# Accident Lovely อุบัติรัก...พ่อลูกอ่อน # 14/10/58 พิเศษ 3 รามี่+พัฒน์ p.51
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณชอบอ่านนิยายแนวไหน

มาม่า แน่นอนมันเป็นอาหารยอดนิยมที่สุดที่ใครได้ลิ้มรสเป็นต้องน้ำตาซึม
49 (7.1%)
ตลกขำขัน แบบยิงมุกกระจาย อย่างกับดูตลกชิงร้อยชิงล้านกันเลยทีเดียว
215 (31.2%)
น่ารักใสๆ เอาแบบอารมฟรุ้งฟริ้งมุ้งมุ้งเส้นหมี่น้ำใสแบบเบาๆไม่เอามาม่า
295 (42.8%)
ซาดิสรุนแรง เรื่องตบจูบนี่ขอให้บอก โซ่แซ่กุญแจมือนี่มาเลย
112 (16.3%)
หักมุม มาแบบฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งอยู่ดีๆตัวเอกตายซะงั้น เป็นงั้นไป
18 (2.6%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 688

ผู้เขียน หัวข้อ: # Accident Lovely อุบัติรัก...พ่อลูกอ่อน # 14/10/58 พิเศษ 3 รามี่+พัฒน์ p.51  (อ่าน 532743 ครั้ง)

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
รามิเนส คิดไรกับน้องกุ้ยแน่เลย ตามมาฝากท้องบ่อยๆ

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ร้องให้หนักมาก ขุดทู้มาจากหน้า 3 ไปไกลซะ

ตอนที่แล้วคนอ่าน 20300 ตอนนี้22500 เพิ่มมา 2200 ดีใจอีกละ อิอิ

เห็นคนอ่านบอกว่าคนเขียนชิว ก็เลยจัดตอนนี้มาให้ :mew1:

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


ตอนที่ 14 คนเมาที่ทำให้หวั่นไหว

   หมดอาหารมื้อเย็นที่ดูยังไงก็ไม่ค่อยสงบอีกล่ะ เมื่อพ่อลูกครึ่งตัวแสบกับพ่อฝรั่งไม่ได้รับเชิญคอยตั้งท่าจะแขวะกันอยู่เรื่อยจนกุ้ยช่ายได้แต่ระอา ไม่แปลกใจสักเท่าไรที่คบกันมาได้นานขนาดนี้ ก็นิสัยมันคนละขั้วขนาดนี้ คนหนึ่งยุ คนหนึ่งร้อน
   กุ้ยช่ายยกกับข้าวสองสามอย่างออกมาวางที่โต๊ะในสวน บนโต๊ะเต้มไปด้วยเหล้านอกราคาแพงหลากหลายยี่ห้อ กับคนบริโภคที่นั่งคุยแย้งกันไปมาสัพเพเหระ กุ้ยช่ายได้แต่ถอนหายใจ

    “กุ้ยช่าย ถ้าไม่รังเกียจก็มาดื่มด้วยกันสิ”ฝรั่งตัวโตตาฟ้าหน้าเริ่มแดงก่ำออกปากชวน ไม่ชวนป่าวจับมือขาวรั้งไว้

   “ผมว่าไม่รบกวนดีกว่า ผมต้องไปดูอันเดรสกับตั้งโอ๋ต่อ”กุ้ยช่ายบอกยิ้มบางๆจะสะบัดมือก็เสียมารยาท จะดึงก็ถึงไม่ออก จับแน่นซะขนาดนั้น

   “แต่ผมอยากให้กุ้ยช่ายดื่มกับผมนี่นา สักแก้วสองแก้วก็ยังดีนะ พลีส”รามิเรสมองหน้าขอร้อง ขอกันซะขนาดนนี้กุ้ยช่ายเองก็ปฏิเสธไม่ถูกเหมือนกัน อีกอย่างเขาเองไม่เคยแตะเครื่องดื่มมึนเมาตั้งแต่ได้กับแม่ตังโอ๋มา

   “จะดีเหรอครับ ผมว่าเอาไว้คราวหลังดีกว่า”กุ้ยช่ายปฏิเสธ

   “แก้วเดียวก็ยังดีครับ”รามิเรสตื๊อ

   “ไม่ได้”มาตินพูดเสียงดัง

   “ฉันถามกุ้ยช่ายเว้ย ฉันไม่ได้ถามแก มาตี้”รามิเรสบ่นใส่

   “แต่ฉันเป็นเจ้านายของกุ้ยช่าย แกน่ะปล่อยมือกุ้ยช่ายได้แล้ว เขามีงานต้องทำ”มาตินพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ ดวงตาคมที่มักมีแววขี้เล่นตอนนี้กลับจ้องมองไปที่มือของรามิเรสนิ่ง มือที่จับมือกุ้ยช่ายอยู่

   “ใจคอแกจะใช้งานกุ้ยช่ายตลอดยีสิบสี่เลยเหรอวะ”รามิเรสถามยังไม่ยอมปล่อยมือ

   “รามี่ฉันบอกให้แกปล่อยมือกุ้ยช่ายไง ส่วนคุณก็กลับขึ้นไปดูเด็กๆได้แล้ว”มาตินพูดเสียงแข็ง สายตาคมกริบจ้องมือรามิเรสที่จับมือกุ้ยช่ายไม่วางตา ความรู้สึกหวงก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่คนคนนี้อยู่กับเขามาก่อน เจอเขามาก่อน ทำไมคนที่ได้จับมือขาวนั้นก่อนกลับไม่ใช่เขา แล้วทำไมไม่ถึงมือกลับ ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นจับอยู่เฉยๆ มีหน้าที่ต้องไปทำไม่ใช่เหรอ ทำไมปล่อยให้คนอื่นเขาจับมือโดยไม่ขัดขืน

   มาตินได้แต่คิดไปต่างๆนานาอย่างเผลอตัว ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไร ทำไมต้องคิด ทำไมต้องอิจฉา ทำไมต้องอยากที่จะจับมือนั้นบ้าง มือหนากำแน่น ได้แต่มองแผ่นหลังของพี่เลี้ยงเด็กเดินเข้าบ้านไป



   กุ้ยช่ายเดินเข้าห้องนอนของมาตินเห็นอันเดรสกำลังเอื้อมมือคว้าโมบายที่ห้อยแกว่งไปมาอยู่ในเปล พอมองหน้าอันเดรสก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงใบหน้าที่คล้ายคลึง ดวงตาสีเข้มที่ปกติจะมีแววขี้เล่นไม่จริงจัง วันนี้กลับจ้องมองมาอย่างดุดัน น่าอึดอัดจนไม่กล้าขยับตัว

   อีกทั้งคำพูดที่ทำให้เขาคิดไปเองว่าอีกฝ่ายหึงหวงเขา แต่ก็คงเป็นแค่ความคิด เพราะประโยคถัดมาแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายแค่ห่วงว่าเขาอาจทำงานไม่เต็มทีเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างไรกุ้ยช่ายเองก็หวั่นไหวกับสายตาคู่นั้นอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่แวบเดียวที่มองมาก็ทำให้ทำตัวไม่ถูกเอาดื้อๆ ไม่รู้ว่าดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองมาแบบนั้นจะสื่อถึงอะไร


   กุ้ยช่ายจัดการอาบน้ำให้อันเดรสแล้วลากเปลเด็กเข้าห้องตัวเอง เพราะดูท่าคืนนี้จะฝากอันเดรสไว้กับมาตินคงจะไม่รอด

   “จ๋าฮับ คุณยุงยามิกลับยังฮับ”ตั้งโอ๋นั่งวาดรูปอยู่ที่พื้นหันมาถามกุ้ยช่ายที่กำลังลากเปลเด็กเข้าห้อง

   “ยังครับ ตั้งโอ๋มีธุระอะไรกับคุณลังเหรอครับ”กุ้ยช่ายถามลูกแปลกใจปกติตั้งโอ๋ไม่เคยถามถึงรามิเรส

   “ตั้งโอ๋จะให้คุณยุงสอนวาดเครื่องบินฮับ”ตั้งโอ๋ชูสมุดวาดรูปที่วาดเครื่องบิน แต่ดูแล้วมันเป็นเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่มีปีกมากกว่า

   “อย่าไปกวนคุณลุงตอนนี้เลยครับ คุณลุงเขาคุยธุระกันอยู่ ไว้พรุ่งนี้ค่อยให้คุณลุงสอนดีมั้ยครับ”กุ้ยช่ายอุ้มตั้งโอ๋ขึ้นมาวางบนตัก ต่อรอง จะให้ตั้งโอ๋ลงไปเห็นตัวอย่างที่ไม่ดีก็คงไม่ได้ ตั้งโอ๋ยังเด็กยังแยกแยะไม่ออก จะให้เห็นผู้ใหญ่ดื่มแอลกอฮอลก็คงไม่ดีแน่

   “ได้ฮับ พุ่งนี้ก็ได้ แล้ววันนี้น้องมานอนกะเยาเหยอฮับ”ตั้งโอ๋ถามตาโตอย่างดีใจ

   “ใช่ครับ วันนี้คุณมาตินลุงคุยธุระดึกเลยต้องเอาอันเดรสมานอนกะเรา ตั้งโอ๋ช่วยป๋าดูน้องได้มั้ยครับ”กุ้ยช่ายถามแล้วก้มลงไปหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่

   “ได้ฮับ ตั้งโอ๋จะดูแยน้องดีดีเยยฮับ”ตั้งโอ๋ทำท่าตะเบะรับทราบทำเอากุ้ยช่ายอดที่จะก้มลงไปขยี้แก้มนุ่มอีกฟอดใหย่ๆไม่ได้

   “ป๋าว่าตอนนี้เราไปอาบน้ำกันดีกว่า พร้อมมั้ยครับ”

   “โอเคฮับ พร้อมซะยิ่งกว่าพร้อมฮับ ตั้งโอ๋ยูกจ๋าทั้งคน”
   


   อีกด้านของบ้านไม่นานเหตุการณ์ก็กลับเป็นปกติลูกครึ่งตัวใหญ่กับต่างชาติตัวโตคุยเรื่องไร้สาระกันอย่างออกรส คนเมากับคนเมาคุยกัน เรื่องต่างๆนานาถูกยกมาปนกันมั่วไปหมด

   “แกว่าแต่เลขาฉัน เลขาที่ไทยแกเหอะ ได้ข่าวว่าคนนี้เด็กแดดดี้แกไม่ใช่เหรอ เส้นใหญ่ใช่ย่อยผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”มาตินถามขึ้นประเด็นใหม่

    “ผู้ชายว่ะ ฉันล่ะโคตรเซ็งแดด ไม่รู้เอาอะไรมาให้ โคตรดุ โทรจิกยิ่งกว่าไก่งวง ยิ่งวันที่ฉันมาไทยนะ โทรจนต้องปิดเครื่อง บอกว่าจะคุยเรื่องเอกสารเรื่องระบบอะไรวุ่นวาย ไม่รู้หน้าตาจะเป็นแบบไหน ก็คงเป็นพวกใส่แว่นระเบียบจัดอะไรแบบนั้นมั้งดูท่า”รามิเรสยักไหล่ทำท่าขนลุก

   “ฮ่า ฮ่า คนอย่างแกต้องมาเจอพวกระเบียบจัดแบบนี้ล่ะ แถดีนักฉันว่าคราวนี้แดดแกเอาจริงว่ะ ฮ่าๆ ชนชนฉลองกับเลขาใหม่แกหน่อย”

   “จะว่าไป คุณกุ้ยช่ายถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายนะ”รามิเรสเริ่มเรื่องใหม่ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลเริ่มเยิ้มเพราะฤทธิ์เหล้า

   “ไม่ติดแล้วจะทำไม”มาตินถามเสียงนิ่ง ทำไมต้องวกมาที่เรื่องพี่เลี้ยงเด็กของเขาอีก

   “ถามแปลกๆ ออกจะแม่บ้านแม่เรือนขนาดนั้นนี่ขนาดเป็นผู้ชายนะ น่าตาก็น่ารัก ขาวจั๊วยังกับกระดาษ นี่ถ้าไม่ใช่ผู้ชายนะ ฉันจีบแล้ว ถ้าจีบไม่ติดก็จะฉุดเลย ไม่ปล่อยให้รอด”รามิเรสพูดหัวเราะร่วนยกแก้วขึ้นกระดก

   “ยังไงก็เป็นผู้ชายอยู่ดี”มาตินพูดเรียบ ถ้าเป็นผู้หญิงเหรอ คิดๆแล้วถ้ากุ้ยช่ายเองเป็นผู้หญิงป่านนี้เขาก็คงจีบไปแล้วอย่างที่รามิเรสบอก แต่ถ้าจีบไม่ติดล่ะ จะฉุดเหรอ คงไม่ล่ะ เพราะคนอย่างมาตินผู้หญิงมีให้เลือกเยอะจนคำว่าฉุดไม่เคยอยู่ในความคิด แต่ถ้าเป็นกุ้ยช่ายล่ะ ก็ยังนึกไม่ออกจะฉุดดีมั้ย ทำไงได้ ก็เป็นผู้ชายอยู่ดี เพราะงั้นเรื่องแบบนี้ตัดออก คงเป็นได้แค่เจ้านายกับลูกน้อง

   “ถึงเป็นผู้ชาย แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ก็น่าสนนะเว้ย ขาวเนียน แถมเก่ง ฉันยอมเป็นเกย์ว่ะ”รามิเรสพูด

   “หึ ยอมเป็นเกย์เลยเหรอ”มาตินย้ำถึงขั้นยอมเป็นเกย์เลยเหรอ แล้วถ้าเป็นเขาล่ะ เขาคนที่ผู้หญิงไม่เคยขาดมือ จะยอมเป็นเกย์มั้ย ยอมได้รึป่าวเพื่อผู้ชายด้วยกัน

   “แค่นึกก็เห็นแต่ขาวกับขาว ไม่เคยเห็นผุ้ชายขาวเนียนแบบนี้มาก่อน”รามิเรสยิ้มกริ่มสายตาก็จ้องมองมาตินที่เอาแต่ยกแก้วกระดก

   “หึ จะไม่ให้ขาวได้ไง ลูกเสี้ยวเวียดนามนี่หว่า พ่อเขาเป็นลูกครึ่งเวียดนาม”มาตินพูดเบาๆพลางนึกตามไอ้คำว่าขาวที่เพื่อนบอกมันก็ขาวจริงๆนั่นแหละ

   “ถึงว่า ขาวซะ ไม่ใช่แค่ขาวนะ ตาก็หวาน ไม่รู้ว่าเนื้อจะหวานเหมือนตาด้วยรึป่าว”

   “หึหึ ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย”มาตินว่า แต่ในหัวนี่กำลังเกิดภาพของคนที่กำลังถูกนินทา



   แล้วใครจะรู้ว่าคนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาน่าอายจะมาได้ยินเกือบทั้งหมดที่ กุ้ยช่ายหน้าร้อนผ่าว ทั้งโกรธทั้งอาย ทั้งโดนนินทาทั้งโดนจาบจ้วง จากที่จะลงมาถามว่าจะเอาอะไรเพิ่มเติมมั้ย จะนอนแล้ว น้ำใจที่มีถูกโยนทิ้งดังโครมเบ้อเริ่ม กุ้ยช่ายกระทืบเท้าขึ้นห้องด้วยความเจ็บใจ



   “ฉันว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่า พรุ่งนี้นายต้องเข้าไปดูสาขาไทยไม่ใช่เหรอ”มาตินพูดเพื่อจบหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับคนใกล้ตัวเสียที

   “โห ฉันไม่อยากไปเลยว่ะ ไม่อยากไปเจอเลขาเลย ถ้าเป็นพวกเจ้าระเบียบเด็กเรียนฉันก็ไม่ไหวว่ะ จะหาเรื่องไล่ออกให้ดู”รามิเรสว่าลุกขึ้นยืน

   “กู๊ดไนท์”มาตินส่งเพื่อนก่อนปิดประตูบ้าน มือหนาเคาะหัวเบาๆเรียกสติ ถามว่าเขาเมามากมั้ย ไม่เท่าไร แค่มึนๆ


   ขายาวก้าวขึ้นบันได้อย่างเงียบๆ มือหนาก็เกาะราวกันตก พอพ้นบันไดขั้นสุดท้าย ตาคมก็หันไปสะดุดกับแสงสว่างที่ลอดออกมาจากห้องนอนแขก

   ด้วยความสงสัย บวกกับความอยากรู้จึงได้เดินไปยังประตูบานบ้านเงียบๆ มองลอดไปก็ถึงขับนิ่งงัน แผ่นหลังเปลือยปล่าวขาวสว่างหันมาทางประตู เอวคอดเล็กตาดด้วยผ้าขนหนูหมิ่นเหม่ มาตินกลืนน้ำลายลงคอ

   ดวงตาสีน้ำตาลเข็มจ้องมองภาพในห้องแน่นิ่งแทบไม่กระพริบตา รู้ว่าเจ้าตัวขาว แต่ไม่คิดว่าภายใต้ร่มผ้าที่ปิดบังจะทั้งขาวทั้งเนียนขนาดนี้ ไม่ทันได้ยั้งสติ มือหนาผลักประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ขายาวก้าวเข้าหาอย่างเบาเสียง

   ไม่นานไออุ่นก็ส่งผ่านไปทางร่างกาย ลมหายใจร้อนผ่านรินรดซอกคอขาว จมูกโด่งหายใจเข้าสูดกลิ่นหอมละมุนเข้าปอดอย่างจาบจ้วง ร่างขาวสะท้านเฮือกเมื่อรับรู้ถึงคนนอกกำลังยืนทาบทับอยู่เบื้องหลัง ความอุ่นร้อนของผิวกายประกอบกับลมหายใจอุ่นร้อนที่รดรินทำให้กุ้ยช่ายไม่กล้าขยับ หัวสมองคิดถึงเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อครู่ แค่คิด ฉับพลันความคิดต่างๆก็เริ่มตีกันวุ่นวาน

   ลมหายใจที่ออกจากจมูกยังคงรดรินอยู่เรื่อยๆ กลิ่นหอมละมุนเหมือนสิ่งเสพติดยิ่งเสพยิ่งไม่พอ กายขาวเนียนที่เห็นด้วยตา แต่เพียงแค่จ้องมองด้วยตาก็ยังคงไม่เพียงพอ

   มือหนาอุ่นร้อนทาบลงกับเอวคอดลงเบาบาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เจ้าของผิวขาวสั่นเบาๆอย่างตกใจไม่น้อย มือหน้าเริ่มบีบเค้นเบาๆ ความต้องการที่จะสัมผัสพิสูจน์ความเนียนเริ่มเข้าครอบคลุม แล้วก็อย่างที่คิด นอกจากจะขาวแล้วยังเนียน เนียนนุ่มจนอยากจะขยี้ให้เป็นรอยแดง

   กลิ่นหอมเองก็เช่นกัน ยิ่งได้ดอมดมก็ยิ่งหลงใหล อยากจะสุดดมให้ใกล้ยิ่งกว่านี้ สติเองก็ไม่ยังคิด จมูกโด่งกดลงบนลำคอขาวเนียนอย่างไม่ห้ามใจ สูดดมเอาความหอมนุ่มเข้าเต็มปอด

   แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ ยิ่งลองยิ่งน่าหลงใหล มือหนาบีบเค้นเบาๆเลื่อนขึ้นเพื่อจะเปลี่ยนเป้าหมายอย่างอยากรู้อยากเห็น อกบางๆนั้นจะเทียบได้กับอกเต่งตึงเหมือนผู้หญิงมั้ย แล้วนอกจากกลิ่นหอมล่ะ จะหวานเหมือนดวงตาคู่โตที่คอยจ้องมองมาอย่างหาเรื่องมั้ย ปากหนากดจูบลงบนลาดไหล่เนียนเตรียมจะชิมรสเนื้อหอมๆ มือหนาเลื่อนขึ้นเตรียมที่จะกอบกุมแผ่นอก


   มือเล็กก็ผลักเอาร่างสูงของมาตินออก

   “นี่ คุณ เมาก็ไปนอนสิ”กุ้ยช่ายพลักมาตินออกจากห้องแล้วปิดประตูใส่ใบหน้าขาวแดงก่ำอย่างไม่เคยแดงมาก่อน นึกถึงเรื่องที่ได้ยินจากวงสนทนาเมื่อครู่ ใจเต้นโครมครามเมื่อนึกได้ว่าเมื่อครู่กำลังเจอกับอะไรมือบางยกขึ้นกุมอกข้างซ้าย แต่จะทำไงได้คงจะเก็บเอาอะไรมาใส่ใจนักเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนเจ้าชู้มา และที่สำคัญอีกฝ่ายเป็นคนเมาไม่ได้สติอีกต่างหาก ท่องไว้ว่าคนเมา


   คนเมาที่ทำให้เขาเผลอหวั่นไหว

****************************

หายไปหนึ่งวัน ยังรักคนอ่านเหมือนเดิม :man1:

ไม่รู้หายไปหนึ่งวันคนอ่านจะทิ้งเค้ากันรึยังน้อ :monkeysad:



ยังไงก็ขอบคคุณทุกคำติชมนะคร้าาาาา

ร๊ากคนอ่านที่สุด :mew1:

ขอคำแนะนำด้วยคร่า ไม่รู้ว่ารุกเร็วรุกช้า
เห็นมีหลายคนบอกว่ามาตินชักช้า :impress2:

เลยจัดไป :oo1:

ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะคร้าาาาาา

เดี่ยหมองไม่แล่น :katai4:

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:


   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2015 17:20:49 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ชักช้าแบบนี้เดี๋ยวก็โดนคาบไปแดกก่อนหรอกจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โอ้ยยยยยย
เมื่อไหร่จะ..... :mew4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
มาตินอย่ามารุ่มร่ามกับกุ้ยช่ายนา.. กลับไปถามใจตัวเองให้ดีก่อนเถอะว่ารับได้ไหมที่กุ้ยช่ายเป็นผู้ชายน่ะ :ruready

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :z6:มาตี้นิสัยม่ายดีเลย

ออฟไลน์ HamsteR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ทำไปอย่างลืมตัวเพราะความมึนเมาบวกกับความรู้สึกลึกๆ เดี๋ยวพอสติมาเต็ม 100 ก็จะคิดไม่ตกว่าตัวเองจะเอายังไงกับพี่เลี้ยงเด็กคนนี้ดี ด้วยความที่ตนเองคั่วหญิงมาตลอด แต่เชื่อว่าลึกๆแล้วมาตี้หลงกุ้ยช่ายเข้าให้แล้วล่ะ หึหึ
ส่วนรามี่คงได้คู่เป็นหนูเลขาเจ้าระเบียบเป็นแน่  :hao6: :hao6:


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ปากบอกว่าไม่ ไม่ ไม่แต่ใจและการกระทำน่ะไปแล้ว

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
มาตินคร้าาาาา ถ้ายังสับสนนานๆแบบนี้ เห็นทีจะำม่รอดนะเอออ
โดนคาบกุ้ยช่ายไป ไม่รู้ตัว เหอะๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
บอกเลยว่าเดี๋ยวจะโดนนนนน
ไม่ชัดเจนอย่าทำแบบนี้สิยะอิตามาติน!!
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แปลว่าาสร่างก่อนแล้วค่อยกลับมา. มีลุ้น.  :hao6:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

โป้งคนอ่าน

ตอนที่แล้ว 22500 ตอนนี้ 24000 เพิ่มมา 1500คน  ดีใจอยุ่แหละ

แต่ไม่ค่อยมีกำลังใจ อิอิ เงียบเหงา

ตอนที่ 15 โจรขโมยจูบ


   หลังจากคืนนั้นกุ้ยช่ายเองครั้งแรกก็ทำตัวไม่ค่อยถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมาติน แต่จะให้หลบหน้ามันก็เป็นไปไม่ได้
   และเมื่อเจอหน้ากันความอายก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิดจนผ่านมาหลายวันความหงุดหงิดมันก็ยังไม่จางหาย

   ใครสั่งให้พ่อตัวดีมาทำเรื่องน่าอายแบบนั้นกับเขาล่ะ แค่นั้นไม่พอ ยังมาทำเป็นลืมเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งคิดยิ่งโมโหที่ตัวเองเป็นคนคิดมากคิดมายอยู่ฝ่ายเดียว แค่คิดใจก็เต้นแรง ไม่รุ้ว่าเป้นเพราะโกรธหรือเพราะอายกันแน่ ความคิดมันตีกันจนสับสนวุ่นวายไม่มีสมาธิจะทำอะไรเลย

   วันนี้พ่อตัวดีที่ทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเกินอะไรขึ้นในคืนนั้นก็พากุ้ยช่ายมาบ้านพ่อกับแม่ เอาเด็กๆมาฝาก เพราะต้องไปงานประมูลการกุศลอะไรเนี่ยล่ะ ครั้นกุ้ยช่ายจะปฏิเสธก็กระไรอยู่

   ต่อให้ไม่อยากอยู่ใกล้ เพราะอยู่ใกล้แล้วมันคิดแต่เรื่องคืนนั้น แต่จะทำยังไงได้ ก็หน้าที่มันค้ำคอซะขนาดนั้น



   มาตินพากุ้ยช่ายไปเลือกสูทที่ห้องเสื้อร้านประจำ กว่าเจ้าตัวจะพอใจกุ้ยช่ายก็ลองจนได้สูทมาหนึ่งชุด พอจะจ่ายเงินเท่านั้นล่ะ กุ้ยช่ายแทบลมจับ แค่สูทชุดเดียวก็ราคาหกหลักเข้าไปแล้ว แต่ยังดีที่เจ้านายยังละเว้นไม่หักไปกับเงินเดือน

   แต่กว่าจะมาถึงงานได้ก็เล่นเอาปวดหัวปวดประสาทไม่น้อย เป็นครั้งแรกที่ไม่มีเด็กๆอยู่ด้วย นึกไม่ถึงว่ามาตินจะกวนประสาทเขาได้มากมายถึงขนาดนี้

   “คุณว่าวันนี้ผมหล่อมัย”มาตินถามขณะที่รถยังแล่นไปบนท้องถนน เพราะวันนี้เป็นงานที่เป็นทางการเลยดีหน่อยที่คนขับรถของที่บ้านมาตินขับรถมาส่ง

   “หล่อ มั้ง ผมไม่รู้หรอก คุณมาถามอะไรผมล่ะ ผมไม่ใช่ผู้หญิง”กุ้ยช่ายหันหน้าหนีออกไปมองบรรยากาศข้างนอกรถ อดไม่ได้ที่จะประชดประชันอีกคน ทีกับผุ้หญิงทำอะไรล่ะจำได้หมด ทีกับเขานะ ไม่เคยจำอะไรได้ คิดแล้วมันน่าเจ็บใจ

   “เอาในสายตาคุณสิ ผมไม่ได้ถามในสายตาผู้หญิงสักหน่อย เอาตามสายตาคุณอ่ะ คุณว่าผมหล่อมั้ยวันนี้”มาตินเรียกร้องความสนใจ

   “อืม “กุ้ยช่ายหันมามองอีกคนอย่างระอา ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแป้นอย่างกวนประสาท ตาคมสีน้ำตาลจ้องมองอย่างระยิบระยับราวกับกำลังคิดอะไรเจ้าเล่ห์ จมูกโด่งเป็นสัน จมูกนั้นที่กดลงบนซอกคอ ริมฝีปากที่ยกยิ้มคู่นั้น ริมฝีปากที่จูบบนลาดใหล่

   “ว่าไง”มาตินถามย้ำ

   “อืม หล่อก็ได้ เห้อ ประสาทจะกิน”กุ้ยช่ายส่ายหัวสะบัดเอาภาพที่เกิดขึ้นในหัวพยายามมาหลายวันว่าจะไม่คิดถึงมัน แต่เมื่อมองใบหน้าคนต้นเรื่องแล้วมันอดนึกถึงไม่ได้ทุกที่ต้องหันหน้าหนีก็ไม่อยากให้อีกคนเห็นว่าตัวเองหน้าแดง แดงมากแดงน้อยก็ไม่รู้หรอก รู้แค่ว่าหน้ามันร้อนๆแค่นั้น

   ใจที่ต้องเอามาห่วงเด็กๆ ไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไรหมด คิดแต่เรื่องวุ่นวายจนทำให้ใจเต้นแรงไปหมด อุตส่าห์นั่งชิดติดประตูก็ดันเขยิบเข้ามาใกล้มาชวนคุยอยู่นั่นแหละ ไม่อยากสัมผัสโดนตัวเลย มันเหมือนจะสปาร์คให้คิดถึงแต่เรื่องคืนนั้น ต่อให้ไม่โดนตัวก็เถอ แค่มองหน้าก็ไม่ได้ ต่อให้หันหน้าหนีแล้วยังได้สัมผัสอุ่นๆที่ส่งมาจากอีกคนก็ไม่ได้อยู่ดี ทั้งที่อยากจะหนีจะหลบหน้า แต่ดูเหมือนมันจะทำได้ยากเหลือเกิน หัวใจของกุ้ยช่ายเต้นแรงจนมันแทบจะทะลุออกมาข้างนอกอยู่แล้ว



   ไม่นานนักแต่อาจจะนานมากสำหรับกุ้ยช่าย รถหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าโรงแรมระดับเจ็ดดาวใจกลางกรุง แวบแรกกุ้ยช่ายไม่ได้สนในอะไรรอบตัวมากมายเพราะมัวแต่มีเรื่อยงกวนใจวุ่นวายไปหมด


   มาตินเปิดประตูลงมา เหยียบยืนบนพรมแดง แสงแฟรชวูบวาบส่องกระทบร่างสูงในชุดสูทสีดำเข้มดูน่าเกรงขามไม่หยุดหย่อน สื่อหลายคนที่กำลังทำข่าวอยู่ถึงกับยอมละข่าวที่ทำอยู่แล้วหันมากระหน่ำรัวนิ้วกดชัตเตอร์ใส่นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เจ้าของธุรกิจทัวร์ที่ตอนนี้กำลังขยายเส้นทางทัวร์จนเกือบทุกประเทศของโลก อีกทั้งยังเป็นหนุ่มรูปหล่อเจ้าสเน่ห์ที่มีคู่ควงมากหน้าหลายตาจนบรรดานักข่าวตามอัพเดตกันไม่หวาดไม่ไหว

   กล้องหลายตัวไม่ใช่จับภาพแค่มาตินเท่านั้น หลายตัวยังจับจ้องไปที่ประตูรถหรูเพื่อคอยจับภาพคู่ควงที่หนุ่มเพลย์บอยตัวเก่งคนนี้จะพามาในงานการกุศลครั้งนี้

   และไม่ปล่อยให้สื่อมวลชนรอนาน กุ้ยช่ายก้าวขาลงมาจากรถ ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อกำลังมุ่ยอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะมีแต่เรื่องกวนใจจนไม่มีสมาธิจะทำอะไรสักอย่าง

   แสงแฟรชวูบวาบจนทำให้ตาลายเรียกความสนใจจากกุ้ยช่ายให้เงยหน้ามอง บรรดาสื่อน้อยสื่อใหญ่ต่างพากันส่งเสียงให้วุ่นวายเมื่อคนที่ก้าวขาออกมาจากรถไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ใช่คู่ควงอย่างที่รอจะทำข่าว แต่กลับเป็นผู้ชายผิวขาวธรรมดาไม่มีอะไรน่าโดดเด่น แต่นั้นก็เปิดให้เป็นประเด็ดได้ต่างๆนานา

   แวบแรกที่กุ้ยช่ายเงยหน้า แสงแฟรชกระทบวูบวาบมากมายทำให้เจ้าตัวตกใจผงะถอยหลังอย่างเสียหลัก ไม่คิดว่าจะมางานใหญ่ขนาดนี้ กำลังเตรียมถอยหลังกลับ ก็ถูกมือหนาเข้าคว้าแขนเอาไว้เสียอย่างนั้น

   มาตินคว้าแขนกุ้ยช่ายแล้วพาเดินขึ้นบันไดเหยียบย่างผ่านพรมแดงเข้าไปโดยไม่สนใจว่าสื่อมากมายจะเรียกร้องแย่งกันขอสัมภาษณ์มากมายขนาดไหน

   กุ้ยช่ายก้มหน้างุดเดินตามมาตินอย่างว่าง่าย คิดว่าแค่เป็นงานเล็กๆแค่เป็นพิธีการณ์เฉยๆ แต่นี่กับมีทั้งดารานักแสดงหรือแม้นักการเมืองมากมายต่างก็มา ทำอะไรมากไม่ได้เลย ไม่ได้เตรียมรับมือกับอะไรที่มันใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ได้แต่จ้องมองแขนที่ถูกมือหนาจับจูงเอาไว้

   “ว่าไงมาร์ตี้ มาจนได้นะ นึกว่านายจะไม่มาซะแล้ว  ว่าไงครับกุ้ยช่ายมาด้วยเหรอครับ แหมถ้าผมรู้ว่ากุ้ยช่ายจะมานะ ผมให้มากับผมซะยังดีกว่า”พอเข้ามาถึงในงานได้ก็เจอกับรามิเรสในชุดสูทเข้ารูปสีเทาดูเข้ากับเจ้าตัวได้ดี กุ้ยช่ายหันไปยิ้มให้อย่างยินดี อย่างน้อยก็มีคนรู้จักเพิ่มมาอีกหนึ่งคน บรรยากาศรอบตัวทำเอาเอียนไม่ใช่เล่น ไหนจะนักข่าวมากมายที่จ้องจะพุ่งเข้าหา อีกทั้งสายตาแขกมากมายที่เอาแต่จับจ้อง ถึงทั้งหมดนี่จะไม่ได้สนใจเขา แต่สนใจคนข้างๆก็เถอะ แต่มันทำเอาอึดอัดไม่น้อยเลย

   “สวัสดีครับคุณรามิเรส”กุ้ยช่ายกล่าวทักทาย

   “ว่าแต่แก เอาเลขามามั้ยว่ะ ฉันอยากเห็นหน้าจะแย่”มาตินทักทายจี้เอาเรื่องน่าเบื่อหน่ายของเพื่อนขึ้นมาเป็นประเด็น

   “จะให้เอามาทำไมวะ เอาเก็บไว้นั่นล่ะดีแล้ว แค่คิดก็เซ็ง หน้าตาก็ดีแต่เขี้ยวชิป”รามิเรสว่าแล้วนึกถึงเลขาหน้าดุ นอกจากจะดุแล้วยังเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิต ขนาดเจอกันแค่ไม่กี่วัน แต่ก็ทำเอารามิเรสเข็ดหลับกับความจู้จี้จุกจิกของเลขา

   “ไหนแกบอกว่าหน้าตาคงเป็นพวกเด็กเนิร์ดไง”มาตินหัวเราะทับถม

   “ใครจะไปรู้เล่า ปกติก็คุยแต่โทรศัพท์ ไม่เคยเจอตัวจริง”รามิเรสบ่นอุบ

   “โชคดีของแกแล้วว่ะรามี่”

   “เออ ไม่เป็นมั่งให้มันรู้ไป แกก็ระวังให้ดี สักวันพ่อแกจะหาผู้หญิงพับผ้ามาให้แต่งงาน คราวนี้ปลาไหลอย่างแกจะร้องไม่ออก ฮ่าฮ่า” รามิเรสไม่ยอมถูกเหน็บแนมอยู่ฝ่ายเดียว

   “เออ ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นก็แล้วกัน”มาตินตัดบทหันไปมองหน้ากุ้ยช่ายที่เริ่มยิ้มได้หลังจากฟังการณ์สนทนาเหน็บแนมของเขากับรามิเรสได้สักพัก

   “วันนี้กุ้ยช่ายน่ารักนะครับ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ากุ้ยช่ายใส่สูทแล้วน่ารักแบบนี้”รามิเรสหันมาเปลี่ยนคนคุยด้วย แต่ก็ยังเหลือบมองหน้ามาตินที่เริ่มมุ่ย

   “งั้นเหรอครับ ผมเองก็เพิ่งเคยใส่สูทที่เป็นทางการอย่างนี้ครั้งแรก เล่นเอาเหงื่อตกอยู่เหมือนกัน คุณรามิเรสก็ดูหล่อดีเหมือนกันนะครับ”กุ้ยช่ายยิ้มตอบ

   “อ่าว แล้วผมล่ะคุณ”มาตินท้วง แต่กุ้ยช่ายก็แค่ปรายตามองแวบนึงแล้วไม่สนใจหันไปคุยกับรามิเรสแทน

   “จริงเหรอครับ งั้นผมว่าเราเข้างานกันดีกว่า นี่ก็ใกล้เริ่มงานแล้ว”รามิเรสดึงแขนกุ้ยช่ายพาเดินเข้างานทิ้งให้มาตินยินหน้ามุ่ยอย่างแค้นเคือง

   มาตินเดินตามสองคนที่จูงแขนกันเข้างานปากก็เข่นเขี้ยวเขี้ยวฟังที่อีกคนไม่สนใจ เอาแต่คุยกับคนอื่น ใครกันแน่ที่เป็นเจ้านาย ไปเดินข้างคนอื่นอย่างกับไม่ใช่คนของเขา ไหนจะจับมือถือแขนกันอีก แค่เห็นก็หงุดหงิดใจยังไงชอบกล ได้แต่เดินตามไปกระแทกลงนั่งข้างๆอย่างไม่พอใจ โดยมีกุ้ยช่ายนั่งขั้นกลาง

   การประมูลเริ่มขึ้น ของที่ประมูลล้วนเป็นของที่คนมีชื่อเสียงร่วมสมทบเพื่อการกุศล มาตินกับรามิเรสเองดูไม่ค่อยจะสนใจสิ่งของพวกนั้นสักเท่าไร ไม่ใช่ไม่สนใจจะบริจาค แต่เพราะบริจาคค่าบัตรเข้างานก็เป็นตัวเลขเจ็ดหลักไปแล้ว อีกทั้งไม่สนใจสิ่งของมากมายที่ถูกนำออกมา ทั้งสองจึงทำเพียงแค่นั่งดูการประมูลไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง

   “สวยจัง”เสียงผ่าวเบาหลุดออกมาจากคนที่นั่งขั้นกลางทันทีที่สร้อยข้อมือที่ทำจากทองคำขาวบริสุทธิประกดับด้วยทับทิมสีน้ำทะเลถูกนำออกมา พิธิกรบรรยายว่าสร้อยเส้นนี้ถูกทางการริบเป็นของกลางจากพวกค้ายาเสพติดข้ามชาติเห็นว่าเก็บไว้นิ่งเฉยจะไร้ค่าเสียปล่าวจึงได้นำออกมาประมูล

   “อยากได้เหรอ”มาตินชะโงกหน้าหันมาถาม ใกล้ๆเพราะเสียงพิธีกรยังบรรยายไม่จบกลัวว่าจะคุยกันไม่ได้ยิน
   แต่นั้นเองก็จุดประเด็นให้กุ้ยช่ายนึกถึงเรื่องที่ไม่ควรนึก ใบหน้าขาวพาลขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ามอง

   “มะ ไม่อยากได้หรอก แค่เห็นว่ามันสวยดี”กุ้ยช่ายตอบส่งๆ

   “อืม”มาตินพยักหน้าหันกลับไปดูพิธีกรบรรยายต่อ

   สร้อยเส้นนี้จะเริ่มต้นที่ราคาห้าแสนแต่ละบิทจะขยับไปบิทละ1แสน พอเริ่มประมูล ก็มีคุณหญิงคุณนายมากมายต่างยกป้ายสู้กันข่งราคาจนผ่านไปหลายสิบบิท ราคาสร้อยข้อมือเส้นนี้ก็เข้าสู่ราคาสองล้านห้าแสน ผู้ร่วมแข่งประมูลก็เริ่มน้อยลงทุกทีที่ราคาสูงขึ้นจนกระทั่งเหลือผู้หญิงแถวหน้าสุดแค่สองคน

   
   “ หนึ่ง สอง สองแล้วนะครับ ถ้าไม่มีใครสู้ราคาต่อ สร้อยเส้นนี้จะตกเป็นของคุณหญิงของท่านผู้ว่า...นะครับสองครั้งที่หนึ่งพิธีกรกล่าวทันทีที่ไม่มีใครสู้ราคา ราคาขึ้นสูงถึงสามล้าน สร้อยเส้นนี้กำลังจะตกเป็นของคุณนายผู้ว่าในเสี้ยววินาที ทันใดนั้นเอง
   หนุ่มลูกครึ่งผิวเข้มยกป้ายขึ้นเข้าร่วมประมูล ทั้งนั่งเฉยอยู่นานแล้วแท้ๆ กุ้ยช่ายหันมามองตาที่โตอยู่แล้วแทบถลนออกมานอกเบ้าตา

   ปกติคนข้างๆก็ทำอะไรไม่คิดอยู่แล้ว นี่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ หันไปมองพิธีกรที่ประกาศ หลายคนเริ่มส่งเสียงฮือฮา หันมามองที่มาตินเป็นจุดเดียว ต่างก็สงสัยว่าใครเป็นคนประมูล พอหันมาเห็นว่าเป็นใครต่างก็ซุบซิบสร้างประเด็นว่าสร้อยเส้นนี้เมื่อถูกชายหนุ่มคนนี้ประมูลได้จะตกไปอยู่ที่ข้อมือใคร

   คุณนายผุ้ว่าไม่ยอมง่ายๆ ยกมืออวบขึ้นซับเหงื่อที่ผุดเบาๆ มาตินเองก็ยังไม่ยอมหยุด ท่านผู้ว่าเองก็คว้ามือภรรยา แต่ภรรยากลัวเสียหน้าหันไปดุ ดูท่าเธอจะไม่ยอมง่ายๆ กุ้ยช่ายหันไปมองมาตินที่หันมายักคิ้วให้ ปากก็ยกยิ้มกริ่มน่าหมั่นไส้ จะประมูลไปทำอะไรของเขา

   จนราคาขยับไปสี่ล้านคุณนายจึงถอนหายใจยอมนั่งอย่างสงบเสงี่ยม แค่ก็เคียดแค้นใจที่เสียหน้าไม่น้อย

   “เอาล่ะครับช่างเป็นการประมูลที่ดุเดือดไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ เรามาเริ่มนับกันดีกว่าครับ นับหนึ่งครับ นับสองครับ ถ้าไม่มีใครร่วมประมูลสู้ราคา สร้อยเส้นนี้จะตกเป็นของนักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อของเรานะครับ นับสองครั้งที่หนึ่ง นับสองครั้งที่สอง”
   พรึบ

   กุ้ยช่ายที่เหงื่อกับลังผุดหันไปมองคนที่นั่งอยู่อีกข้าง คนพวกนี้มันอะไรกัน รามิเรสยกป้ายขึ้นร่วมประมูลหันมายิ้มให้กุ้ยช่ายแล้วยักคิ้วให้มาติน

   “นี่”กุ้ยช่ายหันไปดึงชายเสื้อรามิเรส ถ้ามาตินไม่คิดอะไรก็ไม่แปลก แต่นี่กับรามิเรสคิดว่าเป็นคนฉลาดคิดเป็นแล้ว กลับพอๆกันซะงั้น

   กุ้ยช่ายนุ่งคั้นกลางเหมือนเป็นส่วนเกิน ทั้งสองข้างแข่งกันชูป้ายขึ้นอย่างกวนประสาท คนหนึ่งเข่นเขี้ยวเขี้ยวฟันไม่ยอมง่ายๆ คนหนึ่งก็ยิ้มเยาะอย่างกวนโมโห จนราคาถึงห้าล้าน หยุดอยู่ที่มาติน มาตินหันมาหาเพื่อนตัวแสบอย่างเจ็บใจ

   “ห้าล้านแล้วครับ คราวนี้คุณรามิเรสจะสู้ต่อมั้ยครับ”พีกรถามย้ำเมื่อเห็นรามิเรสไม่ยกป้าย รามิเรสยักไหล่เล็กน้อยเป็นนัยว่าไม่ พิธีกรจึงประกาศโดยไม่นับให้สร้อยตกเป็นของมาตินทันที

   จบการประมูลก็เป็นเวลาดินเนอร์ อาหารระดับเจ็ดดาวถูกยกเข้ามาอีกฟากของห้องจัดเลี้ยง อาหารที่จัดมาเป็นแบบบริการตัวเอง อีกทั้งวงดนตรีออเคสตร้าทยอยเข้ามาแล้วเริ่มบรรเลง

   “รามี่ นี่แกกวนโมโหฮันใช่มั้ย”มาตินถามอย่างแค้นเคือง

   “ฮ่าฮ่า ฉันแค่หมั่นไส้ แกยังไม่รู้ว่าจะเอาสร้อยนั่นไปไหน แกจะประมูลมาทำไมวะ”รามิเรสถามกระเซ้า แต่ใครจะรุ้ว่าคำของรามิเรสจะทำให้กุ้ยช่ายหน้าแดง

   “เรื่องของฉันน่า”มาติดตัดบนยังไม่หยุดแค้นอยู่ในใจ เรื่องเงินที่เสียไปมันแค่เรื่องเล็กๆ แต่เรื่องแข่งมันเรื่องใหญ่ แค่คิดก็หน้ามุ่ยยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันกระดกรวด

   “ฮ่าฮ่าแกนี่ยังเหมือนเดิมตั้งแต่เด็กไม่เปลี่ยน”


 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

เดี๋ยวมาต่อคร่าาา

รักคนอ่านเหมือนเดิม

อย่าทิ้งกันนะครัาาา




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2015 19:17:29 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
แหมมมม จะประม฿ลให้คุณพี่เลี้ยงก็จงพูดออกมาค่ะ
เดี๋ยวจะโดนหมั่นไส้มิใช่น้อยยยย
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
มาตินลงทุนน่าดูเลยนะคะ…

หวงกุ้ยช่ายก็ไม่พูดออกมาหรอก ระวังจะแน่นในอกเอานา

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
มาร์ตี้ นี่เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองนะ อิอิ :katai3:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
รอครับหน้าจะให้รามี่ประมูลแข่งกันอีกซักชิ้น
อยากรู้ว่ากุ้ยช่ายจะเลือกของใคร

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เหอะ กวนทั้งคู่  :mew5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด