SPECIAL SPORT DAY 2 “เสร็จยังงงงงงงงงง” ผมโผล่หัวไปหาคุณชายที่ยังยืนอยู่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว คือมึงครับ แค่ใส่ชุดวอร์มมึงจะแต่งอะไรหนักหนาครับที่รัก
วันนี้เป็นวันกีฬาวันแรก ซึ่งวันแรกนั้นผมไม่มีแข่งอะไร ก็เพราะผมลงไปอย่างเดียวแค่ยิงปืนซึ่งยิงปืนมันแข่งวันสุดท้ายนู้นนนน ชิลไปดิ สารรูปผมตอนนี้ก็ไม่อะไรมากหรอกครับ กางเกงยีนส์สีสนิมลายขาด ๆ กับเสื้อยืดคอวีสีขาว สวมทับด้วยแจ็คเก็ตเบสบอลอีกที คนหล่อไม่ต้องแต่งเยอะก็หล่อครับบอกไว้ก่อน กิกิ
“รีบทำไมไม่ไปตั้งแต่เมื่อวาน”
“กวนตีน”
“หึ เล็มผมด้านหน้าให้หน่อยดิ”
หะ? ไรเฟิลหันเบ้าหน้าหล่อ ๆ ของมันมาหา ปรากฏว่าผมด้านหน้าที่ปกติจะเซ็ทให้ตั้งขึ้นตอนนี้มันยาวถึงระดับตาแล้ว ผมชอบไรเฟิลตอนเอาผมลงมากกว่าเอาขึ้นอีก ผมว่ามันดูหล่อและหน้าเด็กกว่าปกติไง เห็นแล้วใจสั่นเป็นจังหวะ Love me like you do งี้ แต่พี่ท่านพอรู้ว่าผมชอบแม่งก็เอาเล้ยยยยย เซ็ทผมด้านหน้าขึ้นตลอดเลยยยยยย เลวมั่ก! แต่วันนี้พี่เขามีแข่งว่ายน้ำไง ผมด้านหน้าก็เลยถูกปล่อยลง หยั่งหล่ออ่ะบอกเลย วันนี้ไรเฟิลแข่งว่ายน้ำฟรีสไตล์ 200 เมตรครับ มาเชียร์กันด้วยนะครับ
“เสร็จแล้ว” บอกพร้อมกับวางกรรไกรบนเคานต์เตอร์ก่อนจะใช้ผ้าปัด ๆ เศษเส้นผมบนตัวขาว ๆ นั่นออก ไรเฟิลจุ๊บปากเบา ๆ ก่อนจะบอกขอบคุณแล้วสวมเสื้อยืดสีดำก่อนจะใส่เสื้อวอร์มแขนยาวทับอีกที ฮือ หล่ออ่ะ มันสูงขึ้นด้วยอ่ะ แต่ผมยังเตี้ยต้อม่อเหมือนเดิมเยย เศร้าจัง TwT
เรามาถึงมหาวิทายลัยก็ตอนเกือบจะเก้าโมงเลยง่ะ เพื่อนก็อยู่ไหนไม่รู้ โอยยยย ไอ้พวกเชี่ยยย โทรหาก็ไม่รับ ผมเลยต้องติดสอยห้อยตามไรเฟิลมาไปคณะเศรษฐศาสตร์ด้วย ทั้งที่จะปล่อยผมไว้ที่คณะก็ได้ แล้วมันก็บอกว่าผมไม่ได้แข่งอะไรตามกูมาน่ะดีแล้ว อย่าแรด แหม.. มันน่าลูบด้วยส้นเท้าจริง ๆ ไอ้หอกเอ๊ย
“อูยยย พกเมียมาด้วยหรอครับ แค่นี้พกเมียมาด้วย”
โครม!~
โปรดอย่าสงสัย ผมยกเท้ายกเก้าอี้ที่โซ่นั่งอยู่จนมันหงาย เก้าอี้ล้มคว่ำแต่ไอ้โซ่ลุกขึ้นทัน
“โหดสัด ฮ่า ๆ” ปูนอยู่ในชุดบอลพูดกลั้วหัวเราะพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ผม ส่วนโซ่หน้างอไปแล้ว แต่มันแค่ตอแหลเท่านั้นแหละฮะ
“แข่งกี่โมง?” ไรเฟิลถาม
“สิบครึ่ง” ปูนตอบ
“จะไปร่วมพิธีเปิดหรือเปล่าวะ?” โซ่ถามต่อ
“ขี้เกียจ” อันนี้ไรเฟิลกับปูนพูดพร้อมกัน ผมกับโซ่เบ้ปาก แต่จริง ๆ ก็ขี้เกียจด้วยแหละ ไม่ไปเขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่คนที่มีส่วนร่วมพิธีเปิดนั้นต้องไป อย่างพวกนักกีฬา(ยกเว้นไอ้สามคนนี้เพราะมันขี้เกียจ) คนที่ขึ้นแสตน คนถือธง ถือป้าย ดัมเมเยอร์ บลาบลาบลา..
“ไปร้านพี่คาลี่กัน” ผมเสนอ อีกสามคนก็พยักหน้ารับ
ในร้านมีคนไม่เยอะเลยครับ ประมาณสองสามคน ไม่รวมพวกผมนะ คนอื่น ๆ คงจะไปดูพิธีเปิดกัน พี่คาลี่ก็ออกมาต้อนรับ ยิ้มแย้มให้เหมือนเคย เรานั่งกินขนมกันไประหว่างรอเวลา จนสุดท้ายก็สิ้นสุดการรอ
โปรแกรมแรกของวันนี้คือฟุตบอล ระหว่าง เศรษฐศาสตร์กับวิศวกรรมศาสตร์
เอิ่ม..
ไรเฟิลจูงมือผมผ่านฝั่งวิศวะไปนั่งที่สแตนฝั่งเศรษฐศาสตร์แบบ.. โอ้มายก้อด.. กูจะโดนแหกไหม
“ไปหาไอ้ไนต์ละนะ”
“อยู่นี่แหละ”
“มึงดูสายตาเด็กคณะมึงมองกูสิ” ผมกระซิบกับมัน ไรเฟิลกวาดสายตามอง คนที่มองอยู่ก็หลบตากันแทบไม่ทัน
“ช่างมัน”
“กี่กิโล”
“อย่าเล่นอีก” ผมหัวเราะ ไรเฟิลยื่นมือมายีผมแรง ๆ โด่ววว อุตส่าห์เซ็ทมา เสียทรงหมด
ตอนนี้นักกีฬาทั้งสองทีมลงสนามแล้ว เสียงกองเชียร์ดังจนแทบไม่ได้ยินเสียงประกาศเลย ผมขยับมือพัดให้ตัวเอง อากาศก็ร้อนจังเลยเว้ย!
ผ่านไปสิบห้านาทีแรกทีมวิศวะนำไปก่อนหนึ่งประตู.. เดี๋ยวครับ เด็กเศรษฐศาสตร์มองหน้าผมทำไมเหรอ? รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยที่คลืบคลานเข้ามาประชิดตัว ไม่คิดว่าผมเป็นหนอนหรอกใช่ไหม โธ่
“ไปไหน?” เงยหน้าถามคนที่ลุกขึ้นยืน ไรเฟิลไม่ตอบแต่ส่งมือมาให้ ผมก็ดันบ้าจี้ยื่นไปจับซะงั้น ไรเฟิลบอกโซ่ว่าจะไปที่สระว่ายน้ำ โซ่พยักหน้ารับแล้วบอกสู้ ๆ จากนั้นไรเฟิลก็พาผมเดินออกจากสแตน
รู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาเลยทีเดียว..
“ไปไหนวะ!!!” ไนต์ตะโกนถามผ่านโทรโข่งตอนเรากำลังเดินผ่านสแตนวิศวะ
“สระ” สั้น ๆ ง่าย ๆ สไตล์ไรเฟิล หมาไนต์ส่งโทรโข่งให้คนแถวนั้นก็จะกระโดดข้ามกำแพงเตี้ย ๆ ออกมา แล้วจำเป็นต้องเอาแขนมาพาดคอผมป่ะวะ!
มาถึงสระว่ายน้ำของมหาวิทยลัย ไรเฟิลปลีกตัวไปคุยกับเด็กคณะตัวเอง ให้ผมอยู่กับไนต์ไปก่อน ส่วนไอ้หมาไนต์ก็พาผมไปหาที่นั่ง นั่งมันชั้นแรกเลย.. สักพักไรเฟิลก็เดินกลับมา ร่างสูงกวักมือเรียกให้เข้าไปหา ผมเดินไปคว้ำมือกับขอบกำแพงที่กั้นระหว่างพื้นสระกับสแตนเชียร์
“ฝาก” ไรเฟิลส่งกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือมาให้ ผมพยักหน้าแล้วรับมา
“จะแข่งแล้วเหรอ?”
“อีกยี่สิบนาที”
“อ๋อ ไปวอร์มดิ”
“จูบหน่อย”
“เฮ้ยย บ้าเหรอ คนเยอะ” ไรเฟิลยกยิ้มมุมปาก
“แคร์คนอื่นมากกว่ากู?” อ้าว มีตัดพ้อเว้ยเฮ้ย!
“เปล่า..”
“จูบสิ”
“เดี๋ยวคนมองมึงไม่ดี”
“ช่างแม่งดิ” ผมเบ้ปากหมั่นไส้ ก่อนจะยื่นหน้าไปแตะปากกับไอ้ฝรั่งตาฟ้าเร็ว ๆ แล้วรีบผละออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงผิวปากจากไอ้ไนต์อยู่ดี
“แถวบ้านมึงเรียกจูบเหรอบันนี่?”
“เอ้า ไอ้เชี่ย” มันส่งมือมาขยี้ผมผมแรง ๆ แล้วหยิกแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว เจ็บอ่ะ..
“ไปสักทีเถอะะะะะะ” ออกปากไล่อีกที คุณชายรังสิมันต์เลิกคิ้ว ยื่นแขนยาว ๆ มาโน้มท้ายทอยผมให้ก้มลงไปก่อนจะฉกริมฝีปากมาดูดดึงกลีบปากผมแล้วพละออกพร้อมกับหันหลังเดินออกไป
ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!
สิบห้านาทีต่อมานักกีฬาของแต่ละคณะก็เข้าประจำที ได้ยินเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ดังมาไม่ขาดเลยครับ พร้อมกับสารพัดคำพูดแทะโลม
อย่างเช่น
“อูยยยย หุ่นแซ่บมาก ขอเจ้สัมผัสหน่อยได้ไหมจ๊ะ”
“ซี้ดดด ซิกแพคช่างน่าลูบไล้”
“โอ๊ยยยย ฉันขอยาโดมมมมม ไรเฟิลเศรษฐศาสตร์คือความเลอค่าของโลกใบนี้”
“กรี๊ดดดด ไรเฟิลน่ากัดมาก”
“หูยยยย เห็นเป้าไรเฟิลแล้วฉันจะอิจฉาหรือสงสารเมียของดีแก”
“แอร๊ยยยย ขอพี่ไรเฟิลเทคโฮมทีนึงค่าาาา”
เป็นต้น..
กูละเพลียและกลัวแทน หญิงไทยหื่นไม่แพ้ชาติใดในโลกจริง ๆ ครับ ฮือ...
เสียงสัญญาณนกหวีดเป่ายาวและนักกีฬาก็ขึ้นไปยืนบนแท่นกระโดด ผมยิ้มให้ไรเฟิลที่มองมาพร้อมกับยกกำปั้นเป็นเชิงให้สู้ ๆ
“Take your marks!!!”
ปัง!!
พอสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้นนักกีฬาก็กระโดดลงไปในสระ ผมจ้องลู่แปดตาไม่กระพริบ ไวเชี่ย..
“มึงว่าใครจะชนะ”
“ลู่แปด” ผมตอบไอ้ไนต์ ตาก็ยังคงจ้องมองเจ้าของร่างสูงที่แหวกว่ายอยู่ที่ลู่แปด ไรเฟิลว่ายไปจนถึงอีกด้านของสระก่อนจะม้วนตัวและถีบขอบสระว่ายน้ำเพื่อดันตัวออกไป.. เหลืออีกร้อยห้าสิบเมตร
“อะไรทำให้มั่นใจขนาดครับเห็ด”
ผมเหยียดยิ้ม “แล้วมึงว่าใคร”
“ไรเฟิล”
“นั่นแง่ะ” ผมกับไอ้ไนต์หัวเราะเมื่อคนที่คิดเป็นคนเดียวกัน ตอนนี้มาถึงรอบสุดท้ายแล้วและไรเฟิลก็ยังคงนำอยู่ ผมยิ้มออกมาก่อนยื่นกำปั้นไปชกกับไนต์เมื่อไรเฟิลแตะขอบสระเป็นคนแรก ตามคาดเลย.. ถ้าไม่ชนะก็ลาออกจากตำแหน่งประธานชมรมว่ายน้ำไปเลย
ระหว่างรอไรเฟิลอาบน้ำเปลี่ยนชุดก็ดูเขาแข่งรายการอื่นกันไป วันนี้กายไม่มา ส่วนฟอร์สไม่รู้นอนตื่นหรือยัง แต่ก็ไม่น่าจะมาแล้ว ไอ้สองคนนั้นมันลงยิงปืนวันสุดท้ายเหมือนกัน แต่วันนี้ขนาดเพื่อนลงแข่งยังไม่มาเชียร์ ดีเยี่ยมจริง ๆ
เดินทางมาถึงวันสุดท้ายของสปอร์ตเดย์กันแล้ว ผมอยู่ในชุดกางเกงยีนส์กับเสื้อยืดของคณะ ไรเฟิลเองก็เช่นเดียวกัน วันนี้เราออกช้าหน่อย เพราะโปรแกรมยิงปืนจะเริ่มก็บ่ายสองนู่น.. ของผมเป็นการยิงปืนสั้นครับ ไรเฟิลเองก็เช่นกัน แล้วทำไมต้องมาแข่งกันเองด้วยวะ
“นี่.. พนันกันไหม?” ผมสะกิดแขนไรเฟิลระหว่างที่เดินไปสนามยิงปืนของมหาวิทยาลัย
“อะไร?”
“ก็แบบ... ถ้าใครชนะไรงี้”
“หือ? ก็รู้อยู่แล้วไหมว่าใครจะชนะ” ไรเฟิลเหยียดยิ้มเหนือกว่า โห่ หยามกันมากไปละ
“ลองป่ะละ? อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ” ผมยักคิ้วท้าทาย ไรเฟิลแสยะยิ้มแล้วพยักหน้า เป็นอันตกลง ใครชนะต้องทำตามคำสั่งของคนแพ้ เบ ๆ ครับ ธรรมดา
“งดเซ็กส์หนึ่งเดือน” ผมเสนอ.. ไรเฟิลนี่อึ้งแล้ว ฮ่าฮ่า ตกใจอะไรขนาดนั้นล่ะคุณเจ้าชายน้ำแข็ง
“บ้าเหรอ!!!”
“เอ้า ถ้ามั่นใจว่าจะชนะแล้วกลัวอะไรล่ะครับ”
“หึ ก็ได้ ถ้ากูชนะมึงก็เตรียมตัวไว้เลย” ไรเฟิลโน้มหน้าลงมาใกล้และมองผมด้วยสายตาที่โคตรจะคุกคาม.. เหมือนโรคจิตเลย ฮืออ ผมชักจะกลัวแล้วนะเว้ย!
ไม่นานก็มาถึงสนาม มีคนมาดูพอสมควรเลยครับ ผมกับไรเฟิลเดินไปที่ฝั่งของนักกีฬา ตอนนี้มีการแข่งขันของประเภทอื่นอยู่พวกผมเลยต้องรอก่อน เรานั่งลงที่ที่กายและฟอร์สเว้นไว้ให้ สองคนนี้ก็ลงโปรแกรมนี้เหมือนกันครับ หรรษามากงานนี้ ไอ้ไนต์ที่ไม่ได้ลงก็มายื่นเท้ารั้วกั้นระหว่างสแตนกับพื้นที่สนาม วันนี้มีน้องตัวเล็กมาด้วย ยังน่ารักเหมือนกัน
“น้องตัวเล็กอ้วนขึ้นหรือเปล่า?” คนถูกทักตาเหลือก ชะงักมือที่กำลังหยิบขนมเข้าปาก
“เออ นั่นดิ แก้มออกแล้วนะกัส” กายก็เล่นด้วยเว้ย! น้องตัวเล็กของผมหน้าเหวอเหลือบมองไอ้ไนต์ หมาไนต์แสร้งกอดอกขมวดคิ้วหน้าเครียด
“ไอ้ไนต์ไม่ชอบคนอ้วนรู้ป่ะกัส” ฟอร์สครับ ตอนนี้น้องหน้าเสียไปแล้ว แล้วปฏิกิริยาของไอ้ไนต์แม่งส่อด้วยไง
“พวกมึงก็เสี้ยมจั๊ง!” ไนต์ยื่นมือมาจะตบหัว พวกผมหัวเราะ รู้ละว่าโดนแกล้ง ออกัสขยับปากบ่นมุบมิบแล้วล้วงมันฝรั่งทอดเข้าปาก
“ลุงไม่ชอบจริงอ่ะ?” น้องช้อนตามถามพร้อมกับเคี้ยวขนมกรุบ ๆ คือมันน่าเอ็นดูมากเว้ย!
“เออ”
“เหรอ? แต่ลุงบอกจับละเต็มมือดี”
“เชดดดดดดดดดดด” พวกผมประสานเสียง น้องตัวเล็กเลิกคิ้วเหมือนไม่มีอะไรและกินขนมต่อไป ไนต์กลอกตาแล้วยื่นมือไปดีดหน้าผากออกัส
“แก่แดดนะมึงน่ะ”
“เอ้า! ความจริงไหมล้าาาาา” จะแซวน้องมันนี่ต้องคิดนาน ๆ หน่อย ไม่เขินแล้วยังเล่นตัวเองอีก ดีจริง ๆ
“สแตนดาร์ดเตรียมตัวครับ!!” ผมเป่าลมจากปากและลุกขึ้นยื่น ส่งมือไปไฮไฟว์กับไอ้ไนต์แล้วเดินไปประจำบล็อก แล้วบล็อกข้าง ๆ ผมดันเป็นไรเฟิลซะงั้น แม่งงงงง ใครเป็นคนจัดวะะะ!!
“อย่าลืมล่ะ” เสียงทุ้มดังแว่วมา ผมปรายตามองแล้วเหยียดยิ้ม
“บอกตัวเองเถอะ” ไรเฟิลหัวเราะหึในลำคอก่อนจะไปสนใจปืนที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมเองก็เช่นกัน
ระหว่างการเตรียมตัวสิบนาทีก่อนแข่งขันผมหยิบปืนขึ้นมายิงแห้งประมาณสามสี่ครั้งก่อนจะวางไว้ที่เดิม จากนั้นจึงเอากระสุนมาใส่ในแม็กกาซีน เราจะยิงสิบนัดครับ ร้อยคะแนน ระยะการยิงยี่สิบห้าเมตร. . . เอื้อมมือไปคว้าที่ครอบหูมาใส่ ผมหลับตาลงทำสมาธิพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก้าวขาออกมายืนในจุดสำหรับยิง กางขาออกพอประมาณ
“เริ่มยิง!!”
ผมใช้มือข้างถนัดจับด้ามปืนเอาไว้ก่อนจะใช้อีกมือโอบ หลับตาลงข้างหนึ่งเพื่อเล็งไปที่เป้า
ปัง!!
กดปลายนิ้วลั่นไกปืนออกไป ผมไม่ได้สนใจจะมองใครจุดโฟกัสของสายตามีเพียงเป้าที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น..
ปัง!!
“เหลือเวลาหนึ่งนาที!!”
เสียงของเจ้าหน้าที่สนามดังมาเมื่อผมลั่นไกกระสุนนัดสุดท้ายออกไปพอดี ผมลดปืนลง ยกยิ้มกับตัวเอง กดถอดแม็กกาซีนออกแล้วแขวนลูกเลื่อนก่อนจะวางปืนลงบนโต๊ะเหมือนเดิมโดยหันลำกล้องเข้าไปทางสนาม
“หยุดยิง!!”
ผมตรวจสอบดูความเรียบร้อยอีกรอบและมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบด้วย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงออกจากช่องยิง
“เจ๋งนี่หว่า”
“เบ ๆ” ผมว่าพร้อมกับแบมือระดับหัวไหล่ ไนต์ทำหน้าประมาณว่า ‘กูไม่น่าพูดเลย’ ผมเลยหัวเราะออกมา
“ไม่ทำหน้างั้นดิ” จิ้มปลายนิ้วกับแก้มของไรเฟิล ร่างสูงจิ๊ปากรำคาญแล้วปัดมือผมออก ผมมองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินหนีก่อนจะหัวเราะออกมา
ที่ไรเฟิลเป็นอย่างนี้ผมเพราะผลคะแนนที่ออกมา..
ปรากฏว่าผมชนะด้วยคะแนนหนึ่งร้อยเต็ม.. แต่คะแนนของไรเฟิลก็ไม่น้อยนะครับ เก้าสิบเก้าเลยนะ.. ที่เขาพลาดเพราะมีช่วงหนึ่งที่เกร็งมากเกินไปจนปืนกระชากและทำให้กระสุนมันไปที่ตำแหน่งเก้าคะแนนแทน.. แล้วมันก็ไม่คุยกับผมเลยตั้งแต่นั้น นี่ก็สองทุ่มแล้วนะครับ ให้ตาย ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ!!
ผมเดินตามเข้าไปแล้วกอดไรเฟิลจากด้านหลัง มันก็ไม่ได้ผลักออกนะครับแค่ไม่หันมาสนใจเท่านั้นเอง โขกหน้าผากกับแผ่นหลังกว้างไปก็หลายทีแต่อีกฝ่ายก็ยังเฉยผมเลยกอดเอวมันไว้แน่นและเบียดเข้าไปชิดจนหน้าบี้กับแผ่นหลังของไรเฟิลแล้ว ถ้าทำจมูกมานะคงหักไปแล้ว..
กลิ่นเหงื่ออ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ นี่มัน. . .
ผมจะไม่คิดอะไร!
“เฮ้.. คุยกันหน่อยดิคร้าบบบ”
“...”
“ไรฟ์.. ไรเฟิล.. ปืน.. ที่ร้ากกกกกกก”
“อย่ามาอ่อยได้ไหม!” ผมยิ้มค้างเมื่ออีกฝ่ายหันมาโดยไม่ทันตั้งตัว ไรเฟิลขมวดคิ้วยุ่งพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง
อะไรงะ..
“อ่อยอะไร อย่ามโน”
“ที่ทำอยู่นี่แหละ”
“...”
“มึงบอกห้ามไม่ใช่ไง ถ้าเกิดกูห้ามตัวเองไม่ได้แล้วจะบอกว่ากูผิดคำพูดไหม!”
“เอ่อ..”
“ให้ตาย! ไปไกล ๆ ก่อนกูจะปล้ำมึงบันนี่!”
“ง่ะ.. ไม่ไล่ดิ เสียใจนะเนี่ย” ..ไม่โดนถีบให้คว่ำก็บุญของมึงแล้วควอทซ์. . . ผมยิ้มโง่ ๆ โชว์ฟันกระต่าย ไรเฟิลขบกรามเหมือนพยายามข่มอารมณ์
“ถ้าสมยอมก็ไม่เรียกปล้ำป่ะวะ”------------------------
จบแล้วค่ะ จบแบบกาก ๆ ตามประสาคนแต่ง ฮืออออ
แต่งออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรเลยฮือ รู้สึกผิด และถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ ._.
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยที่เข้ามาอ่าน รัก ♥