92000
38.2 ซุ่มโจมตี
ในเวลานี้มาตินจะไม่ทนอีกต่อไป ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดเสื้อผ้ามิดชิด สีดำสนิท เตรียมพร้อมปฏิบัติการ ดวงตามองลอดพุ่มไม้ไปยังบ้านไม้สองชั้นรอให้ดวงไฟกลางบ้านปิดสนิท
หลายชั่วโมงก่อนหน้า
“กุ้ยช่ายฝากเอามาคืนให้คุณ”ธนพัฒน์ยื่นสร้อยข้อมือเส้นคุ้นเคยคืนให้มาติน
“หมายความว่าไง คุณไปหากุ้ยช่ายมา?”มาตินจับอันเดรสขึ้นนั่งบนตัก เพราะปล่อยให้นอนนิ่งไม่ได้ ไม่นานอันเดรสจะพลิกตัวแล้วคลานหนีไปทันที
ไม่กี่นาทีก่อนหน้า มาตินได้เปิดประตูให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาในบ้าน
“ผมมีหน้าที่แค่เอามันมาคืน ผมขอตัว”ธนพัฒน์ตอบเสียงเรียบหันหลังเตรียมเดินออกมา
“ดะ เดี๋ยว”มาตินเดินมาจับแขน รั้งให้ธนพัฒน์หันไปมองด้วยความสงสัย
“แล้วกุ้ยช่ายได้บอกอะไรมามากกว่านี้มั้ย”
“ไม่ครับ”
“งั้นเหรอ”มาตินตอบด้วยน้ำเสียงผิดหวัง คิดว่ากุ้ยช่ายจะคิดถึงเขาบ้าง ห่างมาตั้งเป็นเดือน มาตินแทบจะขาดใจ ไม่เป็นอันทำอะไร
วันวันคิดถึงแต่กุ้ยช่าย จนต้องหาอะไรทำเพื่อให้มันดูยุ่ง จะได้ไม่มีเวลาคิดให้ฟุ้งซ่าน
เวลาทั้งหมดที่มีก็เอาไปลงกับงานอย่างหมกมุ่น เลี้ยงลูกไปด้วยอีก แต่มันก็ยังไม่เลิกคิดฟุ้งซ่านสักทีก็เลยหาอะไรที่มันเป็นประโยชน์ทำดูบ้าง
เพราะตั้งแต่ไม่มีกุ้ยช่าย พวกอาหารการกินมันก็ดูแย่ไปหมด ไหนจะเลี้ยงลูกอีก ทำอะไรมันก็ดูแย่ เหมือนเป็นคนที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างถึงได้ลงเรียนให้มันดูทำอะไรได้ขึ้นมาบ้าง ทั้งเรียนทำอาหาร เรียนเลี้ยงเด็ก ถึงจะค่อยยังชั่ว
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”
“ดะ เดี๋ยวสิ กุ้ยช่ายเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย อยู่ดีรึป่าว กินข้าวเยอะมั้ย ทำงานหนักรึป่าว”
มาตินถาม ถึงจะดูเหมือนจะเป็นการยอมอ่อนข้อไปถามเอากับคนอย่างธนพัฒน์ที่เป็นคู่แข่งมาก่อนหน้า แต่อย่างน้อยก็ให้มาตินได้รับรู้เรื่องราวของกุ้ยช่ายบ้างก็ยังดี
แล้วผลก็อย่างที่เห็น มาตินทั้งเป็นห่วง ทั้งหวง ทั้งรู้สึกแย่ มันกระวนกระวายจนทนไม่ไหว พ่อตาทำกับพวกเขามากเกินไป หปล่อยให้กุ้ยช่ายกินไม่ได้นอนไม่หลับแบบนี้ มาตินจะไม่ทนอีกต่อไป
สุดท้ายจึงต้องเอาลูกไปฝากให้เพื่อนอย่างรามิเรสที่ไม่รู้ว่าจะฝากฝังได้ดีแค่ไหน เพราะพ่อแม่ไปต่างประเทศกันหมด
แต่ก็เห็นรับปากว่าจะดูแลอย่างดี ซ้ำยังเต็มใจรับฝาก ถึงได้วางใจ
“เรียบร้อยครับลูกพี่ ไอ้ด่างไอ้แดงนอนกันเงียบกริ๊บ”ไอ้จ่อยตัวดำผมหยอกย่องมารายงานหลังจากเอายานอนหลับไปวางในข้างหมาตามแผน
“บันไดล่ะ”
“เตรียมไว้แล้วอยู่ข้างบ้าน เชื่อมือไอ้จ่อย ไม่ต้องห่วง แปะแกหลับลึก สองทุ่มก็กรนแล้ว”ไอ้จ่อยยิ้มฟันขาวในเงามืดชูนิ้วโป้งให้
“จับดีดีล่ะ”มาตินสั่ง ไอ้จ่อยให้จับบันได้ พาดไปที่หน้าต่างห้องกุ้ยช่าย
แกรก แกรก
กุ้ยช่ายสะดุ้งตื่นได้ยินเสียงดังมาจากหน้าต่างก็นึกสงสัย ยังไม่ทันได้หลับดีเท่าไหล่ก็ถูกปลุกขึ้นมา
แล้วเสียงก็เงียบไป ถึงได้ละสายตาแล้วนอนต่อ
แกรก แกรก
“กุ้ยช่าย”คราวนี้กุ้ยช่ายตื่นเต็มตา ได้ยินเสียงกระซิบเรียกชื่อตัวเองก็ขนลุกเกรียว จ้องมองไปที่หน้าต่างขยับเหมือนถูกดึง
“กุ้ยช่าย เปิดให้พี่หน่อย”คราวนี้เสียงเรียกกว่าเดิมเล็กน้อย เป็นเสียงที่กุ้ยช่ายเองก็คุ้นเคย จึงได้เดินไปยังหน้าต่างเงี่ยหูฟังอีกที
“กุ้ยช่าย พี่จะตกแล้ว เปิดให้พี่หน่อย”เสียงออดอ้อนพร้อมกับแรงขย่าหน้าต่างเบาเบาทำให้กุ้ยช่ายอดไม่ได้ที่จะเปิดหน้าต่าง
จำเสียงได้ว่าเป็นใคร มือเล็กเปิดหน้าต่างอย่างผ่าวเบา ยังไม่ได้เตรียมใจที่จะเจอ แต่มันก็ตื่นเต้นจนมือสั่น
แวบแรกที่สบตาเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลในเงามืด แสงจันทร์ที่สาดส่องเอาเสี้ยวหน้าหล่อคมทำให้กุ้ยช่ายดีใจจนทำอะไรไม่ถูก
ใช่มาตินจริงๆ
“หลบพี่หน่อย”มาตินปีนกระโดดเข้ามาในห้องอย่างเบา หันไปส่งซิกให้ไอ้จ่อยเอาบันไดไปแอบไว้ก่อน
“มะ มาทำไม”กุ้ยช่ายพอตั้งสติได้ก็เชิดหน้าหนี น้ำตามันพาลจะไหลเลยต้องเงยหน้า รู้สึกดีใจ แต่ก็ไม่รู้จะทักทายยังไง
“โถ อย่าพูดอย่างนั้นสิ พี่คิดถึงกุ้ยช่ายนะรู้มั้ย”มาตินเดินเข้าไปหา แต่กุ้ยช่ายกลับถอยหนี
“กลับไปเถอะ”กุ้ยช่ายแทบอยากจะตบปากตัวเองกับความปากไว ความโกรธเคืองมันทำให้พูดไปอย่างนั้น
“ไม่เอาหรอก พี่คิดถึงกุ้ยช่ายจนจะขาดใจตายแล้วรู้มั้ย”มาตินเดินเข้าไปคว้าเอากุ้ยช่ายมานั่งบนเตียง
“อย่ามาจับ”ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน กลับไปนั่งอยู่บนตักมาตินเสียแล้ว
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ พี่คิดถึงกุ้ยช่ายนะ คิดถึงมากเลยรู้มั้ย กุ้ยช่ายผอมลงเยอะเยอะเลย”
“เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ”กุ้ยช่ายเบือนหน้าหนีใบหน้าที่ซุกลงมาที่ซอกคอ
“เกี่ยวสิ พี่เป็นห่วงกุ้ยช่ายนะ”
“เป็นห่วงแล้วไปทำไม ทิ้งไปทำไม”กุ้ยช่ายพูดด้วยน้ำสียงสั่น
“พี่ขอโทษ ต่อไปนี้พี่จะไม่ทิ้งกุ้ยช่าย”
“ไม่เชื่อ ไม่เชื่ออีกแล้ว”
“นะ เชื่อพี่อีกครั้งได้มั้ย พี่สัญญาจะมารับกุ้ยช่าย พี่รักกุ้ยช่ายนะ”มาตินพูดเสียงเบา กดจมูกเข้าที่ซอกคอขาว
สูดดมเอากลิ่นหอมจางเข้าไปเต็มปอด ทั้งคิดถึงทั้งโหยหา อยากจะกอด จะจูบ อยากจะขโมยเอากุ้ยช่ายกลับไปซะตั้งแต่ตอนนี้
“ฮึก ไม่เชื่อ”
“นะ พี่สัญญษ หันมามองหน้าพี่หน่อยนะคนดี พี่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกุ้ยช่ายอีกแล้ว”มาตินจับเอาหน้าขาวให้หันมาสบตา
จ้องมองไปในดวงตากลมโตที่กำลังสั่นไหว มองใบหน้าขาวซีดไร้ชีวิตชีวาอย่างรู้สึกผิด
เขาผิดเองที่ยอมแพ้ง่ายง่าย ผิดเองที่ทำให้กุ้ยช่ายต้องเสียใจแบบนี้ ผิดเองที่ทำให้คนน่ารักอย่างก้ยช่ายต้องกลายมาเป็นคนที่ดูไร้ชีวิตชีวาอย่างตอนนี้
“อย่า อย่าทิ้งไปอีกนะ”กุ้ยช่ายพูดเสียงสั่น ยกมือขึ้นจับโครงหน้าหล่อเหลาอย่างผ่าวเบา
มันแตะต้องได้จริง เบื้องหน้าคือมาตินจริงจริง มาตินที่จับต้องได้ ไม่ใช่มาตินในความฝัน
มาตินที่กุ้ยช่ายรอคอย กุ้ยช่ายจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่คุ้นเคย ไม่อยากจะเสียมาตินไปอีกแล้ว ไม่อยากจะให้มันผิดพลาดแบบครั้งที่แล้ว
“พี่รักกุ้ยช่ายนะ รักพี่บ้างมั้ย”
“ทะ ทำไมต้องถาม”กุ้ยช่ายเบือนหน้าหนี
“พี่อยากรู้ ว่ากุ้ยช่ายรักพี่บ้างรึยัง”มมตินกระซิบ จูบซับบนแก้มขาวอย่างแผ่วเบา
“ถ้าบอก พี่จะทิ้งไปอีกมั้ย”
“พี่จะไม่ทิ้งกุ้ยช่ายอีกแล้ว”มาตินกระซิบ กดริมฝีปากลงบนปากบางซีด ละเลียดชิมเอาอย่างโหยหา
ไม่ได้จูบมานานเป็นเดือน อยากจะทำให้แรงกว่านี้ อยากจะกินอย่างจตะกรุมตะกรามกว่านี้ แต่ก็ต้องค่อยค่อยทำ ไม่อยากให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดเจ็บ
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดเข้ามาผ่านหน้าต่าง มือที่โอบเอวกระชับเอวเข้าหาลำตัวแน่น สอดลิ้นไล้เลียขอบปากบางให้เปิดออกอย่างว่าง่าย ส่งมันเข้าไปอย่างแผ่วเบา ทั้งอุ่นทั้งร้อนไปไปทั้งตัว
กุ้ยช่ายยกมือขึ้นจับเสื้อของมาตินแน่น ตอบรับจูบร้อนอย่างโหยหา ยอมให้มาตินเข้ามาข้างในโดยไม่ขัดขืน
ตลอดเวลาที่รอมานานถูกทดแทนด้วยความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั้งหัวใจ
มาตินถอนจูบออก ลอบมองดวงตากลมโตที่หลุบลง ใบหน้าขาวแดงก่ำอย่างน่ารักน่าชัง
จนอดใจไม่ไหวกดจูบลงไปที่แก้มนุ่มฟอดใหญ่
“รัก”กุ้ยช่ายตอบเสียงแผ่วเบา ซุกเอาใบหน้ากดลงที่แผ่นอกร้อนของมาติน
ซ่อนใบหน้าแดงก่ำไม่ให้เห็น
“พี่สัญญาว่าจะมารับ”
จนถึงเช้า เสียงไก่ขันแรกดัง เสียงก้อนหินกระทบประตูดังกอกแกก
มาตินลุกขึ้นมองดูคนที่หลับไปในอ้อมแขนของตัวเองทั้งคืน
“ดูแลตัวเองดีดีนะ
ไม่อยากจะทิ้งไป แต่จะอยู่ต่อก็ไม่ได้ ผุดลุกขึ้นจากเตียง ก้มลงจูบแก้มขาวที่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าเดิมอีกฟอด ก่อนจะปีนออกจากหน้าต่างไป
“กินเยอะเยอะนะครับคนเก่ง”กุ้ยช่ายยิ้ม ตักกับข้าวใส่จานตั้งโอ๋จนพูนจาน พลางตักกินเองพลาง
ใบหน้าขาวยิ้มแก้มปริ กินตักนั่นตักนี่กินอย่างเจริญอาหารจนทั้งปู่ทั้งหลานมองหน้ากันอย่างงงๆ
“เอ็งจะกินให้ท้องแตกตายเลยรึไงวะ”คนแก่ถามต่างจากเมื่อวานลิบลับ มองลูกชายตักนั่นตักนี่กินเรื่อย จนเพิ่มข้าวอีกจาน
“สงสัยจะหิว”ตอบไปพลางเคี้ยวแก้มตุ่ย
“จ๋ากินเยอะจังฮับ”ตั้งโอ๋ถาม ตากลมจ้องมองพ่ออย่างสงสัยไม่ต่างกับคุณปู่
“ก็ปกตินี่”กุ้ยช่ายยิ้มเตี้ยวข้าวแก้มตุ่ย
‘ดูแลตัวเองดีดีนะ’คำที่กระซิบข้างหูยามเช้า ถึงจะกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่กุ้ยช่ายก็จำมันได้ดี
พอเช้ามาถึงได้อารมณ์ดีแต่เช้า ลุกขึ้นใส่บาตร รดน้ำต้นไม้ พาลูกไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็มานั่งกินข้าวอย่างอารมณ์ดีอย่างที่เห็น
คนเป็นพ่อได้แต่มองลูกงงงง ไม่รู้อะไรเข้าสิงให้ลูกชายหายจากอาการเซื่องซึมที่มีมาข้ามวันข้ามเดือนขนาดนี้
ก็ได้แต่สงสัย พอกินข้าวเสร็จไอ้ลูกชายตัวดีก็คว้าเอาลูกไปเดินเล่นในสวนสบายใจ ทิ้งให้คนแก่อดสงสัยไม่ได้
เดินเข้าไปดูในห้องลูกชาย มองหาความผิดปรกติ ไปหยุดเอาที่หน้าต่างที่เปิดออกผ้าม่านสีขาวปลิวตามแรงลม มองดูข้างนอกก็ไม่มีอะไรผิดปรกติ
นอกเสียจากรอยรองเท้าที่ขอบหน้าต่างนั่น
คนแก่ได้แต่กำไม้ตพตแน่นด้วยความเจ็บใจ สุดท้ายไอ้หนุ่มลูกครึ่งนั่นมันก็มาตีท้ายบ้านเข้าจนได้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อร๊างงงงงงงง คืออึดอัดมาก คันมือยิบยิบ จะลงตั้งแต่สามทุ่ม
แต่สามีกลับบ้านก่อนเวลา เลยต้องรอว่านางจะดูหน้งเสร็จเมื่อไร
ปาเข้ามาตีสอง เลยมาลงเอาตอนนี้ แฮร่ๆๆๆ ตาแข็งเลยคร่าาาาาา