ตอนที่18
โยชัววิ่งไปตามทางเดินที่มีป่ารกครึ้มอยู่เต็มสองข้างทาง ถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายด้วยห่าฝน คนตัวเล็กก็ไม่ได้หยุดความตั้งใจจนวิ่งมาถึงบ้านสีขาวของลูเซีย
“ท่านพี่ลูเซีย”
ร้องเรียกพร้อมกับเคาะประตูหน้าบ้าน ไม่นานนัก ชายหนุ่มเจ้าของชื่อก็เปิดประตูออกมา
“เกิดอะไรขึ้นโยชัว?”
โยชัวที่ยืนตัวสั่นเทาถูกลูเซียพาเข้าไปในบ้านก่อนจะถูกสั่งให้เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่
“กินซะร่างกายจะได้อบอุ่น”
เขารับเอาถ้วยซึ่งบรรจุนมร้อนมาจากลูเซีย เด็กหนุ่มจำต้องฝืนดื่มกินทั้งที่ไม่อยากสักนิด เพราะเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจใช้ดวงตากับความเงียบกดดันอยู่ตลอด และไม่ว่าจะถามหรือพูดอะไร ชายหนุ่มก็นิ่งขรึมไม่ยอมตอบคำถามอะไรแม้สักนิด คนที่โยชัวพยายามจะสนทนาด้วยเอาแต่บังคับให้เขาดื่มนมร้อนในถ้วยให้หมดเสียก่อน
“แค่ถูกบังคับให้ดื่มนมก็ต้องร้องไห้ด้วยหรือ?”
คนถูกดุก้มหน้าก้มตาดื่มนมไปพร้อมกับอดกลั้นไม่ให้ร้องไห้ออกมา ทว่า เพราะมีเรื่องเลวร้ายมากมายพุ่งเข้าใส่ในเวลาใกล้เคียงกัน ถึงจะหนาวเหน็บเพราะถูกฝนตกกระหน่ำใส่ แต่โยชัวก็ไม่มีอารมณ์จะดื่มนมร้อนๆให้หมดถ้วย
“ดื่มได้แค่ไหนก็แค่นั้นเถอะ”
โยชัวถูกลูเซียแกะมือของเขาที่กุมถ้วยนมเสียแน่นจนมือเกร็ง เมื่อไม่มีถ้วยอยู่ในมือแล้ว เด็กหนุ่มก็เงยหน้าที่ก้มลงขึ้นมองเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ
“เล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”
รอยยิ้มอบอุ่นดังดวงตะวัน ทำให้โยชัวซึ่งกำลังตื่นตระหนกเล่าเรื่องที่ประสบมาได้อย่างมีสติ ตลอดเวลาสองชั่วโมงที่เล่าเหตุการณ์และสิ่งที่คิดเอาไว้ทั้งหมด ลูเซียเปลี่ยนสีหน้าไปมาหลากหลาย ในจำนวนนั้นใบหน้าอ่อนโยนกับโศกเศร้า เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มแสดงให้เห็นบ่อยครั้งมากที่สุด
“โยชัวอ่านความทรงจำคนที่สัมผัสได้อย่างนั้นหรือ?”
คนถูกถามผงกหัวถี่รัวแทนคำตอบ เพราะกำลังหวาดกลัวจนเกินควบคุม เด็กหนุ่มจึงลืมแม้กระทั่งจะปิดบังส่วนสำคัญที่ตัวเขาซุกซ่อนเอาไว้มาโดยตลอด
“เรื่องที่โยชัวเล่ามา บางส่วน มันดูผิดปกติอยู่ พี่ว่าความทรงจำบางอย่างอาจจะไม่ใช่ของจริงก็เป็นได้”
“ทำไมคิดอย่างนั้นละครับ”
“เพราะว่า มีปีศาจบางจำพวก สามารถสร้างความทรงจำลวงหรือความคิดลวงได้นี่สิ”
“เรื่องนั้นมัน…”
โยชัวกลอกตาไปมา เขาเริ่มสงสัยความทรงจำของลาซารัสในส่วนที่เต็มไปด้วยความรักและอบอุ่น พอได้ข้อสรุปว่าแท้จริงแล้วอาจเป็นความทรงจำปลอม ที่เจ้าชายปีศาจปีศาจจงใจสร้างขึ้น ใบหน้างดงามยิ่งกว่าเทวทูตก็บิดเบี้ยวด้วยอารมณ์แปรปรวนจนแม้แต่ตัวเขาเองก็ควบคุมไม่ได้
เด็กหนุ่มพยายามหาเหตุผลนานัปการที่ลาซารัสจงใจส่งความทรงจำปลอมให้ดู เขาตั้งข้อสันนิษฐานมากมายเรื่องที่เจ้าชายปีศาจทำเช่นนี้ อาจจะหมายถึงรู้อยู่แล้วว่าตัวเขานั้นไม่ใช่โยชัวคนเดิม
ถ้าอย่างนั้นการเข้าหาในลักษณะโอ้โลมก็เป็นเรื่องที่วางแผนเอาไว้มาโดยตลอดอย่างนั้นเหรอ?
โยชัวยิ่งประมาลผลก็ยิ่งสั่นเทา ตอนนี้เด็กหนุ่มระแวงแม้แต่ชาฮาร์กับลูเซียจนไม่แน่ใจแล้วว่าคนรอบตัวรู้อยู่แล้วเรื่องที่เขาเป็นคนอื่น หรือแม้กระทั่ง การทำดีด้วยที่ผ่านมา เป็นเรื่องจริงหรือแค่หลอกลวงเล่นสนุกให้เขาหัวหมุนจนเป็นบ้าไปกันแน่
“โยชัว…”
รู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่ตบลงบนแก้มนิ่มเบาๆหลายครั้ง ก่อนหน้านั้นชั่วครู่ เด็กหนุ่มเข้าใจว่าตนเองกำลังตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พอสติกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ที่ตรงหน้า แววตาซึ่งเต็มไปด้วยความรักและเมตตาของลูเซียทำให้ทบนบกั้นน้ำตาของโยชัวพังทลายจนหมดสิ้น เขาร้องไห้ออกมาโดยมีพี่ชายนิ่งมองอยู่เงียบๆ
“ข้าไม่ใช่น้องชายของท่านหรอกครับ” โยชัวบอกความจริงหลังจากร้องไห้ยาวนานนับชั่วโมง
“ท่านคงรังเกียจข้าที่หลอกท่านมาโดยตลอด”
เขาไม่ยอมมองหน้าลูเซียขณะพูด เด็กหนุ่มกลัวที่จะเห็นสีหน้ารังเกียจเหยียดหยามของอีกฝ่าย แต่ในความเป็นจริงกลับถูกปลายนิ้วของเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจเกี่ยวปลายคางให้เงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้า ก่อนจะประทับจูบแผ่วหวิวลงบนหน้าผากจนต้องตกตะลึง
“ทะ..ทำไม?” โยชัวลนลานถามทันทีที่ลูเซียถอนจูบ
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถึงจะต้องเจอเรื่องทุกข์ใจมากมายแค่ไหนนับจากนี้ไป ขอให้เชื่อพี่ชายคนนี้เถอะ ทุกอย่างมันจะต้องจบลงด้วยดีอย่างแน่นอน” ลูเซียให้คำมั่นกับโยชัว พริบตานั้นความสับสนวุ่นวายภายในใจก็มลายหายไปสิ้น ในอกที่ตอนนี้กลวงโบ๋ว่างเปล่าถูกแทนที่ด้วยความอุ่นร้อนยินดี
“เรื่องที่โยชัวสงสัยพี่จะให้คนของพี่สืบหาความจริง ระหว่างนี้พี่ขยับตัวไปทำอย่างอื่นไม่ได้ จนกว่าจะช่วยชาฮาร์ได้สำเร็จ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็มาหาพี่ที่บ้านหลังนี้”
โยชัวผงกหัวขึ้นลงตอบรับ ถึงแม้จะเอ่ยคำลาแล้ว แต่เด็กหนุ่มก็ยังเหลียวหลังมองดูลูเซียที่ยังไม่กลับเข้าไปในบ้านด้วยความอาลัย คนตัวเล็กหันกลับไปมองอยู่หลายครั้งจนในที่สุดเมื่อไม่สามารถมองเห็นได้อีก เขาก็เดินกลับไปยังปราสาทด้วยท่าทางเซื่องซึม
ผ่านไปหลายวัน โยชัวนอกจากจะเอ่ยถามที่อยู่ของชาฮาร์ ขณะเดียวกันก็ต้องระวังตัวตลอดเวลาไม่ให้บังเอิญไปพบกับลาซารัสและซูซาน ยิ่งนานวันผ่านไปจิตใจรวมถึงร่างกายที่ตึงเครียดก็ค่อยๆพอกพูนจนเด็กหนุ่มถึงขั้นนอนไม่หลับ
คืนวันนี้เองก็เช่นกัน โยชัวเดินสำรวจเรื่อยเปื่อยไปตามสถานที่ต่างๆในปราสาทมาจนถึงห้องโถงเอกก่อนจะยืนจดจ้องรูปภาพขนาดใหญ่ซึ่งถูกวาดให้มีเด็กชายสองคนและลูกสุนัขยืนหันหลังมองดูตะวันที่กำลังลับขอบฟ้า
“ชอบภาพนี้อย่างนั้นเหรอ?”
ขนลุกชันทันทีที่ได้ยินเสียงเย้ายวนทรงอำนาจอันเป็นเอกลักษณ์ พอตั้งสติได้โยชัวก็ผลุนผลันวิ่งผ่านลาซารัสไปยังบานประตูของห้อง ช่วงจังหวะที่กำลังจะก้าวพ้นออกจากประตู เด็กหนุ่มถูกกระชากจากด้านหลังจนถลากลับไปแนบชิดกับร่างกายแกร่งของเจ้าชายปีศาจ
“ปล่อย…ปล่อยนะ…”
โยชัวที่ตื่นกลัวจนแทบคุมสติไม่ได้ทั้งดิ้นทั้งตะโกนอย่างสุดกำลัง แต่ถึงจะดิ้นรนต่อต้านสักเท่าไหร่ ในเวลาไม่นาน เขาก็สำนึกได้ถึงความเปล่าประโยชน์ที่จะสลัดให้หลุดจากการจับกุมของลาซารัส
“จะดิ้นหนีไปทำไม พี่ชายอุตส่าห์มาเล่นสนุกด้วยถึงที่แท้ๆ”
ลาซารัสโปรยยิ้มที่สุดแสนจะชั่วร้าย โยชัวซึ่งยังคงดิ้นไม่หยุดยืนแข็งค้างด้วยความตระหนก เมื่อเห็นรอยยิ้มอันแสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของเจ้าชายปีศาจ
“ยืนนิ่งๆได้เสียทีนะ”
เจ้าชายปีศาจหัวเราะในลำคอก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากของคนที่อยู่ใต้การบังคับ โยชัวต่อต้านด้วยการกัดปากของชายหนุ่มทันทีที่รู้สึกถึงปลายลิ้นซึ่งรุกล้ำเข้ามาในโพรงปาก
“น่ารักเสียจริง…” ลาซารัสวาดรอยยิ้มด้วยริมฝีปากที่มีแผลและเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดหลังจากถอนจูบออกอย่างเชื่องช้า วินาทีถัดมาโยชัวก็ร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อถูกฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่ติดกายออกจนหมด
“ไม่นะ…” โยชัวถูกลาซารัสกดให้นอนลงบนพื้นก่อนจะใช้แรงมหาศาลบีบบังคับให้เลิกต่อต้าน
“เจ้ารู้อยู่แต่แรกแล้วเหรอว่าข้าอ่านความทรงจำของคนอื่นได้”
โยชัวถามขณะพยายามบังคับริมฝีปากของตนเองให้หยุดสั่น ในตอนนี้ถึงไม่ต้องคิดเขาก็รู้ชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นดี ดังนั้นก่อนที่จะถูกย่ำยีหรือถูกฆ่า แค่ความจริงเพียงแค่นั้น ไม่ว่ายังไงก็อยากจะรู้ให้ได้
ทว่าคนที่ถูกถามกลับทำแค่เพียงหัวเราะ ’หึหึ’ อย่างรื่นรมย์ เด็กหนุ่มที่ใกล้จะสติแตกเอ่ยสิ่งที่อยากรู้ต่อไปโดยไม่สนใจอีกแล้วว่าจะได้คำตอบจากเจ้าชายปีศาจหรือไม่
“เจ้ารู้แล้วสินะ ว่าข้าเป็นคนอื่นที่แอบมาสวมร่างของน้องชายเจ้า”
คราวนี้ลาซารัสแหงนหน้าหัวเราะเสียงกึกก้อง ท่าทางสนุกสนานอย่างสุดกำลังของเจ้าชายปีศาจ ทำให้โยชัวสิ้นหวังไม่ตางจากหนูที่วิ่งวนอยู่ในเขาวงกตซึ่งถูกมนุษย์สร้างขึ้น
“เฮ้อ…สนุกจริงๆ”
ลาซารัสยิ้มกริ่มก่อนจะเปิดฉากคุกคามคนที่หวาดกลัวจนร้องไห้ไม่หยุด รอยจูบและปลายลิ้นที่ลากไล้ไปทั่วร่าง ถึงแม้จะเป็นการกระทำที่นุ่มนวล จนทำให้สุขสมประหนึ่งอยู่ในวิมาล แต่โยชัวกลับต้องทรมานอยู่ระหว่างความชิงชังและความต้องการ ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้
“อึก…อย่า…”
คนตัวเล็กสั่นระริกไปทั้งตัวระหว่างที่ถูกลาซารัสใช้ปากปรนเปรออวัยวะเพศของตนที่ชูชันยั่วตาจนนึกรังเกียจ ในตอนนั้นเองลอร่าเมดสาวสวมแว่นซึ่งเป็นพี่เลี้ยงที่สนิทที่สุดของชาฮาร์ก็บังเอิญมาพบเหตุการณ์เข้าพอดี
“มัวดูอะไรอยู่ไปซะสิ”
โยชัวช้อนมองลอร่าทั้งน้ำตา ถึงเมดสาวจะผละจากไปหลังจากที่ถูกลาซารัสไล่ในเวลาไม่กี่นาที แค่ได้เห็นแววตาที่มองมาของเจ้าหล่อน เด็กหนุ่มก็คิดว่าล่อร่าทำได้ดีมากเท่าที่จะทำได้แล้ว
ใครมันจะกล้าขัดขืนลาซารัสที่เป็นนายกันล่ะ
คนตัวเล็กยิ้มขมขื่นก่อนจะกลับมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงทีมีลาซารัสคร่อมร่างและกระตุกยิ้มเย้ยหยัน
“อึก…”
โยชัวสะอื้นเบาๆเมื่อลาซารัสเริ่มทำรักอีกครั้งโดยใช้ปากดูดดุนเครื่องเพศของเขา ทั้งทั้งที่ไม่อยากจะรู้สึกดีกับปลายลิ้นและโพรงปากอุ่นร้อน แต่ในเวลาไม่นานนัก เด็กหนุ่มที่ถูกรังแกก็ไต่อารมณ์ขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดของสวรรค์ ทันทีที่ลาซารัสทำลายกำแพงอารมณ์ด้วยการใช้ลิ้นเลาะเล็มไปยังรูเล็กๆที่ปลายอวัยวะเพศ
“อ้า…อึก”
หลังจากทะยานขึ้นสู่จุดสูงของอารมณ์ปรารถนา โยชัวที่ตาพร่า มองดูลาซารัสคายน้ำรักที่เขาปลดปล่อยออกมาจำนวนมากลงบนอุ้งมือ
“……………..”
โยชัวมองการกระทำของลาซารัสอย่างมึนงง แต่ทันทีที่ถูกจับถ่างขาออกกว้าง เด็กหนุ่มก็ดิ้นรนต่อต้านอีกครั้ง
“อย่าขัดขืน คล้อยตามที่พี่ชายต้องการแล้วมีความสุขกับการถูกกอดซะ”
ร่างของโยชัวโอนอ่อนตามคำสั่ง ทว่าเพราะฝึกฝนสมาธิมาโดยตลอด แม้ร่างกายจะถูกเชิดตามใจชอบ แต่สติสัมปชัญญะของเขายังตะโกนขัดขืนอยู่ตลอดเวลาที่ร่างกายเคลื่อนไหวโดยไม่ได้มาจากความต้องการของตัวเอง
“……………….”
โยชัวได้แต่ใช้ดวงตาอันทุกข์ทรมานสังเกตการณ์กระทำของลาซารัส ซึ่งกำลังชโลมน้ำสีขาวขุ่นในอุ้งมือลงบนช่องทางเร้นลับบริเวณบั้นท้าย
“อื้อ…..อือ…”
เด็กหนุ่มต้องต่อสู้ระหว่างความหฤหรรษ์และความเดียดฉันท์ จากการสอดสำรวจเข้าออกด้วยปลายนิ้วเน้นย้ำของลาซารัส แต่ในวินาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสจุดอ่อนไหวที่ซ่อนอยู่ภายใน สติสตางค์ของโยชัวก็กระเจิดกระเจิงจนเผลอหลับตาแล้วขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกดีจนสุดจะกลั้น
“อา….อ้า”
เสียงครางระรัวของโยชัวเป็นดั่งสัญญาณเร่งให้ลาซารัสขยับปลายนิ้วกระแทกเข้าที่จุดๆนั้นซ้ำๆอย่างเพลินอารมณ์ จากนั้นในระยะเวลาไม่นาน เจ้าชายปีศาจก็ยิ้มพรายด้วยความชอบใจ เมื่อคนตัวเล็กกระตุกกายปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเป็นรอบที่สอง
“ออกมาเยอะจริงๆ คงจะเก็บเอาไว้นานเลยสินะ”
โยชัวซึ่งหมดแรงเหม่อมองดูลาซารัสที่ยิ้มยั่วเย้าและค่อยๆรูดซิปกางเกงควักเอาความใหญ่โตออกมา เจ้าชายปีศาจนำสิ่งนั้นจ่อเข้ากับปากทางเร้นลับสีชมพู
“จะร้องไห้ออกมาก็ได้นะ”
น้ำตาของโยชัวทะลักล้นจากดวงตาในพริบตาที่ลาซารัสอนุญาต แต่ถึงจะร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียเท่าไหร่ เจ้าชายปีศาจก็ไม่สงสารหรือหยุดการชำเราซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วอึดใจ
ช่วงนี้ยิ่งอ่านนิยายตัวเองยิ่งรู้สึกว่าเขียนสำนวนแปลกๆ
ถ้าอ่านแล้วเข้าใจยากหรือไม่ดีช่วยชี้แนะให้หน่อยนะคะ
เรากังวลจนเริ่มหลอนแลว
อ้อนิยายเรื่องนี้จบแบบมีความสุขนะคะคนอ่านไม่ต้องกังวล
ตอนต่อไปน่าจะสี่ถึงห้าวันนะคะ
ตอนนี้สั้นมากเลย
อย่าลืมเม้นติชมด้วยนะคะ