เมเออร์ไม่กล้าปริปากพูดอะไรเหน็บแหนม
ความทรงจำในวัยเด็กปรากฏชัด
ตอนที่พ่อของตัวเองพาไปรบกับพวกอสูร
ความฮึมเหิมในตอนนั้นของทหารภูตยังตราตรึงใจของเมเออร์ กลิ่นคาวเลือดเสียงกรีดร้องกลายเป็นดนตรีสำหรับทหารภูตที่เก่งกาจ คนที่ตัดหัวหัวหน้าอสูรนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเลย
เป็นพ่อของเมเออร์นั่นเอง..
ไม่แปลกที่รัฟฟ์จะเคียดแค้นกับดินแดนภูตขนาดนี้
เมเออร์เหยียดยิ้มกับตัวเอง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีมูลเหตุมาก่อนจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาลอยๆ
เคยมีคำพูดที่ว่าการกระทำในวันนี้ส่งผลถึงอนาคต
เมเออร์ตระหนักได้ถึงความจริงข้อนั้น หลับตาลงยอมรับสิ่งที่รัฟฟ์ต้องการจะกระทำ ดินแดนภูตนั้นต่อให้เสียเขาไปสักคนก็ไม่ได้มีผลอะไรมากมาย ร่างของเมเออร์นั้นเปราะบางกว่าที่เห็นภายนอกมาก วิญญาณที่เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวทำให้การฟื้นฟูสภาพร่างกายที่บอบช้ำทำได้ยาก
ต่อให้ไม่ฆ่าตอนนี้
อีกไม่นานข้าก็ต้องตายอยู่ดี
“ ฆ่าข้าสิ อึ่ก รัฟฟ์ ” เมเออร์พยายามเงยหน้าขึ้นมาพูด ใบหน้าครึ่งนึงถูกเลือดอาบ จับจ้องไปยังร่างที่เดิมเคยไว้ใจที่สุด
รัฟฟ์ส่ายหน้า “ ถ้าเจ้าตายง่ายๆ ก็ไม่สนุกสิ รอดูความพินาศของดินแดนเจ้าดีกว่า ” หยิบมีดจากเสื้อคลุมปาดเข้าที่ข้อมือตัวเองปล่อยให้มันหยดใส่แหวนที่กำลังส่องแสงสีแดงจางๆ อย่างกระหายเลือด
ท้องฟ้าเกิดการแปรปรวนทันใด เมฆก้อนทึบเคลื่อนมาบดบังแสงแดดอย่างเงียบเชียบ อากาศรอบกายเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบ เหลือเพียงความเงียบงัน
คาร์บิลัสลอบหยิบดาบตั้งรับไว้ทันที
อากาศหนักอึ้ง จนหายใจลำบาก
ราวกับว่ากำลังมีบางอย่างช่วงชิงอากาศไป
เอลล์กัดริมฝีปากครุ่นคิดไปสักพักก่อนจะหยิบดาบศํกดิ์สิทธิ์ออกมาถือ ชี้หน้าไปยังรัฟฟ์ แววตาเฉียบขาด ไม่เหลือเค้าความอาลัยใดๆ อีกฝ่ายอีกต่อไป
ถึงแม้จะเป็นท่านอาจารย์ แต่ดินแดนภูตนับว่าสำคัญกว่า
ความรู้สึกที่มีมีแต่จะทำให้ข้าประมาทเท่านั้น
เอลล์เลือกที่จะทิ้งความรู้สึกไป
ต่อให้ต้องลงมือฆ่าอีกฝ่าย
ข้าก็จะยอมทำ !
ฮื่อ...
เสียงสูดหายใจดังหนักแน่นแต่ยังไม่รับรู้ถึงตัวตน
ทุกคนมองรอบตัวอย่างระแวงยกเว้นเพียงแต่รัฟฟ์
ฮื่ออ..
เสียงนั้นดังปรากฏอีกครั้งที่ข้างหลังของฟลอยด์
ฟลอยด์สะดุ้งหันขวับไปมองด้านหลัง
แต่ไม่เห็นอะไรแม้แต่อย่างเดียวกว่าจะรู้ตัวก็ล้มกองไปบนพื้น
เช่นเดียวกับชาวภูตคนอื่นๆ หรือแม้แต่มนุษย์ ล้มทรุดกองไปบนพื้น
หลับใหลไม่ได้สติ
มีเพียงอาคันตุกะจากดินแดนปีศาจกับบุคคลอีกสองสามคนเท่านั้น
“ กา... ”
เสียงอีกาดังขึ้นแผ่วเบา
บนไหล่ของฟาร์คัสปรากฏอีกาพร้อมคทาในมือ
นัยน์ตาสีดำของมันกลอกไปมาตามร่างที่เคลื่อนที่ผ่านไปผ่านมาอย่างรวดเร็ว มองเห็นเพียงของบางอย่างสีดำขนาดยักษ์วิ่งอยู่ไวๆ
“ ไม่เลว ” รัฟฟ์เอ่ยชม บุคคลที่สามารถดำรงอยู่ได้ในขณะนี้
เวทมนตร์ที่ทำให้หลับได้อย่างง่ายดายเพียงแค่สูดเข้าไป
ถ้าหากพลังเวทย์หรือไหวพริบไม่เพียงพอที่จะตั้งรับ
ก็จะเข้าสู่อ้อมกอดของนิทรา
โฮกกก
เสียงคำรามดังลั่นพร้อมกับร่างยักษ์กระโจนเข้าที่หลังของฟาร์คัส
ฟาร์คัสแค่นเสียงเหอะ ไม่ได้ก้าวหลบแต่อย่างใด วาดคทาเป็นแนวทแยง แสงสว่างจากวงเวทที่ถูกวาดปรากฏ อีกาบนไหล่ฟาร์คัสพุ่งตัวไปกระแทกกับวงเวท
กลายร่างเป็นเสือดำขนาดยักษ์พุ่งกระแทกร่างที่พุ่งเข้ามา
ผลั่ก...
เสือดำของฟาร์คัสถูกกระแทกมากองข้างตัวฟาร์คัส
ฟาร์คัสสบมองร่างที่ยืนตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา
ดวงตาเลื่อนลอยของอสูร
ร่างยักษ์ที่เห็นกล้ามเนื้อได้ชัดเจน
เขาโค้งงอเป็นเกลียวสีดำทมิฬ
กับรอยถูกฟันบนลำคอ
เลือดหยดซึมลงบนพื้น
เมเออร์เผลอตัวสั่น เพราะร่างที่รัฟฟ์อัญเชิญมา
ไม่ใช่ใครที่ไหน
นอกจากร่างที่ถูกท่านพ่อสังหารไป !
“ จะ เจ้า... ”
“ มีอะไร ? ” รัฟฟ์แสยะยิ้มรับขยี้ปลายเท้าบนหลังเมเออร์
ความแค้นแจ่มชัดในหัว
“ อึก.. ” เมเออร์เผลอไอเลือดออกมาอีกครั้ง
อย่างที่รู้กันว่า รัฟฟ์แทบไม่เหลือความอาลัยอาวรณ์กับความรู้สึกใดๆ แล้ว เป้าหมายชีวิตเหลือเพียงการแก้แค้น การทำให้ดินแดนภูตพินาศเช่นเดียวกับกลุ่มอสูรของตัวเอง
รัฟฟ์ลืมแม้กระทั่งความเลวร้ายในสิ่งที่ตัวเองกระทำ
อย่างการนำศพของผู้มีพระคุณมาใช้
เวลากัดกินความคิดของรัฟฟ์ช้าๆ แต่ลงแรงหนัก
ความคิดแปรปรวนเอาแน่เอานอนไม่ได้
ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
ทำให้รัฟฟ์กลายเป็นอีกคน
จากคนที่สุขุมเยือกเย็น
เป็นอีกบุคคลที่แม้แต่ตัวรัฟฟ์เองยังไม่รู้จักดี
เอลล์ไม่สนใจอสูรที่รัฟฟ์อันเชิญมา กระโจนเข้าใส่รัฟฟ์
การเห็นพ่อของตัวเองโดนทำร้ายไม่ใช่เรื่องที่เอลล์จะทนได้
ดาบศักดิ์สิทธิ์กวัดแกว่ง
รัฟฟ์เตะร่างของเมเออร์เข้าไปรับคมดาบแทน
เอลล์เบิกตากว้างชะงักดาบรับร่างของพ่อตัวเองมาด้วยแขนข้างเดียว
รัฟฟ์หัวเราะ “ เอาเลย ! ฆ่ามัน “ ตะโกนสั่งผู้มีพระคุณตัวเอง
อสูรร่างยักษ์ไม่ตอบแต่กระโจนเข้าไปหาทันที เวทย์มนต์สีดำทมิฬล่องลอยขึ้นจางๆ บนกรงเล็บ
“ คาร์บิลัส ! ” ฟาร์คัสตะโกนเรียกเพราะรู้ดีว่าตัวเองคงจะตั้งรับมันไม่ทัน แต่เสือสีดำของฟาร์คัสก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ พุ่งตัวเข้าไปขวางทางไว้
มือทรงพลังคว้าตัวเสือที่พุ่งเข้ามา เวทมนตร์สัมฤทธิ์ผลพุ่งเข้าครอบตัวสัตว์ตระกูลแมวขนาดยักษ์ทันที เสือของฟาร์คัสคำรนในลำคอตะเกียกตะกายพยายามหยันยืนขึ้นมาอีกครั้งหลังจากโดนทุ่มลงพื้นเป็นหลุมยักษ์
คาร์บิลัสไม่ตอบฟาร์คัสเช่นกัน โยนดาบของตัวเองพุ่งไปหาร่างอสูร ร่ายเวทเปลี่ยนดาบให้กลายเป็นมังกรยักษ์ตะครุบเข้าที่ร่างอสูร
ฮึ่มม
อสูรคำรามใส่มังกรที่ชนตัวเองจนต้องชะงักอยู่กับที่ ขนาดตัวที่ใกล้กันทำให้อสูรไม่สามารถจับร่างศัตรูทุ่มลงบนพื้นเช่นเดียวกับเสือดำได้
รัฟฟ์ขบเคี้ยวฟัน
เป็นอีกครั้งที่อยู่ในสถานการณ์เป็นรองเพราะอีกฝ่ายเยอะกว่า
คล้ายกับรับรู้อารมณ์ของรัฟฟ์
อสูรกู่ร้องคำรามเสียงดังลั่น เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ฟาร์คัสที่อยู่ใกล้แทนทันที
ฟาร์คัสสะดุ้งเบิกตากว้าง
เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นเป้าหมายต่อไป
กว่าจะรู้ตัว
ร่างของอสูรก็กระโจนเข้ามาใกล้
ฟาร์คัสกำลังจะร่ายเวทป้องกันตัว
ก็ถูกกรงเล็บของอสรูฟันเข้าที่ไหล่
ฟันขบแน่นกลั้นเสียงเจ็บปวด
แววตาของคาร์บิลัสกระหายเลือดทันที บรรยากาศรอบตัวหนักกว่าเดิม ดาบของคาร์บิลัสคล้ายจะมีเสียงกรีดร้องด้วยความโมโห
“ ฆ่าบี้ลัส ! ถอยไป แก๊ซ ” ดัฟฟ์กระโจนเข้าใส่อสูรก่อนคาร์บิลัส
เตะเข้าที่หน้าผากอสูร
ก่อนจะถูกอสูรจับจนห้อยต่องแต่ง
“ แง้ ! ” ดัฟฟ์งอแงในมือกอดนาซัสแน่น
รัฟฟ์มองภาพตรงหน้าอึ้งๆ
เด็กตัวเล็กๆ ที่กระโจนเข้ามาช่วยอย่างไม่กลัวตาย
ภาพความทรงจำที่ถูกซุกซ่อนไว้ในส่วนลึกปรากฏในหัว
“ ห้ามยุ่งกับท่านพ่อข้านะ ” ภูตตัวเล็กเอากิ่งไม้มาไล่ตีหมาป่าที่เข้ามาใกล้พ่อของตัวเอง
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งให้รัฟฟ์ มือขยี้หัวด้วยความเอ็นดู
“ ข้าไม่เป็นอะไรหรอกน่า ”
ความรู้สึกที่เคยหายไปกลับมาแทรกแซงหัวใจที่ว่างเปล่า
รัฟฟ์เผลอน้ำตาไหลไม่รู้ตัว
ตัวสั่นเทิ่ม
ในความเป็นจริงตัวตนเดิมของรัฟฟ์ไม่ได้หายไป
เพียงแค่ถูกทับถมเอาไว้ในส่วนลึก
ร่างอสูรยักษ์ค่อยๆ จางหายไป
รัฟฟ์ทรุดตัวกองบนพื้น
กอดตัวเองไว้นิ่งๆ
จิตใจที่แตกสลายถูกกระตุ้นด้วยกริชความทรงจำ
ย้ำลึกถึงความสูญเสีย
“ ท่านพ่อ ท่านพ่อ ”
รัฟฟ์คร่ำครวญใจลอย
เป้าหมายของรัฟฟ์มีไว้เพียงเกี่ยวรั้งไม่ให้ตัวเองสติฟั่นเฟือน
“ แก๊ซ ? ” ดัฟฟ์ตกแปะมายืนบนพื้น เห็นร่างที่ทรุดบนพื้นร้องไห้ก็เดินเข้าไปใกล้ มือเล็กๆ ลูบหัวปลอบโยนในฉบับเด็กๆ “ ไม่เป็นไรนะ แก๊ซ ” คลี่ยิ้มสดใส
สติสัมปัชญะถูกกระชากกลับเข้ามาในหัวรัฟฟ์ด้วยคำพูดสั้นๆ
ของเด็กตัวเล็กๆ
การกระทำทุกอย่างผุดขึ้นมาในหัวรัฟฟ์
จิตใจหนักอึ้งกับสิ่งที่ตัวเองกระทำไป
แต่ไม่ได้รู้สึกผิดถึงเรื่องแก้แค้น
รัฟฟ์หยัดตัวเองขึ้นมายืนช้าๆ ขยี้หัวดัฟฟ์เชิงขอบคุณ
“ แก๊ซ ” ดัฟฟ์ยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายเลิกร้องไห้แล้วส่งยิ้มให้ตัวเอง
เมื่ออสูรที่ทำร้ายฟาร์คัสหายไปเหลือเพียงนายของมัน
คาร์บิลัสโกรธมากเตรียมจะพุ่งเข้าไปฆ่าอีกฝ่ายให้เป็นชิ้นๆ แต่ถูกฟาร์คัสกอดเข้าข้างหลังซะก่อน “ พอแล้ว คาร์บิลัส แผลแค่นี้ข้าไม่ตายหรอกน่า ”
น้ำเสียงที่ถึงแม้จะไร้อารมณ์
ทำให้คาร์บิลัสสงบลงอย่างประหลาด
คาร์บิลัสกัดฟันกรอด “ เห็นแก่เจ้า... ” เก็บดาบเข้าฝัก แกะมือของฟาร์คัสออกสบมองบาดแผลลึกบนไหล่ สะกดกลั้นอารมณ์เดือดพล่านในตัว
มันกล้าทำร้ายฟาร์คัสของข้า..
อีกครั้งที่ข้าทำให้ฟาร์คัสบาดเจ็บ
แค่ปกป้องคนที่ข้ารักแค่นี้ ข้ายังทำไม่ได้
ข้าจะเป็นราชาปีศาจไปทำไมกัน
คาร์บิลัสทนดูบาดแผลไม่ได้
แผลลึกตอกย้ำถึงความอ่อนแอของตัวเอง
ทิ้งภาพลักษณ์ของราชาปีศาจที่แข็งแกร่ง
ฆ่าศัตรูได้เหมือนผักปลา
ฟาร์คัสถอนหายใจเซ็งๆ ยืดตัวลูบหัวคาร์บิลัสเชิงปลอบ “ มันก็แค่อุบัติเหตุ คาร์บิลัส ”
“ ข้าขอโทษ ” คาร์บิลัสหันกลับมามองหน้าฟาร์คัสชั่วครู่ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ
“ ขอโทษเรื่องอะไร ”
“ ... ”
“ ข้ายังไม่ตาย ฉะนั้นเจ้าไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น ”
“ ถ้าเจ้าตายล่ะ .. ” เสียงแหบแห้งหลุดมาจากลำคอของคาร์บิลัส
ฟาร์คัสยิ้ม
“ ข้าเชื่อว่าราชาปีศาจอย่างเจ้าไม่ปล่อยให้ข้าตายง่ายๆ หรอก ”
กดจูบแผ่วเบาบนริมฝีปากและผละออกมาทันที
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เอลล์จึงเลิกสนใจรัฟฟ์หันมาสนใจพ่อของตัวเอง
ลมหายใจรวยริน
เอลล์พยายามร่ายเวทรักษาสุดความสามารถ
แต่ก็ไม่เป็นผล
ทั้งร่างและวิญญาณของเมเออร์บอบช้ำเกินไป
ที่ยังคงหายใจได้อยู่ก็ถือว่ามากพอแล้ว
เมเออร์คลี่ยิ้ม ยกมือสั่นๆ ของตัวเองลูบหัวเอลล์
เอลล์น้ำตาไหลพรากพูดอะไรไม่ออก
เห็นความเจ็บปวดในแววตา
เมเออร์ตระหนักถึงเวลาที่เหลือน้อยของตัวเอง
“ เอลล์.. ข้าเคารพการตัดสินใจของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรก็ตาม ”
ทิฐิที่มีค่อยๆ หายไป
ลดความข้องใจในการกระทำต่างๆ ของเอลล์
อย่างการสร้างพันธมิตรก็ให้ข้อดีไม่เลว
แต่พ่ออย่างข้ากลับทำมันพัง
“ เอลล์.. พ่อขอโทษ อึก ”
เมเออร์พยายามพูด
เอลล์กอดเมเออร์แน่น
“ สิ่งที่เจ้าพยายามทำขึ้นมา ข้าเผลอทำลายไปแล้ว ”
ลมหายใจของเอลล์สะดุด
ทวนความทรงจำในหัว
พบว่าอาคันตุกะจากต่างแดนนั้นเหลือน้อยจนน่าตกใจ
เหลือเพียงไม่กี่เผ่าเท่านั้น
“ พ่อขอโทษ.. ”
เมเออร์สบมองดวงตาเศร้าๆ ของเอลล์
เอลล์ยิ้มตอบ “ ข้ารู้ว่าท่านทำเพื่อดินแดนภูต ”
ไม่ว่าข้าหรือท่านพ่อ ก็ให้ความสำคัญกับดินแดนภูตทั้งนั้น
เมเออร์พยายามแค่นยิ้มออกมาแต่ทำไม่ได้ ความเจ็บปวดร้าวไปทั้งวิญญาณทำให้เมเออร์เผลอส่งสีหน้าเจ็บปวดให้เอลล์แทน
“ ขอรับ ท่านพ่อ ” เอลล์รับคำเสียงสั่น
เมเออร์ไม่ตอบรับอะไรครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
คล้ายกับวิญญาณจะแตกเป็นเสี่ยง
เมเออร์หลับตาแน่นกระอักเลือดออกมาคำโต
“ ข้ารักเจ้านะ เอลล์ .. ”
คล้ายคำกล่าวลาครั้งสุดท้าย
ลมหายใจถูกช่วงชิงไป
เหลือเพียงร่างชราอดีตราชาดินแดนภูตนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
ลุกซ์เดินเข้าใกล้เอลล์ที่ก้มหน้าซ่อนน้ำตาของตัวเอง ลุกซ์ลูบหัวเอลล์เบาๆ “ ทำให้เรื่องนี้จบก่อนเถอะ เอลล์ ปัญหามันยังไม่จบ ”
เอลล์พยักหน้าหงึกหงักปาดน้ำตาตัวเองออกลวกๆ
“ ข้าจะพยายาม ”
ให้คำมั่นเสียงแผ่วเบา
“ ไม่ต้องกลัว.. ”
ลุกซ์ให้กำลังใจก่อนที่จะเดินไปเตะร่างที่ปลอมตัวเป็นราชาภูตในตอนนี้
“ โอ๊ย ! ” ฟลอยด์ร้องเสียงดังลั่น ตาสว่างทันที ลุกพรวดมองหน้าลุกซ์เอาเรื่อง
ลุกซ์มองหน้าเอลล์ยิ้มบาง
เพราะรู้ดีถึงสิ่งที่เอลล์กำลังคิด
เอลล์ยิ้มตอบ
ไม่ว่ายังไงลุกซ์ก็อ่านข้าก็ทะลุปรุโปร่งจริงๆ
รัฟฟ์ไม่ได้หนีไปแม้ว่าจะมีโอกาสให้ตัวเองหนี
ไม่อยากเป็นพวกอ่อนแอที่เอาแต่หนีปัญหา
กระทำมันขึ้นมาและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองกระทำ
รัฟฟ์แค่นยิ้ม
“ ลงโทษข้าตามสมควรเถอะ ”
คงจะไม่พ้นการประหารชีวิตเป็นแน่
“ ฆ่ามัน ! ฆ่ามันเลย ” ฟลอยด์โวยวาย น้ำเสียงเอาเรื่อง
ฟลอยด์เป็นอีกคนที่โกรธมากกับการกระทำของรัฟฟ์
เป็นอีกคนที่รักดินแดนภูตกว่าใครๆ
เอลล์ไม่สนใจในสิ่งที่รัฟฟ์พูด
ดวงตาสองสีของเอลล์สะท้อนภาพของภูตหน้าตาอ่อนเยาว์แต่อายุล่วงเลยมานาน
“ ความตายไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีหรอกนะ ” น้ำเสียงนุ่มของเอลล์ไม่เจืออารมณ์โกรธใดๆ
การกระทำของรัฟฟ์มีผลมาจากกระทำของภูตเช่นกัน
ฉะนั้นจะโทษอีกฝ่ายเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้
โลกใบนี้ไม่มีสิ่งที่ผิดหรือถูกที่สุด
“ แล้วจะทำอะไรกับข้าล่ะ เอลล์ ? ”
“ ท่านอาจารย์ก็ต้องทำหน้าที่ของท่านต่อไปสิ ”
รัฟฟ์เลิกคิ้วงงๆ
“ อาจารย์ ? ”
เอลล์ยิ้มเมื่อเห็นสีหน้างุนงง “ ใช่ ท่านต้องดำรงตำแหน่งอาจารย์ไปตลอดชีวิตของท่านเพื่อชดใช้ความผิด ”
รัฟฟ์พยักหน้า
“ และท่านยังต้องไปช่วยฟื้นฟูดินแดนภูตให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ” เอลล์มองปราสาทของตัวเองที่ถล่มลงมาเศร้าๆ “ ทุกชีวิตที่ท่านทำให้สูญเสีย ข้าจะไม่เอาความท่าน แต่ข้าขอให้ท่านทุ่มเทกับดินแดนภูตในทุกๆ ด้านที่ท่านสามารถทำได้ ”
เป็นบทลงโทษที่เบาจนน่าแปลกใจ
รัฟฟ์คิด
“ ท่านคงจะแปลกใจที่บทลงโทษของท่านมีเพียงเท่านี้ ” เอลล์เหลือบมองท่านพ่อของตัวเอง “ แต่ข้าเข้าใจดีว่าความสูญเสียที่ท่านเผชิญอยู่.. ไม่ใช่เรื่องที่ทำใจรับได้ง่าย ซึ่งต้นเหตุทั้งหมดก็มาจากภูต ”
รัฟฟ์มองร่างลูกศิษย์ของตัวเอง
ทั้งๆ ที่คิดว่าตัวเองไม่มีความอาลัยหรืออะไรในตัวลูกศิษย์แม้แต่นิดเดียว
ตรงกันข้าม
เมื่อความรู้สึกที่ซุกซ่อนปรากฏขึ้นมาในจิตใจ
รัฟฟ์รู้สึกภูมิใจในตัวเอลล์แปลกๆ
เอลล์โตขึ้นกว่าเดิมมากจริงๆ
หลังจากที่พบกันครั้งล่าสุด
รัฟฟ์หัวเราะออกมาเบาๆ “ ข้ายอมรับบทลงโทษนี้ ไม่ว่าเจ้าจะสั่งให้ข้าไปฆ่าไปทำอะไร ข้าก็จะยอมทำทั้งนั้นเพื่อดินแดนภูต ”
กลับเข้าสู่อ้อมกอดดินแดนถิ่นกำเนิดของตัวเอง
ในฐานะนักโทษ
“ ท่านอาจารย์ ข้าจะลงเวทไว้กับท่านเพื่อเป็นคำสัญญา ท่านจะยินยอมไหม ” เอลล์หยิบดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมาถือ พลังอำนาจมหาศาลไหลเวียนในตัวดาบ
“ ได้สิ ” รัฟฟ์ปล่อยมือออกจากหัวดัฟฟ์อย่างว่าง่าย เดินเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าเอลล์
ฟลอยด์แทบจะเข้าแย่งดาบเอลล์เพื่อตัดหัวอีกฝ่ายในจังหวะนี้
แต่ถูกทั้งคาร์บิลัสและฟาร์คัสขวางทางไว้
จึงทำได้แค่มองตามอย่างหงุดหงิด
เอลล์หลับตากระชับดาบในมือ ดาบในมือของเอลล์เปลี่ยนรูปทันทีหลอมเหลวจนคล้ายน้ำเหนียวหนืด ก่อนจะถูกหล่ออีกครั้งในรูปของปลอกคอสีทอง เอลล์กดปลอกคอเข้าที่คอของรัฟฟ์เบาๆ ปลอกคอสีทองส่งแสงเรื่อในลำคอของรัฟฟ์ ในมือของเอลล์ปรากฏดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ขนาดเล็กลงกว่าครึ่ง
“ ถ้าหากท่านทำอะไรก็ตามที่ทรยศต่อดินแดนภูต ปลอกคออันนี้บั่นคอของท่านอย่างไม่มีข้อแม้ ”
“ อืม.. ” รัฟฟ์สัมผัสกับโลหะสีทองเย็นๆ บนลำคอตัวเอง
คงต้องหาผ้าพันคอมาปกปิดเอาไว้
เอลล์หันมาสนใจฟลอยด์บ้าง
สบเข้ากับแววตาขุ่นเคือง
“ มองอะไร ”
ถามเสียงขุ่น
เอลล์ถอนหายใจรับรู้ถึงความโกรธของฟลอยด์ เดินไปหยุดยืนตรงหน้าอีกฝ่าย สูดหายใจเรียกสติของตัวเองไตร่ตรองกับการตัดสินใจของตัวเองครั้งสุดท้าย
กระชับมือที่จับดาบ
ฟลอยด์เบิกตาโพลง
หรือว่ามันประหารข้า
“ นี่เจ้า ! ”
เอลล์ยื่นดาบให้กับฟลอยด์
ฟลอยด์งงงแต่ก็เผลอรับมาถือ “ หมายความว่ายังไง ? ”
“ ข้ามอบตำแหน่งกษัตริย์ให้เจ้าไง ” เอลล์ยิ้ม
“ หะ ” ฟลอยด์รับคำ
แต่ในหัวยังไม่เข้าใจ
เอลล์มันให้ตำแหน่งราชากับข้า ?
บ้าน่า มันไม่ใช่สิ่งที่อยากจะให้ก็ให้กันได้ง่ายๆ นะ
ข้าฝันรึเปล่า
“ เจ้าอยากได้มัน ข้าก็จะให้กับคนที่เหมาะสม ” เอลล์ยิ้มบาง
เพราะข้านั้นไม่ได้เหมาะสมกับการราชาดินแดนภูตสักนิด
การกระทำเห็นแก่ตัวที่ข้ากระทำตอกย้ำถึงความอ่อนแอของข้า
ถ้าหากดวงตาของข้าทำให้ปีศาจหรือผู้อื่นคลุ้มคลั่ง
คงจะมีผู้สูญเสียมากกว่านี้
ข้ามันเห็นแก่ตัวเกินกว่าจะเป็นราชาให้กับใคร
หลังจากเรียงเม็ดความคิดในหัวเสร็จก็พูดข่มเอลล์ “ รู้ตัวก็ดี ข้าต้องเป็นกษัตริย์ได้ดีกว่าเจ้าแน่ ” กวัดแกว่งดาบในมือเล่นอย่างย่ามใจ
“ แต่ยังไงเจ้าก็ต้องมีผู้ควบคุมอยู่ดี ” เอลล์หัวเราะ “ ไซริน ข้าขอฝากท่านควบคุมเขาไว้ด้วยแล้วกัน ” ตะโกนบอกไซรินที่ซุกซ่อนตัวในกลุ่มชาวภูต
ไซรินค่อยๆ คลานออกมา ไม่ได้หลับใหลตามไปแต่อย่างใด
“ ได้สิ ท่านเอลล์ ” รับคำเสียงใส “ แต่ถ้าหากเจ้านี่ทำอะไรไม่ดีข้า ข้าจะทำอย่างไรล่ะ ” คิ้วขมวดเคร่งเครียด
“ ฟ้องท่านอาจารย์สิ ”
ฟลอยด์สะดุ้งหันขวับไปมองไซริน “ ข้าไม่กลัว ! ”
ไซรินยักไหล่ “ เอาเถอะ มีชาวภูตอีกมากที่ข้ารู้จักและมากฝีมือ ถ้าหากเรียกมาช่วยพร้อมกัน เจ้านี้ก็ไม่น่ารอดหรอก ”
“ ขอบคุณนะ ไซริน ” เอลล์พูดเสียงนุ่มมองฟลอยด์ตรงๆ “ ฉะนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าที่เป็นกษัตริย์คนใหม่แทนที่ข้า ข้าจะไม่อยู่ในดินแดนนี้แล้วกัน ”
ฟลอยด์ชะงักความคิดของตัวเอง ที่กำลังกู่ร้องถึงความดีใจที่ความพยายามมาอย่างยาวนานของตัวประสบผล “ เจ้าจะไม่อยู่ในดินแดนนี้ ? ”
มืออุ่นๆ ที่กระชับกับมือของเอลล์
ทำให้เอลล์มั่นใจในคำตอบของตัวเอง
“ อืม ข้าจะไปอยู่ดินแดนปีศาจกับมังกรไฟ ”
ฟลอยด์เงียบกับคำตอบของเอลล์
ความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดระหว่างมังกรกับภูต
ฟลอยด์เงียบไปนานมาก “ ข้าขออวยพรให้พวกเจ้ามีความสุข ” และพูดประโยคที่คิดว่าตัวเองไม่คิดจะพูดกับอีกฝ่ายมาก่อนในชีวิต
ประโยคที่ออกมาใจจริง
ไม่ใช่การเสแสร้งหรือจิกกัดเหมือนดังทุกที
“ ขอบคุณ ”
รับคำขอบคุณของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
รัฟฟ์พูดบ้าง “ ข้าก็ขออวยพรให้เจ้ามีความสุขมากเช่นกัน ”
เอลล์ยิ้มรับอายๆ
ให้ตายข้าหลับไปตอนไหนกัน ?
อันตรายๆ
เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นเมื่อเวทมนตร์ของอสูรหายไป
สติหวนคืนสู่เจ้าของร่าง
คล้ายสัญญาณบอกถึงเวลาที่สมควร
เอลล์ทอดมองรอบตัวด้วยแววตาอ่อนโยน ซึมซับความรู้สึกการเป็นราชาดินแดนครั้งสุดท้าย เผลอน้ำตาไหลเมื่อเห็นร่างของท่านพ่อทอดร่างอยู่บนพื้น
เอลล์ร้องไห้ออกมา
เสียงสะอื้นดังแผ่วเบา
ลุกซ์รวบตัวเอลล์มากอดแน่น ปลอบโยนอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำปลอบประโลม
คาร์บิลัสวาดวงเวทเคลื่อนย้ายบนพื้นพร้อมๆ กับดึงตัวฟาร์คัสมากอดไว้ด้วยแขนข้างเดียว มืออีกข้างคว้าคอเสื้อดัฟฟ์ที่งอแงจะเล่นกับนักโทษภูต เมื่อทุกร่างที่ต้องการจะไปยังดินแดนปีศาจอยู่ในวงเวทครบ คาร์บิลัสเอ่ยร่ายเวทจบปล่อยให้วงเวทนำพากลับไปยังดินแดนปีศาจ
เหลือไว้เพียงผู้ที่ดำรงอยู่
ได้ใช้ชีวิตต่อไป
แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด
เพิ่มเติมสิ่งที่ขาดหาย
ให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
--------------------------
ตอนนี้ย้าวยาว 5555 เพราะเป็นตัวเคลียร์ปมด้วยแหละเลยยาวมาก
ใครมีอะไรสงสัยถามได้น้า ตอนนี้แต่งตอนเบลอๆ บ้างตื่นบ้าง หลายวันเลย
ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นตอนจบของภาค์เอลล์ได้เลยแฮะ
เดี๋ยวตอนหน้าจะแต่งตอนอยู่แดนปีศาจแล้วก็อาจลามไปยังดินแดนนกบอกลางด้วย
# แต่ตอนนี้ไปนอนดีกว่า ง่วงมาก
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ
--- ตอบเมนต์ ----
คุณ BlueCherries : ตอนนี้เฉลยหมดเลย ><
คุณ lizzii : มาแล้ว แก๊ซ !
คุณ rayaiji : ง่า ไม่เห็นตั้งนาน นึกว่าเลิกอ่านแล้ว 5555
// กอด