◣♥◥ Precinct ►◄ อาณาเขตรักของหัวใจ ◣♥◥ →►อาณาเขตพิเศษ◄ P.9 14/02/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◣♥◥ Precinct ►◄ อาณาเขตรักของหัวใจ ◣♥◥ →►อาณาเขตพิเศษ◄ P.9 14/02/59  (อ่าน 157774 ครั้ง)

ออฟไลน์ เด็กหญิงผมซอยปลาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาแล้ววว ตามมาจากเรื่องหมาเทมพี่นัทค่าาา กิ๊วว เรื่องนี้ก็คงจะน่ารักกก :m3: :m3:

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
บัตต้องเป็นเจ้าของหมาแน่ๆเลย  :hao7:

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
◣♥◥ อาณาเขตรักที่4►►โน้ตแผ่นเล็ก




“เฮ้ย!บัตเตอร์อย่าพึ่งรีบกลับดิวะ!!”เสียงของต้องเพื่อนสนิทของเด็กหนุ่มคนนึงดังขึ้นเมื่อปิณชาน์ขอตัวกลับก่อน...ต้องเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยม.ปลายที่เข้ามหาลัยที่เดียวกันและคณะเดียวกัน...ต้องเป็นหนุ่มผิวธรรมดาไม่ขาวและก็ไม่แทนกึ่งๆอ่ะนะ...รูปร่างสูงโปร่งประมาณ180หน้าตาธรรมดาแต่เก่งเรื่องการม้อหญิง



วันนี้พวกเราทั้ง10คนได้เริ่มฝึกงานที่บริษัทธนาสินเป็นวันแรก...ความจริงก็แค่แนะนำตัวเท่านั้นเอง...ขากลับเพื่อนๆก็เลยนัดกันมาดื่มฉลองเนื่องในโอกาสที่ได้ฝึกงานในแผนกที่ตนเองต้องการ...ซึ่งผมเองก็ดีใจมาก...ดีใจที่สุดที่คนคนนั้นยอมให้ผมไปทำงานด้วย


‘พี่คุณ’


พี่เขาจะรู้ไหมว่าได้ช่วยผมให้ออกจากความมืดโดยที่พี่เขาไม่รู้ตัว...ถ้าผมไม่ได้พี่คุณช่วยไว้ป่านนี้ผมก็คงจะขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง...เมาจนไม่เป็นผู้เป็นคน...


ไม่ได้เป็นคนที่ร่าเริงเหมือนในตอนนี้


“นี่มันจะ2ทุ่มแล้วน้องๆที่บ้านรอกินข้าวอยู่เว้ย!”ผมหันไปบอกไอ้ต้องเบาๆด้วยรอยยิ้ม



“น้องอีกและ...ชีวิตมึงนี่มีแต่น้องๆรึไงเนี่ยมากับพวกกูทีไรก็กลับเร็วตลอดเอาแต่อ้างว่าน้องยังไม่ได้กินข้าว!”เสียงของไอ้เดย์ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความงอนเล็กน้อย


เดย์เป็นเพื่อคณะเดียวกับผม...แถมเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันในวงเหล้าด้วยเลยค่อนข้างสนิทกัน...เดย์เป็นชายหนุ่มผิวสีแทนสูง180กว่าๆหุ่นนักกีฬาหน้าตาหล่อคมจนเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวแต่มันน่ะเพลย์บอยตัวพ่อเลยล่ะ


“ฮะฮะฮะ...ก็น้องกูแกะข้าวกินเองไม่ได้นิ”ผมหัวเราะก่อนจะตอบกลับไป


“แหมๆ...น้องของบัตน่ารักจะตายฝ้ายก็ชอบนะ”เสียงของผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆต้องดังขึ้นด้วยรอยยิ้ม...ฝ้ายเป็หญิงสาวผิวขาวผมยาวสีดำสลวยหน้าตางามงดเป็นที่ต้องตาของชายหลายๆคนแต่เจ้าตัวประกาศว่าไม่ชอบผู้ชายทำให้ผู้ชายหลายคนอกหักดังเป๊าะ


“งั้น...แก้วนี้หมดแล้วค่อยให้มันไป...โอเคนะไอ้เดย์”เสียงของชายอีกคนที่ชื่อกายดังขึ้นพร้อมกับยื่นแก้วเหล้าที่พึ่งเติมจนเต็มส่งมาให้ผม


กายเป็นผู้ชายผิวค่อนข้างดำทำผมสีน้ำตาลอ่อนหน้าตาปกติ...แต่นิสัยเจ้าเล่ห์พอตัวเลยล่ะ...ถ้าเป็นไปได้อย่างเข้าไปยุ่งดีกว่า...555...ผมหมายถึงกับผู้หญิงนะ


“ได้”ผมตกลงก่อนจะรับแก้วนั้นมาแล้วนั่งลงอีกครั้งนึง


“จริงสิ...จำกรรมการเผจ็ดการที่ให้เราแนะนำตัวได้เปล่าว่ะ?”อยู่ๆไอ้ต้องก็เปิดประเด็นขึ้นมาทำให้คิ้วผมกระตุกเมื่อพูดถึงพี่คุณ


“เออๆ...จำได้ดิว่ะ...หน้าตาโครตน่ากลัวอ่ะ...รู้สึกเหมือนแผ่ความกดดันออกมาตลอดเวลาเลยว่ะ”เสียงของไอ้เดย์พูดต่อในทันที


“เราว่าพี่เขาดูดุๆนะ...บัตใจกล้ามากอ่ะที่พูกับพี่เขาแบบนั้น...ขนาดเราแค่แนะนำตัวยังอดสั่นไม่ได้เลย”ปุ้ยเด็กสาวที่แนะนำตัวเป็นคนแรกดังขึ้น...เธอเป็นคนที่ค่อนข้างเรียบร้อยแถมใส่แว่นยิ่งทำให้ดูเป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบแต่นิสัยดีสุดๆ


“ฮะฮะฮะ...พี่เขาไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอก”ผมตอบกับไปพร้อมกับหัวเราะ


จริงอยู่ที่พอเจอพี่คุณที่บริษัททำให้ผมเกร็งพอสมควรเพราะพี่เขาวางท่านิ่งออกแนวเฉยชาเวลาพูดก็ดูน่าเกรงขามจนผมอดคิดไม่ได้ว่าคือพี่คุณที่ผมรู้จักจริงๆเหรอ?


แต่ผมไม่กลัวพี่เขาหรอกนะ...ถึงพี่เขาจะตีหน้าดุผมแต่ผมก็รู้ว่าที่พี่คุณทำลงไปมันมีเหตุผลทั้งนั้น


“โหยย~...แกพูดได้ไงเนี่ยในแผนกที่กูไปอยู่นะเห็นลือกันว่าพี่วิทย์น่ะได้ชื่อว่าเป็นเพชรฆาตรของบริษัทนี้เลยนะ...ไม่มีใครกล้าหือกับพี่แกเลยสักคน...เห็นว่าคนที่เคยเถียงพี่แกน่ะถูกเชิญออกจากบริษัทในวันต่อมาเลยนะเว้ย!!”ไอ้ต้องพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนสยอง


“ฮะฮะฮะ...ฮาว่ะไอ้ต้อง”ผมขำกับเรื่องที่เพื่อนสนิทเล่า


“เฮ้ย!...แกไม่กลัวเลยเหรอว่ะ?...เห็นว่าเลือกไปทำงานกับพี่เขานี่แกคิดอะไรของแกว่ะ?”ไอ้ต้องถามขึ้นมาอีกด้วยท่าทางอยากรู้สุดๆ...และดูท่าคงไม่ใช่มีแค่ไอ้ต้องที่อยากรู้คนอื่นๆที่นั่งดื่มกันอยู่หันมามองทางนี้กันทันควันเลย


“ไม่กลัวหรอก...พี่เขาไม่ทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลหรอกนะ...ถ้ากูทำงานดีพี่เขาก็ไม่มาว่าหรอก...แล้วที่ถามว่าทำไมถึงเลือกทำงานกับพี่เขา...เพราะอยากอยู่ข้างๆละมั้ง”ผมอธิบายพร้อมรอยยิ้มบางๆที่ปรากฎขึ้น


“...”ทั้งโต๊ะถึงกลับเงียบกริบเลยครับ


“งั้นกูกลับล่ะ”ผมบอกลาพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินออกไปเลย


ผมขับมอเตอร์ไซค์กลับ...บ้านของผมอยู่ไม่ค่อยห่างจากบริษัทเท่าไหร่ทำให้ไปมาค่อนข้างสะดวก...ผมเลี้ยวรถเข้ามาในซอยหนึ่งข้างๆคอนโดสูง...บ้านผมเป็นบ้านเดี่ยวหลังนึงในซอยนี้...ผมชลอมอเตอร์ไซค์ก่อนจะจอดที่หน้าประตูรั้วบ้านของตัวเอง


“หื้อ?...”ผมมองที่ประตูรั้วอย่างงงๆเมื่อมีกระดาษโน๊ตใบหนึ่งแปะอยู่


โฆษณา?


ใบแจ้งหนี้?


กลั่นแกล้ง?

โฮ่ง!


โฮ่ง!


โฮ่ง!


หงิ๋งงง~


“กลับมาแล้วๆ...รอพี่นานไหมฮื้ออ~...เดี๋ยวขอเอารถเข้าก่อนนะ...ถอยไปเร็วววว~”ผมเอ่ยเสียงใสให้สุนัขทั้ง4ตัวของผมก่อนจะเปิดตูรั้วแล้วเข็นมอเตอร์ไซค์เข้าไปภายใน


พวกสุนัขในระหว่างที่ผมเปิดประตูก็ไม่วิ่งออกไปนอกบ้านเพราะผมสอนพวกมันตั้งแต่เด็กแล้วว่าห้ามออกไปถ้าผมไม่ได้สั่ง


โฮ่ง!


โฮ่ง!


“เดี๋ยวสิครับ...ขอพี่ไปปิดประตูก่อนนะเดี๋ยวค่อยไปหาอะไรให้กินกันนะ”ผมบอกสุนัขทั้ง4ตัวที่พันแข่งพันขาผมอยู่ก่อนจะเดินไปปิดประตูรั้ว


“...เอาเข้าไปด้วยละกัน”ผมพึมพำก่อนจะดึงโน้ตที่แปะอยู่ออกมาแล้วเดินเข้าไปในบ้าน


...เพราะผมคงอ่านโน้ตนั่นในที่มืดๆแบบนี้ไม่เห็นหรอกนะ


แกร๊ก!


“มากินข้าวกันดีกว่า~”ผมเปิดประตูบ้านแล้วเดินเข้าไปพร้อมกับสุนัขทั้ง4ตัวที่วิ่งเข้ามาในบ้านด้วยความเร็วจนอดขำไม่ได้


บ้านผมเสียงสุนัขอยู่2พันธุ์เป็นพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์กับไซบีเรียน ฮักกี้อย่างละ2ตัวแต่เป็นคนละสีกัน...ฟังมาถึงตรงนี้คงจะพอเดากันได้แล้วใช่ไหมว่าผมรู้จักกับพี่คุณได้ยังไง?
ก็อย่างที่คิดล่ะ


บ้านที่พี่คุณชอบมาเล่นกับสุนัขบ่อยๆก็คือบ้านผมเอง!


โฮ่ง!


“อ่า...รู้แล้วๆกำลังจะทำเดี๋ยวนี้แหละครับฟังก์ชั่น”ผมบอกกับสุนัขโกลเด้นสีสาวสะอาดตาก่อนจะเดินเข้าไปในครัวและหยิบชามใส่อาหารของสุนัขออกมา4ใบแล้วเทอาหารเปียกในกระป๋องลงไปก่อนจะตามด้วยอาหารเม็ด


หงิ๋งง~


“โฟกัสของเธอน่ะกินได้แค่อาหารเปียกนะเพราะยังไม่หายท้องเสียเลยนี่....บอกแล้วว่าอย่ากินพวกดินพวกต้นไม้เห็นไหมล่ะท้องเสียเลย”ผมก้มลงไปบอกสุนัขโกลเด้นสีน้ำตาลเข้มอีกตัวที่นั่งครางหงิ๋งๆอยู่ข้างๆผม


วันก่อนผมพึ่งพาโฟกัสไปหาหมอเพราะถ่ายเหลวไม่หยุด...หมอบอกว่าแค่ท้องเสียธรรมดาในช่วง2-3วันนี้อาจจะซึมๆหน่อยและก็ห้ามให้อาหารเม็ดด้วย


“เอาล่ะ..ยูเนี่ยน...ซิกม่า...มานี่เร็ว”ผมเรียกสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนอีก2ตัวเสียงดัง


ตึก! ตึก! ตึก!


เสียงฝีเท้าดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัวของยูเนี่ยนไซบีเรียนสีน้ำตาลและตามมาด้วยซิกม่าไซบีเรียนสีดำ...ทั้งคู่แข่งกันวิ่งมาจนถึงผมแล้วกระโดดใส่พร้อมกัน


“เฮ้ย!...อย่ากระโดด!!”ผมหลบไม่ทันทำให้โดนฝ่าเท้าทั้ง4ข้างเข้าเต็มๆ


“พอแล้วๆ...นั่งลงเดี๋ยวนี้!”ผมสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้สุนัขทั้ง4ตัวนั่งลงอย่างพร้อมเพียง


“ดีมาก....งั้นก็กินได้แล้ว”ผมวางชามอาหารลงบนพื้นก่อนจะบอกให้พวกมันกินได้


ระหว่างที่ดูเหล่าน้องๆกินอาหารผมก็หยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วก้มดูสิ่งที่เขียนอยู่ภายใน


“...!!!”ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นสิ่งที่เขียนอยู่


ตึก! ตัก! ตึก !ตัก!


เป็นไปไม่ได้!!


“...พี่คุณ”ผมพึมพำชื่อของคนที่เขียนโน้ตใบนี้ขึ้นมา


ถ้าถามว่าทำไมแน่ใจละก็....


บอกได้แค่ว่ามันเป็นความรู้สึกของผมเอง


‘โกลเด้นสีน้ำตาลเข้มของคุณดูจะไม่สบายนะครับ’


ข้อความสั้นๆที่เขียนมาแต่มันมีค่ามากสำหรับผม


“พี่คุณ...นี่พี่กำลังคิดจะทำอะไรผมกันแน่ครับ?”ผมถามขึ้นเบาๆด้วยรอยยิ้ม


พี่คุณคงจะไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้ผู้ชายคนนึงเป็นบ้าเพราะความน่ารักของพี่...ตั้งแต่ที่ได้เห็นพี่ในวันนั้นผมก็รู้แล้วว่าพี่คือแสงสว่างของผม


ยิ่งนานวันผมยิ่งรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ


“นอนได้แล้วนะ...เจอกันพรุ่งนี้”ผมบอกกับน้องๆผมทั้ง4ตัวด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินขึ้นไปชั้น2ซึ่งผมไม่อนุญาตให้พวกมันขึ้นมา


ตุบ!


“เฮ่อ...”ผมทิ้งตัวลงบนเตียงหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วพร้อมๆกับถอนหายใจออกมา


ในหัวผมตอนนี้มีแต่เรื่องของพี่คุณอยู่เต็มไปหมด...ผมยังจำวันแรกที่ได้เจอกับพี่เขาได้อยู่เลย...คงต้องบอกว่าจำได้ขึ้นใจมากกว่าสินะ


ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน...วันที่ผมพึ่งเข้าปี4ได้ไม่กี่วันพ่อแม่ที่ไปทำงานต่างประเทศก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทำให้ผมในตอนนั้นรียกได้ว่าเสียศูนย์ไปมากพอสมควร...วันๆผมจมอยู่กับการกินเหล้าไม่ยอมไปเรียนและขังตัวอยู่ในบ้านพร้อมกับสุนัขทั้ง4ตัวที่เหมือนกับเป็นพี่น้องของผม


ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนกับท้อแท้และหมดหวังที่จะมีชีวิต...ผมจะมีชีวิตไปทำไมล่ะถ้าไม่มีพ่อแม่คอยดู...คอยชมผมเหมือนเมื่อก่อน...ผมเคยคิดที่จะตายหลายต่อหลายครั้งแต่ทุกครั้งผมก็นึกถึงน้องๆทั้ง4ตัวของผม...ถ้าผมไม่อยู่พวกมันจะอยู่ยังไงใครจะให้ข้าวให้น้ำและคอยเล่นกับพวกมัน...ผมเลยล้มเลิกที่จะฆ่าตัวตาย


แต่ผมก็ยังไม่ยอมกลับไปเรียน...เพราะด้วยมรดกที่ตกทอดมาก็เพียงพอจะทำให้ผมอยู่ได้อย่างสบายๆโดยไม่ต้องลำบากเลยสักนิด...ผมคิดแบบนั้นจนกระทั่งเช้าวันหนึ่งที่ผมเผลอหลับที่โซฟาด้านล่างแถมยังลืมปิดประตูหลังทำให้น้องๆของผมออกไปเล่นได้อย่างอิสระแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนผมหรอก


‘ว้าว~...โกลเด้นกับไซบีเรียนแถมยังตัวใหญ่สุดๆ’น้ำเสียงที่แสดงถึงความดีใจดังลอดเข้ามาภายในบ้าทำให้ผมลุกขึ้นมาเปิดม่านดูด้วยความสงสัย


และผมก็ต้องชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มผิวขาวออกไปทางซีดๆหน่อยสูงประมาณ180พอๆกับผม...อายุน่าจะ20ปลายๆ...รูปร่างสูงโปรงผมสีดำสไลด์สั้นดูเข้ากับหน้าคมเข้มออกแนวดุๆของเจ้าตัวไปได้อย่างดีจนผมเผลอมองอยู่นาน


‘ไงครับหนุ่มๆ...อ๊ะ!...นี่ตัวเมียนี่นา...ขอโทษนะครับสาวสวย...พี่คุณมองผิดไปแล้วครับ~’เสียงที่ออกแนวขี้เล่นนั่นไม่ได้เข้ากับหน้าตาดุๆของตัวเองทำให้ผมเผลอยิ้มและหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้


‘...นี่เรา...หัวเราะ’ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อรู้ตัวว่ากำลังหัวเราะอยู่...ตลอดเวลาหลายอาทิตย์ที่จมอยู่กับความโศกเศร้าและเดียวดายจนไม่มีรอยยิ้มแต่ตอนนี้ผมกลับยิ้มเพียงแค่คนตรงหน้าเท่านั้น


‘อ๊ะ!...อย่าข่วนพี่แบบนี้สิ...เจ็บนะรู้ไหม?...หื้อออ~...แล้วทำไมหนูถึงทำหน้าหงอยแบบนั้นล่ะ?...มีอะไรไม่สบายใจเหรอ?’คำถามที่พี่เขาถามโฟกัสผมรู้สึกเหมือนกับพี่เขากำลังถามผม


‘ผมไม่รู้จะต้องทำยังไง...ไม่รู้จริงๆ’ผมพึมพำออกมาเบาๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย...ผมจะผ่านมันไปได้ยังไงกัน...ในเมื่อผมไม่เหลือใครอีกแล้ว


‘ไม่ต้องห่วงนะครับ...เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันล้วนมีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น...ความเจ็บปวดและความเศร้าจะสอนให้เราได้เรียนรู้เพื่อเดินหน้าต่อไป...ถ้าทำหน้าหง่อยแบบนี้พี่เป็นห่วงนะครับ...หายเร็วๆนะ...สู้ๆครับ’คำพูดของเขาไม่เหมือนกำลังพูดกับสุนัขแต่เหมือนกำลังพูดกับผมอยู่


‘ผม...ต้องเดินหน้าต่อไปสินะ’ผมพึมพำเบาๆก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ


ทั้งที่ภายนอกดูเคร่งขรึมและดุแต่พอยิ้มและพูดด้วยเสียงหวานๆแบบนั้นมันช่างน่าดูเหลือเกิน...


อย่างพึ่งไป


ช่วยพูดกับผมอีกสักนิดเถอะ


ขอกำลังใจให้ผมหน่อยครับ


หงิ๋งงง~


‘ดีมาครับ...เด็กดีของพี่คุณ...แบบนี้สิน่ารักสุดๆเลย’เสียงของเขาที่ดัดเล็กน้อยดังขึ้นพร้อมๆกับลูบหัวโฟกัสเบาๆจนครางหงิ๋งๆ...คงจะติดใจแล้วล่ะ


ผมเองก็อยากถูกลูบแบบนั้นบ้างจัง...มันคงจะรู้สึกดีมากๆเลย


‘พี่ไปก่อนนะ...แล้วจะมาอีก’เขากล่าวลาพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ทำให้หัวใจผมรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างรอดเข้ามา...รอยยิ้มของเขา...


มันดูน่ารักมากในสายตาผม...


เขาบอกว่าจะมาอีก...


‘เมื่อไหร่ละครับ...พี่คุณ’ผมพึมพำเบาๆพร้อมกับถอดสายตาไปตามทางที่พี่คุณเดินจากไป
เห็นแทนตัวเองแบบนี้คงจะชื่อคุณ?


งั้นเวลาเรียกคงจะเรียกว่า...


‘คุณคุณ’


‘ฮะฮะฮะ...คิดไปได้’ผมหัวเราะกับความคิดของตัวเอง


หลังจากนั้นผมก็เริ่มกลับไปเรียนอีกครั้ง...ดีนะที่ได้เพื่อนๆช่วยบอกอาจารย์ว่าผมลาป่วยทำให้ยังมีสิทธิสอบอยู่...ผมกลับมาร่าเริง...พูดคุยมากขึ้นจนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ภายในเวลาไม่นาน...ทั้งหมดนั่น...


ผมคงต้องขอบคุณคำพูดของเขา


‘พี่คุณ’


แม้ว่าหลังจากนั้นผมไม่ค่อยจะอยู่ตรงกับเวลาที่พี่เขามาสักเท่าไหร่...


ทำไมผมถึงรู้ว่าพี่เขามางั้นเหรอ?


เพราะเหล่าน้องๆของผมดูมีความสุขและร่าเริงมากกว่าปกติไงล่ะ...ผมอยากจะบอกไว้หน่อยนะถึงจะเห็นน้องๆผมเป็นมิตรแบนนี้แต่ความจริงแล้วเข้ากับคนอื่นได้ค่อนข้างยาก..มันเหมือนกับว่ามีอาณาเขตกั้นอยู่...บ้านหลังนี้คืออาณาเขตของผมและของพวกมันจึงไม่ยอมให้ใครสนิทด้วยง่ายๆ...ขนาดเพื่อสนิทผมยังถูกเมินบ่อยๆเลยเพราะงั้นพอเห็นพวกมันวิ่งเข้าไปหาพี่เขาพร้อมกับกระโดดเกาะรั้วผมก็รู้ได้ทันทีว่า...


พวกมันยอมรับพี่เขาให้เข้ามาอยู่ในอาณาเขตเดียวกันแล้ว


เช่นเดียวกับผม



นั่นคือเรื่องราวเกี่ยวกับที่พี่คุณยังไม่รู้...


พี่คุณจะรู้ไหมว่าผมดีใจแค่ไหนที่บริษัทที่ได้เข้าไปฝึกงานเป็นบริษัทเดียวกับที่พี่ทำงานอยู่...ผมอาจดีใจจนออกนอกหน้ามากไปหน่อยเลยทำให้พี่เขาจ้องผมเขม็ง


แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่...ก็คนมันดีใจจะให้ทำไงล่ะ


เท่าที่ลองสังเกตไม่มีใครเรียกพี่เขาว่าพี่คุณเลย


เรียกแต่พี่วิทย์


แปลว่าพี่เขาปกปิดชื่อเล่นนี้งั้นเหรอ?


ความคิดแบบนี้ทำให้ผมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเหมือนกับว่าได้เป็นคนพิเศษอย่างั้นแหละ
ผมก็เลยลองเสี่ยงเรียกชื่อพี่เขาและผลก็เป็นไปดังคาด...ท่าทางนิ่งๆแต่ดูจากแววตาคงจะกระสับกระส่ายพอตัวอยู่...ผมก็เลยลองคิดวธีที่จะได้เจอหน้าพี่เขาในทุกๆวันได้ออกมาเป็นเกมส์นี่แหละ


ความมั่นใจผมมีค่อนข้างมาเพราะผมรู้ข้อมูลต่างๆจากการที่พี่คุณชอบมาเล่าให้น้องๆผมฟังซึ่งบางวันผมก็อยู่ทำให้ผมรู้ข้อมูลพี่เขาค่อนข้างเยอะ


เกมส์เป็นเพียงข้ออ้างในการเจอหน้าและเข้าใกล้เท่านั้น


ถึงจะแพ้และยอมบอกมันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายจะมีก็แค่ความกังวลเล็กๆที่กลัวว่าพี่คุณจะไม่มาที่บ้านผมอีก...ถ้าเป็บแบบนั้นผมคงเหงาน่าดู


“...พี่คุณ”ผมพึมพำชื่อพี่เขาเบาๆพร้อมกับหลับตาลง


“ฝันดีครับ...พรุ่งนี้เจอกันนะพี่คุณ”

.................................................................................

สวัสดีคะ

มาอัพตอนต่อไปแล้วนะคะ

เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนมีแค่ความหวานเท่านั้นเองคะ

ตอนนี้แต่งพร้อมกันสองเรื่องเลยลำบากเล็กน้อย...ปกติเรื่องเดียวก็ค่อนข้างหนักแล้ว

ยังไงจะพยายามมาลงอาทิตย์ละตอนนะคะ

ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และกำลังใจนะคะ...จะพยายามพัฒนาการแต่งให้ดียิ่งขึ้นไปอีกคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ

nicedog


♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2015 12:42:22 โดย nicedog »

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
มันต้องอย่างน้านนนน บัตเตอร์
หาเรื่องเข้าใกล้พี่คุณไว้ อิอิอิ ^.,^

ปล. ชื่อหมานี่คือรู้เรยว่าเด็กวิทย์ 555555

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พี่คุณน่ารักนะ อิอิ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
พี่คุณปวดหัวแน่ๆ ถ้ารู้ว่าบัตเป็นเจ้าของน้องหมา

ปอลิง น้องบัตเคอะ พาน้องหมาไปตรวจดูอาการด้วยเน้อ

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
น่ากลัวเหรอ ไม่น้าาาาา เราว่าพี่คุณเท่ห์มากเลย อยากได้เป็นพ่อของลูก แอร้ยยย 555555 ส่วนน้องหมาฝึกงานหางกระดิ๊กๆ ถ้าขี้แกล้งคนอื่นอย่างงี้ ระวังคะแนนจะตกนะยะ เดี๊ยะๆ

ขอบคุณค่ะ เรื่องน่ารักมากก

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เจ้าของน้องหมาจริงๆด้วย
น่ารักเนาะ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ถ้าพี่คุณรู้คงปวดหัว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :-[ ที่แท้ก็หมาน้อยตัวที่่5 พี่ชายคนโตของน้องหมา 4 ตัวนี้เอง อ่านไปยิ้มไปปวดแก้มอะ พี่คุณน่ารักจริงๆ  :mew1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
บัตสู้ๆ นะค้าา :กอด1: ขี้อ้อนแถมยังน่ารักขนาดนี้พี่คุณแพ้ทางแน่นอนเลยล่ะค่ะ ^^

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
◣♥◥ อาณาเขตรักที่5►►เริ่มงาน




“สวัสดีค่ะคุณวิทย์”คุณพรพัฒน์ที่เป็นเลขาเอ่ยทักทายเมื่อปภิณวิทน์ผลักประตูเข้ามาภายในห้อง


“สวัสดี...คุณวีรลยังไม่มาเหรอ?”ผมถามคุณพรพัฒน์หลังจากที่กวาดสายตาไปทั่วห้องแล้วแต่ไม่พบเขา


“ใช่ค่ะ...มีธุระด่วนเหรอค่ะ?คุณพรพัฒน์ถามต่อ


“ใช่อ...อยากให้ไปเอาเอกสารการเงินพวกบัญชีด้วยของฝ่ายเทคนิคย้อนหลังสัก4เดือนมาให้ผม...ถ้าเขามาฝากบอกด้วยว่าไม่เกิน10โมงผมต้องได้เอกสารทั้งหมด”ผมฝากคุณพรพัฒน์ก่อนจะเดินเข้าไปให้ห้องทำงานส่วนตัว


“ค่ะ...อ๊ะ...เดี๋ยวค่ะคุณวิทย์ไม่ทราบว่าเรื่องปิณชาน์จะเอายังไงคะ?”คุณพรพัฒน์เรียกผมก่อนจะถามขึ้น...ปิณชาน์เหรอ?


ทำไมชื่อนี้ต้องเข้ามาในหัวผมตั้งแต่เช้าด้วยละเนี่ย!!


“หมายถึงอะไร?”ผมถามเลขากลับไป


ผมไม่เข้าใจว่ามีเรื่องอะไรเกี่ยวกับนายปิณชาน์ที่ผมต้องสั่งการอีก


“จะให้เขาทำอะไรดีค่ะ?”


“จัดเอกสาร...เก็บเอกสาร...แม๊คเอกสาร...ส่งเอกสาร...เรียงเอกสารและทำลายเอกสาร!!”ผมสั่งยาวพร้อมกับเปิดประตูเข้ามาในห้องทันที


อยากมาทำงานกับผมดีนัก...ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ผมจะส่งไปที่อื่นซะ!


แค่ได้ยินชื่อเขาเส้นเลือดในสมองผมก็เต้น ตุบ! ตุบ! ตุบ!


ผมสังหรณ์ว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ


และเร็วๆนี้ด้วย


ตาข้างขวาผมกระตุกไม่หยุดเลย!


“ชิ...”ผมสถบออกมาเบาๆก่อนจะเริ่มลงมือจัดการกับเอกสารที่ค้างไว้เมื่อวานต่อทันที...ลบเรื่องของนายปิณชาน์ออกไปซะตอนนี้ต้องจัดการเอกสารพวกนี้ให้เสร็จก่อน


จากงานเมื่อวานที่ผมกำลังจัดการทำให้รู้ว่ามีการสั่งซื้อสินค้าที่ใช้ในฝ่ายเทคนิคมากเกินความจำเป็นจนน่าสงสัยเลยต้องการที่จะเอาเอกสารทางการเงินมาตรวจดูอีกครั้งพื่อความแน่ใจ...ถ้าเกิดการยักยอกเงิน...ผมคงต้องสั่งสอบสวนไม่ก็ลงไปจัดการด้วยตัวเอง


ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ลำบากผมทั้งนั้น...จะขออยู่สบายๆสักอาทิตย์นี่มันไม่ได้เลยใช่ไหม?...จบเรื่องนั้นก็มีเรื่องนี้ตามมาไม่จบสิ้นสักที!!


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“เข้ามา”ผมบอกออกไปโดยไม่ละสายตาออกจากเอกสารตรงหน้า...คงจะเป็นคุณวีรลแน่นอน...ผมเหลือตามองนาฬิกาเล็กน้อยที่ตอนนี้บอกเวลา9โมงตรง


ทำงานเร็วดีนี่


สมแล้วที่เป็นคนที่ผมเลือกเอง


“สวัสดีครับ...พี่คุณ”สิ้นประโยคสุดท้ายผมก็ชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองต้นเสียงที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าผมทันที...ว่าแล้วเชียวทำไมตาขวาถึงกระตุกไม่หยุด...


หยุดเข้ามาในความคิดผมสัก2ชั่วโมงนี่มันจะตายเหรอครับ?


ผมละอยากจะตะโกนออกไปแบบนั้นซะจริงๆ


“เลิกเรียกแบบนั้นซะ...ไม่งั้นคุณได้Fแน่ๆ”ผมบอกเสียงเหี้ยม


“พี่ไม่ใจร้ายกับผมขนาดนั้นหรอก”ปิณชาน์บอกพร้อมรอยยิ้มที่ดูจะร่าเริงกว่าเมื่อวาน...อะไร?...


เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย?


“ยิ้มอะไรนักหนา?”ผมถามอย่างสงสัยหรืออีกฝ่ายจะเป็นโรคประสาทอ่อนๆจริงกันแน่


“ก็ผมมีความสุขก็ต้องยิ้มสิครับ”ปิณชาน์ตอบกลับในทันที


“ก็นั่นแหละที่ถาม...อะไรที่ทำให้ความสุขขนาดนั้นล่ะ?”ผมถามด้วยน้ำเสียงเซ็งๆจะมีความสุขอะไรจะขนาดนั้น


“...พี่คุณ”


“บอกว่าอย่าเรียกแบบนั้นไง!!!?”ผมขึ้นเสียงใส่ทันทีแต่ปิณชาน์ก็ไม่ได้ทำท่าผงะหรือกลัวผมเลยสักนิดยังยืนนิ่งถือเอกสารพร้อมรอยยิ้มเหมือนเดิม


หื้อ...?


เอกสาร


“ผมไม่ได้เรียกสักหน่อย”ปิณชาน์พูดก่อนจะเดินมาใกล้ๆโต๊ะทำงานผมมากขึ้น


“หมายความว่าไง?”ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน...จะไม่ได้เรียกได้ไงก็ได้ยินอยู่เต็มสองหูเนี่ย...เดี๋ยวปั๊ดโดนเตะผ่าหมากซะเลยนี่!!


“ผมแค่ตอบคำที่พี่ถามเท่านั้นเอง...อะไรที่ทำให้มีความสุขขนาดนั้น?....คำตอบของผมคือพี่คุณไง”ปิณชาน์ตอบผมด้วยรอยยิ้มกว้างแต่ทางผมนี่สิที่อึ้งกิมกี่พร้อมเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ


ปัง!


“จะเล่นตลกอะไรห๊ะไอ้เด็กบ้า!!”ผมตับโต๊ะเสียงดังแล้วตะโกนใส่เด็กตรงหน้าทันที


จะโกหกก็ให้มันเนียนหน่อยไม่ใช่มาพูดแบบนี้


ใครมันจะไปเชื่อกัน!


“ผมไม่ได้โกหก!”ปิณชาน์บอกผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่จนผมต้องชะงักแล้วเม้มปากจ้องคนตรงหน้าเขม็ง


หมายความว่ายังไง?


ผมไปทำอะไรให้เขากัน?


ทำไมผมถึงทำให้เขามีความสุขได้?


ตั้งแต่เกิดมานับครั้งได้ที่ผมจะทำให้คนอื่นมีความสุขเพราะด้วยหน้าตาที่ดูดุพอจะเข้าใกล้ใครก็ถูกหลีกห่างจนผมไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับใครแล้ว...และไอ้สิ่งที่ปิณชาน์บอกผมจะเชื่อได้รึไง?


“ถ้าไม่ได้โกหก...ก็บอกมาสิ”ผมถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงมาพอสมควร...ตอนนี้ในหัวผมมีแต่ความไม่เข้าใจทั้งนั้น


ไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่างเดียว


อย่ามาหลอกให้คนอื่นเขาดีใจด้วยคำพูดแบบนั้น...


‘ปิณชาน์’


“ผม...จะบอกต่อเมื่อผมแพ้เท่านั้น”ปิณชาน์จะก้มหน้าลงเหมือนกำลังคิดบางอย่างก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบอกผมด้วยสายตาที่แน่วแน่


“ทำไมล่ะ?”ผมถามต่อด้วยความอยากรู้


ทำไมถึงบอกเลยไม่ได้


“เพราะผม...ยังไม่พร้อมที่จะเสียพี่ไป”ปิณชาน์บอกผมเบาๆ...สายตาของพวกเราประสานกันบางสิ่งที่แสดงออกมาจากแววตาที่สั่นระริกที่แฝงไปด้วยความเศร้านั่นทำให้ผมรู้ว่าคนตรงหน้าพูดความจริง


แต่ผมไม่เข้าใจ


“งั้นขอแค่คำถามเดียว...ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร...เราเคยเจอกันใช่ไหม?”ผมถามออกไปโดยที่ยังสบตากับปิณชาน์อยู่


เท่าที่ดูความตั้งใจยังไงผมก็คงไม่ได้คำตอบที่ต้องการแน่ๆ


แต่อย่างน้อยก็ขอให้ผมมีข้อมูลบ้างเถอะ


หวังว่าเขาจะตอบนะ


“...ครับ”ปิณชาน์ตอบผมพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ


เอาล่ะ...ผมคงต้องมานั่งคิดอย่างจริงจังสักทีว่าผมเคยเจอเขาที่ไหนกันแน่?


เท่าที่ดูจากท่าทางคงไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้งแน่ๆ


นี่ผมความจำสั้นขนาดนั้นเลยเหรอ?


“พี่คุณ”


“อะไร?”ผมถามออกโดยที่ในหัวกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก


“มาแลกเปลี่ยนกันไหม?”คำถามของปิณชาน์ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นสบสายตากับคนตรงหน้าทันที


“แลกเปลี่ยน?”


“ผมจะให้พี่ถามอะไรก็ได้...ถ้าผมตอบได้ผมจะตอบแต่ต้องแลกกับการทำตามที่ผมบอก1อย่างต่อ1คำถามส่วนเกมส์ที่ตกลงกันเมื่อวานเป็นอันยกเลิกนะครับ”ปิณชาน์อธิบาย...แต่เท่าที่ฟังมันดูแปลกๆไป


แถมยังมายกเลิกเองตามใจชอบอีก


“ต้องการอะไรกันแน่?”ผมถามออกไปอย่างสงสัย


มีอย่างที่ไหนให้มาแลกเปลี่ยนอะไรแบบนี้


“ผมถือว่าที่พี่ถามนี่คือยอมตกลงข้อแลกเปลี่ยนแล้วนะครับ”ปิณชาน์บอกผมด้วยรอยยิ้ม


“เฮ้ย!...เดี๋ยว...”



“อยากอยู่ข้างพี่...นี่คือคำตอบของคำถามที่พี่ถาม...ส่วนข้อแลกเปลี่ยนคือเย็นนี้ไปกินข้าวกับผมที่ร้านBonHer(ชื่อมั่ว)ตอน6โมงตามนี้นะครับ...ส่วนนี่เอกสารที่พี่ต้องการ...แล้วเจอกันนะครับพี่คุณ”ปอณชาน์บอกผมอย่างรวดเร็วก่อนจะวางเอกสารไว้ที่โต๊ะผมแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว


“ห๊ะ?...เดี๋ยว...เฮ้ย!....ใครตกลงว่าจะไปกันล่ะ?!!”ผมตะโกนตามหลังไปแต่ก็มีแค่ความเงียบเท่านั้นที่ตอบกลับมา


“โธ่เว้ย!!...”ผมสถบออกมาเบาๆ


แบบนี้ก็เหมือนผมตกหลุมกับดักที่เด็กนั่นวางไว้เต็มๆเลยน่ะสิ


เดี๋ยวเมื่อกี๊ที่ปิณชาน์บอก


‘อยากอยู่ข้างพี่...’


“ข้างผมเหรอ?...ตัวเราไปทำอะไรไว้ละเนี่ย?”ผมยกมือขึ้นก่ายหน้าผากอย่างไม่เข้าใจก่อนจะนอนคว่ำหน้าลงกับโต๊ะเพื่อพักสมองสักหน่อย


รู้สึกว่าวันนี้ใช้สมองไปเยอะมากทั้งๆที่งานก็ยังไม่เสร็จเลยสักอย่างเดียว


สิ่งที่รู้เพิ่มของก็มีเพียง...


พวกเราเคยเจอกันมาก่อน


กับ…


‘ผมอยากอยู่ข้างๆพี่’


ความรู้สึกที่แน่วแน่ที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน


ผมอยากรู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?


เด็กธรรมมดาๆคนนึงที่ผมไม่เคยพบเจอ...ทำไมถึงได้พูดว่าเคยเจอกันและบอกว่าอยากอยู่ข้างผมด้วยแววตาที่สั่นระริกแบบนั้น...เหมือนกับปิณชาน์ต้องมีความหลังอะไรสักอย่าง...และความหลังนั่นมันต้องเกี่ยวกับผมแน่นอน


เพียงแต่ผมคิดไม่ออกว่าคืออะไร?


แต่ผมมั่นใจว่าไม่เคยเจอกับปิณชาน์มาก่อนจริงๆ


พึ่งเจอกันได้แค่2วันทำไมในหัวผมมันถึงมีแต่เรื่องของเด็กบ้านั่นกันนะ...


ทั้งๆที่ปล่อยผ่านเลยก็ได้แต่ผมกลับเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น


อะไรที่ทำให้ผมอยากรู้ความจริงมาขนาดนี้นะ?


อาจเป็นเพราะคำตอบของเมื่อวาน...


‘ทำไมถึงได้ดูมีความสุขแบบนั้นล่ะ?’


‘เพราะได้อยู่ข้างๆพี่ไง’


หรืออาจเพราะคาตอบของเขาในวันนี้...


‘...อะไรที่ทำให้มีความสุขขนาดนั้น?....คำตอบของผมคือพี่คุณไง’


คำตอบของเขาผมไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าผมรู้สึกดีใจมากขนาดไหนเมื่อมีคนที่มีความสุขเมื่อยู่ข้างๆตัวเองแบบนี้...เพราะผมไม่เคยเจอคนแบบนี้...


นักศึกษาที่พึ่งเจอกันไม่ถึง2วัน...


แต่กลับทำให้ในหัวผมเต็มไปด้วยเรื่องของเขาได้


...............................................................................

สวัสดีคะ

มาอัพตอนต่อมาแล้วคะ...รู้สึกว่าช่วงนี้ทุ่มให้กับอีกเรื่องมากเลยไม่ได้มาอัพเรื่องนี้เลย(เกือบจะอาทิตย์แล้วด้วย)

พอแต่งควบสองเรื่องแล้วรู้สึกแปลกคะกลัวว่าจะมีการพิมพ์ชื่อผิดมาก

ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และกำลังที่มีให้นะคะ

เรื่องนี้อ่านสบายๆไม่ต้องเครียด(ความจริงเรื่องที่เราแต่งก็เน้นอ่านสบายเป็นหลัก)...เป็นเรื่องที่เหมือนเราแต่งคลายเครียดแต่ด้วยนิสัยของพี่คุณทำให้เรารู้สึกเครียดมากกว่าเดิมอีก55...

พี่คุณให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชายที่อยู่ในวัยทองอะไรนิดหน่อยก็ขึ้นเสียงอะไรนิดหน่อยตะโกนใส่(รู้สึกตลกดีคะ555+)

ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้านะคะ :mew1:

nicedog


♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2015 12:42:54 โดย nicedog »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
พี่คุณเหมือนผู้ชายวัยทองจริงๆด้วยค่ะ
อย่าตะโกน อย่าโมโหซี~~~~
เดี๋ยวโดนเด็กหลอกล่อเพิ่มขึ้นอีกหรอก
รอตอนต่อไปเนาะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อ่า~ พี่คุณใจร่มๆ เข้าไว้ค่าา ฟู่วๆ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไปแล้วจะยุ่งเอานา~ >.< หรือไม่ก็..ให้คิดเสียว่าเห็นแก่หัวใจดวงน้อยๆ ของน้องบัตก็ได้น้าา :-[

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
พี่คุณคิดเยอะไปแล้ววว ปล่อยให้เด็กจีบไปนั่นล่ะค่ะดีแล้ว อย่าไปเร่งรัดเลย ><  :z10:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
พี่คุณอย่าไปคิ๊ดดดดด มาก
ปล่อยเดกจีบปาย ชิวๆ 55555555

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
คนแก่เครียดเลย อิอิ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สงสารพี่คุณ งานก็เครียดละยังเจอเด็กตามจีบอีก 555 แต่กินเด็กแล้วเป็นอมตะน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ poppy koko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
                                           :impress3: รักคนแต่งจังค่ะ  :impress3:
                   ชอบเรื่องนี้มากนะเพราะเรารักหมาตัวใหญ่เหมือนกันอะค่ะ  :-[ :-[
                                         เค้าบวกเป็ดให้ตลอดเรยนะค่ะชอบ :mew1:

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
เพิ่งมาอ่าน รักแล้วนะ ตกหลุมรัก"น้อง"แบบพี่คุณเลย

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ รอมาต่อนะคะ

น่ารักมากๆๆๆเลย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai5:  เข้ามารอพี่คุณค่ะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คิดถึงพี่คุณกับน้องบัตแล้วสิค้าา.. :o11:

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
◣♥◥ อาณาเขตรักที่6►►คำขอโทษและสรรพนามที่เปลี่ยนไป






“รายการต่อไปเป็นข่าวภาคค่ำ....”


ปิ๊บ!


“โธ่เว้ย!!...”ปภิณวิทย์คว้ารีโมทก่อนจะปิดโทรทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรำคาญ...ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็ดูจะขัดตาไปหมดทุกอย่าง


“...2ทุ่ม...บ้าเอ้ย!!”ชายหนุ่มพึมพำเมื่อมองเวลาบนนาฬิกาเรือยนใหญ่ที่ตอดอยู่บนผนังห้องอย่างหัวเสีย


หลังจากเลิกงานผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านและขังตัวเองอยู่ในห้องจนเวลาล่วงเลยมาจนถึง2ทุ่ม...ผมตัดสินใจจะไม่ไปตามที่ปิณชาน์นัด


ทำไมผมต้องไปด้วย?!


ผมบอกตอนไหนว่าตกลง?!


อีกฝ่ายเอาแต่พูดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียวทั้งนั้น!!


ผมก็เลยตัดสินใจอยู่บ้านมันเนี่ยแหละ!!


แต่ทำไมในใจผมมันถึงว้าววุ่นได้มาขนาดนี้นะ!...ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็รู้สึกหงุดหงิด!...ความรู้สึกบ้านี่มันคืออะไรกัน?!!


“...ป่านนี้คงจะกลับไปแล้ว”ผมพึมพำระหว่างที่เดินวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของตัวเอง


ใช่!...เลยเวลานัดมาตั้ง2ชั่วโมงใครรอก็โง่แล้ว!...แถมบ้าให้ด้วยเอ้า!!


เพราะงั้นเลิกคิดมากเรื่องบ้าบอได้แล้ว!!


แต่ถ้ายังรออยู่ล่ะ?


ความคิดนึงที่แล่นเข้ามาทำให้ความหงุดหงิดที่มีอยู่แล้วเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า...


“โธ่เว้ย!!...เอาไงดี!!”ผมพูดออกมาเป็นหยาบอย่างหัวเสีย


ทำไมต้องมานั่งคิดมากเรื่องไร้สาระแบบนี้ด้วย!


“ชิ!...แค่ไปก็จบใช่ไหม?...ไปดูว่าเด็กปิณชาน์นั่นมันกลับไปแล้วก็พอใช่ไหม?!!”ผมถามกับตัวเองก่อนจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งลงมาที่รถก่อนจะขับออกจากคอนโดไป...ร้านBonHerอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่


ใช้เวลาไม่ถึง10นาทีก็ถึงที่หมายแล้ว


“ที่จอดหายากเป็นบ้า!”ผมพึมพำอย่างอารมณ์เสียเมื่อหาที่จอดรถไม่ได้...ดูท่าร้านนี้จะเป็นที่นิยมมากเหมือนกันคนถึงได้เยอะแบบนี้


ผมวนหาที่จอดรถสักพักก่อนจะวิ่งเข้าไปในร้าน...


“ยินดีตอนรับค่ะ...จองไว้ในชื่ออะไรค่ะ?”พนักงานต้อนรับที่อยู่ด้านหน้าถามขึ้นอย่างมีมารยาท


“แฮ่ก...ผมไม่ได้จองไว้ครับ...แค่มาหาคนรู้จักที่นัดไว้เท่านั้น”ผมหอบหายใจก่อนจะตอบพนักงานสาวตรงหน้าไปตามตรง


“แล้วชื่อของคนที่นัดละค่ะ...ร้านนี้ถ้าไม่จองก่อนก็เข้าไม่ได้หรอกคะ”พนักงานสาวบอกผมอีกครั้งนึงด้วยรอยยิ้ม


ต้องจองด้วย?


บ้าเอ้ย!...คิดว่าตัวเองรวยนักรึไง?


แล้วไอ้ความสำนึกผิดที่ปรากฏขึ้นมานี่มันคืออะไร?!!


“...นายปิณชาน์...มีไหมครับ?”ผมเอ่ยชื่อออกไปให้พนักงานก่อนที่เธอจะหยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมาแล้วเปิดออกเพื่อไล่ดูรายชื่อที่อยู่ภายใน


“เจอแล้วค่ะ...คุณปิณชาน์จองห้องVIP3ไว้ค่ะ...คุณปภิณวิทย์ใช่ไหมค่ะ?..เดี๋ยวดิฉันจะนำทางไปค่ะ”พนักงานบอกผมก่อนจะเดนนำเข้าไปด้านใน


“เดี๋ยวครับ...เขายังรออยู่เหรอ?”ผมอดไม่ได้ที่จะถามออกไป


“ใช่ค่ะ...บอกไว้ว่าคุณจะมาช้าสักหน่อยอย่าพึ่งนำอาหารมาเสริฟน่ะค่ะ”สิ้นคำอธิบายผมก็เม้มริมฝีปากแน่นอย่างข่มอารมณ์ที่เกิดขึ้น


“...ช่วยพาผมไปที่ห้องนั้นด้วยครับ”ผมบอกพนักงานเบาๆก่อนจะเดินตามไปจนถึงห้องส่วนตัวที่ดูแล้วคงจะกันเสียงแถมเท่าที่เดินผ่านอาหารที่นี่...คงไม่ใช่ถูกๆ


“เดี๋ยวผมเข้าไปเองครับ...ขอบคุณมาก”ผมบอกพนักงานที่กำลังจะเคาะประตู


“คะ....มีอะไรเรียกได้นะคะ”พนักงานสาวยิ้มหวานก่อนจะเดินกลับไป


“...ปิณชาน์”ผมพึมพำชื่อของคนที่อยู่ข้างในเบาๆ


ถ้าวันนี้ผมไม่ได้คำตอบ!


อย่าเรียกผมว่าเจ้าคุณ!!


ปัง!!


“ปิณชาน์!!!”ผมผลักประตูเข้าไปอย่างแรงก่อนจะเรียกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะตรงกลางห้อง
โต๊ะหรูที่ตอนนี้ว่างเปล่ามีแค่น้ำแก้วนึงวางอยู่เท่านั้น...มันเป็นภาพที่ทำให้หัวใจผมเจ็บแปร๊บเลยจริงๆ


“...พี่คุณ”ปิณชาน์หันมามองทางผมก่อนจะเบิกตากว้างแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มในเวลาไม่นาน
ยิ้มเหรอ?


ถึงขนาดนี้แล้วยังยิ้มให้ผมแบบนั้นอีกเหรอ?


หมับ!



“ต้องการอะไร?!...นายต้องการอะไรกันแน่?!!...ทำแบบนี้ทำไม!?...ทำไมถึงยังรอทั้งที่ผ่านไปตั้ง2ชั่วโมงไม่รู้รึไงว่าไม่มาแล้วน่ะ!...คิดไม่เป็นเลยเหรอ!?...แล้วนี่อะไรข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กินใช่ไหม!?..ทำไมทำตัวแบบนี้ห๊ะ!?...ถ้าป่วยไปพ่อแม่จะเป็นห่วงขนาดไหนรู้บ้างไหม!?...จริงสิ!!...แล้วคิดบ้าอะไรอยู่ถึงกล้าออกเงินจองร้านอาหารแบบนี้คิดว่าตัวเองรวยนักรึไง!!?...จะดูถูกกันใช่ไหม!!?...เข้าใจมารยาทบ้างไหม!!?คนที่อายุมากกว่าเขาต้องเป็นคนเลี้ยงไม่ใช่เด็กแบบคุณ!!!”ผมคว้าคอเสื้อของปิณชาน์แน่นก่อนจะระบายทุกอย่างที่คิดไว้ออกมาจนหมด



ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพูดอะไรออกไปบ้าง...รู้แค่ว่าผมโกรธคนตรงหน้าอย่างมากเหลือเกิน
ทั้งโกรธ โมโห ไม่เข้าใจและ...


‘ดีใจ’


ที่ปิณชาน์ยังรออยู่


“...พี่คุณ...ใจเย็นๆครับ”ปิณชาน์ชะงักเล็กน้อยเหมือนตกใจในสิ่งที่ผมพูดก่อนจะปรับทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติแล้วใช้มือข้างนึงแตะแก้มผมเบาๆ


เฮือก!!


“...ทะ...ทำอะไร!!?”ผมรีบสะบัดหน้าหนีทันทีแล้วไอ้หัวใจบ้านี่ถึงได้เต้นแรงขนาดนี้เล่า


“ให้พี่ใจเย็นไงครับ...หน้าบึ้งแบบนั้นเดี๋ยวหมดหล่อนะ”ปิณชาน์พูดติดตลก


“ทำไมถึงไม่โกรธล่ะ?”ผมอดไม่ได้ที่จะถามออกไป


ผมสัมผัสไม่ได้เลยสักนิดว่าปิณชาน์โกรธ โมโหหรือแม้แต่หงุดหงิด


ความจริงคนที่ถูกเบี้ยวนัดตั้ง2ชั่วโมงแล้วยังมาทำหน้ายิ้มตอนเจอกันเนี่ย...มันมีที่ไหนเล่า!!


บ้าไปแล้ว!


“ครับ?”ยังมีหน้ามาเอียงคอถามแบบงงๆอีกแนะ


“ทำไมถึงไม่โมโห!!?...ทำไมไม่หงุดหงิด!!?...ทำไมไม่ต่อยผมสักหมัดล่ะ!!?”ผมถามรัวออกไปตามสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดอยู่



“เพราะสุดท้าย...พี่คุณก็มานี่ครับ...ผมดีใจที่พี่มาและยังเป็นห่วงผมมากขนาดนี้...ดีใจ...จริงๆครับ”ปิณชาน์บอกผมด้วยรอยยิ้มกว้าง


รอยยิ้มที่บงบอกถึงความดีใจอย่างปิดไม่มิด


ผมมองภาพของปิณชาน์ที่ยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นในหัวใจ


เขายิ้มกว้างทั้งๆที่ผมมาสายไปตั้ง2ชั่วโมง


ความสำนึกผิดเข้ามาโจมตีผมอย่างรุนแรงจนรู้สึกอึดอัด


ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างกับความรู้สึกนี้ก่อนที่มันจะระเบิดออกมาจนผมได้ความดันขึ้นอีก


แต่ผมก็ไม่อยากจะพูดคำนั้นเลย...มันเหมือนกับทิฐิของตัวเองมันสูงจนไม่ยอมทำแต่ภายในจิตใจกลับเรียกร้องให้ทำมันซะ...


พูดมันออกไปเถอะ


คำพูดที่แสดงถึงความรู้สึกในตอนนี้น่ะ


“...พี่ขอโทษนะ”ผมเอ่ยเบาๆอย่างสำนึกผิด


ถ้าวันนี้ผมไม่พูดคำนั้นออกไปผมคงนอนไม่หลับแน่ๆ


ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายผิด


ทั้งๆที่เป็นฝ่ายผิดแต่กลับไม่โดนว่าเลยสักนิด...มันทำให้รู้สึกแย่มากกว่าเวลาทำผิดแต่โดยด่าว่าซะอีก


“...พี่คุณ?”ปิณชาน์สบตากับผมอย่างงงๆ


“...อะไร?”ผมถามเสียงแผ่ว


“ดีใจจัง...พี่คุณแทนตัวเองว่าพี่...ครั้งแรกเลย”ปิณชาน์บอกผมพร้อมรอยยิ้มกว้าง


ความรู้สึกผิดที่สุมอยู่ในอกค่อยๆหายไปอย่างช้าๆจนผมรู้สึกโล่งๆ...


ค่อยยังชั่วหน่อย


ท่าทางแบบนั้นแปลว่าเขายกโทษให้ผม?


หรือบางทีปิณชาน์อาจไม่ได้โกรธผมอยู่ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้


“...แล้วไม่ดี?”ผมลองถามกลับ


“ดีสิครับ...ดีมากๆด้วย”ปิณชาน์ส่ายหน้าผับๆแล้วพูดด้วยสีหน้าที่มีความสุข


ฝุบ!


“...กินข้าวกันเถอะ”ผมบอกเบาๆพร้อมกับใช้มือขยี้หัวของปิณชาน์แรงๆทีนึงแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้


“พะ...พี่คุณ...อ่า~...ครับ...เดี๋ยวผมบอกให้เสิร์ฟอาหารเลยนะ!”ปิณชาน์ตอนนี้เหมือนหมาตัวใหญ่ที่หูตั้งหางกระดิกแล้ววิ่งไปที่มุมห้องก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแล้วบอกปลายสายว่าให้เอาอาหารมาได้แล้ว


“...ยิ้มมากไปแล้วนะ”ผมเอ่ยเบาๆ...ตั้งแต่ที่ปิณชาน์กลับมานั่งที่เก้าอี้จนถึงอาหารมาเสิร์ฟคนตรงหน้าก็ยิ้มไม่หุบจนรู้สึกหมันไส้นิดๆ


“ก็ผมมีความสุขนี่...จริงสิ...ผมจะตอบคำถามที่พี่ถามมาเมื่อกี๊ทั้งหมดแลกกับคำขอ1อย่างได้ไหมครับ?”ปิณชาน์ถามขึ้นด้วยแววตาที่เป็นประกายด้วยความหวัง


คำถามที่ผมถามไปงั้นเหรอ?


รู้สึกว่าจะเยอะพอดูนะ


แลกกับ1คำขอ


อืม...แบบนี้ค่อยคุ้มหน่อย


“เอาสิ”ผมตกลงหลังจากคิดทบทวนแล้ว


“ผมอยากให้พี่เรียกชื่อเล่นผม”ปิณชาน์บอกต่อทันทีที่ผมตกลง


“ชื่อเล่น?”


“ครับ...เรียกผมว่าบัตก็ได้...ชื่อเล่นจริงๆผมคือบัตเตอร์”ปิณชาน์บอกผมด้วยรอยยิ้ม


“บัตเตอร์...?”


“ครับ...ได้ไหมครับ?”ปิณชาน์ถามขึ้นอีกครั้ง


“...พี่ไม่ค่อยเรียกใครด้วยชื่อเล่น”ผมบอกออกไปตามตรง


ความจริงแค่เรียกตัวเองว่าพี่นี่ก็ถือว่ามากสำหรับผมแล้วนะ


“ผมรู้...ผมอยากเป็นคนพิเศษ...ให้ผมเป็นคนพิเศษของพี่ได้ไหมครับ?”ปิณชาน์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง...


ทำไมผมรู้สึกเหมือนตัวเองโดนจีบ?


หรือผมจะคิดมากไป?


แล้วอยู่ๆมาของเป็นคนพิเศษเนี่ยนะ


มันจะไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ?


“...ขอดูคำตอบที่ถามไปก่อน”ผมมองคนตรงหน้านิ่งแล้วบอกเบาๆก่อนจะก้มกินสปาเก็ตตี้คาโบนาล่าในชามของตัวเองต่อ


“ได้เลยครับ...รู้สึกว่าคำถามแรก ‘ต้องการอะไรกันแน่?’ผมแค่อยากอยู่ข้างๆพี่เท่านั้น... คำถามต่อไปก็‘ทำแบบนี้ทำไม?...ทำไมถึงยังรอทั้งที่ผ่านไปตั้ง2ชั่วโมงไม่รู้รึไงว่าไม่มาแล้วน่ะ...คิดไม่เป็นเลยเหรอ?’ ผมน่ะรู้ว่าพี่เป็นคนยังไงถึงพี่จะไม่ได้ตอบตกลงแต่ผมรู้ว่าพี่ต้องมาแน่ๆ...พี่ไม่มีทางปล่อยให้ผมนั่งรอทั้งคืนหรอก”คนตรงหน้าตอบผมด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบแก้วน้ำส้มปั่นขึ้นมาดื่มด้วยท่าทางสบายๆ


“คิดจะรอไปถึงเมื่อไหร่?”ผมถามออกไปด้วยความอยากรู้


ถ้ากว่าผมจะมาปาไป4ทุ่มหรือเที่ยงคืนเขาจะยังรออยู่ไหม?


“ถ้าผมตอบคำถามนี้พี่ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนนะครับ”ปิณชาน์บอกผมด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์


“เด็กเจ้าเล่ห์!”ผมพูดขึ้นทันที


“ฮะฮะฮะ...ผมเปล่านะ...แต่แค่นี้ผมก็ขาดทุนจะแย่แล้วให้ผมได้กำไรหน่อยไม่ได้เหรอครับ?”ปิณชาน์ถามต่ออีกด้วยแววตาที่เป็นประกายอย่างนึกสนุก


“คนที่ขาดทุนน่ะพี่ต่างหาก”ผมพึมพำเบาๆก่อนจะคว้าแก้วน้ำส้มปั่นของตัวเองขึ้นมาจิบ


“ไม่หรอกครับ...พี่น่ะได้กำไรเต็มๆเลย”ปิณชาน์ว่าต่อ


“กำไร?...ยังไง?”ผมถามขึ้นอย่างสงสัย


เพราะจากที่ดู...ผมยังไม่เห็นกำไรที่ได้เลยสักนิดนะ


“ก็พี่จะมีคนให้ระบายไงครับ...พี่ปล่อยมันกับผมได้นะ...ผมรู้ว่าพี่ค่อนข้างเครียดจากที่ทำงานถ้าไม่ปล่อยซะบ้างพี่จะเครียดนะครับเดี๋ยวก็ความดันขึ้นหรอก”สิ้นคำพูดของปิณชาน์ผมก็เงยหน้าขึ้นไปจ้องคนตรงหน้าเขม็งทันที


ทำไมถึงรู้ว่าผมเครียดมาก


ทำไมถึงรู้ว่าผมไม่มีที่ระบาย


ทำไมถึงรู้ว่าความดันผมขึ้นบ่อยๆ


“พี่จ้องแบบนี้ผมดีใจนะ...”ปิณชาน์บอกผมด้วยรอยยิ้ม


“...”ผมรีบผละสายตาออกมาทันที...รู้สึกว่าขนทั่วตัวกำลังลุกขึ้นอย่างพร้อมเพียงจนน่าตกใจ...หรือว่าผม...กำลังถูกหยอด?


เกิดมา30ปีก็พึ่งเคยเจอนี่แหละ


“คำตอบละครับ...ตกลงไหม?”ปิณชาน์ถามอีกครั้ง


เอาไงดีเนี่ย?


อยากรู้แต่ไม่อยากแลกเปลี่ยนเลยแฮะ


ฮึ้ย...


“ก็ได้...จะแลกกับอะไรล่ะ?”ผมถามปิณชาน์ด้วยน้ำเสียงเซ็งๆนี่ผมเอาชนะความอยากรู้ของตัวเองไม่ได้จริงๆ


“วันพรุ่งนี้กินข้าวเย็นด้วยกันนะครับ?”ปิณชาน์พูดขึ้นทันทีเหมือนกับว่าเขาได้คิดเอาไว้แล้วงั้นแหละ


นี่ผม...ตกหลุมที่ถูกวางไว้?


“นี่...คงไม่ได้วางแผนไว้ใช่ไหม?”ผมพูดขึ้น


“ถ้าผมตอบก็ต้องมีข้อ...”


“งั้นก็หุบปากแล้วกินต่อซะ!!”ผมตะโกนด้วยอารมณ์ที่เหลืออด


เอาเปรียบกันเกินไปแล้ว!


เด็กบ้า!!


“ฮะฮะฮะ...ผมล้อเล่นครับ...ผมไม่ได้วางแผนไว้หรอกนะ”ปิณชาน์ขำเบาๆก่อนจะตอบผม


“...ขอให้จริงเถอะ!”


“คำถามต่อไป ‘แล้วนี่อะไรข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กินใช่ไหม?..ทำไมทำตัวแบบนี้ห๊ะ?...ถ้าป่วยไปพ่อแม่จะเป็นห่วงขนาดไหนรู้บ้างไหม?’ผมขอรวบเลยละกัน...ผมยังไม่ได้กินข้าวเย็นแต่ตอนนี้กินแล้วผมแค่อยากรอกินพร้อมพี่นี่...แล้วก็...พ่อกับแม่คงไม่ห่วงหรอก...เพราะพวกท่านไม่อยู่แล้ว”ปิณชาน์บอกผมด้วยน้ำเสียงเศร้าก่อนจะลงมือกินต่อ


ไม่อยู่แล้ว?


ให้ตายสิ...นี่ผมพูดทำร้ายจิตใจเขาไปงั้นเหรอ?


แถมน่าเศร้าๆแบบนั้น


โอ้ย!...ทำหน้าหง๋อยๆแบบนั้นมันขี้โกงนิ!


แบบนี้ก็เหมือนผมเป็นฝ่ายผิดน่ะสิ!!


เออ!...ก็ผิดจริงๆนิ


“...ขอโทษ”ผมบอกปิณชาน์เบาๆ


“...ไม่เป็นไรครับ...ผมก็เริ่มจะทำใจได้แล้วแค่รู้สึกเหงาเท่านั้น”ปิณชาน์บอกผมด้วยเสียงเศร้าๆพร้อมกับยิ้มออกมา...รอยยิ้มนั้นมันไม่สดใสเหมือนเคย


“ถ้ามีอะไรจะระบาย...พี่ช่วยได้นะ”ผมบอกปิณชาน์ตรงๆ


อย่างน้อยถ้าทำให้รอยยิ้มที่ร่าเริงนั่นกลับมาได้...ผมว่ามันคุ้ม


“...พ่อกับแม่ชอบเรียกผมว่าบัตเตอร์...แต่พอพวกท่านไม่อยู่ก็ไม่มีใครเรียกอีกเพื่อนๆก็เรียกแต่บัตเพราะมันสั้นกว่า...ผมเองก็ไม่อยากเห็นแก่ตัวให้เพื่อนมาเรียกชื่อเต็มเพราะคิดถึงพวกท่าน”คำพูดที่เหมือนระบายของปิณชาน์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ผมเองก็ได้แต่นั่งฟังนิ่งๆแล้วทำความเข้าใจ...ที่อยากให้เรียกชื่อเล่นเพราะแบบนี้สินะ...อาจเป็นเพราะผมมีส่วนที่คล้ายกับพ่อเขาก็เลยอยากสนิทและชวนมากินข้าว


ไม่ใช่เด็กไม่ดี


แค่เหงาเท่านั้นสินะ


“...การที่ให้เรียกชื่อเล่นแบบเต็มๆมันไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวหรอกนะ...บัตเตอร์”ผมเอ่ยออกไปเบาๆ


“....พี่คุณ...อ่า~...ขอโทษครับ...ทำไมถึงขี้แยแบบนี้นะ”ปิณชาน์...ไม่สิ...ต่อจากนี้ผมจะเรียกเขาว่าบัตเตอร์ถ้าไม่มีใครเรียกผมจะเรียกเอง


บัตเตอร์ปาดน้ำตาตัวเองลวกๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้ผมพร้อมกับน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุด


“เฮ่อ...”ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วลุกไปหาบัตเตอร์


ฝุบ!


“...จะร้องก็ได้...ถือว่าพี่เป็นพี่ชายของบัตเตอร์ละกัน”ผมลูบหัวบัตเตอร์เบาๆก่อนจะบอกออกไปเบาๆแต่ผมรู้ว่าคนตรงหน้าต้องได้ยินแน่นอน


“...พี่คุณ...ขอกอดหน่อย...ได้ไหมครับ?”บัตเตอร์เงยหน้าขึ้นมาถามผมด้วยน้ำเสียงหง๋อยๆ


กอดเลยเรอะ!!


มันจะก้าวกระโดดไปไหม?


แต่พอมองสายตาหง๋อยๆนั่นแล้วผมก็ต้องถอนหายใจอีกรอบนึง


“...เอาสิ”ผมอนุญาตเบาๆ


หมับ!


“อ๊ะ!...บัตเตอร์...กอดแน่นไปแล้ว”ผมบอกทันทีที่บัตเตอร์ลุกขึ้นแล้วคว้าตัวผมเข้าไปกอดก่อนจะซุกตัวลงกับไหล่ผมแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น


ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ


ทั้งๆที่สูงพอๆกันแต่ทำไมผมถึงถูกดึงเข้าไปได้ง่ายๆ


แล้วก็จะเต้นแรงไปไหนไอ้หน้าอกด้านซ้ายเนี่ย!


รู้อยู่แล้วน่าว่าเขินอยู่อย่ามาตอกย้ำได้ไหมเล่า!!


แค่นี้ก็อายจะตายอยู่แล้ว!


“...พี่คุณ...ผมไม่เหลือใคร...ผมเหลือแค่พี่”บัตเตอร์พึมพำเบาๆขณะที่ซุกตัวอยู่ที่ไหล่ผม...แม้เสียงของบัตเตอร์จะดูอู้อี้แต่ผมก็ฟังมันได้อย่างชัดเจน


เหลือแค่ผม?


หมายความว่ายังไง?


“บัตเตอร์...หมายความว่ายังไง?”ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย


“...ถ้าผมบอก...พี่จะทิ้งผมไหม?...จะเปลี่ยนไปรึเปล่า?...”บัตเตอร์ถามเสียงอู้อี้พร้อมกับกอดผมแน่นขึ้นจนผมเริ่มรู้สึกปวดๆแล้วแต่ผมรู้สึกว่าบัตเตอร์กำลังสั่นอยู่


แรงเยอะชะมัด...ผมสู้ไม่ได้เลย


 “เฮ่อ...พี่ก็เป็นของพี่แบบนี้จะเปลี่ยนได้ยังไงล่ะ?...ถ้าทำตัวดี...พี่ก็ไม่ทิ้งหรอกนะ”ผมบอกเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสกับผมสีดำสนิทที่ซอยสั้นของบัตเตอร์อย่างเบามือ


ผมไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง?...แต่สิ่งที่ผมรู้คือถ้าบัตเตอร์ยังเป็นแบบนี้ผมจะทิ้งเขาไว้ได้ยังไงล่ะ?


“...วันพรุ่งนี้ไปกินข้าวเย็นที่บ้านผมนะครับ...แล้วผมจะบอกความจริงทุกอย่างให้พี่รู้”


......................................................................

สวัสดีคะ

มาอัพตอนต่อไปแล้วคะ...เรื่องนี้มาเรทกว่าJurassic Heartเยอะเลยต้องขอโทษด้วยคะและขอบคุณที่ยังรอติดตามต่อนะคะ

เวลาเครียดๆแล้วแต่เรื่องนี้รู้สึกเหมือนได้ระบายเลยคะรู้สึกดีสุดๆ(55+)

หลังจากนี้จะมาอัพอาทิตย์ละตอนนะตอนนะคะอย่างที่เคยบอกไปว่าแต่งทีเดียว2เรื่องต้องใช้ท้งเวลาในการเขียนและต้องบิ้วอารมณ์ในการแต่งด้วยเพราะทั้งสองเรื่องมีแนวเรื่องที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

ขอขอบคุณทุกๆคนที่คอยติดตามเสมอนะคะ

ปล.แก้ชื่อตัวละครที่ผิดแล้วคะ(แต่งไปแต่งมาเริ่มงงล่ะคะ)

ขอบคุณ คุณMouse2UและคุณBlueCherriesมากนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าคะ :bye2:

nicedog


♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2015 12:43:26 โดย nicedog »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่คุณถูกน้องบัตกอดเข้าแล้วสิ~ ก้าวหน้ามากเลยนะคะเนี่ย กำไรเห็นๆ เลยน้าาน้องบัต ^^

ปล. แอบมีน้องเทมมาแจมด้วยค่าา ที่วรรคนี้~

อ้างถึง
“ได้เลยครับ...รู้สึกว่าคำถามแรก ‘ต้องการอะไรกันแน่?’ผมแค่อยากอยู่ข้างๆพี่เท่านั้น... คำถามต่อไปก็‘ทำแบบนี้ทำไม?...ทำไมถึงยังรอทั้งที่ผ่านไปตั้ง2ชั่วโมงไม่รู้รึไงว่าไม่มาแล้วน่ะ...คิดไม่เป็นเลยเหรอ?’ ผมน่ะรู้ว่าพี่เป็นคนยังไงถึงพี่จะไม่ได้ตอบตกลงแต่ผมรู้ว่าพี่ต้องมาแน่ๆ...พี่ไม่มีทางปล่อยให้ผมนั่งรอทั้งคืนหรอก”เทมตอบผมด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบแก้วน้ำส้มปั่นขึ้นมาดื่มด้วยท่าทางสบายๆ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เทมตอบผมด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบแก้วน้ำส้มปั่นขึ้นมาดื่มด้วยท่าทางสบายๆ


เทม > บัต  จ้าาาาา


********

อยากอ่านตอนพิเศษน้องเทมอ่ะค่าาาา

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
งื่ออออ พี่คุณจะได้เข้าไปอยู่ในรั้วบ้านแล้ววววววว

หวังว่าพี่คุณจะไม่โกธรน้าาาาา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารักมากๆกันทั้งคู่เลยค่ะ
เชื่อว่าพี่คุณจะยิ่งรักหมาและเจ้าของหมามากขึ้นค่ะเมื่อไปถึงบ้านของบัตเตอร์
ก็มีคิวปิดทั้งสี่อยู่นี่นา

เอาใจช่วยคนเขียนค่ะ  :pig4: 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด