมรักยูทาร์นะ...เป็นแฟนกับผมนะครับ?”พูดเองใจเต้นเองแถมยังเต้นเร็วจนอยากจะหลับตาไปให้รู้แล้วรู้รอดเลย
พรึ่บ!
ตุบ!
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวร่างกายผมก็ถูกยูทาร์จับให้นอนหงายลงบนเตียงพร้อมกับขึ้นมาคร่อมอย่างรวดเร็ว...สายตาที่จ้องมาทำให้ผมต้องเม้มปากตัวเองไว้แน่น...
ทำไมยูทาร์ถึงหล่อได้ขนาดนี้นะ?
“ครับ”เสียงกระซิบเบาๆที่หูทำให้ขนทั่วตัวลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ
“...อะไร?”ผมถามเสียงสั่น
“เป็นแฟนกันไง...ผมต้องพูดตกลงด้วยนี่...ผมตกลงเป็นแฟนกับเซโคร”เสียงทุ้มกระซิบต่ออีกครั้งแล้วจูบเบาๆที่ต้นคอผม
“ยูทาร์...”อย่าทำมากไปกว่านี้เพราะผมอาจเป็นลมได้ง่ายๆ
“ผมรักเซโคร...รักมากที่สุด...เป็นแฟนกันผมนะครับเซโคร?”น้ำเสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนโดยที่ยูทาร์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมในระหว่างที่ขอเป็นแฟน
แบบนี้สิ...ที่อยากได้แต่มันมากไปหน่อย...ไม่คิดว่าจะรู้สึกดีมากขนาดนี้
“อื้อ...เป็นแฟนกันแล้วนะ”ผมยกมือขึ้นโอบคอยูทาร์ไว้แล้วบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม
“งั้นผมจูบนะ”ดูท่าไดโนเสาร์ตรงหน้าจะชอบจูบผมจริงๆเลยนะ...
เอาเถอะ...ตอนนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธนี่นา
“ได้สิ”คำพูดผมแทบถูกกลืนไปเมื่อได้รับสัมผัสจากคนตรงหน้า...ความร้อนรุ่มที่ถูกส่งผ่านมาทำให้ร่างกายแทบหลอมละลาย
“อึก!...อื้ออ...”เสียงครางดังขึ้นเมื่อลิ้นร้อนๆรุกเข้ามาภายในอย่างเชื่องช้าแต่กลับเต็มเปี่ยมด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย...ตัวตนของยูทาร์ทำให้ผมมีความสุขมากเหลือเกิน
“...อ่า!....”คนใต้ร่างดันคนที่กระหน่ำจูบออกไปเมื่อทนรับแรงจูบมากกว่านี้ไม่ไหวแต่คนด้านบนดูจะยังไม่พอเพราะสายตาที่จ้องมานั้นราวกับจะกลืนกินผมไปทั้งตัว
“...เซโคร...ขออีกได้ไหม?...”เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยอารมณ์ถามขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้อีกฝ่ายกลับไม่รอคำตอบริมฝีปากร้อนประกบลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนผมได้แต่ครางออกมาเบาๆแล้วเงยหน้ารับจูบนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
.................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(https://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/7/75/Prognathodonn.jpeg/250px-Prognathodonn.jpeg)
พร็อกนาโทดอน(prognathodon)เป็นสัตว์เลื้อยคลานทะเลในกลุ่มโมซาซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน(ในอดีตเคยเป็นไฮโนซอรัสที่ใหญ่ที่สุด) มันมีความยาว 15 เมตรและอาจหนักถึง 7 ตัน
อาหารที่พร็อกนาโทดอนชอบกินคือหอยแอมโมไนต์เพราะฟันของมันคมและแข็งแรงมาก มันจึงสามารถกัดเปลือกแอมโมไนต์ได้ และเรายังเคยพบรอยฟันของพร็อกนาโทดอนบนเปลือกแอมโมไนต์ด้วย(เป็นที่มาของฉายา "ฟันที่แข็งเหมือนเหล็ก")นอกจากนี้ พร็อกนาโทดอนยังกินทุกอย่างที่ขวางหน้า
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/พร็อกนาโทดอน
............................................................................
สวัสดีคะ
มาอัพต่อแบบเต็มตอนเลยคะ
ฉากบู๊ในน้ำอ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้างคะ?...เอาตรงๆเลยคือไม่มั่นใจเพราะฉากนี้ไม่มีตัวอย่างให้ดู(ปกติเวลาแต่งฉากต่อสู้ก็จะเอาจากในหนังมาคะ)
ในตอนนี้ทั้งคู่เป็นแฟนกันแล้วววว
กว่าจะเป็นแฟนกันได้นานมากจริงๆ(คนแต่งก็ลุ้นจนเหนื่อยแล้วคะ55)
ตอนพี่แล้วมีแต่คนอยากให้เซโครโดนกด...อยากบอกว่าโดนแน่คะแต่ไม่ใช่ช่วงนี้คงจะเป็นตอนท้ายๆของเรื่องคะ
เรื่องนี้ตอนแรกไม่คิดจะแต่งยาวขนาดนี้แต่พอแต่งไปแต่งมาแล้วติดลมซะงั้นแต่ทุกอย่างก็ต้องมีตอนจบเพราะงั้นทุกคนที่อ่านเตรียมนับถอยหลังได้เลยคะ เท่านี่นับๆดูเหลือไม่น่าเกิน6ตอน(มั้ง)
ยังไงก็ขอบขอบคุณทุกๆคำติชมนะคะ...จะนำคำของทุกคนไปปรับแก้เพื่อให้เรื่องนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นคะ^^
มุมตอบคำถาม
มาเริ่มกันที่คำถามแรกของคุณ Piyanud Pilakerd จากเพจเฟสบุ๊คนะคะ ถามมาว่า "ยูทาร์ชอบร่างกายส่วนไหนของเซโครมากที่สุด อิอิอิ(เห็นเขาเล่นเราก็เอากับเขาบ้างดีกว่า)"
ไรท์ : คำถามมาแล้ว...ยูทาร์ว่ายังไงล่ะ?
ยูทาร์ : ...ชอบหมดเลย...ถ้าเป็นเซโครไม่ว่าส่วนไหนก็ชอบ
ไรท์ : เหมาหมดแบบนั้นไม่ได้สิ...มีที่ที่ชอบเป็นพิเศษไหม?
ยูทาร์ : ชอบเป็นพิเศษ...
ก็มีนะ
ไรท์ : นั่นแหละๆ...ตรงไหน?
ยูทาร์ : ดวงตา
ไรท์ : ดวงตา?
ยูทาร์ : อืม...ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของเซโคร...เป็นดวงตาที่สวยมากเลยเวลามองรู้สึกเหมอนผ่อนคลายมากราวกับอยู่ในธรรมชาติเลย
แต่ที่ชอบที่สุดก็ตอนที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้านั้นสะท้อนภาพผมอยู่....(เริ่มเพ้อ)
ไรท์ : โอเคๆ...เราไปคำถามต่อไปดีกว่าเนอะ
คำถามต่อมาจากคุณ Past- Zeit เว็บเด็กดี ถามมาว่า "Q : อยากให้ยูทาร์มีน้องจัง (เป็นไดโนเสาร์ผสมมนุษย์เหมือนกัน)จะมีโอกาสไม๊คะ อยากเห็นโมเม้นเเบบ หวงน้องสาว อิอิ"
คำถามนี้ขอตอบให้ละกันนะคะ...สำหรับน้องสาวไม่มีนะคะ ขออภัยหากอยากเห็นแต่ถ้าเป็นไดโนเสาร์ที่มียีนส์ของมนุษย์เหมือนกันนั้นจะมีคะ บอกเลยก็ได้ว่าเดี๋ยวทั้งคู่จะมีลูกเลี้ยงคะ
คำถามสุดท้ายของวันนี้จากคุณ Plam2009 เว็บเด็กดี ถามมาว่า "อยากถามว่า//ในเมื่อยูทาร์คุงจูบเป็นแล้วไม่ลองไปหาพี่โน่ว่าขอวิธีทำ...เอ่อ...นั่นแหละ. หน่อยหรอยูทาร์ เซโครจะได้มีความสุขไง เซโครชอบนะถ้ายูทาร์ทำอะ//พูดกอกหู //ไม่ค่อยหื่นหาเรื่องให้ไรท์แต่ง nc. หุหุ"
ไรท์ : ...ตามนั้นแหละ ขอเชิญพี่โนว่า เซโครและยูทาร์ร่วมกันตอบคำนี้คะ
โนว่า : ทำต้องมาถามฉันล่ะ?(ทำหน้าเครียด)
ยูทาร์ : เซโครจะมีความสุขเหรอ?(หันไปถามเซโครซื่อๆ)
เซโคร : ยะ...อย่าไปเชื่อนะยูทาร์(เสียงสั่นหน้าแดงก่ำ)
ยูทาร์ : เซโครหน้าแดงแจ๋เลย
เซโคร : หยุดพูดเถอะยูทาร์...แล้วพี่โนว่าก็ห้ามสอนด้วย!(หันไปบอกพี่โนว่าเสียงดัง)
โนว่า : ห๊ะ?...สอนอะไร?...พี่ทำไม่เป็นถ้ากับผู้หญิงพอได้แต่กับผู้ชายนี่...
เซโคร : ไม่ต้องอธิบายก็ได้พี่!
ยูทาร์ : พี่โนว่ารู้เหรอว่าทำยังไง?...เห็นบอกว่าเซโครจะรู้สึกดีด้วยอยากรู้จัง(หันไปถามพี่โนว่าแทน)
โนว่า : ...อ่อ...ไม่รู้..เอาเป็นว่ารอให้โตกว่านี้ก่อนค่อยมาคุยเรื่องนี้เนอะ
เซโคร : ใช่ๆ...รออีกนานนนนนนกว่านี้มากกกกแล้วค่อยมาคุยเรื่องนี้กัน(รีบเข้าสบทบให้ยูทาร์เลิกพูดเรื่องนี้สักที)
ยูทาร์ : ...ก็ได้(เสียงอ่อย)
ไรท์ : ...ถือว่าตอบคำถามแล้วได้ไหมคะเนี่ย?555+
ขอบคุณทุกคนที่ถามคำถามเข้ามานะคะ...ยังมีคำถามที่ยังไม่ตอบอีกขอเรียงตามวันที่โพสละกันเนอะ ตกหล่นคำถามไหนไปขออภัยด้วยนะคะ^^
ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจและคอมเม้นท์นะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าคะ
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
แก้ไขคำผิดวันที่14/10/58 ขอบคุณคุณMouse2Uและคุณrayaijiสำหรับคำผิดพร้อมคำแก้นะคะ^^
-
:z13: :z13: :z13: :z13:
-
โอ้ย~
ยูทาร์แมนหลาย ฮืออออ อยากได้แบบนี้ม่างงงงงงงงง
(กรีดร้อง)
-
งื้ออออ เป็นแฟนกันแล้วนะ
น่ารักอ่ะ 5555
-
ยูทาร์กับเชโครเก่งมากๆ ทำเอาลุ้นตามเลย
-
เป็นคู่หูที่ทำงานได้เข้าขากันมากๆ เลยค่ะทั้งสองคน
ปล. คำผิดจ้า ^^ ลายละเอียด(รายละเอียด), จอมอติเตอร์(จอมอนิเตอร์), สันนิฐาน(สันนิษฐาน), โคงเครง(โคลงเคลง)
-
เขินแทนเซโครเลย เค้าเป็นแฟนกันแล้ววววววววววววว
-
แอร๊ยยยยยยยยยยย
น้องยูทาร์ของป้าาาาาาา แค่ก ของเซโครรรรรรร
ตอนบู๋ก้เท๊เท่~~~~~~ ตอนอ้อนก็น่าร๊ากกกกกน่ารัก
ตอนหวาน ก็ทำเอาใจป้าละลายเลย
ฮืออออออออออ จะหา ผช แบบนี้ได้ที่ไหนนะะะะะะะะะ
-
:-[ :-[ แอร๊ ยูทาร์ใสซื่อออ
-
สอนสเต็ปต่อไปได้แล้ว
:z1:
-
น่ารักเกินไปแล้ว :hao7: :hao7:
-
ไม่อยากนับถอยหลังเลยย อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆจัง แงงงง อย่าพึ่งจบน้าาา
สองคนนี้หวานซะจริงๆ คนโสดโศกเลย555555
-
ยูทาร์น่ารักเกินทน จะมีลูกเลี้ยงจริงป่ะคะ อยากได้น้องตัวผู้ :hao7:
-
ยูทาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาร์ นี่ขนาดยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรยังขนาดนี้ โอ้ยยยย ยูท้าาาา
รอวันที่ยูทาร์จะได้กินเซโคนะะะะะะะะะ
-
เขินแทนได้มั้ยยยย :impress2: :-[ :-[
ฉากต่อสู้นี่ทำลุ้นเลยนะ :katai2-1:
-
แม่ต๋าาาาาาาาา หนูเขิน ฮืออออออออ :z3:
ขอเป็นแฟนกันได้น่ารักมากกกกกกกก :impress2:
-
ยูทาร์ก็โตแล้วนะเราว่า 55555
รอเซโครทำใจได้อีกหน่อยละกันเนาะ ฮิๆๆๆ
-
แมนและน่ารักมากเลยยูทาร์
-
ตามอ่านจนทันล่ะ ปาดเหงื่อเลยทีเดียว สนุกมากเลยค่ะ รอตอนต่อไปอยู่น่ะคนเขียน
-
:z13: :z13:
แก้คำผิดดด
1. ไม่เหลือความคราแครงใจ - ความคลาดแคลงใจ
2.ให้ดีพร้อมกับเหลือตาไปมองนาฬิกาที่บอกเวลา... - เหลือบตา
3.ให้ว่าลาเตรียมตัวแค่10นาทีแล้วทางคนขับจะไปส่งพวกเธอเองส่วนเรื่องลายละเอียด - เวลาเตรียมตัว/รายละเอียด
4.เพื่อความแน่ใจพกเสื้อ //เพื่อความมั่นใจ น่าจะดีกว่านะคะ
5.ที่สำหรับทำปะมง - ประมง
6.คุณไรชูอธิบายลายละเอียด -รายละเอียด
7.คำถามคลียิ้มออกมาบาง - คลี่ยิ้ม
:katai2-1:
-
เด็กน้อยยูทาร์ :katai1:
-
แอบหวัง nc นิดๆ :hao6: (เขินจุง :haun4:)
-
ไอ้ที่ขอเป็นแฟนทื่อๆ นี่คือเล่นละคร??
อยากให้เขาของตัวเองเป็นแฟนอะดิยูทาร์
-
อ้า เกือบไปแล้วนะ เซโคร ดีที่ไม่เป็นอะไรนะ
หลังจากลุ้นระทึกก็หวานกันเลยนะ
-
เขินกับบทสารภาพรักอ้อนๆนั้น
-
ชั้นอยากได้ยูทาค์ กลับบ้านนน
น่ารักมากเล้ยยยย
-
ที่อ่านมาเราขำตลอดเลยเรื่องเมามันส์มากแต่สะดุดตรงให้รายละเอียด
ไดโนเสาร์ ละเอียดมากกก ถือว่าเป็นสีสันของเรื่อง5555 :hao7:
-
ยูทาห์น่ารักจังเมะในอุดมคติ
-
เค้าเป็นแฟนกันแล้วววว :laugh:
-
อิอิ เขาเป็นแฟนกันแล้ว
-
ยูทาร์น่ารักอ่าาา เป็นแฟนกันแล้วววววววว :impress2: :impress2: :impress2: :mew1: :mew1: :mew1:
-
เป็นแฟนกันๆ~ > <//
ละมุนมากกก ยูทาร์ใสซื่อมากลูก แต่เดี๋ยวก็ทำเรื่องนั้นได้เองแหละ สัญชาตญาณกะอารมณ์จะพาไปเอง คึๆๆ -.,-
-
รอยูทาร์ :hao6:
น่ารักจังเล๊ยยย ลูกเลี้ยงๆๆ ออกมาเร็วเร๊วว :hao7:
-
“ขอแล้วนะ...จูบนะ”
55555 ตลกตรงนี้อ่ะ ขอเป็นแฟนปุ๊ป จะขอจูบเลย
-
กลายรักครั้งที่❧16
การทำงานร่วมกับยูทาร์ยังคงผ่านไปเรื่อยๆแม้จะเจอกับเรื่องลำบากมาเยอะแต่ก็สามารถผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นไปได้โดยปลอดภัยอาจเป็นเพราะมียูทาร์คอยปกป้องทำให้คู่หูอย่างผมรู้สึกอุ่นใจเสมอว่าตัวเองจะปลอดภัย...
แต่ยังไงผมก็ไม่ประหมาดอีกแล้ว...ตั้งแต่วันที่ตกลงไปในทะเลแล้วเกือบถูกกลืนลงท้องผมก็อาศัยเวลาว่างเข้าร่วมกับกลุ่มควบคุมไดโนเสาร์ในการฝึกซ้อมไม่ว่าจะเป็นการใช้อาวุธหรือทักษะการต่อสู้...
ในตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก...ส่วนยูทาร์ที่เห็นผมฝึกช่วงแรกๆก็งงว่าทำอะไรแต่ช่วงหลังกลับมาฝึกด้วยแถมยังมีทักษะที่ดีเยี่ยมจนถูกชมบ่อยๆ ด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแรงกว่ามนุษย์ทั่วไปทำให้ทั้งแรงเตะ แรงชกหรือแม้แต่แรงกระโดดก็รุนแรงกว่าใครขนาดผมที่เคยเป็นคู่ซ้อมให้ยังต้องยกมือยอมแพ้
ไม่ใช่แค่พลังที่มีท่วมท้นแต่ยังมีไหวพริบและสัญชาตญาณที่เยี่ยมยอดไม่ว่าจะบุกมาทางไหนก็สามารถตั้งรับได้อย่างรวดเร็ว...ผมคิดว่ายูทาร์คงมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้จริงๆ
ช่วงหลังมานี่พวกเราทำงานค่อยข้างหนักเรียกว่าแทบไม่มีเวลาพักเลย คุณเลโอมักจะโทรมาสั่งงานแล้วก็วางสายไปเป็นปกติ...พวกงานที่ทำเริ่มขยายออกไปนอกเกาะมากขึ้นเพราะเกาะที่ทดลองและเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ไม่ได้มีอยู่แค่ที่เดียวเวลาที่เกิดปัญหาหนักๆผมและยูทาร์ก็จะถูกส่งไปสบทบพร้อมทั้งเข้าช่วยเหลือในทันที
ด้วยความเหนื่อยล้าที่ต้องเผชิญหน้ากับไดโนเสาร์สายพันธุ์ดุๆทุกวันจนความกลัวที่มีกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว...เมื่อวานผมเลยโทรไปหาคุณเลโอเป็นครั้งแรกและบอกอีกฝ่ายว่าผมและยูทาร์ขอลาพักงาน4วัน ทั้งที่คิดว่าคงไม่ได้รับการอนุมัติโดยง่ายแน่แต่คำตอบที่ได้รับกลับผิดคาด...
‘ตามใจ...อย่าเลทวันกลับก็พอ’
ทั้งคำพูดและน้ำเสียงดูจะไม่สนใจสิ่งที่ผมขอไปนักแต่ก็ดีที่ได้รับอนุญาตผมเลยพายูทาร์บินตรงไปพักผ่อนที่ประเทศหนึ่งในมหาอำนาจของโลก...
สหรัฐอเมริกานั่นเอง
“...เซโคร...”ยูทาร์เรียกด้วยน้ำเสียงที่ดูผิดปกติกว่าที่เคย
“เป็นอะไรยูทาร์?”ผมที่เดินนำอยู่หันกลับไปมองยูทาร์ที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนกำลังควบคุมอารมณ์อยู่
“มนุษย์...เต็มไปหมด”
“ก็นี่มันประเทศที่มีประชาติกรมากเป็นอันดับ3ของโลกเลยนี่”พอพูดจบก็ขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น ผมยกมือข้างนึงขึ้นแล้วลูบเส้นผมสีเทาแซมส้มเพื่อให้ใจเย็นลง
“ไม่ไว้ใจใช่ไหม?”ผมถามต่อ
“อื้อ...รู้สึกแปลกไม่เหมือนกับที่อยู่บนเกาะ”
“ไม่เป็นไร...มนุษย์น่ะอยู่ได้โดยไม่ต้องเชื่อใจหรือไว้ใจกันก่อน...ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจเพราะงั้นยูทาร์ก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก...เอางี้ไหมผมพาไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติโยเซมิติก่อน...ช่วงนี้คนไม่ค่อยเยอะจะได้ค่อยๆปรับตัวให้ชินเนอะ”
“ตามใจเซโครเลย”คำตอบของยูทาร์ทำให้ผมยิ้มออกมาก่อนจะเดินจูงมือยูทาร์ไปขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้าไปอุทยานแห่งชาติโยเซมิติที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีพื้นที่ 3,081 ตร.กม.โดยมีพื้นที่จรดทะเลทรายเนวาดาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาและได้เป็นมรดกโลกเมื่อปีพ.ศ. 2527 โยเซมิตีเป็นที่รู้จักในชื่อของหน้าผาหินแกรนิต ยอดเขาโดมครึ่งซีก (Half dome) น้ำตกขนาดใหญ่หลายน้ำตกและพื้นที่ประมาณ 89% ของอุทยานเป็นป่าที่มีสัตว์อาศัยอยู่
การที่จะให้ยูทาร์ปรับตัวต้องเริ่มจากพาไปที่ที่สงบแบบบนี้แหละแล้วค่อยพาไปที่สวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีไดโนเสาร์มากที่สุดในโลก...ความจริงผมอยากพาไปสวนสัตว์ก่อนแต่ยูทาร์ดูจะไม่ค่อยชอบคนเยอะๆเลยเปลี่ยนมาที่อุทยานก่อนดีกว่า
“เป็นไงบ้างยูทาร์?”ผมลองถามในขณะที่พวกเรากำลังเดินอยู่ที่จุดชมวิวทันเนลวิว...เป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามติดอันดับโลกเลยทีเดียว...จากจุดที่ผมยืนอยู่มีแม่น้ำใส่ไหลผ่านและพอมองออกไปก็จะเห็นป่าที่มีต้นสนขึ้นเรียงรายอยู่ด้านข้างโดยที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสวยลูกหนึ่ง
“ดีขึ้นเยอะเลย...ผมชอบความรู้สึกสบายๆแบบนี้...ไม่เคยคิดว่าจะได้ออกมากับเซโครโดยไม่ต้องไปทำงาน...รู้สึกดีจัง”แค่ยูทาร์พอใจผมก็รู้สึกดีแล้ว
ยูทาร์ทำงานหนักเกินไปแล้วในความคิดผม...เพราะงั้นเลยอยากให้ยูทาร์ได้ผ่อนคลายพร้อมกับรู้จักโลกใบนี้มากขึ้นอีกนิด...ตลอดเวลาที่อยู่แต่ในห้องทดลองมันคงเป็นเหมือนโลกใบเดียวที่ยูทาร์รู้จักและผมอยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าบนโลกนี้มีสถานที่ที่สวยงามแบบนี้อีกมาก
“ชอบก็ดีแล้ว...แบบนี้ก็ถือว่าวันแรกของเดทประสบความสำเร็จ”ผมบอกพร้อมรอยยิ้ม...ตั้งแต่ที่คบกันมายังไม่เคยเลยสักคั้งที่เราจะไปเดทหรือไปเที่ยวกันแบบคนรักคู่อื่นๆ
ผมไม่หวังให้ยูทาร์ชวนไปเดทเพราะเขาคงไม่รู้จักความหมายของคำคำนี้แน่
ผมเลยจัดการพายูทาร์มาเดทเองซะเลย
“เดท?”นั่นไงรู้จักที่ไหน...
“เป็นแฟนกันก็ต้องมาเดทกันสิ”
“เป็นแฟนต้องมาเดทกัน...”
“ตลอดวันหยุดนี้เราจะไปเดทกัน...ผ่อนคลายให้เต็มที่เลยยูทาร์ลืมเรื่องไดโนเสาร์ไปให้หมด...ใน4วันนี้เราจะเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่รู้จักไดโนเสาร์!!”ผมตะโกนประโยคสุดท้ายออกไปเสียงดังเป็นการระบายความเครียด...
การที่ต้องเจอกับไดโนเสาร์ทุกวันมันก็ทำให้เครียดได้โดยเฉพาะไดโนเสาร์กินเนื้อที่ไม่ยอมฟังใคร...สิ่งเดียวที่จะหยุดได้คือการต่อสู้และต้องล้มให้ได้อย่างราบคาบ
“ผมว่าไม่มีทางหรอก”ยูทาร์ขำกับท่าทางของผมแล้วพูดต่อทันที
“ทำไมล่ะ?”
“ก็...”สายตาของยูทาร์ที่มองหน้าผมอยู่เลื่อนต่ำลงแล้วเบนไปด้านข้าง ด้วยความอยากรู้เลยลองหันไปทางทิศนั้นก็จะเบิกตากว้างเมื่อพบบางอย่างเดินเข้ามาใกล้
วันไหนที่ผมไม่เจอไดโนเสาร์อาจแปลว่าวันนั้นไดโนเสาร์ได้สูญพันธุ์ไปแล้วก็เป็นได้
“...ซิตตาโคซอรัส”ผมพึมพำชื่อไดโนเสาร์ตัวเตี้ยที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมชูปากที่เหมือนนกแก้วขึ้นมามองหน้าผมราวกับจะถามว่าเรียกมันทำไม?
“รู้จักเหรอเซโคร?”ยูทาร์ถามอย่างสนใจก่อนจะย่อตัวนั่งลงไปจนอยู่ในระนาบเดียวกัน เสียงครางเบาๆในลำคอทำให้ซิตตาโคซอรัสเบนความสนใจจากผมไปหาคนที่นั่งยองๆอยู่กับพื้นแทน
เสียงเล็กที่เหมือนนกดังออกมาเหมือนกำลังเอ่ยทักทายยูทาร์อย่างเป็นมิตร...ซิตตาโคซอรัสเป็นไดโนเสาร์กินพืชที่ปรากฏขึ้นเมื่อราว 120 ล้านปีที่แล้วในช่วงยุคครีตาเชียส ลักษณะเด่นของมันคือปากที่มีลักษณะเป็นจงอยคล้ายปากนกแก้วและแม้ว่าจะมีความยาวเพียงสองฟุตครึ่งหรือตัวใหญ่พอๆกับสุนัขพันธุ์ปั๊กแต่ซิตตาโคซอรัสก็คือบรรพบุรุษของเซอราทอปเซียนอย่างเจ้ายักษ์สามเขาไทรเซอราท๊อปซึ่งมีการแพร่กระจายพันธุ์เป็นอย่างมากในช่วงปลายยุคครีตาเชียส
ว่าง่ายๆก็เป็นไดโนเสาร์สำหรับพกพา...นิสัยเป็นมิตรน่ารักแต่ติดอยู่อย่างนึงคือ...
ฝุบ!
เสียงของพุ่มไปที่สั่นไหวไปมาเรียกให้ผมและยูทาร์หันไปก่อนจะเจอกับฝูงซิตตาโคซอรัสนับสิบที่วิ่งเข้ามาหาและบางตัวถึงกับกระโดดใส่ยูทาร์...ผมที่เห็นท่าไม่ดีเลยรีบถอยยออกมาตั้งหลักปล่อยให้ยูทาร์หงายหลังลงไปนอนเล่นกับพื้นโดยมีฝูงซิตตาโคซอรัสกระโดดโลดเต้นอยู่บนตัว
“คิก!...”ภาพนั่นทำให้ผมหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้...ซิตตาโคซอรัสเป็นไดโนเสาร์ที่ชอบอยู่เป็นฝูงใหญ่ๆทางอุทยานคงไปซื้อพวกมันมาปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติซึ่งที่นี่เหมาะเป็นที่อยู่ของฝูงซิตตาโคซอรัสมาก
“...เซโคร...ช่วยผมหน่อยสิ...โอ๊ย!...เจ็บ!...จิกอะไรเนี่ย?”ยูทาร์เริ่มโวยวายเมื่อเหล่าซิตตาโคซอรัสระดมจิกเข้าที่ร่างกายของคนที่นอนหมอบอยู่บนพื้น ทั้งที่แค่ขู่นิดเดียวก็คงวิ่งกระเจิงแต่ยูทาร์ไม่ทำ...เขาเหมาะที่จะเป็นราชาของไดโนเสาร์ในยุคนี้จริงๆ
“ฮะฮะ....ไดโนเสาร์กินเนื้อพ่ายแพ้ให้กับฝูงซิตตาโคซอรัสที่กินพืช...ขำสุดๆ”ผมพูดออกไปพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“เซโคร...อย่าขำสิมาช่วยกันก่อน!”
หลังจากนั้นผมก็ช่วยยูทาร์ออกมาจากฝูงซิตตาโคซอรัสสำเร็จ...เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินถูกเจาะเป็นรูเล็กๆจนพรุนไปทั้งตัวเรียกเสียงหัวเราะจากผมได้อีกรอบก่อนที่เราจะกลับไปที่ห้องพักที่ได้จองไว้ก่อนมาที่อุทยานแห่งชาติโยเซมิติ
ห้องพักที่จองไว้เป็นเหมือนห้องในโรงแรมทั่วไปที่สามารถเปิดหน้าต่างออกมามองเห็นวิวทิวทัศน์อันแสนสวยงามตรงหน้าได้ตลอดเวลา...ห้องนี้เป็นห้องที่มองวิวได้สวยที่สุดและมีคนจองเต็มเกือบทุกวันแต่เพราะผมมีบัตรพิเศษก็บัตรพนักงานสีเงินของผมพึ่งถูกเลื่อนไปเป็นสีทองเมื่อ2อาทิตย์ก่อน...บัตรทองที่ได้เป็นบัตรพิเศษที่นอกจากจะใช้เป็นบัตรพนักงานแล้วยังใช้แทนวีซ่า บัตรเครดิตและยังมีสิทธิพิเศษในการจองโรงแรมที่ต้องการได้โดยไม่ต้องจองล่วงหน้าเป็นอาทิตย์
ยูทาร์เองก็มีบัตรประจำตัวเหมือนและเป็นสีเงินเหมือนของผมเมื่อก่อน...แค่สีเงินก็น่าจะมากเกินพอและเกินไปด้วย พึ่งเข้าทำงานไม่กี่เดือนก็ถูกเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วจนหลายคนต่างอิจฉาแต่ยูทาร์ก็ทำผลงานได้ดีจริงๆเหมาะแล้วที่ได้บัตรเงิน
“ยูทาร์ไปอาบน้ำได้แล้ว”เซโครที่พึ่งอาบน้ำเสร็จเดินเข้าไปเขย่าตัวยูทาร์ที่นอนซุกหน้าอยู่บนเตียงกลางห้องพักเบาๆ
“...เซโคร...ขอนอนเลยไม่ได้เหรอ?”เสียงทุ้มเอ่ยถามเสียงอ่อนพร้อมกับปรือตาขึ้นมามอง
“...ก็ได้...นอนกันเถอะ”วันนี้ผมยอมง่ายๆเพราะเห็นว่ายูทาร์คงเหนื่อยกับการเดินทางมากพอดู
เมื่อพูดจบเซโครก็ล้มตัวลงนอนข้างยูทาร์พร้อมกับดึงผ้าห่มมาปิดตัวไว้ก่อนจะดับไฟในห้องลง...ตอนนี้ผมคิดว่าตัวเองเริ่มหายกลัวความมืดแล้วอาจเป็นเพราะตอนที่อยู่ในความมืดมันไม่ได้หวาดกลัวอย่างที่เคยเป็นในอดีต...
“...เซโคร...”ยูทาร์พลิกตัวมาหาก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น หลังของผมอยู่แนบชิดกับแผ่นอกของอีกฝ่ายจนสัมผัสได้ถึงการขยับเบาๆของหน้าอก
“นอนได้แล้วยูทาร์...ฝันดีนะ”แค่มียูทาร์อยู่ข้างๆ...ความมืดที่เคยกลัวกลับดูอบอุ่นขึ้นทุกครั้งที่ได้อยู่ในอ้อมแขนนี้
“ฝันดีเซโคร”เสียงกระซิบเบาๆพร้อมกับสัมผัสที่กดลงที่เส้นผมมันทำให้สติที่มีอยู่ค่อยๆหายไปอย่างเชื่องช้าจนถึงเช้าของวันใหม่
วันที่2ของการพักร้อนและมาเดทเซโครก็ได้พายูทาร์ไปเที่ยวอีกหลายที่ในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์(Museum of Fine Arts) พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ที่ตั้งอยู่ที่บอสตันที่แมสซาชูเซตส์ในสหรัฐอเมริกาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาที่ดึงดูดผู้เข้าชมกว่าหนึ่งล้านคนต่อปี ทางพิพิธภัณฑ์มีงานศิลปะกว่า 450,000 ชิ้น ซึ่งทำให้เป็นงานสะสมที่สำคัญที่สุดในทวีปอเมริกา
ส่วนวันที่3ได้พาไปดูอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพที่นครนิวยอร์กก่อนจะพาไปต่อที่เซ็นทรัลพาร์กสวนสาธารณะขนาด 843 เอเคอร์ตั้งอยู่ในเขตแมนฮัตตันของนครนิวยอร์กซึ่งมีแหล่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งร้านอาหาร ม้าหมุน อ่างเก็บน้ำ เรือปั่น/จักรยานน้ำ สวนสัตว์ โรงละครกลางแจ้ง กอล์ฟ หรือแม้แต่ลานสเก็ตน้ำแข็ง
มีแค่วันแรกเท่านั้นที่ยูทาร์ดูไม่ค่อยชอบที่นี่แต่พอเข้าวันที่2ก็ดูเปลี่ยนไปเหมือนปรับตัวได้แล้ว...เขาถามทุกอย่างที่ไม่เคยรู้และกินแทบทุกร้านที่เราเดินผ่านจนผมต้องบอกให้หยุดไม่งั้นคงได้มีข่าวไดโนเสาร์กินมากจนตาย
ดวงตาสีเหลืองอำพันของยูทาร์ทอประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความสนุกสนานที่ได้เจอกับสิ่งใหม่ที่แสนแปลกตาจนผมคิดว่านี่ไม่ใช่เดทแต่เป็นการพาเด็กมาเที่ยวต่างหาก
วันสุดท้ายหรือวันนี้พวกเราเดินทางมาถึงสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสวนสัตว์แห่งเดียวที่มีไดโนเสาร์มากถึง14สายพันธุ์และได้ข่าวมาว่าพึ่งได้ไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่เพิ่มเข้ามาอีกโดยรวมที่นี่ก็น่าจะมีไดโนเสาร์เกือบ20สายพันธุ์แล้วล่ะ
“กลิ่นไดโนเสาร์เต็มเลย”ยูทาร์ที่เดินตามผมเข้ามาด้านในพูดขึ้นด้วยความสนใจก่อนจะเดินตรงไปยังส่วนแรกที่เป็นโซนของเด็กๆที่สามารถขึ้นไปขี่ไดโนเสาร์ได้ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นลูกไทรเซราทอปหรือพวกไมโครเซราตุสที่เคยเห็นบนเกาะที่ทำงานอยู่
“เซโคร...นั่นชื่ออะไร?”ยูทาร์จับมือผมแล้วลากเข้าไปใกล้กรงขนาดใหญ่ที่มีไดโนเสาร์พันธุ์คอยาวตัวเตี้ยๆอยู่ภายใน5ตัวอย่างตื่นเต้น
“นั่นคือยูโรปาซอรัส...เป็นไดโนเสาร์กินพืชสายพันธุ์แคระที่อยู่บนเกาะในทวีปยุโรปชื่อของมันมีความหมายว่า ‘กิ้งก่าแห่งยุโรป’...ขนาดของมันโตเต็มที่ก็6เมตรกว่าหนักประมาณ1ตัน”ผมอธิบายข้อมูลตามที่เขียนแปะไว้ด้านหน้าให้ยูทาร์ฟัง ถึงจะเป็นผมแต่ก็ไม่ได้จำสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่มีอยู่ในโลกได้ทั้งหมดหรอกนะ...อาจมีที่จำแม่นเพราะเห็นบ่อยหรือรู้สึกสนใจเป็นพิเศษ
“...เธอบอกว่าใบไม้อร่อยล่ะ”ยูทาร์หันมาบอกผมด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันไปคุยกับยูโรปาซอรัสต่อ
“ใบไม้ก็เหมือนผักแหละแต่กระเพาะของเราย่อยพืชที่ยูโรปาซอรัสกินไม่ได้หรอกนะ”
“เหรอ?...ผมกะจะลองกินอยู่เชียว”โชคดีที่พูดดักไว้ก่อนไม่งั้นคงวิ่งเข้าไปดึงใบไม้ที่โผล่ออกมานอกกรงกินแน่ๆ
“ห้ามกินของที่น่าสงสัยนะยูทาร์เดี๋ยวจะไปสบายเอา”ผมเตือนแล้วดึงมือของยูทาร์ให้เดินไปต่อจนถึงโซนไดโนเสาร์กินเนื้อซึ่งเป็นโซนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
กรงขนาดใหญ่ถูกสร้างกันไว้ถึงสามชั้นเพื่อกันไม่ให้ไดโนเสาร์หลุดออกมาโดยกรงชั้นนอกสุดเป็นกระจกใสที่สามารถทนแรงอัดกระแทกได้ดีเหมือนที่อยู่ในห้องทดลอง
ที่นี่สร้างกรงขนาดใหญ่ให้อยู่ไม่ห่างกันมากนักทำให้สามารถเดินไปมาได้สะดวกกว่าที่อื่นแถมยังมีสายพันธุ์ใหม่เข้ามาเพิ่มจากครั้งก่อนที่เคยมาอีก...จากที่ดูพื้นที่และโครสร้างผมว่าที่นี่สามารถมีได้โดนเสาร์มากสุดไม่เกิน30สายพันธุ์ การสร้างกรงติดๆกันแบบนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เห็นด้วยนักเพราะถ้าเกิดมีไดโนเสาร์หลุดออกมาตัวนึงด้วยแรงวิ่งและขนาดตัวคงทำให้กรงที่อยู่รอบๆพังได้ไม่ยาก...
ก็อย่างว่าทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
“เซโครนี่พันธุ์อะไร?”ยูทาร์กระตุกมือผมเบาแล้วชี้ไปที่กรงตรงหน้า...ป่าทึบที่ถูกจำลองไว้ภายในทำให้ยากแก่การมองเห็นว่าสายพันธุ์ที่อยู่ในนั้นเป็นอะไรกันแน่
“มองไม่เห็นก็บอกไม่ได้หรอกยูทาร์”ผมอธิบายพร้อมกับชะโงกหน้าข้อมูลของไดโนเสาร์ตัวนี้ที่น่าจะมีเขียนแปะไว้ที่ไหนสักแห่ง
“งั้นถ้าเห็นก็บอกได้ใช่ไหม?”
“ก็ใช่...แล้วจะทำ...อ่อ...ไม่นะ!...”เสียงห้ามของผมดูจะไม่ทันการเพราะยูทาร์ส่งเสียงครางออกมาแล้วแถมผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆก็มองมาด้วยสายตาแปลกเหมือนเห็นคนบ้า
ถ้าผมไม่รู้จักยูทาร์มาก่อนก็คงมองว่าเป็นคนที่หลุดออกมาจากโรพยาบาลที่ไหนสักแห่งแน่ๆ...มีมนุษย์ที่ไหนส่งเสียงครางหน้ากรงไดโนเสาร์บ้างเล่า!
กรรร!!
เสียงคำรามดังขึ้นแทบจะทันก่อนที่ต้นไม้จะถูกแยกออกจนเห็นร่างอันปราดเปรียวสีน้ำตาลลายดำพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจนคนที่อยู่รอบๆส่งเรียกร้องกันออกมาเป็นแถว
แค่เห็นเห็นลักษณะของไดโนเสาร์ตรงหน้าผมก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นสายพันธุ์อะไร...ถึงจะเคยเห็นมาแต่ก็แค่ในภาพสารนุกรมไดโนเสาร์กินเนื้อเท่านั้นยังไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน
“เห็นแล้วนะเซโครบอกได้แล้วใช่ไหมว่าชื่ออะไร?”ยูทาร์หันมาถามเสียงใสโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่เข้ามามุงกำลังมองมาด้วยสายตาอึ้งๆปนประหลาดใจ
“เซราโตซอรัส...”
“เซราโตซอรัส?”
“ใช่...เซราโตซอรัสเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อในช่วงปลายยุคจูแรสสิความยาวลำตัวประมาณ6เมตรแต่จากการคำนวณคาดว่าตัวโตที่สุดอาจยาวได้เกือบ9เมตร...ตรงส่วนหัวมีเขายื่นออกมาเหนือจมูกและดวงตา เป็นเอกลักษณ์และที่มาของชื่อ “กิ้งก่ามีเขา” เซราโตซอรัสมักจะล่าเหยื่อในป่าทึบตามลำพังคล้ายกับเสือดาวแม้จะมีขนาดตัวเล็กกว่านักล่าอื่นๆแต่ก็มีร่างกายแข็งแกร่งและปราดเปรียวจัดได้ว่าเป็นนักล่าตัวยงอีกสายพันธุ์หนึ่งจนมีบางคนเรียกมันว่า ‘เสือดาวแห่งโลกล้านปี’...”คำอธิบายของผมทำให้หลายคนที่ยืนอยู่ข้างๆร้องอ๋อในลำคอเบาๆก่อนจะยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายเซราโตซอรัสที่ไม่ค่อยออกมาให้เห็นง่ายๆ
กรรร!!
เสียงขู่คำรามพร้อมกับอ้าปากที่มีฟันซี่ยาวมากเมื่อเทียบกับขนาดลำตัวแต่แบนและบางกว่านักล่ายุคเดียวกัน...เสียงคำรามที่เหมือนกำลังจะท้าทายยูทาร์ที่ยืนจ้องอีกฝ่ายนิ่ง
“เขาบอกว่าอยากดวนกับผมล่ะ”ยูทาร์หันมากระซิบให้ผมฟังเพราะมีคนยืนอยู่รอบๆ
“ดวน?...ห้ามเชียวนะเรามาเที่ยวกันห้ามทำเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับไดโนเสาร์”ผมบอกคำขาด...อย่างน้อยในช่วงวันลาพักผ่อนก็ขอพักอย่างสงบโดยไม่ต้องมายุ่งกับการต่อสู้หรือไล่จับไดเสาร์ได้ไหม?
“...รู้แล้ว...จะปฏิเสธไปละกัน”ยูทาร์บอกเสียงอ่อย...แปลว่าคิดจะดวนด้วยถ้าผมอนุญาต?
ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นใครจะออกให้ไม่ทราบครับ?
(มีต่อคะ)
-
(ต่อคะ)
พอเสร็จจากกรงเซราโตซอรัสผมก็พายูทาร์ไปที่โซนไดโนเสาร์น้ำที่ถูกจัดแสดงในฮอล์ขนาดใหญ่ที่สามารถดูได้ทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำ...พวกเราเดินเข้ามาที่โซนใต้น้ำที่มีผู้คนเกือบร้อยคนนั่งดูพร้อมกับถ่ายรูปไดโนเสาร์ที่ว่ายอยู่ไกลๆจนแทบมองไม่เห็น
“ยูทาร์คุยกับไดโนเสาร์ตัวนี้ได้รึเปล่า?”ผมลองถามดู...เท่านี่รู้ไม่ว่าจะเป็นไดโนเสาร์กินพืช กินเนื้อหรือแม้แต่ไดโนเสาร์มีปีกก็คุยได้ แต่ไม่รู้ว่าจะคุยกับไดโนเสาร์ที่ว่ายอยู่ในน้ำนี่ได้ไหม...แต่จะเรียกว่าไดโนเสาร์ก็ไม่ถูกนักเพราะมันถูกจัดเป็นแค่สัตว์น้ำดึกดำบรรพ์เท่านั้น
“จะลองดู...”ยูทาร์ตอบพร้อมกับส่งเสียงครางออกไปเพียงแต่ครั้งนี้เสียงกลับเบาจนแทบไม่ได้ยิน
เพลซิโอซอรัส
คือชื่อของสิ่งมีชีวิตที่ว่ายอยู่ไกลลิบในสระน้ำแห่งนี้...มีหลายคนตั้งชื่อต่างๆให้มากมากแต่ชื่อนึงที่ติดมากกันคือ ‘เนสซี่’ ผมไม่รู้แน่ว่าเพลซิโอซอรัสเป็นสายพันธุ์เดียวกับเนสซี่แน่รึเปล่าแต่ก็มีหลายจุดที่มีลักษณะตรงกัน...
เพลซิโอซอรัสเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่น่าสงสารมากในความคิดผม...ด้วยความสูงประมาณ4เมตรและยาวประมาณ5เมตรทำให้เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดกลางที่มีฟันทั้งยาวและแหลมคมเหมาะอย่างยิ่งที่จะล่าพวกวาฬหรือปลาฉลามกินเป็นของว่างแต่ด้วยฟันด้านบนและล่างที่ไม่สามารถบดเขี้ยวอาหารได้ทำให้มันกินได้เพียงแค่กุ้งหรือสัตว์น้ำตัวเล็กๆ...
แค่นั้นยังไม่พอ...อย่างที่บอกไปว่างฟันบนและล่างไม่สามารถเขียวอาหารได้มันเลยจำเป็นต้องกลืนก้อนหินลงไปเพื่อบดอาหารและถ่วงน้ำตัวเองให้ลงไปใต้น้ำได้
“...กำลังว่ายมาแล้ว”ยูทาร์กระซิบบอกเบาๆผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะเห็นเงาขนาดใหญ่ที่ว่ายมาทางนี้อย่างรวดเร็ว...ร่างกายขนาดใหญ่ที่มีเท้าคล้ายครีบทำให้สามารถเคลื่อนที่ในน้ำได้อย่างรวดเร็วแต่ก็สามารถเคลื่อนที่บนบกได้เช่นกันเพียงแค่ช้าหน่อยเท่านั้น
เพลซิโอซอรัสที่ว่ายมายื่นหน้ามาตรงหน้าผมและยูทาร์...ดวงตาสีนิลมองมายังยูทาร์เหมือนกำลังคุยกันอยู่ ผู้คนมากมายที่เห็นเพลซิโอซอรัสว่ายเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งมาเบียดผมและยูทาร์จนแทบไม่มีที่ยืน
เสียงแฟลชที่ดังขึ้นพร้อมแสงสว่างจ้าทำให้เพลซโอซอรัสอ้าปากขนาดใหญ่ออกจนเห็นฟันซี่ยาวที่แสนแหลมคมพร้อมกับว่าพุ่งเข้าชนกระจกหนา
ตึง!
เสียงดังที่สั่นสะเทือนทำให้ฝูงคนเริ่มแตกตื่นและมีบางคนที่เริ่มวิ่งหนีออกไปจากที่นี่...บรรยากาศเริ่มวุ่นวายและตึงเครียดขึ้นจนต้องมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย...
แค่ชนแค่นี้มันไม่ถล่มหรอก...ถ้าอยากเห็นการชนของจริงต้องให้ยูทาร์แสดงให้ดูรับลองว่ากระจกนี่แหลกใน3ครั้งแน่นอน....เนื้อกระจกอาจหนาเพื่อกันน้ำแต่ไม่ได้หนามากขนาดจะรับแรงกระแทกอันรุนแรงได้
สำหรับผมคิดว่าเหมาะที่เอามาใช้ในนี้เพราะเพลซิโอซอรัสคงไม่สามารถใช้หัวนั่นกระแทกกระจกจนแตกหรือพังได้หรอก
“เซโคร...เธอบอกว่าปวดท้องมากล่ะ”ยูทาร์กระซิบบอกผมอีกครั้งแล้ววางฝ่ามือลงบนกระจกแผ่นใสตรงหน้าโดยที่ดวงตาสีเหลืองอำพันมองไปยังเพลซิโอซอรัสที่กำลังว่ายน้ำวนไปมา...
ท่าแบบนั้นคงไม่ใช่ว่ายน้ำแต่เหมือนกำลังดิ้นทุรนทุลายด้วยความเจ็บปวด
“ปวดท้อง?...อาหารไม่ย่อยรึเปล่าเพราะต้องกินหินเข้าไปน่ะ?”ผมลองตั้งข้อสังเกตดูแล้วเริ่มวิเคราะห์ว่าถ้าไม่ใช่มันต้องมีสาเหตุอื่นอีก
“...บอกว่าไม่ใช่เพราะหิน...เหมือนมีอะไรดิ้นอยู่ในท้อง”
“หื้อ?...ดิ้นอยู่ในท้อง?...พวกปลาเหรอ?”
ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าเกิดอะไรขึ้น...ไม่น่าจะใช่ปลาเพราะส่วนมากทางสวนสัตว์จะให้สัตว์ที่ตายแล้วเป็นส่วนมากนอกจากจะจัดรอบการแสดงโชว์
ถ้าไม่ใช่ปลา...แปลว่าไม่ใช่อาหาร
ถ้าไม่ใช่อาหารหาร...หรือว่า...
“ยูทาร์เธอเป็นตัวเมียใช่ไหม?”ผมรับหันไปถามทันทีที่เริ่มรู้บางอย่าง
“ใช่...เธอว่าไม่ใช่ปลาน่ะเหมือนมีสิ่งมีชีวิตอยู่ข้างใน”คำอธิบายของยูทาร์ทำให้ผมเริ่มได้คำตอบแล้วและคำตอบนั่นดูจะตรงกับที่ผมคิดอยู่ซะด้วย
“ถามเธอให้หน่อยว่าที่ปวดเป็นบริเวณท้องค่อมไปตรงกลางระหว่างครีบหลังใช่ไหม?”
“ครีบ?”
“ขาหลังไงยูทาร์”ผมรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว...ถ้าเป็นอย่างที่คิดแปลว่าอาจมีข่าวดี...ไม่สิ...มันอาจกลายเป็นข่าวร้ายในชั่วพริบตาถ้าคนที่คุมอยู่ไม่มีความรู้
“...ใช่...เธอตอบว่าใช่”
“ว่าแล้วเชียว”เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆด้วย
“อะไร...มีอะไรเหรอเซโคร?”ยูทาร์จับแขนผมแล้วเขย่าไปมาให้ตอบคำถามเร็วๆ
“เธอท้อง...และก็ใกล้คลอดแล้วด้วย”
“ท้อง?...คลอด?”
“ก็ประมาณว่า...ตั้งครรภ์...ยากไปอีกสินะ...เอาเป็นว่ากำลังจะมีเพลซิโอซอรัสตัวเล็กเกิดมาละกัน”ใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะเลือกคำมาอธิบายให้ยูทาร์เข้าใจได้
“งั้นก็เป็นเรื่องดีใช่ไหม?...ถ้ามีเพื่อนเพิ่มก็คงจะไม่เหงา”
“ก็คงใช่...ถ้าคลอดได้อย่างปลอดภัยน่ะนะ”ผมบอกเสียงเครียด...จริงอยู่ที่สัตว์ปกติสามารถคลอดเองได้ตามธรรมชาติแต่กับเพลซิโอซอรัสถือว่าต่างออกไปลูกที่ออกมาจะมีขนาดใหญ่พอสมควรทำให้เสียเลือดมากจนถึงตายได้
“หมายความว่ายังไงเซโคร?”
“เราต้องขึ้นไปด้านบนแล้วบอกพวกเจ้าหน้าที่”ทันทีที่พูดจบผมก็ดึงยูทาร์ให้ตามไปด้านบนทันที
วันหยุดยาวที่กะจะพักผ่อนให้หายเหนื่อยกลับต้องมาเครียดเพราะการคลอดลูกของเพลซิโอซอรัสจนได้...ทั้งที่กะจะไม่เข้าไปยุ่งแล้วเชียวนะ
แต่จะให้ดูเฉยๆก็ทำไม่ได้อีก
ลาก่อนนะวันหยุด
ปัง!
ผมพลักประตูที่เขียนว่าบุคคลภายนอกห้ามเข้าให้เปิดอ้าแล้วเข้าไปด้านในอย่างถือวิสาสะ...พนักงานหลายคนมองผมและยูทาร์ที่เดินตามมาอย่างงงๆก่อนที่ผู้หญิงคนนึงจะวิ่งมายืนตรงหน้าผม
“ตรงนี้ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้านะคะ”เธอบอกผมด้วยรอยยิ้ม
“พวกคุณรู้ไหมว่าเพลซิโอซอรัสท้อง?”ผมไม่สนใจเธอแต่ยิงคำถามไปแทนพร้อมกับมองไปยังเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่รอบๆ ดูจากคิ้วที่ขมวดเข้าหากันแน่นและบางคนถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจทำให้ผมได้คำตอบในทันที
พวกเขาไม่รู้
“เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ?...ทางสวนสัตว์ซื้อเพลซิโอซอรัสมาตัวเดียวตั้งแต่2ปีที่แล้วจะท้องได้ยังไง?”ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาใกล้พร้อมอธิบาย
“งั้นไดโนเสาร์ตั้งท้องนานเท่าไหร่ล่ะ?”ผมย้อนถามกลับไป
“...”คำตอบที่ได้คือความเงียบ...ไม่ใช่ตอบไม่ได้แต่เพราะไม่รู้
ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ไม่รู้...ต้องบอกว่าไม่มีใครสักคนที่รู้ถึงจะมีบางสายพันธุ์ที่รู้ว่าผสมพันธุ์กันยังไงแต่เวลาตั้งท้องและคลอดลูกหรือออกไข่นั้นไม่เคยตรงกัน...บางตัวใช้เวลาตั้งท้องถึง5ปีกว่าจะออกไข่ในทางกลับกันที่มีบางสายพันธุ์ใช้เวลาเพียง5เดือนเท่านั้น
“เธอท้องอยู่เรื่องนี้ผมรับประกันได้ละผมต้องการให้พวกคุณส่งผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาด่วน...การคลอดเองตามธรรมชาติอาจทำให้เลือดของเพลซิโอซอรัสออกมากจนตายได้!”เป็นอีกครั้งที่ผมตะโกนขึ้นอย่างหัวเสีย
ดูจากท่าทางคงอีกไม่นานก็คงคลอดแล้ว
“เธอเป็นใคร?”พวกเขาถามมา
“ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟ่งเซ่...หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ”ผมพูดพร้อมกับชูบัตรสีทองให้พวกเขาดู...บัตรทองนี้เป็นที่รู้กันในวงการว่าคนที่มีบัตรนั้นคือคนที่ได้รับการยอมรับจากอัจฉริยะทั้งสามคนที่เป็นแนวหน้าในวงการธุรกิจ
“...ครับ...พวกเราจะรีบติดต่อไปเดี๋ยวนี้”คนที่ถามถึงกับหน้าถอดสีแล้วรีบวิ่งไปด้านหลังเพื่อติดต่อคนที่ผมต้องการ
“ยูทาร์...เธอเป็นไงบ้าง?”ผมหันไปถามยูทาร์ที่มองผิวน้ำกระเพื่อมไปมาอยู่
“ไม่รู้...ผมต้องไปใกล้กว่านี้”
“ใกล้กว่านี้?...ยังไง?”
“ให้ผมลงไปในน้ำได้ไหม?”ยูทาร์หันมาถามด้วยใบหน้าขอร้องแกมอ้อนวอน...คงจะเป็นห่วงเพลซิโอซอรัสสินะ
ผมเองก็เป็นห่วงไม่ต่างกันหรอก
“คุณไทรแอสซิก...ผู้เชี่ยวชาญตอนนี้ไม่อยู่เลยสักคนครับ”เสียงตะโกนบอกทำให้ผมขมวดคิ้วที่แน่นอยู่แล้วแน่นขึ้นไปอีก
ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยก็จะช่วยผ่าคลอดและเย็บปากแผลได้อย่างทันท่วงทีเพื่อไม่ให้เสียเลือดมากเกินไป...อย่างน้อยถ้ามีหมอสักคนอยู่ที่นี่ละก็...
หื้อ?
หมอเหรอ?
เดี๋ยวนะ...ถ้าพูดถึงหมอก็ผมเองนี่นา?!
ทำไมไม่คิดให้ออกเร็วกว่านี้เนี่ย!
“อุปกรณ์...”
“ครับ?”
“ไปเอาอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัดมาให้ผม!”ผมหันไปสั่งผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด
“คุณจะ...”
“ผมจะผ่าคลอดเพลซิโอซอรัสเอง!!!”
...................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://www.komkid.com/wp-content/uploads/2012/03/psittacosau.jpg)
ซิตตาโคซอรัสเป็นไดโนเสาร์กินพืชที่ปรากฏขึ้นเมื่อราว 120 ล้านปีที่แล้วในช่วงยุคครีตาเชียส ลักษณะเด่นของมันคือปากที่มีลักษณะเป็นจงอยคล้ายปากนกแก้ว พวกซิตตาโคซอรัสจัดเป็นไดโนเสาร์ในกลุ่มออนิทิสเชียนหรือพวกที่มีสะโพกแบบนก และแม้ว่าจะมีความยาวเพียงสองฟุตครึ่งหรือตัวใหญ่พอกับสุนัขพันธุ์ปั๊ก แต่ซิตตาโคซอรัสก็คือบรรพบุรุษของเซอราทอปเซียนอย่างเจ้ายักษ์สามเขาไทรเซราทอปซึ่งมีการแพร่การะจายพันธุ์เป็นอย่างมากในช่วงปลายยุคครีตาเชียส
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://www.komkid.com/ธรรมชาติวืยา/ไดโนเสาร์ฉบับกระเป๋า
.......................................................................
สวัสดีคะ
มาอัพช้าไปนิดต้องขออภัยอย่างสูงคะ
เวิดเปิดไม่ได้ทำให้ต้องใช้เวลาแก้หลายวันเลย
ที่เปิดได้วันนี้อาจเป็นโชคช่วยเลยรีบมาอัพอย่างด่วนก่อนจะยกคอมไปซ่อมคะ
ตอนนี้และตอนหน้าจะเป็นเรื่องราวของการเดทของทั้งคู่...ยูทาร์ที่ไม่รู้จักเดทเซโครเลยพามาซะเดทซะเองคิดแล้วก็ขำคะ
แต่งไปแต่งมาทำไมรู้สึกว่ายูทาร์ไม่ใช่แค่ซื่อแต่ออกแนวบื้อหน่อยๆ(ฮ่า)
แต่ยังไงก็ยังน่าร๊ากกก
คงมีหลายคนที่ไม่อยากให้เรื่องนี้จบแต่ยังไงก็ต้องจบนะคะ
เราเป็นประเภทที่แต่งเรื่องยาวมากๆแล้วชอบดอง(จำตัวเองตอนเด็กที่แต่งได้เลยปัจจุบันนี้ก็ยังไม่จบ)
ความยาวของเรื่องเป็นความยาวที่พอประมาณและไม่มีเนื้อหาที่จะแต่งต่อแล้วเลยต้องขอจบนะคะ
สำหรับลูกเลี้ยงของทั้งคู่จะมาในตอนพิเศษหลังจบเรื่องคะ
ใครรอncก็รอต่อไปอีกสัก...อืม...สักพักคะใจเย็นๆเน้ออ
มาถึงมุมตอบคำถามบ้างดีกว่า วันนี้มาจากคุณ DarkAki เว็บthaiboyslove ถามมาว่า "น้องยูทาร์สนใจรับลูกฝูงแก่ๆแบบป้ามั๊ยลูก :hao7: 5555"
ไรท์ : ถามยูทาร์อีกแล้ว...ช่วงนี้มีแต่คนถามยูทาร์เนอะ
เซโคร : นั่นสิ...ทำไมเรทติ้งถึงดีนักนะทั้งที่ออกมาแต่ละครั้งก็มีแค่ฉากอ้อนกับกลายร่าง
ไรท์ : อืมๆ...ใช่
เซโคร : แล้วผมสิ...พยายามตั้งมากมายฝึกซ้อมยิงปืน...ทั้งที่แสดงทักษะการต่อสู้ไปขนาดนั้นกลับไม่มีใครสนใจ(ถอนหายใจ)
ไรท์ : น่าๆ
เซโคร : เอาเถอะเรียกเจ้าตัวมาตอบคำถามสิผมขอไปพักหน่อยล่ะตอนหน้าต้องผ่าคลอดอีก...ขอไปหาความรู้กันผ่าผิดพลาดล่ะ
ไรท์ : อย่าหักโหมนะเซโคร(โบกมือบ๊ายบาย)
เอาล่ะยูทาร์...ตอบคำถามหน่อย
ยูทาร์ : ทำไมเซโครดูเศร้าๆจัง?
ไรท์ : ให้ตอบคำถามไม่ใช่ถามคำถามนะยูทาร์
ยูทาร์ : แต่เซโคร...(มองแผ่นหลังเซโครที่ห่างออกไป)
ไรท์ : เซโครไม่เป็นไรหรอก...เข้มแข็งจะตาย(ปลอบๆ)
ยูทาร์ : อืม...จริงด้วยเซโครเข้มแข็ง
ไรท์ : ใช่ๆ...เพราะงั้นตอบคำถามเถอะ
ยูทาร์ : ได้...รับลูกฝูงเหรอ?...แล้วก็แก่?
สำหรับตัวผมไม่ได้อยากมีลูกน้องแต่อยากมีเพื่อนเยอะและไม่จำจัดอายุด้วยไดโนเสาร์เองยังมีอายุยืนมาก
เลยคิดว่าถ้าไม่ถึง100ปีนี่ผมไม่เรียกว่าแก่หรอกนะครับ
มาเป็นเพื่อนกันดีกว่าครับ!
ไรท์ : จบแล้วคะ...ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
ใครมีคำถามอะไรถามเข้ามาได้นะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจที่มีให้
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าเมื่อซ่อมคอมเสร็จคะ
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
มาพักผ่อนแต่ก็มีงานเข้าตลอด :katai5: :katai5: :katai5:
-
อยากอ่านต่อแว๊วกำลังมันส์ :katai4:
-
ลุ้นตอนหน้า ค้างมากมาย
-
ตื่นเต้นได้ทุกตอนจริงๆ o13
รอลุ้นเซโครทำคลอดตอนหน้า :hao7: :hao7:
-
เซโครน่าร๊ากกกกกกก
-
ดีนะคะที่ยูทาร์หันมาถามเซโครเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงได้เด็ดใบไม้กินไปแล้วล่ะ :laugh:
-
:a5: :L1: :pig4: ลุ้นแหะ อยากอ่านต่อเลย ชอบยูทาร์เซโคร น่ารักชะมัด
-
เซโครจะโชว์เทพแล้วววววววสสสสส อร๊ายยยยย :hao7:
หลังจากให้ยูทาร์เด่นมานาน
รอตอนต่อไปน้าาาาาา
-
บอกเลย เซโครไปจับไดโนเสาร์กับยูทาร์จนลืมไปแล้วว่าเซโครคือหมอ
รอทำคลอดค่าาา
-
น่าร้ากกกกกก
-
อ๋อยยยยยยยยยยยย
ลากหมอน เสื่อ ผ้าห่ม มาปูรออยู่ที่หน้ากรงยูทาร์เลยครับ
ตอนต่อไปมาไวๆน๊าาาาา
-
เซโครจะผ่าด้วยตัวเองเลยเหรอ สู้ๆนะ
-
เราค้างงงงงอะ
อยากอ่านหนูเซโครวช่วยทำคลอดแบบเฉพาะกิจ
ยูทาร์น่ารักอะพาร์ทนี้เจอนู่นนี่นั่นก็ถามใหญ่เลยเหมือนเซโครวเป็นพี่เลี้ยงพาน้องหนูมาสวนสนุกอะ
ปล.จนท.เคอะคือไดโนเสาร์ท้องนี่ไม่สังเกตกันเลยนะเคอะ น่าจับลดโบนัทแล้วให้ขยับออกจากโต๊ะไปกวาดกรงไดโนเสาร์จริงๆ
-
งุ้ย ยูทาร์น่ารักตลอดเลย :hao7:
-
:pig4:
-
ลุ้นๆอะ เอาใจช่วยเซโคร
-
o13
-
ว้าวๆๆๆๆ ตอนหน้า
น้องยูทาร์ต้องช่วยเซโครทำคลอดแน่
อยากเห็นแล้ววว
กรี๊ดดดดด น้องยูทาร์ของป้าาาาบอกว่าป้ายังสาวด้วยล่ะ น่าร้ากกก / จับกอดๆๆๆ
เซโครขาาาา อย่าน้อยใจไปเลยนะ
ยังไงเซโครก็เป็นที่รักของยูทาร์อยู่แล้วนี่น่า
ป้าก็แค่เต๊าะ แค่ก แซวด้วยความรักนิดหน่อยเองงง
ป้ารักทั้งคู่นั่นแหล่ะค่าาาาาาา โอ๋เอ่ โอ๋เอ่ ><
-
งานงอกกกก รอดูตัวเล็กนะ ขอให้ผ่าคลอดลุล่วงง
-
เซโครกับยูทาร์ได้เหนื่อยอีกแล้ว 55555
-
เรื่อท้าทายโผล่มาอีกเรื่องละ
สู้ๆ น้าเซโคร >_<
-
เนสซีตัวน้อยจะลืมตาดูโลกแล้ววว เซโครเทพอยู่แล้ววว :hao7:
-
ชะอุ้ย ไม่รู้เลยว่าเซโครก็เป็นหมอ5555 :hao7:
-
ลืมไปเลยว่าเซโครเป็นหมอ 555
ยูทาร์น่ารักเนอะ เหมือนเด็กๆอยากรู้อยากลอง :-[
ปล. 'ประมาท' นะคะ ไม่ใช่ 'ประหมาด'
และ 'ดวล' ไม่ใช่ 'ดวน' ค่ะ :)
-
อยากเห็นตอนคอลดอ่ะ
่มาเร็วๆนะ
-
นับวันคู่นี้ยิ่งน่ารักเนอะ. หวานกันสุดๆ
-
กลายรักครั้งที่❧17
เจ้าของปริญญาเอกเกียรตินิยมด้านการเพาะเนื้อเยื่อกำลังนั่งอยู่ริมขอบสระพร้อมกับทอดสายตาออกไปบนผิวน้ำที่มีแรงกระเพื่อมจากด้านใต้ขึ้นมา...เพลซิโอซอรัสคงกำลังทรมานอยู่และสิ่งที่เซโครทำได้ตอนนี้คือรอให้อุปกรณ์มาถึงพร้อมกับดึงเอาวิชาแพทย์ที่เคยเรียนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
การที่ออกตัวว่าจะผ่าเองไม่ใช่เพราะมั่นใจในฝีมือแต่ผมดูแล้วว่าถ้าไม่ผ่าเพลซิโอซอรัสมีสิทธิ์จะตายทั้งแม่และลูก...เพราะแบบนี้ผมถึงจะยอมเสี่ยง เสี่ยงที่จะผ่าทั้งที่รู้ว่าถ้าพลาดคงเป็นเรื่องใหญ่แน่
“เซโครทำไมต้องให้ผมใส่ชุดนี้ด้วยล่ะ?”เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับเดินเข้ามาหาด้วยชุดสูทสำหรับลงน้ำ เสื้อแขนยาวขาสามส่วนสีดำสนิทที่มีลายเส้นสีเขียวเป็นแถบด้านข้างพอมาอยู่บนตัวยูทาร์แล้วหล่อใช้ได้เลย
“ผมให้ลงไปในน้ำทั้งเสื้อผ้าปกติแบบนั้นไม่ได้ถ้าเป็นชุดนี้ค่อยโอเคหน่อย”
“แปลว่าผมลงไปได้แล้วใช่ไหม?”ยูทาร์ถามอย่างดีใจ
“ใช่...แต่ต้องระวังตัวด้วยสัตว์ที่รู้ว่ากำลังกำคลอดน่ากลัวมากนะ...ถ้าให้ดีกล่อมเธอด้วยว่าผมจะช่วยเธอคลอดลูกอย่างปลอดภัย”ผมบอกกับยูทาร์ที่พยักหน้ารับคำผมเบาๆ
“ผมจัดการเอง...มีอะไรก็เรียกผมนะเซโคร”
“ได้”
ตู้มม!
เสียงกระโดดลงไปในน้ำดังขึ้นพร้อมกับสายตานับสิบคู่ที่เบิกกว้างด้วยความตกที่เห็นคนกล้ากระโดดลงไปในสระที่มีสัตว์ตัวใหญ่และเขี้ยวอันแหลมคมหน้าตาเฉยเหมือนกำลังลงไปดูปลาโลมา
“พวกคุณไปหาผ้ายางใหญ่ๆมาหน่อยได้ไหมครับ?”
“...ครับ...ได้”คนที่ยืนอยู่ด้านข้างตอบรับคำขอแล้ววิ่งออกไปด้านนอก
“ผมขอถามหน่อย...ปกติใช้อะไรจับเพลซิโอซอรัส?”ผมถามผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“ใช้ตาข่ายขนาดใหญ่คะ”
“แล้วจับขึ้นมาด้านไหน?...ที่สระนี้มีตรงที่ตื้นพอจะลงไปได้โดยไม่ต้องดำลงไปไหม?”คำถามต่อไปถูกเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมเอามือจุ่มลงไปในน้ำด้านล่างแล้วเอาปลายนิ้วที่จุ่มลงไปเข้าปาก...
ความเค็มระดับนี้ถือว่าเหมาะกับสัตว์ทะเลแต่ไม่ปลอดภัยถ้าเกิดเข้าไปในแผล...ถ้าเป็นแผลที่เกิดจากการสู้กันโดยปกติคงไม่เป็นไรแต่แผลที่เกิดจากการผ่าคลอดเป็นแผลที่ลึกและมีความละเอียดอ่อนสูงมากดังนั้นต้องทำการดูแลอย่างดี
ระดับความเค็มที่สูงประมาณนี้ทำให้คิดไว้แล้วว่าต้องเย็บปากแผลให้ปิดสนิทจนไม่มีช่องว่างให้น้ำเข้าไปภายในซึ่งต้องใช้ทั้งเวลา สมาธิและบุคคลที่มีความสามารถมาก...และผมเองก็เคยเย็บแผลแบบนั้นแค่ครั้งเดี๋ยวตอนสอบจบปริญญาเท่านั้น
“อีกฝากนึงมีบันไดลงไปคะ แถวนั้นถูกสร้างมาให้ลึกแค่เกือบเมตรเพื่อใช้ปล่อยสัตว์คะ”เธออธิบายพร้อมชี้ไปอีกฝากนึงของสระ
“พาผมไปตรงนั้นหน่อย”
“ตามมาเลยคะ”พอพูดจบผมก็เดินตามหญิงสาวตรงหน้าไป
บริเวณที่เธอบอกเป็นที่กว้างพอจะให้ทำการผ่าคลอดได้โดยให้เพลซิโอซอรัสหันหัวลงไปในสระแต่ถึงยังไงก็ต้องใช้ผ้ายางปูกันไว้ก่อนเพราะพื้นตรงนี้ลื่นมากผมลองลงไปเหยีบดูแล้ว
“อุปกรณ์...แฮ่ก...แพทย์มาแล้วครับ...แฮ่ก...”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับวิ่งหอบกระเป๋าเป้ใบใหญ่มาหาผมที่ก้าวขึ้นจากสระ
“ขอบคุณมากครับ”ผมบอกคนตรงหน้าแล้วรับกระเป๋าเป้มา...ภายในกระเป๋าเป็นกระเป๋าสี่เหลี่ยมผืนผ้าใบใหญ่สีขาวใส่ไว้และพอเปิดดูอุปกรณ์สำหรับผ่าตัดก็มีอยู่อย่างครบถ้วนจนผมพยักหน้าอย่างพอใจ
“ส่วนนี้เป็นพวกยาครับ...ผมไปเบิกพวกยาชา...ยาสลบกับพวกยาฆ่าเชื้อและยาสมานแผลมาด้วย”ชายคนเดิมบอกต่อพร้อมกับวางกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกลางลงข้างๆผม
“ขอบคุณมาก...คุณรู้ได้ไงว่าผมต้องการยาพวกนี้?”พอขอบคุณเสร็จผมก็เงยหน้าขึ้นไปถามอีกฝ่ายตรงๆ...ตอนแรกคิดว่าต้องบอกให้คนอื่นไปเบิกมาให้อีกรอบแล้วเพราะผมสั่งเขาไปแค่อุปกรณ์สำหรับผ่าตัดเท่านั้นแต่สิ่งที่ได้กลับมาด้วยทำให้ผมต้องแปลกใจอยู่พอสมควร
“...ความจริงผมอยู่หน่วยแพทย์ครับแต่พึ่งเข้ามาทำได้ไม่นานเลยพอมีความรู้ครับ”คำตอบที่ได้รับทำให้ผมคลียิ้มส่งไปให้บาง
“ผมชื่อเซโคร...แล้วคุณล่ะ?”
“เบสครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเบส”ผมพูดพร้อมกับยื่นมือไปหาอีกฝ่าย
“ครับ...ยินดีมากๆที่ได้รู้จักคนระดับคุณ”เบสตอบพร้อมกับรีบจับมือผมพร้อมเขย่าเล็กน้อย
“ผมก็คนธรรมดา”
“ไม่ครับๆ...คนที่ได้รับบัตรทองไม่มีทางเป็นคนธรรมดาได้หรอกครับ”เบสส่ายหัวไปมาพร้อมเอ่ยค้าน
“ผมก็ใช้เวลานานกว่าจะได้มันมา”
“แค่ได้เห็นคุณเซโครผ่าคลอดใกล้ๆก็ถือว่าสุดยอดแล้วครับ...คุณคงเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์ใช่ไหม?”คำเยินยอโดยไม่รู้ความจริงทำให้ผมได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆกลับไปให้
อยากบอกเหลือเกินว่าผมไม่ได้จบแพทย์แค่รู้วิธีรักษากับผ่าตัดเพราะเรียนเป็นวิชาโทแค่นั้นเอง
“เบส”ผมเรียกเมื่อนึกอะไรได้
“ครับ?”
“อยากเป็นลูกมือผมในการผ่าคลอดไหม?”
“...”คำถามผมทำให้อีกฝ่ายเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ว่าไงเบส?”ผมถามย้ำอีกครั้ง
“ได้เหรอครับ?...ผมพึ่งจบมาเมื่อปีที่แล้วเองนะครับ...ไม่มีประสบการณ์...”
“ประสบการณ์หาได้ด้วยการลงมือทำ...อย่ากลัวที่จะเริ่มในสิ่งที่ไม่เคยทำเบส...นี่เป็นโอกาสที่ผมให้คุณจะรับมันไว้หรือปล่อยมันไปล่ะ?”เด็กตรงหน้าดูจะกลัวๆอยู่อาจเป็นเพราะนี่เป็นงานแรกที่ทำและยังเป็นงานที่เสี่ยงจนพลาดแทบไม่ได้อีก...
ไม่แปลกที่จะลังเลหรือหวาดกลัว
การทำอะไรเป็นครั้งแรกมันน่ากลัวเสมอ...ผมเองก็เช่นกันไม่ว่าจะเป็นการส่องกล้องจุลทรรศน์หรือการผ่าศพ...ทุกอย่างล้วนน่ากลัวและไม่มั่นใจ มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่มักกลัวไปหมดทุกอย่างตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม...
แต่เพียงลองเริ่มจะรู้ว่าสิ่งที่น่ากลัวนั่นมันเป็นแค่ความรู้สึกหนึ่งที่ผ่านไปเท่านั้น
เซโครเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาสีเทาเข้มที่กำลังสั่นระริกอยู่ตรงหน้า คิ้วที่ขมวดเข้าหากันกับปากที่เม้มเข้าหากันแน่นเป็นหลักฐานว่าเขากำลังสู้กับจิตใจของตัวเองอยู่
“...ครับ”
“หื้อ?...ว่าอะไรนะ?”ผมถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปใกล้เบสมากขึ้น
“ผมจะทำ...ให้ผมเป็นผู้ช่วยคุณเซโครเถอะครับ!”เบสตะโกนขึ้นเสียงดังพร้อมกับก้มหัวลงไปเป็นการทำความเคารพผม
“ได้สิ...ไม่ต้องทำขนาดนี้หรอก”มือผมแตะที่ไหล่เด็กตรงหน้าเบาๆก่อนจะเดินออกไปสำรวจรอบๆสระ
“ผมจะเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ให้นะครับ”เสียงตะโกนที่ดังตามมาทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆแล้วตอบตกลงก่อนจะเดินสำรวจต่อ
“อ่อ...ขอโทษครับ”เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองก่อนจะพบกับชายวัยกลางคนที่มีมัดกล้ามทั่วตัวแต่ยังคงความดูดีไว้ได้ในระดับหนึ่ง...ถ้าให้เดาเขาคนเป็นหัวหน้า
“ครับ”
“ผมโอ๊ค แลนด์นิล...เป็นหัวหน้าควบคุมที่นี่ครับ”
“ผมไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่...เรียกผมเซโครก็ได้คุณโอ๊ค”พวกเราทักทายกันเล็กน้อยก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มเข้าประเด็น
“คือคนที่มากับคุณน่ะ...”
“เขาชื่อยูทาร์ครับเป็นคู่หูผม”
“ไม่ใช่ครับ...คือ...”
“...”ผมถึงกับขมวดคิ้วกับสิ่งที่คุณโอ๊คพูด...ไม่ได้อยากรู้ว่ายูทาร์เป็นใครแล้วถามถึงยูทาร์ทำไมล่ะ?
“ผมแค่อยากบอกว่าผู้ช่วยคุณดำลงไปเกือบ20นาทีแล้วนะครับ...ถ้านานขนาดนี้อาจจะ...”
“คุณจะบอกว่ากลายเป็นอาหารไปแล้ว?”ผมลองสรุปจากที่ได้ฟังดู
“ครับ...ถึงเพลซิโอซอรัสจะกินได้แค่สัตว์ตัวเล็กๆแต่ก็มีเขี้ยวที่แหลมคมมาก...การที่ดำลงไปโดยไม่โผล่ขึ้นมาหายใจเลยนี่มันออกจะ...”คำอธิบายของคุณโอ๊คทำให้ผมพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงเข้าใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ...เขาเป็นมือดีที่สุดที่ผมมีไม่ตายด้วยเรื่องแค่นี้แน่นอนครับ”ผมบอกคุณโอ๊คไปตามตรงแม้ในใจจะเป็นห่วงมากก็ตาม
“แต่...”
“เดี๋ยวผมจะเรียกเขาขึ้นมาอยู่แล้วครับ”ผมบอกพร้อมกับเดินมาสมทบกับเบสที่กำลังจัดอุปกรณ์แพทย์อยู่
“อ๊ะ...คุณเซโครทำอะไรน่ะ?”เบสร้องขึ้นเมื่อผมหยิบมีดที่กำลังถูกเช็ดขึ้นมาแล้วกรดเข้าที่ปลายนิ้วก้อยจนมีเลือดไหลออกมาด้านนอก
“เตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อกับยาทาแผลสดด้วย”ผมบอกพร้อมกับจุ่มมือที่เลือดออกลงไปในสระแล้วแกว่งเบาๆท่ามกลางความงุนงงของคนที่ยืนอยู่โดยรอบ
ตอนนี้คิดออกแค่วิธีนี้เท่านั้นแหละ...การตะโกนเรียกคงจะส่งไปไม่ถึงยูทาร์ที่อยู่ในน้ำแต่ถ้าเป็นกลิ่นเลือดต้องส่งไปถึงแน่ๆ...เรื่องการดำน้ำของยูทาร์ผมไม่ค่อยเป็นห่วงเพราะสถิติที่เคยจับเวลาอยู่ที่33นาที
เงาของอะไรบางอย่างทีว่ายขึ้นมาจากก้นสระทำให้ผมยิ้มออกมาพร้อมกับมือผมที่ถูกจับชูขึ้นและชายหนุ่มผมยาวสีเทาแซมส้มในชุดดำน้ำที่เปียกโชกไปทั้งตัวโผล่ขึ้นมา...
“เกิดอะไรขึ้นเซโครทำไมเลือดออกล่ะ?”ทันทีที่โผล่พ้นผิวน้ำยูทาร์ก็ถามทันที มือของผมถูกคนตรงหน้าจับไว้พร้อมกับพลิกไปมาเพื่อดูแผล
“ผมกรีดเองจะได้เรียกยูทาร์ขึ้นมาไง”
“กรีดเอง?...ทำอะไรบ้าๆน่ะเซโคร...ห้ามทำอีกนะ”
“คิก...”ผมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อถูกยูทาร์เป็นห่วงมากขนาดนี้
“ขำอะไรนะ?”
“ไม่ขำแล้วๆ...เข้าเรื่องเลยเถอะเพลซิโอซอรัสเป็นยังไงบ้าง?”
“เธอปวดท้องมากและเริ่มมีเลือดไหลออกมาแล้ว”
“งั้นเราต้องรีบหน่อยแล้ว...บอกเธอเรื่องผมรึยัง?”ผมหันไปถามต่อ
“อืม...เธอไม่ไว้ในมนุษย์แต่เธอบอกว่าจะลองไว้ใจเซโครดู”
“ขอบคุณที่เหนื่อยนะยูทาร์”ถ้าไม่มียูทาร์คงไม่มีทางจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่มีทางที่เพลซิโอซอรัสจะยอมง่ายๆแบบนี้
“ไม่เป็นไร...ผมจะไปเรียกให้เธอขึ้นมานะ”ยูทาร์บอกแล้วดำลงไปอีกครั้งนึง
“เอาผ้ายางมาปูเลยครับ”พอยูทาร์ดำลงไปผมก็หันไปสั่งการณ์ต่อพร้อมกับเอายาฆ่าเชื้อที่เบสเตรียมไว้มาล้างแผลอย่างลวกๆ
“เข้าใจแล้ว...ทุกคนมาช่วยกันหน่อย”ประโยคสุดท้ายคุณโอ๊คหันไปตะโกนเรียกคนที่ยืนอยู่รอบๆ
ใช้เวลาไปนานก็มีพื้นที่พร้อมสำหรับการผ่าคลอดเพลซิโอซอรัสแล้ว...เหลือแค่ให้ยูทาร์พาเธอขึ้นมาเท่านั้น ในระหว่างที่มีเวลาเซโครหลับตาลงพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกเพื่อลดอาการตื่นเต้น
“ผมอยากให้พวกคุณถอยไปครับ...มีแค่เบสคอยช่วยผมก็พอแล้ว”ผมหันไปบอกอีกครั้งนึง...จากที่ฟังเพลซิโอซอรัสไม่ไว้ใจมนุษย์เพราะงั้นควรจะใช้คนให้น้อยที่สุด
เสียงน้ำกระจายตัวดังขึ้นพร้อมกับร่างขนาดใหญ่ของเพลซิโอซอรัสกับยูทาร์ที่ว่ายตรงมาทางผม...พอให้ยูทาร์ช่วยดันอยู่สักพักเพลซิโอซอรัสก็อยู่ในท่าที่ใกล้พร้อมคลอดแล้ว
“ผมชื่อเซโคร...ไม่ต้องห่วงนะผมจะพยายามอย่างเต็มที...ก่อนอื่นผมขอฉีดยาชาที่บริเวณใต้ท้องนะ”ผมอธิบายให้เพลซิโอซอรัสฟังแล้วฉีดยาชาเข้าไป
“ช่วยนอนหงายได้ไหม?”ผมถามขึ้นอีกรอบ
งื๊ดดด!
เสียงครางสูงดังขึ้นก่อนจะพยายามหงายท้อง...ยูทาร์ที่อยู่ด้านข้างก็ช่วยพยุงจนในที่สุดก็นอนหงายท้องสำเร็จ เซโครไม่รอช้าทันทีที่ยาชาอกฤทธิ์ก็จัดการผ่าท้องของเพลซิโอซอรัส ทั้งโครงสร้างและที่อยู่ของอวัยวะผมพอจะจำได้ว่าเคยเห็นมาก่อนเลยสามารถผ่าเลี่ยงไปได้
“ใจเย็นๆนะเพลซิโอซอรัส”ผมพยายามปลอบเมื่อเกิดอาการดิ้นเล็กน้อยตอนที่ผมกรีดเข้าไปที่ช่องคลอด...ยาชาที่ฉีดเข้าไปไม่ได้มีผลถึงอัวยะด้านในด้วย
“เบสมีดอีกเล่ม”ผมบอกพร้อมกับแบมือออกไม่ช้ามีดอีกเล่มก็ถูกส่งมา
การผ่าช่องคลิดผมใช้มีดสองเล่มเพราะค่อนข้างกว้างและกรีดยาก...เมื่อสามารถเจาะลงไปได้ผมก็กรีดอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้มีดแหวกช่องคลอดนั่นออก...
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กขนาดเท่ากับปลากะพงขยับดิ้นไปมาก่อนจะเงยหัวขึ้นมาทางช่องว่างที่ผ่าไว้...ผมค่อยๆยกตัวของเพลซิโอซอรัสน้อยออกมาแล้วใส่ในกะละมังที่ถูกใส่น้ำเตรียมไว้ล่วงหน้า
“เสร็จแล้วนะ...เหลือแค่เย็บปิดเท่านั้น”
หลังจากที่ใช้เวลากับการเย็บไปเกือบชั่วโมงทุกอย่างก็เสร็จสิ้นโดยไม่มีการสูญเสียแต่อย่างใด...ลูกเพลซิโอซอรัสสามารถคลอดออกมาและว่ายน้ำคู่กับแม่ได้อย่างปลอดภัย
“เฮ่อ...”ผมถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่อทุกอย่างจบลงด้วยดี มือทั้งสองข้างของผมมันสั่นมากทั้งที่ตอนผ่าเมื่อครู่ยังไม่สั่นเลยแท้ๆ...
“เซโคร”เสียงเรียกของยูทาร์ดังขึ้นข้างๆพร้อมกับรวบมือผมไปจับไว้แน่น
“ยูทาร์...ผมพึ่งมานึกกลัวตอนที่ทุกอย่างสำเร็จแล้วได้ยังไงเนอะ...แย่จริงๆเลย”ผมพูดพรางซบหัวลงที่ไหล่ของยูทาร์
“เซโครสุดยอดเลย...เก่งที่สุด...เธอฝากมาขอบคุณด้วย”
“จริงเหรอ?”
“อืม...เธอบอกว่าขอบคุณที่ทำให้เธอและลูกยังมีชีวิต”คำขอบคุณที่ได้รับเหมือนเป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่สามารถผ่าคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย
จะมานั่งคิดให้ได้อะไรล่ะในเมื่อทุกอย่างมันผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้วนี่นา
“ไปอาบกันดีกว่ายูทาร์”ผมเด้งตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปหาคุณโอ๊คที่พึ่งวางโทรศัพท์ไป
“คุณโอ๊ค”
“ครับ?”
“ผมอยากขอใช้ห้องอาบน้ำกับเสื้อผ้าหน่อยได้ไหมครับ?”ผมลองขอดู...ปกติน่าจะมีห้องอาบน้ำไว้ด้านในเผื่อเวลาโดนน้ำกระเด็นใส่
“เชิญเลย...เข้าไปด้านในแล้วเลี้ยวขวา...ส่วนเสื้อผ้าเดี๋ยวผมให้คนไปเตรียมไว้ให้”
“ขอบคุณมากครับ...ไปกันเถอะยูทาร์”ผมขอบคุณแล้วดึงยูทาร์ให้เข้าไปด้านในด้วยกัน
หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพวกเราก็ได้รับคำขอบคุณจากคุณโอ๊ค แลนด์นิลเป็นการเลี้ยงอาหารกลางวันบนภัตตาคารหรูที่ใจกลางของสวนสัตว์แห่งนี้โดยห้องอาหารที่ได้เข้าไปเป็นชั้นบนสุดที่ไว้สำหรับแขกวีไอพี...จากข้างบนสามารถมองเห็นบรรยากาศโดยรอบได้อย่างชัดเจน...
ถือเป็นมื้ออาหารที่ยอดเยี่ยมสำหรับการมาเดทจริงๆเลย
และหวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจนผมและยูทาร์ต้องเข้าไปช่วยอีกหรอกนะ
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการพักผ่อนแต่กลับเหมือนการเปิดงานวันแรก?
ผมยังไม่ได้เที่ยวตามประสาคู่รักกับยูทาร์เลย...อย่างน้อยช่วงสุดท้ายนี่ก็ขอให้มันเป็นเดทของจริงหน่อยละกัน
(มีต่อคะ)
-
(ต่อคะ)
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะเซโคร?”ยูทาร์หันมาถามระหว่างที่เรากำลังเดินดูไดโนเสาร์ต่อ
“ผมแค่อยากให้วันนี้เป็นเดทที่ดีที่สุด...พวกเราพึ่งเคยมาเที่ยวด้วยกันเป็นครั้งแรกผมเลยอยากให้ยูทาร์สนุกและก็มีความสุขโดยไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยเหมือนทุกวัน”ผมตอบกลับไปแล้วเอื้อมมือจองตนไปจับมืออีกฝ่ายไว้
“เซโคร...ผมสนุกที่ได้อยู่กับเซโคร...ไม่ว่าจะเป็นตอนช่วยกันจับไดโนเสาร์หรือผ่าคลอดเมื่อกี๊...แค่ได้อยู่กับเซโครไม่ว่าที่ไหนผมก็มีความสุขเสมอ”มือของยูทาร์ที่จับอยู่กำแน่นขึ้นพร้อมกับดึงผมเข้าไปหา...สัมผัสร้อนๆแตะเข้าที่หน้าผากอย่างเชื่องช้าและถอนออกอย่างอ้อยอิ่งจนใบหน้าผมแดงไปหมด
“...ทำอะไรต่อหน้าคนเยอะแยะน่ะยูทาร์...ไม่อายรึไง?”ผมถามเสียงอ่อยตอนนี้อยากจะมุดดินหนีไปซะจริงๆ สายตาของคนที่ยืนอยู่รอบๆหันมามองพวกเราเป็นตาเดียว...สาวๆบางกลุ่มมองมาแล้วหันไปซุบกันไม่นานก็ได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆดังตามมา
ความรักของเพศเดียวกันตอนนี้เป็นอิสระมากขึ้นจนคนหมู่มากมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วแถวด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันก็สามารถทำให้ผู้ชายตั้งท้องได้ถึงจะมีแค่โรงพยาบาลบางแห่งที่ทำได้ก็ตาม...ยังไงก็ถือว่าความรักของพวกเราไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ผมแค่อยากทำ....ไม่ได้เหรอ?”
“...มันไม่ควร”
“งั้นก็จูบไม่ได้สินะ”ยูทาร์พึมพำเสียงเบาแต่ก็ไม่อาจรอดหูผมไปได้หรอก
“คิดจะจูบที่นี่เลยรึไง?”ผมสวนกลับอย่างรวดเร็ว...ถึงสังคมจะเปิดกว้างแต่ไม่ได้กว้างขนาดให้มายืนจูบกันกลางสวนสัตว์ที่มีเด็กตัวเล็กๆวิ่งเล่นอยู่แบบนี้หรอกนะ
“อืม...แต่ถ้าไม่ควรไว้จูบที่ห้องก็ได้”ยูทาร์บอกหน้าตาเฉยแล้วเริ่มออกเดินต่อทิ้งให้ผมยืนหน้าแดงด้วยความเขินอยู่คนเดียว...
ยูทาร์เป็นผู้ชายที่สามารถพูดเรื่องน่าอายให้เป็นเรื่องธรรมดาได้ด้วยใบหน้านิ่งๆนั่น...ไม่รู้ว่าเพราะไม่สนใจหรือไม่แคร์ใครกันแน่...แต่ผมน่ะทั้งสนใจทั้งแคร์เลย
แล้วมาปล่อยให้คนเขินยืนอยู่คนเดียวได้ยังไงเนี่ยยูทาร์!
พอรู้ตัวเซโครก็รีบวิ่งตามยูทาร์ไปอย่างรวดเร็ว...เมื่อตามทันผมก็ยกมือที่กำหมัดแน่นขึ้นชกเข้าที่หลังของยูทาร์เต็มแรงเป็นการลงโทษที่ทำให้ผมยืนเขินอยู่คนเดียว
“โอ๊ย!...ทำอะไรน่ะ?”
“ครั้งหน้าผมจะทำให้ยูทาร์อายบ้าง”ผมไม่ตอบยูทาร์แต่พูดสิ่งที่กำลังคิดอยู่ออกไปแทน
“ทำให้ผมอาย?...ทำไมล่ะ?”
“จะได้รู้ความรู้สึกของผมไง”ผมรีบสวนกลับแล้วเดินต่อทันทีปล่อยให้คนข้างหลังยืนงงต่อไปนั่นแหละ
“เซโคร!”ยูทาร์ที่วิ่งตามมาเรียกแต่ผมก็ยังไม่หันกลับไป...ตอนนี้ค่อยเหมือนเดทหน่อย
ยูทาร์มาง้อผมสินะ
ไม่ได้ๆ...อย่าพึ่งใจอ่อน
นี่แหละเดท
“เซโครอย่าไปทางนั้น...”
“...”อีกนิดน่า...ของอนอีกนิดนะยูทาร์
“ทางนั้นมีฝูงไดโนเสาร์กำลังวิ่งมานะ”คำพูดต่อมาทำให้เท้าที่เดินอยู่หยุดอย่างฉับพลันแล้วค่อยๆหันไปมองหน้ายูทาร์ที่อยู่ด้านหลัง
“เมื่อกี๊...ว่ายังไงนะ?”ผมถามย้ำอีกรอบ
“มีฝูงไดโนเสาร์กำลังวิ่งมา”
“...”...นี่แปลว่าที่เรียกไม่ได้คิดจะง้อผม?
เพล้ง!
ตอนนี้รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่กำลังแตกละเอียดยิบ
ให้ตายสิ...ทำไมผมถึงมีแฟนที่ง้อคนรักไม่เป็นแบบนี้กัน
ถึงจะไม่เคยสอนอย่างน้อยๆก็น่าจะรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณสิ...แต่สัญชาตญาณของยูทาร์คงมีแค่วิ่งล่าเหยื่อเท่านั้น สิ่งที่ยูทาร์รู้จักในตอนนี้คือสิ่งที่ผมสอนและบอกให้ทำแปลว่าผมต้องสอนแฟนให้มาง้อตัวเอง?
“...เดี๋ยวนะ...ยูทาร์บอกว่ามีอะไรกำลังมานะ?”สมองที่คิดแต่เรื่องเดทเริ่มกลับมาทำงานเป็นปกติอีกครั้งแล้ว
“ฝูงไดโนเสาร์ที่ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน”อีกฝ่ายตอบกลับแทบจะทันที
“ฝูง...ไดโนเสาร์?...กลางสวนสัตว์เนี่ยนะ?...อยู่ในกรงรึเปล่า?”
มันเป็นไปไม่ได้ที่ทางสวนสัตว์จะปล่อยไดโนเสาร์ให้มาวิ่งเพ่นพล่าน
“ไม่ใช่...เสียงวิ่งกำลังตรงมาทางนี้...มนุษย์ที่อยู่รอบๆเริ่มวิ่งหนีแล้ว”
“...อย่าบอกนะว่าไดโนเสาร์หลุด?”นี่เป็นคำตอบเดียวที่คิดได้ในตอนนี้
‘ประกาศจากสวนสัตว์...ขอให้ทุกท่านเข้าหลบในตัวอาคารด่วนคะตอนนี้มีไดโนเสาร์หลุดจากรถขนย้ายคะ’
เสียงประกาศที่ดังขึ้นทำให้ผู้คนเริ่มแตกฮือพร้อมกับวิ่งหนีไปมากันจ้าละหวั่น...ทุกคนต่างวิ่งไปทางตึกสูงหรือพวกร้านอาหารที่ตั้งอยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินประกาศว่ามีไดโนเสาร์หลุดเท่านั้น
คนอื่นจะอาจจะตกใจหรือแตกตื่นแต่มีชายคนหนึ่งที่กำลังกรอกตาขึ้นฟ้าแล้วเอามือก่ายหน้าผากอย่างเซ็งๆ...พึ่งจบการจากผ่าคลอดเพลซิโอซอรัสก็มาเจอไดโนเสาร์หลุดต่ออีก...
ผมขอเถอะ...นี่มันวันเดทสุดท้ายของผมนะ!
“เซโครเอาไงดี?”ยูทาร์หันมาถามเสียงนิ่ง...ดูจากท่าทางของยูทาร์แปลว่าไม่ใช่พวกที่จัดการยากไม่งั้นยูทาร์คงต้องออกอาการมากกว่านี้แล้ว
“ไดโนเสาร์ที่วิ่งมาไม่ดุร้ายใช่ไหม?”
“...ไม่แน่ใจแต่ไม่น่าใช่พวกกินเนื้อ”ยูทาร์นิ่งไปสักพักแล้วพูดขึ้น
“กินพืชงั้นเหรอ...รู้ไหมว่ามีมนุษย์ตามมาด้วยรึเปล่า?”ผมถามต่อพรางเริ่มคิดว่าจะเอายังไงดี
“มีที่ตามมา...และก็มีกลุ่มคนกำลังวิ่งมาจากด้านนั้น”ยูทาร์บอกแล้วชี้ไปสองทิศที่มีคนกำลังมา
“แปลว่าพวกเขากำลังจะต้อนฝูงไดโนเสาร์ให้จนมุม...ทางเดียวที่มนุษย์จะกล้ามาดักหน้าไดโนเสาร์คือพวกเขาจะระดมยิงยาสลบใส่พวกมัน”สมองผมคำนวณอย่างรวดเร็วก่อนจะได้ข้อสรุปออกมา
“ยิงยาสลบ...เหมือนที่เซโครเคยทำใช่ไหม?”
“ใช่...เหมือนตอนที่ผมยิงสไปโนซอรัสนั่นแหละ...แต่สถานการณ์ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน”
“ยังไง?”
“ตอนสไปโนซอรัสมียูทาร์จัดการให้อีกฝ่ายเหนื่อยอ่อนและไม่มีความตื่นตัวมากยาสลบเลยได้ผลดีแต่ตอนนี้ฝูงไดโนเสาร์กำลังตื่นตัวอยู่แน่ๆ...หัวหน้าฝูงคงจะสับสนกับสถานที่และกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย...สภาพของความคิดที่ไม่คงไม่เหมาะที่จะใช้ยาสลบยิงเพราะอาจส่งผมต่อระบบสมองโดยตรงได้...ถ้าทำให้ผ่อนคลายแล้วค่อยยิงก็ยังดีแต่จากที่แบ่งทีมไล่ตามแปลว่าไม่มีความความคิดนั้นอยู่ในหัวเลย”ผมอธิบายให้ยูทาร์ฟัง
“แล้วเราควรทำยังไง?”
“กลุ่มที่มาจากอีกฝากนึงอยู่ไกลจากที่นี่มากไหม?”
“...พอสมควร”
“และถ้าเทียบกับฝูงไดโนเสาร์อะไรมาถึงเราก่อนกัน?”
“ฝูงไดโนเสาร์”ยูทาร์ตอบทันที
“งั้นเรามาหยุดฝูงไดโนเสาร์ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยิงพวกมัน”ผมตัดสินใจแล้วเดินไปกลางทางเดินโดยมียูทาร์เดินมาอยู่ข้างๆ...ถ้าเป็นพวกกินพืชไม่น่ามีปัญหาถึงจะแตกตื่นอยู่แต่ก็น่าจะสามารถคุยรู้เรื่องได้
ไม่นานนักฝูงไดโนเสาร์ก็เข้ามาในระยะสายตา...ขนาดตัวที่เทียบเท่ามนุษย์ ส่วนตัวที่มีเกาะคลุมไปทั่วทั้งร่าง...รูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์แบบนั้นมัน...
“แองคิโลซอรัส...”
“ชื่อของพวกนั้นเหรอ?”ยูทาร์หันมาถาม
“ใช่...แองคิโลซอรัสเป็นไดโนเสาร์กินพืชที่ใหญ่ที่สุดในสกุลแองคิโลซอร์...มีรูปร่างลำตัวที่กว้างมาก ขาหลังยาวกว่าขาหน้าและมีกระดูกยื่นออกมาจากร่างกายเป็นเกราะป้องกันตัวชั้นดี...รวมทั้งมีฟันขนาดเล็กไว้สำหรับบดเคี้ยวพืชและปากมีลักษณะคล้ายนกแก้ว”ผมอธิบายลักษณะให้คนที่ยืนข้างๆฟัง
“มีเกราะด้วย...ท่าจะแข็งมากนะ”ยูทาร์พึมพำเมื่อเห็นตัวของแองคิโลซอรัสชัดๆ
“แข็งสุดๆเลย...ฟันของยูทาร์คงกัดไม่เข้าหรอก”
“ขนาดนั้นเลย?”
“ใช่...ทางเดียวที่จะกัดเข้าคือโจมตีจนแองคิโลซอรัสหงายหลังแล้วกัดเข้าที่ส่วนท้องที่อ่อนแอ”ผมบอกยูทาร์ที่ดูจะไม่ค่อยเชื่อว่าฟันตัวเองจะเจาะไม่เข้า
กรรร!!
เสียงคำรามต่ำดังขึ้นเมื่อหัวขบวนเห็นผมและยูทาร์ยืนขวางอยู่ ถึงจะเห็นว่ามีอะไรขวางอยู่แต่ก็ยังไม่ชะลอความเร็วลงสักนิดเดียว...แปลว่าจะพุ่งเข้าชนสินะ?
“...กรร”
ยูทาร์ที่ยืนอยู่ข้างๆเดินออกไปอยู่หน้าผมแล้วเริ่มคำรามออกมาเบาๆโดยที่ยังอยู่ในร่างมนุษย์...ด้วยความที่ผมอยากเห็นสถานการณ์เลยเดินมายืนอยู่ด้านข้างยูทาร์แทน ดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องไปยังตัวหัวหน้าของฝูงแองคิโลซอรัส
กรรรร!!
หัวหน้าของฝูงที่เห็นดวงตาของนักล่าที่จ้องมาก็ชะลอความเร็วแล้วส่งเสียงคำรามขึ้นอีกครั้ง...เหล่าลูกน้องในฝูงกว่า10ตัวต่างก็ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยเช่นกัน
“พวกเราแค่อยากช่วย”ผมบอกออกไปนิ่งๆ...การดูอยู่เฉยๆมันไม่ใช่นิสัยผมเท่าไหร่
กรรร!!
คำตอบที่ได้รับมาคือเสียงคำรามพร้อมกับปากที่ขบเข้าหากันเหมือนจะบอกว่าถ้าเข้ามาจะกัดแน่...แต่ผมไม่กลัวหรอก...ด้วยปากทรงแบบนั้นอย่างมากก็คง...มือขาด...ผมว่ากลัวหน่อยก็ดีนะ
“...เซโคร...มนุษย์มาแล้ว”ยูทาร์หันไปมองทางด้านหลังพร้อมกับบอกผม
“คุยกับพวกเขาได้ไหม?”
“พอได้...ขอเวลาอีกนิด”
เมื่อได้รับคำตอบของยูทาร์ผมเดินไปอีกทาง...ไม่นานกลุ่มของหน่วยควบคุมที่ใส่เสื้อสีดำสนิทพร้อมอุปกรณ์ป้องกันและโจมตีก็วิ่งเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงแต่พอเห็นผมคนที่น่าจะเป็นหัวหน้าก็ยกมือขวาตั้งขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าให้รอก่อน
“เธอน่ะออกมาเดี๋ยวนี้เลย...มันอันตรายนะ”เสียงตะโกนของชายตรงหน้าดังขึ้นอย่างร้อนรน
“ผมอยากให้พวกคุณรออยู่ตรงนั้นแล้วส่งข่าวไปบอกหน่วยที่กำลังไล่มาจากด้านหลังของฝูงแองคิโลซอรัสด้วยว่าห้ามโจมตีเด็ดขาด!”ผมตะโกนกลับไป
“พวกเราไม่จำเป็นต้องฟังเธอ...เรามีหน้าที่จับไดโนเสาร์ที่หลุดมาเท่านั้น!”คำตะโกนกลับมาทำให้ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน...
ความจริงกะจะไม่ใช้แล้วนะ...บัตรทองเนี่ย
“ผมชื่อไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่...หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษ...ผมขอใช้สิทธิ์ที่มีออกคำสั่งให้พวกคุณทำตาม”ผมพูดเสียงเข้มพร้อมชูบัตรสีทองขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายเผื่อจะมองบัตรไม่ชัด
“...ไม่จริงน่า...ทำไมคนระดับคุณถึง....”เป็นอีกครั้งที่ผมเห็นคนหน้าซีดไปต่อหน้าต่อตา
นี่ผมเป็นแค่คนธรรมดาที่มีบัตรทองเองนะ...
ไม่ใช่ไดโนเสาร์สักหน่อย
“ทำตามที่ผมบอกหน่อยได้ไหม?”
“...ครับ...จะจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”
“ขอบคุณ”ผมบอกแล้วเดินกลับไปหายูทาร์ที่เข้าไปลูบฝูงแองคิโลซอรัสอย่างใกล้ชิดได้สำเร็จ
“สุดยอดเลยยูทาร์”
“เข้ามาสิเซโคร”ยูทาร์กวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา...เมื่อไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธผมก็เดินเข้าไปพร้อมกับทักทายเหล่าแองคิโลซอรัสที่ดูจะไว้ใจผมมากขึ้น
“ผมชื่อเซโคร...ยินดีที่ได้รู้จักนะ...ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นผมสั่งให้พวกเขาถอยไปแล้ว”ผมบอกกับตัวที่เป็นหัวหน้าฝูงพร้อมกับลูบใบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆ
งื๊ดดดด!
เสียงครางดังขึ้นพร้อมกับถูไถหัวตัวเองเข้าที่มือผม...ตัวอื่นๆก็เริ่มเข้ามารุมล้อมผมกับยูทาร์มากขึ้นจนแทบไม่มีที่ยืน...บางตัวถึงกับส่ายหางที่มีลูกตุ้มไปมาจนพื้นปูนด้านล่างแตกเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อเรื่องวุ่นวายสงบลงผมก็ได้รับคำขอบคุณจากเจ้าของสวนสัตว์ที่ลงมาด้วยตัวเองพร้อมกับของกำนันเล็กๆน้อยๆคือบัตรเข้าสวนสัตว์ฟรีตลอดชีวิตพร้อมสิทธิ์พิเศษทั้งค่าห้องพักหรืออาหารก็ฟรีหมด
“เดทวันสุดท้ายทำไมมีแต่ไดโนเสาร์เข้ามานะ”ผมพูดพรางเดินออกไปจากสวนสัตว์แห่งนี้พร้อมกับยูทาร์
“ผมว่าสนุกดีออก”
“งั้นก็ดีแล้ว”แค่ยูทาร์สนุกก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
“ไว้มากันใหม่นะ”ยูทาร์พูดขึ้นพรางดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นจากทางด้านหลัง
“แน่นอน”ผมตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
หวังว่าครั้งหน้าที่มาจะไม่มีเรื่องให้ต้องเข้าไปช่วยอีกนะ
‘ประกาศจากสวนสัตว์...’
“หื้อ?”ผมถึงกับเหลือบไปมองลำโพงกระจายเสียงที่อยู่ไม่ไกล
“เซโคร...”
“อะไร?”
“ได้กลิ่นไดโนเสาร์”
“ห๊ะ?”
‘ประกาศจากสวนสัตว์...ขอให้คุณไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่และคุณยูทาร์มาช่วยจับเซราโตซอรัสที่หลุดจากกรงด้วยคะ’
“...”เสียงประกาศทำให้ผมกำหมัดแน่นด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก
ผมอยากจะโกนบอกทุกคนจริงๆว่าวันนี้ผมมาเดทนะ!
ไม่ใช่มาทำงาน!!
นี่มันคือเดทของผมกับยูทาร์จริงๆใช่ไหม?!!
......................................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
(http://image.dek-d.com/27/0417/5906/118475548)
แองคิโลซอรัส (อังกฤษ: Ankylosaurus) เป็นไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในสกุล แองคิโลซอร์ (อังกฤษ: ankylosaurid) อาศัยอยู่ในยุคครีเตเชียส ในทวีปอเมริกาเหนือ โครงกระดูกของ แองคิโลซอรัส ยังไม่สมบูรณ์ แองคิโลซอรัส เป็นไดโนเสาร์ที่มีลักษณะในแบบสกุล แองคิโลซอร์ที่มีน้ำหนักตัวหนักมีเกราะแข็งหุ้มทั่วทั้งตัว และมีลูกตุ้มขนาดใหญ่สำหรับไว้ป้องกันตัวจากนักล่าในยุคนั้นอย่าง ไทรันโนซอรัส และ ทาร์โบซอรัส ที่บริเวณหาง
นักวิทยาศาสตร์ได้ให้ความยาวของ แองคิโลซอรัส ประมาณ6.25 (20ฟุต) - 9เมตร (30 ฟุต) ความสูงถึงสะโพก1.7 แมตร (5.5 ฟุต) มีน้ำหนักตัว 6 ตัน มีรูปร่างลำตัวที่กว้างมาก ขาหลังยาวกว่าขาหน้า มีกระดูกยื่นออกมาจากร่างกายเป็นเกราะป้องกันตัวชั้นดี กินพืชเป็นอาหาร มีฟันขนาดเล็กไว้สำหรับบดเคี้ยวพืช ปากมีลักษณะคล้ายนกแก้ว
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/แองคิโลซอรัส
...
สวัสดีคะ
ในที่สุดก็มาต่อแล้วคะ
พึ่งได้ซ่อมคอมเสร็จคะโชคดีที่แค่ลงโปรแกรมใหม่ที่ใช้เวลามากเพราะพึ่งไปส่งซ่อมคะ55
ช่วงนี้เป็นช่วงงานหนังสือพอดีอยากไปมากแต่ไม่มีเวลาเลยเห็นมีแต่คนบอกว่าปีนี้คนเยอะสุดๆ(ถึงจะเยอะทุกปีก็ตาม)
ตอนนี้ก็เป็นอันจบการเดทของทั้งคู่แบบงงๆหวังว่าทุกคนคงจะพอใจนะคะ
คนแต่งไม่ได้เรียนเกี่ยวกับแพทย์การบรรยายในส่วนของการผ่าคลอดอาจไม่ค่อยสมจริงสมจังนักแต่ก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้วคะ...มีอะไรติบอกได้เลยนะคะ
ในตอนต่อไปยูทาร์และเซโครงานเข้า...
จะเป็นเรื่องอะไรนั้นรอติดตามนะคะ
ฤดูกาลสอบผ่านไปแล้วอยากจะได้หัวสมองของเซโครไปเข้าห้องสอบจังเผื่อจะได้คะแนนดีบ้าง...แต่ละวิชาก็ไม่ยอมบอกคะแนนสักทีลุ้นจะแย่แล้ว
แต่งแนวแฟนตาซีแล้วรู้สึกเหมือนได้โลดแล่นอย่างไม่มีใครมาตีกรอบไว้สนุกมากๆเลย
แต่ก็ใช้พลังงานในการแต่งแต่ละตอนเยอะเหมือนกัน
เรื่องหน้าที่จะแต่งเลยจะเป็นแนวรักโลแมนติกธรรมดาไม่แฟนตาซีคะ
คิดๆไว้แล้วแต่ยังไม่ได้แต่งยังไงก็ขอฝากผลงานเรื่องใหม่ด้วยนะคะ
ถาลงแล้วจะแจ้งให้ทราบคะ
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจที่ทำให้คนแต่งสามารถแต่งมาได้ถึงจุดนี้นะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า :mew1:
ปล.สำหรับคำผิดจะทยอยแก้นะคะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลยคะT-T
บ๊านบายคะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
รอบนี้ถึงกับประกาศเรียกชื่อกันเลยเหรอคะเนี่ย :m20:
-
ช่างเป็นเดทที่ชุลมุนวุ่นวายเหมือนมาทำงานนอกสถานที่กันจริงๆ555
แอบสงสารน้องเซโครวคงอย่างจะมีโมเมนท์หวานๆมั่งสินะ
พาร์ทนี้ทำได้เยี่ยมมากทั้งผ่าคลอดทั้งจับไดโนเสาร์ขอบวกเป็ดให้ทั้งเซโครว ยูทาร์และคนแต่ง
-
จะได้เดทมั้ย!!
-
ยูทาร์น่ารัก เป็นเดทที่วุ่นวายดีจัง :-[ :-[
-
ถึงกับประกาศชื่อเลยเหรอค่ะ เหมือนประกาศเด็กหายเลย :laugh:
-
น่าสงสารอะะะะะะะ จะเดททั้งที ต้องมีอุปสรรค
เอาน่าาาา แต่ก็ทำให้รู้ว่าเวลาที่อยู่ด้วยกันมีคุณค่านะ :กอด1:
รอตอนต่อไปเนาะ
-
เป็นกิจกรรมของคู่เดทที่แปลกจริงๆ
-
รู้สึกเดทวันสุดท้ายจะวุ่นวายจริงๆ 5555 :mew1:
-
เซโครคงอยากจะลาออกเพราะเซ็งเลยทีเดียว 5555 //เท่าที่ดูตอนนี้ไม่มีคำผิดเนอะ
-
เราแอบเคืองแทนเซโครนะ 555 แทนที่จะมาเดทดันมาทำคลอด จับไดโนเสาร์หลุดกรง ฯลฯ :z3:
-
เป็นตาตีเจ้าหน้าที่ :serius2:
ให้พักผ่อนบ้างเถอะคุ๊ณณณณ 5555 ชอบตอนจับไดโนเสาร์ที่หลุดนี่แหละ
-
555555555โอ้ยขำ สรุปแล้วเดทโดยไม่มีไดโนเสาร์มาเอี่ยวไม่ได้เลยใช่ไหม(เอ๊ะ แต่พระเอกของเราก็ลูกครึ่งไดโนเสาร์นะ555) นี่ถึงขนาดประกาศชื่อเหมือนจะตามจับซะเองขนาดนี้ ไปช่วยเถอะยูทาร์เซโคร5555
-
รู้สึกสงสารเซโครจริงๆนะ แต่ยูทาร์คงจะเข้าใจได้อยู่แล้วว
-
อยากเห็นเซโครหึงบ้างจุง555
รออ่านตอนต่อค่ะ
-
เหมือนมาทำงานนอกสถานที่ 5555+
:laugh:
-
ผลัดไปเดทตอนกลางคืนได้ไหมคะเซโคร
-
สุดท้ายก็ประกาศเรียกชื่อเลยทีเดียว 5555
-
อ่านจบแล้วฮาแตกเลย
ทั้งขำทั้งสงสารเซโคร
น่าๆๆๆ เซโครทำใจนะ ยังไงก็หนีจากไดโนเสาร์ไม่พ้นหรอกลูกเอ่ยยย / ตบบ่าเบาๆ
ตอนหน้าน้องยูทาร์จะบู๊แล้วสินะ
เป็นตัวเดียวกะที่คุยกับน้องยูทาร์ว่าอยากสู้ด้วยหรือป่าวนะ
อยากอ่านตอนต่อแล้วววว /โดนตบ
-
มีฉากลุ้นระทึกมาอีกแล้ววววว
เซโคร สู้ๆ
-
ถถถถถ เซโครเอ๊ย ทำใจซะนะลูกนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
อยากอ่านเป็นเล่มแล้วอ่าาาาาาา
ยิ่งอ่านก็ยิ่งอยากได้เป็น ชอบมากเลยครับ!
-
ถ้าไม่มี jurassic world ในวันนั้น... คงไม่มี jurassic heart ในวันนี้...
ต้องขอขอบคุณผู้สร้างหนัง และจินตนาการอันบรรเจิดของผู้แต่ง
ที่ทำให้เราได้รู้จักไดโนเสาร์หนุ่มน้อย(?) น่ารัก(ลัก)ขโมยไปกก 55
รอตอนต่อไปน้าาาา
-
ยูทาร์น่ารักกกกจัง :hao7:
-
ดีนะที่การผ่าตัดคลอดเป็นไปได้ด้วยดี
เป็นอาจออกเดทที่ลุ้นระทึกจริงๆ
-
ตามอ่านทันแล้ว
เรื่องน่ารักมากเลย ชอบยูทาร์จัง ซื่อๆดี
-
เป็นเดทที่น่าจดจำ น่าดูสำหรับเซโคร
-
อยากให้มีโดโด้ 555 :hao7:
-
คงไม่ได้อยู่แบบเงียบๆแล้วล่ะ เซโครยูทาร์ คึคึ o13
-
โธ่ เซโครผู้น่าสงสารเราก้อยากมีหวานๆบ้างเนอะ~
-
หลงรักยูทาร์~~~~ :o8:
รอร๊อรอออออ :katai5:
-
ฮาอะ จะเดทอย่างมีความสุขก้อไม่ได้เนอะ
-
5555 น่าสงสารเซโครนะ
อุตส่าห์อยาดมาเดทแบบหวานๆ ก๊ากกก
-
ฮาอะ จะเดทอย่างมีความสุขก้อไม่ได้เนอะ
-
:hao7: :hao7: เซโครน่ารักอ่ะ
-
:)
-
กลายรักครั้งที่❧18
ช่วงบ่ายของวันหนึ่งหลังจากกลับมาจากการลาพักร้อนเซโครและยูทาร์ก็เริ่มทำงานที่ได้รับมาต่อทันทีโดยที่ไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับข่าวหนึ่งจนเกิดกระแสต่างๆขึ้นมากมาย...กว่าที่เซโครจะรู้ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะถูกจัดเตรียมบทสรุปไปเรียบร้อยแล้วแต่บทสรุปนั่นไม่ถูกใจเจ้าตัวอย่างแรงเลยต้องโทรหาคุณเลโอ ราวีโอลีอย่างด่วนที่สุด
การพูดคุยดูจะไม่ได้ข้อสรุปที่น่าพอใจนักเลยทำให้เจ้าของบัตรทองควบด้วยคู่หูไดโนเสาร์กลายพันธุ์เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของคุณเลโอ ราวีโอลีในตอนนี้...
“ผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำ”เซโครยื่นคำขาดว่าจะไม่ยอมเรื่องนี้โดยเด็ดขาด
“เธอไม่มีสิทธิ์มาค้านหรอกนะ...ถ้าเป็นก่อนหน้านี้อาจพอมีทางเปลี่ยนได้แต่เพราะเธอมาช้าไปแล้วจะบอกให้ฉันยกเลิกทั้งที่จะมีการแถลงข่าวขึ้นในอีก1ชั่วโมงข้างหน้าเนี่ยนะ?”เสียงเข้มดังขึ้นพร้อมกับจ้องมาอย่างเอือมละอา
“ก็ได้ผมผิดเองที่ไม่รู้ข่าวอะไรเลยทั้งที่คนอื่นเขารู้กันหมด...เรื่องนี้ผมผิดและยอมรับพร้อมจะขอโทษแต่เรื่องที่จะให้ผมกับยูทาร์ไปแถลงข่าวเนี่ยผมขอเถอะ”ผมไม่ยอมออกไปทำอะไรแบบนั้นแน่...
จะให้ไปแถลงข่าว?
ผมไม่ใช่พวกดาราดังที่มีข่าวรักๆเลิกๆพวกนั้นนะ...แถมเนื้อหาของการแถลงข่าวก็มาจากวันสุดท้ายของการลาพักผ่อนที่ไปสวนสัตว์และได้ช่วยไดโนเสาร์ไว้มากมาย...เรื่องนี้คงจะจบไปโดยไม่ต้องมีข่าวออกมาถ้าเกิดไม่มีคนถ่ายรูปตอนที่ผมกับยูทาร์กำลังหยุดฝูงแองคิโลซอรัสด้วยสองมือเปล่า...ไม่ใช่แค่รูปแต่บางคนถึงกับถ่ายคลิปไปลงเลยก็มี...
นั่นทำให้เกิดการแผ่กระจายของข้อมูลไปรอบโลกและสิ่งที่พวกคนดูถามก็คือ...
พวกเขาเป็นใคร?
และทำยังไงถึงได้หยุดฝูงไดโนเสาร์ได้ทั้งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน?
เรื่องเริ่มใหญ่ขึ้นเมื่อมีข่าวหลุดมาจากวงในว่าผมเป็นคนผ่าคลอดให้กับเพลซิโอซอรัสได้สำเร็จอย่างสวยงามจนตอนนี้เจ้าตัวเล็กกลายเป็นดาวเด่นของสวนสัตว์ไปแล้ว...เพลซิโอซอรัสไม่ใช่สัตว์ปกติที่คนจะเข้าใกล้ได้ถ้าไม่ได้มีการวางยาสลบแต่ข่าวที่ปล่อยออกมาบอกว่าผมใช้เพียงแค่มีดผ่าตัดกับยาชาในการผ่าเท่านั้น
พอเรื่องใหญ่มากขึ้นก็มีนักข่าวมากมายต้องการรู้ข้อมูลพวกนี้จนไปเจอเข้ากับภาพที่ผมอยู่กับยูทาร์ในอุทยานแห่งชาติโยเซมิติโดยมีฝูงซิตตาโคซอรัสอยู่ล้อมรอบ...
เมื่อมาถึงขนาดนี้ทางบริษัทเลยจำเป็นต้องเปิดแถลงข่าวโดยให้ผมและยูทาร์ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด...ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ว่าคนที่ต้องไปให้แถลงข่าวซึ่งก็คือผมและยูทาร์พึ่งรู้ข่าวเรื่องนี้เมื่อเช้าเอง
คิดดูสิ...เนื้อหาของการแถลงอะไรก็ไม่มี...
การเตรียมพร้อมก็เป็นศูนย์
ถ้าให้ออกไปแถลงข่าวทั้งๆแบบนี้ก็ตายสิครับ
“ฉันไม่ห้ามถ้าพวกเธออยากบอกความจริง”คุณเลโอไม่ฟังสิ่งที่ผมบอกแถมยังเปลี่ยนเรื่องอีก...น่าโมโหจริงๆเลย
“คุณเลโอ”
“แต่ถ้าบอกไปคงมีหลายองค์กรที่ต้องการตัวยูทาร์ไป”
“คุณเลโอ”
“ความจริงเรื่องนี้ก็มีคนรู้อยู่พอสมควร...เพียงแต่เป็นคนระดับสูงหรือผู้นำองค์กรใหญ่ๆเท่านั้น”คนตรงหน้ายังคงพูดต่อไปราวกับไม่ได้ยินเสียงเรียกของผม
“คุณเลโอ”
“เพราะงั้นเธอควรบอกไปแค่ว่าเป็นความสามารถพิเศษน่าจะทำให้ปลอดภัยที่สุด”
“นี่...คุณเลโอ”
“เอาล่ะ...จบเรื่องแค่นี้ไปได้แล้ว”พอพูดจบคุณเลโอก็ลุกขึ้นแล้วก้าวออกจากห้องในทันที
“คุณเลโอ!”ผมวิ่งตามไปพร้อมกับตะโกนเรียกอีกครั้งนึง
“อ้อ...พอแถลงข่าวเสร็จแล้วให้ไปทำงานต่อเลยนะ...มีการลักลลอบค้าไดโนเสาร์ที่เกาะทางตอนใต้ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์...จัดการซะแล้วรายงานผลมา”คุณเลโอหยุดก่อนจะหันมาสั่งเพิ่มแล้วเดินออกไปทันที
ทิ้งผมไว้กับความมึนงงกับสิ่งที่ได้ยิน
“...อะ...”ผมกำมือข้างนึงแน่นโดยที่อีกข้างชี้ไปยังคนน่าโมโหที่ค่อยๆเดินออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
“ใจเย็นก่อนน่าเซโคร”ยูทาร์ตบไหล่ผมเบาๆเป็นการเรียกสติ
“เย็นไม่ไหวแล้วยูทาร์...กลายร่างเป็นไดโนเสาร์แล้วจัดการเลย!”ผมพูดขึ้นอย่างขาดสติ
“อย่าใจร้อนเลย...ไหนบอกว่าห้ามฆ่ามนุษย์ไง?”
“ก็ไม่ต้องให้ถึงตายสิเอาแค่ขาหักก็พอ!”ตอนนี้ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว
รู้สึกหงุดหงินคนคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก
“บ้าเอ้ย!!”ผมตะโกนออกมาเพื่อคลายอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง
พอใช้เวลาสักพักให้ผมก็สามารถสงบสติลงได้อย่างรวดเร็วและรู้สึกว่าตัวเองตอนขาดสตินี่น่ากลัวกว่าที่คิด...โชคดีที่ยูทาร์ไม่ทำตามที่ผมบอกไม่งั้นคงเกิดเรื่องใหญ่โตแน่
“ยูทาร์...เราจะเอาไงดี?”ผมหันไปถามยูทาร์ที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่ในห้องรับรองข้างๆห้องแถลงข่าว...การแถลงข่าวครั้งนี้จะถ่ายทอดสดจากบนเกาะนี้โดยจะมีกล้องถ่ายอยู่ด้านหน้าตัวเดียว ด้านหลังกล้องจะเป็นโปรเทคเตอร์อันใหญ่ที่จะฉายภาพของกลุ่มผู้สื่อข่าวจากทั่วโลกที่นั่งรอกันอยู่เต็มไปหมด
ถ้าทางผู้สื่อข่าวมีข้อส่งสัยอะไรก็จะถามผ่านกล้องอีกตัวที่ตั้งอยู่ในบริเวณห้องนั้นได้...ก็เหมือนเราคุยกันผ่านโปรเทคเตอร์นั่นแหละ
“แล้วเราต้องทำอะไรบ้างล่ะ?”ยูทาร์ถามกลับแล้วพยายามช่วยผมคิด
“ต้องออกไปบอกว่าทำไมพวกไดโนเสาร์ถึงเชื่อกับยูทาร์มากขนาดนั้น”
“ก็เพราะผมคุยกับพวกเขาดีๆนี่นา”
“เราบอกว่ายูทาร์คุยกับไดโนเสาร์รู้เรื่องไม่ได้เพราะมันจะทำให้เกิดปัญหาได้...แต่ถึงจะบอกคนทั่วไปไม่ได้แต่พวกระดับสูงก็น่าจะรู้กันหมดแล้ว”ผมพยายามอธิบายพร้อมกับคิดไปด้วย
“ทำไมถึงบอกไม่ได้ล่ะ?”
“เพราะยูทาร์เป็นคนพิเศษ...การที่พิเศษจะทำให้ถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลาและอาจทำให้ยูทาร์ถูกทำร้ายได้”
“แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องรู้อยู่ดี”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมต้องหันไปมองอีกฝ่าย
“...หมายความว่ายังไง?”
“เซโครเคยบอกว่าความลับไม่มีในโลก...ผมเห็นด้วยกับคำนั้นนะ...ถึงวันนี้พวกเขาจะไม่รู้แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีวันได้รู้...ถ้าวันนึงมีคนถ่ายรูปของผมตอนที่กำลังกลายร่างแล้วเอาไปเผยแพร่มันจะกลายเป็นว่าพวกเราหลอกลวงไม่ใช่เหรอ?”สิ่งที่ยูทาร์พยายามอธิบายผมก็เข้าใจดี
ไม่มีความลับไหนที่จะสามารถปกติไปได้ตลอด
สักวันนึงความลับพวกนั้นต้องถูกเปิดเผยออกมาไม่ว่าทางใดก็ทางนึง
ถ้าตอนนี้ผมเลือกที่จะโกหกเพื่อให้พวกเขาเชื่อ...วันหนึ่งที่ความลับถูกเปิดเผยมันจะเกิดเรื่องที่ใหญ่กว่านี้แน่แต่ในทางกลับกันถ้าผมบอกความจริงในวันนี้ทั้งโลกต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะข่าวนี้เช่นกัน...
การทดลองที่ใส่ยีนส์ของมนุษย์ไปผสมกับไดโนเสาร์
ไม่ต้องรอให้เกิดเรื่องผมก็เดาได้เลยว่าจะเกิดการโจมตีองค์กรของเราที่ทำเรื่องบ้าๆแบบนี้...การที่เลือกที่จะบอกความจริงต้องเตรียมรับผลที่จะตามมาซึ่งมันคงจะไม่น้อยแน่
“เซโคร...ผมจะทำตามที่เซโครบอก...ถ้าอยากให้โกหกผมก็จะทำ”ยูทาร์เอื้อมมือมาจับผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้
“...เราจะไม่โกหก”ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะบอกออกไป
“เซโคร...”
“ผลที่ได้มันอาจแย่แต่เราสามารถพูดให้พวกเราเขาเข้าใจได้...ถ้าทำได้เรื่องอาจจบได้ด้วยดี”ผมกำมือยูทาร์ที่จับไว้แน่นพร้อมกับตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับพวกนักข่าว
“เซโครทำได้อยู่แล้ว”
“ไม่ใช่แค่ผมที่ต้องทำ...ยูทาร์ก็ต้องช่วยพูดด้วย”ผมคนเดียวคงไม่อาจพูดโน้มน้าวได้...
พวกเราต้องช่วยกัน
เซโครและยูทาร์เดินเข้าไปในห้องแถลงข่าวก่อนจะบอกคนที่คุมกล้องว่าเริ่มถ่ายได้เลย...ภาพของเหล่านักข่าวจากหลายสำนักทั่วโลกแสดงขึ้นที่หน้าจอด้านหน้าพวกเรา เสียงซุบซิบพูดคุยกันเงียบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นผมและยูทาร์ที่นั่งอยู่
“ผมไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่...ขอบคุณทุกท่านที่มารวมตัวกันในวันนี้”ผมเริ่มเปิดฉากด้วยการทักทาย
“ผมชื่อยูทาร์...ยินดีที่รู้จักครับ”
“วันนี้พวกเราจะมาบอกถึงสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ว่าทำไมถึงสามารถเข้าใกล้ไดโนเสาร์ได้โดยที่ไม่ถูกทำร้ายหรือเกิดการต่อสู้...ความจริงแล้วยูทาร์ที่นั่งอยู่ข้างผม...”พอพูดมาถึงตรงนี้ก็เกิดไม่มั่นใจขึ้นมาว่าจะพูดความจริงออกไปดีไหม?
การที่บอกออกไปมันจะดีแน่รึเปล่า?
ความกังวลเริ่มถาโถมเข้ามาเรื่อยๆแต่เมื่อมือของยูทาร์วางทับลงบนมือผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้...เชื่อไหมว่าความกังวลที่มีมันปลิวหายไปไหนก็ไม่รู้
ยูทาร์มอบความกล้าให้ผมเสมอ...
ตอนนี้ก็เช่นกัน
“คนที่นั่งอยู่ข้างผมเป็น...มนุษย์ที่มียีนส์ของไดโนเสาร์อยู่ในตัวทำให้สามารถคุยกับไดโนเสาร์ได้รวมทั้งยังสามารถแปลงร่างเป็นไดโนเสาร์ได้อีกด้วย”ผมกลั้นใจบอกความจริงไป
“...”ความเงียบเข้ามาปกคลุมอย่างรวดเร็วแต่ก็เพียงแค่พักเดียวเท่านั้น...พอเหล่าผู้สื่อข่าวเริ่มตั้งสติได้ทั้งห้องก็มีแต่เสียงพูดคุยกันดังลั่นไปหมด
“คุณไทรแอสซิกจะบอกว่า...คุณยูทาร์เป็นไดโนเสาร์?”นักข่าวคนนึงยกมือขึ้นพร้อมกับถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“เขาเป็นแค่ไดโนเสาร์ลูกผสมเท่านั้น...สำหรับผมยูทาร์เป็นมนุษย์”
“แล้วคุณไม่กลัวเขาเลยเหรอ?”
“ไม่เลยสักนิด...ผมเชื่อว่าทั้งมนุษย์และไดโนเสาร์สามารถเข้าใจกันได้ง่ายๆเพียงแค่เราลองและกล้าที่เชื่อใจเท่านั้น...ในตอนแรกผมเคยถูกกัดแต่เพราะผมไม่ยอมแพ้...เวลาช่วยสร้างความเชื่อใจและความไว้ใจขึ้นมาได้”ผมตอบกลับคำถามต่อมา
“เหตุผลที่สร้างคุณยูทาร์ขึ้นมาคืออะไรคะ?”
“ให้เป็นราชา...”ผมตอบโดยไม่ต้องคิด
“ราชา?”
“ใช่...ยูทาร์จะเป็นราชาของไดโนเสาร์ทุกตัวที่เกิดขึ้นมา...ไดโนเสาร์ทุกตัวต้องการจ่าฝูงหรือหัวหน้าที่สามารถควบคุมและดูแลทุกอย่างได้ซึ่งมนุษย์แทบไม่มีทางทำได้เพราะงั้นยูทาร์ถึงเกิดมาเพื่อจะช่วยให้เราสื่อสารกับเหล่าไดโนเสาร์ได้...แบบนั้นจะช่วยลดการตายอย่างเสียเปล่าลงไปได้เยอะเลย”ผมอธิบายออกไปตามที่คิดและเคยได้ยินมาจากพ่อ
“...ขออีกคำถามได้ไหมคะ?”นักข่าวคนเดิมยกมือต่อ
“ได้ครับ”
“คุณใช่ลูกของคุณฟรานซิสไหมคะ?”
“ครับ...ผมเป็นลูกชายของเขา”
“แปลว่าคุณพ่อคุณเป็นคนสร้างคุณยูทาร์ขึ้นมา...ถูกไหมคะ?”
“มีหลายคนที่มีส่วนร่วมในการทดลองแต่คนที่เป็นหัวหน้าก็คือพ่อผมเอง”ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอะไรแล้วในตอนนี้
“ผมอยากถามคุณยูทาร์หน่อยได้ไหมครับ?”นักข่าวอีกคนยกมือแล้วหันไปมองยูทาร์
“...ได้ครับ”ยูทาร์นิ่งไปสักพักก่อนจะตอบกลับไป
“คุณรู้ไหมครับว่าตัวเองเป็นทั้งมนุษย์และไดโนเสาร์?”
“ตอนแรกผมไม่รู้แต่พอได้พบกับเซโครก็ได้รู้หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยรู้...ผมรู้จักตัวเองมากขึ้นเพราะเซโครเป็นคนบอก”ยูทาร์ตอบคำถามด้วยท่าทางนิ่งๆ
“แล้วคุณคิดว่ามนุษย์เป็นอะไรครับ?”อีกฝ่ายยังคงถามต่อ
“เอาตอนนี้หรือเมื่อก่อนครับ?”ยูทาร์ย้อนถาม
“ทั้งคู่เลยครับ”ดูท่ายูทาร์จะเป็นที่สนใจของพวกนักข่าวมากกว่าผมอีกนะ
“เมื่อก่อนผมเห็นมนุษย์เป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่แสนอ่อนแอและเป็นเหยื่อที่สมควรถูกล่าเท่านั้น...แต่พอได้เจอเซโครเขาสอนให้ผมมองว่ามนุษย์เป็นเพื่อนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน...เซโครบอกว่ามนุษย์สามารถอยู่ด้วยกันได้โดยที่ไม่เชื่อใจกันเพราะเวลาจะสร้างความเชื่อใจขึ้นมาเอง”คำตอบของยูทาร์ทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆ
“คุณจะฆ่ามนุษย์ไหมครับ?”
“ผมจะไม่ฆ่าใคร...ถ้าคนคนนั้นไม่ทำร้ายเซโคร”ยูทาร์ตอบออกไปทันทีพร้อมกับหันมามองหน้าผม
“คำถามสุดท้าย...คุณสนิทกับคุณไทรแอสซิกมากขนาดไหนครับ?”
“ขนาดไหน...ผมไม่รู้หรอก...แต่ผมอยากอยู่ข้างๆเซโครตลอดเวลาไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม...ผมรักเซโครมากๆเลยและคงไม่คิดว่าจะรักใครได้มากเท่านี้อีกแล้ว”ยูทาร์พูดออกไปพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผม
“...”ผมไม่รู้ว่ายูทาร์รู้ไหมว่าสิ่งที่พูดออกไปมันคือการประกาศต่อหน้าทุกคนว่าเรากำลังคบกันอยู่
เท่าที่ดูยูทาร์คงไม่รู้แน่ๆเลย
คนที่รู้อย่างผมก็ได้แต่นั่งก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงๆของตัวเองเท่านั้น
“...แปลว่าพวกคุณคบกันใช่ไหมคะ?”หลังจากเงียบไปก็เริ่มมีคนถามต่ออีกครั้ง
“เซโครบอกว่าเราเป็นแฟนกัน”ยูทาร์ตอบแทนผมที่ก้มหน้าลงอยู่
“คุณยูทาร์รู้จักแค่กับเขา...ไม่คิดเหรอคะว่าต่อไปจะได้เจอคนที่รักมากกว่านี้?”คำถามนี้ทำให้ผมเหล่มองยูทาร์ด้วยความอยากรู้...
ยูทาร์จะตอบคำถามนี้ยังไงนะ?
“ไม่คิดครับ...ผมไม่ได้พึ่งรักเซโครแต่รักมาตลอด...ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าคู่สวยนั่นผมก็คงไม่อาจรักใครได้อีก”ยูทาร์ตอบกลับในทันทีเหมือนกับไม่ต้องใช้เวลาคิดคำตอบเลยสักนิด
“ยูทาร์...”ผมเงยหน้าขึ้นพร้อมกับสบเข้ากับดวงตาสีเหลืองอำพันที่หันมายิ้มให้...
ไม่เคยรู้เลยว่ายูทาร์จะรู้สึกแบบนี้มาตลอด
“ทางเราหมดคำถามแล้วคะ”เสียงของนักข่าวคนนึงแทรกเข้ามาทำให้ผมรีบตั้งสติแล้วหันหน้าไปทางกล้องอีกครั้ง
“งั้นผมขอพูดอะไรอีกสักหน่อยนะครับ...คนเราเลือกที่จะเกิดไม่ได้เพราะงั้นเมื่อเราได้รับสิ่งที่เรียกว่าชีวิตมาก็ควรจะใช้มันให้ดีและคุ้มค่าที่สุดเช่นเดียวกับยูทาร์ที่เขาเลือกไม่ได้ว่าจะเกิดมาเป็นแบบไหนแต่พวกเราเลือกได้ว่าจะทำยังไงเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจต้องการ...ผมหวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจในตัวของยูทาร์...ถ้าเกิดจะว่าอะไรก็ขอให้อย่าลงที่ยูทาร์หรือองค์กรดอร์วูที่สร้างเขาขึ้นมาเลย...”
“ขอจบการแถลงข่าวเพียงเท่านี้”
ทันทีที่กล้องตัดภาพเซโครที่นั่งเกร็งอยู่ก็ฝุบลงกับโต๊ะตรงหน้าด้วยอารมณ์อันหลากหลายทั้งตื่นเต้น กังวลหรือแม้แต่ความกลัว...เท่าที่มองสีหน้าของเหล่าผู้สื่อข่าวที่นั่งอยู่ก็ดูจะไม่แย่สักทีเดียว ข่าวที่ออกมาอาจจะไม่ได้แย่นักก็ได้
แต่ทันทีที่ข่าวออก...ไม่สิ...ทันทีที่ช่างกล้องเอาเทปที่อัดไปให้คุณเลโอผมคงโดนลงโทษที่ไม่ฟังคำสั่งแน่ๆแค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
“เซโครเป็นอะไรไหม?”
“อื้อ...ผมปวดหัวจัง”ผมตอบยูทาร์ออกไปตามตรง
“ลุกไหวไหม?”ยูทาร์ยังคงถามต่อแล้วลูบเส้นผมสีบอร์นทองของผมเบาๆ
“...ขอพักอีกแป๊บ”ตอนนี้ถึงอยากลุกก็ลุกไม่ไหวแล้วล่ะ
เหมือนโดนสูบพลังงานไปจนหมดตัวเลย
“ไปนอนที่ห้องดีกว่านะ”ยูทาร์บอกด้วยความเป็นห่วง
“ก็อยากไปอยู่แต่ตอนนี้ลุกไม่ไหวละ...อ๊ะ...”
ยังไม่ทันพูดจบร่างกายผมก็ลอยขึ้นจากพื้นโดยฝีมือของยูทาร์ที่อุ้มผมลอยขึ้นแถมยังในท่าอุ้มเจ้าสาวอีก...ด้วยความตกใจผมเลยพยายามดิ้นแต่ยูทาร์ก็ไม่ยอมปล่อยแถมยังเดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนั้น
“เดี๋ยวก่อนยูทาร์...หยุดก่อน...ปล่อยผมลงนะ”ผมพยายามขัดขืนเต็มที่...ผู้ชายที่ไหนจะรู้สึกดีใจเวลาถูกผู้ชายด้วยกันอุ้มตัวลอยบ้างล่ะ?
อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่ผมแน่นอน
“เซโครบอกลุกไม่ไหวนี่ผมเลยอุ้มแทนไงจะเดินไปให้ถึงห้องเลย”คำตอบของยูทาร์ทำให้แทบจะเอาหน้ามุดดิน ระยะทางจากตึกนี้ถึงห้องผมไกลหลายกิโลแถมยังผ่านเขตที่มีคนพลุกพล่านอีก...ถ้ามีคนเห็นผมถูกอุ้มจะคิดยังไงกับภาพที่เห็นล่ะ
เรื่องของผมกับยูทาร์ยังไม่ได้บอกให้ใครรู้แต่พวกนักข่าวก็พอจะรู้กันแล้วเหลือแต่พ่อและแม่ที่ผมอยากเป็นคนไปบอกด้วยตัวเอง...ยังไงผมก็ไม่คิดว่าพ่อและแม่จะรู้ข่าวจากโทรทัศน์หรือหนังสือพิมพ์หรอกเพราะพวกเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่...
แค่ได้สนุกกับการทดลองและค้นก็มีความสุขมากแล้ว
“ปล่อยผมลงเถอะยูทาร์ถ้าเดินไปทั้งแบบนี้ผม...”คำพูดสสุดท้ายถูกกลืนลงคอเมื่อเห็นว่าไม่ควรพูดออกมา
“อะไร?...เซโครจะบอกอะไรเหรอ?”ดวงตาสีเหลืองอำพันขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับคำถาม
“...ไม่มี...”
“โกหก”ไม่ต้องรอให้ผมพูดจบยูทาร์ก็แทรกขึ้นมาทันที
“...แค่อายเฉยๆ”ผมก้มหน้านิ่งซุกลงกับแผ่นอกของยูทาร์แล้วพึมพำตอบไปเสียงเบา...ผมรู้ดีว่าถึงจะเบาแค่ไหนยูทาร์ก็ได้ยินอยู่ดี
“...เซโครน่ารัก...แก้มแดงๆก็น่ารัก”ยูทาร์บอกพร้อมกับก้มลงมาฟัดแก้มขวาซ้ายของผมแรงๆจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างเคืองๆ
“ปล่อยผมเถอะ”ผมบอกอีกครั้ง
“เซโครควรพักหน่อยนะ”อีกฝ่ายก็ยังดื้อไม่ยอมปล่อยผมลง
“เฮ่อ...งั้นเปลี่ยนเป็นขี่หลังแทนได้ไหมล่ะ?”ผมยื่นข้อเสนอ
ถ้าเป็นขี่หลังผมจะไม่มีปัญหาเลยเวลาถูกใครเห็น
“ขี่หลัง?...ได้สิ”
เมื่อยูทาร์ตกลงร่างของเซโครก็ถูกวางลงก่อนจะเดินไปข้างหลังอีกฝ่ายที่ดูงงๆว่าผมจะทำอะไร...พอหาจังหวะได้ผมก็กระโดดขึ้นบนหลังยูทาร์เต็มแรงจนคนรับเซไปด้านหน้าเล็กน้อย สองมือของผมโอบคอของยูทาร์ไว้แน่นแล้วซบหน้าลงที่หัวไหล่ก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักสายตา
ยูทาร์คอยให้ผมอยู่นิ่งสักพักก่อนค่อยเริ่มออกเดินอีกครั้ง...ระหว่างทางกลับมีแต่ความเงียบที่เกิดขึ้นระหว่างเราแต่ถึงจะเงียบก็เป็นความเงียบที่อบอุ่นที่สุด...
เป็นครั้งแรกที่ได้ขี่หลังยูทาร์ในร่างมนุษย์
จำได้ว่าครั้งล่าสุดก็ตอนที่กระโดดลงไปหายูทาร์ที่ถูกลูกน้องของคุณเลโอจับตัวไว้ซึ่งก็นานพอสมควรแล้ว...ความทรงจำหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้เต็มไปด้วยเรื่องของยูทาร์ทั้งนั้น
“หนักไหม?”ผมกระชับแขนเข้ามาก่อนจะกระซิบถามเบาๆ
“ไม่เลย”
“โกหก...เมื่อกี๊ยังเซอยู่เลย”ผมสวนกลับไปพร้อมกับหันไปมองใบหน้าด้านข้างของยูทาร์ด้วยรอยยิ้ม
“นั่นผมตกใจต่างหาก”
“แก้ตัว”
“ไม่ใช่นะ...อ๊ะ...”ยูทาร์ถึงกับอุทานออกมาเบาๆเมื่อหันหน้ามาเจอผมในระยะประชิดจนจมูกของเราสัมผัสกันเบาๆ...ดวงตาสีเขียวอมฟ้ามองลึกเข้าไปยังดวงตาสีเหลืองอำพันของคนตรงหน้าก่อนจะขยับหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นจนริมฝีปากของเราสัมผัสกันเบาๆ
เซโครคาสัมผัสนั้นไว้สักพักก็จะผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
“...ไหนบอกว่าห้ามจูบข้างนอกไง?”ยูทาร์ถามเสียงเบาโดยที่เรายังจ้องตากันอยู่ในระยะประชิด
“ผมห้ามยูทาร์จูบ...ไม่ได้ห้ามตัวเองสักหน่อย”ผมบอกพร้อมส่งยิ้มไปให้
“เจ้าเล่ห์”
“ไปจำคำนั้นมาจากไหนน่ะ?”ผมถามขึ้นด้วยความอยากรู้ปนสงสัย
“พ่อสอนมา”คำตอบที่ได้รับทำให้ผมครางอ๋อเบาๆในลำคอก่อนจะบอกให้ยูทาร์เดินต่อ...ในไม่ช้าร่างของเซโครก็ถูกส่งจนถึงเตียงอย่างปลอดภัยแต่ในจังหวะที่ลงจากหลังผมใช้มือสองข้างล๊อคคอยูทาร์เอาไว้แน่นแล้วดึงจนอีกฝ่ายหงายหลังลงบนเตียง
“...เล่นอะไรน่ะเซโคร?”ยูทาร์หันมามองผมเคืองๆ
“แค่อยากแกล้ง”
“งั้นผมจะแกล้งกลับนะ”ไม่รอช้ายูทาร์ลุกขึ้นพร้อมกับขยับมาร่างกายคร่อมผมไว้...ผิวสีแทนขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะซุกใบหน้าลงไปต้นคอผมแล้วใช้ปลายจมูกเขี่ยไปมาจนผมจั๊กกะจี้
“คิก...ไม่เอา..ฮะฮะ...ผมจั๊กกะจี้นะ...คิก...”ผมพยายามดิ้นแต่แรงของมนุษย์หรือจะสู้ไดโนเสาร์พันธุ์ผสมตรงหน้าได้
ยูทาร์ไม่ยอมหยุดแกล้งผมแถมยังเปลี่ยนจากปลายจมูกเป็นริมฝีปากที่จูบเบาๆไปตามลำคอขาว พอผมเอียงข้างยูทาร์ก็เปลี่ยนฝั่งทันที...ริมฝีปากร้อนๆที่ประทับลงตาผิวคอทำให้ร่างกายผมเริ่มร้อนขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“ยูทาร์...พอ...”ถ้ามากกว่านี้...มันอาจเลยเถิดไปไกลก็ได้
“อีกนิดนะเซโคร”ยูทาร์เงยหน้าขึ้นมาบอกพร้อมกับกดจูบเบาที่หน้าผากแล้วก้มลงไปจูบที่ปลายคงผมก่อนจะไล่ริมฝีปากลงไปตามแผงคอขาว...ทั้งที่อยากปฏิเสธแล้วดันหน้าคนที่คร่อมอยู่ออกไปแต่ร่างกายกลับสั่งให้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้รับสัมผัสได้มากยิ่งขึ้น
“ยูทาร์...”...ไปจำมาจากไหนเนี่ย?
ผมอยากจะถามคำถามนั้นออกไปซะจริงๆ
“เซโครคือผม...”
ครื่นนน
เสียงสั่นของโทรศัพท์ทำให้การกระทำทุกอย่างหยุดชะงักพร้อมกับผมที่ดันหน้ายูทาร์ออกไปในทันทีแล้วเด้งตัวขึ้นหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมารับสายโดยที่ไม่ทันดูชื่อที่โทรเข้ามา...แต่ถึงไม่ดูคนที่โทรมาก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
“ครับคุณเลโอ”ผมทักทายโดยควบคุมเสียงไม่ให้สั่น...ตอนนี้หน้าผมมันคงแดงยิ่งกว่าเนื้อแตงโมแน่ๆรับรองได้เลย
นี่ถ้าไม่มีโทรศัพท์มาพวกเราจะเลยเถิดไปขนาดไหนแล้วเนี่ย
(ฉันรู้เรื่องแถลงข่าวแล้ว)
“คุณจะโทรมาให้บทลงโทษผมเหรอ?”ผมถามกลับ
(อยากโดนรึไง?)
“ไม่อยากครับ”
(ก็ดีเพราะฉันไม่ได้คิดบทลงโทษไว้)
“แปลว่าคุณไม่ได้โทรมาด้วยเรื่องที่ผมแถลงข่าวไป?”
(ใช่...การที่เธอบอกความจริงมันอาจเป็นเรื่องดีแต่ก็มีข้อเสียด้วยแต่เท่าที่เห็นคงไม่มากเท่าไหร่...นี่ฉันคงไม่ได้โทรมาขัดจังหวะพวกเธอใช่ไหม?)
“ห๊ะ?...ขัดจังหวะอะไรกันครับ...ไม่มีๆ”ผมรีบปฏิเสธทันควัน...
ทำไมถึงรู้ได้เนี่ย
(งั้นก็ดี...ฉันเลื่อนเวลาการไปฟิลิปปินส์เป็นพรุ่งนี้เช้า...สิ่งที่พวกเธอต้องทำคือจับเป็นพวกคนลักลอบค้าไดโนเสาร์)
“ได้ครับ...แล้วในกรณีที่ขัดขืน...”
(อนุญาตให้จับตายได้)
“รับทราบ”พอพูดคุยเสร็จคนปลายสายก็วางไปทันที
“งานเหรอเซโคร?”ยูทาร์ที่นั่งฟังอยู่ข้างๆถามขึ้น
“ใช่...เราจะไปพรุ่งนี้และจับเป็นด้วย...คุณเลโอสั่งหยั่งกับพวกเราเคยทำใครตายเลยเนอะ”
“พวกเราไม่เคยฆ่าใครนี่นา”
“ใช่เลย...พวกเราจะไม่ฆ่าถ้าไม่จำเป็น”ผมบอกพร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าของยูทาร์อย่างเชื่องช้า
“อืม...นอนกันเถอะเซโครคงเหนื่อยมากแล้ว”ยูทาร์ยกมือขึ้นมากุมมือผมที่ลูบใบหน้าอีกฝ่ายอยู่แล้วดึงผมให้เซเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของยูทาร์พร้อมกับล้มตัวลงนอน
“ฝันดีนะยูทาร์”ผมขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วกระซิบบอกเบาๆ
“เช่นกัน”นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ได้ยินก่อนจะปล่อยสติให้หายไปในอ้อมกอดของยูทาร์...
.......................................................................................
สวัสดีคะ
ครั้งนี้ไม่มีไดโนเสาร์ออกโรงขอไม่มีมุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์ละกันนะคะ
ใครหลายคนอาจจะอยากเห็นฉากบู๊ต่อต้องขอโทษที่ไม่ได้เขียนนะคะ...คิดว่าถ้าเขียนคงยืดเยื้อแน่เลยตัดจบตรงนั้นให้คนอ่านคิดฉากบู๊เองเลยคะ
ตอนนี้ทั้งโลกได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของยูทาร์จะมีกระแสยังไง?
คอยติดตามในตอนต่อๆไปด้วยนะคะ
ในตอนต่อไปเป็นการตะลุยเกาะที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์และพวกลักลอบค้าไดโนเสาร์
รับลองความมันส์ของฉากต่อสู้ต่อสู้เลยคะ
มีคำถามจาก ยัยหัวหยอง ในเว็บเด็กดีที่ถามมาว่า " มีคำถามสำหรับยูทาร์ เมื่อไหร่นายจะจัดการเซโครซักที อยากอ่านแล้ว"
ไรท์ : อะๆ...มาตอบหน่อยยูทาร์
เซโคร : เดี๋ยวก่อน!...ขอถามกลับหน่อยว่าทำไมถึงมีแต่คนอยากให้ผมเสียตัวนัก!(พูดเสียงดังด้วยอารมณ์บ่อจอย)
ไรท์ : แหมๆ...คนอ่านก็อยากได้อะไรฟินบ้างนี่
เซโคร : แค่กอด หอม แก้ม จูบปากนี่ยังฟินไม่พอเหรอครับ?
ไรท์ : ก็ฟินนะแต่อยากได้มากกว่านั้นอีกสักหน่อย(ตอบแทนผู้อ่าน)
เซโคร : ไม่มีใครเห็นใจผม(ทำหน้าเศร้า)
ไรท์ : น่าๆ(ยกมือตบไหล่ปลอบใจ) เอ้ายูทาร์มาตอบเร็ว
ยูทาร์ : ครับ...ว่าแต่จัดการเซโครคืออะไร? ผมไม่ทำร้ายเซโครหรอกนะ(พูดหน้าซื่อ)
ไรท์ : หึหึ...ให้คนโดนจัดการอธิบายหน่อยละกัน(เหล่มองเซโคร)
เซโคร : ไง๋โยนมาให้ละเนี่ย?
ไม่ต้องสนใจยูทาร์ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติอย่าไปรีบร้อนนักเลย จริงๆนะ(พยายามกล่อม)
ยูทาร์ : เอางั้นเหรอ? แต่เขาถามมาแล้วนะถ้าไม่ตอบมันก็...
เซโคร : ไม่เป็นหรอกน่า...รีบไปทำภารกิจกันดีกว่า(พูดจบก็คว้ามือยูทาร์ออกไปทันที)
ไรท์ : ...หนีไปซะแล้ว
งั้นคำตอบของเรื่องนี้คนแต่งจะตอบให้ละกันนะคะ
เอาตรงๆเลยก็คือ...
ตอนที่20เซโครเสร็จแน่คะ(แฮ่!)
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และกำลังใจที่มีให้นะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า
บ๊ายบายคะ :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
:z1: :z1:
-
แอร๊ยยยยยยยยยย แม่ขาาาา
เขาประกาศคบกันแล้วค่ะแม่ กรี๊ดดดดดดด
เขินอ่าาาาาา / นั่งฉีกผ้าห่ม
คุณเลโอคะ!!!!!! อยากโดน FC น้องยูทาร์ดีดใส่หร้าาาา ขัดจังหวะจริงเล่อะ 5555555
รอเซโครเป็นของน้องยูทาร์น้าาาาาา
ปล.เซโครคะ เอาแค่แขนหักเองเหรอออ หนักกว่านี้ก็โอคะ คึคึ
-
กด skip ข้ามไปตอนที่20 เลยได้ไหม :hao7:
ตอนแถลงข่าวนี่ทำเอาเขิน
-
เกือบไปแล้วไหมล่ะคะคุณเลโอ ดีนะเนี่ยที่ยูทาร์ไม่บ้าจี้ทำตามที่เซโครบอก ว่าให้กลายร่างไปจัดการคุณเข้าให้น่ะค่ะ :laugh:
-
ทำไมอยากให้คุณเลโอเคะ 5555. พ่อเซโคร สร้างอีกสักตัวให้หน่อยสิ เอาตัวที่แมนกว่าเลโอ :impress2:
-
เหมือนงานแถลงประกาศงานหมั้นงานแต่ง(?) 5555 :mew1:
-
:L2: :L2: :L2:
-
ประกาศคบกันเลยนะเนี่ย 555555
ยูทาร์ เซโคร น่ารักกก
-
อุว้าวววววววว มาแย้วๆๆๆๆๆๆๆๆ สุดท้ายก็ไม่ได้พักอยู่ดี 555
แก้คำผิดค่าาาา
1)มีการลักลลอบค้าไดโนเสาร์ - มีการลักลอบ
2)รู้สึกหงุดหงินคนคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก - รู้สึกหงุดหงิด
3)เส้นผมสีบอร์นทองของผมเบาๆ - สีบลอนด์ทอง
4)ไปจูบที่ปลายคงผม - ของผม
5)ครื่นนน -น่าจะ ครืดดด ครืดดดด มากกว่านะ เสียงโทรศัพท์สั่นอ่ะ
-
มีออกสื่อ
-
:pig4:
-
คู่นี้ทำงานตลอดเลย พักซะบ้างเถอะ :katai5:
-
นับถอยหลังรอตอน20เลยครับ อิอิอิอิ :-[
-
:กอด1:
-
โอยยยยย เขินนนนน
-
นี่งานประกาศเปิดตัวคบกันรึเปล่า :laugh:
เป็นนักข่าวในั้นจะบอกให้คบกันนานๆ
รอตอนต่อไปเนาะ
-
ชอบตอนผ่าคลอดให้เพลซิโอซอรัส
ยูท่าห์สารภาพรักออกอากาศซะแล้ว
-
รู้สึกไม่ชอบคุณเลโอ :serius2:
-
ถ้าให้จินตนาการฉากบู๊เอง.........
งั้นขอจินตนาการเป็นฉากบู๊บนเตียงของยูทาร์กับเซโครละกันค่ะ หุหุหุ :hao6: :-[ :laugh:
-
น่ารักมากเลย ยูทาร์น่ารักมาก
มาอีกนะรอยู่ค่ะ
-
หวานแบบซื่อๆได้เสมอต้นเสมอปลายเลยดิ่เนี่ย 5555
-
นี่ไงงงงง มีแต่คนมาขัดจังหวะอ่าาา พระเอกเราเก้อนานแล้วน้าาา เซโครก็รอแล้วรอเล่าไม่ต่างกัน น่าสงสารชะมัด5555
-
:fire: :fire:
-
รอตอนต่อไปอยู่นะ :mew2: :mew2:
ตอนหน้า..... :hao6: :hao6: :hao6:
-
กลายรักครั้งที่❧19
การเดินทางเข้าไปในเกาะทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์นั้นค่อนข้างลำบากเพราะนอกจะจะใช้เฮลิคอปเตอร์ไปลงที่ตัวเมืองของฟิลิปปินส์แล้วยังต้องนั่งเรือต่ออีก...พวกเราเดินทางในตอนเช้ากว่าจะถึงเกาะซูลูหรือรัฐสุลต่านซูลูก็ปาไปเที่ยงแล้ว
พวกเราต้องแอบเข้ามาไม่ให้มีใครรู้หรือสงสัยทำให้เรือที่นั่งมาสามารถส่งได้แค่ในบริเวณหนึ่งเท่านั้นส่วนต่อจากนั้นเซโครและยูทาร์ต้องดำน้ำพร้อมกับพกกระเป๋าเป้กันน้ำไปด้วย...ในเป้จะมีพลุไว้สำหรับส่งสัญญาณถ้าภารกิจสำเร็จให้ยิงสีเขียวแต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือให้ยิงสีแดง
ถึงผมจะค่อนข้างคลางแคลงใจพอสมควรว่ายุคนี้แล้วยังต้องใช้พลุสัญญาณไปอีกทำไมแต่พออีกฝ่ายอธิบายมาว่าเป็นการส่งสารที่รวดเร็วกว่าพวกโทรศัพท์ผมก็เลยต้องพยักหน้าแล้วเอาพลุใช่กระเป๋าเก็บไว้
การดำน้ำไม่ใช่สิ่งที่ผมเก่งนักแต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้...ตอนเรียนอยู่ผมเคยไปค่ายแล้วมีสอนการดำน้ำด้วยเลยทำให้ผมดำน้ำเป็นแต่จะให้ดำได้ครึ่งชั่วโมงแบบยูทาร์ผมคงไม่ไหว
ยูทาร์ช่วยดึงผมที่อยู่ใต้น้ำให้เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นพวกเราเลยสามารถเข้ามาในเกาะได้โดยไม่ถูกจับ...สถานที่ที่เราขึ้นฝั่งเป็นแถบชายหาดที่มีป่ารกทึบมากคงไม่มีใครกล้าเข้ามาที่นี่แน่
“ไม่เป็นไรนะเซโคร?”ยูทาร์ถามพร้อมกับแตะที่ไหล่ผมเบาๆ
“อืม...ขอพักอีกแป๊บก็ดีขึ้นแล้ว”ผมตอบกลับไปพรางถอดชุดดำน้ำออก...การดำน้ำติดต่อกันหลายกิโลเมตรแต่ขึ้นมาหายใจได้แค่4ครั้งนี่ทำให้ผมรู้สึกถึงสวรรค์รำไรเลย
ผมถอดเสื้อที่เปียกน้ำวางฟาดไว้บนหินก่อนจะเตรียมถอดกางเกงแต่ก็ต้องชะงักเมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนมองอยู่และคนที่สามารถมองได้ก็มีแค่คนเดียว...
“มองอะไรยูทาร์?”
“...อ่อ...ไม่มี...อะไร...”คำตอบติดขัดของอีกฝ่ายทำให้ผมเดินเข้าไปหาก่อนจะพบว่าหน้าของยูทาร์ตอนนี้แดงเถือกเลย
“หน้าแดงมากเลย...เป็นไข้รึเปล่า?”ผมถามอย่างเป็นห่วงแล้วยกมือขึ้นแตะหน้าผากเพื่อวัดไข้แต่ยูทาร์กลับหันหลังให้ผมแทน
“ยูทาร์”
“...ไม่มีอะไรจริงๆ...ผมก็แค่รู้สึกแปลกๆเท่านั้น”
“แปลกๆยังไง?”ผมเดินตามไปแล้วถามต่อ...
ถ้ายูทาร์ไม่สบายมากผมคงต้องยิงพลุแดงเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ก็...ไม่รู้...แต่เห็นเซโครถอดเสื้อแล้ว...”
“แล้วอะไร?”ผมเร่งอีกฝ่าย
ผมถอดเสื้อแล้ว?
“...หัวใจสั่นๆ...เต้นแรงน่ะ...แล้วก็...”
“...”ผมถึงกับยืนนิ่งเมื่อได้ยินคำพูดของยูทาร์
อาการแบบนั้นมัน...
“...แล้วก็อยากสัมผัสผิวของเซโคร...”
ผั๊วะ!
ไม่ต้องรอให้พูดมากไปกว่านี้ผมรีบจัดการชกไหล่ของยูทาร์แรงๆพร้อมกับเดินกลับมาที่เดิมอย่างรวดเร็วโดยไม่สนเสียงร้องและเสียงถามว่าทำตนทำไม
“เซโครตีผมทำไมเนี่ย?”ยูทาร์เดินมาหาด้วยคำถามเดิมที่ไม่อยากได้ยิน
“มันควรตีไหมล่ะไดโนเสาร์ลามกนี่!”ผมหันกลับไปตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายเสียงดัง
คำพูดพวกนั้นกล้าพูดออกมาได้ยังไง....ไม่รู้รึไงว่าคนที่ได้ยินมันเขินกว่าคนพูดอีก
ยูทาร์กำลังจะมีอารมณ์...สิ่งที่คิดมันถูกใช่ไหม?
ไม่รู้ว่าตัวเองควรเขินหรือดีใจที่อีกฝ่ายมีอารมณ์กับร่างกายตนแบบนี้
“ลามก?...แปลว่าอะไรเหรอเซโคร?”ยูทาร์ถามขึ้นแล้วจ้องมาด้วยความอยากรู้
นี่ผมต้องบอกความหมายของคำคำนั้นจริงๆงั้นเหรอ?
“...ก็การมามองร่างกายคนอื่นแบบนั้นก็เข้าข่ายคำว่าลามกแล้ว”ผมพยายามที่จะคิดคำอธิบายแต่ก็ได้แค่นี้จริงๆ
“ไม่เห็นเข้าใจเลย”
“ถ้าอยากรู้ก็ไปเปิดพจนานุกรมดูไป!!”ผมตะโกนบอกอีกฝ่ายแล้วหันหน้าหนีเพื่อซ่อนใบหน้าที่เริ่มแดงของตัวเอง
“...เขินอะไรน่ะเซโคร?”ยูทาร์ถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น
“ใครเขินกัน”ยูทาร์รู้ได้ยังไงว่าผมเขินเนี่ย
“หน้าแดงแจ๋เลย”คำพูดมาพร้อมกับสัมผัสที่ไหล่แล้วหันผมให้เผชิญหน้าตรงๆกับยูทาร์ที่ใช้ดวงตาสีเหลืองอำพันนั่นจ้องมา
“ก็อย่าดูสิ”ผมแทบเอามือปิดหน้าไม่ทันเลยล่ะ
“อยากดูนี่...เซโครน่ารัก”
“เลิกพูดได้แล้ว...นี่เรามาทำงานนะ”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะทนกับความเขินไม่ไหว
“ก็ได้ๆ...แล้วเราจะเอายังไงต่อล่ะ?”การที่ยูทาร์ยอมเปลี่ยนเรื่องโดยดีทำให้ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก
การที่เราคบกันแบบนี้ก็คงต้องมีสักวันที่เราต้องมีเซ็กด้วยกันแต่ผมก็ไม่อยากเป็นฝ่ายรับหรอกนะแต่จะให้ยูทาร์เป็นฝ่ายรับมันก็ใช่ที่...
ความสุขของการที่อยู่ด้วยกันไม่จำเป็นต้องมีเซ็กเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน...เท่าที่อยู่กับยูทาร์ไม่เคยมีสักครั้งที่จะดูเหมือนมีอารมณ์หรือต้องการจะปลดปล่อย
ยีนของไดโนเสาร์ที่อยู่ในร่างอาจทำให้อารมณ์ทางเพศมีค่อนข้างต่ำ นั่นหมายถึงเวลาปกติ...ถ้าเมื่อไหร่ที่ถึงฤดูผสมพันธุ์งานคงเข้าผมแน่ๆ
ขออย่าให้ถึงช่วงนั้นเร็วเลยละกัน...อย่างน้อยผมก็ขอฟิตร่างกายไว้ต่อกรกับยูทาร์เผื่อจะสามารถเปลี่ยนฝ่ายได้ถึงจะไม่ง่ายและแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลยก็เถอะ
แล้วทำไมอยู่ๆในหัวผมถึงต้องมาคิดเรื่องพวกนี้เตรียมไว้ด้วยล่ะเนี่ย?
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะแล้วค่อยเข้าไปในป่ากัน”ผมตอบยูทาร์แล้วเดินไปเปิดกระเป๋าที่หิ้วมาด้วย...ถึงจะอยู่ในเขตร้อนแต่การทำงานในป่าจำเป็นต้องใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเพื่อจะได้สะดวกในการเคลื่อนที่
พอพวกเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เป็นหน้าที่ของยูทาร์ที่จะใช้จมูกดมหากลิ่นของมนุษย์และไดโนเสาร์ที่อยู่บนเกาะนี่ที่ไหนสักแห่ง...จากแผนที่ที่ได้มามีหลายจุดที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มของพวกลักลอบค้าไดโนเสาร์
บนเกาะนี้จากที่รายงานมาเห็นว่ามีไดโนเสาร์ถูกเอามาปล่อยอยู่หลายสายพันธุ์และพวกมันคงแพร่พันธุ์โดยธรรมชาติจนมีคนโลภมากคิดเรื่องการลักลอบค้าไดโนเสาร์ขึ้นมาได้
“มีกลิ่นไดโนเสาร์ทั่วไปหมดเลยแต่เป็นกลิ่นจางๆ”ยูทาร์หันมาบอกแล้วเริ่มหันหัวไปซ้ายทีขวาทีเหมือนกำลังลังเลว่าจะเดินต่อไปทางไหนดี
“ไปทางซ้าย”ผมตัดสินใจให้
“ทำไมเป็นทางนั้นล่ะ?”
“จากแผนที่ทางซ้ายมีโอกาสที่จะเป็นลังของพวกลักลอบมากกว่า”ผมอธิบายพร้อมกับเดินนำไปทางซ้ายทันที
“ให้ผมนำสิเซโครเผื่อมีอันตรายอะไร”ยูทาร์ไม่ปล่อยให้ผมนำหน้านานนัก ร่างของผมถูกดันไปด้านหลังพร้อมกับเจ้าของคำพูดที่เดินนำไปแทน
“จะห่วงอะไรนักยูทาร์...ผมมีประสบการณ์เดินป่ามากกว่านายอีกนะ”ผมส่ายหัวเบาๆแล้วเริ่มตามแผ่นหลังคนด้านหน้าไป
“แปลกเหรอถ้าผมจะห่วงคนที่รักน่ะ?”ยูทาร์หยุดนิ่งพร้อมกับหันมาถามด้วยใบหน้าจริงจังจนผมต้องถอนหายใจแล้วคลียิ้มส่งไปให้บางๆ
“ไม่แปลกหรอก...แต่ผมก็ไม่อยากเป็นฝ่ายที่ถูกปกป้องตลอดเวลาหรอกนะ...ยูทาร์ก็รู้ว่าผมไม่ได้อ่อนแอและตอนนี้เราเป็นคู่หูกันถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นพวกเราต้องฝ่าไปด้วยกันไม่ใช่ให้ยูทาร์ปกป้องแล้วผมวิ่งหนีไป...เข้าใจนะ”
“...เข้าใจแล้ว”ยูทาร์ตอบรับเสียงอ่อย
“ดีมาก...งั้นไปต่อเลย”
เมื่อตกลงกันได้พวกเราก็เดินหน้าต่อโดยที่ช่วยกันระวัง...การเดินทางผ่านป่ารกทึบนี่เป็นสิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบนักเพราะนอกจากวิสัยทัศน์จะค่อนข้างแย่แล้วยังเดินลำบากอีก พื้นที่ลื่นเหมือนเป็นดินเหนียวทำให้การลบรอยเท้าทำได้ลำบากขึ้นนิดหน่อย
วันแรกในการเดินทางเราพักกันบนต้นไม้ใหญ่เพื่อป้องกันสัตว์ที่จะเข้ามารวมทั้งพวกลักลอบด้วย...พอเข้าวันที่สองพวกเราก็เริ่มเดินทางกันแต่เช้าระหว่างทางเจอทั้งงูหลามและจระเข้แต่พอถูกยูทาร์จ้องตากลับก็รีบหนีกันเป็นไปหมดเล่นเอาผมกลั้นขำซะท้องแข็งเลย
“ได้กลิ่นมนุษย์จากด้านนั้น”ยูทาร์บอกพร้อมกับชี้ไปด้านที่ได้กลิ่น
“แล้วไดโนเสาร์ล่ะ?”
“อยู่ใกล้ๆ...เหมือนจะมีหลายสายพันธุ์ด้วย”
“งั้นนำไปหาพวกไดโนเสาร์ก่อน”
“ได้”ยูทาร์พยักหน้าแล้วเริ่มออกเดินต่อ...ภาพของป่าที่เห็นจนติดตาเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเห็นหลังคาของสิ่งก่อสร้างจากไกลๆ จากที่คาดการณ์น่าจะใหญ่พอสมควรด้วย...
และก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ถูกตั้งอยู่กลางป่าทึบโดยมีรั้วล้อมรอบไว้หลายชั้น...เท่าที่มองเห็นก็มี3ชั้นได้ ชั้นแรกเป็นการทำรั้วแบบลวกๆโดยใช้เส้นลวดที่มีหนามขึงไว้รอบๆเท่านั้น...ชั้นต่อมาคาดว่าจะเป็นรั้วที่มีกระแสไฟฟ้าถูกปล่อยให้ไหลไปรอบและชั้นสุดท้ายเป็นกำแพงเหล็กที่ค่อนข้างสูงและหนาพอสมควรมีไว้ป้องกันไดโนเสาร์ที่คิดจะวิ่งเข้าชนแน่นอน
“ถ้าไม่ฝ่าเข้าไปทั้ง3ด่านก็คงเข้าข้างในไม่ได้สินะ”ผมพึมพำก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างนึกสนุก...คนที่อยู่ในกำแพงนั่นเป็นพวกมีสมองและมีการวางแผนอย่างดีแปลว่าภายในกำแพงนั่นต้องมีคนรออยู่ไม่ต่ำกว่า50คนแน่
“เอายังไงดี?”
“ขอคิดแป๊บนึง...”ผมบอกแล้วพยายามนึกว่าจะเอายังไงดีการจะบุกเข้าไปตรงๆก็ดูจะเสี่ยงเกินไปถึงจะให้ยูทาร์กลายร่างแต่อีกฝ่ายคงมีอาวุธครบมือซึ่งอาจทำให้ยูทาร์เป็นอันตรายได้
แต่ถ้าจะให้ลอบเข้าไปก็เสี่ยงกว่าเดิมเพราะคงไม่มีทางผ่านกระแสไฟฟ้านั่นเข้าไปได้แน่...
ทางเดียวที่คิดได้คือต้องรอให้ประตูหน้าเปิดแล้วแอบเข้าไปซึ่งมันค่อยข้างเสี่ยงและแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝ่ายพวกยามที่ตรวจอยู่ด้านในแถมเรายังไม่รู้ว่าจะมีรถเข้ามาอีกเมื่อไหร่ถ้าต้องรออีกเป็นอาทิตย์ก็ไหวเหมือนกัน
“เซโครได้กลิ่นไดโนเสาร์อยู่อีกฝั่งนึง”
“ในกำแพงนั่นเหรอ?”หันไปถาม
“ไม่ใช่...อยู่นอกกำแพงแต่อีกฝั่งนึง...กลิ่นเหมือนกันตัวที่อยู่ข้างในด้วย”
“พวกของไดโนเสาร์ที่ถูกจับ...”ผมพึมพำก่อนจะอมยิ้มเมื่อคิดแผนดีๆออกแล้ว
แผนนี้คงจะเป็นแผนที่บ้าบิ่นจนมนุษย์ปกติไม่มีทางคิดออกและไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะทำด้วย...แต่ผมมีคู่หูที่สามารถทำให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้อย่างยูทาร์อยู่ตรงนี้แล้ว
“ยูทาร์จำกลิ่นไดโนเสาร์ที่ถูกจับอยู่ข้างในนั้นได้หมดไหม?”
“ไม่หมด...ขอเวลาอีกเดี๋ยวก็คงจำได้”ผมพยักหน้าตอบแล้วให้เวลากับอีกฝ่ายในการจำกลิ่น
“...จำได้หมดแล้ว”ไม่นานนักยูทาร์ก็พูดขึ้น
“มีทั้งหมดกี่สายพันธุ์รู้ไหม?”
“...6สายพันธุ์”
“โอเค...งั้นเราไปหาไดโนเสาร์ที่อยู่อีกฝากกันดีกว่า”ผมบอกพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเตรียมออกเดิน
“เซโครคิดจะทำอะไร?”
“ผมอยากได้ไดโนเสาร์พวกนั้นเป็นพวกเพื่อการนั้นพวกเราต้องคุยกับพวกเขาให้รู้เรื่อง”เซโครบอกสิ่งที่คิดให้ยูทาร์ฟัง
“เข้าใจแล้ว...เดี๋ยวผมคุยให้เอง”ยูทาร์พยักหน้าแล้วเดินนำออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อผมคว้าแขนของอีกฝ่ายไว้แน่นจนคนด้านหน้าต้องหันมามองอย่างงงๆ
“เราจะคุยกับพวกเขาด้วยกัน”ผมย้ำเสียงนิ่ง...การที่ให้ยูทาร์ไปจัดการก็ไม่ต่างกับผมเป็นคนออกคำสั่งโดยไม่ต้องลงแรงเลยน่ะสิ
“ก็ได้...เราจะไปคุยด้วยกัน”ยูทาร์ยอมแล้วดึงมือผมไปกุมไว้ก่อนจะเริ่มออกเดินอีกครั้งนึง
สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มากทำให้พวกเราใช้เวลาสักพักกว่าจะเดินมาถึงจุดที่มีกลิ่นไดโนเสาร์...ไดโนเสาร์ที่ควรอยู่กลับหายไปซะแล้ว
สงสัยเรามาช้าไปพวกเขาคงพึ่งกลับเข้าไปในป่าได้ไม่นาน
“ทางนั้นเซโคร”ยูทาร์บอกแล้วดึงผมให้วิ่งตามเข้าไปในป่าทึบ...ที่ทางที่ไม่ค่อยดีทำให้ผมแทบไม่ได้มองด้านหน้าเลยเพราะมียูทาร์คอยนำให้ สิ่งที่ต้องสนใจคือพวกกิ่งไม้ที่อยู่บนพื้นตามทางที่วิ่งผ่านต่างหากถ้าหลบไม่ดีคงไม่มีเจ็บแน่
“พวกเขามาแล้ว...”
“ห๊ะ?...อะไรมา?”
ฝุบ!
ยังไม่ทันได้รับคำตอบเงาของสิ่งมีชีวิตบางอย่างก็โผล่เข้ามาในสายตาก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว...เสียงฝีเท้าที่ได้ยินทำให้รู้ได้ในทันทีว่าไม่ได้มีแค่ตัวเดียว จากที่เห็นผมยังไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าเป็นพันธุ์อะไรแต่ไม่ใช่พวกกินพืชแน่นอน...
งานเข้าแล้วไหมล่ะ
จะให้ยูทาร์กลายร่างตอนนี้เสียงคำรามจากการต่อสู้ต้องทำให้พวกที่อยู่ด้านในนั่นรู้ตัวและอาจส่งคนออกมาดูได้
“...กรรร...”ยูทาร์หยุดวิ่งพร้อมกับส่งเสียงคำรามต่ำในลำคอพร้อมกับใช้ตัวป้องกันผมไว้
กรรรร!!
เสียงคำรามตอบกลับดังลั่นอย่างพร้อมเพรียงแล้วโผล่หน้าออกมาจากต้นไม้ที่หลบซ่อนตัวอยู่...ร่างของไดโนเสาร์ขนาดเท่ามนุษย์เดินออกมา4ตัวแล้วเดินวนรอบๆผมและยูทาร์
“ไดโนนีคัส...”ผมพึมพำออกมาเมื่อเห็นกรงเล็บที่ยื่นออกมาจากขาหน้านั่น
ไม่รู้ว่าจะเรียกข่าวดีหรือข่าวร้ายดีที่หนึ่งในไดโนเสาร์ที่อยากให้มาเป็นพวกคือไดโนนีคัส...มันคงเป็นข่าวดีที่สุดที่ได้ไดโนเสาร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักล่าแห่งยุคจูราสสิกกลายมาเป็นพวกเดียวกันและมันคงเป็นข่าวร้ายที่สุดเช่นกันถ้าพวกเขาไม่เล่นด้วย ถึงจะเป็นไดโนเสาร์ขนาดเล็กแต่มีทั้งความเร็วและพลังที่มากมายจนนักล่าตัวใหญ่ๆยังต้องเกรงใจ
“รู้จักเหรอเซโคร?”ยูทาร์กระซิบถาม
“รู้สิ...ไดโนนีคัสหรือเครื่องจักรสังหารแห่งยุคครีเตเชียสมีแรงกัดที่ทรงพลังยิ่งกว่าจระเข้และความเร็วที่มากที่สุดตัวหนึ่งในตระกูลโดรมีโอซอร์...รวมทั้งมีกรงเล็บยาวกว่า3นิ้ว!...ชอบล่าเหยื่อเป็นฝูงเหมือนหมาป่า”ผมอธิบายให้ยูทาร์ฟังพร้อมกับพยายามหาทางรอดว่าจะเอายังไงดี
กรรร!!
เสียงคำรามดังขึ้นในจังหวะเดียวกับที่ส่วนหัวของพวกมันขยับเข้ามาใกล้พร้อมอ้าปากที่เต็มไปด้วยฟันอันแหลมคมออก...ยูทาร์เองก็ไม่ยอมแพ้เริ่มขู่กลับไปเช่นกันถึงจะทำให้พวกมันผงะได้แต่ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
การที่พวกมันไม่กลัวยูทาร์ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ผิดปกติเพราะในตัวของยูทาร์มียีนของนักล่าถึง4สายพันธุ์ที่เรียกว่าเป็นสุดยอดของเหล่าไดโนเสาร์...แปลว่าไม่ใช่ไม่กลัวแต่ไม่มีทางเลือกนอกจากสู้
การเคลื่อนไหวที่ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล...
สาเหตุที่ไปอยู่แถวๆรั้ว...
กลิ่นเดียวกันกับไดโนเสาร์ที่ถูกจับ...
หรือว่า...
“หัวหน้าของพวกนายถูกจับไปใช่ไหม?”ผมถามขึ้นแล้วมองไปยังไดโนนีคัสทั้ง4ตัวที่ชะงักไปเพราะได้ยินคำพูดผม
นั่นทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าพวกมันเข้าใจสิ่งที่ผมพูด
“พวกเราจะเข้าไปด้านในที่มีหัวหน้าของพวกนายถูกจับอยู่และพวกเราต้องการกำลังของพวกนาย...ช่วยพวกเราหน่อยได้ไหม?”ผมก้าวออกไปข้างหน้าพร้อมกับมองไปที่ฝูงไดโนนีคัสตรงหน้า
“เซโคร...”
“บอกพวกเขาหน่อยสิยูทาร์ว่าพวกเราจะช่วยหัวหน้าของพวกเขา”ผมบอกโดยที่ยังไม่ละสายตาจากไดโนนีคัสตรงหน้า...การที่ให้ยูทาร์บอกก็เพื่อจะได้สื่อสารได้ตรงกัน
“...กรรร...”
กรรร!!
เสียงคำรามเปลี่ยนเป็นเสียงครางต่ำยูทาร์และฝูงไดโนนีคัสกำลังส่งเสียงคุยกันก่อนที่ทั้ง4ตัวจะไปรวมตัวกันหน้ายูทาร์ ท่าทางที่สงบลงทำให้ผมมั่นใจว่าทุกอย่างจะไปได้สวย
“...พวกเขาบอกว่าจะช่วยเรา”ผ่านไปสักพักยูทาร์ก็บอกคำตอบที่น่ายินดีแก่ผม
“เยี่ยมเลย...บอกพวกเขาว่าเราต้องการกำลังเพิ่มอีก...เหล่าพรรคพวกของไดโนเสาร์ที่ถูกจับเราจะรวมพวกเขาให้หมด!”
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางไปรวมไดโนเสาร์อีก5ชนิดที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้จนได้มาครบ...เป็นภาพที่ควรเก็บบันทึกไว้ในรอบปีที่มีไดโนเสาร์กว่า5สายพันธุ์มารวมตัวกันทั้งสายพันธุ์กินเนื้อและกินพืชโดยที่ไม่เกิดการต่อสู้ขึ้นและที่น่าแปลกคือมีมนุษย์ซึ่งก็คือผมและยูทาร์เป็นคนนำขบวน...
อยากจะหยิบกล้องมาเซลฟี่จริงๆเลย
ไดโนเสาร์ที่เรารวบรวมได้นอกจากไดโนนีคัสแล้วก็มีเดสมาโทซูคัส...เป็นไดโนเสาร์ที่เกิดในยุคแรกมีรูปร่างที่ดูดุร้ายเหมือนจระเข้แต่ความจริงแล้วเป็นสัตว์กินพืช...มีหนามเรียงปกคลุมอยู่ทั่วทั้งหลังโดยหมานที่ใหญ่ที่สุดอยู่บริเวณหัวไหล่
ไดโนเสาร์ตัวต่อมาคือคอดิปเทอริกซ์...ไดโนเสาร์ขนาดเล็กที่มีรูปร่างคล้ายนกเป็นไดโนเสาร์ที่กินทั้งพืชและสัตว์ ไหนๆก็พูดถึงไดโนเสาร์ที่คล้ายนกแล้วตัวต่อไปเรียกว่าตัวเล็กกว่านกบางสายพันธุ์อีก...นั่นคืออิพิเดนโดรซอรัส...ความโดดเด่นของไดโนเสาร์ชนิดนี้อยู่ที่นิ้วกลางของมันที่ยาวมากโดยมีความยาวมากกว่านิ้วอีกสองนิ้วรวมกันเสียอีกนักวิทยาศาสตร์คิดว่าพวกมันน่าจะหากินบนต้นไม้และใช้นิ้วกลางที่ยาวเป็นพิเศษนี้แหย่เข้าไปในรูบนต้นไม้เพื่อเกี่ยวตัวหนอนและแมลงออกมากิน อิพิเดนโดรซอรัสมีขนาดเท่ากับนกกระจอกเป็นไดโนเสาร์ที่ตัวเล็กที่สุดในโลก
สายพันธุ์ต่อมาคงจะคุ้นหูใครหลายคนนั่นคือ...เวโลซีแรพเตอร์เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ฉลาดและว่องไวมีการออกล่าเหยื่อเป็นกลุ่มเหมือนหมาป่า อาวุธคือเล็บเท้าแหลมคมเหมือนใบมีดที่พับเก็บได้และฟันที่แสนคมกริบ
และมากันที่สายพันธุ์สุดท้ายคือคอมซอกนาทัสเป็นไดโนเสาร์เทอโรพอดมีลำตัวยาวประมาณ70เซนติเมตรและมีน้ำหนักเพียง3กิโลกรัมพวกมันล่าสัตว์ตัวเล็กอย่างแมลงหรือหนูเป็นอาหาร
สรุปง่ายๆว่าไดโนเสาร์ส่วนมากที่ถูกจับเป็นไดโนเสาร์ขนาดกลางจนถึงขนาดเล็กเพื่อให้ง่ายต่อการขนย้ายและผ่านด่านต่างๆ...จากที่ฟังยูทาร์บอกมาเห็นว่ายอมร่วมมือด้วยถ้าได้พวกของตัวเองคืนและต้องสัญญาว่าจะไม่กินกันเองระหว่างการต่อสู้
ว่าก็ว่าเถอะ...ไดโนเสาร์บางสายพันธุ์ที่เรียกมาไม่ใช่สายต่อสู้แต่ก็ยังพอจะให้ช่วยก่อกวนได้
ตอนนี้พวกเรารวมตัวกันอยู่ห่างจากฐานของพวกลักลอบอยู่พอสมควรเพื่อบอกแผนการให้ฟังจะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด...ช่วงกลางคืนเป็นช่วงที่เหมาะในการลงมือมากที่สุดเพราะมนุษย์ไม่มารถมองเห็นในที่มืดได้ดีเท่าไดโนเสาร์
“แผนการของพวกเราจะเป็นแบบนี้นะ...ตอนแรกจะให้ยูทาร์วิ่งชนจนประตูเปิดออกจากนั้นพวกที่เหลือก็วิ่งเข้าตะลุมบอลจัดการคนที่เฝ้าอยู่ให้หมดแต่ถ้าไม่ฆ่าได้จะดีมาก...ผมจะให้พวกไนโดนีคัสจัดการกับไฟที่ส่องสว่างอยู่ให้เรียบเราจะได้ได้เปรียบในการต่อสู้มากขึ้น...”ผมค่อยๆอธิบายแผนการให้ฟังโดยที่เหล่าไดโนเสาร์กว่า20ตัวก็ตั้งใจฟังโดยไม่มีการเสียงดังสักนิด
น่ารักกว่าสอนเด็กอนุบาลอีก!
(มีต่อคะ)
-
(ต่อคะ)
“ส่วนเรื่องช่วยพรรคพวกของทุกคนผมจะจัดการเอง...ขอแค่ช่วยถ่วงเวลาจนกว่าผมจะจัดการทุกอย่างเสร็จก็พอ...แต่ด้วยความสามรถของพวกนายคงจัดการเสร็จได้ไม่ยากหรอกใช่ไหม?”พอพูดจบผมก็มองไปยังไดโนเสาร์ที่อยู่รอบๆ
งื๊ดดด!
กรรร!
เสียงครางดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงทำให้ผมพยักหน้าเบาๆอย่างพอใจที่สุด
เยี่ยม...มันเยี่ยมมากเวลาที่ไดโนเสาร์ฟังเราแบบนี้!
สุดยอดไปเลย!
“พวกเขาถามว่าต้องเข้าไปจัดการพวกที่อยู่ข้างในตึกไหม?”ยูทาร์หันมาถามผม
“ถ้าได้จะขอบคุณมากเลย”ยังไงสุดท้ายผมก็ต้องจับกุมทุกคนที่อยู่ที่นี่อยู่ดีถ้าจะช่วยเบาแรงผมจะดีใจมากเลย
“งั้นก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า...ยูทาร์”
“ได้...ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเรียกผมนะ”ยูทาร์บอกด้วยความเป็นห่วง
“แน่นอน”
กรรร!!
ยูทาร์คำรามเสียงดังพร้อมกลับร่างไดโนเสาร์ตามเดิม ด้วยร่างที่สูงกว่า8เมตรทำให้เหล่าไดโนเสาร์พันธุ์เล็กดูเล็กลงไปอีก...อิพิเดนโดรซอรัสและคอมซอกนาทัสกระโดนขึ้นไปเกาะตามหนามกลางหลังของยูทาร์เพื่อเป็นที่ยึกเกาะโดยที่ฝูงไดโนนีคัสและเวโลซีแรพเตอร์ต่างก็เตรียมตัวที่จะวิ่งไปล่าเหยื่อ
“ไปเลยยูทาร์!”เมื่อผมให้สัญญาณฝูงไดโนเสาร์โดยมีแกนนำเป็นไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่สูงกว่า8เมตรก็วิ่งตรงเข้าไปกระแทกประตูทางเข้าที่ถูกสร้างด้วยเหล็กหนาด้วยแรงอันมหาศาลจนประตูถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย!...ไดโนเสาร์บุก!...อ๊ากก!!...”เสียงกรีดร้องค่อยๆดังขึ้นตามมาก่อนที่ไฟที่เปิดสว่างอยู่จะดับลงยิ่งสร้างความกลหนให้กับมนุษย์ที่อยู่ด้านในมากขึ้นไปอีก
เซโครใช้จังหวะที่ไม่มีใครสนใจวิ่งเข้าไปด้านในพร้อมกับวิ่งลัดไปทางด้านข้างเพื่อจะไปปล่อยเหล่าไดโนเสาร์ที่ถูกจับไว้แต่ยิ่งเข้ามาลึกก็ยิ่งเจอแต่ความมืด พอรู้ตัวอีกที่ก็หลงทางซะแล้ว
“ซวยแล้วสิ...”เอาไงดี?
งื๊ดด~
เสียงครางเล็กๆดังขึ้นพร้อมกับแรงจิกที่ขาทำให้ผมก้มหน้าลงไปมองก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเจอคอมซอกนาทัสตัวนึงที่ตามมาด้วย...
“นายจะพาผมไปใช่ไหม?”ผมนั่งลงแล้วถามอีกฝ่าย
งื๊ดด!
อีกฝ่ายครางเสียงสูงพร้อมกับกระโดดขึ้นมาบนไหนผมแล้วใช้หางสะบัดไปมาอย่างน่ารัก
“ไปทางนั้นเหรอ?”ผมถามและคำตอบที่ได้กลับมาคือเสียงครางเบาๆ
เซโครไม่รอช้าที่จะวิ่งไปตามทางที่คอมซอกนาทัสบอก ใช้เวลาสักพักก็มาถึงโกดังขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง...ด้านหน้าโกดังมีคนเฝ้าอยู่4คนแถมยังถือปืนด้วย
อีกฝ่ายมีปืนผมก็ควรมีบ้างสินะ?
เมื่อคิดได้ผมก็คว้าปืนที่เหน็บไว้ตรงเอวออกมา...ปืนขนาดกลางที่มีน้ำหนักเบาเหมาะสำหรับการพกพาที่สุดแต่ข้อเสียของปืนนี้คือมีกระสุนแค่8นัดซึ่งมากพอที่จะจัดการกับยามทั้ง4คนแต่ผมบอกแล้วว่าถ้าไม่จำเป็นจะไม่ฆ่าใครเลยเล็งไปที่มือของคนที่ยืนเรียงอยู่หน้าโกดังแทน
ปัง!
ทันทีที่ยิงนัดแรกออกไปนัดต่อไปก็ตามขึ้นติดๆจนได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของคนเฝ้าทั้ง4ดังขึ้นพร้อมกับทรุดตัวลงบนพื้น...นั่นเป็นโอกาสที่ผมจะวิ่งเข้าไปใกล้พวกเขาและจัดการทำให้สลบซะ
ไม่ถึง5นาทีผมก็ควบคุมสถานการณ์ได้สำเร็จแต่พอค้นตัวยามทั้ง4คนกลับไม่เจอกุญแจโกดังเลย...นั่นทำให้ผมชักเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีแล้วสิ
“หากุญแจนี่อยู่เหรอหนุ่มน้อย?”เสียงแหบคนผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น พอหันไปก็ต้องข่มใจเอาไว้เมื่อเจอชายอายุมากคนนึงยืนอยู่หน้าเหล่าลูกน้องนับสิบที่เล็งปืนมาทางนี้
สังหรณ์ผมก็แม่นซะจริงๆเลยนะ!
“ใช่...คุณจะให้ผมเหรอ?”ผมยังทำหน้านิ่งอยู่ทั้งที่ในใจกลับร้อนรนจนแทบคิดอะไรไม่ออก
กระสุนเหลือ4นัดกับคนอีกเป็นสิบ...ถ้าจะเข้าไปจับตัวหัวหน้ามาเป็นตัวประกันก็คงไม่ง่ายด้วยสิ
“หึ...ใจกล้าดีนี่...ฉันไม่รู้ว่าเธอทำยังไงถึงทำให้ไดโนเสาร์พวกนั้นมารวมตัวกันแต่จบแล้วล่ะ...มีแค่โกดังนี่เท่านั้นที่ฉันจะไม่ยอมให้ใครได้แตะ!!”ชายตรงหน้าตะหวาดเสียงดังพร้อมกับยกกระบอกปืนสีดำขึ้นมาเล็งที่หัวผม
“งั้นคุณจะยิงผมทิ้งใช่ไหม?”
“เธอคิดจะถามเพื่อถ่วงเวลาสินะ...เสียใจด้วยที่ฉันไม่มีเวลามาคุยกับเธอแล้ว”ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรีบไปทำธุระน่าดูแฮะ
ตึงง!
เสียงกระแทกของอะไรบางอย่างภายในโกดังทำให้ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียว นั่นทำให้ผมได้จังหวะวิ่งไปหลบที่ด้านข้างของโกดังท่ามกลางเสียงปืนที่ยิงไล่มา
“แกหนีไม่พ้นหรอก!”
ตึงงง!!
เสียงกระแทกที่แรงขึ้นทำให้ผมต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นข้างในกันแน่
งื๊ดด!
เสียงร้องงเบาๆทำให้ผมก้มลงไปมองด้านล่างก่อนจะพบกับคอมซอกนาทัสตัวเดิมที่ไม่เหมือนเดิมเพราะพ่วงมาด้วยอิพิเดนโดรซอรัสอีกตัว
“พวกนายทำอะไรรึเปล่า?”ผมถามอย่างสงสัยแต่ถ้าได้คำตอบมาผมก็คงวิ่งหนีคนแรก
ไม่มีคำตอบกลับมาแต่อิพิเดนโดรซอรัสยกมือที่มีเนิ้วและเย็บที่ยาวขึ้นให้ดู...ปลายเล็บของอิพิเดนโดรซอรัสหักเล็กน้อยเหมือนไปทำอะไรมา...
หื้อ?
“อย่าบอกนะว่าพวกเธอไปเปิดกรงมาน่ะ?”ผมรีบถามขึ้นทันทีที่นึกออก
งื๊ดด!
ฉลาดเกินแล้วไดโนเสาร์พวกนี้!
แปลว่าถ้าพังกลอนได้ทุกอย่างก็จะจบ...เมื่อรู้แบบนั้นผมเลยเล็งปืนไปที่แม่กุญแจที่อยู่ด้านหน้าโกดังก่อนจะยิงกระสุนที่เหลือจนหมดพร้อมกับแรงกระแทกจากภายในที่ทำให้ประตูโกดังอ้าออกจนเกิดเสียงดังลั่น
กรรร!!
เสียงขู่คำรามของเดสมาโทซูคัสดังขึ้นก่อนจะตามด้วยหัวหน้าของไดโนนีคัสที่พุ่งเข้าใส่ชายแก่ที่เบิกตากว้างอยู่ไม่ไกล...เสียงร้องโหยหวนทำให้ผมหลับตาลงเพราะคงช่วยไม่ทันแน่ๆ
กรรร!!
เป็นอีกครั้งที่เสียงคำรามที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับฝูงไดโนเสาร์ที่วิ่งเข้ามาตะรุมบอลกับคนนับสิบ...คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าใครเป็นฝ่ายชนะ?
พลุสีเขียวถูกจุดขึ้นท้องฟ้ายามราตรีในทันทีที่สถานการณ์สงบลง...เหล่าไดโนเสาร์ถูกช่วยเหลือได้สำเร็จก่อนจะแยกย้ายกันกลับป่าเหมือนเดิม
“เดี๋ยวก่อน”ผมเรียกพวกไดโนเสาร์ที่กำลังจะกลับเข้าป่า
“ถ้าอยู่ที่นี่พวกนายอาจถูกล่าอีก...อ่อ...ถ้าไม่รังเกียจผมมีที่แนะนำด้วย...ถ้าเป็นพวกนายผมจะทำเรื่องให้ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในกรง...เพราะงั้น...”พอพูดถึงตงนี้ผมก็เงยหน้าขึ้นไปมองเหล่าไดโนเสาร์ที่จ้องมาเหมือนกำลังรอฟังสิ่งที่ผมจะพูด ใช้เวลาสักพักในการรวบรวมความกล้าก่อนจะเอ่ยคำถามนั้นออกไปได้...
“ไปอยู่ด้วยกันไหม?”
.....................................................................
มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์
วันนี้ขอเสนอ2สายพันธุ์
1.ไดโนนีคัส
(http://f.ptcdn.info/565/024/000/1413479480-G124Deinon-o.jpg)
เครื่องจักรสังหารแห่งยุคครีเตเชียส ถูกทำให้สับสนจากหนัง จูราสสิค ปาร์ค ภาคแรก
เวโลซิแรปเตอร์นั้นมีขนาดเท่าสุนัขเท่านั้น นักล่าตัวจริงในจูราสซิค ปาร์ค
ควรเป็นมันมากกว่า แรงกัดที่ทรงพลังยิ่งกว่าจระเข้ ความเร็วที่มากที่สุดตัวหนึ่งในตระกูลโดรมีโอซอร์
ความสูงเท่ามนุษย์ หัวถึงหางยาวได้ ร่วม 3.4 เมตร กรงเล็บเท้ายาว 3 นิ้ว!
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : http://pantip.com/topic/32724814
2.อิพิเดนโดรซอรัส
(http://www.komkid.com/wp-content/uploads/2012/03/epidendrosaur.jpg)
ไดโนเสาร์ที่ตัวเล็กที่สุดชื่อของมันคืออิพิเดนโดรซอรัส ซากฟอสซิลของมันถูกขุดพบในจีนโดยวัดอายุได้ 160 ล้านปีซึ่งเท่ากับช่วงเวลาของยุคจูราสสิก ความโดดเด่นของไดโนเสาร์ชนิดนี้อยู่ที่นิ้วกลางของมันที่ยาวมากโดยมีความยาวมากกว่านิ้วอีกสองนิ้วรวมกันเสียอีก นักวิทยาศาสตร์คิดว่าพวกมันน่าจะหากินบนต้นไม้และใช้นิ้วกลางที่ยาวเป็นพิเศษนี้แหย่เข้าไปในรูบนต้นไม้เพื่อเกี่ยวตัวหนอนและแมลงออกมากิน อิพิเดนโดรซอรัสมีขนาดเท่ากับนกกระจอกและเป็นไดโนเสาร์ที่เล็กที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยค้นพบมา
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : http://www.komkid.com/ธรรมชาติวิทยา/ไดโนเสาร์ฉบับกระเป๋า/
...................................................................
สวัสดีคะ
ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวที่สุดตั้งแต่แต่งมา...เนื้อหาก็แน่นเอียดคอนแรกอยากจะแบ่งเป็น2ตอนแต่ถ้าแบบนั้นก็จะดูยืดเยื้อไปเลยเขียนให้อยู่ในตอนเดียวกันเลยดีกว่า
สำหรับตอนนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างแปลกเพราะเป็นการรวมตัวกันของไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ซึ่งในความเป็นจริงคงไม่สามารถทำแบบนี้ได้...อ่านตอนนี้แล้วก็อย่านึกถึงหลักความเป็นจริงเลยนะคะ
อ่านเอามันส์ดีกว่าคะ555+
มีแต่คนอยากให้ลงตอน20ก่อน...อยากเห็นเซโครเสียตัวกันมากกก
อาทิตย์หน้าสมใจแน่คะ
จะแกล้งคนอ่านโดยการลงครึ่งตอนดีไหมคะ?(โดนถีบแน่)
ยังไงก็รู้สึกสนุกที่แต่งฉากบู๊มากคะ...ไม่เคยคิดว่าจะแต่งแนวแฟนตาซีได้ขนาดนี้...ปลื้มจริงๆ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจนะคะ
สำหรับคำผิดจะทยอยแก้ให้คะ...ขอบคุณที่บอกว่าจุดไหนที่เขียนผิดนะคะ^^
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า...เหลืออีกนิดเดียวก็จะจบแล้วสิ
แอบเศร้านิดๆเหมือนกัน
บ๊ายบายคะ :bye2:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
เกือบไปแล้ววว o13
ว่าแต่เซโครจะพาพวกไดโนเสาร์ไปอยุ่ที่ไหนอ่ะเนี่ย? :mew1:
-
ถูกเหล่าไดโนเสาร์รุมเสียขนาดนั้นจะเหลือรอดพอให้จับกุมกลับไปสักคนบ้างไหมคะ
นั่น :try2:
-
ชอบไดโนเสาร์เรื่องนี้ที่สุดดดด สนุกมากก นึกถึงตอนดูจูราสสิกเลย สั่งไดโนเสาร์ได้ ชอบๆๆ
-
ตัวแก้คำผิดประตำเรื่องมาแบ๊ววววว
1.ผมตอบกลับไปพรางถอดชุดดำน้ำออก - พลางถอด
2.โอกาสที่จะเป็นลังของพวกลักลอบ - รังของพวกลักลอบ
เก็บเงินรอสำหรับหนังสือแล้วนะคะ ลุ้นมากเลยตอนนี้ อาทิตย์หน้าอย่าแกล้งกันเลยค่ะ ขอร้องจริงๆ :katai2-1:
-
อ้ากกกก สนุกสุดๆไปเลยตอนบู๊เนี่ย :heaven
-
แอร๊ยยยยยยยย
ป้ามองไดโนเสาร์กินเนื้อด้วยสายตาเหมือนเดิมไม่ได้แล้ววว
งื้ออออออออ น่ารักกันเกินไปแล๊วววววววว
ว่าแต่พวกหนูๆสนใจว่าวิ่งเล่นที่บ้านป้ามั๊ยลูกกก
บ้านป้ากว๊างงงงงกว้าง วิ่งเล่นได้สบายเลย
เซโครขาาาาา เจ้ว่ายังไงหนูก้กดยูทาร์ไม่ได้หรอกลูก
ทำใจเป็นภรรยาที่นารักของน้องยูทาร์เถอะ คึคึ
แหมมมมมม พูดซะป้าอยากเห็นช่วงฤดูผสมพันธุ์ของน้องยูทาร์เลยอ่ะ /แอร๊ยยยยย
:hao7: :hao7:
-
ไดโนเสานี่น่ารักจังงง
คนเขียนต้องทำการบ้านเยอะแน่ๆกว่าจะใส่ไดโนเสาเข้าไปในแต่ละตอน
รักนะคนเขียน คึคึ :katai2-1:
-
ลุ้นระทึกจริงๆ ว่าแต่พวกที่ลักลอบนี่เหลือชีวิตอยู่บ้างป่าวเนี่ย 5555
ได้พวกเพิ่มอีกแล้วน้า เซโคร
โอ๊ะๆๆ แล้วอาการที่ ยูทาร์ เป็นเนี่ยอีกไม่นานแล้วสินะ หึหึหึ
-
เดี๋ยวๆ เซโครชักจะเหมือนครูฝึกสุนัขเข้าไปทุกวัน
แต่.....ยูทาร์!!!! ฤดูผสมพันธุ์มารึยังงงงงงงงง
รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อเลย!!!
-
สุดยอดเลยยยยย>< คิดภาพ ไดโนเสานั่งฟังเราพูดแบบ จ้องตาแป๋ว*.* อร๊ายยยย น่ารักเกินไปแล้ว :-[
-
ฤดูผสมพันธ์ เมื่อไหร่จะติดสัดลูกกก (ไดโนเสาร์เรียกงี้ไหมเนี่ย)
-
ถ้ายูทาร์กลัวเซโครเจ็บ
ยูทาร์จะยอมเป็นรับแทนเซโครรึเปล่า...เรายังไงก็ไ--(โดนยูทาร์กัด)
:z6:
-
:pig4: :pig4:
-
ไดโนเสาร์ลามก :hao6:
-
มันง่ะ ตอนนี้ก็รอๆๆๆๆๆหนังสือ
ยูทาร์มีอารมณ์ได้มุ้งมิ้งมากกกก 5555
-
ไซโครเท่ห์ที่สุดเลยยยยยย น่ารักแถมเข้มแข็งมากด้วย สมแล้วที่เป็นผู้นำไดโนเสาร์ได้(โดยเฉพาะไดโนเสาร์อย่างยูทาร์5555555 แลดูเกรงใจว่าที่ภรรยาสุดด)
-
อยากอ่านอีกจังเลยย
-
บู๊สะใจมาก o13
ตอนหน้าแล้วสินะที่เรารอคอย :hao6:
-
5555555 ไดโนเสาร์น่ารัก
ตั้งใจฟังกันมาก
เกือบไปนะเซโคร -..- ถ้าฤดูผสมพันธุ์มาถึง 555
-
อ่านไปอ่านมาชักจะเกินจริง? ไปหน่อยนะตรงที่ไดโนเสาร์ตัวอื่นสามารถฟังที่เซโครพูดรู้เรื่องด้วย
งั้นไม่ต้องอาศัยยูทาร์ เซโครก็สื่อสารกับไดโนเสาร์ได้สิ
แต่ถ้ามองในมุมที่ว่าเป็นการสื่อสารด้วยความรู้สึกที่แสดงออกด้วยน้ำเสียง ท่าทาง ก็อาจจะพอรับได้บ้าง
โดยส่วนตัวไม่ได้ยึดถือความสมจริงหรอกนะคะ เพราะเข้าใจว่าเป็นนิยายแฟนตาซี
แค่รู้สึกแปร่งๆไปบ้าง เพราะเหมือนอ่านเจอมาหลายรอบที่ไดโนเสาร์ฟังภาษาคนจากเซโครได้เข้าใจดีเหลือเกิน
จนคิดว่าเอ๊ะ พวกเขาฉลาดกันจัง มีพัฒนาการการเรียนรู้ได้รวดเร็วจริงๆ
ไม่ได้จะติหรืออะไรนะคะ แค่อยากแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่คิดขึ้นมาทันทีที่ได้อ่าน
เรื่องนี้น่ารักดี รออ่านตอนหน้านะคะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
-
บอกเลย มองพวกกินเนื้อน่ารักไปแล้ววววววว แอร้
-
สนุกมากกกก ลุ้นสุดๆอ่ะ
อยากเลี้ยงไดโนเสาร์เลยอ่ะ
-
ตอนแรกก็ไม่คิดหรอกค่ะ แต่เห็นหลายคนพูดถึงฤดูผสมพันธุ์ขึ้นมา เลยพลอยอยากเห็นไปด้วย ตัวเค้าเองไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยจริงๆนะ เค้าไม่ได้หื่นจริงๆนะ :haun4: เซโครเหมือนครูสอนเด็ก(ที่พูดรู้เรื่องแล้ว)เลยอะ น่ารัก
-
มาแล้ว ๆ ๆ ๆ
สนุกมากค่ะ
ุุ
เรารอฤดูรักอยู่นะ
-
ลุ้นนายเอกเราให้เสียตัว แฮ่!!! :z2:
-
:hao7: :hao7: รอฤดูผสมพันธุ์นะคะ 5555555555555555555555
-
อ่านวันเดียว รวดเดียวเลยครัชช เเละก็มาค้างที่จุดนี้ อ๊ากกกก :m31: :m31: :m31: อยากอ่านต่อ ณ จุดนั้นเเล้วค่าา
-
อยากอ่านคุณลีโออ่ะ น่ารัก เห็นแต่สั่งเซโครกับยูทาร์ดีนัก :z1: :z1:
-
สนุกมากเลย
ได้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์เยอะมาก
จนอยากไปดูหนังอีกรอบเลย
-
ติดตามค่าาาาาา ชอมมากเลย :hao7:
-
เกือบไปแล้วนะเซโคร
ชวนไดโนเสาร์ไปอยู่ด้วย ระวังยูทาร์น้อยใจนะ สนใจำดโนตัวอื่นมากกว่า
-
ตอนนี้เหล่าไดโนเสาร์น่ารักกันจริงๆ ลองนึกภาพตามเซโครแล้วต้องน่ารักมากแน่ๆ
-
อ่านแล้วหลงรักเลยทีเดียว น่ารัก :mew1: :mew1:
-
กลายรักครั้งที่❧20
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนทุกอย่างก็ดูจะกลับไปเป็นปกติยกเว้นความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร...จะบอกว่าเป็นความรู้สึกที่ทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีก็ได้
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแบบนี้...
เวลาเห็นเซโครให้อาหารฝูงไดโนนีคัสที่พึ่งไปรับมาจากเกาะที่ไปทำภารกิจเมื่อคราวก่อนก็ทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก...รู้สึกไม่ชอบเวลาที่เห็นเซโครให้อาหารพร้อมกับส่งยิ้มให้พวกไดโนนีคัส
ไม่ใช่แค่พวกไดโนนีคัสเท่านั้นที่ถูกพามายังเกาะแห่งนี้แต่ยังมีคอดิปเทอริกซ์ อิพิเดนโดรซอรัสและเวโลซีแรพเตอร์ ด้วยความที่บางตัวเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่มีความน่ากลัวทำให้มีหลายคนออกมาค้านที่จะปล่อยพวกมันรวมกับไดโนเสาร์กินพืชแต่เพราะได้เซโครจัดการหลายๆอย่างในที่สุดเสียงค้านนั่นก็หายไปจนเหล่าไดโนเสาร์สามารถอยู่บนเกาะนี้ได้โดยไม่ถูกขังเหมือนตัวอื่นๆ
ผมรู้ดีว่าตัวเองเริ่มเข้าใกล้คำว่างี่เง่าเข้าไปทุกทีถ้าเข้าไปกระชากเซโครที่ยืนอยู่การฝูงไดโนเสาร์แล้วพากลับห้องเพราะงั้นเลยต้องกลั้นใจข่มอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติก่อนจะเผลอทำเรื่องแย่ๆลงไป
“ยูทาร์เป็นอะไรทำไมทำหน้าเครียดๆ”เซโครเดินเข้ามาหาพร้อมกับขยับใบหน้าเข้ามามองใกล้ๆ
กลิ่นตัวอ่อนๆที่ไม่ได้ใส่น้ำหอมกลับดึงดูดผมให้ขยับหน้าเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วจูบเบาๆที่แก้มก่อนจะไล่ลงไปที่ต้นคอขาวตรงหน้า...ผิวเนื้อนิ่มๆที่สัมผัสผ่านริมฝีปากทำให้รู้สึกถึงความนุ่มของต้นคอจนอยากจะกัดลงไปแรงๆ
และนั่นเป็นอีกครั้งที่ต้องชะงักเมื่อรู้ตัวว่าเริ่มคิดอะไรแปลกแบบนั้น...ผมรีบดันร่างของเซโครออกไปให้ห่างตัวแล้วเดินกลับไปที่รถอย่างรวดเร็วโดยที่ในหัวกำลังทบทวนอยู่ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรกันแน่
“ยูทาร์เดี๋ยวสิรอผมก่อน!”เสียงของเซโครดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้จนมาเดินเคียงผม
“ยูทาร์...”เสียงนุ่มที่ได้ยินทำให้ในอกรู้สึกแปลกๆ
อยากได้ยินเสียงมากกว่านี้...
“บ้าเอ้ย!”ผมสถบออกมาดังลั่นพร้อมกับชกเต็มแรงไปที่ต้นไม้ข้างๆจนปริแตก
“ยูทาร์เกิดอะไรขึ้น?...วันนี้...ไม่สิ...ช่วงนี้นายแปลกๆนะ”เซโครรีบเข้ามาจบมือข้างที่ผมชกต้นไม้ขึ้นมาดูทันที ดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่สั่นระริกด้วยความเป็นความห่วงทำให้สติเริ่มกลับเข้าร่าง
“ขอโทษ”ผมเอ่ยออกไปเบาๆ
“ง่วเหรอ?...หรือว่าเหนื่อย?”
“...คงเหนื่อยน่ะ”ผมตอบคนตรงหน้ากลับไป
“เพราะทำงานเยอะไปแน่นๆเลย...เดี๋ยวผมบอกว่าไม่รับงานสักอาทิตย์ดีกว่า”เซโครหันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม
รอยยิ้มของเซโครทำให้ผมคลียิ้มออกมาบางๆตาม...ผมชอบเวลาที่เซโครยิ้มมันเหมือนเป็นแหล่งพลังเวลาผมรู้สึกแย่หรือไม่ดี
“ขอบคุณ”ผมไม่มีอะไรจะบอกมากไปกว่าคำนี้แล้ว
“ยินดี...กลับกันดีกว่านี่ก็เย็นมากแล้ว”เซโครบอกแล้วดึงมือผมให้ตามไปจนถึงรถแล้วพวกเราก็เดินทางกลับห้องกัน
เซโครบอกว่าจะอาบน้ำก่อนผมเลยมานั่งรอบนเตียง...กลิ่นของเซโครที่อบอวนอยู่เต็มห้องยิ่งทำให้ความรู้สึกแปลกๆนั่นเกิดขึ้นอีกครั้งนึง
แกร็ก!
เสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้นพร้อมกับภาพที่ทำให้ผมเบิกตากว้างพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว...เซโครเดินออกมาโดยมีผ้าขนหนูพันเอวไว้เท่านั้น ผิวขาวเนียนอมชมพูและหยดน้ำที่ติดอยู่แพรวพราวนั่นทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก...
ความรู้สึกแปลกๆที่ไม่รู้จักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนควบคุมตัวเองไม่ได้ พอรู้ตัวอีกทีตัวเองก็ดันเซโครไปติดกับผนังแล้วก้มลงใช้ลิ้นเลียตั้งแต่คอขาวที่มีหยดน้ำใสเกาะอยู่ก่อนจะค่อยๆจูบลงมาตามแผ่นอกของเซโครอย่างอ้อยอิ่ง
“อ๊ะ!...ยูทาร์...ทำอะไร?...อื้ออ~...”เสียงครางที่ได้ยินยิ่งทำให้ผมจูบผิวกายตรงหน้าอย่างหลงใหลจนควบคุมตัวเองไม่ได้...
สิ่งที่รู้คืออยากได้ยินเสียงครางนั่นอีก...
อยากสัมผัสผิวกายขาวๆที่หอมยั่วยวนตรงหน้า
ยิ่งคิดก็ยิ่งกดย้ำจูบตามผิวขาวตรงหน้าหนักขึ้นจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ...เพียงแค่เห็นรอยพวกนั้นสัญชาตญาณก็เหมือนถูกปลุกขึ้นไม่ใช่แค่จูบไปตามแผ่นอกเนียนแต่ผมกำลังกัดเพื่อสร้างรอยลงบนผิวนั่น
“อื้ออ~...หยุดก่อนยูทาร์...อ๊ะ!...”เสียงค้านพร้อมกับดันตัวผมให้ออกห่างไม่ได้เข้ามาในหัวเลย ในหัวตอนนี้มีเพียงแค่อยากเห็นรอยแดงๆนี่อยู่บนตัวอีกฝ่ายเท่านั้น...
อยากจะกลืนกินเซโครไปทั้งตัว
กึก!
ความคิดนั่นทำให้ตัวผมชะงักในทันที...
นี่ผมอยากกินเซโคร?
ผมอยากจะกินคนที่ตัวเองรักงั้นเหรอ?!
“ยูทาร์...”เสียงเรียกเบาๆทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่สั่นระริกอย่างไม่เข้าใจ
“ขอโทษ...ผมขอโทษ...ขอโทษนะเซโคร”ผมซบหน้าลงที่ไหล่ของคนตรงหน้าแล้วพร่ำขอโทษในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ
“...ไม่เป็นไร...ใจเย็นๆนะ...ไปอาบน้ำเถอะเผื่อจะช่วยได้บ้าง”ยิ่งได้รับความห่วงใยมากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น
ยูทาร์เดินเข้าไปอาบน้ำโดยใช้เวลามากกว่าปกติที่เคยอาบ...น้ำเย็นๆที่ไหลผ่านตั้งแต่หัวลงไปถึงปลายเท้าช่วยให้ผมได้สติและคิดทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำลงไปกว่าจะออกมาก็น่าจะผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทั้งที่คิดว่าเซโครคงจะนอนไปก่อนแล้วแต่พอออกมาก็เจอเซโครนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงพอเห็นผมออกมาแล้วอีกฝ่ายก็ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะกวักมือให้เข้าไปหาใกล้ๆ
ผมรู้ตัวเองว่าตอนนี้ไม่ควรเข้าใกล้เซโคร...อยากจะถอยห่างแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่อรอยยิ้มและทุกๆอย่างที่เป็นเซโครจนไม่อาจปฏิเสธได้...
“ไม่ยอมเช็ดผมอีกแล้วเหรอ?...หันหลังมาสิเดี๋ยวผมเช็ดให้”สิ้นเสียงของคนบนเตียงผมก็เดินไปนั่งลงบนเตียงพร้อมกับหันหลังไปให้โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวเลยสักนิด
ผ้าขนหนูผืนขาวค่อยๆเช็ดเส้นผมสีเทาแซมส้มของผมอย่างเบามือโดยที่เซโครขยับตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนต้องเกร็งร่างกายเพราะได้กลิ่นหอมๆที่ส่งมาจากตัวของอีกฝ่าย
“วันนี้ดูไม่ค่อยพูดเลยนะ...รู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?”เมื่อเช็ดผมเสร็จเซโครก็ถามขึ้น
“ไม่เป็นไร...แค่เหนื่อยๆน่ะ”ผมยังคงยืนยันคำตอบเดิมแล้วหันไปส่งยิ้มบางๆให้
“งั้นก็นอนเร็วกันดีกว่า”เซโครไม่รอช้าพอพูดจบก็กลิ้งไปดับไฟก่อนจะดึงผมให้นอนลงบนเตียงข้างๆกัน...คนข้างกายขยับตัวเข้ามาใกล้ผมเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลงโดยหันหน้ามาทางผม
“ฝันดีนะเซโคร”ผมกระซอบบอกพร้อมกับกดจูบลงที่หน้าผาก
“ฝันดีเช่นกันยูทาร์”
ยูทาร์สอดแขนเข้าไปใต้หัวของเซโครแล้วดึงอีกฝ่ายให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตน...สองแขนของผมกอดรัดคนข้างในแน่นราวกับจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายห่างไปไหน กลิ่นกายอันหอมหวนที่สัมผัสได้ทำให้ผมเริ่มใช้จมูกซุกไซ้ที่ต้นคอคนที่หลับตาพริ้มเบาๆ
“อื้อ...”เสียงครางเหมือนรำคาญทำให้ผมเปลี่ยนจากจมูกเป็นริมฝีปากที่ก้มลงไปประทับตามแนวคอขาวครั้งแล้วครั้งเล่าเพียงแต่ความรู้สึกมันกลับบอกว่าไม่พอผมเลยเริ่มใช้ลิ้นเลียตามคออีกฝ่ายอย่างลืมตัว...
รสสัมผัสที่เหมือนถูกดูดเข้าไปให้มัวเมาทำให้ผมพลิกตัวคร่อมคนที่หลับสนิทอยู่บนเตียงแล้วจัดการเลียคอทั้งสองข้างสลับกันไปมา
แค่เลียยังไม่พอ...
อยากสัมผัสมากกว่านี้...
“อึก...”ผมพยายามข่มใจตัวเองแล้วลุกขึ้นจากเตียงไปนั่งลงตรงมุมห้องโดยที่สายตามองไปยังคนที่หลับสนิทอยู่บนเตียง
ความรู้สึกมากมายเริ่มสับสนจนปนเปกันไปหมดจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร...
นี่ผมเป็นอะไรกันแน่ถึงได้อยากสัมผัสเซโครมากขนาดนี้!
ความรู้สึกร้อนๆที่ช่วงล่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนยิ่งทำให้ผมต้องซุกตัวลงกับเข่าตัวเองพร้อมกับกำมือแน่น...หวังว่าตัวเองจะไม่เผลอทำร้ายเซโครเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้นะ
ร่างกายที่จะเป็นมนุษย์ก็ไม่ใช่ไดโนเสาร์ก็ไม่เชิงทำให้ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้มาจากเผ่าพันธุ์ไหนกันแน่...แต่ความต้องการในตัวเซโครอย่างแรงกล้านั่นผมไม่รู้ว่ามันมีความหมายเดียวกับการล่าหรือเปล่า จะให้ถามเซโครก็ไม่กล้าถ้าสิ่งที่ผมเป็นทำให้ไม่สามารถอยู่กับเซโครต่อไปได้ผมก็ยอมที่จะอดทนจนกว่าจะตายกันไปข้าง
นี่เป็นคืนแรกที่ผมนอนไม่หลับทั้งที่มีเซโครอยู่ในสายตา
นานวันเข้าร่างกายยิ่งเหมือนจะทนไม่ไหวเข้าไปทุกที...ผมทั้งหงุดหงิดและอารมณ์เสียไม่ว่ากับใครก็ตามที่เข้าใกล้เซโครแม้แต่พวกไดโนเสาร์ผมก็แทบทนไม่ได้และวันนี้มันเหมือนกับสิ่งที่อัดอั้นมาเกิดระเบิดออกจนตัวเองกลายร่างขู่คำรามใส่ฝูงไดโนเสาร์ทุกตัวที่เข้าใกล้เซโคร
เรื่องราวมันบานปลายมากขึ้นจนมีหลายหน่วยเข้ามาล้อมรอบแต่เซโครก็ประกาศเสียงดังว่าห้ามแตะต้องผม นั่นเป็นสิ่งที่ผมได้ยินก่อนที่สติจะเริ่มกลับคืนมาแล้วมองไปยังรอบกายที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์ที่นอนเกลื่อนกราดและมีแผลเป็นทางยาว...
ไม่ต้องถามเลยว่าเป็นฝีมือใคร
“ยูทาร์!!”เสียงอันคุ้นเคยเรียกชื่อผมดังลั่นพอก้มลงไปตามเสียงนั่นหัวใจมันก็รู้สึกเจ็บแปร๊บเมื่อเห็นน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยนั่น...
ผมเป็นคนทำให้เซโครร้องไห้เหรอ?
นี่ผม...เป็นอะไรไปแล้ว
กรรร!!
น้ำตานั่นทำให้ผมรู้สึกเจ็บมากจนอยากจะร้องไห้ออกมาแต่สิ่งที่ทำได้มีเพียงและส่งเสียงออกไปอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ก่อนร่างของผมจะหดเล็กลงตามเดิม...ภาพสุดท้ายที่เห็นคือเซโครที่วิ่งมาหาด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา
สัมผัสเย็นๆที่หน้าผากทำให้ยูทาร์เริ่มได้สติแล้วลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า...กลิ่นที่คุ้นทำให้รู้ได้ในทันทีว่าตอนนี้ตัวเองได้นอนอยู่บนเตียงในห้องของเซโคร
“เซโคร...”ผมเรียกชื่อของคนที่กำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดที่ลำคอสีแทนของผม
“ยูทาร์...เป็นไงบ้าง?...เจ็บตรงไหนไหม?...แล้ว...รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”เซโครถามผมด้วยน้ำเสียงร้อนรนจนผมต้องยกมือขึ้นสัมผัสที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆเพื่อให้ใจเย็นขึ้น
“ไม่เป็นไร...ผมขอโทษ...ผมทำร้ายไดโนเสาร์พวกนั้นและผมทำร้ายเซโคร”
ไม่มีข้อแก้ตัวกับสิ่งที่ทำลงไป
“ไม่ต้องคิดมากยูทาร์...พวกไดโนเสาร์ปลอดภัยดีพวกเขาแค่อยากช่วยหยุดยูทาร์เท่านั้น...ส่วนเรื่องที่ทำร้ายผม...ผมไม่ยกโทษให้หรอกนะ”เซโครบอกผมเสียงเข้ม ดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่จ้องมาดูแน่วแน่จนผมรู้สึกกลัวหน่อยๆ
“...เซโคร”
“บอกมาว่าเป็นอะไรกันแน่?...นายไม่เหมือนเดิม...หงุดหงิด...โมโหและอารมณ์ไม่คงที่...เกิดอะไรขึ้นบอกมาให้หมด เดี๋ยวนี้ด้วย!”เสียงที่ปกติฟังหวานหูกลับเข้มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็น
ถ้าไม่บอกความจริงคงไม่ได้สินะ
“ไม่รู้...”
“หมายความว่ายังไง?”เซโครถามต่อพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น
“ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร...ผมรู้สึกแปลกๆเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจนไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง”ผมบอกสิ่งที่รู้ออกไปแล้วหวังว่าอาการที่เป็นมันจะไม่ร้ายแรงมากถึงขนาดที่ต้องแยกกับเซโครหรอกนะ
“แปลก?...แปลกยังไงบอกรายละเอียดมากกว่านี้ได้ไหม?”
“...ผมคิดว่าตัวเองอยากกินเซโคร”ผมช่างใจสักพักก่อนจะบอกออกไป
“ห๊ะ?!...กินผม?”
“ไม่รู้...แต่มันคล้ายๆแบบนั้น...ผมอยากได้ยินเสียงครางของเซโคร...อยากได้กลิ่นหอมจากตัวเซโคร...อยากหอมแก้มเซโคร...”
“ดะ...เดี๋ยวก่อน...”
“...อยากจะจูบไปทั่วทั้งตัวของเซโคร...อยากทำให้บนตัวของเซโครมีรอยแดงๆที่ผมเป็นคนทำมัน...”ผมไม่สนใจเสียงของอีกฝ่ายแต่ยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ
“ยะ..ยูทาร์...”
“และผมอยากจะเลียทั้งร่างของเซโคร”ผมบอกสิ่งสุดท้ายที่ตัวเองคิดออกไปพร้อมกับมองไปยังใบหน้าของเซโครที่ขึ้นสีอย่างน่าสัมผัส
“...อ่อ...คือ..”
“แล้วผมก็รู้สึกหงุดหงิด...โมโหทุกครั้งที่มีคนหรือไดโนเสาร์เข้าใกล้เซโครด้วย”ผมพูดขึ้นอีกเมื่อนึกได้
“...”ความเงียบของเซโครทำให้ผมรู้สึกใจหวิ๋วๆว่าสิ่งที่ตัวเองเป็นมันร้ายแรงมากขนาดที่ต้องคิดหนักเลยเหรอ?
“เซโคร...”ผมเรียกอีกฝ่ายพร้อมกับยกมือขึ้นจะสัมผัสใบหน้าที่ขึ้นสีนั่นแต่พอผมจะแตะเซโครก็ถอยหนีอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเขียวอมฟ้าสั่นระริกและริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่...
การกระทำของเซโครทำให้มือผมที่กำลังยื่นไปชะงักค้างไปกลางอากาศ...นี่เป็นครั้งแรกที่โดยเซโครปฏิเสธสัมผัสของผม
แปลว่าสิ่งที่ผมเป็นมันร้ายแรงขนานนั้นเลยเหรอ?
“เซโคร...ผมไม่อยากแยกกับเซโคร”ไม่อยากจะกลับไปอยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อน
“ยูทาร์...”
“ผมรักเซโครนะ...อย่าให้ผมกลับไปอยู่ลำพังเลย”ผมขอร้องแกมวิงวอน
ขอแค่ไม่ต้องแยกกันเซโครก็พอ...ผมขอแค่นี้จริงๆ
“อะไรที่ทำให้คิดแบบนั้นกันยูทาร์...ไม่มีใครแยกเราออกจากกันได้หรอก”เซโครเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างสัมผัสที่ใบหน้าผมพร้อมกัน
ความอบอุ่นที่ได้ทำให้เผลอหลับตาลงด้วยความเคยชินก่อนจะบอกสิ่งที่คิดทั้งหมดออกไป
“ผมกลัวมาตลอดว่าถ้าเซโครรู้ว่าผมเป็นอะไรแบบนี้เซโครจะไม่ให้ผมอยู่ข้างๆ...อารมณ์แปรปรวน...หงุดหงิดง่ายและพาลไปทั่ว...ไม่เหมาะที่จะอยู่ข้างเซโคร...ไม่เหมาะจริงๆ”
“คิดมากไปแล้วยูทาร์...ต่อให้นายเป็นอะไรสุดท้ายก็ยังเป็นคนที่ผมรักที่สุด”คำตอบที่ได้รับทำให้ดวงตาสีเหลืองอำพันลืมขึ้นช้าๆ...
ภาพของเซโครที่ส่งยิ้มมาให้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด
“ผมยังอยู่ข้างเซโครได้ใช่ไหม?”
“ได้จนกว่ายูทาร์จะไม่ต้องการ”เสียงนุ่มตอบกลับมาในทันทีจนผมคลียิ้มออกมาบางๆ
“ไม่มีวันนั้นหรอก...ผมอยากอยู่กับเซโครตลอดไปไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม”
ไม่มีวันไหนที่ผมอยากอยู่ห่างกับเซโคร
(มีต่อ)
-
(ต่อคะ)
“...ที่ยูทาร์รู้สึกอยู่เป็นเรื่องธรรมชาติ”เซโครนิ่งไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นแล้วนั่งลงข้างเตียงที่ผมนอนอยู่
“ธรรมชาติ?...หมายถึงพวกต้นไม้?”ผมไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดเลยสักนิด
“ไม่ใช่แบบนั้น...หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาไม่ได้มีอะไรผิดปกติ”
“...แต่ผมคิดจะกินเซโครนะ”ผมพูดเสียงอ่อย...
จะบอกว่าเป็นธรรมชาติของไดโนเสาร์ที่ต้องล่าเหยื่องั้นเหรอ?
“ยูทาร์...ที่ว่าจะกินผมหมายถึงกินเหมือนอาหารจริงๆงั้นเหรอ?”เซโครถามพร้อมกับขยับหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่จ้องมาทำให้ผมไม่อาจหลบสายตาไปไหนได้
“...หมายถึงอะไร?”
ถ้าไม่ได้หมายความว่ากินเป็นอาหารแล้วยังมีความหมายอื่นอีกเหรอ?
“ช่วงนี้เป็นฤดูติดสัตว์ของไดโนเสาร์หลายสายพันธุ์...”
“ฤดูติดสัตว์?”ผมไม่เข้าใจว่าอยู่ๆเซโครเปลี่ยนเรื่องทำไมแล้ว...
ฤดูติดสัตว์คืออะไร?
“เฮ่อ...ผมคิดว่ายูทาร์คงไม่เป็นไรเพราะไม่แสดงอาการอะไรออกมาแต่ใครจะนึกว่าที่อารมณ์หงุดหงิด...โมโหง่ายพวกนั้นจะเป็นหนึ่งในพฤติกรรมของการติดสัตว์ล่ะ...ผมก็นึกว่าให้ยูทาร์ทำงานหนักไปซะอีก”
“เซโคร...”ผมเรียกคนตรงหน้าที่ส่ายหัวไปมาพร้อมกับลูบใบหน้าตัวเองเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“เฮ่อ...นี่ผมต้องเป็นฝ่ายรับให้ใช่ไหม?”เซโครถอนหายใจหนักๆออกมาแล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ครับ?...”
ฝ่ายรับคืออะไร?
“ขอเวลาทำใจสักชั่วโมงนะยูทาร์...”คนตรงหน้าบอกพร้อมกับลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปท่ามกลางความงุนงงของผม
สรุปแล้วผมเป็นอะไรกันแน่?
ยูทาร์ลุกขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมกับเหม่อคิดเรื่อยเปื่อยจนประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทเปิดออกอีกครั้งนึง...ดวงตาสีเหลืองอำพันหันไปตามเสียงก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นเซโครเดินออกมาโดยมีผ้าเช็ดตัวพันเอวแต่ผืนเดียว
เพียงแค่เห็นร่างกายก็เริ่มร้อนขึ้น...ส่วนกลางร่างกายรู้สึกปวดจนแทบทนไม่ไหว
“...ทำอะไร...เซโคร?”เสียงที่พยายามจะเอ่ยออกไปก็เป็นเสียงติดขัดเหมือนตอนหัดพูด
ทั้งที่เซโครก็รู้แล้วว่าผมอยากจะกินอีกฝ่ายมากแต่ก็ยังเดินออกมาด้วยสภาพแบบนั้นอีก...
นี่เซโครกำลังทดสอบความอดทนของผมใช่ไหม?!
“อย่าจ้องแบบนั้นสิผมยิ่งเขินๆอยู่...”เซโครบอกพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนถึงขอบเตียง ผิวขาวเนียนอมชมพูที่มีหยดน้ำเกาะอยู่แพรวพราวทำให้ผมจ้องมันอย่างไม่วางตาตั้งแต่ใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อยไล่ลงมาถึงแผ่นอกและหน้าท้องเนียน...
ยิ่งเห็นยิ่งอยากสัมผัส
ร่างกายดูเหมือนจะตอบสนองต่อความคิดจนแทบไม่เหลือสติอีกต่อไปถึงจะรู้ตัวว่าดึงร่างกายหอมๆของเซโครลงมาแต่ก็ไม่อาจหยุดการกระทำนั้นได้จริงๆ ทันทีที่ดึงอีกฝ่ายเข้ามาผมก็พลิกตัวค่อมเซโครไว้พร้อมกับซุกไซร้เข้าที่ต้นคอขาวอย่างลืมตัว
“อ๊ะ!...ยูทาร์...”เสียงครางที่ดังขึ้นยิ่งเติมเชื้อไฟให้ผมทิ้งรอยแดงๆนั่นไว้ตามทุกที่ที่ผมลากลิ้นผ่าน
หลังจากที่ทำรอยที่คอจนพอใจผมก็เลื่อนต่ำลงไปยังแผ่นอกที่ขยับขึ้นลงอย่างเย้ายวนจากการหอบหายใจถี่...ยอดอกสีชมพูที่ลอยเด่นขึ้นมาทำให้ผมอดใจไม่ไหวที่จะก้มลงไปสัมผัสมัน...นั่นยิ่งทำให้เรียงหวานครางชื่อผมออกมาอย่างต่อเนื่อง
“...อื้ออ~...ยูทาร์...อ๊ะ...ใจเย็นๆก่อน...”เสียงเรียกสลับครางทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาคู่สวยที่จ้องมาอย่างเย้ายวนจนแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
อยากทำ...ทำอะไรสักอย่างที่ตัวเองก็ไม่รู้
แต่รู้ว่าจะไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายรอดไปอีกแล้ว!
“เซโคร...ผมทนไม่ไหวแล้ว...มันแปลกๆ”เมื่อพูดจบผมก็ขยับเข้าไปใกล้แล้วหอมแก้มทั้งสองข้างของคนใต้ร่างเบาๆ
“ไม่เป็นไร...มันเป็นธรรมชาติ...”
“ผมไม่เข้าใจ...เซโครไม่ห้ามผมเหรอ?”
“มันเป็นเรื่องปกติของคนรักกัน...ถ้าไม่มีอารมณ์สิผมคงรู้สึกแย่แล้วคิดว่าตัวเองไร้เสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอ”เซโครบอกพร้อมกับหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“เรื่องปกติ...”
“ไม่ใช่อยากกินผม...ที่ยูทาร์ต้องการคือการครอบครองผมต่างหาก”เซโครบอกพร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าของผมอย่างอ่อนโยน
“ครอบครอง...”
ไม่ใช่อยากกินเซโครแต่อยากครอบครอง...
ถึงจะไม่แน่ใจในความหมายแต่คำว่า ‘ครอบครอง’ ให้ความรู้สึกดีกว่า ‘กิน’ เยอะเลย
“ใช่...ไม่ว่ามนุษย์หรือไดโนเสาร์ต่างก็ต้องพบคู่ที่รักและอยากอยู่ด้วยไปตลอดและเมื่อผ่านไปจุดหนึ่งก็เริ่มอยากครอบครองเพื่อจะได้มั่นใจว่าคนคนนี้เป็นของเราแค่คนเดียว...”
“งั้นก็ไม่แปลกถ้าผมไม่อยากให้ใครเข้าใกล้เซโคร...”
“อื้ม...ไม่แปลกแต่ก็ไม่ควรแสดงออกแบบนั้น...ผมอยู่ตรงนี้อยู่กับยูทาร์และจะอยู่ตลอดไปด้วย...เพราะงั้นอย่างกังวลไปเลย...”
“เซโคร...”
“ผมรักยูทาร์ที่สุด”คำบอกรักที่ดังออกมาจากปากของคนใต้ร่างทำให้ผมยิ้มออกมาแล้วก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากสีชมพูนั่น
“...ผมก็รักเซโคร”
“อื้อ...รู้แล้ว...นายแสดงออกชัดเจนมากนี่”
“งั้นผมควรจะทำยังไงถึงจะได้ครอบรองเซโครล่ะ?”ผมถามออกไปด้วยความอยากรู้...
จะต้องทำยังถึงจะทำให้คนตรงหน้าเป็นของผมแค่คนเดียว
“อ่า...บอกตามตรงว่าผมก็ไม่เคยเหมือนกันถึงจะพอรู้แต่ก็...เอาเป็นว่าเรามาช่วยๆกันเนอะ”เซโครบอกพร้อมกับดันตัวขึ้นมาจูบปากผมเบาๆ
“อืม”
“ก่อนอื่น...ถ้าไม่เอาออกมาเดี๋ยวจะอึดอัดนะ”เซโครบอกพร้อมกับเลื่อนฝ่ามือมาจับบริเวณเป้ากางเกงผมที่ตอนนี้ข้างในมันร้อนมากจนแทบทนไม่ไหว...ยิ่งฝ่ามือนิ่มๆวางลงมายิ่งทำให้ผมต้องกัดปากตัวเองแน่นเพื่อข่มอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น
ไม่ต้องให้เซโครบอกไปมากกว่านี้ผมก็พอรู้ว่าต้องทำยังไง...ทั้งกางเกงและเสื้อตอนนี้ถูกถอดออกแล้วโยนไปไว้แถวๆปลายเตียงอย่างเร่งรีบ
“...ทำยังไงต่อเซโคร?”ผมกระซิบถามพร้อมกับไล่ลิ้นไปตามหน้าท้องของเซโครเพื่อรอเวลา
“อ๊ะ!...แล้วยูทาร์...อื้อ...คิดว่ายังไงล่ะ?”
“ไม่รู้...ผมไม่รู้...ที่รู้มีแค่อยากครอบครอบร่างกายของเซโครทั้งหมด”สิ่งที่บอกออกไปคือความจริงที่กำลังคิดอยู่
“หยุด...อ๊ะ...พูดอะไรน่าอายแบบนั้น...อื้อ!...หยุดเลียก่อน...”เสียงห้ามทำผมต้องหยุดการกระทำลงอย่างน่าเสียดาย
“เซโคร...”
“ผมจะไม่พูดเพราะมันน่าอายสุดๆเพราะงั้น...ให้ผมทำเองเถอะแล้วก็จำไว้ด้วยว่าผมยอมแค่ครั้งนี้เท่านั้น”เซโครบอกเสียงแข็งพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ
“หมายความว่ายังไง?”
“...ถ้ามีครั้งหน้า...ต้องสลับกันด้วย”ผมไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรแต่ผมก็พยักหน้าตกลงไป
ไม่นานเซโครก็บอกให้ผมเปลี่ยนมานั่งลงกับเตียงโดยที่อีกฝ่ายขยับตัวไปหยิบอะไรสักอย่างในลิ้นชักข้างเตียง...เท่าที่สังเกตเป็นคล้ายๆครีมอะไรสักอย่าง
“ผมไม่เก่งเรื่องพวกนี้นักแต่จะพยายามละกัน”เซโครบอกอีกครั้งแล้วขยับมานั่งบนตักผม...ผ้าขนหนูที่พันรอบเอวปลิวหายไปตั้งแต่ช่วงแรกที่ผมคร่อมร่างอีกฝ่ายแล้วตอนนี้พวกเราทั้งคู่เลยอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า
ร่างกายของเซโครสวยมาก...ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็ตาม
“อ๊ะ!...”เสียงครางเบาๆทำใหผมเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าสีแดงที่เชิดขึ้นพร้อมกับหลับตาแน่นจนน้ำตาไหลออกมาเล็กน้อย
“เซโคร...เจ็บเหรอ?”ผมถามออกไปด้วยความเป็นห่วงก่อนจะสังเกตว่ามือข้างนึงของเซโครไขว้ไปด้านหลังเหมือนกำลังทำอะไรอยู่
“อื้อ...เจ็บแต่ไม่เป็นไร...อึก...”เสียงหวานที่ตอบมาทำให้ดึงตัวอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้จนร่างกายเราสัมผัสกับพร้อมกับเอื้อมมือไล่ไปตามแขนข้างที่อยู่ด้านหลังเรื่อยๆจนสัมผัสได้ถึงของเหลวที่คาดว่าเป็นครีมที่เซโครพึ่งหยิบออกมา
“อ๊ะ!...ยูทาร์”เสียงครางดังขึ้นทันทีเมื่อผมใช้นิ้วตัวเองแทนที่นิ้วของอีกฝ่ายก่อนจะขยับเบาๆ
“แบบนี้ใช่ไหม?”ผมกระซิบถามพร้อมกับกดจูบลงไปที่ต้นคอแรงๆ ความคับแน่นที่ได้รับกับแรงตอดที่สัมผัสได้ทำให้ผมเริ่มรู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป
“...ยูทาร์...อ๊ะ...อื้ออ~...ไหนบอก...อึก!..ว่าไม่รู้ไง?”เซโครถามเสียงสั่นเมื่อผมเพิ่มนิ้วเข้าไปแล้วขยับเข้าออกแรงขึ้น
“ตอนแรกไม่รู้...แต่ตอนนี้เริ่มรู้แล้ว...”ผมตอบกลับไปโดยกลั้นเสียงครางของตัวเองไว้
เหมือนกับว่าพอมีคนนำสัญชาตญาณที่อยู่ในตัวก็เริ่มตื่น...ด้วยความต้องการในตัวของเซโครทำให้ผมคิดและเรียนรู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป
ไม่นานนักผมก็ขยับตัวเซโครให้ยกขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับกดส่วนร้อนเข้าไปภายในร่างกายนั้น...ความรู้สึกดีแล่นเข้ามาจู่โจมอย่างรวดเร็วจนต้องครางเสียงเบาออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“อ๊ะ!...อย่าพึ่ง...อึก...ขยับ...”เสียงของเซโครดังขึ้นพร้อมกับกอดคอผมไว้แน่น ใบหน้าของอีกฝ่ายซุกลงที่ไหล่ผมแล้วกัดลงไปเบาๆเพื่อระบายความเจ็บที่ได้รับ
“ขอโทษ...เจ็บมากไหม?”
“อึก...มาก...อ๊ะ!...”คำตอบที่ได้รับทำให้ผมหยุดการเคลื่อนไหวที่สะโพกแล้วเปลี่ยนมาลูบตามแผ่นหลังขาวพร้อมกับกดจูบหนักๆลงที่หัวไหล่จนเกิดรอยแดง
พอให้เวลาสักพักผมก็เริ่มขยับตัวเบาๆ เสียงครางหวานดังขึ้นในทันทีที่ผมกดร่างกายของอีกฝ่ายลง...ความสุขสมที่ได้รับทำให้ผมสุขจนแทบไม่รับรู้อะไรนอกจากคนตรงหน้าเท่านั้น
“ยูทาร์...อื้ออ~...”ยิ่งได้ยินชื่อตัวเองดังขึ้นมาพร้อมเสียงครางยิ่งทำให้ผมมอบสัมผัสนั่นมากขึ้นไปอีกจนเซโครสั่นไปทั้งร่างด้วยความรู้สึกดี
“...เซ...โคร...อึก!...ผม...”ความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนกำลังระเบิดออกทำให้ผมเร่งความเร็วมากขึ้นไปอีก
“..อ่า!...ยูทาร์...”
“รู้สึก...แปลกๆ”ผมบอกอีกฝ่ายพร้อมกับจูบไร้ไปตามลำคอขาวที่เชิดขึ้นอย่างเย้ายวน
“อื้อ!...ไม่เป็นไร...ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ...อ๊ะ...”เซโครบอกพร้อมเสียงคราง...ใบหน้าขาวที่แดงระเรื่อก้มลงมาสบกับดวงตาสีเหลืองอำพันก่อนจะจูบเบาๆที่ปลายจมูกผม
“...อย่าทำตัว...น่ารักสิเซโคร”แค่นี้ผมก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์รำไรแล้ว
“อ๊ะ!...ยูทาร์”
“เซโคร...อื้อ!...”ช่วงท้ายของอารมณ์ผมก็เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าอีกฝ่ายให้มาสบตากันก่อนจะมอบจูบอันรุนแรงให้
“อื้อออ~...”เสียงครางของพวกเราสอดประสานกันจนถึงช่วงท้ายของอารมณ์ที่ปะทุออกมาพร้อมกัน...เซโครทิ้งตัวลงกับไหล่ผมพร้อมกับหอบหายใจแรงๆ ดวงตาสีเขียวปนฟ้าคลอไปดวงน้ำตาก่อนจะปิดลงช้าๆเหมือนอยากพักผ่อน
“...ผมรักเซโคร”เป็นอีกครั้งที่ผมกระซิบบอกอีกฝ่าย
ความรู้สึกเต็มตื้นนี่คือความรู้สึกของการครอบครองเซโครใช่ไหม?
รู้สึกที่สุดตั้งแต่ที่ได้เกิดมาเลย
“รักยูทาร์เหมือนกัน”เสียงบอกรักดังขึ้นข้างหูพร้อมกับลมหายใจที่สงบลงอย่างช้าๆก่อนที่เสียงหายใจนั่นจะดังอย่างสม่ำเสมอเป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว
ยูทาร์จัดท่าให้เซโครนอนสบายๆบนเตียงก่อนจะนอนตะแคงข้างมองใบหน้าขาวที่หลับใหลด้วยความรู้สึกมากมายที่ปนเปกันเต็มไปหมด...ทั้งมีความสุขและดีใจ
คืนนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายอาทิตย์ที่ไม่ต้องไปนั่งพิงกำแพงเพื่อควบคุมตัวเองไม่ให้พุ่งเข้าใส่เซโคร...และเป็นครั้งแรกในรอบหลายอาทิตย์ที่ได้ยิ้มออกมาและได้หลับสนิทไปพร้อมกับที่มีเซโครอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้
‘เซโคร’
ขอแค่มีคนคนนี้อยู่ไม่ว่าจะต้องเจออะไรผมก็ไม่กลัวทั้งนั้น...
‘รัก’
รักมากจนไม่รู้จะบรรยายมันออกมายังไง
“ฝันดีนะเซโคร...ขอบคุณที่รักผมนะ”
...
สวัสดีคะ
อ่านตอนนี้แล้วเป็นยังไงบ้างคะ?
พยายามแต่งให้ออกมาดีสุดความสามารถแล้ว...และเราก็พอใจมากด้วย555+
ตอนเริ่มเรื่องถือเป็นฉากที่แต่งอยากมาก...เรื่องนี้ไม่ค่อยมีฉากดราม่าหรือเศร้าเลยนั่นทำให้คิดว่าน่าจะมีฉากอะไรให้หน่วงๆหัวใจหน่อยจนในที่สุดก็คิดฉากนี้ออกมาได้
บอกตรงๆว่าเป็นตอนที่แต่งแล้วเหนื่อยที่สุด
หลายคนอาจถามว่าฤดูติดสัตว์นั้นแค่รอบเดียวพอแล้วเหรอ?
เซโครสลบไปแล้วเพราะงั้นก็พอละกันเนอะ(ไหง๋งั้น?)
เรื่องนี้มีหลายคำติชมและคำแนะนำเข้ามามาก
เรารู้สึกขอบคุณจริงๆที่มีคนช่วยแนะนำส่วนต่างๆที่ไม่สมเหตุสมผล...บางอย่างที่แต่งแล้วออกมาไม่สมเหตุสมผลเราเพียงแค่อยากสร้างความตื่นเต้นในเนื้อเรื่องบ้าง ด้วยความที่เราเป็นมือใหม่ทั้งคำบรรยาย ทั้งสำนวนอาจไม่ดีเท่าคนที่แต่งมานานแต่เราก็จะพยายามปรับปรุงให้เรื่องต่อๆไปดีขึ้น
ขอบคุณมากๆนะคะ
สำหรับตอนหน้าก็จะเป็นตอนจบของเรื่องนี้แล้วคะ
อาจดูสั้นแต่เนื้อหาของเรื่องนี้ยาวที่สุดตั้งแต่ที่แต่งนิยายมาเพียงแค่เราแบ่งแต่ละตอนให้ยาวเลยได้จำนวนตอนค่อนข้างน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ในตอนสุดท้าย :mew1:
บ๊ายบายคะ^^
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ
-
:hao6: :hao6: :hao6:
-
ยูทาร์ติดสัตว์แล้ววว
-
:jul1: :jul1: เขากินกันแล้วแหละ
-
มุมแก้คำผิดดดด
1.เยอะไปแน่นๆเลย - เยอะไปแน่ๆ
2.ให้ผมคลียิ้ม -คลี่ยิ้ม
3.พลิกตัวค่อมเซโคร - คร่อมเซโคร
4.ซุกไซร้ -ซุกไซ้ //คำนี้ชอบเขียนผิดกันบ่อยมากในหลายๆเรื่อง ซุกไซร้ แบขบนี้จะเป็นแบบเมื่อฆ่ายักษาแล้วไซร้จักทูลอลงกรณ์ อารม์ประมาณนี้?
5.เสียงหวานที่ตอบมาทำให้ดึงตัวอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ -อันนี้น่าจะแก้เป็นประมาณว่า "เสียงหวานที่ตอบมาอดทำให้ดึงตัว..." น่าจะดีกว่า?
6.ผมบอกอีกฝ่ายพร้อมกับจูบไร้ -จูบไล้
ฤดูติดสัดรอบหน้าเอาใหม่ละกันนะยูทาร์--- 555 ถือว่าเป็นนิยายที่สั้นอยู่แหล่ะ หนังสือก็กดสั่งจองไปแล้วนะคะโอนแล้วด้วย หวังว่าจะได้หนังสือเร็วๆ^^ แต่เท่าที่ดูเหมือนจะสั้นอยู่สักเล็กน้อย พอสองเล่มอยู่เหรอคะ? หรืออาจจะเพราะรวมตอนพิเศษไปด้วย? ติดตามเสมอค่ะ
-
เขาแซ่บกันแล้วววววว
แต่ว่านะยูทาร์ รอบเดียวมันพอหรอออออ กิกิ
-
จบแล้วหรอ ไวอะ T^T คงคิดถึงยูทาร์กับน้องเซโครวแน่ๆ
พาร์ทนี้เรียกเลือดได้ดีมากจิ้นถาพตามเลย555 โถๆๆๆๆน้องยูทาร์ตอนแรกป้านี่ลุ้นมากว่าหนูจะทำเป็นไหม
-
ครั้งแรกได้แค่รอบเดียวไม่เป็นไร ครั้งหน้าก็หลายๆรอบเนอะยูทาร์ :z1:
-
จะจบแล้ว ยังไม่เห็นเบบีเลย :mew2:
-
เครียดมากเลยสิ ยูทาร์ :hao3:
ทีนี้ก้สบายตัวแล้วเนอะ :impress2: :z1:
-
เรียบร้อยโรงเรียนยูทาร์ 5555 ดูแลเซโครดีๆนะ
:-[
-
ไดโนเสาร์หื่นเอ๊ย
:laugh:
-
ใจเต้นแรงมากเลยอ่ะ 5555555555555
ลุ้นกับยูทาร์เหลือเกิน ในที่สุดก็...จนได้นะ :jul1:
เพราะนี่คือมุมที่ยูทารสื่อออกมา เลยทำให้ความรู้สึกการอ่านฉากนี้มันแปลกไปกว่าที่เคย แบบ มันเขินอ่ะ เร้าอารมณ์ดี (งื้อออ พูดไรออกไป 555555) ถ้าพาร์ทนี้เซโครเป็นคนสื่อคงจะให้ความรู้สึกเหมือนncเรื่องอื่น ดีอ่ะ ชอบบบบบ /ตายอีกรอบ :m25:
-
:pig4:
-
ยังไม่จุกใจเลย
รออ่านนะะะะะ
-
ยินดีด้วยยูทาร์ไดโนหื่น ได้กินเซโครแล้วสบายตัวแล้วล่ะซิ
-
หายเครียดเป็นปลิดทิ้งเลยใช่ไหมคะยูทาร์ :-[
-
อิอิ ยูทาร์ได้กินเซโครแว้ววว
-
:jul1: :pighaun:
-
โมโหง่ายพวกนั้นจะเป็นหนึ่งในพฤติกรรมของการติดสัตว์ล่ะ
ติดสัด เขียนแบบนี้ค่ะ
หวังว่ายูทาร์จะอาบน้ำให้เซโครด้วยนะ
แต่วันนี้มือใหม่ ให้อภัยก่อนก่ได้
รอตอนต่อไปน้าาาา
-
:hao7: ฤดูติดสัตว์นี่เอง แต่ตอนแรกก็คิดนะว่า อารมณ์ของทางฝั่งคนรึเปล่า แบบว่าอยากได้อยากกินไรเงี๊ย
ที่ไหนได้ มันเป็นธรรมชาติ
ปล.เซโคร นู๋ต้องซื้อหนังแผ่นให้ ยูทาร์เยอะๆนะลูกจะได้เล่นท่ายากๆได้ ดูท่าแล้วจะเล่นได้เยอะด้วยเพราะแรงมหาศาล :laugh:
-
ไม่สลับได้ไหมมันดูแปลกๆอ่ะถ้าสลับ
-
:pighaun: :pighaun: :pighaun: เง้ออออ ได้กันเเล้วว ได้กันเเล้ว 555+ เเต่ไม่สลับได้ไหมง่าาา?
-
ฮือออออออ ไม่อยากให้จบ รักเรื่องนี้ อยากเห็นลูกของทั้งคู่จัง555
-
จะจบแล้วเหรอ ใจหายมากเลยค่ะ เซโครน่ารักมาก มีการพูดกันไว้ด้วยว่าให้สลับกัน โถ่คุณลูกกก5555
นี่เราจองไปคนแรกๆเลยมั้ง แต่ดันหลุดจองไปเพราะงานเข้ามาจนลืมแม้กระทั่งกินข้าว-*- เลยต้องเริ่มใหม่หมดเลย55555T...T
-
:mc4: ต้องฉลองๆ :mc3: เฮ้อ...ได้กินเสร็จก็จะจบละ อยากให้มียูทาร์ตัวน้อยๆ น่ารักๆ สักคนสองคน อิอิ :m17:
-
ใกล้จบแล้วเหรอเนี่ย กำลังอ่านเพลินเลย
ชอบตอนที่เซโครกับยูทาร์ไปทำภารกิจอ่ะ
-
:hao6: อ๊ากฟินสุดๆเลย
-
เขาได้กันแล้วแหละ 55555 :haun4:
คือรู้สึกว่าเล่าเรื่องแบบรวบรัดตัดตอนไปหน่อยน่ะค่ะ
คืออย่างตอนที่รู้สึกหึงอะไรแบบนี้ ก็น่าจะขยายเพิ่มอีกหน่อย เว้นวรรคกับบรรทัดด้วยอะ เวลานึกภาพตามจะได้ไม่สับสน คือประโยคมันติดกันไปนิดนึงน่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่ว่าเซโครพูดกับไดโนเสาร์ตัวอื่นรู้เรื่องก็ขัดๆกับตอนแรก ตอนแรกจะสื่อสารกับยูทาร์ยังไม่ได้เลย แถมสร้างยูทาร์มาเพื่อให้สื่อสารกับตัวอื่นๆได้นี่นา เซโครก็ทำได้แบบนี้ยูทาร์ตกงานกันพอดี 5555
แต่โดยส่วนตัวชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ แบบว่ากรี๊ดไดโนเสาร์ตัวใหญ่ๆทำหน้าอ้อนๆ(ชอบสัตว์ใหญ่อะ)
น่ารักมากเบย เสียดายนิดๆที่ตอนหลังๆไม่ค่อยกลายร่างอยู่ด้วยกัน 555
-
น้องยูทาร์ลูกกกกกกกกก
ในที่สุดเซโครก็เป็นภรรยาหนูทางพฤตินัยแล้วสินะ
ป้าจะรอทางนิตินัยนะลูก คึคึ :hao6: :hao6: :hao6:
ฮือออออออออ ไม่อยากให้จบเลยค่ะ
อยากตามติดน้องยูทาร์ไปนานๆ อร๊ายยยย #เซโครมองแรง
-
สวัสดีค่าาาา เพิ่งเข้ามาติดตามใหม่ค่ะ (ใกล้จะจบเรื่องแล้วเนี่ยนะ? 555) เป็นเรื่องที่สนุกมากนะคะ เราชอบ เราสั่งซื้อเรื่องนี้แน่ๆ แต่ขอตอนพิเศษเยอะๆน้าา//โดนตบ
อ่านเกือบรวดเดียว (แอบพักสายตาบ้าง) คือเรื่องคำผิดค่ะ แอบผิดเยอะนะคะ บางทีก็ยังไม่ได้แก้เลย อ่านๆไปแล้วมันสะดุด แอบตินิดนึง และที่สำคัญ ย้ำมากก็คือตอนพูดคุยช่วงท้ายตอนนั่นแหละค่ะ คนเขียนเขียนคำว่าค่ะ เป็นคะ ประจำเลย ตอนสุดท้ายขอร้องให้เขียนให้ถูกด้วยนะคะ มันเป็นแค่จุดเล็กๆที่ไม่ควรผิดเลย ถ้าตอนสองตอนยังพอว่า แต่ผิดประจำขอให้แก้ไขนะคะ ส่วนเรื่องความเว่อร์วังเรารับได้ค่ะ ไม่ได้เว่อร์มาก มาตรฐานแฟนตาซีเนอะ
มีเรื่องพูดเท่านี้ล่ะจ้าาาาา ระวังเรื่องการสะกดคำหน่อย คนเขียนเขียนผิดเยอะ และที่ผิดคือไม่ได้พิมพ์พลาด แต่เขียนยังไม่ถูก
ปล.ติดตามตอนสุดท้ายนะคะ
-
รอบเดียวไม่พอ เอาอีกๆๆๆๆๆ แฮ่ๆ เกิดอาการโลภ คึคึ :z3:
-
555555 ยูทาร์น่ารักเนอะ อยากกินตลอด
-
งื้อ จะจบแล้ว
ฟินเลือดกระฉูด
-
หึหึหึ
เซโครน่ารัก ถึงกับสลบเลย
ยูทาร์ต้องถนอมๆเลยน่่าาา
ตืนมามีเขินตัวแตกแน่ๆ
-
เขินแทนเลย งือออ
-
:m25:
-
กลายรัก❧ครั้งสุดท้าย
หลายเดือนผ่านไปจนมาถึงวันนี้...วันที่มีการเรียกหัวหน้าของทุกฝ่ายและทุกหน่วยงานเข้ามาประชุมโดยมีประธานทั้ง3คนของบริษัทนั่งอยู่ที่ด้านหน้า แน่นอนว่าการประชุมครั้งนี้ต้องมีไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าร่วมด้วยอย่างเสียไม่ได้ควบคู่ไปกับยูทาร์ที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานนักเพราะน้อยครั้งที่จะมีเรื่องใหญ่ถึงขนาดต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องระดับสูงให้มารวมกันในการประชุมครั้งเดียว
“ในเมื่อมาครบแล้วผมขอเปิดประชุมใหญ่ในครั้งนี้เลยละกัน...”คุณคันเนโลนี จอห์นหนึ่งในประธานของบริษัทพูดขึ้นเมื่อทุกฝ่ายเข้ามาพร้อมแล้ว
“ก่อนอื่นคุณมีอะไรจะบอกพวกเราหน่อยไหมหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่?”พอพูดจบดวงตาสองสีก็เลื่อนมาสบเข้ากับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ที่บอกให้พูดคงเป็นเรื่องการแถลงข่าวเมื่อหลายเดือนก่อนที่ทำให้ทางบริษัทมีเรื่องปวดหัวเข้ามาไม่หยุดจนเกิดการประชุมครั้งนี้ขึ้นและสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นก็คือผมที่ดันไปบอกความจริงว่ายูทาร์เป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มียีนของมนุษย์อยู่ในร่าง...
ช่วงแรกไม่ได้มีข่าวในทางลบออกมามากนักมีเพียงแค่การตื่นตัวของมนุษย์ทั่วโลกว่ามีการทดลองนี้เกิดขึ้นจนมียูทาร์เกิดขึ้นเท่านั้นแต่พอผ่านไปสักระยะหนึ่งเริ่มมีหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแวดวงศ์ของไดโนเสาร์ได้ออกมาแสดงความต้องการของตัวเองมากขึ้น
โดยสิ่งที่พวกเขาต่างต้องการคือไดโนเสาร์สายพันธุ์ผสมหรือยูทาร์นั่นเอง
และแน่นอนว่าทางเราไม่ยอมยกยูทาร์ให้อยู่แล้วเลยทำให้เกิดกระแสข่าวใหม่ขึ้นว่าทางบริษัทหรือองค์กรของเรากำลังคิดค้นอาวุธมีชีวิตโดยใช้ยีนของไดโนเสาร์มาผสมกับยีนของมนุษย์จนกลายเป็นอาวุธสังหารที่มีความรู้สึกนึกคิด
จากกระแสข่าวที่แพร่กระจายไปทำให้ทางบริษัทมีข่าวในทางลบเพิ่มขึ้น...เห็นว่ามีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลระดับสูงของโลกเข้ามาคุยกับประธานว่าให้ทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้สักทีเพราะถึงจะมีข่าวเสียหายออกมาก็ไม่ได้กระทบต่อบริษัทมากมายอะไรนักเลยไม่มีการออกไปแถลงข่าวเหมือนตอนผมกับยูทาร์
ด้วยสาเหตุนั้นเลยมีการจัดประชุมใหญ่ขึ้นโดยมีท่านประธานทั้ง3คนรวมถึงเหล่าหัวหน้าจากหลายสาขาทั่วโลกที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อหาลือว่าจะทำยังไงต่อไปดี...
“สำหรับตัวผมไม่คิดว่าการที่บอกความจริงออกไปจะเป็นเรื่องที่ผิดอะไร...ต่อให้วันนี้คนทั่วโลกไม่รู้เรื่องแต่วันใดวันหนึ่งพวกเขาต้องรู้เรื่องแน่และการรู้ความจริงว่าที่เราบอกไปนั้นเป็นเรื่องโกหกน่าจะทำให้เกิดกระแสข่าวในทางลบกว่าตอนนี้แน่”เซโครลุกขึ้นพร้อมกับบอกสิ่งที่ตนคิดให้ทุกคนในห้องประชุมรู้
“เธอไม่คิดเหรอว่าอย่างน้อยเราก็มีเวลาในการจัดการมากกว่านี้ถ้าเราตัดสินใจที่จะไม่บอกความจริงในวันแถลงข่าวนั่น...จริงอยู่ว่าเป็นการโกหกแต่ถ้าเราบอกความจริงกับทุกคนก่อนที่พวกเขาจะรู้เรื่องทุกอย่างก็น่าจะไปได้สวยนี่?”ชายที่อยู่อีกฝากของผมยกมือขึ้นพร้อมกับพูดออกมา
เขามีความเห็นขัดแย้งกับผมตั้งแต่เริ่มต้นการประชุมเลยงั้นเหรอ?
“บอกก่อนที่จะรู้?...เมื่อไหร่ละที่พวกเขาจะรู้?...คุณรู้งั้นเหรอว่าความลับจะถูกเปิดเผยออกมาเมื่อไหร่?...ถ้าคุณอยู่ในแวดวงนี้มานานก็น่าจะรู้ว่ามีหลายคนที่ต้องการหาข้อมูลของหลายบริษัทเพื่อเอาไปตีแผ่ให้เร็วที่สุดถ้าคุณคิดว่าจะบอกพวกเขาวันพรุ่งนี้การเตรียมตัวหลายอย่างจะทำให้พวกเขาเริ่มสงสัยและหาข้อมูลว่าคุณจะพูดอะไรในวันพรุ่งนี้...เชื่อได้เลยว่าไม่ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้หรอกแค่ตอนเย็นคงมีข่าวหน้าหนึ่งเขียนถึงสิ่งที่คุณกำลังจะพูด”ผมพูดสวนอีกฝ่ายกลับไป
ทุกวันนี้เป็นยุคของความเร็วไม่ว่าจะเรื่องการสื่อสาร การครอบครองสิทธิ์หรือแม้แต่ข่าว...มนุษย์ต้องการข่าวใหม่ๆอยู่เสมอและยิ่งเป็นข่าวที่เป็นความลับด้วยคนก็ยิ่งอยากรู้
และเมื่อมีคนอยากรู้ก็ต้องมีคนที่ทำหน้าที่หาข่าวมาไม่ว่าจะด้วยการซื้อตัวคนหนึ่งในบริษัทที่สามารถเป็นสายให้ได้หรือการเข้ามาสืบด้วยตัวเอง มีตั้งหลายวิธีที่สามารถหาสิ่งที่ต้องการได้
“...แต่สิ่งที่คุณทำตอนนี้มันทำให้บริษัทเรากำลังแย่”อีกฝ่ายก็พยายามตอบกลับมาถึงจะเริ่มไปไม่ถูกแล้วก็ตาม
“แย่?...ที่ผมได้ข่าวมาไม่ใช่แบบนั้นนี่นา”
จากที่ได้ข่าวมาทางบริษัทจัดการประชุมนี้เพราะมีคนมาขอร้องให้ช่วยยุติเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นนี่ที...ถึงจะมีกระแสข่าวแย่ๆออกไปแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากประชานชนธรรมดาเท่าไหร่ พวกคนที่สร้างกระแสขึ้นก็เป็นพวกองค์กรที่อยากครองเทคโนโลยีในการตัดแต่งยีนเหมือนที่เรามีไปครอบครองเท่านั้น
“หยุดทั้งคู่เลย”เสียงจากหัวโต๊ะทำให้อีกฝ่ายที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างเงียบลงทันที
“อย่าใจร้อนสิเซโคร”ยูทาร์ที่นั่งอยู่ด้านข้างกระซิบเบาๆให้ผมได้ยิน
“ก็มันน่าโมโหนี่พูดเหมือนเราทำผิดร้ายแรงงั้นแหละ”ผมอดไปได้ที่จะกระซิบตอบกลับ
“เอางี้ไหมหนุ่มๆ...จากที่ฟังมาทางเซโคร...โอ๊ะ!...ทางหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษดูจะมีความเห็นอะไรดีๆนะลองฟังเขาหน่อยละกัน”คุณฟาร์ฟาเล่ นาตารี ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่ในหัวแถวพูดขึ้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้ผม
เกี่ยวกับคุณฟาร์ฟาเล่ผมก็พึ่งรู้ความจริงที่น่าทึ่งมาเมื่อไม่กี่อาทิตย์จากปากของแม่ที่มาหาผม นั่นคือแม่กับคุณฟาร์ฟาเล่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย...ไม่แปลกเลยที่คุณฟาร์ฟาเล่จะติดเรียกผมว่าเซโครเฉยๆ
“ครับ?”...อะไรนะ?
คุณฟาร์ฟาเล่ให้ผมทำอะไรนะ?
“เธอน่าจะมีแผนนี่...ฉันคิดถูกไหม?”คนที่ตอบกลับมาไม่ใช่คุณฟาร์ฟาเล่แต่เป็นคุณเลโอที่นั่งนิ่งจนถึงเมื่อครู่
แผนอะไร?
ไม่มีเลยสักนิดเดียว
แต่สายตาของราชสีห์ที่จ้องมาเหมือนจะสื่อความหมายว่า ‘ห้ามทำฉันหน้าแตกนะ’ ทำให้ผมกลืนคำว่าไม่ลงคอไปอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบใช้สมองคิดถึงสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้...
“...ครับ...ก็พอมีที่คิดอยู่...”แต่ต้องขอเวลาอีกสักพักนะครับ
“งั้นก็ว่ามา”คุณจอห์นที่เห็นผมอึกอักก็เร่งทันที
“...อ่อ...จะเป็นไปได้ไหมถ้าเราจะเพาะไดโนเสาร์กลายพันธุ์เพิ่ม...”ผมลองเอ่ยออกไปเบาๆเพื่อดูปฏิกิริยาของทุกคนที่นั่งอยู่ภายใน ส่วนมากก็เบิกตากว้างแล้วมองผมเหมือนกำลังด่าว่า ‘บ้าเหรอ’ ไม่ก็คนที่ยกคิ้วขึ้นเหมือนจะถามว่า ‘เอาจริงงั้นเหรอ?’
“มันอันตรายไป”ไม่ใช่ใครที่พูดประโยคนี้...เป็นคนคุ้นเคยของผมเอง บิดาแหงการคืนชีพหรือฟรานซิส เบนซ์ฟงเซ่...พ่อของผมนั่นเอง
“เห็นด้วยที่ว่าอันตรายไปเพราะสิ่งที่เกิดมาจะดุร้าย...เธอน่าจะรู้ถึงข้อนี้ดีนี่”คุณจอห์นเห็นด้วยกับพ่อ
“ใช่ครับ...แต่นั่นกลายเป็นอดีตไปแล้ว”
อดีตเป็นได้แค่ความหลังที่ไม่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมอีกถ้าไม่ก้าวพลาดละก็นะ
“หมายความว่ายังไง?”
“เมื่อก่อนอาจยากที่ผมต้องสื่อสารกับยูทาร์โดยที่ไม่เข้าความหมายของสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อเพราะใช้การสื่อสารที่ต่างกัน...แต่สุดท้ายผมก็ทำได้ด้วยความพยายามและความเชื่อมั่นอันแรงกล้าแม้จะต้องใช้เวลามากก็ตาม...”
“คุณกำลังจะบอกให้เราใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจงั้นเหรอ?...พวกเราก็มีงานอย่างอื่นตั้งเยอะไม่ว่างพอจะทำเรื่องแบบนั้นหรอก”ผู้ชายอีกคนหนึ่งท้วงขึ้นไม่เห็นด้วยกับความคิดผม
“ผมยังพูดไม่จบเลยนะครับ”ผมหันไปบอกอีกฝ่ายที่พูดแทรกขึ้นมา
“พูดต่อเลยจ้า”คุณฟาร์ฟาเล่บอก
“ครับ...ผมจะบอกว่าตอนนี้เรามีคนที่สามารถสื่อสารได้ทั้งมนุษย์และไดโนเสาร์อย่างแท้จริงซึ่งก็คือยูทาร์...ถ้าเราสร้างไดโนเสาร์กลายพันธุ์ขึ้นมาก็สามารถให้ยูทาร์เข้าไปพูดคุยได้”นี่คือสิ่งที่ผมอยากบอกทุกคน
เสียงร้องอ๋อดังขึ้นกับคนส่วนมากที่เริ่มนึกออกว่าสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อออกไปคืออะไรกันแน่...ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องใช้สายตาเพื่อเฝ้ามองและสังเกตแต่เรามียูทาร์ที่สามารถพูดกับเหล่าไดโนเสาร์รู้เรื่องช่วยลดเวลาในการทำความรู้จักไปได้เยอะพอสมควร
“ฉันเห็นด้วยกับเธอนะ...แล้วจอห์นว่าไงล่ะ?”คุณฟาร์ฟาเล่หหันไปถามชายหนุ่มตาสองสีที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“เป็นความคิดที่ดี...ถ้าแบบนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยขั้นตอนการทดลองแต่ส่งคนที่พวกเขาต้องการไปได้แต่ก็ยังมีจุดที่เสี่ยงอยู่ดี...การที่จะให้ไดโนเสาร์พวกนั้นไปปฏิบัติภารกิจคนเดียวมันออกจากไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่...”
“งั้นก็ให้ทำเป็นคู่สิ”คำพูดของคุณเลโอทำให้ร่างกายผมขนลุกไปทั่วทั้งร่างเหมือนกำลังจะงานเข้าเลย
“ยังไง?”คุณจอห์นหันไปถาม
“เหมือนกับเด็กนั่นที่ทำงานร่วมกัน...ถ้ามีมนุษย์คอยคุมหรือคอยดูแลก็น่าจะสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น”คุณเลโอตอบกลับไป
“แต่การจะทำแบบนั้นได้ต้องมีการเตรียมพร้อมคนให้มีสมรรถภาพที่เหมาะสมทั้งการต่อสู้และการความเข้าใจในตัวไดโนเสาร์...มันต้องใช้เวลานานกว่าจะหาคนสอนความรู้และทักษะพวกนี้ได้”
“งั้นก็ยกให้หน่วยปฏิบัติงานพิเศษจัดการไปสิ”
“ห๊ะ?”ผมถึงกับร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆโดนคุณเลโอโยนภาระอันใหญ่มาให้
“อ้อ...ถ้าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ก็น่าจะจัดการได้ไม่ยากสินะ”
“เดี๋ยว...”ไม่ยากที่ไหนล่ะ?
“งั้นก็ตามนี้เลยจ้า...มีใครมีความเห็นเพิ่มเติมหรือมีอะไรเสนอไหมเอ่ย?”คุณฟาร์ฟาเล่ตบมือขึ้นแล้วมองไปรอบๆห้อง
“ผมมีครับ”พี่โนว่าที่นั่งทางด้านหลังยกมือขึ้นพร้อมกับเหล่มาทางผม
ใช่แล้วพี่โนว่าช่วยผมหน่อยเถอะ!
“ว่ามา”
“ในเมื่อเรื่องนี้กลายเป็นความรับผิดชอบของหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษผมมีความเห็นว่าคนที่จะเข้ามาเป็นคู่หูของเหล่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์ต้องเป็นคนที่หัวหน้าหน่วยคัดเลือกด้วยตัวเองและภารกิจที่จะส่งใครไปทำต้องผ่านการคัดเลือกโดยไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ที่เป็นหัวหน้าครับ”สิ้นข้อเสนอของพี่โนว่าผมก็แทบจะเอาหัวโขกโต๊ะประชุม
ไม่ช่วยยังไม่ว่าเท่ากับโยนงานมาให้ผมแบบนี้!
“เป็นข้อเสนอที่ดี...ตามนั้นเลย”คุณจอห์นพยักเห็นด้วย
“เดี๋ยวสิครับ!”
“มีใครมีข้อเสนออีกไหม?”คุณจอร์ยถามต่อโดยเมินเสียงผม
“ครับ”
“ว่ามาเลยครับคุณฟรานซิส”คนที่ยกมือขึ้นคือพ่อผมเอง...นั่นทำให้ผมรู้สึกรู้ดีขึ้นเล็กน้อยถ้าเป็นพ่อต้องรู้แน่ว่าผมทำงานหมดนี่ไม่ไหวหรอก
“ในเมื่อทุกอย่างต้องผ่านการดูแลจากหัวหน้าผมเลยคิดว่าการเลือกสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่จะเอามาผสมนั้นก็ควรอยู่ในการดูแลด้วย...เซโครเก่งมาในเรื่องการเพาะพันธุ์และมีความรู้ในเรื่องไดโนเสาร์แน่นปึกจึงเหมาะที่จะมาเป็นผู้ช่วยผมครับ”ทันทีที่พ่อพูดจบผมก็รู้สึกเหมือนวิญญาณลอยออกจากร่างไปเรียบร้อยแล้ว
เป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะให้สลบไปตรงนี้จริงๆ
ไม่เข้าใจว่าจะโยนงานอะไรให้ผมนักแค่ตอนนี้ก็มีภารกิจที่ต้องออกไปทำไม่เว้นวัน...เดี๋ยวก็คงจะเพิ่มการดูแลไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่พ่อจะสร้างขึ้นใหม่...
แล้วยังต้องคัดเลือกคนที่จะมาเป็นคู่หูพร้อมทั้งฝึกทักษะให้เหมาะสม
งานพวกนั้นยังน้อยไปใช่ไหมเลยให้ผมมาช่วยเลือกสายพันธุ์ของไดโนเสาร์ในการเพาะเนื้อเยื่ออีกน่ะ?!
จะไม่ให้ผมมีเวลาพักเลยรึไง?
(มีต่อค่ะ)
-
(ต่อค่ะ)
“คุณฟรานพูดถูก...งั้นก็ตามนี้เลย...ถ้าไม่มีใครมีความเห็นอะไรแล้วผมขอสรุปการประชุมวันนี้เลยละกัน”คุณจอร์นหันไปมองรอบห้องก่อนจะเริ่มประกาศปิดการประชุดโดยเมินเสียงเรียกผมอีกครั้ง
“พวกเราจะเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์พันธุ์ผสมเพิ่มในการดูแลของด๊อกเตอร์ฟรานซิล เบนซ์ ฟงเซ่...พอพวกเขามีความพร้อมมากพอพวกเราจะส่งพวกเขาพร้อมกับคู่หูที่ทางไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ได้ทำการฝึกสอนมาอย่างดีไปปฏิบัติภารกิจตามที่องค์กรต่างๆร้องขอความช่วยเหลือ...เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีแต่ไม่ต้องห่วงผมจะเป็นคนจัดการคุยกับองค์กรอื่นๆเอง...นี่คือข้อสรุปในการประชุมวันนี้...แยกย้ายได้”
“เดี๋ยว...”ผมเรียกเสียงอ่อยเมื่อท่านประธานทั้งสามคนทยอยเดินออกจากห้องพร้อมกับหัวหน้าหน่วยอื่นๆที่ตามออกไป
“พยายามเข้าเซโคร...มีอะไรเรียกพี่ได้นะ”พี่โนว่าตบไหล่ผมเบาๆก่อนจะเดินออกไป
“พรุ่งนี้มีเวลาว่างมาหาพ่อด้วยนะเราจะได้คุยกันว่าจะเอาสายพันธุ์ไหนผสมกันดี”พ่อเดินมายิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปอีกคน ตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่ผมกับยูทาร์สองคนเท่านั้น
“เซโคร...”
“ให้ตายเถอะ...พวกเขาโยนงานให้เราชัดๆเลย!!”ผมตะโกนขึ้นอย่างโมโห
“ผมว่าไม่ใช่หรอกนะ”เสียงของยูทาร์ทำให้ผมหันไปมองอย่างงงๆ
“ยังไงล่ะ?”
“พวกเขาไว้ใจเซโครนะ...ลองคิดสิว่าถ้าให้คนอื่นดูแลพวกเขาอาจไม่ใส่ใจเหมือนที่เซโครทำ...เซโครรักไดโนเสาร์ทุกตัวที่อยู่ที่นี่และไดโนเสาร์ทุกตัวก็รักเซโครมากเหมือนกันเพราะงั้นพวกเขาถึงยกงานนี้ให้เซโครไงล่ะ”ยูทาร์บอกผมพร้อมกับคลียิ้มออกมาบางๆ
“...ยูทาร์...คิดอย่างนั้นเหรอ?”พอยูทาร์พูดผมก็รู้สึกเหมือนมันจะเป็นเรื่องจริง
“อืม...พวกไดโนนีคัสก็ติดเซโครจะตายถ้าไม่ใช่อาหารจากเซโครพวกเขาก็จะไม่กิน”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมนึกถึงฝูงไดโนนีคัสทั้ง5ตัวและฝูงไดโนเสาร์อีก3สายพันธุ์ที่ผมพามาจากเกาะทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์...กว่าจะทำเรื่องให้ฝูงไดโนนีคัสอยู่ในป่าร่วมกับไดโนเสาร์กินพืชได้ก็ใช้เวลาพอสมควร
ก็จริงอย่างที่ยูทาร์ว่าถึงฝูงไดโนนีคัสจะไม่ไล่ล่ามนุษย์แต่ก็จะไม่ยอมกินอาหารถ้าคนให้ไม่ใช่ผม
“...เราคงต้องทำงานหนักเลยล่ะ”ผมหันไปบอกยูทาร์พร้อมส่งยิ้มไปให้
ในเมื่อได้รับความเชื่อใจผมก็จะทำให้ดีที่สุด
“พร้อมอยู่แล้วถ้าได้อยู่กับเซโคร”
“ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้วนี่”
“ไม่พอนี่...พอจบภารกิจก็ต้องไปให้อาหารไดโนเสาร์...บางวันต้องไปช่วยพ่อทดลองแล็บจนผมต้องนอนคนเดียวตั้งนาน”ยูทาร์บอกเสียงอ่อยเมื่อนึกถึงวันก่อนที่ผมไม่มีเวลาให้
“งอนเหรอ?”
“เหงาด้วย...ผมอิจฉาฝูงไดโนนีคัสกับพวกเวโลซีแรพเตอร์ที่เซโครให้ความรักอยู่ทุกวัน”
“อิจฉา?”
“ผมกลัวว่าสักวันนึงเซโครจะไปเจอคนที่รักมากกว่าผม”คำพูดนั่นทำให้ผมโผลเข้าไปกอดอีกฝ่ายทันที
ยูทาร์ชอบคิดมากและคิดมากในเรื่องแปลกๆทั้งนั้น...ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไงที่ผมจะไปเจอคนที่รักกว่าและจะทิ้งตัวเองไป คำว่ารักที่พร่ำบอกดูจะไม่ทำให้ยูทาร์มั่นใจมากขึ้นเลยและถึงอีกฝ่ายจะได้ครอบครองผมไปแล้วก็ดูเหมือนจะยังไม่มากพอจะทำให้อีกฝ่ายมั่นใจ
“ห้ามคิดแบบนี้อีกนะ”ผมบอกพร้อมกับกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น
“แต่...”
“ผมรักยูทาร์....ผมรักยูทาร์...เซโครรักยูทาร์ได้ยินไหม!”ผมบอกคนตรงหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ผมก็รักเซโคร”
“อืม...พวกเรารักกัน”ผมบอกออกไปแล้วเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาสีเหลืองอำพันตรงหน้า
“ใช่...พวกเรารักกัน”
“ในเมื่อรักกันก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร...หัวใจผมมีแค่ยูทาร์คนเดียว”
“พูดแล้วนะ...”
“อืม”
“สัญญาได้ไหม?”ยูทาร์ถามพร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าผมเบาๆ ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมาราวกับคำขอร้องและอ้อนวอนให้ผมพูด
“สัญญา...เอางี้ไหม?”
“อะไร?”ยูทาร์ดูจะสนใจกับสิ่งที่ผมกำลังจะพูด
“ถ้ายูทาร์กังวลกลัวว่าผมจะมีคนอื่นก็บอกคนที่เข้าใกล้ผมเลยว่าเป็นแฟนผมน่ะ”ผมบอกออกไปพร้อมรอยยิ้ม
“ผมทำได้?”
“ได้สิ”
“ห้ามกลับคำด้วย”ยูทาร์พูดต่ออย่างรวดเร็ว
“ครับๆ...แต่ห้ามมากไปเอาเฉพาะเวลาที่ทนไม่ไหวจริงๆก็พอนะ”ผมรีบบอกต่อ
“ได้”
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปอีกหลายเดือนการเพาะเนื้อเยื่อประสบความสำเร็จไปด้วยดี...มีไดโนเสาร์สายพันธุ์ผสมหลายตัวที่กำลังจะเกิดมาในไม่ช้าและตอนนี้ก็ได้เวลาที่ผมจะไปทำการสัมภาษณ์เหล่าคนที่มาสมัครจะเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษของผม
การสัมภาษณ์จัดขึ้นตั้งแต่เช้าในตึกของบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษคนที่มาสมัครมีทั้งคนปกติธรรมดาที่ตกงานไปจนถึงเหล่าทหารจากหลายๆที่ซึ่งสร้างความลำบากให้พอสมควรเพราะผมต้องการคนที่รักและสามารถดูแลไดโนเสาร์ได้จริงๆเท่านั้นไม่ใช่คนที่ต้องการเด่นหรือดัง
ผลสรุปของวันนี้ผมก็ได้คนที่เข้าตามาประมาณ5คนจากผู้เข้าสัมภาษณ์หลายร้อยคน...คนที่ผ่านการทดสอบมีทั้งเด็กผู้ชายที่ดูจะอ่อนแอแต่มีจิตใจดีจนผมสัมผัสได้แล้วยังมีหญิงสาวผ่านการสัมภาษณ์ของผมด้วย
กว่าจะจบการสัมภาษณ์ก็ใช้เวลาไปหลายอาทิตย์เนื่องจากต้องเดินทางไปหลายประเทศเพราะข่าวที่หน่วยของผมจะได้ทำงานร่วมกับไดโนเสาร์ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกจนมีหลายประเทศขอร้องให้ผมไปเปิดรับสมัครที่นั่นด้วย
ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือเปล่าที่การเดินทางครั้งนี้ทำให้ผมสามารถไปเดทกับยูทาร์ได้อย่างจริงจังโดยไม่มีภารกิจเรียกตัวให้กลับไป...วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสัมภาษณ์และพวกเรามาอยู่ที่ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายที่ผมจะไป
มีหลายคนที่น่าสนใจแต่คนที่ถูกเลือกก็มีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
เซโครไม่ได้เอาตัวเองเป็นที่ตั้งในการสอบแต่ถามความเห็นจากยูทาร์ด้วย...มนุษย์ทุกคนมักจะบอกแต่สิ่งที่ตัวเองดีเด่นและสามารถทำได้ดีเพื่อเก็บสิ่งที่ไม่ดีเอาไว้ภายในแต่ยูทาร์รับรู้ได้ว่าใครที่ควรเชื่อใจและใครที่ไม่ควรเชื่อทำให้ทุกอย่างเสร็จเร็วกว่าปกติ
“ผมเหนื่อยมาก”ยูทาร์ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วส่งเสียงอู้อี้ออกมาจากหมอนใบโตในโรงแรมหรูของประเทศไทย
“เหมือนกันเลย”พูดจบเซโครก็ทิ้งตัวลงบนเตียงข้างๆยูทาร์ การเดินทางสัมภาษณ์เพื่อหาคนที่เหมาะสมต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามอย่างมาก...อีกอย่างยูทาร์ก็แค่นั่งนิ่งๆเอาแต่ดมกลิ่นกับมองหน้าตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นแต่ผมนี่สิต้องทั้งเอ่ยทักทาย ชวนคุยไม่ให้คนที่เข้ามาเกร็งเกินไปแถมยังต้องยิ้มอยู่ตลอดเวลาจนกรามจะค้างอยู่แล้ว
“วันนี้วันสุดท้ายใช่ไหม?”อีกฝ่ายพลิกตัวตะแคงแล้วถามขึ้น
“ใช่...พรุ่งนี้เราจะกลับแล้ว”
“งั้นเดทเราก็จบแล้วสิ”ยูทาร์พึมพำเสียงเศร้าพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้ผม
“นั่นสิ...ไว้หาเวลาว่างมาใหม่ละกัน”ผมตอบกลับไปก่อนที่ริมฝีปากเราจะประกบกันอย่างอ้อยอิ่ง...สัมผัสที่ได้รับทำให้ร่างกายพวกเราเริ่มร้อนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“อื้ออ~...”ยูทาร์พลิกตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้โดยที่ปากเรายังประกบกันอยู่อย่างแนบแน่น
ฝ่ามือร้อนๆของคนด้านบนเริ่มเลิกเสื้อผมขึ้นแล้วไล่ไปมาที่หน้าท้องขาว...การกระทำนั่นทำให้สติที่มีอยู่เริ่มเตลิดไปไกลแต่ก่อนที่จะขาดสติผมก็ยกมือยันเข้าที่ไหล่ของยูทาร์...
“อึก!...เดี๋ยว”
“...ทำไม?...ทำไม่ได้เหรอ?”เสียงเศร้าๆของคนด้านบนทำให้ผมกรอกตามองเพดานด้านบนอย่างพูดไม่ออก
“เมื่อวานก็พึ่งทำ”ผมตอบเสียงอ่อย
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เรามีอะไรกันยูทาร์ก็มักจะขอทำตลอดทั้งที่เลยฤดูติดสัดมาแล้ว...ไม่รู้ว่าอารมณ์ที่ยูทาร์มีมันคืออารมณ์ของมนุษย์หรือไดโนเสาร์กันแน่แต่ก็พอจะเดาได้ไม่ยาก...
ผมเคยบอกยูทาร์ว่าครั้งหน้าเราต้องสลับตำแหน่งแต่สุดท้ายผมก็โดนผู้ชายซื่อๆที่ใช้แค่สัญชาตญาณในการขยับตัวจัดการจนเสร็จไปหลายครั้ง...ทั้งที่อีกฝ่ายไม่เคยดูแม้แต่ดูเอวีหรืออ่านหนังสือเพื่อศึกษาเรื่องอย่างว่ามาก่อนแต่กลับทำได้อย่างเชี่ยวชาญจนผมต้องยอมให้
ไม่รู้ว่าไปเรียนมาจากไหน?
และตั้งแต่ที่เราออกตระเวนสัมภาษณ์ตามประเทศต่างเรียกได้ว่าเหมือนเป็นการมาฮันนีมูนเพราะผมโดนไดโนเสาร์หื่นนี่แทบทุกวันจนแทบนั่งไม่ไหวถ้าวันนี้โดนอีกคงไม่ต้องกลับไปทำงานกันแล้ว
“อยากทำนี่...”
“ถึงจะทำเสียงแบบนั้นก็ไม่ได้...พรุ่งนี้ต้องกลับแล้วถ้ามีภารกิจต่อใครจะรับผิดชอบ”ผมอธิบายด้วยเหตุผล
“ผมจัดการเอง”
“ยูทาร์!!”ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงดัง
“...ก็ได้...ไม่ทำก็ได้”ยูทาร์บอกเสียงเศร้าแล้วกลับไปนอนตะแคงมองหน้าผมตามเดิม
“เฮ่อ...ทำทุกวันไม่เบื่อรึไง?”ผมถามคำถามที่คาใจที่สุดออกไป
“ไม่เบื่อ”เสียงทุ้มสวนกลับมาในทันที
“มีอารมณ์มากขนาดนั้นเลยเหรอ?”ผมถามเพื่อหาข้อมูลไม่แน่ว่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์ตัวอื่นๆก็อาจเป็นเหมือนกันก็ได้
“ก็ไม่...แต่ถ้าจูบกับเซโครก็เริ่มมีแล้วล่ะ”
“ไดโนเสาร์ลามก!”ผมพูดขึ้นแล้วยกสองมือขึ้นปิดหน้าตัวเองพร้อมกับพลิกตัวไปอีกทาง
ตอนนี้เรียกได้ว่าทั้งเขินทั้งอาย...ยูทาร์ไม่ได้มีอารมณ์ตามธรรมชาติแต่มีอารมณ์เพราะจูบผม
ว่าง่ายๆก็มีอารมณ์กับผมนั่นแหละ
“เซโครหันหน้าหนีผมทำไมล่ะ?”เสียงทุ้มขยับเข้ามาใกล้แล้วกอดผมจากทางด้านหลัง
“ก็พูดเรื่องแบบนั้นได้หน้าตาเฉยได้ยังไงล่ะ?”ผมสวนกลับไป
“ผมแค่พูดความจริง”
“แล้ว...กับคนอื่นไม่มีอารมณ์เลยเหรอ...อย่างพวกผู้หญิง?”ผมลองถามดู...ไม่แน่ยูทาร์อาจจะสนใจผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างผมก็ได้และถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องหาทางอะไรสักอย่างกันไว้
“ผู้หญิง?...ไม่เลย...กลิ่นน้ำหอมก็ฉุดขนาดอยู่ไกลๆผมยังแสบจมูกเลย”ยูทาร์บอกด้วยน้ำเสียงรำคาญ
“แล้วผมล่ะ?”
“เซโครเหรอ?...ผมชอบกลิ่นเซโครอยู่แล้วเพราะงั้นอย่าใส่น้ำหอมนะ”ยูทาร์ตอบพรางซุกจมูกลงที่ต้นคอผมแล้วสูดดมกลิ่นเบาๆ
“ได้...ผมจะไม่ใส่ถ้ายูทาร์ยังอยู่ข้างๆผมแบบนี้”คำพูดนี้เป็นการย้ำว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญกับผมมากแค่ไหน...อะไรที่ทำให้ยูทาร์รู้สึกดีผมก็พร้อมที่จะทำเหมือนที่ยูทาร์ทำหลายอย่างเพื่อผม
“งั้นเซโครคงไม่ได้ใส่ไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ”
“ทำไมคิดงั้น?”ผมถามกลับแล้วหันไปสบดวงตาสีเหลืองอำพันของคนด้านหลัง
“เพราะผมจะอยู่กับเซโครไปตลอดชีวิต”คำตอบนั่นทำให้ผมยิ้มออกแล้วพลิกตัวกลับไปหายูทาร์
“เชื่อได้เหรอ?”
“ไม่จำเป็นต้องเชื่อ...”ผมขมวดคิ้วทำทันที่ได้ยินแบบนั้น
“หื้อ?”
“เพราะผมจะให้เซโครเห็นเอง...ไม่ว่าจะเป็นวันนี้...วันพรุ่งนี้หรือวันถัดไป...ผมจะทำให้เซโครเห็นว่าผมจะอยู่ข้างๆตลอดไป”ยูทาร์พูดต่อพร้อมกับคลียิ้มออกมาให้ผม
“...จะรอดูละกัน”ผมตอบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นจูบเบาๆที่ปลายจมูกของยูทาร์
ความรักระหว่างเรามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้...
มนุษย์และไดโนเสาร์ สายพันธุ์ที่ไม่มีวันจะอยู่ในยุคเดียวกันแต่เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทำให้ยูทาร์ได้เกิดขึ้นจนมาพบกับผม...ถ้าในตอนนั้นผมเลือกที่จะยอมแพ้ก็คงไม่มีพวกเราในตอนนี้
ชีวิตในแต่ละวันที่มียูทาร์เหมือนได้รับความสุขที่ไม่อาจหาอะไรมาทัดเทียมได้...
มันทั้งสนุกและมีความสุขจนเผลอคิดว่าถ้าสามารถเดินต่อไปพร้อมกับยูทาร์ได้ก็คงจะเยี่ยมไปเลย
คำสัญญาที่ไม่จำเป็นต้องให้คำมั่นเพราะยูทาร์จะแสดงให้ผมเห็นในแต่ละวันเองว่าเขาจะอยู่เคียงข้างผมเสมอไม่ว่าจะไปที่ใดหรือทำภารกิจไหนๆ
อาจมีคำพูดมากมายที่อยากจะพูดแต่มีเพียงแค่คำเดียวสั้นๆที่อยากบอกให้ยูทาร์ได้รู้
ไม่ว่าตอนนี้...
หรือตลอดไปก็ตาม...
“ผมรักยูทาร์”
“ผมก็รักเซโคร”
.......................................จบบริบูรณ์..............................................
สวัสดีค่า
ในที่สุดเรื่องนี้ก็ดำเนินมาจนถึงตอนจบแล้ว
ช่างยาวนานจริงสำหรับเรื่องนี้...เป็นเรื่องที่ได้รับการคอมเม้นท์มากที่สุด(ดีใจมากค่ะ)
คาดว่าเรื่องใหม่ที่แต่งหลังจากเรื่องนี้คงจะมีสำนวนที่ดีขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆที่แต่ง
ตอนนี้ก็มีที่พึ่งเปิดเรื่องใหม่แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่แต่งจบไปนานมากแล้วซึ่งกำลังปรับสำนวนอยู่ค่ะ
สำหรับเรื่องนี้ยังมีตอนส่งท้ายอีกเล็กน้อยนะคะ...จะเอามาลงในวันพรุ่งนี้ไม่ก็วันอังคาร
ช่วงนี้เราค่อนข้างยุ่งกับการบ้านเลยยังไม่ได้แก้คำผิดที่หลายๆคนคอมเม้นท์มาต้องขอโทษด้วยค่ะ(น้อมรับความผิด)...ถ้ายังไงขอให้ผ่านช่วงสอบไปก่อนแล้วจะแก้อย่างจริงจังตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ
เรื่องการใช้ ค่ะ คะ เราไปหาความรู้อ่านมาแล้วนะคะ...บอกตรงๆเลยค่ะว่าตอนแรกไม่ได้คิดมากกับคำที่ใช้แต่พอได้ไปหาอ่านก็รู้เลยว่าใช้ยังไง จะพยายามไม่ให้ใช้ผิดนะคะ
ต้องขอบคุณมากๆที่แนะนำ(ครั้งนี้ไม่น่าจะใช้ผิดเนอะ)
มีหลายคนที่คาใจว่าจะมีการสลับไหมคงจะได้เห็นคำตอบแล้วนะคะว่า...สลับไม่ได้ค่ะ555+
เมื่อมีครั้งแรกก็คงต้องยอมตลอดไปล่ะนะเซโครรร
มีหลายคนที่อาจไม่รู้ เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์กับทางสพน.Onederwhyนะคะ
ตอนนี้กำลังเปิดจองอยู่
สำหรับรายละเอียดจะมาบอกในตอนส่งท้ายนะคะ
มีคนที่จองถามมาว่าเนื้อหาแค่นี้มีตั้ง2เล่มเลยเหรอ?
เราขอตอบเลยนะคะ...ตอนแรกเราก็คิดว่าจะเป็นเล่มเดียวเหมือนกันค่ะทางสนพ.เลยให้นักวาดวาดปกเดียวแต่พอส่งต้นฉบับไปให้กลายเป็นว่าจำนวนหน้าเกินจำนวนที่กำหนดของ1เล่มไปค่อนข้างมากจึงจำเป็นต้องแยกเป็น2เล่มค่ะ
ในส่วนที่จะมีภาคต่อไหม?
ขอคิดอีกนิดแล้วจะบอกค่ะ
ส่วนเลือกลูกของทั้งคู่นั้น...จะมาในตอนพิเศษที่จะมาลงประมาณเดือนหน้าค่ะ
รู้สึกมีความสุขจริงๆที่ได้แต่งเรื่องนี้ขึ้น...ยูทาร์เป็นพระเอกในอุดมคติเราเลยค่ะ(ชอบแนวหล่อๆและขี้อ้อน)
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณนักอ่านทุกๆคนที่ทำให้เรามีกำลังใจในการแต่งนิยายเรื่องนี้จนจบเรื่องนะคะ...บอกตรงๆเลยว่าเราไม่ใช่พวกที่แต่งนิยายแล้วจบ...เรื่องอื่นๆที่แต่งมานั้นไม่จบสักเรื่อง พึ่งมีช่วงปีนี้ที่แต่งอย่างจริงจังแล้วจบหลายเรื่องอาจเป็นเพราะด้วยอายุที่เริ่มมีความรับผิดชอบและกำลังใจจากนักอ่านทุกคนทำให้มีวันนี้ค่ะ
ขอบคุณจริงๆค่ะ^^
ไว้เจอกันใหม่ในตอนส่งท้ายสั้นๆนะคะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
จบแล้วววว~ เรามีความสุขมากที่ได้อ่านเรื่องนี้ ขอบคุณคุณ nicedog มากๆนะคะ
-
ไม่น้าาาาาาาา จบแล้ววววววอ่ะ :mew2: :mew6:
-
จบแล้วววววว เราตามมาตลอดชอบเซโครมากในความพยายาม ชอบยูทาร์ด้วยยย เราจิรอตอนพิเศษนะ จะซื้อหนังสือด้วย 5555
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก ชอบนิยายเรื่องนี้มากค่ะ
-
จบแล้วววว
ขอบคุณคนเขียนมากๆสำหรับนิยายดีๆ
รักเซโคร รักยูทาร์ รักคนเขียนนน
:mew1:
-
งื้ออออ จบแล้วอ่ะ
ยังน้วยน้องยูทาร์ไม่เต็มที่เลย >//////<
น้องยูทาร์หื่นหนักมากลูก หึหึหึ แต่ป้าชอบนะ
รอบทส่งท้ายค่าาาาาา
-
ไม่คิดว่าจะจบแล้วนะเนี่ยยย :o12:
คงจะคิดถึง ยูทาร์กับเซโคร :mew1: :mew1: :m15:
รอตอนพิเศษน้าาา :mew3:
-
จุดพลุ!!!!!! น่ารักทั้งคู่เลย
แต่เดี๋ยวๆ เห็นแว๊บๆ มีลูกของทั้งคู่ด้วย
อร๊ายยยย รออ่านน้าาาาาาา
-
รอบทส่งท้าย รอตอนพิเศษ :mew1:
เราต้องคิดถึงยูทาร์กับเซโครมากแน่ๆ :กอด1:
-
ลูกกกก
โหยหวน
:monkeysad:
ขอตอนพิเศษรัวๆเลยค่ะพลีสสสสส
-
ขอบคุณนะครับ
-
จบแล้วอ่าาาา
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ เราชอบอ่านแนวแฟนตาซีอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งมาเจอเรื่องนี้เราก็ยิ่งชอบ
รอเรื่องต่อไป ให้เดาน่าจะเป็นผู้ดูแลคนใหม่จากประเทศไทย กับไดโนเสาร์ตัวใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม 5555555
-
จบแล้วหรือ ไม่อยากให้จบเลยอะ ชอบมากมากเลย
-
รอตอนพิเศษนะคะ :mew1:
-
สุดท้ายงานหนักก็โยนให้เซโครอยู่ดี
รอดูลูกๆวิ่งเล่น
-
ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ
เราชอบเรื่องนี้นะ แหวกแนวดี ยูทาห์กับเซโครก็น่ารัก
ยินดีด้วยกับพัฒนาการด้านการเขียนค่ะ
-
ว้า ไม่อยากให้จบเลยอะ ขอบคุณน๊าาาาา สนุกมากเลย
-
o13 o13 o13 :L1: :L1: :L1:
-
ยินดีด้วยค่ะที่ตอนนี้เราอ่านคร่าวๆแล้วไม่มีคำผิดเลย อิอิ ตอนนี้อาจจะเป็นเม้นสุดท้ายของเรื่องนี้ของเราแล้วนะคะ ส่วนตอนพิเศษก็จะไม่ขออ่านในเว็บนะคะ จะรออ่านในหนังสือทีเดียวเลยรอลุ้นค่ะ ตอนนี้ก็รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอหนังสืออย่างเดียวเลยค่ะ ! ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้เราอ่านกันนะคะ ^^
-
ใช่ๆ ยูทาร์นี่ละคือผู้ชายในอุดมคติเราเหมือนกัน ดูซื่อๆแต่หื่น เอ้ยย น่ารัก ดีค่ะ55555 คนอะไรน่าหยอกน่าหยิก ขี้หึงด้วย ความจริงเราชอบพระเอกทุกเรื่องที่คุณ nicedog เขียนนะคะ ตรงจริตเรามากกก น้อยเรื่องที่เราจะชอบพระเอกขนาดนี้55555(พอดีชอบอวยนายเอกเป็นพิเศษอิอิ เหมือนน้องเซโครนี่แหละ ชอบสุดๆ)
ขอบคุณมากๆค่ะที่แต่งเรื่องน่ารักๆแบบนี้ให้เราได้อ่านกัน^^ จะติดตามตอนหน้าและเรื่องหน้านะคะ
-
ชอบมากเลยค่ะ เซโครกับยูทาร์น่ารักม้ากมาก ใจละลายเลย
ป.ล.จะรอสอยหนังสือนะคะ
-
โอ้ยยยย ยูทาน่ารักมากกกกกกกกกก
อ่านไปอ่านมา นึกถึงหนังเรื่อว Jurassic เลยละ
-
สนุกค่ะ
ขำยูทาร์หน่อยๆ หื่นตลอดๆ
ขอคู่อืนด้วยได้มั้ย แบบว่าแมนๆรุกกันครัช แบบนั้น
-
ตอนจบ ยังน่ารัก หวานซ๊าาาาาาา
-
น่ารักเชียวค่ะเซโคร มีการหันมาฟ้องยูทาร์เสียด้วยว่าถูกคนในที่ประชุมโยนงานให้ตัวเองทำเพิ่ม :m20:
-
ต้องคิดถึงพ่อไดโนเสาร์ ยูทาร์ แน่ๆ เล้ยยย
รออ่านตอนพิเศษจ้าาา
-
จบซะแล้ววว
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
เป็นเรื่องโปรดเรื่องหนึ่งเลยค่ะ
ชอบยูทาร์กับเซโครมากๆ 5555
-
:L2: ขอบคุณค่ะ
น่ารักมากมาย
-
จบแล้วหรอ...สนุกมากเลย
-
:pig4: :pig4:
-
เราจะมีกองทัพไดโนเสาร์แล้ว
น่ารักนะพระเอกเรื่องนี้
ชอบจังเลย
ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ
-
*ตอนนี้ไม่ใช่ตอนพิเศษนะคะ...เป็นแค่ตอนส่งท้ายเลยอาจดูสั้นไปนิด ตอนพิเศษจะมาในเดือนหน้าแต่วันไหนขอก่อนนะ^^*
กลายรัก❧ส่งท้าย
ท่ามกลางสนามฝึกกลางแจ้งที่พึ่งถูกสร้างเสร็จเมื่อต้นปีตอนนี้เต็มไปด้วยมนุษย์กว่า20คนที่ดูเหมือนปกติแต่ภายในนั้นไม่ใช่เลย...เหล่าคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเซโครและยูทาร์ในตอนนี้เป็นไดนเสาร์พันธุ์ผสมที่เติบโตขึ้นท่ามกลางการดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งผมและยูทาร์ด้วย
วันนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ออกมาด้านนอกแบบนี้...ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่ถูกสร้างมาไม่ได้มีแค่เพศผู้แต่มีเพศเมียด้วยซึ่งหนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้นค่อนข้างเป็นปัญหาเล็กน้อย
“เซโครรร~”เสียงหวานเรียกชื่อผมพร้อมวิ่งเข้ามากอดแขนแน่น
“...แฌลลี่...มีอะไรเหรอ?”ผมหันไปถามผู้หญิงผมสีแดงเพลิงแซมดำที่เกาะแขนตนเองแน่นพร้อมกับเหล่มองไปด้านหลังที่ยูทาร์กำลังยืนกอดอกจ้องมาเขม็ง
“ไม่มีแล้วมาหาไม่ได้เหรอคะ?...หนูอยากอยู่ข้างๆเซโครนี่นา”เธอพูดเสียงออดอ้อน...ถ้าเป็นปกติผมคงไม่คิดอะไรมากแต่เพราะสายตาที่จ้องมาทำให้ต้องดันมือสองข้างที่เกาะแขนผมแน่นนั่นออกก่อนที่ยูทาร์จะทนไม่ไหว
ไม่รู้ว่าทำไมแฌลลี่ถึงเป็นคนที่ติดผมมากที่สุดเรียกว่าถ้าเห็นผมเมื่อไหร่ก็จะรีบวิ่งเข้ามาหาเป็นคนแรก...นั่นทำให้ยูทาร์ไม่พอใจมาก
คงจะกลัวว่าแฌลลี่จะแย่งผมไปจากเขาละมั้ง
“แต่ก็ไม่ควรทำแบบนี้นะ...เดี๋ยวจะมีการแนะนำคู่ของพวกเธอแล้วด้วย”ผมตอบกลบไปก่อนจะดึงแขนออกมาจากการจับกุมได้อย่างปลอดภัย
“ให้หนูคู่กับเซโครไม่ได้เหรอ?”เสียงอ่อนหวานที่ใครฟังก็คงจะใจอ่อน แต่ไม่ใช่กันผมแน่...ถ้าผมยอมคงเกิดสงครามย่อยๆขึ้นที่สนามนี่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“ไม่ได้หรอก”
“ทำไมละคะ?”เธอยังคงตื้อ
“ก็...”
“เพราะเซโครเป็นของผมไง!!”เสียงของยูทาร์ตะโกนแทรกขึ้นพร้อมกับเข้ามากอดผมจากทางด้านหลัง เสียงนั่นทำให้พวกที่อยู่รอบๆหันมามองทางนี้เป็นตาเดียว
“ยะ...ยูทาร์...”ไม่นะ...คงไม่คิดจะบอกพวกเขาเรื่องของเราใช่ไหม?
“ผมขอบอกไว้เลยไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย...ห้ามเข้าใกล้เซโครถ้าไม่จำเป็นเพราะผมหวงมาก...เซโครเป็นแฟนผม...ไม่สิ...เซโครเป็นคนรักของผม!!”พอพูดจบร่างของผมก็ถูกยกให้ลอยจากพื้นอย่างง่ายดายท่ามกลางเสียงพูดคุยกันดังลั่นรอบบริเวณ
“อ่อ...วันนี้ปล่อยอิสระนะ!”ผมตะโกนบอกเมื่อรู้ตัวว่าคงกลับมาไม่ทันสอนต่อแน่ๆ
ยูทาร์อุ้มผมมาจนถึงห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวผมลงบนเตียงแล้วตามขึ้นมาคร่อมอย่างรวดเร็ว...ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมเขม็งพร้อมกับก้มต่ำลงมาจนหน้าของพวกเราแทบชิดกัน
“ยูทาร์...”
“ผมไม่ชอบให้ใครแตะตัวเซโคร”ยูทาร์พูดขึ้นแล้วยกแขนข้างที่โดนแฌลลี่เกาะขึ้นมาแล้วเริ่มเลียตั้งแต่ปลายนิ้วไล่ลงมาจนถึงท่อนแขน...
“มันสกปรกนะยูทาร์”ผมพูดแล้วพยายามดึงแขนกลับมาแต่อีกฝ่ายกลับขืนไว้โดยที่ลิ้นร้อนยังคงเลียไปทั่วแขนของผมอย่างอ้อยอิ่ง
“...ผมไม่สน...ผมหวงนี่...”
“ไม่ใช่แค่หวงแล้ว...นี่มันเรียกว่าหึงหวง”ผมบอกออกไป
“หึง?”
“ความหมายก็ใกล้เคียงกับคำว่าหวงแต่เราจะหึงเฉพาะคนที่เราเป็นแฟนหรือคู่รักเท่านั้น”ผมอธิบายให้ยูทาร์ฟัง
“งั้นผมก็ใช้คำว่าหึงกับเซโครได้สินะ”
“แน่นอน...ก็เราเป็นคนรักกันนี่”
“คราวหน้าห้ามให้เธอแตะตัวอีกนะ”ยูทาร์บอกเสียงเข้ม
“ไม่ได้หรอก...เธอเป็นนักเรียนของผมกับยูทาร์นะ”ไม่มีทางที่แฌลลี่จะยืนพูดคุยเฉยๆได้โดยที่ไม่วิ่งเข้ามาหาผมหรอก
“ก็ผมหึงนี่”
“ใช้ศัพท์ใหม่เลยนะ”
“เซโคร!”
“เฮ่อ...รู้แล้ว...ผมจะพยายามละกัน”เมื่อยูทาร์เรียกผมเสียงดังก็ต้องยอมอีกฝ่ายทุกทีสิน่า
“ถ้ายังยอมให้แตะอีก...”
“อะไร?...นายจะทำอะไรผม?”ผมถามขึ้นอย่างสนใจ...
ยูทาร์จะกล้าทำอะไรผมได้ล่ะ?
“ทุกครั้งที่เธอแตะ...เซโครต้องยอมให้ผมทำ...”
“ไม่มีทาง!!”ผมรีบตะโกนขึ้นเมื่อรู้ความหมายของคำว่า ‘ทำ’ ที่ยูทาร์พูดมา
ยูทาร์คิดจะมีอะไรกับผมตามจำนวนครั้งที่ถูกแตะ?
มันไม่ยุติธรรมสุดๆไปเลย
ใครจะยอมสัญญาในข้อตกลงสุดเอาเปรียบแบบนี้กัน?
“เซโครไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...”ยูทาร์พูดเสียงต่ำแล้วก้มลงมาประกบปากกับผม...ลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาภายในทำให้ร่างกายผมร้อนรุ่มจนแทบขาดอากาศหายใจ
ฝ่ามือของยูทาร์ค่อยๆลดลงไปปลดกางเกงผมแล้วลากมือผ่านส่วนอ่อนไหวจนเสียงครางหลุดลอดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่...มันเหมือนเป็นเปลวไฟที่หล่อหลอมให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำอีก
ชื่อไหมล่ะว่าวันต่อมาผมต้องลาหยุดเพราะลุกจากเตียงไม่ไหว
การมีคนรักที่มียีนของไดโนเสาร์อยู่ทำให้เรารู้เลยว่าแค่3รอบมันยังไม่พอ...ยูทาร์เล่นมีแรงเท่าไหร่ใส่หมดไม่ยั้งเลยสักนิดถึงจะรู้สึกดีตอนที่ทำแต่หลังจากนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย...
ระหว่างที่นอนพักผมคงจะคิดหาวิธีไม่ให้แฌลลี่เข้ามาแตะผมอีกไม่งั้นต่อให้หักโบนัสจนหมดวันลาผมก็คงไม่พอแน่ๆ
.............................................................................
สวัสดีค่ะ
มาอัพตอนส่งท้ายช้าไปหน่อยทั้งที่สั้นนิดเดียวเองแท้ๆ
ขอโทษด้วยนะคะ
แบบว่านั่งทำงานไปมาทำไมมันเลยมาถึงวันอังคารแล้วนะ555(ไม่รู้ตัวเลยค่า)
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์นะคะ...อ่านวนหลายรอบเลย
เราตัดสินใจจะแต่งภาคต่อ
แต่เนื้อหาอาจไม่ใช่ที่หลายๆคนเดาไว้
ตอนนี้กำลังคิดเนื้อหาคร่าวๆอยู่
ถ้าเป็นคู่หูปกติคงไม่สนุก...
เอาเป็นว่ารออ่านกันดีกว่าเนอะ
ถึงจะอยากแต่งมากแค่ไหนแต่ด้วยงานที่มีมากในช่วงนี้ทำให้ไม่สามารถละไปแต่งได้จริงๆ
ถ้าจะให้บอกคร่าวๆก็คงเป็นช่วงปีหน้าไปเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ต่อจากนี้ขอโปรโมทหนังสือเล่มแรกในชีวิตหน่อยค่ะ><
(https://scontent.fbkk1-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xpa1/v/t1.0-9/12239497_1024685574250143_5710258013125165754_n.jpg?oh=295f86dd1339eb4f2f7bdf2adf8fdf8d&oe=56E24BD5)
หนังสือเรื่อง : Jurassic Heart ดวงใจ กลายพันธุ์รัก
ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ : Onederwhy
จำนวนเล่ม : 2 เล่มจบ
ราคา : ชุดละ 520 ไม่รวมค่าจัดส่ง
ระยะเวลา : 10 พ.ย. 58 - 10 ม.ค. 59
สามารถสั่งได้ที่ : http://onederwhyshop.lnwshop.com/
ภายในเล่มประกอบด้วย : -ตอนพิเศษในเล่มจำนวน 7 ตอนยาว(มี1ตอนที่จะลงในเว็บ)
-ภาพประกอบขาวดำไม่ต่ำกว่า 4 ภาพ
-special comic(การ์ตูนแก๊ก) 3 ตอน
*แนะนำให้เข้าไปอ่านรายละเอียดในเพจของสนพ.ก่อนสั่งซื้อนะคะ : https://www.facebook.com/onederwhy/?fref=ts
ตัวอย่างตอนพิเศษในเล่ม
Ex.
“อื้ออ~...อ๊ะ...จะทำถึงเมื่อ...อึก...ไหร่..”
“...อืม!...อีกรอบ...ผมขอครั้งนี้ครั้งสุดท้าย...”
.
.
.
ความรู้สึกแบบนี้มัน...
ไม่สบายสินะ
แถมยังไม่สบายหนักด้วย
.
.
.
“...ยู...ทาร์...”
“เซโครเป็นอะไร?...ทำไมไม่พูดล่ะ?...แถมตัวก็ร้อนๆด้วย...เซโคร”
.
.
ตัวอย่างสั้นๆค่ะ
ติดตามฉบับเต็มได้ในเล่มนะคะ
มีตัวอย่างแค่ตอนเดียวอาจน้อยไปหน่อย
งั้นจะลงตัวอย่างของอีกตอนให้นิดนึงนะคะ
Ex.
“ยูทาร์กลับห้องไปก่อนเลยนะเดี๋ยวผมตามไปที่หลัง”
“ผมไปด้วยไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้...ห้ามแอบตามมาด้วย”
.
.
.
“...ยูทาร์?...ร้องไห้ทำไม?”
“...เซโคร...เปลี่ยนไป”
“เซโครทิ้งผม...ให้อยู่คนเดียว”
.
.
.
“อ้อ...พี่บอกไว้น่ะ อยากให้รู้ไว้ว่าเซโครตอนเมา...ยั่วสุดๆ”
“อ่า!...ยูทาร์....ยูทาร์”
“เซโคร...”
“...ทำกันนะ”
.
.
.
ติดตามต่อได้ในเล่มค่ะ
ยังมีอีกหลายตอนที่ไม่ได้สปอย...เราขอสปอยแค่2ตอนนะคะ
ที่เหลือไปรอลุ้นในเล่มรับลองไม่ผิดหวังค่ะ
สำหรับการแก้ไขเนื้อหา...มีแน่นอนค่ะถึงจะไม่ทั้งหมดที่ได้รับคำแนะนำมาแต่ถ้าเป็นพวกขนาดของที่อยู่หรือนิสัยที่ไม่เหมาะสมเราได้ทำการแก้แล้วค่ะ อาจมีหลายที่ที่ไม่ได้แก้ยังไงก็ขึ้นอยู่กับทางสนพ.ด้วยว่าจะเพิ่มหรือปรับตรงไหนไหม
ถ้าสั่งพรีออเดอร์ตอนนี้สิ่งที่ได้ : + 1 ตอนสั้นเป็นเล่มเล็กแถม
+ ที่คั่น2ลาย
+ โปรสการ์ด 2 ใบ
+ โปรสเตอร์ขนาดA4ถ้าสั่งพร้อมหนังสือรอบพรีของสนพ.อีก1เล่ม
ขอบคุณทุกคนที่อุดหนุนผลงานเล่มแรกของเราด้วยนะคะ
จะพยายามพัฒนางานเขียนให้ดียิ่งๆขึ้นไปค่ะ
ขอบคุณทั้งทางสนพ.ที่หยิบยื่นโอกาสให้นัดเขียนมือใหม่
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ช่วยเชียร์และเป็นแรงใจตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงจบ
ขอบคุณนักอ่านที่ช่วยคอมเม้นท์เรื่องคำผิดหรือแนะนำในสิ่งต่างๆเพื่อให้นิยายเล่มนี้ออกมาดีที่สุด(มีหลายคนมากแต่อยากจะขอบคุณมากๆสำหรับสองท่านนี้เลยค่ะคุณrayaijiและคุณเกริด้า(๐-*-๐)v...ทั้งช่วยเรื่องคำผิดและยังแนะนำหลายๆอย่าง ขอบคุณมากค่ะ)
ขอบคุณจริงๆค่ะ
ทุกๆคอมเม้นท์ทำให้เรามีกำลังใจและยิ้มได้จริงๆ...เวลามีเรื่องงานเครียดๆได้อ่านคอมเม้นท์ก็มีความสุขแล้วค่ะ
ไม่ใช่แค่นักอ่านที่มีความสุขเวลาอ่านนิยาย...นักเขียนก็มีความสุขเวลาอ่านคอมเม้นท์เช่นกันค่ะ
ในภาคต่อ...ยังไงก็ช่วยติดตามด้วยนะคะ^^
ต้นปีหน้าเจอกันกับภาคต่อค่ะ(ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด)
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
:z13: :z13:
-
ผมจะไม่พลาดเพราะตอนพิเศษนี่ล่ะ ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นคร๊าบบบบ ชอบทุกตอนเลยยยย
และอีกอย่าง สั่งไปแล้วด้วยครับ ฮ่ะๆๆๆ
-
:-[ อร๊ายยย พ่อไดโนเสาของเจ๊ หื่นจนสะโพกแทบพังสินะ
-
จะตั้งหน้าตั้งตารอ ตอนพิเศษเลยคะ
-
ภาคต่อ!!!!!!
ตีตั๋วรอเลยค่า~
-
ว๊ายๆๆๆๆๆๆๆ
หนูยูทาร์ลูกกกกกกก
ถ้าทำตามจำนวนที่เซโครโดนแตะตัว
ป้าว่าหนูได้ลูกหัวปีท้ายปีแน่เลย คึคึคึ
น้องยูทาร์ลูกกกกกกป้าโอนเงินเป็นค่าสินสอดเรียบร้อยแล้ว
รอวันที่(พี่ไปรพา)หนูมาอยู่ที่บ้านป้าาาาา ><
ปล.รอภาคต่อค่าาาาาาาา
ปล2 อย่ามีดราม่าเลยนะคะ พลีสสสสสส หัวใจเราอ่อนแอออออ
-
>___< มีใครหื่นกว่านี้อีกไหม 5555
เซโครสู้นะลูก ไดโนเสาร์หื่นทุกวันเลย
-
มันต้องมือลั่นกดสั่งแน่นอนนนนน
-
เง้อออออ อยากอ่านแล้วอ่าาาา
-
:mew1: :mew1:
-
ยูทาร์กำไรสุดๆ :z1:
-
ฟินเวอร์
เห็นตัวอย่างแล้ว......
เก็บอาการแล้วรออ่านขอรับ
-
เซโครห้ามไม่ไหวหรอกก ยูทาร์หื่นซะขนาดนี้ แถมขี้หวงอีก ต้องทำใจและยอมรับ
ปกหนังสือสวยมากเลยยย :mew1:
-
หึงหวงแบบได้กำไรสุดๆ :hao6:
-
ยูทาร์น่ารักอ่ะ ใจเย็นมาก
-
เซโครเสน่ห์แรง เราชอบมากกกกกกกกก
ยูทาร์ขี้หึง เราเป็นปลื้มที่สุดดดดดดดดดด
นักเขียนแต่งเรื่องน่ารักๆมาให้อ่านกัน เรารักมากมายยยยยยย
ขอบคุณมากจ้า
-
รอๆ รอตอนพิเศษกันต่อไป
-
o13
-
Happy Ending :กอด1:
-
ชอบมากกกกก คือดีใจที่มีนิยายแปลกใหม่สนุกๆมาให้อ่าน
แต่งดีมากๆเลย รู้สึกหลงรักเรื่องนี้อ่ะ
ขอบคุณนะคะ ไม่อยากให้จบเลยยย
-
ขอบคุณมากๆนะค่าาที่แต่งนิยายสนุกแบบนี้ลุ้นมากเลยเป็นนิยายที่ดีมากอยากให้มีอีกยังไม่อยากให้จบเลยยยยคืออ่านแล้วประทับใจมากๆ ถึงจะเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแต่พูดมาไปแล้วอินตามมากเลยอย่าลืมตอบพิเศษเค้าน่าาา
:impress2: :L2: :3123: :L1: :mew2:
:mew1: :pig4: :pig4: :pig4:
-
สั่งจองไปแล้วค่าาาาา.......ตอนพิเศษมีลูกด้วย????? :katai2-1:
-
เซโครยูทาร์น่ารักกกกกก
-
สนุกมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้เรื่องต่อไปนะคะ
-
ตั้ลล๊ากกกกกก สนุกมากค่าาาาาาาา :hao7: จะรอเรื่องต่อไปเลยยยยยย :mew1:
-
:pig4: ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายน่ารักๆ รอตอนพิเศษนะคะ
-
เห็นสปอยแล้วรีบแคะกระปุกหมูน้อยเลย :m25:
-
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ จะติดตามผลงานนต่อไปนะคะ :pig4: :L2:
-
สุดยอดเลย จินตนาการได้ไง ไดโนเสาร์เป็นเมะ o13
สนุกมากๆ อ่านตอนแรกก็ติดหนึบเลย ปวดฉี่ยังอั้นไว้ไม่ลุกไปห้องน้ำอ่ะคิดดู 555
ได้ความรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์อีกต่างหาก
ชอบมากๆ ขอบคุณที่สร้างสรรนิยายที่น่าประทับใจนี้มาให้อ่านนะจ๊ะ :pig4:
-
อ่านจบแล้ว มีคำถามค่ะ.....
แบบยูทาร์หาที่ไหนได้คะ
จตุจักรมีไหม ? อยากได้มาขี่สักตัว
:hao7:
ขอบคุณผู้แต่งมากค่ะสำหรับนิยายดีๆ
ทำเอาเราอยากดูจูราสสิคเลย :-[
-
เพิ่งได้มาอ่านอ่ะ ติดยูทา กับเซโคร มากๆเลย อยากอ่านอีกนะคะ คนเขียนเขียนดีมากเลยอ่านไหลลื่นมาก วางไม่ลงกันเลยทีเดียว อยากอ่านเยอะเลยยังอยากให้มีต่ออีกนะคะ ภาคต่อๆๆๆๆๆ เรารอเสมอนะ
-
o13
-
ตอนแรกกะว่าอ่านจบก่อนแล้วจะมาเม้นทีเดียว
แต่พออ่านตอนที่17 ก็ทั้งฮา ทั้งเห็นใจเซโคร
จนต้องมาเม้น 5555555
คือเป็นการเดทที่เหนื่อยมาก 5555555
ลั่นมาก ขำมาก น่าสงสารมาก ไปในเวลาเดียวกัน555
-
อ่านจบแล้วววว ชอบอะ สนุก ได้ความรู้ไดโนเสาร์ด้วย
55555
อ่านเพลินๆดี ไม่อยากให้จบเลย
-
ชอบเรื่องนี้มาก คือเคยแต่เจอพระเอกเป็นเสือ..งู..หมาป่า
พอพระเอกเป็นไดโนเสาร์ เออ..สงสัยว่าจะเป็นแบบไหนกัน
คนเขียน สามารถเขียนเรื่องนี้ได้ดี.อ่านลื่นไหล..ข้อมูลที่ใช้ในการเขียนเยี่ยม
รีบๆเขียนเรื่องใหม่นะคร้า...จะรอติดตามจร้า
-
ชอบมากกกกกกก สนุกมากเลยค่ะ :-[
อยากให้ทำเป็นE-bookจังเลยค่ะ
รอภาคต่ออยู่นะคะ :L2:
-
เป็นเรื่องที่แปลกแหวกแนวมาก!! แต่อ่านละหุบยิ้มไม่ได้เลยยยยย :mew1:
-
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ สนุกมากๆเลย เป็นแนวที่แปลกแหวกสุดๆ แต่อ่านแล้วอิน อยากเลี้ยงไดโนเสาร์บ้างเลย
ยูทาร์น่ารักใสซื่อมากๆ ถึงตอนหลังๆจะเริ่มหื่นกาม 5555เชื่อว่ายูทาร์จะรักและซื่อสัตย์กับเชโครคนเดียวตลอดไป
ถ้ามีคู่อื่นก็อยากอ่านอีกนะคะ
-
o13
-
เลิฟๆไดโน่ เลิฟๆคนเขียนนน :กอด1:
ขอตอนพิเศษอีกซักตอนไม่ได้หยอ Y Y
ราคาช่างเจ็บกระดองใจเสียเหลือเกิน :z3:
-
น่ารักมากกกกก อยากอ่านรุ่นลูกจัง
ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้นะคะ ชอบมาก :pig4:
-
สนุกมากเลย
-
:pig4: :L2: :กอด1: :pig4:
-
แฟนตาซีมากเลย ชอบบบบบ ไดโนหื่นมาก พอได้เท่านั่นแหละ 55555 ติดใจเลยดิ เด็กของเรามันแซ่บ 5555
-
เรื่องแหวกแนวดี อ่านสนุก พระเอกมีสัญชาตญาณดิบของสัตว์(ไดโนเสาร์)ต่ำไปหน่อย ออกจะเหมือนพวกมนุษย์กลายร่างมากกว่า // ตอนแรกๆลุ้นว่า จะออกแนวเรื่องคิงคองไหม 555 // จำได้ว่าจะมีคู่นี้จะมีลูกเลี้ยงนี่คะ หรืออยู่ในตอนพิเศษ?
-
ชอบแนวนี้มากเลย สัญญาเลยว่าจะซื้อแน่นอน
ชอบยูทาร์ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆ น่ารักมากเลย
ความรู้สึกคือเหมือนอ่านนิยายรักวัยรุ่น55555
เพราะนางทั้งคู่ดูใสๆมากๆ
ขอบคุณนีกเขียนที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆให้ได้อ่านค่า
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ขอทำสารบัญให้ใหม่นะคะ จะได้กดลิงค์ไปตรงกับโพสเนื้อเรื่องเลย ไม่ต้องเลื่อน ขอรบกวนก็อปไปวางแทนที่เลยนะคะ
กลายรักครั้งที่❧ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3098635#msg3098635)
กลายรักครั้งที่❧ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3103121#msg3103121)
กลายรักครั้งที่❧ 3-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3106386#msg3106386)
กลายรักครั้งที่❧ 3-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3106388#msg3106388)
กลายรักครั้งที่❧ 4-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3108880#msg3108880)
กลายรักครั้งที่❧ 4-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3111512#msg3111512)
กลายรักครั้งที่❧ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3116972#msg3116972)
กลายรักครั้งที่❧ 6-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3119322#msg3119322)
กลายรักครั้งที่❧ 6-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3122839#msg3122839)
กลายรักครั้งที่❧ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3128304#msg3128304)
กลายรักครั้งที่❧ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3135061#msg3135061)
กลายรักครั้งที่❧ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3143028#msg3143028)
กลายรักครั้งที่❧ 10-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3161835#msg3161835)
กลายรักครั้งที่❧ 10-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3165402#msg3165402)
กลายรักครั้งที่❧ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3172248#msg3172248)
กลายรักครั้งที่❧ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3181454#msg3181454)
กลายรักครั้งที่❧ 13-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3185790#msg3185790)
กลายรักครั้งที่❧ 13-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3188962#msg3188962)
กลายรักครั้งที่❧ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3196110#msg3196110)
กลายรักครั้งที่❧ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3202652#msg3202652)
กลายรักครั้งที่❧ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3208470#msg3208470)
กลายรักครั้งที่❧ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3213437#msg3213437)
กลายรักครั้งที่❧ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3218503#msg3218503)
กลายรักครั้งที่❧ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3224802#msg3224802)
กลายรักครั้งที่❧ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3230760#msg3230760)
กลายรักครั้งที่❧ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3236527#msg3236527)
กลายรักครั้งที่❧ส่งท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3238688#msg3238688)
กลายรักพิเศษ❧หวง หึง งอน ง้อ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3156549#msg3156549)
กลายรักพิเศษ❧สอนว่ายน้ำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.msg3192797#msg3192797)
-
อ่านยาวจนจบแล้วค่ะ สนุกมากค่ะ ชอบบบบบ
น่ารักทั้งเซโครทั้งยูทาร์เลย อยากได้แบบยูทาร์ซักตัว55555
แต่คงไม่มีปัญหาเลี้ยงได้แบบเซโคร 5555
ยูทาน์นั่นไดโนเสาร์หรือลูกหมาลูกแมวขี้อ้อนกันแน่หน่ะ 55555
คุณพ่อก็น่ารัก นี่ถ้าเรื่องนี้ไม่มีเกี่ยวกับคุณแม่นี่คุณพ่อน่าถูกจิ้นมากเลย 55555
แฟนตาซีบางทีอ่านแล้วอาจจะรู้สึกแบบ
เอ๊ะอันนี้มันเหมาะสมไหม มันเว่อไปไหมอะไรแบบนี้
แต่สำหรับเราถือว่าเขียนออกมาได้โอเคนะคะ อ่านลื่นดี
แล้วก็ขอชื่นชมคนเขียนในเรื่องการใส่ใจรายละเอียด
การหาข้อมูลต่างๆไรแบบนี้ มีข้อมูลไดโนเสาร์ปิดท้ายด้วย
เรารู้สึกว่าดูใส่ใจรายละเอียดดีค่ะ ชื่นชมเลย (:
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ และเป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องต่อๆไปค่าา
-
กลายรักพิเศษ❧ครอบครัวของเรา
บรรยากาศใกล้รุ่งสางเป็นช่วงเวลาที่น่านอนมากที่สุดสำหรับหลายๆคนรวมถึงคนสองคนที่นอนกอดกันกลมอยู่บนเตียงภายในห้องพักนี้ด้วยแต่เสียงเครื่องมือสื่อสารที่สั่นไม่หยุดทำให้ชายหนุ่มเส้นผมสีทองหม่นต้องเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์นั้นอย่างงัวเงีย
“...ครับ”เซโครกดปุ่มรับสายโดยที่ไม่ได้ดูว่าใครโทรมาด้วยน้ำเสียงสะลึมสะลือ
(เกิดเรื่องใหญ่แล้วเซโคร!!)เสียงตะโกนของคนที่คุ้นเคยดังขึ้นทำให้ผมที่หลับตาอยู่ค่อยๆปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก
“...พ่อ?”ถ้าจำไม่ผิดเสียงของปลายสายคือพ่อของผมเอง
(ตื่นได้แล้วเซโครเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!)เสียงตะโกนที่ดังผ่านมาอีกรอบทำให้ผมต้องยกเครื่องโทรศัพท์ให้ออกห่างหูเพราะทนเสียงที่ดังขนาดนั้นไม่ไหว
“...อะไรเหรอเซโคร?”ยูทาร์ที่นอนอยู่ค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังจากปลายสาย
“พ่อโทรมาน่ะ”
“พ่อ?...แล้วมีอะไรเหรอ?”ยูทาร์ลุกขึ้นนั่งบนเตียงพรางเกาหัวอย่างสะลึมสะลือไม่ต่างจากผมเมื่อครู่เลยสักนิด
“ไม่รู้สิ”
(นี่ฟังกันอยู่รึเปล่าเนี่ย?)
“ครับพ่อ...มีเรื่องอะไรครับ?”ผมถามกลับพรางเลื่อนสายตาไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาตี4ครึ่งอย่างเซ็งๆ
เมื่อคืนผมพึ่งกลับมานอนตอนตี1นี่เองเนื่องจากภารกิจที่ได้รับต้องทำงานในช่วงกลางคืนซึ่งถือว่าผมและยูทาร์ถนัดงานตอนกลางคืนเป็นพิเศษเลยสามารถจัดการได้ไม่อยากแต่ด้วยความผิดพลาดทำให้ไดโนเสาร์ตกลงไปในน้ำแถมไดโนเสาร์ตัวนั้นยังว่ายน้ำไม่เป็นกว่าจะช่วยเหลือได้สำเร็จก็ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงทำให้ทั้งผมและยูทาร์ต่างเหนื่อยอ่อนกันแบบสุดๆ
ทั้งที่ควรจะได้นอนตื่นสายแต่กลับต้องมาตื่นทั้งที่นอนไปยังไม่ถึง4ชั่วโมงเนี่ยนะ?
ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่จริงๆพ่อโดดแน่!
(ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่เกิดเมื่อเดือนที่แล้วเกิดอาละวาดขึ้นมาน่ะสิ!)เสียงตะโกนจากปลายสายทำให้ความงัวเงียที่มีหายวับไปกับตา
“ว่าไงนะ?...อาละวาด?!”ผมถามกลับอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
ตั้งแต่มีการเพาะเลี้ยงไดโนเสาร์กลายพันธุ์ก็ผ่านไปสองรุ่นแล้วและก็ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน...อาจเพราะพวกเขาได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดรวมถึงได้รับรู้ถึงตัวตนของตัวเองตั้งแต่แรกทำให้ไม่เกิดอาการสับสนเหมือนตอนยูทาร์ดังนั้นการที่ได้ยินว่าเกิดอาละวาดทำให้ผมเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี
(ใช่...ตอนนี้มาที่เขตA1ด่วนเลย...พ่อเรียกโนว่ามาช่วยแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลไหม)
“เข้าใจแล้วครับ...ไม่เกิน5นาทีจะถึงแน่”เมื่อวางหูผมก็รีบลุกขึ้นจากเตียงไปเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว
“ยูทาร์”
“อืม...จะลุกเดี๋ยวนี้แหละ”ทันทีที่ผมเรียกคนที่ซุกตัวขดอยู่ในผ้าห่มอีกรอบเขาก็สะบัดผ้าห่มทิ้งแล้วลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเงียบๆ...ไม่แปลกที่ยูทาร์จะดูสะลึมสะลือขนาดนั้น การที่ต้องลงไปช่วยไดโนเสาร์ที่หนักหลายตันขึ้นจากน้ำไม่ใช่งานง่ายเลย
“ไหวนะยูทาร์?”ผมหันไปถามพรางติดกระดุมเม็ดสุดท้าย
“ไหว...รีบไปเถอะ”
หลังจากนั้นพวกเราก็รีบตรงไปยังเขตA1ซึ่งตอนนี้ถูกพัฒนาให้เป็นที่อยู่ของเหล่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่ยังเด็กอยู่รวมถึงคนที่ยังไม่มีคู่หูด้วย...ยังไม่ทันเข้าไปด้านในเสียงคำรามก็ดังกึกก้องจนพวกเราต้องรีบวิ่งเข้าไปภายใน
สภาพที่เห็นตอนนี้เหมือนในหนังบู๊สักเรื่องที่มีฉากไดโนเสาร์ถล่มตึก...ตึกที่ไว้สำหรับพักถูกทำลายลงจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมสักนิดและตัวการณ์ที่ทำคือไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่กำลังกางปีกกว้างพร้อมอ้าปากเรียวออกจนเห็นคมเขี้ยว ผิวหนังสีเงินที่เหมือนเกร็ดของมังกรและปีกสีเดียวกันที่สยายออกพร้อมกับบินโฉบไปมาราวกับไม่พอใจอะไรสักอย่างอยู่
“เกิดอะไรขึ้น?!!”ผมรีบตะโกนถามคนที่ยืนอยู่แถวนั้นทันที
“ไดโนเสาร์อาละวาดครับ”เด็กคนนึงตอบคำถามผม
“เรื่องนั้นรู้แล้ว”ผมตอบกลับพร้อมกับวิ่งไปด้านหน้าที่ตอนนี้มีเหล่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่กลับร่างไดโนเสาร์พยายามจะจับไดโนเสาร์ที่บินอยู่บนฟ้าแต่ด้วยความที่ไม่มีปีกเลยได้แต่วิ่งไล่กับกระโดดขึ้นเท่านั้น
“พ่อ!!”ผมตะโกนเรียกชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า
“เซโครมาแล้วเหรอ?...เอาไงดีไม่มีใครหยุดได้เลย”พ่อหันมาถามอย่างร้อนรนพรางมองไปยังภาพด้านหน้าอย่างกลุ้มใจ
“เด็กคนนั้น?...สายพันธุ์ใหม่ใช่ไหมครับ?”ผมถามขึ้นเมื่อรู้สึกไม่คุ้นกับร่างไดโนเสาร์นั้นเลย
จริงอยู่ที่ผมต้องเป็นคนดูแลและเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของไดโนเสาร์กลายพันธุ์แต่ช่วงหลังภารกิจที่ได้รับค่อนข้างหนักเลยยกหน้าที่นี้ให้พ่อซึ่งคิดว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว
“ใช่...พึ่งคลอดออกมาเมื่อเดือนก่อน”
“เป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์ตัวแรกที่บินได้”ผมพึมพำออกมาเบาๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์กลายพันธุ์สายพันธุ์ที่ผสมหรือตัดต่อยีนลงไปมีเพียงแค่ไดโนเสาร์กินพืชและกินเนื้อที่อยู่บนบกเท่านั้น....ไม่เคยมีไดโนเสาร์ที่อยู่ในน้ำหรือไดโนเสาร์ที่บินได้มาก่อนเพราะผมคิดว่ามันควบคุมยากเวลาเป็นแบบนี้แต่พอผมไม่ได้มาดูแค่ไม่นานพ่อก็ดันสร้างขึ้นมาซะงั้น
“อืม...พ่อคิดว่าถ้าสามารถโจมทีทางอากาศได้เราน่าจะได้เปรียบ”พ่ออธิบาย
“แต่ตอนนี้เรากำลังเสียเปรียบเพราะไม่รู้จะจับเขาลงมายังไง!”ผมสวนกลับไปพรางคิดว่าจะเอายังไงต่อไปดี
“วิ๊ววว~...”เสียงผิวปากของพี่โนว่าดังขึ้นพร้อมกับฝูงยูทาห์แรพเตอร์ที่กระโดดขึ้นโดยใช้หลังของไดโนเสาร์ตัวใหญ่เป็นฐานแต่อีกด้านที่บินอยู่เหมือนจะรู้ทันเลยบินหลบไปได้อย่างรวดเร็ว
“ฉลาดมาก”ยูทาร์พึมพำเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ไม่ใช่แค่ฉลาดแต่ยังมีไหวพริบและการเคลื่อนไหวที่ดีมากด้วย
“พ่อ...สายพันธุ์ที่ผสมไปมีอะไรบ้าง?”ผมหันไปถามด้วยความสนใจ
หวังว่าคงไม่ใช่สายพันธุ์แปลกๆหรอกนะ
“ทูพูซัวรา...”
“ห๊ะ?...ไดโนเสาร์ที่มีหน้าตาประหลาดคล้ายมังกรน่ะเหรอ?”ผมพูดขึ้นด้วยความตกใจ
“ใช่....ทูพูซัวรา...เป็นไดโนเสาร์บินได้ที่สูงประมาณยีราฟและมีหน้าตาที่แปลกจนนักวิทยาศาสตร์คนนึงบอกว่าเป็นไดโนเสาร์ที่มีหน้าตาคล้ายมังกร ปีกขนาดให้หนึ่งคู่ทำให้สามารถบินได้ในพื้นราบและบนท้องฟ้า...เป็นไดโนเสาร์ที่ไม่ได้แค่จับปลาที่อยู่ในน้ำกินเท่านั้นแต่ยังจับไดโนเสาร์ตัวเล็กๆกินเป็นอาหารอีกด้วย”พ่ออธิบายยาวโดยที่ยังไม่ละสายตาออกจากไดโนเสาร์บนฟ้า
“แล้วสายพันธุ์อื่นล่ะ?”ผมไม่คิดว่าพ่อจะจบลงที่ทูพูซัวราผสมกับมนุษย์แค่นั้นหรอกนะ
“...เทอริซิโนซอริเดส”
“เทอริซิโนซอริเดส?”ไดโนเสาร์ตัวนี้ผมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย
“เทอริซิโนซอริเดสเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อผู้ลึกลับที่มีจุดเด่นของมันคือมันมีคอยาวและกรงเล็บขนาดใหญ่รวมถึงมีขนระหว่างแขนสีสันฉูดฉาด”จากที่ฟังเราไม่ค่อยมีข้อมูลของสายพันธุ์นี้สักเท่าไหร่แถมยังไม่เคยมีการเพาะพันธุ์มาก่อนด้วย
เอามาผสมรวมแบบนี้จะเป็นไรไหมเนี่ย!
“แค่นี้ใช่ไหมครับ?”
“เปล่าๆ...ยังมีอีก”
“พ่อ...ผมบอกแล้วไงว่าอย่าผสมมั่ว!”ผมตะโกนกลับไปเสียงดัง
“ก็มัน...”
“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยเลย...บอกต่อเร็วๆ”
“มีเคนโทรซอรัส”
“ไดโนเสาร์กินพืชชื่อของมันมีความหมายว่ากิ้งก่าแหลมคมเพราะลำตัวส่วนหน้าของมันมีแผงกระดูกโผล่ออกมาและส่วนจากหลังถึงหางของมันก็มีหนามแหลมคมโผล่ออกมาเช่นกัน”ผมพึมพำสิ่งที่คิดได้ขึ้นมา
“มียีนแฝงด้วนะ”พ่อพูดพร้อมกับหันมายิ้มกว้างให้ผม
“ยีนแฝง?”
“ใช่สุดท้ายเป็นยีนแฝงที่ใส่ไปเพื่อเป็นอาวุธในการต่อสู้และป้องกันตัวเท่านั้น...นั่นคือปลาหมึกบลูริงหรือปลาหมึกวงแหวนน้ำเงิน”
“ปลาหมึก?...ยีนของปลาหมึกจะไปเป็นอาวุธหรือเกราะป้องกันได้ยังไง?”ยิ่งพูดยิ่งงง
ผมอาจเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสายพันธุ์ไดโนเสาร์แต่กลับสัตว์อื่นนี่อย่ามาถามเลยแค่แยกกวางกับเก้งได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว...คนเราก็ต้องมีทั้งสิ่งที่เก่งและไม่เก่งบ้างแหละ
“ปลาหมึกบลูริงมีขนาดตัวเมื่อโตเต็มวัยจะอยู่ที่ประมาณ12-20เซนติเมตรผิวหนังมีวงแหวนสีน้ำเงินปรากฏอยู่ทั่วตัว เมื่อมันโกรธสีลำตัวจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มและพร้อมที่จะโจมตีเหยื่อหรือศัตรูที่ตัวใหญ่กว่า...พิษของมันร้ายแรงกว่าสารพิษไซยาไนด์ประมาณ10,000เท่าได้”พ่ออธิบายให้ฟัง
“ร้ายแรงกว่าพิษไซยาไนด์10,000เท่า!!”ผมถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินข้อมูลที่แสนสุดยอดนี่
โดนเข้าไปนิดเดียวได้ตายแบบไม่ต้องเสียเวลาไปส่งโรงพยาบาลเลย!
“มันเป็นแค่ยีนแฝง”
“ถึงจะทำเสียงอ่อยผมก็ไม่สงสารหรอกนะพ่อ...แบบนั้นมันอันตรายแล้วพิษออกมาทางไหนล่ะ?”ผมถามไว้เพื่อเอาไปเป็นข้อมูล
“ไม่รู้สิ”คำตอบนั้นทำให้ผมหันควับไปค้อนพ่อทันที
ผสมเองแต่ดันไม่รู้เนี่ยนะ?
“พี่โนว่าบอกให้พวกยูทาห์แรพเตอร์ถอยออกมาก่อนครับ!”ผมเลิกสนใจพ่อที่ส่งยิ้มแหะๆมาให้แล้ววิ่งไปสบทบกับพี่โนว่าแทน
“ทำไมล่ะ?”
“เราไม่รู้ว่าพิษของปลาหมึกบลูริงจะอยู่ที่ส่วนไหนเพราะงั้นอย่างพึ่งเข้าไปต่อสู้ระยะประชิด”ผมอธิบายให้ฟัง
“ปลาหมึกบลูริง?...ใครเอาสัตว์อันตรายแบบนั้นผสมลงไปกัน?!”คำถามของพี่โนว่าทำให้ผมได้แต่ชายตาไปยังชายวันกลางคนที่ก้มหัวขอโทษส่งมาให้
“อ้อ...รู้ล่ะ...งั้นจะเอายังไง...”
กรรร!!
ยังไม่ทันได้ฟังจบเสียงคำรามจากบนท้องฟ้ายามราตรีก็ดังขึ้นพร้อมกับผิวหนังที่เริ่มเปลี่ยนจากสีเงินเป็นสีน้ำเงิน...ด้วยปีกขนาดใหญ่ทำให้มีความเร็วมากกว่าไดโนเสาร์ที่อยู่บนบกหลายเท่าเผลอแป๊บเดียวเขี้ยวอันแหลมคมก็กัดเข้าที่คอของไดโนเสาร์กลายพันธุ์ตัวหนึ่งจนล้มลงไป
“เกิดอะไรขึ้น?...ทำไมสีผิวถึงเปลี่ยนสีได้?...ไม่สิ...รีบพาหน่วยพยาบาลไปดูเร็วเข้าถ้ามีพิษก็รีบให้ยาถอนพิษซะ!”ผมรีบหันไปออกคำสั่งจากกลุ่มคนชุดขาวที่อยู่ใกล้ๆ
“เคยได้ยินมาว่าปลาหมึกบลูริงเวลาโกรธสีผิวจะเปลี่ยนนี่นะ”พี่โนว่าพึมพำเสียงเบาโดยที่คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันแน่นเหมือนกำลังกังวลกับสถานการณ์ตรงหน้า
“ให้ตายสิ!...เราจะเอายังไงต่อดีล่ะ?”
ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าควรจะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้ดี
กรรร!!
“ให้ผมจัดการไหม?”ยูทาร์ที่ยืนนิ่งอยู่นานถามขึ้น
“ไม่ได้มันอันตรายเกินไป”ผมรีบตอบกลับทันที
ไม่มีทางที่จะยอมให้ยูทาร์ไปเสี่ยงหรอก
“เขาเหมือนไม่แน่นใจและกำลังสับสน...ผมอาจคุยกับเขาได้”ยูทาร์ให้เหตุผล
“ถ้าเรื่องคุยคนอื่นก็ทำไปแล้วแต่ผลที่ได้ก็ยังออกมาแบบนี้แปลว่ามันไม่ได้ผลไม่ใช่รึไง?”
“ผมคิดว่าเด็กคนนั้นเหมือนตัวเองตอนที่ยังไม่เจอกับเซโคร”ยูทาร์บอกพรางมองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่มีไดโนเสาร์ตัวสีน้ำเงินกำลังสยายปีกพร้อมกับส่งเสียงคำรามออกมา
“ยูทาร์...”
“ผมจัดการได้...แต่เซโครต้องยอมเป็นแม่นะ”
“ห๊ะ?”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมถึงกับชะงักพอจะถามต่อร่างของยูทาร์ก็วิ่งออกไปพร้อมกลับกลายร่างเป็นไดโนเสาร์เรียบร้อยแล้ว...
ที่ว่าเป็นแม่นี่คือ?
กรรรร!!
กรรรร!!
เสียงคำรามต่ำของไดโนเสาร์สองตัวดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเหมือนกำลังคุยกันแต่ฝ่ายที่อยู่บนฟ้าดูจะไม่มีอารมณ์คุยด้วยเพราะเริ่มเปิดฉากโจมตียูทาร์ ถึงจะมีความเร็วที่สูงแต่เรื่องประสบการณ์ก็เทียบกับยูทาร์ไม่ได้ทำให้การโจมตีพวกนั้นถูกหลบเลี่ยงไปได้อย่างสบายๆ
“พ่อ...เขาชื่ออะไร?”ผมเดินกลับไปถาม
“ซัวราเครโทร...”
“ไม่เอาชื่อแบบนั้นสิพ่อ!”ผมรีบพูดแทรกก่อนที่จะจำชื่อสายพันธุ์แปลกๆนั่นเข้าหัว
“พ่อยังไม่ได้ตั้งชื่อเล่นให้เขาหรอก”
“งั้นเหรอ?...จะว่าอะไรไหมถ้าผมจะเป็นตั้งให้”
“ไม่เลย...ลูกตั้งเถอะ”
“โอเคครับ...พ่อห้ามสั่งระดมยิงเขาเด็ดขาดเลยนะ”ก่อนเดินไปผมหันกลับมาบอกอีกรอบ
“ลูกจะทำอะไร?”
“เดี๋ยวผมกับยูทาร์จะลองทำอะไรสักอย่างดูเองครับ”
พอพูดจบผมก็วิ่งเข้าไปหายูทาร์ที่กำลังหยับการโจมตีของไดโนเสาร์ที่อยู่บนฟ้า...เสียงคำรามที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ผมรู้ว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่อาจเข้าใจกันได้และผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง
“ยูทาร์!!”ผมตะโกนเรียก
งื๊ดดด~
ฝ่ายยูทาร์ที่เห็นผมวิ่งเข้ามาก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเป็นอีกครั้งที่ยูทาร์ส่งเสียงคำรามออกไปแต่น้ำเสียงนั่นไม่ได้ดูก้าวร้าวเหมือนเวลาต่อสู้แต่เหมือนกำลังพยายามอธิบายอะไรบางอย่างให้อีกฝ่ายฟัง
“...อานโน่!!”ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะตะโกนชื่อนั้นขึ้น ดวงตาสีเขียวอมฟ้าจ้องไปยังดวงตาสีแดงสดที่ทอประกายแม้จะอยู่ในความมืดก็ตาม
“ชื่อของนายคืออานโน่...และผมชื่อเซโคร...ส่วนนี่ยูทาร์...พวกเราคือครอบครัวของนาย!!”ผมแนะนำตัวพร้อมทั้งตะโกนขึ้นอีกครั้ง
สิ่งที่ผมพูดออกไปหวังว่าจะสื่อถึงอีกฝ่ายได้นะ
ยูทาร์บอกว่าเด็กคนนั้นเหมือนกับตัวเองก่อนที่จะพบผม นั่นหมายถึงอีกฝ่ายมีทั้งความสับสน ความไม่เข้าใจรวมทั้งความหวาดกลัว...หลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่รอบๆคงจะสร้างความกดดันอย่างไม่ทันตั้งตัวจนบีบให้ต้องกลายร่างแล้วทำร้ายคนอื่นแบบนี้
กรรร!!
เสียงคำรามดังขึ้นก่อนจะโฉบลงมาโจมตีอีกครั้งและครั้งนี้เขาตั้งใจจะโจมตีผมแต่ด้วยความเร็วของยูทาร์ทำให้ใช้หัวกระแทกอีกฝ่ายจนกระเด็นขึ้นฟ้าไป ดวงตาสีแดงที่ตั้งตัวได้มองมาด้วยประกายเหมือนมีความนัยบางอย่างและเหมือผมผมจะรู้ว่าสิ่งที่ไดโนเสาร์บนฟ้าคิดคืออะไร
ผมว่ามันน่าคุ้มที่จะลองเสี่ยงนะ
“ยูทาร์”
งื๊ดดด!
“ห้ามเข้ามานะ...เดี๋ยวผมจัดการเอง”ผมกระซิบบอกเสียงเบาแล้วเดินออกมาตรงที่ว่างโดยที่มีดวงตาสีแดงสดจ้องมาอย่างไม่วางตา
“ผมไม่ได้คิดจะทำร้ายนายเพราะงั้นเชื่อใจผมนะ!...อานโน่!!”ผมตะโกนขึ้นไปอีกครั้ง
กรรร!!
เป็นอีกครั้งที่ไดโนเสาร์บนฟ้าเตรียมจะโจมตีมาทั้งที่รู้แต่ผมกลับยืนอยู่นิ่งๆและทำเพียงอ้าแขนออกพร้อมจ้องไปยังดวงตาสีแดงสดนั่นอย่างแน่วแน่...
ถ้าอีกฝ่ายต้องการจะพิสูจน์น์สิ่งที่ผมพูดก็ได้...
ผมจะไม่หนีแต่จะบอกให้รู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปนั่นคือความจริง
“พวกเราเป็นครอบครัวของอานโน่นะ”นั่นคือคำสุดท้ายที่ผมบอกออกไปก่อนที่คมเขี้ยวอันแหลมคมจะหยุดลงตรงหน้าผมอย่างพอดิบพอดี...ขนาดตัวที่พอมาหยุดอยู่ตรงหน้าก็เทียบเท่าผมและคงจะโตกว่านี้อีกหลายเท่าแน่
“อานโน่...”ผมเรียกเด็กตรงหน้าเบาๆเมื่ออีกฝ่ายหยุดโจมตี ปากที่กำลังอ้าอยู่หุบลงพร้อมกับดวงตาสีแดงสดที่มองมายังดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผม
งื๊ดด~
“เขาถามว่าเซโครจะเป็นแม่ให้ใช่ไหม?”ยูทาร์ที่กลับร่างมนุษย์เดินเข้ามาหาผม
“แม่?...อ่อ...ให้ผมเป็นพ่อไม่ได้เหรอ?”ผมลองถามออกไป
มีผู้ชายคนไหนอยากเป็นแม่บ้างล่ะ?
งื๊ดดด~
“เขาว่าไงยูทาร์?”ผมรับหันไปถามคนข้างกาย
“เขาบอกว่าให้ผมเป็นพ่อแล้วน่ะ”
“ห๊ะ?...มีพ่อสองคนก็ได้นะ”ผมบอกอานโน่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
งื๊ดดดดดด!!
เสียงครางดังขึ้นพร้อมกับร่างไดโนเสาร์ตรงหน้ากลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ ผิวพรรณที่ขาวสะอาดตาเหมือนตอนร่างไดโนเสาร์สีเงิน...เส้นผมสีเงินแซมน้ำเงินตรงปลายคล้ายของยูทาร์เลย ร่างกายของเด็กตรงหน้าเซไปมาก่อนจะล้มลงโดยที่ผมรับได้พอดี
“อานโน่”ผมเรียกพร้อมกับตรวจดูอาการคร่าวๆ
“เขาคงเหนื่อย”ยูทาร์บอกแล้วอุ้มอานโน่ขึ้น
“ยูทาร์...”
“คุณเป็นแม่แล้วนะเซโคร”ก่อนเดินไปยูทาร์หันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม
“เดี๋ยวสิ...ผมบอกตอนไหนกัน?”
แบบนี้เขาเรียกว่าเผด็จการนะ!
หลังจากที่เรื่องราวจบลง...พ่อของผม ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่ก็โดนลงโทษในข้อหาที่ว่า...ทำการผสมพันธุ์โดยไม่พิจารณาไต่ตรองให้ดีซะก่อนจนเกิดความเสียหายให้แก่บุคคลมากมายและได้รับบทลงโทษคืออาบน้ำทุกวันติดต่อกัน2ปี สำหรับผมมันเป็นการลงโทษที่แสนจะน่าขำแล้วไม่คิดว่ามันจะเรียกว่าเป็นการลงโทษได้ตรงไหนแต่สำหรับพ่อผมที่ไม่ชอบอาบน้ำก็ถือว่าดีแล้วล่ะ
เช้าวันต่อมาผมและยูทาร์ได้มุ่งหน้าไปยังโรงยาบาลที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีที่แล้วสำหรับพักฟื้นและรักษาทั้งคนทั้งไดโนเสาร์...รวมถึงไดโนเสาร์กลายพันธุ์ด้วย
“สวัสดีอานโน่”ผมทักทายหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องพักเดี่ยวของอานโน่
“เป็นไงบ้างอานโน่”ยูทาร์ที่ตามหลังมาเดินนำไปถามอาการของเด็กผมเงินบนเตียง
“...”แต่ดูเหมือนเด็กคนนี้จะเป็นคนนิ่งๆเพราะแทบไม่พูดอะไรเลยแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเราเลิกล้มความพยายามหรอก
“อานโน่พ่อซื้อผลไม้มาฝากด้วย”ผมบอกพรางยกกระเช้าผลไม้โชว์ให้ดู
“ไม่ใช่พ่อ...แม่ต่างหาก”เสียงจากเด็กบนเตียงดังขึ้นในทันทีที่ผมหลุดคำว่าพ่อออกมา
“อ่อ...เรียกพ่อว่าพ่อไม่ได้เหรอ?”
ก็ดีใจอยู่ที่ยอมพูดแต่ทำไมต้องเรียกผมว่าแม่ด้วยล่ะ?
“มนุษย์ที่ไหนมีพ่อสองคนล่ะ?”เจอคำถามนี้ผมถึงกับพูดไม่ออกเลยครับ
“มันก็ใช่...แต่เรียกผู้ชายว่าแม่นี่มันออกจะ...”
“ไหนบอกว่าเป็นครอบครัวไง”อานโน่พูดต่อ
“...อ่อ...”
“ที่พูดมาโกหกงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่...แต่...”
“งั้นก็เป็นแม่ให้ผมสิ”เด็กตรงหน้ายังคงคะยั้นคะยอ
“ให้ยูทาร์เป็นแม่แทนไม่ได้เหรอ?”เมื่อไม่มีทางเลือกผมเลยโยนไปให้ยูทาร์ที่เบิกตากว้างขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนี้
“เดี๋ยวสิเซโคร...”
“ไม่ได้!”เสียงเล็กๆตอบกลับอย่างรวดเร็วทำให้ยูทาร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องถูกเรียกว่าแม่
“ทำไมล่ะ?”ยูทาร์ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแล้วทำไมถึงเรียกว่าแม่ไม่ได้แต่เรียกผมได้กัน?
“คนเป็นแม่ต้องตัวเตี้ยกว่า...”
ฉึก!
เหมือนมีลูกศรบางอย่างวิ่งเข้ามาปักที่แผ่นหลังเมื่อได้ยินคำว่าเตี้ย
ผมอยากท้วงว่าผมไม่ได้เตี้ยนะ...คนเตี้ยที่ไหนสูง180เซนติเมตรบ้างละ?
เพียงแต่ยูทาร์สูงกว่าผมเท่านั้นเอง...ร่างไดโนเสาร์ก็สูงกว่า8เมตรพอกลับร่างเดิมก็สูงประมาณ190เซนติเมตรได้ ไม่ว่าร่างไหนก็สูงกว่าผมทั้งนั้น...ถึงจะน่าโมโหแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
พอคิดว่ามียีนไดโนเสาร์อยู่ในตัวแล้วจะให้เตี้ยกว่าผมนี่ก็คงไม่ใช่
“แค่ไม่กี่เซนเองนะอานโน่...”ผมขอบอกความจริงสักหน่อยเถอะ
10เซนติเมตรนี่มันแค่นิดเดียวเองนะ
“คนเป็นแม่ต้องผอมกว่า...”อานโน่พูดต่อแล้วมองผมสลับกับยูทาร์ที่นั่งอยู่ข้างเตียง
ฉึก!
เป็นอีกครั้งที่รู้สึกถึงลูกศรมาปักเข้าที่แผ่นหลังเมื่อได้ยินคำว่าผอม
ขอค้านหน่อยเถอะ...นี่ผมไม่ได้ผอมนะน้ำหนักก็อยู่ในเกณฑ์ปกติแถมยังออกสนามปฏิบัติจริงอยู่ทุกวันทำให้เริ่มมีกล้ามเนื้อสวยตรงหน้าท้องบ้างแล้วถึงต้องใช้เวลาตั้งหลายปีกว่าจะเห็นผลก็ตาม
ก็ใช่ที่ถ้าเทียบกับยูทาร์ผมก็อาจจะผอมไปแต่ยูทาร์ก็ไม่ได้บึกบึนอะไรเหมือนพวกนักเพาะกายสักหน่อยเรียกกว่าก็พอมีกล้ามท้องสวยๆน่าสัมผัสแต่ก็ไม่ได้มากเกินงาม...ด้วยความที่ยูทาร์เป็นแนวหน้าจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องต่อสู้มากกว่าคนอื่นทำให้ได้ฝึกฝนกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ...
ยอมรับก็ได้ว่าผอมกว่าน่ะ!
“ถึงจะผอมกว่าแต่ก็แค่นิดเดียวเองนะ...ลองดูที่เส้นผมสิ...คนเป็นแม่ควรจะไว้ผมยาวกว่าไม่ใช่เหรอ?”ผมลองถามคำถามนี้ดู
เพราะยังไงเส้นผมของยูทาร์ก็ยาวมากกว่าของผมเห็นๆ
เรื่องนี้ผมชนะแน่นอน!
“คุณแม่ที่ผมสั้นก็มีเยอะแยะ”อานโน่หันไปมองยูทาร์สักพักก่อนจะกันมาบอกผม
“เฮ่อ...”พอโดนแบบนี้ก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้แล้ว
“ไม่อยากเป็นแม่ให้ผมเหรอ?”เด็กตรงหน้ามองมาด้วยดวงตาสีแดงที่ไม่เข้มเท่าตอนอยู่ในร่างไดโนเสาร์
“อ่อ...ไม่ใช่นะ...”
“งั้นผมจะเรียกว่าแม่...แม่เซโคร”
เอาเข้าไป
เซโครแทบจะทรุดลงข้างเตียงคนป่วยซะให้ได้เมื่อทำยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนคำเรียกได้
สรุปคงต้องเป็นแม่ให้จริงๆสินะ
“ก็ได้...เรียกแม่ก็ได้”สุดท้ายผมก็ต้องยอมรับ
“แม่”
“ครับอานโน่”ผมลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลงด้านข้าง
“พ่อ”อานโน่หันไปเรียกยูทาร์ที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“ครับอานโน่”ยูทาร์ขานพรางยกมือลูบเส้นผมสีเงินของเด็กบนเตียงด้วยรอยยิ้ม
“ผมมีครอบครัวเหมือนมนุษย์แล้วใช่ไหม?”
“แน่นอน...และอานโน่ก็เป็นมนุษย์ด้วย”ผมตอบแล้วคว้าหน้าคนบนเตียงมาจูบที่แก้มทั้งซ้ายขวา
“ผมไม่ใช่มนุษย์”
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ?”ผมถาม
“ก็ผมกลายร่างเป็นไดโนเสาร์ได้”
“แล้วไม่ชอบเหรอ?”
“เปล่า...ผมชอบทั้งตอนที่เป็นมนุษย์และไดโนเสาร์”อานโน่ส่ายหน้าไปมาแล้วตอบผม
“งั้นก็ดีแล้วเพราะแม่ก็รักทั้งมนุษย์และไดโนเสาร์”ผมบอกพรางจูบเบาๆลงที่เส้นผมสีเงิน
“แล้วไม่รักผมเหรอ?”ยูทาร์ถามบ้าง
“ถามอะไรเนี่ย?”
“ผมแค่อยากรู้นี่”
“...ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”ผมบอกเสียงอ่อย
“อยากได้ยินอีกครั้งนึง...นะครับ”น้ำเสียงอ้อนๆนั่นทำให้ผมไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ
“ผมก็รักยูทาร์...แล้วตอนนี้ก็รักอานโน่ด้วย”ผมบอกยูทาร์แล้วคว้าตัวของอานโน่มากอดไว้แน่น
“ให้ผมกอดลูกบ้างสิ”ยูทาร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วดึงทั้งผมและอาโน่เข้าไปกอดแน่น
“จะกอดลูกก็ปล่อยผมสิ”
“อยากกอดทั้งแม่ทั้งลูกเลย”ยูทาร์กระซิบข้างหูพร้อมกับจูบที่หน้าผากผมก่อจะหันไปจูบหน้าผากอานโน่ต่อ
“ปล่อยก่อนผมร้อน”ผมดิ้นจนในที่สุดก็หลุดออกมาได้เลยนั่งมองภาพพ่อลูกกอดกันกลมอยู่บนเตียง
“จะว่าไปชื่ออานโน่ที่คืออะไรเหรอเซโคร?”ยูทาร์ถามขึ้นแล้วจ้องมาที่ผม
“ผมก็อยากรู้”อานโน่เองก็หันมามองอีกคน
“อานโน่...เป็นภาษฝรั่งเศสแปลว่าแหวน”ผมบอกออกไป
“แหวน?”พ่อลูกพึมพำออกมาพร้อมกัน
“ใช่...พวกเราไม่ได้มีงานแต่งเหมือนคู่รักอื่นๆและก็ไม่ได้มีแหวนที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์หรือคำสัญญาที่มีให้กันเหมือนคนอื่น...เพราะงั้นอานโน่เลยเป็นแหวนที่คอยผูกมัดผมและยูทาร์ให้อยู่ด้วยกันตลอดไปไง”ผมอธิบายสิ่งที่คิดออกไปแต่พอนึกได้ก็รู้สึกว่าตัวเองนี่น้ำเน่าใช้ได้เลย
ทำเหมือนพวกสาวน้อยพึ่งหัดรักไปได้
“ผมชอบชื่อนี้นะ”ยูทาร์บอกพร้อมส่งยิ้มมาให้
“...ผมก็ชอบ...ความหมายของชื่อคือถ้ามีผมทั้งพ่อและแม่ก็จะไม่ไปไหนใช่ไหม?”อานโน่ถามต่อ
“ใช่...ตามนั้นเลย”
“ผมรักพ่อกับแม่”เด็กบนเตียงบอกพร้อมคลียิ้มออกมาบางๆ
รอยยิ้มแรกที่เห็นทำให้ผมและยูทาร์มองหน้ากันก่อนจะตอบออกไปด้วยประโยคเดียวกัน...
“พวกเราก็รักลูก”
ครอบครัวที่มีอย่างไม่ตั้งตัวอาจทำให้พวกเราต้องเหนื่อยมากขึ้นแต่ก็มีความสุขมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
ครอบครัวคือคำที่เชื่อมโยงเราไว้ด้วยกัน
นี่คือครอบครัวของเรา
...
สวัสดีค่ะ
กลับมาพบกันอีกครั้งในตอนพิเศษนะคะ
ยูทาร์และเซโครยังคงหวานกันหยดและตอนนี้ก็มีลูกเลี้ยงเพิ่มมาอีกหนึ่งเลยยิ่งทวีความวุ่นวายมากเข้าไปอีก(555+)
แต่งตอนนี้แล้วรู้สึกสนุกมากเลยค่ะ
ตอนนี้เป็นหนึ่งในตอนที่ลงในเล่มและเป็นตอนที่จะเชื่อมกับภาคต่อไปที่จะแต่งด้วยค่ะ
หลายๆคนคงพอเดาได้ว่าจะเป็นยังไง...แต่อยากบอกว่าภาคต่อไปนี่ค่อนข้างเปลี่ยนแนวจากของยูทาร์-เซโครอยู่พอสมควร
ระหว่างที่รออ่านภาคต่อสามารถเข้าไปอ่านนิยายเรื่องใหม่ของเราได้นะคะ
❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50864.msg3262162#msg3262162)
เรื่องใหม่นี้เป็นแนวแอบรักตามชื่อเรื่องแต่เป็นเนื้อหานั้นไม่ได้ออกแนวเศร้าโศก...กลับกันออกเป็นแนวละมุลหัวใจค่ะ
ใครสนใจสามารถเข้าไปติดตามได้นะคะ^^
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังที่มีให้นะคะ
ไว้เจอกันใหม่ค่ะ
Happy new year 2016 !!!
บ๊ายบาย :bye2:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด แปะๆ
:hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
-
แอร๊ยยยยย มาแล้วๆๆๆๆ / วิ่งไปหาน้องยูทาร์
...........................................
อานโน่ หลานป้าาาาาาาาา
น่ารักน่าเอ็นดูววววววว แอร๊ยยยยย
ครอบครัวอบอุ่นนนนนน
พ่อ แม่ ลูก อยู่กันพร้อมหน้า
ว่าแต่ น้องยูทาร์หนูไม่คิดจะจัดงานแต่งบ้างเหรออออ
พี่สาวจะได้เตรียมตัวไปแย่งช่อดอกไม้ 55555
สวัสดีปีใหม่นะคะ เฮงๆรวยๆ สวยขึ้นทุกปีๆ น้าาาาาา
-
ภาคต่อ !!!!!!!
โอ้วเยสสสสสสสสส :mc4: :mc4: :mc4:
ดีใจยิ่งกว่าหยุดปีใหม่อีก เยสๆๆๆๆ
-
กรี๊ดดด ฟินไปสามชาติ จองตัวอานโน่ไว้ก่อนได้มั้ยคะ
หนูจะเคะหรือเมะนะอานโน่ของป้าาาาา :hao7:
-
ครอบครัวสุขสันต์ :katai2-1:
-
น่ารักไปอีกกกก อานโน่แบ๊วดีนะ ส่วนคุณแม่ก็ยอมให้ลูกเรียกว่าแม่เถอะค่า ลูกน่ารักซะขนาดนี้ อิอิ
ขอบคุณค่ะ
-
:pig4: :pig4:
-
กอดๆๆๆๆ น่ารักจริงๆเชียวววว ต่อไปเป็นน้องอานโน่ใช่ไหม พ่อคงต้องหวงน่าดู 55
-
:pig4:
-
มีอีกไหมอ่า อยากได้ฉากบู๊อีกสักฉาก คิดถึงมากๆเลย
-
เรื่องนี้สนุกอะ
แบบมันแปลกๆไปจากเรื่องอื่นๆ ชอบๆ
-
มีลูกแล้วน่าร๊ากกก... :-[
แอบงงนิดหน่อย แต่ก็ไม่ซีเรียสนะก็ไหนว่าสร้างพ่อให้เป็นราชาของไดโน่อล้วทำไมต้องผสมตัวอื่นขึ้นมาเพิ่มด้วย :bye2:
-
ลูกสาวหรือลูกชายเน๋ยยยยย จะสาวให้พ่อหวงไม๊นะ
-
ชอบมากกก
-
:pig4:
-
สนุกมากๆเลยค่า อยากอ่านภาค 2 ไวๆเลยล่ะค่ะ ชอบยูทาร์คนขี้อ้อน กับ เซโครคนใจดี เหมาะกันมากๆ แถนงม น้อง อานโน่ แหวนคล้องใจ น่ารักมากๆครอบครัวนี้ :impress2:
-
เด็กน้อยน่ารักก
เป็นครอบครัวแล้วสินะ พ่อแม่ลูก :mew1:
-
หน่อวววเป็นครอบครัวอบอุ่นซะแล้ววว
คิดถึงยูทาร์เซโครพี่โนว่าและคุณพ่อ 555555
รอติดตามภาคต่อค่าาา
-
:mew1: ขอบคุณค่ะ
-
รอภาคต่ออยู่จ๊ะ
ไม่เหมือนภาคนี้ก็ไม่เป็นไร ขอไม่ดราม่าทั้งเรื่องก็พอ
อยากอ่านแล้วอ่ะ
-
มีครอบครัวแล้ววว
น่ารักมากๆเลย
รอภาคต่อนะคะ
-
โอยยยยยย น่ารักอ่ะ
ปล. รอภาคต่อจ้า
-
รออ่านภาคต่อนะคับ :pig4:
-
งื้ออออออ น่ารักมาก
อยากได้ภาคต่อจังเลยค่ะ 555555
-
อยากอ่านภาคต่อแล้ว.......อานโน่ๆๆๆ :impress2:
-
โอ้ยยย น่ารักที่สุด มีลูกแล้วด้วย
ครอบครัวอบอุ่นแน่นอน อิๆ
-
รออ่านภาคต่ออยู่นะคร้าาาา :mew2:
-
น่ารักก :katai2-1: :mc4: :กอด1:
-
โอ้ ตอนนี้ก็กลายมาเป็นครอบครัวแล้วสิน้า
เป็นตอนที่น่ารักและอบอุ่นมากเลย
-
ครอบครัวสุขสันต์น่ารักทั้งคนทั้งไดโนเสาร์เลย :pig4:
-
สนุก
-
สวัสดีค่า ~ ในที่สุดก็ได้มาอ่านเรื่องนี้ซักที แปลกมากจริงๆนะคะทั้งๆที่เป็นเรื่องที่ดังที่สุดของคุณ nicedog แท้ๆ
แต่เรากลับได้อ่านเป็นเรื่องสุดท้ายเลย (ฮาาา) จนตอนนี้หลงรักงานเขียนของคุณเข้าไปเต็มเปาแล้วค่ะ!
ถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอนเลย T T .. ไม่แปลกใจเลยที่เรื่องนี้จะดังและถูกแนะนำมากมาย ทั้งทางทวิตเตอร์หรือหน้าแนะนำนิยาย
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เรายกขึ้นหิ้งเรื่องที่ชอบที่สุดเลยค่ะ ชอบตั้งแต่เปิดตัวพระเอกของเรามา
ตอนแรกเราเห็นว่ามันแอบดูวิชาการๆเลยไม่คิดว่าจะอ่านไหว แถมยังเป็นแนวไดโนเสาร์อีก (ไม่ได้โปรดเป็นพิเศษอ่ะค่ะ)
แต่พอได้อ่านปุ๊บ...... นี่หลงเข้าไปเต็มเปาเลยยย อ่านรวดเดียวจบตั้งแต่เมื่อคืนมาต่อตอนเช้าเลยค่ะ 555555555
สำหรับเนื้อเรื่อง ชอบนิสัยเซโครมากกกกกกก น่ารักสุดๆค่ะ ยูทาร์ก็เหมือนกัน~! เป็นไดโนเสาร์ที่น่ารักน่าชังมากกกก
การเดินเรื่องแนวลูกกวาด ไม่ซีเรียสดีค่ะ แต่แอบอยากให้มีดราม่าซักนิดดดดนึง เหมือนเพื่อพิสูจน์อะไรหลายๆอย่าง
คือไม่ใช่ว่าในเรื่องไม่มีนะคะ แต่สำหรับเราคือมันน้อยไปนิดนึงอ่ะค่ะ อย่างช่วงตอนที่ต้องแยกจากกันอะไรแบบนี้
คือถ้ายืดตรงนี้ออกไปแล้วบรรยายความรู้สึกทีละฝั่งมันคงจะซึ้งสุดๆเลย > < /อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็นนะคะ ไม่พอใจขอโทษน้า
ยังไงเราก็ชอบและติดตามอ่านอยู่ดีแหละ แฮ่ 55555555555 ชอบพล็อตมากค่ะ! แอบอยากอ่านเรื่องของลูกแล้วว
เชียร์ให้อานโน่เป็นเคะค่ะ - . - .... คิดว่าถ้ามีไดโนเสาร์เป็นเคะนี่เรื่องจะต้องเด็ดดวงมากแน่ๆ ฮิๆ
แต่ไม่ว่าแบบไหนก็จะรออ่านรอติดตามแน่นอนค่ะ!
เป็นกำลังใจให้คนเขียนและขอบคุณมากๆนะคะที่แต่งนิยายน่ารักๆออกมาให้ได้อ่านกัน :L2:
ปล. เสียใจมากกกกกกกกกที่เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ตอนที่ปิดพรีไปแล้ว T _____ T .. ถ้าพอจะมีเหลือยังไงโยนมาทางนี้ได้เลยนะคะ
จะงาบรับเร็วยิ่งกว่ายูทาร์อีกค่ะ 5555555555 ขอบคุณค่า <3
-
น่ารักมากเลย มีตอนต่ออีกมั้ย :-[
-
สนุกมากๆเลยค่ะ จะรอภาคต่อนะคะ o13 :katai2-1:
-
กลายรักพิเศษ❧ครอบครัวสุขสันต์
การมีครอบครัวหลายๆคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ง่ายๆแต่ความเป็นจริงนั้นมีเพียงคนที่มีครอบครัวแล้วเท่านั้นที่จะรู้ว่าคำว่าง่ายนั้นมันไม่มีเลยสักนิด ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่เองก็เป็นหนึ่งในคนที่เริ่มจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองโดยมีเด็กผิวขาวเส้นผมสีเงินแซมสีน้ำเงินเป็นลูกบุญธรรม
การที่รับเด็กคนหนึ่งมาดูแลไม่ใช่เรื่องง่ายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เด็กคนนั้นว่าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา
กิจวัตรประจำวันที่มีเพียงแค่ผมและยูทาร์เริ่มแปรเปลี่ยนไปทีละนิด...
จากที่ในห้องมีแค่ผมและยูทาร์ตอนนี้เพิ่มลูกชายสุดที่รักหรืออานโน่เพิ่มเข้ามา
เตียงนอนที่ผมมักจะถูกยูทาร์นอนกอดอยู่ทุกวันตอนนี้ก็มีอานโน่นอนแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเรา
ตู้เสื้อผ้าที่ปกติมีเพียงตู้เดียวก็ถูกซื้อเพิ่มโดยที่ภายในมีเสื้อผ้ามากมายที่พ่อและแม่ต่างซื้อมาให้และอีกหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไปจากเดิม
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่พวกเราพ่อ แม่และลูกอยู่พร้อมหน้ากันโดยที่ผมและยูทาร์ไม่ต้องไปปฏิบัติภารกิจ ปกติถ้าต้องออกไปปฏิบัติภารกิจผมจะฝากอานโน่ให้พ่อหรือพี่โนว่าช่วยดูแลจนกว่าจะจัดการงานเสร็จ...ตอนแรกอานโน่ไม่ไว้ใจทั้งพ่อหรือพี่โนว่าแต่เพราะมีภารกิจฉุกเฉินเลยต้องฝากอานโน่ไว้โดยที่เขาไม่เต็มใจเท่าไหร่
หลังจากที่เสร็จงานกลับมาในอีก3วันให้หลังผมกับยูทาร์ถึงกับงงที่เห็นอานโน่ที่ไม่ค่อยชอบเข้าสังคมกับใครกำลังเล่นอยู่กับพี่โนว่าที่ฐาน2โดยมีเหล่ายูทาห์แรพเตอร์ทั้ง5ตัวล้อมรอบอยู่ด้วยรอยยิ้ม
ไม่รู้ว่าพี่โนว่าทำได้ยังแต่นั่นทำให้ผมวางใจที่จะฝากอานโน่ไว้มากขึ้น
ความจริงผมควรจะให้อานโน่อยู่รวมกับเหล่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์คนอื่นๆแต่ก็อย่างที่บอกไปว่าอานโน่ไม่ไว้ใจใครง่ายๆอีกทั้งยังเป็นเด็กที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ถ้าเขาไว้ใจใครก็จะยิ้มร่าด้วยท่าทาเป็นเป็นมิตรในทางตรงกันข้ามก็เช่นกันถ้าเขาไม่ไว้ใจต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะสนิทด้วย
อานโน่อาจดูเหมือนเป็นเด็กที่หยิ่งและเอาแต่ใจ นั่นเป็นเพียงสิ่งที่คนภายนอกมองเห็นเท่านั้นสำหรับผมและคนที่อานโน่สนิทด้วยกล้าพูดได้เลยว่าเด็กคนนี้ทั้งน่ารักและขี้อ้อนสุดๆ...ใครเห็นเป็นต้องหลงแน่นอน
“ยูทาร์ตื่นเช้าจังเลยนะ”ผมทักทายคนรักของตัวเองที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟาตัวยาวด้านข้างเตียง...เสียงของโทรทัศน์ถูกหรี่จนเบาเพื่อไม่ให้รบกวนอานโน่ที่นอนอยู่บนเตียง
ผมเองก็พึ่งตื่นเหมือนกัน...น่าแปลกที่ไม่ตื่นมาโดยมียูทาร์กอดอยู่เหมือนวันอื่นๆ
ถึงก่อนนอนอานโน่จะนอนตรงกลางแต่พอเข้าช่วงดึกๆยูทาร์ก็ชอบแอบย่องมานอนกอดผมทุกครั้งไป
“ผมพึ่งตื่นเมื่อ10นาทีที่แล้วเอง...อรุณสวัสดิ์เซโคร”คำทักทายดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ผมยิ้มตอบพร้อมกับนั่งลงที่โซฟาข้างๆยูทาร์
“วันนี้แปลกนะที่ตื่นมาแล้วไม่ถูกยูทาร์กอดน่ะ”ผมพึมพำไปเรื่อยโดยที่มองไปยังโทรทัศน์ตรงหน้าที่ออกข่าวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่หลุดออกมาแล้วได้หนึ่งในหน่วยของผมเข้าไปจัดการจนไม่เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง
“เซโครอยากให้ผมกอดเหรอ?”คนด้านข้างหันมาถามทันทีด้วยแววตาที่เป็นประกายเหมือนเด็กๆ
“ใครพูดกัน”
“เซโครไง”
“ผมแค่พูดว่าแปลกใจเฉยๆเองนะ”ผมยังคงพยายามแถไปเรื่อยเมื่อถูกจับได้ว่าอยากถูกอีกฝ่ายกอด
“ความหมายก็เหมือนกันนี่...ผมกอดตอนนี้ก็ได้นะ”
“ไม่ต้องก็...เฮ้ย...”ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกไดโนเสาร์ในร่างมนุษย์ตรงหน้ากระโดดเข้ากอดเต็มแรงจนผมหงายหลังลงไปนอนราบบนโซฟาตัวยาวโดยมีดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมาด้วยแววตาที่แสนอ่อนโยน
รอยยิ้มที่คลีออกเล็กน้อยของคนด้านบนทำให้หัวใจที่สงบนิ่งเริ่มเต้นแรงขึ้น
ทั้งที่คิดว่าชินกับรอยยิ้มของยูทาร์แล้วแท้ๆแต่ทำไมหัวใจมันยังเต้นแรงแบบนี้นะ
“...เซโครหน้าแดง”
“ระ...รู้แล้ว...อย่าพูดสิ”คำพูดของยูทาร์ยิ่งสร้างความเขินอายที่มีอยู่แล้วให้เพิ่มขึ้นอีก
“น่ารัก”ยูทาร์ก้มหัวลงมาจนปลายจมูกของเราสัมผัสกันเบาๆก่อนจะเอ่ยคำพูดน่าอายนั่นออกมา
“...”ตอนนี้ผมได้แต่เม้มริมฝีปากตัวเองแน่นโดยที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมยังคงประสานอยู่กับดวงตาสีเหลืองอำพันของคนด้านบน
ในหัวเริ่มขาวโพลนจนคิดอะไรแทบไม่ออก
อยากจะหลบสายตาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะถูกดวงตาสีสวยตรงหน้าตรึงไว้จนไม่สามารถละออกมาได้
อยากจะผลักอีกฝ่ายให้ออกไปแต่สองมือของตัวเองทำเพียงแค่กำเสื้อของยูทาร์แน่นขึ้นเท่านั้น
การกระทำแบบนั้นไม่ต่างจากการบอกว่าอยากให้อีกฝ่ายอยู่แบบนี้ต่อเลยสักนิด
อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนแล้ว
“ทำแบบนี้ผมคิดเอาเองนะว่าเซโครอยากให้ผมกอด”เสียงทุ้มติดขี้เล่นเริ่มออกแนวเจ้าเล่ห์ขึ้นทีละน้อย มือทั้งสองข้างของยูทาร์กระชับกอดผมแน่นพร้อมกับซุกหน้าลงที่คอแล้วจูบเบา
“อื้อ!...ยูทาร์”
“เซโคร”ชื่อของตัวเองที่ถูกเรียกด้วยน้ำเสียงกระเส่าทำให้ร่างกายเริ่มร้อนขึ้น
“...ยูทาร์”สิ่งที่ผมทำมีเพียงเรียกชื่ออีกฝ่ายพร้อมยกมือทั้งสองข้างขึ้นกอดคอคนด้านบนที่เริ่มพรมจูบไปตามลำคอขาวลงมาเรื่อยๆ
“อยากทำจังเลย...ให้ผมทำได้ไหม?”คำถามที่ยากจะปฏิเสธดังขึ้นที่ข้างหูก่อนที่ยูทาร์จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมด้วยแววตาที่ออดอ้อนและเว้าวอน
ทำแบบนั้นแล้วผมจะปฏิเสธยังไงได้
“...แต่ลูก...”
“เขายังไม่ตื่นหรอก”ยูทาร์รีบพูดแทรกก่อนจะประกบปากลงมาอย่างรวดเร็ว
“อื้ออ...”เสียงครางของเซโครดังขึ้นเมื่อลิ้นร้อนของยูทาร์เริ่มลุกเข้ามาแล้วทวีความรุนแรงมากขึ้นเหมือนเขากำลังกระหายให้ตัวผมอย่างหยุดไม่ได้
มือของยูทาร์ที่กระชับกอดผมแน่นเริ่มเริ่มคลายออกแล้วเปลี่ยนมาถกเสื้อสีครีมของผมขึ้นพร้อมลูบไล้ที่หน้าท้องขาวเพื่อกระตุ้นอารมณ์ที่มีอยู่ให้มากขึ้นกว่าเดิม
“...อ่า...หยุดเถอะยูทาร์”ถึงจะอยากยอมแค่ไหนแต่จะให้ทำโดยที่มีลูกนอนอยู่ไม่ไกลแบบนี้ไม่ได้
มันทั้งไม่ดีและน่าอายที่สุดเลย
“แต่ผมอยากกินเซโคร...ให้ผมกินเซโครนะครับ”
“ไม่...”
“พ่อจะกินแม่เหรอครับ?”ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบจบประโยคเสียงเล็กๆที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นก่อนที่ร่างของอานโน่จะเดินเข้ามาหาผมและยูทาร์ที่มีสภาพไม่น่าดูเท่าไหร่
ผลัก!
พอเห็นลูกเดินมาร่างกายผมก็ขยับไปเองโดยไม่รู้ตัว...รู้ตัวอีกทีก็เผลอถีบยูทาร์จนเกือบหงายหลังแล้ว เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยถูกจัดอย่างลวกๆด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีจัดด้วยความตกใจและความอายที่ถูกเห็นในสภาพแบบนี้
“อะ...อานโน่”ทันทีที่สติเริ่มกลับเข้าร่างเซโครก็หันไปยิ้มให้ลูกชายที่มองมาอย่างงงๆปนไม่เข้าใจ
บอกเลยว่ารอยยิ้มตอนนี้มันช่างเสแสร้งสิ้นดี!
ผมอยากจะวิ่งหนีเข้าไปหลบในห้องน้ำสัก2ชั่วโมงให้ความเขินอายนี่หายไปจริงๆ
ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเหตุการณ์มันเลยเถิดไปมากกว่านี้แล้วอานโน่มาเห็นเข้าจะเป็นยังไง
“ทำอะไรกันอยู่เหรอครับ?”เสียงเล็กยังคงถามต่อพร้อมเดินเข้ามาหาผม
“เอ่อ...”ผมควรจะตอบว่าอะไรดี
“แล้วพ่อจะกินแม่เหรอครับ?”เมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบอานโน่เลยเปลี่ยนเป้าหมายจากผมไปเป็นยูทาร์ที่นั่งใช้มือสองข้างกุมท้องที่ถูกผมถีบไปเมื่อครู่
“...ก็ไม่เชิงกิน”ยูทาร์ตอบกลับโดยที่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือมายังผม
“จัดการเองละกัน”เล่นทำผมอายต่อหน้าลูกขนาดนี้แล้วยังกล้าขอความช่วยเหลืออีกงั้นเหรอ
ใครจะช่วยกันล่ะ
ช่วยตัวเองไปละกัน!
“หมายความว่ายังไง?...พ่อกินแม่เหมือนกินอาหารเหรอ?”อานโน่ที่ได้คำตอบไม่ชัดเจนถามต่อพร้อมเดินเข้าไปหายูทาร์ใกล้ขึ้น
“เอ่อ...คือ...”
“ไม่ได้นะ!...แม่ไม่ใช่อาหารนะพ่อถ้าหิวก็ควรไปหาของกินข้างล่างสิ!”ยูทาร์ยังไม่ทันได้ตอบอะไรอานโน่ก็ตะโกนขึ้นเสียงดังพร้อมกับวิ่งมากอดผมไว้แน่นแล้วมองไปยังยูทาร์เหมือนจะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้ผม
เซโครมองยูทาร์ที่เบิกตากว้างทำหน้าเลิกลักด้วยความขบขัน...ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นยูทาร์ในมุมนี้
ใบหน้าของคนที่ทำอะไรไม่ถูกและไม่รู้จะอธิบายให้ลูกฟังยังไง
ผมละอยากหัวเราะออกมาดังๆให้โลกรู้ไปเลยว่าท่าทางแบบนั้นทำให้ผมขบขันแบบสุดๆแต่ก็ต้องกลั้นไว้เพราะการหัวเราะคนที่กำลังแย่มันไม่ดีเท่าไหร่
“...อุ๊บ!...ฮะฮะฮะ”ถึงจะบอกแบบนั้นแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ
“เซโคร!”ยูทาร์ที่เห็นผมหัวเราะเสียงดังก็รีบตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงเคืองๆพร้อมขยับเข้ามาใกล้แต่ก่อนจะเข้ามาถึงตัวผมร่างเล็กๆของอานโน่ที่กอดผมอยู่ก็ขยับตัวขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับดันคนที่ได้ชื่อว่าพ่อของตัวเองไม่ให้เข้ามาใกล้กว่านี้
“ห้ามพ่อเข้าใกล้แม่นะ!”เสียงอันเฉียบขาดทำเอายูทาร์ที่กำลังขยับตัวถึงกับชะงัก
“...อานโน่”เสียงทุ้มเรียกชื่อลูกชายเบาๆโดยที่ทำหน้าหง๋อยลง
ใบหน้านั่นดูเศร้ามากจนผมหยุดหัวเราะแล้วรวบตัวอานโน่ที่ทำตาขวางใส่พ่อของตัวเองมาไว้ในอ้อมกอดก่อนะจะหอมแก้มเด็กตรงหน้าแรงๆด้วยความเอ็นดู
“ขอบคุณที่ช่วยปกป้องแม่นะ”
“แน่นอนครับ”อานโน่ตอบกลับพร้อมหันมายิ้มให้
“...เซโคร”เสียงหง๋อยๆนั่นเรียกชื่อผมพร้อมส่งสายตาที่สื่อเป็นนัยบางอย่างไว้
ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่รู้หรอกว่ายูทาร์ต้องการจะสื่ออะไรแต่สำหรับผมที่อยู่กับยูทาร์มาตลอดรู้ได้ในทันทีถึงสิ่งคำพูดที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น...
‘ช่วยผมหน่อย...ลูกเกลียดผมแล้ว’
เซโครคลียิ้มพร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจกลับไปให้...ทันทีที่ยูทาร์เห็นรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นทันที
“อานโน่”ผมเรียกเด็กในอ้อมกอดอีกครั้ง
“ครับแม่”
“พ่อไม่ได้จะทำร้ายแม่หรอกนะ”ผมอธิบายความจริงออกไป
สำหรับเด็กวัยประมาณ8-9ขวบจะให้อธิบายถึงความสัมพันธ์แบบนี้คงจะไม่ได้...ถึงจะบอกว่า8-9ขวบแต่จริงๆอานโน่ก็พึ่งอยู่กับผมมาได้แค่ปีเดียวเท่านั้นแต่พัฒนาการในแต่ละด้านมันเลยของเด็กไปแล้ว
“...แต่พ่อบอกว่าจะกินแม่นะ”อานโน่เงียบไปพักนึงเหมือนกำลังคิดก่อนจะพูดต่อ
“แค่แกล้งเฉยๆ...เนอะยูทาร์”ผมบอกพร้อมกับหันไปส่งซิกให้ยูทาร์ให้เออออตามไป
“อ่อ...ใช่ๆ...พ่อแค่แกล้งเฉยๆ”
“แต่ผมเห็น...พ่อกำลังงับคอแม่นี่นา”อานโนพูดต่อพร้อมหันมาหาผม ดวงตาสีแดงอ่อนทอประกายสงสัยด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อานโน่เป็นเด็กฉลาดและมีไหวพริบดีมากเมื่อเทียบกับไดโนเสาร์กลายพันธุ์คนอื่นๆ
และเพราะเป็นเด็กที่สงสัยอะไรก็จะถามออกมาตรงๆโดยไม่รู้สักนิดว่าคำถามนั้นอาจทำให้คนตอบต้องคิดหนักเหมือนอย่างผมในตอนนี้...
อยากบอกออกไปตรงๆว่าที่อานโน่เห็นไม่ใช่งับแต่เป็นจูบ
แต่ถ้าบอกความจริงคงได้มีคำถามอื่นโผล่มาอีกหลายข้อแน่
“พ่อไม่ได้งับนะ”ยูทาร์พูดค้านพร้อมส่ายหัวไปมาราวกับจะบอกว่าสิ่งที่อานโน่พูดไม่ใช่ความจริง
“...ถ้าไม่ได้งับ...งั้นก็เลียคอแม่เหรอ?”อานโน่นิ่งไปสักพักก่อนจะเปลี่ยนคำถาม
เอ่อ...ผมว่าคำถามมันชักจะเลยเถิดไปหน่อยแล้วมั้ง
“...ก็ไม่เชิง”เป็นอีกครั้งที่คนเป็นพ่อไม่รู้จะอธิบายออกไปว่ายังไง
“แล้วยังไงล่ะ?”อานโน่ถามย้ำพร้อมเอียงหัวไปมาด้วยความอยากรู้ เส้นผมสีเงินยาวแซมสีน้ำเงินปัดไปมาจนผมต้องเอื้อมมือไปลูบเบาๆ
อยากรู้จังว่ายูทาร์จะจัดการสถานการณ์ตอนนี้ยังไง
เพราะอยากรู้เซโครเลยเลือกที่จะเงียบแล้วมองไปยังยูทาร์ที่ขมวดคิ้วสองข้างเข้าหากัน
คงจะกำลังคิดอยู่สินะ
“พ่อ”
“...นั่นเป็นการ...แสดงความรักน่ะ”เมื่อโดนเร่งอีกรอบยูทาร์ก็ค่อยๆเปิดปากอธิบาย
คำอธิบายนั่นทำให้ผมต้องเลิกคิ้วขึ้นเพราะความสนใจ...
ยูทาร์อธิบายได้ดีเกินคาด
“แสดงความรัก?”
“ก็...เวลารักใครเราก็ต้องแสดงออกใช่ไหม...นี่ก็เป็นหนึ่งในการแสดงความรักที่พ่อมีต่อแม่ไง”
“งั้นพ่อก็รักแม่ใช่ไหม?”
“ใช่เลย”ยูทาร์ตอบทันทีด้วยรอยยิ้ม
“ผมก็รักแม่เหมือนกัน”อานโน่เงยหน้าขึ้นมาจนดวงตาสีแดงสบเข้ากับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผม
“รักอานโน่เหมือนกัน”ผมบอกพร้อมกับจูบเบาๆที่หน้าผากของลูกชาย
“แล้วแม่รักพ่อไหม?”
“...แน่นอน”ผมเงียบไปสักพักเพื่อสะกดความเขินอายแล้วบอกออกไปโดยที่เงยหน้าขึ้นไปสบตากับยูทาร์ที่จ้องมาด้วยประกายแห่งความดีใจ
“ในเมื่อผมก็รักแม่แปลว่าผมก็แสดงความรักได้เหมือนที่พ่อทำกับแม่สินะ”
“ห๊ะ?!”ผมถึงงงเมื่อได้ยินประโยคของอานโน่แต่งงได้ไม่นานเด็กชายตัวเล็กก็หันหน้ามาพร้อมกับอ้าปากเล็กน้อยโดยที่สายตาของเขาหยุดอยู่ที่คอผม
นี่คิดจะทำเหมือนที่ยูทาร์ทำ?
“ไม่นะอานโน่...”
กึก!
ใบหน้าของอานโน่ที่เกือบจะถึงลำคอผมหยุดนิ่งอยู่กับที่เหมือนกับถูกใครดึงไว้และพอมองก็เจอกับยูทาร์ที่คว้าคอเสื้อของอานโน่ไว้แล้วดึงจนร่างเล็กไปนั่งอยู่บนตักของยูทาร์แทน
“...เฮ่อ”ผมถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อยังไม่โดนลูกตัวเองงับหรือเลียคอ
“ห้ามทำแบบนี้กับแม่เข้าใจไหม?”ยูทาร์บอกเสียงเข้มพร้อมมองอานโน่ด้วยสายตาดุๆ
“ทำไมล่ะ?”อานโน่ดูจะไม่กลัวสายตาดุที่ส่งไปเลย นั่นทำให้ผมอมยิ้มที่ราชาของไดโนเสาร์ดูจะมีรุ่นต่อไปให้สืบทอดแล้ว
ปกติเวลาที่ยูทาร์มองด้วยสายตาดุๆแบบนี้พวกไดโนเสาร์หรือแม้แต่มนุษย์ก็ยังต้องก้าวถอยหลังแต่อานโน่กลับไม่มีแม้แต่ความกลัว...ไม่รู้ว่าเพราะรู้ว่ายูทาร์ไม่คิดจะทำอะไรหรือใจกล้ากันแน่
“คนเดียวที่จะทำแบบนั้นกับเซโครได้มีแค่พ่อเท่านั้น”ยูทาร์ที่ปกติจะแทนชื่อผมว่าแม่หลดเรียกชื่อผมออกมาซะแล้ว
คงจะไม่ชอบใจสินะ
“งั้นถ้าผมอยากแสดงว่ารักแม่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”
“...”คำถามนั้นทำเอายูทาร์ถึงกับเงียบไปเลย
คงจะคิดไม่ถึงว่าจะถูกถามคำถามนี้ละมั้ง
“พ่อ?”
“...เอ่อ...ถ้าแค่กอดละก็...”
“แล้วหอมแก้มล่ะ...ปกติผมก็ทำนะ”
“นั่นก็โอเค”
“แล้วหน้าผากล่ะครับ?”อานโน่ยังคงถามต่อ
“ก็ไม่มีปัญหา”
“แล้วอะไรที่ผมทำไม่ได้ล่ะพ่อ?”สุดท้ายก็วกกลับมาที่เดิม
ผมได้แต่นั่งมองพ่อลูกคุยกันด้วยรอยยิ้ม...ต่อหน้าผมยูทาร์มักจะทำตัวเหมือนเด็ก ทั้งออดอ้อนทั้งขี้เล่น...แต่พออยู่ต่อหน้าอานโน่ยูทาร์ก็จะกลายเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูพึ่งพาได้จนอานโน่ยังพูดบ่อยๆว่าโตไปอยากเป็นเหมือนพ่อ
“ห้ามจูบ”ยูทาร์บอกต่อ
“จูบ?”
“หมายถึงปากแตะปากน่ะ”
“อ้อ...แล้วพ่อทำได้รึเปล่า?”
“แน่นอน...ก็พ่อเป็นคนรักของแม่นี่นา”
“ผมก็เป็นลูกรักทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ?”
“...ก็มัน...”เหมือนท้ายที่สุดยูทาร์ก็หมดหนทาง ดวงตาสีเหลืองอำพันเงยขึ้นมาสบกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมเป็นเชิงของความช่วยเหลือ
นั่นทำให้ผมคลียิ้มออกมาก่อนจะเข้าไปช่วยยูทาร์อธิบาย
“มันเป็นเหมือนวัฒนธรรมของมนุษย์น่ะอานโน่”ผมอธิบายแทนยูทาร์
“วัฒนธรรม...ของมนุษย์?”อานโน่หันมาทันทีที่ได้ยินคำอธิบาย
แววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเหมือนผมเมื่อก่อนเลย
“หมายถึงสิ่งที่มนุษย์ต่างยึดถือและปฏิบัติมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน...หนึ่งในวัฒนธรรมเหล่านั้นคือการแสดงออกถึงความรัก...จริงอยู่ที่ลูกรักแม่และพ่อแต่ทุกอย่างล้วนมีขอบเขต...ลูกสามารถแสดงออกว่ารักแม่ได้แต่ไม่มากเท่าที่พ่อแสดง”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะพ่อเป็นคนรักของแม่...เป็นคนที่แม่รักก่อนที่จะได้เจอลูก”มาถึงตอนนี้ก็ชักจะอธิบายไม่ถูกแล้วสิ
“หมายความว่าเพราะพ่อกับแม่รักกันก่อนจะเจอผม...พ่อเลยมีสิทธิ์ในตัวแม่มากกว่าผมแบบนี้ใช่ไหมครับ?”
“ใช่เลยอานโน่!”ผมรีบตอบกลับทันที เด็กคนนี้ฉลาดจริงๆถ้าขืนถามต่ออีกผมคงตอบไม่ได้แน่
“ผมเข้าใจแล้ว...พ่อครับ”
“หื้อ?”
“ขอโทษที่จะทำแบบนั้นกับแม่นะ”อานโน่หันไปพูดกับยูทาร์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิด
“...ไม่เป็นไร...พ่อเองก็ขอโทษที่ทำท่าดุลูกนะ”ยูทาร์ตอบพร้อมกับดึงตัวอานโน่เข้าไปกอดไว้แน่น ช่วงที่เงียบไปคงจะตกใจที่อานโน่ขอโทษแน่ๆ
“...อืม...รักพ่อนะ”เสียงเล็กๆดังอู้อี้แต่ก็ทำให้ยูทาร์กดจูบที่หน้าผากของเด็กในอ้อมกอดด้วยความเอ็นดู
“รักลูกเหมือนกัน”
“อ้าว...รักกันอยู่สองคน...ไม่รักกันแล้วเหรอ?”ผมที่เงียบอยู่นานถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แกล้งงอน
“ไม่ใช่นะเซโคร!/ไม่ใช่นะแม่!”สองเสียงประสานกันอย่างรวดเร็วจนผมหลุดยิ้มออกมา
เหมือนกันจริงๆพ่อลูกคู่นี้
“แล้วยังไงล่ะ?”
คำถามที่เอ่ยไปนั่นผมไม่ต้องการคำตอบเลยสักนิด...
ไม่จำเป็นต้องตอบผมก็รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทั้งสองคนต้องการจะบอกคืออะไร
วันหยุดที่มีน้อยนิดแต่ทุกครั้งที่ได้อยู่พร้อมหน้ามันช่างเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขจนไม่มีสิ่งไหนมาทดแทนได้
“ผมรักเซโคร!/ผมรักแม่!”ทั้งคู่ตะโกนขึ้นพร้อมกันก่อนที่ยูทาร์จะดึงผมเข้าไปกอดพร้อมกับอานโน่ที่ยกแขนขึ้นกอดคอผมแน่น รอยยิ้มของพวกเราทั้งสามปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะไม่ขาดสาย
ความอบอุ่นที่สัมผัสได้
นั่นทำให้ผมรู้...
การที่มีพวกเขาอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้…
ผมมีความสุขจริงๆ
“รักทั้งคู่เหมือนกัน”
..................................................................................
สวัสดีค่า
อ่า...ตอนนี้มันช่างละมุนเหลือเกิน
แต่งเองชอบเอง555+
อยากจะแต่งตอนที่อานโน่เจอฉากที่ยูทาร์และเซโครกำลังจะ...อยู่จนได้ออกมาแบบนี้แหละ
จะว่าสงสารยูทาร์ที่ไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจก็สงสารอยู่นะแต่ขำมากกว่า เหอะๆ
ตอนนี้ถือว่าเป็นครอบครัวสุขสัตน์ละกันเนอะ
สำหรับภาคต่อ...จะเป็นเรื่องราวของอานโน่นะคะ
จะมาอัพวันนี้เช่นกัน
ชื่อเรื่องของภาคต่อคือ✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก
รอติดตามกันด้วยนะคะ
คาดว่าจะมาอัพในช่วงดึกหน่อยค่ะ
ถือว่าวันแห่งความรักนี่เป็นวันดีในการเปิดเรื่องใหม่
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจนะคะ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันแห่งความรัก...
happy valentine's day :mew1:
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
แอร๊ยยยยยยย ขอบคุณค่าาาา
-
กรี้ดดดดดด ภาคต่อๆๆๆๆๆๆ :ling1:
อานโน่จะเป็นเคะหรือเมะน้ออออออ?
ไอเลิฟยูวววววว :กอด1:
-
น่ารักกก รอภาคต่อจ้าาา
-
:pig4: :pig4:
-
รอภาค2ค่าาาาาา!!
-
รอภาค 2 นะคะ ^^
-
กรี๊ดดดดดด
อานโน่หลานป้าาาาาาาา
น่ารัก น่ากอด น่าฟัดเกินไปแล้วววว
ฮือออออ :m3: :m3: :m3:
ครอบครัวอบอุ่น สุขสันต์ เห็นแล้วผ้าก็สุขใจ
ขอบคุณนะคะะะะะะะะะ
รอคืนนี้อย่างใจจดจ่อเลยค่ะ
-
:L2: :pig4:
-
น่ารัก... รออ่านเรื่องของรุ่นลูกค่ะ
-
รักแบบครอบครัว อบอุ่นจัง แต่อยาดได้แบบสวีทด้วยยย :L2:
-
งือออ ยูทาร์น่ารักอ่ะๆ :-[
:L2: :pig4: :pig4: :L2:
-
:mew1: :mew1: :mew1:ชอบบบบบบบบ
-
ครอบครัวสุขสันต์ :กอด1: :กอด1:
-
น่ารักอะะะะะะะะ
-
น่ารักทั้งพ่อ แม่ ลูกเลยอ่ะ :mew1: :mew1:
-
งื้ออออ อยากอ่านอีกกก
ตั้งแต่มีลูก ยูทาห์ก็ไม่ค่อยได้ทำกับเซโครเลยสินะ
ห้องน้ำยังว่างนะตัวเองงง แฮ่กกกก :hao6:
-
พ่อแม่ลูก น่าร้ากกกกก
-
ได้หนังสือที่สั่งแล้วค่ะ ขอบคุณนะค่ะ
-
โอ้ยยยยย เรื่องนี้สนุกมากกกกกกกก อ่านแล้ววางไมาลงจริง ๆ
-
สนุกดีนะเรื่องนี้ แปลกใหม่ไม่เหมือนใครดี ชอบๆ
-
แปลก แหวกแนวไม่เหมือนใคร สงสัยว่าคน กับไดโนเสาร์เค้าจะลงเอยกันได้ยังไง
เซโครน่ารัก ฉลาดมากๆ ส่วนยูทาร์เท่จริง ดุดัน แต่อบอุ่นที่สุดเมื่ออยู่กับเซโคร :o8:
ไม่ทันไรคู่นี้มีลูกโตแล้ว 555
ขอบคุณผู้เขียนค่ะ :L2:
-
น่ารักอ่ะ.......ภาค 2 ไม๊คะ...อิอิ :mew1:
-
อ่านรวดเดียวจบบ
สนุกมากก แปลกดีค่ะ น่ารักอบอุ่น
ยูทาร์นี่ทั้งน่ารัก ทั้งอบอุ่นเลยนะ ดีจังง
เซโครก้น่ารัก ขี้ใจอ่อนและก้แพ้ลูกอ้อนของยูทาร์ไปซะทุกครั้งเลย
5555555
รอภาค2นะคะ รออานโน่ค่าาา
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ น่ารักมาก สนุกมาก ถ้าไม่ได้อ่านนี่พลาดเลยนะเนี่ย
เดี๋ยวจะตามไปอ่านน้องอานโน่ต่อ ขอบคุณมากค่าสำหรับนิยายสนุกๆ
-
เค้าไปอ่าน อานโน่ตอนโตมาแหละ ถึงกะเศร้า อยากอ่าต่อ 555 เลยต้องกลับมาอ่านภาคแรกอีก เหอะ เหอะ
-
น่ารักกกกก ยูทาร์มุ้งมิ้งไปมั้ยยยยย
พอมีลูกแล้วโตเป็นผู้ใหญ่เลยยยย งื้ออออ
-
เกือบไปแล้ว มั้ยล่ะ คุณพ่อจอมหื่น
-
คืออยากเลี้ยงไดโนเสาร์มากกกก หาเลี้ยงได้จากที่ไหนเนี่ย 555555555 #ว่าไปนั้น
-
โอยยยย อานโน่น่าร้ากกกกกกก :o8:
-
:pig4: :pig4:
-
โฮรกกกกก คิดถึงเรื่องนี้มากจริงๆ พ่อแม่ลูกน่ารักอะไรเบอร์นั้นค่าา :hao5:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากค่ะ
-
คิดถึงยูทา :hao5:
-
:L1: :L1: :L1:
-
:pig4: น่ารักมากเลยยย :กอด1:
-
อ่านรวดเดียววันเดียวเต็มๆเลยค่ะ
กร๊าวใจมาก อ่านไปด้วยนอนกรี๊ดไปด้วย แอบกัดปากด้วย55555
ยูทาร์ตอนงอนน่ารักมาก ตอนหึงก็แบบบบบ เหมือนเด็ก
อยากได้แบบนี้คนนึงค่ะ /ติดต่อพ่อเซโคร
อ่านแล้วหลงรักเซโครตั้งแต่เเรกเลย ความพยายามที่จะเข้าใจยูทาร์นี่น่ารักมากจริงๆ
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้เลยแอบเสียดาย ยังไงว่าจะไปลองเดินงานหนังสือค่ะ
อยากได้มาเก็บมากๆ55555555
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านแล้วทำให้ยิ้มได้กันนะคะ :)
-
:-[ :-[ :pig4:
-
อ่านจบไปนานแล้วลืมมาเม้นเลย
ฮือออออออออ คือดีต่อใจ ตอนแรกมาอ่านเล่นๆ ช่วงที่ว่างมาก
อ่านเล่นไปอ่านเล่นมา อ่านจริง อ่านไม่หยุด อ่านไม่เว้นวรรค
น่ารักมากเลยค่ะ ช่วงแรกๆ นี่ลุ้นว่าจะกัดเลยมือไหม 5555
ตกหลุมรักทั้งเรื่องเลย ปกติไม่ค่อยได้ดูอะไรเกี่ยวกับไดโนเสาร์เท่าไหร่
อ่านเสร็จเริ่มสนใจ แบบเออแหะ ไดโนเสาร์ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ และเนื้อหาที่มาแน่น มีข้อมูลประกอบมาให้ด้วย
จะติดตามคู่ลูกต่อนะคะ ^___________^
-
สนุกมากเลย :katai2-1:
-
ไม่อยากให้จบเลยยย
คู่นี้น่ารักมากกกกก ละมุนนนน
-
ชอบมาก เนื้อเรื่อน่าสนใน สนุกมากค่ะ ตอนพิเศษก็น่ารักมาก ครอบครัวสุขสันต์
-
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุก อบอุ่นและน่ารักมากๆค่ะ :-[
เดี๋ยวจะไปตามอ่านภาคต่อนะคะ :mew1:
-
น่ารักอ่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย
ชอบ อยากให้มีตอนพิเศษอีกอ่ะ :impress2:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ตอนแรกงงๆอยู่ว่าจะให้มารักกันได้ยังไง แต่พออ่านหวานเลยจ้า
น่ารักมากๆคู่นี้ ปลื้ม :katai2-1:
:pig4:
-
น่ารักจังเลยยยยยย นี่เพิ่งได้อ่าน ชอบมากๆจ้า
-
กลายรักพิเศษ❧ อานโน่
ในแต่ละวันมักเริ่มต้นด้วยการลืมตาตื่นและเข้าไปอาบน้ำเพื่อชำระสิ่งสกปกก่อนจะเปลี่ยนไปทำมื้อเช้า ทุกๆวันของหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษอย่างผมก็เป็นเช่นนั้นนอกจากวันนี้ที่แตกต่างเล็กน้อยจนถึงปานกลาง...
“อานโน่!!”ผมตะโกนเรียกชื่อของลูกชายสุดที่รักดังลั่นเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วไปพบร่างที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงเหมือนอย่างทุกที
“เกิดอะไรขึ้นเซโคร?”เสียงทุ้มของยูทาร์ดังขึ้นพร้อมกับสียงฝีเท้าที่วิ่งตามมา
ตั้งแต่ที่รับอานโน่มาอยู่ในฐานะลูกก็ผ่านไปเกือบปีแล้ว เป็นหลายเดือนแห่งการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นพวกผมที่ย้ายจากห้องเล็กๆบนตึกมาเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นในพื้นที่หลายไร่ที่ได้รับมาจากทางผู้บริหารใหญ่
เห็นว่าเป็นการขอบคุณที่ได้ผมช่วยในหลายๆอย่างซึ่งก็ดีที่ได้ที่ผืนนี้มาถึงมันจะกว้างมากจนยูทาร์ในร่างไดโนเสาร์สามารถวิ่งเล่นได้ก็ตามที บ้านหลังนี้มีห้องนอนอยู่สองห้องแน่นอนว่าห้องแรกเป็นของผมและยูทาร์ ส่วนห้องที่สองเป็นของอานโน่นั่นเอง
“อานโน่หายไป!”ผมหันไปบอกคนข้างๆ
“ว่าไงนะ?!”
“บนเตียงไม่อยู่...ประตูห้องและหน้าต่างเองก็ถูกปิดไว้ ถ้าจะออกไปไหนไม่มีทางที่พวกเราจะไม่ได้ยินเสียงลงบันได แปลว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆเลย”ผมอธิบายด้วยความร้อนรน
จะบอกว่าผมเป็นห่วงมากไปก็ไม่ผิดหรอก
ผมไม่รู้ว่าพ่อแม่เวลาเลี้ยงลูกเป็นยังไงเพราะพ่อกับแม่ของผมเองไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีซะเท่าไหร่ นั่นทำให้ตอนที่ผมได้ชื่อว่าเป็นจึงอยากจะคอยดูแลและให้ความห่วงใยอานโน่อย่างเต็มที
อานโน่เป็นเด็กที่น่ารักมากในความคิดผมและยูทาร์เองก็คงจะคิดไม่ต่างกันเพราะขานั้นห่วงอานโน่มากกว่าผมซะอีก เวลามีอะไรขึ้นขึ้นคนแรกที่จะกลายร่างแล้ววิ่งไปโดยไม่รอผมก็มีแต่ยูทาร์นี่แหละ
“เกิดอะไรที่ว่านี่...อะไรล่ะ?”ยูทาร์ถามกลับ
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคือเราต้องรีบหาเขาให้เจอ”และต้องหาให้เจอโดยเร็วที่สุดด้วย
อานโน่ไม่ใช่เด็กที่จะไปไหนโดยไม่บอกกันแบบนี้ ถึงพวกเราจะไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันตลอด24ชั่วโมงเพราะติดออกไปทำงานนอกสถานที่แต่ทุกครั้งที่มีอะไรอานโน่ก็มักจะส่งข้อความมาบอกทางโทรศัพท์มือถือเสมอ
ล่าสุดที่ได้คือข้อความบอกฝันดีเมื่อคืนก่อนที่ผมและยูทาร์จะกลับถึงบ้านในช่วงตี2นี้เอง ภารกิจที่ได้รับคราวนี้ไม่ได้ยากแต่ใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าจะไปถึงก็กินเวลาไปเกือบ6ชั่วโมงพอจัดการเสร็จก็ตัดสินใจกลับบ้านไม่นอนค้างคืนเพราะจะได้มีเวลาอยู่กับอานโน่ในวันต่อไปมากขึ้น
“ผมจะตามกลิ่น...”
“ในนี้มีแต่กลิ่นของอานโน่เต็มไปหมดจะตามได้เหรอ?”ผมรีบถาม
“...ได้สิ...ผมจะหาอานโน่ให้เจอเอง”ยูทาร์ตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ก่อนจะเริ่มสูดอากาศรอบๆเข้าปอด จมูกของอีกฝ่ายขยับไปมาเล็กน้อยจากการใช้ประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นอย่างจริงจัง
ยูทาร์เดินตามกลิ่นของอานโน่เข้าไปภายในห้องก่อนจะเดินตรงไปยังหน้าต่างแล้วเปิดออกจนสายลมเบาๆพักเข้ามาภายในห้อง ผมที่เห็นแบบนั้นก็รีบเดินตามเข้าไปภายในทันที
“อานโน่ออกไปทางนี้สินะ”ไม่จำเป็นต้องให้ยูทาร์อธิบายเพราะแค่ท่าทางที่แสดงออกก็พอจะทำให้ผมวิเคราะห์อะไรได้หลายๆอย่างแล้ว
“อืม...แต่ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”ยูทาร์พึมพำพร้อมขมวดคิ้วแน่น
“ดูจากที่นอนที่เย็นบวกกับการที่พวกเราไม่ได้ยินเสียงเปิดหน้าต่าง คำตอบก็หาไม่ยากแล้ว...อานโน่ออกไปข้างนอกก่อนที่พวกเราจะกลับถึงบ้าน”นี่เป็นคำอธิบายเดียวที่จะตอบโจทย์ทั้งหมด
มันไม่มีทางเลยที่อานโน่จะสามารถหลบออกไปข้างนอกได้โดยที่ทั้งผมและยูทาร์ต่างไม่รู้สึกตัว อีกทั้งการที่ยูทาร์ไม่เอะใจตั้งแต่ตอนที่กลับมาคงเป็นเพราะไม่คิดว่าอานโน่ออกไปไหนทำให้ไม่ได้ดมกลิ่นอย่างเจาะจง ทุกพื้นที่ภายในบ้านย่อมเต็มไปด้วยกลิ่นของพวกเราทั้งสามคนอยู่แล้วทำให้การดมกลิ่นต้องใช้สมาธิมากกว่าปกติจึงจะสามารถรู้ถึงความผิดปกติได้
“อานโน่...ไปไหนกัน”ยูทาร์เริ่มจะร้อนรนขึ้นเล็กน้อย เขายื่นหัวออกไปด้านนอกเพื่อหากลิ่นของอานโน่ต่อแต่ดูจากคิ้วทั้งสองที่ขมวดเข้าหากันทำให้ผมรู้ว่าคงหาไม่เจอ
“ผมจะลองถามพ่อดู”ผมตอบแล้วยกเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาต่อสายหาบิดาแห่งการคืนชีพอย่างดร.ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่ทันที
(เซโคร?...ลูกกลับมาแล้วเหรอเนี่ย”น้ำเสียงดีใจจากปลายสายทำให้ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ครับ...กลับมาเมื่อคืน ผมมีเรื่องอยากถามพ่อหน่อย”
(ได้สิ...อะไรล่ะ?)
“อานโน่ได้ไปหาพ่อไหมครับ?”
(ฮือ?...เปล่านี่ อย่าบอกนะว่าอานโน่หาไปน่ะ?!!)เสียงตะโกนจากปลายสายดังมาจนผมต้องขยับโทรศัพท์ให้ออกหาหูอีกหน่อย
“ตามที่พ่อพูดเลยครับ...ตอนนี้ผมกำลังหาอยู่”
(หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ที่ไหน?และหายไปได้ยังไง?)
“หายไปเมื่อคืนประมาณเที่ยงคืนถึงตี2...จากที่สำรวจดูน่าจะออกไปทางหน้าต่างห้องนอนครับ”ผมอธิบายสิ่งที่คิดออกไปให้ปลายสายฟังเผื่อว่าข้อมูลพวกนี้จะช่วยให้พ่อคิดอะไรได้
(ด้านล่างมีรอยเท้าไหม?)
“...ไม่มีครับ”ก่อนตอบผมก็ชะโงกหน้าลงจากหน้าต่างมองไปยังพื้นดินด้านล่างที่ไม่ปรากฏรอยเท้าใดๆ
(แปลว่ากลับร่างไดโนเสาร์แล้วบินไป)
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นครับ?”ผมถามต่อ
(เมื่อคืนมีฝนตกตั้งแต่ช่วงสองทุ่มจนถึงเที่ยงคืน...ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ลูกคาดการที่เขาลงจากหน้าต่างในร่างมนุษย์โดยไม่ทิ้งรอยเท้าไว้นั้นเป็นไปไม่ได้แน่...)
“สิ่งที่คิดได้คืออานโน่กลับร่างไดโนเสาร์แล้วไปที่ไหนสักแห่ง”ผมต่อประโยคต่อไปพลางหันไปมองหน้ายูทาร์ที่กำลังทำหน้าเครียด
(ใช่...ที่น่าแปลกใจคือการที่อานโน่ไปโดยไม่บอกพวกลูก...ไม่แน่ว่า...)
“อาจอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถติดต่อได้หรือลืมเอาโทรศัพท์ไป”เป็นอีกครั้งที่ผมบอก ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมหันไปสบกับดวงตาสีเหลืองอำพันของคนข้างกาย เพียงแค่นั้นยูทาร์ก็พยักหน้าก่อนจะเดินหาโทรศัพท์ทั่วห้อง
“อยู่นี่เซโคร”ยูทาร์พูดพร้อมชูโทรศัพท์สีดำที่ถูกวางไว้ในลิ้นชักขึ้นมาให้เห็น
“อานโน่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปครับ”ผมบอกปลายสาย
(การที่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปก็แปลว่าต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เร่งรีบหรือมีเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรขึ้น)
“เมื่อคืนมีเหตุไดโนเสาร์หลุดบนเกาะไหมครับ?”
(ไม่มี)
“...ถ้าไม่ใช่ไดโนเสาร์แล้วอะไรล่ะ...อะไรที่ทำให้ต้องรีบออกไปโดยไม่รอทั้งที่รู้ว่าพวกเรากำลังจะมาถึง...”
(คงเป็นอะไรที่ไม่สามารถรอได้...พ่อว่าอย่าพึ่งตัดเรื่องไดโนเสาร์ออกไปดีกว่านะ)
“ทำไมละครับ? ก็พอบอกเองว่าไม่ได้มีไดโนเสาร์หลุด”
(ใช่...ไม่มีไดโนเสาร์หลุดแต่ไม่ได้หมายความว่าไดโนเสาร์ที่อยู่ข้างนอกหรือพวกมีปีกที่บินมายังเกาะนี้จะไม่ก่อเรื่อง)
“แต่ถ้ามีเรื่องจริงต้องมีคนมาแจ้งผมแล้วสิ”
(ไม่แน่ว่าอาจอยู่ในที่ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปถึงหรือไม่ก็...)
“มนุษย์ที่จะแจ้งไม่มีเวลาพอให้ติดต่อ”ผมต่อประโยคนั้นพร้อมกับสมองที่กำลังประมวลความคิด
ถ้าการที่ไม่มีเวลาพอให้ติดต่อก็มีอย่างเดียวคือถูกไดโนเสาร์ที่ว่าจัดการไปแล้ว
ไดโนเสาร์ที่ถูกปล่อยให้อยู่ได้อย่างอิสระโดยไม่ขังกรงเป็นไดโนเสาร์ที่ผมและยูทาร์ต่างรู้จักกันดี ไม่ก็เป็นพวกกินพืชไม่มีความดุร้ายต่อมนุษย์แน่นอน...ถ้ามนุษย์ไม่ได้เป็นฝ่ายไปกวนโมโหก่อนละก็นะ
จากที่คิดแปลว่าถ้ามีไดโนเสาร์ก่อเหตุวุ่นวายจริงต้องไม่ใช่ไดโนเสาร์ที่ถูกปล่อย
ถ้าไม่ถูกปล่อยก็ต้องเป็นไดโนเสาร์ที่อพยพมา
และต้องไม่ใช่ไดโนเสาร์บกหรือน้ำ
ไดโนเสาร์ที่อพยพมาช่วงนี้บวกกับมีปีกสามารถบินได้
นิสัยก็ค่อยข้างดุร้าย
“อย่าบอกนะว่า...”อยู่ๆในหัวก็มีชื่อหนึ่งผุดเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
(อะไรเซโคร? นึกอะไรได้เหรอ?)
“ขอวางก่อนนะครับ แล้วจะติดต่อไป”ผมรีบตัดสายแล้วหันไปมองหน้ายูทาร์ด้วยความกังวล
“มีอะไรเซโคร? คิดอะไรได้สินะ...แล้วทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นล่ะ?”ยูทาร์ที่เห็นผมมีสีหน้ากังวลก็เริ่มกังวลตามไปด้วย
“เราต้องรีบหาอานโน่ให้เจอ”
“บอกผมหน่อยเซโครว่าเกิดอะไรขึ้นกับอานโน่กันแน่?”
“ไม่รู้ว่าสิ่งทีคิดนี่จะเป็นจริงไหมแต่จากที่คิดได้อานโน่คงออกไปสู้กับไดโนเสาร์...”
“ต่อสู้?...ไม่นะ...อานโน่ยังเด็กอยู่เลย เขาจะสู้ได้ยังไงกัน?!”ยูทาร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งร้อนรนมากเข้าไปใหญ่
ตอนนี้ไม่ใช่แค่ยูทาร์หรอกที่ร้อนรน
ผมเองก็ร้อนรนไม่แพ้กัน
จริงอยู่ที่อานโน่มียีนของไดโนเสาร์หลายต่อหลายชนิด อาวุธป้องกันตัวโดยธรรมชาติอย่างพิษของหมึกบลูริงเองก็ใช่ย่อย ทั้งที่น่าจะวางใจได้แต่ในฐานะของพ่อแม่ก็ไม่อาจวางใจได้เต็มร้อย
ยิ่งตอนนี้อานโน่ยังไม่โตเต็มที่...ขนาดและพละกำลังก็ผิดจากพวกเต็มวัยอย่างยูทาร์สิ้นเชิง
“เราถึงต้องรีบไง...กลับร่างยูทาร์เราจะไปหาที่ป่ารกชื้นทางใต้ของเกาะกัน”ทันทีที่ผมบอกยูทาร์ก็กระโดดลงจากหน้าต่างพร้อมกลายร่างกลับเป็นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่อีกครั้ง ผมที่เห็นแบบนั้นก็รีบเกาะหลังยูทาร์ไป
อาวุธที่จำเป็นอย่างปืนไม่ต้องเสียเวลาวิ่งไปหยิบเพราะผมมีติดตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วแม้จะอยู่ในบ้านก็ตามที
การเดินทางไปยังปารกชื้นทางตอนใต้ของเกาะนั้นใช้เวลาในการเดินทางไม่ถึง10นาทีเพราะยูทาร์เร่งความเร็วสูงสุดจนผมต้องหลับตาพร้อมก้มหัวตลอดเพื่อไม่ให้โดนแรงปะทะโจมตี
งี๊ดดด!
“อะไรยูทาร์?...ได้กลิ่นอานโน่เหรอ?”ผมถามไดโนเสาร์ร่างยักษ์ที่หยุดวิ่งเมื่อมาถึงบริเวณชายป่า หัวกะโหลกขนาดใหญ่หันไปยังป่าด้านหน้าพลางส่งเสียงสื่อสารบางอย่าง
งื้ดดด!
ส่วนหัวที่ขยับขึ้นลงทำให้ผมยิ้มออกมาเล็กน้อยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการตามหาอย่างไร้จุดหมาย
“ไปเลยยูทาร์...ไปหาลูกเรา”
งี๊ดดดด
สิ้นเสียงครางร่างขนาดใหญ่ก็วิ่งตรงเข้าไปภายในป่ารกชื้นแต่ด้วยสิ่งกีดขวางอย่างต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ดูจะมากอยู่ทำให้ความเร็วลดลงมาก เห็นแบบนั้นผมเลยให้ยูทาร์กลับร่างมนุษย์แล้วเดินทางต่อเพื่อความรวดเร็ว
“เซโคร...เสียงการต่อสู้”ยูทาร์ที่วิ่งนำหันมาบอก
“อานโน่ล่ะ?”ผมรีบถามต่อ
“อานโน่อยู่ที่นั่น...”
กรรรรร
กรรรรรรร
เสียงคำรามของสัตว์ขนาดใหญ่สองชนิดดังขึ้นเมื่อพวกเราเข้ามาใกล้สถานที่ต่อสู้มากขึ้น บริเวณที่เกิดการต่อสู้คงเป็นด้านบนหน้าผาขนาดเตี้ยติดๆกันโดยมีความสูงแต่ละผาเกือบ30เมตรได้
“กลิ่นนี้มัน...เลือดของอานโน่...”
“อะไรนะ?”อานโน่เหรอ?
“พวกมันกล้ามาทำลูกเราได้ยังไง!”เสียงทุ้มของยูทาร์แข็งกร้าวขึ้นอย่างรวดเร็วและทันทีที่หลุดออกจากเขตป่าก็ร่างมนุษย์ของยูทาร์ก็กลายเป็นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว
โชคดีที่จากตรงนี้ไปเป็นพื้นหินราบทำให้ร่างขนาดใหญ่นั่นไม่ชนเข้ากับต้นไม้ไหนเพราะดูจากอารมณ์ยูทาร์คงไม่มีสติมากเท่าไหร่...ภาพตรงหน้า ไม่สิ ต้องพูดว่าด้านบนนั่นเป็นภาพที่คนอื่นเห็นคงจะตื้นเต้นและลุ้นระทึกไปกับการต่อสู้ของไดโนเสาร์มีปีกตัวหนึ่งที่ถูกนกหลายสิบตัวล้อมแต่สำหรับพ่อแม่ของไดโนเสาร์ตัวนั้นอย่างผมและยูทาร์นั้นมีแต่ความโกรธและโมโหที่เห็นลูกของตัวเองถูกทำร้ายอย่างไร้ทางสู้ขนาดนั้น
ถ้านกนั่นเป็นนกธรรมดาคงไม่ต้องห่วงอะไรแต่เพราะนกตรงหน้าถือเป็นหนึ่งในนกจากยุคโบราณ ชื่อของมันคือทาเปจารา ซึ่งเป็นนกโบราณขนาดมหึมาถึง5เมตร ด้วยส่วนกระดูกที่งอกออกมาบนหัวมีขนาดใหญ่กว่าส่วนปากถึง5เท่าทำให้ตรงนี้มีพลังในการจู่โจมมากที่สุด เพียงแค่โดนตรงส่วนหัวนั่นกระแทกไดโนเสาร์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางบางสายพันธุ์ยังต้องสลบ
ทาเปจาราที่ว่าตอนนี้กำลังผลัดกันโจมตีอานโน่อย่างรุนแรงจนร่างกายสีเงินเต็มไปด้วยรอยทะลอก เลือดสีแดงไหลซึมออกมาไม่ขาดสายทำเอาผมที่มองถึงกับต้องเม้มปากแน่นเพื่อข่มน้ำตาที่เหมือนจะไหลลงมาพร้อมกับความโกรธเมื่อเห็นร่างของลูกต้องบาดเจ็บขนาดนี้
กรรรรรรร
ผมยังคุมอารมณ์ได้แต่ดูเหมือนยูทาร์จะไม่ใช่เพราะทันทีที่เห็นภาพของอานโน่ยูทาร์ก็ไม่รอช้ารีบส่งเสียงคำรามลั่นจนฝูงทาเปจาราแตกตื่นกันเป็นแถว ยูทาร์ไม่ปล่อยให้พวกทาเปจาราตั้งตัวรีบวิ่งตรงไปยังหน้าผาก่อนจะใช้หินขนาดใหญ่เป็นฐานเพื่อกระโดดขึ้นไปยังฝูงทาเปจารา
ปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวอ้าออกกว้างพร้อมกับขย้ำคอของทาเปจาราตัวหนึ่งไว้
จากที่มองคงเป็นจ่าฝูง
กรรรรรรรรร
เสียงคำรามโดยที่มีจ่าฝูงอยู่ภายในปากทำให้เหล่าทาเปจาราที่เหลือตระหนกอย่างพร้อมเพียง ยูทาร์เองก็ทำท่าเหมือนกำลังคุยอะไรบางอย่างอยู่
งี๊ดดด
“อานโน่!!”ผมเรียกพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาร่างสีเงินที่ล่วงลงมาบนพื้นหินอย่างแรง
สภาพของอานโน่ตอนนี้เรียกว่าแย่มาก ถึงบาดแผลจะไม่สาหัสแต่ก็มีแผลเกือบทั้งตัว...เลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดนี่ผมรีบจัดการถอดเสื้อตัวเองแล้วเช็ดเข้าที่บาดแผลนั่นทันที
ตอนนี้ไม่มีเครื่องมืออะไรเลยที่จะใช้ห้ามเลือด ไม่ใช่แค่ห้ามเลือดแต่อุปกรณ์พยาบาลเองก็ไม่มีเช่นกัน
“...แม่ครับ”ร่างกายสีเงินเปลี่ยนกลับมาอยู่ในร่างมนุษย์พร้อมกับเอ่ยเรียก
ร่างไดโนเสาร์ที่ว่าเต็มไปด้วยบาดแผลพอมาอยู่ในร่างมนุษย์เล็กๆนี่ทำให้ผมต้องคว้าตัวอีกฝ่ายมากอดไว้แน่นพลางลูบเส้นผมสีเงินแซมน้ำเงินนั่นไปมาด้วยความรู้สึกผิด
รู้สึกผิดที่ไม่สามารถปกป้องได้ทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่
“ขอโทษนะอานโน่...แม่ขอโทษ”
“แม่...ไม่ใช่ความผิดแม่สักหน่อย...เพราะผมเองต่างหาก”เสียงนุ่มๆของอานโน่บอก
“เพราะแม่สิ...ถ้าแม่เอะใจตั้งแต่เมื่อคืน...”
“ไม่หรอกครับ...ถ้าผมทิ้งข้อความอะไรไว้ก็คงทำให้แม่มาเร็วกว่านี้แล้ว ความผิดผมเอง”
“อานโน่...”
“เรื่องผมไว้ก่อนเถอะครับ...ตอนนี้มีคนเจ็บอยู่...ทางนั้น”พูดจบอานโน่ก็พยายามดันตัวลุกขึ้นแล้วชี้ไปยังใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งนอนหมดสติอยู่
“เกิดอะไรขึ้น?...ลูกอธิบายมาหน่อย”ตอนนี้ผมต้องการรู้เรื่องที่เกิดขึ้น
“หลังจากที่ผมส่งข้อความไปหาแม่ผมก็ได้ยินเสียงแปลกๆของสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยรู้จัก แต่นั่นไม่ทำให้ผมสนใจเท่าร่างขนาดใหญ่ของพวกมันบินอยู่ด้านบนโดยที่ในปากมีมนุษย์อยู่...พอเห็นแบบนั้นผมเลยคิดจะไปช่วย...”
“เลยกลับร่างแล้วตามมาจนถึงนี่ และพอช่วยได้ก็ถูกทาเปจาราทั้งฝูงโจมตีจนบาดเจ็บ...ใช่ไหม?”ผมวิเคราะห์สิ่งที่ได้ยินและบอกสิ่งที่คิดออกไป
“...ใช่ครับ”
“คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีก...รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงแค่ไหนตอนที่ไม่เห็นลูกในห้องน่ะ”
“...ขอโทษครับ...ผมแค่...”
“แม่รู้ว่าลูกอยากช่วย...แต่ลูกยังเด็กอยู่นะ”
“ผมสู้ได้นะ...”
“แม่รู้ว่าลูกสู้ได้แต่ด้วยวัยของลูกยังไม่ใช่วัยที่มีสมบูรณ์ที่สุด...ลูกคงไม่เถียงแม่เพราะคำตอบของการที่ลูกดันทุรังสู้คือร่างกายอันเต็มไปด้วยบาดแผลนี้”ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาของผมจับจ้องไปยังดวงตาสีแดงอ่อนตรงหน้า
“...ขอโทษครับ...คราวหน้าผมจะไม่ทำอีก”
“แม่จะปล่อยให้ลูกสู้ตราบเท่าที่ลูกมีทักษะมากพอ...ลูกเป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มีความสามารถเพียงแค่ยังไม่เคยได้รับการฝึก แม่ไม่อยากให้ลูกสู้...แต่ดูเหมือนสายเลือดในตัว สายเลือดของไดโนเสาร์จะไม่ยอมสินะ”
ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนอยากเห็นลูกเจ็บตัว
แต่ผมก็รู้ตั้งแต่วันแรกที่รับอานโน่มาเลี้ยงแล้วว่าเขามีความสามารถไม่ว่าจะในฐานะของมนุษย์หรือในฐานะของไดโนเสาร์ เพียงแต่ผมไม่อยากให้อานโน่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ไม่อยากให้ต้องเจ็บตัว
ทว่าสายเลือดครึ่งหนึ่งของนักล่าไม่ใช่สิ่งที่สามารถต้านทานได้ง่าย
สัญชาตญาณของการต่อสู้
ความกระหายในความแข็งแกร่ง
และความไม่ยอมแพ้ต่อให้เผชิญหน้ากับอะไร
นั่นคือสายเลือดของไดโนเสาร์
ต่อให้ถูกเลี้ยงดูในแบบมนุษย์ก็ไม่สามารถปิดกั้นมันได้
กรรรรร
งี๊ดด!
“แม่ข้างหลัง!”เสียงประสานของทั้งยูทาร์ อานโน่และทาเปจาราตัวหนึ่งดังขึ้นพร้อมกัน
ผมไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร สิ่งที่ทำคือหันไปมองด้านหลังอย่างมีสติพลางเอื้อมมือไปหยิบปืนกระบอกหนึ่งที่ติดอยู่ตรงเอวขึ้นมาเล็งไปทางทาเปจาราที่บินตรงมา
ปัง!
เพียงนัดเดียวทาเปจาราตัวนันก็ร่วงลงกระแทกพื้นทันที
กรรรรรรรรรรรร
เสียงคำรามของยูทาร์ดังไปทั่วบริเวณเป็นสัญญาณของการสิ้นสุดการต่อสู้เพราะทาเปจาราที่เหลือต่างยอมรับในความพ่ายแพ้โดยดี การที่เล็วมายังผมซึ่งเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอที่สุดแต่ไม่สำเร็จทำให้พวกมันรู้ได้ในทันทีว่าไม่มีทางที่จะชนะได้เลย
“เซโคร...ไม่เป็นไรนะ”ยูทาร์กลับร่างมนุษย์พร้อมวิ่งเข้ามากอดผมไว้แน่น
“อืม...พวกทาเปจาราเป็นไงบ้าง?”
“เดี๋ยวพวกเขาจะไปที่อื่นวันพรุ่งนี้...แล้วก็บอกขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย”
“ก็ดีแล้ว”
“อานโน่...ลูกเป็นไงบ้าง?...บาดแผลขนาดนี้เลยเหรอ?”ยูทาร์ดูตกใจไม่น้อยกับบาดแผลของอานโน่ที่ได้รับ
“ไม่เป็นไรครับ”อานโน่ตอบด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไรที่ไหนกัน?...คราวหน้าอย่าออกมาคนเดียวแบบนี้อีกนะ รู้ไหมว่าพ่อกับแม่เป็นห่วงมากน่ะ...ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกพ่อจะทำยังไงล่ะ”ยูทาร์หันไปคว้าตัวอานโน่มากอดไว้แนบอกพลางลูบเส้นผมสีเงินแซมน้ำเงินนั่นอย่างอ่อนโยน
“...ขอโทษครับ...แต่ผมมอยากช่วยนี่...พ่อกับแม่ทำงานมาเหนื่อยๆถ้าต้องออกไปอีกคงจะไม่ได้พักผ่อนแถมผมเองก็ยังเป็นลูกของพ่อที่เป็นราชาของไดโนเสาร์ เพราะงั้นผมเลยคิดว่าจะสามารถจัดการได้”อานโน่พึมพำเสียงเบา
“อานโน่...นี่ลูก”
“นี่อานโน่”ผมเรียก
“ครับแม่”
“แม่จะให้ลูกสู้...แต่อย่างที่บอกไปว่าแม่ไม่ยอมให้ลูกไปสู้ทั้งๆแบบนี้แน่...ถ้าลูกอยากสู้ลูกต้องมีทักษะที่ทั้งมนุษย์และไดโนเสาร์จำเป็นต้องมี ที่สำคัญคือลูกจะเริ่มภารกิจไม่ได้ตราบเท่าที่ยังไม่มีคู่หู”ผมอธิบายต่อ
“...คู่หูเหรอ...”
“ใช่...แต่เรื่องนั้นเอาไว้ที่หลังก็ไม่สาย นับจากนี้แม่จะฝึกศิลปะการป้องกันตัวให้และพ่อจะสอนการต่อสู้ในร่างไดโนเสาร์...ลูกพร้อมที่จะทำไหม?”ผมถาม
“แน่นอนครับ!”อานโน่ตอบเสียงหนักแน่น
“จะไม่เลิกกลางทางใช่ไหม?”
“ไม่เลิกแน่ครับ...ก็ผมเป็นลูกของพ่อกับแม่นี่นา”
“ดีมาก”รอยยิ้มของผมปรากฏขึ้นเมื่อได้รับคำตอบที่น่าพอใจ
ในเมื่อไม่สามารถเลี้ยงเขาในฐานะมนุษย์ปกติได้ผมก็จะฝึกฝนเขาให้มีทักษะและความสามารถเผื่อในวันหน้าที่ต้องเจอกับสถานการณ์อะไรก็จะสามารถผ่านไปได้...
เพราะอานโน่ได้ชื่อว่าเป็นลูกของคู่หูที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างผมและยูทาร์นี่
.............................................................................
::มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์::
(http://www.komkid.com/wp-content/uploads/2012/01/tapejara222.jpg)
Tapejara(ทาเปจารา)
นับแต่ปลายยุคจูราสสิคเป็นต้นมา เทโรซอร์หลายชนิดได้มีวิวัฒนาการจนมีลักษณะแปลกประหลาด อย่างเช่น พเทโรดัสโทรที่มีจงอยปากยาวโค้งคล้ายกับนกช้อนหอย หรืออย่าง ทาเปจารา ที่มีหงอนขนาดใหญ่อยู่บนหัว โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่า หงอนของมันอาจมีประโยชน์ในการดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้ามแบบเดียวกับนกเงือกในปัจจุบัน
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : http://dinosaurword.blogspot.com/2015_08_01_archive.html
..............................................................................
สวัสดีค่ะ
แวะมาอัพตอนพิเศษสักหน่อย
ตอนนี้ให้ความรู้สึกของครอบครัวได้มากจริง เราชอบความรู้สึกแบบนี้มากเลย
แม้จะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันแต่ก็มีความผูกพันธ์กันมากมาย
แต่งเซโครกับยูทาร์ทีไรรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลย 55
ไว้มีโอกาสจะแต่งตอนพิเศษออกมาอีกนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามตั้งแต่รุ่นของเซโครไปจนถึงรุ่นของอานโน่เลยนะคะ
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
-
:3123: :3123:
-
อานโน่ลูก~~~~~~~~
เจ็บมากมั๊ย ป้าเป็นห่วงจริงๆ
เซโคร น้องยูทาร์ สอนให้เซโครเก่งสุดๆไปเลยนะ :mew2: :mew2:
งื้อออออออออ คิดถึงน้องยูทาร์ที่สุดเลยยยย /โดนเซโครมองจิก
-
T T สังเวยนกไปหนึ่งตัว
เลิฟยู๊ววววววววววววววววววววว :กอด1:
-
อานโน่วัยเด็กที่อยากเป็นแบบพ่อกับแม่ น่ารัก
คิดถึงยูทาร์กับเซโครด้วย มาให้หายคิดถึงกันเลย
-
เอ็นดู ตอนนี้ให้อารมณ์พ่อแม่ลูกสุดๆ เซโครนี่แม่ก็คือแม่เลย
-
รักเซโคร ยูทาร์ เอ็นดูอานโน่ ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษสนุกๆค่า
-
อ่านเรื่องของเซโครกับยูทาร์ทีไรรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขที่สุด
เอามาให้อ่านอีกนะคับ :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
-
ชอบยูทา จริงๆนะ
รู้สึกมีเสน่ห์มาก เท่ แต่น่ารัก งงมั้ย 5555
ขอบคุณนะคะ มาอีกบ่อยๆเนอะ :L2:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ครอบครัวตัวอย่างชัดๆ อานโน่น่ารักอ่ะ
-
ครอบครัวอบอุ่นจริงๆเลย ปลื้มมม
-
ครอบครัวนี้มุ้งมื้งมาก
-
ชอบอ่ะ น่ารัก
:pig4: :pig4:
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
อานโน่~~ น่ารักกกก
-
น่ารักแต่เด็กเลยยยย
-
ตั้ลล้ากกกกก
-
โถ่ อานโน่
ครอบครัวนี้น่ารักกก 555
-
อ๊ายยยยยยยย เราข้ามเรื่องนี้ไปได้ยังไงเนี่ย
ลองเปิดเข้ามาอ่าน ปรากฎว่าติดมากมายอ่ะคร้า
อ่านตั้งแต่สองทุ่ม อ่านจบตีสี่ครึ่งอ่ะจ้า พี่น้องงงงงงง
อ๊่ยยยยยยยย แบบว่าหลงรักไดโนเสาร์เลยล่ะคร้าบบบท่านผู้ชม
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่สนุกมากมายนะค่ะ
จะติดตามคนเขียนไปเรื่อยๆนะค่ะ
:mew1: :mew1: :mew1:
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
เห็นชื่อเรื่องตอนแรกไม่คิดจะเข้ามาอ่านเลย
แต่ลองเข้ามาแล้วบอกเลยว่าสนุกมากๆๆๆๆๆ
ทั้งยูทาร์ เซโคร อานโน่ น่ารักที่สุด
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
เรื่องนี้สนุกมากๆเลยค่ะ
ยูทาร์กับเซโครน่ารักมาก
ยิ่งมีทายาทอย่างอานโน่ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
ชอบเรื่องนี้มาก ไม่มีดราม่า กุ๊กกิ๊ก
:mew1: :-[
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ
-
เห็นต้องพิเศษก็เข้ามา กรี๊ดดด เลยค่ะ น่ารักมาครอบครัวนี้ น้อง อานโน่ ผู้ชายคนนั้นที่น้องช่วย จะมาเป็นคู่หูใช่ไหม ทำไมรู้สึกว่า น้อง อานโน่ จะเป็น เคะ อ่ะ :z1: ถ้าเป็นงั้นก็แหล่มค่าาา
-
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายดีๆแบบนี้
แล้วก็อยากถามคนเขียนนิดนึงว่า
วงจรชีวิตของไดโนเสาร์กลายพันธุ์นี่มีอายุได้กี่ปีคะ
กลัวว่าจะอายุยืนกว่ามนุษย์ ทำให้เซโครจากไปก่อน หรือไม่ก็เป็นพวกที่ตัดต่อยีนส์เลยทำให้อายุสั้น (เห็นได้จากที่พวกนี้โตเร็ว) ทำให้ยูทาร์จากไปก่อนเซโคร คิดแล้วก็เครียด คิดว่าจะมีมาม่าประเด็นนี้ ไปๆมาๆคนเขียนไม่ได้พูดเรื่องอายุเลย จริงๆประเด็นนี้ยังเขียนต่อได้อีกนะ แต่งภาคต่อเอายาวๆเลย 5555+
ปล.ขอโทษที่คำถามเรียลลิสติกเกินไปค่ะ 5555+
แต่มันเป็นเรื่องที่เราคิดมาตั้งแต่เริ่มอ่านเลย แบบว่าอิน สงสารถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวน่ะ เป็นสัจธรรมของความรักต่างเผ่าพันธุ์ T__T
-
อานโน่ น่ารักมากกกกก
-
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักทั้งพ่แ แม่ ลูกเลย
อยากติดตามไปถึงภาคอ่านโน่ด้วยค่ะ
-
ในที่สุดเราก็ไปส่อยเรื่องนี้มาครอบครองจากงานแฟนฟิคที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้วค่ะะ ฮืออ คือดีมาก ปกก็สวย ตกเป็นทาสยูทาร์โครเซด้วยสมบูรณ์ ล่าก่อยย
-
รู้สึกแบบ....อ๊า อิชั้นพลาดเรื่องนี้ได้ไงตั้งนาน
สนุกมากๆค่ะ
น่ารักทุกคนเลย :mew1:
เซรโครน่ารัก ยูทาร์ก็น่ารัก
อานโน่ยิ่งน่ารัก อรั๊ย :mew3:
-
น่ารักจัง.... มาอีกบ่อยๆนะ :L1: :pig4:
-
คุณพระคุณเจ้า อิป้อทำอะไรลงไปเนี่ยผสมสายพันธ์จนมั่วไปหมดแล้ว :a5:ได้เขยเป็นสายพันธ์ไหนกันแน่ล่ะเนี่ย :really2:
-
หูยย ยูทาขนาดตอนเป็นไดโนเสาร์ยังไม่เข้าใจมนุษย์ไม่มีความรู้สึกยังหวงเซโครขนาดนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นมนุษยืรู้เรื่องเมื่อไหร่ไม่ขี้หึงตะบี้ตะบันเลยหรอ :hao3:
-
วายๆๆ จูบเป็นแล้ว สถานีต่อไปก็ปามป๊ามสิ แล้วงี้พ่อไดโนยูทาที่น่ารักของเราจะทำเป็นมั้ยเนี่ย :jul3:
-
น่ารักมาก เพิ่งมาอ่านค่ะ แต่อ่านรวดเดียวจบเลย ชอบเซโครกับยูทาร์ในฐานะพ่อแม่มาก อานโน่ก็น่ารักดี ดูมีสายเลือดไดโนเสาร์ต่อสู้เต็มที่
-
ตอนแรกที่เห็นชื่อเรื่องเราก็คิดแล้วว่าต้องแนวกลายล่างไม่มากก็น้อย แต่พออ่านอินโทรไม่คิดเลยว่าเป็นแนวไดโนเสาร์
เรื่องนี้สนุกมากเราอ่านรวดเดียวจบเลย แบบเน็ตกำลังจะหมดต้องรีบไปเติมตังค์มาสมัครเน็ตอ่านกันเลยที่เดียว จะติดตามผลงานนะค่ะ เราชอบสำนวนการแต่งของคุณมาก ทำต่อไปเรื่อยๆเลยเด้ออ
-
:o8: :o8: :-[ :-[
-
น่ารักกกกกกกกก
ยูทาร์ขี้หึงงงงงง เซโครก็น่ารักกกก :ling1:
555555
ชอบมากกกกกกก
จริงๆอ่านจบแต่เมื่อคืนแต่ไม่ได้เม้น เพราะพี่ไปตอนอ่านต่อ ฮาาาาา :ruready
-
สนุกค่ะ ยูทาน่ารักซื่อๆด้วย
-
อ่านเรื่องหลักจบแล้ว.... :hao5:
ขอบคุณสำหรับนักเขียนที่เขียนนิยายดีๆมา
ชื่นชอบเรื่องราวตั้งแต่บทนำจนจบเรื่อง
เป็นเรื่องที่ชวนให้ยิ้มทุกครั้งทุกตอนที่ได้อ่าน
ขอบคุณมากๆค่ะ :sad4:
-
อานโน่!!!! น่ารักกกกกกกกกก :katai4: :katai4:
-
มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกัน
จุดที่ฉันอ่าน ไดโนเสาร์ กับ คน!!!!
แถมฟินอีก :-[
น่ารักมากกก
เรื่องไม่เครียด ไม่ดราม่า
นึกภาพตามในหลายๆตอนแล้วแอบขำ
ชอบจัง ชอบๆๆๆ ไม่คิดจะชอบมากขนาดนี้
สงสัยต้องมีชื่อคุณในลิสต์นักเขียนที่ชอบแล้วละ^^
-
อยากสอบถามหน่อย นิยายเรื่องนี้ดัดแปลงหรือเอาเนื้อหามาจาก นิยายแปลของคุณ ayumi kasai หรือเปล่าค่ะ เพราะไปอ่านตัวอย่างคร่าวๆของนิยายของคุณ ayumi ที่เกี่ยวกับไดโนเสาร์ และพ่อนายเอกเป็นคนดูแล ซึ่งคล้ายคลึงกันมาก
รบกวนชี้แจงด้วยนะค่ะ ว่าไม่ได้คัดลอกมา หรือเอาเนื้อหามาแก้ไข
-
สนุก :hao7:
-
เปิดวาร์ปกลับไปอ่าน วันนี้เมื่อปีที่แล้ว
-
ชอบมาก สนุกมาก อ่านแล้วเห็นภาพเลย
-
สนุกมากเลยคะอยากให้มีภาคต่อของรุ่นลูกๆด้วย :katai5:
-
สนุกมากๆคะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
-
สนุกและน่ารักมากค่ะ
จะรอติดตามภาคต่อนะคะ
ขอบคุณค่ะ
-
โชรบหว๊ากกกกกกก เรื่องนี้มุ้งมิ้งมาก จะรอภาคต่อไปน้าาาาา :mew1:
-
งื๊ดดดดด
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ ส่วนตัวชอบไดโนเสาร์อยู่แล้ว
อ่านไปนี่ไม่เบื่อเลย บางทีต้องแอบแวบไปเสิร์ชว่าตัวนี้หน้าตาเป็นไง (รอตรงพาร์ทให้ความรู้ไม่ไหวค่ะ) อยากอ่านอีกนะคะ เป็นกำลังใจให้นิยาบสนุกๆ เรื่องนี้ค่ะ :mew1:
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
:pig4: :pig4: น่ารักมาก
-
อ่านจบแล้วจ้า สารภาพเลย เห็นเรื่องนี้หลายรอบแล้ว แต่ไม่เลือกกดเข้ามาอ่านเพราะกลัวไม่สนุกและก็นึกภาพไม่ออกจะรักกับไดโนเสาร์ได้ยังไง แต่พอดีไปอ่านเจอคนแนะนำ อยากกรีดร้องว่าพลาดมาได้ตั้งนาน สนุกมากเลยค๊า คนเขียนเก่งมาก จินตนาการสุดยอด
-
สุดยอดดดด ไม่คิดว่าจะมีแนวนี้ออกมา คนเขียนเก่งมากๆเลย จินตนาการ พร้อมกับแทรกสาระ ได้ดีมากๆเลย หาอ่านแบบนี้ยากมากในยุคนี้ 555 ชืนชมคนแต่งมากๆ เก่งม๊วกกกกก o13 o13 o13ชอบทุกตัวละคร โดยเฉพาะคุณพ่อ 5555
-
กริ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่ารักอ่ะ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
-
อ่านไปรัวๆ ค่ะ ไม่ถึงวัน สนุกมาก ลุ้นตลอดเลย
ยูทาร์มีความร้ายตามสัญชาตญาณ แต่ไม่ได้ดุร้ายตามความรู้สึก
เซโครคือดี จิตใจดี พยายามเข้าใจ และอ่อนไหวมาก ทำยูทาร์ใจอ่อนแล้วเข้าหาก่อน
รักแรกพบเป็นแบบนี้เลยค่ะ แบบรักไม่อยากจาก เผ่าพันธ์ุไม่ใช่ข้อกำหนด
เอิ่มมม เป็นคุณแม่ลูกโตไม่รู้ตัว แต่ก็ต้องยอมรับ 5555
ขอบคุณมากนะคะ แต่งเรื่องราวได้น่าสนใจ และน่าติดตามมาก
-
รักเรื่องนี้ :impress2:
-
สวัสดีค่ะตามมาจากพี่นัทกับน้องเทมเรื่องนี้ก็น่ารักมากๆอีกแล้ว ไอเดียของคุณสุดยอดมาก หนังชุดjurassicเป็นหนังเนื่องโปรดของเราเลยทีเดียวดูซ้ำหลายรอบมากๆดีใจมากค่ะที่ได้อ่านเรื่องนี้ขอบคุณสำหรับงานเขียนสนุกๆแบบนี้แล้วจะไปติดตามผลงานเรื่องอื่นๆของคุณต่อไปแน่นอนค่ะ :mew1:
-
o13
-
ขอบคุณค่ะ ชอบมากเลย อ่านรวดเดียวจบ อิๆ
-
สนุกมากกกกกกก ชอบมากๆเลยค่ะ
อ่านเรื่องของคนเขียนมาหลายเรื่องแล้ว
เพิ่งได้ฤกษ์มาอ่านแฟนตาซีของคนเขียน
สนุกมากๆเลยค่ะ สนุกกว่าแบบปกติอีกมั้ง
แต่คงความละมุนละไมของเรื่องไว้ทุกเรื่องเลย
ชอบมากๆๆๆๆ รออ่านภาคอื่นนะคะ
-
:กอด1: ไรท์คือคนที่ทำให้โลกของหนูสดใส โชคดีจริงที่ได้มาเจอไรท์แต่งเรื่องนี้ ขอบคุณนะคะ o13
-
จินตนาการล้ำยุคมาก ไดโนเสาร์ก็มีหัวใจนะ แต่ปกติคงยากจะสื่อสารกันรู้เรื่อง
-
ดีมาก ชอบมากก รักเรื่องนี้ :กอด1:
-
เนื้อเรื่องสนุกมากกก ชอบมากค่ะ แต่งได้สนุกมาก ละมุนไปอีกกก ชอบอานโน่น่าเอ็นดูจังง :o8:
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกแบบนี้มาให้นะค้าา
-
o13
-
ขอบคุณที่แต่นิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ :กอด1: :กอด1:
-
สนุกทุกเรื่อง จนต้องตามอ่านทุกเรื่องเลย
-
สนุกมากๆ แทบจะวางไม่ได้เลย ยูทาร์น่ารักมาก ขี้อ้อนสุดๆ
ขอบคุณนักเขียนนะคะ
-
:pig4:
-
สนุกมากๆเลย อยากอ่านคู่ต่อไปแล้ว
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ o13 o13
-
นิยายน่ารักมากๆเลยค่ะ
ชอบๆ
ยิ่งตอนพิเศษมีอานโน่เพิ่มเข้ามายิ่งน่ารัก :o8: o13
-
วนมาอ่านรอบที่ 4 ไว้อ่านจบจะวนให้ครบทั้ง 3 ภาคเลยด้วย
-
เปิดมาเจอภาค3ในเล้าเป็ดแต่ลืมภาค 1 ไปแล้วเลยต้องนิอนกลับมาอ่านอีกรอบด้วยความคิดถึงงง :-[
-
:mew3: :bye2:
-
ขอบคุณค่า (วนมาอ่านกี่รอบก็ยิ้มทุกรอบ)