Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน : UP Chapter 23 (The end) 25/02/2015
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน : UP Chapter 23 (The end) 25/02/2015  (อ่าน 57965 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สองพี่น้องนั้นวางแผนไรกันหว่าาาา.

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
พระเอกที่ไม่เคยยอมรับสิ่งที่ตัวเองทำผิดอย่างจริงใจนี่มันไม่ไหวจริงๆ หาผัวใหม่เถอะลูก
เห็นสันดานอิคีย์มันแล้วนะ เวลามันโมโหร้ายมันร้ายกับหนูขนาดไหน
อย่าลดตัวไปทำให้ศีลเสมอกับมันนะลูก
ถ้าคีย์มันดีจริง มันไม่ควรจะทำพฤติกรรมแบบนี้ ควรอธิบายให้ฟัง จะเชื่อหรือไม่เชื่อโรมมันเป็นคนตัดสินใจ
แต่แกมาทำไม่ดีใส่ ประชดประชันอีก ไม่ควรค่าแก่การเป็นคนรักที่ดีที่จะคอยพึ่งพาอาศัยกันจริงๆ
ถ้าอิคีย์ไม่โผล่มาเป็นแฟนกับโรมมาก่อน มันคงจะได้เป็นแค่ตัวประกอบชั้นสองที่มีคนคอยเป่าหูไปมาให้ทำร้ายนายเอก
แล้วสุดท้ายก็จะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาในเรื่องพาออกไปจากชีวิตมันให้ได้ร้องคร่ำครวญจนอยากจะฆ่าแกงกันเลยทีเดียว

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คีย์เอ๊ย เอ็งเป็นพระเอกประเภทบริโภคหญ้าอีกแล้ว

เอ็งต้องการอะไรวะ คีย์?  คำพูดที่ออกมาจากปากแต่ละคำ   การกระทำแต่ละอย่าง  ไปเอาสีครามเถอะไป๊ โรมจะได้มีความสุขกว่านี้นะ


ออฟไลน์ สองโซ่แซ่กุญแจมือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1



Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน
Chapter 13 : You would always win, always win


“..มีนิสัยหลายอย่างในตัวพี่นะ ที่ผมไม่เคยเห็นมันตอนที่เรากำลังคบกัน และจนถึงตอนนี้ ผมก็สงสัยเสมอ ว่าทำไมตอนนั้นผมถึงมองไม่เห็นมัน.. เพราะความรักทำให้คนตาบอดรึเปล่า พี่ก็เหมือนกันนะ..ตอนนี้ความรักกำลังทำให้พี่ตาบอดเหมือนกัน”

คีย์นิ่งไป เขาถอนหายใจออกมา และฉุดแขนผมให้เดินเข้าไปนั่งในรถ เราไม่ได้คุยกันเลย..แต่บรรยากาศมันไม่ได้แย่จนถึงขนาดที่อึดอัด ..อาจจะเพราะผมได้พูดในสิ่งที่มันค้างคาในใจออกไปบ้าง

“เฮ้อ..” เป็นรอบที่สามแล้ว ที่ผมได้ยินเสียงคีย์ถอนหายใจ ผมอดคิดไม่ได้ว่าคนอย่างเขามีเรื่องให้ต้องหนักใจด้วยรึไง

“...”

พอถึงห้องเขา เขาไล่ให้ผมไปอาบน้ำก่อน ส่วนเขาเองก็ก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายข้างโซฟา คีย์เอาผ้ามาเช็ดนมสีขาวที่เลอะเป็นคราบอยู่ที่พื้น ผมเดินหนีจากตรงนั้น ยังรู้สึกผิดที่เป็นทำให้คินรดาต้องเข้าโรงพยาบาลไปแบบนั้น  ถ้าผมคิดให้ดีกว่านี้ เธออาจจะไม่ต้องไปนอนอยู่แบบนั้น

พออาบน้ำเสร็จ ท้องผมก็เริ่มร้องเพราะความหิว เดินไปหาอะไรกินในครัว ก็เจอแค่ขวดน้ำเปล่า มองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว เวลานี้ร้านอาหารปิดไปเกือบหมดแล้วมั้ง

“หิวเหรอมึง” ผมแทบสะดุ้ง เมื่อจู่ๆเขาก็ตะโกนเขามา

อ่า..ทำไมเขาถึงทำเนียนได้ตลอดเลยนะ หลายครั้งที่ทะเลาะกันแล้วเขามักทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ..แน่นอนมันเป็นข้อดี แต่มันก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน เมื่อตอนที่อยู่โรงพยาบาลเขาด่าผมแทบตาย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มาพูดปกติด้วย ..บอกตามตรงว่าผมค่อนข้างสับสน

“ก็นิดหน่อย”

“เดี๋ยวกูโทรสั่งให้ละกัน”

รอไม่นานก็มีพนักงานเอาอาหารขึ้นมาให้ ระหว่างที่ผมนั่งกิน คีย์ก็เข้าไปอาบน้ำ เพราะความหิวทำให้ผมใช้เวลาไม่นานในการกิน  พอกินเสร็จผมก็มานั่งดูข่าวต่อ ซึ่งข่าวส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นเรื่องธุรกิจ

ผมไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักในด้านบริหาร ยิ่งช่วงที่เรียนจบใหม่ๆ ผมยิ่งเคว้งซะยิ่งกว่าอะไร จนกระทั่งพ่อกับแม่จากไป ผมถึงคิดได้ว่าถ้าเริ่มทำงานตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนี้ผมอาจมีประสบการณ์มากพอจะสามารถยื่นทำงานในที่ดีๆได้  ตัวผมตอนนี้ ไม่ต่างกับเมื่อก่อนนักหรอก ‘ พ่อเป็นนักธุรกิจใหญ่ ลูกไม่เคยเข้าใจเรื่องธุรกิจ ’ สมัยก่อนผมได้ยินคนพูดแบบนี้เยอะมาก จนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว พ่อคงจะผิดหวังในตัวผมเอาซะมากๆ

เขาคงไม่อยากมีผมเป็นลูกนักหรอก

“มึงว่าถ้าซื้อที่ตรงนั้นมันจะคุ้มไหมวะ” คีย์ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม

คำพูดของเขาทำให้ผมหันไปมองในจอสี่เหลี่ยมที่ตอนนี้กำลังพูดถึงที่ดินรกร้างที่ชานเมืองแห่งหนึ่ง 

“ถ้ามีเงินพี่ก็ซื้อไปเหอะ”

“แล้วถ้าซื้อให้มึงอ่ะ”

“ถ้าผมยังไม่ตายไปซะก่อน ผมก็มีปัญญาซื้อเอง”

จู่ๆคีย์ก็ลุกไปหยิบอะไรบางอย่าง และโยนมันมาให้ผม ..มันเป็นโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นใหม่ที่เพิ่งโฆษณาไปได้ไม่นาน ผมมองหน้าคีย์อย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่

“เอาไปดิ ..”

“ซื้อมาทำไม ผมไม่จำเป็นต้องใช้มัน”

“แต่กูอยากให้ใช้ เวลามึงหายไปไนกูจะได้ติดต่อได้”

“พี่ไม่เอาโซ่มาล่ามผมซะเลยละ ผมจะได้ไม่ไปไหน”

“ก็อยากทำอยู่นะ ถ้ามึงยังดื้อมากกว่านี้”

“ดื้อบ้าอะไร วุฒิภาวะทางอารมณ์ผมควบคุมได้ดีกว่าพี่ซะอีก ถ้าจะล่ามจริงๆ พี่ใช้ล่ามตัวเองไปเหอะ” คีย์ทำหน้ากวนประสาทผม ซึ่งผมไม่ค่อยพอใจเอาซะเลย   

เวลาผ่านไปสักพักจนผมรู้สึกง่วง จึงไปนอนก่อน ส่วนคีย์ก็เคลียร์งานต่อ

.....


แสงแดดสีทองสว่างจ้าส่องเข้ามาผ่านระเบียงห้อง จนผมต้องพลิกตัวหนี ก่อนจะลืมตาขึ้น ไร้วี่แววของคีย์อยู่ในห้อง เขาคงออกไปทำงานแล้ว เพราะตอนนี้ก็เกือบจะเก้าโมงแล้วด้วย

ผมเดินไปอาบน้ำ หลังจากนั้นก็มีพนักงานนำอาหารมาให้ พร้อมบอกว่าคีย์ได้สั่งเอาไว้ให้ผม ระหว่างที่ผมกำลังกินอยู่ ก็มีเสียงโทรศัพท์ไม่คุ้นหูดังขึ้น ผมงงอยู่นานกว่าจะรู้ว่ามันเป็นเสียงโทรศัพท์ที่คีย์ซื้อให้เมื่อวาน และเบอร์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก็เป็นเบอร์คีย์ด้วยเช่นกัน

“ครับ ?”

“นี่กูเองนะ กูลืมเอาเอกสารมา มึงเอามาให้หน่อยดิ อยู่บนโต๊ะซองสีน้ำตาล”

“..ครับ” ผมเลือกที่จะวางสายไปทันที ถอนหายใจเบาๆ และเดินไปยังโต๊ะที่เขานั่งทำงานเมื่อคืน มีซองสีน้ำตาลตั้งอยู่จริงๆ  ไม่รู้อะไรที่ดลใจให้ผมเสียมารยาทไปเปิดมัน ...

สิ่งที่อยู่ด้านในเป็นโฉนดที่ดิน ผมคงไม่เอะใจอะไรถ้ามันไม่ใช่ชื่อของอาผม ผมตาสว่างแทบจะทันที..อาขายบ้านให้คีย์  .. . ราวกับมีไฟมาสุมอยู่ในใจ ..เพราะความจริงบ้านหลังนั้นมันต้องเป็นของพ่อผม แต่สิ่งที่อาทำ..มันเหมือนไม่ไว้หน้าของคนที่เสียไปเลย เขาเสียไปไม่ถึงปีด้วยซ้ำ  อาก็ขายบ้านเลยเหรอ และยังไม่เคยปรึกษาผมที่เป็นลูกสักคำ .. อากับคีย์กำลังคิดทำบ้าอะไรกันแน่

ผมนั่งรถไปยังบริษัท K&R ด้วยความรู้สึกปั่นป่วน ตอนที่เดินเข้าไปมีพนักงานหลายคนมองผมแปลกๆ อาจจะเพราะผมเคยทำงานที่นี่มาก่อน แต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไร เท่ากับสิ่งที่ปั่นหัวผมอยู่ตอนนี้  ให้ตาย.. ทำไมผมถึงกลายเป็นไอ้โง่อยู่คนเดียววะ พวกเขาไม่มีสมองที่จะคิดกันบ้างรึไง ..ผมรู้ว่าคีย์ยังมีหลายอย่างที่ปิดบังผม เพียงแต่ผมคิดว่ามันคงไม่มีอะไรเกี่ยวกับผม ผมถึงไม่ถาม 


ประตูสีเทาโดนผมผลักเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ ภายในห้องมีคีย์นั่งตรวจงานอยู่ ผมปาซองเอกสารเฉียดหน้าเขาไปแค่นิดเดียว คีย์จ้องหน้าผมด้วยความไม่เข้าใจ แต่คนที่ต้องไม่เข้าใจน่าจะเป็นผมมากกว่ามั้ง !

“เป็นอะไร ”

“พี่อ่ะเป็นอะไร ทำไมต้องมายุ่งกับบ้านผมด้วย”

“มึงแอบเปิดดู ?”

“ถ้าไม่แอบจะรู้เหรอ ว่าพี่กับอาผมทำอะไรไว้บ้าง”

“ทำไมทำตัวแบบนี้วะ นับวันมึงยิ่งแย่เข้าไปทุกทีนะ”

“อยู่กับคนเลวๆแบบพี่ ให้ผมดีด้วยคงไม่ไหวหรอกมั้งครับ”

“แล้วมึงจะให้กูทำไงวะ ในเมื่ออามึงเสนอมาเอง กูได้บ้านมึง อามึงได้เงินกู ก็แฟร์ดีไม่ใช่เหรอ.. ถ้าจะโทษก็โทษอามึงเหอะ ที่ไม่บอกมึงเอง”

“สรุปคนอย่างพี่ไม่เคยผิดเลยใช่ป่ะ ” 


ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดบทสนทนาระหว่างผมและเขา และดูเหมือนคนที่เข้ามาใหม่จะสร้างความหงุดหงิดให้คีย์ได้ไม่น้อย ที่ผมรู้เพราะคีย์แสดงทุกอย่างออกมาบนใบหน้าของเขา เขาเป็นคนที่เก็บอารมณ์ไม่เก่งอยู่แล้ว

“ว้าว นี่ผมมาทันอะไรเนี้ย ”  เสียงกวนอวัยวะเบื้องล่างมันทำให้ผมต้องหันกลับไปมองเจ้าของเสียง

ก่อนจะยืนอึ้งไป เพราะใบหน้าที่คล้ายคลึงกับคีย์ เพียงแค่ดวงตาที่ดูไม่เหมือนเลย ผมพอจะเดาได้ว่าเขาน่าจะเป็นน้องของคีย์ กลิ่นอายระหว่างเขากับคีย์มันไม่เหมือนกันเลย เขาดูเป็นผู้ชายที่เข้ากับคนอื่นง่าย ในขณะที่คีย์แค่เป็นคนเลวๆคนนึง

“..มาทำไม..” เสียงคีย์มันฟังดูเย็นชาราวกับว่าเขาไม่ต้องการพบหน้าแขกที่มาเยือนแม้แต่น้อย 

“อ้าว มาไม่ได้เหรอ ผมก็คิดว่านี่บริษัทพ่อผมซะอีกนะ แล้วทำไมผมถึงมาไม่ได้พี่ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับ”

“กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะ”

“รู้ครับว่าพี่ไม่ใช่เพื่อน..ก็เพราะพี่เป็นผู้บริหารของที่นี่นั่นแหละครับผมถึงได้มา”

ผมฟังสิ่งที่พวกเขาโต้ตอบกันอย่างไมเข้าใจ ..นี่พวกเขาเป็นพี่น้องกันจริงๆรึเปล่า ? ทำไมถึงดูเกลียดกันซะยิ่งกว่าอะไรดี

“ผมแค่จะมาบอกพี่ว่า พ่ออนุมัติให้ผมเป็นรองผู้บริหารแล้วนะ แถมยังให้ผมเรียนรู้งานจากพี่ด้วย ดีจริงๆเลยนะที่พวกเราได้อยู่ใกล้ชิดกัน”

“เหรอ…? งั้นกูจะคุยกับพ่อเอง ถ้ามึงไม่อยากทำ..”

“ใครบอกว่าไม่อยากทำ ..ผมละอยากทำจนรอแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ..อ่า เสียมารยาทคุยไปตั้งนาน แล้วแขกพี่คนนี้นี่ใครเหรอ ? ผมคุ้นๆหน้าเหมือนจะเคยเจอนะ”

ไม่รู้หรอกว่าผมไปเจอเขาที่ไหน มันไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากรู้และอยากสนใจสักเท่าไหร่ เพราะผมไม่ค่อยชอบคนที่ส่งยิ้มให้คนอื่นและทักทายคนอื่นไปทั่วอย่างเขาสักเท่าไหร่

“ถ้าหมดธุระแล้วก็ออกไป” คีย์พูดเป็นการไล่เขากลายๆ และเขาดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

“ยังหรอกครับ”

“...”

“ผมจะทำงานกับพี่ตั้งแต่พรุ่งนี้ ..แต่ผมยังไม่มีเลขาเลยนี่.. จะทำยังไงดีนะ ว่าแต่คุณเรียนจบอะไรมาเหรอครับ”  จู่ๆหัวข้อสนทนาก็มาหยุดอยู่ที่ผม มันทำให้ผมจำใจตอบอย่างเสียไม่ได้

“ บริหาร ”

“โห ..งั้นมาทำงานเป็นเลขาผมไหมละ เงินเดือนดีนะ..”

“เคย์ ! ” เขาชื่อเคย์สินะ .. สิ่งที่ผมคิดไว้ก็ไม่ผิด เขาคงเป็นน้องของคีย์ ..ที่ดูเหมือนคีย์จะไม่ชอบเขาแม้แต่นิด

“เรียกชื่อผมทำไมเหรอครับ” สีหน้าของเคย์ก็ยังไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร

“..มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ..”

“อะไรที่มากเกินไปเหรอครับ..?  ผมว่าที่พี่กำลังทำอยู่มากกว่านะ ที่เรียกว่ามากเกินไป” เขาโต้ตอบคีย์อย่างไม่กลัวอะไร .. ผมได้แค่ยืนนิ่งๆ ไม่รู้ว่าถ้าพูดอะไรออกไปตอนนี้จะเป็นการเพิ่มบรรยากาศที่แย่ตอนนี้ไปอีกรึเปล่า

“มึงต้องการอะไรกันแน่..”

“ก็บอกแล้วนี่ครับ..ว่าผมยังขาดเลขาอยู่ ถ้าไม่มีเลขาผมคงต้องทำงานยุ่งแน่ๆเลยใช่ไหมละครับ”

“แต่นี่มันเลขากู”

“พี่ครับ ? พี่ลืมอะไรไปรึเปล่า สีครามเพิ่งเป็นเลขาพี่ได้ไม่ถึงเดือนพี่ก็ลืมเขาไปแล้วเหรอครับ”

.. ไม่รู้สินะ ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกแปลกๆ ยิ่งตอนที่คีย์ลอบมองผม ทำไมผมต้องยิ่งรู้สึกไม่ดี นี่ผมกลายเป็นคนงี่เง่าไปแล้วรึเปล่า  ..เกลียดตัวเองจริงๆที่เป็นแบบนี้

“...” ยิ่งพอคีย์เงียบ ความหงุดหงิดใจเล็กๆก็เพิ่มขึ้นในใจผม จนต้องถอนหายใจเพื่อลดความโกรธลงบ้าง

“ผมชื่อเคย์นะครับ ส่วนชื่อคุณผมรู้อยู่แล้วละ ชื่อโรมใช่ไหมครับ ?”

“ครับ”

“..ไม่รู้ว่าผมจะคิดเอาเองมากไปรึเปล่า แต่ถ้าคุณยังว่างงานอยู่สนใจจะมาเป็นเลขาผมไหมละครับ ?”

“...”

“...มันก็ไม่ได้แย่อะไรนี่ครับ..”




--------------------------------
ตัวละครใหม่ที่เพิ่มมาค่อนข้างมีความสำคัญนะคะ  อยากให้ทุกคนทำใจไว้ก่อน
55555 ตอนหน้าก็มาดูฝั่งของคีย์บ้างเนอะ ให้คีย์ดำเนินเรื่องบ้าง จะได้เข้าใจพี่แกมากขึ้น
แต่ก็อย่าไปทำความเข้าใจเยอะเลยคะ จะเสียใจกันซะเปล่าๆ 5555
ขอให้สนุกกันการอ่านเช่นเคยนะคะ 

ออฟไลน์ arigatozung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หนูโรม แค่เจอคนพี่ก็ทำหนูปวดหัวมากพอละ  :hao4: มาเจอคนน้องอีก เห้ออออ .... สงสารนายเอกล่วงหน้า

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
คนตระกูล ค นี่ ดูวุ้นวายจัง  :hao3:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
นึกถึงไอ้คู่ป่วนในโปเกมอนเลย Double Trouble คีย์กับเคย์

เด็กนั่นลูกเคย์หรือเปล่า? เข้าใจว่าตอนเริ่มเรื่องต้องวางปม ขมวดปม

คีย์กับอาของโรมทำอะไร? มโนว่าคีย์พยายามเอาสมลัติของโรมกลับมาให้โรมค่ะ

ณ โมเมนท์นี้ยังทำใจให้ชอบคีย์ยังไม่ได้เลยค่ะ

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ไอพี่คีก็ปากหนัก ไม่บอกไรเลย
สงสารโรมมาก
ส่วนนายเคย์ เป็นพระเอกไปเลยดีมะ เหอะ  :m16:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
คือไม่ชอบอาของโรมเลยอ่ะ ทำเจ๊งหมดทุกอย่าง เอาสมบัติไปหมดอีกด้วย  :m16:
อย่าเอาไว้คนแบบนี้
ส่วนคีย์ปากก็มี ไม่พูดไม่อธิบายอะไรเลย
ไม่ว่ายังไง เราว่าคนแบบนี้ไม่เหมาะกับการนำมาเป็นคนรักที่ดี เพราะมีอะไรไม่บอกไม่อธิบายช่วยกันแก้

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
ไม่ได้อะไรนะ แต่แบบ ถึงตอนสุดท้ายรู้ความจริงว่าคีย์ทำทุกอย่างเพื่อนายเอก แต่แบบว่า...ตบไปสองที ด่าอีกหลายรอบ ทำร้ายจิตใจ บลาๆ หวังว่านายเอกเราจะไม่มองแต่ความสุขแล้วลืมนิสัยแย่ๆส่วนนี้ไปน่ะนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ สองโซ่แซ่กุญแจมือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1



Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน
Chapter 14 : But I set fire to the rain  [Special Key’s part]


ทั้งความกวนประสาทและสายตาที่เหนือกว่าของคนที่เป็นน้องทำให้ผมไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ยิ่งบวกกับการกระทำของโรมในตอนนี้ มันยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดใจ  โรมยังไม่รู้จักเคย์ดีพอ มันไม่ใช่คนดีอะไรขนาดนั้นหรอก ส่วนนึงเป็นเพราะมันที่ทำให้ผมต้องเสียโรมไป 

แต่จะโทษเคย์คนเดียวก็ไม่ได้หรอกนะ เพราะผมเองก็โง่ที่ไปเล่นเกมบ้าๆของมัน

เกมที่ไม่เคยมีผู้ชนะ แค่รอดูว่าใครจะเจ็บปวดมากกว่ากัน

“มึงกลับไปก่อน”

“..อืม..แต่ผมขอพูดอะไรหน่อยนะ ผมไม่รู้หรอกว่าพี่คิดจะทำอะไร ..แต่ตั้งแต่ผมเจอพี่ ..ชีวิตผมมันก็พังไปหมด”

เขาจ้องมองผมด้วยสายตาที่ไม่มีความรู้สึกอะไรหลงเหลืออยู่ให้ แต่ก็ดีแล้ว .. เกลียดผมให้มาก มันก็สมควรแล้วที่เขาจะทำแบบนั้น  ผมเรียกให้คนไปส่งโรมที่คอนโด ให้เขาออกไปก่อน ผมจะได้คุยกับคนที่เป็นปัญหาให้รู้เรื่อง


พอโรมออกไป มันทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา และนั่งอ่านหนังสืออย่างอารมณ์ดี

“พี่โกงผม ตอนที่ตกลงกันมันไม่ใช่แบบนี้”

“เมื่อไหร่มึงจะเลิกมองเรื่องนี้เป็นเกมสักที มึงน่าจะพอได้แล้วนะ”

“พี่ผิดเองนะ ที่โง่มาเล่นตามเกมของผม”

“หึ.. ” 

ผมไม่เคยมองมันเป็นน้องเลยสักครั้ง ทั้งสันดารและนิสัยของมัน ...ถ้าหากผมคือโจร มันก็คงเป็นฆาตกร 

“แล้วเรื่องรินดา พี่จัดการให้ผมด้วยนะ ”

“เมื่อไหร่มึงจะเลิกทรมานเธอสักที เธอรักมึงจนยอมทุกอย่าง มึงยังไม่ยอมรับเธออีกเหรอ”

“เธอจะชอบหรือรักผมให้ตายยังไง แต่ผมไม่ได้ชอบเธอสักหน่อย เธอกับผมไม่ได้เกี่ยวอะไรกันแล้วด้วยซ้ำ”

“แล้วลูกมึง”

“ลูกพี่ นั่นน่ะ..ลูกพี่ ไม่ใช่ลูกผม”

ผมแทบจะหมดคำพูด ยิ่งเห็นความคิดของมัน ผมยิ่งไม่อยากเชื่อว่ามันคือน้องของผม ผมกับมันก็เลวพอกันทั้งคู่  ต่างกันแค่ผมอาจจะหลงผิดได้ไม่เท่ามัน

“กูรับผิดชอบเรื่องของรินดาแทนมึงทุกอย่าง แต่มึงต้องห้ามยุ่งกับโรม..”

“เหอะ อะไรที่ทำให้พี่เป็นได้ขนาดนี้วะ ถามจริงๆพี่ได้กับเขายังวะ”

“มึงหุบปากและออกไปเลยนะ”

“ผมไปก็ได้ ..แต่บอกพี่ไว้อย่างนะ อะไรที่พี่อยากได้ ..ผมก็อยากได้ด้วยเหมือนกัน”

 แน่นอนว่าคำพูดของมันทำให้ผมประสาทเสีย อยากจะฆ่ามันให้ตายไปซะ ถ้าไม่ติดว่ายังมีพ่อแม่ที่คอยห่วงมันอยู่ ผมคงทำไปแล้ว


เรื่องของมันกับรินดา .. เริ่มขึ้นจากผม ผมเป็นคนที่พารินดามาให้มันรู้จักเอง แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเลวถึงขนาดจะทำลายผู้หญิงทั้งคนได้ลงคอ เพราะผมเป็นคนพาเธอมาลงนรก ผมถึงต้องรับผิดชอบชีวิตของเธอด้วยชีวิตของผม และผมรู้ว่ามันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ..เพราะผมต้องทำให้คนที่รักผมต้องเสียใจ  แต่บางทีคนเรามันก็เหลือทางเลือกอยู่ไม่มากนักหรอกนะ

ผมลุกขึ้น และต่อสายไปหาใครบางคน  มีบางเรื่องที่ผมยังต้องรับรู้

“มีอะไรวะ ช่วงนี้มึงโทรหากูบ่อยไปแล้วนะ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะคิดถึงกู” เสียงยียวนตามปลายสายดังมาให้ได้ยิน

“เรื่องที่กูบอกให้มึงเช็คกล้องวงจรปิดให้กู เป็นไงบ้าง” ผมตัดบทถาม

“กูดูแล้วนะ คุณโรมเขาก็ไม่ได้ออกไปไหนเลยนะตั้งแต่น้องดาเข้าไปในห้องมึง..กูว่านะ คุณรินดาอาจจะเป็นคนทำก็ได้นะ..”

“แล้วรินดาจะทำไปทำไม”

“นั่นคงเป็นเรื่องที่มึงต้องหาคำตอบเองแล้ววะ กูคงช่วยมึงได้แค่เรื่องนี้” 

คุยกันอีกไม่กี่ประโยค ผมก็ขอวางสายไป มันค่อนข้างเป็นสิ่งที่ค้างคาใจผม ..ผมรู้ดีว่า โรมไม่ใช่คนทำ แต่ผมก็ไม่คิดว่ารินดาจะเป็นคนทำด้วยเหมือนกัน ..มีแค่สีครามที่ผมไม่เคยมั่นใจในตัวเขา ..คนอย่างสีครามจะทำอะไร  ไม่มีใครคาดคิดได้หรอก

และเมื่อไม่กี่วันก่อนสีครามก็ทำให้ผมยุ่งยากใจพอสมควรกับการที่เขาพูดกับแม่ผมเรื่องการที่จะมาเป็นเลขาผม ยิ่งเขาอยากรัดผมให้แน่นมากเท่าไหร่ ผมก็อยากจะปล่อยเขาไปจากชีวิตผมมากขึ้น ..ไม่ใช่ผมจะดูไม่ออกว่าเขาต้องการผม มันเป็นเรื่องยากที่จะตัดเขาออกไปจากชีวิต แต่ถ้าหากเขายังคงยุ่งกับโรมอยู่ ผมก็ทำให้มันเป็นเรื่องง่ายเอง


วันนี้เป็นอีกวันที่ผมอยากให้ทุกอย่างมันผ่านไปเร็วที่สุด เพราะผมต้องกินข้าวกับที่บ้านพร้อมกับรินดา และคุยหลายๆเรื่องที่ผมไม่อยากฟังสักเท่าไหร่  ผมมองดูนาฬิกา เก็บเอกสารที่โรมเอามาปาทิ้งราวกับมันไม่มีค่าอะไร

ใช้เวลาไม่นานนัก ผมก็ขับรถมาหยุดที่บ้านหลังขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ผมใช้เงินที่ตัวเองเก็บไว้มาสร้างบ้านหลังนี้  ผมอยากจะอยู่กับใครสักคนในบั้นปลายชีวิตที่นี่ ถึงผมจะรู้ดีว่ามันแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลยสำหรับคนอย่างผม

“สวัสดีครับแม่” หญิงสาวร่างท้วมหันมาส่งยิ้มให้ผม ข้างกายของเธอมีรินดายืนหลบอยู่ 

รินดาดูต่างออกไปจากที่ผมพบกับเธอเมื่อสมัยก่อน ..ตอนนี้เธอดูไม่เหลือแม้แต่ความสุขบนใบหน้า และมันก็ทำให้ผมรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น

“คีย์พารินดาไปเดินเล่นสิลูก น้องเพิ่งกลับมาจากเยี่ยมน้องดาที่โรงพยาบาลนะ คงเหนื่อยๆ ถ้าได้เดินพักผ่อนก็คงดี”

ทำไมผมจะดูไม่ออกว่าความจริงแล้ว มันไม่ใช่แค่เดินเล่นหรอก แม่คงอยากให้ผมกับรินดาอยู่ด้วยกันให้มาก อาจเพราะผมดูเฉยเมยเวลาที่อยู่กับเธอ และยิ่งเธอเป็นลูกสาวของนักการเมืองดัง แม่ผมคงจะอยากให้ผมรักเธอให้มากกว่านี้

รินดาและผมเดินออกมาที่สวนเล็กๆหน้าบ้าน มีเพียงความเงียบที่ปกคลุมอยู่รอบตัวเรา ผมละอายใจจนไม่อยากพูดกับเธอ ..ส่วนเธอ คงไม่ค่อยอยากพูดกับผมเท่าไหร่นักหรอก

“คีย์..”

“ทำไมเหรอ” ผมมองหน้ารินดา ..เธอเป็นคนสวย แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน เธอคงสวยมากกว่านี้

 “เรายกเลิกดีไหม ?”

“ยกเลิกอะไร”

“ทุกอย่าง ..ฉันไม่มีความสุขเลย.. ฮึก..ฉ..ฉัน ฮือ..ฮือออ”

“..”

ผมทำได้แค่กอดปลอบเธอ ..ผมมันโง่เอง ที่พาเธอเข้ามาในวังวนเลวๆของเคย์ มันผิดที่ผมเอง ถ้าผมคิดให้มากกว่านี้..ผมเองก็อาจไม่ต้องเจ็บปวด


วันนี้ทุกอย่างต้องเลื่อนออกไป ผมไม่ได้อยู่ต่อ ส่วนรินดา แม่ผมเข้าใจว่าเธอคงเครียดหลายๆอย่าง โต๊ะอาหารวันนี้จึงต้องยกเลิกไป


ครืน .. ครืน

มือผมเลื่อนไปกดรับสายบนหน้าจอโดยที่ไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนที่โทรเข้ามา

“ไง..” แทบไม่ต้องเดาก็รู้ ว่าเสียงแบบนี้มันเป็นเสียงของใคร 

“มึงมีอะไรวะ ดนัย”

“จะโทรหามึงต้องมีอะไรด้วยเหรอวะ ”

“ปกติมึงก็โทรหากูแค่เรื่องเงิน”

“เออ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่วะ กูอยากโทรมาถามเรื่องหลานกู”

“ทำไม ?”

“เปล่า กูก็แค่อยากรู้ว่า มึงดูแลหลานกูดีรึเปล่า”

“ก็ดีกว่าที่มึงดูแลเขา”

“เหรอ ..อืม .. กูอยากเจอหน้าหลานกูวะ ”

“กูขอปฏิเสธ”

“เอางั้นก็ตามใจ ..แต่มึงระวังไว้หน่อยก็ดีนะ ..อย่างน้อยก็ระวังติดโรคจากหลานกูหน่อยละกัน ตอนไปต่างประเทศมันก็มั่วพอสมควร..”

“..”

สายโดนผมตัดไป ผมรู้สึกสมเพชเขานะ ชีวิตของเขามันแย่ซะจนผมเองยังไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง แต่ผมก็จำเป็น ..ของบางอย่างที่ผมเอากลับมาให้โรมได้ ผมก็อยากจะเอากลับมา คนอย่างดนัย ไม่มีทางเก็บสมบัติของใครไว้ได้นานหรอก ..เขามันหิวเงินเกินไป และผม..ไม่มีวันไว้ใจหมาลอบกัดพวกนี้หรอก..



-------------------------------------------
หายไปอาทิตย์เต็มๆ ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกไว้ก่อน เพราะอาทิตย์ที่เเล้วเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก
งานมากมายล้นเข้ามาจนตัวลอย 555
 ตอนนี้ก็อัพไปแค่นิดเดียว เดี๋ยวตอนหน้าจะเพิ่มให้มากกว่านี้นะคะ
ขอบคุณทุกความเห็น และขอบคุณนักอ่านทุกคนนะ ที่ยังคอยติดตามนิยายเรื่องนี้กัน

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เรื่องราวซับซ้อนซ่อนเงื่อนจัง เคย์ดูไม่น่าคบหาเลย ต่อไปโรมจะโดนอะไรอีกมั้ยนะ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ด่าว่าควายนี่สงสารควายเลยตรู

จะบอกว่าวางแผนช่วยโรม แล้วที่ด่ากับตบ?
เฮ่ย โง่ก็ต้องมีขอบเขตนี่มันระดับไร้สติยั้งคิดแล้ว

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เรื่องจะคลี่คลายลงได้ก็เพราะคีย์นี่แหละ เหมือนพี่แกเป็นคนถือปมทุกอย่างอยู่ในมือ

คงได้แต่รอเวลาให้พี่แกปล่อยซะที ยิ่งถือนานๆ คนที่เจ็บอยู่แล้วก็จะเจ็บเข้าไปอีก

สุดท้ายถ้าอะไรจะเกิดขึ้นคงเป็นเพราะตาคนนี้แหละมั้ง  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ เกรียนเหมียว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :jul1:อืม ชีวิต....จริงๆโรม  พระเอกก็ใช้แต่อารมณ์ ไม่พูดแล้วโรมจะเข้าใจไหมมมม อ่านแล้วอยากกระโดด :z6:ถีบนางจริงๆ  อีกคนสีกามเอ้ยคราม นิก็ไม่น้อยหน้า  ขาดความอบอุ่นเหรอคะ อยากได้พระเอกขนาดทำร้ายหลานตัวเอง  ส่วนน้องชายพระเอกนิ เลวค่ะ ไม่น่าเชื่ออ่ะเสนอหน้ามาตอนเดียวทำเราเกลียดได้ขนาดเน   :beat:  (อินค่ะอิน)

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
ตอนนี้เหมือนสารภาพ  ความผิดของตัวเอง แต่แปลกทำมัยเราไม่เข้าใจและสงสารคีย์เลยรู้ตัวทุกอย่างแต่ยังทำลงไปทั้งๆๆที่รู้ผลลับว่าออกมายังงัย ความจริงในตอนนั้นปล่อยโรมไปก็น่าจะเอามาทรมานอีกในเมื่อตัวเองยังตัดสินใจอะไรไม่ได้สักอย่าง อ้างว่าทำเพื่อโรมแต่การกระทำไม่ใช่ทั้งด่าตบตี นี่หรือคนที่รักโรม  คีย์เป็นคนเห็นแก่ตัว เล่นยื้อใว้ทุกทางไม่ยอมปล่อยสักอย่าง   :z3: :z3:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สิบสี่ตอนแล้ว
ดราม่าได้เข้มข้นคงเส้นคงวาทุกตอน
ฝีมือจริงๆ 55

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :a1:จั่วหัวนิยายว่า แนว ลึกลับก็ดีนะคะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
นิสัยคีย์นี่ยังไงกัน   เราเข้าใจว่าคีย์จะเอามรดกของโรมกลับมาให้โรม
เคย์ทำรินดาท้อง เด็กนั่นเป็นลูกเคย์ ที่คีย์รับผิดชอบเำราพว่าเคย์ไม่รับผิดชอบ
สีครามก็อยากได้คีย์จนไม่เลือกวิธี
คีย์ยังรักโรมอยู่ แต่เมิงทำเขาจนเขาไม่อยากเห็นหน้า
เคย์ต้องพยายามแย่งโรมมาจากตีย์แน่ๆ  ท่าทางจะไม่ยากหรอก คราบใดที่ยังเป็นอิหรอบนี้อยู่
งงกับนิสัย รู้ว่ากำลังขมวดปมอยู่แต่มันดูงง ขาดๆ ชอบกล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
พระเอกดูเป็นคนเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ และไร้เหตุผล
อานายเอกดูเป็นคนชั่วสมบูณ์แบบ
คนใกล้ตัวพระเอก ทั้งรินดา น้องรินดา และเคย์ เหมือนพวกพิการ
ผิดปกติทางด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคม ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
... พระเอกเหมือนมีเหตุผล แต่มันเบาหวิว เมื่อเทียบกับการกระทำ
การระงับอารมณ์ไม่สามารถทำได้ เรื่องเล็กน้อยก็ลงไม้ลงมือ
.... ชาติหน้าเถอะ นายเอกคงจะเข้าใจเมิง .... เมิงมันบ้าไปแล้ววววววววววววว
.... สงสารนายเอกว่ะ


ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
หลงเข้ามาอ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย พระเอกนี่ทำเรื่องอึดอัด อ่านแล้วเหนื่อยอ่ะ :เฮ้อ:
ยังไงรออ่านต่อ  ว่าเรื่องราวจะคลีคลายยังไง  :call:

ออฟไลน์ domeloly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-4
ดราม่ามากครับ ตอนจบอยากให้คีย์สูญเสียโรมแบบไม่มีวันได้คืน......จะได้สำนึกตัวเองเสียที

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนจบ อยากให้กลับมารักกัน แต่ วีรกรรมมันไม่น่าให้อภัยมาก แอร้ยยยยยยยย :z6:

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สงสารโรมอ่ะ สงสารคินรดาเด็กน้อยด้วย เป็นเด็กแท้ๆถูกผู้ใหญ่ใช้เป็นเครื่องมือ

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ครอบครัวคออวยเรหอคะแต่ละคนเลวจริงๆ
หมั่นไส้อิพระเอกมากๆ ใครจะเชื่อว่าทำไปเพราะรักคะ
ไม่พูดไม่บอกอะไรเลยนี่ต้องการอะไร สงสารรึอยากซ้ำเติมกันแน่
สงสารโรมนะชีวิตตัวเองก็แย่อยู่แล้วยังต้องมาเจออะไรซ้ำอีก
อิพระเอกเนี่ยแหละไม่มีเหตุผลที่สุด มีปากไว้แค่ด่ารึไงคะ

ขอโทษที่หยาบคายแต่มันอินจริงๆ อ่านแล้วหงุดหงิดเลย555

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านแล้ว.....อื้ม!!!!  :katai1:
ทำไมมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนแบบนี้~~~~

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ถ้าอธิบายแต่แรกมันคงไม่หนักขนาดนี้ ไอ้การที่ไม่บอกเก็บเป็นความลับเรื่อยๆเนี่ยแหละทำให้เรื่องมันไปกันใหญ่
แต่สิ่งที่คีย์ทำ เรายอมรับไม่ได้จริงๆกับผู้ชายคนนี้ ต้องทำให้โรมร้องไห้อีกกี่หนถึงจะพอ
อยากดูแลก็ดูแลห่างๆ ก็พอสิ ทำตัวแบบนี้ไม่ไหวจริงๆ

ออฟไลน์ สองโซ่แซ่กุญแจมือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1



Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน
Chapter 15 : Watched it pour as I touched your face


..ต่างคน ต่างความคิด บางทีผมก็อยากรู้ว่าในใจของคีย์คิดอะไรอยู่ เพราะหากเขาคิดถึงผมสักนิด..เขาคงไม่ทำแบบนี้ ทำราวกับผมเป็นสิ่งของที่จะทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าเมื่อก่อนเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ผมคงไม่เจ็บเท่าตอนที่เขาเปลี่ยนไป

อะไรที่ทำให้เขาต้องเห็นแก่ตัว ?

อะไรที่ทำให้เขาเป็นคนที่ไม่หลงเหลือเหตุผลอะไรเลย ?

แน่นอนว่าผมอยากรู้ แต่คงไม่ถึงขั้นไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเขา ตอนนี้ผมคงทำได้แค่ต่างคนต่างอยู่ ตราบใดที่เขาไม่มายุ่งกับผมมากเกินไปนัก ผมก็คงไม่ยุ่งเรื่องของเขาอีก

ถ้าผมไม่รู้ ผมก็ไม่เจ็บ

แกล้งปิดหูปิดตา รอวันที่เขาเบื่อผมและทิ้งผมสักที ..มันอาจจะดีกว่าผมดิ้นรนหาทางออกเอง และผมอาจไม่ต้องเจ็บมากไปกว่านี้

ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้าง สองสามชั่วโมงที่ผมอยู่ภายในห้องนี้มันทำให้ผมเบื่อ มันรู้สึกเหมือนอยู่ในกรง .. ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน เขาก็เหมือนจะรู้ทุกอย่าง


ความน่าอึดอัด  ความสับสน  ความเบื่อ

นั่นคงเป็นคำที่อธิบายความรู้สึกของผมได้ดีที่สุดในตอนนี้  ผมค่อยๆปิดตาลง อยากลืมช่วงเวลานี้ไปสักพัก ไม่อยากคิดถึงภาพคีย์อีก

......

ช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่ผมนอนหลับไป ผมแทบไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าคีย์กลับมาตอนไหน ..นี่ถ้าโจรเข้ามาปล้น ผมคงโดนฆ่าตายไปแล้ว

มีบางอย่างที่ผิดปกติไป.. ถ้าแค่เรานอนเตียงเดียวกันผมคงไม่รู้สึกอะไรมากมาย แต่มือที่กอดเอวผมเอาไว้หลวมๆนี่ .. มันทำให้ผมรู้สึกแย่จริงๆนะ

ตอนนี้ทุกการกระทำของเขามันทำให้ผมสะอิดสะเอียนไปหมด  .. จนผมคิดว่าผมอาจเป็นโรคจิตไปแล้วก็ได้  ผมค่อยๆลุกขึ้นและเอามือเขาออกไปจากเอวผมอย่างเบามือ  ทันทีที่หลุดจากการเกาะกุมของคีย์ ผมก็รีบเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำ และออกมานั่งอยู่ในห้องรับแขก ..บางทีผมก็คิดว่าผมให้ชีวิตอยู่หน้าจอทีวีมากกว่าการออกไปสูดอากาศข้างนอกซะอีก 


“เหนื่อยเหรอ” ไม่คิดว่าเขาจะตื่นเร็วขนาดนี้  ไม่กี่นาทีที่ผมลุกจากเตียง เขาก็คงตื่นแทบจะทันที

“เปล่า”

“เหรอ ดูมึงเหนื่อยๆนะ”

ไร้คำพูดใดๆออกกจากปากของผม .. ไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป ผมไม่อยากจะคุยกับเขาแล้ว ไม่ใช่เพราะโกรธหรือโมโห เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะโมโหและลงที่ผมอีกเมื่อไหร่ ผมเบื่อที่จะเจ็บตัวกับเขาแล้ว

คีย์เดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งผมให้อยู่คนเดียวในห้องแคบๆนี่อีกครั้ง ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน มันก็วนมาจบที่วันรุ่งขึ้นเขาก็ทำเหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น  ราวกับเมื่อวานเราไม่ได้ทะเลาะกัน แปลกนะทั้งๆที่เป็นคนๆเดียวกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงเป็นคนที่ตามเขามาคุยให้รู้เรื่อง เพราะไม่ชอบที่จะทะเลาะกันนานๆ แต่ตอนนี้ผมอยากให้เราทะเลาะกันไปนานๆ จนไม่ต้องคุยกันอีกเลยก็ได้ ..

ผมกำลังรู้สึกเหมือนมันเหนื่อยเกินไป ทำไมผมต้องมาทนอะไรแบบนี้ด้วย ผมคิดถึงบริษัทของพ่อผมเหรอ ? ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้คิดถึงผมเลยสักนิด แต่กลับโยนปัญหามาให้ผมได้ นี่เหรอ..สิ่งที่คนเป็นผู้นำเขาทำกัน  ผมรู้ว่าผมพาล แต่หากผมเอาแต่โทษตัวเอง สักวันผมคงได้บ้าตายกันพอดี


สักพักใหญ่ๆกว่าคีย์จะออกมาจากห้องน้ำ ผมสะดุดตากับรอยแผลเป็นที่แขนของเขา ..ผมคงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันเกิดขึ้นมา ปกติเขามักใส่เสื้อแขนยาว มันทำให้ผมไม่เห็นอะไร  แผลนั่นทำให้ผมรู้สึกผิด แต่เพราะไม่อยากจมอยู่กับการรู้สึกผิดมากเกินไป ผมเลยเลือกที่จะเมินมันซะ


กริ๊ง กริ๊ง

เสียงกริ่งที่หน้าห้องดังขึ้น เรียกความสนใจของผมและคีย์ได้เป็นอย่างดี คีย์เป็นฝ่ายเดินไปเดินประตู ผมเห็นเขาถอนหายใจตอนที่เขาเปิดกล้องดูว่าเป็นใคร  ก่อนที่เขาจะเปิดประตูด้วยความไม่เต็มใจนัก

“ไง ! ผมคิดถึงพี่แทบตาย ไม่เจอกันตั้งวันนึง” ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคีย์ถึงถอนหายใจแบบนั้น เป็นผม  ผมก็คงรำคาญแบบเขาที่มีน้องชายนิสัยแบบนี้ แถมข้างๆเคย์ยังมีสีครามยืนอยู่ นี่พวกเขาจะเล่นบ้าอะไรกันแน่

“มีอะไร” คีย์ถามเขาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ 

“อ้าว ก็วันนี้ผมต้องเข้าบริษัทไง”

“แล้ว ?”

“แล้วผมจะเข้าบริษัทได้ไง ถ้าไม่มีเลขา ผมยังทำอะไรไม่เป็นเลยนะ”

“เหอะ .. บริษัทนี้รับคนเข้ามาทำงานด้วยความชอบส่วนตัว ไม่ใช่ความสามารถหรอกเหรอ ?”

“อืม.. แล้วสีคครามละครับ ? เขาเข้ามาทำงานง่ายอย่างนี้เพราะอะไรเหรอครับ”

“...”

“พี่ไม่ต้องตอบผมก็ได้ครับ แต่ผมพาเลขาพี่มาให้แล้ว ผมก็ขอเลขาผมไปทำงานเลยละกันนะครับ” 

ไม่รู้อะไรทำให้ผมรู้สึกขนลุกกับคำที่เขาใช้เรียกว่าเลขา ไม่รู้สินะ ..ในจินตนาการของผม เลขาส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่นี่นอกจากเลขาของประธานบริษัทเป็นผู้ชายแล้ว รองประธานก็ยังมีเลขาเป็นผู้ชายอีก ผมค่อนข้างจะรู้สึกแปลกๆพอสมควร และไม่อยากจะจินตนาการเลยจริงๆ ว่าหากผมกลับไปทำงานอีก พนักงานจะมองผมยังไง .. เป็นคนที่มีสิทธิ์อะไรที่จะเข้าทำงานเมื่อไหร่ก็ได้  และมีคนที่ต้องพลาดงานดีๆแบบนี้ไปเพราะผมกี่คน คนที่เขามีความสามารถมากกว่าผมไม่ได้ทำงานในบริษัทที่ดีๆ แต่คนที่ไม่มีแทบประสบการณ์อะไรเลยอย่างผมกลับได้ทำ


“ผมขอปฏิเสธงานนี้ละกันนะครับ ขอโทษที่ทำให้คุณเสียเวลามาถึงที่นี่ และขอโทษที่ปากไวรับงานคุณ” ส่วนนึงเพราะผมไม่อยากมีปัญหากับคีย์อีก  ถ้าหากเขาเกิดบ้าจนทำร้ายร่างกายผมอีก ผมคงรู้สึกแย่กว่าเดิมมากขึ้นไปอีก

“ทำงี้ได้ไงครับ แล้วผมจะไปหาคนที่ไหนมาทำงานแทนทันละครับ เพิ่งยกเลิกการรับสมัครไปด้วย”

“อย่าทำตัวให้เป็นปัญหามากนักเลยครับ ..เดี๋ยวคนเขาจะหาว่าเรียกร้องความสนใจ” นั่นเป็นประโยคของสีคราม มันทำให้ผมต้องมองหน้าเขาตรงๆ ..ดูเหมือนเขาอยากจะมีปัญหากับผมมาก  แต่ถ้าผมยิ่งตอบโต้เขา มันอาจทำให้ตัวผมเองมีปัญหามากขึ้นไปอีก นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเลือกที่จะเงียบซะ  ..ผมเบื่อที่จะทะเลาะกับใครหลายๆคนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ผมมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาดคนนึง

“แล้วแต่มึงละกัน อยากไปก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป”

“เฮ้อ... ผมไปก็ได้ครับ แค่ทำงานมันไม่ได้หนักหนาอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าให้ผมไปเป็นที่รองรับอารมณ์ ผมก็ไม่คิดว่าผมจะทำงานนี้ได้”


สรุปว่าวันนี้ผมนั่งรถไปทำงานกับเคย์ ส่วนคีย์ก็ไปกับสีคราม แน่นอนว่าคีย์ไม่ค่อยพอใจ ..ผมคิดว่าเขาคงเห็นผมเป็นแค่สิ่งของ และคนอย่างเขาคงรู้สึกเหมือนมีคนกำลังแย่งของเล่น แต่ความรู้สึกเด็กๆแบบนั้น ผมไม่ได้คิดจะใส่ใจหรอก

“วันนี้รถติดจังเลยนะครับ”

... ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยให้เคย์พูดไปคนเดียว ปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบคุยกับคนแปลกหน้าอยู่แล้ว ..และเขาก็ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผม

“แปลกนะครับ ดูเหมือนคีย์จะชอบคุณมากเลยนะ ”

“เหอะ..อย่าทำเป็นตาบอดไปหน่อยเลย” สาบานเถอะว่าเขาไม่เห็นว่าคีย์แทบจะฆ่าผมให้ตายได้แล้วมั้ง ไหนจะคำพูดประชดประชันนั่นอีก

“อ้าว ทำไมละครับ”

“..”

“อืม ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาผมได้นะ ผมพร้อมที่จะรับฟัง ถึงคุณจะไม่ค่อยอยากคบผมเป็นเพื่อนเท่าไหร่ก็เถอะ”

ความนิ่งเงียบวนเวียนอยู่รอบตัวเราจนกระทั่งเคย์ขับรถมาถึงบริษัท เขาดูเป็นพวกมือใหม่ที่ไม่น่าจะบริหารงานอะไรรอด  นั่นคงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เขาต้องหาเลขามาช่วย แต่มันน่าเศร้าสำหรับเขานะ ที่ได้คนอย่างผมเป็นเลขา เพราะผมกับเขาเรามันก็มือใหม่พอๆกัน


และเป็นไปอย่างที่ผมคาดเดา พนักงานที่นี่มองผมเป็นตาเดียวกัน แต่ไม่มีใครพูดอะไร พวกเขาคงสงสัยว่าทำไม รองประธานคนใหม่ ถึงมากับเลขาเก่าของประธาน  เป็นผม ผมก็คงสงสัยไม่ต่างจากพวกเขา มันดีตรงที่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้เดินเข้ามาถามหรือพูดอะไรตรงๆ มีบ้างที่หันไปพูดซุบซิบกัน แต่ผมเผื่อใจมาแล้ว เลยไม่รู้สึกอะไรมากมาย

ผมเดินตามเคย์มาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ห้องๆหนึ่ง ซึ่งเดินห่างจากห้องของคีย์มาไม่มาก ความจริงผมคิดว่าห้องนี้มันเป็นห้องประชุม  มันเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่พอสมควร เล็กกว่าห้องของคีย์แค่นิดหน่อย เฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็เรียบหรูสมกับระดับของเจ้าของห้อง

“ความจริงวันนี้ มันไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ ผมเพิ่งเข้ามาทำงาน ยังไม่ต้องทำอะไรมากมาย ..ไหนๆก็ไหนๆแล้วเราไปกินข้าวกันเถอะครับ”

“ห้ะ ?” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง นี่เขาประสาทกลับรึเปล่า เพิ่งขับรถออกมา เขาก็จะออกไปอีกแล้ว แถมยังออกไปทำอะไรที่มันโคตรจะไร้สาระเลยสำหรับผม

“ก็ผมหิว ตอนที่ออกมาก็รีบจนไม่ได้กินอะไร ..ถ้าคุณไม่สบายใจ จะชวนสีครามกับคีย์ไปด้วยก็ได้นะครับ”

ความหนักใจมันอัดอั้นอยู่เต็มไปหมด ถ้าหากผมออกไปกับเขาสองคน มันก็คงมีปัญหากับคีย์อยู่แล้ว และผมยังไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวตอนนี้สักเท่าไหร่

“ลองไปชวนคีย์กับคุณสีครามดูสิครับ ผมรออยู่ที่นี่ก็ได้”

“ได้ไงละครับ ปกติเจ้านายไปไหน เลขาก็ไปด้วยไม่ใช่เหรอ”

“เลขานะครับ ..ไม่ใช่ทาส”

“..ผมขอโทษครับ..” ให้ตาย..สีหน้าที่สลดลงไปนั่นมันอะไร คนที่มีนิสัยอย่างเขาจะมารู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของผมเนี้ยนะ นั่นมันทำให้ผมเกิดความรู้สึกผิดเล็กๆ

อืม.. กลับกลายเป็นว่าตอนนี้พวกเรา 4 คน มาอยู่ในภัตตาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก คีย์เขาดูหงุดหงิดอีกแล้ว เขาคงหงุดหงิดกับทุกเรื่องเลยสินะ  ทั้งสามคนสั่งอาหารไม่กี่อย่าง ส่วนผมไม่ได้สั่งอะไร ช่วงเวลาแบบนี้ผมกินไม่ค่อยลงนักหรอก

พออาหารมาเสิร์ฟต่างคนก็ต่างกิน ผมก็นั่งดื่มน้ำเปล่าไปเรื่อยๆ จนจู่ๆเคย์ก็เลื่อนจานอาหารของเขามาหยุดอยู่ระหว่างผมและเขา ผมรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเขาตักอาหารและยื่นช้อนมาจ่อที่ปากผม .. บางทีผมก็นึกสงสัยว่าเขาไม่อายที่จะทำอะไรแบบนี้บ้างรึไง ผมว่าเขาจะหน้าด้านเกินไปหน่อยแล้วนะ

“จะไม่กินจริงๆเหรอครับ  ..ผมคงเสียหน้าแย่เลยนะ”

“...”

เกิดความเงียบขึ้นบนโต๊ะอาหารแบบฉับพลัน ผมเองนิ่งค้างกับคำพูดของเคย์ จนไม่ได้สังเกตสีหน้าของคนรอบข้าง ..ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนแบบนี้อยู่ด้วยบนโลก ผมมองหน้าเคย์ สลับกับอาหารในมือเขา ก่อนจะยื่นมือไปจับช้อนมากินเอง เพราะถ้าผมไม่ทำแบบนี้เขาคงถืออย่างนี้ไปตลอดแน่


แกร๊ง !

เสียงของช้อนกระทบจานอย่างดัง ทำให้ผมต้องหันไปมองเจ้าของจานใบนั้น ...เฮ้อ คิดอยู่แล้วว่าเขาคงไม่พอใจอีก แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ เขายังโมโหซะได้

เคย์จ้องผมซะจนผมต้องหลบสายตาไปทางอื่น นี่ตกลงผมมาเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาจริงๆใช่ไหม ..ทำไมผมรู้สึกเหนื่อยอย่างนี้นะ

“...”

แทบไม่ต้องเดาเลย.. อาหารมื้อนี้แทบจะไม่อร่อยเลยสักนิด และสีครามก็มองเหมือนผมเป็นตัวปัญหา ทั้งๆที่ผมไม่ได้เต็มใจจะมาเลยด้วยซ้ำ

“ทำไมต้องพาคนที่เป็นปัญหามาด้วยทุกทีเลยนะ”

“ถ้าที่คุณพูด มันหมายถึงผม ต่อไปก็บอกคุณเคย์ว่าอย่าชวนผมมาด้วยอีกเลยนะครับ”


.............


 พอกลับมาถึงบริษัท ผมและเคย์ก็แยกตัวออกมาทำงาน สารพัดงานที่กองอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมด ..นี่เหรอ ที่เรียกว่าไม่มีงานของเขา มันกองอยู่จนแทบจะล้นโต๊ะเขาอยู่แล้ว และคนที่ต้องช่วยเขาจัดการตารางงานพวกนี้ก็คงไม่พ้นผม
ทั้งวันผมวุ่นวายอยู่กับการจัดงานเขาให้เข้าที่เข้าทาง ส่วนเขาก็นั่งเซ็นต์ไปเรื่อยๆโดยได้เดือดร้อนอะไร แล้วไหนละ คำพูดที่ว่าทำอะไรไม่เป็นของเขา ..


10.49 น.

ผมปิดปากหาว ก่อนที่จะลุกขึ้นบิดไล่ความขบเมื่อยออกจากร่างกาย งานทุกอย่างถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ  วันนี้มันเป็นวันที่ผมทั้งเหนื่อยกายและหนักใจ มันน่าอึดอัดนะที่มีคนจ้องตลอดเวลาที่ทำงาน งานของเคย์มีแค่ตรวจเอกสารและเซ็นต์นิดๆหน่อยๆ เขาก็มีเวลาว่างแทบจะทั้งวัน นั่งดูผมทำงานกองโต

“เสร็จแล้วเหรอครับ”

“ครับ” ตาผมแทบจะปิดแล้ว ..ทั้งง่วงทั้งเหนื่อย ผมอยากกลับไปอาบน้ำและเข้านอนเร็วๆ จะได้ผ่านๆวันแบบนี้ไปสักที

ก๊อก ก๊อก

คีย์เดินมึนตึงเข้ามาในห้อง ..ไม่รู้ทำไมแต่พอผมเห็นหน้าเขาแล้วผมถึงเหนื่อยมากขึ้น ..เขาดูจะโมโหทั้งวัน นั่นทำให้เขางี่เง่าและไร้เหตุผล

“ทำงานกันเสร็จแล้วใช่ป่ะ งั้นกูขอตัวโรมไปละกัน”

“ได้ไงอ่ะ เดี๋ยวผมขับรถไปส่งเขาเองก็ได้ พี่กลับไปส่งสีครามเหอะ”

“อย่ามาเสือก..”

ข้อมือของผมโดนคีย์ฉุดไปอย่างแรงจนหน้าแทบคว่ำ ความโมโหเล็กๆเริ่มเกิดขึ้นในใจของผม นี่เขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก เมื่อไหร่จะหยุดบ้าสักที !

ผมสะบัดมือออกจากเขา จนคีย์หันมามองหน้าผม และครั้งนี้ผมจ้องเขากลับ อยากรู้ว่าภายในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“เหอะ..”

“อะไร พี่เป็นอะไรอีก แค่นี้ยังบ้าไม่พอเหรอ ?”

“รู้ไว้ซะด้วยนะ..คนอย่างกู บ้าได้มากกว่านี้อีกหลายเท่า” เป็นอีกครั้งที่คีย์กระชากแขนผมอย่างแรง  จนผมแทบจะเบ้หน้าเพราะความเจ็บ เขาเป็นพวกซาดิสม์รึไงกัน ถึงได้ทำแต่กิริยาทรามๆ 

เขาผลักผมลงไปในรถสีดำ ก่อนจะเดินไปนั่งด้านคนขับและขับรถออกไปทันที .. เขาขับรถด้วยความเร็วที่ไม่กลัวจะไปชนใครตาย ฝ่าความมืดเวลากลางคืน มันทำให้ผมรู้สึกทั้งกลัวทั้งโกรธ กลัวว่าตัวเองจะไม่มีชีวิตไปถึงพรุ่งนี้ โกรธที่เขาทำตัวงี่เง่า ไร้การศึกษา เหมือนพวกควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้


รถสีดำมาหยุดอยู่หน้าผับแห่งหนึ่ง ..เป็นผับที่เรียกได้ว่าหรูติดอันดับต้นๆของเมืองไทย และน่าจะเป็นศูนย์รวมยาเสพติดแทบทุบชนิดสำหรับผม ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของที่นี่มาค่อนข้างเยอะ มันเป็นผับหรูที่เป็นแหล่งมั่วสุมชั้นดีของพวกไฮโซที่มีเงิน ...และทั้งชีวิตนี้ ผมไม่เคยคิดจะเข้าไป

คีย์กระชากผมไปตลอดทั้งทาง จนถึงต้องที่มีป้ายติดว่า VVIP .. พอเขาเปิดเข้าไป ด้านในมีผู้ชายอยู่ 3 คน ทุกคนค่อนข้างแต่งตัวดูดี ไม่เหมาะที่จะนั่งอยู่ที่ผับเวรๆนี่แม้แต่น้อย พวกเขาดูน่าจะเป็นนักธุรกิจที่ใสสะอาด ..แต่ก็นะ โลกมายาพวกนี้น่ะ ต่อให้เบื้องหลังพวกเขาเป็นฆาตกรก็ไม่มีใครรู้หรอก

ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆคีย์ หนึ่งในสามคนนั้น ยื่นแก้วน้ำสีใสให้คีย์ ตอนแรกผมแค่คิดว่ามันเป็นน้ำเปล่า ..แต่กลิ่นของมันแรงจนฉุนจมูกไปหมด

“นี่เหรอวะ เลขาของน้องมึง ? ก็ดูดีนี่” ผมได้ยินเสียงคีย์หัวเราะในลำคอ.. ก่อนที่เขาจะพูดประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกหน้าชา และเพิ่งรู้ตัวว่าผมไม่ควรมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก

“หึ.. ก็แค่เด็กขายที่กูซื้อมา ถ้าพวกมึงอยากได้ก็ซื้อต่อไปดิ






---------------------------------------------
อืม..อืมมม เป็นคนที่เเสนดีอะไรอย่างนี้นะ..
วันนี้ลงค่อนข้างดึกนะ 5555
ฝันดีนะคะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เฮ้ออออออออ

จะมาเป็นพระเอกประเภทบริโภคหญ้าเป็นอาหารหลักหรือนี่?
หรือว่าเราเข้าใจผิดเองที่คิดว่าคีย?เป็นพระเอก

ขอเถอะ อย่าเป็นประเภทให้คนอื่นมาข่มขืนนายเอกเลย ไม่นิยมพระเอกประเภทเดรัชฉาน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด