ร้องให้หนักมาก ขุดทู้มาจากหน้า 3 ไปไกลซะ
ตอนที่แล้วคนอ่าน 20300 ตอนนี้22500 เพิ่มมา 2200 ดีใจอีกละ อิอิ
เห็นคนอ่านบอกว่าคนเขียนชิว ก็เลยจัดตอนนี้มาให้
ตอนที่ 14 คนเมาที่ทำให้หวั่นไหว
หมดอาหารมื้อเย็นที่ดูยังไงก็ไม่ค่อยสงบอีกล่ะ เมื่อพ่อลูกครึ่งตัวแสบกับพ่อฝรั่งไม่ได้รับเชิญคอยตั้งท่าจะแขวะกันอยู่เรื่อยจนกุ้ยช่ายได้แต่ระอา ไม่แปลกใจสักเท่าไรที่คบกันมาได้นานขนาดนี้ ก็นิสัยมันคนละขั้วขนาดนี้ คนหนึ่งยุ คนหนึ่งร้อน
กุ้ยช่ายยกกับข้าวสองสามอย่างออกมาวางที่โต๊ะในสวน บนโต๊ะเต้มไปด้วยเหล้านอกราคาแพงหลากหลายยี่ห้อ กับคนบริโภคที่นั่งคุยแย้งกันไปมาสัพเพเหระ กุ้ยช่ายได้แต่ถอนหายใจ
“กุ้ยช่าย ถ้าไม่รังเกียจก็มาดื่มด้วยกันสิ”ฝรั่งตัวโตตาฟ้าหน้าเริ่มแดงก่ำออกปากชวน ไม่ชวนป่าวจับมือขาวรั้งไว้
“ผมว่าไม่รบกวนดีกว่า ผมต้องไปดูอันเดรสกับตั้งโอ๋ต่อ”กุ้ยช่ายบอกยิ้มบางๆจะสะบัดมือก็เสียมารยาท จะดึงก็ถึงไม่ออก จับแน่นซะขนาดนั้น
“แต่ผมอยากให้กุ้ยช่ายดื่มกับผมนี่นา สักแก้วสองแก้วก็ยังดีนะ พลีส”รามิเรสมองหน้าขอร้อง ขอกันซะขนาดนนี้กุ้ยช่ายเองก็ปฏิเสธไม่ถูกเหมือนกัน อีกอย่างเขาเองไม่เคยแตะเครื่องดื่มมึนเมาตั้งแต่ได้กับแม่ตังโอ๋มา
“จะดีเหรอครับ ผมว่าเอาไว้คราวหลังดีกว่า”กุ้ยช่ายปฏิเสธ
“แก้วเดียวก็ยังดีครับ”รามิเรสตื๊อ
“ไม่ได้”มาตินพูดเสียงดัง
“ฉันถามกุ้ยช่ายเว้ย ฉันไม่ได้ถามแก มาตี้”รามิเรสบ่นใส่
“แต่ฉันเป็นเจ้านายของกุ้ยช่าย แกน่ะปล่อยมือกุ้ยช่ายได้แล้ว เขามีงานต้องทำ”มาตินพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ ดวงตาคมที่มักมีแววขี้เล่นตอนนี้กลับจ้องมองไปที่มือของรามิเรสนิ่ง มือที่จับมือกุ้ยช่ายอยู่
“ใจคอแกจะใช้งานกุ้ยช่ายตลอดยีสิบสี่เลยเหรอวะ”รามิเรสถามยังไม่ยอมปล่อยมือ
“รามี่ฉันบอกให้แกปล่อยมือกุ้ยช่ายไง ส่วนคุณก็กลับขึ้นไปดูเด็กๆได้แล้ว”มาตินพูดเสียงแข็ง สายตาคมกริบจ้องมือรามิเรสที่จับมือกุ้ยช่ายไม่วางตา ความรู้สึกหวงก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่คนคนนี้อยู่กับเขามาก่อน เจอเขามาก่อน ทำไมคนที่ได้จับมือขาวนั้นก่อนกลับไม่ใช่เขา แล้วทำไมไม่ถึงมือกลับ ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นจับอยู่เฉยๆ มีหน้าที่ต้องไปทำไม่ใช่เหรอ ทำไมปล่อยให้คนอื่นเขาจับมือโดยไม่ขัดขืน
มาตินได้แต่คิดไปต่างๆนานาอย่างเผลอตัว ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไร ทำไมต้องคิด ทำไมต้องอิจฉา ทำไมต้องอยากที่จะจับมือนั้นบ้าง มือหนากำแน่น ได้แต่มองแผ่นหลังของพี่เลี้ยงเด็กเดินเข้าบ้านไป
กุ้ยช่ายเดินเข้าห้องนอนของมาตินเห็นอันเดรสกำลังเอื้อมมือคว้าโมบายที่ห้อยแกว่งไปมาอยู่ในเปล พอมองหน้าอันเดรสก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงใบหน้าที่คล้ายคลึง ดวงตาสีเข้มที่ปกติจะมีแววขี้เล่นไม่จริงจัง วันนี้กลับจ้องมองมาอย่างดุดัน น่าอึดอัดจนไม่กล้าขยับตัว
อีกทั้งคำพูดที่ทำให้เขาคิดไปเองว่าอีกฝ่ายหึงหวงเขา แต่ก็คงเป็นแค่ความคิด เพราะประโยคถัดมาแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายแค่ห่วงว่าเขาอาจทำงานไม่เต็มทีเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างไรกุ้ยช่ายเองก็หวั่นไหวกับสายตาคู่นั้นอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่แวบเดียวที่มองมาก็ทำให้ทำตัวไม่ถูกเอาดื้อๆ ไม่รู้ว่าดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองมาแบบนั้นจะสื่อถึงอะไร
กุ้ยช่ายจัดการอาบน้ำให้อันเดรสแล้วลากเปลเด็กเข้าห้องตัวเอง เพราะดูท่าคืนนี้จะฝากอันเดรสไว้กับมาตินคงจะไม่รอด
“จ๋าฮับ คุณยุงยามิกลับยังฮับ”ตั้งโอ๋นั่งวาดรูปอยู่ที่พื้นหันมาถามกุ้ยช่ายที่กำลังลากเปลเด็กเข้าห้อง
“ยังครับ ตั้งโอ๋มีธุระอะไรกับคุณลังเหรอครับ”กุ้ยช่ายถามลูกแปลกใจปกติตั้งโอ๋ไม่เคยถามถึงรามิเรส
“ตั้งโอ๋จะให้คุณยุงสอนวาดเครื่องบินฮับ”ตั้งโอ๋ชูสมุดวาดรูปที่วาดเครื่องบิน แต่ดูแล้วมันเป็นเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่มีปีกมากกว่า
“อย่าไปกวนคุณลุงตอนนี้เลยครับ คุณลุงเขาคุยธุระกันอยู่ ไว้พรุ่งนี้ค่อยให้คุณลุงสอนดีมั้ยครับ”กุ้ยช่ายอุ้มตั้งโอ๋ขึ้นมาวางบนตัก ต่อรอง จะให้ตั้งโอ๋ลงไปเห็นตัวอย่างที่ไม่ดีก็คงไม่ได้ ตั้งโอ๋ยังเด็กยังแยกแยะไม่ออก จะให้เห็นผู้ใหญ่ดื่มแอลกอฮอลก็คงไม่ดีแน่
“ได้ฮับ พุ่งนี้ก็ได้ แล้ววันนี้น้องมานอนกะเยาเหยอฮับ”ตั้งโอ๋ถามตาโตอย่างดีใจ
“ใช่ครับ วันนี้คุณมาตินลุงคุยธุระดึกเลยต้องเอาอันเดรสมานอนกะเรา ตั้งโอ๋ช่วยป๋าดูน้องได้มั้ยครับ”กุ้ยช่ายถามแล้วก้มลงไปหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่
“ได้ฮับ ตั้งโอ๋จะดูแยน้องดีดีเยยฮับ”ตั้งโอ๋ทำท่าตะเบะรับทราบทำเอากุ้ยช่ายอดที่จะก้มลงไปขยี้แก้มนุ่มอีกฟอดใหย่ๆไม่ได้
“ป๋าว่าตอนนี้เราไปอาบน้ำกันดีกว่า พร้อมมั้ยครับ”
“โอเคฮับ พร้อมซะยิ่งกว่าพร้อมฮับ ตั้งโอ๋ยูกจ๋าทั้งคน”
อีกด้านของบ้านไม่นานเหตุการณ์ก็กลับเป็นปกติลูกครึ่งตัวใหญ่กับต่างชาติตัวโตคุยเรื่องไร้สาระกันอย่างออกรส คนเมากับคนเมาคุยกัน เรื่องต่างๆนานาถูกยกมาปนกันมั่วไปหมด
“แกว่าแต่เลขาฉัน เลขาที่ไทยแกเหอะ ได้ข่าวว่าคนนี้เด็กแดดดี้แกไม่ใช่เหรอ เส้นใหญ่ใช่ย่อยผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”มาตินถามขึ้นประเด็นใหม่
“ผู้ชายว่ะ ฉันล่ะโคตรเซ็งแดด ไม่รู้เอาอะไรมาให้ โคตรดุ โทรจิกยิ่งกว่าไก่งวง ยิ่งวันที่ฉันมาไทยนะ โทรจนต้องปิดเครื่อง บอกว่าจะคุยเรื่องเอกสารเรื่องระบบอะไรวุ่นวาย ไม่รู้หน้าตาจะเป็นแบบไหน ก็คงเป็นพวกใส่แว่นระเบียบจัดอะไรแบบนั้นมั้งดูท่า”รามิเรสยักไหล่ทำท่าขนลุก
“ฮ่า ฮ่า คนอย่างแกต้องมาเจอพวกระเบียบจัดแบบนี้ล่ะ แถดีนักฉันว่าคราวนี้แดดแกเอาจริงว่ะ ฮ่าๆ ชนชนฉลองกับเลขาใหม่แกหน่อย”
“จะว่าไป คุณกุ้ยช่ายถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายนะ”รามิเรสเริ่มเรื่องใหม่ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลเริ่มเยิ้มเพราะฤทธิ์เหล้า
“ไม่ติดแล้วจะทำไม”มาตินถามเสียงนิ่ง ทำไมต้องวกมาที่เรื่องพี่เลี้ยงเด็กของเขาอีก
“ถามแปลกๆ ออกจะแม่บ้านแม่เรือนขนาดนั้นนี่ขนาดเป็นผู้ชายนะ น่าตาก็น่ารัก ขาวจั๊วยังกับกระดาษ นี่ถ้าไม่ใช่ผู้ชายนะ ฉันจีบแล้ว ถ้าจีบไม่ติดก็จะฉุดเลย ไม่ปล่อยให้รอด”รามิเรสพูดหัวเราะร่วนยกแก้วขึ้นกระดก
“ยังไงก็เป็นผู้ชายอยู่ดี”มาตินพูดเรียบ ถ้าเป็นผู้หญิงเหรอ คิดๆแล้วถ้ากุ้ยช่ายเองเป็นผู้หญิงป่านนี้เขาก็คงจีบไปแล้วอย่างที่รามิเรสบอก แต่ถ้าจีบไม่ติดล่ะ จะฉุดเหรอ คงไม่ล่ะ เพราะคนอย่างมาตินผู้หญิงมีให้เลือกเยอะจนคำว่าฉุดไม่เคยอยู่ในความคิด แต่ถ้าเป็นกุ้ยช่ายล่ะ ก็ยังนึกไม่ออกจะฉุดดีมั้ย ทำไงได้ ก็เป็นผู้ชายอยู่ดี เพราะงั้นเรื่องแบบนี้ตัดออก คงเป็นได้แค่เจ้านายกับลูกน้อง
“ถึงเป็นผู้ชาย แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ก็น่าสนนะเว้ย ขาวเนียน แถมเก่ง ฉันยอมเป็นเกย์ว่ะ”รามิเรสพูด
“หึ ยอมเป็นเกย์เลยเหรอ”มาตินย้ำถึงขั้นยอมเป็นเกย์เลยเหรอ แล้วถ้าเป็นเขาล่ะ เขาคนที่ผู้หญิงไม่เคยขาดมือ จะยอมเป็นเกย์มั้ย ยอมได้รึป่าวเพื่อผู้ชายด้วยกัน
“แค่นึกก็เห็นแต่ขาวกับขาว ไม่เคยเห็นผุ้ชายขาวเนียนแบบนี้มาก่อน”รามิเรสยิ้มกริ่มสายตาก็จ้องมองมาตินที่เอาแต่ยกแก้วกระดก
“หึ จะไม่ให้ขาวได้ไง ลูกเสี้ยวเวียดนามนี่หว่า พ่อเขาเป็นลูกครึ่งเวียดนาม”มาตินพูดเบาๆพลางนึกตามไอ้คำว่าขาวที่เพื่อนบอกมันก็ขาวจริงๆนั่นแหละ
“ถึงว่า ขาวซะ ไม่ใช่แค่ขาวนะ ตาก็หวาน ไม่รู้ว่าเนื้อจะหวานเหมือนตาด้วยรึป่าว”
“หึหึ ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย”มาตินว่า แต่ในหัวนี่กำลังเกิดภาพของคนที่กำลังถูกนินทา
แล้วใครจะรู้ว่าคนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาน่าอายจะมาได้ยินเกือบทั้งหมดที่ กุ้ยช่ายหน้าร้อนผ่าว ทั้งโกรธทั้งอาย ทั้งโดนนินทาทั้งโดนจาบจ้วง จากที่จะลงมาถามว่าจะเอาอะไรเพิ่มเติมมั้ย จะนอนแล้ว น้ำใจที่มีถูกโยนทิ้งดังโครมเบ้อเริ่ม กุ้ยช่ายกระทืบเท้าขึ้นห้องด้วยความเจ็บใจ
“ฉันว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่า พรุ่งนี้นายต้องเข้าไปดูสาขาไทยไม่ใช่เหรอ”มาตินพูดเพื่อจบหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับคนใกล้ตัวเสียที
“โห ฉันไม่อยากไปเลยว่ะ ไม่อยากไปเจอเลขาเลย ถ้าเป็นพวกเจ้าระเบียบเด็กเรียนฉันก็ไม่ไหวว่ะ จะหาเรื่องไล่ออกให้ดู”รามิเรสว่าลุกขึ้นยืน
“กู๊ดไนท์”มาตินส่งเพื่อนก่อนปิดประตูบ้าน มือหนาเคาะหัวเบาๆเรียกสติ ถามว่าเขาเมามากมั้ย ไม่เท่าไร แค่มึนๆ
ขายาวก้าวขึ้นบันได้อย่างเงียบๆ มือหนาก็เกาะราวกันตก พอพ้นบันไดขั้นสุดท้าย ตาคมก็หันไปสะดุดกับแสงสว่างที่ลอดออกมาจากห้องนอนแขก
ด้วยความสงสัย บวกกับความอยากรู้จึงได้เดินไปยังประตูบานบ้านเงียบๆ มองลอดไปก็ถึงขับนิ่งงัน แผ่นหลังเปลือยปล่าวขาวสว่างหันมาทางประตู เอวคอดเล็กตาดด้วยผ้าขนหนูหมิ่นเหม่ มาตินกลืนน้ำลายลงคอ
ดวงตาสีน้ำตาลเข็มจ้องมองภาพในห้องแน่นิ่งแทบไม่กระพริบตา รู้ว่าเจ้าตัวขาว แต่ไม่คิดว่าภายใต้ร่มผ้าที่ปิดบังจะทั้งขาวทั้งเนียนขนาดนี้ ไม่ทันได้ยั้งสติ มือหนาผลักประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ขายาวก้าวเข้าหาอย่างเบาเสียง
ไม่นานไออุ่นก็ส่งผ่านไปทางร่างกาย ลมหายใจร้อนผ่านรินรดซอกคอขาว จมูกโด่งหายใจเข้าสูดกลิ่นหอมละมุนเข้าปอดอย่างจาบจ้วง ร่างขาวสะท้านเฮือกเมื่อรับรู้ถึงคนนอกกำลังยืนทาบทับอยู่เบื้องหลัง ความอุ่นร้อนของผิวกายประกอบกับลมหายใจอุ่นร้อนที่รดรินทำให้กุ้ยช่ายไม่กล้าขยับ หัวสมองคิดถึงเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อครู่ แค่คิด ฉับพลันความคิดต่างๆก็เริ่มตีกันวุ่นวาน
ลมหายใจที่ออกจากจมูกยังคงรดรินอยู่เรื่อยๆ กลิ่นหอมละมุนเหมือนสิ่งเสพติดยิ่งเสพยิ่งไม่พอ กายขาวเนียนที่เห็นด้วยตา แต่เพียงแค่จ้องมองด้วยตาก็ยังคงไม่เพียงพอ
มือหนาอุ่นร้อนทาบลงกับเอวคอดลงเบาบาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เจ้าของผิวขาวสั่นเบาๆอย่างตกใจไม่น้อย มือหน้าเริ่มบีบเค้นเบาๆ ความต้องการที่จะสัมผัสพิสูจน์ความเนียนเริ่มเข้าครอบคลุม แล้วก็อย่างที่คิด นอกจากจะขาวแล้วยังเนียน เนียนนุ่มจนอยากจะขยี้ให้เป็นรอยแดง
กลิ่นหอมเองก็เช่นกัน ยิ่งได้ดอมดมก็ยิ่งหลงใหล อยากจะสุดดมให้ใกล้ยิ่งกว่านี้ สติเองก็ไม่ยังคิด จมูกโด่งกดลงบนลำคอขาวเนียนอย่างไม่ห้ามใจ สูดดมเอาความหอมนุ่มเข้าเต็มปอด
แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ ยิ่งลองยิ่งน่าหลงใหล มือหนาบีบเค้นเบาๆเลื่อนขึ้นเพื่อจะเปลี่ยนเป้าหมายอย่างอยากรู้อยากเห็น อกบางๆนั้นจะเทียบได้กับอกเต่งตึงเหมือนผู้หญิงมั้ย แล้วนอกจากกลิ่นหอมล่ะ จะหวานเหมือนดวงตาคู่โตที่คอยจ้องมองมาอย่างหาเรื่องมั้ย ปากหนากดจูบลงบนลาดไหล่เนียนเตรียมจะชิมรสเนื้อหอมๆ มือหนาเลื่อนขึ้นเตรียมที่จะกอบกุมแผ่นอก
มือเล็กก็ผลักเอาร่างสูงของมาตินออก
“นี่ คุณ เมาก็ไปนอนสิ”กุ้ยช่ายพลักมาตินออกจากห้องแล้วปิดประตูใส่ใบหน้าขาวแดงก่ำอย่างไม่เคยแดงมาก่อน นึกถึงเรื่องที่ได้ยินจากวงสนทนาเมื่อครู่ ใจเต้นโครมครามเมื่อนึกได้ว่าเมื่อครู่กำลังเจอกับอะไรมือบางยกขึ้นกุมอกข้างซ้าย แต่จะทำไงได้คงจะเก็บเอาอะไรมาใส่ใจนักเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนเจ้าชู้มา และที่สำคัญอีกฝ่ายเป็นคนเมาไม่ได้สติอีกต่างหาก ท่องไว้ว่าคนเมา
คนเมาที่ทำให้เขาเผลอหวั่นไหว
****************************
หายไปหนึ่งวัน ยังรักคนอ่านเหมือนเดิม
ไม่รู้หายไปหนึ่งวันคนอ่านจะทิ้งเค้ากันรึยังน้อ
ยังไงก็ขอบคคุณทุกคำติชมนะคร้าาาาา
ร๊ากคนอ่านที่สุด
ขอคำแนะนำด้วยคร่า ไม่รู้ว่ารุกเร็วรุกช้า
เห็นมีหลายคนบอกว่ามาตินชักช้า
เลยจัดไป
ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะคร้าาาาาา
เดี่ยหมองไม่แล่น