┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├ งวดพิเศษ 03 - สัตว์กินเนื้อที่กินผักชีได้ หน้า 64 [6/6/60]  (อ่าน 470234 ครั้ง)

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

รออ่านงวดต่อไปอยู่นะคะ ^^

ออฟไลน์ therappizdrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาต่อแล้ววววววววว คิดถึงน้องภูมิมากกกกก

ตอนนี้มาเยอะจนลืมพระเอกตัวจริงเลยค่ะ 55555555

ตอนหน้าคิวคุณพ่อง้อแล้วสินะคะ น้องธัญญ์จัดหนักไปเลยลูก


เอาให้สมกับที่ไล่หนูออกไปนะคะ 5555555 #ทีมธัญญ์


รอตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
มาติดตามเรื่องนี้ด้วยคนนะคะ :L2:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
น้องภูมิน่าเอ็นดูจริง แพ้น้ำตาเด็ก
ลูกชายเป็นทัพหน้ากรุยทางไว้แล้ว รอคุณพ่อมาง้ออีกแรง พี่ธัญญ์กลับแน่
พี่ตังจะเป็นเจ้าชายเย็นชาสินะ แต่ก็แอบใจดีน้า... โอ้ย แพ้เด็ก หลงแรง

ออฟไลน์ JaaJaaJaaJaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :hao4:งือๆๆๆๆๆๆๆ น้ำตาไหลพรากๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ภูมิรีบไปตามพ่อให้มาง้อพี่ธัญญ์ด่วน!!

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
แอบเคืองคุณพ่อตอนที่บอกให้ธัญญ์ไป ตอนนั้นจิตใจธัญญ์คงบอบช้ำน่าดู  :hao5:
ว่าแต่คู่ลูกนี่ น่าติดตามมากๆๆๆๆๆ  :hao7:

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
เข้าใจกันแล้วสินะ
เด็กน้อยเอ้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GAZESL

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
พี่ตังกับน้องภูมิก็น่ารักเนอะ :-[
เข้าใจกันแล้วสินะ เหลือแต่รอให้คนพ่อมาเคลียร์
คนพ่อนี่แกล้งให้หนักๆไปเลยนะธัญ o18

ออฟไลน์ jillongame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จัดไปธัญคนพ่อนี้จัดหนักเลย อย่ายอมง่ายๆ ใร้ายกว่าภูมิเยอะเลย หมั่นใส้ เอาหาสาแกใจ ฮาฮา

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
แค่คิดว่าต้องรอไปอีกเดือนนึงก้ทรมานแล้ว ฮา
คุณพ่อรีบมาง้อเร็วๆสิ  :ling3:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
น้องภูมิรีบบอกพ่อมาง้อพี่ธัญญ์ด่วนๆ

 :กอด1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
คือเริ่มเม้นไม่ถูกเลย .. อ่านไปถึงตอนนึง มีเรื่องที่คิดในใจไว้อย่างนึง(ว่าจะต้องเม้นให้ได้) อีกหลายๆตอน ก็มีอีกหลายๆความคิด
พอถึงตอนที่ต้องเม้นจริงๆนี่เอ๋อเลยค่ะ 5555555 เข้าเรื่องเลยแล้วกัน เอาของตอนล่าสุดก่อนๆ
ตอนแรกไม่นึกว่าจะลงเอยแบบนี้จริงนะคะเนี่ย นึกว่าคุณภูเมศแค่เตี๊ยมกันกับพี่ธัญญ์ซะอีก เรื่องคุณลูกน่ะค่ะ
นึกว่าคุณพ่อน่าจะดูออกว่าลูกรักแค่ไหน ถ้าลองหายไปคงไม่น่าอยู่ได้เหมือนๆกัน กลับกลายเป็นให้ไปจริงๆซะอย่างงั้น ; _ ;
เล่นเอาสงสารทั้งสองฝ่าย แต่ก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายเหมือนกันค่ะ เพราะลองคิดอีกทีเป็นเราก็ต้องเอาคนในครอบครัว สายเลือดแท้ๆมาก่อนอยู่ดี
ขอแซวพร้อมภูมินิดนึง 55555 โดนถามว่าเกย์เป็นแบบไหน หารู้ไม่ว่าตัวเองติดพี่ตังค์แจขนาดนั้น ไม่น่ารอดพ้นง่ายๆเลยนะคะ - . -

ส่วนตัวเราชอบนายเอกคาแรคเตอร์แบบธัญญ์มากมากมากกกกกกกกกกกก ก ล้านตัว นี่แบบจริงจัง 5555555
เราเป็นคนอ่านนิยายเก่งมากค่ะ แค่ 2-3 ปีก็มีนิยายแจ่มใสอยู่ในตู้ 300+ เล่มแล้ว ยังไม่รวมอื่นๆเรื่อยๆเลย พอมาอ่านนิยายวาย
ก็คิดว่าน่าจะอ่านเกินจำนวนนั้นไปมากอีก .. แต่ในทั้งหมดที่ผ่านมา อยากบอกว่าธัญญ์คือตัวละครแบบที่พูดได้เลยว่า "ชอบที่สุด" ค่ะ
ในทุกๆคน ทุกๆเรื่องเลย อ่านไปแค่ 3 ตอนก็รู้สึกชอบมากๆแล้ว ทุกอย่างที่เป็นธัญญ์มันลงตัวมากกกกก ความเจ้าเล่ห์ น่ารัก
เข้มแข็ง แต่ก็อ่อนไหว ดูแลตัวเองได้ แต่ก็น่าทะนุถนอม คือบอกไม่ถูกเลยค่ะ เป็นคนที่ไม่ว่าใครก็ต้องตกหลุมรักแน่ๆถ้ามีตัวตนจริง
ขนาดอยู่ในนิยายเรายังตกหลุมรักเลย 5555555 พอได้อ่านปุ๊บเราก็คิดนะคะว่าพระเอกแบบไหนที่จะเหมาะกับคนพราวเสน่ห์ขนาดนี้
เอาจริงๆถ้าเป็นทั่วๆไปคงคิดถึงมาเฟียใหญ่ คนดังที่มีอิทธิพลมาก หรืออะไรทำนองนั้น
แต่พอเป็นคุณพ่อลูกติดที่ดูซื่อๆอึนๆ(?)แบบนี้กลับรู้สึกว่าเข้ากันม๊ากมากยังไงไม่รู้ค่ะ ^^ คงเพราะคุณภูเมศก็น่าเอ็นดูมั้งคะ (ฮา)
แบบ เราเอ็นดูจริงๆนะ เวลาคุณพ่อแกเขินมั่ง รับมือไม่ถูกมั่ง ความคิดในหัวกับสิ่งที่เป็นสับสนกันมั่ง 555555 อันนี้ชอบเลยค่ะ

ตอนที่พูดถึงทฤษฎีต้มกบ แล้วท้ายตอนทิ้งไว้ มีที่ถามว่าสำหรับธัญญ์นี่น้ำอุ่นหรือน้ำเดือดนะ ? เราคิดในใจต่อทันที ..
/จริงๆน้ำเดือดจนตายไปแล้วแบบไม่รู้ตัวต่างหากกกก xD
ส่วนคุณภูเมศก็ทำนองเดียวกันค่ะ 5555555 ไม่ต้องเลือกเลยว่าจะเป็นตัวที่รอดหรือไม่รอด

ที่น่ารักที่สุดพออ่านถึงตอนล่าสุดแล้วก็คือน้องภูมิกลับกลายเป็นกบอีกตัวรึเปล่าคะเนี่ย อีกทีก็ขาดพี่ธัญญ์ไม่ได้ไปซะแล้ว
แต่ตรงจุด conflict นี้เราว่าคุณพ่อแอบขาดความเข้าใจในตัวลูกนะคะ เราลองคิดว่าถ้าเราเป็นน้องภูมิ เราคงรู้สึกผิดหวัง เหมือนโดนหักหลังนี่แหละ
แต่ลึกๆที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่ากลัวมากกว่า .. เหมือนคนที่รักเรา 2 คนดันไปรักกันเองงี้ ? แล้วต่อไปเราจะเป็นหมาหัวเน่าไหม
คุณพ่อจะรักเราเหมือนเดิมรึเปล่า ยิ่งพี่ธัญญ์เพิ่งเข้ามาไม่นานความไม่แน่ใจก็ยิ่งต้องเพิ่มไปไกล กลัวพี่ธัญญ์จะมาแย่งคุณพ่อไป
ทั้งที่ในความเป็นจริงความรักมันไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียวเนอะคะ ^ ^
/แต่น้องภูมิก็แอบใจร้ายนะ เล่นทิ้งของที่ซื้อให้หมดขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องเสียใจมากๆแน่
/ส่วนพี่ธัญญ์ก็แอบใจแข็งมากกกกกกกกก ขนาดลงมือรั้ง ขอให้กลับบ้านไปด้วยกันทั้งคุณพ่อคุณลูกแล้วแท้ๆยังไม่ยอมง่ายๆเลย

ส่วนอีก conflict ที่หนักหน่วงมากเหลือเกินก็เรื่องคุณธเนศนี่แหละค่ะ .. (นี่คือเม้นมายาวมาก แอบเกรงใจถ้าต้องอ่านยาวขนาดนี้ แต่ก็อยากบอกจริงๆค่ะ TT)
สงสารธัญญ์มากกกกกกกกกกกกก จริงๆ .. คือตอนแรกก็คิดว่าพ่อ แต่พอมีช่วงที่กล่าวถึงความสัมพันธ์เกินเลย
เลยคิดว่าอาจจะเป็นคนที่รับมาเลี้ยงดู แต่สุดท้ายก็ .. นั่นสินะคะ สงสารน้องมากที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ดีใจที่จะได้หลุดพ้นซะที
เราอ่านแล้วรู้สึกว่าคุณธเนศจิตมากอ่ะ คือกลัวใจแทน ไม่ยอมให้รักหรือผูกพันกับอะไรเลย สงสารก็แต่พ่อลูกผู้ไม่รู้อะไร
กลัวจะโดนลูกหลงไปด้วยหรือไม่ที่แย่กว่านั้น ก็กลัวพี่ธัญญ์จะตัดใจเป็นฝ่ายทิ้งไป พ่อลูกคู่นี้จะต้องอยู่ไม่ได้แน่ๆเลยค่ะ T^T

ตอนที่อ่านเรื่องนี้ไปได้หลายๆตอน แว๊บแรกคิดขึ้นมาว่าเสียดายมาก ไปอยู่ไหนมาทำไมเพิ่งเจอเอาป่านนี้
แต่พออีกแว๊บนึง....... โชคดีแล้วแหละ T _____ T .. ไม่งั้นจะต้องดิ้นตายอยู่ที่ตอนไหนซักตอนหนึ่งแน่ๆเลยค่ะ
(แต่เอาจริงๆตอนนี้ก็ดิ้นกับตอนล่าสุดไม่ได้ต่างกันเลยนะ /ฮา) เป็นเรื่องที่สนุกและชอบมากกกกจริงๆค่ะ
คิดว่าเป็นเม้นที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยเม้นนิยายมาด้วยอ่ะ ; _ ; ..... ขอโทษที่ยาวขนาดนี้นะคะ /โค้งสามที/
จะทำฟ้อนต์เล็กกว่าปกติเพื่อไม่ให้รกหน้านิยายนะคะ ; w ; .. ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆและจะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ!!  :L2:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
น้องภูมิน่ารักอ่ะ รีบกลับไปบอกพ่อให้มาง้อพี่ด้วยนะ

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
มาง้อเร็วๆนะคุณพ่อออออ><

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
คราวนี้ถึงคิวคุณพ่อต้องรีบมาง้อแล้วนะคะ

เร้วววววว มาพาพี่ธัญญ์กลับบ้านสักทีเนอะ

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
พี่ธัญญ์แอบเขินใช่มั้ยนั่น นั่นแน่....

อยากรู้จัง อีกคนเค้าจะง้อยังไงน้อ.....

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ย่างเข้าเดือน 4 ร้อนจริงจัง นั่งรอใจจ่อ เค้าจะง้อกันยังไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fannaio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอคนพ่อมาง้อค่าาา :hao7:

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
รออยู่นะคะ คิดถึงมากๆ มาต่อหน่อยนะ .. คนอ่านรออยู่ค่า

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
อ่านรวดเดียวจบ ผ่านตาหลายรอบแล้ว เจอชื่อเรื่องไม่กล้าเข้ามาอ่านกลัวมาม่า จนไปเปิดอ่านนิยายที่ที่จบแล้วเจอชื่อคนแต่ง เป็นคนเดียวกับ แต่งเลห์รักฤดูร้อน ที่เคยอ่านแล้วและทำให้หลงรัก เฮียภพกับน้องคิม ไม่ลังเลที่จะเริ่มอ่าน  เรื่องนี้และคงต้องไปหาเรื่องอื่นๆ ของคุณ RAINYDAY ต่อไป

ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่าน รอ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก งวดต่อไปนะคะ   

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
พี่ตังนี่พระเอกเรื่องใหม่ใช่ไหม
คือออกแค่แว๊บๆ แต่ชอบมากกก เด็กอะไร โตเกินวัยจริงๆ
ชอบการเขียนอะ อ่านแล้วอินมากกกก ตอนพร้อมภูมิทำท่าจะร้องไห้ อ่านไปก็จะร้องตาม คือเขียนดีอะ อ่านแล้วมีความรู้สึกร่วมทุกตอนเลย
รอตอนต่อนะฮะ ^^

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ชอบอีกแล้ว ตอนแรกกะว่าจะรออ่านรวดเดียวเมื่อจบแล้ว แต่รอไม่ไหว แอบมาอ่านก่อนจนได้
ชอบธัญญ์ เป็นใครก็คงตกหลุมรักธัญญ์ไม่ยาก ชอบคาเร็กเตอร์แบบนี้ ชอบดราม่าที่ไม่ใช่การตบตีแย่งชิงพระเอกกันเหมือนละครน้ำเน่า
ชอบน้องภูมิตอนล่าสุด
ชอบของแถม
และคุณเรนนี่มาต่ออีกไวไวนะ เรารออยู่  :L2:

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
กลับมาอ่านซ้ำตั้งแต่ต้นเรื่อง ไปๆมาๆรู้สึกว่าพี่ตังกับน้องภูมินี่ให้ฟีลเจ้าขาวกับดุ๊กดิ๊กยังไงไม่รู้สิคะ 5555555555
เป็นขาว-ดุ๊กดิ๊กเวอร์ชั่นคนแสดง(?)รึเปล่าคะเนี่ย /ฮา แต่เหมือนจริงๆนะคะ! โดยเฉพาะพี่ตัง คาแรคเตอร์แบบว่า รู้มาก ขี้รำคาญ
ไม่ชอบเจ้าหนูนี่ แต่ก็อยู่ด้วยตลอด เหมือนขาวบ่นถึงดุ๊กดิ๊กเป๊ะเลยค่ะ ส่วนน้องภูมิก็มาสไตล์เดียวกันคือเอ๋อๆมึนๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร
แถมยังตามติดอีกคนแจโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตามเพราะอะไร (?) คือตลกกกก และน่ารักมากอะไรมากจริงๆ

อยากอ่านตอนต่อไปมากมากมากกกกกกแล้วจริงๆค่ะ ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้เหมือนหลงอยู่ในวังวนนิยายของคุณ RAINYDAY ตลอด
เริ่มจากอ่านเล่ห์รักฤดูร้อน จบไปอ่านแมวหมาดอกไม้ฯ แล้วก็ไปแฝด แล้วก็กลับมาแมวหมาดอกไม้ฯซ้ำ แล้วก็แฝดซ้ำ
แล้วก็กลับมาราคาค่ารักอีกรอบ 5555555555555 สงสัยจะรอตอนต่อไปของเรื่องนี้ไม่ไหวแบบที่คิดไว้ว่าตัวเองจะลงแดงแน่ๆเลยค่ะ T^T

มาต่อตอนต่อไปไวๆน้า ~ เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก  ├

งวดที่ 16




เย็นวันนั้น เด็กน้อยออกจากโรงเรียนด้วยสีหน้าแจ่มใส ตอนอยู่บนรถรับส่งยังเจื้อยแจ้วกับพี่ตังไม่หยุดเกือบตลอดทาง ขนาดอีกฝ่ายผล็อยหลับไปต่อหน้าต่อตายังอุตส่าห์ปลุกขึ้นมานั่งฟังเขาพล่ามต่อ แต่พี่ตังนั่งฟังไปได้อีกหน่อยก็สัปหงกคอพับคออ่อน หน้าผากวางแปะลงบนไหล่เขาแบบขุดไม่ขึ้น สุดท้ายเลยกลายเป็นเขาพูดคนเดียวไปเสียอย่างนั้น

ครั้นถึงบ้าน เห็นพ่อรออยู่ก่อนแล้ว ทว่าสีหน้าอมทุกข์อย่างทุกที อยากจะกระโจนเข้าไปกอดแล้วชวนว่าไปหาพี่ธัญญ์กันเถอะ แต่ยั้งปากไว้ได้ทันก่อนจะเผลอพูดอะไรให้ต้องเดือดร้อน

แอบไปง้อมาแล้วก็จริง แต่ขืนบอกว่าหนีโรงเรียนไปหาต้องโดนดุแหง ๆ

เขาถอยไปตั้งหลัก ถอดรองเท้าถุงเท้าเก็บเข้าที่ ล้างมือล้างขาเรียบร้อย เดินมาวนเวียนหยั่งเชิงอยู่สองสามรอบแล้วหาที่นั่งข้างผู้เป็นพ่อ

“พ่อครับ” เขาเอียงคอส่งยิ้มให้ เห็นอีกฝ่ายนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารอยู่ข้าง ๆ ก็ขยับเข้าไปกระแซะอีกนิด

“ว่าไงครับ” ภูเมศตอบรับ สายตายังจับจ้องกับงานตรงหน้า

“ผมคิดถึงพี่ธัญญ์”

ทันทีที่ได้ยินชื่อนั้นจากปากเขา พ่อชะงักไป เหลือบมองมาแวบหนึ่ง ท่าทางเหมือนไม่ค่อยเชื่อหู จากนั้นคล้ายต้องบังคับตัวเองอย่างหนักให้จดจ่อกับเอกสารที่ค้างอยู่ในมือ

เขาเพิ่มระดับความรบเร้าขึ้นอีกนิด “พ่อพาพี่ธัญญ์กลับมาให้หน่อย”

ครั้งนี้ยิ่งหนักกว่าเมื่อครู่ พ่อถึงกับวางมือจากงาน นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะหันมามองเขาอย่างชั่งใจ คล้ายรอให้เอ่ยอะไรต่อ

เด็กชายยักไหล่เบา ๆ ก้มลงมองเท้าตัวเองที่แกว่งไปมา

เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่นี้ พี่ธัญญ์เคยแอบเลื่อนมันออกตอนเขากำลังจะหย่อนก้นลงนั่งเมื่อคราวเจอกันครั้งแรก สอนให้ระวังกับเรื่องประหลาดที่คนทั่วไปไม่เห็นมีใครนึกถึง อดคิดไม่ได้ว่าถ้ากลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง จะเอาอะไรพิลึก ๆ มาสอนอีกหรือเปล่านะ

“ก็พ่อทำผัดผักคะน้าอร่อยสู้พี่ธัญญ์ไม่ได้นี่นา” เด็กชายตัดพ้อ

“หือ?”

“แถมจำชื่อหุ่นรบผมไม่ได้สักตัว”

ภูเมศกะพริบตาปริบ ๆ

“แพ้ขนแมวอีกต่างหาก”

ชายหนุ่มได้แต่ยกนิ้วชี้หน้าตัวเอง เป็นเชิงว่าเรื่องนั้นพ่อก็ผิดด้วยหรือ?

“แต่ผมอยากเลี้ยงแมว” พร้อมภูมิบ่นเสียงหงอย “ถ้าพี่ธัญญ์ไม่อยู่แล้วจะเลี้ยงได้ยังไงล่ะ”

พ่อถอนใจหนหนึ่ง คลี่ยิ้มอ่อนแรงขณะมองมาทางเขา

“วันนี้เป็นอะไรไปน่ะเรา”

เขาคันปากอยากบอกจะตายอยู่แล้วว่าวันนี้เพิ่งไปง้อพี่ธัญญ์มา แถมฝ่ายนั้นยังบอกด้วยว่าให้พ่อไปง้อบ้าง แต่ไม่รู้จะเอ่ยอย่างไรไม่ให้ถูกจับได้ว่าหนีจากโรงเรียนไปเจอ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาพูดอ้อมแอ้ม

“พ่อบอกว่าตามใจผมนี่นา” พอถึงตรงนี้ก็ยกมือสองข้างตบแก้มตัวเองเบา ๆ เรียกกำลังใจ  “ผมอยากให้พี่ธัญญ์กลับมาอยู่กับเรา”

พ่อมองเขานานจนเผลอคิดไปแล้วว่าหรือจะไม่ยอมเห็นดีเห็นงามไปด้วย กว่าจะเอ่ยปากออกมาในที่สุด ด้วยทีท่าลำบากใจจนเขาอยากลูบหลังแล้วโอ๋ว่าไม่เป็นไรนะครับ เขาจะไม่หนีไปนั่งร้องไห้ในห้องแบบวันนั้นอีกแล้ว

“ถ้าพ่อตามพี่เขากลับมา เขาจะไม่ใช่แค่พี่เลี้ยงของลูกแล้วนะ”

เด็กชายพยักหน้ารับช้า ๆ

“พี่พ่อเคยบอกวันนั้น ลูกได้กลับไปคิดดีแล้วหรือยัง”

พร้อมภูมิรู้สึกได้ว่าแก้มตัวเองร้อนวาบขึ้นมา จนต้องยกมือขึ้นตบเบา ๆ อีกหน ลองคิดตามรอบที่เท่าไรก็เกินจะนับ แน่ใจแล้วจึงผงกศีรษะรับแข็งขัน

“พี่ธัญญ์จะเป็นแฟนพ่อ”

คนฟังเลิกคิ้วขึ้นสูง ถ้าดูไม่ผิด แก้มพ่อก็คล้ายจะขึ้นสีแดงจาง ๆ อยู่เหมือนกัน เด็กชายรีบฉวยโอกาสนั้นพูดต่อ

“แต่ถ้าพ่อไม่รักพี่ธัญญ์แล้ว เดี๋ยวผมดูแลพี่ธัญญ์เอง”

“เอ๋?”

คิ้วพ่อต้องกำลังจะพุ่งหลุดออกจากหน้าผากในอีกไม่กี่วินาทีนี้แน่ ๆ

“พ่อพากลับมาให้หน่อยสิครับ” เขาเริ่มอ้อน ทั้งยังแอบต่อในใจว่าก็ผมไปตามแล้วแต่พี่เขาอยากให้พ่อไปง้อนี่นา “นะครับ?”

ความเงียบของบรรยากาศภายนอกระหว่างพ่อลูก ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับความอลหม่านในหัวทั้งสองฝ่าย

จากตอนแรกที่ดูตื่นตกใจอยู่ไม่น้อย สักพักใหญ่พ่อค่อยทำคิ้วขมวด แม้ยังดูออกชัด ๆ ว่าพยายามกลั้นยิ้มจนแก้มเกร็งไปหมดแล้ว พูดตะกุกตะกักออกมาอย่างน้อยครั้งเขาจะได้ยินพ่อทำเสียงเช่นนี้

“แบบนี้ก็แย่เลยสิ” อีกฝ่ายพึมพำ นิ้วมือยกขึ้นถูเบา ๆ ที่ปลายจมูก “พี่เลี้ยงคนนั้นค่าตัวแพงมากเลยรู้ไหม..”

“เดี๋ยวผมช่วยออก” เด็กชายแบ่งรับแบ่งสู้

“ถ้าพากลับมาแล้วปล่อยเขาหลุดมือไปอีกหน คราวนี้ต้องไม่มีปัญญาหิ้วกลับมาอีกรอบแหง ๆ”

“งั้นเราก็อย่าปล่อยเขาอีกไปสิครับ” เขาแสดงความเห็นตรงไปตรงมา รูปแบบการคิดระดับเด็กประถมยังใช้ได้ดีในเรื่องที่ผู้ใหญ่ทำท่าว่าปวดหัวนักหนา

“นั่นสิ...” ภูเมศเออออจนได้ “ถ้ารอบนี้เขายอมกลับมาอยู่ด้วยกันน่ะนะ”

พร้อมภูมิก้มหน้า ส่งเสียงกระซิบงุบงิบ “ก็ถ้าพ่อรีบไปง้อสักทีน่ะนะ...”

“หือ?”

“เปล่าครับ!”

พ่อไม่ว่าอะไร แต่ดูเหมือนจะกลั้นยิ้มไม่ไหวอีกแล้ว พร้อมกับที่ริมฝีปากวาดขึ้นเป็นมุมโค้งชวนมอง มือพ่อก็รวบตัวเขาหมับเข้าให้พอดี กอดไว้แน่นพลางลูบผมเขาไปด้วยแผ่วเบา

“พ่อรักลูกนะรู้ไหม”

ถึงจะเขินชะมัด เมื่อเที่ยงพี่ธัญญ์กอด ตอนนี้พ่อก็กอดอีกคน แต่รู้สึกเป็นที่รักบอกไม่ถูก

“ครับ” พร้อมภูมิพยักหน้า

วินาทีนั้น เหมือนได้คุณพ่อที่ใจดี ยิ้มง่าย แล้วยังอบอุ่นที่สุดกลับคืนมา หลังเสียเวลาเป็นนานสองนานกับความคิดว่าพ่อกับพี่เลี้ยงคนโปรดพากันไปทำอะไรกันลับหลังเขา โกรธที่เหมือนถูกหลอก กลัวทั้งคู่จะไม่รักเขาแล้ว ทว่าที่จริงคงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก

..ไม่ใช่อย่างนั้นแหง ๆ อยู่แล้ว ทั้งสองคนรักเขาออกจะตายไป

เขายกมือกอดตอบพ่อ ฝ่ามือเล็กลูบบนแผ่นหลังกว้างนั้นเบา ๆ

คลับคล้ายคลับคลาว่าได้ยินเสียงพ่อพึมพำ แต่เขาเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก

“ขอบใจนะลูก...ขอบใจมาก..”











หนึ่งวันก็แล้ว...สองวันก็แล้ว

นับจากเที่ยงวันที่พร้อมภูมิแอบมาหา กระทั่งตอนนี้เข้าวันที่สาม ทุกอย่างที่ร้านอาหารยังคงดำเนินไปเป็นปกติ เขาก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ในห้องครัวด้านหลังกับสองสามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของร้านควบตำแหน่งพ่อครัว โดนเคี่ยวเข็ญหนักกว่าที่คิดไปไกลโขจนมั่นใจแล้วว่าตอนนี้ให้เปิดร้านเองต้องทำได้สบายแหง ๆ

พูดอย่างไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปนัก ธัญญ์ก็คิดว่าเขาหัวไวใช้ได้อยู่หรอก แต่ไม่รู้ได้รับความหมั่นไส้หรือเอ็นดูเป็นพิเศษจากเจ้าของร้าน จึงได้ถูกปฏิบัติด้วยอย่างเข้มงวดเกินกว่าแค่ลูกจ้างปกติ โดยเฉพาะกับลุงชัยยศผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในร้าน ที่จุกจิกนั่นนี่ทุกขั้นตอนการปรุงอาหารอย่างกับจะหาทายาทอสูร มีคุณป้านฤมลคอยส่งยิ้มอ่อนใจเป็นบางครั้ง พลางปรามว่าอย่าเข้มหนักนักเลย ประเดี๋ยวเครียดมาก ๆ ก็ได้เข้าโรงพยาบาลอีกหรอก ท่าทางยังติดใจไม่หายเรื่องครั้งหนึ่งเคยต้องให้ลูกน้องช่วยกันหามสามีตัวเองเข้าโรงพยาบาล เพราะกินยาเบาหวานแต่มัวทำงานไม่ยอมไปหาข้าวหาปลากินจนน้ำตาลต่ำ ถึงกับวูบไปพักหนึ่ง

“ก็ดูไอ้หนูนี่จัดจานเข้าสิ ดูไม่ได้เลย!”

ธัญญ์ลอบกลอกตา มองอย่างไรมะเขือเทศที่ถูกเรียงซ้อนเป็นดอกกุหลาบแดงฝีมือเขาก็ออกจะดูดีไม่น้อยแท้ ๆ แต่ปฏิเสธไม่ออกว่าฝ่ายนั้นเอาไปจัดเรียงใหม่ได้มืออาชีพกว่าจริง ๆ

ปล่อยลุงยศบ่นจนสาแก่ใจได้อีกพักใหญ่ เป๊กก็เยี่ยมหน้าเข้ามาแจ้งข่าวถึงในครัว

“พี่ธัญญ์ มีคนมาหาแน่ะ!”

“หือ?” ทั้งเขาและชัยยศส่งเสียงออกมาพร้อมกัน

“มีคนมาหาบ่อยนะเรา” เจ้าของร้านส่ายหน้าน้อย ๆ เอ่ยทีเล่นทีจริง “วันนั้นก็เด็กประถมนี่ไหนไม่รู้โผล่มาร้องห่มร้องไห้ใส่ นี่ไปแอบมีลูกชายลับ ๆ ไว้หรือไง”

ธัญญ์ไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหา หันไปส่งสายตาถามเป๊กถึงผู้มาเยือนคราวนี้

อีกฝ่ายรู้ใจใช้ได้ รีบบอกรูปพรรณสัณฐานคร่าว ๆ ให้ไว้ก่อน ต่อให้เจ้าตัวไม่รู้ว่าเป็นใครก็เถอะ

“คราวนี้ไม่ใช่ไอ้หนูตัวน้อยแล้วพี่ แต่เป็นคุณลุงรุ่นใหญ่ พี่นี่รู้จักคนเยอะเหมือนกันนะ”

“อ้อ”

ถึงแม้สีหน้าจะยังนิ่งงันเช่นเดิม แต่หัวใจกลับเต้นเร็วขึ้นอย่างไม่ไว้หน้าเจ้าของ อึดใจหนึ่งจึงค่อยเริ่มกลับมาเป็นปกติ

“แต่เป็นคุณลุงที่แต่งตัวดูดีเลยอะ” เป๊กขยายความเพิ่ม “รออยู่ข้างนอกแน่ะ ที่สวนข้างร้าน”

ลักยิ้มน้อย ๆ ผุดขึ้นบนแก้มซ้าย แต่เจ้าของรอยบุ๋มบนแก้มนั้นกลับไม่รู้ตัวสักนิด กระทั่งเป๊กผิวปากเบา ๆ ขณะเขาเดินผ่านหน้าเจ้าตัวไปโดยไม่พูดไม่จา ได้ยินเสียงคนมาบอกข่าวพึมพำตามหลังว่าท่าทางจะเป็นคนสำคัญนะเนี่ย

แวบหนึ่งซึ่งเผลอคิดไปว่า ‘นึกว่าจะไม่มาเสียแล้ว’ จึงเพิ่งรู้ตัว ว่าสามวันที่ผ่านมานี้ เขาคาดหวังและรอคอยขนาดไหน

คนบื้อ ๆ แบบนั้น จะง้อใครเป็นหรือเปล่านะ

แต่ถ้าเป๊กบอกว่าแต่งตัวดูดีมาเชียว อย่างน้อยก็หมายความว่าใส่ใจที่จะมาพบจริง ๆ ใช่หรือเปล่า ต่อให้ในเวลาที่ยังเป็นช่วงกลางวันทำงานอย่างนี้ จะแต่งตัวให้ภูมิฐานก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ธัญญ์รักษาจังหวะการเดินให้คงที่ นึกเกลียดตัวเองอยู่นิดหน่อยที่ยังไม่ทันไรก็หลุดท่าทางเสียเยอะแยะถึงขั้นให้เด็กเป๊กจับสังเกตได้ แต่ไหนแต่ไรไม่เห็นเคยเป็นอย่างนี้กับคนอื่นมาก่อน ต่อให้เป็นคน สัตว์ สิ่งของที่ถูกใจอย่างไร สุดท้ายหากจะตัดทิ้งจริง ๆ ก็สามารถทำได้ไม่ยากเย็นมาตั้งนานแล้วแท้ ๆ

ด้านข้างของร้าน มองออกไปเห็นพุ่มกุหลาบซึ่งถูกปลูกไว้เป็นแนว ตำแหน่งเดิมกับเมื่อสามวันก่อนที่เขาเคยคุยกับลูกชายของคนคนนั้น อดนึกขำกับตัวเองไม่ได้ที่ตอนนั้นบอกพร้อมภูมิซึ่งกำลังยืนสะอื้น ว่าอยากเห็นภูเมศร้องห่มร้องไห้ขึ้นมาบ้างเลย

ใกล้ถึงที่หมาย ใครคนหนึ่งยืนหันหลังอยู่ไม่ไกลนัก

ธัญญ์เดินตรงไปข้างหน้า เมื่อมองเห็นแผ่นหลังนั้นได้เต็มตา ฝีเท้าซึ่งคงที่มาตลอดพลันชะงักลง เปล่งเสียงออกมาได้เพียงพยางค์เดียว ปล่อยคำพูดที่เหลือตกค้างอยู่แค่ในลำคอ

“คุณ—”

ฝ่ายนั้นหันกลับมา มองเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนแต่งแต้มบนใบหน้า ทั้งยังสุ้มเสียงทุ้มต่ำที่เคยได้ยินเรียกชื่อเขามาหลายปี

“ธัญญ์”

ขนที่ต้นคอลุกชันขึ้นมาวูบหนึ่ง
 
เขาเผลอกลั้นหายใจ ยืดหลังตรง ตั้งตัวได้แล้วจึงค่อยระบายยิ้มบางเบาอย่างที่ผู้คนมักลงความเห็นว่าดูดีเมื่ออยู่บนดวงหน้าเขา แต่ความหมายของรอยยิ้มนั้นกลับบอกได้ยากลำบาก

“คุณธเนศ”

เหมือนถูกความจริงตบหน้าเรียกสติ น่าตลกตัวเอง เมื่อกี้หลงเพ้อเจ้ออะไรอยู่ได้

“ไม่เจอกันนานเลย” ฝ่ายนั้นทักขึ้นก่อน ขณะเดินตรงเข้ามาใกล้ แววตาที่สะท้อนทั้งความคิดถึงและรักใคร่ไม่ได้ทำให้รู้สึกดี ตรงกันข้าม กลับยิ่งชวนให้สะอิดสะเอียนขึ้นมา เขาอาจห่างจากคนตรงหน้ามานานเกินจนลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปแล้ว เมื่อพบกันอีกหน ความรู้สึกผิดเพี้ยนที่ครั้งหนึ่งเคยชินชาจึงกลับฟุ้งตลบขึ้นมาใหม่

“ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยหรือ?”

“สวัสดีครับ” ถ้อยคำเรียบ ๆ กลับให้ความรู้สึกประชดประชัน ทว่าอีกฝ่ายพูดต่อตามใจเหมือนไม่สนคำทักตามมารยาทของเขานัก

“อย่างเช่นกอด?”

“ผมโตแล้วนะครับ”

ธเนศถอนหายใจแผ่วเบา “เป็นพ่อที่กอดลูกตัวเองไม่ได้นี่..น่าผิดหวังจังเลยนะ”

ธัญญ์ยืนนิ่ง ไม่ตอบคำ สายตาเบนไปยังกอกุหลาบขาวด้านข้าง ราวกับจะเล่นสงครามประสาทว่าใครจะพ่ายแพ้ให้ความเงียบอันน่าอึดอัดนี้ก่อนกัน

ใครรักมากกว่า ย่อมเป็นฝ่ายแพ้ เรื่องนั้นอาจจะจริงก็ได้

และระหว่างเขากับธเนศ คนคนนั้นย่อมไม่ใช่ตัวเขาเองแน่นอน

“เธอกอดคนอื่นได้ ยกเว้นกับฉันหรือ”

“คุณต่างจากคนอื่น”

“นั่นถือว่าชมนะ”

“แล้วแต่จะคิดครับ” เขาพึมพำอย่างไม่ใส่ใจนัก ไม่ได้มองหน้าคนฟังสักนิด สายตายังคงจับจ้องกับดอกกุหลาบบนต้น กระทั่งธเนศต้องเหลียวมองตาม ว่าอะไรกันที่ตรึงความสนใจของคู่สนทนาไว้

“เดี๋ยวนี้เปลี่ยนจากชอบไฮเดรนเยียมาเป็นกุหลาบขาวแล้วหรือ?”

ธัญญ์โคลงศีรษะ

“ชอบอะไร ก็ยังชอบเหมือนเดิม” เขาตอบเบา ๆ พลางเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้คนถาม “..เกลียดอะไร ก็ยังเกลียดเหมือนเดิมครับ”

ธเนศทำสีหน้าคล้ายเข้าอกเข้าใจ เอ่ยกลั้วหัวเราะ “ชอบดื้อสินะ”

เขาย้อนด้วยถ้อยคำของอีกฝ่าย “นั่นถือว่าชมนะครับ” เรียกให้เสียงหัวเราะทุ้มต่ำของธเนศยาวนานขึ้นไปอีกหน่อย ก่อนความเงียบจะโรยตัวอีกหน

และคนที่เริ่มพูดก่อนก็ยังเป็นผู้มาเยือนเช่นเคย

ทั้งคราวนี้ยังถือวิสาสะ เอื้อมมือข้างหนึ่งมากุมมือเขาไว้หลวม ๆ นิ้วหัวแม่มือกดเบา ๆ ลงกลางฝ่ามือ

“มือด้านหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ยังนุ่มนิ่มอยู่เลยแท้ ๆ”

ธัญญ์ไหวไหล่ “มือผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่แล้วก็แบบนี้แหละครับ”

“ออกมาตะลอนอย่างนี้ลำบากหรือเปล่า” อีกฝ่ายเลิกคิ้ว ท่าทางคล้ายเป็นห่วง แต่ถ้อยคำที่เอ่ยออกมา เขารู้ดีว่าเลือกเฟ้นแล้วว่าจะทำให้เขาต้องสะดุดหู “กับผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่ว่าถูกทิ้งแล้วหรือนี่”

ธัญญ์สูดลมหายใจเข้าลึก ดึงมือตัวเองกลับมาปล่อยไว้ข้างลำตัว

“ดูยังไงก็ผมเป็นฝ่ายทิ้งไม่ใช่หรือครับ”

“ดีแล้ว” ธเนศพยักหน้า ยกยิ้มที่มุมปาก “เพราะพอเห็นเธอสนใจบางอย่างมากเกินไปทีไร ฉันก็อดไม่ได้จะเผลอเข้าไปจัดการทำให้พ้นหูพ้นตาเสียอยู่เรื่อย”

“นิสัยคุณ ผมรู้ดี”

“นิสัยเธอ ฉันก็รู้ดีเหมือนกัน”

“สมเป็น พ่อ ลูก นะครับ..ว่าไหม?”

เขาทอดเสียง เน้นคำว่า ‘พ่อ ลูก’ ช้า ๆ สังเกตเห็นแววตาไหวระริกของอีกฝ่ายที่ปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง แต่เขาเพียงมองผ่านไป แสร้งทำเหมือนไม่เห็น

ธเนศถอนหายใจยาว ราวเหน็ดเหนื่อยกับเขาเต็มที

“เมื่อไหร่จะกลับบ้าน ฉันคิดถึงเธอนะ”

“ผมก็คิดถึงคุณ”

“ปกติเธอโกหกเก่ง” อีกฝ่ายให้ความเห็น และเขาก็ไม่คิดเถียง “แต่รู้ไหม เวลาเธอพูดคำนี้ทีไร แววตาเธอไม่เคยแนบเนียนเลย จนบางทีฉันก็คิดว่าเธอจงใจสื่อให้รู้ว่ากำลังโกหกอยู่หรือเปล่า”

เรื่องนั้นเขาก็ไม่เถียงอีกเหมือนกัน ยังยิ้มให้อย่างทุกที ทว่าให้คำตอบตรงข้ามกับการกระทำ

“คุณคิดมากเกินไป”

ธเนศหัวเราะ “กับคนอย่างเธอน่ะ อยู่ด้วยแบบไม่คิดให้ถ้วนถี่ไม่ได้หรอก”

“ดูลำบากนะครับ”

“นั่นสิ” ธเนศพยักหน้า “แล้วเธอจะตอบแทนความลำบากพวกนี้ของฉันยังไงดีล่ะ หือ?”

“ผมไม่มีอะไรจะให้คุณหรอก”

“จริงหรือ?”

ธัญญ์ไม่ตอบ

ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วจริง ๆ แต่ตอนนี้กลับมีบางคนที่อย่างไรก็ไม่อยากปล่อยมือ

เพียงแต่สามวันผ่านไปแล้ว ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะโผล่มาเจอกันอีกหน เกรงว่าคนที่เป็นฝ่ายเลือกว่าจะปล่อยมือหรือไม่ อาจไม่ใช่เขาก็ได้

ใครรักมากกว่า ย่อมเป็นฝ่ายแพ้ เขาเข้าใจเรื่องนี้ดีเสมอมา

“ธัญญ์?” ฝ่ายนั้นเรียกชื่อ เมื่อเห็นว่าเงียบไปนาน ดึงเขาให้หลุดจากภวังค์

และเป็นอีกครั้งที่ธเนศยื่นมือมาสัมผัส หากแต่คราวนี้ไม่ใช่ที่มือ เป็นข้างแก้ม

ในความเงียบงัน ปลอดจากสายตาผู้คน คล้ายว่าเวลารอบกายหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ปลายนิ้วหยาบกร้านไล้แผ่วเบาบนผิวอุ่น ใบหน้าเคลื่อนเข้ามาใกล้เชื่องช้า ทิ้งลมหายใจร้อนผ่าวรินรดลงบนปลายจมูก

ธัญญ์ถอยหลังมาก้าวหนึ่ง

“คุณบอกว่าจะไม่แตะต้องผมอีก” 

ธเนศชะงักไปอึดใจ ก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมจำนน

“ใช่”

“แล้วคุณก็บอกจะรักผมตลอดไป”

“ใช่”

เขาสบตาอีกฝ่ายตรง ๆ วางฝ่ามือไว้กลางอกคนตรงหน้า ดูคล้ายว่ารักแสนรัก แต่พวกเขาทั้งสองต่างรู้อยู่ลึก ๆ ว่านั่นเป็นทีท่าพร้อมจะผลักไสต่างหาก

ทว่าความหวานละมุนในถ้อยคำ ยังคงล่อหลอกให้หลงอยู่ในวังวนได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

“บอกสิครับ ว่าจะรักผมตลอดไป”

ฝ่ายนั้นพึมพำตามราวกับต้องมนตร์สะกด “ฉันจะรักเธอตลอดไป”

ธัญญ์คลี่รอยยิ้มงดงาม ลากฝ่ามือลงช้า ๆ ก่อนจะค่อยดึงกลับหาตัวอย่างอ้อยอิ่ง โน้มตัวกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู ทอดน้ำเสียงอ่อนโยนจนหากไม่ฟังเนื้อความ คนได้ยินคงละลายลงตรงนั้นเป็นขี้ผึ้งลนไฟ

“แต่ผมไม่มีวันรักคุณ”











คนที่หวังลึก ๆ ให้มากลับไม่มา คนที่ไม่ได้อยากเจอหน้ากลับโผล่มาให้เห็น

ธเนศกลับไปได้ไม่ทันไร ภาคี ลูกพี่ลูกน้องต่างแม่—และจะให้ชัดกว่านั้นก็ต่างพ่อด้วย จนถ้าว่าด้วยสายเลือดคงไม่สามารถเรียกเป็นลูกพี่ลูกน้องกันได้—ก็โผล่มาที่ร้าน ไม่เจอกันพักใหญ่ แต่รู้ว่าคงแอบตามข่าวคราวเขาอยู่ ส่วนจะนำไปบอกธเนศมากน้อยเพียงใดนั้นยากจะคาดเดา

แม้มาในฐานะลูกค้า แต่เห็นหน้าตาที่โกหกใครไม่ค่อยเนียนก็รู้ ว่าจงใจมาดูความเป็นไปชัด ๆ

คราวนี้ เขาเสนอตัวยกอาหารมาเสิร์ฟเอง

“คุณธัญญ์”

แค่อ้าปากคำแรกก็เห็นลิ้นไก่

“ไม่ต้องมาตามผมกลับนะครับ”

ภาคีทำหน้าจ๋อยไปนิดหน่อย จับแก้วน้ำตรงหน้าหมุนไปมาแก้เก้อ “ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ หลังจากนี้จะทำอะไรต่อ ผมจะตัดสินใจเอง” เขาชิงพูดดักคอ “แล้วอยากเอาอะไรไปบอกคุณธเนศก็ตามสบาย”

“ผมไม่ได้ขายคุณธัญญ์นะ”

“ถึงขายก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ” เขาเอ่ยเนือย ๆ “ผมเข้าใจ”

“อย่าพูดเหมือนชีวิตมันมีแต่แง่ร้าย ๆ อย่างนั้นสิครับ”

ธัญญ์เพียงแต่พยักหน้าโดยไม่ตอบความ ถือวิสาสะอู้งานนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับอีกฝ่าย เดี๋ยวลุงยศมาเห็นเข้าคงโดนอบรมยาวแน่นอน แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมาจนต้องขอนั่งไม่สนใจโลกสักพัก ถึงจะเป็นต่อหน้าภาคีที่มองมาด้วยสายตาสงสัยเมื่อเห็นเขาถอนใจยาวเหยียดออกมาก็เถอะ

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ภาคีค่อยถามเสียงเบา “ทานด้วยกันไหมครับ”

กลายเป็นลูกค้าชวนกินข้าวไปเสียอย่างนั้นละ

ธัญญ์ส่ายหน้า นั่งเหม่อให้อีกคนกินข้าวไม่อร่อยเล่นอีกพักใหญ่ ผ่านไปจนภาคีจัดการอาหารเกือบหมดอยู่แล้ว ตอนที่เป๊กเดินยิ้มกรุ้มกริ่มเข้ามาหาพร้อมดอกไม้ช่อโต

“พี่ธัญญ์”

แม้แต่เสียงเรียกก็ยังฟังดูน่าหมั่นไส้เหลือประมาณ

เขาพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้พูดต่อ พลางลอบสังเกตช่อดอกไม้ในมืออีกฝ่ายไปด้วย

กุหลาบขาวดอกใหญ่ล้อมรอบด้วยไฮเดรนเยียช่อโตสีน้ำเงินดูสวยแปลกตา ริบบินสีขาวฟ้ายิ่งขับให้สีของดอกไม้งดงามอ่อนโยนยิ่งขึ้น

“ของพี่อะ”

“หือ?”

พอเป็นดอกไฮเดรนเยีย ก็ชวนให้สะดุดใจอยู่หรอก เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเป็นของเขาจริง ๆ

“เสน่ห์แรงใหญ่ละ”

“ใครส่งมา”

“ไม่รู้ ร้านมาส่งเมื่อกี้” ถึงตรงนี้ สายตาเป๊กก็ยิ่งกรุ้มกริ่มขึ้นไปอีกอย่างนึกสนุก “พอถามก็บอกว่าคนซื้อบอกมาอีกที ว่าเดี๋ยวเห็นการ์ดแล้วก็จะรู้เองว่าใคร”

“อ้อ” ธัญญ์พึมพำ มองดอกไม้ช่อใหญ่ด้วยสีหน้านิ่งสนิท ผิดกับเป๊กที่หอบมายื่นให้

“นี่ ๆ ผมไม่ได้แอบอ่านการ์ดด้วยนะ”

เขารับช่อดอกไม้มาถือไว้ พลิกเปิดอ่านข้อความที่มากับดอกไม้ มีเพียงประโยคสั้น ๆ เขียนอยู่บนนั้น แม้ลายมือไม่คุ้นตาเพราะคงเป็นลายมือคนจากร้านดอกไม้ แต่เนื้อความชัดเจนว่าส่งมาจากใคร

‘ฉันคิดถึงเธอ กลับบ้านเราเถอะ’

เจ้าของคำพูดนั้นเพิ่งแยกจากเขาไปเมื่อราวสองสามชั่วโมงก่อนเท่านั้นเอง

เขาเผลอยกมือขึ้นลูบแขนตัวเอง อยากโยนมันทิ้งเสียตรงนี้ กระทืบให้แหลกเละคาเท้า ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะวางท่าทีเฉยชา ไม่แสดงสายตารังเกียจออกมาให้คนอื่นเห็น

ภาคีซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรีบยกสองมือขึ้นเป็นเชิงว่าตัวเองบริสุทธิ์ รีบเอ่ยคำแก้ต่างตั้งแต่ยังไม่มีใครถาม “อันนี้ผมไม่รู้เรื่องนะ ไม่เกี่ยวกับผม”

“เป๊ก” เขาหันไปเอ่ยเรียบ ๆ กับเด็กหนุ่มที่ยังทำหน้าระรื่น แถมยังแสดงอาการอยากรู้อยากเห็นเต็มแก่ว่าใครส่งดอกไม้ช่อใหญ่มาให้ลูกพี่ “ฝากบอกลุงยศหน่อย วันนี้ฉันขอกลับก่อน เดี๋ยวมาทำงานใช้คืนให้ หรือไม่ก็หักเงินเอาได้เลย”

“อ้าว?” คนฟังทำหน้าฉงน “ทำไมอะ”

ธัญญ์ไม่ตอบ ถือดอกไม้เดินออกจากร้านดื้อ ๆ ครั้นเลยจากหน้าร้านไม่ทันไร แค่พอพ้นสายตาคนรู้จัก ช่อดอกไม้ในมือก็ถูกเหวี่ยงทิ้ง การ์ดที่แนบมาด้วยถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เขายืนมองช่อดอกไม้บนพื้นอยู่สักพักใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ เอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงไป ขยี้ด้วยส้นเท้าจนดอกไม้หลุดจากช่อ กลีบบี้แบนติดกับพื้น สีน้ำเงินสดใสของไฮเดรนเยียกลับขมุกขมัวอยู่ใต้รองเท้าเขา จนพักหนึ่ง จากแค่เหยียบเฉย ๆ ก็กลายเป็นกระทืบลงไปจนแหลก

ทว่ายิ่งทำเช่นนั้นซ้ำ ๆ กลับยิ่งรู้สึกแน่นในอกเสียเอง อะไรบางอย่างคล้ายขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ อึดอัดจนขอบตาร้อนผ่าว

ไม่รู้ว่าเขาย่ำเท้าลงไปครั้งแล้วครั้งเล่าบนกลีบดอกไม้ที่น่าสงสารพวกนั้นอยู่นานเท่าไร จนมีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดเลียบทางเท้าใกล้จุดที่เขายืนอยู่ ไม่ทันได้เหลือบมองว่าเป็นพาหนะหน้าตาแบบไหน กระทั่งได้ยินเสียงเปิดและปิดประตูรถดังอยู่ไม่ไกล

เสียงเรียกที่เมื่อราวสองสามชั่วโมงก่อนคิดว่าจะได้ยิน กลับลอยมาเข้าหูเอาตอนนี้

“ธัญญ์!?”

เขาเหลียวมองตามเสียง เห็นภูเมศยืนเบิกตากว้างอยู่ข้างหลัง มองเขาที ก้มลงมองช่อดอกไม้แหลกเละที่กลายเป็นขยะอยู่บนพื้นที

คล้ายว่าลืมวิธีหายใจไปชั่วขณะ

ไม่รู้ทำไม...พอเจอหน้าในเวลาไม่คาดคิดเช่นนี้ ถึงได้รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมา

“ขอโทษ” อีกฝ่ายรีบเดินตรงเข้ามาหาพลางละล่ำละลักไปด้วยไม่ขาดปาก “ขอโทษ ฉันขอโทษจริง ๆ ไม่คิดว่าจะทำให้เธอโกรธขนาดนี้ ขอโทษ..”

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ออกมาราบเรียบเป็นปกติที่สุด ทว่าดูเหมือนจะล้มเหลว 

“ขอโทษทำไมล่ะครับ ผมไม่ได้โกรธคุณสักหน่อย”

ภูเมศทำหน้าเจื่อน ก้มลงมองช่อดอกไม้บนพื้น ท่าทางเหมือนกำลังนึกหาคำพูดดี ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็คงออกมาไม่ถูกใจเจ้าตัวเท่าไรนัก เพราะยิ่งฟังดูตะกุกตะกักกว่าเมื่อครู่เสียอีก

“คิดว่าเธอจะชอบไฮเดรนเยียเสียอีก”

“ผมน่ะหรือ?” เขาบอกไม่ถูกเลยว่าชอบหรือเกลียดดอกไม้ชนิดนี้กันแน่

“ฉันเข้าใจที่เธอจะโกรธ” อีกฝ่ายพึมพำ ขยับเข้ามาใกล้ แต่คล้ายว่าไม่กล้าเข้าใกล้มากไปกว่านี้ “ฉันขอโทษ ขอโอกาสอีกสักครั้งได้หรือเปล่า”

 ธัญญ์เม้มปาก ก้มหน้ามองพื้น

“ถ้าเธอไม่ชอบดอกไม้ ต่อไปฉันจะไม่ซื้อมันมาอีก เธอไม่ชอบอะไร ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น เพราะงั้นจากนี้ช่วยเล่าเรื่องตัวเองให้ฉันฟังบ้างได้ไหมว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร...”

เขามุ่นคิ้ว เงยขึ้นมองภูเมศด้วยสายตาคลางแคลงใจ

“..ดอกไม้นี่?”

“...ฉันคิดถึงเธอ...กลับบ้านเราเถอะนะ...”

เหมือนกับโลกหมุนสลับทิศ กลางวันสลับกับกลางคืน หายใจไม่ออกทั้งที่ยังยืนอยู่บนพื้นดิน ทุกสิ่งทุกอย่างผิดเพี้ยนไปจากสิ่งที่เห็น บางครั้งก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นบ้าไปแล้ว

เขายกมือขึ้นกุมอกเสื้อ อะไรบางอย่างที่ขึ้นมาจุกอยู่ในคอตอนกระทืบช่อดอกไม้จนแหลกเละเมื่อครู่ เวลานี้เหมือนมันหลุดออกมาพร้อมกับหยดน้ำที่เอ่อคลออยู่ในหน่วยตา

“ดอกไม้นี่...ของคุณหรือ?”

ภูเมศย่อตัวลงเก็บเศษซากที่เหลือขึ้นมา ฝืนยิ้มอ่อนแรง พยักหน้าช้า ๆ ให้เขา แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อเอามันไปทิ้งถังขยะใกล้ ๆ

“ไม่คิดว่าจะทำเธอโกรธขนาดนี้ ฉันขอโทษจริง ๆ”

ธัญญ์เบิกตากว้าง กระซิบเสียงแผ่ว

“...ขอโทษ” จากนั้นค่อยเอ่ยดังขึ้นจนเกือบกลายเป็นตะโกน กอดเอวฝ่ายนั้นไว้จากด้านหลัง “ผมขอโทษ คุณอย่าทิ้งมันนะ!”

“ธัญญ์?”

ภูเมศเอี้ยวตัวกลับมา จากมุมนั้นคงมองไม่เห็นหน้าเขา เห็นเพียงแต่ไหล่ที่สั่นอยู่น้อย ๆ เท่านั้น

อีกฝ่ายทำตัวไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจหันกลับมากอดตอบ ลูบหลังเขาไปด้วย ไม่ถามไถ่ถึงสาเหตุของพฤติกรรมเขาเมื่อครู่สักคำ เพียงแค่กอดไว้แน่น ๆ กระซิบเสียง “ชู่วว...” เบา ๆ ข้างหูเหมือนกำลังปลอบเด็กสักคน

นี่ไม่เหมือนอย่างที่เขาบอกพร้อมภูมิสักนิด วันนั้นยังพูดเองแท้ ๆ ว่าอยากเห็นภูเมศมาร้องห่มร้องไห้กับเขาดูสักที สุดท้ายกลายเป็นสลับกันไปหมด

แต่ก็ช่างเถอะ..

“กลับบ้านกันนะ”

อีกฝ่ายบอกอย่างนั้น

“ฉันอยากเป็นคนดูแลเธอ ตอนฝนตก ตอนฟ้าร้อง ตอนแดดออกอย่างนี้ด้วย”

ภูเมศพูดเหมือนจะติดตลก ไม่รู้ควรขำเป็นกำลังใจดีหรือเปล่า

เขากะพริบตาถี่ ๆ แต่พบว่าไม่ช่วยเก็บกลั้นอะไรที่คล้ายจะไหลออกจากตาได้เท่าไรนัก

สุดท้ายจึงเพียงแต่กำเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่น แล้วพยักหน้าเงียบ ๆ ในอ้อมกอดที่มาช้าไปตั้งราวสามชั่วโมง






To be continued….





มาจ่ายงวดประจำเดือนเม.ย.ค่ะ หงุงง

งวดหน้าขอเป็นปลายเดือนพ.ค.นะคะ ขอเตรียมสอบก่อนนะคะ เดี๋ยวไม่รอดมาเขียนนิยายต่อ (ฮา) หลังจากช่วงนั้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอาจจะอัปได้เร็วขึ้นมากกว่าเดือนละงวดค่ะ จะตามกลับมาชดเชยในความช้านี้ให้แน่ ๆ ค่ะ ขอเอาชีวิตรอดก่อน เอื้อะ!

คิดถึงมาก ๆ เลยค่ะ พบกันงวดหน้านะคะ
//รวบกอดดด



แถมดูเดิ้ลน้องธัญญ์เปียกน้ำเบาว์ ๆ ค่ะ แด่อากาศที่ร้อนถึงปานฉะนี้ ฮรือ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 22:11:58 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ธัญญ์ยังคงน่ารักอย่างเคย ดูแตะต้องได้มากขึ้นด้วยเพราะตอนนี้ร้องไห้และโกรธเสียมากมาย อ่อรู้สึกถึงความเกลียดด้วยค่ะ เราชอบบทสนทนาระหว่างธัญญ์กับธเนศค่ะ มันไม่ชัดเจนและยอกย้อน
เหมือนแกนหลักของตอนนี้จะเป็นเรื่อง "การทำให้แปลกใจ"เลยค่ะ ตั้งแต่อารมณ์หลายแบบของธัญญ์ และคนที่มาที่ร้าน

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
มันทั้งหน่วงทั้งละมุนเบาๆ หลังจากนี้มันจะดีขึ้นใช่มั้ย

แต่ธัญญ์กับคุณธเนศนี่มีความสัมพันธ์ของการเป็นพ่อลูกแบบไหนกันแน่ :katai1:

ออฟไลน์ jejiiee

  • cannot open this page
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ปะ ปะ ปลายเดือนหน้า !!!  :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด