Chapter 16รถโตโยต้าโกโรโกโสเคลื่อนเข้าไปจอดในที่จอดรถของบริษัท ซึ่งทั้งบริเวณมีรถจอดอยู่สองสามคันเท่านั้น รอบๆ ข้างมีเพียงแสงสลัวจากเสาไฟที่ตั้งไว้ตามทางเดินเข้าไปยังตัวตึก
ขาเรียวก้าวลงมาจากรถก่อน จากนั้นชายหนุ่มผิวขาวจึงหันกลับไปบอกคนที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัย “ที่จริง คุณมาส่งผมอย่างเดียวก็พอ วันนี้ผมคิดว่าคงจะแค่อัปเกรดซอฟต์แวร์ทิ้งไว้ มันต้องใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน พรุ่งนี้ผมถึงจะเข้ามาทำงานต่อ”
“มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะไล่ผมกลับบ้านอีกเหรอครับเนี่ย”
“ผมไม่ได้ไล่...” ...เขาก็แค่คิดว่า เป็นธรรมดาของหัวหน้าที่จะไม่อยากให้ลูกน้องเหนื่อยฟรีๆ โดยไม่ได้ค่าตอบแทนน่ะสิ
“เรารับผิดชอบโพรเจกต์นี้ร่วมกันไม่ใช่เหรอครับ ถึงผมจะไม่เก่งเท่าผู้จัดการ แต่ผมก็คงช่วยอะไรคุณได้บ้าง” ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งพูดพลางดับเครื่องยนต์ แล้วก้าวลงมาจากรถ “เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ”
ทั้งสองเดินเคียงคู่กันเข้าไปภายในตัวอาคาร ทักทายยามรักษาการณ์ แล้วจึงขึ้นลิฟต์โดยสารไปยังชั้นสิบสาม ซึ่งเป็นชั้นที่ตั้งของห้องทำงานของพวกเขา
เมื่อไปถึงห้องแล็บ ต่างคนต่างก็เดินเข้าไปนั่งประจำที่หน้าแล็ปท็อปของตน นภเกตน์เปิดเช็กอีเมลแล้วจัดการโหลดซอฟต์แวร์ที่บริษัทใหญ่ของอุปกรณ์ชิ้นนั้นส่งมาให้ ขณะที่กำลังโหลดไป ตฤณก็ขยับเข้ามาปรึกษาปัญหาที่เขาติดค้างไว้
สองหนุ่มทำงานต่อไปอีกหลายชั่วโมง จนร่างโปร่งเห็นว่าเขาสามารถปล่อยงานให้ดำเนินไปข้ามคืนได้เอง จึงวางมือลง “คุณตฤณเสร็จรึยัง ของผมวันนี้คงจะหยุดไว้เท่านี้แหละ”
ปลายนิ้วหยาบที่กำลังพิมพ์คำสั่งรัวๆ หยุดกึก ก่อนเจ้าตัวจะหัวเราะเบาๆ “ผู้จัดการ เวลาแบบนี้คุณควรจะถามต่อว่า มีอะไรให้ช่วยมั้ย ด้วยนะครับ”
นภเกตน์ขมวดคิ้ว “...ก็ผมแค่ถามเฉยๆ ว่าคุณเสร็จรึยัง ไม่ได้คิดจะช่วยนี่”
ตฤณยิ่งหัวเราะหนักขึ้น... เจ้านายเขานี่ จะตรงเป็นไม้บรรทัดเลยรึไง “มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างสำหรับคนฟังนะครับ ถึงคุณจะไม่ได้คิดที่จะช่วย แต่ก็ถามไปก่อน เพื่อให้คนที่ถูกถามรู้สึกดี ส่วนใหญ่แล้ว คนที่ถูกถามก็จะตอบไปตามมารยาทว่าไม่มีอยู่ดีล่ะครับ”
“ทำไมล่ะ... ถ้าอยากให้ช่วย ทำไมไม่บอกให้ช่วยตรงๆ เลยล่ะ”
“อืมมม... มันคงเป็นนิสัยขี้เกรงใจของคนไทยละมั้งครับ”
ผู้เป็นนายนิ่งไปสักพัก แล้วหันไปหาอีกฝ่าย “...คุณตฤณมีอะไรให้ช่วยมั้ย”
“มีครับ ช่วยใส่ QoS ที่เครื่องหมายเลข IP xxx.xxx.xxx.xxx ให้ทีครับ”
นภเกตน์ลุกขึ้นพรวดแล้วขมวดคิ้วมุ่น พร้อมกับต่อว่า “ไหนคุณว่า ปกติแล้วจะตอบว่า ไม่มี ไง”
“ก็ผมไม่ปกติไง... มารยาทก็ไม่มีด้วย” ร่างสูงอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เจ้านายของเขานี่ น่ารักขึ้นทุกทีๆ แล้ว
ฮะ!? น่ารักเหรอ... ตฤณชักเริ่มจะงงกับความคิดของตนซะแล้วซี
ฝ่ายผู้เป็นนายนั่งลงบนฝากล่องหน้าแล็ปท็อปอีกครั้ง แล้วจัดการทำงานที่ผู้ช่วยขอให้ช่วย พร้อมกับนึกบ่นอยู่ในใจไปว่า คอยดูเถอะ ต่อไปจะไม่หลงเชื่ออะไรตฤณอีกเป็นอันขาด
“เสร็จแล้ว... ผมกลับแล้วนะ” นภเกตน์ลุกขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่คิดจะถามเจ้าผู้ช่วยตัวแสบอีกแล้ว กลับเลยดีกว่า
“ผมก็เสร็จแล้ว ไปครับ กลับกันดีกว่า”
ร่างโปร่งก้าวฉับๆ ออกไปโดยไม่รออีกฝ่าย แต่ตฤณก็ยังเดินตามไปเรื่อยๆ จนออกจากตึก ผ่านที่จอดรถไปแล้ว นภเกตน์จึงหันกลับมาถามเสียงดุ
“ไม่กลับบ้านรึไง”
“ก็จะเดินไปส่งผู้จัดการก่อน”
“ผมกลับเองได้”
“ผมรู้ครับ”
“รู้แล้วจะตามมาทำไม”
“ผมบอกว่าผมรู้ครับ ว่าคุณกลับเองได้ ไม่ได้บอกว่าจะไม่เดินไปส่งนี่ครับ”
“ฮื้ยยยยยย! คุณนี่มัน... กวนประสาทที่สุด” นภเกตน์บ่นเสียงดังๆ ให้คนที่เดินตามมาติดๆ ได้ยิน แต่พอหันหน้าไปมอง ตฤณกลับทำเป็นไม่ได้ยินเขาซะอย่างงั้น ให้มันได้อย่างนี้สิ! แล้วพอหันหน้ากลับไปมองทางเดินข้างหน้า เขาก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายหัวเราะ
“วันนี้ขอบคุณมากนะครับ ผมสนุกมาก”
คนที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปในตึกหยุดชะงัก แต่เมื่อคิดว่าอาจจะโดนแกล้งอะไรอีก เขาก็ทำเป็นไม่สนใจ ขาเรียวพาเจ้าของเดินเข้าไปภายในอาคารที่พัก ไปจนถึงลิฟต์โดยสาร
“จะไม่บอกลากันสักนิดเหรอครับ”
นภเกตน์สะดุ้งเฮือก “คุณตฤณ! ยังไม่กลับไปอีกเหรอเนี่ย แล้วตามผมเข้ามาทำไม!”
“ก็ว่าจะมาขอกาแฟผู้จัดการสักแก้ว”
“ไม่ให้” ร่างโปร่งก้าวออกไปจากลิฟต์โดยสารทันทีที่มาถึงชั้นที่หมาย แล้วสาวเท้าไปยังห้องพัก จากนั้นก็รีบเปิดประตูห้องแล้วปิดอย่างรวดเร็วดังปังใหญ่ ให้เสียงสะท้อนก้องไปทั้งชั้น
ก๊อกๆ
“ผู้จัดการคร้าบบบบบบบบบ ผมหิวววววววววว”
“หิวเหลือเกิน โอยยยยยย ครืดดดด ครืดดดดด” (sfx : จูออน)
“หิววววววววววววววว!”
“ฮื้ยยยยยย!!” นภเกตน์เปิดประตูห้องออกอีกครั้ง “คุณจะตะโกนทำไม!”
ตฤณหัวเราะ “ก็ผมหิวกาแฟ... ขอแค่แก้วเดียวเท่านั้นล่ะครับ”
“เฮ้อ!” ร่างโปร่งหมุนตัวกลับเข้าห้องไป โดยปล่อยให้บานประตูปิดลงเองช้าๆ และนั่นก็เป็นโอกาสให้ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งแทรกตัวเข้ามาภายในห้องได้
“ว้าว! ห้องผู้จัดการใหญ่เท่าบ้านผมทั้งบ้านเลยอ้ะ” ตฤณถือวิสาสะเดินตามเจ้านายไปตามทางเดินในห้อง
มือขาวชี้ไปทางห้องนั่งเล่น “ไปรอห้องนู้น เดี๋ยวชงกาแฟไปให้”
“คร้าบบบบ~”
ภายในห้องนั่งเล่นที่ฝาผนังฉาบไว้ด้วยสีครีม บานหน้าต่างมีผ้าม่านสีแดงเลือดนก ซึ่งเข้ากันได้ดีกับสีของพรม ตรงมุมห้องมีต้นไม้ต้นใหญ่ในกระถางตั้งอยู่ ใกล้ๆ กับชั้นหนังสือที่ฝังลงไปในผนังห้อง และบนชั้นนั้นมีหนังสือ text book เล่มหนาตั้งเรียงไว้จนเต็ม
ร่างสูงเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวเขื่องตรงกลางห้อง สายตาของชายหนุ่มจับจ้องไปยังโทรทัศน์จอยักษ์ที่ตั้งอยู่ตรงข้าม แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองดูโคมไฟคริสตัลขนาดเล็กบนเพดาน ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าเจ้านายของเขาช่างเลือกแต่งห้องได้อย่างสุดหรูเลยจริงๆ
...ที่จริงตฤณก็ไม่ได้อยากแกล้งเจ้านายนักหรอก แต่เพราะยิ่งกวนประสาท นภเกตน์ก็ยิ่งดูน่ารัก ทำให้เขาหยุดไม่ได้... บวกกับความรู้สึกไม่อยากกลับไปบ้านที่มีเขาอยู่เพียงตัวคนเดียว เขาอยากมีใครสักคนที่อยู่ด้วยแล้วสามารถดึงความสนใจจากตนเองไปทั้งหมดได้อยู่ใกล้ๆ
กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นลอยมาเตะปลายจมูก ตฤณสูดเข้าไปจนเต็มปอด เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็หันไปยิ้มรื่น “กลิ่นหอมจังครับ”
นภเกตน์วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาตัวเขื่อง ก่อนจะนั่งลงข้างๆ กัน “ดื่มให้เสร็จแล้วก็กลับไปซะ”
ตฤณเอื้อมไปหยิบถ้วยกาแฟมาจิบ “อื้อ อร่อย...”
“ดื่มไวๆ หน่อย จะได้ไปสักที”
“ยังไม่กลับไม่ได้เหรอครับ”
เจ้าของห้องพูดเสียงดุๆ “ไหนว่าขอกาแฟแก้วเดียวไง”
“ก็ขอกาแฟแก้วเดียวจริงๆ นี่ครับ แต่ผมไม่ได้บอกว่าดื่มแล้วจะกลับสักหน่อย”
...ฮื้ยยยย... พลาดท่า! นภเกตน์ถอนหายใจแรงๆ “...ผมไม่เคยเห็นใครกวนประสาทแล้วก็ช่างตื๊อแบบคุณตฤณเลยจริงๆ”
แขกผู้ไม่ได้รับเชิญยิ้มกว้างจนแก้มบุ๋ม “แต่ผมก็ไม่น่ารำคาญใช่มั้ยล่ะครับ”
“.....” ก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า... แม้จะหงุดหงิด แต่กลับไม่รู้สึกรำคาญ ก็แปลกดี “ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณยังไม่กลับบ้านอีกนะ โอ้เอ้อยู่ได้”
ร่างสูงยิ้มบาง เขาวางแก้วกาแฟลง แล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา “อื้ม... สบายดีจริงๆ”
“...คุณไม่ตอบคำถามผม”
“ผมไม่อยากอยู่คนเดียว...”
“.....” สงสัยคงจะยังเฮิร์ตเรื่องที่ถูกทิ้ง... ยิ่งตอนนี้ ทำหน้าเหมือนแมวโดนทำหมันเลยจริงๆ นภเกตน์ชักรู้สึกสงสาร เขาวางแขนลงบนที่เท้าแขนของโซฟาแล้วยกขึ้นเท้าคาง
แต่แล้วตฤณก็ยิ้มเผล่ “ผมขี้เหงาน่ะครับ”
แม้น้ำเสียงจะยียวนเหมือนทุกที แต่เจ้าของห้องกลับรู้สึกว่าน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความโศกเศร้าแล้วก็เหงาๆ พิกล
เหงา... งั้นเหรอ จะว่าไปตฤณก็ไม่ต่างกับตัวเขาสักเท่าไหร่ นภเกตน์เสตาหลบพร้อมกับนิ่งไปสักพัก จากนั้นจึงพูดเสียงเบา “...คุณจะค้างที่นี่ก็ได้นะ ถ้าไม่รังเกียจที่จะนอนบนโซฟานี่ ยังไงพรุ่งนี้คุณก็จะเข้าบริษัทไปทำงานแต่เช้าพร้อมกับผมใช่มั้ย”
“คร้าบบบ~”
นภเกตน์พรูลมหายใจออกมาอีกครั้ง “ห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงข้าม ถัดไปเป็นห้องครัว...”
“แล้วห้องของผู้จัดการอยู่ไหนล่ะครับ”
“ถ้าอยากจะนอนที่นี่ อย่าคิดจะเข้าไปใกล้ห้องของผมเชียว” ร่างโปร่งถลึงตาใส่
“ว้า~ น่าเสียดาย” ผู้ช่วยตัวดียิ้มกริ่ม
...คิดผิดรึเปล่านะที่ใจอ่อน... นภเกตน์นึกอยากดึงทึ้งเส้นผมตนเองรัวๆ แต่ก็กลัวผมจะหลุดร่วงติดมือ ผมเขายิ่งมีน้อยๆ อยู่ด้วย... ผู้เป็นเจ้าของห้องลุกพรวดแล้วจ้ำอ้าวออกจากห้องนั่งเล่นไป
TBC~*พี่ตฤณพาตัวเองเข้าไปในห้องน้องนภได้แล้ว สกิลไหลลื่นไม่ใช่เล่นเลยนะคะ 5555 ปลาไหลยังต้องหยุดมองหน้า
ตอนหน้ามีอะไรน่ารักๆ ให้อ่านแน่นอน รอติดตามนะค้า
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากค่า
ปล. แปะโป้งพี่ทาริคไว้ก่อนนะคะ ฮัสกี้มึนไปหน่อย ลืมอ่านทวนกับ edit ซะงั้น /นอนลงรับโทษ