:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 886815 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.11 100% :10.04.60:
«ตอบ #1950 เมื่อ04-10-2017 21:44:14 »

แมทเหวอเลย โดนยักษ์เมินละ  o22 o22 o22

แมท ยังไม่รีบๆง้อยักษ์อีก
ก่อนหน้านี้งานยุ่ง ทำงานหัวหมุน งานหนัก
กลับบ้านก็มืด ก็เหนื่อย ง่วง อยากพักผ่อน

ตอนนี้ ไม่เหนื่อย ไม่มีงานว่าง ไม่ง่วง
ทำไมไม่ทำกิจกรรมกับยักษ์ล่ะ
แมทนี่ ซื่อบื้อป่ะ นี้หรอผมก็อยู่กับคุณ คุณก็อยู่กับผม
แบบนี้เรียกว่าอยู่แบบสามีภรรยาเหรอ
 
แล้วนี่ยักษ์ออกไปเที่ยวข้างนอก เมินแมทและ
แมท ต้องโหวง หน่วงแน่ๆ  :hao5: :hao5: :hao5:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.11 100% :10.04.60:
«ตอบ #1951 เมื่อ04-10-2017 23:14:28 »

สมน้ำหน้าแมท คริคริ

ออฟไลน์ o4u0n7

  • mgAmuptUF
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • secret ladies online
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.11 100% :10.04.60:
«ตอบ #1952 เมื่อ05-10-2017 00:02:19 »

 :เฮ้อ: นี่งัยแมท สิ่งที่วิคเตอร์กำลังจะสื่อเหมือนเมื่อครั้งที่แมททำแต่งาน คนที่พยายามเข้าใจและดูแลแมทคือวิคเตอร์ ไม่ใช่พีทและกองถ่าย

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.11 100% :10.04.60:
«ตอบ #1953 เมื่อ05-10-2017 03:21:37 »

ก็พอกันทั้งคู่นะ
แต่ก็ยังทีมเตอร์ แบบก่อนหน้านี้เตอร์จะรู้สึกยังไง แมทไม่มีเวลาเลย
แคร์กองถ่าย แคร์ทุกคน แต่ไม่แคร์เตอร์เลย

งานสำเร็จ แต่ครอบครัวพัง

ควรพอดีๆ เน้อ
คุยกันได้แล่ว

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.11 100% :10.04.60:
«ตอบ #1954 เมื่อ05-10-2017 22:00:06 »

ทำสงครามเย็นกันเหรอน่าอึดอัดชมัด ทิฐิแต่ละคนนั่นแหล่ะ ต่างคนต่างคิดว่าตัวไม่ผิด เดี๋ยวก็เป็นอย่างที่แม่ว่ากลายเป็นปัญหารุนแรงจนได้ เฮ้อ  :ling3:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1955 เมื่อ11-10-2017 18:49:53 »



Yours and Mine EP.12 :: Connected. (เชื่อมต่อ) [50%]



เช้าวันถัดมา ผมตื่นตอนเจ็ดโมง ข้างตัวว่างเปล่าไม่มีร่างของวิคเตอร์ ผมนั่งหวิวโหวงในช่องท้อง ชะโงกหน้าไปดูโซฟาปลายเตียงเผื่อว่าเขาจะนอนอยู่บนนั้นแต่ก็ไม่มี ผมมึนๆ อึนๆ อยู่สักพัก เพราะเพิ่งตื่นและนึกงงว่าเขาหายไหน หายไปทั้งคืนเลยหรือเปล่านะ ผมหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาเขา แต่เขาไม่รับสาย ผมสะบัดผ้านวมแล้วเดินไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ ระหว่างที่แปรงฟันผมก็ยืนคิดว่าวิคเตอร์ไปไหน ทำอะไรอยู่ เมื่อคืนนี้ออกไปกับพวกคุณเบนหรือเปล่า แต่ตอนนี้คุณเบนอยู่ไทยเพราะไปหาบาส งั้นไปกับอันเดรเหรอหรือชาร์ลี ผมถอนหายใจ ปกติเขาจะบอกผมหมดว่าไปไหน ไปกับใคร แต่อันนี้เงียบใส่ และดูจะจงใจเงียบใส่แบบเมินๆ อีกต่างหาก พอคิดแล้วก็นึกหมั่นไส้

 

 

“อียักษ์ๆๆๆ” ผมพึมพำด้วยความหมั่น ก้มหน้าล้างหน้าในอ่าง พอเสร็จแล้วก็เดินลงบันไดไปข้างล่าง ตอนที่ถึงมุมโค้งเชื่อมต่อของบันได ผมก็มองเห็นร่างยักษ์ใหญ่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟาเตียงในห้องโถง ผมถอนหายใจโล่งอกที่เขากลับมานอนที่บ้าน

           

 

ผมเดินลงไปข้างล่าง เดินเข้าไปดูเขาก่อน วิคเตอร์นอนคว่ำหน้า สภาพไม่น่าจะเมาเละ อาจจะกรึ่มๆ แก้มแดงเล็กน้อย ผมเพ้ายุ่งเหยิง อยู่ในชุดเดิมที่ใส่ออกไปนอกบ้านเมื่อคืนนี้ มือถือเขาตกอยู่บนพื้น ผมก้มหยิบขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ และพยายามพลิกตัวเขาให้นอนหงายเพื่อจะได้หายใจสะดวก

           

 

“ฮึบ…” ผมพยายามดันร่างเขาให้พลิกนอนหงาย แต่ก็ยากลำบากเกินคนตัวเล็กอย่างผม วิคเตอร์ครางงึมงำพักหนึ่งก่อนที่เปลือกตาเขาจะเปิดขึ้น ผมชะงักอยู่กับที่ เรามองตากัน ผมมองด้วยอาการตื่นเล็กๆ ส่วนวิคเตอร์มองด้วยความงัวเงีย เขาไม่พูดอะไรแค่มองผมแบบเบลอๆ ไว้อย่างนั้น

           

 

“จะพลิกตัวให้ นอนทับปอดไม่ดี” ผมพูดเสียงเบา วิคเตอร์หลับตาลงแล้วถอนหายใจยาว ก่อนจะพลิกตัวนอนหงายด้วยตัวเอง ผมยืนมองเขาด้วยความสับสน วิคเตอร์เหมือนจะรู้ว่าผมยังยืนอยู่เลยลืมตาขึ้นมอง แต่ก็มองแบบงงๆ ไม่รู้ว่างงที่เห็นผมยืนอยู่หรืองงเพราะเมาค้าง

           

 

“What?” เขาถามเสียงแหบพร่า เปลือกตาปิดลงหลับต่อแล้วก็เงียบไป ผมเห็นแบบนั้นเลยถอนหายใจเบาๆ แล้วหมุนตัวเดินออกมาจากห้องโถงปล่อยให้เขานอนหลับต่อ ผมเดินไปในครัว จัดการทำอาหารเช้าให้ตัวเองและเขา ส่วนออสตินที่ตอนนี้คงพาไมเคิลออกไปนอกบ้านแล้วมักออกไปกินอาหารเช้านอกบ้านบ่อยๆ แต่ผมก็ทำไว้เยอะมาก ทั้งเผื่อวิคเตอร์กินจุและเผื่อออสตินจะกินบ้าง

           

 

ผมเลือกทำเป็นเบรคฟาสต์ง่ายๆ ไข่ดาว ฮ็อตดอก แฮม ขนมปังปิ้ง มีกล้วยเตรียมไว้ให้ด้วย ผมใช้พลาสติกซีนอาหาร วางไว้บนโต๊ะหินอ่อนแล้วนั่งกินของตัวเอง จัดการตัวเองเสร็จก็ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับไปยิม เปิดแอพเรียกอูเบอร์ให้มารับที่บ้าน ตอนที่ลงมาวิคเตอร์ก็ยังนอนอยู่ในสภาพเดิม ผมเดินออกไปจากบ้าน ล็อคบ้านเรียบร้อยก็พอดีกับที่อูเบอร์มาถึง

           

 

ผมยืนลังเลอยู่สักพักว่าควรบอกหรือทิ้งโน้ตไว้ให้วิคเตอร์รู้หรือเปล่าว่าผมออกไปข้างนอก แต่เหมือนความคิดมันวิ่งของมันไปเรื่อย วิ่งแบบไม่หยุด และท้ายที่สุดผมก็เดินขึ้นรถแบบมึนๆ งงๆ มีความรู้สึกค้างคาใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะทำให้มันหายค้างคา ก็นั่งเบลอๆ อึนๆ ไปตลอดทาง แต่ความคิดก็โดดโลดแล่นสนุกสนานเลย มันคิดหลายอย่างจัดจนบางทีไม่รู้จะจัดระเบียบความคิดยังไง

           

 

ฟิตเนสที่แซ็คทำงาน อยู่ในแมนแฮตตันนี่แหละ ไม่ได้ไปไหนไกล อยู่ทางตอนใต้ ห่างจากบ้านวิคเตอร์ก็เหมือนขั้วตรงข้ามกัน นั่งรถไปก็ไม่ได้ไกล ยี่สิบนาทีถึง ผมก็นั่งไปเพลินๆ ไม่ได้รีบร้อน ตอนมาถึงหน้าตึกเลทไปห้านาที ผมเดินเข้าไปด้านใน เอาบัตรไปสแกน ประตูปลดล็อค ผมดันประเหล็กกั้นแล้วเดินเข้าไปด้านใน เลี้ยวไปทางซ้าย เอากระเป๋าไปเก็บที่ล็อคเกอร์ หยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กออกมาจากกระเป๋าแล้วเดินออกมาจากห้องล็อคเกอร์ก็เจอกับแซ็คพอดี

           

 

“ไง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ผมยิ้มอ่อนแล้วเดินเข้าไปกอดเขาสั้นๆ ก่อนผละออก

           

 

“ก่อนหน้านี้กลับไทยกับไปอังกฤษมาครับ พอกลับมาผมได้งาน เลยยุ่งๆ หน่อย” แซ็คยิ้ม เขาตัดผมสั้น ซึ่งคงตัดมาสักระยะนึงแล้วหรือาจจะเพิ่งตัดก็ไม่อาจรู้ได้ หนวดเคราครึ้มอ่อนๆ ไม่รกเหมือนวิคเตอร์

           

 

“เลยปล่อยให้วิคเตอร์มาคนเดียวสินะ” ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยด้วยความประหลาดใจ

           

 

“วิคเตอร์มาออกกำลังกายเหรอครับ” แซ็คพยักหน้า หรี่ตามองผมเล็กน้อยด้วยความสงสัย

           

 

“อยู่บ้านเดียวกันแน่ใช่มั้ย ถามเหมือนไม่รู้ว่าเขาไปไหนมาไหนบ้าง” ผมเหมือนโดนแซ็คตบหน้าจนหน้าเอ๋อ ผมมองเขาด้วยความเหลอหลา ยิ้มแบบไม่เต็มปาก เขาไม่ได้อ่านใจใครออกหรอก ที่ผมพูดไปก็น่าสงสัยอย่างนั้นจริงๆ

           

 

“ช่วงนี้วิคเตอร์อุ้มผมไปนอนที่เตียงบ่อยกว่าผมเดินไปนอนเองอีก” ผมพูดให้ดูขำขันแบบสบายๆ แซ็คหัวเราะตามเบาๆ

           

 

“ถึงเวลาพักผ่อนก็ควรพักนะ ทำงานหนักไม่ได้หมายความจะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น” แซ็คพูดธรรมดาๆ เลยนะ ไม่ได้พูดเชิงสอนเป็นปรัชญา พูดแบบพูดไปเรื่อย แต่กลับทำให้ผมจึ้กในอก ผมยิ้มแหย พยักหน้าหงึกๆ ไปก่อน

           

 

“เดี๋ยวไปชั่งน้ำหนักกับวัดมวลร่างกายก่อน แต่จากที่ดู นายกลับมาอวบอีกแล้วนะ” ผมยิ้มน้อยๆ เดินตามเขาไปตรงจุดชั่งน้ำหนัก วัดความดัน วัดมวลกล้ามเนื้อของร่างกาย จัดการตามขั้นตอนแบบที่เคยทำ แซ็คจะทำแบบนี้กับผมและวิคเตอร์เดือนละครั้ง เป็นประจำทุกสิ้นเดือน เพื่อดูว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน เขาจะได้ปรับรูปแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับผมและวิคเตอร์ ช่วงที่วิคเตอร์ต้องฟิตเพื่อซีรีส์กับหนัง โปรแกรมของไอ้ยักษ์จะหนักกว่าผมมาก ของผมเหมือนเล่นโดดยาง เอาแบบสบายๆ แต่เน้นก้นเป็นหลักและสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพราะวิคเตอร์บอกแซ็คตรงๆ เลยว่าเพื่อให้ผมมีเซ็กส์กับเขาได้อย่างสตรอง

           

 

“ไขมันเพิ่มขึ้น แต่ยังดีที่มวลกล้ามเนื้อไม่เปลี่ยนแปลง น้ำหนักขึ้นมาสองกิโลนะ แต่นายเป็นคนที่อวบแล้วจะชัดเจน” แซ็คใช้แม็คเย็บกระดาษแผ่นยาวๆ ที่ปริ้นออกมาจากเครื่องติดเข้าไปในประวัติการออกกำลังกายของผมและเดินนำผมไปที่ลู่วิ่งก่อนเป็นอันแรก

           

 

“วอร์มร่างกายก่อนสักสิบนาที” ผมขึ้นไปยืนบนลู่วิ่ง แซ็คจัดการกดระดับความต้านกับระดับการวิ่ง ผมเริ่มจากเดินช้าๆ ไปเดินเร็วๆ และเปลี่ยนเป็นวิ่งในนาทีที่ห้า แล้วก็วิ่งยาวอีกห้านาทีที่เหลือ มันเป็นการวิ่งเพื่อให้ร่างกายตื่นตัวมากกว่าจะเอาไขมันออก

           

 

“ช่วงนี้นอนวันละกี่ชั่วโมง” แซ็คถามในตอนที่ผมกำลังเดินคูลดาวน์ ผมหอบนิดหน่อย เพราะห่างจากการวิ่งมาพักใหญ่

           

 

“แล้วแต่วันครับ สลับกันไป” แซ็คพยักหน้า เขาเป็นเทรนเนอร์ที่ดีมาก เขาถามถึงกิจวัตรประจำวันต่างๆ ไม่ใช่เพราะเขาอยากรู้อยากเห็น แต่มันเป็นการบอกได้ว่าเขาจะต้องทำยังไงกับการออกกำลังกายของแต่ละคน

           

 

“ป่ะ วันนี้เล่นช่วงบน แล้วปิดท้ายด้วยช่วงก้นเหมือนเดิม” แซ็คยิ้มแซว ผมยิ้มเขินเล็กๆ เรื่องเพศสำหรับแซ็คไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ หรือเรื่องน่าอาย เพราะเขาผ่านมาอย่างโชกโชน ผมแอบเชื่อด้วยว่าเซียนกว่าวิคเตอร์อีกมั้ง ดีไม่ดีหนังของแซ็คอาจจะมากกว่าหนังกับซีรีส์ของวิคเตอร์รวมกันอีก ผมเองก็ยังไม่เคยมานั่งถามเขาเกี่ยวกับเรื่องราวที่ผ่านมาของเขาว่าเป็นยังไงบ้าง การทำงานในวงการนั้น การใช้ชีวิตก่อนจะมาเป็นแซ็คแบบที่ผมรู้จักในทุกวันนี้

           

 

“เมื่อกี้นี้ฉันเห็นรถที่มาส่ง เหมือนไม่ใช่รถวิคเตอร์” แซ็คชวนคุยระหว่างที่นั่งพักหลังจากที่ผมเล่นเครื่องกระชับบ่ากับไหล่ไปได้หนึ่งเซ็ท

           

 

“ผมนั่งอูเบอร์มาครับ วิคเตอร์ เอ่อ ไปทำงาน” ผมยิ้มไม่เต็มปาก แซ็คเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง ก่อนจะดึงบาร์สีดำลงมาให้ผมใช้มือสองข้างจับริมๆ ไว้

           

 

“ดูแปลกๆ นะ” ผมยิ้มไม่เห็นฟัน ออกแรงดึงบาร์สีดำลงมาที่อกสลับกับปล่อยขึ้นไป ทำแบบนั้นยี่สิบครั้งแล้วก็หยุดพักเพื่อรอเซ็ทที่สาม ซึ่งเป็นเซ็ทสุดท้าย

           

 

“ไม่แปลกหรอกครับ ผมก็แค่ไม่ได้มาออกกำลังกายนาน นึกขึ้นได้ก็เลยมา แค่นั้นเอง”

           

 

“นั่นแหละแปลก ถ้าไม่มีวิคเตอร์มาด้วย ก็ต้องมีออสตินมาเป็นเพื่อน” พอรูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปนิดเดียว เลยกลายเป็นที่สังเกตได้ง่ายๆ ของคนรอบข้าง ตอนนี้แซ็คก็เหมือนเพื่อนวิคเตอร์อีกคน ถึงจะอายุเยอะกว่าไอ้ยักษ์สองปี แต่เขาก็นับถือว่าเป็นเพื่อนกัน

           

 

“ออสตินไปกับวิคเตอร์” ผมรู้สึกว่ายิ่งพูดก็ยิ่งแย่ แย่ในที่นี้ไม่ใช่ความรู้สึกผม แต่เป็นการโกหกได้แย่มาก ผมนึกสงสัยว่าตัวเองเคยโกหกใครได้เนียนบ้าง

           

 

“ทะเลาะกันก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉันหรอก ไม่ต้องพยายามปกปิดก็ได้ ฉันไม่ถามหรอกน่า” ผมตาโต ส่ายหัวรัวๆ

           

 

“ผมไม่ได้คิดว่าคุณจะมาสอดแนมหรือวุ่นวายแบบนั้นนะครับ…” แซ็คยิ้มใจดี ผมทำปากยื่น รู้สึกอึนๆ ในอก

           

 

“…ก็แค่คิดว่า มันอาจเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับคุณ” แซ็คจับบาร์ลงมาให้ผมจับอีกครั้ง ผมเริ่มดึงอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน

           

 

“ฉันชอบคู่นายนะ มันทำให้คนแบบฉันรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น” ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่ยังไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งดึงครบเซ็ทตามที่กำหนด ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ปล่อยบาร์สีดำให้ลอยอยู่ด้านบนแล้วหันไปมองเทรนเนอร์สุดแซ่บของตัวเอง เขายักคิ้วและบิดปากเล็กน้อย

           

 

“คนแบบคุณ แบบไหน ยังไงเหรอ” สิ่งที่บำบัดอาการนอยด์ของผมได้ดีมากคือการยุ่งเรื่องชาวบ้าน เพราะมันได้ถ่ายโอนความรู้สึกของตัวเองไปโฟกัสเรื่องอื่นแทนเรื่องตัวเอง

           

 

แซ็คยักไหล่ เลิกคิ้วขึ้นทำหน้านึก เหมือนกำลังนึกว่าจะตอบผมแบบไหนดี “เรียกว่าเป็นคนไม่เอาถ่านกับความรักละมั้ง” ผมอ้าปากหวอ คิ้วขมวดเข้าหากัน สีหน้างุนงงและสงสัย ในใจพร้อมเสือกมาก แซ็คหันกลับมามองผมแล้วยิ้มขำน้อยๆ กับสีหน้าที่ผมแสดงออก

           

 

“ไม่เอาถ่านกับความรักเหรอ มันเป็นยังไงอะ หมายถึงว่าไม่ดี ไม่รอด ประมาณนั้นรึเปล่าครับ” แซ็คชี้ให้ผมนั่งลงบนเบาะบนเครื่องออกกำลังตรงช่วงอกหลังจากที่เขาเซ็ทน้ำหนักให้ผมเสร็จแล้ว ผมนั่งลงตามที่เขาชี้ กางแขนออก ใช้สองมือจับตรงที่จับไว้แล้วบีบเข้าหากัน เทรนเนอร์ร่างใหญ่สุดแซ่บของผมถอนหายใจเบาๆ

           

 

“ฉันไม่เชื่อ ไม่ศรัทธาในความรัก…” ผมทำหน้าประหลาดใจ นึกถึงวิคเตอร์เลย เขาก็เคยบอกว่าไม่เชื่อในรักหวานแหวว เคยด่าที่ผมชอบฟังเพลงรักด้วย

           

 

“…วิคเตอร์ก็เคยบอกฉันเหมือนกันว่าเขาไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ จนมาเจอนาย” ผมค้างเติ่งไปนิด เกือบหยุดบีบแขนเข้าหากัน หัวใจเต้นตึกตักเบาๆ

           

 

“เขา… เขาพูดกับคุณเหรอ” แซ็คยักคิ้วสองข้างหนึ่งที

           

 

“ใช่ ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาคิดแบบนั้น แต่สำหรับฉัน มันก็…” เขาแค่นยิ้ม ดูเป็นรอยยิ้มขื่น ผมทำครบจำนวนที่เคยทำแล้วก็หยุด เอามือวางไว้บนตัก ได้ยินเสียงเหล็กถ่วงกระทบกันจากเครื่องเล่นอื่นที่ลูกค้าคนอื่นๆ กำลังใช้บริการ

           

 

“…แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยเชื่อนะ ฉันเคยเชื่อ แต่พอถึงจุดที่ทำให้ไม่เชื่อ ฉันก็หมดศรัทธากับมันไปน่ะ” แซ็คพูดด้วยท่าทางปกติ ไม่ได้ดูหม่นหมองใดๆ เขากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

           

 

“ฉันยังไม่ได้ด้านชาหรือตายด้าน เรื่องมันนานมาแล้ว เวลาผ่านไป ความรู้สึกก็เริ่มชินกับการที่ตัวเองคิดและรู้สึกแบบนี้” เขาทำท่าให้ผมบีบแขนเข้าหาตัวกันเป็นเซ็ทที่สอง ผมทำตามที่เขาสั่งและก็สอดเรื่องเขาไปด้วย เราจะมาหยุดอยู่ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ไม่ได้ เผือกให้สุดแล้วหยุดที่รู้เรื่องทุกสิ่ง

           

 

“แล้วตอนนี้คุณยังรู้สึกแบบนั้นอยู่มั้ย หรือกลับมาเชื่อในความรักบ้างแล้วรึเปล่า” ผมย่นหน้าเล็กน้อยตอนที่เริ่มรู้สึกล้าช่วงต้นแขน แต่ก็ยังไม่หยุดทำ

           

 

แซ็คถอนหายใจเบาๆ ยกสองแขนกอดอก นั่นยิ่งทำให้กล้ามแขนของเขาล่ำชัดมากขึ้น รอยสักบนเต้นแขนทำให้เขาดูเท่เพิ่มไปอีก “อย่ารีบ…” เขาเตือนเมื่อเห็นผมเผลเร่งจังหวะตัวเอง

           

 

“…ไม่รู้สิ ตอนนี้ฉันรู้สึกยังไงก็ยังไม่แน่ใจ” ผมบีบเข้าหากันครั้งสุดท้ายแล้วหยุด สมองตอนนี้ไม่สนใจเรื่องออกกำลังกายละ สนใจแต่เรื่องของแซ็คเนี่ย

           

 

“คุณ เอ่อ เคยรักใครมั้ย” แซ็คคลี่ยิ้ม เป็นยิ้มแปลกๆ ที่เขาคงรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร

           

 

“ไม่เคยหรอก…” ผมอ้าปากค้างน้อยๆ กำลังพิจารณาว่าจริงหรือตอบเอาให้แปลกไม่เหมือนใคร

           

 

“…เพราะฉันกำลังรักเขาอยู่ในตอนนี้” ผมกะพริบตาปริบๆ สักแปบก่อนจะอ๋อ แต่สักพักก็

           

 

“ฮะ? เขาเหรอ?” แซ็คพยักหน้ายิ้มๆ ผมตาโตทันที แซ็คทำท่าให้ผมออกกำลังกาย ผมยกสองมือขึ้นเบรคเขา

           

 

“เดี๋ยวๆ ก่อน คนที่คุณรักเป็นผู้ชายเหรอ” เขายักคิ้วหนึ่งที ริมฝีปากขยับเป็นรอยยิ้มเขินเล็กๆ

           

 

“ใช่ ผู้ชายไทยแบบนายด้วย” อุ๊ตะ!

           

 

“ถามจริง?” เขาเลิกคิ้วขึ้น พยักหน้าลงช้าๆ หนึ่งทีเหมือนเป็นการย้ำให้ชัดเจนว่าตามนั้น ผมคลี่ยิ้มกว้าง ยกสองมือป้องปากด้วยความรู้สึกเขิน ผมรู้จักกับเขามาสองปีได้ แต่ผมไม่เคยถามหรือรู้เรื่องนี้เลย เพราะแซ็คทำตัวปกติ เหมือนคนที่มีสถานะโสด

           

 

เออ ใช่เขาทำตัวแบบนั้นอะ

           

 

“แต่คุณเคยบอกว่า คิดจะจีบผมด้วย คนนั้นเขาไม่ว่าเหรอ” ผมเอียงคอมองเขาด้วยความสงสัยเหมือนเวลาไมเคิลมองวิคเตอร์ตอนเขาด่ามัน

           

 

“ไม่ว่า แต่ไม่พูดกับฉันไปสามวัน” ผมหลุดหัวเราะเสียงดัง เป็นการหัวเราะดังมากในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้ แซ็คหัวเราะเบาๆ

           

 

“เขารู้มั้ยว่าคุณฮ็อตมาก ผู้หญิงอยากเทรนกับคุณเยอะแยะ” แซ็คคิวฮ็อตมาก แต่ไม่ใช่ว่าฮ็อตข้ามปีข้ามชาตินะ คือเขาเล่าให้ฟังว่ามีอีเมลเข้ามาหาว่าอยากให้เขาเป็นเทรนเนอร์ให้ มีหลากหลายเพศ แรกๆ ที่เขาเริ่มทำอาชีพนี้ ผมไม่รู้ว่าเขามีวิธีการรับงาน การทำงานยังไง แต่ตั้งแต่เขามาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้วิคเตอร์ เขาคัดลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่ว่าเขาดังแล้วหยิ่ง แต่เขาก็ต้องระวังตัว เพราะพอบางคนรู้ว่าเขาเคยเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่มาก่อน มันก็จะมีการคาดหวังมากกว่าเทรน

           

 

“รู้ เขารู้ด้วยว่าฉันสนองความต้องการของผู้หญิงบางคน”

           

 

“โอ้” ผมอ้าปากหวอกว้างเลยทีนี้ แล้วสักพักก็หุบปากลง เบิกตากว้าง ยื่นคอไปข้างหน้านิดหนึ่ง มองเขาด้วยความทึ่งและสับสน

           

ความสัมพันธ์นี้ช่างน่าเสือกยิ่งนัก รู้สึกผ่อนคลายยิ่งนักเมื่อมีเรื่องคนอื่นมาให้โฟกัสแทนเรื่องตัวเอง

 




เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:


               การบำบัดของแมทน่าสนใจดีนะคะ ถ่ายโอนความรู้สึกของตัวเองไปยุ่งกับเรื่องคนอื่น จะทำให้ลืมปัญหาของตัวเองไปได้ เออ เริ่ด

               แต่พ้อยท์คือ เรื่องของพี่แซ็คค่ะ ซี๊ดดดด >..< ถ้าเป็นภาษาที่ตอมคุยกับเพื่อนจะพูดว่า ความสัมพันธ์ฮี(+) อะไรของมึงเนี่ย 5555555

               ว่าจะอัพตั้งแต่เมื่อวานตามที่บอกไว้ในเพจค่ะ แต่น็อคหลังจากเคลียร์งานด่วนที่บอกไปเสร็จ คือเบลอไปเลย อยากทิ้งหัวลงหมอนลูกเดียว

               ขอบคุณสำหรับคอมเม้นจากคนอ่านทุกคนที่คอมเม้นให้กันนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ มันเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับคนเขียนมากๆ มันคือแรงขับเคลื่อนและกำลังใจในการเขียนมากเลยค่ะ รู้ว่ามีคนรออ่านและรอมีอินเนอร์ร่วมไปด้วยกันทุกครั้งที่ลงเนื้อเรื่องก็ปริ่มใจ ขอบคุณค่ะ และขอบคุณโหวตที่มอบให้ด้วยค่ะ ได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร แต่พอได้ก็ดีใจ ฮ่าาา และขอบคุณยอดวิวจากนักอ่านเงานะคะ  :mew1:

               อัพตอนนี้จบ ก็จะอัพเรื่องของพี่แซ็ค พี่พระเอกคนที่สองของซีรีส์พี่พระเอกแล้นค่าาา แต่ก่อนจะอัพเรื่องลง เดี๋ยวมีสกู๊ปพิเศษสักสองสามอันคุยกันก่อนอ่านที่เพจเฟซบุ๊ค ซึ่งสกู๊ปพิเศษตอนแรกลงไปแล้ว ตามไปย้อนอ่านกันได้ที่เพจนะคะ เดี๋ยวสกู๊ปตอนที่สองกำลังจะตามมาค่ะ  :hao6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1956 เมื่อ11-10-2017 19:23:17 »

 :pig4:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1957 เมื่อ11-10-2017 19:39:33 »

นุ้งแมทนะ นุ้งแมท สรใจเรื่องจองพี่แซคซะแล้ว ถถถถ
นุ้งแมทกับวิคเตอร์เหมือนปรับตัวเข้ากันไม่ได้เลยอ่ะ ต่างคนต่างทิฐิ เมื่อไหร่จะได้ดีกันเนี่ย

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1958 เมื่อ11-10-2017 20:07:23 »

แมทนี่ชอบเผือกจริงๆ 555

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1959 เมื่อ11-10-2017 20:35:05 »

แมทค่ะ ควรไปเคลียร์กะวิกเตอร์ก่อนมั้ย
5555
มีเรื่องแช็ค มาให้เผือกแทน 55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
« ตอบ #1959 เมื่อ: 11-10-2017 20:35:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1960 เมื่อ11-10-2017 21:15:56 »

ดีกันได้แล้ว

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1961 เมื่อ11-10-2017 23:12:17 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1962 เมื่อ12-10-2017 00:51:33 »

มาอัพแล้ววว

รีบๆดีกันน้า

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 50% :11.10.60:
«ตอบ #1963 เมื่อ13-10-2017 16:38:55 »

ไม่ได้เข้ามานานมากๆ คิดถึงคู่นี้ รอบนี้ทีมวิคเตอร์

วิคเตอร์งานเยอะ งานยุ่ง ทำไมยังหาเวลามาอยู่กับแมทได้ล่ะ

แมทมีความฝัน เตอร์ก็เข้าใจนะ พอปล่อยให้ทำงานไป

แต่แมทไม่รู้จักความพอดี ไม่รู้จักแบ่งเวลา

ตอบตรงๆแทบจะลืมไปแล้วว่าแมทอยากทำงานเขียนบท

ทุกวันนี้โดนใช้ยิ่งกว่าทาส ซึ่งวิคเตอร์ก็เห็น

มันมากไปมันไม่ก้าวหน้านะ เรียกว่าดันทุรัง

คนที่กองว่าเพราะแซะได้ แต่เตอร์ว่าบางทีคือหวังดี แมทไม่ยอมซะงั้น

คนรักกันต้องปรับเข้าหากัน ไม่ใช่ให้ฝ่ายนึงเข้าหาคนเดียว

วิคเตอร์เป็นคนอารมณ์ร้อน บางทีทำอะไรอาจแข็งกระด้างไปบ้าง

แต่เชื่อว่าแมทคนเก่าจะมองจุดประสงค์ของวิคเตอร์ออกง่ายๆ

 ไม่ใช่แมทคนใหม่ที่สนใจแต่งานแล้วลืมคนรอบข้างแบบนี้

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1964 เมื่อ18-10-2017 19:03:50 »



Yours&Mine :: EP.12 [100%]




“เขารู้หมดแหละ เพราะฉันบอกเอง และเขาก็อนุญาต”
   


“ฮะ?!” ผมกลับมาอ้าปากค้างอีกครั้ง มองแซ็คด้วยความตะลึง และรู้สึกตะลึงไปถึงผู้ชายคนนั้นของแซ็คด้วย
   


“เขาเป็นแฟนคุณ คุณเป็นแฟนเขาใช่มั้ยอะ” ผมถามเสียงเบา แต่ไม่หวิว ด้วยความสงสัย อีกความรู้สึกคือทึ่งปนแปลกใจจนระดับเสียงลดลงมาเอง เอาแบบนี้ดีกว่า กราฟความรู้สึกอยากเสือกพุ่งสูงมากตอนนี้



แซ็คยักไหล่สองข้างท่าทางสบายๆ “เรายังไม่ได้คบกันเป็นคู่แบบนายกับวิคเตอร์หรอก”



“อ้อ…” ผมรู้สึกโล่งใจ แต่แปบเดียวก็ขมวดคิ้ว “…แต่คุณบอกว่าคุณรักเขานี่นา แล้วทำไมถึง…”



“…ถึงมีอะไรกับคนอื่นน่ะเหรอ” ผมพยักหน้ารัวๆ แซ็คระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้า



“ทำเซ็ทที่สามให้ครบก่อน” โอ้โห รีบเลย ผมยกมือขึ้นจับแฮนด์ของเครื่องออกกำลังกายส่วนอกอย่างไว พยายามเบรกความรีบร้อนในการทำให้เสร็จเร็วๆ ของตัวเอง เพราะไม่งั้นเดี๋ยวแซ็คให้เริ่มใหม่ เขายืนยิ้มขำที่เห็นผมรีบออกกำลังกายให้เสร็จเพราะอยากฟังเขาเล่าต่อ



“ครบแล้วครับ!” ผมบอกอย่างไว แซ็คกระดิกนิ้วให้ผมลุกขึ้นเดินตามไปที่เครื่องออกกำลังกายอันใหม่ ผมนั่งลงบนเบาะของเครื่องออกกำลังส่วนสะบักหลัง



“เขาอยู่กับฉันตั้งแต่สมัยที่ฉันยังทำงานในวงการหนังผู้ใหญ่ เขาเห็นฉันร่วมเพศกับผู้หญิงจนคุ้นเคย แต่กว่าจะคุ้นเคย ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลย…” โอ๊ะตายละ ยิ่งพูดยิ่งน่าสนใจใคร่รู้ชวนเอาใจใส่ต่อเรื่องราวของเขามาก



“…และนั่นมันเลยส่งผลมาจนถึงตอนนี้ ทำให้เราไม่ได้คบกันจริงจังสักที”



“แล้วคุณอยากคบกับเขามั้ย” แซ็คย่นจมูก แยกเขี้ยว ยักคิ้วหนึ่งที แล้วยักไหล่ แต่รวมๆ ผมแปลเอาเองว่ามันน่าจะแปลประมาณว่า แหงอยู่แล้ว ส่วนผมทำหน้าไม่เข้าใจ ไม่รู้ไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองแปลหรือไม่เข้าใจกับความสัมพันธ์ของแซ็ค



“ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ เริ่มต้น ดำเนิน และจบลงแตกต่างกันออกไป อย่างของฉันก็…” แซ็คปั่นมือขวาในอากาศ เหมือนกำลังนึกถึงประโยคของตัวเองที่อยากจะพูด แต่สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วยิ้มขำน้อยๆ ก่อนจะส่ายหัวหน่อยๆ มันคงหาคำจัดความยากน่าดูสินะ



“…หมอนั่นเป็นคนมีความคิดแปลกๆ หน่อย อย่างเรื่องที่ฉันนอนกับผู้หญิงคนอื่นเขาจะเฉยๆ แต่เขาไม่ชอบให้ฉันยุ่งกับผู้ชายคนอื่น นอกจากเขาคนเดียว หมายถึงแบบที่ฉันยุ่งกับผู้หญิงน่ะ” เออ แปลกจริง เฮ่ย เป็นมุมมองที่เก๋…. เหรอวะ?



“แล้ว… แล้ว… แล้วคุณจะคบกับเขามั้ย แบบคุณเองก็อยากคบ แต่จะคบกับเขาจริงๆ ใช่มั้ยอะ” แซ็คสูดลมหายใจเขาปอดลึกๆ แล้วพ่นออกมายาวๆ



“มันต้องมีวันนั้นแหละแมท แค่ฉันไม่รู้ว่าจะวันไหน”



“เขาไม่เสียใจจริงๆ เหรอที่คุณทำแบบนั้น” แซ็คหัวเราะในลำคอ ก่อนที่จะแค่นยิ้ม คราวนี้เป็นรอยยิ้มที่ไม่ใช่ขำขันหรือสนุสกนาน มันเป็นรอยยิ้มแห่งความเจ็บปวด



โห อีแมท มึงมองทะลุมาก มองอะไรได้ขาดขนาดนั้นอะ



“เพราะเขาเสียใจ วันนี้เขาเลยไม่เสียใจ และฉันกลัวว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไรเหลือเกิน” จากที่ขำๆ ขันๆ ตลกๆ ทำไมมันดาวน์ลงมาแบบนี้ไปได้ล่ะ ผมเห็นแววตาวิตกกังวลของแซ็คแล้วก็รู้สึกไม่ดี



“ก็… งั้นก็คุณก็ต้องทำให้เขามั่นใจสิว่าเขาจะเป็นคนเดียวของคุณ คุณต้องรีบกู้ความรู้สึกคืนมา อย่าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป” แล้วแซ็คก็ยิ้ม คราวนี้เขายิ้มกริ่มจนผมขมวดคิ้วงง



“บอกตัวเองแบบนี้แบบที่บอกกับฉันด้วยนะ…” ผมคลายคิ้วออก กะพริบตาปริบๆ “…อย่าปล่อยให้มันเป็นแบบที่มันกำลังเป็นอยู่”



สาบบานจริงๆ นะว่าแซ็คไม่ได้รู้เรื่องสถานการณ์ของผมกับวิคเตอร์ตอนนี้เลย และเขาก็แค่พูดธรรมดาๆ ไม่ได้เปิดคลาสปรัชญาใดๆ ด้วย



“นายกับวิคเตอร์เป็นกำลังใจ เป็นแรงผลักดันให้ฉันไม่ยอมแพ้ที่จะเอาหมอนั่นกลับมาหาฉัน…” แซ็คยิ้ม หยิบมือถือขึ้นมากดเปิดอะไรสักอย่างอยู่แปบนึงแล้วก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผม



“…พวกนายเป็นไอดอลฉัน ฉะนั้นไอดอลต้องเป็นแบบอย่างที่ดีรู้รึเปล่า” ผมยิ้มกว้างด้วยความตลกก่อนจะก้มลงมองภาพในมือถือ เป็นภาพของแซ็คกับผู้ชายเอเชียคนหนึ่ง ผิวขาวสว่างมาก ใบหน้าเรียวคมสมส่วน จะบอกว่าสวยก็ไม่ขนาดนั้น แต่หน้าก็ละมุนมากเลย ผู้ชายคนนั้นใส่เสื้อยืดสีขาว ด้านล่างเปลือยเปล่าเห็นก้นขาวงอนเด้ง ยืนอยู่ในอ้อมกอดแซ็คที่ท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์หุ่นล่ำที่ยังไม่บึ้กมากเท่าปัจจุบัน ท่อนล่างเป็นกางเกงว่ายน้ำสีเขียวทรงสามเหลี่ยมรัดติ้วสุดแซ่บ โอ้ว เอ่อ สติ ส่วนหน้าผากของผู้ชายคนนั้นซบกับสันกรามใบหน้าหล่อของแซ็ค ยิ้มกว้างให้กับกล้อง ฉากหลังของทั้งสองคนคือทะเล



“เป็นรูปแรกที่เราถ่ายคู่กัน ส่วนทุกวันนี้เราไม่มีรูปคู่กันเลย” แซ็คว่าขำๆ ไม่ได้ดูซีเรียสหรือดราม่า



“เขาน่ารักนะครับ” แซ็คกลอกตา หน้าเซ็ง ส่ายหัวเบาๆ



“ตอนนี้น่ารักกว่าเดิม ดึงดูดตัวผู้เข้าหาได้เยอะเชียวละ” เขายิ้มเยาะ แต่สีหน้ามีแววไม่พอใจ ผมยิ้มขำ



“เขาชื่ออะไรเหรอ”



“ไอติม” ผมยิ้มกว้างกับชื่อนั้น



“ชื่อก็น่ารัก”



“ใช่ ฉันชอบกินไอติมมากเลยละ” แซ็คยิ้มกรุ้มกริ่ม ยักคิ้วหนึ่งที ผมห่อไหล่ด้วยความเขิน ยิ้มกว้างด้วยความอาย ก่อนจะส่งเสียงกรี๊ดในลำคอเบาๆ แล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้เขา



“เอาล่ะ ออกกำลังกายต่อ เดี๋ยววิคเตอร์จะหาว่าฉันเอาเวลามาจีบนายอีก” ผมหัวเราะเบาๆ พยักหน้าหงึกๆ แล้วเริ่มออกกำลังกายต่อจากที่ค้างเอาไว้



คุยกับแซ็คแล้วรีบอยากกลับไปคุยกับวิคเตอร์เลย เป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมกับไอ้ยักษ์เงียบใส่กันนานขนาดนี้ สามวันแห่งความสงบ ไม่สนุกเท่าไหร่เลยแฮะ








ผมออกกำลังกายเสร็จก็เกือบบ่าย แซ็คเทรนให้ผมสองชั่วโมง เวลาที่เหลือผมก็ไปวิ่งแล้วก็เต้นซุมบ่า อโลฮ่ามาก สนุกมากคลาสนี้ ได้เต้นแล้วก็รู้สึกปลดปล่อยดี ปล่อยความคิดไปกับเสียงเพลงและท่าเต้นที่แสนจะริมทะเล ผมเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ออกมาเปลี่ยนชุดตรงโซนล็อคเกอร์ ไม่มีสายเรียกเข้าจากไอ้ยักษ์หรือออสติน หน็อย เงียบทั้งนายทั้งลูกน้องเลยนะ รวมหัวกันบอยค็อทผมล่ะสิ



“ไว้เจอกันนะครับแซ็ค” ผมโบกมือให้แซ็คตรงเค้าน์เตอร์รับลูกค้าที่เขากำลังยืนอยู่กับแม่สาวผมยาวสีทอง หน้าท้องเป็นกล้ามสวยงาม เธอยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร แซ็คทำท่าตะเบ๊ะตอบกลับมา ผมเดินออกจากตึกฟิตเนสไปขึ้นอูเบอร์ที่เรียกไว้ก่อนหน้านี้ ได้รถสีดำทั้งขาไปขากลับเลยแฮะ



“Could you drop me at supermarket and wait me for a half an hour?  (เดี๋ยวจอดรอผมที่ซูเปอร์มาร์เก็ตซักครึ่งชั่วโมงได้มั้ยครับ)” คนขับที่เป็นผู้ชายผมขาว แต่หน้าตาไม่ได้ดูแก่เลยพยักหน้ารับ ไม่รับได้ไงล่ะ จอดรอก็ได้ตังค์เพิ่ม



ระหว่างทางผมนั่งอ่านแชทของเพื่อนๆ ในกลุ่มไลน์ แจ้งเตือนเป็นร้อยเฉพาะกลุ่มเดียว ผมไล่อ่านแบบคร่าวๆ ไอ้วอร์มส่งรูปอีแชมป์กับเด็กผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้มคนนึงมาในกลุ่ม เป็นภาพที่ไอ้ตี๋ขาวกำลังกอดเอวเด็กคนนั้นในผับแล้วกำลังก้มคุยกับน้องเขา ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ แล้วก็ยิ้มงงๆ นิดหน่อย



(อีแชมป์ไม่เห็นเล่าให้ฟังมั่งอะ)



ผมพิมพ์ข้อความเข้าไปในกลุ่ม เงียบไปสักพัก อีแชมป์ที่ไม่ได้ตอบอะไรก่อนหน้านี้ โยนประเด็นมาให้ผมรับแทนทันที จากที่ตัวมันกำลังเป็นประเด็น มันเล่นผมแทนแล้ว



(มึงไม่ต้องเลย กูโทรไปไม่รับ บางทีรับก็รีบวางสาย ไอ้ห่า เวลามึงกับของกูเหมือนกันมั้ย ก็ไม่ ไลน์ก็ชอบดอง ในกลุ่มคุยกัน มีวันเนี้ยแหละที่มึงมาพิมพ์ตอบ ไหน บอกมาดิ๊ว่ามึงจะอยู่แต่กับผัวใช่มั้ย)



(อ้าว อีห่า กูทำงานโว้ย ไม่ได้ติดผัวนะ)



(เออ งั้นสมแล้วที่ผัวมึงจะโกรธ)



(อะไร วิคเตอร์คุยกับมึงเหรอ)



(ถ้าแอบเป็นชู้กับกูได้ มันคงทำไปละ กูโทรไปหาผัวมึงเพราะมึงไม่รับสาย เขาเลยระบายให้กูฟัง)



ผมจิ๊ปาก ย่นคิ้วใส่หน้าจอโทรศัพท์ อะไรกันนี่ อะไรกันหนอ แต่ดูท่าจะมีแต่อีแชมป์ที่รู้เรื่อง เพราะคนอื่นๆ ถามกันมาใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมขมวดคิ้ว นึกสงสัยว่าพวกมันไม่นอนกันเหรอ แต่พอนึกวันได้ก็เลยไม่แปลกใจ วันหยุดมัน จะนอนตีห้ามันก็ทำกันได้ ผมเห็นเพื่อนๆ รุมถาม รุมคุยเรื่องของผมแทนเรื่องไอ้แชมป์เยอะเกินเลยแกล้งทำมึนไม่ตอบ ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นความสำคัญของเพื่อน แต่ผมแค่คิดว่า เวลาเราดราม่า เราจะเล่าอะไรได้มากมายเพื่อเป็นการระบาย แต่พอเราดีกันแล้วล่ะ เรามักไม่ค่อยอัพเดตหรอก แต่ถ้าสักพักเราดราม่าอีก เราก็เล่าอีก พอดีกันเล่าก็ไม่เล่าอีก มันเป็นการซ้ำซ้อน ผมว่าวันนึงเพื่อนจะเบื่อและเริ่มรู้สึกว่า ปล่อยมัน มันก็เป็นแบบนี้



อูเบอร์จอดหน้าซูเปอร์มาร์เก็ต Morton Williams ที่อยู่ในแมนแฮตตัน ผมรีบเดินเข้าไปด้านใน พุ่งดิ่งไปตรงของสด ระหว่างทางผมลิสต์มาในหัวแล้วว่าอยากได้อะไรบ้าง เลยหยิบลงตะกร้าได้อย่างง่ายดาย ปกติจะต้องมีออสตินไม่ก็วิคเตอร์ในชุดปกติแบบที่ไม่กลัวปาปาราซซี่มาช่วยถือ มีภาพแอบถ่ายเราสองคนในซูเปอร์มาร์เก็ตไปสามเซ็ทแล้วมั้ง ผมไม่มีโอกาสได้พูดอยู่แล้ว แต่ครั้งนึงวิคเตอร์เคยตอบสื่อไปว่า พาน้องชายไปซื้อกับข้าวมันผิดด้วยเหรอ ทีตอนเขาออกไปกับน้องสาว (ไวโอล่า) ที่อังกฤษไม่เห็นมีคนถ่ายมาบ้าง



“Thank you.” ผมกล่าวขอบคุณพนักงานคิดเงินหลังจากจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อย ผมถือถุงพลาสติกกลับไปที่รถ ใช้เวลาไปแค่สิบห้านาทีน้อยกว่าที่บอกเขาไว้ คนขับรถออกรถไปตามเส้นทางในเมืองใหญ่ ตอนนี้บ่ายสามแล้ว วิคเตอร์น่าจะตื่นแล้วละมั้ง



แต่ครั้งนี้ไอ้ยักษ์มันเล่นงี้เลยเนอะ เงียบ เมิน ไม่ใส่ใจจริงจัง ไม่โทรจิก ไม่โทรตาม นี่ถ้าผมโดนไอ้ฌอนดักตีหัว กว่าจะรู้ตัวผมคงนอนอยู่โรงพยาบาลแล้วมั้ง ไอ้ยักษ์เวอร์ชั่นโกรธแบบสงครามเงียบแบบนี้เพิ่งเคยเจอเหมือนกัน



“Have a good day.” ผมบอกคนขับอูเบอร์ตอนที่เขามาจอดตรงหน้าบ้านและจัดการให้เขาตัดค่าโดยสารจากบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว ผมแบกของทุกอย่างลงจากรถ รถวิคเตอร์ไม่อยู่ไม่รู้ไปไหน ผมมองที่จอดรถอันว่างเปล่าด้วยความสงสัยแปบหนึ่งก่อนจะเดินขึ้นบันไดหน้าบ้าน วางของลงข้างนึง ล้วงกุญแจออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วไขประตูบ้านเข้าไป ด้านในเงียบสงบ ผมใช้เท้าปิดประตู เอาของไปวางไว้บนโต๊ะหินอ่อน อาหารที่ผมทำให้ไว้เมื่อเช้าหายไป จานวางอยู่ในอ่างล้างจาน ผมกำลังจะเดินไปดูในห้องโถง แต่ไมเคิลก็เดินเตาะแตะๆ ออกมาหาผมก่อน



“เฮ้” เจ้าโกลเด้นท์ตัวจ้ำม่ำ โบกหางไปมา นั่งสองขาให้ผมลูบหัว ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาวิคเตอร์ แต่เป็นครั้งที่สองของวันที่เขาไม่รับสาย ผมเลยโทรหาออสตินแทน สัญญาณดังแค่สองครั้งเขาก็กดรับสาย



[คุณเรย์มอนด์มาเตรียมตัวไปงานเลี้ยงครับ]



“โอ้ว เอ่อ ต้องไปตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอ” ยังไม่ทันสี่โมงเย็นเลย พระอาทิตย์ยังไม่เริ่มตกเลยสักนิด



[ชุดออกงานวันนี้เป็นของสปอนเซอร์ เขาเลยต้องมาลองก่อน คุณเอมิลี่ก็มาครับ] ได้ยินชื่อเอมิลี่ผมก็เบาใจ แต่ก็เริ่มไม่แน่ใจเรื่องอาหารเย็น



“ผมโทรไปแล้วเขาไม่รับ คุณถามเขาให้หน่อยแล้วกันว่าจะกินอะไรมั้ย หรืออยากจะอิ่มมากจากที่งานเลี้ยงเลย”



[เดี๋ยวถ้าเขาออกมาแล้ว ผมจะถามให้ครับ] ผมกล่าวขอบคุณสั้นๆ กับออสตินแล้ววางสายไป หันไปมองของสลับกับมองไมเคิลที่นั่งลิ้นห้อย



“ทำไว้ก่อนก็แล้วกันเนอะ” ผมไม่รู้ว่าคำตอบจะเป็นยังไง แต่ผมก็คิดว่าเตรียมไว้ก็แล้วกัน เหมือนที่แม่บอก จะโกรธ จะงอนกันยังไงแต่ไม่ควรละเลยมื้ออาหาร







‘เขาบอกว่าแล้วแต่คุณแมท’



นั่นคือข้อความที่ออสตินส่งมาบอกในระหว่างที่ผมกำลังทำอาหาร ตอนนั้นผมคิดว่าก็ไม่ศูนย์เปล่าแล้วละที่ทำไว้ กลับมาเขาคงกิน แต่ตั้งแต่บ่ายสามตอนนั้น จนตอนนี้จะสี่ทุ่มแล้ว วิคเตอร์ยังไม่กลับบ้าน ผมเลยคิดว่าเขาคงไม่น่าจะหิว งานเลี้ยงคงมีอาหารเยอะแยะ (ซึ่งผมยังไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นงานเลี้ยงอะไร) เขาคงกินจนอิ่มแล้วละมั้ง ผมเลยได้แต่ยืนมองจานอาหารที่ซีนพลาสติกไว้ด้วยความเซ็ง ไว้อุ่นพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน



“ไปนอนกันเถอะไมเคิล” ผมปิดไฟในครัว เปิดไฟตรงมุมซุ้มทางเข้าห้องโถงไว้เพื่อไม่ให้บ้านมืดตอนที่สองคนนั้นกลับมา ผมอุ้มฟอกซ์ขึ้นไปบนห้องนอนด้วย ตอนที่เข้ามาถึงในห้องนอน เปิดแอร์ หรี่ไฟสลัวเรียบร้อยแล้ว ผมก็ได้ยินเสียงเจ้ากระทิงดุมาตามถนน ผมวางฟอกซ์ไว้บนโซฟาปลายเตียง ไมเคิลนอนบนพรมด้านล่างหน้าโซฟา ผมเปิดประตูระเบียงออกไปดู ชะโงกหน้าไปด้านล่าง วิคเตอร์ในชุดสูทสีดำเรียบหรูใส่หูกระต่าย มัดผมจุดไว้บนหัวเดินออกจากรถมาพร้อมออสติน แล้วก็หายเข้าไปตรงบันไดหน้าบ้าน ผมยืนชั่งใจสักพักแล้วก็ตัดสินใจว่าไม่ลงไปดู อยู่ที่งานนานขนาดนั้น คงกินอะไรไปเยอะ อาหารผมก็เป็นหม้ายอยู่บนโต๊ะนั่นแหละ



ลึกๆ ก็น้อยใจนะ แต่จะว่าเขาก็ไม่ได้ เพราะเขาก็บอกแล้วว่าวันนี้เขามีงานเลี้ยง ผมดันสะเออะอยากทำอาหารง้อสามีผิดมื้อไปหน่อย เก็บไว้ใช้เป็นมื้อเช้าก็แล้วกัน



ผมปิดประตูระเบียงแล้วเดินไปที่เตียง สอดตัวเข้าผ้านวมแล้วนอนตะแคงลืมตาในความสลัวของไฟสีส้มนวลตา เปิดเอาไว้ให้วิคเตอร์ จะได้ไม่เข้ามาแบบมืดๆ ไม่รู้ว่าวันนี้จะขึ้นมานอนข้างบนหรือเปล่า ผมนอนคิดแบบเหงาๆ นอยด์ๆ พยายามหลับตาเพื่อให้หลับไปตามตาปิด แต่ความคิดที่วกวนในหัวก็เป็นตัวต่อต้านชั้นดีไม่ให้หลับง่ายๆ ผมพ่นลมหายใจ นอนมองไปข้างหน้าแบบไร้จุดหมายอย่างเหงาๆ



กริ๊ก~



เสียงเปิดประตูแบบเบาๆ ดังขึ้นในความเงียบ ผมหลับตา แกล้งทำเป็นนอนหลับไปแล้ว ได้ยินเสียงไมเคิลส่งเสียงแฮ่กๆ ตอบรับคนเข้ามาในห้อง ผมได้ยินเสียงเท้าเขาเดินแบบเบาๆ ไปทางห้องน้ำ แล้วสักพักไฟในห้องน้ำก็สว่างขึ้น ผมยกหัวขึ้นมอง เขาไม่ได้ปิดประตูห้องน้ำเลยไดยินเสียงน้ำจากฝักบัวกระทบพื้นชัดเจน ผมทิ้งหัวลงนอนตามเดิม พ่นลมหายใจอีกทีและพยายามข่มตาหลับ แต่ความรู้สึกก็ไม่ได้หลับตามไปด้วย



ผ่านไปหลายนาทีซึ่งคิดว่าคงเป็นสิบนาทีกว่าแล้ว ผมก็เริ่มที่จะมีอาการเหวี่ยงวึบเหวี่ยงวึบแบบที่ว่าใกล้จะเข้าสู่ห้วงแห่งการนอนเต็มทีแล้ว แต่ความรู้สึกก็หลุดหายวับไปเมื่อตอนที่เตียงยุบยวบยาบและตามมาด้วยแรงรัดตรงช่วงท้องของท่อนแขนอันแข็งแกร่ง ผมลืมตาขึ้นง่วงๆ หันไปมองก็เจอใบหน้าหล่อผมยาวปกหน้าหนวดเคราดกครึ้มของวิคเตอร์กำลังมองผมด้วยสายตาเรียบนิ่งอยู่



“Thank you for shrimp omelet. (ขอบคุณสำหรับไข่เจียวกุ้ง)” เขาพูดเสียงทุ้มเบาๆ แต่ทำเอาผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัว



“ไม่ได้กินจากที่งานมาเหรอ” ผมพลิกตัวนอนตรง วิคเตอร์เอาแขนขวายันหัวตัวเองไว้ให้ตัวนอนตะแคงคุยกับผม



“กินแต่น้ำเปล่า รอมากินอาหารฝีมือนาย” ผมกะพริบตามองเขานิ่งๆ สักแปบก่อนจะเริ่มรู้สึกร้อนที่ใบหน้า ริมฝีปากทำท่าจะขยับเป็นรอยยิ้มเขิน แต่ผมก็เม้มปากกลั้นเอาไว้



“โกหกรึเปล่า” วิคเตอร์ส่ายหน้าสองที



“ฉันกินหมดไปแล้วก่อนขึ้นมา จับพุงฉันสิ” ผมมองใบหน้านิ่งไร้แววล้อเล่นของเขาแล้วก็คลี่ยิ้มอ่อน



“ถ้าเกิดผมไม่ได้ทำไว้ให้ คุณไม่อดตายหรอกเหรอ”



“เพราะฉันรู้ว่านายจะทำไว้ให้” ผมขยับยิ้มกว้าง เขาอาจจะเห็นจากเมื่อเช้าที่ผมทำไว้ให้ เลยคิดว่ายังไงตอนเย็นผมก็ต้องทำให้อีก



“วิคเตอร์ ผมขอโทษ…” ผมยกมือขวาขึ้นจับกรอบหน้าเขาเบาๆ “…ผมอยากคุยให้เราเข้าใจกัน”



วิคเตอร์ถอนหายใจเบาๆ ใบหน้าเขาออกอาการเซ็งนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้หงุดหงิดหรือทำท่าจะโมโหใหญ่โต ผมลดมือลงวางบนอกตัวเอง



“อีกเดือนนิดๆ ผมก็จะจบงานแล้ว ผมขอทำต่อได้มั้ย แล้ว…” ผมเม้มปาก ก่อนจะตั้งจิตให้มั่นแล้วพูดออกไป



“…เสาร์อาทิตย์ผมจะไม่เอางานขึ้นมาทำอีก” วิคเตอร์เงียบ เขามองหน้าผมด้วยสายตาสงบ ผมยกมือขวาจับท้ายทอยเขาให้ลงมารับจูบริมฝีปากของผมหนึ่งทีแล้วปล่อย



“นะ ผมจะแบ่งเวลาให้ดีกว่านี้ จะไม่เข้าไปยุ่งหน้าที่คนอื่นอีก”



“ฉันไม่อยากให้นายทำ ฉันยังยืนความคิดเดิม” ผมทำหน้าอ้อน และรู้ว่าเขานอนในสภาพเปลือย ผมเลยเลื่อนมือขวาเข้าไปในผ้านวม จับลูกชายของเขาที่นอนห้อยหัวสงบ แล้วลูบเบาๆ



“ขอผมทำเถอะนะ แต่ผมจะไม่ทำงานแบบเดิม โอเคมั้ย ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง ผมขอโทษที่มองข้ามมันไป” ผมบีบๆ กำๆ ตรงส่วนนั้นของวิคเตอร์เบาๆ รับรู้ได้ถึงการขยายตัวของยักษ์น้อยทีละนิด



วิคเตอร์มองผมนิ่ง ผมเอียงคอมองเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ แววตาสีน้ำผึ้งข้นเปลี่ยนเป็นวาววับ มือขวาผมที่จับลูกชายเขาอยู่ก็ยังบีบสลับกับลูบไล้อย่างเอาใจ



“ถอดกางเกง” เขาบอกเสียงแหบพร่า ผมปล่อยมือออกจากกลางลำตัวของเขา ใช้สองมือดึงกางเกงนอนขายาวของตัวเองออก ทิ้งลงไปกองบนพื้น วิคเตอร์ดึงผ้านวมออกจากตัวเราสองคน เขาเอื้อมแขนไปหยิบเจลหล่อลื่นตรงลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงฝั่งผมนอน ผมอ้าขาตั้งฉากให้อย่างเคยคุ้น วิคเตอร์ดันตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่า อาวุธของเขาพุ่งตรงพร้อมรบ เขาบีบเจลใส่ปลายนิ้ว แล้วเอามาทาตรงบริเวณกลีบเนื้อด้านหลังของผม ก่อนจะใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางมือซ้ายดันเข้าไปด้านในเพื่อเปิดทาง เขาวางหลอดเจลไว้บนเตียงฝั่งตัวเอง ใช้มือขวาวางค้ำร่างตัวเองไว้ข้างเอวผมและก้มลงมาจูบ ผมแลบลิ้นเลียกับลิ้นเขาเบาๆ คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันตอนที่วิคเตอร์กระทุ้งนิ้วขึ้นลงด้านในโดนจุดเสียววาบ วิคเตอร์ดึงนิ้วออก ถอนจูบออกไป จับอาวุธของตัวเองแทงเข้ามาด้านในตัวผมแบบเชื่องช้า ผมเผยอริมฝีปากขึ้น เปลือกตาหรี่ปรือ



“อะ… อ้า… อื้ม” วิคเตอร์ก้มลงมาประกบปากกับผมอีกรอบและใช้ลิ้นกวาดในโพรงปากผมอย่างช้าๆ แต่ว่าเน้นๆ มันทำให้ผมลืมโฟกัสความเสียวตรงจุดนั้นไปชั่วขณะ ผมยกสองมือลูบแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา วิคเตอร์ถอนจูบ ยังคงแช่อาวุธไว้ด้านในตัวผมแต่ก็ไม่ยอมขยับ เขาซุกไซ้คอผมด้วยความกระหาย จูบเน้นตรงเนื้อคอบางจุดเพื่อทิ้งร่องรอยไว้



“อา… เตอร์…” ผมครางด้วยความรู้สึกหวิวโหวงไปทั้งตัว ตรงท้องน้อยเสียววูบวาบทั้งจากการไซ้ของเขาและการที่เขายังคาความใหญ่ยาวของเขาเอาไว้อยู่



“ทำกองนี้เสร็จ ไม่ต้องทำอีกแล้ว โอเคมั้ย” วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นจากซอกคอ มองหน้าผมด้วยแววตาเหมือนเด็ก ผมคลี่ยิ้มเอ็นดู แกล้งหยอกเขาด้วยการขมิบก้นรัดความเป็นชายเขาสามสี่ที่ วิคเตอร์สูดลมเข้าปากพลางขมวดคิ้วอ่อนๆ



“กองนี้จบก่อนค่อยคุยกันอีกทีได้มั้ย” ผมทำปากยื่นอ้อนๆ มองเขาด้วยความเว้าวอน สองขายกขึ้นเกี่ยวเอวเขาและบังคับให้บั้นท้ายเขาขยับ วิคเตอร์กลอกตาหน้าเซ็งๆ ก้มลงจูบปากผมดังจุ๊บหนึ่งทีแล้วดันตัวขึ้นด้วยสองแขน ก่อนที่จะเริ่มขยับเอวให้ผมต้องตาปรือเชิดคางขึ้นด้วยความเสียวและจุก



“อะ! ฮ้า!” ผมบิดหน้าหันไปมองนาฬิกาบนตู้โชว์ เวลาบอกว่าเป็นเที่ยงคืน ผมกลืนน้ำลายลงคอ สองมือจิกหมอนแน่น วิคเตอร์ก้มลงหอมแก้มซ้ายผมหนึ่งทีแล้วเลียเบาๆ หนึ่งครั้ง



“อ่า…”



เงียบใส่กันมาสามวัน วันนี้คงได้ส่งเสียงใส่กันทั้งคืน…









เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao3:


               เขาดีกันล้าววววว ดีกันด้วยไข่เจียว 5555555 ชีวิตคู่ ถึงแม้จะแต่งงานกันไปแล้วก็ยังมีทะเลาะมีไม่เข้าใจกัน มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อให้ใช้ชีวิตกันมานานนับยี่สิบสามปีก็ยังต้องเรียนรู้เรื่องความคิด และอารมณ์กันไปในตัว มันมีทั้งที่ทะเลาะกันแล้วยิ่งเข้าใจกัน กับทะเลาะกันแล้วสะสมกลายเป็นเหินห่างต่อกัน สำหรับแมทกับวิคเตอร์คงเป็นอย่างแรกมากกว่า คู่นี้เขาตบตีกันเพื่อให้รักกันดีกันมากขึ้น 55555

               ส่วนเรื่องของพี่แซ็ค เดี๋ยวเจอกันค่ะ เปิดลิงก์ไว้เรียบร้อย อย่างที่บอกไปในเพจว่าถ้าจบตอนนี้ของพี่ยักษ์ ก็จะอัพเรื่องพี่แซ็คต่ออออ

               ขอบคุณสำหรับคอมเม้นจากคนอ่านทุกคนที่คอมเม้นให้กันนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ มันเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับคนเขียนมากๆ มันคือแรงขับเคลื่อนและกำลังใจในการเขียนมากเลยค่ะ รู้ว่ามีคนรออ่านและรอมีอินเนอร์ร่วมไปด้วยกันทุกครั้งที่ลงเนื้อเรื่องก็ปริ่มใจ ขอบคุณค่ะ และขอบคุณโหวตที่มอบให้ด้วยค่ะ ได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร แต่พอได้ก็ดีใจ ฮ่าาา และขอบคุณยอดวิวจากนักอ่านเงานะคะ



แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries


ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1965 เมื่อ18-10-2017 19:27:19 »

 :o8: :o8: ตอนนี้เป็นตอนที่โล่งใจได้สักที ในที่สุดก็คุยกัน ยอมถอยๆคนละสิบก้าวบ้างก็ดีนะ

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1966 เมื่อ18-10-2017 19:33:18 »

โอ้ยยย

แค่นี้ก็ง้อสำเร็จแล้วเหรอ หมั่นไส้จังค่ะ


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1967 เมื่อ18-10-2017 19:39:24 »

 :pig4:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1968 เมื่อ18-10-2017 19:49:42 »

ดีกันแล้วก็นะ อย่าทำกันแบบเดิมๆอีกล่ะ มันเหมือนไม่ใส่ใจกันเลย บอกตรงๆ แมทเอง สัญญาเท่าไหร่แล้วว่า จะแบ่งเรื่องงานให้อยู่แต่ที่ทำงาน อิพี่ยักษ์ก็ขี้โมโหง่าย จับตีก้นทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1969 เมื่อ18-10-2017 20:19:33 »

แมท ได้วิธีประนีประนอมจากแม่ เลยทำออมเล็ตกุ้งให้วิคเตอร์
ได้วิธีย้อนกลับจากที่แนะนำแซ็ค
“ก็… งั้นก็คุณก็ต้องทำให้เขามั่นใจสิว่าเขาจะเป็นคนเดียวของคุณ
คุณต้องรีบกู้ความรู้สึกคืนมา อย่าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป”


ผลจากที่สามวันก่อนเงียบ ไม่มีเสียง
คราวนี้เสียงครางดังทั้งคืน  :o8: :-[ :impress2:
ง้ออย่างอื่นช้า ไม่เข้าใจ ง้อบนเตียงง่ายกว่านะ
แค่แมท บีบๆ จับๆ ลูบๆ คลำๆ  น้องยักษ์
ก็สำเร๊จ  "ถอดกางเกง" อั๋ยยะะะะะ  :z1: :pighaun: :haun4:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
« ตอบ #1969 เมื่อ: 18-10-2017 20:19:33 »





ออฟไลน์ HZtaoFan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1970 เมื่อ18-10-2017 22:32:20 »

แซ่บค่ะขุ่นแม่ขา :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1971 เมื่อ18-10-2017 23:29:19 »

 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1972 เมื่อ18-10-2017 23:39:34 »

วิธีคืนดีกัน แหมๆๆๆ กินกันอิ่มมั้ยล่ะอาหารมื้อนี้

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1973 เมื่อ18-10-2017 23:48:57 »

ในที่สุดก็ดีกันนะ ^^

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1974 เมื่อ19-10-2017 02:42:50 »

ดีกันสักทีนะ :katai2-1:

ออฟไลน์ miya_pp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1975 เมื่อ20-10-2017 10:08:10 »

เฮ่อออออ ดีกันละ

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.12 100% :18.10.60:
«ตอบ #1976 เมื่อ21-10-2017 00:07:06 »

ดีกันแล้วววว :hao5:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1977 เมื่อ01-11-2017 21:14:57 »



ํYours and Mine EP.13 :: Frighten. (หวาดกลัว) [50%]





“We are already done! (ปิดกล้อง!)”

           

 

“วู้ววว!” เสียงปรบมือและเสียงกรีดร้องดีใจดังระงมไปทั่วสะพานบรู๊คลินที่เรามาใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีนสุดท้ายในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก ผมฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจเหมือนกับทีมงานคนอื่นๆ ที่เหนื่อยมาด้วยกันสามเดือน วันนี้มันจบลงแล้ว นอกจากจะดีใจที่งานเสร็จสิ้น ผมยังรู้สึกดีใจมากเหลือเกินที่ผมยังยืนอยู่ตรงนี้ ดีใจเหลือเกินที่ตัวเองไม่ยอมแพ้ถอยหนีไปก่อน ดีใจที่ได้ร่วมเดินทางมากับทีมงานทุกคน แม้ช่วงนึงจะเหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง แต่ด้วยความหน้าด้านหน้าทนของผม ทำให้ผมได้กลับมาร่วมทางเดินกับทุกคนอีกครั้ง

           

 

หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ผมร้างงานในกองถ่าย ผมก็รู้สึกเคว้งเวลาจะกลับเข้ากอง มันเหมือนยืนอยู่บนแผ่นดินเดียวกับทุกคน แต่ทุกคนเทไปยืนอีกฝั่ง ทิ้งให้ผมยืนอยู่อีกฝั่งตัวคนเดียว ถึงแม้เอาจริงๆ จะไม่ใช่ทุกคน แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่วิคเตอร์ทำ มันสร้างช่องว่างให้ผมกับเพื่อนร่วมงานที่ทราบเรื่องนี้ พอผมกลับเข้ามาทำงานในกอง ผมไม่ถูกใครสั่งให้ทำอะไรเลย ก็ใจเสียไปบ้าง แต่ผมคิดแค่ว่าถ้าเขาไม่สั่ง ก็ไปขอทำ ผมเห็นหน้าที่ไหนว่างก็ไปช่วยเขาทำ ใครทำอีกอย่างแล้วไม่ว่างทำอีกอย่างผมก็ไปช่วย 

           

 

พีทไม่สนใจผมอีกเลย เขาไม่โทรตาม ไม่ออกคำสั่ง และไม่ได้เป็นอยู่แค่แปบเดียว เขาเป็นแบบนั้นตลอดจนกระทั่งปิดกล้องวันนี้ ส่วนผู้กำกับมีเผลอสั่ง สักพักก็เริ่มกลับมาสั่ง มาถามงานผมเหมือนเดิม และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกคนเรียกใช้งานผม แต่คราวนี้มันเข้าที่เข้าทางกว่าเดิม ผมไม่ได้ถูกใช้ไปทำงานที่ไม่สมควรทำ ทำตามขอบเขตของตัวเอง พอเป็นแบบนั้นผมก็รู้สึกว่า เออ ไม่เหนื่อยดีว่ะ แล้วก็เป็นแบบนั้นมาตลอดจนจบงาน

           

 

ในจุดๆ นี้ก็คงต้องขอบคุณสามีที่มาอาละวาดไว้ให้ และขอบคุณความใจสู้ของตัวเอง ใจสู้หรือเปล่า บอกเลยว่าสู้มาก / เงยหน้ามองฟ้าแล้วปาดน้ำตาช้าๆ

           

 

ผมยืนมองบรรยากาศกองถ่ายในยามเย็น ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มแห่งการหายเหนื่อย ทุกคนต่างมีความเหนื่อยที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้ความเหนื่อยนั้นจบลง อาจจะไปเหนื่อยลุ้นอีกทีตอนหนังออกฉายว่ารายรับจะเป็นยังไง ผู้กำกับเคยบอกผมว่า เขาขอแค่ไม่ขาดทุน แต่สิ่งที่อยากได้มากกว่ารายได้คือคำวิจารณ์ดีๆ ทั้งจากคนดูทั่วไปและเหล่านักวิจารณ์หนัง

           

 

ปิก้าปี้ ปิก๊าจู๊ ปิก้าปีก๊า ปิ๊กะ ปิก่าจู๊~

           

 

เสียงร้องของปิกาจูตัวสีเหลืองดังขึ้นพร้อมกับแรงสั่น ผมหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงมัน เดี๋ยวนี้ไอ้ตัวสีเหลืองชอบช็อตไฟฟ้ากลายเป็นการ์ตูนตัวโปรดของผมเหมือนสติชท์กับชอปเปอร์อีกตัว วิคเตอร์จิกผมว่าปัญญาอ่อนตอนที่ผมซื้อตุ๊กตาปิกาจูกลับบ้าน

           

 

[ยู้ฮู ปิดกล้องแล้วใช่มั้ย] ผมเบะปากน้อยๆ เป๊ะยิ่งกว่าเวลาเลิกงานผมก็ความจำไอ้ยักษ์นี่แหละ เป๊ะทั้งวันและเวลาเลยนะ ผมบอกว่าวันสุดท้ายถ่ายเสร็จหกโมงเย็น เลยไปแค่สี่นาทีเองโทรมาเชียวแหละ

           

 

“ปิดแล้ว จำแม่นเชียวนะ”

           

 

[หึๆ] ผมกลอกตานิดๆ หันไปมองออสตินที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่บนเก้าอี้ที่ตัวเล็กกว่าตัวเขา

           

 

“ปิดซอยเลี้ยงฉลองเลยสิ”

           

 

[ปิดนิวยอร์กฉลองเลยดีกว่า]

           

 

“โอ๊ย จ้า พ่อรูปหล่อพ่อรวย” วิคเตอร์หัวเราะเสียงทุ้ม ผมยิ้มขำหน่อยๆ

           

 

“แมท…” ผมหันไปมองพ่อทีมงานหนุ่มเนิร์ดที่เดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้ม ผมบอกให้วิคเตอร์ถือสายแล้วเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง

           

 

“…เราจะไปฉลองเลี้ยงปิดกล้องกันวันนี้ ไปด้วยกันมั้ย” หัวใจผมเต้นตึกตัก รู้สึกดีที่เพื่อนร่วมงานไม่ลืมกัน ผมคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะว่า

           

 

“ไปวันนี้เลยเหรอ เร็วจัง”

           

 

“กลัวจะนัดกันยากน่ะ เลยไปวันนี้ทีเดียวเลย ไปมั้ย” ผมกำลังจะพยักหน้าแรงๆ ด้วยความดีใจ แต่สายตาเหลือบมองไอโฟนสีดำของตัวเองแว้บหนึ่ง

           

 

“เดี๋ยวบอกได้มั้ย ขอบอกที่บ้านก่อน”

           

 

“ได้สิ” หนุ่มเนิร์ดพยักหน้า อันที่จริงเขามีชื่อนะ แต่ผมชอบเรียกเขาว่าเนิร์ดจนติดไปแล้ว และทุกวันนี้พ่อหนุ่มเนิร์ดก็ยังไม่รู้ว่าผมเป็นแฟนวิคเตอร์ มีในกองรู้ไม่ถึงสิบคน แล้วก็เรื่องที่วิคเตอร์มาด่าพีทกับผู้กำกับที่กองก็ไม่ได้ถูกเม้าท์ต่อเป็นวงกว้างแต่อย่างใด นั่นเลยทำให้ผมยังอยู่ได้ไม่ลำบากนัก แม้หลังจากนั้นอาทิตย์นึงเลยก็เถอะที่กว่าผมจะถูกดึงไปช่วยทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน

           

 

“วิคเตอร์ ได้ยินแล้วแน่ๆ ผมไปได้มั้ย”

           

 

[เอาออสตินไปด้วย] ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจอย่างมากก่อนจะคลี่ยิ้มงง

           

 

“จริงอ้ะ? ให้ไปง่ายจัง จะแอบเอาใครเข้าบ้านรึเปล่าเนี่ย” ถามเหมือนเล่นๆ นะ แต่เสี้ยวนึงของใจก็แอบคิดนิดหน่อย

           

 

[ก็ง่ายแค่ครั้งนี้แหละ] ผมบู้ปาก แต่ก็แค่แปบเดียวก็เปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้ม อย่างน้อยเขาก็ใจดีให้ไปฉลองกับเพื่อนร่วมงานของผมแหละนะ หลังจากวันนั้น วันที่เราดีกัน เขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานผมอีก และผมก็ไม่ได้เอางานมาปะปนกับวันหยุด แม้ในวันธรรมดาเราจะแทบไม่ได้ใช้เวลาด้วยกัน เพราะผมเลิกกองดึก หรือบางทีวิคเตอร์มีไปทำงานก็ยิ่งไม่ได้เจอกัน เดี๋ยวต้นสัปดาห์หน้าวิคเตอร์ก็น่าจะเริ่มถ่ายหนังภาคสามตามคิวที่ให้ไว้กับกองถ่าย ทีนี้ก็จะเป็นผมแทนละที่หงอย เพราะผมคงไม่ได้มีงานต่อเนื่องทันทีหรอก

           

 

“ถ้าหิวก็หาอะไรง่ายๆ กินไปก่อน”

           

 

[ไม่อะ ฉันรอนายกลับมาทำให้] ผมย่นคิ้วตาปรือ

           

 

“มันต่างจากไม่ให้ผมไปตรงไหนเนี่ย”

           

 

[ก็ให้ไปแล้วไง แค่ต้องรีบกลับมาทำอาหารให้ฉันกิน ไม่งั้นฉันจะอดตายนะ] อียักษ์ผี!

           

 

“วิคเตอร์ ถ้าจะทำแบบนี้ไม่ต้องให้ผมไปเลยดีกว่า” ผมพูดด้วยความอารมณ์บ่อจอย สีหน้าคงระอาเขามากโข เพราะทีมตากล้องเดินผ่านมาแล้วหันมามองด้วยความงงปนตกใจกับสีหน้านั้น

           

 

[อ๋อ ได้สิ ไม่ต้องไป ก็กลับบ้าน]

           

 

“ไม่เอา จะไป”

           

 

[ก็ไปไง ฉันจะรอกินอาหารฝีมือนายนะ] ผมทำปากยื่นและย่นจมูกจนรูจมูกบาน

           

 

“เดี๋ยวจะทำยำขี้ให้กิน”

           

 

[ราดมายองเนสด้วยแล้วกัน] ไอ้ยักษ์ว่าน้ำเสียงอารมณ์ดี

           

 

“วุ้!!” ผมกดวางสาย เดินลิ่วๆ เข้าไปหาออสตินที่นั่งนิ่งเฉย ผมละนึกสงสารเขาเหลือเกินที่ต้องมาอยู่เฉยๆ แบบนี้ทั้งวี่ทั้งวัน แต่เขาได้ตังค์ เขาเลยทำได้สบายมาก เขาบอกแบบนั้น

           

 

“ออสติน เดี๋ยวผมจะไปงานเลี้ยงปิดกล้องกับคนอื่นๆ นะ”

           

 

“ได้ครับ” น่ะ มีปัญหาที่ไหนล่ะ บอกให้ไปไหนก็ไป ให้ทำอะไรก็ทำ เขาใช้ชีวิตแบบนี้ได้ยังไง บางทีผมก็นึกสงสารไดอาน่าที่มาคบกับเขา

           

 

“ไม่ไปหาไดอาน่าบ้างเหรอ คุรควรมีเวลาให้เธอบ้างนะ”

           

 

“เธออยู่อังกฤษ คุณแมทจะให้ผมบินไปหาเธอเหรอ” เขาตอบหน้านิ่ง ผมทำหน้านึกขึ้นได้ แต่ก็พร้อมแถ

           

 

“ก็หมายถึงว่าบินไปหาเธอบ้างก็ได้ พักเบรกจากงานบ้าง ไม่ต้องมาอยู่กับผมกับวิคเตอร์บ่อยนักหรอก”

           

 

“ไดอาน่าเธอเข้าใจครับ เธอไม่เหมือนคุณแมทที่ชอบงอแงใส่คุณเรย์มอนด์เวลาเขาไม่มีเวลาให้ แต่พอตัวเองทำบ้างกลับทำเฉย” ผมเบิกตากว้างด้วยความเหวอและตกใจ มองไอ้บอดี้การ์ดตาสีเทาอ่อนหน้านิ่งหน้าตาย ผมอ้าปากพะงาบๆ

           

 

“อะไรอะ หืม ปาก!”

           

 

“ครับ ปาก” ผมเบะปากใส่ออสติน เพราะผมไม่อยากเถียงเขา รู้ตัวว่าเถียงเขาไปสุดท้ายคนที่ประสาทจะเสียก็ผมเองเนี่ยแหละ เถียงพ่ายเขาตลอด ผมจิกตาใส่เขาหนึ่งทีแล้วก็เดินหนีไปช่วยคนอื่นๆ เก็บของแทน

           

 

เราไม่ได้ไปฉลองกันตามผับตามบาร์ เรามาเหมาร้านอาหารร้านนึงในย่านบรู๊คลิน เป็นร้านอาหารใต้ตึกอพาร์ทเม้นต์ เก่าๆ โทรมๆ หน่อย แต่มีทีมงานหลายคนยืนยันยืนกรานว่าอาหารอร่อยมาก ผมเป็นคนติดต่อจองร้านอาหารเอง เจ้าของคุยง่าย ผมคิดว่าก็ต้องง่ายแหละ เหมาทีเดียวได้ลูกค้าสามสิบกว่าคน 

 

 

“ฉันก็อดทนไม่ถามมาตลอดสามเดือน แต่ เธอกับวิคเตอร์ เรย์มอนด์นี่ยังไงเหรอ” ผู้ช่วยกองถ่ายสาวเจ้าเดิมเอ่ยถามผมหลังจากดื่มเบียร์ไปหนึ่งแก้วใหญ่ เธอไม่ได้มีทีท่าสงสัย แต่ก็ดูอยากรู้อยากเห็นพอสมควร ผมคิดว่าจริงๆ เธอคงไม่ได้เผือกนักหรอก แต่คงอัดอั้นมาสามเดือนแล้ว

 

 

“จริงๆ ฉันเป็นคนดูแลเขาอีกคนน่ะ แต่เขารักฉันเหมือนน้องชาย” ผมคิดเสมอว่าถ้ามีใครที่ไม่รู้เรื่องแล้วสงสัย เฉกเช่นนักข่าวมาถาม ผมจะตอบแบบนี้ละ จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ อะไรที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วในอดีต ก็ไม่ต้องพูดถึง พูดแค่นี้พอ

 

 

“งั้นเหรอ ฉันเห็นข่าวชอบเล่นว่าเธอเป็นแฟนเขาบ่อยมาก” ผมยิ้มพลางจิ้มไก่ย่างเข้าปากแล้วเคี้ยว

 

 

“ก็สื่อนี่นะ ทำอะไรได้มากกว่านั้นล่ะ อ้างแต่คนในคนนั้นคนนี้ บอกว่าแบบนั้น บอกว่าแบบนี้ แต่ไม่เคยเห็นหน้าอินไซด์เดอร์คนนั้นสักที” อันนี้เรื่องจริง มีสำนักนึงบอกว่า คนในบอกกับเราว่า เขาทั้งสอง บลาๆ วิคเตอร์ไปเค้นถามพวกเซล่า แต่พวกนั้นไม่พูดหรอก ยิ่งเซล่ายิ่งไม่อยากให้เรื่องผมกับวิคเตอร์รั่วไหลเลยแหละ เอมิลี่ยิ่งปลอดภัยกว่า เธอไม่ทำร้ายเพื่อนตัวเอง พวกคุณเบนก็ไม่ใช่คนขี้เม้าท์ สรุป คนวงในคนนั้น อาจจะเป็นไมเคิลที่ไปเห่าหน้าสำนักงานของสื่อนี้ก็เป็นได้

 

 

“แต่เขาส่งบอดี้การ์ดมาดูแลเธอนะ” บางทีก็ไม่ใช่ฝรั่งทุกคนหรอกนะที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น แต่ผมไม่อยากจะว่าใครในประเด็นี้ เพราะผมเป็นคนที่มีต่อมเสือกเรื่องคนอื่นใหญ่มาก

 

 

“วิคเตอร์เขารวยน่ะ จ้างบอดี้การ์ดดูแลทีมงานตัวเองทุกคนเลย” แม่สาว PA ประจำกองถ่ายอ้าปากค้างแล้วส่งเสียงโหด้วยความอึ้งน้อยๆ เธอมองผมด้วยความทึ่ง ผมยิ้มเป็นเชิงบอกว่า ก็เป็นแบบนี้แหละ

 

 

เป๊งๆๆ

 

 

เสียงเคาะแก้วดังขึ้นเบาๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งกินนั่งดื่มและนั่งพูดกันอยู่ เราทุกคนหันไปมองทางหัวโต๊ะที่เป็นผู้กำกับนั่ง วันนี้มีแต่ทีมงาน ไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีคนทางค่ายหนังมาร่วมแจมใดๆ

           

 

“ขอบคุณทุกคนมาก หลังจากนี้ อาจจะได้เจอกับบางคน หรือบางคนอาจจะไม่ได้เจอกันแล้ว แต่ขอบคุณมากๆ” ผู้กำกับยืนขึ้นกล่าวขอบคุณทุกคนหลังจากนั่งกินกันไปได้สักพัก เขาชูแก้วไวน์ขึ้น ทุกคนชูตาม ผมยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นบ้างแล้วกระดกไปหนึ่งอึกพอเป็นพิธี

           

 

“ขอให้หนังของเราทำรายได้ถึงเป้า หรือจะเกินเป้าก็ได้ เราอาจจะได้กลับมาเลี้ยงฉลองกันแบบนี้อีกครั้ง แต่งานจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม” ทุกคนหัวเราะเสียงครืน ผู้กำกับยิ้มขำแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม หลังจากนี้ ก็เป็นหน้าที่ของผู้กำกับ กับคนตัดต่อและคนเขียนบทคนแรกของเรื่องที่จะดำเนินกระบวนการการตัดต่อ สำหรับคนที่เข้ามาแก้บทนิดๆ หน่อยๆ อย่างผมไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งในส่วนนั้นก็ได้ ซึ่งใจผมอยากไปดูนะ จะได้ความรู้เพิ่ม แต่ก็ยังไม่ได้ลองคุยว่าเข้าไปเกี่ยวข้องได้มากน้อยแค่ไหน

           

 

ปิก้าปี้ ปิก๊าจู๊ ปิก้าปีก๊า ปิ๊กะ ปิก่าจู๊~

           

 

ผมวางน่องไก่ลงในจานสีขาวของตัวเอง หยิบผ้าสีขาวมาเช็ดมือจนรู้สึกสะอาดก็ค่อยหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า เป็นวิคเตอร์โทรมา ผมเลยลุกขึ้นออกจากโต๊ะ แวะบอกออสตินที่นั่งดื่มอยู่กับพวกทีมกล้องแปบนึง

           

 

“วิคเตอร์โทรมา ผมออกไปคุยข้างหน้าร้านนะ” ออสตินมองตามไปทางหน้าร้านที่เป็นประตูกระจก เขาพยักหน้าเมื่อเห็นว่าจากตรงนี้เห็นผมง่าย ผมเดินไปผลักประตูแล้วเดินออกไปนอกร้านในยามค่ำ มีผู้คนเดินกันบนท้องถนนบางตา

           

 

“ฮัลโหล ยังกินไม่อิ่มเลย”

           

 

[หิว] น่ะ บอกให้หาอะไรกินไปก่อน แล้วก็เป็นอย่างเงี้ย

           

 

“ก็กินอะไรรองท้องไปก่อนสิ ผมนั่งยังไม่ครบชั่วโมงเลยนะ” เท้าผมขยับไปบนพื้นอัตโนมัตเหมือนกำลังเพลิน

           

 

[ไม่เอา ฉันจะรอนายกลับมาทำให้กิน]

           

 

“ยักษ์เอาแต่ใจ”

           

 

[เอาแต่นายด้วย] ผมยิ้มเบ้ปาก เขาจะปากหวานเป็นพิเศษตอนตัวไม่ติดกัน เหมือนอ้อนให้รีบกลับไปอยู่ด้วยกันอะไรแบบนั้น ผมเดินถอยหน้าถอยหลังไปมา ผมคิดว่าหลายคนเป็นเหมือนผมนะที่เวลาคุยโทรศัพท์จะชอบเดิน ชอบนั่ง ชอบลุกคุย

           

 

[เดี๋ยวพวกเซล่าจะมาหาที่บ้าน มาคุยเรื่องกองถ่ายหนัง]

           

 

“ทำไมเหรอ”

           

 

[น่าจะเกี่ยวกับที่ชารอนประสบอุบัติเหตุจากอีกเรื่อง อาจจะมีการเบรกชั่วคราว] ผมรู้สึกตกใจกับข่าวที่ได้ยิน

           

 

“ชารอนเป็นอะไรมากรึเปล่า”

           

 

[ไม่รู้] โอเค แม้จะถ่ายหนังมาด้วยกันสองภาคแล้ว แต่ความใส่ใจที่วิคเตอร์มีต่อเพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่

           

 

“ไม่รู้ แล้วรู้ข่าวนี้ได้ไง”

           

 

[เซล่าบอก]

           

 

“ถ้าไม่มีเซล่า ชีวิตนี้คุณจะเป็นยังไงเนี่ยวิคเตอร์”

           

 

[เปลี่ยนทีมโฆษกใหม่ไง] ขอบคุณค่ะ

           

 

[รีบกลับมานะ หิวแล้ว] แล้วเขาก็วางสายไปแบบไม่ให้ผมพูดอะไร ทำแบบนี้เพราะเขารู้ว่าผมมีนิสัยนางเอก เป็นห่วงพระเอกไง

           

 

ผมเงยหน้าจากโทรศัพท์ แล้วก็นึกตกใจกับตัวเองที่เดินเลยหน้าร้านมาหลายก้าวเหมือนกัน ผมเลยหมุนตัวก้าวเดินกลับไปทางหน้าร้าน แต่ก้าวไปได้เกือบสี่ก้าวเต็ม ผมก็ต้องใจหายวาบ หัวใจแทบหยุดเต้น เท้าก้าวถอยหลังอัตโนมัตด้วยความระแวง

           

 

“ฌอน…”

 







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao7:


               วู้ยยยย ฌอณอีสแบ็คคคค กรีสสสส

               ในที่สุด นังเอเลี่ยนก็จบงานและจะได้กลับไปอยู่กับสามีแบบเต็มที่เต็มทางสักที นางก็อดทนสู้ฟันฝ่า ดั่งยืนอยู่กลางลมฝน รถชนตายห่า ปลิวล่องลอยถลา เหมือนหมาโดนเตะ

               แต่ว่าฌอณมาาาา  ชีวิตนุ้งแมทจะปลอดภัยมั้ยล่ะพี่จ๊ะพี่จ๋า

               ตามกันต่อในส่วนที่เหลือนาค้า

               ขอบคุณสำหรับคอมเม้นจากคนอ่านทุกคนที่คอมเม้นให้กันนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ มันเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับคนเขียนมากๆ มันคือแรงขับเคลื่อนและกำลังใจในการเขียนมากเลยค่ะ รู้ว่ามีคนรออ่านและรอมีอินเนอร์ร่วมไปด้วยกันทุกครั้งที่ลงเนื้อเรื่องก็ปริ่มใจ ขอบคุณค่ะ และขอบคุณโหวตที่มอบให้ด้วยค่ะ ได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร แต่พอได้ก็ดีใจ ฮ่าาา และขอบคุณยอดวิวจากนักอ่านเงานะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1978 เมื่อ01-11-2017 21:32:45 »

 o22 o22 o22

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.13 50% :01.11.60:
«ตอบ #1979 เมื่อ01-11-2017 21:36:57 »

นึกละ  ว่าไอ้ที่แมทเดินไป คุยไป ต้องออกมาไกล
แล้วต้องมีอะไรแน่ๆ แบบหกล้ม โดนชน โดนล้วงกระเป๋า
ไม่ก็ศัตรูตัวร้ายเหยียดเพศกลับมา
แล้วก็มาจริงๆ  :z3: :z3: :z3:

นังพีท ยังไม่สำนึกความเลวของตัวเองอีกนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด