# Accident Lovely อุบัติรัก...พ่อลูกอ่อน # 14/10/58 พิเศษ 3 รามี่+พัฒน์ p.51
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณชอบอ่านนิยายแนวไหน

มาม่า แน่นอนมันเป็นอาหารยอดนิยมที่สุดที่ใครได้ลิ้มรสเป็นต้องน้ำตาซึม
49 (7.1%)
ตลกขำขัน แบบยิงมุกกระจาย อย่างกับดูตลกชิงร้อยชิงล้านกันเลยทีเดียว
215 (31.2%)
น่ารักใสๆ เอาแบบอารมฟรุ้งฟริ้งมุ้งมุ้งเส้นหมี่น้ำใสแบบเบาๆไม่เอามาม่า
295 (42.8%)
ซาดิสรุนแรง เรื่องตบจูบนี่ขอให้บอก โซ่แซ่กุญแจมือนี่มาเลย
112 (16.3%)
หักมุม มาแบบฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งอยู่ดีๆตัวเอกตายซะงั้น เป็นงั้นไป
18 (2.6%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 688

ผู้เขียน หัวข้อ: # Accident Lovely อุบัติรัก...พ่อลูกอ่อน # 14/10/58 พิเศษ 3 รามี่+พัฒน์ p.51  (อ่าน 532612 ครั้ง)

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
พ่อกับแม่มาร์ตี้จะรับ
ได้ไหมนะ :mew2:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ชอบบ้าอะไรล่ะ มันก็แค่ทำสนองตัวของมันเอง ก็แล้วแต่เถอะ เขามาเขียนให้อ่านนี้ก็ดีแล้วนะ ในเมื่อให้เขาทำกับตัวเองขนาดนี้อย่ามาเสียน้ำตาให้เห็นนะกุ่ยช่ายจะซ้ำเติมให้ดูกับคนไม่เจียมตัวเอง ในเมื่อจะเอาแบบนี้ก็ควรจะยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดก็แร้วกัน

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
คุณแม่มาแอบดูแน่ๆ เลย กลัวจังครับ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :o8: :o8:  เอาแน่ๆ มาตี้  จัดไปๆ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ MixsinDee

  • การ ขอ โทด แบบ จิงใจ จะ ได้รับ การ อภัย ด้วย ใจ จริง....
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :hao7:ตั้งโอ๋หรือป่าวววว.คุนแม่ก้ดีนะจะได้จับแต่งงานเลย555(เพ้อเจ้อและ) ติดตามอยุ่ๆเป้นกำลังใจให้คนเขียนน้าาาา

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
40000

 :katai4: :katai4:

ช่วงนี้อ่านหนังสือสอบ

 :jul1:

อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไร




ตอนที่ 20 ข่าวฉาว



   “ชมพู่ ยังไม่หมดอีกเหรอ”ร่างสูงที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารกองใหญ่ท่วมหัวโอดเสียงแผ่วเมื่อ เพราะเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ต้องเข้ามาเซ็นต์เอกสารกองโตเกือบแทบทุกวัน แล้วนี่อะไร เลขาคนสวยหอบแฟ้มเอกสารปึกใหญ่มาโยนโครมไว้บนโต๊ะอีกแล้ว

   “ทำเข้าไปเหอะ หัดทำงานทำการบ้าง ไม่งั้นสักวันชั้นจะโกงหุ้นนาย”เลขาคนสวยมองค้อน

   “ไม่เข้าใจ ทำไมจู่ๆต้นเดือนที่ผ่านมาลูกค้าถึงได้เพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบเท่าตัว”ร่างสูงบ่นอุบ แต่ก็หยิบแฟ้มเอกสารเล่มใหม่ขึ้นมาอ่านอย่างจำนน

   “ข่าวซุบซิบน่ะ หัดอ่านซะบ้าง”เสียงแหลมเล็กพูดอย่างประชดประชันสะบัดหน้าใส่ก่อนเดินเปิดประตูออกจากห้องไป

   “ข่าวซุบซิบอะไรของเขา”มาตินส่ายหัวเบาๆก่อนก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้า

   เทศกาลท่องเที่ยงก็ไม่ใช่ ทำไมต้องมานั่งเซ็นต์อนุมัติเพิ่มรอบทัวร์ทั้งในแต่ต่างประเทศเยอะแยะขนาดนี้

   ยกนาฬิกาขึ้นดูก็เกือบจะได้เวลาเลิกงานของพนักงานแล้ว แต่งานตรงหน้ายังกองท่วมหัวอยู่  แค่เห็นก็อยากจะจับเซ็นต์ๆไปให้จบจบ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะถึงจะไม่ค่อยเข้ามาดูแล แต่เรื่องทุกเรื่องที่สำคัญก็ต้องผ่านตาทุกเรื่อง ก็เพราะเป็นอย่างนี้ เลยต้องมานั่งกุมขมับนวดอยู่เบาๆ

   รู้อย่างนี้เอาผู้ช่วยมาด้วยก็ดี จะได้ช่วยอ่านช่วยตัดสินใจได้บ้าง แต่จะว่าไปตั้งแต่วันนั้นที่เผลอจูบพี่เลี้ยงเด็กไป อีกฝ่ายก็ดูหลบหน้าหลบตาเขา ไม่ว่าจะคอยตามเท่าไรก็จะหาเหตุผลเพื่อหลีกเลี่ยง จนจะเกือบอาทิตย์แล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาคุยด้วยเหมือนก่อน

   ที่จูบไปก็ใช่ว่าจะไม่เต็มใจ หรืออะไรยังไงหรอก ก็แค่อยากจูบ ไม่รู้ทำไม แค่อยากจูบ แล้วก็รู้สึกดีด้วย

   ไม่รู้ตัวเลย ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เกิดความรู้สึกอยากได้จูบแบบนั้นอีก แค่คิดก็เผลอวางปากกา ละสายตาจากเอกสาร

   หันมานึกถึงใบหน้าแดงก่ำยามที่ถอนจูบออกมา มุมบากสีแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะจูบหรืออะไร มีน้ำใสใสไหลลงมาที่มุมปากจรดลงเกือบถึงคาง ดวงตาที่ปกติกลมโตหลับพริ้มจนเห็นขนตาเรียงราย

   คิดว่าจะก้มลงไปจูบอีกรอบ เพราะติดใจ แต่ก็ถูกผลักออก แล้วก็เงียบใส่กัน ไม่มีคำพูด ไม่มีคำตัดพ้อ ไม่มีคำด่าอะไรสักคำ มีแต่ความเงียบงัน

   แค่คิดก็อยากจะเลิกงานไวไว อยากจะเห็นหน้า อยากจะได้ยินเสียง อยากจะไปลองแกล้งให้ได้ยินเสียงบ่นดู

   ไม่ใช่ว่าคิดถึงหรอก ก็แค่หาอะไรทำแก้เบื่อ เพราะช่วงนี้งานมันเยอะเหลือเกิน แต่ก็จะให้ลากอีกคนมาด้วยก็เกรงใจ ลำพังเลี้ยงอันเดรสก็หนักเอาการอยู่ เพราะช่วงนี้อันเดรสดูเหมือนจะกำลังอยู่ในช่วงกล้ามเนื้อกำลังเจริญเติมโต เห็นพี่เลี้ยงบอกคอแข็งอะไรนี่ล่ะ

   กำลังยกคอ แล้วก็กำลังจะเปลี่ยนนมตัวใหม่ ไหนจะคอยดัดขาไม่ให้ผิดรูป เยอะแยะมากมาย อันที่จริงก็อยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเองบ้างสักนิดก็ยังดี อยากจะคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ แต่ทำไงได้ ช่วงนี้จู่ๆงานก็เยอะซะขนาดนี้

   ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จู่ๆทัวร์ทุกเส้นทางก็ถูกจองจนเต็ม มิหนำซ้ำยังต้องเพิ่มรอบอีกหลาบรอบ ตอนนี้ทางฝ่ายที่ดูแลก็ยังๆไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

   จะว่าดีมันก็ดี แต่มันไม่ค่อยได้ตั้งตัวรับมือกับดีมาลที่เพิ่มขึ้นจนเกิดขีดจำกัดขนาดนี้

   ถ้าจะให้อนุมัติไปทุกๆอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะต้องคอยมาดูสิ่งที่รองรับว่าเพียงพอมั้ยต่อการรองรับลูกค้า จะให้อนุมัติเลยก็ทำได้ แต่ผลผิดพลาดถ้าเกิดขึ้นมันก็ไม่คุ้มที่จะเสีย

   ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไร รู้แค่ว่าเอกสารยุบไปแค่ครึ่ง มองผ่านไปนอกกนะจกก็เห็นแต่ความมืดของราตรี ได้แต่ถอนหายใจยกนาฬิกาขึ้นดูก็สี่ทุ่ม


   ไม่รู้ว่าป่านนี้คนที่บ้านจะรอกินข้าวรึป่าว ไม่รู้จะนึกถึงกันบ้างมั้ยเวลาไม่อยู่กวนใจ ช่วงนี้ยิ่งงานยุ่ง พอกลับไปก็ได้แต่ทานข้าวแล้วก็ตรวจเอกสารที่ต้องพิจารณาซ้ำเป็นพิเศษ แล้วก็นอน

   แต่วันนี้จะทิ้งงานเหลือก็ไม่ได้เพราะว่าเป็นวันศุกร์ ต้องรีบทำให้จบ พรุ่งนี้วันเสาร์จะได้แจกเอกสารให้แต่ละฝ่ายไปจัดการหน้าที่ของตัวเองก่อนจะถึงวันหยุด

   ได้แต่นั่งอ่านแล้วก็เซ็นต์แล้วก็เดินไปชงกาแฟเองเพราะแม่บ้านเลิกงานไปแล้ว

   กำลังจะยกกาแฟขึ้นดื่ม เพราะว่าหิวจนท้องประท้วง เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดัง

   พอยกขึ้นมาดูหน้าจอก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ หัวใจเต้นแรงกะทันหัน ไม่รู้ตัว ไม่รู้ตัวเลยว่ายิ้มกว้างหนาดไหน

   “ฮัลโหล”ร่างสูงกรอกเสียงแผ่วลงไปบ่งบอกให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า ไม่รู้ว่าสำออยหรือเป็นจริง ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้ม

   “คุณอยู่ไหน”เสียงที่คุ้นเคย น้ำเสียงกระวนกระวายถามกลับมา

   “อยู่ออฟฟิต”มาตินตอบกลับเปลี่ยนใจเดินถือแก้วกาแฟเดินผ่านทางเดินเพื่อจะกลับเข้าห้องทำงาน

   “ทำไมผมไม่เห็น คุณอยู่ไหนกันแน่ อย่ามาโกหกผม อยู่กับผู้หญิงใช่มั้ย”มันอะไรกัน แค่โทรมาก็ดีใจจะแย่อยุ่แล้ว แล้วทำไมมาถามซะเหมือนเป็นห่วงเป็นใยกันมากมาย แล้วเมื่อกี้ถามว่าอะไรนะ ทำไมไม่เห็น

   ก็เลยต้องรีบเดิน เหมือนจะมีความหวัง ยอมรับว่าทั้งเหนื่อยทั้งง่วงทั้งหิว จนจะไม่มีแรงเดิน แต่พอคิดว่าอีกมาหาก็เลยต้องรีบเดิน เปิดประตูเข้าไปก็เจอเลย

   ตัวขาวๆนั่งอยู่ที่โซฟา บนโต๊ะตรงหน้ามีหารใส่ปิ่นโตกำลังถูกจัดเรียงเตรียมพร้อมจะถูกจัดการ แค่เห็นท้องมันก็ร้องโครกคราก แต่ก็ไม่เท่าเห็นคนส่งอาหารที่ตอนนี้นั่งทำหน้าตาบูดบึ้งอย่างไม่พอใจ

   ไม่พอใจอะไรก็ไม่รู้ แค่คนเห็นดีใจก็พอแล้ว

   “โทรศัพท์เป็นอะไร ทำไมเงียบไป”คนส่งปิ่นโตถามทันทีที่เปิดประตูเข้ามา ถามโดยที่ไม่มองหน้าเพราะกำลังจัดปิ่นโตอยู่

   “ไม่รู้เหมือนกัน”เพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรก็เลยตอบไม่รู้ แต่จริงๆแล้วดีใจ ดีใจจนลืมตอบโทรศัพท์ แล้วรีบเดินมาอย่างนี้

   “ประสาท”คำเดิมที่คุ้นเคยบ่นเบาเบา

   “ไม่เอาลูกมาด้วยเหรอ”มาตินนั่งบนโซฟาข้างๆ

   “วันนี้อันเดรสต้องไปบ้านใหญ่ จำไม่ได้รึไง”น้ำเสียงขุ่นๆติดบ่นเล็กน้อยตอบกลับมา คิดถึง คิดถึงจังเลย ไม่ได้เจอกันแค่ไม่ถึงวัน แต่ทำไมเหมือนไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์

   ได้แต่นั่งจ้องหน้าขาวๆของคนจัดปิ่นโต

   “คิดถึงลูก”ปากก็บอกคิดถึงลูก แต่จ้องมองหน้าพี่เลี้ยงลูก

   “คิดถึงลูกก็รีบกินรีบทำงานจะได้รีบกลับบ้าน”

   “นี่”มาตินเรียกเบาๆ ใบหน้ายิ้มแห้งจ้องมองกุ้ยช่าย

   “อะไร”กุ้ยช่ายหันมาถามเสียงห้วน

   “ขอจูบได้มั้ย”มาตินถามด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า

   รอฟังคำตอบ แต่ก็ไม่ได้คำตอบ กุ้ยช่ายได้แต่ทำหน้าตาเหรอหรา ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร ไม่รู้จะจะทำยังไง

   ไม่ได้เตรียมรับมือ ได้แต่ทำหน้าไม่ถูกปั้นหน้าไม่ทัน

   “ได้มั้ย”เสียงทุ้มต่ำถามย้ำ ดวงตาสีเข้มจ้องมองใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อด้วยความเหนื่อยล้า

   อยากจะได้จูบ อยากจะจูบอีกสักครั้ง ไม่สิ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว อยากจะจูบอีกหลายหลายครั้ง

   พอเห็นคนตรงหน้าจะลุกขึ้นหนี ก็เลยคว้าเอาข้อมือแล้วดึงให้ล้มลงบนโซฟา เพราะความอยากได้ ความเอาแต่ใจ

   ก็เลยต้องใช้กำลัง ถึงจะเหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่เรื่องนี้ก็ขอฮึดสู้ ใช้กำลังใจเข้ามาช่วย กดอีกฝ่ายลงบนโซฟาแล้วขึ้นทาบทับ

   แต่มองตากลมโตก็รู้สึกมีกำลังใจในการทำงานแล้ว แต่ถ้าจะได้กำลังใจมากกว่านี้ก็ต้องขอจูบสักที เผือจะได้มีแรงทำงานยันเช้าไปเลย

   แต่ทำไมถึงได้ดิ้นแรงขนาดนี้นะ ทั้งมือทั้งทั้งทุบตีกันขนาดนี้เลยเหรอ ขอแค่จูบทีเดียวเอง

   ดิ้นขนาดนี้ก็เลยต้องจับมือสองข้างขึ้นรวบ แล้วก็นั่งทับขาที่อยู่ไม่สุข แค่นี้ก็เรียบร้อย ถึงจะอยู่นิ่งได้ ไม่ขัดขืน

   “ปล่อย”ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แค่ขอจูบนิดเดียวเอง

   แล้วนั่นอะไร ทำไมถึงมองกันด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ ไม่ทำสายตาดุใส่แล้วเหรอ ทำไมทำสายตาสับสนแบบนั้นล่ะ จะว่ากลัวก็ไม่ใช่ จะร้องไห้ก็ไม่เชิง แล้วหน้าขาวๆที่เห็นตอนแรกตอนนี้ก็แดงซะ แดงจนลามไปถึงหู

   “ขอจูบหน่อยนะ”กระซิบเบาๆข้างหูแดงๆแล้วกัดไปหนึ่งที ข้อหาทำตัวน่ารัก มาให้กำลังใจกันถึงที่

   “ไม่ ไม่ได้ คะ คุณ จะบ้ารึไง อะ อืม”ไม่อยากให้พูดมากเลย เพราะถ้าพูดมากเดี๋ยวก็หาเหตุผลนู่นนี่มาอ้าง

   ก็เลยจูบไปซะเลย เหมือนจะดิ้นแต่ก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี จับล็อกไว้แล้วขนาดนี้ เกือบอาทิตย์แล้วไม่ได้จูบ

   ขอจูบให้เต็มที่สักที สอดลิ้นเข้าไป แรกๆไม่ยอมเปิดให้เลยกัดปากไปทีนึง เลยได้เข้าไป นุ่มอย่างที่คิด ทั้งนุ่มทั้งอร่อยจนจูบอยู่นาน

   แล้วก็จูบแล้วจูบอีก จนผละออกปล่อยให้อีกฝ่ายได้เป็นอิสระ จ้องมองหน้าแดงก่ำ ปากแดงๆบวมเจ่อ เห็นแล้วมันน่าจูบอีกสักที
   แต่ก็พอก่อน เพราะอีกคนหันหน้าหนีไปซะแล้ว ก็เลยต้องหันมากินข้าวอยู่เงียบๆ

   พอกินเสร็จอีกฝ่ายเก็บปิ่นโตเก็บโต๊ะเสร็จก็ลุกผลุดคว้าปิ่นโตเตรียมไปเอาซะดื้อๆไม่บอกคำล่ำลาเลย เลยคว้ามือเอาไว้

   “จะรีบไปไหน”

   “กลับบ้าน”ปากก็พูด แต่ไม่มองหน้า พยายามดึงมือกลับ

   “ทำไมต้องรีบกลับล่ะ ไม่กลับพร้อมกันเหรอ”รู้ว่าอีกฝ่ายโกรธ แต่ถ้ากลับคนเดียวมันอันตราย

   “ไม่เอา จะกลับแล้ว”ทำไมถึงได้ดื้อขนาดนี้

   “รอกลับพร้อมกันเนี่ยแหละ

   “ขี้เกียจรอ”เห็นมั้ย ข้ออ้างที่จะห่างเหินมีเยอะ

   “ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

   “ก็บอกว่าจะกลับไง มันดึกแล้วง่วงนอน”ข้ออ้างเยอะจริง

   “นอนรอที่โซฟาก็ได้ เดี๋ยวเสร็จแล้วปลุกให้”

   “ผม”ยังจะหาข้ออ้างอีก

   “นะ รออีกนิดนะ ไม่อยากให้กลับคนเดียว”

   “จะกลับแล้ว คุณอย่ามากวนได้มั้ย มันดึกแล้วนะ”เห็นมั้ยทำไมเอาแต่ใจขนาดนี้

   “ก็เพราะดึกแล้วไง เลยไม่อยากให้กลับคนเดียว เชื่อกันบ้างสิ”

   “ไม่เชื่อจะกลับ”ไม่เชื่อแล้วยังมาทำหน้าตาไม่พอใจใส่อีก

   “ถ้าไม่เชื่องั้นจะจูบนะ”เลยต้องงัดไม้ตายสุดท้าย

   แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น เดินลงเท้าไปกระแทกก้นลงบนโซฟา มาตินได้แต่ส่ายหัว

   ก็ไม่อะไรหรอก แค่เป็นห่วงไม่อยากให้กลับคนเดียว ยอมรับว่าอีกเหตุผลก็แค่อยากจะเห็นหน้าบ้างอะไรบ้าง อยู่คนเดียวมันเหงามันเงียบ อยากให้มีกำลังใจ


   อีกใจก็อยากให้ปฏิเสธอยู่เมื่อกี้ จะได้จูบอีกสักทีสองที



**************50%



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
   

เฮ้อ เดี๋ยวมาต่อให้นะคร้า

เหนื่อย

ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งกันนะคร้า

ขอกำลังใจดว้ยคร่า

ช่วงนิเครียดเลยไม่ค่อยเเล่นเท่าไร

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
มาตินกลับไปเคลียร์ความรู้สึกของตัวเองก่อนดีไหมคะ?? อย่าฉวยโอกาสกับกุ้ยช่ายแบบนี้เลยค่ะ ..ไม่ควรทำอย่างยิ่งตราบใดที่มาตินยังสับสนในตัวเองอยู่แบบนี้ o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
มาร์ตินทำไมซึนนิ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :o8: มาตี้ขอเค้าจูบดื้อๆๆ เลยอ่ะ....

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ข่าวอะไรอ่า???

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
อะไรคือข่าวฉาวที่ว่าอยากรู้ๆๆๆๆ มาตินยังไม่ชักเจนกับความรู้สึกแบ้วมาบังคับจูบอีกน่าโมโหซะจริง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
มาถึงก็จูบเลยนะ อีมาร์ติน

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
แหมมมมอารมณ์เหมือนพ่อหนุ่มน้อยทั่กำลังตกอยู่ใน้วงพลังแห่งรักมัวเมากับจูบรสหวานอยู่เลยนะ อิอิ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เฮ้อ น่าสงสารกุ่ยช่ายจัง เดียวสักวันนายจะต้องสูญเสียแน่ๆไอ้มาติน ทำร้ายกันทางอ้อมแบบนี้

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มาตินผู้ชายก็หวั่นไหวเป็นนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
หลงเสน่ห์กุ้ยช่ายแล้วล่ะสิ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
อ้าว ข่าวอะไร

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มาต่อเเล้วคร่า

ถ้ารักกันจริงอย่าทิ้งกันนะคร้า

เป็นกำลังใจให้กันอย่าทิ้งกันเลยน้า

กลัวคนอ่านทิ้ง



ตอนที่ 20.2



   “ไง เมื่อคืนกลับมาดึกสิท่า”หัวหน้าครอบครัวถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเดินงัวเงีย สภาพเหมือนยังไม่ค่อยตื่น

   “ครับพ่อ ช่วงนี้งานที่บริษัทยุ่งมาก ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าจู่ๆลูกค้าถึงได้เยอะจนเกิดที่ขีดกำหนดที่ทางเราจะรับได้ขนาดนี้”มาตินเกาหัวเบาๆพลางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกุ้ยช่าย มองดูใบหน้าขาวที่มีสีหน้านิ่งเรียบตามปกติ วันนี้แต่งตัวดูเป็นทางการผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากมาย

   “หึ ให้แกได้ทำงานทำการบ้างเถอะ โตขนาดนี้แล้วยังไม่ได้เรื่องได้ราวสักที”คุณนายของบ้านเสริมบ้าง สายตาก็จ้องมองไปที่ลูกชายที่เอาแต่มองพี่เลี้ยงของหลาน

   “โห แม่ งานปกติผมก็ทำอยู่หรอก แต่จู่ๆกลุ่มลูกค้าก็เติบโตขึ้นผิดปกติขนาดนี้ ต่อให้เก่งๆแบบผมยังรับไม่ไหวเลย”มาตินโอดคราวนเบาๆ ใบหน้าหล่อเข้มแสดงถึงความอ่อนล้าจากการโหมงานหนัก

   “หึ จะให้กลุ่มลูกค้าไม่โตวันโตคืนได้ไง วันวันแกสนใจอะไรบ้างนอกจากเรื่องผู้หญิง กับเรื่องไร้สาระไปวันวัน”

   “โหแม่ ตอนนี้ผมไม่ได้คุยกับใครเลย ไม่ได้ไปไหนเลยแม่ก็เห็น วันวันก็อยู่แต่กับลูกกับงาน ผมจะหมดแรงแล้วเนี่ย”

   “หึ ให้มันหมดแรงตายไปเลย ข่าวน่ะ อ่านบ้าง พวกข่าวซุบซิบไฮโซตอนนี้มีแต่ข่าวของแกทั้งนั้น แกนี่ได้พ่อมาเต็มๆ”แม่ของมาตินบ่นไม่วายหันไปหาสามีของเธอ ชายสูงวัยได้แต่ยิ้มรับอ่านหนังสือพิมพ์ไปพลาง

   “มันเกี่ยวอะไร ผมก็ตกเป็นข่าวซุบซิบเรื่องผู้หญิงประจำอยู่แล้ว แล้วนี่ผมก็ไม่ได้ไปกับใครมานานแล้วนะ”มาตินได้แจ่แก้ตัวหน้ามุ่ย จู่ๆจะให้มาตกเป็นข่าวเรื่องอะไรอีก ในเมื่อตอนนี้อยู่แต่กับลูกกับงาน ไม่มีเวลาได้ไปกับใคร แล้วข่าวจะเอาอะไรมาลง

   “หึ ก็นี่ไง แกหัดอ่านซะบ้าง แกนะหน้าตาดีได้จากฉันไป ใครๆก็ติดตามใครใครก็อยากได้แก มีเหรอที่แกจะไม่มีข่าว แต่แกเหลวไหลนิดเดียวนักข่าวก็เอาไปเขียนได้เป็นวรรคเป็นวาแล้ว”

   “ข่าวอะไรอีกล่ะครับ ผมไม่ได้มีเวลาไปสร้างข้าวแล้วนะแม่”

   “นี่ไง ชั้นเตรียมมาให้แกอ่านแล้ว เอาไป”คนเป็นแม่ส่งหนังสือซุบซิบดาราหลายเล่มมาให้มาติน

   “ผมไม่อ่านไม่ได้เหรอ อีกเดี๋ยวผมต้องเข้าประชุมตอนสิบโมง ว่าจะหารือเรื่องกลุ่มลูกค้าที่เยอะผิดปกติเนี่ยแหละ ผมเหนื่อยมากเลยนะแม่”

   “ถ้าจะเข้าประชุมแกยิ่งต้องอ่าน แกจะได้รู้ไงว่าสาเหตุที่ใครต่อใครต่างพากันสนใจธุรกิจของแกน่ะ”

   “แล้วมันจะเกี่ยวกันยังไง ผมไม่เข้าใจ”ถึงจะบอกว่าเกี่ยว แต่มาตินก็นึกไม่ออกว่าจะเกี่ยวยังไง

   “เกี่ยวสิ เกี่ยวเต็มๆ ข่าวหลายเล่มเขาเอาไปลงว่าแกน่ะมีเมียเก็บแล้วมีลูกด้วยกันอย่างลับๆ ไหนจะข่าวไอ้สร้อยที่แกไปประมูลอีก มีแต่คนเขาสนใจว่าแกจะเอาไปให้ใคร เวลาฉันไปไหนมาไหนก็มีแต่คนถามจนฉันไม่อยากจะออกจากบ้าน”

   “อ่าว แต่ผมก็ยังเห็นแม่เอาหลานไปอวดเพื่อนอยู่เลย”

   “ก็นั่นแหละ ใครจะไปรู้ล่ะ แล้วอีกอย่างหลานของฉันน่ารักจะตาย จะไม่ให้อวดได้ไง แล้วทีนี้แกจะเอายังไงเกี่ยวกับอันเดรสล่ะ”

   “ผมก็คงต้องบอกตามจริง จะให้โกหกก็ขี้เกียจมาแก้ข่าว”มาตินพูดไม่ค่อยจะสนใจข่าวซุบซิบสักเท่าไร ตราบใดที่ไม่กระทบกับงาน อะไรที่ไม่เสียหายก็คงต้องปล่อยให้เลยตามเลย

   “แล้วสร้อยเส้นนั้นฉันไม่ว่าหรอกว่าแกจะซื้อมาราคาเท่าไร เพราะว่ามันเป็นงานการกุศล แต่ฉันแค่อยากรู้ว่าแกซื้อให้ใคร แกจะบอกฉันได้มั้ย”คนเป็นแม่หันมาถาม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองลูกชายอย่างหาคำตอบ

   เพราะจนป่านนี้ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์ ก็ยังไม่มีข่าวว่าสร้อยเส้นนี้ตกไปอยู่ที่ใคร เพราะถ้าปกติแล้วไปอยู่ที่ผู้หญิงคนไหนก็จะต้องมีข่าวซุบซิบลงในหนังสือไม่คอลัมใดก็คอมลัมหนึ่ง แต่นี่ข่าวกลับเงียบหาย

   ราวกับสร้อยเส้นนี้ไม่มีตัวตนหลังจากถูกประมูล ซึ่งแน่นอนมันเป็นสิ่งที่ถูกจับจ้องอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับเจ้าของคนใหม่ คือใคร

   “ผมก็ไม่ได้ซื้อให้ใครหรอก แค่เห็นว่ามันสวยดี”มาตินพูดเสียงแผ่วหันไปมองคนข้างๆไม่รู้ตัวว่าคนเป็นแม่กำลังจับจ้องมองอยู่ตรงกันข้าม

   “อย่าให้รู้นะว่าแกแอบเอาไปให้ผู้หญิงคนไหน ฉันไม่อยากได้ยินข่าวฉาวอะไรนอกจากข่าวที่เกี่ยวกับหลานของฉันตอนนี้”
   “ครับแม่ สร้อยเส้นนั้นผมไม่ให้ใครหรอก มันมีเจ้าของแล้ว”

   “ยังไงก็อย่าให้กระทบกับงานแล้วกัน”คนเป็นแม่ตัดบท จ้องมองลูกชายที่เอาแต่มองพี่เลี้ยง ผลัดกับจ้องมองใบหน้าขาวของพี่เลี้ยงที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตามองแต่จานข้าวต้มตรงหน้า ใบหน้าขาวกลับแดงก่ำ


   
   มาตินเดินออกมากำลังจะพ้นประตูหน้าบ้านเพื่อออกไปทำงานที่ค้างไว้จากเมื่อคืน ว่าจะทำให้เสร็จทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะคนที่นั่งรออยู่ที่โซฟานั่งสัปหงกรออยู่ เลยอดไม่ได้ที่จะละมือจากงาน แล้วปลุกอีกคนขับรถกลับบ้านในทันที

   ครั้งแรกว่าจะกลับบ้านเพราะว่ามันใกล้ว่า แต่ก็อดคิดถึงลูกไม่ได้ จึงขับรถไปยังบ้านของพ่อแม่เพื่อได้ไปหอมแก้มนุ่มๆสักฟอดก็ยังดี

   “นี่ คุณ”กำลังจะเดินผ่านพ้นประตูก็ถูกรั้งด้วยเสียงเรียกเบาเบา พอหันกลับไปมองก็เห็นเจ้าของใบหน้าขาวเดินตามมา

   “มีอะไรเหรอ”มาตินถามยิ้มเบาเบา อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้า ตอนนี้จึงไม่อยากจะแกล้งใครสักเท่าไร ได้แต่ยิ้มรับดีใจที่ใครอีกคนเดินตามมา

   “วันนี้ให้ผมไปด้วยสิ”กุ้ยช่ายบอกเบาบา อดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าหล่อคมฉาบแววอ่อนล้า

   “จะดีเหรอ แค่เลี้ยงเด็กๆคุณก็เหนื่อยแล้ว”มาตินส่งยิ้ม ดีใจอยู่ไม่น้อย ปกติจะเป็นฝ่ายเข้าหาตลอด และอีกฝ่ายจะเป็นคนถอยหนี
   
“ดีสิ ผมอยากช่วย เห็นคุณงานยุ่งผมไม่ค่อยสบายใจที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”กุ้ยช่ายพูดเบาเบา อดที่จะหลบสายตาสีเข้มคู่นั้นไม่ได้ ยอมรับอยู่หรอกว่าสับสน

   ใจหนึ่งอยากอยู่ใกล้ใกล้ แต่อีกใจกลับอยากห่างเหิน แต่พอยิ่งห่างเหินก็ยิ่งโหยหา อยากพูดคุย อยากเข้าใกล้ อาจเป็นเพราะการพูดคุยกับอีกฝ่ายทำให้รู้สึกไม่โดดเดี่ยวก็เป็นได้

   “งั้นก็ตามใจ ขอบคุณนะ”มาตินยิ้มขอบคุณ

   “ขอบคุณทำไม ก็มันเป็นงานนิ”กุ้ยช่ายเดินหนี ไม่รู้ทำไม สบตากับดวงตาสีเข้มคู่นั้นแล้วหัวใจมันพาลเต้นแรง ใบหน้าร้อนวูบอย่างบอกไม่ถูก





   ห้องประชุม

   มาตินนั่งอยู่หัวโต๊ะโดยมีกุ้ยช่ายและชมพู่ขนาบสองข้าง บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายเป็นกันเกรงเพราะนโยบายของบริษัทค่อนข้างไม่เคร่งครัดเพื่อผลประโยชน์ที่ออกมาจะได้ไม่กระทบต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

   “ผมขอเริ่มที่ปัญหาเล็กๆเลยแล้วกัน ฝ่ายขายมีอะไรเสนอแนะมั้ยครับคุณกำพล”มาตินเอ่ยถามหัวหน้าฝ่ายขาย

   “ครับ ครับอันที่จริงจะว่าเป็นปัญหาก็ไม่เชิงนะครับ เนื่องด้วยตอนนี้สภาวะของบริษัทเราประสบกับเหตุการณ์ที่กลุ่มลูกค้ามีเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติเกือบเท่าตัว เกือบสีสิบเปอร์เซ็นต์ของลูกค้าที่เพิ่มเข้ามา ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนั้นๆต้องการทัวร์ที่ค่อนข้างราคาไม่สูงมาก และเป็นทัวร์ภายในประเทศ แต่ต้องการอะไรที่มันค่อนข้างมีระดับ ผมจึงขอเสนอว่าให้เพิ่มเส้นทางทัวร์ภายในประเทศเป็นแบบมีเดียมคลาส เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของยอดขายของบริษัท”

   “แล้วตอนนี้กลุ่มลูกค้าของเราส่วนมากเป็นยังไง”มาตินถาม พลางจดข้อเสนอของผู้จัดการฝ่ายขายลงเสริมในเอกสารตรงหน้า

   “ครับ เนื่องด้วยเหตุการณ์ปัจจุบันทำให้กลุ่มลูกค้าค่อนข้างเติมโต ลูกค้าที่เพิ่มเข้ามาตอนนี้มีหลายระดับ แต่ผมคาดว่ากลุ่มลูกค้าไม่ค่อยมีผลกระทบกับยอดขายสักเท่าไร เพราะกลุ่มลูกค้าค่อนข้างทราบดีว่าทัวร์ของเราเป็นทัวร์ที่ค่อนข้างเน้นคุณภาพ ลูกค้า
ปัจจุบันที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นลูกค้าในระดับกลาง กลุ่มลูกค้าเหล่านั้นจึงต้องการที่จะสัมผัสกับทัวร์ที่มีคุณภาพแต่ราคาไม่สูงมาก”

   “งั้นผมจะเก็บไปพิจาณาดูอีกที”มาตินรับคำ ความจริงการเพิ่มเส้นทางทัวร์ในระดับที่คนที่ไม่ต้องมีเงินมากมายก็สามารถใช้บริการได้มันก็เคยอยู่ในความคิด เพียงแต่ยังไม่มีฐานลูกค้าเพียงพอที่จะสนใจ

   “ขอบคุณครับ”หัวหน้าฝ่ายขายตอบรับ

   “แล้วฝ่ายที่พักกับการเดินทางล่ะ มีอะไรเพิ่มเติมหรือติดขัดมั้ยครับคุณเมลเดล”มาตินถามหัวหน้าฝ่ายที่พักและยานพาหะนะที่เป็นชาวต่างชาติเพราะทัวร์ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางต่างประเทศ

   “ครับ จะมีปัญหาก็แค่ที่พักที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับในปริมาณของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น แล้วก็ไกด์นำทาง ยังมีไม่เพียงพอเพราะจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ส่วนการเดินทางไม่คิดว่ามีปัญหาครับ มีหลายสายการบินที่ต้องการร่วมงานกับเรา เรื่องการเดินทางจึงเป็นปัญหาที่ตัดไปได้เลยครับ”เมนเดลตอบ

   “แล้วถ้าเป็นทัวร์ระดับมีเดียมที่ฝ่ายขายเสนอมาล่ะ คุณคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงได้มั้ย แล้วการรองรับเพียงพอต่อกลุ่มลูกค้าที่โตมากขึ้นมั้ย”มาตินถามยกมือขึ้นมาประสานบนโต๊ะพยายามผ่อนคลาย

   “ได้แน่นอนครับ เรื่องการรองรับภายในประเทศในระดับกลางไม่น่าจะมีปัญหา มีหลายที่ที่เสนอเข้ามา เดี๋ยวผมจะเสนอคุณมาตินหลังจบประชุมละกัน”

   “ขอบคุณมาก คุณเมลเดล เอาเป็นว่าถ้าจะเพิ่มทัวร์ตามที่ฝ่ายขายเสนอมาตอนนี้ก็คงไม่มีปัญหาสินะเพราะการรองรับค่อนข้างจะเพียงพอต่อกลุ่มลูกค้า ไว้ผมจะหารือเรื่องนี้กันอีกที แล้วฝ่ายประชาสัมพันธ์โฆษณาล่ะ มีอะไรเพิ่มเติมมั้ยคุณรีน่า”มาตินหันไปถามสาวประเภทสอง หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์โฆษณาที่ดูเหมือนรอจะพูดอยู่นานแล้ว

   “ค่ะคุณมาติน รีน่าขอพูดตรงตรงเลยละกันนะค่ะ ตอนนี้ตามข่าวซุบซิบมากมายที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีเพิ่มเข้ามา ตามที่ฝ่ายขายนำเสนอเพิ่มเส้นทางทัวร์ในประเทศตามที่ว่ามา รีน่าขอเสนอให้ทางเราทำโฆษณาเพื่อส่งเสริมยอดขายของเส้นทางใหม่ที่กำลังจะเปิด”รีน่าเสนอใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางยิ้มหวานส่งให้มาติน ซึ่งก็เป็นปกติตามนิสัยของสาวประเภทสองที่มาตินเข้าใจดี แล้วก็ถูกใจกับความตรงไปตรงมาของข้อเสนอต่างๆ

   “แต่การทำโฆษณาผมว่ามันจะทำให้งบบานปลาย บางทีมันอาจจะไม่คุ้มกับผลกำไรสักเท่าไรเพราะเส้นทางใหม่จะเป็นทัวร์แบบระดับกลาง”มาตินแย้ง คิ้วเข้มเริ่มขมวดมุ่น มันก็ดีอยู่หรอกไอ้ที่ว่าทำโฆษณา แต่ถ้างบมันบานปลายก็ได้ไม่คุ้มเสีย

   “นั่นสิ คุณรีน่า ผมว่าการทำโฆษณามันต้องใช้งบเยอะนะ”กำพลหัวหน้าฝ่ายขายแย้ง

   “แต่รีน่าคิดว่าใช้งบไม่เยอะนะค่ะ รีน่าคิดว่าโฆษณาทางโซเชียลในตอนนี้ได้เองก็ได้ผลดีไม่แพ้โฆษณาตามทีวีเลย ดูอย่างในเฟสบุ๊คของคุณมาตินตอนที่ลงรูปลูกชายเด็กน้อยข้ำม่ำสิค่ะ คนติดตามเพิ่มขึ้น คนสนใจมากขึ้นกลายเป็นข่าวซุบซิบไปเลย รีน่าเลยเล็งเห็นว่าโซเชียลนี่ละค่ะจะเป็นตัวประชาสัมพันธ์ของเรา”

   “อืม ผมว่าก็โอเคนะ ว่าแต่คุณรีน่าไปเห็นรูปลูกผมในเฟสบุ๊คเมื่อไรเนี่ย”มาตินถามยิ้ม แค่ถ่ายรูปลูกชายลงไป ไม่นึกรู้ว่าจะมีใครสนใจมากมายขนาดนี้

   “แหม คนเค้ารู้กันทั้งบริษัทค่ะ คุณมาติน ดีไม่ดีรู้กันทั้งประเทศ”

   “งั้นเหรอ หล่อมั้ยล่ะ”มาตินถามยกยิ้มนึกถึงลูกชายตัวจ้ำม่ำ ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไง กลับไปถึงบ้านทีไรก็หลับ ไม่ได้อุ้มไม่ได้เล่นด้วยกันมาหลายวัน นึกแล้วก็คิดถึง

   “หล่อสิค่ะ หล่อเหมือนพ่อแหละค่ะ”รีน่าชมเปราะ เรียกยิ้มขำจากผู้ประชุมรอบโต๊ะ

   “แล้วนายแบบนางแบบล่ะ”มาตินถาม

   “โอ้ย ไม่ต้องจ้างหรอกค่ะ ก็ใช้คนที่เป็นข่าวซุบซิบอยุ่ตอนนี้แหละค่ะเป็นนายแบบ”รีน่าส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้มาติน

   “ดาราคนไหนมีข่าวตอนนี้ล่ะผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้หรอกให้คุณรีน่าเสนอมาละกัน”

   “แหม คุณมาตินถ่อมตัวหรือแกล้งไม่รู้กันค่ะ ก็เอาเจ้าของบริษัทนี่ล่ะค่ะเป็นพระเซ็นเตอร์ไปเลย ประหยัดงบไปมากโขเลยค่ะ แล้วยิ่งได้น้องอันเดรสลูกชายของคุณมาตินมาถ่ายด้วยจะเริ่ดมากเลยค่ะ เพราะตอนนี้ใครๆต่างก็สนใจคุณมาตินกับคุณลูก รีน่าคิดว่าเราฉวยเอาความสนใจพวกนี้มาดึงดูดลูกค้าน่าจะดีนะค่ะ เริ่มแรกก็ลงตามโซเชียลต่างๆ”

   “มันจะดีเหรอ ผมว่าผมไม่ค่อยเหมาะเท่าไรนะ”มาตินเยิ้ง ยิ้มน้อยๆกับข้อเสนอรีน่า

   จริงอยู่ที่ตอนนี้ข่าวเกี่ยวกับตัวเองมีเยอะตามที่แม่ว่า แต่จะให้เป็นพรีเซ็นเตอร์นี่ท่าทางจะไม่ค่อยไหว

   แต่ถ้าทำออกมาแล้วเป็นตัวช่วยให้บริษัทเติบโตก็น่าสนใจ อีกทั้งเป็นการเปิดตัวอันเดรสไปในตัวโดยที่ไม่ต้องมาแถลงการณ์หรือแก้ต่างอะไรมากมาย

   “คุณว่าดีมั้ย”มาตินไม่แน่ใจหันไปถามกุ้ยช่ายที่นั่งเงียบแต่ก็ยิ้มชอบใจกับข้อเสนอของรีน่า

   “เอาสิ ประหยัดดี น่าสนใจ”กุ้ยช่ายชอบใจ คิดตามรีน่าความจริงหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งอยู่หัวโต๊ะถามว่าหล่อมั้ย พอเป้นนายแบบได้มั้ย ตอบได้เลยว่าสบายๆ แต่ที่ยิ้มชอบใจเพราะเจ้าตัวไม่ค่อยมั่นใจตัวเองสักเท่าไรเมื่อถึงเวลาที่คนอื่นชมเป็นจริงเป็นจัง

   “จะดีเหรอคุณ ผมไม่คิดว่าผมทำได้”มาตินกระซิบ

   “ลองโหวตมั้ยล่ะ”กุ้ยช่ายยิ้มเสนอให้โหวต เพราะรู้ว่าผลโหลดส่วนมากต้องเห็นด้วยแน่แน่ อยากจะเห็นคนที่ทำอะไรไม่เป็นเรื่องสักอย่างนอกจากเรื่องงานได้ทำอะไรเป็นจริงเป็นจังสักที

   และผมโหวดที่ออกมาก็เป็นอย่างที่กุ้ยช่ายคิด ผลเป็นเอกฉันท์ ต่างลงความเห็นให้มาตินเป็นนายแบบพ่วงด้วยอันเดรสลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

   “สนุกกันล่ะทีนี้”ชมพู่พูดเบาแสยะยิ้มกับกุ้ยช่าย

   “ผมก็ว่างั้น”กุ้ยช่ายหันไปยิ้มรับ
   


**********************************

ยังไงก็รักคนอ่านเหมือนเดิมนะค่ะ

อย่าเพิ่งทิ้งกันนะคร้า ถ้าสอบเสร็จแล้วจะมาต่อบ่อยๆเลยคร่า

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ขอคำแนะนำด้วยคร่า

เป็นกำลังใจให้กันเยอะๆนำค่าาาา :mew1:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2015 20:11:27 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ เจ้าหญิงน้ำแข็ง123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอต่อนะคะ สนุกมากๆๆๆเลย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หุหุ ชมพู่กับกุยช่ายวางแผนอะไรไว้หรือเปล่านะ  :mew4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
กุ้ยช่ายไปเสนออย่างนั้น
ระวังตัวเองกับตั้งโอ๋ได้เป็นนายแบบจำเป็นด้วยนะคะ อิอิ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เดี๋ยวพ่อลูกชายจ้ำม่ำจะมีฐานแฟนคลับ :hao7:
เผลอๆคุณพี่เลี้ยงจะได้ถ่ายโฆษณาด้วย
ดังใหญ่ล่ะทีนี้ รอตอนต่อไปน้าาาาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าาาาาาาา.    มาร์ตินจะเป็นนายแบบ. อิอิ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ขอสมัครเป็นแฟนคลับน้องอันเดรสด้วยคนค่า.. แต่แอบอยากให้น้องตั้งโอ๋มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยอีกคนจังเลยค่ะ คงจะน่ารักคูณสองไปเลยนะคะ :-[

ออฟไลน์ bloodั

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เอาตั้งโอ มาเป็นนายแบบอีกคนจิจะน่ารักยิ่งกว่านี้อีก กรี้ดๆๆ.  :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด