(ต่อ)
เช้าวันต่อมาจึงมีทหารจากวังนายเดิมมาส่งเสียงประกาศดังก้องเมืองว่า
“กระจองงอง กระจองงอง เจ้าข้าเอ๊ยยย! วันนี้มีราชโองการให้มาตามหาเจ้าของคอนเวิร์สสีขาวข้างหนึ่ง
แต่เดี๋ยวก่อน! หากคุณเข้ามาลองภายในสิบนาทีนี้ แล้วสวมคอนเวิร์สข้างนี้ได้พอดิบพอดี
รับไปเลย! ตำแหน่งพระชายาของเจ้าชายจ้า! อย่ารอช้า...มาเล้ย!” “นี่ทีวีไดเรคปะวะเนี่ย”
เอื้ออังกูรพึมพำ พอดีกับที่ไดนาไมต์ร้องว่า “ว้าย! แค่สวมรองเท้าข้างนั้นได้ก็จะได้เป็นพระชายาของเจ้าชายทันทีเลยเหรอ ต้องลองสักหน่อยแล้ว!”
ตามด้วยแม่เลี้ยงใจร้ายที่ขยับตัว เอื้ออังกูรเลิกคิ้ว “หืม? งานนี้คุณแม่เอาด้วยเหรอคะ?”
“ใครว่าล่ะ” ใบหน้าหล่อเหลาฉาบเครื่องสำอางเผยยิ้มกริ่ม “ฉันจะลงไปเล่นกับ ‘แมวหนุ่ม’ ต่างหาก”
สาวๆ ทั้งเมืองต่างพากันกรูเข้ามาลองใส่เพราะอยากจะได้เป็นพระชายาของพระโอรส ทว่าทุกคนก็ได้แต่ล่าถอยกลับไปเนื่องด้วยไม่มีใครสามารถสวมรองเท้าข้างนี้ได้พอดีนั่นเอง
เอื้ออังกูรกับไดนาไมต์เองก็ลงไปลองเช่นกัน แล้วเจ้าของเส้นผมสีชมพูก็ต้องผิดหวังเมื่อเท้าของเธอจมหายไปในคอนเวิร์สสีขาวด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าเท้าตนเกือบเท่าตัว
“โอ๊ย ตีนคนหรือตีนควายคะเนี่ย ขอเอาหัวใส่แทนได้มั้ยคะน่าจะพอดีค่ะ” ไดนาไมต์จีบปากจีบคอบ่น เอื้ออังกูรจุ๊ปากพลางแตะไหล่น้องสาว “อ่อนแอก็แพ้ไปค่ะน้องพี่”
“เชอะ” ไดนาไมต์จำต้องยอมถอดแต่โดยดี ตามด้วยเอื้ออังกูรที่สอดเท้าเข้าไป
“อุ๊ย...ติดนิ้วก้อยอะ” เจ้าของผมสีน้ำตาลชักสีหน้า น้องสาวคนรองยกมือป้องปากล้อๆ “ว้าย แพ้ค่ะชะนี”
“ไม่แพ้สักหน่อย แค่นิ้วก้อยตัดทิ้งหน่อยจะเป็นอะไรไป ยังไงก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกจากเอาไว้กระแทกขาโต๊ะอยู่แล้วนี่” เอื้ออังกูรเท้าเอววีน ไดนาไมต์ขมวดคิ้ว สวนว่า
“แต่คุณพี่จะตัดนิ้วก้อยตัวเองทิ้งง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้!”
ในขณะที่สองสาวพี่น้องกำลังทะเลาะกันอยู่นั่นเอง นายทหารหนุ่มก็ยื่นรองเท้าเจ้าปัญหามาทางหญิงวัยกลางคน
“มาดามอยากลองใส่ดูบ้างไหมครับ?”
ดวงตาคมกริบทอประกายวูบยามอีกฝ่ายมองหน้า อัคคีเผยยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาเลื่อนเข้าไปแตะสะโพกของคนตัวเล็กเบาๆ จนฝ่ายหลังสะดุ้งเฮือก
“นี่คุณ!”
“ถ้าเธออยากให้ใส่ฉันก็จะใส่” เสียงทุ้มฉายแววเจ้าเล่ห์ “แต่แน่นอนว่าไม่ได้หมายถึงรองเท้าหรอกนะ”
“พูดบ้าอะไรเนี่ย!” ใบหน้าขาวสะอาดขึ้นสีเรื่อชวนมอง นายทหารหนุ่มผงะถอยด้วยความหวาดระแวงราวกับแมวหนุ่มยามเจอภัยอันตรายอย่างน่าเอ็นดู
“น่ารักจริงๆ” อัคคีหัวเราะในลำคอ ก่อนจะได้ยินเสียงลูกสาวคนโตร้อง
“ต๊าย! แล้วนี่หล่อนจะออกมาทำไมยะนังเท็นเดอเรลล่า!”
เบื้องหน้าปรากฏร่างเด็กสาวใบหน้างดงามสวมชุดกระโปรงมอมแมมไปด้วยขี้เถ้าพร้อมไม้กวาดเสี้ยนตาล ตามด้วยไดนาไมต์ที่แทบคำรามใส่ “กลับเข้าไปเดี๋ยวนี้เลยนะยะ!”
“ขะ...เข้าใจแล้ว” เท็นเดอเรลล่าละล่ำละลักพูดอย่างตกใจ เธอแค่จะออกมากวาดสนามหน้าบ้านเท่านั้น แต่เหมือนจะออกมาผิดจังหวะไปหน่อย
“ช้าก่อนสาวน้อย”
ทว่านายทหารหนุ่มกลับเรียกเธอเอาไว้ เท็นเดอเรลล่าหันมามองตื่นๆ ขานรับ “อ...อะไรเหรอ?”
“เจ้าลองสวมรองเท้าข้างนี้ให้ข้าดูหน่อยได้รึเปล่า” เจ้าของดวงตาแมวเอื้อนเอ่ย พอดีกับเอื้ออังกูรที่พูดว่า “ให้ลองสวมไปก็เท่านั้น คนที่ทำความสะอาดอยู่ที่บ้านตลอดทั้งคืนอย่างมันจะไปใส่ได้...”
“โอ้ พอดีเป๊ะเลย”
“ยังไง้!!!”
แม่เลี้ยงใจร้ายกับลูกสาวทั้งสองเบิกตากว้างอย่างนึกอึ้ง นายทหารหนุ่มเผยยิ้มน่ามอง “เจ้านี่เองที่เป็นหญิงสาวปริศนาเมื่อคืน ขึ้นรถม้าเถอะ เจ้าชายรอเจ้าอยู่ที่พระราชวังนะ”
“เจ้าชาย...รอเราอยู่เหรอ” เท็นเดอเรลล่าดีใจเหลือเกิน เธอยิ้มกว้างออกมาเหมือนเด็กๆ
“อื้อ พาเราไปหาเจ้าชายทีนะ!”
ก่อนรถม้าของนายทหารจะพาเท็นเดอเรลล่าเคลื่อนตัวจากคฤหาสน์ไปสู่พระราชวัง
ณ ท้องพระโรงของพระราชวังบรรเลงเพลงแว่วหวานดังไปทั่วสารทิศ กลีบดอกไม้สดปลิวว่อนส่งกลิ่นหอมกำจาย ใจกลางวงล้อมของประชาชนชาวเมืองที่เข้ามาเพื่อแสดงความยินดีนั้น ปรากฏสองร่างกำลังเต้นรำคู่กันอยู่อย่างงดงาม
เท็นเดอเรลล่าอยู่ในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ที่นางกำนัลจัดเตรียมไว้ให้ สองเท้าสวมคอนเวิร์สสีขาวเข้าคู่กัน เธอประสานมือเต้นรำกับเจ้าชายด้วยท่วงท่าอันน่ามอง เปมทัตยิ้มให้เด็กสาวอย่างอบอุ่น
“เราคิดถึงเจ้าชายมากๆ เลย” เท็นเดอเรลล่าเปิดปาก ส่งให้ข้างแก้มของเจ้าชายขึ้นสีเรื่อ
“อะ อื้อ ข้าเองก็คิดถึงเจ้าเหมือนกัน” ริมฝีปากนั้นตอบไม่เต็มเสียงนัก ก่อนเปมทัตจะถูกเด็กสาวชุดขาวยื่นหน้าเข้ามาขโมยหอมแก้มตัวเองดังฟอด
เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นรอบสารทิศ เปรมร้องอย่างตกใจ “นี่! คนเยอะแยะนะ!”
“เราขอโทษ...” เท็นเดอเรลล่าตอบเสียงเศร้าทำเอาคนมองใจอ่อนยวบ เปรมพูดอึกอักด้วยใบหน้าสับสนระคนยุ่งเหยิง “เอ่อ มะ...ไม่เป็นไร”
ท่าทางนั้นน่ารักเสียจนเด็กสาวอดคว้าตัวเจ้าชายมากอดไว้ไม่ได้ เปมทัตสะดุ้ง “เดี๋ยว! นี่เจ้าจะทำอะไรเนี่ย!”
“เราทนไม่ไหวแล้ว”
พลันท่อนแขนหนาก็ช้อนข้อพับคนตัวเล็กอุ้มขึ้นมาแนบอก ฝ่ายหลังร้องลั่น ดิ้นหน้าดำหน้าแดง
“อย่านอกบทเซ่!”
“ก็กุ๊กน่ารักนี่” เท็นเดอเรลล่าก้มลงหอมแก้มคนตัวเล็กดังฟอด เลยไปจูบใบหูขาวที่แดงเถือกนั่นอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะหันไปประกาศกับประชาชนที่รายล้อมอยู่ว่า
“เราขอรับเจ้าชายไปล่ะนะ”
หลังจากนั้นเท็นเดอเรลล่ากับเจ้าชายก็ได้ครองรักกันอย่างสงบสุขจนชั่วนิรันดร์
ทิ้งท้ายณ ท้องพระโรงของพระราชวังบรรเลงเพลงแว่วหวานดังไปทั่วสารทิศ กลีบดอกไม้สดปลิวว่อนส่งกลิ่นหอมกำจาย ใจกลางวงล้อมของประชาชนชาวเมืองที่เข้ามาเพื่อแสดงความยินดีนั้น ปรากฏสองร่างกำลังเต้นรำคู่กันอยู่อย่างงดงาม
นายทหารหนุ่มมองภาพนั้นก่อนจะเผยยิ้มน่ามอง ดีใจกับเจ้าชายซึ่งเป็นสหายวัยเยาว์ของเขาที่ได้พบกับความรักอันแท้จริง หมอนั่นกระวนกระวายให้เขาช่วยตามหาน่าดูหลังสาวเจ้าปารองเท้ากลับมาให้
เป็นซินเดอเรลล่าที่แข็งแกร่งจริงๆ เลยนะขณะกำลังยืนซาบซึ้งอยู่นั่นเองนายทหารหนุ่มก็ถูกรวบตัวจากด้านหลัง ม่านตาแมวหดลีบอย่างตกใจ เขาหันไปแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ “ใครน่ะ! ปล่อยข้านะ!”
“ตัวหอมจัง” เสียงทุ้มกวนประสาทนั่นคุ้นหูมากทีเดียว โชกัดฟันกรอด ร้องลั่นยามจมูกโด่งสันของอีกฝ่ายยื่นเข้ามากดแก้มเขาแรงๆ ดังฟอด “ทำบ้าอะไรเนี่ย! ไอ้โรคจิต!”
“แค่มองก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง” อัคคีหัวเราะในลำคอ ก่อนจะอุ้มนายทหารหนุ่มขึ้นพาดบ่าอย่างง่ายดาย “แต่ถ้ายังไม่เข้าใจ งั้นเราไปหาที่เงียบๆ ‘อธิบาย’ กันดีกว่านะ”
“ว่าไงนะ! ข้าไม่ไปกับเจ้าหรอก ปล่อย!”
“ดื้อจริงๆ” แม่เลี้ยงใจร้ายตีก้นแมวหนุ่มที่ดิ้นรนอย่างพยศอยู่บนไหล่อย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะเดินผ่านฝูงชนไปในสภาพนั้นหน้าตาเฉยแบบโนสนโนแคร์
เอื้ออังกูรมองแม่ตัวเองแล้วสั่นหัวคล้ายระอา ให้ตายสิ คุณแม่นี่ถ้าเป็นเรื่องผู้ชายแล้วไวไม่มีที่ติจริงๆ
“...”
เท็นเดอเรลล่าก็ได้เจ้าชายไปแล้ว แถมคุณแม่ก็ไปกับผู้ชายคนอื่นอีก พี่สาวคนโตอย่างเธอก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องอยู่ในท้องพระโรงนี้แล้ว เอื้ออังกูรเดินลงบันไดมา เป้าหมายคือสวนหย่อมของพระราชวัง
วันนี้แดดไม่แรงมากนักและมีลมพัดเอื่อย เอื้ออังกูรหย่อนตัวบนม้านั่งยาว ตอนนั้นเองที่พุ่มไม้ใกล้ๆ เกิดเสียง
ฟุ่บ!
เจ้าของดวงตาปิศาจสะดุ้ง ก่อนจะปรากฏร่างชายหนุ่มแปลกหน้าในชุดขาวถือคทาดาววิบวับแก่สายตา ทว่าอีกฝ่ายกลับโผล่มาแค่ครึ่งตัวบนจากพุ่มไม้เสียนี่
“ช่วยด้วย...” ใบหน้าน่ารักฉายแววอึดอัดขณะพยายามดันตัวเองให้หลุดพ้น เอื้ออังกูรถอนหายใจ สุดท้ายก็ยอมลุกขึ้นไปช่วยดึงอีกฝ่ายออกมาแต่โดยดี
ทว่าเผลอออกแรงมากไปหน่อยจึงเซถลาล้มหงายท้องโดยคว้าร่างอีกฝ่ายติดมาด้วย
โครม!
“โอ๊ย” เอื้ออังกูรร้องเบาๆ คนตัวเล็กเบิกตากว้างพลางผุดลุกนั่ง ละล่ำละลักพูดอย่างรู้สึกผิด “ขะ...ขอโทษนะ! เจ้าเป็นอะไรมากรึเปล่า”
ลูกสาวคนโตตอบด้วยการถามกลับว่า “เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าเป็นเทวดาชื่อเมธา”
“เทวดาเหรอ?” ดวงตาปิศาจจับจ้องอีกฝ่ายที่นั่งคร่อมพลางสำรวจอาการเขาอย่างร้อนรน ในหัวประมวลผลเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนเกี่ยวกับเท็นเดอเรลล่าด้วยสมองอันชาญฉลาด
แบบนี้นี่เองเมื่อเข้าใจทุกอย่างแล้วใบหน้าหล่อร้ายจึงผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา มือหนาคว้าต้นแขนเล็กเอาไว้
“พอดีเลย ถ้าเป็นเทวดาล่ะก็...”
เขายื่นหน้าเข้าไปกระซิบประโยคหนึ่งข้างหูเมธา ส่งให้แก้มของเทวดาหนุ่มแดงเถือกไปถึงใบหู
“ช่วยทำให้ข้าได้ขึ้นสวรรค์ทีสิ” อีกสักเล็กสักน้อยณ ท้องพระโรงของพระราชวังบรรเลงเพลงแว่วหวานดังไปทั่วสารทิศ กลีบดอกไม้สดปลิวว่อนส่งกลิ่นหอมกำจาย ใจกลางวงล้อมของประชาชนชาวเมืองที่เข้ามาเพื่อแสดงความยินดีนั้น ปรากฏสองร่างกำลังเต้นรำคู่กันอยู่อย่างงดงาม
ในฝูงชนที่เข้ามารายล้อมนั้น เจ้าของเส้นผมสีชมพูในชุดเดรสหวานสีฟ้าอ่อนกำลังหยิบอาหารและเครื่องดื่มที่จัดวางในงานเข้าปากอย่างขะมักเขม้น
เท็นเดอเรลล่าได้เจ้าชายไปแล้ว แถมคุณแม่ก็ยังไปกับผู้ชายคนอื่นอีก พี่เอื้อก็หายไปไหนไม่รู้ ไดนาไมต์คิดอะไรไม่ออกนอกจากได้กลิ่นอาหารอันหอมหวนเลยแวะมาลองชิมดูนี่แหละ
แต่เหมือนจะชิมเพลินไปหน่อยแฮะ
“...”
ดวงตางูกวาดมองไปรอบๆ บรรยากาศเฉลิมฉลอง ที่ดึงความสนใจเธอได้คงไม่พ้นร่างสูงสวมมงกุฎทองคำที่ยืนมองสองร่างซึ่งกำลังเต้นรำอยู่บนฟลอร์ด้วยแววตาอบอุ่น
‘พระราชาสามสี’ไดนาไมต์คว้าค็อกเทลไว้แก้วหนึ่งจากถาดของบริกรหน้าใสที่เดินผ่านไป เธอกระดืบตัวเข้าไปใกล้อีกฝ่าย จนสุดท้ายได้ยืนข้างกันในที่สุด
“เหงาไหมเพคะ?”
เด็กสาวเปิดปากถามชายหนุ่ม ใบหน้าอบอุ่นจุดยิ้มขบขัน มือหนาขยับไปรับแก้วแชมเปญจากบริกรที่ยื่นมาให้เขาอย่างนอบน้อม จิบมันทีหนึ่งแล้วจึงตอบว่า
“ก็นิดนึง”
“อิจฉาคนมีคู่จังเลยนะเพคะ” ไดนาไมต์พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง ไม่วายสัพยอกคนข้างกายยิ้มๆ “ท่านเองก็น่าจะหาคู่ของตัวเองไม่ให้น้อยหน้าเจ้าชายได้แล้วนะเพคะ”
สามสีถามกลับโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย
“เป็นเจ้าได้ไหมล่ะ?” “...”
ไดนาไมต์ชะงัก ทิ้งบรรยากาศให้เงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
“มึงก็นอกบทเหมือนไอ้เท็นเหรอ”
สามสีกระดกแชมเปญทีเดียวหมดแก้ว พูดหน้าตาเฉย “คนเขียนเขาให้พูดหรอก”
“ไม่เห็นมีประโยคนี้ในบทเลย” ดวงตางูทอประกายมีชีวิตชีวาขณะเถียง ถามอีกว่า “แล้วกูต้องตอบว่าอะไรล่ะ”
“แล้วแต่มึงสิ”
ไดนาไมต์ยืนคิด ตอนนั้นเองที่เท็นประกาศกลางท้องพระโรงว่า
“เราขอรับเจ้าชายไปล่ะนะ”
ก่อนจะอุ้มเปรมวิ่งหายไป เจ้าของเส้นผมสีชมพูเบิกตากว้างกลั้วหัวเราะ “เฮ้ย แบบนี้ก็ได้เหรอ” พลันในท้องพระโรงก็เกิดเสียงฮือฮาเนื่องด้วยเจ้าชายกับเท็นเดอเรลล่าไม่อยู่แล้ว
“ท่านพระราชาขอรับ”
ขุนนางสูงอายุผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาอย่างนอบน้อม สามสีตอบรับ “ว่าอย่างไร”
“ตอนนี้ท้องพระโรงว่างเปล่า แถมเจ้าชายกับพระชายาก็ทรงเสด็จหนีไปที่อื่นเสียแล้ว เพื่อให้งานเฉลิมฉลองยังดำเนินต่อไปได้ ข้าน้อยขอวอนท่านช่วยให้เกียรติเต้นรำคู่กับสาวงามให้เหล่าประชาดูเป็นขวัญตาได้ไหมพะยะค่ะ”
“เรื่องนั้น...”
สามสีทำหน้าลำบากใจ ให้หาคู่เต้นรำตอนนี้อย่างนั้นหรือ ใครกันล่ะ?
“รับปากเขาไปสิเพคะฝ่าบาท”
ไดนาไมต์ส่งเสียง พระราชากระพริบตาปริบๆ “แต่ว่าสาวงาม...”
“เสียมารยาทเพคะ” เจ้าของเส้นผมสีชมพูแสร้งทำท่าแง่งอน ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าสดใส
“ถ้าสาวงามล่ะก็ มีอยู่ตรงหน้าท่านคนหนึ่งแล้วนี่ไง”
สามสียิ้มออกมาในที่สุด มือหนายื่นไปหาอีกฝ่าย พูดเสียงทุ้ม
“ต้องรบกวนเจ้าแล้ว”
พร้อมกับมือเล็กที่ยื่นมาวางบนมือของเขา สองมือประสาน เสียงนั้นตอบว่า
“ด้วยความยินดีเพคะ”
****************************************************** *
สวัสดีค่าาาา า

กรี๊ดดดดดด ด คิดถึงคนอ่านจังเลยยย ย
ไม่ได้ลงนิยายในนี้นานจนเกือบลืมวิธีไปแล้วเลยค่ะ แหะ ๆ
ตอนพิเศษนี้แต่งมาเนื่องด้วยยอดไลค์เพจครบ 777 แอคแล้วนั่นเองค่าา า
ซึ่งเพิ่งจะได้ลง เขินจัง 555555555 5
ตอนแรกชั่งใจบทซินเดอเรลล่านานมากระหว่างเท็นกับเอื้อค่ะ
แต่เพราะเอื้อเดอเรลล่ามันไม่เข้าเท่าเท็นเดอเรลล่า นี่คือเหตุผล 555555 5
เราเลยจะได้เห็นเท็นเดอเรลล่าอุ้มเจ้าชายหนีไปต่อหน้าสาธารณชนนะคะ
เหตุการณ์หลังจากนั้นก็ไปต่อยอดกันเอาเองเนาะ จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ค่ะ
ในส่วนของแม่เลี้ยงกับนายทหาร โชเป็นนายทหารที่น่าเอ็นดูมาก ๆ เลยค่ะ
ตาแมวตัวเล็ก ๆ เดินหารองเท้า น้องร้อนมั้ย วงวารน้อง T T
แล้วยังต้องมาโดนอีแม่เลี้ยงทำมิดีมิร้ายอีก โอ้ย 5555555 5
ส่วนพี่สาวคนโตกับเทวดาเป็นพาร์ทที่จูนคิดได้ก่อนเพื่อนเลยค่ะ
เพราะเทวดายังไงก็ต้องเป็นเม และไอ้ประโยคขึ้นสวรรค์ยังไงก็ต้องมีคนพูดค่ะ
ซึ่งเอื้อก็เหมาะสมที่สุดแล้ว เป็นเคมีที่น่ากลัวจริง ๆ 5555 5
คู่สุดท้ายออกแนวใส ๆ หัวใจสองดวงนะคะ
หลายคนอยากรู้บทสรุปของคู่นี้มากเลย จูนก็เหมือนกันค่ะ
คงต้องให้พวกเขาเป็นคนตัดสินใจและเนาะ
วันนี้จูนมาแค่นี้ค่ะ
แจ้งข่าวนิดนึงด้วย เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับเลื่อนไปออกเล่มเดือนมกราคม 2560 นะคะ
ขออภัยในความล่าช้าและทำให้หลายท่านไม่สบายใจค่ะ รอหมอกับกุ๊กหน่อยน้าา า

แล้วเจอกันรีพลายหน้าค่าาา า