ตอนที่6
“โยชัว”
เจ้าของชื่อมุดหัวเข้าไปอยู่ใต้หมอนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเคาะกับเสียงเรียกของชาร์ฮาร์ที่หน้าประตู
“โยชัวออกมาอธิบายให้พี่ชายเข้าใจก่อนสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
ชาร์ฮาร์เคาะประตูรัว น้ำเสียงของเขาทั้งหงุดหงิดร้อนรน
เรื่องที่ทำให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสที่ปกติอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาดิ้นพล่านได้ขนาดนี้ ทั้งหมดมาจากคำพูดของลาซารัสพี่ชายร่วมมารดาที่ว่า”ไว้มาเล่นสนุกกันอีกนะ”
คำคำนั้นสร้างความสงสัยและขุ่นเคืองให้ชาร์ฮาร์จนชายหนุ่มตัดสินใจคาดคั้นเอาความจริงจากโยชัว
แน่นอนว่าสำหรับโยชัวที่เจอกับเรื่องที่น่าอับอาย ถึงตาย ไม่สิเพราะรู้แก่ใจดีว่าชาร์ฮาร์ต้องไม่ทำรุนแรงกับตนแน่ๆ
เด็กหนุ่มถึงได้ดื้อแพ่งไม่ยอมปริปากพูดเรื่องที่อีกฝ่ายอยากรู้ แล้วรีบหนีเข้าห้องล็อกกลอนประตูแน่นหนา เป็นเหตุให้ชายหนุ่มวุ่นวายตรงหน้าห้องเขาไม่เลิก
อีกเดี๋ยวชาร์ฮาร์คงจะยอมแพ้
โยชัวคิดแบบนั้นถึงได้สามารถข่มตาหลับทั้งที่ชาร์ฮาร์ทั้งเคาะทั้งเรียกอยู่หน้าห้อง
วันต่อมา โยชัวลืมตาตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น เช้าวันนี้อากาศที่บริสุทธ์ทำให้เด็กหนุ่มกระปรี้กระเปร่ามากเป็นพิเศษ
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เด็กหนุ่มสามารถตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นได้ถึงสองวันติดกัน เทียบกับสมัยที่ยังอาศัยในโลกเดิม ร่างเล็กต้องพึ่งนาฬิกาปลุกทุกครั้งถึงจะลืมตาตื่นได้
รู้สึกดีมากมาก ดีจนเกือบจะลืมเรื่องที่ถูกปีศาจเกย์ลวนลาม นอกเหนือจากนั้นชาร์ฮาร์ที่เมื่อวานโวยวายไม่เลิกก็ไม่ได้ทุบประตูปึงปังที่หน้าประตูห้องของเขาอีกแล้ว
จากนั้นโยชัวที่คิดว่าชาร์ฮาร์เลิกสนใจเรื่องของตน ก็จัดการธุระยามเช้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยอารมณ์ที่สดชื่น
“อยากไปห้องสมุดอีกจังแฮะ แต่ไม่รู้ว่าปีศาจเกย์นั่นจะโผล่ไปที่ห้องสมุดอีกรึเปล่า”
โยชัวพึมพำขณะเปิดประตูห้อง
ทว่าพอประตูแง้มเปิด เด็กหนุ่มก็ผงะตกใจ ที่หน้าประตู ชาร์ฮาร์ผู้มีหน้าบูดบึ้งยืนตระหง่านอยู่ที่ตรงนั้น ด้านหลังของชายหนุ่มสาวเมดหลายคนทำหน้าไม่พอใจและประสานเสียงเหน็บแนมโยชัวขึ้นพร้อมกัน
“เป็นน้องชายที่ใจร้ายมากนะเจ้าคะปล่อยให้ท่านพี่ยืนรอตรงนี้ทั้งคืน”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง โยชัวมองดูเมดสาวคนพูดก่อนจะเบนสายตาไปยังพี่ชายที่กำลังแผ่ออร่าขมุกขมัว
นี่ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคืนเลยเหรอ?
โยชัวทำหน้าเหยเก
โดยไม่ตั้งตัว เด็กหนุ่มถูกชาร์ฮาร์ใช้มือดันให้กลับเข้าไปในห้อง
หลังจากที่ชายหนุ่มปิดประตูลงกลอน พี่ชายซึ่งแผ่คลื่นอารมณ์กดดัน ก็ย่างสามขุมเดินเข้ามาหา
ท่าทางน่ากลัวคุกคามทำให้โยชัวก้าวเท้าถอยหนี ก่อนจะสะดุดล้มหงายหลังลงไปกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง
“อธิบายมาหน่อยสิว่าเรื่องที่ท่านพี่ลาซารัสพูดเมื่อวานมันหมายถึงอะไร”
ชาร์ฮาร์ขยับตัวคร่อมร่างโยชัว พอเด็กหนุ่มใต้ร่างขยับหนี มือใหญ่ก็คว้าจับร่างเล็กไว้อย่างแน่นหนา
ชั่ววินาทีที่ถูกจับ ภาพความทรงจำหลากสีสันของชาร์ฮาร์ก็แวบเข้ามาในสมองโยชัว
ในความทรงจำเด็กชายผมทองกำลังตามหาลูกบอลที่ถูกพี่ชายรวมมารดาแย่งไป
สำหรับชาร์ฮาร์แล้วพี่ชายที่ท่านแม่คอยเอาใจใส่มากซะยิ่งกว่าตนเอง ค่อนข้างจะสนุกกับการกลันแกล้งตัวเขาทุกครั้งที่ไม่มีท่านแม่อยู่ด้วย
วันนี้ก็เหมือนกัน ลูกบอลของสำคัญที่ได้มาจากท่านลุงเรนเดลจู่ๆก็ถูกแย่งไปจากมือ
“เอาคืนมานะ”
ชาร์ฮาร์วิ่งตามลาซารัสเพื่อจะเอาคืนอย่างไม่ลดละ แต่ไม่นานนักอีกฝ่ายก็คลาดสายตาหายไป
ตอนนี้ชาร์ฮาร์รู้เพียงว่าตัวเองกำลังหลงอยู่ในสวนของปราสาท
ท่ามกลางสวนสวยที่ถูกจัดแต่งให้คล้ายกับเขาวงกต เด็กชายตัดสินใจมุดพุ่มไม้หนาเพื่อจะลอดไปยังอีกฝั่ง ตอนที่ติดอยู่ในพุ่มไม้ ลูกบอลที่น่าจะเป็นของเขาก็กลิ้งตรงเข้ามาหา
ชาร์ฮาร์ดีใจมากที่เห็นมัน แต่เทวทูตตัวเล็กๆกลับเดินเตาะแตะเข้ามาคว้าเอาบอลของเขาไป เด็กน้อยทำราวกับเป็นเจ้าของลูกบอลที่ควรจะเป็นของเขา
ชาร์ฮาร์ถูกแย่งของรักไปต่อหน้า ทั่งอย่างนั้นเด็กชายกลับไม่เกิดความรู้สึกหวงแหนเจ้าลูกบอลอันโปรดเลยซักนิด
อาจเป็นเพราะที่เด็กที่ถือบอลของเขา คือน้องชายตัวเล็กๆซึ่งจะมีโอกาสได้เห็นหน้ากันบ้าง แค่เฉพาะมีงานเฉลิมฉลอง
โยชัวมีอายุน้อยกว่าเขาที่เก้าขวบหนึ่งปี หากแต่ตัวเล็กกว่าเขาที่สูงใหญ่พอๆกับท่านพี่ลาซารัสที่มีอายุสิบสองขวบ
ที่ร่างกายของเขาเติบโตรวดเร็วถึงขนาดนี้ ท่านลุงเรนเดลบอกว่าเพราะเขาเป็นเผ่าหมาป่าอสูร จึงทำให้มีร่างกายสูงใหญ่เกินวัยไปมาก
ดังนั้นน้องชายที่ตัวเล็กไม่ต่างจากตุ๊กตาจึงน่ารักมากเป็นพิเศษ
ดีจังนะที่ชอบลูกบอลของเขา ถ้าเกิดว่าเจ้าสมบัติที่แสนสำคัญทำให้น้องชายต่างมารดาพึงพอใจ เขาก็รู้สึกปลาบปลื้มยินดี
ชาร์ฮาร์ไม่มีความคิดจะแสดงตัวให้โยชัวรู้ เด็กชายผู้มีร่างกายโตเกินวัยรู้แก่ใจว่าท่านแม่ต้องไม่ชอบมากมากถ้ารู้ว่าเขาไปวุ่นวายกับเทวทูตน้อยๆ
ชาร์ฮาร์ค่อยๆย่องเงียบจากไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ภาพใบหน้ายิ้มแย้มและแสงตะวันอบอุ่นก็ค่อยๆจางลง
ตอนนี้ ชาร์ฮาร์ฉีกยิ้มกว้าง เมื่อท่านแม่ผู้งดงามพาโยชัวเข้ามาในปราสาทส่วนที่เป็นที่พำนักของพวกเขา
“ท่านแม่จะพาน้องมาอยู่ที่นี่กับเราเหรอครับ”
ชาร์ฮาร์ถามอมันด้า แวบหนึ่งใบหน้าที่งดงามของท่านแม่บิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว เป็นใบหน้าที่เด็กชายไม่คิดว่าท่านแม่ของเขาจะทำได้
“ชาร์ฮาร์เหมือนว่าแม่จะลืมสอนอะไรลูกไปสินะ เจ้ามดปลวกนี่ไม่มีอะไรคู่ควร แม้แต่จะเป็นขี้ข้าให้ลูกด้วยซ้ำ”
ชาร์ฮาร์มองดูรอยยิ้มหวานหยดของท่านแม่ หากแต่ดวงตาคู่สวยที่ประสานกันกลับเต็มไปด้วยความคุ้มคลั่งซะจนเกิดความรู้สึกไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าเขาคือใครกันแน่
ชาร์ฮาร์เบนสายตาไปยังโยชัวที่กำลังหลับอยู่ในอ้อมแขนของข้ารับใช้ที่อยู่ด้านหลังท่านแม่
ในตอนนั้นเสียงร้องในส่วนลึกของจิตใจก็กระซิบบอกเด็กชายว่าอาจจะไม่ได้เห็นร่างเล็กๆนั่นอีกเป็นครั้งที่สอง
ทว่าพอถูกบรรดาเมดสาวผู้เป็นพี่เลี้ยงจำนวนมากตะล่อมและปลอบ ชาร์ฮาร์ที่ไร้เดียงสาก็จำต้องจากไป
ความรู้สึกผิดบาปของเจ้าของความทรงจำ พลั่งพลูเข้ามาในสมองของโยชัวราวกับว่าตนเองใช้วิญญาณร่วมกันกับชาร์ฮาร์
ระยะเวลาหลายปีที่พ้นผ่าน ถึงแม้อมันด้าจะพยายามปกปิดชะตากรรมของน้องชายไม่ให้ชาร์ฮาร์รับรู้
แต่เจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ยังสืบค้นจนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ภาพความทรงจำไม่ประติดประต่อ แสดงช่วงเวลาทุกข์ใจของชาร์ฮาร์เวลาที่ได้รู้ข่าวคราวของโยชัว ตลอดเวลาอันยาวนานจนถึงปัจจุบัน สลับไปมานับครั้งไม่ถ้วน
ยิ่งเด็กหนุ่มเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองของอีกฝ่าย โยชัวก็ยิ่งเข้าใจตัวตนของชาร์ฮาร์มากยิ่งขึ้น ตอนนี้คนที่กำลังอ่านความทรงจำรู้สึกอบอุ่นราวกับตนเองได้รับความห่วงใยและปรารถนาดีจากชายหนุ่มซะเอง
“ขอร้องล่ะอย่าทำให้เป็นห่วงจะได้ไหม พี่ชายเครียดจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
ชาร์ฮาร์ที่ตรึงร่างเล็กไว้กับเตียงทำหน้าปวดร้าวก่อนจะดึงโยชัวเข้าไปกอดแนบอกอย่างถนุถนอม
จนเด็กหนุ่มรู้สึกว่าถ้าไม่เล่าความจริงออกไป อีกฝ่ายนอกจากจะไม่เลิกฟุ่งซ่าน อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของเขากับชาร์ฮาร์เกิดรอยร้าว
ถึงแม้จะรู้ว่า ความรู้สึกดีดีจากคนที่กอดจะไม่ได้มีไว้เพื่อเขาแต่เป็นเจ้าของร่างนี้
เด็กหนุ่มก็ไม่ใส่ใจแถมยังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ไม่ว่าคนที่กอดอยู่จะคิดว่าตนเองเป็นใคร การกระทำของเจ้าชายผู้เจิดจรัสคือสิ่งที่ชัดเจนว่ากำลังเป็นห่วงเขามากแค่นั้นก็เพียงพอ
โยชัวใช้มือเล็กๆลูบแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มไปพร้อมๆกับเล่าเรื่องที่เขาเคยปกปิดไว้
“คนคนนั้นต้องเป็นชายรักชายไม่ผิดแน่ แถมยังเป็นปีศาจวิปริตที่คิดจะทำเรื่องอย่างว่ากับน้องชายแท้ๆของตัวเอง"
โยชัวก่นด่าไม่ยั้ง จนลืมสังเกตชาร์ฮาร์ ที่มีใบหน้าจืดเจื่อนทุกครั้งที่เขาเน้นย้ำว่าลาซารัสเป็นพี่ชายโรคจิต
“โยชัวจะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะ”
โยชัวอุทานดังเอ๊ะกับการขัดคอ ในขณะที่ตนเองต่อว่าลาซารัสอย่างดุเดือดเรื่องศีลธรรมจรรยาในแบบมนุษย์
“สำหรับพวกมนุษย์อาจจะคิดว่ามันผิด แต่ปีศาจอย่างเราการแต่งงานกับพี่น้อง หมายถึงการรักษาสายเลือดให้บริสุทธิ์
ความแข็งแกร่งของสายเลือดสำคัญมากในหมู่ปีศาจชั้นสูง ถ้าจะให้พูด ในโลกปีศาจพี่น้องแต่งงานกันเองไม่เห็นแปลกตรงไหน ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยกันยิ่งปกติจะตาย”
โยชัวรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาร์ฮาร์ตอนนี้ทำหน้าเหมือนเขากำลังพูดไร้สาระ
ก่อนที่เด็กหนุ่มจะอ้าปากเถียง สาวเมดก็เรียกให้พวกเขาไปรับประทานอาหารเช้า ที่โต๊ะอาหารชาร์ฮาร์อธิบายสิ่งที่โยชัวคาใจมาตลอดด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจและค่อนข้างหัวเสีย หากแต่ไม่ได้แสดงอาการปึงปังออกมา
“ท่านพี่ลาซารัสเป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ เพราะเป็นสายพันธ์สุดยอดที่ได้ทุกอย่างที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของพวกบรรพบุรุษมาทั้งหมด ใบหน้างดงามลึกลับเย้ายวนกับเสียงที่เหมือนฝันร้ายนั่น ก็เป็นเพราะท่านย่าของเราเป็นราชินีเผ่าไซเรน”
“เผ่าเงือกเหรอ” โยชัวถามขณะตักอาหารเข้าปาก
“ใช่ เสียงของท่านพี่ก็เหมือนกับท่านย่ามีอำนาจสั่งให้สิ่งมีชีวิตรอบตัวทำตามที่ใจคิด”
“ถ้าอย่างนั้นชาร์ก็โดนด้วยเหรอ” โยชัวถามชาร์ฮาร์ที่ทั้งหงุดหงิดทั้งยุ่งยากใจไปพร้อมกัน
“เมื่อก่อนตอนที่ยังเล็กๆโดนแกล้งบ่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะต่อต้านไม่ได้ซะเมื่อไหร่ จริงๆแล้วแค่มีสติตั้งมั่นในความต้องการของตนเอง ท่านพี่ลาซารัสก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าจะให้พูดคนที่ท่านพี่ใช้วาจาสิทธิ์สั่งไม่ได้ก็มีท่านพ่อ ท่านพี่ลูเซียแล้วก็รวมข้าด้วยอีกคน”
ชาร์ฮาร์บอกเล่าด้วยท่าทีเหนื่อยหนาย เจ้าชายผู้เจิดจรัสแทบไม่ได้สังเกตโยชัวที่เครียดจนแทบกินไม่ลง
แย่แล้ว
ดูเหมือนว่าเจ้าปีศาจวิตถารลาซารัสจะไม่ได้อันตรายแค่ความไม่ปกติทางจิตใจ ความสามมารถของผู้ชายคนนั้นก็ร้ายกาจจนเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้
อนาคตข้างหน้าหากได้พบกันอีก สงสัยคงจะไม่จบแค่ถูกทำบ้าๆ แค่คิดก็ว่าฝ่ายนั้นอาจจะใช้วาจาสิทธิ์ล้วงความลับหรือที่มาของเขาเด็กหนุ่มก็กลัวจนตัวสั่น
“อย่าทำหน้าเครียดอย่างนั้นสิ”
โยชัวเงยหน้าขึ้นมองชาร์ฮาร์ที่ส่งยิ้มลำบากใจมาให้
“ท่านพี่ลาซารัสไม่ว่างขนาดนั้นหรอก ไหนจะต้องวุ่นวายกับการตายของท่านแม่ อีกอย่างพี่ชายคนนี้จะอยู่ข้างๆโยชัวตลอดเวลาเอง”
คำพูดของชาร์ฮาร์ทำให้โยชัวใจชื้นเล็กน้อย แต่ก็ยังตงิดกับคำพูดของอีกฝ่าย
ให้ความสำคัญกับเขาในฐานะน้องชายก็ดีหรอก แต่จะให้ตัวติดกับชาร์ฮาร์ตลอดเวลาแบบนั้นเขาไม่ค่อยจะชอบแฮะ
“อา….เอาอย่างนี้มั้ยเราไปเที่ยวเล่นกันนอกปราสาท โยชัวอยู่แต่ในนี้คงอุดอู้น่าดู”
คำเชิญชวนของชาร์ฮาร์ปัดเป่าความกังวลของโยชัวออกไปทั้งหมด เด็กหนุ่มยิ้มกว้างและกระตือรือร้นไปกับสิ่งล่อใจคล้ายกับเด็กเล็กๆที่ถูกยื่นขนมให้
หลังจากที่เข้ามาในเมืองกับชาร์ฮาร์แค่สองคน สภาพชุมชนกับบ้านเมืองที่สวยแปลกตาทำให้โยชัวสนุกสนานตื่นตาจนเดินพล่านไม่หยุด
เด็กหนุ่มสำรวจไปรอบเมือง ทั้งยังทำตามใจตนเองจนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนที่มาด้วย แต่ชาร์ฮาร์ที่กลายสภาพเป็นผู้ปกครองไปแล้วก็ยังไม่ปริปากบ่น
ดูคล้ายว่าการได้ดื่มดำกับสภาพแวดล้อมที่เป็นแฟนตาซีสมจริง จะทำให้เด็กวัยสิบห้าที่ใช้เวลาส่วนใหญ่หมกมุ่นกับเรื่องราวเหนือจินตนาการ บันทึกช่วงเวลานี้เป็นช่วงชีวิตที่น่าประทับใจไป
ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกวูบโหวง ด้วยเข้าใจว่าความประทับใจในตอนนี้ อีกหน่อยอาจจะกลายเป็นความรู้สึกที่สูญเปล่า เพราะทิวทัศน์เหล่านี้อาจกลายเป็นสถานที่ที่เขาจะต้องทนมองไปทั้งชีวิต
คิดแบบนั้นจากร่าเริงก็กลายเป็นเซื่องซึม โยชัวหยุดยืนมองดูเด็กๆเผ่าปีศาจกำลังเตะบอลอย่างสนุกสนาน จากบนเนินหญ้าที่ลาดสูง
จังหวะที่โยชัวกำลังเหม่อลอย บอลของพวกเด็กปีศาจก็พุ่งตรงมาที่ใบหน้า ชาร์ฮาร์ใช้มือข้างหนึ่งรับไว้ก่อนที่มันจะกระทบถูกเด็กหนุ่ม
“เฮ้”
พวกเด็กปีศาจตะโกนและพากันวิ่งมาที่ที่โยชัวกับชาร์ฮาร์ยืนอยู่
“พี่สาวบอกพี่ชายตัวโตทีสิว่าให้คืนลูกบอลมาได้แล้ว”
เด็กหัวโจกที่มีหูและหางแบบแร๊กคูนพูดด้วยท่าทางเขื่องโข
สำหรับโยชัวในตอนแรก เขาไม่คิดถือสาอะไรกับเด็กเล่นบอลเลยซักนิดเดียว
นั่นเป็นความรู้สึกก่อนที่จะถูกเรียกว่าพี่สาว คำเรียกของเด็กปีศาจทำให้เส้นเลือดบนใบหน้าของเด็กหนุ่มปูดบวมขึ้นมาในทันที
“ถ้าไม่ให้ล่ะจะทำไม”
โยชัวพูดจายียวน จริงๆแค่อยากจะแกล้งเล่นนิดนิดหน่อยๆ แต่ปฏิกิริยาของพวกเด็กปีศาจทำให้เด็กหนุ่มเดือดพล่านหนักยิ่งกว่าเดิม
“อะไรพี่สาว เป็นผู้หญิงจะเอาบอลไปทำไม กลับบ้านไปเล่นตุ๊กตาดีกว่าน่า บอกพี่ชายคืนบอลมาซะที”
เด็กปีศาจหัวโจกทำหน้าเบื่อหน่าย ดูท่าทางสำหรับเด็กพวกนี้ เด็กผู้หญิงคงจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญเอามากๆ
“ข้าจะเล่นด้วย”
“หา”
เด็กปีศาจหัวโจกทำหน้าไม่เข้าใจ
“อย่าดีกว่าน่าเป็นผู้หญิงเล่นบอลเดี๋ยวเจ็บตัวหรอก”
“อธิบายกติกามาซะ”
“ตามใจแล้วกันนะ”
เด็กหัวโจกหูหางแร๊กคูนตอบรับเพราะรำคาญที่จะโต้เถียงกับพี่สาวร่างบอบบางยังยืนยันดื้อแพ่ง ระหว่างอธิบายกติกา ปากก็พึมพำไปตลอดว่า” มีแผลจะดีเหรอ” บ้างล่ะ หรือว่า “อย่าดีกว่าน่า” บ้างล่ะ
แต่ความจริงแล้ว โยชัวที่อยู่ในโลกเดิมถึงจะเป็นโอตาคุหน่อยๆ ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเป็นตัวจริงทีมฟุตบอลเยาวชน
ด้วยเหตุผลข้อนี้ พ่อแม่จึงไม่เคยต่อต้านเขาที่เอาแต่หมกมุ่นเรื่องเกมส์กับอนิเมะเลยซักครั้ง
“แล้วใครจะอยู่กลุ่มเดียวกับพี่สาวล่ะ?บอกไว้ก่อนนา….พวกข้าไม่มีใครอยากไปแพ้ร่วมกับพี่สาวซักคนเดียว”
เด็กหัวโจกหัวเราะร่วน ทว่าพอเห็นพี่ชายตัวใหญ่อย่างชาร์ฮาร์อาสาร่วมกลุ่มกับพี่สาว เด็กปีศาจก็ชะงักเล็กน้อย
“เฮ้ยพี่ชาย หน้าพี่มันคุ้นๆอยู่นะ บ๊ะช่างเถอะ พี่ชายคนเดียวช่วยให้พี่สาวจอมอวดดีชนะพวกเราได้ที่ไหน”
จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันว่าใครจะได้ครองบอลก่อน พวกเด็กปีศาจอนุญาตให้โยชัวได้เป็นฝ่ายครองบอล
ดูท่าทางเด็กพวกนี้จะดูแคลนรูปลักษณ์ที่เป็นหญิงของเขาเอามากๆ
กติกาของที่นี่แทบไม่ต่างจากกีฬาฟุตบอลในโลกของโยชัว ทุกอย่างคล้ายกันมาก คือแค่ยิงบอลเข้าประตูอีกฝ่ายก็ได้แต้ม แถมยังไม่มีกฏหยุมหยิมยุ่งยากเท่ากับฟุตบอลในแบบที่เขาเรียนรู้มา
นอกจากนั้นกติกาเหล็กว่าด้วยการไม่กระทบกระทั่งหรือทำร้ายร่างกาย ทำให้เด็กหนุ่มมั่นใจว่าการแข่งในครั้งนี้เขาสามารถจะใช้ทักษะเหนือชั้นของนักกีฬาทีมเยาวชน สั่งสอนไอ้เด็กเปรตฝูงใหญ่ให้เลิกดูถูกรูปลักษณ์ภายนอกของเขาซะที
“เล่นได้จริงๆนะเหรอ”
ชาร์ฮาร์กระซิบอย่างเป็นห่วง
ถึงโยชัวจะยืนยันความมั่นใจ ชายหนุ่มก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี
ทันทีที่สัญญาณเริ่มต้นดังขึ้น โยชัวก็เลี้ยงบอลไปข้างหน้าด้วยทักษะและความเร็วที่ตนเองกับพวกเด็กปีศาจต่างก็ตะลึงงัน
ถึงตอนนี้ โยชัวรู้ชัดแล้วว่า สมรรถภาพร่างกายของเขาทั้งความเร็วทั้งพละกำลัง มีมากกว่ามนุษย์ธรรมดาหลายเท่า
ดูแล้วคงเป็นเพราะร่างนี้แต่เดิมเป็นลูกครึ่งปีศาจ ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มแทบไม่ได้สังเกต เพราะคนรอบตัวดูจะแข็งแรงกว่าเขาไปซะทุกคน
สภาพร่างกายแบบนี้หมายความว่าในอนาคต ถ้าเขาฝึกฝนร่างกายดีดี ก็จะสามารถป้องกันตัวเองจากอันตรายได้ในระดับหนึ่ง ร่างกายที่แข็งแรงมีประโยชน์ขนาดนี้จะปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้เด็ดขาด
หลังจากที่ร่วมมือกับชาร์ฮาร์ถล่มประตูฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง กลุ่มเด็กปีศาจที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆยังคงมุ่งมั่นท้าประลองกับโยชัวนับครั้งไม่ถ้วน
ผ่านไปหลายชั่วโมง โยชัวกับชาร์ฮาร์นอกจากจะเหงื่อโทรมกาย ตามเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยดินทรายและโคลนสกปรกจนดูไม่ต่างจากลูกหมาข้างถนน
“แล้วมาเล่นกันใหม่นะพี่สาว”
เด็กหัวโจกบอกลาหลังจากที่ต่อสู้กันจนแทบตะวันลับขอบฟ้า ที่ด้านหลัง เด็กปีศาจทั้งหมดโบกมือลาโยชัวอย่างยิ้มแย้ม
ดูเหมือนว่าหลังจากที่ต่างคนต่างห่ำหันกันด้วยหยาดเหงื่อและแรงกาย โยชัวกับเด็กปีศาจก็สนิทสนมกันจนกลายเป็นเพื่อนเล่นไปซะแล้ว
เด็กหนุ่มที่ถูกชาร์ฮาร์พากลับ พูดคุยเกี่ยวกับช่วงเวลาที่สนุกสนานไปตลอดทาง จวบจนปะเข้ากับกลุ่มเมดสาวจำนวนมากเมื่อกลับมาถึงปราสาท
“ตายแล้วทำไมสกปรกกันทั้งคู่เลยล่ะเจ้าคะ”
เสียงหวีดร้องโวยวายของสาวเมดดังระงมกับสภาพสุดโทรมสุดโสโครกของโยชัวกับชาร์ฮาร์
พวกหล่อนพากันบ่นและตักเตือนไม่หยุด ทั้งเรื่องที่ออกไปเล่นซนอย่างไม่สมเป็นเชื้อพระวงศ์ปีศาจ
ทั้งการกลับมาอย่างสกปรกไม่ต่างจากขอทาน
โยชัวที่ฟังคำบ่นยาวนานและเริ่มคันคะเยอก็เอ่ยขัดจังหวะพวกเมดสาวแล้วขอตัวไปอาบน้ำ
ยังไงซะคนที่พวกเมดสนใจจริงๆน่าจะเป็นชาร์ แทนที่จะทนฟังพวกหล่อนตำหนิ รีบไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดเป็นเรื่องที่สมเหตุผลกว่าเยอะ
“ถ้าอย่างนั้นท่านชาร์ฮาร์ทำไมไม่ไปอาบน้ำพร้อมท่านโยชัวล่ะคะ”
“หา”
โยชัวบิดคอหันไปมองเมดสาวที่เสนอความคิด
“ท่านชาร์ฮาร์ก็ตะล่อมยากเหลือเกิน ถ้าหากปล่อยไปคงไม่พ้นแค่สลัดเสื้อผ้าสกปรกทิ้งแล้วนอนทั้งอย่างนั้น
ถ้าหากว่าท่านโยชัวจะกรุณา ก็ช่วยจัดการกับพี่ชายที่ดื้อดึงคนนี้ด้วยเถอะค่ะ”
สาวเมดที่ดูสุขุมที่สุดเอ่ยขอ ออร่าดุดันที่แผ่ออกมาจากเมดสาวส่วมแว่นกดดันโยชัวที่อยากจะปฏิเสธจนขนลุกซู่
“แต่ว่าชาร์อาจจะชอบอาบน้ำในร่างหมามากกว่ามั้ง”
โยชัวอิดเอือน
“อาบน้ำในร่างหมามันสนุกก็จริง แต่พี่ชายก็มีบางครั้งที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศอาบน้ำกับน้องชายแน่นอนอยู่แล้วค่ะ”
เมดสาวสวมแว่นใช้มือขยับแว่นตาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
โยชัวลอบมองชาร์ฮาร์ด้วยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับข้อเสนอของสาวเมด เจ้าชายผู้เจิดจรัสมองมาที่เขาด้วยสายตาวิบวับเปล่งประกายแบบสุดๆ
“มันแปลกอยู่นะ ผู้ชายโตแล้วมาอาบน้ำด้วยกันถึงเป็นพี่น้องกันก็เหอะ”
“ก็เป็นผู้ชายด้วยกันสิคะถึงได้ไม่ต้องกังวลอะไรรีบไปเถอะค่ะ เหม็นสกปรกมากจนทนดูด้วยตาไม่ได้ทั้งคู่เลย”
สาวเมดสวมแว่นดันหลังโยชัวเบาๆ โดยมีชาร์ฮาร์และเมดจำนวนมากเดินขบวนตามไปยังห้องน้ำ
ที่ห้องอาบน้ำกว้าง โยชัวยืนนิ่งเป็นหุ่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ปล่อยให้สาวเมดช่วยกันเปลื้องผ้าเขา
ระหว่างที่ถูกถอดชุดพวกหล่อนพากันชื่นชมเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเขา
นอกจากจะไม่ทำให้ดีใจ โยชัวยังเขินอายที่ต้องมีสภาพแบบทารกแรกเกิดต่อหน้าหญิงสาวจำนวนมาก
“ถ้าอย่างนั้นพวกข้าขอตัวนะคะ จะไม่รบกวนเวลาอาบน้ำเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องหรอกค่ะ”
เมดสาวแว่นพูดก่อนจะพาเมดคนอื่นๆออกไป
พอทุกคนออกไปหมดโยชัวที่ยืนตัวเกร็งก็ผ่อนคลายจนกลับเป็นปกติ เด็กหนุ่มหันไปหาชาร์ฮาร์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง
พอปะเข้ากับเรือนกายกำยำสูงใหญ่ ร่างเล็กก็ตกตะลึงในรูปร่างที่สวยงามสุดยอดของอีกฝ่าย
อะไรกันน่าอิจฉาเกินไปแล้ว
กล้ามเนื้อสมส่วนตึงแน่น แถมยังมีผิวสีแทนสวยงามอย่างคนมีสุขภาพดี
หน้าตาของชาร์ฮาร์เองก็หล่อเหลาสุดยอด
ทั้งอย่างนั้นไอ้ปิกาจูที่ตรงหว่างขานั่นล้อกันเล่นหรือเปล่า
มนุษย์ที่ไม่มีจุดด่างพล้อยในร่างกายมันมีด้วยเหรอ?
ไม่สิคนคนนี้เป็นปีศาจ จะว่าไปพี่ชายในโลกนี้ทุกคนล้วนหน้าตาดีและสูงใหญ่
หมายความว่าทั้งสามคนมีปิกาจูที่สุดยอดกันแบบนี้ทุกคน
โยชัวเริ่มคิดว่าโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมกับตนเองเลยซักนิด ยิ่งเด็กหนุ่มจดจ้องเครื่องเพศของชาร์ฮาร์ที่ถึงแม้ไม่ขยายตัวก็ยังดูมีขนาดที่ใหญ่โตอย่างมาก ร่างเล็กรู้สึกอยากจะฆ่าตัวตายไปซะให้พ้นๆ จากร่างกายที่อะไรๆก็ดูเล็กจุ๋มจิ๋มไปซะหมด
“โยชัวเนี่ยอะไรๆก็ดูเล็กน่ารักไปหมดทั้งตัวเลยนะ”
โยชัวหน้าซีดเผือด เด็กหนุ่มจ้องดวงตาชาร์ฮาร์ ที่มองดูร่างกายเปลือยเปล่าของเขาด้วยความเอ็นดูแล้วรู้สึกรับไม่ได้
รู้ตัวอีกทีตนเองก็นั่งขัดสมาธิบนพื้นโดยมีชายหนุ่มละเลงฟองสบู่บนแผ่นหลัง
ขณะที่มือใหญ่ลูบไล้ฟองไปบนตัวของเขา ชาร์ฮาร์ก็บรรยายสรรพคุณของครีมอาบน้ำ ว่าถ้าใช้เจ้าสิ่งนี้จะทำให้กลิ่นหอมติดตัวไปจนถึงกี่วัน
อยากจะออกไปจากห้องน้ำโดยเร็ว
โยชัวคิดแล้วลุกขึ้นพรวดพราด เด็กหนุ่มตั้งใจจะตักน้ำล้างตัวให้มันจบๆแล้วรีบแยกย้ายกลับห้องตัวเอง
แต่พื้นห้องน้ำที่ค่อนข้างลื่นทำให้เด็กหนุ่มสะดุดล้มหงายหลัง ชาร์ฮาร์รับร่างของโยชัวที่สูญเสียการทรงตัวจากด้านหลังของเด็กหนุ่มอย่างทันท่วงที
“ระวังหน่อยสิ”
ชาร์ฮาร์ก้มหน้ามองโยชัวที่อยู่ในอ้อมแขน เวลานี้แผ่นหลังของเด็กหนุ่มแนบชิดกับร่างกายเปลือยเปล่าที่แข็งปานรูปหล่อเหล็กกล้า ความแนบชิดที่เกินเลยกับร่างกายของคนอื่นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ในตอนนั้นจู่ๆคนที่เรียกตัวเองว่าพี่ชายก็แนบจมูกสูดกลิ่นหอมจากแก้มของโยชัว เด็กหนุ่มตัวแข็งค้างในบัดดล
“หอมจังนอกจากจะมีร่างกายที่เล็กน่ารักยังมีกลิ่นหอมมากอีกด้วย”
หลังจากสูดกลิ่นหอมที่แก้มจนพอใจ ชายหนุ่มก็ซุกใบหน้าสูดดมกลิ่นกายจางๆจากซอกคอ
โยชัวอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายไม่ระวังตัวดีดตัวออกคนที่ประกบอยู่ด้านหลัง กระโจนใช้ขันตักน้ำราดตัวล้างฟองสบู่อย่างบ้าคลั่ง
จากนั้นโดยไม่รอให้อีกฝ่ายเข้าประชิดหรือมีสติ เด็กหนุ่มคว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่แล้วหนีกลับไปยังห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็ว
ตอนที่6แล้วนะคะ
ตอนที่กำลังพิมนิยายลงคอมอยู่สามวัน ก็รู้สึกตัวว่าประโยคที่เราเขียนในสมุดมันเป็นคำงงๆหลายจุดเหมือนกัน
ตอนพิมก็พยายามแก้แบบมุ่งมั่น สุดท้ายก็ออกมาได้เท่าที่เห็น
ปวดตามาก อีกสามวันจะเอาตอนต่อไปมาลงนะคะ
รักคนอ่านค่ะ