ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่11
มินยืนมองครามที่เท้าสะเอวจ้องมองเขาอยู่ด้วยสายตาดุ ความเงียบในห้องทำให้บรรยากาศอึดอัดกว่าที่คิด มินเม้มปากแน่นมองอีกฝ่าย ครามยังจ้องเขาไม่หยุด มินทนความกดดันของอีกฝ่ายไม่ไหวจึงพูดขึ้นมาก่อน
“คราม” มินเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ ครามจ้องหน้ามอนก่อนจะเดินเข้ามาใกล้มินเรื่อยๆ
“มีอะไรว่ามา” น้ำเสียงเข้มของครามทำให้มินหลุบมองต่ำพยายามบีบน้ำตาปั้นหน้าแสร้งเสียใจ
“นายโกรธอะไรฉันเหรอ”
“นายไม่ควรถามคำถามนี้เลย”
“แล้วฉันต้องทำยังไง”
“แล้วนายไปอยู่ในห้องนั้นกับไอ้คิมทำไม !!” เสียงครามดังขึ้นทำเอามินสะดุ้ง มินจับแขนอีกฝ่ายให้เย็นลง
“ฉันแค่เดินผ่านแต่นายคิมมาตอแยกับฉันเอง”
“แต่เธอเข้าไปยืนอยู่ในห้องนั้น” ครามจ้องมองมินอย่างไม่เชื่อใจ มินเลยปล่อยมือที่จับแขนครามไว้ก่อนจะก้มหน้า
“ใช่ ฉันเข้าไปยืน แต่นายลงไปถามน้องชายนายสิว่าเขาพูดจาอะไรกับฉันบ้าง แทะโลมยังไงฉันบ้าง” มินเงยหน้าขึ้นมาและพูดเสียงดังขึ้นมาบ้าง
“นายไม่เชื่อฉันฉันไม่ว่าแต่นายควรจะใช้สมองของนายคิดดูว่าเรื่องมันเป็นมายังไง น้องชายนายก็อยู่ในคืนนั้นที่ข่มขืนฉัน น้องชายนายก็ทำอย่างนั้นกับฉันไม่ใช่เหรอ” มินจ้องหน้าคราม มินมองครามน้ำตาคลอเมื่อพูดถึงเหตุการณ์นั้น
“คนโดนข่มขืนอย่างฉันรู้สึกยังไงนายคงไม่รู้สินะ นายดูน้องชายนายพูดกับนายเมื่อกี้สิ เขาพูดเหมือนจะกลับมาทำอะไรกับฉัน ฉันกำลังปัดป้องตัวเองนายก็เห็น” มินพูดแล้วหลับตาปล่อยให้น้ำตาที่คลอเบ้าไหลออกมา
“ฉันรู้ แต่ฉัน...” ครามพูดไม่ถูกเมื่อเห็นคนตรงหน้าร้องไห้และพูดถึงเหตุการณ์นั้น
“ฉันเป็นเมียนายแล้ว ฉันก็อยากจะเป็นของนายคนเดียว” มินพูดพร้อมจ้องตาอีกฝ่าย ครามกระชากมินเข้ามากอดแน่น
“ฉันขอโทษ ฉันแค่หวงเธอเกินไป” ครามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มินได้ยินอย่างนั้นยิ้มมุมปากและปรายสายตามองครามเล็กน้อยก่อนแสร้งพูดเสียงเศร้า
“ฉันดีใจนะที่นายหวงฉัน แต่ฉันกลัวน้องชายนาย กลัวมันจะทำกับฉันเหมือนในอดีต” มินเริ่มใส่ไฟเข้าไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอ่อนลง
“มันไม่มีวันที่จะทำได้อีก” ครามผละออกมาจ้องมองมินด้วยสายตามั่นคง มินยิ้มออกมาบางๆก่อนจะพูดต่อ
“ฉันดีใจนะที่นายจะปกป้องฉัน เพื่อครอบครัวของเราในอนาคต”
“ครอบครัว ฉันชอบคำนี้” ครามเหม่อมองไปด้านหน้าด้วยสายตาเศร้าเพียงแวบเดียวเท่านั้นก่อนจะกลับมาเหมือนเดิม มินเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายแล้วนึกยิ้มในใจ
“ถ้าฉันท้อง ครอบครัวเราต้องสมบูรณ์แน่ๆ” มินพูดพร้อมยิ้มหวาน ครามลูบหน้ามินเบาๆก่อนจะพูดขึ้น
“ใช่ ฉันรู้จากคุณพ่อมาว่าเธอท้องได้ ฉันอยากให้ถึงวันนั้นไวไว”
“อีกไม่นานเกินรอหรอก” มินพูดจบเข้ากอดครามแน่น อีกฝ่ายกอดตอบอย่างแน่นไม่แพ้กัน มินยิ้มร้ายและเหลือบมองครามจากด้านหลัง
ไม่ต้องรอไวไวหรอกฉันท้องแล้ว
แต่พ่อของเด็กในท้องเป็นใครนี่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
จะเป็นนาย น้องชายของนาย หรืออาจจะเป็นใครสักคนในคืนนั้น
เย็นวันนั้นบนโต๊ะอาหารที่นิ่งเงียบเหมือนกับทุกวัน แต่วันนี้ดูเหมือนว่าจะเงียบผิดปกติ และทุกคนรับรู้ได้ถึงความอัดอัด บรรยากาศกดดันในห้องอาหาร
“หนูมินเป็นไงบ้าง มาอยู่บ้านของเรา” อาคมชวนคุยขึ้น เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศบางอย่างแต่ไม่อยากใส่ใจนัก
“ก็ดีครับคุณพ่อ ทุกคนดูแลมินอย่างดี”
“อื้ม แล้วคิดหรือยังจะไปฮันนีมูนที่ไหนกัน”
“ไปภูเก็ตครับ” มินตอบพร้อมยิ้มบางๆ อาคมมองหน้ามินก่อนจะยิ้มน้อยๆ
“ดีแล้ว ไม่ต้องไปไกล เพราะครามช่วงนี้งานเยอะ ไปไกลกลับมาจะคงต้องเคลียร์หนัก”
“ครับ” มินตอบแค่นั้นก่อนจะหันไปทานข้าวต่อจนอิ่ม
มินและครามทานเสร็จทั้งคู่ก็ขอตัวลุกขึ้นจากโต๊ะ แต่ไม่ทันจะออกจากห้องอาหาร อาคมก็เรียกครามไว้ซะก่อน
“คราม”
ครามหันมามองผู้เป็นพ่อ ทำให้มินต้องหันมามองด้วย
“พ่อหวังว่าฮันนีมูนรอบนี้พ่อจะได้อุ้มหลานนะ” อาคมพูดจบ ครามยิ้มมุม โอบมินเข้ามาในอ้อมแขนแล้วหอมแก้มโชว์
“ฟอด !!”
“ไม่ต้องห่วงครับพ่อ พ่อได้อุ้มหลานแน่ๆ”
ครามพูดจบปรายตามองคิมเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอย่างคนชนะ และโอบมินเดินออกจากห้องไป
คิมจ้องครามและมินที่เดินออกไปเขม็ง คิมแอบกำหมัดใต้โต๊ะแน่น
“คิม!”
“ครับพ่อ” คิมหันมามองผู้เป็นพ่อที่เรียกเชาเสียงดัง
“แกจะเหม่อไปถึงไหน ฉันเรียกตั้งนานละ”
“ขอโทษครับ” คิมพูดจบจะลุกขึ้นแต่อาคมพูดขึ้นก่อน
“หลังจากวันนี้ฉันอยากให้แกสนใจงานในบริษัทบ้าง เลิกเที่ยวได้แล้ว ปี3แล้ว”
คิมหันมามองผู้เป็นพ่อเล็กน้อยก่อนจะก้มหัวให้
“เรื่องไหนที่มันไม่ดีก็หยุดซะ ฉันขอเตือนไว้ ถ้าวันนึงแกถลำลึกลงไปมันไม่สนุกเหมือนที่แกคิดอยู่แน่ๆ”
อาคมพูดพร้อมจ้องมองลูกชายคนเล็กของเขา ครามสบตาพ่อของตนเล็กน้อยไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เมื่อทุกคนออกไปหมด อาคมล้มตัวนั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อย เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ชีวิตของเขาต้องยู่บนหลังเสือ ต้องพยายามวางมาด ตั้งท่าให้คนอื่นเกรงกลัว แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆคนอย่างเขาก็เหนื่อยเป็น เขาแก่ตัวมาทำให้รู้ว่าเขาไม่ต้องการอำนาจ เงินทองอะไรอีก เขาต้องการแค่ใครสักคนข้างๆกันในวันที่เหนื่อยล้า
อาคมหลับตาลง ทั้งๆที่อยากจะร้องไห้ แต่เขากลับร้องไม่ได้
เขาจะให้ใครเห็นเขาอ่อนแอไม่ได้
มินไปเรียนตามปกติในวันต่อมา เขาเดินเข้ามาในตึกเรียน ทุกคนหันมามองเขาอย่างเคย บางกลุ่มก็ซุบซิบถึงเรื่องราวของเขา แต่มินกลับไม่สนใจ เชิ่ดหน้าเดินไปที่กลุ่มเพื่อนเขา
“เป็นไงบ้างคะเจ้าสาวหมาดๆ” นพแซวทันทีที่มินนั่งลง
“ก็ดี สามีดูแลดี” มินพูดพร้อมเบ้ปากอย่างน่าหมั่นไส้
“ดีออก!!” เพื่อนทั้งสามร่วมกันอวยพรมินทันที มินหัวเราะออกมาทันที
“มึงดูสดใสขึ้นนะมิน” แป้งพูดขึ้นพร้อมสำรวจเพื่อนตรงหน้า
“จริงเหรอ” มินเอียงหน้ามองแป้ง คนอย่างเขานี่นะสดใส
“กูก็ว่างั้น มึงดูเปล่งปลั่ง มีราศีอย่างบอกไม่ถูก” วุ้นพูดขึ้นอีกคนพร้อมลูบแขนมินแล้วพูดต่อ
“ผิวพรรณมึงดูเปล่งปลั่งขึ้น ดูสวยขึ้นว่ะ”
วุ้นพูดจบมินยกกระจกมาสำรวจตัวเอง เขาว่าเขาก็ปกตินะ
“แบบนี้แหล่ะ เขาเรียกราศีของคนมีผัว” นพสรุปให้ทุกคน ทุกคนหัวเราะร่าทันที
เรียนเสร็จมินเดินมาที่ลาดจอดรถ ครามให้คนที่บ้านไปเอารถของเขาพร้อมของใช้จำเป็นของเขาจากบ้านมาให้ มินกำลังจะไขกุญแจรถแต่โดนเรียกขึ้นซะก่อน
“มิน” เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้มินหันไปมอง เจอต่อยืนพิงรถข้างๆกอดอกมองเขา
มินมองต่อหัวจรดปลายเท้า ผู้ชายคนนี้ดูดี หน้าลูกครึ่งอังกฤษของอีกฝ่ายผสมกันลงตัว รูปร่างสูงใหญ่แบบคนมีเชื้อนอก ตัดสกินเฮด เจาะหูแบบนี้ สาวๆคงชอบไม่น้อย
“มีอะไร”
“ทำไมพูดห่างเหินกับผมขนาดนี้ละครับ”
“ฉันไม่ได้สนิทกับนายขนาดนั้น”
“แน่ใจเหรอครับว่าไม่ได้สนิท” ต่อพูดพร้อมมองเขาหัวจรดปลายเท้าแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
มินกอดอกมองอีกฝ่ายอย่างจิกก่อนจะพูดขึ้น
“แน่ใจสิ”
“ไม่สนิทก็ไม่สนิทครับ โอเค” ต่อพูดพร้อมยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้
มินมองอีกฝ่ายก่อนจะขึ้นรถไปแต่โดนกระชากจากด้านหลังซะก่อน
“โอ้ย !! ปล่อย !!”
“ผมไม่ทำอะไรมินหรอกครับ ไม่เห็นต้องทำหน้าดุขนาดนั้น” ต่อยืนหน้าเข้ามาใหล้มินเรื่อยๆ จนมินต้องยกเข่ากั้นไว้
ต่อเห็นท่าทีของอีกฝ่ายเลยพูดต่อ
“รู้ไหมเวลามินทำหน้าดุ หยิ่ง มันเซ็กซี่หน้าขยี้ขนาดไหน” ต่อพูดด้วยแววตาหื่นจนมินขนลุก มินเชิดหน้าสู้อีกฝ่ายก่อนถาม
“นายต้องการอะไร มาดักรอฉันทำไม”
“ผมไม่ได้มาดักรอมินนะครับ บังเอิญผมจอดรถข้างๆมิน” ต่อพูดแล้วหยุดก่อนจะยิ้มแล้วกระซิบข้างหูมินพูดต่อ
“บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่อาจะเป็นพรหมลิขิต”
ต่อพูดจบมินจะกระแทกเข่าเข้าไปที่กล่องดวงใจ แต่อีกฝ่ายหลบได้ซะก่อน
“นั้นแหน่ะ อย่าคิดว่าผมรู้ไม่ทัน”
มินยิ้มหวานให้อีกฝ่ายก่อนเอามือที่ว่างอยู่ไปบิดเป้าอีกฝ่ายเต็มแรง
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย !!!!”
“แล้วครั้งนี้ยังรู้ทันไหม”
มินพูดจบขึ้นรถแล้วรีบเร่งครื่องออกไปทันที
____________________________________________________________________________
มาต่อให้แล้วครับ ช่วงนี้สอบมิดเทอมอาจจะมาต่อช้าหน่อย แต่หลังจากนี้จะปกติครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์นะครับ
ติชมได้นะครับ คนเขียนยินดีรับฟัง