ประกาศตีพิมพ์ (p.1) (2.7.60) รักต้องซ่อน ตอนที่30 เลิกซ่อน (ตอนจบ) [p.4]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ประกาศตีพิมพ์ (p.1) (2.7.60) รักต้องซ่อน ตอนที่30 เลิกซ่อน (ตอนจบ) [p.4]  (อ่าน 50580 ครั้ง)

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2017 08:16:42 โดย zvonek »

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: รักต้องซ่อน บทนำ [13.10.57]
«ตอบ #1 เมื่อ13-10-2014 23:04:58 »

ประกาศ


สวัสดีค่ะ

วันนี้อี้หลิงแวะมาอัพเดตข่าวสารค่า

ตอนนี้นิยายเรื่อง รักต้องซ่อน ได้ทำการรวมเล่มกับสำนักพิมพ์ Rainy Night เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ กำลังจะเปิดพรี เร็วนี้ค่ะ สามารถติดตามข่าวสารได้ทางเพจสำนักพิมพ์เลยค่ะ https://www.facebook.com/rainynightpublishing/


ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อยู่ด้วยกันมานะคะ

ขอบคุณค่ะ
ระฆังหยกอ้วนกลม  อี้หลิง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2017 08:16:02 โดย zvonek »

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: รักต้องซ่อน บทนำ [13.10.57]
«ตอบ #2 เมื่อ13-10-2014 23:09:25 »

Hide-and-Love รักต้องซ่อน




บทนำ





               "หนึ่ง... สอง... สาม..."

               เสียงนับเลขดังไปทั่วลานเด็กเล่น เหล่าเด็กน้อยรีบกระจายตัวหาที่หลบซ่อน

               "...สิบ...เอายางงงง"

               เด็กชายตัวเล็กหลับตาปี๋ตะโกนถาม ไร้เสียงตอบรับเป็นสัญญาณให้ออกคนหา

               "เราหาแล้วน้า..."

               ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อพบเป้าหมายแรก เจ้าอ้วนที่ซ่อนอยู่หลังกระดานเลื่อนตัวยื่นออกมาเกินครึ่งแต่เจ้าตัวกลับไม่รู้เรื่อง

               “โป้งแฮม" เด็กชายร้องพร้อมกับกระโดดไปจับเพื่อน เจ้าของชื่อสะดุ้งร้องโวยวายตามประสาก่อนจะแอบกระซิบบอกที่ซ่อนเพื่อนอีกคน ไม่ยอมโดนจับคนเดียวหรอกน่า

               ตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะวิ่งไปหาคนที่เหลือ

               ใช้เวลาไม่นานนัก ก็จับได้เกือบหมดทุกคน เหลือก็แต่เด็กผู้ชายที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่มที่ยังหาไม่เจอ

               "เด็กๆ เย็นป่านนี้แล้วทำไมยังไม่กลับกันอีก เดี๋ยวก็โดนดุหรอก"

               เสียงเตือนจากคุณแม่ของหมูแฮมที่มารับลูกกลับบ้านพาเอาเด็กๆ มองหน้ากับเลิกลัก หลายคนตัดสินใจตามหมูแฮมกลับบ้านไป

               "เป้กลับบ้าน"

               เด็กหญิงตัวเล็กตะโกนเรียก เพื่อนที่เมื่อครู่เป็นคนหา น้องเป้ส่ายหน้าดิก

               "ไม่กลับ ยังไม่เจอกอล์ฟเลย"

               เด็กหญิงลังเล แต่ก็กลัวจะโดนดุมากกว่าเลยวิ่งตามคนอื่นกลับบ้านไป 

               "กอล์ฟๆ อยู่ไหน เลิกเล่นแล้วนะ"

               เสียงเล็กร้องเรียก แต่ก็ไร้การตอบรับ

               "กอล์ฟออกมา เราอยากกลับบ้านแล้ว"

               "กอล์ฟ"

               "กอล์ฟ"

               และ

               "ไม่ออกงั้นเรากลับนะ....โอ๊ย"

               ตั้งใจจะหมุนตัวกลับอย่างปากว่า แต่เพราะขาที่ไม่ค่อยแข็งแรง พอทำอะไรเร็วๆ ก็ดันทรงตัวไม่อยู่


               "เห้ย"

               เสียงร้องตกใจดังมาจากบนต้นไม้ใกล้ๆ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะกระโดดลงมา เขาวิ่งไปดูเพื่อนที่ล้มไม่เป็นท่าอยู่ที่พื้น

               "ซี้ด เลือดออกเลยอ่ะ"

               กอล์ฟเห็นแล้วเจ็บแทนเข้าไปประคองเพื่อนแต่กลับถูกผลักจนตัวเซ

               "ฮึก...กอล์ฟบ้า...ไม่ต้องมายุ่งเลย"

               คนเจ็บน้ำตาคลอเบ้า ดูน่าสงสารจนคนขี้แกล้งเริ่มใจไม่ดี

               "อย่าร้องนะ เราขอโทษ"

               "เราเจ็บก็ต้องร้องสิ"

               เด็กน้อยจ้องอีกคนตาขวาง แต่คนมองกลับรู้สึกน่ารักซะได้ ตาโตๆ แก้มแดงๆ อย่างกับตุ๊กตาที่น้องสาวเขาชอบเล่น รู้ตัวอีกที ก็เผลอยื่นมือไปดึงแก้มอีกฝ่ายแบบที่ชอบทำกับน้องสาวตัวเองซะแล้ว

               "นี่ ยังจะแกล้งอีก"

               คราวนี้เป้ปัดมือเพื่อนไปเต็มแรง โกรธจนควันจะออกหูอยู่แล้วนะ

               "โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้ว กลับบ้านกัน เดี๋ยววันนี้ให้ขี่หลังเลยเอาไหม"

               พูดเหมือนพระเอกในซีรีส์เกาหลีที่แม่ชอบดู เวลานางเอกเจ็บขาต้องทำแบบนี้นี่หน่า

               "ได้เหรอ"

               เป้ลังเล เด็กชายชอบขี่หลังพ่อมาก แต่กอล์ฟตัวเล็กกว่าพ่อตั้งเยอะ จะแบกเขาไหวเหรอ

               "ได้สิ"

               ก็เป้ตัวเล็กนิดเดียว ตัวเล็กกว่ากุ๊กไก่น้องสาวของเขาซะอีก

               เด็กน้อยเดินไปตามทางด้วยความคุ้นเคย บ้านสองคนอยู่ตรงข้ามกัน ไม่ต้องเลี้ยวไปทางอื่นให้เสียเวลา

               "ทำไมกอล์ฟซ่อนเก่งจัง"

               เป้เดินหาตั้งนานไม่เห็นเจอตัวเลย

               "เป็นความลับ"

               คนถามจิปากขัดใจ

               "บอกมา"

               "ไม่บอกหรอก"

               "งั้นโกรธแล้วนะ"

               "ตามใจ"

               "กอล์ฟอ่า!!"

               เสียงร้องโวยมาพร้อมกับฝามือเล็กที่ทุกลงกลางหลัง แต่คนโดนกลับไม่โกรธ แถมยังหัวเราะใส่เสียด้วยซ้ำ จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าบ้านของเป้นั่นแหละ

               คนตัวเล็กปีนลงจากหลังอีกฝ่ายก่อนจะเบ้หน้างอนตุ๊บป่องเข้าบ้านไป ทิ้งให้คนเพื่อนสนิทยืนยิ้มอยู่หน้าบ้านเพียงลำพัง

               “...ไว้สักวันจะบอกละกันนะ...ตัวเล็ก”




TBC......




TaLk
สวัสดีค่ะ อี้หลิงค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านนะคะ วันนี้ก็จบไปสั้นกับบทนำค่ะ เรื่องนี้อยากจะลองเขียนอะไรดราม่าดูค่ะ ยังไงก็ฝากน้องสองคนด้วยนะคะ อ่านแล้วเป็นยังไงก็บอกกันได้เน้อ - อี้หลิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 15:25:43 โดย zvonek »

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ตอนที่ 1
เปิดเทอมใหม่




               ‘พี่มอปลาย’ ในที่สุดวันที่เขาจะได้ใช้คำนี้ก็มาถึง กอล์ฟตื่นแต่เช้าต้อนรับวันเปิดเทอมวันแรก

               เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนกางเกงขาสั้นสีดำเดินออกจากบ้านด้วยหน้าตาแจ่มใส ก่อนจะตรงดิ่งไปยังรั้วบ้านฝั่งตรงข้าม

               กริ่งไม่จำเป็นต้องกดเพราะรู้ดีว่ากดไปก็ไม่มีประโยชน์ พ่อแม่ของเป้ไม่อยู่ไปดูแลรีสอร์ทที่ต่างจังหวัด กว่าจะกลับมาก็สุดสัปดาห์หน้า ส่วนเจ้าตัวนั้นก็คงไม่พ้นยังนอนอยู่บนเตียง

               กอล์ฟหยิบกุญแจสำรองที่ห้อยไว้พวงเดียวกับกุญแจบ้านตัวเองก่อนที่จะไขเข้าไป

               เขาเดินเข้าออกบ้านนี้ตั้งแต่จำความได้จนบางครั้งก็คิดว่าเป็นบ้านของตัวเองอีกหลังไปแล้ว

               เด็กหนุ่มเดินตรงขึ้นชั้นสองของบ้าน ตำแหน่งเดียวกับบ้านของเขาในฝั่งตรงข้ามก็คือห้องนอนของเป้

               และเป็นไปตามคาด ไอ้เปี๊ยกเจ้าของความสูงเกือบๆ ร้อยเจ็ดสิบยังคงนอนคุมโปงอยู่บนเตียง

               ไม่ต้องส่งเสียงเรียกให้มากความ ไม่ต้องออกแรงถีบให้ตกเตียง หลังจากทุ่มเทหาวิธปลุกอยู่หลายปี เขาก็ค้นพบ

               กอล์ฟทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าขณะที่เจ้าตัวดึงผ้าห่มทิ้งไปอีกทาง ก่อนที่สองมือจะค่อยๆ ถกเสื้อนอนลายการ์ตูนของเพื่อนขึ้นอย่างช้าๆ คนหลับเริ่มขยับตัวยุกยิกพยายามดึงเสื้อกลับลงไป แต่คนปลุกไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น เขาฝืนมือดึงขึ้นไปอีกจนแทบจะพ้นอกเพื่อนนั่นแหละ เป้ถึงได้รู้สึกตัวจริงๆ

               “เชรี่ยนี่”

               เป้ดีดตัวขึ้นนั่งอัตโนมัติพร้อมสบถแทนคำกล่าวทักทายยามเช้า ตากลมโตจ้องแขกไม่ได้รับเชิญอย่างหงุดหงิดแบบคนโดนรบกวนเวลานอน

               “อรุณสวัสดิ์นะ”

               คนปลุกพูดด้วยสีหน้าที่ดูยังไงก็รู้ว่ากลั้นขำอยู่

               “ไอ้โรคจิต เมื่อไหร่มึงจะเลิกปลุกกูด้วยวิธีนี้วะ”

               วันนี้ถือว่ายังน้อย บางวันเป้ตื่นขึ้นมาก็ไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้นแล้ว อดคิดไม่ได้ ว่าจริงๆ แล้วเพื่อนสนิทเขาเป็นพวกแอบจิตหรือเปล่า

               แต่โวยไปก็เท่านั้น เมื่ออีกฝ่ายไม่สนใจยักไหล่ส่งยิ้มกวนๆ กลับมา

               “ตื่นเองให้ได้ดิ จะได้ไม่ลำบากเรามาปลุก”

               มองจากสีหน้ากอล์ฟแล้วดูยังไงมันก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอย่างปากว่าเลยสักนิด เป้ได้แต่หงุดหงิดกับตัวเองก่อนจะปาหมอนอัดเพื่อนไปที

               “เกะกะ กูจะไปอาบน้ำ”

               สุดท้ายก็จบด้วยผลักอีกฝ่ายให้พ้นทางฮึดฮัดลงจากเตียงไป เหมือนทุกวันที่ผ่านมาก




               “เร็ว ขึ้นมาๆ”

               กอล์ฟที่นั่งคร่อมจักรยานรอร้องบอกอีกคนที่กระหืดกระหอบหิ้วกระเป๋านักเรียนออกมาจากบ้าน

               “จริงๆ เราเดินไปเองก็ได้นะ แค่นี้เอง”

               เป้มองจักรยานแม่บ้านของเพื่อนอย่างลังเล ตั้งแต่ขึ้นมัธยมก็ไม่เคยซ้อนท้ายมันอีกเลย รู้สึกอายแปลกๆ

               “ตื่นก็สาย อาบน้ำก็ช้า ยังจะกล้าบอกจะเดินไปอีก ขึ้นมาเดี๋ยวนี้ กูไม่อยากสายตั้งแต่วันเปิดเทอม”

               พอโดนพูดใส่แบบนั้นจากที่ลังเลเลยกลายเป็นจำยอม ปกติเป้ก็มีจักรยานเป็นของตัวเองแหละ ดีกว่าจักรยานแม่บ้านของกอล์ฟด้วย แต่วันก่อนออกไปตลาดแล้วลืมเอาตัวล็อคไปด้วย เสร็จโจรไปตามระเบียบ หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย ลำบากต้องเดินกลับบ้านขาลาก เหนื่อยแทบตาย

               เสียงเอี๊ยดอ๊าดของจักรยานแม่บ้านอายุมากดังไปตลอดทางทำท่าจะพังแหล่ไม่พังแหล่มาตั้งหลายปี แต่ก็เห็นมันยังใช้ได้มาตลอด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจักรยานอึดหรือเจ้าของงกกันแน่

               แต่จริงๆ โรงเรียนก็ใกล้แค่นี้ไม่ได้ถูกใช้งานหนักอะไรมากมายนัก ปั่นไปสิบห้านาทีก็ถึงแล้ว ต่อให้ตื่นก่อนเข้าแถวยี่สิบนาทียังไปทันได้เลย

               แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเป้ก็มักจะถูกปลุกแต่เช้าตลอด จะด้วยเหตุผลอยากไปเตะบอล รีบไปเป็นต้นฉบับ หรือแม้กระทั่งเปิดเทอมวันแรก ยังไงก็ต้องตื่น

               เคยโวยว่าให้กอล์ฟไปคนเดียวก็กลายเป็นว่าโดนโกรธเสียตั้งหลายวัน สุดท้ายก็ได้แต่ทำใจ ยอมตื่นเช้า (ที่ยังไงก็โดนด่าว่าสาย) ไปซะทุกครั้ง




              “ปีนี้ก็ได้อยู่ห้องเดียวกันล่ะ”

               คนตัวสูงฝ่าดงผู้คนออกมาจากหน้าบอร์ดประกาศห้องเรียน เพื่อมาหาเพื่อนสนิทตัวเล็กที่ยืนลุ้นอยู่ข้างนอก

               “ห้องเดียวกันอีกแล้ว!!!”

               เป้ร้อง เริ่มรู้สึกว่าระบบจัดห้องโรงเรียนนี้ชักจะมีปัญหา คนบ้าอะไรอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่อนุบาลยันมอสี่ จะบังเอิญอะไรขนาดนั้น สายวิทย์มีตั้งห้ห้องมันจะไม่ไปโดนห้องอื่นบ้างเลยหรือไง

               “อะไร ไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับกูขนาดนั้น”

               “เปล่านะ”

               เป้รีบแก้ตัว

               จริงๆ กอล์ฟก็แกล้งแซวไปอย่างนั้นเอง แค่ได้อยู่ห้องเดียวกันอีกปีก็ดีใจมากแล้ว

               “ไงดีใจไหมครับ ปีนี้คู่ผัวเมียก็ได้อยู่ห้องเดียวกันอีกแล้ว”

               เสียงพูดกวนประสาทมาพร้อมกับเด็กหนุ่มตัวสูงโย่ง ที่มีรอยยิ้มกว้างจนตาหยีเป็นเอกลักษณ์

               “ผัวเมียพ่อง เพื่อนบ้านกันโว้ยสัสปอนด์”

               กอล์ฟพูดพร้อมปะเคนฝ่าเท้าให้เพื่อนรัก แน่นอนคนที่กล้ามาท้าตายย่อมเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ปอนด์จึงสามารถกระโดดหนีได้อย่างฉิวเฉียด

               “แหม๋ กูก็นึกว่าพวกมึงอยู่บ้านเดียวกัน เมื่อเข้าเห็นซ้อนจักรยานกันมากะหนุงกะหนิง”

               “ประสาท” เป้ด่าเบาๆ ตามนิสัยก่อนหันไม่มองตัวต้นเรื่องตาขวาง

               บอกแล้วว่าไม่อยากซ้อนมันก็ไม่เชื่อ โดนแซวตั้งแต่มอต้นนึกว่าพอมอปลายแล้วคนจะลืมๆ ไปแล้วซะอีก

               “พวกมึงเนี่ยน้า ไม่มีอารมณ์ขันกันเลย มาๆ ปิดเทอมไปหลายเดือน ไอ้พวกห่างไกลโซเชียลอย่างพวกมึงต้องอัพเดตข่าวหน่อย...”

               แล้วข้อมูลที่หายไปในช่วงปิดเทอมก็ถูกเติมเต็ม




                  เป็นธรรมดาที่พอพักเที่ยงเสียงพูดคุยในโรงอาหารก็จะเจี๊ยวจ๊าวเป็นพิเศษ ยิ่งเป็นวันแรกของการเปิดเทอม คนที่ยังไม่เจอกันในตอนเช้าก็จะได้มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน หรือแม้กระทั่งพวกที่เจอไปแล้วแต่มีข้อมูลที่ไปแลกกับคนในห้องอัพเดตเพิ่ม เสียงดังกระหึ่มระดับแยงกันตะโกนยังแทบไม่ได้ยินเลยทีเดียว

               “เชรี่ยจารย์ใหม่แม่งฟิตสอนตั้งแต่วันแรก เซงชิบหาย”

               กอล์ฟบ่นพลางจ้วงข้าวกระเพราหมูสับในจานไปพลางราวกับหิวโหยมาเป็นสิบปี โดยมีเป้พยักหน้ายืนยัน ก็ส่วนใหญ่แล้ววันเปิดเทอมวันแรกอาจารย์มักจะชิวๆ ปล่อยให้เป็นคาบว่างแท้ๆ

               “ห้องกูเหมือนจะเจอตอนบ่ายวะ”

               ปอนด์ที่ปีนี้หลุดไปอยู่ห้องข้างๆ เริ่มเล็งเห็นถึงอนาคตของตัวเอง

               “ว่าแต่สอนดีป่ะ”

               ไหนๆ แล้วก็ถามเผื่อไว้เลย จะได้วางแผนถูก ถ้าสอนไม่ดีจะได้รีบกินให้อิ่มแล้วเตรียมหลับให้สบาย

               “ก็โอเค พูดรู้เรื่องดี”

               “ไม่แค่โอเคแล้วมั้ง เห็นกอล์ฟจดทุกตัวอักษรเลยนี่ แค่นี้ก็เรียนเก่งจะแย่แล้วทำเป็นบ่นไปได้”

               เป้บ่นอุบ ว่าจะชวนคุยเรื่องแผ่นเกมที่ซื้อมาใหม่ซะหน่อย เล่นตั้งใจเรียนซะไม่กล้ากวนเลย

               “เอ่อดี เรียนไปไม่ได้เอาไว้ติวมึงหรือไง ปีนี้จะไม่ช่วยแล้ว”

               พอได้ยินพูดแบบนี้เป้ถึงกับหน้าเหวอ ปอนด์รีบออกตัวว่าไม่เกี่ยว เกรดทุกตัวในสมุดพบของเป้ได้มาเพราะกอล์ฟติวแท้ๆ เลยนะ

               “เห้ยไม่เอาดิ ล้อเล่นใช่เปล่า”

               คนกำลังจะซวยรีบทำหน้าหงอยเป็นท่าไม้ตาย แค่นี้ปอนด์ก็รู้ได้ทันทีว่าไอ้คนที่สปอยร์เพื่อนแต่เด็กอย่างกอล์ฟไม่มีทางรอด

               “ก็ล้อเล่นน่ะสิ กูขี้เกียจมาติวมึงตอนซ่อม”

               พูดก่อนจะดันหัวคนที่นั่งตรงข้ามไปแรงๆ ด้วยความหมั่นไส้

               “โหย ดันซะแรงแค่นี้ก็โง่จะตายแล้ว”

               “ไม่หรอก มึงไม่โง่ไปกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะเป้”

               “เชรี่ยกอล์ฟ!!!”

               เท่านั้นแหละ เจ้าของชื่อถึงได้ระเบิดเสียงหัวเราะดันลั่นก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้องเสียงหลงเพราะต้องหลบขวดน้ำที่อีกฝ่ายปามา

               “อย่าอยู่เลยมึง”

               เสียงอาคาตประกาศกร้าวเป็นสัญญาณเริ่มสงคราม ปอนด์มองเค้ารางวุ่นวายอยู่วงนอกอย่างเงียบๆ ก่อนจะเฟตตัวเองออกไป

               ชิ่งก่อนเป็นยอดคน เขาต้องไปประชุมวงโย ไอ้พวกไม่รู้จักโตนี่เล่นกันอีกนาน




                  ออดเข้าเรียนดังแล้ว แต่เด็กหนุ่มยังคงอยู่กลางโรงอาหาร เป้สาวเท้าไปตามทางจนเกือบจะวิ่ง ในใจก็ได้แต่สาปแช่งกอล์ฟ ไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาช้าอยู่แบบนี้ ก็เล่นแกล้งกันจนไม่ได้กินข้าว แถมพอใกล้หมดเวลาเจ้าตัวก็ชิ่งไปเข้าห้องน้ำซะได้ ทิ้งให้เขานั่งจ้วงข้าวแล้วเก็บจานคนเดียว

               หลังจากเดินข้ามฟากขากโรงอาหารด้านหนึ่งไปยังสุดอีกด้านหนึ่งด้วยความสงสัยที่ว่ามันจะทำที่เก็บจานสองด้านไม่ได้หรือยังไง ในที่สุดเป้ก็มรถึง เขาตั้งใจจะเทเศษอาหารที่เหลือลงในถังให้เรียบร้อย แต่อนิจจาดันมีคนตัดหน้า

               “เห้ย”

               เสียงร้องผสานขณะที่เส้นบะหมี่และน้ำซุบต้มยำครึ่งชามที่เหลืออยู่เทลงไปบนตัวคนแซงคิวเต็มๆ

               “ขอโทษครับ”

               เป้หน้าซีด มองอีกฝ่ายอย่างหวาดๆ ดาวบนอกบอกว่าอีกฝ่ายอยู่มอหก แถมตัวสูงกว่ากันตั้งเยอะ เผลอๆ จะสูงกว่ากอล์ฟที่สูงร้อยแปดสิบห้าซะอีก

               นี่จะโดนต่อยไหม ราดเขาไปเต็มๆ เลย

               “ไม่ต้องขอโทษก็ได้ พี่ผิดเองแหละ เดินมาตัดหน้าเรา ขอโทษนะ”

               ผิดคาดคู่กรณีใจดีกว่าที่คิด เป้พยักหน้ารับแบบงงๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้

               “ผมช่วยเช็ดนะพี่”

               แดงฉานด้วยพริกเต็มเสื้อ ดีนะมีแค่ชามเขาที่เหลือ ขืนมีกระเพราไอ้กอล์ฟรวมด้วยเป้ไม่อยากจะคิด

               “ออดแล้วไปเรียนเหอะ เดี๋ยวพี่ไปล้างเอง”

               “แต่...”

               “เดี๋ยวไปเรียนสายนะ”

               ถึงจะพูดด้วยรอยยิ้มใจดี แต่ก็เหมือนจะไม่เปิดโอกาสให้พูดตอบเลย เป้พยักหน้ารับอย่างจำยอม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอ้าปากค้าง เมื่ออยู่ๆ คนที่พึ่งจะเคยเจอหน้ากลับยื่นมือมาลูบหัวเขาซะได้

               “เด็กดี ไว้เจอกันไหมนะ”

               ว่าแล้วพี่มอหกก็เดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ก็คงมีแต่เป้นั้นแหละที่ยังคงยืนงง

                     ...ตะกี้มันอะไรนะ...




TBC......




TaLk
สวัสดีค่ะ งงกันไหม เปิดมาด้วยผู้ชายคนนึงจบตอนด้วยผู้ชายอีกคน ฮา ชอบคนไหนมากว่ากันคะ ระหว่างน้องกอล์ฟเพื่อนตรงข้ามบ้านกับพี่มอหกปริศนาคนนั้น ฮา ดีไม่ดี คำผิดแค่ไหนก็บอกกันได้เลยนะคะ อี้เวลาว่างน้อย แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ ตอนหน้าเจอกันไหมน้า –อี้หลิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 15:36:19 โดย zvonek »

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อยากรู้จังใครพระเอก

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พี่ปริศนาลูบหัวตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยเหรอเนี่ย

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ตอนที่2
ความบังเอิญเกิดได้หลายครั้ง




               คาบว่างคือสิ่งที่มีน้อยที่สุดในตารางสอน แต่ก็เป็นช่องที่เด็กชอบที่สุด วันนี้ชั้นม.6/1 มีคาบว่าง แถมเป็นคาบว่างหลังพักเที่ยงซะด้วย ทำให้ใครหลายคนยังคงไม่ขึ้นห้อง

               โยเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ยังอยู่นอกห้องเหล่านั้น เพียงแต่เหตุผลของโยออกจะมีเครดิตกว่าคนอื่นอยู่หน่อย

               ก็อุบัติเหตุเล็กๆ ที่โรงอาหารนั่นทำให้เสื้อนักเรียนเขาเปื้อนแทบจะทั้งตัว แดงฉานแบบถ้าไม่หิ้วกลับบ้านลงเครื่องซักคงไม่รอด

               ยังดีที่โยเป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียน จึงมักมีเสื้อพละติดล็อคเกอร์ชมรมไว้เสมอ แถมมีตุนไว้หลายตัวอีกด้วย

               “เล่นบาสจนลืมเวลาเหรอมึง”

               เสียงทักของโจ้ดังขึ้นทันทีที่เขาทิ้งตัวนั่งลงกับเก้าอี้ โยส่ายหน้าก่อนจะยกเสื้อนักเรียนที่เปียกชุ่มจากการซักให้เพื่อนดู

               “อุบัติเหตุนิดหน่อย”

               ทั้งๆ ที่มันดูเป็นเรื่องแย่แต่คนพูดกลับยิ้มไม่หุบ

               “ชนแรงเหรอ มึงดูเอ๋อๆ”

               ทักเพื่อนออกไปด้วยความเป็นห่วง คนโดนชนที่ไหนจะยิ้มหน้าบานได้ขนาดนี้กันนะ ลองโบกมือไปมาเช็กดูอีกที หรือจริงๆ เพื่อนเขากำลังตาลอย

               “เอ๋อบ้านป้ามึง ผมมีความสุขต่างหากครับ”

               โยปัดมืออีกฝ่ายทิ้งแรงๆ ก่อนจะอธิบายต่อ

               “โจ้ มึงจำน้องที่เก็บกระเป๋าเงินกูเมื่อปีก่อนได้เปล่า”

               พอคิดถึงคนตัวเล็กก็อดที่จะยิ้มอีกไม่ได้ ท่าทางตื่นๆ กับหน้าโก๊ะๆ นั่น

               โจ้มองเพื่อนงงๆ แต่พอนึกย้อนอยู่สักพักก็พอจะนึกออกว่าปีก่อน ไอ้โยเคยเพ้ออะไรประมาณนี้อยู่

               “เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ขาวๆ ที่มึงบอกมึงรู้จักแต่น้องเขาจำมึงไม่ได้ ชื่ออะไรนะ เป้ป่ะ”

               “เอ่อคนนั้นแหละ”

               “เขาจำมึงได้แล้ว?”

               “เปล่า”

               “อ้าว แล้วมึงยิ้มเพื่อ...”

               “พรหมลิขิต” 

               “หะ...”

               ไม่มีคำอธิบายต่อ ออดเปลี่ยนคาบดังแล้ว โยหันไปหน้าชั้นเรียนเพราะอาจารย์ที่เดินเข้ามาตรงเวลาเป๊ะๆ บรรยากาศล่องลอยในความฝันแผ่กระจายออกมาจากเพื่อนจนโจ้หนักใจ

               ...แม่งเอาอีกแล้ว...




               “ช้าจังวะเป้”

               เสียงกระซิบๆ จากคนข้างตัวดังขึ้น เป้เหลือบมองอาจารย์หน้าห้องเรียนเห็นว่าทางสะดวกจึงกระซิบตอบ

               “ก็มึงแหละ กูเลยเกือบซวย”

               “ซวย? มีอะไรเปล่า”

               เขาแค่ไปเขาส้วม เป้ถึงกับซวยเลยเหรอ

               “ช่างเหอะ ไม่มีอะไรมากหรอก”

               เป้มองตรงไปยังกระดานหน้าห้อง แต่ภาพที่เห็นยังคงเป็นพี่คนเมื่อกลางวัน รอยยิ้มนั่นดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก               

               “เด็กดี ไว้เจอกันใหม่นะ”

                ...ทำไมคุ้นจังวะ...




               “เดี๋ยวกูเดินไปเอาแผ่นหนังกับพวกไอ้แก๊ปก่อน เป้มึงไปเอาจักรยานนะ”

               กอล์ฟพูดพลางโยนกุญแจตัวล็อคส่งให้อีกฝ่ายแล้ววิ่งไปอีกทาง

               เป้คว้ากุญแจกลางอากาศก่อนหันหลังเดินไปอีกทาง ผ่านแป้นบาสที่เริ่มมีนักเรียนเข้ามาจับจอง และหนึ่งในนั้นก็เป็นคนที่เขาพึ่งจะเจอกันตอนกลางวัน

               บรรยากาศตอนถือลูกกับตอนกลางวันช่างต่างกันลิบลับ แอบคิดว่าพี่คนนั้นเหมาะกับเสื้อพละมากว่าเสื้อนักเรียนอยู่มาก ถึงเป้จะไม่เก่งกีฬา แต่เขาก็รู้ว่าพี่คนนั้นเล่นเก่งมากจริงๆ จังหวะการส่งลูก หรือต้องเลี้ยงไว้ ทุกอย่างดูเหมาะเจาะไปซะหมด

               ฉับพลันจู่ๆ คนแอบมองก็ต้องสะดุ้งเพราะเหมือนว่าคนที่เป็นเป้าสายตาอยู่เมื่อครู่จะรู้ตัว

               โยส่งยิ้มให้กับคนที่ยืนมองเขาอยู่ข้างสนามก่อนจะเดินเข้าไปหา

               “มายืนนานหรือยัง มีอะไรหรือเปล่าครับ”

                  ...นั่นดิ มายืนทำอะไรวะ...

               ได้แต่คิดในใจ ก่อนฉีกยิ้มกว้างแก้ขัดไปก่อน ลองทบทวนดีๆ หาทางออก พอเห็นเสื้อพละของอีกฝ่ายก็ได้ข้ออ้าง

               “เสื้อพี่ ผมขอโทษครับ”

               “ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร พี่เป็นคนตัดหน้าเราเอง”

               บรรยากาศสบายๆ ของอีกฝ่ายแบบเมื่อกลางกลับมาอีกครั้ง ชวนให้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

               “ยังไงก็รู้สึกผิดอยู่ดีให้ผมเอาไปซักให้นะ”

               ลองเสนอออกไปดู ทั้งๆ ที่เขาเองก็ซักผ้าไม่เป็นด้วยซ้ำ แค่อยากจะลองต่อบทสนทนาดูก็เท่านั้น

               โยพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปเปิดกระเป๋าหยิบเสื้อมาส่งให้อีกฝ่าย

               “แบบนั้นก็ได้ เสร็จแล้วค่อยเอามาคืนพี่ละกัน”

               เป้รับมาถือไว้ ก่อนจะนึกได้เมื่อเห็นกุญแจที่ถืออยู่ในมือ

                  ...ชิบหายลืมไปปลดล็อครถ...

               “ผม..ผมไปนะครับพี่ ไว้เสร็จแล้วจะเอามาคืน”

               พูดจบก็รีบหันตัวกลับ ขืนไปช้ากว่ากอล์ฟ โดนด่าหูชาแน่ๆ

               สองเท้ารีบก้าวไปตามทางอย่างรวดเร็ว มือก็ยัดเสื้อที่รับมาลงกระเป๋าไปด้วย เดินไปยัดไปจนกระทั่งมาถึงที่จอดจักรยานหน้าโรงเรียนนั่นแหละ เขาถึงได้พึ่งนึกเรื่องสำคัญออก

                  ...เสื้อนี่ ถ้าเสร็จแล้วจะไปคืนที่ไหนวะ...

               ใช่แล้ว ไม่ว่าจะชื่อ หรือ ห้องของเจ้าของเสื้อเขาเองไม่รู้จักเลยสักนิด เป้อยากจะตบหัวตัวเองแรงๆ สักที พอคิดว่าจะกลับไปถามก็ไม่ทันแล้ว

               “กลับบ้านกันเป้”

               ก็เจ้าของจักรยานแม่บ้านเดินมาถึงแล้วนี่

                  “อื้ม กลับบ้านๆ”

               ไม่รู้ทำไมถึงไม่อยากบอกกอล์ฟ แต่คิดว่าถ้าบอกคงต้องโดนด่าว่าปัญญาอ่อนแน่ๆ เป้กอดกระเป๋าแนบกับอกก่อนขึ้นซ้อนจักรยานคันเดิมที่ขึ้นมาในตอนเช้า

               อันที่จริงวันนี้ยังบังเอิญเจอกันตั้งสองรอบ ถ้าได้เจอกันอีกคราวหน้าเดี๋ยวค่อยถามก็ได้มั้ง




TBC......




TaLk

26.10.57 02.08น. ไม่รู้ทำไมสองตอนแล้ว เขียนได้สักพักก็ดันรู้สึกว่าอยากจะตัดจบตอนเอาซะตรงนั้นทุกที สั้นไปมากๆ ขอโทษด้วยนะคะ มาเฉลยแล้วว่าพี่คนนั้นเป็นใคร หลังจากนี้ก็คงจะได้เห็นนายคนนี้เรื่อยๆ ค่ะ ชอบหรือเปล่าคะ เจอคำผิดหรือมีอะไรแนะนำบอกกันได้เลยนะคะ เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ-อี้หลิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 15:52:40 โดย zvonek »

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เสื้อพี่เขาไม่ปักรหัสนักเรียนหรอลูกน้องเป้
ใจจริงเชียร์กอล์ฟนะ รู้สึกปิ๊งตั้งแต่สมัยเด็กละ พี่โยมาทีหลังง  :mew2:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คนไหนกันนะ ที่ต้องให้เป้ตามหา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2015 09:04:21 โดย snowboxs »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ตอนที่03
สนามบาสหรือสนามบอล



 
               เปิดเทอมได้สี่วันแล้วแน่นอนว่าคนชอบนอนก็ยังคงชอบนอนเป้ยังคงต้องใช้กอล์ฟเป็นนาฬิกาปลุกเพื่อนั่งซ้อนจักรยานไปโรงเรียนให้ทันเวลาเช่นสามวันที่ผ่านมา

               เป็นอีกวันที่เป้บอกปฏิเสธการไปนั่งดูกอล์ฟเตะบอลข้างสนามเพียงเพราะจะได้ไปเดินเฉียดสนามบาสแทน

               เมื่อวานมาลองดูทีหนึ่งแล้วแต่ก็หาไม่เจอแอบกังวลเล็กๆว่าที่วิเคราะห์ไว้จะผิดพลาดก็พี่คนนั้นเล่นบาสเก่งคนเล่นเก่งก็ต้องมาสนามบาสบ่อยๆสิ

               มโนไปเองล้วนๆซื่อยังไม่รู้จักจะคืนถูกได้ยังไงยิ่งเสื้อนักเรียนไม่ได้มีชื่อหรือรหัสนักเรียนปักไว้แล้วด้วย

               ลองคิดเล่นๆว่าคาบว่างพรุ่งนี้จะไปลองเดินหาที่ตึกมอหกดู

               คิดนู่นคิดนี่อยู่นานรู้ตัวอีกทีก็จะเดินเลยสนามแล้วในจังหวะที่กำลังจะหันตัวกลับนั้นเองก็บังเกิดแรงกระแทกอย่างหนักหน่วงที่ศีรษะด้านหลังเล่นเอาซะหน้าทิ่มพื้นแต่เห็นดาว

               “โอ้ย”

               “เห้ย”

               เสียงร้องกับเสียงอุทานแทบจะดังขึ้นพร้อมกัน

               เป้ทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความมึนงงได้ยินเสียงรองเท้ากีฬาเสียดพื้นใกล้เข้ามาก่่อนจะหยุดลงข้างๆ

               “โทษทีเป็นอะไรไหม”

               เป้หันมองตามเสียงก่อนจะพบว่าคนที่ปาบอลอัดหัวเขาก็คือเจ้าของเสื้อที่กำลังตามหานั่นเอง




              “หายมึนยัง”

               โยถามขณะที่มือยังถือขวดน้ำแช่เย็นประคบหัวรุ่นน้องเป้จึงพยักหน้ารับ

               “ดีขึ้นแล้วครับ”

               เสียงวิ้งๆในหัวเหมือนจะหายไปแล้วพอทำให้สติเริ่มกลับมาบ้างจุดประสงค์ในการมาสนามบาสจึงปรากฏ

               น้องเป้เปิดกระเป๋าหยิบเสื้อนักเรียนที่แพ็คใส่ถงมาอย่างเรียบร้อยยื่นให้รุ่นพี่

               “คืนครับจริงๆเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ผมหาพี่ไม่เจอ”

               โยหัวเราะเบาๆกับคำบอกเล่านั้นก่อนจะรับเสื้อมาถือไว้

               “พี่ยังคิดอยู่เลยว่าเราจะหาพี่เจอได้ยังไงชื่อก็ไม่ถามห้องก็ไม่รู้วันนั้นตอนเราเดินไปพี่ก็ตะโกนเรียกแล้วนะแต่เราไม่ได้ยิน”

               เป้อ้าปากค้างกับคำตอบนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากคนมองได้อีกรอบ

               …นี่โง่เองสินะ…

               “เอาน่านี่ก็คืนได้แล้วเน๊อะอย่าซีเรียส”

               “อ่า…ครับ”

               โดนลูบหัวอีกแล้วเป้ชักสงสัยว่ามันเป็นนิสัยติดตัวของอีกฝ่ายหรือเปล่าที่ทำตัวสนิทสนมกับคนไม่รู้จักแบบนี้

               “พี่ชื่อโยนะ”

               “ค…ครับ?”

               “พี่บอกว่าพี่ชื่อโยคราวหน้าเจอกันจะได้ทักถูก”

               “อ้อ…ผมชื่อเป้นะครับ”

               รีบตอบกลับก่อนจะแอบท่องชื่ออีกฝ่ายในใจเขาเป็นคนขี้ลืมถ้าโโนทักคราวหน้าเรียกไม่ถูกคงแย่

               “น้องเป้ชอบดูบาสไหม”

               “ก็นิดหน่อยครับ” จริงๆถ้าจะให้ดูก็ดูได้หมดขอแค่ไม่ต้องเล่นก็โอเค

               “งั้นพรุ่งนี้มาเชียร์พี่นะมีแข่งกระชับมิตรกับคริสเตียนฝั่งตรงข้ามอ่ะชวนเพื่อนมาด้วยก็ได้นะ”

               “ครับผม”

               “ดีมากพรุ่งนี้เจอกัน”

               เป้นั่งมองอีกฝ่ายเดินกลับไปเล่นกับเพื่อนๆในสนามด้วยสายตาชื่นขม

               …พรุ่งนี้คงต้องลากกอล์ฟมาดูด้วยกัน…ก็พี่โยน่ะเท่ห์เป็นบ้า…กอล์ฟก็คงชอบมั้ง…




              “ไม่ไป”

               คำตอบที่ได้รับไม่เป็นไปตามคาด น้ำเสียงเย็นชาไร้เยื่อใยสุดๆ จนคนชวนถึงกับหน้าเสีย

               “โหยกอล์ฟเป็นเพื่อนหน่อยดิไม่เชียร์โรงเรียนตัวเองแล้วจะให้ไปเชียร์ใครอ่า”

               เอาโรงเรียนมาอ้างให้อีกฝ่ายตามใจ

               “ไหนว่าพรุ่งนี้เลิกเรียนจะไปซื้อของกับกู”

               ลืมสนิท แต่เป้รับปากพี่โยไว้แล้ว ไปซื้อของไว้ค่อยไปก็ได้นี่

               “แค่คาบกิจกรรมเอง”

               “เดี๋ยวแม่งก็เกินเวลา”

               รู้ทันไปหมด เป้ชักหงุดหงิด ทำไมกอล์ฟถึงได้ชอบขัดขนาดนี้นะ

               “เอ้อ กูไปดูคนเดียวก็ได้”

               ตัดบทจบดื้อๆ ไม่ไปก็ไม่ไปตัวไม่ได้ติดกันซะหน่อย

               พอกลายเป็นแบบนี้กอล์ฟก็อดจะจิปากไม่ได้ พูดแบบนี้มันก็บังคับกันชัดๆ เขาชวนมันก่อนแท้ๆ แล้วทำไมถึงได้มาเปลี่ยนใจเอาตอนนี้

               “เย็นนี้มึงไปเชียร์กูเตะบอล พรุ่งนี้กูไปดูบาสเป็นเพื่อนมึง”

               ในที่สุดคนแพ้ก็ยังคงเป็นเขาอยู่ดี เพราะข้อเสนอนี้เป้ไม่ต้องทำอะไรเลยสักนิด ก็การแข่งขันระดับสายชั้นมันเป็นอะไรที่ทุกคนในห้องต้องไปเชียร์ห้องตัวเองอยู่แล้ว ต่อให้กอล์ฟไม่ยื่นข้อเสนอยังไงเป้ก็ต้องไป

               “พูดแล้วห้ามคืนคำนะ”

               “กูเคยโกหกมึงตอนไหนครับ”

              ...ไม่เคย...

               เท่านั้นแหละ คนชวนก็ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม




               แม้ว่าโรงเรียนนี้จะไม่ได้เน้นฟุตบอลเป็นหลัก แต่กีฬาที่เด็กชายไทยเล่นได้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นฟุตบอลอยู่ดี

               เป็นประจำในทุกภาคการศึกษาที่เหล่าเด็กชายจะฟอร์มทีมห้องแข่งกันในระดับชั้น และตัวเต็งก็คงหนีไม่พ้นทีมที่กอล์ฟอยู่

               เด็กหนุ่มจัดว่าเป็นตัวยิงอันดับต้นๆ ของโรงเรียนเลยทีเดียว ขนาดว่าตอนยังอยู่มอ.ต้น ก็มีพี่มอ.ปลายมายืมตัวไปลงอยู่บ่อยๆ

               วันนี้เขาก็ยังคงไม่ทำให้เพื่อนผิดหวัง โอกาสครองบอลในสนามของห้องม.4/1 ที่กอล์ฟสถิตอยู่นั้นเอง

               แถมวันนี้ดูเหมือนเจ้าตัวจะคึกเป็นพิเศษอีกด้วย

               “เชี่ยกอล์ฟวิ่งเร็วดิ!!”

               ก็กำลังใจของเขามานั่งเชียร์อยู่ข้างสนามนี่
         
               เสียงร้องแสดงความดีใจของเด็กห้องหนึ่งดังขึ้นเป็นรอบที่สามหลังจากที่กอล์ฟส่งลูกเข้าประตูเก็บคะแนน 3-0 ปิดโอกาสตีตื่นของฝ่ายตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงในห้านาทีสุดท้าย

               สัญญาณหมดเวลาดังขึ้น เพื่อนๆ ก็กรูลงสนามแสดงความยินดี พาให้พระเองของทีมในวันนี้แทบตัวลอย แต่ก็ยังแทรกเดินไปหาอีกคนที่เขาอยากได้ฟังคำชมที่สุด

               “เป็นไง กูเก่งกว่าบาสที่มึงอยากไปดูเปล่า”

               เป้เบะปากใส่คนหลงตัวเอง

               “ก็เหมือนทุกทีนั่นแหละ”

               ชมกอล์ฟมากๆ เดี๋ยวมันก็ลอยขึ้นฟ้ากันพอดี

               “เหมือนทุกวันแล้วทุกวันกูเก่งป่ะล่ะ”

               “มึงเก่งที่สุดแหละครับ”

               “ก็แค่นั้น”

               คนบ้าคำชมยิ้มหน้าบานก่อนยื่นมือไปรับกระเป๋าที่อีกฝ่ายส่งให้ แล้วล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจิ้มดูข้อความที่แจ้งเตือนอยู่สองสามทีก่อนจะร้องบอกอีกฝ่าย

               “ป่ะกลับบ้าน แม่ไลน์มาบอกว่าวันนี้ทำปลาเปรี้ยวหวานของโปรดมึง วันนี้กินที่บ้านกูเน๊อะ”

               “พูดเหมือนปกติกูกินที่อื่น”

               “ทีหลังก็ย้ายมานอนบ้านกูเลยดิ แม่กูรักมึงจะตายอยากได้เป็นลูกอีกคน”
               
               “หึ แค่นี้มึงก็หมาหัวเน่าแล้วกอล์ฟ”

               คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยิ้มเหนือกว่าใส่อีกฝ่าย แม่กอล์ฟรักเขาจะตาย เอาใจเขายิ่งกว่าลุกชายตัวจริงซะอีก

               “เหรอไอ้เปี๊ยก”

               พูดพลางกดหัวอีกฝ่ายด้วยความรัก เป้รีบปัดมือออกทันควัน

               “เอ่อ ไอ้หมาหัวเน่า”

               “มาดูกันว่ากูกับมึงใครเป็นหมาหัวเน่า”

               พูดจบกอล์ฟก็กระโดดขึ้นจักรยานปั่นหนีไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เป้ยืนโวยอยู่หน้าโรงเรียน

               “ไอ้บ้ากอล์ฟ มึงกลับมารับกูก่อน”

               “แน่จริงก็ใช้ขาสั้นๆ ก็มึงวิ่งมาสิ”

               ถึงจะตะโกนตอบไปแบบนั้น แต่สุดท้ายคนที่วนรถไปรับก็คงเป็นกอล์ฟอยู่ดี



TBC......




TaLk

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ติดงานเป็นอย่างมาก เข้าขั้นวิกฤต วันนี้มีเวลานิดหน่อย เลยแวะมาแปะค่ะ สั้นไปมากโข //กราบ
สำหรับตอนนี้เปล่อยน้องกอล์ฟโชว์เมพมัดใจหนุ่มไปแล้ว ตอนหน้าขอพื้นที่ให้พี่โยแสดงอภินิหารด้วยนะคะ ฮา ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ -อี้หลิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 16:05:35 โดย zvonek »

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ตอนที่04
เค้ารางที่ปรากฏ   




               ทันทีที่หมดเวลาเสียงเฮแสดงความยินดีก็ดังสนั่นด้วยแต้มของฝั่งเจ้าบ้านที่มากกว่า

               ทั้งๆ ที่โรงเรียนเขาเป็นฝ่ายชนะแต่กอล์ฟกลับรู้สึกหงุดหงิด

               “ชนะแล้ว สุดยอดไปเลยเน๊อะ โดยเฉพาะพี่โย ชู้ตแม่นมาก เท่ห์มากเลยอ่ะ”

               ‘พี่โยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ’ ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันกอล์ฟได้ยินคำนี้จากปากเพื่อนตัวเล็กจนนับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่าเป้ไปรู้จักไอ้พี่โยนี่ตอนไหน ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่อง

               “ขอบใจมากนะเป้ มาเชียร์พี่จริงๆ ด้วย ได้กำลังใจเยอะแยะเลย”

               ยิ่งเจ้าของชื่อเข้ามาใกล้กอล์ฟยิ่งหงุดหงิด แต่เหมือนว่าเพื่อนสนิทของเขาจะไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าเป็นหมาตอนนี้คงส่ายหางพึบพับน้ำลายหกแน่ๆ

               “ไม่หรอกครับ เพราะพี่โยเล่นเก่งต่างหาก”

               “เขาก็มาเชียร์ทีมโรงเรียนกันทั้งสนาม กำลังใจไม่เยอะก็บ้าแล้ว”

               กอล์ฟพูดลอยๆ แต่จงใจเหน็บอีกฝ่าย ซึ่งรุ่นพี่เองก็รู้ตัว

               “ของแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคนเชียร์เป็นใคร เน๊อะเป้เน๊อะ”

               ประโยคแรกตั้งใจตอบตัวแถมที่น้องเป้หิ้วมาด้วย

               โยยืนฟังเป้แนะนำเพื่อนสนิทให้รู้จัก พลางประเมินหมาหวงก้างไปด้วย สายตาหมอนี่ดูไม่พอใจสุดๆ ที่เขามายุ่งกับเพื่อนสนิทของมัน แต่ใครจะสน เขาสนแค่คนตัวเล็กตรงหน้าต่างหาก

               “ผมชอบพี่เวลาอยู่ในสนามที่สุดเลย เท่ห์โคตรๆ”

               เป้พูดตาเป็นประกาย ประทับใจลีลาการเล่นของอีกฝ่ายจนเข้าขั้นเพ้อ

               “ถ้าชอบก็มาดูพี่ซ้อมตอนเช้าสิ”

               “ได้เหรอครับ”

               ดีใจจนแทบกระโดดตัวลอย พี่โยใจดีชะมัด ไม่กลัวว่าเขาจะเกะกะด้วย

               “เป้!!!! กูจะไปซื้อของแล้ว มึงเสร็จหรือยัง”

               กอล์ฟตวาดดังลั่น เขาเรียกเป้ตั้งหลายครั้งหมอนั่นมัวแต่เพ้อบ้าอะไรก็ไม่รู้ ไม่สนใจเขาสักนิด

               “อ้อ อื่มเอาสิ พี่โยผมไปก่อนนะครับ เจอกันวันจันทร์นะครับ”

               เป้โบกมือลารุ่นพี่ขณะที่ขาก็ต้องพยายามก้าวตามเพื่อนสนิทที่ลากเขาไปยังที่จอดจักรยานให้ทัน

               ‘หึ ดูซ้อมเข้าเหรอ ไม่มีทาง ท่าเขาไม่ปลุกเป้มันไม่มีทางตื่น’

               กอล์ฟแอบวางแผนในใจ จะยอมสละเวลาเล่นบอลของตัวเองหน่อยก็ได้ พอคิดได้แบบนั้น เด็กหนุ่มก็ผิวปากปั่นจักรยานไปยังจุดหมายอย่างมีความสุข




               แต่อนิจจา กว่าจะถึงวันจันทร์แผนที่วางไว้ก็ลืมมันไปหมดแล้ว

               “กอล์ฟตื่นๆ เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”

               เสียงนาฬิกาปลุกที่ไม่คุ้นดังขึ้นข้างตัว

               “ฝันประหลาดแท้”

               กอล์ฟลืมตาขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแก้มคนในฝันเล่น จนอีกฝ่ายโวยวาย

               “ฝันบ้าอะไร นี่ความจริงต่างหาก”

               คราวนี้กอล์ฟถึงกับตื่นเต็มตา ร้อยวันพันปี ถ้าเขาไม่ปลุกมันไม่เคยตื่น แล้วนี่คืออะไร!!!

               ‘บ้าไปแล้ว หิมะต้องตกในกรุงเทพแน่’

               เด็กหนุ่มมองหน้าเพื่อนสนิทเหมือนคนเห็นผี

               “งี่เง่า ไม่คิดจะให้มึงปลุกตลอดไปหรอกน่า”

               เป้พูดพลางปัดมืออีกคนออก ก่อนจะโวยต่อ

               “ยังนั่งงงอยู่อีก ไปอาบน้ำสิ จะได้ไปหาข้าวเช้ากินกัน”

               แล้วจะได้ไปดูพี่โยซ้อมบาส

               ประโยคหลังไม่พูดออกไปเพราะดูเหมือนกอล์ฟจะไม่ชอบรุ่นพี่คนนี้เท่าไหร่ เห็นคนเท่ห์กว่าตัวเองไม่ได้ ไอ้คนขี้อิจฉา

               กว่ากอล์ฟจะได้คำตอบว่าเพราะอะไรเป้ถึงได้ตื่นเช้าได้ก็เมื่อไปถึงโรงเรียนแล้วอีกฝ่ายแยกตัวไปดูพี่โยซ้อมบาสนั่นแหละ




               “เห้ย กอล์ฟมึงเล่นเชรี้ยอะไรชองมึง มีสมาธิเปล่าเนี่ย”

               เสียงด่าของเพื่อนร่วมทีมดังมาแต่ไกล กอล์ฟถึงได้รู้ตัวว่าเขากำลังเลี้ยงลูกไปทางประตูทีมตัวเอง

               “โทษทีกูนอนน้อยไปหน่อย กูพักนะ”

               พอเขาเลิกเล่น ก็มีคนเลิกเล่นตาม ก็คนที่เป็นคนตะโกนด่านั่นแหละ ก้องทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คนที่วันนี้สมองรวนเต็มที่ ก่อนจะเอ่ยถาม

               “เป็นห่าอะไร”

               กอล์ฟสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมัวแต่สนใจเรื่องที่ติดในหัวตัวเองตั้งแต่เช้า จนเพื่อนต้องถามย้ำอีกครั้งถึงได้คำตอบ

               “ไม่รู้ดิ มึงว่าบาสแม่งเท่ห์กว่าบอลเหรอวะ”

               “ถามไรของมึง”

               “เปล่าก็แค่....”

               “แค่วันนี้เมียมึงไม่มานั่งข้างสนาม”

               เขาเห็นเป้นั่งอยู่ข้างสนามบาสตั้งแต่ตอนที่เดินเข้าโรงเรียน ใครๆ ก็ล้อมันสองคนมาตั้งแต่ประถมยันมัธยม สรุปว่าตอนนี้ไอ้กอล์ฟหวงไอ้เป้ขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ

               “ไอ้เป้ไม่ใช่เมียกู”

               “กูก็ไม่ได้บอกว่าเป็นไอ้เป้ กูบอกว่าเมียมึง ทำไมมึงคิดว่าเป็นไอ้เป้ล่ะ”

               คนถามยิ้มมุมปาก ทำเอาอีกฝ่ายหัวเสียเพราะรู้ตัวว่าหลงกลจนได้

               “สัด กูไม่คุยกับมึงแล้ว”

               “เห้ยๆ กูล้อเล่น ทุกอย่างมันมีดีของมันเว้ย เพียงแต่คนมองมันจะคิดว่าแบบไหนดึงดูดใจมากกว่า”

               “แล้วอย่างกู....”

               ไม่ต้องรอให้กอล์ฟพูดจบเขาก็ตอบได้ทันที

               “มึงมันน่าขยะแขยง”

               “ไอ้เชรี้ยก้อง”

               คนโดนด่าหัวเราะร่วน ก่อนจะลุกหนีระยะมือเท้า

               “มึงก็ไปถามไอ้เป้เองสิโว้ย”

               “ไม่เกี่ยวกับเป้โว้ย ไอ้เวรนี่วันนี้มึงต้องเจอตีนกู”

               สิ้นคำ สงสารฝ่าเท้าก็เริ่มขึ้นด้วยเสียงเชียร์จากเพื่อนในสนามที่เลิกเล่นบอลมาดูคนตีกันแทน




              เสียงออดเลิกเรียนคาบสุดท้ายดังขึ้นพร้อมๆ กับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของคนข้างตัว กอล์ฟมองตางหลังคนที่วิ่งออกจากห้องไปโดยไม่บอกไม่กล่าว หรือว่ามันจะปวดขี้ แต่คาบก่อนมันก็ขอไปเข้าห้องน้ำแล้วนี่ วิเคราะห์ไปก็เท่านั้น กอล์ฟลงมือเก็บของลงกระเป๋าตัวเอง ก่อนจะเลือกสมุดการบ้านจากใต้โต๊ะยัดลงกระเป๋าเพื่อน

               หลังจากนั่งโม้กับกลุ่มข้างๆ อีกสิบนาที เสียงเรียกเข้ามอถือก็ดังขึ้น เป็นเป้ที่โทรมาตามไปห้องสมุด

               “ไปทำอะไรห้องสมุด”

               “ก็รายงานสังคมไง เอากระเป๋ามาให้ด้วยน้า”

               เป้พูดเสียงอ้อนๆ ตามสไตล์เวลามีเรื่องจะใช้งานก่อนจะกดวางสาย

               กอล์ฟขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เน็ตก็มีให้ใช้จะไปห้องสมุดเพื่อ บ่นไปงั้น เพราะยังไงเขาเองก็ต้องคว้ากระเป๋าสองใบแล้วเดินตามไปห้องสมุดอยู่ดี




               เสียงจอแจที่อยู่ในระดับพอรับได้เป็นเอกลักษณ์ที่พบได้ทุกครั้งที่มา มองซ้ายมองขวาปาดตาหาคนตัวเล็กอยู่สักพักก็เห็นเป้นั่งทำตาเคลิ้มอยู่ตรงโต๊ะแถวๆ ชั้นหนังสือ

               เขาเดินไปโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง เป้มองเขาแบบตื่นๆ ตอนโดนกระเป๋าเฉียดหน้า

               “ไม่เอาฟาดหน้ากูเลยล่ะ”

               “ก็กะอยู่”

               เป้มองค้อนเพื่อนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะดันหนังสือกองใหญ่ไปตรงหน้าอีกฝ่าย

               “เลือกเอาว่าเล่มไหนใช้ได้”

               สั่งเขาเสร็จไอ้ตัวเล็กก็นั่งเหม่อ กอล์ฟถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลิกหนังสือดูแค่สองสามเล่มก็รู้ว่า ‘ไอ้นี่มันไปหอบมาทั้งตั้งแบบไม่ได้เลือกเลยนี่หว่า’

               หันมองเพื่อนที่ไม่ได้มีสมาธิอยู่รอบตัวเลยแล้วมองตามสายตาอีกฝ่าย

                  ...ทำไมไอ้พี่โยมาอยู่ตรงนี้ได้...แล้วไอ้เป้ตั้งใจมางั้นเหรอ..

               “เป้....ไอ้เป้!!!”

               เสียงตวาดและแรงฉุดที่แขนทำให้เป้รู้สึกตัว หันมือเพื่อนที่ตอนนี้เหมือนจะโกรธจนควันออกหูอย่างประหลาดใจ

               “กูจะกลับบ้าน”

               สีหน้ากอล์ฟดูไม่พอใจมากจนคนตัวเล็กไม่กล้าเถียง เพราะคบกันมานานถึงรู้ว่าเวลาไหนมันโกรธแบบกวนต่อได้ แบบไหนห้ามกวนประสาทต่อ ได้แต่เดินตามเพื่อนสนิทออกจากห้องสมุดไปด้วยใจเสียดาย อุตส่าห์ได้มุมดีๆ ส่องพี่โยแล้วเชียว

               “เป้ กอล์ฟ เจอพอดีเลย ยืมยี่สิบดิ หิวน้ำแต่ลืมกระเป๋าเงินไว้ห้องโย”

               ปอนด์วิ่งโล่เข้าหาสองเพื่อนรักอย่างหาที่พึ่งพิง ทั้งกอล์ฟและเป้ต่างล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนที่กอล์ฟจะเป็นฝ่ายส่งเงินให้เพื่อน

               “ขอบใจมาก พรุ่งนี้คืน”

               พูดจบปอนด์ก็วิ่งหายไปอีกครั้ง ยังไม่ทันที่กอล์ฟจะออกเดินต่อ ก็โดนเป้ฉุดแขนไว้ก่อน

               “มึง กูลืมกระเป๋าเงินไว้ห้องสมุดว่ะ มึงไปรอที่รถเลย เดี๋ยวกูกลับไปเอาแป๊ปเดียว”

               ไม่รอให้โดนซัก เป้รีบวิ่งกลับไปยังทิศที่จากมา เดี๋ยวใครมาหยิบไปซวยกันพอดีเงินทั้งเดือนเขายังไม่เอาเข้าธนาคารเลย

               วิ่งไปสุดแรงเกิด ในที่สุดก็กลับมาถึงห้องสมุดจนได้ แทบจะพุ่งตัวไปที่โต๊ะที่นั่งอยู่ตอนแรก

               “เชรี้ย หายไปไหนวะ”

               เป้อยากจะร้อง ก้มมองพื้น มองบนโต๊ะ พลิกหนังสือดู ยังไงก็หาไม่เจอ ตายแน่ๆ กว่าพ่อแม่จะกลับมาก็อีกสองสัปดาห์ ถ้าโทรไปขอต้องโดนว่าแน่ๆ เอาไงดี เด็กหนุ่มคิดหาทางออกให้วุ่น

               “หานี่อยู่เหรอ”

               ราวกับเสียงสวรรค์ เมื่อมีคนยื่นกระเป๋าเงินที่หาไม่เจอมาตรงหน้า เป้รีบยื่นมือออกไปรับ แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสกับกระเป๋ามือนั้นก็ชักของกลับไปเสียก่อน

               เป้มองเงยหน้าส่งสายตาไม่พอใจใส่อีกฝ่าย ทำท่าจะโวยเต็มที่ ก่อนจะพบกับรอยยิ้มกว้างของอีกฝ่าย

                  ...พี่โย...

               “ไง เมื่อกี้เห็นรีบเดินออกไป นึกว่าไม่เอาแล้วซะอีก”

               “เอาสิพี่”

               พอเห็นว่าคนเก็บไว้เป็นใคร เป้ก็ยิ้มตอบ วันนี้ถือว่าโชคยังเข้าข้างเขาจริงๆ ด้วย ทั้งได้กระเป๋าคืน ทั้งได้คุยกับพี่โย

               “แล้วถ้าพี่ไม่ให้คืน”

               “โถ่พี่อย่าแกล้งผมเลยครับ”

               “งั้น เอาไลน์มาแลกไป”

               “ห๊ะ”

               มองสีหน้าตื่นๆ ของรุ่นน้องแล้วโยก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ เป้ชอบทำหน้าตาตลกๆ อยู่เรื่อย รู้สึกชอบมากขึ้นอีกแล้วสิ

               “พี่ล้อเล่น เอาคืนไปเถอะ”

               พูดพลางยัดกระเป๋าเงินใส่มือรุ่นน้องที่ยังคงทำหน้าเหวอ

               “ข...ขอบคุณมากครับ”

               มัวแต่งจ้องหน้ารุ่นพี่จนการรับรู้ดีเลย์ เป้อยากจะตีหัวตัวเองแรงๆ ซะจริง ทำไมพอมองหน้าพี่โยใกล้ๆ แล้วตามันพร่าๆ นะ

               “อื้ม ไม่เป็นไร ไว้เจอกันนะ”

               บอกลารุ่นน้องตรงหน้า แอบเสียดายนิดหน่อย แต่ก็กลัวว่าถ้ารุกเร็วเกินไปเด็กตรงหน้าจะตกใจหรือเปล่า เอาไว้คราวหน้าค่อยหาโอกาสขอก็ไม่สาย

               “เดี๋ยวครับ”

               คนตัวเล็กรีบเรียกอีกฝ่ายที่กำลังจะหันไปรวมกับกลุ่มเพื่อนเอาไว้ ก่อนจะต่อด้วยประโยคที่ทำให้โยยิ้มจนแก้มปริ

               “เรื่องไอดีไลน์จะแลกก็ได้นะครับ”



TBC......




TaLk

 หายหน้าไปนานมากค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ //กราบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
สำหรับตอนนี้ก็อยากให้อะไรๆ มันชัดเจนขึ้น และหลังจากนี้ก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ ฝากติตตามกันต่อไปด้วยค่ะ //กราบ -อี้หลิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 16:24:40 โดย zvonek »

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ น่ารักปนหน่วง

เหมือนเป้จะมีใจให้พี่โยซะแร้ววว

สงสารกอล์ฟ  :o12:

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ตอนที่5 ข้อสงสัย




               ช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันเสาร์ที่มีลมเย็นพัดผ่าน สองเพื่อนซี้ต่างไซส์นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเสื่อใต้ต้นมะม่วงที่ช่วยบังแดดจ้า เพราะเห็นว่าวันนี้อากาศค่อนข้างดี กอล์ฟเลยชวนเป้ออกมานอนทำการบ้านในสวน
   
               แต่ถึงจะว่าอย่างนั้น คนที่สนใจจริงๆ ก็มีแค่คนเดียว สมุดคณิตศาสตร์พร้อมหนังสือเรียนกางแผ่ ในขณะที่นักเรียนดีเด่นพยายามอธิบาย ส่วนอีกคนกลับให้ความสนใจไปที่หน้าจอมือถือที่ซ่อนไว้ใต้หนังสือ เป้พิมพ์ตอบกับอีกฝ่ายที่ส่งขอความผ่านโปรแกรมแชทสีเขียวอย่างต่อเนื่อง รอยยิ้มสดใสปรากกฎบนใบหน้า ปล่อยให้เสียงพูดของคนสอนลอยผ่านหูไปด้วยความเผลอตัว แทบลืมไปเลยด้วยซ้ำว่ากำลังให้เพื่อนสนิทสอนการบ้านอยู่

               “...พอแทน x กลับลงไปในสมการ....แม่งเล่นมือถืออีกแล้ว!!!”

               กอล์ฟโวยลั่นพร้อมกับคว้าหนังสือที่เพื่อนใช้บังขึ้นมาแล้วเอาสันปกเขกหัวอีกฝ่ายแรงๆ

               “เชรี้ยกอล์ฟ เจ็บนะ” เป้ร้อง มองเพื่อนตาขวาง กำลังคุยเพลินๆ ตีมาได้

               “คุยกับใครนักหนา คนสอนก็สอนไปดิ พูดจนปากจะถึงรูหู เล่นไปด้วยแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะเข้าสมอง”

               ครั้งที่ห้าแล้วสำหรับวันนี้ที่พูดๆ อยู่ไอ้ตัวเล็กก็คว้ามือถือขึ้นมากด ถึงจะไม่ชอบเลขอย่างน้อยก็เกรงใจคนสอนอย่างเขานิดนึงเหอะ น้อยใจเป็นนะโว้ย

               พอเป้เห็นเพื่อรักเริ่มสติแตก ชักเริ่มรู้สึกถึงรางร้าย รีบส่งยิ้มขัดตาทัพไปก่อนจะโดนงอนแบบสามวันง้อไม่หาย

               “พอดีคุยติดพันไง จะเสร็จแล้ว กอล์ฟคนดีอย่าโกรธเลยนะ”

               มันเกิดไม่สอนขึ้นมาคนซวยจะเป็นเขา

               “ไม่ต้องมายิ้มประจบ ก่อนการบ้านจะเสร็จกูจะยืดมือถือมึงไว้ก่อน”

               พูดพลางแย่งมือถือในมืออีกฝ่ายมา

               “เห้ย เอาคืนมานะโว้ย”

               คนตัวเล็กไม่ยอมง่ายๆ รีบดึงกลับแต่กอล์ฟแรงเยอะกว่า ที่ทำนี่ก็เพื่อตัวมันเลยนะ

               “เป้ปล่อย”

               “กอล์ฟแหละปล่อย”

               ยังคงไม่ยอมแพ้ พยายามยื้อยุทธเต็มที่ ฉุดกันไปฉุดกันมา จากที่นั่งๆ อยู่ก็ล้มไปนอนกับพื้นจนได้ เห็นแบบนี้เป้ยิ่งไม่ละความพยายามขึ้นไปทับเพื่อนไว้เต็มตัว กอล์ฟชักเริ่มเสียเปรียบ เขารีบออกแรงดันคนตัวเล็กพลิกไปด้านล่าง

               “ปกติก็ไม่เห็นจะติดขนาดนี้ นี่คุยกับใครกันแน่”

               จากตอนแรกที่แค่รำคาญตอนนี้เริ่มสงสัย

               “จะให้ใครก็เรื่องของกูป่ะ ไม่เกี่ยวกับมึงเลย เอาคืนมา”

               “ตอบมาก่อนว่าคุยกับใคร”

               “ไม่ตอบ ไม่ใช่เรื่องอย่างี่เง่า”

               “ใครกันแน่ที่งี่เง่า แค่ตอบมันยากนักเหรอ”

               ตวาดเสียงดังลั่น อารมณ์โกรธพุ่งขึ้นถึงขีดสุด เป็นเพื่อนกันมาเท่าอายุ ไม่เคยเลยที่ไอ้ตัวเล็กทำอะไรแล้วเขาจะไม่รู้

               “กอล์ฟแกล้งอะไรเพื่อนอีกแล้ว เสียงดังไปถึงในบ้านเชียว”

               เสียงทักที่ดังไม่แพ้กันดังจากหญิงวัยกลางคนที่เดินออกมาจากบ้านสองคนบนเสื่อจึงหยุดชะงัก ก่อนที่เป้จะผลักอีกฝ่ายออกแรงๆ

               “แม่ กอล์ฟขโมยมือถือเป้ฮะ”

               ได้ทีรีบลุกขึ้นมาฟ้องเจ้าของบ้านตัวจริง

               กอล์ฟดันตัวขึ้นอย่างหงุดหงิดก่อนจะรีบแก้ต่างให้ตัวเอง

               “ก็เป้มันเอาแต่เล่นมือถือไม่สนใจที่ผมสอนอ่ะแม่”

               “ก็คนมีธุระคุยนี่ ไม่ได้ไม่มีคนคบแบบกอล์ฟ”

               “พูดให้มันดีๆ นะ ใครไม่มีคนคบ”

               “ก็กอล์ฟไง ไอ้งี่เง่า”

               “พูดแบบนี้จะไฝว้ใช่ป่ะ”

               “พอแล้ว!! หยุดทั้งคู่เลย” คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตวาดดังลั่น เด็กสองคนถึงกับเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่

               ...ชิบหาย ลืมสนิทว่าแม่ยังยืนอยู่...

               “กอล์ฟเอามือถือคืนเป้ไป...”

               “แต่...”

               “ไม่มีแต่ คืนเป้ไป เป้ก็ไม่ต้องยิ้มได้มาแล้วปิดเครื่องตั้งใจทำการบ้านไป ถ้าแม่ได้ยินเสียงใครทะเลาะกันอีก จะโดนทั้งคู่เข้าใจไหม”

               คำสั่งเฉียบขาด ทำให้คนฟังทั้งสองได้แต่ตอบรับ

               “เข้าใจแล้วครับ”

               พอได้รับคำตอบที่พอใจ เธอก็เดินกลับเข้าบ้านไปปล่อยให้เด็กอารมณ์บูดสองคนเคลียร์กันต่อ กอล์ฟรีบยัดมือถือใส่มือเป้ ในขณะที่คนรับมาก็รับปิดเครื่องแทบจะในทันที

               ทั้งคู่มองหน้ากันแบบคนที่เคยรับรู้ถึงความสยดสยอง ก่อนที่จะเผลอยิ้มออกมา

               “ขอโทษนะ กอล์ฟอุตส่าห์ตั้งใจสอน”

               เป็นเขาเองที่ผิด เป้รู้ดี แต่ตอนโดนขัดอารมณ์มันก็ขึ้นจริงๆ

               “รู้ตัวก็ดี”

               “เอ่อน่า ว่าแต่ไม่คิดจะขอโทษกูบ้างเหรอ”

               “เรื่อง?”

               “เรื่องที่มึงก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวกูไง”

               คนฟังถึงกับชะงัก คำว่าก้าวก่ายดังก้องอยู่ในหู เมื่อไหร่กันที่เป้มีเรื่องส่วนตัวกับเขา อารมณ์ที่พึ่งดับเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ได้แต่สะกดมันไว้ข้างใน

               ...เย็นไว้กอล์ฟเป้อาจจะไม่ได้ตั้งใจ...

               พยายามคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งแย่เป็นแค่เพื่อนสนิทไม่มีสิทธิก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ความรู้สึกน้อยใจแผ่กระจายเต็มอก ทั้งๆ ที่เคยมีกันอยู่แค่เรา ทั้งๆ ที่รู้กันอยู่ทุกเรื่อง ทำไมอยู่ๆ เขาก็ถูกกีดกันออกมาได้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

               “กอล์ฟ เป็นอะไร หายโกรธได้แล้ว”

               คนตัวเล็กเห็นเพื่อนนิ่งไปนานลองถามดูด้วยความสงสัย เมื่อกี้ยังยิ้มให้เขาอยู่เลย

               “เอ่อโทษที มาทำต่อกันเหอะ”

               พูดพลางก้มหน้าพลิกหนังสือเรียนไปด้วยใจที่ไม่ได้สงบลงเลยแม้แต่น้อย




               ปกติแล้วกิจวัตรประจำวันของกอล์ฟในตอนเช้าคือการเดินไปปลุกเป้ แต่เพราะเมื่อวานตอนเย็นพ่อแม่ของคนตัวเล็กกลับมาบ้าน ทำให้วันนี้เขาว่างงาน

               เด็กหนุ่มใช้สายยางพ่นไปตามต้นไม้ในสวนอย่างเหม่อลอย ขอบตาดำคล้ำ คล้ายคนไม่ได้นอน ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะเมื่อคืนมัวแต่คิดเรื่องเพื่อนสนิททั้งคืนจนนอนไม่หลับ ลางสังหรณ์บอกเขาว่าไอ้เจ้าของไลน์ปริศนากำลังจะเป็นตัวปัญหาในชีวิตเขา

               อยากจะสืบให้รู้ แต่ดูจากที่เป้โกรธเมื่อวาน ก็รู้ได้เลยว่าหมอนั่นกำลังติดอย่างหนัก ปกติแล้วเป้จะไม่เถียงเขา ถ้ามันผิดจริง แต่เมื่อวาน หมอนั่นมันลืมตัว ถึงตอนหลังจะยอมให้เหมือนทุกที แต่หมอนั่นลืมตัว ถ้าถามไปอีกยังไงก็คงไม่ได้คำตอบแน่ จะทำยังไงดีนะ

               ยังไม่ได้คำตอบ สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างที่คุ้นเคย เดินออกจากบ้าน รีบเดินตามไปริมรั้วเตรียมเอ่ยทักเพื่อนตัวเล็ก แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มให้กับเครื่องมือสื่อสารในมือ เดินไปกดไป อย่างมีความสุข คำทักทายกลืนหายไปในลำคอ วันนี้เป้แต่งตัวน่ารัก เห็นใส่เชื้อเชิร์ตสีชมพูหวานกางเกงตัวโปรดเต็มยศ ปกติถ้าหมอนั่นจะออกไปเที่ยวข้างนอกมันจะเรียกเขา ถ้ามีเพื่อนนัดเพื่อนทุกคนที่มันคบก็เป็นเพื่อนเขา แล้วทำไมเขาถึงไม่รู้ คิดจะตะโกนถาม แต่อะไรบางอยากบอกเขาว่าอย่า คิดจะลองตาม แต่ในวูบหนึ่งก็รู้สึกกลัว

               ...กลัวว่าถ้ารู้เขาจะไม่ใช่คนสำคัญที่สุดในชีวิตมันอีก...

               จึงได้แต่ปล่อยให้เป้ทิ้งระยะห่างออกไปทุกที




TBC......




TaLK

เป็นตอนสั้นๆ ที่เขียนแล้วเขียนไม่ออก รู้สึกหน่วง สงสารน้องกอล์ฟฟฟฟฟฟฟ แทบอยากจะปาพล็อตในมือทิ้ง แง๊ ฉันทำอารายยยยยยยย
และหลังจากนี้ก็จะหนักไปกว่านี้อีกค่ะ //อ้าวอีนี่
เปิดเทอมได้สามสัปดาห์แล้ว งานการยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกที เจอหน้าอ.ทีก็ฮึ่มแฮ่ ยัยอี้ทำไมยังไม่ส่งโปรเจ็กษ์บทที่สองให้ผมดู โฮร่วววววว กลัวไม่จบเหลือเกิน :katai1:
พอเริ่มปสด.ก็มีไฟเขียนนิยายขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ฮา
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ทั้งคนที่พึ่งเข้ามาเจอ ทั้งคนที่อ่านอยู่แล้ว ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่หลงเขามา อย่าพึ่งหนีกันไปไหนนะคะ –อี้หลิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 16:41:01 โดย zvonek »

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ดันนนน

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
สงสารกอล์ฟ แต่นะคนมันเป็นเพื่อนกันมานาน เคยเป็นคนที่สำคัญที่สุดของอีกฝ่ายแล้วอยู่ๆก็โดนอีกคนทิ้งไปแบบนี้ก็เจ็บ ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของกอล์ฟเป็นความรักเพื่อนฉันใด

ความรู้สึกของโยกับเป้ก็เหมือนกัน แต่ติดใจที่เพื่อนของโยบอกว่า.....อีกแล้ว

กอล์ฟมีท่าทีว่าจะเด่นได้ เรียนดี เก่งฟุตบอล เอาใจช่วยกอล์ฟนะ

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
หน่วงมาก อ่านแล้วภาพออกมาเป็นฉากๆ น้ำตามันคลอ อินมากกก :hao5:

ออฟไลน์ kumiko yamashita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อู้ววว น่าติดตามมากๆๆๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ตอนที่6
สารภาพ




               เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งกับม้าหินข้างสนามฟุตบอล บอกปฏิเสธคำชวนของเดอะแก็งค์ในสนามก่อนจะคว้าหนังสือหนังสือสรุปเคมีม.ปลายขึ้นมาอ่าน

               “ขยันอะไรแต่เช้ามึง”

               สายตาของกอล์ฟยังคงจ้องอยู่ที่ตัวหนังสือตอนก้องเดินเข้ามาถาม

               “กูแค่เบื่อฟุตบอล”

               ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อเช้าเขาบังเอิญเดินไปเจอเป้นั่งอยู่ข้างสนามบาส ก้องคงต้องคิดว่าอีกฝ่ายป่วยหรือไม่ก็เป็นบ้าแน่ๆ เพราะนอกจากไอ้เป้แล้วฟุตบอลเนี่ยแหละที่เป็นหนึ่งในใจของกอล์ฟมากที่สุด

               เขาเลือกที่จะนั่งตรงข้ามกับเพื่อนสนิท เลือกที่จะนั่งจ้องหน้าเพื่อนที่คบกันมานานอย่างสังเกตการณ์ ไม่ใช่ว่ากอล์ฟจะไม่รู้ตัวแต่ก็ไม่คิดเปิดปากให้อีกฝ่ายสืบหาความจริงใดๆ

               “เป้มันก็แค่เห่อของใหม่ ยังไงมึงก็สำคัญที่สุดอยู่แล้ว”

               ในที่สุดกอล์ฟก็ยอมเงยหน้าออกจากหนังสือ ที่อ่านไม่ได้เข้าหัวเลยแม้แต่นิดเดียว

               “เกี่ยวอะไรกับเป้”

               ยังคงปากหนักเสมอต้นเสมอปลาย บางทีก้องก็อยากจะด่า เพราะเป็นแบบนี้ไงถึงต้องมานั่งทำหน้าอมทุกข์อยู่แบบนี้

               “เมื่อกี้กูเห็นเป้นั่งอยู่ข้างสนามบาส”

               “กูรู้”

               กอล์ฟตอบ ทำไมเขาจะไม่รู้ ก็ในเมื่อพอไอ้ตัวเล็กจอดจักรยานที่ถอยมาใหม่เสร็จก็รีบวิ่งแจ้นไปสนามบาส

               “อยากลองเล่นบาสดูน่ะ”

               แทบไม่เชื่อหูตัวเองตอนได้ยิน เป้ที่เซ้นต์กีฬาต่ำยิ่งกว่าแกนใต้เปลือกโลกบอกอยากจะเล่นกีฬา แถมเป็นบาสไม่ใช่ฟุตบอลที่เคยนั่งดูมาตลอดด้วย

               “ถามจริงจังนะ มึงไม่คิดจะทำอะไรหน่อยเลยเหรอ”

               คำถามของก้องทำให้เขาหลุดออกจากความคิดตัวเอง บางทีก้องก็เป็นพวกรู้ดีจนน่ากลัว

               “เป้มันก็แค่อยากจะลองเล่นบาส กูต้องทำอะไรเหรอ”

               เป็นแค่เพื่อนน่ะจะมีสิทธิทำอะไรได้ล่ะ จะให้เหตุผลว่าอะไร อย่าเล่นเลย เดี๋ยวหอบขึ้น เดี๋ยวเหงื่อออก แบบนั้นเหรอ ยังไงเป้ก็เลือกที่จะเล่นเอง มันจะเลิกไปดูบาสแล้วมานั่งดูเขาข้างสนามเหมือนเดิมหรือยังไง

               แค่ว่า ‘เขาหวง’ มันไม่ใช่เหตุผลสำคัญอะไรเลย




               เวลาล่วงเลยมาถึงกลางสัปดาห์ เป้ก็ยังคงไปนั่งสนามบาสทุกวัน และแม้กระทั้งตอนกลางวัน ก็ยังหายไปกับพวกนักบาส

               “กอล์ฟไอ้เป้ไปไหนวะ กูพึ่งรู้ว่าแม่งถอยจักรยานใหม่มา โคตรสวยอ่ะ”

               ปอนด์ที่ช่วงนี้ยุ่งกับการซ้อมวงโยฯจนไม่มีเวลามาเจอหน้าเพื่อนๆ เอ่ยถามพร้อมๆ จ้วงข้าวกระเพราในจานไปด้วย

               “ไปกับพวกเด็กบาสม.ห้า”

               ไม่ใช่กอล์ฟที่ตอบ แต่เป็นก้องที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นฝ่ายแก้ข้อสงสัย

               “อ้าวไม่เห็นจะรู้ว่ามันสนิทกับรุ่นพี่”

               “กูก็ไม่รู้”

               สี่คำสั้นๆ จากเพื่อนที่สนิทที่สุดของคนในบทสนทนาทำเอาปอนด์ต้องรีบมองหน้าก้องเพื่อนขอคำอธิบาย

               ก้องส่ายหน้าพลางส่งสายตาให้อัพเดตกันนอกรอบ ไม่งั้นอาจมีการฆาตกรรมเกิดขึ้นกลางโรงอาหารก็เป็นได้ ปอนด์เข้าใจดี จึงได้รีบเปลี่ยนเรื่องพูด รอจนกระทั้งกอล์ฟเดินไปหาน้ำดื่ม

               “เชรี่ยแม่งทะเลาะกันเหรอวะ”

               แทบจะตะโกนถามทันทีที่เพื่อนเดินพ้นโต๊ะไป

               “ตะโกนหาพ่อง มันไม่ได้ทะเลาะกัน”

               “แล้ว...”

               “มคปด.ไงมึง”

               มคปด.= หมา-คาบ-ไป-แดก เป็นคำตอบที่ได้ใจความดีมาก ปอนด์คิดอยู่แล้วว่าสักวันจะต้องมีวันนี้ เป็นโชคร้ายของกอล์ฟเองที่ดันเกิดมาปากหนัก ในขณะที่เป้เองความรู้สึกช้า ช้าขนาดที่เพื่อนรอบๆ ตัวรู้กันหมดแล้ว เจ้าตัวก็ยังคงไม่รู้สึก

               ปอนด์กับก้องจึงได้แต่ถอนหายใจมองคนที่เดินถือขวดน้ำเปล่ากลับมาที่โต๊ะ

               ...พวกกูควรจะช่วยมึงยังไงดีวะ...



               วันนี้พี่โยชวนเป้ไปดูหนังร้อยบาทวันพุธ ช่วงนี้มีหนังเพลงแนวแฟนตาซีเรื่องหนึ่งน่าสนใจอยู่ ถึงจริงๆ แล้วสิ่งที่เป้สนใจมากกว่าจะเป็นพี่โยก็เถอะ

               เขาเดินตามรุ่นพี่ที่สูงกว่าเขาเกือบยี่สิบเซ็นต์เข้าไปในโรงหนัง มือนึงถือป็อปคอนรสเค็มที่อีกฝ่ายชื่นชอบ เห็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกันอีกหลายคนเข้าโรงมาเหมือนกัน แต่ไม่รู้จักเลยไม่ได้ทักทายอะไร แอบกังวลนิดหน่อยว่าจะถูกจับไปนินทาแปลกๆ หรือเปล่าที่มากับพี่โยแค่สองคน อีกฝ่ายยิ่งเป็นคนดังในโรงเรียนอยู่ด้วย

               หนังเริ่มแล้ว เสียงเพลงของนักแสดงนำทำให้คนดูจมดิ่งไปกับเนื้อหาที่ต้องการจะเล่า เป้แอบอ่านซับไม่ทันนิดหน่อย แต่ก็พอเข้าใจเนื้อหาได้ไม่ติดขัด

               ทั้งคู่ส่งเสียงหัวเราะพร้อมๆ กับคนอื่นๆ ในโรงเพราะมุขตลกของตัวละคร หรืออาจจะเป็นแค่เป้คนเดียวเพราะรุ่นพี่นั้นเอาแต่แอบมองใบหน้าตอนหัวเราะของอีกฝ่ายเสียมากกว่า

               ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกโยก็รู้สึกว่าเป้น่ารัก เจอกันครั้งที่สองก็ยิ่งชอบ พอครั้งที่สามที่สี่ที่ห้าความรู้สึกก็ยิ่งทวีคูณ ด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม แล้วก็ความเอาแต่ใจนิดๆ ของอีกฝ่าย

               ภายใต้ความมืดของโรงหนัง เขายังเห็นประกายใสแจ๋วในตาของอีกฝ่าย มันคงเป็นเหตุผลให้เขาเอื้อมมือไปกุมมือของคนตัวเล็กที่วางไว้บนตัก

               เป้หน้าร้อนวูบ ลมให้ใจสะดุด ภาพบนหน้าจอหยุดค้างไปชั่วขณะ ไม่กล้าขยับเขยื้อน เหล่มองคนข้างๆ อีกฝ่ายมองตรงไปที่จอภาพ เห็นรอยยิ้มจางๆ ในความมืด เป้ไม่แน่ใจว่าพี่โยยิ้มให้กับหนังหรืออะไรกันแน่ แต่ตัวเขาเองที่กำลังยิ้มไม่หุบตอนนี้เป็นเพราะ ฝ่ามือที่กุมมือเขาอยู่อย่างแน่นอน

                  ...ชอบ...เป้ชอบพี่โย...

                  ...ชอบ...จนอยากอยู่ใกล้ๆ...


               “ชอบ...”

               เสียงกระซิบเบาๆ จากคนข้างๆ ทำหัวใจของคนตัวเล็กเต้นรัว ยิ่งอีกฝ่ายดึงมือเขาไปสัมผัสกับหน้าอกของตัวเอง

               “พี่ชอบเป้”

               เสียงหัวใจเต้นรัวดังของทั้งสองคนแทบกลบคำพูดนั้น หากแต่สำหรับคนฟังมันดังก้องอยู่ตลอดเวลา จนกระทั้งหมดเวลาสองชั่วโมงของหนังที่เขามีสมาธิดูแค่ครึ่งเรื่องแรก

               จนกระทั่งอีกฝ่ายจูงมือเขาออกจากโรงหนัง

               เขาก็รู้ว่าสถานะของพวกเขามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป




TBC......




Talk

อ่า...เป็นตอนที่สั้นและเขียนยากอีกแล้ว (ไม่ว่าฉากแบบไหนก็ยากไปหมดนั่นแหละ) โดยส่วนตัวรู้สึกว่าตั้งแต่เขียนมา ตอนนี้เขียนยากที่สุดเลยค่ะ //และตอนหน้าก็ยังคงจะพูดคำนี้อยู่ ฮา
เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมามีโอกาสได้ลองแก้พล็อตเรื่องนี้ดู ปรากกฎว่าตอนมันเพิ่มคูณสองซะงั้น เห็นทีงานนี้จะได้อยู่กันไปยาวๆ ซะแล้วละคะ อย่าพึ่งเบื่อแล้วหนีกันไปไหนนะคะ ถ้าไม่โดนโปรเจ็กษ์ทับตายจันทร์หน้าจะหาเวลามาอัพต่อค่ะ
แดดกทม.เริ่มกลับมาร้อนแล้ว อย่าลืมทากันแดดออกจากบ้านกันนะคะ รักทุกคนที่หลงเขามาอ่านค่ะ //กอด :กอด1: –อี้หลิง
ปล.ตอนต่อไปก็มาสงสารน้องกอล์ฟไปด้วยกันอีกนะคะ ฮา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 16:52:21 โดย zvonek »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ดราม่ามาเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักต้องซ่อน ตอนที่6 สารภาพ [26.01.58]
« ตอบ #19 เมื่อ: 27-01-2015 00:51:09 »





ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
สงสารกอล์ฟ แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆเพราะว่าเป้ไม่ได้มองกอล์ฟแบบแฟน
ชื่นชมกอล์ฟนะที่อดทน ไม่เข้าไปยื้อแย่งหรือก่อกวนเพราะว่าหวง
ตอนนี้เป้มีความสุขเพราะว่าได้รับความรักตอบกลับจากโย
เป้มีความสุข เพื่อนก็เป็นสิ่งอื่นที่อยู่ไกลออกไปจากความคิด ณ ตอนนี้
แต่คล้ายกับมีความรู้สึกว่าวันใดที่ความรักของเป้มีปัญหา
เมื่อนั้นเป้จะเห็นความสำคัญของความว่าเพื่อนอีกครั้ง ตามครรลองของชีวิตมนุษย์

อยากให้กอล์ฟเก็บความรู้สึกและคงการเป็นเพื่อนที่ดีของเป้ไว้
เราเชื่อว่าห่างกันไปสักพัก กอล์ฟมีคุณสมบัติที่เยี่ยมพอที่จะกลายเป็นผู้ชายที่ดีพร้อมได้
ไม่แน่ว่าเป้อาจจะหันมามองกอล์ฟด้วยสายตาใหม่ก็ได้ ยามที่มีคนเริ่มชื่นชมกอล์ฟ
ตอนนี้พี่โยเท่ห์ แต่รออีกนิดรุ่นน้องก็โตมากลบรัศมีได้ไม่ยาก

เป็นแม่ยกน้องกอล์ฟค่ะ สู้เเขานะลูก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2015 02:51:59 โดย Kano Jou »

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
สงสารกอล์ฟ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ดราม่ามาเลยยยย สงสารอ่าพี่เค้าจะรักจริงมั้ยนะ นี่ก้อยังไม่รู้ว่าใครพระเอก หน่วงจัง :mew4:

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

แอร๊ยยยย หน่วงงง  :hao5:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
กอลฟ์โคตรน่าสงสาร ทำใจให้ได้นะกลอฟ แล่อยเป้ไปเถอะ คนไม่รักทำไงก็ไม่รัก ฮือออ สงสาร

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
สงสารน้องว่ะ เหมือนได้ของเล่นใหม่แล้วเห่อ ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าสนใจเรื่องเรียนรึเปล่า หรือว่าพี่โยจะมาสอนให้ ถ้าสอนก็สนับสนุน

แต่ถ้ามาทำให้น้องไม่สนใจเรียนจะทำไง จะให้ของตายอย่างกอล์ฟช่วยอีกสินะ สงสารกอล์ฟ แต่ก็อย่างที่น้องเป็น ความเป็นเพื่อนมีมากเกินไป จนกลายเป็นไม่รู้ใจตัวเอง แต่ถึงกอล์ฟบอกไป เป้เองก็คงจะปฏิเสธ

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ตอนที่7
คำตอบของข้อสงสัย


               เป้ไม่เคยเข้าครัวมาก่อน ถ้าไม่นับการชงมาม่าหมูสับกินตอนดึก นี่ก็ถือเป็นการเข้าครัวครั้งแรกของเขา แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น สิ่งที่เขาลงมือทำในวันนี้ก็เป็นแค่แซนวิชอย่างง่ายเท่านั้นแหละ

               กล่องพลาสติกสำหรับเก็บอาหารสามใบวางเรียงกันบนโต๊ะ ภายในบรรจุแซนวิชหน้าตาพอใช้ได้กล่องละสามชิ้นโต

               พ่อครัวจำเป็นยืนยิ้มให้กับผลงานของตัวเอง ดูๆ ไปก็หน้าตาน่ากินอยู่เหมือนกัน เขาที่โดนคนรอบตัวแซวอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นคุณหนูลงทุนทำด้วยตัวเองเลยนะ เมื่อวานก็แอบถามป้ากานต์แม่บ้านที่คุณแม่จ้างมาดูแลบ้านไว้แล้วด้วย รับรองว่าไม่มีอะไรผิดพลาด

               “จะกินได้เร้อ”

               เล่นเอาความภาคภูมิใจหายเกลี้ยง เป้หันมองคนแซวที่ตอนนี้กำลังคว้ากล่องแซนวิชเขาไปพลิกหน้าพลิกหลังดูเล่นอย่างสนุกมือจนของข้างในจะปนกันเป็นสลัดอยู่แล้ว

               “โหย ทำแบบนั้นก็เละหมดดิ”

               เขาโวยวาย พยายามจะแย่งกล่องในมือของเพื่อนสนิทตั้งแต่เกิดออกมา กอล์ฟบ้าถ้ารู้ว่าจะทำแบบนี้เขาไม่ทำเผื่อหรอก

               “นี่ทำสลัดเหรอ” เป้แทบอยากจะทึ้งหัวตัวเอง ก็เขย่าซะขนาดนั้นมันจะอยู่เป็นก้อนให้แกเร๊อะ

               “แซนวิชโว้ย แซนวิช สูตรโรงแรมกูเลยนะโว้ย”

               แน่นอนว่าไม่ใช่ มันเป็นสูตรของป้ากานต์ที่ถามไว้เมื่อวานชัดๆ แต่พอใส่ชื่อโรงแรมพ่อเข้าไปเกรดมันดูดีกว่าอ่ะ

               “กูละเป็นห่วงชื่อเสียงโรงแรมพ่อมึงจริงๆ”

               “แม่ง บ่นมากไม่ต้องแดก”

               “เห้ยกินๆ”

               กอล์ฟรีบยกกล่องตัวเองออกให้พ้นมือคนตัวเล็กตรงหน้าที่ดูเหมือนว่าตอนโกรธจริงๆ ซะแล้ว

               เป้ทำปากยื่นเป็นตูดเป็ด ขมวดคิ้วแน่นเหมือนทุกทีที่โดนขัดใจ ก่อนจะตัดสินใจต่อยท้องเพื่อนไปเต็มแรงแล้วรีบคว้าอีกสองกล่องที่เหลือบนโต๊ะวิ่งหนีออกจากบ้าน

               อยู่รอให้กอล์ฟตีคืนเหรอ โง่กันพอดี

               เดินบ่นงึมงำกับตัวเองไปตลอดทาง เป้โกรธกอล์ฟจริงๆ นะ อุตส่าห์ทำเผื่อ ถึงจะตั้งใจทำให้พี่โยอยู่แล้ว แต่ก็ทำเผื่อกอล์ฟด้วยแทนที่จะได้คำชมทำไมกลายเป็นโดนแกล้งซะได้ เป้เดินลงส้นแรงๆ ไปจนจะพ้นบ้านที่สามอยู่แล้วจักรยานแม่บ้านที่จะพังแหล่มิพังแหล่ก็มาปาดหน้า

               “เอารีบจัด บ้านไม่ปิดกระเป๋านักเรียนไม่เอาเลยนะมึง รีบขนาดนี้กระโดดขึ้นมาเลยมึง ขาสั้นๆ นี่ใช้เวลาถึงพรุ่งนี้ก็เดินไม่ถึงโรงเรียน”

               เป้โกรธจนไม่อยากจะพูดกับกอล์ฟแล้ว เลยทำแค่ถลึงตาใส่อย่างโกรธแค้นก่อนกระชากกระเป๋าจากมือกอล์ฟแรงๆ แน่นอนว่าต้องปีนขึ้นไปบนจักรยานตามคำชวนแน่ๆ ไม่ใช่เพราะขาสั้น แต่เขาจะไม่ปล่อยให้มันปั่นจักรยานอย่างสบายๆ หรอก

               คิดแล้วก็เสียดายเมื่อวานดันทิ้งจักรยานของตัวเองไว้ที่โรงเรียน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องง้อกอล์ฟให้เสียหมา แต่ถ้าไม่ทิ้งจักรยานไว้ก็ไม่ได้ไปกับพี่โยน่ะสิ พอคิดถึงแฟนหมาดๆ ของตัวเองก็อดที่จะเขินไม่ได้ เมื่อวานพี่โยนั่งแท็กซี่มาส่งที่บ้าน  เป้ชอบเวลาพี่โยยิ้มให้แล้วลูบหัวที่สุด พอคิดถึงสัมผัสนั้นก็รู้สึกร้อนวูบขึ้นมา กลัวคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะว่าเขาเป็นบ้า สุดท้ายก็ตัดสินใจก้มหน้าลงกับหลังของกอล์ฟ

               ดีที่เป้มัวแต่เขิน เลยไม่รู้สึกว่าจักรยานที่นั่งอยู่เซออกนอกเส้นทางไปสองวินาที กอล์ฟถึงกับขากระตุกใจเต้นรัว อยู่ๆ ก็ซุกลงมาได้ เดี๋ยวเขาก็หัวใจวายกันพอดี

               รู้สึกชอบเช้านี้ขึ้นมาซะเฉยๆ มันดีต่างจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเหลือเกิน อยากให้เป้จักรยานหายบ่อยๆ จอดไว้โรงเรียนบ้างก็ได้ มาคิดๆ ดูเขาไม่ได้คุยเล่นกับเป้แบบนี้มาเกือบๆ สองสัปดาห์แล้ว สุขจนมองข้ามกล่องแซนวิชที่เกินมา หรือคำถามที่ว่าเมื่อวานเป้หายไปไหนอย่างสนิทใจ อยากให้ทางไปโรงเรียนไกลออกไปอีกมากๆ ถ้ามันจะทำให้เขาอยู่ด้วยกันแบบนี้ได้ตลอดไป

               แต่คำขอของกอล์ฟคงไม่เป็นจริง เพราะเมื่อถึงโรงเรียน คนตัวเล็กก็วิ่งหายไปกับกล่องสองใบซะแล้ว

                  ...เมื่อกี้มันความฝันหรือไงนะ...





               ถ้าเป็นความฝันบางทีกอล์ฟก็อยากจะฝันตลอดไป เพราะพอตื่นทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม เป้ยังคงอยู่ที่สนามบาส ที่นั่งตรงข้ามเขาตอนพักกลางวันก็ยังคงเป็นไอ้ก้อง และเป้ที่นั่งข้างๆ เขาในห้องเรียนก็ยังคงเล่นโทรศัพท์ ไม่เปิดโอกาสให้เขาชมเรื่องรสชาติของแซนวิชด้วยซ้ำ

               “เดี๋ยวก็โดนยึดหรอก”

               เขากระซิบเตือนในคาบภาษาไทยตอนบ่าย อีกฝ่ายเหลือบมองเขานิดหน่อย ก่อนจะซ่อนมือถือไว้ใต้หนังสือเรียน เหมือนตอนเรียนคาบเช้าไม่มีผิด คิดเหรอว่าถ้าเขาไม่ช่วยบัง จะไม่มีอาจารย์มองเห็น

               ติดมือถือ ไม่สนใจเพื่อนฝูง แถมยังยิ้มคนเดียวบ่อยๆ อาการแบบนี้ไม่ใช่ว่ากอล์ฟจะดูไม่ออก บางทีเขาก็ควรฟังจากปากอีกฝ่ายไว้ให้รู้

                  ...รู้ไว้เผื่อเตรียมใจ...

               “เป้ ถามจริง มีแฟนเหรอ”

               กระซิบถามออกไปแบบนั้น แล้วก็เป็นไปตามคาด อีกฝ่ายดูตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

               “ทำไมคิดงั้นอ่ะ”

               คนตัวเล็กถามกลับเสียงเบาหวิว ดูลังเลที่จะพูดออกมา

               “เซ้นต์กูดี”

               ก็ว่าไปนั่น อีกฝ่ายเปลี่ยนไปขนาดนี้เขาไม่รู้สึกก็บ้าแล้ว เหมือนจะได้ยินคนตัวเล็กพึมพำว่าเขาเซ้นต์เกินไป แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับคำพูดต่อมาของมัน

               “กลับบ้านค่อยคุยกันนะกอล์ฟ”

               ทำไมต้องรอกลับบ้านแล้วค่อยพูด เขาไม่เข้าใจ แต่เห็นสีหน้าอีกฝ่ายดูเป็นกังวลกอล์ฟเองก็ไม่อยากคาดคั้น ที่มันพูดออกมาขนาดนี้เขาก็รู้ได้อยู่แล้วยังแปลกใจตัวเองอยู่เลยที่รับได้มากกว่าที่คิด




               กว่าจะเลิกเรียนเวลาช่างผ่านไปเชื่องช้า พอออดดังเป้ก็หายตัวไปคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอยู่นานสองนาน ขากลับบ้านนี้ไม่ได้มีการซ้อนท้ายกันแบบตอนเช้า ก็ในเมื่อเป้ก็มีจักรยานเป็นของตัวเอง เบาะเสริมด้านหลังก็ไร้ความจำเป็น

               เป้เลือกจะคุยที่บ้านของตัวเอง เด็กสองคนเอ่ยทักทายป้าแม่บ้านที่กำลังรดน้ำต้นไม้ในสวน ก่อนที่กอล์ฟจะเดินตามเป้ขึ้นไปบนห้องนอน

               ทั้งๆ ที่เข้าห้องนี้มาเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่กอล์ฟรู้สึกอึดอัด ไม่อยากฟัง เริ่มโกรธตัวเองนิดๆ ที่เลือกจะถามออกไป ได้ยินกับหูแล้วมีประโยชน์อะไรกัน

               เป้ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงในขณะที่ตัวกอล์ฟเองเลือกที่จะเลื่อนเก้าอี้จากโต๊ะคอมพิวเตอร์มานั่ง

                  “กอล์ฟ....”

               เขาสะดุ้งกับเสียงเรียกของเจ้าของห้อง ก่อนจะพยักหน้าให้เป้เล่าเรื่องของตัวเอง

               “กอล์ฟกูอยากให้มึงสัญญากับกูก่อน”

               เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลยสักนิด กะอีแค่บอกเพื่อนว่าตัวเองมีแฟนมันจะยากขนาดไหนกัน

               “สัญญาอะไร”

               “สัญญาว่าจะไม่เกลียดกู”

               นี่มันงี่เง่า กอล์ฟอยากจะร้องแค่นี้เขาก็อึดอัดจะตายอยู่แล้ว เป้มันจะบิ้วอะไรนักหนา

                  “เอ่อ กูสัญญา แค่จะมีแฟนมึงจะซีเรียสอะไรขนาดนั้น”

               คนที่ซีเรียสมันควรจะเป็นเขาต่างหาก มันควรจะเป็นเขาที่เสียเพื่อนไม่ใช่มันที่ได้แฟน

                  “กอล์ฟ กูก็รู้ว่ามึงแมนเต็มร้อย ถึงมึงจะไม่เคยแสดงว่ารังเกียจตุ๊ดรังเกียจเกย์อะไรแต่บางทีก็ก็กลัว...กลัวว่ามึงจะรังเกียจกู”

               ถ้าเป้บอกออกไปว่าตัวเองกำลังคบกับพี่โย กอล์ฟจะเกลียดเป้หรือเปล่า ยังไงเรื่องแบบนี้มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกยอมรับในสังคมไม่ใช่เหรอ

               “เลิกอ้อมค้อมแล้วพูดออกมา”

               กอล์ฟชักจะหมดความอดทน บอกออกมาสักทีว่ากำลังคบกับใคร ใช่ไอ้หน้าจืดที่อยู่ชมรมบาสหรือเปล่า

               “กูคบกับพี่โย กอล์ฟ กูคบกับพี่โย พี่โยที่เป็นนักบาสโรงเรียน พี่โยที่โรงเรียน พี่โยที่เป็นผู้ชายอ่ะมึง”

               เขาพูดมันออกไปแล้ว เป้พูดมันออกไปแล้ว กอล์ฟยังคงนิ่งไร้ปฏิกิริยาใดๆ บางทีเขาควรส่งสัญญาณบอกเพื่อนก่อน เขาไม่ควร...

               “ติงต๊อง”

               “ห๊า...”

               “กูบอกว่ามึงติงต๊อง ตัวก็เตี้ย เอาแต่ใจ งี่เง่า แถมยังโง่อีก มึงแย่ขนาดนี้กูยังคบมึงได้ แล้วแค่เพิ่มว่ามึงชอบผู้ชายมาอีกอย่างมันจะมีอะไรวะ”

               เป้พุ่งตัวเข้ากอดอีกฝ่าย เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิต กอล์ฟเข้าใจเขา พี่โยก็ชอบเขา เป้ควรจะไปกราบไหว้เทวดาฟ้าดินที่ไหนที่ทำให้เขาได้พบกับคนพวกนี้

               “แม่งกอล์ฟมึงเป็นเพื่อนที่ดีชิบหาย”

               “พึ่งรู้หรือไง”

               กอล์ฟพูดเสียงเบา พยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมมือตัวเองไม่ให้สั่น พยายามอย่างยิ่งที่จะรักษารอยยิ้มบนหน้าเอาไว้

               เป้ผละออกไปแล้ว อีกฝ่ายกำลังยิ้มอย่างมีความสุข คนตัวเล็กที่เขาดูแลมาตลอดกำลังมีความสุข เพื่อนที่เขา ‘รัก’ กำลังมีความสุข เขาควรจะดีใจ เขาควรจะดีใจมาก

               กอล์ฟรู้สึกเหมือนมีก้อนขมๆ ขึ้นมาจุกที่อก เขาเรียกเป้ไปกินข้าวที่บ้าน เขาบอกให้มันอาบน้ำอาบท่าก่อนไปกินข้าว เขาบอกมันว่าเขารู้สึกไม่สบาย ไม่ต้องรอ เขาจะกินยานอน

               ...เขาไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากห้องได้ยังไง...

               ...เขายังแปลกใจที่ตัวเองยิ้มให้อีกฝ่ายได้มากมายขนาดนั้น...

               ...เขาแปลกใจว่าทั้งๆ ที่ยังเดินไปไม่พ้นบ้านอีกฝ่ายดีแล้วทำไมหน้าเขาถึงได้เปียกน้ำฝน...

               ...เขายิ่งแปลกใจว่าทำไมน้ำฝนถึงได้ตามมาถึงห้องนอน...

               ...เขายังคงแปลกใจว่าทั้งๆ ที่เดาทุกอย่างไว้ล่วงหน้าได้ขนาดนี้...

               ...ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะฟังจากปากให้ได้ยิน...

               ...ทั้งๆ ที่ทำใจไว้ล่วงหน้ามากมาย...

               ...ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันไม่ผิดไปจากที่คิด...

               ...ทำไมเขายังรู้สึกเจ็บได้ขนาดนี้...

               ...ก็แค่ได้รับคำยืนยันจากปาก...

               ...บางทีเขาไม่ควรอยากรู้...

               ...บางทีเขาไม่ควรเอ่ยถาม...

               ...บางทีเขาก็ไม่ควรจะ ‘รัก’...

               ...เพราะบางทีเขาเองก็เป็นแค่เพื่อนที่ดีที่สุด...

               ...เพราะบางทีเขาเองก็ไม่อยากที่จะร้องไห้มากมายขนาดนี้...





TBC......




TaLK

ขอถอนคำพูดที่ว่าตอนที่แล้วเขียนยากค่ะ ตอนนี้เขียนยากกว่า โฮร่วววววววววววววว
ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย
กอล์ฟลูกแม่  :o12:
ไม่รู้ว่าอี้เขียนอารมณ์ได้ถึงไหม แต่อี้หน่วงจนแก้ไม่ไหวแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ
อัพเร็วไปกว่าที่คิดหลายวัน เพราะคิดว่าจะเอาเวลาที่เหลือไปปั่นโปรเจ็กษ์ที่เหมือนจะเร่งเหลือเกิน
แอบตกใจกับคอมเม้นต์ตอนที่แล้วนิดหน่อย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ขออย่าพึ่งหนีกันไปไหนเลยนะคะ มาหน่วงไปด้วยกันเรื่อยๆ เถอะคะ (//อ้าวอีนี่)
เห็นพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกปอยๆ ระวังเรื่องสุขภาพกันด้วยนะคะ รักทุกคนค่ะ –อี้หลิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 17:02:27 โดย zvonek »

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

ฮรืออออ....ลูกกอล์ฟของป้าาาา  :o12:

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
เนี่ยแหละ เค้าเรียกว่าใกล้ชิดเกินไป กอล์ฟเองก็ลองมีเส้นทางของตัวเองบ้างนะ จะได้ไม่ยึดติดกับเป้นัก

คนอ่านแบบเราก็ได้ไม่ยึดติดกับที่เป้ต้องคู่กับกอล์ฟเสมอไป

#ปลอบใจตัวเอง

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
โอ้ยมันเครียดมาก




ทำไมนะเพราะคำว่าเพื่อนมันค้ำคอเลยไม่กล้าซินะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด