Ch 43 ขนมหวานอิมพอร์ต 2 || อุ้มรัก
เช้ามาผมก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ลงมาทานข้าวกับพ่อแม่ครับ
เสร็จแล้วก็นั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน มือก็จับมือถือไว้ตลอด
อื้มมม ,, ไอ้ขนมหวานมันจะโทรมาไหมวะ?
(น้องเค้าชื่อจานสีนะแก - - )
“อ้าวว ไม่ออกไปไหนอีกหรอ ทำตัวแปลกนะเรา เมื่อคืนก็กลับมานอนบ้าน”
แม่ผมเดินมานั่งโซฟาข้างๆ แล้วก็ถามผมครับ
คือแม่ครับ ,, ลูกกลับมานอนบ้านมันแปลกหรอครับ - -‘
“แม่คร๊าบบบบ พูดแบบนี้ลูกชายแม่เสียหายหมดนะครับ”
ผมขยับตัวเข้าไปเอาหัวซบๆไหล่แม่ ขออ้อนหน่อยนะจ๊ะแม่จ๋า
“ฉันพูดนะถูกแล้ว ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เกิดทำไมจะไม่รู้นิสัยแก”
แม่พูดเสร็จก็ผลักหัวผมออกเลยครับ 5555 แม่ผมสายดาร์กนะครับบบบ
“เบื่อๆแล้วมั้ง อีกอย่างจะเข้าเรียนตำรวจแล้วอยากเป็นคนดีทำตัวดีๆบ้างไม่ได้หรอครับคุณนาย”
พอผมพูดจบ แม่ก็หันมามองหน้าผมด้วยสายตาที่แบบว่า .. เอ่ออคือ นี้ผมลูกชายคนเดียวเลยนะ
มองด้วยสายที่ไม่ได้เชื่อลูกเลยครับ 55555
“แกบอกฉันมาดีกว่าไปติดใจใครที่ไหนมาอีก ตอนแกหลงตาปั้นสิบปั้นขลิบไรนั้น แกก็เป็นแบบนี้”
555+ ทำไมแม่รู้ทันผมละ
แต่เอ่ออ ,, พูดถึงปั้นสิบแล้วนึกขึ้นได้ ว่าไม่ได้โทรไปหาเลย
เดี๋ยวโทรไปหาซะหน่อยดีกว่า ^^
“ก็มีนะแม่ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรมาก ผมยังชอบน้องปั้นเหมือนเดิม”
พอตอบแม่เสร็จผมก็หยิบมือถือมาส่งไลน์ไปหาปั้นสิบ
แต่ลืมไปว่าปั้นสิบบอกว่าบล็อกไลน์ผมไปแล้ว
เออ ,, โทรไปก็ได้มั้งง เอาไงดีวะ?
“อุ้ม แม่ขอเถอะลูก อย่าไปยุ่งอะไรกับน้องปั้นเค้าเลย
ถ้าเค้าจะชอบพอกันกับตาไม้ฉาก ก็ปล่อยเค้าไปเถอะลูก อุ้มของแม่หล่อ
รวยขนาดนี้มีหนุ่มๆสาวๆอีกเยอะรอจะเข้ามาหาลูก”
แม่เอื้อมมือมาลูบหัวผมด้วยครับ
เห้อออ ,, ทำไมต้องเรื่องไม้ฉากอีกแล้ววะเนี้ยยย
ได้ยินแม่พูดแบบนี้ผมยิ่งเกลียดมันครับ
“แม่ครับ คนที่เข้ามาหาอุ้มแต่ละคน อุ้มไม่ได้รักไม่ได้ชอบนิ
อุ้มชอบปั้นสิบ ยังไงๆอุ้มก็ต้องเอาปั้นสิบมาเป็นของอุ้มให้ได้”
ผมตอบแม่ด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังครับ ลืมตัวใส่อารมณ์ไปเต็มที่เลย
คือไม่ค่อยพอใจที่แม่ไม่เข้าข้างผม แต่ดันไปบอกให้ผมเลิกยุ่งกับปั้นสิบเพราะปั้นสิบมันมีไม้ฉากอยู่แล้ว
หึ ,, มีได้ก็ทำให้ไม่มีได้เหมือนกันแหละนะ
“โอ้ยยยๆ ฉันเลี้ยงลูกมาผิดใช่ไหมเนี้ยย แกจะทำยังไงก็แล้วแต่แก
แต่แกอย่าทำให้ฉันกับพ่อแกเสียหน้าละกัน รู้ไหมเจ้าลูกไม่ได้เรื่อง”
แม่ไม่ลูบหัวละครับ ยกมือมาตบหัวผมเต็มๆเลย ก่อนจะเดินออกจากห้องดูทีวีไป
ผมได้แต่ยกมือมาลูบหัวปรอยๆ โถ่วววแม่ครับ .. ผมเจ็บนะเนี้ยยย
พอแม่เดินออกจากห้องไปแล้ว ผมก็ลองโทรไปหาปั้นสิบดู
แต่ก็ปิดเครื่อง ,, เออ จะติดต่อยังไงละเนี้ย
ไม่เป็นไรครับ ไปเจอกันที่ กทม. ก็ได้ ตอนนี้ผมกินของหวานรอก่อนได้ครับ
ผมรอโทรศัพท์จากจานสีจนเกือบสิบโมงเช้าครับ ไม่ไหวละไม่อยากรอ
ผมเลยกดโทรไปหาจานสีเองเลยครับ
รอสายไปไม่นานเท่าไหร่ ก็มีคนรับสาย
ผม :: สวัสดีครับจานสี
จานสี :: หื้ออ ใครอะครับ
ยังไม่ตื่น?
เสียงนี้คือ .. งัวเงียโคตรน่ารัก >/////<
ผม :: อุ้มครับ ยังไม่ตื่นหรอ งั้นอุ้มโทรมาใหม่ก็ได้
จานสี :: อ่ออ ขอโทษทีนะเมื่อคืนสีนอนดึกมั๊กมากมากมากเลยย
สงสัยจะดึกมากจริงๆ ย้ำคำว่ามั๊กมากเยอะเลยครับ
แต่มันทำเสียงเล็กๆ มันดูงุ้งงิ้งมากๆ
ผม :: งั้นนอนต่อเถอะครับ ตื่นแล้วโทรหาอุ้มด้วยนะ
จานสี :: ครับผม
พูดเสร็จจานสีก็วางสายเลยครับ สงสัยจะหลับต่อจริงๆ
เออแล้วผมจะทำอะไรต่อดีละ 55555555
ตื่นซะเช้าเลย .. จะเข้าไปก่อกวนแม่ที่ห้องก็กลัวจะโดนตีกบาลแตก
ไปมหาลัยดีกว่า ,, เพราะยังไงๆก็ต้องไปทำเรื่องลาออกอยู่แล้ว
มหาวิทยาลัย
ผมขับรถเข้ามาที่คณะวิศวะ ,, ก็เจอกับรุ่นน้องหลายๆคนแวะเวียนมาดูบอร์ดประกาศรายชื่อ
คือมันมีคนที่สอบตรงได้แล้วก็มาสอบสัมภาษณ์ มีพี่ ปี3 มาเรียนซัมเมอร์
เลยทำให้ตึกเรียนต่างๆไม่ได้เงียบเหงาครับ
ผมเดินเล่นไปตามทางที่ผมเคยเดินเวลาที่มาเรียน
คิดแล้วก็ใจหายนะครับ 1 ปีที่เรียนที่นี้ ทั้งผ่านการรับน้องที่เค้าบอกว่าโหดแสนโหด
ทั้งเรียนที่หนักมากๆเหมือนกัน ผมก็ผ่านมันมาแล้ว
ผูกพัน ,, มันก็แน่นอนละครับ ใช้ชีวิตทั้งวันที่แห่งนี้นินา
ผมเดินคิดอะไรไปเพลินๆ จนมาหยุดตรงๆที่ผมได้เจอกับปั้นสิบ
“เออดีนะ ,, คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สุดท้ายแม่งเดินเลยคณะ”
ผมนั่งลงตรงที่ๆปั้นสิบเคยมานั่งกับไม้ฉาก
คือไม่ได้ตั้งใจมาตรงนี้เลยครับ ก็เดินเล่นมองตึกไปเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทีผมก็มาหยุดอยู่ตรงนี้
ไหนๆก็นั่งแล้วนิ มาคิดถึงเจ้าตัวเล็กในวันนั้นดีกว่า
ปั้นสิบที่ก้มลงไปขอจูบกับเพื่อนที่นอนตัก ,, หน้าตาเขินอายเวลาโดนจูบ
มันน่ารักมากครับ ,, ผมตรงหลุมรักมันเลยก็ว่าได้
แล้วตอนที่ผมเข้าไปคุยกับมันตอนแรก
หน้าตาซื่อๆของมัน ยิ่งทำให้ผมใจเต้นแรงครับ
จะมีวันนั้นไหมวะปั้น ,, วันที่ปั้นจะหันมามองพี่บ้าง
เห้อออ .. คิดแล้วก็เหนื่อยวะ นี้กูกำลังทำอะไรอยู่วะ???
จะให้หยุดเรื่องปั้นสิบ .. ตอนนี้ผมก็หยุดไม่ได้แล้วครับ
ผมอยากมีปั้นสิบข้างๆ อย่างให้ปั้นสิบมันยิ้มอ่อนโยนกับผมบ้าง
ตอนนี้ขอแค่มันยิ้มให้ผมแบบวันแรกๆ ผมก็ดีใจแล้วครับ
แต่...... มันไม่มีเลย
นับวันปั้นมันยิ่งเกลียดผม ,, ผมทำผิดมากหรือไง
แค่อยากทำทุกอย่างเพื่อให้ปั้นสิบมาสนใจ
ถ้าพูดจริงๆไอ้ไม้ฉากมันแทบไม่ต้องทำอะไรเลยมากกว่า
แค่คิดถึงชื่อมันก็เกลียดแล้วครับ คนบ้าไรวะมีแต่โชคเข้าข้างตลอด
และมันต้องชนะผมตลอด ขนาดพ่อผมยังชมมันตลอดเลย
โอ้ยยย .. นี้มานั่งคิดเรื่องมันทำไมเนี้ยย!!!!
เบื่อๆแบบนี้โทรหาใครดีวะ
ผมหยิบมือถือมาเลื่อนๆดูว่าจะไปหาใครที่ห้องได้บ้าง
แต่ก็มีสายเรียกเข้าจากจานสีเข้ามาก่อน
หึ นี้ไงของแก้เบื่อ วันนี้จะได้ลองลิ้มชิมรสขนมหวานอิมพอร์ตชิ้นนี้ไหมนะ?
ผม :: ครับจานสี
จานสี :: ขอโทษนะที่ตื่นสาย คือเมื่อคืนนอนดึกจริงๆ
555+ โทรมาขอโทษด้วยเว้ยย น่ารักดีๆ
ผม :: ไม่เป็นไรหรอกนะ แล้วพร้อมยังไปดูหนังกัน
จานสี :: เห้ยย เอาจริงดิ
ผม :: จริงๆ ไปไหมละ เซนทรัลเนี้ยใกล้
จานสี :: อืมม ก็ได้ งั้นเจอกันที่หน้าโรงหนังเลยนะ
ผม :: เดี๋ยวๆ ให้อุ้มไปรับไหมละ
จานสี :: ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็เกรงใจแย่แล้ว งั้นเดี๋ยวเจอกันนะครับอุ้ม
ผม :: ครับ
พอจานสีวางไป ผมก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะยืนมองที่ๆปั้นสิบเคยนั่งอีกครั้ง
“ปั้น .. พี่จะทำทุกอย่างให้ปั้นรู้ว่าพี่รักปั้น และจะทำทุกอย่างให้ได้ปั้นมา รอพี่นะ”
พอพูดจบผมก็เดินกลับมาที่รถ แล้วขับรถไปหาจานสีที่หน้าโรงหนัง
ผมมาถึงหน้าโรงหนังก็เจอจานสีแล้วครับ
“อุ้ม ทางนี้ๆ” พอผมเดินเข้าไปใกล้หน้าโรงหนัง จานสีก็ตะโกนเรียกผมครับ
แต่งตัวน่ารักมาก เสื้อกล้ามสีเขียวขี้มากับกางเกงขาสั้น แล้วผิวก็ขาว
แม่งงง ,, น่ากินมาก เอ้ยย น่ารักมาก
“รอนานไหม ขอโทษทีนะเมื่อกี้แวะเข้ามอมานะ” ผมรีบเดินเข้าไปหาจานสีก่อนจะขอโทษที่มาช้า
“ไม่เป็นไรหรอก นี้เราซื้อตั๋วหนังแล้วนะ ซื้อขนมแล้วด้วย” จานสีชูป๊อปคอร์นและน้ำในมือให้ผมดู
“คนละกี่บาท เดี๋ยวเราเอาเงินให้” ผมเอื้อมมือไปหยิบกล่องป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำมาถือให้จานสี
เพราะตอนนี้มันถือของดูพะรุงพะรังมากเลยครับ
“ไม่เป็นไร จานสีเลี้ยงเอง ขอบคุณอุ้มด้วยไงที่ไปส่งเราเมื่อคืน”
จานสียืนส่งยิ้มให้ผม ... เอาจริงๆนะ มันน่ารักจริงๆ
ท่าทางการพูด การแต่งตัว มันน่ารักมากๆครับ
“งั้นหนังจบแล้ว ให้อุ้มเลี้ยงข้าวนะ ตกลงไหม”
ผมเดินนำจานสีมานั่งตรงเก้าอี้ตรงทางเข้าโรงหนัง
เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาฉาย
“ถ้าอุ้มเลี้ยงข้าวแบบนี้ จานสีจะตอบแทนไงดีละ” จานสีทำท่าคิดใหญ่เลยครับ
ทำหน้ายุ่งๆ คิ้วขมวดด้วยนะ 55555
“อืออ นั้นดิ เอาไงดีนะ” ผมเลยแกล้งพูดแหย่ไปบ้าง จานสีก็ยิ่งทำหน้ากังวลใหญ่เลยครับ
คือจริงๆไม่ต้องเลี้ยงอะไรกลับก็ได้ ถ้าเป็นเด็กๆคู่ขาผมคนก่อนๆนะ
ไม่มีหรอกจะมาซื้อขนมซื้อตั๋วหนังรอ
แล้วไม่มีมายืนคิดจะเลี้ยงตอบแทนผมด้วยครับ
จานสีเป็นเด็กแปลกๆดีครับ มองแล้วทำให้ยิ้มได้ตลอดเลย
“อย่าเพิ่งคิดมากเลย ไปดูหนังกัน” ผมเดินนำจานสีเข้าไปในโรงหนัง
จานสีก็บ่นงึมงัมๆ พยายามถามผมตลอดว่าเอาไรดีอะ
เลี้ยงไรดี 555 คือเอาง่ายๆนะ
จานสีก็บอกผมมาสิครับว่าไม่ต้องเลี้ยงแล้ว เดี๋ยวแชร์กันออกอะไรแบบนี้
แบบสคริปของหนังไทยไง .. ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวฉันออกเงินเอง เกรงใจคุณแย่
แบบนี้ก็ได้ .. แต่จานสีไม่คิดแบบนั้นครับ 555+
พอหนังเริ่มฉาย จานสีก็ดูจะลืมๆเรื่องที่คิดมากก่อนหน้านี้แล้วครับ
ดูหนังไปก็สะกิดผมไปตลอด
ไม่ได้สะกิดพิศวาสอะไรผมหรอกนะ สะกิดถามตลอดทั้งเรื่องอะ
“พระเอกมันไปไหนอะ”
“เห้ยยๆ นางเอกจะโดนฆ่าหรอ”
“ทำไมตัวร้ายมันร้ายจัง”
“อุ้มๆ มันจูบกันแล้วอะ อร๊ายยย”
5555+ คือแรกๆก็รำคาญอะนะ หลังๆก็น่ารักวะ
มันเป็นธรรมชาติเลยครับ หน้ามันโคตรอินกับหนังเลย
ผมแทบไม่ได้มองจอหนังครับ มัวแต่หนังมองหน้าจานสี
พอออกจากโรงหนังมาผมก็พาจานสีไปทานบะหมี่ ฮาจิบังต่อ แล้วก็ไปส่งจานสีที่บ้านไม้ฉาก
ระหว่างทางจานสีก็พูดเรื่องหนัง พูดเรื่องเพลง
พูดเรื่องพู่กันพี่ชายที่เอาแต่ติดเกมส์ให้ผมฟัง
คือเหมือนสนิทกันมาเป็นปี ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันเมื่อคืน 5555
พอมาถึงหน้าบ้านไม้ฉาก ผมก็จอดรถแล้วหันมามองหน้าจานสี
“ขอบคุณที่เลี้ยงหนังนะครับ ป๊อปคอร์นกับน้ำด้วย”
จานสีเอาเบทท์ออกแล้วก็ทำหน้าตกใจ
“เห้ยยจริงด้วย อุ้มเลี้ยงบะหมี่จานสีนี้ แต่จานสีไม่ได้ตอบแทนอุ้มเลย”
555555 นึกออกแล้วหรอ
“เออจริงด้วย จานสีจะให้ไรอุ้มอะ” ผมแกล้งทำหน้าคิดๆ แล้วมองหน้าจานสี
จานสีนี้ถึงกับเอามือกุมขมับครับ 5555
สักพักเหมือนจานสีคิดได้ละครับ หันมายิ้มให้ผม
“งั้นเอาแบบที่จานสีชอบขอบคุณกับม๊ากับแด๊ดดี้ละกันนะ”
พอพูดจบจานสีก็ขยับตัวมาใกล้ๆผม หน้านี้แทบจะชิดกันอยู่ละครับ
ก่อนจะจุ๊บที่ปากผมเบาๆ แล้วผละหน้าออกไป
ผมนี้กำลังอึ้งเลยครับ จานสีจุ๊บผม
โอ้ยยย ,, มึงอ่อยประเนี้ยยไอ้เด็กบ้า
“Thanks kiss ครับอุ้ม” ยิ้มนี้เป็นยิ้มน่ารักๆ ไม่มีเสแสร้งเลยครับ
ผมทำตัวไม่ถูกเลย ใจนี้เต้นโคตรแรงอะครับ
จานสีทำคิ้วขมวดนิดหน่อย ก่อนจะเอื้อมเอามือมาจับที่อกผม
“เห้ยยย “ ผมร้องออกมาเพราะตกใจที่อยู่ๆจานสีเอามือมาจับที่หน้าอก
“ขอโทษๆ ก็หัวใจอุ้มเต้นแรงมากอะ เป็นไรหรือป่าว”
ดูมันถามสิครับ ,, ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย - -‘
“ก็จานสีมาทำแบบนี้ ใครก็ใจเต้นแรงทั้งนั้นแหละนะ”
ผมรีบตอบแล้วพยายามปรับเสียงให้ไม่สั่น
แค่เด็กมันทำแบบนี้ถึงกับสั่นเลยหรอวะอุ้มเอ้ยยย ใจเย็นๆ ลูกใจเย็น
“ 5555+ ขอโทษๆนะ เวลาม๊าทำกับข้าวให้ จานสีก็ thanks kiss แบบนี้ตลอดแหละ อุ้มไม่ชอบหรอ”
คือมึงถามเฉยๆกูก็สติจะแตกแล้ว นี้ยังมาเอียงหัวน่ารักๆ แบ้วๆใส่อีก
โอ้ยย แทบจะจับมันกินซะตอนนี้ให้ได้ ไอ้ขนมหวาน!!!
“ป่าวๆชอบดิ 555 เออแล้วคืนนี้ออกไปนั่งดริ้งอีกไหม?”
เมื่อคืนมันไปคนเดียวครับ ลองถามดูเผื่อคืนนี้มันออกไปอีก ผมจะได้ตามไปนั่งด้วย
“อาจจะไปแหละ เพราะพวกมันติดเกมส์กันสุดยอดดเลย
จานสีโคตรเบื่อ เพื่อนอีกคนก็ดันไปเมืองนอกด่วน ไม่มีคนเล่นด้วยเลยอะ”
เอาจริงๆมึง 18 ละไม่ใช่หรอจานสี จะต้องมีเพื่อนเล่นอะไรอีก - -‘
“งั้นเดี๋ยวอุ้มมารับ ไปนั่งฟังเพลงกัน โอเคไหม”
ผมเอื้อมเอามือมาวางที่หน้าขาของจานสี แล้วบีบเบาๆ จานสีก็ก้มมามองที่มือผม
แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ แล้วก็ไม่ได้ปัดมือออกด้วย
ผมก็ได้ใจสิครับ บีบขามันเบาๆ แล้วใช้นิ้วโป้งเขี่ยๆตรงขามันไปด้วย
สักพักจานสีก็หันมายิ้มให้ผม แล้วโน้มหน้ามากระซิบใกล้ๆหูผมครับ
“แล้วคืนนี้เจอกันครับ”
พอมันพูดจบ ก็ลงจากรถไปเลยครับ
โอ้ยยย .. ร้อยทั้งร้อยแม่งอ่อยอะทำแบบนี้
ผมว่า .. คืนนี้ผมคงได้กินขนมหวานอิมพอร์ตแล้วแน่ๆครับ : )
ร้านเหล้า
ตอนนี้สามทุ่มกว่าละครับ ผมมานั่งรอจานสี
เพราะมันส่งข้อความมาบอกว่าให้มาเจอกันที่ร้าน
ผมก็นั่งชิวๆไปได้สักพักมันก็เดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะ เพราะผมส่งข้อความไปบอกว่านั่งตรงไหน
“เฮ้ ,, หวัดดีครับอุ้ม” มันเดินเข้ามาทักทายผมด้วยเสียงที่แม่งง เมามาแล้วแน่ๆ 55555+
วันนี้มันเอาแฝดพี่มันมาด้วยครับ แล้วใส่เสื้อกล้ามคอกว้างๆ แขนเว้าเยอะๆมาเหมือนกันอีกทั้งคู่ด้วยนะ
จานสีมันใส่สีเขียวขี้ม้า แต่พู่กันมันใส่สีน้ำเงินครับ
ขับกับสีผิวพวกมันมากจริงๆ เลยยิ่งทำให้พวกมันยิ่งเด่น
แล้วมันเอาพี่มาทำไมวะ - -‘ อดกินของหวานอีกแน่ๆสิกู
“หวัดดี” พู่กันมันเดินมาตบไหล่ผม ก่อนจะนั่งลงตรงฝั่งตรงข้าม
จานสีก็เดินไปนั่งข้างๆพู่กัน
“เราพู่กันนะ ขอบใจนะที่วันนี้พาน้องเราไปดูหนัง”
พอสั่งเครื่องดื่มเสร็จพู่กันก็หันมาบอกขอบใจผม
“อ่ออ ไม่เป็นไร พอดีเราก็ว่างๆนะ” ผมยกแก้วขึ้นชนกับพู่กันที่ยื่นแก้วมาตรงหน้าผม
ก่อนจะหันไปยิ้มให้จานสี หน้าตามันเหมือนกันมากเลยครับ
แต่พู่กันจะมีกล้ามมากกว่า จานสีนี้คือ .. เหมือนผู้หญิงมากๆอะครับ
หญิงห้าวๆ แบบเจ้าฮะ 5555+ ก็ทอมบอยนั้นแหละ
พวกผมก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ฟังเพลง กินเหล้ากันไป
จนสักพักจานสีขอไปเข้าห้องน้ำ เลยเหลือแค่ผมกับพู่กันนั่งอยู่ด้วยกัน 2 คน
“ทำไมเราคุ้นๆหน้านายวะ” เออๆ มันเมาละครับ เริ่มมี วะ แล้ว 555
มึงจะไม่คุ้นได้ไง ก็เจอกันมา 2 รอบแล้วนี้หว่า
“หรออ เราหน้าโหลมั้ง 5555+” ผมก็ตอบกวนๆตีนไปแบบนั้นแหละครับ
ไม่อยากบอกวันนี้ ,, เดี๋ยวคืนนี้ผมจะอดกินของหวาน
เพราะเมื่อกี้ตอนนั่งฟังเพลงอยู่ ผมก็จับมือ จับขาของจานสีไปด้วย
จานสีก็ไม่ได้ปัดออกนะครับ มีมองแบบส่งสายตากลับมาให้
หึหึ จานสีนี้ก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ 555555555+
“ไม่ดิไม่โหลเราคุ้นหน้านายจริงๆ เราเคยเจอกันมาก่อนไหม?”
เอาละไง พู่กันมันเริ่มขยับมานั่งใกล้ๆผมแล้วครับ
แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบ จานสีก็เดินกลับมาที่โต๊ะละครับ 555+
รอดตัวไป มันยังจำผมไม่ได้ครับ
เอาจริงๆ ครั้งก่อนๆที่เจอกันมันก็แค่ผ่านๆตานะ
เพราะมัน 2 คนตอนเจอผมครั้งก่อนมันก็เอาแต่คุยเล่นกัน
แล้วตอนมาเจอที่หน้าคอนโดมันก็มัวแต่ห่วงเพื่อนมันอยู่
มันไม่น่าจะทันสังเกตหรอครับ
“กัน ทำไรอะ” จานสีเข้ามานั่งแทรกระหว่างผมกับพู่กัน
ก่อนที่มันจะหันไปมองหน้าพู่กัน
“ป่าวว เราว่าอุ้มหน้าคุ้นๆอะ สีว่าไงละ” เออเวรละไง เสือกชวนกันให้มามองหน้าผมอีก
ผมแสร้งยกแก้วเหล้ามาดื่ม ก่อนจะบ่นๆออกมา
“จ้องกันขนาดนี้ เหล้าไม่อร่อยละนะ 5555+”
จานสีมันเลยหันไปตีพู่กันครับ
“คนเรามันก็หน้าเหมือนๆกันแหละ ทีเรายังหน้าเหมือนกันเลย”
เออ จานสีครับ นั้นมันแฝดนะครับ มันก็ต้องเหมือนกันดิ
ไหวไหมวะเนี้ยย - -‘
“แกเป็นแฝดฉันไม่เหมือนก็แปลกแล้วไอ้บ้า”
พู่กันมันตะโกนใส่หน้าจานสีครับ แล้วก็เดินออกจากโต๊ะไป
สงสัยจะไปเข้าห้องน้ำ เพราะเห็นเดินไปทางหลังร้าน
ตอนนี้เหลือ 2 คนแล้ว ,, ได้เวลาแทะเล็มขนมหวานละครับ
ผมขยับตัวไปชิดตัวจานสีกว่าเดิม ก่อนจะก้มหน้าไปใกล้ๆหูจานสี
“วันนี้เอาพี่มาด้วยก็ไม่บอกนะ” พูดเสร็จผมก็ก้มหน้าลงซบกับไหล่ของจานสี
ถ้าจานสีไม่ชอบก็ต้องผลักออกใช่ไหมครับ แต่ไม่ครับ จานสีไม่ได้ผลักออก
แต่เอนหัวมาทับหัวผมไว้ด้วย 5555+
“บอกแล้วจะเซอร์ไพร์ปะละ”
พูดแล้วก็หัวเราะ .. แม่งง หมั่นไส้เสียงหัวเราะแบบนี้จังวะ!
“ไม่อยากมากับอุ้มแค่ 2 คนก็บอกดิ” ผมแม่งทำเนียนเลยครับ
แกล้งงอน เอามือไปกอดเอวจานสีเลยครับ
5555+ หน้าก็ซุกไปไซร้คอจานสี หื้มมมม.. ตัวมันหอมมากครับ
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันละจานสีจะมีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆติดตัวตลอดเลย
จานสีมันหัวเราะคิกคักๆ ชอบใจครับ
“อย่าซนสิครับ” ก่อนจะขยับตัวนิดหน่อย
แล้วเอามือมาดันหัวผมออก ผมก็เลยยอมขยับตัวออกมา
แค่นี้ก็รู้แล้วครับ .. ว่าจานสีก็น่าจะเล่นด้วยกับผม
ขนมหวานอิมพอร์ตตรงหน้าผม .. ท่าทางจะได้กินแล้วละครับ
ติดแต่ว่า......
“เห้ยยย นั่งชิดกันไปนะ” พู่กันเดินมาแทรกผมเลยครับ 555+
ติดแต่เนี้ยแหละครับ ,, จานสีมันเอาพู่กันมาด้วย
เสียดายยย !!!
“5555+ อะไรละบ้าแล้ว กลับเลยไหมอะเดี๋ยวไม้ฉากมันบ่น” จานสีหันมาชวนพู่กันกลับบ้านละครับ
“อือดีเหมือนกัน งั้น …. ลาก่อนครับอุ้ม”
พู่กันหันมายกมือไหว้ผม ก่อนจะดึงมือจานสีให้ลุกขึ้นยืน
“ไปก่อนนะอุ้ม แล้วเจอกันครับ”
จานสีโบกมือบ๊ายบายให้ผมแล้วก็เดินตามพู่กันออกไป
โอ้ยย ,, วันที่ 2 แล้วนะเว้ยยย ทำได้แต่มองอีกแล้วสินะ
ผมรีบลุกตามเลยครับ ยังไงๆขอแค่ให้ได้ไปส่งเถอะนะ
ผมเดินตามมาทันครับ จานสีกำลังยืนอยู่หน้าร้าน
แต่พู่กันหายไปไหนไม่รู้ หรืออยู่แถวๆนั้นละมั้ง
ผมไม่ทันได้สังเกต
“เดี๋ยวเราไปส่งนะ” ผมเดินไปฉุดแขนของจานสีไว้
แต่จานสีกำลังเปิดกระเป๋าตังค์อยู่ พอผมไปฉุดแขน กระเป๋าตังค์จานสีก็ตกลงพื้นเลยครับ
“เห้ยๆ ขอโทษๆ” ผมรีบเข้าไปช่วยเก็บกระเป๋าตังค์ให้จานสี
จานสีมันก็ก้มลงไปเก็บกระเป๋าตังค์ของมันใหญ่เลยครับ
“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวเราเก็บเอง”
มันก็รีบเก็บบัตรต่างๆที่หล่นออกมาใส่กระเป๋า
แต่ผมนี้ดิ มือโคตรจะดีเลยครับ ดันไปหยิบได้ถุงยางอนามัย
ผมหยิบมาแล้วก็ถือค้างไว้เลยครับ ,, หน้าใสๆแบบจานสี คือ เอ่ออ .. มึงพกเองเลยดิ?
จริงๆมันไม่ใช่เรื่องแปลกนะที่ผู้ชายจะพกถุงยางอนามัย
แต่มันไม่เข้ากับหน้าใสๆของมันเลยครับ 5555+
“เห้ยยยยยย” พูดเสร็จก็รีบมาหยิบคืน
5555+ แต่ผมไวกว่า รีบกุมมือจานสีไว้ครับ
“พกด้วยหรอไงเรา” พูดเสร็จก็ไม่ปล่อยมือนะครับ 55555
ก้มลงไปมองหน้าจานสี มันนี้หน้าแดง แดงไปยันหูอะ
“โหวว ก็ผู้ชายอะก็พกดิ ปล่อยมือได้แล้ว”
555555+ ไม่แกล้งละก็ได้ หน้ามันแดงมากจนอยากจะกัดแก้มให้ขาด!
“แต่พี่ไม่ได้พกมาอะ ทำไงดีละ”
ผมแกล้งแหย่ๆถามจานสี ที่ตอนนี้เก็บกระเป๋าตังค์เข้ากางเกงเรียบร้อยละครับ
พอจานสีได้ยินแบบนั้นก็หันมายิ้มให้ผม
ตอนแรกนึกว่าจะอายไม่กล้าสบตา
แต่ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่เลย
มันหันมาสบตาผมครับ แล้วยิ้มนิดๆให้ผมด้วย
“นั้นดิทำไงดีอะ จานสีมี … แต่คืนนี้อาจจะไม่ได้ใช้”
โอ้ยยยยย ,, ไอ้เชรี้ยยยย ไอ่เด็กคนนี้มันยั่วผมใช่ไหมมมมมมม!!!