Yours and Mine EP.6 :: Our home. (บ้านของเรา) [40%]ผมกำลังนั่งอ่านข่าววิคเตอร์กับตัวเองจากสำนักข่าวกอซซิปเจ้าหนึ่งที่ทำตัวเหมือนอยู่ในตู้เสื้อผ้าบ้านดารานักแสดงบนหน้าจอแม็คบุ๊คของตัวเองด้วยความรู้สึกขำขันเล็กๆ เพราะข่าวเขียนเหมือนกำลังสืบคดีฆาตกรรม สำนักข่าวนี้กัดประเด็นเรืองวิคเตอร์เป็นเกย์ และวิคเตอร์มีแฟนเป็นเด็กผู้ชายไทยไม่ปล่อยจริงๆ ยังดีที่ข่าวไม่ได้ใช้คำพูดแย่ๆ แค่ตั้งข้อสงสัยและเขียนวิเคราะห์ชวนคิดกับสถานการณ์ต่างๆ ระหว่างผมกับวิคเตอร์ พาดหัวข่าวน่าสนใจ แต่เนื้อหาข่าวไม่เคยเขียนคอนเฟิร์มได้จริงจังเลยสักครั้ง
จริงๆ ถ้าสำนักนี้ไปถามน้องแฟนคลับของผมกับวิคเตอร์ที่ไทยคงได้อะไรไปเยอะ แต่เจ๊เซล่าก็คอนโทรลตรงนั้นได้อยู่หมัด (ผมคิดว่างั้นนะ) ถามว่ามันไม่มีคนสงสัยหรือระแคะระคายเรื่องความสัมพันธ์ของผมก็กับวิคเตอร์จริงเหรอ ผมว่ามี คือถ้าไม่นับนักข่าวที่ยังมีเขียนข่าววิคเตอร์อยู่เรื่อยๆ คนทั่วไปหรือเพจเม้าท์มอยข่าวบันเทิงทั่วไปก็คงเยอะพอสมควร แต่ผมก็ไม่ได้ไปสัมผัสหรือรับรู้ ผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ แค่ไม่ได้อวดหรือโชว์ความรักกันแบบโจ่งแจ้ง รูปคู่ทุกวันนี้ไม่มีอัพลงโซเชียลเลย มีรูปเดียวก็ตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่วิคเตอร์ตามมาหาที่ไทยและไม่เคยลบ ทิ้งไว้อย่างนั้นเพราะเราคือพี่น้องกันตามที่เซล่าบอก นอกนั้นก็อัพลมฟ้าหมาแมวไปตามบรรยากาศรอบตัว ไอจีลับของวิคเตอร์ก็ไม่ได้อัพเดตแล้ว เขาไม่ใช่มนุษย์โซเชียล อินสตาแกรมหลักทุกวันนี้ผมก็อัพให้เป็นส่วนใหญ่ ที่ทำไปตอนแรกคือเห่อแฟนช่วงโปรโมชั่น
ถึงจะไม่ได้มีข่าววิคเตอร์กับผมตลอด แต่ในหนึ่งปี สำนักข่าวนี้และสำนักอื่นบางสำนักมักจะหยิบเรื่องของวิคเตอร์กับผมมาวิเคราะห์หากว่ามีร่องรอยอะไรที่จะสาวมาถึงตัวผมได้ อย่างรูปล่าสุดที่วิคเตอร์ลงในอินสตาแกรมตอนวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เป็นรูปผมนั่งอยู่บนม้าโพนี่ในทะเล เห็นไม่ชัดเลยนะว่าเป็นผม แต่ก็พยายามซูม และคาดเดาช่วงเวลาที่เราสองคนอยู่ที่ไทย สื่อไทยก็มีเอากับเขาด้วย เคยมีปาปาราซซี่ตามถ่ายรูปผมกับวิคเตอร์ตอนเดินห้างที่ไทย อันนั้นเกือบเป๋ไปเหมือนกัน แต่สุดท้ายเราก็เลือกจะเงียบ ทำตัวตามปกติ ไม่มีใครพูดอะไร มันก็เลยกลายเป็นแค่ข่าว ทางฝั่งไทยเลยทำได้เพียงเม้าท์มอยกันเอง เรียกยอดไลก์ เรียกกระแสให้กับสำนักตัวเองไปวันๆ
ทุกวันนี้วิคเตอร์ก็ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคนกับสื่อไหน ถ้าโดนถามก็เงียบจนนักข่าวเกรงไปเองจนต้องเปลี่ยนคำถาม มันเลยกลายเป็นว่ามีแต่โฆษกส่วนตัวเขาพูดแล้วยังพูดน้อยแต่ต่อยหนักก็ทำให้มีอะไรมาฟันธงยาก และด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของเราสองคนในที่สาธารณะ (ที่นิวยอร์กกับอังกฤษ) ก็ปกติ ไม่ได้จับมือถือแขนอะไรกัน มันเลยมัวๆ ไม่ชัดแจ้งสักที
วิคเตอร์ยังคงเป็นผู้ชายวัยสามสิบกว่าที่มีข่าวกับหญิงสาวอยู่เรื่อยๆ ทั้งคนในวงการที่ร่วมงานกันและไม่เคยร่วมงานกัน หรือร่วมงานกันแบบแค่ทำงานเดียวกันแต่ไม่เคยคุยกัน และยังมีแบบที่ไม่เคยร่วมงานกันก็ยังเป็นข่าว ซึ่งตรงนี้ทำให้ข่าวที่เขามีแฟนเป็นผู้ชายเล่นได้ไม่เต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีสาวคนไหนที่เป็นตัวจริงของพ่อหนุ่มอังกฤษที่มาอยู่นิวยอร์กนานจนคนเข้าใจผิดกันบ่อยๆ ว่าเขาเป็นนิวยอร์กเกอร์
ตอนนี้เขาเป็นผู้ชายโสดที่มีข่าวความรักคาราคาซังกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งแบบไม่จบสิ้น และยังมีข่าวกับสาวน้อยสาวใหญ่บ่อยครั้ง ด้วยลุคผู้ช้ายผู้ชายที่หน้ามักจะดุ หนวดเคราทำให้ดูดิบเถื่อนและชอบทำเคร่งขรึมยามอยู่ในที่สาธารณะ แต่เวลาอยู่ด้วยกันส่วนตัวน่ะเหรอ
“ไหนเห่าซิไมเคิล โฮ่ง! โฮ่ง!”
“โฮ่ง!!!”
“เจ๋งว่ะ วู้ววว! ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ยักษ์หัวฟูเพราะเพิ่งตื่นนอนยืนถือถ้วยสีขาวใส่นมกับซีเรียล ใส่กางเกงในสีขาวตัวเดียวเดินล่อนจ้อนสบายใจไม่แคร์สายตาหมาหัวเราะเสียงดังลั่นบ้าน ช่วงนี้ฝึกให้ไมเคิลเห่าได้เลยคึกเอาใหญ่ (หลังจากที่พยายามมานานกว่าที่ไมเคิลมันจะยอมเห่าให้) พอเจ้าโกลเด้นเห่าได้ก็จะให้ขนมเป็นสติ๊กสำหรับหมาหนึ่งอันเหมือนเป็นรางวัล และมีเผื่อแผ่ให้ฟ็อกซ์ด้วยถือว่าไมเคิลทำเพื่อน้อง
“ทำอะไรอะ ทำงานอีกแล้วเหรอ” แน่ะ! ยังไม่ทันได้อาบน้ำเปลี่ยนชุดหน้าก็มุ่ยก่อนจะสดชื่นอีก
“เปล่า อ่านข่าวคุณเฉยๆ” ผมรีบกดปิดหน้าต่างงานบนจอแม็คบุ๊ค ขยายหน้าเว็บข่าวให้เต็มจอ วิคเตอร์เดินเข้ามาหาและก้มหน้าลงอ่านบนจอ ผมเห็นเขาทำหน้าเครียดเลยยื่นมือไปบีบไข่สองใบของเขาเล่น ไอ้ยักษ์คลายคิ้วที่ขมวดหันมายิ้มให้ นั่นทำให้ผมโล่งใจ
“ข่าวคู่หมั้นคุณหายไปแล้ว ตอนนี้คลอเดียมาแรงสุด ขนาดซีรีส์ยังไม่ออนแอร์นะเนี่ย” กลายเป็นว่าวิคเตอร์เป็นพระเอกเคมีสาธารณะที่จับคู่กับนักแสดงหญิงหรือนางแบบคนไหนก็ดูจะเข้ากันไปหมด คนก็จะรู้สึกเชียร์ รู้สึกฟิน กับคลอเดียนางเอกใหม่ของเขา ขนาดแค่มีภาพโปรโมตจากกองถ่ายยังมีกระแสชื่นชอบคู่นี้ และกลุ่มคู่จิ้นวิคเตอร์กับชารอนก็ไม่ค่อยพอใจ ชวนตบตีกัน บางทีลามปามมาหาผม ตอนนี้ผมปิดคอมเม้นในอินสตาแกรมไปแล้ว และปิดคนแท็กหาตัวเองด้วย กันความคิดมากของตัวเองไปในตัว
“ไปกองกับฉันมั้ย” ผมสั่นหัวเบาๆ
“ไปได้ไง ผมก็มีกองตัวเองต้องไปนะ” วิคเตอร์หน้าบึ้งอย่างเห็นได้ชัด ผมก็งง จะต้องไม่พอใจเชียวแหละเวลาผมบอกว่าตัวเองต้องทำงาน
“อีกอย่าง ไม่อยากไปดูคุณเลิฟซีนกับเธอหรอก”
“เลิฟซีนที่ไหน ไม่มีคิวคลอเดียแล้ว ฉากเอากับเธอฉันถ่ายไปหมดแล้วไง” ผมถลึงตาและเบะปากใส่เขานิดๆ วิคเตอร์ที่หน้าบึ้งหัวเราะ
“เสียดายล่ะสิที่หมดแล้วอะ” วิคเตอร์ทำปากยื่นและพยักหน้าเบาๆ
“ก็เสียดายนะ นมเธอนิ้มนิ่ม” ผมเบิกตากว้างกัดปากล่างแน่น ยกมือขวาตีกระทุ้งไข่เขาจนเขาสะดุ้งพร้อมร้องโอ๊ย วิคเตอร์ตัวงอเอามือขวากุมเป้าด้วยความเจ็บ หน้าตาบอกถึงความจุก
“ไอ้เอเลี่ยน!” หน้าสีแทนเปลี่ยนเป็นสีแดง ผมแลบลิ้นใส่เขา วิคเตอร์กัดฟันแน่น วางถ้วยซีเรียลลงบนโต๊ะหินอ่อนในครัว ผมเห็นท่าว่าเขาจะเดินเลยลุกขึ้นเตรียมจะเดินหนี แต่วิคเตอร์แค่ยืดแขนมาเท่านั้นแหละก็คว้าคอเสื้อผมได้เต็มมือและดึงรั้งผมไว้ไม่ให้หนีไปไหน
“แอะ! แอ๊!” ผมพยายามฝืนตัวเองไม่ให้หันไปตามแรงของวิคเตอร์ที่พยายามจับผมหันเข้าหาเขา ผมหัวเราะฮื่อๆ ในลำคอ วิคเตอร์จับผมหันเข้าหาเขาได้สำเร็จก็จับผมขึ้นพาดบ่ากว้างด้านขวาของเขา แขนขวาล็อคข้อพับขาผมแน่น มือซ้ายยกขึ้นมาตีก้นผมอย่างแรง
ผับ!!! ผับ!!!
“อือ ฮือออ ขอโทษ ขอโทษษษ!” ไอ้ยักษ์ตีก้นผมอีกสองที ผมดีดขาไปมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือตัวเองลงไปตีก้นแน่นๆ ของเขาบ้าง แต่ก็ด้วยความแขนสั้นเลยไปไม่ถึงก้น ได้แค่หลังช่วงล่าง แต่แค่นั้นก็เอา ผมรัวมือตีหลังเขาดังแปะๆ แต่ก็ตีไม่ค่อยโดนหรอกเพราะวิคเตอร์แอ่นอกหนีและระดมฟาดก้นผมป้าบๆๆ จนผมหยุดตีหลังเขาไปเอง
“ตีไข่สามีแบบนี้ได้ไง ชำรุดขึ้นมาแล้วจะเอาน้ำที่ไหนมาแตก!”
“แล้วคุณจะบอกว่านมคลอเดียนิ่มทำไมล่า??!!!” ผมดีดขา ยกกำปั้นทุบหลังวิคเตอร์ดังอึกๆ แต่เขายื่นนิ่งและตอบโต้ผมด้วยการดึงเกางเกงนอนขาวยาวผมลงและฟาดมือลงบนเนื้อก้นเน้นๆ
ป้าบ!
“ฮือออ” ผมไม่ได้ร้องไห้จริงหรอก แค่ครวญครางให้วิคเตอร์รู้สึกสงสารบ้าง (ถามหาความสงสารจากวิคเตอร์?)
“ก็นมเธอนิ่มจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากเอากับเธอจริงๆ สักหน่อยโว้ย” วิคเตอร์ตะโกนลั่น ไมเคิลที่นอนดมห่อขนมอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นมองแปบหนึ่งและก้มกลับไปลงหาทางแงะสติ๊กออกจากซองต่อ
“รู้แล่ว!!!”
“รู้แล้วยังชอบคิด”
“ไม่ได้คิดดดด!” ผมไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ นะ ผมแค่พูดหาข้ออ้างในการตีไข่เขาเท่านั้นแหละ
“เออ ให้จริง!” วิคเตอร์ว่าเสียงห้าว และแทบจะทุ่มผมลงบนโต๊ะหินอ่อนกลางครัวของบ้าน ไมเคิลนอนกินขนมสติ๊กที่วิคเตอร์ทำหล่นบนพื้นโดยไม่สนใจเราสองคน
พอนั่งลงได้ผมก็นั่งหอบน้อยๆ ส่วนวิคเตอร์นั้นปกติดี ถึงผมจะออกกำลังกาย แต่ผมไม่ค่อยได้คาร์ดิโอ เน้นเล่นเวทให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากกว่า เพราะไอ้ยักษ์รีเควสกับแซ็ค ก็รีเควสแบบตรงๆ ว่าให้ผมแข็งแรงพอที่จะมีอะไรกับเขาได้เต็มที่ไม่มีกั๊ก เพราะเขาชอบเอาไม่ยั้ง
“I asked you many times to go to set with me. (บอกให้ไปกองกับฉันก็ไม่ไป)” ผมยิ้ม ยกสองแขนคล้องเขาหลวมๆ
“I trust you because you are a good boy. Eh? (ผมไว้ใจคุณไง คุณเป็นเด็กดีนี่ ใช่มั้ย)” ไอ้ยักษ์ผมยาวหยักศกเล็กๆ หนวดเครารุงรังมองผมตาใสและพยักหน้าหนึ่งที
“Yes, I am. (อื้อ ฉันเป็นเด็กดี)” ผมหัวเราะ เอ็นดูที่เขาบอกว่าตัวเองเป็นเด็กดี หน้าตาตอนพูดเหมือนเด็กกำลังอ้อนว่าให้เชื่อผมเถอะนะอะไรแบบนั้นเลย ผมเลื่อนมือซ้ายลงไปสัมผัสไข่เขาเบาๆ วิคเตอร์เผลอสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยให้ผมจับ
“There. There. Are you hurt? Sorry my giant-beard. (โอ๋ๆ เจ็บเหรอ ขอโทษนะยักษ์หนวด)” ผมคลึงไข่เขาเบาๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากเขาหนึ่งที มองแนวหน้าผากของเขาแล้วรู้สึกว่าวิคเตอร์โชคดีมากเลยนะที่แนวหน้าผากไม่ได้สูงหรือกว้างตามมาตรฐานของหนุ่มอังกฤษที่มักจะมีพื้นที่หน้าผากกว้างขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น
“My dad, he wanted to see us. (พ่อฉันอยากเจอเราด้วย)” อาทิตย์หน้าเราจะไปอังกฤษ ไปดูบ้านที่วิคเตอร์จะซื้อ เขาตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อบ้านหลังไหนและตรงส่วนไหนของอังกฤษ ผมเองก็ชอบบ้านที่เขาเลือก ถ้าไปดูอีกครั้งแล้วไม่มีอะไรมาสะกิดให้เปลี่ยนใจจริงๆ วิคเตอร์ก็จะทำเรื่องซื้อเลย จะได้ย้ายกลับไปอยู่ที่นั่นอย่างเต็มตัว วิคเตอร์อยากกลับไปอยู่บ้านเกิดของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขากั๊กไม่ให้ผมกลับบ้านเกิดตัวเองบ้าง แต่ในเรื่องของกฎหมาย การที่เราอยู่อังกฤษ กฎหมายจะคุ้มครองการเป็นคู่ชีวิตของเราสองคนได้มีประสิทธภาพเมื่อเราจดทะเบียนกัน แต่ที่เมืองไทยไม่ใช่ กฎหมายคู่ชีวิตของคนเพศเดียวกันในเมืองไทยยังไม่กระเตื้องไปไหนเลย ผมรู้ว่ามันเหนื่อยเรื่องเดินทาง แต่ผมก็ปรึกษาพ่อกับแม่แล้ว ทั้งสองคนเห็นด้วยและไม่ได้ขัดขวางอะไร แค่ขอให้กลับมาไทยทุกปีและกลับมานานๆ
แล้วก็จะไปเยี่ยมไวโอล่าด้วย เพราะลิซ่า (เบะปากเล็กๆ) ส่งข่าวมาบอกว่าเธอไม่ค่อยสบาย วิคเตอร์ไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม เพราะเขารู้ว่าน้องสาวตัวเองชอบทำตัวว่าแข็งแรงและเข้มแข็ง ไวโอล่าชอบเก็บอาการตัวเอง ต้องไปเค้นและเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้น
“เราต้องไปหาไวโอล่าอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องเจอเขารึเปล่า” วิคเตอร์พยักหน้า ท่าทีคล้ายจะเครียดแต่ก็ไม่ใช่ ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจมากกว่า
“ไม่รู้จะอยากเจอทำไมนักหนา มาสนใจฉันทำไมตอนนี้” วิคเตอร์พูดด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ในส่วนของเรื่องระหว่างเขากับพ่อ ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่กระจ่างนะ เรื่องแม่เขาก็ใช้ว่าจะเคลียร์ชัดเจน แต่ผมเห็นเขามีความสุขดี ผมเลยไม่อยากรื้อฟื้น วิคเตอร์ยิ่งเป็นพวกจมดิ่งกับอดีตได้ง่ายๆ อยู่ด้วย
“บางทีเขาอาจจะอยากใกล้ชิดกับคุณมากขึ้นไง” วิคเตอร์บึนปาก ทำหน้าเหมือนกำลังได้ยินเรื่องแปลกประหลาดใจที่สุดในชีวิต
และทุกวันนี้วิคเตอร์ก็ยังคงมีระยะห่างจากพ่อตัวเองไกลเหมือนเดิม ไม่มีกระเถิบเข้ามาใกล้กัน ไม่มีโมเม้นต์ดีๆ ของพ่อลูกให้เห็น เป็นสิ่งที่วิคเตอร์รู้สึกเฉยๆ ไม่คิดเศร้าเสียใจใดๆ ด้วยเพราะเขาไม่ได้ผูกพันกับพ่อมาตั้งแต่ต้น ผมเองก็ไม่คิดจะเป็นกาวใจให้ทั้งสองปรองดองกัน เพราะพ่อวิคเตอร์ไม่ชอบผม ก่อนจะทำตัวเป็นกาวให้ใคร ผมเป็นกาวให้ตัวเองเวลาหน้าร้าวตอนโดนเขาด่าตอกหน้าจะดีกว่า
“แม่เลี้ยงคุณมีเด็กใหม่อีกแล้วเหรอ ไวโอล่ากระซิบบอก” วิคเตอร์ยักไหล่สองข้างแล้วตามด้วยส่ายหัวสั้นๆ
“ไม่รู้เหมือนกัน” วิคเตอร์มีท่าทีอึดอัดที่พูดถึงลิซ่า ท่าทางของเขาดูไม่สบายตัวเหมือนโดนของ ผมเลยไม่คิดถามย้ำ จริงๆ ไม่คิดจะถามแต่ต้นหรอก แค่อยากแซวยัยแม่เลี้ยงผู้ชอบเลี้ยงต้อยเฉยๆ
“ไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะ ตื่นมาก็กินก่อนเลยเนี่ย” วิคเตอร์มองผมนิ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองแม็คบุ๊คตาแทบจะขวาง ราวกับว่าแม็คบุ๊คเป็นศัตรูของเขา
“จะทำก็รีบทำนะ ฉันลงมานายห้ามแตะไอ้เครื่องนี้อีก ไม่งั้นฉันจะโทรไปด่าไอ้พีท” ผมยิ้มหน้าอึน พยักหน้าหงึกๆ วิคเตอร์หมุนตัวเดินออกไปจากครัว ผมกระเถิบก้นลงจากโต๊ะหินอ่อน ดึงกางเกงขึ้นปิดก้น เดินไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิม เปิดงานขึ้นมาอ่าน จริงๆ งานในส่วนของผมมันก็ไม่มีอะไรแล้วละ ส่งให้หมดแล้ว ผมแค่เปิดอ่านงานในส่วนอื่นๆ ทีนี้ก็เหลือเข้ากองแล้ว หลังจากกลับจากอังกฤษผมต้องเข้ากอง วิคเตอร์ก็รู้แล้วนะ แต่พอพูดถึงทีไรเขาจะมีความหงุดหงิดทุกที ตอนนี้ผมเลยพยายามเงียบๆ ไปก่อน กลับมาจากนู่นค่อยเตือนความจำเขาอีกทีว่าหมดหิมะเมื่อไหร่เขาต้องปล่อยผมไปทำงาน
RRrrr!
โทรศัพท์ของผมสั่นสะเทือนอยู่บนโต๊ะ ผมหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ เห็นเป็นชื่อคนที่วิคเตอร์เพิ่งบอกไปว่าจะโทรไปด่าหากผมทำงานให้เขาเห็น
“Hey, Pete. (ว่าไงครับพีท)” โทรมาแต่ละทีผมล่ะลุ้นตลอดว่าจะโยนงานอะไรมาให้ผมอีก
“เดี๋ยวฉันจะส่งลิสต์ของที่นายต้องซื้อไปให้ ช่วยออกไปซื้อให้หน่อย” น้ำเสียงยังปกติไม่ได้ดูหงุดหงิดเท่าไหร่ แต่ที่ผมสงสัยคือตอนนี้ตำแหน่งผมกลายเป็นเบ๊ประจำกองถ่ายเต็มตัวแล้วใช่มั้ย เหมือนโพสิชั่นไหนว่างก็อีแมทนี่แหละที่ต้องเติมให้เต็ม
“ได้ครับ” ผมตอบรับไปทั้งที่ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้วว่าระเบิดจะลงบ้านมั้ยถ้าไอ้ยักษ์รู้ วีคนี้เป็นวีคพักผ่อนของเขาด้วย ในส่วนของวิคเตอร์ เขาจะไม่ชอบพูดเรื่องงานในวันหยุดของตัวเอง และวันหยุดของเขาคือการอยู่กับผมสองคน และกับหมากับแมว นอนดูหนัง เล่นเกมอะไรไปเรื่อยเปื่อย คือทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่งาน
“ออกเงินไปก่อน แล้วนายค่อยมาเบิกอีกที เก็บบิลไว้เคลียร์ด้วย”
“จำเป็นต้องวันนี้เลยเหรอครับ” ผมลองถามอีกที เผื่อว่าจะเปลี่ยนเป็นพรุ่งนี้ได้ คือถ้าเป็นพรุ่งนี้ ผมยังสามารถพูดขอวิคเตอร์ให้ได้รับรู้ได้ไงว่าผมจะออกไปทำงานนะ
“ทำไม นายไม่สะดวกงั้นเหรอ อ๋อ ขอโทษที ฉันลืมไปว่านายมันแบ็คอัพดี นึกอยากจะทำงานหรือไม่ทำก็ได้ แต่ขอโทษนะ ตอนนี้นายอยู่ในช่วงทำงาน การที่เราเลื่อนกองถ่ายไม่ได้หมายความว่าฉันจะสั่งงานนายไม่ได้” อะโหย ถามแค่นิดเดียว ตอกกลับมาซะยาวเหยียด นี่ตอกกลับประโยคที่ผมพูดหรืออยากตอกใส่หน้าผมเป็นการส่วนตัวกันแน่เนี่ย
“ไม่ใช่ครับ คือ เอ่อ…” ผมไม่อยากจะเถียงให้มันมีความยาวยืด เพราะผมยังต้องการทำงาน ผมเลยถอนหายใจเบาๆ เก็บคำพูดที่จะพูดไว้ข้างใน
“…ได้ครับ เดี๋ยวผมออกไปซื้อให้ ซื้อเสร็จแล้วเอาไปไว้ไหนครับ”
“เอามาให้ฉันที่ออฟฟิศ แวะมาบ้างก็ดีนะ คนอื่นเขาจะได้ไม่ลืมว่านายก็เป็นทีมงานเหมือนกัน” ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่
“ครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้ที่ออฟฟิศ” ผมตอบเสียงทื่อ พีทกดวางสายไป ผมทำหน้าเซ็ง ไอ้เรื่องไปออฟฟิศคือปัญญาอ่อนมาก ก็ในเมื่องานมันยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่าที่เป็นอยู่ จะให้ไปนั่งที่ออฟฟิศทำไม ไปก็ไม่ได้ทำอะไร มันเป็นงานที่ทำอยู่บ้านก็ได้ คงไม่พอใจล่ะสิที่ผมไม่ได้อยู่ใกล้มือใกล้เท้าเอาไว้จิกใช้งาน ที่จริงตอนนี้คือรอเปิดกล้องถ่ายทำนั่นแหละ นี่ดีนะว่าไม่ใช่หนังใหญ่อะไรมาก ไม่งั้นคงยุ่งเหยิงและผมคงโดนจิกกัดกว่านี้
ครืด!
ผมเปิดอ่านวอทสแอพ อ่านลิสต์รายการที่เขาฝากซื้อแล้วรู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมของมันดูเป็นส่วนตัว มีทั้งของกิน ของใช้ ผมกำลังคิดว่าถ้าเขาเดินออกไปซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเองก็น่าจะได้เร็วกว่าให้ผมไปหาซื้อให้รึเปล่า นี่คือยังไง อยู่ใกล้จิกใช้ไม่ได้เลยโทรมาจิกใช้ให้ออกไปนอกบ้านเลยว่างั้น กลัวผมหนาวตายคาบ้านเหรอ ต้องหาอะไรให้ผมทำเพื่อให้ผมขยับร่างกายงี้
ผมกลอกตา วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ แอบนึกถึงช่วงที่ผมฝึกงานกับวิคเตอร์แล้วก็ชอบโดนเขาแกล้งเพื่อบีบให้ผมลาออกแบบเนี้ย แต่สุดท้ายผมก็ไม่ออก หน้าด้านหน้าทนทำงานจนได้เขาเป็นผัวนี่ไง แม้จะไม่พอใจค่อนข้างมาก แต่ผมก็บอกตัวเองว่าถ้าทนและผ่านวิคเตอร์มาได้ ก็ไม่มีอะไรยากไปกว่านั้นแล้วละ อีกอย่างผมต้องพิสูจน์ตัวเองว่าผมทำงานได้ ไม่ใช่ว่าโดนฝากมาแล้วง่อย ผมไม่ได้อยากทำตัวเป็นพวกเด็กมีอุดมคติสูง แต่ผมแค่อยากทำงานที่ผมรักเท่านั้นจริงๆ
“วิคเตอออร์ ออกไปซื้อขนมกันนะ” ผมรีบสลัดหน้าเซ็งทิ้ง และรีบวิ่งเข้าไปกอดเอวเขาไว้ วิคเตอร์ที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาในครัวทำหน้างง
“ซื้อขนมอะไร ที่มีอยู่ในบ้านยังไม่พอเหรอ” ผมสั่นหัวพร้อมกับยิ้มประจบ
“มันก็ใกล้จะหมดแล้วนะ ไปซื้ออาหารสดมาตุนไว้ด้วยไง หมูเหลือไม่กี่ชิ้นเอง” อ้างไปเรื่อย แต่ก็พยายามอ้างให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด อาหารสดในตู้เย็นเหลือไม่มากจริงๆ
“ก็ได้ งั้นไปเปลี่ยนชุด เดี๋ยวไปซูเปอร์ฯ กัน” ผมฉีกยิ้มและพยักหน้าด้วยความกระตือรือร้น ในอกรู้สึกโล่ง (ตอนนี้) ที่หลอกล่อให้วิคเตอร์ออกไปข้างนอกด้วยกันได้ แล้วเดี๋ยวค่อยไปแอ๊บเนียนว่าพีทเพิ่งฝากซื้อของพอดีก็แล้วกัน ตอนนั้นคงไม่มีระเบิดลงหรอก มากสุดก็น่าจะเป็นปืนอาก้าที่พร้อมยิงรัวๆ
หันหัวกระบอกปืนไปทางพีทดีกว่าถ้างั้น =.,=

แอร๊ยยยย ได้มาต่อแล้วววว ตอนแรกจะมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้วค่ะ แต่ทำงานดึกมากกกก เหนื่อยเพลีย หมดแรง หมดพลัง หมดแรงตัดพ้อออ มันถอดใจจจจ
วันนี้มานั่งปั่นเพราะมีช่วงได้เบรคจากงาน แต่ก็ปั่นได้ครึ่งเดียว ตอนแรกกะว่าจะเขียนให้เสร็จตอนนึงแล้วลงรวด เป็นการไถ่โทษที่มาช้า แต่ไม่ไหวจริงค่ะ งานก็ต้องทำ สลับมาเขียนนิยาย สมองเหมือนหายไปครึ่ง
แต่ถึงจะมาครึ่งเดียว แต่ก็มาแล้วนาาา ไม่อยากหายไปนานๆ พ้นกรกฎาคมนี้ไป งานตอมจะเบาลงแล้วค่ะ จะกลับมาอยู่กับนิยายได้อีกพักใหญ่จนกว่าจะมีงานที่ต้องทุ่มเทแรงกายให้ทำเข้ามาอีก
ก็ยังเป็นตอนเบาๆ อยู่ เห็นม้ายยย ไม่มีอะไรหนักหนาเล้ยยย อ่อนๆ ชิลๆ ภาคจบแล้ว ละมุนละไมหัวใจเว่อ กรุบๆ กิ๊ๆๆๆ
อาจจะดูโล่งๆ เปลือยๆ เนื้อหาสาระไม่ค่อยมี 55555 แต่จริงๆ ถ้าใครตามอ่านกันมานานจะรู้อยู่แล้วเนอะ ว่าตอมชอบซ่อนดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ไว้ในแต่ละตอน คนอ่านบางคนบอก หล่อนซ่อนดีมาก เพราะฉันหาไม่เจอ 55555 ไม่รับรู้ถึงดีเทลนั้น รับรู้แต่น้ำ ไม่มีเนื้ออออ ฮ่าาาา
มันก็ไปเรื่อยๆ ตามสไตล์ขุ่นเจ้อะเนาะ เรื่องนี้มันก็เล่าเนิบๆ แต่ก็ไปเรื่อยๆ แบบอบอุ่น (หราาาา)
ตอนนี้ตอมเปิดพรีออเดอร์รีปริ้นภาคแรกของนิยายเรื่องนี้อยู่นะคะ อาจจะดูเงียบๆ หน่อย แต่เปิดอยู่นะ รอบนี้ตอมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมากมาย เพราะก็เปิดมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่ 6 แล้วมั้ง เปิดให้กับคนอ่านที่มาสอบถามอยู่บ่อยๆ จะได้ไม่ต้องไปตามหามือสองที่ราคามันแพงเว่อเกิน (เพราะราคาออริจินอลก็แพงอยู่แล้ว 555555) เปิดโอนเงินถึงวันที่ 5 สิงหาคมค่ะ เข้าไปอ่านรายะเอียดได้ที่ >
คลิกแท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries