[4]
หนึ่งวันนั้น...ยาวนานแค่ไหน...
“อีรอสเจ้าดูนี่นะ” มิคาเอลสะกิดเรียกเจ้าอสุรกายที่เดินไปเดินมา สำรวจตรงนั้น ตรงนี้คล้ายเด็กน้อยเพิ่งได้รู้จักโลกกว้าง
มันมองตามเสียงเรียกของมิคาเอล ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เขาราวกับถูกแรงดึงดูดมหาศาล แล้วสิ่งนั้นเองที่ดึงสายตาของมันไป...
ดอกไม้เวทมนตร์ที่มิคาเอลเสกมันขึ้นมา...รีดเค้นจากพลังอันน้อยนิดที่เหลืออยู่...
แว่วได้ยินเสียงลอยมาตามลมว่า ‘มิคาเอลท่านไม่ควรทำเช่นนี้...พลังของท่านจากที่ข้าสัมผัสได้เพียงบางเบา...บัดนี้ ข้าแทบจับสัมผัสอะไรในตัวท่านไม่ได้เลย...’ โรโดร่าดอกน้อยเอ่ยออกมาเสียงเศร้า
‘ใช่...ท่านอย่าทำเช่นนี้อีกเลย...พวกข้าของร้อง’ เจ้าทิวลิปดอกตูมเสริม
‘ท่านทำเช่นนี้ ท่านไม่รักพวกข้าแล้วหรือไร เหตุใดจึงทำเช่นนี้เล่า’ ไลซิแอนทัสขาวบริสุทธิ์ตัดพ้อ ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงร้องห้ามของดอกไม้นานาพันธุ์
ได้ฟังเสียงที่แสดงถึงความห่วงใยนั้นมิคาเอลก็ฉีกยิ้มอ่อนโยน
‘ขอบใจนะพวกเจ้าที่เป็นห่วงข้า...แต่อย่าได้เศร้าใจไปเลย ถึงข้าไม่อยู่แล้ว แต่พวกเจ้าก็ยังมีเขานะ...ได้โปรดอย่าทอดทิ้งเขา...ช่วยดูแลเขาแทนข้าได้ไหม...’ มิคาเอลวิงวอน หากเจ้าดอกไม้พวกนี้ยังเล็กนัก มันมีแต่เพียงความขุ่นเคืองมอบให้กับอีรอสเท่านั้น
เจ้าอสุรกายมองดอกไม้สีประหลาดในมือของมิคาเอลด้วยความชื่นชม ก่อนหน้านั้นมันยังคงเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์ ก่อนจะค่อยๆ เติบโตขึ้นไปทีละขั้น...มันค่อยๆ หยัดรากลงสู่ดิน แล้วแตกก้านขึ้นมา ดอกนั้นยังคงตูมอยู่ แล้วโดยพลันกลีบน้อยใหญ่ก็ค่อยๆ บานออกช้าๆ จนในที่สุดมันก็งดงาม ล้ำค่า...
“เจ้าว่าสิ่งนี้งดงามหรือไม่” ใบหน้าซีดเซียวเอ่ยถาม แม้เสียงของมิคาเอลจะแหบแห้ง จนแทบไม่ได้ยินอะไรออกมาแล้วก็ตาม...หากมันยังคงตรึงอยู่ในใจของเจ้าอสุรกาย...อีรอสได้ยินเสียงอ่อนโยนนั้นแม้จะแผ่วเบาสักเพียงใดก็ตาม... ก่อนจะพยักหน้าออกไป
“งั้นเหรอ...มันงดงามใช่ไหม” ดวงหน้างดงามทว่าซีดเซียวนั้นยังคงพยายามฝืนร่างกายคงพลังนั้นเอาไว้ เอ่ยถามมันด้วยดวงตาที่ยังคงสุกใสอยู่
“เจ้ากุหลาบดอกนี้มันก็เปรียบเสมือนมนุษย์นะอีรอส...ความงามและคุณค่าของมันจะยังคงอยู่...หากไม่มีผู้ใดมาทำลายมัน” มิคาเอลมองกุหลาบสีฟ้าในมือของตนก่อนจะหันมามองเจ้าอสุรกาย
“หากข้าทำลายมันแบบนี้ล่ะ...เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง”
เจ้าอสุรกายมองดอกไม้ที่ถูกมือที่มองไม่เห็นปลิดออกจากก้าน ก่อนที่กลีบบางนั้นจะถูกกระชากดึง และขยี้จนมันไม่เหลือแม้ชิ้นดี แล้วพลันสลายหายไปในที่สุด...
มันมองอย่างไม่ชอบใจที่ความสวยงามนั้นถูกทำลายลง...แล้วมองหน้าซีดเซียวของมิคาเอลอย่างไม่เข้าใจ
“เจ้าไม่ชอบใช่ไหม ที่ความสวยงามนี้ถูกทำลายและหายไป” มันพยักหน้า มิคาเอลยิ้มอย่างอ่อนแรงก่อนจะบอก
“เช่นเดียวกับการกระทำของเจ้าอย่างไร...สิ่งที่เจ้าทำก็คล้ายกันกับดอกไม้นี้...ตัวเจ้านั้นเปรียบเสมือนผู้ทำลาย ส่วนคนที่เจ้าไปฉุดเขามาก็คล้ายดอกไม้นั่น...” นัยน์ตาแดงก่ำราวเลือดนั้นสั่นไหว ความรู้สึกขณะนี้มันไม่รู้ว่าคืออะไรมีเพียงหนึ่งเท่านั้นที่มันเข้าใจได้คือความเศร้า...เจ้าอสุรกายรู้จักดีเลยเชียวแหละ ความผิดหวัง เศร้า เหงา ต้องการ และโกรธแค้น...
“เจ้ารู้สึกไม่ดีใช่ไหม...อยากเห็นความสวยงามของดอกไม้ต่อไปหรือเปล่า...หรือเจ้าเลือกจะเป็นผู้ทำลายต่อไป...บอกข้าได้ไหมอีรอส” มันนั่งนิ่งไปไม่ตอบ ทว่าท่าทีนั้นกลับทำให้มิคาเอลรับรู้ได้ว่ามันก็คงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำ...
“ถ้าเจ้าอยากเห็นความงดงามในแบบต่างๆ ขอเพียงเจ้ามองสิ่งนั้นๆ ด้วยความรัก ไม่ใช่แค่เพียงเพราะความต้องการ ความใคร่ หรือเพราะอะไร” มันมองมิคาเอลนิ่งๆ ก่อนจะหยัดร่างสูงใหญ่ของมันขึ้นแล้วพลันตวัดร่างที่แทบจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเข้าไปในอ้อมแขน พาเขาก้าวเดินไปเรื่อยๆ
“ปล่อยวางมันนะ...ความรู้สึกเจ็บปวดหลายๆ อย่าง ความผิดหวัง ความหวาดกลัว หรือความโกรธแค้น ที่เจ้าเคยได้รับ...ที่ดอกไม้เหล่านั้นต่างก็หลบเลี่ยงเจ้าไม่ใช่เพราะเขาเห็นว่าเจ้าไร้คุณค่า...หรือน่ากลัวแต่อย่างใด หากเป็นเพราะความรู้สึกอันตรายในใจของเจ้าต่างหากที่ทำให้ดอกไม้เหล่านั้นต่างหวาดกลัว...ปล่อยวางความรู้สึกนั้นลง แล้วกลับมาเป็นตัวเจ้าเหมือนเดิม...เจ้า ทำเพื่อตัวเจ้าเองได้ไหม...”
“หรือเจ้าจะทำสิ่งนี้เพื่อข้า...ด้วยได้หรือไม่” แม้จะรู้สึกละอายแก่ใจที่ไปเรียกร้องให้อีกฝ่ายทำเพื่อตน ทั้งๆ ที่ มิคาเอลไม่อาจจะรักษาสัญญากับอีกฝ่ายได้ก็ตาม ทว่า...เขาก็ยังอยากเอ่ยคำนี้ออกมา .
..ทำเพื่อข้า เพื่อดอกไม้และเพื่อตัวเจ้าเอง...มิคาเอลเอื้อมมือที่ไร้เรี่ยวแรงขึ้นไปแตะใบหน้าที่เต็มไปด้วยเกล็ดนั้นเพียงแผ่วเบา มันโอบกอดร่างในอ้อมแขนแน่นขึ้นราวกับจะขอบคุณ...
มิคาเอลยิ้ม...
ขอเวลาข้า อีกเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น... .
.
.
เจ้าอสุรกายวางร่างที่เบาราวขนนกนั่นลงบนโขดหินก้อนใหญ่กลางน้ำตกงาม ก่อนมันจะกระโดดทีเดียวขึ้นไปถึงยอดน้ำตก ก่อนจะกระโดดม้วนตัวลงมาเหมือนต้องการโชว์ให้มิคาเอลดู
เขายิ้มให้มันอย่างชมเชย...มองเพียงภายนอกแล้ว อีรอสคืออสุรกายหยาบช้า กักขฬะ หากไม่ลองมาสัมผัสใครเล่าจะรู้ว่ามันยังคงมีมุมที่ไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อยอยู่มาก
มิคาเอลรู้แล้วว่าที่อีรอสกลายเป็นอสุรกายก็เพราะความต้องการ และความผิดหวังในใจ...เมื่อดวงจิตบริสุทธิ์นั้นถูกความต้องการครอบงำ ก็ง่ายต่อการครอบครองร่างกายของกลุ่มก้อนกิเลสที่หลุดมาจากความนึกคิดในจิตใจของมนุษย์ซึ่งสะสมมานานนับร้อยปี...
ทูตสวรรค์ที่จิตใจแปดเปื้อนนั้น ย่อมง่ายต่อการควบคุมและครอบครอง...
ข้าหวังว่าเจ้าจะปล่อยวางมันได้โดยเร็ววันนะอีรอส...เจ้าจะได้กลับไปเป็นตัวเจ้าเสียที และเมื่อนั้นเจ้าจะได้รู้ว่าโลกไม่ได้ดำมืดเสมอไป ทว่ายังมีอะไรสวยงามซ่อนอยู่เสมอ... เจ้าอสุรกายไม่ทันได้สังเกตเลยว่าร่างของใครบางคนนั้นค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ มันยังคงดำผุดดำว่ายไปมา หางสัตว์เลื้อยคลานก็สะบัดตีน้ำราวกับกำลังสนุกสนาน...
สุดท้าย...หนึ่งวันก็ไม่อาจมาถึง...มิคาเอลก้มลงมองที่มือตนเองก็พบว่าคงไม่นานแล้วที่เวลาของเขาจะหมดลง...ใจหนึ่งก็อยากจะล่ำลา อีกใจก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น...มิคาเอลไม่รู้จะบอกเจ้าอสุรกายเช่นไรดี...เขาโกหกมันไปเช่นนั้นแล้ว...จะยังพูดอะไรได้อีก
อีรอสอาจจะโกรธจนไม่อาจละวางความรู้สึกหลายอย่างลงได้...ทว่า เขามั่นใจว่ามันคงไม่นานหรอก ที่อีรอสจะลืมเขาปล่อยวางความรู้สึกในใจแล้วกลับมาเป็นตัวของตัวเอง...
กว่าครึ่งตัวแล้วที่จางหายไป น้ำใสที่ไหลรินออกมาจากนัยน์ตาที่ยังคงสุกสกาวนั้น หาใช่เพราะความกลัว ทว่ามันเต็มไปด้วยความเศร้าที่จะต้องจากลาไป ความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาเป็นระลอก สุดท้าย...เขายังอยากขอโทษอีรอส.
..ขอโทษจริงๆ หากข้าจะต้องหายไปแบบนี้...หายไปโดยที่ไม่ทันได้กล่าวคำอำลา แต่มันคงจะดีกว่า...หากว่าข้าจะต้องเห็นเจ้ามองข้าด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป ...คงจะดีกว่าหากข้าไม่ต้องเห็นเจ้าเสียใจ... เจ้าอสุรกายมองสิ่งที่อยู่ในมือของตนอย่างชื่นชม ก่อนจะเคลื่อนที่โดยเร็วไปยังใครบางคนที่มันคิดถึงอยู่เสมอ...ใครคนหนึ่งที่ไม่กลัวมัน และเห็นว่ามันสำคัญ...ทำดีกับมัน ทั้งยังคอยบอกคอยสอน...
อีกเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นแล้วที่มิคาเอลต้องหายไป เขาเงยหน้าขึ้นมองเบื้องบน...พระบิดา...ท่านรู้แล้วใช่หรือไม่ว่าควรจะทำเช่นไรเรื่องราวเช่นนี้จึงจะไม่เกิดขึ้นอีก นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะทำมันเพื่อท่าน และเพื่อทุกๆ คนได้...
ร่างที่กำลังสะอื้นแต่เพียงลำพังถูกโอบกอดจากเบื้องหลังโดยไม่ทันรู้ตัว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงคำรามของอีรอส เมื่อมันกลับมาถึงแล้วเห็นร่างของคนที่มันรู้สึกอยากโอบกอดอยากให้อยู่เคียงข้างมันตลอดเวลา กำลังจางหายไป ร่างนั้นสะอื้นแทบขาดใจ เห็นเช่นนั้นมันก็นึกรู้ได้ทันทีว่า...ที่มิคาเอลบอกมันนั้นไม่จริง...
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตานั้นหันมามองมัน หยดน้ำอุ่นๆ รินรดมาโดนเกล็ดของมันเพียงแผ่วเบา เสียงที่แทบไม่ได้ยินนั้นกล่าว “ขอโทษอีรอส...ขอโทษที่โกหก ขอโทษ...ที่หลอกว่าจะอยู่ด้วยกัน”
เมื่อมองสบเข้าไปในดวงตาคู่นั้นมันเห็นเพียงความเสียใจ...เล็บที่เต็มไปด้วยเกล็ดเอื้อมไปปาดน้ำตาเม็ดตาที่รินไหล มิคาเอลยังคงยิ้มให้มันเช่นเคย แต่เป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้า ไม่ใช่รอยยิ้มอ่อนโยนที่เคยมอบให้มันเสมอมา ...แท้ที่จริงแล้ว เจ้าอสุรกายมันรับรู้มาโดยตลอดถึงความผิดปกตินั้น แววที่ที่มองมันราวกับกำลังขอโทษนับหมื่นพันครั้ง ทว่า... มันก็ทำเมิน มองไม่เห็นไปเสีย...เพราะมันเชื่อในคำสัญญา สุดท้ายแล้วมันก็ได้รู้ว่าไร้ค่า...คำสัญญาไม่ได้มีความหมายอะไร...
เจ้าอสุรกายหยิบมงกุฎดอกไม้ที่มันทำขึ้นมาสวมลงบนศีรษะของมิคาเอล แววตาของมันสั่นระริก มองใบหน้านั้นราวกับต้องการจดจำไว้ให้นานที่สุด
มือที่โปร่งแสงของมิคาเอลเอื้อมขึ้นมาแตะที่มงกุฎนั้น ยิ้มให้มันด้วยรอยยิ้มที่หวานที่สุด “สวยจังเลย...ขอบใจนะอีรอส...ข้า...ขอบใจเจ้ามาก และขอโทษที่ไม่อาจอยู่กับเจ้าด้วยกันตลอดไปได้ ขอโทษที่ข้าทำให้คำสัญญาไร้ความหมาย ขอโทษที่ข้า....” ยังไม่ทันที่เสียงสะอื้นนั้นจะทันได้กล่าวออกไปจนจบ เจ้าอสุรกายประทับริมฝีปากลงไปบนกลีบปากบางทันที มันเป็นจูบที่อ่อนโยนที่สุดที่มิคาเอลเคยได้รับมา...
ขอโทษและ...ขอบคุณนั่นเป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่ร่างบอบบางอบอุ่นจะสลายหายไปราวกับอากาศธาตุ เจ้าอสุรกายคำรามลั่นด้วยความเจ็บปวด และแสนเศร้า...
แล้วกลุ่มก้อนสีดำทะมึนก็ลอยออกมาจากตัวของมัน ก่อนร่างที่เต็มไปด้วยเกล็ดนั้นจะหายไปเหลือเพียงเขาคนเดิม...
“มิคาเอล...ข้ายังไม่ได้บอกชื่อของข้าให้เจ้าได้รับรู้เลยใช่ไหม...” เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพูดกับความว่างเปล่า
“มันจะทันไหมถ้าข้าจะบอกเจ้าตอนนี้ ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ยินข้าแล้วก็ตาม...ข้าชื่อ
กาเบรียล...กาเบรียล...”
กาเบรียลไล้ฝ่ามือลงบนโขดหินที่ก่อนหน้านั้นเคยมีร่างของใครบางคนนั่งร้องไห้อยู่ ก่อนจะเห็นดอกไม้ดอกหนึ่งวางอยู่บนนั้น....ดอกไม้ที่เขาเคยทัดหูให้มิคาเอลตอนที่ยังเป็นอสุรกาย
...อย่างนั้นเหรอ...นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เจ้าทิ้งไว้ให้ข้าดูต่างหน้าใช่ไหมมิคาเอล...ข้าควรจะขอบคุณกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำให้ข้าไหม...ขอบคุณที่เจ้าทำให้ข้าเป็นคนเดิม ขอบคุณที่เจ้ายอมเสียสละ...แต่ข้าจะมีความสุขมากกว่านี้...ถ้าเจ้ายังอยู่ข้างกายข้าไม่ห่างไปไหน...
แม้มันจะสายเกินไป...แต่ข้าขอร้องเจ้าบ้างได้ไหม....ได้โปรด...อย่าจากข้าไปเลย....
=====================================//
ตอนหน้าก็จบและน้าาาาาาา
จริงๆ ตอนนี้มันคงจะจบแล้วค่ะ เพราะทีแรกมายวางพล็อตไว้ว่าสุดท้ายสองคนนี้มันก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอก
เห็นทุกคนขอไม่เอาแบบทำร้ายเกินไปทั้งนั้นเลยอ่าาาาา
มายเลยต้องต่ออีกหน่อยอ่ะ T T เห็นใจเขา55 หาคู่ให้อีรอส กาเบรียลใหม่ดีไหมหนอ 555