Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ควรจะมีภาคต่อไหม ?

มีก็ดี :D
34 (82.9%)
ไม่มี จบแค่นี้ก็ฟินแล้ว ~
3 (7.3%)
มีก็ได้ไม่มีก็เฉยๆ
4 (9.8%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 41

ผู้เขียน หัวข้อ: Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]  (อ่าน 86125 ครั้ง)

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
แสดงความรักกันไม่สนใจใครเลยนะ ฟาร์คัสนี่แหละว่าที่ราชินีตัวจริง  :hao3:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ้อยยย!! อยากได้ครึ่งหลังแร้วววว

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
-- ครึ่งหลัง --

“ เข้ามาเลย !! ” มารัสตะโกนเสียงดังลั่นแล้วกระโดดเข้าไปกลางวงอสูร

เกททินเบิกตากว้าง “ คิดว่าเก่งนักรึไง ไอ้งั่ง ถึงได้เข้าไปแบบนั้น !! ” กระโดดเข้าไปร่วมวงอีกคนเพราะรู้ดีว่า ถ้ามารัสเพียงคนเดียวคงไม่ไหวแน่ ถ้าถูกรุมล้อมไปด้วยอสูรมากมายขนาดนี้

“ เก่งไม่เก่ง ข้าฆ่าหมดนี้ได้แล้วกัน ฮะ ฮ่าๆๆ ” มารัสพูดพร้อมกับกระโจนใส่อสูรตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามา

โฮกกก

อสูรคำรามออกมามือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังพยายามคว้าตัวมารัสที่พุ่งเข้ามา

มารัสตวัดดาบฟันมือของอสูรทิ้งทันที “ เห็นไหม ต่อให้มากันทั้งบางข้าก็ไหว ”

เกททินย่นคิ้ว “ งั้นก็ตามสบาย ข้าขอขึ้นไปจิบชาแถวนี้ก่อนแล้วกัน ”

“ เดี๋ยวๆๆ ข้าไปด้วย ข้าอยากลองกินเหล้าองุ่นของที่นี้ดู ” ในขณะที่พูดก็หลบอสูรอีกตัวที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับอีกตัว จนอสูรทั้งสองชนกันเอง พวกมันส่ายหัวมึนๆ นัยน์สีเลือดเข้มขึ้นเรียกพลังเวทออกมา

“ เตี้ยไม่พอแล้วยังง่ปล่อยให้อสูรมันใช้เวทย์อีก !! ” เกททินโวยวายเสียงดังลั่นเปิดเสื้อตัวเองควักหายาอย่างลนลาน

พละกำลังของอสูรไม่ใช่ปัญหา

ที่มีปัญหาจริงๆ คือเวทย์มนตร์ของอสูรต่างหาก !

พวกมันสามารถเรียกพลังเวทออกมาได้โดยไม่ต้องร่าย ในบางครั้งเวทที่มันใช้อาจจะแลกด้วยชีวิตของมันเองซึ่งผลของเวทก็..

ตูมมมมมม

“ เฮ้ย ! ” มารัสกระโดดโหยงด้วยความตกใจและกลืนน้ำลายลงคอดังเอือก

ไอ้พื้นข้างที่เขายืนตอนนี้ได้กลายเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งถ้าเกิดหลบไม่ทันนี่คงไม่ได้ผุดได้เกิดไปอีกหลายชาติ

“ รอบที่แล้วที่เจ้าฆ่ามันได้สบายๆ เพราะเจ้าไม่เอาแต่เล่นจนปล่อยให้มันใช้เวทย์ไงล่ะ มารัส ” เกททินหยุดมือที่หายาและกล่าวตำหนิมารัส

“ เจ้าก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่ยอมทำอะไรอสูร ”

“ ก็เจ้าบอกจะฆ่ามันไม่ใช่เหรอ ? แล้วทำไมข้าต้องเสียยาดีๆ ที่ข้าตั้งใจปรุงเพื่อช่วยเจ้าล่ะ ”

มารัสกลอกตา “ บอกข้าทีว่าเจ้ากับข้าเป็นคู่หูกัน ! ” และกระชับดาบในมือกระโจนเข้าไปหาอสูร ข้อมือของมารัสเกร็งจนเห็นเส้นเลือดได้ชัดเพราะการลงแรงในการฟันอสูร

“ เออสิ เจ้าโง่ ” เกททินถอนหายใจยอมหยิบยาออกมาจำนวนนึง “ เจ้าจะเอายังไง ระหว่างฆ่าเจ้าพวกนี้ต่อกับการไปคุยเล่น ”

“ คุยเล่นสิ ต้องนี้ข้าชักจะเบื่ออสูรแล้ว ”

หลังจากตกลงกันเสร็จเกททินก็ปายาที่ถือออกมาใส่พื้นทันที ส่วนมารัสที่รู้ดีว่าคู่หูตัวเองจะทำอะไรก็ชิงกระโดดออกมาก่อน

ตูม !

ยาของเกททินทำปฏิกิริยาอะไรบางอย่างจนเกิดการระเบิดลูกย่อมกับควันโขมงที่ทำให้ทรรศนียภาพรอบด้านไม่เหมาะสมแก่การต่อสู้อย่างยิ่ง

เกททินและมารัสรีบเผ่นออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว

“ เฮ้ยๆ เกททินเจ้าหินปราสาทนั่นไหม ”

“ เห็น ทำไมเจ้าจะไปยึดรึไง นี่มันดินแดนภูตนะไม่ใช่ดินแดนงี่เง่าที่แค่เตะราชาดินแดนนั้นแล้วจะยึดได้ ”

“ ด่าข้าอีกแล้ว ! ไอ้นักปรุงยานรกแตก ถ้าเจ้าหลับข้าจะเอายาของเจ้าไปทิ้งให้หมด ”

“ ถ้าเจ้าทำจริง ข้าคงต้องคู่หูคนใหม่ ! ”

“ คิดว่าทำได้งั้นเหรอ ยาพวกนั้นขอแค่ไม่โดนตัวไม่ได้กลิ่นก็ไม่มีปัญญาทำอะไรข้าได้แล้ว ”

ดวงตาของเกททินฉายแววความโกรธ “ จะลองไหมล่ะ ” 

เช่นเดียวกับมารัสที่กัดฟันกรอด “ ก็ลองดู ! ”

ก่อนที่ทั้งมารัสกับเกททินจะปะทะกันก็มีเสียงร้องไห้ดังขัดขึ้นมาก่อน

“ ฮืออ ข้าต้องหามันไม่เจอแน่ๆ โรซาน ” 

“ เจ้าจะร้องไห้ทำไม เอสเตอร์ ร้องไปมันก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นหรอกนะ กินเหล้าของข้าดีกว่า รสชาติอร่อยกว่าน้ำตาเจ้าเยอะ ”

“ ไม่ ! ท่านพ่อของข้าบอกว่าข้าคออ่อน กินไปมีแต่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ฮือๆ "

“ นี่มันไม่ใช่บ้านเจ้ากินๆ ไปเถอะ หรือจะให้ข้าเอามันยัดปากเจ้า ”

“ มันขม ! อย่าเอามาให้ข้ากินนะ ข้าไม่อยากกินน ฮือ คืนนี้ข้าจะไม่นอนกับเจ้า ”

“ เจ้าไม่นอนกับข้า ใครจะไปนอนกันเจ้ากัน ? ข้าว่าไม่มีคนปกติที่ไหนอยากนอนกับคนที่นอนไปร้องไห้ไปอย่างเจ้าหรอกนะ ”

“ ฮืออ ข้าขอโทษ โรซาน ข้านอนกับเจ้าก็ได้ ฮึก ”

เสียงคุยกันเป็นเสียงทุ้มต่ำของผู้ชาย

รวมถึงเสียงร้องไห้ด้วย

เกททินกับมารัสสบตากันอึ้งๆ หยุดการตีกันชั่วคราวค่อยๆ ย่องไปหาหาต้นกำเนิดเสียงที่ยังคงคุยกันอยู่

เป็นชายร่างโตผมยุ่งเหยิงสีน้ำตาลเข้มดวงตาสีเดียวกับสีผมในมือถือสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กที่เอาแต่ซุกอยู่กับอกของชายร่างโต

แล้วไอ้เสียงร้องไห้เมื่อกี้มันมากจากไหน ?

เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในหัวทั้งเกททินและมารัส

และเพียงไม่นานก็ปรากฎคำตอบ

“ ฮือๆๆ ข้าว่าข้าหามันไม่เจอแน่เลยย ”

“ เจ้าพูดไปแล้ว ! จะพูดซ้ำทำไมวะ ”

“ โรซานเจ้าตะคอกใส่ข้า เจ้ามันแย่ที่สุด ฮือ ”

“ เอ้า จะให้ข้าชมเจ้าเหรอว่า พูดซ้ำอีกสิ ข้าอยากฟังมาก ข้าหาไม่เจอแน่เลย ตลก ! ”

“ ฮืออ ข้าเกลียดเหล้า มันทำให้เจ้าเปลี่ยนไป โฮ ”

“ โอ้ยยย ร้องอยู่ได้ หุบปากกก ”

“ ข้าหุบไม่ได้ ฮืออ ข้าหายใจไม่ออก ข้าเป็นหวัด ”

“ ปัญหาเยอะจังเลยโว้ยยยยย ”

ก่อนที่ชายร่างโตจะทุ่มสุนัขจิ้งจอกลงพื้น

เกททินกับมารัสตัดสินใจเดินเข้าไปขัดจังหวะก่อน “ เอ่อ.. พวกท่านจะไปที่ไหนกันงั้นเหรอ ? ” เกททินเป็นฝ่ายถาม

ชายร่างโตขมวดคิ้ว “ เอสเตอร์ ”

สุนัขจิ้งจอกกระดิกหูตอบ “ อะไร ”

พูดพร้อมหันซ้ายหันขวา  “ เจ้าได้ยินเสียงพูดเมื่อกี้นี้ไหม ”

“ ได้ยิน ”

เกททินถึงกับคิ้วกระตุก

ก็รู้อยู่หรอกนะว่าข้ามันเผ่าพันธุ์อะไร

“ ข้าอยู่นี่ ท่าน ”

ชายร่างโตหันขวับลงมาทันที “ อ้อ นี่ไง มีอะไรงั้นเหรอ ถ้าจะถามข้า ข้าตอบเลยละกันว่ากำลังเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อหาของนิดหน่อยน่ะ ”

มารัสตาเป็นประกายเพราะได้กลิ่นเหล้าองุ่นคละคลุ้งมาจากอีกฝ่าย “ ท่านดื่มเหล้างั้นเหรอ ? แลกกันกับข้าไหม ข้ามีเหล้าแอปเปิ้ลล่ะ ”

“ เอาสิ ตอนนี้ข้ากำลังเก็บแต้มกินเหล้าครบทุกดินแดนอยู่ ” ชายร่างโตพยักหน้ารับโยนจิ้งจอกในมือทิ้งแล้วหยิบเหล้าจากกระเป๋าสะพายเก๋าๆ ของตัวเองออกมา

เอสเตอร์ที่ไม่ทันตั้งตัวกลิ้งคลุกฝุ่นและไถลไปตามพื้น ทำให้สีขนขาวสว่างกลายเป็นสีเทาแทน นัยน์ตาสีขาวพระจันทร์มีน้ำตาตลอ “ โรซาน เจ้าโยนข้าทิ้งเหรอ ฮือออ ข้ามีดีไม่สู้เหล้าแอปเปิ้ลงั้นเหรอ ”

โรซานแค่นเสียงหึ “ ใช่ ” และรับเหล้าแอปเปิ้ลจากมารัสมาใส่กระเป๋าสะพาย

เอสเตอร์หูลู่ลงอย่าเสียใจซุกตัวกับหางของตัวเองจนเหมือนลูกบอลลูกนึง

“ สรุปว่าพวกท่านกำลังหาของอยู่สินะ ส่วนพวกข้ากำลังเดินทางหาประสบการณ์อยู่ ” เกททินสรุปออกมาสั้นๆ “ แล้วพวกท่านรู้ไหม ว่าที่นี้เกิดอะไรขึ้น ”

คนที่ตอบย่อมไม่ใช่เอสเตอร์ที่เซื่องซึมไปแล้วอย่างแน่นอน “ รู้สิ ก็อสูรที่ถูกควบคุมโดยใครสักคนบุกไงล่ะ ” โรซานกระดกเหล้าองุ่นจนหมดขวดแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างครุ่นคิด “ อา รู้สึกว่าจะเป็นพวกภูตกันเองเนี่ยแหละ ”

“ แล้วท่านรู้ได้ไง ? ”

โรซานหัวเราะลั่น “ รู้สิ แค่เข้าไปนั่งในร้านเหล้าข้าก็ได้อะไรดีๆ กลับมาเยอะแยะแล้ว อยากรู้อะไรล่ะ ? ราชาปีศาจที่มีอีกาเป็นชายา อดีตราชาภูตที่ชอบเอาแต่บ่นเวลาที่อาบน้ำ หรืออะไรล่ะ ฮ่าๆ ”

เกททินไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อเห็นโรซานค่อยๆ หยุดหัวเราะแล้วมองไปที่จิ้งจอก

“ เอสเตอร์ ? ” โรซานร้องเรียก

ไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากจิ้งจอกตัวเล็ก

โรซานขวดเหล้าองุ่นใส่กระเป๋าของตัวเองเดินเข้าไปหาเอสเตอร์และนั่งยองๆ ตรงหน้าฝ่าย “ อย่างเงียบสิ ไม่งั้นข้าจะจับเจ้ายัดขวดเหล้านะ ”

จิ้งจอกตัวเล็กตัวสั่นแต่ยังคงไม่ยอมพูดอะไร

โรซานคลี่ยิ้ม “ งั้นก็.. ” หยิบจิ้งจอกตัวเล็กขึ้นมาด้วยมือเดียวและขว้างขึ้นไปในอากาศทันที

จิ้งจอกขาวเบิกตากว้างกรีดร้องดังลั่น “ ว้ากกกก ” รีบเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ดังเดิมใช้เวทลมค่อยๆ ประคองตัวเองลงมาเหยียบพื้น

“ โรซาน !  ” เอสเตอร์ตะคอกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำตานองหน้า

ทั้งมารัสและเกททินถึงกับอึ้งไปกับร่างมนุษย์ข้างร่างตรงหน้า

เป็นชายหนุ่มที่เตี้ยกว่าโรซานหนึ่งช่วงหัวมีใบหน้าหล่อเหลาบรรยากาศรอบตัวแผ่กลิ่นอายถึงความเป็นเชื้อพระวงศ์ นัยน์ตากับผมที่ตัดสั้นระตนคอเป็นสีขาวบริสุทธิ์แต่ตอนนี้ติดจะดูหม่นๆ เพราะดินที่เจ้าตัวเพิ่งไปคลุก อีกทั้งยังมีหูสีขาวกับหางพวกใหญ่ที่กำลังส่ายไปมาด้วยความไม่พอใจ ดูแล้วชวนรู้สึกให้อยากขยำหางอีกฝ่ายเล่น

“ เรียกข้าทำไม เอสเตอร์ ถ้าอยากกินเหล้าองุ่นก็หยิบจากกระเป๋าข้าได้เลย จุกไม้ธรรมดาเป็นของเมืองมนุษย์ ส่วนจุกไม้สีแหลืองอ่อนเป็นของแดนภูต ”

“ เจ้าอยากให้ข้าตายงั้นสิ ? ถึงได้โยนข้าไปแบบนั้น ฮือ เจ้ามันแย่ที่สุด ”

โรซานยักไหล่ “ เจ้านี่มันก็เป็นงี้แหละ ท่าน พวกท่านไปต่อเถอะ ข้ากับเอสเตอร์เป็นพวกเดินทางไปเรื่อยๆ น่ะ ”

“ เจ้าเมินข้าอีกแล้ว ฮือ ทำไมกันนะ ทำไมข้าถึงได้เลือกเจ้าเดินทางด้วย ”

ระหว่างที่เอสเตอร์กำลังคร่ำครวญกับตัวเองอยู่โรซานได้แอบหยิบเหล้าที่แรงที่สุดของตัวเองออกมาดึงฝาไม้สีแดงออกแอบไว้ข้างหลังตัวเอง “ มาหาข้าหน่อย ให้ข้าได้แสดงความขอโทษกับเจ้าบ้าง ”

เอสเตอร์เดินมาหาอย่างว่าง่าย “ เจ้ามีอะไรจะพูดงั้นเหรอ โรซาน ? ”

โรซานคว้าคอเอสเตอร์เอาไว้จับขวดยัดเยียดให้อีกฝ่ายดื่มทันที

เอสเตอร์เบิกตากว้างพยายามขัดขืนแต่ไม่เป็นผลจำต้องกลืนสิ่งที่อีกฝ่ายัดเยียดลงไปจนหมดขวด

โรซานยัดขวดที่ว่างเปล่าใส่กระเป๋าและผิวริมฝีปากอย่างอารมณ์ดี

ใบหน้าของเอสเตอร์ขึ้นสีแดงก่ำเนื่องจากแอลกอฮอล์ที่ได้รับ “ รู้อะไรไหม ! ข้าเกลียดที่สุดเลยเวลาที่มีใครสักคนร้องไห้ ที่ไม่ใช่ข้า ! ”

“ อืม แล้วไงล่ะ เอสเตอร์  ” โรซานพยักหน้ายิ้มๆ

“ มันทำให้ข้าหงุดหงิด เสียงพวกนั้นน่ารำคาญเป็นบ้า ” เอสเตอร์ส่ายหัว “ ตอนนี้ยิ่งมีอสูรบุกเข้าเมืองภูตอีก เสียงร้องไห้ดังระงม ข้าไม่ชอบมันเลย ยังดีที่มียังมีคนช่วยชาวภูตฆ่าอสูรบ้าง ไม่งั้นเสียงร้องไห้คงดังกว่านี้ ”

โรซานคลี่ยิ้มหยอกเย้าแววตาส่อถึงความเมามาย “ แล้วโรซานล่ะ เจ้าชอบโรซานไหม ”

เอสเตอร์คลี่ยิ้มและหัวเราะออกมา “ ชอบสิ ผมยุ่งเหยิงนั่นเหมือนกับใยแมงมุมแมงเลยล่ะ ฮ่าๆๆ ”

โรซานหน้าบึ้งทันใด “ เจ้าว่าใครหัวเป็นใยแมงมุม ”

“ เจ้าไง ฮ่าๆ ”

“ หุบปากไปซะ ” โรซานคำรามคว้าคออีกฝายเข้ามาประกบริมฝีปาก

เกททินและมารัสที่ยืนดูเงียบๆ ถึงกับสะดุ้ง “ เออ ข้าว่าเราไปกันต่อดีกว่าเนอะ เพื่อนยาก ” มารัสยิ้มแห้งๆ

“ ข้าก็ว่างั้น ไปปราสาทนั่นของเจ้าก็ได้ คงจะมีอะไรน่าสนุกอยู่แถวนั้นแหละ ปล่อยให้โรซานกับเอสเตอร์เขาปรับความเข้าใจกันเองดีกว่า ”

ว่าแล้วทั้งสองก็ออกไปจากที่แห่งนี้ทันที

เหลือไว้เพียงคนเมาทั้งสองที่ไม่รู้ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะการตีกันในคืนนี้

----------------------

TBC. ตาหน้าเป็นเอลล์บรรยายค่ะ  :katai2-1:

             :กอด1:






 

   


   
 



   
   
   
   
   

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
อุ๊ย

ฟาร์คัสมีดวงข่มสามีอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วงฮิมหรอก

แต่กำลังสงสัยว่า ถ้าแต่งงานกันแล้วจะไปหาอีกฝ่ายได้ทันที

แสดงว่าปกติไม่สามารถทำได้เหรอคะ? แบบว่าเป็นถึงราชาปีศาจแล้วน่ะ

ถ้าเป็นดินแดนทั่วไปก็ได้ค่ะ ท่านคาร์บี้ของเราไปได้หมด แต่อันนี้เป็นช่องว่างมิติที่มีแต่ยมทูตเปิดใช้ได้

ส่วนเรื่องการแต่งงานนี่จะอารมณ์แบบอยู่ไหนรู้หมดวาร์ปไปได้เลย เหมือนกับอีกครึ่งชีวิตอยู่กับอีกฝ่ายแล้ว  o13

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว แถมไม่ค่อยแยแสกับเมืองที่กำลังถูกโจมตีอีกตะหาก

 :mew6:

ตอนนี้เมืองโดนทำลายไปกี่ % แล้วคะนั่น  :heaven

(อยากเห็นฟาร์คัสแต่งงานวุ้ยยยยยยยยยย)

ออฟไลน์ tsubasa_6927

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฟาร์คัสนางมาเหนือตลอด :hao7:
รู้สึกถูกใจคู่รักคอขวด(เหล้า)ที่เหมือนตัวประกอบนี่จังค่ะ โผล่มาแปปเดียว แต่รั่วได้ใจ o13

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เค้าชอบบบจิ้งจอกกกกกก มโนแปป...... :hao6:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
โอ่ะ มีคนบงการ ฆ่ามานนนน

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
คนบงการเป็นใครกันนะ? น่าสงสัยจัง

ป.ล. ฟาร์คัสนี่ มาดราชินีมาละ 55555

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
-- ตอนที่ 23 ---
   
ดินแดนภูต
   
เป็นดินแดนที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีสงครามครั้งใหญ่ของปีศาจ
   
ต่อให้มีการปิดกั้นตัวเอง
   
ความเจริญรุ่งเรืองที่ว่าก็ยังคงอยู่
   
ปราสาทขนาดยักษ์ที่ถูกก่อขึ้นมาด้วยอิฐสีแปลกตาตามตัวปราสาทประดับไปด้วยไม้เลื้อยที่เลื้อยออกเป็นรูปทรงต่างๆ ตามโครงที่ได้ก่อไว้ เป็นรูปมังกรเลื้อยบ้าง เพกาซัสบ้าง ทุกอย่างเข้ากันและหมดจด ไม้ยืนต้นขนาดหลายสิบคนโอบก็ถูกจัดมาอย่างลงตัวทำให้ดูสบายตาและขับให้ปราสาทดูเด่นขึ้นมาอีก

เพียงแต่ว่าในตอนนี้กลับตรงกันข้ามโดนสิ้นเชิง ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นจากหินสีแปลกตาตอนนี้ถูกย้อมด้วยเลือดของชาวภูติ ธงสีเหลืองอ่อนประจำรัชกาลของเอลล์ที่ประดับอยู่ตามแนวรั้วเตี้ยๆ ถูกสีแดงเลือดย้อม ยอดแหลมของปราสาทที่ประดับด้วยไม้เลื้อยรูปเทวทูตตอนนี้ถูกแทนด้วยอสูรจำนวนมหาศาลเกาะอยู่แทนที่ พวกมันกู่คำรามออกมาอย่างลำพองใจใช้ดวงตาสีแดงก่ำจดจ้องเหยื่อที่อ่อนแอ่ข้างล่างและตะครุบเข้าไปเมื่อสบโอกาส

เสียงกรีดร้องอย่างเสียขวัญ

เสียงฝีเท้าที่ลงหนักเพราะการต้องหนีให้ไกลจากอันตราย

เสียงการต่อสู้เพื่อแลกชีวิต

ในตอนนี้คำว่า “ อสูร ” เป็นคำที่ทรงอิทธิพลที่สุดในดินแดนภูต

เพียงได้ยินคำนี้ก็ต้องเผลอตัวสั่นออกมา

การกระทำของอสูรที่ไล่เข่นฆ่าคนอื่นนั้น

โหดเหี้ยมเกินจะพรรณาได้

มีเพียงผู้ที่เก่งกาจเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับมันได้

บนพื้นในบริเวณปราสาทปรากฎวงเวทขนาดใหญ่และตามมาด้วยร่างของเมเออร์และคนอื่นๆ เมเออร์รีบเร่งฝีเท้าไปหาแม่ทัพที่
ดูแลเกี่ยวกับทหารทันที

เมเออร์ขบกรามแน่นร่างชราฉายแววเหนื่อยอ่อนแต่ไม่ย่อท้อออกมา

สิ่งที่เมเออร์กังวลที่สุดก็คือชาวภูต

เพราะชาวภูตนั้นแทบไม่มีพื้นฐานการต่อสู้เลยด้วยซ้ำ

ผู้ที่จะสอบเป็นทหารหรือตำรวจเท่านั้นถึงจะจริงจังเกี่ยวกับการต่อสู้

การถูกปกป้องมาเป็นเวลายาวนานทำให้ชาวภูตลำพองใจคิดว่าการหยิบดาบขึ้นมาไล่ฟันผู้อื่นหรือใช้เวทโจมตีคนอื่นเป็นเรื่องของทหารไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

หนึ่งในผู้ที่ลำพองใจก็รวมถึงเมเออร์เช่นกัน

เดิมทีเมเออร์ตั้งใจจะซ่อมกำแพงไม้เลื้อยเพื่อชีวิตที่ยังคงสงบสุขเช่นนี้

แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทัน

เมื่อถูกอสูรรุกรานเข้ามาซะก่อน

ร่างของอดีตราชาก็ยังคงก้าวเดินต่อไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคง

ไม่มีทีท่าจะหยุดชะงักแต่อย่างใด

“ หน้ากาก เจ้าว่าข้าควรจะใส่มันต่อไปดีไหม ลุกซ์ ”

ลุกซ์ในร่างมังกรเอาหัวถูไถเข้ากับตัวเอลล์ “ แล้วแต่เจ้าสิ ดวงตาของเจ้ามันไม่ได้ทำให้ใครคลุ้มคลั่งเหมือนกับตำนานงี่เง่านั้นหรอกนะ ”

ดัฟฟ์ที่กระโดดลงจากหลังลุกซ์และไปเกาะแขนฟาร์คัสอาสา “ ถ้าไม่เอาแล้วให้ดัฟฟ์กินก็ได้น้า ”

เอลล์ยิ้มบาง “ แต่ถ้าข้าใส่มันมาตลอดก็ใส่มันต่อไปดีกว่า ” และหยิบหน้ากากอันประณีตขึ้นมาสวม “ จริงดังที่ท่านพ่อของข้าว่า บ้านเมืองสำคัญที่สุด งั้นข้าคงต้องไปแล้วล่ะลุกซ์ ”

ลุกซ์เลียแผล่บเข้าที่หน้ากากของเอลล์จนหน้ากากเอลล์เกือบหลุด “ ไปเถอะเอลล์ เดี๋ยวข้าจะช่วยดูฟาร์คัสให้เจ้าเอง ”

“ อืม ” เอลล์พยักหน้ารับขณะที่จัดแจงหน้ากากของตัวเอง “ งั้นข้าขอตัวไปก่อนแล้วกัน ข้างนอกนี่คงวุ่นวายน่าดูแล้ว ” เสียงของเอลล์สลดลง

“ มันไม่ใช่ความผิดของเจ้านะ เอลล์ ”

เอลล์ฝืนยิ้มจางทั้งๆ ที่รู้ว่าลุกซ์คงมองไม่เห็น บริเวณพื้นเกิดแสงสีขาววาบนึงและนำพาร่างของเอลล์ไปจากสถานที่แห่งนี้
   
เช่นเดียวกับเมเออร์
   
ลุกซ์เหยียดยิ้มบาง
   
ทำไมกันนะ
   
ทั้งๆ ที่เอลล์ใกล้จะมีความสุขแล้วแท้ๆ
   
แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก
   
ตลกร้ายซะด้วย
   
ลุกซ์หลับตาลง
   
ข้ารู้ดีว่าเอลล์นั้นรู้สึกยังไงในตอนนี้ คงไม่วายโทษตัวเองอีกแน่ๆ
   
แต่ไม่ต้องห่วง เจ้ามีมังกรไฟผู้ซื่อสัตย์อยู่ตรงนี้ทั้งคน
   
ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าต้องโดดเดี่ยวแน่ !
   
เมื่อใช้ความคิดจนพอใจลุกซ์ก็ตัดสินใจหาอะไรทำ
   
และเหยื่อของลุกซ์ก็คือดัฟฟ์
   
“ เหลือกันแค่ข้ากับเจ้าแล้วนะ ดัฟฟ์ ” ลุกซ์พ่นไฟลูกใหญ่ใส่ดัฟฟ์
   
ถึงแม้มันจะไม่ติดไฟแต่ก็สร้างความตกใจต่อผู้พบเห็นได้พอสมควร
   
ดัฟฟ์สะดุ้งเฮือกและร้องออกมาอย่างตกใจ “ แง้ ไฟฟฟฟ ไฟไหม้ดัฟฟ์แน่แง้ ” ดัฟฟ์เอาหัวมุดเสื้อคลุมสีดำขลิบทางของฟาร์คัส
   
ลุกซ์เบิกตากว้างรีบกลายร่างตัวเองกลับมาเป็นคน “ เฮ้ยๆๆ ทำอะไรของแก ดัฟฟ์ เกิดท่านคาร์บิลัสรู้ว่าแกมามุดเสื้องี้ ข้าไม่ถูกฆ่าตายเอาเรอะ ! ” ลุกซ์รีบก้าวขายาวๆ เข้าไปใกล้แล้วดึงดัฟฟ์ออกมา
   
“ แง้งง !! ” ดัฟฟ์ส่ายหัวดุ้กดิ้กแหกปากดังลั่นมือที่เดิมที่เพียงจับตัวฟาร์คัสตอนนี้ถึงกับกอดเอวเอาไว้เลยทีเดียว
   
“ โอ้ยย ออกมาเหอะ ข้าขอร้องงง ” ลุกซ์โวยวายเสียงดัง ทำไมมันเหนียวนักวะ ไอ้มังกรดำเอ้ย !
   
“ ทำอะไรกัน ! ” เสียงตะโกนดังลั่นเป็นเสียงที่นับว่าคุ้นเคยของลุกซ์
   
ท่านคาร์บิลัสไงเล่า !
   
ลุกซ์ปล่อยมือจากดัฟฟ์ทันควันและยิ้มแหยๆ “ ไม่มีอะไรขอรับ ท่านคาร์บิลัส แค่ดัฟฟ์อยากกอดท่านฟาร์คัสเฉยๆ ”
   
แววตาของคาร์บิลัสฉายความอิจฉาออกมาครู่เดียวและหายไปในเวลาต่อมา “ อืม ” 
   
ลุกซ์เลิกคิ้วงงๆ
   
ท่านคาร์บิลัสปล่อยให้ดัฟฟ์รอดง่ายๆ งี้เลย ?
   
แต่เอาเถอะนั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
   
“ แล้วเอ่อ.. วิญญาณท่านฟาร์คัสล่ะขอรับ ”
   
คาร์บิลัสหันไปมองร่างข้างๆ ตัวเองทันที มือที่คาร์บิลัสจับมาตั้งแต่ออกจากช่องว่างระหว่างมิตินั้นเย็นชืดแต่กลับให้ความรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่ถูกฟาร์คัสจูบคาร์บิลัสผู้แสนร่าเริงก็กลับมาทันใด เหมือนกับพลิกฝ่ามือเลยทีเดียว “ ข้าเอามาแล้ว แต่เจ้าคงมองไม่เห็น ”
   
ฟาร์คัสในร่างวิญญาณขมวดคิ้วแน่นเมื่อพบว่าร่างของตัวเองกำลังถูกดัฟฟ์มุดเสื้อจนเสื้อที่ใส่อยู่แทบจะถลกขึ้นมาจนหมด ทั้งๆ ที่ตอนแรกข้าเห็นมุดแค่เสื้อคลุมแท้ๆ.. “ ปล่อยก่อนคาร์บิลัส ”
   
คาร์บิลัสปล่อยทันทีตามที่อีกฝ่ายต้องการและฉีกยิ้มซื่อๆ
   
“ อย่าลืมคุยกับข้าคืนนี้นะ ”
   
ฟาร์คัสถึงกับชะงักข้าที่กำลังก้าวเดิน “ ถ้าเจ้าพูดมากก็ไม่ต้องคุยแค่นั้นแหละ ”
   
สีหน้าของคาร์บิลัสเปลี่ยนเป็นสลดทันใด
   
“ เอ่อ.. ท่านคาร์บิลัสคุยกับท่านฟาร์คัสอยู่เหรอขอรับ ข้าไม่เห็นอะไรเลยนะ ” ลุกซ์หันซ้ายหันขวาพยายามหาร่างของปีศาจอีกา
   
คาร์บิลัสไม่ได้ตอบเพราะยังคงทอดสายตาน่าสงสารใส่ฟาร์คัส
   
ฟาร์คัสไม่ได้สนใจแตะเข้าที่ร่างของตัวเองทันที
   
ความรู้สึกเหมือนถูกกระชากแรงๆ ปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง
   
และลืมตาด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคย
   
การมีชีวิตนั่นเอง
   
แต่ความรู้สึกที่เด่นชัดของฟาร์คัสในตอนนี้คือเย็นท้องมากเนื่องจากการมุมเสื้อของดัฟฟ์
   
“ ออกไปจากตัวข้าเดี๋ยวนี้ดัฟฟ์ ” ฟาร์คัสพูดเสียงเย็นพร้อมเอนตัวขึ้นมานั่งดีๆ
   
“ แง้ ! แม่ตื่นแย้วว ดัฟฟ์กลัวไฟง้า ” ดัฟฟ์พูดเสียงอู้อี้เกาะเอวฟาร์คัสแน่นกว่าเดิม
   
“ มากลัวบ้าอะไรของเจ้า เจ้าก็พ่นมันได้เหมือนกันนั่นแหละ ” ฟาร์คัสเอ็ดเสียงดุพยายามใช้มือดึงดัฟฟ์ออกจากตัวซึ่งน้ำหนักก็ไม่ใช่น้อยๆ
   
ดูเหมือนว่าดัฟฟ์จะน้ำหนักขึ้นอีกแล้ว
   
ฟาร์คัสคิดในใจ

   “ แง้ แต่ดัฟฟ์กลัว สีส้มน่ากลัว ” ดัฟฟ์งอแง

--------------------------

 :katai5: # คลานมาอัพอย่างเชื่องช้า 5555

 :mew1: รักคนอ่านทุกคนจ้าา

ตอนหลังจากนี้มีแต่อะไรเครียดๆ คงหาอะไรสนุกแซมๆ ไปบ้างเพื่อไม่ให้เรื่องเครียดเกินไป   :hao3:

# ขอบคุณที่ยังติดตามกันค่ะ  :L1:


   
   
   

   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ชาวภูตนี่เอ้อระเหยดีจัง คิดว่าดินแดนตัวเองสงบสุขแล้วเลยไม่ค่อยเคร่งเรื่องการสู้รบเอาซะเลย

กว่าทหารตำรวจจะมาก็คงจบเรื่องแล้วม้างงงงงงงง :z3:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งะดัฟนี่ป่วนไปหนาย

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โฮกกกกก มังกรกลัวไฟ :hao7:

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ดูเหมือนดัฟฟ์จะลืมไปแล้วว่าตัวเองก็เป็นมังกร//เป็นมังกรที่ำร้ประโยชย์ด้วย(ฮา)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
-- ครึ่งหลัง --

ฟาร์คัสพ่นลมหายใจออกมาเซ็งๆ ยอมผ่อนปรนลง “ เลิกมุดเสื้อข้าได้แล้ว ถ้าจะกอดก็กอดข้างนอก.. ”
   
ดัฟฟ์ผลุบตัวเองออกมาอย่างง่ายดายและยิ้มกว้าง “ แม่ใจดีง้า ”
   
ฟาร์คัสถึงกับคิ้วกระตุก ไอ้มังกรขี้แยนี่หายไวพอๆ กับราชาปีศาจงี่เง่าเลย
   
ดูเหมือนว่ารอบตัวข้ามีแต่คนงี่เง่า..
   
ให้ตาย..
   
“ ฟาร์คัสๆ แล้วข้าล่ะ ! เจ้าให้แต่ไอ้มังกรงี่เง่านี่กอดเหรอ ข้าไม่ยอมนะ ! ” คาร์บิลัสหน้ามุ่ยเมื่อไอ้มังกรบ้ามันได้สิทธิพิเศษทั้งๆ ที่ข้าเองไม่ได้
   
“ หุบปากไป  เจ้าขาดความอบอุ่นนักรึไง ” ฟาร์คัสเหน็บและลุกขึ้นยืนพร้อมโยนดัฟฟ์ทิ้ง

คาร์บิลัสกลับมาเซื่อมซึมอีกครั้ง
   
จนฟาร์คัสเริ่มคิดว่าตัวเองมันเป็นตัวอะไรกัน
   
“ แง้ โยนดัฟฟ์ทำมาย ” ดัฟฟ์น้ำตาคลอวิ่งเข้ามาเกาะขาฟาร์คัส
   
ฟาร์คัสกลอกตา “ ข้าจะไปหาเอลล์ พวกเจ้าจะไปด้วยไหม ? ”
   
“ เจ้าไปไหนข้าก็ไปด้วยอยู่แล้ว.. ” คาร์บิลัสตอบพร้อมยิ้มจาง
   
ลุกซ์หักนิ้วมือดังกร็อบๆ “ ไปสิ ถ้าไม่ไปแล้วเอลล์ของข้า จะสู้ได้ยังไง ? ในเมื่อดวงตาของเขายังอยู่ที่นี้ ”
   
คาร์บิลัสวาดวงเวทบนพื้นโดยไม่ต้องรับคำสั่งจากฟาร์คัส นิ้วที่วาดวงเวทนั้นรวดเร็วจนมองแทบไม่ทัน เพียงไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็ปรากฎเป็นวงเวทวงกลมสีดำลวดลายตัวอักษรที่ปรากฎเพียงแค่เห็นก็รู้ว่าเป็นภาษาของปีศาจทันทีเพราะว่าตัวอักษรที่ดูกดหนักไปซะทุกคำการตวัดที่หาความอ่อนช้อยไม่เจอ “ เข้ามาสิฟาร์คัส ”
   
ฟาร์คัสจับมือดึงมือดัฟฟ์จากขากางเกงมาจับมือแน่น “ คาร์บิลัส รู้สึกว่าช่วงนี้เจ้าจะดูเก็บกดกับคำพูดของข้าไปซะทุกคำเลยนะ ”
   
“ คิดอย่างงั้นเหรอ ? ไร้สาระนะ ข้าไม่งี่เง่าแบบนั้นหรอก ”
   
ลุกซ์เดินเข้ามาอยู่ในวงเวทเงียบๆ โดยเว้นระยะห่างให้ท่านๆ ทั้งสองคุยกันได้สบายๆ โดยไม่มีก้างขวางคอ ช่วงที่ยังว่างๆ ข้าก็คิดไปเรื่อยเปื่อย
   
ถ้าหากว่าเรื่องจบแล้ว ?
   
ข้ากับเอลล์จะเป็นยังไงกัน
   
ดัฟฟ์มองหน้าฟาร์คัสสลับกับคาร์บิลัสและตัดสินใจดึงมือของฟาร์คัสออก “ แม่ไม่ใจดีแล้ว ฆ่าบี้ลัสงอนแล้วเห็นไหม แก๊ซ ” และเดินไปหาคาร์บิลัส
   
คาร์บิลัสรู้สึกซาบซึ้งเงียบๆ “ งอนอะไรของเจ้า ไอ้มังกร ”
   
ดัฟฟ์แลบลิ้นใส่คาร์บิลัส “ ขี้โม้ง้า ดัฟฟ์รู้นะ ฆ่าบี้ลัส ! ”
   
“ ข้าขอโทษที่พูดแรงไปแล้วกัน เจ้าก็รู้นี่ว่าข้าพูดแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ” ฟาร์คัสอดไม่ได้ที่จะขอโทษคาร์บิลัส ดูเหมือนว่าวันนี้
ข้าจะทำปีศาจงี่เง่างอนไปถึงสองรอบเชียว
   
คาร์บิลัสยิ้ม “ วันนี้ข้าก็แค่นอนน้อยไปหน่อยเท่านั้น อย่าคิดมากไปเลยฟาร์คัส ” ในขณะเดียวกันก็ดีดนิ้วเบาๆ

เรียกให้เกิดแสงสีดำทมิฬอาบไล้ไปทั่วบริเวณ
    
   
เอลล์กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ด้านหน้าของปราสาท
   
ที่ๆ ได้ยินเสียงอึกทึกเสียงกรีดร้องอะไรต่อมิอะไรผสมปนเปกันไปหมด
   
ระหว่างทางก็ใช้เวทรักษาภูตหรือจัดการอสูรที่บุกเข้ามา
   
นี่เป็นเหตุผลที่เอลล์ไม่ใช้เวทย์ในการเดินทางไปในชั่วพริบตา
   
เพื่อดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแดนภูตนั่นเอง
   
แต่ละอย่างที่เอลล์พบเห็นล้วนแต่เหมือนกริชปักเข้าที่หัวใจจนเลือดซึมออกมาอย่างช้าๆ
   
ร่างของภูตที่บาดเจ็บหรือตาย
   
ปราสาทต้นไม้ของประดับที่ย้อมไปด้วยเลือดจนหาความสวยงามไม่เจอ
   
ความพังพินาศของบ้านเมืองเป็นสิ่งที่เอลล์เห็นจนเผลอมองมันด้วยความไม่เข้าใจ
   
บางทีการมองไม่เห็นจะดีต่อข้ามากกว่า..
   
ในเมื่อการมองเห็นมีแต่ความเจ็บปวดเป็นสิ่งตอบแทน
   
เอลล์พยายามก้าวขาให้ไวกว่าเดิม
   
เพราะตอนนี้เหมือนกับมีโซ่หนักๆ มาล่ามขาเอาไว้
   
ข้าไม่เหมาะกับการเป็นกษัตริย์สักนิด..
   
ข้ามันแย่ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา
   
ฉะนั้นข้าจะรับผิดชอบมันด้วยชีวิตของข้า
   
เอลล์ตั้งปณิธานเงียบๆ กับตัวเอง
   
ข้าขอโทษ

ลุกซ์..
   
มังกรผู้เป็นที่รักของข้า
   
ดวงตาที่ทดแทนชีวิตของข้าในยามที่ข้าไม่มีสิ่งใด
   
โลกที่มืดมิดของข้าดูไม่น่าเบื่อเพราะเจ้าเลย ลุกซ์
   
“ ป้องกันแดนหน้าไว้ !! เดี๋ยวข้าจะลงไปจัดการพวกมันเอง ! ”
   
เอลล์สะดุ้งจากภวังก์ของตัวเองไปให้ความสนใจกับเสียงทุ้มต่ำที่ฟังแล้วรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว
   
เสียงของความเป็นผู้นำ
   
เสียงที่แค่ได้ยินก็รู้สึกว่าคนๆ นี้สามารถคุ้มครองเราให้ปลอดภัย
   
เอลล์เบิกตากว้างเมื่อมองเห็นร่างตรงหน้า
   
ชุดของกษัตริย์
   
มงกุฏไม้เลื้อยประดับด้วยอัญมณี
   
หน้ากากที่ประดิดประดอย
   
นั่นมันชุดของข้า !
   
เอลล์เพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
   
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?
   
แล้วทำไมท่านพ่อของข้าถึงได้ไปยืนข้างคนผู้นี้กัน
   
ข้ามองด้วยความไม่เข้าใจ
   
หรือว่า..
   
ข้าไม่ได้เป็นกษัตริย์ของดินแดนภูตมาตั้งแต่แรกแล้ว..

--------------------

ขออภัยในความสั้นของตอนนี้ค่ะ  :hao5: แต่มันต้องตัดที่ตรงนี้ค่ะ 55555  :hao6:

   
   
   
   
   
   
   

   

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :a5:

ว๊อททททททททททท คนนั้นเป็นใคร  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ดูครอบครัวง้องแง้งกันแล้วมาเจอเรื่องพลิกล็อค เงิบเลยตรู

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งะ คืออะไรเนี่ย

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
นี่มันเกิดอะไรขึ้นนน

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ตัวละคลเริ่มเยอะมานิดๆแล้วก็ไปกันหมด

สรุปนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันนี้งงจุง :z3: :z3:

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โห่.........มาแต่ละตอน  :ling2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ใครกัน ??

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 24
   
เวทของคาร์บิลัสพามายังป่าด้านนอกปราสาทซึ่งก็เป็นบริเวณใกล้ๆ กับที่เอลล์อยู่ เมื่อยืนได้มั่นคง ลุกซ์เปลี่ยนร่างตัวเองเป็นมังกรแล้วบินร่อนขึ้นไปในท้องฟ้าทันทีโดยไม่ได้พูดคำบอกลาอะไรสักอย่างกับเจ้านายของตัวเองแม้แต่น้อย
   
“ หึ เดี๋ยวนี้ความรักท่าจะบังตาลูกน้องของข้าแล้วล่ะ ” คาร์บิลัสเหยียดยิ้มขณะที่มองส่งมังกรไฟที่ตีปีกพึ่บพั่บล่วงหน้าไปก่อนอย่างรวดเร็ว
   
“ พูดอย่างกับว่าเจ้าสนใจ ” ฟาร์คัสพูดเรียบๆ พลางใช้สายตากวาดสายตามองรอบๆ
   
เป็นครั้งแรกที่ข้าอยู่ในสงครามจริงๆ
   
ร่องรอยการต่อสู้

รอยเลือดที่ดูสดใหม่ลากยาวอยู่บนพื้นชวนให้รู้สึกขนลุก

แววตาของฟาร์คัสของฟาร์คัสหม่นลง

ดีที่อย่างน้อยดินแดนของข้าก็ไม่ได้เกิดสงครามเช่นนี้

มีเพียงผู้เสียสละคนเดียวเท่านั้น

ฟาร์คัสตกอยู่ในภวังก์ของตัวเองและต้องสะดุ้งกับมืออุ่นๆ ที่กระชับเข้าที่มือของตัวเองอีกครั้ง ฟาร์คัสเหลือบมองเจ้าของมือก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังฉีกยิ้มซื่อๆ ให้อยู่

ราชาปีศาจงี่เง่า

ทั้งที่คิดแบบนั้นกลับเผลอยิ้มจางอย่างไม่รู้ตัว

“ แง้ แม่ ดัฟฟ์ได้กลิ่นไรไม่รู้ง้า ” ดัฟฟ์ย่นจมูกและกระตุกเสื้อฟาร์คัสหันซ้ายหันขวาหาต้นเหตุของกลิ่นที่ว่า

โฮกกกก

ไม่นานก็ปรากฎที่มาของกลิ่น มันปรากฎตัวพร้อมเสียงคำรามดังลั่น เป็นร่างกำยำของอสูรมันก้าวเดินด้วยขาที่ปกคลุมไปด้วยขน

ที่ยุ่งเหยิงบนหัวมีเขาสีดำคู่ยักษ์โค้งงอนไปด้านหลังนัยน์ตาสีแดงก่ำที่หมายเอาชีวิตผู้อื่น
ตัวของมันเปราะไปด้วยเลือด

และในปากของมันมีร่างของชาวภูตอยู่ !
   
ดัฟฟ์ย่นคิ้วเอามือหนีบจมูกตัวเองใช้นิ้วสั้นๆ ชี้ไปที้อสูร “ แง้ ! เหม็นนนนนน ” และพูดเสียงดังราวกับกำลังประณามอสูรอยู่
   
ฟาร์คัสถึงกับลมหายใจสะดุดไปครู่หนึ่ง
   
เมื่อพบว่าร่างนั้นยังมีชีวิตอยู่
   
“ ช่— วยด้วย ” ร่างในปากของอสูรพยายามแค่นเสียงพูดกระท่อนกระท่อนขอความช่วยเหลือแม้ว่ามันจะทำให้เลือดไหลออกจากแผลมากกว่าเดิม
    
นัยน์ตาของอสูรเข้มขึ้นอย่างหงุดหงิดมันบดกรามทรงพลังใส่ภูต
   
ตาของชาวภูตเบิกกว้างแต่ไม่ได้กรีดร้องออกมา และใช้สายตาวิงวองมองมายังฟาร์คัสและคาร์บิลัส
   
“ คาร์บิลัส.. ” ฟาร์คัสเรียกชื่อคาร์บิลัสเสียงเบา
   
“ อืม ” คาร์บิลัสรับคำเสียงเข้มและปล่อยมือของตัวเองออกจากฟาร์คัส คาร์บิลัสย่างสามขุมเข้าไปหาอสูรโดยไม่มีความเกรงกลัวแม้แต่น้อยจนอสูรที่ยืนอยู่เผลอก้าวถอยหลังอย่างเผลอตัว
   
แม้ว่าสติปัญญาจะต่ำต้อย   
   
แต่สัญชาตญาณของอสูรก็บอกว่าร่างตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่จะต่อกรด้วยง่ายๆ
   
แววตาของคาร์บิลัสนั้นว่างเปล่า ไม่มีความสงสารอะไรใดๆ อยู่ในแววตา คาร์บิลัสยื่นมือออกไปในอากาศพลางท่องเวทเสียงเบา ฉับพลันอากาศเกิดการกรีดร้องเป็นเสียงหวีดหวิวมาพร้อมกับดาบสีดำทมิฬของคาร์บิลัส
   
คาร์บิลัสกระชับดาบในมือแน่น ไอเวททรงพลังแผ่จางๆ ออกมาจากดาบของคาร์บิลัสอย่างผิดวิสัย คาร์บิลัสไม่ชอบสงครามเข้าขั้นเกลียด
   
เพราะมันทำให้คาร์บิลัสสูญเสียพ่อกับแม่ของตัวเองไป !
   
ฮื่ออ
   
อสูรคำรามในลำคอยืนนิ่งๆ สิ่งที่มันเลือกทำไม่ใช่การพุ่งเข้าโจมตีเหมือนกับชาวภูตทั่วไป แต่เป็นการใช้เวทมนตร์ ใบไม้รอบตัวของอสูรนั้นหมุนริ้วจนมองไม่ทันฝุ่นลอยฟุ้งไปรอบๆ
   
แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาของคาร์บิลัส
   
โฮก
   
อสูรนั้นได้เสกไฟออกมาใส่ลมพายุที่ตัวเองเสก จนเกิดเป็นพายุเพลิงๆ ขนาดยักษ์ที่พร้อมจะเผาผลาญทุกชีวิตที่คิดจะฝ่าฟันไป
   
สีหน้าของคาร์บิลัสไม่ได้เปลี่ยนแม้แต่น้อย
   
คาร์บิลัสพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่อยและตวัดดาบใส่ลมพายุของอสูร
   
ตูม !
   
คมดาบของคาร์บิลัสไม่ได้เป็นเพียงคมดาบธรรมดา เพราะมันได้กลายเป็นพายุลูกย่อมสีดำที่หมุนริ้วไวกว่ามันกลืนค่อยๆ กินพายุไฟของอสูรจนเหลือเพียงตัวมันเอง คาร์บิลัสพุ่งตัวเข้าไปหาอสูรแม้ว่าจะมีพายุลูกย่อมของตัวเองขวางกั้นอยู่
   
เพราะฝุ่นที่ฟุ้งกระจายไปทั่วจนทรรศนียภาพย่ำแย่ทำให้อสูรทำได้เพียงยืนตั้งรับนิ่งๆ ใช้ดวงตาที่ทอประกายความหวาดกลัวมองจ้องไปรอบๆ
   
และนั่นโอกาสให้คาร์บิลัสฟันเข้าที่หัวของมัน
   
ไม่ทันได้กรีดร้องมันก็หลุดออกมาจากบ่าทันที เกิดเป็นภาพสยดสยองต่อผู้พบเห็น
   
คาร์บิลัสหันไปเห็นฟาร์คัสที่ยืนจ้องด้วยสีหน้านิ่งเรียบแต่มือนั่นสั่นอยู่น้อยๆ จึงเตะเข้าที่ร่างอสูรทำให้ร่างของอสูรกลายเป็นฝุ่นผงสีน้ำตาลเข้มปลิวไปตามลม คมดาบของคาร์บิลัสไม่เพียงจะฆ่าอสูรเท่านั้นมันยังใช้สลายพายุลูกยักษ์อีกด้วย
   
เหลือเพียงหัวของอสูรที่ในปากของมันมีร่างของชาวภูต
   
ฟาร์คัสรีบเดินเข้ามาใกล้ดึงตัวร่างของชาวภูตออกจากปากอสูรพร้อมกันนั้นก็ได้ใช้เวทรักษาไปด้วย ฟาร์คัสจ้องร่างในมือด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
    
เพราะร่างที่ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้หญิง
   
อีกทั้งในอ้อมกอดนั้นยังมีเด็กตัวเล็กๆ ด้วย..
   
“ ขอบคุณ—พวกท่านมาก ” ชาวภูตพูดพร้อมรอยยิ้มจางพยายามใช้มือสั่นๆ ที่เปื้อนเลือดของตัวเองลูบหัวร่างที่หลับอยู่ในอ้อมกอด

“ อย่าพูดอะไรเลย มันจะทำให้แผลของเจ้า.. ” ฟาร์คัสพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
   
ถึงแม้ว่าเย็นชาแต่ก็ใช่ว่าจะไร้หัวใจ
   
เวทที่ใช้รักษาภูตนั้นดูแล้วไม่ได้ผลอะไรเลยแม้แต่น้อยมีแต่จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เลือดไหลออกมามากกว่าเดิม จนฟาร์คัสไม่กล้าร่ายเวทรักษาต่อ
   
“ นางไม่รอดหรอก ฟาร์คัส ” คาร์บิลัสพูดเสียงเรียบแต่กลับปรากฎสีหน้าอ่านยาก
   
คาร์บิลัสไม่ได้พูดเพื่อตัดรอนความหวังของฟาร์คัสแต่อย่างใด
   
เพียงแค่พูดความจริง
   
ดัฟฟ์เดินเข้าไปหาชาวภูตและใช้มือสั้นๆ ป้อมๆ ของตัวเองลูบหัวร่างในอ้อมกอดของชาวภูต “ เล่นกัน มาเล่นกัน ”
   
ฟาร์คัสเหยียดยิ้มเศร้าๆ ออกมากับร่างตรงหน้า
   
สงครามไม่เคยทำให้ใครมีความสุขจริงๆ
   
“ แค่ก ! ” ร่างของชาวภูตไอเป็นเลือดออกมาแต่ยังคงฝืนยิ้มจางๆ “ ข้าขอฝากนาซัสไว้กับพวกท่าน ” พูดพร้อมค้อมหัวลง “ ข้า..ขอร้อง ” แต่น้ำเสียงที่พูดกลับสั่นจนคนที่ฟังแทบร้องไห้
   
“ ได้สิ ” ฟาร์คัสพูดเสียงเรียบเอื้อมมือไปดึงตัวภูตที่อยู่ในอ้อมกอดมากอด
   
“ ขอบคุณพวกท่าน.. มาก ” ทั้งๆ ที่กำลังยิ้มแต่น้ำตากลับไหลออกมาจากดวงตา “ ข้าคงไม่มีชีวิตอยู่ต่อจนกระทั้งนาซัสโต แค่ก นาซัสเป็นเด็กผู้ชายที่น่ารัก ข้าเชื่อว่าเขาคงไม่ดื้อกับพวกท่านแน่ ”
   
คาร์บิลัสที่ยืนเงียบๆ มานานยอมปริปาก “ ข้ารับปากว่าจะดูแลเด็กคนนี้อย่างดี ”
   
รอยยิ้มโล่งใจเป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่ปรากฎบนใบหน้าก่อนที่จะนอนแน่นิ่งไป
    
ดัฟฟ์วิ่งเข้ามาเกาะฟาร์คัส “ แง้ ดัฟฟ์อุ้มเอง ดัฟฟ์อุ้มเอง ”
   
ฟาร์คัสไม่พูดอะไรยอมยื่นนาซัสที่หลับอยู่ให้ดัฟฟ์ง่ายๆ “ อย่ากอดแรงไปล่ะ ดัฟฟ์ ” แววตาของฟาร์คัสยังคงเจือความเศร้า
   
ถึงแม้จะไม่รู้จักกันแต่ก็ถือว่าอิทธิพลทางอารมณ์พอสมควร
   
คาร์บิลัสเอามือลูบหัวฟาร์คัส “ ความตายเป็นสิ่งเจ้าคุ้นเคยไม่ใช่เหรอ ฟาร์คัส ? ไม่ว่าใครก็ตามก็ต้องประสบกับมัน อยู่ที่จะช้าหรือเร็ว เจ้าลืมไปแล้วเหรอ ”
   
ฟาร์คัสหลับตาลง “ ข้ารู้จักมันดี... ”
   
แต่ใครบ้างล่ะ จะไม่รู้สึกสลดใจเมื่อเห็นคนตายตรงหน้า
   
คาร์บิลัสตัดสินใจโน้มตัวลงไปจูบฟาร์คัสเพื่อดึงความสนใจ
   
แม้ว่าอาจจะถูกฟาร์คัสไล่กระทืบก็ตาม
   
ฟาร์คัสเผลอครางในลำคอแต่เมื่อได้สติก็ผลักร่างของคาร์บิลัสออกทันที ฟาร์คัสจ้องคาร์บัลสด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเย็น “ คาร์บิลัส ! ”
   
คาร์บิลัสยิ้มกว้างเรียกชื่อฟาร์คัสเสียงหวาน “ เรียกข้าทำไม ฟาร์คัส ”
   
ฟาร์คัสแค่นเสียงหึกัดฟันกรอด “ ช่างมันเถอะ รีบๆ ไปหาเอลล์กันได้แล้ว ”
   
“ ตามที่เจ้าต้องการ ฟาร์คัส ! ” คาร์บิลัสพูดเสียงร่าเริงก้าวนำไปก่อน “ เดินเท้าสักนิดก็ถึงแล้วล่ะ ”
   
“ แง้ น่าร้ากก ดัฟฟ์ มีน้องแล้ววว เย้ มีเพื่อนน ” ดัฟฟ์ยังคงตื่นเต้นอยู่
   
ฟาร์คัสเดินไปจับมือดัฟฟ์และก้าวตามไปด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นอามณ์ปกติเมื่อลองไตร่ตรองสิ่งที่คาร์บิลัสกระทำ
   
ขอบใจ.. คาร์บิลัส
   
ฟาร์คัสเพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูดออกมาเพราะทิฐิที่ค้ำคอ   

-----------------
 :katai4: อัพตอนกลางคืนอีกแล้ว 555

# ทุกคนอย่าเพิ่งงงเต็กกันสิ 555
   
   
   
   
   
   

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อืม..........

พ่อ(ราชาปีศาจ)+แม่(อดีตราชวงศ์นกบอกลาง)
ได้ลูกเป็นภูต

 :hao3:

แต่ยังไม่เฉลยว่าใครเป็นกษัตริย์ตอนนี้ ม่ายยยยยยยยยยยยยยย  :sad4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มีมาอีกคู่ใช้มั้ย คู่เด้กน้อยเนี่ย อิอิ

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คู่ของดัฟหย่ออออ  :hao6:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ชอบอ่านเวลาดัฟฟ์พูดเป็นพิเศษอ่ะ น่ารักดี

ออฟไลน์ yamanaiame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ดัฟฟ์ มีน้องแล้ววว. 55555. น่ารัก ขอบดดัฟเยอะๆหน่อย อิอิ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เสียงลมหวีดหวิวเป็นเสียงที่ข้าไม่ได้ยินมานานรวมถึงเมฆก้อนกลมที่ลอยเอื่อยเวลาที่ข้าบินผ่านมักจะปลิวกระจายหายไปด้วย
   แต่ตอนนี้คงไม่เหมาะสำหรับการรำลึกความหลังของข้าสักเท่าไหร่
   
ข้ารีบตีปีกให้ไวขึ้นใช้ดวงตาสีเพลิงจดจ้องไปตามพื้นดินที่แม้ว่าจะเล็กนิดเดียวจากมุมมองของข้า แต่สำหรับมังกรไฟนั้นไม่ใช่ปัญหา ข้าพึมพำท่องเวทเสียงเบาเพื่อหาตำแหน่งของเอลล์ ในขณะที่ข้ากำลังร่ายเวทที่ข้อมือของข้าก็ปรากฎรอยตราเวทไม้เลื้อยของเอลล์ ใช้เวลาไม่นานข้าก็สามารถระบุที่อยู่ของเอลล์ได้ 
   
ข้าหรี่ตามองบริเวณหน้าปราสาทเมื่อเห็นร่างของเอลล์กำลังพูดอะไรสักอย่างข้างๆ มีเมเออร์ยืนกำกับอยู่ ข้ารีบร่อนลงมาหาเอลล์ทันที แต่เมื่อบินเข้าไปได้สักพักข้าก็ต้องขมวดคิ้ว
   
นี่ไม่ใช่กลิ่นของเอลล์
   
แล้วร่างตรงหน้านี่มันใครกัน !!
   
ลุกซ์เกือบจะคำรามเสียงดังลั่นด้วยความโมโห เมเออร์เอาใครมาแทนที่เอลล์ของข้ากัน ! แต่ก่อนที่จะได้คำรามลุกซ์ก็นึกขึ้นมาได้ก่อนว่า ขนาดข้าที่ไม่ใฃ่เอลล์ยังหงุดหงิดถึงขั้นนี้แล้วเอลล์ที่อยู่แถวๆ นี้ล่ะ ข้าร่ายเวทขึ้นมาอีกครั้งข้อมือร้อนวาบพร้อมกับบอกที่อยู่ของเอลล์อีกครั้ง
ข้างหลังพุ่มไม้นั่น !

ข้าร่อนลงด้วยความเร็วมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวและเปลี่ยนกลับเป็นมนุษย์เมื่อเท้าสัมผัสกับพื้นดิน ข้ารีบเดินเข้าไปหาเอลล์ ที่ยืนนิ่งค้างอยู่หลังต้นไม้
   
ทั้งๆ ที่ข้ายืนข้างหลัง
   
เเอลล์กลับไม่รู้สึกถึงข้าแม้แต่น้อย..
   
ข้าตัดสินใจสวมกอดเอลล์จากด้านหลัง ซึ่งเอลล์ก็ไม่ได้ขัดขืนข้าแต่อย่างใด เมื่อข้าสัมผัสกับมือของเอลล์พบว่ามืออีกฝ่ายนั้นเย็นเฉียบตัวที่สั่นน้อยๆ
   
“ ลุกซ์.. ”
   
เอลล์ครางชื่อลุกซ์ออกมาเสียงสั่นทั้งๆ ที่กำลังจ้องมองร่างกำยำในชุดคลุมกษัตริย์อย่างไม่ละสายตา “ เจ้าว่านั่นหมายความยังไง ? ”
   
“ ข้าก็ไม่รู้.. ” เป็นครั้งแรกที่ข้ารู้สึกเกลียดตัวเองที่โง่เขลาเกินไป “ แต่ข้าว่าพ่อของเจ้าอาจจะมีเหตุผลให้ไอ้นั่นมันปลอมตัวเป็นเจ้าก็ได้นะ ”
   
“ ข้าว่าเขายังมีคุณสมบัติการเป็นกษัตริย์มากกว่าข้าซะอีก ” เอลล์ยิ้มเยาะตัวเองทั้งๆ ที่แววตาทอประกายเสียใจ “ ท่าทาง คำพูด น้ำเสียง ทุกอย่าง เขามีทุกอย่างเหมือนที่ข้ามี แล้วยังดีกว่าข้าอีกด้วย ” เอลล์หลุบตาลงต่ำ ที่กล่าวไปนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่ร่ำเรียนมาจากอาจารย์เพื่อให้มีบุคลิกภาพที่สมกับเป็นกษัตริย์ และเขาก็มีของอย่างว่าเช่นกัน..
   
มันไม่ใช่สิ่งที่ชาวภูตทั่วไปจะร่ำเรียนกัน
   
นอกเสียจากท่านพ่อของข้าจะช่วย..
   
ลุกซ์ดึงให้เอลล์หันมาสบตากับตัวเองและต้องเผลอใจสั่นไปเมื่อพบว่าดวงตาของเอลล์นั้นที่ถึงแม้จะไม่มีน้ำตาคลอหน่วงแต่ยังกลับแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ จนข้าที่มองยังรู้สึกสลดตาม
   
เจ้ากำลังทำอะไรอยู่กันเมเออร์..
   
ไหนที่เจ้าบอกว่ารักเอลล์นักรักเอลล์หนาไง
   
ลุกซ์รวบตัวเอลล์มาซุกกับอกของตัวเองเพื่อไม่ให้แววตาเศร้าๆ แบบนั้นนานมากกว่านี้ ลุกซ์ยืนจ้องเขาคนที่เอลล์ว่าต่อเงียบๆ ในขณะที่มือกำลังลูบหัวเอลล์เบาๆ และต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นร่างคุ้นตาของคนๆ นึง ไม่สิทุกคนเลยมากกว่า.. เดินเข้ามา
   
   
“ นาชัส น่าย้ากจังเลย ดัฟฟ์ไม่ให้แม่อุ้มหรอก แก๊ซ ” ดัฟฟ์ยังคงกระดี้กระด้าอุ้มร่างเล็กในมืออย่างทะนุถนอม
   
“ แล้วแต่เจ้าเถอะ ดัฟฟ์ ” ฟาร์คัสกลอกตา แค่มีเจ้าคนเดียวก็เบื่อเต็มทนอยู่แล้ว นี่ข้ายังต้องกระเตงลูกอีกคนอีกงั้นเหรอ
   
ให้ตาย..
   
ยังกับว่าข้าเป็นอีกาลูกดกยังไงยังงั้น
   
ฟาร์คัสพยายามคิดบ่ายเบี่ยงนอกเรื่องเพื่อไม่ให้รู้สึกสลดกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดจนเกินไป “ คาร์บิลัส ไหนเจ้าบอกใกล้ไง ”
   
คาร์บิลัสหันยิ้มให้ฟาร์คัสแล้วเดินต่อไป “ ไม่เชื่อข้างั้นเหรอ ฟาร์คัส คาร์บิลัสของเจ้าไม่มีทางโกหกเจ้าหรอกน่า ~ ”
   
ฟาร์คัสสูดลมหายใจลึกพยายามจะไม่สบถคำหยาบคายออกมา “ ข้าถามเจ้าว่าใกล้ถึงรึยังมาเกือบ 10 รอบแล้ว เจ้ายังมีหน้ามาบอกใกล้อีกนะคาร์บิลัส ”
   
“ ก็สำหรับข้ามันใกล้ๆ เองนี่ ” คาร์บิลัสหยุดเดินหันมาตอบฟาร์คัส
   
“ แล้วนิยามคำว่าไกลของเจ้ามันคืออะไรกัน ” ฟาร์คัสเริ่มหน้าเจื่อนด้วยความเซ็ง
   
คาร์บิลัสหยุดคิดสักพักจึงตอบ “ ก็คงจะประมาณดินแดนมนุษย์กับดินแดนปีศาจล่ะมั้ง ”
   
ฟาร์คัสแทบคำรามใส่คาร์บิลัส “ เออ แบบนี้ข้ารู้ว่าไกล แล้วปกติเจ้าเดินทางยังไงถึงได้เรียกที่เดินๆ อยู่นี่ว่าใกล้ ”
   
“ ปกติข้าใช้วงเวทน่ะ เดินแบบนี้ข้าไม่ค่อยทำหรอก เสียเวลาจะตาย ”

   “ เจ้าก็รู้นี่ คาร์บิลัส แล้วจะมาเดินทำไมวะ ” ฟาร์คัสเริ่มหงุดหงิด
   
“ เพราะถ้าหากใช้วงเวทบุกเข้าไปเลย ข้ากับเจ้าอาจจะโดนข้อหากบฎและถูกตามล่าสิ ”
   
“ ข้าว่าแค่เดินเข้าโทงๆ แบบนี้ก็โดนหาว่ากบฎได้แล้วนะ ”
   
“ อ้อ ความจริง ข้าอยากเปิดตัวแบบธรรมดาเฉยๆ น่ะ เบื่อแบบอลังการแล้ว ” คาร์บิลัสฉีกยิ้มกลบเกลื่อนอีกครั้ง ความจริงแล้วคาร์บิลัสก็เบื่อกับการเดินเช่นกันแต่เพื่อความปลอดภัยของฟาร์คัสจึงพาเดินต่อไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่เดินก็แอบใช้เวทเข้าไปจัดการอสูรรอบๆ หรือย้ายศพที่อยู่ใกล้ๆ
   
ข้าไม่อยากเห็นฟาร์คัสของข้าต้องเศร้าหลายๆ ครั้งหรอกนะ
   
ป้องกันไว้ก่อนก็ดี
   
ทำให้ข้าพอฟาร์คัสลัดเลาะป่าวนเป็นวงกลมโดยไม่ลืมแอบเปลี่ยนทรรศนียภาพรอบๆ เพื่อไม่ให้ฟาร์คัสจับได้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วถ้าหากเดินออกไปตรงๆ ก็จะถึงพื้นที่ที่พวกเมเออร์อยู่แล้ว
   
เอาล่ะ
   
คงถึงเวลาแล้วแหละ

“ ถึงแล้วจริงๆ รอบนี้ ”

“ ดี ” ฟาร์คัสแค่นเสียงตอบพยายามมองผ่านต้นไม้รกครึ้มว่าข้างหน้าที่ตนจะไปนั้นมีอะไรอยู่จริงหรือไม่ แต่ไม่ถึงอึดใจก็พบว่าเป็นความจริง
   
กำแพงอิฐสูงสีเลือดหมูที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดบริเวณที่โล่งเตียนหน้ากำแพงเป็นคล้ายถนนสำหรับเข้าไปในประตูไม้ที่ถูกดูแข็งแรง คาร์บิลัสเดินนำเข้าไปก่อนที่จะหยุดที่หน้าประตูไม้และดีดนิ้วใส่ประตูไม้จนมันส่งเสียงคล้ายกล้ายแตก “ เจ้าทะลุมันไปได้เลย ตอนนี้มันใช้การไม่ได้แล้วล่ะ ”
   
“ เย้ ทะลุกำแพงๆ ” ดัฟฟ์ยิ้มกว้างตัวเริ่มอยู่ไม่สุข
   
คาร์บิลัสหันบอกดัฟฟ์เซ็งๆ “ ประตูได้อย่างเดียว ถ้าเจ้าอยากชนกำแพงตายก็เชิญ ”
   
“ เย้ ประตูๆๆๆ ” ดัฟฟ์เปลี่ยนคำพูดตาเป็นประกายกระโจนเข้าไปในประตูเป็นคนแรกทั้งๆ ที่ในมือยังกอดนาซัสแน่น
   
“ ... ” ฟาร์คัสเดิมที่ตั้งใจจะเข้าไปพร้อมกับดัฟฟ์ถึงกับพูดอะไรไม่ออกรีบเดินทะลุตามไปทันที

   คาร์บิลัสไหล่ลู่ลงอย่างหมดมาดและรำพันกับตัวเองเบาๆ “ ทำไมถึงไม่มีใครรอข้าบ้างล่ะ.. ” แต่ขาที่มีก็ยังคงทำงานได้ดีพาร่างของราชาปีศาจผ่านประตูไป
   
ภาพตรงหน้าทำเอาฟาร์คัสถึงกับพูดอะไรไม่ออก
   
ภาพเศษซากของอสูรและภูตกระจัดกระจายอยู่บนพื้น พื้นที่ในกำแพงคล้ายกับภายในนอกตรงที่มีป่าล้อมรอบสองฟากถนน แต่ที่ทำให้พูดไม่ออกจริงๆ ก็คือภาพที่ทหารภูตที่พร้อมใจกันชี้ดาบ หอก แคร่ มาที่คณะของฟาร์คัสเป็นเป้าเดียว
   
ทั้งๆ ที่คนยืนตรงนั้นคือเอลล์แท้ๆ..
   
ฟาร์คัสมองร่างในชุดกษัตริย์ด้วยความไม่เข้าใจ
   
เอลล์ นี่เจ้าจะทรยศความเชื่อใจของข้าอีกคนงั้นเหรอ..
   
“ นั่นไม่ใช่เอลล์ ฟาร์คัส ” คาร์บิลัสเดินมากระซิบหูฟาร์คัสและใช้มือหนาปิดตาฟาร์คัสไว้ทั้งสองข้างพร้อมร่ายเวทให้ฟาร์คัสไม่ได้ยินสิ่งที่ตนกำลังจะพูด เมื่อร่ายจบแววตาของคาร์บิลัสเปลี่ยนเป็นเด็ดขาดทันที “ ข้าไม่ชอบให้ใครมาชี้ดาบใส่ข้าแบบนี้ !! ” และคำรามทุ้มต่ำออกมาด้วยน้ำเสียงชวนให้คนฟังรู้สึกหวาดกลัวถึงขั้วหัวใจ
   
ฉับพลันเรื่องประหลาดก็ปรากฎ
   
เมื่ออาวุธในมือของทหารภูตนั้นร่วงกราวมากองบนพื้นเป็นเสียงดังก้องแก้งทั้งๆ ที่คาร์บิลัสไม่ได้ร่ายเวท โจมตีหรืออะไรใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกันนั้นร่างของทหารภูตก็เข่าทรุดกันกองบนพื้นจนหมดสภาพไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ
   
เพราะความหวาดกลัวที่กัดกินหัวใจนั่นเอง
   
ร่างในชุดกษัตริย์ไม่ได้มีทีท่าผิดแผกไปแต่เดิมแม้แต่น้อยราวกับว่าไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับสิ่งที่คาร์บิลัสกระทำ
   
“ เสียงดังง้า แบบนี้ ! นาซัสตื่นแน่เลย แง้ ! “ ดัฟฟ์หน้ามุ่ยเอามือข้างนึงที่ว่างปิดหูนาซัส น่าเสียดายที่มือของดัฟฟ์เล็กเกินกว่าจะปิดได้เพราะหูของนาซัสได้ยาวผิดรูปตามปกติของชาวภูต
   
คาร์บิลัสไม่ได้สนใจดัฟฟ์ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกดดันจ้องเข้าที่เมเออร์ตรงๆ
   
แต่เมเออร์ที่เป็นถึงอดีตราชาภูตย่อมไม่สะทกสะท้านใดๆ เพราะเลือดขัดติยะที่มีอยู่ในตัว
   
ต่อให้หวาดกลัวแทบสิ้นใจ ก็ห้ามแสดงออกมา !
   
“ ไว้ค่อยคุยเถอะ มันยังไม่ถึงเวลาที่จะเล่า.. ” เมเออร์จ้องตาตอบแต่ได้ไม่นานก็เผลอลมหายใจติดขัดด้วยความกลัวและเบือนหน้าหนีไปเอง
   
ทั้งๆ ที่เวลาอยู่กับอีกานั้นเหยาะแหยะ
   
แต่ตอนนี้กลับน่ากลัวยิ่งกว่ามัจจุราจซะอีก !
   
เมเออร์คิดเงียบๆ ในใจ
   
“ แล้วเมื่อไหร่จะถึงเวลา ! ข้าขอคำอธิบาย ” คาร์บิลัสพูดเสียงเย็น
   
เมเออร์เตรียมจะพูดประโยคเดิมออกมาอีกครั้ง
   
แต่กลับถูกมือของร่างชุดคลุมกษัตริย์ขวางหน้าไว้ก่อน
   
“ ได้สิ.. ถ้าเจ้าอยากรู้ ” เสียงทุ้มลึกบ่งบอกอารมณ์ได้ยากค่อยๆ หยิบหน้ากากของตนเองและดึงออกมาเผยให้เห็นใบหน้าที่กำลังแสยะยิ้ม
   
ฟาร์คัสสะดุ้งเฮือกเมื่อพบว่า
   
ใบหน้าของเขาผู้นี้เหมือนกับเอลล์ไม่ผิดเพี้ยน !

-----------------

อุ้ ทำอะไรอีกแล้วเรา 5555  :hao7:

ตอบคอมเมนต์ดีกว่า จะได้ไม่โดนนักอ่าน  :beat:

คุณ BlueCherries : ตอนนี้ก็ยังไม่เฉลยอยู่ดี 5555555555 เผลอๆ งงกว่าเดิมอีก

คุณ •♀NoM!_KunG♀• : ใครรุกน้าา  :hao7:

คุณ Hang : ก็ไม่รู้สินะ XD

คุณ sirin_chadada : ดัฟฟ์เป็นเด็กที่น่ารัก น่าเอ็นดู ไม่ว่ามีอะไรโหดร้ายเกิดขึ้น แม่นางก็ยังคงสามารถคงคอนเซปต์ความแบ้วไว้ได้เช่นเดิมค่ะ 5555

คุณ yamanaiame : น้องแน่เหรอ  :mew3:
 
    
      
   
   
   
   
   
   
   
   

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 o22


งงหนัก!!!

เกิดอะะไรขึ้นกันแน่

ฟาร์คัสมีแฝด?? ไม่มั้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :katai1:

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
คือ?? เมเออร์แอบไปไข่ทิ้งที่อื่นใช่ปะนี่ :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด