:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 886691 ครั้ง)

ออฟไลน์ o4u0n7

  • mgAmuptUF
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • secret ladies online
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 50% :05.06.60:
«ตอบ #1800 เมื่อ06-06-2017 16:47:48 »

 :katai1:  อยากรู้ว่าแมทด่าอะไรพวกเน ถึงกับร้อนตูดกันเป็นแถว

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 50% :05.06.60:
«ตอบ #1801 เมื่อ18-06-2017 13:41:02 »

เรื่องนี้สนุกนิน่า ทำไมเราสิงอยู่ในนี้ตั้งนานแต่พลาดไปขนาดนี้นะ พึ่งอ่านอยู่ที่หน้า 6 ตอนแมทพรีเซ้นฝึกงานเอง ยาวซะใจมาก ติดตามนะ คนแต่งมาต่อเรื่อยๆนะ เราจะตามจนจบนะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 50% :05.06.60:
«ตอบ #1802 เมื่อ19-06-2017 02:21:34 »

เมียข้าใครอย่าแตะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 50% :05.06.60:
«ตอบ #1803 เมื่อ19-06-2017 07:03:25 »

หายไปนานพอกับคนเขียน มาอัพต่อรัวๆน่ะ เรื่องใหม่อยากอ่านเรื่องของแซค

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 50% :05.06.60:
«ตอบ #1804 เมื่อ19-06-2017 11:13:54 »

วิคเตอร์น่ารักมากกภาคนี้

ลืมไปเลยภาคที่วิคเตอร์เอาแต่ใจ  ตอนนี้แมทว่าไง วิคว่าตามนั้นนน่ารักมากก

ไม่ว่าจะหื่นจัดแค่ไหนถ้าเมียว่าไม่ก็รอ


ดีงามจริงๆ   รอแมทเล่าค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมต้องสติแตกขนาดนั้น

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 50% :05.06.60:
«ตอบ #1805 เมื่อ25-06-2017 01:22:32 »

ม่ายยยยย เราพลาดแล้ว พลาดมาก เราเริ่มไม่โอตั้งแต่มันอึมครึมเมื่อเริ่มภาค2 แต่ก็ทนอ่าน แค่คิดว่า ไม่มีอุปสรรคจะรักกันได้ไง แต่ยิ่งอ่านยิ่งมองไม่เห็นทาง
เอาจริงเรื่องจริงให้ผัวหล่อ แซ่บ รวย กรวยใหญ่แค่ไหน
แต่แบบอิวิกเตอร์นี่ไม่ทนหรอก นอกจากเรื่องหญิง ยังเรื่องนิสัยมันอีก หญิงพวกนี้ก็มาจากนิสัยมันนั่นแหละ แล้วดูที่มันทำกับแมท นี่เมียหรือนักโทษ
อิแมทควรเจอผู้ชายดีๆกว่าอีวิกเตอร์
หล่อแต่แดรกแล้วเป็นพิษ
คนแต่งซาดิสไปแล้ว อีแมทมันไปทำอะไรให้คนแต่งเกลียด ถึงต้องให้มันเจอเรื่องเหี้ยๆของผัวได้ขนาดนี้ ม่ายยย  :serius2: :fire:
เราทนอ่านมาได้ยังไงถึงหน้า 45
เราควรอ่านแค่ภาคแรกแล้วจบลงแค่นั่น นี่มันบ้าบอมาก เราไม่ใช่สายดราม่า เราไม่สตรองพอสำหรับเรื่องนี้
แต่เมื่ออ่านไกลขนาดนี้แล้ว
เราข้ามไปอ่านภาค 3 เลยแล้วกัน ไม่ขอรู้ตรงนี้แล้ว
แต่ถ้าภาค3มาดราม่าแบบนี้อีก ก็ขอบายนะค่ะ
และแนะนำว่าเอาอีแมทไปอยู่รวมกับเหล่ายอดมนุษย์ DC เถอะค่ะ  ถ้ามันจะถึกทนขนาดนั้น
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 50% :05.06.60:
«ตอบ #1806 เมื่อ25-06-2017 01:24:56 »

อ่อ ลืมบอกว่ารอเรื่องแซคค่ะ นอกจากความแซ่บแล้ว นางดูน่าคบกว่าอีวิกเตอร์
แต่ก็กลัวใจคนแต่งเหลือเกิน

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 50% :05.06.60:
«ตอบ #1807 เมื่อ25-06-2017 21:09:25 »

วิคเตอร์คนหลงเมียย ชอบมาก ภาคนี้ขออย่าได้มีแววว่าจะนอกกายอีกล่ะนะ คิคิ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1808 เมื่อ27-06-2017 18:14:45 »



Yours and Mine EP.5 (100%)




ร่างเล็กสลึมสลือตื่นขึ้นมาในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังทอแสงสีทองสว่างเรืองรองไปทั่วท้องฟ้าสีเข้ม แมทกะพริบตาเอื่อยๆ ด้วยความง่วงนอน หันหัวมองไปรอบห้องนอนของตัวเองในบ้านพักรีสอร์ทด้วยอาการงง บนเตียงว่างเปล่า ในบ้านเงียบ ด้านนอกก็เหมือนจะเงียบเช่นกัน แมทก้าวเท้าลงจากเตียง เดินไปเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำล้างหน้าตัวเองเพื่อให้ตื่น ยืนวักน้ำใส่หน้าอยู่สักพักจนรู้สึกตื่นเต็มตามากขึ้นก่อนจะเดินออกมาที่ครัว หาน้ำส้มคั้นดื่มเพื่อแก้อาการเมาค้างที่ยังตกค้างอยู่เล็กๆ ยืนดื่มอึกๆ พอรู้สึกดีขึ้นก็เริ่มเดินไปรอบบ้านเพื่อหาว่ามีใครอยู่มั้ย ด้านนอกเปิดไฟทิ้งไว้ เศษซากอาหารริมสระยังคงมี แต่สิ่งที่ทำให้แมทตกใจคือฟองสีขาวฟูฟ่องในสระน้ำว่ายน้ำ ถึงจะดูยุบๆ ลงไปบ้างแล้ว แต่ก็มีฟองลอยเอื่อยอยู่เต็มผิวน้ำ

           

 

“อะไรวะน่ะ” แมทขมวดคิ้ว พยายามนึกอะไรสักอย่างให้ออกว่าฟองพวกนี้เกิดขึ้นได้ยังไง มันคุ้นๆ ว่าเหมือนตัวเองจะเป็นคนทำ แต่ก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่

           

 

แมทกำลังจะเดินออกไปจากบ้านพักด้วยอาการเบลอเล็กๆ แต่นึกขึ้นได้ว่าเอาโทรศัพท์มาโทรหาใครสักคนน่าจะง่ายกว่าที่เดินไปหาแบบล่องลอย แมทเดินไปหาโทรศัพท์ในบ้าน เดินหาอยู่พักใหญ่ก็ไม่เจอเลยตัดสินใจเดินออกไปจากบ้านแบบมึนๆ

 

 

รีสอร์ทเปิดไฟรับความมืดที่กำลังมาเยือน แมทเดินลงไปตามทางเดินดิน กะว่าจะเดินไปดูที่ลานกินอาหารของรีสอร์ทเผื่อว่าทุกคนจะอยู่ที่นั่น ตอนที่กำลังเดินผ่านหาดหลักของรีสอร์ท แมทหรี่ตามองเห็นพวกเนที่กำลังนั่งถ่ายรูปด้วยกันสนุกสนาน แล้วภาพฟองสีขาวที่ลอยอยู่ในสระว่ายน้ำก็ตัดแว้บเข้ามาในหัว นั่นเลยทำให้แมทนึกขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้ตกใจใหญ่โต มันเป็นแค่การแน่ใจเฉยๆ ว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ

 

 

“มึงๆ เวลาร้องไห้เราต้องวิ่งเข้าหาผู้ชายนะคะ” แมทที่กำลังเดินนึกอะไรเรื่อยเปื่อยเพลินๆ ชะงักเท้าแล้วหันหน้าไปมองทางกลุ่มเนที่ดูก็รู้ว่าทำเป็นแกล้งคุยกันเองและหัวเราะสนุกสนานกับเรื่องที่ตัวเองแกล้งคุยกันเองนั่นแหละ แมททำหน้าเฉย เพื่อนผู้หญิงของเนคนหนึ่งเบะปากแต่ไม่มองมาทางเขา แมทกลอกตาบนหนึ่งที กำลังจะก้าวเท้าเดินต่อไป แต่พอเห็นว่าเนกำลังเดินมาทางตัวเองเลยหยุดยืนรอ

 

 

“จะไปหาแฟนเหรอน้องแมท” แมทย่นคิ้วนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้หน้าบูดบึ้งตึงอะไร แต่เห็นสีหน้ายิ้มของเนที่ดูคล้ายยิ้มเยาะก็เลยทำหน้าตึงๆ แทนที่จะทำหน้าเป็นมิตรแทน

 

 

“อืม ครับ”

           

 

“วิคเตอร์อะเป็นเพื่อนพี่มาก่อน พี่แค่ได้เจอกับเพื่อนเก่าคนนึงที่เคยสนิทกันมาก ก็เลยอยากจะมีเวลากับเพื่อนบ้างแค่นั้น” แมทอยากจะกลอกตาอีกสักทีเพื่อให้รู้ว่าไอ้ท่าทางและน้ำเสียงที่พูดออกมานั้น ต้องคนอีคิวต่ำไอคิวก็ต่ำเท่านั้นแหละถึงจะไม่รู้ว่ากำลังแซะอยู่

           

 

“คำว่าด้วยกันนี่คือพี่ถามวิคเตอร์แล้วเหรอ” แมทถามหน้าเรียบเฉย เนยังคงยิ้มเหมือนเดิม แมทเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง ปรายตาไปมองทางเพื่อนเนที่กำลังมองมาทางนี้อย่างไร้ความรู้สึกก่อนกลับมามองเนตามเดิม

           

 

“คนที่มีพฤติกรรมแบบพวกพี่ไม่ใช่ว่าไม่มีอยู่จริง แต่ตัวผมเพิ่งเคยเจอ” หางตาของแมทเห็นเพื่อนของเนที่นมโตๆ ที่เดินไปดักวิคเตอร์ริมสระน้ำเดินมาทางนี้

           

 

“เน ไปเหอะ”

           

 

“วิคเตอร์อยู่ไหนนะมึง” เนแกล้งถามแล้วยิ้มเย้ยเล็กๆ แมทยังคงยืนหน้าไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม

           

 

“ก็นี่ไง กูจะชวนเดินไปหาเขานี่แหละ” แมทเบ้ปากน้อยๆ มองเพื่อนเนตั้งแต่หัวจรดเท้าและกลับขึ้นไปมองหน้าอีกครั้ง เพื่อนเนชักสีหน้าไม่พอใจทันที

           

 

“สูงส่งมาจากไหนถึงมามองคนอื่นแบบนี้” น้ำเสียงแหลมเหวี่ยงพอๆ กับหน้าตา

           

 

“แล้วพวกพี่ต่ำขนาดไหน ถึงได้คิดเรื่องอัปรีย์แบบนั้น” เพื่อนเนง้างมือซ้ายขึ้นแล้วเหวี่ยงแขนจะตบแมท แต่แมทสติตื่นตัวมากพอที่จะยกแขนขวาขึ้นกันแรงเหวี่ยงแขนของอีกฝ่ายก่อนถึงหน้าตัวเอง มือซ้ายยกผลักหน้าอกผู้หญิงคนนั้นอย่างแรงจนล้มก้นจ้ำเบ้า เนหันมามองแมทด้วยสายตาไม่พอใจ เหวี่ยงมัดขวาใส่แก้มแมท

           

 

“โอ๊ะ!” แมทมึนไปนิด แต่ก็ไม่ได้เจ็บร้าว เพราะเบี่ยงหน้าหลบได้นิดหน่อย หมัดเลยเฉี่ยวๆ หน้าไป เนทำทำท่าจะเข้ามาซ้ำแต่แค่แวบเดียวตัวเนก็ลอยกระเด็นไปนอนทับเพื่อนบนพื้น แมทเบิกตากว้างตกใจ หันไปมองวิคเตอร์ที่พุ่งตัวมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้แล้วผลักเนกระเด็น พอหันไปมองข้างหลังก็เห็นเก้ากับเหมียวเดินตามมาพอดี และพอหันกลับไปมองวิคเตอร์อีกทีแมทก็อ้าปากค้างตกใจ

           

 

“กรี๊ดดด!!!” เพื่อนเนกรีดร้องด้วยความตกใจ พวกที่เหลือรีบวิ่งเข้ามามุงเหตุการณ์

           

 

“อั่ก! โอ๊ย โอ๊ย!” วิคเตอร์กระชากคอเสื้อเนขึ้นมาแล้วต่อยตรงแก้มขวาเน้นๆ สองทีแต่ได้เลือด วิคเตอร์ปล่อยคอเสื้อเน ยืดตัวขึ้นเต็มความสูงมองเนที่นอนเลือดไหลออกจากปากและร้องโอดโอยด้วยสายตาไม่รู้สึกรู้สาอะไร

           

 

“ทำไมทำแบบนี้อะ!” เพื่อนเนที่นั่งอยู่ข้างกันประคองเพื่อนที่น้ำตาไหลเลือดไหลและมองหน้าวิคเตอร์ด้วยสายตาโกรธจัด วิคเตอร์ที่ฟังไทยออกบ้างไม่ออกบ้างทำหน้าไม่สนใจ จูงมือแมทเดินออกไปจากตรงที่เกิดเรื่อง แมทก้มมองบนพื้น เห็นจานอาหารสีขาวสองใบตกคว่ำอยู่บนพื้น แมทมองเพื่อนสองคนด้วยความเบลอ เก้ามีสีหน้าอึ้งๆ งงๆ ส่วนเหมียวเบ้ปากด้วยความสะใจก่อนจะจูงมือเก้าเดินไปตามทางที่ห้องพักแมทกับวิคเตอร์ต่อ

           

 

“เป็นอะไรมั้ย” วิคเตอร์ถามหลังจากเดินมาได้สักพัก แมทสั่นหัว ตรงที่โดนหมัดเฉี่ยวไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดทรมานอะไรขนาดนั้น

           

 

“หายไปไหนมา” แมทแหงนหน้าถามคนตัวสูง

           

 

“มากินข้าว แล้วว่าจะเอากลับขึ้นไปให้นาย” แมทพยักหน้า ยังรู้สึกมึนๆ งงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วิคเตอร์ทำเหมือนว่าเมื่อกี้ไม่ได้ไปต่อยใครมาจนเลือดเกือบท่วมปาก ยังคงทำตัวตามปกติจนกระทั่งเดินมาถึงลานกินข้าวของรีสอร์ทที่พวกเบนเนดิคท์กำลังนั่งกินนั่งคุยกันอยู่ ทุกคนทักทายแมทตามปกติ แมททักทายและปั้นยิ้มกลับไปให้ วิคเตอร์พาแมทนั่งลงบนเก้าอี้ว่าง

           

 

“วิคเตอร์…”

           

 

“…มันไม่ตายหรอกน่า”

           

 

“แต่นั่นเพื่อนเก่าคุณนะ” วิคเตอร์ยักไหล่ หยิบจานเนื้อปูที่แกะออกจากก้ามปูมาตักกินและส่งให้แมทกินบ้าง ร่างเล็กรับจานไปถือไว้ ตักน้ำจิ้มราดและตักเข้าปาก เคี้ยวอย่างอร่อย มองหน้าวิคเตอร์ที่ยังมีสีหน้าปกติ ท่าทีไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับสิ่งที่ทำลงไป

           

 

“พวกนั้นคิดจะเซ็กส์หมู่กับฉันเหรอ” วิคเตอร์หันมาถามแล้วจิบเบียร์เย็นๆ แมทกลืนเนื้อปู มีสีหน้าตกใจเบาๆ หันไปมองทางกลุ่มเพื่อนตัวเองกับพวกเบนเนดิคท์ที่กำลังเฮฮากันแล้วหันกลับมามองวิคเตอร์ด้วยสายตาทึ่งเล็กน้อย

           

 

“คุณรู้เหรอ” วิคเตอร์ยักคิ้วขึ้น ชี้ไปทางพวกแชมป์

           

 

“พวกนั้นบอก” แมทพยักหน้าหงึกๆ วิคเตอร์ยิ้มขำ

           

 

“ทั้งๆ ที่พวกนั้นรู้ว่าคุณมีแฟนแล้วแต่ก็ยังคิดจะทำเรื่องทุเรศๆ พวกนั้นคิดจะอัดคลิปเอาไปขายด้วยนะ อันนี้คุณรู้รึเปล่า” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้น หน้าตาไม่ได้ตกอกตกใจอะไร

           

 

“เซ็กส์เทปกับดาราเงี้ยเหรอ” แมทพยักหน้าเบาๆ อีกที วิคเตอร์ยิ้มมุมปาก

           

 

“ต้องได้ราคาดีมากแน่ๆ เคยมีเว็บโป๊มาขอให้ฉันถ่ายคลิปขายด้วยนะ ให้ค่าตัวตั้งเยอะแน่ะ” ไอ้ยักษ์หัวร่ออารมณ์ดี แมททำหน้าเอือมน้อยๆ

           

 

“บอกให้ไปติดต่อลิซ่าสิ มีคลิปคุณตั้งเยอะนี่” แมทไม่ได้กัดหรือแขวะ แค่พูดขึ้นมาเฉยๆ เพราะแม่เลี้ยงวิคเตอร์เคยบอกว่ามีคลิปกับรูปภาพลับของพ่อพระเอก

           

 

“อันนั้นมันเก่าแล้ว ฉันหล่อกว่าเดิมตั้งเยอะ” แมทบู้ปาก พยักหน้าขึ้นสองสามที สีหน้าประมาณว่า อืมๆ เรื่องของมึงเถอะ วิคเตอร์ยื่นมือซ้ายไปยีหัวแมทจนยุ่งเหยิง

           

 

“แต่ทำไมพวกนั้นถึงคิดว่าฉันจะยอมนะ” วิคเตอร์พูดอย่างนึกสงสัย แต่ก็ไม่ได้สงสัยจริงจังให้ตัวเองปวดหัว ผู้หญิงพวกนั้นนมโตกันหลายคน เห็นแล้วก็ใจวูบวาบเป็นธรรมดา แต่เขาก็ไม่ได้มีความคิดจะไปเล่นเซ็กส์หมู่หรือเซ็กส์เดี่ยวด้วย คิดว่ามาชวนเขา แล้วเขาก็จะไปเหมือนไปเดินเล่นตามชายหาดเงี้ยเหรอ

           

 

“พวกนั้นจะมอมยาคุณน่ะสิ ทุเรศอะ เพื่อนเก่าคุณน่ะตัวตั้งตัวตี ตั้งตัวเป็นตากล้องด้วยซ้ำ” วิคเตอร์ทำปากว่าอู้ว พยักหน้าไปเรื่อยแบบว่าหรอๆ

           

 

“แต่ชอบไม่ใช่เหรอนมโตๆ อะ ฮะ” แมทแกล้งจิกตาใส่ไอ้ยักษ์ที่นั่งหน้ามึนไม่หือไม่อือไม่ตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน แถมยังยิ้มระรื่นจนแมทหมั่นไส้

 

 

วิคเตอร์ก็แค่ชิน มันไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเขา ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนคิดกับตัวเองแบบนี้ และไม่ใช่คนแรกที่คิดกับตัวเองแค่เรื่องเซ็กส์ ชีวิตเขาผ่านอะไรมามากมาย ทั้งดีทั้งร้าย ทั้งหวือหวาและราบเรียบ ไม่ใช่ผู้ชายที่อ่อนต่อโลก

 

 

แต่ผู้ชายคนนี้มักอ่อนไหวและเหมือนคนอ่อนหัดกับเรื่องความรัก…

           

 

“ก็ชอบ แต่รักนายไง” วิคตอร์ยิ้มกว้างเอาใจ แมทเบ้ปากเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ ร่างสูงเอี้ยวตัวไปหอมเหม่งของแมทหนึ่งที

           

 

“คิดมากอยู่ตั้งนาน ทำไมไม่บอก” แมทถอนหายใจเบาๆ มองวิคเตอร์หยิบมะม่วงขึ้นมาเคี้ยวดังกรุบกรอบ

           

 

“ผมคิดว่าเดี๋ยวเรากับเขาก็ไม่เจอกันแล้ว ก็เลยกะปล่อยผ่านไป…” แมทตักเนื้อปูเข้าปากอีกคำแล้วเคี้ยวสักพักก่อนจะว่าต่อ

 

 

“…แต่พฤติกรรมพวกเขาคือจะเอาคุณจริงจังมาก” แมททำปากหยีเบาๆ

 

 

“ก็ฉันหล่อนี่” แมทถลึงตาใส่ วิคเตอร์หัวเราะ แมทยื่นมือไปตีกล้ามแขนแสนล่ำแน่นของสามีหนึ่งที

 

 

“นี่ถ้าคุณเผลอหรือพลาดท่าให้พวกนั้นจะตลกไม่ออกเหอะ ติดโรคขึ้นมาจะว่ายังไง” วิคเตอร์ยิ้มบาง ดึงแมทให้มานั่งตักตัวเองและกอดเอวร่างเล็กไว้หลวมๆ

 

 

“คิดว่าฉันจะโดนล่อลวงง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

 

“คิดว่าคุณเป็นคนง่ายกับเรื่องเซ็กส์ต่างหาก” พ่อหนุ่มผมยาวหัวเราะชอบอกชอบใจ หอมแก้มที่เคยป่องแต่ตอนนี้เข้ารูปมากกว่าแต่ก่อนไปหนึ่งที

 

 

“ฉันง่ายกับนายคนเดียวต่างหาก นายก็รู้ นายล่อลวงฉันบ่อยจะตาย”

 

 

“อะโหย พ่อใสซื่อบริสุทธิ์” วิคเตอร์หัวเราะเสียงดังจนพวกเพื่อนๆ หันมามอง แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้หันไปมองใคร นั่งมองหน้ากันและทำสีหน้าต่างกันให้กัน คนนึงยิ้มขำ อีกคนทำปากยื่นหน้าย่น จังหวะนั้นเก้ากับเหมียวเดินกลับมา สองนางก็รีบตั้งวงเม้าท์ทันที

 

 

“อีแมท พวกมันว่าจะแจ้งตำรวจ ไปโวยวายใส่พี่เคน แต่อีแคทด่าไม่เว้นช่องไฟเลยค่ะ” เก้าเม้าท์อย่างออกรสกับเหตุการณ์ที่ตัวเองไปเจอมาตอนเดินกลับมาที่นี่

 

 

“เฮ้ย อะไรอะ รู้ด้วยสิ!” แบมตะโกนมาจากอีกโต๊ะด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นที่ชัดเจน

 

 

“เดี๋ยวเม้าท์ค่ะ สักครู่…” เหมียวหันไปตอบเพื่อนและหันกลับมาหาแมทกับวิคเตอร์อีกรอบ

 

 

“…ผัวแกทำดีมากนะคะ ฉันหมั่นไส้ตั้งแต่ทำท่าทำทางไม่สนไม่แคร์ใครที่สระน้ำละ ตอแหลแถหน้าถลอกสุดฤทธิ์ ความคิดพวกมันอุบาทว์เชอร์มากอะ” เหมียว่าอย่างออกรสยิ่งกว่า

 

 

“เติมเออร์เข้าไปคือขั้นกว่าใช่มะอีเหมียว” เก้าหันไปถาม

 

 

“เยสๆ” สองสาวพยักหน้าให้กันอย่างเห็นด้วย แมทหัวเราะเบาๆ กับท่าทางการเม้าท์ของพวกนาง

 

 

“แล้วเขาเป็นไงมั่งอะ”

 

 

“มันจะฟันหัก ปากฉีก หรือเป็นอะไรแกไม่ต้องไปสนใจหรอก สนใจผัวแกไว้ดีกว่า ฉันว่าหมาบางตัวยังมีมารยาทในการคาบไปแดกกว่าพวกมันอีก” เหมียวบอกหน้าตาจริงจังผสมความเกลียดชังเล็กๆ แมทกับเพื่อนมีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกันมากคือเกลียดพวกที่ชอบยุ่งหรือคิดจะแย่งแฟนคนอื่นแบบหน้าด้านๆ มันคือพฤติกรรมที่คนบาปหนาเท่านั้นที่คิดว่าไม่ใช่เรื่องผิด แล้วก็อ้างว่ามันคือความรัก ผิดก็แค่ว่าฉันมาทีหลัง

 

 

แมทมองหน้าวิคเตอร์ที่ยิ้มตอบกลับมา มือขวาของแมทยกขึ้นไปวางตรงหน้าอกด้านซ้ายของวิคเตอร์ รอยสักตัวอักษรสีดำโผล่แว้บๆ จากขอบเสื้อกล้าม

 

 

รอยสักนี้จะมีวันเลือนหายไปหรือเปล่านะถ้าวันนึงวิคเตอร์เจอแรงยั่วยุที่ไม่อาจต้านทานได้

 

 

“คิดมากอะไรอีกสิ” แมทเงยหน้าขึ้นสบหน้าดุๆ ของยักษ์ใหญ่ที่กำลังไม่พอใจเมื่อเห็นเอเลี่ยนน้อยทำท่าครุ่นคิดแบบคิดมาก

 

 

“ก็แค่คิด…”

 

 

“…ไม่ต้องคิด ถ้าคิดอะไรในทางไม่ดี ไม่ต้องคิดเลย กินๆ” วิคเตอร์หยิบจานเนื้อปูขึ้นมาถือ และตักให้แมทกินหนึ่งคำ เอเลี่ยนน้อยยิ้มอ้าปากรับเนื้อปูแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ อมยิ้มจนแก้มอูม วิคเตอร์เห็นก็มันเขี้ยวเลยรั้งคอแมทลงมาจุ๊บปากหนึ่งที

 

 

“ให้เกียรติเพื่อนๆ ด้วยค่ะ” เหมียวที่กลับไปนั่งอีกโต๊ะส่งเสียงแซวพร้อมกับจิกหน้าจิกตาใส่ด้วยความหมั่น วิคเตอร์ฟังไม่ออกแต่เห็นแมทขำก็เลยยิ้มขำตามไปด้วย

           

 

แมทนึกอยากพูดอยากคุยประเด็นของเนกับเพื่อนสาวสยองขวัญกลุ่มนั้นต่อ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก เพราะวิคเตอร์ก็รู้แล้ว และวิคเตอร์เองก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้สนใจใคร่อยากจะไปร่วมขบวนการอุบาทว์นั้น เลยคิดว่าจบประเด็นนี้แค่นี้ดีกว่า แต่ก็แค่นึกสังเวชใจว่าคนเราทำไมมันถึงได้คิดอะไรตกต่ำขนาดนี้ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าในสังคมของโลกเราจะไม่มีคนประเภทที่มีความคิดวิปริตผิดมนุษย์ปกติอยู่ แค่ไม่คิดว่าวันนึงจะมาเจอกับตัวเอง ศีลธรรมในใจของใครหลายคนนับวันยิ่งตกต่ำไปเรื่อยๆ แบบที่ไม่สามารถหาอะไรมายกระดับได้แล้วจริงๆ
 


:katai5:   :katai2-1:


วื้ดดดดด มาเลี้ยวววว หายไปยี่สิบกว่าวันนนน โอยยยย ขุ่นแม่เรียวจันทร์ฉุดรั้งไว้ซะนาน คิดว่าจะเสร็จแล้ว แต่มีอะไรมาให้ต่ออยู่เรื่อยยย  แต่ตอนนี้น่าจะพูดได้เต็มปากแล้วว่าเสร็จจริงๆ ละ 555555                ใครที่สงสัยใคร่รู้ว่าน้องแมทรู้อะไรมาเกี่ยวกับพวกนังเน ตอนนี้รู้ละเนอะ อุบาทวววว์มากจริงๆ บาปหนามากกับความคิด นี่ถ้าเจอคุณนายเรียวจันทร์เข้าไป พวกนางเละไม่เหลือซาก น้องแมทควรฟ้องขุ่นแม่นะคะ รับรอง ตายยยย!!!

          ผ่านมาห้าตอนแล้ว เบาๆ เนาะ ไม่เครี้ยดดด ใสๆ พาร์ทสุดท้ายของเรื่องแล้ว กรุบๆ ค่ะ ไม่หนักน๊วงงง (เสียงสูงทำไม)

          เดี๋ยวมาต่อเรื่อยๆ แล้วค่ะจากนี้ไป จะไม่หายไปนานๆ ขนาดนี้ละ อาจจะมีแว้บไปทำงานหลักของตัวเองด้วย แต่จะมาเนจเวลาไม่ให้ตัวเองหายไปเกือบเดือนหรือเป็นเดือนแบบนี้อีก กลัวคนอ่านขาดตอนอะะะ

          เดี๋ยวตอมจะเปิดรีปริ้นพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยนภาคแรกให้นะคะ (พาร์ท You and I) มีคนอ่านมาสอบถามเรื่อยๆ เป็นระยะเวลาสักพักแล้ว เลยจะเปิดให้ ก็เปิดให้สำหรับคนที่อยากได้จริงๆ จะได้ไม่ต้องไปซื้อมือสองที่ราคาแพงเว่อร์เกิน ตีพิมพ์ตามจำนวนที่พรีออเดอร์ค่ะ ถือว่าพิมพ์ให้คนที่อยากได้เนอะ ส่วนพาร์ทสองเดี๋ยวจะตามมาอีกทีนะคะ ขอพาร์ทแรกก่อนเด้อ รายละเอียดจะอัพเดตอีกทีค่ะ แต่จะเปิดพรีฯ พรุ่งนี้ (28 มิถุนายน) ถึงวันที่ 3 สิงหาคมนะคะ



แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries



ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1809 เมื่อ27-06-2017 18:39:17 »

ว่าแล้ว แมท รู้ว่าพวกเนกับเพื่อนสาวนมโตเป็นขบวนการอุบาทว์
จะให้วิกเตอร์เล่นเซ็กส์หมู่ ใช้ยา ถ่ายคลิป
ทำทีเดียว ได้ประโยชน์หลายทางเลย
ที่แน่ ได้นอนกับดาราหล่อ ดัง ได้หน้าได้ตา แล้วดัง คนรู้จัก
ได้เงิน มีความสุขกับเซ็กส์ และได้เงินที่ขายคลิป

ดีที่วิกเตอร์ ก็รู้ทัน ไม่สนใจ
ทั้งที่ดูแล้ววิกเตอร์ น่าจะสนใจแม่สาวหุ่นสบึมส์
แบบแทว่าวิกเตอร์น่ะชอบเซ็กส์
แต่วิกเตอร์กลับบอก นมโตก็ชอบ แต่รักแมทมากกว่า จะปลื้มดีมั้ยเนี่ย
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:  ก็หวั่นๆแทนแมทนะ เพราะวิกเตอร์น่ะเสือไบ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
« ตอบ #1809 เมื่อ: 27-06-2017 18:39:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1810 เมื่อ27-06-2017 18:54:01 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1811 เมื่อ27-06-2017 19:23:23 »

โอ้ยย วิคเตอร์ทำดีมากกก รักเดียวใจเดียวขนาดนี้ น้องแมทเลิกคิดมากได้แล้วน้าาา เค้าหลงอยู่คนเดียว :-[

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1812 เมื่อ27-06-2017 19:30:18 »

ดีต่อใจเอเลี่ยนน้อยกลับมาแล้ว
เมียค่าใครอย่าแตะ ยักษ์กล่าว
 :hao3:
 :beat: สำหรับกลุ่มของเน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1813 เมื่อ27-06-2017 20:11:06 »

ขอซอฟท์ๆนะ พาร์ทสุดท้ายไม่อยากมีน้ำตาแระ วิคเตอร์ใจแข็งไว้นะ อิอิ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1814 เมื่อ27-06-2017 20:47:10 »

นังเน ต้องโดนหนักกว่านี้ ความคิดอุบาทว์มากกกก

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1815 เมื่อ27-06-2017 21:13:50 »

โอ้โหหหหหหหหห พวกเนความคิดอุบาทว์มาก เลวมากอ่ะ ตอนแรกแค่คิดว่าจะแย่งไปเฉยๆ แต่ที่ไหนได้ แผนชั่วมากอ่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1816 เมื่อ27-06-2017 21:34:44 »

 o13

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1817 เมื่อ28-06-2017 13:06:35 »

จิงๆวิกเตอร์ชัดเจนมาตลอดนะว่าไม่สนใจ

เพียงแต่เหมือนโตขึ้นอะ ความมีมารยาทในสังคมทำให้ อือๆๆ อาๆไป แต่ไม่ได้รู้สึกสนิทสนม หรือสนิทใจอะไรหรอก


ลองเป็นภาคก่อนๆหน้านี้สิ แมร่งอาจจะชักสีหน้าใส่ ว่ามาทักทำไม ไม่สนิทสักหน่อย  แล้วก้ยื่นมือไปเช็คแฮนแบบงั้นๆ มากกกว่า




ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1818 เมื่อ29-06-2017 01:17:33 »

 :mew1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1819 เมื่อ03-07-2017 18:04:46 »

สะใจกันไปเลยกับหมัดเด็ดของพ่อยักษ์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
« ตอบ #1819 เมื่อ: 03-07-2017 18:04:46 »





ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.5 100% :27.06.60:
«ตอบ #1820 เมื่อ03-07-2017 19:50:25 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 40% :06.07.60:
«ตอบ #1821 เมื่อ06-07-2017 22:04:55 »



Yours and Mine EP.6 :: Our home. (บ้านของเรา) [40%]




ผมกำลังนั่งอ่านข่าววิคเตอร์กับตัวเองจากสำนักข่าวกอซซิปเจ้าหนึ่งที่ทำตัวเหมือนอยู่ในตู้เสื้อผ้าบ้านดารานักแสดงบนหน้าจอแม็คบุ๊คของตัวเองด้วยความรู้สึกขำขันเล็กๆ เพราะข่าวเขียนเหมือนกำลังสืบคดีฆาตกรรม สำนักข่าวนี้กัดประเด็นเรืองวิคเตอร์เป็นเกย์ และวิคเตอร์มีแฟนเป็นเด็กผู้ชายไทยไม่ปล่อยจริงๆ ยังดีที่ข่าวไม่ได้ใช้คำพูดแย่ๆ แค่ตั้งข้อสงสัยและเขียนวิเคราะห์ชวนคิดกับสถานการณ์ต่างๆ ระหว่างผมกับวิคเตอร์ พาดหัวข่าวน่าสนใจ แต่เนื้อหาข่าวไม่เคยเขียนคอนเฟิร์มได้จริงจังเลยสักครั้ง

 

 

จริงๆ ถ้าสำนักนี้ไปถามน้องแฟนคลับของผมกับวิคเตอร์ที่ไทยคงได้อะไรไปเยอะ แต่เจ๊เซล่าก็คอนโทรลตรงนั้นได้อยู่หมัด (ผมคิดว่างั้นนะ) ถามว่ามันไม่มีคนสงสัยหรือระแคะระคายเรื่องความสัมพันธ์ของผมก็กับวิคเตอร์จริงเหรอ ผมว่ามี คือถ้าไม่นับนักข่าวที่ยังมีเขียนข่าววิคเตอร์อยู่เรื่อยๆ คนทั่วไปหรือเพจเม้าท์มอยข่าวบันเทิงทั่วไปก็คงเยอะพอสมควร แต่ผมก็ไม่ได้ไปสัมผัสหรือรับรู้ ผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ แค่ไม่ได้อวดหรือโชว์ความรักกันแบบโจ่งแจ้ง รูปคู่ทุกวันนี้ไม่มีอัพลงโซเชียลเลย มีรูปเดียวก็ตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่วิคเตอร์ตามมาหาที่ไทยและไม่เคยลบ ทิ้งไว้อย่างนั้นเพราะเราคือพี่น้องกันตามที่เซล่าบอก นอกนั้นก็อัพลมฟ้าหมาแมวไปตามบรรยากาศรอบตัว ไอจีลับของวิคเตอร์ก็ไม่ได้อัพเดตแล้ว เขาไม่ใช่มนุษย์โซเชียล อินสตาแกรมหลักทุกวันนี้ผมก็อัพให้เป็นส่วนใหญ่ ที่ทำไปตอนแรกคือเห่อแฟนช่วงโปรโมชั่น

 

 

ถึงจะไม่ได้มีข่าววิคเตอร์กับผมตลอด แต่ในหนึ่งปี สำนักข่าวนี้และสำนักอื่นบางสำนักมักจะหยิบเรื่องของวิคเตอร์กับผมมาวิเคราะห์หากว่ามีร่องรอยอะไรที่จะสาวมาถึงตัวผมได้ อย่างรูปล่าสุดที่วิคเตอร์ลงในอินสตาแกรมตอนวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เป็นรูปผมนั่งอยู่บนม้าโพนี่ในทะเล เห็นไม่ชัดเลยนะว่าเป็นผม แต่ก็พยายามซูม และคาดเดาช่วงเวลาที่เราสองคนอยู่ที่ไทย สื่อไทยก็มีเอากับเขาด้วย เคยมีปาปาราซซี่ตามถ่ายรูปผมกับวิคเตอร์ตอนเดินห้างที่ไทย อันนั้นเกือบเป๋ไปเหมือนกัน แต่สุดท้ายเราก็เลือกจะเงียบ ทำตัวตามปกติ ไม่มีใครพูดอะไร มันก็เลยกลายเป็นแค่ข่าว ทางฝั่งไทยเลยทำได้เพียงเม้าท์มอยกันเอง เรียกยอดไลก์ เรียกกระแสให้กับสำนักตัวเองไปวันๆ

 

 

ทุกวันนี้วิคเตอร์ก็ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคนกับสื่อไหน ถ้าโดนถามก็เงียบจนนักข่าวเกรงไปเองจนต้องเปลี่ยนคำถาม มันเลยกลายเป็นว่ามีแต่โฆษกส่วนตัวเขาพูดแล้วยังพูดน้อยแต่ต่อยหนักก็ทำให้มีอะไรมาฟันธงยาก และด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของเราสองคนในที่สาธารณะ (ที่นิวยอร์กกับอังกฤษ) ก็ปกติ ไม่ได้จับมือถือแขนอะไรกัน มันเลยมัวๆ ไม่ชัดแจ้งสักที

           

 

วิคเตอร์ยังคงเป็นผู้ชายวัยสามสิบกว่าที่มีข่าวกับหญิงสาวอยู่เรื่อยๆ ทั้งคนในวงการที่ร่วมงานกันและไม่เคยร่วมงานกัน หรือร่วมงานกันแบบแค่ทำงานเดียวกันแต่ไม่เคยคุยกัน และยังมีแบบที่ไม่เคยร่วมงานกันก็ยังเป็นข่าว ซึ่งตรงนี้ทำให้ข่าวที่เขามีแฟนเป็นผู้ชายเล่นได้ไม่เต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีสาวคนไหนที่เป็นตัวจริงของพ่อหนุ่มอังกฤษที่มาอยู่นิวยอร์กนานจนคนเข้าใจผิดกันบ่อยๆ ว่าเขาเป็นนิวยอร์กเกอร์

           

 

ตอนนี้เขาเป็นผู้ชายโสดที่มีข่าวความรักคาราคาซังกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งแบบไม่จบสิ้น และยังมีข่าวกับสาวน้อยสาวใหญ่บ่อยครั้ง ด้วยลุคผู้ช้ายผู้ชายที่หน้ามักจะดุ หนวดเคราทำให้ดูดิบเถื่อนและชอบทำเคร่งขรึมยามอยู่ในที่สาธารณะ แต่เวลาอยู่ด้วยกันส่วนตัวน่ะเหรอ

           

 

“ไหนเห่าซิไมเคิล โฮ่ง! โฮ่ง!”

           

 

“โฮ่ง!!!”

           

 

“เจ๋งว่ะ วู้ววว! ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ยักษ์หัวฟูเพราะเพิ่งตื่นนอนยืนถือถ้วยสีขาวใส่นมกับซีเรียล ใส่กางเกงในสีขาวตัวเดียวเดินล่อนจ้อนสบายใจไม่แคร์สายตาหมาหัวเราะเสียงดังลั่นบ้าน ช่วงนี้ฝึกให้ไมเคิลเห่าได้เลยคึกเอาใหญ่ (หลังจากที่พยายามมานานกว่าที่ไมเคิลมันจะยอมเห่าให้) พอเจ้าโกลเด้นเห่าได้ก็จะให้ขนมเป็นสติ๊กสำหรับหมาหนึ่งอันเหมือนเป็นรางวัล และมีเผื่อแผ่ให้ฟ็อกซ์ด้วยถือว่าไมเคิลทำเพื่อน้อง

           

 

“ทำอะไรอะ ทำงานอีกแล้วเหรอ” แน่ะ! ยังไม่ทันได้อาบน้ำเปลี่ยนชุดหน้าก็มุ่ยก่อนจะสดชื่นอีก

           

 

“เปล่า อ่านข่าวคุณเฉยๆ” ผมรีบกดปิดหน้าต่างงานบนจอแม็คบุ๊ค ขยายหน้าเว็บข่าวให้เต็มจอ วิคเตอร์เดินเข้ามาหาและก้มหน้าลงอ่านบนจอ ผมเห็นเขาทำหน้าเครียดเลยยื่นมือไปบีบไข่สองใบของเขาเล่น ไอ้ยักษ์คลายคิ้วที่ขมวดหันมายิ้มให้ นั่นทำให้ผมโล่งใจ

           

 

“ข่าวคู่หมั้นคุณหายไปแล้ว ตอนนี้คลอเดียมาแรงสุด ขนาดซีรีส์ยังไม่ออนแอร์นะเนี่ย” กลายเป็นว่าวิคเตอร์เป็นพระเอกเคมีสาธารณะที่จับคู่กับนักแสดงหญิงหรือนางแบบคนไหนก็ดูจะเข้ากันไปหมด คนก็จะรู้สึกเชียร์ รู้สึกฟิน กับคลอเดียนางเอกใหม่ของเขา ขนาดแค่มีภาพโปรโมตจากกองถ่ายยังมีกระแสชื่นชอบคู่นี้ และกลุ่มคู่จิ้นวิคเตอร์กับชารอนก็ไม่ค่อยพอใจ ชวนตบตีกัน บางทีลามปามมาหาผม ตอนนี้ผมปิดคอมเม้นในอินสตาแกรมไปแล้ว และปิดคนแท็กหาตัวเองด้วย กันความคิดมากของตัวเองไปในตัว

           

 

“ไปกองกับฉันมั้ย” ผมสั่นหัวเบาๆ

           

 

“ไปได้ไง ผมก็มีกองตัวเองต้องไปนะ” วิคเตอร์หน้าบึ้งอย่างเห็นได้ชัด ผมก็งง จะต้องไม่พอใจเชียวแหละเวลาผมบอกว่าตัวเองต้องทำงาน

           

 

“อีกอย่าง ไม่อยากไปดูคุณเลิฟซีนกับเธอหรอก”

           

 

“เลิฟซีนที่ไหน ไม่มีคิวคลอเดียแล้ว ฉากเอากับเธอฉันถ่ายไปหมดแล้วไง” ผมถลึงตาและเบะปากใส่เขานิดๆ วิคเตอร์ที่หน้าบึ้งหัวเราะ

           

 

“เสียดายล่ะสิที่หมดแล้วอะ” วิคเตอร์ทำปากยื่นและพยักหน้าเบาๆ

           

 

“ก็เสียดายนะ นมเธอนิ้มนิ่ม” ผมเบิกตากว้างกัดปากล่างแน่น ยกมือขวาตีกระทุ้งไข่เขาจนเขาสะดุ้งพร้อมร้องโอ๊ย วิคเตอร์ตัวงอเอามือขวากุมเป้าด้วยความเจ็บ หน้าตาบอกถึงความจุก

           

 

“ไอ้เอเลี่ยน!” หน้าสีแทนเปลี่ยนเป็นสีแดง ผมแลบลิ้นใส่เขา วิคเตอร์กัดฟันแน่น วางถ้วยซีเรียลลงบนโต๊ะหินอ่อนในครัว ผมเห็นท่าว่าเขาจะเดินเลยลุกขึ้นเตรียมจะเดินหนี แต่วิคเตอร์แค่ยืดแขนมาเท่านั้นแหละก็คว้าคอเสื้อผมได้เต็มมือและดึงรั้งผมไว้ไม่ให้หนีไปไหน

           

 

“แอะ! แอ๊!” ผมพยายามฝืนตัวเองไม่ให้หันไปตามแรงของวิคเตอร์ที่พยายามจับผมหันเข้าหาเขา ผมหัวเราะฮื่อๆ ในลำคอ วิคเตอร์จับผมหันเข้าหาเขาได้สำเร็จก็จับผมขึ้นพาดบ่ากว้างด้านขวาของเขา แขนขวาล็อคข้อพับขาผมแน่น มือซ้ายยกขึ้นมาตีก้นผมอย่างแรง

           

 

ผับ!!! ผับ!!!

           

 

“อือ ฮือออ ขอโทษ ขอโทษษษ!” ไอ้ยักษ์ตีก้นผมอีกสองที ผมดีดขาไปมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือตัวเองลงไปตีก้นแน่นๆ ของเขาบ้าง แต่ก็ด้วยความแขนสั้นเลยไปไม่ถึงก้น ได้แค่หลังช่วงล่าง แต่แค่นั้นก็เอา ผมรัวมือตีหลังเขาดังแปะๆ แต่ก็ตีไม่ค่อยโดนหรอกเพราะวิคเตอร์แอ่นอกหนีและระดมฟาดก้นผมป้าบๆๆ จนผมหยุดตีหลังเขาไปเอง

           

 

“ตีไข่สามีแบบนี้ได้ไง ชำรุดขึ้นมาแล้วจะเอาน้ำที่ไหนมาแตก!”

           

 

“แล้วคุณจะบอกว่านมคลอเดียนิ่มทำไมล่า??!!!” ผมดีดขา ยกกำปั้นทุบหลังวิคเตอร์ดังอึกๆ แต่เขายื่นนิ่งและตอบโต้ผมด้วยการดึงเกางเกงนอนขาวยาวผมลงและฟาดมือลงบนเนื้อก้นเน้นๆ

           

 

ป้าบ!

           

 

“ฮือออ” ผมไม่ได้ร้องไห้จริงหรอก แค่ครวญครางให้วิคเตอร์รู้สึกสงสารบ้าง (ถามหาความสงสารจากวิคเตอร์?)

           

 

“ก็นมเธอนิ่มจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากเอากับเธอจริงๆ สักหน่อยโว้ย” วิคเตอร์ตะโกนลั่น ไมเคิลที่นอนดมห่อขนมอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นมองแปบหนึ่งและก้มกลับไปลงหาทางแงะสติ๊กออกจากซองต่อ

           

 

“รู้แล่ว!!!”

           

 

“รู้แล้วยังชอบคิด”

           

 

“ไม่ได้คิดดดด!” ผมไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ นะ ผมแค่พูดหาข้ออ้างในการตีไข่เขาเท่านั้นแหละ

           

 

“เออ ให้จริง!” วิคเตอร์ว่าเสียงห้าว และแทบจะทุ่มผมลงบนโต๊ะหินอ่อนกลางครัวของบ้าน ไมเคิลนอนกินขนมสติ๊กที่วิคเตอร์ทำหล่นบนพื้นโดยไม่สนใจเราสองคน

           

 

พอนั่งลงได้ผมก็นั่งหอบน้อยๆ ส่วนวิคเตอร์นั้นปกติดี ถึงผมจะออกกำลังกาย แต่ผมไม่ค่อยได้คาร์ดิโอ เน้นเล่นเวทให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากกว่า เพราะไอ้ยักษ์รีเควสกับแซ็ค ก็รีเควสแบบตรงๆ ว่าให้ผมแข็งแรงพอที่จะมีอะไรกับเขาได้เต็มที่ไม่มีกั๊ก เพราะเขาชอบเอาไม่ยั้ง

           

 

“I asked you many times to go to set with me. (บอกให้ไปกองกับฉันก็ไม่ไป)” ผมยิ้ม ยกสองแขนคล้องเขาหลวมๆ

           

 

“I trust you because you are a good boy. Eh? (ผมไว้ใจคุณไง คุณเป็นเด็กดีนี่ ใช่มั้ย)” ไอ้ยักษ์ผมยาวหยักศกเล็กๆ หนวดเครารุงรังมองผมตาใสและพยักหน้าหนึ่งที

           

 

“Yes, I am. (อื้อ ฉันเป็นเด็กดี)” ผมหัวเราะ เอ็นดูที่เขาบอกว่าตัวเองเป็นเด็กดี หน้าตาตอนพูดเหมือนเด็กกำลังอ้อนว่าให้เชื่อผมเถอะนะอะไรแบบนั้นเลย ผมเลื่อนมือซ้ายลงไปสัมผัสไข่เขาเบาๆ วิคเตอร์เผลอสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยให้ผมจับ

           

 

“There. There. Are you hurt? Sorry my giant-beard. (โอ๋ๆ เจ็บเหรอ ขอโทษนะยักษ์หนวด)” ผมคลึงไข่เขาเบาๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากเขาหนึ่งที มองแนวหน้าผากของเขาแล้วรู้สึกว่าวิคเตอร์โชคดีมากเลยนะที่แนวหน้าผากไม่ได้สูงหรือกว้างตามมาตรฐานของหนุ่มอังกฤษที่มักจะมีพื้นที่หน้าผากกว้างขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น

           

 

“My dad, he wanted to see us. (พ่อฉันอยากเจอเราด้วย)” อาทิตย์หน้าเราจะไปอังกฤษ ไปดูบ้านที่วิคเตอร์จะซื้อ เขาตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อบ้านหลังไหนและตรงส่วนไหนของอังกฤษ ผมเองก็ชอบบ้านที่เขาเลือก ถ้าไปดูอีกครั้งแล้วไม่มีอะไรมาสะกิดให้เปลี่ยนใจจริงๆ วิคเตอร์ก็จะทำเรื่องซื้อเลย จะได้ย้ายกลับไปอยู่ที่นั่นอย่างเต็มตัว วิคเตอร์อยากกลับไปอยู่บ้านเกิดของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขากั๊กไม่ให้ผมกลับบ้านเกิดตัวเองบ้าง แต่ในเรื่องของกฎหมาย การที่เราอยู่อังกฤษ กฎหมายจะคุ้มครองการเป็นคู่ชีวิตของเราสองคนได้มีประสิทธภาพเมื่อเราจดทะเบียนกัน แต่ที่เมืองไทยไม่ใช่ กฎหมายคู่ชีวิตของคนเพศเดียวกันในเมืองไทยยังไม่กระเตื้องไปไหนเลย ผมรู้ว่ามันเหนื่อยเรื่องเดินทาง แต่ผมก็ปรึกษาพ่อกับแม่แล้ว ทั้งสองคนเห็นด้วยและไม่ได้ขัดขวางอะไร แค่ขอให้กลับมาไทยทุกปีและกลับมานานๆ

 

 

แล้วก็จะไปเยี่ยมไวโอล่าด้วย เพราะลิซ่า (เบะปากเล็กๆ) ส่งข่าวมาบอกว่าเธอไม่ค่อยสบาย วิคเตอร์ไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม เพราะเขารู้ว่าน้องสาวตัวเองชอบทำตัวว่าแข็งแรงและเข้มแข็ง ไวโอล่าชอบเก็บอาการตัวเอง ต้องไปเค้นและเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้น

           

 

“เราต้องไปหาไวโอล่าอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องเจอเขารึเปล่า” วิคเตอร์พยักหน้า ท่าทีคล้ายจะเครียดแต่ก็ไม่ใช่ ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจมากกว่า

           

 

“ไม่รู้จะอยากเจอทำไมนักหนา มาสนใจฉันทำไมตอนนี้” วิคเตอร์พูดด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ในส่วนของเรื่องระหว่างเขากับพ่อ ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่กระจ่างนะ เรื่องแม่เขาก็ใช้ว่าจะเคลียร์ชัดเจน แต่ผมเห็นเขามีความสุขดี ผมเลยไม่อยากรื้อฟื้น วิคเตอร์ยิ่งเป็นพวกจมดิ่งกับอดีตได้ง่ายๆ อยู่ด้วย

           

 

“บางทีเขาอาจจะอยากใกล้ชิดกับคุณมากขึ้นไง” วิคเตอร์บึนปาก ทำหน้าเหมือนกำลังได้ยินเรื่องแปลกประหลาดใจที่สุดในชีวิต

 

 

และทุกวันนี้วิคเตอร์ก็ยังคงมีระยะห่างจากพ่อตัวเองไกลเหมือนเดิม ไม่มีกระเถิบเข้ามาใกล้กัน ไม่มีโมเม้นต์ดีๆ ของพ่อลูกให้เห็น เป็นสิ่งที่วิคเตอร์รู้สึกเฉยๆ ไม่คิดเศร้าเสียใจใดๆ ด้วยเพราะเขาไม่ได้ผูกพันกับพ่อมาตั้งแต่ต้น ผมเองก็ไม่คิดจะเป็นกาวใจให้ทั้งสองปรองดองกัน เพราะพ่อวิคเตอร์ไม่ชอบผม ก่อนจะทำตัวเป็นกาวให้ใคร ผมเป็นกาวให้ตัวเองเวลาหน้าร้าวตอนโดนเขาด่าตอกหน้าจะดีกว่า

           

 

“แม่เลี้ยงคุณมีเด็กใหม่อีกแล้วเหรอ ไวโอล่ากระซิบบอก” วิคเตอร์ยักไหล่สองข้างแล้วตามด้วยส่ายหัวสั้นๆ

           

 

“ไม่รู้เหมือนกัน” วิคเตอร์มีท่าทีอึดอัดที่พูดถึงลิซ่า ท่าทางของเขาดูไม่สบายตัวเหมือนโดนของ ผมเลยไม่คิดถามย้ำ จริงๆ ไม่คิดจะถามแต่ต้นหรอก แค่อยากแซวยัยแม่เลี้ยงผู้ชอบเลี้ยงต้อยเฉยๆ

           

 

“ไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะ ตื่นมาก็กินก่อนเลยเนี่ย” วิคเตอร์มองผมนิ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองแม็คบุ๊คตาแทบจะขวาง ราวกับว่าแม็คบุ๊คเป็นศัตรูของเขา

           

 

“จะทำก็รีบทำนะ ฉันลงมานายห้ามแตะไอ้เครื่องนี้อีก ไม่งั้นฉันจะโทรไปด่าไอ้พีท” ผมยิ้มหน้าอึน พยักหน้าหงึกๆ วิคเตอร์หมุนตัวเดินออกไปจากครัว ผมกระเถิบก้นลงจากโต๊ะหินอ่อน ดึงกางเกงขึ้นปิดก้น เดินไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิม เปิดงานขึ้นมาอ่าน จริงๆ งานในส่วนของผมมันก็ไม่มีอะไรแล้วละ ส่งให้หมดแล้ว ผมแค่เปิดอ่านงานในส่วนอื่นๆ ทีนี้ก็เหลือเข้ากองแล้ว หลังจากกลับจากอังกฤษผมต้องเข้ากอง วิคเตอร์ก็รู้แล้วนะ แต่พอพูดถึงทีไรเขาจะมีความหงุดหงิดทุกที ตอนนี้ผมเลยพยายามเงียบๆ ไปก่อน กลับมาจากนู่นค่อยเตือนความจำเขาอีกทีว่าหมดหิมะเมื่อไหร่เขาต้องปล่อยผมไปทำงาน

           

 

RRrrr!

           

 

โทรศัพท์ของผมสั่นสะเทือนอยู่บนโต๊ะ ผมหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ เห็นเป็นชื่อคนที่วิคเตอร์เพิ่งบอกไปว่าจะโทรไปด่าหากผมทำงานให้เขาเห็น

           

 

“Hey, Pete. (ว่าไงครับพีท)” โทรมาแต่ละทีผมล่ะลุ้นตลอดว่าจะโยนงานอะไรมาให้ผมอีก

           

 

“เดี๋ยวฉันจะส่งลิสต์ของที่นายต้องซื้อไปให้ ช่วยออกไปซื้อให้หน่อย” น้ำเสียงยังปกติไม่ได้ดูหงุดหงิดเท่าไหร่ แต่ที่ผมสงสัยคือตอนนี้ตำแหน่งผมกลายเป็นเบ๊ประจำกองถ่ายเต็มตัวแล้วใช่มั้ย เหมือนโพสิชั่นไหนว่างก็อีแมทนี่แหละที่ต้องเติมให้เต็ม

           

 

“ได้ครับ” ผมตอบรับไปทั้งที่ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้วว่าระเบิดจะลงบ้านมั้ยถ้าไอ้ยักษ์รู้ วีคนี้เป็นวีคพักผ่อนของเขาด้วย ในส่วนของวิคเตอร์ เขาจะไม่ชอบพูดเรื่องงานในวันหยุดของตัวเอง และวันหยุดของเขาคือการอยู่กับผมสองคน และกับหมากับแมว นอนดูหนัง เล่นเกมอะไรไปเรื่อยเปื่อย คือทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่งาน

           

 

“ออกเงินไปก่อน แล้วนายค่อยมาเบิกอีกที เก็บบิลไว้เคลียร์ด้วย”

           

 

“จำเป็นต้องวันนี้เลยเหรอครับ” ผมลองถามอีกที เผื่อว่าจะเปลี่ยนเป็นพรุ่งนี้ได้ คือถ้าเป็นพรุ่งนี้ ผมยังสามารถพูดขอวิคเตอร์ให้ได้รับรู้ได้ไงว่าผมจะออกไปทำงานนะ

           

 

“ทำไม นายไม่สะดวกงั้นเหรอ อ๋อ ขอโทษที ฉันลืมไปว่านายมันแบ็คอัพดี นึกอยากจะทำงานหรือไม่ทำก็ได้ แต่ขอโทษนะ ตอนนี้นายอยู่ในช่วงทำงาน การที่เราเลื่อนกองถ่ายไม่ได้หมายความว่าฉันจะสั่งงานนายไม่ได้” อะโหย ถามแค่นิดเดียว ตอกกลับมาซะยาวเหยียด นี่ตอกกลับประโยคที่ผมพูดหรืออยากตอกใส่หน้าผมเป็นการส่วนตัวกันแน่เนี่ย

           

 

“ไม่ใช่ครับ คือ เอ่อ…” ผมไม่อยากจะเถียงให้มันมีความยาวยืด เพราะผมยังต้องการทำงาน ผมเลยถอนหายใจเบาๆ เก็บคำพูดที่จะพูดไว้ข้างใน

           

 

“…ได้ครับ เดี๋ยวผมออกไปซื้อให้ ซื้อเสร็จแล้วเอาไปไว้ไหนครับ”

           

 

“เอามาให้ฉันที่ออฟฟิศ แวะมาบ้างก็ดีนะ คนอื่นเขาจะได้ไม่ลืมว่านายก็เป็นทีมงานเหมือนกัน” ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่

           

 

“ครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้ที่ออฟฟิศ” ผมตอบเสียงทื่อ พีทกดวางสายไป ผมทำหน้าเซ็ง ไอ้เรื่องไปออฟฟิศคือปัญญาอ่อนมาก ก็ในเมื่องานมันยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่าที่เป็นอยู่ จะให้ไปนั่งที่ออฟฟิศทำไม ไปก็ไม่ได้ทำอะไร มันเป็นงานที่ทำอยู่บ้านก็ได้ คงไม่พอใจล่ะสิที่ผมไม่ได้อยู่ใกล้มือใกล้เท้าเอาไว้จิกใช้งาน ที่จริงตอนนี้คือรอเปิดกล้องถ่ายทำนั่นแหละ นี่ดีนะว่าไม่ใช่หนังใหญ่อะไรมาก ไม่งั้นคงยุ่งเหยิงและผมคงโดนจิกกัดกว่านี้

           

 

ครืด!

           

 

ผมเปิดอ่านวอทสแอพ อ่านลิสต์รายการที่เขาฝากซื้อแล้วรู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมของมันดูเป็นส่วนตัว มีทั้งของกิน ของใช้ ผมกำลังคิดว่าถ้าเขาเดินออกไปซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเองก็น่าจะได้เร็วกว่าให้ผมไปหาซื้อให้รึเปล่า นี่คือยังไง อยู่ใกล้จิกใช้ไม่ได้เลยโทรมาจิกใช้ให้ออกไปนอกบ้านเลยว่างั้น กลัวผมหนาวตายคาบ้านเหรอ ต้องหาอะไรให้ผมทำเพื่อให้ผมขยับร่างกายงี้

           

 

ผมกลอกตา วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ แอบนึกถึงช่วงที่ผมฝึกงานกับวิคเตอร์แล้วก็ชอบโดนเขาแกล้งเพื่อบีบให้ผมลาออกแบบเนี้ย แต่สุดท้ายผมก็ไม่ออก หน้าด้านหน้าทนทำงานจนได้เขาเป็นผัวนี่ไง แม้จะไม่พอใจค่อนข้างมาก แต่ผมก็บอกตัวเองว่าถ้าทนและผ่านวิคเตอร์มาได้ ก็ไม่มีอะไรยากไปกว่านั้นแล้วละ อีกอย่างผมต้องพิสูจน์ตัวเองว่าผมทำงานได้ ไม่ใช่ว่าโดนฝากมาแล้วง่อย ผมไม่ได้อยากทำตัวเป็นพวกเด็กมีอุดมคติสูง แต่ผมแค่อยากทำงานที่ผมรักเท่านั้นจริงๆ

           

 

“วิคเตอออร์ ออกไปซื้อขนมกันนะ” ผมรีบสลัดหน้าเซ็งทิ้ง และรีบวิ่งเข้าไปกอดเอวเขาไว้ วิคเตอร์ที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาในครัวทำหน้างง

           

 

“ซื้อขนมอะไร ที่มีอยู่ในบ้านยังไม่พอเหรอ” ผมสั่นหัวพร้อมกับยิ้มประจบ

           

 

“มันก็ใกล้จะหมดแล้วนะ ไปซื้ออาหารสดมาตุนไว้ด้วยไง หมูเหลือไม่กี่ชิ้นเอง” อ้างไปเรื่อย แต่ก็พยายามอ้างให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด อาหารสดในตู้เย็นเหลือไม่มากจริงๆ

           

 

“ก็ได้ งั้นไปเปลี่ยนชุด เดี๋ยวไปซูเปอร์ฯ กัน” ผมฉีกยิ้มและพยักหน้าด้วยความกระตือรือร้น ในอกรู้สึกโล่ง (ตอนนี้) ที่หลอกล่อให้วิคเตอร์ออกไปข้างนอกด้วยกันได้ แล้วเดี๋ยวค่อยไปแอ๊บเนียนว่าพีทเพิ่งฝากซื้อของพอดีก็แล้วกัน ตอนนั้นคงไม่มีระเบิดลงหรอก มากสุดก็น่าจะเป็นปืนอาก้าที่พร้อมยิงรัวๆ

           

 

หันหัวกระบอกปืนไปทางพีทดีกว่าถ้างั้น =.,=

               

           

 

 :hao7:



               แอร๊ยยยย ได้มาต่อแล้วววว ตอนแรกจะมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้วค่ะ แต่ทำงานดึกมากกกก เหนื่อยเพลีย หมดแรง หมดพลัง หมดแรงตัดพ้อออ มันถอดใจจจจ

               วันนี้มานั่งปั่นเพราะมีช่วงได้เบรคจากงาน แต่ก็ปั่นได้ครึ่งเดียว ตอนแรกกะว่าจะเขียนให้เสร็จตอนนึงแล้วลงรวด เป็นการไถ่โทษที่มาช้า แต่ไม่ไหวจริงค่ะ งานก็ต้องทำ สลับมาเขียนนิยาย สมองเหมือนหายไปครึ่ง

          แต่ถึงจะมาครึ่งเดียว แต่ก็มาแล้วนาาา ไม่อยากหายไปนานๆ พ้นกรกฎาคมนี้ไป งานตอมจะเบาลงแล้วค่ะ จะกลับมาอยู่กับนิยายได้อีกพักใหญ่จนกว่าจะมีงานที่ต้องทุ่มเทแรงกายให้ทำเข้ามาอีก

          ก็ยังเป็นตอนเบาๆ อยู่ เห็นม้ายยย ไม่มีอะไรหนักหนาเล้ยยย อ่อนๆ ชิลๆ ภาคจบแล้ว ละมุนละไมหัวใจเว่อ กรุบๆ กิ๊ๆๆๆ

          อาจจะดูโล่งๆ เปลือยๆ เนื้อหาสาระไม่ค่อยมี 55555 แต่จริงๆ ถ้าใครตามอ่านกันมานานจะรู้อยู่แล้วเนอะ ว่าตอมชอบซ่อนดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ไว้ในแต่ละตอน คนอ่านบางคนบอก หล่อนซ่อนดีมาก เพราะฉันหาไม่เจอ 55555 ไม่รับรู้ถึงดีเทลนั้น รับรู้แต่น้ำ ไม่มีเนื้ออออ ฮ่าาาา

          มันก็ไปเรื่อยๆ ตามสไตล์ขุ่นเจ้อะเนาะ เรื่องนี้มันก็เล่าเนิบๆ แต่ก็ไปเรื่อยๆ แบบอบอุ่น (หราาาา)

          ตอนนี้ตอมเปิดพรีออเดอร์รีปริ้นภาคแรกของนิยายเรื่องนี้อยู่นะคะ อาจจะดูเงียบๆ หน่อย แต่เปิดอยู่นะ รอบนี้ตอมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมากมาย เพราะก็เปิดมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่ 6 แล้วมั้ง เปิดให้กับคนอ่านที่มาสอบถามอยู่บ่อยๆ จะได้ไม่ต้องไปตามหามือสองที่ราคามันแพงเว่อเกิน (เพราะราคาออริจินอลก็แพงอยู่แล้ว 555555) เปิดโอนเงินถึงวันที่ 5 สิงหาคมค่ะ เข้าไปอ่านรายะเอียดได้ที่ > คลิก



แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 40% :06.07.60:
«ตอบ #1822 เมื่อ06-07-2017 23:00:31 »

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 40% :06.07.60:
«ตอบ #1823 เมื่อ07-07-2017 06:54:49 »

ซื้อของส่วนตัวก็ซื้อเองดิ พีท!!!!

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 40% :06.07.60:
«ตอบ #1824 เมื่อ07-07-2017 07:35:01 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 40% :06.07.60:
«ตอบ #1825 เมื่อ08-07-2017 14:04:45 »

ยักษ์รักเมียมากจริงๆๆๆๆ
แต่พีทนี่ยังไงๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 40% :06.07.60:
«ตอบ #1826 เมื่อ10-07-2017 00:32:50 »

พีทกำลังหาทางแกล้งแมทอยู่รึป่าว?

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 40% :06.07.60:
«ตอบ #1827 เมื่อ10-07-2017 10:41:50 »

เดี๋ยวยักษ์ก็ระเบิดลงอีก

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 100% :07.08.60:
«ตอบ #1828 เมื่อ07-08-2017 16:39:23 »



Yours and Mine :: EP.6 [100%]




# United Kingdom

           

 

“ไม่เอาน่า มาดูรูปบ้านกันดีกว่า” วิคเตอร์ดึงแขนผมให้เขยิบเข้าไปนั่งใกล้กัน ผมหน้าบูดน้อยๆ หันไปมองหน้าไอ้ยักษ์ผมยาวที่กำลังมีสีหน้าไม่สบายใจ เห็นแบบนั้นผมก็เลยผ่อนลมหายใจเบาๆ และแบมือขอไอแพดจากเขามาถือไว้เอง

           

 

“ฉันผิดอะไรรึเปล่าเนี่ย” วิคเตอร์ถาม มีการหันไปมองออสตินที่กำลังขับรถเหมือนหาพวก ออสตินทำเพียงยักคิ้วสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ และตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป ผมถอนหายใจอีกทีและสั่นหัวเบาๆ

           

 

“ผมงี่เง่าเองแหละที่ใจไม่แข็งพอ” วิคเตอร์หอมหน้าผากผมไปที

           

 

“จะเปลี่ยนหลังใหม่ก็ได้ ถ้าไม่ชอบที่ลิซ่าบอก” ผมส่ายหัวพลางเลื่อนรูปบ้านในไอแพดที่ยัยแม่เลี้ยงถ่ายรูปส่งมาให้ ทั้งภาพนอกบ้าน รอบบ้าน และในบ้าน

           

 

“ก็คุณชอบหลังนี้มากไม่ใช่เหรอ”

           

 

“ฉันบอกว่าไง มันคือบ้านของเรา” วิคเตอร์เริ่มเสียงแข็ง ผมหันไปมองหน้าตาตึงเครียดของเขาแว้บหนึ่ง แล้วก้มลงมองไอแพดต่อ ไม่ได้อยากทำตัวเรื่องมาก หรือทำตัวเยอะสิ่ง เอาแต่ใจให้ผู้ชายตามใจอะไรแบบนั้น

           

 

“แล้วถ้าในเมื่อมันเป็นบ้านของเรา ผมก็เลยงงว่าทำไมถึงปล่อยให้ลิซ่ามีส่วนร่วมด้วย” ผมถามเรียบๆ เรียบทั้งสีหน้าและน้ำเสียง ไม่ได้หันไปมองเหวี่ยงหรือโกรธเคืองใส่วิคเตอร์

           

 

“ลิซ่ารู้จักคนแถวนั้นพอดี ฉันแค่ทำให้มันง่ายขึ้นเฉยๆ ให้เธอช่วยติดต่อคนรู้จักของเธอเลือกบ้านมาให้” ผมหันไปมองสีหน้าหงุดหงิดของวิคเตอร์ครู่สั้นๆ แล้วหันกลับมามองไอแพด

           

 

“ขอโทษครับ” ผมตัดบทจบ ยอมรับว่าประชดกับสีหน้าหงุดหงิดของเขาที่คล้ายว่าจะไม่พอใจกับการที่ผมเอ่ยถึงผู้หญิงคนนั้น

           

 

“แมท” วิคเตอร์เสียงเข้ม จากตอนแรกแค่บูดบึ้งนิดหน่อย ตอนนี้มันกลายเป็นอารมณ์ครุกรุ่นของเราสองคน

           

 

ก่อนหน้านี้เขาบอกว่ามีหลังที่ถูกใจไว้แล้วหลังจากมาเดินดูด้วยกันเมื่อคราวก่อน แต่ผมเพิ่งมารู้ตอนมาถึงอังกฤษเมื่อวันก่อนนี่แหละว่า ไอหลังที่เขาถูกใจคือหลังที่แม่เลี้ยงเขาหามาให้ ลิซ่าเป็นคนบอกผม ซึ่งจะตั้งใจหรือไม่ผมก็เลยมาถามไอ้ยักษ์เช้านี้ แล้วก็ได้คำตอบว่าจริงตามนั้น ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าตัวเองชอบหลังไหนบ้าง แต่ก็มีที่สนใจหลายหลังจากคราวก่อนที่มาเดินๆ ดู กะว่ารอบนี้มาเดินดูอีกครั้งแล้วก็อยากเลือกให้ได้เลย ถ้าหลังนั้นยังดึงดูดไว้ได้อยู่ก็จะลองคุยกับวิคเตอร์ดู แต่ดูท่าวิคเตอร์จะจดจ่อกับหลังที่ยัยแม่เลี้ยงบอกมาก คือถ้าเขาชอบด้วยตัวเองผมยินดีไม่มีอิดออด เพราะยังไงก็เงินเขา แต่การที่เขาบอกว่ามันคือบ้านของเรา แต่กลับปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นมีส่วนร่วมในการเลือกให้ ใจผมมันก็ทุเรศมากพอที่ไม่อยากจะอยู่

           

 

“โอเค ผมขอโทษที่ผมงี่เง่า” ผมกดปิดไอแพด ยื่นคืนให้เขา วิคเตอร์พ่นลมหายใจแรงๆ กระชากไอแพดกลับคืนไป ผมกระเถิบตัวถอยห่างจากเขาไปนั่งอีกเบาะ วิคเตอร์หันมองวิวด้านนอก ผมเองก็หันมองวิวด้านนอก คนที่น่าสงสารที่สุดคือออสตินที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นคนที่ชินกับสถานการณ์นี้ที่สุดแล้วเช่นกัน

           

 

ผมกำลังนั่งคิดกับตัวเองว่าคิดมากไปหรือเปล่ากับแค่การที่บ้านของตัวเองกับสามีมีคนอื่นร่วมเลือกด้วย นี่ผมพยายามไม่คิดต่อยอดอะไรไปมากกว่านี้นะว่าทำไมลิซ่าถึงมาช่วยเลือกได้ เขามีการนัดคุยนอกรอบหรือลับหลังผมกันงั้นเหรอ อาการไม่ชอบแม่เลี้ยงตัวเองของวิคเตอร์ไม่ได้แสดงให้เห็นนานแล้ว บางทีเขาอาจจะลืมไปแล้ว และกลับมาคุยกันได้ตามปกติโดยที่ผมไม่รู้

           

 

นั่นแหละ ผมไม่รู้ไง แล้วผมยังไม่รู้อะไรอีกหรือเปล่า

           

 

“ออสติน กลับ ไม่ต้องไปแล้ว” วิคเตอร์พูดขึ้นมาหลังจากเงียบไปพักใหญ่ ผมหันไปมองใบหน้าไร้อารมณ์ของเขาด้วยสายตาเอือม อาการเอาแต่ใจเริ่มกำเริบอีกแล้ว

           

 

“เราถึงวุร์สเตอร์ (Worcester) แล้วนะครับ อีกชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว” ออสตินบอกอย่างใจเย็น มันใกล้ถึงแล้วจริงๆ ถ้าจะให้เขาขับกลับมาอีกรอบ ออสตินก็พามาได้ แต่ครั้งนี้ที่คุยกันไว้คือเราหมายจะได้บ้านเลย เพราะเคยมาดูไปแล้วรอบนึง ก็ไม่อยากมาเพียงเพื่อมาดูแล้วดูอีก แต่ไม่ได้บ้านสักที อีกอย่าง ถ้าเกิดว่าบ้านหลังไหนที่เราถูกใจ ต้องดูว่าใครเป็นคนดูแล ถ้าไม่มีเจ้าของก่อนหน้าแล้วประกาศขายอยู่ ต้องมีกระบวนการส่งเรื่องไปทางรัฐฯ ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลบ้าน แต่ถ้าเป็นบ้านของใครสักคน แล้วเขาประกาศขาย อันนั้นโชคดีไป เรื่องไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ แล้วก็แน่ะละว่า หลังไหนมีเจ้าของอยู่แล้ว และเขาไม่ได้จะขาย เราก็ซื้อไม่ได้ แม้จะอยากได้มากแค่ไหนก็ตาม และแม้จะได้บ้าน ซื้อขายถูกต้องตามกฏหมายแล้ว แต่กว่าจะรีโนเวทเสร็จอีกล่ะ

           

 

“ไม่ กลับเลย” วิคเตอร์บอกอย่างดื้อดึง น้ำเสียงห้วนสั้น หน้าตาไม่พอใจอะไรสักอย่างบนโลกนี้แม้กระทั่งผม ออสตินได้แต่พยักหน้ารับ ชลอความเร็วของรถเพื่อหาจุดกลับรถ

           

 

“ขับต่อไปเลยออสติน” ผมพูดแทรกขึ้นมา ออสตินมองสบตากับผมผ่านกระจกมองหลัง ผมพยักหน้ายืนยัน ออสตินมีท่าทางไม่แน่ใจเท่าไหร่

           

 

“ไม่ต้องไป”

           

 

“วิคเตอร์” ผมเสียงแข็งกลับบ้าง จะว่าผมงี่เง่าก็ได้ แต่ตอนนี้วิคเตอร์กำลังจะงี่เง่ากว่าผมแล้ว ไอ้ยักษ์หันมามองผมตาแทบขวาง ผมมองกลับอย่างไม่พอใจเช่นกัน

           

 

“ทำไม หรือผมหมดโอกาสที่จะได้เลือก บ้านของเรา แล้ว ผมไม่มีสิทธิ์เหมือนผู้หญิงคนนั้นเหรอ” ออสตินตัดสินใจขับรถต่อไป วิคเตอร์มองผมตาดุดัน ผมมองกลับนิ่งเฉย

           

 

“อย่ากวน” วิคเตอร์มีท่าทีอดทนอดกลั้น คงจะหงุดหงิดกับท่าทีนิ่งๆ ของผมเวลาโกรธกันตามเคย

           

 

“คุณโกรธผมเพราะผมโกรธคุณที่คุณปล่อยให้คนอื่นมาช่วยเราเลือกบ้าน ทั้งที่จริงคุณควรอธิบายว่าทำไมแม่เลี้ยงของคุณถึงมีส่วนร่วมครั้งนี้ได้ด้วย” วิคเตอร์หน้ายักษ์สมฉายา ผมมองเขากลับอย่างสงบเสงี่ยม ไม่อยากโมโหไปด้วยอีกคนเดี๋ยวจะยิ่งแย่กว่าที่เป็นอยู่

           

 

“ฉันจำได้ว่าเธอเคยบอกว่ามีคนรู้จักอยู่ที่นั่น” เขายอมรับเสียงห้วน หน้าตาไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ ผมกระตุกยิ้มมุมปาก

           

 

“ไม่ต่อต้านเธอแล้วเหรอ” วิคเตอร์กลอกตา ใบหน้าหน่ายเล็กๆ

           

 

“ฉันไม่คิดกลับไปหาเธอก็แล้วกัน” เขาว่าเสียงห้วนเหมือนเดิม มองผมด้วยความเอือม เขาก็คงเอือมความคิดมากของผมนั่นแหละ ซึ่งเอาจริงๆ ผมยังไม่คิดถึงประเด็นนั้น ประเด็นที่ผมคิดคือเรื่องบ้านของเรา บ้านที่เราสองคนควรช่วยกันเลือก ผมพยายามนึกว่าก่อนหน้านี้ผมทำตัวไม่อยากเลือกหรืออิดออดมั้ย ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ เพียงแต่ยังตัดสินใจไม่ได้จริงๆ ว่าจะเลือกหลังไหนในโซนไหนของเมืองนี้ แต่แล้ว ยัยแม่เลี้ยงก็ดันมามีส่วนร่วมเฉย ราวกับจะมาอยู่ด้วยกัน

           

 

“คุณเคยฝันอยากมีบ้านกับเธอที่นั่นใช่มั้ย” ผมไม่ได้เป็นนักอ่านใจหรอก แต่เป็นนักเดาอดีตมากกว่า สองคนนั้นผูกพักกันมาตั้งนาน ผ่านเรื่องราวอะไรด้วยกันมามากมายจนถึงขั้นแต่งงานกันแล้วด้วยซ้ำ

           

 

“แมท! จะทะเลาะกันให้ได้เลยเหรอ?!”

           

 

“ใช่มั้ย?!” ผมถามเสียงดังกลับ หน้าตาไม่พอใจกลับบ้าง วิคเตอร์เริ่มมีน้ำโหอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมก็ไม่อยากยอมเหมือนกัน

           

 

“เออ!!!”

           

 

“ก็แค่นั้นแหละ!” ผมกระแทกเสียง ยกสองแขนกอดอกและหันหน้าไปมองวิวตึกโทนสีน้ำตาลแก่ แต่อารมณ์นี้ไม่มีฟีลลิ่งจะซึมซับบรรยากาศสวยๆ คลาสสิคของเมืองผู้ดีเลย

           

 

“รู้แล้วไงต่อ? เปลี่ยนใจไปอยู่ที่อื่นมั้ยล่ะ ฉันให้สิทธิ์นายเลือกคนเดียวเต็มที่” ผมหันไปมองหน้าตาไม่ชอบใจกับการประชดของเขา ไอ้ยักษ์ยักคิ้วข้างซ้ายให้ ยิ้มกวนตีนกวนใจ ท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร

           

 

“งั้นผมเลือกกลับไปอยู่ไทย” ผมตอบด้วยอาการเหวี่ยงเล็กๆ มองวิคเตอร์ด้วยหางตาครู่สั้นๆ และหันไปมองถนนที่รถกำลังแล่นอยู่

           

 

“ไม่ให้กลับ” ผมขมวดคิ้ว หันกลับไปมองใบหน้ามึนตึงของวิคเตอร์

           

 

“แล้วจะให้เลือกทำไม ก็เลือกแล้วนี่ไง!”

           

 

“ถ้าจะเลือกแบบนี้ก็ไม่ต้องเลือก” วิคเตอร์ยกนิ้วชี้ขึ้นขู่ สีหน้าเอาเรื่องกับการประชดประชันของผม ไอ้ยักษ์ยื่นมือมาจับข้อมือขวาของผมและกระชากผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ บีบข้อมือผมแน่นจนผมเจ็บ แต่ผมก็ไม่ร้องสักแอะ นั่งนิ่งกัดฟันแน่นให้เขาบีบตามที่เขาอยากจะทำ

           

 

เลยกลายเป็นว่าเหมือนผมเป็นคนผิดที่ไม่พอใจเขาที่ให้คนอื่นมาช่วยเลือกบ้านของเราที่เขาพร่ำบอกนักหนาว่ามันคือบ้านของผมกับเขา แถมคนที่ช่วยเลือก ยังเป็นคนที่เขาเคยมีความฝันร่วมกันว่าอยากมีบ้านที่นี่อีก

           

 

“อยู่เฉยๆ!” วิคเตอร์ดุตอนที่ผมพยายามดึงข้อมืออกจากมือเขาเพราะเจ็บกับแรงบีบ ผมหน้ามุ่ยใส่เขา

           

 

“มันเจ็บ!” ผมตะคอกกลับเล็กๆ ตอนนี้ไม่นึกสงสารออสตินแล้วที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ผัวเมียตีกันอีกครั้ง ขอนึกสงสารตัวเองก่อนที่ต้องมาระวังอารมณ์ไอ้ยักษ์อีกแล้ว

           

 

“ปล่อยผมลงตรงนี้แหละ! ผมไม่ไปแล้ว คุณมีบ้านในฝันกับเมียเก่าอยู่แล้วก็เดินไปเลือกเองเลย แต่ผมไม่อยู่ด้วย!” วิคเตอร์เบิกตากว้างท่าทางอารมณ์ขึ้นสูงกว่าเดิม ผมจ้องตาเขาไม่ยอมเช่นกัน

           

 

เอี๊ยด!

           

 

ผมถลาไปข้างหน้าจนหัวชนกับหลังเบาะคนขับ แต่วิคเตอร์ก็ดึงข้อมือผมกลับมาให้กลับมานั่งตามเดิมโดยไม่สนใจเลยมั้งว่าผมจะเจ็บหรือเปล่า

           

 

“ขอโทษครับ แต่ว่าถึงแล้ว” ออสตินหันมาบอกอย่างสุภาพ ใบหน้านิ่งตามสไตล์ของเขาและหันกลับไปด้านหน้าต่อ ผมหน้าบึ้ง น้ำตาเริ่มจะคลอกับความเจ็บตรงข้อมือและรู้สึกแย่กับอารมณ์ฉุนเฉียวของวิคเตอร์

           

 

“ออสติน นายลงไปก่อน” บอดี้การ์ดหัวเกรียนพยักหน้านิ่งหนึ่งที เขาสตาร์ทรถทิ้งไว้ให้ เปิดประตูลงไปยืนบนถนนด้านนอก ปิดประตูรถตามหลังเบาๆ ผมหันหน้าหนีวิคเตอร์ น้ำตาคลอ ข้อมือแทบจะชาจนจะไร้ความรู้สึก

           

 

“หันหน้ามา” เขาสั่งเสียงเข้ม ผมย่นคิ้ว นึกสงสัยว่าผมผิดอะไรนักหนา ถ้าถามหาความผิด มันก็ไม่มีหรอก แต่สิ่งที่เขาทำ มันเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบ

           

 

“แมท!” เขาตะคอกเสียงดังลั่นรถ ผมสะบัดหน้าไปมองเขาด้วยอารมณ์หงุดหงิด ยกมือซ้ายขึ้นจับสร้อยคอที่คล้องแหวนไว้และกระชากออก วิคเตอร์ตาวาววับ น้ำตาผมร่วงเผาะลงบนแก้มทั้งสองข้าง ทำท่าจะทิ้งแหวนลงบนพื้นรถ ยอมรับกับตัวเองได้เลยว่าทำไปเพราะอยากประชดแรงๆ

           

 

“อย่านะ!” เขาปล่อยข้อมือขวาของผมที่ตอนนี้แดงเถือก และใช้สองมือมาจับมือซ้ายของผมและดึงสร้อยกับแหวนออกไปจากมือ ผมน้ำตาไหลเงียบๆ สะบัดแขนออกจากมือเขาได้ก็หมุนตัวจะเปิดประตูรถหนีเขา แต่วิคเตอร์รวบตัวผมจากด้านหลังไว้แน่น  ผมไม่ได้พยายามดิ้นหนี เพราะทำไปก็เหนื่อยเปล่า เลยนั่งนิ่งให้เขากอดแน่นเหมือนงูรัด วิคเตอร์จับมือซ้ายผมขึ้นมา ดึงสร้อยสีเงินออกจากแหวน และพยายามจะยัดแหวนหมั้นลงนิ้วนางข้างซ้ายของผม แต่ผมกำมือแน่นไม่ยอม

           

 

“แบมือออกมา!” เขาพูดเสียงคำรามข้างหู ผมน้ำตาไหลพราก ก่อนจะร้องไห้โฮลั่นรถ แบบมือออกอย่างอ่อนแรง วิคเตอร์จับแหวนดันลงไปบนนิ้วนางข้างซ้ายเสร็จสรรพ แล้วก็กดจูบลงบนขมับผมอย่างแรงหนึ่งที เสียงหายใจของเขาดึงฟึดฟัดชัดเจน

           

 

“Good boy.(เด็กดี)” เขากดจูบแก้มผมแรงๆ หนึ่งทีและจับผมหันเข้าหาเขา ผมร้องไห้สะอึกสะอื้น ไม่อยากมองหน้าเขาตอนเวลาเขาโกรธ

           

 

“ชู่ววว” วิคเตอร์ยกมือขวาลูบหัวผมและทำหน้าปลอบโยน ผมยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม

           

 

“Hit me if you want, okay? (ตีฉันสิถ้านายอยากทำ)”

           

 

เพี๊ยะ!

           

 

ผมยกมือขวาตบแก้มซ้ายของเขาเต็มมือ วิคเตอร์ตกใจนิดหน่อย แล้วผมก็ยกมือขวาตบซ้ำที่เดิม วิคเตอร์หน้าเหยเกเล็กๆ แต่ก็ไม่ร้องหรือบ่น ผมเลยยกมือตบที่เดิมอีกรอบ คราวนี้เขาครางเบาๆ และปิดเปลือกตาแน่น สะบัดหน้าสองสามทีแล้วหันมามองหน้าผมที่กำลังนั่งสะอื้นเบาๆ

           

 

“I just asked her about the house. Now it’s our home. It’s our dream. You want to have house here, do you? (ฉันแค่ถามเธอเรื่องบ้าน ตอนนี้คือฝันของเราสองคน นายก็อยากมีบ้านที่นี่ไม่ใช่เหรอ)” เขาดึงผมเข้าไปกอด ผมยิ่งรู้สึกหงุดหงิดและหมั่นไส้เขา ถ้าเขาอธิบายดีๆ แบบนี้แต่แรกมันก็จบแล้ว ผมเลยยกมือทุบหลังเขาดึงอักหลายทีติดๆ กัน จนวิคเตอร์ร้องครางด้วยความเจ็บ

           

 

“Fuck! Your hands is so heavy. (แม่ง มือนายโคตรหนัก)” ผมทุบด้วยความโมโห ด้วยความหงุดหงิด วิคเตอร์กอดผมนิ่ง แต่ก็มีร้องครางด้วยความเจ็บให้ได้ยิน

           

 

“Are you happy? (พอใจยัง)” เขาถามและลูบหลังผมเบาๆ ตอนนี้อารมณ์คงลงมาแล้วถึงได้ใจดี อารมณ์ที่เปลี่ยนไวไปมาของเขายังคงเส้นคงวา

           

 

“No! (ไม่!)” ผมกระแทกเสียงเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ก้มลงกัดไหล่เขาผ่านเสื้อยืดสีดำคอวี วิคเตอร์ร้องโอดครวญ แล้วเขาก็ยกมือซ้ายฟาดก้นผมรัวๆ จนผมรู้สึกเจ็บเลยหยุดกัดเขาและดันตัวเองออก ไอ้ยักษ์ย่นคิ้วด้วยความเจ็บ

           

 

“What do you want, eh? (ต้องการอะไรเนี่ย เฮอะ?)” เขาจับไหล่ผมแน่น ผมกัดริมฝีปากล่างแน่น น้ำตาอาบแก้มแต่ไม่มีไหลมาเพิ่ม ยกมือขวาขึ้นทุบอกเขาดังอัก

           

 

“Shit! (โอ๊ย!)” วิคเตอร์ขมวดคิ้วแน่น มองผมด้วยสายตาปรามๆ ผมมองกลับอย่างขุ่นเคือง

           

 

“You were mad at me like you are hiding something wrong! (ทำมาโกรธผมแบบนี้เหมือนคุณกำลังซ่อนความผิดตัวเอง!)” วิคเตอร์งง มองผมด้วยความไม่เข้าใจ ผมมองกลับด้วยความขัดใจในความมึนของเขา

           

 

“What’s wrong with me?! (ฉันผิดอะไรเนี่ย?!)”

           

 

“You pretend to be mad like the man who have an affair, and I can catch you up with this truth! (คุณกลบเกลื่อนเหมือนพวกผู้ชายที่ถูกจับได้ว่ามีชู้ไง!)” วิคเตอร์กะพริบตาปริบๆ สีหน้ายังคงงงอยู่ เห็นแล้วก็นึกหมั่นไส้

           

 

“Don’t act like you are stunned! You are stupid! (ไม่ต้องมางง ไอ้โง่!)” จากหน้างงเปลี่ยนเป็นหน้าเหวอ วิคเตอร์มองผมด้วยความตกใจเล็กๆ

           

 

“What?! What the fuck? (อ้าว อะไรวะ)”

           

 

“If you just explain for the first time I asked you. It’s clear! Why you have to be moody? You are always a hot-head when something displease you, and then I got hurt! (ถ้าอธิบายดีๆ แต่แรกก็จบแล้ว จะโมโหอะไรอะ พอไม่ได้ดั่งใจก็อารมณ์ขึ้นตลอด แล้วผมก็เจ็บตัวนี่ไง!)” ผมสูดจมูกดังฟืดหลายทีติดกัน

           

 

“And I did not get hurt, do I? (ฉันไม่เจ็บตัวเลยงั้นสิ)”

           

 

“You made me first! I feel so bad that you talked to her, and you made it worse. Just tell me. Don’t angry me. (ก็คุณทำผมเจ็บก่อน ผมรู้สึกแย่ที่คุณคุยกับลิซ่าอยู่แล้ว แต่คุณก็ยังจะทำให้ผมแย่กว่าเดิมอีก ก็บอกดีๆ สิ โมโหทำไม!)” ผมมองหน้าไอ้ยักษ์ด้วยสายตาโมโห วิคเตอร์ไม่ได้มีท่าทีสลดอะไรหรอก เขาก็แค่เลิกทำหน้าเข้ม หน้าดุเท่านั้นเอง รู้ตัวรึเปล่าเหอะว่าตัวเองเป็นคนโหมไฟเพิ่ม

           

 

“And why do you have to act like a cold-blood person, a sarcastic wacko? I hate these act of you. (แล้วนายทำไมจะต้องทำท่าทางที่ฉันไม่ชอบด้วย ฉันเกลียดจริงๆ ท่าทางเย็นชาเหมือนคนไม่มีเลือด แล้วก็ท่าทีช่างประชดเหมือนยัยแก่สมองไม่ดีนั่นน่ะ)” เขาบอกสีหน้าไม่สบอารมณ์ สายตาบอกว่าเกลียดพฤติกรรมนี้ของผมจริงๆ 

           

 

“I hate your furious act as well, and also hate you! (ผมก็เกลียดความขี้โมโหของคุณเหมือนกัน เกลียดคุณด้วย!)” ผมกระชากเสียงใส่เขา ยกมือทุบไหล่ซ้ายเขาแรงๆ หนึ่งที วิคเตอร์ยกมือขวาฟาดก้นผมเต็มมืออย่างรุนแรง

           

 

“โอ๊ย!”

           

 

“Don’t hate me! (ห้ามเกลียดฉัน!)” ว่าจบก็ใช้มือขวาล็อคคอผมให้อยู่นิ่งๆ และยื่นหน้ามาจูบปากผมอย่างหนักหน่วง บดขยี้จนผมรู้สึกเจ็บริมฝีปาก ผมพยายามหันหน้าหนีแต่ก็โดนเขากดหลังคอไว้ สักพักเขาก็เปิดปากผมและและดันลิ้นเข้าไป พอรู้สึกว่าผมจะกัดลิ้นเขากลับ เขาก็จิกเส้นผมตรงท้ายทอยผมให้ผมแหงนหน้าขึ้น และไซ้คอผมด้วยความรุนแรงจนผมรู้สึกเจ็บ

           

 

“วิคเตอร์… อะ!” ผมหลับตาแน่นและขมวดคิ้วตอนที่โดนเขากัดตรงซอกคอด้านซ้ายอยู่พักหนึ่งแล้วค่อยปล่อย สองมือเขายกขึ้นมาจับกรอบหน้าผมและดึงหน้าผมเข้าไปแช่จูบตรงริมฝีปากอีกรอบ แช่ไว้แปบนึงก็ดึงออก

           

 

“ฉันคุยกับลิซ่าแค่เรื่องบ้าน ฉันโทรคุยกัน ใช่ แต่แค่เรื่องบ้าน สองครั้งแค่นั้น นอกนั้นวอทสแอพ นายจะเปิดดูก็ได้ ฉันไม่เคยลบ” แล้วเขาก็ดึงผมเข้าไปจูบริมฝีปากอีกรอบ แช่ค้างไว้นานๆ พอกับครั้งแรกและดึงออก ผมเริ่มหายใจหอบแรงขึ้น

           

 

“ฉันขอโทษที่โทรคุยกับเธอ แต่ฉันไม่ได้นอกลู่นอกทางอะไรกับเธอเลย” เขามองตาผมด้วยสายตาที่แข็งกระด้างน้อยลง ผมมองเขาด้วยความรู้สึกนิ่ง วิคเตอร์ดึงผมเข้าไปจูบอีกรอบ แช่ไว้อีกพักโดยไม่ไดล้วงล้ำเข้าไปด้านในแล้วดึงหน้าออก

           

 

“ฉันไม่ได้โกรธกลบเกลื่อน ฉันโกรธที่นายเย็นชากับฉัน นายก็รู้นี่” เขาเสียงอ่อนลง สีหน้าไม่หงุดหงิดแต่ยังมีความเข้มดุดันอยู่เล็กๆ เขาไม่ชอบท่าทีนี้ของผม เพราะเขารับมือไม่เก่ง เขาชอบให้ผมแสดงอารมณ์โกรธออกมา เขายังจะรับมือได้ง่ายกว่า แต่พอเวลาที่ผมนิ่งเฉยเฉยชากับเขา ไอ้ยักษ์จะเริ่มร้อนรุ่มและคุมสติไม่รอด

           

 

เรามองตากัน ดวงตาสีน้ำตาลของวิคเตอร์มองด้วยความเว้าวอนเล็กๆ ผมยอมเปิดปาก วิคเตอร์ยื่นหน้าเข้ามาจูบผมอีกครั้ง ลิ้นของเราสองคนเกี่ยวกะวัดรัดกันเบาๆ วิคเตอร์เอนหลังกับเบาะรถ จับผมนั่งคร่อมตักเขาโดยที่ปากของเราสองคนยังเชื่อมต่อกัน ลิ้นของเราสองคนเกลี่ยไล้กันเบาๆ อยู่สักพักแล้ววิคเตอร์ก็ถอนจูบออก เลื่อนหน้ามาหอมหน้าผากผม และตามด้วยแก้มทั้งสองข้าง ผมหลับตาลง พยายามที่จะทำใจให้เข้มแข็ง

 

 

เขาแค่คุยกันเท่านั้น วิคเตอร์ไม่ใช่ผู้ชายประเภทขี้แถเพื่อเอาตัวรอดเรื่องคบชู้ ถึงเขาจะเคยเป็นชู้กับเมียใหม่พ่อตัวเองก็เถอะ  (ความสบายใจอยู่ตรงไหนกัน)

           

 

“คุณคุยกับเธอได้ ผมไม่ได้ห้าม แล้วก็ห้ามไม่ได้หรอก แต่การที่คุณพูดกรอกหูผมเสมอว่านี่คือบ้านของเรา แต่คุณกลับเอาเมียเก่าที่เคยมีความฝันเรื่องบ้านร่วมกันมาช่วยเลือก แบบนั้นคุณจะพูดทำไมว่ามันเป็นบ้านของคุณกับผม ตอนนี้เธอช่วยเลือกบ้าน วันนึงเธอไม่เข้ามาอยู่ในบ้านด้วยเลยเหรอ” พอตั้งสติได้และได้เปิดใจพูดกัน ผมก็ต้องพูดสิ่งที่ตัวเองนึกคิดอยู่ มันดูคิดมาก ซึ่งใช่ มันคือการคิดมาก แต่ผมจะไม่คิดมากถ้าวิคเตอร์ไม่ทำแบบนี้ ฉะนั้นผมต้องบอกเขาว่ารู้สึกนึกคิดยังไง ไอ้ยักษ์จะได้คิดเยอะกว่านี้ เพราะผู้ชายคนนี้ทำอะไรสบายๆ ไม่คิดเยอะ อยากทำไรทำ บางทำไปไม่ได้คำนึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เขาจะมีความคิดปกป้องการกระทำตัวเองว่า ไม่มีอะไรหรอก เขาทำแค่นี้ ขอบเขตเขามีอยู่แล้ว

           

 

“อื้อ รู้แล้ว” เขาตอบรับเสียงอ่อย ผมมองหน้าเขา มองแก้มสีแทนที่มีรอยแดงห้าแถวสีเข้มแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ ยกมือซ้ายขึ้นมาดูแหวน ทำท่าจะถอดออก

           

 

“อย่าถอดนะ!” วิคเตอร์ขู่อย่างเร็ว

           

 

“ผมจะถอดมาใส่สร้อย”

           

 

“ไม่เอา ใส่ไว้แบบนั้นนั่นแหละ ถ้าถอดออกฉันจะหักข้อมือนาย” เขามองจ้อง ท่าทางเอาจริงกับสิ่งที่พูด ผมเผลอทำหน้ากลัวนิดหน่อย รู้อยู่แหละว่าเขาเป็นคนอารมณ์แรง แต่จะถึงขั้นหักข้อมือกันเลยเหรอ เขาแค่ขู่ละมั้ง

           

 

“จะลงไปดูบ้านได้รึยัง” ผมถามหน้าตาเซ็งๆ วิคเตอร์หน้านิ่วคิ้วขมวดมองหน้าผม

           

 

“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” ผมถอนหายใจ ยิ้มแว้บหนึ่งแบบแว้บเร็วๆ โน้มตัวไปจะเปิดประตูรถแต่ก็โดนวิคเตอร์ดึงเอาไว้

           

 

“อะไรอีกเนี่ย จะไปดูบ้านก็ไปดู เดี๋ยวมืดค่ำกันพอดี” ผมว่าหน้ามุ่ย วิคเตอร์มองหน้าผมตาใส มีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มเล็กๆ

           

 

“เอากันก่อนมั้ย” ผมเบิกตากว้าง มองเขาด้วยความเหลือเชื่อนิดหน่อย

           

 

“จะบ้าเหรอ มามีอารมณ์อะไรตอนนี้เนี่ย?!”

           

 

“เผื่อนายจะอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิมไง”

           

 

“ไม่!” วิคเตอร์ยิ้มกว้าง ผมเลื่อนสายตาหลบยิ้มนั้น แต่ยังสัมผัสได้ว่าเขายังยิ้มอยู่ ผมหันกลับไปมองหน้าเขา พยายามฝืนยิ้ม ยกมือซ้ายผลักหน้าเขาออกห่างจากหน้าตัวเอง แต่วิคเตอร์ก็หันกลับมายิ้มล้อออีกรอบอยู่ดี ผมทนไม่ไหวเลยหลุดหัวเราะออกมา

           

 

“โอ๊ย ไปได้แล้ว”

           

 

“ไม่เอาก่อนแน่เหรอ” ผมจิ๊ปากใส่ไอ้ยักษ์ที่เปลี่ยนอารมณ์มาเป็นยิ้มล้อ ผมหัวเราะแบบที่ห้ามตัวเองไม่ได้ เกลียดไอ้ยักษ์ที่ทำเนียนเปลี่ยนอารมณ์จากตบตีกันมาเป็นอี๋อ๋อเนี่ย

           
V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.6 100% :07.08.60:
«ตอบ #1829 เมื่อ07-08-2017 16:40:42 »


V
v
v


กว่าจะได้ลงจากรถก็ยิ้มและหัวเราะกันอยู่เกือบสิบนาที วิคเตอร์ส่งผ้าพันคอสีแดงเลือดหมูให้ผม ไว้ทั้งกันอากาศเย็นๆ กับบังรอยกัด ส่วนเขาใส่แค่เสื้อกันหนาวขนเป็ดสีดำทับเสื้อยืดสีดำที่ฟิตกับรูปร่างเขาพอดี เราออกมายืนบนถนนในศูนย์กลางของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ออสตินยืนรออยู่ด้านนอกแบบที่ไม่แสดงอาการเบื่อหน่ายอะไรทั้งสิ้น ผมว่าเขาคงชิน และมันคืองานของเขาที่ทำแล้วได้ตังค์

           

 

“แม่เลี้ยงคุณเลือกที่นี่ให้เหรอ” ผมแกล้งหันไปถามอย่างประชดและมองด้วยอาการจิกกัด รอบที่แล้วเขาผ่านหมู่บ้านนี้เฉยๆ ไม่ได้เข้ามาสำรวจเป็นจริงเป็นจังด้วยซ้ำ วิคเตอร์กลอกตาเซ็งๆ

           

 

“ก็ตั้งต้นที่นี่ไง หรือนายมีหมู่บ้านในใจแล้ว” ผมหันไปมองหมู่บ้านยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ว่าหากมาเที่ยวเมืองนี้จะต้องมาแชะแอนด์ชักภาพกับบรรยากาศคลาสสิคสวยๆ ของหมู่บ้านที่มีแม่น้ำ Windrush แม่น้ำที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน เลยทำให้บ้านทั้งสองฝั่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเก๋ๆ แต่ก็ไม่ใช่แม่น้ำไหลรุนแรง เป็นลำธารตื้นไม่ถึงเข่าเท่านั้นเอง เป็นหมู่บ้านที่ผสมผสานกันระหว่างความดั้งเดิมกับความสมัยใหม่ แต่ก็ไม่ได้แปลกแยกจากกันมากมาย

           

 

“คุณอยากได้บ้านสงบๆ ไม่ใช่เหรอ ที่นี่สงบก็จริง แต่นักท่องเที่ยวก็มากันบ่อยนะ แม่เลี้ยงคุณไม่ได้บอกรึไง” ผมเบะปากใส่เขาเล็กๆ วิคเตอร์ถลึงตามอง

           

 

“แล้วที่ไหนล่ะ” ผมถอนหายใจเบาๆ นึกภาพบ้านสร้างจากหินสีน้ำผึ้งท่ามกลางความเขียวขจีแล้วรู้สึกสดชื่นในปอด วิคเตอร์กับผมมีความคิดเหมือนกันอย่างหนึ่งคือหลีกหนีความวุ่นวาย แต่ก็ไม่ต้องถึงขั้นจำศีล จริงอยู่ว่าเมืองนี้ไม่ค่อยวุ่นวายเท่าเมืองใหญ่ทั้งหลายอยู่แล้ว แต่หมู่บ้านที่วิคเตอร์พามานั้นมันอยู่ในโซนที่คนมาท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ ซึ่งผมว่าไม่น่าจะเหมาะกับคนขี้หงุดหงิดอย่างเขาหรอก

           

 

“เราอยู่กันสองคน…” ผมหันไปมองออสตินที่กำลังมองไปรอบหมู่บ้าน “…อาจจะมีออสตินด้วยอีกคน ถ้าคุณยังจ้างเขาอยู่”

           

 

“นับออสตินไปด้วย” วิคเตอร์บอกอย่างไม่ลังเล ผมว่าทุกวันนี้เขามองว่าออสตินเป็นน้องชายเขาไปแล้ว ไม่ได้มองว่าเป็นเพียงบอดี้การ์ดเท่านั้น

           

 

“ก็สามคน งั้นที่คุณหามาผมว่ามันก็ใหญ่เกินไปอยู่ดี”

           

 

“ฉันจะเอาไวโอล่ามาอยู่ด้วย”

           

 

“เป็นสี่คน ไมเคิลกับฟอกซ์อีกสองตัว ที่คุณหามามีห้าห้องนอน ผมโอเคกับจำนวนห้อง แต่ขนาดบ้านมันใหญ่เกินไปรึเปล่า และอย่างที่บอก อยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยวด้วย คุณชอบจริงๆ หรือคุณโดนยัยแม่เลี้ยงกล่อมมา” วิคเตอร์บิดปากเซ็ง

           

 

“นายเป็นนกเหรอถึงจิกฉันอยู่ได้” ผมเบะปากพร้อมยักคิ้วอย่างไม่ใส่ใจ วิคเตอร์ยื่นมือขวาผลักหัวผมเบาๆ

           

 

“ถ้างั้นนายก็เลือกใหม่ ฉันอยู่หลังไหนก็ได้ที่มีนาย โอเคมั้ย”

           

 

“เชอะ ทำมาเป็นปากหวาน”

           

 

“คxxฉันก็หวาน นายรู้ดี” ผมย่นคิ้ว งงว่าเขาวกเข้าไปหาส่วนนั้นได้ยังไง แล้วมันก็ไม่ได้หวานตลอดด้วย ช่วงไหนเขากินเหล้ากินเบียร์หรือกินของกลิ่นแปลก กลิ่นหึ่งจะตาย อะ เอ่อ แล้วผมวกไปกับเขาทำไม

           

 

“ออสติน ขับไปหมู่บ้านอื่นได้มั้ย” ออสตินพยักหน้า เปิดประตูรถให้เราสองคนก่อน พอเราสองคนกลับขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังของรถเก๋งสีบลอนเงินของแบรนด์ตรีศูลสามง่ามโพไซดอนตามเดิม ออสตินก็ปิดประตูให้ตามหลังและกลับไปประจำที่ ผมมองวิวด้านนอกที่มีผู้คนเดินไปทางจตุรัสเมืองกันอย่างบางตา วันนี้วันธรรมดานักท่องเที่ยวเลยไม่เยอะมาก แต่ผมเคยเห็นในเว็บรีวิวท่องเที่ยว ถ้าเป็นช่วงสุดสัปดาห์ผมว่าวิคเตอร์คงประสาทกิน

           

 

Cotswold คือเมืองเล็กๆ แสนอบอุ่นและเก่าแก่ของสหราชอาณาจักร เกิดในช่วงยุคหนึ่งเก้าต่อท้ายด้วยเลขเยอะๆ สักหน่อยอะไรแบบนั้น เป็นเมืองที่ทางรัฐบาลอังกฤษสั่งให้อนุรักษ์ บ้านทุกหลังในทุกหมู่บ้านที่มีเกือบๆ แปดสิบหมู่บ้าน หากไม่ได้รับอนุญาต ห้ามดัดแปลงใดๆ เด็ดขาด เพราะเขาต้องการให้คงความดั้งเดิมอันเป็นเสน่ห์ของที่นี่เอาไว้ บานที่นี่ถูกสร้างด้วยหินสีน้ำผึ้งเหมือนๆ กันหมด เพราะเป็นสิ่งที่หาได้จากเมืองนี้ในอดีต หลังคาก็ทำจากหิน แต่บ้านบางหลังในบางหมู่บ้านจะมุงหลังคาด้วยฟางอัดแน่นที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตพิเศษมาแล้ว

           

 

เมืองนี้ถูกกล่าวขานว่าเป็นเมืองในนิทาน เพราะตัวบ้านและบรรยากาศของเมืองให้ความอบอุ่นเล็กๆ กระทัดรัด น่ารักๆ ตัวบ้านทำจากหิน มีดอกไม้หลากสีสันขึ้นแซมตามซอกหิน บ้างก็ขึ้นตามผนังบ้าน มีหญ้าสีเขียวๆ มีต้นไม้ บรรยากาศของแต่ละหมู่บ้านเหมือนหลุดออกมาจากหนังสือนิทานภาพวาดที่เราเคยจินตนาการไว้ในวัยเด็ก ที่นี่อยู่ห่างจากกรุงลอนดอนราวแปดร้อยไมล์ และอยู่ห่างจากบ้านเกิดวิคเตอร์ในเมืองเชฟฟิลด์เกือบสองร้อยไมล์ ใช้เวลาเดินทางมาก็สองชั่วโมงกว่าๆ เป็นเมืองเล็กๆ ที่คนรีไทร์จากการทำงานของตัวเองแล้วชอบมาอยู่ เพราะมันเงียบสงบและอบอุ่น ไม่วุ่นวายวื่อวึง

           

 

วิคเตอร์ยังไม่รีไทร์จากวงการเร็วๆ นี้หรอก แต่เขาเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงแบบที่ว่าถ้าน้ำท่วมก็รอดตายแน่นอน เขาอยู่ในความวุ่นวาย อยู่ท่ามกลางแสงสีสันของวงการมานาน เวลาได้กลับบ้านเขาก็อยากกลับมาพักผ่อน บ้านที่นิวยอร์คเอาจริงๆ ก็วุ่นวายนะ เขาไม่คิดขายเพราะย่าซื้อให้ แต่ตอนนี้เขาตัดใจได้แล้ว ถ้าบ้านที่นี่เรียบร้อยเมื่อไหร่เขาจะขายบ้านนั้น ส่วนบ้านที่ LA ที่ออสตินเคยพูดถึง เขาซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว อันนั้นเพื่อความสะดวกของเขาในการทำงานโดยเฉพาะ เพราะที่นั่นมีสตูดิโอ มีโรงถ่ายทำมากมาย แต่ที่นี่จะเป็นบ้านของเขา บ้านที่เราอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน

           

 

“ที่นี่ล่ะ เงียบเกินไปรึเปล่า ดังสุดก็คงเป็นเสียงแพะเสียงแกะ แบะๆ” ผมถามหลังจากเรายืนอยู่บนถนนหลักเส้นเล็กๆ เส้นหนึ่งของอีกหนึ่งหมู่บ้านในเมือง Cotswold ถนนเส้นหลักของหมู่บ้านนี้ เล็กจนนึกว่าเป็นถนนธรรมดาทั่วไป เพราะหมู่บ้านไม่ได้ใหญ่โตมาก มันก็คล้ายๆ ประเทศไทย ที่ในอำเภอนึงจะมีหมู่บ้านเต็มไปหมด ที่นี่ก็เช่นกัน เพียงแต่บรรยากาศต่างกัน

           

 

วิคเตอร์หันหน้าไปมองรอบๆ ตัวเอง ความเขียวขจีไกลสุดตามาก ต้นไม้ก็สะพรั่งงดงาม จำนวนบ้านก็ไม่ได้แออัดจนเกินไป เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีแม่น้ำที่ชื่อแม่น้ำ Eye ไหลผ่านเอื่อยๆ ซึ่งไหลมาจากหมู่บ้านที่อยู่ติดกันแต่มีขนาดใหญ่กว่า สองหมู่บ้านนี้ไม่ได้แตกต่างกันมาก แค่หมู่บ้านที่เรามาเลือกดูบ้านจะอยู่เหนือขึ้นมาจากหมู่บ้านนั้นเลยได้ชื่อว่า Upper Slaughter แต่ที่นี่ต้นไม้จะสดชื่นกว่า แล้วก็จะเฉอะแฉะกว่า เพราะชื่อ Slaughter เพี้ยนมาจาก Slohtre ที่แปบว่าดินโคลน

           

 

“มันดูเปียกชื้นตลอดเวลารึเปล่า” วิคเตอร์ย่นคิ้ว แต่ก็แค่วูบเดียว

           

 

“ก็ไม่ต่างกันรึเปล่า ยังไงที่อังกฤษก็ฝนตกบ่อยมากกว่าแดดออกอีก แต่ก็ดีกว่าที่ลอนดอนนะผมว่า” หมู่บ้านนี้ต้นไม้เยอะ ทุ่งหญ้าขจีเขียวสะพรึง เห็นทิวเขาโอบล้อมอย่างกับภาพวาด ไอดินกลิ่นดาวลอยฟุ้ง ฝนท่าจะตกปรอยๆ อยู่บ่อยครั้ง แต่นี่แหละคืออังกฤษ

           

 

“นายว่าไงออสติน” วิคเตอร์หันไปถามพ่อบอดี้การ์ดที่ยืนนิ่งตามนิสัย

           

 

“สวยดีนะครับ ถ้าคุณไม่ชอบความวุ่นวาย ผมว่าที่นี่ก็ดี แต่บ้านในนี้ดูจะน้อยมาก มันจะมีว่างหรือเปล่า” ที่ออสตินพูดมาก็ถูก หมู่บ้านนี้บ้านแต่ละหลังสวยจัดจริงๆ ตั้งไม่ติดกันด้วย แต่จะว่างมั้ยนั้นแหละคือปัญหา จะมีสักหลังมั้ยที่กำลังประกาศขายอยู่

           

 

“นายว่าที่ฉันหามาใหญ่ไป ที่นี่ก็ใช่ว่าจะมีหลังเล็กให้”

           

 

“ก็ดูก่อนสิ เผื่อมันจะมี ไม่ต้องเอาสองชั้น สามชั้นหรอกนะ ชั้นเดียวดีกว่า แต่ขอพื้นที่กว้างๆ ให้ไมเคลิมันวิ่งเล่นได้อย่างที่คุณต้องการด้วย”

           

 

“งั้นเดี๋ยวบอกให้เซล่าดูให้ แต่นายอยากอยู่ที่นี่ใช่มั้ย” ผมพยักหน้าแล้วยิ้มน้อยๆ

           

 

“โอเค มีหมู่บ้านอื่นที่อยากไปดูอีกรึเปล่า”

           

 

“ทีนี้เอาของคุณบ้าง เอาที่คุณอยากได้เอง ไม่ใช่เพราะคนอื่นแนะนำหรือบอกมา” วิคเตอร์นิ่งไปสักแปบ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูอะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเงยหน้าบอกออสตินให้ออกรถไปหมู่บ้านถัดไป

           

 

วันนี้ผมกะว่ามาแล้วก็อยากจะได้บ้านเลย ไม่ได้ได้ในความหมายที่ว่าจ่ายสดแล้วรับบ้านปั๊บอะไรแบบนั้น แต่หมายถึงว่าได้บ้านสักหลังที่เราจำทำเรื่องซื้อจริงจังแล้วนะ มันคือไฟนอลแล้ว รอบที่แล้วเรามาเดินดูกันไปสิบกว่าหมู่บ้าน เลือกเอาจากที่วิคเตอร์จำความได้ หรือผมหาเจอในอินเตอร์เน็ต และถามคนแถวนี้เอานิดหน่อย ซึ่งหลังจากมาดูรอบที่แล้ว เราก็แค่คุยๆ กันว่าอันไหนสวย อันไหนดี ไม่ได้นั่งคุยจริงจัง แล้วไอ้ยักษ์ก็ไปปรึกษายัยแม่เลี้ยงเฉย แล้วก็มาบอกผมว่าได้บ้านถูกใจแล้ว ผมก็คิดว่าเขาได้เพราะตัวเขาเองเลยไม่คิดอะไร ตอนนั้นเขางานยุ่งๆ เลยพักเรื่องนี้ไป คือมีแพลนจะซื้อแหละ แต่ก็ยังเอ้อระเหยกันอยู่ จนพอมีข่าวว่าไอ้ฌอณถูกปล่อยตัวออกมาแล้วนั่นแหละ เขาเลยอยากรีบหาบ้านให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะได้ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ และพาผมมาจดทะเบียนเป็นเรื่องเป็นราว

           

 

“อันนี้รู้เองหรือใครบอก” ผมถามเขาหลังจากเรามาถึงหมู่บ้าน Chipping Campden ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ผมว่าอยู่ระหว่างกลางความดั้งเดิมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว บรรยากาศมีความเป็นธรรมชาติอย่างพอดิบพอดี กลิ่นอายความเป็น Cotswold ก็ไม่เสื่อมสลายหายไปไหน คืออันที่ผมพาเขาไปเมื่อกี้มันชนบ้ทชนบทที่แท้ทรู เปิดหลังบ้านไปก็เจอแพะร้องแบะๆ แกะร้องแบะๆ แต่อันนี้มันมีความเป็นหมู่บ้านสมัยใหม่ขึ้นมาอีกนิดนึง แล้วมันดีตรงที่ว่าตัวบ้านแต่ละหลังก็ตั้งห่างกันในระดับที่พอเหมาะ ดูไม่วุ่นวายต่อกัน แต่เรื่องธรรมชาติอาจจะแพ้หมู่บ้านที่แล้วหน่อย   

           

 

“ย่าบอก”

           

 

“แล้วแทนที่จะเชื่อย่าแต่แรก ไปเชื่อยัยแม่เลี้ยงนั่นทำไม” อันนี้ผมนึกโกรธจริงๆ นะ ก็ถ้าในเมื่อย่าบอกไว้อยู่แล้ว ทำไมเขาทำเหมือนเชื่อฟังลิซ่ามากกว่าล่ะ

           

 

วิคเตอร์สีหน้าเหนื่อยใจ ยกมือไหว้จรดที่หน้าผาก ผมเกือบหลุดขำออกมาแต่ก็เก๊กหน้าได้ทัน “ขอโถดขาบเมี้ย ไม๊แซะแล้วด้ายม้าย”

           

 

แต่ในที่สุดก็หลุดหัวเราะจนได้ พูดภาษาไทยทีไรผมอดขำไม่ได้ทุกที มันทั้งน่ารักน่าเอ็นดู ถึงจะเป็นการพูดเอาตัวรอดก็เถอะ แต่ก็ทำได้ดีจนไม่นึกโกรธ

           

 

“รู้จักคำว่าแซะด้วยเหรอ”

           

 

“แฉมบ้อก” ไอ้แชมป์อีกแล้ว นี่มึงสอนอะไรผัวตูไปบ้างเนี่ย

           

 

ผมยิ้มด้วยความมันเขี้ยว วิคเตอร์ยิ้มหน้าซื่อตาใสยิ่งทำให้เขาดูน่ารัก ถึงหนวดเครารุงรังกับผมยาวมัดจุกกลางหัวจะทำให้ขัดกันไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็น่ารักจริงๆ

           

 

“ให้เซล่าดูที่นี่ด้วยก็แล้วกันเนอะ” วิคเตอร์พยักหน้า เราเดินจูงมือเดินดูตัวบ้านแต่ละหลังบนถนน Sheep street ดอกไม้ข้างกำแพงบานสะพรั่งสวยมาก บ้านถูกสร้างด้วยหินสีน้ำผึ้งเหมือนๆ กัน ตั้งห่างกันในระยะที่พอเหมาะ หรือมีบางช่วงที่ตั้งห่างกันมากๆ ไปเลย คือที่นี่จะแตกต่างจากหมู่บ้านที่แล้วตรงที่ความธรรมชาติเกิดจากฝีมือคนมากกว่าธรรมชาติสร้างขึ้นมาเอง ก็ไม่ได้เลวร้าย มันดี สวยงามตามท้องถิ่น มีเสน่ห์เหมือนกัน แค่อารมณ์ต่างกันหน่อยๆ แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือความเรียบง่าย อยู่สบาย อยู่อย่างสงบสุข แต่ก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน และถึงแม้จะเป็นชนบท แต่ที่นี่ก็มีตัวเมืองที่เป็นแหล่งซื้อของใช้ในการดำรงชีวิตตามปกติ

           

 

“โทรบอกเซล่าเลยละกัน แล้วเราก็ไปนั่งรอที่ร้านกาแฟแถวนี้” ผมหันไปมองเขาด้วยความตกใจเล็กๆ

           

 

“คุณจะเอาวันนี้เลยเหรอ”

           

 

“ถ้าได้เลยก็ดีไง จะได้ไม่ต้องกลับมาอีก”

           

 

“อืม… ผมว่ายังไงเราก็ต้องกลับมาอีกอยู่ดี มันไม่ใช่ว่ามีบ้านว่าง แล้วปุบปับจ่ายเงินเลยนะวิคเตอร์” ไอ้ยักษ์เลิกคิ้วขึ้นทำหน้าประมาณว่า เหรอ

           

 

“เดี๋ยวผมพามาอีกกี่รอบก็ได้ครับ เพราะยังไงผมก็ต้องมาอยู่บ้านนี้ด้วย” วิคเตอร์หัวไปหัวเราะกับออสติน ผมยิ้มขำ พ่อบอดี้การ์ดกระตุกยิ้มนิดหน่อย ไม่ใช่แค่จะได้มาอยู่บ้านด้วยกันนะ ออสตินยังอยู่เป็นอีกต่างหาก

           

 

เราเดินไปบนถนนลาดยางสีเข้มที่เปียกชื้นน้อยๆ เดินดูบ้านกันอีกพักหนึ่งแล้วผมก็เจอหลังหนึ่งที่สะดุดตา ตั้งอยู่สุดปลายถนน เรียกง่ายๆ ว่าหลังสุดท้ายนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้อยู่ตรงซอยตันนะ เลยบ้านไปก็มีซอยพาไปทะลุที่อื่นอีก เป็นบ้านชั้นเดียวแต่ตัวบ้านใหญ่มาก และบริเวณบ้านก็ใหญ่มโหฬารเลยละ จะว่าเป็นการสะดุดรักที่พักใจก็ว่าได้ เพราะผมมองเคลิ้มเลย รั้วบ้านเป็นรั้วหินสีน้ำผึ้งเตี้ยๆ มีพุ่มไม้สีเขียวกลืนรั้วไปบางส่วน ดอกไม้ที่ขึ้นตามรั้วมีทั้งสดสะพรั่งแล้วก็เหี่ยวเฉา รั้วบ้านมีเถาวัลย์สีน้ำตาลแก่เกี่ยวพันดูรกรุงรัง ตัวบ้านมีดอก English rose สีชมพูขึ้นไต่ตามกำแพงหินสีน้ำผึ้งหนาตา หลังคามีพุ่มสีเขียวของพืชพรรณอะไรสักอย่างสลับกับสีดำของหลังคาหิน มีพงหญ้าขึ้นบนหลังคาเรือนหลังเล็กข้างๆ บ้านจนนึกว่าเป็นบึงกบ มุมซ้ายมือจากฝั่งที่ผมยืนอยู่มีคุณลุงผมขาวแซมดำคนนึงปีนบันไดใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ของต้นไม้นอกรั้วบ้านหลังนั้น ผมหันไปยิ้มหวานให้วิคเตอร์ เขายิ้มตอบกลับมาแบบงงๆ ผมยกมือชี้ไปที่บ้านหลังนั้น

           

 

“Could it be our home? (หลังนั้นเป็นบ้านเราได้มั้ย)” วิคเตอร์หันไปมองตามสายตาของผม มองบ้านหลังใหญ่ชั้นเดียวที่คล้ายกับบ้านในนิทานปรัมปราแล้วก็คลี่ยิ้ม ก่อนหันกลับมายิ้มให้ผม เรายิ้มให้กัน ส่งผ่านความรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจผ่านสายตา ความอบอุ่นส่งผ่านมือที่เราจับกันอยู่สู้กับอากาสเย็นของที่นี่

           

 

“Yes, it’s our home, baby. (ใช่ มันคือบ้านของเรา ที่รัก)”




 :hao7:


  วืดดดดด กลับมาล้าววววว ครบเดือนพอดี๊!

                    คืองานหนักมาก ถ้าใครกดไลก์เพจ น่าจะเห็นโพสที่ตอมบ่นๆ เรื่องงาน และอัพเดตเรื่องหนังสือใดๆ ไปพร้อมกัน งานตัวเองก็ต้องทำ งานตรวจต้นฉบับอีกเรื่องก็ควบคู่กันไป เลยไม่ได้มาเขียนเรื่องนี้ต่อสักที แต่วันนี้ได้มาต่อแล้ววว เอามาให้จนจบไปเลย ไถ่โทษที่หายไปนาน

               อยากจะอัพตั้งแต่เมื่อวาน แต่ข้อมูลเรื่องบ้านของสองผัวเมียเขียนยากมากเนื่องจากตอมไม่เคยไปที่นั่น แต่ถามว่ารู้จักได้ยังไง รู้จักจากนักแสดงที่ตัวเองติดตามอยู่เขามีบ้านอยู่ที่นั่นค่ะ ตอมเลยนั่งหาข้อมูลของเมือง Cotswold ในอินเตอร์เน็ต แล้วก็เอามาเขียน แต่พยายามไม่เขียนเจาะข้อมูลเชิงลึกหรือที่เป็นข้อมูลเฉพาะของเมืองเขามาก กลัวจะผิด เอาแบบกว้างๆ เนอะ พยายามเขียนออกมาให้คนอ่านจินตนาการไปในทางเดียวกันให้ได้ เอาแบบว่าเห็นภาพบ้านของทั้งสองคนชัดเจนที่สุด ใครเคยไปมา มากระซิบบอกข้อมูลกันหลังไมค์ได้นะคะ คนรอบข้างตอมไปแต่ลอนดอน ช่วงที่ไปเรียนต่อนางไม่เคยไปเมืองนี้ มีการถามกลับว่ามีเมืองนี้ด้วยเหรอ

               แต่เมืองนี้สวยจริงๆ ค่ะ ชอบมาก ถ้าเสกสามีได้ จะขอสามีเป็นชาวอังกฤษ ชาวไอริชสักคนแล้วให้เขาซื้อบ้านที่นั่น ฮ่าๆๆๆ แต่ถ้าใครชอบความหวือหวาแสงสี อาจจะไม่ชอบ แต่สำหรับพี่ยักษ์เหมาะกับเขาเชียวแหละค่ะ นิสัยขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญทั้งหลายต้องไปอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรแบบนี้แหละ

               เดี๋ยวจะปั่นตอนใหม่รอไว้เนอะ ไม่ดองแน่นอนค่ะ มันพาร์ทสุดท้ายแล้ว ควรจบแล้ว 55555 อยากเล่าเรื่องเขาทั้งสองคนให้ได้อ่านกันผ่านตัวอักษร ไม่อยากเก็บไว้นาน อึดอัดดด

               สำหรับเรื่องใหม่ เรื่องของพี่แซ็ค หนึ่งในซีรีส์พี่พระเอก สารภาพกันตรงๆ ว่ายังไม่เริ่มเขียนเลย ยังนั่งชำแหละนิสัยตัวละครอยู่เลยค่ะตอนนี้ เคยบอกว่าจะเปิดเรื่องเดือนนี้ แต่กลัวตัวเองจะทำพัง แต่เดี๋ยวลองเขียนไปก่อนค่ะ ถ้าเนื้อหาพร้อมจะอัพเลยยยย

               เรื่องหนังสือ You and I ปิดโอนไปแล้ว อันนี้ไม่ต้องรอพรูพใดๆ เลยค่ะ แต่ตอมกะว่าจะรอสั่งพิมพ์พร้อมขุ่นแม่เรียวจันทร์ จะได้มาพร้อมกันอะเนอะ อัพเดตที่เพจเสมอๆ นะค้า



แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด