ตอนที่04
เค้ารางที่ปรากฏ
ทันทีที่หมดเวลาเสียงเฮแสดงความยินดีก็ดังสนั่นด้วยแต้มของฝั่งเจ้าบ้านที่มากกว่า ทั้งๆ ที่โรงเรียนเขาเป็นฝ่ายชนะแต่กอล์ฟกลับรู้สึกหงุดหงิด
“ชนะแล้ว สุดยอดไปเลยเน๊อะ โดยเฉพาะพี่โย ชู้ตแม่นมาก เท่ห์มากเลยอ่ะ”
‘พี่โยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ’ ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันกอล์ฟได้ยินคำนี้จากปากเพื่อนตัวเล็กจนนับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่าเป้ไปรู้จักไอ้พี่โยนี่ตอนไหน ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่อง
“ขอบใจมากนะเป้ มาเชียร์พี่จริงๆ ด้วย ได้กำลังใจเยอะแยะเลย”
ยิ่งเจ้าของชื่อเข้ามาใกล้กอล์ฟยิ่งหงุดหงิด แต่เหมือนว่าเพื่อนสนิทของเขาจะไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าเป็นหมาตอนนี้คงส่ายหางพึบพับน้ำลายหกแน่ๆ
“ไม่หรอกครับ เพราะพี่โยเล่นเก่งต่างหาก”
“เขาก็มาเชียร์ทีมโรงเรียนกันทั้งสนาม กำลังใจไม่เยอะก็บ้าแล้ว”
กอล์ฟพูดลอยๆ แต่จงใจเหน็บอีกฝ่าย ซึ่งรุ่นพี่เองก็รู้ตัว
“ของแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคนเชียร์เป็นใคร เน๊อะเป้เน๊อะ”
ประโยคแรกตั้งใจตอบตัวแถมที่น้องเป้หิ้วมาด้วย
โยยืนฟังเป้แนะนำเพื่อนสนิทให้รู้จัก พลางประเมินหมาหวงก้างไปด้วย สายตาหมอนี่ดูไม่พอใจสุดๆ ที่เขามายุ่งกับเพื่อนสนิทของมัน แต่ใครจะสน เขาสนแค่คนตัวเล็กตรงหน้าต่างหาก
“ผมชอบพี่เวลาอยู่ในสนามที่สุดเลย เท่ห์โคตรๆ”
เป้พูดตาเป็นประกาย ประทับใจลีลาการเล่นของอีกฝ่ายจนเข้าขั้นเพ้อ
“ถ้าชอบก็มาดูพี่ซ้อมตอนเช้าสิ”
“ได้เหรอครับ”
ดีใจจนแทบกระโดดตัวลอย พี่โยใจดีชะมัด ไม่กลัวว่าเขาจะเกะกะด้วย
“เป้!!!! กูจะไปซื้อของแล้ว มึงเสร็จหรือยัง”
กอล์ฟตวาดดังลั่น เขาเรียกเป้ตั้งหลายครั้งหมอนั่นมัวแต่เพ้อบ้าอะไรก็ไม่รู้ ไม่สนใจเขาสักนิด
“อ้อ อื่มเอาสิ พี่โยผมไปก่อนนะครับ เจอกันวันจันทร์นะครับ”
เป้โบกมือลารุ่นพี่ขณะที่ขาก็ต้องพยายามก้าวตามเพื่อนสนิทที่ลากเขาไปยังที่จอดจักรยานให้ทัน
‘หึ ดูซ้อมเข้าเหรอ ไม่มีทาง ท่าเขาไม่ปลุกเป้มันไม่มีทางตื่น’ กอล์ฟแอบวางแผนในใจ จะยอมสละเวลาเล่นบอลของตัวเองหน่อยก็ได้ พอคิดได้แบบนั้น เด็กหนุ่มก็ผิวปากปั่นจักรยานไปยังจุดหมายอย่างมีความสุข
แต่อนิจจา กว่าจะถึงวันจันทร์แผนที่วางไว้ก็ลืมมันไปหมดแล้ว “กอล์ฟตื่นๆ เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”
เสียงนาฬิกาปลุกที่ไม่คุ้นดังขึ้นข้างตัว
“ฝันประหลาดแท้”
กอล์ฟลืมตาขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแก้มคนในฝันเล่น จนอีกฝ่ายโวยวาย
“ฝันบ้าอะไร นี่ความจริงต่างหาก”
คราวนี้กอล์ฟถึงกับตื่นเต็มตา ร้อยวันพันปี ถ้าเขาไม่ปลุกมันไม่เคยตื่น แล้วนี่คืออะไร!!!
‘บ้าไปแล้ว หิมะต้องตกในกรุงเทพแน่’ เด็กหนุ่มมองหน้าเพื่อนสนิทเหมือนคนเห็นผี
“งี่เง่า ไม่คิดจะให้มึงปลุกตลอดไปหรอกน่า”
เป้พูดพลางปัดมืออีกคนออก ก่อนจะโวยต่อ
“ยังนั่งงงอยู่อีก ไปอาบน้ำสิ จะได้ไปหาข้าวเช้ากินกัน”
แล้วจะได้ไปดูพี่โยซ้อมบาส
ประโยคหลังไม่พูดออกไปเพราะดูเหมือนกอล์ฟจะไม่ชอบรุ่นพี่คนนี้เท่าไหร่ เห็นคนเท่ห์กว่าตัวเองไม่ได้ ไอ้คนขี้อิจฉา
กว่ากอล์ฟจะได้คำตอบว่าเพราะอะไรเป้ถึงได้ตื่นเช้าได้ก็เมื่อไปถึงโรงเรียนแล้วอีกฝ่ายแยกตัวไปดูพี่โยซ้อมบาสนั่นแหละ
“เห้ย กอล์ฟมึงเล่นเชรี้ยอะไรชองมึง มีสมาธิเปล่าเนี่ย” เสียงด่าของเพื่อนร่วมทีมดังมาแต่ไกล กอล์ฟถึงได้รู้ตัวว่าเขากำลังเลี้ยงลูกไปทางประตูทีมตัวเอง
“โทษทีกูนอนน้อยไปหน่อย กูพักนะ”
พอเขาเลิกเล่น ก็มีคนเลิกเล่นตาม ก็คนที่เป็นคนตะโกนด่านั่นแหละ ก้องทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คนที่วันนี้สมองรวนเต็มที่ ก่อนจะเอ่ยถาม
“เป็นห่าอะไร”
กอล์ฟสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมัวแต่สนใจเรื่องที่ติดในหัวตัวเองตั้งแต่เช้า จนเพื่อนต้องถามย้ำอีกครั้งถึงได้คำตอบ
“ไม่รู้ดิ มึงว่าบาสแม่งเท่ห์กว่าบอลเหรอวะ”
“ถามไรของมึง”
“เปล่าก็แค่....”
“แค่วันนี้เมียมึงไม่มานั่งข้างสนาม”
เขาเห็นเป้นั่งอยู่ข้างสนามบาสตั้งแต่ตอนที่เดินเข้าโรงเรียน ใครๆ ก็ล้อมันสองคนมาตั้งแต่ประถมยันมัธยม สรุปว่าตอนนี้ไอ้กอล์ฟหวงไอ้เป้ขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ
“ไอ้เป้ไม่ใช่เมียกู”
“กูก็ไม่ได้บอกว่าเป็นไอ้เป้ กูบอกว่าเมียมึง ทำไมมึงคิดว่าเป็นไอ้เป้ล่ะ”
คนถามยิ้มมุมปาก ทำเอาอีกฝ่ายหัวเสียเพราะรู้ตัวว่าหลงกลจนได้
“สัด กูไม่คุยกับมึงแล้ว”
“เห้ยๆ กูล้อเล่น ทุกอย่างมันมีดีของมันเว้ย เพียงแต่คนมองมันจะคิดว่าแบบไหนดึงดูดใจมากกว่า”
“แล้วอย่างกู....”
ไม่ต้องรอให้กอล์ฟพูดจบเขาก็ตอบได้ทันที
“มึงมันน่าขยะแขยง”
“ไอ้เชรี้ยก้อง”
คนโดนด่าหัวเราะร่วน ก่อนจะลุกหนีระยะมือเท้า
“มึงก็ไปถามไอ้เป้เองสิโว้ย”
“ไม่เกี่ยวกับเป้โว้ย ไอ้เวรนี่วันนี้มึงต้องเจอตีนกู”
สิ้นคำ สงสารฝ่าเท้าก็เริ่มขึ้นด้วยเสียงเชียร์จากเพื่อนในสนามที่เลิกเล่นบอลมาดูคนตีกันแทน
เสียงออดเลิกเรียนคาบสุดท้ายดังขึ้นพร้อมๆ กับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของคนข้างตัว กอล์ฟมองตางหลังคนที่วิ่งออกจากห้องไปโดยไม่บอกไม่กล่าว หรือว่ามันจะปวดขี้ แต่คาบก่อนมันก็ขอไปเข้าห้องน้ำแล้วนี่ วิเคราะห์ไปก็เท่านั้น กอล์ฟลงมือเก็บของลงกระเป๋าตัวเอง ก่อนจะเลือกสมุดการบ้านจากใต้โต๊ะยัดลงกระเป๋าเพื่อน
หลังจากนั่งโม้กับกลุ่มข้างๆ อีกสิบนาที เสียงเรียกเข้ามอถือก็ดังขึ้น เป็นเป้ที่โทรมาตามไปห้องสมุด
“ไปทำอะไรห้องสมุด”
“ก็รายงานสังคมไง เอากระเป๋ามาให้ด้วยน้า”
เป้พูดเสียงอ้อนๆ ตามสไตล์เวลามีเรื่องจะใช้งานก่อนจะกดวางสาย
กอล์ฟขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เน็ตก็มีให้ใช้จะไปห้องสมุดเพื่อ บ่นไปงั้น เพราะยังไงเขาเองก็ต้องคว้ากระเป๋าสองใบแล้วเดินตามไปห้องสมุดอยู่ดี
เสียงจอแจที่อยู่ในระดับพอรับได้เป็นเอกลักษณ์ที่พบได้ทุกครั้งที่มา มองซ้ายมองขวาปาดตาหาคนตัวเล็กอยู่สักพักก็เห็นเป้นั่งทำตาเคลิ้มอยู่ตรงโต๊ะแถวๆ ชั้นหนังสือ เขาเดินไปโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง เป้มองเขาแบบตื่นๆ ตอนโดนกระเป๋าเฉียดหน้า
“ไม่เอาฟาดหน้ากูเลยล่ะ”
“ก็กะอยู่”
เป้มองค้อนเพื่อนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะดันหนังสือกองใหญ่ไปตรงหน้าอีกฝ่าย
“เลือกเอาว่าเล่มไหนใช้ได้”
สั่งเขาเสร็จไอ้ตัวเล็กก็นั่งเหม่อ กอล์ฟถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลิกหนังสือดูแค่สองสามเล่มก็รู้ว่า
‘ไอ้นี่มันไปหอบมาทั้งตั้งแบบไม่ได้เลือกเลยนี่หว่า’ หันมองเพื่อนที่ไม่ได้มีสมาธิอยู่รอบตัวเลยแล้วมองตามสายตาอีกฝ่าย
...ทำไมไอ้พี่โยมาอยู่ตรงนี้ได้...แล้วไอ้เป้ตั้งใจมางั้นเหรอ.. “เป้....ไอ้เป้!!!”
เสียงตวาดและแรงฉุดที่แขนทำให้เป้รู้สึกตัว หันมือเพื่อนที่ตอนนี้เหมือนจะโกรธจนควันออกหูอย่างประหลาดใจ
“กูจะกลับบ้าน”
สีหน้ากอล์ฟดูไม่พอใจมากจนคนตัวเล็กไม่กล้าเถียง เพราะคบกันมานานถึงรู้ว่าเวลาไหนมันโกรธแบบกวนต่อได้ แบบไหนห้ามกวนประสาทต่อ ได้แต่เดินตามเพื่อนสนิทออกจากห้องสมุดไปด้วยใจเสียดาย อุตส่าห์ได้มุมดีๆ ส่องพี่โยแล้วเชียว
“เป้ กอล์ฟ เจอพอดีเลย ยืมยี่สิบดิ หิวน้ำแต่ลืมกระเป๋าเงินไว้ห้องโย”
ปอนด์วิ่งโล่เข้าหาสองเพื่อนรักอย่างหาที่พึ่งพิง ทั้งกอล์ฟและเป้ต่างล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนที่กอล์ฟจะเป็นฝ่ายส่งเงินให้เพื่อน
“ขอบใจมาก พรุ่งนี้คืน”
พูดจบปอนด์ก็วิ่งหายไปอีกครั้ง ยังไม่ทันที่กอล์ฟจะออกเดินต่อ ก็โดนเป้ฉุดแขนไว้ก่อน
“มึง กูลืมกระเป๋าเงินไว้ห้องสมุดว่ะ มึงไปรอที่รถเลย เดี๋ยวกูกลับไปเอาแป๊ปเดียว”
ไม่รอให้โดนซัก เป้รีบวิ่งกลับไปยังทิศที่จากมา เดี๋ยวใครมาหยิบไปซวยกันพอดีเงินทั้งเดือนเขายังไม่เอาเข้าธนาคารเลย
วิ่งไปสุดแรงเกิด ในที่สุดก็กลับมาถึงห้องสมุดจนได้ แทบจะพุ่งตัวไปที่โต๊ะที่นั่งอยู่ตอนแรก
“เชรี้ย หายไปไหนวะ”
เป้อยากจะร้อง ก้มมองพื้น มองบนโต๊ะ พลิกหนังสือดู ยังไงก็หาไม่เจอ ตายแน่ๆ กว่าพ่อแม่จะกลับมาก็อีกสองสัปดาห์ ถ้าโทรไปขอต้องโดนว่าแน่ๆ เอาไงดี เด็กหนุ่มคิดหาทางออกให้วุ่น
“หานี่อยู่เหรอ”
ราวกับเสียงสวรรค์ เมื่อมีคนยื่นกระเป๋าเงินที่หาไม่เจอมาตรงหน้า เป้รีบยื่นมือออกไปรับ แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสกับกระเป๋ามือนั้นก็ชักของกลับไปเสียก่อน
เป้มองเงยหน้าส่งสายตาไม่พอใจใส่อีกฝ่าย ทำท่าจะโวยเต็มที่ ก่อนจะพบกับรอยยิ้มกว้างของอีกฝ่าย
...พี่โย... “ไง เมื่อกี้เห็นรีบเดินออกไป นึกว่าไม่เอาแล้วซะอีก”
“เอาสิพี่”
พอเห็นว่าคนเก็บไว้เป็นใคร เป้ก็ยิ้มตอบ วันนี้ถือว่าโชคยังเข้าข้างเขาจริงๆ ด้วย ทั้งได้กระเป๋าคืน ทั้งได้คุยกับพี่โย
“แล้วถ้าพี่ไม่ให้คืน”
“โถ่พี่อย่าแกล้งผมเลยครับ”
“งั้น เอาไลน์มาแลกไป”
“ห๊ะ”
มองสีหน้าตื่นๆ ของรุ่นน้องแล้วโยก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ เป้ชอบทำหน้าตาตลกๆ อยู่เรื่อย รู้สึกชอบมากขึ้นอีกแล้วสิ
“พี่ล้อเล่น เอาคืนไปเถอะ”
พูดพลางยัดกระเป๋าเงินใส่มือรุ่นน้องที่ยังคงทำหน้าเหวอ
“ข...ขอบคุณมากครับ”
มัวแต่งจ้องหน้ารุ่นพี่จนการรับรู้ดีเลย์ เป้อยากจะตีหัวตัวเองแรงๆ ซะจริง ทำไมพอมองหน้าพี่โยใกล้ๆ แล้วตามันพร่าๆ นะ
“อื้ม ไม่เป็นไร ไว้เจอกันนะ”
บอกลารุ่นน้องตรงหน้า แอบเสียดายนิดหน่อย แต่ก็กลัวว่าถ้ารุกเร็วเกินไปเด็กตรงหน้าจะตกใจหรือเปล่า เอาไว้คราวหน้าค่อยหาโอกาสขอก็ไม่สาย
“เดี๋ยวครับ”
คนตัวเล็กรีบเรียกอีกฝ่ายที่กำลังจะหันไปรวมกับกลุ่มเพื่อนเอาไว้ ก่อนจะต่อด้วยประโยคที่ทำให้โยยิ้มจนแก้มปริ
“เรื่องไอดีไลน์จะแลกก็ได้นะครับ”
TBC......
TaLk หายหน้าไปนานมากค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ //กราบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
สำหรับตอนนี้ก็อยากให้อะไรๆ มันชัดเจนขึ้น และหลังจากนี้ก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ ฝากติตตามกันต่อไปด้วยค่ะ //กราบ -อี้หลิง