:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 886405 ครั้ง)

ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.39 100% :15.08.61:
«ตอบ #2430 เมื่อ16-08-2018 00:41:34 »

ยินดีด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยกับทั้งคู่น้า
แต่จะจบแล้วหรอ.. ใจหายจัง  :m15:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.39 100% :15.08.61:
«ตอบ #2431 เมื่อ16-08-2018 05:17:09 »

แฝด น่ารัก ติดแมท
มีหวงแมท เวลายักษ์หอม ยักษ์จูบด้วย   :mew1:
งานแต่งงาน ยักษ์ร้องเพลงเองด้วย ตาจ้องแต่แมท น่ารัก  :impress2:
ชอบเวลายักษ์พูดไทยโต้ตอบพ่อ   :katai2-1:

ยักษ์ แมท   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์มากกกกกก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.39 100% :15.08.61:
«ตอบ #2432 เมื่อ17-08-2018 03:59:20 »

น่ารักมากค่ะ อบอุ่นแบบกวนๆ
วิคเตอร์แมทไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง

ถึงจะจดทะเบียนแล้ว แต่งานแต่งเหมือนเปิดตัวและฉลอง

แฝดลูก หวงแมทใช่ไหมคะ แหมมม ใกล้นิดไม่ได้เลยนะ

ตลกทีมเพื่อนแมท อะไรจะรั่วกันขนาดนั้น
ว้าวววว เบนบาสเป็นคิวต่อไป

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.39 100% :15.08.61:
«ตอบ #2433 เมื่อ17-08-2018 20:49:28 »

เป็นบรรายากาศงานแต่งที่อบอวลไปด้วยความสุขจริงๆเลย อ่านไปยิ้มไป

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.39 100% :15.08.61:
«ตอบ #2434 เมื่อ18-08-2018 00:39:07 »

ใจหาย จะจบซะแล้ว

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.39 100% :15.08.61:
«ตอบ #2435 เมื่อ28-08-2018 16:27:33 »

:katai2-1:  :katai2-1: ยินดีกับทั้งคู่ มาถึงตอนนี้ก็อยากจะให้มีต่อไปเรื่อยๆ ชอบความครอบครัวในตอนนี้จัง
ส่งกอดไปให้คุณขุ่นเจ้ด้วยค่ะ

ออฟไลน์ zoiesty

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.39 100% :15.08.61:
«ตอบ #2436 เมื่อ31-08-2018 20:22:00 »

ยังไม่อยากให้จบเลย สนุกมากๆๆ :m15:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2437 เมื่อ01-09-2018 19:17:44 »


The last wish from the gift of god.
พรข้อสุดท้ายจากของขวัญของพระเจ้า






Epilogue.

บทส่งท้าย

 

 

          “แฝด มานี่เร้ว นี่ๆ แมทอยู่นี่” แมทกวักมือเรียกลูกชายวัยสิบเดือนทั้งสองคนที่อยู่ในท่าคลาน สองหนุ่มยิ้มหวานแล้วก็ออกตัวคลานพร้อมกันนั่นเลยทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เมื่อหัวรถหมูชนกันตุ้บ สองหนุ่มน้อยหันมองหน้ากันงงๆ แล้วก็หันมองแม่แมทที่นั่งขำท้องแข็งอย่างงงงวย

           

 

“ตาๆๆๆ” แฮคเตอร์บ่นใส่พี่ชาย คนพี่ที่โดนบ่นถึงกับนั่งลงจุมปุ๊กตัวกลมแล้วเถียงน้องชายกลับ

           

 

“นาๆๆๆ ตาๆ” แฮคเตอร์นั่งลงบ้าง มีการยืดตัวขึ้นข่มพี่ชาย แมทนั่งขำจนคอแห้ง มิชลินคนน้องหันมองแม่แมทแล้วก็คลานหนีพี่ชายเข้าไปหาคุณแม่ เจ้าพี่ชายไม่ยอม คลานตามมานั่งบนตักแมทอีกคนและพยายามดันน้องชายออกไปจากตักแม่แมท คนน้องเลยร้องงอแงไม่ยอม

           

 

“แอ่ะๆ ไม่เอานะๆ รักกันสิครับ รักกัน แมทรักมิชลินทั้งสองคนเลย…” แมทแสร้งทำหน้าดุ สองแฝดนิ่งมองหน้ากันแล้วก็แหงนหน้ามองแมท คนที่อยู่ในสถานะแม่แม้ร่างกายจะเป็นผู้ชายก้มลงหอมหน้าผากลูกชายทั้งสองคนอย่างเท่าเทียมกัน

           

 

“…จุ๊บๆ กัน ดีกันๆ ไม่ตีกันนะครับ” สองแฝดตาฟ้าอมเทาอ่อนๆ มองหน้ากันสักแปบแล้วก็ยื่นหน้าหอมแก้มกัน แมทหัวเราะเบาๆ ก้มลงจุ๊บหน้าผากสองหนุ่มเป็นของรางวัล มิชลินทั้งสองยิ้มหวานและหัวเราะแฮ่ๆ

           

 

“เด็กดีของแมท ไหนเรียกแมทซิ แมท”

           

 

“แม! / แมมมๆๆ!” แมทหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับความพยายามเรียกชื่อตัวเองของสองแฝด เมื่อเห็นแมทหัวเราะสองหนุ่มแก้มยุ้ยก็หัวเราะร่วมด้วย

           

 

“อีกสองเดือนก็จะได้ไปเมืองไทยแล้ว แฝดตื่นเต้นมั้ยครับ”

           

 

“ฮืมมมๆ” เฮคเตอร์ส่งเสียงและเด้งตัวขึ้นลง แฮคเตอร์แหงนหน้ามองแมทแล้วส่งเสียงเอ๊อะอ๊ะพร้อมกับยิ้มหวาน

           

 

“อะตื่นเต้นเหรอครับ ฮึ คุณตาคุณยายก็ตื่นเต้นมาก เดี๋ยวเราต้องซ้อมไหว้นะครับ”

           

 

“ต๊ะๆๆ” แฮคเตอร์ส่งเสียงเริงร่าและปรบมือเปาะแปะ นั่งขย่มโยงโย่โยงโหย่ะอยู่บันตักฝั่งซ้ายของแมท

           

 

“แอวววว แออออ อูมววว” เฮคเตอร์บิดตัวไปทางซ้ายไปทางขวาอย่างคึกคัก สองแฝดยิ้มโชว์ฟันซี่น้อยๆ ทั้งล่างทั้งบน ตอนที่ฟันขึ้นมาครั้งแรก สองแฝดร้องไห้ทรมานเพราะอาการฟันแทงเหงือกจนคนเป็นแม่ในร่างพ่อร้องไห้เพราะสงสารลูก แต่คุณหมอก็แนะนำแค่ว่ามันจะผ่านไป มันเป็นอาการปกติของเด็กตอนฟันน้ำนมขึ้น กว่าจะผ่านมาได้ก็ใจจะขาดไปกับน้ำตาลูก

           

 

ปรี๊นนนๆ

           

 

สองแฝดที่กำลังนั่งคึกคักอยู่บนตักแม่แมทหยุดชะงักแล้วมองหน้ากันราวกับกำลังหารือกันผ่านทางสายตาว่านั่นเสียงอะไร

           

 

“อุ๊ย เสียงแตรรถใครครับ พ่อยักษ์รึเปล่า” สองแฝดหันรีหันขวางมองหาต้นกำเนิดของเสียงไปรอบห้องโถงแบบงุนงง แมทหัวเราะเบาๆ ได้ยินเสียงเปิดประตูบ้านเข้ามา แล้วสักพักสองแฝดก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด

           

 

“เฮ้ย นั่งบนพื้นไม่ได้รึไงไอ้ลูกหมู” แมทอุ้มลูกลงจากตัก เฮคเตอร์คลานดุ่มๆ ไปหาพ่อก่อน ตามด้วยคนน้องที่คลานตามไปติดๆ เห็นแล้วก็รู้สึกดุ๊กดิ๊กๆ

           

 

“มาทำไมกัน ฉันไม่อุ้มหรอก”

           

 

“อ๊าาาาาา แอวววว ตาๆๆๆ” เฮคเตอร์เริ่มโวยวายก่อน ในขณะที่คนน้องดึงขากางเกงสแล็คสีดำของคุณพ่อแน่น สุดท้ายพ่อยักษ์ก็นั่งลงบนพื้นแล้วจับสองหนุ่มขึ้นอุ้มเต็มสองแขน แมทยิ้มกว้างก่อนเลื่อนสายตามองออสตินที่เดินตามเข้ามาพร้อมกับเหล่าลูกๆ ของไมเคิลที่เข้ามาหาแฝดด้วยความตื่นเต้น

           

 

“ออสติน ผมทำลอดช่อง ขนมหวานไทยของโปรดคุณไว้ให้ด้วยนะ อยู่ในครัวตักกินได้เลย” บอดี้การ์ดหัวเกรียนพยักหน้า กำลังจะก้าวเท้าเดินไปในครัวแต่ก็ต้องชะงักเพราะแฮคเตอร์เห็นเขาพอดี

           

 

“ฟู่ๆๆๆ ฟู่วววว” เจ้าตัวเล็กยกมือขวาป้อมๆ ขึ้นทำท่าบิน ออสตินเห็นก็ยิ้มกว้าง

           

 

“อะ ให้น้าออสตินพาบินให้สมใจเลย” วิคเตอร์ยกมิชลินเบอร์สองให้ออสตินที่ก้มตัวลงมาอุ้มหลานชายขึ้นไปไว้ในอ้อมแขน

           

 

“จะเป็นซูเปอร์แมนเหรอครับ” ออสตินถามหลานที่มองตาแป๋ว สักพักเจ้าตัวเล็กก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นเมื่อคุณน้าพาบินเหมือนซูเปอร์แมน

           

 

“แออออ๊ แอ๊ๆๆ” แมทนั่งยิ้มกับความสนุกของลูกชาย ออสตินพาแฮคเตอร์ออกไปจากห้องโถงตรงไปทางห้องครัว ลูกๆ ของไมเคิลเดินส่ายหางไปดมฟอกซ์ที่นอนอยู่บนโซฟาและทำท่าพร้อมตะปบหน้าทุกตัว เฮคเตอร์กำลังนั่งจับเคราพ่อราวกับเป็นของแปลกใหม่

           

 

“รู้เปล่าว่าแม่แกได้จับหนวดข้างล่างของฉันแทบทุกคืนเลย” รอยยิ้มแมทหุบวืด วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นมองแมทแล้วยิ้มทะเล้น

           

 

“ไอ้ยักษ์ มันควรพูดต่อหน้าลูกเหรอห๊า?!” วิคเตอร์หัวเราะ เฮคเตอร์หันมามองแม่ก่อนจะหัวเราะคิกคักตามพ่อ แถมยังทำท่าทีเขินอาย แมทอ้าปากหน้าเหวอ

           

 

“เฮคเตอร์ หนูจะเข้าใจอะไรแบบนี้ง่ายๆ ไม่ได้นะ” เจ้าตัวเล็กหัวร่ออารมณ์ดี คนเป็นพ่อยกมือซ้ายขึ้นทำท่าขอไฮไฟว์ เจ้าตัวเล็กตีมือพ่อกลับแปะๆ แมทยิ่งอ้าปากค้างด้วยความเหวอ

           

 

“ปล่อยให้อยู่กันสามคนพ่อลูกไม่ได้ละ อันตรายต่อเด็กจริงๆ”

           

 

“ฉันก็ไม่คิดอยู่กับไอ้ลูกหมูตามลำพังหรอก หาความสงบไม่เจอ” แมทถลึงตาใส่ไอ้สามีตัวดี ว่ากันตามความจริงก็ไม่มีโอกาสจะได้อยู่กันตามภาษาพ่อลูกสามคนหรอก เพราะแมทไม่ได้ทำงาน ชีวิตประจำวันก็คืออยู่บ้านเลี้ยงลูกและทำงานบ้านต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัว

           

 

“หิวรึยัง ได้กินอะไรมาจากงานพรีเมียร์รึเปล่า” วิคเตอร์ปล่อยให้ลูกชายคลานกลับไปหาคุณภรรยา แล้วนึกสักแปบก่อนจะตอบ

           

 

“วันนี้มีแต่เครื่องดื่ม” วิคเตอร์เพิ่งกลับจากงานพรีเมียร์ภาพยนตร์ภาคที่สามของตัวเองที่จัดในลอนดอนเป็นที่สุดท้าย อาทิตย์ที่แล้วก็มีทัวร์โปรโมตหนังในหลายประเทศโดยที่แมทไม่ได้ไปด้วยเพราะติดเลี้ยงลูก จะฝากคนอื่นเลี้ยงแมทก็ไม่ไว้ใจ จะให้พ่อกับแม่บินมาหาอังกฤษก็เกรงใจ เลยอยู่บ้านเลี้ยงลูกเอง อีกอย่างตั้งแต่ประกาศตัวว่าคบกันและมีภาพงานแต่งงานบางส่วนของทั้งคู่ออกไปสู่โลกโซเชียล สื่อหลายเจ้าก็อยากจะทำความรู้จักกับแมท แต่เจ้าตัวไม่ต้องการและวิคเตอร์เองก็ไม่คิดบังคับ

           

 

“งั้นอยากกินอะไร”

           

 

“ไข่เจียวกุ้ง”

           

 

“งั้นดูลูก เดี๋ยวไปทำให้” วิคเตอร์กวักมือเรียกเจ้าตัวเล็กให้เข้าไปหา เฮคเตอร์คลานกลับไปหาพ่ออย่างว่าง่าย แมทลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องโถง สวนทางกับออสตินที่อุ้มแฮคเตอร์กลับมา

           

 

“เมื่อกี้ผมบิองุ่นม่วงให้เขากินนะครับ พอดีเขางอแงจะกินลอดช่อง ผมเลยให้กินองุ่นแทน” แมทพยักหน้าพร้อมกับยิ้มก่อนจะเดินไปทางครัวเพื่อทำอาหารเย็นให้สองหนุ่มใหญ่ในบ้านทาน

           

 

ชีวิตแม่บ้านอังกฤษ

 

 

 

 

แมทมองสองหนุ่มน้อยตัวจ้ำม่ำนอนหลับทั้งที่ขวดนมยังคงคาปากอยู่ด้วยความเอ็นดูก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดนมออกจากปากมิชลินทั้งสอง ถือเดินออกไปนอกห้องนอน เอาไปล้างทำความสะอาดในครัวให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมเผื่อมีรอบกลางดึกที่ต้องตื่นมาชงนม ตอนที่เดินกลับเข้ามาในห้อง วิคเตอร์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยเปล่า มีผ้าขนหนูสีขาวคล้องคอผืนเดียว เขาแวะก้มลงมองลูกชายทั้งสองในคอกกันกระแทกแปบหนึ่งแล้วก็เดินไปนั่งเช็ดหัวบนเตียง

           

 

“จะแยกห้องนอนไอ้ลูกหมูเมื่อไหร่” วิคเตอร์ไม่ได้คิดจะผลักไสไล่ส่ง เออ ก็มีบ้างแหละ เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับแมท แต่อีกเหตุผลคือเขากลัวลูกจะติดแมทมากไปจนลำบากในการแยกห้องนอนในอนาคต เพราะทุกวันนี้ไอ้สองแฝดก็ติดแมทจนบางทีเขาแทบจะไม่ได้เข้าใกล้เมียตัวเอง และแมทก็เริ่มบ่นปวดแขนเพราะเวลาอุ้มต้องอุ้มสองคน อุ้มคนใดคนนึงอีกคนก็จะงอแงให้อุ้มด้วย

           

 

“กลับมาจากเมืองไทยก่อนแล้วกัน” แมทตอบพลางขึ้นไปนั่งหลังวิคเตอร์บนเตียงและช่วยเขาเช็ดหัวที่เปียกหมาดๆ

           

 

“ให้นอนห้องวีด้วยกันไปก่อน ขึ้นไฮสคูลเมื่อไหร่ค่อยถามความสมัครใจอีกทีว่าจะแยกห้องนอนมั้ย” พอพูดถึงชื่อคนที่จากไป แมทก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วหยุดเช็ดหัวให้วิคเตอร์ ร่างเล็กดึงผ้าขนหนูออกจากหัวร่างสูง เอาวางไว้บนเตียงก่อนจะกอดคอสามีจากทางด้านหลัง เอาคางเกยไหล่ซ้ายวิคเตอร์ไว้

           

 

“คิดถึงไวโอล่า…” แมทบอกเสียงเบาหวิว วิคเตอร์ยกมือซ้ายขึ้นจับแขนซ้ายแมทไว้ แหวนสีเงินทอกับแสงไฟตรงกำแพงใกล้เตียงวิบวับ

           

 

“เราต่างก็คิดถึงเธอ…” วิคเตอร์เลื่อนมือขึ้นไปลูบหัวแมทเบาๆ

           

 

“…เธอคือคนเติมเต็มให้ครอบครัวเรา” ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้วิคเตอร์จะไม่เคยคิดเรื่องมีลูก ไม่เคยอยากมี เพราะคิดจะอยู่กับแมทแค่สองคน แต่เมื่อต้องการดึงแมทให้ออกจากเส้นทางการทำงาน เขาก็ต้องยอมรับว่าไอ้ลูกหมูสองตัวเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เขาหายเหนื่อยเมื่อกลับจากการทำงานมาแล้วเจอแมทอยู่บ้านกับลูกๆ ไม่ใช่กลับมาแล้วเจอความว่างเปล่าเพราะแมทยังไม่กลับจากที่ทำงาน

           

 

“เธอคือของขวัญพระเจ้าอย่างแท้จริง” แมทพึมพำ วิคเตอร์กระตุกยิ้ม ตอนนั้นเองที่เขานึกอะไรขึ้นได้

           

 

“ยังเหลือพรจากนายอีกข้อนึงที่ฉันยังไม่ได้ขอ…” แมทดันตัวเองออกจากตัววิคเตอร์ คนตัวโตหมุนตัวมานั่งขัดสมาธิตรงหน้าแมท มองหน้าคนตัวเล็กด้วยสายตาเป็นประกาย

           

 

“…ฉันจะขออะไรดี” แมทคลี่ยิ้มน่ารัก กระเถิบตัวขึ้นไปนั่งคร่อมตักวิคเตอร์ สองแขนคล้องคอเขาหลวมๆ คนตัวโตโอบสองแขนไว้รอบบั้นท้ายของคนตัวเล็ก

           

 

“ข้อสุดท้ายแล้วนะ จะขออะไรต้องคิดให้ดี” แมทยิ้มกรุ้มกริ่ม วิคเตอร์หรี่ตามองหน้าแมทและทำท่าครุ่นคิดสักแปบ ก่อนจะเปิดเปลือกตากว้างขึ้นแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กๆ

           

 

“ขอให้เพิ่มคำขอพรแบบไม่มีที่สิ้นสุด” แมทตาโตอ้าปากหวอ

           

 

“อะไรนะ แบบจะขอต่อไปเรื่อยๆ เงี้ยเหรอ” วิคเตอร์พยักหน้าและยักคิ้วขวาสองที แมทย่นคิ้วสีหน้างงงวย

           

 

“ได้ไง แบบนี้ก็ได้เหรอ”

           

 

“ได้สิ ให้ฉันนะ” แมทหรี่ตามองไอ้ยักษ์หน้าหนวดอย่างไม่ไว้ใจ

           

 

“แสดงว่ามีแววจะทำผิดอีกมากในอนาคต” พ่อรูปหล่อของเอเลี่ยนหัวเราะอารมณ์ดีแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มทั้งสองข้างของเอเลี่ยนหน้าบูด

           

 

“เราไม่รู้อนาคตหรอก…” แมทมองตาแทบขวาง ยักษ์ใหญ่ยิ้มกว้างตลกขบขัน

           

 

“…ฉันไม่มีเหตุผลที่ขอแบบนี้ ฉันแค่อยากได้พรเยอะๆ จากนาย เพราะฉันรู้สึกว่าพรนายศักดิ์สิทธิ์จริงๆ” อาจจะงมงายเหมือนพวกเชื่อลัทธิอะไรสักอย่าง ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นวิคเตอร์ก็คืองมงายลัทธิเมียตัวเอง เขายังจำได้กับการที่แมทอวยพรให้เขาได้เล่นหนัง เขาก็ได้ตามที่บอก พรข้อที่สองที่ขอไป แมทก็ให้จริงๆ บอกจะมอบชีวิตให้เขาดูแล ก็ให้อย่างที่ปากว่าและทำตามที่พูดด้วย ไม่เคยทิ้ง ไม่เคยหนีไปไหน

           

 

“แหม ทำมาปากหวาน ที่จริงจะมาขอให้ผมให้อภัยเวลามีชู้ละสิ” แมทพูดไปถลึงตามองไปให้วิคเตอร์หัวเราะด้วยความชอบอกชอบใจกับปฏิกิริยาที่เอเลี่ยนมี

           

 

“ให้มั้ยพรเนี้ย” แมทพ่นลมหายใจเบาๆ

           

 

“รู้จักขออย่างมีลิมิตล่ะ”

 

 

“แจ๋ว!” วิคเตอร์ชูกำปั้นขึ้นกลางอากาศอย่างมีชัย สีหน้าฟินซะเหลือเกินกับสิ่งที่ได้มา แมทมองด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะยกมือขวาตีหัวผัวไปหนึ่งที คนตัวโตยกมือขวาจับกลางหัวที่โดนตีแล้วหัวเราะอย่างไม่สนใจความเจ็บ

 

 

“แต่ไม่ได้หมายความว่าขอทุกเรื่องแล้วจะสมหวังทุกเรื่องนะ!” วิคเตอร์ยิ้มทะเล้น มือซ้ายล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของแมทแล้วใช้นิ้วกลางลูบตรงร่องก้นเบาๆ

 

 

“งั้นอันนี้จะสมหวังรึเปล่า” วิคเตอร์ยิ้มกรุ้มกริ่ม แมทเม้มปากกลั้นเขินแล้วก็พยักหน้าหนึ่งที

 

 

“อันนี้ได้ ให้” คนตัวเล็กหัวเราะคิกคัก วิคเตอร์ยิ้มกว้างจนร่องแก้มขึ้น จับร่างที่นั่งอยู่บนตักตัวเองนอนลงบนเตียง สองมือถอดกางเกงนอนของแมทออกแล้วโยนไปด้านล่าง แมทตั้งขาสองข้างขึ้น วิคเตอร์แทรกตัวลงไปตรงกลางระหว่างขาของแมท ก้มหน้าลงไซ้ซอกคอหอมกลิ่นน้ำนมอย่างนุ่มนวลไม่รุนแรง

 

 

ในขณะที่อารมณ์ของทั้งสองคนกำลังค่อยๆ ไต่ระดับขึ้น ก็ต้องมีอันสะดุดเพราะเสียงนี้

 

 

“แอออ้!!” วิคเตอร์หันควับไปมองทางคอกกันกระแทก สิ่งที่เห็นคือมือป้อมๆ สี่มือเกาะขอบกันกระแทก และเห็นใบหน้าครึ่งบนของสองพี่น้องที่มองมาทางเขากับแมท

 

 

“ไอ้ลูกหมู” วิคเตอร์คำราม

 

 

“อูๆๆๆ / นาๆๆๆ” สองแฝดส่ายหัวไปมา สักพักก็หายวับไปจากขอบกันกระแทก แต่เสียงอ้อแอ้ยังคงดังอย่างต่อเนื่องราวกับกำลังร้องเรียกให้พ่อกับแม่ไปหา วิคเตอร์กลอกตาหน้าเซ็ง แมทหัวเราะขำขัน

 

 

“ผมน่ะให้ได้ แต่คนพิจารณาคำขอพรน่ะอยู่นู่น” แมทชี้ไปทางคอกนอนของสองแฝด

 

 

“แมมมม!” แมทหัวเราะแล้วดันตัววิคเตอร์ออกก่อนลุกขึ้นลงจากเตียงเดินไปดูแฝดที่ร้องเรียกตัวเอง ส่วนคนตัวโตล้มลงนอนบนเตียงด้วยอาการหงุดหงิด อยากจับเด็กมาเหวี่ยงแรงๆ

 

 

ศัตรูตัวฉกาจของพ่อยักษ์ก็คือลูกยักษ์นี่แหละ

 

 

“คิๆ / อ๋าาาา”

 

 

มันหัวเราะเยาะเย้ย!

 

 

 

-THANK YOU FOR YOUR LOVE-

 

 

 




เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


               และแล้วเราก็ต้องเอ่ยลากันกับเรื่องนี้ หลังจากอยู่ด้วยกันมาเกือบสี่ปีเต็ม :)

               คงได้แต่เอ่ยคำขอบคุณคนอ่านทุกๆ คนเลยค่ะที่ตามอ่านเรื่องนี้กันมา ขอบคุณคนอ่านมากๆ ที่เป็นกำลังแรงใจสำคัญของขุ่นเจ้ในการเขียน ไม่ว่าคนอ่านคนไหนจะเริ่มอ่านตั้งแต่ตอนไหน แต่ขอบคุณมากๆ ที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนจบของเรื่องนี้

               ตอมเคยบอกเสมอๆ ตั้งแต่พาร์ทแรกว่า ถ้าอดทนไปด้วยกัน ก้าวผ่านช่วงเวลาฝนพรำของเขาทั้งคู่ไปด้วยกัน แล้ววันนึงจะได้เจอกับความสดใส วันนี้ชีวิตของพวกเขาสดใสเต็มที่แล้วนะคะ ต่อจากนี้ไปจะมีฝนพรำอีกหรือไม่ ขอให้เขาทั้งสองคนเป็นคนจัดการกันเอง เพราะเราจะปล่อยให้เขาทั้งสองคนใช้ชีวิตคู่ ใช้ชีวิตครอบครัวของเขาโดยเขาทั้งสองคนแล้วค่ะ ขุ่นเจ้มาส่งเขาตรงนี้ก็พอแล้ว :)

               ใจหายมาก ต้องบอกว่ามากจริงๆ เพราะตอมเขียนเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน อยู่ด้วยกันมานานจนผูกพันธ์กับตัวละครทุกตัวที่เราสร้างขึ้น เริ่มแรกเขาก็เป็นเพยีงตัวละครในนิยายของเรา แต่พออยู่ด้วยกันนานๆ ไป เริ่มหลอนว่าเขามีตัวตนในชีวิตจริงๆ ไปแล้ว 555555

               ตอมเคยคิดว่าเมื่อถึงตอนจบของเรื่องนี้ ตอมคงอยากกล่าวอะไรมากมายกับคนอ่าน แต่พอเอาเข้าจริงๆ นึกอะไรไม่ค่อยออกเท่าไหร่ นอกจากคำว่าขอบคุณจริงๆ ค่ะ

               ขอบคุณนิยายเรื่องนี้ที่ทำให้ขุ่นเจ้ได้รู้จักกับคนอ่านหลายๆ คน ขอบคุณทุกคนที่ได้มารู้จักกันผ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ ก็หวังว่าจะยังคงอยู่ด้วยกันในเรื่องอื่นๆ ด้วยเนอะ

               เขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในบรรดานิยายของตัวเองทั้งสองเรื่อง (เยอะมาก 555555) แต่เรื่องนี้จบเป็นเรื่องที่สอง ส่วนคุณนายเรียวจันทร์เกิดทีหลังแต่จบก่อนจ้า นางแหกโค้งไปแล้ววว

               ดีใจนะคะที่นิยายเรื่องนี้ได้สร้างความสุขให้กับใครหลายคน แม้บางช่วงจะมีทุกข์บ้าง 55555 แต่ไฟนอลลี่ เราก็แฮปปี้เอนดิ้งไปด้วยกันแล้วเนอะ

               ขอบคุณความรักอันไร้ขอบเขตและไร้พรมแดนของทุกคนค่ะ   :กอด1:

               

               

               แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2438 เมื่อ01-09-2018 19:44:03 »

โอ้ยยย น่ารักทั้งคู่เลยยย เด็กแฝด อยากเห็นเด็กๆตอนโต 555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2439 เมื่อ01-09-2018 19:59:11 »

น่ารักจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
« ตอบ #2439 เมื่อ: 01-09-2018 19:59:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2440 เมื่อ01-09-2018 20:08:44 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :3123:

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2441 เมื่อ01-09-2018 20:31:21 »

 :pig4: ขอบคุณคุณตอมสำหรับนิยายดีๆ
 :mew1: รักครอบครัวอบอุ่นครอบครัวนี้

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2442 เมื่อ01-09-2018 20:31:54 »

ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆค่ะ
ถึงแม้ว่า จะมีบางช่วงที่อ่านแล้วปวดใจ แต่เราก็อ่านจนจบ จนมีแฝดเกิดมา ก็คิดว่า ชีวิตแมทคงจะสมบูรณ์มากขึ้น
แล้วแมทก็เป็นแม่ของลูกแล้วก็เมียของยักษ์ได้อน่างน่ารักจริงๆ
อยากเห็นแฝดโตอีกซักนิดนะคะ อยากรู้ว่า จะแสบขนาดไหน เราจะมีโอกาสนั้นมั้ยคะคนเขียน  o18 o18 o18

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2443 เมื่อ01-09-2018 21:24:48 »

 :กอด1:   :pig4:  :pig4:  o13  o13  o13  ผ่านทุกข์ผ่านโศกมาด้วยกันอย่างยาวยนาน ใจหายนิดๆนะคะ แต่ก็ดีใจด้วยกับความสุขและรอยยิ้มที่มีกับทุกๆคน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2444 เมื่อ02-09-2018 02:40:09 »

จบแล้วววว จะมีเรื่องแฝดตอนโตไหม อยากอ่านอ่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ bookie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • facebook
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2445 เมื่อ02-09-2018 14:04:46 »

 :L1:  :L2: :3123:

ออฟไลน์ jj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2446 เมื่อ02-09-2018 23:03:50 »

จบแล้ววว
สนุกมากกกกกก
ขอบคุณค่ะ  :3123:

ออฟไลน์ Lyralyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2447 เมื่อ03-09-2018 04:49:35 »

รู้สึกใจหาย เหมือนเราได้เห็นชีวิตของทั้งคู่ พัฒนาการต่างๆมาโดยตลอดด(ถึงนี้จะเป็นเม้นแรกก็ตาม5555)
ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องราวดีๆมาให้เราอ่าน :mew1: :กอด1:

ออฟไลน์ duckka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2448 เมื่อ09-09-2018 17:12:49 »

ยาวมากกกจุใจไปเลยเรื่องนี้อ่านมาหลายวันมาก
แมทต้องคอยประคองความรักตอนแรกอินไปกะแมทสงสารนางมากถูกวิคเตอร์ทำให้เสียใจตอนหลังวิคเตอร์น่ารักขึ้นกว่าจะมีความสุขผ่านอะไรมาเยอะมาก :katai2-1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2449 เมื่อ09-09-2018 21:55:42 »

จบแล้ว ใจหายเหมิอนกันนะอยู่กับแมทมานาน หลังๆนี้เพื่มมิชลินเข้ามาอีก ต้องคิดถึงแน่ๆเลย
 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
« ตอบ #2449 เมื่อ: 09-09-2018 21:55:42 »





ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2450 เมื่อ11-09-2018 01:54:21 »

ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักเลยคับ
ถ้ามีโอกาสอยากอ่านสองแสบตอนโตว่าจะตีกับวิคเตอร์ขนาดไหน 555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2451 เมื่อ11-09-2018 20:17:53 »

 o7 ในที่สุดก็ตามอ่านจนถึงตอนจบจนได้ บอกเลยว่าอ่านไปลุ้นไปมากลุ้นกับพฤติกรรมของวิคเตอร์นี่แหละ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไหนจะเรื่องนอกลู่นอกทางอีกกลัวใจมากจริงๆ แต่พอเขาแต่งงานกันก็โล่งเลย คู่แฝดน่ารักมากอยากจะจับฟัดจริงๆ น่าเอ็นดูน่าบีบแก้มมากลูกเอ้ย ส่วนเรื่องไวโอเล็ตกับแฟนนี่เราเพิ่งอ่านตอนนั้นไปเมื่อคืนนอนน้ำตาไหลพรากเลยจริงๆ  รู้สึกเศร้ากับการจากไปของทั้งคู่มาก

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2452 เมื่อ12-09-2018 13:49:53 »

เขียนสนุก ภาษาดี เรื่องยาววววสะใจมาก อ่านอยู่หลายวัน ยาวขนาดนี้แต่มีอะไรให้ลุ้นอยู่เรื่อยๆไม่มีว่าอ่านแล้วง่วงเลย ตัวละครดูสมจริง แต่ละคนมีทั้งส่วนดีและส่วนที่ไม่น่ารัก แต่ก็พยายามปรับตัวเข้าหากันเพราะรักอีกฝ่าย จบแฮปปี้ดี ชอบค่ะ^^

ออฟไลน์ samsung009

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2453 เมื่อ14-09-2018 01:40:51 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Opolniscute

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2454 เมื่อ15-09-2018 00:50:45 »

 ขอบคุณนักเขียนมากเลยนะคะ นี่ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบแล้วก็อ่านตอนจบไป3รอบ ชอบแฝดมาก อยากให้ทำตอนพิเศษที่แฝดโตขึ้นวัยแกร่นเฟี้ยวมาทะเลาะกับวิคเตอร์ อิอิ

ออฟไลน์ Goldenfishja

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2455 เมื่อ21-09-2018 22:23:33 »

ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกกกกกก ตอนอ่านช่วงแรกๆ ต้องทำใจอยู่เหมือนกันเพราะออกจะฮาร์ดคอไปหน่อย แต่ก็ติดตามมาจนจบ ชอบแนวการเขียนนะคะ ชอบที่แทรกภาษาอังกฤษมาให้ฝึกอ่าน อยากให้มีอีกเยอะๆ เลยด้วย รอติดตามภาคต่อของน้องแฝดอยู่นะคะ จะมีโอกาสได้อ่านมั้ยหนออออออออ  จะรอนะ  :mew1:

ออฟไลน์ shironeko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2456 เมื่อ22-09-2018 11:57:34 »

ชอบคู่แมทกับวิคเตอร์มาก สนุกมากค่ะ พ่อยักษ์เวลาร้ายก็น่ากลัว แต่เมื่อรู้ว่ารักแมทก็แบบปรับตัว ขอบคุณคนเขียนมากเลยค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: :Love ♥ no boundaries: The Last Wish From The Gift Of God. [END] 01.09.18
«ตอบ #2457 เมื่อ22-09-2018 16:02:23 »

ว้ายยยยไม่นึกว่าจะมีมาอีก   o13  ขอบคุณคุณขุ่นเจ้อีกรอบนะคะสำหรับตอนนี้ มาได้เรื่อยๆก็จะเป็นพระคุณและยินดีมากๆ
รู้สึกอยากจะรู้ไปจนกว่าแฝดจะเข้า รร เลย 555555 (โลภที่สุด :mew2:)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

 Our Story 1.
           







“สวัสดีคร้าบคุณตากับคุณยายก่อน  How do we practice to say hello in Thai, twins? (เราฝึกสวัสดีแบบไทยยังไงครับแฝด)” ผมย่อตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงกลางระหว่างแฝดที่กำลังยืนอยู่หน้าบ้านของผมที่ประเทศไทย สองหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อโปโลสีแดงขับผิวกับกางเกงยีนขาสั้นและรองเท้าผ้าใบคู่จ้อย ตาสีฟ้าอมเทาที่ตอนนี้สีเทาอ่อนลงกว่าช่วงแรกเกิดกำลังมองพ่อกับแม่ผมด้วยความงุนงง สองหนุ่มแก้มยุ้มผมสีน้ำตาลหันมามองผมพร้อมกัน ผมหันไปยิ้มขำให้ทั้งคู่

           

 

“Look at your dad. (ดูพ่อหนูนะ)” ผมชี้ไปทางวิคเตอร์ที่หยิบไอติมแท่งในถังแช่ขึ้นมากิน วิคเตอร์พนมมือแล้วยกขึ้นจรดหน้าผาก

           

 

“หวาดดี๊ข่าบ” ผมหัวเราะตลกขบขัน วิคเตอร์กัดไอติมเข้าปากต่อ มองมาทางลูกชายที่แต่งตัวเหมือนตัวเองเป๊ะ สองแฝดหันมองผมแล้วยิ้มที่ได้ยินเสียงหัวเราะ

           

 

“โห อะไรเนี่ย ไม่เจอกันสี่เดือนลืมกันละเหรอ” พ่อผมนั่งลงตรงหน้าสองแฝดและทำท่าหยอกล้อล่อเด็ก แต่เด็กกลับกระเถิบตัวเข้ามายืนในอ้อมแขนผมทั้งสองข้าง พ่อแกล้งทำหน้าจะร้องไห้

 

 

“What? Is he crying? (อุ๊ย คุณตาร้องไห้รึเปล่านะ)” แฝดมองคุณตาเป็นตาเดียว แต่ก็ยังยืนนิ่ง ผมขำตัวสั่นที่เห็นแอคติ้งของพ่อ

           

 

“กินไอติมมั้ย ยายให้ๆ ไอติมๆ” แม่ผมนั่งลงตรงหน้าแฝด ในมือมีไอติมถ้วยรสช็อคโกแล็ตเปิดฝาล่อเต็มที่ สองหนุ่มเลื่อนสายตามองถ้วยไอติมปากห้อย ผมขำเสียงแห้ง แม่ผมใช้ช้อนตักไอติมแล้วยื่นมาตรงหน้า แล้วเราก็จับโจรไอศกรีมได้เมื่อแฮคเตอร์กระเถิบตัวไปข้างหน้าอ้าปากงับไอติมเข้าปากแล้วเคี้ยวแก้มยุ้ย

           

 

“อ๊า อะๆๆ” ผมหัวเราะกับความช่างกินของเจ้าตัวเล็ก เจอไอติมเข้าไปเดินเข้าหาเลย พ่อกับแม่ผมยิ้มขำ แฮคเตอร์เคี้ยวไอติมตุ้ยๆ หันมามองผมกับพี่ชายแปบนึงแล้วก็หันกลับไปรับไอติมก้อนใหม่จากคุณยายต่อ ผมเลื่อนสายตามองวิคเตอร์ ไอ้ยักษ์เป็นคนเดียวที่ไม่ขำซ้ำยังขมวดคิ้วหน้าเคร่งอีก

           

 

“โอ่โห ตาร้องไห้ไม่สนใจตาเลยนะ” แฮคเตอร์กระเถิบร่างเข้าไปใกล้คุณยายอีกนิด แม่ผมป้อนไอติมคำใหม่ให้ พ่อผมยกมือลูบผมสีน้ำตาลที่ตอนนี้ทั้งยาวและหนาเต็มหัว

           

 

“อุ๊ยลูกๆ” แม่ผมตกใจที่จู่ ๆ แฮคเตอร์ก็ขาอ่อนล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นหน้าบ้าน คุณตารีบเข้ามาช้อนหลานขึ้นเพราะกลัวหลานจะเจ็บ แต่เจ้าตัวเล็กกลับนิ่งเฉยและมองไอติมเหมือนเดิม

           

 

“เพิ่งยืนเพิ่งเดินเป็นได้สองอาทิตย์ก่อนมา” ผมว่ากลั้วขำ ใช้แขนประคองเฮคเตอร์ไม่ให้ล้มก้นจ้ำเบ้าไปอีกคน

           

 

“แล้วคนนี้เนี่ยยังไง ไม่ให้ใครอุ้มจริงเหรอ” พ่อแกล้งยื่นมือมาจะจับตัว เฮคเตอร์บิดหน้าหนีเข้าหาผมและกอดคอผมไว้ ผมหัวเราะพร้อมกับลุกขึ้นยืน อุ้มมิชลินเบอร์หนึ่งด้วยแขนขวา มองมิชลินเบอร์สองอยู่ในอ้อมแขนพ่อและอ้าปากรับไอติมจากแม่แบบลืมไปเลยว่าเคยรู้สึกไม่คุ้นหน้า

           

 

“สรุปก็ยังไม่สวัสดีเลย Sa-was-dee-kabbb” คนนึงนิ่ง อีกคนกินไอติมแก้มตุ่ย ผมหัวเราะเบา ๆ จังหวะนั้นมีคนเดินเข้ามาซื้อของในร้านพอดี ผมเลยก้าวเข้าไปด้านในร้าน วิคเตอร์ก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หนึ่งใบกับกระเป๋าถือหนึ่งใบขึ้นมาถือ พ่อส่งแฮคเตอร์ให้แม่แล้วไปขายของให้กับลูกค้าผู้ชายสองคน

           

 

“ขึ้นไปพักผ่อนก่อนไป เอาไอติมขึ้นไปให้ลูกด้วย เอาเพิ่มมั้ย”

           

 

“อันเดียวพอแล้ว แบ่งกันกิน เดี๋ยวอ้วนเกิน” แม่พยักหน้าพร้อมกับส่งแฮคเตอร์ไปให้วิคเตอร์อุ้ม ผมยื่นมือไปหยิบถ้วยไอติมมาจากมือแม่แล้วหมุนตัวเดินตามวิคเตอร์ขึ้นบันไดบ้านไปชั้นห้องนอนของผม สามพ่อลูกเขาแต่งตัวเหมือนกัน ผมก็ใส่เหมือนพวกเขาแหละ แต่เสื้อเป็นสีขาวอยู่คนเดียว

           

 

“ห้ามปล่อยให้ไอ้ลูกหมูสองตัวคลาดสายตาเลยนะ…” วิคเตอร์พูดขึ้นตอนเดินเข้ามาในห้องนอน ผมเดินเอาแฝดไปนั่งบนเตียงแล้วหันไปมองเขางงๆ

           

 

“…มันเห็นของกินก็เดินเข้าไปหาแล้ว แบบนี้โดนหลอกไปง่ายๆ เลย” ผมตักไอติมป้อนแฮคเตอร์อีกคำ และใช้ช้อนอีกอันตักให้คนพี่ คราวนี้เจ้าพี่ชายอ้าปากรับไอติมอย่างไม่มีอิดออด

           

 

“แต่อันนี้แม่ผมนะ”

           

 

“พ่อกับแม่นายเป็นคนในครอบครัว ฉันหมายถึงคนอื่น เกิดมีใครสักคนที่เราไม่รู้จักเอาของกินมาล่อแบบนี้ ไอ้ลูกหมูโดนอุ้มไปแน่ๆ” วิคเตอร์ว่าอย่างจริงจังพลางวางกระเป๋าเป้ไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ ผมมองเขาด้วยความทึ่งเล็กๆ

           

 

วิคเตอร์ซีเรียสกับประเด็นนี้มาก ทุกวันนี้เขายังไม่อนุญาตให้มีรูปลูกในโซเชียลเลย มีครั้งนึงหลังแต่งงาน เราพาแฝดเข้าไปในลอนดอน มีปาปาราซซี่ถ่ายภาพแฝดได้แล้วเอาไปทำข่าว แม้จะเบลอหน้าแฝดให้ แต่วิคเตอร์ก็หัวเสียมากอยู่ดี เขาแสดงออกถึงความหงุดหงิดทั้งวี่วันจนผมต้องคอยกอดไว้ ตัวผมน่ะชิล ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชอบให้ใครมาตามติดชีวิตเราดั่งเราเป็นสัตว์ในสวนสัตว์ เพียงแต่ผมยังงงและอาจเข้าไม่ถึงกับความใส่ใจของวิคเตอร์ในจุดนี้

           

 

“ไม่หรอกวิคเตอร์ เราก็อยู่กับแฝดตลอด ผมจะยอมให้ใครมาเอาลูกไปง่ายๆ ได้ไงล่ะ” วิคเตอร์กอดอกนั่งตรงขอบโต๊ะมองสองหนุ่มนั่งกินไอติมและปรบมือเปาะแปะถูกใจ (ความอร่อย) กันสองคน

           

 

“แต่คนมันจะเอา แค่เราเผลอแปบเดียวมันก็เอาไปได้” ผมย่นคิ้ว รู้สึกไม่พอใจหน่อยๆ

           

 

“คุณพูดอย่างกับผมเลี้ยงลูกได้ไม่ดีงั้นแหละ” วิคเตอร์พ่นลมหายใจเบาๆ

           

 

“ฉันรู้ว่านายเลี้ยงสองคนนี้ดี แต่นายเคยได้ยินคดีที่เด็กสองขวบถูกลวงไปฆ่ามั้ย นั่นน่ะ พ่อกับแม่พลาดไปแค่เสี้ยววิ”

           

 

ผมกะพริบตาปริบๆ มองใบหน้าซีเรียสของวิคเตอร์ ถึงจะชอบแซะลูก ชอบขู่ลูกและชอบแกล้งลูกเป็นกิจวัตร แต่ในส่วนของความเป็นห่วงยิ่งกว่าผมอีก อาจด้วยความเขาอยู่ห่างแฝด ไม่ได้ตัวติดกันแบบผมที่อยู่ด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมเลยไม่รู้สึกเป็นห่วงเท่าเขา เห็นแล้วก็นึกถึงช่วงที่เขาชอบอารมณ์ขึ้นเวลาที่ผมหายไป ออกไปไหนโดยไม่มีออสติน หรือพะว้าพะวงเรื่องความปลอดภัยของผมตลอด ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็น แต่ก็ลดลงแล้ว

           

 

“อย่ากังวลมากน่าวิคเตอร์ ผมรักแฝดมากกว่าคุณอีกนะ” ไอ้ยักษ์ที่กำลังมองแฝดเลื่อนสายตามามองผมทันควันจนผมขำ

           

 

“งั้นไม่ต้องรอใครมาอุ้มมันไปละ ฉันจะเอาไปปล่อยข้างทางเอง” ผมยิ้มขำคิกคัก ไอ้ยักษ์ทำหน้าเหี้ยม

           

 

“คิๆๆ / แอะๆๆ” ผมหันไปมองสองหนุ่มที่มุมปากเลอะไอศกรีมช็อกโกแล็ต สองแฝดนั่งห่อไหล่ทำท่าเขิน ผมยิ้มตาหยีแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มยุ้ยๆ ของทั้งสองคนด้วยความมันเขี้ยว

           

 

“หัวเราะเยาะเย้ยฉันเหรอไอ้ลูกหมู” สองแฝดหันไปมองพ่อ แฮคเตอร์ส่ายหัวไปมา ลำตัวโยกนิดๆ

           

 

“เจ้อ” เฮคเตอร์เรียกชื่อพ่อด้วยเสียงเล็ก ๆ มือป้อมชี้ไปที่คุณพ่อยักษ์ ผมยิ้มด้วยความเอ็นดู หลังจากงานแต่งก็ไม่ยอมพูดอีกเลย จนกระทั่งเข้าอายุเดือนที่สิบเอ็ดผมก็เริ่มชวนแฝดพูดบ่อยขึ้น ก็พูดได้ทีละคำสองคำไม่เกินนี้ แต่คำที่ใช้สำหรับการโวยวายหรือถียงจะช่ำชองมาก

           

 

“อะไรไอ้หมู” วิคเตอร์เดินเข้ามาอุ้มเฮคเตอร์ขึ้นจากเตียง ยื่นหน้าเข้าไปขยี้พุงเจ้าตัวเล็ก

           

 

“ฮิๆ คิๆๆๆ” เฮคเตอร์หัวเราะเสียงเล็กๆ สองมือจับหน้าพ่อ เหมือนกำลังพยายามหยุดไม่ให้พ่อแกล้งตัวเอง

           

 

“อุ!” แฮคเตอร์เบิกตากว้างมองพี่ชายโดนพ่อแกล้งพร้อมกับทำปากจู๋ มือซ้ายชี้ไปที่ทั้งสองคนและหันหน้ามามองผมเหมือนกำลังฟ้อง ผมยิ้มกว้าง ยื่นหน้าไปหอมแก้มขาวป่องหนึ่งฟอด

           

 

“พ่อแกล้งพี่เฮคเตอร์ครับ แฮคเตอร์ทำไงดีๆ” เจ้าตัวเล็กเม้มปากทำหน้าตาดุดัน แต่มันเหมือนกบกำลังพองตัว ผมหัวเราะเสียงดัง แฮคเตอร์ยกสองมือตีเตียงตุบๆ และส่งเสียงคำรามฮึ่มๆ ในลำคอ

           

 

“นี่ก็ขี้ยุลูกจริงๆ เดี๋ยวก่อนๆ” วิคเตอร์วางเฮคเตอร์ลงบนเตียงและเปลี่ยนเป็นอุ้มแฮคเตอร์ขึ้นไปแทน จากที่กำลังทำหน้าดุดันเหมือนกบพองลมก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะคิกๆ เมื่อเจอคุณพ่อเอาหน้าซุกพุง

           

 

“มิชลินไม่เจ็ทแล็กกันเลยรึ หื้มมม ลงเครื่องมาตายังแป๋วเชียว” พอถึงสนามบิน เราก็ลงไปเรียกรถด้านล่างให้มาส่งที่บ้าน ไม่ได้รบกวนพ่อให้ไปรับ รอบนี้เรามากันแค่สี่คน ออสตินเป็นห่วงพวกไมเคิลและเป็นห่วงบ้านเลยไม่มาด้วย แล้วก็อวยพรวันเกิดหลานล่วงหน้ามาก่อนใคร

           

 

ทาดา! มิชลินทั้งสองกำลังจะมีอายุครบหนึ่งขวบในวันมะรืนนี้แล้ววว

 

 

เราเลยหอบกระเตงกันมาฉลองวันเกิดปีแรกของแฝดที่เมืองไทยเพื่อที่คุณตาคุณยายจะได้ร่วมฉลองด้วย พวกป้าๆ ลุงๆ พอรู้ว่าหลานจะมาฉลองวันเกิดที่นี่ก็เตรียมหาของขวัญมาให้หลาน แต่ผมบอกแล้วละว่าเอาที่สะดวก ไม่ต้องฝืนหาด้วย แค่มาร่วมงานกันได้ครบทุกคนแบบตอนงานแต่งก็ดีใจแล้ว

 

 

มิชลินของผมกับพ่อยักษ์มีพัฒนาการตามช่วงวัยในแต่ละเดือนอย่างที่ควรจะเป็นอย่างดี อาจจะไม่มีคำว่าเยี่ยมต่อท้ายเพราะมันไม่ได้เยี่ยมยอดขนาดนั้น ก็เป็นไปตามช่วงวัยของเขาอย่างที่ควรจะเป็น อย่างเรื่องการยืนการเดิน ผมก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ มีช่วยบิ้วท์บ้างเพื่อให้แฝดมีกำลังใจในการหัดเดิน แต่ก็ไม่บังคับถ้าหากเขาทำไม่ได้ ล่าสุดไปตรวจสุขภาพกับคุณหมอก่อนบินมาเมืองไทย คุณหมอสาวที่ดูแลแฝดตั้งแต่คลอดชมว่าทั้งสองเป็นเด็กน่ารัก สุขภาพแข็งแรง พัฒนาการอยู่ในเกณฑ์ปกติ อะไรที่ควรทำ ควรเกิดขึ้นในแต่ละเดือน แฝดก็ทำได้

 

 

“เราจะจัดงานวันเกิดไอ้ลูกหมูที่ไหน” วิคเตอร์ว่าพลางวางแฮคเตอร์ลงบนเตียง สองแฝดหันมองหน้ากันแล้วเฮคเตอร์ก็ยื่นมือไปไปถูๆ หัวน้องชาย

 

 

“ก็ต้องที่นี่สิ อพาร์ทเม้นต์เราขายไปแล้วนะ” ห้องที่วิคเตอร์เคยมาซื้อไว้เผื่อในกรณีที่เขามาไทยจะได้มีที่นอนถูกขายไปแล้ว ในตอนนั้นพ่อกับแม่ยังไม่รู้เรื่องเราสองคน เลยต้องหารังรักนอกบ้าน แต่พอพ่อกับแม่รับรู้แล้ว ผมก็มองว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องมีที่พักที่อื่น กลับมาไทยก็มาพักที่บ้านผม คนที่มาซื้อต่อก็เป็นพวกเซเล็บเมืองไทยนั่นแหละ ซึ่งเงินที่ขายห้องนั้นได้ วิคเตอร์แบ่งให้พ่อกับแม่ผมครึ่งนึงแน่ะ

 

 

“ฉันหมายถึงว่าเราอาจจะไปกินร้านอาหารหรือสถานที่บรรยากาศดี ๆ ไง” ผมทำท่านึกแล้วก็นึกไม่ออก

 

 

“ขี้เกียจหาอะ จัดในสวนหลังบ้านแหละ” ที่บ้านผมมีสวน แต่ไม่ใช่สวนใหญ่โต เป็นสวนหลังบ้านขนาดกำลังน่ารัก ไม่ได้มีอะไรมาก มีหญ้าสีเขียว มีโต๊ะนั่ง ต้นไม้ขนาดเล็กตามรั้ว มีหลังคาโปร่งใสสำหรับกันฝนกันแดด มีน้ำตกปลอมที่ผมทำเองแบบกากๆ แล้วก็มีดอกไม้ต้นเล็ก ๆ ขึ้นใต้ต้นไม้ริมรั้ว คล้ายกับสวนหลังบ้านของวิคเตอร์ที่นิวยอร์กหน่อยๆ

 

 

“ไปซื้อของวันนี้เลยมั้ย”

 

 

“คุณไม่เหนื่อยเหรอ” เขาพยักหน้ามึน

 

 

“เหนื่อย” ผมย่นคิ้วงง

 

 

“อ้าว งั้นพักผ่อนสิ”

 

 

“โอเค” อะไรของผัววะ

 

 

เขาว่าจบก็ปีนขึ้นเตียงและถลกผ้านวมขึ้น แฝดหันไปมองคุณพ่อล้มตัวลงนอนแล้วก็หันมามองหน้ากันสักแปบก่อนจะหันมามองหน้าผมจนผมขำกับปฏิกิริยานั้น ผมจัดการถอดรองเท้าคู่จิ๋วให้ทั้งสองคน

 

 

“Are you sleepy twins? (แฝดง่วงนอนมั้ยครับ)” แทนคำตอบในเวอร์ชั่นพูด สองหนุ่มหมุนตัวคลานเข้าไปหาคุณพ่อ

 

 

“ด๊า แอ๊~” แฮคเตอร์คลานเข้าไปประกบหน้าคุณพ่อแล้วเอามือถู ๆ หน้าผากของพ่อยักษ์เบาๆ เฮคเตอร์นั่งเด้งดึ๋งอยู่บนตัวพ่ออย่างสนุกสนาน

 

 

“เฮ้ย มาก่อกวนคนจะนอนทำไมเนี่ย”

 

 

“ฮึฮือ ฮึฮือ” เฮคเตอร์ยิ้มแฉ่งและหัวร่อชอบอกชอบใจเมื่อวิคเตอร์กระดกตัวขึ้นจนเจ้าตัวเล็กกระเด้งไปข้างหน้า ผมลุกขึ้นยืนไปเปิดแอร์ให้สามพ่อลูก

 

 

“นอนเลยไอ้ลูกหมู “ วิคเตอร์จับลูกนอนลงฝั่งขวามือของตัวเอง สองแฝดล้มตัวลงนอนตึง พอทำท่าจะลุก วิคเตอร์ก็กดหัวเจ้าตัวเล็กลง สองคนนั้นก็ชอบ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากทำท่าเด้งตัวลุกขึ้นหยอกพ่อ

 

 

“เอเลี่ยน มาดูเลย ฉันจะได้นอนมั้ยอย่างเนี้ย” ผมขำ เดินไปบนเตียงฝั่งที่แฝดนอน ผมไม่ได้เอากล่องดนตรีไวโอล่ามาด้วยเพราะกลัวจะเสียหาย แม้จริง ๆ จะอยากเอามาด้วยมากก็เถอะ แต่เพื่อความสบายใจและความปลอดภัย เก็บเอาไว้ที่บ้านดีกว่าเคลื่อนย้ายไปมาจนมันพัง

 

 

“ร้องเพลงให้ลูกฟังสิยักษ์” ไอ้ยักษ์เบ้ปากและสั่นหัว มองแฝดที่กำลังไต่ขึ้นมาบนตักผม

 

 

“ทีตอนงานแต่งยังร้องได้เลย” ไอ้ยักษ์ทำตาโต

 

 

“มันเหมือนกันที่ไหน แล้วอันนั้นฉันฝึกตั้งนาน กว่าจะร้องเข้ากับดนตรีที่ไอ้ไทเลอร์ทำอีก ร้องเพลงแม่งยากจะตายห่า” เขาขมวดคิ้วมุ่น ผมอมยิ้ม จับแฝดนอนลงตรงกลางแล้วก็สอดตัวเข้าไปใต้ผ้านวม สองแฝดพอเห็นผมนอนด้วยเลยทิ้งตัวลงนอนอย่างว่าง่าย เฮคเตอร์หันมาเล่นกับผม ส่วนแฮคเตอร์ก็หันไปเล่นกับพ่อ

 

 

“แต่เสียงคุณเพราะออก ร้องให้ผมกับลูกฟังไม่เป็นไรหรอกน่า”

 

 

“ไม่เอา” ผมเบะปากน้อยๆ ไอ้ยักษ์ลอยหน้าลอยตา ผมใช้มือขวาลูบพุงเฮคเตอร์เบาๆ วิคเตอร์ใช้มือขวาขยุ้มหัวมิชลินเบอร์สอง เจ้าตัวเล็กนอนนิ่งหน้าเคลิ้มเหมือนกำลังสบายตัว

 

 

ผมเปิดปากร้องเพลงกล่อมแฝดเสียงแผ่ว แฮคเตอร์พลิกตัวจากพ่อหันมามองผมตาแป๋ว ผมยิ้มให้ทั้งสองคนในขณะที่ปากก็ขยับร้องเพลงไปด้วย เตอร์ตัวพ่อเองก็นอนตะแคงมองตาใส ผมสะดุดเพราะขำที่ว่ากำลังกล่อม สามเตอร์ ให้นอนหลับ

 

 

“Close your eyes…” ผมกระซิบบอกแฝด ทั้งสองคนนอนมองผมนิ่ง ผมขยับปากร้องเพลงต่อไปจนกระทั่งหนังตาสองหนุ่มเริ่มย้อย ส่วนคนพ่อหลับนำไปก่อนแล้ว

 

 

“Your parents will be proud of you so much. (คุณพ่อคุณแม่ต้องภูมิใจในตัวแฝดมากๆ ครับ)” ผมมองหน้าทั้งสองคนแล้วพูดเสียงกระซิบ ทั้งสองคนกินเก่ง กินอิ่ม นอนหลับและเป็นเด็กดีตามวัยของเขา ไม่เกรี้ยวกราดหรือมีนิสัยขี้วีนอาละวาด

 

 

แต่เรื่องดื้อกับซน คิดว่าน่าจะได้เชื้อจากพ่อยักษ์มาเยอะแหละนะไวโอล่า คริสเตียน

 

 

 


วันรุ่งขึ้นเราตื่นกันเกือบเที่ยง เพราะเมื่อคืนกว่าแฝดจะนอนก็ห้าทุ่ม คึกคักกันไม่หยุดหย่อน ยิ่งแฮคเตอร์พอคุ้นกับคุณตาคุณยายแล้วก็เล่นสนุกไม่เบื่อเลย ส่วนมิชลินเบอร์หนึ่งก็เล่น แต่ยังไม่ยอมให้คุณตาคุณยายอุ้ม นั่งเกาะติดอยู่ใกล้ผมไม่ยอมไปไหน มาเริ่มคุ้นคือตอนใกล้เข้านอน พ่อกับแม่ผมนี่ดีใจใหญ่ หลอกล่ออยู่ตั้งนาน

 

 

พอกินข้าวเสร็จ จัดการตัวเองเสร็จและฝากพ่อซื้อของสดเรียบร้อย เราทั้งสี่หน่อก็ออกจากบ้าน ขับรถเข้าไปในเมืองกรุงกันเพื่อหาซื้อของกินเพิ่มเติม แต่อย่างแรกที่เรามาทำเลยคือพาแฝดมาตัดผมที่ร้านตัดผมร้านหน่งในแหล่งช้อปปิ้งอันเก่าแก่ของเมืองกรุง สองหนุ่มร้องไห้งอแงเพราะไม่คุ้นเคยกับช่างที่ไม่คุ้นหน้าจนผมกับวิคเตอร์ต้องอุ้มให้ช่างตัดกันคนละคนเลยสงบลงบ้างแต่ก็มีสะอึกสะอื้นเป็นบางครั้ง คนในร้านที่อยู่ไม่ถึงสิบคนมองมาทางแฝดแล้วยิ้ม อย่างหนึ่งที่ผมค่อนข้างสบายใจคือ คนส่วนมากเวลามองแฝดจะมองด้วยความเอ็นดูมากกว่ารำคาญ หรือผมเข้าข้างลูกตัวเองมากไปรึเปล่าก็ไม่รู้นะว่าลูกน่ารักจนคนเห็นแล้วก็รู้สึกรักตามเราไปด้วย

 

 

“อู้หู Who’s that? Why they look so handsome? (ใครน่ะ ทำไมหล่อจัง)” ผมกับวิคเตอร์หันแฝดเข้าหากระจกหลังจากปัดทำความสะอาดเศษผมเรียบร้อยแล้ว สองหนุ่มที่ยังมีน้ำตาติดขอบตามองตัวเองในกระจกงงๆ ทั้งสองคนตัดทรงอันเดอร์คัทเหมือนคุณพ่อ เท่ซะไม่มี

 

 

“ขอบคุณนะครับ เอ่อ ถ้าจะขอถ่ายรูปน้องไว้ติดหน้าร้านได้มั้ยครับ” ผมอ้าปากค้างแว้บหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มแหยให้กับพนักงานหนุ่มรูปหล่อผู้มีผิวเข้มข้น

 

 

“ขอโทษจริง ๆ ครับ ตรงนี้ไม่สะดวกเลย ถ่ายรูปคุณพ่อแทนได้มั้ย” ผมหันไปมองวิคเตอร์ที่ใส่หมวกแก๊ปบังหน้าครึ่งนึงที่กำลังทำหน้างง พนักงานร้านก็ทำหน้างง ๆ ไม่เข้าใจ ผมลืมไปว่าไม่ใช่ทุกคนที่จำวิคเตอร์ได้ แม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงมากมายแล้วก็ตาม

 

 

“คือ คุณพ่อ…” ผมหันไปคุยกับวิคเตอร์เรื่องเขาขอถ่ายรูปแฝด แต่ผมไม่อนุญาต เลยจะให้เขาถ่ายรูปเขาแทน

 

 

“…ให้เขาป่ะ มีรูปคุณติดอยู่ เขาอาจจะเรียกลูกค้าได้เยอะขึ้นไง”

 

 

“โยนขี้เลยนะ” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่วิคเตอร์ก็ดึงหมวกออกจากหัว ตอนนั้นเองที่มีคนในร้านส่งเสียงร้องประหลาดขึ้นมา

 

 

“เฮ้ย! คนนั้นนี่ คนนั้นอะ” พนักงานตัดผมผู้ชายร่างสูงตัวใหญ่ในร้านคนหนึ่งที่กำลังตัดผมให้ลูกค้าผู้ชายอีกคนหันมาชี้วิคเตอร์ด้วยความตื่นเต้น

 

 

“คนไหนวะ” พนักงานที่อยู่ตรงหน้าเราถามแบบงงๆ แต่ก็ดูตื่นเต้นตามไปด้วย (ตื่นเต้นไว้ก่อน ไม่รู้ใครสอนไว้)

 

 

“ที่กูกับมึงไปดูหนังเขาวันแรกที่เข้าฉายเลยอะ มึงจำได้เปล่า สองเดือนก่อนๆ” หนุ่มคิดเงินนึกสักแปบก่อนจะอ้าปากค้างแล้วทำหน้าตะลึง

 

 

“ตัวจริงเหรอวะเนี่ย” ผมยิ้มขำ วิคเตอร์ยักคิ้วขึ้นหนึ่งทีแล้วกระตุกยิ้ม

 

 

วินาทีนั้นพนักงานคนที่จำวิคเตอร์ได้ก่อนใครทิ้งลูกค้าที่กำลังตัดผมได้ไปครึ่งหัวไว้กลางทาง ลูกค้าคนนั้นหน้าเหวออ้าปากหวองง ๆ ก่อนหันไปสำรวจหัวตัวเองที่โดนไถไปครึ่งนึงแล้ว ผมขำพรืด สงสารก็สงสาร ขำก็ขำ วิคเตอร์ส่งแฮคเตอร์มาให้ผมอุ้มเพื่อจะได้ถ่ายรูปกับพนักงานในร้านและลูกค้าอีกคน วันนี้เป็นวันธรรมดาคนเลยไม่เยอะ ทั้งร้านมีลูกค้าอยู่สี่คนซึ่งรวมแฝดไปแล้ว

 

 

“ผมพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น แต่ฝากบอกด้วยนะครับว่าเล่นหนังโคตรเท่เลย ผมจะติดตามจนจบเลยครับ” พนักงานที่จำวิคเตอร์ได้บอกด้วยความตื่นเต้น ผมยิ้มกว้างและพยักหน้าให้

 

 

“ผมจำพี่ได้ด้วยนะ พี่เป็นแฟนเขาใช่ป่ะ ผมดูข่าวที่เขาออกมาพูดเรื่องพี่อยู่ โคตรหล่ออะ” ผมคลี่ยิ้มกว้างด้วยความเขิน

 

 

“อ๋อ พี่สองคนเป็นแฟนกันเหรอเนี่ย” พนักงานคิดเงินมองสลับผมกับวิคเตอร์ด้วยความทึ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้มงง ๆ ผมพยักให้เขาอีกที

 

 

“เจ๋งมากพี่ โคตรดีอะ รักกันนาน ๆ นะครับ ยังไงผมก็ไม่เลิกติดตามผลงานแฟนพี่” ผมยิ้มด้วยความรู้สึกดีที่เจอผู้ชายใจกว้าง ไม่ใจแคบ แถมยังเป็นกำลังใจให้ความรักของเราสองคนอีก ไม่ใช่ว่าผู้ชายแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว แต่โดนอีพวกผู้ชายใจต่ำกว่าหมาด่าแซะ จนหลายครั้งก็มองโลกในแง่ลบไปมากเหมือนกัน

 

 

“ขอบคุณมากนะครับ ใจดีจัง” ผมพูดด้วยความรู้สึกดีจริงๆ

 

 

“ขอบคุณเช่นกันนะครับที่มาอุดหนุนร้านพวกผม โคตรเซอร์ไพรส์เลย แต้งกิ้ว แต้งกิ้ว” พนักงานคิดเงินหันไปยกมือไหว้วิคเตอร์และกล่าวขอบคุณ วิคเตอร์คลี่ยิ้มและยกมือรับไหว้เขา คนในร้านส่งเสียงโห่ฮิ้วที่เห็นวิคเตอร์รับไหว้อย่างมีมารยาท

 

 

“เดี๋ยวผมจะติดรูปเขาไว้ใหญ่ ๆ เลย” ผมยิ้มขำแล้วพยักหน้า หันไปบอกวิคเตอร์ เขายักคิ้วขึ้นและบอกว่าโอเค

 

 


เราออกจากร้านตัดผมด้วยความรู้สึกที่ดีมาก เจอคนทัศนคติดี ๆ แบบนี้มันเป็นอะไรที่น่าอยู่ร่วมโลกด้วยสุด ๆ ไม่ใช่ไอ้พวกฉุดโลกให้ล้าหลังไปพร้อมกับความคิดพวกมันเอง

 

 

“ฉันไม่ได้ตัดผมร้านพวกเขา เอารูปฉันไปติดได้เหรอ” ผมหัวเราะเมื่อวิคเตอร์ถามหน้าตางง ๆ พลางยกหมวกใส่หัวตามเดิม เขาอุ้มแฮคเตอร์ไปไว้ในอ้อมแขน ให้นั่งหันหน้าเหมือนที่ผมอุ้มเฮคตอร์

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก เขาเป็นคนดี ติดรูปคุณไว้เขาอาจจะได้ลูกค้าเพิ่มไง” วิคเตอร์พยักหน้า ผมคลี่ยิ้มอย่างสดใส เจออะไรที่มันเป็นพลังบวกแบบนี้มันดีเหลือเกิน

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v

เราเดินเข้าไปในห้าง ตรงไปที่โซนพวกขายขนมเค้กก่อนเป็นที่แรก และแม้ว่าวิคเตอร์จะใส่หมวกปิดหน้าไว้ แต่ก็มีหลายคนที่เพ่งมองเขาด้วยความสงสัยใคร่รู้ ถามว่าทำไมผมถึงรู้ เพราะผมเป็นติ่งมาก่อน (ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่) ถ้าเจอดารานักแสดงหรือศิลปินที่เราชื่นชอบ แล้วรู้สึกว่าเขาเดินอยู่ใกล้เรา ทำไมเราจะไม่เอะใจล่ะ (เชื่อว่าหลายคนน่าจะเป็นแบบผมนะ)

 

 

“มีมินเนี่ยนมั้ยน้า…” ผมพูดกับแฝดที่ยืนเกาะขอบตู้เค้กอย่างใกล้ชิด สองหนุ่มกำลังจิ้มๆ ชี้ๆ พร้อมกับส่งเสียงอ้อแอ้สนใจเค้กทุกก้อน

 

 

“…อุ๊ย แฝด มีน้องมินเนี่ยนด้วยนะครับ” ผมชี้เค้กก้อนริมสุดชั้นล่างของตู้ สองหนุ่มกระดึ๊บ ๆ มาหยุดยืนมอง พอเห็นเจ้าตัวสีเหลืองตัวโปรดก็ส่งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าด

 

 

“แอ้ๆๆๆ / อูๆๆๆ” ผมหัวเราะไหล่สั่น พนักงานผู้หญิงเห็นแล้วยังยิ้มขำ

 

 

“แมมมมๆ กุงๆๆ” แฮคเตอร์ทำเสียงเหมือนพวกมินเนี่ยนเวลามันร้องกุงก้า ๆ วิคเตอร์ยังหัวเราะเกือบลั่น สองแฝดหันมายิ้มหวานให้ผมเป็นการบอกว่าชอบอันนี้ๆ

 

 

“อันนี้รสอะไรอะครับ”

 

 

“เป็นเค้กไอติมค่ะ มีวานิลลา ช็อกโกแล็ตแล้วก็โอริโอ้ด้วย” ผมคลี่ยิ้มและทำตาโต มีตั้งหลายรสชาติแน่ะ

 

 

“งั้นเอาก้อนนี้ครับ แต่ซื้อแล้วฝากไว้ก่อนได้มั้ย เดี๋ยวจะไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนน่ะครับ กลัวไอติมละลาย”

 

 

“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวแถมไฟเย็นให้ด้วยนะคะ”

 

 

“Did you hear that? She gonna give us sparklers for free. What should you do to her? Hmmm. Kob khun kabbb. (ได้ยินมั้ยครับแฝด พี่เขาจะให้ไฟเย็นเราฟรี หนูต้องทำยังไง ฮึ ขอบคุณค้าบบบ)” สองแฝดแหงนหน้ามองพนักงานขายแบบงงๆ สองมือแปะอยู่บนตู้หน้าเค้กมินเนี่ยนไม่ไปไหน ผมนั่งลงตรงกลางระหว่างทั้งสอง

 

 

“ลืมกันหมดแล้วเหรอเนี่ย” ในระหว่างนั้นวิคเตอร์ก็จ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว พนักงานเลยก้มลงดึงเค้กออกจากหน้าตู้ ตอนนั้นเองที่สองหนุ่มส่งเสียงโวยวาย

 

 

“อ้า นาๆๆๆ / ตาๆๆๆ” มีการเอามือตีตู้ตุบๆ จนพนักงานต้องเอาเค้กกลับมาใส่ไว้ที่เดิมสองหนุ่มถึงหยุดโวยวายแล้วหันมามองผมทั้งสองคน

 

 

“แมะๆ อูๆ”

 

 

“ครับๆ พ่อซื้อให้แล้วครับ เดี๋ยวเรากลับมาเอานะ” ผมตอบเฮคเตอร์ที่หันมาสื่อสารประมาณว่าอยากได้ ผมยิ้มขำตาหยี สื่อสารกับใครก็ไม่สนุกเท่ากับแฝดแล้วละ

 

 

เราอุ้มแฝดออกมาจากร้านเค้ก และด้วยความที่ไม่เห็นพี่มินเนี่ยนตามมาด้วยเลยส่งเสียงงอแงจนต้องพาขึ้นไปโซนตุ๊กตากับของเล่นก่อนเพื่อไปหาซื้อเจ้ามินเนี่ยนมาให้กอดแก้ขัด ผมซื้อให้คนละตัว คนละคาแร็คเตอร์ เพราะสองคนนี้ชอบไม่เหมือนกัน เฮคเตอร์ชอบไอ้เจ้าตัวเล็กๆ แฮคเตอร์จะชอบไอ้ตัวสูงๆ เหมือนกล้วย

           

 

“แอ๊ะแอแอ” ตอนที่เดินผ่านแผนกของเล่นแล้วเจอกับรถขับสำหรับเด็ก เฮคเตอร์ก็เขย่าเจ้ามินเนี่ยนตัวสีเหลืองแรงๆ

 

 

“อู้ๆๆ” แฮคเตอร์ที่อยู่ในอ้อมแขนพ่อชี้รถด้วยความตื่นเต้น

 

 

“แมะๆๆ”

 

 

“ครับๆ” ผมก้มหน้าหาเฮคเตอร์ที่หันหน้ามาหาผมและชี้มือให้ดูราวกับจะบอกว่าของเล่นๆ

 

 

“อยากได้เหรอไอ้ลูกหมู” วิคเตอร์ก้มมองหน้าลูกทั้งสองคน สองหนุ่มจ้องมองรถเหล่านั้นไม่วางตา ผมเห็นท่าไม่ดีเลยหมุนตัวหันหลังให้กับของเล่น

 

 

“อย่าซื้อเลยวิคเตอร์ พอซื้อแล้วก็ต้องทิ้งไว้นี่ ไม่ได้เล่นอีก กลับไปซื้อให้ที่อังกฤษดีกว่า” วิคเตอร์หมุนตัวพาแฝดเดินออกจากบริเวณพวกของเล่นสำหรับเด็ก แฝดบิดคอมองของเล่นตาแป๋ว

 

 

“แอง๊ แอ!” เฮคเตอร์หน้านิ่วคิ้วขมวดท่าทางหงุดหงิด หน้าเบะคล้ายจะร้องไห้

 

 

“เดี๋ยวแมทซื้อให้ แต่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ ที่อังกฤษก็มี” และแล้วก็เบะปากร้องไห้

 

 

“มัวๆ มูๆๆ” วิคเตอร์หันกลับมามอง แฮคเตอร์มองพี่ชายงงๆ

 

 

“ซื้อให้มั้ยล่ะ แล้วก็ทิ้งไว้นี้ เดี๋ยวก็กลับมาไทยอีกอยู่ดี”

 

 

“ไม่เอา ซื้อมาแล้วใช้แปบเดียว มันเปลืองเงิน”

 

 

“แปบเดียวที่ไหน เราอยู่ไทยตั้งสองเดือนเลยนะ” ผมสั่นหัว ไอ้ยักษ์ขมวดคิ้ว ผมโอ๋ลูกแต่ไม่ตามใจ ไอ้ยักษ์ไม่โอ๋แต่ตามใจเก่ง

 

 

“ทิ้งไว้ตั้งหลายเดือน ไม่เอาหรอก ไปเถอะ”

 

 

“แต่ไอ้ลูกหมูมันร้องจะเอา”

 

 

“ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้ แค่ให้กลับไปซื้อที่อังกฤษ ไม่ซื้อนะวิคเตอร์” ผมทำตาดุดักไว้ก่อน ไอ้ยักษ์บิดปากหน้าเซ็งแล้วพาแฮคเตอร์เดินออกไป เฮคเตอร์ร้องไห้งอแง แต่ผมก็ใจแข็งไม่ซื้อให้ ปลอบกันอยู่พักใหญ่จนเขาสงบ

 

 

 

 

เราเดินซื้อของกันในซูเปอร์มาร์เก็ตจนรถเข็นแทบไม่มีพื้นที่เหลือ ต้องให้พนักงานเข็นตามไปส่งที่รถในลานจอด ขากลับสองหนุ่มนอนหลับกอดพี่มินเนี่ยนของตัวเองมาตลอดทาง พอกลับมาถึงบ้านผมก็อุ้มไปนอนบนห้องอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ตื่นขึ้นมารบกวนการเตรียมอาหารสำหรับคืนนี้

 

 

“สวัสดีค่า มีใครอยู่มั้ยค้า” เสียงแจ๋น ๆ มาก่อนตัวของเหมียวดังมาจากหน้าบ้าน ผมที่กำลังนั่งช่วยแม่หั่นผักอยู่บนโต๊ะในครัวนั่งหัวเราะเบาๆ

 

 

“ไม่มี กลับไปได้เลย!” ผมตะโกนตอบกลับไป

 

 

“อันนั้นผีตอบเหรอค้า” ผมหัวเราะ พอหันไปมองก็เห็นเหมียว วอร์ม แชมป์แล้วก็น้องอั่งเปาแฟนแชมป์เดินเข้ามายืนออกันตรงประตูครัว ในมือถือถุงใส่ของกันคนละถุงสองถุง

 

 

“แก แคทมาไม่ได้นะ ช่วงนี้ไฮซีซึ่น…” ผมกับอีกสามคนที่เหลือหัวเราะลั่นกับแอคเซ่นที่เหมียวใช้ เหมียวยกไหล่ขวาสวย ๆ ท่าทางว่าไม่แคร์

 

 

“…นักท่องเที่ยวเยอะ มันเลยไม่อยากทิ้งให้พี่เคนทำงานคนเดียว”

 

 

“ได้ ไม่เป็นไรหรอก เข้าใจอยู่”

 

 

“แต่มันฝากกูซื้อของขวัญให้หลานนะ” ไอ้แชมป์ว่าพลางชูถุงสีเหลืองสดให้ดู ผมพยักหน้าหงึกๆ

 

 

“มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับพี่แมท”

 

 

“งั้นนี่เลยลูก ยกของออกไปวางนอกบ้านเลย เดี๋ยวเตรียมปิ้งกันได้ละ” แม่ชี้จาน ชี้ถ้วยและกะละมังเรียงที่วางรายอยู่บนโต๊ะที่ผมนั่งหั่นผักอยู่ พวกนั้นวางของไว้ตรงโซฟาโซนดูทีวีแล้วเดินเข้ามาในครัว ช่วยกันหยิบไปคนละอย่างสองอย่าง เดินเรียงกันออกไปทางประตูเชื่อมกับสวนหลังบ้าน

 

 

“พ่อกับวิคเตอร์ละวะ” ไอ้วอร์มถามตอนที่มันกำลังหยิบกะละมังหมักหมู

 

 

“ไปซื้อของเพิ่มที่ตลาด”

 

 

“โห ซื้อเพิ่มอีกเหรอ แค่นี้กูว่าก็เยอะมากแล้วนะ”

 

 

“พ่อแกเผื่ออยากกินวันต่อ ๆ ไปด้วยน่ะ เลยไปซื้อเพิ่ม” แม่หันมาบอกยิ้ม ๆ ไอ้วอร์มพยักหน้าหงึก ๆ แล้วเดินตามคนอื่นออกไปในสวน

 

 

ทุกคนมาช่วยกันเตรียมอาหาร แกะกุ้ง ล้างหอย หั่นหมูต่าง ๆ พอสักหกโมงเย็นแบมกับเก้าก็ตามมาสมทบ เป็นอันว่ามากันครบยกเว้นแคทที่ติดภารกิจครอบครัวจริง ๆ พอเตรียมของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยผมก็ขึ้นไปบนห้อง ตอนเปิดประตูเข้าไปสองแฝดกำลังพยายามลงจากเตียง แต่ด้วยความขาสั้นเลยทำได้เพียงยื่นเท้าลงจากขอบเตียงแล้วขยับดุ๊กดิ๊ก เห็นแล้วก็หัวเราะเสียงดัง ทำอะไรก็น่ามันเขี้ยวไปหมด

 

 

“ป่ะๆ อาบน้ำกันนะครับ แต่งหล่อลงไปเป่าเค้กกันเนอะ” ผมถอดเสื้อผ้าให้แฝดแล้วพาเดินเปลือยเตาะแตะ ๆ ไปห้องน้ำ สองหนุ่มก้าวเท้าอย่างเชื่องช้าให้ผมลุ้นเอาใจช่วย

 

 

“ไอ้หมูโป๊” ผมหันไปมองวิคเตอร์ที่เดินขึ้นบันไดมาดูแฝด สองหนุ่มหันไปมองพ่อก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างแล้วส่งเสียงฮื่อๆ ในลำคอด้วยความดีใจ

 

 

“อาบน้ำด้วยมั้ยวิคเตอร์”

 

 

“เดี๋ยวตามเข้าไป” ผมพยักหน้า วิคเตอร์หมุนตัวเดินกลับไปห้องนอน และในที่สุดแฝดก็เดินมาถึงห้องน้ำ ผมอุ้มทั้งสองคนเข้าไปนั่งในกะละมังสีชมพูอันใหญ่ที่พ่อซื้อมาให้หลานอาบน้ำโดยเฉพาะ มีซื้อตุ๊กตาเป็ดกับของเล่นมาให้ด้วย ผมเปิดน้ำใส่กะละมัง วินาทีที่น้ำค่อย ๆ เอ่อขึ้น สองหนุ่มก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ตีน้ำด้วยความสนุกสนาน

 

 

“มาสระผมกันก่อนเลย” แฝดจะรู้แล้วว่าถ้าทำแบบนี้ต้องหลับตา เนื่องจากเคยโดนแชมพูเข้าตาแล้วร้องจ้า ผมเลยฝึกให้เขาหลับตาเวลาสระผม

 

 

“แฮคเตอร์ไม่เอาหัวจุ่มครับ หว่ายยย ไม่เอาๆ เดี๋ยวสำลักน้ำ” ผมยื่นมือซ้ายไปดันคางแฮคเตอร์ ไอ้ตัวเล็กมีการหัวเราะสนุสกนานที่โดนผมเบรกไม่ให้เอาหัวจุ่มลงไปในน้ำ

 

 

“เฮคเตอร์หลับตาหน่อย ปึ๊บเลย ปึ๊บเลยครับ…” ผมทำท่าหลับตาให้เขาดู เฮคเตอร์หลับตาปี๋จนผมขำ

 

 

“…เก่งมาก” ผมค่อย ๆ ราดน้ำขับล้างแชมพูบนหัวของคนพี่ ฟองสีขาวไหลลงเต็มอ่างแต่ก็โดนน้ำจากสายยางที่เปิดทิ้งไว้ดันออกไป ผมรีบล้างหัวให้แฮคเตอร์ต่อทันทีก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะเอาหัวจุ่มน้ำเอง

 

 

“นายก็ควรอาบได้แล้วนะ” วิคเตอร์เดินเข้ามาในห้องน้ำในสภาพพันผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียว เขามายืนเท้าเอวมองลูกเล่นน้ำ แฝดแหงนหน้ามองพ่อแล้วก็ส่งยิ้มหวานพร้อมกับหัวเราะคึกคักอารมณ์ดี

 

 

“เดี๋ยวเอาแฝดไปฝากพ่อกับแม่ไว้แล้วจะขึ้นมาอาบ”

 

 

“งั้นฉันรออาบพร้อมนาย”

 

 

“งั้นถ้าจะให้เร็ว ช่วยผมอาบน้ำลูกหน่อย” วิคเตอร์นั่งยอง ๆ ข้างผมแล้วช่วยอาบน้ำให้แฮคเตอร์ สองหนุ่มกำลังสนุกสนานกับสระว่ายน้ำกะละมังมาก ทีสระว่ายน้ำที่บ้านไม่เห็นหนูคึกเท่านี้เลยลูก กะละมังนี้มันมีอะไรพิเศษเหรอ

 

 

“อ้วนพุงย้อยหมดแล้ว โตมาแกต้องไดเอทรู้เปล่าไอ้ลูกหมูทั้งสอง” วิคเตอร์บ่นไปถูครีมอาบน้ำให้ลูกไป เจ้าตัวเล็กทั้งสองหัวเราะอิ๊อ๊ะ

 

 

แม้ว่าผมจะพยายามควบคุมน้ำหนักให้ทั้งสองคน แต่ด้วยความที่กินเก่งมากตั้งแต่เด็ก ๆ เลยทำให้แฝดตัวใหญ่ ยังดีที่ไม่ใช่ตัวอ้วนกลม ผมมองว่าพุงนั้นน่ารักดีออก แก้มก็ยุ้ยเป็นสีแดงระเรื่อ เห็นแล้วน่ามันเขี้ยวจะตาย

 

 

“ป่ะๆ ไปแต่งตัวกันครับ” ผมอุ้มเฮคเตอร์ออกจากกะละมัง มิชลินเบอร์หนึ่งหันไปคว้าขอบกะละมังอย่างเร็ว

 

 

“อ๊า”

 

 

“แน่ะ ๆ งอแงอีกแล้ว ไม่เอา ๆ อาบน้ำพอแล้วครับ”

 

 

“ฮื้อออ!”

 

 

“ไม่เอา เห็นน้องมั้ย น้องยังไม่อยากเล่นต่อเลย” แฮคเตอร์ปล่อยให้พ่อใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวอย่างว่าง่าย เฮคเตอร์หน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ยอม อยากจะเล่นน้ำต่อ ผมเลยอุ้มเขาลุกขึ้นเดินออกจากห้องน้ำ เขางอแงนิดหน่อย แต่พอเห็นว่าน้องตามออกมาในสภาพไม่ร้องงอแงเลยเงียบลง

 

 

ผมเช็ดตัวให้แฝดจนแห้ง ทั้งสองคนคลานไปรอบเตียงอย่างสนุกสนาน วันนี้ใส่ชุดเอี๊ยมสียีนและเสื้อตัวในสีเหลืองเหมือนมินเนี่ยน เป็นมินเนี่ยนหมู ๆ สองตัว ตัวกลมๆ ปุ๊กๆ เห็นแล้วช่างน่ารักน่าชัง ผมกับวิคเตอร์อุ้มทั้งสองคนลงไปด้านล่าง เอาไปฝากพ่อกับแม่ไว้

 

 

“ว้ายตายแล้ว ไม่รู้จะใจเต้นให้ความน่ารักของลูกหรือความแซ่บของผัวอีแมทดี” ทุกคนหัวเราะเหมียวที่มองวิคเตอร์เปลือยท่อนบนอย่างแทะโลม ไอ้ยักษ์ยิ้มขำแล้ววิ่งกลับขึ้นไปบนบ้าน

 

 

“มินเนี่ยนสองตัวนี้ตัวกลมจังครับ” แบมนั่งคุกเข่าเล่นกับหลานที่นั่งคู่กันบนโซฟา สองแฝดมองทุกคนแบบงงๆ

 

 

“ฝากก่อนนะ อาบน้ำแปบ” ผมวิ่งกลับขึ้นไปบนบ้าน ถอดเสื้อผ้าออกได้ก็วิ่งตามวิคเตอร์เข้าไปในห้องน้ำ ผมล็อคประตูห้องน้ำแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำกับเขาใต้ฝักบัว มีใช้มือนัวเนียกันนิดหน่อยจนแข็งตัว แต่ก็เบรกไว้แค่นั้น ผมกลัวลูกร้องหาเลยอยากรีบอาบให้เสร็จไวๆ

 

 

“วิคเตอร์ใส่เอี๊ยมแบบลูกสิ” ผมบอกตอนที่กลับเข้ามาในห้องนอน

 

 

“ฉันไม่มี” วิคเตอร์ตอบหน้ามึน ผมคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ไอ้ยักษ์ขมวดคิ้วมองด้วยความไม่ไว้ใจ

 

 

“ผมเอามาให้” ไอ้ยักษ์ตาโตก่อนจะถลึงตามองผม

 

 

“ให้ตายเหอะ ฉันเอาออกจากกระเป๋าไปแล้วนะ นายยังเอากลับมาใส่อีกเหรอ?!” ผมห่อไหล่หัวเราะคิกคัก ก้มลงหยิบชุดเอี๊ยมสียีนที่มีหน้ามินเนี่ยนติดอยู่ตรงอก ไอ้ยักษ์กลอกตา

 

 

“น่ารักดีออก นะ ๆ ใส่เถอะ ผมก็จะใส่ด้วย”

 

 

“ไม่!” ผมหุบยิ้มวืด หน้าบึ้งมองเขาที่ทำหน้าว่าไม่เอาแน่ๆ

 

 

 

 

“ว้าย คิขุมากเลยอะค่ะวิคเตอร์” เสียงหัวเราะดังขึ้นเบา ๆ ตอนที่ทุกคนเห็นวิคเตอร์เดินลงมาจากบันไดด้วยใบหน้าไม่รับบุญไม่บอกบุญใครทั้งสิ้น

 

 

“มินเนี่ยนตัวพ่อเหรอเนี่ย” ไอ้แชมป์แซวขำ ๆ วิคเตอร์บึนปากเป็นการตอบรับ

 

 

“ไป ๆ ไปหลังบ้าน พ่อกับแม่กับแฝดไปรอละ” ผมเดินจูงมือมินเนี่ยนหน้ายักษ์ให้ตามทุกคนออกไปที่หลังบ้าน แฝดนั่งอยู่กับคุณตาคุณยายอย่างไม่งอแง นั่งกินขนมหงับ ๆ ไม่สนใจใคร

 

 

“อุ๊ย ๆ ใครวะน่ะ แต่งตัวเหมือนหนูเลย” พ่อผมพูดขึ้นตอนเห็นผมกับวิคเตอร์ สองแฝดแหงนหน้ามองหน้าพ่อผม พ่อชี้มาที่เราสองคน พอสองแฝดเลื่อนสายตามาเห็นผมกับยักษ์ก็มองนิ่งสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้ม

 

 

“แอ๊ๆๆๆ เจ้อๆ” เฮคเตอร์ชี้ไปที่พ่อและทำหน้าตื่นเต้น

 

 

“กุงๆๆๆ” แฮคเตอร์ทำเสียงเหมือนมินเนี่ยนและปรบมือแปะ ๆ พร้อมกับยิ้มโชว์ซี่ฟัน ทุกคนหัวเราะกับท่าทางของแฝด ผมเดินเข้าไปอุ้มแฮคเตอร์ ส่วนวิคเตอร์ผู้บึ้งตึงอุ้มเฮคเตอร์ไว้ในอ้อมแขน

 

 

“ไม่ต้องล้อฉันเลย”

 

 

“แอ้ แอะๆๆๆ” ไม่ใช่เสียงแฝดนะ เป็นเสียงเหมียวหัวเราะแบบใจจะขาด นางนั่งหัวเราะท้องขดท้องแข็งที่เห็นวิคเตอร์ทำหน้าบึ้งใส่ลูก แต่ลูกกลับยิ้มชอบอกชอบใจที่เห็นพ่อใส่ชุดเหมือนตัวเอง

 

 

“เหมียว มึงอย่าขาดใจตายก่อนนะ” ไอ้วอร์มแซวแต่ก็ขำไปด้วย มันกำลังช่วยไอ้แชมป์ย่างกุ้งอยู่บนตะแกรง แบมกำลังพยายามเปิดเพลงจากไอแพดที่วางอยู่ข้างลำโพงไร้สายแล้วเชื่อมต่อด้วยบลูทูธแทน

 

 

“สักสองทุ่มค่อยเป่าเค้กแล้วกัน” ผมพยักหน้าให้แม่ เสียงเพลงดังขึ้นแบบเบา ๆ ไม่ดังมาก เปิดเป็นแบ็คกราวด์ให้งานไม่เงียบจนเกินไป

 

 

แฝดนั่งอยู่บนตักเราสองคน ผมคอยป้อนเนื้อกุ้งที่ทุบจนละเอียดแล้วให้สองหนุ่ม มีแม่คอยช่วยป้อนด้วยอีกมือ วิคเตอร์ก็คอยป้อนอาหารใส่ปากผมอีกทีเพราะผมไม่สะดวก เขาคอยแกะกุ้งให้ทั้งผมและลูก หนีบปูแกะเนื้อให้กิน คีบเนื้อหมูย่างจิ้มน้ำจิ้มให้ผม หิวน้ำก็คอยป้อนให้

 

 

“อีแคทเขาซื้อเกมฝึกสมองให้หลานจ้า ไม่คิดเลยว่าคนอย่างมันจะนึกอะไรฉลาด ๆ เป็น”

 

 

“อ้าวอีเหมียว แล้วแกจะพูดทำไม ทำไมไม่ให้พ่อแม่เขาเห็นเองเนี่ย” เหมียวเบ้ปากใส่แบมที่พูดดักนางทันที

 

 

“อีแมทเห็นแล้วเถอะ ถึงจะเห็นแค่ถุง ก็ถือว่าเห็นแล้ว” ทุกคนหัวเราะกับแอคติ้งเหมียว นี่ขนาดว่าคู่หูคู่ฮาของมันไม่มาด้วย มันก็สนุกของมันคนเดียวได้

 

 

เรานั่งคุยกันเรื่องสัพเพเหระ เม้าท์เรื่องแคทที่ยังไม่คิดจะมีลูก เนื่องจากยังไม่พร้อม ต้องหาเงินมาใช้หนี้คืนวิคเตอร์ที่ออกค่าทำรีสอร์ทครึ่งนึงให้ได้ก่อน แล้วก็เม้าท์กันเรื่องที่เหมียวยังคงโสดจนถึงตอนนี้

 

 

“แต่ฉันชอบพี่ไทเลอร์คนนั้นมากเลยอะ เขาหล่อ หล่อมาก เขาควรเป็นแฟนฉันอะแก แต่วันนั้นเขาไม่แอ๊วฉันเลย” ผมหันไปกระซิบบอกวิคเตอร์ว่าเหมียวพูดถึงเพื่อนเขา วิคเตอร์ทำหน้าว่าอ้อ

 

 

“I’m not sure, but he seems already have someone. (ไม่แน่ใจ แต่เหมือนมันจะมีใครอยู่แล้ว)” เหมียวอ้าปากค้าง ยกมือขวาจับตรงหัวใจและทำหน้าเหมือนโดนแทงอก

 

 

“เจ็บ” พวกเพื่อน ๆ หัวเราะ เหมียวหลับตาเม้มปากทำหน้าเจ็บปวดหัวใจ

 

 

“ก็วันนั้นเขาขอหินไปอีกก้อนด้วยนะ พอถาม เขาก็บอกว่าเอาไปให้คนรู้จักที่ชอบสะสมหินพวกนี้” เหมียวทำปากยื่น ย่นหน้าย่นคิ้วอย่างปวดร้าว

 

 

พอสองทุ่มกว่า ๆ วิคเตอร์ก็ยกเค้กมินเนี่ยนที่ปักเทียนเลขหนึ่งออกมา ทุกคนร่วมกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์ให้แฝดที่เราจับไปนั่งบนม้านั่งคู่กัน สองหนุ่มมองคุณพ่อตาแป๋ว พวกเพื่อน ๆ ผมจุดไฟเย็นเป็นแบ็คกราวด์อยู่หลังวิคเตอร์ ตอนที่เขานั่งลงแฝดก็ยิ้มกว้างและปรบมือแปะๆ

 

 

“แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูแฝดดดด” เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากพวกเราร้องเพลงจบ แฝดนั่งมองเปลวเทียนด้วยความสนใจ แฮคเตอร์ยื่นมือทำท่าจะไปจับเปลวเทียน ผมรีบคว้ามือเขาไว้ทันที

 

 

“เป่าปู้ดเลยลูก เป่าครับเป่า ปู้ดๆ” พ่อผมทำท่าเป่าให้ดู ทั้งสองคนยังคงนั่งมองเค้กและเทียนแบบฉงนปนอยากรู้ สักพักเฮคเตอร์ก็ทำเอาทุกคนหัวเราะเสียงดัง

 

 

“ปุด!” เขาพยายามทำเหมือนที่คุณตาสอน แต่กลายเป็นว่าลมออกมานิดเดียว แล้วก็เหมือนเสียงลมตดมากกว่าเสียงเป่าปาก

 

 

“ฟู่วววว เป่าลมออกมาค่ะหลานป้า” เก้าส่งเสียงเอาใจช่วย แล้วทุกคนก็ต้องร้องตกใจเมื่อแฮคเตอร์เอาหน้าทิ่มลงไปในเค้ก

 

 

“ว้าย เป่าค่าลูก ไม่ใช่ปักหน้าลงไป” เหมียวพูด ทุกคนขำกันใหญ่ ผมดึงแฮคเตอร์ขึ้นมา หน้ามิชลินเบอร์สองเปื้อนเค้กเป็นหย่อม ๆ เขาหันมามองผม พอเห็นว่าผมหัวเราะอยู่ก็เลยยิ้มแฮ่

 

 

“อุ๊ยนั่น อีกคนแล้ว” ผมเลื่อนสายตาไปมองตามที่แม่ชี้ เฮคเตอร์ปักหน้าตัวเองลงเค้กอีกฝั่ง วิคเตอร์ดันตัวลูกออก เขามองหน้าพ่อตาแป๋ว แล้วสักพักก็ยิ้มขำให้วิคเตอร์

 

 

“เอ้า ถือว่าเป่าแล้วละกัน” วิคเตอร์สรุปความแล้วเป่าเค้กดับแทนแฝด ทุกคนส่งเสียงร้องเฮและปรบมือ แฝดกวาดตามองทุกคน แล้วก็หันมามองผมก่อนจะคลี่ยิ้มโชว์ซี่ฟันน้อยๆ

 

 

“โอ๊ย มันน่าฟัดแท้ นี่ถ้าอีแคทอยู่มันฟัดหลานเพลิน” เก้าว่าด้วยความมันเขี้ยวในขณะที่ยกมือถือถ่ายรูปสองมินเนี่ยนหน้าเปื้อนเค้ก แม่หยิบทิชชูมาเช็ดเศษเค้กออกจากหน้าหลานจนสะอาดหมดจด ผมพยายามที่จะตัดแบ่งเค้กให้ทุกคน แต่เค้กแข็งแรงมาก เลยเปลี่ยนเป็นยื่นช้อนให้ทุกคนเป็นอาวุธในการตักเค้กไอติมกิน ผมตักใส่ถ้วยเล็ก ๆ หนึ่งใบแล้วแบ่งมาให้แฝด ผมจับเขาขึ้นนั่งตักคนละฝั่ง วิคเตอร์ดึงถ้วยไอติมไปถือไว้ในมือ เขานั่งยอง ๆ ป้อนเค้กไอติมให้สองแฝด

 

 

“Bless them, Victor. (อวยพรลูกหน่อยสิวิคเตอร์)” ไอ้ยักษ์มองแฝดที่เคี้ยวไอติมแก้มอูมสักพัก ก่อนจะเปิดปากอวยพรแฝดแบบสั้นๆ

 

 

 “Happy first birthday, piggy. (สุขสันต์วันเกิดปีแรก ไอ้ลูกหมู)” เขาใช้มือซ้ายขยี้หัวลูกทั้งสองคนเบา ๆ แฝดเอาแต่นั่งมองไอติม ผมคลี่ยิ้ม ก้มลงหอมหัวทั้งสองคน

 

 

“Be a good boy, my twins. (เป็นเด็กดีนะ แฝดของแมท)”

 

 

และขอบคุณนะไวโอล่า กับของขวัญชิ้นใหญ่สองชิ้นนี้ ใหญ่ในทีนี้คือใหญ่จริงๆ ฮ่าๆ

 

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


               
แถมตอนพิเศษหนึ่งตอนจากในหนังสือเป็นการส่งท้ายให้กับเรื่องนี้ค่ะ   สำหรับภาคพิเศษของแฝดที่มีคนอยากอ่าน คือจริง ๆ มันมีในเล่มต่ออีกนิดอีกหน่อยค่ะ แต่ถ้าจะเอามาขยายเป็นเรื่องราวจนน้องโต ณ วันนี้ ตอมยังไม่มีแพลนจะเขียนเรื่องของน้อง ๆ ทั้งสองคน อันนี้ ณ ตอนนี้นะคะ คือเหมือนตอมใช้พลังกับเรื่องนี้ไปเต็มที่แล้ว ตอนนี้เลยฟีลว่าอยากพักจากเรื่องนี้ก่อน แต่ในอนาคตอันใกล้หรืออันไกลหน่อย อาจจะปิ๊งไอเดียหรือหาทางขยายเรื่องราวแฝดมิชลินได้ ก็น่าจะกลับมาเขียนให้ได้อ่านกัน แต่ตอนนี้คือว่างเปล่า 55555 อีกอย่าง ช่วงนี้คุ้นเคยกับพี่ไบรอั้นและน้องไอติมแล้วด้วย เลยไปขลุกอยู่กับทางนั้นมากกว่าน่ะค่ะ ถ้าใครตามตอมกันมา จะรู้ว่าตอมเขียนได้ทีละเรื่อง  ซึ่งพอเรื่องนี้จบ ตอมก็เลยได้ไปทางนั้นเต็มที่ ทีนี้คุ้นเคยกับเรื่องและตัวละครแล้ว เรื่องนี้ก็คือพักผ่อน มิชลินของแม่แมทกับพ่อเตอร์ก็ค่าตัวแพ้งแพง พ่อมันคิดเรทสูงมาก สู้ไม่ไหว

               ขอให้มีความสุขกับครอบครัวสามเตอร์และแม่แมทนะคะ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้

               สุขสันต์วันเกิดนะแฝด ของขวัญล้ำค่าของพ่อเตอร์แม่แมท

               

               

               แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด