ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒  (อ่าน 1220904 ครั้ง)

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
อ่านแล้วมันส์ดีจริงๆ

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๖๒ ของดีมีในป่า

“พี่บอมบ์ ต้มมาม่ากินไหมพี่ ผมโคตรหิว”ไอ้แม็ควางเป้สนามลงแล้วรีบถามความเห็นผมทันที

“เดี๋ยวก่อนดิ รอผู้กองอนุญาตก่อน ถ้าหิวก็กินดิบไปก่อน ตอนเย็นค่อยกินน้ำร้อนตามทีหลัง”

“หิวมากเลยพี่ หมดแรง”มันเปิดเป้สนามของมันหยิบขนมมากิน

“อย่าเพิ่งถอดเป็นครึ่งท่อนนะทหาร รอคำสั่งผู้กองก่อน ตอนนี้ถอดสายเก่งได้ แต่อย่าเพิ่งครึ่งท่อน”จ่าสั่ง

“ครับจ่า”

“เอามากินบ้างดิแม็ค”ไอ้กรพลกระสุน ๒ แบมือขอขนม

“กินไหมพี่บอมบ์”ไอ้ด่าน คนนี้ตำแหน่งผู้ช่วยพลยิง ไอ้สุภาพบุรุษ ๔ ด. ด่าน เด็ดดวงเดือน ชื่อจริง นามสกุลจริงของมัน มันหยิบน้ำแดงซึ่งมีครึ่งขวดมาแล้วยื่นให้ผมก่อน เสียสละมาก

“เออ กินเหอะ พี่มีของพี่เหมือนกัน ไอ้นุ ไอ้สัส ทำเหี้ยอะไรของมึง”ผมถามไอ้นุตำแหน่งพลกระสุนลูกน้องไอ้ตวงซึ่งกำลังเอนตัวแบบไม่สนใจใคร

“ง่วงนอนอ่ะพี่”มันตอบแล้วลุกขึ้น

“เดี๋ยวค่อยนอน ไอ้สัส ช่วยดูคนอื่นหน่อยว่าเขาทำอะไรกัน กูไม่อยากมีเรื่องในป่ากับใครนะ”ผมสังเกตไอ้นุมาหลายครั้งแล้ว มันชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง บางทีผมเองก็โมโหเหมือนกัน ถึงเวรให้ไปรับข้าวรับน้ำมากิน มันก็ชอบทำอิดออด วอนจะโดนผมตบหลายครั้งแล้ว ผมไม่อยากจะเตะ ตบ ต่อย ใครสักเท่าไหร่ ไม่อยากมีปัญหาบาดหมางใจกัน แต่บางทีมันก็เกินไป

“ก็เขาไม่ได้ฝึกแล้วนี่พี่บอมบ์ ก็นอนดิ จะสนใจใคร”ตอบได้กวนตีนมากเลยครับ

“มานี่ดิ”ผมกวักมือ มันเดินเอื่อยเฉื่อยแบบกวนตีน ผมเหยียดหมัดขึ้นจะต่อยหน้าแล้ว ถ้าไอ้มหาไม่มาจับแขนผมไว้ก่อน

“เฮ้ยมึง ใจเย็น”

“กูบอกให้ดูคนอื่นบ้าง เข้าใจคำพูดกูป่ะ กวนตีนนะมึงไอ้เหี้ย มาฝึกเป็นหมู่เป็นคณะ คนอื่นเขาทำอะไรมึงก็ทำตามเขาดิ”

“เฮ้ย ไอ้บอมบ์ มีค่อยๆพูดค่อยๆจาดิวะ ทำไมไม่บอกจ่า จ่าจะได้แดกมัน”จ่ารีบมาดึงตัวผมอีกคน กลัวผมจะพุ่งหมัดใส่หน้าไอ้นุ มึงรอดตัวไปนะ

“แก้ไขครับจ่า มึงจำกูไว้นะไอ้นุ นี่มันแค่วันที่ ๓ อีก ๙ วันที่มึงต้องอยู่กับกูในป่า แล้วอีกปีกว่าที่มึงต้องอยู่กับกูในกองร้อย ถ้ามึงคิดว่ามึงเก๋าพอ ก็ลองดีกับกูได้”ผมชี้หน้ามันแล้วเดินไปพัก ทุกคนในหมู่ปืนกลต่างอึ้งไม่มีใครกล้าพูดอะไร ส่วนไอ้นุซึมไปเลย ครู่หนึ่งหลังจากที่ผู้กองอนุญาตให้ถอดเป็นชุดครึ่งท่อนแล้ว จ่าก็เรียกประชุมหมู่ปืนกล ทั้งปืน ๑ และปืน ๒

“เอาละ พวกเอ็งฟังจ่านะ จ่าในฐานะผบ.หมู่ปืนกล จ่าไม่อยากจะเห็นทหารผิดใจกันหรอก ก่อนมาจ่าก็บอกกับทุกคนแล้วว่าให้ทำตามหน้าที่ ฟังผู้บังคับบัญชา ฟังรุ่นพี่ รุ่นพี่เอ็งว่าอะไรก็ให้เชื่อฟัง อย่าดื้อ เอ็งยังไม่เคยโดนมือโดนตีนไอ้บอมบ์เอ็งไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง แต่จ่าจะบอกให้ฟังว่า มันกระทืบนายสิบเข้าโรงบาลมาแล้ว ๓ คน พร้อมกันทีเดียว ฟังไอ้บอมบ์มันบ้าง จ่าไว้ไอ้บอมบ์นะ ไอ้มหาก็ด้วย จ่าว่าทั้ง ๒ คนเป็นคนรับผิดชอบ กล้าได้ กล้าเสีย ใจถึง แล้วรู้หน้าที่ รู้เกมส์ ที่จ่าไม่พูดอะไรไม่ใช่พวกเอ็งไม่ฟังรุ่นพี่ เพราะจ่าไว้ใจไอ้บอมบ์กับไอ้มหา จ่าไม่อยากจะพูดมาก ให้พี่ๆน้องๆดูแลกันเอง มันซอฟต์กว่าที่จ่าจะดูแลพวกเอ็ง แล้วเอ็ง จ่าหมั่นไส้เอ็งนะไอ้นุ เอ็งเอาเปรียบคนอื่นเกินไป จ่าพูดตามตรงเลยนะ ไม่อ้อมค้อม เอ็งชอบเอาเปรียบ ชอบทำตัวไม่สนใจโลก อยากให้โลกสนใจก็ลองดูนะ มือตีนไอ้มหาใช้ว่าจะน้อยๆ ของไอ้บอมบ์เอ็งดูหุ่นมันดิ มีปัญญาสู้เขาไหวหรือเปล่า อย่าให้ต้องผิดใจกันในป่า เดี๋ยวจะไปกันไม่รอด ต่อไปนี้ถ้าใครไม่ฟังไอ้บอมบ์กับไอ้มหา จ่าอนุญาตให้จัดการได้เลย เข้าใจตามนี้นะ”

“ครับจ่า”

“เออ แล้วก็มีอะไรให้รีบมาบอกมาปรึกษาจ่า ปรึกษาไอ้บอมบ์กับไอ้มหาก็ได้ จ่ากับพวกมัน ๒ คน รู้ใจกันดี ฝึกครั้งที่แล้วมันให้ใจจ่าเต็มที่ จ่าชอบคนแบบนี้ คนจริง ทำจริง แล้วสุดท้าย เก็บเอาไปคิดใคร่ครวญให้ดีกับเหตุการณ์ที่ผ่านมานแต่ละวัน เราทำอะไรเพื่อนใครบ้าง ใครทำอะไรเพื่อเราบ้าง ช่วยเหลือเจือจานกัน อีกไม่กี่วันจะฝึกเสร็จแล้ว อดทนเอาหน่อย อย่าท้อ ไป แยกย้ายกันพักผ่อน”

“ตรง”ผมสั่งเสียงเข้ม ทุกคนลุกขึ้นยืนตรงทำความเคารพจ่าแล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนผมกับไอ้มหายังอยู่นั่งคุยกับจ่า

“จ่าคิดว่าไอ้นุจะโดนซะแล้ว ดีนะไอ้มหาห้ามทัน ไม่งั้นล่ะก็ พังทั้งหมู่แน่ ไอ้บอมบ์ มึงอย่าใจร้อนดิวะ เตือนมันก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยว่ากันทีหลัง”จ่าตำหนิ ผมรู้ว่าตัวเองใจร้อนเกินไปในบางครั้ง แต่ทำไงได้ เห็นแล้วมันอดไม่ไหว

“แก้ไขครับจ่า”

“เออ แต่คิดไปจ่าว่ามันน่าจะโดนบ้างก็ดี พวกนี้คุยภาษาคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ อ้าว พีเอ็กซ์มาขายของแล้ว ไปซื้อน้ำซื้อขนมมากินสิ อ่ะจ่าเลี้ยง”จ่ายื่นแบงค์ให้ ๒๐๐ บาท ผมรับมาแล้วบอกรุ่นน้องให้ตามผมไปคนหนึ่ง ไอ้นุรีบลุกมาทันทีเลย ผมเดินนำเงียบๆไปที่พีเอ็กซ์เคลื่อนที่ ช่วงนี้ตะวันลับขอบฟ้า บรรยากาศมือสนิทไปแล้ว คณะกรรมการไม่มายุ่งหรอกครับ ถ้าเป็นครั้งที่แล้วนะ ต้องระแวงกรรมการเพราะจะสุ่มตรวจ ถ้าใครโดนจับได้ว่าซื้อของนี่โดนหักคะแนนและโดนลงโทษ เอาชื่อไปประจานที่กรมให้อายกันไปเลยทีเดียว แต่ครั้งนี้ชิวกว่าครั้งที่แล้วไปครึ่งหนึ่ง

“ไปกับพี่บอมบ์ไม่มีอดว่ะ แม่ค้านมใจใหญ่ถึงแถมขนมซะหมดร้าน”ไอ้นุพูดอวดคนอื่นๆ ผมว่ามันเวอร์เกินไป เขาแถมมาแค่ไม่กี่ชิ้นเอง

“กูว่าแม่ค้าหลงเสน่ห์ไอ้บอมบ์ชัวร์เลยว่ะ เฮ้ย คาถาเขาว่าอะไรบ้างวะ บอกกูหน่อย”ไอ้มหากระแซะเข้ามาหา

“คาถาอะไรล่ะ กูไม่ได้ท่อง กูเลิกใช่คาถาถาเถออะไรนานแล้วโว้ย กินๆไปพวกมึง เขาแถมให้ก็ดีมากเท่าไหร่แล้ว คนอื่นแม่งอิจฉากูเป็นแถว ยุกูอยู่นั่นแหละว่าให้จัดการแม่ค้า สัสเอ๊ย ไอ้พวกไม่มีเมียมันก็พูดได้ดิ”

“หึหึ ไอ้คนกลัวเมียก็กลัวต่อไป”จ่าแกขำกับท่าทีของผม

กินอิ่มก็แยกย้ายกันกลับที่ของตัวเอง เรานอนกันเป็นกระจุกนะครับ หมู่ใครหมู่มัน ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ ผมกับไอ้มหานอนเปลขนาบกัน คือมันจะมีคนไม้ผูกเปลใกล้ๆกัน ตรงหัวนอนเราผูกที่ต้นไม้ต้นเดียวกัน แต่ปลายเท้าคนละต้น วางปืนไว้ตรงกลางแล้วนอน ผมยังไม่ทันได้หลับสนิทเลย ไอ้มหาก็สะกิดเรียกผมเบาๆ

“ใครมาขี่ม้าอะไรแถวนี้วะดึกๆดื่นๆ”ไอ้มหาบ่นเบาๆ ผมเองทีแรกก็ไม่ได้ยิน แต่พอเงี่ยหูฟังไปสักพักได้ยินเสียงเกือกม้ากระทบพื้นดินดังตุบตับ กึกๆกักๆ แล้วเสียงร้องของม้าดัง ฮี่ๆ

“เขาแสดงหนังหรือเปล่าวะ”ผมถามด้วยความสงสัย เออ เขาคงแสดงหนังใกล้ๆแถวนี้มั้ง

“แสดงหนังอะไรวะมืดๆค่ำๆ แล้วตรงนี้มันที่ฝึก ถ้าเขาแสดงเราก็ต้องเห็นกองถ่ายแต่หัววันแล้วสิ”

“เออว่ะ แล้วใครเอาม้ามาขี่เล่นวะ”ผมนึกสงสัย สักครู่หนึ่งเสียงม้าหลายตัววิ่งกุบกับอีกรอบหนึ่ง แล้วได้ยินเสียงดาบกระทบกันดังเป๊งๆ “ถ้าเขาไม่แสดงหนังแล้วเขาทำอะไรวะมหา”

“กูว่ามันเป็นเสียงรบกัน มึงได้ยินเสียงดาบป่ะ เฮ้ย บอมบ์ กูว่าเราเจอของดีแล้วล่ะ”ไอ้มหาพูดเสียงตื่นเต้น ผมเองเงยหน้าขึ้นมองไปหายังต้นเสียงซึ่งผมว่าไม่น่าจะอยู่ไกลเกินร้อยเมตร แต่ทุกอย่างมีแต่ความมืดสนิท

“อาจจะใช่ของมึงว่ะมหา ทำไงดีล่ะมึง”ผมเองก็ชักจะกลัวๆเหมือนกัน

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่เขาคงไม่ทำอะไรเราหรอกมั้ง เขาคงอยากบอกให้เรารู้ว่าตรงนี้น่าจะเป็นสนามรบเก่า”

“เออว่ะ”ผมนอนต่อและฟังเสียงร้ององม้า เสียงดาบที่ฟันดังฉ้งเฉ้ง จนร่างกายเริ่มเข้าสู่นิทรา ผมหลับไปแต่ก็ยังฝัน ผมฝันว่ามีชายหนุ่มวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าดูคมเข้ม จะว่าเป็นคนโหดร้ายก็ไม่เชิง เป็นคนใจดีก็ไม่ใช่ เขาขี่ม้าสีขาว ในมือถือดาบยาวและคมกริบ คล้ายดาบของพ่อผมซึ่งอยู่ที่บ้าน ที่หลังสะพายดาบอีกเล่มหนึ่งขนาดใกล้เคียงกัน ชายฉกรรจ์คนนั้นแต่งกายชุดนักรบ ผมไม่แน่ใจว่าสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นหรือสมัยอยุธยากันแน่ เขานั่งอยู่บนหลังม้าแล้วมองมาที่ผม ไม่ได้พูดอะไร สายตาเขาดูมีอำนาจมาก แต่ทำไมผมไม่กลัวเขา ผมกลับรู้สึกชื่นชมและรู้สึกว่าตัวเองได้ขี่ม้าตัวนั้น นอกจากม้าสีขาวตัวนี้ที่นักรบคนนี้ขี่หลังมันอยู่แล้ว ยังมีม้าอีกตัวเป็นม้าสีน้ำตาลเข้ม นักรบอีกคนเป็นคนรูปร่างขาว ดวงหน้าคมเข้มและอ่อนโยน กิริยาท่าทางดูซอฟต์กว่าคนขี้ม้าตัวสีขาว ในมือเขาถือดาบเหมือนกัน แต่ที่หลังสะพายคันธนูและลูกธนู หน้าของนักรบคนนี้คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นใครสักคนที่ผมสนิทด้วย ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ มันคล้ายๆไอ้มหานะผมว่า ผมยืนมองนักรบทั้งคู่ด้วยใจฮึกเหิมเหมือนกำลังเข้าไปสู่สนามรบเอง แล้วครู่หนึ่งเจ้าของม้าตัวสีขาวก็พูดเสียงดัง

“เลือดเนื้อที่พวกข้ายอมพลี เพื่อชีวีของอนุชนรุ่นหลัง ต่อให้ข้าม้วยมรณาในสนามรบสักพันครั้งเพื่อปกปักษ์แผ่นดินนี้ให้ลูกหลาน ข้าก็จักยอมตาย”เสียงดังกังวานเข้าที่โสตประสาททำให้ผมขนพองสยองเกล้า มีความรู้สึกตัวพอง ใจฟูฟ่อง เหมือนตัวเองได้เข้าไปรบในสนามรบจริงๆ ผมมองนักรบทั้ง ๒ คนอีกครั้ง ก่อนที่นักรบคนนั้นจะขี่ม้าแล้วฝ่าความมืดออกไป

“ห่าเอ๊ย ฝันบ้าบออะไรของกูวะ”ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา หยิบนาฬิกาข้อมือมาดูปรากฏว่าตอนนี้ใกล้จะตี ๕ แล้ว ผมนั่งห้อยขาลงแล้วมองไปเบื้องหน้า ตอนนี้มีแต่ความมืดกับสียงร้องของจิ้งหรีดและนกที่กำลังจะออกหากินรับอรุณ เสียงซุกซักดังขึ้นเพราะไอ้มหามันตื่นตามผมนั่นเอง

“รีบตื่นนะ นอนไม่หลับหรือไง”

“หลับเป็นตายจนฝันเป็นตุเป็นตะอะดิ”

“ฝันว่าอะไรวะ”

“กูฝันเห็นนักรบขี่ม้าว่ะ”

“เฮ้ย จริงดิ กูก็ฝัน”จากนั้นไอ้มหาสาธยายนักรบที่มันเห็นในฝัน เฮ้ย ตกลงมันเป็นฝันหรือเกิดหลอนอะไรกันแน่ ฝันของผมกับฝันของไอ้มหาเหมือนกันมาก ประโยคที่พูดก่อนขี่ม้าไปก็อันเดียวกัน “มันใช่ฝันเหรอวะไอ้บอมบ์ ทำไมมันเหมือนกันแบบนี้วะ”

“นั่นน่ะสิ ตกลงมึงมาลอกฝันกูหรือกูไปลอกฝันมึงวะ เหมือนกันมาก”

“เออสิวะ”ผมงงมากกับความฝันที่เหมือนกัน ตกลงมันใช่ความฝันหรืออะไรกันแน่ นั่งงงอยู่ครู่หนึ่งทุกคนเริ่มตื่นขึ้น บิดขี้เกียจ ใครที่ขี้เซาหน่อยก็ยังนอน จนเสียงจ๊อกแจกจอแจเริ่มดังขึ้น และได้กลิ่นควันไฟ ผมเองลุกขึ้นจากเปล เก็บผ้าเต้นก่อนเป็นอันดับแรกจากนั้นก็เก็บเป้ยัดใส่เป้ ไอ้สุภาพบุรุษ ๔ ด. ด่าน เด็ดดวงเดือน มันลงจากเปลไม่ทำอะไร เบ่งตดเต็มที่แล้วหยิบเศษไม้มาก่อไฟ เอาหม้อสนามมาต้มน้ำ

“พี่บอมบ์หวัดดี พี่มหา หวัดดี”รุ่นน้องยกมือไหว้ทำความเคารพ มันไหว้มาผมก็ไหว้มันกลับ ให้เกียรติกันและกัน ผมไปทำความเคารพจ่า จากนั้นก็บอกน้องๆก่อนจะไปหามุมเหมาะวางระเบิด ขี้กลางป่ากลางเขาแบบนี้มันเย็นตูดดีนะครับ

“พี่บอมบ์ ผมไปขี้ก่อนนะพี่”พอผมเสร็จธุระรุ่นน้องก็เริ่มทยอยไปทำธุระ ไอ้มหามันกินกาแฟนเสร็จ ลุกขึ้น ตดทีหนึ่ง

“เฮ้อ กินกาแฟแล้วปวดขี้ทุกที”

“ไอ้ห่า ตดไกลหน้ากูหน่อยก็ไม่ได้นะมึง เดี๋ยวกูเตะตูดขี้หักในเลยไอ้เวร”ผมกับไอ้มหานั่งข้างกัน พอมันยืนความสูงระดับตูดมันในใกล้กับหน้าผมพอดี แล้วเสือกตดอีก กูไม่น่าขี้ก่อนเลย รู้งี้เก็บไว้ตดใส่หน้าไอ้มหาดีกว่า

ฟ้าเริ่มสว่างขึ้น ทุกคนทำธุระเสร็จเรียบร้อย เก็บเป้เก็บข้าวของ ทำลายหลักฐานการเข้ามาอยู่อาศัยของคืนที่ผ่านมาจากนั้นก็รอกินข้าวเช้า เสียงรถข้าวดังมาแต่ไกลๆ ทุกคนเตรียมตัวเอาหม้อสนามมาวางไว้ในหมู่ของตัวเอง จนรถจอดสนิทรออยู่ครู่หนึ่งจึงแต่งตัวเต็มยศสะพายปืนเดินไปรับข้าว ผมไม่ได้ไปเองนะครับเพราะยังไม่ถึงเวรผม รุ่นน้องเป็นคนไป รอครู่หนึ่งข้าวมา ดีหน่อยที่เป็นข้าวถุงแกงถุง มันสะดวกดี มาถึงก็แจกข้าวแจกกับแล้วนั่งกินกันเป็นวง

“อิ่มไหมบอมบ์”จ่าถามผม

“ข้าวถุงเท่ากำปั้นไม่ถึงเสี้ยวกระเพาะผมเลยครับจ่า แต่ผมพร้อมเสมอครับ ต้มมาม่าไว้แล้ว”เมื่อกี้ผมต้มมาม่าไว้เรียบร้อยแล้วครับ กินเสริมแทบทุกมื้อไม่งั้นผมไม่อิ่มหรอก ฮ่าๆๆ

“เออดีๆ”

กินอิ่มพักครึ่งชั่วโมงจากนั้นจึงเดินทางกันต่อไปยังเขาอีกลูกหนึ่ง ผมเดินแบกปืนกลไปตลอดทาง รุ่นน้องมาช่วยผมแบ่งเบาภาระแต่ผมไม่ยอมครับ อะไรที่หนักเราจะไปโยนขี้ให้คนอื่นเขาทำไม ถึงแม้จ่าจะบอกว่าให้ช่วยกันแบกปืนกล สลับเปลี่ยนกันแต่ผมไม่ยอมให้รุ่นน้องมันลำบากหรอกครับ ผมยังชิวอยู่ เราเดินทางกันต่อ เดินไปคุยไป ชมธรรมชาติกลางเดือนกุมภาพันธ์ วันแห่งความรักผ่านมาหลายวันแล้ว ปีนี้ก็เหมือนทุกปีที่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก ไม่ได้ไปเดินบอกรักหมวดบูม หรือทำอะไร แค่ยิ้มให้กันแค่นั้นก็พอแล้ว ผมรักแฟนผมไม่ใช่แค่ ๑๔ กุมภาหรอกครับ ผมรักของผมทุกวัน

เดินทางมาถึงสถานีฝึก สถานีนี้เป็นการฝึกการเข้าตีในเวลากลางคืนครับ เมื่อวานเข้าตีในเวลากลางวัน การฝึกเริ่มต้นขึ้นในช่วงบ่าย ภารกิจเราต้องมีอะไรบ้าง การเข้าไปวางตัวหรือการรบในเวลากลางคืนเราต้องทำอย่างไร ผู้หมวดผู้กองต้องอยู่ตรงไหน การเดินสายโทรศัพท์ทีเอวันต้องทำยังไง ทุกคนทำตามหน้าที่ ฝึกกันประมาณ ๔ ชั่วโมงจนตะวันบ่ายคล้อย เรามานั่งพัก ผู้กองเรียกผู้หมวดไปรับบงการ บงการนี่คือคำสั่งนะครับ ภาษาทหารหลายคนอาจจะไม่คุ้นสักเท่าไหร่ มันจะมีภาษาของคนรุ่นเก่าเยอะเลยครับ ผู้หมวดไปรับคำสั่งจากผู้กองแล้วเรียกแต่ละหัวหน้าหมู่มารับคำสั่งต่ออีกทอดหนึ่ง จากนั้นหัวหน้าหมู่ก็มาถ่ายทอดคำสั่งให้กับลูกน้องอีกทอด แบบนี้แหละครับสายการบังคับบัญชาแบบปิรามิด ต้องทำตามตำแหน่งตามขั้น

จ่าอธิบายการเข้าตีในเวลากลางคืนของเราไว้ว่าเราจะไปตีที่เขาลูกไหน ข้าศึกอยู่ตำแหน่งไหน เราจะตีข้าศึกอย่างไร หมวดไหนจะเข้าตีก่อนหลัง จ่าก็ชี้แจงรายละเอียดมาเต็มที่ ผมฟังแล้วพยักหน้าตามไปด้วย พอไม่เข้าใจตรงไหนก็รีบถามจ่าทันทีเพื่อทำให้ถูกต้อง นั่งฟังแผนกันประมาณชั่วโมงหนึ่งแล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน หมู่ปืนกลจะอยู่ใกล้กับบก.หมวด ซึ่งหมวดบูมจะนั่งใกล้ๆ พี่แกว่างเลยเดินมาหาผม อีหนูตามมาสมทบ ไอ้ซัน ไอ้ศักดิ์อีกคน ช่วงนี้ว่างครับใครจะทำอะไรก็ได้ เพราะเราจะเข้าตีข้าศึกในเวลา ๔ ทุ่ม แต่ต้องออกเดินทางตั้งแต่ ๑ ทุ่ม

“พี่มหา หนูถามอะไรได้ไหม”อีหนูทำสีหน้าลังเลใจเหมือนกับกำลังหวาดระแวงอะไรบางอย่าง

“อะไรเหรอ ถ้าถามเรื่องจวยกูกับไอ้บอมบ์ มันก็ยังแข็งทุกเช้านะ ไม่ต้องกังวล มันยังใช้งานได้”ไอ้มหายิ้มตาหยี

“นี่คนบ้า เป็นการเป็นงานหน่อย ทะลึ่งตึงตังเสียจริง คนอะไรไม่รู้ นี่ หนูพูดได้ไหมกลางป่ากลางเขาแบบนี้”

“พูดอะไรวะหนู”ไอ้ศักดิ์ถามด้วยความใคร่รู้อีกคน

“เออดิหนู แกอย่าทำให้พี่อยากรู้อยากเห็นดิวะ”หมวดเต้ยถามอีกคน ทหารคนอื่นๆมักจะแปลกใจเสมอเวลาที่หมวดเต้ยหรือหมวดบูมแทนตัวเองว่าพี่กับอีหนู คือปกติ ๒ หมวดแกไม่นิยมแทนตัวเองว่าพี่กับทหารคนอื่นนะครับ แต่กับอีหนูนี่ ๒ หมวดแกสนิทล่ะมั้งเลยแทนตัวเองว่าพี่

“คืองี้อ่ะผู้หมวดคนหล่อ เมื่อคืนหนูได้ยินเสียงม้าอ่ะ”อีหนูพูดเสียงเบา

“หาใครดูดม้านะ กูจะแดก”หมวดบูมหันขวับมาทันที

“ไอ้เหี้ย น้องมันได้ยินเสียงม้า ไม่ได้เห็นคนดูดม้า หูเหอะนี่ไปจูนใหม่ได้แล้วมั้ง สัส”หมวดเต้ยเอ็ดหมวดบูม ทำเอาพวกผมยิ้มขำ

“กูเล่นมุกไอ้เวร ได้ยินเสียงม้าอะไรวะหนู เมื่อคืนพี่ก็นอนหลับสนิท มึงได้ยินป่ะเต้ย”

“ไม่นี่”หมวดเต้ยส่ายหน้า

“เสียงคนขี่ม้า แล้วหนูได้ยินเสียงดาบด้วย เสียงเหมือนคนต่อสู้กัน ป๊งเป๊งๆ หนูก็ชะเง้อดู หนูคิดว่าเขาแสดงหนังพระนเรศวร แต่ไม่เห็นจะมีอะไร หนูเลยอยากรู้ว่าที่หนูได้ยินมันใช่อย่างที่หนูคิดไว้หรือเปล่า หนูเลยขอถามพี่มหาอ่ะ เพราะในป่าในเขาเขาห้ามพูดเรื่อง เสือ สาง นางไม้ไม่ใช่เหรอ อุ้ย เผลออีกแล้ว”อีหนูรีบเอามือปิดปาก

“หึ คิดว่าเรื่องอะไร เมื่อคืนกูก็ได้ยิน”ผมยิ้มบางๆ

“จริงเหรอวะบอมบ์ เล่าหน่อยดิ ไอ้มหาด้วย เล่าให้ฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมกูไม่ได้ยินวะ”หมวดเต้ยทำหน้าตื่นเต้น เรื่องผีสางนางไม้นี่พี่แกชอบนัก ผมกับไอ้มหาเล่าให้ทุกคนฟัง ทุกคนตั้งใจฟังกันมาก เงียบกริบกันทั้งวง

“คิดว่าเรื่องอะไร เรื่องนี้นี่เอง”จ่าที่เป็นผบ.หมู่ปืนกลยิ้มบางๆ ก่อนที่แกจะเริ่มเล่าเรื่องราว “แต่ก่อนตรงที่เราไปพักน่ะเป็นสนามรบเก่า ในสมัยปลายอยุธยา เมื่อเกือบ ๒๐ ปีที่แล้วสมัยจ่าเป็นสิบตรีใหม่ๆ จ่าเป็นหัวหน้าชุดยิง มาฝึกที่ป่าแบบนี้แหละ สมัยนั้นป่ายังเป็นป่าอยู่มากไม่ค่อยเตียนแบบนี้ ตอนกลางคืนพอตะวันลับขอบฟ้าเท่านั้นแหละ ทั้งม้า ทั้งนักรบ ทั้งข้าศึก เสียงดังป๊งเป๊ง จ่าเห็นทั้งคนทั้งม้าที่รบพุ่งกันอย่างไม่ปรานี คืนนั้นแทบไม่ได้นอนเพราะเล่นรบตั้งแต่ทุ่มกว่าๆจนตีสามตีสี่มั้งจึงได้หยุด พอฟ้าสางจ่าเดินไปดูที่เขารบกันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“หูย น่ากลัวนะ”หมวดเต้ยลูบแขน

“ผมนอนตัวสั่นทั้งคืนเลยครับผู้หมวด ไม่กล้าจะลงจากเปล ตอนเช้าถามคนอื่น เขาเห็นกันเกือบทั้งหมวด”

“น่ากลัวอ่ะ คืนนี้มานอนข้างๆพี่บอมบ์พี่มหาดีกว่า”อีหนูกอดแขนผม

“กูกลัวมึงมากกว่ากลัวผีอีกนะหนู”ผมกอดคออีหนูโยกเล่นเบาๆ

“บ้าอ่ะพี่บอมบ์ หนูคิดว่าหนูหลอนคนเดียวซะอีกนะเนี่ย”อีหนูยิ้ม

“เมื่อคืนอาแค่ได้ยิน แต่ผมเห็นจะๆ”ไอ้ซันซึ่งนั่งกอดเข่าพูดขึ้น

“จริงเหรอซัน เล่าๆ ผู้หมวดอยากรู้”หมวดเต้ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ก็ไงอ่ะ ผมลุกไปขี้ครับผู้หมวด นั่งขี้ไปสบายๆ แล้วผมเห็นแสงอะไรแว็บๆก็ไม่รู้เหมือนประกายไฟ ผมมองไปดีๆดาบขาววับกำลังฟันกัน แล้วมีประกายไฟ ผมขี้หดตดหายรีบเช็ดตูดแล้ววิ่งมาเอาเปลคลุมโปง”ไอ้ซันเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“กูชักจะกลัวแล้วนะเนี่ย ไม่ได้เอาพระมาด้วย”ไอ้ศักดิ์ทำหน้าตระหนก

“เขาคงไม่ทำอะไรหรอกมั้ง เขาแค่อยากให้พวกเรารู้ว่าตรงนี้เคยเป็นสนามรบเก่า ที่ที่เขาเคยพลีเลือดเนื้อเพื่อให้เราได้มีแผ่นดินได้อยู่อาศัยจนทุกวันนี้”ไอ้มหาพูดเสียงเนิบเหมือนพระเทศน์

“เออว่ะ เขาเห็นเราเป็นลูกเป็นหลานที่มาสืบต่อเจตนารมณ์ของพวกเขามั้ง เขาเห็นเราเป็นทหารเป็นนักรบเหมือนกับเขา ถ้าเขาทำกูว่าเขาคงไม่มาแบบนี้แน่นอน”หมวดเต้ยออกความเห็น

“พ่อกูบอกว่า บรรพบุรุษของเรากำลังมองพวกเราอยู่ โดยเฉพาะทหารที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน เราต้องไม่ทำให้เลือดเนื้อของบรรพบุรุษเราต้องเสียเปล่า เราชายชาติทหารต้องทำเพื่อชาติ”หมวดบูมพูด

“ถูกต้องเลยครับหมวดบูม ไอ้บอมบ์ มึงเห็นเหมือนที่กูเห็นใช่ไหม”ไอ้มหาสะกิดผม

“เออ มึงได้ยินกูก็ได้ยิน มึงเห็นกูก็เห็น”ผมพยักหน้าก่อนที่ม้าจะหายไปในความมืดมิด

“เห็นอะไรวะมหา”จ่าชิงถามก่อนหมวดเต้ย

“ผมเห็นนักรบ ๒ คน อีกคนขี่ม้าสีขาวอีกคนขี่ม้าสีน้ำตาล เหมือนในฝันของผมกับไอ้บอมบ์เมื่อคืน เขากำลังยิ้มและน้ำตาไหลตอนที่หมวดบูมพูดว่า อย่าทำให้เลือดเนื้อของบรรพบุรุษเราเสียเปล่า เราต้องทำเพื่อชาติ เขายิ้มทั้งน้ำตาแล้วพยักหน้าให้พวกผมก่อนจะขี่ม้าไป”ไอ้มหาพูดไปน้ำตาซึม ส่วนผมนี่หยดติ๋งลงมาเลยครับ ทำไมกูรู้สึกซาบซึ้งถึงขนาดนี้ด้วยวะ ตอนที่หมวดบูมพูดว่าเราต้องทำเพื่อชาติผมเองก็แทบจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว มันรู้สึกคับพองในหัวใจอย่างมาก มันรู้สึกเหมือนว่าเราไม่เสียแรงเปล่าอะไรประมาณนั้น

“เฮ้ย มึงเป็นไรวะบอมบ์”หมวดบูมถามด้วยความตกใจ

“ผมไม่รู้อ่ะผู้หมวด อยู่ดีๆน้ำตามันไหลมาเอง”ผมดึงทิชชูที่ติดกระเป๋าเสื้อไว้มาเช็ดน้ำตา

“ห่า มึงซึ้งเกินไปป่ะวะ”หมวดเต้ย

“พี่บอมบ์อ่ะ เลือดรักชาติพุ่งปรี๊ดเลยล่ะมั้ง”อีหนูบีบไหล่ผมเบาๆ

“กูไม่รู้ดิหนู กูอาจจะเคยเป็นนักรบมาก่อนก็ได้มั้ง กูเลยซึ้งขนาดนี้”

“เออ ใช่เลยบอมบ์ ตอนที่ไปบ้านมึงเมื่อตอนปีใหม่อ่ะหลวงพ่อบอก คนที่เป็นทหารน่ะ ล้วนแต่เคยเป็นนักรบมาก่อนทั้งสิ้น”หมวดบูมตบไหล่ผม

“คงงั้นมั้งครับผู้หมวด เฮ้อ ซึ้งจนหิวเลย ใครมีขนมเหลือบ้างเอามากินบ้างดิ”ผมหันซ้ายหันขวา ไอ้ ๔ ด. อีกแล้วครับ มันตุนของไว้เยอะ แต่คนอื่นๆก็ใช่ว่าจะไม่มีนะครับ เอามาแบ่งกันกินคนละชิ้นแล้วคุยกันสนุกสนานเฮฮาจนถึงเวลาใกล้จะ ๑ ทุ่มต่างคนต่างแยกย้ายเตรียมตัวที่จะทำการเข้าตีในเวลากลางคืน

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
เวลาทุ่มตรงทุกคนเตรียมพร้อมแล้วเดินทางไปเข้าตีข้าศึก ปืนกระบอกหนึ่ง พลั่วที่ห้อยไหว้กับเข็มขัดสนาม เป้ไม่ได้เอาไปนะครับ มีทหารเฝ้าอยู่ ๓ คน เราเดินกันไปเงียบๆ ระหว่างเดินไปก็เช็คยอดไปด้วย การเช็คยอดตอนกลางคืนจะให้สัญญาณคือตบที่หมวกเหล็กให้เป็นสัญญาว่าเช็คยอดทหาร คนสุดท้ายที่เดินท้ายแถวจะเช็คยอดไล่มาเรื่อยๆ การเดินเข้าตีกลางคืนครั้งนี้รองผู้พันแกเดินตามหลังมาด้วยครับ ทำเอาทหารหลายคนเกร็งเหมือนกัน เราเดินทางกันประมาณ ๒ ชั่วโมง เพราะต้องค่อยๆเดิน มันมืดและไกลพอสมควร ระหว่างเดินก็มีหลบข้างทางซึ่งคณะกรรมการชอบจุดประทัด แล้วจะดูว่าถ้าได้ยินเสียประทัดทหารจะทำยังไง คือเราต้องหมอบลงแล้วกระจายคนไปตาม ๒ ข้างทาง

เราเดินแถวตอนไปถึงจุดที่ใกล้ข้าศึก จากนั้นก็แยกทั้ง ๓ หมวดให้กระจายกำลังไปยังที่ต่างๆ หมวดบูมอยู่หมวด ๑ หมวดเพชร อยู่หมวด ๒ หมวดเต้ยอยู่หมวด ๓ ผู้กองกระจายกำลังทั้ง ๓ หมวดไปตามที่ต่างๆ เรายังเดินกันเป็นแถวตอน พอไปถึงจุดอีกจุดจากนั้นจึงกระจายกำลังปรับเป็นหน้ากระดานแล้วค่อยๆคืบคลานเข้าไปด้านหน้า รออยู่ครู่หนึ่งจนได้ยินเสียงพลุ เราจึงทำการเข้าตีข้าศึก มันมากเลยครับ เดินปรับหน้ากระดานเข้าตี บนเขาก็จุดประทัดเสียงดัง พวกผมก็ยิงด้วยปาก ปังๆ มีประทัดให้จุดเล่นไม่กี่อัน

“ไอ้ ๔ ด. เร็วสิวะมึง”ผมพูดเร่งเมื่อไอ้ด่านมันทิ้งห่างผม

“โอ๊ยพี่ ผมติดหนาม ห่าเอ๊ย”เออ มีงี้อีก

“เออ”ผมหยุดรอ พอมันเอาหนามออกจากตัวได้มันก็วิ่งตามมาใกล้ผม จากนั้นก็คืบคลานไปด้านหน้า

“ปังๆๆๆๆ”ยิงด้วยปากล้วนๆ กระสุนอยู่ไหนไม่รู้หรอกครับ ปังๆด้วยปากอย่างเดียว

“ยิงเข้าไป ฆ่ามันให้ตายเลย”จ่าพูดเสียงดังน้ำเสียงจริงจัง พวกผมก็ยิงอย่างเดียว ยิงอยู่ครู่หนึ่งเราก็พิชิตยอดเขาได้ แต่เพื่อความปลอดภัย ผู้กองสั่งหมวดของหมวดเต้ยเข้าตีตลบอีกครั้งเผื่อมีข้าศึกเล็ดรอดไปได้ กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ตี ๒ ไปแล้วครับ ยาวนานมาก

รออยู่ครู่หนึ่ง เอาพลั่วมาขุดทำเป็นที่มั่น ไม่ได้ขุดจริงหรอกครับ เอาหินมาเคาะกับพลั่ว จากนั้นพลุดังขึ้นอีกครั้งเป็นสัญญาณว่าจบการเข้าตีกลางคืนพวกเราจึงค่อยๆเดินลงจากเขาอย่าทุลักทุเล

“เฮ้ย ระวังนะพวกมึง เอาไฟฉายส่องให้ดี”ผมเตือนน้องๆ

“เหนื่อยว่ะพี่ ไม่รู้ไต่ขึ้นมาได้ไง หมดแรงลงเขาเลยอ่ะ”รุ่นน้องคนหนึ่งบ่น

“เออๆ”พวกผมเดินลงเขากันเรื่อยๆจนทุกคนถึงตีนเขาจากนั้นทำการเช็คยอด อีหนูหายไปไหนไม่รู้

“เฮ้ย มันลงมาหมดรึยังวะ”หมวดบูมถาม ผมลุกขึ้นหยิบไฟฉายมา

“เดี๋ยวผมขึ้นไปดูให้ครับผู้หมวด”

“เออ ผู้หมวดไปด้วย”ผมเดินขึ้นเขาไปกับผู้หมวด เรียกหาอีหนู แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ

“มันไปไหนวะ หรือว่าไม่ได้ขึ้นเขามา”หมวดบูมพูดด้วยความสงสัย

“ผู้หมวดลองว.ไปถามพวกข้างล่างดิว่าลืมอีหนูไว้ตรงไหนหรือเปล่า”หมวดบูมว.ไปถาม ทุกคนก็ต่างยืนยันว่าอีหนูมันขึ้นเขามา แล้วมันหายไปไหนวะ เราเดินตามหากันอีกพักใหญ่ จนมาถึงตีนเขาอีกฟากหนึ่ง เห็นเงาตะคุ่มๆรูปร่างคล้ายอีหนู พอเดินเข้าไปใกล้ๆ

“ป้า หนูขอบคุณป้ามากเลยนะ หนูเจอผู้หมวดแล้วล่ะ ขอบคุณป้ามากเลยนะ”อีหนูทำท่าวันทยหัตถ์ มันขอบคุณใคร แถวนั้นผมไม่เห็นอะไร “ผู้หมวด พี่บอมบ์”อีหนูโผเข้ามากอดผม

“ขอบคุณใครเหรอหนู”หมวดบูมถาม

“ขอบคุณป้าอ่ะผู้หมวด เฮ้อ โล่งอก คิดว่าจะหลงป่าซะแล้ว ใจแป้วเลยอ่ะ ดีนะที่ป้าเดินมาส่ง”

“ป้าอะไรวะ กูไม่เห็น”หมวดบูมทำหน้างง

“บูม ไม่ต้องสงสัย ป่ะ กลับกัน”ผมเองสงสัยเหมือนกันว่าป้าคนไหน กลางป่ากลางเขาแบบนี้ใครจะมาเดินดึกๆดื่นๆ นี่มันก็ตี ๒ กว่าๆแล้ว

“อะไรวะบอมบ์ ก็กูไม่เห็นนี่ว่ามีใคร”หมวดบูมยังงงต่อไป แต่ผมรู้แล้วว่าคนที่มาส่งอีหนูเป็นใคร

“บูม ป่ะ กลับกัน ไม่ต้องสงสัย เดี๋ยวเล่าให้ฟังทีหลัง ทุกคนรออยู่”พวกเราเดินอ้อมตีนเขากลับไปที่จุดรวมพล เดินทางประมาณ ครึ่งชั่วโมง ตี ๓ พอดีเลยครับ ระหว่างทางอีหนูก็เล่าให้ฟัง

“หนูก็เห็นหลังไวๆของไอ้ตั้มนะ หนูก็วิ่งตามมัน ยิงปืนตามมัน พอเดินมาเรื่อยๆ อ้าว ไอ้ตั้มหายไปไหนแล้วไม่รู้ หนูชักจะใจแป้ว คิดถึงเรื่องสนามรบเมื่อตอนเย็น หนูแทบจะร้องไห้ คิดอะไรไม่ออก จะกลับหนูก็ไม่รู้จะกลับทางไหน มันมืดไปหมด ไฟฉายหล่นหายอีกต่างหาก หนูหันรีบหันขวาง ไม่รู้จะทำยังไง น้ำตาไหลออกมาแล้ว จนมาเจอป้าคนเมื่อกี้ ป้าแกถามว่าเป็นไร หลงเหรอ หนูก็ฟูมฟายกับป้า แล้วป้าบอกว่าจะพาหนูไปส่ง หนูถามว่าป้ารู้เหรอว่าเพื่อนๆหนูอยู่ตรงไหน ป้าบอกว่า ป้าได้ยินเสียงพลั่ว น่าจะไปถูก หนูเลยเดินตามป้า หนูถามป้านะว่าแกมาทำอะไรดึกดื่น แกบอกว่าลงจากเรือนมาเยี่ยว เห็นหนูหลงกับเพื่อนเลยอาสาพาหนูมาส่ง”อีหนูเล่าให้ฟัง เฮ้อ บุญของมันนะที่มีคนช่วย ถึงแม้จะไม่ใช่คนก็ตามเถอะ นี่ถ้ามันหายไป ใครจะรับผิดชอบไหว

“พี่มหา หูย คิดว่าจะไม่ได้เจอพี่มหาซะแล้ว”อีหนูโผเข้าไปกอดไอ้มหา

“เออๆ ปลอดภัยก็ดีแล้ว ไปหลงตามผู้ชายที่ไหนมาวะ”

“คนบ้า หนูมีพี่บอมบ์ พี่มหา ผู้หมวดบูม ผู้หมวดเต้ย แค่นี้เอง คนอื่นหนูไม่ชายตามองหรอก”ไม่ค่อยเยอะไหร่เลยนะมึง

“ฝรั่งได้ยินมันคงจะเสียใจ”หมวดเต้ยยิ้ม

“บอมบ์ ทำไมมึงไม่ให้กูสงสัยวะ มีอะไรปิดบังกูป่ะ มึงก็เห็นนี่ว่าไม่มีใครมาส่งอีหนูน่ะ”

“ทำไมจะไม่มีล่ะผู้หมวด”

“มึงเห็นเหรอ ทำไมกูไม่เห็นวะ”

“ผมไม่เห็นหรอก เพราะคนที่มาส่งอีหนูไม่ใช่คนอ่ะดิ”ผมสนทนากับผู้หมวดบูมเบาๆ

“เฮ้ย จริงเหรอวะ”

“จริงสิครับผู้หมวด มันปลอดภัยก็ดีแล้ว ดีที่มันยังมีบุญพอ ไม่งั้นถ้าหายไปกลางป่ากลางเขาแบบนี้ ไม่รู้เราจะหาเจอหรือเปล่า”

“เออว่ะ บุญของมัน เฮ้อ ทำไมฝึกภาคนี้มันดูพิลึกพิสดารอะไรขนาดนี้วะ ไหนจะเสียงม้า ไหนจะป้าที่มาส่ง อีกตั้ง ๕ วันกว่าจะจบการฝึก กูไม่หลอนตายไปเหรอวะ”

“ไม่มีอะไรหรอกมั้งผู้หมวด”พอคนครบแล้วเราจึงเดินทางกลับที่เดิมที่เราพักเมื่อตอนเย็น กว่าจะเดินไปถึงก็ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ไปถึงตี ๔ พอดี ถอดครึ่งท่อนเสร็จกางเต็นท์ผูกเปลนอน ถอดรองเท้า ตีนเหม็นโคตรๆ ไม่ได้อาบน้ำสักครั้ง ฟันก็ไม่ได้แปรง อยู่แบบซกมกๆ กว่าจะถึง ๑๐ วันนี้ เน่ากันพอดี

ตื่นกันประมาณ ๖ โมงครึ่ง ที่จริงอยากนอนต่อนะครับ แต่แดดมันแยงตา ตื่นมาบ้วนปากนิดหน่อยแล้วต้มกาแฟกิน หาอะไรรองท้องจนข้าวมาส่งจึงได้กินข้าวแล้วหาร่มไม้นอนกันต่อ เราจะฝึกกันอีกช่วงบ่ายครับ พักผ่อนกันพอแล้วจึงเดินทางไปฝึกกันต่อ สถานีนี้ดีหน่อยเป็นสถานีตั้งรับ ไปถึงก็ฟังแผนแล้วก็กระจายกันว่าใครจะต้องไปอยู่จุดไหน

“บอมบ์ ยิ้มหน่อย”ระหว่างที่กำลังขุดดินทำหลุมปืนกล มีคนมาเรียกทำให้ต้องหันไป ไม่ใช่ใคร ไอ้แบงค์ ร้องโทยุทธพงศ์นั่นเอง พี่ชายหมวดบูมน่ะ “บอกให้ยิ้มไอ้สัส ไม่ได้ให้ทำหน้าเป็นหมางง”มันต่อว่าผม

“กูมาฝึกไม่ได้มาเดินแบบจะได้ยิ้มแย้มหว่านเสน่ห์ไปทั่ว มาหอมแก้มทีดิเพื่อนรัก”ผมกวักมือ

“ไอ้ห่า อย่าชวนกูเป็นบ้าบอกับมึงอีกคน น้องกูคนเดียวก็พอแล้ว ไงมหา ดำเป็นแมงกุ๊ดจี่เลยพวกมึง”

“ก็ตากแดดนี่พี่ไม่ได้ตากแอร์ ลงมาช่วยขุดหลุมกันไหมล่ะ”ไอ้ตวงกวนตีนกลับ

“ฮ่าๆๆ เอาเหอะ เฮ้ย มาถ่ายรูปก่อน ห่า ฝึกตั้งหลายวันไม่มีรูปไว้ดูต่างหน้าเหมือนไม่ได้มาทำอะไร น้องทหาร มาถ่ายรูปให้ผู้หมวดหน่อย”ถ่ายรูกันไปหลายรูป จากนั้นก็ไปถ่ายคนนั้นทีคนนี้ที ส่วนพวกผมก็ทำการขุดดินกันอีกนิดหน่อยแล้วเอาปืนมาตั้งแล้วนั่งคอย

สถานีนี้ไม่มีอะไรมาก ฝึกกันชิวเพราะเป็นการตั้งรับเลาข้าศึกมาบุก ไม่เหมือนกับการเข้าตี อันนั้นเหนื่อยเพราะต้องไปบุกข้าศึก นี่ถ้าคิดทะลึ่งหน่อยก็เหมือนตอนเอากันอ่ะ คนโดนเอามันไม่ค่อยเหนื่อยเท่าคนเอาหรอก เพราะคนเอาต้องเด้าเอว ส่วนคนโดนก็แค่รับความเสียวอย่างเดียว อันนี้เหมือนกัน รอยิงข้าศึกอย่างเดียว สถานีเข้าตีกับตั้งรับมีจ่าคลังอาวุธแกเคยพูดเอาไว้ว่า จวยเข้าตี หมีตั้งรับ โคตรขำ

วันเวลาผ่านไปกับการฝึก มีฝึกหนักบ้าง ฝึกเบาบ้างตามแต่สถานีฝึกเขาจะกำหนดมาว่าต้องทำอย่างไร การเดินแผนที่เข็มทิศก็เป็นหนึ่งในภารกิจที่เราละทิ้งไม่ได้ แล้วการเดินไม่ใช่การเดินกลางวันเป็นการเดินกลางคืนครับ เดินไกลเหมือนกันแต่ผู้หมวดก็ไม่พาหลงหรอกครับ การฝึกครั้งนี้ผ่านไป แล้วมาถึงสถานีอีกอันหนึ่งเป็นการฝึกหน่วยทหารขนาดเล็ก การเข้าตีด้วยจำวนทหารไม่กี่คน มันมากเลยครับ

และแล้วการฝึกก็มาถึงช่วงสุดท้าย คือการเดินทางไกลและยิงปืน พวกเรามาพักกันที่วัดเช่นเคยครับ มาถึงช่วงสายแล้ว วางเป้วางของลงแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่าในวัด สบายตัวมากเลยครับ ที่จริงผมโล่งตั้งแต่ ๕ วันที่แล้วแล้วล่ะเพราะกางเกงเป้าขาดยาวลากมาถึงหัวเข่า ผมเอามาเปลี่ยนนะ แต่ตอนนี้ยังไม่อยากเปลี่ยนเท่านั้นเอง ไว้กลับไปก่อน ขอให้มันโล่งๆแบบนี้ก่อน สบายใจดีครับ

“ก็รู้ว่ากางเกงตัวเองชอบขาดแล้วทำไมไม่เอามาเปลี่ยนด้วยวะ”หมวดบูมบ่นระหว่างที่ไปนั่งเล่นบนยอดเขาด้วยกัน ๒ คน

“เอามาสิครับ แต่ตอนนี้ไม่อยากเปลี่ยนเท่านั้นเอง”

“เออ ใส่ยั่วแม่ค้าล่ะสิ ได้กินฟรีบ่อยนะ ระวังเหอะเขาทำของใส่แล้วจะรู้สึก”

“หวงเหรอ”

“ถามแมวๆ ใครบ้างจะพอใจที่เห็นแฟนของตัวเองไปเป็นของคนอื่น เดี๋ยวเตะกลิ้งลงจากเขาเลยนี่”

“หึหึ ขอหอมแก้มหน่อยดิ”

“ในวัดเหอะไอ้บ้า กลับบ้านก่อนดิ กูรู้ชะตากูดี ยอมมึงทุกอย่าง”

“จริงป่าว เดี๋ยวเราไปเล่นท่าพิสดารดีไหมครับ เช่าเหมาลำครึ่งบินแล้วเยกันบนฟ้า”

“ไอ้เหี้ย คิดอะไรแต่ละทีนะ เฮ้อ กัดลิ้นตายตอนนี้ทันไหมวะกู”

“หือ ที่รักอ่ะ คบกับไอ้บอมบ์ถึงขนาดต้องกลั้นใจกันเยทีเดียวเหรอ”

“ล้อเล่น ดูท้องฟ้าดิ สวยดีเนอะ”มองไปยังฟ้าเบื้องบนมีก้อนเมฆลอยเด่น มีนกบินเป็นกลุ่มเล็กๆ มองไปยังเบื้องหน้าเห็นภูเขาอีกหลายลูก เห็นโรงงานอะไรสักอย่าง สวยดีครับ มองธรรมชาติจากมุมบนแล้วทำให้จิตใจสงบดี

“อิอิ มาขัดความสุข”อีหนูยิ้มแป้นมาแต่ไกล ตัวมันสะอาดสะอ้านขึ้นเยอะเลยครับ ผมเองก็เหมือนกันแหละครับ ไม่มอมแมมเหมือนหลายวันก่อน

“ไง กล้าขึ้นมาคนเดียวนะ ถ้าเกิดขึ้นมาไม่เจอกูแล้วมึงจะหนาว”อีหนูนั่งลงใกล้ๆผม

“แหม อย่าพูดให้หลอนสิพี่บอมบ์ ยิ่งคืนนี้นอนในวัดด้วย หนูยังหลอนเรื่องป้าไม่หาย”อีหนูมันรู้แล้วนะครับว่าป้าที่มาส่งไม่ใช่คน

“หึหึ นี่แหละ อยากตามผู้ชายไปดีนัก ดีนะไม่หลงป่าหลงเขาไป”

“ใช่พี่บอมบ์ นี่ถ้าผู้หมวดกับพี่บอมบ์ไม่ออกตามหาหนู หนูคงกลายเป็นชะนีป่าตามที่พี่บอมบ์ว่าแหละ ร้องหาผัวอยู่กลางขุนเขา ผัวเราจะรู้ไหมน้าว่าเราหลงทาง อิอิ”เพ้ออีกแล้ว

“หนู ทุกวันนี้มีชีวิตด้วยข้าวปลาอาหารหรืออาการเพ้ออย่างเดียววะ พี่งงกับแกว่ะหนู”หมวดบูมถาม

“แฮะๆ หนูก็บ้าผู้ชายไปงั้นแหละผู้หมวด หนูชอบฮามากกว่า หนูไม่อยากเศร้าหรอก แซวพี่บอมบ์กับพี่มหาอ่ะถูกใจที่สุด เพราะหนูอ่ะเคยแซวผู้ชายคนอื่นแล้วมันด่าเปิงมา ด่ายันโคตรเหง้า แต่กับพี่อมบ์พี่มหาอ่ะ ทำให้ตุ๊ดแบบหนูรู้สึกมีคุณค่า คำพูดของพี่บอมบ์กับพี่มหารุนแรงเสียดแทงจิตใจในบางครั้งก็จริง แต่พี่แกพูดไปยิ้มไป ไม่เหมือนผู้ชายบางคน ตั้งแง่รังเกียจ แซวไม่ได้ จับต้องไม่ได้ เขาคงสำคัญตัวผิดล่ะมั้ง เขาคิดว่าเขาหล่อ เชอะ หล่อแต่หยิ่งแบบนั้นก็ไม่มีใครสนใจหรอก สู้พี่บอมบ์พี่มหาไม่ได้ หล่อแบบจับต้องได้”

“คือยังไงอ่ะ”หมวดบูมขมวดคิ้ว

“ผู้หมวดฮะ คนหล่อที่เขาหล่อจริงๆอ่ะ เขาไม่ได้หล่อแค่หน้าตาอย่างเดียวหรอก จิตใจเขาต้องหล่อด้วย เปลือกนอกดูดีมันก็แค่เปลือกแหละ จิตใจต่ำทราม เย่อหยิ่งจองหอง ไม่มีใครเขาชอบหรอก คนที่เขาหล่อจริงๆ นอกจากหน้าตา บุคลิกแล้ว การพูดจา การวางตัว การจับต้องได้ เล่นได้ นี่สำคัญกว่า หล่อทั้งหายทั้งใจ”

“แล้วพี่หล่อป่ะ”

“หล่อสิฮะผู้หมวด นี่หนูอยากจะแยกร่างเป็น ๕ ร่างเลยอ่ะ ร่างหนึ่งคบกับพี่เจิด อีก ๔ ร่างก็คบกับผู้หมวด หมวดเต้ย พี่บอมบ์ พี่มหา คนละร่างๆไปเลย ฟินอ่ะ ผู้ชายหล่อขี้เล่นแบบนี้หายาก ส่วนมากหล่อแล้วหยิ่ง เชอะ”

“หึหึ บางทีอยู่กับความจริงบ้างมันก็ดีนะ ไม่มีใครรักเราได้ตลอดไปเท่ากับรารักตัวเราเองหรอกหนู ถ้ามองในแง่ดีในเขาไม่ชอบเราก็ดีแล้ว เราจะได้ไม่ต้องไปช้ำใจเพราะเขา เพราะถ้าเขาชอบเราแล้ววันหนึ่งเขามองเราเป็นแค่ของเล่น เราจะเสียใจ มองในแง่ดีเอาไว้ มองในแง่ร้ายมันไม่ดีหรอก กูก็เคยเป็น เกลียดตุ๊ดเกลียดกะเทยเหมือนกัน แต่กูก็มานั่งคิดเล่นๆว่า เราเกลียดเขาเพราะอะไร เขาทำอะไรให้เรา เขาฆ่าพ่อแม่เราหรือเปล่า หรือเขากำลังทำร้ายร่างกายเรา พอมาเจอมึง อคติกับตุ๊ดกับกะเทยกูก็ค่อยๆหมดไป กูไม่ได้คนดิบดีแบบชายในฝันของมึงมาก่อนนะหนู กูเลวกว่านี้เยอะ ตอนนี้เพราะสภาพแวดล้อมดี เจอคนที่ดีๆ มันเลยพาให้กูทำดี”

“มันก็ครึ่งหนึ่งแหละพี่บอมบ์ สภาพแวดล้อมดีแค่ไหนถ้าจิตใจพี่บอมบ์ไม่มั่นคงพอ พี่บอมบ์ก็เป็นคนเลวได้เหมือนกัน ปัจจัยภายนอกอย่างหนึ่ง ปัจจัยภายในอย่างหนึ่ง”

“อือ เข้าสุภาษิตว่าคบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล เราคบคนเช่นไร เราก็กลายเป็นคนเช่นนั้น”

“ใช่คบกับคนหื่น ทำให้หื่นตามไปด้วย”หมวดบูมพูดขึ้นมาไม่มองหน้าผม

“เขินอ่ะ แบบนี้ผู้หมวดก็มีความสุขอ่ะดิ พี่บอมบ์ดุดัน แรงเยอะ พาเพลินทั้งคืน คิดแล้วเขินเลย”อีหนูบิดม้วน

“ฝรั่งมันไม่มีศักยภาพหรือไงหนู”ผมลูบหัวเกรียนของอีหนู

“แฮะๆ ฝรั่งก็ลามกเหมือนกัน ไม่เอาดีกว่า หนูเกือบคลานมาแล้ว ครั้งหน้าจำกัดจำนวนครั้ง ตูดพังใครรับผิดชอบ บินไปรีแพร์ขอบแต...ที่เกาหลีพอว่า แต่บินไปรีแพร์ขอบตูดหมอไหนเขาจะรักษาให้อ่ะพี่บอมบ์”

“ขมิบเอาดิ ฮ่าๆๆๆ”ผมหัวเราะ

“คนบ้า”


มื้อเย็นมาถึง วันนี้กับข้าวดี มีไก่ทอด หมูกระเทียม ผัดผักรวมผิด รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว มีถั่วเขียวต้มน้ำตาลตบท้าย อิ่มแปล้กันเลยทีเดียว จากนั้นผู้กองให้พวกเราทำความสะอาดปืน  ปืนกลนี่ต้องถอดมาเช็ดทุกชิ้นส่วนกันเลยทีเดียว ผมเองก็ทำอย่างสุดความสามารถเพราะถ้าทำความสะอาดปืนไม่ดี เวลายิงไปปืนมันอาจจะขัดได้ แล้วจะเสียคะแนน ดังนั้นปืนทั้งกองร้อยมีอยู่ ๖ กระบอก ผมต้องกำกับดูแลทั้ง ๖ กระบอก

“ไอ้แม็ค เอาแส้ให้กูหน่อยดิ”ผมกำลังจะแยงลำกล้อง เรียกใช้ลูกน้องซึ่งตอนนี้ทำไมมันเงียบผิดปกติ พอส่งแส้ให้แล้วผมก็ทำการแยงลำกล้องไปมา “ไอ้แม็ค น้ำมันให้กูหน่อย”ขวดน้ำมันก็ยื่นมาให้ มือไอ้แม็คแปลกๆ เหี่ยวก่อนวัย

“พี่บอมบ์”ไอ้แม็คเรียกผมเสียงสั่น

“อะไรของมึงวะ ผ้า ไหนผ้าวะเนี่ย ห่าเอ๊ย หยิบเอาไปให้แล้วไม่เอามาคืนกูเตะให้สักทีดีไหม มึงไปเอาผ้ามาให้กูหน่อยดิ”

“หึหึ”

“ขำอีกไอ้ห่า ไหนผ้า อ้าวเฮ้ย ผ้าอ่ะ”ผมหันไปแล้วต้องร้องตกใจ “เฮ้ย ห่าแดกพี่กู”ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“ฮ่าๆๆ”คนที่ทำหน้าที่แทนไอ้แม็คเมื่อครู่หัวเราะ

“มาเมื่อไหร่อ่ะพี่ สวัสดีครับ โห ตกใจหมดเลย”ผมยกมือไหว้อย่างเป็นกันเอง พอมาคิดได้อีกที กูพลาดไปแล้วเพราะพลทหารจะไม่มีสิทธิ์ยกมือไหว้ผู้บังคับบัญชา

“เออ ดีๆ ตั้งใจดีนะ พรุ่งนี้กะจะเอาให้ไม่พลาด”มือหนาวางบนไหล่ผมเบาๆ คนที่มานั่งดูผมทำงานไม่ใช่ใครอื่นไกล พี่ติ พลตรีกิตติวัฒน์ พ่อหมวดบูมอ่ะ สงสัยจะมาเยี่ยมลูกด้วยล่ะมั้ง พี่ติขยับมานั่งอีกฟากหนึ่งแล้วให้ผมทำความสะอาดปืนกลให้ดู ผมก็เช็ดถู แล้วพูดไปเรื่อยเปื่อย พี่ติแกเก่งด้านอาวุธ แนะผมตั้งหลายอย่างแน่ะ ทั้งเทคนิคการยิงปืนกล การเล็งอะไรต่างๆ ผมก็ฟังและจำไว้

“พี่น้องคู่นี้คุยอะไรกันอ่ะ”ไอ้แบงค์ถามก่อนจะขยับมานั่งใกล้ๆ

“เรื่องของพี่น้องเขา แกไม่เกี่ยว หึ บูมล่ะ ตั้งแต่มาถึงยังไม่เจอหน้าเลย”

“ก็แอบมาแบบนี้จะเจอได้ไงพ่อ เดี๋ยวไปตามมาให้”

“เออๆ เรียกเต้ยมาด้วยนะ”พี่ติพยักหน้าจากนั้นแกก็คุยกับผมต่อ แกมาในชุดพรางครับ มาตรวจการฝึกภาคกองร้อยที่จะสรุปผลการฝึกในวันพรุ่งนี้ เหมือนวันชี้ชะตายังไงไม่รู้ ฮ่าๆๆ พอพ่อลูกเจอหน้ากันก็ทักและคุยกันเฮฮาปกติ ผมเองระหว่างที่ฟังไปด้วยจึงต้องรีบทำความสะอาดปืนและประกอบเข้าให้เป็นรูปเป็นร่าง

“ยิงได้นะบอมบ์”ไอ้แบงค์ถาม

“ไม่รู้เหมือนกัน ลองเป็นเป้าให้กูไหมล่ะ”

“ฮ่าๆๆๆ”

ประกอบปืนเสร็จแล้ว พี่ติจึงเดินไปทักทายคนนั้นทีคนนี้ที โดยลากผมไปด้วย แกชอบมีเรื่องเล่าขำๆให้ผมหัวเราะตลอด เผาลูกชายทั้ง ๒ คน ผมเองหัวเราะจนน้ำตาซึม

“ไปละๆ ตั้งใจนะบูม เต้ย พี่ไปล่ะน้อง”พี่ติตบไหล่ผู้พันทีหนึ่ง “พี่ไปละบอมบ์ ว่างๆไปตีกอล์ฟกัน”พี่ติจับมือผมแล้วเดินไปที่รถ ผู้พันทำหน้างงใส่ผม คงจะสงสัยว่าทำไมพี่ติถึงได้สนิทกับผมล่ะมั้ง แต่แกก็ไม่ได้ถามอะไรปล่อยให้พวกผมมาพักผ่อนกันต่อ

ดึกแล้วรับจองหาที่นอน ความเมื่อยล้าทำให้เราหลับไปแทบจะทันทีหลังจากที่หัวถึงหมอน

เหมือนเราเพิ่งหลับไป แต่ทำไมตอนนี้มันตี ๔ แล้ววะ ทุกคนตื่นขึ้นมาเก็บข้าวของล้างหน้าล้างตา ทำธุระส่วนตัวบ้างส่วนรวมบ้าง จนถึงเวลาตี ๕ เราจึงเดินทางไปจุดเริ่มต้น ๖ โมง คณะกรรมการจึงปล่อยพวกเราให้เดินทางไกล งานนี้ผู้พันมาเดินเป็นเพื่อนด้วย การเดินก็เหมือนกับครั้งที่แล้วครับ ระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร ๕ กิโลเมตรแรกต่างคนต่างยิ้มแย้มแจ่มใส พอเดินๆไปเริ่มเหนื่อยหน้าถอดสี แก๊งค์ผมชิวมากเลยครับเดินนำหน้าคนอื่นคุยกันไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ได้เอิกเริกเสียงดังนะครับ คุยแบบผู้ดีอ่ะ ฮ่าๆๆ

เสียงของนายสิบที่พูดให้กำลังใจทหาร ผู้หมวดเดินรั้งท้ายเหมือนเดิมเผื่อมีทหารคนไหนเดินตกจะได้ช่วย ผมเองเดินแบกปืนกลชิวๆ ชมนกชมไม้ไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ยักเดินตก เดินนำหน้าเขาทั้งกลุ่ม จนมาถึงกิโลเมตรที่ ๑๓แล้ว ตอนนี้ทุกคนต่างเร่งเดินให้รวดเร็ว อีกไม่กี่อึดใจก็จะถึงเส้นชัยแล้ว ผมรีบสืบเท้าให้รวดเร็ว จนไปถึงเส้นชัยในเวลา ๑ ชั่วโมง ๒๑ นาที ตามด้วยไอ้มหา ไอ้ซัน อีหนู ไอ้แม็ค ไอ้นุ ไอ้ด่าน สุภาพบุรุษ ๔ ด. ไอ้ศักดิ์และคนอื่นๆก็ทยอยตามมา

รับสปอนเซอร์และผ้าเย็นมาเช็ดหน้า ผมหลบที่ร่มๆ กินน้ำแล้วเช็ดหน้าเช็ดตา นั่งรอคนที่เดินตามเข้าเส้นชัยทีหลัง รอไม่ไหวเลยงีบหลับเบาๆไปนิดหนึ่ง จนได้ยินเสียงสัญญาณว่าให้ทุกคนพร้อมไปยิงปืนจึงได้ตื่นขึ้น

“ตอนยิงซ้อมก็หลับ ยิงจริงก็หลับ ถ้าได้ต่ำกว่า ๒๐๐ นัด รองแดกเอ็งแน่ไอ้ยักษ์”รองผู้พันดุผม

“ครับ”ผมยิ้มให้แล้วแบกปืนกลไปวางใกล้ๆแท่นยิง ปืนกล ๖ กระบอกรับเกียรติให้ยิงก่อน เริ่มจากหมวด ๓ ของหมวดเต้ยหมวด ๒ ของหมวดเพชร และหมวด ๑ ของหมวดบูม ผู้หมวดผู้กองต่างมายืนดูการยิงปืนกล ผมเองนั่งลูบปืนชิวๆ จนปืนกล ๔ กระบอกยิงเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เอ้อ มหา มึงดูดิอะไรติดตูดกูวะ”ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ไอ้มหาเอามือมาคลำกางเกงบริเวณก้นผม หึหึ กูขอรัวมึงก่อนแล้วกัน ปู้ดดดดดดดดดดดดดด

“ไอ้เหี้ย จังไรสัส สัสเอ๊ย ปู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”ไอ้มหาลุกขึ้นตดแล้วกำตดมายัดใส่จมูกผม ดีนะที่หันหน้าหนีทัน ฮ่าๆๆ จังไรทั้งคู่

“มัวแต่เล่นกันอยู่นั่นแหละ แดกก่อนซะดีมั้ง”รองผู้พันยังดุเหมือนเดิม แต่ผมมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ นัด รออยู่ครู่ใหญ่คณะกรรมการเอาเป้าไปตั้งในพื้นที่ยิงเรียบร้อย พอได้สัญญาณจากคณะกรรมการว่าเป้าพร้อม ฝ่ายผมก็โบกธงไปว่าปืนพร้อม ผมเริ่มยิงก่อน โดยเป้าของผมอยู่ภูเขาครึ่งซีกซ้าย เป้าของไอ้มหาอยู่ครึ่งซีกขวา แบ่งกันชัดเจน พอทุกอย่างพร้อมผมจึงหมอบลงแล้วฟังสัญญาณจากคณะกรรมการ พอได้ยินว่ายิงได้ ผมก็เริ่มรัวปืนกลไปตามเป้าที่ตั้งอยู่

ปังๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆ การยิงปืนกลต้องยิงเป็นชุด ไม่ได้ยิงรวดเดียวเหมือนในหนัง ยิงแบบนั้นปืนแตกกันพอดี ผมยิงเสร็จแล้ว ได้หาจัดการต่อเลยครับ สายตาไอ้มหานิ่งมาก สมาธิมันดีมากเลยครับ มันยิงเป็นชุดเหมือนกับที่ได้รับการฝึกมา พอยิงเสร็จก็เอาปืนมาพักแล้วรอว่าได้คะแนนเท่าไหร่

ปืนกลยิงเสร็จ ปืนเล็กยิงต่อ ชุดละ ๒๐ คน ผมเองนั่งรอให้ปืนมันเย็นด้วยความใจเย็น รอชุดแล้วชุดเล่า จนปืนเล็กยิงเสร็จหมดทุกคนคณะกรรมการจึงประกาศคะแนนของปืนกล และคะแนนรวมของปืนเล็ก

“ปืนกลหมวด ๓ ปืน ๑ ยิงได้ ๑๑๒ นัด ปืน ๒ ๙๗ นัด ปืนกลหมวด ๒ ปืน ๑ ยิงได้ ๒๐๙ นัด ปืน ๒ ยิงได้ ๑๐๑ นัด มาที่ช๊อตเด็ด หมวด ๑ ปืน ๑ ผู้พันให้เดาว่ายิงได้เท่าไหร่”

“ไม่เกิน ๒๐๐ ครับ”

“๕๐ ครับ”

“๔๐๐ ครับ”คนนั้นคนนี้เริ่มเดาตัวเลขจำนวนนัด ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะหัวหรือก้อย

“อ่ะๆ ฟังผู้พัน ปืน ๑ หมวด ๑ ยิงได้ ๔”แล้วเงียบ เฮ้ย ๔ นัดเอ็งเหรอวะ ผมเหงื่อแตกซกเลยครับ

“๔๖๑ นัด”

“หูย”ทุกคนต่างฮือฮากับจำนวนที่ผมยิงได้

“ส่วนปืน ๒ คนนี้เด็ดกว่า ๔๗๔ นัด”

แป๊ะๆๆๆๆๆ ทุกคนต่างปรบมือให้กับพวกผม จากนั้นก็ฟังผลคะแนนการยิงปืนเล็กว่าได้คะแนนเท่าไหร่ แล้วจากนั้นก็ฟังสรุปการฝึกภาคกองร้อยครั้งนี้ ได้รับคำชมมาอย่างล้นหลาม

“อ่ะ สำหรับการฝึกครั้งนี้ผู้พันก็ขอขอบใจทุกคนมากเลยนะที่ให้ความร่วมมือกันอย่างดี ขอบคุณผู้กอง ผู้หมวด นายสิบทุกนาย จนถึงพลทหารคนสุดท้าย เดี๋ยวเสร็จภารกิจครั้งนี้ผู้พันจะอนุมัติให้พักผ่อนคนละ ๑๕ วัน เพราะว่าเราทำได้ดีมาก ได้รับคำชมจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงหลายท่านด้วยกัน ผู้พันขอขอบคุณทุกคนจากใจจริง”

ผู้พันกล่าวจบทุกคนแยกย้ายกันเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับกองพัน ๑๒ วันในป่าเมืองกาญจน์ครั้งนี้ เราได้อะไรเยอะเลยครับ ทั้งความอดทน ความเสียสละเพื่อส่วนรวม ถูกผีหลอก ได้กินยำฟรี ได้รับคำชม เยอะมากเลยครับ ทำเอาพวกผมยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว หวานหมูละน้องบูม ๑๕ วัน ฮ่าๆๆๆ







ออฟไลน์ The_Beggar

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
สองหมวดน่วมแน่เจออิหื่นอดอยากทั้งสอง

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
โอ้วววววว สิบห้าวัน บวกเป็ดคร้าบบบ
รอวันที่หมวดบูมโดนกระทำ รออยู่ ~

สนุกอีกแล้ว หนูเอ้ย เกือบหลงแล้วไหมล่ะ 555
ขอบคุณนะคะ รออ่านค่ะ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
แอบหลอนไปด้วย  แตอ่านแล้วประทับใจ :mew1:

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
แอบกลัวไปด้วยเลย แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ เก่งกันมากๆเลย
จะได้หยุดสิบห้าวัน หมวดบูมจะเป็นยังไง แต่หมวดเขารู้ตัวเองแล้วว่าโดนหนักแน่ :z1:
ขอบคุณมากๆค่ะ :pig4:
 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เข้าป่ารอบนี้ เจอ...บ่อยมากอ่ะ 
และแล้ว ก็ได้วันหยุดแล้ว เย้ๆ คิดถึงสองแสบอีกละ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
บรรพบุรุษคงภูมิใจที่มีทหารแบบ บูม เต้ย บอมบ์ ตวง

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
บูมทำใจ งานนี้ลุกไม่ขึ้นแน่  :z1:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
อ่านตอนพวกพี่บอมบ์เจอบรรพบุรุษแล้วขนลุกตามอ่ะ

เลือดรักชาติพุ่งเลย  :a2:

หมวดบูมขาาาา เตรียมฟิตร่างกายไว้เลย

คาดว่าพี่บอมบ์คงจัดหนักจัดเต็ม 55555 :hao7:

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
15 วันนีคิดจะเอาเมียอย่างเดียว ฮ่าๆฉ่ำแน่มึ้งง หมวดบูม :laugh:

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เย้ๆๆ พัก 15 วัน เราจะทำอะไรกันดีน้าาาาาา

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
พักกันนานเลยทีเดียว

หมวดบูมน่าสงสารเลย 5555

ยิงได้เยอะเหมือนเดิมเลยนะคู่นี้

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๖๓ คนทำงาน

เราเดินทางออกจากสนามยิงปืนในช่วงประมาณ ๑๑ โมง คาดว่าน่าจะกองพันในช่วงบ่ายๆ ขบวนรถขับเคลื่อนไป คนบนรถก็สนุกสนานเฮฮา ผมเองก็หลับๆตื่นๆ เพราะอยากพักผ่อนมากกว่า จนมาถึงศูนย์ของฝาก ผมซื้อของไม่กี่อย่างเอาไปฝากพี่เบิ้ลกับพี่น้อยพี่นิด ส่วนแม่ไม่รู้จะซื้ออะไรดี เสร็จจากซื้อของฝากแล้วก็เดินทางต่อมาถึงกองพันประมาณบ่าย ๒ รถขับเร็วมาก มาถึงกองพันเราก็ไปถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์แล้วแยกย้ายกันกลับมาที่กองร้อย

เสียงดังล้งเล้ง วุ่นวายนิดหน่อยพอคืนปืนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอาเป้สนามขึ้นไปวางบนหลังตู้ จากนั้นก็มาช่วยเอาของลง เหตุการณ์วุ่นวายพอสมควร มีคนหลบคนอู้บ้างเป็นธรรมดา วันนี้สิบเวรที่เข้าเวรคือหมู่กุ๊ก คนนี้จะเฮี๊ยบหน่อย แต่ทำไมสภาพวันนี้ดูเมาๆวะ

“ปริ๊ดๆ เฮ้ย พวกนั่นน่ะ มาช่วยเอาของลงหน่อยสิวะ”สิบเวรเป่านกหวีดเตือน แล้วก็ด่าคนนั้นทีคนนี้ที ผมเองก็ช่วยอย่างแข็งขัน ไอ้มหาอยู่หน้าคลังคอยเก็บปืนดูแลปืน

กว่าจะเอาของลงจากรถเสร็จแล้วเคลียร์ข้าวของก็โดนด่าไปเป็นกระบุงโกย เหมือนโรคจิตยังไงไม่รู้ ไม่โดนด่าแล้วงานไม่เดิน งานเสร็จแล้วเรามานั่งพักผ่อนกันครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินแถวไปกินข้าว

“สภาพมึงเหมือนโจรเลยว่ะบอมบ์”ไอ้มหาสะกิดผม ผมรีบลูบที่คางของตัวเองทันที เออว่ะ ๑๒ วันในป่าผมปล่อยให้หนวดเคราขึ้นยาวเยิ้ม หน้าเข้มขึ้นเป็นกอง

“เออแฮะ ลืมโกน ของมึงก็เหมือนกัน หนาวยาวๆแบบนี้นะมึง ไซร้เมียทีนี่ดิ้นพราดๆ”

“เออว่ะ กูชอบเหมือนกัน เอาคางไปขยี้ที่แถวต้นคอนะ แล้วเขาชอบย่นคอขนลุกซู่ซ่า จากนั้นก็จัดการซะ”

“พี่บอมบ์กับพี่มหานี่ขี้เงี่ยนกันจริง พูดแต่เรื่องหมีเรื่องแดด”ไอ้แม็คมันแซว

“กูพูดแต่มึงฟังใครขี้เงี่ยนกว่ากันวะ อย่าปฏิเสธนะว่ามึงไม่อยาก”

“แฮะๆ ก็มีบ้างแหละพี่”นั่นไง

กินข้าว อาบน้ำ โกนหนวดเครา เอาเสื้อผ้าลงไปซักล้างให้มันเสร็จเรียบร้อย ช่วงเย็นสิบเวรปล่อยครับ ให้ทำความสะอาดข้าวของที่กลับมาจากการฝึก

ว่างๆ จึงโทรไปคุยกับแม่ เล่าเรื่องในป่าให้ฟังนิดหน่อยแล้วคุยกับลูกชายตัวป่วนทั้ง ๒ คน เจ้าแสบ เจ้าซ่าตอนนี้เดินได้เตาะแตะแล้วครับ ฟันก็ขึ้นไปหลายซี่แล้ว แต่ยังพูดไม่ชัด พูดได้ไม่กี่คำและไม่ชัดด้วย น่าจะขวบครึ่งมั้งเด็กๆจะเริ่มพูดชัดขึ้นเป็นลำดับ วางหูจากแม่ก็โทรไปรายงานกับพี่เบิ้ลนิดหน่อย

“อาโทรศัพท์มีตังค์ป่ะ โอนให้ผมสัก ๒๐ บาท”ไอ้ซันนั่งลงบนเตียงแล้วมองหน้า

“เดี๋ยว เช็คแปบนึง ทำไม โทรหาเมียจนตังค์หมดเลยเหรอ”

“แฮะๆ”

“ยิ้มไอ้สัส”ว่าแล้วก็กดยุกยิกโอนให้มัน

“ติดไว้ก่อนนะอา เงินเดือนออกเดี๋ยวคืนให้”

“เออ กูคิดดอกด้วยนะ มึงยืม ๒๐ กูคิดดอก ๘๐ ครั้งหน้าคืนกู ๑๐๐ นะ”

“โหดเกิน โหลแม่ อืม กลับมาจากฝึกแล้ว.....”ได้เงินแล้วก็รีบโทรหาแม่มันทันที เหลือเวลาอีก ๒๐ นาทีจะ ๓ ทุ่มแล้ว ผมเดินลงจากโรงนอนไปเข้าห้องน้ำ หลายคนยังซักล้างเครื่องใช้ไม้สอยที่เอาไปฝึก ที่ราวตากผ้าซึ่งอยู่หน้าห้องน้ำข้าวของเต็มไปหมด แต่สิบเวรแกหวังดีไล่ให้ทหารเอาข้าวของพวกนี้ขึ้นไปตากบนกองร้อย

“เฮ้ย ทหาร ข้าวของของใครให้เอาไปตากที่หลังโรงนอน พวกเอ็งตากแบบนี้เดี๋ยวได้มีคนมาสอยเอาไปหรอก ไปบอกเพื่อนๆพี่ๆพวกเอ็งด้วย อย่าให้หมู่ต้องเป่านกหวีดเรียก”

“ครับหมู่”รับคำแล้วบางคนก็เดินไปบอกคนนั้นคนนี้ ผมเองตากผ้าบนโรงนอนตั้งแต่ซักล้างเสร็จแล้ว จึงไม่ต้องมาเก็บเอาไปตากด้านบนอีกครั้ง

“อ้าว จะกลับบ้านแล้วเหรอ”ขึ้นมาบนโรงนอนแอบแวบเข้าไปหาผู้หมวด พี่แกกำลังหยิบถุงผ้าจะเดินออกจากห้องทำงานพอดี

“อืม แล้วเมื่อไหร่จะนอนกัน”ผู้หมวดพยักหน้า ผมผลักเบาๆให้เข้าไปในห้องก่อนที่จะปิดประตู

“อีกสักแปบก็คงจะนอนแล้วครับ มาจุ๊บกันก่อนดิ โคตรเปรี้ยวปาก”

“อยากกินปลาร้ารึไงถึงได้เปรี้ยวปาก”

“อยากกินคนแถวนี้ หึหึ บูม พร้อมมั้ยสำหรับ ๑๕ วัน”ผมรวบเอวหมวดบูมเข้ามาแนบชิดกับตัวเองแล้วส่งสายตาซุกซน

“หึ จะทำไหวเหรอ ให้สุดๆ ๕ วันอ่ะ เดี๋ยวก็เบื่อ เชื่อเหอะ ผู้ชายเหมือนกัน”

“ปากดีจริง แสดงว่าไหว”

“ไหวบ้าไหวบออะไรเล่า เห็นใจคนโดนหน่อยเหอะพี่ เอากันนะไม่ใช่แคะขี้มูกจะได้มันเหมือนกินหมากฝรั่ง เล็กสั้นขยันซอยพอว่า นี่ ไม่อยากพูด ไอ้หื่นๆๆๆๆๆ”

“หึหึ จุ๊บ เลือดลมมันดี มันเลยหื่น เดี๋ยวแก่ไปผมก็ไม่ไหวแล้ว นั่งมองหน้ากันแล้วคงน้ำแตก ฮ่าๆๆๆ”

“สาธุ ขอให้จริง จะทำอะไรก็รีบทำดิ จะได้กลับบ้านไปพักผ่อน”

“ไม่ได้ทำอะไร ขอหอมแก้มเฉยๆ ฟอด คืนนี้ฝันดีนะ”ผมก้มลงหอมแก้มแล้วลูบหัวเกรียนของหมวดบูม

“ไอ้ยักษ์มึน เร็วดิ ไหนว่าจะจูบอ่ะ”

“ฮ่าๆๆ อ่ะๆ สงสาร กลัวนอนไม่หลับ จูบก็ได้”

“เหอะ ไม่อยากก็ไม่ต้องก็ได้ ไม่ได้อยากอยู่แล้ว”หมวดบูมก้มหน้าหลบ ผมจับที่คางเชยใบหน้าอันอุดไปด้วยหนวดเครามาแล้วประกบปากเบาๆ พี่แกเล่นรวบคอผมแล้วส่งลิ้นมาทันที หึหึ นี่แหละครับคนไม่ค่อยอยาก

จูบกันพอรู้รสชาติจึงผละออกจากกัน ผมถือของเดินตามหลังไปส่งผู้หมวดที่รถ ตอนนี้โรงนอนดับไฟหมดแล้วครับ เสียงสัญญาณแตรนอนดังขึ้น ทหารไม่ได้เป่าเองนะครับ เปิดจากซีดีเอา ปกติค่ายอื่นเขาจะเป่าแตรนอนกันเอง โดยมีพลแตรเป็นคนเป่าให้สัญญาณ ตอนตื่นก็จะมีแตรตื่น แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ตื่นเพราะแตร ตื่นเพราะนกหวีดสิบเวร


กิจวัตรยามเช้ายังคงเป็นไปตามปกติทุกอย่าง ตื่นมาเช็คยอดแล้วไปวิ่งรอบสนามบอล ๑ รอบ จากนั้นก็กลับกองร้อยอาบน้ำอาบท่า พวกที่ไม่ได้ไปฝึกในป่าแต่งกายชุดพราง ส่วนพวกที่ไปฝึกมาให้แต่งชุดเป็ดน้อย จากนั้นก็จ่ายงานกันว่าใครจะไปทำงานตรงไหน

“ไม่อยากกลับกองร้อยเลยอ่ะพี่ ผมว่าอยู่ป่ามีอิสระมากกว่าอยู่กองร้อยนะ ไม่ต้องฟังเสียงนกหวีด ไม่ต้องวิ่ง ตื่นมาก็พรางหน้าแล้วฝึก สบายจะตาย”ไอ้สุภาพบุรุษ ๔ ด.มันบ่น

“เออ มันก็สบายคนละอย่างกัน ตอนอยู่ในป่าคิดถึงเตียงนอนมีฟูกนุ่มๆ พอกลับมากองร้อยก็คิดถึงป่า”

“เฮ้อ เมื่อไหร่จะฝึกอีกนะ”

๗ โมง กินข้าวเช้า แล้วไปทำความสะอาดต่อ จน ๘ โมง มาตั้งแถวเคารพธงชาติ จากนั้นก็รอฟังจ่ากองร้อยมาชี้แจงงานประจำวันละรอเปลี่ยนสิบเวร

๙ โมง พวกที่ไปฝึกก็ไปเบิกปืนมาทำความสะอาดปืน เหมืนเดิมทุกอย่างครับ ผมถอดปืนเอาออกมาล้าง และล้างปืนของจ่าด้วย วุ่นวายกันพอสมควร เดี๋ยวขอนั่นยืมนี่ วุ่นวายกันไปหมดแต่สนุกดี

“ว้ายๆ ผู้ชายแยงลำกล้องปืนอ่ะ แยงเบาๆสิจ๊ะ เค้าเสียวน้า”อีหนูมันมาวี้ดว้ายที่กลุ่มผมซึ่งไอ้แจ็คกำลังแยงลำกล้องปืนอยู่ เฮ้อ แรดให้ได้แบบนี้สิเพื่อนกู

“อ่า ซี้ด ลำกล้องปืนจ๋า เสียวไหม เค้าน้ำเยิ้มแล้วอ่ะ”ไอ้แจ็คเสือกทะลึ่งทำเสียงหื่นใส่ อีหนูยิ้มร่าเลย ถูกใจล่ะสิ

“อูย เบาๆตัวเอง ซี้ด เสียวอ่ะ ค่อยๆแยงนะ อุ้ย อย่างอนิ้วสิตัวเอง อ๊า”อีหนูทำท่าทางเคลิ้มๆ

“อ๊า ตัวเอง พี่หนูล้างตูดยังเนี่ย ดูดิ แม่งดำปื้ดเลย”ไอ้แจ็คดึงแส้ออกมา ที่ขนแส้มันมีคราบเขม่าปืนเกาะเต็มไปหมด

“ไอ้บ้า กำลังเคลิ้มเชียว ฉันล้างแล้วย่ะ ตูดสะอาด”อีหนูค้อน

“มานั่งเม้าท์แบบนี้เสร็จงานแล้วเหรอ”ผมถามอีหนูระหว่างที่เอาแปรงฟังขัดชิ้นส่วนของปืนเบาๆ

“เสร็จแล้วพี่บอมบ์ หนูล้างไป ๒ กระบอกคนเดียว อีรุ่นน้องก็ไม่เห็นช่วย ล้างของตัวเองเสร็จของหมู่ก็ไม่ล้างให้ อยากแดกรุ่นน้อง”

“ไหนว่าไม่แรดไง ทำไมมาพูดว่าอยากแดกรุ่นน้องอ่ะ”ไอ้มหาถามแล้วยักคิ้วใส่

“พี่มหา ฮึ แดกพี่มหาซะดีกว่ามั้ง หนูหมายถึงลงโทษ เออ พี่บอมบ์ ลา ๑๕ วันจะไปเที่ยวไหนดี”

“อืม กำลังคิดอยู่นะว่าจะพาแม่ไปเชียงใหม่หรือภูเก็ตดี แต่ร้อนๆแบบนี้เที่ยวทะเลน่าจะสนุกกว่ามั้ง เดี๋ยวถามแม่อีกทีว่าอยากไปไหน”

“ไปด้วยๆ หนูจะอ้อนพี่เจิดให้พาไปเที่ยวทะเล ไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว ได้ลาพักทีไรก็อุดอู้อยู่แต่ในบ้าน พวกเพื่อนสาวก็ชอบพาเที่ยวผับบาร์ น่าเบื่อ”

“อ้าวไม่ชอบเหรอ เที่ยวผับบาร์ ผู้ชายหล่อเยอะนะมึง”ไอ้มหาเงยหน้ามาถาม

“หนูมีผัวแล้วนะพี่มหา หนูอยากไปดื่มด่ำบรรยากาศแบบสบายๆมากกว่าผับอ่ะ ช่วงนี้ต้องการผ่อนคลายสไตล์ธรรมชาติมากกว่าเสียงเพลงดังจนแก้วหูจะแตก”

“อืม งั้นก็ไปเที่ยวทะเลกัน เดี๋ยวกูโทรไปบอกเพื่อนให้จองห้องไว้หลายๆห้อง”ผมพยักหน้า

“พี่บอมบ์มีเพื่อนอยู่ภูเก็ตเหรอ ดีจัง ห้องฟรี อาหารฟรี พี่บอมบ์น่าจะมีเพื่อนเป็นลูกเจ้าของบริษัทการบินเนอะ จะได้บินไปฟรี”

“หึหึ กลัวขนหน้าแข้งฝรั่งจะร่วงหมดรึไง”ผมขำกับท่าทีของมัน

“แหม พี่บอมบ์ก็นะ หนูก็เพ้อไปงั้นแหละ จริงๆอยากไปมัลดีฟต์นะ แต่เกรงใจคนออกตังค์”

“ตรง”ไอ้นุสั่งเสียงดังทำเอาพวกผมถึงกับเหวอ

“สวัสดีครับ”กล่าวทักทายพร้อมกัน คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น หมวดเต้ยนั่นเอง

“อืมๆ สวัสดี”หมวดเต้ยโค้งให้ทีหนึ่ง แล้วเดินมาที่กลุ่มของผม

“ไม่เห็นต้องลำบากมาถึงร้อย ๑ เดี๋ยวหนูไปถวายตัวให้ถึงร้อย ๓ ก็ได้นะผู้หมวด”อีหนูมันออกอาการแรดทันที

“ฮ่าๆๆ จะฟ้องฝรั่งว่าเมียมันแรด”หมวดเต้ยขำ

“เออ ตวง กูว่าเราก็อยู่ในเมืองกรุงนะ ค่ายเราไม่ได้อยู่ต่างจังหวัด ทำไมถึงได้มีแรดมาอยู่แถวๆนี้วะ เอ๊ะ หรือว่ามันหลุดมาจากเขาดิน”

“อีพี่บอมบ์ เดี๋ยวเหอะ แบบหนูไม่เรียกว่าแรด เรียกว่ากระซู่หรือกูปรี อีตาบ้าพี่บอมบ์”

“ฮ่าๆๆๆ”

“เฮ้อ ใจจริงน่ะอยากหอมแก้มหมวดเต้ยนะ แทะโลมมาหลายทีแล้วยังไม่ได้สมใจหมายเลย”อีหนูทำมองหมวดเต้ยด้วยสายตาหวานเยิ้ม

“แฮ่มๆ”ไอ้มหากระแอมเบาๆ “เล่นของสูงไปไหมหนู อดอยากก็จัดไอ้บอมบ์ก่อนดิ”

“อิอิ เขินจัง มีคนเสนอตัวให้ด้วย ไม่เป็นไร ได้ทุกคน”

“หยุดเพ้อแล้วมาช่วยล้างปืนดีกว่าไหม”ไอ้มหาส่งชิ้นส่วนปืนให้อีหนู

“ขี้เกียจจัง แต่ไม่เป็นไรเพราะผู้ชายสัญญากับเราแล้วว่าถ้าช่วยล้างให้จัดให้ชิ้นละดอก อุ้ย ปืนกลตั้งหลายชิ้น สบายอุราแล้วสิเรา”อีหนูมันยังเพ้อต่อไป ไม่เพ้อเปล่าหยิบชิ้นส่วนมาช่วยขัดช่วยล้างด้วย ชิ้นส่วนไม่ได้เยอะหรอกครับแปบเดียวก็เสร็จแล้วเพราะว่าเมื่อครู่ก็ล้างไปเยอะพอสมควร

“มึงล้างเครื่องสนามยังวะมหา”

“ยังว่ะ ไม่มีเวลาว่างสักที วุ่นๆแต่กับปืนทั้งวัน ไอ้แจ็คไปเฝ้าคลังให้กูหน่อยสิ เดี๋ยวกูไปล้างเครื่องสนามกูแปบนึง”

“ได้พี่ ว่าแต่จ่าไม่ว่าอะไรผมนะ”ไอ้แจ็คลุกขึ้นรับคำสั่ง

“ไม่หรอก เดี๋ยวกูบอกจ่าให้”

“ให้หนูช่วยไหมพี่มหา หนูว่างนะ”อีหนูอาสา

“อือ ไม่เป็นไร เกรงใจว่ะ ไปละ”ไอ้มหาเดินขึ้นโรงนอนไปขนข้าวของไปซักล้าง ผมเองว่างๆไม่มีอะไรทำ ของตัวเองก็ทำเสร็จไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วเลยเดินไปช่วยไอ้มหามันสักหน่อย

“ลาพัก ๑๕ วันไปเที่ยวกับกูนะมหา พาพ่อแม่ของมึงไปด้วย”ผมเป็นคนตักน้ำราดให้ไอ้มหาซึ่งกำลังเอาแปรงขัดเป้สนาม

“กูมีตังค์ที่ไหนล่ะ ไปเที่ยวไกลๆค่าใช้จ่ายเยอะ เงินกูไม่พอหรอกมั้ง”

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ไปเหอะ นานๆทีพาพ่อแม่ไปพักผ่อน ไปดูนกดูทะเล กินกุ้งหอยปูปลา อาหารทะเล กูไม่ได้พาแม่กูไปเที่ยวที่ไหนตั้งหลายปีแล้ว มัวแต่ทำเหี้ยอะไรก็ไม่รู้”

“เออ ก็ได้ มึงออกให้กูก่อน กูผ่อนมึงทีหลังแล้วกัน แล้วจะพาใครไปบ้างวะ”

“ก็พวกเราไง เมียมึง เมียกู พ่อแม่ ลูกกู ไอ้ซัน อีหนู อีกหลายคนว่ะ เดี๋ยวจะชวนคนอื่นๆก่อนว่าใครจะไปบ้าง”

“จะไปไหนเหรอพี่บอมบ์”อีหนูโผล่หน้ามา

“ไปเที่ยวทะเลไง กำลังคิดว่าจะชวนใครไปบ้าง”

“เหรอ หนูไปด้วยนะ”

“อืม ไปดิ นี่กูคิดว่าเราจะชวนกันไปเป็นครอบครัวดีไหม กูอยากพาแม่ไปพักผ่อนน่ะ มึงก็ชวนพ่อแม่ไปด้วยสิหนู ไปเป็นครอบครัวดูท่าจะสนุกดี”

“ได้ๆ อุ้ย ผู้ชายกำลังล้างหม้ออ่ะ อยากโดนล้างหม้อจังเลย”อีหนูเอามือมาปิดปากข้างหนึ่งแล้วชี้ไอ้ที่ไอ้มหาที่กำลังล้างหม้อสนาม มันหาเรื่องฮาได้ตลอดเลยวะ

“สนใจให้กูล้างให้ไหมละหนู เอาจะเอาน้ำยาล้าจานเทเบาๆแล้วขัดด้วยฟองน้ำ แบบนี้ไง”ไอ้มหาเอาฟองน้ำขัดหม้อสนามเบาๆ

“บ้า หม้อหนูต้องล้างด้วยอุปกรณ์พิเศษเท่านั้น โทรเล้ย ๐๒... ภายใน ๕ นาทีนี้คุณจะได้รับสมนาคุณพิเศษจากทางเราด้วยชุดชั้นในหลากหลายสไตล์ ที่จะทำให้คุณรู้สึกกระชับได้เหมือนไม่ได้ใส่ จริงไหมจอช”

“โอ้ ใช่แล้วล่ะซาร่า กางเกงในของเราทำด้วยใยสังเคราะห์ชนิดพิเศษ ใส่แล้วหมอยไม่หลุดร่วงเป็นเส้น แต่แม่งออกมาที่เป็นกระจุก ห่า พากูหลอนแล้วมึง”ไอ้มหาลุกขึ้นยักคิ้วให้อีหนู

“ฮ่าๆๆๆ พี่มหาก็บ้าจี้ตามหนู”

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
วันที่ ๓ ของการอยู่กองร้อย เราต่างคนต่างเอาข้าวของไปคืนคลัง เมื่อวานก็เช็ดล้างประกอบปืนและส่งคืนคลังเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็นัดส่งเครื่องสนาม ใครขาดหายก็เตรียมตัวหามาใช้คืน ช่วงเช้าเอาของไปส่งเสร็จแล้ว ช่วงบ่ายเราก็มีนัดกันครับ ผู้กองจะมาแบ่งล็อกพักว่าใครจะได้ลาหยุดวันไหนอะไรยังไง

“จะลาล็อกไหนเหรอบอมบ์”ก่อนที่ผู้กองจะเรียกรวมผมมานั่งเล่นที่ห้องของผู้หมวด พี่แกใส่ชุดครึ่งท่อนสบายๆ

“อืม ล็อก ๒ ล่ะมั้งครับ”

“ไม่ลาล็อกแรกล่ะ ได้พักก่อนคนอื่นเขาไม่ดีกว่าหรอกเหรอ”

“ก็ดีนะครับ แต่ว่าล็อก ๒ มันจะช่วงกลางมีนาพอดีไม่ใช่เหรอ อากาศกำลังดี อีกอย่างเดี๋ยวคนอื่นเขาแจงผมว่าใช้เส้น ได้กลับล็อกแรกตลอด ไม่อยากเป็นขี้ปากคนอื่น”

“หือ แคร์คนอื่นมากไปหรือเปล่า บูมก็ไม่เห็นว่าพี่บอมบ์จะเอาเปรียบคนอื่นนี่ แล้วแต่แล้วกันนะ”

“หรืออยากโดนทำร้ายร่างกายไวๆเลยอยากให้ผมลาล็อกแรก ฮันแน่ ที่แท้ก็แอบหื่น”

“ทะลึ่งจริง เป็นห่วงเหอะครับอยากให้ได้พักผ่อนไวๆ”

“กี่โมงแล้วอ่ะ อ้าว ใกล้จะบ่ายโมงแล้วนี่นา ป่ะ ลงไปที่ใต้ถุนกัน”ผมลุกขึ้นก่อนแล้วตามด้วยผู้หมวด ลงมาด้านล่างตอนนี้มีหลายคนมานั่งเป็นแถวรออยู่แล้ว ต่างคนต่างคุยกันเสียงดัง ใครจะไปก่อนหรือหลัง รุ่นพี่รุ่นน้องจะอะไรยังไงก็ว่ากันไป

“ตรง”พอทุกคนเจอผู้หวดก็สั่งตรง ทำความเคารพกันแล้วนั่งลง จากนั้นผู้กองก็เดินมา สั่งตรงอีกครั้งทำความเคารพผู้กอง ผู้กองหยิบเก้าอี้พลาสติกมานั่งด้านหน้า

“อ่ะ ฟังผู้กองนะ จากที่เราไปฝึกภาคกองร้อยมา เราได้รับคำชมจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงหลายท่านด้วยกัน ผู้พันเลยอนุมัติให้ลาพักคนละ ๑๕ วัน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทหารได้กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ลูกเมีย ก็จะแบ่งล็อกพักเป็น ๓ ล็อกเหมือนเดิมเพราะผู้กองไม่อยากจะให้กินระยะเวลายาวนาน เผลอๆถ้าเกิดปล่อยลาหลายๆล็อกมันจะไม่ได้ลากัน เดี๋ยวงานจรมา งานประจำก็มี ก็ส่วนแรกนะจะเป็นของพวกที่ไปฝึก ให้แยกไปกลุ่มหนึ่ง ส่วนพวกที่อยู่กองร้อยก็แยกอีกกลุ่มหนึ่ง”ผู้กองชี้แจงจากนั้นเราก็แยกเป็น ๒ ส่วน พวกที่ฝึกจะได้รับสิทธิ์ก่อนเพราะเหนื่อยกว่าพวกที่อยู่กองร้อย พอผู้กองถามว่าใครจะเอาล็อกลาล็กแรกต่างคนต่างยกมือกันพรึ่บ ส่วนผมตกลงกับแก๊งค์ผมไว้แล้วว่าเราจะลาล็อก ๒ กัน

ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงสำหรับการแบ่งล็อกพัก ล็อกแรกได้ลาเย็นนี้แล้วเริ่มนับวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก ก็มีประมาณ ๓๐ คนครับ ส่วนพวกผมก็ได้ลาล็อกที่ ๒ พวกที่อยู่กองร้อยได้ลาล็อกที่ ๓ พอแบ่งล็อกลาเสร็จแล้วผู้กองก็อบรมอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับการลา

“ฟังนะ ใครมาช้า มาสาย ผู้กองมีมาตรการ มาช้า ๑ วัน ผู้กองก็จะปล่อยล็อกที่ ๒ ช้าไปอีก ๑ วัน มาช้า ๒ วันผู้กองก็จะปล่อยล็อกต่อไปช้าอีก ๒ วัน ฉะนั้น ใครมีปัญหาอะไร รีบโทรมาล่วงหน้า แล้วหาเหตุผลดีๆ ถ้าคิดจะหนีราชการก็รีบโทรมาบอกผู้กอง ผู้กองจะได้รู้แล้วรีบจำหน่าย ผู้กองไม่ง้อนะไอ้คนที่เห็นแก่ตัว ถ้าคิดว่าหนีแล้วชีวิตการงานพวกเอ็งเจริญรุ่งเรืองเอ็งก็ทำ แต่ถ้าหนีแล้วไปไม่รอด ไม่ต้องกลับมาง้อ แล้วอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางบ้าน ให้รีบมาปรึกษาหรือบอกกล่าวกันก่อน อย่าหายไปดื้อๆ จำไว้เสมอว่าตอนนี้พวกเอ็งไม่ได้อยู่แค่คนเดียวหรือต่างคนต่างอยู่ เราอยู่กันเป็นกองร้อย เป็นหมู่ เป็นหมวด มีปัญหาอะไรที่ตัวเองแก้ไม่ได้ ให้รีบมาปรึกษาหมู่จ่า หรือผู้หมวด ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ให้วิ่งมาหาผู้กองได้ อย่าเอาปัญหาเล็กๆไปตัดสินอนาคต รุ่นพี่พวกเอ็งก็หลายคนที่หนีไปเพราะปัญหาเล็กๆน้อยๆ บางคนกลับบ้านหน้าเศร้า มาขอร้องผู้กองให้รับเข้ากองร้อยเหมือนเดิม พอโดนแดกไม่กี่วันก็หนีไปอีก เชื่อผู้กอง พวกเอ็งจะอยู่ได้ตลอดรอดฝั่งเพราะพวกเอ็งอยู่ภายใต้กฎระเบียบ ไม่มีใครบ้าลงโทษพวกเอ็งตลอดเวลาจนพวกเอ็งทนไม่ได้หรอก แล้วเรื่องระหว่างพี่น้องก็เหมือน อย่าให้มีการเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน อย่าให้ได้ยินว่ารุ่นพี่เขม่นรุ่นน้องเหมือนกองร้อยอื่นๆ ผู้กองไม่ชอบ ผู้กองอยากให้อยู่แบบสงบๆ มีงานเราก็เฮฮาทำงานกันไป พอถึงเวลาพักก็พักผ่อนกันให้เต็มที่ สุดท้ายนะ กลับบ้านไปแล้วก็อย่าลืมคุยกับพ่อแม่ ไปกอดท่านสักครั้งก็ยังดี ใครที่กลับไปไม่ถึงบ้านก็ระวังเนื้อระวังตัวด้วย อย่ามีเรื่องกับคนอื่นจนต้องเสียเลือดเสียเนื้อ เหล้าก็กินให้เท่าที่มีเงิน ไอ้ประเภทไปติดหนี้ร้านค้าแล้วให้พ่อแม่ตามเช็ดตามล้างให้เนี่ย มันก็ไม่ไหว ไม่ได้ให้เงินท่าใช้ก็อย่าทำให้ท่านเดือดร้อนแล้วกัน เข้าใจตามนี้นะ”

“คร้าบบบบบบบบบบ”

“เออ ถือว่าทุกคนเข้าใจ ถ้าเกิดมีคนมาสาย หนี เราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ส่วนจะรับผิดชอบยังไงเดี๋ยวหมวดบูมจะเป็นคนจัดการ จะครึ่งคืน หรือ๑ วัน๑คืนก็แล้วแต่หมวดบูมเขา ผู้กองเห็นดีเห็นงามด้วยเสมอ เอาละ แค่นี้แล้วกัน”

“ตรง”

“ขอบคุณครับ”ผู้กองเดินออกไป พวกผมนั่งลง ผู้หมวดมาพูดต่อ

“ฟังผู้หมวดนิดหนึ่งนะ ก็อย่างที่ผู้กองพูดไปแล้ว ถือว่าผู้กองได้ให้ใจพวกเราทุกคน อยู่ที่พวกเราจะให้ใจผู้กองกลับคืนบ้างหรือเปล่า ที่ผู้หมวดอยากจะเน้นย้ำก็คือ วินัย การตรงต่อเวลา ตอนปล่อยลาต่างคนต่างรีบยกมือเพื่อที่จะได้กลับบ้านก่อน พอถึงเวลากลับกองร้อยผู้หมวดก็อยากให้ทุกคนกระตือรือร้นที่จะกลับกองร้อยเหมือนตอนปล่อยลาเช่นกัน แล้วอย่างที่ผู้กองพูดไปเรื่องทางบ้านหรือปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าแบกมันไว้คนเดียวไม่ไหว ให้มาปรึกษา อย่าหนีเป็นอันขาด อนาคตเราทั้งหมดอย่าเอามาทิ้งเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อย ไอ้พวกที่หนีไปก็น่าจะรู้ดีนี่กว่าผู้หมวดแดกแล้วเป็นยังไง พวกรุ่นพี่เหมือนกัน ไม่มีอะไรจะทำก็อย่าลองของกับผู้หมวด ทุกคนทราบ”

“ทราบ”

“โอเค เดี๋ยวแยกย้ายกันพักผ่อน ใครจะทำอะไรก็ให้ดู รปจ. ด้วย เชิญ”

“ตรง”

“ขอบคุณครับ”


ช่วงเย็นช่วงเวลาแห่งการปล่อยผีเอ๊ยปล่อยลามาถึง พวกที่ได้ลาล็อกแรกต่างกระวีกระวาดดีอกดีใจรีบจัดข้าวของเครื่องใช้ใส่กระเป๋า จะวุ่นวายหน่อยตรงที่รุ่นพี่บางคนมาขอยืมเครื่องหมายบ้าง ของยืมชุดอ่อนบ้างหรือแม้กระทั้งขอยืมรองเท้า รุ่นเล็กที่ยังไม่มีปากมีเสียงก็ทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยมให้คนอื่นยืมด้วยความลำบากใจ ส่วนผมไม่มีใครกล้ายืมครับ ถึงยืมผมก็ไม่อยากจะให้ยืมสักเท่าไหร่ เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรับผิดชอบของเราเอง

ทุ่มกว่าๆกองร้อยก็เงียบลงไปส่วนหนึ่งเพราะพวกที่ได้ลามันเดินแถวไปที่กองรักษาการณ์แล้ว วันนี้รู้สึกว่าหลายกองร้อยจะปล่อยลากันเยอะมากเลยครับ พวกที่ได้ลาไปแล้ว กองร้อยสงบบ้างเล็กน้อย สิบเวรบอกว่าให้ไปตลาดเลย ๒ ทุ่มครึ่งค่อยมาสวดมนต์ พวกผมจังเฮละโลกันเลยทีเดียว

บรรยากาศปกติของกองร้อยเริ่มเข้ามาสิงร่างพวกผมแล้วหลังจกที่ชินกับการอยู่ป่าตั้งหลายวัน ตอนนี้ต่างคนต่างก็ต้องไปเข้าเวร ผมเองก็ไม่ต่างจากคนอื่น พอว่างงานจึงไปเข้าเวรกองรักษาการณ์ เหมือนเดิมครับการเข้าเวรเข้าออกยังไง แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือผมได้ไปยืนอีกจุดหนึ่ง แถวๆแฟลตนายสิบ ช่วงใกล้จะออกเวรประมาณสัก ๕ โมง น้องไปป์ก็เดินยิ้มร่ามาเชียว

“อา เข้าเวรเหรอ แล้วงี้ไปป์จะออกกำลังกายกับใคร”ชุดนักเรียนม.ปลายที่ชายเสื้อหลุดออกจากกางเกง กระดุมเม็ดบน ๑ เม็ดหลุดออก เห็นหัวนมสีชมพูดเลยนะนั่น

“ก็ไปออกกับอาตวงหรือหมวดบูมดิ เขาน่าจะว่างนะ”

“เหรอ อาเข้าเวรเหนื่อยไหม จะกินอะไรไหมเดี๋ยวไปป์จะไปตลาด”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวอาก็ออกเวรแล้ว”

“ครับ งั้นไปป์ไม่กวนละ”

ยืนจุดอยู่ครู่หนึ่งผลัดต่อไปจึงได้เดินแถวมาเปลี่ยนเวร ออกเวรปั๊บรีบกินข้าวอาบน้ำอาบท่าแล้วนอนเอาแรง พอถึงช่วงผลัดกลางคืนที่จะต้องเข้าต่อไป ยืนรับลมเย็นๆในยามค่ำคืน ดีนะที่คืนนี้ปลอดกะเทย ไม่มีกะเทยมากวนใจ

ครืนๆ เปรี้ยง ซ่า จั๊กๆๆๆ กูว่าแล้วว่าทำไมกะเทยไม่มากวน เพราะมันรู้ว่าฝนจะตกนี่เอง ผมรีบเดินหลบเข้าไปในป้อมเล็กๆเพื่อจะหลบฝน มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยครับ ป้อมก็หลังนิดเดียว โดนละอองฝนจนเสื้อผ้ามันชื้น ซ่าๆๆๆ เสียงฝนที่ตกกระหน่ำมาอย่างหนักพร้อมกับลมที่พัด กว่าจะออกเวรเสื้อผ้าผมก็ชื้นไปทั้งตัว

“ห่าเอ๊ย มาตกอะไรตอนนี้วะ”รุ่นพี่ที่เข้าเวรด้วยกันบ่น

“เออ จักแม่นหยัง สิตกก็บ่บอกกูกันก่อนแน ฟ้าเอ๊ย บ่ลิโตนเฮาบ่”รุ่นพี่อีกคนมองฟ้าฝนอย่างตัดพ้อ

“เปียกฮอดดากกูพู่นนะ บักสัส เอ้า ฟ่าวย่างฟ่าวไปนอน”

เดินแถวมาถึงกองรักษาการณ์รีบถอดเสื้อผ้าออกไปตาก ดีนะผมหยิบกางเกงขาสั้นมาด้วย เลยถอดทั้งเสื้อและกางเกงลายพรางตากไว้ให้มันแห้ง ใส่แค่กางเกงกับเสื้อยืดนอนขดตัวอยู่ในมุ้ง

“ตื่นๆ ไอ้ยักษ์ ตื่นเว้ย”รู้สึกว่าจะนอนได้ไม่กี่นาทีเองนะทำไมมันเช้าเร็วจัง ผมรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รู้สึกมึนๆ หวัดจะกินมั้ยวะ มองไปด้านนอกตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว

ตี ๕ มานั่งหนุนด้วยอาการโงกง่วง อากาศหลังฝนตกนี่มันเย็นสบายดีจริง เสียงโทรทัศน์จากด้านหน้าดังเบาๆ ผมนั่งดูข่าวกับจ่า ส่วนคนอื่นๆนั่งหลับ พอถึงเวลาไปยืนชักล้อก็ทำตามหน้าที่ หมดเวลาก็มานั่งหนุนจนถึงเวลาไปยืนจุด รู้สึกมึนๆหัวว่ะ


“เฮ้อ หมดเวรหมดกรรมซะทีโว้ย”รุ่นพี่ร้องออกมาหลังจากออกเวรเรียบร้อยแล้ว กว่าจะได้ออกจากจุดก็กินเวลาไปพอสมควร เดินแถวมาที่กองรักษาการณ์หยิบข้าวของแล้วเดินแถวกลับกองร้อย ไปอาบน้ำ ซักผ้า แล้วนอน

“บอมบ์ ไอ้บอมบ์ กินข้าว”นอนอยู่ดีๆก็มีคนมาเรียก ผมลืมตาขึ้นมาเห็นไอ้มหามันก้มเขย่าตัวผมเบาๆ

“หือ อะไรวะ”ผมพูดเสียงยานคาง รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว

“กินข้าวเว้ย”

“เออๆ”ผมรีบลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาแล้วไปที่หน้ากองร้อย

ตอนเย็นมาอาการเริ่มหนักขึ้น แต่ผมพยายามฝืน น้องไปป์พาออกกำลังกาย ผมก็ออกเท่าที่ทำได้ รู้สึกว่าจะป่วยแฮะเรา แต่คงไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง ออกกำลังกายให้เหงื่อออกเดี๋ยวมันก็หาย

วันต่อมา อาการก็ไม่เห็นจะดีขึ้น รู้สึกคันคอ แต่ยังทำงานได้ปกติ ถึงจะมึนๆหัวไปบ้างแต่อาการผมคิดว่าไม่น่าจะหนัก มีหลุดไอมาบ้างเล็กน้อย จนวันที่ ๓ นั่นแหละครับ ร่างกายผมเริ่มจะทรุด รู้สึกปวดไปตามเนื้อตามตัว ตอนกลางคืนไอค่อกๆจนทนไม่ไหว

“ฮัลโหล ภูมิ”ผมรีบโทรหาไอ้ภูมิทันที

“ครับอา มีอะไรโทรมาดึกเชียว เข้าเวรโรงเหรอ”

“เปล่า ฮึ่ม ซื้อยามาให้อาหน่อยดิ เอายาแก้ไอนะกับพาราสักแผงนะ ไม่ไหวแล้ววะ ไข้แดก”

“อืมๆ ได้ๆ งั้นอารอแปบ เดี๋ยวเอายาไปให้”

ผมนอนรออยู่พักหนึ่งไอ้ภูมิโทรมาแล้วผมก็ลงจากโรงนอนไปเอายา

“เป็นหนักไหมอา ต้องไปนอนโรงบาลไหม”ไอ้ภูมิคร่อมมอไซด์ใส่หมวกกันน็อกอยู่ด้านหลังกองร้อย แต่งตัวชุดสีเข้มแล้วมันก็เอามือมาอังที่ซอกคอ

“ไม่หนักหรอก แค่คันคอน่ะ กลับบ้านไปนอนเหอะดึกแล้ว ขอบใจมาก”

“อืม”มันพยักหน้าแล้วขี่มอไซด์ออกไป ส่วนผมได้ยาแล้วก็รีบกินทันทีแล้วขึ้นไปนอน

ตื่นมาตอนเช้าอาการไอก็ปรากฏทันที ดีนะที่ไม่ค่อยไอมาก ยังไหว เขาให้รวมแถวไปวิ่งผมก็วิ่งกับเขา เขาให้ทำงานผมก็ยังทำได้ปกติ แต่มีไอบ้างเล็กๆน้อยๆ

วันนี้หมู่อาร์ตเข้าเวรด้วย รู้สึกว่าน่ารำคาญ เอะอะอะไรก็แดก แดกพร่ำเพรื่อ แดกเล่นบ้าง แดกจริงบ้าง จนผมรำคาญ นี่ถ้าไม่เป็นหวัดกูจะซัดให้

“บอมบ์ ช่วยทำงานนี้หน่อยสิ”หมวดบูมหยิบเอกสารมาปึ้งใหญ่ให้ผมช่วย

“ทำอะไรเหรอ”

“ก็พิมพ์ตามที่ผู้หมวดได้ขีดเอาไว้ คืนนี้จะเสร็จทันไหมวะ แม่ง บก.พันทำงานไม่ชุ่ยฉิบหาย”

“จะเอาวันไหนเหรอ”

“ก็พรุ่งนี้บ่าย ช่วยหน่อยนะ บูมต้องไปเข้าเวร”เวลาอยู่กัน ๒ คนหมวดบูมแกจะเรียกตัวเองว่าบูม หนือน้อง แล้วแต่อารมณ์ แต่วันนี้เพราะมีงานมั้งเลยออกจะอ้อนกูเป็นพิเศษ เอาวะ น้องขอมาพี่จัดให้ ผมรับเอกสารมาทำ หมวดบูมแต่งตัวเตรียมพร้อมไปเข้าเวรด้านนอก ทั้งวันผมทำงานในห้องหมวดบูมอยู่คนเดียว ข้าวปลาไม่ได้ไปกิน โผล่หน้าอีกทีตอนบ่ายโมง ไปซื้อมาม่าที่พีเอ็กส์มาต้มกินแล้วขึ้นไปทำงานต่อ แต่ก็ไม่วายเจอหน้าหมู่อาร์มมันก็พูดเหน็บใส่ เฮ้อ ท่าทางจะไม่จบไม่สิ้นกันจริงๆ

๔ โมง ผมลงไปด้านล่างเจ้แก้วตาเอาส้มตำมาขายพอดีเลยซื้อเก็บไว้แล้วขึ้นไปทำงานต่อ ผมเดินไปบอกหมู่อาร์ตว่าไม่เดินแถวไปกินข้าวที่โรงเลี้ยงนะเพราะทำงานให้ผู้หมวด

“หึ ไม่อยากทำตามรปจ.มึงก็ลาออกไปสิ ไม่ต้องมาหาข้ออ้างว่าทำงานให้ผู้หมวดหรอก”

“แล้วแต่หมู่แล้วกัน ผมมาบอกให้รู้”แล้วผมก็เดินขึ้นไปบนห้องผู้หมดพิมพ์งานต่อไป ยังเหลืออีกเยอะพอสมควร นั่งพิมพ์จนหลังขดหลังแข็ง ทำไมเพิ่งเอามาให้ตอนนี้วะ เมื่อวานวันก่อนตั้งหลายวันก็ไม่ให้ทำ ได้แต่บ่นในใจแหละครับ ทำไปได้ครู่หนึ่งจึงพักกินข้าว แล้วมานั่งทำต่อ ไม่ใช่เรื่อง่ายเลยนะครับสำหรับเอกสารปึ้งใหญ่แล้วต้องการให้เสร็จวันพรุ่งนี้

“พี่บอมบ์กินข้าวยัง”อีหนูเคาะประตูห้องผู้หมวดเข้ามาถาม

“กินแล้ว”

“เหรอ ไม่เจอหน้าเจอตา งั้นหนูไม่กวนละ งานเยอะใช่ป่ะ จุ๊บๆนะ หนูเป็นกำลังใจให้”อีหนูปิดประตูแล้วเดินออกไป ผมนั่งพิมพ์ต่อ พิมพ์ไปไอไป จะเสร็จไหมเนี่ย มันไอมากกว่าได้พิมพ์ซะอีก เฮ้อ พอจะไม่สบายก็จัดกูหนักเลยทีเดียว ห่าแดก

๓ ทุ่มปิดไฟนอนแล้ว งานผมก็ยังไม่เสร็จ ไม่ได้ออกไปดูเดือนดูตะวันกันเลยทีเดียว พิมพ์ๆ ไอๆ จนเที่ยงคืน ไอ้สัส ส้มตำเจ้แก้วตาเล่นงานกูซะแล้ว ผมออกจากห้องทำงานไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว สัสเอ๊ย เป็นห่าอะไรของกูอีกวะเนี่ย ท้องเสียซะงั้น

เสร็จธุระแล้วก็มานั่งทำงานต่อ ชั่วโมงต่อมาก็เป็นอีก เออ กูไอไม่พอยังจะให้กูขี้แตกอีก กรรมของกูจริงๆ รอบ ๒ แล้วก็รอบ ๓ จนผมเริ่มอ่อนแรง แต่ยังใจสู้ ทำงานกันต่อไป ใกล้จะเสร็จแล้ว อีกไม่กี่๑๐ หน้าเอง จนมาถึงช่วงตี ๒ ครึ่ง งานเหลืออีกไม่กี่แผ่นจะเสร็จแล้ว ใกล้จะเสร็จแล้วโว้ย แต่แล้วไอ้ท้องเหี้ยก็เสือกปั่นป่วนจนต้องลงไปเข้าห้อน้ำอีกครั้ง

ผมนั่งบนชักโครกปล่อยอารมณ์ให้อาการท้องเสียมันพาไป นั่งๆไปทำไมกูได้กลิ่นช็อกโกแลตวะ แล้วผมนั่งนิ่งเงียบๆ ได้ยินเสียงไฟแช็คดังแช๊ะๆ แน่นอนเลย ห่าเอ๊ย

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ด ปร๊ด ปริ๊ด ปรี๊ดดดดดด เสียงนกหวีดดังจากด้านหน้าของกองร้อยตามด้วยเสียงปึงปังจากด้านบน ผมรีบล้างก้นแล้วเปิดประตูออกไป แต่พอออกจากห้องน้ำก็มีทหารมารุมล้อมอยู่หลายคน

“เข้าไปจับพวกมันไว้ แล้วลากตัวมาให้กู”เสียงหมู่อาร์ตดังขึ้นอย่างเหี้ยมโหด ผมถูกจับตัวออกไปด้านนอก แล้วไอ้ห้องน้ำข้างๆก็ถูกจับตัวพร้อมกับอุปกรณ์ ฟอยและไฟแช็ค

“หึ นี่เหรอน้ำหน้าคนทำงานให้ผู้หมวด ที่ไหนได้ มันมาเสพยาอยู่นี่นี่เอง หึ”หมู่อาร์ตชี้หน้าด่าผมฉอดๆ แล้วตบหน้าผมทีหนึ่ง

จะทำยังไงต่อไปเมื่อผมโดนข้อหาเสพยา







CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3

ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ไอ้ #%+/"#&) หมู่อาร์ต อยากให้มันโดนตื้บจริงๆ หลายรอบละนะ
จ้องหาเรื่องพี่บอมส์อยู่นั่นล่ะ

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
อ่านถึงตอนนี้แล้ว ปรี๊ดดดดดด เกลียดอิหมู่อาร์ต

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
งานเข้าบอมบ์แล้วอะ ไหนจะป่วยอยู่ด้วย :katai1:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
งานเข้าเต็มๆเลยอ่ะพี่บอมบ์
แต่อิอาร์ตแม่งใหญ่มาจากไหน
อยู่ๆก็เข้ามาตบเนี่ย :angry2:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ขอ :z6:ไอ้อาร์ตสักทีเถอะ หมั่นไส้มานานแล้ว

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
ไอหมู่อาร์ตแม่งหาเรื่องจริง

เดี๋ยวเหอะเจอของดีเข้า

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
งานเข้าเต็มๆ เลยอ่ะบอมบ์  อาร์ตมันแกล้งหรือเปล่าหว่า

หลักฐานแก้ต่างบอมบ์ก็มีนี่นา ว่าแต่บอมบ์จะยอมเปิดตัวพี่ชาย หลานชายให้คนอื่นรู้หรือเปล่า

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
มาม่า มาแล้วจ้าาา เราจะได้เห็นกันว่าาพี่บอมบ์โดนยำเป็นยังไง
ถึงอ่านอีกรอบก็รับไม่ได้ ฮือๆ :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด