[ มนต์รักข้าวมันไก่ ] (〇´∀`〇)....จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ มนต์รักข้าวมันไก่ ] (〇´∀`〇)....จบแล้ว  (อ่าน 85258 ครั้ง)

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ว้ายๆ อินเจอพ่อแม่สามีซะแล้ว

จะดราม่ามั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
อยากดราม่าน้ำตาเล็ดจุง

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อ้าวววววว อินเจอแม่สามีแบบไม่ตั้งใจซะแร้นนน
ทำไงล่ะทีเนี้ย 55555
ปล. ลานานจุง TT ตั้งใจอ่านหนังสือสอบนะคะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
แม่สามีมาแบบกะทันหันอินจะทำยังไงล่ะทีนี้
ว่าแต่แม่สามีจะยอมรับได้ไหมล่ะเนี่ยที่พัดหาลูกสะใภ้ไร้นมให้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4

ออฟไลน์ YJoum

  • CharlessuhNB
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกมากจ้าา  :katai4:

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4




   บทที่27




   แขกแปลกหน้าที่มีเยือนห้องของพัดในช่วงสายของวันหยุดยาวถูกอินเชิญให้นั่งพักตรงโซฟาท่ามกลางความงุนงงของทั้งสองฝ่าย ด้านหญิงวัยกลางคนดูเหมือนจะปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ได้เลย แต่ด้านนายอินนั้นพอจะเห็นเค้าลางบางอย่าง...เค้าลางแห่งหายนะ



   ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของไอ้พัด



   ไม่รู้ว่าโชคร้ายที่อินดันตื่นขึ้นมาก่อน จึงต้องรับหน้าไปเต็มๆหรือโชคดีที่คุณแม่ไม่ต้องมาเห็นภาพลูกชายนอนก่ายอยู่กับผู้ชายด้วยกัน อินฉีกยิ้มเป็นมิตรและทำตัวสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยการนำน้ำและของว่างมาเสริฟก่อนจะพาตัวเองเผ่นเข้าห้องนอนไปด้วยใจกระวนกระวาย



   “เดี๋ยวผมปลุกพัดให้นะครับ”หญิงวัยกลางคนพยักหน้ารับ เธอคงเข้าใจว่าเขาเป็นเพื่อนของลูกชายเลยทำท่าทางเอ็นดู



   ทันทีที่ปิดประตูห้องนอน นัยน์ตาสีดำคมปราดก็จ้องทะลุใบหน้าของคนเพิ่งตื่นนอนซึ่งส่งยิ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวมาให้ อินถลึงตาใส่รอยยิ้มนั้นก่อนตรงเข้าไปคว้ากองเสื้อบนพื้นยัดใส่มือเจ้าของห้องแล้วกำชับเสียงเข้มว่า



   “ใช่เวลามายิ้มมั้ยมึง งานเข้าแบบชิบหายแล้วเนี่ย แม่มึงมา!!”นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังประตูเชื่อมกับห้องนั่งเล่น”นั่งงงว่ากูเป็นใครอยู่นอกห้องโน่น! ไปเคลียร์ด่วนเลยมึง”สิ้นคำพัดก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ร่างสูงใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดประตูออกไป
เผชิญหน้ากับมารดาที่มาผิดเวลา



   “มะ...แม่...”เสียงทุ้มเอ่ยทักคนบนโซฟา พัดค่อยๆเดินไปหาแม่ของตนด้วยความฉงน



   “ตื่นแล้วเหรอลูก”



   “ครับ ว่าแต่แม่มาทำไมเหรอ”



   “ตายจริงถามซะเย็นชาเชียว คนเป็นแม่จะมาเยี่ยมลูกชายต้องทำหนังสือขออนุญาตก่อนรึไง”เท่าที่พัดเคยเล่าให้ฟัง อินรู้แค่ว่าแม่ของมันชื่อรัตติกาล อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่กับพ่อและน้องชายและประกอบธุรกิจส่งออกไวน์องุ่นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้มันเท่าไหร่ การที่คุณรัตติกาลคนนี้เดินทางมาถึงกรุงเทพแสดงว่าต้องมีเรื่องสำคัญ



   ทั้งสองคนหันมาสบตากันด้วยความหวาดหวั่น



   “เราชื่ออะไรจ๊ะ”แต่แทนที่หล่อนจะเปิดประเด็นเรื่องธุระสำคัญเธอกลับหันมาชวนอินคุยเสียนี่ เล่นเอาคนมีชนักติดหลังถึงกับสะดุ้งโหยง จากเดิมที่นั่งไม่ค่อยสบายตัวอยู่แล้วตอนนี้กลายเป็นนั่งแทบไม่ติดไปเลย



   “ผมชื่ออินครับ!!”ถ้าโดนถามว่าเป็นอะไรกับพัดต้องแย่แน่ๆ



   “หล่อจังเลย เป็นเพื่อนของตาพัดเหรอจ๊ะ”นั่นไง ชัดเลย!! อินเหลือบสายตาขอคำปรึกษากับคนข้างกาย จะให้เขาตอบว่าใช่ครับ เป็นเพื่อนกันก็ได้อยู่หรอกแต่ถ้าพัดเกิดน้อยใจหรือมันดันไม่อยากโกหกแม่ขึ้นมาจะซวยเอา



   และที่ซวยยิ่งกว่าคือถ้าบอกไปแล้วแม่มันเกิดรับไม่ได้ขึ้นมา



   อินเชื่อว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่คงทำใจไม่ได้ที่ลูกชายซึ่งชอบผู้หญิงมาทั้งชีวิตเปิดตัวว่าคบกับผู้ชาย ขนาดคนใจกว้างอย่างพ่อของเขายังออกอาการปลงตกซะมากกว่ายอมรับเลย



   หลังจากแน่นิ่งมองตากันเสมือนทั้งห้องมีกันแค่สองคนอยู่ชั่วอึดใจ พัดก็ส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ ดวงตาคู่สีน้ำตาลเข้มฉายแววรู้สึกผิด แต่อินก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะตอบความจริงออกไปอยู่แล้วจึงคลี่รอยยิ้มอ่อนกลับไป



   “ครับ ผมอยู่กับเพื่อนที่ห้องข้างๆนี่แหละ เมื่อคืนแวะมาเล่นเกมส์กับไอ้พัดจนดึกเลยนอนต่อที่นี่เลย”



   “เหรอลูก ดีจังเลยที่พัดสนิทกับเพื่อนบ้านแบบนี้ ตอนแรกแม่เองก็เป็นห่วงกลัวว่าเขาอยู่คนเดียวแล้วจะเหงา นี่ก็เลิกกับแฟนคนล่าสุดมาเป็นปีๆแล้วมีอินมาเล่นด้วยค่อยอุ่นใจหน่อย”ในสายตาของตนเป็นแม่ยังไงซะลูกก็ดูเด็กเสมอ คุณรัตติกาลพูดด้วยความ
อ่อนโยน ความห่วงใยนั้นทำให้คนหนุ่มสองคนต้องหลบสายตาด้วยความละอายใจ



   หลายๆในคำพูดนั้นมันบาดหัวใจ



   “ว่าแต่วันนี้แม่มีเรื่องด่วนอะไรเหรอครับ”พัดรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อทำลายบรรยากาศอึดอัดแปลกๆที่เข้ามาปกคลุมวงสนทนา เจ้าตัวเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วสมฉายาจอมเนียนที่อินมอบให้



   “อ๋อ...ลูกชายคุณศรีลูกค้าเก่าแกของเราเขาจะแต่งงาน แม่ก็เลยต้องมาร่วมแสดงความยินดี ตอนแรกก็จะให้ตาพัดไปแทนให้อยู่หรอกแต่คิดว่าคงไม่ได้เรื่องเมื่อคืนโทรหาตั้งหลายสายก็ไม่รับ แม่เลยต้องจองตั๋วเครื่องบินด่วนมานี่แหละจ่ะ”



   คำว่าเมื่อคืนโทรมาหลายสายแต่ไม่มีใครรับพุ่งเข้าปักกลางใจดำของอิน ลมหายใจของเด็กหนุ่มขาดห้วง



   ไม่รู้ว่าจะโดนจี้ใจดำอีกสักกี่ประโยค เกือบสิบนาทีที่มานั่งคุยกับสองแม่ลูกเล่นเอาอินหน้าชาไปครึ่งแถบก่อนจะหาทางหนีกลับห้องดีดีด้วยคำขอตัวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า”ผมขอตัวกลับห้องก่อนดีกว่า เชิญแม่ลูกคุยกันตามสบายเลยนะครับ”จากนั้นร่างโปร่งก็รีบเผ่นออกจากห้องด้วยความเร็วแสง



   “โอยยยย ไมเกรนขึ้น”เสียงห้าวบ่นกระปอดกระแปดเมื่อปิดประตูห้องของเพื่อนสนิทอย่างดีดีเขาก็เอาตัวพิงกรอบประตูแล้วก็ทุบหัวตัวเองเบาๆท่ามกลางสายตางุนงงของดีดีที่เพิ่งตื่นขึ้นมานั่งดูอนิเมพอดี



   “เกิดอะไรขึ้นเหรออิน”



   “แม่ไอ้พัดมา”อินตอบไปตามตรงก่อนจะเปิดตู้เย็นรินน้ำดื่มอึกใหญ่ ด้านดีดีก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อไม่รู้เป็นเพราะเห็นบรรยากาศมาคุรอบๆตัวของอินหรือเป็นเพราะกำลังดูอนิเมเพลินๆเลยไม่สนใจสิ่งอื่นๆแต่ก็นับเป็นการดี



   “กูอาบน้ำแป๊ปนะ ใครมาหาบอกว่ากูออกไปข้างนอกแล้ว”พัดยิ่งเดาใจยากอยู่ เกิดมันอารมณ์แปรปรวนอยากแนะนำให้แม่กับแฟนสนิทกันขึ้นมาแล้วมาตามถึงห้องคงแย่เพราะเท่าที่พูดคุยกันเมื่อครู่คุณรัตติกาลดูจะรักและคาดหวังในตัวลูกชายคนโตคนนี้
มาก



   เธอเป็นแม่ที่ดี เขาจึงไม่อยากทำให้แม่ต้องผิดหวัง...แม้ว่านั่นจะไม่ใช่แม่ของเขาก็ตาม



   “แล้วทำไมกูต้องไปสนใจแม่ชาวบ้านขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย”



   ก๊อกๆ



   บ่นยังไม่ทันขาดคำก็มีคนมาเคาะประตูห้องน้ำ อินขมวดคิ้วมุ่น



   “มีไรวะ”หรือดีดีจะปวดขี้กะทันหันอั้นไม่ไหวแล้ว อินคิดหาความเป็นไปได้ต่างต่างนานาทว่าเสียงน้ำจากฝักบัวก็ดังกลบเสียงตอบรับจากด้านนอกจนหมด ร่างโปร่งที่ล้างสบู่เสร็จพอดีจึงคว้าผ้าขนหนูมาพันเอวไว้และเปิดประตูห้องน้ำออก...



   ดวงตาคู่คมเบิกโพลงด้วยความตกตลึง



   ภาพที่สะท้อนอยู่ในนัยน์ตาสีดำขลับของอินก็คือ!!



   คือ!!



   คุณรัตติกาล!!



   ด้านหญิงวัยกลางคนเองก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ เธอยกมือขึ้นทาบอกแล้วก็อุทานเบาๆไม่ได้ศัพท์ ทั้งคู่ไม่มีท่าทีว่าจะดึงสติกลับมาได้เลยเดือดร้อนพัดที่แอบช็อคกับเหตุการณ์ดังกล่าวต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย



   มือแกร่งดันอกขาวๆของอินให้ถอยกลับเข้าไปในห้องน้ำก่อนกระซิบเสียงแผ่วว่า”ใส่เสื้อผ้าซะ”ด้วยใบหน้าตึงเครียดก่อนจะปิดประตูลง



   ประตูสีขาวของห้องน้ำเพียงห้องเดียวภายในห้องชุดของดีดีซึ่งอินคุ้นเคยกำลังหมุนไปหมุนมาตามความช็อคของสมอง นายอัครินทร์ตอนนี้สะกดคำว่าสติไม่เป็นอีกต่อไปเมื่อเขาเหลือบตาไปมองทางกระจก



   สีหน้าหนักใจของพัดก่อนบานประตูจะปิดลงเขายังจำได้ขึ้นใจ



   และรอยแดงๆตามตัวที่สะท้อนอยู่ในกระจกเองก็ขึ้นสมองของอินไปแล้วเช่นกัน



   ชิบหาย!!



   นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจว่าแม่ของพัดมาเคาะห้องน้ำในห้องชาวบ้านทำไมแล้ว



   ประเด็นรอยพวกนี้!! รอยที่เกิดขึ้นใหม่ๆนี่!!



   คุณรัตติกาลคงไม่โง่ถึงขนาดไม่รู้ว่ามันคือรอยที่เกิดจากอะไร...และเธอคงเฉลียวฉลาดพอจะเดาได้ว่าใครเป็นคนทำ...



   ก็ในเมื่อคนที่อินอยู่ด้วยเมื่อคืนคือพัด



   “ออกไปบอกว่าเป็นฝีมือดีดีเขาจะเชื่อมั้ยเนี่ย”



...............................................................................................

รวมรวบแรงเฮือกสุดท้ายสลัดกองหนังสืออกมาแต่งให้ค่ะ :katai4: :katai4:

ขออภัยที่ชอบหายไปนานๆนะคะ TT^TT



ยังไงก็แวะไปทวงหรือเสนอแนะติเตียนได้ในเพจเสมอเลยนะคะ

https://www.facebook.com/nikkouseries

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
งานเข้า แต่ไม่รู้จะเข้าแบบดีหรือแบบร้าย

ให้ทำข้อสอบได้ดั่งที่หวังตั้งใจนะ :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
รออินเสมออออออน้าา

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ฝีมือดีดีเลยเหรอออ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
บทที่28 คนสองคน


   ขณะที่กำลังขับรถไปตามเส้นทางที่คุ้นชินจิตใจของคนขับอย่างพัดกลับไม่ได้จดจ่ออยู่กับถนนหรือกระทั่งพวงมาลัยแม้แต่น้อย



   ตอนนี้เขากำลังสติแตก



   เมื่อครู่หลังจากแม่ของเขาชวนให้ออกไปหาซื้อของแสดงความยินดีสำหรับพิธีแต่งงานที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆนี่ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าควรจะหาของกินอร่อยๆติดไม้ติดมือมาฝากเพื่อนบ้านของลูกชายด้วยจึงไปหาอินที่ห้อง...และเหตุการณ์ที่โคตรจะเลวร้ายก็เกิดขึ้น
   


        เขาแทบจะเป็นลมแทนคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวคนนั้น และอยากเป็นลมแทนแม่ของตัวเองที่ตาถลนจ้องมองร่องรอยที่เขาเป็นคนฝากเอาไว้บนเรือนร่างของอินเมื่อคืน



   หลังจากนั้นแม่ก็เดินหน้าตึงออกมาจากห้องของอิน...และไม่ปริปากพูดอะไรออกมาอีกเลย



   “ถึงแล้วครับ...แม่”เสียงทุ้มกล่าวพลางทอดมองคนที่เบือนหน้าออกไปทางหน้าต่างด้วยความหวาดกลัว



   พัดรู้จักแม่ของตัวเองดี



   ที่เงียบแบบนี้ไม่ใช่เพราะโกรธ แต่กำลังเสียใจ



   ที่เงียบแบบนี้ไม่ใช่เพราะไม่อยากพูดด้วย แต่สิ่งที่ต้องการจะพูดนั้นมีแต่จะทำร้ายลูกชายอย่างเขา...เลยเลือกที่จะเงียบ



   “แม่...”เมื่อไม่มีการตอบรับใดๆจากคนข้างกาย พัดจึงดับเครื่องยนต์แล้วเอื้อมมือไปคว้าไหล่ของผู้หญิงที่ตนรักที่สุดในชีวิตเอาไว้”ผมขอโทษ” ไหล่นั้นกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือเอื้อนเอ่ยคำขอโทษ ก่อนผู้เป็นแม่จะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถและก้าวเดินลงไป



   “แม่ เดี๋ยว! รอผมด้วย แม่!!”เขาไม่รู้ว่าช่วงเวลานี้ควรพูดอะไร แม้ว่าสิ่งที่ทำจะใช่ไม่ความผิดแต่ยามเห็นสีหน้าแบบนั้นของแม่ตัวเองแล้วความรู้สึกผิดกลับกดทับจนเจ็บปวด พัดกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหญิงวัยกลางคนที่สาวเท้ายาวๆราวกับพยามเดินหนีจากลูกชาย...และความจริงของลูกชายที่เพิ่งรับรู้



   “แม่ ผมขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ!!”ร่างสูงใจหายกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะร้องเรียกหรือวิ่งตามไปเดินข้างๆกันแม่ก็ยังทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ ภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าที่ปราศจากผู้คนหรือกระทั่งเสียงรบกวนใดๆแห่งนี้ แต่เสียงของเขาก็ส่งไปไม่ถึง



คุณรัตติกาลหยุดเดิน เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพลางปรายตามองใบหน้าเศร้าหมองของลูกชายคนโต



   “พัดไม่ต้องพูดอะไรแล้ว แม่ไม่ได้โกรธเราหรือเกลียดอินแต่ขอแม่อยู่คนเดียวก่อนนะลูก แม่ยังไม่พร้อมจะรู้อะไรเกี่ยวกับเราตอนนี้...”



    “แต่ว่า...”



   “ถือว่าแม่ขอร้อง...กลับไปเถอะ”



   .



   .



   “เกิดอะไรขึ้นเหรออิน ทำไมแม่ของพัดถึงเดินหน้างถมึงทึงออกไปอย่างนั้นล่ะ...เราไม่ได้ทำอะไรผิดไปใช่มั้ย”ดีดีถามเพื่อนของตัวเองที่นอนก่ายหน้าผากท่าทางเคร่งเครียดอยู่บนโซฟาตัวยาวในขณะที่เจ้าของห้องอย่างเขาต้องนั่งกระจ๋องอยู่บนพื้นมองซ้ายมองขวาหาทางออกของปัญหาที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืออะไร



   อินเลือกที่จะตอบคำถามของเพื่อนด้วยความเงียบ...ไม่สิ ความจริงแล้วมันจุกเหมือนโดนอัดหน้าเลยพูดอะไรไม่ออกซะมากกว่า



   เขานอนหมดแรงอยู่ตรงนี้มาได้เกือบชั่วโมงแล้ว ดีดีเองก็นั่งถามด้วยความกระวนกระวายอยู่อย่างนี้ตลอดหนึ่งชั่วโมงเช่นกัน ทั้งเครียดทั้งสงสารเพื่อนแต่ตอนนี้เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงกระทั่งพูดอะไรแล้ว อินเกลียดความกลัวเพราะความหวาดกลัวจะทำให้เขาอ่อนแอ



   เขากำลังกลัวที่จะเผชิญหน้ากับพัด



   “มึงคิดว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคนมั้ยวะ”ในที่สุดก็มีคำพูดหลุดลอยออกมาจากริมฝีปากของอิน เขาเอ่ยถามเพื่อนสนิทในขณะที่สายตาเหม่อลอยมองเพดานห้องจนดูเหมือนกำลังถามตัวเองเสียมากกว่า แต่ถึงกระนั้นดีดีก็ตอบกลับคำถามของอิน



   “ความรักก็ต้องเป็นเรื่องของคนสองคนสิ ถ้ามีสามคนก็เป็นรักสามเส้า”



   คำตอบนั้นเรียกเสียงของเราะเบาๆจากคนกำลังจมอยู่ในภวังค์ ดีดีก็ยังคงเป็นดีดีผู้อ่อนต่อโลกคนเดิม อินคลี่ยิ้มอ่อนแรงขณะยังไม่ละสายตาจากเพดานราวกับว่าที่ตรงนั้นมีอะไรน่ามองหนักหนา



   “ผิดแล้ว...ความรักอาจจะเกิดจากคนสองคนจริงๆ แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องของคนสองคนหรอกนะ”



   ความคิดฟุ้งซ่านในหัวได้ข้อสรุปว่าเมื่อเขาและพัดเจอหน้ากันอีกครั้ง...พวกเราจะเลิกกัน



   ออดดดดดๆๆๆๆๆๆๆ



   ฉับพลันเสียงออดก็ดังขึ้น ดีดีขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจว่าใครมาหาเอาป่านนี้แต่ด้านอินนั้นหัวใจร่วงลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่มแล้วเมื่อเขารู้ดีว่าผู้มาเยือนคนนี้คือใคร



   “เดี๋ยวกูไปเปิดเอง”เสียงห้าวติดจะแหบพร่ากล่าวอาสา ร่างโปร่งค่อยๆยันกายขึ้นจากโซฟาด้วยความหน่วงใจก่อนจะเดินตรงไปยังประตู มือเรียวแตะลูกบิดค้างนิ่งอยู่พักใหญ่ทำให้คนด้านนอกยังคงกดออดต่อเนื่องไม่หยุดสร้างความรำคานใจแก่คนขี้โมโหอย่างอิน



   “โว้ยยยย คนกำลังทำใจจะกดเหี้ยไรนักหนา!!?”ด้วยความโกรธอินเลยลืมตัวเปิดประตูออกไปด่าคนน่ารำคานด้านนอก ในขณะที่คนน่ารำคานได้แต่ผงะอย่างตกใจ



   พัดกระพริบตาปริบๆมองร่างโปร่งเจ้าของใบหน้าบูดบึ้งตรงหน้า เขารีบบึ่งรถกลับมาที่นี่เพราะคิดว่าอินน่าจะกำลังดราม่าเคล้าน้ำตาอยู่ลำพังแต่ดูจากท่าทางปิดประตูและเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมาจากห้องและตรงปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อของเขาพร้อมกล่าวเสียงเข้มว่า



   “มาคุยกันหน่อยดิ๊”



   ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนดราม่าเคล้าน้ำตารอให้ตนมาปลอบสักนิด



   อินออกแรงดึงคอเสื้อของพัดให้ก้าวตามตัวเองอย่างทุลักทุเลไปยังลิฟท์ นิ้วเรียวจิ้มชั้นที่มีสวนหย่อมของคอนโดก่อนจะปล่อยมือจากคอเสื้อของอีกฝ่ายแล้วก็ทิ้งตัวพิงผนังลิฟท์และถอนหายใจเฮือกใหญ่



   อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าอินไม่ชอบให้ใครมาเห็นว่าอ่อนแอ โดยเฉพาะกับพัดในเวลาแบบนี้...เขาต้องทำเป็นเข้มแข็งเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ



   ใช้เวลาไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออก อินเดินนำออกมาที่สวนหย่อนใจซึ่งทางคอนโดจัดไว้ให้ลูกบ้าน ในวันแบบนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นั่นเป็นเรื่องดีสำหรับทั้งสองคนที่ต้องการคุยเรื่องส่วนตัวกันในที่สาธารณะ



   ร่างโปร่งจัดแจงนั่งลงตรงม้านั่งและตบที่ว่างข้างตัวให้พัดมานั่งข้างๆกันก่อนจะเอ่ยถามเรื่องสำคัญ”แม่มึงล่ะ”



   “ซื้อของอยู่ เขาบอกให้กูกลับมาก่อน”



   “โดนแม่ทิ้งเหรอ”



   “เปล่า แม่แค่ช็อคเลยอยากอยู่คนเดียว”



   “เหรอ...”อินลากเสียงยาว โคลงเคลงหัวไปมาเพื่อรวบรวมความกล้าพูดประโยคถัดมา



   “เราจะเลิกกันมั้ย”ก่อนที่พัดจะมาอินใช้เวลาเตรียมใจสำหรับการถามคำถามนี้ออกไปกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่เขาไม่ได้เตรียมใจมาเผื่อในส่วนของคำตอบทั้งสองมือจึงสั่นเทาตามแรงเต้นของหัวใจซึ่งรัวลั่นยิ่งกว่ากลองรบ



   “ไม่เลิก”พร้อมกับคำตอบจากพัด”ยังไงก็ไม่เลิก”



   “แล้วแม่มึงล่ะ”เพราะอยู่บนตึกสูงลมี่พัดมาเลยค่อนข้างแรง อินหลับตาแล้วก็เอามือขึ้นมาปัดเศษใบไม้ทั้งๆที่มันยังสั่นไม่หยุด



   “...”



.............................................................................

อะแฮ่มๆ

ไหนๆเนื้อเรื่องก็ดำเนินมาถึงจุดพีค(?)แล้ว นักเขียนเลยขอแจ้งข่าวให้ทุกคนทราบกันหน่อย 5555

เรื่องของเรื่องก็คือลูกชายของเรา(อีกสักพัก)จะได้ออกเป็นรูปเล่มกันแล้ว  :mc4: :mc4:


 


กับสำนักพิมพ์หนึ่งเดียวนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:

https://www.facebook.com/NuengdiaoHouse?fref=ts
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2015 21:12:46 โดย nikkou »

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
เริ่มยุ่งเหยิงละ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ห๊ะ ตัดชึ๊บ!  :hao5:

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4



บทที่29 ทั้งคู่
   


ตกค่ำของวันนั้นทั้งพัดและอินต่างก็นั่งรอคุณรัตติกาลอยู่ในห้องของพัดด้วยความกระวนกระวาย เข็มนาทีของนาฬิกาขยับไปเรื่อยๆพร้อมกับความร้อนรนของเด็กหนุ่งสองคนที่เพิ่มเป็นเท่าทวีเมื่อคนที่ควรจะกลับมาเพื่อแต่งตัวออกไปร่วมงานเลี้ยงกลับไม่มีวี่แววว่าจะปรากฏตัวแม้แต่น้อย



   อินลุกขึ้นเดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น เขาไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของคนอื่นต้องแตกแยก แต่ก็ไม่อยากเลิกกับพัดเหมือนกัน



   “อ๊ากกกกกกกกกกก”เลยได้แต่กรีดร้องเหมือนเด็กโดนครูตี พัดมองตามสีหน้าร้อนใจของอินแล้วก็หลุดขำออกมาอย่างอดไม่ได้



   “หึหึ”



   เสียงหัวเราะที่ว่าลอยเข้าหูร่างโปร่งเข้าเต็มๆ”มันใช่เวลามาหัวเราะมั้ยเนี่ย!! แม่มึงยังไม่กลับมาเลยนี่ก็ดึกแล้วด้วยนะ ไม่เป็นห่วยเรอะ!!”



   “แม่กูไม่ใช่เด็กสามขวบ เขาไม่หลงทางหรอกน่า...”



   “โว้ยยยย กูเครียดแทนแม่มึงเลยมีลูกอย่างมึงเนี่ย!! โทรหาใหม่ซิ!!”ตั้งแต่พระอาทิตย์ใกล้ตกดินอินก็มาหาพัดที่ห้องเพราะได้รับข้อความว่าคุณรัตติกาลยังไม่กลับมาสักที เขาสั่งให้พัดโทรตามแม่ตัวเองมาได้หลายสิบสายแล้วแต่ปลายทางก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับ ตอนแรกอินตั้งใจจะไปหาที่ห้างด้วยซ้ำแต่พัดก็ห้ามไว้ก่อนเพราะเขารู้จักแม่ของตัวเองดี



   “ไม่รับ”



   อินทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง



   “แม่มึงไปไหนเนี่ย กูไม่อยากให้ครอบครัวมึงมีปัญหาเพราะงั้นถึงได้เครียดขนาดนี้มึงก็ช่วยเครียดเป็นเพื่อนกูหน่อย นั่งชิวเกินไปแล้ว”



   “ไม่ต้องเครียดลูก แม่กลับมาแล้ว”



   “ก็แล้วไป ปล่อยให้เป็นห่วงตั้งนาน เห้ยยยย!!!”เหมือนพระเจ้าเล่นตลก อินที่หันหลังให้ประตูพอดีเลยไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาเลยตอบกลับไปเหมือนเล่นกับเพื่อน รู้ตัวอีกทีสมองก็ประมวลผลออกมาว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่เป็นผู้หญิงและผู้หญิงคนนั้นก็คือคุณรัตติกาล!!!



   ร่างโปร่งกระโดดโหยงยืนตัวตรงถอยหลังชิดกำแพงอย่างคนมีชนักติดหลัง อินเหลือกตาขอความช่วยเหลือโดยด่วนจากพัดเมื่อสังเกตุเห็นสีหน้าหม่นๆของคนมีอายุ



   “กลับมาช้าขนาดนี้จะไปงานทันเหรอแม่ ให้ผมไปส่งมั้ย”



   คุณรัตติกาลหันไปคลี่ยิ้มบางให้ลูกชาย”ก็ดีลูก แม่ใช้เวลาเลือกชุดนานไปหน่อย ไม่รู้ว่าอินใสไซส์ไหนเลยซื้อมาเผื่อสองตัว เอาไปลองสิลูก”



   “เหอ!?”ในขณะที่ผู้ใหญ่กำลังจัดแจงคว้าเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากับน้ำตาลอ่อนออกมาจากถุงกระดาษแปะยี่ห้อแบรนด์เนม เด็กสองคนร้องขมวดคิ้วมองหน้ากันไปมาด้วยความงุนงง



   “อ่ะนี่ สองตัวนี้ของอิน เอาไปลองดูก่อนตัวไหนพอดีก็ใส่ออกมาเลยนะลูก ไปงานแต่งด้วยกันทั้งสามคนเลยนะ”



   “หง่า.....ครับ”



   .



   .



   ภายในรถแท็กซี่ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงแรมใจกลางเมืองอันเป็นสถานที่จัดงาน สองแม่ลูกนั่งด้านหลังส่วนอินที่นั่งข้างคนขับก็เหลือบมองกระจกหลังเป็นระยะๆ



   ดูจากท่าทีแล้วคุณรัตติกาลคงยังทำใจไม่ได้แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่แถมเป็นเจ้าของกิจการเธอเลยระงับสติอารมณ์และรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้ดีกว่าคุณแม่ทั่วๆไป จากการคาดเดาของพัด มันบอกเขาว่าแม่คงอยากจะรู้จักกับแฟนของลูกชายเลยให้ไปด้วยกัน



   ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี



   แต่คุณรัตติกาลคงมีเวลาอยู่กรุงเทพถึงแค่พรุ่งนี้เธอเลยเลือกมาเผชิญหน้ากับอินทั้งๆที่ยังไม่เปิดใจยอมรับการคบหากันระหว่างผู้ชายเช่นนี้ เมื่อคิดถึงจุดนี้อินรู้สึกนับถือความเข้มแข็งและใจกว้างของแม่คนนี้มาก



   “ที่นี่ใช่มั้ยครับ”อินหันไปถามคนที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยความประหม่า รถแท็กซี่เลี้ยวเข้าไปในตัวโรงแรมก่อนคณะเดินทางทั้งสามคนจะก้าวลงจากรถ พวกเขามาสายกว่าเวลาเริ่มงานค่อนข้างมากคุณรัตติกาลจึงไม่รอช้ารีบเดินนำเข้าไปด้านใน



   ตัวงานจัดในห้องจัดงานของโรงแรม รอบด้านประดับด้วยดอกกุหลาบและดอกลิลลี่สีขาวเมื่อรวมกับโคมไฟและวอลเปเปอร์สีขาวนวบไสตล์คลาสสิคแล้วยิ่งดูดีมีระดับสมกับเป็นงานแต่งของเจ้าของธุรกิจใหญ่



   “พวกลูกก็ไปหาที่นั่งรอแม่ก่อน เดี๋ยวแม่จะไปแสดงความยินดี”ดูเหมือนว่าพิธีการต่างๆจะสิ้นสุดไปหมดแล้ว ที่เหลือตอนนี้ก็แค่นั่งกินของฟรีเท่านั้น คล้อยหลังคุณรัตติกาลอินทีทนเรียบร้อยมานานสองนานก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากตาเป็นประกายมองอาหารหน้าตาน่าอร่อยบนโต๊ะซึ่งมีโต๊ะว่างอยู่หลายโต๊ะเพราะเจ้าของงานถือคติเหลือดีกว่าขาด



   “ไปนั่งเร็วกูหิวแย่แล้วเนี่ย”สองหนุ่มไม่รอช้ารีบจับจองที่นั่ง   



   “ไอ้นี่อร่อยดีว่ะ มึงกินดิ”ทันทีที่อาหารคำแรกเข้าปากอินก็ต้องตาโตเพราะรสชาติของมัน เขามีน้ำใจตักมันใส่จานของคนข้างๆด้วย



   พัดระบายยิ้มมุมปากกับการเอาใจใส่เล็กๆน้อยนั้น จากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดใดระหว่างกันอีกเลยเพราะต่างคนต่างก็ก้มหน้าก้มตาฟาดอาหารกันอย่างหิวโหยสืบเนื่องมาจากช่วงกลางวันที่กังวลจนกินอะไรไม่ค่อยลง



   “ค่อยๆกินก็ได้ลูก ไม่มีคนมาแย่งหรอก”เนื่องจากโต๊ะดังกล่าวนั่งได้ประมาณแปดคน อาหารก็ถูกจัดมาสำหรับคนแปดคนแต่เด็กหนุ่มสองคนกลับฟาดไปเกือบครึ่งโต๊ะแล้วเล่นเอาคุณรัตติกาลที่เพิ่งกลับมาที่โต๊ะพูดแหย่ด้วยความทึ่ง



   เธอนั่งลงข้างลูกชายตัวเองที่จัดแจงส่งช้อนส้อมไปให้แล้วก็ทานอาหารเงียบๆ ท่ามกลางงานรื่นเริง มีหนึ่งครอบครัวเกิดขึ้นใหม่จากการแต่งงานและมีหนึ่งครอบครัวกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ กับข้าวอร่อยน้อยลงทันทีที่บุคคลที่สามมานั่งร่วมโต๊ะ แม้เสียงเพลงรักหวานชื่นในตัวงานก็ไม่ช่วยอะไร



   อินค่อยๆรวบช้อนส้อมพลางเอนหลังพิงพนัก



   “อิ่มแล้วเหรออิน”



   “ครับ”



   บทสนทนาแสนสั้นจบลง พัดที่นั่งตรงกลางเหลือบตามองสีหน้ากระอักกระอ่วนของสองคนที่นั่งขนาบข้างตนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ



   “แม่ครับ...ผมกับอินเป็นแฟนกันครับ”ถึงแม่จะรู้อยู่แล้วก็เถอะ แต่เขายังไม่ได้สารภาพอย่างเป็นทางการเลยนี่นะ



   อินอยากจะตบกะโหลกพัดข้อหาพูดจาไม่ดูทิศทางลมแต่พอเห็นคุณรัตติกาลเงยหน้าขึ้นมาสบตากับตนนิ่งแล้วก็ได้แต่นั่งหลังตรง



   “แม่รู้แล้ว...”เธอผ่อนลมหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน...เหนื่อยที่ใจหนักหนากว่าเหนื่อยที่กาย”แต่แม่ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดกับพวกเราจากตรงไหนก่อนดี...อินเห็นงานนี้มั้ยลูก”



   “หะ...เห็นครับ เห็นชัดเลย”ไม่รู้ว่าคุณรัตติกาลตั้งใจจะสื่ออะไรอินเลยได้แต่รับคำด้วยความฉงน ใบหน้าที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาว่ากำลังงงอยู่นั้นเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนอายุมากกว่าได้ คุณรัตติกาลหัวเราะในลำคอก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบ



    “พอคิดว่าลูกชายคนโตของแม่อาจไม่มีโอกาสได้จัดงานแบบนี้...แม่ก็รู้สึกใจหายขึ้นมา”เธอเอนตัวพิงพนักก่อนทอดสายตามองไปรอบๆงาน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของคนผ่านกาลเวลามานานกว่าสะท้อนภาพของงานรื่นรมย์ งานที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้แก่ชีวิตคู่



   “ทั้งเรื่องที่ว่าจะเข้ากับเจ้าสาวของลูกชายได้มั้ย เธอคนนั้นจะดูแลลูกชายของแม่ได้ดีเท่าแม่หรือเปล่า หรือพอแต่งงานไปแล้วแม่จะยังเป็นผู้หญิงที่เขารักที่สุดอยู่อีกมั้ย...อินรู้รึป่าวลูก...ว่าแม่ทุกคนต่างก็กังวลถึงสิ่เหล่านี้ทั้งนั้นแต่ทั้งๆที่กลัวแต่ก็เฝ้ารอวันที่ได้จัดงานแต่งงานให้ลูก...”



   ถ้อยคำเหล่านั้นบาดลึกหัวใจของคนฟัง อินค่อยๆเบือนหน้าหนีไปอีกทางด้วยความรู้สึกผิด ตามจริงแล้วเขาอยากจะลุกหนีออกจากสถานการณ์แบบนี้ไปเสีย หนีไปไกลๆไม่อยากรับรู้อะไรอีก แต่ก็ติดตรงที่ถ้าหากเขาหนีไปตอนนี้ล่ะก็คงไม่มีโอกาสได้เจอกับพัดอีกแล้ว



   ฉับพลันมืออุ่นๆของคนที่กำลังคิดถึงก็เอื้อมมากอบกุมฝ่ามือของอินไว้ พัดพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงว่า...กูอยู่ตรงนี้นะ...



   “ผมขอโทษ”อินกล่าวเสียงเจื่อน



   “ไม่ต้องขอโทษแม่หรอกลูก...อินไม่ได้ทำอะไรผิด”ปลายเสียงของคนพูดสั่นเครือ แม้อินจะไม่ได้สบตากับเธออยู่แต่ก็พอจะเดาได้ว่าดวงตาคู่นั้นคงเต็มตื้นไปด้วยหยดน้ำ



   “แม่ก็แค่...ใจหาย...แค่ใจหายเท่านั้น แต่ตอนนี้แม่ยอมรับมันได้แล้ว อาจจะไม่ทั้งหมดแต่พอได้มาอยู่ในงานแต่งงานนี้แม่ก็เข้าใจ...ดูพวกเขาสิ วันนี้เป็นวันแต่งงานแท้ๆแต่ก็ยังต้องต้อนรับแขกที่เป็นลูกค้า แล้วก็ต้องทนฟังคนพวกนั้นพ่นเรื่องธุรกิจและปรามาศว่าชีวิตคู่ของตัวเองมาถึงจุดนี้ได้เพราะเงิน...ทั้งที่ควรจะโกรธแต่ก็ยิ้มรับทุกคำพูด...”



   “แม่...”พัดใช้มือข้างที่ว่างปาดน้ำตาซึ่งไหลอาบสองแก้มของแม่ตนอย่างแช่มช้า



   “เป็นงานแต่งงานที่ชวนหดหู่ แต่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย...นั่นเพราะพวกเขารักกัน...ไม่ว่าใครจะพูดหรือทำอะไรก็เอาความสุขไปจากพวกเขาไม่ได้...อินกับพัดก็เหมือนกันใช่มั้ยลูก”



   “ครับ/ครับแม่”



แม้คำตอบที่พวกเราตอบกลับไปจะแสนเบาจนบางทีอาจจะถูกเสียงพิธีกรบนเวทีซึ่งกำลังเปิดภาพคู่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวดังกลบไป แต่พอได้สบตากับคุณรัตติกาลอินก็เชื่อว่าคงรับรู้ถึงความจริงใจในคำพูดนั้นแล้ว



.



.



   ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ณ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย พัดและอินยืนส่งคุณรัตติกาลที่บทจะมาก็มาทำให้ใจหายกันเป็นแถว แต่พอบทจะไปก็ไปเสียดื้อๆ งานยังไม่ทันเลิกดีเธอก็บอกกับลูกชายของตัวเองว่าจะต้องกลับเชียงใหม่แล้วเล่นเอาเด็กหนุ่มสองคนวิ่งออกมาเรียกแท็กซี่ให้แทบไม่ทัน



   “แม่มึงเกือบตกเครื่องแล้วไง”อินกล่าวกลั้วขำยามนึกภาพหญิงวัยกลางคนวิ่งหอบของพะรุงพะรังไปขึ้นเครื่อง



   “แม่กูน่ารักใช่มั้ยล่ะ”



   “เออ”



   “!?”พัดเลิกคิ้วอย่างแปลกใจทันทีที่ได้ยินคำตอบรับของอิน



   “ทำหน้าเหมือนเห็นผี”



   “ก็กูไม่นึกว่ามึงจะยอมรับตรงๆว่าแม่กูน่ารัก”



   “น่ารักกว่าแม่กูเยอะก็แล้วกัน เหอะๆ”ยามนึกถึงคุณแม่ขาโหดของตัวเองแล้วก็อยากจะร้องไห้” ถ้าแม่กูใจดีพูดอะไรเข้าใจง่ายได้สักครึ่งนึงของแม่มึงล่ะก็ป่านนี้พาไปเปิดตัวที่บ้านนานแล้ว”



   “ให้กูช่วยพูดสิ”พัดเอ่ยกระเซ้า



   “พอเถอะกูไม่อยากตายพร้อมมึง”



   “พูดซะยังกับแม่ตัวเองเป็นยักษ์มารอย่างนั้นแหละ”



   “ก็เป็นน่ะสิ ขี้หงุดหงิด พูดจามะนาวไม่มีน้ำ ชอบตวาด มีหนัก ตีนหนัก แถมยัง-“



   “ที่พูดมานั่นเหมือนมึงทุกข้อเลย”อินยังไม่ทันสารทยายความโหดร้ายของแม่ตัวเองเสร็จก็ถูกขัดคอขึ้นกลางปล้อง แถมไม่ใช่แค่ขัดอย่างเดียวพัดยังยอกย้อนกลับไปด้วยเล่นเอาคนโดนหาว่าดุเหมือนแม่โกรธจนเส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ



   “เห้ยยย ไอ้เชี่ยนี่ หาเรื่องแล้วไง!! ว่ากูเหมือนใครนะ!? จะเอาเหรอ!?”



   “ฮ่าๆๆๆๆๆ ใครจะกล้าหือที่รักกันล่ะครับ”



   “ไอ้พัด...ไอ้เหี้ยยยยยย”คนขี้โวยวายก็ได้แต่แหกปากโวยวายด้วยใบหน้าแดงก่ำเหมือนลูกตำลึงสุด ด้านคนช่างแหย่พอยั่วยุเสร็จแล้วก็เดินตัวปลิวหัวเราะร่าเริงหรือฝ่ามือที่ระดมทุบตีแก้เขินของอีกฝ่าย



   แล้วอย่างนี้ยังจะปฏิเสธอีกเหรอว่าไม่เหมือนแม่...






ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สนุกจังเลยครับ
อินเหมือนแม่มากเกินไปนี่เอง เลยทะเลาะกันเรื่อย
อยากให้เข้าใจกันเร็วๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4
จบแล้วนะคะ เมื่อวานคนเขียนมาลงแบบเมากาวสุดๆเลยขออภัยด้วยค่ะ

ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะคะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
จบแล้วหรอเนี่ย ขอให้มีตอนพิเศษเยอะๆ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
อ่าจบแล้วหรอ

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ แต่ว่าอยาหอานตอนพิเศษ ดีดี&หยาง อ่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
 :pig4:  :pig4: ขอบคุณนะคะ นิยายสนุกมากค่ะ ชอบอินมากๆ 55

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
 :sad4: จบละ

ออฟไลน์ minmin96

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
คือตัดจบแบบงงๆ????
หรือถ้าอยากอ่านต่อ ต้องไปซื้อหนังสือ???

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
จบแล้วจริงเหรอคะ ไม่มีบทสรุปหรือทิ้งท้ายอะไรหน่อยเหรอ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด