Chapter 9เทศกาลปีใหม่ได้ผ่านพ้นไป คุณหญิงหยกมณีและคุณท่านปิ่นฤดีได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับหนึ่งสยามที่เป็นผู้นำกระจกตาจากเพื่อนสนิทที่เสียชีวิตไปแล้วอย่างไบรอันกลับมาด้วย เพื่อทำการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาใหม่ให้กับน้องชายคนรองของบ้าน โดยทางครอบครัวของไบรอันก็ยินยอมบริจาคกระจกตาให้ เนื่องด้วยจากความสัมพันธ์ที่ดีของเสาหลักของทั้งสองครอบครัวอย่างคุณท่านดาร์เรลกับคุณท่านปิ่นฤดีที่เป็นเพื่อนรักกันมานมนานทั้งแต่เด็ก เมื่อทุกคนในครอบครัวบ้านหงส์วิไลเลิศสกุลมารวมตัวกันครบ ก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลด้วยความปิติกันทุกคน ร่วมถึงหนูไมค์ด้วย
“ตื่นเต้นไหมลูกที่จะได้มองเห็นอีก” คุณหญิงหยกฤดีถามลูกชายตัวเองขึ้นหลังจากที่แพทย์ได้มาแนะนำเรื่องการผ่าตัดและหลังผ่าตัด
“ก็นิดหน่อยครับ...หมอบอกผ่าตัดกี่โมงครับ”
“อีกสามสิบนาทีค่ะ”
อีกครึ่งชั่วโมงสองเมืองจะได้รับการผ่าตัด ในใจลึกๆเค้าก็เริ่มกังวลขึ้นมาทีละนิดแล้วสิ ถ้าเกิดผ่าตัดล้มเหลวเค้าก็คงต้องรอรับการบริจาคครั้งใหม่ แต่ยังไงคุณหมอก็ยืนยันแล้วว่าหลังจากผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยก็จะสามารถกลับมามองเห็นได้ปกติอย่างแน่นอน สองเมืองไม่ได้ตื่นเต้นที่ตัวเองจะได้มองเห็นอีกครั้ง แต่เค้ากลับตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าหนูไมค์แล้วต่างหาก หน้าเด็กคนนั้นจะเป็นอย่างไรกันนะ จะเหมือนที่เค้าจินตนาการไว้รึเปล่า หรือจะอัปลักษณ์เหมือนที่สามภพว่ากันล่ะ ถึงจะหน้าตายังไงสองเมืองก็รู้สึกดีกับหนูไมค์ไปแล้ว คงเรียกเอาความรู้สึกนั้นคืนมาไม่ได้และเค้าก็ไม่ได้ชอบคนที่หน้าตาซะหน่อย
“แม่ครับ หลังจากผ่าตัด...บอกให้ไอ้ไมค์ช่วยดูแลผมด้วยนะครับ”
“เดี๋ยวแม่ดูแลเองดีกว่า หนูไมค์ทำงานหนักมาเยอะแล้ว...ขอโทษด้วยนะคะที่ปล่อยให้อยู่กันสองคน”
หนูไมค์ยิ้มแล้วส่ายหน้าให้คุณหญิงหยกมณี การดูแลสองเมืองไม่ใช่เรื่องหนักอะไรหรอก หนูไมค์เต็มใจซะอย่าง
“ส่ายหน้าแบบนี้ แปลว่าชอบดูแลพี่สองเหรอคะน้องไมค์” คุณหญิงหัวเราะเบาๆอย่างเอ็นดู
หนูไมค์พยักหน้ายิ้มๆให้หล่อน
“ปล่อยให้อยู่ด้วยกัน สนิทกันขึ้นเยอะเลยนะ ตอนแรกได้ยินจากเจ้าหนึ่งว่าสองคนนี้ไม่ถูกกันไม่ใช่รึไง” คุณท่านปิ่นฤดีเดินเข้ามาสมทบภายในห้องผู้ป่วยวีไอพี
“เปล่าซะหน่อย....” สองเมืองคิ้วขมวดหลังจากได้ยินคำแซวจากผู้เป็นบิดา
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
คุณหมอประจำตัวของสองเมืองเคาะประตูแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับพยาบาล
“ถึงเวลาแล้วครับ”
“ฝากด้วยนะคะคุณหมอ”
“ครับ” คุณหมอและพยาบาลช่วยพยุงสองเมืองนั่งวีลแชร์ ก่อนจะเข็นออกจากห้องพักผู้ป่วย
“เดี๋ยวก่อนครับ....ไมค์มานี่ซิ..”
หนูไมค์ที่ยืนดูอยู่ห่างๆก็รีบวิ่งมานั่งตรงหน้าวีลแชร์ที่ร่างสูงนั่งอยู่ เจ้าเปี๊ยกฉวยมือหนาขึ้นไปบีบสองครั้งเพื่อบอกว่าตัวเองอยู่ตรงนี้แล้ว
“หลังจากผ่าตัดเสร็จมึงต้องอยู่ดูแลกู เข้าใจไหม ห้ามหนีไปไหนล่ะ...เพราะกูอยากเห็นหน้ามึงเป็นคนแรกเลย”
หนูไมค์บีบมือร่างสูงอีกสองครั้งเพื่อบอกตกลง เค้ารับรู้ และเค้าจะอยู่รอสองเมืองแน่นอน
“แหม่..อะไรกัน ไม่อยากเห็นหน้าพ่อกับแม่แล้วเหรอ น้องไมค์น่ะ...น่ารักมากๆเลยนะ ถ้าลูกมองเห็นก็คงต้องเอ็นดูน้องไมค์เหมือนกัน” คุณหญิงหัวเราะเบาๆก่อนจะยกมือลูบหัวหนูไมค์อย่างเอ็นดู
“ครับ...แม่ให้มันอยู่รอผมด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ...ป่ะ ไปกันได้แล้วค่ะคุณหมอ”
ไม่นานเกินรอ อีกไม่นานเกินรอแล้วที่จะได้มองเห็นอีกครั้ง และสิ่งที่สองเมืองรอคอยที่สุดก็คือการได้เห็นหน้าของหนูไมค์ เค้านอนคิดและจินตนาการมาทั้งคืนเลย หนูไมค์จะหน้าตาแบบนี้รึเปล่า จะเป็นแบบนี้เค้าคิดรึเปล่านะ แต่ถ้าผลลัพท์ออกมาไม่ตรงกับที่สองเมืองคิดไว้ก็ไม่เห็นเป็นไร เค้าชอบหนูไมค์ที่นิสัย และความดีของเจ้าเปี๊ยกนั้น ถึงหน้าตาจะไม่น่ารักแบบที่คิดแต่นิสัยใจคอของเด็กคนนั้นก็น่ารักไปซะหมด สองเมืองคงหลงหนูไมค์เข้าให้แล้วล่ะ
อะไรนะ...หลงหนูไมค์? ชอบหนูไมค์?
ไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีสองเมืองก็อยากให้เจ้าเปี๊ยกนั้นอยู่ด้วยตลอดเวลา ถ้าหนูไมค์หายไปสักห้าหรือสิบนาทีเค้าก็กระวนกระวายใจแล้ว จะบอกว่าสองเมืองติดหนูไมค์ซะแล้วล่ะ ก็อยู่ใกล้เด็กนั้นทีไรสองเมืองก็มีความสุขตลอด ขนาดเค้ามองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง ทุกอย่างมันมืดมนไปหมด แต่พอมีหนูไมค์คอยอยู่ข้างๆ โลกที่เคยมืดมนก็กลับกลายมีแสงสว่างขึ้นมาทีละน้อย เจ้าเด็กนั้นกลายเป็นดวงตาใหม่ให้เค้า ไม่ใช่แค่ดวงตานำทางแต่เป็นดวงตาที่พาแสงสว่างมาสู่หัวใจของเค้าด้วย
รอก่อนนะไมค์...
หลังจากคุณหมอผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้สองเมืองเสร็จ ร่างสูงต้องนอนพักฟื้นอยู่แรมวันเลยทีเดียว พอเจ้าตัวฟื้นขึ้นมาก็เอาแต่เรียกหาหนูไมค์คนเดียว ทำเอาคุณหญิงหยกมณีกับคุณท่านปิ่นฤดีพลอยยิ้มไปด้วยกับการกระทำของทั้งสองคน หนึ่งสยามก็คอยแซวสองเมืองกับหนูไมค์ว่าจากคู่กัดก็กลายมาเป็นคู่รักแล้วหรือ คู่กัดที่ว่านั้นก็คงเป็นฝ่ายสองเมืองเองคนเดียวแหละที่ชอบว่าชอบกัดหนูไมค์
คุณหญิงหยกมณีกับคุณท่านปิ่นฤดีได้กลับไปที่บ้านใหญ่ วันรุ่งเช้าจะกลับมาดูอาการของสองเมืองอีกครั้งพร้อมๆกับสามภพ ส่วนหนึ่งสยามก็อาสาดูแลสองเมืองเองที่โรงพยาบาล หนูไมค์เองก็ไม่ยอมกลับบ้านใหญ่เพราะสองเมืองสั่งไม่ให้หนูไมค์กลับ เจ้าเปี๊ยกก็คอยนั่งเฝ้านอนเฝ้าร่างสูงทั้งวันทั้งคืน ส่วนเพื่อนๆของสองเมืองเมื่อได้ยินข่าวจากหนึ่งสยามเรื่องการผ่าตัดก็รีบตรงดิ่งมาเยี่ยมกันเลยทีเดียว
เช้าวันต่อมาเป็นวันที่สองเมืองและทุกคนตั้งตารอคอย คุณหมอบอกว่าจะเข้ามาเปิดผ้าก๊อซให้กับสองเมืองตอนสายๆ ร่างสูงแลดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เค้าจับมือหนูไมค์ไว้ไม่ยอมปล่อย คนแรกที่เค้าอยากเห็นก็คือหนูไมค์ ไม่ว่ายังไงหนูไมค์ต้องอยู่กับเค้าตลอดเวลา จวนถึงเวลาที่สองเมืองต้องเข้าห้องน้ำทำธุระ หนึ่งสยามเป็นคนอาสาพาน้องชายทำธุระส่วนตัวเอง สองเมืองจิ๊ปากขัดใจเมื่อต้องปล่อยมือจากหนูไมค์ ทำเอาคุณหญิงหยกมณีหัวเราะชอบใจในความดื้อรั้นของลูกชายตัวเอง
“น้องไมค์เฝ้าพี่สองมาทั้งคืน คงจะหิวน่าดูเลย อ่ะนี่...ไปซื้อขนมทานที่ร้านค้าข้างล่างนะลูก” คุณหญิงหยกมณียื่นแบงค์พันให้หนูไมค์ เจ้าเปี๊ยกยิ้มรับก่อนจะรีบลงไปซื้อขนมที่ร้านค้าชั้นล่าง
หนูไมค์ใช้เวลานานพอควรในการเลือกซื้อขนม พอดูเวลาอีกทีก็ปาไปยี่สิบกว่านาทีแล้ว ถ้าไม่รีบสองเมืองต้องดุแน่ๆเลยที่หายไปแบบนี้ หนูไมค์ถือถุงขนมแล้วรีบวิ่งออกจากร้านค้าด้วยความเร็วจนเข้าไปชนกับหนุ่มร่างสูงเข้าอย่างจัง เจ้าตัวเปี๊ยกล้มลงกับพื้น ขนมที่ซื้อมาก็กระจัดกระจายไปทั่ว
“เป็นอะไรรึเปล่า...เจ็บตรงไหนไหมครับ” ชายหนุ่มคนนั้นเข้ามาช่วยพยุงหนูไมค์ขึ้น ก่อนจะเก็บถุงขนมที่หล่นกระจัดกระจายขึ้นมาใส่ถุงแล้วยื่นให้หนูไมค์
คนตัวเล็กรับถุงขนมมาก่อนจะโค้งหัวให้เป็นการขอโทษ พอเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าก็พบว่าเป็นหนุ่มลูกครึ่งนัยตาสีฟ้าน้ำทะเลคนนั้นที่เจออยู่ร้านสะดวกซื้อแถวบ้านใหญ่ หนูไมค์จำได้ ตอนนั้นผู้ชายคนนี้ใส่เฝือกที่แขนใช่หรือเปล่าถ้าหนูไมค์จำไม่ผิดนะ แล้วเค้ามาที่โรงพยาบาลนี้ทำไมกันนะ อ๋อใช่แล้ว...ผู้ชายคนนี้คงเป็นเพื่อนกับสองเมืองสินะ ในตอนที่เจอกันอยู่ร้านสะดวกซื้อได้ยินผู้ชายคนนี้พูดถึงสองเมืองด้วย หนูไมค์ยิ้มแล้วยกมือขึ้นไหว้คนตรงหน้า
“อ้าว...น้องไมค์นี่เอง” หนุ่มลูกครึ่งยิ้มหวานให้เจ้าตัวเล็ก ว่าแต่...เค้ารู้จักชื่อหนูไมค์ได้ยังไงกันนะ อาจจะมีคนบอกเค้าแล้วหรือเค้าอาจจะได้ยินมาละมั้ง
“มาซื้อขนมเหรอครับ”
หนูไมค์พยักหน้าตอบ
“พี่หิวข้าวจัง น้องไมค์ไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิครับ...นะครับ” แต่หนูไมค์ต้องรีบไปหาสองเมืองนะ ป่านนี้คงโวยวายแย่แล้ว
หนูไมค์ส่ายหัวแทนคำตอบ
“ไอ้สองเมืองไม่ว่าหรอกครับ ไปกับพี่แปบเดียวก็ได้”
ไม่ทันที่หนูไมค์จะปฏิเสธอีกรอบ ร่างสูงก็จูงมือคนตัวเล็กไปคอฟฟี่ช้อปที่อยู่ไม่ไกลไม่ใกล้จากร้านค้า หนูไมค์ไม่กล้าขัดขืนเค้าด้วยสิ ยังไงผู้ชายคนนี้ก็เป็นเพื่อนคนนึงของสองเมืองละมั้งนะ เค้าคงไม่ทำมิดีมิร้ายกับหนูไมค์หรอก หน้าตาก็หล่อใจดีแบบนี้คงไม่คิดอะไรนอกจากอยากมีเพื่อนไปนั่งดื่มกาแฟด้วย ร่างสูงสั่งโกโก้ร้อนให้คนตัวเล็กก่อนจะสั่งเอสเปสโซ่ให้ตัวเอง เค้าลากหนูไมค์เข้าไปนั่งโซนที่เป็นมุมอับสายตาผู้คนหน่อย หนูไมค์เองก็แอบกลัวแต่ก็ต้องยอมไปนั่งด้วย
“จำพี่ได้รึเปล่า...พี่ชื่อเฟร็ด ที่เจอกันที่ร้านสะดวกซื้อวันนั้น”
หนูไมค์พยักหน้ารับรู้
“น้องไมค์มาเยี่ยมสองเมืองเหรอครับ” จะเรียกว่ามาเยี่ยมดีไหมนะ เพราะหนูไมค์นอนเฝ้าทั้งวันทั้งคืนเลย คงเรียกว่ามาเฝ้ามากกว่าละมั้ง เจ้าตัวเล็กทำหน้าลังเลนิดหน่อยจนร่างสูงยื่นไอโฟนให้อีกคน หนูไมค์ก็รับมาแบบงงๆ เอามาทำอะไรเนี่ย
“พิมพ์สิครับ พี่รู้ว่าน้องไมค์พูดไม่ได้” เฟร็ดเดอริกยิ้มให้ ส่วนหนูไมค์เองก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะพิมพ์คำตอบลงในสมาทโฟน
“ทำไมไม่พิมพ์ภาษาไทยล่ะ? อ๋อ....พี่ลืมไปว่าน้องไมค์ลูกครึ่งไต้หวัน คงยังไม่เก่งภาษาไทยสินะ” รู้ได้ยังไงว่าหนูไมค์เป็นลูกครึ่งไต้หวัน หรือว่าสองเมืองอาจจะเล่าเรื่องหนูไมค์ให้เพื่อนๆฟังกันนะ เขินชะมัด
“อืม...มานอนเฝ้าอาการสองเมืองทั้งคืนเลยสินะ โดนสั่งมาเหรอครับ?”
หนูไมค์ส่ายหัวแทนคำตอบ เค้าเต็มใจมาเฝ้าต่างหากล่ะ
“พี่ไม่เข้าใจ...พิมพ์ลงสิครับ” เฟร็ดเดอริกยื่นไอโฟนให้กับหนูไมค์อีกที เจ้าตัวก็พิมพ์คำตอบซะยาวเป็นหางว่าวเลยทีเดียว
‘ไมค์ไม่ได้โดนบังคับหรือโดนสั่งให้มาเฝ้าพี่สองเมือง ไมค์มาด้วยความเต็มใจ พี่สองเมืองบอกว่าอยากจะเห็นหน้าไมค์เป็นคนแรกด้วย ไมค์เองก็อยากให้พี่สองเมืองมองเห็นไมค์ได้เร็วๆ’
เฟร็ดเดอริกจะรู้ไหมว่าหนูไมค์ในตอนนี้เขินมากแค่ไหน เหมือนกำลังสารภาพรักเลยทีเดียว แก้มขาวเนียนขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารัก จนร่างสูงที่จ้องมองหนูไมค์ถึงกับขมวดคิ้วกับท่าทีอาการเขินขวยแบบนั้น หรือว่าเด็กคนนี้จะชอบไอ้สองเมืองเข้าให้แล้ว แล้วที่บอกว่าสองเมืองอยากจะเห็นหน้าหนูไมค์คนแรกคืออะไร ไอ้สองเมืองมันจะอยากเห็นหน้าหนูไมค์คนแรกทำไมกันนะ ทั้งๆที่มันไม่เคยจะแคร์หรือสนใจใครเลยสักคน
อาจจะเป็นเพราะว่าสองเมืองเองก็ชอบหนูไมค์ด้วยเช่นกัน?
ต่างฝ่ายต่างชอบกันงั้นเหรอ ไม่จริง...ยังไงซะหนูไมค์ก็ต้องเป็นคนของเฟร็ดเดอริก แลกกับดวงตาของพี่ชายเค้าและแลกกับที่มันได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง
“แบบนี้นี่เอง...น้องไมค์ชอบสองเมืองเหรอครับ” ลองเชิงถามเด็กคนนี้หน่อยดีกว่า
หนูไมค์แก้มแดงก่อนจะพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ
“หึ”
หนูไมค์หยิบสมาทโฟนของเฟร็ดเดอริกขึ้นมาก่อนจะพิมพ์บอกลา
‘ไมค์ต้องรีบไปหาพี่สองเมือง ป่านนี้คงจะโกรธไมค์แล้วแน่เลย ขอบคุณสำหรับโกโก้ร้อนครับ แล้วก็ลาก่อนครับพี่เฟร็ด’
คนตัวเล็กยื่นสมาทโฟนคืนเฟร็ดเดอริกก่อนจะลุกขึ้นโค้งหัวให้
“ยังไปไม่ได้!” ร่างสูงตะคอกเสียงดังแล้วฉุดมือหนูไมค์ไว้ ทำเอาร่างบางถึงกับสะดุ้งตัวโยนเลยทีเดียว เฟร็ดเดอริกมีสีหน้าโกรธจัด เค้าเริ่มบีบข้อมือของหนูไมค์แรงขึ้นจนเจ็บแปลบขึ้นมาแล้ว หนูไมค์ยอมนั่งลงตามเดิม และถึงจะนั่งคนละฝั่งของโต๊ะแต่เฟร็ดเดอิกก็ไม่ยอมปล่อยมือหนูไมค์เลย
“น้องไมค์อยากให้ไอ้สองเมืองมองเห็นรึเปล่าหืม?”
หนูไมค์พยักหน้าแทนคำตอบ
“แต่พี่ไม่อยาก....” ว่าไงนะ! เฟร็ดเดอริกไม่อยากให้สองเมืองมองเห็นงั้นเหรอ แต่เค้าเป็นเพ่อนกับสองเมืองไม่ใช่หรอกเหรอ เอ๊ะ...หรือหนูไมค์คิดไปเอง
“พี่ไม่ได้เป็นเพื่อนกับไอ้สองเมืองหรอกนะ” เหมือนเค้าจะอ่านใจหนูไมค์ออก เลยตอบมาแบบนั้น แล้วถ้าไม่ได้เป็นเพื่อน? งั้นเป็นอะไรกับสองเมืองล่ะถึงได้รู้จักกัน
“ไบรอันเป็นพี่ชายของพี่ ถ้าไบรอันไม่ตายไอ้สองเมืองก็ไม่มีวันได้มองเห็นหรอก!” เฟร็ดเดอริกขบกรามจนเกิดเป็นสันนูนขึ้นมา ตอนนี้เค้าเริ่มบีบข้อมือหนูไมค์แรงขึ้นกว่าเดิมแล้วสิ หนูไมค์เจ็บนะ
“หึ พี่มีข้อแลกเปลี่ยน....”
“ถ้าน้องไมค์ยอมไปอยู่กับพี่ พี่จะยอมปล่อยไอ้สองเมืองไป....แต่ถ้าไม่ พี่ไม่รับรองชีวิตของไอ้สองเมืองนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น ว่าไงครับหืม” เฟร็ดเดอริกยอมปล่อบข้อมือของหนูไมค์ให้เป็นอิสระ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้หนูไมค์คงวิ่งหนีไปแล้ว แต่เมื่อได้ยินข้อตกลงที่เฟร็ดเดอริกเสนอมา หนูไมค์ก็ไม่กล้ากระดิกตัวไปไหนเลย
หนูไมค์ส่ายหน้ารัวแทนคำตอบ ตัวของหนูไมค์เริ่มสั่นเทิ่มไปด้วยความกลัว น้ำตาใสเอ่อล้นรอบดวงตาก่อนจะไหลรินอาบแก้มขาวเนียน
“ครับ...อย่างนั้นก็ได้ จะกลับไปหาไอ้สองเมืองก็ได้ ช่วงนี้เป็นช่วงที่มันอ่อนแอที่สุดล่ะมั้ง คงฆ่าง่ายหน่อย” ว่าไงนะ...เฟร็ดเดอริกจะฆ่าสองเมืองอย่างนั้นเหรอ ไม่ได้นะ! หนูไมค์ไม่อยากให้สองเมืองตาย ไม่เอานะ...หนูไมค์ไม่เอาแบบนี้
“เลือกเอาครับ...จะไปอยู่กับพี่แล้วหายไปจากชีวิตไอ้สองเมือง หรือว่าจะกลับไปอยู่กับสองเมืองที่มีแต่ร่างไร้วิญญาณ!”
ยอมแล้วทุกอย่าง หนูไมค์ยอมรับข้อเสนอจากเฟร็ดเดอริกแล้ว ขอแค่ให้สองเมืองมีความสุขก็พอแล้ว หนูไมค์ไม่ต้องการอะไรอีก ถ้าหากหนูไมค์ไม่รับข้อเสนอ ทุกคนในบ้านใหญ่ก็คงจะเสียใจมาก ทุกคนต้องการสองเมือง สองเมืองต้องไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากหนูไมค์ยอมหายไปจากชีวิตของสองเมืองและทุกคนในบ้าน ก็คงไม่มีใครต้องเป็นอะไรและคงจะดีด้วยซ้ำที่ไม่มีตัวภาระอย่างหนูไมค์ สักวันทุกคนก็คงจะลืมเลือนหนูไมค์ไปเอง ทุกคนต้องการสองเมือง แต่ตัวหนูไมค์เองก็คงไม่มีใครต้องการหรอก ขนาดอาตัวเองแท้ๆยังเอาหนูไมค์มาทิ้งเลย สองเมืองเป็นคนสำคัญของครอบครัวเค้าต้องไม่เป็นอะไรทั้งนั้น เด็กกำพร้าอย่างหนูไมค์คงไม่มีทางเลือกและไม่มีประโยชน์อะไร และนี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่หนูไมค์จะช่วยสองเมือง
คนตัวเล็กทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าร่างสูง ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ปรกๆอย่างน่าสงสาร เค้ายอมแล้วยอมเฟร็ดเดอริกทุกอย่างแล้ว แลกกับการที่สองเมืองไม่เป็นอะไรก็พอ ขอแค่สองเมืองมีความสุขก็พอ หนูไมค์จะหายไปจากชีวิตของสองเมืองเอง
เฟร็ดเดอริกเห็นแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้ แต่ยังไงซะเค้าก็ไม่ยอมให้ไอ้สองเมืองมีความสุขหรอก ได้กระจกตาจากพี่ชายเค้าไปแล้วไม่พอ ยังพรากเอาหัวใจของหนูไมค์ไปอีก แบบนี้เค้าก็ไม่ยอมเหมือนกัน ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง เฟร็ดเดอริกวางแผนเรื่องนี้มาแล้วยังไงมันก็ต้องได้ใช้ ถึงแม้ตอนแรกเค้าจะคิดโปะยาสลบหนูไมค์ก็เถอะ แต่เรื่องมันก็พลิกผันมาเป็นแบบนี้ เค้าได้รับรู้ว่าหนูไมค์กับสองเมืองแอบชอบพอกัน ยิ่งทำให้เค้าแค้นใจเข้าไปใหญ่ มันได้ดวงตาใหม่งั้นก็ขอลักพาตัวหัวใจของมันไปก็แล้วกัน หึ จากวันนี้ไอ้สองเมืองคงต้องอยู่อย่างทรมานแล้วล่ะ
“หึ น้องไมค์ยอมรับข้อเสนอแล้วสินะ มาครับ...ลุกขึ้นมา” ร่างสูงกำยำเข้าไปช่วยพยุงร่างเล็กขึ้นมา ก่อนจะโอบเอวหนูไมค์ออกจากคอฟฟี่ช้อปตรงไปที่ลานจอดรถทันที เมื่ออีกคนตกลงข้อเสนอก็ไม่จำเป็นต้องรออะไรอีกแล้ว เฟร็ดเดอริกยิ้มพอใจกับตัวเอง คิดภาพไอ้สองเมืองเมื่อลืมตามาไม่เห็นหนูไมค์ คงกระวนกระวายใจน่าดู
เฟร็ดเดอริกลากหนูไมค์มาหยุดที่ปอร์เช่สีดำของตัวเองก่อนจะยัดร่างเล็กเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ เมื่อจัดแจงทุกอย่างเสร็จเฟร็ดเดอริกก็ขับรถพุ่งทะยานออกไปจากโรงพยาบาลทันที เค้าจะพาหนูไมค์หนีไปให้ไกล ตามหาให้ตายก็หาไม่เจอหรอก และในที่สุดหนูไมค์เองก็คงต้องหันมารักเฟร็ดเดอริกแทนสองเมืองอย่างแน่นอน
ส่วนหนูไมค์เองก็ได้แต่นั่งมองออกไปนอกกระจกแล้วก็ร้องไห้อย่างเดียว ที่เค้าเลือกแบบนี้มันดีแล้วใช่ไหม มันก็คงจะดีต่อสองเมืองและทุกคนในครอบครัวของสองเมืองละมั้ง ก็แค่เด็กใบ้คนนึงหายตัวไปคงไม่เป็นไรหรอก คงไม่มีคนตามหา ถึงแม้ในวันข้างหน้าหนูไมค์จะพบกับสองเมือง แต่เจ้าตัวก็คงจะไม่รู้จักหนูไมค์อยู่ดี เพราะสองเมืองไม่เคยเห็นหน้าหนูไมค์นี่น่า ในที่สุดสองเมืองก็คงจะลืมหนูไมค์ไปเอง ไม่เป็นไร...แค่เค้ามีความสุขหนูไมค์ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
‘ลาก่อน....พี่สองเมือง’
TBC.เอาใจช่วยหนูไมค์กับพี่สองเมืองด้วยนะคะ ตอนหน้าสองเมืองจะได้มองเห็นแล้ว
แต่หนูไมค์เองก็โดนเฟร็ดเดอริกลักพาตัวไป(ที่ไหนก็ไม่รู้) สองเมืองจะตามหาน้องเจอไหม มาลุ้นกัน
ดราม่าไม่กี่ตอน อดใจรอฉากสวีทหน่อยน้าา
ป.ล.ได้แกล้งคนอ่านแล้วมีความสุขขขขขขขขข