พี่พ่ายเปิดห้องใหม่อีกห้อง ไม่รู้ว่าเขาคุยกับน้องเดียร์ยังไงเหมือนกัน แต่ผมบอกกับพี่กิ๊ฟไปตามที่พี่พ่ายบอก ซึ่งเธอก็แค่ยิ้มให้ ไม่ได้ว่าอะไรอีก ผมจึงเดินออกจากห้องมาด้วยความรู้สึกผิด เพราะผมรู้ว่ารอยยิ้มของพี่กิ๊ฟ มันเศร้าแค่ไหน เธอคงแอบร้องไห้...เพราะพี่กิ๊ฟไม่ชอบให้ใครเห็นน้ำตาของเธอ
เฮ้อ...
ผมเข้ามาอยู่ในห้องใหม่แล้ว แต่ใจก็ยังไม่สงบ ก็เลยเดินออกมารับลมที่ระเบียง คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยสักพัก ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา พี่พ่ายอยู่ตรงนั้นมีพนักงานถือกระเป๋าตามมาด้วย พอเขาให้ทิปเรียบร้อย พนักงานก็ขอตัวออกไปจากห้อง ผมจึงเดินกลับเข้าไปในห้อง
“จะมาอยู่กี่วันเนี่ย ทำไมเอาเสื้อผ้ามาเยอะ”
“หนึ่งอาทิตย์”
“ไม่กลับเชียงรายพร้อมผมเหรอ”
“มึงต้องกลับพร้อมกู”
“เอาแต่ใจโคตรๆ”
“พูดมาก”
พี่พ่ายผลักหัวผม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ คงไปอาบน้ำล่ะมั้งครับ ผมก็เลยต้องจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เขา ถ้ามานานขนาดนี้ก็เอาออกจากกระเป๋ามาดีกว่าครับ จะได้ไม่ยับ ไม่ต้องลำบากส่งรีดอีกด้วย แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าแค่รอยยับเพียงนิดเดียว พี่พ่ายจะเอาไปส่งรีดใหม่รึเปล่า อีตานี่ยิ่งเรื่องมากอยู่
ผมจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เขาเรียบร้อยแล้วก็มานั่งดูทีวี พอพี่พ่ายอาบน้ำเสร็จก็เดินมานั่งลงข้างๆ ผมหันมองหน้าเขาไม่กี่วินาทีก็ต้องหันกลับไปดูทีวีตามเดิม
รู้สึกเขินๆ แฮะ
แต่แผงอกกำยาใต้เสื้อกล้ามสีดำนั่นน่าดึงดูดให้เอนตัวเข้าหา แต่ผมก็กลัวว่าเขาจะผลักออก ก็เลยค่อยๆ เอนตัวไปหาเขาอย่างเนียนๆ
“เมื่อยจัง” ผมแกล้งพูด เมื่อตอนนี้ได้ซบกับอกเขาสมใจแล้ว
“หึ อะไรของมึง”
“เปล่า แค่เมื่อย ขอพิงหน่อย”
“อืม”
“กอดด้วยได้ม้า”
แทนคำตอบ พี่พ่ายก็กอดตัวผมไว้ ผมหัวเราะแล้วถูจมูกไปมากับอกหอมๆ ของเขา พี่พ่ายเอนตัวนอนไปตามความยาวของโซฟา ทำให้ตอนนี้ผมก็เหมือนได้นอนอยู่บนตัวเขา โอกาสที่จะได้ทำแบบนี้หายาก เหมือนในซีรีย์เลย ผมเคยคิดอยากทำอย่างนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ ผมแอบยิ้มพลางใช้คางคลึงอกเขาเล่น
“อย่าซน” มือของพี่พ่ายลูบหัวผมไปมา ดวงตาหลังแว่นกรอบดำนั่นก็เต็มไปด้วยแววบางอย่างที่ทำเอาหน้าเห่อร้อนขึ้นทันที
“มองแบบนี้ก็เขินนะ”
“คนหน้าด้านเขินเป็นด้วยเหรอ”
“วาจาช่างร้ายกาจ”
พี่พ่ายยิ้มก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง ผมจึงยกมือขึ้นนวดไปตามลำคอกับไหล่ให้เขา ได้เห็นสีหน้าผ่อนคลายอย่างนี้แล้วก็ดีเหมือนกัน ดีกว่าทำหน้าเครียดๆ ใส่เยอะเลย
“พ่าย”
“หืม”
“ให้เป็นแฟนแล้วจริงๆ เหรอ”
“พูดตอนไหน” อมยิ้มทั้งๆ ที่หลับตานี่คิดว่าหล่อมากใช่ไหม งือออ อยากกัดปาก
“ก็ที่ให้ไปบอกพี่กิ๊ฟไง”
“แล้วบอกไหม”
“บอก ก็คิดข้ออ้างอื่นไม่ออกแล้ว”
“อืม มันก็แค่ข้ออ้างไง ใช่เรื่องจริงที่ไหน”
“...”
“แยกแยะให้เป็น”
ผมบีบคอเขาอย่างสุดจะทน แต่พี่พ่ายก็จับหัวผมโขกกับหน้าอกเขาหลายที จนผมต้องยอมปล่อย ไม่ใช่ว่าเจ็บหรอก กลัวเขาเจ็บ
“ไอ้คนทุเรศ”
“หึ ทุเรศแล้วเลิกรักได้ไหม”
“ใช่ซี้ ผมมันของตายนี่” ของตายที่จะเหยียบย่ำยังไงมันก็ลุกขึ้นมาอยู่ข้างๆ พี่อย่างเดิมไงล่ะ นั่นแหละผมล่ะ ผมคนที่เจ็บแล้วไม่เคยจำ...
“รู้ตัวก็ดี เงียบได้ละ” พี่พ่ายปิดปากผมด้วยการกดหน้าผมให้ซุกลงกับอกของเขา แต่ผมก็ไม่ได้โวยวายเท่าไหร่หรอก
ผมไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขาอีก ได้แต่นอนฟังเสียงหัวใจของเขาและดูทีวีไปด้วย ส่วนพี่พ่ายก็เหมือนแค่พักสายตาไปแค่ไม่กี่นาทีก็ตื่นมาดูทีวีด้วยกัน ตอนเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ อย่างนี้ไม่ค่อยมีรายการอะไรน่าดูแล้วครับ แต่เพื่อไม่ให้ห้องมันเงียบเกินไป ถึงได้เปิดทีวีแก้เขิน
“พี่พ่ายเล่นเฟซบุ๊คป่ะ”
“ไม่เล่น”
“ไอจีอ่ะ”
“ไม่”
“ทวิตเตอร์”
“ไม่รู้จัก”
“เหยย เชยชะมัด พี่อายุสามสิบเอ็ดหรือหกสิบเนี่ย แต่คนอายุหกสิบเขาก็รู้จักนะ” เขาต้องเกิดในยุคที่ไดโนเสาร์ยังครองโลกอยู่แน่ๆ ดูจากลักษณะที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสังคมปัจจุบันแล้ว ยังดูขวางนิดๆ ด้วย
“กูไม่เล่น หุ้นบริษัทก็ไม่ตก ไม่ได้มีผลกับชีวิต แล้วกูจะเล่นทำไม”
“โลเทคมากๆ ผมอ่ะมีทุกอย่างเลยล่ะ”
“ว่างมากสินะชีวิตมึง” ไม่ได้ว่างขนาดนั้นเว้ย แต่ก็ว่างพอจะมีโลกโซเชียลเหมือนคนอื่นเข้าบ้างนั่นแหละ
“แล้วพี่เล่นไรบ้างอ่ะ”
“พันทิป” อย่างน้อยเขาก็ยังเล่นบ้างล่ะนะ แต่คนอย่างอิตานี่ต้องไปสิงอยู่ที่ห้องสินธรแหงๆ ผมไม่สามารถนึกภาพเขาไปลั้ลลาตอบกระทู้ในห้องสยามสแควร์หรือบางรักได้ มันเกินรับไหว
“แค่นั้นเองเหรอ มาๆ เดี๋ยวผมสอนเล่นอย่างอื่นบ้าง เราจะได้ติดต่อกันได้หลายๆ ช่องทาง”
พี่พ่ายทำหน้าเบื่อๆ ใส่ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเมื่อผมเดินไปหยิบแม็คบุ๊คของเขาแล้วกลับมานั่งที่เดิม ดึงแขนพี่พ่ายให้ลุกมานั่งดูด้วย ก่อนจะเปิดเครื่องแล้วล็อคอินเข้าเฟซ
“นี่รูปมึงเหรอ หน้าอย่างกะลิง”
“หล่อจะตายไป เห็นมะ คนกดไลค์โคตรเยอะอ่ะ” ผมเอียงหัวไปโขกกับหัวของพี่พ่ายที่นั่งโอบผมจากข้างหลังเบาๆ
“มีแต่พวกหน้าม้ามากด”
“บางคนผมก็ไม่ได้รู้จักเหอะ แล้วนี่นะ ถ้าพี่พ่ายมีเฟซบุ๊ค เราก็จะสามารถถ่ายรูปคู่แล้วแท็กหากันได้ด้วย ถ้าคิดถึงก็แชทหาได้ หรือโพสข้อความโพสเพลงให้กันได้ด้วย แล้วพิเศษสุดๆ เลย มีสถานะความสัมพันธ์ด้วยนะ ถ้าพี่พ่ายเล่น เราก็จะสามารถตั้งความสัมพันธ์กันได้อ่ะ แล้วทีนี้ทุกคนก็จะรู้แล้วเข้ามากดไลค์ เจ๋งไปเลยใช่ม้าาา”
“ตรงไหน ไม่เห็นจำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ หรือตอนเอากับกูจะลงคลิปให้เขาดูด้วย?”
“ใช่ที่ไหนกันเล่า พี่พ่ายก็ ก็แค่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ อ่ะ อยากอวดแฟนไรเงี้ย แล้วในเฟซมีเกมให้เล่นด้วยนะ เยอะแยะเลย ผมว่าพี่ต้องชอบ”
“หน้ากูชอบเล่นเกมเหรอ”
“พี่เอบอกว่าตอนพี่พ่ายเรียนมหาลัยชอบเล่นเกมเคาท์เตอร์นี่นา”
“ไอ้เอพูดมากชิบ”
เห็นหน้าเซ็งๆ ของพี่พ่ายแล้วผมก็อดหัวเราะไม่ได้
“แล้วไอ้นี่ใคร กิ๊กมึงรึไง” พี่พ่ายชี้ไปที่ไอ้ยิวที่แม่งชอบเอารูปหน้าแอ๊บแบ๊วขึ้นโปรไฟล์ จัดแสงจัดเงาจนดูไม่เหมือนตัวจริง พี่พ่ายก็เลยไม่รู้จักมัน
“ไอ้ยิวไง เพื่อนผม”
“กูไม่แน่ใจละว่าเพื่อนที่มึงบอกแต่ละคนนี่มึงนอนกับเขาหมดรึเปล่า”
ผมเงียบกริบ พี่พ่ายก็เลยหันมาขึงตาใส่แล้วตบหัวผมไปหลายที
“อย่าให้มีอีก”
“อื้อ หึงแรงอ่ะ ขนาดไม่ยอมรับว่าเป็นแฟนนะเนี่ย อิอิ”
พี่พ่ายทำหูทวนลมก่อนจะมองหน้าเฟซไปพร้อมกับผม ผมก็ไม่ได้เช็คเฟซมาสักพักใหญ่ๆ แล้วครับ เพราะอยู่กับพี่พ่ายก็ทำให้ไม่อยากเข้าโลกออนไลน์แล้วล่ะ ในเมื่อคนที่ทำให้ผมหายเหงาอยู่ข้างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องหาเพื่อนทางเน็ตอีก นั่งเล่นไปสักพักก็มีแชทเฟซเด้งขึ้นมา จากมินเด็กเก่าผม
‘เพี้ยน หายไปเลยนะ เราโทรหาก็ไม่รับ ย้ายไปที่ไซต์งานเชียงรายแล้วก็ไม่ยอมบอกเรา เดือนหน้าเราไปหาได้ไหม’
ผมนิ่งอึ้งไปแค่ไม่กี่วินาที กำลังจะกดปิดหน้าต่างแชทแต่พี่พ่ายก็ห้ามไว้
“ตอบเขาไปดิ”
“ไม่อยากตอบนี่นา ไม่ได้คุยกันนานแล้ว”
“อืม ก็ตอบไป ไม่ได้คุยนานก็คุยดิ”
“ให้ตอบว่าไงอ่ะ”
“แล้วแต่”
ทำไมผมต้องมาเจอสถานการณ์น่าลำบากใจขนาดนี้ด้วยเนี่ย โธ่เอ้ย!
‘โทษทีนะมิน แต่มาไม่ได้หรอก ผมอยู่กับแฟน’
‘เพี้ยนมีแฟนแล้วเหรอ ทำไมเราไม่รู้’
‘อืม มีแล้วล่ะ ขอโทษนะ’
‘แล้วเรื่องของเราล่ะเพี้ยน’
‘ผมขอโทษ’
ผมกดปิดแชทแล้วล็อคเอ้าท์เฟซทันที
“หึ มีแฟนแล้วจริงเหรอ” พี่พ่ายกระซิบข้างๆ หู พร้อมกับเป่าลมใส่ ผมย่นคอเพราะจั๊กจี้ “คนไหนล่ะ”
“คนไหนก็ได้”
ผมเอนตัวหลบแล้วมองหน้าเขาที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ แววตากรุ้มกริ่มกับรอยยิ้มละมุนนั้น ผมไม่ชินเอาซะเลย ถึงได้ใช้มือยันหน้าเขาไว้
“ใช่พี่ไหมครับ”
“แกล้งอ่ะ พอผมบอกว่าใช่ พี่ก็บอกไม่ใช่”
“ตอนนี้ไม่แกล้งแล้วไง”
“ไม่จริงอ่ะ หื้ออออ พ่ายยย เอาหน้าไปห่างๆ”
เขาหยุดแค่นั้น แต่ก็ยังยิ้มแล้วมองหน้าผม
“เคลียร์ตัวเองให้หมด อย่าให้จับได้อีก เข้าใจไหม” ผมไม่คิดว่าพี่พ่ายจะพูดแบบนี้อ่ะ นี่มันเหมือนฝันเลย!
“เข้าใจแล้ว”
“ครับ?”
“เข้าใจแล้วครับ”
ดีจัง ดีจัง ดีจังงงงงงงงงงงง!!
“พ่ายจ๋า มาถ่ายรูปคู่กันนะ”
“ถ่ายทำไม”
“ที่ระลึกไง”
“ระลึกอะไร มึงจะไปไหน”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ก็ถ่ายเก็บไว้ แบบว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาทะเลด้วยกันอะไรแบบนี้”
“มึงนี่เรื่องมาก”
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยอมถ่ายรูปกับผม แต่เขาก็ไม่ยิ้มเลย ผมต้องใช้มือทำปากให้เขายิ้ม แต่ก็เท่านั้นอ่ะ ไม่ยิ้มไม่พอ ไม่มองกล้องด้วย
“เฮ้อ ไม่ถ่ายๆ พอๆ” เหมือนมีแต่ผมที่บ้าไปคนเดียวนั่นแหละครับ พอเถอะ ทำไปก็น่าอาย
ผมวางมือถือลงบนโต๊ะกระจก ก่อนจะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ ยังปวดเนื้อปวดตัวอยู่ แถมอาการสาหัสที่ช่องทางข้างหลังก็ทุเลาไปได้เฉพาะเวลายาแก้ปวดออกฤทธิ์ เดี๋ยวก็คงต้องกินอีก
“นอนละ ฝันดีจุ๊บๆ” ผมก้มลงไปหอมแก้มพี่พ่ายที่ลุกขึ้นคว้าคอผมให้เดินไปที่เตียง
“ผมนอนฝั่งนี้นะ พี่ก็นอนฝั่งนู้น แต่อย่านอนดิ้นมาเตะผมล่ะ” ขืนนอนดิ้นมาเตะผม ผมคงเดี้ยงไปอีกหลายวัน เพิ่งฟื้นตัวมาเดินเหินได้ก็โชคดีมากแล้ว อย่าให้ถึงขั้นสาหัสไปกว่านี้เลย
พี่พ่ายขึ้นไปนอนอีกฝั่งตามที่บอกอย่างว่าง่าย ผมก็เลยนอนบ้าง แต่แค่ไม่กี่นาที พื้นที่ฝั่งพี่พ่ายก็เหลือเป็นแสนเอเคอร์เพราะเขาดันมาเบียดที่ผมแทน
แค่ตอนนี้นอนเตียงเดียวกันก็ตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว ที่จริงก็ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวนั่นแหละครับ คือผมยังไม่หายเจ็บอ่ะ โดนอีกคงแย่แน่ๆ แต่พอโดนกอดไว้แบบนี้แล้ว...หัวใจมันทำงานหนักขึ้นอีกหลายเท่าตัว
“พี่พ่าย ขยับไปหน่อย” เสียงของผมคงเหมือนสายลมพัดผ่าน เพราะนอกจากจะไม่ขยับแล้ว ยังเอาขามาก่ายเหมือนผมเป็นหมอนข้างอีก
“พ่าย ได้ยินไหมเนี่ย”
“อืม นอนได้แล้วน่า”
“ก็มันอึดอัดอ่ะ”
“ทนดิ”
“โธ้วววว เจ็บหงีบแต้เน้อ”
“หมายถึงไร”
“ปวดหัวจริงๆ”
“หึ จะปวดหัวหรือปวดอย่างอื่น เลือก”
“ปวดหัวก็ได้ อย่างอื่นยังไม่พร้อม ไว้คราวหน้าเนอะ”
พี่พ่ายขยับมานอนหมอนใบเดียวกับผม แล้วจูบที่แก้ม “อืม คราวหน้า”
“เตรียมเจลด้วย”
“อืม”
“ส่วนถุงยางเท่าไหร่ก็ได้”
“อวดเก่ง”
“อยากให้อปป้ามีความสุขนี่ ให้ทำจนกว่าจะพอใจเลย”
“อื้ม ขอบคุณครับ”
พี่พ่ายคนบ้า! ถ้าทำให้หลงรักมากไปกว่านี้ ผมจะเกาะติดอยู่กับพี่ไปจนตายเลยนะ! น่ารักเรี่ยราดไม่ได้จะรู้เรื่องอะไรเลย
ผมขยับเข้าไปกอดพี่พ่ายไว้ แล้วหลับตาลงพร้อมกับสัมผัสอุ่นนุ่มที่หน้าผาก ...ผมอยากอยู่อย่างนี้ตลอดไป อยากอยู่ในอ้อมกอดของพี่พ่ายแบบนี้...ไม่น่าเชื่อว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนผมคิดจะยอมแพ้ แต่ตอนนี้...ผมกลับวิ่งมาไกลกว่าเดิมมาก ไกลจนไม่สามารถหันหลังกลับได้...
ถึงจะต้องเจอกับความเจ็บปวด ผมก็ไม่นึกเสียใจแล้วล่ะที่ได้เลือกเดินต่อ...
...............................................TBC........................................
น้องเพี้ยนกลับไม่ได้อีกแล้วนะ ขอให้น้องสู้ต่อไป ขอให้ครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดีของชีวิตคู่

เจอกันในอีกสองสามวันข้างหน้า

ใครเข้าใจไร้พ่ายเหมือนเราบ้าง เราว่าเราเข้าใจเขานะ เพราะเขาเป็นแฟนเรา
