162362
ตอนพิเศษ 3 ยามบ่ายภายในร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นแถบชานเมือง ร่างสูงโปร่งของธนพัฒน์กำลังขะมักเขม้นเตรียมของรับลูกค้าที่มักจะเข้าร้านในช่วงเย็นกันจนร้านแน่น
ใบหน้าที่มักนิ่งเฉยไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดใดนิ่วหน้า คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อรู้สึกถึงแรงกระตุกชายผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลเรียบ
ดวงตาคมมองลงไปยังเบื้องล่างทางที่ผ้ากันเปื้อนถูกกระตุกก็สบเข้ากับดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลกลมใสกำลังจ้องมองมาด้วยท่าทีไม่ค่อยมั่นใจพร้อมกับในมือถือขวดน้ำส้มที่ยังไม่ได้เปิดยื่นมาให้
“แม ขับ เอ่อ เปิดม่ายไดขับ”เด็กน้อยที่มีเชื้อสายต่างชาติเจ้าของเรือนมสีน้ำตลทองกับดวงตาสีฟ้าพูดภาษาไทยที่พึ่งจะฝึกได้ไม่กี่เดือนอย่างกระท่อนกระแท่นแถมยังเรียกธนพัฒน์ว่าแม่อีกด้วย
“อ่า ครับ นี่ครับ”ธนพัฒน์รับขวดน้ำส้มมาเปิดแล้วยืนคืนให้เด็กน้อยตากลมที่ก้าวเข้ามาในชีวิตในสถานะลูกชายของเขาและรามิเรส
แต่ดูท่ารามิเรสที่มักเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยๆจะคอยหาเรื่องปวดหัวให้เป็นประจำทั้งที่ตัวไม่อยู่ด้วยการสอนให้ลาเต้เรียกเขาว่าแม่
ซึ่งมันก็รู้สึกแปลกๆเพราะว่าเขาเองก็เป็นผู้ชาย จะให้ลาเต้มาเรียกว่าแม่ก็ไม่ใช่ ทั้งที่คอยแก้ตลอดว่าให้เจ้าตัวเรียกว่าพ่อ แต่ดูท่าเจ้าตัวก็กลับม่ยอมทำตามเอาซะดื้อๆ ทั้งที่เป็นเด็กท่าง่ายแท้ๆ
“ม่ายอาวขับ”ลาเต้ส่ายหน้า แล้วยิ้มกว้าง
“อ่าว ทำไมไม่เอาล่ะครับ ให้พ่อเปิดไม่ใช่จะกินเหรอครับ หืม?”ธนพัฒน์ถามด้วยสีหน้ามึนงงพลางหันไปเช็ดมือให้สะอาดก่อนที่จะนั่งยองยองให้เสมอกับลาเต้
“ลาเต้ม่ายกิง ห้ายแมผัดกิง แด๊ดบอกห้ายดูแลแมผัด”ลาเต้ยิ้มแล้วโน้มตัวมาหอมแก้มธนพัฒน์อย่างเอาใจ
ดูท่า เขาจะแพ้ทางความขี้อ้อนของลูกชายคนนี้เข้าซะแล้ว
“ขอบคุณครับ แล้วลาเต้ไม่ดูแลคุณยายด้วยเหรอครับ”ธนพัฒน์ถามพลางยิ้มบางๆให้ลูกชาย
“คุณยายม่ายยูขับ เอ่อ ปาย เอ่อ นอกโฮม”ลาเต้เกาหัวอย่างเก้ๆกังๆกับคำศัพท์ที่คิดไม่ทัน
“บ้านเหรอครับ”
“เอ่อ ช่ายขับ คุณยายปายนอกบ้านแลว”ลาเต้บอกพลางเกาหัวหน้าแดง
“งั้นลาเต้ช่วยพ่อทำงานได้ไหมครับ”
“ไดขับได ทำอาไยขับ ลาเต้อยากซวย”ลาเต้ต้อบพลางทำตาโตอย่างตื่นเต้นกระโดดกอดคอธนพัฒน์ยกใหญ่
“ช่วยครับ ไม่ใช่ซวย”ธนพัฒน์แก้ให้พลางยิ้ม
ดูท่าคงจะต้องใช้เวลาอีกมากกว่าลาเต้จะพูดไทยได้คล่องแบบรามิเรส
“ชวย ชวยช่ายไหมขับ”
“ช่วยครับ ไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกหน่อยลาเต้ก็พูดเก่งเหมือนแดดดี้นะครับ วันนี้ลาเต้ช่วยพ่อพัฒน์ล้างผักนะครับ”
“เยส ไดเลย”ลาเต้ยิ้มรีบวิ่งไปที่มุมห้องครัวดันเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยประจำตัวที่เอาไว้ยืนต่อตัวให้สูงเลยเค้าเตอร์ครัว
โดยที่ลูกจ้างในร้านต่างก็ยิ้มให้กับความใสซื่อของเด็กตาน้ำข้าวของลูกชายเจ้าของร้าน
พอตกหัวค่ำธนพัฒน์ก็ทำการปิดร้านแล้วจูงมือผู้ช่วยตัวน้อยอย่างลาเต้เดินย้อนมาทางหลังร้านซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านสองชั้นหลังใหญ่
“แมผัดขับ แด๊ดจากับมาหาเราวันหนายขับ”ลาเต้หันมาถามระหว่างที่เดินจูงมือกันกลับบ้าน
“อีกสองวันครับ ทำไมเหรอครับ”ธนพัฒน์ถามกลับแล้วยิ้มตอบลูกชาย
“แล้วแมคิดถึงแด๊ดไหมขับ”ลาเต้ยิ้มยิงฟัน
ทำให้ธนพัฒน์นิ่ง ไม่รู้ตอบลูกชายว่ายังไงดี ได้แต่ย้อนถามตัวเองว่าคิดยังไง
“เดี๋ยวเรารีบเข้าบ้านกันดีกว่านะครับ เดี๋ยวคุณยายจะรอนาน”ธนพัฒน์เบี่ยงประเด็น ใบหน้าแดงเรื่อเมื่อนึกถึงอีกฝ่ายขึ้นมา
เกือบอาทิตย์แล้วที่รามิเรสเดินทางไปทำงานที่ญี่ปุ่น
“อ่าวตาพัฒน์ มาพอดีเลย แม่ว่าแม่จะขึ้นไปนอนอยู่พอดี”
“ทำไมวันนี้นอนเร็ยวล่ะครับแม่”ธนพัฒน์ถามอย่างห่วงใย
“อ้อ พรุ่งนี้ว่าจะไปสปากับคุณหญิงวรรณลีแต่เช้าน่ะ เลยกะว่าจะรีบนอน ว่าแต่ตาลาเต้ ไหนมาให้ยายหอมหน่อยสิ วันนี้ทำอะไรบ้าง”คุณหญิงเรียกหลานชายให้วิ่งเข้าไปหาพลางหอมแก้มฟอดใหญ่
ตั้งแต่มีหลานตัวน้อยที่ไม่ค่อยประสีประสากับภาษาไทย หล่อนก็รู้สึกว่าคนแก่อย่างหล่อนมีอะไรให้ทำขึ้นเยอะ
ความน่ารักน่าเอ็นดูทำให้หล่อนไม่เคยนึกค่อนขอดใจในสายเลือดหรือความเป็นไปของเด็กน้อยเลยสักนิด กลับทั้งรักทั้งเอ็นดูอยู่ตลอดเวลา
ไม่นานก็เหลือแค่ธนพัฒน์กับลาเต้ที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นกันแค่สองคน
เด็กตัวกลมนั่งซ้อนอยู่บนตักของธนพัฒน์กำลังตั้งในมองสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบการ์ตูนที่ธนพัฒน์หาเอามาให้เพื่อฝึกให้ลาเต้เข้าใจภาษาไทยได้ง่ายขึ้น
ตัวการ์ตูนในจอทีวีก็บรรยายไปเรื่อยๆ พร้อมกับธนพัฒน์ที่ตั้งใจอธิบายเวลาที่ลาเต้ไม่เข้าใจ
โดยที่ไม่รู้เลยว่าประตูบ้านที่ล็อกไม้ดีแล้วกำลังถูกเปิดออกอย่างเบามือพร้อมกับร่างสูงใหญ่เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลทองและดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลยสอดตัวเข้ามาอย่างแผ่วเบา
ดวงตาเป็นประกายจ้องมองไปในห้องนั่งเล่นที่สองแม่ลูกกำลังสอนภาษากันอยู่โดยที่ไม่ได้สนในรอบข้างสักนิด
มือใหญ่วางกระเป๋าเดินทางกับถุงของฝากที่บรรจงซื้อมาฝากภรรยาและลูกชายอย่างเบามือแล้วย่องไปทางเบื้องหลังของทั้งสองคนที่ไม่มีทีท่าว่าจะรู้ตัวเลยสักนิด
ริมฝีปากหยักยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะใช้จังหวะที่แม่ลูกเผลอ รวบเอาทั้งคู่เข้ามากอดในอ้อมแขนทันที
“โอ้ แด๊ดมาแลว”ลาเต้ตาโตตะโกนอย่างดีใจเมื่อเห็นหน้าของรามิเรสใกล้ๆ
“ไหนคุณบอกว่าอีกสองวันจะกลับ”ธนพัฒน์ถามเสียงเบาด้วยสีหน้าตกใจ แต่ก็ไม่วายหน้าแดงเรื่อมื่อริมฝรปากหยักกดจูบลงมาบนแก้ม
“ผมอดใจไม่ไหวก็เลยรีบเคลียงานแล้วก็รีบกลับมาหาพัฒน์กับลูก”รามิเรสตอบยิ้มๆ
“ทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะครับ”
“ก็ผมอยากเซอร์ไพรส์พัฒน์กับลูก ไหนลาเต้มาให้พ่อคิสหน่อย”
“แมคิดถึงแด๊ดมากเลยขับ แด๊ดชอบไปนาน”ลาเต้ฟ้องอย่างแสนรู้ทำเอาธนพัฒน์หันไปมองลูกชายอย่างตกใจในความเจ้าเล่ห์
เขาไม่ได้บอกสักหน่อยว่าคิดถึงรามิเรส แล้วไงลูกชายตัวแสบถึงได้ใส่ร้ายกันได้
“จริงเหรอครับ แล้วตอนที่พ่ไม่อยู่มีลูกค้ามายุ่งกับแม่พัฒน์ไหมครับ”รามิเรสหอมแก้มลาเต้ก่อนจะถามสิ่งที่ฝากฝังไว้
“มีขับ มีพี่สาวสวยๆมายิ้มให้แมผัด แถมมาบ่อยด้วย”
“จริงเหรอพัฒน์”
รามิเรสหันมาถามทันที
“มะ ไม่ใช่ เขาแค่มากินข้าว”ธนพัฒน์แก้ตัว ถึงจะร่าสาวเจ้าต้องการมาสานสัมพันธ์ก็ตาม
“แน่ใจนะครับ เดี่ยวพรุ่งนี้ผมจะไปนั่งเฝ้าที่ร้านเลย คอยดูว่าจะมีใครมายุ่งกับภรรยาของผมบ้าง”รามิเรสพูดพร้อมกระชับอ้อมกอดเอาสองแม่ลูกเข้าหาตัว
“อืม”ธนพัฒน์ตอบเสียงเบาพลาก้มหน้าหลบสายตาคู่สีฟ้าน้ำทะเลที่มองมา
“พัฒน์”รมิเรสเรียกเรียกเบาเมื่อธนพัฒน์เดินออกมาจากห้องน้ำพลางเช็ดผมที่เพิ่งสระเสร็จ
“มี อะไรเหรอ”ธนพัฒน์ถามบางหลบสายตา
ถึงจะตกลงอยู่ด้วยกันแล้ว แต่ก็ไม่คุ้นชินสักทีกับสายตาวิบวับขงรามิเรสที่มองมาอย่างมีความหมาย
ดวงคาคมนิ่งมองรามิเรสที่นั่งอยู่บนเตียงตบมือลงบนลงฟูกย้ำๆเป็นสัญญาณให้เข้าไปหา
พอเห็นรามิเรสที่อยู่ในกางเกงนอนขายาวตัวเดียวโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อเผยให้เห็นมัดกล้ามบนแผงอกก็ทำให้ธนพัฒน์นึกเขินอาย
ไม่บ่อยนักที่จนจะมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอีกฝ่าย ทำให้คิดไปไกลแล้พาลหน้าแดง แต่ก็ยอมนั่งลงบนฟูกหนา
“จริงไหมครับที่ลาเต้บอกว่ามีผู้หญิงมายุ่งกับคุณ”รามิเรสถามพลางแย่งผ้าขนหนูจากมือธนพัฒน์มาช่วยเช็ดผมให้แทน
“อืม”ธนพัฒน์จนปัญญาจึงได้แค่ตอบสั้นๆ
“ทำไมไม่ปฏิเสธไปล่ะครับ”รามิเรสถามเสียงเริ่มหนักขึ้น
“เขาเป็นลูกค้า”
“นั่นแหละครับ แต่ผมไม่ชอบให้พัฒน์มีคนอื่นมายุ่ง ผมกลัวพัฒน์จะเห็นคนอื่นดีกว่า”
“มะ ไม่หรอก”
“สัญญากับผมน่ะว่าจะไม่เห็นใครดีกว่าผมนอกจากครอบครัว”รามิเรสโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหูธนพัฒน์ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“อือ”ธนพัฒน์ตอบหน้าแดงพลางหดคอหนีจมูกโด่งที่จรดลงมาบนต้นคอ
“อืออะไรครับ บอกมา”รามิเรสกระซิบเสียงพร่าพลางวางผ้าเช็ดหัวพาดกับหัวเตียงแล้วจับลงบนเอวสอบของอีกฝ่าย
จมูกโด่งซุกไซร้เบาๆสูดเอากลิ่นแชมพูหอมฟุ้งเข้าปอด พร้อมกับมือหนาลูบลงที่บั้นเอวแล้วสอดเข้าไปใต้เสื้อนอน
“ทะ ทำอะไรน่ะ”ธนพัฒน์ถามเสียงตื่นตัวแข็งทื่อ
“สัญญามาก่อนครับ ว่าจะไม่มองคนอื่นนอกจากผม ผมไม่อยากให้คนอื่นแย่งพัฒน์ไป ไม่อยากให้ใครเห็นพัฒน์ในแบบที่ผมเห็น สัญญากับผมนะครับ”รามิเรสบอกเสียงพร่าพลางกระชอบอ้อมกอดเอาแผ่นหลังของธนพัฒน์มาชิดอก
“อือ สัญญา”
“สัญญาว่าจะมองแค่ผม”ริมฝีปากหยักขบลงบนติ่งหูเล็กแผ่วเบา
“อือ”
“มองแค่ผม”มือหนาลูบลงบนท้องน้อยพลางสอดเลื่อนลงไปในกางเกงนอนขายาว
“อะ อือ”ธนพัฒน์ตอบเสียงสั่น ดวงตาคมสั่นระริกกับสัมผัสของรามิเรส
“รักแค่ผม”มืออีกข้างของรามิเรสเลื่อนขึ้นมาเค้นคลึงกับแผ่นอกเรียบตึงแล้วบีบขยี้หยอกล้อกับเม็ดสีอ่อนอย่างหยอกล้อ
“อะ อือ ระ รามิเรส”ธนพัฒน์เรียกเสียงสั่น
ไม่นึกว่ารามิเรสจะทำอย่างนี้ ทั้งที่ปรกติจะเลียบๆเคียงๆขออนุญาตก่อนเสมอ
“สัญญาสิ”รามิเรสพูดพร้อมกับเค้นคลึงส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายทำให้ธนพัฒน์สะดุ้งเบาเบาพร้อมกับส่งเสียงร้อ
ออกมา
“อือ สัญญา”ธนพัฒน์ตอบเสียงสั่น
“สัญญาว่าอะไรครับ”รามิเรสถามย้ำพร้อมกับจงใจรูดแก่นกายที่พองขยายจนพอดีมือแล้วจ้องมองใบหน้าเรียบเฉยแดงก่ำ
ริมฝีปากเรียวขบเม้มเป็นเส้นตรงก่อนจะหรี่ตาลงอย่างอดกลั้น
“อะ อือ รัก คุณ คะ คนเดียว”ธนพัฒน์ตอบพลางพรูลมหายใจร้อนๆออกมา
ส่วนกลางลำตัวถูกเหนี่ยงรั้งจนแข็งขึ้น ไม่ต่างอะไรกับรามิเรสที่เจ้าตัวก็ต้องการอีกฝ่ายเช่นกัน
แก่นกายอันใหญ่พองนูนจนดันกางเกงนอนเนื้อหนาออกมาจนเห็นได้ชัด
สิ่งที่ได้ยินทำเอาหัวใจดวงใหญ่พองโต ความรู้สึกราวกับถูกเติมเต็มทำให้รู้สึกว่ากำลังมีความสุขจนแทบกระอัก
ความหึงหวงในสิ่งที่ตนได้ครอบครองทำให้รู้สึกว่าไม่อยากให้ธนพัฒน์เข้าใกล้ใครเพราะไม่อยากให้คนอื่นได้เห็นอีกด้านที่ธนพัฒน์มักแสดงออกกับเขาสมอ
กายสูงใหญ่สอดเข้าไปภายในร่างกายเล็กอย่างแผ่วเบาพร้อมกับจูบซับลงบนขมับชื้นเหงื่อ
ความรักใคร่ได้ถูกเติมเต็มผ่านร่างกายที่สอดประสานเข้าหากันราวกับสายลมที่พัดผ่านไปในความว่างเปล่า
เสียงกระซิบพร่ำบอกดังอยู่ข้างหูพร้อมกับรสจูบที่หวานล้ำ ความรักที่ขาดหายถูกต่อเติมจนล้น
“ผมรักคุณ"
น้ำเสียงทุ้มลึกกระซิบข้างหูพร้อมกับเสียงหอบหายใจดังก้อง
“อะ อือ”เสียงตอบรับก็เช่นกัน
ราวกับรับปากว่าจะดูแลสิ่งที่ได้รับมาเป็นอย่างดี
ยามเช้าคุณหญิงแพรวพรรณได้ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อเข้าสปากับบรรดาเพื่อนๆ ทิ้งให้คนหนุ่มได้อยู่คุยกันตามประสาพร้อมกับเด็กเล็กอีกคน
ธนพัฒน์ทำอาหารเช้าอยู่ในครัวในขณะที่รามิเรสนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอยู่ในห้องนั่งเล่น
“แม คาบ อันนี้อะไร”ลาเต้ถือกล่องของเล่นสีชมพูที่เพิ่งจะค้นมาจากถุงของฝากวิ่งเข้ามาในครัว
ธนพัฒน์ที่ทำกับข้าวเสร็จพอดีละวางจานอาหารเช้าลงบนโต๊ะก่อนจะรับกล่องสีชมพูสวยยกขึ้นมาดู
วินาทีแรกที่เห็นใบหน้าคมนิ่งก็แดงกล่ำพร้อมกับตาคมเบิกกว้างอย่างตกใจ
ของเล่นผู้ใหญ่สีหวานที่อยู่ในกล่องทำเอาหัวใจดวงเล็กแทบวาย
“อะ เอ่อ อันนี้ไม่ใช่ของเล่นนะครับลาเต้ คือ อันนี้เล่นไม่ได้น่ะครับ”ธนพัฒน์ตอบด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นพลางมือสั่น
“แลวเอาไปทามอาไร”ลาเต้ถามต่อ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองอย่างสนใจกับแท่งสีชมพูอันยาวที่เจ้าตัวคิดว่ามันน่าจะเป็นดาบของเล่น
“เอ่อ คือ”ธนพัฒน์อ้ำอึ้ง
“คุยอะไรกันสองคนครับ”รามิเรสโผล่หน้าเข้ามาในครัวพอดี
ธนพัฒน์หันไปมองด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทำให้รามิเรสนึกสงสัย แต่ข้อสงสัยก็กระจ่าเมื่อสิ่งที่ธนพัฒธ์ถืออยู่ในมือคือสิ่งเดียวกับที่มาตินฝากซื้อ
แล้วตนก็ซื้อมาเผื่อตัวเองอีกชุดเผื่อจะได้ลองใช้บ้าง แต่ไม่นึกว่าธนพัฒน์และลาเต้จะเจอมันเข้าให้
============================================================มาตามคำเรียกร้องของหลานคนบวกกับเคยสัญญาไว้
ไม่รู้่าป้าลุงลุงจะเข้าใจที่ลาเต้าพูดกันรึเปล่า ยังไงก็ฝาหน้องลาเต้ไว้อีกคนเนอะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาโดยตลอด ยังไงก็ฝากเรื่องอื่นๆไว้้้ด้วยนะคร้าาาา
❤ Wonder Love หนี้รัก...นายยักษ์ตัวร้าย❤ฝากเพจด้วยจ้า