อันนี้ขอมองเป็นกลางเลยนะ เพราะพอจะเข้าใจเนื้อเรื่องต่อไปบ้างแล้ว
ความรู้สึกของแนนล่ะ? อันนี้ถามตรงๆ แนนไม่มีความรู้สึกหรือ? ตลอดเวลาที่ทอร์ชคบกับแนนก่อนมาเจอเอฟอีกครั้ง แนนจะรู้สึกอย่างไรดีเอ่ย? ทำอะไรก็คิดบ้าง ถ้าอยากได้โอกาศ ทำไมไม่ตามหาลูกหาเมียไม่เข้าใจรออะไรล่ะ รอความบังเอิญหรือ? 4 ปีที่เอฟรอมา มันนานไปเลยเปล่า และ 4 ปีที่ว่านี้ มันช้าไปไหมสำหรับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่ออ่ะ? คุณไม่ตามหา พอถึงเวลาคุณมาเรียกร้อง มันไม่ใช่ลูกผู้ชายนะ ถ้าบอกว่าตามหาแล้ว หาเต็มที่หรือเปล่า ตลอดเวลาก่อนคุณเจอเอฟ คุณอาจจะมีความสุขกับงานและผู้หญิงมากหน้าหลายตา แล้วพอมาแบบนี้ คืออะไรดีอ่ะ? เอฟควรพูดป่ะ "รู้ไหม ฮึก รอมาตลอดเลยนะ ทำไมเพิ่งมาล่ะ ฮึก" แบบนี้หรือ? นายเอกไม่มีจิตใจอย่างนั้นหรือ?
และต่อให้ทอร์ชบอกว่าตามหาจนพลิกแผ่นดิน ถ้าตามหาเอฟจริง ทำไมถึงมีแฟนใหม่? อย่ามาบอกว่าตัดใจหมดหวังแล้วพอมาเจอก็ได้กำลังใจอีกครั้ง แล้วมีแฟนใหม่ทำไม?
จากที่อ่านมารู้สึกว่านายเอกไม่เข้มแข็งมากพอในท้องเรื่องของตัวละคร พูดกันตามจริงมันเหมือนเป็นบทที่ถูกวางมาว่า "ต้องยอมพระเอก" และบางประโยคที่เอฟจะใช้เถียงเพื่อไม่ยกลูกมันสามารถพูดได้มากกว่านั้น ยกเหตุผลร้อยแปดขึ้นมาได้แต่ทำไมถึงพูดได้แค่ว่า "จะไม่ไปไหนทั้งนั้น?"
และในส่วนของพระเอก อันนี้ขอพูดตรงๆ "ไม่มีจิตใต้สำนึกของความเป็นคนและความเป็นพ่อ" เพราะถ้ามีจริงๆ ไม่รอจนลูกโตหรอก บางคนลูกเมียหายแม้จะตามหาเป็นสิบยี่สิบปี เขายังไม่มีแฟนใหม่เลย เหมือนบทจะวางให้พระเอก "อยู่เหนือนายเอกทุกด้าน" ไม่ให้นายเอกสามารถหลบหลีกได้เลย มาถึงก็บังคับจะให้ไปอยู่ด้วยและมาขอโอกาส มากไปไหม? เวลาที่เหลือทำอะไร
แล้วมันคือจุดบอดในหลายๆอย่างโดยเฉพาะคำว่า "แฟน กับลูกเมีย อันไหนสำคัญกว่า" ไม่ควรออกจากปากทอร์ชด้วยซ้ำ ถ้าสำคัญจริง คบแนนทำไม? อย่าให้คำว่า "พระเอก" ที่แปะบนหนังหน้ามาตัดสินว่าทำอะไรมีเหตุผลและถูกต้องเสมอ ว่ากันตามจริงประโยคนั้นมันต้องไม่ถูกเอ่ยมาด้วยซ้ำ
พระนาง มันเป็นของคู่กันแยกไม่ได้ แต่บางครั้งตัวละครผู้หญิงตัวที่สองมักไม่เคยได้รับความยุติธรรมเลย ยกตัวอย่าง แนนเอาง่ายๆ เธอจะรู้สึกอย่างไรดีอ่ะ คนที่พี่ชายเธอชอบอยากได้เป็นแม่ของลูก และคนที่บ้านเธอให้ความต้อนรับความอบอุ่น เธอก็เป็นน้องสาวของหมอที่ดี ดูสนิทกับเอฟระดับหนึ่ง แต่ถ้าเธอรู้ว่า แฟนเธอจะทิ้งเธอเพราะเจอเมียและลูก เธอจะรู้สึกอย่างไรอ่ะ "ไม่เป็นไรแนนเข้าใจ ทอร์ชกับเอฟเหมาสมกันนะ น้องจีก็ได้เจอพ่อแล้ว" อย่างนี้หรือ? หรือว่าบทพลิกผันจริงๆ แนนคือตัวละครที่เล่นว่าคบทอร์ชเฉยๆเพื่อสังเกตุปฏิกิริยาของเอฟ ทั้งๆที่สองคนนี้สนิทกัน เป็นเพื่อนกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกัน หรืออะไรดีอ่ะ?
ถ้าทอร์ชไม่คบแนน จะเชียร์สุดใจขาดดิ้นเลย แต่ประโยคที่ผู้ชายไม่ควรพูดเมื่อคิดจะเป็นพ่อของลูกกับพูดออกมาคือไรดีอ่ะ? ต้องการอะไร? แล้วเอฟก็ดูยอมไปทุกอย่าง มันไม่ใช่ ทอร์ชขอโอกาศแต่บังคับให้ไปอยู่ด้วยกันทำเพื่ออะไรอ่ะ? เขาอยู่ของเขามาตั้งนานอยากได้โอกาศ ทำไมไม่เริ่มต้นจีบเอฟใหม่ เริ่มทำดีล่ะ จะพาไปอยู่ด้วยทำไม
เดาเนื้อเรื่องล่วงหน้าได้หมดเลย ถ้าเอาเอฟไปอยู่ด้วยมันต้องมีดราม่าด้านความสัมพันธ์เกิดขึ้นมาแน่ๆ อ่านแล้วหงุดหงิดกับพระนาง ความสมเหตุสมผลอยู่ที่ไหนดีอ่ะ? ทอร์ชมาถึงก็ข่มๆๆๆ เอฟก็ยอมๆ ขนาดเถียงยังอยู่แค่ลูปเดิมๆ ไม่คิดเหตุผลอื่นมาแย้งหน่อยหรือเช่น
"ตลอดเวลารออะไรอ่ะ มาขอโอกาสตอนนี้ช้าไปไหม? ไม่เห้นแก่ตัวไปหน่อยหรือ? คุณมีแฟนแล้วนะ จะมาหาลูกผมก็ไม่ว่าหรอกแต่ให้เกียรติแฟนคุณด้วย พูดอย่างนี้ได้อย่างไร" มันควรเป็นประโยคที่เอฟควรจะพูด เพราะบ้านของคุณหมอก็ดีกับเอฟนะ แต่ทำไมไม่พูดอะไรที่ปกป้องแนนเลยนอกจากคำว่า "แนนเป็นแฟนคุณนะ" แค่นี้หรือ? เฮ้อออออออ
ปล. ขอโทษนะครับถ้าเราติเยอะไปหน่อย แค่อ่านแล้วอินไปนิด แต่เราแค่อยากบอกเฉยๆว่า น้ำหนักของตัวละครอยากให้มีความสมเหตุสมผลกว่านี้อีกหน่อย โดยเฉพาะประโยคโต้เถียงเพิ่มลงไปสักนิด เรื่องจะลื่นไหลเลยทีเดียว
เนื่อเรื่องน่าติดตามอยู่ไม่น้อย แต่ที่ยังขาดอยู่ส่วนน้อยคือความสมเหตุสมผล
ลูกต้องมีพ่อมันก็ใช่ แต่พ่อที่มีแฟนใหม่แล้วกลับมาบอกตัวเองว่าเป็นพ่อหนูนะ เด็กควรรู้สึกอย่างไรดี นี่แม่ นั่นพ่อ นั่นแฟนพ่อ?
เราอยากบอกว่า ตัวละครแนนจะเป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุดเลย เพราะเธอเป็นผู้หญิงและเธอเองก็ดูจะรักทอร์ชมากด้วย