ตอนที่ 5เปรมถูกอุ้มพาดบ่ามาตามทางเดินด้านหลังด้วยเด็กม.ปลายตัวใหญ่ ขายาวหยุดลงหน้าห้องในสุด เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเด็กม.ปลายหญิงสองคนมองมา พวกเธอยิ้มกว้างแล้วประสานเสียงกัน
“กำลังรออยู่เลยค่ะ!”
“รอ? รออะไร?” เปรมขมวดคิ้ว มองไปรอบๆ ก็พบเครื่องประทินโฉมความงามเซ็ตใหญ่ เลยไปเห็นราวแขวนเสื้อผ้าแบบมีล้อเลื่อนตั้งอยู่ เขาไม่สนุกแล้วนะ ก่อนจะเบิกตาโพล่งเมื่อเจอไฟกับไดนาไมต์ยืนยิ้มเผล่อยู่ข้างๆ
“พวกมึง! นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ กูไม่เล่นนะเว้ย!”
“ไม่มีเวลาอธิบายด้วยสิ น้องเก้าน้องเจีย...จัดการ!” ไฟออกคำสั่ง ตามด้วยสองสาวที่กรูเข้ามา เปรมล้มลง พยายามตะโกนใส่อีกฝ่ายสุดเสียง “ไอ้ไฟ! นี่มันเรื่องอะไร เด็กพวกนี้เป็นใครอยู่ๆ ถึงได้...เฮ้ย! แล้วนี่พวกเธอจะทำอะไรเนี่ย!”
เปรมสะดุ้งเมื่อสองสาวพยายามจะถอดชุดเชฟออกจากตัวเขา แถมยังหาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้อีกต่างหาก พ่อครัวมองไปที่ประตู เห็นไดนาไมต์กำชับเด็กที่ชื่อจิณณ์ว่า
“มึงเฝ้าประตูไว้ อย่าให้หมอนี่ออกไปได้จนกว่าจะลอกคราบเสร็จนะ” เด็กชื่อจิณณ์นั่นพยักหน้า ไดนาไมต์หันมาฉีกยิ้มยียวน พูดว่า “งั้นพวกกูไปรับใช้ชาติละ อีกครึ่งชั่วโมงจะมารับ”
“รับใช้อะไร...เดี๋ยว! แล้วนี่พวกเธอจะทำอะไรฉัน! หยุดนะ!” เปรมโวยวายเมื่อคนแรกเอาผ้ามาคาดผมให้เขา ส่วนอีกคนยกเครื่องประทินโฉมขึ้นมา พูดด้วยท่าทีสนุก
“ซินเดอเรลล่า พวกเราคือนางฟ้าแม่ทูนหัว” เธอป้ายครีมประหลาดลงบนเปรม ก่อนจะใช้นิ้วเรียวเกลี่ยให้ทั่ว ทว่าเด็กหนุ่มออกแรงดิ้น เธอตะโกนเสียงแหลม “จิณณ์! จับเขาไว้!”
คนชื่อจิณณ์ทำตามอย่างว่าง่าย แถมยังมีประสิทธิภาพมากเสียด้วย เปรมดิ้นไม่หลุดเลยครั้งนี้ เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อน “ได้โปรด...ปล่อยฉันไป”
เด็กสาวยิ้มกริ่ม ตอบว่า “ปล่อยน่ะปล่อยแน่ค่ะ แต่เป็นหลังจากที่พวกเราแปลงโฉมให้คุณเสร็จแล้วน่ะนะ”
“เพื่ออะไร?” เปรมถามอย่างไม่เข้าใจ ตอนนั้นเองที่เด็กสาวอีกคนหันมา ในมือเธอที่หนีบผมขนาดเหมาะมือ พูดว่า
“ไปงานเต้นรำกับเจ้าชายยังไงล่ะ!”
ในห้องครัวที่เปรมจากไป เด็กหนุ่มหน้าโฮสต์แสยะยิ้ม เขาหันไปทางฝาแฝดคนพี่
“อาลัว เรากำลังเจอกับอะไร”
“ปัญหาใหญ่สามประการ อันได้แก่ นักร้องซวย ของชำร่วยหาย และมีของหวานที่ยังไม่ได้ทำอีกสองเมนู” เสียงนั้นรายงานอย่างแข็งขัน เด็กหนุ่มสะบัดหัวสีส้มหันไปทางแฝดคนน้อง
“บัวลอย ประเมินสถานการณ์ซิ”
“ย่ำแย่สุดๆ ไปเลย”
เสียงทุ้มนั้นเย็นเยียบ แว่วเสียงวอโวยวายเข้ามาไม่หยุดหย่อน คนหัวส้มขมวดคิ้ว “แล้วนี่อะไรหนวกหูจังเลย”
“พวกเขากำลังรอคำแก้ปัญหา บอมบ์” อาลัวให้คำตอบ บอมบ์หรี่ตา สูดลมหายใจ ก่อนจะตบมือเรียกสติ
“เอาล่ะฟังทางนี้ เรามีเวลาไม่มากนัก เร่งมือกันหน่อย บัวลอย...แกไปทำอาหาร อาลัว...ส่งวัตถุง้องแง้งสีเหลืองนั่นมาให้ฉัน”
อาลัวโยนวอสีเหลืองให้ ในขณะที่บัวลอยเคลื่อนตัวไปเทแป้งทำขนมท่ามกลางสายตากวาดกลัวของกลุ่มนิสิตหญิง บอมบ์ขานใส่วอสั้นๆ “โย่”
(เปรมมมมม ช่วยด้วยยย)
“นี่ไม่ใช่เปรมแต่ช่วยได้ ว่าไง”
(นักร้องผู้หญิงที่จะมาร้องสดตอนเปิดฟลอร์แอดมิดเข้าโรงพยาบาลไปแล้วอะทำไงดี)
“เธอก็ไปร้องเองเลยเป็นไง”
(จะบ้าเรอะ!)
“อืม...คิดก่อนนะ” ร่างสูงหันไปมองห้าสาวที่กำลังนั่งจ้องเขาตาปริบๆ บอมบ์สบตากับคนริมสุด ยกนิ้วชี้หน้าอีกฝ่าย “พี่สาวคนนั้นน่ะ!”
“ข่ะ...คะ!?” หล่อนสะดุ้ง เธอสวมแว่นหน้าตาจืดชืดแบบเด็กเนิร์ด บอมบ์หรี่ตา พูดว่า “ไหนลองออกเสียงโด่ซิ โด่...”
“โด่...”
“เร”
“เร...”
“มี”
“มี...”
“พอ ใช้ได้ พี่สาวร้องเพลง ‘งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง’ เป็นมั้ย?”
“ป่ะ...เป็นค่ะ”
“ดี”
บอมบ์แสยะยิ้มออกมา หันไปกรอกเสียงใส่วอสีเหลืองว่า “เอาล่ะ เราได้นักร้องแล้ว”
เปรมใจเต้นไม่เป็นระส่ำ มองสองสาวแบ่งงานกัน คนหนึ่งแต่งหน้าให้เขา ส่วนอีกคนไปทำผม จิณณ์ไม่ได้จับเขาไว้แล้ว หมอนั่นแค่นั่งเฝ้าประตูเฉยๆ เท่านั้น
เปรมกลอกตา ตัดสินใจถามว่า “นี่...ถามอะไรหน่อยสิ”
“ค่ะ” เด็กสาวที่แต่งหน้าเป็นคนตอบ เปรมเปล่งเสียง “พวกเธอเป็นใครกันแน่?”
“พวกเราก็นางฟ้าแม่ทูนของเธอไง ซินเดอเรลล่า” ช่างทำผมตอบมาอย่างอารมณ์ดี เปรมถอนหายใจ พวกเธอหลีกเลี่ยงการตอบคำถามมาสามครั้งแล้ว
“รู้แค่ว่าเรามาดีก็พอแล้วค่ะ” คนแต่งหน้ายิ้มสดใส คนทำผมจุ๊ปาก “ผู้ชายอะไรผมสวยมาก นิ้มนิ่ม” เธอดัดผมยาวประบ่าของเด็กหนุ่มเป็นลอน เสริมว่า “เหมือนผู้หญิงผมสั้นเลย น่ารักจัง”
เปรมตากระตุก ก่อนลิปสติกสีอ่อนจะทาบลงมาบนริมฝีปากของเขา พ่อครัวขมวดคิ้ว
“เอาล่ะเสร็จแล้ว เม้มปากนิดนึงน้า” สาวแต่งหน้าพูดเหมือนคุยกับเด็ก เปรมทำตามอย่างไม่คุ้นชินจนเธอหัวเราะ “น่ารักมาก สวมชุดได้เลยซินเดอเรลล่า”
กลับมาในห้องครัวที่เปรมจากไปอีกครั้ง บอมบ์กรอกเสียงใส่วอสีแดงด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย
“ครับคุณพี่ มีอะไรให้รับใช้”
(นั่นนายเป็นใคร! ไปตามเปรมมาเดี๋ยวนี้!)
“เยอะน่า ฉันก็ฟังอยู่นี่ไง อย่างอแงได้มั้ย มีอะไรว่ามา”
(ฉันเพลินเป็นคนพูด! ของชำร่วยไม่พอจำนวนคน! และฉันต้องให้เปรมช่วยจัดการ...เดี๋ยวนี้!)
“จัดการกันเองไม่เป็นรึไง ขาดไปกี่อัน” บอมบ์หาวหวอด
(เจ็ดอัน ไปตามเปรมมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้!)
“เจ็ดอันเหรอ เดี๋ยวนะ...” เด็กหนุ่มหันไปทางอาลัวที่กำลังนั่งเช็คข้อมูลยิกๆ ถามว่า “อาลัว งานวันนี้เราเลี้ยงส่งอาจารย์กี่คน”
“เจ็ดคน”
“บิงโก!” บอมบ์ดีดนิ้ว เขายกวอขึ้นแนบหู
(ฉันควรจะทำยังไง เอาของชำร่วยปีหนึ่งเจ็ดอันไปให้อาจารย์แทนดีไหม)
“รับงานมาแล้ว เราจะทำให้เสียชื่อภาคไม่ได้” บอมบ์คิดออกแล้ว เขาสั่งว่า “แจกของชำร่วยให้นิสิตทั้งหมด บอกว่าของอาจารย์จะตามไปทีหลัง”
“เอาล่ะ ทันเวลาพอดี”
ในห้องแต่งตัว สาวช่างทำผมช่วยรูดซิปด้านหลังให้ ในขณะที่สาวช่างแต่งหน้าเป็นคนจัดชายกระโปรง ตอนนั้นเองที่ไดนาไมต์ถือถุงใบใหญ่เปิดประตูเข้ามา
“แต่นแต๊นนน~ เป็นไงล่าาา?” สองสาวโพสท่านำเสนอเต็มที่ เด็กหนุ่มผมทองยืนมองตาค้าง
เปรมอยู่ในชุดราตรีสั้นหลังยาวผ้าชีฟองสีขาวแบบมีซิปด้านหลังพร้อมส้นสูงสีเข้าชุด เส้นผมสีดำยาวประบ่าถูกดัดเป็นลอนใหญ่เคลียลงข้างแก้ม โครงหน้าติดหวานแต่งเติมด้วยโทนสีอ่อนดูเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากบางขบเม้มอย่างเอียงอาย สลัดภาพพ่อครัวหน้ามันยืนผัดข้าวหัวฟูไปหมดสิ้น ไดนาไมต์ไม่เคยรู้เลยว่าผิวของเปรมจะขาวละเอียดขนาดนี้
“เชร้ด เหมือนแม่มึงมาก” หนุ่มผมทองสัพยอก เปรมค้อนขวับ “พ่อมึง ห่า คนยิ่งไม่ค่อยมั่นใจอยู่”
“ไอ้สัด สวยมาก” ไดนาไมต์จุ๊ปาก “ขอบคุณนะสาวๆ”
พวกเธอประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง “ด้วยความยินดีค่า”
ไดนาไมต์พาเปรมออกมาจากห้อง เขาผันตัวเป็นราวจับให้เพื่อนชั่วคราวเนื่องจากส้นสูงนั้นเป็นอุปสรรคกว่าที่คิด จุดหมายคือลานหญ้าซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน พ่อครัวในคราบหญิงสาวถามหาเพื่อนตัวสูง
“มึง ไอ้สามไปไหน?”
“เตรียมตัวทำเซอร์ไพรส์อยู่” หนุ่มผมทองตอบ เปรมขมวดคิ้ว มองหาเพื่อนผมแดงอีกคน
“แล้วไอ้ไฟอะ?”
“ประจำสถานที่”
“ประจำทำไม?”
“เดี๋ยวก็รู้”
“แล้วนั่นถุงอะไร” เปรมจ้อง ไดนาไมต์มองตามแล้วตอบว่า “อ๋อ ของชำร่วยส่วนของอาจารย์อะ นี่แว้นไปเอามาเพิ่มให้”
“มึง กูยังไม่ได้ทำของหวานเลย” เปรมพูดอย่างเป็นกังวล ไดนาไมต์เลิกคิ้ว “มีบัตเตอร์เค้กกับทาร์ทแบล็กฟอร์เรสตั้งอยู่บนโต๊ะบุพเฟ่ต์แล้ว อร่อยมากด้วย”
เปรมกระพริบตาอย่างแปลกใจ ฝีมือของเด็กพวกนั้นงั้นเหรอ “แล้วนักร้องหญิงที่เกิดอุบัติเหตุ...”
“วงดนตรีแสตนบายกันครบครัน ไม่ต้องห่วง” หนุ่มผมทองหันมาสบตา “ทีมงานคุณภาพอยู่แล้ว สบายใจได้”
ตอนนั้นเองที่ไฟเดินเข้ามา หมอยามองเปรมแล้วจุ๊ปากอย่างตกตะลึง “ไอ้เหี้ยเปรม สวยสัด กูจำแทบไม่ได้”
“มึงยังติดเรื่องที่ทำกับกูไว้อยู่นะไฟ” เปรมคาดโทษ “เด็กมึงอะ”
คนฟังหัวเราะ ก่อนไดนาไมต์จะส่งเปรมให้คนผมแดงแล้วพูดว่า “มึงรับช่วงต่อที กูไปละ”
“แล้วเจอกัน” ไฟรับคำ ยื่นแขนให้เปรมควงแล้วพาพ่อครัวฝ่าเข้าไปในฝูงชน
กลับมาที่ห้องครัว (อีกสักครั้ง)
“เอาล่ะเด็กๆ ภารกิจลุล่วง เรามาเตรียมตัวฉลองความสุดยอดให้ตัวเองกันดีกว่า” บอมบ์นั่งห้อยขาชูมืออยู่บนเคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะหันไปสบสายตากับนิสิตสาวสี่คนที่จ้องมาอย่างหวาดกลัว
เขาไล่ ‘นักร้องหญิงจำเป็น’ ให้ไปหาสองสาวช่างเนรมิตนั่นแล้ว จะเหลือก็แต่สี่คนนี้สินะ
“แล้วคุณพวกพี่ไม่ไปแต่งตัวเหรอครับ” บอมบ์ถาม เด็กสาวคนหนึ่งสั่นหัวพลางตอบว่า “พวกเราไม่มีชุด...”
“อย่างนี้นี่เอง” เด็กหนุ่มหัวส้มพยักหน้าหงึกหงัก ตะโกนลั่น
“นางฟ้าแม่ทูนหัว!”
“เรียกพวกเราเหรอ?” เก้าแต้มกับเจียระไนเดินเข้ามา เก้าแต้มเป็นคนแต่งหน้า เจียระไนเป็นคนทำผม ด้านหลังพวกเธอคือราวแขวนชุดแบบล้อเลื่อนกับเครื่องประทินโฉมเซ็ตใหญ่
“แม่สาวเนิร์ดเสียงใสนั่นล่ะ” บอมบ์ถาม
“ส่งไปเป็นดาวตั้งนานแล้ว” เจียระไนตอบ บอมบ์พยักหน้า “พอดีเลย ช่วยหน่อยสิ ยังเหลือซินเดอเรลล่าอีกสี่คน”
เก้าแต้มเปิดกล่องด้านหลัง เธอสะบัดแปรงปัดแก้มแบบไม่เปลี่ยนสีหน้า ถามว่า “เรามีเวลาเท่าไหร่”
“ประมาณ 30 นาที”
เจียระไนหยิบที่หนีบผมขึ้นมา พูดว่า “จับเวลารอได้เลย”
ในสนามหญ้า การแสดงของนิสิตชั้นปีที่หนึ่งคณะแพทย์จบแล้ว เต้เดินเข้ามาประจำตำแหน่งพิธีกรอย่างรู้งาน
“ขอเสียงปรบมือให้กับนิสิตชั้นปีที่หนึ่งคณะแพทยศาสตร์ด้วยครับ!”
เสียงปรบมือดังมาจากรอบทิศ เต้โค้งรับ พูดว่า “ต่อไปจะเป็นการเปิดฟลอร์เต้นรำแก่นิสิตและอาจารย์ ช่วงเวลาต่อจากนี้จะทำให้ทุกท่านได้ร่วมสานสัมพันธ์ผ่านดนตรีจังหวะแว่วหวาน” เด็กหนุ่มเว้นวรรค
“อย่างที่รู้กัน ในการเปิดฟลอร์ เราจำเป็นจะต้องใช้ ‘คนพิเศษ’ พวกคุณรู้ว่าผมหมายถึงใคร และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา...ขอเสียงปรบมือให้กับ ‘นายทศทิศ เกียรติยวานนท์’ หรือ ‘เท็น’ แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของคณะแพทยศาสตร์ด้วยคร้าบ!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”
เท็นเดินออกมาจากความมืดด้านหลัง ร่างสูงสวมเสื้อสูทสีขาวพร้อมกางเกงขายาวและรองเท้าเข้าชุด เส้นผมสีดำสนิทหวีเสยขึ้นอย่างมีมาด ใบหน้าหล่อเหลาติดเย็นชา ดวงตายาวรีขยับเหลือบอย่างแช่มช้า ท่วงท่าราวกับเจ้าชายสีขาวในภาพวาด สลัดภาพเด็กโข่งขี้อ้อนไปหมดสิ้น
เปรมผงะถอยอย่างนึกประหม่า ทว่าไฟที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับจับแขนเขาไว้แน่นไม่ให้หนีไปได้
“และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอย...ขอเชิญแอมบาสเดอร์เลือก ‘คนพิเศษ’ มาเป็นคู่เต้นรำในค่ำคืนนี้ครับ!” สิ้นคำสาวเล็กสาวใหญ่ทั้งหลายก็พร้อมใจกันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เท็นกวาดตาไปรอบๆ เห็นหญิงสาวในชุดราตรีเต็มไปหมด
กุ๊กอยู่ไหน...
ตอนนั้นเองที่ไฟเป่าปากให้สัญญาณ ก่อนจิณณ์ที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้จะปล่อยโดเบอร์แมนตัวใหญ่ออกมา ไม่วายกำชับว่า “สุดเสียงเลยลูกพ่อ”
“บรู๋ววววววววววววววววววววว”
โดเบอร์แมนหอนลากเสียง ทุกคนสะดุ้งไปมองอย่างตกใจ ไฟรีบยกของในมือขึ้นเหนือหัว เป็นจังหวะที่เท็นหันมามอง พอทุกคนหันกลับมา ไฟก็รีบเอามือลง
เปรมยืนอึ้งเมื่อเท็นเดินเข้ามาหา มีหญิงสาวจำนวนไม่น้อยที่ต้องจำใจแหวกทางให้เมื่อรู้ว่าเป้าหมายของแอมบาสเดอร์ไม่ใช่เธอ เท็นในตอนนี้ช่างดูสูงค่า จนคนธรรมดาอย่างเปรมนึกว่าตัวเองฝันไป
ร่างสูงหยุดลงตรงหน้า เปมทัตนิ่งไปเมื่อคนตัวใหญ่คลี่ยิ้มออกมา รอยยิ้มแรกบนใบหน้าเย็นชานั้นช่างอบอุ่นเหลือเกิน เปรมรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ เท็นคว้ามือของเขาไปกุมไว้อย่างอ่อนโยน
ทศทิศย่อตัวลงตรงหน้า ‘คนพิเศษ’ ในชุดราตรีสีขาวของเขา จูบหลังมือนั่นเบาๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า
“เต้นรำกับผมนะ”
“ม่ายยยยยยยยยยย” สาวเล็กสาวใหญ่ร้องกันให้เซ็งแซ่ สามัคคีถามเป็นเสียงเดียวกันว่า “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร! ทำไมฉันไม่เคยเห็น!” แต่ใครสนล่ะ
เปรมก้มหน้างุด แก้มพ่อครัวขึ้นเรื่อน่ามอง
“คำตอบล่ะ?”
“...อื้ม”
คำตอบของ ‘คนพิเศษ’ ถือเป็นประกาศิต เสียงปรบมือดังขึ้นจากรอบทิศ เท็นยืนขึ้น เขาจูงมือคนตัวเล็กเข้าไปในฟลอร์ ก่อนท่วงทำนองแห่งรักจะเริ่มขับขาน
เท็นส่งมือให้ เปรมมองอย่างชั่งใจ ก่อนจะวางมือลงไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทศทิศกระชับมือเล็ก เขาโอบอีกฝ่ายเข้าหาตัว พ่อครัวยืนตัวเกร็ง รู้สึกได้ถึงทุกสายตาที่จับจ้อง แว่วเสียงผู้ชายร้องท่อนนำของบทเพลง ก่อนทั้งคู่จะขยับตัวไปตามจังหวะท่ามกลางความไม่คุ้นชินของคนตัวเล็ก
ตามด้วยท่อนรับของบทเพลงที่ถูกขับร้องโดยเด็กสาวแปลกหน้า เสียงใสนั้นก้องกังวานจนชายใดได้ยินเป็นต้องลุ่มหลง เธอก็คือนิสิตสาวสวมแว่นมาดเด็กเนิร์ดในก้นครัวคนนั้น ทว่าบัดนี้กลับถูกปรับโฉมเสียใหม่ ด้วยฝีมือของสองนางฟ้าแม่ทูนหัวแสนใจดีนั่นเอง
บทเพลงแว่วหวานขับขานไป เจียนถึงท่อนสำคัญ เปรมสั่นเป็นเจ้าเข้า
“เท็น...ฉันเต้นไม่เป็น...”
“ปล่อยตัวตามสบาย” เสียงนั้นกระซิบข้างหูอย่างอ่อนหวาน เท็นก้าวขาเป็นจังหวะนำทางไป เปรมขยับตามเงอะๆ งะๆ สุดท้ายก็ปล่อยตัวไปตามจังหวะ
‘ในคืนแสงจันทร์ส่อง ระยิบตา
ดวงดารา ดั่งดวงตานางฟ้าจ้องมอง
เป็นพยานในยามราตรีบรรเลงขับขาน
เพลงรักเพื่อเรา ฉันขอมือเธอเต้นรำกับฉันคืนนี้’
คนสองคนในชุดสีขาวที่กำลังเต้นรำคู่กันท่ามกลางแสงจันทร์โดยมีท้องฟ้าสีดำสนิทเป็นฉากหลังช่างงดงามราวกับภาพวาด จะเทวดาหรือซาตานตนใดก็ไม่อาจขวางกั้นพวกเขาได้ในเวลานี้ ห้วงเวลาที่สองสายตาสบกันอย่างสื่อความหมาย ร่างกายขยับตามคำสั่งของหัวใจ ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนเพื่อมานั่งชมการเต้นรำของพวกเขา
เมื่อเลยกลางเพลงก็เริ่มมีคู่อื่นก้าวเข้ามาในฟลอร์ เหล่านิสิตชายเข้าไปโค้งขออาจารย์ผู้หญิงเต้นรำ เป็นความอบอุ่นส่งท้ายก่อนที่พวกเขาจะไม่ได้พบหน้ากันทุกวันแบบนี้อีกแล้ว
เปรมถูกชักจูงไปตามจังหวะของอีกฝ่าย รอยยิ้มอบอุ่นอยู่บนหน้าของเท็นตลอดเวลาจนแก้มพ่อครัวร้อนผ่าว ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากคนทั้งคู่ ปรากฏเพียงความรู้สึกที่สื่อถึงกันผ่านแววตา เปมทัตพยายามจดจำช่วงเวลานี้ไว้ จนบทเพลงหยุดลง เท็นโอบเอวเล็กนั่นเข้าหาตัว ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างหลงใหล
หน้าผากของคนทั้งคู่แตะกัน ตอนนั้นเองที่พลุถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้า ทุกคนหันไปมองอย่างตระการตาแกมตกใจ
ปัง!
ดอกไม้ไฟดวงใหญ่มากมายลอยเด่นอยู่บนผืนฟ้าสีเข้ม เหล่านิสิตและอาจารย์ยืนมองภาพนั้นร่วมกันราวกับจะเก็บความประทับใจ บนใบหน้าของทุกคนแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม
“พลุสวยจัง” เปรมมองแล้วพูดออกมา เท็นก้มลงหอมแก้มขาวนั่นอย่างทะนุถนอม กระซิบเสียงทุ้ม “กุ๊กสวยกว่าเยอะ”
แก้มของเปรมเห่อร้อน พ่อครัวก้มหน้า ยืนจับมือกับคนตัวใหญ่ท่ามกลางพลุที่ถูกจุดขึ้น เสียงดอกไม้ไฟยังดังไม่เท่าเสียงหัวใจที่เต้นรัวของเขาในตอนนี้
เห็นทีต้องยกความดีความชอบให้เด็กพวกนั้นเสียแล้ว
เปรมเงยหน้ามองท้องฟ้า กระชับมือคนข้างกาย พูดออกมา “ขอบคุณนะ”
ในสนามหญ้า...ไฟยืนมองภาพนั้นยิ้มๆ ในมือเขาคือกระดาษแข็งสีขาว เขียนข้อความว่า “PREM IS HERE”
หลังพุ่มไม้...จิณณ์นั่งกอดโดเบอร์แมนแสนรู้มองพลุอยู่เงียบๆ
ในห้องครัว...บอมบ์ตีมือกับอาลัวและบัวลอยอย่างครื้นเครง
ที่ระเบียง...เก้าแต้มกับเจียระไนยืนควงแขนกันมองพลุยิ้มๆ
และห่างออกไปจากที่จัดงาน...ต้นตอของดอกไม้ไฟ สามสีกับไดนาไมต์ยืนมองพลุแล้วยกกำปั้นชนกันยิ้มๆ
“บอกแล้ว...พวกเราน่ะสุดยอด”
****************************************************** *
สวัสดีค่าาา า

มาต่อให้ก่อนจะไม่ได้เล่นโน้ตบุ๊คไปอีก 3 วัน 5555555555 5
ภารกิจสำเร็จแล้วเด็ก ๆ .. ป๊ะมือ

ขอบคุณที่ติดตามนิยายบ๊อง ๆ บวม ๆ เรื่องนี้นะคะ
เจอกันตอนที่หกค่าาาา า