เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด
ตอนที่ 3
เวลาตีสองกว่าๆ ในคอนโดเดียวกับปฐพี อัคนี และพัฒน์ ห้องของธีร์ยังเปิดไฟสว่างไปทั้งห้องเพราะกำลังนั่งอ่านกฎของบริษัทอย่างขะมักเขม้น แม้ความง่วงจะเข้ามารุมเร้า แต่ความไม่อยากยอมแพ้ใครอีกคนก็ทำให้เขาไม่อยากจะนอนหลับ ทั้งที่ยังจำอะไรไม่ได้...
“อยากจะบ้าตาย ทำไมมันยาวอย่างนี้วะ นี่ขนาดสรุปเอาสั้นๆ แต่ละข้อก็ยังเยอะอยู่ดี” ธีร์บ่น มองกระดาษจดของตัวเองอย่างเครียดๆ
“นั่งอ่านมาตั้งแต่กลางวันจนตอนนี้ตีสอง ท่องได้ จำได้แค่ 100 กว่าข้อ อีก 200 ไม่เช้าเลยหรือวะเนี่ย” ร่างโปร่งพึมพำอย่าง
หงุดหงิด ขยี้หัวตัวเองแรงๆ อย่างต้องการระบาย
เขาอยากจะฆ่าไอ้คนที่ทำให้เขาต้องอดหลับอดนอนแบบนี้นัก
“คอยดูนะไอ้พัฒน์ ถ้ากูจำได้เมื่อไหร่ พรุ่งนี้เช้า มึงได้เจอกูเอาคืนแน่”
ร่างโปร่งคาดโทษอีกคนเสียงหนักแน่น ก่อนจะก้มหน้าก้มตาท่องกฎตรงหน้าต่อไป อีกแค่ 100 กว่าข้อเท่านั้น แม้จะไม่ได้นอน
แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้
คนอย่างธีร์ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ อยู่แล้ว
“อ๊ากกก อยากนอนโว้ย!!” ตะโกนลั่นห้องอย่างเหลืออด
ดีที่ว่าคอนโดแห่งนี้ที่ธีร์ได้รับจากอัคนีมันเก็บเสียงและมีความเป็นส่วนตัวอย่างดี เลยไม่เป็นการรบกวนห้องข้างๆ แน่นอน
เขาเลยตะโกนได้อย่างไม่ต้องอายใคร
“พรุ่งนี้ต้องไป DINZ 9 โมง เอ้าๆ อ่านต่อๆ ไอ้ธีร์ ถ้ามึงจำยังไม่ได้ มึงก็ไม่ได้นอน แต่ถึงจะมีเวลานอนกูก็ไม่กล้านอนหรอก
เดี๋ยวลืม”
บ่นไป ดื่มกาแฟเข้มๆ ไปด้วย เพื่อให้ตาสว่างที่สุดเท่าที่จะยื้อมันได้
“ข้อที่ 158 ห้าม..ฮือ...” ยังไม่ทันได้อ่านข้อต่อไป ธีร์ก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างเหน็ดเหนื่อย
เขาล่ะอยากจะร้องไห้
เข้าใจอารมณ์คนมันง่วง อยากนอน แต่นอนไม่ได้ไหม
ยิ่งกว่าอยู่ในช่วงมรสุมการสอบและทำโปรเจคอีก
“ข้อที่ 159 ห้าม...ฮ้าว...เฮ้อ!”
…
…
…
ลำคอแห้งผากกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ทำให้คนที่นอนหลับสนิทถึงกับต้องตื่นขึ้นมา มือใหญ่เอื้อมไปเปิดไฟบนหัวเตียงก่อนจะเดินลงจากเตียงเพื่อไปหาน้ำดื่มที่ห้องครัว เมื่อดื่มน้ำเสร็จแล้ว พัฒน์มองนาฬิกาเล็กน้อยก็พบว่าเป็นเวลาตีสามกว่าๆ แล้ว ร่างสูงกำยำก็เดินมาที่ระเบียงมองไปยังห้องข้างๆ ที่รู้ดีแก่ใจว่าเป็นห้องของใครก็ต้องขมวดคิ้วสงสัย เพราะแสงในห้องสว่างจ้า แม้จะไม่ได้เปิดไฟที่ระเบียง เขาก็รู้ได้ว่าเจ้าของห้องต้องลุกมาทำอะไรสักอย่างแน่ๆ
หารู้ไม่ว่าธีร์ยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก
“ทำบ้าอะไรวะ เปิดไฟซะสว่าง” ร่างสูงพึมพำเบาๆ
ครืด...
พัฒน์รีบหลบเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องเดินมาเลื่อนประตูระเบียงแล้วก้าวออกมา ปากก็พึมพำอะไรบางอย่างเบาๆ แต่ร่างสูงก็ได้ยิน
มันชัดเจน
นี่มันท่องกฎบริษัทยังไม่นอนอีกหรือไง?
“ตีสามกว่าๆ กูก็จำได้แค่ 250 ข้อ อีก 50 ข้อเท่านั้น สู้ๆ เว้ยธีร์”
“เฮอะ! มันสั่งกูอย่างกับทาส ตัวเองก็นอนหลับสบาย ทั้งๆ ที่กูยังไม่ได้นอน” ธีร์บ่นปนด่าพัฒน์ไปด้วย ไม่ด่าอย่างเดียว มองห้อง
ข้างๆ ไปด้วยอย่างไม่สบอารมณ์
“เฮ้อ...ให้ตายสิ”
ร่างโปร่งบางถอนหายใจก่อนจะพักสมองโดยการมองไปยังท้องฟ้าที่มีดาวอยู่อันน้อยนิด บ้างก็ทยอยตกลงมา ซึ่งธีร์ก็มองแล้ว
คลายเครียดได้เยอะ
“อยากนอนชะมัด”
พัฒน์ถึงกับยกยิ้มขึ้นมากับประโยคนี้
“ก็แล้วทำไมไม่นอน” เสียงทุ้มพึมพำ
ที่จริงมันไม่จำเป็นต้องทำตามขนาดนี้ก็ได้ เพราะถ้ามันจำเป็นไม่กี่ข้อ 100 ข้อขึ้นไป เขาก็ให้มันผ่านแล้ว แต่ก็ดี เพราะแบบนี้มัน
ก็ทำให้เขาได้เห็นว่าธีร์มีความพยายามมากแค่ไหน
ก็ดีในระดับหนึ่ง ผิดที่ใจร้อน เจ้าอารมณ์อย่างเดียว อย่างอื่นใช้ได้
“บุหรี่ก็หมดอีก” ยังบ่นไม่หยุด
มันสูบบุหรี่ด้วยหรือ?
เพราะดูจากริมฝีปากสีชมพูนั่นแล้ว ไม่น่าจะเป็นคนสูบบุหรี่เลยสักนิด อาจจะสูบน้อยๆ ก็ได้ ไม่ถึงกับสูบตลอดอย่างเขา ว่าแล้ว
ร่างสูงก็เดินกลับเข้าไปด้านในห้องแล้วหยิบซองบุหรี่กับไฟแช็คที่วางไว้บนโต๊ะแล้วออกมาข้างนอกคืน
สูบบุหรี่ตอนตี 3 กว่าๆ
ที่จริงแล้ว สูบให้มันรู้ว่าเขาอยู่ก็เท่านั้น
กลิ่นควันบุหรี่ลอยเข้าจมูกของร่างโปร่งที่มันพัดตามกระแสลม ซึ่งคนที่อยากจะสูบอยู่แล้วก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ที่มีคนมาสูบ
ให้เขาได้กลิ่น
ถ้ารู้ว่าเป็นใครนะ พ่อจะเอากระดาษปาหน้า
“ใครสูบวะแม่ง”
ธีร์เดินไปยังฝั่งระเบียงที่ติดกับห้องของพัฒน์ที่มาของควันบุหรี่ ซึ่งพอชะโงกไปดูก็พบร่างสูงของพัฒน์กำลังพิงกำแพงสูบบุหรี่
แล้วมองหน้าธีร์นิ่งๆ
“เฮอะ!” หนีหันหน้าหนี เตรียมจะเดินหนี ถ้าไม่ติดตรงที่พัฒน์เรียกเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยว”
“อะไรวะ!” หันมาถามห้วนๆ
“หน่อยไหม” ถามพลางยกกล่องบุหรี่ขึ้นโชว์ ธีร์ยืนลังเลนิดหนึ่งก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็ง
“ไม่เว้ย!”
“แล้วแต่ ว่าแต่ทำไมไม่นอน” ถามทั้งๆ ที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
และรู้อยู่แล้วว่าธีร์คงไม่ยอมรับว่าตัวเองอยู่จนถึงวันใหม่แบบนี้เพราะต้องท่องตามที่พัฒน์สั่งแน่นอน ไม่มีทางที่คนอย่างมันพูด
แน่ๆ ซึ่งก็เป็นจริงตามที่ร่างสูงคิด
“กูแค่นอนไม่หลับ” ตอบอีกคนไปแบบไม่สบตา
“เหรอ”
“อย่ามากวนกูน่า ไปนอนแล้วแม่ง เห็นหน้ามึงแล้วหงุดหงิด” ธีร์เตรียมตัวเดินเข้าไปข้างในอีกครั้ง แต่ก็ถูกหยุดด้วยคำพูดของอีก
คนที่ดังตามหลัง ที่ทำให้ธีร์ถึงกับเลือดขึ้นหน้า
“กลัวมากกว่า”
“ทำไมมึงชอบหาเรื่องกูจังวะ!” ถามเสียงดัง
“ทำไม” ยักคิ้วข้างหนึ่งถาม
“กูรู้สึกว่ามึงเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ”
“ก็ใช่...แต่กูมีปากนี่” อีกคนตอบกวนๆ
“เออ! นั่นมึงกับพูดกับลมเอาก็แล้วกัน กูเบื่อมึงฉิบหาย”
“กูบอกไว้นะ กูนิ่ง กูเงียบก็จริง แต่กูไม่ใช่คนพูดน้อยนะ” อีกคนพูดไล่หลังบางไป ซึ่งร่างโปร่างอย่างธีร์ก็ไม่สนใจที่จะฟังอะไร
เพราะรั้งจะทำให้เถียงกันไปเปล่าๆ
สู้เอาเวลาไปอ่าน ไปท่องข้อที่ยังไม่ได้ต่อดีกว่า
“อีกแค่ไม่กี่ข้อ ตี 4 มึงน่าจะได้นอนนะธีร์” ให้กำลังใจตัวเองเบาๆ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาอ่านกองเอกสารตรงหน้าต่อเรื่อยๆ
“ฮ้าว...” ร่างโปร่งอ้าปากหวออย่างง่วง แนบหน้าลงกับโต๊ะอย่างรู้สึกหนักศีรษะและหนักตามาก
“ขอพักสายตานิดหนึ่ง อีก 10 กว่าข้อเอง” พึมพำเบาๆ ตาเองก็หลับแล้วยกยิ้มอย่างรู้สึกผ่อนคลาย จนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาฟุบตัว
หลับอยู่บนโต๊ะคาหนังสือทั้งอย่างนั้น…
ไม่มีสติอีกเลยจนสายของวัน
…
…
…
DINZ Chattel
สองเท้าเรียวยาวของธีร์เดินฉับๆ ไปอย่างรีบร้อน เพื่อไปห้องทำงานของร่างสูงที่เขาเคยมาครั้งหนึ่งอย่างเร่งรีบ เพราะตอนนี้เป็น
เวลา 10 โมงกว่าๆ ซึ่งเวลางานของเข้าที่นี่คือ 9 โมง แต่เขาสาย 1 ชั่วโมง
เหตุผลที่สายน่ะหรือ
“หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยมึง มันได้หาเรื่องทำโทษแน่ๆ” ธีร์พึมพำเครียดๆ อยู่หน้าห้องทำงานของพัฒน์ ยังทำใจเข้าไปไม่ได้
“1 2 3 ฮึบ…ฟู่ว” ร่างโปร่งบางนับ 1 ถึง 3 ก่อนจะกลั้นหายใจให้นานที่สุดแล้วพ่นลมหายใจออกมา มือบางก็เคาะประตู 3 ครั้ง
แล้วเปิดประตูเข้าไป ก็ตกใจที่เห็นร่างสูงของพัฒน์ยืนกอดอกมองเขาด้วยสีหน้าโกรธๆ อยู่หน้าประตู ซึ่งธีร์ก็เผลอถอยหลังอย่าง
นึกกลัว
เพราะสายตาของร่างสูงตอนนี้แทบจะฆ่าเขาให้ตายทางสายตา
“สาย” พัฒน์พูดเสียงเหี้ยม
อึก!
ธีร์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสายตาน่ากลัวแบบนี้จะดวงตาคมนั่น มันเป็นสายตาที่เขาแพ้
และตัวเขาก็รู้ว่าตัวเองทำผิด...เลยไม่อยากเถียงอะไรออกไป
เพราะคนที่ดูไม่ดี มันก็คือเขาเอง
“กูตื่นสาย” ตอบไปนิ่งๆ แม้ใจจะสั่นด้วยความกลัว แต่ธีร์ก็มีความสามารถในการควบคุมสายตาและน้ำเสียงของตัวเองได้ดี
พัฒน์ที่เห็นว่าร่างเล็กกว่าตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิดหรือขอโทษเขาเลยก็ได้แต่นึกโกรธและโมโห เพราะคนอย่างพัฒน์เป็น
คนเฉียบขาด มีวินัย จริงจังกับทุกอย่าง และเป็นคนที่ตรงเวลาอยู่เสมอ
พัฒน์รู้ว่ามันอาจจะนอนเช้ามากจนตื่นสาย ถ้าเป็นเขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน
แต่ใครให้มันทำอะไรแบบไม่แยกแยะล่ะ...ไม่ไหวก็ไม่เห็นจำเป็นต้องฝืน ไม่ได้ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทรมานตัวเอง เพียงเพราะเหตุ
ผลตื้นๆ เพียงอย่างเดียว
คือไม่อยากจะแพ้เขา
“แล้วทำไมมึงไม่หัดนอนตั้งแต่หัวค่ำ”
“กูนอนไม่หลับ” ตอบกลับไปด้วยคำตอบเดียวกับเมื่อตอนตี 3
“เพราะอะไรถึงไม่หลับ” พัฒน์ก็ไล่ต้อนจะเอาคำตอบให้ได้
“ไม่หลับก็คือไม่หลับสิวะ!” ธีร์เริ่มขึ้นเสียง
เข้าใจอารมณ์คนนอนไม่พอไหม...มันจะโมโห หงุดหงิด ถ้าเขาพักผ่อนไม่เพียงพอ!
“มึงเถลไถลล่ะสิถึงไม่หลับไม่นอน ทำตัวแบบนี้ กูคิดว่ามึงคงจะทำงานในตำแหน่งนี้ไม่ได้แล้วว่ะ!” พัฒน์พูดออกมาอย่างโมโห
โดยไม่คิดถึงจิตใจคนที่พยายามมาตลอดทั้งคืนเลยสักนิด
เขาพูดไปแบบไม่คิดจริงๆ แต่พอเห็นสีหน้าที่แสดงถึงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดของร่างตรงหน้า ก็ทำให้เขาคิดได้ทันทีว่า
กำลังมองข้ามความพยายามของอีกคนที่เขาเห็นไป
แต่ทิฐิก็มีมากเกินกว่าจะขอโทษใคร เพราะคนอย่างพัฒน์ ถ้าไม่สำคัญจริงๆ เขาจะไม่ขอโทษใครเด็ดขาด ส่วนไอ้คนตรงหน้านี้
มันจะโกรธก็โกรธไป
เขาไม่เห็นจะสน...
“เออ...กูว่ากูเองก็คงไม่เหมาะจริงๆ นั่นแหละ” ธีร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่ร่างสูงก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน แต่ก็แค่นิ่งเฉย
ฟังธีร์พูดต่อไป
“มึงจะรายงานคุณเพลิงก็ได้ว่ากูไม่เหมาะสม...เพราะกูก็ทำอะไรก็ดูเลวมากในสายตามึง มาสาย ชอบโวยวาย ชอบเถียง ชอบหา
เรื่องมึง เอาตรงๆ กูไม่อยากทำงานร่วมกันกับมึงสักนิด” สบตาคมของคนตัวใหญ่ไปด้วย แววตาสะท้อนให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า
เต็มที
ถ้าเขาล้มลงตรงนี้ได้ ก็จะทำ เพราะแรงยืนหยัดมันแทบไม่มี
ร่างกายของเขาค่อนข้างอ่อนแอง่ายหากนอนไม่ถึง 6 ชั่วโมง มันไม่น่าจะเป็นอาการของผู้ชายแมนๆ อย่างเขาเลยสักนิด แต่แล้ว
ไง ใครจะเลือกเกิดได้ ก็ในเมื่อทุกอย่างมันกำหนดมาแบบนี้
มันกำหนดมาให้เขามีมุมอ่อนแอแบบนี้
“ขอตัว”
“เดี๋ยว มึงจะไปไหน” ร่างสูงสาวเท้ายาวๆ ไปขวางหน้าอีกคนที่กำลังจะเดินหนีออกจากห้องทำงานของเขาไป
“กลับ”
“นี่มันเวลางาน”
“ก็ไหนว่ามึงบอกว่ากูไม่เหมาะ ทุกอย่างก็จบแล้วไง”
“กูยังไม่บอกเลยสักนิดว่าจะบอกให้คุณเพลิงปลดมึง เป็นบ้าอะไรคิดเองเออเอง”
“เออ! กูมันบ้า งั้นคนไม่บ้าอย่างมึงก็หลีกไป เดี๋ยวจะติดเชื้อ” คนตัวเล็กกว่าโวยวาย
พัฒน์สังเกตและรู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นของธีร์ก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าทำไมคนตรงหน้าเขาตอนนี้ถึงได้มีอาการแปลกๆ
ทั้งๆ ที่ชอบเถียงจะเป็นจะตาย แต่ตอนนี้กลับยอมแพ้อะไรง่ายๆ
“เป็นอะไร” ถามเรียบๆ
“เรื่องของกู”
“มึงยังไม่ทดสอบที่ให้อ่านกฎเลยนะ” ร่างสูงบอก
“ไม่ทงไม่ท่องแม่งแล้ว หลีกไป กูจะกลับ”
“อย่าทำนิสัยเด็กไอ้ธีร์ โตแล้ว มีความรับผิดชอบหน่อย โดนว่านิดเดียวก็ทนไม่ได้ มึงนี่มัน...” พัฒน์ที่เตรียมจะด่าต่อก็ต้องชะงัก
เมื่อร่างโปร่งโวยวายออกมาอย่างทนไม่ได้
“งั้นมึงลองมาเป็นไอ้โง่อย่างกูดิ ความจำกูไม่ดีไง กูเลยต้องใช้เวลาตั้งแต่กลับจากทำงานเมื่อวานจนถึงตี 4 เพื่อท่องกฎบริษัท
ตามที่มึงบอก แล้วไง กูเผลอหลับ ตื่นสาย เออ! กูผิด กูก็ยอมรับแล้วไง”
“มึงควรจะบอกเหตุผล”
“แล้วมึงจะเชื่อหรือไงวะ!!! เดี๋ยวก็หาว่ากูแก้ตัวอีก”
“เชื่อไม่เชื่อไม่รู้ แต่มึงต้องรู้ตัวเองว่ามึงพูดจริงหรือเปล่า” พัฒน์สอน เพราะเรื่องแบบนี้เราจะให้ใครมาเชื่อเราไม่ได้ ถ้าไม่มีหลัก
ฐาน
เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะต้องรู้ตัวเอง
“ก็กูพูดจริงแล้วไง เคยมีใครเชื่อกูไหม ตอนที่กูเรียนอยู่ ฝนมันตกไปส่งงานไม่ได้ อาจารย์ยังไม่เชื่อกูเลย นับประสาอะไรกับการ
ที่กูบอกมึงว่ากูท่องกฏแล้วนอนตี 4 ตื่นสาย น่าเชื่อตายห่า มันก็เหมือนการแก้ตัวดีๆ นี่แหละไอ้พัฒน์ ยังไงมึงก็ไม่เชื่อกู” พูดออก
มายาว บางช่วงก็สั่นด้วยความอ่อนไหวของตัวเอง
“กูเชื่อมึง” พูดบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม
พัฒน์เข้าใจว่าความพยายามที่ทำลงไปแล้วไม่มีใครเห็นมันน่าเสียใจ และน้อยใจขนาดไหน ถ้าเขาไม่ตื่นขึ้นมาตอนตี 3 กว่าๆ
เขาก็ไม่รู้หรอกว่าธีร์กำลังทำอะไรอยู่ถึงได้ตื่นสาย
เขาคงจะรายงานเรื่องนี้กับอัคนี และไม่รู้ว่าธีร์ยังจะได้ทำงานต่อหรือเปล่า
ร่างโปร่งบางเงยหน้ามองตาคนพูดเมื่อกี้อย่างไม่เชื่อหู ก่อนจะหันหน้าหนีเมื่อรู้สึกแปลกๆ ที่หน้าอก อัตราการเต้นของหัวใจมัน
แปลกไป มันเหมือนตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่ามันเพราะอะไร
เขาแค่รู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดเมื่อกี้
‘กูเชื่อมึง’
แค่ประโยคสั้นๆ แต่ก็ทำให้หัวใจอุ่นวาบทันที...
“ย่ะ...อย่ามาพูดดีเลยมึง”
“กูเชื่อมึงจริงๆ” ยืนยันคำพูดตัวเองอีกครั้ง
“กูให้มึงนอนพักในห้องกูได้ จะในห้องพักผ่อนหรือว่าบนโซฟาก็เลือกเอา ตอนเที่ยงมึงก็ตื่นมากินข้าว แล้วบ่ายกูจะสอนงานมึง
ต่อ” พัฒน์บอก
เพราะต่อให้ฝืนธีร์ทำงานก็ดูท่าทางว่าจะรับอะไรไม่ไหวแล้ว
“กูทำงานต่อได้”
“ถ้ามึงเป็นลมขึ้นมา กูจะหัวเราะเยาะ” พัฒน์ขู่
ธีร์ยืนลังเลนิดๆ ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ แล้วเดินไปนอนในห้องพักผ่อนของพัฒน์ทันที เพราะถ้าเขาฝืนงานต่อไป เขาได้เป็นลม
อย่างที่มันพูดแน่ๆ
คนอย่างธีร์ไม่อยากจะให้ใครมาหัวเราะเยาะทั้งนั้น
โดยเฉพาะคนอย่างพัฒน์
ร่างกายของเขา อย่างน้อยต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เช่นนั้น ร่างกายจะอ่อนเพลียทันที
...
...
...
50%

สวัสดีค่า ก่อนอื่นต้องขอโทษที่หายไป 12 วัน สำหรับเรื่องนี้นะคะ อาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่สิ 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา ยูกิต่อเติมบ้าน พื้นที่ไม่ค่อยจะมีทำงาน เพิ่งมาเสร็จอาทิตย์ที่แล้ว และอาทิตย์นี้ก็เป็นอาทิตย์ก่อนสอบกลางภาค ซึ่งอาทิตย์หน้ายูกิอาจจะไม่ได้ลงให้อีก เพราะไม่ว่างจริงๆ นะคะ ขอบคุณที่เข้าใจกันนะคะ และติดตามกันมาถึงวันนี้
ฝากคอมเม้นท์ให้กำลังใจพี่ธีร์หน่อย ยูกิด้วย และเนื่องจากเดือนนี้เป็นเดือนเกิดของยูกิ ฮ่าๆ นักอ่านอยากให้ยูกิทำอะไร ระหว่าง…
1. แต่งตอนพิเศษ น้องดรีม
2. ไม่ต้องหรอก ยูกิพักผ่อนไปเลย
ซึ่งยูกิเดาได้ลางๆ ว่าจะเป็นอันไหน 55+ เจอกัน พูดคุยกันได้ที่เพจนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki