amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ  (อ่าน 76268 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่ 10


   “โยชัวรอก่อน….อย่าวิ่งอย่างนี้สิ”
   ข้อมือเล็กถูกชาฮาร์คว้าจับอย่างนุ่มนวล ดูท่าว่าความเร็วในการวิ่งที่เด็กหนุ่มค่อนข้างมั่นใจ จะเทียบไม่ได้กับความเร็วของชายหนุ่ม
 
ดังนั้น แทนที่จะหนีหน้าอีกฝ่ายได้อย่างใจคิด กลับถูกตามจับง่ายๆ ทั้งที่เพิ่งออกมาแค่หน้าปราสาท

   “อ…เอ่อ”
   
โยชัวส่งเสียงอึกอัก เด็กหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะมองสบตากับชาฮาร์ ‘จะทำยังไงดี’ ประโยคนี้วนเวียนในหัวซ้ำไปมา
   
ไม่อยากจะเล่าว่าถูกลาซารัสทำอะไรไปบ้าง
   จะให้โกหกชาฮาร์ก็คิดว่าคงจะทำไม่ได้แน่ๆ
   
โยชัวไม่สามารถโกหกความรู้สึกของตนเองที่ตื้นตันกับความเอาใจใส่ของชาฮาร์มาโดยตลอด
   
ถึงแม้ว่า บางครั้ง การกระทำของเจ้าชายผู้เจิดจรัส ออกจะน่ากลัวและไม่ปกติอยู่บ้าง ทว่าหากเทียบกับเจ้าปีศาจร้ายอย่างลาซารัสแล้ว นับว่าดีกว่ากันมาก จนปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ชาฮาร์เป็นพี่ชายที่ใจดีมากคนหนึ่ง’
   
เพราะว่าต่างคนต่างเงียบ แถมโยชัวเองก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตา จังหวะนั้น ข้อมือเล็กที่มือใหญ่รวบกำไว้อย่างเบามือ ก็รู้สึกร้อนขึ้นมาจนอยากจะสลัดทิ้ง

   แต่ร่างกายกลับไม่ได้ทำอย่างที่ใจคิด
   
โยชัวปล่อยให้เหตุการณ์ที่น่าอึดอัดลำบากใจผ่านไปอย่างเสียเปล่า ถึงจะเป็นเวลาไม่กี่อึดใจ แต่สำหรับโยชัวแล้ว มันนานราวกับผ่านไปหลายปี
   
ในตอนนั้น ชาฮาร์ก็เปลี่ยนจากจับข้อมือของเขามาเป็นจับมือ เจ้าชายผู้เจิดจรัสกระตุกมือเล็กน้อยบังคับให้โยชัวเดินตาม ดวงตากลมโตมองดูแผ่นหลังกว้างแล้วรู้สึกอุ่นวาบในใจ จนปล่อยให้คนตัวโตกว่านำพาไปอย่างเงียบๆ
   และแล้วทั้งคู่ก็มาถึงลานฝึกลับในป่า

   ลูเซียที่รับรู้ถึงการมาของพวกเขา ดูแปลกใจเล็กเล็ก ร่างสูงสง่าหยุดการฝึกดาบ แล้วเดินตรงมาหาพวกเขา

   “หายป่วยแล้วอย่างนั้นเหรอ”

   “ครับท่านพี่ลูเซีย”
   โยชัวผงกหัวแล้วยิ้มน้อยๆ

   “แล้วมาแต่เช้าอย่างนี้ ทานอาหารเช้ามาแล้วหรือยัง ถึงจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว…แต่คนที่พึ่งหายป่วยควรจะทานอาหารเช้าอย่างเคร่งครัดนะ”

   แทนคำตอบ หลังจากที่ลูเซียพูด กระเพาะน้อยๆที่ไม่เคยสั่งได้ของโยชัว ก็ส่งเสียงประท้วง ดังซะจนใบหน้าของเด็กหนุ่มเหยเก

   “สงสัยว่ากินมื้อเช้าก่อนท่าจะดี อีกอย่างเจ้าไม่ได้เอาดวงจันทร์สีขาวมาด้วย ระหว่างที่กินอาหาร พวกคนใช้ก็น่าจะเอาของที่ต้องการมาให้พอดี”
   
ลูเซียยิ้ม ร่างสูงง่าพาโยชัวกับชาฮาร์ไปยังบ้านที่อยู่ใกล้ๆกับลานฝึกลับ เมื่อมาถึง ดวงตากลมโตก็มองสำรวจบ้านที่ถูกทาด้วยสีขาวทั้งหลังอย่างถี่ถ้วน
   
บ้านหลังที่ลูเซียพามา เป็นบ้านไม้ที่ดูสวยและแข็งแรง นอกจากนั้น พอเข้าไปในตัวบ้าน ความอบอุ่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ถูกถ่ายทอดออกมาจากการตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยของเครื่องใช้ในบ้าน ที่ดูเรียบง่าย หากแต่เต็มไปด้วยรสนิยมของผู้มีอารมณ์สุนทรี

   “นี่เป็นบ้านของท่านพี่ลูเซียเหรอครับ”
   
โยชัวละลานตาไปด้วยความงามอย่างเรียบง่ายของบรรยากาศภายในบ้าน เหล่าของเครื่องใช้ที่ทั้งหมดล้วนเป็นสีขาว ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกประทับใจในความหมกมุ่นแบบแปลกๆ ของเจ้าของบ้านหลังนี้อย่าง ลูเซีย

   “สร้างเองกับมือเลยล่ะ อันที่จริงสร้างบ้านหลังนี้เพราะอึดอัดที่ต้องอยู่ในปราสาท ลำบากนิดหน่อย แต่พอสนุกขึ้นมา นอกจากบ้านแล้ว เครื่องใช้ในบ้านทั้งหมดก็ทยอยทำจนครบด้วยตัวเอง ตอนนี้เลยกลายเป็นช่างไม้มืออาชีพไปแล้ว”
   
“สุดยอดเลย….”
   โยชัวเอ่ยชมลูเซียด้วยท่าทางตื่นเต้น   
   เจ้าชายแห่งสรวงสวรรค์หัวเราะน้อยๆกับท่าทางที่เหมือนเด็กของคนตัวเล็ก

   “โยชัวนั่งรออยู่ที่เก้าอี้นั่นแหละ ส่วนชาฮาร์เจ้ามาช่วยข้าเตรียมอาหารดีกว่า”
   
สิ้นคำพูดของลูเซีย โยชัวก็มองดูชาฮาร์และลูเซีย หายเข้าไปในห้องครัวด้วยดวงตาเป็นประกาย

   เด็กหนุ่ม ตื่นตาตื่นใจ ในความสมบูรณ์พร้อมของเจ้าชายทั้งสอง แทนที่จะรู้สึกอิจฉา กลับกัน สำหรับโยชัวที่มองลูเซียเป็นไอดอลต้นแบบอยู่แล้ว

   การที่เจ้าชายแห่งสวรรค์ แสดงสกิลลับที่ซ่อนอยู่ออกมาให้เห็น จากที่ชื่นชมอีกฝ่ายมากมายอยู่แล้ว แปรสภาพเป็นปลาบปลื้ม จนแทบจะใกล้เคียงกับความรู้สึกของแฟนคลับเดนตาย ที่คลั่งไคล้พวกดารานักร้อง

   นอกเหนือจากนั้น กับชาฮาร์ ที่บ้างครั้งจะไม่สามารถจัดการกับเรื่องส่วนตัวได้ การที่เจ้าชายผู้เจิดจรัสสามารถปรุงอาหาร ด้วยตัวเองได้นั้น กระตุ้นต่อมเผือกของโยชัวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   
หลังจากรีรีรอรอด้วยความลังเลใจพักใหญ่
   
โยชัวก็ย่องเงียบไปยังห้องครัว แอบดูเหล่าพี่ชายที่น่าจะกำลังปรุงอาหารกันอยู่
   ภายในห้องครัว
   
ชายหนุ่มสองคนที่เปรอะเปื้อนด้วยเลือด ขณะกำลังช่วยกันชำแหละเจ้าสัตว์รูปร่างประหลาดตัวใหญ่เท่าหมี แต่จำแนกไม่ออกว่าเป็นหมูหรือแพะ ทำเอาโยชัวถึงกับพูดอะไรไม่ออก

   เด็กหนุ่มซ้อนภาพพวกพี่ชายที่กำลังหั่นชำแหละ เข้ากับความทรงจำตอนที่ถูกอมันด้าทรมาณแล้วรู้สึกพะอืดพะอม
   ขณะที่พยายามฝืนความปั่นป่วนของร่างกายและจิตใจ ลูเซียที่รู้สึกตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ก็ถอดผ้ากันเปื้อนที่เปรอะเลือด เดินตรงมาหาเขาที่ยืนแอบดู
   
เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจใช้มือแตะไหล่โยชัวเบาๆ ความทรงจำของชายหนุ่มทะลักเข้ามาในสมองของคนตัวเล็กรวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ติด
   
“ข้าต้องการเด็กนี่เป็นชายาคนที่สี่ของข้า”
   ชายผู้มีร่างกายสูงใหญ่และเต็มไปด้วยมัดกล้ามพูด

   ใบหน้าของผู้พูดที่เต็มไปด้วยเครารกครึ้ม หากว่าโยชัวไม่สามารถเข้าถึงความนึกคิดของลูเซียขณะอ่านความทรงจำได้คงไม่รู้แน่ๆว่า ‘ชายผู้มีรอยยิ้มชั่วร้ายตรงหน้านี้คือใคร?’ นั่นก็เพราะจากความทรงจำอื่นที่เคยได้รับมา ชายคนนี้เคยมีร่างกายใหญ่โตพอพอกับตึกสูงสามสิบชั้น ทว่าตอนนี้กลับมีขนาดตัวเท่ากับคนปกติ

   “พูดอะไรบ้าๆ!”

   ลูเซียตวัดตาไปยังลูซิเอล่าผู้เป็นมารดา ใบหน้างดงามที่สงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาประหนึ่งพระแม่ผู้หลุดพ้น ตอนนี้เปลี่ยนสภาพไปมาด้วยความเกลียดชังและขยะแขยง

   “สัตว์นรกก็ยังเป็นสัตว์นรก จะสมสู่มั่วซั่วยังไง แต่โยชัวก็เป็นลูกชายที่อายุแค่แปดขวบ ไม่มีวันซะล่ะ ข้าทนมามากแล้ว หากเจ้ายังยืนยันจะทำอย่างที่พูดให้ได้แล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะต้องทำยังไงข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้”
   
ลูซิเอล่าประกาศกร้าว สตรีเผ่าเทพกางปีกปกป้องลูกเลี้ยงของเธอ ยิ่งมือเล็กๆเกาะเกี่ยวชายกระโปรงของเธอสั่นเทาเท่าไหร่ จิตใจเธอก็ยิ่งฮึกเหิมมากขึ้นเท่านั้น

“อุ๊ยต๊าย……ช่างเป็นท่านพี่ที่ไม่เจียมตัวเอาซะเลย….หากท่านลงมือกับสามีที่ข้ารักยิ่งแล้วล่ะก็ ข้านี่แหละจะเป็นคนสั่งสอนให้ท่านรู้สึกนึกเอง”

   อมันด้าพูดด้วยท่าทีกระเหียนกระหือรือ ใบหน้างดงามยั่วยวนของหล่อน บิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มเคลิ้มฝัน
   
ในสายตาของลูเซีย ดูคล้ายว่าอีกฝ่ายกำลังยินดีที่จะได้ใช้ขออ้างในตอนนี้ เล่นงานท่านแม่ของเขาอย่างที่ใจอยากจะทำมานาน
   ลูเซียเกร็งตัวด้วยความกดดัน ดวงตาสีเทาสลับมองดูใบหน้าของคนอื่นๆที่อยู่รอบๆตัว เปรียบเทียบสถานการณ์
   
เริ่มจากลาซารัสที่ดูเงียบขรึมผิดปกติ และท่านพ่อที่กำลังเหยียดยิ้มอย่างสบใจตามลำดับ
   
ท่านกำลังพอใจอะไร?
   
อะไรกันที่ทำให้ราชาปีศาจโดโนแวนยิ้มเช่นนั้น?

   “อมันด้าเอาเด็กนั่นมาให้ข้า”

   คำสั่งของโดโนแวนเป็นดั่งกระสุนปืนที่ถูกยิงขึ้นฟ้า
   อมันด้าที่ขานรับคำสั่งเรียกอาวุธของตนออกมาแทบจะในทันที
   
แม้จะอายุแค่สิบสี่ปี แต่ความช่ำชองและปราดเปรียวในการต่อสู้ ทำให้ปฏิกิริยาในการจู่โจมรวดเร็วเสียจน
อมันด้ายังต้องตกใจ

   หากแต่คมดาบที่หมายมั่นจะเล่นงานหญิงแพศยาที่บังอาจคิดทำร้ายมารดาเขา กลับถูกรับและปัดออกอย่างรุนแรงจนดาบแทบหลุดจากมือ ด้วยลาซารัสน้องชายต่างมารดาผู้ชั่วร้าย

   อายุของลูเซียที่มากกว่าถึงสองปี ไม่ได้ทำให้ฝีมือของเขาเหนือล้ำกว่าอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพราะฝีมือของเขาทั้งคู่สูสีก้ำกึ่งกันมาก จนลูเซียต้องกัดฟันดังกรอด
   
“ดีมากลาซารัส จัดการไอ้ลูกโสเภณีนั่น อย่าให้มันมาขัดขวางความสนุกของแม่”
   
อมันด้าสั่ง เจ้าหล่อนใช้ดาบคู่ของตนฟาดฟันลูซิเอล่า ที่ใช้อาวุธประจำตัวซึ่งเป็นดาบและโล่ตั้งรับไปพร้อมกับปัดป้อง
 
เพราะต้องต่อสู้และปกป้องโยชัวจากอมันด้าที่กำลังคุ้มคลั่งไปพร้อมๆกัน ลูซิเอล่าจึงตกเป็นรองทั้งที่น่าจะเหนือกว่าอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้

ต้องพาโยชัวออกมาให้ห่างจากท่านแม่

ลูเซียที่ไต่ตรองอย่างดี เกร็งตัวเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปปกป้องโยชัวแทนท่านแม่ ซึ่งกำลังลำบาก หากแต่ทำไม่ได้ดั่งใจคิด เพราะเจ้าชายปีศาจผู้มีใบหน้าลึกลับเย้ายวน ไม่ยอมให้เขาทำสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายๆ

ลูเซียถูกลาซารัสกดดันจนต้องยืนคุมเชิงอยู่แบบนั้น  หากหันหลังให้อีกฝ่ายแล้วโผเข้าหาโยชัว เชื่อได้ว่า น้องชายต่างมารดาคนนี้ คงไม่รีรอที่จะปลิดชีวิตของเขาในครั้งเดียว

ดังนั้น ทางเดียวที่จะช่วยผู้คนที่เขารักได้ มีแต่ต้องจัดการกับลาซารัสให้เร็วที่สุด

“มีใจจะสู้แล้วเหรอ”

ลาซารัสหัวเราะยียวน

อีกฝ่ายคงตั้งใจจะยั่วโมโหให้เขาขาดสมาธิ แต่ไม่มีวันซะล่ะ ไม่มีค่าอะไร ที่จะทำอย่างนั้นกับคนแบบเขา

“แน่นอน”

ลูเซียตอบรับด้วยใบหน้าเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

พริบตานั้น  ภายในเวลาไม่กี่วินาที เจ้าชายแห่งสรวงสวรรค์ปะดาบกับลาซารัสนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยความเร็วเกินกว่าที่ตาจะมองเห็น

น้องชายต่างมารดาไม่สามารถสร้างรอยแผลให้เขาได้ ในขณะเดียวกัน เจ้าชายปีศาจก็ไม่มีแม้แต่บาดแผลซักรอยเช่นเดียวกัน เป็นการต่อสู้ห้ำหั่นที่สูสีกันจนไม่อาจแบ่งแยกสมาธิไปที่อื่นได้เลยแม้เพียงเล็กน้อย

ในระหว่างนั้น  เสียงคำรามซึ่งเต็มไปด้วยความฮึกเหิมยินดีของสัตว์ป่า กับเสียงหวีดร้องของโยชัว ก็ดึงความสนใจของลูเซียไปจากลาซารัส

ดวงตาสีเทาเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อเห็นอมันด้าในร่างหมาป่าอสูรขนแดงตัวใหญ่ยักษ์ กำลังบดเคี้ยวและกลืนกินร่างของลูซิเอล่าไปต่อหน้าต่อตา

“ท่านแม่”
ลูเซียตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อสูญเสียสติสัมปชัญญะ ลาซารัสก็แทงดาบมาที่กลางอกของเขาจนทะลุ ลูเซียไม่สนใจ ปีกทั้งหกข้างของเขากระพือบินไปหาอมันด้าในร่างหมาป่าอสูร

หากแต่เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจผู้บาดเจ็บและขาดสติ ก็ยังไม่สามารถจัดการกับอมันด้าที่กำลังลำพองในชัยชนะได้อย่างที่ตั้งใจไว้

ลูเซียถูกฝ่าเท้าของหมาป่าอสูรสีแดงตบจนร่วงลงไปกองกับพื้นที่เบื้องหน้าโยชัว ซึ่งกำลังสะอึกสะอื้นขอโทษซ้ำไปซ้ำมาว่า’ท่านแม่ตายเพราะปกป้องตนเอง’

พลาดท่าเพราะอีกฝ่ายลอบเล่นงานโยชัวที่เป็นจุดอ่อนสินะ

ลูเซียกระตุกยิ้มขมขื่น ขณะที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ดาบคมกริบก็แทงลงมาบนมือ ตรึงการเคลื่อนไหวของเขาเอาไว้จนเกือบจะสมบูรณ์

“เท่านี้ก็ไม่มีใครมาขัดขวางการแต่งตั้งชายาใหม่แล้วนะคะท่านพี่”
อมันด้าที่คืนร่างเดิมและกำลังฉีกยิ้มหวานหยดในสภาพเปลือยเปล่า เอ่ยกับโดโนแวนด้วยท่าทางประจบประแจง

“น่าเบื่อ”
โดโนแวนหัวเราะขึ้นจมูก ราชาปีศาจมองเศษซากของอดีตชายาและลูเซียด้วยสายตาดูแคลน

“ทั้งที่คิดว่าจะได้ชายาผู้งดงามเพิ่มขึ้น แต่กลายเป็นว่าต้องมาเสียไปแทนซะนี่ ชายาคนใหม่ต่อให้งดงามแค่ไหน แต่ถ้าต้องมองดูแล้วคิดตามว่าต้องแลกด้วยอะไรถึงจะได้มา สงสัยว่าข้าคงจะหงุดหงิดจนพลั้งมือฆ่าไปซะเปล่าๆ ข้าหมดความสนใจในตัวมันแล้ว”

“ต๊าย……ถ้าอย่างนั้น….หากท่านพี่ไม่ต้องการเจ้าเด็กตัวจ้อยไร้ค่านี่ น้องขอมันเอาไว้นะคะ”
อมันด้าออดอ้อน

“ตามใจเจ้าสิ”
โดโนแวนอนุญาตก่อนจะสะบัดหน้าจากไป

ดูท่าว่าการได้โยชัวมาไว้ในกำมือจะทำให้อมันด้าดีใจจนเนื้อเต้น เจ้าหล่อนหัวเราะร่วนด้วยใบหน้าชั่วร้าย จนลูเซียถึงกับผวาจนตัวสั่น
 
ความโกรธเคียดแค้นชิงชัง เปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว ส่งผลให้ลูเซียดิ้นพล่านและพยายามดึงดาบที่ยึดตรึงฝ่ามือของตนไว้กับพื้นดินอย่างขาดสติ

“อ้าวๆ กลัวจนสลบเลยเหรอไอ้เด็กแพศยา ร่านนักกล้าให้ท่าพ่อแท้ๆของตัวเอง ตำแหน่งชายาของราชาปีศาจแกคงอยากได้จนตัวสั่นสิท่า จากนี้ไปข้าจะสั่งสอนแกทีละน้อยดัดสันดานนิสัยมากราคะของแกให้เอง”

ลูเซียร้องตะโกนอย่างคนเสียสติ เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ ทำได้แค่เพียงมองดูแผ่นหลังของนางปีศาจชั่วช้า ที่ฆ่าท่านแม่ ซ้ำยังพรากน้องชายคนสำคัญไปจากตน

เสียงหัวเราะแหลมสูงเสียดแทงใจของลูเซียจนปวดร้าว ทว่าที่เบื้องหน้า ลาซารัสมองดูเขาที่เกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยแววตาที่คาดเดาความรู้สึกไม่ได้

น้องชายผู้ชั่วร้ายคนนี้ช่างน่ากลัว

อาจจะน่ากลัวยิ่งกว่าบิดาและมารดาผู้ให้กำเนิดเจ้าตัวมาเสียด้วยซ้ำ

“มาทำอะไรตรงนี้ ถ้ารู้สึกไม่สบายไปนั่งรออยู่เฉยๆจะดีกว่านะ”

โยชัวสะดุ้งเฮือก น้ำเสียงที่อบอุ่นของลูเซีย ชักนำให้เด็กหนุ่มกลับมาจากความทรงจำที่ยาวนานของคนที่เอ่ยทัก

คนตัวเล็กรู้สึกสับสน ความเศร้าและทรมานของลูเซีย ถูกส่งตรงมาหาเขาทั้งหมด จนในระหว่างที่ท่องไปในความทรงจำ โยชัวแทบจะคิดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเขาจริงๆ

อาจเป็นเพราะความทรงจำช่วงนี้เลวร้ายอย่างมาก ความรุนแรงในการเชื่อมจิตสำนึกจึงมีความสมจริงเทียบเท่ากับเวลาที่เขาอ่านความทรงจำของโยชัวอีกคน

เด็กหนุ่มรู้สึกยุ่งยากใจจนเป็นกังวล ขณะที่ลูเซียพากลับมานั่งรอบนเก้าอี้ตัวเดิมในห้องรับแขก เมื่อร่างสูงสง่าผละจากไป โยชัวจมอยู่กับความทรงจำและข้อสันนิษฐานที่นำมาซึ่งความหวาดระแวง

ความสัมพันธ์ของคนรอบตัวที่แอบอ่านมาทั้งหมด ยิ่งโยชัวได้รับรู้เท่าไหร่ จิ๊กซอว์ที่เด็กหนุ่มพยายามประติดประต่อก็ยิ่งสลับซับซ้อนมากขึ้นจนน่าหวาดเสียว

ลูเซียพี่ใหญ่ผู้มีความแค้นที่หลบซ่อนอย่างล้ำลึก กับลาซารัส เจ้าชายปีศาจที่ไม่สามารถคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ความทรงจำที่อ่านมาทั้งสองแบบ สร้างความแตกต่างให้กับชายหนุ่มอย่างสุดขั้ว

นอกจากนั้น ความทรงจำของลาซารัสกับชาฮาร์ ยังมีจุดร่วมคล้ายกัน คือมีเด็กชายไร้หน้าเป็นตัวขับเคลื่อน
ยิ่งได้สัมผัสมากเท่าไหร่ โยชัวก็รู้สึกได้ถึงความดำมืดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง จนทำให้เด็กหนุ่มหวาดกลัวกับความสามารถที่ได้รับมานี้

แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีประโยชน์ หากว่าต้องใช้ชีวิตในร่างนี้อย่างไม่รู้เหนือใต้ ก็ไม่รู้ว่าต่อไปภายภาคหน้า เขาจะแก้ปัญหาที่พุ่งเข้าหาตัวได้ยังไง

รู้สึกแย่ขึ้นมาอีกแล้ว……..

โยชัวถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

ทั้งที่ตั้งใจจะปล่อยใจให้ว่าง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรวบรวมความทรงจำแล้วเริ่มต้นครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวด้วยใจที่หมกมุ่น

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่10ค่ะ

หายไปหลายวันเลย

ดีใจที่ตอนที่แล้วยังมีคนคอมเม้นเราอยู่บ้าง

อีกสองสามวันจะเอาตอนต่อไปมาลงนะคะ

ตอนนี้สั้นมากๆเลยขอโทษล่วงหน้าค่ะ

รักคนอ่านค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2015 11:35:17 โดย Silvan »

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ปริศนาเยอะจัง เดาไม่ถูกเลย 555+ โยชัวร์ต้องใช้ความสามารถที่มีให้เป็นประโยชน์

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ง่า ลาซารัสน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แหะ
อยากรู้บทสรุปเร็วๆ จัง
แต่แอบขำตรง

โยชัวก็ย่องเงียบไปยังห้องครัว แอบดูเหล่าพี่ชายที่น่าจะกำลังปรุงอาหารกันอยู่
   ภายในห้องครัว
   
ชายหนุ่มสองคนที่เปรอะเปื้อนด้วยเลือด ขณะกำลังช่วยกันชำแหละเจ้าสัตว์รูปร่างประหลาดตัวใหญ่เท่าหมี แต่จำแนกไม่ออกว่าเป็นหมูหรือแพะ ทำเอาโยชัวถึงกับพูดอะไรไม่ออก

คือว่าปรุงอาหารด้วยท่าทางสนุกสนานน่าดูชม 555

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ลาซารัสเป็นตัวร้ายหรือคะ แต่ร้ายสุดคงเป็นราชาปีศาจล่ะมั้ง  :ling3:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ยิ่งอ่านก็ยิ่งค้างงงง รีบมาต่อนะคะ รออยู่ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Luksa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อื้อหือ เข็มขัดสั้นเลยทีเดียว  :jul1:

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สับสนไปหมดเลยยย

ออฟไลน์ lorry_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :pighaun:  รอออออออออออ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่11

   “เป็นอะไร….”
   
โยชัวสะดุ้ง ดวงตากลมโตมองดูลูเซียเจ้าของเสียง ใบหน้าของเด็กหนุ่มจืดเจื่อน เมื่อรู้ว่าตนเองเหม่อลอยครุ่นคิดมากเกินจนเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจรู้ตัว

   “ไม่ชอบอาหารที่เตรียมไว้หรอกเหรอ อืม…..คงตกใจที่ได้เห็นวิธีการเตรียมอาหารจนทานไม่ลงสินะ”

   “ไม่…ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับท่านพี่ลูเซียข้า….”
   
โยชัวอึกอักหลังจากพูดปฏิเสธ สำหรับเด็กหนุ่มแล้ว เหตุผลที่เหม่อจนลืมทานมันมีหลายอย่าง เรื่องไปเห็นวิธีการเตรียมอาหารที่เต็มไปด้วยเลือดก็ส่วนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขนาดให้เขาทานอาหารไม่ลง

   “กินซะสิ”
   
ลูเซียยื่นช้อนส้อมที่มีชิ้นเนื้อสเต็กที่ทำจากสัตว์อสูรมาที่เบื้องหน้าโยชัว เด็กหนุ่มผู้เป็นเป้าหมายในการป้อนอาหาร ประหม่าและเขินอายขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน

   “ไม่ต้อง ไม่ต้อง ข้ากินเองได้ครับ”
   
โยชัวโบกมือทั้งสองข้างปฏิเสธพัลวัน
   หากแต่พอถูกลูเซียเร่งรัดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ต่างจากรอยยิ้มของเทพธิดา เด็กหนุ่มก็อ้าปากงับเนื้อสเต็กเคี้ยวตุ้ยๆด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ
   
“อยากให้ป้อนอีกหรือเปล่า”

   ลูเซียถามด้วยรอยยิ้มที่ยังไม่เลือนหายไปจากใบหน้า
   โยชัวที่กลืนอาหารลงคอเข้าใจว่า’ถ้าตนยังคงดื้อแพ่งไม่ยอมทานอาหารอยู่อย่างนี้ คงไม่แคล้วถูกชายหนุ่มป้อนอาหารให้จนหมดจาน’

ดังนั้นแทนคำตอบ โยชัวก้มหน้าก้มตาทานอาหารอย่างดุเดือด ด้วยความที่เนื้อสเต็กชิ้นนั้นทั้งนุ่มทั้งฉ่ำ ซอสที่ราดลงบนเนื้อเองก็รสชาติสุดยอดด้วยเช่นกัน  เด็กหนุ่มจึงเผลอทานเข้าไปถึงสองชิ้นใหญ่ๆ

หลังจากที่ทานอาหารจนอิ่มท้อง โยชัวคิดว่า’ตัวเขาทานเยอะเกินจนดูน่าเกลียดไปหรือเปล่า’ พอเห็นปริมาณที่ลูเซียกับชาฮาร์ทั้งดื่มและกิน เด็กหนุ่มก็เบิกตากว้างอย่างพิศวง

เจ้าชายแห่งสวรรค์ ถึงจะกินเยอะน่าดู แต่ตอนนี้เขาก็หยุดกินแล้ว ทว่าชาฮาร์กลับตั้งหน้าตั้งตากิน จนในที่สุดเนื้อของสัตว์อสูรตัวใหญ่เท่าหมีก็หมดลงด้วยการกินล้างกินผลาญของเจ้าชายผู้เจิดจรัส

กินเยอะจังแฮะ……

โยชัวยิ้มค้าง เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกใจกับความเจริญอาหารที่ออกจะเกินขีดจำกัดไปซักหน่อย ทั้งที่ผ่านมา เวลาทานอาหารด้วยกันชาฮาร์นอกจากจะกินในปริมาณเท่ากับคนปกติ แถมท่าทางการกินยังดูมีมารยาทอย่างมาก

ไม่ใช่ว่าตอนนี้มารยาทในการกินแย่ แต่ไอ้การทานแบบไม่คิดแม้แต่จะเหลือเศษซากนี่ชวนให้คิดว่า’ที่ผ่านมามันคืออะไร?’
หลังจากที่ทุกคนทานอาหารจนอิ่ม ลูเซียที่ชวนโยชัวพูดคุยสัพเพเหระเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ตัดสินใจพาทุกคนไปที่ลานฝึก ทันทีที่คนรับใช้นำดวงจันทร์สีขาวที่รอคอยกันอยู่มาส่งให้มือ

“ตั้งสมาธินึกถึงรูปร่างของลูกศร”

ลูเซียเอ่ยสอนขณะที่โยชัวพยายามตั้งสมาธิ สองชั่วโมงก่อนหน้านั้น เด็กหนุ่มได้เรียนรู้ว่าดวงจันทร์สีขาวเป็นธนูที่มีลักษณะพิเศษคือ ไม่จำเป็นต้องมีลูกศร ก็สามารถสร้างลูกศรด้วยตนเองจากพลังวิญญาณของผู้ใช้
พลังทำลาย รูปร่างของลูกศร รวมถึงขนาด ขึ้นอยู่กับจินตนาการกับระดับพลังวิญญาณ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่เจ้าของได้มอบให้กับมัน

“มันไม่ยากหรอกแค่วาดรูปร่างของลูกศรที่ต้องการในความคิด”

ลูเซียปลอบโยนด้วยน้ำเสียงที่ใช้เฉพาะกับเด็กเล็กๆ เมื่อเห็นใบหน้าที่ยับย่นของโยชัวที่ไม่สามารถสร้างลูกศรขึ้นมาเป็นรูปร่างได้ซักที

หลังจากผ่านไปอีกสามชั่วโมง ในที่สุดลูกศรสีเงินที่สร้างจากจินตนาการ ก็ถูกปล่อยจากคันธนู พุ่งตรงไปยังเป้า ที่ถึงแม้ลูกศรจะไม่เข้ากลางเป้า แต่ก็พุ่งทะลุผ่านจุดมุ่งหมายไปยังต้นไม้ใหญ่หนาถึงแปดลำต้น ทุกทุกสิ่งที่ลูกศรแหวกผ่านทิ้งรูโหว่ทรงกลมขนาดเท่าลูกเทนนิสเอาไว้ จนไม่ว่าใครได้มาเห็นก็ต้องตกใจในอานุภาพของมัน

“สุดยอด….”

โยชัวดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปมา สภาพไม่ต่างจากนักฟุตบอลที่สามารถยิงบอลเข้าประตูของฝ่ายตรงข้ามได้ จากนั้น เด็กหนุ่มที่ถูกลูเซียลูบหัวไปมา พร้อมกับชมว่า’ดีมาก’ ก็มุ่งมั่นตั้งเป้า จะต้องยิงลูกศรทรงพลังให้เข้าสู่จุดมุ่งหมายทุกจุด ให้เหมือนเป็นเรื่องปกติให้จงได้

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง ดูเหมือนว่าลูเซียที่นึกสนุกอะไรไม่รู้ จู่จู่ก็เอ่ยชักชวนให้ชาฮาร์เป็นคู่ซ้อมดาบ โยชัวที่กำลังหมกมุ่นกับการฝึกยิงธนูหูผึ่งจนแทบไม่มีสมาธิ

“จะว่าไปเราสองคนไม่ค่อยได้ฝึกซ้อมด้วยกันเท่าไหร่นี่นะ”
ลูเซียยิ้มในขณะที่ชาฮาร์มีท่าทีลำบากใจ

โยชัวที่ลอบมองดูพี่ชายทั้งคู่ พอเห็นชาฮาร์เกาหัวแกรกๆแล้วหัวเราะ ท่าทางที่ดูไม่เอาไหน ทำให้เด็กหนุ่มอดรนทนไม่ได้ จนถึงขั้นรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาซะดื้อๆ

ไม่ใช่ว่าอยากจะแกล้ง แต่อยากเห็นชายหนุ่มลองพยายามทำดู ก็รู้อยู่ว่าชาฮาร์อาจจะคิดว่าสู้พี่ชายของตัวเองไม่ได้ จากการที่เขาได้เห็นชั้นเชิงของลูเซียและลาซารัส

นอกจากนั้นท่าทางที่หมดสภาพเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกพี่ชาย ทำให้โยชัวตีความว่า ‘ชาฮาร์อาจจะเป็นพี่ชายที่มีทักษะในการต่อสู้อ่อนด้อยที่สุดในบรรดาพี่น้อง’ แน่นอนว่าไม่นับตัวเขาเข้าไปด้วย

แต่นี่มันเป็นการฝึกซ้อมไม่ใช่เหรอ? คนเราจะเก่งขึ้นได้จากการฝึกฝนและได้รับการชี้แนะจากคนที่เก่งกว่า

ถ้าเกิดว่าได้ฝึกซ้อมกับพี่ลูเซีย ชาฮาร์จะต้องเก่งขึ้นแน่ๆ  จะว่าไปการที่หมดท่าต่อหน้าลาซารัสทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าเอาแต่เที่ยวเล่นจนไม่มีเวลาฝึกฝนหรอกเหรอ?

โยชัวคิดว่า การที่ชาฮาร์เอาแต่วิ่งไล่ตามตนเองไปทุกที่ บวกกับความทรงจำเป็นตัวบ่งชี้ ‘ เจ้าชายผู้เจิดจรัสอาจจะเป็นพวกที่มีนิสัยลอยชายมากกว่าที่คิด’ เด็กหนุ่มคิดเช่นนั้นอย่างปักใจ

“อยากเห็นท่านพี่ลูเซียกับชาร์ซ้อมดาบ”
โยชัวทำตาวิ้งวับเป็นประกาย รอยยิ้มเจื่อนที่ถูกฉาบบนใบหน้าของชาฮาร์ ทำให้โยชัวตัดสินใจใช้ท่าไม้ตาย

“ข้าอยากเห็นพี่ชายฝึกดาบซักครั้ง”

โยชัวบิดมือไปมาพร้อมกับช้อนตามองอย่างมีจริตจะก้าน เด็กหนุ่มเลียนแบบท่าทางของน้องสาวผู้ยั่วยวนใน
มังงะเฮ็นไต

อีเดียดตัวเองสุดๆ

แต่ดูแล้วจะใช้ได้ผลกับพี่ชายที่เป็นบราค่อนอย่างชาฮาร์  ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร ตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะตกลงรับคำขอด้วยท่าทางลำบากใจเหมือนเดิม

“ข้าจะใช้อาวุธประจำตัว เจ้าคงไม่รังเกียจสินะชาฮาร์”

ลูเซียเรียกดาบสีทองที่มีชื่อว่า’พิฆาตราชันย์’ออกมา ลำแสงเรืองรองสีทองที่เปล่งประกายจากตัวดาบ ดูสะอาดพิสุทธิ์ใสซะจนเกิดความคิดว่า’ถ้าถูกปลิดชีวิตด้วยดาบเล่มนี้ วิญญาณคงจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบ ไปสู่มรรคาแห่งสวรรค์ชั้นฟ้า’

“เจ้าล่ะจะใช้อาวุธประจำตัวหรือเปล่า”

“ข้าเอาดาบแถวนี้ก็ได้ครับ”

ชาฮาร์ตอบพร้อมกับเลือกดาบจากชั้นวางอาวุธจำนวนมากแบบไม่เสียเวลาคิด การกระทำที่เหมือนกับเตรียมตัวจะพ่ายแพ้อย่างนั้น ทำให้โยชัวขมวดคิ้วเข้าหากันจนกลายเป็นปม

ทั้งเป็นห่วงทั้งไม่พอใจ ความคิดสองอย่างนี้ตีกันให้วุ่น แต่เพราะพี่ชายทั้งสองพร้อมที่จะปะดาบกันแล้วเด็กหนุ่มจึงหุบปากเงียบ ไม่โวยวายต่อว่าการกระทำที่ไม่เข้าท่าของชาฮาร์ ด้วยความเข้าใจว่าชายหนุ่มก็น่าจะมีอาวุธประจำตัวที่ทรงพลังด้วยเหมือนกันแต่ไม่ยอมเอาออกมาใช้

แคร้ง

เสียงดาบประทะกันดังขึ้นต่อเนื่อง ลูเซียในตอนนี้ตั้งใจลงดาบใส่ชาฮาร์รุนแรงมากเป็นพิเศษ แน่นอนว่าความแม่นยำ ปราดเปรียว และความหนักหน่วงที่ใช้จู่โจม ทำให้ชาฮาร์ที่เป็นเป้าหมาย ทำได้แต่ตั้งรับเพียงอย่างเดียว

ฝีมือต่างกันถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?

โยชัวแทนที่จะรู้สึกชื่นชมในความเก่งกาจของลูเซีย กลับปวดร้าวในอกที่ต้องเห็นชาฮาร์ถูกรุกไล่จนไร้ทางตอบโต้
ที่ร้ายไปกว่านั้นเพราะอะไรไม่ทราบ เจ้าชายแห่งสวรรค์อยู่อยู่ก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา ใบหน้าที่มักเยือกเย็นอยู่เสมอแปลสภาพเป็นดุดันจนเด็กหนุ่มยังรู้สึกแปลกใจ

พริบตานั้นออร่าที่เคลือบดาบพิฆาตราชันย์ ดูเฉียบคมขึ้น แค่มองดูก็รู้ว่ามันเต็มไปด้วยพลังทำลายที่อัดแน่น

แย่แล้ว! ถ้าถูกฟันด้วยดาบแบบนี้ ชาร์คงจะเจ็บตัวหนักแน่ๆ

“ชาร์………”

โยชัวตะโกน  ภาพลูเซียที่วาดดาบทรงพลังเข้าใส่ชาฮาร์ กลายเป็นการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เสี้ยววินาทีนั้นออร่าที่มีพลังมหาศาลก็อัดแน่นลงบนดาบของเจ้าชายผู้ที่ถูกไล่ต้อน รุนแรงจนแม้แต่โยชัวยังรู้สึกตกใจ

ในจังหวะที่ดาบของพี่ชายทั้งสองปะทะกัน  ก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง ลมที่เกิดจากการแรงอัดกันของดาบ ตีวงออกกว้างพัดโหมรุนแรงจนผมเผ้าและเสื้อผ้าของโยชัวปลิวไสว ความแรงของลมทำให้เด็กหนุ่มต้องหยีตามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พอทุกอย่างสงบ โยชัวเห็นลูเซียกับชาฮาร์ยืนจ้องหน้ากันในสภาพที่ต่างลดดาบ แน่นอนว่าทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ดาบของเจ้าชายผู้เจิดจรัสนอกจากจะหักครึ่งแล้ว ยังค่อยๆหมดสภาพด้วยการแตกสลายผุผังกลายเป็นฝุ่นผง

   “ขอบคุณที่ชี้แนะครับ”
   
ชาฮาร์แสดงความเคารพลูเซียที่มีสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่งยวด แต่หลังจากที่เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจทำให้พิฆาตราชันย์หายไป ใบหน้าของชายหนุ่มก็กลับมาเยือกเย็นดุจน้ำแข็งเช่นเดิม

   “ทำแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกันเลยซักนิด ไม่อยากแสดงความสามารถที่แท้จริง หรือแค่เกรงกลัวภาพลักษณ์ที่ฉาบไว้จะลอกออก”
   
โยชัวงุนงงกับคำต่อว่าที่แสนเย็นชาของลูเซีย ถึงแม้เด็กหนุ่มจะวิ่งเข้ามายืนขนาบข้าง พี่ชายทั้งสองก็ยังทำเสมือนเขาไม่มีตัวตน คนตัวเล็กรู้สึกถึงแรงกดดันของลูเซีย ซึ่งแผ่พุ่งเข้าหาชาฮาร์ที่ค้อมคำนับรับคำต่อว่าของพี่ชายด้วยใบหน้าเรียบเฉย
   
โยชัวเข้าใจว่าชาฮาร์คงจะออมมือ ดูจากการปะทะกันเมื่อครู่ ต่อให้โง่แค่ไหน ก็น่าจะจินตนาการความร้ายกาจของเจ้าชายผู้เจิดจรัสออก
   
คงไม่อยากแข่งขันกับพวกพี่ชายสินะ
 
โยชัวไม่คิดว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสจะเป็นพวกคิดละเอียดอ่อนถึงขนาดนั้น แต่ท่าทางที่ไม่คลายจากความโกรธของลูเซียต่างหาก ที่เป็นปัญญาเฉพาะหน้าซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

เล่นมองชาฮาร์ด้วยแววตากดดันถึงขนาดนั้น
บรรยายกาศอึมครึมเลวร้ายนี่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดไปหยุดอยู่ที่ตรงไหน

“เอ่อ….คือว่า….นี่มันก็เย็นมากแล้ว ท่านพี่ลูเซียข้าหิว แถมเหนียวตัวมากอยากกลับไปอาบน้ำแล้วล่ะครับ”

โยชัวเอ่ยขัดบรรยากาศแย่ๆด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ลูเซียที่กรุ่นโกรธเปลี่ยนสีหน้าท่าทางกลับมาพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากลูเซียให้กลับปราสาทได้ โยชัวก็จูงมือชาฮาร์ที่มีสีหน้าเรียบเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวให้เดินตาม
เพราะอีกฝ่ายเงียบไม่พูดไม่จาจนดูผิดปกติ เด็กหนุ่มที่เริ่มจะลำบากใจ จึงขุดเรื่องไร้สาระมาพูดไม่หยุด ก่อนจะกลายเป็นการเปิดฉากอวยลูเซียผู้เพียบพร้อม ด้วยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเจ้าชายผู้เจิดจรัสดี ในเมื่อพูดอะไรไปชายหนุ่มก็ดูจะไม่ตอบสนอง

“โยชัวชอบท่านพี่ลูเซียเหรอ”

โยชัวอุทานดัง’เอ๊ะ’กับคำถามของชาฮาร์ เด็กหนุ่มจำต้องหยุดเดินแล้วหันไปมองคนที่พยายามขืนตัวเอาไว้จนไม่สามารถจูงมือเดินหน้าต่อไปได้

“พูดอะไรน่ะ”

โยชัวขมวดคิ้ว ไม่ชอบใจนิดๆที่ชาฮาร์พูดจาไร้สาระ แต่ถ้าถามเขาว่า’ชอบลูเซียไหม?’ แน่อยู่แล้วว่าต้องชอบใครๆก็อยากมีพี่ชายที่ใจดีและสุดยอดแบบนั้นทั้งนั้น

“อืมชอบสิ”

โยชัวตอบ แทบจะในทันทีเด็กหนุ่มถูกชาฮาร์กระตุกร่างดึงเข้าไปโอบกอด เจ้าชายผู้เจิดจรัสกอดรัดเขาแน่นจนรู้สึกเจ็บนิดๆและอึดอัด

“ข้ารักเจ้า”
ชาฮาร์กระซิบทั้งที่ยังกอดรัด
โยชัวไม่รู้ว่าคนที่กำลังกอดทำสีหน้าเช่นไร แต่น้ำเสียงของชายหนุ่มดูปวดร้าวและหวาดกลัว

“พูดอะไรเนี้ย! ไม่รู้สึกว่าเจ้าชอบข้าเร็วเกินไปเหรอ ก่อนที่จะออกจากคุกเราอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วันเองนะ”

โยชัวพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอด หากแต่วงแขนที่รัดแน่นปานคีมเหล็ก ทำให้เด็กหนุ่มตระหนักว่าดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์

“อีกอย่าง….สมมุตินะว่าข้าที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่ข้า ไม่สิหลักๆเลยคือข้าไม่ใช่คนที่เจ้าปรารถนา ตัวตนที่แท้จริงของข้ากับคนที่เจ้าชอบ…..รูปลักษณ์ของข้าตอนนี้มัน…….”
โยชัวเปลี่ยนประโยคคำพูดไปมาอย่างสับสน

สำหรับเด็กหนุ่มแค่มีผู้ชายด้วยกันมาสารภาพรักก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่นี่เขาไม่รู้ว่า’ชาฮาร์ชอบตนเองที่มีรูปร่างของน้องชาย?’ ‘ เพราะว่าเข้าใจว่าเขาเป็นน้องชาย?’ หรือว่าอะไรกันแน่
และ ยิ่งไม่เข้าใจ ระยะเวลาเพียงเท่านี้มันเป็นไปได้จริงๆนะเหรอ? ที่คนคนหนึ่งจะตกหลุมรักใครอีกคนหนึ่งได้ถึงขนาดตัดสินใจสารภาพรัก
โยชัวเคยคิดว่ารักแรกพบเป็นแค่เรื่องตลก พอประสบเข้ากับตัวจริงๆ เด็กหนุ่มก็ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตัวยังไง

“ไม่สำคัญหรอกนะ ไม่ว่าจะเวลาหรือรูปลักษณ์เจ้าจะเป็นแบบไหน ที่ข้าชอบก็คือเจ้าในตอนนี้ คนที่อยู่กับข้าเวลานี้ เจ้าที่มีจิตวิญญาณที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน”

“พ….พูดอะไรชวนงงมากเลยนะ”

โยชัวเอ่ยตะกุกตะกัก ทั้งที่รู้สึกตื้นตันอยู่บ้างกับคำบอกรัก ทว่าเนื้อหาคำพูดที่ชวนปวดหัว ทำให้เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าชาฮาร์ต้องการจะสื่ออะไร

ในตอนนั้นเอง เพราะจิตใจที่เริ่มสงบลง โยชัวถึงได้รู้ว่าร่างของคนที่กำลังกอดรัดเขา สั่นเทาอยู่นิดๆ

ไม่ใช่เพราะว่าหนาวแน่ๆ กลัวงั้นเหรอ?
ก็ไม่แปลกหรอก หากให้เขาไปสารภาพรักกับผู้หญิงซักคน ตัวเขาเองก็คงจะสั่นพับพับด้วยความอับอายเหมือนกัน

ทั้งที่คิดว่าการกระทำและความคิดของชาฮาร์วิตถารแท้ๆ แต่โยชัวก็ใช้มือลูบแผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน จังหวะที่ใช้มือปลอบประโลม ก็ถูกจู่โจมด้วยภาพความทรงจำของชายหนุ่ม

“ท่านพี่เป็นพ่อยังไงก็ต้องสนับสนุนชาฮาร์ ให้เป็นราชาปีศาจองค์ต่อไป ท่านก็รู้นี่เรนเดลว่ามันเป็นความปรารถนาของข้า”

ชาฮาร์มองดูอมันด้าผู้เป็นมารดาจากหลังผ้าม่าน ดูคลับคล้ายว่าเจ้าหล่อนจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายของตนกำลังแอบดูอยู่ ที่เป็นเช่นนั้นเด็กชายเข้าใจว่า เพราะท่านลุงเรนเดลได้สอนวิธีการกลบกลิ่นไอให้กับเขาเมื่อสองเดือนก่อน

ไม่สิ จะเรียกท่านลุงไม่ได้อีกแล้ว ก็ในเมื่อท่านแม่พูดออกมาเองว่าคนที่นับถือยิ่งกว่าชีวิต แท้จริงแล้วเป็นพ่อของเขา

ชาฮาร์รู้สึกเสียใจนิดๆที่ตนเองเป็นเด็กที่เกิดมาจากการคบชู้ของแม่ หากแต่ความยินดีกลับมีมากกว่า สำหรับเด็กชาย ท่านพ่อที่แท้จริงผู้นี้ ทำหน้าที่สั่งสอนเขาได้ดีกว่าท่านพ่อในนามที่เป็นถึงราชาปีศาจเสียอีก

“นั่นเป็นเพราะเจ้ามาออดอ้อน อยากให้ทายาทที่เกิดจากสายเลือดบริสุทธิ์ของเผ่าพันธุ์เรา ได้ปกครองเป็นราชาที่แท้จริง หากข้าไม่คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ล้างแค้นโดโนแวน ข้าคงไม่คิดที่จะยินยอมสมสู่กับเจ้า”

ชาฮาร์มองดูเรนเดล เจ้าชายเผ่าหมาป่าอสูรผู้ที่เคยเป็นแม่ทัพและถูกวางตัวให้เป็นราชาปีศาจองค์ต่อจากท่านตาของเขาผู้ล่วงลับ ก่อนที่จะถูกทำลายไปสิ้นด้วยความทะเยอเยอทะยานไม่สิ้นสุดของโดโนแวน

“ว่าแต่หนทางที่จะทำให้เจ้าสมหวังไม่ได้มีแค่การผลักดันชาฮาร์ เจ้ายังมีลาซารัสอยู่ไม่ใช่หรือไง”
เรนเดลพูดก่อนจะยกจอกเหล้าขึ้นดื่มอึกใหญ่

“ลาซารัสน่ะไม่ได้หรอก”
อมันด้ามีสีหน้าลำบากใจ เจ้าหล่อนแสดงท่าทีหวาดกลัวด้วยการโอบกอดร่างของตัวเองที่สั่นระริก

“เจ้าเด็กนั่นกำลังคิดอะไรอยู่ข้ายังไม่รู้เลย”

“เจ้าเองก็อ่านใจชาฮาร์ไม่ได้เหมือนกันนี่ เพราะงั้นแทนที่จะฝากความหวังกับชาฮาร์ ลาซารัสที่หน่วยก้านดีกว่า น่าจะเป็นราชาที่ดีหลังจากกำจัดโดโนแวนได้”

“อะไรของท่าน….”

อมันด้าตวาดเสียงกร้าว เจ้าหล่อนหงุดหงิดเอามากๆ ก่อนจะฉุกคิดได้อะไรบางอย่าง แล้วหัวเราะเสียงแหลมสูงด้วยท่วงท่าที่ดูยั่วยวน

“ท่านคงจะเป็นห่วงชาฮาร์เพราะเป็นลูกในไส้สินะ…..อย่ามาขัดขวางความเจริญของลูกข้าจะดีกว่า หมาขี้แพ้อย่างท่านแค่มอบกำลังสนับสนุนของเผ่าเราให้ชาฮาร์ก็พอ”

ภาพใบหน้าเย้ยหยันของอมันด้าค่อยๆเลือนหาย เวลานี้ชาฮาร์ในวัยสิบขวบกำลังถอนหายใจโดยมีเหล่าเมดสาวมองดูด้วยความเป็นห่วง

“ไปหาท่านลุงเรนเดลดีหรือเปล่าคะท่านชาฮาร์”

สาวเมดถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หากแต่ชาฮาร์กลับไม่สนใจ เจ้าชายผู้เจิดจรัสเฝ้าแต่คิดถึงเด็กชายผู้เคยเลี้ยงดูเขาในร่างลูกสุนัข
ถึงแม้จะเป็นเวลาแค่เพียงห้าวัน แต่ความน่ารักของเด็กคนนั้น ทำให้เขาอยากจะกลับไปพบอีกครั้งจนแทบจะดิ้นทุรนทุราย ทั้งที่พึ่งจะกลับมาที่โลกนี้แค่สามวันเพียงเท่านั้น

“อยากทำอะไรก็ทำเลยสิคะ ถ้าเกิดว่าต้องมาเสียดายแบบนี้ สู้ทำในสิ่งที่ปรารถนาให้ถึงที่สุดถึงจะเรียกได้ว่าไม่เสียชาติเกิด”

ลอร่าเมดสาวสวมแว่น ซึ่งเป็นพี่เลียงที่ไกล้ชิดและเข้าใจชาฮาร์มากที่สุดเอ่ยสั่งสอน
คำพูดของลอร่าจุดประกายความคิดให้ชาฮาร์ จนในที่สุดเจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ตัดสินใจกลับไปหาเด็กชายผู้เป็นเจ้าของเขาในโลกนั้นอีกครั้ง

ภาพเหตุการณ์ในความทรงจำถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ชาฮาร์ในร่างลูกสุนัข กำลังเล่นโคลนกับเด็กชายที่ตอนนี้เปื้อนโคลนมอมแมม จนไม่รู้แล้วว่าเป็นใครและมีตำหนิบนใบหน้าแบบไหน

ดูเหมือนว่าการกลับมาของชาฮาร์จะทำให้เด็กชายดีใจมาก ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ลูกสุนัขก็ดอดมาเล่นสนุกกับเจ้าของของมันทุกวันอย่างสม่ำเสมอ

“สนุกกันใหญ่เลยนะ”

ชาฮาร์ที่คลอเคลียขาเจ้าของไปมาหยุดชะงัก เสียงที่ทรงพลังและเย้ายวนแบบนั้นไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้นอกจากพี่ชายผู้แสนชั่วร้าย ชาฮาร์ขู่คำรามลาซารัสอย่างดุดันด้วยร่างที่ยังเป็นลูกสุนัข

“พี่ชายเป็นใคร? นี่มันสวนของคุณย่า นอกจากคนงานแล้วไม่น่ามีคนอื่น”
เด็กชายเปื้อนโคลนถาม

ทั้งที่ลาซารัสในเวลาปกติ คงจะไม่รีรอกลั่นแกล้งเด็กชายที่บังอาจเอ่ยถามตัวตนของเจ้าชายปีศาจ ด้วยชาติกำเนิดที่ตำต้อยกว่า กลับกันรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนและดูจริงใจของลาซารัส ทำเอาชาฮาร์ขนลุกซู่ แล้วครางหงิงๆออกมาด้วยเสียงของลูกสุนัข

“เจ้านี่มันเป็นคนนะ”

เสียงอุทานในใจของชาฮาร์และเสียงของเด็กชายเปื้อนโคลนร้องออกมาพร้อมเพียงกันดัง’อ๊ะ’

“จริงเหรอ?”
เด็กชายถามก่อนจะเอียงคอมองดูชาฮาร์

ลูกหมาน้อยชาฮาร์หวาดกลัวจนตัวสั่น เขาไม่อยากให้เด็กชายผู้เป็นเจ้าของรังเกียจตัวเอง อยากจะสนิทสนมอยู่ข้างๆไปเรื่อยๆ แค่ร่างลูกสุนัขแบบนี้ก็ได้ เจ้าชายผู้เจิดจรัสไม่หวังมากไปกว่านั้นหรอก

ทั้งๆที่มันกำลังจะเป็นไปได้ด้วยดี
ทำไม?เจ้าลาซารัสถึงต้องโผล่มาตอนนี้ด้วย

“คืนร่างซะชาฮาร์”

ลาซารัสออกคำสั่ง ถึงแม้ชาฮาร์จะพยายามฝืนตัว แต่น้ำเสียงทรงพลังลึกลับดังซ้ำไปมาในหัว ทำให้ลูกสุนัขกลายร่างเป็นเด็กชายเปลือยเปล่า ถึงแม้ว่าจะมีอายุแค่สิบขวบ ทว่าร่างกายสูงใหญ่เกินวัยไม่ต่างจากลาซารัส ที่มีอายุถึงสิบสามปีเต็ม
เมื่อความเป็นจริงถูกเปิดเผย ชาฮาร์ก็ระเบิดน้ำตาร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร โดยมีลาซารัสยืนหัวเราะชอบใจเป็นฉากหลัง

อยากจะหนีไปซะให้พ้นๆ แต่ว่าก็อับอายจนเกินจะก้าวขาออก

ในตอนนั้นเอง เด็กชายที่ชาฮาร์ปรารถนาจะอยู่ใกล้ๆตลอดไป ยื่นผ้าเช็ดหน้าที่ยังสะอาดอย่างไม่น่าเชื่อมาให้

“อย่าร้องไห้นะ”

ชาฮาร์มองดูคนพูดที่กำลังยิ้มนิดๆ ก่อนจะรับผ้าเช็ดหน้ามา เด็กชายเปื้อนโคลนตรงหน้าดูจะไม่ใส่ใจความผิดปกติของเจ้าชายผู้เจิดจรัสเลยซักนิด นอกจากนั้นยังแสดงออกด้วยความว้าวุ้นใจ เรื่องที่จะหาเสื้อผ้าจากไหนมาให้เขาที่ยืนเปลือยเปล่าสวมใส่

“ข้าหาให้เอาไหม”
ลาซารัสพูดยิ้มๆหลังจากหัวเราะร่วนด้วยความสนุกจนสาแก่ใจ

“จะหาให้จริงเหรอ?แน่ใจนะว่าจะไม่แกล้งลูกหมาของผม”

ชาฮาร์ร้องคำว่า’เห็นด้วย’ในใจ ลาซารัสทำแค่เพียงยักไหล่ก่อนจะหายตัวไปด้วยการเทเลพอร์ตแล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมเสื้อผ้า

“ใส่ซะ”

ลาซารัสโยนเสื้อผ้าให้ชาฮาร์
เสื้อผ้าที่พี่ชายผู้ชั่วร้ายหามาให้พอดีตัวจนชาฮาร์รู้สึกแปลกใจ

“เท่านี้ก็ไปเล่นกันต่อได้แล้วนะ”

เด็กชายที่เปื้อนโคลนจนมอมแมมฉีกยิ้ม มือเล็กคว้ามือชาฮาร์เตรียมออกวิ่ง แต่ก็หยุดชะงัก เด็กชายมองดูลาซารัสที่ยืนยิ้มยั่วเย้า แล้วยื่นข้อเสนอที่ทำให้ชาฮาร์ค่อนข้างไม่ชอบใจ

“พี่ชายเหมือนจะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยนะ ก็นิสัยไม่ค่อยดีนี่เนอะ เล่นด้วยกันหลายคนมันสนุกกว่า พี่ชายไปเล่นกับพวกเราเถอะ”

วินาทีนั้นลาซารัสก็เผยอยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ชาฮาร์คิดว่าตลอดชีวิตก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นอีก

น่ากลัวแฮะ

ชาฮาร์คิดวนเวียนอยู่อย่างนั้นก่อนจะลืมเลือนไปเมื่อได้เล่นสนุกอย่างเด็กๆด้วยกันสามคน


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่11 แล้งค่ะ

ตอนหน้าอาจจะซักห้าหรือหกวันอย่างช้า

แต่ถ้าเราพิมทันก็สองถึงสามวันเหมือนเดิมจะเอาตอนต่อไปมาลงค่ะ

รักคนอ่านค่ะ


ออฟไลน์ Maiiz Ellfiez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่านะ  อย่างไงลาซาลัสก็เคยเป็นเด็กมาก่อนอยู่ดี

ลาซาลัสนำไปหนึ่งแต้มแล้ว แต่คนอื่นนี่ยังอยู่ใระยะปับปี้เลิฟอนุบาลกันอยู่เลยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เด็กน้อยนี่คือโยชัวแน่เบยยยยย

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่ชายเหมือนจะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยนะ ก็นิสัยไม่ค่อยดีนี่เนอะ 

อ่านประโยคนี้แล้วขำ 5555555555

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชักอยากรู้แล้วว่าเด็กคนนั้น จะใช่ โยชัวไหมนะ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เด็กคนนี้จะใช่โยชัวมั้ยนะ  :hao4:

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
นี่บอกตรงๆ นะ ถึงเนื้อเรื่องจะมีถึงแค่ตอนนี้
แต่ในสมองตอนอ่าน จินตนาการถึงฉากจบแล้วว่าจะเป็นแบบไหนนน

ออฟไลน์ poisongodx

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รอตอนต่อไปจ้า  :hao5:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่12

   สายลมหนาวพัดเส้นผมสีดำขลับให้ปลิวสยายไปตามลม โยชัวที่อยู่เพียงลำพังบริเวณระเบียงในห้องนอน เหม่อมองดวงดาวที่เกลื่อนท้องฟ้ายามค่ำคืน

   ข้ารักเจ้า

   จนถึงตอนนี้ แม้จะเป็นเวลาดึกมากแล้ว แต่โยชัวก็ไม่อาจสลัดคำพูดหวานหูของชาฮาร์ ที่นำมาซึ่งความลำบากใจไปจากความคิด  ทว่าคำพูดที่ออกมาจากปากก็เป็นเพียงแค่คำพูด เทียบไม่ได้กับความทรงจำของเจ้าชายผู้เจิดจรัส ที่ล้วนแล้วแต่เป็นความจริง และตัวเขา ก็รับรู้ความในใจของชายหนุ่มอย่างทะลุปรุโปร่ง

   เด็กชายที่เห็นในความทรงจำของชาฮาร์ตลอดหลายครั้ง  เด็กคนนั้นเป็นผู้ที่ชายหนุ่มคิดคำนึงอยากจะอยู่ด้วยกันตลอดไป  ถึงในความทรงจำเจ้าชายผู้เจิดจรัสจะยังไร้เดียงสา จนไม่รู้ว่าความรู้สึกเช่นนั้นมันคืออะไร

   แต่สำหรับโยชัวที่ถึงแม้จะอายุแค่เพียงสิบห้า  เด็กหนุ่มก็ได้สัมผัสกับสถานการณ์สมมุติหลากหลายรูปแบบผ่านสื่อบันเทิงมากมายจนแน่ใจว่า  สิ่งที่ชาฮาร์รู้สึกกับเด็กชายที่ตัวเขาเองไม่เคยได้เห็นโฉมหน้าก็คือความรักไม่ผิดแน่นอน
   
โยชัวไม่เข้าใจ ทั้งที่ในความทรงจำชาฮาร์ถวิลหาเด็กชายคนนั้นถึงเพียงนี้ แล้วทำไมถึงบอกรักเขา ที่พึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้แค่ไม่กี่วัน

   “เจ็บแฮะ”

โยชัวเอามือกุมบริเวณหน้าอก ความปวดแปลบเพียงชั่วเสี้ยว ถึงจะพอรู้อยู่บ้างว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่เด็กหนุ่มก็เลือกที่จะไม่สนใจมัน
   
ชาฮาร์อาจจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองผิดไป จะว่าไปในความทรงจำของอีกฝ่าย เจ้าชายผู้เจิดจรัสดูปลื้มกับโยชัวคนเดิมอยู่มาก อาจเป็นเพราะความเหงาและสงสาร ชายหนุ่มก็เลยสารภาพรักกับเขา ทั้งที่เข้าใจผิดคิดว่าความห่วงใยแบบพี่น้องคือความรักที่แท้จริง

   “ยืนตากลมอยู่แบบนี้ไม่หนาวงั้นเหรอ”
   
โยชัวหันไปมองลาซารัสที่ยืนส่งยิ้มยั่วเย้ามาให้ เพราะเด็กหนุ่มอยู่ในอารมณ์ที่ไม่สู้จะดีนัก บวกกับคุ้นชินในความหน้าด้านเอาแต่ใจ อีกทั้งยังไม่สามารถต่อต้านขัดขืนอีกฝายได้ คนตัวเล็กจึงไม่ตื่นกลัวและเลือกจะกลับไปครุ่นคิดอย่างเหม่อลอยอีกครั้งขณะที่ยืนดูดาว

   “เกิดอะไรขึ้น?”
   ลาซารัสตั้งคำถามพร้อมกับโอบกอดโยชัวจากทางด้านหลัง
   
แม้ว่าคำพูดของเจ้าชายปีศาจจะไม่ได้เจาะจงบังคับ แต่ถ้าชายหนุ่มต้องการแล้วล่ะก็  โยชัวเข้าใจว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางขัดขืนได้สำเร็จ ก่อนที่จะถูกล้วงความลับเกินความจำเป็นสู้บอกออกไปเองซะจะได้จบเรื่อง

“ถูกชาฮาร์บอกรัก”

เสียงหัวเราะเบาๆอย่างสนุกสนานดังขึ้นหลังโยชัวพูด ลาซารัสกระชับอ้อมแขนแน่นเข้าพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งเล่นผมเส้นเล็กนุ่มนิ่มของคนในอ้อมกอดอย่างเพลินมือ

“ลำบากใจอย่างนั้นเหรอ? รังเกียจชาฮาร์หรือไง”

“เพราะไม่ได้รังเกียจไง ถึงได้กลุ้มใจ”
ลาซารัสหัวเราะอีกครั้งอย่างรื่นรมย์เมื่อได้ฟังคำตอบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกโยชัวให้หันมาเผชิญหน้าทั้งที่ยังกอดรัด

“แล้วถ้าพี่ชายคนนี้บอกว่ารักเจ้าเหมือนกันล่ะ”

โยชัวเบิกตากว้างเพราะไม่อยากจะเชื่อ และยิ่งเห็นรอยยิ้มที่ยียวนของลาซารัสยิ่งทำใจให้เชื่อไม่ได้เข้าไปใหญ่ ทว่าในตอนนั้นเด็กหนุ่มก็ถูกเล่นงานด้วยภาพความทรงจำของเจ้าชายปีศาจ

“อ้า…….”

อมันด้าครวญครางพร้อมกับบิดระทวยอยู่ใต้ร่างลาซารัส ขณะที่มารดาผู้มีรูปโฉมงดงามทั้งหวีดร้องทั้งออกคำสั่งให้ปรนเปรอความสุขกับตนเองอย่างร้อนร่าน ผู้เป็นบุตรอย่างลาซารัส ทั้งที่กำลังประกอบกิจกรรมทางเพศ นอกจากความรู้สึกดีที่เป็นความสุขทางกายแล้ว ในหัวของเจ้าชายปีศาจผู้มีใบหน้าลึกลับเย้ายวนกลับว่างเปล่าไร้ความคิด
และถึงแม้ว่าลาซารัสจะยิ้มเย้ายั่วยวน ทั้งยังพูดจากระตุ้นให้อมันด้าเกิดความพึงพอใจ หากแต่ความว่างเปล่าของจิตใจ ทำให้โยชัวขนลุกชันด้วยความหวาดผวา

ไม่มีอะไรเลยเหรอ? ไม่มีความคิดเลยแม้แต่นิดเดียว

คนคนนี้น่ากลัว! สามารถทำเรื่องผิดศีลธรรมได้อย่างไม่รู้สึกผิด

ผู้ชายคนนี้สามารถโกหกหลอกลวงได้อย่างไม่คิดอะไร

ช่วงเวลาที่โยชัวหวาดกลัวกับความว่างเปล่าของลาซารัส ภาพความทรงจำที่อยู่รอบตัวเด็กของหนุ่มก็ถูกสับเปลี่ยน
ดวงอาทิตย์ยามเย็นที่สวยงาม ท่ามกลางทุ่งดอกลิลี่สีขาวที่ผลิบานเป็นจำนวนมาก ลาซารัสมองดูใบหน้าของเด็กชายที่ถูกสะท้อนแสงจนเห็นใบหน้าไม่ชัดด้วยรอยยิ้ม

“จะไม่ได้พบกันอีกแล้วงั้นเหรอ”

เด็กชายผู้ถูกแสงตะวันบดบังใบหน้าถามชาฮาร์ซึ่งมีใบหน้าบิดเบี้ยว ภาพน้องชายอายุสิบสาม หากแต่ตัวใหญ่ยักษ์จนเกือบจะเทียบเท่าเขาที่อายุสิบหก การที่ชาฮาร์พยายามกลั้นน้ำตาอย่างเต็มความสามารถ ถ้าเป็นเวลาปกติ ลาซารัสคงไม่รอช้าที่จะกลั่นแกล้งน้องชายให้ร้องไห้จนสาแก่ใจ  แต่ในตอนนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่มีอารมณ์จะทำแบบนั้น

“เข้าใจเรื่องที่กำลังลำบากไม่ได้ทั้งหมดหรอกนะ แต่ถ้าการที่ไม่ได้พบกันอีก จะทำให้อะไรๆมันดีขึ้น ผมก็คงจะเอาแต่ใจไม่ได้”

คิดถึง…เสียใจ…น้อยใจ

เพราะว่าลาซารัสเกิดมาก็ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตไหนที่ไม่สามารถอ่านความคิดได้ จะมีก็แต่น้องชายที่เกิดจากมารดาที่เป็นมนุษย์เท่านั้น ดังนั้นความรู้สึกของเด็กชายร่างเล็กผู้ซึ่งกุมหัวใจของชาฮาร์เอาไว้อย่างแน่นหนา จึงส่งผ่านให้เขารู้ว่าร่างเล็กเองก็เจ็บปวดที่ต้องแยกจากกัน

“พี่ลาซารัสก็จะไม่มาหาผมด้วยเหมือนกันสินะ”

เด็กชายผู้ถูกแสงอาทิตย์บดบังใบหน้าหันกลับมาพูดคุยกับลาซารัส ใบหน้าที่พยายามอดกลั้นไม่ยอมร้องไห้ เจ้าชายปีศาจมองดูด้วยความปวดใจ

เส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตากลมโต ใบหน้าที่น่ารัก ซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ช่างงดงามเกินกว่าจะเอาไปเทียบกับสิ่งใด ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเข้าใจในรสนิยมความงามของเขา หากแต่ตัวตนของเด็กคนนี้จะถูกเก็บไว้ในความทรงจำของลาซารัสตลอดไป ที่ต้องทำแบบนี้ ทั้งหมดเพื่อเด็กชายที่พวกเขาอยากจะปกป้อง

แต่ทว่า ความคิดดำมืดที่ผุดขึ้นมากลางใจ ความต้องการที่แผดเผาอยู่ในอกจนแทบดิ้นพล่าน มันร่ำร้องเตือนตนเองให้ทำสิ่งที่ตรงกันข้าม แน่นอนว่าไม่ใช่ความคิดของเจ้าชายปีศาจแค่ผู้เดียว ไอ้ความคิดก้าวร้าวดุดันของชาฮาร์ ความปรารถนาด้านลบของน้องชายที่คลานตามกันมา กระตุ้นความดิบเถื่อนหยาบช้าอันเป็นรากเหง้าของเผ่าพันธุ์แห่งความมืด ให้สำรอกตัณหาที่ไม่สิ้นสุดออกมาจนแทบกลืนมันกลับไปไม่หมด

ไม่มีวันปล่อยมือไปอย่างเด็ดขาด

ต่อให้ต้องทำร้ายหรือทำให้เด็กคนนี้ต้องเสียใจ

‘รัก’ คำคำนี้ต่อให้พูดอีกเป็นหมื่นเป็นแสนคำ ก็ไม่สามารถแทนที่ความรู้สึกที่ระอุอยู่ภายใน ทั้งที่ปีศาจอย่างเขาไม่น่าจะเกิดความคิดที่ไร้สาระเช่นนี้ แต่ในเมื่อมันบังเอิญเกิดขึ้นมาแล้ว ก็มีแต่จะต้องทำใจยอมรับกับความรู้สึกที่แปลกประหลาดจนเหลือเชื่อ

“เมื่อถึงเวลาเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง”

“สัญญานะ”

ถึงแสงอาทิตย์จะย้อนจนบดบังใบหน้าของคู่สนทนา แต่ความรักที่เด็กชายตรงหน้ามี ก็ท้วมท้นออกมาจนลาซารัสรับรู้ได้ เด็กคนนี้มีรักให้เขากับชาฮาร์ ความคิดที่อยู่ในหัวมันบอกชัดถึงเพียงนั้น

“ตกลงว่าจะตอบรับความรู้สึกของพี่ชายคนนี้ยังไง”

หลังจากหลุดออกมาจากความทรงจำ ดวงตาที่กลับมาแจ่มใสอีกครั้ง จดจ้องลาซารัสที่มีรอยยิ้มซุกซนเกลื่อนใบหน้า

จะชาฮาร์ก็ดี…ลาซารัสก็ดี…ทั้งที่มีคนรักเพียงหนึ่งเดียวอยู่ในใจแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังมาบอกรักเขา ราวกลับได้ลืมเลือนคนรักในความทรงจำไปเสียสิ้น กับชาฮาร์ที่มีนิสัยตรงไปตรงมา การที่มาหลงรักเขาก็ยังมีปัจจัยพอเป็นไปได้ แต่ลาซารัสนี่สิ นอกจากจะต้องรับมือกับนิสัยที่ดีดีร้ายๆ คำพูดบอกรักที่พูดออกมาเมื่อครู่ โยชัวคิดว่าเชื่อถือไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

“คนที่คุณรักจริงๆคือใครกันแน่”

ลาซารัสเลิกคิ้วกับท่าทางแข็งกร้าวอย่างเฉียบพลันของโยชัว

“เด็กผู้ชายคนนั้นคือใครกัน? มีคนที่รักอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

โยชัวมองดูลาซารัสที่นิ่งงันไปอย่างไม่เคยเป็น ดูท่าว่าคำพูดของเด็กหนุ่มจะแทงใจเจ้าชายปีศาจ ใบหน้าที่ตกใจอย่างคาดไม่ถึงนี้ หากไม่ใช่ สีหน้าที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกที่แท้จริง เห็นทีว่าชายหนุ่มคงจะเป็นปีศาจหลายบุคลิก ถ้าไม่อย่างนั้น ก็ไม่รู้ใช้อะไรมาอธิบายการกระทำของเจ้าชายปีศาจทั้งในความทรงจำและในเวลาปัจจุบัน

“ว่ายังไงล่ะ”

โยชัวเอ่ยกดดัน เด็กหนุ่มเตรียมใจรับความโกรธที่อาจจะเกิดขึ้นของลาซารัส  หากทว่า เจ้าชายปีศาจกลับเผยอยิ้มที่ทำให้เขาตื่นตะลึง รอยยิ้มซึ่งไม่ควรเป็นของคนที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและวิกลจริต

โยชัวชมดูรอยยิ้มที่สวยงามเช่นนั้นด้วยความเผลอไผลจนลืมทุกอย่างไปเสียสิ้น ลืมแม้กระทั้งการควบคุมตัวเอง เด็กหนุ่มปล่อยให้เจ้าของรอยยิ้มที่น่าตื่นตะลึง จุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปาก หลังจากลาซารัสถอนจูบ เจ้าชายปีศาจออกคำสั่งเขาด้วยเสียงเย้ายวนจนแทบใจสั่น

“นอนซะ…”

คำพูดของลาซารัส ถ้าเป็นในเวลาที่ปกติโยชัวก็คงจะต่อต้าน แต่คงเป็นเพราะรอยยิ้มที่ไม่คาดว่าจะได้เห็น เด็กหนุ่มจึงผล็อยหลับอย่างว่าง่าย โดยที่เจ้าชายปีศาจช้อนตัวอุ้มนำไปวางลงบนเตียงอย่างเบามือ
โยชัวรู้สึกตัวถึงเพียงเท่านี้ ก่อนจะหลับลึกแล้วลืมตาตื่นอย่างสดชื่นในเช้าวันต่อมา

“อร่อยไหมโยชัว”

ชาฮาร์ที่รับประทานอาหารเสร็จไปก่อนนานแล้วถามขณะนั่งเท้าคางมองดูโยชัวกิน ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มใช้เวลาสองสามชั่วโมง ถึงจะทำใจออกมาพบหน้าของอีกฝ่ายได้ ด้วยกลัวว่าชายหนุ่ม จะขอคำตอบหลังจากที่ได้บอกรักเขาไปเมื่อวานก่อน
ทั้งที่ตอนแรก โยชัวกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น แต่ในความเป็นจริง ชาฮาร์กลับเริงร่า และเอาใจใส่เขา ราวกับไม่เคยสารภาพรักกันมาก่อนเลยแม้แต่ครึ่งคำ

วันนี้โยชัวยอมทำตามใจชาฮาร์อยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้น เป็นคำเรียกร้องที่แสนจะน่ากลัว นั่นคือการที่อีกฝ่ายขอติดโบอันโตบนหัวของเขา จะอธิบายด้วยตัวเองอาจจะเห็นภาพไม่ชัด แต่ถ้าอยากรู้จริงๆก็ขอให้นึกถึงเซเลอร์วีนัส ภาพลักษณ์ของเขาตอนนี้ ไม่ต่างจากกะลาสีเรือจากดาวศุกร์ ยกเว้นเสื้อผ้าที่ใส่กับเพศสภาพเท่านั้น ที่ยังไงก็ไม่มีทางเหมือน

อุตส่าห์คิดว่าทำใจได้แล้วแท้ๆ แต่โยชัวก็ยังถลึงมองชาฮาร์จนตาแทบจะหลุดจากเบ้า ถึงจะแสดงความเกรี้ยวกราดออกไป แต่ดูเหมือนเจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่วันยังค่ำ ในตอนนั้นความดันที่ขึ้นสูงปรี๊ดจนเต็มปรอท ก็ลดต่ำลงมาจนติดลบ เรียกได้ว่าห่อเหี่ยวจนไม่มีอารมณ์ที่จะคิดถึงเรื่องอื่น

“วันนี้โยชัวจะไปซ้อมยิงธนูกับท่านพี่ลูเซียอีกสินะ”

“ก็ใช่…”
โยชัวตอบคำถามของชาฮาร์ที่อารมณ์แจ่มใสเหมือนทุกๆวัน

แกล้งทำเพราะอายอยู่หรือเปล่านะ? หรือว่าเข้าใจตัวเองดีพอแล้ว
เรื่องที่จริงๆ ความรู้สึกที่มีต่อตัวเขา เป็นแค่ความพลั้งเผลอชั่วครั้งชั่วคราว

โยชัวรู้สึกอึดอัดใจเล็กๆ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ถึงกับเจ็บจี๊ดๆแบบคราวก่อน เด็กหนุ่มไม่ค่อยชอบเป็นตัวแทนของใคร แต่ถ้าแค่ช่วยคลายเหงาในรูปแบบของเพื่อนที่ไม่ใช่ชู้สาว สำหรับชาฮาร์ที่ดีต่อเขามาก โยชัวก็ยินดี
ยิ่งกับพี่ลูเซียด้วยแล้ว เด็กหนุ่มตั้งใจที่จะทำตัวให้สมกับที่ได้รับความเมตตา ด้วยการเป็นน้องชายที่ดีที่สุด มากเท่าที่จะทำได้

“ถ้างั้นพี่ชายจะไปหยิบดวงจันทร์สีขาวมาให้นะ”

“ขอบคุณ”

โยชัวพูดก่อนที่ชาฮาร์จะปลีกตัวไปที่ห้องส่วนตัวของเขา เด็กหนุ่มฮัมเพลงซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในโลกของตน ระหว่างที่รอชายหนุ่มกลับมา

ถึงแม้ว่าโยชัวจะรู้สึกวุ่นวายและหวาดกลัวกับเรื่องที่สาดซัดเข้าหาไม่ต่างจากคลื่นยักษ์ หากแต่คิดว่า
“อีกเดี๋ยวจะได้ไปฝึกยิงธนูกับพี่ลูเซีย”  จิตใจก็ค่อยๆเบิกบานขึ้น อาจเป็นเพราะเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ ไม่เคยนำสิ่งที่เรียกว่า”ความกังวล”มาให้

ดังนั้นโยชัวจึงสามารถไปพบและใช้เวลาร่วมกับอีกฝ่ายโดยที่จิตใจไม่ขุ่นมัว ถึงแม้จะรับรู้อดีตอันน่าเศร้าของลูเซียไปแล้วก็ตาม


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่12แล้วค่ะ

ตอนหน้าจะเอามาลงอีกสามสี่วันนะคะ

นิยายมาได้ครึ่งเรื่องแล้ว

สำหรับคนอ่านที่เดาเนื้อเรื่องได้

ขอให้ตามอ่านตามเม้นเราจนจบด้วยนะคะ

รักคนอ่านค่ะ

ออฟไลน์ Perry_Pie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-3
สนุกกกกก รอนะค่ะ :katai4: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
 :katai5: มาต่อเร็วๆจ้า

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
รอๆๆๆ
รอให้ปริศนาทุกอย่างคลี่คลายยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่13   
   
   “วู้ว…”
   
โยชัวที่ร้องตะโกนอย่างสนุกสนาน กำลังนั่งอยู่บนหลังของชาฮาร์ในร่างหมาป่าอสูร ซึ่งย่อขนาดให้เล็กลงพอดีกับการที่จะต้องเป็นพาหนะให้กับเด็กหนุ่ม
   
เส้นผมที่ปลิวไสว สายลมอุ่นซึ่งกระทบร่าง ด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ของหมาป่าอสูร ความรู้สึกที่ได้สัมผัส ไม่ต่างจากเครื่องเล่นในสวนสนุก หากแต่เร้าใจโยชัวมากกว่า เพราะนอกจากจะได้สนุกกับความเร็วประดุจสายลม บรรยากาศและทิวทัศน์รอบตัวก็สร้างความอิ่มเอมใจ ให้กับเด็กหนุ่มมากมายพอพอกัน

   “ที่นี่เหรอ…”
   
โยชัวซึ่งลงจากหลังของชาฮาร์ถามขึ้น หลังจากที่ถูกพาวิ่งห้อมาตลอดทางและหยุดฝีเท้าตรงหน้าทางเข้าป่าอันมีต้นไม้สูงชะลูดมากมาย ในตอนนั้น ลูเซียที่โบยบินตามมาติดติดบนท้องฟ้า ก็ร่อนลงสู่พื้นแล้วเก็บปีกทั้งหกข้างของตนเอง

   “เข้าไปกันเถอะ”

   ลูเซียเอ่ยสั่งด้วยรอยยิ้ม หากแต่ชาฮาร์ในร่างหมาป่าอสูรกลับส่งเสียงประท้วงอย่างไม่พอใจด้วยเสียงของสุนัขตัวใหญ่ โยชัวซึ่งนึกถึงความผิดปกติได้ก่อนใคร ก็อุทานดัง ’อ๊ะ’ ออกมาเสียงดัง

   “ลืมไปเลยว่าเอาเสื้อผ้าของชาร์ติดมาด้วย…จะให้เข้าไปทั้งร่างหมาก็คงไม่ค่อยชอบสินะ”

   โยชัวยิ้มกว้างก่อนจะยื่นห่อผ้าที่บรรจุเสื้อผ้าให้หมาป่าอสูรคาบไป
   หลังจากที่ชาฮาร์หายเข้าไปในป่า โยชัวซึ่งอยู่ตามลำพังกับลูเซียก็หันไปหาตั้งใจจะชวนคุยเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ หากแต่เจ้าชายแห่งสวรรค์กลับยืนกอดอกเอียงคอมองดูเขา คิ้วเรียวยาวบนใบหน้าเยือกเย็นขมวดเป็นปม คล้ายกับกำลังสงสัยในอะไรบางอย่าง

   “เป็นอะไรไปครับท่านพี่ลูเซีย
   
โยชัวถามด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน พอเห็นลูเซียหยิบมีดสั้นแล้วเดินตรงเข้ามาหา เด็กหนุ่มก็ยืนตัวเกร็งหลับตาปี๋ แบบเด็กๆที่กลัวและไม่เข้าใจการกระทำซึ่งแปลกประหลาดของพ่อแม่

   แคว้ก
   
เสียงที่เกิดจากการฉีกขาดของอะไรบางสิ่งดังอยู่ใกล้ๆตัว พอลืมตาขึ้น ที่บริเวณเท้าของเขา เส้นผมสีดำกระจายเป็นกองๆเกลื่อนพื้น
   
“ท่านพี่ลูเซีย…”

   “อยู่นิ่งนิ่งยังไม่เสร็จ”
   
หลังจากที่ลูเซียจัดการกับเส้นผมที่เคยยาวจนถึงข้อเท้าของโยชัวจนพึงพอใจ เด็กหนุ่มที่นึกรำคาญผมซึ่งยาวรุงรังอย่างไร้คุณค่ามาโดยตลอด ก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างชอบใจในผลงานของลูเซีย และถึงแม้ว่าผมของเขาจะยังยาวมากเกินปกติอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าเทียบกับคราวก่อน ความยาวปัจจุบันที่เลยบั้นท้ายมานิดหน่อย นับว่าดีกว่ากันอย่างมากมายมหาศาล ทว่าชาฮาร์ที่คืนร่างเป็นมนุษย์และสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว กลับไม่คิดแบบนั้นด้วยเลยซักนิด
   
“เกิดอะไรขึ้นโยชัว!”
   
ชาฮาร์ถลาเข้ามาสำรวจร่างกายของโยชัวทันที่ที่เห็นผมซึ่งถูกตัดออกไปจนสั้น ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายผู้เจิดจรัสเผือดสีลงด้วยความสิ้นหวัง
   
“ท่านพี่ลูเซียตัดให้”
   
โยชัวยิ้มกว้างในขณะที่ชาฮาร์ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดบังใบหน้า เจ้าชายผู้เจิดจรัสพยายามระงับความไม่พอใจซึ่งประทุสูงอย่างเฉียบพลัน เด็กหนุ่มเห็นเส้นเลือดที่ขมับของคนตรงหน้าปูดบวมขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจ โยชัวยังคงฉีกยิ้มระรื่นอย่างอารมณ์ดี ดีจนแทบอยากจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาให้ดังดัง

   “ท่านพี่ทำอะไรลงไปกันครับ!”
   
ชาฮาร์ที่หัวเสียสุดๆตั้งคำถามลูเซียซึ่งมีใบหน้าเย็นชาด้วยท่าทางเอาเรื่อง ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าชายผู้เจิดจรัสจะไม่สงวนท่าทีอันไม่ควรกระทำ อย่างการแสดงความก้าวร้าวกับคนที่เป็นพี่ชายอีกต่อไป

   “ก็แค่ตัดผมให้กับโยชัว”
   ลูเซียตอบเสียงเรียบ เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจไม่เข้าใจว่าน้องชายต่างมารดากำลังโกรธเกรี้ยวตนเองในเรื่องอะไรกันแน่

   “ข้าเข้าใจว่าท่านตัดผมโยชัว…มันก็เห็นกันอยู่ แต่ถ้าท่านจะทำ ท่านก็ควรจะถามความเห็นของข้าก่อน”
   
ยิ่งชาฮาร์โต้เถียงด้วยอาการเลือดพล่านมากเท่าไหร่ ลูเซียที่ถูกต่อว่าก็ยิ่งเยือกเย็นมากขึ้นเท่านั้น ภาพของสองพี่น้องที่กำลังโต้ถียงกัน เพราะมันดูไร้สาระ โยชัวจึงทำเพียงแค่ยืนมองด้วยรอยยิ้ม เด็กหนุ่มคิดว่าอีกไม่นานทั้งคู่ก็คงจะเลิกทะเลาะ แต่ถ้าจะให้พูดกันตามตรง คงจะมีแต่ชาฮาร์แค่คนเดียวเท่านั้น ที่รู้สึกว่ากำลังมีเรื่องขัดแย้งกับลูเซียซึ่งเป็นพี่ชาย

   “ทำไมต้องปรึกษา เรื่องแบบนี้ใช้สามัญสำนึกคิดแล้วตัดสินใจเองได้ โยชัวเองก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร ผมยาวลากพื้นขนาดนั้น จะให้เข้าป่าล่าสัตว์ ถ้าเกิดพันแข้งพันขาจนหกล้มไปก็แย่สิ”

   “ของแบบนั้นรวบเอาก็ได้นี่ครับ”

   ชาฮาร์ยังทุ่มเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ทว่าพอถูกโยชัวที่หัวเราะระรื่นคล้องแขนเดิน อารมณ์คุกรุ่นของชายหนุ่มก็ลดระดับลงจนอันตรธานหายไป ก่อนที่จะหงุดหงิดจนแสดงออกทางสีหน้าอีกหน เมื่อคนตัวเล็กใช้แขนข้างที่เหลือเกี่ยวแขนพี่ลูเซียเดินไปด้วยพร้อมๆกัน

   “เลิกหงุดหงิดเลิกงอนซะทีได้ไหม…”
   
โยชัวพูดด้วยเสียงที่เอือมระอา เนื่องจากตลอดเวลาซึ่งเด็กหนุ่มฝึกซ้อมยิงเป้าเคลื่อนไหวในป่า ด้วยการลองล่าสัตว์อสูรดู ชาฮาร์จะทำตัวฮึดฮัดส่งเสียงกระฟัดกระเฟียดตลอดเวลาที่พี่ลูเซียแนะนำการซุ่มยิงให้แก่เขา

อันที่จริงมันก็คงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ ถ้าเจ้าชายผู้เจิดจรัสไม่พยายามเรียกร้องความสนใจอยู่ตลอดเวลาแบบสุนัขป่วยจนโยชัวไม่มีสมาธิจะเล็งยิงสัตว์อสูรที่ผ่านหน้าไปแม้แต่ตัวเดียว

“อย่าไปสนใจพวกไม่รู้จักโตเลย”
   
ลูเซียพูดด้วยเสียงที่เยือกเย็น  เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจไม่แม้แต่จะปลายตามองดูน้องชายต่างมารดาซึ่งมีปฏิกิริยาเดือดพล่านคล้ายกับกำลังถูกไฟเผาผลาญ โยชัวจ้องดูชาฮาร์ที่โกรธจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ แล้วยิ้มออกมาอย่างละเหี่ยใจ
   
ผ่านไปอีกสองถึงสามชั่วโมง ถึงแม้ว่าชาฮาร์จะสงบอารมณ์ลงได้แล้ว แต่โยชัวก็ยังไม่สามารถยิงสัตว์อสูรในป่าโดนเลยแม้แต่ตัวเดียว เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างปลิดปลง

   “พวกสัตว์มันเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลายิงไม่โดนก็ไม่แปลก ไม่ต้องรีบ ตั้งสมาธิค่อยๆฝึกไป…”
   
ลูเซียเอ่ยปลอบด้วยรอยยิ้ม ทว่าพอโยชัวตั้งท่าจะยิงลูกศรไปยังสัตว์อสูร เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจก็หยุดการกระทำของเด็กหนุ่มด้วยการจับมือเอาไว้แล้วบังคับลดอาวุธลง เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบๆมองดูลูเซียอย่างไม่เข้าใจ

   “เอาอย่างนี้ไหม? เพื่อเป็นการเพิ่มโจทย์บังคับไปในตัว นี่ก็เย็นมากแล้ว หากว่าโยชัวล่าสัตว์อสูรตัวนั้นได้ เราจะเอามันมาทำอาหารเย็น แต่ถ้าล่าไม่ได้ วันนี้พวกเราก็งดอาหารเย็นหนึ่งวัน ต่างคนต่างกลับห้องเข้านอน…”
   
“เอ๊ะ…”
   
โยชัวร้องด้วยใบหน้าเหยเก จะให้อดอาหารเป็นการปรับโทษก็ได้อยู่ แต่ว่าวันนี้ทั้งวันเขาได้ทานอาหารเช้ามาแค่มื้อเดียวเท่านั้น สงสัยว่าคืนนี้คงต้องนอนทรมานทั้งคืน

   “ไม่เป็นไรหรอกโยชัว” ชาฮาร์วางมือแหมะลงบนบ่าของโยชัวแล้วส่งยิ้มที่อบอุ่นโอนโยนมาให้

   “ถึงจะล่าไม่ได้ พอกลับไปที่ปราสาท ลอร่าก็ต้องจัดเตรียมอาหารให้พวกเราอยู่ดี การทำตามความคาดหวังของบริวาร ก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นเจ้านายนะ”
   
ชาฮาร์ปลายตามองลูเซียไปพร้อมๆกับส่งยิ้ม แต่เพราะรอยยิ้มของชายหนุ่ม เป็นรอยยิ้มแบบประชดประชันชวนหาเรื่อง โยชัวที่ถูกใช้เป็นขออ้างในการตีหัวพี่ชายตัวเองของชาฮาร์ จึงทำได้แค่ยืนเหงื่อแตกพลั่กๆ
   
“ถ้าหากคิดว่าศักดิ์ศรีเป็นเรื่องไม่สำคัญ จะทำอะไรก็ตามใจ”
   ลูเซียที่ปกติก็เยือกเย็นอยู่แล้ว เย็นชายะเยือกขึ้นอีกระดับทั้งหน้าตาและน้ำเสียง

   “แน่นอนอยู่แล้ว…ก็ศักดิ์ศรี มันไม่ทำให้อิ่มท้องนี่ครับ”
   
ชาฮาร์ฉีกยิ้มกว้างขณะพูดจาตอบโต้ ทว่าดวงตาคู่สีทองกลับไม่ได้ยิ้มไปด้วยซักนิด
   ไม่ไหวแฮะ…ถึงจะพูดอะไรไป ทั้งสองฝ่ายก็คงไม่เลิกทะเลาะกัน สงสัยว่าต้องยิงเจ้าสัตว์อสูรตัวนั้นให้ได้

   “ขอโทษแล้วกันนะ” โยชัวเอ่ยกับเจ้าสัตว์อสูร ก่อนจะปล่อยลูกศรตรงเข้าหามันหลังจากเล็งยิงจนแน่ใจ
   
“โดนแล้ว…”

   โยชัวร้องตะโกนด้วยความพลุ่งพล่าน เสียงตะโกนของเขาทำให้พี่ชายที่เอาแต่ทะเลาะกัน หันกลับมาสนใจเด็กหนุ่มอีกครั้ง โยชัวออกวิ่งตามสัตว์อสูรซึ่งถึงแม้ถูกยิงแต่ก็วิ่งทะยานหนีไปด้วยความเร็ว

   “โยชัว”
   
เสียงของชาฮาร์และลูเซียดังไล่หลังมาติดๆ แต่กระนั้นก็ไม่ทำให้โยชัวหยุดไล่ล่าเจ้าสัตว์อสูร ที่เขาหมายมั่นให้เป็นมื้อค่ำ เด็กหนุ่มยิงธนูตามหลังเจ้าสัตว์อสูรไปอีกหลายครั้งขณะวิ่งตาม โดนบ้างพลาดบ้างตามประสาคนที่ยังอ่อนประสบการณ์

ในที่สุด สัตว์อสูรก็พาโยชัวซึ่งไล่กวดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หลุดจากป่าทึบออกมายังบริเวณทุ่งกว้าง เด็กหนุ่มตัดสินใจรวบรวมสมาธิ ยืนเล็งยิงแต่ไกล คราวนี้ลูกศรเข้าจุดตายของสัตว์อสูรจนมันล้มลงนอนแน่นิ่ง โยชัวที่โห่ร้องด้วยความยินดี กึ่งวิ่งกึ่งกระโดดตรงไปยังร่างของเป้าหมาย เป็นเวลาเดียวกันกับที่ชาฮาร์และลูเซียวิ่งมาถึงบริเวณซึ่งเขายืนอยู่พอดิบพอดี
   
“ทำได้ดีมาก”

   โยชัวยิ้มขัดเขินเมื่อถูกลูเซียชมและลูบหัวไปมา ก่อนที่จะยิ้มเจื่อนๆ เมื่อถูกชาฮาร์ซึ่งเดือดจัดต่อว่าการกระทำของเขาอย่างระงับอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่

   “อย่าโวยวายไปหน่อยเลยน่าชาฮาร์ เจ้าคิดเล็กคิดน้อย เหมือนผู้หญิงเลยนะ”
   ลูเซียเหน็บแนมขณะคุกเข่าลง เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจหยิบมีดสั้นออกมาแล้วเริ่มต้นลงมือชำแหละสัตว์อสูร
   
“คำพูดนั้นขอคืนเถอะครับ ท่านพี่ก็ใช่ว่าจะพฤติกรรมดีไปกว่าข้า”
   
ชาฮาร์โต้ตอบคำพูดของลูเซียด้วยท่าทางยโส โยชัวเวลานี้ ถึงแม้จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่หูของเด็กหนุ่มก็ยังจดจ่อกับคำพูดของชาฮาร์ ซึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าสนใจของลูเซีย
   หากแต่ยังไม่ทันที่ชาฮาร์และลูเซียจะเปิดฉากโต้เถียง ฉับพลันใบหน้าของชายหนุ่มทั้งสองก็เคร่งเครียดจนโยชัวต้องตกใจ
   
“ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ามาใกล้โดยที่ไม่รู้ตัว เจ้าไม่ได้กลิ่นเลยเหรอชาฮาร์”
   
ลูเซียผู้เคร่งขรึมเก็บมีดสั้นและยืนขึ้น คำพูดที่คล้ายกับจะต่อว่าของชายหนุ่ม ทำให้ใบหน้าของชาฮาร์บิดเบี้บวด้วยความอดสู คำปรามาสของพี่ชายต่างมารดา เป็นดั่งมีดที่แทงลงบนหัวใจของเจ้าชายผู้เจิดจรัสจนพรุน ทำให้ผู้เป็นน้องชายนิ่งเงียบไปอย่างไม่มีคำที่จะกล่าว

   “ดูเหมือนที่พวกปีศาจพากันล่ำลือว่าประสาทสัมผัสของเผ่าหมาป่าอสูรนั้นเป็นสุดยอด จะเป็นแค่เรื่องโกหกสินะ”
   ลูเซียกดเสียงต่ำ ท่าทางระแวดระวังเป็นพิเศษของพี่ชายทั้งสองคน สร้างความตึงเครียดให้กับโยชัวที่ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
   
“ไม้ต้องกลัวนะโยชัว”

   ชาฮาร์คว้ามือของโยชัวขึ้นมาบีบเบาๆขณะที่กวาดมองไปยังรอบทิศทาง ในตอนนั้นที่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เปลวไฟจำนวนมากผุดขึ้นในอากาศ ก่อนจะค่อยๆแปรสภาพกลายเป็นสัตว์อสูรมากมายจนนับไม่ถ้วน

   “ไคเมร่า”
   
โยชัวที่ดวงตาเบิกกว้างร้องครางออกมาอย่างตื่นตระหนก เจ้าสัตว์อสูรร่างกำยำซึ่งเป็นที่รวมของสัตว์ร้ายถึงสามชนิด สิงโต แพะ มังกร ความร้ายกาจของมัน แม้แต่ในโลกภาพยนตร์หรือเกมส์ ก็ยังจัดเป็นสัตว์อสูรที่ขึ้นชื่อในระดับค่อนข้างสูง
 
   เลวร้ายมาก!
   
เลวร้ายที่สุดก็ตรงที่พวกมันมีจำนวนไม่ต่ำกว่าสี่ถึงห้าร้อยตัวเมื่อกะคร่าวๆด้วยสายตา ไม่ไหวแน่ๆ มากขนาดนี้ แถมยังมีเขาเป็นตัวถ่วงด้วยซะอีก

   โยชัวหลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น หากพอฝืนลืมตาขึ้นแล้วมองดูใบหน้าซึ่งไม่แสดงความหวาดหวั่นแม้แต่นิดของพวกพี่ชาย เด็กหนุ่มก็ค่อยๆสงบจิตใจที่ฟุ้งซ่านลง
   
ต้องไม่กลัว อุตส่าห์ฝึกยิงธนูมาเพื่อใช้ปกป้องตัวเองไม่ใช่เหรอ? ถ้าหากว่าเขายังทำตัวขี้ขลาดแล้วยืนอยู่เฉยๆ นอกจากจะเป็นการดูถูกตัวเองแล้ว หนำซ้ำจะกลายเป็นตัวถ่วงขัดแข้งขัดชาฮาร์กับพี่ลูเซีย
   
เอาวะไม่สู้ก็ตาย

   โยชัวใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือดวงจันทร์สีขาวอยู่ตบใบหน้าของตัวเองเต็มแรง เป็นการสร้างแรงจูงใจ

   “เอาล่ะข้าพร้อมแล้ว เข้ามาเลยเจ้าไคเมร่า”

   ถึงแม้จะจะเป็นการสร้างความฮึกเหิมแบบแปลกๆ แต่การตะโกนข่มขู่ศัตรูก็เป็นการช่วยสร้างความกล้าให้กับตนเองในอีกรูปแบบหนึ่ง
   
ในตอนนั้นพี่ชายทั้งสองซึ่งกำลังเคร่งเครียด ก็พากันหัวเราะออกมาอย่างพร้อมเพียง จนโยชัวที่ตั้งใจปลุกความกล้ามีใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย

   “ดีจริงๆที่โยชัวไม่กลัว” ชาฮาร์ฉีกยิ้มกว้าง

   “เป็นน้องชายที่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ”

   ลูเซียระบายยิ้มน้อยๆอย่างพึงพอใจ ดูเหมือนว่าการแสดงออกอย่างบ้าๆ จะขจัดความตึงเครียดของทุกคนไปจนหมด ระหว่างนั้นไคเมร่าก็กำลังเพิ่มจำนวนอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด ชาฮาร์และลูเซียเรียกอาวุธประจำตัวของพวกเขาออกมาเตรียมพร้อม


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่13แล้วนะคะ

ตอนหน้าคงจะซักสามสี่วันเอามาลงนะคะ

ตอนนี้สั้นมากจริงๆต้องขอโทษล่วงหน้านะคะ

รักคนอ่านค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2015 22:54:47 โดย Silvan »

ออฟไลน์ Luksa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮื้อออออออ รออออออ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :katai4:

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
กำลังสนุกเลยยยย ลุ้้นๆ โยชัวจะสู้ไหวหรือเปล่า
รอจ้าาา

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
สัันนนิดนึง แต่ไม่เป็นอะไร อัพไว ให้อภัยได้555
รอตอนต่อไปนะค่ะ สนุกมากๆๆๆเลย ตั้งแต่เริ่มอ่านไม่เบื่อเลยสักนิดเดี๋ยว แถมเข้ามาอ่านหลายรอบด้วย
รอตอนต่อไปปปปปปปปปปปปปปป

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
โฮ่ ตอนหน้าท่าจะมัน  :z2:

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โยชัวอาจได้สกิลใหม่พร้อมอัพเลเวลก็เป็นได้

ออฟไลน์ Perry_Pie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-3
สนุกกกกกก นายเอกเราควบสามเลยนะ
เราชอบพระเอกทั้งสามคนเลยยยยย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :mew1: :ling1: :กอด1: :-[

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
สนุกมากกกก ไม่รู้จะเชียร์ใครเป็นพระเอกดี แต่ก็เอนเอียงไปทางลาซารัสนิดนึง อิอิ  :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด