☁เมื่อผมเป็นข่าว‘ฉาว’กับซุปเปอร์สตาร์☁ ตอนพิเศษ3-4-59 P.64
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คิดเห็นอย่างไรหากมีการรวมเล่ม

ซื้อแน่นอน
71 (42.5%)
ไม่ซื้อ
9 (5.4%)
ขอคิดดูก่อน
87 (52.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 167

ผู้เขียน หัวข้อ: ☁เมื่อผมเป็นข่าว‘ฉาว’กับซุปเปอร์สตาร์☁ ตอนพิเศษ3-4-59 P.64  (อ่าน 599963 ครั้ง)

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
 :hao7: น้องเหมียวเมฆ... น่าจะข่วนทิ้งรอยซะหน่อยนะ
แบบว่าให้ตอนคินเปิดประตูมา ทีมงานเขาจะได้ตะลึง :interest:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
โถ เมฆ โดนแกล้งซะแล้ว
เจ้มิวกับเฮียเปรมจะเล่นตุกติกอะไรเรื่องสัญญาไหม ไม่น่ายอมปล่อยมือจากตัวทำเงินให้ค่ายไปง่ายๆ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
อิพี่เหม่งก็นะช่างแกล้งน้องได้ไม่สงสารน้องเลย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อ่านไปยิ้มไปเลยอ่าาาา

แหมมมมมม ภาคินโดนต้มจะเปื่อย น่าสงสารน้องเหมียวเมฆนะเนี่ย

ออฟไลน์ makone

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แมวซ่าโดนใช้งานหนักแล้ว หวัดเล่นงานแน่ๆ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
แหม ก็ไม่เรียกออกมาตั้งนาน    :z1:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ง่อวววววววว สงสารน้องเมฆ ไม่สบายแล้วววว :กอด1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
ดีนะไม่มาตอน กำลังควบอยู่ เอิ๊กๆ

ออฟไลน์ polla_x

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อยากอ่านต่อตอนที่เมฆออกมาจากห้องน้ำ ว่าจะถูกแซวยังไง คินจะร่วมแซวหรือช่วยปกป้อง แล้วอยากดูหน้าพี่มิวด้วย ตอนหน้ามาเล่าต่อใช่มั้ยคะ

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
ทำไมดูทรงจากพี่เหม่งแล้ว เหมือนคินจะโดนตุกติก

จากทางค่ายเลย คิดว่าเรื่องสัญญาเนี่ยไม่จบกันง่ายๆแน่

เอาใจช่วยน้องแมวกับพี่คินนะ  :mew1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ใครก็ได้ช่วยเอานังมิวไปเก็บทีเถอะ น่ารำคาญจริง ส่วนพี่คินรักน้องเมฆมากๆ นะคะ
สงสารน้องต้องหลบในห้องน้ำอ่ะ มันทั้งร้อน ทั้งชื้นเลย คงจะไม่เป็นหวัดนะ

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
สงสาร น้องเมฆมากบอกเลย
แอบอยู่ในห้องน้ำตั้งนาน หนาวตายเลย

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
งื้ออออ น่ารักก ชอบๆๆๆ เราเป็นแฟนคลับคินเมฆ //ชูป้ายไฟ คึคึ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
555555 น่าสงสารน้องแมวจังโดนแกล้งซะแล้ว  :m20:

เจ้มิวทำตัวน่ารำคาญมาก อย่าคิดมายุ่งกับน้องแมวของเฮียคินล่ะ  :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
เมฆตัวเปื่อยไหมนั่น อยู่ในห้องน้ำซะนาน ภาคินรีบพาเมฆออกมาเลยน้า

รออ่านตอนต่อไปจ้า :mew1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่เหม่งกับทีมงานนิสัยไม่ดี แกล้งพี่คินกับน้องเมฆได้ยังงัย  :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
หลบตั้งนาน หลบฟรีเลยเนอะเมฆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ Rambluesky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-3
อยากเขี่ยชะนีมิวออกจากเรื่องมากครับ  :katai1:

รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
ตอนที่๑๗








PK Side

ประตูห้องน้ำเปิดออกก่อนที่ผมจะทันได้เคาะประตูด้วยซ้ำ และเมฆก็โผล่ออกมาด้วยสีหน้ากึ่งโกรธกึ่งขำเช่นเดียวกับผม เขาดูตกใจนิดหน่อยที่ออกมาเจอทีมงานครึ่งโหลรวมตัวอยู่ในห้อง ทำให้ห้องผมดูเล็กลงถนัดตา และเมื่อเมฆออกมาเสียงหัวเราะก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงแซวโห่ฮิ้วส่วนใหญ่มาจากทีมงานผู้หญิงสองสามคน

“หยุดแซวน้องเขาได้แล้วยัยพวกนี้ ออกไปด้านนอกเลยไป ไม่เคยเห็นแฟนภาคินเหรอไง”ผมไม่รู้จะวางสีหน้ายังไงจะขำหรือเก้อเขินดี เมฆกระแอมเบาๆเมื่อหายตกใจแล้ว 

"แล้วก็ให้ผมอยู่ในนั้นตั้งนาน"เมฆขมวดคิ้ว มองพี่เหม่งและก็ทีมงานที่ยังมาออกันอยู่ พี่เหม่งก็หัวเราะเสียงดัง

"เอาน่า...แค่อยากแกล้งไอ้คินมัน พี่ขอโทษแล้วกัน เดี๋ยวเย็นนี้พี่เลี้ยงข้าวเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน"ผมแอบย่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินพี่เหม่งพูด ปกติพี่เขาไม่ชวนใครไปกินข้าวด้วยหรอก เมฆตีสีหน้าไม่ถูกมองหน้าผมเหมือนขอความเห็น พี่เหม่งหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นท่าทางของผม

"เฮ้ยๆ ไอ้คิน ชวนแค่นี้ทำมาคิดมาก ไปกันทั้งทีมนี่แหละ ไม่ได้ไปกันสองคนเสียเมื่อไหร่"ทีมงานที่กำลังม้วนสายไฟหัวเราะ

“ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย ไปไหม”ผมหันไปถามคนข้างตัว

“อืม ไปก็ได้”เมฆตอบเมื่อเห็นสายตาคาดหวังจากพี่ทีมงานสาวๆ ดูท่าเมฆจะมีแฟนคลับซะแล้ว

"คือพี่เหม่ง เมื่อกี้ผมถ่ายช็อตที่น้องเมฆโผล่มาด้วย ผมอยากเอาฉากนี้ไปใส่ตอนท้ายรายการ ผมว่ามันก็ดูน่ารักดี พี่ว่าไงครับ"ตากล้องที่เช็คภาพอยู่ถามขึ้นมา

"คนตัดสินไม่ใช่พี่โว้ย นู่น ยืนหน้ามึนอยู่นู่น"พี่เหม่งพยักเพยิดไปทางเมฆ อันที่จริงผมก็ว่าน่ารักดีหากเอาไปใส่ไว้ช่วงท้ายรายการแต่เมฆจะยอมรึเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะนั่นหมายถึงการเปิดเผยความสัมพันธ์ของเราสองคนมากขึ้น และผมเองก็ไม่อยากจะบังคับเขาเรื่องนี้ 

“อืมงั้นผมขอดูก่อนได้ไหมครับว่าผมทำหน้าตาตลกรึเปล่า”เมฆพูดด้วยท่าทางลังเล เห็นได้ชัดเลยว่าทีมงานหลายๆคนดูโล่งอก เมฆไปหาพี่ตากล้องพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆเมื่อดูภาพในจอมอนิเตอร์

"ก็...มันก็โอเค แต่ผมกลัวว่าคนดูหรือแฟนคลับภาคินอาจจะไม่ชอบ"สีหน้าของเขาดูเป็นกังวล

“เรื่องนี้มันก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบแหละเมฆ อย่าคิดมากเลย หรือว่าห่วงภาพลักษณ์ของไอ้คินมัน"พี่เหม่งพูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้มบางเหมือนจะเดาๆความคิดของอีกฝ่ายออก

“เคยเห็นมันแคร์ด้วยเหรอ”และคำพูดนั้นก็ทำให้เมฆยิ้มออก ผมแค่ไหวไหล่เมื่อเมฆมองมาที่

 "งั้นก็ตามนี้แหละนะ วันนี้ขอบคุณคินมากที่ยอมให้เราเข้ามาถ่ายทำ พี่ก็ไม่รู้นี่นาว่าคินไม่ค่อยพร้อม ก็เห็นคุณมิวบอกว่านายสะดวก งั้นเดี๋ยวไปเจอกันล็อบบี้ด้านล่างนะ จะได้ไปพร้อมกัน …หรือว่าจะเอารถไปเอง"พี่เหม่งที่เดินไปถึงประตูห้องแล้วหันกลับมาถาม

“ผมเอารถไปเองดีกว่าครับ”

“โอเค”แล้วพี่เหม่งก็ยื่นนามบัตรร้านมาให้ผมก่อนที่พี่เขาจะสั่งทีมงานให้เก็บของให้เรียบร้อย ก่อนจะย้ายออกไปที่ห้องนั่งเล่น พี่มิวกำลังเช็คอะไรเรื่อยเปื่อยในแท็ปแล็ตสีหน้าเคร่งเครียดแต่เมื่อเห็นพี่เหม่งก็ยกยิ้มทันที

"เหนื่อยแย่เลยนะคะ พี่เหม่ง"

"ก็ไม่หรอกการถ่ายทำวันนี้สนุกมาก คนที่แย่น่ะเป็นเมฆมากกว่า อยู่ในห้องน้ำตั้งนาน”พี่เขาหัวเราะ

“ก็พี่เป็นคนแกล้งเองไม่ใช่เหรอ”ผมท้วงพลางกอดอกมอง

“ก็นะ…แกทำตัวผิดสังเกตตั้งแต่เปิดประตูห้องแล้วนี่ คือหลังเลิกงานผมเลี้ยงข้าวพวกทีมงาน คินกับเมฆก็ไปด้วย คุณมิวไปด้วยกันไหมครับ”ผมแอบชักสีหน้าเมื่อได้ยินพี่เหม่งชวนผู้จัดการจอมบงการที่กำลังเม้มปากมองผมสลับกับเมฆด้วยสีหน้าครุ่นคิด

"มิวก็อยากไปนะ แต่พอดีต้องเข้าไปคุยงานกับเอเจนซี่ เสียดายจริงๆ หวังว่าคราวหน้าจะได้เจอกันอีกนะคะ"พี่มิวมีท่าทางเสียดาย แน่ล่ะ เรื่องงานต้องมาก่อนอยู่แล้ว แต่ก็ปล่อยให้พี่มิวทำงานไปเถอะ หมดสัญญากับค่ายเมื่อไหร่ ผมกะจะโล๊ะผู้จัดการคนนี้ทิ้ง เพราะพี่มิวเหนื่อยกับผมมามากจริงๆ หึ 

"นั่นสิครับ เป็นผจก.ก็ต้องมีเรื่องให้จัดการเยอะแยะอยู่แล้ว สู้ๆเข้าล่ะ คุณมิว พี่ไปล่วงหน้าก่อนนะ พวกทีมงานรออยู่"พี่เขาหันมาพูดกับผมและเมฆก่อนจะถือกระเป๋าใบใหญ่ออกไป ผมพยักหน้าให้พี่เหม่ง พี่มิวรีรอจนทีมงานออกไปจนหมดก่อนจะหันมามองผมกับเมฆให้อารมณ์เหมือนคุณครูแก่ๆกำลังอบรมลูกศิษย์

"อย่าสร้างเรื่องล่ะ คิน พี่ไม่ห้ามหากพวกเธอสองคนจะคบกัน แต่อยากให้รักษาภาพลักษณ์ด้วย เดี๋ยวจะเสียกันทั้งคู่"

"ขอบคุณครับที่เป็นห่วงเราสองคน ผมไม่ก่อเรื่องหรอกน่า บอกแล้วว่าผมจะเป็นเด็กดี"ผมยิ้มตอบ ส่งท้ายสัญญา พี่มิวเองก็ส่งยิ้มบางๆให้ผมกับเมฆก่อนจะออกไป

"ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปก็ได้นะ เมฆ"ผมกลัวเขาจะอึดอัด

"เฮ้ย ไม่เป็นไรหรอก คิดมากไปได้นะ เมื่อก่อนไม่เห็นจะคิดอะไรเลย"เขาพูดเสียงกลั้วหัวเราะ มองผมอย่างล้อเลียน

"ก็เมื่อก่อนไม่มีนายนี่"ผมพูดหยอก เมฆมองผมอย่างหมั่นไส้ ผมหัวเราะก่อนจะโอบคออีกฝ่ายให้เดินไปด้วยกัน พี่เหม่งเหมาร้านอาหารไว้ ทีมงานอีกครึ่งโหลประจำตามที่นั่งเรียบร้อยแล้ว เว้นที่ให้ผมกับเมฆนั่งคนละฝั่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานเฮฮา และผ่อนคลายจนเริ่มมีการสั่งเบียร์มาประเดิม ผมเองก็จิบๆพอเป็นพิธี

“เนี่ยนะเมี—เอ้ย แฟนผมเขาชอบภาคินมากๆขอถ่ายรูปคู่ด้วยได้ไหม”พี่เก่งเอ่ยขึ้นมาและไม่รอคำตอบ พี่เขาคว้าคอผมก่อนจะดึงให้ไปถ่ายรูปทันที

“เฮ้ย เบาๆเว้ยเดี๋ยวภาคินมันช้ำ ต้องจ่ายค่าเสียหายนะเว้ย”พี่ทีมงานคนนึงสอดขึ้นมาเหมือนกระแหนะกระแหนชอบกล

“แหมพี่ผมไม่ช้ำง่ายๆหรอก ไม่เห็นเหรอตัวผมออกใหญ่ ไม่ได้บอบบางเสียหน่อย”ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะ พี่เหม่งเออออเห็นด้วย

"ได้ข่าวว่าแกจะไม่ต่อสัญญากับค่ายสินะ"พี่เหม่งกระซิบเบาๆ เนื่องจากหลายๆคนมัวแต่สนใจอาหารตรงหน้าก็เลยไม่ค่อยมีใครสนใจผมกับพี่เหม่งสักเท่าไหร่ ผมมองไปรอบๆเพื่อความแน่ใจ

"พี่รู้ได้ไงครับ"

"ดูท่าทีแกก็รู้แล้ว ไม่มีความสุขเหรอ พี่เห็นแกมีข่าวไม่กินเส้นกับต้นสังกัดตลอด"พี่เหม่งพูดตามประสาคนนอก ผมมองเมฆที่กำลังดื่มเบียร์ที่มีทีมงานส่งให้ เมฆแค่ยักคิ้วให้ผม

"ก็ผมอยากออกไปทำอะไรใหม่ๆน่ะครับ"

"คือพี่ก็พอรู้จักค่ายเพลงดีๆอยู่บ้าง ไม่ใหญ่เท่าค่ายที่แกอยู่หรอกนะ"พี่เหม่งเลื่อนนามบัตรให้ผม 'ค่าย N-Entertainment ' ผมเคยได้ยินชื่อผ่านๆมาบ้าง เป็นค่ายเพลงน้องใหม่ที่กำลังขยายตลาด เดิมทีเป็นแค่ค่ายเพลงที่สังกัดศิลปินที่ไม่ค่อยมีชื่อนัก แต่เมื่อต้นปีได้ข่าวมาว่าควบรวมกิจการกับค่ายยักษ์ใหญ่อย่างC&C ที่เป็นต้นสังกัดของศิลปินดังอีกหลายคน

"ไว้ผมจะคิดดูครับ"ผมเก็บนามบัตรนั้นไว้ ก็น่าสนใจมากทีเดียวแต่ช่วงนี้ผมรู้สึกเหนื่อยๆไม่ใช่ว่าเพราะโหมงานหนัก แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากพักยาวก่อนจะกลับมาทำเพลง อาจจะไปสังกัดค่ายเพลงอิสระก็ได้ใครจะรู้

“ถ้ามีเรื่องอะไรที่อยากจะปรึกษาพี่ล่ะก็ โทรมาได้เสมอนะ”รอยยิ้มอบอุ่นทำให้ผมรู้สึกว่าผมยังพอมีที่พึ่งอยู่บ้าง

“ขอบคุณครับพี่เหม่ง”แต่ผมก็อยู่คุยด้วยได้ไม่นานเพราะพรุ่งนี้จำได้ว่ามีคิวงาน แต่ก่อนจะได้ออกไปพวกพี่ๆทีมงานก็มาขอชนแก้วเป็นที่วุ่นวายจนผมมึนๆตึงๆ

“เฮ้ย เบาเดี๋ยวไอ้คินมันก็เมาหรอก”ผมยิ้มแห้งเมื่อดื่มเหล้าที่พี่ตากล้องส่งมาให้จนหมด ร้อนวูบวาบไปหมด ผมรู้ตัวเองดีว่าเวลาเมาแล้วเป็นแบบไหน อย่างเรื่องเมฆ เรื่องที่เมาแล้วขับไปชนคนอื่นเข้าอีก ผมจะกลายเป็นคนวู่วามขาดความยั้งคิดไปเลย ซึ่งก็เกิดขึ้นได้ทั่วไปหากแอลกลอฮอร์เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นผมจึงขอตัวกลับก่อนที่จะติดลมและเมฆจะหน้าตึงไปมากกว่านี้

“ให้ไปส่งไหม แกไหวแน่นะ”พี่เหม่งถามอย่างเป็นห่วงเมื่อผมเงอะงะๆลุกจากเก้าอี้

“ไหวอยู่แล้วพี่ ผมภาคินนะ”ผมหัวเราะก่อนจะยกมือไหว้ทั่วโต๊ะแล้วเดินตามเมฆออกไป ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกร้อนมากกว่าทุกที

"ไหวไหมนั่น"พอผมออกมานอกร้านเมฆก็ถามทันที สายตามองสำรวจผมด้วยสีหน้ายุ่งๆ

"ไหว แค่มึนๆนิดหน่อยเอง"ผมไม่ใช่คนเมาง่ายแต่ถ้าแตะแอลกลอฮอร์เมื่อไหร่แล้วล่ะก็หน้า คอ ใบหูจะแดงมากจนดูเหมือนคนเมา

"เอากุญแจมา เดี๋ยวฉันขับเองดีกว่า"เมฆดูไม่มั่นใจสักเท่าไหร่

"ไม่เป็นไรน่า…ฉันไม่ได้เมา นี่ยังเดินเป็นเส้นตรงอยู่เลย"ผมก้าวไปประชิดตัวเขาที่กอดอกมองผมอยู่เพื่อพิสูจน์ให้ดู

"เอามา"เขาแบมือมาตรงหน้าผม

"เมฆ..."ผมทำเสียงอ่อน หน้าเขาเวลาไม่ยิ้ม ดูไม่น่ารักซะเลย

"ไม่ต้องทำเสียงแบบนั้น นายเมาแล้ว หัดรู้ซะบ้าง"อีกฝ่ายดุ มีคนเดินผ่านมาสองสามคน ผมเกาท้ายทอยไม่อยากต่อล้อต่อเถียงยืดยาวก็เลยส่งกุญแจให้ ก่อนจะเดินไปยังที่จอดรถที่อยู่ห่างออกไป ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหาลูกอมรสมินต์มาอมดับกลิ่นแอลกลอฮอร์ คนที่เดินนำหน้าพึมพำอะไรสักอย่างที่ผมฟังไม่ถนัด อาจจะบ่นผมอยู่ก็ได้ 

ปึก!

ผมเงยหน้าขึ้นพบกับร่างสูงใหญ่ที่ผมเดินชนอย่างไม่ตั้งเข้า สีหน้าของเขาดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดและผมก็ไม่อยากมีเรื่อง

"ขอโทษ"ผมพึมพำก่อนจะเดินเลี่ยงไปหาเมฆที่หันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น

"นึกว่าใคร ที่แท้ก็นักร้องสวะปลายแถว"ผมสะดุดกึกเมื่อได้ยินคำพูดนั้น คำพูดแรงกว่านี้ก็เคยได้ยินมาแล้ว ถึงผมจะไม่ใส่ใจก็ไม่ได้แปลว่าจะทนได้ทุกครั้ง แต่ฝามืออุ่นๆที่สอดเข้ามาบีบมือผมก็ทำให้ผมพอจะยั้งอารมณ์ที่เริ่มขุ่นมัวได้บ้าง

"ไปเถอะ อย่าสนใจเลย"เมฆพึมพำ ปรายตามองเจ้าของคำพูดนิ่งๆ ผมจ้องเจ้านั่นเขม็ง ไม่ใช่เพราะถ้อยคำดูถูกพวกนั้น แต่เป็นเพราะสายตาดูแคลนที่มองไปที่เมฆต่างหาก

"มองแบบนั้นทำไมวะ อยากมีเรื่องเหรอ เหอะ ถ้าคิดว่าเป็นนักร้องแล้วคนอื่นจะไม่กล้าทำอะไรล่ะก็ มึงคิดผิดแล้ว รู้ไหม"ร่างสูงใหญ่เข้ามาผลักอกผมเต็มแรงจนผมเซ

"เฮ้ย ทำแบบนี้ได้ไง"คนที่ใจเย็นกลับมาอารมณ์เสียทันที

"ช่างเถอะ บอกเองไม่ใช่เหรอว่าอย่าสนใจ"ผมยกยิ้มหยันส่งสายตาดุดันไปให้เจ้าคนนั้นก่อนจะพาเมฆไปที่รถ โชคดีที่ไอ้คนนั้นไม่ได้ตามมาหาเรื่องต่อ

"ใจนักเลงเหมือนกันนี่"ผมหัวเราะเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ คนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับยังดูหงุดหงิดอยู่

"มันเป็นฟิลลิ่งน่ะ"ผมเสยผมก่อนจะเอนพิงเบาะรถปล่อยให้อีกคนขับรถไปเรื่อยๆ

"เจอแบบนี้บ่อยเหรอ"ผมลืมตามองเสี้ยวหน้าที่เหมือนกังวล

"อืม มากกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ก็มีโมโหบ้าง แต่ฉันไม่ได้เก็บมาคิดให้รกสมอง คนเกลียดฉันตั้งเยอะแยะถ้าฉันมัวแต่ใส่ใจกับคนเหล่านั้นคงสมองระเบิดพอดี "ผมยิ้มแล้วพูดต่อ

"ไปเที่ยวกันเถอะ"เมฆหันมามองผมทันที

"ไปได้ไง พรุ่งนี้มีงานไม่ใช่เหรอ"

"เบี้ยวไง"ผมตอบทั้งๆที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

"นายเบี้ยวไปคนเดียวเถอะ ฉันมีเรียนแล้วก็อย่าบอกให้ฉันโดดด้วย เพราะฉันเป็นเด็กดี"

"อืม..."ผมต่อสู้กับความยั่วยวนใจที่อยากจะสั่งสอนเด็กดีอีกรอบ ผมหันหน้าหนีไปมองสีสันนอกกระจกรถแทน ท่าจะบ้านะผมเนี่ย

"แวะไปร้านไอ้จอร์นหน่อยสิ"

"หืม จะไปดื่มต่อเหรอ นายมีงานนะภาคิน"เสียงนั้นเข้มขึ้นเรื่อยๆ

"ไม่ได้ไปดื่ม แต่มีเรื่องต้องไปทำ"ผมลูบข้อมือของตัวเอง ผมเคยให้มันสักข้อมือให้เมื่อตอนที่ผมเข้าวงการใหม่ๆ ไอ้จอห์นมันเคยอยากเป็นช่างสัก ไปเรียนอยู่สักพักได้ความรู้มานิดหน่อย ผมเคยสักแค่ข้อความกับลายกราฟฟิกนิดหน่อยเท่านั้น ไม่เคยสักลายที่ต้องลงเงาลงสี แบบนั้นมันเจ็บกว่ามากและก็ลบออกยาก ต้องคิดดีๆก่อนจะสัก

เมฆไม่ได้พูดอะไรอีกแต่เลี้ยวไปยังร้านของไอ้จอร์น ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาไอ้จอร์น รอไม่นานมันก็รับด้วยน้ำเสียงแช่มชื่น

[ว่าไงพ่อซุปตาร์] ผมทำเสียงเหอะใส่

"อยู่ไหนวะ”ผมถามอย่างไม่แน่ใจเพราะมีอยู่สองที่ที่มันจะไปสิง คือร้านมันกับคอนโด

[ร้านดิจะให้อยู่ที่ไหน] มันตอบเสียงกวน

“เออก็นึกว่าอยู่บ้านเมีย”คนข้างๆหันมามองผม

[โธ่ กูไม่ได้เป็นคนติดแฟน …ไม่เหมือนคนแถวนี้]

“เหอะ เดี๋ยวแวะเข้าไป"

[มีเรื่องเหรอวะ? ให้กูจัดโต๊ะไว้ไหม]

“ไม่ว่ะ แค่เข้าไปหามึงเฉยๆ มีเรื่องให้ช่วย”

[ช่วย…อะไรวะ…อ๋อ มึงจะสักเหรอ]

“เออก็นั่นแหละ”

[สักได้เหรอ ผู้จัดการมึงไม่ว่าเรอะ เพิ่งให้มึงไปลบอยู่หยกๆ]

“แค่สักข้อความไม่กี่ตัว”ผมยิ้มพลางหันไปมองคนข้างๆ

[มึงเมาป่ะวะ]

“ไม่ได้เมา พูดมากงั้นกูไม่ไปแล้วนะ”ผมทำเสียงหงุดหงิด

[อ้าว ก็ถามเพื่อความแน่ใจ เดี๋ยวเตรียมเครื่องรอ] แล้วผมก็วางสายจากไอ้จอร์น

“จะไปสักเหรอ”เมฆถามเสียงไม่แน่ใจ ผมยักคิ้วให้

“แน่ใจนะ?ไม่ใช่ว่าสร่างเมามา ตกใจอีกว่าไปสักทำไม”ผมหัวเราะเมื่อได้ยินเมฆพูด

“ฉันไม่ได้เมา ให้ท่องสูตรคูณให้ฟังไหม จะได้เชื่อ”ผมท่องสูตรคูณแม่เก้าให้อีกฝ่ายฟัง เมฆยกยิ้มขำก่อนจะไม่ได้พูดอะไรอีก ดูเหมือนวันนี้ร้านไอ้จอห์นคนจะแน่นเป็นพิเศษ ผมหยิบแว่นตาจากเก๊ะหน้ารถมาสวม

“เข้าหลังร้านเถอะ เดี๋ยวมีคนเห็น”ผมเดินนำเมฆไปยังทางหลังร้าน ผมมีกุญแจสำรองอยู่ด้วย อากาศเย็นๆเล็กน้อย ผมไขกุญแจเข้าไป เมฆชะโงกหน้ามามองพลางย่นคิ้ว

“ทำไมต้องทำไฟมืดๆสลัวๆแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้”

“สไตล์ไอ้จอห์นมัน”ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันชอบแบบนี้ ในร้านก็เลยมีแต่แสงสีหม่นๆลึกลับเหมาะแก่การมั่วสุม เอ๊ะ ผมพูดอะไรออกไป เหมาะแก่การมาเที่ยวของผมต่างหาก ผมเลี้ยวไปด้านซ้ายที่มีห้องเล็กๆติดป้ายว่าห้ามรบกวน เป็นสตูดิโอของไอ้จอห์นมัน ผมเคาะสองสามที

“เข้ามา”ไอ้จอห์นเปิดประตูพร้อมกับหลีกทางให้ผมกับเมฆเข้าไป ภายในห้องมีรูปโปสเตอร์ลายสักเต็มไปหมด ผมเห็นคนข้างๆเบ้หน้านิดหน่อย

“หวัดดีครับเฮีย”

ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเล็กข้างๆโต๊ะที่มีเครื่องสัก กับกระบอกหัวเข็มวางอยู่

“หวัดดีๆ เป็นไงท่าทางแช่มชื่นดีแบบนี้…”ไอ้จอห์นเบาเสียงลงพร้อมกับกระซิบอะไรให้เมฆได้ยินคนเดียว ผมมุ่นคิ้วมองสองคนนั้น ไอ้จอห์นหัวเราะหึๆส่วนเมฆหน้าแดงน้อยๆ

“อะไร”ผมถามไอ้ตัวการ

“เปล๊า”มันไหวไหล่ก่อนจะนั่งที่โต๊ะ มันสวมถุงมือ เมฆนั่งลงข้างๆผม คิ้วขมวดแน่น

“เฮียแน่ใจนะว่าไม่มีเชื้อโรค”คนฟังถึงกับหัวเราะเสียงดัง

“วางใจได้น่า…ถ้าไอ้คินมันจะติดเชื้อมันคงติดตั้งแต่ตอนอายุสิบเก้าแล้ว”ผมยื่นแขนไปให้มันพร้อมกับบอกตำแหน่งที่จะสัก ไอ้จอห์นมองหน้าผมพร้อมกับยิ้ม

“แหมๆ”มันรู้ว่าตำแหน่งนี้เป็นจุดสำคัญของผม ผมเคยบอกมันไว้หลังจากที่เลิกกับพี่มิวไป มันจับๆบีบๆข้อมือของผมอยู่นาน โชคดีที่ผมไม่ใช่คนผอมมากยังพอมีเนื้อมีหนังอยู่บ้าง ไม่งั้นเวลาสักเจ็บแน่ๆเพราะเจอกระดูก

“สักลายนกด้วยนะ”นกเท่ากับอิสระ ได้จังหวะเหมาะพอดี ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดให้มันดูที่ลายที่ผมเลือกไว้ มันย่นคิ้วมองหน้าผมแต่ก็ไม่ได้ค้านอะไรผมจะสักชื่อเมฆตรงข้อมือและลายนกที่สันข้อมือ ผมมองหน้าเจ้าของชื่อที่ผมจะสลักลงบนผิวเนื้อ อีกฝ่ายมองอย่างกลัวๆกลับมาเมื่อไอ้จอห์นหยิบเครื่องสักที่มีเสียงหลอนๆ อีกอย่างผมก็ไม่กลัวเรื่องความเชื่อเรื่องการสักชื่อคนรักด้วย

“เมฆสนใจไหม สักชื่อไอ้คินไหม พี่ทำให้ฟรี”

“ไม่เอาหรอกครับ”น้ำเสียงหวาดหวั่นทำให้ผมหัวเราะ เจ็บแปลบๆจี๊ดๆเมื่อหัวเข็มลากผ่านเนื้อ แต่อยากเท่ห์ก็ต้องทน คำเตือนคือใจไม่รักจริงสักไม่ได้แน่  เพราะมันเจ็บยิ่งพวกสักลายเยอะๆสีสวยๆนั่นยิ่งเจ็บผมล่ะนับถือเลย เวลาผ่านไปนานเกือบยี่สิบนาทีชื่อของเมฆก็สลักอยู่บนเนื้อหนังของผม ผิวรอบๆรอยสักสีดำแดงเล็กน้อย แสบๆคันๆได้ใจไปอีกแบบ

“มึงสักลายได้แน่นะ ไม่ใช่กูโดนยัยแร้งมาทึ้งหัวทีหลังนะเว้ย”เมฆขำหึทันที

“เออ ได้น่า กูเคลียร์เอง”ไม่ใช่คนจัดการชีวิตผมเสียหน่อย

แล้วจากนั้นไอ้จอห์นก็ไม่ถามอะไรอีก ผมเปิดเพลงฟังคลายเครียด ในระหว่างที่ไอ้จอห์นขะมักเขม้นกับการกรีดผิวหนังเดินเส้นขอบ เมฆลุกไปดูลายสักอื่นๆเหมือนไม่อยากมองผมสักเท่าไหร่

“มึงแดกเบียร์มาเหรอวะ”

“อืม นิดหน่อย ทำไม เลือดออกเยอะเหรอ”เพื่อนส่งเสียงอืมพึมพำในลำคอ ผมเริ่มจะง่วงแต่มาตื่นเต็มตาก็ตอนที่มันลงเงาซ้ำๆ

“ง่วงยังเมฆ”ผมหาเรื่องคุยเบี่ยงเบนจากความเจ็บกลายๆ

“ยัง จะง่วงได้ไง”อีกฝ่ายย่นหน้าใส่ผม ก่อนจะเสยผมตรงหน้าผากที่ชื้นเหงื่อให้ผม ไอ้จอห์นเงยหน้ามองด้วยสายตาล้อเลียน จนเวลาล่วงไปเกือบๆสองชั่วโมงก็เสร็จ ไอ้จอห์นเอาพลาสติกปิดแผลจนเสร็จ 

“มึงโอเคแน่นะ”มันถามและผมก็รู้ว่ามันไม่ได้หมายถึงแผลรอยสัก มันคงจะถามถึงเรื่องสัญญาแน่ๆ

“อืม เดี๋ยวก็คงเข้าไปคุยกับต้นสังกัด”ผมเองก็ไม่อยากปล่อยให้เรื่องมันยืดยาว

“แน่ใจนะว่ามึงจะไม่โดนตุกติกเรื่องสัญญา”

“ทางนั้นไม่กล้าหรอก”ในเมื่อผมรู้ความลับของเฮียเปรมว่าเคยกิ๊กกั๊กกับพี่มิวมาก่อน ถ้าตุกติกขึ้นมาล่ะก็ผมแฉแน่นอน

“ไว้ว่างๆจะแวะมาหาว่ะ”ผมคุยกับมันอีกสักพักก่อนกลับ ผมมองนาฬิกาที่บอกเวลาห้าทุ่มกว่าๆแล้ว พรุ่งนี้ผมมีคิวงานตอนแปดโมงเช้า เมฆก็มีเรียน เวลาของผมกับเขาก็ไม่ค่อยตรงกัน คงหาโอกาสเจอกันได้ยากอีกตามเคย

"คืนนี้ค้างคอนโดฉันไหม"ผมตัดสินใจถามออกไป

"ฉันมีเรียน..."เมฆมองหน้าผมก่อนจะพูดต่อ
\
"แต่ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายจนกว่านายจะเข้านอน โอเคนะ"

"โอเค"ผมชูมือให้ เมฆเลี้ยวรถจอดที่คอนโด

"ว่าแต่ส่งฉันเข้านอนด้วยใช่ไหม"ผมพูดหยอก ในหัวคิดไปไกลแล้ว เขาเลิกคิ้วมองผมด้วยสายตานึกสนุก

"แน่นอน ส่งถึงเตียงเลย รับรองหลับสบายแน่" ผมเม้มปากอย่างครุ่นคิด กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะให้เขาอยู่เป็นเพื่อนดีไหม เพราะผมกลัวตัวเองจะฟุ้งซ่านจนไม่ได้นอนน่ะสิ

เมฆดูเพลียๆเมื่อมาถึงคอนโด เขาคุยโทรศัพท์กับแม่ว่าจะกลับบ้านดึกๆ ว่าแต่ทางเดินไปห้องผมมันยาวไกลขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

เมื่อถึงห้องแล้วผมก็พยายามไม่คิดฟุ้งซ่านอะไรทั้งนั้นแม้ว่ากลิ่นหอมอ่อนๆของเมฆจะทำให้ผมหวิวๆในอกก็เถอะเขาเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาของกิน ผมเดาะลิ้นเบาๆ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ

"ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ เหม็นกลิ่นเบียร์"ผมโยนกุญแจรถลงบนโซฟาก่อนจะเข้าไปในห้อง

สายน้ำเย็นๆไม่ได้ชำระความคิดฟุ้งซ่านออกไป แต่กลับปลุกปั่นอารมณ์ของผมให้ปะทุมากกว่าเดิมก็ได้ สงสัยเพราะแอลกลอฮอร์ที่ไหลวนอยู่ในกระแสเลือดล่ะมั้ง เหมือนเมื่อครั้งที่ผมเจอเมฆครั้งแรกตอนนั้นผมกำลังเครียดเรื่องข่าวที่บานปลายเกินจริง สายตาดันเหลือบไปเห็นเขาเข้า ผมสะบัดความคิดไร้สาระออกไป พยายามทำให้อารมณ์สงบนิ่งเหมือนเดิม แต่ผมก็เอาแต่นึกถึงเมฆ ทุกอย่างที่เป็นเขากระตุ้นความรู้สึกอีกครั้งก่อนที่ผมจะช่วยตัวเองปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านั้นออกมา ผมเปิดน้ำให้แรงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้คนที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงที่อาจหลุดรอดออกไป

ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าปกติเพราะต้องทำความสะอาดแผลหลังการสักด้วย หลังจากที่เช็ดแผลจนแห้งและทายาฆ่าเชื้อเสร็จแล้วผมก็ออกไปด้านนอก ผมรู้สึกปรอดโปร่งขึ้นและความอ่อนเพลียที่สะสมมาทั้งวันเริ่มออกฤทธิ์ผมหาวนอนก่อนจะมองเมฆที่กำลังกินข้าวผัดที่ส่งกลิ่นหอมฉุยอยู่

“กินไหม”อีกฝ่ายถาม ผมส่ายหน้า ถ้าเลี่ยงได้ผมก็ไม่อยากทานอาหารตอนดึกสักเท่าไหร่

“ง่วงแล้วเหรอ”ผมพยักหน้าอยากจะรู้ว่าเขาจะส่งผมเข้านอนแบบไหน

“เอาล่ะ ฉันจะเล่านิทานให้นายฟัง”ผมขมวดคิ้วขณะที่เอนตัวพิงหัวเตียง

“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ”

“งั้นร้องเพลง”ผมเลิกคิ้วใจก็อยากจะลองฟังเสียงเมฆบ้างแต่ตอนนี้ผมง่วง ผมหาวนอนให้อีกคนดู เมฆหัวเราะก่อนจะโน้มตัวมาใกล้ผม จรดริมฝีปากลงที่หน้าผาก เปลือกตา จมูกและเลื่อนมาที่ริมฝีปากของผม เราจูบกันเนิ่นนาน เมฆผละออกมามองหน้าผม

“ฝันดีนะ ภาคินแล้วก็…สู้ๆล่ะ”

แค่นี้ผมก็นอนหลับสนิทมากกว่าทุกวัน





☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉☉





ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4

ผมเข้าบริษัทด้วยอารมณ์แจ่มใสหลังจากที่ส่งข้อความเสียงไปปลุกเมฆ ผมพยักหน้ายิ้มให้กับพี่ๆในค่าย พี่มิวเดินตามหลังผมมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หลังจากที่ฝ่ากลุ่มนักข่าวฝูงใหญ่มาได้

“ทำไมพี่ไม่ตอบไปตามตรงล่ะครับ ว่าเราไม่ลงรอยกัน”ผมถามเสียงเย้าหยอ ก่อนจะเข้ามามีนักข่าวคนหนึ่งถามผมเรื่องข่าวลือการเปลี่ยนตัวผู้จัดการส่วนตัว ผู้หญิงข้างๆไม่ได้ตอบอะไร ผมเข้าไปในลิฟท์ที่เปิดค้างอยู่พอดี มีคนรออยู่ก่อนแล้วเจเจนั่นเอง

 “ไง เจสบายดีนะ”ผมเอ่ยทักตามปกติ พักนี้เจเจเดินสายโปรโมทอารมณ์อยู่ผมจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นเขามีท่าทางเหนื่อยๆแต่ก็แกล้งถามกวนประสาทไปอย่างนั้น เจเจยิ้มให้ผมก่อนจะไหว้พี่มิว

“ไม่ค่อยดีครับ ผมรู้สึกเหมือนหัวโตกว่าตัวอีกแหน่ะ แบบว่าเหนื่อย”

“สู้ๆล่ะ”

ผมกดโทรศัพท์เมื่อข้อความจากเมฆส่งกลับมา

‘วันนี้สอบอวยพรหน่อย’

สอบเหรอ?เมื่อวานก็ไม่ได้อ่านหนังสือเพราะอยู่กับผมตลอด นี่ผมทำให้เขาเสียการเรียนรึเปล่าเนี่ย

“ไม่ได้อ่านหนังสือก็พยายามให้เต็มที่ สู้ๆ ถ้าคะแนนแย่ฉันจะตีนาย”ผมกรอกเสียงลงไปก่อนจะกดส่ง อีกสองคนที่ยืนอยู่เงียบๆเหลือบมองผม

“คินไปสักเพิ่มมาเหรอ”พี่มิวที่เพิ่งสังเกตเห็นคว้ามือผมไปดูแต่เมื่อเห็นว่าผมสักชื่อใครลงไป พี่เขาก็ปล่อยพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ

“พี่บอกแล้วไง…”

“แค่นี้เองจะเป็นไรไป คนมีรอยสักดูไม่ดีตรงไหน”ผมขึ้นเสียงใส่อย่างหงุดหงิด เจเจขยับตัวไปมาเหมือนทำตัวไม่ถูก

“แต่”

“หึ ต่อไปนี้พี่จะไม่ต้องเหนื่อยพูดกับผมอีกแล้ว”ผมยิ้มให้พี่มิวที่อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็หุบลงหวังว่าพี่เขาจะเข้าใจนะ ไลน์ผมเด้งขัดจังหวะอีกครั้งและผมก็อารมณ์ดีขึ้น

‘ฉันสิ ที่ต้องตีนาย’

“งั้นลงโทษฉันเยอะๆเลยนะ เสร็จธุระแล้วจะโทรไปนะ”ผมส่งกลับ เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้นหกห้องของเฮียเปรม ผมแปลกใจนิดหน่อยที่เจก็ออกมาด้วย

“มีธุระกับเฮียเหรอ”ผมถาม

“ครับ แต่พี่เข้าไปก่อนก็ได้”เจเจไหวไหล่ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้นวมหน้าห้อง พี่มิวเองก็ยืนเคว้งอยู่ตรงนั้น ผมเคาะประตูก่อนจะเข้าไป ร่างท้วมที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเงยหน้ามองผมพร้อมกับส่งยิ้มใจดีดูอบอุ่นมาให้

“นั่งก่อนสิ ภาคิน”

“ขอบคุณครับ”ผมนั่งลงก่อนจะประสานมือลงบนตัก รอให้อีกฝ่ายเริ่มบทสนทนาอย่างใจเย็น

“เราคงรู้อยู่แล้วล่ะสิว่าวันนี้เรียกมาคุยเรื่องอะไร”

“ครับ เรื่องสัญญา”ผมยิ้มเห็นซองเอกสารวางอยู่บนโต๊ะ

“เฮียจะไม่อ้อมค้อมนะ ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าตอนนี้บริษัทของเราไม่ค่อยจะมั่นคงสักเท่าไหร่ เฮียเองก็ละอายที่ต้องพูดแบบนี้ ตอนนี้มีค่ายเพลงจากฝั่งตะวันตกสนใจร่วมงานกับเธอ ถ้าหากว่าเธอสนใจเราค่อยมาตกลงกันก่อนดีไหม นี่ก็เป็นความฝันของเธอไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ครับ เคยเป็นความฝันของผม ตอนนี้ผมไม่สนใจการไปตีตลาดต่างประเทศแล้ว มันเคยเป็นความฝันลมๆแล้งๆความคิดแบบเด็กๆที่อยากมีชื่อเสี่ยงโด่งดัง ตอนนี้ผมอยากจบเรื่องสัญญามากกว่า”ผมพูดอย่างใจเย็น ตอนนี้ผมมีสิ่งที่ทำให้ผมอยากหยุดอยู่แค่นี้แล้วมองหาสิ่งที่เรียกว่าความสุขจริงๆต่างหาก เฮียเปรมถอนหายใจ

“เฮียรู้ว่าเธอโกรธที่ครั้งแรกเฮียได้ปัดข้อเสนอแบบนี้ไป ตอนนั้นเธอเองก็รู้ว่าตัวเธอยังไม่พร้อมที่จะไปยังจุดนั้น”ผมกลอกตาอย่างเบื่อหน่ายแบบไม่คิดรักษามารยาท

“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อคุยเรื่องเก่าๆนะเฮีย ไม่ว่าเฮียจะเอาเงื่อนไขแบบไหนมาล่อผมก็ตาม ผมไม่หลงกลอีกแล้ว ที่ผ่านมาถือผมตอบแทนให้เฮียไปหมดแล้ว”

“ผมจะพูดให้ชัดเจนว่าผมปฏิเสธการต่อสัญญา”ผมเลื่อนซองเอกสารที่อยู่ตรงหน้าผมคืนกลับไปให้อีกฝ่าย

“เราควรจะคุยกันดีๆ ผมไม่อยากขุดเอาเรื่องแย่ๆมาแบล็คเมล์เฮีย”อีกฝ่ายดูโมโหขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินผมพูด

“เฮียก็ไม่คิดว่าเธอจะร้ายกาจถึงขั้นนั้นหรอก”

“ครับ ผมไม่ทำหากเฮียไม่เล่นตุกติกกับผม”อีกฝ่ายถอนหายใจ

“ก็ได้ แต่”ผมเลิกคิ้ว ยังจะมีแต่อีกเหรอ

“ช่วงที่เหลือเฮียอยากให้เมฆทำงานอย่างเต็มที่ เร็วๆนี้จะมีโปรเจคใหญ่ของเธอกับเจเจ ”อย่าบอกนะว่าจะให้ผช่วยดันเจเจ ที่หมอนั่นมารอพบเฮียเพราะเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า

“โปรเจคแบบไหนครับ”

“เราได้จับมือกับค่ายBM Entertainment เพื่อทำโครงการประกวดร้องเพลง”ผมเลิกคิ้วอีกครั้ง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมและเจเจด้วย

“เธอกับเจ้าเจจะเป็นตัวหลักในรายการนี้ในฐานะกรรมการ แล้วก็อาจต้องทำเพลงกับเจเจเพื่อขึ้นแสดงโชว์ ฉันมีเซอร์ไพรส์ให้เธอด้วยนะ”ผมรอฟังอย่างเบื่อหน่าย รายการที่ว่ามาก็น่าสนใจอยู่

“อะไรครับ”

“เพื่อนของเธอที่ชื่อ…อะไรนะ เพชรน่ะ ก็เป็นหนึ่งในกรรมการ”ผมแค่หัวเราะไอ้เพชรมันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานเพลงเลยหรือเอามันมาเรียกเรตติ้ง ตอนนี้ผมกำลังกังวลว่าต้องร่วมงานกับไอ้เจยังไง มันร้องเพลงแนวป็อปใสๆ จะให้ผมกลับไปสวมแนวเดิมอีกแล้วเหรอ น่าอึดอัดจริงๆ

“รายละเอียดอื่นๆ ผจก.ของเธอคงจะบอกเธอทีหลัง เฮียเห็นว่าเธอสนใจทำโครงการประกวดร้องเพลงก็เลยตกลงกับทางBM”

“รู้สึกซาบซึ้งใจจังครับที่เฮียลงทุนขนาดนี้”อีกฝ่ายยิ้มกับถ้อยคำแดกดันกลายๆ

“ถือเป็นการตอบแทนให้เฮียครั้งสุดท้าย เธอจะยอมร่วมโปรเจคนี้ไหม”

“ผมขอดูรายละเอียดอีกที เดี๋ยวจะให้คำตอบครับ สวัสดี”ผมยกมือไหว้ลาอีกฝ่ายที่ยิ้มมาให้ผม ยังไงๆผมก็ต้องเห็นรายละเอียดโครงการว่าใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ ผมไม่มีทางตกหลุมของตาแก่นี่อีกรอบหรอก





TBC.
ตอนหน้าเป็นตอนของเมฆตามปกตินะคะ
ขอบคุณที่ติดตาม :กอด1: :pig4:

ตำแหน่งรอยสักของภาคินอยู่ตำแหน่งนี้ เผื่อใครนึกภาพไม่ออก
เท่มาก  :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2015 12:45:21 โดย DuenTwinBII »

ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด