Chapter 11“เฮีย...ผมไปตรวจกล้องในโรงพยาบาลหมดแล้วนะ ข้อมูลของวันที่ไอ้ไมค์หายตัวไปถูกลบหมดเลยทุกตัว”
สามภพวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยวีไอพีที่มีพี่ชายคนรองพักรักษาตัวอยู่ สองเมืองพึ่งฟื้นตัวจากฤทธิ์ยาสลบเมื่อไม่นานมานี้เอง พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็ยังคงโวยวายอยู่เหมือนเดิม จะไม่ให้เดือดเนื้อร้อนใจได้อย่างไร หนูไมค์หายไปทั้งคน เค้าไม่ยอมนั่งใจเย็นแน่ๆ สองเมืองพยายามที่จะลุกออกไปตามหาเจ้าตัวเปี๊ยกนั้นซะเอง แต่ร่างกายเค้าตอนนี้ไปไม่ไหวจริงๆ ได้แต่สั่งให้ทุกคนออกไปตามหาหนูไมค์ สามภพรับหน้าที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบริเวณโรงพยาบาล ส่วนหนึ่งสยามกับคุณท่านปิ่นฤดีก็ไปแจ้งความคนหายและนำทีมตำรวจออกค้นหา ทุกคนในบ้านก็นั่งใจเย็นไม่ได้เหมือนกัน หนูไมค์ถือว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวหงส์วิไลเลิศสกุลไปแล้ว ยังไงก็ต้องตามหาให้เจอ
“มึงว่าไงนะ!”
“ก็ผมกับเพื่อนเฮียไปตรวจดูกล้องทุกตัวภายในโรงพยาบาลแล้ว ข้อมูลกล้องในวันที่ไอ้ไมค์หายตัวไปมันหายไปหมดเลย เหมือนมีคนสั่งให้ลบอย่างไรอย่างนั้นแหละ” สามภพบอกผู้เป็นพี่
“ใช่...กูยืนยันเลยว่าข้อมูลกล้องในวันนั้นหายไป พวกกูตรวจอย่างละเอียดแล้ว” มิน เพื่อนรักของสองเมืองกำชับอีกเสียง
“กูว่าคนที่ลักพาตัวไมค์ไปต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลแน่ๆ” ฮ่องเต้ เพื่อนรักอีกคนบอก
“ตอนพยายามเค้นถามพวกยามกับพวกพนักงานที่ดูแลห้องวงจรปิดแล้วนะ ไม่รู้เรื่องสักคนเลยว่ะ....”
“เดี๋ยวพวกกูสามคนจะลงไปตรวจแถวๆบริเวณโรงพยาบาลดูอีกครั้ง มึงก็พักผ่อนอยู่นี่แหละไอ้สอง” ฮ่องเต้บอกด้วยความเป็นห่วง พึ่งผ่าตัดมาใหม่ๆถ้าออกไปเจอลมเจอแดดข้างนอกตอนนี้ก็คงทำให้อาการทรุดลงอีกแน่ๆ
“ไม่ กูจะไปตามหาไอ้ไมค์เอง พวกมึงแม่งไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!” สองเมืองกำมือแน่นด้วยความโกรธ
“อย่าพึ่งไปตอนนี้เลยลูก พักผ่อนก่อนเถอะนะ...ถือว่าแม่ขอ” คุณหญิงหยกมณีปรี้เข้ามาห้ามปรามลูกชายคนรองที่กำลังจะปลดสายน้ำเกลือออก
“แม่จะให้สองนั่งทนรออยู่แบบนี้เหรอ! ไอ้ไมค์มันหายไปทั้งคนนะ ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้!”
“แต่สองพึ่งผ่าตัดเสร็จเองนะลูก....พักผ่อนอีกหน่อยเถอะ พอหายดีแล้วค่อยช่วยกันตามหาหนูไมค์อีกแรง นะลูก...”
“ใช่เฮีย พักอีกหน่อยเถอะ เดี๋ยวผมกับพวกพี่มินพี่ฮ่องเต้จะหาไอ้ไมค์สุดความสามารถเลย เชื่อผมเถอะ...พักก่อนเฮีย” น้องชายคนเล็กก็เข้ามาปรามอีกแรง
“เออ...ก็ได้....แม่ครับ พรุ่งนี้ผมจะออกจากโรงพยาบาล...นะครับ ให้ผมออกไปตามหาไมค์นะแม่”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ตอนนี้สองนอนพักก่อนเถอะ”
สองเมืองล้มตัวนอนบนเตียงผู้ป่วยอย่างว่าง่าย ในใจก็ภาวนาอยู่ตลอดขอให้ไอ้เปี๊ยกนั้นไม่เป็นอะไร ความหวังที่จะตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้าหนูไมค์เป็นคนแรกมันวับไปกับตา ทำไมไอ้ระยำนั้นมันต้องลักพาตัวหนูไมค์ไปด้วย มันจะพาหนูไมค์ไปขายเหมือนในหนังรึเปล่า มันจะทำอะไรไอ้เจ้าเด็กตัวเล็กนั้นรึเปล่า ยิ่งคิดยิ่งแค้น ถ้าเจอตัวการเมื่อไหร่มันไม่ได้เจอดีแน่ คิดผิดแล้วที่มาลักพาตัวดวงใจของสองเมืองไป ชาตินี้มันคงได้ลงนรกสมใจอยาก สองเมืองครุ่นคิดในใจก่อนจะพยายามข่มตาหลับเพื่อรอเช้าวันใหม่ในวันพรุ่งนี้
เช้าวันต่อมาสองเมืองและสามภพกลับไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณโรงพยาบาลอีกเช่นเคย แต่ข้อมูลในวันที่หนูไมค์หายไปถูกลบจริงๆตามที่สามภพบอก เรื่องนี้ทำเอาสองเมืองหงุดหงิดและหัวเสียเป็นอย่างมาก ภาคเช้าสองเมืองพยายามที่จะหาข้อมูลและสอบถามผู้คนในโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง ร่างกายก็เริ่มอ่อนล้าเข้าเต็มที แต่ใจมันยังร้อนรุ่มอยากจะตามหาเจ้าเปี๊ยกนั้นให้เจอเร็วๆ
“ไปนั่งพักในร้านกาแฟตรงนู้นก่อนไหมเฮีย เนี่ยก็จะเย็นแล้ว ไปหาอะไรรองท้องก่อน” สามภพช่วยพยุงร่างสูงของสองเมืองเข้าร้านกาแฟที่อยู่ในบริเวณโรงพยาบาล
“เอามอคค่าที่นึงครับ เฮียเอาไร”
“กูเอาโกโก้เย็นแล้วกัน”
“เชิญลูกค้ารอสักครู่นะคะ” พนักงานสาวบอก ระหว่างที่รอสองเมืองก็กวาดสายตาไปทั่วภายในร้าน ก่อนจะไปสะดุดเข้ากลับกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่มุมผนังของร้าน
“ขอดูกล้องวงจรปิดได้ไหมครับ” สองเมืองเอ่อยถามพนักงานสาวที่กำลังขะมักเขม้นกับการชงโกโก้
“อ๋อ...กล้องมันเสียเมื่อคืนน่ะค่ะ” กล้องเสียเมื่อคืนงั้นหรือ? แปลกจัง....
“โห เฮีย...ผมพามานั่งพักกินของอร่อยๆ ไม่ใช่มาตามหาไอ้ไมค์นะ นั่งพักก่อนค่อยตามหาอีกที” สองเมืองส่ายหน้าไม่สนใจคำพูดของน้องชาย ก่อนจะควักไอโฟนออกมาเปิดรูปหนูไมค์ที่คุณท่านปิ่นฤดีส่งให้ ยื่นให้พนักงานสาวดู
“เคยเห็นเด็กคนนี้รึเปล่า”
“เห้ยเฮีย...คนเข้าร้านกาแฟเป็นร้อย เค้าจะไปจำได้ยังไงกัน” สามภพปรามพี่ชายจอมดื้อรั้นของตัวเอง
“เด็กคนนี้หายไปเมื่อวันก่อน เคยเห็นผ่านมาแถวนี้ไหม” สองเมืองยังไม่เลิกความพยายามที่จะถามพนักงาน
“ไม่มีรูปหน้าตรงเหรอค่ะ” รูปที่ในสมาทโฟนของสองเมืองเป็นรูปของเด็กผู้ชายผิวขาวจัดคนนึง นั่งเอียงข้างเข้าหาสองเมืองและกำลังยิ้มให้กับร่างสูงอย่างมีความสุข
“มีรูปเดียว คุณเคยเห็นรึเปล่า”
“อืม...เดี๋ยวนะคะ เหมือนจะเคยผ่านมาแถวนี้นะคะ” พนักงานสาวบอก
“เมื่อไหร่! มากับใคร?”
“เฮียใจเย็นก่อน”
“คือ..รูปนี้หน้าไม่ค่อยชัดแล้วเจ้าตัวก็กำลังยิ้มอยู่ด้วยฉันจำหน้าไม่ได้หรอกค่ะ แต่ฉันจำชุดของน้องคนนี้ได้ค่ะ”
“จริงเหรอ แล้ว....แล้ว...แล้วเด็กคนนี้มาคนเดียวรึเปล่า แล้วมีคนพาเด็กคนนี้ไปรึเปล่า” สองเมืองรัวคำถามใส่พนักงานอย่างร้อนรน
“อ๋อ เหมือนจะมีผู้ชายคนนึงพาออกไปนะคะ ตอนนั้นพอดีว่าฉันกำลังทำความสะอาดโต๊ะข้างๆน่ะค่ะ ก็เลยสังเกตเห็น ฉันไม่ได้มองหน้าน้องคนนี้ค่ะ แต่ฉันจำเสื้อตัวนี้ได้นะคะ”
“ผู้ชายคนนั้นมีลักษณะยังไงบ้างครับ” สามภพถามขึ้น
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คือ....ฉันจำไม่ได้จริงๆค่ะ” พนักงานสาวส่ายหัวปเสธ
“โธ่เว้ย!” สองเมืองสถบออกมาก่อนจะเดินตึงตังออกจากร้านไม่สนใจอย่างอื่นเลย ในหัวเค้าตอนนี้มีแต่หนูไมค์คนเดียวเท่านั้น
“เฮียยยย รอก่อน”
“มันเป็นใครกันวะ มันต้องการอะไร! ทำไมต้องลักพาตัวไอ้เปี๊ยกนั้นไปด้วย แถมแม่งยังลบข้อมูลกล้องวงจรปิดอีกต่างหาก มันเป็นใครกันแน่วะ!”
“ผมก็ไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร แต่ผมว่ามันต้องเป็นคนมีอำนาจคนนึงแหละเฮีย ไม่อย่างนั้นมันจะทำแบบนั้นได้เหรอ อีกอย่างมันต้องทำเป็นกระบวนการแน่ๆ”
“แม่งเอ้ย! ทำไมต้องมาขโมยไอ้ไมค์ไปจากกูด้วยวะ!!!”
“อาจจะเป็นแก๊งลักเด็กก็ได้นะเฮีย ช่วงนี้มีเด็กหายบ่อย....ส่วนใหญ่มันจะลักตัวเด็กแล้วให้เด็กไปนั่งขอทานไม่ก็ขายของตามสถานที่ท่องเที่ยว ผมเห็นในข่าว”
“ถ้าเป็นแก๊งลักพาตัวเด็กจริงๆ มันจะลงทุนมาลบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลไหมไอ้บ้านี่!”
“เออจริงดิ....ถ้าอย่างนั้นมันคงต้องการตัวไอ้ไมค์จริงๆนั้นแหละ หรืออาจจะเป็นญาติมันก็ได้นะเฮีย” สามภพออกความเห็น เพราะก่อนหน้านั้นเค้าได้ฟังเรื่องราวของหนูไมค์จากคุณหญิงหยกมณีมาแล้ว หนูไมค์เป็นเด็กกำพร้า โดนอาแท้ๆของตัวเองมาปล่อยทิ้งที่ประเทศไทย เพื่อที่อาจะได้รับมรดกทั้งหมดของพ่อกับแม่หนูไมค์
“อาจจะเป็นอาของไอ้ไมค์ก็ได้นะเฮีย ที่เคยเอามันมาทิ้งอ่ะ....”
“เค้าเอามันมาทิ้งแล้วจะเอามันกลับไปทำไมล่ะ!”
“ก็แบบว่า...อาจจะสำนึกผิดขึ้นมาไงเฮีย” เอ๊ะ....อาจจะจริงแบบที่ไอ้สามภพมันว่าก็ได้
“เฮีย...ผมว่าอย่างที่สองอ่ะเป็นไปได้ เราลองไปตรวจข้อมูลคนที่ออกนอกประเทศดีไหมเฮีย พ่อเพื่อนผมเป็นหุ้นส่วนของสนามบินเชียวนะ”
“คนออกนอกเป็นประเทศเป็นล้านๆคน ไอ้ห่านี่!”
“เอ้า ก็ดูไฟท์ที่บินไปไต้หวันดิเฮีย ไอ้ไมค์มันเป็นลูกครึ่งไต้หวันนี่หว่า อามันก็ต้องเป็นคนไต้หวัน” ก็จริงของสามภพว่า เค้าจะตามหาไอ้เปี๊ยกนั้นจนต้องพลิกแผ่นดินหาก็คงต้องยอม เพื่อที่ได้เห็นหน้าหนูไมค์สักครั้ง
“ก็จริงของมึง ไม่ลองก็ไม่รู้....”
มาทำให้ชอบ มาทำให้ลงแล้วหายตัวไปแบบนี้ เค้าไม่ยอมแน่ๆ!
ถึงการตามหาตัวหนูไมค์จะเหมือนการงมเข็มในมหาสมุทรยังไง สองเมืองก็จะหาให้เจอจนได้
ส่วนคนที่พรากให้เค้ากับหนูไมค์ต้องจากกัน มันไม่ตายดีแน่ๆ!!
“ทานนี่หน่อยสิ อร่อยนะ...พี่รับประกัน” เฟร็ดเดอริกเอื้อมตัวตักต้มยำกุ้งให้หนูไมค์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามบนโต๊ะอาหาร ภายในบ้านพักตากอากาศของตัวเอง
หนูไมค์จ้องอีกฝ่ายนิ่งๆก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
“ไม่ทานข้าวแล้วจะมีแรงเหรอเรา ตัวก็แค่นี้เอง หึหึ” เหอะ หนูไมค์กินไม่ลงหรอก ลักพาตัวหนูไมค์มาอย่าคิดนะว่าจะทำดีกลบเกลื่อนความผิด ยังไงหนูไมค์ก็ไม่ยอมใจอ่อนให้กับคนแบบนี้หรอกนะ
“อย่าดื้อกับพี่นะไมค์” เฟร็ดเดอริกดุเสียงเข้ม
หนูไมค์กอดอกแล้วส่ายหัวปฏิเสธอีกครั้ง
“ก็ได้...ไม่กินก็ได้ แบบนี้จะได้ปล้ำง่ายหน่อย แรงก็ไม่มีจะขัดขืน หึหึ” ว่าไงนะ! ขู่กันแบบนี้เลยงั้นเหรอ เชอะ...หนูไมค์กินข้าวก็ได้ ไม่ใช่เพราะยอมหรอกนะ แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายจะทำมิดีมิร้ายกับหนูไมค์ต่างหาก
ร่างเล็กหน้ามุ่ยก่อนจะตักข้าวเข้าปาก หนุ่มฝรั่งตาฟ้าได้แต่นั่งหัวเราะกับการกระทำของคนตรงหน้า มันช่างน่ารักอะไรแบบนี้ ตั้งแต่ที่เค้าพาหนูไมค์มาอยู่ที่นี้เจ้าตัวก็มีทีท่าขัดใจขัดอารมณ์เฟร็ดเดอริกอยู่ตลอด ตัวเค้าเองก็ทราบดีว่าทำไมหนูไมค์ถึงมีอาการดื้อรั้นกับเค้าแบบนั้น คงเป็นเพราะเฟร็ดเดอริกทำไม่ดีกับเจ้าเปี๊ยกนี่ก่อน เลยโดนเอาคืนบ้าง แต่เมื่อโดนขู่ทีไรหนูไมค์ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายเสมอ เด็กคนนี้ช่างน่ารักอะไรแบบนี้นะ หึหึ เค้าคงต้องเลี้ยงให้เชื่องกว่านี้ซะก่อนถึงจะจับเข้าพิธีทำเมียอย่างเป็นทางการ เฟร็ดเดอริกได้แต่คิดแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว ต่างกับหนูไมค์ซะเหลือเกิน
เมื่อไหร่เฟร็ดเดอริกจะเผลอตัวสักที หนูไมค์ไม่มีโอกาสได้หนีเลย ตอนนี้ทุกคนก็เป็นห่วงหนูไมค์แย่แล้ว เฮ้อ.. สองเมืองก็คงต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่ๆ แล้วที่เฟร็ดเดอริกขู่ว่าจะฆ่าสองเมืองนั้นจะจริงรึเปล่านะ ถ้าจะฆ่าจริงๆล่ะก็หนูไมค์ก็คงไม่ยอมเหมือนกัน จะไม่ยอมให้สองเมืองเป็นอะไรไปเด็ดขาด อีกใจนึงก็อยากหนีออกไป แล้วกลับไปหาสองเมือง แต่อีกใจก็กลัวเหลือเกิน กลัวว่าถ้าหนูไมค์หายตัวไปจริงๆ เฟร็ดเดอริกจะตามไปฆ่าสองเมือง ตอนนี้หนูไมค์สับสนมากๆ จะทำยังไงดีนะ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น...หรือว่ากำลังคิดแผนหนีพี่อยู่เหรอหืม?” ร่างสูงเอ่ยทักท้วงเมื่อเห็นสีหน้าของหนูไมค์กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด
หนูไมค์ส่ายหัวเป็นพลันวัน อย่าเชียวนะ....อย่ามารู้ทันหนูไมค์นะ
“ถ้าคิดจะหนีล่ะก็นะ...หึ ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วย....”
หมายความว่ายังไงกัน...
หรือว่า....
“ไอ้สองเมืองนี่คงไม่จำเป็นสำหรับไมค์แล้วใช่ไหมครับ หืม?”
หนูไมค์เริ่มน้ำตาคลอเบ้าแล้วส่ายหัวไปมาอย่างน่าสงสาร
ไม่ได้นะ....ห้ามทำอะไรสองเมืองนะ
“ไมค์อยากอยู่กับพี่เฟร็ดรึเปล่าครับ?”
หนูไมค์พยักหน้าตอบรับ ยอมแล้ว...ยอมแล้วจริงๆ หนูไมค์จะยอมอยู่กับเฟร็ดเดอริกก็ได้ แต่ว่าเฟร็ดเดอริกห้ามทำร้ายสองเมืองเด็ดขาด!
“ดีมากครับเด็กดี เลิกร้องไห้ได้แล้ว” ร่างสูงเอื้อมแขนข้ามโต๊ะเพื่อปาดน้ำตาบนแก้มขาวใส
หนูไมค์จะยอมทุกอย่างเพื่อให้สองเมืองมีความสุข สองเมืองต้องไม่เป็นอะไร....
หนูไมค์จะปกป้องสองเมืองเอง!
TBC.