DUMP&BLIND ใบ้กับบอด ตอนที่ 14 23.05.15 (P.12)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด ตอนที่ 14 23.05.15 (P.12)  (อ่าน 55141 ครั้ง)

ออฟไลน์ dariganae

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 3 UP18/12/14
«ตอบ #30 เมื่อ21-12-2014 10:03:52 »

สนุกมากกกกกกกกกกกกกกก
ชอบมากๆเลยค่ะเรื่องนี้
รอตอนต่อไปอยุ่นะคะ
ขอบคุณค่ะ><

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 3 UP18/12/14
«ตอบ #31 เมื่อ21-12-2014 10:45:02 »

ไมค์น่ารักมากกก

ติดตามๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 3 UP18/12/14
«ตอบ #32 เมื่อ21-12-2014 10:48:13 »

แล้วน้องไมค์จะสื่อสารกับพี่สองยังไงล่ะ
คนนึงเป็นใบ้ คนนึงตาบอด

ออฟไลน์ squall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 3 UP18/12/14
«ตอบ #33 เมื่อ21-12-2014 12:39:26 »

อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ พ่อแม่รักลูกม๊ากมากเนอะ ลูกตาบอดไม่สนใจ ถ้าตายคงเฉยๆ มั้ง  :hao3: สองเหมือนเด็กเก็บมาเลี้ยง ส่วนไมค์เหมือนลูกในใส้ ความคิดส่วนตัวนะ เราอ่านแล้วรู้สึกแบบนี้ ชิวจังลูกชายตาบอดเนี่ย  o18

ออฟไลน์ PIMJOO

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 3 UP18/12/14
«ตอบ #34 เมื่อ21-12-2014 14:25:09 »

Chapter 4




“หนูไมค์ พวกป้ากลับก่อนนะลูก ช่วยป้อนข้าวคุณสองเมืองด้วยนะคะ”


ไมค์พยักหน้ารับ


“อันนี้คือแกงจืด ส่วนจานนี้คือปลาราดพริก จานสุดท้ายเป็นผัดผัก”


ไมค์พยักหน้าเข้าใจ


“อุ๊ยตายจริง ป้าลืมจัดชุดนอนให้คุณสองเมือง วานหนูไมค์ช่วยหน่อยนะลูก วันนี้ป้ารีบกลับจริงๆ”


ป้าอรแนะนำเมนูอาหารสำหรับวันนี้เสร็จก็วานให้ไมค์จัดชุดนอนให้สองเมืองแล้วรีบเดินทางกลับกับป้าแช่มพร้อมลุงเขียวและน้ากรที่รออยู่ก่อนหน้านั้น เฮ้อ...อะไรกันนี่วันนี้ต้องป้อนข้าวสองเมืองอีกแล้วเหรอ แถมยังต้องไปจัดชุดนอนให้เจ้าตัวอีก เมื่อวานกว่าจะป้อนข้าวเสร็จทั้งเป่าทั้งสะกิดทั้งป้อน รู้ไหมมันเหนื่อยแค่ไหน แถมต้องกะเวลาป้อนให้ดีด้วย ต้องสังเกตว่าสองเมืองกลืนเสร็จรึยังค่อยป้อนคำต่อไป มิหนำซ้ำไมค์ต้องพาสองเมืองเข้านอนอีกกว่าจะนอนได้ก็เรื่องมากซะเหลือเกิน จะเอานู้นเอานี้ตลอดเลย


ก๊อกๆ ก๊อกๆ


“เข้ามา” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นจากในห้อง ไมค์เปิดประตูเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนจะเห็นร่างสูงกำลังเดินออกจากห้องน้ำพอดี ทั้งตัวของสองเมืองมีแค่ผ้าผืนเดียวคาดเอวอยู่ โชว์แผงอกเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นรอนและผิวขาวกระจ่าง


สองเมืองหยุดหันมาทางประตูที่ไมค์เปิดเข้ามาแล้วเค้าก็เดิมคลำหาชุดนอนอยู่บนเตียงเหมือนเป็นกิจวัตร ป้าอรจะจัดชุดนอนไว้ให้สองเมืองวางไว้ที่เตียง แต่ทำไมวันนี้ไม่มีเหมือนเคย ร่างสูงหยุดการกระทำแล้วเอี้ยวตัวมาทางเสียงประตูเมื่อกี้


“ป้ายังไม่จัดชุดให้ผมเหรอครับ รีบเถอะครับเดี๋ยวจะกลับบ้านค่ำ” สองเมืองค่อยๆนั่งลงบนเตียงอย่างระมัดระวังพลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมไปด้วย


คนตัวเล็กเดินเข้าเปิดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ก่อนจะควานหาชุดนอนและชั้นในของอีกคน พอได้ของทั้งหมดก็ยื่นให้อีกคนตรงหน้า ส่วนร่างสูงก็ได้แต่นั่งเงียบไม่รับชุดนอนไปซะที ไมค์ตัวน้อยเริ่มเมื่อยแขนแล้วนะ เอ๊ะ..ไมค์ลืมไปรึเปล่าว่าสองเมืองตาบอด จริงด้วยสิ..เค้ามองไม่เห็นนี่หน่าว่าไมค์กำลังยื่นเสื้อผ้าให้อยู่ ไมค์ต้องสะกิดอีกคนเบาๆเพื่อให้รู้ตัว


“ขอบคุณครับป้า” สองเมืองคงยังไม่รู้สินะว่าเป็นไมค์ แต่ก็ดีแล้วไมค์จะไม่ได้โดนดุ


ร่างสูงเดินเข้าห้องน้ำอีกครั้งเพื่อใส่เสื้อผ้า ส่วนคนตัวเล็กก็ยื่นรออยู่หน้าห้องน้ำเหมือนเคย เพราะหน้าที่ต่อไปของไมค์ก็คือป้อนอาหารเย็นให้กับสองเมือง วันนี้เป็นวันที่สองที่เค้าทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกัน ยิ่งเข้าใกล้เทศกาลปีใหม่แล้วด้วยสิ ไมค์แอบได้ยินมาว่าพวกป้าๆและลุงๆที่ทำงานอยู่บ้านใหญ่จะเดินทางกลับไปบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดกัน อีกไม่กี่สัปดาห์เองนะ แล้วหนึ่งสยามก็ยังไม่กลับมาจากอเมริกาซะด้วยสิ ถ้าเกิดถึงตอนนั้นทุกคนต้องแยกย้าย หนูไมค์ก็คงได้อยู่กับสองเมืองสองต่อสอง อะไรจะบังเกิดล่ะทีนี้ คนนึงก็ใบ้อีกคนก็ตาบอด จะสื่อสารกันยังไง


สองเมืองเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำก่อนจะเดินคลำไปตามผนังเพื่อเดินไปที่ประตูหน้าห้อง เห็นแบบนี้แล้วไมค์ก็เกิดสงสารสองเมืองขึ้นแล้วสิ ถึงเค้าจะพูดไม่ได้แต่เค้าก็มองเห็นและสื่อสารภาษามือกับคนอื่นได้ อีกทั้งเวลาเจออันตรายไมค์ก็สามารถหลบเลี่ยงได้ แต่สองเมืองนี่สิมองก็ไม่เห็น ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเค้าไม่ทันระวังตัวก็คงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ถึงคนในบ้านจะช่วยดูแลสองเมืองอย่างใกล้ชิดแต่ร่างสูงก็มักปฏิเสธเสมอ เค้าคงไม่อยากเป็นภาระของใคร


“ไอ้ไมค์!! ไอ้ไมค์!!!!!” ร่างสูงเปิดประตูออกไปข้างนอกแล้วตะโกนลั่นบ้านเพื่อเรียกคนตัวเล็ก หารู้ไม่ว่าหนูไมค์ยืนอยู่ข้างหลังเค้ามาตลอด ไมค์เอี้ยวไปยื่นดักข้างหน้าก่อนจะสะกิดอีกคน


“มาเมื่อไหร่ ทำไมกูไม่ได้ยินเสียงเท้ามึงเลย มึงก็รู้ว่ากูมองไม่เห็นต่อไปเดินแรงๆให้มีเสียงฝีเท้าด้วยกูจะได้รู้ว่ามึงมา เข้าใจไหม” ไมค์พยักหน้ารับ เอ๊ะ..เค้าลืมไปอีกแล้วว่าสองเมืองมองไม่เห็นนี่หน่า


“ถ้าเข้าใจให้บีบมือกูสองครั้ง ถ้าไม่เข้าใจเอาหัวมึงมาใกล้ๆกูจะโบกให้”


เจ้าหนูไมค์รีบจับมือหนามาบีบสองครั้งเบาๆก่อนจะเดินจูงแขนร่างสูงเข้าห้องครัว จัดแจงที่นั่งให้อีกคนเรียบร้อยจากนั้นก็ยกอาหารที่ป้าอรทำเอาไว้มาตั้งโต๊ะตรงหน้าสองเมือง หนูไมค์ตักแกงจืดใส่ข้าวสวยร้อนๆแล้วเป่าเบาๆก่อนจะสะกิดร่างสูง เจ้าตัวรู้งานก็อ้าปากรอหนูไมค์ก็ป้อนเข้าปากทันที


“แกงจืดเหรอ เอาแกงจืดไว้เบอร์หนึ่ง” หมายความว่ายังไงนะ เอาแกงจืดไว้เบอร์หนึ่ง หนูไมค์ไม่เข้าใจที่สองเมืองพูดเอาซะเลย


“มีอะไรอีก” คนตัวเล็กตักปลาราดพริกป้อนอีกคน ร่างสูงก็พยักหน้าเหมือนรับรู้รสชาติและรู้ว่ามันคืออะไร


“เอาไว้เบอร์สอง” อะไรนะ...เบอร์สองยังไงเหรอ หนูไมค์ไม่เข้าใจอีกแล้ว


“มีอะไรอีก” คราวนี้เป็นผัดผัก หนูไมค์สะกิดร่างสูงแล้วก็ป้อนผัดผักเข้าปาก และทันใดนั้นเองเมื่อรสชาติผักเข้าปากสองเมือง เค้าก็รีบคายออกทันทีดีนะที่หนูไมค์เอามือรองรับไว้ก่อน ไม่งั้นคงเปื้อนผ้าปูโต๊ะสวยนี่แน่เลย ตอนนี้สองมือน้อยๆของหนูไมค์เต็มไปด้วยข้าวและผัดผักที่ร่างสูงคายออกมา ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำอะไรขนาดนี้เลยนะ ถึงจะเป็นเด็กรับใช้ของร้านอาหารแต่ก็ไม่เคยเอามือมารองเศษอาหารแบบนี้ แต่ไม่เป็นไร..ครอบครัวสองเมืองมีบุญคุณกับหนูไมค์ หนูไมค์ต้องดูแลสองเมืองดีๆ


คนตัวเล็กวิ่งดุ๊กๆเข้าห้องครัวแล้วทิ้งเศษอาหารในมือลงถังขยะก่อนจะล้างมือให้สะอาด และตอนนี้สองเมืองกำลังโวยวายใหญ่แล้ว หนูไมค์กลัวว่าสองเมืองจะอาละวาดเลยรีบวิ่งไม่ทันดูอะไรขาเล็กๆก็ไปกระแทกกับเคาท์เตอร์บาร์ในห้องครัว หนูไมค์ก้มมองขาตัวเองที่ตอนนี้มีรอยแดงๆเกิดขึ้นที่หน้าแข้งแล้วสิ ไม่สิ...ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาห่วงขาตัวเอง หนูไมค์ต้องไปดูแลสองเมืองก่อน เจ้าตัวก็เดินกะเผลกๆกลับไปที่โต๊ะอาหาร พอสะกิดร่างสูงเท่านั้นแหละเจ้าตัวก็หัวควับมาทางหนูไมค์ด้วยสีหน้าเกี้ยวโกรธ


“มึงไปไหนมา!!!!!” หนูไมค์สะดุ้งจนตัวโยน ตกใจเสียงทรงพลังของสองเมือง


“ลืมไปว่ามึงเป็นใบ้...แล้วทำไมคนเป็นใบ้กับคนตาบอดต้องมาอยู่ด้วยกัน ทำไมกูต้องถูกทิ้งอยู่เรื่อยเลย!” คนตัวเล็กนั่งลงเก้าอี้ข้างๆก่อนจะเหลือบมองหน้าอีกคน ตอนนี้สองเมืองมีสีหน้าเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด


ความน้อยมันเริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละนิดจนกลายความเจ็บปวด สองเมืองเข้าใจดีว่าตัวเองเป็นลูกชังมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะตัวเค้าเองที่ชอบทำตัวเกเรมาตั้งแต่เด็กจนทำให้คนรอบข้างเอือมระอาไปหมด เค้าทำให้พ่อกับแม่เสียใจอยู่บ่อยครั้ง จนท่านทั้งสองมีทีท่าหมางเมินใส่สองเมือง เค้าทำเหมือนไม่แคร์ไม่ใส่ใจถึงจะไม่มีใครสนเค้าก็ไม่เห็นจะสนใจอะไร ที่เค้าพยายามช่วยเหลือตัวเองและปฏิเสธคนอื่นเป็นพัลวันก็คงเพราะอยากให้ท่านปิ่นฤดีกับคุณหญิงหยกมณีได้เห็นว่าลูกชายคนนี้ไม่ได้เป็นภาระของใคร


ลูกชายทั้งสามคน มีเพียงสองเมืองเท่านั้นที่เป็นจุดด่างพล้อยของตระกูลหงส์วิไลเลิศสกุล ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงเดียวนี้เค้าสร้างแต่ความเสียหายและความอับอายให้แก่วงศ์ตระกูลตัวเอง ไม่เคยทำเรื่องดีๆอะไรสักอย่าง ผู้เป็นพ่อกับแม่ก็เตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเป็นห่วงแต่เค้ากลับไม่เชื่อฟัง ถ้าหากเค้ายอมรับและเชื่อฟังท่านเค้าก็คงไม่มาเจอเรื่องร้ายแรงแบบนี้หรอก อาจจะผิดที่ตัวของเค้าเอง


“ช่างเถอะ....ป้อนต่อเถอะ กูไม่ชอบกินผักรู้ไว้ซะไอ้ขี้ข้า” หนูไมค์ตักแกงจืดและปลาราดพริกสลับกันแต่นั้นก็ทำให้คนกินเกิดความไม่พอใจขึ้นมา


“เอาแกงจืดไว้เบอร์หนึ่ง เอาปลาราดพลิกไว้เบอร์สอง เข้าใจไหม? เข้าใจให้บีบมือกูสองครั้ง” ร่างเล็กอยากจะถามออกไปว่าจะให้เอาปากกามาเขียนไหมว่าแกงจืดเบอร์หนึ่ง ปลาราดพริกเบอร์สอง แล้วผัดผักไม่กินเหรอเสียดายจัง เออลืมไปเลยว่าสองเมืองไม่ชอบกินผัก งั้นป้อนแค่สองอย่างแล้วเก็บผัดผักไว้กินเองดีกว่า


ถึงตอนนี้หนูไมค์จะยังไม่เข้าใจที่สองเมืองบอกแต่ก็จำยอมบีบมือคนร่างสูงสองครั้งเพื่อบอกว่าตัวเองเข้าใจ แต่ที่จริงหนูไมค์ยังงงงวงยกับคำสั่งของสองเมืองอยู่เลยนะ ถ้าไม่เข้าใจที่สองเมืองสั่งหนูไมค์คงโดนดุและโดนโบกหัวเหมือนที่เจ้าตัวเคยพูดไว้แน่ๆ


“เบอร์สอง” เอ๊ะ..เบอร์สองงั้นเหรอ เมื่อกี้สองเมองบอกว่าแกงจืดเบอร์สองรึเปล่านะ หนูไมค์สะกิดแล้วตักแกงจืดพร้อมกับข้าวเข้าปากอีกคน สองเมืองขมวดคิ้วก่อนจะใช้มือทุบโต๊ะดัง ปึง!


“นี่มึงโง่หรือฉลาดน้อยห้ะไอ้ไมค์ กูบอกว่าเบอร์สองปลาราดพริก มึงก็ตักปลาราดพริกสิวะ ตักแกงจืดทำไม แกงจืดมันอยู่เบอร์หนึ่ง!”อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เองหนูไมค์เข้าใจแล้ว คนตัวเล็กรีบจับมือหนามาบีบสองครั้งเพื่อให้อีกคนรู้ว่าเค้าเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ


“เบอร์สอง เบอร์สอง แล้วก็เบอร์หนึ่ง”


หนูไมค์คอยป้อนอาหารตามที่ร่างสูงสั่ง เบอร์หนึ่งกับเบอร์ก็สลับกันไปมาอยู่แบบนี้จนเจ้าตัวอิ่ม ส่วนตัวเองก็กินไปด้วยเหมือนกัน พออิ่มก็ต้องรีบประเคนให้คุณชายดื่ม ขนาดน้ำที่จะดื่มยังเรื่องมากได้อีกต้องเป็นน้ำอุณหภูมิห้องเท่านั้น ตอนแรกหนูไมค์เอาน้ำเย็นมาให้สองเมืองก็ปัดแก้วทิ้งจนน้ำหกเรี่ยราดไปหมด ต้องหาน้ำอุณหภูมิห้องมาให้คุณชายแล้วก็ต้องมาเช็ดน้ำหกอีก


หลังจากนั้นหนูไมค์ก็จูงมือร่างสูงเพื่อที่จะไปส่งเข้านอนที่ห้อง คนตัวเล็กเดินกะเผลกๆเนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่ขาเมื่อตอนกินข้าว ทำให้ร่างสูงรับรู้ว่าอีกคนมีท่าทีแปลกไป เหมือนกับว่าเจ้าไมค์กำลังพยายามเดินลากขาอีกข้างของตัวเองยังไงอย่างนั้น ทั้งเดินทั้งหยุดแบบนี้มันแปลกไปจริงๆ


“ทำไมมึงเดินแปลกๆ หยุดๆเดินๆ เจ็บขารึไง” หนูไมค์ที่จูงมือร่างสูงอยู่ก็หยุดเดินแล้วบีบมือใหญ่นั้นสองครั้ง


“หกล้ม? ซุ่มซ่ามวะ.. ถ้ามีแผลอาบน้ำเสร็จก็เอายาทาด้วย กล่องปฐมพยาบาลอยู่ห้องครัว กูจำได้” หนูไมค์บีบมือสองเมืองอีกสองครั้งเพื่อให้รู้ว่าเค้ารับทราบแล้ว จากนั้นก็เดินกะเผลกๆไปส่งคนตาบอดที่ห้องนอน


“กูให้เวลามึงไปอาบน้ำแล้วกลับมานอนกับกูที่ห้องนี้ หอบฟูกแล้วก็ผ้าห่มมึงมาด้วย อาการตอนดึกมันหนาว อ๋อ...ที่ให้มานอนกับกูก็เพราะว่าเผื่อกูหิวน้ำตอนดึกๆมึงต้องไปเอามาให้กูกิน ทายาที่ขาด้วยล่ะ เข้าใจไหม?” หนูไมค์บีบมือร่างสูงสองครั้งก่อนจะรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว


หลังจากคนตัวเล็กอาบน้ำเสร็จก็หอบผ้าห่มกับหมอนข้างมาที่ห้องร่างสูง ก่อนที่เข้าห้องก็เดินตรวจเช็คบ้านว่าปิดล็อคเรียบร้อยหมดรึยัง พอไปถึงก็เคาะประตูพอเป็นพิธีแล้วก็เปิดเข้าไป เห็นสองเมืองกำลังนั่งอ่านหนังสือสำหรับคนตาบอดอยู่ นิ้วเรียวยาวของสองเมืองกำลังไล่ไปตามตัวอักษรในหนังสือ เค้าพยายามที่จะอ่านมันแต่ก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจด้วย ช่างลำบากอะไรขนาดนี้


“มึงมาแล้วเหรอ เอาล่ะปูฟูกลงแล้วนอนข้างเตียงตรงใกล้ๆกู” ฟูกงั้นเหรอ...ฟูกหมายถึงอะไรกันนะ ไมค์ไม่เข้าใจ ฟูกจะเหมือนกับผ้าห่มไหมนะ


ไมค์ค่อยๆปูผ้าห่มลงบนพรมข้างเตียงของเจ้าของห้อง(ห้องนอนสองเมืองมีพื้นที่ปูด้วยพรม)วางหมอนลงนอนล้มตัวนอนกอดหมอนข้าง อาการในฤดูหนาวปีนี้ช่างหนาวเหน็บอะไรขนาดนี้ ผ้าห่มไมค์เอามาแค่ผืนเดียวเองแต่ต้องมาปูเป็นที่นอน ห้องนี้ไม่มีฮีสเตอร์ด้วยสิ หนูไมค์ต้องทนนอนหนาวเหน็บทั้งคืนเหรอเนี่ย


“กูจะปิดไฟแล้วนะ ถึงแม้กูจะมองไม่เห็นรู้สึกถึงความมืดอยู่ตลอดเวลาก็เถอะ ยังไงมึงก็เป็นคนที่มองเห็นคงจะแสบตาสินะ เอาล่ะนอนได้แล้ว กูจะปิดไฟให้”


สองเมืองกดปิดสวิตช์ไฟห้องทั้งห้องเงียบและมืดสนิทลงในทันที ห้องๆนี้อยู่ชั้นล่างถึงจะมีหน้าต่างแต่แสงจันทร์ก็สาดส่องไม่ถึงจึงทำให้มืดสนิท โอเคตอนนี้หนูไมค์รับรู้ถึงความรู้สึกของสองเมืองแล้วล่ะ ว่าโลกที่มืดสนิทมันน่ากลัวแค่ไหน ปกติหนูไมค์เป็นคนกลัวความมืดมากๆจะเปิดไฟนอนทุกที ตอนเป็นเด็กรับใช้อยู่ร้านอาหารมีห้องเช่าเล็กๆให้เค้าอยู่ถึงแม้ป้าเจ้าของร้านจะบอกว่าเปลืองไฟอย่างนั้นอย่างนี้ หนูไมค์ก็แอบเปิดไฟนอนอยู่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้สองเมืองปิดไฟไปแล้วจะขัดก็ไม่ได้ เค้าพูดไม่ได้นี่เนาะ ก็คงปล่อยเลยตามเลย พยายามข่มตาหลับกอดหมอนข้างแน่นๆ ความหนาวเริ่มแทรกซึมเข้ามาในร่างกายหนูไมค์ขึ้นมาทุกที เจ้าตัวเริ่มคัวสั่นแล้วนอนขดอยู่อย่างนั้น


กระทั่งตกกลางดึกสองเมืองรู้สึกคอแห้งกระหายน้ำมากๆ เค้าเอื้อมแขนไปหยิบขวดน้ำที่อยู่บนโต๊ะโคมไฟ น้ำในขวดเมื่อโดนอากาศเย็นจนทำให้น้ำเย็นไปด้วย เค้าไม่ชอบดื่มน้ำเย็นเอาซะเลยมันจะทำให้ปวดหัวอยู่บ่อยๆ ร่างสูงลุกขึ้นนั่งก่อนจะหย่อนขาลงไปที่ข้างเตียง ใช้เท้าเขี่ยร่างเล็กนั้นเบาๆ เอ๊ะ...ทำไมเจ้าเปี๊ยกนี่ไม่ยอมห่มผ้าล่ะ ทั้งที่อากาศหนาวเย็นขนาดนี้ สองเมืองใช้เท้าคลำไปมาจนรู้ว่าไอ้เด็กไมค์มันเอาผ้าห่มมาปูเป็นที่นอน แล้วเจ้าตัวก็นอนตัวขดกอดหมอนข้างอยู่นั้นเอง


“ไอ้ไมค์ ทำไมมึงไม่ห่มผ้าวะ...ไอ้ไมค์ ไอ้ไมค์!” ใช้เท้าเขี่ยเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น สงสัยจะหลับลึกหน้าดู ร่างสูงค่อยๆโน้มตัวลงก่อนจะใช้มือคลำหาคนตัวเล็ก พอมือเค้าสัมผัสถึงผิวที่เย็นเฉียบของร่างบางถึงกับตกใจ ไอ้เจ้าเปี๊ยกนี่คงหนาวมากสินะ ตัวเย็นเหมือนน้ำแข็งขนาดนั้น ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้มีหวังไม่สบายเอาแน่ๆ ยิ่งถ้ามันไม่สบายใครจะคอยป้อนข้าวป้อนน้ำสองเมืองล่ะ


ว่าแล้วสองเมืองก็ค่อยๆอุ้มร่างเล็กนั้นขึ้นมา ใช้ขาคลำไปเรื่อยเพื่อหาพิกัดของเตียงจากนั้นก็ค่อยๆวางคนตัวเล็กลงอย่างบรรจง เดี๋ยวถ้าวางแรงมันก็จะตื่นเอา เอ๊ะ..แล้วเค้าจะไปใส่ใจทำไมว่ามันจะตื่น แล้วที่เค้าเอาเด็กนี่ขึ้นมานอนบนเตียงของเค้าก็เพราะว่ากลัวมันจะไม่สบาย เดี๋ยวก็เป็นภาระของเค้าอีกล่ะ ไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะ สองเมืองส่ายหน้าเบาๆก่อนจะดึงผ้าห่มหนาๆนุ่มคลุมร่างเล็กเอาไว้ ตัวเค้าเองก็ค่อยๆเดินคลำทางไปนอนอีกฝั่งของเตียงแทน


จากที่ว่าไอ้เด็กไมค์ต้องดูแลเค้า แต่เค้ากลับมาดูแลมันเอง ตลกดีนะคนตาบอดกับคนเป็นใบ้ต้องมาดูแลกันเอง คนพิการมักจะถูกทอดทิ้งแบบนี้หรอกเหรอ ถึงแม่พวกป้าๆแม่บ้านจะได้รับคำสั่งจากหนึ่งสยามให้ดูแลสองเมืองก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครอยากอยู่ดูแลเค้าหรอกเพราะสองเมืองเป็นคนอารมณ์ร้ายและเอาแต่ใจแบบสุดๆ ทุกคนจึงปฏิเสธการรับงาน แต่ก็ยังดีที่หนูไมค์เสนอตัวอยากจะช่วยดูแลสองเมือง ทุกคนเอือมระอากับสองเมืองตั้งแต่พ่อแม่ พี่น้อง แม่บ้าน ทุกคนเลยผลัดภาระกันไปมาจนสองเมืองคิดว่าตัวเค้าเองที่ต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้ แม้ในบางเรื่องเค้าจะยังไม่สามารถทำได้ก็ยังดีที่มีหนูไมค์อยู่รับใช้ไม่ไปไหน


บางที...การที่เค้าตาบอดก็ได้รู้อะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน


และเค้าก็ได้รู้ว่าคนที่พึ่งเข้ามา กลับอยู่เคียงข้างเค้า ต่างกับคนที่อยู่ด้วยมาทั้งชีวิตต่างก็หมางเมินเกี่ยงไม่เอาเค้า


และบางที...หนูไมค์ก็ไม่ได้เลวร้ายสำหรับเค้าเสมอไป เค้าคงคิดไปเองล่ะมั้ง จริงๆเด็กคนนี้ก็ดีมากเลยทีเดียว



TBC.


 :katai4:



ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #35 เมื่อ21-12-2014 14:58:48 »

วู้วววๆๆๆ ความรักกำลังจะบังเกิด เย้เย้~  :z2: :z2:

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #36 เมื่อ21-12-2014 15:04:39 »

อย่าแกล้งหนูไมค์นักเลย หนูไมค์น่ารักนะ
ติดตามด้วยคนค่ะ
 :mew1:

ออฟไลน์ baipai_bamboo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #37 เมื่อ21-12-2014 15:08:50 »

เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๅๆๆๆๆๆๆๆๅๅๅๅๅๅๅๅๅๅๅๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #38 เมื่อ21-12-2014 17:19:44 »

อยากให้สองตาสว่างสักที เผลอเห็นหน้าแล้วรักเลย แต่ค่อยๆเรียนรู้กันไปดีกว่า

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #39 เมื่อ21-12-2014 17:34:19 »

ค่อยๆเรียนรู้กันไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
« ตอบ #39 เมื่อ: 21-12-2014 17:34:19 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #40 เมื่อ21-12-2014 17:35:16 »

กว่าจะรู้ตัวนะ่

เปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างก็ดี

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตัวเองทั้งนั้น

เริ่มจากทำดีกับหนูไมค์ก่อนเลย

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #41 เมื่อ21-12-2014 17:48:23 »

สู้ๆนะเคอะหนุ่มๆ :hao7:

ออฟไลน์ tararatart

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #42 เมื่อ21-12-2014 18:18:50 »

แซ่บจัง นิยายเรื่องนี้ สนุกๆ เอาอีกๆ

ออฟไลน์ xxxspai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #43 เมื่อ24-12-2014 11:39:53 »

อย่าหายนะ  :call:เราชอบเรื่องนี้มากมากมากเลย
น่ารักกกกกกกก. มาต่ออีกบ่อยๆนะ ไม่ก็เข้ามาทักทายก็ได้ มีแฟนเพจมั้ย><

ออฟไลน์ aumapornmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #44 เมื่อ24-12-2014 11:57:35 »

อากกกกกำลังหนุกเลย
มาต่อเร็วๆน้ารออยู่ :katai1:

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #45 เมื่อ24-12-2014 13:00:11 »

เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากเลยค่ะ
ขอสมัครเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ด้วยคน

สองเมืองเริ่มรู้สึกดีกับหนูไมค์แล้ว
ต่อไปต้องหวงมากแน่ๆๆ เลย >///////////<

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #46 เมื่อ24-12-2014 13:09:50 »

เหอะๆรู้ก็ดีแล้วจะได้ดีกับน้อง

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #47 เมื่อ24-12-2014 15:22:12 »

หนูไมค์น่ารักกกกก   :hao7:   

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #48 เมื่อ25-12-2014 10:52:40 »

บางทีบอดก็ดีเหมือนกันนะ จะได้เรียนรู้และสำนึกถึงการกระทำของตัวเองในอดีต

ออฟไลน์ PIMJOO

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
«ตอบ #49 เมื่อ26-12-2014 19:01:52 »

วันนี้จะมาลงพี่สองกับน้องไมค์ดึกๆนะคะ รอติดตามด้วยน้า


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด บทที่ 4 UP21/12/14
« ตอบ #49 เมื่อ: 26-12-2014 19:01:52 »





ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด แจ้งอัพ
«ตอบ #50 เมื่อ26-12-2014 19:04:08 »

 :L2:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด แจ้งอัพ
«ตอบ #51 เมื่อ26-12-2014 19:16:37 »

 :hao7: เค้าจะรอ  :z2: :z2:

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด แจ้งอัพ
«ตอบ #52 เมื่อ26-12-2014 20:10:57 »

สนุกค่ะ เริ่มชอบสองเมืองแล้วล่ะ ไอ้คนขี้อิจฉาเนี่ย คึคึคึ :man1:

ออฟไลน์ baipai_bamboo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด แจ้งอัพ
«ตอบ #53 เมื่อ26-12-2014 20:27:52 »

รอออออออออออออิอ :impress2:

ออฟไลน์ PIMJOO

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด แจ้งอัพ
«ตอบ #54 เมื่อ26-12-2014 23:34:53 »

Chapter 5




เช้านี้อากาศหนาวเป็นพิเศษเลย หนูไมค์ตื่นนอนตอนเช้าตรู่ตามปกติของตัวเอง พอลืมตาตื่นก็ต้องตกใจเพราะหน้าของสองเมืองอยู่ห่างไม่ถึงคืบ ร่างเล็กลอบมองหน้าอีกคนที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราอยู่ ตอนนี้หน้าตาเค้าก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรหรอกนะ ออกจะน่ารักซะด้วยซ้ำไป แต่ถ้าให้อีกคนตื่นขึ้นมานะหนูไมค์จะไม่กล้าสบสายตาเป็นแน่ถึงแม้อีกคนจะมองไม่เห็นเค้าก็ตามเถอะ กลัวสายตาคมดุดันนั้นเอามากๆเลย จะหล่อร้ายแค่ไหนแต่ตอนหลับก็น่ารักมากๆอยู่ดี นอนมองหน้าอีกคนจนเพลินเลยลืมไปเลยว่ามีลำแขนแกร่งโอบรัดตัวของไมค์อยู่ ร่างสูงกอดรัดร่างเล็กไว้แน่นเหมือนต้องการความอบอุ่นจากอีกคน หนูไมค์ค่อยๆแงะปลาหมึกของร่างสูงออก ก่อนลุกจากเตียงก็ไม่ลืมดึงผ้าห่มมาคลุมตัวสองเมืองไว้ เอ๊ะ...ว่าแต่ทำไมไมค์ถึงได้ขึ้นมานอนบนเตียงกับสองเมืองล่ะ เค้าจำได้ว่าเค้านอนพื้นนี่หว่า คงจะละเมอเดินขึ้นมาละมั้ง น่าอายจริงๆเลย ยิ่งเห็นสองเมืองกอดเค้าไว้แน่นแบบนั้นยิ่งทำให้อายเข้าไปใหญ่


หนูไมค์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มาทำโจ๊กช่วยป้าอรอยู่ในครัว ต่อจากนั้นก็ไปเช็ดรถช่วยน้ากร รดน้ำต้นไม้ช่วยลุงเขียว ทำงานบ้านช่วยป้าแช่มตามกิจวัตรประจำวันของตัวเอง พอเสร็จงานเรียบร้อยทุกอย่างก็เป็นเวลาพอเหมาะที่สองเมืองเรียกให้หนูไมค์ไปช่วยจัดชุดลำลองให้ เค้าบอกหนูไมค์ว่าต่อไปนี้หนูไมค์ต้องเป็นคนจัดเตรียมเสื้อผ้าในแต่ละแทนป้าอร เหตุผลอะไรน่ะเหรอหนูไมค์เองก็ไม่ทราบเหมือนกัน


คนตัวเล็กจูงมือคนร่างสูงเข้าห้องรับประทานอาหารที่อยู่ใกล้ๆห้องครัว ป้าอรกับป้าแช่มที่กำลังจัดเตรียมอาหารอยู่ในครัวไม่ทันสังเกตเลยว่าหนูไมค์พาสองเมืองมานั่งที่โต๊ะอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องเทศกาลปีใหม่ด้วยอาการสีหน้ากังวล ซึ่งคนตัวเล็กเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น ตอนแรกกะจะโผล่หน้าออกไปให้ป้าทั้งสองรับรู้ว่าเค้าพาสองเมืองมาประจำที่แล้ว แต่ก็โดนคนร่างสูงกระตุกมือไว้ก่อน สองเมืองพยายามเงี่ยหูฟังเสียงของแม่บ้านทั้งสองคนอย่างตั้งใจ


“ฉันอยากกลับไปบ้านนอกเต็มทนแล้วนะ ทุกปีฉันก็ขอคุณหญิงกลับตอนปีใหม่ แต่ปีนี้คุณหญิงกำชับให้อยู่ดูแลคุณสองเมือง”


“ฉันก็อยากกลับไปงานบวชลูกชายเหมือนกันแหละ แต่ทำไงได้ล่ะ...เมื่อคุณสองเมืองตาบอดมองไม่เห็นแบบนี้ ถ้าเกิดเป็นอะไรไปคุณหญิงต้องเอาพวกเราตายแน่ๆ” ป้าอรบอกกับป้าแช่มด้วยสีหน้าวิตก


“อีกแค่สามสี่วันจะปีใหม่อยู่แล้วเชียว เมื่อไหร่คุณหนึ่งจะกลับมาจากเมืองนอกสักทีล่ะ”


“คุณหนึ่งโทรมาบอกฉันแล้วยัยแช่ม เค้าบอกว่าจะเลื่อนว่ากลับออกไปเพราะว่าตอนนี้หิมะตกหนักมาก ที่นู้นเค้าเลยงดเที่ยวบินน่ะ ฉันยังไม่บอกคุณสองเมืองเลย กลัวแกจะเสียใจเอา” ป้าอรมีสีหน้าสลดลงถนัด เพราะสงสารคุณสองเมือง ตาบอดมองไม่เห็นก็ว่าเสียใจแล้ว แต่คนในครอบครัวกับไม่ค่อยสนใจเค้านี่สิน่าเสียใจยิ่งกว่า สองเมืองปล่อยมือจากคนตัวเล็กก่อนจะพยักเพยิดหน้าเป็นสัญญาณบอกให้อีกคนไปยกอาหารจากห้องครัวมา



ที่สองแม่บ้านพูดคุยกันสองเมืองได้ยินทุกอย่างถึงแม้จะนั่งอยู่ห้องถัดไปก็ตาม เค้ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ช่วงเทศกาลปีใหม่แบบนี้แทนที่จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว แต่ทุกคนกลับมีงานและภาระส่วนตัวอยู่มากโข แล้วตอนนี้เค้าก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของป้าแม่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วสิ ปกติทุกช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกๆปีพวกแม่บ้านและคนขับรถจะขอกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ซึ่งคุณหญิงหยกมณีก็อนุญาต หลังปีใหม่สองสัปดาห์จึงกลับมาทำงานได้ แต่ปีนี้ต่างออกไปตรงที่ว่าสองเมืองประสบอุบัติเหตุจนทำให้ตาบอด ทุกคนต้องอยู่ดูแลเพราะมันเป็นคำลั่งของคุณหญิงหยกมณี หึ ขนาดคนเป็นแม่ยังอยู่ดูแลไม่ได้ แล้วคนอื่นล่ะก็คงไม่มีใครอยากดูแลเค้าหรอก ซ้ำแล้วยิ่งเป็นช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็อยากกลับบ้านไปหาครอบครัวหมด คงยกเว้นครอบครัวตระกูลนี้แหละที่เอาแต่ทำงาน เฮ้อ...ยังไงซะพวกป้าๆต้องกลับบ้านไปหาลูกหลาน ถ้าห้ามก็คงอยู่ที่นี่ลำบากใจอีก สองเมืองตัดสินใจแล้วว่าจะให้พวกแม่บ้านกลับทั้งหมดรวมถึงคนงานในบ้านด้วย



“อ้าว...หนูไมค์พาคุณสองเมืองมาแล้วเหรอ นี่จ๊ะ...โจ๊กของคุณสองเมือง เดี๋ยวป้าเอาน้ำไปเสิร์ฟให้ทีหลัง” หนูไมค์ยิ้มรับก่อนจะยกถาดอาหารไปที่ห้องรับประทานอาหารที่อยู่ข้างๆ


เหมือนครั้งก่อนๆที่เคยทำมาเป็นปกติ หนูไมค์ค่อยๆเป่าโจ๊กร้อนให้คลายร้อนก่อนจะสะกิดคนร่างสูงแล้วป้อนเข้าปากอีกคน เป่า สะกิด ป้อน ทำวนเป็นลูปอยู่แบบนี้จนกว่าโจ๊กในชามจะหมด หนูไมค์ก็หมดแรงไปตามๆกัน ถ้าเกิดสองเมืองได้เห็นสีหน้าเหนื่อยหอบของอีกฝ่ายก็คงดุยาวไปตามระเบียบแน่นอน มีหน้าที่แค่ป้อนข้าว ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ หลังจากทานโจ๊กเสร็จสรรพ ป้าอรก็ยกน้ำมาเสิร์ฟที่ห้องรับประทานอาหาร


“นี่น้ำค่ะคุณสองเมือง”


“ป้าอรครับ ป้าอรกับป้าแช่มกลับบ้านเกิดก็ได้นะครับ” สองเมืองพูดขึ้นหลังจากดื่มน้ำเสร็จ ป้าอรที่กำลังยกถาดอาหารไปเก็บถึงกับชะงักหยุด


“ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าป้าไม่อยู่ใครจะอยู่ดูแลคุณสองเมืองล่ะคะ”


“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจ้างพยาบาลส่วนตัว” สองเมืองระบายยิ้มออกมาถึงแม้จะไม่ได้หันไปยิ้มให้กับป้าอร แต่เธอก็รู้สึกว่าสองเมืองกำลังยิ้มให้เธออยู่


“ขอบคุณมากค่ะคุณสองเมือง เอ่อถ้าอย่างนั้น....”


“ไปวันนี้เลยก็ได้ครับป้า อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว ถ้าเดินทางช้าอาจจะทำให้เดินทางลำบากขึ้น”


“จะดีเหรอคะคุณสองเมือง”


“ครับ ไม่ต้องห่วงผมหรอก ไอ้ไมค์ก็คอยช่วยดูแลถึงจะพูดไม่ได้ก็เถอะ” ป้าอรยิ้มออกมาก่อนจะโค้งขอบคุณสองเมือง


“หนูไมค์คะ ฝากดูแลคุณสองเมืองด้วยนะ เดี๋ยวป้ากับป้าแช่ม ลุงเขียว น้ากร จะรีบกลับมาหลังปีใหม่ อ่อ..คุณสองเมืองคะถ้ามีอะไรโทรหาป้าได้ทุกเมื่อเลยนะคะ”


“ครับป้า”


หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงพวกป้าแม่บ้านและลุงเขียว น้ากรก็หอบกระเป๋าเสื้อผ้าลากลับบ้านเกิด แต่หนูไมค์ไม่ยักเห็นคุณสองเมืองจะหยิบจับโทรศัพท์เลย สองเมืองเอาแต่นั่งอ่านหนังสือสำหรับคนตาบอดเงียบๆโดยสั่งให้หนูไมค์นั่งอยู่ข้างๆตลอดเวลาไม่ให้ไปไหน จนกระทั้งหนูไมค์ผล็อยหลับไปในที่สุด รู้สึกตัวอีกทีบรรยากาศรอบข้างก็ปาไปตอนบ่ายแก่ๆแล้ว หันไปทางสองเมืองเจ้าตัวเองก็นั่งหลับอยู่เหมือนกัน คนตัวเล็กดึงชายเสื้อเบาๆเพื่อปลุกอีกคน


“หืม...กี่โมงแล้ววะเนี่ย” สองเมืองกดนาฬิกาอัตโนมัติที่เป็นสร้อยคล้องคอตัวเอง


‘ขณะนี้เวลา 16.02 น.’


“ไอ้ไมค์ มึงหิวรึยัง ข้าวเที่ยงก็ไม่ได้กินเพราะเฝ้ากูแท้ๆ ไปหาซื้ออะไรกินไป กระเป๋าตังค์กูอยู่ในลิ้นชักข้างเตียง ซื้อพวกข้าวกล่องมาด้วยล่ะ ซื้อมาเยอะๆเลยก็ได้” สองเมืองหันกลับไปตั้งใจอ่านหนังสือคนตาบอดอีกครั้ง พอรับคำสั่งจากร่างสูงเสร็จคนตัวเล็กก็เข้าไปหยิบตังค์ในกระเป๋าของสองเมือง




เจ้าหนูไมค์เดินลัดเลาะไปตามทางลัดเข้าไปยังเขตชุมชน เค้าจำทางได้อย่างแม่นยำเพราะป้าอรจะชอบเดินทางลัดเพื่อจะมาซื้อของที่ตลาดส่วนมากหนูไมค์ก็จะออกมาเป็นเพ่อนด้วยทุกวัน มาช่วยป้าอรถือของ เดินไปไม่ไกลนักตรงหัวมุมของถนนก็มีร้านสะดวกซื้อ หนูไมค์เดินตรงเข้าไปเพื่อที่จะซื้อข้าวกล่องตามที่สองเมืองบอก คนตัวเล็กยืนครุ่นคิดอยู่หน้าตู้เย็นกระจกใสอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนนึงพูดถึงคนที่รออยู่ที่บ้านนั้นก็คือสองเมืองนั้นเอง


“เออ...กูแวะมาดูบ้านไอ้สองเมืองตามที่มึงบอกล่ะ เหมือนจะไม่มีคนบ้านเลยว่ะสัส สงสัยจะจริงอย่างที่เค้าว่า” หนูไมค์หันไปมองคนที่กำลังพูดถึงสองเมือง


ผู้ชายตรงหน้าหนูไมค์เค้าเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำพอกันกับสองเมือง เค้ามีผมสีบลอนด์ทองประกาย เข้ากันดีกับนัยน์ตาสีน้ำทะเล จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าเรียว ปากหยักบางสีแดงระเรื่อออกคล้ำๆคล้ายกับคนสืบบุหรี่ เค้ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่นี่หน่า หนูไมค์เห็นสโมทอกไร้สายที่ติดอยู่ที่หูของเค้า และเค้าก็กำลังพยายามหนีบกล่องนมไว้ที่ใต้รักแร้ส่วนอีกมือหนึ่งก็หอบเอาขนมกรุบกรอบอย่างทุลักทุเล เนื่องจากแขนอีกข้างหนึ่งของเจ้าตัวนั้นใส่เฝือกเอาไว้ สงสัยจะแขนหักล่ะมั้งหนูไมค์คิดในใจ


“หึ กูอยากจะเห็นหน้ามันจริงๆตอนนี้ได้ข่าวว่ารถคว่ำเหมือนกู กรรมตามสนองจริงๆ”


“มึงจะบ้าเหรอสัส กูแขนหักจะขับรถมาเองได้ไง....เออ กูรอไอ้สองเมืองกลับมาจากเมืองนอกก่อนเถอะกูจะคิดบัญชีใหม่อีกรอบ อยากเจอหน้ามันใจจะขาดอยู่แล้วสัส...เออ...แค่นี้แหละ”


เอ๊ะ...จากที่ฟังมาหรือว่าผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนกับสองเมืองนะ เค้าบอกอยากเจอหน้าสองเมืองรึเปล่าเมื่อกี้นี้ หนูไมค์ได้ยินแบบนั้นจริงๆนะ สงสัยจะเป็นเพื่อนของสองเมืองล่ะมั้งแต่หนูไมค์ไม่เคยเห็นหน้าเลยนี่หน่า ได้ยินว่าเค้าคนนี้ขับรถผ่านบ้านสองเมืองด้วย มีธุระอะไรเปล่านะ หนูไมค์อยากจะบอกจริงๆว่าสองเมืองอยู่บ้านนั้นแหละแต่ที่บ้านเงียบเพราะเหลือกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น นี่ถ้าสองเมืองโทรจ้างพยาบาลส่วนตัวมาอีกบ้านก็คงไม่เงียบหรอกมั้ง


ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่หนูไมค์ก็ได้ยินเสียงหล่นตุบลงพื้น พอหันกลับไปมองก็เห็นกล่องนมของผู้ชายคนนั้นหล่นลงพื้น


“Shit!!”


ร่างสูงสบถออกมาอย่างหัวเสีย ลูกน้องที่ขับรถมาด้วยกันตอนนี้ก็คงรออยู่นอกร้านสะดวกซื้อ เค้าเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องเข้ามา แต่เมื่อมาเจอขนมกรุบกรอบออกรสใหม่ร่างสูงก็โกยขนมใส่อกตัวเองทันที โดยลืมไปว่าตอนนี้มีแขนและมือข้างเดียวที่ใช้งานได้ ตอนนี้กล่องนมรสกล้วยของโปรดของเค้ากองอยู่ที่พื้นเรียบร้อยแล้ว เฮ้อ...แล้วเค้าจะหยิบยังไง อยากกินแต่ก็ต้องตัดใจเพราะอยากกินขนมมากกว่า หนูไมค์เห็นแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้ คนตัวเล็กเดินเข้าไปก่อนจะก้มหยิบกล่องนมขึ้นมาให้นุ่มหน้าฝรั่ง


“เอ่อ..ขอบคุณครับ” ไมค์ยิ้มให้อีกคนก่อนจะหมุนตัวกลับไปยืนจดจ้องที่ตู้เย็นกระจกใสเหมือนเดิม เค้าจะซื้อข้าวกล่องไปกี่กล่องดีนะ สองเมืองบอกให้ซื้อไว้เยอะๆนี่หน่า ใช่แล้วล่ะมันต้องเผื่อวันอื่นด้วย


หนูไมค์เดินไปหยิบตะกร้าแล้วหอบข้าวกล่องเป็นโหลลงตะกร้า มีข้าวกล่องหลากหลายชนิดเลยทีเดียว หนูไมค์ซื้ออย่างละสองกล่องสำหรับสองเมืองกล่องนึงและเค้าอีกกล่องนึง ถ้าหมดเมื่อไหร่ค่อยเดินมาซื้ออีกก็ได้ หลังจากจ่ายตังค์เสร็จสรรพคนตัวเล็กก็หอบข้าวของพะรุงพะรังออกจากร้านสะดวกซื้อ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเยอะขนาดนี้หรอกแต่หนูไมค์ซื้อไอเทมเสริมด้วยก็คือพวกไส้กรอก และอาหารกระป๋องมาด้วย ไหนจะน้ำผลไม้อีก เห็นสองเมืองบ่นๆว่าอยากดื่มน้ำผลไม้แต่หนูไมค์ไม่รู้ว่าเจ้าตัวชอบอะไรก็เลยซื้อไปทุกรสเลยทีเดียว พอเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อก็เห็นหนุ่มฝรั่งร่างสูงคนเดิมยืนอยู่หน้าร้าน แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้สนใจอะไร


“นี่เธอ....”


“…….”


“นี่เธอน่ะ คนที่ช่วยฉันเมื่อกี้ เฮ้...เดี๋ยวสิ” ร่างสูงเข้ามาดึงแขนเล็กๆของหนูไมค์ เจ้าตัวก็หันมาประจันหน้ากับหนุ่มฝรั่งร่างยักษ์ทันที หนูไมค์เอียงคอทำสีหน้างงๆ ร่างสูงจึงยิ้มให้


“เมื่อกี้ขอบใจนะ ที่เก็บกล่องนมให้”


หนูไมค์พยักหน้า


“เธอชื่ออะไร บ้านอยู่แถวไหนเดี๋ยวฉันไปส่ง เห็นเธอหอบของเยอะเชียว”


หนูไมค์มองหน้าหนุ่มฝรั่งนิ่งๆ


“เธอชื่ออะไร...เฮ้...เข้าใจที่ฉันพูดไหม หรือว่าเธอเป็นคนต่างชาติ?”


หนูไมค์ส่ายหัว


“อ้าว...ก็ฟังออกนี่ แล้วเธอชื่ออะไร”


หนูไมค์ยังคงหน้านิ่งเหมือนเดิม เฮ้อ...ก็เค้าพูดไม่ได้นี่น่า จะให้บอกชื่อยังไงล่ะ


“เธอหูหนวกเหรอ” ถ้าหนูไมค์หูหนวกจะได้ยินที่เค้าพูดรึไงกัน เด็กหนุ่มส่ายหัวไปมาอีกครั้ง


“งั้น...เธอพูดไม่ได้เหรอ” ร่างบางระบายยิ้มหวานออกมาก่อนจะพยักหน้าตอบรับ


อะไรกัน คนน่ารักๆแบบนี้นี่นะเป็นใบ้พูดไม่ได้ ร่างสูงมองอีกคนอย่างครุ่นคิด ตั้งแต่อยู่ในร้านสะดวกซื้อแล้วหลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากหนุ่มน้อยคนนี้ ก็ทำเอาฝรั่งร่างโตอย่างเค้าใจสั่นวูบ เพราะด้วยใบหน้าน่ารักแบบนี้ ตากลมโตใสแจ๋วมองมาที่เค้าทันทำให้เค้ารู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก จมูกนิดปากหน่อย ตัวเล็กๆผิวขาวๆแบบนี้มันน่ารักชะมัด ถึงจะเป็นเด็กผู้ชายก็น่ารักมากสำหรับเค้าเลยก็ว่าได้ หน้าตาของเจ้าเปี๊ยกนี่ช่างน่าดึงดูดซะจริงๆ ถึงแม้จะพูดไม่ได้แต่ตอนนี้เค้าก็คงไม่สนอะไรแล้ว หึ ก็เด็กคนนี้มันน่าสนใจ ดึงดูดสายตาของหนุ่มตาฟ้าน้ำทะเลคนนี้ได้ในวินาทีแรกเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่าเค้าแนะนำตัวฝ่ายเดียวก่อนก็ยังดี


“พี่ชื่อเฟร็ด...เฟร็ดเดอริก ขอบใจที่ช่วยเรื่องเมื่อกี้ น้องน่ารักจริงๆเลย” หนูไมค์ยิ้มให้ก่อนจะหมุนตัวกลับไปเพื่อจะเดินกลับบ้าน เค้าออกมานานซะขนาดนี้สองเมืองคงต้องโวยวายแน่ๆ


“เดี๋ยวสิ....ให้พี่ไปส่งไหมครับ” เฟร็ดเดอริกไม่ยอมเลิกรา เดินมาดักหน้าอีกฝ่าย หนูไมค์ก็ยังคงยิ้มแล้วส่ายหัวไปมาเหมือนเดิม พึ่งเจอกันไม่นานจะไปส่งถึงบ้านแบบนี้มันดูแปลกๆไปรึเปล่านะ อีกอย่างหนูไมค์ก็ขี้เกรงใจซะด้วยสิ


“พี่อยากเจอน้องอีกจัง เราจะได้เจอกันอีกไหมนะ” อะไรนะ...หนุ่มฝรั่งคนนี้บอกอยากเจอหนูไมค์งั้นเหรอ อยากเจอทำไมล่ะ ไม่รู้จักกันซะหน่อย...แต่เอ๊ะ ผู้ชายคนนี้อาจเป็นเพื่อนของสองเมืองก็ได้นะ เพราะหนูไมค์แอบได้ยินตอนเค้าคุยโทรศัพท์นี่น่าว่าอยากเจอหน้าสองเมือง ถ้าเจอกันอีกคงไม่เป็นไร ยังไงซะก็เป็นเพื่อนของสองเมืองอยู่แล้ว คนตัวเล็กพยักหน้าให้ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจากร่างสูง


เฟร็ดเดอริกมองตามแผ่นหลังบางนั้นจนสุดหัวมุม อะไรกันนี่เค้าหลงเด็กคนนั้นเข้าแล้วเหรอเนี่ย ขนาดพึ่งเจอกันไม่ถึงชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ ทำยังไงได้ล่ะก็เด็กคนนี้ดึงดูดและน่าสนใจนี่น่า เค้าไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอก ถ้าได้มาควงสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็คงจะดีไม่น้อย พูดไม่ได้งั้นเหรอ...อืม...เค้าเรียกเป็นใบ้สินะ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ความสนใจของเฟร็ดเดอริกลดลงเลยแม้แต่น้อย ร่างสูงขึ้นรถเบนซ์คันหรูก่อนจะสั่งให้ลูกน้องขับรถตามร่างเล็กนั้นไป แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของแผ่นหลังบางๆนั้นเลย คนอะไรเดินไวชะมัด


“มึงได้ถ่ายรูปเด็กคนนั้นไว้รึเปล่า” ร่างสูงหันไปถามลูกน้องคนสนิท


“ถ่ายไว้แล้วครับคุณชาย”


“ดี จะได้ตามหาได้ง่ายๆหน่อย เด็กบ้านั้นเดินเร็วชะมัด”


เผลอคิดถึงใบหน้าหวานๆของเด็กคนนั้นก็ทำเอาหนุ่มฝรั่งหน้าหล่อแบบเค้ายิ้มไม่หุบเลยทีเดียว เด็กคนนี้มีอิทธิพลกับเค้าจริงๆ จากคนที่โหดๆแบบเฟร็ดเดอริกเจอดวงตากลมโตใสแจ๋วนั้นเข้าไปเค้าก็กลายเป็นผู้ชายอ่อนโยนขึ้นมาทันที ยิ่งเวลาที่สายตาของคนตัวเล็กมองมาที่เค้าล่ะก็นะ มันทำให้เค้าเขินอายอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งคนตัวเล็กนั้นระบายยิ้มให้กับเค้าก็ยิ่งทำให้เค้าอ่อนระทวยเค้าไปใหญ่ อะไรกันนี่ เฟร็ดเดอริกหนุ่มหล่อไฮโซอย่างเค้ามาหลงเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักแบบนี้นี่นะ หึ เด็กคนนั้นต้องรับผิดชอบความรู้สึกของร่างสูงตอนนี้แล้วล่ะ


เพราะยิ่งคิดถึงใบหน้าหวานน่ารักนั้นเมื่อไหร่ ก็ทำเอาหัวใจเฟร็ดเดอริกพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


เอ๊ะ....หรือว่า นี่อาจจะเป็น ‘รักแรกพบ’ ที่เค้าว่ากันนะ


อืม....


รักแรกพบงั้นเหรอ?


แค่ไม่กี่นาทีก็ทำเอาหนุ่มฝรั่งร่างสูงใหญ่สยบลงต่อหน้าเด็กที่ไหนก็ไม่รู้...



TBC.


เปิดตัวพระรองจ้า หนุ่มฝรั่งผมบลอนด์ตาฟ้านามว่า เฟร็ดเดอริก  :katai4:

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ  o13






ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด ตอนที่ 5 26.12.57 P.2
«ตอบ #55 เมื่อ26-12-2014 23:40:42 »

ไม่เอาพระรองได้ไหมมมมม
 :mew2:

ออฟไลน์ baipai_bamboo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด ตอนที่ 5 26.12.57 P.2
«ตอบ #56 เมื่อ26-12-2014 23:53:09 »

เข้ามารอทุกวัน แล้วไม่เอาพระรองได้ไหม5555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด ตอนที่ 5 26.12.57 P.2
«ตอบ #57 เมื่อ26-12-2014 23:54:20 »

ขอให้ความสุขจงมีแก่ไมค์

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด ตอนที่ 5 26.12.57 P.2
«ตอบ #58 เมื่อ27-12-2014 00:14:58 »

โว๊ะ!!! เฟร็ดขี้มโนมาก ทึกทักจะให้หนูไมค์รับผิดชอบ ทั้งๆที่คิดเองอยู่คนเดียว กร๊ากกกกก   o22 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
Re: DUMP&BLIND ใบ้กับบอด ตอนที่ 5 26.12.57 P.2
«ตอบ #59 เมื่อ27-12-2014 01:10:28 »

ชอบเรื่องนี้จังงง สนุก คนใบ้กับคนตาบอด จะรักกันได้ไงน้าา
ลุ้นจัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด