:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 808457 ครั้ง)

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.30 100% :22.05.61:
«ตอบ #2310 เมื่อ22-05-2018 20:23:27 »

 :pig4:
  อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ..รู้สึกว่าแมทโตขึ้นมากจริงๆ ..ก็นะ มีปั๊วแล้วมั้ย
 ในขณะที่ อิยักษ์ก็ง๊องแง๊งงง น่ารักไปเรื่อย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.30 100% :22.05.61:
«ตอบ #2311 เมื่อ22-05-2018 21:03:39 »

พ่อแฝด เจอครั้งหน้า ตายยยยยยยย  :m16:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.30 100% :22.05.61:
«ตอบ #2312 เมื่อ22-05-2018 21:13:38 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.30 100% :22.05.61:
«ตอบ #2313 เมื่อ22-05-2018 21:35:36 »

แฟนสภาพขี้ยาขนาดนั้น กลับไปก็ไม่เจริญหรอก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.30 100% :22.05.61:
«ตอบ #2314 เมื่อ22-05-2018 21:56:34 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ LAFIA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.30 100% :22.05.61:
«ตอบ #2315 เมื่อ23-05-2018 00:53:20 »

ตอนนี้ไอยักษ์หล่อมากกกกก ชอบที่แกดูสุขุมขึ้นนะ มานิ่งๆโหดๆ สยบทุกความเคลื่อนไหว :o8:
อย่าไปดิ้นตามคำด่า มันจะได้ใจ ทำถูกกันแล้วล่ะ
แต่อีกใจก็อยากจะบินไปตบอี2หัวขวดนั่นให้หน้าสะบัด เห้อ  :m16:
สู้ๆนะวี  :hao5:  สู้ๆนะขุ่นเจ้  :man1:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.30 100% :22.05.61:
«ตอบ #2316 เมื่อ23-05-2018 14:01:17 »

ทำไมรู้สึกอิยักษ์ดูน่ารักขึ้นเพิ่มขึ้นตั้งแต่แฝดมา 555555555

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2317 เมื่อ01-06-2018 23:30:14 »


Yours and Mine EP.31 :: It could be and it could not be. (เป็นไปได้และไม่ได้) [100%]


   

ไอ้ประโยคที่บอกว่า ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้บ้าง มันคือประโยคอมตะนิรันดร์การอย่างแท้จริง คาดการณ์หรือระแวงอะไรไปล่วงหน้า ทู้กถูก ถูกยิ่งกว่าของเซลล์ช่วงปลายปีต้นปีซะอีก

           

 

มีคนถ่ายคลิปเหตุการณ์ที่ตลาดนอทติ้งฮิลล์เอาไว้ แต่บุญกุศลยังพอมีเลยช่วยให้คลิปนั้นไม่ใช่คลิปเต็มทั้งหมด และเป็นคลิปที่ถ่ายจากมุมข้างไกลๆ ที่ซูมเข้าไปแบบชัดเจนจนอยากไปถามเจ้าของโทรศัพท์ว่าใช้รุ่นอะไรเหรอ

           

 

“ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะไม่มีหรอก เหตุการณ์โดดเด่นซะขนาดนั้น แต่พอมันมีจริงๆ มันก็เป็นกังวลอ่า” ผมคุยกับวิคเตอร์พลางตักฮอทดอกใส่จานให้เขา เรากำลังนั่งกินอาหารกันอยู่ในครัวบนโต๊ะหินอ่อนกันสองคน ทอดไข่ดาว ทอดฮอทดอก ปิ้งหมู ปิ้งเนื้อกันสดๆ สุกๆ บนโต๊ะนี่แหละ

           

 

“ในคลิปเราไม่ได้ทำอะไรไม่ดี” วิคเตอร์ว่าสบายๆ พลางจิบไวน์แดงตามชิ้นเนื้อที่เพิ่งจิ้มเข้าปากไป มันก็จริงอย่างที่เขาว่า คลิปมันเริ่มตั้งแต่ตอนวิคเตอร์มองหน้าคริสเตียนคล้ายว่าจะหาเรื่องแต่สุดท้ายก็หมุนตัวเดินข้ามถนนข้ามกลับไปอีกฝั่งพร้อมไวโอล่า แล้วก็เป็นเหตุการณ์หลังจากนั้นจนกระทั่งรถเราแล่นออกไปจากหน้าร้านขายหมวก

           

 

“แต่ในคลิปก็เห็นชัดอยู่นะว่าเป็นคุณ…” ผมเคี้ยวไข่ดาวช้าๆ มองหน้าวิคเตอร์ที่นิ่งเฉยและสายตาก็มองชิ้นเนื้อในกระทะย่างอยู่

           

 

“…มันจะไม่กระทบกับงานคุณเหรอ” ไอ้ยักษ์ขมวดคิ้วนิดๆ

           

 

“แล้วมันจะกระทบยังไง ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

           

 

“มันก็เหมือนเป็นการบอกกลายๆ ว่าคุณ เอ่อ มีผม”

           

 

“ก็ใช่ไง ฉันมีนาย” วิคเตอร์ทำหน้างงๆ พลางจิ้มฮอทดอกเข้าปาก  ผมดึงที่ดูดควันลงมา กดค้างไว้เหนือกระทะย่าง

           

 

“แต่คลิปนั้นมันบอกชัดเจนขึ้น แล้วผมว่ามันอาจจะส่งผลถึงหน้าที่การงานคุณรึเปล่า”

           

 

“ฉันมีนายเป็นเมียนะ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้ก่อการร้าย ไม่ได้ไปคุกคามทางเพศใคร มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเลยแมท แล้ววงการบันเทิงก็ไม่ได้ใจแคบด้วย…” วิคเตอร์เคี้ยวฮอทดอกหงับๆ ยกไวน์ขึ้นจิบตามต่อก่อนจะยักไหล่ขวาหนึ่งที

           

 

“…แต่ถ้าจะมีคนใจแคบปนอยู่ด้วย ฉันก็แค่ไม่ไปยุ่งกับคนพวกนั้น และคนพวกนั้นก็คงไม่คิดมายุ่งกับฉัน” ผมปล่อยที่ดูดควันขึ้นไปไว้ด้านบนตามเดิม บุ้ยปากไปซ้ายทีขวาทีก่อนพ่นลมหายใจเบาๆ

           

 

คิดได้อย่างวิคเตอร์ก็สบายใจดี

           

 

“อย่าไปกังวลเลยน่า ไม่มีงาน แต่ยังมีมรดกของย่า หมดตัวเมื่อไหร่ก็ไปเกาะตาแก่กับแม่นายที่ไทยกินกันก็ได้” ผมทำปากยื่นแล้วกลอกตา วิคเตอร์หัวเราะเบาๆ

           

 

มันยังไม่มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นหรอก เพราะคลิปนั้นเพิ่งเป็นข่าวได้สองวันหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมไม่เข้าไปอ่านคอมเม้น เห็นพวกไอ้แชมป์บอกว่ากระแสชมวิคเตอร์ค่อนข้างมากที่เขานิ่ง ไม่ตอบโต้ ทำตัวตามปกติ ในขณะที่อีกฝั่งดูจะตะเกียกตะกายซะเหลือเกิน ข่าวมันก็บอกชัดเจนแหละว่าคนในคลิปคือวิคเตอร์ ก็มีคนสนใจประเด็นที่ว่าคนพวกนั้นเหยียดเพศวิคเตอร์เพราะเขาเป็นหรือเพราะเห็นข่าวหรือเพราะอะไร แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร ที่วิคเตอร์เฉยใส่คนพวกนั้นคือความฉลาดและความสมาร์ท ยิ่งพวกนั้นดิ้นยิ่งเห็นความต่างของระดับจิตใจ

           

 

เอาแบบเข้าใจง่ายๆ มันก็เหมือนเป็นการเปิดตัวของผมกับวิคเตอร์ที่ชัดขึ้นหลังจากที่ข่าวคลุมเคลือมานาน แต่ก็ยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า วิคเตอร์เป็นแฟนกับไวโอล่ารึเปล่า และแฝดก็เป็นลูกของเขาทั้งสองคน และคนที่ตะโกนด่าอาจจะว่าผมคนเดียวก็ได้อะไรแบบนี้ ก็เป็นไปตามประสาชาวเน็ต

           

 

ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี

           

 

“เซล่าโทรมาหารึยัง”

           

 

“โทรมาละ ก็หลอนๆ เหมือนเคย บอกให้ฉันอยู่นิ่งๆ…” วิคเตอร์กระดกไวน์จนหมดแก้วแล้วหยิบขวดไวน์มาเทเพิ่มจนเกือบเต็มแก้ว

           

 

“…แต่ฉันก็ไม่คิดทำอะไรอยู่แล้ว ทำไมฉันต้องทำ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”

           

 

“แต่มีคนมองว่าผิด” วิคเตอร์ขมวดคิ้ว หน้าตาไม่พอใจเท่าไหร่

           

 

“และนายกำลังคิดผิดที่เอาแต่พูดซ้ำๆ ย้ำๆ ใครมันจะคิดยังไงสนใจทำไมนักหนา นั่นคือปัญหาของพวกมัน ถ้าพวกมันไม่พอใจ ไม่ชอบใจก็เรื่องของมัน ฉันไปขอยืมชีวิตพวกมันใช้รึไง” ผมหน้าบึ้งกับน้ำเสียงหงุดหงิดของเขา

           

 

“ก็รู้แล้วอ้า! ผมแค่เป็นห่วงคุณ ไม่เห็นจะต้องขึ้นเสียงเลย”

           

 

“ขึ้นเสียงอะไร?! ขึ้นเสียงมันต้องแบบนี้!!” ผมตกใจตาโตกับน้ำเสียงเข้มห้าวที่ดังลั่นครัว

           

 

“ไอ้ยักษ์!!!” ผมกระแทกเสียงกลับ วิคเตอร์มองผมตาดุ ผมจิ๊ปาก มองเขาด้วยความงงนิดหน่อยว่าจะอารมณ์ขึ้นทำไม คนเป็นห่วงก็คิดวิตกกลังวลไปเรื่อยสิ

           

 

“อิ่มแล้ว” ผมว่าสั้นๆ ห้วนๆ แล้วลุกขึ้นยืนและหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมากระดกจนหมดเกลี้ยง วิคเตอร์ช้อนตามองผมดุๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร ผมวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะหินอ่อน เดินออกจากห้องครัวด้วยอาการงอน งอนที่เขาเสียงดังใส่ และที่ทำหน้าดุเพราะผมกำลังวิกลจริตกับเรื่องที่เกิดขึ้น

           

 

“อย่ามางอนปัญญาอ่อนนะแมท” เขาพูดเสียงตามหลังมา

           

 

“ไม่ได้ปัญญาอ่อน!” ผมหันกลับไปพูดเร็วๆ ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินหนีไปทางแฟมิลี่รูมอย่างรวดเร็ว พอเปิดประตูเข้ามาในห้องผมก็เปลี่ยนโหมดเป็นสดใสเพราะเห็นแฝดกำลังนอนดูการ์ตูนตาแป๋วอยู่

           

 

“ฮื่อๆ แอร๊ แอออออ้”

           

 

“ทำไมครับๆ” ผมยิ้มล้อสองแฝดที่ดีดดิ้นและยิ้มหวานกันทั้งสองคน สองมิชลินอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวเนื้อนิ่ม ไวโอล่านั่งยิ้มอยู่บนโซฟา สายตามองแฝดนอนตื่นเต้นอยู่บนฟูกนอนที่ได้เจอผม

           

 

“แอะ” เฮคเตอร์มองหน้าผมและยิ้มเหมือนเขิน ผมหัวเราะด้วยความเอ็นดู ก่อนหันไปมองแฮคเตอร์ เจ้าตัวเล็กกำลังกลอกตามองไปมา พอผมยื่นมือไปโบกตรงหน้า เขาก็มองมือผมแล้วยิ้มพร้อมกับหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

           

 

“เพิ่งตื่นได้สักเกือบสิบนาที” ผมเงยหน้ามองไวโอล่าที่ใบหน้ายังคงซีดเซียวและดูอิดโรยทั้งๆ ที่ตอนกลางคืนแฝดก็มานอนกับผมและวิคเตอร์ แต่ทำไมเธอยังดูเหมือนคนนอนน้อย

           

 

“วันนี้คั้นนมได้เยอะมั้ย” เธอส่ายหน้าเบาๆ

           

 

“สองถุงเอง ฉัน…” เธอพ่นลมหายใจแผ่วเบา ใบหน้าตึงเครียด “…แฝดจะแข็งแรงรึเปล่า”

           

 

ผมคลี่ยิ้มก่อนจะตอบเธอ “โอ๊ย ดูตัวสิ อ้วนจนลุงมันว่าเป็นหมูทุกวันเลย”

           

 

ไวโอล่ายิ้มอ่อน มองแฝดด้วยสายตาเป็นห่วงแบบที่สัมผัสได้ชัดเจน “ฉันขอให้แฝดแข็งแรงแล้วก็ปลอดภัย”

           

 

ผมมองหน้าเธอด้วยความไม่แน่ใจ แต่ก็ลองเปิดปากพูด “คริสเตียนเหรอ”

           

 

ไวโอล่านิ่ง ไม่ตอบสนองใดๆ ทั้งสีหน้าหรือคำพูด แต่แววตาเธอก็สลดลง ผมวางมือลงบนพุงของสองมิชลินและเขย่าเบาๆ สองแฝดยิ้มชอบอกชอบใจ

           

 

“นี่ เขาเป็นคนอยากมีลูกจริงเหรอ” ผมอยากถามตั้งแต่กลับมาวันนั้น แต่ด้วยสภาพไวโอล่าก็คิดว่าไม่เหมาะไม่ควร

           

 

“ใช่ เขาอยาก แต่พอมีขึ้นมาจริงๆ เขากลับไม่คิดจะทำหน้าที่พ่อให้ดี ก็อย่างที่เห็น เขาเป็นพ่อใครไม่ได้หรอก…” ไวโอล่าเม้มปาก แววตาสั่นระริก

           

 

“…ฉันไม่อยากให้แฝดมีสภาพแวดล้อมเลวร้าย ฉันเลยขอเลิกกับเขา แต่เขากลับ…” ไวโอล่าหลับตาลงแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ผมชะงักกึก ปล่อยมือออกจากพุงแฝดแล้วก็ลุกขึ้นไปนั่งข้างเธอ ไวโอล่าเช็ดน้ำตาออกจากแก้มแล้วลืมตามองผม

           

 

“…ยังไม่ได้ให้กล่องดนตรีที่เธออยากได้เลย” ถึงจะเหวอนิดหน่อยกับการที่เธอเปลี่ยนเรื่องพูด แต่ก็เข้าใจได้ว่าเธอคงไม่อยากพูดถึงคริสเตียนอีก ผมก็ไม่อยากจะไปจี้หรือกระตุ้นมากเลยปล่อยผ่านแล้วยิ้มเบาๆ

           

 

“ไม่เป็นไรน่า ซื้อวันอื่นก็ได้ ใช่ว่าเราจะไม่เข้าลอนดอนกันอีก ดีไม่ดีแถวบ้านเราอาจจะมีก็ได้นะ” ไวโอล่าพยักหน้ายิ้มๆ ผมคลี่ยิ้มอ่อนโยนตอบ มองเธอด้วยความเป็นห่วง อยากชวนคุยให้เธอระบายออกมาเผื่อจะสบายใจ แต่ก็ไม่อยากขุดให้เธอร้องไห้อีก เลยยื่นมือไปจับมือซ้ายเธอไว้ ไวโอล่ายกมือขวามาวางบนมือผมอีกที

           

 

“อย่าคิดอะไรมาก…” ผมชะงักกึกไปแปบหนึ่งกับคำพูดตัวเองก่อนจะยกยิ้มแล้วพูดต่อ

 

 

“…แฝดเป็นห่วงคุณแม่นะ” ไวโอล่ายิ้มขำน้อยๆ ใบหน้าของเธอดูไม่สดชื่น นี่ถ้าอยู่เมืองไทยต้องโดนทักว่าโดนของแล้วแน่ๆ และอาจมีการพาไปอาบน้ำมนต์ต่างๆ

 

 

RRRRRRR!

 

 

โทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง ผมล้วงหยิบออกมาดูหน้าจอ ก็เห็นเป็นเบอร์ไม่คุ้นตา ผมมองด้วยความระแวงสักแปบก่อนจะกดรับแบบไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่ว่าตัดสินใจถูกต้องหรือเปล่า

 

 

[เฮ้ ฉันอดัมเองนะ] ผมอ้าปากหวอหน้าเหวอด้วยความตกใจเบาๆ

 

 

“อดัมเหรอ?!” ผมถามอีกทีเพื่อความมั่นใจว่าไม่ใช่ใครโทรมาอำกันเล่นๆ ปลายสายหัวเราะเสียงหล่อ ไวโอล่ามองหน้าผมแล้วก็ยิ้มขำกับท่าทางที่ผมกำลังแสดงออก

 

 

[ใช่ ถ้านายหมายถึงอดัมที่เป็นตากล้องน่ะนะ] โอ้วมายก๊อดดด

 

 

ตัดสินใจถูกต้องมากที่รับสายยย

 

 

“ว่าไงครับอดัม โทรหาผมได้ยังไงเนี่ย เอ่อ หมายถึงเอาเบอร์ผมมาจากไหนเหรอ” มาอยู่อังกฤษ ผมก็ต้องมีการเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ ซึ่งหมายเลขนี้มีคนรู้อยู่ประมาณยี่สิบคนเพราะวิคเตอร์ไม่ให้บอกใคร เขาเช็กลิสต์คนที่ควรรู้เบอร์ผมเองกับมือและกับตาตัวเองเรียบร้อย

 

 

[เอมิลี่ให้เบอร์นายมาน่ะ พอดีฉันมีธุระอยากคุยกับนาย] โทรมาบอกรักรึเปล่านะ -.,-

 

 

“มีอะไรเหรอครับ”

 

 

[ฉันเห็นข่าวเรื่องคลิปแล้วนะ คลิปที่กำลังเป็นประเด็นตอนนี้น่ะ] ตอนแรกผมเกือบงงแต่พอเขาขยายความผมเลยเข้าใจ

 

 

“อ๋อ ครับ แล้ว เอ่อ”

 

 

[แล้วฉันก็เกิดไอเดียน่ะ ซึ่งจริงๆ ฉันมีไอเดียนี้มาสักพักแล้ว แต่พอดีมีข่าวนายกับวิคเตอร์ขึ้นมาพอดี ฉันเลยอยากทำให้ไอเดียนี้มันเกิดขึ้นจริงจัง] ผมทำหน้าประหลาดใจ มองแฮคเตอร์ที่เหวี่ยงมือซ้ายไปฟาดหน้าพี่ชายตัวเองแบบไม่ได้ตั้งใจ แล้วเจ้าพี่ชายก็ชะงักกึกหน้าสั่นชวนหัวเราะ ผมกลั้นขำเพื่อไม่ให้อดัมเสียอรรถรสในการพูด

 

 

“ไอเดียอะไรเหรอรับ”

 

 

[ฉันกำลังจะจัดนิทรรศการภาพถ่ายในตีม Love has no boundaries น่ะ] ผมเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นแบบไม่รู้ตัว

 

 

“Love has no boundaries?” ผมทวนชื่อตีมด้วยความสนใจ สายตากำลังมองเฮคเตอร์ที่ยังคงงงๆ กับการโดนตีหน้าเมื่อกี้นี้อยู่ด้วยความตลก

 

 

[ใช่ มันก็เป็นการต่อต้านหน่อยๆ เอ่อ จริงๆ ก็ไม่หน่อยหรอก คือฉันอยากต่อต้านพวกแอนตี้เพศที่สามน่ะ แต่จะให้ไปตะโกนด่าพวกนั้นก็คงจะกลายเป็นประเภทเดียวกันไป ซึ่งฉันก็ไม่อยากถูกจัดรวมอยู่ในกลุ่มนั้นเท่าไหร่…] ผมหัวเราะน้อยๆ เลื่อนสายตาไปมองไวโอล่าที่ใส่หูฟังนอนหลับตาอยู่บนโซฟาสำหรับนอนก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปแบบเบาๆ เลื่อนประตูปิดตามหลังแล้วก็ยืนคุยตรงหน้าห้อง

 

 

 […ฉันเลยอยากถ่ายภาพคู่รักเพศเดียวกันพร้อมกับบทสัมภาษณ์สั้นๆ เป็นการรณรงค์อีกทางและสนับสนุนความรักของพวกนาย ให้พวกนั้นมันเห็นว่าโลกเขามีแต่เดินหน้าไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่แบบชีวิตพวกมัน] ผมยิ้ม คราวนี้ยิ้มด้วยความประทับใจกับความมีน้ำใจของอดัม เขาเป็นขั้วตรงข้ามกับคนอย่างพวกฌอณและเพื่อนคริสเตียน

 

 

“คุณใจดีจังเลยอดัม” ผมชมเขาด้วยความจริงใจไม่ใช่เพราะเสน่หาส่วนตัว

 

 

เอ๊ะ หรือใช่

 

 

อดัมหัวเราะเสียงหล่อน่าจับหอมแก้มก่อนจะว่าต่อ [ฉันไม่ได้คาดหวังว่ามันจะสำเร็จหรอก เพราะบางคนก็อาจจะมีความหยาบคายในชีวิตเกินไปที่เข้าใจอะไรที่มันสวยงาม]

 

 

“แล้วผมต้องทำยังไงบ้างครับ ต้องบินไปหาคุณที่นิวยอร์กมั้ย”

 

 

[โอ้ ไม่ต้องหรอก อยู่ที่อังกฤษนั่นแหละ เดี๋ยวฉันบินไปหาเอง ฉันว่าจะตามหาคู่รักไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านั้นที่ฉันไปเที่ยวมา ฉันก็ถ่ายมาหลายคู่เลย]

 

 

“โอเค คุณจะมาเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกันนะ”

 

 

[ฉันอยากให้นายคุยกับวิคเตอร์ก่อนว่าหมอนั่นโอเครึเปล่า ตอนนี้เอมิลี่ก็น่าจะกำลังโทรไปคุยอยู่ แต่ฉันอยากให้นายสองคนคุยกันด้วยว่าสะดวกที่จะร่วมโปรเจ็คต์นี้จริงๆ มั้ย]

 

 

“ได้ครับ เดี๋ยวผมคุยกับเขาก่อน จริงๆ ก็คงจะต้องคุยกับทีมโฆษกเขาด้วย เพราะทางนั้นก็เคร่งครัดน่าดู”

 

 

[ไม่ต้องกดดันตัวเองนะ ถ้าไม่สะดวกฉันก็เข้าใจ แต่ฉันก็คงเสียดาย เพราะคู่นายฉันอยากให้เป็นไฮไลท์ของนิทรรศการเลย]

 

 

“ผมจะพยายามครับ ขอบคุณมากนะครับอดัม”

 

 

รักนะ อยากแสดงออก แต่ก็กลัวตาย (คาเตียง)

 

 

[มันคงเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ แต่ก็น่าจะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นด้วยความรักของคนที่รักกัน แบบที่ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม]

 

 

ถ้านักแสดงหญิงคนที่ทวีตแขวะวิคเตอร์มองโลกในแบบแคบๆ และใจก็แคบตามการมองโลก อดัมก็คือคนตรงข้ามกับเธอที่ใจกว้าง โลกกว้าง และไหล่กว้างน่าซบ

 

 

อันหลังไม่น่าเกี่ยว…

 

 

“แล้วผมจะติดต่อกลับไปอีกทีนะครับ”

 

 

[ได้ แล้วฉันจะรอคำตอบนะ] เราเซย์กู๊ดบายกันสั้นๆ ก่อนกดวางสาย ผมกระตุกยิ้มด้วยความอบอุ่นหัวใจ อันนี้ไม่ใช่เพราะได้คุยกับอดัมหนุ่มในสเป็กของตัวเอง แต่มันเป็นเพราะได้คุยกับคนที่เขามีทัศนคติที่ดีกับโลกและชีวิต เหมือนเราได้รับพลังบวกมาสู่ชีวิต

 

 

ผมเปิดประตูกลับเข้าไปในห้อง สองแฝดยังคงนอนเล่นกัน ตอนนี้เริ่มมีความพยายามพลิกตัวกันบ้างแล้วทั้งที่ยังไม่ถึงช่วงเดือนที่เด็กควรจะพลิกตัว แต่ก็เป็นแค่พลิกเหมือนหมูกลิ้งมากกว่า พลิกไม่สุดทางไหนสักที ผมยิ้มขำไหลสั่น นั่งลงแล้วหยิบจุกนมในตะกร้าใส่ของแฝดขึ้นมา ดันเข้าปากสองหนุ่มให้ดูดจ๊วบๆ จะได้ไม่ส่งเสียงรบกวนคุณแม่ ดูดเพลินๆ กันสักแปบเดี๋ยวก็หลับ ผมลูบหัวทั้งสองคนพักนึงก่อนยืนขึ้นไปเลื่อนผ้าห่มให้ไวโอล่า แล้วเดินออกจากห้องไปอีกรอบ กะว่าจะไปคุยกับวิคเตอร์ให้จบเรื่องนี้ไปวันนี้เลย

 

 

อย่าไปคิดอะไรมาก

 

 

ผมนึกถึงคำที่ตัวเองบอกกับไวโอล่าในระหว่างเดินตามหาวิคเตอร์ภายในบ้าน มันเป็นคำง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนหรือเข้าใจยาก แต่มันก็เป็นคำที่ผมควรใช้กับตัวเองมากที่สุดและเป็นคำที่วิคเตอร์ใช้บอกผมหลายครั้งแล้วเวลาที่มีคนอื่นมาวิจารณ์ความสัมพันธ์ของเราสองคน

 

 

แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกด้วยความสุภาพแบบนี้นะ

 

 

“ยักษ์” ผมเปล่งเสียงเรียกเขาภายในห้องครัว แต่ก็ไม่มีวี่แวว ของทุกอย่างที่เราใช้ทำมื้อกลางวันกินกันสองคนถูกเอาวางไว้ในอ่างล้างจาน พอเห็นแบบนั้นผมเลยเดินไปทางห้องนอนของเราสองคน ผ่านห้องอ่านหนังสือสุดที่รักของผมก็โผล่หน้าแว้บเข้าไปดูสักหน่อยเผื่อไอ้ยักษ์จะคึกมานั่งอ่านหนังสือ เห็นแบบนั้นไอ้ยักษ์อ่านหนังสือเป็นนะ (เอ๊ะ?) แต่ไม่ใช่หนอนหนังสือหรอก มีอ่านเล่นบ้าง แต่กว่าจะจบคือสามสี่เดือน ขนาดนิยายที่เอามาสร้างหนังที่ตัวเองเล่น เขาก็อ่านด้วยระยะเวลานี้แหละ

 

 

“ไม่อยู่” ผมพึมพำกับตัวเอง แล้วก็เลื่อนประตูไม้สีน้ำตาลปิดเบาๆ ก้าวเท้าวิ่งย่องๆ ไปทางห้องนอน พอถึงประตูห้องนอนผมก็เปิดดันพรวดเข้าไป แล้วก็เจอกับไอ้ยักษ์ผิวเข้มผมยาวกำลังนอนเปลือยดูหนังบนจอทีวีที่ติดอยู่บนผนังห้องเยื้องกับเตียง เป็นหนังที่เขาเล่นเองนั่นแหละ

 

 

“ดูทำไมอะ”

 

 

“ฉันรู้สึกว่าแอคติ้งตัวเองเพี้ยนๆ เลยมาย้อนดูว่าตัวเองเล่นไว้ยังไง” ผมเดินไปหาเขาพลางหันไปมองทีวี เป็นฉากเขากำลังโดนอีกฝั่งไล่ล่าแล้วเขาก็ปล่อยพลังระเบิดตู้ม!!

 

 

“แล้วเพี้ยนมั้ย”

 

 

“ไม่ หล่อดี” ผมบึนปาก มองเขาด้วยความหมั่นไส้ เดินเข้าไปนั่งข้างเขาบนเตียง ยื่นมือขวาไปบีบยักษ์น้อย

 

 

“ปี๊บๆ ฮิๆ คิๆ” ไอ้ยักษ์หันมามองหน้าผมแทนหน้าจอแล้วยกยิ้มมุมปาก ผมปล่อยมือออกจากกลางลำตัวเขา วิคเตอร์ดึงผมให้ขึ้นไปนั่งคร่อมเขาไว้

 

 

“หายงอนแล้วรึไง” ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

 

 

“ไม่ได้งอนสักหน่อย”

 

 

“หึๆ” ผมแกล้งมองจิกไปที ยกมือตีอกเขาเหมือนตีกลองเบาๆ

 

 

“คุยกับเอมิลี่แล้วใช่มั้ย”

 

 

“นายก็คุยกับไอ้อดัมแล้วสิ” ผมทำยิ้มเขินพร้อมกับห่อไหล่ แต่ทำได้แปบเดียวก็ต้องสะดุ้งตกใจเพราะโดนมือซ้ายไอ้ยักษ์ตบเข้ากลางหัว

 

 

“อุ้ย”

 

 

“ฉันตอบตกลงไปแล้ว” ผมเบิกตากว้างและยิ้มดีใจแม้จะยังมึนๆ อยู่

 

 

“จริงเหรอ แล้วเซล่าล่ะ” วิคเตอร์ยักคิ้วหนึ่งที หน้าตาไม่ยินดียินร้ายอะไร

 

 

“เธอไม่สนับสนุนให้เราเปิดเผยความรักกับใครอยู่แล้ว ถามไปก็ได้คำตอบที่นายก็รู้ ฉันเลยไม่ถาม”

 

 

“แล้วเราจะทำโดยไม่บอกเธอน่ะเหรอ”

 

 

“บอก แต่บอกตอนทำเสร็จแล้ว” ผมอ้าปากค้างแว้บหนึ่งก่อนหุบลง เจ๊เซล่าวีนแตกแน่ๆ แต่ครั้งนี้ผมก็ไม่อยากโน้มน้าวให้วิคเตอร์ไปคุยกับเจ๊แกก่อนเลย เพราะผมสนใจโปรเจ็คต์นี้ของอดัมเวรี่มัช ผมอยากทำ ผมว่ามันเป็นการตอบโต้ที่ดูแพงดี

 

 

“แต่ถ้าถ่ายไปแล้ว เรื่องเราก็จะไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไปแล้วนะ” วิคเตอร์มองหน้าผมนิ่งเหมือนกำลังครุ่นคิดสักแปบ

 

 

เขาไม่คิดปิดเรื่องความสัมพันธ์ของเรา แต่เขาก็ไม่อยากเปิดเผยให้มันโจ่งแจ้งเพราะเขาเป็นพวกชอบความเป็นส่วนตัวสูง ผมแค่กลัวว่า ถ้าทำแล้วจะมีความวุ่นวายตามมามั้ย จะมีคนมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเรามากขึ้นรึเปล่า ผมอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่เขาเป็นคนสาธารณะ พบปะสื่อบ่อย อาจจะโดนถามมากมายจนเขารำคาญและรู้สึกว่ามันไม่ส่วนตัว

 

 

“ยังไงคนอื่นก็ไม่รู้เรื่องเราครบยี่สิบสี่ชั่วโมงในแต่ละวันหรอก” ผมเลิกคิ้วเบิกตากว้าง ก่อนจะค่อยๆ กดหน้าลง พอความคิดเข้าที่เข้าทางว่าเขาหมายถึงอะไรก็กดหน้าลงแบบทันที

 

 

“จำคำฉันไว้ เราไม่ได้ทำอะไรผิด คนที่คิดว่าผิดก็เป็นปัญหาชีวิตของมันไป”

 

 

“คุณพูดจาดีมีสาระก็ได้ด้วยเหรอเนี่ย นานๆ ทีจะมีให้ได้ยิน” ผมหัวเราะห่อไหล่ วิคเตอร์กัดริมฝีปากล่าง มองผมตาลุกวาว ผมยิ้มประจบ ดึงมือขวาของเขาที่มีแหวนสีเงินตรงนิ้วนางขึ้นมาจูบจุ๊บๆ หลายที

 

 

“ผมไปเล่นกับแฝดก่อนนะ” เผื่อยังไม่หลับ แต่ดูดจุกนมทีไรก็คล้อยหลับทุกที

 

 

วิคเตอร์เบ้ปากหน้าบึ้ง “ติดมันจังนะไอ้ลูกหมูสองตัวนั้นอะ”

 

 

“เอ้า ก็แฝดน่ารักอะ คุณไม่รักหลานเหรอ…” วิคเตอร์เบ้ปากแรงกว่าเดิม ผมย่นคิ้วทำท่าครุ่นคิด

 

 

“…จะว่าไปคุณอุ้มหลานอยู่สองสามครั้งเองนะ”

 

 

“ไม่อยากอุ้ม กลัวแขนหัก มันอ้วน”

 

 

“น่ารักจะตาย ตัวกลมดุ๊กดิ๊ก” ผมทำท่าโอบกอดตัวเองและทำหน้าฟิน วิคเตอร์เด้งตัวขึ้นมาแล้วกอดผมแน่นพร้อมกับทำเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอ

 

 

“แอ๊! แฮ่ะ! แฮะๆๆๆ” ผมหัวเราะด้วยความจั๊กจี๋ พยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมกอดเขา เพราะวิคเตอร์ใช้เคราถูตามแก้มและลำคอผม เขากดตัวเข้ามาแน่นเลยทำให้ผมดึงมือออกมาสู้ไม่ได้ ผมเลยพยายามหดคอลง เขาก็เอาหนวดถูไปตามหน้าที่เหลือพื้นที่ให้ถู

 

 

“อะ…” ผมหัวเราะแบบไม่มีเสียง มาแต่เสียงลมแบบคนใจจะขาด พยายามหันหน้าหนีแต่ก็หนีไม่พ้น ยืดหน้าหดหน้าคือโดนหมด จนสุดท้ายผมไอออกมาวิคเตอร์เลยยอมหยุด

 

 

“แอ่กๆๆๆ” วิคเตอร์ปล่อยแขนออกจากตัว ปล่อยให้ผมไอโครกจนน้ำตาคลอ ผมยกมือขึ้นตบแก้มขวาเขาหนึ่งทีด้วยความโมโห เขาหลับตาด้วยความตกใจและทำหน้าเหยเกหน่อยๆ

 

 

“ไอ้ห่านี่!”

 

 

“ชมฉันว่าน่ารักเหรอ” เขายิ้มทะเล้น ผมค่อยๆ หยุดไอ ยกสองมือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา ก่อนใช้มือซ้ายผลักหน้าเขาจนหงายหลังไปนอนบนหมอน ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินถอยหลังไปยืนข้างล่างเตียง

 

 

“นี่!” ผมยื่นมือขวาไปบีบไข่เขาเต็มแรง วิคเตอร์หน้าหยีอย่างเจ็บปวด

 

 

“โอ๊ยยยยย!!!!” เขายื่นมือมาจะจับมือผม แต่ผมชักมือออกมาก่อนที่เขาจะคว้ามือผมได้ เขานอนตัวงอกุมเป้า ผมหมุนตัววิ่งหนีออกจากห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เขาร้องครวญครางอยู่ด้านหลัง

 

 

“กลับมานี่ไอ้เอเลี่ยน!!” โวะ! บ้ารึเปล่า ใครจะวิ่งกลับไปให้โดนตี

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2318 เมื่อ01-06-2018 23:30:32 »

V
v
v


ตกดึกศึกสงบ ไม่มีการรบตบตีเกิดขึ้น เพราะช่วงหัวค่ำก่อนแฝดเข้ามานอนด้วยก็กระหน่ำกันจนเตียงแทบพัง ไม่ได้มีอะไรกันนะ ตีกันสองคนอยู่ในห้องด้วยหมอน ตีจนเหนื่อยก็พากันไปอาบน้ำแล้วก็ไปรับแฝดมานอนด้วย ตามเคยว่าวิคเตอร์ไม่อุ้มแฝด ไม่รู้จะขี้เกียจอะไรนักหนา ดีนะมีรถแล้ว เลยจับใส่รถเข็นจากห้องคุณแม่มาห้องนอนตัวเอง

           


“แมทร้องเพลงไม่เป็นนะแฝด”

           

 

“อือ อือ แหะ” แฮคเตอร์ทำปากบุ๋งๆ น่าเอ็นดู ผมยิ้มขำ ยื่นมือไปหยิกแก้มเจ้าตัวอ้วนเบาๆ

           

 

“แออออ๊!!” ผมหันไปมองเฮคเตอร์ที่กำลังย่นคิ้ว สายตามองด้านบนของตัวเอง ผมมองตามสายตาของมิชลินเบอร์หนึ่งก็เจอลุงยักษ์กำลังเกาะคอกมองหน้ามึน

           

 

“ไล่เหรอ นี่เจ้าของบ้านโว้ย” เฮคเตอร์คลายคิ้วแล้วมองหน้าวิคเตอร์ด้วยความสนใจ มืออ้วนป้อมชูขึ้นและกำๆ แบๆ แบบแบบไม่สุด ผมหอมแก้มแฮคเตอร์หนึ่งที ขยับตัวขึ้นนั่งมองหลานคนโตคุยกับลุงยักษ์ผ่านสายตา

           


“ระวังหน้ามึนเหมือนลุงยักษ์นะเฮคเตอร์” วิคเตอร์ยื่นนิ้วชี้ข้างขวาไปให้เฮคเตอร์จับ เจ้าตัวเล็กจับแล้วก็หันหน้ามามองผมเหมือนกำลังจะบอกว่าหนูจับมือลุงยักษ์อยู่ พอผมยิ้มขำ เฮคเตอร์ก็ยิ้มหวานแล้วส่งเสียงร้องอ้อแอ้

           

 

“แออออ้” พอได้ยินพี่ชายส่งเสียงร้อง เจ้าน้องชายก็ส่งเสียงตอบกลับ ผมขยับเฮคเตอร์มานอนใกล้น้องชาย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปกับคลิปเก็บไว้

           

 

“อ๊า น่ารักอ้า” ผมครางเสียงสองเมื่อน้องชายหันไปหาพี่ชายแล้วปากชนแก้มของอีกคนพอดี เป็นโมเม้นต์น่ารักตามจริตและธรรมชาติของเด็กอันไร้การปรุงแต่ง อยากอัปลงโซเชียล แต่ก็รู้สึกเกรงใจไวโอล่า เพราะตอนนี้เธอไม่ลงรูปลูกๆ เลย

           

 

“วิคเตอร์ ถ่ายรูปกับแฝดหน่อยสิ”

           

 

“ไม่”

           

 

“ไม่ถ่าย ไม่จับยักษ์น้อยนะคืนนี้อะ” วิคเตอร์ย่นคิ้วแว้บหนึ่งพร้อมกับจิ๊ปาก ก่อนจะลุกขึ้นปีนเข้ามาในคอกแล้วนอนตะแคงใกล้กับเฮคเตอร์ ผมลุกขึ้นนั่งตัวตรงๆ ตั้งกล้องเป็นแนวนอนแล้วกดถ่ายภาพลุงยักษ์กับหลานๆ ไปหลายภาพ

           

 

“ลุงยักษ์ยิ้มหน่อย” ผมเปลี่ยนเป็นโหมดถ่ายวิดีโอ ไอ้ยักษ์ผมยาวสลวยย่นคิ้วมองมาที่กล้องเหมือนกำลังจ้องหาเรื่อง

           

 

“เรียกลุงเดี๋ยวยึดบัตรเครดิตหรอก” ผมหัวเราะคิกคัก

           

 

“AaaChaaa!”

           

 

“Oh no.” แฮคเตอร์จามตัวสั่น เฮคเตอร์สะดุ้งตกใจเสียงน้องชายจามดังอัชช่า! เลยอุทาน Oh no ออกมาเสียงเล็กๆ เบาๆ น่ารัก สองแฝดหันมองผมตาแป๋วสีหน้างงงวยเหมือนไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ผมหัวเราะลั่นด้วยความขำ วิคเตอร์ยังขำไปด้วย เด็กวัยนี้กับการพูด Oh no นั้นช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน

           

 

“You guys are so cute, piggy twins. (พวกหนูน่ารักมาก แฝดลูกหมู)”

 

 

“นายสอนมันพูดกันเหรอ” ผมสั่นหัวทั้งที่ยังคงขำไม่หยุด

 

 

“สงสัยได้ยินผมพูดบ่อย แล้วคงตกใจเลยพูดออกมาได้” ผมมองสองแฝดที่กำลังทำหน้ามึนเหมือนลุงไม่มีผิด วิคเตอร์ยิ้มขำก้มลงมองสองแฝดที่กำลังมองไปเรื่อยแบบไม่ได้โฟกัสที่ไหน ผมกดให้หน้าจอกล้องมาอยู่ด้านหน้าแล้วถ่ายให้เห็นหน้าตัวเองกับแบ็คกราวด์ยักษ์สามตนด้านหลัง มียักษ์ใหญ่กับยักษ์จิ๋วสองตนนอนพยายามกลิ้งตัวไปมาเบาๆ สักพักวิคเตอร์เงยหน้าขึ้นมองกล้องแบบหน้ามึนๆ ผมแกล้งทำตาโตตกใจแต่ก็ไม่พูดอะไร

           

 

“ต่อยตาแตก” ผมหัวเราะร่วน ลดมือถือลงแล้วก็กดปิดเลิกบันทึกวิดีโอ

           

 

“คุณร้องเพลงเป็นมั้ยอะ แฝดอาจจะนอนรอฟังเพลงอยู่”

           

 

“โอ้ย ร้องไม่เป็นหรอก” ผมทำหน้าบู้ มองแฝดที่ยังนอนตาแป๋ว นมกินแล้ว อึไปแล้ว ตอนนี้กำลังสบายตัวเลย สงสัยต้องใช้จุกนมล่อลวงให้หลับอีกครั้ง

           

 

“งั้นคุณไปนอนก่อน เดี๋ยวพอแฝดหลับผมจะตามไป” วิคเตอร์ไม่ตอบอะไรแต่ดันตัวลุกขึ้นแล้วปีนออกจากคอก เดินอ้อยอิ่งไปที่เตียง ผมเอื้อมมือไปหยิบจุกนมในตะกร้ามาให้แฝดดูดจุ๊บๆ พอจุกนมเข้าปากก็มองผมตาแป๋ว ผมยกมือลูบหัวทั้งสองคน แล้วก็พึมพำทำนองเพลงที่ไวโอล่าชอบร้องให้สองแฝดฟังก่อนนอนเบาๆ แบบที่ไม่ใช่การร้องเพราะพริ้งอะไร แค่จะกล่อมให้แฝดคล้อยหลับบ้างเท่านั้นเอง

 

 

“Sleepyhead, close your eyes, for I'm right beside you…” สองมิชลินหันหน้ามามองผมแล้วนอนนิ่งราวกับจะฟังต่อ ผมคลี่ยิ้มบางเบา เสียงเราคงไม่แย่มากละมั้ง 

 

 

“Lullaby, and sleep tight, my darling sleeping…” สองแฝดมองผมตาแป๋ว ผมคิดว่าพาเขาหลับได้อยู่นะ

 

 

“…On sheets white as cream, with the head full of dreams. Sleepyhead, close your eyes, I'm right beside you…” สองแฝดนิ่งราวกับโดนมนต์สะกด สงสัยจะชอบฟังเพลงนี้ก่อนนอนจริงๆ แต่ด้วยความเป็นเด็กคงยังแยกไม่ค่อยออกละมั้งว่าอันไหนเสียงเพราะอันไหนเสียงพังอย่างผม นึกแล้วก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะขยับปากร้องต่ออย่างเชื่องช้า

 

 

“…Lay thee down, now and rest. May your slumber be blessed…” แล้วผมก็ลืมเนื้อร้อง เลยฮึมฮัมเป็นจังหวะของเพลงแทน สองมือก็ลูบหัวแฝดไปด้วยเบาๆ แล้วก็วนร้องท่อนที่จำได้อีกครั้งนึงแบบช้าๆ ด้วยเสียงกระซิบอีกสองรอบ แฝดก็หลับตาปุ๋ย จุกนมคาปาก ผมยิ้มด้วยความเอ็นดู ค่อยๆ ดึงจุกนมของทั้งสองคนออกเอาไปวางไว้ในตะกร้า จัดการขยับร่างตัวอ้วนป้อมทั้งสองร่างนอนบนหมอนใครหมอนมัน ก่อนจะปีนออกจากคอกอย่างเงียบเชียบ

 

 

ผมเดินไปปิดไฟในห้องนอน เหลือแต่ไฟในเตาผิงให้ความสว่างในโทนอบอุ่น ยิ่งห้องนอนเป็นหินสีน้ำผึ้งยิ่งเข้ากัน ผมเดินไปที่เตียงไม้สีน้ำตาลเก่าแก่แต่ราคาไม่ได้เก่าตาม เป็นเตียงไม้ที่แข็งแรงมาก วัดได้จากเวลามีอะไรกันบนเตียง สงบนิ่ง ไม่ไหวติง แข็งแรงสุดอะไรสุด ผมดึงผ้านวมสีขาวขึ้น กำลังจะสอดตัวเข้าไปนอน แต่รู้สึกได้ว่าตัวเองปวดฉี่ เลยหมุนตัวเดินไปเข้าห้องน้ำก่อน

 

 

ตึก!

 

 

หัวใจผมกระตุกวาบเมื่อคิดว่าตัวเองได้ยินเสียงเหมือนของหนักหล่นลงพื้นอย่างแรง ผมชะงักมือที่กำลังจะกดชักโครก รอฟังว่าจะมีเสียงอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ พอเสียงเงียบลงผมก็กดชักโครกแล้วรีบวิ่งออกไป แต่ก็วิ่งไปแบบย่องเบากันแฝดตื่นขึ้นมา

 

 

“วิคเตอร์… วิคเตอร์…” ผมกระซิบข้างหูเจ้าของชื่อพร้อมกับเขย่า เขาลืมตาขึ้นมองแบบงงๆ

 

 

“อะไร”

 

 

“ชู่…” ผมยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก หัวใจยังคงเต้นตึกตัก

 

 

“…ผมคิดว่ามีคนเข้ามาในบ้านเราอีกแล้ว” วิคเตอร์นิ่งเงียบ ดันตัวลุกขึ้นช้าๆ เขาไม่ถามผมซ้ำ แต่หันไปหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะข้างหัวเตียงฝั่งเขาขึ้นมา ผมเห็นว่าเขากำลังกดโทรหาออสติน ฝ่ายนั้นตัดสายทิ้งเหมือนกับรู้

 

 

“ล็อคห้องให้ดี” ผมพยักหน้า วิคเตอร์ลงจากเตียงเดินผ่านคอกนอนแฝดไปที่ประตู เปิดออกไปอย่างเงียบๆ ผมลุกตามไปใส่กลอนด้วยอาการใจเต้นตุ้มต่อม ไม่มีกะจิตกะใจจะนอนเลยทีนี้ เลยเลือกจะเดินวนอยู่บริเวณประตู เดินวนอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งผมเห็นแสงไฟลอดเข้ามาจากใต้ประตูผมจึงหยุดนิ่งด้วยอาการใจเต้น ผมเดินไปดูแฝดก่อนว่าสะดุ้งตื่นขึ้นมารึเปล่า แต่สองหนุ่มก็หลับปุ๋ยสบายกายดี

 

 

ก๊อกๆ

 

 

เสียงประตูถูกเคาะเบาๆ ผมมองประตูด้วยความไม่แน่ใจ ครึ่งนึงคิดว่าวิคเตอร์แหละ อีกครึ่งก็คิดว่าวิคเตอร์ถูกใครบังคับให้มาเคาะประตูเรียกรึเปล่า ผมหันซ้ายหันขวาสักแปบ ก่อนเดินไปหยิบไม้ฟืนหนึ่งอันที่จับถนัดมือมาจากตะกร้าใส่ฟืน แล้วเดินกลับไปที่ประตู ตั้งสติว่าถ้าเห็นใครถือปืนหรือมีดจี้วิคเตอร์อยู่ ฟาดหัวมันให้แบะอย่ายั้งมือ พอรวบรวมความกล้าได้ ผมก็ดึงกลอนออกแล้วดึงประตูเข้ามา ใบหน้านิ่งของวิคเตอร์ปรากฎอยู่ตรงหน้า ผมมองเขาด้วยความรู้สึกตื่นๆ จนเขาทำหน้างง

 

 

“เป็นอะไร” ผมยื่นหน้าออกไปมองซ้ายมองขวาแต่ว่าไม่เห็นใครอื่นอีก

 

 

“ไม่ได้มีใครบังคับคุณอยู่ใช่มั้ย” วิคเตอร์มองหน้าผมประมาณว่าอะไรของมึงก่อนจะสั่นหัว

 

 

“เอากุญแจห้องออกมา ล็อคห้องให้เรียบร้อย” ถึงจะยังงงๆ อยู่แต่ผมก็หยิบกุญแจห้องนอนที่แขวนอยู่ข้างประตูมาใส่กระเป๋ากางเกง วางไม้ฟืนไว้บนหลังตู้โชว์ เดินออกไปนอกห้องแล้วปิดประตูตามหลังเบาๆ

 

 

ผมเดินตามวิคเตอร์ไปทางห้องโถงใหญ่ตรงกลางบ้าน ผมเห็นไวโอล่ายืนร้องไห้ก็ตกใจ พอเลื่อนสายตาไปมองบนพื้นห้องโถงผมก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจกว่าเดิม

 

 

“คริสเตียน…” ใบหน้าตอบซูบผอมและโทรมหันมามองผมนิ่ง ออสตินยืนคุมเชิงอยู่ตรงเตาผิง คริสเตียนนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น หน้าตาไร้อารมณ์ใดๆ

 

 

“…ทำไมเขามาอยู่นี่”

 

 

“เงาที่นายเห็นตอนนั้น คือไอ้คริสเตียน” ผมเบิกตากว้างตะลึง มองคริสเตียนด้วยความงง หันไปมองไวโอล่า เธอก็กำลังน้ำตาไหลพราก

 

 

“ออสติน โทรหาตำรวจ” ผมหน้าตื่นตกใจ ไวโอล่าเดินเข้ามาหาพี่ชาย

 

 

“พี่ อย่า ฉันขอร้อง ปล่อยคริสเตียนไป…” ไวโอล่ามองด้วยสายตาอ้อนวอน วิคเตอร์มองตอบนิ่ง ไวโอล่ามีสีหน้าอึดอัดเหมือนไม่อยากพูด แต่สุดท้ายก็พูดออกมาเพราะโดนสายตานิ่งของพี่ชายมองอย่างกดดัน

 

 

“…เขาแค่อยากมาหาลูก”

 

 

“และเธอก็ยังติดต่อกับมันอยู่ตลอดใช่มั้ย” ไวโอล่าเม้มปาก น้ำตาคลอมองพี่ชายด้วยสายตาหวาดกลัว แม้วิคเตอร์จะไม่ได้ทำหน้าดุหรือหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่การที่เขามีสีหน้าเรียบเฉยมันอาจจะสร้างความกดดันให้ไวโอล่าได้

 

 

“ไม่ตลอด… แต่ก็…” เธอพูดติดๆ ขัดๆ น้ำตาหยดลงบนแก้ม ผมเริ่มพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมช่วงนี้เธอดูอิดโรย ดูเหนื่อยๆ

 

 

“…คริสเตียนอยากเจอลูก แต่ฉันไม่อยากและ…” ไวโอล่าสะอื้น ผมมองเธอด้วยความเห็นใจ วิคเตอร์ยังคงมองน้องตัวเองนิ่ง

 

 

“…อยากให้เขาเจอ”

 

 

ฉันไม่อยากให้ลูกมีสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย

 

 

เสียงของเธอดังก้องอยู่ในหัวของผม ต่อให้เธอจะมองโลกในแง่ดีขนาดไหน เป็นคนเข้มแข็งยังไง แต่เรื่องหัวใจมันก็คงไม่ง่ายนักที่จะตัดคนที่เรารักทิ้ง ผมไม่รู้ว่าไวโอล่ารักคริสเตียนมากจนเป็นแบบนี้ หรือเพราะสงสารเขาที่อยากเจอลูกจนต้องแอบเข้ามาหา หรือจะเพราะอย่างอื่นผมก็ไม่อาจจะรู้ได้

 

 

“วี มันติดยา ค้ายา และตอนนี้มันมีแก๊งอันธพาลของมัน ทำงานผิดกฎหมาย มีนายจ้างเส้นใหญ่ เธออยากให้ผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของลูกเธอเหรอ” ไวโอล่าส่ายหน้า สีหน้าของเธอเจ็บปวด ผมว่าเธอคงขัดแย้งกับตัวเองจนแทบจะจิตตกแล้วมั้ง

 

 

“เขาบอกว่าแค่อยากอุ้มลูก” ไวโอล่าน้ำตาไหล ผมน้ำตาคลอตามไปด้วย ผมเลื่อนสายตามองคริสเตียนที่นั่งเงียบ ผมมองใบหน้าซูบโทรมของเขาและยังคงตั้งคำถามเหมือนเดิมว่าผู้ชายคนนี้อยากมีลูกจริงๆ เหรอ

 

 

แต่พอได้ยินคำว่า แค่อยากอุ้มลูก ผมรู้สึกใจอ่อนแทนไวโอล่าเลย

 

 

“วิคเตอร์ เป็นไปได้มั้ยที่จะให้เขาอยู่นี่ก่อน รอตอนเช้าให้แฝดตื่นแล้วค่อยให้พวกเขาพบกัน” วิคเตอร์หันมามองผมนิ่ง ผมพยักหน้ายืนยันด้วยความรู้สึกเศร้าในอก ยิ่งมองไวโอล่าที่กำลังร้องไห้เงียบๆ ก็ยิ่งรู้สึกเศร้า

 

 

“แกมาคนเดียวใช่มั้ย” วิคเตอร์ก้มลงถามคริสเตียน

 

 

“เพื่อนฉันมาส่ง แต่ป่านนี้คงเผ่นไปแล้ว” คริสเตียนตอบอย่างเรื่อยเปื่อย วิคเตอร์ขบกรามแน่นก่อนเงยหน้าขึ้นมองออสติน

 

 

“ออสติน เฝ้ามันไว้” ผมคลี่ยิ้มด้วยความดีใจ ไวโอล่ายิ้มทั้งน้ำตาแล้วโผกอดพี่ชาย ผมไม่รู้ว่ามันจะช่วยไวโอล่าได้มั้ย แต่ถ้ามันปลดความสับสนและความขัดแย้งในใจเธอได้ก็น่าจะลองดู ถ้าเธอเห็นภาพคริสเตียนกอดเด็กๆ แล้วเธออาจจะสบายใจมากขึ้น ไม่คิดว้าวุ่นไปมาจนสภาพย่ำแย่แบบนี้

 

 

“พี่คงปล่อยให้เธอนอนกับมันสองต่อสองไม่ได้ ไม่อยากให้ไอ้แฝดลูกหมูมีน้องตอนนี้” ไวโอล่าหัวเราะน้ำตาไหล ผมขำน้ำตาคลอ ไวโอล่าพยักหน้าเร็วๆ ก่อนจะก้มลงนั่งตรงหน้าคริสเตียน ทั้งสองคนมองหน้ากัน ดวงตาสีเทากับสีฟ้าประสานกันสักพักก่อนที่ไวโอล่าจะคลี่ยิ้ม คริสเตียนกระตุกยิ้มเพียงเล็กน้อย ไวโอล่ายื่นมือซ้ายไปจับมือขวาคริสเตียนไว้

 

 

“นอนที่นี่ก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยเจอลูกนะ” คริสเตียนพยักหน้า ไวโอล่ายื่นหน้าไปจูบหน้าผากคริสเตียนหนึ่งที ผมน้ำตาร่วงกับภาพที่เห็น มันทั้งซาบซึ้งใจ ดีใจและเศร้าใจไปกับทั้งสองคน

 

 

ไม่ใช่แค่วิคเตอร์หรอกที่ไม่อยากให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ตัวไวโอล่าเองก็ต้องใจแข็งตัดคริสเตียนออกไปจากชีวิตให้ได้เพื่อลูก

 

 

“นอนที่ห้องโถงนี่แหละ ฝากด้วยนะออสติน” พ่อบอดี้การ์ดพยักหน้า วิคเตอร์หันมาพยักหน้าให้ผมเดินตามเขาไป ผมมองไวโอล่ากับคริสเตียนนั่งคุยกันสักแปบก่อนที่จะเดินตามวิคเตอร์กลับไปทางห้องนอน

 

 

“เตอร์ของแมทใจดีที่สุด” คนใจดีที่ผมชมกลอกตาหน้าเซ็งๆ ผมยิ้มกว้าง เข้าไปควงแขนขวาของเขาแล้วเดินกลับไปทางห้องนอนพร้อมกัน

 

 

ไอ้ยักษ์ขี้โมโหคนนั้นหายสาบสูญไปแล้ว…

 

 

…หายไปกับคนอื่นนะ แต่กับผม… เหมือนเดิม

 

 

           

 

 

เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


               แว้บมาอัปอีกวัน ต้องไปจมกองหนังสือต่อแล้นค่ะ แต่ก็ใกล้จะเสร็จแล้ววว ยงไงฝากคนอ่านเม้าท์กันอีกสักตอนสองตอนเนาะ เดี๋ยวมาเม้าท์โด้ยยย ขอบคุณมากๆ ลเยนะคะสำหรับคอมเม้น จะมากจะน้อยแค่ก็ขอบคุณคนที่เม้นให้มากๆ ค่ะ เป็นกำลังใจดีๆ ของคนเขียนในยามนี้จริงๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2319 เมื่อ02-06-2018 00:04:16 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ยักษ์ใจดี ยกเว้นกะแมท 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
« ตอบ #2319 เมื่อ: 02-06-2018 00:04:16 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2320 เมื่อ02-06-2018 00:48:14 »

 :pig4:
 เหมือนๆจะแฮปปี้ ก็ดันมีอุปสรรค
 หวังว่าพ่อของหมูแฝดคงไม่เพิ่มความยุ่งยากวุ่นวายให้ยักษ์กะเอเลี่ยนนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2321 เมื่อ02-06-2018 02:24:52 »

ตกใจอ่ะ ยักษ์ขึ้นเสียงใส่เอเลี่ยนด้วย  o22

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2322 เมื่อ02-06-2018 02:47:24 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2323 เมื่อ02-06-2018 03:29:23 »

สับสนไปกับไวโอล่าด้วยเลย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2324 เมื่อ02-06-2018 06:38:49 »

วีต้องตัดใจนะ ค้ายา ติดยา เป็นพ่อที่ดีของลูกไม่ได้หรอก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2325 เมื่อ02-06-2018 10:02:35 »

 :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2326 เมื่อ02-06-2018 10:10:55 »

ไวโอร่า สู้ๆ ผ่านไปให้ได้
ยักษ์ใหญ่ใจดี บรรยากาศรอบๆ ตัวของเตอร์เปลี่ยนไปเยอะจากภาคแรกๆ ดูเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่วมเงาคนรอบข้างได้แล้ว

ออฟไลน์ Pinkping

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2327 เมื่อ02-06-2018 13:44:28 »

  หนังสือยังสั่งได้ไหมคะ อยากได้อ่า

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2328 เมื่อ02-06-2018 23:12:21 »

นึกว่าจะมีเรื่องซะแล้ว ค่อยนังชั่วใจหายใจคว่ำหมดเลน

ออฟไลน์ Wipers

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2329 เมื่อ03-06-2018 15:02:17 »

  :sad11: :เฮ้อ: :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
« ตอบ #2329 เมื่อ: 03-06-2018 15:02:17 »





ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.31 100% :01.06.61:
«ตอบ #2330 เมื่อ05-06-2018 08:12:50 »

อิเตอร์ใจดีมากกกกกกกกกก ใจดีกับคนอื่นก็เป็นเนาะ :z2:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2331 เมื่อ07-06-2018 23:04:11 »



Yours and Mine EP.32 :: Instinct. (สัญชาตญาณ) [100%]




 เช้าวันถัดมาผมตื่นก่อนวิคเตอร์เช่นเคยเพราะต้องมาดูแฝด แล้วก็เป็นเหมือนในแทบทุกเช้าที่จะเจอสองแฝดนอนตาแป๋วรออยู่ก่อนแล้ว ก็จะมีบางวันที่ผมต้องปลุกสองหนุ่ม แต่ส่วนมากตื่นมารอก่อนทั้งนั้นแหละ ผมยิ้มหยอกล้อกับทั้งสองคนสักแปบ ให้ได้ส่งเสียงอ้อแอ้ทักทายกันสักนิดสักหน่อย

           

 

“แอ แอ / แอออ๊ ฮื่อๆๆ” ผมหัวเราะตอนที่เฮคเตอร์บิดตัวเข้าหาน้องชายแล้วยิ้มเขิน ผมยื่นมือไปเกลี่ยแก้มยุ้ยสีแดงระเรื่อของสองหนุ่ม

           

 

“อ๊า แอออ๊ะ!”

           

 

“หนูเขินเหรอคับบบ” ผมยิ้มล้อ สองหนุ่มดีดแขนดีดขาเหมือนกำลังครึกครื้น ซึ่งตอนนี้น่าจะนอนทับอึกันอยู่

           

 

“เฮ้ย เสียงดังรบกวนคนอื่นทำไมวะ” สองแฝดชะงักหยุดนิ่ง สายตาเลื่อนไปเลื่อนมาแบบไม่มีโฟกัส ผมหันไปมองไอ้ยักษ์ที่นั่งอยู่บนเตียงหน้าตาสลึมสลือแล้วหันกลับมายิ้มขำกับแฝดที่ยังคงวนลูกตามองหาต้นตอของเสียงไปเรื่อย

           

 

“ยักษ์มาๆ แฝดสู้ยักษ์เร็ว” ผมกระซิบบอก หางตาเห็นไอ้ยักษ์ลุกออกจากเตียงเดินมายืนเกาะขอบคอกกันกระแทก

           

 

“ทำหน้าที่แทนนกเหรอฮะ” สองแฝดกะพริบตาปริบๆ สายตาจ้องมองไปทางวิคเตอร์ แต่ไม่แน่ใจว่าโฟกัสที่ลุงตัวเองหรือเปล่า หรือมองผ่านเลยไป แต่ผมคิดว่าเด็กสามเดือนน่าจะเริ่มมองเห็นอะไรชัดแล้วนะ

           

 

“อะ ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว ช่วยผมทำความสะอาดให้แฝดหน่อย” แน่นอนว่าไอ้ยักษ์สั่นหัวรัวๆ ทันที ผมเบิกตากว้าง ไอ้ยักษ์ตีหน้ามึนแล้วเดินกลับไปที่เตียง ทิ้งตัวลงนอนบนนั้นนิ่งๆ แล้วก็เงียบหายไปเลย

           

 

ดีนะที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้น้ำใจจากเขามาก

           

 

ผมไม่คิดไปวอแวให้เขามาช่วย จัดการพาแฝดเข้าห้องน้ำเองและทำความสะอาดให้สองหนุ่มด้วยตัวเองเหมือนที่เคยทำ วันนี้แต่งตัวด้วยกางเกงขายาวสีฟ้า เสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อของสองหนุ่ม แล้วก็ห่อตัวด้วยผ่าห่มเพิ่มความอุ่น พอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็อุ้มทั้งสองคนใส่รถเข็นประจำตัว ปล่อยให้ไอ้ลุงยักษ์นอนอืดต่อไป

           

 

“อูอูอู~” แฝดส่งเสียงร้องอื้ออึงตอนที่เข็นทั้งสองคนเข้ามาในครัว ราวกับรู้ว่ากำลังจะได้กินนมของคุณแม่ ผมก็พยายามสลับทั้งนมแม่นมผงที่คุณหมอแนะนำ เพื่อที่จะได้แบ่งเบาภาระน้ำนมคุณแม่ลงบ้าง ซึ่งตอนนี้ครบสามเดือนแล้ว ลุ้นกันอยู่ว่าน้ำนมไวโอล่าจะมีต่อหรือไม่ คือแฝดก็กินนมผงได้นะ แต่ผมรู้สึกว่าเขาชอบนมแม่มากกว่า

           

 

“หม่ำๆ ครับ…” ผมชะงัก ยืดตัวขึ้นมองออสตินและคริสเตียนที่กำลังยืนมองผมให้นมแฝดอยู่ตรงซุ้มโค้งทางเข้าครัว

           

 

“เฮ้…” ผมทักทายเขาเบาๆ ออสตินพยักหน้าหนึ่งทีแล้วค่อยๆ เฟดตัวออกไปจากบริเวณห้องครัว พ่อของแฝดเลื่อนสายตามองผมหน้านิ่ง ผมแค่นยิ้มแห้งๆ ด้วยความรู้สึกกลัวเขานิดหน่อย คือเขาเป็นคนหล่อนะ แต่น่าจะเพราะเสพยาเลยทำให้เขาคล้ำโทรมไม่มีออร่าเลย คิดว่าก่อนหน้านี้คงหล่อเปล่งประกายมากๆ

           

 

“…เอ่อ หิวมั้ย” ผมถามอย่างนอบน้อม คริสเตียนส่ายหน้าเบาๆ

           

 

“พวกเขาแข็งแรงดีมั้ย” สายตาของคริสเตียนมองลูกชายตัวเองทั้งสองคนแบบที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

           

 

“แข็งแรงดี ฉีดวัคซีนเบื้องต้นไปแล้ว แล้วเดี๋ยวก็จะไปฉีดอีกตามตารางที่คุณหมอให้มา” ผมบอกข้อมูลที่คิดว่าเขาควรรู้ เหมือนเป็นการอัปเดตให้พ่อเด็กๆ ฟังว่าลูกชายตัวเองเป็นยังไงบ้าง คริสเตียนไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมา เขายืนมองลูกชายทั้งสองคนนิ่ง ผมเม้มปาก ครุ่นคิดสักแปบก่อนจะเอ่ยปากถามอย่างไม่แน่ใจ

           

 

“ป้อนนมแฝดมั้ย” เขาเลื่อนสายตามามองผมแบบงงๆ สักแปบก่อนจะนิ่งไป ราวกับกำลังคิดตามคำพูดของผมอยู่ ผมก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวมากน้อยแค่ไหน แต่ที่เขาดูเอื่อยเฉื่อยแบบนี้น่าจะเพราะเสพยานี่แหละ

           

 

“ได้เหรอ” เขาถามเสียงลอยๆ ผมคลี่ยิ้มบาง พยักหน้าลงหนึ่งที

           

 

“ได้สิ” ผมชูขวดนมสองขวดขึ้น คริสเตียนมองขวดนมตาลอยสักแปบก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินเข้ามาหาผมแล้วหยิบขวดนมไป ผมกระตุกยิ้ม คริสเตียนย่อตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้ารถเข็นของแฝด มองสองหนุ่มที่ดีดแขนดีดขาไปมาและมองหน้าเขาตาแป๋ว

           

 

คริสเตียนมองเด็กสองคนนิ่ง สบตากันและกันสักพักก่อนที่เขาจะยื่นขวดนมไปตรงปากแฝด วินาทีที่จุกนมจ่อปาก สองมิชลินก็เปิดปากคว้ามับแล้วดูดนมตุ้ยๆ

           

 

“ยกสูงอีกนิด” ผมกระซิบบอกคริสเตียน เขาทำตาม สายตายังคงมองลูกชายราวกับจะจดจำภาพนี้ไว้ให้นานที่สุด พอคิดแบบนั้นผมก็คลี่ยิ้มบางและน้ำตาคลอ ผมอยากให้แฝดได้อยู่กับพ่อกับแม่ แต่มันดูเป็นไปไม่ได้เลย

           

 

“คุณมีแผนจะกลับมาอยู่กับไวโอล่ามั้ย…” คริสเตียนเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยใบหน้าเดิม

           

 

“…คือถ้าคุณได้กลับมาอยู่ด้วยกันก็คงดี แฝดคงดีใจที่ได้อยู่กับพ่อและแม่” คริสเตียนนิ่งไม่ตอบ หันกลับไปมองแฝด ผมไม่คิดเซ้าซี้เขา ผมถามแบบไม่ได้คาดหวัง

           

 

“ฉันก็อยากให้เป็นแบบนั้น…” เขาพึมพำ ผมกระตุกยิ้ม อย่างน้อยเขาก็มีความคิดที่อยากจะกลับมาอยู่กันเป็นครอบครัว

           

 

“…ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วย” เขาหันมามอง ผมทำปากยื่น ยักคิ้วและยักไหล่ ทำหน้าแบบจำยอม

           

 

“ก็หวังว่าคุณจะไม่ต้องมาขอโทษแทนเพื่อนคุณอีก” มีความสงสัยอยากจะถามเขาว่าทำไมถึงเลือกคบเพื่อนแบบนั้น มันมีอะไรดีงั้นเหรอ หรือมีผลประโยชน์อะไรร่วมกัน แต่คิดอีกตลบก็พบว่า อย่าไปให้สาระกับพวกมันนักเลย

           

 

“มันดีกับฉันน่ะ แต่นิสัยมันก็ไม่ใช่คนดีนักหรอก” ผมยักคิ้วอีกที คริสเตียนหันกลับไปมองแฝดที่ดูดนมจนแก้มพอง สายตาผมเหลือบเห็นคนเดินเข้ามาในครัว พอเงยหน้ามองก็เจอไวโอล่าเดินมาหยุดดูคริสเตียนป้อนนมลูกแบบเงียบๆ คริสเตียนหันมามองผมก่อนจะหันไปมองตามสายตาผมอีกที

           

 

“เดี๋ยวฉันจะเข้าไปในลอนดอน เธอจะกลับพร้อมฉันเลยมั้ย”

           

 

“เธอไปทำอะไรที่ลอนดอน”

           

 

“เรื่องส่วนตัวน่ะ” ไวโอล่าตอบปกติธรรมดา ไมได้เหวี่ยงหรือจิกกัด

           

 

“ได้สิ” ไวโอล่าพยักหน้า ผมก็อยากจะขอสาระแนตามไปด้วยนะ แต่คิดว่าควรให้เวลาเขาสองคนอยู่ด้วยกันจะดีกว่า

           

 

“แล้วเธอไปยังไงไวโอล่า ให้ออสตินไปส่งมั้ย”

           

 

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันเรียกอูเบอร์ดีกว่า ฝากแฝดด้วยนะ” ผมยิ้มและพยักหน้า ไวโอล่าหันไปมองคริสเตียน ก่อนจะเดินเข้ามาดูใกล้ๆ

           

 

“นมหมดแล้ว เอาขวดนมออกสิ” คริสเตียนหันมองแฝด ดึงขวดนมออกจากปากทั้งสองหนุ่ม

           

 

“แล้วกินแค่นี้เหรอ”

           

 

“ครบหกเดือนเมื่อไหร่จะเริ่มให้กินอาหารควบคู่กับนมแล้วละ” ผมมองสองพ่อแม่คุยกันเรื่องลูกแล้วก็คลี่ยิ้มด้วยความอบอุ่นหัวใจ

           

 

“ไวโอล่า พาคริสเตียนไปนั่งรอห้องโถงก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันทำอาหารแล้วยกไปให้ คริสเตียน เข็นรถแฝดไปสิ” คริสเตียนมองผมแล้วหันมองไวโอล่าเหมือนขอความเห็น พอเธอพยักหน้า เขาจึงลุกขึ้นเดินไปด้านหลังรถเข็นแฝดแล้วเข็นรถออกไปจากห้องครัวพร้อมไวโอล่า

           

 

ผมยิ้มด้วยความรู้สึกอุ่นๆ ในอก ผมไม่แน่ใจว่าลูกจะสามารถดึงคริสเตียนให้กลับมาเส้นทางดีๆ ได้หรือไม่ แต่ถ้าได้ก็จะดีมากจริงๆ

           

 

ผมทำข้าวไข่เจียวกุ้งให้ทุกคน เน้นเร็ว สะดวกแต่ยังคงอร่อย จัดใส่จานแยกเป็นคนๆ เรียบร้อย ของไอ้ยักษ์ก็ใช้ฝาชีสานจากเมืองไทยครอบเก็บไว้ให้ก่อน ผมเรียกให้ออสตินมาช่วยยกอาหารไปให้ทุกคนที่ห้องโถงกลางบ้าน คริสเตียนกำลังนั่งมองแฝดนอนบิดบิดตัวดีดขาเล่นอยู่บนฟูกนอนนิ่งๆ เห็นแล้วก็เอ็นดูคนพ่อด้วย คงเพราะด้วยความไม่เคยเจอลูกใกล้ๆ แบบนี้เลยนั่งมองตาแทบไม่กะพริบเลย

           

 

“พี่ยังไม่ตื่นเหรอ” ไวโอล่าถามตอนที่ผมยื่นจานข้าวให้

           

 

“ตื่นมาดุแฝดแปบนึงแล้วก็กลับไปนอนต่อ” ผมยื่นจานข้าวให้ออสตินแล้วปิดท้ายที่คริสเตียน ก่อนเดินไปนั่งบนโซฟา

           

 

“แต่ก็ดีแล้วละ อย่าเพิ่งให้ตื่นเลย” ไวโอล่าพยักเพยิดไปทางคริสเตียน ผมพยักหน้าเข้าใจว่าเธอคงไม่อยากให้วิคเตอร์กับคริสเตียนปะทะกัน เมื่อคืนเขาอาจจะยอมปล่อยไป แต่ไม่รู้เลยว่าวันนี้เขาจะคิดยังไง

           

 

“ไม่ให้ออสตินไปส่งจริงเหรอ”

           

 

”ไดอาน่าน่ะ” ผมอ้าปากอ้อทันที มิน่าถึงไม่อยากรบกวนออสติน ก็คงเหตุผลเดียวกับที่ผมไม่อยากเจ๋อตามไวโอล่าไปลอนดอนด้วยนั่นแหละ

           

 

เรานั่งกินข้าวไป ดูทีวีไป วันนี้ที่บ้านมีหิมะโปรยปรายลงมาอ่อนๆ จากแต่ก่อนที่อยู่ไทยผมเคยอยากให้บ้านเรามีหิมะตกบ้าง แต่พอได้มาเจอจริงๆ ผมเริ่มขอบคุณที่ประเทศไทยไม่มีหิมะ ไม่ใช่ว่าผมเกลียด แต่ผมว่ามันเกินไป หนาวเกิน สระว่ายน้ำในบ้านสามารถชวนหมีขาวมาเล่นสไลด์เดอร์ได้เลย ยิ่งถ้าวันไหนหิมะตกแบบหนาเตอะ อย่าได้ออกจากบ้านเลยเถอะ หมกตัวให้ใกล้เตาผิงไม่ก็ฮีตเตอร์ให้ได้มากที่สุดจะดีกว่า คือถ้าประเทศไทยมีหิมะหนาๆ แบบนี้นะ เราจะไม่สามารถออกไปกินปิ้งย่าง ก๋วยเตี๋ยวเรือ หรือส้มตำใดๆ ได้เลย ไม่รู้โยงมาได้ยังไง แต่ผมว่ามันก็เกี่ยวดองกันอยู่ (เหรอ)

           

 

“ถ่ายรูปพ่อแม่ลูกมั้ย” ผมถามไวโอล่าตอนที่กินข้าวไข่เจียวตัวเองหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถามด้วยความกระตือรือร้นนักหรอก ถามแบบหยั่งเชิงเฉยๆ

           

 

“ไม่ต้องก็ได้” ไวโอล่าแค่นยิ้ม

           

 

“ฉันอยากถ่าย” คริสเตียนหันมามองเราสองคน ผมอ้าปากค้างแปบหนึ่งก่อนเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มแล้วหันไปมองไวโอล่า เธอพ่นมลมหายใจเบาๆ ก่อนจะไหวไหล่ทั้งสองข้างเป็นเชิงว่าก็ตามนั้น ผมยิ้มกว้าง หยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมพร้อม

           

 

“อุ้มแฝดสิๆ” ผมบอกทั้งสองคนอย่างกระตือรือร้น ไวโอล่าลงไปนั่งบนพื้นใกล้กับคริสเตียน ผมลุกเดินไปนั่งตรงหน้าทั้งสองคน กดถ่ายวิดีโอตอนที่ไวโอล่ากำลังสอนให้คริสเตียนอุ้มแฮคเตอร์ในท่าทางที่ถูกต้อง

           

 

“ลูกยังตั้งคอได้ไม่แข็งแรง ให้เขาพิงตัวเธอไว้” คริสเตียนจับแฮคเตอร์เอนหลังพิงตัวเขา สองแฝดไม่ร้อง ไม่ตกใจกับคนแปลกหน้าเลย ไม่รู้ด้วยเพราะสายใยพ่อลูกรึเปล่า

           

 

“Hi.” คริสเตียนก้มลงมองแฮคเตอร์ที่แหงนหน้ามองเขาแล้วเอ่ยทักทายเจ้าตัวเล็ก ผมคลี่ยิ้มและยังคงบันทึกวิดีโอครอบครัวของแฝดเก็บไว้

           

 

“คนนั้นแฮคเตอร์ คนนี้เฮคเตอร์” คริสเตียนเลื่อนสายตาไปมองมิชลินเบอร์หนึ่งแล้วยื่นมือไปให้เขาจับ เฮคเตอร์คว้านิ้วโป้งของพ่อตามสัญชาติญานเด็ก และเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นรอยยิ้มกว้างของคริสเตียน แม้จะเป็นการเพิ่มความกว้างด้วยการกระตุกมุมปากเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยก็ตาม

           

 

“Thank you.” คริสเตียนเอ่ยเสียงเบาและมองหน้าไวโอล่า เธอยิ้มบาง เอามือลูบหัวเฮคเตอร์เบาๆ ผมน้ำตาคลอกับภาพที่เห็นทั้งผ่านสายตาตัวเองและผ่านหน้าจอ มันเป็นภาพที่ดีมากจริงๆ แฝดได้อยู่กับพ่อกับแม่พร้อมหน้าพร้อมตา ผมกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่น้ำตาให้หายไปจากเบ้าตาก่อนจะเอ่ย

           

 

“เอาล่ะ พร้อมนะ” ผมเปลี่ยนโหมดจากกล้องวิดีโอเป็นภาพถ่าย สองพ่อแม่มองกล้อง ส่วนสองแฝดมองไปเรื่อย ผมกดถ่ายไปหลายช็อต

           

 

“ออสติน มาล่อแฝดให้มองกล้องหน่อยสิ” พ่อบอดี้การ์ดลุกจากโซฟามานั่งข้างผม หยิบกระดิ่งมาสั่นตรงหน้าแฝด สองหนุ่มมองตาม แต่ก็ไม่มองกล้องอยู่ดี แต่ก็ดีกว่ารอบที่แล้วที่มองไปเรื่อยเปื่อย ผมรีบกดภาพไว้ มีบางภาพที่แฝดมองกล้อง แต่ก็มองแบบงงๆ สงสัย ก็น่ารักตามวัยเขาละนะ

           

 

“ทำไรกันน่ะ” พวกเราทุกคนหันไปมองวิคเตอร์สภาพหัวฟูที่กำลังตักข้าวจากจานในมือเข้าปากก่อนเคี้ยวหงับๆ

           

 

“ถ่ายรูปครอบครัวให้แฝด” วิคเตอร์ตวัดสายตามองคริสเตียนนิ่ง ส่วนคริสเตียนก็นิ่งตอบ ไอ้ยักษ์เดินมานั่งบนโซฟาลายดอกไม้สีวินเทจตัวใหญ่ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ทำเพียงนั่งกินข้าวเงียบๆ แล้วก็ดูทีวี ผมกับไวโอล่ามองหน้ากันด้วยความโล่งอก

           

 

“เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน” ไวโอล่าอุ้มเฮคเตอร์ให้คริสเตียน เขาแหวกขาออกเพื่อให้เฮคเตอร์ได้มีที่นั่งข้างน้องชาย สองหนุ่มเอนตัวพิงพ่อสบายใจเฉิบ ไวโอล่าลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องโถง ผมเลื่อนสายตาไปมองวิคเตอร์ก็เห็นเขากำลังมองคริสเตียนตาแข็งหน่อยๆ ผมไม่รู้ว่าทั้งสองคนไม่ถูกกันระดับไหน แต่คิดว่าไม่น่าจะรุนแรง ไม่งั้นวิคเตอร์คงไม่ปล่อยให้คริสเตียนนั่งอยู่ในบ้านแบบนี้หรอก

           

 

“ออสติน ออกไปหาไดอาน่าเลยก็ได้” ออสตินมีสีหน้าเงอะงะ

           

 

“เอ่อ เธอโทรหาคุณเหรอครับ” วิคเตอร์สั่นหัว

           

 

“เปล่า ส่งวอทสแอพมาบอกว่าวันนี้ขอคิวนาย ฉันให้ไปแล้วละ” ออสตินมีท่าทีอึดอัด ผมว่าพ่อหัวเกรียนเขามีปัญหาเรื่องการจัดแบ่งงานกับความรักนะ เขาเป็นคนทำงานดี ทำงานเก่งและรับผิดชอบดีมาก แต่แลจะละเลยเรื่องความรัก

           

 

“งั้นผมขอตัวก่อน” วิคเตอร์พยักหน้า ออสตินลุกเดินออกไปจากห้องโถง ตรงไปทางห้องนอนตัวเอง

           

 

“แกเลิกยุ่งกับยาเสพติดรึยัง” จู่ๆ วิคเตอร์ก็ถามขึ้นมา ผมหันไปมองเขาด้วยความตกใจเล็กๆ วิคเตอร์กำลังมองคริสเตียนที่นั่งเล่นกับแฝดอยู่ คริสเตียนหันข้างไปมองวิคเตอร์อย่างเรียบเฉยแล้วก็หันกลับเลี่ยงไม่ตอบ คนถามก็เลยยิ้มเยาะ

           

 

“งั้นแกควรรู้ตัวนะว่าต้องอยู่ใกล้หรือไกลเด็กสองคนนี้” ผมอ้าปากค้างน้อยๆ มองสลับวิคเตอร์กับคริสเตียน ไอ้คนพูดน่ะพูดชิลๆ แต่คนฟังก็นั่งขบกรามแน่น ผมไม่เถียงหรอกว่าที่วิคเตอร์พูดน่ะถูก เพราะผมก็คิดว่าถ้าคริสเตียนยังเลิกยุ่งกับของพวกนั้นไม่ได้ ก็ไม่สมควรจะอยู่กับเด็กๆ แต่ประเด็นคือไอ้ยักษ์ก็โพล่งตรงเกิน มันเป็นประโยคกีดกันกลายๆ เลยนะ

           

 

“ฉันรู้” คริสเตียนตอบสั้นๆ แต่สีหน้าก็แสดงออกว่าไม่พอใจ วิคเตอร์ไม่สนใจสีหน้านั้น

           

 

“ดูแลเพื่อนของแกด้วยก็ดี อย่าให้ไปอันธพาลที่ไหนอีก เป็นเพื่อนกัน ก็เตือนกันหน่อย ไม่ได้โชคดีรอดคุกบ่อยๆ หรอกนะ” วิคเตอร์หลอกให้คริสเตียนนอนนี่เพื่อลวงมาด่าแบบนี้รึเปล่าเนี่ย

           

 

คริสเตียนนั่งก้มหน้ามองแฝดนิ่ง แต่ก็เห็นความไม่พอใจของเขาบนหน้านั่นแหละ ประโยคมันจริง มันเป็นอย่างที่วิคเตอร์ว่า แต่ด้วยความที่ทั้งสองคนไม่ค่อยจะถูกกัน มันเลยกลายเป็นประโยคที่สร้างความไม่พึงใจให้กับคนฟังได้อย่างง่ายดาย และประโยคนั้นยังเป็นการขู่กลายๆ อีกด้วย

           

 

“คงจะไม่แจ้งตำรวจจับพวกฉันใช่มั้ย”

           

 

“ถ้าฉันแจ้ง ป่านนี้แกไม่ได้มานั่งเล่นกับหลานฉันหรอก” แม้จะไม่ใช่สถานการณ์ที่ควร แต่ผมก็ห้ามความรู้สึกดีที่ได้ยินวิคเตอร์เรียกแฝดว่าหลานไม่ได้ ผมเกือบหลุดยิ้ม แต่ก็ด้วยความเกรงใจคริสเตียนเลยทำนิ่งแทน

           

 

“ขอบใจ” คริสเตียนพูดสั้นๆ แบบไม่หันไปมองหน้าวิคเตอร์ ผมมองเขาแล้วก็ถอนหายใจ ผมก็อยากให้เขาอยู่กับแฝดนะ อยากชวนมาอยู่ด้วยกัน แฝดจะได้มีครบทั้งพ่อและแม่ แต่ด้วยสภาพคริสเตียนตอนนี้ วิคเตอร์คงไม่ไว้ใจให้อยู่ในบ้านตัวเองหรอก ณ ตอนนี้ผมสงสารเขาก็จริง แต่ใครจะการันตีกับผมได้ล่ะว่าวันนึงเขาจะไม่กลายร่างเป็นงูพิษแล้วแว้งกัดผม ขนาดไวโอล่ายังบอกเลยว่าเขาไม่พร้อมเป็นพ่อของใคร ไม่อยากให้ลูกอยู่กับพ่อที่มีสภาพแวดล้อมอันตรายแบบนั้น

           

 

“แฮฮฮ” แฮคเตอร์แหงนหน้ามองคริสเตียนตาแป๋ว คนพ่อก้มลงมองแล้วกระตุกยิ้ม ผมเองก็ยิ้มตาม ส่วนเฮคเตอร์นั่งมองมือพ่อด้วยความสงสัยใคร่รู้ หนูหาจุลินทรีย์เหรอลูก

           

 

“มีอีกมั้ย” วิคเตอร์ถามพลางชูจานเปล่าขึ้น ผมอ้าปากค้างกับความกินจุของเขา คือไข่เจียวเขาสองฟองด้วยนะ ข้าวก็ตั้งสี่ทัพพี

           

 

“ไม่มีอะ อยากกินอะไรเพิ่มมั้ย เดี๋ยวผมหาให้” วิคเตอร์กำลังจะพยักหน้า แต่สักพักเขาก็เลื่อนมองคริสเตียนก่อนโบกมือขวาหนึ่งที

           

 

“ไม่ต้อง เดี๋ยวไปหาเอง” แล้วเขาก็ลุกเดินออกไปจากห้องโถง คริสเตียนเงยหน้าแล้วบิดคอไปมอง ก่อนหันกลับมามองผม

           

 

“ฉันมีเรื่องรบกวน”

 

 

“ฮึ?” ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

 

 

ควรตอบรับหรือควรระแวงเนี่ย

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2332 เมื่อ07-06-2018 23:04:33 »


V
v
v

“บ๊ายบาย เดี๋ยวเจอกันนะครับแม่” ผมยกมือสองแฝดที่นั่งอยู่ในรถเข็นขึ้นโบกมือให้ไวโอล่าที่กำลังจะขึ้นรถเก๋งสีดำไปกับคริสเตียน

 

 

“ฉันใส่ถุงนมล่าสุดไว้ให้ในตู้เย็นแล้วนะ” ไวโอล่าบอก ถ้าผมไม่คิดโลกสวยเกินไป ผมว่าเธอดูสดใสและมีความสุขขึ้น ก็คงสามารถพูดได้ว่าเพราะเธอได้เจอกับคริสเตียน คืออย่างน้อยมันก็ทำให้หัวใจของเธอชุ่มฉ่ำบ้าง

 

 

เวลาเจ็บก็แสนเจ็บ เวลาสุขก็แสนสุข ความรักหนอความรัก

 

 

“ขากลับโทรให้ออสตินไปรับนะ” วิคเตอร์ที่ยืนกอดอกพิงรั้วประตูหน้าบ้านบอกหน้ามึน ผมล่ะเกลียดความไม่หนาวของเขา ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงนอนและพันผ้าพันคอออกมาส่งน้องสาวเท่านั้น

 

 

“แอว๊! แอว้!! แอ้!!” จู่ๆ สองแฝดก็ร้องไห้ขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน จนพวกเราทุกคนตกใจ ไวโอล่าเดินกลับมานั่งตรงหน้ารถเข็นของลูกหน้าตื่น มีคริสเตียนเดินตามมามองแบบงงๆ

 

 

“โอ๋ๆ ลูกชายแม่เป็นอะไรครับ” ไวโอล่าเลือกจะอุ้มเฮคเตอร์ขึ้นมาก่อน ผมเลยช่วยอุ้มแฮคเตอร์ตามขึ้นมา สองแฝดร้องไห้จ้า หน้าแดงก่ำ น้ำตาไหลพรากๆ

 

 

“ฮืออออ อืออออ” ทั้งสองคนหันหน้าซุกเข้ากับซอกคอของผมกับไวโอล่า เราสองคนเขย่าตัวสองหนุ่มเบาๆ และลูบหลังเป็นการปลอบ

 

 

“เป็นอะไรเนี่ย ฮึ แฝด” ผมพูดพึมพำเบาๆ พลางลูบหลังให้เจ้าตัวเล็กสงบ คริสเตียนยืนมองแบบลอยๆ ส่วนไอ้ยักษ์ก็เดินเข้ามาก้มดูหลานสองคนสีหน้างุนงง

 

 

“คุณแม่ไปแปบเดียวค่ะ เดี๋ยวกลับมานะคะ” ไวโอล่าบอกเฮคเตอร์และยื่นมือมาลูบหัวแฮคเตอร์ด้วยความอ่อนโยน

 

 

“หิวรึเปล่า” ผมหันมองวิคเตอร์ที่พูดแบบมึนๆ งงๆ

 

 

“น่าจะใช่ นี่ก็เที่ยงแล้ว” กระเพาะตรงเวลาดี๊ดีเนาะลูกเนาะ

 

 

“อาจจะหนาวด้วย พาแฝดเข้าบ้านเถอะแมท” ผมพยักหน้าให้ไวโอล่า เธอกดจูบลงบนหัวเฮคเตอร์ที่ยังติดสะอื้นอยู่ ก่อนจะยื่นหน้ามาหอมหัวแฮคเตอร์ที่ยังร้องฮือๆ แต่ก็ไม่ใช่ร้องจ้าเสียงดัง ไวโอล่าส่งเฮคเตอร์มาให้ ผมใช้อีกแขนรับไว้ ทั้งสองคนซบหน้าลงกับไหล่ผม เสียงงอแงหายไป เหลือแต่เสียงอู้อี้ของเด็กน้อย

 

 

“วิคเตอร์เอารถเข็นเข้าบ้านด้วยนะ” แทนการตอบรับ ไอ้ยักษ์ยกรถเข็นเข้าบ้านด้วยสองแขนนำไปก่อน

 

 

“กลับมาทันกินข้าวเย็นมั้ย”

 

 

“คิดว่าทันนะ” ผมพยักหน้า ไวโอล่าลูบหัวแฝดคนละทีแล้วก็หมุนตัวเดินไปขึ้นรถ คริสเตียนยืนมองหน้าผมครู่หนึ่งก่อนจะเปิดปากพูดสั้นๆ

 

 

“Thanks.” ผมพยักหน้า คริสเตียนตามเข้าไปนั่งด้านหลังรถกับไวโอล่าแล้วรถก็แล่นออกไป ผมมองตามรถจนกระทั่งเลี้ยวออกไปจากถนนของซอยบ้านเราแล้วก็หมุนตัวพาแฝดเข้าไปด้านในบ้านเพื่อหลีกอากาศหนาว

           

 

“วิคเตอร์ หยิบตะกร้าขวดนมกับนมแฝดให้หน่อย” ผมตะโกนบอกตอนที่เดินอุ้มสองมิชลินที่นอนซุกซอกคอผมและส่งเสียงเอาะแอ๊ะๆ อยู่ข้างหู ผมพาแฝดไปนอนบนฟูกนอนบนพื้นห้องโถง ไมเคิลเดินเตาะแตะมายืนข้างน้อง ดมๆ สักแปบก็เดินไปนอนใกล้กับเตาผิง สองแฝดนอนเหยียดตัวอยู่บนฟูก ดวงตามองล่อกแล่กไปทั่ว ผมใช้ผ้าอ้อมเช็ดน้ำตาที่เปรอะแก้มยุ้ยสีแดงอย่างเบามือ สองแฝดเลื่อนสายตามามองผมตากลมบ๊อก ผมคลี่ยิ้มให้สองมิชลิน สองหนุ่มกะพริบตาเชื่องช้าก่อนจะยิ้มน้อยๆ

           

 

“แฮ / อืออออ” ผมขำเสียงเบา สองมิชลินทำปากหยับๆ ดวงตาสีฟ้าอมเทากะพริบเอื่อยๆ

           

 

“กินทั้งวัน หมูๆๆๆ” วิคเตอร์ที่ยังสวมผ้าพันคอและปล่อยผมยาวสลวยยกตะกร้าใส่พวกขวดนมของแฝดมาวางไว้ข้างผม ในนั้นมีถุงซิปล็อคใส่น้ำนมของไวโอล่าสองถุงที่ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่

           

 

“วิคเตอร์ขอน้ำอุ่นหม้อนึงสิ” ไอ้ยักษ์ทำหน้าเหม็นเบื่อทันที ผมทำหน้าเอือมและบิดปากแรงๆ

           

 

“ถ้าขี้เกียจนักก็ไปนอนไป” ผมลุกขึ้นยืน ก้าวเท้าจะเดินออกไปที่ครัวเอง แต่วิคเตอร์ก็ดันตัวผมไว้

           

 

“โกรธเหรอ” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้น ท่าทีสงสัยอย่างที่ถาม ผมย่นคิ้วและชักสีหน้าด้วยความรำคาญเล็กๆ

           

 

“ครั้งสุดท้ายแหละ ผมจะไม่รบกวนคุณเรื่องแฝดอีกแล้วกัน” ผมปัดมือเขาที่จับไหล่ผมอยู่ออก แล้วเดินออกไปจากห้องโถง โดยมีไอ้ยักษ์เดินตามมาก่อกวนติดๆ

           

 

“เฮ้ ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วย” ผมหันไปทำหน้าเหลือเชื่อใส่เขาในขณะที่กำลังเดินไปห้องครัว

           

 

“ผมขอโทษนะถ้ารบกวนคุณเกิน คุณอาจจะเหนื่อยที่ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงดูพวกเรา” ผมเดินฉับๆ มาจนถึงห้องครัว วิคเตอร์พยายามดึงผมให้หยุดกับที่ แต่ผมสะบัดเขาออก

           

 

“วิคเตอร์! แฝดรอกินนมอยู่ อย่ามาทะเลาะตอนนี้นะ!”

           

 

“ห้ามพูดประชดฉันอีก”

           

 

“ไม่ และอย่ามาวอแวได้มะ ถ้าไม่คิดจะช่วยอะไรก็ไปนอนเลย” ผมหยิบหม้อสีเงินออกมา เปิดน้ำจากก๊อกใส่ครึ่งหนึ่งของหม้อแล้วก็เอาตั้งเตา เปิดแก๊สติดไฟเรียบร้อย

           

 

“ไปนั่งรอ เดี๋ยวฉันยกไปให้” เสียงห้วนบอก ผมหันไปมองก็เห็นหน้าตาตึงๆ ของอีกคน ผมมองสะบัดเขาหนึ่งทีแล้วก็เดินกลับไปทางห้องโถงใหญ่อย่างรวดเร็ว แฝดนอนนิ่ง แต่หัวขยับดุ๊กดิ๊กไปมา จากที่อารมณ์กำลังขุ่นๆ ก็กลับมายิ้มได้ ผมนั่งลงข้างแฝด จัดการเทนมใส่ขวดของสองหนุ่ม ฟอกซ์เดินมายืนมองแฝดสักแปบแล้วก็เดินอาดๆ ไปนอนใกล้พี่ชายตัวเอง

           

 

“เอ้า น้ำร้อน” วิคเตอร์โค้งตัวลงวางหม้อน้ำไว้ข้างผม แล้วก็เดินมานั่งข้างกัน ผมหยิบขวดนมไปแช่ไว้ในหม้อ ปล่อยให้มันลอยอยู่แบบนั้น

           

 

“นายจะรักไอ้ลูกหมูสองตัวมากกว่าฉันแล้วนะ” ผมหันไปขมวดคิ้วใส่ให้กับใบหน้าบึ้งตึงของไอ้ยักษ์ผมยาว

           

 

“ใช่ เพราะแฝดเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่มึน ไม่ขี้เกียจ”

           

 

“รู้ได้ไง พอมันโต เดี๋ยวมันก็เป็นอย่างที่นายว่าเองนั่นแหละ”

           

 

“ไม่ ผมจะเลี้ยงพวกเขาไม่ให้เหมือนคุณเด็ดขาด” ไอ้ยักษ์เบิกตากว้างมองดุ ผมเบะปาก ยื่นมือไปจับขวดนมในน้ำอุ่นก่อนจะปล่อยมันลอยอีกสักแปบ

           

 

“อ๋อ จะตั้งกองทัพตัวเองใช่มั้ย”

           

 

“ใช่!” ผมกระแทกเสียง ล้วงมือหยิบขวดนมที่ตอนนี้อุ่นแล้วขึ้นมาจากหม้อ หันไปใช้ชายเสื้อยืดไอ้ยักษ์นั่นแหละเช็ดน้ำให้แห้ง

           

 

บางทีก็รู้สึกว่าคู่ตัวเองออกแนวปัญญาไม่ค่อยจะแข็งแรง ไอ้ยักษ์นั่นแหละชอบพาไปในทางนั้น ตั้งแต่คิดจะเอาแฝดไปลอยน้ำ ทิ้งบนเขาอะไรนั่นละ แล้วก็เอามาเถียงกันเกือบจะจริงจัง แต่ก็ให้พี่แกหน่อย อยู่นอกบ้านคงเหนื่อยงานและไม่ค่อยมีคนเล่นด้วยแบบนี้

           

 

“นึกว่าจะใจดี เห็นให้ไวโอล่าไปกับคริสเตียน ที่ไหนได้ ก็ยังคงใจดำ” ผมยื่นขวดนมให้แฝดดูด พอจุกหนุ่มเข้าปากสองหนุ่มก็คว้าหมับและดูดนมมื้อเที่ยงตุ้ยๆ

           

 

“ฉันให้ไป เพราะฉันจะไม่ให้เจอกันอีกแล้ว คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยให้วีไปกับมันชิลๆ” ผมหันควับไปมองวิคเตอร์ด้วยความระแวดระวัง พอเห็นเขายักคิ้วและทำหน้ามึนผมก็อ้าปากค้างทันที

           

 

“คุณให้ออสตินตามไวโอล่าไปเหรอ” ไอ้ยักษ์ไหวไหล่สองข้าง และทำหน้าประมาณว่าไม่รู้ไม่ชี้

           

 

“ออสตินไปลอนดอนพอดี ก็แค่ให้แวะไปดู”

           

 

“ไอ้ยักษ์ ออสตินไปสวีทกับแฟนเขานะ ยังจะให้เขาทำงานอีก”

           

 

“แล้วจะให้ฉันไว้ใจไอ้คริสเตียนง่ายๆ เหรอ” ผมกำลังจะอ้าปากเถียง แต่พอคิดตามคำพูดเขามันก็จริง ผมไม่ได้คิดจะมองคริสเตียนเลวขนาดนั้น แต่ปลอดภัยไว้ก่อนก็ดีกว่าจริงๆ นั่นแหละ

           

 

‘ฉันก็คงทำหน้าที่พ่อให้พวกเขาได้เท่านี้’

 

 

เสียงของคริสเตียนที่คุยกับผมเมื่อช่วงเช้าดังขึ้นในหัว นึกแล้วก็ถอนหายใจ ผมพอจะนึกอารมณ์ไวโอล่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้แล้วว่าทำไมเธอถึงดูสับสนและดูอมทุกข์ ใจนึงก็อยากให้พ่อเด็กกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่อีกใจก็ไม่อยากให้กลับมาเพราะวิถีชีวิตของคนเป็นพ่อไม่ได้ดีนัก

 

 

“ถ้าเขาจะกลับมาคบกับไวโอล่า คุณก็ไม่ยอมใช่มั้ย” วิคเตอร์มองผมนิ่งสักแปบก่อนจะพ่นลมหายใจยาวๆ

 

 

“ถ้ามันไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก” เราคิดเหมือนกันสินะ

 

 

ผมถือว่าวิคเตอร์ใจดีในระดับที่มากแล้วนะที่ไม่ไล่ตะเพิดคริสเตียนหรือเรียกตำรวจมาจับเขา และไม่ได้จัดการลากโคตรกลุ่มคริสเตียน เพราะวิคเตอร์เกลียดยาเสพติดมาก มันเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อเขาร้ายกาจกับเขากว่าเดิมจากที่เป็นอยู่แล้ว ต้องสตรองพอตัวที่ยอมให้คนที่ตัวเองไม่ชอบแล้วพัวพันกับสิ่งที่ตัวเองเกลียดมาอยู่ใกล้ครอบครัวตัวเองขนาดนี้

 

 

ว่าแต่เราดีกันแล้วใช่มั้ย เดี๋ยวนี้ทะเลาะกันก็งงๆ ดีกันก็ดีแบบงงๆ เนียนๆ

 

 

“ป้อนไอ้ลูกหมูเสร็จแล้ว ทำมาม่าให้ฉันกินด้วย” ผมพยักหน้าสองสามที ไอ้ยักษ์ลุกขึ้นไปนอนบนโซฟา หยิบรีโมตกดเปิดทีวี เข้า Netflix แล้วก็เปิดการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่องนึงของดิสนีย์ดู

 

 

“ดีมาก แฝดจะได้ดูด้วย”

 

 

“ฉันยังไม่ได้ดู และถ้าฉันจะดูหนังโป๊ ไอ้ลูกหมูมันก็ต้องดูด้วย” ผมจิ๊ปากและจิกตาใส่ไอ้ยักษ์ที่นอนมึนดูทีวีแบบไม่สนข่าสนขิงใดๆ ในโลกใบนี้ก่อนเลื่อนสายตากลับมามองแฝดตามเดิม แฮคเตอร์ดูดนมจนหมดแล้ว ส่วนเฮคเตอร์เหลืออีกนิด ผมดึงขวดนมของคนน้องออกมาวางบนพื้นก่อน พอได้กินนมแล้วก็ดูจะอารมณ์ดีดี๊ด๊า พอเฮคเตอร์ดูดนมจนหมดขวดผมก็ดึงออกจากปากเขา สองหนุ่มส่งเสียงอ้อแอ้ ลำตัวดุ๊กดิ๊กกระดิกน้อยๆ พุงนี่ป่องน่าฟัดที่สุด

 

 

“วิคเตอร์ คิดว่าแฝดพร้อมขึ้นเครื่องบินเมื่อไหร่เหรอ พ่อกับแม่อยากเจอ” ผมถามพลางเช็กอึเช็กฉี่ให้แฝด แต่ว่ายังไม่มีปล่อยออกมา

 

 

“ก็ให้ตาแก่กับแม่นายบินมาที่นี่สิ”

 

 

“พ่อกับแม่กลัววีซ่าไม่ผ่าน”

 

 

“มีของอเมริกาแล้ว ไม่ยากหรอก เดี๋ยวฉันยืนยันให้”

 

 

“ออกตั๋วให้ด้วยเปล่า” วิคเตอร์บิดปากเล็กน้อย

 

 

“ก็ต้องเอาใจตาแก่กันหน่อยสินะ” ผมไม่รู้จะยิ้มหรือควรมองค้อนดี

 

 

“แหม อยู่ต่อหน้าพ่อปากเก่งให้ได้แบบนี้สิ” พ่อกับแม่รู้เรื่องที่เราจดทะเบียนกันแล้ว ผมบอกตอนที่แม่โทรมาอวยพรวันเกิด ทั้งสองก็มีอึ้งๆ งงๆ ตกใจนิดหน่อย แต่สักพักก็เข้าใจตรงกันว่า ยังไงวันนึงก็ต้องเกิดขึ้น แค่มันเกิดขึ้นก่อนที่เขาคิดไว้เท่านั้น พ่อกับแม่ก็อวยพรในทางที่ดี ให้มีความสุข แล้วพ่อก็ค่อยแยกมาด่าและจิกกัดวิคเตอร์เป็นภาษาไทยอีกที ให้ไอ้ยักษ์หน้ามึนหน้างงเล่นๆ

 

 

“ไม่เอาหรอก ถ้าพ่อนายได้ยินก็จะโกรธ แล้วความดันก็จะขึ้นสูง ฉันไม่อยากทำร้ายคนแก่”

 

 

นี่ขนาดไม่อยากนะ เรียกพ่อผมด้วยความเคารพมาก

 

 

 

 

มันคือชีวิตแม่บ้านที่แท้จริง นั่ง กิน นอน ดูทีวี ทำอาหารหรืออะไรก็ได้ที่หาทำได้ภายในบ้านตัวเอง อยู่แบบนี้ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกดินอีกรอบ นี่ถ้าไม่มีแฝดให้เลี้ยงชีวิตผมคงโคตรน่าเบื่อ และคงไปจดจ่ออยู่กับการหางานนอกบ้านทำ แต่พอมีภาระต้องช่วยไวโอล่าดูแลแฝด ผมก็คอยเอาแต่ห่วงและโฟกัสที่สองมิชลิน แต่ถ้าวิคเตอร์อยู่ด้วยก็ต้องโฟกัสเขาอีกคน ไม่งั้นก็จะผีเข้าผีออกงอแงยิ่งกว่าเด็กสามเดือน

 

 

“วิคเตอร์ แฝดอึมั้ย ดูให้หน่อย” ผมตะโกนบอกจากห้องครัวใหญ่ในขณะที่กำลังตัดหมูที่เพิ่งย่างเสร็จใส่ถ้วยมาม่าแห้งที่ลวกเส้นไว้รอเรียบร้อยแล้ว เมื่อกลางวันก็กิน ตอนเย็นจะกินอีก แต่ขอเพิ่มทอปปิ้งเป็นหมูกับแฮม

 

 

“ไม่เอา เหม็น”

 

 

“ไอ้เตอร์!!!” ผมตะโกนว่า ตาก็กำลังจ้องมองชิ้นหมูที่ร่วงใส่ถ้วยทีละชิ้นๆ

 

 

“ไม่ขี้!!!” เขาตะโกนตอบกลับมา

 

 

“ดูให้จริงรึเปล่าเนี่ย??!!”

 

 

“จริงโว้ยยย!!”

 

 

“โกหกคืนนี้นอนนอกห้องคนเดียวนะ!!!” ผมตัดหมูใส่ถ้วยทั้งสองเสร็จแล้วก็จัดการเทน้ำจิ้มสูตรมั่วของตัวเองใส่ถ้วยก่อนคลุกเคล้าให้เข้ากัน

 

 

“เออ ขี้!!!” หลังจากเงียบไปพักหนึ่งเขาก็ตะโกนกลับมา

 

 

“เปลี่ยนผ้าอ้อมเลย!! แล้วไม่ต้องบ่ายเบี่ยง ไม่งั้นก็ไม่ต้องกินมาม่าเนี่ย!!!”

 

 

“วู้ววว!!!” ตะโกนคุยกันขนาดนี้ แฝดสะดุ้งไปกี่ทีแล้วเนี่ย ผมก็ลืมคิดไป มัวแต่จดจ่ออยู่กับมาม่า เสียงไอ้ยักษ์เงียบหายไป คิดว่าน่าจะกำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้แฝดอยู่

 

 

“เช็ดให้สะ…”

 

 

“…แมท!!!” วิคเตอร์ตะโกนแทรกขึ้นมาด้วยเสียงที่ดังว่าเดิม เป็นดังแบบตกใจ ผมเงยหน้าขึ้นตกใจตามไปด้วยก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องโถงเผื่อว่าเกิดอะไรที่วิคเตอร์ทำไม่เป็นหรือทำไม่ถูก แต่พอไปถึงสิ่งที่ผมเห็นคือหน้าวิคเตอร์ถอดสี ดวงตาเบิกกว้างและมีแววหวาดกลัวอยู่ในนั้นจนผมใจหล่นวูบ

 

 

“วิคเตอร์ เป็นอะไร?!” ผมเดินเข้าไปใกล้เขา วิคเตอร์คล้ายคนมีอาการช็อก มือขวาที่ถือโทรศัพท์อยู่สั่นจนต้องยื่นมือไปจับมือเขาไว้

 

 

“ไวโอล่าถูกยิง” ตัวผมเย็นเฉียบ หูสองข้างดับปิดกั้นการรับรู้เสียงรอบตัวจนได้ยินเสียงคล้ายเครื่องแสดงอัตราการเต้นของหัวใจดัง ตื๊ด ยาวๆ

 

 

แม้แต่เสียงแฝดร้องไห้ยังได้ยินราวกับมาจากที่อันไกลโพ้น

 

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


               แว้บมาอัปอีกวัน กลับไปจมกองหนังสือต่อ แต่แพ็คเสร็จแล้ววว เหลือแพ็คแก้วที่เป็นของแถมของคนอ่านบางส่วน ก็จะได้ส่งแล้นนนข่าาา ส่วนใครที่ตามอ่านในเว็บอยู่ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ ตอมลงให้จนจบ แล้วก็ไม่ได้ลบเรื่อง แต่ตอนพิเศษและภาคพิเศษ 16 ตอนในเล่ม ไม่ได้ลงให้นะค้า จะมีแค่ตัวอย่างสั้นๆ หนึ่งตอนมาลงให้เท่านั้นจ้า แต่อ่านในเว็บจบก็รู้เรื่องเช่นกันจ้า

               ใครที่ถามเรื่องหนังสือมา เดี๋ยวขอจัดส่งรอบแรกหมดก่อน แล้วก็เคลียร์ใดๆ เรียบร้อยตามระยะเวลาที่จะแจ้งอีกครั้ง แล้วจะมาทำแบบสอบถามอีกทีนะคะว่ามีคนต้องการกี่คน

ปล. อยากจะกดเป็ดให้คนอ่านทุกคน แต่กดไม่ด้ายยยย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2333 เมื่อ08-06-2018 01:28:00 »

กังวลอยู่แล้วเชียวเห็นแฝดร้องไห้ตามเหมือนเป็นลางคิดว่าอาจจะรถคว่ำอะไรแบบนี้ไม่นึกว่าจะถูกยิง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2334 เมื่อ08-06-2018 01:58:12 »

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2335 เมื่อ08-06-2018 02:11:06 »

  :pig4:

 what the heck ...ไวโอล่าโดนยิง !??
 
 ทำไม อะไร ใครต้องฆ่าเธอด้วยล่ะ
   ไวโอล่าเธอป่วยอยู่ ร่างกายไม่แข็งแรงนี่นา ก็เดี๋ยวเธอก็ต้องตายอยู่แล้ว ไม่ใช่เร๊อะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2336 เมื่อ08-06-2018 03:02:04 »

โบราณว่าจิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้าน นี่ลูกหมู 2 ตัวร้อง ก็คิดว่าเป็นลางอยู่แล้วเชียว ว่าแต่ใครยิงฟ่ะ ไม่ใช่จะยิงนังคริส แต่พลาดมาโดนไวโอล่าเข้าล่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2337 เมื่อ08-06-2018 03:55:16 »

เพราะไวโอล่าจะถูกยิง แฝดเลยร้องไห้ตามแม่เหรอ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2338 เมื่อ08-06-2018 05:07:37 »

แฝด มีญาณรับรู้เรื่องการจะสูญเสียได้ก่อนล่วงหน้า   o22 o22 o22
คริสเตียน หรือเพื่อนยิงไวโอล่า  :katai1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.32 100% :07.06.61:
«ตอบ #2339 เมื่อ08-06-2018 05:32:14 »

อ้าวว วี!!! มิน่าแฝดร้องไห้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด