ตอนที่14
“ออกมาพิฆาตราชัน”
ดวงตากลมโตจดจ้องดาบสีทองซึ่งมีประกายแสงอันสะอาดบริสุทธิ์ พิฆาตราชันของลูเซีย โยชัวเคยเห็นมันมาครั้งหนึ่งในตอนที่เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจฝึกซ้อมดาบกับชาฮาร์ ทว่าความตื่นเต้นยามได้เห็นมันกลับไม่ได้ลดน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียว
สวยงามจริงๆ
โยชัวมองพิฆาตราชันอย่างหลงใหล ดาบเล่มนี้มีคุณลักษณะไม่ต่างจากเจ้าของของมัน นอกจากนั้นยังช่วยส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ที่งดงามเยือกเย็นของผู้ใช้ เปล่งประกายสูงส่งจนอาจทำให้คู่ต่อสู้ต้องมอบกราบแทบเท้าโดยไม่ต้องต่อสู้
แน่นอน เหล่าไคเมร่าแถวหน้าซึ่งล้อมกรอบเข้าหามีอาการตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้น พอพวกมันรู้ถึงจำนวนของพวกพ้องที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกไคเมร่าก็ค่อยๆลดความหวาดกลัวลง
“แย่จัง” ลูเซียถอนหายใจ “พวกสัตว์อสูรหรืออมนุษย์กลายร่างได้นี่… ทั้งที่ได้ยินมาว่าพวกนี้ฉลาดสัญชาติญาณดี แต่มองให้ดีดีแล้ว ดูจะไม่จริงอย่างที่เขาเล่ากัน สังเกตได้จากความดึงดันกับความกล้าแบบโง่โง่ จะว่าไปชาฮาร์ เจ้าเองก็จัดอยู่ในเผ่าปีศาจที่เป็นอสูรกลายร่างนี่นะ ไอ้ความโง่แถมดึงดันแบบนี้ คิดอีกทีจะว่าคล้ายก็คล้ายอยู่”
“พูดอะไรกันครับ ตัวท่านกับอาวุธของท่านมันไม่น่ากลัวเอง คิดเอาเถอะ กับสัตว์อสูรระดับนี้ แค่เกือบๆพันตัว ท่านยังไม่สามารถกำหลาบมันโดยไม่ต้องสู้ เห็นทีว่าชื่อเสียงท่านตาของท่านผู้เป็นประมุขสวรรค์ คงจะต้องด่างพร้อย”
ชาฮาร์ตอบโต้คำเหน็บด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะหันหลังให้กัน ทว่าคนที่อยู่ตรงกลางก็รับเอาคลื่นความโกรธของพี่ชายทั้งสองซึ่งพยายามแผ่เข้าหากันไปเต็มๆ
ขอร้องล่ะอย่าทะเลาะไร้สาระกันตอนที่อยู่หน้าหุบเหวจะได้ไหม!
โยชัวคิดอย่างห่อเหี่ยว น้ำตาในจินตนาการหลั่งออกมาเป็นครั้งแรกของวัน
“ท่านพี่ดูให้ดี แล้วท่านจะเข้าใจในความไม่เอาไหนของท่านกับอาวุธประจำตัว”
ชาฮาร์ฉีกยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว รอยยิ้มที่ห้าวหาญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจว่าตัวเองว่าจะต้องเป็นฝ่ายชนะ โยชัวชมดูจนใจเต้นตึกตัก
ภาพลักษณ์ของเจ้าชายผู้อาบไล้ไปด้วยรอยยิ้มซึ่งไม่ต่างจากดวงอาทิตย์ หากแต่ทำตัวล่องลอยไปวันวันเพราะเอาแต่จับจดกับน้องชาย ถูกแทนที่ด้วยลักษณะนิสัยที่ชายหนุ่มไม่เคยเปิดเผยให้เด็กหนุ่มเห็นมาก่อน
“ออกมาอสูรโลหิต”
สิ้นเสียงของชาฮาร์ ดาบซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวของเขาก็ปรากฏขึ้น ทันที่ที่เห็นดาบเล่มนั้น โยชัวก็สะดุ้งกายด้วยความตระหนก ‘อสูรโลหิต’ เป็นดาบเล่มใหญ่ยักษ์ ตัวดาบทั้งเล่มมีสีแดงก่ำราวกับถูกย้อมไปด้วยเลือด ประกายแสงสีแดงดุดันที่แผ่ออกมาพร้อมกับการสั่นสะเทือนของดาบ ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวคล้ายเสียงกรีดร้องของวิญญาณซึ่งไม่ยอมไปสู่สุขติ
ช่างเป็นดาบอัปมงคลที่ขัดกับลักษณะนิสัยอันอบอุ่นสว่างไสวของชาฮาร์ราวกับฟ้ากับเหว โยชัวที่พยายามเก็บอาการหวาดกลัวอย่างสุดความสามารถ ยิ่งดูยิ่งไม่เข้าใจความคิดของเจ้าชายผู้เจิดจรัส เรื่องที่เลือกดาบพรรณ์นี้มาเป็นอาวุธประจำตัว
ทว่าการปรากฏตัวของอสูรโลหิต เหมือนจะส่งผลต่อไคเมร่าจำนวนมหาศาล พวกมันลนลานถอยหนี บางตัวถึงกับแข้งขาสั่นจนไม่กล้าขยับ
“ยังเป็นอาวุธที่สร้างความประทับใจให้เหมือนเดิม”
ลูเซียเอ่ยชมด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่บอกชัดถึงความปลาบปลื้ม ดวงตาสีเทาซึ่งมองดูอสูรโลหิตอย่างคลั่งไคล้เป็นสิ่งที่ทำให้โยชัวตระหนักว่าพี่ชายทั้งสองคนเป็นพวกหิวกระหายการต่อสู้อย่างที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นดาบที่สร้างความรู้สึกไม่ดีให้กับโยชัวมากแค่ไหน ถ้าผลลับมันทำให้ไคเมร่าถอยหนีไปโดยไม่ต้องสู้ ก็ต้องยกความดีให้กับเจ้าอสูรโลหิต
ทว่าการปรากฏตัวของสัตว์อสูรร่างใหญ่โตซึ่งอยู่เบื้องหลังของไคเมร่านับพัน เจ้าสัตว์อสูรตัวนั้นมีรูปร่างเป็นสิงโต ปีกสีขาวบริสุทธิ์เหมือนนก และมีหางแบบเดียวกับหางของแมงป่อง
สัตว์อสูรตัวนี้ โยชัวจำแนกชนิดไม่ออก หากแต่ไม่ใช่จะไม่เคยเห็นไอ้แบบที่คล้ายกันมาก่อนในสื่อบันเทิงของโลกซึ่งเขาจากมา ขณะที่กำลังครุ่นคิด เจ้าสัตว์อสูรตัวใหญ่ก็ส่งเสียงคำรามจนพื้นสะเทือน เหล่าไคเมร่าที่ตัวขนาดเล็กกว่าหวาดเกรงสิงโตยักษ์จนหยุดก้าวเท้าถอยหลัง พวกมันพร้อมใจกันขู่กรรโชกและเตรียมตัวจะโจมตีโยชัวกับพี่ชายทั้งสองคนอีกครั้ง
“โยชัวไม่จำเป็นต้องฝืนช่วยนะ เจ้าทำแค่ปกป้องตัวเองก็พอ”
ลูเซียออกคำสั่ง ขณะที่ชายหนุ่มเริ่มจดจ่อกับไคเมร่าจำนวนมาก
“โยชัวไม่ต้องทำอะไรหรอก…พี่ชายคนนี้ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าพวกสัตว์อสูรเข้าถึงตัวโยชัวได้อยู่แล้ว”
ชาฮาร์พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ท่าทางแบบนั้น ลดความตึงเครียดของโยชัวไปได้มาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เด็กหนุ่มลดความระมัดระวัง
และแล้วไคเมร่าตัวแรกก็เปิดฉากเล่นงาน ชาฮาร์ฟันมันขาดกลางอย่างรวดเร็วในดาบเดียว โดยไม่ได้ตั้งใจ โยชัวเห็นอสูรโลหิตดูดซึมเลือดของไคเมร่าที่ชโลมบนตัวของมันเข้าไปจนหมดทุกหยาดหยด
เป็นภาพที่น่าขนลุกขนพอง แต่โยชัวก็ไม่มีเวลาหวาดหวั่นหรือคิดรังเกียจอสูรโลหิต เพราะในเวลาไม่กี่นาที
ชาฮาร์ได้ใช้เจ้าดาบอัปมงคลดับชีวิตของสัตว์อสูรไปเป็นจำนวนมาก หากแต่เลือดซึ่งเป็นเครื่องหมายชีวิตของศัตรูกลับไม่กระทบถูกเจ้าชายผู้เจิดจรัสกับโยชัวที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่มเลยสักนิด เจ้าอสูรโลหิตสูบกินมันไปจนหมดพร้อมกับส่งเสียงหวีดร้องสั่นสะเทือนด้วยความยินดี ที่เจ้านายของมันเปิดโอกาสให้ดื่มกินเลือดได้อย่างเต็มที่
ขยะแขยง!
โยชัวอดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนั้น ถึงแม้ว่าจะต้องใช้สมาธิอย่างมากในการจัดการเหล่าไคเมร่าซึ่งบางตัวแกล้งตายเพื่อหาโอกาสเล่นงานตัวเขาที่เป็นเสียยิ่งกว่าจุดอ่อน
ในเวลาต่อมาการที่โยชัวแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในทักษะการยิงธนูซึ่งอุตส่าห์ฝึกฝนมา ส่งผลให้พี่ชายทั้งสองมีสมาธิจัดการกับเหล่าไคเมร่าจำนวนมากมายมหาศาลมากยิ่งขึ้น
ลูเซียกับชาฮาร์ใช้ทักษะดาบที่น่าอัศจรรย์ใจ คล้ายคลึงกับท่าไม้ตายของอาชีพซึ่งมีอยู่ในเกมส์จนโยชัวห้ามตัวให้หยุดโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นไม่ได้
เด็กหนุ่มคึกคักมากเป็นพิเศษที่เห็นไคเมร่าลดจำนวนลงไปกว่าครึ่งก่อนที่เจ้าลูกบอลสีดำ จะโรยตัวลงมาจากท้องฟ้า พี่ชายทั้งสองจับจ้องสิ่งผิดปกตินั้นอย่างไม่วางตา
“ชาฮาร์…โยชัว… อย่าพึ่งไปแตะต้องมันนะ”
ลูเซียพูดด้วยเสียงเยือกเย็นดั่งเช่นทุกครั้ง หากแต่ครั้งนี้กลับนิ่งและสุขุมกว่าปกติหลายเท่า
“ท่านไม่ต้องบอกพวกเราหรอกครับ ข้ากับโยชัวก็ใช่ว่าจะไร้สมอง”
ชาฮาร์เหน็บไปด้วยรอยยิ้ม อาการ งี่เง่าไม่เลิกในสถานการณ์ที่ซับซ้อนแบบนี้ ทำให้โยชัวเตะเท้าเข้าที่หน้าแข้งของชายหนุ่ม ทั้งทั้งที่ออกแรงอัดเข้าเต็มแรงแท้ๆ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่สามารถสร้างความเจ็บปวดให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสได้อย่างที่ใจต้องการ
“…….”
ชาฮาร์กระพริบตาปริบๆมองดูโยชัวอย่างไม่เข้าใจ
“นาย…”
โยชัวเอ่ยปากจะต่อว่า แต่เหตุการณ์ฉุกละหุกซึ่งเกิดขึ้นทำให้เด็กหนุ่มต้องเลิกความคิดไป ดูเหมือนว่าในบรรดาไคเมร่าที่หยุดโจมตีไปด้วยความสับสนกับการปรากฏตัวของบอลสีดำเล็กๆที่ลอยวนอยู่รอบตัวพวกมัน จะมีบางตัวนึกรำคาญบอลสีดำเหล่านั้นจนใช้ปากงับกลืนกินของมันลงไป
ผลที่ได้คือเจ้าลูกบอลเหล่านั้นแตกตัวจากภายในจนทำให้หัวสิงโต ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาหัวทั้งสามของไคเมร่าผู้โชคร้ายรายแรกระเบิดแตกกระจุย
ความร้ายกาจยังไม่จบแค่นั้น ลูกบอลสีดำยังพร้อมระเบิดตัวทันที่ที่ถูกสัมผัสแค่เพียงเบาๆ แรงระเบิดที่ว่าทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของห้วงมิติจนกลายเป็นช่องว่างสีดำซึ่งมีแรงดึงดูดมหาศาล กลืนกินไคเมร่าที่อยู่ใกล้ๆกัน หายวับเข้าไปในห้วงอากาศสีดำก่อนที่มวลชั้นในบรรยากาศจะกลับคืนมาเป็นปกติ
ถึงแม้ว่าพวกโยชัวจะเห็นหายนะที่ลูกบอลสีดำสร้างขึ้น แต่เหตุการณ์เลวร้าย เวลามันจะพุ่งเข้าใส่มันจะโถมเข้าหาอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น
ไคเมร่าจำนวนมากที่โยชัวเคยจินตนาการว่าฉลาด กลับพากันเล่นงานเจ้าบอลสีดำรอบตัวอย่างพร้อมเพียงกันจนทำให้เกิดหลุมดำขนาดย่อมจำนวนนับไม่ถ้วน
เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายถึงที่สุด เมื่อลูกบอลสีดำมากมายมหาศาลค่อยๆลอยต่ำลงมาเป็นระลอกที่สอง โยชัวขวัญเสียกับสถานการณ์ที่ไม่ต่างจากการเดินเล่นอยู่ในนรก แต่กระนั้นก็ไม่สามารถเป็นลมล้มพับหรือเมินหน้าหนีจากสภาพการณ์ที่กำลังดำเนินไปจนถึงขั้นวิกฤติ
ในตอนนั้น ลูเซียที่สุขุมเยือกเย็น แผ่ประกายแสงซึ่งอวลไปด้วยกลิ่นไอศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะโบยบินขึ้นเหนือพื้น เจ้าชายแห่งสวรรค์ ปลดปล่อยกระบวนดาบที่มีรัศมีจู่โจมกินบริเวณกว้าง รุนแรงจนบอลสีดำในท้องฟ้าระเบิดหายวับไปโดยสมบูรณ์ ทั้งยังไม่เกิดการก่อตัวของหลุมดำเล็กๆในอากาศอย่างที่ควรจะเป็น
“ชาฮาร์ฝากดูแลโยชัวด้วย”
หลังจากออกคำสั่ง ลูเซียก็โผบินจากไปด้วยปีกทั้งหกข้าง โยชัวหันไปสบตากับชาฮาร์ด้วยความสงสัย
“ท่านพี่คงจะไปจัดการต้นตอของเจ้าบอลสีดำ ข้าเองก็รู้สึกได้ว่าคนสร้างมันอยู่ในบริเวณใกล้ๆนี้เช่นกัน แต่ให้ท่านพี่ลูเซียไปค้นหาน่าจะเร็วกว่า”
ชาฮาร์อธิบายก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
อาจเป็นเพราะทั้งคู่ลดความระมัดระวังลง เนื่องจากไคเมร่าลดจำนวนลงมาก แต่เพราะไม่ระวังตัว เจ้าสัตว์อสูรชนิดเดียวกันที่ปรากฏตัวเพิ่มขึ้นตรงด้านหลังของโยชัว ก็จู่โจมเข้ามาโดยที่ไม่ทันได้ระวัง
ฉับ
ชาฮาร์ผ่ามันออกเป็นสองซีก ไวพอพอกับที่มันฝากรอยแผลลงบนแผ่นหลังของโยชัว
“โยชัว!”
ชาฮาร์กระโจนเข้าหาทันทีหลังจากกำจัดไคเมร่าได้สำเร็จ
“เป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่…เป็นไร…”
โยชัวที่นั่งแหมะบนพื้นเพราะเซถลาล้มลงด้วยแรงตะปบอย่างมหาศาลของไคเมร่าตอบ
ถึงแม้จะบอกว่าไม่เจ็บ แต่เด็กหนุ่มก็ได้แผลรูปกรงเล็บที่ด้านหลัง แน่นอนว่าร่างกายอันแสนวิเศษของเขากำลังสมานตัว ทว่ารอยแผลนั้นเจ็บแสบมากยิ่งกว่าทุกๆครั้ง จนโยชัวต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“ชาร์ไปจัดการกับไคเมร่าที่เหลืออยู่เถอะ…ยังมีเจ้าตัวใหญ่อยู่อีกด้วยไม่ใช่เหรอ?”
โยชัวเตือนสติ ในขณะเดียวกันก็จับจดกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจนไม่ได้สังเกตสีหน้าของชาฮาร์ซึ่งยืนประจันหน้ากับสัตว์อสูรโดยหันหลังให้กับตน
ประกายแสงสีแดงขมุกขมัวฉาบเคลือบร่างของเจ้าชายผู้เจิดจรัส พอรวมเข้ากับการสั่นอย่างบ้าคลั่งของอสูรโลหิตซึ่งกำลังหวีดเสียงโหยหวน
ทั้งที่โยชัวอยากจะส่งเสียงร้องเรียกอีกฝ่าย แต่ลำคอของเขากลับไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ตามที่ใจต้องการ เด็กหนุ่มทำได้แค่มองดูเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยมีกับชาฮาร์ กำลังปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่าง
แน่นอนว่าหากเลือกได้ โยชัวคงไม่อยากสัมผัสความรู้สึกแบบนั้นจากชาฮาร์ พี่ชายผู้ซึ่งสนิทสนมกับเขามากที่สุดในโลกใบนี้

ตอนที่14แล้วนะคะ
เราคิดว่าฉากต่อสู้อาจจะน่าเบื่อ แต่เฉลยเลยแล้วกัน
ตอนหน้าฉากยาวต่อเนื่องนี้ก็จะจบลงแล้วค่ะ
อีกสองสามวันจะเอาตอนที่สิบห้ามาลงนะคะ
รักคนอ่านค่ะ