Loving Course ติวรักสุดใจ นายเกเร By Bboyseries
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Loving Course ติวรักสุดใจ นายเกเร By Bboyseries  (อ่าน 523171 ครั้ง)

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เลว เลว พอกัน

ท่าโดนชนนี้คดีอาญา เลยนะนั้น

แสรด

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
เลวเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ นังเอสก็เหมือนกัน อย่าให้แอ๊บหลุดละกัน :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
แกล้งกันแรงเนอะ

โกรธฟร่ะ :angry2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
นังเอสสสสสสสสสสสสสสสเลวได้อีก

jammy

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้มันทั้งสามคนตายๆไปซะ สงสารนายเอก  :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ฆ่ามันทิ้งให้หมดเลยได้มั้ย  :m31:

ออฟไลน์ สาวเครือฟ้า

  • "IF I WERE A BOY"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 607
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
    • http://images.forstudent.com/
สั้นๆ  แต่กินใจมากครับ

รีบมาต่อนะครับ

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
บอกได้คำเดียวว่า เลวทั้งสามคนเลย

ตฤณ เป็นนายเอกที่น่าสงสารที่สุด :o12: :o12:

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
ทั้งเรื่องมีคนดีอยู่แค่คนเดียว คือ....

....คนอ่าน.... :m20: :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
ทั้งเรื่องมีคนดีอยู่แค่คนเดียว คือ....
....คนอ่าน.... :m20: :m20: :m20: :m20:

 :m20:

มาสำเริงสำราญนอกบ้านนี่เอง
ไม่กล้าเข้าบ้านเพราะกลัวโดน :เตะ1:เหรอจ๊ะดาร์ลิ้ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
ทั้งเรื่องมีคนดีอยู่แค่คนเดียว คือ....

....คนอ่าน.... :m20: :m20: :m20: :m20:

คุณน้องขา พูดได้ถูกใจพี่เจงๆๆ :m4: :m4:

Pa_kim

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมไม่มีเรื่องดี ดี เกิดขึ้นกับตรณเลยเหรอค่ะ o7

nooww

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: น่าสงสาร แต่ได้ข่าวว่าำพี่ เิอสก็เป็นไม่ใช่้่้้้เหรอ ว่าิแต่ึคนอื่นตัวก็่้้เป็น  :laugh:

มาต่อเร็วนะ  o13  :bye2:

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
พี่เอสนี่ด่าคนอื่นได้หน้าตาเฉยมากเลยนะเนี่ย

เฮ้อออออออออออออออออ

ออฟไลน์ CHOKUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ทำไมเลวได้ใจอย่างนี้ ห่ะ  รอตอนต่อไปนะ เอาให้นายไต๋รู้ความจริงเสียทีว่านายเอสนะมันก้อ.......... o12 o12 o12 :m31: :m31:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
เลวกันได้อีก -.-

three

  • บุคคลทั่วไป
ชั่วที่สุด :m31:

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
 o7

รู้ซึ้งถึงความเลวที่เธอมีจริงๆ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
อาร์ท อย่าไปเพลินกับเรื่องอื่นมาก

เรามารออ่านเรื่องนี้อยู่

กลับมาต่อเถอะ  :impress: :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ สาวเครือฟ้า

  • "IF I WERE A BOY"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 607
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
    • http://images.forstudent.com/
ทำไมยังไม่มาครับ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
แบบว่า พอจบเรื่องนี้แล้ว น่าจะมีอดีตชาติมาให้อ่านกันต่อเนอะคับ
เผื่อจะรู้ว่าชาติที่แล้วทำกรรมอะไรกันไว้
ชาตินี้ถึงได้ชุลมุนวุ่นวายกันซ้า :laugh:

แมววาย

  • บุคคลทั่วไป
อดใจไม่ไหวแล้ว ขอสักตื๊บทีเถอะ 

เอ๊ะ ไม่พอ มันต้อง ตื๊บ ๆ ๆ   เพราะมันเลวทั้งสามคน   o12

jurassic

  • บุคคลทั่วไป
...อยากรู้จัง คนที่ขี่ม้าขาว ยืนมือมาช่วยนี่เป็นใครหนอ....
 :L2:

three

  • บุคคลทั่วไป
รออยู่นะครับผม :serius2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
มาแร้วค๊าบ....... โทษทีนะ พอดีมัวแต่ไปเที่ยวพัทยาอยู่ อิอิ.....

ไปอ่านตอนที่ 11 กันได้เลย.....

 :m13: :m13: :m13: :m13: :m13:

ภายในรถเก๋งคันนั้น เตชสิทธิ์นั่งนิ่งหน้าขรึมโดยไม่พูดไม่จา และไม่สนใจด้วยว่าเจ้าของรถจะขับพาตนไปไหน จิตใจหนุ่มน้อยตอนนี้วนเวียนอยู่แต่กับเรื่องเหตุการณ์เมื่อครู่ ภาพของกัณตินันท์ที่ยืนตัวเปียกปอนอยู่ข้างถนนยังคงติดตาเขาอยู่ ถึงตอนนี้เด็กหนุ่มไม่ได้รู้สึกสะใจหรือสาใจเลยซักนิดที่คนที่ตนเคยมีอคติด้วยได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น เพราะอะไรล่ะ เพราะภาพวินาทีเฉียดตายของฝ่ายนั้นมันแล่นเข้ามาให้เขาสำนึกในความเป็นมนุษย์คนหนึ่งน่ะสิ ต่อให้เขาจะเกเรหรือร้ายกาจขนาดไหนไม่ว่าจะกับใครก็ตาม เขาก็ไม่เคยคิดว่าความร้ายกาจที่ได้แผลงฤทธิ์ออกไปนั้นจะทำให้อีกฝ่ายต้องถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิกลพิการ แต่เหตุการณ์เมื่อครู่นี่สิ เขาเกือบจะฆ่าคนๆหนึ่งด้วยอารมณ์ชั่ววูบของตนเอง

“นั่งเงียบเชียว คิดอะไรอยู่เหรอไต๋”กฤตภาษหันมาถาม เมื่อเห็นอาการเด็กหนุ่มดูเหม่อๆผิดวิสัย

“เปล่า ไม่มีอะไรครับ”คนถูกถามเอ่ยตอบ แต่ก็ไม่ยอมหันไปมองหน้าฝ่ายถามเลยซักนิด

“ไม่มีอะไรได้ไง ก็เห็นเงียบมาตั้งแต่ชะเง้อออกไปมองดูอาจารย์คนก่อนยืนเป็นลุกหมาตกน้ำแล้ว”คนถูกเมินใส่ถามต่อ ในใจก็เริ่มขุ่นเคืองที่เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ ก็ไหนแม่ของนายนี่บอกเขาว่าเจ้าตัวกับนายกัณตินันท์นั่นไม่ค่อยลงรอยกันซักเท่าไหร่ไง พูดง่ายๆคือเจอหน้าเป็นต้องหาเรื่องทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน จนการเรียนการสอนล่มไม่เป็นท่า แล้วนี่อะไร เห็นคู่อริตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชแทนที่จะสะใจแล้วร่วมกันหัวเราะเยาะกันกับเขา แต่กลับมานั่งเหม่อยังกะกำลังนึกสงสารฝ่ายนั้นก็ไม่ผิด อย่าบอกนะว่าทะเลาะกันแต่ภายนอก แต่ในใจตัดกันไม่ขาด ถ้าเป็นแบบนั้นนะ ฮึ่ม แม่จะรีบรวบหัวรวบหางเลยคอยดู!!

“จะพาผมไปไหนน่ะพี่เอส นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านผมนะ”คนนั่งเหม่อหลายนาทีเอ่ยทักขึ้น เมื่อเริ่มสังเกตเห็นว่าเส้นทางเปลี่ยนแปลงไปจากแต่แรกที่คิดว่าเจ้าของรถจะพาตนไปส่งที่บ้าน

“แล้วใครบอกว่าพี่จะพานายกลับบ้านล่ะ”กฤตภาษตอบเสียงเรียบ หนำซ้ำยังเร่งความเร็วรถไปตามเส้นทางที่คนนั่งข้างๆไม่คุ้นเคย

“หมายความว่าไงครับ นี่มันจวนจะดึกแล้ว พี่จะพาผมไปไหน”คนไม่คุ้นทางเอ่ยถาม ก่อนจะรู้สึกแปลกๆกับสายตาที่คนนำทางมองมาสบตาตนตอนที่ตนหันมองหน้าเจ้าตัวพอดี

“รู้ด้วยเหรอว่านี่มันจะดึกแล้ว”กฤตภาษเอ่ยน้ำเสียงเยาะๆ จนคนรู้สึกแปลกต้องถามหาความหมายในคำพูดนั่น

“พี่หมายความว่าไง”

“ก็หมายความว่า ถ้านายรู้ตัวว่านี่ดึก แล้วทำไมนายไม่กลับไปเรียนหนังสือกับพี่ตั้งแต่หัววัน รู้อะไรมั๊ยว่าพี่รอแล้วรออีก จนรอไม่ไหวแล้วถึงต้องกลับบ้าน แล้วมาเจอนายเตร็ดเตร่อยู่กับอาจารย์คนเก่าเนี่ย”

“ผมขอโทษ ผมคุยกับเพื่อนนิดหน่อยน่ะ แล้วผมก็ไม่ได้เตร็ดเตร่อะไรกับพี่ตฤณด้วย เราแค่บังเอิญเจอกัน แล้วก็ เอ่อ มีเรื่องกันนิดหน่อย อย่างที่พี่เห็นน่ะแหละ”

“อ๋อเหรอ สวรรค์เบี่ยงว่างั้น พระนางตบจูบๆกันสุดฤทธิ์”

“เหมือนพี่กำลังประชดผมอยู่นะพี่เอส ถามจริง พี่แมนหรือเปล่าเนี่ย ดูด้วยเหรอ ละครหลังข่าวน่ะ”

“ละครเขาออกจะดังน้องเอ้ย มันไม่จำเป็นหรอกว่าผู้ชายจะต้องไม่ดูละคร”

“งั้นก็แล้วไป อย่าให้ผมหนีเสือปะจระเข้ละกัน”

“เกลียดเกย์มากขนาดนั้นหรือไง”

“ก็ไม่ได้เกลียดอะไรมากมายหรอก แค่เขาเข้ามาผิดที่ผิดเวลาก็แค่นั้น”

“เขาน่ะใคร”

“ก็พี่ตฤณไง”

“อ๋อเหรอ อย่าเป็นประเภทตายตอนจบละกัน เกลียดเขาซะมากมายแต่ตอนท้ายกลับรักซะหัวปักหัวปำ ระวังคนรอบข้างจะขำให้”

“ความรู้สึกผม ผมจะรักใคร เกลียดใครตอนไหน ผมไม่แคร์หรอกว่าใครจะคิดยังไง”

“พูดแบบนี้ ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้น่ะสิที่จะไปมีใจให้นายกัณตินันท์นั่น”

“ผมไม่ใช่เกย์ ผมจะไปมีใจให้เขาได้ไง พี่ชวนผมคุยเรื่องอะไร ไร้สาระ พาผมกลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวแม่จะห่วงผมเอา”

“ก็พี่พูดไปแล้วไง ว่าพี่บอกเหรอว่าจะพานายกลับบ้าน”

“แล้วพี่จะพาผมไปไหน”

“ไม่อยากเปิดหูเปิดตาท่องราตรียามค่ำคืนหรือไง”

“นี่พี่จะพาผมไปเที่ยวกลางคืนเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ อยากไปมั๊ยล่ะ”

“เด็กๆอย่างผม ที่ไหนเขาจะให้เขา แค่เขาดูการแต่งกายเขาก็ไล่ผมตะเพิดแล้ว”

“มากะใครให้มันรู้ซะบ้างสิ”

“พูดงี้แสดงว่าพี่เที่ยวบ่อยจนคุ้นที่คุ้นทางน่ะสิ”

“ก็ทำนองนั้น”

“แล้วที่บ้านพี่รู้มั๊ย”

“ใครจะโง่บอกล่ะ อยากเที่ยวอย่างอิสระ ก็ต้องเที่ยวให้เป็นสิ”

“หมายความว่าไง”

“นายนี่มันทึ่มจริงๆ นายกัณตินันท์นั่นไม่เคยได้สอนเทคนิคการหนีเที่ยวอย่างชาญฉลาดให้นายเลยหรือไง”

“ทำไมเขาต้องสอนเรื่องพวกนี้ล่ะ ก็เขามีหน้าที่สอนหนังสือ”

“เฮอะ!! มันแอ็บเป็นเด็กเรียนน่ะสิ ขึ้นชื่อว่าเกย์นะ ร้อยทั้งร้อยมันแรดกันทั้งนั้นแหละ”

“พี่พูดเหมือนกับพี่รู้จักพวกนี้ดีงั้นแหละพี่เอส”

“สังคมคนเที่ยวก็กว้างขวางแบบนี้แหละ พี่ไม่ได้เป็นเกย์หรอก อย่าคิดไปโน่น ตอนเป็นเด็กพี่ทโมนแค่ไหน นายก็เคยเห็น”

“ผมก็ไม่ได้คิดว่าพี่จะเบี่ยงเบนตอนโตหรอก พี่ยืนยันแบบนี้ผมค่อยสบายใจหน่อย”

“เออ อยู่กับพี่ไม่ต้องเกร็งต้องกลัวหรอก พี่ไม่ใช่คนประเภทนายกัณตินันท์แน่”

“พี่ตฤณเขาทำไม”

“อ้าว ก็แม่นายบอกพี่ว่าหนึ่งในสาเหตุที่ท่านต้องเอาพี่มาช่วยสอนนายเพราะพฤติกรรมของนายกัณตินันท์มันไม่ปลอดภัยต่อตัวนายน่ะสิ ท่านบอกว่านายนั่นสอนไปก็คิดแต่จะลวนลามนายตลอด มันจริงหรือเปล่าล่ะ”ถึงตอนนี้การสนทนาหยุดชะงักไปชั่วขณะเพราะฝ่ายคนอายุน้อยกว่า ยกมือขึ้นลูบใบหน้าอย่างครุ่นคิด เออหนอ เขาสร้างภาพกัณตินันท์ว่าเป็นคนประเภทชอบลวนลามเขาได้อย่างน่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรือ ดูเอาเถอะ ขนาดแม่ที่เคยถูกชะตากับนายนั่นยังหลงเชื่อคำโกหกพกลมของเขา มิน่าล่ะ การแจ้งความจำนงขอลาออกจากหน้าที่ของนายนั่นในครั้งนั้นจึงไม่ถูกคัดค้านใดๆอย่างที่เคย

“เงียบอีกแล้ว พูดถึงอาจารย์คนเก่าทีไรเป็นอย่างงี้ทุกที ถามจริงคิดอะไรกับมันหรือเปล่าเนี่ย พี่ว่าคนที่ไม่แมนน่าจะเป็นนายไปซะล่ะมั้ง”

“มั่วแล้วพี่เอส ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่มีทางคิดอะไรกับคนอย่างนั้นได้หรอก เพราะผมเป็นผู้ชาย ผู้ชายที่ชอบผู้หญิง และตอนนี้ผมก็มีคนที่ผมรักแล้วด้วย เพียงแต่ตอนนี้เราทะเลาะกันอยู่แค่นั้นเอง”

“อ๋อเหรอ อยากเห็นหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้นจัง ที่จะได้ควงหนุ่มหล่ออย่างนาย”

“รอให้ผมง้อเขาสำเร็จก่อนเถอะ ผมพามาให้พี่เจอแน่”

“อืม จะรอดูหนังหน้า เอ้ย หน้าตาละกัน อ้อ พี่ขอเลี้ยวเข้าโรงแรมแป็บนึงนะ จะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะใกล้ถึงร้านที่เราจะไปแล้ว สภาพเราเฉอะแฉะแบบนี้ ต่อให้พี่ซี้กับเจ้าของแค่ไหน เขาก็คงจะไม่ยินดีต้อนรับเราเท่าไหร่หรอก”

“เราจะไป หมายความว่าไงครับ ผมยังไม่ตกลงว่าจะไปกับพี่นะ”

“เถอะน่า มาขนาดนี้แล้วจะกลัวอะไร เสื้อผ้าพี่มีติดรถหลายชุดนายน่าจะใส่ได้ ไม่ต้องกลัวไม่หล่อหรอก เสื้อผ้าพี่เกรดสูงทั้งนั้น”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แต่ผมว่ามันคงจะไม่ดีมั้ง ก็แม่วานพี่มาสอนหนังสือผม แต่พี่กลับจะพาผมออกเที่ยว แม่รู้แม่คงเสียใจ”

“ก็อย่าบอกท่านสิ บอกแล้วไง อยากเที่ยวอย่างอิสระ ต้องเที่ยวให้เป็น”

เงียบ...คนถูกกล่อมยอมสงบปากสงบคำปล่อยให้เจ้าของรถขับรถพาตนเข้าไปตามป้ายไฟนีออนที่เขียนบอกว่าเป็นโรงแรม เด็กหนุ่ม นั่งมองทางเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ ด้วยเพราะทางเข้ามันดูลึก และก็เงียบพิกล จนในที่สุดก็ต้องร้องเสียงหลง แล้วพยามจะเปิดประตูรถออกซะให้ได้เมื่อเห็นชัดถนัดตาว่า รถที่ตนนั่งอยู่กำลังเคลื่อนเข้าสู่ เส้นทางสายกลางที่แบ่งทางสองข้างโดยแต่ละข้างต่างก็กลั้นด้วยม่านสีมึนทึบ

“อะไรกันเนี่ยพี่เอส นี่มันม่านรูดใช่มั๊ยเนี่ย พี่พาผมเข้ามาทำไม จอดรถเลยนะ ผมจะลง”เด็กหนุ่มหันมาโวยวายกับคนขับรถเมื่อปลดล็อคประตูฝั่งตนได้ แต่ยังเสียวๆที่จะเปิดลงไปเพราะรถยังไม่หยุดวิ่ง

“ไม่กลัวเจ็บกลัวอายก็โดดลงไปสิ พี่บอกแล้วไงว่าเข้ามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กลัวอะไรกะอีแค่ม่านรูด พี่ก็ผู้ชาย นายก็ผู้ชาย จะทำอะไรกันได้”กฤตภาษบอกเสียงนิ่ง เจตนาของชายหนุ่มก็ต้องการเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าจริงๆน่ะแหละ แต่ถ้าบรรยากาศมันเอื้อที่จะทำเรื่องอย่างว่าได้ด้วย เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้เหยื่อหวานหลุดมือไปได้หรอก ไม่อย่างนั้นแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า เขาแวะตามปั๊ม หรือจอดรถริมทางเปลี่ยนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะฝนก็ซาเม็ดไปนานแล้วด้วย

“แต่มันดูไม่ดีเลยพี่ จริงๆเราแวะเปลี่ยนที่ไหนซักที่ก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่”เตชสิทธิ์เอ่ยค้านอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดของอีกฝ่าย หัวใจหนุ่มน้อยหล่นไปที่ปลายเท้าเมื่อรถเข้าจอดสนิทในที่ของมันแล้วมีพนักงานชายวิ่งรูดม่านปิดไว้ดังเดิม เด็กหนุ่มรู้สึกหน้าชาและอายจนอยากจะหายตัวไปในอากาศเมื่อพนักงานคนเดิมวิ่งเหยาะๆมายืนโค้งทักทายเจ้าของรถ

“พาผมออกไปพี่เอส ผมไม่ยอมเข้าห้องไปกับพี่เด็ดขาด ถึงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมก็จะไม่ลงจากรถ”เด็กหนุ่มยื่นคำขาด ความรู้สึกตอนนี้ยอมรับว่าโกรธจนเนื้อตัวสั่น แต่ก็พยายามข่มใจเอาไว้ ยิ่งได้มองสบสายตาพนักงานของโรงแรม ความรู้สึกโกรธนั่นก็ยิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวี

“อย่าเรื่องมากน่าไต๋ เร็วๆ เดี๋ยวร้านปิด”กฤตภาษเอ่ยอย่างไม่แยแส ก่อนจะหันไปเปิดประตูสนทนากับคนคอยให้บริการ จังหวะนั้นคนกำลังโกรธได้ตัดสินใจเปิดประตูรถแล้วก้าวเดินก้มหน้าฉับๆออกไปยังด้านนอกม่านคลุมนั่นทันที

“เฮ้ย ไต๋ จะไปไหนนั่นน่ะ”กฤตภาษเอ่ยตามหลัง พลางจะออกเดินตาม แต่แล้วก็ต้องชะงักเท้าเอาไว้เมื่อเห็นฝ่ายที่เดินหนีออกไปสาวเท้าวิ่งหนีอย่างไม่คิดหันหลังกลับมา

เตชสิทธิ์หลับหูหลับตาวิ่งออกมาจนถึงด้านหน้าปากซอย เด็กหนุ่มยืนเก้ๆกังๆริมฟุตบาทชั่วขณะหนึ่งเพราะเริ่มจับต้นชนปลายเส้นทางไม่ถูกว่าตนยืนอยู่ในส่วนใดของเมือหลวง ในใจก็พอจะรับรู้ว่าแถวนี้คงเป็นเขตนอกเมืองเป็นแน่แท้ เพราะด้วยผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน แถมป้ายรถประจำทางก็หายากซะแทบจะไม่มี เอาไงดีล่ะ หนุ่มน้อยเริ่มคิด จะกลับบ้านยังไงดี แท็กซี่เหรอ ทำไมมันวิ่งน้อยอย่างนี้ล่ะ แล้วที่นี่มันที่ไหน จากนี้ถึงบ้านเขามันจะกี่ตังค์กันล่ะคราวนี้ เงินสดติดตัวก็มีอยู่ไม่เท่าไหร่ ถึงสองร้อยหรือเปล่ายังไม่รู้ โทรหาแม่เหรอ ไม่สิ โดนด่าหูชาแน่ถ้าท่านรู้ว่ามาทำอะไรไกลถึงที่นี่ โทรถามทางเพื่อนเหรอ ไอ้หนุ่มกับไอ้ต้อม บ้านพวกมันก็อยู่ในเมือง พวกมันจะไปรู้อะไรล่ะ โอ้ย เอาไงดีวะ ทำไมมันซวยแบบนี้เนี่ย

ในระหว่างที่คิดสับสนอยู่นั้น แสงไฟจากรถที่วิ่งออกมาจากในซอยที่เพิ่งจะหนีออกมาได้สาดส่องมายังร่าง ทำเอาเด็กหนุ่มเกิดอาการผวาอย่างที่ไม่เคยเป็น ด้วยสัญชาตญาณมันบอกว่ารถคันนั้นต้องเป็นของกฤตภาษอย่างแน่นอน ขายาวจึงรีบออกก้าวเดินเพื่อไปเรียกรถแท็กซี่ ยังไงก็ขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าที่จะต้องทนนั่งรถไปกับคนที่เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆอย่างเจ้าของรถคันนั้น

“ดันไม่ว่างซักคัน ทำไงดีวะ”เด็กหนุ่มเริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นรถที่ต้องการที่จะเรียกไม่มีคันไหนติดไฟสัญญาณแจ้งว่าว่างซักคัน

“เฮ้ย นั่นไงว่างแล้ว”คนหงุดหงิดเริ่มใจชื้นเมื่อมองเห็นสัญญาณว่ารถคันที่กำลังวิ่งมาไกลๆว่างอย่างชัดเจน เด็กหนุ่มก้าวลงไปโบกอย่างรวดเร็ว เพราะรถอีกคันที่กำลังออกมาจากซอยก็จวนใกล้ถึงตัวเขาเข้ามาทุกที

“เฮ้ย ทำไมโบกแล้วยังเฉยวะ”หนุ่มน้อยหงุดหงิดขึ้นมาอีกเมื่อรถคันที่ตนโบก ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอความเร็วหรือขับชิดเลนเพื่อที่จะจอดรับเขาเลยซักนิด จังหวะนั่นทุกอย่างจวนตัว ด้วยเสียงแตรรถคันที่วิ่งออกมาจากซอยบีบส่งสัญญาณให้ได้ยิน เด็กหนุ่มไม่สนใจที่จะหันไปมอง เพราะรู้ดีว่าเสียงแตรรถนั่นเป็นของใคร หนุ่มน้อยทำสิ่งที่ไม่คาดฝันว่าจะกล้าทำนั่นคือตัดสินใจพุ่งตัวเองออกไปยืนขวางรถคันที่ตนโบกเอาไว้ เพราะถนนทุกเลนในตอนนั้นว่างสนิท และก็ได้กะจังหวะไว้แล้วว่ารถคันนั้นน่าจะเบรกทันก่อนก่อนที่จะพุ่งชนตัวเขา

เอี๊ยดดด!! เสียงเบรกรถดังสนั่นก้องในอากาศ คนที่ยืนหลับตาปี๋เพราะลุ้นว่าตัวเองจะรอดหรือจะโดนชนลืมตาขึ้นเมื่อเห็นร่างกายทุกอย่างปกติดี เด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะวิ่งไปเปิดประตูข้างด้านหลังคนขับแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งตรงเบาะอย่างไม่สนเสียงร้องทักของคนขับที่ว่า

“อะไรกันครับเนี่ย รถผมไม่ว่างนะ มีผู้โดยสารอยู่ แล้วอยู่ดีๆมาโดดขวางรถผมทำไมกัน”

“ก็เปิดไฟว่ารถว่างทำไมล่ะครับ เห็นโบกแล้วไม่มีท่าทีว่าจะจอด ผมนึกว่ามองไม่เห็นผม ผมก็ขวางดิ ไม่รู้ล่ะ ผมขึ้นมาแล้ว ผมขอติดรถไปด้วยละกัน ลงป้ายรถเมล์ป้ายหน้าก็ยังดี นะครับ”ประโยคท้ายเด็กหนุ่มหันไปเอ่ยกับผู้โดยสารที่ขึ้นมาก่อนหน้าตน เด็กหนุ่มใจกระตุก อ้าปากค้างไว้ เมื่อแสงไฟรางๆจากทางด้านนอกถนนส่องให้เห็นใบหน้าผู้โดยสารคนนั้นอย่างชัดเจน

“นาย..”เด็กหนุ่มเอ่ยครางออกมาเบาๆ ก่อนจะสะดุ้งตัวโยนเมื่อมีมือหนึ่งยื่นมาเคาะประตูรถ เจ้าของมือนั้นคือกฤตภาษนั่นเอง

“พี่ออกรถก่อนพี่ ผมขอร้อง”คนสะดุ้งหันกลับไปเอ่ยกับโซเฟอร์ขับรถ พอเห็นฝ่ายนั้นหันหน้ามามองคล้ายขอความเห็นจากผู้โดยสารของตน เด็กหนุ่มจึงหันมามองด้วยแล้วเอ่ยกับเจ้าตัวว่า

“ผมขอไปด้วยนะพี่ตฤณ ปล่อยผมทิ้งไว้ป้ายรถเมล์หน้าก็ได้ แต่ตอนนี้ให้พี่เขาออกรถก่อนเถอะนะครับ”กัณตินันท์กำลังนั่งมึนงงกับเหตุการณ์ ได้สติกลับมาตอนที่ได้ยินเสียงคนขึ้นรถมาใหม่เอ่ยกับตน กำลังจะอ้าปากถามฝ่ายนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ต้องเซร่างล้มไปซบกับอกเจ้าตัวแทนเมื่อรถคันที่จอดนิ่งสนิทอยู่ดีๆกับพุ่งตัวออกไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ขอโทษนะครับ พอดีผมลืมไปว่ากำลังจอดอยู่กลางถนน”เจ้าของรถที่ออกรถกะทันหันเอ่ยขอโทษออกมา จังหวะนั้นคนเซร่างล้มไม่ได้สนใจที่จะฟังนอกเสียจากรีบยันกายตัวเองลุกออกพ้นจากอกของคนที่ช่วยประคองตัว พอลุกขึ้นมาได้ก็รีบเอ่ยบอกคนขับรถว่า

“จอดด้วยพี่ ผมจะลง”

“จะลงไปไหนน่ะพี่ตฤณ”เตชสิทธิ์เอ่ยค้านเอาไว้ก่อนที่คนขับรถจะเอ่ยตอบกลับมา

“ป้ายหน้าเลยนะครับพี่ จอดให้ผมที”กัณตินันท์ทำไม่สนใจคำถามที่หลุดออกมาจากปากคนข้างกาย ชายหนุ่มส่งสายตาบ่งบอกว่าพูดจริงให้คนขับรถผ่านทางกระจกมองหลัง

“ขะครับ”ฝ่ายนั้นรับคำก่อนจะรีบชิดเลนเข้าจอด ชายหนุ่มจึงรีบหยิบค่าโดยสารส่งให้แล้วรีบเปิดประตูลงรถไปทันที

เตชสิทธิ์เห็นแบบนั้นก็ไม่นึกที่จะยอมแพ้เช่นกัน เด็กหนุ่มเปิดประตูรถ แล้วก้าวเดินตามคนเดินลงไปก่อนโดยไม่สนใจว่าแท็กซี่คันนั้นจะขับออกไปตอนไหน

“ลงมาทำไม อยากได้รถก็นั่งไปสิ”กัณตินันท์หันมาเหวใส่เมื่อเห็นอดีตลูกศิษย์เดินตามมาตีคู่ได้สำเร็จ ภาพเหตุการณ์ในช่วงเย็นวิ่งเข้ามาในสมองเป็นฉากๆ ให้ชายหนุ่มได้จิตใจเดือดปุดๆ แต่ก็พยายามข่มบังคับไว้ไม่แสดงออกมา

“แล้วพี่กำลังจะไปไหน”เตชสิทธิ์เอ่ยถามโดยใช้สรรพนามที่ฟังดูรื่นหูขึ้น ถ้าคนฟังจะนึกใส่ใจคงพอจะรับรู้แล้วว่าเด็กหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองตั้งแต่อยู่ในรถนั่นแล้ว

“มายุ่งอะไรกับฉัน จะตามจองเวรฉันไปถึงไหน ทำไมชีวิตฉันต้องมาพัวพันกับนายตลอดด้วย ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ”กัณตินันท์พูดอีกแต่ก็ไม่ยอมหยุดเดิน ในใจตอนนี้อยากที่จะพาตัวเองไปให้พ้นๆจากลูกศิษย์ตัวดีให้เร็วที่สุด

“นี่ผมเหนื่อยนะพี่ตฤณ หยุดคุยกันก่อนสิ จะรีบเดินไปไหน”เตสิทธิ์ถือวิสาสะคว้ามือคนเดินฉับๆเอาไว้ เป็นเหตุให้คนโดนคว้าถึงกับสะดุ้งตัวเย็น ด้วยว่ากลัวจะโดนทำร้ายอะไรอีก

“ทำไมพี่ตัวเย็นจัง”เตชสิทธิ์เอ่ยทักโดยยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองน่ะแหละที่เป็นต้นเหตุให้อีกฝ่ายตัวเย็นขึ้น

“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยฉัน เธอคิดจะแกล้งอะไรฉันอีก”คนนึกหวาดกลัวพยายามจะแกะมือคนที่จับตัวเองเอาไว้ออก แต่ดุเหมือนยิ่งแกะ คนจับก็กลับเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มคิดมองรอบๆตัวเห็นบรรยากาศมันเงียบวังเวงก็เริ่มกลัวจนหน้าซีด จึงเอ่ยปากอ้อนวอน เพราะคิดว่าถ้าเอาความแข็งเข้าข่ม เหตุการณ์มันคงจะซ้ำรอยเดิมคือถูกกลั่นแกล้งชนิดเฉียดตายนั่นเอง

“ปล่อยฉันเถอะนะเตชสิทธิ์ เธอจะร้ายใส่ฉันไปถึงไหน”

“ผมเปล่านะ ผมยังไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรพี่เลยนะ นี่พี่กลัวผมขนาดนั้นเลยเหรอ”คนถูกอ้อนวอนรีบออกตัว รู้สึกผิดขึ้นมาเต็มตื้นเมื่อเห็นใบหน้าที่เริ่มไม่มีสีของคนที่พยายามจะแกะมือตนออก

กัณตินันท์............................จะเอ่ยว่าอะไรหรือจะทำอะไรต่อไป ติดตามตอนต่อไปนะครับ

ขอบคุณครับ

Boy

ออฟไลน์ HaLF333

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
ค้างอ่า.... :serius2:
กำลังมันส์..
มาต่อโดยไวเน้อ.. :m13:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
อย่าไปสนมันเด๋วซวยอีกกก  :angry2:

ออฟไลน์ wicth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ง่าาาาาา

อยากอ่านต่ออ่ะ

กะลัง

สนุกเชียว

แง่งงงงงงงงงงงงงงงงงง

crazykung

  • บุคคลทั่วไป
ร้ายยสุดๆๆ



อย่าใจอ่อน  ชกหน้ามานไปทีนึง แล้วกะ ยอม ให้ มาไนปด้วย 55+

เกือบตายสะแล้วไหมละ อ๊ากกก ใจร้าที่สุด ตบจูบๆๆ-*-  มีแต่ตบ จูบไม่มี  :m20: :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด