Loving Course ติวรักสุดใจ นายเกเร By Bboyseries
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Loving Course ติวรักสุดใจ นายเกเร By Bboyseries  (อ่าน 572971 ครั้ง)

ออฟไลน์ สาวเครือฟ้า

  • "IF I WERE A BOY"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 607
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
    • http://images.forstudent.com/
มาเป็นกำลังใจครับ

panang

  • บุคคลทั่วไป
ซวยตลอดเช้าจริงๆ นายไต๋  :laugh: สม สม

แปลกใจ เป็นห่วงแล้วไม ไต๋ไม่โทรถามเนี่ยว่า ถึงบ้านรึยัง

แถมเช้ามา ก็ไม่คิดเหรอว่า เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคนที่เรารอโทรศัพท์ถึงไม่โทรมา

อย่างงี้ห่วงจริงรึเปล่าเนี่ย ชริ

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ไอ้ตื่นสาย ไม่มีรถไปโรงเรียนนี่แค่เบาะๆ

ที่ซวยของจริงคือเจอไอ่นายภูมินั่นแหละ

thomaskung

  • บุคคลทั่วไป
มาลุ้นตอนที่ทุกอยข่าคลี่คลายแล้ว *-*

 :a2:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
กรรมจะตอบสนองไม่รู้ตัว

ชิส์ ไอ้เด็กนิสัยไม่ดี  o12

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อออออออออออออออ เสร็จกัน

จะรอดมั๊ยเนี่ย ไต๋เอ๋ยยยยยยย

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
ขอให้โดน

ของอย่างงี้ต้องโดนเอง ถึงจะรู้

บอย - อาร์ท มาต่อเร็วๆนะครับ

butakun

  • บุคคลทั่วไป
นายไต๋ทำเขาไว้เยอะ ขอให้โดนจังๆกันตัวสักทีเถอะ สาธุ!

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
เจอฤทธิ์พี่ชายแน่ๆ o13

OT

  • บุคคลทั่วไป
จะสงสารหรือสมน้ำหน้าไต๋ดี ... เหอ ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
คอมพิวเตอร์ถูกปิดเครื่องลงไปในตอนสาย กัณตินันท์เก็บสมุดจดเล่มประจำลงในลิ้นชัก หลังจดข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมจากการค้นหาทางอินเตอร์เน็ตได้ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่ถูกปิดไว้ทั้งคืนมาถือไว้ในมือซักพักแล้วเปิดเครื่อง เวลาผ่านไปไม่นานเมื่อระบบทำงาน เจ้าของเครื่องรู้สึกเหงาหน่อยๆที่ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆเกิดขึ้นบนหน้าจอเครื่อง ไม่มีข้อมูลการฝากเบอร์ของคนที่อาจโทรเข้ามา ไม่มีข้อความใดๆจากใครทั้งนั้น ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงที่เดิมแล้วนิ่งคิด การเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมากเกินไปมันทำให้เขากลายเป็นคนไร้เพื่อน ไร้คนคิดถึงไปเลยหรือไงนะ จริงอยู่ที่เขาเกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างจะอบอุ่น คนในบ้านปล่อยวางได้แล้วกับสิ่งที่เขาเป็น เขาจึงไม่ได้มีปัญหากับชีวิตในเรื่องนี้ แต่ก็นั่นแหละนะ ในมุมหนึ่งของการเกิดเป็นมนุษย์ เขาก็อยากจะมีคนสนิท คนรู้ใจเพื่อเอาไว้พูดคุยยามเหงาอยู่บ้างเหมือนกัน นึกถึงตอนนี้แล้วก็เศร้าพิลึกแฮะ ในตอนแรกก็คิดว่าเจอแล้วสำหรับคนๆนั้น แต่ไปๆมาๆ เขาคนนั้นดันมาบอกเลิกเอาจนได้ ซะนี่
.
.
.
.
แดดร้อนเปรี้ยงในตอนเที่ยงวัน เตชสิทธิ์นั่งมองภาพที่ศัลชัยคอยเอาอกเอาใจณิชาขณะเดินเคลียคลอกันมาทางที่ตนนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ สีหน้าและแววตาของคุณหนูนั่นดูจะมีความสุขกับการถูกเอาอกเอาใจก็จริง แต่ความรู้สึกของคนนั่งมองตอนนี้กลับเฉยๆขึ้นมาซะอย่างนั้น

“เสียหมดเลยมึงไอ้ไต๋ ดูไอ้แซนด์มันควงคุณหนูของมึงสิ หน้างี้บานเชียว”เสียงเพื่อนในกลุ่มเอ่ยแซวขึ้น

“ช่างมันเถอะ พวกเขาเหมาะกันดีแล้ว”คนถูกแซวบอกปัด เด็กหนุ่มได้นึกชั่งใจในเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนก่อนหน้าที่จะเจอภาพนี้แล้ว สุดท้ายเขาก็หาข้อสรุปให้ตัวเองได้ว่าจะลองดำเนินชีวิตวัยเรียน ตามตารางที่อาจารย์สอนพิเศษคนก่อนขีดไว้ให้ดู

“อ้าว พูดแบบนี้ แสดงว่ามึงยอมแพ้ไอ้แซนด์เหรอวะไอ้ไต๋”เพื่อนๆโพล่งถามขึ้น เตชสิทธิ์ยักไหล่ส่ายหน้าแล้วบอก

“ก็ณิชาเขาชอบคนเก่งแล้วพวกมึงจะให้กูทำไงล่ะ กูมันก็แค่เด็กเกเรไม่เอาไหนคนหนึ่ง กูก็คงจะอยู่ของกูต่อไปแบบนี้แหละ”

“เฮ้ย ไอ้นี่เพื้ยนไปว่ะพวกเรา”เพื่อนๆที่ได้ยินเอ่ยตบท้าย ก่อนจะพากันหัวเราะ เฮฮา โห่ฮิ้วไปตามเรื่องตามราวของเด็กผู้ชาย

เสียงเอะอะเฮฮานั่นดังไปถึงหูคนสองคนที่กำลังเดินผ่านมาพอดี

“ดูพวกนั้นสิณิชา เอะอะ เสียงดัง ไม่นึกเกรงใจคนอื่นเขาบ้างเลย”ศัลชัยเอ่ยขึ้นก่อน ณิชาที่อยู่ข้างๆจึงหันไปมองทางต้นเสียงด้วยอีกคน จังหวะนั้นเด็กสาวได้ประสานสายตากับหัวโจกของกลุ่มเข้าพอดี ครู่ต่อมาหัวใจคุณหนูคนสวยก็เกิดชาวูบขึ้นมาอย่างประหลาด เมื่อเห็นคนที่ตนประสานสายตาด้วยมีท่าทีเมินเฉย และแปลกไปใส่ตน

“เฮ้ย เดี๋ยวกูขึ้นห้องก่อนนะโว้ย”เตชสิทธิ์เอ่ยบอกเพื่อน เมื่อรู้สึกว่า ณิชาจะจ้องตนนานเกินไปแล้ว เด็กหนุ่มจำใจที่จะเดินหนีสายตาเด็กสาวที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขาหลงใหลได้เพ้อจนเสียการเรียนมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หัวใจเจ้าตัวมาอย่างจริงๆจังๆ ก็ในเมื่อตอนนี้เขาเป็นแค่คนเกเรและไม่เอาไหนในสายตาคุณหนูนั่นไปแล้ว เขาก็ควรจะอยู่ในมุมเกเรของเขาต่อไปจะดีกว่า

“ไต๋..”ณิชาเผลอเอ่ยชื่อคนที่เดินหนีสายตาตนไป เด็กสาวครุ่นคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคนๆหนึ่งที่เคยตามเธอต้อยๆ จะมีท่าทีเมินเฉยใส่ตนได้แบบนี้ จริงอยู่ที่เธอไม่นึกปลื้มและไม่ชอบใจในความไม่เอาไหนของฝ่ายนั้นในเรื่องเรียน แต่ก็นะ ในมุมหนึ่งของเด็กสาววัยนี้ การได้เป็นสาวป๊อบในหมู่หนุ่มๆจนเรียกความอิจฉาเล็กๆจากสาวๆวัยเดียวกันได้ มันก็ดูเริดๆ เชิดๆ ได้ดีไม่น้อยนี่นา ว่าฉันน่ะสวยเลือกได้

“มองตามมันไม่วางตาเลยนะณิชา ไหนบอกไม่ชอบมันแล้วไง”ศัลชัยเอ่ยทักเมื่อเริ่มรู้สึกเคืองใจในท่าทีของเพื่อนหญิงที่มีต่อคู่อริ

“ก็คนเคยรู้จักกัน อยู่ๆเขามาเมินเฉยใส่ณิชาแบบนี้ ณิชาก็ต้องรู้สึกบ้างสิ แซนด์น่ะคิดมาก”ณิชาหันมาตอบ ปากคุณเธอบอกว่าเพื่อนหนุ่มคิดมาก แต่จริงๆแล้วตัวเธอเองน่ะแหละที่เป็นฝ่ายกำลังคิดอะไรต่างๆนาๆอยู่ตอนนี้ ไม่รู้สินะ มันรู้สึกเสียหน้าอยู่ลึกๆ ที่โดนคนที่เคยตามเอาใจเชิดใส่แบบนี้
.
.
.
.
.
ได้เวลาเลิกเรียน ณิชารีบไปยืนดักรอใครบางคนตรงทางที่คิดว่าเจ้าตัวต้องเดินผ่าน ที่ต้องทำแบบนั้นเพราะเด็กสาวต้องการที่จะเช็คความรู้สึกฝ่ายนั้นนั่นเอง ว่ายังรู้สึกชื่นชอบและชื่นชมเธอเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า บอกตรงๆว่าเอาเข้าจริงๆเธอก็รับไม่ได้หรอกที่จะโดนเมินใส่ขนาดนี้

“อะไรนะคะคุณพ่อ วันนี้ไม่ต้องให้ณิชาไปรอที่ตึกเหรอคะ”เด็กสาวรีบหันหลังแล้วแกล้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดคุยทันที เมื่อหางตามองเห็นแล้วว่าคนที่ตนลงทุนมาดักรอกำลังเดินมาถึงใกล้พอจะได้ยินสิ่งที่เธอแกล้งพูดเมื่อครู่

เตชสิทธิ์ชะงักเท้าหยุดเดิน เมื่อสองหูได้ยินเสียงณิชาเอ่ยคุยโทรศัพท์อยู่ เด็กหนุ่มหยุดยืนฟังอยู่ชั่วขณะ

“อ๋อ ให้ณิชากลับเองก่อนได้เลยเหรอคะ ว้า แย่จังเลยคุณพ่อ”ณิชาแกล้งพูดกับลมไม้ใบหญ้าต่อไป เมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังสนใจฟังตนอยู่ แน่ล่ะ คนๆนั้นก็คือคนที่เธอดักรอน่ะแหละ

“ค่ะๆ ได้ค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะ”เด็กสาวรีบกล่าวสรุปเออๆออๆเอาเอง เมื่อคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะได้ลองใจใครบางคน

“อ้าวไต๋ จะกลับแล้วเหรอ”คนคิดลองใจเอ่ยทักเหยื่อในเกม เมื่อหันกลับมาแล้วแสร้งทำทีเหมือนเพิ่งมองเห็นเจ้าตัว

“ครับ แล้วณิชาล่ะ”เตชสิทธิ์รับคำแล้วเอ่ยถามกลับ

“ก็ว่าจะไปรอคุณพ่อที่ตึกเหมือนเดิมแหละ แต่คราวนี้ติดปัญหาว่าคุณพ่อมีประชุมดึก เลยบอกให้ณิชากลับเองก่อนได้เลย”ณิชาเอ่ยตอบ ก่อนจะแสร้งตีสีหน้าเศร้าๆ

“อ้าวเหรอ แล้วเพื่อนๆหายไปไหนหมดล่ะ”เตชสิทธิ์เอ่ยบอกออกมา ทำเอาคนตีสีหน้าเศร้าแทบสะอึก อะไรกันนี่ เกริ่นนำทางขนาดนี้แล้วยังบื้อไม่คิดจะไปส่งอีก หรือว่านายหมดรักฉันแล้วจริงๆนายไต๋

“กลับกันหมดแล้วล่ะ”คนจับความรู้สึกอีกฝ่ายบอกห้วนๆ คล้ายๆจะแกล้งงอน

“แล้วไอ้แซนด์ล่ะ โทรให้มันไปส่งณิชาสิ ดีกว่ากลับคนเดียวนะ”เตชสิทธิ์เสนอออกไปตามประสาซื่อ ไม่ใช่ว่าจะแกล้งอะไรอีกฝ่ายหรอกนะ แต่ที่เด็กหนุ่มไม่แสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษเช่นเดิม ก็เพราะว่าเย็นนี้เขามีนัดกับพี่ชายคนใหม่ที่ชื่อภูมิแล้วต่างหาก

“จริงสินะ ณิชายังมีแซนด์อยู่นี่นา ขอบใจนะที่เตือน”คนได้ข้อเสนอเอ่ยบอกเสียงห้วนกว่าเดิม เมื่อรู้สึกขัดใจขึ้นมากะทันหัน เด็กสาวพูดจบก็สะบัดหน้าเดินหนีไปอย่างไร้มาดคุณหนูที่เคยมี ปล่อยให้คนอยู่ข้างหลังยืนเกาหัวตนเองมองตามอย่างงงๆ

ที่ร้านหนังสือในห้างดัง ภูมิยืนกอดอกมองนอกชายน้องไส้อย่านึกเซ็งขึ้นมาหน่อยๆ ที่เขานัดเจอเด็กนี่ก็หวังที่จะได้อยู่กับเจ้าตัวในที่ลับตาคนมากว่านี้ จะไปดูหนัง ฟังเพลง หรือร้องคาราโอเกะบ้าบอที่ไหนก็ว่ากันไป ที่พอจะทำให้สถานที่และบรรยากาศมันดูสลัวๆกว่านี้หน่อยซักนิดนึง
เตชสิทธิ์เอ่ยปากชวนเขามาที่ร้านหนังสือนี้ทันทีที่ได้เจอหน้ากัน เจ้าตัวอ้างว่ากำลังหาซื้อหนังสือเตรียมสอบ และคู่มือต่างๆหลายเล่ม ไอ้ครั้นเขาจะปฎิเสธก็กระไรอยู่ เพราะสถานะพี่ชายที่คอยให้คำปรึกษาต่างๆนั่นแท้ๆเชียวที่มันค้ำคออยู่จนไม่อาจทำอะไรที่ส่อให้ภาพการเป็นคนดีที่สร้างไว้มันมีรอยเปื้อน

“ไต๋ พี่ขอเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนะ นายเลือกหนังสือรอพี่ที่นี่ละกัน”ชายหนุ่มเอ่ยบอกในที่สุด เมื่อไม่อาจทนยืนมองร่างสูงของเด็กที่ตนหลงใหลอยู่แล้วทำอะไรกับเจ้าตัวไม่ได้
เตชสิทธิ์หันไปรับคำคนพาตนมายิ้มๆ ก่อนจะหันมาสนใจการเลือกหนังสือต่อ เมื่อฝ่ายนั้นเดินจากไปแล้ว

ในอีกมุมหนึ่งของร้านเดียวกัน กัณตินันท์ถึงกับต้องชะงักเท้าโดยพลันขณะที่กำลังจะหอบหนังสือสองสามเล่มมาชำระเงินที่เคาท์เตอร์

“นายไต๋ ทำไมโลกมันกลมอย่างนี้นะ”ชายหนุ่มเผลอพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบแทรกตัวเองกลับเข้าไปหลบตามชั้นหนังสือ เพราะกลัวว่าสายตาของเตชสิทธิ์จะมองเห็นตนซะก่อน ยังไม่อยากจะเจอกับเด็กนั่นตอนนี้เลยให้ตายสิ

“เอาไงดีวะ หนังสือพวกนี้มีร้านนี้ร้านเดียวซะด้วย”คนทำตัวเป็นนินจาเอ่ยอย่างวิตก ด้วยเพราะจุดชำระเงินดันไปอยู่ทางด้านหลังเด็กคนนั้น ถ้าเขาเดินออกไปชำระค่าหนังสือตอนนี้นะ รับรองได้ว่าคงได้จ๊ะเอ๋กับเด็กนั่นแน่ๆ ซึ่งชายหนุ่มก็เกินจะคาดเดาเหลือเกินว่าจะเกิดความวุ่นวายอะไรกับชีวิตตนอีก หากว่าได้พาตัวเองไปอยู่ในรัศมีสายตาคนๆนั้น
.
.
.
“เอ หนังสือชื่ออะไรนะ”เตชสิทธิ์ เอ่ยขึ้นมาลอยๆ เมื่อนึกชื่อหนังสือที่ตนตั้งใจมาซื้อไม่ออกอยู่หนึ่งเล่ม เด็กหนุ่มล้วงมือลงไปในกระเป๋านักเรียนแล้วหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมาคลี่ดู แน่นอนที่สุดว่าทุกกริยาของเขาตอนนี้มีสายตาของกัณตินันท์กำลังจดจ้องอยู่

“แล้วมันอยู่มุมไหนกันล่ะเนี่ย”คนเปิดดูกระดาษเอ่ยขึ้นมาอีก เมื่ออ่านรายชื่อหนังสือเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มเงยหน้ามองหาไปทั่วว่าชั้นวางหนังสือฝั่งไหนน่าจะเป็นที่วางหนังสือที่ต้องการซื้อ

กัณตินันท์หลบวูบทันควันเมื่อเห็นคนที่ตนจ้องดูความเคลื่อนไหวอยู่ หันหน้าหันหลัง ชายหนุ่ม ย่อตัวนั่งลงแทบพื้นแล้วรีบเดินค่อมๆ เพื่อหาที่หลบมุมใหม่ เมื่อเห็นคนหันหน้าหันหลังตัดสินใจเดินมาทางที่ตนหลบอยู่

“พี่ครับ”เสียงทุ้มของคนเดินเข้ามาดังขึ้น ทำเอาคนเดินย่อตัวชะงักเท้าทันควัน หัวใจชายหนุ่มหล่นไปที่ปลายเท้า เมื่อคิดไปว่าเจ้าของเสียงคงเห็นตนแล้ว และคงส่งเสียงเรียกไว้เมื่อครู่

ชายหนุ่มค่อยๆลุกยืนแล้วหันกลับมามองทางต้นเสียง ในใจนึกจินตนาการไปแล้วว่าคงจะได้เจอรูปร่างสูงโปร่ง และใบหน้าของเจ้าของเสียงเมื่อครู่เป็นแน่แท้ แต่…

“พี่ครับ หนังสือเล่มนี้อยู่ชั้นไหนครับ”นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มมองเห็นและได้ยิน เตชสิทธิ์กำลังยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้พนักงานร้านหนังสือและเอ่ยถามคำถามเมื่อครู่นั่นเอง

“นึกว่าแกจะซวยซ้ำซ้อนซะแล้วตฤณ”คนเกือบซวยบอกกับตัวเอง ก่อนจะรีบหาที่หลบมุมใหม่ แต่ก็ไม่วายที่จะจดๆจ้องๆความเคลื่อนไหวของคนที่ตนไม่อยากเจอตอนนี้อยู่อย่างไม่อยากให้คลาดสายตา เพราะถ้าฝ่ายนั้นหลุดหายไปจากรัศมีการมองเห็น เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปหลบมุมไหนถึงจะไม่เจอกันจังๆ

“หนังสือเล่มนี้หมดสต๊อคไปแล้วครับ ตอนนี้ขายดีมากๆ หมดเกลี้ยงเกือบทุกสาขา ทุกร้านเลย”เสียงพนักงานเอ่ยบอก คนยืนสังเกตการณ์แอบมองเห็นว่าอีกคนมีสีหน้าผิดหวัง

“จะซื้อหนังสืออะไรนะเตชสิทธิ์”ชายหนุ่มเปรยออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบนั่งลงหลบซ่อนตัวใหม่ เมื่อเห็นคนที่ตนอยากรู้ความต้องการเงยหน้าขึ้นหันมองรอบๆร้านอีกครา

“กระดาษนั่นมันคุ้นๆแฮะ”คนหมอบตัวอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาอีก ก่อนจะค่อยๆใช้สายตาชำเลืองออกไปมองสถานการณ์ข้างนอก นั่น เตชสิทธิ์กำลังจะเก็บกระดาษแผ่นนั้นลงในกระเป๋ากางเกงดังเดิมแล้ว อีกซักพักเด็กนั่นก็คงจะออกจากร้านนี้ไปล่ะมั้ง เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย แต่..

“อ้าวเฮ้ย!!”เสียงคนเก็บกระดาษเอ่ยร้องขึ้นอย่างตกใจ ทำให้คนผ่อนลมหายใจต้องหันไปมองใหม่ ตายล่ะ เด็กนั่นทำกระดาษหล่น แย่แล้วเรา กระดาษนั่นมันจะปลิวมาทางนี้ทำไม โอ้ย!! อยากจะบ้า

กัณตินันท์หลับตาปี๋เมือลุกหนีไปไม่ทันตอนที่กระดาษแผ่นที่ตนจ้องมองอยู่ปลิวว่อนมาตกอยู่ตรงหน้าตัวเอง ชายหนุ่มหัวใจจะวายตายเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าของวิ่งตามสิ่งที่ปลิวมาทางตน ร่างที่นั่งอยู่จึงเตรียมลุกวิ่งหนีหวังจะให้ทัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องชะงักงันเมื่อสายตาเหลือบมองเห็นกระดาษนั่นแล้วคุ้นตาเหลือเกิน ใช่แล้ว นี่มันเป็นกระดาษงานของเขานี่ แล้วนี่ รายชื่อหนังสือต่างๆที่อยู่ในแผ่นกระดาษนั้น เป็นรายชื่อหนังสือที่เขารวบรวมเอาไว้เตรียมชี้แนะให้อดีตลูกศิษย์ไปหาอ่านนี่ นี่แสดงว่าเตชสิทธิ์กำลังเดินตามหาซื้อหนังสือที่เขาอยากให้อ่านงั้นเหรอ

ในขณะที่นิ่งคิดอยู่นั้น เสียงฝีเท้าก็ดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ คนคิดเพลินสะบัดทุกสิ่งทุกอย่างในห้วงสติทิ้งไปทันควัน ชายหนุ่มรีบพาตัวเองหลบแวบไปได้ทันจังหวะที่คนวิ่งตามกระดาษเดินมาก้มหยิบของสิ่งนั่นได้ทันพอดี

กัณตินันท์ยืนแอบชิดชั้นหนังสือแล้วสูดลมหายใจให้เข้าทั่วปอดเพราะลุ้นเหลือเกินว่าตัวเองจะรอดพ้นสายตาเตชสิทธิ์ไปได้มั๊ย สุดท้ายก็รอดมาจนได้ นับว่าโชคยังเข้าข้างเขานะนี่ แต่แล้ว..

“มายืนหลบๆซ่อนๆอะไรที่นี่ตฤณ”เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงเข้ากลางศีรษะ เมื่อมีเสียงทักดังขึ้นขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะหาที่หลบหลีกไปให้ไกลกว่ารัศมีสายตาอดีตลูกศิษย์ให้มากกว่านี้ ภูมินั่นเองเป็นเจ้าของเสียง กัณตินันท์หันไปมองถึงกับยืนนิ่ง หมดเรี่ยวแรงที่จะขยับหนี ชายหนุ่มหันกลับไปมองทางที่ตนเพิ่งจะวิ่งหลบหนีมาเมื่อครู่แล้วเข่าแทบทรุด ที่ตรงนั้นขณะนี้ได้มีร่างสูงของคนที่ตนพยายามหลบหลีกสุดชีวิตกำลังยืนส่งสายตาดุๆมาให้ เด็กนั่นคงจะมองเห็นเขาตามเสียงทักของอดีตคนรักแน่ๆ ให้มันได้อย่างนี้สิชีวิต!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตัดตอนทิ้งเอาไว้ให้ลุ้นอีกเช่นเคย อิอิ ไม่ได้แกล้งนะ แต่มันหมดตอนแล้วจริงๆ หุๆๆๆ

รอติดตามกันต่อไป

ขอบคุณครับ

Boy

OT

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ชอบภูมิเลย...ไม่อยากให้ภูมิ

เจอกะตฤณเลยย..ถ้าเจอกะภูมิ

สู้เจอกะไต๋ซะดีกว่า...55+

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้หนีไปให้รอดตลอดรอดฝั่งนะคะ  :laugh:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ท่าจะไม่รอดอะ

เอิ๊กๆๆๆ

ออฟไลน์ MayMaMee

  • ต้องอ่านนิยายวายทุกวัน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
รอลุ้นตอนนั้น... ต่อปายยยย

(อ่านนิยายเพื่ออะไรเนี่ยเรา 55)

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ดวงจะซวย ใครก็ช่วยไม่ได้จริงๆนะนี่

Rockstar

  • บุคคลทั่วไป
แง่ววๆ หนีเสือปะจระเข้ เจอทีตัวสองตัวเบ้งๆเลย

ค้างงงงงงงงงง

ออฟไลน์ osaru

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
จะรอดมั้ยเนี่ย
เจอพร้อมกันสองคนเลย :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
ไม่ชอบนายภูมิเลย แย่ๆๆ

แล้วจะรอดมั๊ยนี้...

 o12   o12   o12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
มันเข้มข้นมากมาย เรื่องนี้ o13

แหม๊.. แต่อ่านยังไง ยังไง ก็แอบหงุดหงิด ตฤณ เล็กน้อย
บอกไม่ถืก


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :laugh: งานนี้จะลากไปติวบนเตียงซะทีดิ รอ รอ

พี่พูห์ ก็อยากอ่านตอนนั้นเหมือนกันใช่มะ  :m14: :m14:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
เจอทีละคนก็จะแย่แล้ว นิมาสองคนเลย ตฤณตายแน่ๆ  :sad2:

jurassic

  • บุคคลทั่วไป
อืมมมม ต้องมีเหตุให้พบเจอกันบ่อยอย่างนี้....ลุ้นจริงๆ

 :L2:

kurugmin

  • บุคคลทั่วไป
หลบไม่พ้นก็ดับเครื่องชนไปเรยยย
แต่นะ
กว๊ากกกๆๆๆไม่สะใจ
S..S...S...S...S
ยังอยากให้ใครก็ได้ทำให้ไต๋มันเจ็บกระอักมากกว่านี้หน่อย
เล่นทำหนูตฤณไว้เยอะขนาดนั้น
เด็กดีเค้าใจอ่อน
แต่เรายังแค้นอยู่ง่ะ :angry2:

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
แหมมมม ตัดได้จังหวะเลยนะเนี่ยยยยยยยยย

แกล้งคนอ่านจริงๆเลย

three

  • บุคคลทั่วไป
ตัดตอนได้ปวดจิตมากๆครับ :a6:

ออฟไลน์ HaLF333

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
ค้างอ่า :serius2:
มันลุ้นว่าตฤณจะโดนไรอีก... :m13:
เถื่อนๆ โหดๆ ชักจะชอบแย้ว(มั่กมาก) :m1:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
“ขอตัวก่อนนะภูมิ”กัณตินันท์หันมาเอ่ยกับอดีตคนเคยคบ เพราะชายหนุ่มเห็นแล้วว่าใครอีกคนที่ตนพยามหลบหลีกกำลังเดินเข้ามาตรงที่ยืนอยู่ สองขากำลังจะก้าวเดินหนีจากตรงนั้นเมื่อเอ่ยจบ แต่พลันต้องชะงักเอาไว้ เมื่อได้ยินเสียงร้องทักเอาไว้ซะก่อน

“จะรีบไปไหนพี่ตฤณ”เสียงทักนั่นเป็นเสียงของคนที่กำลังเดินตรงเข้ามานั่นแหละ คนถูกทักแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ชายหนุ่มรีบสาวเท้าเพื่อที่จะเดินหนีเพื่อหลบหลีกการเผชิญหน้า แต่แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในขณะที่ออกเดินได้เพียงก้าวเดียวเท่านั้น

เสียงร้องว้ายดังลั่นไปทั้งบริเวณร้านหนังสือแห่งนั้น คนร้องคือคนที่กำลังล้มหัวคะมำใส่ชั้นโชว์หนังสือ จนหนังสือทั้งชั้นหล่นเกลื่อนกระจายตามพื้น

“คุณ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”หนึ่งในพนักงานหญิงร้องทักถามคนล้มพับอยู่ที่พื้น ก่อนจะรีบตรงเข้าไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้น กัณตินันท์ลุกขึ้นได้ก็รู้สึกหน้าชาวูบไปทั้งแถบ ด้วยรู้สึกทั้งเจ็บทั้งอายและโกรธไปพร้อมๆกัน ชายหนุ่มเจ็บที่ข้อศอกไปเกี่ยวกับวัสดุอะไรซักอย่างที่แหลมคมจนได้แผลเลือดซิบหน่อยๆ ส่วนที่อาย คืออายที่ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่ตน หลายคนแอบยิ้ม หลายคนส่ายหัว และมีบ้างที่จับกลุ่มกันซุบซิบ และในส่วนที่ชายหนุ่มโกรธ คือ การที่เขาล้มหัวคะมำจนร่างไปเกี่ยวเอากับชั้นวางหนังสือล้มลงไปด้วยนั่น เกิดจากการโดนกลั่นแกล้ง ไม่ใช่โดยเขาซุ่มซ่ามเอง!!

“ภะ..”คนโกรธกำลังจะเอ่ยปากถามคนที่กลั่นแกล้งตนว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่แล้วก็ต้องหยุดเอาไว้เมื่อมีร่างหนึ่งเดินมายืนคู่กับเจ้าตัว แน่นอนที่สุดว่าคนที่แกล้งยื่นปลายเท้ามาขัดขาเขาคืออดีตคนรัก ส่วนคนที่เดินเข้ามายืนคู่ฝ่ายนั้นคืออดีตลูกศิษย์นั่นเอง

“รีบดีนักเป็นไงล่ะ อายคนอื่นเขาเลยมั๊ย ได้เลือดอีกต่างหาก”เตชสิทธิ์เอ่ยขึ้นเชิงตำหนิ เมื่อเดินมาถึงตุการณ์แล้วเห็นกัณตินันท์มองมาที่ตน เด็กหนุ่มไม่ทันเห็นว่าคนนั้นโดนแกล้ง เลยเข้าใจไปเองว่าเจ้าตัวซุ่มซ่ามไปเองด้วยความรีบ ภูมิที่ยืนอยู่ข้างๆสังเกตแววตาคนทั้งสองสื่อถึงกันแล้วรู้สึกสาแก่ใจอยู่ลึกๆที่ได้ตัดสินใจแกล้งอดีตคนรักแบบนั้น ไม่รู้สิ ทันทีที่เขาได้ยินเสียงที่เด็กหนุ่มข้างตัวเขาเอ่ยเรียกฝ่ายนั้นเอาไว้ตอนที่เจ้าตัวกำลังจะรีบเดินหนี แล้วเขารู้สึกเคืองใจขึ้นมายังไงไม่รู้ ใช่แล้วล่ะ เขาเคยรู้จากปากคนโดนแกล้งว่าเจ้าตัวรู้จักเตชสิทธิ์ แต่วันนั้นฝ่ายนั้นไม่ได้บอกว่ารู้จักในฐานะอะไร จนมาเมื่อกี้ที่เตชสิทธิ์เรียกตามเจ้าตัวอย่างคนเหมือนจะสนิท แสดงว่าเด็กนี่ต้องรู้จักอดีตคนรักตนด้วยสิ หึ สองคนนี่ไปแอบรู้จักกันตอนไหน ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เปล่าหรอก เขาไม่ได้หึงที่อดีตคนรักที่ได้เคยรู้จักกับเตชสิทธิ์ แต่ที่เขาหึง คือหึงที่เตชสิทธิ์ไปรู้จักมักคุ้นกับเกย์คนอื่นที่ไม่ใช่เขาต่างหากล่ะ กัณตินันท์ เมื่อก่อนเราอาจจะเคยคบกันก็จริง แต่ระหว่างเกย์สาวอย่างนายกับพ่อหนุ่มน้อยอย่างเตชสิทธ์ ฉันขอเลือกคนหลังดีกว่า
.
.
.
“ทำแผลก่อนดีกว่ามั๊ยคะ”เสียงพนักงานสาวเอ่ยขึ้น กัณตินันท์ละสายตาจากการสู้สายตาคนตำหนิตนหันไปมองคนถามแล้วเอ่ยบอกยิ้มเจื่อนๆ

“ผมไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่ผมต้องชดใช้ค่าเสียหายอะไรหรือเปล่า”ชายหนุ่มเอ่ยถามฝ่ายนั้น ก่อนจะได้คำตอบกลับมาว่าไม่ต้อง

“งั้นเดี๋ยวผมช่วยเก็บนะ”คนได้คำตอบรีบแสดงความมีน้ำใจ โดยพยายามตัดเรื่องราววุ่นวายใจทิ้งไปให้หมด รู้อยู่หรอกว่าคงมีสายตาของคนรู้จักสองคนกำลังจ้องมองตนอยู่ แต่พวกเขาจะมองด้วยความรู้สึกใดก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกเขาแล้วกัน ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะมาวีนแตกเรียกความถูกต้องให้ตัวเองให้ได้อายชาวบ้านคนอื่นๆ ในสองคนนั่น คนหนึ่งแม้จะดูทำตัวดีกับเขาบ้างในตอนนี้ แต่ก็นั่นแหละ บทมันจะร้าย มันก็อาจจะร้ายได้อย่างน่าใจหายเหมือนอย่างที่ผ่านมาก็ได้ ถ้าเขาโวยวายอะไรที่ไม่เข้าหูออกไป ส่วนอีกคนหนึ่ง แม้จะเคยคบเป็นคนรัก แต่นั่นมันก็อดีต ปัจจุบัน เขาได้กลายเป็นตัวอะไรในสายตาเข้าไปแล้วก็ไม่รู้ ก็ดูเอาเถอะ กล้ากลั่นแกล้งเขาต่อหน้าประชาชนขนาดนี้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ที่เขาจะโวยวายอะไรออกไปเพื่อเรียกร้องความถูกต้อง สองคนนั่นกำลังยืนอยู่คู่กัน แน่ล่ะ เขามากันตั้งสองคน แล้วคนหัวเดียวกะเทียมลีบอย่างเขาจะไปสู้รบปรบมืออะไรได้
.
.
.

“จะทำอะไรตฤณ”ภูมิเอ่ยทักเตชสิทธิ์เมื่อเห็นเด็กหนุ่มทำทีจะเดินไปก้มเก็บหนังสือช่วยกัณตินันท์ที่กำลังทำหน้าที่แสดงความรับผิดชอบต่อ
ความผิดที่เขาเองเป็นก่อให้

“ช่วยเขาเก็บหนังสือไง”เตชสิทธิ์ตอบหน้าเฉย ก่อนจะเดินไปทรุดนั่งข้างๆคนที่ตนเพิ่งตำหนิเมื่อครู่ แล้วช่วยเก็บหนังสือพลางบ่นไปตามเรื่อง

“ซุ่มซ่ามแบบนี้จะมีใครเอาไปทำแฟนมั๊ยเนี่ย”กัณตินันท์ชะงักมือที่กำลังเก็บหนังสือเมื่อได้ยินประโยคนั่น ชายหนุ่มมองหน้าอดีตลูกศิษย์ชั่วแวบ ก่อนจะเงยขึ้นไปมองอีกคนที่ยืนล้วงกระเป๋าเก๊กหน้าหล่ออยู่อย่างคนไม่รู้ไม่ชี้อะไร

“รู้จักเขาเหรอ”เสียงคนข้างตัวเอ่ยถาม ชายหนุ่มได้สติ หันกลับมามอง

“ทำไมคิดว่าฉันรู้จัก”

“อ้าวก็ที่ผมรู้ว่าพี่อยู่ในร้านนี้ก็เพราะพี่ภูมิเขาเรียกพี่ไว้น่ะแหละ แล้วเมื่อกี้ก็เห็นแหงนหน้ามองเขาตาละห้อย สนใจเขามั๊ยล่ะ เดี๋ยวจีบให้”

“ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าพูดเลยดีกว่า”

“อะไรอีกล่ะที่ผมไม่รู้ พี่นี่พูดจาแปลกๆกับผมบ่อยเกินไปแล้วนะ”

“เรื่องของฉัน จะมาถือสาอะไรกับคนจิตไม่ปกติล่ะ”

“อ้าว ประชดเข้าไป เบื่อว่ะ ไม่ช่วยแล้ว เก็บเองละกัน ปากดีนัก”หนังสือที่ช่วยเก็บได้หลายเล่มถูกเทลงกับพื้นดังเดิม คนมองเห็นเม้มปากแน่นข่มความโกรธเอาไว้ ว่าแล้วไง บทมันจะร้าย มันเหมือนใครซะที่ไหน ไอ้เด็กปิศาจ!!
.
.
.


“อ้าว ไม่ช่วยเขาแล้วเหรอไต๋”ภูมิเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่ลุกเดินกลับมาหาตน ชายหนุ่มนึกพอใจเล็กๆที่ทุกอย่างมันเป็นไปตามคาด ก็เมื่อซักครู่เขาได้ยืนวัดสถานะของสองคนนั้นด้วยสายตาน่ะสิ ว่าทั้งสองรู้จักกันแบบไหน และระดับใด แวบแรกที่เขาเห็นเตชสิทธิ์ไม่ได้ใส่ใจที่จะถามไถ่หรือมองดูแผลของกัณตินันท์เขาก็พอจะรู้เลยว่าเด็กคนนี้คงไม่ได้คิดลึกซึ้งอะไรมากมาย
กับอดีตคนรักของตน ยิ่งภาพที่เด็กนี่เทกระจาดกองหนังสือใส่หน้าคนรักเก่าอย่างหน้าตาเฉยแล้วลุกเดินขึ้นมาหาตน มันก็ยิ่งแน่ชัดว่าสองคนนี้คงไม่กินเส้นกันขนาดหนัก

“ช่วยไปก็เท่านั้นแหละพี่ คนเขาจิตไม่ปกติ ช่วยให้ตายยังไงเขาก็คงไม่เห็นความดีของเราหรอก”เตชสิทธิ์เน้นประโยคตรงกลาง พลางชำเลืองหันกลับไปมองที่ที่เดินจากมา คนนั่งอยู่ตรงนั้นเงยหน้าขึ้นมองตนด้วยสายตาวาวโรจน์ เด็กหนุ่มยิ้มเยาะส่งกลับไปให้ เมื่อคิดว่าฝ่ายนั้นโกรธเขาให้ตายก็คงจะทำได้แค่นั้น แต่แล้วสิ่งที่เขาไม่คิดว่าฝ่ายนั้นจะกล้าทำก็เกิดขึ้น นั่นคือเจ้าตัวได้คว้าเอาหนังสือเล่มหนาขนาดเหมาะมือขว้างลอยแหวกอากาศตรงมากระทบใบหน้าเขาอย่างจัง

“โอ๊ยย!!”เด็กหนุ่มร้องสุดเสียงเมื่อรู้สึกเจ็บไปทั้งใบหน้า หนังสือเล่มนั้นตกลงไปกองที่พื้นแล้ว สายตาคนเจ็บตัวจึงหันไปมองคนทำตัวเองอย่างเอาเรื่อง
กัณตินันท์เห็นท่าว่าชีวิตตัวเองจะไม่ปลอดภัยหากว่าจะทนนั่งอยู่ในร้านนี้ต่อไป ชายหนุ่มรีบลุกยืนเตรียมชิ่งหนีก่อนจะโดนเด็กปิศาจในสายตาเล่นงาน แต่ไหนๆก็มีโอกาสแก้เผ็ดฝ่ายนั้นแล้วก็ขอเอาให้มันสุดๆเลยละกัน ก่อนไปชายหนุ่มจึงล้วงหยิบเงินในกระเป๋าเดินไปวางแหมะตรงหน้าเคาท์เตอร์แล้วเอ่ย

“ค่าเสียหายของหนังสือที่ช่วยฟาดเอาหมาออกจากปากเด็กบางคนครับ”

เอ่ยจบชายหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะแจ้นออกจากร้านไปอย่างเร็วโดยไม่ลืมที่จะหันกลับไปส่งรอยยิ้มเยาะกลับคืนไปให้คนที่ยืนเจ็บแค้นทางด้านหลัง

“พี่ภูมิ ช่วยผมจัดการไอ้ตุ๊ด!!นั่นทีเถอะ”เตชสิทธิ์หันไปเอ่ยกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าคนๆนั้นกำลังยืนอึ้งอยู่กับการได้ยินฤทธิ์ฝีปากของอดีตคนรัก

“พี่ภูมิ เดี๋ยวมันก็หนีไปได้ไกลหรอก ยืนบื๊อ อยู่นั่นแหละ ตามผมมาเลยนะ ถ้าวันนี้ผมไม่ได้อัดไอ้ตุ๊ดนั่น ผมนอนไม่หลับแน่”เด็กหนุ่มเอ่ยตวาด
บอกคนยืนนิ่ง ก่อนจะรีบออกวิ่งตามร่างคนที่วิ่งหนีไปก่อนหน้า ท่ามกลางสายตาหลายๆคนที่มองดูสถานการณ์

กัณตินันท์รีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเมื่อมองกลับหลังมาแล้วเห็นร่างเตชสิทธิ์วิ่งตามหลังตนออกมาจริงๆ เด็กนี่จะตามจองล้างจองผลาญเขาไปถึงไหนกัน พ่อแก้ว แม่แก้ว ช่วยลูกด้วย

“ขอโทษครับ ขอทางด้วยครับ”ชายหนุ่มวิ่งแหวกฝูงชนแย่งลงบันไดเลื่อนอย่างไม่คิดถึงมารยาทใดๆอีกต่อไป นาทีนี้การเอาชีวิตรอดสำคัญที่สุด ขนาดเขาอยู่เฉยๆ เตชสิทธิ์ยังเคยกลั่นแกล้งเขารุนแรงมาแล้ว แต่นี่เขาทำเด็กนั่นทั้งเจ็บตัวและอายไปพร้อมกัน แค่คิดว่าถ้าโดนจับตัวได้แล้วจะโดนเอาคืนยังไงก็ขนลุกชันไปทุกเส้นแล้ว

“โอ้ย!!”คนแย่งทางคนอื่นร้องลั่นสุดเสียงเมื่อเสียท่าล้มลงตอนที่กำลังจะก้าวขาลงบันไดเลื่อนขั้นสุดท้าย แผลที่ข้อศอกถลอกไปกับพื้นอีก จนเลือดไหลซ้ำ ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นมองเหลียวหลัง เห็นร่างเตชสิทธิ์พยามแหวกผู้คนลงบันไดเลื่อนตามมาอย่างที่เคยทำ ก็ไม่รอช้าที่จะออกวิ่งหนีต่อ พลางกุมแผลตัวเองเอาไว้ด้วย นาทีนี้ตอนนี้ใครจะมองเขาเป็นอีบ้า ไอ้บ้าที่ไหนเขาก็ยอม ร.ป.ภ. สองสามนายที่ทำท่าจะเดินมาหาเขาก็คงช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอก การที่จะเอาชนะเตสิทธิ์ได้เขาต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น นายนั่นเคยเป่าหูใครต่อใครให้ดูว่าเขาเป็นคนน่ารังเกียจขนาดไหนมันยังเคยทำมาแล้ว นับประสาอะไรที่ครั้งนี้มันจะไม่ทำถ้าหากมีการเผชิญหน้าแล้วมีบุคคลที่สามมาช่วยตัดสินปัญหา

กัณตินันท์วิ่งลัดเลาะซอกซอยต่างๆไปอย่างไม่รู้สึกเหนื่อย ซึ่งทางด้านหลัง เตชสิทธิ์ก็วิ่งตามมาติดๆ คนวิ่งนำหน้ารู้สึกอายขึ้นมาบ้างแล้วที่เริ่มเห็นสายตาใครต่อใครมองมาที่ตนแปลกๆ ชายหนุ่มค่อยๆชะลอฝีเท้าแล้วหันไปมองทางด้านหลังเมื่อคิดว่าวิ่งหลบหลีกได้ไกลจนคนวิ่งตามน่าจะสับสนจนตามมาไม่ถูกทาง ชายหนุ่มหยุดยืนหอบในที่สุด ก่อนจะยกข้อศอกตัวเองขึ้นดูแผล เลือดสีสดยังไหลซึมออกมาอยู่เรื่อยๆ

“ทำไมถึงได้ซวยแบบนี้ หนังสือก็ไม่ได้ซื้อ เจ็บตัวก็เจ็บตัวฟรี แถมยังต้องออกแรงวิ่งจนแทบสลบอีก”ชายหนุ่มบ่นกับตัวเอง พลางใช้มืออีกข้างเช็ดหยดเลือดลวกๆ ชายหนุ่มคิดที่จะเข้าไปล้างแผลในห้องน้ำก่อน แต่แล้วก็ต้องหยุดความคิดเอาไว้เมื่อคิดว่าอาจจะโดนฟ้ากลั่นแกล้งส่งตัวเขาเข้าไปในห้องนั้นให้นายลูกศิษย์ตัวดีนั่นเชือดคอเอา

“ออกไปให้พ้นจากที่นี่ดีกว่า น่าจะดีกว่า”คนคิดได้สรุปกับตัวเองในตอนท้าย แล้วหมุนตัวจะก้าวเดินต่อไป แต่แล้วหัวใจชายหนุ่มก็ต้องหล่นไปแทบพื้นอีกครั้ง เมื่อหมุนตัวไปแล้วร่างทั้งร่างก็เกือบปะทะเข้ากับร่างใครบางคนที่ยืนดักรออยู่

 ที่บ้านของเตชสิทธิ์ กฤตภาษ นั่งมองหน้าหญิงสูงวัยที่กำลังนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงข้ามตนเอง

“เอาไงดีครับคุณน้า”ชายหนุ่มเอ่ยถามคนๆนั้น ก่อนจะเห็นเพียงแค่อาการถอนหายใจของนาง

“คุณน้าจะมามัวแต่นั่งถอนหายใจแบบนี้ไม่ได้นะครับ ไต๋กำลังเกเรใหญ่แล้ว นี่ผมกำลังเสียเวลากับลูกชายคุณน้าอยู่นะ”คำต่อว่าต่างๆหลุดออกมาจากปากคนมองเห็นภาพขัดใจทันที

“ก็แล้วจะให้น้าทำยังไงล่ะเอส น้าก็ไม่คิดว่าไต๋จะเกเรแบบนี้อีก”หญิงเจ้าของบ้านเอ่ยขึ้น นางโดนอาจารย์สอนพิเศษคนใหม่ของลูกชายเล่นงานตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวมานั่งรอลูกชายนางแล้วลูกชายนางไม่กลับมาตรงเวลา ลูกชายของเพื่อนต่อว่านางต่างๆนาๆว่าทำไมถึงได้เลี้ยงลูกได้เกเรแบบนี้ หลายคำที่นางถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำถากถางนั่น จริงอยู่ที่ลูกชายนางเกเรอย่างที่ฝ่ายนั้นกล่าวหาจริงๆ แต่คำถากถางที่นางได้ยินผ่านไปหลายคำเมื่อครู่มันไม่ได้แสดงออกถึงการที่คนพูดจะพูดในเชิงตักเตือนหรือคอยที่จะเป็นที่ปรึกษาเพื่อ
แก้ปัญหาของลูกชายนางเลย ตรงกันข้าม คำพูดฝ่ายนั้นดูเหมือนจะพาลและใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล เลยด้วยซ้ำ

“ก็น้ามัวแต่คิดว่าลูกตัวเองจะดีขึ้นได้เองน่ะสิ น้าถึงได้ไม่เคยจัดการอะไรเลย ถามจริงๆเถอะ น้าเคยใช้มาตรการเด็ดขาดอะไรกับไต๋เขาบ้างไหม ”กฤตภาษเอ่ยต่ออย่างคนหัวเสียสุดๆ ณ.ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องสร้างภาพอะไรต่อไปอีกแล้ว เพราะพฤติกรรมของเตชสิทธิ์ในวันนี้มันช่างต่างกับวันแรกที่เขาได้เจอกับเจ้าตัวมากนัก ในตอนนั้นเด็กนั่นดูจะสนอกสนใจที่จะให้เขามาสอนพิเศษซะเหลือเกิน ถึงขนาดไม่ยอมให้ยอมหลับยอมนอน ยังเคยมาแล้ว แล้วตอนนี้ล่ะ สองวันแล้วเนี่ยที่เขาต้องมานั่งรออะไรเรื่อยเปื่อยอย่างนี้ อะไรคือสาเหตุให้เด็กนั่นเปลี่ยนไปกันแน่ มันลงเอยกับหญิงสาวที่มันเคยบ่นให้ฟังกลายๆแล้วเหรอ หรือว่ามันยังเคืองใจที่เขาเคยพามันเข้าม่านรูด แต่เอ๊ะ หรือว่ามันหันไปญาติดีกับยัยกัณตินันท์นั่น โอ้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด อีนังคนเป็นแม่นี่ก็เอาแต่นั่งหน้าง่อยอยู่นั่นแหละ ลูกชายไม่กลับบ้านก็โทรตามโทรจิกสิยะ จะมานั่งเป็นคุณหญิงแม่ทำเบื๊อกอะไรกัน หึ๊ย!! เห็นแล้วมันขัดนัยน์ตานัก!!

“คุณน้าไม่คิดที่จะลองโทรตามลูกชายคุณน้าบ้างเลยเหรอครับ”คนขัดใจเอ่ยถามคนตรงหน้า เมื่อเห็นฝ่ายนั่งหน้าเรียบเฉยไปกับคำถามของตน

“แรกๆน้าเคยโทรแล้ว แต่ไต๋ไม่ค่อยจะรับสายน้าเลย”หญิงเจ้าของบ้านตอบ

“แล้วคุณน้าก็ยอมแพ้”

“อืม”

“ตายล่ะ ช่างเป็นแม่ที่ประเสริฐจริ๊งจริง”

“เอสกำลังประชดน้าอยู่นะ”

“ไม่บังอาจหรอกครับ กลัวคุณน้าจะไม่ได้รางวัลแม่ดีเด่นสาขาเลี้ยงลูกได้เกเรที่สุด”

“เอส ทำไมเอสพูดกับน้าแบบนี้ น้าเป็นเพื่อนแม่เอสนะ”

“นั่นก็อีกเรื่องนึงสิครับ ตอนนี้ผมกำลังทำหน้าที่ครูที่ดีอยู่ แต่มันช่างหนักยังไงก็ไม่รู้ที่งานชิ้นแรกของตัวเองดันได้สอนทั้งแม่ทั้งลูก”

“เอส มันเกินไปแล้วนะ คนกันเองแท้ๆ ทำไมถึงได้ก้าวร้าวกับน้าแบบนี้ ตฤณเขาเป็นคนอื่นคนไกลน้ากว่าเอส เขายังไม่เคยมาพูดเสียดสีกับน้าแบบนี้เลยนะ”

“โอ้ย คุณน้าจะเอาผมไปเปรียบกับไอ้ตุ๊ดนั่นไม่ได้หรอกครับ ผมมันคนตรง คิดยังไงก็พูดแบบนั้น ผมไม่ได้น้าไหว้หลังหลอกเหมือนคนที่น้ากำลังชื่นชมอยู่หรอก”

“หมายความว่ายังไง”

“ผมก็เคยบอกคุณน้าแล้วไม่ใช่เหรอว่านายกัณตินันท์นั่นมันได้นัดไต๋ไปเป่าหูเพื่อให้ไต๋เกลียดผม ไม่ชอบผม วันนั้นน่ะ คนดีของคนน้าก็เอ่ยถึงเรื่องน้าหลายเรื่องเหมือนกันแหละ แต่ผมไม่อยากเล่าให้น้าฟัง เพราะเห็นเคยเป็นคนโปรดกัน”

“ตฤณเขาว่าอะไรน้า”

“ช่างมันเถอะครับ พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าผมใส่ไฟนายนั่นเปล่าๆ ยังไงในนี้ผมขอตัวก่อนละกัน วันหลังถ้าจะให้ผมมาที่นี่ ก็ให้คุณน้าเห็นเงาลูกชายโผล่เข้ามาในบ้านก่อนนะครับ แล้วค่อยโทรตามผม ไปล่ะครับ สวัสดีครับ”ชายหนุ่มลุกเดินหนีออกจากบ้านทันทีที่เอ่ยจบ หญิงเจ้าของบ้านนั่งอึ้งไปหลายวินาที ก่อนที่จะเม้มปากเขาหากันแน่น เปล่าหรอก นางไม่ได้โกรธคนที่เดินจากไปเมื่อครู่เท่าไหร่ แต่คนที่นางกำลังโกรธจนถึงขั้นสุดตอนนี้คือลูกชายตัวดีของนางนั่นเอง ไอ้ไต๋ กลับมาแกเจอดีแน่ ทำตัวให้คนอื่นเขามาถอนหงอนฉันถึงในบ้านขนาดนี้ ฉันไม่ปล่อยแกเอาไว้แน่ ไอ้ลูกไม่รักดี!!

 ณ ลานจอดรถชั้นบนสุดของตัวห้างที่ค่อนข้างเปลี่ยว กัณตินันท์นั่งขดตัวอยู่บนพื้นข้างๆรถคันหนึ่งที่ตัวเองจำได้ดีว่าเป็นรถของอดีตคนรัก น้ำตาแห่งความกลัวกำลังเอ่อล้นตรงขอบตาเมื่อสายตามองเห็นร่างสูงของอดีตลูกศิษย์ยืนจังก้ามองดูตนด้วยสายตาดุๆอยู่

“นายจะทำอะไรฉันเตชสิทธิ์ แล้วภูมิไปไหน”ชายหนุ่มเอ่ยถามคนที่ตนกำลังหวาดกลัว ก่อนจะหันหน้าหันหลังมองหาคนเคยรัก เพราะจำได้ว่าฝ่ายนั้นเป็นคนที่ลากตนมายังลานจอดรถเปลี่ยวแห่งนี้ ก่อนจะผลักร่างตนให้ล้มไปกองที่พื้นแทบเท้าคนตรงหน้าตอนนี้

“ถามหาพี่ภูมิทำไม คิดว่าเขาจะช่วยพี่เหรอ เขามากับผมนะ อย่าลืมสิ โน่น เขาไปมองดูต้นทางอยู่โน่น”

มองดูต้นทาง คนได้คำตอบทวนคำบอกนั่น ชายหนุ่มกระถดร่างถดถอยเมื่อนึกหวั่นว่าจะต้องเกิดเรื่องร้ายๆกับตนเองแน่นอน เพราะถึงขนาดมีการมองดูต้นทาง การเอาคืนในเกมนี้ของลูกศิษย์ตัวดีคงไม่ธรรมดาแน่

“ถอยหนีไปไหนชั้นนี้ไม่ค่อยมีผู้คนหรอก”เตชสิทธิ์ตวาดขึ้นพลางทรุดนั่งลงกระชากไหล่าสองข้างของคนถอยหนีเขย่าโดยไม่สนใจว่า
เจ้าตัวจะมีแผลจากรอยถลอกเกิดขึ้นที่ใดบ้างตามร่างกาย

“เตชสิทธิ์ ฉันเจ็บนะ นายจะฆ่าฉันหรือไง”กัณตินันท์ร้องบอก พลางพยามแกะอุ้งมือคนเขย่าร่างนั่นให้ออกจากกาย ตอนนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำอย่างอื่นได้ เพราะเหนื่อยจากการวิ่ง และเริ่มแสบไปตามเนื้อตัวจากที่หกล้มหลายครั้งจนระบมไปหมด

“ถ้าฆ่าได้ก็ฆ่าไปแล้ว ทำอะไรกับผมไว้ ลืมแล้วหรือไง”คนโดยแกะมือตะคอก ก่อนจะออกแรงบีบอุ้งมือนั่นหนักขึ้น

“โอ้ยย!!”คนโดนบีบร้องลั่น ก่อนจะไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ต่อไปได้ ชายหนุ่มร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายสิ่งใดแล้วตอนนี้

“แค่นี้ทำสำออย คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงหรือไง”เตชสิทธิ์เอ่ยบอก ก่อนจะยอมปล่อยคนน้ำตาไหลให้เป็นอิสระ แต่ก็ปล่อยโดยการผลักฝ่ายนั้นให้ร่างล้มกระแทกพื้นแทนการปล่อยดีๆ

อีกฝั่งหนึ่ง ภูมิยืนมองเหตุการณ์คนเคยคบโดนทำร้ายอยู่อย่างนิ่งๆ แวบหนึ่งก็เห็นใจอยากจะเข้าไปบอกให้คนทำร้ายเพลาๆมือลงบ้าง แต่อีกแวบก็กลัวว่าทำแบบนั้นแล้วจะเป็นการขัดใจเจ้าตัวไปเสียเปล่าๆ ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าเขาอาจจะไม่ได้ใกล้ชิดฝ่ายนั้นอีกเลยก็ได้ สู้อยู่เฉยๆ แล้วทำตัวเป็นพวกเดียวกันจะดีกว่า กัณตินันท์เป็นแค่อดีต ส่วนเด็กนั่นเป็นอนาคต คนเราต้องเดินต่อข้างหน้าสิ จะมาเดินถอยหลังไปทำไมกัน

“เตชสิทธิ์ นายจำไว้ให้ดีนะว่านายเคยทำอะไรกับฉันบ้าง จากนี้ต่อไป ฉันจะเกลียด เกลียดนายไปจนวันตายเลยคอยดู”กัณตินันท์บอกกับคนทำร้ายตัวเองทั้งน้ำตา ชายหนุ่มคิดว่าฝ่ายนั้นจะสะท้านบ้าง เปล่าเลย เขาคิดผิด เด็กนั่น ส่งรอยยิ้มเยาะกลับมาให้เขาทันทีที่เขาเอ่ยจบก่อนที่จะเอ่ยขึ้นบอกเขาว่า

“แล้วไง พี่เกลียดผม แล้วชีวิตผมจะตกต่ำลงงั้นเหรอ คิดว่าตัวเองมีค่าขนาดไหนเชียว ที่จะมาบอกว่าเกลียดคนอื่น แล้วคนอื่นเขาจะรู้สึกอะไรน่ะ”

คนได้ฟังประโยคนั่น เม้มปากแน่นอย่างโกรธจัด ชายหนุ่มฝืนใจลุกขึ้นยืน
ปาดน้ำตาทิ้ง จ้องมองคนพูดจาทำร้ายจิตใจอย่างกับจะจำไว้ว่าชาตินี้ทั้งชาติจะไม่มีทางญาติดีกับคนๆนี้เป็นอันขาด

“ทำมอง ทำมอง เดี๊ยะ จะโดน”เตชสิทธิ์ขึงขังเข้าใส่เมื่อเห็นแววตาที่เขาไม่ชอบของฝ่ายนั้นอีกครั้ง ไม่รู้สิ ทุกครั้งที่กัณตินันท์มองเขาแบบนี้ มันมักจะทำให้เขาเกิดสะท้านขึ้นมาในใจอย่างประหลาด แต่ไม่หรอก เขาไม่มีทางแสดงออกความรู้สึกนั้นออกไปให้ฝ่ายนั้นได้เห็นเป็นอันขาด เรื่องอะไรจะยอมมีท่าทีบ่งบอกว่าเขากำลังแคร์ความรู้สึกคนผิดเพศคนนึงด้วย

“ก็เอาสิ วันนี้นายพอใจที่จะทำอะไรฉันก็เอาเลยตามสบาย จะเรียกพี่ชายที่แสนดีของนายมารุมด้วยก็ยังได้นะ เอาฉันให้ตายด้วยล่ะ ถ้าฉันไม่ตาย ต่อจากนี้ไป เจอฉันที่ไหนอย่าได้ข้องแวะกับฉันอีกเด็ดขาด เพราะฉันจะไม่ไว้หน้าใครแล้วทั้งนั้น”กัณตินันท์มองท้าทายกลับไป ชายหนุ่มฮึดสู้ขึ้นมาเมื่อรู้สึกเหนื่อยเหลือเกินกับการเป็นฝ่ายถูกรังแกอยู่ร่ำไป

“ทำไม จะทำอะไรพวกผมงั้นเหรอ คนอ่อนแออย่างพี่ อย่ามาทำเก่งหน่อยเลย มันไม่ได้ดูเป็นผู้ชายขึ้นมานักหรอก”เตชสิทธิ์เดินไปผลักอกคนยืนท้าทายจนฝ่ายนั้นตัวเซ เด็กหนุ่มแอบเห็นว่าเจ้าตัวแอบกำหมัดแน่นอยู่จึงยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกไปใหม่

“ทำไม จะต่อยกับผมเหรอคุณอาจารย์ กำหมัดซะแน่นเชียว เอาตรงนี้เลยมั๊ยล่ะ ให้พี่ภูมิเป็นกรรมการให้เลย ถ้าผมแพ้พี่นะ ผมยอมกราบขอโทษพี่กับสิ่งที่ผมทำทั้งหมดเลยอ่ะ แต่ถ้าผมชนะ พี่ก็ต้องกราบขอโทษผมด้วยที่กล้าด่าว่าผมปากหมาต่อหน้าคนอื่นให้ผมได้อาย”

“ฉันไม่ตัดสินปัญหาอะไรด้วยวิธีป่าเถื่อนอย่างที่เธอชอบทำหรอก ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้แหละ ให้นายอยากทำอะไรฉันก็เชิญ จะชก จะกระทืบ จะต่อย หรือจะฆ่าแกงยังไงก็เอา”

“อย่ามาทำอวดดีกับผมพี่ตฤณ บอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบ”

“นาทีนี้ฉันก็ไม่ได้หวังให้เด็กเหลือขออย่างนายมาชอบฉันอยู่แล้ว เด็กป่าเถื่อนอย่างนายมันไม่มีหัวใจหรอกฉันรู้ดี”

“ด่าผมอีกแล้วนะ รู้มั๊ยว่าจะโดนอะไร”

“ก็บอกแล้วไงจะทำอะไรฉันก็เชิญ”

“ผมจะยังไม่ทำอะไรพี่ ถ้าพี่ยอมเอ่ยขอโทษผมเดี๋ยวนี้”

“ฉันจะต้องขอโทษนายเรื่องอะไร”

“ก็ที่พี่ด่าว่าผมเมื่อกี้นี้ไง”

“คำพูดแค่นี้นายรู้สึกเหรอ”

“ไม่ต้องพูดมาก ขอโทษผมเดี๋ยวนี้”

“ไม่ทาง!!”

“ผมบอกให้ขอโทษไง!!”

“ฉันบอกว่าไม่ไง!!”

“ขอโทษผมเดี๋ยวนี้ได้ยินมั๊ย!!”

“ไม่!! นายมันไอ้เด็กปิศาจ นายมันไอ้เด็กเหลือขอ ฉันเกลียด เกลียดนาย ได้ยินมั๊ย!!”

“เพี๊ยะ!!”เงียบ ทุกอย่างหยุดนิ่งเมื่อสิ้นเสียงฝ่ามือของใครบางคนที่ฟาดกระทบใบหน้าใครบางคน

ที่ฝั่งเดิม ภูมิ ยืนนิ่งมองภาพที่กัณตินันท์หน้าหันสะบัดไปตามแรงฝ่ามือของเตชสิทธิ์อย่างอึ้งไปหน่อยๆ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะประมาณแรงเหวี่ยงจากฝ่ามือของเตชสิทธิ์แล้ว กัณตินันท์น่าจะหยอดน้ำข้าวต้มแทนการทานข้าวไปหลายวัน

กัณตินันท์ใบหน้าชาไปทั้งแถบ ชายหนุ่มค่อยๆหันหน้ามามองคนที่ลงมือตบหน้าตนอย่างสุดแรงเกิด

“ผมขอโทษ พี่บังคับผมเองนะ”เตชสิทธิ์บอกเสียงอ่อย เด็กหนุ่มใจสั่นสะท้านไปกับสิ่งที่เห็น ใบหน้าของคนที่หันมามองตนเริ่มช้ำแดงเกิดเป็นรอยนิ้วมือ หนำซ้ำตรงมุมปากเจ้าตัวยังมีหยดเลือดซึมอยู่อย่างเห็นได้ชัด

“พอใจนายหรือยังที่ได้เอาเลือดฉันออกจากปากจนได้”กัณตินันท์เอ่ยเสียงสั่นถามขึ้น ชายหนุ่มไม่สนใจคำขอโทษที่ได้ยิน พอกันทีสำหรับเด็กคนนี้ ต่อจากนี้ต่อไป เขาสาบานไว้เลยว่าอดีตลูกศิษย์คนนี้จะเป็นแค่อากาศธาตุในสายตาเขา ในทุกๆที่ และทุกเวลาที่เขาเจอ ชีวิตหลังจากนี้ จะไม่มีเรื่องราวใดๆเกิดขึ้นกับคนๆนี้อีกแน่นอน เขาจะทำเหมือนเด็กคนนี้ไม่มีตัวตนอีกต่อไปแล้วบนโลกใบนี้

“ผมเสียใจ ผมขอโทษ”เตชสิทธิ์เอ่ยออกไปอย่างรู้สึกผิด เด็กหนุ่มไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนอยู่ได้เหมือนกันเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำรุนแรงออกไปด้วยอารมณ์อยากเอาชนะแค่นั้น

“ไม่จำเป็น ฉันบอกแล้วไงว่าวันนี้ฉันยอมที่จะเป็นคนแพ้ เพื่อแลกกับวันหน้าที่เราจะได้ไม่ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องต่อกันอีก”กัณตินันท์บอกต่ออย่างแน่วแน่ ชายหนุ่มพยายามไม่ให้หัวใจสะท้อนไปกับสายตาสำนึกผิดของอีกฝ่าย

พอกันที กัณตินันท์ อย่าให้ชีวิตนายต้องวุ่นวายกับคนๆนี้อีกเลย


ผมเสียใจ
พอได้มั๊ยคำนั้นของเธอ ...ฉันไม่ต้องการที่จะฟัง

ผมเสียใจ
คำๆนี้คงใช้ไม่ได้ อีกแล้ว.....เมื่อใจฉันชินชา

เมื่อใจเธอยังผิดซ้ำๆ ผิดซ้ำๆ ผิดซ้ำย้ำความเจ็บ ที่ฉันได้รับ มันบ่อยเกินไป

อย่าเอ่ยคำๆนี้อีกเลยนะเธอ พอแล้ว นะพอแล้วใจมันชา
อย่าเอ่ยคำๆนี้ให้มีน้ำตา อย่าบอกฉันว่าเธอนั้นเสียใจ
ฉันก็เสียใจ...




โปรดติดตามตอนต่อไป


ขอบคุณครับ


Boy

three

  • บุคคลทั่วไป
มันจะทำกันเกินไปแล้วนะไอ้เด็กนิสัยไม่ดี :เตะ1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด