Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]  (อ่าน 287630 ครั้ง)

ออฟไลน์ YOSHIKUNI RUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
พี่วินอย่างโหดดดด  o13 o13
มาเลย..เจ้าพวกวายร้าย อุวะฮะฮ่าฮ่า...(บ้าไปล่ะ :katai2-1:)

ยิ่งอ่านยิ่งอิน เดวปิดเทอมหาsword art online ดูอีกที จะได้เข้าถึงอารมณ์ของเกม~~

ออฟไลน์ By zellow boy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกมากกกก. รอน้าาา

ออฟไลน์ paiongza1669

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบมากๆเลยครับ แต่งได้สนุก รอตอนต่อไปนะคร้าบ  :impress2:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.12 กล่องปริศนา

   บริษัทใหญ่โตตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ผมมาตามการนัดพบจากอาจารย์เมื่อคืน ทันทีที่เกิดเข้าบริษัท หน้าเคาน์เตอร์มีคนคุ้นหน้าอีกสองคน

   คนหนึ่งเป็นชายร่างสูงหุ่นนักกีฬากำลังยืนทำหน้าเซ็ง เขามีเรือนผมสีน้ำตาลยุ่งไม่เป็นทรง ดวงตาเหล่มองคนข้างตัวเป็นระยะ อีกคนเป็นเด็กสาวในชุดม.ปลาย เรือนผมหยักศกสีทองถูกมัดรวบไว้ด้วยโบว์สีขาว ดวงตาสีเดียวกันหันมาทางผมพอดี

   “คุณกลมาแล้ว เหลือแค่หัวหน้าปาร์ตี้ของเราสินะ” เสียงใสพูดพร้อมรอยยิ้มหวาน ดวงตาสีน้ำเงินหรี่มอง

   ผมรู้แต่แรกแล้ว ลินไม่ได้สนใจผมในเชิงความสัมพันธ์ชายหญิง เธอแค่สนใจคนที่เก่งกว่าเท่านั้นเอง แต่ดูเหมือนจะมีสองคนที่ไม่คิดแบบนั้น วัตส่ายหน้าระอาทุกครั้งที่ลินคุยกับผมอย่างสุภาพ ไวภพที่มองผมสลับกับลินแล้วทำหน้าเซ็งโลกมากกว่าเดิม

   ถ้าพวกนายอยากให้ลินพูดดีด้วย พวกนายควรจะวางตัวให้ดูน่าเชื่อถือกว่านี้ นี่คือสิ่งที่ผมเคยคิดจะบอกทั้งคู่หลายครั้ง ทบทวนอยู่หลายรอบ สุดท้ายก็ไม่ได้บอก คิดว่านิสัยคนเราคงแก้ยาก ถึงแก้ไปมันก็ดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่ดี

   “ในเมื่อมากันพร้อมแล้ว ผมขอแนะนำตัวอีกครั้ง ผมผู้ดูแลวาโยที่นัดพวกคุณไว้เมื่อคืน จะเป็นคนนำทางไปยังห้องที่เตรียมไว้ครับ เชิญตามผมมาทางนี้”

   เจ้าของเสียงลุกขึ้นจากเคาน์เตอร์ เขาเป็นคนเดียวกับที่ถือทวนไล่ฟาดผู้เล่นในเกม บรรยากาศรอบตัวของเขาดูเป็นมิตร แบบนี้แหละที่ไม่น่าเข้าใกล้ เพราะไม่รู้ว่าภายใต้ใบหน้าสวยกับรอยยิ้มนั่นมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ซึ่งในอนาคต เขาจะมาเป็นหนึ่งในรุ่นพี่ของผม เห็นทีคงต้องทำใจตั้งแต่เนิ่นๆ รู้สึกว่าแผนกนี้จะมีแต่คนไม่ธรรมดาตั้งแต่หัวหน้ายันลูกน้อง แน่นอน รวมถึงว่าที่เด็กใหม่อย่างผมด้วย ถ้าผมปกติ คงไม่สามารถทดสอบจนเข้าแผนกนี้ได้หรอก

   “เดี๋ยว เหลือเพื่อนผมอีกคน” ไวภพถามในสิ่งที่ผมเองก็สงสัย แม้ในใจจะมีคำตอบอยู่แล้วก็ตาม

   “น้องวัตมาก่อนแล้วครับ ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่พวกคุณ ไม่ต้องห่วง หัวหน้าแผนกของผมคุยกับเขาด้วยตัวเองเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อเช้า ส่วนพวกคุณ เดี๋ยวผมจะพาไปเอง”

   พอได้ยินแบบนั้น พวกเราหันมามองปรึกษากันแล้วเดินตามหลังคนนำทางไป ผมยอมรับว่าตัวเองเสียดายไม่น้อยที่ไม่ได้เจอกับวัตตัวจริงระยะสัมผัสได้ แต่ไม่แปลกใจเท่าไหร่ คนๆ นั้นคงไม่ยอมให้น้องชายตัวเองมาเจอกับผมง่ายๆหรอก

   ไม่เป็นไร ตอนนี้ไม่ได้เจอ สักวันก็ต้องเจอ ถ้ายังไม่เจออีก ผมจะเป็นฝ่ายไปหาวัตด้วยตัวเอง การสืบเรื่องราวของคนๆ หนึ่งสำหรับผมมันไม่ยาก ต่อให้พี่ชายขี้หวงจะเก็บเงียบแค่ไหน ผมก็มีหนทางสืบได้อยู่ดี เครือข่ายข่าวสารมันไม่ได้มีเพียงในคอมพิวเตอร์เท่านั้น ยังมีข้อมูลจากผู้คน

   สิ่งที่ผมมั่นใจแล้วหนึ่งอย่างก็คือ วัตอยู่มหาลัยเดียวกับผม จากยูนิฟอร์มที่ไวภพใส่มา ไม่แน่ว่า อาจจะได้เจอกันตอนรับน้องก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้น จะเป็นทีของผมล่ะ

   “ห้องนี้ครับ ทำตัวตามสบายนะครับ”

   วาโยเปิดประตูเชิญพวกเราเข้าไปในห้องรับรอง ภายในมีโต๊ะหนึ่งตัว พร้อมเก้าอี้สามตัวสำหรับพวกผม และคนที่นั่งรออยู่ฝั่งตรงข้ามอยู่แล้ว เขามีรูปร่างสูงโปร่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยมาดของผู้ใหญ่ ดวงตาสีดำมองมาที่พวกเราทีละคน พอพวกเรานั่งกันครบทั้งหมด เขาถึงเริ่มเปิดปากพูด

   “สวัสดี ฉันชื่อชินกฤต เป็นตัวแทนของบริษัทมาเพื่อตอบคำถามของพวกคุณ”

   พวกผมยกมือไหว้ เขายกมือรับด้วยรอยยิ้ม คนๆ นี้เท่าที่ผมจำได้ เขามักจะอยู่ข้างตัวพี่ชายของวัตเสมอ เจ้าตัวไม่มาเอง มีโอกาสที่วัตยังอยู่ที่นี่ เพียงแค่อยู่ด้านบน ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง เดาไปเรื่อยเปื่อยว่าตอนนี้วัตกำลังทำอะไรอยู่ ชินกฤตมองผมนิ่ง ผมจ้องกลับพลางยกยิ้มมุมปาก

   ลินมองพวกเราด้วยความแปลกใจ ไม่สิ ในนี้คงมีแค่ลินคนเดียวที่ดูปกติ ไวภพ ทันทีที่เห็นว่าใครเป็นตัวแทนมาพูดคุยด้วย สีหน้าเซ็งระดับธรรมดาของเขา เลื่อนระดับเป็นเซ็งโลกทันที แถมยังตัดบทพูดก่อนที่ผู้ใหญ่เพียงคนเดียวในห้องจะเริ่มบอกอะไรซะอีก

   “พี่ชิน ถ้าไม่มีอะไรพิเศษ ผมขอกลับก่อนนะ”

   “จะเอางั้นก็ได้”

   “งั้นผมฝากบอกวัตด้วยนะครับ คืนนี้เข้าเกมหาผมด้วย ผมไปล่ะ สวัสดีครับ” ไวภพยกมือไหว้ปิดท้ายแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้อง ตอนนี้จึงเหลือเพียงผมกับลินที่จะต้องคุย

   รองหัวหน้าแผนกหันกลับมาคุยกับพวกเราต่อ เขาเริ่มบทสนทนาสบายๆ เหมือนชวนคุยเรื่องทั่วไป ก่อนจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำ พร้อมบอกสาเหตุที่เรียกพวกเรามาแบบไม่ปิดบัง

   “พวกเธอคงสงสัย ทำไมถึงเรียกมาแต่ไม่เรียกคนอื่นๆ มาด้วย ฉันไม่อยากปิดบังขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน วินเขาเป็นห่วงน้องชายเลยอยากเรียกพวกเธอมาคุย”

   มือหนาประสานบนโต๊ะ ขณะมองพวกเราอย่างสงบ

   “ฉันพอเข้าใจค่ะ คุณวินเป็นคนพิเศษ น้องชายของเขาอาจจะถูกใช้ประโยชน์ได้ แต่วันหลังถ้าอยากจะทดสอบกันช่วยใช้วิธีอื่น ที่สำคัญ ทำแบบนี้สักวันหนึ่งวัตจะไม่มีคนคบ ขอตัวก่อนนะคะ”

   ไม่แปลกที่เจ้าตัวจะไม่พอใจ โดนสงสัยว่าเป็นพวกหวังผลประโยชน์นี่นะ

   “เดี๋ยวก่อนครับ ผมต้องขอโทษแทนด้วย เอาไว้ถ้าต้องการอะไร หรือของที่ได้พอใจ สามารถติดต่อมาหาเราได้ทุกเมื่อ”

   รองหัวหน้าแผนก รั้งตัวหญิงสาวไว้ พูดด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ลินถอนหายใจพยักหน้ารับน้อยๆ แล้วเดินจากไป

   “ถือว่าตกลงล่ะนะ ส่วนนาย ตามฉันมา วินมางานให้นายทำเจ้าหนู”

   ผมเดินตามรองหัวหน้าขึ้นมาชั้นบน เขาแยกตัวไปทำงานต่อ ทิ้งผมไว้กับอาจารย์ ชายผมทองหันมายิ้มไม่น่าไว้ใจ

   “นายรู้รึเปล่า ว่าฉันเรียกนายมาทำไม”

   “ขนาดอาจารย์ไม่รู้ ผมจะรู้ได้ยังไง” ผมสวนกลับไปด้วยความปากไว ปกติไม่ยอมก้มหัวให้ใครอยู่แล้ว อีกฝ่ายคิ้วกระตุก คงอยากถีบผมส่งกลับให้พ่อเต็มที่

   “วันนี้ฉันจะให้นายมาศึกษางาน” หน้าจอมากมายรอบตัวเขาถูกปิดลงแทนที่ด้วยจอเดียวปรากฎด้านหน้าผม ในนั้นมีคำสั่งกับข้อมูลมากมายที่ผมต้องศึกษาและทำส่ง

   “ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ถ้ายัง ห้ามเอาข้อมูลออกไป ให้กลับมาทำต่อวันพรุ่งนี้”

   งานแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา ที่น่าสงสัยคือ ท่าทางดูมีความสุขของอาจารย์ผู้นอนไม่เคยพอต่างหาก ผมเลยลองถามเขาดู

   “อาจารย์จะไปไหนครับ”

   ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมตอบง่ายๆ มุมปากคนตรงหน้ายกยิ้มเหนือกว่า

    “เที่ยวกับน้องชาย”

   กลายเป็นผมที่คิ้วกระตุกแทน จงใจหยามกันชัดๆ ผมมองตามหลังมังกรตัวร้ายเฝ้าหอคอยไม่ให้ผมไปหาเจ้าหญิง พ่อเฝ้าบอกกับผมทุกวันว่า อย่าทำให้เขาไม่พอใจจนถีบส่งผมออกไปไกลๆ ผมอยากบอกพ่อเหลือเกิน มันเป็นไปไม่ได้ ก็ในเมื่อผมแตะเกล็ดย้อนเขาไปแล้ว แถมยังวางแผนจะชิงมาไว้ในกำมืออีก ผมคงบอกให้พ่อได้แต่ทำใจ ยังไงซะลูกศิษย์ที่ดี ต้องเอาชนะอาจารย์ให้ได้ ถึงจะถือว่าสำเร็จครบหลักสูตร


   ผมกำลังเป็นเด็กรับใช้ ไม่ได้ทำงานให้ใครอื่นเลย แต่เป็นพี่ชายผมเอง ขณะนี้ ผมยืนคาดผ้ากันเปื้อนอยู่ในห้องซักล้างประจำแผนกของพี่วิน ด้านซ้าย ขวา หลัง มีตระกร้าผ้ามากมายก่ายกอง หลักๆ แล้วของพี่ผมหนึ่งตระกร้า ของแฝดอีกคนละหนึ่ง ส่วนของพี่ชิน ซักตากเรียบร้อยไปพร้อมกับผ้าตระกร้าแรกของพี่วินแล้วครับ

   ทีแรก ผมก็เล่นเกมตามที่พี่บอกอยู่หรอก แต่ทนเห็นกองเสื้อผ้าของพี่ไม่ไหว เลยจัดการซักซะ นึกได้ว่าพี่ชินเองน่าจะมีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก เลยย่องเข้าห้องพี่ชินขนมาซักด้วยเลย ผลคือ แฝดวายุวาโยเห็น ขนมาให้ผมช่วยซักอีกกองใหญ่

   “วัตซักผ้าให้พี่ น่าดีใจจัง”

   พี่ชินยิ้มร่าเดินเข้ามาหา แต่ขาเตะตะกร้าของแฝดไปไกลๆ ท่าทางเหมือนนางร้ายในละครเลยพี่

   “พวกนั้นเป็นไงบ้างครับ เสียดายชะมัด ไม่ได้เจอหน้า ทั้งที่มีโอกาสแท้ๆ” มือหนายื่นมือจับหัวผมโยกไปมา

   “ทุกคนไม่มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะไวไว พอเห็นหน้าพี่ปุ๊บรับขอตัวกลับอย่างกลับกลัวใครมาทวงหนี้ จริงสิ ฝากพี่มาบอกเราด้วย ว่าคืนนี้ให้เข้าเกม”

   “อ่อ โอเคครับ” ได้ยินเสียงเครื่องเตือนผ้าซักเสร็จ ผมโยนตระกร้าใหม่เข้าไปแทน เรื่องสีตกไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่มีหลายเครื่อง ให้ผมแยกสีโยนซักเรียงคนได้สบายๆ

   “ทำไมเปลี่ยนอาชีพตัวเองเป็นแม่บ้าน” พี่วินโผล่มาพร้อมกลิ่นกาแฟ พี่ชินขมวดคิ้วฉับทันที สงสัยพี่วินคงแอบซดโฮกระหว่างพี่ชินไม่อยู่แหง

   “เห็นแล้วมันอดไม่ได้อะพี่ ซักเสร็จไปกินข้าวเนอะ พี่รีบป่าว” พี่ชายสองคนส่ายหัว

   “ซักแค่ของพี่กับชินก็พอ ส่วนที่เหลือ โยนๆ ลงเครื่องอย่างเดียวไม่ต้องไปสนใจ”

   เอิ่ม จะดีรึ เดี๋ยวสีก็ตกกันมั่วหมดหรอก ความจริงของพี่สองคนผมซักตากเสร็จแล้วแหละ เหลือแค่สองแฝด เอาเป็นว่าผมแยกให้ก่อนลงเครื่อง   

   บางครั้งผมก็สงสัยนะ ตกลงบริษัทนี้เป็นสถานที่ทำงานหรือคอนโดหรูกันแน่ มีทุกอย่างพร้อมอยู่ซะขนาดนี้ ไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมพี่วินไม่ค่อยกลับบ้านสิงอยู่แต่บริษัทจนกลายเป็นบ้านหลังที่สอง เรื่องนี้ผมมารู้ในภายหลัง มีแค่ชั้นของแผนกพี่วินคนเดียวที่มีทุกอย่างครบถ้วน ส่วนชั้นอื่นเป็นเหมือนบริษัททั่วไป

   หลังแยกผ้าใส่เครื่องอีกชุดหนึ่งเสร็จ พี่วินลากผมไปกินข้าว แล้วให้พี่ชินผู้เปรียบเสมือนคนขับรถประจำตัว มาส่งผมที่บ้าน อันดับแรกผมตรงดิ่งไปหานายท่าน กอดจูบลูบคลำ ขนนุ่มๆ เอาแก้มถูๆ ฟัดพุงแมวแลกแถมรอยเล็บประดับแขนประปรายจนหนำใจ แล้วไสหัวตัวเองไปอาบน้ำกระโดดขึ้นเตียงใส่เครื่องเล่น

   ทุกอย่างเหมือนเดิม พอผมรู้สึกตัวอีกทีก็มีเสียงต้อนรับฉบับดัดหญิงของตัวเองดังขึ้น พร้อมส่งตัวผมไปยังที่หมาย คราวนี้ผมโผล่มาอยู่ตรงน้ำตก ที่เดียวกับก่อนโดนลักพาตัวไปขังกรงหมา ผมสอดส่องสายตาไม่เห็นใครแถวนี้สักคน เปิดหน้าจอรายชื่อเพื่อนขึ้นมาดู มีแค่ไวไวที่ออนแล้ว เลยจัดการทักมันไป

   “ไวไว อยู่ไหน ฉันอยู่ตรงน้ำตกที่เดิม”

   “เฮ้ย! ทักอะไรมาตอนนี้ เกือบถูกมอนเชือดแล้ว แปบๆ เดี๋ยวติดต่อกลับไป รอแถวนั้นแหละ!”

   เสียงโวยวายมันดังมาพร้อมเสียงเอฟเฟคโครมคราม ไม่รู้มันซัดกับมอสเตอร์หรือต่อยกับพวกนักเลงกันแน่ ผมขี้เกียจรอ เลยเปิดแผนที่แล้ววิ่งไปหามันตามเครื่องหมายที่ขึ้นอยู่บนจอเลย สองเท้ากระโดดไปตามกิ่งไม้ มือเรียกเคียวประจำตัวออกมา

   เห็นมอนสเตอร์กบตัวโตกำลังจะกระโดดทับกระต่ายให้แบนเป็นกล้วยปิ้งอยู่ริมหนองน้ำ เลยจัดการใช้เคียวฟาดจนมันปลิวไปอีกด้านแล้วกระโดดลงไปยืนเพิ่มเลือดให้ไอกระต่ายพันธ์เถื่อน

   “ทำไมมาตีกบอยู่แถวนี้ได้ล่ะเพื่อนเอ๋ย”

   พวกเราหันหลังชนกัน ไวไวเหลือบมองหางตานิดนึง แล้วใช้ไพ่ในมือตัดขากบยักษ์ที่เตรียมจะโดดเข้ามาจนมันลงไปดิ้นแด่วๆ บนพื้นเป็นที่น่าอนาถใจยิ่ง

   “มาตีมอนฆ่าเวลาระหว่างรอนายไงเพื่อนวัต ช่วยดึงความสนใจพวกมันที ฉันจะขึงลวดจัดการทีเดียว”

   ผมพยักหน้ารับ กระโดดขึ้นฟ้าแล้วกางปีกค้างคาวบินหลบของเหลวสีเขียวอี๋ที่กบมันพ่นออกมา มันไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนแบบพิษของแมงมุมที่ผมเคยเจอมา แต่มันเป็นเหมือนยางเหนียวหนืด ถ้าโดนไปคงกลายเป็นแมลงโดนจับรอให้กบทับแหงๆ

   ไวไวย่อตัวลง ใช้แรงขาดีดตัวขึ้นไปยืนอยู่บนยอดต้นไม้แถวๆ นั้น ปล่อยให้ผมซัดนัวกับกบอยู่ด้านล่าง สารพัดสกิลถูกเรียกใช้ ไม่ว่าจะเป็นสกิลเรียกลูกสมุนค้างคาวออกมาป่วน ทักษะดูดเลือดมอสเตอร์มาเพิ่มเลือดตัวเอง ผสานกับอาวุธประจำตัวต้อนพวกมันให้มารวมกันอยู่ตรงกลาง เสียงอ๊บๆ แอ๊บๆ ดังไปทั่ว

   ผมเงยหน้ามองไวไวที่ยกนิ้วส่งสัญญาณ ปีกกางออกกว้าง บินขึ้นไปยืนบนยอดไม้เดียวกับไวไว พอไร้คนไล่ต้อน พวกกบกระโดดใส่พวกผมทันที พร้อมกับเลือดกบสาดกระจาย กลายเป็นการสังหารหมู่ที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก

   กบแอ๊บแอ๊บ เลเวล 50 ถูกสังหาร 6 ตัว ค่าประสบการณ์ถูกแชร์ให้คนในปาร์ตี้...

   เจ้าชายกบ เลเวล 55 ถูกสังหาร เนื่องจากเป็นมอนสเตอร์ภารกิจ ‘เจ้าชายกบมาจุ๊บฉันที’ ผู้สังหารจะไม่ได้รับไอเท็มภารกิจ แต่ได้รับกล่องปริศนาแทน...

    พวกเราหันมามองหน้ากันทันที หลังฟังเสียงแจ้งเตือนของระบบจนจบ ด้านล่างนอกจากซากกบที่สลายไป เหลือเพียงไอเท็มจำพวก ลิ้นกบ ขาหลังกบ และเจ้ากล่องปริศนาสีเขียววางเด่นหรา

   “ไม่ยักรู้ว่าบรรดากบพวกนั้นมีเจ้าชายกบด้วย เห็นตัวหนึ่งมีมงกุฎ นึกว่าเป็นบอสกบซะอีก” นักมายากลกระต่ายบ่นงึมงำกระโดดลงมาเก็บของเข้ากระเป๋า แบ่งส่วนของผมกับตัวเอง

   “ไหนๆ ก็ฆ่าไปแล้วหนิ เดี๋ยวรอพวกเรามากันครบ ลองเปิดกล่องนี้ดูดีกว่า” มือขาวซีดรับไอเท็มจากเพื่อนมาใส่กระเป๋า พร้อมหยิบกล่องมายัดใส่ด้วย

   “เอ้อ เจอพวกลินตัวจริงเป็นไงมั้ง” ผมตื่นเต้นจริงๆ นะ อยากเจอบ้างแต่ไม่มีโอกาสได้เจอ ไวไวมันหรี่ตามองผม รู้สึกเหมือนรอยยิ้มกวนส้นบนหน้ากากมันตอนนี้ตรงกับสีหน้าจริง

   “ฮั่นแน่ อยากรู้เรื่องของกลก็บอกมาตามตรงเถอะเพื่อนวัต มาๆ ไวไวคนนี้ใจดีมีเมตตาโปรดค้างคาวตัวน้อยๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าเป็นยังไง”

   ไวไวมันเล่าว่า ลินไม่ใช่เด็กมหาลัยอย่างที่พวกผมคิด แต่เป็นเด็กมอปลายท่าทางแก่แดด ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่าไวไวมันคงจะเพิ่มเข้าไปเอง เลยฟังแบบไม่ใส่ใจ ตอนเจอทีแรกลินมองมันแบบหัวจรดเท้า เท้าจรดหัวอย่างอึ้งๆ ปากพึมพำอะไรบางอย่าง อะไรมากกว่าที่คิดนี้แหละ แล้วก็ไม่ยอมมองมันอีกเลย ชวนคุยก็ไม่ค่อยคุย หลบหน้าลูกเดียว ไวไวเลยเซ็งไปคุยเล่นกับพี่โยที่ลงมารอรับแทน

   หลังจากนั้นไม่นานกลก็โผล่มาด้วยชุดลำลอง รูปร่างหน้าตาเหมือนในเกมเปี๊ยบ ติดแค่ไม่มีหูกับหางเท่านั้นเอง ผมฟังไปพยักหน้าไป

   “พวกนายทำอะไรกันน่ะ หาไส้เดือนกินเหรอ”

   เสียงดังมาจากเหนือศีรษะ ผมกับไวไวเงยหน้าขึ้นมอง เห็นสาวสวยในชุดนักเวทสีดำ ใช้มือเล็กแหวกพุ่มไม้ที่พวกเราอยู่ ดวงตาสีสวยเหมือนลูกแก้ว มองเหมือนพวกผมเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ต้องขุดหาอะไรในดินกิน พวกเราเลยลุกพรึบทันที ปัดใบไม้ออกจากหัว เดินลุยออกมายืนตรงหนองน้ำเหมือนเดิม แอบดีใจที่ลินกลับมาเล่นเกมอีกครั้ง ที่เหลือคือพ่อหมาป่า มารอลุ้นไปกับผมนะ

   “อย่าเอารสนิยมตัวเองมายัดเยียดให้คนอื่นสิหนูลิน” ไวไว นายควรเปลี่ยนจากกระต่ายเป็นเผ่าเดียวกับกลนะ จากใจผมเลย

   “ใครใช้ให้นายเรียกชื่อนั้นกันห๊ะ!” เสียงใสแวดกลับท่าทางยียวนของไวไว ผมรู้สึกหูอื้อชั่วขณะ ส่วนไวไว ป่านี้หูกระต่ายของมันคงวิ้งไปแล้ว ยืนเอ๋อไปเลย

   เห็นลินฮึดฮัด ประกอบกับสิ่งที่ไวไวเล่า ผมปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ยื่นมือไปดึงหน้ากากไวไวออก ใบหน้าสวยหวานของสาวน้อยขึ้นสีเรื่อทันที พอผมใส่กลับให้มัน สาวน้อยกลับร่างเป็นนางแม่มดตามเดิม ผมรู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองคงยิ้มได้เจ้าเล่ห์มาก ทั้งคู่ถึงถอยหลังกันไปคนละสองก้าว มีเรื่องสนุกให้เล่นแล้วสิ

   หมับ

   คราวนี้นอกจากจะถอยหลัง สองลิน ไวไว อ้าปากค้าง ดวงตาแทบถลนออกมาจากเบ้า พร้อมสัมผัสอุ้มแผ่นอกแกร่งที่แนบแผ่นหลัง ความคิดชั่วร้ายของผม พลันสะดุดทันที

   “เล่นอะไรกันอยู่เหรอ”

   เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู ผมกระโดดไปหลบอยู่หลังไวไว มองหมาป่าหนุ่มด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ บอกมาเลย ใครเอาอะไรแปลกๆ ให้หมาผมกินกัน โผล่มาถึงได้มีอาการชวนถอยหนีแบบนี้ อย่างกับจงใจเอาคืนใครสักคนผ่านทางผมงั้นแหละ

   “เออ... เฮ้ พวกเรามาครบแล้วหนิ ตะกี้ฉันกับไวไวตีเจ้าชายกบมา ได้กล่องปริศนา เรามาลองเปิดกันเถอะ”

   ต้องเปลี่ยนเรื่อง ปรับบรรยากาศสีชมพูอมม่วงนี้ด่วน ทุกคนกระพริบตาปริบๆ ผมได้ยินเสียงหัวเราะต่ำในคอของกลที่เดินเข้ามารวมกลุ่มกับพวกเรา ต่างหูบนหูสามเหลี่ยมเรืองแสงนิดหน่อยก่อนจางไป สงสัยเจ้าตัวใช้มันวาปมาหาผม ถึงได้เข้าประชิดตัวซะขนาดนั้น

   “จะเปิดก็รีบเอาออกมาเปิดสักทีสิ”

   พูดถึงเปิด ไม่รู้แต่ละคนเปิดดูของที่ได้จากพี่วินแล้วรึยัง เห็นว่าเป็นไอเท็มประจำคำสาป แม้จะฟังดูแปลกๆ แต่ต้องเข้าใจว่า ทันทีที่พวกเราเข้าเกมจะถูกคำสาปอย่างหนึ่ง ให้อารมณ์คล้ายๆ กับสุ่มอาชีพพิลึกๆ ให้ ซึ่งของที่พี่วินให้มา เป็นของใช้ประจำอาชีพของพวกเรา

   อย่างของผมเป็นขวดยาเก็บรักษาเลือด สำหรับใช้รีดเลือดคนมาเก็บไว้ให้คุณภาพยังสดใหม่เหมือนเดิม ซึ่งหาซื้อได้จากไอเท็มมอล ใช้เงินจริงในการซื้อ เป็นสินค้าระดับ S ราคาเอาเรื่องอยู่ อย่างว่า คนที่สุ่มได้แวมไพร์ไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียวสักหน่อย ในเกมมีอีกเพียบ ถึงผมจะไม่เคยเจอก็ตาม ส่วนของคนอื่นผมไม่รู้ คงต้องรอพวกเขาควักออกมาใช้ถึงจะได้เห็นกัน

   โดนสายตาเร่งจากลิน ผมเลยเลิกคิดถึงขวดยาสีเลือดหมูลายดอกกุหลาบในกระเป๋าของตัวเอง แล้วล้วงเอากล่องปริศนาออกมาวางกลางวง มีหนองน้ำกับต้นไม้เป็นแบล็คกราว

   “กล คิดว่ามันอันตรายรึเปล่า” ผมหันไปถามคู่มือเกมเคลื่อนที่เพื่อความชัวร์

   “ไม่รู้ ฉันไม่เคยเห็น อยากรู้คงต้องลองเปิด”

   คำตอบได้อีกครับพี่ นี่ถ้าเป็นไวไว หรือคนอื่นตอบ ผมคงเข้าใจว่ามันกำลังกวนตีนผมอยู่ ในเมื่อกลไม่รู้จัก ไวไวกับลินไม่มีปัญหา ไอผมก็อยากรู้อยากเห็นว่าด้านในมีอะไร จะมีไอเท็มเจ๋งๆ รึเปล่า เลยจัดการเปิดด้วยตัวเองซะเลย

   เสียงระบบแจ้งเตือนไม่เป็นมงคล

   กล่องปริศนา เปลี่ยนเป็น กล่องความแค้นของเจ้าชายกบ ไอความแค้นจะมีผลกับคำสาปที่ติดตัวผู้เล่นมาตั้งแต่เริ่มเกม ขอให้โชคดี

   “ชิบแล้ว รีบทิ้งไปเร็ว!!” ไวไวลุกหนีคนแรก ผมมัวอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินเลยถือค้างไว้แบบนั้น กลไหวตัวทันปัดกล่องออกจากมือผม ปลิวไปตกอยู่ตรงโคนต้นไม้ ควันสีเขียวลอยคลุ้งออกมาจากกล่อง ครอบคลุมพวกเราทั้งหมด เสียงไอค่อกแค่กดังเป็นระยะ จนกระทั่งควันเหล่านั้นหายไป พร้อมกับฝันร้ายของชีวิต

   “ฉันเพิ่งรู้วันนี้ สัตว์ที่นำพาความซวยมาให้ไม่ใช่แมวดำ หรืออีกาดำ แต่เป็นค้างคาวที่ชื่อว่าวัต” เสียงเล็ก โวยวาย เต้นผางๆ ตรงหน้าผม หูกระต่ายโบกไปมาจากการขยับตัว ผมรวบหูสองข้างขึ้นแล้วยื่นออกไปห่างตัว มองแขนขาสั้นพยายามจะเตะต่อยผมเต็มที่

   “อุ๊บ.... ก๊ากกกกก!! กระต่ายแคระ! โคตรเหมาะเลยเพื่อน ฮ่าๆๆ”

   ผมหัวเราะจนปวดท้อง เพื่อนนักกีฬาถูกย่อส่วนเหลือเท่าขนาดเด็กสิบขวบได้อย่างน่ารักน่าชัง ให้ตาย คำสาปมันยังใจดีเปลี่ยนชุดให้ด้วย จากชุดนักมายากล กลายเป็นชุดสูทสำหรับเด็ก กับกางเกงทรงฟักทอง เห็นหางเล็กพองขนฟูกลมอย่างเดือดๆ หน้ากากโจกเกอร์หดลงตามเจ้าของ กลายเป็นหน้ากากเด็กเล่น

   “อืม คำสาปนี้ก็ไม่เลวนะ ฉันชอบ” เสียงแตกหนุ่มดังขึ้นจุดเดียวกับที่ลินยืนอยู่จนถึงเมื่อครู่ ผมกับไวไวอ้าปากเหวอเป็นรูปตัวโอ มองภาพเบื้องหน้า

   ลินแม่มดสาวสวย กลายเป็นเด็กหนุ่มตัวสูง รูปร่างพอๆ กับไวไวตอนปกติ อยู่ในชุดคลุมดำยาวแบบพ่อมด ใบหน้าสวยหวานเปลี่ยนเป็นคมคาย ดวงตาชี้ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูป จัดได้ว่าหล่อจนผู้ชายอย่างผมอยากเอาพิษแมงมุมมาสาดหน้า เพื่อลดศัตรูลง

   เดี๋ยวนะ แบบนี้อาหารตาเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มก็หายไปน่ะสิ บ้าจริง ผมเกลียดมัน ไอคำสาปบ้า ทำลายโอเอซิสของผู้ชายอกสามศอก

   “ถูกลดไซส์ให้สมกับเป็นกระต่าย ถูกเปลี่ยนเป็นผู้ชายดูมีกำลังตรงข้ามกับแม่มดที่ควรบาง เข้าท่าดี”

   กลยืนลูบคางสรุปผลจากการถูกคำสาปซ้ำซ้อนของพวกเรา ไวไวทำหน้าเหมือนโลกถล่มระหว่างส่องตัวเองบนผิวน้ำ นายไม่กลัวถูกกบมันโผล่มากินรึไง ยิ่งตัวเล็กๆอยู่ ทางลินหมุนตัวสำรวจรูปร่างตัวเองใหญ่ จวนจะลามไปสำรวจที่ลับจนผมต้องรีบถลาเข้าไปห้าม เฮ้ๆ แม่คุณ พอเป็นผู้ชายแล้วนิสัยดั้งเดิมมันออกมารึไงเนี่ย

   “โลกนี้ไม่ยุติธรรม พวกฉันโดน ทำไมพวกนายไม่โดนไปด้วยวะ” กระต่ายแคระหันมาโวยใส่ผมกับกลที่ยังคงความหล่อเหมือนเดิม ไม่มีส่วนไหนเพิ่ม หด ลด เปลี่ยนแปลง

   “โดนสิ ระบบมันแจ้งแค่ฉันเท่านั้น ทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง ฉันจะกลายเป็นหมาป่า”

   หมาป่าหนุ่มพูดด้วยสายตาว่างเปล่า หางหยุดนิ่งเหมือนอารมณ์ที่นิ่งตาม พวกเราจนซึ่งคำพูด ไม่รู้จะต่อประโยคยังไงดี จะว่าดีก็ไม่ใช่ แย่ก็ไม่เชิง พูดยากจริงๆ

   “แล้วนายล่ะวัต เป็นไงบ้าง” ลินหันมาเลิกคิ้วถามผม

   เออนั่นดิ คนอื่นเขาโดนคำสาปสนุกๆ กันหมด ผมไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ระบบไม่แจ้งอะไรด้วย ผมเกาแก้ม ยิ้มแห้งให้กับดวงตาสามคู่ที่มองมา ฉับพลันความรู้สึกบางอย่างปะทุขึ้นจากภายใน ผมชะงักนิ่ง ยกมือกุมลำคอ

   คอแห้ง... จู่ๆ ผมรู้สึกคอแห้งผาก เหมือนคนที่ขาดน้ำอย่างรุนแรง ผมรีบรื้อเอาขวดน้ำในกระเป๋ามายกดื่มทันที ทุกคนมองด้วยความสงสัย กลหรี่ตามองสังเกตการณ์ หนึ่งขวด สองขวด สามขวด จนเริ่มขวดที่สี่ ความกระหายไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย ผมมองมือ เล็บสีดำงอกยาวขึ้น

   “วัต ตานายเป็นสีแดง...”

   ผมเบิกตากว้าง วิ่งไปชะโงกดูหน้าตัวเองบนผิวน้ำ สงสัยลินกลัวผมเห็นไม่ชัด เลยส่งกระจกมาให้ผมส่อง ไม่มีเงาสะท้อน! ผมไม่มีเงาในกระจก!!

   “ฉันพอรู้แล้วล่ะว่านายเป็นอะไร นายกลายเป็นแวมไพร์เต็มตัวแล้ววัต” สิ่งที่กลพูด ทำให้ผมกลืนน้ำลายอึก นั่นเท่ากับว่า ผมจะไม่ทนแดดเท่าที่ผ่านมา ผมจะมีดวงตาสีแดงในยามใช้พลัง และที่สำคัญ ผมต้องการเลือดตลอด ไม่ได้ดื่มเลือดเฉพาะเวลาบาดเจ็บอีกต่อไป

   คำสาปจากกล่องความแค้นเจ้าชายกบ ผู้เล่นวัต ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์โดยสมบูรณ์

   “กล...ฉัน....”

   ดวงตาสีแดงวูบไหว เหมือนมีอะไรมาครอบงำร่างกาย สิ่งที่เรียกว่าสัญชาตญาณ

   คอแห้ง เหมือนลำคอเป็นผุยผง หิวเหลือเกิน กลิ่นหอมหวาน ชีพจรที่เต้นเร่าอยู่ตรงนั่น รสเลือดที่เคยลิ้มลอง หวานละมุนลิ้นยิ่งกว่าไวน์รสเลิศจากที่ไหน อยาก...ต้องการ... อ่า...อาหารอยู่ตรงนี้แล้ว

   “กล! วัต!!”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 18:59:51 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
คำสาปจากกล่องถอนได้ไหมนี่ ไม่งั้นกลต้องสูบเลือดจนตัวแห้งแหงเลย

(ลินลิน+ไวไว??  :hao7:)

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
ไอเทมที่ GM ให้มา มียาแก้บ้างไหม  :katai1:
ถึงดูดเลือด + เลียแผล มันจะฟิน แต่สูบเป็นไดโว่ก็ไม่เอานะ  :sad4:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
mท่าทางไวไวจะน่ารักสุด ตอนนี้ 555+
แล้วจะแก้ได้ไงอ่ะ รอตอนต่อไปนะฮะ  :mew1:

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
กรี้ดมากๆ วัตรุกกลจะโดนดูดเลือดจนตัวซีดเลยมั้ย :hao7:

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
วัตค่อยๆดูดนะ เดี๋ยวกลเลือดหมดตัวววว
คำสาปซ้ำคำสาป ของวัตอันตรายมากกก

ออฟไลน์ maxiyorka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านรวดเดียวเลย สนุกน่าติดตามมากค่ะ

อยากรู้จังว่าเรื่องจะเป็นไงต่อ กลจะโดนดูดเลือดจนแห้งไหมเนี่ย5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
คุณสามีลำบากอีกแล้วววววววว ตุนเลือดเพื่อคุณภรรยาด้วยนะคะ
ต้องรีบแกคำสาปสินะะ รอตอนต่อไปจ้าาาา

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ก๊ากกกกกก แต่ละคนดูไม่จืดเลย
แล้วอย่างนี้จะมียาแก้ไหม

ออฟไลน์ YOSHIKUNI RUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ดูดเบาๆหน่อยนะวัต เดวกลก็โดนดูดหมดตัวหรอก เลือดน่ะ เลือด  :hao6:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
กรี๊ดดดดดดด เป็นคำสาปซ้อนคำสาปจริงๆเลย
แล้วนี่วัตจะดูดเลือดกลจนหมดตัวเลยป่ะเนี่ยยย
อยากอ่านต่อแล้ว >< มาต่ออีกไวๆเลยน้า

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
ดูดเลือดเบาๆหน่อยนะ วัต

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ กลจะทำงัยนิ

ออฟไลน์ VampirezBadz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกกกกก ตายละ ทำไมสงสารกลขึ้นมา ฮาา  :katai2-1:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
เพิ่งได้อ่านครับ สนุกมาก อ่านแล้วติดเลย แนวเกมส์ผจญภัยที่ผูกผันไปกับชีวิตจริงด้วย ชอบจริงๆ

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
ง่าาา ต่ออีกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fahhee_zeze

  • Love you...YAOI~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
โฮ่ยยยย มาต่อด่วนเลย นี่คือคำสั่ง !! ห๊ะ? ถถถถถ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.13 ค้างคาว

   ผมได้ยินเสียงลินกับไวไวตะโกนมาจากที่ไกลๆ ผมในตอนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาสีแดงมองกลที่ยืนนิ่งไม่คิดหลบเลี่ยง

   ผม...

   แปะ! พรืด กี๊ดดๆ

   “...”

   “...”

   “...”

   ความเงียบปกคลุมชั่วขณะ เจ้าของดวงตาสามคู่มองตรงมายังก้อนขนสีทองกลมที่ตะกายเกาะเสื้อกลด้วยเล็บเล็กๆ เสียงแหลมเล็กดังออกมาจากเจ้าสิ่งนั้น แบบไม่รู้จะแสดงสีหน้าอะไรออกมาดี กระต่ายแคระไวไวอยู่ในท่าชะงักค้างยื่นมืออยู่กับที่ ลินหันหน้าหนีอับจนซึ่งคำพูด ผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือหมาป่าหนุ่มที่ถูกสิ่งมีชีวิตตัวน้อยตรงอกทำร้ายจิตใจอย่างร้ายกาจ

   ในสมองหมาป่าหนุ่ม นึกคิดไปแล้วว่าจะตั้งรับกับแวมไพร์ที่คลุ้มคลั่งอย่างไรดี นึกไปถึงขั้นหลังจากถูกกระโจนเข้าใส่ จะกางแขนรับปล่อยให้อีกฝ่ายสูบเลือดซะให้พอ พร้อมกระดกยาเพิ่มเลือดรัวๆ หลังจากนั้นจะจัดการด้วยวิธีสุดบรรเจิดเพื่อหยุดแวมไพร์ตัวร้าย

   แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง นอกจากจะไม่เป็นตามที่หวัง แผนการฉวยโอกาส แค่ก! แผนการตั้งรับซะดิบดียังถูกทำลายสิ้น มือหนาประคองร่างน้อยๆ ตรงอดด้วยสายตาว่างเปล่า ยังพอมีเมตตายื่นนิ้วชี้สังเวยค้างคาวขนาดเท่าลูกเทนนิส ให้คมฟันเล็กคมกัดดูดจ๊วบๆ ดับความกระหาย

   ปีกค้างคาวสีดำกระพือเบาๆ เพื่อพยุงกายบนฝ่ามือโดยไม่ร่วงหล่น ไวไวเลิกสตาฟตัวเอง ยืนนิ่งด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว ไม่รู้จะหัวเราะเยาะ จะสงสาร หรือสมเพชดี

   กลที่ทำท่าเหมือนจะคลุ้มคลั่งเพราะความกระหายหลังจากเป็นแวมไพร์โดยสมบูรณ์ ในยามที่ร่างสูงโปร่งพุ่งเข้าหากล ชั่วพริบตานั้น เพื่อนแวมไพร์ตัวหดจนกลายเป็นค้างคาวสีทองปีกดำ เกาะเสื้อกลร้องขอเลือดเสียงเล็ก ซึ่งเป็นเสียงที่มีแต่คนในปาร์ตี้เท่านั้นที่ได้ยินและเข้าใจ

   “กล ขอเลือดหน่อย หิวจะตายแล้ว กล~ เย้ ได้เลือดแล้ว จ๊วบๆ”

   นี่คือเสียงที่พวกเขาได้ยินแทนเสียงร้องงี๊ดๆ ง๊าดๆ แหลมๆ ของค้างคาวในมือกล หากสังเกตเหมือนหูกับหางหมาป่าจะลู่ตกเหมือนหมาหมดอาลัยตายอยาก ยอมรับชะตากรรมประคองค้างคาวตัวเล็กขนปุยไม่ให้หล่นแอ๊กไปบนพื้น ดีหน่อยที่แถวนี้ต้นไม้หนาทึบ แดดส่องผ่านรำไรให้เห็นทาง จึงไม่เป็นผลเสียกับแวมไพร์ตัวน้อยมากนัก ถึงอย่างนั้น กลก็ยังใช้ขนสัตว์ของตัวเองคอยคลุมไว้อีกชั้นเพื่อความปลอดภัย

   “ทีนี้ พวกเราจะเอาไงต่อไปดี ออกเดินทางไปเมือง หรือจะเก็บระดับแถวนี้ต่อ”

   ลินที่ดูสติกลับมาคนแรกลำสายตาจากเจ้าก้อนขนสีทอง มองหน้ากลพลางอุ้มกระต่ายแคระสู่อ้อมแขนกว้าง กลที่พอทำใจได้แล้ว ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ต้องกลายเป็นคนตัดสินใจชั่วคราว เพราะคนที่คอยนำว่าอยากไปไหน ดันติดภารกิจอันยิ่งใหญ่ คือการเติมเลือดให้อิ่มกระเพาะเล็กๆ พอเป็นแบบนี้ กลที่มีค่าเลือดเยอะแถมฟื้นตัวไว เลยไม่คิดจะหยิบขวดยาเพิ่มเลือดขึ้นมาดื่ม เพียงแค่จัดท่าทางให้วัตดูดเลือดง่ายขึ้นเท่านั้น

   “หาที่ปักหลักรอให้วัตฟื้นตัวค่อยตัดสินใจกันต่อ”

   ทุกคนไม่มีปัญหากับข้อเสนอนี้ อีกอย่างเดี๋ยวพวกเขาต้องคุยปรึกษากันด้วยว่าจะจัดการยังไงกับคำสาปที่ได้รับดี แม้มันจะมีทั้งผลดีและผลเสีย แต่การปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่นัก

   พอตกลงกันได้กำลังจะออกเดินทางไปยังถ้ำธรรมชาติใกล้ๆ ไวไวเพิ่งได้สติ ว่าตัวเองถูกอุ้มเป็นตุ๊กตาร้องโวยขึ้นมา

   “เฮ้ย ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องให้เธอมาอุ้ม” ดวงตาสีทองคมกล้าก้มมองเด็กกระต่ายที่อุ้มด้วยแขนเพียงข้างเดียว

   “ฉันอุ้มน่ะดีแล้ว นายในสภาพนี้ต่อให้กระโดดจนขาหลุดก็วิ่งตามพวกเราไม่ทันหรอก” อีกอย่าง เธอชอบอะไรที่มันน่ารักๆ ยิ่งอีกฝ่ายเปลี่ยนจากไอกระต่ายถึก กลายเป็นกระต่ายโชตะแก้มยุ้ยเหมือนตุ๊กตา ยิ่งไม่อยากปล่อยให้ห่างจากตัว ไม่ติดว่าเธอควบคุมตัวเองดีพอ คงจะคว้ามาฟัดทั้งแต่เห็นทีแรกแล้ว

   สิ่งที่ลินบอกคือความจริง กลฝีเท้าไว แม้มีตัวพ่วงเป็นค้างคาวไร้ประโยชน์ ขนาดตัวแค่นั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับเจ้าตัวอยู่แล้ว ทางลิน ปกติเวลาเดินทางพวกเขาผู้ชายสามคนจะชะลอฝีเท้าไว้บ้างเพื่อรอเธอ ที่แม้จะเสริมด้วยพลังลมก็ยังไม่อาจตามฝีเท้าพวกสัตว์ป่าอย่างพวกเขาทันได้ ตอนนี้มันไม่ใช่ ลินกลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัว มีกำลังเพิ่มมากขึ้น การวิ่งไล่ตามไม่ใช้ปัญหาอีกต่อไป ที่เหลือก็คือตัวเองถูกลดไซส์เป็นเด็กสิบขวบ ต่อให้เป็นกระต่ายกระโดดได้ไกลแค่ไหน เทียบกับช่วงขายาวๆ ของทั้งคู่ คงต้องกระโดดสักสิบรอบ ถึงจะได้ช่วงกระโดดรอบหนึ่งของสองคนนี้ 

   ไวไวเลยได้แต่กัดฟันกอดอกทำท่าฮึดฮัด แบบที่ถ้าอยู่ในร่างปกติคงน่าเกรงใจบ้าง แต่พออยู่ร่างนี้มันเหมือนเด็กน้อยงอนไม่ได้ของเล่นมากกว่า

   “ไปเถอะ”

   กลออกปากเร่ง ลินพยักหน้ารับแล้วออกวิ่งตามกลไปถ้ำธรรมชาติ ทางระหว่างน้ำตกกับบึงกบที่พวกเขาอยู่ พอถึงที่หมาย กลทิ้งตัวลงนั่งบนก้อนหินก้อนใหญ่ ลินนั่งอยู่ไม่ไกล วางไวไวไว้บนตัก

   ถ้ำแห่งนี้กลเคยแวะสำรวจมาแล้วรอบหนึ่ง ไม่มีมอสเตอร์ด้านในแน่นอน เพราะด้านในเดินไม่ไปเพียงไม่กี่ก้าวก็เป็นทางตัน ยังพอมีช่องให้อากาศถ่ายเท ด้านนอกถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ ดูเหมือนไม่มีใครมาแถวนี้เป็นเวลานานแล้ว พวกเขาจึงใช้ที่นี้พักคุยกันชั่วคราวได้โดยไร้กังวลว่าจะมีมอสเตอร์ที่ไหนมากวนใจ

   “วัตเป็นไงบ้าง” เสียงแตกหนุ่มของชายผมทองหยักศกสั้นระคอ เอ่ยถามก้อนขนสีทองที่ย้ายตัวเองไปนั่งลูบพุงป่องๆ ของตัวเองบนหัวหมาป่าหนุ่ม สีผมน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ ช่างตัดกับสีเจ้าค้างคาวดีเหลือเกิน

   “อิ่มตื้อเลยล่ะ เอิ๊ก” บอกไม่พอ ยังมีเรอเป็นหลักฐานยืนยัน กลถึงกับยกมือลูบหน้า แลบลิ้นเลียปลายนิ้วชี้ของตัวเองที่มีรูเล็กๆ สองรูเพื่อสมานแผล หูสามเหลี่ยมขยับดุกดิกเมื่อค้างคาวกลิ้งไปซุกเกาะ

   “ใครเขาถามเรื่องนั้นวะ อาการนายต่างหากที่พวกเราอยากรู้” ไวไวเริ่มทำใจได้กับการต้องกลายเป็นตุ๊กตาประดับตัวลินชั่วคราว จนกว่าคำสาปจะถูกลบล้างออกไป

   “อ่อ ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ดูเหมือนว่าถึงจะกลายเป็นแวมไพร์เต็มตัว มันไม่มีผลกับฉันเท่าไหร่ แถมพละกำลัง การใช้พลังยังดูเหมือนจะมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย แลกกับต้องดื่มเลือดเป็นอาหารจานหลัก แดดน่ารำคาญกว่าเดิมเท่านั้นเอง”

   ผมกลิ้งไปกลิ้งมาบนหัวกลสบายอารมณ์ พอได้เลือดค่อยดีขึ้นหน่อย อีกอย่างร่างค้าวคาวเล็กๆ นี่ก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่นัก ผมเรียกหน้าจอค่าสถานะของตัวเองออกมาดู ภายในเกมนี้จะมีหน้าจอแสดงสถานะต่างๆของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ระดับเลเวล คำสาปที่ได้รับตอนเริ่มเกม อาวุธประจำตัว สกิลที่ใช้ เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองถูกรวมไว้ในจอนี้ เลื่อนจิ้มเมนูดูตามใจชอบ

   ผมใช้มือเล็กจิ๋วปัดจอขยายใหญ่ ฉายอยู่กลางวงให้ทุกคนได้เห็นด้วย มันสามารถเลือกได้ว่าจะให้คนอื่นดูด้วยรึเปล่า ซึ่งผมตั้งเอาไว้ว่า ให้เพื่อนในปาร์ตี้ดูได้

   ชื่อ : อายุวัต
   Lv : 56
   เลือด : 55,000
   อาวุธ : เคียวเกี่ยวข้าว
   คำสาป : แวมไพร์
   คำสาป2 : แวมไพร์บริสุทธิ์

   ผมกดเลือกอ่านคำบรรยายของคำสาป2

   คำสาป2 : แวมไพร์บริสุทธิ์ ผู้เล่นที่ได้รับคำสาปนี้จะต้องมีคำสาปแรกเป็นแวมไพร์ ค่าสถานะ ความสามารถในสายคำสาปดั่งเดิมจะเพิ่มขึ้นสองเท่า แลกเปลี่ยนกับร่างกายจะถูกเปลี่ยนให้มีลักษณ์แบบเดียวกับแวมไพร์ในตำนาน

   นั่นหมายความว่า ผมจะแพ้พวกอาวุธธาตุเงินกับพลังธาตุแสงมากกว่าเดิม แดดเป็นอุปสรรค์กับผมมากขึ้น โชคดีที่ผมโดนคำสาปซ้อนคำสาปเอาตอนเลเวลพอสมควรแล้ว แดดจึงไม่มีผลกับผมมากเท่าไหร่นัก ถ้าหากเลเวลน้อยกว่านี้คงแทบไม่ต้องออกไปไหน

   ผมสามารถเปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวทุกเมื่อ โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉิน อย่างก่อนหน้านี้ ความคิดลึกๆ ของผมคงไม่อยากทำร้ายกล เลยหดตัวเองกลายเป็นค้างคาว ดื่มเลือดน้อยแต่พอพุง
   ทุกคนอ่านข้อความที่ขึ้นบนหน้าจอแล้วพากันแสดงสีหน้าโล่งอก มันดูไม่ร้ายแรงอย่างที่คิด แถมยังเพิ่มพลังให้ด้วย แลกกับจุดอ่อนหลายๆ อย่างที่มากขึ้น ซึ่งมันไม่เป็นปัญหา หากมีการเตรียมรับที่ดีพอ

   “พอได้อยู่ เอาแบบนี้ดีมั้ย ทุกคนเปิดคำบรรยายของคำสาปอันที่สองมาแลกกันอ่าน เวลาสู้จะได้รู้ว่าใครสามารถทำอะไรได้แค่ไหน อะไรที่ควรระวังจะได้ช่วยกัน ไม่ต้องห่วง สามารถเปิดให้ดูคำบรรยายของคำสาปอย่างเดียวได้”

   ไวไวเสนอ ผมคิดว่ามันเข้าท่า ลินกับกลเห็นด้วย หลังจากนี้พวกเราต้องลุยกันอีกเยอะ กว่าจะไปถึงเมืองถัดไปที่ใกล้ที่สุด แถมไม่รู้ว่าเมืองนั้นจะสามารถทำให้พวกเรากลับเป็นเหมือนเดิมได้รึเปล่า

   กระต่ายเด็กเปิดข้อมูลของตัวเองออกมาแบบไม่ปิดบัง ของไวไวไม่ผิดจากที่ผมคาดเอาไว้เท่าไหร่นัก เจ้าตัวถูกลดเป็นกระต่ายแคระก็จริง แต่ได้ความคล่องตัว ความรวดเร็วของการเคลื่อนตัวระยะสั้นมีมากขึ้น ด้วยขนาดตัวที่เล็กลง หูกับกำลังขาดีขึ้น แลกกับพลังกายที่อ่อนลดไป

   ฝั่งหญิงสาวที่กลายเป็นชายหนุ่ม รูปร่างสูงเหมือนเด็กวัยรุ่นลูกครึ่งกับใบหน้าหล่อเหล่า พละกำลัง กับความทนทานของร่างกายมีมากขึ้น สิ่งที่ต้องแลกคือ ความแรงของการใช้เวทมนต์ ด้วสาเหตุที่ว่า ร่างของผู้ชายเชื่อมต่อกับเวทได้ไม่เท่ากับร่างของผู้หญิง แต่ถ้าในอนาคตจัดการดีๆ กลายเป็นนักเวทหนุ่มผู้เก่งกาจได้ไม่ยาก ที่สำคัญ ดูเจ้าตัวจะพออกพอใจกับมันมากทีเดียว

   สุดท้ายกล เขาเปิดให้ดูแค่รายละเอียดของคำสาป กลโดนแบบเดียวกับผม เปลี่ยนแค่ของเขาเป็นหมาป่า มีกำลังกาย ความเร็ว การล่าเพิ่มจากเดิมสองเท่า แน่นอน ย่อมมีสิ่งที่ทำให้แย่ลง ถ้าคืนพระจันทร์เต็มดวงเมื่อไหร่ เจ้าตัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่รู้จะกลายเป็นหมาป่าสี่ขาจนกว่าจะเช้า หรืออาละวาดแบบเวลาผมหิวเลือด ในส่วนนี้คงต้องมาพิสูจน์กันภายหลัง

   สรุปแล้ว คำสาปภายในเกมนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แตกต่างจากเกมอื่นที่คำสาปมีแต่ผลเสียเท่านั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าจะสามารถประยุกต์คำสาปเหล่านั้นให้เหมาะสมกับตัวเองได้รึเปล่า ผมกับกลมองหน้ากัน พวกเราชินกับคำสาปแรกเริ่มแล้ว จะเพิ่มความเทพแลกกับจุดอ่อนนิดๆหน่อยๆถือว่าคุ้มค่าอยู่ แม้ไม่ต้องพูด พวกเราสามารถตัดสินใจได้ทันทีว่า จะไม่แก้คำสาปนี้ ทั้งหลักและรองเลย ส่วนไวไวกับลินนั่นอีกเรื่อง สองคนนั้นถูกเปลี่ยนไปแบบคนละขั้ว

   “ฉันกับกลไม่คิดจะลบคำสาปออก พวกนายล่ะเอาไง” ผมในร่างค้างคาวถามสองคนตรงหน้า บนที่นั่งระดับวีไอพี

   “แหงอยู่แล้ว จะจะเอาคำสาปที่สองออก สำหรับฉัน รูปร่างปกติต่อสู้ได้ดีกว่าร่างเล็กๆ ที่ไม่ถนัดแน่นอน”

   กระต่ายแคระตอบแบบไม่เสียเวลาคิดแม้เสี้ยววิ ที่เหลือคือลิน เจ้าตัวเงียบไปพักนึง พวกเราไม่คิดเร่งเร้าปล่อยให้เธอตัดสินใจเอง

   “ฉันไม่ลบคำสาปออก ฉันชอบร่างแบบนี้มากกว่า แม้ว่ามันจะทำให้พลังเวทลดลง แต่ฉันคิดว่าฉันสามารถใช้ไอเท็มอื่นมาช่วยเสริมได้”

   ลินตอบด้วยสายตาแน่วแน่มั่นคงอย่างคนตัดสินใจได้ ดูเหมือนลึกๆ ในดวงตาคู่นั้น กำลังสนุกกับสิ่งที่เป็นอยู่ ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวเลย ลินเป็นแบบนี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับผมหรือกลทั้งสิ้น เว้นแต่จะขาดอาหารตาอันมีค่าไปเท่านั้นเอง คิดแล้วมันเศร้า ส่วนไวไว เจ้าตัวคงยังไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเอง คงโรยด้วยกระดูกจากนักเวทมืดที่ตัวเองนั่งตักอยู่ โชคดีนะเพื่อน เราจะไม่ลืมนายเลย ผมไว้อาลัยให้ไวไวในใจเงียบๆ สามวิ

   ผมคิดทบทวนแผนการเดิมของพวกเรา ตอนแรกเราจะไปช่วยลินทำภารกิจเพื่อเอาทักษะ แต่ก่อนหน้านั้นต้องเก็บระดับให้ได้ 90 ซะก่อน ซึ่งเราจะทำระหว่างทางไปหาคนรู้จักของกล ให้เขาช่วยแนะนำให้ว่าควรทำอย่างไรกับภารกิจบ้าง มาตอนนี้คงต้องเอาเรื่องของไวไวลัดคิวมาก่อน

   โดยปกติ การล้างคำสาปสามารถทำได้หลายวิธี โดยทั่วไปจะซื้อยาแก้คำสาปมากิน แต่คำสาปที่พวกเราได้รับจากเจ้าชายกบใจแคบ ไม่สามารถใช้ยาลบคำสาปทั่วไปได้ อีกวิธีคือการให้นักเวทสายแสงสว่างมาช่วยลบล้าง อย่างที่เห็น ทีมเราสี่คนปาไปด้านมืดแล้วสาม ที่อยู่ทางสายกลางมีแต่ไวไว วิธีที่สาม เข้าโบสถ์เพื่อถอนคำสาป โดยวิธีนี้ ผม กล ลิน ไม่สามารถทำได้แน่ พวกเราเป็นสายความมืด เข้าสถานที่ ที่มีแต่พลังธาตุแสงที่อยู่กันคนละขั้วไม่ได้ จะให้ไปลากนักบวชสักคนมาล้างเหมือนหาเรื่องบาดเจ็บเพิ่มมากกว่า ใช้ยาก็ไม่ได้ผล

   เหลือวิธีสุดท้าย หาไอเทมที่สามารถลบล้างคำสาปได้ มันหาไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน โลกภายในเกมกว้างใหญ่จะตาย จะไปหาของที่มีอยู่เพียงหยิบมือ เรียกว่าฝันกลางวันเบาๆ ดังนั้น ดีแล้วล่ะที่พวกเราสามคนยอมรับคำสาปโดยดี

   สำหรับไวไว ทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดคือ การเข้าโบสถ์

   “กล แถวนี้พอมีเมืองใกล้ๆที่น่าจะมีโบสถ์บ้างป่าว” ผมบินมานั่งหินข้างๆ แล้วกลับร่างเดิม แบบนี้คุยง่ายกว่า ผมได้ดื่มเลือดควบคุมตัวเองได้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในร่างค้างคาวต่อไป แม้ว่ามันจะสบายก็ตาม ไว้วันหลังค่อยแอบอู้โดยสารหมาป่าแล้วกัน

   กลครุ่นคิด เขาเรียกแผนที่จากสร้อยเก็บของออกมากางบนพื้นถ้ำ โดยมีพวกเรานั่งล้อมวงอยู่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 19:01:45 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.13 ค้างคาว (ต่อ)

   “ส่วนที่เราอยู่ตอนนี้คือทวีปเริ่มต้นสำหรับผู้เล่นเกมใหม่จนถึงเลเวล 95 ปัจจุบัน มันเปิดถึงทวีประดับกลางระดับเลเวล 95-162 จุดมุ่งหมายของเราคือเมืองหลวง ‘เฟอร์นานโด’ ที่อยู่ระหว่างทวีปเริ่มต้นกับทวีปกลาง ทางผ่านของเราส่วนใหญ่เป็นเมืองเล็กๆ ไม่น่าจะมีโบสถ์ แต่ถ้าเราอ้อมไป จะเจอกับเมือง ‘สตาทอส’ ใหญ่ขึ้นมาหน่อย อาจจะมีโบสถ์อยู่ ถ้าให้ฉันแนะนำ เราควรเก็บระดับให้สูงกว่านี้ ก่อนจะเข้าเมืองหลวงดีกว่า พ้นจากทวีปเริ่มต้นไปผู้เล่นสามารถฆ่ากันได้ง่ายๆโดยไม่ผิดกฎ”

   ผมเข้าใจสิ่งที่กลอยากบอก ถ้าพวกเราเดินทางไปตรงๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน น่าจะถึงเมืองหลวงเฟอร์นานโดได้ไม่ยาก ที่นั้นต้องมีโบสถ์แน่นอน เพียงแต่ ระดับของพวกเรายังน้อยเกินไปสำหรับเมืองแห่งนั้น แถมภารกิจที่ลินจะทำดันอยู่ในทวีปกลางด้วย ถ้าพวกเราจะไป อย่างน้อยๆ ต้องเก็บระดับแถวทวีปต้นให้ได้สักไม่ต่ำกว่า 90 ถึงจะเอาตัวรอดในทวีปต่อไปได้

   ถ้าพวกเราวนเวียนแถวนี้ แวะไปที่เมืองสตาทอส พวกเราจะได้เก็บระดับก่อนเข้าเมืองเฟอร์นานโด แต่ที่นั่นไม่รู้จะมีโบสถ์อยู่จริงๆรึเปล่า บางทีพวกเราอาจจะเสียเวลามากกว่าเดินทางตรงไปเมืองหลวง งานนี้ต้องให้ไวไวตัดสินใจ

   “อย่าคิดมาก เอาที่นายต้องการดีกว่าไวไว คนที่เดือดร้อนที่สุดตอนนี้คือนาย เรื่องระดับพวกเราเข้าเมืองหลวงไปล้างคำสาป แล้วค่อยแวะกลับออกมาเก็บก็ยังไม่สาย” ผมตบบ่าเพื่อนฉบับย่อส่วน ลินไม่พูดอะไร เจ้าตัวไม่รีบตั้งแต่แรก ผู้ตัดสินใจตอนนี้จึงกลายเป็นไวไว

   “ฉันอยากจะล้างคำสาปไวๆ ก็จริงอยู่ แต่จะลากพวกนายไปเสี่ยงโชคโดยที่ยังไม่พร้อมคงไม่ได้ อ้อมไปเมืองสตาทอส เก็บระดับไปพลางๆ ก่อนดีกว่า”

   ใจจริงไวไวคงอยากจะล้างคำสาปเต็มแก่ ด้วยนิสัยรักเพื่อนเห็นแก่พวกเรา เลยเลือกที่จะใช้วิธีนี้ ผมหัวเราะ ไวไวก็ยังคงเป็นไวไว เพื่อนซี้แสนดีของผม ในเมื่อเจ้าตัวตัดสินใจแบบนั้น ผมก็จำดำเนินไปตามนั้น ลินมีท่าเหมือนจะขัด ผมยกมือห้ามแล้วส่ายหัว

   ไอกระต่ายแคระเพื่อนผม เวลาที่มันตัดสินใจอะไรแล้ว จะไม่เปลี่ยนใจโดยเด็ดขาด เพราะมันคิดทบทวนมาแล้วว่าทางเลือกไหนคือทางที่ดีที่สุด ดังนั้นไม่ควรไปขัด เป็นการเคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย

   “ถ้างั้นตกลงตามนี้ เราจะแวะไปที่เมืองสตาทอสก่อน ระหว่างนั้น มอสเตอร์ทุกตัว ดันเจี้ยนย่อยทุกที่ พวกเราจะถล่มทิ้งให้หมด ระดับไม่ถึง 90 ไม่ไปเหยียบเหมืองหลวง!”

   ผมกำหมัดชูมือมุ่งมั่น กลเก็บแผนที่เตรียมทำหน้าที่หมาป่านำทาง ไวไวคึกคักตามผมไปด้วย เจ้าตัวชูแขนเล็กๆขึ้นร้องเย้ไปกับผม ลินมองไวไวเหมือนจะเป็นห่วงนิดหน่อย พอเห็นเจ้าตัวตั้งมั่นขนาดนั้น สุดท้ายเลยปล่อยเลยตามเลย

   เมื่อตกลงปลงใจกันได้ พวกเราเริ่มออกเดินทางกันอีกครั้ง งานนี้ไม่มีใครรั้งท้าย ลินตีคู่อุ้มไวไววิ่งไปพร้อมกับผมและกล ระหว่างทางเราซัดมอสเตอร์ที่มาขวางทุกตัว ผ่านดันเจี้ยนไหนที่ระดับพลังต่อสู้พอไหวก็มุ่งหน้าเข้าไปจัดการ อันที่จริง ที่พวกเราไม่เคยตายกันสักครั้ง สาเหตุมาจากกลด้วย ปกติเจ้าตัวจะคอยช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเราสามคนตึงมือ จะยื่นมือเข้ามาร่วมด้วยช่วยจัดการทันที

   ด้วยความที่เจ้าตัวระดับสูง สามารถลุยเจ้าพวกนี้ยกฝูงเพียงคนเดียวได้สบายๆ ถ้าไม่มีพวกผมคอยถ่วงจนห่วงหน้าพะวงหลัง ทำให้ตลอดทางมาพวกเราไม่ตายกันเลยสักครั้ง ไม่อย่างนั้นคงวิ่งกันสนุก พอตายกลับหมู่บ้านหรือเมืองที่ใกล้ที่สุด แล้ววิ่งมาลุยใหม่ เสียเวลาสุดๆ

   จะบอกว่ากลพาเด็กน้อยอย่างพวกเราเก็บระดับก็ไม่ผิดนัก ไม่งั้นพวกเราคงไม่ลุยแหลกจนเพิ่มระดับขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบนี้หรอก ปกติคนทั่วไปเขาใช้เวลานานกว่าพวกเราหลายเท่า แต่ด้วยความไม่ประมาท ทุกครั้งที่เราฆ่ามอสเตอร์จะแวะหมู่บ้านใกล้ๆ เพื่อบันทึกจุดเกิด และส่งภารกิจจากชิ้นส่วนมอสเตอร์ที่ฆ่ามาได้

   ผ่านไปสองวัน ระดับพวกเราเลื่อนขึ้นกันละละสองสามระดับ ยกเว้นกลคนเดียวที่ยังระดับเท่าเดิม เพราะเลเวลเยอะเกินไป แม้การเก็บเลเวลจะช้าในความรู้สึกผม สิ่งที่แลกมากลับคุ้มค่ากว่า ระหว่างพวกเราต่อสู้ ค่อยๆ ปรับสภาพทำให้ชินกับคำสาปที่ได้รับ แรกๆ อาจมีทุลักทุเลกันอยู่บ้าง หลังๆ เริ่มเข้าที่เข้าทาง

   ตอนนี้พวกเราเข้าใกล้เมืองสตาทอสแล้ว พื้นที่บริเวณแถบนี้ติดทะเล มีเรือท่าสำหรับเดินทางไปยังเกาะอื่นในทวีปเริ่มต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแหล่งดันเจี้ยนระดับสูง และแผนดินส่วนอื่นๆของทวีปนี้ อย่างพวกผมยังไม่คิดที่จะไป พวกเราตกลงกันว่า จะเคลียภารกิจของเมืองนี้ให้หมดก่อน ค่อยไปลุยดันเจี้ยนพวกนั้นปิดท้ายสักแห่ง พอถึงตอนนั้น เลเวลพวกเราคงจะถึงเกณฑ์พอดี

   เริ่มจาก เควสล่าปูส่งให้ชาวประมงตรงผืนที่หาดทรายรอบนอกของเมืองสตาทอส ปูน้อย ระดับ 82 ต้องล่าเอาเนื้อมันกลับไปให้ NPC สิบตัว ตอนนี้พวกเราเริ่มลาไปได้แล้วสี่ กะว่าอีกตัวเป็นตัวสุดท้ายก่อนพักแล้วลาต่อในรอบบ่าย การซัดกับมอสเตอร์ระดับพอๆ กันทีละหลายตัวมันเหนื่อยจริงๆ

   ไวไวอาศัยที่ตัวเล็ก สไลทราบลอดใต้ท้องปูน้อยไม่สมชื่อ เส้นลวดถูกมัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อลดการเคลื่อนไหวของปู อย่างผมกับไวไวยังดี อาศัยบินกับกระโดด แต่กลกับลิน สองคนนี้วิ่งบนพื้นทรายทำให้เคลื่อนไหวช้าลง ลำบากไม่น้อย พวกเราเลยจำเป็นต้องลดการเคลื่อนไหวของมันให้มากที่สุด ผมยังคงทำหน้าที่เดิม

   หมุนเคียวรอท่า พอกลแงะเปลือกแข็งมันออก ค่อยเจาะเคียวเข้าเนื้อนุ่ม ดูดเลือดมาเพิ่มให้กับทุกคน ทำให้ปูติดสถานะลดเลือดเรื่อยๆ ลินใช้เวทผสมกับอาวุธประเภทดาบมุ่งหน้าสู่วิธีนักดาบเวทเต็มตัว อาศัยกำลังที่เพิ่มขึ้นจากคำสาปและการฝึกต่อสู้กับมอสเตอร์ที่ผ่านมา ช่วยกลกะเทาะเปลือกปูอีกแรง น่าเสียดาย ทหารโครงกระดูกไม่สามารถใช้ได้เต็มที่พอๆ กับสมุนค้างคาวของผม

   จุดที่พวกเราอยู่เป็นจุดโล่งกว้าง หันไปด้านหน้าเป็นทะเล รอบข้างเป็นหาดทราย ท้องฟ้าสว่างโร่ พระอาทิตย์แผดเผา ไม่เหมาะกับพวกชอบอยู่ในที่มืดอย่างผมกับเวทมนต์ที่ต้องอาศัยความมืดของลินเท่าไหร่

   แม้ผมจะทนกับแดดด้วยระดับที่มากขึ้น แต่เจอแดดติดต่อกันนานๆ ชักจะหน้ามืด แสบผิวทั่วทั้งตัว

   “รีบจัดการเถอะ ฉันเริ่มไม่ไหวแล้ว” ผมบอกเสียงโหยให้ลิน กล ไวไวเร่งมือเข้าก่อนจะได้ค้างคาวเกรียมแทบเนื้อปู ถ้าไม่ติดว่าเนื้อปูที่ NPC ต้องการ คือปูที่หากินตอนกลางวัน พวกเราคงไม่ต้องมาตากแดดทรมานอยู่อย่างนี้

   มอนปูถูกเลาะเปลือกแข็งออกแล้วเป็นส่วนใหญ่ พวกกลเริ่มเผด็จศึก ตัดขาปูพร้อมก้ามมันทิ้ง แล้วลินเสียบดาบเข้าหัวปูจนมิดด้าม พอเสียงระบบแจ้งเตือนว่าสังหารปูเรียบร้อยแล้ว ผมกลับร่างค้างคาว บินเข้าไปซุกในเสื้อลินด้วยความไวแสงเหมือนทุกครั้งที่จัดการปูเสร็จ ปล่อยหน้าที่แงะเนื้อปูให้เป็นของคนอื่นแทน เพราะถ้าขืนผมอยู่กลางแดดมากไปกว่านี้ ตายแหงๆ

   แรกๆ ลินตบผมแอ๊กร่วงลงพื้นไปหลายรอบเหมือนกัน เพราะตกใจนึกว่าตัวอะไรกระโจนใส่ ตอนหลังชิน บางทีถึงกับแหวกเสื้อคลุมนักเวทให้ผมมุดเข้าไปอยู่ใต้ผ้าคลุมได้ง่ายๆ เหมือนอย่างคราวนี้ จะถามว่าทำไมผมไม่ไปซุกกับกลหรือไวไวน่ะเหรอ

   ไม่ใช่ว่าไม่ลอง ผมทำไปแล้ว ตัวกลเป็นหมาป่า ปกติอุณหภูมิสูงเป็นทุนเดิม ยิ่งมาอาบแดดแบบนี้ พุ่งขึ้นเท่าทวี พอผมซุกใต้ขนสัตว์ รู้สึกเหมือนเป็นค้างคาวอบ รีบบินออกมาแทบไม่ทัน พอไปหาไอไวไว ชุดมันร้อนไม่ต่าง เกรงจะได้เมนูกระต่ายย่างเสิร์ฟพร้อมค้างคาวอบ อร่อยเหาะ

   ผลกรรมเลยตกที่ลิน ตัวเย็นสุดในทีม เจ้าตัวใช้เวทสายมืดเกี่ยวกับความตาย รอบตัวแม้จะร้อนสักแค่ไหน แต่ก็ยังมีความเย็นเยือกคลุมรอบตัวบางๆ เลยกลายเป็นที่หลบภัยชั่วคราวของผม

   สารภาพตามจริง ทีแรกพวกเราสามคน ยังคงปฏิบัติต่อลินเหมือนตอนที่อยู่ในร่างผู้หญิง ยังไงซะ ถึงจะถูกคำสาปยังไง เนื้อแท้แล้วยังคงเป็นผู้หญิงอยู่ พอทำแบบนั้นกับผู้ชายมันก็ชวนกระอักกระอ่วนนิดหน่อย ไปๆ มาๆ ลินทนไม่ไหว บอกให้คิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนผู้ชายอีกคน เพราะฝันว่าอยากเป็นแบบนี้สักครั้งมานานแล้ว

   พวกเราเป็นผู้ชายใจกว้าง ในเมื่อสาวเจ้าต้องการแบบนั้น เพียงไม่กี่นาที ทุกการกระทำเปลี่ยนไปหมด ราวกับรอเวลานี้มานาน ผมเห็นลินแอบชะงักไปเหมือนกัน แล้วหัวเราะดังลั่นไม่สนมาดสาวงามที่เคยรักษาไว้มาตลอด ผลสรุป ยินดีด้วย ผมได้เพื่อนหนุ่มเพิ่มมาอีกคนแล้วครับ ลาก่อน แม่มดในอดีต ส่วนชื่อเรียก เรายังคงใช้แบบเดิม ด้วยเหตุผลจากเจ้าของชื่อว่า ชื่อนี้ใช้ได้ทั้งชายและหญิง

   “พักกันก่อนเถอะ ไว้ค่อยมาต่อวันหลัง แวะเข้าเมืองเอาของจากมอสเตอร์ตัวอื่นไปส่งภารกิจกันก่อนดีกว่า”

   ลินเสนอ หลังจากเห็นสภาพเหล่าสัตว์โลกที่กำลังถูกทดสอบด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ พอเก็บเนื้อปูเสร็จ ไวไวกระโดดเกาะหลังกล เดินเข้าเมืองพร้อมกับลินที่มีผมโดยสารใต้ผ้าคลุม

   เมืองแห่งนี้ถือว่าเป็นเมืองที่สวยงามแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ อาคารทั้งหมดสีขาวนวลราวกับถูกสร้างด้วยทรายของแถบนี้ แต่มีความแข็งแรงทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ภายในบ้านเรือนเย็นสบาย รวมกับลมทะเลที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท แถวท่าเรือกับในเมืองมีตลาดของแปลกมากมาย เป็นผลจากการเป็นเมืองท่าสำหรับแวะพักของเหล่านักเดินเรือ เห็นว่าตลาดพวกนี้มีถึงค่ำ ไว้ฟ้ามืดพวกผมค่อยออกมาลัลล้า

   มีเรื่องน่าเสียดายอย่าง ถึงสตาทอสจะมีผู้คนมากหน้าหลายตา สารพัดเผ่าเดินกันให้ควัก สินค้ามากจนเลือกไม่ถูก ที่พักสุดหรูราคาย่อมเยา เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนก็จริง แต่ดันไม่มีโบสถ์เสียนี้ การล้างคำสาปของไวไวเลยเป็นหมันไป

   “พวกนายไปส่งภารกิจ ฉันจะไปหาที่พักเอง”

   กลที่ไม่ต้องส่งภารกิจแบบพวกเรา อาสาไปหาที่พักให้ในคืนนี้ จะได้ไม่ต้องนอนกลางดินกินกลางทรายกันต่อ แค่คิดว่าจะได้พักที่นอนดีๆ ก็รู้สึกฟินจนตัวลอยแล้ว

   หมับ!

   “อย่าบินไปไหนสิ ที่นี่คนเยอะ เดี๋ยวหลงกันพอดี”

   ไวไวมือไวสมชื่อ คว้าตัวผมหมับ ยัดใส่เสื้อคลุมลินตามเดิม กระต่ายแคระย้ายจากหลังกล มาอาศัยหลังลินแทน ท่านนักดาบเวทไม่มีปัญหาอะไรสักนิด แหงล่ะ มีตัวน่ารักๆ สองตัวอยู่ใกล้ๆ สาวที่ไหนก็ชอบ ถึงจะทำตัวเป็นผู้ชายยังไง ลึกๆ ยังคงเป็นผู้หญิงล่ะหน่า

   “ถึงอาคารส่งภารกิจแล้ว พวกนายอย่าซุกซน ปล่อยฉันจัดการเอง”

   ลินกระซิบบอกพวกเรา ผมบินออกมาจากเสื้อคลุมไปเกาะหัวไวไวอีกที สอดส่องสายตามองไปรอบๆด้วยความสนใจ ที่ผ่านมา ผมกับไวไวยังไม่ค่อยได้เปิดหูเปิดตาเท่าไหร่ เจอแต่หมู่บ้านเล็กๆ กับเมืองของคนที่เพิ่งเข้าเกมซึ่งมันไม่มีอะไรเลย

   พอมาเจออะไรที่แตกต่างไปจากเดิม อดตื่นเต้นไม่ได้ หูกระต่ายไวไวโบกไปโบกมา ผมใช้มือเล็กๆ เกาะโคนหูกระต่ายแคระไว้ ตลอดทางมีแต่คนมองมาที่พวกเราตาไม่กระพริบ ยิ่งส่วนใหญ่ในอาคารนี้มีแต่พวกผู้เล่น ยิ่งสนอกสนใจเป็นพิเศษ

   หนุ่มผมทองหยักศกเดินดุ่มๆตรงไปยังเคาน์เตอร์ เปิดกระเป๋าหยิบถุงออกมาสามใบ ส่วนแบ่งภารกิจพวกเราสามคน ส่วนของกล ถ้าเจ้าตัวไม่ยกให้พวกเรา ก็ขายทำเงินไปหมดเกลี้ยง

   “ฉันมาส่งภารกิจสำหรับสามคน ช่วยจัดการให้ทีครับ”

   คำพูดลื่นไหลเป็นธรรมชาติ เหมือนกับลินเป็นผู้ชายมาตั้งแต่เกิด ทำให้ผมกับไวไวอดที่จะทึ่งกับการปรับตัวแสนรวดเร็วนี้ไม่ได้ ช่างเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวจริงๆ ได้ข่าวว่าอยู่เพียงแค่มอปลายเท่านั้น ความคิดความอ่านไม่ต่างจากผู้ใหญ่บางคนเลย

   “ค่ะ กรุณารอสักครู่ หลังจากตรวจสอบของทั้งหมดแล้ว ระบบจะแจ้งไปทันทีค่ะ รบกวนเขียนชื่อยืนยันด้วยนะคะ”

   ลินรับกระดาษพร้อมปากกาเซ็นชื่อ ก่อนยื่นให้ไวไวเซ็นต่อ ตามด้วยผมที่บินไปยืนบนเคาน์เตอร์ ใช้สองมือกุมปากกาเขียน เป็นสิ่งที่ผมภาคภูมิใจเลยนะเนี่ย กว่าจะฝึกจนเขียนให้อ่านออกได้แบบนี้ แม้จะโดนไวไวกับลินบอกว่าไร้สาระ ผมไม่สน ลองทำอะไรที่แปลกแหวกแนวสนุกดีออก เห็นมั้ย มีแต่คนมองอึ้งๆ ไม่คิดล่ะสิ ว่าค้างคาวสุดหล่ออย่างผมจะเขียนหนังสือได้งดงามขนาดนี้ พนักงานยังยิ้มมุมปากกระตุกเลย

   “ได้ชื่อเรียบร้อยแล้วทั้งสามท่าน ทางเราจะรีบดำเนินการให้นะคะ”

   ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า เหมือนพนักงานอยากเอามือนุ่มๆ มาบีบก้อนขนกลมๆ อย่างผมซะเหลือเกิน

   “พนักงานบริษัทนี้เก่งชะมัด อ่านลายมือค้างคาวเขี่ยออกด้วย” ได้ยินเสียงไวไวบ่นพึมพำ ผมหูผึ่งบินไปใช้ปีกตรบๆเอาเรื่องทันที จนลินต้องจับแยกให้อยู่บนไหล่คนละข้าง ก่อนเดินออกมาจากอาคารส่งภารกิจ

   เท้านักดาบเวทยังไม่ทันจะก้าวออกจากอาคารดี ผู้เล่นหลายคนเดินเข้ามารุมพวกเราใหญ่

   “น้องคะ กระต่ายตัวนี้จับมาจากไหนเหรอ พวกพี่อยากเลี้ยงบ้าง”

   “น้องชาย ค้างคาวสีทองนั่นหายาก พวกเราขอซื้อต่อได้มั้ย”

   และอีกสารพัดคำถาม มีทั้งพวกนักเวท นักดาบ นักธนู หลายเผ่าวนเวียนเข้ามา ลินยังชะงัก ไวไวถูกจับลูบหัว ลูบหู ดึงหางจนโวยวายลั่น ผมดีที่มีปีก รีบบินขึ้นฟ้าหลบรัสมีการคว้าอย่างกับมือซอมบี้ บางคนร้ายกาจ คิดจะเอาดาบตบให้ผมร่วงลงไปหาด้วยซ้ำ

   “โว้ย! พอกันที ฉันเป็นผู้เล่นเฟ้ย ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง” กระต่ายแคระแหกปากไม่มีใครสนใจฟังเลยสักนิด ผมเองบินหลบจนหัวหมุน เลยกลับร่างเป็นคนกางปีกค้างคาวอยู่กลางอากาศ อาศัยแรงมหาศาลของแวมไพร์ คว้ากระต่ายแคระเหน็บเอว แบกลินที่ตัวพอๆ กันขึ้นบ่าแล้วเผ่นไปจากตรงนั้น

   “ว๊ากกก อย่าตามมาสิโว้ยยย เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกเราเป็นผู้เล่นนน” ถึงคราวผมร้องโหยหวนบ้าง หลายคนล่าถอยไปเมื่อเห็นว่าเราเป็นผู้เล่นจริงๆ แต่มีอีกหลายคนสนใจคำสาปที่พวกเราได้รับซะงั้น

   กว่าผมจะสลัดหลุดได้เล่นเอาหืดขึ้นคอ หามุมหลบปล่อยลินกับไวไวลงพื้น ถึงผมจะแรงเยอะ แต่แบกคนแห่เล่นในเมืองกลางวันแสกๆ มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยสักนิด

   “สนุกดีเหมือนกันนะ” คำพูดลินทำเอาผมกับไวไวนั่งกองกับพื้นเอาหลังชนกันทันที ใช่สิ ไม่มาถูกลูบคลำแบบพวกผมนี้

   ไกลจากซอกกำแพงที่พวกผมใช้หลบ ผมรู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่พวกเรา ดวงตาสีเทาเรืองสีแดงอย่างระวังภัยทันที ผมหันขวับมองหาเจ้าของสายตานั่นแต่กลับไม่เจอ เลยขมวดคิ้วเกาหัวแกรกๆ สงสัยผมจะคิดมากไปเอง ไวไวกับลินยังไม่มีท่าทีอะไรเลยนี้

   “เกือบไป แวมไพร์นั่นสัมผัสไวไม่เลวจริงๆ” เจ้าของดวงตาเมื่อครู่เอ่ยพลางหัวเราะในลำคอ กับคนสนิทที่นั่งอยู่ตรงข้าม

   “ส่งคนไปจับตัวมาเลยดีไหมหัวหน้า” อีกเสียงเย้าแหย่ คนฟังส่ายหัว

   “ยังก่อน รอดูอีกสักพัก ให้พวกนั้นเก็บระดับมากกว่านี้ ค่อยไปเชิญตัวมา หวังว่านายจะมาด้วยนะ ‘หมาป่านิลกาฬ’ ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 19:03:42 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
โอ้ย ไวไวมุ้งมิ้ง ส่วนเจ้าวัตก็เข้าโหมดมุ้งมิ้งได้เหมือนกัน  :laugh:
อย่างงี้เจ๊ลินเขาจะยอมให้ถอนคำสาปเหรอ สาวๆ กับอะไรน่ารักๆ
มันเป็นของคู่กันนะพวกนาย ว่าแต่พวกไหนมาจ้องกลุ่มของวัตเนี่ย

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ไวไวน่าสงสารอ่ะ มาสายแบ้วเชียว ฟฟฟฟฟฟฟฟ
ปล.คิดภาพวัตตอนเป็นค้างคาวไม่ออก..  ในหัวมีสองแบบคือค้างคาวจริงๆที่ดูแบ้ว หรือค้างคาวแบบโกเลมในดีเกรย์แมน  :ling2:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ค้างคาวสีทองนุ่มนิ่มมมมมมม
งั้นแสดงว่ากลก็เป็นหมาป่านิลกาฬสินะะะะ
รอตอนต่อไปปปปป

ออฟไลน์ VampirezBadz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :hao3: :katai1: :katai1: น่าร๊ากกก

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
หุหุ แล้วกลจะทำงัยละนิ

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
บรรยายซะวัตกับไวไวน่ารักมากๆเลย
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก มาอัพต่อเรื่อยๆและบ่อยๆนะฮะ พลีสสสสสส

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โธ่ ไวไวจะไปแก้คำสาปแล้วเหรอคะ สงสารลินแย่เลย

(แอบขำอาวุธวัต......เคียวเกี่ยวข้าว 555555555555555+  :hao7: เปลี่ยนอาวุธใหม่ได้ไหมมมมม)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด