Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]  (อ่าน 287694 ครั้ง)

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 814
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อ่านช้าไป ขอโทษด้วยนะคะ ที่มาถามเอาตอนนี้

สงสัยอีกเรื่องค่ะ (ลืมถาม)
(เอะ อินี่จอมสงสัย)
ถ้าวาร์ปเข้าเกมนะ คือหมายถึงเข้าไปทั้งตัวใช่ป่ะ
คือแล้วร่างกายนั้นจะไปอยู่ส่วนไหน หรือว่าในเกมนั้นเป็นร่างจริงเลย
แล้วถ้าตายในเกมขึ้นมาล่ะ ทำไมร่างจริงถึงไม่ได้รับความเสียหาย
(อย่าบอกว่ามันเป็นแค่เกมนะคะเพราะนั่นมันเป็นร่างจริง?(หรือว่าร่างจริงอยู่ที่ไหนเอ่ยย?))
ที่สงสัยก็มีเท่านี้แหละค่ะ
-ร่างจริงไปไหน
-ถ้าร่างจริงอยู่ในเกมแล้ว เมื่อตายในเกม ทำไมร่างคนเล่นจึงไม่ตาย (ช่วยอธิบายทฤษฎีโหน่ยย)

---ถ้าเกมนี้มันคือ ส่วนหนึ่งของโลกจริง จะสามารถอธิบาย ได้ จากคำถามที่ว่าร่างจริงไปไหน 
แต่!!!!
มันดันขัดแย้งกับระบบรักษาความปลอดภัย ที่ความเจ็บปวดดันลดลง 90% และ คำถามที่ว่าทำไมร่างจริงไม่ตายจริง
ยังยังไม่พอ ยังมีอีกเรื่อง ไอ้เกมนี้ กับเกมที่ใช้แค่ความคิดเล่น ทำไมถึงเอามาเป็นระบบเดียวกันได้
ทั้งๆที่มันไม่น่าจะใช่ระบบเดียวกัน จูนกันไม่ติดด้วยซ้ำมั้ง ก็เกมนี้มันใช้ทั้งร่างนี่ - - ส่วนอีกเกม ใช้แค่ความคิด
ทำไมถึงยังมีคนสามารถแหกกฏได้ ไม่มีการควบคุมดูแลบทละคร ของ npc หรอ  หรือว่าทำงานพลาดกัน
แล้วถ้าถึงเวลาออกจากเกม ร่างนั้น จะออกได้มั้ย เพราะว่าถูกขังอยู่นี่ หรือถ้าออกได้ แค่โทรกริ๊งเดียวไปร้องเรียน แผน
ของพวกนั้นก็น่าจะล่มนี่ ทำไมคนที่คิดจะทำแบบนี้ มันไม่คิดวะ
หรือว่ามันออกไม่ได้กัน ถ้างั้น  ก็ต้องโทษระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทสิ ที่ห่วย ที่ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยของลูกค้าได้ คงได้ฤกษ์ฟ้องบริษัทใหญ่ๆแบบนี้กันแล้ว ท่าจะได้หลายตังค์ หึหึ
มีแต่คำถามเลย เอาจริง
แค่โครงเรื่องถือว่าน่าติดตามมากค่ะ รอคำอธิบายและตอนต่อไปนะ อิอิ
สู้ๆน้าา
(คนเขียน: อินี่ทำไมมันเรื่องมากงี้วะ)
มันคาใจยิกๆอะค่ะ 555555555
ช่วยตอบหน่อยแระกันนะจ๊ะ เพื่อความสมเหตุสมผลของนิยาย
อิอิ
(หรือสนองความอยากรู้ของตัวเองกันแน่วะมึง - - ?)
 :call:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2015 21:11:09 โดย fanglest »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.8 ลุยแหลก

   รถสีดำเงาวับ จอดหน้าบ้านเงียบเชียบสมราคา คนขับรถเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของบ้าน ส่งกุญแจให้คนใช้เอารถไปเก็บหลังจากที่เปิดประตูให้พ่อลงจากรถเรียบร้อยแล้ว

   สองพ่อลูกทักทายคุณนายของบ้าน ก่อนจะพาเข้าไปพักทานข้าวเย็นคุยกันตามประสาครอบครัว ตลอดการสนทนาลูกชายเอาแต่นั่งเงียบทานข้าวไวกว่าปกติ พอทานเสร็จรวบเก็บช้อนส้อม ยกผ้าเช็ดปากเอ่ยลาพ่อแม่ทันที

   “ผมอิ่มแล้ว ขึ้นห้องก่อนนะครับ”

   บุพการีไม่ทันตอบ ร่างสูงลุกขึ้นก้าวฉับๆขึ้นชั้นสองกลับห้องส่วนตัวไปแล้ว สองสามีภรรยามองหน้ากัน

   “แปลกจริง ท่าทางแบบนี้ติดเกมรึเปล่านะ”

   คุณหญิงยกมือแตะแก้มถอนหายใจ เธอไม่คิดว่าอะไรหากลูกชายจะติดเกม ขอแค่ไม่เสียการเรียน และไม่เสียงานก็พอแล้ว

   “ฉันคิดว่าจะติดผู้ชายมากกว่า…ที่รัก ฉันมีเรื่องจะถามความเห็นสักหน่อย”

   เห็นท่าทางกลุ้มใจของคู่ชีวิต ภรรยาที่แม้เวลาจะล่วงเลยไป แต่ความงดงามไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ยังคงสวยในสายตาของเขาอยู่เสมอ นั่งเงียบรอรับฟังด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

   ผู้นำครอบครัวเล่าเหตุการณ์ในวันนี้ให้ภรรยาสุดที่รักฟังอย่างครบถ้วน ทั้งคู่ปรึกษากันเงียบๆ ภายในห้องอาหาร


   ชายผู้ถูกกล่าวถึงไม่รู้เรื่องเลยสักนิดว่าพ่อแม่กำลังกลุ้ม เขารีบสลัดเสื้อผ้าทิ้งโยนลงตะกร้า คว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ หมุนปรับน้ำอุ่นปล่อยให้สายน้ำหลายผ่านร่าง ผ่อนคลายกับเหตุการณ์ในวันนี้ พ่อเขาอยากให้ลองฝึกและทำงานในที่ๆ รวมคนเก่งไว้เยอะๆ

   ในปัจจุบัน สถานที่นั้นคงมีเพียงบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงแห่งเดียว ด้วยความสามารถส่วนตัวผสมเส้นสายนิดหน่อย เลยอัญเชิญหัวหน้าแผนกจากหอคอยกระดูกไดโนเสา ลงมาพูดคุยเป็นการส่วนตัวได้

   สำหรับกล ไม่ค่อยสนใจบริษัทสักเท่าไหร่ เพราะมีอีกเรื่องที่น่าสนใจกว่า น้องชายของบุคคลอันตราย ดันเป็นคนที่เฟรนลี่อย่างเหลือเชื่อ ทำให้เขาสนใจได้ตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งใกล้ชิดก็ยิ่งอยากเข้าใกล้มากขึ้น

   มือหนาเสยผมที่เปียกชุ่ม ยกยิ้มตรงมุมปาก ผิวเข้มกับกล้าสมส่วนได้รูป อยากเจอ...

   คิดได้ดังนั้น จัดการรีบอาบน้ำแต่งตัวทันที มือเช็ดผมระหว่างตั้งค่าเครื่องเล่นเกมก่อนใช้งาน หลังเสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัวแล้ว ร่างสูงสวมเครื่องเล่นเกม มุ่งหน้าสู่โลกแห่งแฟนตาซี

   เข้าเกมมายังเหมือนเดิมทุกอย่าง รอบข้างมืดสนิท มีเขาเพียงคนเดียวยืนนิ่งอยู่กับที่ เสียงของระบบยังคงเป็นประโยคเดิมๆ

   “ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกม Charm Online ขอให้สนุกกับโลกแห่งแฟนตาซีนะค่ะ”

   จบประโยครอบข้างกลายเป็นแสงสีขาวสว่างจ้า กลหลับตาพลางคิด ในโลกแห่งนี้หูเขาสามารถแยกแยะโทนเสียงประจำตัวของแต่ละคนออกได้ เสียงเมื่อกี้นี้ถ้าจำไม่ผิดต้องเป็นเสียงของวัตแน่ๆ เห็นทีหลังออกจากเกมคงต้องหาทางโหลดเก็บไว้ฟังซะแล้ว

   หมาป่าสุดหล่อ ล็อคอิน


   อะฮ้า! หันไปทางไหนก็เป็นป่า ซ้ายก็ป่า ขวาก็ป่า หลังก็ป่า หน้าก็...ป่าเดียวกัน ผมทำหน้าแปลกใจ ด้วยความอยากเล่นเกมจัด ผมเลยเข้าเกมมาก่อนใครเพื่อน เบื่อๆ ในเมืองเลยออกมาเดินเล่นตีมอนรอบนอกฆ่าเวลา กะว่าถ้าพวกนั้นออนไลน์มาคงติดต่อกันเอง

   เพียงแต่ผมคงลืมอะไรไปอย่าง มือยกลูบต่างหูสี่เหลี่ยมบนใบหูอย่างเผลอไผล เพราะมีเจ้าสิ่งนี้ กลสามารถมาหาผมได้ทุกที่ทุกเวลา วันหนึ่งสามารถใช้งานได้สองครั้ง เจ้าตัวเล่นใช้ไปแล้วหนึ่ง

   “?” คนบางคนทำหน้าหมาสงสัยได้อย่างน่าชื่นชมจนผมต้องกอดอกหน้านิ่วคิ้วขมวด

   ตอนแรกผมไม่คิดอะไรมาก เข้าใจไปว่ากลคงอยากได้เพื่อนเล่นเกมนอกจากกลุ่มหน้าตาเดิมๆ บ้าง ซึ่งผมไม่ซีเรียด ได้บอดี้การ์ด ตู้เอทีเอ็ม สารานุกรมเกรมเคลื่อนที่ มีแต่ได้ไม่มีเสีย แถมมีเพื่อนเล่นเกมอีก

   จนพี่วินทัก เจ้าไวไวเตือนผมถึงเริ่มสะกิดใจกับอะไรบางอย่าง โลกความจริงมันเพิ่งผ่านไปคืนเดียว แต่ในเกม มีระยะเวลาต่างกับโลกจริง ผมรู้จักกับกลมาเกือบอาทิตย์นึงได้ จะบอกว่ารู้นิสัยทั้งหมดของอีกฝ่ายคงไม่ใช่

   มาคิดดีๆ เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญเลยสักนิด ตอนนี้ผมอยู่ในเกม เกมถูกสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงของผู้เล่น จะเกิดอะไรก็ช่างมันแล้วกัน ตราบใดที่สัญชาตญาณในตัวผมไม่ร้องเตือน ทุกอย่างยังคงปกติตามเดิม ผมเองก็สนุกเวลาได้เล่นเกมกับกลด้วย

   คิดไปพลางพยักหน้าไปพลางเหมือนบรรลุอะไรสักอย่าง กลเดาท่าทีผมออกเหมือนเคย เมื่อกี้ผมคงเผยความระแวง เขาเลยเว้นระยะห่างไม่เข้ามาใกล้มากว่านี้ รอดูท่าที ทำหน้านิ่งๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอให้ผมจัดการกับความคิดตัวเองเสร็จอย่างใจเย็น

   เจ้าตัวคงลืมไปว่า แม้สีหน้าจะถูกควบคุมดีแค่ไหน แต่หูกับหางมันไม่สัมพันธ์กับเจ้าของ คิดรู้สึกยังไงก็แสดงออกมาอย่างนั้น ตอนนี้หูสามเหลี่ยมขนนุ่มลู่ลงเล็กน้อย หางตกนิ่งไม่ขยับ โธ่ๆ น้องหมาของผม หงอยไปเลย

   ด้วยความที่รักสัตว์เป็นนายชายไทย ผมเลยกางแขนออกแบบที่พี่ชินชอบทำเวลาจะให้ผมโผเข้ากอดหาคนปลอบใจ ในชีวิตที่ชีช้ำเพราะพี่วินดันลืมน้องชายตัวเองทิ้งไว้กับครูระหว่างทำงานกลุ่ม ลำบากพี่ชินที่นึกเอะใจ รีบมารับผม เจ็บนั้นอีกนาน เจ็บนั้นไม่ลืม

   หมาป่าหนุ่มเหมือนฟื้นคืนชีพ ขยับเข้ามากอดผมหมับ ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กว่า เหมือนผมเป็นฝ่ายถูกโอบจนมิด หูตั้ง หางส่าย จมูกไม่แห้ง โอเค พ่อหมาป่าของผมยังสุขภาพดี

   “กรี๊ดดด”

   “อ๊ากก บัดสีๆ น้องไวไวรับไม่ดั๊ย!”

   เหมือนเดจาวู ผมมองผ่านหลังกลไปเห็นสองคนนั้นโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ แสดงว่าแอบดูมาตั้งแต่แรกแล้วสินะ รู้สึก . . . ในใจ

   “ชิ”

   ผมเงยหน้าพรึบมองคนที่ยอมผละออก เจ้าหมาตัวโตทำเอียงคอใส่เหมือนจะถามว่ามีอะไร ผมเคาะๆ หูตัวเอง เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงคนร้องชิอย่างขัดใจ หรือว่าผมหูฝาด

   “กลางวันแสกๆ พวกนายเกรงใจชาวบ้านชาวเมืองเขาบ้างสิ”

   เจ้ลินมาถึงสวด ผมยักไหล่ไม่แคร์ อ้อมกอดแห่งมิตรภาพของลูกผู้ชาย ไม่มีอะไรเสียหาย

   “เจ้กับไวไวมาแอบดูพวกฉันเหมือนกันไม่ใช่หรือไง” เจอผมสวนกลับด้วยท่าทางยียวน สองคนนั้นหันหน้าหนีไปคนละทางทันที อือหือเข้าขากันดี อนาคตมีแววเพื่อนไวไวสละคาน

   “ผิดที่พวกนายมาทำให้ดูต่างหาก” มีการบ่นหงุงหงิง ผมเลยจัดการฟาดสันมือใส่หน้ากาก กระแทกดั่งยุบไปเลยเพื่อนรัก เจ้าตัวโอดโอย ผมไม่สน เดินชูมือนำทีม ในเมื่อมาพร้อมหน้ากันแล้วก็ออกเดินทางกันเลย!

   พวกเราเลือกเส้นทางลุยป่ามากกว่าไปเดินบนถนน มุ่งหน้าสู่เมืองถัดไป เพราะพวกเราต้องการเก็บระดับให้มากพอที่จะทำภารกิจของลินได้ การเลือกเดินในเส้นทางที่ลำบาก มันมีมอนสเตอร์ให้จัดการเยอะดี

   ผมเป็นค้างคาว ถึงแดดจะน่าหงุดหงิด แต่สามรถกระโดดจากกิ่งไม้หนึ่งไปอีกกิ่งไม้หนึ่งได้สบายๆ ด้านหลังมีกลตามมาติดๆ คอยช่วยผมที่ดาเมจน้อยจัดการพวกมอสเตอร์ที่โผล่มา ไวไวเป็นกระต่าย เจ้าตัวโดดไปมาบนภาคพื้นดิน ไม่ทิ้งห่างจากลินนัก

   ลินเป็นแค่แม่มดที่ใส่ชุดรุ่มร่าม พอมาลุยป่าเลยลำบากพอสมควร เห็นหลายครั้งที่สองคนนั้นทะเลาะกันเพราะกระโปรงเจ้ลินดันไปเกี่ยวกิ่งไม้ ลำบากไวไวมันเคลียทางให้องค์หญิงเสด็จ ปากมันก็บ่น แต่มือมันก็ทำ ไม่เข้าใจเพื่อนผมจริงๆ หรือมันแกล้งทำตัวซึนเดเระแบบที่ผู้หญิงสมัยนี้ชอบกัน แผนสูง ไอกระตุ่ยเอ๊ย

   เคียวในมือถูกตวัดดื่มเลือดมอสเตอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งออกห่างจากนอกเมือง ระดับของมอสเตอร์ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังๆ แอบตึงมือ ต้องให้กลเป็นฝ่ายนำลุยสังหารมอสเตอร์แทน เสียงแจ้งเตือนระบบดังถี่ยิบ ไอเท็มที่ได้ ค่าประสบการณ์ที่ได้ ระดับเพิ่มขึ้น ที่น่าสนใจที่สุดคงเป็น

   ระดับเลื่อนขึ้นเป็นเลเวล 45
   ได้รับทักษะจากคำสาปเพิ่ม เปิดทักษะไหม่ คางค้าวลูกกะจ๊อก

   ผมผิวปากอย่างอารมณ์ดี ทดสอบลองเรียกออกมา วิธีใช้สกิลก็ง่ายๆ ยื่นมือไปเบื้องหน้า แสยะยิ้มแบบจอมชั่วร้าย พร้อมพูดประโยคเท่ๆ

   “จงออกมา สมุนของข้า วะฮ่าๆ”

   สามคนในทีมหันมามองเหมือนผมเป็นโรคประสาท ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอึ้ง เมื่อมีค้างคาวตัวน้อยใหญ่บินออกมาจากด้านหลังของผม ค้างคาวแต่ละตัวระดับเท่ากับผม พลังจอมตีไม่มาก แต่พอรวมเป็นฝูงกลายเป็นกองกำลังที่น่ากลัว

   ลูกสมุนแสนน่ารัก พร้อมใจกันสูบเลือดเหยื่อจนแห้งเหือด ระหว่างนั้นเกิดแสงสีแดงปกคลุมรอบตัวผม เลือดที่ลดลงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ค้างคาวพวกนี้หลังหมดหน้าที่ต่างบินหลังมาหาผม แล้วหายไปในเงามืด

   ผมอ่านรายละเอียดของสกิลบนจอที่เด้งขึ้นมา สกิลนี้สามารถใช้ได้ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน หากใช้ยามกลางคืนประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นสองเท่า ระยะเวลาในการใช้ซ้ำอีกครั้งคือสิบนาที เท่ากับว่า หลังจากผมใช้ทักษะเรียกค้างคาวออกมาแล้ว ต้องรออีกสิบนาทีถึงจะใช้ซ้ำได้อีกรอบ

   พอคนอื่นเห็นผมได้ทักษะใหม่จากการเลเวลอัพ ยิ่งพากันฮึดตีมอนกระจุยกระจาย จนหลังๆ กลว่างงาน ยืนกอดอกพิงต้นไม้แกว่งหางเล่น

   พวกเราลุยแบบนั้นตลอด 27 วันในเกม 3 คืนกับอีก 3 ชั่วโมงของโลกจริง แวะเข้าออกระหว่างหมู่บ้านที่เป็นทางผ่านกับดันเจี้ยนเป็นว่าเล่น เจ้าดันเจี้ยนนี้คือแหล่งรวมมอนสเตอร์มากมายในที่เดียว เหมาะสำหรับการเก็บระดับมากที่สุด ลักษณะจะเหมือนกับรังของบอสหนู มีลูกน้องมากมาย หากลุยไปจนสุดจะเจอกับบอสใหญ่

   กลเป็นคนดูว่าดันเจี้ยนไหนระดับพวกเราสามารถเข้าไปสู้ได้ พวกเราก็แวะกวาดมอสเตอร์หมด แรกๆ มีสะบักสะบอมกันบ้าง หลังๆ ดีขึ้นหน่อย ไม่ถึงกับผ่านสบาย แต่ก็พอจัดการได้โดยไม่ตายกลับเมืองบ่อยเหมือนช่วงแรก

   ตอนนี้พวกเรากำลังจัดการกับบอสพร้อมลูกน้องในดันสุดท้ายก่อนถึงเมืองใหญ่ ที่นี้เป็นทางลับใต้ดินที่ผมบังเอิญเจอเข้าระหว่างเดินสำรวจรอบๆ ขณะพักรบ

   มันเป็นบ้านเก่าถูกทิ้งร้าง ด้านในโล่งๆ มีแต่ฝุ่นเกาะหนาเตอะ ผมไปสะดุดเข้ากับประตูลงห้องใต้ดินเข้า เลยเรียกทุกคนมาดู กลบอกว่าเป็นดันเจี้ยนย่อยที่พวกเราสามารถผ่านไปได้ เลยถือโอกาสลงมาเก็บเลเวลกันต่อ

   มอสเตอร์ในนี้เป็นพวกตัวตุ่น ที่ขุดดินจนทะลุมาเจอกับทางลับเข้า ผลเลยกลายเป็นรังตัวตุ่นไปซะชิบ ด้านล่างมืดมาก แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับผม กล ไวไว ที่เป็นสัตว์ออกหากินตอนกลางคืน ส่วนลินมีสกิลทำให้มองเห็นที่มืดได้ชั่วคราว สกิลนั้นมีระยะเวลาจำกัด พวกเราต้องเคลียดันเจี้ยนแข่งกับเวลา

   ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันอย่างดี ลินสาดสกิลใส่มอนแบบไม่เกรงใจพวกผมที่หลบกันจ้าละหวั่น แผ่นดินสะเทือนเกิดเสียงเอะอะจนบอสใหญ่มันคงรำคาญ วิ่งออกมาไล่เชือดพวกเราถึงที่ รวมกับลูกน้องอีกฝูงหนึ่ง

   ทีนี้แหละคุณเอ๊ย ยิ่งกว่าสงครามกลางเมือง วุ่นวายกันไปหมด เฉียดตายกันหลายรอบ ผมแทบไม่ได้โจมตี ต้องคอยเพิ่มเลือดให้ทุกคนมือเป็นระวิง สลับบิน วิ่งหนีแบบไม่ได้หยุดพัก ส่งลูกสมุนค้างคาวออกไปเป็นระยะ กว่าจะผ่านได้เลือดตาแทบกระเด็น สภาพยับเยินคลุกดินจนดูไม่จืด

   ขวดยาเพิ่มเลือดแทบเกลี้ยงกระเป๋า แลกกับระดับของพวกผมที่เพิ่มขึ้นพรวดพราด

   หัวหน้าปาร์ตี้ วัต คำสาปแวมไพร์ ระดับ 56
   สมาชิกทีม กล คำสาปหมาป่า ระดับ ??
   สมาชิกทีม ไวไว คำสาปกระต่าย ระดับ 55
   สมาชิกทีม ลิน คำสาปแม่มดมืด ระดับ 60

   พวกเราหันหน้าไปมองวัตอย่างพร้อมเพรียง มีแค่เขาคนเดียวที่ไม่เปิดเผยระดับ เจ้าตัวยกมือสองข้าง อธิบายว่าเป็นผลจากการซื้อใบปกปิด สามารถเลือกได้ว่าจะปกปิดสถานะส่วนไหน ซึ่งพวกระดับสูงๆ นิยมใช้กัน ผมกับไวไวเลยหมายมั่นปั้นมือว่าจะซื้อมาใช้ให้ได้ เผื่อจะดูเท่ลึกลับกับเขามั้ง

   “เฮ้อ เหนื่อยเป็นบ้า อยากรู้จริงระดับมันตันที่เท่าไหร่ตอนนี้”

   ในแต่ละเกมจะมีระดับสูงสุดที่ไม่สามารถเพิ่มได้อีก จนกว่าทางเจ้าของเกมจะอัพเดตขยายอะไรหลายๆ อย่างเพิ่มขึ้น

   “200 แต่เท่าที่ฉันเคยเห็น สูงสุดตอนนี้อยู่แค่162”

   “น่าแปลก ดูๆ แล้วมันก็ไม่ได้เก็บระดับอะไรยากหนิ พวกเราใช้เวลาประมาณเดือนนึงในเกม เลเวลครึ่งร้อยแล้ว”

   ไวไวพยายามอย่างยิ่งในการใช้ผ้าเน่าๆเช็ดรอยเปื้อนออกจากหน้ากาก ในความคิดผม มันเละกว่าเดิมซะอีก
   
   “ไม่เหมือนกัน พวกนายเก็บระดับไม่หยุดพัก จะขึ้นไวก็ไม่แปลก” หรือจะให้พูดแบบตรงๆไม่ประหยัดคำพูด กลคงหมายความว่า พวกผมบ้าเก็บระดับไม่สนโลก แทบไม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาในเกม ที่เห็นก็มีแค่หมู่บ้านเล็กๆ ตามทาง หน้ามอสเตอร์ กับลงดันเจี้ยน เรียกได้ว่าแทบจะลืมไปแล้ว ว่ามีคนอื่นเล่นเกมนี้ด้วยนอกจากพวกเรา

   “ฉันอยากอาบน้ำ แถวนี้มีแหล่งน้ำมั้ย”

   สาวสวยแต่ถึกเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม หันมามองพวกในทีมที่นอนแผ่อย่างหมดสภาพ หลังจากออกมาจากดันเจี้ยนใต้ดินสำเร็จ

   กลลุกขึ้นยืน หลับตานิ่ง คงกำลังทำการพิสูจน์กลิ่นจากธรรมชาติ ว่ามีแหล่งน้ำอยู่ตรงไหน หูสามเหลี่ยมกระดิกดุกดิกโคตรน่าดึง สักพักเจ้าตัวก็ลืมตา

   “มี ไม่ไกลมาก ตามมา”

   ลินที่ลุยหนักไม่แพ้พวกผม ลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นออกจากกระโปรงสิ้นความงาม สบัดผมเดินตามไปทันทีทิ้งให้ผมกับไวไวมองหน้ากัน ถอนหายใจฝืนสังขารแล้วเดินตามหลังไปเงียบๆ ความต้องการของผู้หญิงชนะทุกสิ่ง แม้แต่ความเหนื่อยแทบขาดใจของตัวเอง

   ซ่า ซ่า

   เสียงน้ำทำให้ผมหูผึ่ง จากเดินรั้งท้าย วิ่งลิ่วเข้าไปทันที สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือ น้ำตกธรรมชาติ! ป่าโดยรอยถูกปกคลุมไปด้วยความมืดในยามราตรี

   น้ำตกตรงหน้า ได้รับแสงจันทร์สะท้อนบนผิวน้ำระยิบระยับราวกับอัญมณี หิงห้อยตัวน้อยบินอยู่ทั่วทุกที่เกิดเป็นภาพงดงามดุจความฝัน จุดที่น้ำตกลงมาอยู่ห่างจากส่วนที่พวกเราอยู่พอสมควร น้ำแถวนี้มีทั้งตื้นและลึกจึงสงบนิ่ง โขกหินกระจายอยู่โดยรอบ น้ำใสสะอาดจนก้อนกรวดใต้พื้นน้ำ ล้อมรอบด้วยต้นไม้เป็นวงกลมทรงไข่

   ความเหนื่อยเหมือนหายไปเป็นปลิดทิ้งยามได้เห็นภาพงดงามเบื้องหน้า ช่างน่าเศร้า ที่ในโลกแห่งความจริง สถานที่แบบนี้เหลืออยู่เพียงน้อยนิด หรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

   “คืนนี้พวกเราพักที่นี่แล้วกัน ฉันฟังดูแล้วไม่มีพวกมอสเตอร์อยู่ คงเป็นเซฟโซน”

   พวกเราพยักหน้ารับ ช่วยกันกางเต็นท์เตรียมมื้อค่ำ ลินรับหน้าที่จุดกองไฟเพราะเธอมีเวทมนต์อยู่เพียงคนเดียวในกลุ่ม สะดวกรวดเร็วกว่านั่งจุดเองด้วยหินไฟ กลเป็นคนทำอาหาร ผมกับไวไวออกไปหาฟืนกับผลไม้แถวนี้มาเพิ่ม

   ที่นี่คงจะเป็นเซฟโซนจริงๆ อย่างที่กลบอก เซฟโซนภายในเกมคือจุดปลอดภัย จะไม่มีมอสเตอร์เข้ามาทำร้าย และผู้เล่นไม่สามารถฆ่ากันได้ ปกติเซฟโซนจะอยู่ตามเมืองใกล้จุดเกิดของผู้เข้าเกมใหม่ หรือตามใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ตั้งแต่เล่นเกมมา นี้เป็นครั้งแรกที่ผมเจอเซฟโซนนอกเมือง

   เมื่อทุกอย่างพร้อม ถึงคราวที่ลินจะได้ทำตามใจเสียที สาวเจ้าบอกจะไปอาบน้ำคนแรก ผมเลยถีบส่งไวไวไปนั่งเฝ้า เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยกันทัน แม้จะเป็นเซฟโซนแต่ก็ยังวางใจไม่ได้ มอนสเตอร์ไม่เข้ามา ผู้เล่นไม่ฆ่ากัน แต่ผู้เล่นมันเข้ามาก่อกวนทำอย่างอื่นได้นี่หว่า

   ถึงผมจะคิดว่าคงไม่มีใครบุกเข้ามาป่าลึกแบบพวกผม แต่ก็เผื่อไว้เพื่อความชัวร์ พลาดมามันไม่คุ้ม ในเมื่อเกมนี้มันทำสมจริงซะจนน่ากลัว

   ส่วนผมรับหน้าที่ทำอาหาร โดยมีกลเป็นผู้ช่วยหยิบจับของ ก่อนหน้านี้เราลุยพวกมอนสเตอร์มา เนื้อตัวตุ๋นก็ได้ แล้วผมยังซื้อพวกเครื่องเทศกับผักจากในเมืองก่อนออกเดินทาง ตอนนี้วัตถุดิบเลยพร้อม พอสองคนนั้นกลับมาอาหารก็เสร็จพอดี เลยได้ลงมือทาน ส่งเคราะห์พยาธิในท้อง

   “พอกินเสร็จ พวกนายไปอาบน้ำกันเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันจัดการเก็บให้เอง” ไวไวอาสา ท่าทางหงุดหงิด ต่อมเสือกผมกำเริบ แบบนี้ต้องถาม

   “ทำไมนายไม่ไปอาบกับพวกฉันล่ะ หรือนายอาบน้ำกับลินไปแล้ว”

   “ก็เออสิ แต่ฉันไม่ได้อาบพร้อมยัยนี้หรอกนะ ช่างมัน คิดซะว่ามาอยู่เฝ้าเต็นท์แล้วกัน ผู้ชายไปอาบด้วยกันหมด ปล่อยเจ้นี้เฝ้าคนเดียวฉันกลัวจะไม่มีที่นอน จอมทำลายล้างซะขนาดนี้”

   คงจะฝังใจกับวารพัดเวทที่ปลิวไปมาตอนลงดันตัวตุ่นสินะ โธ่ เพื่อนผมช่างน่าสงสาร เกิดแผลใจซะแล้ว

   “ฉันไม่ได้หัวมีแต่กล้ามเนื้ออย่างนาย เชอะ นึกว่าจะได้เห็นหน้าใต้หน้ากากแล้วเชียว”

   ลินกอดอกกัดเล็บอย่างขุ่นเคืองพระทัย ผมกับกลมองหน้ากัน แอบหัวเราะในใจ ลินหนอลิน คิดว่าประโยคหลังมันพวกจนพวกผมไม่ได้ยินหรือไง พวกเราแต่ละคนเป็นพวกสัตว์ประสาทสัมผัสไวกันหมด ผมคิดว่าไวไวมันคงได้ยินแหละ แต่ไม่พูด หันไปบ่นหงุงหงิงอยู่คนเดียว จนผมรู้สึกว่า หมู่นี้เพื่อนผมจะขี้บ่นขึ้นแฮะ หรือใกล้ถึงวันนั้นของเดือน ใครก็ได้บอกผมที ในเกมนี้มีขนมปังผู้หญิงมั้ย

   “ถ้างั้นพวกนายตีกันไปนะ อย่าให้ถึงกับเต็นท์พังจนไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้วกัน กลไปอาบน้ำกัน เหนียวตัวจะแย่ คลุกดินจนเป็นค้างคาวมอมแมมเดี๋ยวสาวเห็นใจสลายหมดกันพอดี”

   ไวไวชูนิ้วกลางไล่ ผมหัวเราะลากคอกลไปที่น้ำตก พวกเราถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้ตรงโขดหิน ดูจากสภาพแล้ว หลังอาบน้ำเสร็จคงได้มีรายการซักผ้ากันหน่อยล่ะ

   ผมเป็นฝ่ายเดินลงไปในน้ำก่อน ท่อนล่างนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวตามสไตล์ พอผิวได้สัมผัสน้ำ ความเย็นแล่นไปทั่วร่างจนขนลุกซู่ ผมวักน้ำมาล้างๆ ตัว รู้สึกสดชื่นดีจริงๆ ยิ่งในตอนกลางคืนแบบนี้ผมยิ่งชอบ เพราะอากาศเย็นไม่มีแดดให้ร้อนเหมือนตอนกลางวัน

   จ๋อม...

   ได้ยินเสียงน้ำจากทางด้านหลัง ผมหันไปมองเห็นกลอาบน้ำอยู่ข้างๆกัน ต่างคนต่างอาบกันไป แอบสะดุ้งนิดหน่อย เวลาน้ำถูกแผลบางส่วนบนร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นแผลเล็กๆ ผมเลยไม่ใส่ใจที่จะรักษา ปล่อยทิ้งไว้พอถึงพรุ่งนี้มันก็หายสนิทไปเอง

   ดูเหมือนใครอีกคนจะไม่คิดแบบเดียวกับผม มือหนาคว้าแขนผมไว้ยกขึ้นดูแผลตรงต้นแขน เห็นแบบนี้แล้ว สีผิวพวกเราตัดกันสุดๆ ไปเลยแฮะ ผมขาวซีดแบบซีดมาก ส่วนกลเป็นแบบคนผิวสีเข้ม

   “ทำไมไม่รักษา?”

   “แผลแค่นี้เปลืองยา” ผมโบกมือปัดๆ ให้เขาเลิกสนใจ

   “เดี๋ยวรักษาให้”

   “หา? เฮ้ย!” จะไม่ให้ผมร้องเสียงหลงได้ไง กลเล่นใช้ลิ้นเลียแผลที่ต้นแขน สัมผัสจากลิ้นร้อนทำให้ผมกลืนน้ำลายอึก พอเลียเสร็จแผลถลอกของผมก็หายสนิท เจ้าหมาป่าเล็งตำแหน่งต่อไป พอผมดิ้นยังมีส่งเสียงดุอีกแหนะ เจือด้วยเสียงคำรามในคอด้วยนะ ผมเลยจำต้องนิ่ง เพราะกลัวถูกหมาป่าขย้ำตายคาน้ำตก

   ถัดจากต้นแขนเป็นแถวอกเกือบถึงบ่า ต่อมาเป็นที่หลัง ปิดท้ายด้วยเอว กลย่อตัวลงคุกเข่าในน้ำระดับสะโพกของผม มองจากมุมนี้ผมเห็นชัดเจนเลยว่าลิ้นสีชมพูกำลังเลียแผลถูกข่วนตรงเอวผมอยู่ ผมเขาช้อนสายตาคมขึ้นมองสบตา รู้สึกใจสั่นวูบจนต้องดันกลออก ดีที่หมาป่าหนุ่มยอมผละออกห่างแต่โดยดี ผมทำตีเบลอไม่เห็นเขาเลียริมฝีปาก

   “ขะ ขอบใจที่รักษาให้ วันหลังไม่เป็นไร ฉันจะกินยาไม่ปล่อยแผลทิ้งไว้อีกเด็ดขาด!” แน่นอน ชั่วป๊าบ ชัวฝุดๆ ล้านเปอร์เซ็นต์เลย การรักษาแบบนี้ไม่ปลอดภัยกับหัวใจของผม

   กลพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ ผมรีบล้างตัวให้เสร็จแล้วขึ้นจากน้ำทันที มีกลตามหลังมา เจอน้ำลายหมาป่าแบบนี้ ผมจะเป็นพิษสุนัขบ้าไหม ไม่สิ ถ้าจะเป็นคงเป็นฝ่ายกลมากกว่า เจอพิษค้างคาวบ้าประจำตอนบริจาคเลือด

   พวกเราหันหลังให้กันระหว่างใส่เสื้อผ้า ก่อนจะกลับเต็นท์ไปนอน คืนนี้ไม่มีใครเป็นเฝ้ายาม เพราะมอสเตอร์ไม่โจมตี ของจำเป็นทุกอย่างของพวกเราถูกเก็บไว้ในกระเป๋าใกล้ตัวหมด ถ้าจะเอาต้องเข้ามาเอาในเต็นท์ ซึ่งแน่นอนว่าพวกผมตื่นมาซัดได้ชัวร์

   เราเลือกเต็นท์ใหญ่สำหรับนอนได้สี่คน ผู้ชายสามคนนอนอีกมุมนึง ส่วนลินไปนอนอีกมุม เพื่อความสะดวก และปลอดภัยต่อตัวผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม ปล่อยให้ไปนอนเต็นท์คนเดียวน่าเป็นห่วง สู้ให้พวกผมนอนเฝ้าดีกว่า

   จัดที่จัดทางจัดตำแหน่งมุดตัวเข้าผ้าห่มนุ่มๆ ในช่วงที่กำลังจะเคลิ้มๆ หลับ ผมได้กลิ่นหอมอะไรบางอย่างโชยมา รู้สึกกลที่อยู่ข้างๆ เขย่าตัวผมกับไวไว พร้อมกับเรียกลินเสียงดัง ผมง่วงจนไม่สนใจ หลับแบบไม่สนโลก สติทุกอย่างดำดิ่งสู่ความว่างเปล่า เหมือนร่างกายล่องลอยไปสู่นครแห่งความฝัน

   เมื่อผมตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ใน...

   กรง! ใครสั่งใครสอนให้เอาค้างคาวมาขังกรงหมาวะเจ้าพวกบ้า!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 18:56:32 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
รอตอนต่อไปนะคะ :)

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.9 กลุ่มคนน่าสงสัย

   ผมกำลังเป็นค้างคาวเล่นท่ายาก ตีลังกาหงายท้องใช้เท้ายันซี่กรง หลังจากที่ทั้งเขย่า ทั้งแทะยังไม่เป็นผล เหมือนกรงนี้ผนึกความสามารถบางอย่างด้วย ผมเรียกเคียวออกมาใช้ไม่ได้เลย ที่ใช้ได้มีเพียงความสามารถทางกายภาพเท่านั้น

   กรงนี้มีขนาดเล็กมาก เป็นกรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า นั่งได้อย่างเดียว ไม่ต้องคิดจะยืนเลย ขนาดจะนอนยังต้องขดตัวเป็นกุ้ง พื้นกรงก็เย็นเฉียบ หาความสบายไม่เจอ ดูยังไงมันก็กรงหมาชัดๆ

   ผมใช้ดวงตาที่สามารถมองเห็นได้ในความมืด มองไปโดยรอบเพื่อหาทางหนีทีไล่ รู้สึกนอกจากตัวผมในกรงนี้แล้ว ยังมีกรงอื่นๆ วางซ้อนกันโดยรอบ บางตรงมีตัวอะไรสักอย่างอยู่ ถูกคลุมด้วยผ้าผมเลยเห็นไม่ถนัด บางกรงว่างเปล่าไม่มีอะไร ที่แน่ๆ บริเวณที่ผมอยู่ไม่มีวี่แววของพวกกล

   ประเด็นคือ ผมมาอยู่ในกรงนี้ได้ยังไง จำได้ว่าผมไปอาบน้ำกับกลที่น้ำตก เกิดเหตุการณ์...เอิ่ม...นั่นแหละ พออาบน้ำเสร็จกลับมานอนที่เต็นท์กับพวกไวไว

   นอนไปไม่เท่าไหร่ รู้สึกถึงกลิ่นหอมบางอย่าง กลส่งเสียงเรียก เขย่าตัวผมจนไส้แทบพลิกกลับด้าน ก่อนทุกอย่างจะเงียบลง พอรู้สึกตัวอีกที ผมก็มาอยู่ในกรงนี้แล้ว

   เรื่องสไตล์นี้ไม่ต้องสงสัยเลย พวกเราโดนยาสลบแหงๆ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ มันน่าแปลกตรงที่ จุดที่เราอยู่ก่อนหน้านี้เป็นเซฟโซน ผู้เล่นและมอนสเตอร์ไม่สามารถทำอันตรายต่อผู้เล่นคนอื่น ถ้าแบบนั้นคนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้คงมีอยู่อย่างเดียว

   NPC หรือ ตัวละครชาวบ้านที่มีอยู่ในเกม แต่คนพวกนั้นจะทำร้ายพวกเราไปทำไม ในเมื่อระบบปกติ ตัวละครพวกนี้จะถูกควบคุมโดยพนักงานจากบริษัทเกม ให้ทำหน้าที่ของตัวเอง ห้ามทำร้ายผู้เล่นเด็ดขาด นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

   “จับมาได้แค่สามตัวเองเหรอ มีคนบอกว่าเห็นสี่นี่หว่า พวกนายดูดีแล้วหรือยัง”

   “จะไปดูเองเลยไหมล่ะ พวกฉันเจอมาแค่นี้แหละ อย่าบ่นมากนักเลย รีบๆ ขนไปให้นายใหญ่ดีกว่า จะได้รับๆ เงินแล้วรีบชิ่งสักที งานนี้ข้าว่าไม่หมู ตอนนี้พวกมันยังหลับไม่มีพิษภัย เกิดตื่นขึ้นมาความซวยมาเยือนแน่”

   ผมอยากจะบอกเหลือเกิน ตูตื่นนานแล้วครับ ได้ยินครบถ้วนทุกประโยค ทุกคำพูดเลยล่ะ แสดงว่าพวกมันสะกดรอยตามพวกเรามาตั้งแต่แรก อาศัยจังหวะที่พวกเราเผลอจัดการพาตัวมาสินะ

   แค่สามเองเหรอ...อีกคนใครกันที่รอดไปได้?

   ความคิดผมเป็นอันสะดุด พวกมันยกกรงผมขึ้น ผมหมอบนอนนิ่งลอบมองออกไปรอบๆ ผ่านกรงแล้วกรงเล่า ในกรงเหล่านั้นมีพวกมอนสเตอร์กับสัตว์แปลกอยู่ ผมว่าเรื่องนี้มันชักจะแหม่งๆแล้วสิ ออกเกมเมื่อไหร่คงมีรายการแจ้งพี่วินแน่

   พ้นเขตกรงวางเกลื่อน มาเจอเข้ากับเต็นท์ตั้งกระจายอยู่ห้าหลัง ดูๆ ไป มันเหมือนกับการรวมตัวของคนสองกลุ่ม กลุ่มที่มีปลอกคอดูไม่มีความสุขเลยสักนิด ส่วนพวกที่ไม่มี ทำตัวอย่างกับทหารคุมนักโทษ

   ผมถูกพามาเต็นท์ใหญ่สุด กรงของผมถูกวางลงบนพื้นเต็นท์ที่ปูไปด้วยพรมขนสัตว์อย่างดี บ่งบอกตำแหน่งเจ้าของ ผมพยายามเพ่งจนลูกตาแทบหลุดออกมาเต้นแซมบ้า ก็ยังไม่เห็นหน้าใครในนี้นอกจากเท้าหนังมันเงาวับของผู้ที่นั่งอยู่บนแท่นนอน

   “มาส่งให้เรียบร้อยแล้วครับ” สองคนที่แบกกรงผมมาตลอดทางกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ

   “ดีมาก ฉันจะมอบรางวัลให้พวกนายอย่างงาม ไปจัดการงานอื่นต่อซะ”

   “แต่นายใหญ่ หมอนี้เป็นแวมไพร์ มีอันตรายสูงมาก พวกผมเกรงว่านายใหญ่จะไม่ปลอดภัย”

   “เฮอะ! มันจะทำอะไรฉันได้ ในเมื่อฉันผู้ช่วยมือดี นักเวทที่แสนเก่งกาจอยู่ข้างกาย พวกนายรีบไสหัวออกไปซะก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”

   “ครับ!”
   
   ปล่อยมันคุยกันไป ตอนนี้ผมใช้อาวุธไม่ได้ คงต้องพึ่งความสามารถติดตัว การใช้คลื่นความถี่เสียงในระดับที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินเพื่อติดต่อกับคนเผ่าสัตว์เหมือนกันอย่างกลกับไวไว

   ระหว่างที่กำลังอ้าปากส่งเสียงเพลินๆ ปล่อยให้เจ้านายใหญ่อะไรนั่นฝอยกับคนสนิทตัวเองไป เสียงกระแทกกรงดังสนั่นจนปวดหูจี๊ด ยิ่งเวลาใช้ทักษะการส่งคลื่นความถี่เสียง หูผมจะได้ยินมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ กรงเล็กอันน้อยนิด เคาะทีเสียงสะท้อนสะเทือนไปถึงไส้ติ่ง ผมกุมสองหูดีดดิ้นอยู่ในกรง ร้องงี๊ดง๊าดแบบค้างคาวเจ็บปวด

   “นั่นเจ้าทำอะไร! มันร้องใหญ่แล้ว”

   โอย เอาเลย โวยมันไปเยอะๆ หูผมปวดระบมจะแย่อยู่แล้ว ยังๆ ยังไม่หยุดเคาะอีก ตอนเด็กมีปมด้อย บ้านไม่ให้เคาะสังกะสีหรือไงห๊ะ

   “มันกำลังใช้เสียงบอกพวกพ้อง นายถอยไปก่อน ฉันจะทำการผนึกมันแล้วจะได้นำออกมาให้ดูเห็นชัดๆ ว่าจะใช้มันทำอะไรได้บ้าง”

   เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้น ฟังยังไงก็เป็นเสียงผู้ชายท่าทางร้ายกาจ

   “ดีเหมือนกัน กลุ่มเรายังไม่เคยได้เผ่าแวมไพร์มาก่อน น่าจะมีประโยชน์พอดี” ผมพยายามแหงนหน้ามองจากมุมล่าง เห็นช่วงเท้าขึ้นไปจนถึงอก เพราะอีกฝ่ายอยู่ห่างพอสมควร

   แกรก

   เสียงกุญแจกรงถูกไขออก ผมหูผึ่ง สมองคิดเร็วจี๋หาวิธีเอาตัวรอด ถ้าพุ่งออกไปมีแต่จะโดนจับมัดแน่นหนาแน่ การหนีมันต้องมีชั้นเชิง ผมแสยะยิ้มกับตัวเอง รอคอยช่วงเวลาที่กรงถูกเปิดขึ้นจากทางด้านบนจนสุด แล้วขดตัวนอนอยู่แบบเดิม

   “นิ่งเชียว คิดจะทำอะไรอีก หืม เจ้าค้างคาวตัวจ้อย”

   แขนขาวซีดใต้เสื้อคลุมสีเทาหม่นยื่นเข้ามาในกรง ผมกลั้นใจนับถอยหลัง พอแขนข้างนั้นเลื่อนลงมาในระยะงับผม ผมจัดการอ้าปากกัดเข้าไปเต็มแขน ฝังเขี้ยวสูบเลือดแบบไม่เกรงใจ บอกแล้ว แม้ผมจะใช้อาวุธไม่ได้ แต่ความสามารถติดตัวยังคงอยู่ พ่อจะดูดให้แห้งเลย

   แหวะ เลือดไม่อร่อย สู้ของกลก็ไม่ได้

   “บัดซบ!” เสียงทุ้มนุ่มเปลี่ยนเป็นตวาดกร้าว ใช้คทายาวแบบพวกพ่อมดร้ายในมือฟาดหวดเข้ามา ก่อนไม้คทาจะถึงตัว ผมใช้มือจับยึดไว้ด้วยกำลังของแวมไพร์ เขาไม่กล้ากระชากแขนออกจากปากผม ก็ผมเล่นกัดซะจมเขี้ยว หากบ้ากระชากออกเนื้อเหนียวๆ นั่นคงได้ติดปากผมคำโตล่ะ

   นายใหย่ที่ว่าไม่กากอย่างที่คิด เขาลุกขึ้นถือขวานอันยักษ์ จากที่ขาวอยู่แล้วงานนี้ซีดกว่าเดิม รีบปล่อยแขนเหยื่อกระโดดหนีแทบไม่ทัน เสียงลมแหวกอากาศ ขวานใหญ่จามลงพื้นบ่งบอกความแรง ถ้าเกิดผมยังไม่หลบมีหวังกลายเป็นค้างคาวสองส่วน

   ทางนักเวทลมออกหู ตวาดเสียงดังพลางชูคทาขึ้น

   “อยากกัดนักใช่มั้ย ได้ อย่าขยับไปไหนแล้วกัน!”

   แท่งน้ำแข็งปลายแหลมพุ่งเข้าใส่ ผมกระโดดถอยหลังกางปีกเตรียมพุ่งออกจากเต็นท์ นักเวทกับเจ้านายใหญ่ไม่ยอมปล่อยผมไปง่ายๆ เจ้าท่องคถารัวเร็วสร้างตาข่ายกับโล่ขวางทางผม
   
   “โอ๊ย! เจ็บๆๆ”

   หัวกระแทกเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็นเข้าอย่างจังจนหัวปูด ร้องโอดโอยได้ไม่เท่าไหร่ ต้องเรียกเคียวออกมากวัดแกว่งปัดป้องไม่ให้ตาข่ายนั่นเข้ามาถึงตัวได้ อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เจ้ากรงนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเรียกอาวุธออกมาใช้ไม่ได้ หลุดจากกรง ถึงเวลาอาลาวาดของผมบ้าง

   “สมุนค้างคาวจงออกมา”

   ผมเรียกใช้ทักษะเอาค้างคาวออกมาป่วนทั่วเต็นท์ จนนักเวทเปิดช่องว่างให้ผมกางปีกบินพุ่งตัวเอาเคียวโจมตีใส่ เขาผงะถอย สลายเวทมนต์ที่คลุมเต็นท์ไว้ สร้างโล่ใสมาป้องกันตัวเองจากการโจมตี ผมอาศัยจังหวะนี้หมุนข้อต่อเคียวแยกออกเป็นสอง หมุนเป็นวงกลมรอบตัวตัดเสาเต็นท์ทั้งหมดแล้วจับเคียวสองมือฟัดหลังคาเต็นท์เปิดทางหนีออกไปด้านนอก

   บินเข้าไปหลบอยู่ในเงามืดของต้นไม้ที่อยู่โดยรอบ เมื่อมั่นใจแล้วว่าจะไม่มีใครมากวนระหว่างใช้อุปกรณ์เสริม มือลูบต่างหูเพื่อไปหาใครอีกคน เวลานี้จะให้บินหาคงไม่ทันการ ต้องวาปลูกเดียว พอเจอกลที่เป็นกำลังสำคัญแล้ว ค่อยออกหาไวไวกับลินที่หลัง

     พลังไหลออกมาจากต่างหูเข้าครอบคลุมร่างอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่ปกคลุมจนหมด ร่างของผมเหมือนหลุดไปอยู่ในห้วงความว่างเปล่า พริบตาเดียวผมวาปมาโผล่อีกที่ ภาพเบื้องหน้าทำให้ผมอึ้ง

   กรงขังขนาดใหญ่ถูกตั้งอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางกองไฟที่รายล้อม ร่างสูงที่ผมคุ้นตาอยู่ในท่านั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นกรงเย็นเยือก ลำคอมีปลอกคอสีดำสนิทคล้องด้วยโซ่เส้นใหญ่ตรึงไว้กับพื้นกรง แขนทั้งสองข้างถูกล่ามด้วยโซ่แบบเดียวกันยึดไว้ที่มุมกรงด้านซ้ายและขวา ท่าทางสะบักสบอมเหมือนกับผ่านการต่อสู้มาอย่างหนัก

   “กล” ผมส่งเสียงเรียกเขาเบาๆ ให้พอได้ยินกันแค่สองคน สถานการณ์ตอนนี้เสียงดังไปมีแต่จะเรียกคนพวกนั้นมาจับ

   ใบหูสามเหลี่ยมกับขนยุ่งๆ กระดิกเล็กน้อย กลเงยหน้าขึ้นมามองผม ดวงตาคมเบิกกว้าง ส่งเสียงคำรามในคอท่าทางโมโหร้ายดูน่ากลัว

   “เสนอหน้ามาแล้วสินะ”

   เสียงโซ่กระทบกันดังก้อง ผมชะงักหันไปมองด้านหลังถึงได้รู้ว่าสิ่งที่กลคำรามใส่คืออะไร นักเวทหนุ่มกับนายใหญ่ของคณะละครสัตว์ เดินมาพร้อมลูกน้องมากมาย ล้อมผมกับกรงไว้จนไม่มีทางออก ด้านบนถูกกางด้วยข่ายเวทมนต์ ทำให้ผมไม่สามารถบินหนีขึ้นไปได้

   ยิ่งชายคนนั้นเข้าใกล้ผม กลยิ่งพยายามขัดขืนอย่างหนัก ผมกระชับเคียวในมือแน่น เตรียมสู้อีกรอบ นายใหญ่กับนักเวทนั่นเป็นผู้เล่นระดับสูงกว่าผม นอกนั้นระดับไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่จำนวนไม่ควรดูถูก เอาไงดีวะเนี่ย

   “หาทางนี้ไปเถอะ พวกนายไม่รอดหรอก” ชายตรงหน้ายกมือขึ้น ดีดนิ้วเสียงดังกังวาน พร้อมระบบแจ้งเตือนในหัว

   มนต์พรางตาคลายออก

   สัมผัสบางสิ่งที่ลำคอให้ผมก้มมอง ยกมือแตะอย่างไม่อยากเชื่อ ปลอกคอแบบเดียวกับกลอยู่บนลำคอของผม

   ผู้เล่นวัตโดนไอเท็มผนึกความสามารถ
   ชื่อ : ปลอกคอฝึกสัตว์
   คุณสมบัติ : หากสัตว์เลี้ยงขัดขืน เจ้าของสามารถลงโทษได้ด้วยกระแสไฟฟ้าผ่านทางปลอกคอ ผู้ที่ถอดปลอกคอออกได้มีเพียงเจ้าของเท่านั้น

   “กระแสไฟฟ้าคงจะไม่เป็นผลกับพวกแวมไพร์เท่าไหร่ พวกพ้องของนายแพ้พวกธาตุเงินกับพลังสว่าง ฉันเลยลองดัดแปลงนิดหน่อยเพื่อนายโดยเฉพาะ ทดลองดูหน่อยแล้วกันว่ามันได้ผลจริงรึเปล่า”

   เคียวในมือผมหายไปทันทีที่ปลอกคอนี้โผล่ออกมา ผมพยายามใช้เล็บฉีกปลอกคอให้ขาด มันไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย ฉับพลันความรู้สึกร้อนเหมือนถูกเหล็กนาบปรากฏขึ้นตรงลำคอ พลังธาตุแสงที่ผมไม่ถูกโรคสร้างความแสบร้อนไปทั้งตัว ถ้าหากระบบเกมไม่ลดความเจ็บที่ได้รับลมจนเหลือเพียงเล็กน้อยจากของจริง ผมคงจะเจ็บจนสลบไปแล้ว

   ในตอนนี้ผมได้ยินเพียงเสียงร้องเรียกของกล กับเสียงโหยหวนของตัวเอง แสบเป็นบ้า

   สักพักผมกลับมาหายใจหายคอได้อีกครั้ง ตามผิวยังรู้สึกแสบอยู่บ้าง อาศัยลมเย็นในตอนกลางคืนคอยช่วยบรรเทา

   “พวกนายต้องการอะไร เป็นผู้เล่นเหมือนกัน ทำไมต้องทำแบบนี้”

   ผมถาม จากสถานการณ์ทั้งหมด ผมพอเดาได้แล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง คนพวกนี้มีนายใหญ่เป็นหัวหน้า มีนักเวทเป็นผู้ช่วย จับคนกับพวกมอนสเตอร์ใส่ปลอกคอเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งคงหนีไม่พ้นให้ลงดัน หาของ ตีมอนสเตอร์มาให้

   “เพื่อผลประโยชน์ไงล่ะ ทำต้องไปรวมกลุ่มแบ่งของด้วย สู้ใช้เจ้าพวกนี้ไปหาของมาให้ยังง่ายซะกว่า”

   นายใหญ่เป็นคนตอบ ไม่ผิดจากที่คิด

   “แล้วพวกนายจับเรามาได้ยังไง ทั้งที่อยู่ในเขตเซฟโซน”

   ผมถามต่อถ่วงเวลาหาทางหนี หางตาเหลือบเห็นกลกำลังทำอะไรบางอย่าง ต้องคอยดึงความสนใจไว้

   “’ง่ายมาก ใช้พืชพิษที่มีอยู่ในเกม ปล่อยลมพัดกลิ่นเข้าเต็นท์พวกนาย”

   เผลอพยักหน้ารับตาม โอ้ว มันมีวิธีแบบนี้ด้วยแฮะ ไม่โจมตีโดยตรง แต่ใช้ของอยู่ด้านนอก อาศัยธรรมชาติภายในเกมเป็นตัวช่วย น่าเอาไปทำบ้าง

   “อย่ามัวแต่คุย รีบจัดการจับแวมไพร์นี่ดีกว่า เจ้าหมาป่านั่นปล่อยไว้ก่อน ตอนจับมาเล่นอาละวาดซะเราเสียคนไปเกือบสิบคน ไว้หาทางได้ค่อยจัดการอีกที”

   นักเวทเตือนนายใหญ่ที่มัวแต่คุยกับผม ประจวบเหมาะกับเสียงแกรกด้านหลัง รอยยิ้มปรากฎขึ้น ผมก้มหัวลงหมอบกับพื้น

   “จับมันเร็วเข้า!!”

   นักเวทตะโกนพร้อมกับกรงที่ถูกเปิดออก กลยืนขยับข้อมือกางเล็บน่ากลัว คิ้วเข้มขมวดไม่สบอารมณ์ ใครวิ่งเข้ามาใกล้พ่อซัดแหลกจนปลิวไปคนละทิศละทาง นักเวทคิดจะใช้ปลอกคอหยุดกล แต่ขอโทษ ดูเหมือนว่าหมาป่าของเราจะเลเวลสูงกว่า แค่ใช้เล็บกรีด ปลอกคอนั่นรวงตุบกองอยู่บนพื้น

   “เอาของฉันออกด้วย”

   ผมรีบชี้ๆ ที่คอตัวเอง อยากจะเอาคืนเต็มแก่ กลไม่ขัดศรัทธาช่วยปลดปล่อยผมจากพันธนาการ ทันทีที่ปลอกคอถูกทำลาย ผมเรียกเคียวมาใช้ ตวัดฟาดคนที่คิดจะเข้ามาใกล้ พร้อมเรียกลูกสมุนแวมไพร์ เกิดฝูงค้างคาวนับร้อยตัวพุ่งเข้าใส่คนพวกนั้น ดูเหมือนจะน่ากลัว แต่พลังโจมตีน้อยนิด ใช้ป่วนได้อย่างเดียว ผมคว้าแขนกล วิ่งหลบเข้าไปในป่า เร้นกายกับความมืด

   กว่าพวกมันจะรู้ตัว ผมกับกลรอดออกมาแล้ว เทียบกับพวกอาชีพโรรมดาทั่วไปพวกนั้น จะมาสู้สัตว์ป่าในตอนกลางคืนได้ยังไง
   
   “นายจะไปไหน”

   กลดึงชายเสื้อผม ระหว่างกำลังย่องไปทางตรงกันข้ามกับเต็นท์ มีฉากหลังเป็นพวกนิสัยเสียตามหาเราให้วุ่น

   “ทำให้มันวอดวายกว่านี้ไง”

   เสียงหัวเราะของผมคงสยดสยองมาก กลถึงกับปล่อยมือจากชายเสื้อถอยห่างไปหนึ่งเมตร ผมยังคงหัวเราะต่อไป เป้าหมายของผมไม่ใช่ไวไวหรือลิน มันคือจุดแรกที่ผมฟื้นขึ้นมา เบื้องหน้าคือ...

   กรงขังสัตว์!

   “กล นายออกจากกรงมาได้ยังไง”

   ผมถามพลางลูบคางมองสำรวจเหล่าสัตว์และมอนสเตอร์

   “ฉันในร่างหมาป่าเสี่ยงโดนจับขัง เลยเรียนสกิลสะเดาะกุญแจของสายโจรไว้” กลตอบ ดวงตาสีเข้มหรี่มองผม

   “ถ้างั้นนายช่วยปล่อยพวกตัวร้ายๆ ในกรงที”

   กลตาโต ยกยิ้มมุมปาก เขาฉลาดเลยเข้าใจสิ่งที่ผมคิดได้อย่างรวดเร็ว หากปล่อยเจ้าพวกสัตว์ร้ายออกมา คนพวกนั้นจะหัวหมุนเปิดโอกาสให้เราออกตามหาไวไวกับลินและหลบหนีออกจากที่นี่ได้ง่ายขึ้น ไม่สิ ยังมีอีกที่ ที่ผมต้องไป

   หลังปล่อยมอนสเตอร์กับสัตว์ตัวใหญ่เสร็จ เราสองคนรับเผ่นไปทางเต็นท์ที่พัก กลุ่มคนโดนใส่ปลอกคอ ถูกสั่งห้ามให้อยู่ภายในนั้น ผมใช้เล็บกรีดเต็นท์ แอบย่องเข้าไป คนพวกนั้นมองผมเป็นตาเดียว

   “ขอถามสั้นๆ ใครมีอาวุธจัดการเจ้าปลอกคอได้บ้าง”

   ผมชี้ไปที่ปลอกคอของชายคนหนึ่ง ในเต็นท์นี้มีทั้งหมดสิบคน ผู้ชายทั้งหมด สองสามคนยกมือ ผมพยักหน้าให้กลช่วยปลดปลอกคอคนพวกนั้น

   “ช่วยคนอื่น และออกไปจากที่นี่”

   ผมผละออกมาเลิกสนใจคนพวกนั้น ถือว่าผมช่วยแล้ว จะจัดการกันยังไงเรื่องของพวกเขา ที่สำคัญ ผมกวาดตาดูไม่มีไวไวอยู่ในกลุ่มนั้น แสดงว่ามันต้องหนีไปแล้วแหงๆ น่าจะวนเวียนอยู่ไม่ไกล ต่อไปอีกเต็นท์ มีผู้หญิงทั้งหมดเจ็ดคน เต็นท์นี้ลำบากหน่อย เพราะพวกเธอไม่มีใครมีอาวุธหรือสกิลทำลายปลอกคอได้ กลเลยต้องปลดให้ทั้งหมด เช่นเคย ลินไม่ได้อยู่กลุ่มนี้

   “ฉันเปิดทางหลังเต็นท์เอาไว้แล้ว พวกเธอหนีเข้าป่าไปทางนั้น พยายามใช้สกิลพลางตัวให้มากที่สุด”

   ผมแนะนำ ทุกคนพยักหน้ารับ มองเราด้วยสายตาทราบซึ้ง ผมโบกมือด้วยรอยยิ้มปานพ่อพระ

   “ของตอบแทนผมไม่ต้องการ แต่ช่วยตอบคำถามหน่อย ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่”

   ผู้หญิงที่ดูจะรู้มากที่สุดเป็นคนบอกผม

   “พวกมันบอกจะช่วยเราทำภารกิจ แต่ต้องทำสัญญา พวกเราเข้าใจว่าเป็นการจ้าง ไม่คิดเลยว่าพอยอมทำจะกลายมาเป็นขี้ข้าให้มัน”

   เธอเป็นนักต่อสู้ระยะประชิด มือเล็กกำหมันแน่นชกพื้นจนเป็นรู ผมถอยหลัง ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวเป็นบ้า

   “ทำไมไม่แจ้งจีเอ็มล่ะ”

   อ้าว ผมถามอะไรผิด เธอตวัดตาใส่

   “คงจะแจ้งแล้ว แต่ไม่มีใครมาช่วย ฉันขอบอกไว้เลยว่า พวกนั้นไม่ได้ทำผิดกฎของเกมแม้แต่กฎเดียว เพียงแค่ใช้ช่องว่างในการระรานคนอื่น บริษัทเกมเลยไม่สามารถทำอะไรได้ในทันที จนกว่าจะรวบรวมหลักฐานครบ”

   หมาป่าหนุ่มที่เงียบทำตามผมอย่างว่าง่ายมาตลอด เพิ่งเปิดปากพูดอธิบายประโยคยาวๆ สาวนักสู้เหมือนยังไม่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไหร่ กลปรายตามอง พูดอีกประโยค

   “ทำไมไม่เลิกเล่นเกม ลบตัวทิ้งไปซะล่ะ”

   เฮ้ย นายกล นายหาเรื่องให้เกมพี่ชายผมเสียลูกค้าแล้วนะ สาวคนนั้นสบัดหน้าหนี

   “ใครจะไปยอมเลิกเล่นง่ายๆ เครื่องเล่นราคาไม่ใช่ถูกๆ ที่สำคัญฉันซื้อของเกมนี้ไปตั้งเยอะ”

   “หมายความว่า ทุกคนยังกลับมาเล่นเกม เพราะคิดว่าสักวันจีเอ็มจะจัดการเรื่องให้สินะ”

   ทุกคนเงียบ ผมถือคติว่า ความเงียบคือคำตอบ

   “เชื่อฉัน อีกไม่นานพวกนั้นโดนจัดการหมดแน่” น้องชายผู้สร้างเกมอยู่ตรงนี้ทั้งคน อีกอย่าง ผมมั่นใจว่าพวกพี่วินไม่ปล่อยให้พวกนั้นลอยนวลนานนักหรอก

   “ขอให้มันจริง!” อูยย โดนสาวกระแทกเสียงใส่

   “คำถามสุดท้าย พวกเธอเห็นผู้หญิงที่เป็นนักเวท ทำตัวอย่างกับแม่มดบ้างมั้ย”

   สาวๆ มองหน้ากัน นักบวชเป็นคนยกมือตอบ

   “พวกฉันไม่เห็นเลยค่ะ เธอเป็นพวกของคุณเหรอคะ”

   ผมพยักหน้ารับ กลหันมามองพร้อมกับเสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังวิ่งมาทางนี้ ได้ยินเสียงเอะอะว่ามีคนหลบหนี ชิ รู้ตัวไวชะมัด

   “พวกเธอรีบหนีไปเร็วเข้า เราจะต้านเอาไว้เอง”

   ไม่น่ามัวแต่คุยเล้ย ผมเร่งให้พวกเธอออกไปจากเต็นท์ แล้วซุ่มอยู่คนละด้านตรงทางเข้า พอหลุดเข้ามาคนหนึ่งผมกับกลช่วยกันรุมอัด โชคดีหน่อย มันวิ่งมาแค่สาม อาศัยเลเวลกลที่โหดกว่า กับพิษที่ผมเก็บไว้ตอนล่ามอนสเตอร์ทำให้พวกมันชักดิ้นชักงออยู่ในเต็นท์โดยไม่มีใครรู้

   เราย่องออกมาเงียบๆ ออกตามหาไวไวกับลินต่อไป ด้านนอกกำลังวุ่นวายเต็มที่ ทั้งมอนสเตอร์ และคนที่พวกเราปล่อยออกมา หลายคนไม่หนีคิดแก้แค้นเข้าไปตีกันเละ เรียกได้ว่าเป็นสงครามขนาดย่อม ผมมองภาพนั้นด้วยความสะใจอย่างยิ่ง เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับวัต มันต้องเจอกับความพินาศ   

   จู่ๆ ผมโดนฉุดลากผมออกมาจากบริเวณนั้น ผมหันกลับ คิดว่างานนี้ถูกจับได้คงมีรายการซัดกันสักตั้ง นึกเคืองกลนิดๆ ทำไมไม่เตือนกันเลยฟะ ผมตวัดแขนไปทางด้านหลังไปโดนอะไรบางอย่างเข้า มันเหมือนกับ

   หูกระต่าย?

   “มือเท้าไวไม่เปลี่ยน”

   “ไอ้ไวไว! หายหัวไปไหนมาวะ” มันรีบใช้มือปิดปากผม แล้วพากันไปหลบอยู่ในเต็นท์เก็บของใกล้ๆ

   ไวไวปัดป้องการอาละวาดของผม หลบไปหลบมาจนถูกผมคว้ารวบหูทั้งสองข้างของมันได้ มันร้องโอดโอยใหญ่

   “อย่ามัวแต่เล่น”

   กลเตือนเสียงเข้ม ผมจำต้องละมือออกจากหูไวไวมัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 18:57:21 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เห แลดูเครียดจังเลย
รอตอนต่อไปน้าาาาาา

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
 :laugh: สมนะหน้าไอพี่วิน  รู้ว่าระบบถูกแฮก รู้ว่ามีคนโดนจับเป็นเหยื่อ แต่ก็ยังไม่เข้าไปช่วย มัวแต่อยากได้ข้อมูล
พอรู้ว่าเป็นน้องตัวเอง  ทีนี้นั่งเก้าอี้ไม่ติดเลย  :m14:

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 814
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อ่าฮะ
คนเขียนยังไม่ตอบคำถามที่ว่า
พวกที่แฮกข้อมูลทำอะ มันไม่คิดหน่อยหรอว่าถ้าจับตัวผู้เล่นแบบนั้นคงโดนหนัก แถมยังถูกจับผิดได้ง่ายๆด้วยซ้ำ
ถ้าสามารถ ลงทุนแฮกข้อมูล จ้างผู้เล่นได้ขนาดนั้น ทำไมไม่จ้างต่อไป ไม่เห็นต้องจับตัวผู้เล่นอื่นเลย
เสียเวลา ลงมือทำตามแผนเลยก็น่าจะได้ด้วยซ้ำ
ถ้าจ้างคนมา ก็จ้างแฮก ให้ทีมตัวเองเก่งๆ แบบสูตรโกงเกมไง
จัดการง่ายกว่ามาจับผู้เล่นเยอะเลย ไอ้คนพวกนี้คิดจะทำการใหญ่ แต่ไม่รอบคอบจริงๆ
แบบนี้มันก็มีแต่เจ้งกับเจ้งอะดิ
โจรโง่
 :m16:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
แลดูเครียด...ก็น่าเครียดแหละ

นี่ถ้าฟ้องรวยเละเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.10 Game Master

   กลปลดปลอกคอให้ไวไว เรานั่งสุมหัวกันสามคนรายล้อมไปตัวของมากมาย มีบางชิ้นน่าสนใจ แอบหยิบใส่กระเป๋า พอกลกับไวไวมอง ผมยิ้มหน้าซื่อใส่ ก็นะ พวกเราโดนจับมาทำร้ายร่างกายแบบนี้ มันต้องมีค่าทำขวัญกันหน่อย หยิบสักชิ้นสองชิ้นไม่เป็นไรหรอกหน่า พอผมอธิบายแบบนี้ ไวไวจัดการโกยของที่คิดว่ามีราคาเข้ากระเป๋าจนเต็มทุกช่องหนักกว่าผมอีก กลส่ายหัวอย่างกับไม่เอาด้วย แต่ดันหยิบของดีมาให้ผมตลอด มันต้องแบบนี้สิ ถึงจะอยู่ด้วยกันได้   

   “ดูเหมือนว่าคนที่รอดไปจะเป็นลินนะ เอาไงดี”

   ไวไวถามพลางส่องไม้เท้าคุณสมบัติดีเยี่ยม

   “ลินน่าจะยังอยู่ในบริเวณนี้ เห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ต้องรู้แล้วว่าพวกเราเป็นคนทำ ถ้าออกไปหาน่าจะเจอได้ไม่ยาก”

   ทั้งสองคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดผม

   “ไปกันเถอะ”

   สามคนลุกขึ้นอย่างหล่อ เดินจากกองขยะไป ส่วนของมีค่าราคาแพงโนพวกเราริบไว้หมดแล้ว คิดอีกที ดีเหมือนกันนะที่โดนจับมา ได้ของมาขายฟรีๆ หึหึ

   ผมชะโงกหน้าออกจากเต็นท์ มองซ้ายมองขวา สงครามเกิดขึ้นจากสามฝ่าย ฝ่ายแรกเป็นพวกนายใหญ่ ส่วนที่สองคือคนที่ถูกจับ และส่วนที่สาม เหล่ามอนสเตอร์ดุร้าย ผมไวไวหันไปมองกลอย่างมีความหวัง กลมองหน้าพวกเรา แวบแรกยังสงสัย พอเราโฟกัสที่จมูกอีกฝ่าย ผมได้ยินเสียงสบถจากกลล่ะ

   “ตามมา”

   เสียงรอดไรฟันพูดพลางย่องนำพวกเราไป ฮา ดีจริงที่กลุ่มเรามีเผ่าหมาป่า กรณีของไวไว มันเสนอหน้ามาหาเอง แต่ของลินคงต้องพึ่งความสามารถของกล ตลอดทางผมแวะป่วนคนนู่นคนนี้เท่าที่มีโอกาส รายหนึ่งกำลังตีกับพวกผู้เล่นนิสัยเสีย ผมแอบขว้างหินใส่เขาจากทางด้านหลัง เจ้าตัวคิดว่าอีกฝ่ายเล่นลอบกัด ที่นี่ตีกันหนักกว่าเดิม ช่างน่ารื่นรมณ์ยิ่งนัก

   ความวินาจขนาดนี้ เราเดินทางกันอย่างสงบได้ไม่นาน มีหนึ่งในคนของนายใหญ่สังเกตเห็นพวกเรา เขาชี้มือมาทางนี้ แจ้งบอกคนอื่นๆ ไม่ถึงนาที หัวหน้าใหญ่พร้อมนักเวทคู่กายมาปรากฎอยู่เบื้องหน้า

   “ทำไว้แสบนักนะ ฆ่าพวกมัน สั่งคนไปรอจุดเกิดที่เมือง ฆ่ามันจนกว่าจะลบตัว!!”

   นายใหญ่โมโหควันออกหู กัดฟันกรอดสั่งลูกน้องให้มารุมพวกผม ผมแยกเขี้ยวใส่ คนที่เข้ามาใกล้ผงะถอย ไวไวควงไม้เท้าที่ได้มาใหม่ ซัดใส่พวกนั้นแบบไม่เกรงใจ กลหยิบกรงเล็บออกมาใช้ ของผมเป็นเคียว

   ต่อให้กลเก่งแค่ไหน ถูกคนเลเวลสูงสองคน กับพวกลูกจ๊อบอีกนับสิบรุม เรามีแค่สามเห็นทีจะรอดยาก ยิ่งเวทสารพัดบทที่นักเวทสาดใส่ ผมตวัดเคียวกระโดด บินฟันคนนั่นคนนี้มาเพิ่มเลือดให้กลกับไวไวจนแขนแทบพันกัน

   “ไอ้แวมไพร์นั่นมันมีสกิลเพิ่มเลือด จัดการมันก่อน”

   นักเวทพูดเสียงเย็น ความซวยมาเยือน ผมรีบกระโดดหลบสกิลหลังคนของมันคนหนึ่ง แล้วบินหนีไปอีกทาง โธ่เว้ย พวกมอนสเตอร์ที่ผมอุตส่าห์ปล่อยออกมาดันถูกพวกมันจัดการเรียบไปแล้ว พวกคนที่โดนขังติดพันการต่อสู้ของตัวเอง มีธนูดอกหนึ่งเฉียวปีกผมไป ขนาดแค่เฉียว ปีกผมยังแหว่งไปหน่อยนึง ชิบหาย มันเริ่มเล่นธาตุเงิน

   “งานนี้แย่มาก แย่สุดๆ เอาไงดีพวกเรา”

   ผมกระโดดหลบหลังกลกับไวไวคอยเพิ่มเลือดให้ทั้งคู่ไปด้วย ระหว่างทั้งสองช่วยปัดป้องการจอมตี ไวไวเลเวลไม่ต่างจากผม เริ่มสะบักสบอมเต็มกำลัง

   “คงต้องหนีก่อน เดี๋ยวนะ เกมนี้มันมีระบบคุยปาร์ตี้ไหม”

   กระต่ายโจ๊กเกอร์หันมาถาม ผมอ้าปากค้าง กลยังมองตาปริบๆ

   “เหอะๆ มีจริงๆ ด้วย แล้วไมลินไม่ทักหาเราหว่า”

   “นายปิดระบบติดต่ออยู่” กลพูดเสียงเรียบ อย่ามาเก๊กหล่อ นายเองก็ลืมเหมือนกันแหละ ผมรีบเรียกหน้าต่างปาร์ตี้ขึ้นมาระหว่างเราถอยร่นไปทางแนวป่า กด On ระบบติดต่อปาร์ตี้ เสียงแหลมส่งตรงถึงสมอง เพราะการติดต่อแบบระยะไกลคือการสื่อทางจิต

   “พวกนายมัวทำบ้าอะไรกันอยู่ห๊า!!”

   “โอ๊ยๆ เบาๆ”

   ไวไวลู่หูไปด้านหลัง ท่าจะปวดหูมากกับเสียงสูงปรี๊ด เดี๋ยวนะ ตะกี้ผมได้ยินเหมือนเสียงซ้อนกัน หันไปด้านหลัง นักเวทสายพร้อมทหารโครงกระดูกห้าตัวยืนทมึน ในมือถือลูกไฟสีดำ ขว้างข้ามหัวพวกเราใส่นักเวทจนรายนั้นชะงักการร่ายไป

   “ไอ้พวกผู้ชายไม่ได้เรื่อง ต้องลำบากให้ฉันออกมาหาเอง”

   ลินถลกกระโปรงเดินดุ่มๆ มาแทรกระหว่างพวกเรา นายใหญ่มองสาวเจ้าชะงักการโจมตี ตะโกนสั่งดังลั่น

   “ทุกคนหยุดมือ ห้ามทำร้ายผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด”

   อย่าว่าแต่ลูกน้องงงเลย ขนาดพวกผมยังงง เหมือนผมเห็นตาของนายใหญ่เป็นรูปหัวใจ นักเวทกำลังปะทะกับลินหันไปด่าเพื่อนตัวเอง

   “สั่งหยุดทำไม อีกนิดเดียวจะจัดการพวกมันได้อยู่แล้ว”

   “ไม่ได้ คนสวย เลิกไปกับพวกนั้นมาหาพี่ดีกว่า พี่มีเงินตั้งเยอะ ถ้าคนสวยอยากได้อะไรจะหามาให้ทุกอย่าง”

   ลินยิ้มหวานหยดย้อย ขนาดพวกเดียวกันเองยังตกใจ คิดว่าเห็นผี ฝั่งนั่นยังไม่รู้ฤทธิ์เจ้าแม่ดี พากันเคลิ้มหมด

   “ขอบคุณนะ นายมีทุกอย่างจริง แต่มีสิ่งหนึ่งที่นายไม่มี”

   “บอกมาสิ พี่จะได้สั่งคนหามาให้เดี๋ยวนี้”

   ความหวานของรอยยิ้มเพิ่มอีกหลายระดับ ผมมองหน้าไวไวกับกล เตรียมใส่เกียร์หมาเผ่น

   “หน้าตาไง!! ไอหน้าประดุกชนเขื่อน หล่อให้ได้ขี้เล็บพวกนี้ก่อนค่อยมาพูด”

   คทาหัวกะโหลกของสาวเจ้าชี้มาทางพวกผมสะดุ้งโหยงกันเป็นแถว

   “หล่อจริงๆ ว่ะ ทีแรกไม่ทันสังเกต” พวกนั่นเริ่มซุบซิบกัน ทางนักเวทยิ้มพอใจ ในขณะที่นายใหญ่แผ่ออร่าน่ากลัว แขนเต็มไปด้วยมัดกล้ามกำขวานใหญ่เส้นเลือดปูด ผมกลืนน้ำลายอึก บางทีลินไม่โผล่มาเราอาจยังมีทางรอดมากกว่า

   “ไม่ต้องกลัว พยายามต้านพวกมันไว้ ระหว่างหาพวกนายฉันเห็นคนสองคนแวบๆ น่าจะเป็นจีเอ็ม พวกเขาต้องโผล่มาช่วยแน่”

   ลินกระซิบบอกผม GM หรือ Game Master เป็นตำแหน่งของผู้ดูแลเกม จะบอกว่าแผนกพี่วินเป็นจีเอ็มก็ไม่ผิดนัก ฟังดูเหมือนเท่ก็จริง แต่มันไม่ต่างจากกรรมกรแผนกไอทีดีๆ นี่เอง นอกจากต้องดูแลระบบภายในเกมแล้ว ยังต้องคอยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย คอยควบคุมผู้เล่นไม่ให้ทำผิดกฎจนคนอื่นเดือดร้อน อารมณ์คงประมาณตำรวจของเกม

   “ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว แพ้แค่ตาย ลุยมันสักตั้ง”

   ไวไวฮึด งัดอาวุธของตัวเองออกมาใช้ กลเพียงแค่ถอดหายใจตั้งท่าสู้ไม่คิดหนี ผมเป็นผู้เล่นแนวหลัง อาศัยพิเศษทางร่างกายในการหลบหนีตวัดเคียวฟันคนอื่น มันสร้างดาเมจไม่ได้มาก แต่คนพวกนั้นล้วนติดพิษจนเลือดลดลงไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นใช้เลือดที่สะสมในเคียวมาฟื้นฟูให้ทุกคนในทีม

   ใช่ว่ามีแต่เราที่เพิ่มเลือดได้ เจ้านักเวทเปลี่ยนตัวเองเป็นหน่วยฟื้นฟูชั่วคราว เพิ่มพละกำลังรักษาคนของตัวเอง

   ไวไวเท้าหนักมากสมเป็นกระต่ายที่ต้องใช้กำลังขาในการกระโดด แต่ละจุดที่เตะกระทืบ พื้นเป็นหลุม ต้นไม้หักโค่น ถีบคนปลิว กลฆ่าไปได้สองสามคน ลินคอยใช้เวทสับสนุนจากทางด้านหลัง พร้อมเรียกทหารโครงกระดูกออกมาไม่ขาดหลังชุดแรกตายไป

   เราเริ่มเหนื่อย ร่างกายล้าเต็มทน สถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นทุกที คิดว่าคงจะตายในอีกไม่ช้า

   ผมคิดจะดับเครื่องชนสู้กันให้ตายไปข้าง ฉับพลันมีชายสองคนกระโดดลงมายืนกลางวง คนด้านซ้ายผมรู้จัก แต่คนด้านขวาผมไม่เคยเห็นมากก่อน

   คนแรกมีเรือนผมยาวสีขาวอมฟ้า มีเขาเหมือนปะการังสีอความรีนงอกยาวไปด้านหลัง ใบหน้ายิ้มแย้มขี้เล่น มือถือทวนน้ำงามวิจิตร หูถูกแทนด้วยครีบปลา อีกคนชายร่างสูงใหญ่เรือผมสีแดงสั้น มีเขาเหมือนมังกรสีแดงเข้ม ใบหน้าดุดัน มือถือดาบเล่มใหญ่เปลวไฟเต้นระริกอยู่โดยรอบ ทั้งคู่สวมเครื่องแบบสีขาวมีตราของบริษัทเกมกับคำย่อภาษาอังกฤษสองคำตรงอก

   GM…

   “สวัสดีท่านทั้งหลาย ผมเกมมาสเตอร์วาโยออกโรงแล้วจ้า”

   อุตส่าห์โผล่มาอย่างเท่ดันโพสท่าสาวน้อยเวทมนต์ ผมแทบหัวทิ่ม เหอะๆ ก็เหมาะกับนิสัยพี่วาโยเขาล่ะนะ
   
   “อย่ามัวแต่เล่น หัวหน้าสั่งให้ทำงาน” ชายอีกคนเอ่ยเตือน พี่วาโยชี้ทวนมาทางฝั่งพวกนายใหญ่

   “พวกนายระรานผู้เล่นคนอื่น เราขอลงโทษตามกฎ” น้ำเสียงขี้เล่นเปลี่ยนมาจริงจัง ดวงตาวาววับ

   “พวกฉันไม่ได้ทำผิดกฎอะไร อีกอย่าง นายมีหลักฐานเหรอ เราต่างหากที่ถูกระราน!” นายใหญ่ดูใจเย็น ผายมือออกให้เห็นความเละรอบตัว ฝีมือใครก็ไม่รู้ แย่จริง

   “ทางเราได้บันทึกภาพการกระทำทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว รวมถึงข้อมูลที่ผู้เสียหายแจ้งเข้ามาด้วย หากไม่ยอมออฟไลน์ออกเพื่อรับโทษแต่โดยดี ทางเราจะใช้กำลังบังคับ”

   ชายผมแดงกล่าวดุดัน นายใหญ่คิ้วกระตุก นักเวทหนุ่มส่ายหัว

   “ยอมไปก่อน ไว้เราค่อยไปฟ้องบริษัทเกมที่หลัง ว่าพวกผู้ดูแลเกม รังแกผู้เล่นธรรมดา”

   สายตาเยาะเย้ยไม่ทำให้สองจีเอ็มสะท้าน

   “คี ฉันลุยเลยนะ ในเมื่อพวกมันพูดไม่รู้เรื่อง เอาล่ะ ใครไม่อยากโดนลูกหลงหล่นไป อ่อ ใครคิดจะวาปหนีอย่านึกว่าจะรอด ทันทีที่พวกนายออกจากเกม จะถูกแบนไอดีเป็นเวลาสามเดือน ลดเลเวลสิบระดับ หากกลับมาทำซ้ำอีก จะถูกแบนไอดีถาวร”

   พี่โยเดินถือทวนชี้ลงพื้น ย่างสามขุมไปหาคนพวกนั้น ปาร์ตี้ผมไม่คิดขัดเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นตรงหน้า ต่างหาที่นั่งรอชมฉากเด็ด การทำงานของจีเอ็มใช่ว่าจะเจอกันง่ายๆ นะ

   มีคนหนึ่งใจกล้าวิ่งเข้าใส่ แค่ทวนแกว่งรอบเดียว ผู้เล่นหายกลายเป็นแสงไปสามคนรวด นายใหญ่ชี้หน้าเต้นผางๆ

   “โกง! แบบนี้มันโกงกันชัดๆ เอาเปรียบผู้เล่น!!”
   
   “คนที่ใช้ประโยชน์จากคนอื่นยังมีหน้ามาพูดอีกนะ โกงแล้วไง ถ้าไม่โกงจะจัดการพวกนายได้เหรอ”

   อุบ๊ะ พี่โยเชิดหน้า ไปรับคำตรงๆ แบบนั้นจะดีเรอะ ระหว่างพี่โยจัดการลงโทษพวกทำผิดที่ยังดื้อด้านไม่ออฟไลน์ออกจากเกม พี่ชายหัวแดงหันมาทางผู้เสียดายทั้งหลายที่กำลังยืนชมเรื่องสนุกไม่ต่างจากผม

   “ทางบริษัทเกมต้องขออภัยด้วยที่ล่าช้า เราจะส่งของปลอบใจไปให้ หลังจากพวกคุณเข้าเกมครั้งหน้า ไอเท็มจะอยู่ในกระเป๋าทุกคน ขอบคุณที่ให้ความเชื่อใจเรานะครับ”

   เขาพูดอย่างสุภาพ พลางก้มหัวน้อยๆ รวมกับอาวุธในมือและออร่าที่แผ่รอบตัว จะยังมีผู้เล่นคนไหนอีกที่กล้าไม่พอใจ

   “จะยอมง่ายๆ ได้ไง ลงโทษพวกมันแค่นิดเดียว แถมฉันแจงไปตั้งนานจนป่านี้เพิ่งลงมือ เรียกหัวหน้าพวกนายมาคุยกับเราเดี๋ยวนี้!”

   ผมหันขวับไปทางต้นเสียง สาวนักสู้เจ้าเก่ารายเดิม ยังไม่ออกไปอีกเรอะ! ดูดีๆ ผู้หญิงทุกคนยังอยู่ครบเลยนี่หว่า

   “ต้องขออภัยด้วย หัวหน้าของพวกเรากำลังติดภารกิจ ไม่สามารถชี้แจงกับพวกคุณได้ครับ”

   ชายผมแดงตอบอย่างใจเย็นผิดรูปร่างหน้าตา เสียงโหยหวนของผู้เล่นนิสัยเสียดังเป็นระยะ หลังจัดการพวกนั้นเสร็จพี่โยกอดทวนเรียกหน้าต่างจิ้มอะไรสองสามจึก แล้วหน้าต่างบานใหญ่ปรากฎขึ้นมาต่อหน้าพวกเราทุกคน ผมว่าชายที่กำลังจิบกาแฟนั่น หน้าตาคุ้นๆ นะ

   “ทำงานเสร็จแล้วรึไงถึงทักมา”

   เสียงทุ้มติดรำคาญพูดทั้งที่ยังไม่หันหน้ามองจอ แต่สาวๆ ตาโตเท่าไข่ห่าน ไม่ดิ ขนาดพวกผู้เล่นชายยังพยายามเพ่งสุดชีวิต นี่มันเกิดอะไรขึ้น

   “พอดีมีผู้เล่นบางคนไม่พอใจที่เราทำงานช้าน่ะหัวหน้า”

   พอใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรหันมา ผมได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆ จากพวกผู้หญิง

   เรือนผมสีทองอ่อน ดวงตาสีทองจ้องผ่านจอ ผมรีบมุดหลบหลังไวไว ใครใช้ให้ผมถอดพิมพ์พ่อมาเหมือนพี่ล่ะ ต่างกันแค่ดวงตา อันนี้ผมได้แม่มา

   “ใครไม่พอใจ?” แค่ชายหน้าจอเลิกคิ้วกราดตามองทุกคน ไม่มีใครปริปากแม้แต่คนเดียว เว้นพี่โยไว้คน

   “สาวๆ กลุ่มนั้น”

   เป้าหมายสะดุ้ง พอพี่วินแจกรอยยิ้มบางๆ สาวทุกคนคล้ายจะละลายไปกองบนพื้น ขนาดผู้ชายบางคนยังหน้าขึ้นสี เฮ้ยๆ พี่ผมเป็นผู้ชาย พวกนายห้ามคิดอะไรแย่ๆ

   “ต้องขอโทษด้วยที่ล่าช้านะครับ พวกผมทำเต็มที่แล้ว เพราะพวกเขาไม่ทำผิดกฎอย่างโจ่งแจ้ง ทางเราเลยไม่สามารถจัดการได้ทันที ต้องรวบรวมหลักฐานก่อน หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษ ผมจะส่งมอบของขวัญให้ทุกคนด้วยตัวเอง”

   “ค่ะ พวกเราไม่มีปัญหาแล้ว”

   สาวนักสู้เสียงอ่อนเสียงหวาน

   “เช่นนั้น ทางเราจะส่งทุกคนกลับเมืองนะครับ”

   ทุกคนพยักหน้ารับเหมือนโดนสะกดจิต แล้วความเงียบสงบกลับมาเยือนอีกครั้ง รึเปล่า...

   “นายเป็นน้องของผู้สร้างเกม!”

   ลินชี้มือสั่นๆ มาทางผม งานเข้า มัวแต่หลบคนพวกนั้น ลืมคนข้างตัว จอพี่วินถูกย่อลงให้พอเห็นกันทุกคน ดวงตาสีเทาจ้องใส่พี่โย ปากออกคำสั่งพี่ผมแดง

   “อัคคี เก็บกวาดที่นั่นให้เรียบร้อยแล้วกลับมาทำงาน ส่วนพวกคุณ พรุ่งนี้ผมขอเชิญมาบริษัทด้วยนะครับ”

   กลุ่มปาร์ตี้ผมพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง เจอเรื่องมามากมายหมดอารมณ์จะเล่นต่อ แต่ละคนออฟไลน์ เว้นผมกับสองพี่จีเอ็ม

   “ทำไมพี่ต้องเรียกเพื่อนผมไปบริษัทด้วยอะ เรื่องเราเป็นพี่น้องกัน ใช่จะเป็นความลับซะเมื่อไหร่”

   “ไม่ใช่แค่เพื่อน เราต้องมาด้วย พี่มีเรื่องจะคุย ส่วนพวกนั้นแค่อยากเรียกมาดูตัวนิดหน่อย”

   ผมคิ้วขมวด

   “ผมอายุยี่สิบแล้วนะพี่ ไม่ใช่เด็ก พี่ไม่อย่าใช้เส้นสายมาแสกนเพื่อนผมดิ”

   “วัตพูดอะไรพี่ไม่ได้ยิน อ้าวงานมาพอดี อย่าลืมล่ะ พรุ่งนี้มาหาพี่ที่บริษัทด้วย” สิ้นคำหน้าจอหายไป พี่โยเดินมากอดคอผม ส่วนพี่อัคคีที่ผมเพิ่งรู้ชื่อเมื่อกี้ ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนหายไปทำงานตามคำสั่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 18:58:11 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
 :laugh: พี่ๆ เต้นผางกันใหญ่เลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นน้อ :m28:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เอ เกิดอะไรขึ้นน๊า

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
จับพวกคนร้ายได้แล้วใช่ไหม
ไม่ใช่ว่าจับได้แต่ตัวลูกน้องมาน่ะ
กลกับวัตจะได้เจอกันในโลกจริงแล้ว
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เราก้สงสัยอยู่ตั้งนานว่าทำไมต้องใส่หน้ากาก ที่ไหนได้..  :ling2:
.
ของตอนล่าสุด..

ตอนแรกอ่านเม้นของคนบนๆที่สงสัยเรื่องนี้ เออว่าไปเราไม่เคยสงสัยเลย
สงสัยยึดติดกับส่วนผสมระหว่างฮันเตอร์ฮันเตอร์กับฮาร์ฟปริ้น วาปเข้าโลกนั้นจริงๆกับเจ็บน้อยลง ไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้ เลือกที่เกิดไม่ได้..
แต่เราสงสัยอย่างหนึ่งคือ ในเมื่อเป็นการย้ายตัวละครไปไม่ใช่แบบฝันเอา แล้วเวลาออกจากเกมจะไม่เหนื่อยรึ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2015 22:52:26 โดย กฤษณ์ »

ออฟไลน์ mixxa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่าสนใจมากกว่าเกิดอะไรขึ้น

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
รู้สึกว่าตอนที่ 9 กับ 10 เนื้อเรื่องไม่ค่อยต่อเนื่อง
ขาดรายละเอียดบางส่วนไปหรือเปล่า?

เป็นกำลังใจนะ o13

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มาส่องค่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เกิดอะไรขึ้น ทำไมโดนพี่วินต้องโมโหขนาดนั้นนนน

 :ling1:.

จริงๆน้องไม่ผิดนะ น้องโดนพาตัวมา ต่อสู้ขัดขืนก็ถูกแล้วนี่

(ว่าแต่คนที่แฮคเข้ามาในเกมนี่ใครนะ ท่าจะมาม่ายาว)

คิดอีกที งานนี้ปาร์ตี้นี้ก็จะเห็นตัวจริงของทุกคนแล้วสิ :D อยากเห็นลินจัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2015 13:51:24 โดย BlueCherries »

ออฟไลน์ VampirezBadz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โหย พึ่งเข้ามาอ่าน ตามมาจากหน้านิยายแนะนำ
คือตอนแรกเก็นชื่อนิยายเรื่องนี้ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะอ่าน แต่เรื่องย่อน่าสนใจดี(ชอบแนวเกมส์ออนไลน์นะ แต่เข็ดกะบ้างเรื่องมาก่อนเลยไม่กล้าอ่านอีก) อ่านตอนแรกก็สนุกดีเดินเรื่องกระชับ อ่านๆไปเรื่อยๆ จนตอนนี้นิยายเรื่องนี้เอาลงสมุดหนังก็ไว้ว่าติดแล้วเรียบร้อย 555 รออ่านนิยายยุนะ สนุกมาก สนุกสุดสุด โคตรสนุกอ่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
กำลังอยากอ่านเรื่องแนวเกมออนไลน์แบบนี้พอดีเลย
ชอบมาก พลอตเรื่องแปลกดี
มีคำผิดไม่เยอะมาก อยู่ในเกณฑ์รับได้

ชอบตอนพิเศษ วันสงกรานต์ ที่แสดงให้เห็นความสำคัญของประพเพณีไทย
ไม่ลืมผู้สูงอายุ และไม่ได้เน้นฉากเอ็นซีจนเกร่อ
เรียกว่ากุ๊กกิ๊กกำลังดี

สมัครเป็นเอฟซีนะคะ รอตอนต่อไปค่ะ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
แวะมารอคนเขียนค่ะ :katai5:

ออฟไลน์ rayoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อั้ยยะ  เพิ่งเข้ามาอ่านนน  สนุกมากๆ  เป็นเกมส์แนวออนไลน์ที่อยากจะเข้าไปเลย5555555555   สู้ๆนะคนเขียน :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
รอตอนต่อไปค่า สนุกๆ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.11 เกมของฉัน

- ย้อนความ –

   ผมชื่ออาชวิน ลูกชายคนโตของบ้านพจนินท์ ผู้มีพรสวรรค์ด้านโปรแกรมตั้งแต่อายุยังน้อย ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนกในเวลาเพียงไม่กี่ปี และยังเป็นหนึ่งในผู้สร้างเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้

   เกมที่ผมกับเพื่อนสร้างขึ้น ทุกอย่างถูกเซ็ตให้มีระบบความปลอดภัยสูง แม้การเปลี่ยนคนเป็นข้อมูลเข้าไปในเกมจะมีความเสี่ยงมาก แต่การทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้มั่นใจได้ว่าระบบนี้จะไม่มีปัญหากับผู้เล่นแน่นอน ในเมื่อผมกับคนในบริษัทเข้าไปทดลองเล่นด้วยตัวเองก่อนเปิดใช้บริการจริง

   มีคนคอยประจำการตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดปัญหาอะไรพวกผมสามารถรับรู้ได้ทันที เรื่องที่เจ้าเด็กเกรียนทั้งหลายมาก่อกวนเกมผมใช่จะไม่รู้ ในตอนแรกก็คิดจะจัดการขั้นเด็ดขาดดีดให้ปลิวออกไปอยู่หรอก ติดแต่ว่า ดันไม่ทำผิดกฎเกมเลยนี่สิ คนที่หลงกลยินยอมพร้อมใจทำสัญญาเอง แล้วมาเรียกร้องที่หลังว่าโดนหลอก

   จะให้เข้าไปจัดการเลยก็ใช่ที่ เดี๋ยวเจ้าพวกนั้นจะมาโวยบริษัท ดังนั้นจึงต้องรวบรวมหลังฐานก่อน ว่าระรานผู้อื่นจริง

   วันนี้เป็นเวลาดี หลักฐานพร้อม ผมสั่งให้ลูกสมุนเข้าไปจัดการซะ

   ขณะกำลังจิบกาแฟรอรับรายงานจากลูกน้อง เจ้าวาโยดันติดต่อมา ผมกดรับแบบไม่ให้ไปมอง
 
   “ทำงานเสร็จแล้วรึไงถึงทักมา”

   “พอดีมีผู้เล่นบางคนไม่พอใจที่เราทำงานช้าน่ะหัวหน้า”

   ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ผมหันไปมองคนเหล่านั้น หางตาเห็นหัวทองแวบๆ หือ ไหงน้องชายตัวดีไปอยู่แถวนั้นได้ล่ะ

   “ใครไม่พอใจ?” ผมถามเป็นเชิงขู่ ไม่มีใครกล้ารับสักคน จนวาโยมันชี้ไปทางกลุ่มผู้เล่นผู้หญิง

   “สาวๆ กลุ่มนั้น”

   คนถูกชี้สะดุ้ง ผมแจกรอยยิ้มบางๆ ไม่สนใจอาการของคนเหล่านั้น

   “ต้องขอโทษด้วยที่ล่าช้านะครับ พวกผมทำเต็มที่แล้ว เพราะพวกเขาไม่ทำผิดกฎอย่างโจ่งแจ้ง ทางเราเลยไม่สามารถจัดการได้ทันที ต้องรวบรวมหลักฐานก่อน หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษ ผมจะส่งมอบของขวัญให้ทุกคนด้วยตัวเอง” จิ้มส่งผ่านหน้าจอ ผมไม่ว่างเดินไปมอบให้ถึงมือทุกคนหรอก

   “ค่ะ พวกเราไม่มีปัญหาแล้ว”

   “เช่นนั้น ทางเราจะส่งทุกคนกลับเมืองนะครับ”

   ผมจะได้ให้ลูกน้องเคลียๆ แถวนั้นให้กลับสู่สภาพเดิมสักที หลังส่งทุกคนเสร็จคิดจะคุยกับน้องชายสักหน่อย ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนขึ้นมา จะว่าส่งกลับไม่หมดคงไม่ใช่มั้ง

   “นายเป็นน้องของผู้สร้างเกม!”

   เด็กสาวคนนั้นชี้ไปทางน้องชายผม สลับมองผมในจอ ผมยิ้มรับอย่างภูมิใจ พี่น้องน่าคล้ายกัน มีพี่ชายคนไหนไม่ดีใจบ้าง น่าเสียดาย ตาผมเหมือนพ่อ ส่วนวัตเหมือนแม่ ไม่งั้นคงเหมือนยิ่งกว่านี้ ส่วนวาโยหาเรื่องรบกวนผมเวลางาน กลับมาจะโยนงานให้ทำ ปากออกคำสั่งลูกน้องหมายเลขสอง หมายเลขหนึ่งคือชิน

   “อัคคี เก็บกวาดที่นั่นให้เรียบร้อยแล้วกลับมาทำงาน ส่วนพวกคุณ พรุ่งนี้ผมขอเชิญมาบริษัทด้วยนะครับ”

   เจ้าคนใส่หน้ากากนั่นคงจะเป็นไวไว ส่วนลูกศิษย์ทำเนียนไม่เคยเจอผมได้อย่างน่าตบรางวัลด้วยกองงาน ที่เหลือ เด็กสาวเพียงคนเดียว จะหาว่าผมเป็นคนขี้ระแวงก็ได้ แต่คนที่รู้ว่าผมกับวัตเป็นพี่น้องกันต้องเช็คสักหน่อย ถือโอกาสเรียกเจ้าหนูหมาป่ามาฝึกงานไปในตัว

   หลังทุกคนออฟไลน์ออกจากเกมจนหมด น้องชายยืนกอดอกหน้ายู่ใส่ผม

   “ทำไมพี่ต้องเรียกเพื่อนผมไปบริษัทด้วยอะ เรื่องเราเป็นพี่น้องกัน ใช่จะเป็นความลับซะเมื่อไหร่”

   “ไม่ใช่แค่เพื่อน เราต้องมาด้วย พี่มีเรื่องจะคุย ส่วนพวกนั้นแค่อยากเรียกมาดูตัวนิดหน่อย” โม้เน้นๆ เจ้าน้องชายตัวดีขมวดคิ้ว

   “ผมอายุยี่สิบแล้วนะพี่ ไม่ใช่เด็ก พี่ไม่อย่าใช้เส้นสายมาแสกนเพื่อนผมดิ” น้องชายดันรู้ทัน เซ็ง

   “วัตพูดอะไรพี่ไม่ได้ยิน อ้าวงานมาพอดี อย่าลืมล่ะ พรุ่งนี้มาหาพี่ที่บริษัทด้วย” ต้องหาทางออกด้วยการเปลี่ยนเรื่องแล้วตัดสายดื้อๆ


- กลับสู่เวลาปัจจุบัน -

   เจ้าของเรือนผมสีทองนั่งอยู่บนเก้าอี้สีขาวตัวนุ่มสุดทันสมัย รอบตัวมีหน้าจอโผล่ขึ้นมามากมาย ทุกจอมีข้อมูลเลื่อนผ่านด้วยความเร็วน่าเวียนหัว โดยหน้าจอหลัก คือจอที่ปรากฏบนโต๊ะเบื้องหน้า ฉายภาพลูกน้องทั้งสองคน กำลังรอรับคำสั่งจากหัวหน้าแผนก

   ผมละสายตาจากรูปถ่ายครอบครัวบนโต๊ะ หันมามองบนหน้าจอแทน ปากสั่งการลูกน้อง ระหว่างรอชินพาวัตมาหาที่บริษัท

   “วาโย งานนี้นายทำเกินกว่าเหตุ ติดต่อฉันโดยไม่บอกล่วงหน้า เอาเขตที่อัคคีดูแล ไปดูแลต่อซะจนกว่าอัคคีจะเสร็จงานเก็บกวาด”

   “หัวหน้า ผมแค่กวนเวลาจิบกาแฟนิดๆ หน่อยๆ เองนะ แถมหัวหน้ายังได้เจอน้องชาย ผมผิดตรงไหน”

   “ดูแลเพิ่มอีกหนึ่งอาทิตย์ อัคคี เก็บกวาดเสร็จทำรายงานส่ง หลังจากนั้นพักตามสบาย”

   ลูกน้องผมท้องพยักหน้ารับว่าง่าย ส่วนเจ้าตัวก่อเรื่องโวยวายงอแงอยู่คนเดียว ผมโบกมือไล่

   “กลับไปทำงานต่อไป”

   “งอนหัวหน้าแล้ว/ครับหัวหน้า”

   หน้าจอตรงหน้าถูกปิดไป ไม่นานประตูถูกเปิดขึ้นพร้อมร่างอีกคนเดินเข้ามา ชินถือวิสาสะหมุนเก้าอี้คนตรงหน้าให้หันมาประจันหน้ากัน ดวงตาสีเทามองสบดวงตาสีดำ

   “วัตรออยู่ที่ห้องพักนาย”

   “รู้แล้ว” ผมสั่งเขาให้พาไปเอง จะไม่รู้ได้ยังไง

   ชินยิ้มยอมผละออกให้ผมลุกจากเก้าอี้ออกจากห้องไปหาน้องชายตัวดี แต่ไม่ทันจะได้ก้าวเท้าผ่านประตู มือข้างหนึ่งถูกจับไว้ นิ้วสอดประสาน ผมเลิกคิ้วมองคนที่มายืนซ้อนด้านหลัง รู้สึกถึงลมหายใจร้อนแถวคอ จมูกโด่งเหมือนจะเกลี่ยผมที่เริ่มยาวของผมออกให้เห็นรอยสักกราฟิกรูปแมว ชินแนบริมฝีปากลงมาแผ่วเบา ผมหรี่ตาลงทันที

   “อย่าลามปาม”

   “ฮืมมมม ขอแค่นิดเดียวเท่านั้น” ชินส่งเสียงต่ำในคอ งึมงำพูดอยู่แถวรอยสัก

   “เราตกลงกันไว้จะไม่ทำแบบนี้ในที่สาธารณะไม่ใช่รึไง” เสียงผมเริ่มเข้มขึ้น เพราะมันยังไม่ยอมออกห่างจากคอผมสักที นายจะกินคอฉันรึไง

   “เห็นนายเปิดช่องว่างเลยฉวยโอกาสนิดหน่อย คอนายหอมเหมือนเดิมเลยวิน เจือกลิ่นกาแฟด้วย เข้มดีนะ”

   ผัวะ!!

   เสียงหนักๆ ดังขึ้น พร้อมข้อศอกซัดเข้ากลางท้องแบบไม่เกรงใจ ซิกแพคก็ซิกแพคเถอะ จอศอกทิ่มเข้าไป จุกจนตัวงอ จากเนียนซุกคอกลายเป็นต้องซบหน้ากับแผ่นหลังกว้างแทน

   “คุณชินกฤตครับ ถ้ามีเวลาว่างมากวนใจผมแบบนี้ อยากลองไปทัวร์ยมโลกดูสักรอบมั้ยครับ เผื่อจะได้เปิดหูเปิดตารู้ว่านรกมันเป็นยังไง”

   ผมหันกลับมาใช้ปลายนิ้วเชยคางคนตัวงอ ยื่นหน้าเข้าไปในระยะประชิดจนปลายจมูกแทบแตะกัน ปากยิ้มใจดี ส่วนตาคมกริบวาววับเป็นเชิงขู่ ถ้าหากยังไม่เก็บนิสัยส่วนตัวกลับไป อาจมีรายการซัดเพื่อนรักเพื่อระบายอารมณ์ก็ได้

   ชินในสายตาคนอื่น ดูเป็นผู้ใหญ่รอบคอบท่าทางพึ่งพาได้ แต่สำหรับผมที่อยู่กันมาตั้งแต่เด็ก หรือคนที่สนิทมากๆ จะรู้ดีกว่าไอภาพลักษณ์พวกนั้นมันแค่กับคนทั่วไป นิสัยจริงของมันทั้งกวนทั้งเกรียนแถมยังเนียนตัวพ่อ ลูกเล่นลูกชนแพรวพราวจนน่าซัดให้หงาย หากเผลอตัวเพียงนิด อาจตกหลุมแผนการมันได้ง่ายๆ เหมือนอย่างเมื่อครู่

   “ถ้าในนรกนั่นมีนาย ฉันก็อยากไปนะ”

   ดวงตาสีเทาจ้องคนที่ยิ้มตาใสใส่ แล้วจัดการสำเร็จโทษด้วยการดีดหน้าผากแถมอีกที

   ผมเดินนำชินออกมาจากห้องทำงาน ระยะห่างระหว่างห้องทำงานกับห้องพักของผมไม่ไกลเท่าไหร่ เผื่อว่าวันไหนทำงานจนหมดสภาพคาห้อง จะได้คลานกลับมานอนได้สะดวกๆ ซึ่งห้องพักพวกนี้ มีให้เฉพาะคนที่ต้องทำงานตลอดเวลา หน้าห้องจะมีชื่อติดบอกว่าเป็นห้องพักส่วนตัวของใคร ถ้าเดินถัดไปอีกหน่อย จะเป็นห้องของชิน
   ห้องผมมีขนาดเท่ากับห้องพักคนอื่นๆ แต่ข้าวของส่วนใหญ่เป็นสีโทนเรียบ ภายในห้องไม่มีอะไรมาก ตู้เสื้อผ้า กับห้องน้ำในตัว และเตียงขนาดหกฟุต ที่พอเปิดประตูเข้ามา ผมสามารถทิ้งตัวลงนอนได้ทันที เป็นห้องสำหรับนอนโดยแท้จริง

   ประตูห้องไม่ทันเปิดดี เจ้าสิ่งที่อยู่ในห้องดันพุ่งออกมากอดผมหมับจนแทบหงายหลัง ด้วยขนาดไม่ใช่เล็กๆ และผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไร ดีที่ชินอยู่ด้านหลังคอยจับ ไม่งั้นหัวหน้าแผนกคงมีรายการมาดหลุดหงายท้องโชว์แหง แถวนี้ยิ่งกล้องเยอะอยู่ด้วย

   “พี่วิน!!”

   “เดี๋ยวใจเย็น เข้าไปคุยกันข้างในดีๆ อย่าเพิ่งเอาหน้ามาบี้กับอกพี่” ผมกรอกตา ดันเจ้าน้องชายเข้าไปในห้อง

   “พี่เรียกผมมาคุยทำไมเหรอ”
   
   ผมหัวเราะกับท่าทีติดอ้อนของน้องชายตัวเอง

   “เรียกมาคุยด้วยไม่ได้รึไง พี่ไม่ว่างกลับบ้าน เราต้องมาหาพี่สิ เล่าให้ฟังซิ เล่นเกมเป็นยังไงบ้าง ทำไมไวไวมันอยู่ในสภาพนั้นล่ะ”

   ไวภพ เป็นเหมือนน้องชายของผมอีกคน รู้จักกันตอนวัตเรียนอยู่มัธยมจนถึงปัจจุบัน วัตยอมเล่าเรื่องทุกอย่าวที่ไปเจอมาให้ผมฟัง ย่อมไม่พลาดเหตุการณ์วันนี้แน่ นี่ถ้าอัคคีมันรู้ว่าน้องชายผมทำให้บริเวณที่เจ้าตัวต้องเก็บกวาดเละมากกว่าเดิมจะทำหน้ายังไงหนอ

   “เราสนุกกับเกมพี่ก็ดีแล้ว เดี๋ยวพี่พาไปกินข้าว แต่ตอนนี้พี่ขอกลับไปทำงานก่อน วัตเล่นเกมอยู่ในห้องไปแล้วกันนะ”

   พวกผมออกจากห้องมาเจอทางเดินยาว ส่วนที่พักของเด็กในแผนก ถ้าเดินไปทางซ้ายจะเจอกับโซนห้องทำงาน เดินเลยไปอีกหน่อยเป็นโซนเครื่องดื่มกับอาหารง่ายๆ อย่างพวกน้ำ กาแฟ ขนมปัง หลังๆ ผมเริ่มเห็นอาหารแช่แข็ง กับพวกขนมไร้สาระถูกยัดจนล้นตู้ด้วยฝีมือของเจ้าแฝด คิดอยู่ว่าจะให้อัคคีเอาของพวกนั้นไปทิ้งเลยดีมั้ย เผื่อจะได้มีที่สำหรับแช่อะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง

   ถ้าอยากทานข้าว ชั้นล่างของบริษัทมีโรงอาหารสำหรับพนักงานอยู่ ผมเองลงไปกินบ้างในช่วงที่มีเวลาเหลือเฟือ ซึ่งตอนนี้ไม่มี ผมต้องเร่งโยนงานหาเวลาอยู่กับน้องชายบ้าง

   “ฝากนายเรียกเจ้าเด็กนั่นขึ้นมาด้วย” ผมหันไปมองชิน เขายิ้มรับลงลิฟท์ไปชั้นล่าง ชินรับหน้าที่ในการแสกนเพื่อนร่วมปาร์ตี้ของวัต

   ผมฆ่าเวลาด้วยการเปิดหน้าจอรายงานต่างๆ ขึ้นมารอบตัว สั่งงานลูกน้องรับออเดอร์ของฝาก ซึ่งส่วนใหญ่มีแต่ของกิน เวลาผ่านไปสักพัก เจ้าหนูหมาป่าขึ้นมาพบผมตามที่ต้องการ ผมหันไปยิ้ม...แสยะ

   “นายรู้รึเปล่า ว่าฉันเรียกนายมาทำไม”

   “ขนาดอาจารย์ไม่รู้ ผมจะรู้ได้ยังไง”

   คิ้วกระตุก ไอ้เด็กนี่มันวอน

   “วันนี้ฉันจะให้นายมาศึกษางาน” ผมเรียกหน้าจอปรากฎขึ้นตรงหน้าอีกฝ่าย เทคโนโลยีนี้มีเพียงในบริษัทของเราเท่านั้น เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการทำงาน แน่นอนว่าต้นทุนย่อมสูงตาม

   บนหน้าจอแบ่งข้อมูลอย่างเป็นระเบียบ ในเมื่อรับปากพ่อเขามา ผมต้องสอนเขาจริงๆ ข้อมูลทั้งหมด งานที่สั่งให้ทำ ผ่านการคำนวนมาหมดแล้ว ถือเป็นการทดสอบฝีมือไปในตัว ก่อนผมจะให้เขาทำงานด้วยในอนาคต

   “ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ถ้ายัง ห้ามเอาข้อมูลออกไป ให้กลับมาทำต่อวันพรุ่งนี้”

   ผมสั่ง ถือเป็นการทดสอบความซื่อสัตย์ไปในตัว ชินน่าจะคุยกับเด็กพวกนั้นเสร็จแล้ว ได้เวลาไปกินข้าวพักผ่อนของตัวเองสักที

   “อาจารย์จะไปไหนครับ”

    “เที่ยวกับน้องชาย” ผมจงใจบอก ต่อให้ไม่หันไปมอง ออร่าที่แผ่ออกมาทิ่มแทงหลังย่อมเป็นตัวบอกอารมณ์เด็กน้อยได้เป็นอย่างดี คิดจะมาเป็นน้องเขยฉันมันไม่ง่ายหรอกนะ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าสนใจน้องชายผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 18:59:00 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ VampirezBadz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สรุกอ่าา แล้ววัติจะได้เล่นเกมอีกมั้ยเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
พี่วินโหดจริงอะไรจริง  :hao7: ชอบฮีมากกกกกกกกกก

แต่กลัวจะพลาดท่าอยู่ ถึงแม้ว่าจะรอบคอบแค่ไหนก็เถอะ


ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
อ๊ะ ซาตานวิน ท่านโหดสมฉายาจริงครับ
แต่ ชิน นี่ก็หาช่องได้ตลอดเลยนะ  :-[

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ กลคงต้องรับศึกหนักหน่อยละนะ

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
สรุปวัตยังไม่ได้เจอกับกล
แถมยังไม่รู้จะได้เล่นเกมส์อีกเมื่อไหร่

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
แฟนตาซีหลุดโลกไปไกลแล้วแหะ.. มีเจาะสมองเอาข้อมูลด้วย งี้ถ้าเกิดคนในโดนจับไปเจาะที่ฝั่งตรงข้ามบ้างคงแย่เลย  :ling2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด