[ มนต์รักข้าวมันไก่ ] (〇´∀`〇)....จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ มนต์รักข้าวมันไก่ ] (〇´∀`〇)....จบแล้ว  (อ่าน 84888 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4




บทที่18 เวร




“หายหน้าหายตาไปนานเลยนะมึง”



เสียงทักดังมาก่อนจะเห็นตัวคนพูดอีก อินหันไปยังทิศทางต้นเสียงก่อนจะพบกับร่างสูงผอมของไอ้ม่อน เพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มเดินเคียงคู่มากับคิม ไอ้เตี้ยประจำกลุ่ม ดีดีว่าเตี้ยแล้วเจอเหี้ยนี่เข้าไปแพ้เลย ไหนจะยังหน้าหล่อคมเข้มเจาะหูอย่างร็อคของมันซึ่งทำอะไรไม่ถามส่วนสูงตัวเองสักคำอีก



“โดดไปไหนมาวะ ดีดีเครียดใหญ่เลยนะมึง”คิมกล่าวสบทบ



พวกเราสามคนพากันเข้าไปนั่งในห้องบรรยาย แถวหลังสุดคือที่ประจำของพวกเรามีดีดีนั่งจองที่ไว้ให้ก่อนแล้ว ผมมองหน้าเพื่อนที่เมื่อคืนนอนด้วยกันแต่ตื่นไม่พร้อมกันก่อนจะหลบสายตามันแล้วก็เลือกนั่งที่นั่งข้างๆคิม



สามวันแล้วที่อินกลับมาอยู่กับดีดีอีกครั้ง




หลังจาก’คืนนั้น’เขาก็ให้ไอ้พัดไปส่งที่บ้านตอนสายๆ แม่เห็นหน้าเขาก็ด่ายกใหญ่ โดนสวดยับข้อหาไปมีเรื่องกับชาวบ้านจนสะบักสะบอมกลับมา



นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อินปลงตกกับการเหวี่ยงของแม่ได้นานแล้วแต่เรื่องที่ทำให้คิดไม่ตกอยู่ตอนนี้ก็คือเรื่องของพัด...



คำถามที่เขาจงใจถามเพราะอยากรู้ว่ามันจะทำอย่างไรต่อไป แต่มันกลับย้อนถามเขา เล่นเอาจุกจนพูดไม่ออกเลย



นั่นสิ จะทำอย่างไรต่อไปดีนะ



“อิน เย็นนี้มึงมีคิวที่ไหนป่าววะ”คิมถามขณะนั่งเรียนเพลินๆ เริ่มเคลิ้มใกล้หลับ



“ไม่”ตอบเสียงเนือยเพราะคาบเรียนแสนน่าเบื่อกับปัญหาชีวิต



“งั้นคืนนี้แดกเหล้ากัน”



“ที่ไหน”



“ร้านเดิม”



อินเบ้หน้าหลังได้ยินคำตอบของเพื่อน”เปลี่ยนร้านบ้างเถอะ ไปบ่อยจนเถ้าแก่แทบจะยกลูกสาวให้กูอยู่แล้ว”



เขาพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง อันที่จริงเจ้าของร้านเหล้าซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของดีดีเท่าไหร่มีลูกสาวสวยหมวยเอ็กซ์เรียนอยู่มหาลัยเอกชนเด็กกว่าพวกเราปีหนึ่ง ซึ่งชอบมาส่งสายตาหว่านเสน่ห์ให้อินบ่อยๆ



“มึงก็เอาดิ ลูกสาวเฮียออกจะขาวสวย เด็กกว่าเราแค่ปีเดียว ที่พวกกูไปร้านนั้นบ่อยส่วนหนึ่งก็เพราะอาหมวยคนนี้เลยนะ”



“มึงก็เอาไปเองสิ”ผู้หญิงคนนี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าจะนำแต่ภัยเข้ามา



“อืม คืนนี้แหละกูจะเอา มึงต่อไหม?”



“เห้ย!? พูดไรของมึงวะ จะหมู่แล้วเขาจะยอมเหรอ!?”



“โอ๊ย! กูกะม่อนก็ประกบหน้าหลังอาหมวยมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง เพิ่มมึงเข้ามาอีกคนจะเป็นไรไป”คำกล่าวของคิมเล่นเอา
มนุษย์โสด(ไม่)สนิทอย่างอินหน้าเหวอ ข้อมูลใหม่แรงส์เกินกว่าสมองของเขาจะรับไหว



“เห่ย! อิน ไปกินข้าว นั่งอ้าปากให้แมลงวันบินลอดอยู่นั่นแหละ”เสียงของม่อนดึงเรียกสติ ในที่สุดเวลาพักกินข้างกลางวันที่รอคอยมาถึง พวกเราลงไปทานข้าวกันแล้วก็แยกย้ายไปเรียนวิชาเลือกคาบบ่ายโดยตกลงกันว่าจะไปกินกันที่ร้านเดิม



ร้านที่คุ้นเคยกับอาหารที่คุ้นเคย



ถ้าโดนตีนก็ตีนที่คุ้นเคย



หอยก็หอยที่คุ้นเคย



แหม่...น่ารักจริงๆเพื่อนใครวะเนี่ย



เวลานัดคือสองทุ่ม เมื่อกลับมาถึงคอนโดอินก็เดินไปเหล่ดีดีซึ่งแทบจะไม่พูดไม่จากันสักเท่าไหร่กำลังดูทีวีอยู่ในห้องการ์ตูนเพลิดเพลิน เห็นดังนั้นอินจึงเดินเข้าไปนอนหลับอุตุในห้องนอนอย่างเพลิดเพลินเช่นกัน



แต่ดูเหมือนจะเพลิดเพลินกันเกินไปหน่อย ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือกจากนิทราตอนสองทุ่มกว่า มองนาฬิกาตาเหลือก



“ชิบหาย เลยเวลานัดแล้วนี่หว่า”อินรีบกระวีกระวาดออกจากห้องนอนไปหาดีดีซึ่งยังดูการ์ตูนไม่เลิกรา คนตัวเล็กเองก็เพิ่งรู้ตัวเช่นกันว่าสายแล้ว ทำหน้าตกใจแล้วก็รีบวิ่งไปแต่งตัวกันตาลีตาเหลือก



“สายโค่ดดดดดด”เสียงกวนส้นตีนของไอ้ม่อนดังมาก่อนตัวอีกตามเดิม คิมลุกขึ้นยืนแล้วก็โบกมือไปมาเพื่อให้พวกเราสังเกตเห็น ซึ่งทีแรกอินคิดว่าคิมนั่งอยู่...



ภายในร้านเหล้าขนาดกลาง ไม่มีหลังคา มีเวทีใหญ่สำหรับวงดนตรี ลมพัดโกลกสบายตัว อินเดินเคียงคู่ดีดีไปยังโต๊ะของเพื่อนสนิททั้งสอง ก่อนจะพบเข้ากับบุคคลที่สาวอย่างสาวหมวยลูกเจ้าของร้านในชุดนักศึกษารัดแน่นกระดุมแทบจะถูกหน้าอกอวบอึ๋มกระแทกหลุดใส่ตาอิน



เนตรคมเหล่มองร่างยั่วยวนของหญิงสาวแล้วก็ลอบกลืนน้ำลายลงคอ



แม้ร้านนี้จะไม่เล็ก แต่พวกเขาก็มากันบ่อยตั้งแต่ปีหนึ่งเลยรู้จักกับเจ้าของร้านที่กำลังเดินหน้าแป๊ะเข้ามารับเมนู



“รับอะไรดีครับ”เถ้าแก่ถูมือไปมาขณะพวกเรากำลังนั่งมองเมนูกับแกล้ม



“ไฮเนเก้นสี่ กุ้งแช่น้ำปลาสอง แล้วก็...”เรื่องสั่งอาหารเป็นหน้าที่ของนายคิมคนตัวสูง ส่วนไอ้ม่อนคนหน้าด้านก็นัวเนียลูกสาวเขาต่อหน้าพ่อแบบไม่มีเกรงใจ อินหัวเราะแห้งให้ดีดีซึ่งทำหน้าเกรงใจเถ้าแก่ร้านสุดขีด



สั่งเสร็จเถ้าแก่ก็เดินจากไปแล้วส่วนลูกสาวเขายังอยู่ ตอนนี้ขึ้นไปนั่งตักเหี้ยคิมแต่กลับส่งสายตาวาววับมายังอินจนเจ้าตัวอดรนทนไม่ได้เอ่ยถามออกไปว่า”มองหน้าอยากมีเรื่องเหรอ?”



“อิน!”แล้วก็โดนคุณเพื่อนรักดีดีตบกบาลเข้าให้ มันทำหน้าดุใส่ผู้ชายปากหมา แต่ผู้หญิงที่โดนท้าต่อยกลับหัวเราะคิกคักแล้วก็ผละตัวจากไอ้ม่อน ขยับเบียนเนินอกนุ่มนิ่มกระเซ้าบริเวณต้นแขนของเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ความจริงคนที่เธอหมายตาเอาไว้ก็คืออินตั้งแต่แรก...



“พี่อินล่ะก็ หมวยก็อยากมีเรื่องกับพี่อินนะคะ...เรื่องบนเตียง”กลีบปากบางแต่งแต้มด้วยลิปสติกสูฉูดฉาดเคลื่อนมากระซิบเสียงแหบพร่าเย้ายวนข้างหู ชวนให้ฝ่ายชายขนลุกชัน



“เหยดดดด”


เสียงอุทานจากไอ้ม่อน อินเสตามองหน้าเพื่อนจอมหื่นสองคนซึ่งแสดงสีหน้าอาการแบบว่ามันพร้อมแล้ว ไปห้องน้ำกันไหมมาให้ ร่างโปร่งถอนหายใจหน่ายก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมนุ่มๆของหญิงสาว ในสถานการณ์อย่างนี้ปล่อยไปก็เสียเชิงชายแย่



รอยยิ้มกริ่มปรากฏอยู่ตรงมุมปากของหญิงสาว สีหน้าของเธอพร้อมยิ่งกว่าคิมกับม่อนเสียอีก



มีเรียวลากไล้ตามลำคอของชายที่เธอหมายปอง ส่วนใบหน้าก็ออเซาะซุกไซร้อินอย่างหมายมาด



“ทำอย่างนี้ถ้าไม่ขึ้นให้มันรู้ไป”



“!!!”



เสียงแบบนี้มัน



ในขณะที่หลงไปกับเสน่ห์ของเพศหญิงอยู่ดีๆก็มีเสียงทุ้มเย็นเฉียบดังขึ้นมาจากด้านหลัง ตามสัญชาตญาณอินรีบหันขวับไปมองด้วยความตกใจ



“พัด!?”ดีดียิ้มแล้วก็ลุกเดินไปหาร่างสูงซึ่งทอดสายตามองอินด้วยสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาสีเข้มไล่มองตั้งแต่ใบหน้าของหญิงสาวจนจรดปลายเท้า ไม่รู้ทำไมแต่หมวยรู้สึกว่ากำลังโดนคุกคามทางสายตา เธอจึงผละมือออกจากรอบคอของอินด้วยสีหน้าแสน
เสียดาย



แต่ก็ยังไม่สิ้นลาย



“ใครเหรอคะพี่อิน”



“อ่า...”



ถามแบบนี้ก็ตอบไม่ได้สิแม่คุณ...ประเด็นว่าระหว่างเราคืออะไร...นี่มันคือดราม่าประจำปีเลยนะครับ



อินส่งยิ้มแห้งๆให้หญิงสาว ยิ้มแห้งๆให้พัด แล้วก็แค่นหัวเราะเหอะๆ



“ใครวะ”เป็นคิมที่ถามขึ้นด้วยความสงสัย



“เพื่อนข้างห้องเราเอง”ดีดีเลยช่วยชี้แจงให้”มานั่งก่อนสิพัด”แล้วก็จัดแจงรั้งแขนแกร่งให้เข้ามาร่วมวงด้วย แต่ทว่าพัดกลับส่ายหน้าปฏิเสธ



“พอดีร้านใต้คอนโดปิดเลยมาซื้อข้าวผัดร้านนี้กิน”พูดพลางชูถุงใส่อาหารเย็นให้เพื่อนบ้านดู”ขอตัวก่อนดีกว่า ไม่อยากจะรบกวนคน”



แม้ว่าจะพูดกับดีดีแต่คนที่สะดุ้งสะเทือนไปถึงทรวงในก็คืออิน สิ้นคำร่างสูงก็เดินล้วงกระเป๋าจากไปทิ้งให้คนในโต๊ะนั่งหน้ามึนกับการมาเยือนของชายแปลกหน้าที่แผ่ไอเย็นจนน่ากลัว แต่ก็นั่งนิ่งกันได้ไม่นาน อาหารที่สั่งก็นำมาเสริฟ ทุกคนพร้อมใจกันทิ้ง


ความสงสัยเอาไว้แล้วก็ดื่มกินอย่างมีความสุข



ยกเว้นคนคนหนึ่ง...



อินเขี่ยกุ้งแช่น้ำปลาในจานไปมา เหล้าไม่เข้าปาก อาหารก็ไม่พร่อง ทำหน้าเหม่อลอยติดต่อยานแม่



“พี่อินเป็นอะไรเหรอคะ”พอเหล้าเข้าปากแล้วพวกตัวผู้ก็ไม่สนใจเพื่อน ก็มีหมวยนี่แหละที่แตะหน้าขาของเขาแล้วก็ช้อนตาถามด้วยความเป็นห่วงกึ่งอ่อย



“ตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นมาพี่อินก็แปลกไปนะคะ”เสียงเพลงบนเวทีเริ่มบรรเลง นักร้องซึ่งมาร้องที่ร้านนี้เป็นประจำจนจำหน้าตาลูกเมียเขาได้แล้วเริ่มร้องเพลงรักหวานซึ้ง



ท่ามกลางความมืดยามราตรี มีเพียงแสงไฟจากเวทีคอยส่องสว่างสะท้อนใบหน้าของผู้ชายที่มักจะบึ้งตึกตลอดเวลา หากแต่ยามนี้กลับเต็มไปด้วยความลังเล นั่งห่อไหล่เหมือนคนไม่มีความมั่นใจในตัวเองต่างจากอินที่เธอรู้จัก



“หมวย...”



“คะ?”



“พี่ขอตัวกลับก่อนนะ”



“เห...”



พูดจบร่างโปร่งก็ลุกขึ้นพรวดพราดท่ามกลางความตกใจของร่างบาง หล่อนลุกขึ้นหมายจะรั้งตัวชายหนุ่มเอาไว้แต่มันไม่ทัน อินวิ่งไปไกลจนลับตาเสียแล้ว



ก็อกๆๆๆๆ



“พัด!!”ใบหน้าคมคายชื้นเหงื่อ เขาใช้การวิ่งจากร้านที่อยู่ห่างจากคอนโดเป็นกิโลขึ้นลิฟท์มารวดเดียวถึงชั้นที่ยี่สิบสี่ ออกแรงทุบประตูห้องคนที่มีเรื่องต้องคุยกันแต่เคาะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนด้านใน



แสงไฟที่ลอดออกมาจากช่องใต้ประตูทำให้รู้ว่ามีคนอยู่ข้างใน นั่นยิ่งทำให้อินร้อนใจเข้าไปใหญ่



“พัด!! อย่างอนเป็นผู้หญิงไปได้ กูมีเรื่องจะคุยด้วย สำคัญมาก!! เปิดประตูหน่อย! พัด!!”แหกปากจนคนข้างห้องพัดเปิดประตูออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อินก็ไม่สนใจ ตะโกนเรียกชื่อคนในห้องซ้ำไปซ้ำมาแล้วก็รัวฝ่ามือทุบประตูจนมือเริ่มห้อเลือด



ก่อนจะมองลงไปที่ลูกบิดประตู...



พัดที่ดีดีเคยเล่าให้ฟัง...พัดที่ตัวอินรู้จัก...ไม่ใช่คนใจร้าย



มือเรียวเอื้อมไปคว้าลูกบิดด้วยใจลุ้นระทึก



ไม่ได้ล็อค...



รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอินอีกครั้ง โชคดีที่ลางสังหรณ์ของอินถูกต้อง ไม่รู้เหมือนกันว่าประตูบานนี้ไม่ได้ลงกลอนเอาไว้ตั้งแต่แรกหรือคนด้านในเดินมาปลดให้หลังจากได้ยินเสียงเรียกจากเขา



แต่สิ่งหนึ่งที่อินรู้ก็คือ...



อา...พัดแม่ง เหี้ย...



...ไม่ได้ล็อคก็ไม่บอกกันตั้งแต่ทีแรก ไอ้เวร...



...

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
อินติดกับละ

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ติดกับ หรือ แจ๊กพอต?

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4




บทที่19 ไม่กลัว....ซะที่ไหน





ตั้งแต่ลืมตาดูโลกหรือตั้งแต่จำความได้อินก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เท่าที่รู้คือตัวเขาเป็นเด็กชอบเล่นอะไรแผลงๆจนโดนแม่ตีเป็นประจำ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความกล้าหาญของผู้ชายคนนี้ลดน้อยลงเลย...สิ่งเดียวที่เขากลัวก็คือผี เจ้าสิ่งไม่มีชีวิตชนิดนี้ทำเอาเสียมาดมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง



จนกระทั่งวันนี้...



อินรู้สึกตัวแล้วว่าตัวเขาไม่ได้กล้าหาญอะไรเลย ที่ผ่านมาที่เขาไม่เคยกลัวอะไรก็เพราะไม่เคยเผชิญหน้ากับอะไร
ใช้ชีวิตในส่วนของตัวเองไปวันๆจนมาพบกับผู้ชายคนนี้



ที่โซฟาตัวยาวภายในห้องซึ่งอินเคยเข้าออกมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลากำลังส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายคือเจ้ากระต่ายอ้วน



อินเผลอกับฟันแน่นไม่รู้ตัว ฝ่ามือเย็นเฉียบยามเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย



พัดไม่พูดอะไร ทำเพียงเดินผ่านร่างโปร่งไปยังห้องนอนของกระต่าย เขาพาเมลิคไปเก็บเข้ากรงแล้วก็เดินไปล็อคประตูหน้าห้องซึ่งคนมาใหม่ตื่นเต้นจนลืมสนิท



“มีอะไรเหรอ”สุดท้ายก็เป็นพัดที่เอ่ยทักก่อน เขาจ้องมองร่างของผู้มาเยือนยืนกำมือแน่นิ่งอยู่จุดเดิม



แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ



พัดเลิกคิ้วแล้วก็เดินอ้อมมาด้านหน้าคนที่ไม่ยอมพูดยอมจาแล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ



“อินหน้าแดง...แจ๋เลย”



“ไม่ต้องตอกย้ำกูเป็นคำพูดก็ได้”คนหน้าแดงเบือนหน้าของตัวเองไปอีกทาง กัดฟันยอมรับสภาพของตัวเองแล้วก็หลีกเลี่ยงรอยยิ้มพราวระยับบนใบหน้าของคู่สนทนา



“กูก็คงจะ...ชอบมึงเหมือนกันมั้ง ไม่แน่ใจ...”ยกมือขึ้นเกาท้ายทอย ฉากสารภาพรักแบบปุบปัป



อินยังไม่แน่ใจ แต่ความหวั่นไหวที่กำลังสั่นคลอนเขาอยู่ตอนนี้คือความจริง



โดยที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนเคยทำได้มาก่อน...ขนาดหมวยรุกขนาดนั้นเขายังรู้สึกเฉยๆเลย แต่กับพัด...



ฟึบ!



โดยไม่ทันตั้งตัว พัดออกแรงลากแขนอินซึ่งกำลังยืนหน้าอึนอยู่ในห้องนั่งเล่นเข้าไปในห้องนอน จับโยนลงบนเตียงท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้ถูกกระทำ!!



“เห้ย!! มึงเล่นงี้เลยเรอะ!!”



ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว ร่างสูงรวบข้อมือทั้งสองข้างของอินขึ้นเหนือศีรษะแล้วก็ขึ้นคร่อมแบบไม่ให้ตั้งตัวติด



อินเบิกตาโพลงมองไอ้บ้าที่เขาเพิ่งบอกชอบเมื่อครู่ ไอ้งั่งที่คิดเอาเองว่าต่างฝ่ายต่างชอบกันแล้วจะจิ้มกันสักกี่ครั้งก็ไม่เป็นไร
คนจริงสัด!!



“ไอ้เหี้ย!!! อุ๊บ อื๊อออออออออออออออออออ!!”




ด้วยความที่แรงพอๆกันแต่ตัวเล็กกว่าหน่อยนึงแถมยังอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบอีก อินเลยถูกพัดจับแขนล็อคแล้วก็เอาตัวทับขาไว้ไม่ให้ดิ้น สภาพแย่มาก กุญแจมือจากไหนก็ไม่รู้โผล่เข้ามาในมือของไอ้พัดแล้วก็ตรึงแขนทั้งสองข้างของอินไว้กันหัวเตียง
ปากก็ถูกปิดด้วยผ้าผืนยาว



อินถลึงตามองเจ้าของพฤติกรรมซาดิสต์ แต่คนมองกลับไม่ทุกข์ร้อนอะไร



“มึงพูดจาหมาไม่แดก ชอบขัดคอ ขี้โวยวาย ตีนหนักชิบหาย นิ่งไว้แบบนี้ก็พอแล้ว”



พัดกล่าวพลางก้มหน้าเข้ามาใกล้ รอยยิ้มชวนมองประดับบนใบหน้าหล่อเหมือนเทพบุตร...ไม่สิ นี่มันมารร้ายสวมหนังกระต่าย อินหลับตาปี๋เมื่อลมหายใจอุ่นร้อนเป่าลดซอกคอ



มือแกร่งลอดผ่านใต้เสื้อเข้ามาสร้างความวาบหวามแก่คนถูกมัด...โดยไม่อาจขัดขืน และไม่อยากขัดขืน แม้จะตื่นกลัว แต่ก็โอนอ่อน ข้อเสียอย่างหนึ่งของอินคือชอบลองดี



อยากจะรู้นักว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป



ถ้าเขายังคงปล่อยตัวตามท่วงทำนองที่อีกฝ่ายเริ่มบรรเลงแบบนี้ แม้เสื้อยืดสีฟ้าของอินจะถูกถอดเลิกขึ้นมาเหนือหัวแต่ก็ติดกุญแจมือทำให้ถอดออกจากแขนไม่ได้



แม้ว่าริมฝีปากจะถูกปิดด้วยผ้าทำให้ก่นร้องหรือหลุดเสียงร้องใดๆออกมาไม่ได้



แต่ยามที่มือแก่งเคลื่อนปลดกางเก่งของตนเองและกางเกงของอิน ร่างโปร่งของคนที่เลิกขัดขืนไปนานแล้วก็กระเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง



“กูชอบมึงจริงๆ แล้วมึงเองก็ชอบกู งั้นเราก็เป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม?”



อินส่ายหัวอย่างแรงได้สติหลุดออกมาจากภวังค์ แววตาแปลเป็นภาษาคนได้ว่ากูไม่ใช่พวกมาโซคิสต์ กูไม่เป็นแฟนกับมึงเด็ดขาด!!



“ฮ่ะๆๆๆ โอ๊ย ตลก”



แล้วพัดก็หลุดเสียงหัวเราะออกมาท่ามกลางสายตางุนงงของอิน มือหนาปลดพันธนาการทั้งหลายให้อินก่อนจะเก็บอุปกรณ์อันตรายเข้าลิ้นชักหัวเตียง อินมองตามสิ่งนั้นหวาดๆ แขนเรียวรั้งเสื้อเกะกะออกก่อนจะกระชากไหล่มือดีซึ่งนั่งหัวเราะชอบอกชอบใจ



ผลั่ก!



“เวร! แกล้งกู ไอ้เหี้ย ใจหายหมด”หมักลุ่นๆพุ่งเข้ากระแทกหน้าของพัด เจ้าตัวรีบนั่งพับเพียบเรียบร้อยทันที



“ไอ้เหี้ย มึงแกล้งกู!!”อินช้าหน้าพัดมือหน้า ทั้งอับอายทั้งโมโหจนหน้าแดงพูดไม่เป็นภาษาแล้วตอนนี้



“อา...โกรธเหรอ”



“มาก โมโหจนฆ่าคนได้แล้วตอนนี้”



“แต่ถ้ากูตายกูจะกลายเป็นผีมาหลอกมึงนะ”



อินตบหน้าผากอย่างยอมจำนน เขาไม่รู้จะเอาอะไรมาบรรยายความกวนตีนของอีกฝ่ายได้อีกต่อไป”เออๆ ช่างแม่ง กูกลับล่ะ บาย”แต่ก็ได้พูดเรื่องที่อยากจะพูดไปแล้ว วันนี้ก็ขอกลับห้องก่อนเลยก็แล้วกัน ร่างโปร่งโบกมือลาแล้วก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องไป



หมับ



แต่ก็โดนคว้าแขนเอาไว้ก่อน



ฟุบ



อินถูกลากลงมานอนแผ่บนเตียงอีกครั้ง...เห็นทีคืนนี้คงไม่ได้กลับห้อง เขาคงต้องส่งข้อความไปบอกดีดีเพื่อนรักก่อน



แต่ทว่าอินก็ไม่มีแม้แต่เวลาจะหยิบมือถือขึ้นมา...ผู้ชายที่มีกุญแจมืออยู่ในลิ้นชักข้างเตียงนอกจากตำรวจแล้วก็คือพวกซาดิสต์ แน่นอนว่าพัดไม่ใช่ตำรวจ เขาเป็นแค่นักศึกษาหนุ่มหน้าตาใสซื่อคนหนึ่งเท่านั้น



...


ทำไมถึงซื้อไอเท็มแบบนั้นมาเก็บไว้ในห้องคะพัด 5555555555

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มก่อน

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
มีโซ่กับแส้ด้วยรึเปล่าพัด  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คดีพลิก พัดผิดกับตอนแรกลิบลับ 55555

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
พัดนี่  สุดยอด

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4



บทที่20 ถูกตามล่า



เธอเป็นแฟนฉันแล้ว รู้ตัวบ้างไหม แล้วเมื่อไรหนอฉันจะได้เป็นแฟนของเธอ...



เสียงเพลงจากวิทยุซึ่งจำไม่ได้ว่าเปิดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ดังขัดการหลับใหลของนายอัครินทร์ ร่างโปร่งพลิกตัวหนีแสงแดดที่ส่องลอดม่านเข้ามาด้วยความรำคานแต่ก็โดนความเจ็บเมื่อยบริเวณเอวและต่ำกว่านั้นเล่นงานเข้าให้



เนตรคมเบิกโพลงอย่างคนได้สติทันทีที่ความทรงจำเมื่อคืนไหลย้อนกลับมา



อินผุดลุกขึ้นนั่ง หันไปมองข้างตัวก็เห็นตัวต้นเหตุนอนมองเขาตาแป๋วชวนถีบรับรุ่งอรุณสักยกสองยก



“ชิส์”คนอะไรน่ามันไส้ชิบหาย



“อรุณสวัสดิ์”ไม่รู้ว่าพัดไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหมั่นไส้หรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กันแน่ ร่างสูงถึงได้เอาแขนเท้าหัวแล้วก็เอ่ยทักหน้าระรื่นแบบนี้



“เห้อ...มึงนี่มัน”อินหมดเรี่ยวแรงจะต่อปากต่อคำ ความเมื่อยล้ายังเกาะกุมอยู่ทั่วร่างเขาจึงเอนกายลงนอนหมดสภาพอีกครั้ง



“ไม่ต้องห่วงนะยังไงก็มีเงินสินสอดไปขอแน่นอน”พัดพูดจบก็ถูกกระชากหมอนออกจากหัวแล้วก็อุดใบหน้าจนหายใจไม่ออก ผู้พยายามก่อคดีฆาตกรรมในห้องปิดตายอย่างคิดมีสีหน้าสะใจตอนเห็นอีกฝ่ายทุรนทุราย



“อิน อื้อ อ่อย อายใอไอ่ออก...อินนน”



“หึ สมนำหน้า ใครบอกว่าจะเอามึงเป็นผัว”เขาแค่นหัวเราะก่อนจะปล่อยมืออก พัดรีบปัดหมอนออกไปจนตกเตียงแล้วก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด สภาพเหมือนกำลังจะตาย



“อ้าว ก็ได้เป็นผัวแล้วไม่ใช่เหรอ”



คิ้วของคนฟังกระตุก อินคิดว่าพัดคงอยากตายจริงๆเลยหยิบหมอนของตัวเองขึ้นมาในมือด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม



“แล้วจะบอกเพื่อนยังไงหนีมาแบบนี้”เห็นดังนั้นพัดจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที อินล้มตัวลงนอนกับเตียงอีกครั้ง จ้องมองเพดานแล้วก็เงียบหายไปจนพัดคิดว่าอินหลับไปแล้วแต่พอได้ยินประโยคถัดมาเขาก็ต้องหัวเราะแห้งๆ



“ช่างมัน”



ช่างสมกับเป็นอินผู้ไม่ละเอียดอ่อนเหลือเกิน



“แล้วตกลงเราคบกันอยู่รึป่าว”



“ยัง”



“ทำไมล่ะ”



“ขอคิดดูก่อน”



“แต่เรามีอะไรกันแล้วนะ”



“onenightstand มีถมเถ”



“แต่กับผู้ชายถือเป็นเคสที่ควรรับไว้พิจารณานะ”



“เออ พิจารณาเสร็จเมื่อไหร่จะรีบมาบอก”



หลังจากนั้นอินก็จะเกียดตะกายลุกขึ้นจากเตียงท่ามกลางสายตาขำปนทึ่งของพัด ร่างโปร่งหายเข้าไปในห้องน้ำหลังกำชับเจ้าของห้องว่าห้ามตามมาเด็ดขาด อินอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ออกมานั่งกระดิกขาอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ดูเหมือนอาหารเช้าของพวกเขาก็คืออาหารเย็นที่พัดออกไปซื้อเมื่อวานแล้วไม่ได้กิน



แต่ในขณะที่กำลังรอพัดเวฟอาหารอยู่นั่นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น อินขมวดคิ้วสงสัยว่าใครโทรมาเอาป่านนี้ คิดว่าเป็นดีดีที่เป็นห่วงเพื่อนซึ่งหายหน้าหายตาไปทั้งคืนแต่เมื่อเดินไปหยิบมือถือขึ้นมาดูนัยน์ตาสีดำขลับก็ไหววูบอย่างแปลกใจ



“ครับ”



“อินเหรอลูก”ปลายสายคือคุณแม่จอมโหด ลูกชายจอมดีมีท่าทีตื่นเกร็งนิดหน่อยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนกลับบ้านครั้งล่าสุด



“วันนี้พ่อกลับบ้าน อินจะมาเยี่ยมพ่อหน่อยไหมลูก”



สีหน้าของคนฟังฉายแววขุ่นมัวยามปลายสายเอ่ยคำว่า พ่อกลับบ้าน ขึ้นมา ความจริงแล้วลูกชายควรจะสนิทกับพ่อมากกว่าแม่ แต่ตอนอินยังเป็นเด็กนั้นเขาเจอหน้าพ่อแทบจะนับครั้งได้เลย เพราะตอนนั้นพ่อเพิ่งเริ่มทำงานเป็นทนายใหม่ๆเลยต้องเดินทางไปทำคดีหลายที่



พออินเริ่มโตเป็นหนุ่ม ออกไปเที่ยวนอกบ้านด้วยตัวเองพ่อถึงสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้วก็กลับบ้านบ่อยขึ้น นั่นเป็นจังหวะเดียวกับน้องชายสองคนที่เริ่มเข้าอนุบาล นั่นทำให้พวกเด็กๆสนิทกับพ่อมากกว่าอินที่เกิดก่อน



“ไม่”ตอบโดยไม่ต้องคิดอะไร การไม่เจอหน้าพ่อไม่ทำให้อินเดือดร้อนเท่าไหร่นัก



“อย่าพูดอย่างนั้นสิลูก กลับมาบ้านเถอะนะ”แต่ลองแม่โทรมาตามแบบนี้คงมีเรื่องอะไรแน่ๆ ร่างโปร่งเลยได้แต่ถอนหายใจหน่ายแล้วก็เอ่ยปากตกลงออกไป



“ครับๆ กลับก็ได้ครับ เดี๋ยวกลับเดี๋ยวนี้เลยครับ”



“ไม่ต้องรีบก็ได้ลูก มาสักบ่ายแก่ก็ได้ พ่อก็ลงเครื่องเวลาประมาณนั้น”คำตอบของแม่ทำให้อินมั่นใจว่าต้องมีเหตุผลบางประการถึงคะยั้นคะยอให้เขาต้องกลับบ้านซะขนาดนี้



“จะให้ผมไปช่วยพ่อขนของเหรอ”ดูเหมือนงานล่าสุดพ่อจะทำที่เชียงใหม่ ขาไปนั่งเครื่องไปเลยไม่มีรถ จะขนของขึ้นแท็กซี่คนเดียวคงไม่สะดวก แม่คงอยากให้ไปช่วย



“ไม่จ่ะ เดี๋ยวแม่จะขับรถไปรับเอง เลยอยากจะวานอินไปรับน้องให้หน่อย ได้ไหมจ๊ะ น้องเลิกบ่ายสาม”



อา...นั่นไง ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ถ้าไม่ใช่ให้ไปรับน้องคงไม่คิดจะโทรตามกันหรอก



“คร้าบบบๆๆๆ”



“ว่าไงวะ”พัดถามขณะยกเอาจานข้าวมาวาง



“บ่ายนี้กูต้องไปปรับน้องว่ะ”



“อ้าว รับน้องเขารับกันตอนเปิดเทอมใหม่ๆไม่ใช่เหรอ ฮ่ะๆๆ”



“มุกควาย!”



.



.



ร่างโปร่งในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาในโรงเรียนประถม ใบหน้าหล่อเหลาคมคายติดจะเกเรบวกกับหางตาเฉียงๆและคิ้วที่ขมวดเป็นปมทำให้เจ้าตัวดูเหมือนนักเลงที่เดินทางมาเพื่อดักตีหัวคู่อริ ผู้ปกครองและครูต่างมองมายังอินเป็นตาเดียว



การจดจ้องอย่างหวาดระแวงเหมือนเจอแมลงสาปในร้านอาหารทำให้เส้นอารมณ์ของคนไม่เต็มใจจะมารับน้องชายแทบขาดผึง



“พี่อินๆๆๆ”



“โอ้ว เป็นไงมั่งพวกตัวแสบ”แต่เสียงร่าเริงและสีหน้าสดใสของน้องชายที่น่ารักทั้งสองก็ช่วยให้เขายิ้มออก



เด็กพวกนี้น่ารักทั้งหน้าตาแล้วก็นิสัย โดยเฉพาะตอนที่วิ่งเข้ามาหาแล้วก็ร้องเรียกพี่อินๆยิ่งน่าจับมาหอมจนแก้มช้ำ
อีกด้านหนึ่งของนักเลงหัวไม้คือพี่ชายผู้หลงน้อง...



บราค่อนดีๆนี่เอง



“กลับกันได้แล้ว เด็กตุ๊ดทั้งหลาย”เสียงห้าวกล่าวก่อนจะเดินนำทัพออกไปจากโรงเรียน โดยมีเด็กน้อยสองคนเดินตามวอแวมาตลอดทางว่าไม่ใช่ตุ๊ดสักหน่อย แต่คนเป็นพี่ก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังหัวเราะเริงร่าอีกต่างหาก



มือเล็กๆของน้ำและฟ้าสอดเข้ามาในอุ้งมือของอินด้วยสีหน้าออดอ้อน สุดท้ายคนหลงน้องก็เลยเดินจูงมือเด็กสองคนไปตามทางเดิน



ซอยแคบๆก่อนจะออกไปยังถนนใหญ่ปราศจากเงาของผู้คน เนื่องจากเด็กและผู้ปกครองคนอื่นจะใช้เส้นทางหลักซึ่งรถสามารถแล่นผ่านได้มากกว่าตรอกแคบๆมีแต่ขยะกับบ้านร้างแบบนี้ แต่อินก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะตอนนี้ยังกลางวันอยู่แถมมีเพื่อน(น้อง)ตั้งสองอีก



ผีคงไม่โผล่มา...



ความคิดมักง่ายของคนมักง่าย...ไม่ได้ดูเรื่องความปลอดภัยสักนิด



ฉับพลัน...ร่างโปร่งซึ่งเดินมาตามทาง แสงแดดยามบ่ายยังคงความร้อนแรงไม่ต่างอะไรกับตอนเที่ยง เหงื่อกาฬเริ่มไหลซึมก็รู้สึกเหมือนเกิดเดจาวูขึ้น...



ตอนที่เดินตามทางเปลี่ยวแบบนี้ครั้งล่าสุดก็ตอนที่เจอกับพัดและเจอกับ...



‘แกรบ’



ยังไม่ทันสิ้นความคิดเสียงรอยย่ำบนใบไม้จากแหล่งกำเนิดเสียงอื่นดังขึ้น เด็กหนุ่มผวาสุดตัวก่อนจะหันไปเห็นเงาร่างตะคุ่มๆเดินมาทางเดียวกับตนท่ามกลางแสงสว่างตอนกลางวันทำให้เขามองเห็นเงาร่างของมนุษย์เพศชายชัดเจน...และมากันห้าคน



ชาวบ้านหรือโจร? คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะสีหน้าและแววตาของกลุ่มคนที่กำลังเดินทางมานั้นประดับไปด้วยรอยยิ้ม
เหี้ยมเกรียม หนึ่งในนั้นสบตากับอินเล่นเอาคนมองเสียวสันหลัง



เด็กหนุ่มรีบหันขวับกลับทางเดิน กระชับมือของน้องชายแน่นก่อนจะเร่งบอกให้เดินเร็วๆ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครมาจากไหนการพบกันท่ามกลางสภาพแวดล้อมอำนวยต่อการจี้ชิงทรัพย์เช่นนี้ย่อมไม่เป็นเรื่องน่ายินดี



“คดีที่พ่อทำล่าสุดคือคดีอะไร?”



“คดีปล้นฆ่าครับ”ฟ้าตอบ



“ผู้ต้องสงสัยล่ะ”



“ผู้ชายห้าคนครับ”



ชัดเลย...เนตรคมตวัดตามองไปยังด้านหลังอีกรอบเพราะอยากจะนับจำนวนคนอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ แต่ทว่าด้านหลังของพวกเขาเหลือเพียงความว่างเปล่า...ผู้ชายห้าคนนั้นหายไปแล้ว?



หรือว่าจะเลี้ยวตรงซอกแคบๆที่เพิ่งผ่านมาเมื่อกี้ เดี๋ยวสิ...ซอกนั้นมันไม่มีอะไรเลยนะ เป็นแค่ช่องแคบที่ตัน แต่ถ้าไม่อย่างนั้นพวกนั้นหายไปไหนกันล่ะ



“ซอยนี้มีทางเลี้ยวอื่นรึป่าว”กระซิบถามน้องอย่างคนไม่ชำนานทาง



“ไม่นะฮะ เป็นทางตรงที่มีกำแพงขนาบยาวสองข้าง ไม่มีทางเลี้ยวเลย พี่อินจะไปไหนเหรอครับ”



“ช่างมัน เดินเร็วๆก็พอแล้ว”รั้งมือของน้อง ถ้าอุ้มวิ่งได้ทำไปแล้ว...เอ๊ะ ก็ทำได้นี่หว่า




“มานี่มาพี่อุ้มนะ”แขนเรียวช้อนตัวน้องชายซึ่งไม่ใช่เล็กๆแล้วขึ้นมาก่อนจะเพิ่มความเร็วเท้าขึ้น



เพราะพ่อของเขาเป็นทนาย การถูกข่มขู่หรือถูกตามล่าจากจำเลยหรือผู้ขัดผลประโยชน์จึงเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ไม่อยาก โดยเฉพาะคดีล่าสุดที่พ่อไปทำถึงเชียงใหม่ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลเสียด้วย



และนั่นคือเหตุผลที่อินถูกจับเรียนศิลปะป้องกันตัวตั้งแต่เด็กเลยเติบโตมาอย่างแข็งแกร่งอย่างทุกวันนี้นั่นเอง...



...................................................................................................

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เม ชุลมุนวุ่นวายดีแท้เหลา

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อินจะรอดมั้ยเนี่ยซวยได้อีก  :katai1:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ซับซ้อนจิง ๆ

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4



บทที่21



“พ่อครับ!!”แสงตะวันยามเย็นลาลับของฟ้า หลังจากหนีพ้นจากซอยเปลี่ยวนั้นมาได้อินก็รีบเรียกแท็กซี่แล้วก็ตรงกับมาที่บ้านทันที จากนั้นก็ล็อคบ้านมิดชิดแล้วก็กำชับน้องว่าอย่าออกไปไหน เจ้าตัวดีสองคนก็ยิ้มหน้าแป้นดีใจที่พี่ชายอุ้มไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย



รออยู่กว่าสองชั่วโมงพ่อกับแม่ถึงกลับมาบ้าน อินรีบเดินลงมาจากห้องนอนทันทีที่ได้ยินเสียงรถอันคุ้นเคย ร่างโปร่งปลดกลอนประตูแล้วก็เดินออกไปหาคุณพ่อซึ่งไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบปีเห็นจะได้ ด้วยสีหน้ากระวนกระวาย



“อ้าว อินลูกพ่อ ยังอยู่เรอะ นึกว่าหนีออกจากบ้านไปแล้ว”ชายร่างผอมผิวคล้ำแดดหันมามอบรอยยิ้มให้ลูกชาย เขาอ้าแขนเหมือนจะเข้าไปกอด แต่อินก็เอี้ยวตัวหลบทัน



“ไม่ต้องมายิ้มเลย เกิดเรื่องใหญ่แล้วนะรู้ไหม!!”อินแหวใส่ ท่าทางขี้เล่นไม่เหมาะกับอาชีพของพ่อ ขณะนั้นเองกองกระเป๋าใบโตก็ถูกยัดเข้ามาในมือโดยคุณแม่ที่เคารพ



“มัวแต่พูดมาก ช่วยขนของก่อนเร็ว!!”หล่อนตวาดใส่ลูกชายคนโตตามปกติ”คุณก็ด้วย มานี่เลย มัวแต่ยืนยิ้มอยู่นั่นแหละ มาช่วยฉันหน่อยสิ!!”



ว่ากันว่าแม่เป็นมนุษย์ที่มีอำนาจมากที่สุดในบ้านเห็นจะจริง อินสบตากับพ่อแล้วก็หัวเราะแห้งๆ สองพ่อลูกขนกระเป๋าเข้ามาในตัวบ้านจากนั้นแม่ก็ไล่ให้ไปไหนก็ไปเพราะเกะกะเธอจะซักผ้า เป็นโอกาสดีของคนที่มีเรื่องค้างคาใจ



อินลากพ่อเข้ามาในห้องของตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คนเป็นพ่อถึงกับแปลกใจเอ่ยถามออกมาก่อนว่า



“เกิดอะไรขึ้นเหรอลูก”



“เมื่อบ่ายผมไปรับน้อง ระหว่างเดินทางกลับก็เจอผู้ชายท่าทางแปลกๆเดินตาม ผมคิดว่าอาจจะเป็นคนร้ายในคดีที่พ่อตามสืบอยู่นะ”



“กี่คนลูก”



“ห้า”



“อืม”ชายวัยกลางคนยกมือขึ้นลูบคาง ขณะที่อินได้แต่มองหน้าของบิดาอย่างลุ้นละทึก ไม่นึกว่าภายใต้รอยยิ้มที่พ่อแสดงให้เห็นเสมอจะซ่อนเรื่องชวนปวดหัวมากมายเอาไว้ขนาดนี้



“พ่อ ถ้าบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีอะไรจะเล่าให้ผมฟังก็ได้นะ ยินดีรับฟัง”แม้เขาจะไม่สนิทกับพ่อเท่าไหร่เพราะนานๆครั้งถึงจะเจอกัน แต่ทว่าอินก็รู้สึกสนิทใจเวลาคุยกับพ่อมากกว่าเวลาอยู่กับแม่



“รู้จักคุณเอกสิทธิ์ไหมลูก?”สุดท้ายพ่อก็ตัดสินพูดเรื่องสำคัญออกมาด้วยใบหน้าเศร้าหมอง”เขาเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของพ่อ...เรียนนิติมาเหมือนกันนี่แหละ”



อินส่ายหน้าแทนคำตอบ นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มได้ยินชื่อของคนคนนี้ แต่ดูเหมือนพ่อจะผูกพันกับเขามากทีเดียว



“เขาเสียชีวิตเมื่อสิบแปดปีก่อน...ไม่สิ ต้องบอกว่าถูกฆ่าตายจะถูกต้องกว่า...”



“เหะ!?”คนฟังถึงกับผงะเมื่อได้ยินมาถึงจุดนี้”ใครฆ่าครับ!? จับได้หรือยัง”



ชายวัยกลางคนส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนแรง”คนร้ายเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ตำรวจก็เลยทำอะไรไม่ได้...แม้ว่าพ่อจะมีหลักฐานมัดตัวคนร้ายอยู่ในมือแต่ก็เอาผิดอีกฝ่ายไม่ได้เลยแถมยังถูกขู่ฆ่าอีกต่างหาก ตอนเราเด็กๆพ่อก็เลยไม่ค่อยกลับมาบ้าน...”



คำบอกเล่านั้นจี้ใจดำคนฟังเต็มๆ



“ขอโทษนะลูก”



อินคลี่ยิ้มให้บิดา ได้ฟังความจริงจากปากของพ่อแบบนี้ ถึงจะช้าไปสักหน่อย แต่ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะ



ที่ได้รู้ว่าพ่อไม่ได้เห็นแก่งานจนทิ้งลูกชายให้อยู่กับแม่...



ที่ได้รู้ว่าเพราะไม่อยากให้ติดร่างแหก็เลยไม่กลับมาเจอ...



ดีใจที่ได้เป็นครอบครัวเดียวกัน...



“ไม่เป็นไรครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคดีนี้หรือเปล่าครับ”



“อืม...ได้ยินว่าผู้มีอิทธิพลคนนั้นสั่งให้ลูกน้องห้าคนอุ้มลูกสาวเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งไปให้ตนร่วมหลับนอนด้วย พ่อก็เลยรับอาสาทำคดี...เพราะอย่างน้อย แม้คดีของเจ้าเอกจะหมดอายุความไปแล้วแต่พ่อก็อยากให้คนร้ายได้ชดใช้กรรม!”



“อืม...แล้วคุณเอกเขามีครอบครัวไหมครับ”เพราะพ่อไม่เห็นติดต่อกับญาติของคุณเอกเลย อินจึงเกิดสงสัยขึ้นมา



“เขาแต่งงานมีลูกแล้ว ตอนที่เขาเสียเขานั่งรถไปกับภรรยาแล้วก็ลูกวัยสองขวบ...แต่ทว่ารถก็เกิดเสียหลักพุ่งชนข้างทาง เหลือรอดแต่เด็กคนนั้นเท่านั้น...”



เห...คดีเกิดขึ้นเมื่อ 18ปีก่อน ส่วนเด็กคนนั้นก็อายุ 2ขวบ แสดงว่า...



“งั้นเด็กคนนั้นก็อายุเท่าผมเลยน่ะสิ”อินกลั้วหัวเราะในลำคอ ทั้งๆที่อายุเท่ากันแท้ๆแต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้ายกว่าอินเยอะ ถ้าได้เจอกันก็อยากให้กำลังใจหรือทำความรู้จักสักหน่อย”



“แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะครับ”



“อะ...เอ่อ”ร่างโปร่งถามด้วยสีหน้าผ่อนคลาย แต่บิดากลับแสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ชั่วอึดใจ”ก็...มีคนรับไปเลี้ยง...”ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติและตอบกลับมา



อินพยักหน้ารับรู้นิดหน่อย ทันใดนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดการสนทนา สองพ่อรู้พร้อมใจกันหันไปมองประตู ร่างท้วมของคุณแม่เดินเข้ามาในห้อง หล่อนเท้าเอวสีหน้าโกรธจัด สองพ่อลูกเลยมองตากันตาปริบๆ...ว่าพวกตนทำอะไรให้แม่นางขุ่นข้องใจ...



“อ่า...อะไรเหรอจ๊ะที่รัก...”



“ไม่ต้องมาที่รักเลย ข้าวเย็นน่ะจะกินไหม เรียกตั้งนานแล้วก็ไม่ยอมลงมา หูตึงกันรึไง!!!”



ปัง!!!



ตวาดใส่เสร็จแล้วก็ปิดประตูอัดหน้าดังโครม พ่อลูกหันมาส่งยิ้มให้กัน อินหลุดหัวเราะเยาะพ่อที่กลัวเมียอย่างไม่เกรงใจ



“ฮ่าๆๆๆๆๆ พ่อ่อนว่ะ กลัวเมีย ฮ่าๆๆๆๆ”เอามือตบเขาดังฉาดอย่างพอใจ ร่างโปร่งกุมท้องหัวเราะเต็มลิมิต



“ว่าแต่พ่อ ใครๆเขาก็กลัวเมียกันทั้งนั้นแหละ...เดี๋ยวตอนเอ็งมีเมียเอ็งก็ต้องกลัวมัน..”



“ฮ่า...อา...เหอๆ...เหอะๆๆๆ”อารมณ์เริงร่าสลายไปในพริบตา นักศึกษาชั้นปีที่สองซึ่งห่างไกลจากการมีเมียมากโขหัวเสียงเสียงแห้ง แสดงสีหน้าฝืดเคืองยามนึกถึงเรื่องของใครบางคนได้



“ทำไมหัวเราะอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าอกหัก...ชีวิตรักตกอับรึเรา?”



“ตรงข้ามเลย มีคนมาจีบแถมบอกรักอีกต่างหาก...”



“อ้าว!? แล้วจะทำหน้าแบบนั้นทำไม อย่าบอกนะว่าหน้าตาไม่ดี”



“ไม่..หน้าตาโคตรดีต่างหาก”



“งั้นก็เจ้าชู้”



“ไม่นะ เท่าที่เห็นก็รักผมคนเดียว”



“งั้นก็เรียนแย่?”



“ฉลาด หัวดี มีอนาคต”



“บ้านจน?”



“รวยโคตร ขับรถสปอร์ตอยู่คอนโดเดียวกับดีดี”



“บ๊ะ!! แล้วมันมีอะไรไม่ดีตรงไหนทำไมเอ็งถึงทำหน้าเหมือนกำลังกลืนน้ำลายตัวเองแบบนั้นด้วยล่ะ!?”



“เพราะมันเป็นผู้ชาย”



“!!!!!!”



นี่เป็นวันที่อินนึกอยากกัดลิ้นฆ่าตัวตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเขาถูกแม่ซึ่งรอจนทนไม่ไหวต้องขึ้นมาตามสองพ่อลูกอีกรอบลากคอลงมา หลังจากสารภาพเรื่องสำคัญกับพ่อบังเกิดเกล้าไป...



ทั้งที่ยังไม่ได้ตบปากรับคำขอเป็นแฟนของพัดเลยแท้ๆ...



“เห้อ...”



“อย่ากินข้าวไปถอนหายใจไป!!”



ร่างโปร่งเบ้หน้าขัดใจ แม้แต่ถอนหายใจยังโดนแม่ด่าเรื่องที่หวั่นไหวกับผู้ชายคงไม่บอกให้รู้จนวันตาย อย่างน้อยก็บอกพ่อไปแล้วแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อแม่ก็มาขัดซะก่อนเลยไม่รู้เลยว่าพ่อจะตอบว่าอะไร



“อ่อ...คืนนี้เก็บของด้วยนะ พรุ่งนี้เราจะไปอยุธยากัน”



“เห ไปทำไมเหรอครับ?”นายอัครินทร์เสมองมารดาของตัวเอง ขณะตักข้าวเข้าปากจึงโดนข้อหากินไปพูดไปเข้า เด็กหนุ่มมุ่ยหน้าอย่างไม่พอใจเพราะเขาก็เห็นว่าแม่พูดเยอะกว่าตัวเองอีก แต่ด้วยสถานะลูกเลยเถียงไม่ใชนะ พ่อซึ่งเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าแม่ลูก
จะวางมวยกันกลางโต๊ะกินข้าวเลยรีบห้ามทัพ



“ไปเยี่ยมพ่อแม่ของเจ้าเอกน่ะ”



“อืม แล้วทำไมผมต้องไปด้วยล่ะ”



“ถือว่าไปเป็นเพื่อนพ่อแล้วกันนะลูก”



“หา...งั้นแม่ ฟ้า แล้วก็น้ำก็ไม่ได้ไปกับเราน่ะสิ”



“ใช่”



เห้ยๆ...แล้วทำไมเขาต้องไปกับพ่อแค่สองคนด้วยล่ะเนี่ย...?!



.....................................................................................


ตอนนี้สั้นจัง TvT เอาไว้วันเสาร์ไม่ไก็อาทิตย์จะมาอัพเพิ่มให้อีกตอนก็แล้วกันนะคะ

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เอิ่ม ซับซ้อนดีจัง

ออฟไลน์ KAEHUB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อินนี้เป็นลูกของเอกสิทธิ์อะไรนี่ป่าวเนี่ย รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย กลัวนางจะเครียดไปกันใหญ่  ชีวิตทุกวันนี้เหมือนไม่เครียด แต่ก็เป็นคนฝังใจแปลกๆอ่ะ รอดูกันต่อไป 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
อิน ลูกใคร

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หวังว่าคนนั้นคงไม่ใช่พัดนะ

ออฟไลน์ kritcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อินเป็นลูกเอกหรือเปล่า เพราะดูแม่ก็ไม่ค่อยรักเท่าไหร่

ชอบเรื่องนี้มากๆ >< รอค่ะะะะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
พ่อนายแน่เลยอิน...

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เป็นไปได้กว่า 80% ที่ว่าอินเป็นลูกของเอกสิทธิ์ แถมยังจะพาไปหาปู่ย่าอีก

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
เป็นนิยายที่พลิกล็อคไปมาตลอดเวลาจีๆ :a5:
ขอฉากหวานๆบ้างจิ :katai2-1:

ออฟไลน์ nikkou

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +294/-4




บทที่22 ครอบครัวที่แท้จริง




“อินเป็นอะไรลูกไม่อร่อยเหรอ”โต๊ะอาหารของครอบครัวไอยสวรรค์ดำเนินตามปกติ โดยไม่มีใครสังเกตเห็นก้อนเมฆสีดำอึมครึมซึ่งรอยคลุ้งอยู่เหนือหัวของอินแม้แต่น้อย ข้าวในจานถูกเขี่ยไปเขี่ยมาด้วยความไม่สบายใจทำให้อาหารมือของแม่วันนี้ไม่อร่อยเหมือนเคย



ในละครหรือในนิยายก็มีให้เห็นออกบ่อย



ไอ้เรื่องที่ตัวเอกเป็นลูกที่พ่อแม่รับมาเลี้ยง...โดยที่ไม่เคยรู้มาก่อน พอความจริงเปิดเผยเข้าพ่อแม่ก็จะมากอดคอลูกร้องไห้แล้วก็บอกว่าไม่ได้อยากจะปิดบังแค่เห็นว่ายังเด็กเลยกะจะบอกตอนที่ลูกโตแล้ว



และตบท้ายด้วยคำพูดประมาณว่าถึงไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันแต่พ่อแม่ก็รักลูกเหมือนแท้ๆนะ



“หึ...”อินแค่นหัวเราะกับความคิดไม่สร้างสรรค์ในหัว



ถ้าเขาไม่ใช่ลูกของบ้านนี้จริงๆแม่คงเฉดหัวส่งไปนานแล้ว ไม่ทนเลี้ยงมาจนโตแบบนี้หรอก



แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง...การโดนปล่อยปะละเลยและอายุที่ห่างจากน้องจนเกินไปก็น่าสงสัยอยู่เหมือนกัน



“ปวดหัวนิดหน่อยครับ ขอตัวก่อนก่อนนะครับ” ร่างโปร่งยกมือขึ้นกุมหัวพอเป็นพิธีแล้วก็ปลีกตัวจากโต๊ะอาหารของครอบครัวที่แสนอบอุ่น อินเดินขึ้นบันไดได้สองสามก้าวก็มองลงมายังชั้นล่า เห็นพ่อ แม่ และน้องชายสองคนกินข้าวต่อด้วยรอยยิ้มมีความสุข ภาพของครอบครัวที่อบอุ่นขนาดนั้นทำเอาคนแอบมองอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา



พอพ้นประตูก็กดล็อคยืนพิงประตูก่อนจะไหลลงไปนั่งกองอยู่ตรงนั้น ขอบตาร้อนผ่าวเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาแต่ก็ไม่...



 อายุที่ห่างกันมากของเขากับน้อง ท่าทางที่แม่แสดงออกกับเขาและน้องก็ต่างกัน  แถมพรุ่งนี้ยังต้องไปบ้านอยุธยาอย่างไม่มีสาเหตุอีก



ฉับพลันเสียงเรียกเข้าของสายโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งคนที่กำลังเหม่อถึงกับสะดุ้งลุกขึ้นมาดูสายเรียกเข้า
“พัด”เรียกออกแค่ชื่อเท่านั้นเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะจับความผิดปกติในน้ำเสียงได้



“อินเหรอ พรุ่งนี้ว่างไหม...อิน ได้ยินไหม” เสียงทุ้มกดหนักๆเพื่อเรียกสติของเจ้าของชื่อซึ่งสติแตกไปแล้วเรียบร้อย



“ไม่ว่าง แค่นี้นะ”



กึก เครื่องมือสื่อสารถูกปิดก่อนจะถูกโยนส่งๆไปบนเตียงพร้อมเจ้าของห้องซึ่งเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วก็หายลับออกจากห้องไป พออาบน้ำเสร็จก็กลับเข้ามานอนซึมอยู่บนเตียงพยายามหาข้อแก้ตัวต่างๆนาๆเพื่อปลอบใจตัวเอง ใบหน้าคมซบลงกับหมอนทั้งๆที่ผมยังเปียกอยู่



แล้วก็หลับไปอย่างง่ายดาย...



เกิดมาอินไม่เคยนอนไม่หลับ คนอื่นเวลามีเรื่องทุกข์ใจจะกระวนกระวายจนนอนไม่หลับซึ่งตรงข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ยิ่งหลับง่ายเท่านั้น



ชีวิตของคนอยู่ง่ายกินง่ายเดินตามเข็มนาฬิกาไปเรื่อยๆ...หนึ่งนาทีผ่านไป ลมหายใจสม่ำเสมอ



สิบนาทีผ่านไป...ร่างโปร่งพลิกตัวในท่าที่นอนสบายขึ้น



หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...อินก็ยังคงหลับอยู่ท่าเดิม



หนึ่งชั่วโมงกับอีกสิบนาทีผ่านไป...ประตูห้องของอินถูกเปิดดังผลัวะ ตามมาด้วยร่างสูงซึ่งมีสีหน้าร้อนใจ ก่อนผู้มาเยือนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นคนที่เขามาหากำลังหลับอย่างสบายใจอยู่บนเตียง



“อือ...ใครวะ”เสียงทุ้มถามงัวเงีย เขาตื่นเพราะเสียงเปิดประตูแล้วก็แสงไฟจากทางเดิน



อินยันตัวลุกนั่งผมเผ้ากระเซิงกระพริบตาถี่ๆก่อนจะสะดุ้งตกใจ”เห้ย!! พัด มึงมาได้ไง!””



เนตรคมเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นคนที่ไม่น่ามาอยู่ในที่แบบนี้ได้กำลังยืนหอบอยู่หน้าประตู



“ให้ตายเถอะ!!”มือหนาปิดประตูเปิดไฟแล้วก็เดินมานั่งขอบเตียง”ก็มึงอ่ะ กูโทรมาแล้วก็รับสายกูพูดงืมงำไม่รู้เรื่อง น้ำเสียงเหมือนโลกจะแตกกูก็เลยรีบมาที่นี่ทันทีเพราะคิดว่ามึงกำลังงอน”




“หะ งอนไร”



“ก็กูโทรมาชวนไปเที่ยวด้วยแล้วมึงก็บอกว่าไม่ว่างแล้วก็วางสายไปเลยกูก็เลยคิดว่ามึงหนีหน้ากูอยู่”



“ฮ่าๆๆๆ มึงคิดมากว่ะ จะว่าไปกูก็คิดมากเหมือนกัน ไม่มีอะไรหรอกมั้ง เหอะๆ”ในทีแรกก็หัวเราะเยาะคนอื่นอยู่ดีๆแต่ท้ายเสียงชักจะเบาลงเรื่อยๆจนผู้มาเยือนขมวดคิ้วอย่างผิดสังเกต



“เข้าใจผิดเรื่องอะไร?”พูดจบก็จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของอินเขม็ง เล่นเอาคนโดนมองรู้สึกร้อนๆหนาวๆ



 “เออๆ กูยอมแพ้แล้ว”อินเสตาไปทางอื่นเพราะทนแรงกดดันจากพัดไม่ไหว...



“คือพรุ่งนี้กูต้องไปอยุธยา บ้านของเพื่อนพ่อ แต่ทีนี้เพื่อนพ่อคนนี้เขาตายไปแล้วพร้อมเมีย เหลือลูกเขาคนหนึ่ง อายุเท่ากู...”



“มึงที่ดูหนังมาเยอะก็เลยคิดว่าเด็กคนนั้นคือมึง?”



แทงใจดำเข้าเต็มๆ อินแทบจะกระอักเลือกกับนัยน์ตาพราวระยับเหมือนได้ยินเรื่องตลกก่อนบ่ายคลายเครียดของพัด



“เออ!! แต่กูเลิกคิดแล้ว”



.



.



ในรถยนต์ส่วนตัวของครอบครัวไอศวรรค์ ตำแหน่งคนขับเป็นของคุณพ่อ ที่นั่งซ้ายมือของคนขับเป็นของลูกชายคนตัวนามอิน...ส่วนเบาะหลังถูกจับจองโดยพัด(ว่าที่ลูกเขย)



เมื่อคืนนี้อินไล่แล้วไล่อีกร่างสูงก็ไม่ยอมกลับแถมยังเสนอตัวขอมาด้วยอีกต่างหากอินเลยหมดแรงจะไล่ผลัดไปตอนเช้าค่อยไล่กลับอีกที แต่พอตื่นเช้าขึ้นมาพัดก็ไม่อยู่ในห้องเสียแล้ว เขาเลยเดินลงมาที่ชั้นล่างเพราะคิดว่าพัดจะกลับไปแล้วแต่ที่ไหนได้ ไอ้บ้านั่นนั่งหน้าสลอนจิบกาแฟคุยกับพ่อเฉิบ



แถมพ่อยังส่งสายตาปิ๊งปั๊งมาให้อีก แปลสารได้ว่า



...คนนี้ใช่ไหม...







เกลียดดดดด!!




ตอนนั้นเขาแทบจะเอาหัวโขกข้างฝา ยิ่งตอนที่มือดีเปิดประตูรถขึ้นมานั่งหน้าระรื่นยิ่งแล้วใหญ่ อินอยากจะกระโดดถีบมันแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันคุยถูกคอกับแม่ แม่ดูจะรักมันยิ่งกว่าลูกในไส้อย่างเขาอีก



“พัด”



“หืม”



“หุบยิ้มหน่อย กูหมั่นไส้”




...


รู้สึกเหมือนตอนนี้มันสั้นๆ


แต่คงจะรู้สึกไปเอง 555555555555555555555555555555555555555555555555 :laugh:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด