58700
ตอนที่ 26 เลขาหน้าคม
“Hiiiiiiii”เสียงแหบเอ่ยทักยานคาง
“สวัสดีครับคุณรามิเรส”น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยทักเป็นภาษาไทยทำให้รามิเรสต้องลืมตางงงวยกับโทรศัพท์ที่โทรมาขัดจังหวะการนอนแต่เช้า
“ใครน่ะ”ถามกลับด้วยความสงสัยยกมือขยี้ตา
“ผมเอง ธนพัฒน์”ปลายสายตอบกลับ
“อืม ว่าไง มีอะไรแต่เช้า”รามิเรสถามกลับไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรเมื่อรู้ว่าทางปลายสายเป็นใคร
“ผมเอาเอกสารมาให้เซ็นต์”
“รีบมั้ยล่ะ”รามิเรสถามกลับ หงุดหงิดไม่น้อยเมื่อโดนปลุกแต่เช้าในเรื่องงาน มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อจนไม่อยากจะสนใจ
“รีบครับ เอกสารอนุมัติงบประมาณประจำไตรมาส”อีกฝ่ายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบดังเดิมจนรามิเรสชักหงุดหงิดกับเราขาคนนี้
แทนที่คนเป็นพ่อจะหาเรขาสวยๆช่วยดึงดูดความน่าสนใจในการทำงานแบบเลขาคนก่อน ดันกลับหาเลขาผู้ชายทรงผมสกินเฮดสุดเกรียนแต่นิสัยตรงดิ่ง เย็นชา นิ่ง สุขุม น่าเบื่อพอพอกับงาน แถมมุ่งมั่นเสียจนน่ารำคาญ
“ผมคงจะเซ็นให้คุณไม่ได้หรอก”เรื่องอะไรจะยอมง่ายๆ บ้างานดีนัก ลองแกล้งให้ทำงานไม่ตรงตามเป้าหมายดูสิ จะเป็นยังไง
“งั้นผมขอเหตุผลหน่อยครับ ว่าทำไมถึงเซ็นต์เอกสารสำคัญให้ผมไม่ได้”เริ่มไม่พอใจใช่มั้ยล่ะ พองานไม่เสร็จตามที่ตั้งเอาไว้ แต่ก็ยังทำเสียงเรียบๆน่าหมั่นไส้เหมือนเดิม สักวัน เขาจะต้องดีดเลขาน่าเบื่อคนนี้ออกจากตำแหน่งนี้ให้ได้
“เหตุผลก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ตอนนี้ผมอยู่โรม ผมคงเซ็นต์ให้คุณไม่ได้ จริงมั้ยล่ะ หรือคุณจะเอามาให้ผมเซ็นต์ที่นี่ก็ได้นะ ผมไม่ขัดอยู่แล้ว เรื่องงานผมเต็มที่ คุณก็รู้”คุยทับไปหน่อย ตาที่ปรือๆก็เริ่มตื่น เพราะจากเบื่อๆก็เริ่มนึกสนุกขึ้นมาแล้ว จากไทยมาอิตาลี มันก็ใช่ใกล้ๆ
ต่อให้บ้างานแค่ไหนคงไม่บ้าจี้นั่งเครื่องมาซะไกลขนาดนี้ สะใจอยู่ลึกๆจนเผลอยิ้มที่มุมปาก ตาสีฟ้ามีประกายของผู้กุมชัยชนะ
“ข้อนั้นผมเข้าใจดีครับ”อีกฝ่ายตอบมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ คงจะแอบร้องไห้ไปแล้วมั้ง คิดแล้วสะใจ
“เข้าใจก็ดี แค่นี้นะ จะนอน”
“ดังนั้น รบกวนเปิดประตูให้ผมเข้าไปด้วยครับ”
“อะไรนะ ผมไม่ตลกนะ”รามิเรสท้วงเสียงเสียงดัง อย่าบอกนะว่าตามมาถึงโรมจริงๆ แต่ใครจะเชื่อ
“ครับ ผมไม่ตลกกับเรื่องงาน เปิดประตูให้ผมด้วยครับ”สิ้นเสียงราบเรียบปลายสายก็กดตัดสายไป เหมือนกับกดตัดสติของรามิเรสไปชั่วขณะ
จะเป็นไปได้มั้ย ที่ต้องตามเอาเอกสารมาให้เซ็นต์ถึงที่ ตามข้ามโลกมาขนาดนี้ แบบนี้มันจะไม่บ้างานไปหน่อยรึไง คงไม่จริงหรอก คงจำอำกันเล่นมากกว่า
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงออดบ้านดัง เรียกให้รามิเรสมองผ่านประตูห้องนอนที่เปิดทิ้งไว้ผ่านไปที่ประตูห้อง อย่าบอกนะว่ามาจริง ภาวนาให้เป็นเพื่อนหรือเป็นคู่ขาเถอะ อย่าให้เป็นเลขาหน้าเดียวเลย คงจะเป็นเพื่อนคนใดคนหนึ่งละมั้ง ได้แต่พร่ำบอกในใจ หยิบเอากางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้นมาใส่อย่างลวกๆ จ้องมองประตูไม่วางตา
ขอมองลอดตาแมวทำใจสักหน่อย คงไม่จองล้างจองพลาญกันแบบในหนังผีหรอกมั้ง อะไรจะตามข้ามน้ำข้ามทวีปกันมาขนาดนั้น
อื้อหือ ตัวเป็นๆ ทรงผมสกินเฮดเกรียนๆ หน้านิ่งๆ ใส่สูทเต็มยศ ถือกระเป๋าเอกสารเตรียมพร้อม ถ้าไม้เปิดประตูให้ก็คงเป็นเรื่องไปถึงหูคนเป็นพ่อ แล้วถ้าเปิด ก็แค่เซ็นต์ๆให้จบจบไป
“ไหนเอกสาร”พอเปิดประตูได้ รามิเรสก็แบมือขอเอกสารทันที ไม่ยอมให้เข้าห้องมาหรอก เดี๋ยวจะยาว รีบเซ็นต์แล้วรีบๆไล่ให้กลับไปก็จบ
“เอกสารอยู่ในกระเป๋าครับ”เลขาหน้าคมหัวเกรียนตอบไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ อดไม่ได้ที่จะสำรวจเจ้านายในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว
สายตาคมไล่มองเจ้านายหัวจรดเท้า สภาพไม่สมกับเป็นทายาทสืบทอดธุรกิจสายการบินยักษ์ใหญ่เอาซะเลย จนมองไล่ไปไล่มาก็จรดสายตาเข้าตรงเป้ากางเกงเจ้าปัญหาที่กำลังชี้หน้าชี้ตาไม่อายสายตาใคร เข้าใจอยู่ว่าของฝรั่งมันใหม่ แต่ก็ไม่เคยประมาณเอาไว้ได้ขนาดนี้
เงยหน้ามองหน้าเจ้าของก็เห็นเจ้าของตาสีฟ้ายิ้มเยาะเหมือนจะอวดใส่ ก้มมองเป้าเจ้าปัญหาอีกที คราวนี้มีพงกหงึกหงึกทักทาย เลยจ้องมองคนที่กำลังยิ้มอย่างขำๆ ไอ้ที่ทำอยู่เนี่ย มันเรียกอุบาตท์ชัดๆ
“ไง ไม่เคยเห็นของใหญ่เหรอ”ถามไปก็ยิ้มขำกับเลขาหน้านิ่ง ที่ตอนนี้ทำหน้าทำตาเหรอหรา ถลึงตาใส่
“ผมแนะนำให้คุณไปใส่เสื้อผ้าดีกว่านะครับ เกรงว่าจะไม่สะดวกจะติดต่องาน”ธนพัฒน์พยายามไม่มองเจ้าท่อนลำเจ้าปัญหาที่พงกหัวทักทาย เบือนหน้าหนี
“ก็เอาเอกสารมาสิ ผมจะได้เซ็นต์ คุณจะได้รีบกลับ”รามิเรสยิ้ม อย่างว่า คนเอเชียของต้องเล็กกว่าคนยุโรปอยู่แล้ว อิจฉาหรือว่าอายกันนะ ทำเป็นหน้านิ่งน่าหมั่นไส้อยู่ได้ เป็นไง เจอของใหญ่แล้วถึงกับหลุดนิ่งไปเลย ดูก็รู้ ใครชนะ ทนได้ทนไป
“เซ็นต์เลยไม่ได้ครับ เอกสารตัวนี้เป็นเอกสารประจำไตรมาศ ผมได้เสนอกับท่านประธานไปแล้ว ว่าผมจะปรับเปลี่ยนระบบใหม่ ซึ่งตัวนี้ผมต้องชี้แจงให้คุณรามิเรสฟังใหม่ตั้งแต่ต้น หากจะเซ็นต์เลย คงเป็นไปไม่ได้”ธนพัฒน์พูดไป แต่ก็เบือนหน้าหนี ไม่สนใจกับสิ่งที่ได้เห็น นึกตอบโต้อีกฝ่ายไม่ถูกอาจเป็นเพราะ ถูกเลี้ยงดูมาโดยการล้อมกรอบ
ใช้ชีวิตอย่างมีขอบเขตที่ถูกวางเอาไว้ ตามประสงค์ของครอบครัว เพราะความผิดพลาดของน้องสาวจึงทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัดมากกว่าเก่า
เพื่อนฝูงไม่ค่อยมี เพราะไม่อยากจะยึดติดกับอะไรที่อาจจะเป็นตัวปัญหากับการใช้ชีวิตที่มีขอบเขต ยิ่งกับเรื่องรักใคร่ ที่มีอยู่ในความคิด แต่ไม่สามารถทำได้ ก็ถูกพับเก็บไว้ข้างในส่วนลึกของจิตใจ ส่วนลึกที่ไม่มีวันจะได้ดึงออกมาให้ได้เห็นอีก
เพราะอย่างนี้ เวลาที่เจออะไรที่มันหวือหวาเกินกว่าชีวิตประจำวันที่ผ่านมาจะสัมผัส ทำให้ค่อนข้างกระดากใจอยู่ไม่น้อย
ถึงจะลำบากใจ แต่ก็ต้องทนเพื่อที่สักวันจะได้หลุดออกจากกรอบที่ล้อมเอาไว้
“ผมว่าไปแต่งตัวดีกว่านะครับ เกรงจะไม่เหมาะ”พอเข้ามาได้ธนพัฒน์ก็นั่งลงโซฟาโซนรับแขก
“ด้อนวอรี่ คงไม่นานหรอก ใช่มั้ย”พูกจบคนตัวใหญ่ตาสีฟ้าก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาสบายใจ
“งั้นก็ตามใจครับ”ถึงจะหงุดหงิดใจแค่ไหน แต่เพื่องานที่บรรลุได้ตามขอบเขตที่ได้ถูกวางเอาไว้ ธนพัฒน์จึงต้องข่มใจให้นิ่ง ไม่สนท่าทีที่สบายเกินเหตุของทายาทสายการบิน
“งั้นผมจะอธิบายตั้งแต่แรกเลยนะครับ”ธนพัฒน์เปิดเอกสารเตรียมที่จะบรรยาย กำลังจะเริ่มพูด
“วี๊ด วิ๊ว วี๊ว วี้”เสียงเป่าปากก็ดังมาจากคนที่นอนอยู่ฝั่งตรงข้าม นอกจากจะนอนไขว้ขาด้วยท่าทางสบายสบายดูน่าหมั่นไส้แล้ว รามิเรสยังผิวปากขัดขึ้นมาด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ มือหนายกขึ้นแคะเล็บดังแกร๊กๆ เป็นการยั่วโมโหไปในตัว
“กรุณาหยุดผิวปากด้วยครับ”ธนพัฒน์พูดด้วยสีหน้านิ่ง พยายามสงบใจไม่ให้ร้อนรุ่ม
“อ้อ งั้นเหรอ โทษที มันชิน”คราวนี้รามิเรสหยุดผิวปาก ยกมือขึ้นแคะเล็บไปมาเสียงดังแกรกๆ
“เริ่มเลยนะครับ เนื่องจางนโยบายของบริษัทที่มีมาก่อนหน้าเป็นนโยบายที่ทำให้เกิดกการใช้ทรัพยากรการเงินอย่างสิ้นเปลือง ผมจึงปรับโครงสร้างนโยบายตัวเก่าใหม่เกือบทั้งหมดเพื่อที่จะ”
“แกรก แกรก แกร๊ก”ธนพัฒน์หยุดนิ่ง เงยหน้ามองต้นเสียงรบกวนเจ้าปัญหา พบกับรามิเรสที่ทำหน้าตาไม่รู้เรื่องรู้ราวแคะเล็บเสียงดังแกรกๆอย่างกวนอารมณ์
“รบกวนหยุดแคะเล็บด้วยครับ ผมไม่มีสมาธิอธิบาย”ธนพัฒน์มองหน้า ตาคมจ้องรามิเรสนิ่ง พยายามไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดใด
“ว้า แย่จัง เล็บก็ยาวซะแล้วด้วย เอาไงดี ถ้าไม่ได้แคะ ไม่ได้ตัดคงแย่แน่เลย ว่ามั้ย ถ้าจู่ๆเล็บเกิดไปข่วนแขนข่วนหน้าเลือดออกแล้วแผลติดเชื่อคงจะแย่เนอะ ว่ามั้ย”
“งั้นเหรอครับ กรรไกรตัดเล็บอยู่ไหนครับ”เลขาหน้านิ่งปิดเอกสารดับฟึบ ถามด้วยน้ำเสียงเริ่มขุ่นเคือง
“อยู่ในลิ้นชักหน้าทีวีน่ะ ถามทำไมเหรอ”รามิเรสกระดิกเท้า หันมาถามอย่างสงสัย ไม่วายยักคิ้วให้เลขาสุดเนียบ
แต่เลขาหน้าคมดันไม่สนใจรามิเรส กลับเดินไปเปิดลิ้นชักหน้าทีวี
“หาอะไรเหรอ”รามิเรสถามด้วยความสงสัย จู่ๆธนพัฒน์ก็เดินไปเปิดลิ้นชักหน้าทีวีซะงั้น ใช่ว่าเพี้ยนไปแล้วล่ะ
“กรรไกรตัดเล็บ”ตอบเสร็จก็หยิบของที่ว่าติดมือตรงมาที่รามิเรส
“เอามาทำไมน่ะ”รามิเรสถาม ลุกผลุดขึ้นนั่งอย่างแปลกใจ จู่ๆก็ถามหากรรไกรตัดเล็บแล้วก็หยิบมา ใช่ว่าจะเอามาแทงกันหรอกนะ เพราะไอ้กรรไกรตัดเล็บนั่งมันมีมีดเล็กๆอยู่ด้วย แอบถอยหลังหนีไปนิดหน่อย คนนิ่งๆเวลาทำอะไรเงียบๆแล้วดูน่ากลัวกว่าที่คิดแฮะ
“ส่งมือมา”ธนพัฒน์นั่งลงข้างๆฝรั่งตาสีฟ้าแล้วยื่นมือส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายส่งมือกลับมา
“คุณจะทำอะไรผม”อดที่จะกลัวไม่ได้ เหมือนในหนังโรคจิต เวลาที่ใครทำอะไรผิด ก็จะโดนฆาตกรโรคจิตลงโทษ
อย่างตัดนิ้วตัดมืออะไรประมาณนั้น แล้วเมื่อกี้ดันแคะเล็บเสียงดังรบกวนอักฝ่าย ใช่ว่าจะเอากรรไกรตัดเล็บมาตัดนิ้วกันหรอกนะ รามิเรสหลับตาสงมือไป
แกร๊ก
เสียงดังแกร๊กดังขึ้น ไม่เจ็บไม่ปวด รามิเรสลืมตา จ้องมองเล็บที่ยาวของตัวเองถูกตัดไล่ไปทีละเล็บ จนครับทั้งห้า
จะชักมือหนีก็กลัวตัดเข้าเนื้อ อดแปลกใจกับเลขาหน้านิ่งไม่ได้ จู่ๆก็มาตัดเล็บให้ เพียงเพราะแคะเล็บส่งเสียงกวนงั้นเหรอ
จะใจดีไปหน่อยมั้ย มีขัดเล็บลบคมให้ด้วย ได้แต่แปลกใจจ้องตาปริบๆ
“โอ๊ะ”รามิเรสสะดุ้ง ดึงมือกลับ
“เจ็บเหรอครับ”ธนพัฒน์ถาม คว้ามือรามิเรสมาจับดูนิ้วที่ขัดอยุ่เมื่อครู่ใกล้ๆ
“มะ ไม่เจ็บหรอก แค่จั๊กจี้แปลกๆ”
“งั้นเหรอครับ ถ้าเจ็บก็บอกนะครับ”พูดจบก็คว้าเอาอีกมือของรามิเรสมาตัดต่อจนเสร็จ
เล็บเจ้าปัญหาที่ถูกยกเอามาแอบอ้างก็ถูกตัดถูกขัดจนหายไป ธนพัฒน์เงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับดวงตาสีฟ้าทะเลจ้องมาเหมือนมีอะไรสงสัย จ้องมองเหมือนจะค้นหาอะไร
วูบหนึ่ง ดวงตาคมไหววูบอย่างตกใจ เพราะไม่เคยมีใครจ้องหน้าอย่างใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน
“มีอะไร รึป่าวครับ”
“ปะ ป่าว ขอบคุณ”เป็นรามิเรสเสียเองที่ต้องเบือนหน้าหนีกับสายที่ครู่หนึ่งวูบไหวอย่างตกใจ อดแปลกใจไม่น้อยที่คนนิ่งๆจะมีสายตาหวั่นไหวแบบนั้นแสดงออกมาให้เห็น
ก็ตกใจอยู่หรอก จู่ๆก็มาตัดเล็บให้กัน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครตัดเล็บให้สักคน นอกจากช่างที่สปา หรือไม่ก็ร้านโดยตรง มีก็ครั้งนี้ครั้งแรก แปลกใจอยู่ไม่น้อย
หรือเพียงเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของงานกัน ยอมทำถึงขนาดนี้เลยรึไง รู้อยู่ว่าต้องมีเอกสารให้เซ็นต์ เป็นเอกสารที่สำคัญ แต่ก็อดที่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วก็บินกลับโรมมา เพราะอยากรู้ว่าคนเที่ยงตรงอย่างธนพัฒน์จะมีปัญญาจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
แล้วก็อย่างที่เห็น กลับกลายเป็นตัวเองที่ต้องเสียสูญไปเล็กๆกับการกระทำที่ตรงเกินคาดของอีกฝ่าย
“งั้นต่อเลยนะครับ”ธนพัฒน์เอากรรไกรตัดเล็บไปเก็บที่เดิม กลับมานั่งประจำที่เปิดเอกสารเตรียมอธิบายต่อ
“ก็เอาสิ”รามิเรสยักไหล่
“ก็อย่างที่บอกไปครับ นโยบายเก่าทำให้บริษัทเสียงบเกินจำเป็น ทำให้ต้อง”
“ปิ๊ว ปี๊ว ปี๊ว”เสียงยิงกันดังสนั่นออกมาจากโทรศัพท์เครื่องแบนที่รามิเรสกำลังกดอย่างเมามันส์ ใบหน้าขาวหล่อทำท่าทำทางสนุกเสียเต็มประดา
ฟืบ
“ขอนะครับ”ธนพัฒน์พูดก่อนจะหย่อนโทรศัพท์ที่ยึดมาจากมือรามิเรสลงในกระเป๋าเอกสารตัวเอง
“อ่าวเฮ้ย กำลังจะผ่านด่านเลยนะนั่น”รามิเรสล้มตัวลงนอนกอดอกไขว้ขาใส่ทำท่าไม่พอใจ แต่ก็แอบยิ้มน้อยๆ ขอดูหน่อยเถอะ จะทนได้แค่ไหนเชียว
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนครับ ให้ผมอธิบายจบก่อนค่อยเล่นก็ได้ครับ”
“ตามสบาย”รามิเรสพูดจบก็หลับตาลงพลางกระดิกเท้า
“ครับ ทางเราต้องปรับโครงสร้างใหม่แล้วก็ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น”
“อืม ตามนั้น”รามิเรสพูดขัด
“อย่าขัดสิครับ”
“ไม่ขัดก็ได้ ตามสบาย”รามิเรสยกยิ้ม
“อย่างเช่นค่าอุปกรณ์ภายในสำนักงานที่ไม่จำเป็น จำพวก”
“เฮ้อร้อนจัง”รามิเรสไม่พูดขัดปล่าวๆ ยกมือยกไม้ขึ้นพัดไปมา ทั้งๆที่อากาศก็เย็น แถมตัวเองก็ใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว
“แล้วก็พวกอะไหล่สำรอง ที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวสต๊อก ผมคิดว่า”พยายามพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“อาบน้ำดีกว่า”พูดจบรามิเรสก็ผลุดเข้าห้องน้ำไปทิ้งให้เลขาต้องมองตามด้วยสายตาที่ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ
จะให้โกรธให้เคืองให้ทนไม่ไหวอย่างนั้นเหรอ ความรู้สึกด้านชาที่ถูกสร้างขึ้นมาถูกเอามาใช้อย่างสุดความสามารถ
ต้องอดทนเท่านั้นถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการมาตลอด ต้องทำทุกอย่างให้อ่านไปได้ด้วยดี ทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ถูกวาดเอาไว้ให้
ถึงจะถูกกวน ถูกยียวนแค่ไหนก็ต้องมองเลยผ่านไป ทำได้แค่ไม่ใส่ใจ
*********************50%*************
ฝากกดไล้เพจนี้หน่อยค่า เพจของคนเขียนเอง
รบกวนเวลาสักครู่นะคร้าาา
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99-By-%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%B6%E0%B8%99/958977677467185?ref=settingsขอบคุณทุกท่าที่กดไล้ค่าา
ช่วงนี้อาจจะน่าเบื่อหน่อยนะค้าา
ถ้ากุ้ยช่ายเสียตัวเร็วกลัวว่าจะใจง่ายไปเพราะทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่รู้ตัว
หลายคนอาจจะเบื่อ
ต้องขอโทษด้วยนะค้า ยังไงก็ติชมกันมาได้ค่ะ