-- ตอนที่ 13 --
วุ้นกำลังมองตัวเองในกระจก
ผมสีน้ำตาลเข้ม ตาสีน้ำตาล
หน้าตาก็ธรรมดา
ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ
แล้วพี่หนึ่งใช้อะไรดูถึงมองว่าผมน่ารักวะเนี่ย !
“ เอ๊ะ มาส่องกระจกทำไม วุ้น ” พี่จ๋าทักเมื่อเดินผ่านมาเห็นวุ้นกำลังจ้องตัวเองในกระจกพอดี
“ พี่จ๋า.. ผมน่ารักเหรอ ”
พี่จ๋าจ้องพิจารณาวุ้นและพูดออกมา “ ไม่สักนิด หน้าตาธรรมด้าธรรรมดา ไม่ใช่สเป็คเจ๊ แต่ก็เป็นสเป็คพี่หนึ่งของแกไง ”
“ ... ” พูดซะผมรู้สึกเสียความมั่นใจไปเลยแฮะ แต่ก็สื่อความหมายได้ว่าพี่หนึ่งมองผมน่ารักทั้งๆ ที่หน้าตาธรรมดาสามัญชนมาก
ผมเหลือบมองไปทางประตูร้านนิดหน่อยเมื่อพูดถึงพี่หนึ่ง
“ แหม พี่หนึ่งของแกเดี๋ยวก็มาแหละย่ะ ” พี่จ๋าทำเสียงจิ้จ้ะอย่างหมั่นไส้
“ พี่เขาไม่มาหรอก ” วุ้นบอกสั้นๆ และวางกระจกไว้ที่เดิม
พี่หนึ่งไม่ได้มาที่ร้านหลายวันแล้วเพราะติดงาน ซึ่งก็น่าจะประมาณเกือบอาทิตย์นึงแล้วที่ไม่ได้มา และผมต้องไปใช้บริการพี่วินที่อยู่ไกลจากร้านค่อนข้างมากแต่เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน ผมก็ต้องจำยอม ทำให้อดคิดถึงรถที่มารับไม่ได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเคยชินกับการมีพี่หนึ่งซะแล้ว
ผมไม่เคยจีบผู้ชายมาก่อน
ไม่เคยคิดว่าต้องมาไล่จีบผู้ชาย
แต่วุ้นเป็นข้อยกเว้น
เวลาเขินน่ารักมาก
พาไปกินข้าวแล้ว.. ไปเที่ยวด้วยกันแล้ว.. งั้นรอบนี้ซื้อของให้แล้วกัน
แล้วจะซื้ออะไรให้ดี ? เสื้อ กางเกง นาฬิกา เนกไท มันธรรมดาเกินไป
หนึ่งที่ปกติไม่เคยคิดจะเข้าร้านของกิ๊ฟช็อปสีชมพูหวานแหววก็ได้เข้าไป แต่เดินเข้าไปวนรอบร้านหลายรอบก็ยังคงไม่มีของที่ถูกใจอยู่ดีอีกทั้งยังโดนมองตลอดอีก หนึ่งเมื่อไม่รู้จะซื้ออะไรก็ออกจากร้านและถอนหายใจ
ไม่มีอะไรน่าซื้อเลยจริงๆ
แต่พอจะกลับบ้าน กลับเจอร้านต้นไม้ที่ขายต้นไม้เล็กๆ ดูน่ารักเหมาะสำหรับการซื้อไปให้ใครในโอกาสพิเศษเป็นอย่างยิ่ง หนึ่งยืนพิจารณาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานจนเจ้าของร้านไม่กล้าหายใจแรง
“ อะ เอ่อ อยากได้ต้นอะไรเหรอจ๊ะ ” ป้าเจ้าของร้านถาม
“ ผมไปซื้อไปฝากแฟนครับ ” หนึ่งตอบเสียงเรียบ
“ งั้นป้าแนะนำต้นกระบองเพชรเลยจ๊ะ ” ป้าเจ้าของร้านสวมวิญญาณแม่ค้าทันที เลิกสนใจสายตาเคร่งเครียดของหนึ่ง และหยิบต้นกระบองเพชรที่ว่ามาแนะนำสรรพคุณ “ กระบองเพชรจะว่าเลี้ยงง่ายก็เลี้ยงง่ายนะหนู แต่กว่าจะออกดอกนี่ย้ากยาก ถ้าหนูลองเอาไปให้แฟนหนูเลี้ยงแล้วมันออกดอกแปลว่าอะไรก็คงรู้นะ ”
เลี้ยงง่ายแต่ออกดอกยากงั้นเหรอ.. ถ้าวุ้นเอาไปเลี้ยงจะออกดอกไหมนะ หนึ่งเผลอยิ้มบางออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ “ เอาอันนี้แหละครับ ”
“ จะ จ๊ะ ” ป้าเจ้าของร้านรีบกุลีกุจอใส่ถุงให้อย่างดีและยื่นให้หนึ่ง “ .. บาทจ้ะ ”
หนึ่งรีบมาและยื่นเงินครบจำนวนให้และตั้งเป้าหมายในใจ
พรุ่งนี้ต้องเอาไปให้วุ้นกับเอาข้อแลกเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ
หนึ่งยิ้มเจ้าเล่ห์คนเดียวระหว่างที่กำลังขับรถ
แต่พอวันรุ่งขึ้นกลับมีงานด่วนเข้ามา ทำให้หนึ่งไม่สามารถเอาต้นกระบองเพชรไปให้อีกทั้งยังไม่ได้ไปส่งอีกด้วย ทั้งๆ ที่อยากปลีกตัวไป แต่หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่หนึ่งยอมตรากทำงานก่อนจนเสร็จซึ่งก็ร่วมอาทิตย์เลยทีเดียว หนึ่งลาหยุดวันนึงเพื่อที่จะไปหาวุ้น
พร้อมกับต้นกระบองเพชรต้นเล็กที่หวังว่าอีกฝ่ายจะเลี้ยงอย่างดี
วันนี้ผมแต่งตัวด้วยชุดที่คิดว่าน่าจะดูดีที่สุดสำหรับผม ไม่ได้เจอกันหนึ่งอาทิตย์ผมอยากเข้าไปในร้านแล้ววุ้นเผลอหันขึ้นมามองแบบผมไม่ต้องเคาะเรียกเหมือนทุกครั้ง วุ้นไม่ค่อยสนใจภายนอกเท่าไหร่เวลาทำขนมหรือทำอย่างอื่น เหมือนตัดขาดตัวเองออกจากทุกคน
ฉะนั้นวันนี้ก็คงเป็นวันที่วุ้นจะเลิกตัดขาดล่ะ
หนึ่งก้าวเข้าไปในร้านและเลือกที่นั่งตรงกลางร้านโดยที่ได้ยินเสียงซุบซิบนินทาจากโต๊ะใกล้ไกลอย่างชัดเจนแต่หนึ่งก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ก้มหน้ามองเมนูและขบคิดว่าวันนี้จะกินขนมอะไรดี จะว่าไปวุ้นยังไม่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้เลย งั้นค่อยทวงแล้วกัน..
“ รับอะไรดีคะ ” พนักงานผู้หญิงคนนึงมารับออเดอร์ด้วยสีหน้าแปลกๆ
อิจฉาไอ้วุ้น โว้ย ทำไมวันนี้แฟนมันถึงหล่อกว่าเดิมวะ พี่จ๋าคิดในใจ
“ มอคค่ากับบราว์นี่ครับ ” หนึ่งตอบ
“ มอคค่ากับบราวน์นี่รอสักครู่นะคะ ”
เมื่อพนักงานเดินไปหนึ่งก็มองวุ้นทันที พบว่าอีกฝ่ายยังคงนั่งเหม่ออยู่ไม่ได้สังเกตเห็นตนแต่อย่างใด หนึ่งอดสลดลงน้อยๆ ไม่ได้
พี่หนึ่งไม่มาอาทิตย์นึงแล้ว ไม่แน่อาจจะจมเอกสารหาทางออกไม่ได้แล้วมั้ง วุ้นคิดขำๆ นั่งเขี่ยแขนแมวก็เบื่อเหมือนเดิม บางทีก็น่าจะซื้อแมวมาเพิ่มอีกตัวจะได้มีอะไรให้ทำฆ่าเวลาเพิ่ม แต่พอเขี่ยไปได้สักพักก็รู้สึกเสียงคุยกันของโต๊ะใกล้ๆ
“ ดูพี่คนนั้นดิ โครตหล่อเลย ”
“ มากินข้าวหรือมาถ่ายแบบวะ แกว่า ”
“ เขามองมาทางนี้ด้วย กรี้ดๆๆ ”
“ เขามองใครอ่ะ แกกก ”
ดารามารึไง วุ้นคิดและเหลือบมองหาเจ้าของเรื่องที่โดนเมาท์แตก
ไหนวะ
วุ้นคิดเซ็งๆ เพราะส่วนใหญ่คนที่มาร้านจะก้มหน้าทำนู่นทำนี่กัน ไม่เล่นโทรศัพท์ก็อ่านหนังสือบ้าง แต่พอมองไปได้สักพักก็มีเจอและรู้ทันทีว่าเป็นคนที่โดนเมาท์แน่นอน แต่วุ้นค้างไปแล้ว
พี่หนึ่ง.. ?
หนึ่งฉีกยิ้มอออกมาเมื่อวุ้นยอมมองเห็นสักที ไอ้ท่าทางที่ค้างไปนั่นก็น่ารักชะมัด
ทำไมวันนี้หล่อจังวะ
วุ้นคิดในใจเพราะดูเหมือนว่าพี่หนึ่งจะใส่ชุดจัดเต็มมาก
“ เฮ้ย พี่เขายิ้มแล้วหล่อกว่าเดิมอีกกก ”
“ ถ่ายรูปๆๆ ”
“ เขายิ้มให้ใครวะ ”
ชิบหาย วุ้นคิดในใจเมื่อกลุ่มที่เมาท์เมื่อกี้หันมาเจอตัวเองเข้าพอดี
“ กรี้ดด ”
“ น่ารักอ่ะ ”
วุ้นเมินเสียงของกลุ่มเมาท์แหลกมองหน้าพี่หนึ่ง พี่หนึ่งกวักมือเรียกไปหา วุ้นจึงมองนาฬิกาข้อมือ
มีเวลาแปปนึง
วุ้นเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างอีกตัว แต่ก็โดนพี่จ๋าที่เดินผ่านมาทักก่อนที่จะได้นั่งเก้าอี้
“ หล่อขนาดนี้แกไม่ต้องไปหาที่ไหนละ ”
“ ... ” วุ้นไม่ตอบอะไรนั่งเก้าอี้ตรงข้ามพี่หนึ่ง “ งานเสร็จแล้วเหรอครับ ”
“ อืม ” หนึ่งพยักหน้าตอบและหยิบกล่องที่กระบองเพชรไว้ข้างในยื่นให้วุ้น “ พี่ซื้อมาให้ ” หนึ่งบอกสั้นๆ
“ ขอบคุณนะครับ ” วุ้นรับมาและดูอย่างสนใจกล่องที่ใส่เรียบๆ ดูไม่ออกเลยว่าข้างในจะเป็นอะไร วุ้นแกะกล่องอย่างระมัดระวัง “ กระบองเพชรเหรอครับ ? ”
ไม่ยักรู้ว่าพี่หนึ่งชอบต้นไม้แฮะ แต่กระบองเพชรก็น่ารักดี เอาไว้ตรงข้างแมวก็น่าจะสวยดี
“ ใช่ ” หนึ่งตอบด้วยรอยยิ้ม “ พี่ให้ของวุ้นแล้ว วุ้นน่าจะให้รางวัลพี่บ้าง ”
“ รางวัล ? ” วุ้นเลิกคิ้ว
“ ขอแบบทบต้นทบดอก เพราะวุ้นยังไม่ได้ให้ขนมพี่เลย ”
“ … ” จริงด้วย
หนึ่งฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์จนวุ้นรู้สึกเสียวสันหลัง
“ พี่ขอแค่จูบราตรีสวัสดิ์หวานๆ แล้วกัน ”
-------------------
หนึ่งงงงงง
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ